คลังเก็บป้ายกำกับ: ASUS_ROG

รีวิว ASUS ROG Strix G18 เกมมิ่งตัวแรงสเปคทรงพลัง ดีไซน์อลังการ RGB จัดเต็ม เริ่มแค่ 72,990 บาท

ASUS ROG Strix G18 จอใหญ่ สเปคโหดไม่เกรงใจใคร!

เชื่อว่าถ้าถามเกมเมอร์ตัวยงสักคนว่าจะซื้อเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คสักเครื่อง ไม่จำกัดว่าจะถูกจะแพงแค่ไหนก็ได้ล่ะก็ ในปี 2023 นี้ก็ต้องมีชื่อของ ASUS ROG Strix G18 อยู่ในใจกันบ้างอย่างแน่นอน ไม่ใช่แค่ดีไซน์ที่ดุดันทรงพลังและโลโก้อันเป็นเอกลักษณ์ที่เกมเมอร์เชื่อถือเท่านั้น แต่ทางบริษัทก็ใส่ฟีเจอร์ดีๆ และยังปรับแก้ดีไซน์บางส่วนให้ดีกว่า ROG Strix ในรุ่นก่อนให้ดีขึ้นอีกด้วย

Advertisementavw

เริ่มต้นจากสเปคของ ASUS ROG Strix G18 ต้องถือว่าทางบริษัทจัดเต็มกับเครื่องนี้มาก โดยซีพียูของทุกรุ่นจะใช้ Intel Core i9-13980HX ซึ่งเป็น Intel 13th Gen เหมือนกันทุกรุ่น ให้รีดประสิทธิภาพของการ์ดจอแยก NVIDIA GeForce 4000 Series ได้หมดจดและยังสั่ง Overclock โดยปรับค่า TGP ของซีพียูและจีพียูได้สูงสุดถึง 240 วัตต์ แล้วระบายความร้อนด้วยชุดระบายความร้อน ROG Intelligent Cooling ซึ่งนอกจากใช้โลหะเหลว (Liquid Metal) ที่จับมือพัฒนาร่วมกับทาง Thermal Grizzly รุ่น Conductonaut Extreme นำความร้อนระบายออกจากตัวเครื่องผ่านทางฮีตไปป์ 7 เส้นและพัดลมหลักถึง 2 ตัวแล้ว ทาง ASUS ยังเสริมพัดลมระบายความร้อน VRAM โดยเฉพาะอีก 1 ตัว ให้อุณหภูมิชิปลดลง โดยทาง ASUS เคลมไว้ว่าชุดระบายความร้อนนี้ยังลดอุณหภูมิได้สูงสุดถึง 15 องศาเซลเซียส

หน้าจอ ROG Nebula Display ก็ได้รับการพัฒนาให้ดีขึ้น ในรุ่นใหม่นี้นอกจากขนาดจอใหญ่ 18 นิ้ว ทาง ASUS เลือกความละเอียดหน้าจอเป็น QHD+ (2560×1600) อัตราส่วน 16:10 ซึ่งเหมาะจะใช้ทำงานและเล่นเกม พาเนล IPS ค่า Refresh Rate สูงถึง 240Hz รองรับ NVIDIA G-SYNC ป้องกันภาพฉีกขาดเวลาเล่นเกมและเป็นจอ Dolby Vision HDR ให้ภาพเกมบนหน้าจอสวยงามขึ้นและยังใช้ทำงานได้สบายๆ เพราะขอบเขตสีหน้าจอกว้างถึง 100% DCI-P3 ได้รับการรับรองความเที่ยงตรงสีจาก PANTONE นับว่าครบเครื่องทั้งทำงานและเล่นเกมอย่างแน่นอน สำหรับลำโพงคู่ของ ASUS ROG Strix G18 ตัวนี้สามารถจำลองเสียงได้ 5.1.2 แชนแนล ได้เสียงรอบทิศทางแบบ Dolby Atmos ได้รับการรับรอง Hi-Res Audio ด้วย ดังนั้นความบันเทิงเรียกว่าครบเครื่องไร้ที่ติ

ASUS ROG Strix G18

นอกจากสเปคแรงทรงพลังแล้ว เกมเมอร์ที่ชื่นชอบไฟ RGB ก็ไม่ผิดหวังเพราะมีระบบไฟ RGB “AURA Sync” ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของทาง ASUS ติดมาให้รอบตัวจนถึงโลโก้ ROG หลังเครื่อง สามารถตั้งสีสันและเอฟเฟคไฟได้ตามใจชอบในโปรแกรมประจำเครื่องอย่าง ASUS Armoury Crate ได้รอบตัว ช่วยสร้างบรรยากาศของโต๊ะคอมให้สวยโดนใจเกมเมอร์ยิ่งขึ้น

NBS Verdicts

Strix Scar G18 DSC01156

ASUS ROG Strix G18 เป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คระดับ Desktop Replacement แรงเทียบชั้นกับเกมมิ่งพีซีในปัจจุบันได้สบาย เอามาต่อหน้าจอแยก 2K QHD~4K UHD ปรับกราฟิคระดับกลางหรือสูงก็ยังลื่นไหลหรือจะเล่นบนจอ 18 นิ้ว ของตัวเครื่องก็ยอดเยี่ยม นอกจากนี้ครีเอเตอร์ก็ซื้อเอาไปทำงานก็ได้เพราะขอบเขตสีหน้าจอกว้างระดับ 100% DCI-P3 ได้รับการรับรองจาก PANTONE ว่าสีเที่ยงตรงแม่นยำอีกด้วย ถือเป็นโน๊ตบุ๊คดีรอบด้านแถมยังครบเครื่องตอบโจทย์ผู้ใช้ทุกคน

สเปคต่อราคาก็ถือว่าค่อนข้างลงตัว ยืนพื้นด้วยซีพียู Intel Core i9-13980HX เหมือนกันทั้งไลน์อัพ แต่จะต่างกันตามงบประมาณไป อย่างรุ่นเริ่มต้นราคา 72,990 บาท ก็ได้การ์ดจอ NVIDIA GeForce RTX 4060 แรม 16GB DDR5 และ M.2 NVMe SSD อีก 1TB หรือเพิ่มมาเป็น 84,990 บาท ก็อัพเกรดเป็น NVIDIA GeForce RTX 4070 แรม 32GB DDR5 ซึ่งมากสุดเท่าที่ ROG Strix G18 รับได้ และ M.2 NVMe SSD อีกถึง 2TB ซึ่งเยอะพอให้เกมเมอร์เอาไว้ลงเกมและโปรแกรมใช้งานต่างๆ ได้เต็มที่

การเชื่อมต่อของ ASUS ROG Strix G18 นอกจาก Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.2 แล้ว ยังมีพอร์ต Thunderbolt 4, USB-C 3.2 Full Function และ HDMI 2.1 ที่รองรับจอ 8K 60Hz หรือ 4K 120Hz ติดตั้งมาให้ต่อหน้าจอแยกได้มากสุด 3 จอ มีพอร์ตใช้งานทั้ง USB-A 3.2 ไว้ต่อเกมมิ่งเกียร์และสาย LAN 2.5GbE ไว้ใช้ต่อต่อเข้ากล่องเราเตอร์ให้เล่นเกมและเน็ตได้ลื่นไหลไม่แล็คให้เสียจังหวะ ถือว่าทาง ASUS ให้ของดีมาล้นตัวก็ว่าได้

แต่จุดสังเกตเล็กๆ น้อยๆ ลอง ASUS ROG Strix G18 ได้แก่ ตัวเครื่องที่หนัก 3 กิโลกรัม ในฐานะโน๊ตบุ๊คก็ถือว่าหนักทีเดียว แต่ถ้าเทียบกับเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คขนาดใกล้เคียงกันอย่าง 17.3 นิ้ว ก็ถือว่าไล่เลี่ยกันและแบตเตอรี่ก็ใช้งานได้นานสุดเพียง 4 ชั่วโมงครึ่งเท่านั้น แม้จะพอใช้อแดปเตอร์แกลเลี่ยมไนไตรท์ (GaN) กำลังไฟ 100 วัตต์แทนก็พอได้แต่เล่นเกมหรือตัดต่องานหนักๆ ก็ต้องพึ่งอแดปเตอร์เฉพาะของตัวเครื่องถึงจะรีดได้เต็มประสิทธิภาพ ซึ่งผู้ใช้ต้องรับน้ำหนักเพิ่มอีก 1 กิโลกรัม รวมเป็น 4 กิโลกรัม ดังนั้นถ้าใครจะซื้อมาเผื่อพกพาไปไหนมาไหนคงไม่สะดวกเท่าไหร่แต่ถ้าวางโต๊ะเป็นหลัก พกติดตัวเป็นเรื่องรองก็ไม่มีปัญหา ซื้อมาใช้เป็นคอมพิวเตอร์เครื่องหลักเลยก็ดีมาก

แง่การอัพเกรดก็มีเรื่องน่าเสียดายอย่างแรมในเครื่องรองรับมากสุดเพียง 32GB DDR5 เท่านั้น ในขณะที่แบรนด์คู่แข่งหลายๆ เจ้าสามารถใส่แรมได้ถึง 64~128GB แล้ว จึงดูน้อยเกินไปในฐานะเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คระดับเรือธงของปี 2023 นี้ ส่วนตัวผู้เขียนอยากให้ทาง ASUS อัพเดท BIOS หรือปรับแต่งชิ้นส่วนที่มีความเกี่ยวข้องใดๆ ก็ตาม ให้รองรับแรมได้ 64GB ไปเลยจะดีกว่า ซึ่งผู้เขียนเห็นว่าเหมาะกับสไตล์ลากใช้งานไปหลายๆ ปี แล้วอัพเกรดเครื่องให้ถึงขีดจำกัดจนไปต่อไม่ไหว ค่อยขายเครื่องทิ้งหรือส่งต่อให้คนใกล้ตัวมากกว่า หากทาง ASUS จัดการเรื่องข้อจำกัดปริมาณแรมในเครื่องได้ก็จะเป็นเรื่องที่ดีอย่างแน่นอน

ข้อดีของ ASUS ROG Strix G18
  1. ติดตั้งซีพียูรุ่นที่แรงสุดจาก Intel อย่าง Intel Core i9-13980HX มาให้ใช้งาน
  2. การ์ดจอมีตั้งแต่ GeForce RTX 4060, RTX 4070 ให้เลือกใช้
  3. เร่งค่า TGP ของซีพียูและจีพียูได้สูงสุดรวม 240 วัตต์ เพิ่มประสิทธิภาพตอนใช้งานได้สูงขึ้น
  4. ระบบระบายความร้อนทำงานได้ยอดเยี่ยมและใช้ Liquid Metal ระบายความร้อนซีพียูและจีพียู
  5. ติดตั้งฮีตไปป์ระบายความร้อนมาให้ 7 เส้น ช่วยระบายความร้อนได้ดียิ่งขึ้น
  6. มีพัดลมสำหรับระบายความร้อน VRAM โดยเฉพาะ ทำให้แรมการ์ดจอเย็น ทำงานได้เต็มที่
  7. ได้แรม 16~32GB DDR5 จากโรงงาน ขึ้นอยู่กับรุ่นที่เลือกซื้อ
  8. ได้ M.2 NVMe SSD อินเตอร์เฟส PCIe 4.0 รุ่นสูงสุดจะทำ RAID 0 จากโรงงานมาเลย
  9. มีพอร์ต Thunderbolt 4 และ USB-C 3.2 Full Function ให้ใช้ต่อหน้าจอและชาร์จแบตเตอรี่ได้
  10. หน้าจอขนาดใหญ่ถึง 18 นิ้ว ความละเอียด QHD+ พาเนล IPS ขอบเขตสีกว้าง 100% DCI-P3
  11. ค่า Refresh Rate สูงถึง 240Hz รองรับ NVIDIA G-SYNC ในตัว รองรับ Dolby Vision HDR
  12. มีปุ่ม Hotkeys สำหรับกดคีย์ลัดโดยเฉพาะ ตั้งค่าได้ในโปรแกรม Armoury Crate
  13. เวลาเล่นเกมหรือทำงานเต็มประสิทธิภาพแล้ว ความร้อนไม่แผ่ขึ้นคีย์บอร์ดมารบกวนตอนใช้งาน
  14. ระบบเสียง Dolby Atmos มิติเสียงดี ดูหนังฟังเพลงเล่นเกมได้ดี เสียงมีมิติมาก
ข้อสังเกตของ ASUS ROG Strix G18
  1. น้ำหนักตัวเครื่องอย่างเดียว 3 กิโลกรัม รวมอแดปเตอร์เป็น 4 กิโลกรัม ถือว่าหนักมาก
  2. ใช้งานได้นานสุดราว 4 ชั่วโมงครึ่ง ถ้าต้องพกไปทำงานนอกสถานที่ควรเอาอแดปเตอร์ไปด้วย
  3. รองรับแรมเพียง 32GB DDR5 เท่านั้น ทั้งที่แบรนด์อื่นทำให้รองรับได้สูงสุดถึง 64GB แล้ว

รีวิว ASUS ROG Strix G18

Specification

g18 spec 1

ASUS ROG Strix G18 เป็นหนึ่งในเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คระดับ Desktop Replacement แรงกว่าเกมมิ่งพีซีหลายๆ รุ่นในปัจจุบันทีเดียว โดยสเปคที่มีขายในประเทศไทยจะมี 2 รุ่น แยกตามการ์ดจอ NVIDIA GeForce RTX 4000 Series ภายในเครื่อง ส่วนเครื่องทดสอบในบทความจะเป็นอีกสเปคซึ่งยังไม่มีจำหน่ายในประเทศไทย โดยมีรายละเอียดดังนี้

สเปคของ ASUS ROG Strix G18 เครื่องทดสอบ
CPU Intel Core i9-13980HX แบบ 24 คอร์ 32 เธรด (8P+16E) ความเร็ว 4.0~5.6GHz
GPU NVIDIA GeForce RTX 4090 แรม 16GB GDDR6 ค่า TGP 175 วัตต์
SSD M.2 NVMe SSD 2TB
RAM 32GB DDR5 บัส 4800MHz รองรับสูงสุด 32GB
Display 18 นิ้ว ความละเอียด QHD+ (2560×1600) พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 240Hz ขอบเขตสีกว้าง 100% DCI-P3 รองรับ NVIDIA G-SYNC, Dolby Vision HDR, PANTONE Validated
Connectivity Thunderbolt 4 x 1 รองรับ DisplayPort และ NVIDIA G-SYNC, USB-C 3.2 x 1 รองรับ DisplayPort / NVIDIA G-SYNC / Power Delivery 100 วัตต์, LAN x 1, USB-A 3.2 x 2, HDMI 2.1 FRL x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.2

Software Windows 11 Home
Weight 3 กิโลกรัม
สเปคของ ASUS ROG Strix G18 G814JI-N6070W
CPU Intel Core i9-13980HX แบบ 24 คอร์ 32 เธรด (8P+16E) ความเร็ว 4.0~5.6GHz
GPU NVIDIA GeForce RTX 4070 แรม 16GB GDDR6 ค่า TGP 115 วัตต์
SSD M.2 NVMe SSD 1TB
RAM 32GB DDR5 บัส 4800MHz รองรับสูงสุด 32GB
Display 18 นิ้ว ความละเอียด QHD+ (2560×1600) พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 240Hz ขอบเขตสีกว้าง 100% DCI-P3 รองรับ NVIDIA G-SYNC, Dolby Vision HDR, PANTONE Validated
Connectivity Thunderbolt 4 x 1 รองรับ DisplayPort และ NVIDIA G-SYNC, USB-C 3.2 x 1 รองรับ DisplayPort / NVIDIA G-SYNC / Power Delivery 100 วัตต์, LAN x 1, USB-A 3.2 x 2, HDMI 2.1 FRL x 1,Audio combo x 1

Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.2

Software Windows 11 Home
Weight 3 กิโลกรัม
Price 84,990 บาท ชมสเปคเต็มๆ คลิ๊กที่นี่
สเปคของ ASUS ROG Strix G18 G814JV-N6037W
CPU Intel Core i9-13980HX แบบ 24 คอร์ 32 เธรด (8P+16E) ความเร็ว 4.0~5.6GHz
GPU NVIDIA GeForce RTX 4060 แรม 16GB GDDR6 ค่า TGP 140 วัตต์
SSD M.2 NVMe SSD 1TB
RAM 16GB DDR5 บัส 4800MHz
Display 18 นิ้ว ความละเอียด QHD+ (2560×1600) พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 240Hz ขอบเขตสีกว้าง 100% DCI-P3 รองรับ NVIDIA G-SYNC, Dolby Vision HDR, PANTONE Validated
Connectivity Thunderbolt 4 x 1 รองรับ DisplayPort และ NVIDIA G-SYNC, USB-C 3.2 x 1 รองรับ DisplayPort / NVIDIA G-SYNC / Power Delivery 100 วัตต์, LAN x 1, USB-A 3.2 x 2, HDMI 2.1 FRL x 1,Audio combo x 1

Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.2

Software Windows 11 Home
Weight 3 กิโลกรัม
Price 72,990 บาท ชมสเปคเต็มๆ คลิ๊กที่นี่

Hardware & Design

Strix Scar G18 DSC01133

Strix Scar G18 DSC01113
Strix Scar G18 DSC01145
Strix Scar G18 DSC01110
Strix Scar G18 DSC01086
Strix Scar G18 DSC01114
Strix Scar G18 DSC01115

ดีไซน์ของ ASUS ROG Strix G18 ยังคงใช้รูปร่างคล้ายกับตระกูล ROG Strix รุ่นอื่นๆ ในไลน์อัพอยู่ มีบอดี้สีเทาทึบตัดกับบอดี้กึ่งโปร่งใส มีสติ๊กเกอร์บอกสเปคติดไว้ตรงที่วางข้อมือฝั่งซ้าย ฝั่งขวาตรงข้ามเป็นโลโก้ ROG แถบยาวกับปุ่ม Power ทรงหกเหลี่ยมและมีแถบไฟ RGB “AURA Sync” ส่วนขอบหน้าเครื่องด้วย มีการย้ายไฟ LED แสดงสถานะตัวเครื่องมาไว้ตรงสันเครื่องถัดขึ้นไปจากคีย์บอร์ดให้เห็นได้ชัดเจน ส่วนขอบเหนือหน้าจอมีก้านดึงเปิดหน้าจอติดตั้งมาให้ผู้ใช้กางหน้าจอได้ง่ายขึ้น

Strix Scar G18 DSC01096

Strix Scar G18 DSC01085
Strix Scar G18 DSC01083
Strix Scar G18 DSC01099

ด้านหลังเครื่องส่วนฝาหลังหน้าจอจะเป็นพื้นเรียบสีเทาดำคาดลาย ROG พร้อมโลโก้ติดไฟ RGB และ AURA Sync Lightbar บริเวณขอบตัวเครื่อง สามารถเลือกปรับเอฟเฟคแสงสีได้ในโปรแกรม Armoury Crate ของ ASUS เช่นเดิม และสังเกตว่าตัว ASUS ROG Strix G18 จะไม่มีแถบพอร์ตเชื่อมต่อติดเอาไว้ด้านหลังเครื่องเหมือนเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ครุ่นอื่นๆ แล้ว กลายเป็นช่องระบายความร้อนของ ROG Intelligent Cooling แทน ถัดเข้าไปในช่องระบายความร้อนจะเป็นชุดครีบฮีตซิ้งค์ความหนาแผ่นละ 0.1 มม. จำนวน 414 แผ่น วางแนวด้านหลังและข้างเครื่องทั้งสองฝั่งเพื่อช่วยนำความร้อนออกจากตัวเครื่องให้เร็วที่สุด

Strix Scar G18 DSC01162

Strix Scar G18 DSC01079
Strix Scar G18 DSC01078
Strix Scar G18 DSC01108

บานพับของ ASUS ROG Strix G18 จะเป็นก้านเหล็กต่อเข้าขอบล่างของหน้าจอทั้งสองฝั่งและตัวก้านจะสอดเข้าไปในกล่องฐานบานพับหน้าจอในตัวเครื่องด้านล่าง ซึ่งตัวบานแข็งแรงทนทานไม่มีอาการโยกคลอนไม่แน่นเลยแม้แต่น้อย แต่ก็กางได้มากสุดราว 100 องศา เพราะขอบล่างจอจะติดสันขอบเครื่อง แต่ก็กว้างพอใช้งานเข้ากับมุมสายตาได้สบายๆ จะวางเล่นเกมบนโต๊ะคอมตามปกติหรือวางแท่นวางโน๊ตบุ๊คก็จัดองศาหน้าจอให้เข้ามุมสายตาได้ง่ายๆ มองเห็นชัดแน่นอน

Strix Scar G18 DSC01051

Strix Scar G18 DSC01054
Strix Scar G18 DSC01052
Strix Scar G18 DSC01081

ฝาใต้ตัวเครื่องของ ASUS ROG Strix G18 จะแบ่งพื้นที่เป็นแบบ 70:30 ให้พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นโซนช่องระบายความร้อนตัดให้สังเกตเห็นคำว่า ROG และบางส่วนก็เป็นช่องนำลมเย็นเข้าไประบายความร้อนในเครื่องและส่วนขอบล่างจะยิงเลเซอร์คำว่า “Intelligent Cooling” เอาไว้พร้อมช่องนำลมเข้าโดยเฉพาะอีกช่องสำหรับพัดลมโบลวเวอร์ตัวที่ 3 ซึ่งทาง ASUS ติดมาเพื่อเป่าลมระบายความร้อนชุด VRAM โดยเฉพาะ ถัดลงมาจะเป็นลำโพงอีก 2 ฝั่ง แล้วยึดน็อตเอาไว้อีก 11 ตัวอย่างแน่นหนาและมีน็อตตัวมุมล่างขวาตัวเดียวที่เป็นแบบมีบ่ากันปลดให้เกลียวค้างเอาไว้ตัวหนึ่ง เวลาถอดอัพเกรดแนะนำให้หาภาชนะเล็กๆ มาเก็บน็อตโดยเฉพาะด้วยไม่ให้หล่นหาย

Screen & Speaker

Strix Scar G18 DSC01103

Strix Scar G18 DSC01105
Strix Scar G18 DSC01104
Strix Scar G18 DSC01106
Strix Scar G18 DSC01113

หน้าจอขนาด 18 นิ้ว ความละเอียด QHD+ (2560×1600) พาเนล IPS มีค่า Refresh Rate สูง 240Hz เป็นจอที่มีความละเอียดและอัตราความลื่นไหลของภาพสูงสุด ณ ตอนนี้ ตอบโจทย์เกมเมอร์ที่ชอบเล่นเกมแนว FPS อย่างแน่นอนและมีเทคโนโลยีป้องกันภาพฉีกขาด NVIDIA G-SYNC และรองรับ Dolby Vision HDR ด้วย และเคลมขอบเขตสีกว้างไว้ 100% DCI-P3 และได้รับการการันตีความเที่ยงตรงสีจาก PANTONE อีกด้วย ดังนั้นจอนี้จึงใช้ทำงานสายครีเอเตอร์ได้อีกด้วย

ตัวหน้าจอถูกออกแบบให้เป็นขอบจอบาง 3 ด้าน ได้แก่ขอบข้างทั้งสองฝั่งและขอบบนตัวเครื่ง แต่ตรงกลางของขอบบนจะมีสันหนาขึ้นเล็กน้อยเอาไว้เป็นก้านดึงเปิดหน้าจอและติดตั้งกล้อง Webcam กับไมค์พร้อมระบบ Two-way Ai Noise Cancelation เอาไว้ตัดเสียงรบกวนภายนอกให้ประชุมออนไลน์หรือไลฟ์สตรีมเกมได้สะดวกไม่มีเสียงแทรกตอนใช้งาน

display

Screenshot 2023 03 07 113639
Screenshot 2023 03 07 113720 1

มุมการมองเห็นของจอพาเนล IPS ก็ยังแสดงผลได้ดีเช่นเดิม สามารถแสดงภาพได้กว้างถึง 178 องศาโดยไม่มีเงาสะท้อนทาบบนหน้าจอและยังปรับค่า Refresh Rate ได้ 2 ระดับ คือ 60 หรือ 240Hz ในคำสั่ง Advanced display ส่วนขอบเขตสีเมื่อวัดด้วยเครื่อง Colorchecker ของ Calibrite คู่กับโปรแกรม DisplayCal 3 แล้วได้ค่า Gamut coverage ซึ่งเป็นค่าขอบเขตสีจริงของหน้าจอได้ขอบเขตสี 99.8% sRGB, 83.1% Adobe RGB, 98.8% DCI-P3 ด้าน Gamut volume ซึ่งเป็นขอบเขตสีโดยรวมได้ 144% sRGB, 99.2% Adobe RGB, 102% DCI-P3 ค่าความเที่ยงตรงสี Delta-E เฉลี่ยที่ 0.08~1.04 ซึ่งเมื่อน้อยกว่า 2 ก็ถือได้ว่าจอ ROG Nebula Display ของ ASUS ROG Strix G18 มีขอบเขตสีตรงและดีกว่าที่เคลมเอาไว้เล็กน้อยด้วยซ้ำ ดังนั้นนอกจากใช้ดูหนังและเล่นเกมได้ดีแล้วก็นับเป็นครีเอเตอร์โน๊ตบุ๊คได้ด้วยเช่นกัน

พาเนลจอ IPS นี้เมื่อเช็คใน Profile Information จะเห็นว่าทาง BOE Technology บริษัทผู้ผลิตพาเนลหน้าจอชั้นนำของโลกเป็นผู้ผลิตขึ้น เมื่อตั้งความสว่างหน้าจอไว้ 100% แล้ว จะได้ค่าความสว่างสูงสุดถึง 463.01 cd/m2 ซึ่งสว่างมากจนสู้แสงแดดสะท้อนหน้าจอในห้องหรือนอกอาคารได้สบายๆ แต่จากการใช้งานจริงในห้องอาคารแนะนำให้ตั้งความสว่างจอเอาไว้ราว 50~60% ก็พอ ยิ่งถ้าใครชอบปิดไฟในห้องแล้วใช้ไฟจากโคมไฟ Lightbar เป็นหลัก อาจเปิดสัก 30% ก็สว่างมากแล้ว

Strix Scar G18 DSC01055
Strix Scar G18 DSC01056
Strix Scar G18 DSC01069
Strix Scar G18 DSC01070

ลำโพงของ ASUS ROG Strix G18 เป็นลำโพงคู่ จำลองเสียงได้ 5.1.2 แชนแนล แบบ Dolby Atmos และได้รับการรับรอง Hi-Res Audio ซึ่งเนื้อเสียงจากที่ลองดูหนังและเล่นเกมจัดว่ายอดเยี่ยม สามารถจำลองทิศทางเสียงได้ยอดเยี่ยมเหมือนอยู่ในสถานการณ์นั้นจริงๆ ส่วนการฟังเพลงถือว่าเต็มอิ่ม พอตั้งเสียงดังสุดแล้ววัดด้วยเครื่องวัดความดังเสียงจะได้ราว 85dB เนื้อเสียงมีมิติดี สเตจเสียงกลางๆ แต่แยกทิศทางเครื่องดนตรีได้ง่ายและชัดเจน ไลน์เครื่องดนตรีไม่ทับเสียงนักร้องนำและมีเสียงเบสคอยซัพพอร์ตเสียงหลักได้ดีไม่บวมอีกด้วย แต่แรงปะทะจะมีระดับหนึ่งไม่ถึงกับกระแทกนัก ส่วนตัวถือว่าลำโพงของ ROG Strix G18 เป็นลำโพงที่ใช้งานได้ดีรอบด้านตัวหนึ่ง

Keyboard & Touchpad

Strix Scar G18 DSC01116

Strix Scar G18 DSC01120
Strix Scar G18 DSC01121
Strix Scar G18 DSC01125
Strix Scar G18 DSC01124
Strix Scar G18 DSC01126
Strix Scar G18 DSC01127
Strix Scar G18 DSC01123
Strix Scar G18 DSC01122

คีย์บอร์ดของ ASUS ROG Strix G18 เป็นคีย์บอร์ดแบบ Full-size ดีไซน์ทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าให้แทบทุกปุ่มอยู่ในระนาบกรอบสี่เหลี่ยมผืนผ้า ไม่แยกชุดปุ่มลูกศรออกไปจากชุดคีย์บอร์ดหลัก แต่สังเกตว่าเมื่อเว้นระยะให้ปุ่ม Alt, Ctrl ฝั่งขวามือแล้วจะไปเบียดพื้นที่ของเลข 0 ในปุ่ม Numpad แทน ซึ่งตอนใช้งานใหม่ๆ อาจไม่คุ้นกับขนาดที่หดลงแต่พอชินแล้วก็ไม่มีปัญหานัก จุดน่าสนใจคือปุ่ม Print Screen มาแทรกไว้ตรงกลางระหว่าง Alt, Ctrl ขวามือด้วย คาดว่าเพื่อควมสวยงามได้ระนาบเป็นหลัก 

ดีไซน์ปุ่มคีย์บอร์ด ROG Strix G18 ตัวปุ่มดีไซน์เป็นแบบ Overstroke คือทุกปุ่มบนคีย์บอร์ดโดนกดลงไปเล็กน้อยแล้วให้ระยะกดสั้นลงตอบสนองเร็ว กดไวทันใจเกมเมอร์ยิ่งขึ้น ตอนพิมพ์งานและใช้เล่นเกมแล้วถือว่าตอบสนองได้ค่อนข้างเร็วกว่าคีย์บอร์ดทั่วไปเล็กน้อย แต่ทีเด็ดของมันคือตัวปุ่มกดได้สนุกนิ้ว น้ำหนักของปุ่มกำลังดีไม่อ่อนหรือแข็งจนเกินไป

จุดน่าสนใจอีกอย่าง คือปุ่มมาโคร M1~M5 ส่วนเหนือปุ่ม F1~F5 พร้อมคำสั่งพื้นฐานอย่างเพิ่มลดเสียง, ปิดเปิดไมค์, เปลี่ยนโหมดตัวเครื่องและเรียกใช้โปรแกรม Armoury Crate สามารถบันทึกมาโครเอาไว้เล่นเกมได้และใช้ทำงานได้ มีปุ่มฟังก์ชั่นติดตั้งมาให้ตามปุ่มต่างๆ ได้แก่ Windows Lock รวมอยู่กับปุ่ม Windows, ปุ่มลูกศร 4 ปุ่มกับคำสั่ง Page Up/Down, Home และ End มีชุด Function Key เหนือชุด Numpad โดยเซ็ตเป็นแบบ 2 เลเยอร์ รวมคำสั่งไว้ครบถ้วน แต่ก็ยังซ้ำซ้อนกันอยู่บ้าง อย่าง Home, End, Print Screen เป็นต้น ส่วนตัวคิดว่าถ้าเซ็ตเป็นปุ่ม Multimedia Key เช่น เล่น/หยุด, เปลี่ยนเพลงก็น่าสนใจแล้วย้ายเอา Function Key พื้นฐานเหล่านั้นไปรวมไว้กับชุดตัวเลขของ Numpad ก็ได้

Strix Scar G18 DSC01129

นอกจากนี้ปุ่ม F1~F12 จะมี Function Hotkey รวมเอาไว้กับชุดปุ่มหลักให้ผู้ใช้กดใช้งาน เวลาใช้งานให้กด Fn ค้างไว้ก่อน แต่สังเกตว่าทาง ASUS ไม่ได้ทำปุ่มสลับเลเยอร์ติดมาให้ใช้งานด้วย โดย Hotkey ทั้งหมดมีคำสั่งดังนี้

  • F1 – ปิดหรือเปิดเสียงลำโพง
  • F2~F3 – ลดหรือเพิ่มความสว่างไฟ LED Backlit ของคีย์บอร์ด
  • F4 – ปรับเอฟเฟคไฟ AURA Sync
  • F5 – ปุ่มปรับโหมดของตัวเครื่อง 3 โหมด ได้แก่ Silent, Performance, Turbo
  • F6 – เรียกโปรแกรม Snipping Tool
  • F7~F8 – ลดหรือเพิ่มความสว่างหน้าจอ
  • F9 – ปุ่ม Project ตั้งค่าหน้าจอหลักและเสริม
  • F10 – ปิดหรือเปิดทัชแพด
  • F11 – โหมด Sleep
  • F12 – Airplane Mode

ด้านของปุ่มมาโครชุดพิเศษของ ASUS ROG Strix G18 ทั้ง 5 ปุ่มเหนือ F1~F5 เป็นปุ่มแบบพิเศษซึ่งเซ็ตเปลี่ยนปุ่มหรือเซฟมาโครเอาไว้ใช้งานก็ได้ แต่ค่าพื้นฐานจากโรงงานจะมีคำสั่งตามนี้ คือ

  • M1 – ลดเสียงลำโพง
  • M2 – เพิ่มเสียงลำโพง
  • M3 – ปิดหรือเปิดไมค์
  • M4 – ปรับโหมดตัวเครื่อง
  • M5 – เรียกโปรแกรม Armoury Crate

จะเห็นว่า Function Hotkey ของ ASUS ROG Strix G18 จะให้คีย์ลัดมาครบถ้วนพร้อมใช้งาน แต่อาจมีปุ่มซ้ำกันอยู่บ้างอย่างเช่นปุ่มปรับโหมดตัวเครื่องและถ้าเซ็ตให้ปุ่มเพิ่มลดความสว่างไฟคีย์บอร์ดเป็นคำสั่งแบบ Toggle แทน น่าจะได้คีย์ลัดกลับมาใช้ 2 ปุ่มเอาไว้ตั้งค่าเป็นคำสั่งอื่นๆ อย่างปรับค่า Refresh Rate หน้าจอให้ผู้ใช้เลือกได้ว่าจะใช้ 60 หรือ 240Hz ก็ดีเช่นกัน จะได้ตั้งค่าตัวเครื่องได้สะดวกและละเอียดขึ้น

Strix Scar G18 DSC01142

Strix Scar G18 DSC01141
Strix Scar G18 DSC01143

ข้อดีของปุ่มปรับโหมดตัวเครื่องแล้ว จะมีภาพแสดงโหมดตัวเครื่องขึ้นมาบนหน้าจอทั้งหมด 3 แบบ ได้แก่ Silent โหมดประหยัดพลังงานเน้นให้ใช้งานได้นานสุดด้วยแบตเตอรี่ในเครื่อง, Performance โหมดเน้นประสิทธิภาพให้ทำงานได้ไหลลื่นและไม่ร้อนมาก, Turbo รีดประสิทธิภาพตัวเครื่องให้ออกมาสูงสุด ซึ่งถ้าใช้งานด้วยแบตเตอรี่จะเปิดได้แค่ Silent และ Performance เท่านั้น ส่วนโหมด Turbo จะใช้ได้เฉพาะตอนต่ออแดปเตอร์ของตัวเครื่องเท่านั้นเพราะใช้พลังงานเยอะและอาจทำให้แบตเตอรี่เสื่อมเร็วกว่าปกติ

Strix Scar G18 DSC01130
Strix Scar G18 DSC01131

ทัชแพดของ ASUS ROG Strix G18 ถูกขยายขนาดจาก ROG Strix รุ่นก่อน 10% ให้กวาดนิ้วลากตัวเคอร์เซอร์ไปมาได้สะดวกยิ่งขึ้นแต่ก็มีขนาดใหญ่พอสมควร เวลาวางมือแล้วสันมือซ้ายจะทาบไปบนตัวแป้นโดยเลี่ยงไม่ได้ แต่ก็ไม่เกิดอาการทัชแพดลั่นหรือรบกวนตอนใช้งานและยังกดปิดทัชแพดทิ้งได้ถ้าจะใช้เมาส์แยกแทน ด้านการใช้งานตัวทัชแพดรองรับ Gesture Control ของ Windows 11 ครบถ้วน ใช้งานได้ง่ายและตอบสนองได้ดี

Connector / Thin & Weight

Strix Scar G18 DSC01163
Strix Scar G18 DSC01164
Strix Scar G18 DSC01166
Strix Scar G18 DSC01165

พอร์ตของ ASUS ROG Strix G18 ย้อนกลับมาเป็นแบบคลาสสิค ไม่เหมือนเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ครุ่นใหม่ๆ ที่แยกบางพอร์ตไปติดเอาไว้ด้านหลังตัวเครื่องเนื่องจากถูกทำเป็นช่องระบายความร้อนของระบบ ROG Intelligent Cooling แทน โดยมีพอร์ตดังนี้

  • ฝั่งซ้ายจากซ้ายมือ – ช่องต่ออแดปเตอร์, LAN, HDMI 2.1 FRL, Thunderbolt 4, USB-C 3.2 Full Function รองรับ DisplayPort / G-SYNC / Power Delivery 100 วัตต์, Audio combo
  • ฝั่งขวาจากซ้ายมือ – USB-A 3.2 x 2 ช่อง
  • การเชื่อมต่อไร้สาย – Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.2

จะเห็นว่าพอร์ตเชื่อมต่อหลักๆ ที่ต้องใช้งานนั้นมีติดตั้งมาให้ครบถ้วน โดยเฉพาะ HDMI 2.1 FRL นี้จะใช้ต่อหน้าจอแยก 8K 60Hz หรือ 4K 120Hz ได้ รวมถึงต่อผ่านทาง Thunderbolt 4 และ USB-C 3.2 Full Function ก็ได้ ทำให้ต่อจอแยกได้รวมกันมากสุด 3 จอทีเดียว และยังมีพอร์ต USB-A 3.2 ให้ใช้อีกสองช่อง จะเอาไว้ต่อเมาส์คีย์บอร์ดใช้เล่นเกมเลยก็ได้เช่นกันแถมยังเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตได้รวดเร็วทันใจและเสถียรด้วย Wi-Fi 6E ได้อีกด้วย เรียกว่าครบเครื่องทันสมัยมาก

แต่อย่างไรก็ตาม ผู้เขียนเชื่อว่าถ้าใครจะใช้ ASUS ROG Strix G18 ทำเป็นเกมมิ่งพีซีแทนการประกอบคอมสักเครื่องอาจเจอปัญหาว่าพอร์ต USB-A 3.2 ไม่พอใช้งานอย่างแน่นอน แค่เมาส์กับคีย์บอร์ดก็ใช้จนหมด 2 ช่องแล้ว ถ้าจะต่อลำโพง USB, External Harddisk, ปริ้นเตอร์หรือจะต่อสาย USB ของสมาร์ทโฟนค้างไว้ก็ไม่พอใช้งานแน่นอน ดังนั้นผู้เขียนแนะนำให้หา USB Hub หรือ USB-C Multiport adapter เตรียมไว้ใช้สักชิ้นจะได้ใช้งานได้สะดวกขึ้น

Strix Scar G18 DSC01045

Strix Scar G18 DSC01050
Strix Scar G18 DSC01048
Strix Scar G18 DSC01047

น้ำหนักของ ASUS ROG Strix G18 ทางบริษัทเคลมน้ำหนักเอาไว้ 3 กิโลกรัม ซึ่งเมื่อชั่งน้ำหนักแล้วก็เท่ากับที่เคลมเอาไว้ แต่ถ้ารวมอแดปเตอร์กำลังไฟ 330 วัตต์ น้ำหนัก 1.1 กิโลกรัมเข้าไปแล้วจะหนักถึง 4.2 กิโลกรัม มันจึงเป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คที่ทรงพลังและเหมาะจะวางติดโต๊ะแทนการประกอบเกมมิ่งพีซีมาก

หากจะพกติดตัวไปทำธุระต้องใส่กระเป๋าเป้ใบใหญ่พิเศษสำหรับโน๊ตบุ๊ค 17 นิ้วเท่านั้น โดยผู้เขียนได้ลองเอาเครื่องใส่กระเป๋าเป้สำหรับโน๊ตบุ๊ค 15 นิ้ว ไม่สามารถรูดซิปได้และขอบเครื่องยังเกยออกมาด้วย ส่วนใบสำหรับโน๊ตบุ๊ค 17 นิ้วยังพอใส่ได้ แต่พอรวมกับน้ำหนักอแดปเตอร์และข้าวของชิ้นอื่นๆ ในกระเป๋าอาจลำบากไหล่อยู่พอควร ส่วนตัวแนะนำให้หากระเป๋าเป้ที่มีซับไหล่ฟองน้ำหนาเป็นพิเศษมาใช้ สายสะพายจะได้ไม่บาดไหล่เกินไป

Inside & Upgrade

Strix Scar G18 DSC01060

Strix Scar G18 DSC01066
Strix Scar G18 DSC01067
Strix Scar G18 DSC01068
Strix Scar G18 DSC01057

การเปิดฝาอัพเกรด ASUS ROG Strix G18 แค่ไขน็อต 11 ตัวออกและปล่อยให้น็อตมุมล่างขวาค้างติดเอาไว้กับฝาหลังไว้ได้แล้วเอาการ์ดแข็งหรือปิ๊กกีตาร์แกะตามขอบไปเรื่อยๆ ก็ดึงเปิดฝาได้เลย แนะนำให้เปิดให้เริ่มจากขอบล่างซ้ายมือก่อนแล้วไล่ขึ้นไปหาช่องระบายความร้อนจะปลดได้ง่าย

บนแผงเมนบอร์ดจะเห็นว่าตัวบอร์ดจะมีเมนบอร์ดตัวหลักและบอร์ดเสริมตรงฝั่งซ้ายมือหรือฝั่งขวาของตัวเครื่องที่เป็นพอร์ต USB-A 3.2 x 2 ช่อง มีช่องใส่ M.2 NVMe SSD x 2 ช่อง เป็นอินเตอร์เฟส PCIe 4.0 x4 ทั้งหมดและมี SSD 1TB ติดตั้งมาให้หมดแล้วและทำ RAID เอาไว้ มีความจุ 2TB ให้ใช้งานและเป็นความจุสูงสุดที่เมนบอร์ดของ ASUS ROG Strix G18 รองรับได้แล้ว ถือว่าจุมากพอควร

ส่วนแรมดีไซน์ช่องเป็นแบบซ้อนกันสองชั้น ติดตั้งมาให้ 32GB DDR5 บัส 4800MHz จากโรงงานและเป็นความจุสูงสุดที่ ROG Strix G18 รองรับ แม้ 32GB จะเยอะเหลือเฟือสำหรับเกมเมอร์ส่วนใหญ่ในปัจจุบันนี้ก็ตาม แต่ผู้เขียนเชื่อว่าถ้าใครจะใช้ต่อเนื่องหลายๆ ปีก็อาจอยากเพิ่มแรมเผื่อไว้ใช้กับโปรแกรมและเกมใหม่ๆ ในอนาคตอย่างแน่นอน น่าเสียดายว่า ASUS น่าจะทำให้เมนบอร์ดรองรับแรมได้ 64GB เท่าแบรนด์อื่นๆ เผื่อเหลือไว้ใช้ในอนาคตดีกว่า

Strix Scar G18 DSC01072

Strix Scar G18 DSC01074
Strix Scar G18 DSC01073
Strix Scar G18 DSC01075

ส่วนจุดน่าชื่นชม คือสายไฟของ AURA Sync Lightbar ตรงขอบล่างตัวเครื่องถูกปรับดีไซน์จากรุ่นก่อนหน้าที่โยงติดกับฝาหลังตัวเครื่องเป็นแบบเดินตามช่องว่างในเครื่องแล้วตรงเข้าไปยังหัวรับสายบนบอร์ดแทน เป็นดีไซน์ที่ดีมากเวลาอยากเปิดฝาเพิ่มแรมเปลี่ยน SSD ก็ไม่ต้องกลัวเวลาเปิดฝาแล้วจะทำสายแพหลุดหรือขาดเหมือนรุ่นก่อนนับว่าทาง ASUS รัดกุมขึ้นมากและน่าเอาเป็นดีไซน์สำหรับเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คมี Lightbar รุ่นใหม่ๆ ก็ยึดแนวทางออกแบบนี้ได้เลย

สังเกตว่าตัวสายแพของ AURA Sync Lightbar ทั้งสองฝั่งจะมีหัวรับคนละตัว ส่วนตรงกลางมีสายแพอีกสองเส้นเดินเข้ามาต่อบนเมนบอร์ดด้วย คาดว่าน่าจะเป็นสายของ Lightbar ขอบหลังเครื่องกับโลโก้ ROG ตรงฝาหลังรวมกันเป็นหนึ่งเส้น อีกอันเป็นของคีย์บอร์ด

Performance & Software

cpu

mb
ram
ram2

ซีพียูใน ASUS ROG Strix G18 ทุกรุ่นเป็น Intel Core i9-13980HX แบบ 24 คอร์ 32 เธรด (8P+16E) ความเร็ว 4.0~5.6GHz แต่จะต่างกันตรงการ์ดจอแยก, แรมและ M.2 NVMe SSD ในเครื่องแทน ซึ่งซีพียูนี้มีค่า TDP ตั้งต้น 55 วัตต์ สามารถบูสต์เพิ่มค่า TDP ไปได้มากสุด 65 วัตต์เพื่อเร่งประสิทธิภาพตอนทำงานได้ รองรับชุดคำสั่งพื้นฐานครบถ้วนพร้อมใช้งาน

แรมเป็นแบบ SO-DIMM ทั้งหมด 2 ช่อง มีความจุ 32GB DDR5 บัส 4800MHz และรองรับความจุสูงสุด 32GB เช่นกัน ดังนั้นถ้าใครซื้อรุ่นการ์ดจอแยก NVIDIA GeForce RTX 4070 มาก็ไม่ต้องอัพเกรดแรมเพิ่มก็ได้ โดยแรมของเครื่องทดสอบติดตั้งชิปแรมของ Samsung มาให้

4090 and tgp

กราฟิคการ์ดเป็น NVIDIA GeForce RTX 4090 แรม 16GB GDDR6 มี CUDA 9,728 Unified เป็นชิป Max-Q Technology รองรับ Dynamic Boost มีค่า TGP 175 วัตต์ รองรับชุดคำสั่ง OpenCL, OpenGL 4.6, CUDA, DirectCompute, DirectML, Vulkan, Ray Tracing, PhysX, DirectX 12 และใช้งาน Resizable BAR ได้ด้วย จัดว่าครบเครื่องทรงพลังมาก

devicemgr strix scar 18

พาร์ทภายในเครื่องเมื่อเช็คใน Device Manager แล้ว จะมีชิป TPM 2.0 ติดตั้งมาให้ทำงานคู่กับระบบรักษาความปลอดภัยของ Windows 11 ตัว M.2 NVMe SSD เป็นของแบรนด์ Samsung ทำ RAID 0 มาให้จากโรงงาน มีความจุ 2TB พอร์ต LAN เป็นของ Realtek Gaming 2.5GbE รับส่งข้อมูลได้รวดเร็ว

การเชื่อมต่อไร้สายเป็น Wi-Fi 6E (Gig+) มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.2 เป็นการ์ด Wi-Fi PCIe รุ่น Intel AX211 แบนด์วิธ 160MHz รองรับเทคโนโลยี MU-MIMO, OFDMA, และ Intel vPro เป็น Wi-Fi เวอร์ชั่นล่าสุด ทำงานได้เสถียรรับส่งข้อมูลได้รวดเร็วและเสถียรมาก ใช้งานได้เป็นอย่างดี

ssd

M.2 NVMe SSD ความจุ 2TB ของ Samsung ที่ทำ RAID 0 ไว้ เมื่อทดสอบด้วย CrystalDiskMark 8 แล้วได้ความเร็ว Sequential Read 13,268.72 MB/s และ Sequential Write 8,793.04 MB/s ถือว่ารับส่งข้อมูลได้เร็วทันใจมาก ไม่ว่าจะเปิด, รีสตาร์ทเครื่องก็ใช้เวลาเพียงอึดใจ เปิดโปรแกรมหรือโหลดไฟล์ใหญ่ๆ ขึ้นมาใช้งานก็ใช้เวลาไม่กี่วินาทีเท่านั้น จัดว่ารวดเร็วทันใจมาก

ด้านการอัพเกรด หากเช็คใน Device Manager ของ ASUS ROG Strix G18 แล้วเป็น RAID 0 มาแล้ว ก็ไม่แนะนำให้อัพเกรดเพราะมันก็เร็วอยู่แล้ว แต่ถ้ารุ่นไหนเป็นแบบธรรมดาจะซื้อ SSD อีกตัวมาติดตั้งเสริมแล้วทำ RAID 0 จะได้รับส่งข้อมูลได้เร็วขึ้นก็ได้

3dmark

คะแนนจาก 3DMark Time Spy โปรแกรมทดสอบประสิทธิภาพการเล่นเกมของพีซีเครื่องนั้นๆ เมื่อต่ออแดปเตอร์เปิดโหมด Turbo พอรันแล้วได้คะแนนเฉลี่ยสูงถึง 17,097 คะแนน แยกเป็น CPU score 10,173 คะแนน กับ Graphics score อีก 19,431 คะแนน จัดว่าสูงมากโดยเฉพาะคะแนนการ์ดจอก็สูงจนแซงการ์ดจอแยกสำหรับพีซีหลายๆ รุ่นไปเป็นที่เรียบร้อย ส่วนคะแนนซีพียูหลักหมื่นคะแนนก็จัดว่าแรงพอรันเกมฟอร์มยักษ์ในปัจจุบันได้ทุกเกมอย่างแน่นอน

อธิบายคือ ASUS ROG Strix G18 สามารถเล่นเกมฟอร์มยักษ์ในปัจจุบันได้ทุกเกมบนจอความละเอียด QHD หรือ 4K ก็ได้และยังปรับกราฟิคได้สูงสุดได้ทุกเกมแล้วเฟรมเรทยังสูงและเสถียรอย่างแน่นอน เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับเกมเมอร์ที่ชอบความง่ายแค่เปิดเครื่องลงเกมแล้วเริ่มเล่นได้ทันที จะเริ่มใช้จอ QHD ให้ภาพสวยคมชัดขึ้นเลยก็ได้หรือจะเป็นจอ 4K 144Hz ไปเลยก็ไม่มีปัญหาแน่นอน

strix g18 game test

เมื่อทดสอบเล่นเกม จะเห็นว่า ASUS ROG Strix G18 ทำเฟรมเรทได้สูงเหลือเฟือแม้จะเป็นจอ QHD ของตัวเครื่องก็ยังรีดเฟรมเรทเฉลี่ยได้เกิน 120 เฟรมต่อวินาทีทั้งหมดและยังประคองเฟรมเรทต่ำสุดไว้ได้ดีมาก ไม่ต่ำกว่า 60 เฟรมต่อวินาทีเลยแม้แต่นิดเดียว กล่าวคือ Intel Core i9-13980HX และการ์ดจอ NVIDIA GeForce RTX 4090 แรงจนเอาจอ QHD อยู่สบายๆ ถ้าใครมีงบประมาณพอซื้อจอ 4K 144Hz มาต่อแยกแล้วเล่นเกมได้สบายๆ ถึงปรับกราฟิคสุดมันก็ยังทำเฟรมเรทเฉลี่ยได้เกิน 60~80 เฟรมแน่นอน

ประสบการณ์ตอนเล่นเกมบนจอของเครื่อง ต้องถือว่ามันยอดเยี่ยมภาพลื่นไหลและไม่ฉีกขาดเลยแม้ภาพในเกมจะเปลี่ยนไปมาอย่างรวดเร็วก็ตาม ซึ่งถ้าจอไหนที่ไม่มี NVIDIA G-SYNC น่าจะเห็นอาการภาพฉีก (Picture tearing) แน่นอน ตอนผู้เขียนลองเล่น Forza Horizon 5, Apex Legends และ Call of Duty Modern Warfare II แล้ว ไม่มีอาการนี้เลยสักนิดเดียว และถ้าเป็นเกม RPG เสพย์ความสวยของฉากก็ต้องยกข้อดีให้ฟังก์ชั่นที่รองรับ Dolby Vision HDR ด้วย เพราะภาพสวยสีสันสดใสสมจริงมากๆ ใครชอบดูฉากในเกมสวยๆ น่าจะถูกใจแน่นอน

r15
r20

แง่การทำงาน ASUS ROG Strix G18 ก็ทำได้ยอดเยี่ยมเช่นกัน พอทดสอบด้วย CINEBENCH R15 ที่ใช้จำลองการทำงาน 3D และกราฟิคต่างๆ จะเห็นว่าคะแนน OpenGL ทำเฟรมเรทได้สูงถึง 296.69 fps และเก็บคะแนน CPU ได้ถึง 4,835 คะแนน และพอรัน CINEBENCH R20 เพื่อเจาะจงทดสอบพลังของซีพียูจะเห็นว่าได้คะแนน CPU 10,853 pts ซึ่งสูงสมเป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คระดับเรือธงที่ใช้ทำงานครีเอเตอร์อย่างงานปั้นโมเดล 3D, ตัดต่อวิดีโอหรือเรนเดอร์ภาพก็ทำได้สบายๆ และยังเรนเดอร์งานเสร็จได้อย่างรวดเร็วแถมยัง Preview ตัวอย่างงานหมุนโมเดลไปมาได้ลื่นไหลต่อเนื่องอีกด้วย

pcmark10

คะแนนจาก PCMark 10 โปรแกรมทดสอบการทำงานกับการใช้ทำงานต่างๆ ก็ทำคะแนนได้สูงที่สุดเท่าที่ได้ทดสอบมา กวาดคะแนนเฉลี่ยไปได้สูงถึง 9,207 คะแนน ไม่ว่าจะดูหมวดหมู่ไหน ASUS ROG Strix G18 ก็กวาดคะแนนได้สูงเกินหมื่นคะแนนทั้งหมด ซึ่งงานออฟฟิศไม่ว่าจะทำงานเอกสารต่างๆ หรือเปิดโปรแกรมและประชุมออนไลน์ก็ทำได้ดีมากๆ และจะเห็นว่าหมวด Digital Content Creation หมวดของงานกราฟิคและ 3D เรียกว่ายอดเยี่ยม โดยการ์ดจอ NVIDIA GeForce RTX 4090 ในเครื่องทำผลงานได้ดีมากๆ ถ้าเป็นงานตัดต่อแต่งภาพและปั้นงานโมเดล 3D และงานตัดต่อวิดีโอก็เรียกว่าดีไม่แพ้กัน สามารถตัดต่อไฟล์ 4K60Hz ได้ลื่นไหลและกดดูเล่นคลิปได้สบายๆ

จากผลการทดสอบทั้งหมด สรุปได้ง่ายๆ ว่า ASUS ROG Strix G18 แม้หน้าตาจะเป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คซีรี่ส์เรือธงก็ตาม แต่เพราะมีซีพียูและกราฟิคการ์ดตัวท็อปติดตั้งมาให้ มันเลยทำงานครีเอเตอร์ได้ยอดเยี่ยมไม่แพ้กัน แถมหน้าจอยังมีขอบเขตสีกว้างและเที่ยงตรงอีกด้วยดังนั้นถ้าใครเป็นศิลปินและชอบเล่นเกมด้วยจะลงทุนซื้อเครื่องนี้ไปใช้ทำงานและเล่นเกมก็คุ้มค่าและถอนทุนคืนได้เร็วแน่นอน

Screenshot 2023 03 08 121709

Screenshot 2023 03 04 153817
Screenshot 2023 03 08 120212
Screenshot 2023 03 04 153631
Screenshot 2023 03 04 153701

โปรแกรม Armoury Crate ประจำ ASUS ROG Strix G18 นั้นนอกจากมอนิเตอร์การทำงานของซีพียูกับการ์ดจอ, อุณหภูมิ, รอบพัดลม ฯลฯ ได้อย่างละเอียดแล้ว ยังตั้งค่าตัวเครื่องได้ละเอียดมาก ไม่ว่าจะไฟ RGB “AURA Sync” ปรับทิศทางไมค์ว่าจะให้รับเสียงแบบไหนรวมทั้งเซฟมาโครที่ต้องการใช้งานเอาไว้ใช้ได้ด้วย ถือว่ามีฟังก์ชั่นให้ตั้งค่าตัวเครื่องได้ละเอียดมาก

ด้านจุดสำคัญสำหรับรีดประสิทธิภาพของเครื่องออกมาได้อย่างเต็มที่ ให้ดูตรงหน้าแรกของโปรแกรมกรอบ GPU Mode จะมีตัวเลือก 4 แบบด้วยกัน ได้แก่

  • Ultimate – เร่งประสิทธิภาพของตัวเครื่องให้ออกมาสูงที่สุด ถ้าเลือกโหมดนี้แล้วเครื่องจะบังคับ Restart ใหม่ 1 ครั้ง ถึงจะใช้งานได้
  • Standard – โหมดใช้งานปกติ ประสิทธิภาพสูงแต่รองจาก Ultimate เน้นใช้งานทั่วไป
  • Eco Mode – โหมดประหยัดพลังงาน ใช้แต่การ์ดจอออนบอร์ดของซีพียูเท่านั้น
  • Optimized – โหมดปล่อยให้ตัวเครื่องจัดการเองว่าจะใช้กราฟิคการ์ดไหนทำงานอะไร

ซึ่งถ้าใครอยากให้เครื่องทำงานเต็มที่ เล่นเกมได้เฟรมเรทสูงสุดและทำงานได้ไหลลื่น ให้กดโหมด Ultimate จากนั้นเปลี่ยนโหมดตัวเครื่องเป็น Turbo ด้วย แต่เสียงพัดลมจะดังพอสมควร ถ้าอยากใช้งานง่ายๆ ก็เลือก Optimized ให้เครื่องตัดสินใจเลือกใช้การ์ดจอเองก็สะดวกเช่นกัน

Screenshot 2023 03 04 153443

Screenshot 2023 03 04 153605
Screenshot 2023 03 04 153518

อีกโปรแกรมประจำเครื่องอย่าง MyASUS เป็นโปรแกรมสำหรับมอนิเตอร์ตัวเครื่องและอัพเดทเฟิร์มแวร์ได้และเอาไว้ติดต่อกับทาง ASUS ได้กรณีเครื่องมีปัญหาต้องให้ช่างเข้ามาดูแล แต่คำสั่งตั้งค่าเครื่องส่วนใหญ่ถูกย้ายไปอยู่ในโปรแกรม Armoury Crate แทน ดังนั้นจะใช้โปรแกรมนี้ติดต่อทางบริษัทก็ได้

Battery & Heat & Noise

Strix Scar G18 DSC01071

แบตเตอรี่ใน ASUS ROG Strix G18 เป็นแบตเตอรี่แบบลิเธียมโพลีเมอร์ (Li-Polymer) ความจุ 90Wh ถ้านับเป็น Typical Capacity จะมีความจุ 5,800mAh ส่วน Rated Capacity ได้ 5,630mAh ด้วยกัน เป็นแบตเตอรี่ขนาดค่อนข้างใหญ่พอจ่ายไฟเลี้ยงระบบให้เกมมิ่งโน๊ตบุ๊คใช้งานได้นานพอสมควร

batt saving mode

หลังจากทดสอบตามาตรฐานของทางเว็บไซต์โดยเปิดความสว่างหน้าจอ 50% และลำโพง 10% ใช้โหมด Silent และตั้งค่าในโปรแกรม Armoury Crate ให้เป็นการ์ดจอออนบอร์ดเท่านั้นแล้วดูคลิปใน Microsoft Edge นาน 30 นาทีเช่นเดิม พบว่าแบตเตอรี่ 90Wh ในเครื่องสามารถใช้งานได้นานสุด 4 ชั่วโมง 38 นาที ถือว่านานพอใช้จนประชุมหรือเข้าคลาสเรียนจบได้ ถ้าใช้งานทั้งวันควรพกอแดปเตอร์ไปด้วย ถ้าเทียบกับเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คระดับเรือธงสเปคไล่เลี่ยกันที่ให้แบตเตอรี่ 99Wh มาแล้วใช้ได้ราว 5 ชั่วโมงแล้ว ถือว่า ASUS ROG Strix G18 แม้แบตเตอรี่น้อยกว่าก็ยังใช้ได้นานไล่เลี่ยกันก็ถือว่าไม่เลว 

Strix Scar G18 DSC01061

Strix Scar G18 DSC01062
Strix Scar G18 DSC01063
Strix Scar G18 DSC01064
Strix Scar G18 DSC01065
Strix Scar G18 DSC01077
Strix Scar G18 DSC01076

ชุดระบายความร้อน ROG Intelligent Cooling ในเครื่องจะมีฮีตไปป์ 7 เส้น นำความร้อนจากซีพียูและการ์ดจอแยกที่ทา Conductonaut Extreme โลหะเหลวนำความร้อน (Liquid Metal) ของ Thermal Grizzly มายังฮีตซิ้งค์แล้วระบายออกด้วยพัดลมโบลเวอร์ 2 ตัวออกด้านข้างและหลังเครื่อง มีจุดน่าสนใจอยู่ตรงพัดลมโบลวเวอร์ตัวเล็กระหว่างแรมและ M.2 NVMe SSD ซึ่งทาง ASUS ติดดมาเพื่อเป่าลมเย็นเข้าไประบายความร้อน VRAM โดยเฉพาะให้แรมการ์ดจอเย็นลงแล้วทำงานได้ดี อายุการใช้งานนานขึ้น

แต่จุดสังเกต คือ ทาง ASUS หมายเหตุเอาไว้บนหน้าเว็บไซต์ คือ Liquid Metal จะใส่มาเฉพาะรุ่นที่ติดตั้งการ์ดจอแยก NVIDIA GeForce RTX 4080 และ RTX 4090 เท่านั้น นั่นหมายความว่ารุ่นการ์ดจอแยก RTX 4060, RTX 4070 ยังเป็นชุดระบายความร้อนแบบมาตรฐานอยู่ ซึ่งผู้ใช้บางคนอาจนึกเสียดายอยู่บ้าง แต่จากประสบการณ์ส่วนตัวที่มีคนใกล้ตัวใช้เกมมิ่งโน๊ตบุ๊คระบบ Liquid Metal นั้น เมื่อเกิดปัญหากับระบบนี้เมื่อไหร่จะซ่อมหน้างานไม่ได้ ต้องยกเครื่องกลับไปซ่อมโดยใช้อุปกรณ์และเครื่องมือเฉพาะเท่านั้น ดังนั้นแม้ Liquid Metal จะระบายความร้อนดีแค่ไหน แต่ถ้าเกิดปัญหาเมื่อไหร่ก็เรื่องใหญ่เช่นกัน

normaltemp strix scar 18
high temp

เทียบอุณหภูมิเวลาใช้งานปกติและอุณหภูมิสูงสุดเวลาเปิดโหมด Turbo เล่นเกมหรือทำงานกราฟิคแล้ววัดด้วย CPUID HWMonitor แล้ว อุณหภูมิของชิ้นส่วนต่างๆ จะได้ผลตามตารางด้านล่างนี้ โดย SSD Samsung ทั้ง 2 ตัว ผู้เขียนจะอิงจากคู่ที่ถัดลงมาจากซีพียู Intel Core i9-13980HX จะได้ผลดังนี้

รูปแบบการใช้งาน / อุณหภูมิของอุปกรณ์ ใช้งานปกติ
(เซลเซียส)
ใช้งานปกติเฉลี่ย
(เซลเซียส)
อุณหภูมิสูงสุด
(เซลเซียส)
สูงสุดเฉลี่ย
(เซลเซียส)
CPU 54~79 56 53~100 93
กราฟิคการ์ด 47~50 49 47~59 58
Samsung SSD บน 46.3~46.5 46.5 44~58.8 54.3
Samsung SSD ล่าง 47~47.5 47.5 44.3~59.5 55

จะเห็นว่าอุณหภูมิของ ASUS ROG Strix G18 ตอนใช้งานปกติก็เย็นใช้งานได้ดี แต่เวลาเล่นเกมแล้วอุณหภูมิโดยเฉพาะซีพียูจะขึ้นสูงไปแตะ 100 องศาเซลเซียส แต่ตอนใช้งานจริงประสิทธิภาพก็ไม่ลดลงและความร้อนก็ไม่แผ่ขึ้นจากช่องคีย์บอร์ดเลย แต่โซนเหนือคีย์บอร์ดนับตั้งแต่ปุ่ม M1~M5 จะอุ่นขึ้นจนรู้สึกได้และเสียงพัดลมก็ดังพอสมควร เมื่อวัดเสียงแล้วดังราว 75~80dB ซึ่งดังพอสมควรจนบางคนอาจไม่ชอบอย่างแน่นอน แนะนำให้ครอบเกมมิ่งเฮดโฟนตอนเล่นเกมจะพอช่วยแก้ปัญหานี้ได้ระดับหนึ่ง

User Experience

Strix Scar G18 DSC01160

ASUS ROG Strix G18 เหมาะสมกับคำจำกัดความว่า “แรงเหลือเฟือ” มาก จากที่นำไปลองใช้งานมาราว 1 สัปดาห์ ในแง่ประสิทธิภาพตอนใช้งานเรียกว่าหายห่วง จะงานหนักเบาแค่ไหนมันก็ทำได้สบายๆ แถมยังเล่นเกมปรับกราฟิคสุดบนจอ QHD ของเครื่องได้ไหลลื่นมากๆ เรียกว่ามันเป็นเกมมิ่งพีซีสเปคเฉียดแสนบาทที่ใส่กระเป๋าติดตัวไปไหนมาไหนก็ไม่ผิด เหมาะกับคนมีงบอยากได้คอมแรงๆ เอาไว้ใช้แต่ไม่อยากประกอบคอมเองแล้วไม่อยากเหนื่อยแก้ปัญหาตอนเครื่องเสียก็ กำเงินมาซื้อ Strix G18 ตัวนี้ไปเลย ซึ่งสเปคก็แรงใช้งานได้อย่างน้อยต้องมี 5 ปีขึ้นแน่นอน แถมมีประกัน ASUS Perfect Warranty ให้ด้วย เวลาเครื่องมีปัญหาก็เรียกช่างมาดูแลเอา

จุดที่ผู้เขียนชอบเป็นส่วนตัว ต้องยกให้พอร์ตเชื่อมต่อหน้าจอ ได้แก่ HDMI 2.1, Thunderbolt 4 และ USB-C 3.2 Full Function เลยต่อจอแยกพร้อมกันได้หลายจอหรือจะเอาจอเดียวเต็มๆ ก็ต่อจอเกมมิ่ง 4K 144Hz เข้า HDMI 2.1 แล้วเล่นเกมไปก็ได้ ซึ่งพลังของ RTX 4090 นั้นเอาอยู่แน่นอน ถ้าพกไปทำงานแล้วในออฟฟิศมีจอแบบต่อสาย USB-C ได้ยิ่งดี เลือกได้เลยว่าจะต่อเข้า Thunderbolt 4 หรือ USB-C Full Function ใช้งานได้เลย แถมก็ไม่รกเกะกะมาก และถ้า USB-C ของจอรองรับ Power Delivery กระแสไฟ 100 วัตต์ ก็ทิ้งอแดปเตอร์ไว้บ้านไว้ใช้งานตอนเล่นเกมก็พอ และส่วนตัวคิดว่าถ้าเกมเมอร์หรือครีเอเตอร์คนไหนชอบปิดไฟในห้องตอนทำงานหรือเล่นเกม ไฟ RGB “AURA Sync” ตรงขอบหน้าและหลังเครื่องก็สร้างบรรยากาศเกมมิ่งได้ดีอย่างไม่น่าเชื่อ

ด้านระบบระบายความร้อนถึงมันจะระบายความร้อนได้ดีมากๆ คุมอุณหภูมิได้ดีและไม่เจออาการร้อนจนประสิทธิภาพตกเลยก็จริง แต่ต้องแลกกับเสียงพัดลมที่ดังพอสมควร ถ้าใช้โหมด Performance และ Turbo ก็จะดังเอาเรื่องจนบางครั้งกลบเสียงเกมได้เลย เป็นจุดแลกเปลี่ยนหากอยากได้เกมมิ่งโน๊ตบุ๊คดีๆ เอาไว้ใช้สักเครื่อง ก็ต้องยอมกับระบบระบายความร้อนที่เสียงดังสักนิด

แง่น้ำหนักเฉพาะเครื่องอย่างเดียวก็หนักถึง 3 กิโลกรัมแล้ว ถึงจะหนักไล่เลี่ยกับเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คขนาดจอเท่ากันก็ตาม แต่พอรวมกับอุปกรณ์เสริมและของใช้อื่นๆ ในกระเป๋าเชื่อว่าจะไม่อยากพกติดตัวเป็นประจำอย่างแน่นอน และ ASUS ROG Strix G18 นี้ต้องใช้กระเป๋าสำหรับโน๊ตบุ๊ค 17.3 นิ้ว ถึงจะใส่ได้อีกด้วย ซึ่งถ้าใครพกเครื่องไปไหนมาไหนแค่ระยะสั้นๆ ผู้เขียนคิดว่าไม่มีปัญหานัก แต่ถ้าแบกไปกลับออฟฟิศแล้วนั่งขนส่งสาธารณะเชื่อว่าไม่มีความสุขอย่างแน่นอน

Conclusion & Award

Strix Scar G18 DSC01159

ASUS ROG Strix G18 นับเป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คแบบ Desktop Replacement ตัวแรงประจำต้นปี 2023 ซึ่งถ้าใครกำเงินเอาไว้ประมาณ 85,000 บาท ก็เลือกได้เลยว่าถ้าเน้นทำงานครีเอเตอร์เป็นหลักก็ซื้อรุ่นเริ่มต้นการ์ดจอ GeForce RTX 4060 แล้วเอาเงินไปอัพเกรดแรมเป็น 32GB และซื้อเกมมิ่งเกียร์ก็ดี ถ้าเน้นเล่นเกมอย่างเดียวก็จบรุ่นการ์ดจอ GeForce RTX 4070 ก็ได้ ในส่วนนี้ต้องดูตามโจทย์การใช้งานของผู้ใช้แต่ละคนว่าจะเอา ROG Strix G18 ไปทำอะไรบ้าง แต่เชื่อว่าใครลงทุนซื้อมันไปใช้ไม่เสียใจภายหลังอย่างแน่นอน

award

award new Gaming

best gaming

การ์ดจอ NVIDIA GeForce RTX 4000 Series ใน ROG Strix G18 จัดว่าแรงเหลือใช้ พอรวมกับสเปคทั้งเครื่องแล้ว เกมเมอร์จะต่อจอแยกหรือเล่นบนจอ QHD ของเครื่องก็ปรับกราฟิคสูงสุดได้สบายๆ

award new performance

best performance

ผลจากการทดสอบทั้งหมดถือว่า ROG Strix G18 นั้นทรงพลังมาก สามารถใช้โปรแกรมกินทรัพยากรมหาศาลหลายๆ โปรแกรมในปัจจุบันได้สบายๆ ไม่ว่าจะงานตัดต่อวิดีโอหรือทำโมเดล 3D ก็ไม่หวั่นแน่นอน

NBS award 7 Design

best design

ดีไซน์ของ ASUS ROG Strix G18 ภายนอกก็ยังคงดีไซน์ตระกูล ROG เอาไว้อย่างเหนียวแน่น แต่ในแง่รายละเอียด ทาง ASUS ก็ปรับปรุงในส่วนที่เคยมีปัญหาในรุ่นก่อนอย่างเก็บสายแพ Lightbar ได้สวยงามและปลอดภัยแถมยังเพิ่มพัดลมมาระบายความร้อน VRAM โดยเฉพาะด้วย ถือเป็นการแก้จุดบอดในรุ่นก่อนได้อย่างสวยงาม

from:https://notebookspec.com/web/691962-review-asus-rog-strix-g18

Advertisement

รวม 10 โน๊ตบุ๊คน่าซื้องาน COMMART Big Deal ทั้งสายเกมมิ่งและคนทำงาน เด็ดจริงจัดไปถูกใจแน่นอน!!

รวมโน๊ตบุ๊คน่าซื้องาน COMMART Big Deal ตัวเด็ดสายทำงานและเกมมิ่ง ซื้อไปยังไงก็เวิร์ค!

โน๊ตบุ๊คน่าซื้องานCOMMART

โน๊ตบุ๊คน่าซื้องาน COMMART Big Deal ในวันที่ 2~5 มีนาคม 2023 ณ ไบเทค บางนาครั้งนี้ มีร้านค้าชั้นนำและตัวแทนจำหน่ายอุปกรณ์คอมพิวเตอร์เข้าร่วมงานมากมายจากผู้จัดจำหน่ายชั้นนำเจ้าต่างๆ กับโปรโมชั่นของแถมต่างๆ ให้ลูกค้าที่มาซื้อสินค้าในงานได้ของสมนาคุณคุ้มค่าสูงสุดอีกด้วย ซึ่งโน๊ตบุ๊คในงานนี้ก็มีให้เลือกหลากรุ่นหลายสเปคไม่ว่าจะซีพียู AMD, Intel การ์ดจอออนบอร์ดหรือแยกของ AMD, NVIDIA ก็มี อยากได้สเปคประมาณไหนก็เดินเลือกซื้อในงานได้เลย

Advertisementavw

หลังจากหาซื้อโน๊ตบุ๊คน่าซื้องาน COMMART Big Deal ได้แล้ว ก็เดินหาซื้ออุปกรณ์เสริมต่อได้ทันที ไม่ว่าจะเมาส์, คีย์บอร์ด, จอคอมทั้งทำงานและเกมมิ่งให้เลือกซื้อมากมาย แม้แต่เก้าอี้เกมมิ่งก็มีให้เลือกซื้อเช่นกัน เรียกว่าครบเครื่องจบในงานเดียวได้ทันที ดังนั้นถ้าโน๊ตบุ๊คของใครเก่าแล้วและมีแผนอยากเปลี่ยนเป็นเครื่องใหม่ส่งต่อเครื่องเก่าให้คนใกล้ตัวก็น่ามาเดินในงานปีนี้มากๆ

โน๊ตบุ๊คน่าซื้องาน COMMART Big Deal 

ด้านความเห็นของผู้เขียนว่าเราจะเลือกโน๊ตบุ๊คน่าซื้องาน COMMART Big Deal ให้คุ้มที่สุด ควรหาสเปคประมาณไหน ซีพียูรุ่นใดถึงจะคุ้มที่สุดก็ขอสรุปความเห็นเป็นรายชิ้นดังนี้

  • CPU : แนะนำเป็น AMD Ryzen 5000 หรือ 6000 Series ส่วน Intel เป็น Gen 11 หรือ 12 ก็ได้
  • Graphics : ถ้าใช้ทำงานออฟฟิศ เช่น งานเอกสาร, นำเสนองาน หรือแต่งรูปเล็กน้อยก็ซื้อเป็นรุ่นการ์ดจอออนบอร์ดก็ได้เพราะประหยัดพลังงานกว่า ถ้าเล่นเกม, ตัดต่อคลิปแต่งภาพแนะนำให้หารุ่นมีการ์ดจอแยก AMD, NVIDIA ด้วย
  • SSD : แนะนำ SSD ความจุ 512GB ขึ้นไปให้มีพื้นที่ลงโปรแกรมและเซฟงานมากพอ
  • RAM : เชื่อว่าผู้ใช้หลายคนอยากแนะนำให้หารุ่นมีแรม 16GB จากโรงงานหรืออัพแรมในงานให้ไปที่ 16GB เลย แต่ส่วนตัวผู้เขียนเองถือว่าแรม 8GB ณ ปี 2023 ก็ยังถือว่าไม่น่าเกลียดหากใช้ทำงานเอกสารเป็นหลัก แต่ก็ต้องหมั่นปิดโปรแกรมหรือแท็บเบราเซอร์ที่ไม่ใช้งานทิ้งเป็นระยะๆ ด้วย จะได้ไม่เสียพื้นที่แรมโดยเปล่าประโยชน์
  • Display : เริ่มต้น 13.3 หรือ 14 นิ้วสำหรับโน๊ตบุ๊คสายทำงาน เพราะขนาดกำลังดีและไม่หนักมาก เพราะปัจจุบันโน๊ตบุ๊คไซซ์ดังกล่าวน้ำหนักจะอยู่ราว 1.4~1.8 กิโลกรัม ยังพกใส่กระเป๋าไปไหนมาไหนได้สะดวก ส่วนเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คจะมีตั้งแต่ 14, 15.6 และ 17.3 นิ้วให้เลือก ซึ่งน้ำหนักจะผันแปรตามขนาดของหน้าจอ ซึ่งขนาดมาตรฐานจะยืนพื้นอยู่ที่ 15.6 นิ้ว ส่วน 17.3 นิ้ว น่าซื้อมาใช้งานแทนการประกอบเกมมิ่งพีซีมากกว่า ส่วนไซซ์ 14 นิ้วก็หาซื้อในงานได้และเครื่องก็ไม่หนัก เหมาะสำหรับคนอยากพกเครื่องไปไหนมาไหนด้วยแต่ราคาก็จะสูงเช่นกัน
  • Connectivity : แนะนำรุ่นมีพอร์ต USB-C อย่างน้อย 1 ช่อง ถ้าต่อจอแยกแบบ DisplayPort และชาร์จแบตเตอรี่แบบ Power Delivery ได้จะดีมาก หรือไม่ก็มีเพียงอย่างใดอย่างหนึ่งก็ได้ ส่วน Wi-Fi แนะนำเป็น Wi-Fi 5 ขึ้นไป ถ้าได้ Wi-Fi 6E จะดีมาก
  • Software : หารุ่นที่มี Windows 11 Home ติดตั้งมาให้ บางรุ่นอาจแถม Microsoft Office Home & Student 2019~2021 มาให้ในเครื่อง ส่วนเครื่องใดได้ Microsoft 365 ก็ถือว่าใช้ได้แต่จะเป็นบริการแบบจ่ายรายเดือนแล้วได้ Cloud ของ Microsoft มาใช้ด้วย

ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นวิธีการเลือกโน๊ตบุ๊คน่าซื้องาน COMMART Big Deal ครั้งนี้ และอาจนำไปปรับใช้ตอนเลือกซื้อโน๊ตบุ๊ครุ่นใหม่ๆ ในอนาคตได้อีกด้วย

สรุปสเปค 10 โน๊ตบุ๊คน่าซื้องาน COMMART Big Deal

สรุปสเปคโน๊ตบุ๊คน่าซื้องาน COMMART Big Deal CPU

GPU

SSD

RAM

Software

Display

Weight

Connectivity ราคา
(บาท)
ASUS Vivobook 15 X1502ZA-EJ506W Intel Core
i5-1235U

Intel Iris Xe Graphics

M.2 NVMe
512GB

8GB DDR4
3200MHz

Windows 11 Home

Microsoft Office Home & Student 2021

15.6″ FHD IPS

1.7 กก.

USB 2.0 x 1

USB-A 3.2 x 2

USB-C 3.2 x 1

HDMI x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 5

Bluetooth 4.1

18,990
HUAWEI MateBook D14 Intel Core
i5-1135G7

Intel Iris Xe Graphics

M.2 NVMe
512GB

8GB DDR4
3200MHz

Windows 11 Home

14″ FHD IPS

1.38 กก.

USB 2.0 x 1

USB-A 3.2 x 1

USB-C 3.2 x 1

HDMI x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6

Bluetooth 5.1

22,990
Lenovo IdeaPad 3 15IAU7-82RK00ABTA Intel Core
i5-1235U

Intel Iris Xe Graphics

M.2 NVMe
512GB

8GB DDR4
3200MHz

Windows 11 Home

Microsoft Office Home & Student 2021

15.6″ FHD IPS

1.63 กก.

USB 2.0 x 1

USB-A 3.2 x 1

USB-C 3.2 x 1

HDMI x 1

SD Card Reader x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6

Bluetooth 5.2

22,990
Hp Pavilion 15-eh2040AU AMD Ryzen 7 5825U

AMD Radeon Graphics

M.2 NVMe
512GB

16GB DDR4
3200MHz

Windows 11 Home

Microsoft Office Home & Student 2021

15.6″ FHD IPS

1.75 กก.

USB-A 3.2 x 2

USB-C 3.2 Full Function x 1

HDMI x 1

MicroSD Card Reader x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6

Bluetooth 5.2

27,490
Lenovo IdeaPad 5 Pro 16ARH7-82SN003BTA AMD Ryzen 7 6800HS

NVIDIA GeForce RTX 3050

M.2 NVMe
512GB

16GB LPDDR5
6400MHz

Windows 11 Home

Microsoft Office Home & Student 2021

16″ 2.5K
(2560×1600)
IPS

Refresh Rate 120Hz

100% sRGB

1.95 กก.

USB-C 3.2 Full Function x 1

USB-A 3.2 x 2

HDMI 1.4b x 1

SD Card Reader x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6

Bluetooth 5.1

38,990
Lenovo IdeaPad Gaming 3 15ACH6 AMD Ryzen 5 5600H

NVIDIA GeForce RTX 3050 Ti 

M.2 NVMe
512GB

8GB DDR4
3200MHz

Windows 11 Home

15.6″ FHD IPS

AMD FreeSync Premium

Refresh Rate 120Hz

2.25 กก.

USB-A 3.2 x 2

USB-C 3.2 x 1

HDMI 2.0 x 1

LAN x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6

Bluetooth 5.0

27,990
Lenovo Legion 5 15ARH7H AMD Ryzen 7 6800H

NVIDIA GeForce RTX 3070

M.2 NVMe
512GB

16GB DDR5
4800MHz

Windows 11 Home

15.6″ WQHD
IPS

Refresh Rate 165Hz

100% sRGB

Dolby Vision

NVIDIA
G-SYNC

AMD FreeSync Premium

2.4 กก.

USB-C 3.2 x 2 รองรับ DisplayPort

USB-C 3.2 Full Function x 1

USB-A 3.2 x 3

HDMI 2.1 x 1

LAN x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6E

Bluetooth 5.2

64,990
DELL G15 Gaming Intel Core
i5-12500H

NVIDIA GeForce RTX 3050

M.2 NVMe
512GB

8GB DDR5
4800MHz

Windows 11 Home

Microsoft Office Home & Student 2021

15.6″ FHD WVA

Refresh Rate 120Hz

2.51 กก.

USB-C 3.2 x 1 รองรับ DisplayPort

USB-A 3.2 x 3

HDMI 2.1 x 1

LAN x 1

Audio Combo x 1

Wi-Fi 6

Bluetooth 5.2

38,690
ASUS TUF Gaming A15 FA507RM-HN004W AMD Ryzen 7 6800H

NVIDIA GeForce RTX 3060

M.2 NVMe
512GB

16GB DDR5
4800MHz

Windows 11 Home

15.6″ FHD IPS

Refresh Rate 144Hz

2.2 กก.

USB-A 3.2 x 2

USB-C 3.2 รองรับ DisplayPort 1.2 และ NVIDIA G-SYNC  x 1

USB-C x 1

HDMI 2.0b x 1

LAN x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6

Bluetooth 5.2

45,990
ASUS ROG Strix G15 GL543RM-HQ349W AMD Ryzen 9 6900HX

NVIDIA GeForce RTX 3060

M.2 NVMe
1TB

32GB DDR5
4800MHz

Windows 11 Home

15.6″ WQHD
(2560×1440)
IPS

Refresh Rate 165Hz

2.3 กก.

USB-A 3.2 x 2

USB-C 3.2 x 1

USB-C 3.2 Full Function x 1 รองรับ NVIDIA G-SYNC

HDMI 2.0b x 1

LAN x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6E

Bluetooth 5.2

64,990

10 โน๊ตบุ๊คน่าซื้องาน COMMART Big Deal รวมรุ่นเด็ดทั้งสายทำงานและเกมมิ่ง!

ผู้ใช้คนไหนมีแผนหาโน๊ตบุ๊คน่าซื้องาน COMMART Big Deal เอาไว้ใช้ทำงานหรือเล่นเกมสักเครื่องล่ะก็ในงานนี้ก็มีรุ่นเด็ดให้เลือกเพียบ ส่วนรุ่นน่าสนใจที่ผู้เขียนแนะนำจะคละกันทั้งสายทำงานและเกมมิ่งโดยมีทั้งหมด 10 รุ่น ได้แก่

  1. ASUS Vivobook 15 X1502ZA-EJ506W (18,990 บาท)
  2. HUAWEI MateBook D14 (22,990 บาท)
  3. Lenovo IdeaPad 3 15IAU7-82RK00ABTA (22,990 บาท)
  4. Hp Pavilion 15-eh2040AU (27,490 บาท)
  5. Lenovo IdeaPad 5 Pro 16ARH7-82SN003BTA (38,990 บาท)
  6. Lenovo IdeaPad Gaming 3 15ACH6 (27,990 บาท)
  7. Lenovo Legion 5 15ARH7H (64,990 บาท)
  8. DELL G15 Gaming (38,690 บาท)
  9. ASUS TUF Gaming A15 FA507RM-HN004W (45,990 บาท)
  10. ASUS ROG Strix G15 GL543RM-HQ349W (64,990 บาท)
1. ASUS Vivobook 15 X1502ZA-EJ506W (18,990 บาท)

Asus Notebook Vivobook 15 X1502ZA 02 square medium

โน๊ตบุ๊คน่าซื้องาน COMMART Big Deal รุ่นแรกแนะนำเป็นสายทำงานอย่าง ASUS Vivobook 15 X1502ZA-EJ506W ซึ่งเป็นซีรี่ส์ราคาประหยัดเข้าถึงง่ายแต่สเปคดีน่าใช้และกางจอได้แบนราบ 180 องศาติดพื้นโต๊ะเพื่อแชร์หน้าจอให้เพื่อนร่วมงานดูได้ ดีไซน์แป้นพิมพ์ ErgoSense ให้พิมพ์ได้ถนัดมือแถมยังมีชุด Numpad ติดมาให้ด้วย ขนาดจอเครื่องนี้อยู่ที่ 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ใช้ซีพียู Intel Core i5-1235U แบบ 10 คอร์ 12 เธรด (2P+8E) ความเร็ว 3.3~4.4GHz มาให้และใช้การ์ดจอออนบอร์ด Intel Iris Xe Graphics มี M.2 NVMe SSD ความจุ 512GB ติดตั้ง Windows 11 Home และ Microsoft Office Home & Student 2021 มาให้และแรมออนบอร์ดอีก 8GB DDR4 บัส 3200MHz มีพอร์ต USB 2.0 x 1, USB-A 3.2 x 2, USB-C 3.2 x 1, HDMI x 1, Audio combo x 1 เชื่อมต่อ Wi-Fi 5 มาตรฐาน 802.11ac และ Bluetooth 4.1 ได้ น้ำหนักก็เบาพกง่ายเพียง 1.7 กิโลกรัมเท่านั้น เป็นรุ่นสเปคดีราคาเป็นมิตร น่าจะตอบโจทย์นักเรียนนักศึกษาและพนักงานออฟฟิศอย่างแน่นอน

สเปคของ ASUS Vivobook 15 X1502ZA-EJ506W
CPU Intel Core i5-1235U แบบ 10 คอร์ 12 เธรด (2P+8E) ความเร็ว 3.3~4.4GHz
GPU Intel Iris Xe Graphics
SSD M.2 NVMe SSD 512GB
RAM ออนบอร์ด 8GB DDR4 บัส 3200MHz
Display 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS
Connectivity USB 2.0 x 1, USB-A 3.2 x 2, USB-C 3.2 x 1, HDMI x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 5 มาตรฐาน 802.11ac และ Bluetooth 4.1

Software Windows 11 Home, Microsoft Office Home & Student 2021
Weight 1.7 กิโลกรัม
Price 18,990 บาท (คลิ๊กสั่งซื้อได้ที่นี่)
2. HUAWEI MateBook D14 (22,990 บาท)

MateBook D14 RAM 16GB 01

โน๊ตบุ๊คน่าซื้องาน COMMART Big Deal รุ่นถัดมาเป็น HUAWEI MateBook D14 ที่แม้จะวางจำหน่ายมาระยะหนึ่งแล้วก็ยังน่าใช้ เพราะมีเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือติดมาให้กับปุ่ม Power และชาร์จแบตเตอรี่ผ่านพอร์ต USB-C ได้และดีไซน์ซ่อนกล้อง Webcam เอาไว้กับแผงคีย์บอร์ดทำให้รีดกรอบจอได้บาง ให้จอขนาด 14 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS มีพื้นที่แสดงผลมากขึ้น ติดตั้งซีพียู Intel Core i5-1135G7 แบบ 4 คอร์ 8 เธรด ความเร็ว 2.4~4.2GHz และการ์ดจอ Intel Iris Xe Graphics มาให้ใช้ตัดต่อแต่งภาพและแสดงผลขึ้นหน้าจอได้อย่างลื่นไหล มี M.2 NVMe SSD ความจุ 512GB ติดตั้ง Windows 11 Home มาให้ มีแรม 8GB DDR4 บัส 3200MHz มีพอร์ต USB 2.0 x 1, USB-A 3.2 x 1, USB-C 3.2 x 1, HDMI x 1, Audio combo x 1 เชื่อมต่อ Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.1 ได้ในตัวและน้ำหนักก็เบาเพียง 1.38 กิโลกรัม นับเป็นโน๊ตบุ๊คน่าซื้องาน COMMART Big Deal อีกรุ่น ยิ่งถ้าใครใช้สมาร์ทโฟน HUAWEI อยู่ก็ใช้ฟีเจอร์ HUAWEI Share ดึงหน้าจอสมาร์ทโฟนมาใช้บนจอคอมได้ด้วย เรียกว่ามีลูกเล่นน่าใช้ใส่มาให้เพียบทีเดียว

สเปคของ HUAWEI MateBook D14
CPU Intel Core i5-1135G7 แบบ 4 คอร์ 8 เธรด ความเร็ว 2.4~4.2GHz
GPU Intel Iris Xe Graphics
SSD M.2 NVMe SSD 512GB
RAM 8GB DDR4 บัส 3200MHz
Display 14 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS
Connectivity USB 2.0 x 1, USB-A 3.2 x 1, USB-C 3.2 x 1, HDMI x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.1

Software Windows 11 Home
Weight 1.38 กิโลกรัม
Price 22,990 บาท (คลิ๊กสั่งซื้อได้ที่นี่)
3. Lenovo IdeaPad 3 15IAU7-82RK00ABTA (22,990 บาท)

Lenovo Notebook IdeaPad 3 15IAU7 01 square medium

ถ้าพูดถึงโน๊ตบุ๊คน่าซื้องาน COMMART Big Deal เพื่อคนทำงานก็ต้องมี Lenovo IdeaPad 3 15IAU7-82RK00ABTA รุ่นนี้รวมอยู่ด้วย เพราะทางผู้ผลิตติดตั้งเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือรวมมาให้กับปุ่ม Power เพื่อยืนยันตัวตนและน้ำหนักเครื่องยังเบาเพียง 1.63 กิโลกรัม จึงพกติดตัวไปเรียนหรือไปพบลูกค้าได้ง่ายมากแม้จอจะมีขนาดใหญ่ 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ก็ตาม ติดตั้งซีพียูรุ่นใหม่อย่าง Intel Core i5-1235U แบบ 10 คอร์ 12 เธรด (2P+8E) ความเร็ว 3.3~4.4GHz กับการ์ดจอออนบอร์ด Intel Iris Xe Graphics มาให้พร้อม M.2 NVMe SSD ความจุ 512GB กับระบบปฏิบัติการ Windows 11 Home และ Microsoft Office Home & Student 2021 มาให้ครบเครื่องกับแรมออนบอร์ดอีก 8GB DDR4 บัส 3200MHz มีพอร์ต USB 2.0 x 1, USB-A 3.2 x 1, USB-C 3.2 x 1, HDMI x 1, SD Card Reader x 1, Audio combo x 1 เชื่อมต่อ Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.2 ได้ด้วย ถือเป็นรุ่นสเปคดีราคาคุ้มค่าน่าจับอีกตัวในหมู่โน๊ตบุ๊คสายทำงานเลย 

สเปคของ Lenovo IdeaPad 3 15IAU7-82RK00ABTA
CPU Intel Core i5-1235U แบบ 10 คอร์ 12 เธรด (2P+8E) ความเร็ว 3.3~4.4GHz
GPU Intel Iris Xe Graphics
SSD M.2 NVMe SSD 512GB
RAM 8GB DDR4 บัส 3200MHz
Display 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS
Connectivity USB 2.0 x 1, USB-A 3.2 x 1, USB-C 3.2 x 1, HDMI x 1, SD Card Reader x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.2

Software Windows 11 Home, Microsoft Office Home & Student 2021
Weight 1.63 กิโลกรัม
Price 22,990 บาท (คลิ๊กสั่งซื้อได้ที่นี่)
4. Hp Pavilion 15-eh2040AU (27,490 บาท)

HP Notebook Pavilion 15 eh2040AU 01 square medium

ทีม AMD ที่อยากหาโน๊ตบุ๊คน่าซื้องาน COMMART Big Deal เอาไว้ใช้สักเครื่อง ส่วนตัวผู้เขียนอยากแนะนำ Hp Pavilion 15-eh2040AU ให้เป็นตัวเลือกแรก เพราะ HP ให้พอร์ต USB-C Full Function มาใช้ชาร์จแบตเตอรี่แบบ Power Delivery และต่อจอแยกแบบ DisplayPort ได้ด้วยแถมยังมีเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือติดตั้งมาให้อีกด้วย เรียกว่าครบเครื่องมากและได้จอขนาดใหญ่เต็มตา 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS พร้อมขุมพลังซีพียู AMD Ryzen 7 5825U แบบ 8 คอร์ 16 เธรด ความเร็ว 2.0~4.5GHz ใช้การ์ดจอออนบอร์ด AMD Radeon Graphics แบบ 8 คอร์มาให้ มี M.2 NVMe SSD ความจุ 512GB ติดตั้ง Windows 11 Home และ Microsoft Office Home & Student 2021 มาให้และแรมอีก 16GB DDR4 บัส 3200MHz เยอะจุใจใครหลายๆ คนแน่นอน มีพอร์ต USB-A 3.2 x 2, USB-C 3.2 Full Function x 1, HDMI x 1, MicroSD Card Reader x 1, Audio combo x 1 เชื่อมต่อ Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.2 ได้ในตัว น้ำหนักเพียง 1.75 กิโลกรัมเท่านั้น ส่วนตัวผู้เขียนถือเป็นโน๊ตบุ๊คน่าซื้องาน COMMART Big Deal ที่สเปคจบน่าใช้ เอาเงินไปซื้ออุปกรณ์เสริมแทนได้เลย

สเปคของ Hp Pavilion 15-eh2040AU
CPU AMD Ryzen 7 5825U แบบ 8 คอร์ 16 เธรด ความเร็ว 2.0~4.5GHz
GPU AMD Radeon Graphics แบบ 8 คอร์
SSD M.2 NVMe SSD 512GB
RAM 16GB DDR4 บัส 3200MHz
Display 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS
Connectivity USB-A 3.2 x 2, USB-C 3.2 Full Function x 1, HDMI x 1, MicroSD Card Reader x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.2

Software Windows 11 Home, Microsoft Office Home & Student 2021
Weight 1.75 กิโลกรัม
Price 27,490 บาท (คลิ๊กสั่งซื้อได้ที่นี่)
5. Lenovo IdeaPad 5 Pro 16ARH7-82SN003BTA (38,990 บาท)

Lenovo IdeaPad 5 Pro 03 square medium

สำหรับ Lenovo IdeaPad 5 Pro 16ARH7-82SN003BTA รุ่นนี้ถือเป็นโน๊ตบุ๊คน่าซื้องาน COMMART Big Deal ระดับพรีเมี่ยมพลัง AMD Ryzen รหัสพิเศษอย่าง AMD Ryzen 7 6800HS แบบ 8 คอร์ 16 เธรด ความเร็ว 3.2~4.7GHz โดยรหัสนี้เป็นซีพียูประสิทธิภาพสูงแต่จัดการพลังงานได้ดี จับคู่กับการ์ดจอแยก NVIDIA GeForce RTX 3050 แรม 4GB GDDR6 และหน้าจอเครื่องมีขนาด 16 นิ้ว ความละเอียด 2.5K (2560×1600) พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 120Hz ขอบเขตสีกว้าง 100% sRGB ติดกล้อง IR Camera มาให้สแกนหน้าปลดล็อคเครื่องได้ในตัว มี M.2 NVMe SSD ความจุ 512GB ติดตั้ง Windows 11 Home และ Microsoft Office Home & Student 2021 มาให้พร้อมแรมอีก 16GB LPDDR5 บัส 6400MHz มีพอร์ต USB-C 3.2 Full Function x 1, USB-A 3.2 x 2, HDMI 1.4b x 1, SD Card Reader x 1, Audio combo x 1 เชื่อมต่อไร้สายด้วย Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.1 ได้ น้ำหนักเครื่องอยู่ที่ 1.95 กิโลกรัม ซึ่ง IdeaPad 5 Pro เครื่องนี้เหมาะกับผู้ใช้ที่ต้องการโน๊ตบุ๊คระดับพรีเมี่ยมประสิทธิภาพสูงเอาไว้ทำงานได้รอบด้าน ตั้งแต่ตัดต่อแต่งภาพทำคลิปหรือจะเปิดเล่นเกมก็ได้เช่นกัน ซื้อเครื่องเดียวใช้งานได้หลายปีอย่างแน่นอน นับเป็นหนึ่งในโน๊ตบุ๊คน่าซื้องาน COMMART Big Deal ครั้งนี้เลย

สเปคของ Lenovo IdeaPad 5 Pro 16ARH7-82SN003BTA
CPU AMD Ryzen 7 6800HS แบบ 8 คอร์ 16 เธรด ความเร็ว 3.2~4.7GHz
GPU NVIDIA GeForce RTX 3050 แรม 4GB GDDR6
SSD M.2 NVMe SSD 512GB
RAM 16GB LPDDR5 บัส 6400MHz
Display 16 นิ้ว ความละเอียด 2.5K (2560×1600) พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 120Hz ขอบเขตสีกว้าง 100% sRGB
Connectivity USB-C 3.2 Full Function x 1, USB-A 3.2 x 2, HDMI 1.4b x 1, SD Card Reader x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.1

Software Windows 11 Home, Microsoft Office Home & Student 2021
Weight 1.95 กิโลกรัม
Price 38,990 บาท (คลิ๊กสั่งซื้อได้ที่นี่)
6. Lenovo IdeaPad Gaming 3 15ACH6 (27,990 บาท)

Notebook IdeaPad Gaming 3 15ACH6 01 square medium

ส่วนของเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คน่าซื้อในงาน COMMART Big Deal เริ่มจากรุ่นดีราคาประหยัดอย่าง Lenovo IdeaPad Gaming 3 15ACH6 ซึ่งยังหาซื้อได้ไม่ยากนักและมีโปรโมชั่นอย่างแน่นอน โดยจุดเด่นคือคีย์บอร์ด Full-size พ้อมไฟ 4-Zone RGB มี 100% N-key rollover ในตัวและหน้าจอเครื่องมีขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 120Hz รองรับ AMD FreeSync Premium ใช้ซีพียู AMD Ryzen 5 5600H  แบบ 6 คอร์ 12 เธรด ความเร็ว 3.3~4.2GHz จับคู่การ์ดจอแยก NVIDIA GeForce RTX 3050 Ti แรม 4GB GDDR6 มี M.2 NVMe SSD ความจุ 512GB ติดตั้ง Windows 11 Home กับแรม 8GB DDR4 บัส 3200MHz มาให้ มีพอร์ต USB-A 3.2 x 2, USB-C 3.2 x 1, HDMI 2.0 x 1, LAN x 1, Audio combo x 1 เชื่อมต่อ Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.0 ได้ในตัว น้ำหนักอยู่ที่ 2.25 กิโลกรัม เป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คน่าซื้อในงาน COMMART Big Deal เพื่อเกมเมอร์ที่มีงบจำกัดหรือครีเอเตอร์มือใหม่หาโน๊ตบุ๊คมีการ์ดจอแยกเอาไว้ตัดคลิป Vlog ก็ซื้อเครื่องนี้ไปใช้เริ่มต้นได้

สเปคของ Lenovo IdeaPad Gaming 3 15ACH6
CPU AMD Ryzen 5 5600H  แบบ 6 คอร์ 12 เธรด ความเร็ว 3.3~4.2GHz
GPU NVIDIA GeForce RTX 3050 Ti แรม 4GB GDDR6
SSD M.2 NVMe SSD 512GB
RAM 8GB DDR4 บัส 3200MHz
Display 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 120Hz รองรับ AMD FreeSync Premium
Connectivity USB-A 3.2 x 2, USB-C 3.2 x 1, HDMI 2.0 x 1, LAN x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.0

Software Windows 11 Home
Weight 2.25 กิโลกรัม
Price 27,990 บาท (คลิ๊กสั่งซื้อได้ที่นี่)
7. Lenovo Legion 5 15ARH7H (64,990 บาท)

Lenovo Notebook Legion 5 15ARH7H 01 square medium

เกมมิ่งโน๊ตบุ๊คน่าซื้องาน COMMART Big Deal ขวัญใจเกมเมอร์อย่าง Lenovo Legion 5 15ARH7H รุ่นนี้เชื่อว่ามีคนตามหากันเยอะแน่นอนเพราะสเปคต่อราคาคุ้มค่า ได้ระบบระบายความร้อน Coldfront 4.0 มีชิป Legion AI ช่วยปรับแต่งตัวเครื่องให้ทำงานได้ไหลลื่นขึ้นและได้คีย์บอร์ด Legion TrueStrike พร้อมไฟ 4-Zone RGB และลำโพงจูนเสียงโดย Nahimic Audio ให้เสียงมีมิติเต็มอิ่มยิ่งขึ้น ให้ดูหนังฟังเพลงและเล่นเกมบนจอ 15.6 นิ้ว ความละเอียด WQHD (2560×1440) พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 165Hz ได้ลื่นไหลขึ้นและจอนี้มีขอบเขตสีกว้าง 100% sRGB รองรับ Dolby Vision, NVIDIA G-SYNC, AMD FreeSync Premium ได้อย่างเต็มอิ่ม ติดตั้งซีพียู AMD Ryzen 7 6800H แบบ 8 คอร์ 16 เธรด ความเร็ว 3.2~4.7GHz มาคู่กับการ์ดจอแยก NVIDIA GeForce RTX 3070 แรม 8GB GDDR6 มี M.2 NVMe SSD ความจุ 512GB พร้อม Windows 11 Home กับแรม 16GB DDR5 บัส 4800MHz ในตัว มีพอร์ต USB-C 3.2 x 2 รองรับ DisplayPort, USB-C 3.2 Full Function x 1, USB-A 3.2 x 3, HDMI 2.1 x 1, LAN x 1, Audio combo x 1 เชื่อมต่อไร้สายได้ด้วย Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.2 ได้ น้ำหนักเครื่องอยู่ที่ 2.4 กิโลกรัม หากใครหาเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คน่าซื้องาน COMMART Big Deal อยู่ก็ซื้อเครื่องนี้ไปเล่นเกมได้เลย เชื่อว่าประทับใจอย่างแน่นอน

สเปคของ Lenovo Legion 5 15ARH7H
CPU AMD Ryzen 7 6800H แบบ 8 คอร์ 16 เธรด ความเร็ว 3.2~4.7GHz
GPU NVIDIA GeForce RTX 3070 แรม 8GB GDDR6
SSD M.2 NVMe SSD 512GB
RAM 16GB DDR5 บัส 4800MHz
Display 15.6 นิ้ว ความละเอียด WQHD (2560×1440) พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 165Hz ได้ลื่นไหลขึ้นและจอนี้มีขอบเขตสีกว้าง 100% sRGB รองรับ Dolby Vision, NVIDIA G-SYNC, AMD FreeSync Premium
Connectivity USB-C 3.2 x 2 รองรับ DisplayPort, USB-C 3.2 Full Function x 1, USB-A 3.2 x 3, HDMI 2.1 x 1, LAN x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.2

Software Windows 11 Home
Weight 2.4 กิโลกรัม
Price 64,990 บาท (คลิ๊กสั่งซื้อได้ที่นี่)
8. DELL G15 Gaming (38,690 บาท)

Dell Inspiron G15 W566311300TH Green 02 square medium

เกมมิ่งโน๊ตบุ๊คน่าซื้องาน COMMART Big Deal อย่าง DELL G15 Gaming นั้นถือว่าน่าซื้อไม่แพ้เครื่องอื่นในลิสท์นี้เลย เพราะทางบริษัทใส่โปรแกรมปรับแต่งตัวเครื่องอย่าง Alienware Command Center มาให้ปรับแต่งและรีดประสิทธิภาพตัวเครื่องออกมาได้เต็มที่ซึ่งผู้เขียนได้รีวิวไปก่อนหน้านี้แล้ว หากสนใจก็สามารถคลิ๊กอ่านได้ที่นี่ แถมมี Microsoft Office Home & Student 2021 ติดตั้งมาให้คู่กับ Windows 11 Home ด้วย จะทำงานหรือเล่นเกมก็ดีทั้งคู่และขนาดเครื่องก็ไล่เลี่ยกับเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ครุ่นอื่นๆ ที่ 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล WVA ค่า Refresh Rate 120Hz ติดตั้ง Intel Core i5-12500H แบบ 12 คอร์ 16 เธรด (4P+8E) ความเร็ว 3.3~4.5GHz กับการ์ดจอแยก NVIDIA GeForce RTX 3050 แรม 4GB GDDR6 มาให้ มี M.2 NVMe SSD ความจุ 512GB และแรม 8GB DDR5 บัส 4800MHz มีพอร์ต USB-C 3.2 x 1 รองรับ DisplayPort, USB-A 3.2 x 3, HDMI 2.1 x 1, LAN x 1, Audio Combo x 1 เชื่อมต่อ Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.2 ได้ น้ำหนัก 2.51 กิโลกรัม ซึ่งข้อดีของ DELL G15 Gaming นั้นต้องยกให้โปรแกรม Microsoft Office แท้ที่แถมมาให้เลย ผู้ใช้จะได้ไม่ต้องเสียเงินซื้อโปรแกรมเพิ่มให้เปลือง เหลือเพียงแค่อัพเกรดเพิ่มแรมไป 16GB ก็พร้อมใช้งานแล้ว หากใครหาเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คน่าซื้องาน COMMART Big Deal ก็ดูตัวนี้ไว้ได้เลย

สเปคของ DELL G15 Gaming
CPU Intel Core i5-12500H แบบ 12 คอร์ 16 เธรด (4P+8E) ความเร็ว 3.3~4.5GHz
GPU NVIDIA GeForce RTX 3050 แรม 4GB GDDR6
SSD M.2 NVMe SSD 512GB
RAM 8GB DDR5 บัส 4800MHz
Display 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล WVA ค่า Refresh Rate 120Hz
Connectivity USB-C 3.2 x 1 รองรับ DisplayPort, USB-A 3.2 x 3, HDMI 2.1 x 1, LAN x 1, Audio Combo x 1

Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.2

Software Windows 11 Home, Microsoft Office Home & Student 2021
Weight 2.51 กิโลกรัม
Price 38,690 บาท (คลิ๊กสั่งซื้อได้ที่นี่)
9. ASUS TUF Gaming A15 FA507RM-HN004W (45,990 บาท)

Asus Notebook TUF Gaming A15 FA507RM 01 square medium

หากเกมเมอร์คนไหนหาเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คน่าซื้องาน COMMART Big Deal ไปแทนเกมมิ่งพีซีเพราะที่บ้านมีพื้นที่ใช้สอยจำกัด ผู้เขียนขอแนะนำให้ดู ASUS TUF Gaming A15 FA507RM-HN004W เป็นพิเศษ เพราะทาง ASUS ติดตั้ง MUX Switch เอาไว้สลับโหมดการทำงานระหว่างการ์ดจอแยกและออนบอร์ดได้อย่างเหมาะสมกับพัดลม Arc Flow Fan ไว้ระบายความร้อนได้เป็นอย่างดี มี Adaptive-Sync ลดอาการภาพฉีกเวลาเล่นเกมและยังมี Hotkeys ติดตั้งมาให้ 4 ปุ่มเอาไว้กดคีย์ลัดได้ด้วย ส่วนขนาดเครื่องอยู่ที่ 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 144Hz ติดตั้ง AMD Ryzen 7 6800H แบบ 8 คอร์ 16 เธรด ความเร็ว 3.2~4.7GHz จับคู่การ์ดจอ NVIDIA GeForce RTX 3060 แรม 6GB GDDR6 และ M.2 NVMe SSD ความจุ 512GB ติดตั้ง Windows 11 Home มาให้กับแรม 16GB DDR5 บัส 4800MHz มีพอร์ต USB-A 3.2 x 2, USB-C 3.2 รองรับ DisplayPort 1.2 และ NVIDIA G-SYNC  x 1, USB-C x 1, HDMI 2.0b x 1, LAN x 1, Audio combo x 1 เชื่อมต่อ Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.2 ได้ น้ำหนักเพียง 2.2 กิโลกรัม ถือเป็นโน๊ตบุ๊คน่าซื้องาน COMMART Big Deal อีกรุ่นที่น่าซื้อในงานนี้

สเปคของ ASUS TUF Gaming A15 FA507RM-HN004W
CPU AMD Ryzen 7 6800H แบบ 8 คอร์ 16 เธรด ความเร็ว 3.2~4.7GHz
GPU NVIDIA GeForce RTX 3060 แรม 6GB GDDR6
SSD M.2 NVMe SSD 512GB
RAM 16GB DDR5 บัส 4800MHz
Display 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 144Hz
Connectivity USB-A 3.2 x 2, USB-C 3.2 รองรับ DisplayPort 1.2 และ NVIDIA G-SYNC  x 1, USB-C x 1, HDMI 2.0b x 1, LAN x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.2

Software Windows 11 Home
Weight 2.2 กิโลกรัม
Price 45,990 บาท (คลิ๊กสั่งซื้อได้ที่นี่)
10. ASUS ROG Strix G15 GL543RM-HQ349W (64,990 บาท)

Asus Notebook ROG Strix G15 GL543RM 04 square medium

ถ้าต้องการฟีเจอร์แบบเกมมิ่งเต็มที่ สเปคแรงและมีปุ่มมาโครให้เซ็ตตั้งค่าได้ด้วยก็ต้อง ASUS ROG Strix G15 GL543RM-HQ349W ซึ่งนอกจากปุ่มมาโครแล้วยังได้ชิป MUX Switch, ระบบ Dolby Vision และ Dolby Atmos รวมทั้งไฟ RGB “AURA SYNC” และมีชิป Smart AMP มาเสริมให้เสียงลำโพงดีมีมิติยิ่งขึ้น และขนาดเครื่องเพียง 15.6 นิ้ว ความละเอียด WQHD (2560×1440) พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 165Hz พกพาได้ไม่ยากมาก ติดตั้ง ซีพียูสุดแรง AMD Ryzen 9 6900HX แบบ 8 คอร์ 16 เธรด ความเร็ว 3.3~4.9GHz กับการ์ดจอ NVIDIA GeForce RTX 3060 แรม 6GB GDDR6 มาให้ มี M.2 NVMe SSD ความจุ 1TB ติดตั้ง Windows 11 Home มาให้ มีแรม 32GB DDR5 บัส 4800MHz มีพอร์ต USB-A 3.2 x 2, USB-C 3.2 x 1, USB-C 3.2 Full Function x 1 รองรับ NVIDIA G-SYNC, HDMI 2.0b x 1, LAN x 1, Audio combo x 1 เชื่อมต่อไร้สายด้วย Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.2 น้ำหนักเครื่อง 2.3 กิโลกรัมเท่านั้น จัดเป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คน่าซื้องาน COMMART Big Deal สุดทรงพลังอีกเครื่อง จะเอาไว้เล่นเกมหรือใช้ทำงานก็ยอดเยี่ยมอย่างแน่นอน

สเปคของ ASUS ROG Strix G15 GL543RM-HQ349W
CPU AMD Ryzen 9 6900HX แบบ 8 คอร์ 16 เธรด ความเร็ว 3.3~4.9GHz
GPU NVIDIA GeForce RTX 3060 แรม 6GB GDDR6
SSD M.2 NVMe SSD 1TB
RAM 32GB DDR5 บัส 4800MHz
Display 15.6 นิ้ว ความละเอียด WQHD (2560×1440) พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 165Hz
Connectivity USB-A 3.2 x 2, USB-C 3.2 x 1, USB-C 3.2 Full Function x 1 รองรับ NVIDIA G-SYNC, HDMI 2.0b x 1, LAN x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.2

Software Windows 11 Home
Weight 2.3 กิโลกรัม
Price 64,990 บาท (คลิ๊กสั่งซื้อได้ที่นี่)

pexels karina kholina 12266706

ณ ตอนนี้ ถ้าใครคิดว่าจะไปหาซื้อโน๊ตบุ๊คน่าซื้องาน COMMART Big Deal สักเครื่องล่ะก็ ผู้เขียนก็เห็นด้วยแม้บางคนจะเปลี่ยนมาซื้อออนไลน์มากกว่าก็ตาม แต่ถ้ามาในงานแล้วได้เห็นของจริง จับดูแล้วถูกใจไม่มีปัญหากับมิติตัวเครื่องและน้ำหนักก็เป็นเรื่องที่ดี และผู้จัดจำหน่ายแต่ละเจ้าก็มีโปรโมชั่นส่งเสริมการขายดีๆ รอซัพพอร์ตอยู่แล้วและถ้ามาเดินในงานก็อาจจะได้อัพเกรดเครื่องและเลือกหาเกมมิ่งเกียร์ไปให้ครบเซ็ตในทีเดียวได้เลยเช่นกัน


บทความที่เกี่ยวข้อง

7จอพกพาน่าใช้ 1

ตัวรับWifi

Artboard 1 1

from:https://notebookspec.com/web/689281-10-recommend-laptop-in-commart-2023

7 คีย์บอร์ด Mechanical น่าใช้อัพเดทต้นปี 2023 รวมสายทำงานและเกมมิ่งมาให้เลือกกันจุกๆ เริ่ม 2,300 บาทเท่านั้น!

รวมคีย์บอร์ด Mechanical ทั้งสายทำงานตัวเทพหรือสายเกมมิ่งเด็ดๆ !!

7 mechanical keyboard full size 1

ปัจจุบันนี้คีย์บอร์ด Mechanical ได้รับความนิยมตั้งต้นจากวงการเกมเมอร์มาจนคนทำงานที่หาคีย์บอร์ดเหล่านี้มาใช้ทำงานแทนคีย์บอร์ด Rubberdome ไปแล้ว ไม่ว่าจะเพราะสัมผัสการพิมพ์ที่ดี, รูปลักษณ์สวยงามและถ้าเป็นเกมมิ่งคีย์บอร์ดบางรุ่นก็สามารถตั้งค่าปุ่มต่างๆ บนคีย์บอร์ดให้ทำงานได้ตามต้องการ จะเซ็ตเอาไว้เล่นเกมหรือเรียกคีย์ลัดฟังก์ชั่นใช้งานบ่อยเวลาทำงานก็ได้ ซึ่งคีย์บอร์ด Rubberdome หลายๆ รุ่นทำงานแบบนี้ไม่ได้ เลยทำให้ผู้ใช้หลายคนมองข้ามมันไป หรือแค่มีเอาไว้เป็นคีย์บอร์ดสำรองเลยด้วยซ้ำ

Advertisementavw

ซึ่งนอกจากแง่ลูกเล่นอย่างการตั้งค่าปุ่ม Macro, ปุ่ม Multimedia Key อย่างปุ่ม Play/Pause เลื่อนเพลงไปก่อนหน้าหรือถัดไป แม้แต่มีลูกบิดสำหรับหมุนเพิ่มลดเสียงลำโพงติดตั้งมาให้ก็ตาม แต่ข้อดีหลักๆ ของคีย์บอร์ด Mechanical นั้น คือเรื่องความทนทานเพราะสวิตช์แต่ละตัวนอกจากรองรับการกดปุ่มแรงๆ ลงน้ำหนักมากๆ จนถ้าเป็น Rubberdome ก็อาจจะพังไปแล้ว ซึ่งคีย์บอร์ด Mechanical ถ้าใช้งานตามปกติก็สามารถกดได้ตั้งแต่ 50~100 ล้านครั้ง อาจจะอยู่ได้นาน 5~10 ปี ขึ้นอยู่กับผู้ใช้แต่ละคนเลยว่าพฤติกรรมเป็นเช่นใด

คีย์บอร์ด Mechanical

สรุปสเปคคีย์บอร์ด Mechanical ทั้ง 7 รุ่นน่าโดน เล่นเกมก็ได้ทำงานก็ดี!!

สเปคีย์บอร์ด Mechanical Keyboard Layout

Switch

Features Connectiviy Supported OS

Configuration Software

Price
(บาท)
Royal Kludge RK100 Full-size 96%

Red, Blue, Brown Switch

100%
Anti-Ghosting

Function Key

Hot-Swap

USB-A Passthrough x 2

USB-C to A

USB 2.4GHz Dongle

Bluetooth

Windows

macOS

2,300
Logitech G512 Carbon 100% Full-size

GX Blue (Clicky)

GX Brown (Tactile)

GX Red (Linear)

USB Passthrough

Game Mode

Function Key

Anti-Ghosting

USB Windows

Logitech G Hub

2,890
CHERRY MX 2.0S 100% Full-size

(มีจำหน่ายไทย) CHERRY MX Red 

(Portfolio) Silent Red, Brown, Black, Blue 

Anti-Ghosting

Full N-Key Rollover

USB-C to A

USB 2.4GHz Dongle

Bluetooth

Windows

CHERRY Utilities Software

3,899
Keychron K10 100% Full-Size

Gateron Red / Blue / Brown

สลับ Layout ระหว่าง Windows หรือ macOS

Hot-Swap

แบตเตอรี่ 4,000mAh

USB-C

USB 2.4GHz Dongle

Bluetooth 5.1

Windows

macOS

Android

iOS

4,390
SteelSeries Apex 5 100% Full-size

Hybrid blue

OLED Smart Display

RGB

N-Key Rollover

Anti-Ghosting

USB Windows, macOS, Xbox, PlayStation

SteelSeries Engine

4,390
ASUS ROG Strix Flare II Animate 100% Full-size

ROG NX Red Mechanical Switch

AniMe Matrix LED

AURA Sync

Polling Rate 8,000Hz

Hot-Swap

Windows Lock

100%
Anti-Ghosting

N-Key Rollover

USB Passthrough

USB Windows

ASUS Armoury Crate

4,490
Logitech MX Mechanical 100% Full-size

Tactile Quiet / Linear / Clicky

Logitech Flow

LED Backlit

แบตเตอรี่ใช้งานได้ 10 เดือน

USB 2.4GHz Dongle “Logi Bolt”

Bluetooth
รองรับ 3 อุปกรณ์

Windows, macOS, Linux, Chrome OS, iPadOS, Android, iOS

Logi Options+

8,500

7 คีย์บอร์ด Mechanical ทั้งสายออฟฟิศและเกมเมอร์ เริ่มไม่กี่พันจนตัวเทพก็มีให้โดน!

ผู้เขียนเชื่อว่าผู้อ่านหลายท่านก็อยากได้คีย์บอร์ด Mechanical ดีๆ เอาไว้ใช้สักตัว ไม่ว่าจะทำงานหรือเล่นเกมก็ตาม ซึ่งในช่วงต้นปี 2023 นี้ ก็มีคีย์บอร์ด Mechanical รุ่นน่าใช้ให้เลือกมากถึง 7 รุ่นด้วยกัน โดยบทความนี้ผู้เขียนจะขอเน้นแนะนำรุ่นที่เป็นขนาด Full-size มีชุด Numpad เป็นหลัก ได้แก่

  1. Royal Kludge RK100 (2,300 บาท)
  2. Logitech G512 Carbon (2,890 บาท)
  3. CHERRY MX 2.0S (3,899 บาท)
  4. Keychron K10 (4,390 บาท)
  5. Steelseries Apex 5 (4,390 บาท)
  6. ASUS ROG Strix Flare II Animate (4,490 บาท)
  7. Logitech MX MECHANICAL (8,500 บาท)
1. Royal Kludge RK100 (2,300 บาท)

RK100 red 1800x1800

Royal Kludge RK100 นี้เป็น Mechanical Keyboard จากแบรนด์ที่เป็นกระแสมาเมื่อก่อนหน้านี้ เพราะราคานอกจากไม่แพงมากแค่หลักพันบาทต้นๆ แล้วยังเป็น Full-size ขนาด 96% มีไฟ RGB เลือกสวิตช์ได้ 3 แบบว่าจะเอา Red, Blue หรือ Brown Switch ถ้าสวิตช์เดิมจากโรงงานไม่ถูกใจก็ถอดเปลี่ยนแบบ Hot-Swap เปลี่ยนเป็นสวิตช์รุ่นที่ต้องการได้ ถูกใจสาย Custom Keyboard อย่างแน่นอนแถมยังมี Function Key ติดตั้งมาที่ปุ่ม F1~F12 และรองรับการเชื่อมต่อด้วยสาย USB-C to A, USB 2.4GHz Dongle และ Bluetooth ได้ มีแบตเตอรี่ในตัว 3,750mAh ฟีเจอร์ 100% Anti-Ghosting และ USB-A x 2 ช่องไว้ต่ออุปกรณ์เสริมหรือโอนไฟล์ก็ได้ รองรับระบบปฏิบัติการ Windows, macOS ครบเครื่อง หากผู้ใช้คนไหนหาคีย์บอร์ด Mechanical ตัวใหม่เอาไว้ทำงานและเผื่อทำ Custom Keyboard ด้วยล่ะก็ Royal Kludge RK100 ตัวนี้ก็น่าสนใจทีเดียว

สเปคของ Royal Kludge RK100
Keyboard Layout

Switch

Full-size 96% มีไฟ RGB

Red, Blue, Brown Switch

Features 100% Anti-Ghosting, Function Key, Hot-Swap, USB-A Passthrough x 2
Connectivity USB-C to A, USB 2.4GHz Dongle, Bluetooth
Supported OS

Configuration Software

Windows, macOS

ไม่มี

Price 2,300 บาท (Silicon Studio)
2. Logitech G512 Carbon (2,890 บาท)

e629f5113e379c54bd4bbad52f333505

Logitech G512 Carbon เป็นเกมมิ่งคีย์บอร์ดหน้าตาเรียบง่ายที่ใช้ทำงานได้ดีไม่แพ้กัน ซึ่งคีย์บอร์ดนี้เป็นแบบ Full-size พร้อมไฟ RGB เลือกสวิตช์ได้ 3 แบบ คือ GX Blue (Clicky), GX Brown (Tactile), GX Red (Linear) ก็ได้ เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ด้วยสาย USB มีช่อง USB Passthrough เอาไว้ต่ออุปกรณ์ต่างๆ ได้ ไม่ว่าจะ USB 2.4GHz “LIGHTSPEED” ของเกมมิ่งเกียร์ Logitech หรือ External Harddisk เพื่อโอนไฟล์ก็ได้ แถมยังมี Function Key ติดตั้งมาให้ที่ปุ่ม F5~F12 และสลับเข้า Game Mode ได้โดยกด Fn+F8 และตั้งค่าในโปรแกรม Logitech G Hub เพื่อเซ็ตคำสั่งทำงานหรือคีย์ลัดเรียกใช้สกิลตอนเล่นเกมก็ได้ ส่วนระบบปฏิบัติการแนะนำให้ใช้กับ Windows จะดีที่สุด ในแง่การใช้งาน ต้องถือว่า G512 Carbon เป็นเกมมิ่งคีย์บอร์ดที่ดีรอบด้านทำงานก็ได้เล่นเกมก็ดีและราคาก็เป็นมิตรกับกระเป๋าเงินอีกด้วย

สเปคของ Logitech G512 Carbon
Keyboard Layout

Switch

100% Full-size

GX Blue (Clicky), GX Brown (Tactile), GX Red (Linear)

Features USB Passthrough, Game Mode, Function Key, Anti-Ghosting
Connectivity USB
Supported OS

Configuration Software

Windows

Logitech G Hub

Price 2,890 บาท (Hardware Corner Shopee)
3. CHERRY MX 2.0S (3,899 บาท)

sg 11134201 22120 s53utjqcgskv8c 1

ถ้าพูดถึงต้นตำรับสวิตช์คีย์บอร์ด Mechanical อย่าง CHERRY AG จากแคว้นบาวาเรีย ทางบริษัทเองก็มีคีย์บอร์ดผลิตเองอย่างรุ่น CHERRY MX 2.0S ซึ่งดีไซน์เป็นแบบ Full-size หน้าตาเรียบง่ายโดยทางบริษัทยึดแนวทางการออกแบบมาจากสำนักออกแบบ Bauhaus แต่ก็มีไฟ RGB ติดตั้งมาให้ใช้งาน เชื่อมต่อด้วยสาย USB-C to A, USB 2.4GHz Dongle หรือ Bluetooth ก็ได้ มี Anti-Ghosting และ Full N-Key Rollover ป้องกันการกดปุ่มผิดพลาด มีคีย์ลัดเปิดโปรแกรม CHERRY Utilities Software เพื่อตั้งค่าคีย์บอร์ดได้และแนะนำให้ใช้กับระบบปฏิบัติการ Windows เป็นหลัก ส่วนสวิตช์ปัจจุบันนี้โมเดลที่ขายในประเทศไทยจะมีแต่ CHERRY MX Red เท่านั้น แต่ทางบริษัทมีสวิตช์ Silent Red, Brown, Black, Blue ให้เลือก หากผู้ใช้ท่านไหนอยากเป็นเจ้าของคีย์บอร์ด Mechanical คุณภาพระดับเยอรมัน สวิตช์ทนทานน่าใช้ ก็ลองซื้อ CHERRY MX 2.0S ตัวนี้มาใช้งานได้

สเปคของ CHERRY MX 2.0S
Keyboard Layout

Switch

100% Full-size

(มีจำหน่ายไทย) CHERRY MX Red 

(Portfolio) Silent Red, Brown, Black, Blue 

Features Anti-Ghosting, Full N-Key Rollover
Connectivity USB-C to A, USB 2.4GHz Dongle, Bluetooth
Supported OS

Configuration Software

Windows

CHERRY Utilities Software

Price 3,899 บาท (Cherry Shopee Mall)
4. Keychron K10 (4,390 บาท)

1200x1200 K10 1 cover 1800x1800

ด้านคีย์บอร์ด Keychron K10 เองก็เป็นคีย์บอร์ด Mechanical ที่น่าใช้น่าลงทุนมาก เพราะเป็นคีย์บอร์ด Full-Size พร้อมสวิตช์สลับโหมดระหว่าง Windows กับ macOS ได้ รองรับระบบปฏิบัติการ Windows, macOS, Android, iOS ครบถ้วน มีไฟ RGB และเป็น Hot-Swap ถอดสวิตช์เปลี่ยนได้ตามต้องการหากสวิตช์ Gateron Red / Blue / Brown ที่ติดตั้งมาให้ไม่ตอบโจทย์ เชื่อมต่อได้ 3 แบบ ไม่ว่าจะสาย USB-C, USB 2.4GHz Dongle หรือ Bluetooth 5.1 มีแบตเตอรี่ในตัวถึง 4,000mAh ใช้งานได้นานสุด 240 ชั่วโมง แต่ K10 จะเป็นซอฟท์แวร์แบบออนบอร์ดเท่านั้น ไม่มีโปรแกรมปรับแต่งรูปแบบการทำงานให้โหลดมาใช้ แต่รวมแล้วต้องถือว่าคีย์บอร์ดจากฮ่องกง ที่ครองใจคนทำงานได้ดีแบรนด์หนึ่งเลย

สเปคของ Keychron K10
Keyboard Layout

Switch

100% Full-Size

Gateron Red / Blue / Brown

Features สลับเลย์เอ้าท์ Windows กับ macOS, Hot-Swap, แบตเตอรี่ในตัว 4,000mAh 
Connectivity USB-C, USB 2.4GHz Dongle, Bluetooth 5.1
Supported OS

Configuration Software

Windows, macOS, Android, iOS

Price 4,390 บาท (Silicon Studio Shopee Mall)
5. Steelseries Apex 5 (4,390 บาท)

buyimg apex5 001 fix.jpg 1850x800 q100 crop scale optimize subsampling 2 1

Steelseries Apex 5 เองก็เป็นคีย์บอร์ด Mechanical น่าใช้อีกรุ่น แม้ดีไซน์และวัตถุประสงค์ของมันจะเกิดมาเพื่อเกมเมอร์โดยเฉพาะก็ตาม แต่ก็ใช้ทำงานได้ดีไม่แพ้กันเพราะมีโปรแกรม SteelSeries Engine เอาไว้ตั้งค่าคีย์บอร์ด เซ็ตโปรไฟล์ได้ง่ายๆ สลับโปรไฟล์ไปมาระหว่างโปรไฟล์ทำงานและเล่นเกมด้วยลูกล้อเปลี่ยนโหมดและแสดงผลบนจอ OLED Smart Display บนคีย์บอร์ดได้ทันทีและหน้าจอนี้จะคอยแสดงการแจ้งเตือนต่างๆ ให้ผู้ใช้รับทราบได้อีกด้วย ตัวคีย์บอร์ดเป็น Full-size ใช้สวิตช์ Hybrid blue ซึ่งทาง SteelSeries พัฒนาด้วยตัวเอง โดยสัมผัสจะเป็นลูกผสมระหว่าง Tactile ที่กดสนุกและนุ่มนวลแบบปุ่ม Membrane ทั่วไปด้วย นอกจากนี้ตัวคีย์บอร์ดจะมีที่รองข้อมือ, ไฟ RGB ติดตั้งมาให้ รองรับ N-Key Rollover กับ Anti-Ghosting ในตัว รองรับระบบปฏิบัติการ Windows, macOS, Xbox, PlayStation ครบถ้วน เชื่อมต่อผ่านพอร์ต USB เท่านั้น จัดเป็นคีย์บอร์ดเกมมิ่งที่มีลูกเล่นอย่างหน้าจอ OLED ไว้โชว์การแจ้งเตือนและใช้ปรับโหมดใช้งานได้ตามชอบ จัดเป็นคีย์บอร์ด Mechanical ที่น่าใช้งานมากอีกรุ่น

สเปคของ Steelseries Apex 5
Keyboard Layout

Switch

100% Full-size

Hybrid blue ที่ทาง SteelSeries พัฒนาเอง

Features OLED Smart Display, RGB, N-Key Rollover, Anti-Ghosting
Connectivity USB
Supported OS

Configuration Software

Windows, macOS, Xbox, PlayStation

SteelSeries Engine

Price 4,390 บาท (Munkong Gadget Shopee Mall)
6. ASUS ROG Strix Flare II Animate (4,490 บาท)

3ab4b3f52b4c6996f4561240f966b68b

ASUS ROG Strix Flare II Animate นี้เป็นเกมมิ่งคีย์บอร์ดรุ่นที่ผู้เขียนแนะนำเป็นส่วนตัวเพราะฟีเจอร์ของมันมีให้ใช้งานเยอะมาก ทั้งไฟ LED AniMe Matrix LED, ไฟ RGB “AURA Sync” ที่ตัวคีย์บอร์ด, มีที่รองข้อมือ, Multimedia Key และยังปรับ Polling Rate ไปได้สูงสุด 8,000Hz ให้ตอบสนองได้เร็วทันใจและเป็นคีย์บอร์ดแบบ Hot-Swap เปลี่ยนสวิตช์บนคีย์บอร์ดได้ตามต้องการและทางบริษัทยังรองโฟมเอาไว้ในโครงคีย์บอร์ดเพื่อให้เสียงแน่นขึ้นและมี USB Passthrough ที่ตัวคีย์บอร์ดอีก เรียกว่าลูกเล่นเยอะฟีเจอร์ครบเครื่อง มีปุ่ม Windows Lock, 100% Anti-Ghosting, N-Key Rollover เซฟปุ่มมาโครเอาไว้ใช้งานและเปลี่ยนโปรไฟล์ได้อีกด้วย เชื่อมต่อเข้ากับคอมพิวเตอร์ด้วยสาย USB และแนะนำให้ใช้กับระบบปฏิบัติการ Windows เป็นหลักเพื่อให้ใช้ดปรแกรม ASUS Armoury Crate ปรับแต่งการทำงานคีย์บอร์ดได้ตามต้องการยิ่งขึ้น สวิตช์รุ่นจำหน่ายไทยจะเป็น ROG NX Red Mechanical Switch ซึ่งทาง ASUS พัฒนาขึ้นมาเอง ต้องถือว่า ROG Strix Flare II Animate นี้เป็นคีย์บอร์ด Mechanical ที่สร้างมาเอาใจทุกคน ไม่ว่าจะเกมเมอร์ที่ต้องการฟีเจอร์เกมมิ่ง, คนทำงานที่ต้องการคีย์บอร์ดตั้งค่าได้หรือแม้แต่สาย Custom Keyboard ก็ถอดสวิตช์เปลี่ยนได้ตามชอบ จัดเป็นคีย์บอร์ดที่น่าใช้มากอีกรุ่นหนึ่ง

สเปคของ ASUS ROG Strix Flare II Animate
Keyboard Layout

Switch

100% Full-size

ROG NX Red Mechanical Switch

Features LED AniMe Matrix LED, ไฟ RGB “AURA Sync”, Polling Rate 8,000Hz, Hot-Swap, Windows Lock, 100% Anti-Ghosting, N-Key Rollover, USB Passthrough, 
Connectivity USB
Supported OS

Configuration Software

Windows

ASUS Armoury Crate

Price 4,490 บาท (CHI CHANG Shopee)
7. Logitech MX MECHANICAL (8,500 บาท)

0037a16be22e4005fd2f60fcac861428

คีย์บอร์ด Mechanical รุ่นสุดท้ายที่เลือกมาแนะนำเป็น Logitech MX MECHANICAL โดยดีไซน์เป็นคีย์บอร์ดแบบ Full-size และจะมีรุ่น TKL ในซีรี่ส์อย่าง Logitech MX Mechanical Mini ซึ่งผู้เขียนเคยทำรีวิวไปก่อนหน้านี้ โดยคีย์บอร์ดนี้จะเป็นแบบ Low-Profile ปุ่มเตี้ยใช้แรงกดน้อยเหมือนแป้นคีย์บอร์ดของโน๊ตบุ๊ค เลือกสวิตช์ได้ 3 แบบคือ Tactile Quiet / Linear / Clicky มีไฟ LED Backlit ช่วยให้พิมพ์งานในที่แสงน้อยได้สะดวกยิ่งขึ้น เชื่อมต่อ Bluetooth หรือ USB 2.4GHz Dongle “Logi Bolt” ได้ 3 อุปกรณ์ไม่ว่าจะพีซี, โน๊ตบุ๊คก็ใช้งานได้ รองรับระบบปฏิบัติการ Windows, macOS, Linux, Chrome OS, iPadOS, Android, iOS และตั้งค่าคีย์บอร์ดนี้ในโปรแกรม Logi Options+ เพื่อเซ็ตคีย์ลัดใช้งานได้ง่ายๆ และหากใครใช้อุปกรณ์ตระกูล Master อย่างเมาส์ MX Master 2S, 3, 3S เมื่อเปิด Logitech Flow แล้ว สามารถใช้เมาส์คีย์บอร์ดเซ็ตเดียวคุมคอมพิวเตอร์ที่จับคู่กับอุปกรณ์นี้ได้พร้อมกันทั้งหมดและถ้าเชื่อมต่อเครือข่าย Wi-Fi เดียวกันก็สามารถโอนไฟล์ข้ามเครื่องไปมาได้อีกด้วย แบตเตอรี่ในคีย์บอร์ดหากเปิดไฟ LED Backlit ใช้งานได้ 15 วัน หากปิดจะเพิ่มเป็น 10 เดือน ซึ่งถ้าผู้ใช้คนไหนต้องการคีย์บอร์ด Mechanical ปุ่มเตี้ยเอาไว้ใช้ทำงานเป็นหลักและต้องการใช้เมาส์คีย์บอร์ดเซ็ตเดียวคุมคอมพิวเตอร์ได้ถึง 3 เครื่องพร้อมกันล่ะก็ Logitech MX Mechanical ตัวนี้คือคีย์บอร์ดที่ดีน่าลงทุนซื้อมาใช้มาก

สเปคของ Logitech MX MECHANICAL
Keyboard Layout

Switch

100% Full-size

Tactile Quiet / Linear / Clicky

Features Logitech Flow, LED Backlit, แบตเตอรี่ใช้งานได้ 10 เดือน
Connectivity USB 2.4GHz Dongle “Logi Bolt”, Bluetooth
รองรับ 3 อุปกรณ์
Supported OS

Configuration Software

Windows, macOS, Linux, Chrome OS, iPadOS, Android, iOS

Logi Options+

Price 8,500 บาท (Bangkok Gadget Shopee)

martin garrido cVUPic1cbd4 unsplash

สำหรับคีย์บอร์ด Mechanical ณ ตอนนี้ถือเป็นคีย์บอร์ดยอดนิยมซึ่งปัจจุบันนี้มีทั้งรุ่นสำหรับเล่นเกมและใช้ทำงานได้ทั้งคู่หรือแม้แต่รุ่นที่ออกแบบมาทำงานโดยเฉพาะก็มีเช่นกัน ซึ่งผู้เขียนเชื่อว่าผู้อ่านหลายท่านคงคิดว่าถ้าราคาแพงเช่นนี้ก็ซื้อคีย์บอร์ดธรรมดาๆ ราคาไม่กี่ร้อยบาทมาใช้ดีกว่า เราคงจะไม่ได้ใช้ฟีเจอร์ของคีย์บอร์ดหลักพันค่อนหมื่นเหล่านั้นให้ครบหรอก ซึ่งส่วนตัวผู้เขียนเองขอเห็นต่างว่าถ้าเราใช้งานฟีเจอร์เหล่านั้นได้คล่องแคล่วและเซ็ตคำสั่งให้เข้ามือได้เมื่อไหร่ นอกจากจะทำงานได้เร็วและย่นระยะเวลาทำงานให้น้อยลงได้แล้ว ยังช่วยให้ทำงานได้สนุกแล้วเอาเวลาไปลงกับความสร้างสรรค์ได้มากขึ้นอีกด้วย


บทความที่เกี่ยวข้อง

xpg summoner cover

Share image Edit Name 2keyboard 1

Share image Edit Name 3gamingkeyboard 1

from:https://notebookspec.com/web/686981-7-recommend-mechanical-keyboard-2023

7 เมาส์เล่นเกมไร้สายตัวเด็ดต้นปี 2023 สเปคเทพฟีเจอร์อลังการ! เริ่มแค่ 1,690 บาทเท่านั้น

เมาส์เล่นเกมไร้สายตัวเด็ดปี 2023 นี้มีแต่ตัวน่าเล่น ใช้ทำงานก็ได้ เล่นเกมก็โดนใจ!!

7เมาท์ไร้สายเทพๆ

ภาพจำของเมาส์เล่นเกมในอดีตมักเป็นเมาส์มีสายดีไซน์หวือหวาทั้งเจาะโครงเมาส์หรือแม้แต่ใส่ปุ่มเสริมเข้ามาอีกมากมายให้เกมเมอร์ตั้งค่ากดปุ่มเรียกคำสั่งใช้งานบ่อยขึ้นมาใช้งานได้ทันใจและยังมีโปรแกรมให้ใช้ตั้งค่าปุ่มต่างๆ บนเมาส์ได้ด้วย ซึ่งผู้เขียนเชื่อว่ามีผู้ใช้หลายๆ คนก็ซื้อเมาส์ประเภทนี้มาใช้ทำงานและเล่นเกมกันอย่างแน่นอน เพราะฟังก์ชั่นใช้งานมันเยอะและดีไซน์ยังจับถนัดมืออีกด้วย

Advertisementavw

แต่ปัจจุบันนี้เมื่อเทคโนโลยีการรับส่งข้อมูลไร้สายไม่ว่าจะ Bluetooth, USB 2.4GHz ก็ถูกพัฒนาให้ดีจนใช้งานได้ลื่นไหลเท่ากับเมาส์เล่นเกมแบบมีสายในอดีตแล้วหรือถ้าไม่พอใจก็ต่อสาย USB เลยก็ได้ และข้อดีของเมาส์เล่นเกมไร้สาย คือไม่มีสายพะรุงพะรังคอยดึงเมาส์และไม่ต้องหาตัวโหนสายเมาส์ (Mouse Bungee) ทำให้โต๊ะคอมไม่รกและดูสะอาดขึ้นและแบรนด์เกมมิ่งเกียร์หลายๆ เจ้าในปัจจุบันก็โหมพัฒนาเมาส์เล่นเกมไร้สายให้ฟีเจอร์ล้ำยิ่งกว่าเดิม ไม่ว่าจะถอดเปลี่ยนสวิตช์เมาส์, เปลี่ยนฝากระดองหลังเมาส์, มีไฟ RGB, สลับโหมดการเชื่อมต่อได้ว่าจะใช้ Bluetooth หรือ USB 2.4GHz ก็ได้และระยะเวลาใช้งานยังยาวนานระดับ 60 ชั่วโมงขึ้นไป เล่นเกมได้เพลิดเพลินยิ่งขึ้นมาก

เมาส์เล่นเกม

สรุปสเปค 7 เมาส์เล่นเกมไร้สายน่าโดน อัพเดทปี 2023

สเปคเมาส์เล่นเกมไร้สาย DPI

Sensor

Speed

Acceleration

Software

Battery Life

Suppported OS

Weight

Connectivity

ราคา
(บาท)
FANTECH XD7 ARIA Pro PixArt 3395 

50~26,000 DPI

Speed
650 IPS

Acceleration
50G

FANTECH Personaization+

แบตเตอรี่
40 ชั่วโมง

Windows

macOS

59 กรัม

USB 2.4GHz

Bluetooth 5.0

USB-C

1,890
LAMZU Atlantis PixArt 3395 

สูงสุด 26,000 DPI

LAMZU
Gaming Mouse

70 ชั่วโมง

Windows

55 กรัม

USB 2.4GHz Dongle

USB-C

3,490
Corsair Sabre RGB Pro Wireless MARKSMAN 26K

สูงสุด 26,000 DPI

Speed
650 IPS

Acceleration
50G

Corsair iCue

Corsair Slipstream
90 ชั่วโมง

Bluetooth
60 ชั่วโมง

Windows

79 กรัม

Corsair Slipstream

Bluetooth

USB-C

3,790
Logitech G502 X LIGHTSPEED HERO 25K

100~25,600 DPI

Speed 400 IPS

Acceleration 40G

Logitech
G HUB

140 ชั่วโมง

Windows

macOS

102 กรัม

USB-C

USB 2.4GHz “LIGHTSPEED”

4,290
Razer Viper V2 Pro Razer Focus Pro 30K

สูงสุด 30,000 DPI

Speed 750 IPS

Acceleration 70G

Razer Synapse 3

HyperPolling 4,000Hz ใช้ได้ 24 ชั่วโมง

ทั่วไป 80 ชั่วโมง

Windows

58 กรัม

USB 2.4GHz “Razer HyperSpeed Wireless”

USB-C

5,290
SteelSeries Rival 3 Wireless SteelSeries TrueMove Air

100~18,000 DPI

Speed 400 IPS

Acceleration 40G

SteelSeries Engine

400 ชั่วโมง (โหมด Bluetooth)

Windows, macOS, ChromeOS, Xbox, PlayStation 4 และ 5, Linux

106 กรัม

USB 2.4GHz “Quantum 2.0”

Bluetooth 5.0

1,690
ASUS ROG Chakram X ROG AimPoint

100~36,000 DPI

Speed 650 IPS

Acceleration 50G

ASUS Armoury Crate

114 ชั่วโมง

Windows

127 กรัม

USB-C

USB 2.4GHz Dongle

Bluetooth

4,390

7 เมาส์เล่นเกมไร้สายตัวเด็ดเพื่อเกมเมอร์! เล่นดีโดนใจ ลากหัวได้คมๆ

เกมเมอร์คนไหนที่เมาส์เล่นเกมตัวเก่าโทรมใช้งานไม่ดีแล้วหรืออยากเปลี่ยน เอาตัวใหม่เล่นเกมแล้วเอาตัวเก่าไปใช้ทำงานที่ออฟฟิศล่ะก็ ผู้เขียนได้เลือกเมาส์เกมมิ่งไร้สายน่าใช้มาให้เลือก 7 รุ่น อัพเดทต้นปี 2023 นี้เลย โดยมีรายชื่อรุ่นดังนี้

  1. FANTECH XD7 ARIA Pro (1,890 บาท)
  2. LAMZU Atlantis (3,490 บาท)
  3. Corsair Sabre RGB Pro Wireless (3,790 บาท)
  4. Logitech G502 X LIGHTSPEED (4,290 บาท)
  5. Razer Viper V2 Pro (5,290 บาท)
  6. SteelSeries Rival 3 Wireless (1,690 บาท)
  7. ASUS ROG Chakram X (4,390 บาท)
1. FANTECH XD7 ARIA Pro (1,890 บาท)

Aria XD7 Superlightweight 1536x864 1

เมาส์เกมมิ่งไร้สายตัวแรกเป็นของ FANTECH ของดีราคาประหยัดอย่าง FANTECH XD7 ARIA Pro ซึ่งหน้าตาเรียบง่ายดูดีเลือกสีได้ว่าจะเอาสีขาวหรือดำ และทางผู้ผลิตก็ตัดระบบไฟ RGB ทิ้งไม่ให้ส่องแสงรบกวนสายตาเกมเมอร์อีกด้วย และข้อดีของ XD7 ARIA Pro คือ น้ำหนักเบาเพียง 59 กรัม ดีไซน์ทรงไข่แบบ False Ambidextrous จับถนัดสองมือแต่เน้นมือขวามากกว่าและเหมาะกับสไตล์ Claw, Fingertip Grip รองรับการเชื่อมต่อ 3 โหมดทั้ง USB 2.4GHz, Bluetooth 5.0 หรือสาย USB-C ก็ได้และมีซอฟท์แวร์ FANTECH Personaization+ ให้ตั้งค่าปุ่มต่างๆ ได้ตามต้องการ ติดตั้งเซนเซอร์ PixArt 3395 มาให้ ตั้งค่า DPI ได้ตั้งแต่ 50~26,000 DPI มีความเร็ว 650 IPS และอัตราเร่ง 50G รองรับระบบปฏิบัติการ Windows, macOS ใช้งานได้นานสุด 40 ชั่วโมง เป็นของดีราคาไม่แพง ถ้าอยากเปลี่ยนเมาส์เกมมิ่งตัวใหม่ก็แนะนำให้ซื้อตัวนี้เลย

สเปคของ FANTECH XD7 ARIA Pro
DPI, Sensor เซนเซอร์ PixArt 3395 ตั้งค่าได้ 50~26,000 DPI
Speed, Acceleration Speed 650 IPS

Acceleration 50G

Software

Battery Life

Suppported OS

FANTECH Personaization+

แบตเตอรี่ 40 ชั่วโมง

Windows, macOS

Weight, Connectivity 59 กรัม

เชื่อมต่อด้วย USB 2.4GHz, Bluetooth 5.0, USB-C

Price 1,890 บาท (Gadget Villla Shopee)
2. Lamzu Atlantis (3,490 บาท)

lamzu

เมาส์เล่นเกมไร้สายสำหรับเกมเมอร์สาย FPS อย่าง LAMZU Atlantis รุ่นนี้มีจุดเด่นคือ น้ำหนักเบาเพียง 55 กรัม งานประกอบตัวเมาส์ดีแถมรูปลักษณ์สวยงาม เซนเซอร์เป็น Pixart 3395 ปรับได้สูงสุด 26,000 DPI มีค่า DPI ตั้งค่าจากโรงงานอยู่ที่ 400/800/1,600/3,200/6,400 DPI กดปรับแล้วไฟ LED ที่ตัวเมาส์จะเปลี่ยนไปเพื่อบอกค่า DPI กับผู้ใช้ ดีไซน์เป็น False Ambidextrous ซึ่งจับถนัดทั้งสองมือแต่เน้นมือขวามากกว่า เชื่อมต่อด้วย USB 2.4GHz Dongle หรือ USB-C ใช้งานไร้สายได้นานสุด 70 ชั่วโมง รองรับระบบปฏิบัติการ Windows เพื่อติดตั้งโปรแกรม LAMZU Gaming Mouse ไว้ตั้งค่าเมาส์ได้ ต้องถือว่าเมาส์ LAMZU ตัวนี้สเปคก็ดีน่าใช้แถมดีไซน์ยังสวยเรียบร้อยและใช้สีขาวตัดฟ้าซึ่งสวยงามถูกใจเกมเมอร์หลายๆ คนอย่างแน่นอน

สเปคของ Lamzu Atlantis
DPI, Sensor เซนเซอร์ Pixart 3395 ปรับได้สูงสุด 26,000 DPI
Speed, Acceleration
Software

Battery Life

Suppported OS

LAMZU Gaming Mouse

70 ชั่วโมง

Windows

Weight, Connectivity 55 กรัม

USB 2.4GHz Dongle, USB-C

Price 3,490 บาท (Mouse Innovation Shopee)
3. Corsair Sabre RGB Pro Wireless (3,790 บาท)

base sabre rgb pro wireless champion Gallery SABRE RGB PRO WIRELESS 01

Corsair Sabre RGB Pro Wireless เป็นเมาส์เล่นเกมไร้สายจากแบรนด์ขวัญใจเกมเมอร์หลายๆ คน ซึ่งเมาส์นี้มีน้ำหนัก 79 กรัม จัดว่าหนักกำลังดีไม่เบาเกินไป ออกแบบมาเพื่อเกมเมอร์ถนัดขวาโดยเฉพาะ เหมาะกับสไตล์การจับแบบ Palm, Claw Grip เป็นหลัก เชื่อมต่อด้วยย USB 2.4GHz Dongle “Corsair Slipstream” สลับโหมดเป็น Bluetooth ความหน่วงต่ำ (Low-latency) เซนเซอร์เป็น MARKSMAN 26K ตั้งค่า DPI ได้สูงสุด 26,000 DPI ความเร็ว 650 IPS และอัตราเร่ง 50G ใช้งานด้วย USB 2.4GHz Dongle ได้ 90 ชั่วโมง ส่วน Bluetooth เหลือ 60 ชั่วโมง ชาร์จแบตเตอรี่ด้วยสาย USB-C ใช้งานกับระบบปฏิบัติการ Windows เป็นหลัก ตั้งค่าด้วยโปรแกรม Corsair iCue ได้อีกด้วย หากใครต้องการเมาส์เล่นเกมประสิทธิภาพดีแข็งแรงทนทานก็แนะนำให้ซื้อ Corsair Sabre นี้ไปใช้งานเลย

Corsair Sabre RGB Pro Wireless
DPI, Sensor MARKSMAN 26K ตั้งค่าได้สูงสุด 26,000 DPI
Speed, Acceleration Speed 650 IPS, Acceleration 50G
Software

Battery Life

Suppported OS

Corsair iCue

Corsair Slipstream 90 ชั่วโมง, Bluetooth 60 ชั่วโมง

Windows

Weight, Connectivity 79 กรัม

Corsair Slipstream, Bluetooth, USB-C

Price 3,790 บาท (Estintech Shopee)
4. Logitech G502 X LIGHTSPEED (4,290 บาท)

g502x lightspeed gallery 1 black

เมาส์เล่นเกมไร้สายที่ผู้เขียนแนะนำเป็นส่วนตัวสำหรับเกมเมอร์ถนัดขวางานประกอบแข็งแรงทนทานและใช้งานต่อเนื่องได้นานถึง 140 ชั่วโมง ต้อง Logitech G502 X LIGHTSPEED ซึ่งเมาส์นี้ใช้เซนเซอร์ HERO 25K ตั้งค่าได้สูงสุด 100~25,600 DPI มีความเร็ว 400 IPS กับอัตราเร่ง 40G และปุ่มมาโคร 13 ปุ่ม ตั้งค่าได้ด้วยโปรแกรม Logitech G HUB เชื่อมต่อด้วสาย USB-C หรือ USB 2.4GHz Dongle “LIGHTSPEED” ก็ได้ รองรับระบบปฏิบัติการ Windows และ macOS ทั้งคู่ จุดเด่นของเมาส์นี้ ได้แก่ ไฟ RGB, ปุ่ม Sniper Button สำหรับปรับลดค่า DPI โดยติดเอาไว้ใกล้แม่โป้งขวามือ นอกจากนี้ถ้าใครใช้แผ่นรองเมาส์ Logitech POWERPLAY ก็สามารถชาร์จแบตเตอรี่ให้เมาส์นี้แบบไร้สายได้ด้วย แต่เมาส์นี้จะมีน้ำหนัก 102 กรัม ดังนั้นถ้าใครไม่ชอบเมาส์หนักอาจจะใช้งานไม่ถนัด โดยรวมแล้ว Logitech G502X LIGHTSPEED นี้เป็นเมาส์เกมมิ่งน่าใช้อีกรุ่น โดยเฉพาะเกมเมอร์สาย FPS แล้วชอบเล่นเป็นพลซุ่มยิงประจำกลุ่มน่าจะถูกใจ เพราะมีปุ่ม Sniper Button ติดตั้งมาให้ใช้งานด้วย

สเปคของ Logitech G502 X LIGHTSPEED
DPI, Sensor เซนเซอร์ HERO 25K ตั้งค่าได้สูงสุด 100~25,600 DPI
Speed, Acceleration Speed 400 IPS, Acceleration 40G
Software

Battery Life

Suppported OS

Logitech G HUB

140 ชั่วโมง

Windows, macOS

Weight, Connectivity 102 กรัม

USB-C, USB 2.4GHz Dongle “LIGHTSPEED”

Price 4,290 บาท (Hardware Corner Shopee)
5. Razer Viper V2 Pro (5,290 บาท)

viperv2pro

หากพูดถึงเกมมิ่งเกียร์ รวมไปถึงเมาส์เล่นเกมด้วยก็ต้องพูดถึงเมาส์แบรนด์งูเขียวอย่าง Razer Viper V2 Pro เจ้างูแมวเซาสำหรับเกมเมอร์ถนัดขวารวมอยู่ด้วย ซึ่งดีไซน์เมาส์นี้เน้นเกมเมอร์ถนัดขวาเช่นกัน เชื่อมต่อได้ด้วย USB 2.4GHz Dongle “Razer HyperSpeed Wireless” หรือสาย USB-C ก็ได้ เซนเซอร์รุ่น Razer Focus Pro 30K ปรับได้ 30,000 DPI มีความเร็ว 750 IPS และอัตราเร่ง 70G น้ำหนักเมาส์เองก็ถือว่าเบามากเพียง 58 กรัม รองรับระบบปฏิบัติการ Windows ตั้งค่าด้วยโปรแกรม Razer Synapse 3 ระยะเวลาใช้งานแบตเตอรี่ถ้าใช้ HyperPolling 4,000Hz จะอยู่ได้นาน 24 ชั่วโมง หากใช้ตามปกติอยู่ได้ 80 ชั่วโมง และต้องถือว่าเมาส์ Viper V2 Pro ตัวนี้มีค่า DPI สูงมาก เหมาะกับเกมเมอร์สายกวาดเมาส์เร็วหรือถ้าใครอยากได้เมาส์เล่นเกมไร้สายดีๆ จากทาง Razer ตัวนี้ถือว่าน่าใช้อย่างแน่นอน

สเปคของ Razer Viper V2 Pro
DPI, Sensor เซนเซอร์ Razer Focus Pro 30K ตั้งค่าได้สูงสุด 30,000 DPI
Speed, Acceleration Speed 750 IPS, Acceleration 70G
Software

Battery Life

Suppported OS

Razer Synapse 3

HyperPolling 4,000Hz ใช้ได้ 24 ชั่วโมง, ทั่วไป 80 ชั่วโมง

Windows

Weight, Connectivity 58 กรัม

USB 2.4GHz “Razer HyperSpeed Wireless”, สาย USB-C

Price 4,290 บาท (Razer Shopee Mall)
6. SteelSeries Rival 3 Wireless (1,690 บาท)

buyimg rival3wl 001.jpg 1920x1080 q100 crop fit optimize subsampling 2

 

ดีไซน์เรียบง่ายดูดีแต่ใช้ดีไม่แพ้ใครต้อง SteelSeries Rival 3 Wireless ซึ่งนอกจากราคาจะถูกหาซื้อได้ง่ายแล้ว ยังสลับโหมดการเชื่อมต่อไปมาได้ทั้ง USB 2.4GHz “Quantum 2.0”, Bluetooth 5.0 พกไปทำงานหรือใช้เล่นเกมที่บ้านก็ดี เหมาะกับการจับแบบ Claw, Fingertip Grip เป็นหลัก เซนเซอร์เมาส์เป็นของทางบริษัทเองอย่าง SteelSeries TrueMove Air ตั้งค่าได้ตั้งแต่ 100~18,000 DPI มีความเร็ว 400 IPS และอัตราเร่ง 40G น้ำหนักเมื่อใส่แบตเตอรี่ 2 ก้อน อยู่ที่ 106 กรัม ใช้งานในโหมด Bluetooth ได้นานสุดถึง 400 ชั่วโมง รองรับระบบปฏิบัติการ Windows, macOS, ChromeOS, Xbox, PlayStation 4 และ 5, Linux ได้หมด ถ้าจะตั้งค่าเมาส์ต้องใช้ SteelSeries Engine ซึ่งมีให้โหลดใช้งานใน Windows, macOS หากเกมเมอร์คนไหนหาเมาส์เกมมิ่งไร้สายคุณภาพดีราคาเป็นมิตรล่ะก็ Rival 3 Wireless ตัวนี้จัดว่าน่าใช้และจับถนัดมืออย่างแน่นอน

สเปคของ SteelSeries Rival 3 Wireless
DPI, Sensor เซนเซอร์ SteelSeries TrueMove Air ตั้งค่าได้ 100~18,000 DPI
Speed, Acceleration Speed 400 IPS, Acceleration 40G
Software

Battery Life

Suppported OS

SteelSeries Engine

400 ชั่วโมง (โหมด Bluetooth)

Windows, macOS, ChromeOS, Xbox, PlayStation 4 และ 5, Linux

Weight, Connectivity 106 กรัม

USB 2.4GHz “Quantum 2.0”, Bluetooth 5.0

Price 1,690 บาท (Pro Gadgets Shopee Mall)
7. ASUS ROG Chakram X (4,390 บาท)

h525

เมาส์เล่นเกมไร้สายรุ่นสุดท้ายก็มาจากแบรนด์ขวัญใจเกมเมอร์อย่าง ASUS ROG Chakram X ซึ่งเมาส์นี้เชื่อมต่อได้ 3 แบบ ทั้งสาย USB-C, USB 2.4GHz Dongle และ Bluetooth รองรับ NVIDIA Reflex ซึ่งฟีเจอร์นี้จะช่วยลดอาการตอบสนองช้าตอนลากหรือกดปุ่มเมาส์ได้มาก มีก้าน Joystick ข้างเมาส์เผื่อกรณีต้องการบังคับตัวละครให้ช้าเร็วได้ถนัดยิ่งขึ้นและถอดเปลี่ยนสวิตช์ของปุ่มคลิ๊กเมาส์ได้ ใช้เซนเซอร์ ROG AimPoint ตั้งค่าได้ 100~36,000 DPI ความเร็ว 650 IPS อัตราเร่ง 50G ปรับ Polling Rate ได้สูงสุด 8,000Hz รองรับการชาร์จเร็วด้วยสายย USB-C 15 นาทีใช้งานได้ 25 ชั่วโมงหรือชาร์จไร้สายก็ได้ด้วยแผ่นรองเมาส์ ROG Balteus Qi RGB ใช้เล่นเกมต่อเนื่องได้นานสุด 114 ชั่วโมง เน้นใช้งานกับระบบปฏิบัติการ Windows เป็นหลัก ตั้งค่าเมาส์ได้ด้วยโปรแกรม ASUS Armoury Crate แต่จุดสังเกตของเมาส์นี้คือน้ำหนักสูงถึง 127 กรัม

สเปคของ ASUS ROG Chakram X
DPI, Sensor เซนเซอร์ ROG AimPoint ตั้งค่าได้ 100~36,000 DPI
Speed, Acceleration Speed 650 IPS, Acceleration 50G
Software

Battery Life

Suppported OS

ASUS Armoury Crate

114 ชั่วโมง

Windows

Weight, Connectivity 127 กรัม

USB-C, USB 2.4GHz Dongle, Bluetooth

Price 4,390 บาท (ROG Shopee Mall)

higor hanschen p25PXEY3SAU unsplash

เมาส์เล่นเกมถือเป็นเกมมิ่งเกียร์ชิ้นสำคัญอีกชิ้นไม่แพ้กับคีย์บอร์ดหรือหูฟังเลย แต่จุดสำคัญคือแม้จะอ่านหน้าสเปคแล้วเลือกซื้อมาใช้งานได้เลยก็จริง แต่จะเลือกให้ถูกใจไร้ที่ติก็ควรหาเมาส์ตัวจริงมาลองจับดูสักนิดหนึ่งก่อนว่าขนาดมันใหญ่พอดีมือไหม เข้ากับมือเราหรือเปล่าแล้วน้ำหนักของมันหนักเกินไปไหม ซึ่งถ้าใส่ใจสักนิด ไปลองหาตัวจริงจับเล่นสักหน่อยจะช่วยให้เลือกเมาส์เล่นเกมตัวใหม่ได้โดนใจอย่างแน่นอน


บทความที่เกี่ยวข้อง

Razer Naga V2 Pro 1

7 Wireless Charging 1

7 หูฟังเกมมิ่ง 2023 1

from:https://notebookspec.com/web/686699-7-wireless-gaming-mouse-2023

7 หูฟังเกมมิ่งรุ่นเด็ดรับปี 2023 โดนเอาไว้เล่นเกมก็เพลินฟังเพลงก็อิ่ม!!

ปี 2023 นี้มีหูฟังเกมมิ่งเด็ดๆ ให้เลือก เล่นเกมดีฟังเพลงมันส์ทั้งคู่

7 หูฟังเกมมิ่ง 2023 1

หูฟังแบบเฮดโฟนเป็นหูฟังเกมมิ่งยอดนิยมในใจเกมเมอร์เพราะดีไซน์นำเสนอความเป็นเกมเมอร์แถมยังมีฟีเจอร์เด็ดๆ จากทางผู้ผลิตช่วยเสริมคุณภาพเสียงให้ยอดเยี่ยมยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะไดรเวอร์ที่จำลองเสียง 7.1 แชนแนลได้ ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในสถานการณ์นั้นจริงๆ บางรุ่นมีไฟ RGB หรือเชื่อมต่อได้หลากหลายแบบ ทั้ง USB 2.4GHZ Dongle, Bluetooth หรือสายหูฟัง 3.5 มม. ก็ได้ และผู้ผลิตก็มีโปรแกรมปรับแต่งเสียงให้ได้ตามสไตล์และรสนิยมของผู้ใช้ได้ตามชอบ ซึ่งยังไม่รวมเรื่องดีไซน์, ฟีเจอร์เฉพาะของหูฟังแต่ละรุ่น ฯลฯ ในส่วนนี้ก็จะมีรายละเอียดอีกหลายอย่างให้ผู้ใช้ต้องดูเพิ่มเติมอีกมากมายเลย

Advertisementavw

นอกจากตัวหูฟังแล้ว ไมค์ติดหูฟังเกมมิ่งหลายๆ รุ่นก็ถูกพัฒนาให้ดีขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งฟีเจอร์ยืนพื้นก็หนีไม่พ้นการตัดเสียงรบกวนและบางแบรนด์อาจยกฟีเจอร์จากไมค์แยกมาใส่ให้คุณภาพเสียงดีขึ้นและยังตั้งสไตล์เสียงที่ชอบได้, ได้รับการการันตี Discord Certified, Teamspeak Certified ว่าไมค์นี้คุณภาพดีเสียงชัด ใช้กับโปรแกรมพูดคุยยอดนิยมของเกมเมอร์ได้เป็นอย่างดี และบางรุ่นยังติดตั้งชิป DAC พิเศษไว้ใช้ฟังเพลงโดยเฉพาะให้คุณภาพเสียงดีระดับ Hi-Res ฟังเพลงได้เต็มอิ่มถูกใจใครหลายๆ คนอย่างแน่นอน

หูฟังเกมมิ่ง

อย่างไรก็ตาม วิธีการเลือกเกมมิ่งเฮดโฟนให้โดนใจนั้นจะต้องคิดถึงเรื่องแพลตฟอร์มว่าจะใช้กับพีซีหรือเครื่องคอนโซลรุ่นไหน? จะต่อแบบมีหรือไม่มีสายเพราะถ้ามีสายก็จะใช้กับพีซี โน๊ตบุ๊คหรือแท็บเล็ตก็ได้แต่ถ้าเป็นสมาร์ทโฟนที่ปัจจุบันนี้หลายๆ รุ่นไม่มีช่องหูฟัง 3.5 มม. แล้ว ก็ต้องมีตัวแปลงหรือที่คนเล่นหูฟังเรียกว่า “DAC หางหนู” เตรียมเอาไว้ แต่ถ้าเป็นแบบไร้สายและมี Bluetooth ก็ไม่ต้องกังวลเพราะใช้งานได้ทุกอุปกรณ์แน่นอนแต่ก็ต้องหมั่นชาร์จแบตเตอรี่เป็นระยะๆ และถ้าเล่นเกมเสียงก็อาจจะดีเลย์ได้เช่นกัน ซึ่งถ้าใครต้องการทราบวิธีเลือกหูฟังเกมมิ่งแบบละเอียดสามารถอ่านในบทความนี้ได้

สรุปสเปค 7 หูฟังเกมมิ่งน่าโดน จัดของดีเอาไว้ยังไงก็คุ้ม! เล่นเกมก็สนุก ดูหนังก็เพลิน ฟังเพลงก็อิ่มหู!

homescreenify wHmI7P5EC5A unsplash

สเปค 7 หูฟังเกมมิ่ง Driver Microphone  Connectivity Platform

Software

ราคา
(บาท)
HyperX Cloud Alpha S ไดนามิคขนาด 50 มม. จำลองเสียง 7.1 แชนแนล

ตอบสนองความถี่ 10Hz~23kHz

Bi-Directional พร้อมฟีเจอร์ตัดเสียงรบกวน USB PC, PlayStation 4

HyperX NGENUITY

3,990
Razer Barracuda X (2022) Razer TriForce ขนาด 40 มม.

ตอบสนองความถี่ 20Hz~20kHz

Razer HyperClear รับเสียงแบบ Cardioid, Unidirectional

ตอบสนองความถี่ 100Hz~10kHz

USB-C Wireless 2.4GHz

Bluetooth 5.2

สายหูฟัง 3.5 มม.

PC, PlayStation, Android, iOS

Razer Audio

Razer Synapse 3

3,990
Logitech G Pro X PRO-G ขนาด 50 มม. จำลองเสียงได้ 7.1 แชนแนล

ตอบสนองความถี่ 20Hz~20kHz

DTS Headphone:X 2.0

Blue VO!CE รับเสียงแบบ Cardioid

ตอบสนองความถี่ 100Hz~10kHz

USB, สายหูฟัง 3.5 มม. Windows

Logitech G HUB

4,890
ASUS ROG Delta S 50 มม. ตอบสนองความถี่ 20Hz~40kHz
จำลองเสียงได้ 7.1 แชนแนล

ติดตั้งชิป Hi-Fi DAC และ Amp
ESS9281 Pro มา 4 ตัว

ไมค์ Unidirectional

ตอบสนองความถี่ 100Hz~10kHz

AI-Noise Cancelling

Discord Certified

Teamspeak Certified

USB-A

USB-C

PC, macOS, Nintendo Switch, PlayStation 5

Armoury Crate

6,990
SteelSeries Arctis Nova 7 แม่เหล็กนีโอไดเมียมขนาด 40 มม.

ตอบสนองความถี่ 20Hz~20kHz

Nova Acoustic System
จำลองเสียงแบบ 360° Spatial Audio

ClearCast Gen 2 รับเสียงแบบ Bidirectional

ตอบสนองความถี่ 100~6,500Hz

AI Noise-Cancelling

Bluetooth

USB 2.4GHz

USB-C

Windows, macOS, Nintendo Switch, Android, iOS, Meta Quest 2

SteelSeries Engine
Sonar Audio Software Suite

8,990
Sony INZONE H9 แม่เหล็กนีโอไดเมียม 40 มม.

ตอบสนองความถี่ 5Hz~20kHz

360° Spatial Audio

ไมค์บูม Bidirectional
ตอบสนองความถี่ 100~8,000Hz

Discord Certified

Bluetooth 5.0

USB 2.4GHz

USB-C

Windows, PlayStation, Android, iOS

INZONE Hub

8,990
JBL Quantum One ไดรเวอร์ 50 มม. ตอบสนองความถี่ 20Hz~40kHz

JBL QuantumSPHERE 360

 Spatial Sound

Hi-Res Audio

ไมค์บูมพร้อมฟีเจอร์ Active Noise Cancelling

Discord Certified

สายหูฟัง 3.5 มม., USB Windows, macOS, Xbox Series X|S, PlayStation 5, Nintendo Switch, VR

JBL Quantum Engine

9,990

7 หูฟังเกมมิ่งตัวเด็ดประจำปี 2023 เล่นเกมก็ดีฟังเพลงก็เลิศ!

หากเกมเมอร์คนไหนใช้หูฟังเกมมิ่งมาสักพักแล้วอันเก่าเริ่มเสียงเริ่มไม่ดีหรือจะซื้อเพิ่มเอาตัวเก่ามาทิ้งไว้ที่ออฟฟิศแล้วเอาตัวใหม่มาใช้ที่โต๊ะคอมเกมมิ่งที่บ้านล่ะก็ ผู้เขียนได้เลือก 7 รุ่นเด็ดน่าใช้น่าลงทุนมาให้เลือกกัน โดยมีรายชื่อรุ่นดังนี้

  1. HyperX Cloud Alpha S (3,990 บาท)
  2. Razer Barracuda X (2022) (3,990 บาท)
  3. Logitech G Pro X (4,890 บาท)
  4. ASUS ROG Delta S (6,990 บาท)
  5. SteelSeries Arctis Nova 7 (8,990 บาท)
  6. Sony INZONE H9 (8,990 บาท)
  7. JBL Quantum One (9,990 บาท)
1. HyperX Cloud Alpha S (3,990 บาท)

เกมมิ่งเฮดโฟนตัวแรกที่ราคาไม่แพงและได้ฟีเจอร์ค่อนข้างครบเครื่องเป็น HyperX Cloud Alpha S โดยฟีเจอร์เด่นของหูฟังนี้เป็นเรื่องไดรเวอร์เสียงแบบ HyperX Dual Chamber ที่ทางบริษัทออกแบบพื้นที่ช่องเสียงแยกเป็น 2 ชุดสำหรับเสียงกลางและสูงและลดอาการ Distort ได้เสียงเบสที่ดีและมีปุ่มรีโมตคอนโทรลปรับรูปแบบเสียงได้ตามต้องการติดมาให้ ตัวไดรเวอร์แบบไดนามิคขนาด 50 มม. ตอบสนองความถี่ 10Hz~23kHz ได้เสียงแบบ 16-bit จำลองเสียงได้ 7.1 แชนแนล มีสวิตช์ปรับเลื่อนระดับเสียงเบสได้ 3 ระดับตามใจผู้ใช้ ปรับแต่งเสียงได้ด้วยโปรแกรม HyperX NGENUITY ไมค์เป็นแบบ Bi-Directional พร้อมฟีเจอร์ตัดเสียงรบกวนและถอดออกได้เมื่อไม่ใช้งาน เชื่อมต่อเข้ากับ PC และ PlayStaion 4 ได้ด้วยสาย USB เส้นเดียวเท่านั้น หากใครหาหูฟังดีๆ เอาไว้เล่นเกมแล้วไม่แพงมากก็มาเริ่มกับ HyperX ตัวนี้ก่อนได้เลย

สเปคของ HyperX Cloud Alpha S
Driver ไดนามิคขนาด 50 มม. จำลองเสียง 7.1 แชนแนล

ตอบสนองความถี่ 10Hz~23kHz
ได้เสียงแบบ 16-bit

Microphone Bi-Directional พร้อมฟีเจอร์ตัดเสียงรบกวน
Connectivity USB
Platform

Software

PC, PlayStation 4

HyperX NGENUITY

Price 3,990 บาท (HyperX Shopee Mall)
2. Razer Barracuda X (2022) (3,990 บาท)

barracuda

หูฟังเกมมิ่งรุ่นถัดมาเป็นของแบรนด์งูเขียวที่ทำตลาดเกมมิ่งเกียร์มายาวนานอย่าง Razer Barracuda X (2022) โดยหูฟังตัวนี้จะใช้งานแบบมีหรือไร้สายก็ได้ด้วย USB-C Wireless 2.4GHz, Bluetooth 5.2 หรือสายหูฟัง 3.5 มม. ก็ได้จึงเชื่อมต่อได้หลากหลายไม่ว่าจะ PC, PlayStation, Android, iOS ก็สะดวก ไดรเวอร์หูฟังเป็น Razer TriForce ขนาด 40 มม. ตอบสนองความถี่ 20Hz~20kHz พร้อมไมค์ตัดเสียงรบกวน Razer HyperClear รับเสียงแบบ Cardioid, Unidirectional ตอบสนองความถี่ 100Hz~10kHz ฝังแบตเตอรี่เอาไว้ในตัว ใช้งานต่อเนื่องได้นาน 50 ชั่วโมง มีแอพฯ Razer Audio ให้โหลดมาใช้งานทั้งใน App Store และ Google Play เพื่อปรับ EQ เสียงและปรับโหมดการใช้งานได้ตามต้องการ มีฟังก์ชั่น Touch Conntrol และสวิตช์ให้กดตั้งค่าเสียงที่ตัวหูฟังได้ด้วย หากใครหาเกมมิ่งเฮดโฟนตัวเดียวใช้งานได้หมดทุกแพลตฟอร์ม ไม่ต้องเสียเงินซ้ำซ้อนล่ะก็ Razer Barracuda X (2022) ตัวนี้เป็นรุ่นน่าใช้ จ่ายทีเดียวแล้วจบเลย

สเปคของ Razer Barracuda X (2022)
Driver Razer TriForce ขนาด 40 มม. ตอบสนองความถี่ 20Hz~20kHz
Microphone Razer HyperClear รับเสียงแบบ Cardioid, Unidirectional
ตอบสนองความถี่ 100Hz~10kHz
Connectivity USB-C Wireless 2.4GHz, Bluetooth 5.2, สายหูฟัง 3.5 มม.
Platform

Software

PC, PlayStation, Android, iOS

Razer Audio, Razer Synapse 3

Price 3,990 บาท (Razer Shopee Mall)
3. Logitech G Pro X (4,890 บาท)

logitech 1

Logitech G Pro X เป็นเกมมิ่งเฮดโฟนจากแบรนด์ผู้ผลิตอุปกรณ์เชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ชั้นนำของโลกที่ไม่ควรมองข้าม โดยหูฟังนี้เชื่อมต่อด้วยสาย USB, สายหูฟัง 3.5 มม. ได้ไดรเวอร์ PRO-G ขนาด 50 มม. ตอบสนองความถี่ 20Hz~20kHz จำลองเสียงได้ 7.1 แชนแนล รองรับ DTS Headphone:X 2.0 ติดไมค์คอนเดนเซอร์ Blue VO!CE รับเสียงแบบ Cardioid ตอบสนองความถี่ 100Hz~10kHz มาให้และถ้าไม่ใช้งานก็สามารถถอดออกได้ ปรับแต่งเสียงหูฟังและไมค์ได้ด้วยโปรแกรม Logitech G HUB ได้ ปรับแต่ง EQ และเสียงของไมค์ได้ตามต้องการและทางบริษัทก็แถม USB DAC มาให้ จัดว่าครบเครื่องทีเดียวและถ้าใครเน้นเล่นเกม FPS สามารถสมัครและติดตั้งโปรแกรม Immerse by Embody มาใช้จำลองทิศทางเสียงได้ตามต้องการ และส่วนตัวผู้เขียนได้เขียนรีวิวรุ่นที่เชื่อมต่อด้วย LIGHTSPEED USB 2.4GHz ไปแล้ว หากใครสนใจสามารถอ่านรีวิวฉบับเต็มได้ที่นี่ และ Logitech G Pro X ตัวนี้เป็นหูฟังรุ่นที่ผู้เขียนแนะนำเป็นส่วนตัวอีกด้วย

สเปคของ Logitech G Pro X
Driver PRO-G ขนาด 50 มม. จำลองเสียงได้ 7.1 แชนแนล

ตอบสนองความถี่ 20Hz~20kHz

DTS Headphone:X 2.0

Microphone Blue VO!CE รับเสียงแบบ Cardioid
ตอบสนองความถี่ 100Hz~10kHz
Connectivity USB, สายหูฟัง 3.5 มม.
Platform

Software

Windows

Logitech G HUB

Price 4,890 บาท (Logitech Shopee Mall)
4. ASUS ROG Delta S (6,990 บาท)

hero

เมื่อพูดถึงเกมมิ่งเกียร์และเกมมิ่งเฮดโฟนแล้ว ASUS ROG Delta S จากแบรนด์ขวัญใจเกมเมอร์ก็น่าซื้อน่าสนใจมาก โดยหูฟังเกมมิ่งตัวนี้ถูกออกแบบมาให้ใช้งานได้หลายแพลตฟอร์มไม่ว่าจะ PC, macOS, Nintendo Switch, PlayStation 5 ก็ใช้งานได้ โดยเชื่อมต่อผ่าน USB-A, USB-C ก็ได้ ติดตั้งชิป Hi-Fi DAC และ Amp รุ่น ESS9281 Pro มาถึง 4 ตัว ทำให้เสียงตอนฟังเพลงได้คุณภาพระดับ Hi-Res ใช้ฟังเพลงและเล่นเกมได้ดีทั้งคู่ ไดรเวอร์มีขนาด 50 มม. ตอบสนองความถี่ 20Hz~40kHz จำลองเสียงได้ 7.1 แชนแนล มีไมค์ Unidirectional ตอบสนองความถี่ 100Hz~10kHz กับระบบ AI-Noise Cancelling ตัดเสียงรบกวนภายนอก ได้รับการรับรอง Discord Certified, Teamspeak Certified การันตีคุณภาพของมันภายในตัว มีปุ่มปรับความดังของเสียงที่ตัวหูฟังและกด Mute ไมค์และปรับไฟ RGB ได้ ใช้โปรแกรม Armoury Crate ปรับแต่งตัวหูฟังได้ด้วย ดังนั้นถ้าใครหาหูฟังเอาไว้ฟังเพลงและเล่นเกมดีๆ สักตัวหนึ่งล่ะก็ ROG Delta S นี้จัดว่าน่าใช้มาก และยังมีรุ่นพิเศษ EVA Edition ให้แฟนคลับอนิเมชั่นเรื่อง Neon Genesis Evangelion ได้ซื้อไปใช้หรือเก็บสะสมด้วย

สเปคของ ASUS ROG Delta S
Driver 50 มม. ตอบสนองความถี่ 20Hz~40kHz
จำลองเสียงได้ 7.1 แชนแนล

ติดตั้งชิป Hi-Fi DAC และ Amp
ESS9281 Pro มา 4 ตัว

Microphone ไมค์ Unidirectional ตอบสนองความถี่ 100Hz~10kHz

AI-Noise Cancelling

Discord Certified, Teamspeak Certified

Connectivity USB-A, USB-C
Platform

Software

PC, macOS, Nintendo Switch, PlayStation 5

Armoury Crate

Price 6,990 บาท (ASUS Shopee Mall)
5. SteelSeries Arctis Nova 7 (8,990 บาท)

arctis nova 7 black pdp tiles smp d.png 1920x700 crop scale optimize subsampling 2 1

หูฟังเกมมิ่งไร้สาย SteelSeries Arctis Nova 7 ถือเป็นอีกรุ่นที่น่าใช้มาก โดยมันมีระบบ Nova Acoustic System ใช้จำลองเสียงแบบ 360° Spatial Audio เสียงถือว่ามีคุณภาพสูง ใชัฟังเพลงและเล่นเกมได้ดี เชื่อมต่อได้ด้วย Bluetooth, USB 2.4GHz หรือ USB-C ก็ได้ เชื่อมต่อกับระบบปฏิบัติการ Windows, macOS, Nintendo Switch, Android, iOS และ Meta Quest 2 ได้ ใช้งานได้นาน 38 ชั่วโมง ชาร์จไว 15 นาที ใช้งานได้ 6 ชั่วโมงเต็ม ติดตั้งไมค์ ClearCast Gen 2 รับเสียงแบบ Bidirectional พร้อมระบบ AI Noise-Cancelling ตอบสนองความถี่ 100~6,500Hz ปรับแต่งตัวด้วยโปรแกรม SteelSeries Engine กับ Sonar Audio Software Suite ได้ ตัวไดรเวอร์เป็นแม่เหล็กนีโอไดเมียมขนาด 40 มม. ตอบสนองความถี่ 20Hz~20kHz หากเกมเมอร์คนไหนหาหูฟังเกมมิ่งไร้สาย ฟังเพลงดีเล่นเกมเพลินเอาไว้ใช้สักตัว Arctis Nova 7 ตัวนี้จัดว่าน่าสนใจมากเพราะใช้งานได้สะดวกแถมยังใช้ดูหนังฟังเพลงได้ดีแน่นอน

สเปคของ SteelSeries Arctis Nova 7
Driver แม่เหล็กนีโอไดเมียมขนาด 40 มม.
ตอบสนองความถี่ 20Hz~20kHz

Nova Acoustic System
จำลองเสียงแบบ 360° Spatial Audio ได้

Microphone ClearCast Gen 2 รับเสียงแบบ Bidirectional
มีระบบ AI Noise-Cancelling
ตอบสนองความถี่ 100~6,500Hz
Connectivity Bluetooth, USB 2.4GHz, USB-C
Platform

Software

Windows, macOS, Nintendo Switch, Android, iOS, Meta Quest 2

SteelSeries Engine
Sonar Audio Software Suite

Price 8,990 บาท (SteelSeries Shopee Mall)
6. Sony INZONE H9 (8,990 บาท)

3079b76b7065e47d3713234d917992f6 1

แบรนด์อารยธรรมในใจใครหลายๆ คนอย่าง Sony มีหูฟังเกมมิ่ง Sony INZONE H9 ซึ่งออกแบบมาเน้นใช้งานแบบไร้สายด้วย Bluetooth 5.0, USB 2.4GHz กับเครื่อง Windows, PlayStation, Android, iOS เป็นหลักและชาร์จแบตเตอรี่ด้วยสาย USB-C ใช้งานต่อเนื่องได้นาน 32 ชั่วโมง ชาร์จไว 10 นาที ใช้งานได้ 60 นาที ดีไซน์หูฟังเป็นแบบปิดมีฟีเจอร์ตัดเสียงรบกวนจากภายนอก ให้ไดรเวอร์แม่เหล็กนีโอไดเมียมขนาด 40 มม. ทำงานได้เต็มที่ ตอบสนองความถี่ 5Hz~20kHz รองรับเสียงแบบ 360° Spatial Audio มีไมค์บูมแบบ Bidirectional ตอบสนองความถี่ 100~8,000Hz ได้รับการรับรอง Discord Certified แล้ว ตัวหูฟังติดชุดควบคุมเอาไว้ได้แก่ปุ่มเปิดปิดการตัดเสียงรบกวน, เพิ่มลดเสียง, ปรับสมดุลย์ระหว่างเสียงในเกมและเสียงโปรแกรมแชต, โหมด Bluetooth และเปิดปิดไมค์ เรียกว่ามาครบเครื่องพร้อมใช้งาน ตั้งค่าหูฟังโดยละเอียดได้ในโปรแกรม INZONE Hub และถ้าสังเกตจะเห็นว่าหูฟังนี้ตอบสนองความถี่ย่านกว้างจึงเหมาะจะใช้ฟังเพลงและเล่นเกมอย่างแน่นอน ถ้าเกมเมอร์คนไหนหาหูฟังเกมมิ่งเอาไว้ใช้เพื่อความบันเทิงรอบด้านล่ะก็ INZONE H9 ถือว่าน่าลงทุนมาก

สเปคของ Sony INZONE H9
Driver แม่เหล็กนีโอไดเมียม 40 มม.
ตอบสนองความถี่ 5Hz~20kHz 

360° Spatial Audio

Microphone ไมค์บูม Bidirectional
ตอบสนองความถี่ 100~8,000Hz

Discord Certified

Connectivity Bluetooth 5.0, USB 2.4GHz, USB-C สำหรับชาร์จแบตเตอรี่ 10 นาทีใช้ได้ 60 นาที ใช้งานได้นานสุด 32 ชั่วโมง
Platform

Software

Windows, PlayStation, Android, iOS

INZONE Hub

Price 8,990 บาท (Progadgetonline Shopee Mall)
7. JBL Quantum One (9,990 บาท)

JBL Quantum ONE Lifestyle2

หูฟังเกมมิ่งรุ่นสุดท้ายจากแบรนด์ชั้นนำด้านหูฟังและลำโพงอย่าง JBL Quantum One แม้ราคาจะสูงสักนิด แต่ด้านคุณภาพเสียงและความบันเทิงจัดว่าหายห่วงโดยเฉพาะเกมเมอร์หรือคนชอบฟังเพลงน่าจะตกหลุมรักมันได้ง่ายๆ โดยตัว Quantum One ติดตั้งไดรเวอร์ 50 มม. ตอบสนองความถี่ 20Hz~40kHz มาให้ มีฟีเจอร์ JBL QuantumSPHERE 360 รองรับเสียง Spatial Sound, Hi-Res Audio ไมค์บูมที่ได้รับการรับรอง Discord Certified พร้อมฟีเจอร์ Active Noise Cancelling ตัดเสียงรบกวนและถอดเก็บได้เมื่อไม่ต้องการใช้งานและมีปุ่มควบคุมหูฟังติดตั้งมาให้ เชื่อมต่อกับ Windows, macOS, Xbox Series X|S, PlayStation 5, Nintendo Switch และ VR ได้ด้วยสายหูฟัง 3.5 มม., USB ตั้งค่าตัวหูฟังได้ด้วยโปรแกรม JBL Quantum Engine ทั้งเสียงและไฟ RGB แถมยังตั้งค่าเสียงแยกตามโปรไฟล์ของผู้ใช้ได้อีกด้วย ถ้าใครหาหูฟังเกมมิ่งที่ใช้ฟังเพลงได้ดีด้วยก็ขยับมาซื้อ JBL Quantum One ตัวนี้ไปจะดีสุด

สเปคของ JBL Quantum One
Driver ไดรเวอร์ 50 มม. ตอบสนองความถี่ 20Hz~40kHz

JBL QuantumSPHERE 360
รองรับเสียง Spatial Sound, Hi-Res Audio

Microphone ไมค์บูมพร้อมฟีเจอร์ Active Noise Cancelling

Discord Certified

Connectivity สายหูฟัง 3.5 มม., USB
Platform

Software

Windows, macOS, Xbox Series X|S, PlayStation 5, Nintendo Switch, VR

JBL Quantum Engine

Price 9,990 บาท (JBL Shopee Mall)

brandon green aiWjNA46Urc unsplash

หูฟังเกมมิ่งถือเป็นเกมมิ่งเกียร์ที่สำคัญมากไม่แพ้เมาส์คีย์บอร์ด ยิ่งใครเล่นเกม Co-op กับเพื่อนบ่อยๆ ยิ่งน่าลงทุนกับหูฟังดีๆ เอาไว้ ยิ่งถ้าไดรเวอร์ดีฟังชัดจับทิศทางได้ว่าศัตรูมาจากทางไหนและมีไมค์เสียงคมไว้สื่อสารกับเพื่อน ก็ช่วยพลิกนาทีสำคัญให้เอาชนะในเกมนั้นๆ ได้อย่างแน่นอน ยังไงก็ตามหูฟังเกมมิ่งก็เป็นอุปกรณ์ที่มีรสนิยมเข้ามาเกี่ยวข้อง นอกจากเล่นเกมแล้วก็ต้องใช้ดูหนังฟังเพลงอย่างแน่นอน ดังนั้นถ้าใครสนใจหูฟังตัวไหนอยู่ นอกจากอ่านรีวิวแล้วแนะนำให้ไปทดลองฟังเสียงสักนิดว่าโทนเสียงของหูฟังรุ่นนั้นๆ ถูกใจเราหรือไม่ แล้วค่อยตัดสินใจซื้อก็ไม่สาย


บทความที่เกี่ยวข้อง

Share image Edit Name 2gamineheadphone 1

HyperX Cloud Alpha

HyperX Cloud Stinger

from:https://notebookspec.com/web/684207-7-recommend-gaming-headphone-2023

9 โน๊ตบุ๊คร้าน BaNANA น่าซื้อ ลดเพิ่ม 4,000 ได้ของแถมเพียบ! ผ่อนนาน 24 เดือน ซื้อตอนนี้คุ้มสุดๆ !!

รวมโน๊ตบุ๊คร้าน BaNANA น่าซื้อรับเดือนมกราคม 2023 นี้เพื่อคนทำงานและเกมเมอร์แบบเต็มๆ !!

ร่วม 9 โน๊ตบุ๊ค BaNANA 1

โน๊ตบุ๊คร้าน BaNANA น่าซื้อในเดือนมกราคม 2023 นี้ ทางร้านได้จัดโปรฯ น่าสนใจต้อนรับเดือนแรกของปีให้คนที่มีแผนเปลี่ยนโน๊ตบุ๊คเครื่องเก่าที่ตะลุยงานกับเจ้าของมาด้วยนานหลายปีจนตอนนี้มันเริ่มไม่เร็วทันใจอย่างที่ควรแล้ว ให้ได้ซื้อโน๊ตบุ๊คเครื่องใหม่ซีพียู Intel รุ่นใหม่ประสิทธิภาพสูงไปใช้งานกัน โดยในโปรโมชั่นครั้งนี้รวมโน๊ตบุ๊คทั้ง Intel 11th Gen ประสิทธิภาพดีทั้งทำงานและเล่นเกมและ Intel 12th Gen รุ่นใหม่สถาปัตยกรรมผสมคอร์ 2 ชุดที่ได้รับการพัฒนาให้ดีขึ้นกว่าเดิมมากทั้งการทำงานและจัดการพลังงาน แถมยังเข้าร่วมโครงการช้อปดีมีคืน 2566 อีกด้วย

Advertisementavw

สำหรับโปรโมชั่นของร้าน BaNANA ครั้งนี้จะร่วมกับโน๊ตบุ๊คซีพียู Intel ที่มีขายในร้าน ใช้โค้ดส่วนลดกับรุ่นที่ร่วมรายการได้สูงสุด 1,000 / 2,000 / 4,000 บาท โดยทางร้านจะขึ้นโค้ดส่วนลดเป็นพิเศษเอาไว้คู่กับโน๊ตบุ๊ครุ่นนั้นๆ โดยเฉพาะ, เลือกผ่อนกับบัตรเครดิตได้นานสุด 0% 24 เดือนผ่านทาง SCB Easy App ได้และเมื่อสั่งซื้อแล้วยังรอรับสินค้าที่หน้าร้านได้ภายใน 1 ชั่วโมงอีกด้วย ได้ความรวดเร็วทันใจผู้ใช้ที่ต้องการโน๊ตบุ๊คเครื่องใหม่ไว้ทำงานมาก และบางรุ่นยังได้ของสมนาคุณเอาไว้ใช้งานเพิ่มเติมด้วย

โน๊ตบุ๊คร้าน BaNANA น่าซื้อ

9 โน๊ตบุ๊คร้าน BaNANA น่าซื้อ พร้อมโปรโมชั่นเด็ด ส่วนลดเพียบผ่อนได้ตามสะดวก!

BNN Cover intel Brand Fair 160123 310123 category banner medium 1

สำหรับโปรโมชั่นส่งเสริมการขายของร้าน BaNANA ตามที่ได้กล่าวไปข้างต้น จะมีโค้ดใช้งาน 3 รหัสตามภาพแบนเนอร์ข้างต้นนี้ และยังเอาไปใช้งานกับโน๊ตบุ๊ครุ่นอื่นๆ ที่ร่วมรายการได้อีกด้วย สำหรับผู้ใช้คนไหนที่มีแผนเปลี่ยนโน๊ตบุ๊คอยู่แล้วมองหาโน๊ตบุ๊คร้าน BaNANA น่าซื้อรุ่นใหม่ในโปรโมชั่นนี้มาใช้งาน ผู้เขียนได้เลือกรุ่นน่าสนใจมาทั้งหมด 9 รุ่น ผสมกันทั้ง Intel 11th Gen และ 12th Gen โดยมีรายชื่อดังนี้

  1. Lenovo IdeaPad L3 15ITL6-82HL00GFTA (12,990 บาท)
  2. Acer Aspire Vero AV15-51R-52JY (23,990 บาท)
  3. Hp 15s-fq5083TU (26,990 บาท)
  4. ASUS Vivobook S 14X OLED S5402ZA (30,990 บาท)
  5. MSI GF66 Katana 12UCO-637TH (31,990 บาท)
  6. Lenovo IdeaPad Gaming 3i 15IAH7 (32,990 บาท)
  7. Acer Nitro 5 AN515-58-50WD (35,990 บาท)
  8. Acer Predator Helios 300 PH315-54-90CL (49,990 บาท)
  9. ASUS ROG Strix SCAR 15 G543ZX-HF058W (99,990 บาท)
1. Lenovo IdeaPad L3 15ITL6-82HL00GFTA (12,990 บาท)

Lenovo Notebook IdeaPad L3 15ITL6 01

 

โน๊ตบุ๊คร้าน BaNANA น่าซื้อรุ่นแรกในโปรโมชั่นครั้งนี้ ผู้เขียนเลือก Lenovo IdeaPad L3 15ITL6-82HL00GFTA มาแนะนำ นั่นเพราะเป็นโน๊ตบุ๊คราคาไม่แพงมากแต่สเปคน่าใช้และมีบานชัตเตอร์ปิดกล้อง Webcam เมื่อไม่ต้องการใช้งานได้ นอกจากนี้ยังมีชุด Numpad ติดตั้งมาให้ทำงานได้สะดวก หากอัพเกรดแรมไปเป็น 8~16GB ก็ทำงานได้สะดวกยิ่งขึ้นแน่นอน

สเปคเครื่องนี้ได้ซีพียู Intel Core i3-1115G4 แบบ 2 คอร์ 4 เธรด ความเร็ว 3.0~4.1GHz กับการ์ดจอ Intel Iris Xe Graphics มาใช้ทำงานและแสดงผลขึ้นหน้าจอ 15.6 นิ้ว ความละเอียด HD (1366×768) พาเนล IPS ได้เป็นอย่างดี มี M.2 NVMe SSD ความจุ 256GB ติดตั้ง Windows 11 Home มาให้พร้อมแรมออนบอร์ด 4GB DDR4 บัส 2933MHz ซึ่งถ้าอัพเกรดเพิ่มเติมก็ทำงานและเรียนได้ดีขึ้นอย่างแน่นอน มีพอร์ต USB-C 3.2 x 1, USB-A 3.2 x 1, HDMI x 1, LAN x 1, Audio combo x 1 เชื่อมต่อไร้สายด้วย Wi-Fi 5 มาตรฐาน 802.11ac รองรับ Bluetooth 5.0 ได้ในตัว ส่วนน้ำหนักเครื่องอยู่ที่ 2.2 กิโลกรัม เป็นโน๊ตบุ๊คร้าน BaNANA น่าซื้อรุ่นแรกที่ผู้เขียนแนะนำและยังแลกซื้อกระเป๋าเดินทางครอบครัว, ผ่อนชำระ 0% ได้ 24 เดือนและยังได้ของแถมที่ร่วมรายการอีกด้วย

สเปคของ Lenovo IdeaPad L3 15ITL6-82HL00GFTA
CPU Intel Core i3-1115G4 แบบ 2 คอร์ 4 เธรด ความเร็ว 3.0~4.1GHz
GPU Intel Iris Xe Graphics
SSD M.2 NVMe SSD 256GB
RAM ออนบอร์ด 4GB DDR4 บัส 2933MHz
Display 15.6 นิ้ว ความละเอียด HD (1366×768) พาเนล IPS
Connectivity USB-C 3.2 x 1, USB-A 3.2 x 1, HDMI x 1, LAN x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 5 มาตรฐาน 802.11ac รองรับ Bluetooth 5.0

Software Windows 11 Home
Weight 2.2 กิโลกรัม
Price 12,990 บาท (คลิ๊กสั่งซื้อได้ที่นี่)
2. Acer Aspire Vero AV15-51R-52JY (23,990 บาท)

Aspire Vero AV15 51R 52JY 01

 

โน๊ตบุ๊คร้าน BaNANA น่าซื้อรุ่นถัดมาเป็นโน๊ตบุ๊คบอดี้รักษ์โลกอย่าง Acer Aspire Vero AV15-52JY ที่ได้ลวดลายพิเศษที่ร่วมกับนิตยสาร National Geographic เพื่อสื่อถึงการรักษ์โลกอีกด้วย บอดี้ตัวเครื่องนอกจากสวยแข็งแรงดูดีและทำจากพลาสติกรีไซเคิล PCR และมีเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือติดตั้งมาให้ยังใช้โค้ดส่วนลด BNINTBFJ40 ลดราคาได้อีก 4,000 บาทพร้อมรับของสมนาคุณเพิ่มด้วย

ซีพียูของ Aspire Vero ติดตั้ง Intel Core i5-1155G7 แบบ 4 คอร์ 8 เธรด ความเร็ว 2.5~4.5GHz กับการ์ดจอออนบอร์ด Intel Iris Xe Graphics มาให้ ส่วนหน้าจอมีขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS มี M.2 NVMe SSD ความจุ 512GB ติดตั้ง Windows 11 Home กับ Microsoft Office Home & Student 2021 มาให้ใช้พร้อมแรมออนบอร์ด 8GB DDR4 บัส 3200MHz มีพอร์ต USB 2.0 x 1, USB-A 3.0 x 2, USB-C 3.0 x 1, HDMI x 1, LAN x 1, Audio combo x 1 เชื่อมต่อไร้สายได้ด้วย Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.1 ในตัว น้ำหนักเพียง 1.8 กิโลกรัมเท่านั้น หากใครหาโน๊ตบุ๊คร้าน BaNANA น่าซื้อรุ่นพิเศษเอาไว้ใช้งาน แนะนำให้ดู Aspire Vero รุ่นนี้เอาไว้ได้เลย

สเปคของ Acer Aspire Vero AV15-51-76YC
CPU Intel Core i5-1155G7 แบบ 4 คอร์ 8 เธรด ความเร็ว 2.5~4.5GHz
GPU Intel Iris Xe Graphics
SSD M.2 NVMe SSD 512GB
RAM ออนบอร์ด 8GB DDR4 บัส 3200MHz
Display 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS
Connectivity USB 2.0 x 1, USB-A 3.0 x 2, USB-C 3.0 x 1, HDMI x 1, LAN x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.1

Software Windows 11 Home

Microsoft Office Home & Student 2021

Weight 1.8 กิโลกรัม
Price 23,990 บาท ใช้โค้ดส่วนลดได้ 4,000 บาท (คลิ๊กสั่งซื้อได้ที่นี่)
3. Hp 15s-fq5083TU (26,990 บาท)

HP Notebook 15s fq5083TU Silver 01

 

Hp 15s-fq5083TU เป็นโน๊ตบุ๊คร้าน BaNANA น่าซื้อสำหรับคนหาโน๊ตบุ๊คทำงานโดยเฉพาะ โดยจุดเด่นของมันคือได้เซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือ, Numpad สำหรับพิมพ์ตัวเลข, สเปคจบจากโรงงานพร้อมใช้ไม่ต้องเสียเวลาอัพเกรด ด้านน้ำหนักยังเบาเพียง 1.69 กิโลกรัมเท่านั้น ด้านซีพียูได้ Intel 12th Gen ในตัวอีกด้วย เรียกว่าน่าสนใจเป็นอย่างมากอาจจะซื้อซอฟท์แวร์ทำงานอย่าง Microsoft Office เพิ่มหน่อยก็พอ ส่วนโปรโมชั่นเมื่อซื้อเครื่องแล้วยังแลกซื้อกระเป๋าเดินทางสำหรับครอบครัวและของแถมเพิ่มเติมและผ่อน 0% ได้นาน 24 เดือนอีกด้วย

ซีพียูของ HP 15s ติดตั้ง Intel Core i7-1260P แบบ 12 คอร์ 16 เธรด (4P+8E) ความเร็ว 3.4~4.7GHz ใช้การ์ดจอออนบอร์ด Intel Iris Xe Graphics หน้าจอมีขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS มี M.2 NVMe SSD ความจุ 512GB ติดตั้ง Windows 11 Home มาให้ มีแรม 16GB DDR4 บัส 3200MHz มีพอร์ต USB-C 3.1 x 1, USB-A 3.1 x 2, HDMI x 1, SD Card Reader x 1, Audio combo x 1 เชื่อมต่อไร้สายด้วย Wi-Fi 5 มาตรฐาน 802.11ac รองรับ Bluetooth 5.0 ได้ ซึ่งถ้าดูโดยรวมต้องถือว่า HP เครื่องนี้เป็นโน๊ตบุ๊คร้าน BaNANA น่าซื้อเพื่อสายทำงานและราคาก็ไม่เกิน 30,000 บาท จัดว่าไม่ถูกไม่แพงแต่แรงไว้ใจได้ด้วย หากใครใช้โน๊ตบุ๊คซีพียูรุ่นเก่าอย่าง Intel 8th Gen อยู่แนะนำให้ลงทุนอัพเกรดมารุ่นนี้รับรองว่าถูกใจทำงานดีขึ้นมากแน่นอน

สเปคของ Hp 15s-fq5083TU
CPU Intel Core i7-1260P แบบ 12 คอร์ 16 เธรด (4P+8E) ความเร็ว 3.4~4.7GHz
GPU Intel Iris Xe Graphics
SSD M.2 NVMe SSD 512GB
RAM 16GB DDR4 บัส 3200MHz
Display 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS
Connectivity USB-C 3.1 x 1, USB-A 3.1 x 2, HDMI x 1, SD Card Reader x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 5 มาตรฐาน 802.11ac รองรับ Bluetooth 5.0

Software Windows 11 Home
Weight 1.69 กิโลกรัม
Price 26,990 บาท (คลิ๊กสั่งซื้อได้ที่นี่)
4. ASUS Vivobook S 14X OLED S5402ZA (30,990 บาท)

Screenshot 2023 01 16 145918 1

 

หากใครรันโปรแกรมใหญ่กินทรัพยากรเครื่องมากๆ ASUS Vivobook S 14X OLED S5402ZA เครื่องนี้เป็นโน๊ตบุ๊คร้าน BaNANA น่าซื้อที่ไม่ควรพลาดเลย เพราะมันได้รับการรับรอง Intel Evo ว่าเครื่องเบาพกพาง่ายเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตได้เสถียรรวดเร็ว, จอ OLED สีสันสวยสดขอบเขตสีกว้าง, กางหน้าจอได้ 180 องศา, ติดตั้งพอร์ต Thunderbolt 4 Full Function ต่อหน้าจอแยก DisplayPort และชาร์จแบตเตอรี่แบบ Power Delivery ได้ มี Microsoft Office แท้และเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้วย นับว่าคุ้มครบเครื่องสุดๆ

ซีพียูในเครื่องเป็น Intel Core i5-12500H แบบ 12 คอร์ 16 เธรด (4P+8E) ความเร็ว 3.3~4.5GHz ใช้การ์ดจอออนบอร์ด Intel Iris Xe Graphics หน้าจอมีขนาด 14.5 นิ้ว ความละเอียด 2.8K (2880×1800) พาเนล OLED HDR อัตราส่วน 16:10 ขอบเขตสีกว้าง 100% DCI-P3 ค่า Refresh Rate 120Hz มี M.2 NVMe SSD ความจุ 512GB ติดตั้ง Windows 11 Home กับ Microsoft Office Home & Student 2021 มาให้ มีแรมในเครื่อง 16GB DDR4 บัส 3200MHz มีพอร์ต Thunderbolt 4 x 2, USB-A 3.2 x 2, USB 2.0 x 1, HDMI 2.0 x 1, Audio combo x 1 เชื่อมต่อไร้สายได้ด้วย Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11 ax รองรับ Bluetooth 5.2 ได้ในตัว น้ำหนักเพียง 1.63 กิโลกรัม นับเป็นโน๊ตบุ๊คร้าน BaNANA น่าซื้อรุ่นที่ผู้เขียนแนะนำเป็นส่วนตัวถ้ากำลังอยากเปลี่ยนโน๊ตบุ๊คเครื่องใหม่มาใช้งาน

สเปคของ ASUS Vivobook S 14X OLED S5402ZA
CPU Intel Core i5-12500H แบบ 12 คอร์ 16 เธรด (4P+8E) ความเร็ว 3.3~4.5GHz
GPU Intel Iris Xe Graphics
SSD M.2 NVMe SSD 512GB
RAM 16GB DDR4 บัส 3200MHz
Display 14.5 นิ้ว ความละเอียด 2.8K (2880×1800) พาเนล OLED HDR อัตราส่วน 16:10 ขอบเขตสีกว้าง 100% DCI-P3 ค่า Refresh Rate 120Hz
Connectivity Thunderbolt 4 x 2, USB-A 3.2 x 2, USB 2.0 x 1, HDMI 2.0 x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11 ax รองรับ Bluetooth 5.2

Software Windows 11 Home

Microsoft Office Home & Student 2021

Weight 1.63 กิโลกรัม
Price 30,990 บาท ใช้โค้ดส่วนลดได้ 1,000 บาท (คลิ๊กสั่งซื้อได้ที่นี่)
5. MSI GF66 Katana 12UCO-637TH (31,990 บาท)

MSI Notebook Katana GF66 12UCO 01

 

ด้านเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คร้าน BaNANA น่าซื้อ สเปคดุดันไว้ใจได้ มี MSI GF66 Katana 12UCO-637TH ให้เลือก ซึ่ง MSI Katana รุ่นใหม่ๆ นี้ทางบริษัทได้ปรับแต่งระบบระบายความร้อนให้จัดการอุณหภูมิได้ดีขึ้นแถมยังให้ฟีเจอร์ด้านการเล่นเกม เช่น เปิดเป้าเล็งปืน Crosshair ขึ้นมาค้างบนหน้าจอและเร่งระบบระบายความร้อนให้ทำงานได้ดียิ่งขึ้นแถมยังอัพเกรดเพิ่มแรมและ SSD ได้ ด้านราคานับว่าไม่แพงเกินและยังมีโปรโมชั่นแลกซื้อกระเป๋าเดินทางและของแถมร่วมรายการจาก BaNANA เข้ามาเสริมด้วย หากใครสนใจอยากอ่านรีวิว MSI Katana จะมีรุ่นเทียบเคียงที่ได้รีวิวไปก่อนหน้านี้ให้อ่านได้ที่นี่

ซีพียูใน MSI Katana เครื่องนี้เป็น Intel Core i7-12650H แบบ 10 คอร์ 16 เธรด (6P+4E) ความเร็ว 3.5~4.7GHz ใช้การ์ดจอแยก NVIDIA GeForce RTX 3050 แรม 4GB GDDR6 กับหน้าจอขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 144Hz มี M.2 NVMe SSD ความจุ 512GB ติดตั้ง Windows 11 Home พร้อมแรม 8GB DDR5 บัส 4800MHz รองรับการอัพเกรดได้ถึง 64GB มีพอร์ต USB 2.0 x 1, USB-A 3.2 x 2, USB-C 3.2 x 1, HDMI x 1, LAN x 1, Audio combo x 1 เชื่อมต่อไร้สายได้ด้วย Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.2 น้ำหนักเครื่อง 2.25 กิโลกรัม หากใครหาเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คร้าน BaNANA น่าซื้อ ราคาสามหมื่นบาทต้นๆ อยู่ล่ะก็ แนะนำให้ดู MSI Katana รุ่นนี้เอาไว้รับรองคุ้มแน่นอน

สเปคของ MSI GF66 Katana 12UCO-637TH
CPU Intel Core i7-12650H แบบ 10 คอร์ 16 เธรด (6P+4E) ความเร็ว 3.5~4.7GHz
GPU NVIDIA GeForce RTX 3050 แรม 4GB GDDR6
SSD M.2 NVMe SSD 512GB
RAM 8GB DDR5 บัส 4800MHz
Display 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 144Hz
Connectivity USB 2.0 x 1, USB-A 3.2 x 2, USB-C 3.2 x 1, HDMI x 1, LAN x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.2

Software Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.2
Weight 2.25 กิโลกรัม
Price 31,990 บาท (คลิ๊กสั่งซื้อได้ที่นี่)
6. Lenovo IdeaPad Gaming 3i 15IAH7 (32,990 บาท)

Lenovo IdeaPad Gaming 3i 01

 

เกมมิ่งโน๊ตบุ๊คร้าน BaNANA น่าซื้อต้องรวมถึง Lenovo IdeaPad Gaming 3i 15IAH7 เครื่องนี้ที่ได้บอดี้ของ Lenovo Legion มาใช้งานด้วย ซึ่งนอกจากระบายความร้อนได้ดีและบอดี้สวยดูแข็งแรงแล้ว ยังอัพเกรดเพิ่ม RAM, SSD เพิ่มได้ง่ายและมีไฟ LED Backlit ติดมาให้ มี Thunderbolt 4 แบบ Full Function ต่อหน้าจอแยกและชาร์จแบตเตอรี่ได้ จอมีขอบเขตสีหน้าจอยังกว้างพอใช้ทำงานอาร์ทได้ระดับหนึ่งเลยทีเดียว หากใครสนใจสามารถอ่านรีวิวได้ที่นี่ และเมื่อซื้อกับทางร้าน BaNANA ยังแลกซื้อกระเป๋าเดินทางและได้รับของสมนาคุณพร้อมกันอีกด้วย

ซีพียูในเครื่องเป็น Intel Core i5-12500H แบบ 12 คอร์ 16 เธรด (4P+8E) ความเร็ว 3.3~4.5GHz กับการ์ดจอแยก NVIDIA GeForce RTX 3050 แรม 4GB GDDR6 และจอ 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 165Hz มี M.2 NVMe SSD ความจุ 512GB ติดตั้ง Windows 11 Home มาให้ มีแรมในเครื่อง 8GB DDR4 บัส 3200MHz มีพอร์ต USB-A 3.2 x 2, Thunderbolt 4 x 1, HDMI 2.0 x 1, LAN x 1, Audio combo x 1 เชื่อมต่อ Wi-Fi 6 มาตรฐาน  802.11ax รองรับ Bluetooth 5.2 ได้ น้ำหนักตัวเครื่อง 2.31 กิโลกรัม นับเป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คร้าน BaNANA น่าซื้อที่หน้าตาเรียบร้อยเหมือนโน๊ตบุ๊คทำงานธรรมดาแต่สเปคโดยรวมนับเป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คเต็มตัวได้เลย หากใครมองหาโน๊ตบุ๊คสไตล์นี้อยู่ก็น่าซื้อเครื่องนี้ไปใช้งานมาก

สเปคของ Lenovo IdeaPad Gaming 3i 15IAH7
CPU Intel Core i5-12500H แบบ 12 คอร์ 16 เธรด (4P+8E) ความเร็ว 3.3~4.5GHz
GPU NVIDIA GeForce RTX 3050 แรม 4GB GDDR6
SSD M.2 NVMe SSD 512GB
RAM 8GB DDR4 บัส 3200MHz
Display 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 165Hz
Connectivity USB-A 3.2 x 2, Thunderbolt 4 x 1, HDMI 2.0 x 1, LAN x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 6 มาตรฐาน  802.11ax รองรับ Bluetooth 5.2

Software Windows 11 Home
Weight 2.31 กิโลกรัม
Price 32,990 บาท (คลิ๊กสั่งซื้อได้ที่นี่)
7. Acer Nitro 5 AN515-58-50WD (35,990 บาท)

Acer Notebook Nitro AN515 58 01

 

Acer Nitro 5 AN515-58-50WD เป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คร้าน BaNANA น่าซื้อบอดี้ใหม่ซึ่งทางผู้ผลิตติดตั้งพอร์ต Thunderbolt 4 แบบ Full Function ต่อหน้าจอแยกและชาร์จแบตเตอรี่คืนให้เครื่องได้ หน้าจอมีขอบเขตสีกว้าง 100% sRGB ใช้แต่งภาพทำงานอาร์ทได้สบายๆ และติดตั้งซีพียู Intel 12th Gen รุ่นใหม่ล่าสุดมาให้และยังอัพเกรดเพิ่ม SSD, RAM ได้ด้วย หากใครอยากได้ Nitro 5 เครื่องนี้สามารถใช้โค้ด BNINTBFJ10 เพื่อรับส่วนลด 1,000 บาทได้และยังได้รับของสมนาคุณเพิ่มเติมอีกด้วย หากใครสนใจสามารถอ่านรีวิวฉบับเต็มได้ที่นี่

ซีพียูของ Nitro 5 เป็น Intel Core i5-12500H แบบ 12 คอร์ 16 เธรด (4P+8E) ความเร็ว 3.3~4.5GHz กับการ์ดจอแยก NVIDIA GeForce RTX 3050 Ti แรม 4GB GDDR6 หน้าจอมีขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 165Hz มี M.2 NVMe SSD ความจุ 512GB ติดตั้ง Windows 11 Home มาให้ มีแรม 8GB DDR4 บัส 3200MHz มาให้ รองรับการอัพเกรดเพิ่มเติม ส่วนพอร์ตเชื่อมต่อมี Thunderbolt 4 x 1, USB-A 3.2 x 3, HDMI x 1, LAN x 1, Audio combo x 1 เชื่อมต่อไร้สายได้ด้วย Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.1 น้ำหนัก 2.5 กิโลกรัม ต้องถือว่า Nitro 5 เป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คร้าน BaNANA น่าซื้อและเป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คไม่กี่รุ่นที่มีพอร์ต Thunderbolt 4 ติดตั้งมาให้ใช้จากโรงงาน

สเปคของ Acer Nitro 5 AN515-58-50WD
CPU Intel Core i5-12500H แบบ 12 คอร์ 16 เธรด (4P+8E) ความเร็ว 3.3~4.5GHz
GPU NVIDIA GeForce RTX 3050 Ti แรม 4GB GDDR6
SSD M.2 NVMe SSD 512GB
RAM 8GB DDR4 บัส 3200MHz
Display 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 165Hz
Connectivity Thunderbolt 4 x 1, USB-A 3.2 x 3, HDMI x 1, LAN x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.1

Software Windows 11 Home
Weight 2.5 กิโลกรัม
Price 35,990 บาท ใช้โค้ดส่วนลดได้ 1,000 บาท (คลิ๊กสั่งซื้อได้ที่นี่)
8. Acer Predator Helios 300 PH315-54-90CL (49,990 บาท)

Acer Notebook Predator PH315 01

 

Acer Predator Helios 300 PH315-54-90CL แม้จะตกรุ่นไปบ้างแล้วแต่ก็ยังเป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คร้าน BaNANA น่าซื้ออยู่ดี เพราะนอกจากทางร้านจะลดราคาจากตอนเปิดตัวมา 10,000 บาทแล้ว สเปคยังแรงพอใช้เล่นเกมฟอร์มใหญ่ในปัจจุบันนี้ได้สบายๆ ได้ของสมนาคุณเมื่อสั่งซื้อและยังแลกซื้อกระเป๋าเดินทางได้ด้วย ด้านจุดเด่นนอกจากได้แป้นคีย์บอร์ด Full-size มีไฟ RGB ตั้งสีได้รายปุ่มแล้ว ระบบระบายความร้อนยังออกแบบมาดี มีปุ่ม Turbo สำหรับเร่งประสิทธิภาพให้เฟรมเรทตัวเครื่องสูงขึ้นด้วย

สเปคของเครื่องนี้เป็นซีพียู Intel Core i9-11900H แบบ 8 คอร์ 16 เธรด ความเร็ว 2.5~4.9GHz ใช้การ์ดจอแยก NVIDIA GeForce RTX 3060 แรม 6GB GDDR6 หน้าจอมีขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด QHD (2560×1440) พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 165Hz ขอบเขตสีกว้าง 100% DCI-P3 มี M.2 NVMe SSD ความจุ 1TB ติดตั้ง Windows 11 Home มาให้พร้อมแรม 16GB DDR4 บัส 3200MHz ด้านพอร์ตมี Thunderbolt 4 x 1, USB-C 3.2 Gen 2 x 1, USB-A 3.2 x 3, Mini DisplayPort x 1, HDMI x 1, LAN x 1, Audio combo x 1 เชื่อมต่อไร้สายได้ด้วย Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.1 น้ำหนักตัวเครื่องอยู่ที่ 2.5 กิโลกรัม ต้องถือว่าเป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คร้าน BaNANA น่าซื้อที่แม้จะเปิดตัวมาสักพักและมีรุ่นใหม่แล้ว แต่ราคาจัดว่าคุ้มค่าและยังเล่นเกมฟอร์มยักษ์ ณ ปี 2023 นี้ได้สบายๆ หรือจะเเอามาทำงานครีเอเตอร์ก็ดีไม่แพ้กันเลย

สเปคของ Acer Predator Helios 300 PH315-54-90CL
CPU Intel Core i9-11900H แบบ 8 คอร์ 16 เธรด ความเร็ว 2.5~4.9GHz
GPU NVIDIA GeForce RTX 3060 แรม 6GB GDDR6
SSD M.2 NVMe SSD 1TB
RAM 16GB DDR4 บัส 3200MHz
Display 15.6 นิ้ว ความละเอียด QHD (2560×1440) พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 165Hz ขอบเขตสีกว้าง 100% DCI-P3
Connectivity Thunderbolt 4 x 1, USB-C 3.2 Gen 2 x 1, USB-A 3.2 x 3, Mini DisplayPort x 1, HDMI x 1, LAN x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.1

Software Windows 11 Home
Weight 2.5 กิโลกรัม
Price 49,990 บาท (คลิ๊กสั่งซื้อได้ที่นี่)
9. ASUS ROG Strix SCAR 15 G543ZX-HF058W (99,990 บาท)

4711081612940 01

 

ปิดท้ายด้วยเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คร้าน BaNANA น่าซื้อ สเปคแรงอลังการอย่าง ASUS ROG Strix SCAR 15 G543ZX-HF058W ซึ่งตอนนี้ลดราคาจากตอนเปิดตัวมา 20,000 บาท เหลือ 99,990 บาท ติดตั้งฟีเจอร์น่าใช้มาให้เต็มที่ไม่ว่าจะระบบระบายความร้อนชั้นสูงด้วยโลหะเหลว, หน้าจอค่า Refresh Rate 300Hz หรือแม้แต่ชิป ROG Keystone II ซึ่งมีลูกเล่นปรับโหมดการใช้งานเมื่อใส่เข้าหรือถอดออกก็ได้พร้อมลำโพง Dolby Atmos คุณภาพสูงและยังมีอีกหลายฟีเจอร์ที่ได้กล่าวไว้ในรีวิวรุ่นในซีรี่ส์นี้ด้วย หากใครไม่อยากประกอบเกมมิ่งพีซีให้ลำบากก็ซื้อเครื่องนี้ไปต่อหน้าจอแยกเพื่อทำงานหรือเล่นเกมได้เลย

ซีพียูใน ROG Strix SCAR 15 เป็น Intel Core i9-12900H แบบ 14 คอร์ 20 เธรด (6P+8E) ความเร็ว 3.8~5.0GHz ใช้การ์ดจอ NVIDIA GeForce RTX 3080 Ti แรม 16GB GDDR6 หน้าจอมีขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 300Hz ตอบโจทย์เกมเมอร์มากๆ มี M.2 NVMe SSD ความจุ 1TB ติดตั้ง Windows 11 Home มาให้กับแรมอีก 32GB DDR5 บัส 4800MHz เอาไว้ใช้งาน ด้านพอร์ตมี Thunderbolt 4 Full Function x 1, USB-C 3.2 รองรับ Power Delivery, DisplayPort, NVIDIA G-SYNC x 1, USB-A 3.2 x 2, HDMI 2.1 x 1, LAN x 1, Audio combo x 1 เชื่อมต่อไร้สายด้วย Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.2 น้ำหนักเครื่อง 2.3 กิโลกรัม

สเปคของ ASUS ROG Strix SCAR 15 G543ZX-HF058W
CPU Intel Core i9-12900H แบบ 14 คอร์ 20 เธรด (6P+8E) ความเร็ว 3.8~5.0GHz
GPU NVIDIA GeForce RTX 3080 Ti แรม 16GB GDDR6
SSD M.2 NVMe SSD ความจุ 1TB
RAM 32GB DDR5 บัส 4800MHz
Display 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 300Hz
Connectivity Thunderbolt 4 Full Function x 1, USB-C 3.2 รองรับ Power Delivery, DisplayPort, NVIDIA G-SYNC x 1, USB-A 3.2 x 2, HDMI 2.1 x 1, LAN x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.2

Software Windows 11 Home
Weight 2.3 กิโลกรัม
Price 99,990 บาท (คลิ๊กสั่งซื้อได้ที่นี่)

สรุปสเปค 9 โน๊ตบุ๊คร้าน BaNANA น่าซื้อ รวมทั้งสายเกมมิ่งและทำงานครบเครื่อง

รวมสเปคโน๊ตบุ๊คร้าน BaNANA น่าซื้อ CPU

GPU

SSD

RAM

Software

Display

Weight

Connectivity ราคา
(บาท)
Lenovo IdeaPad L3 15ITL6-82HL00GFTA Intel Core
i3-1115G4

Intel Iris Xe Graphics

M.2 NVMe
256GB

4GB DDR4
2933MHz

Windows 11 Home

15.6″ HD IPS

2.2 กก.

USB-C 3.2 x 1

USB-A 3.2 x 1

HDMI x 1

LAN x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 5

Bluetooth 5.0

12,990
 Acer Aspire Vero AV15-52JY Intel Core
i5-1155G7

Intel Iris Xe Graphics

M.2 NVMe
512GB

8GB DDR4
3200MHz

Windows 11 Home

Microsoft Office Home & Student 2021

15.6″ FHD IPS

1.8 กก.

USB 2.0 x 1

USB-A 3.0 x 2

USB-C 3.0 x 1

HDMI x 1

LAN x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6

Bluetooth 5.1

23,990

ลดได้ 4,000

Hp 15s-fq5083TU Intel Core
i7-1260P

Intel Iris Xe Graphics

M.2 NVMe
512GB

16GB DDR4
3200MHz

Windows 11 Home

15.6″ FHD IPS

1.69 กก.

USB-C 3.1 x 1

USB-A 3.1 x 2

HDMI x 1

SD Card Reader x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 5

Bluetooth 5.0

26,990
ASUS Vivobook S 14X OLED S5402ZA Intel Core
i5-12500H

Intel Iris Xe Graphics

M.2 NVMe
512GB

16GB DDR4
3200MHz

Windows 11 Home

Microsoft Office Home & Student 2021

14.5″ 2.8K
(2880×1800)
OLED HDR

100% DCI-P3

Refresh Rate
120Hz

1.63 กก.

Thunderbolt 4 x 2

USB-A 3.2 x 2

USB 2.0 x 1

HDMI 2.0 x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6E

Bluetooth 5.2

30,990 
ลดได้ 1,000
MSI GF66 Katana 12UCO-637TH Intel Core
i7-12650H

NVIDIA GeForce RTX 3050

M.2 NVMe
512GB

8GB DDR5
4800MHz

Windows 11 Home

15.6″ FHD IPS

Refresh Rate
144Hz

2.25 กก.

USB 2.0 x 1

USB-A 3.2 x 2

USB-C 3.2 x 1

HDMI x 1

LAN x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6

Bluetooth 5.2

31,990
Lenovo IdeaPad Gaming 3i 15IAH7 Intel Core
i5-12500H

NVIDIA GeForce RTX 3050

M.2 NVMe
512GB

8GB DDR4
3200MHz

Windows 11 Home

15.6″ FHD IPS

Refresh Rate
165Hz

2.31 กก.

USB-A 3.2 x 2

Thunderbolt 4 x 1

HDMI 2.0 x 1

LAN x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6

Bluetooth 5.2

32,990
Acer Nitro 5 AN515-58-50WD Intel Core
i5-12500H

NVIDIA GeForce RTX 3050 Ti

M.2 NVMe
512GB

8GB DDR4
3200MHz

Windows 11 Home

15.6″ FHD IPS

Refresh Rate
165Hz

2.5 กก.

Thunderbolt 4 x 1

USB-A 3.2 x 3

HDMI x 1

LAN x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6

Bluetooth 5.1

35,990

ลดได้ 1,000

Acer Predator Helios 300 PH315-54-90CL Intel Core
i9-11900H

NVIDIA GeForce RTX 3060

M.2 NVMe
1TB

16GB DDR4
3200MHz

Windows 11 Home

15.6″ QHD
(2560×1440)
IPS

Refresh Rate
165Hz

100% DCI-P3

2.5 กก.

Thunderbolt 4 x 1

USB-C 3.2 Gen 2 x 1

USB-A 3.2 x 3

Mini DisplayPort x 1

HDMI x 1

LAN x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6

Bluetooth 5.1

49,990
ASUS ROG Strix SCAR 15 G543ZX-HF058W Intel Core
i9-12900H

NVIDIA GeForce RTX 3080 Ti

M.2 NVMe
1TB

32GB DDR5
4800MHz

Windows 11 Home

15.6″ FHD IPS

Refresh Rate
300Hz

2.3 กก.

Thunderbolt 4 Full Function x 1

USB-C 3.2 รองรับ Power Delivery, DisplayPort, NVIDIA G-SYNC x 1

USB-A 3.2 x 2

HDMI 2.1 x 1

LAN x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6E

Bluetooth 5.2

99,990

vinayak sharma AWSHg2mK Ho unsplash 1

ต้องถือว่าทาง BaNANA นั้นจัดโปรโมชั่นส่งเสริมการขายเพื่อผู้ใช้ที่อยากเปลี่ยนโน๊ตบุ๊คได้อย่างน่าสนใจ มีทั้งโค้ดส่วนลดและแลกซื้อสินค้าต่างๆ เพิ่มได้อีกมาก ซึ่งถ้าใครมีแผนเปลี่ยนโน๊ตบุ๊ค ผู้เขียนก็อยากแนะนำให้ซื้อในงานอีเว้นท์ลดราคาครั้งนี้ได้เลย และนอกจาก 9 รุ่นในบทความนี้ก็ยังมีรุ่นน่าสนใจให้เลือกซื้ออีกหลากหลายรุ่นทีเดียว หากใครสนใจผู้เขียนก็แนะนำให้เปิดดูที่ลิ้งค์นี้แล้วสั่งซื้อรุ่นที่ต้องการได้เลย


บทความที่เกี่ยวข้อง

Share image Edit Name 3vero 1

Share image Edit Name 1katanagf66gen12

Share image Edit Name 2predatorhelios 1

from:https://notebookspec.com/web/682826-9-recommend-laptop-from-banana-it

ASUS ยกโขยงโน้ตบุ๊คสายเกม ROG Strix / Flow / Zephyrus มาพร้อมการ์ดจอโหดซีรีส์ RTX 4000

งาน CES 2023 คราวนี้ ค่าย ASUS ก็ยังคงจัดหนักจัดเต็มเช่นเคย ด้วยการขนเอาโน้ตบุ๊คสายเกมสเปคแรงทั้งซีรีส์ ROG Strix / Flow / Zephyrus เกือบ 10 รุ่น มาเปิดตัวกัน ซึ่งแต่ละรุ่นก็เรียกว่าโหด ๆ กันทั้งนั้น เพราะมากับการ์ดจอรุ่นใหม่อย่าง RTX 4000 Series ด้วยนั่นเอง

ROG Strix SCAR Series

สำหรับซีรีส์ ROG Strix SCAR ที่ขนมาทั้งหมด 3 รุ่น แบ่งตามขนาดหน้าจอตั้งแต่ ROG Strix SCAR 16 / ROG Strix SCAR 17 / ROG Strix SCAR 18 โดยรุ่น 16 และ 18 จะมากับชิปสูงสุดคือ 13th Gen Intel Core i9-13980HX ส่วนรุ่น 17 นิ้ว จะใช้ AMD Ryzen 9 Zen 4

ROG Strix SCAR ทุกรุ่นจะได้หน้าจอรีเฟรชเรทสูงสุด 240Hz, GPU NVIDIA GeForce RTX 40 series เพิ่มประสิทธิภาพให้กับการเล่นเกมได้แบบลื่นปรื๊ด ๆ แต่ยังสามารถควบคุมอุณหภูมิไว้ได้เป็นอย่างดีด้วยเทคโนโลยี Conductonaut extreme liquid metal, พัดลมระบายอากาศ Tri-Fan, ช่องระบายอากาศรอบตัว และระบบ Intelligent cooling เข้ามาช่วยด้วยอีกแรง

ฟีเจอร์อื่น ๆ ก็มีทั้งระบบเสียง Dolby Atmos, แบตเตอรี่ 64 / 90Wh, ชาร์จผ่านพอร์ต USB-C 100W, รองรับ WiFi 6E, รองรับการแสดงผลแบบ Dolby Vision, HDR, NVIDIA G-SYNC นอกจากนี้รุ่น 16 นิ้ว ยังพิเศษกว่าด้วยหน้าจอแบบ Mini LED QHD 240 Hz Nebula HDR Display อีกด้วย

 

ROG Zephyrus series

ต่อด้วยซีรีส์ Zephyrus อีก 3 รุ่น นำโดย ROG Zephyrus G14 โน้ตบุ๊คสเปคดุดันที่มากับหน้าจอขนาด 14 นิ้ว มีสเปคให้เลือกสูงสุดแบบ ROG Nebula HDR Mini LED QHD 165Hz Pantone อัตราส่วน 16:10 หรือจะเอาต่ำลงมาหน่อยก็มี FHD 144Hz ให้เลือกด้วย ส่วนสเปคอื่น ๆ ก็มีทั้ง AMD Ryzen 9 Zen 4, NVIDIA GeForce RTX 4000 Series (125W)

ROG Zephyrus G16 หน้าจอ ROG Nebula Display, 13th Gen Intel Core i9-13900H, NVIDIA GeForceRTX 4000 Series (120W), แบตเตอรี่ 90Wh, พอร์ต Thunderbolt 4

และอีกรุ่นคือ ROG Zephyrus M16 ได้หน้าจอสเปคสูงสุดแบบ QHD Mini LED 240Hz, 13th Gen Intel Core i9-13900H, NVIDIA GeForce RTX 4000 Series (145W) แบตเตอรี่ 90Wh, พอร์ต Thunderbolt 4

นอกจากนี้ ROG Zephyrus ทุกรุ่นจะได้ลำโพงระบบเสียง Dolby Atmos, รองรับการชาร์จผ่านพอร์ต USB-C 100W (PD) และรองรับ WiFi 6E ด้วย

 

ROG Flow

ROG Flow X13 โน้ตบุ๊คสายเกมที่สามารถพับจอไปด้านหลังเพื่อวางใช้ในรูปแบบต่าง ๆ ได้ สำหรับหน้าจอเป็น Nebula display ขนาด 13 นิ้ว มีความละเอียดให้เลือกระหว่าง QHD 165Hz หรือ FHD 120Hz รองรับการแสดงผล Dolby Vision ครอบด้วย Gorilla Glass DXC มากับสเปคแรงเหลือเฟือ AMD Ryzen 9 Zen 4, GPU สูงสุด NVIDIA GeForce RTX 4000 Series, แบตเตอรี่ 75Wh รองรับการชาร์จผ่าน USB-C 100W และ 130W ผ่านอแดปเตอร์

ROG Flow X16 ก็มากับหน้าจอที่สามารถพับไปด้านหลังได้เช่นกัน แต่พิเศษกว่าเพราะรองรับการใช้งานกับปากกาสไตลัสได้ แถมยังเป็นจอแบบ Nebula HDR 1100 nits mini LED ความละเอียด QHD รีเฟรชเรท 240Hz รองรับ Dolby Vision HDR, Pantone Validated อีกต่างหาก ส่วนสเปคก็แรงไม่แพ้ใครเพราะได้ 13th Gen Intel Core i9-13900H พร้อม NVIDIA GeForce RTX 4000 Series

ROG Flow Z13 แท็บเล็ต Windows สายเกม เหมาะสุด ๆ สำหรับพกพาไปไหนต่อไหนได้ง่าย ๆ ด้วยน้ำหนักที่เบาเพียง 1.1 กก. (ตอนถอดคีย์บอร์ด) แต่สเปคอัดแน่น ทั้งหน้าจอสัมผัสขนาด 13 นิ้ว Nebula Display ความละเอียด QHD รีเฟรชเรท 165Hz ครอบด้วย Gorilla Glass DXC, 13th Gen Intel Core i9-13900H, NVIDIA GeForce RTX 4000 Series, พอร์ต Thunderbolt 4 ,ระบบเสียง Dolby Atmos และรองรับชาร์จ 130W ผ่าน USB-C

เรียกว่าปีนี้เกมเมอร์สายโน้ตบุ๊คได้มีตัวเลือกกันแบบหนำใจสุด ๆ ไปเลย แถมยังมากับการ์ดจอตัวแรงล่าสุด RTX 4000 Series อีกต่างหาก…เตรียมทุบกระปุกหมูรอเข้าไทยกันได้เลยจ้า

 

ที่มา : ASUS

from:https://droidsans.com/asus-rog-strix-flow-zephyrus-series-unveiled-ces-2023/

แนะนำ Intel 13th Gen ซีพียูรุ่นใหม่ เร็ว แรง รักโลก ได้ 24 คอร์เยอะจุใจ!! งานใหญ่ไม่กลัว งานเล็กก็ไหลลื่น

Intel 13th Gen ได้รับการพัฒนาใหม่อย่างเต็มที่ Intel Thread Director ทำงานได้เยี่ยมขึ้น

Share image Edit Name 2intel132 1

ซีพียูของทาง Intel ปัจจุบันนี้ได้พัฒนามาจนถึง Intel 13th Gen ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรม Hybrid Core รุ่นพัฒนาต่อจาก Intel 12th Gen สถาปัตยกรรม Alder Lake ซีพียูรุ่นใหม่นี้ได้รับการปรับปรุงหลายอย่างไม่ว่าจะ Intel Thread Director ที่จัดการงานได้ต่อเนื่องชาญฉลาด, เพิ่มจำนวน E-Core ช่วยให้ประหยัดพลังงานยิ่งขึ้น เมื่อรวมกับ P-Core แล้วก็มีคอร์เธรดให้ใช้งานมหาศาลทีเดียว

Advertisementavw

เมื่อชิ้นส่วนฮาร์ดแวร์ถูกพัฒนาให้ดีขึ้น ก็ทำให้ประสบการณ์ใช้งานดีขึ้นมากจนรู้สึกได้ ไม่ว่าจะทำงานครีเอเตอร์หรือเล่นเกม ซีพียู Intel รุ่นใหม่นี้ก็ทำงานได้ดี เสถียร ให้เจ้าของผู้เลือกใช้ซีพียู Intel สร้างผลงานใหม่ได้อย่างเต็มที่

Intel 13th Gen

Intel 13th Gen ต่อยอดความสำเร็จของ Intel 12th Gen เสริมฟีเจอร์ใหม่และ Intel Thread Director ที่ชาญฉลาดขึ้น

17336515535576 Medium e1671682426646

จุดแข็งใหม่ที่ Intel 13th Gen ได้รับการพัฒนาให้ดีกว่า Intel 12th Gen มีหลายรายการ โดยสถาปัตยกรรมแบบ Hybrid Core นี้มี P-Core สำหรับทำงานหลักและ E-Core สำหรับทำงานรองและเน้นการประหยัดพลังงานเป็นหลักและมี Intel Thread Director รุ่นปรับปรุงใหม่ให้ทำงานได้ดียิ่งขึ้น จัดการคอร์ให้เข้ากับงานยิ่งกว่า Intel 12th Gen ที่ผ่านมา เกมเมอร์และครีเอเตอร์จึงทำสิ่งที่ต้องการได้โดยไม่มีสะดุด

ข้อดีถัดมาคือ ทาง Intel เพิ่ม E-Core เข้ามาเป็น 2 เท่า เริ่มจาก Intel Core i5 ขึ้นไป ช่วยให้ประหยัดพลังงานและเสริมประสิทธิภาพให้ดีขึ้น โดยการใช้งานแบบ Single-Thread ทำงานได้ดีและฉลาดกว่าเดิม 15% ส่วน Multi-Thread ดีกว่าเดิม 41% ทีเดียว ส่วนการจัดการพลังงานก็ทำได้ดีกว่า Intel 12th Gen ถึง 4 เท่า

17336516245303 Medium e1671682443679

ยิ่งไปกว่านั้น Intel 13th Gen ยังมีคอร์เธรดให้ใช้งานมากสุด 24 คอร์ 32 เธรด เร่งความเร็วได้สูงสุด 5.8GHz โดยมีให้เลือก 2 รุ่นสำหรับเดสก์ท็อปพีซี ได้แก่รหัส Intel Core i9-13900K มี 24 คอร์ 32 เธรด แยกเป็น 8 P-Core และ 16 E-Core มีความเร็ว 3.0~5.8GHz ค่า TDP 125 วัตต์ ติดตั้งกราฟิคการ์ดออนบอร์ดรุ่น Intel UHD Graphics 770 มาให้ใช้งานด้วย แต่ถ้าใครต้องการคอร์ซีพียูอย่างเดียว ก็มี Intel Core i9-13900KF ให้เลือก ซึ่งรุ่นไม่มีการ์ดจอติดตั้งมาให้ คอร์ใช้งานจะทรงพลังยิ่งขึ้น

หากผู้ใช้คนไหนชื่นชอบการรีดประสิทธิภาพของซีพียูให้ไปถึงขีดสุด ทาง Intel ก็มีซอฟท์แวร์ Intel Extreme Tuning Utility, Intel Speed Optimizer เสริมเข้ามาให้เจ้าของซีพียูสามารถโอเวอร์คล็อกเพิ่มประสิทธิภาพของซีพียูให้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ผู้ใช้ยังรีดประสิทธิภาพของแรมให้สูงขึ้นด้วยเทคโนโลยี Extreme Memory Profile 3.0 (XMP) ให้รีดพลังของแรม DDR4, DDR5 ให้ทำงานได้ดีกว่าเดิมโดยกดเพียงคลิ๊กเดียวเท่านั้น

เชิงเทคนิคแล้ว Intel Raptor Lake เพิ่ม L2, L3 Cache Memory ให้เยอะขึ้น ช่วยให้ซีพียูมีหน่วยความจำภายในให้ดึงใช้งานเยอะขึ้น เวลาโปรแกรมไหนเรียกใช้ก็เรียกใช้งานได้รวดเร็วทันใจ นอกจากนี้ทางบริษัทยังอัพเกรดเพิ่มเลน PCIe 4.0 ให้มากขึ้นเป็น 20 เลน (PCIe 4.0 x20) และเสริม PCIe 5.0 รุ่นใหม่เข้ามาอีก 16 เลน (PCIe 5.0 x16) ให้ทันสมัย รองรับอุปกรณ์เชื่อมต่อรุ่นใหม่ๆ ให้รับส่งข้อมูลได้เร็วยิ่งขึ้น ดังนั้น Intel 13th Gen นั้นไม่ใช่แค่เปลี่ยนตัวเลขอย่างเดียว แต่ได้ฟีเจอร์ล้ำสมัยเสริมเข้ามาอีกมากมาย

ทดลองใช้ Intel 13th Gen ใช้งานจริง เร็วลื่นไหลไม่มีปัญหา ตอบโจทย์ผู้ใช้ทุกคนแน่นอน!

Intel Gen 13 DSC00211 1

จากที่นำ Intel 13th Gen อย่าง Intel Core i5-13600K ที่ได้รับมาทดสอบไปใช้งานจริงทั้งทำงานและใช้เพื่อความบันเทิง โดยผู้เขียนได้ทดลองเปิดเบราเซอร์ทำงาน, เปิดดู Timeline ของคลิปในโปรแกรม Premier Pro, ดูหนังและนั่งพูดคุยกับเพื่อนในห้อง Discord ไปพร้อมกันก็ทำได้ลื่นไหลมาก เพราะจำนวนคอร์ในตัวซีพียู Intel Raptor Lake มีให้ใช้เยอะและ Intel Thread Director จัดการงานได้อย่างเหมาะสม ทำให้ P-Core เข้ามาจัดการกับโปรแกรมใหญ่อย่าง Premier Pro แล้วงานเล็กอย่างการติดต่อสื่อสารทำได้ดีต่อเนื่องมาก เมื่อจับคู่กับชิ้นส่วนคอมจากบริษัทชั้นนำอย่าง ASUS ด้วยก็ช่วยให้ซีพียูนี้รีดประสิทธิภาพของมันออกมาได้อย่างเต็มที่

Intel Gen 13 DSC00226 blured

ฟีเจอร์ใน Intel 13th Gen ที่ออกแบบมาเพื่อใช้ทำงานตัดต่อและวิดีโออย่าง Intel Quick Sync Video นั้น เป็นชุดคำสั่ง Media Processing ในกราฟิคการ์ด intel Graphics ให้เข้ารหัสวิดีโอได้รวดเร็วและตอน Preview คลิปจะสามารถเล่นภาพได้ไหลลื่นรวดเร็ว ซึ่งโปรแกรมชั้นนำที่รองรับฟีเจอร์นี้แล้ว ได้แก่ Adobe Premier Pro, DaVinci Resolve, Magix Vegas Pro, Handbrake, VLC Media Player ฯลฯ ซึ่งถ้าใครใช้โปรแกรมเหล่านี้อยู่ก็ได้ใช้ฟีเจอร์ดังกล่าวอย่างเต็มที่

จากในภาพ จะเห็นว่าแค่ Intel Core i5-13600K ก็ได้จำนวนคอร์มาถึง 14 คอร์ 20 เธรดแล้ว และเมื่อได้ Intel Thread Director มาช่วยจัดการโอนถ่ายโปรแกรมข้ามไปมาระหว่าง P-Core และ E-Core ได้เป็นอย่างดี สามารถรันโปรแกรมเล็กใหญ่หลายโปรแกรมได้พร้อมกันแบบไม่มีอาการหน่วงช้าเลย ต้องถือว่าซีพียู Intel 13th Gen และระบบ Intel Thread Director สามารถรันงานได้เป็นอย่างดี ตอบสนองรวดเร็วทันใจมาก จัดว่าดีกว่า Intel รุ่นก่อนหน้าอย่างชัดเจน

ด้านการเปิด Preview คลิปในโปรแกรม Adobe Premier Pro เมื่อเปิด Intel Quick Sync Video แล้วให้ตัวโปรแกรมรันคลิปเพื่อดูตัวอย่างจนจบแล้ว ภาพที่ได้มีความต่อเนื่องเหมือนดูคลิปตัวอย่างที่เรนเดอร์จนเสร็จพร้อมอัพโหลดจริง ดังนั้นครีเอเตอร์ที่ต้องทำงานตัดต่อคลิปต่างๆ ก็สามารถทำงานได้เป็นอย่างดี ยิ่งใครเน้นตัดต่อคลิป Highliight ของเกมหรือถ่าย Vlog เป็นหลักก็เริ่มต้นแค่ Intel Core i5-13600K ก็ทำงานได้ดีมากแล้ว

Intel Gen 13 DSC00223

วิธีการเปิดใช้ฟีเจอร์ Intel Quick Sync Video ต้องเริ่มเปิดใน BIOS โดยเข้าหัวข้อ iGPU ซึ่งอยู่ในหมวด Advance > iGPU Multi Monitor แล้วเลือก Enable และ Primary Graphics ให้เลือก UHD หรือ Int.Graphics แล้วกด F10 เพื่อ Save&Exit ก็ใช้งาน Intel Quick Sync Video ทำงานได้เลย หากให้ง่ายกว่านั้นแนะนำให้ใช้คำสั่ง Search ในระบบ BIOS แล้วเปิดตั้งค่าจะง่ายกว่ามาก

Intel Gen 13 DSC00228

เมื่อเล่นเกม Cyberpunk 2077 แบบปรับกราฟิคสูงสุดทั้งหมดบนหน้าจอความละเอียด QHD และเปิดโปรแกรมต่างๆ เอาไว้ ได้แก่ Discord, Microsoft Edge ฯลฯ ซีพียู Intel Core i5-13600K ก็เล่นได้อย่างลื่นไหลและซีพียูทำงานสูงสุดราว 48~52% เท่านั้น ไม่มีอาการเฟรมเรทตกหรือกระตุกแม้แต่นิดเดียว สังเกตได้จาก Frametime ลื่นไหลต่อเนื่อง ต้องถือว่าตัวซีพียูนั้นสามารถทำงานได้เป็นอย่างดี หากใครต้องการประกอบเกมมิ่งพีซีไว้เล่นเกมสักเครื่องแล้วอยากได้ซีพียู Intel 13th Gen ก็ซื้อแค่ Intel Core i5-13600K ไปใช้ก็เล่นได้ลื่นเหลือเฟือแล้ว

17336516265967 Medium e1671703324490

หากผู้ใช้คนไหนคิดจะหาซื้อโน๊ตบุ๊คซีพียู Intel 13th Gen หรือประกอบเกมมิ่งพีซีด้วยซีพียูนี้แล้วกำลังตัดสินใจอยู่ว่าจะซื้อซีพียูรุ่นไหนมาใช้งานดีถึงจะตอบโจทย์รูปแบบการใช้งานของตัวเองล่ะก็ ผู้เขียนขอแยกกลุ่มตามรุ่นซีพียูดังนี้

  • Intel Core i9 – มี Intel Core i9-13900K แบบ 24 คอร์ 32 เธรด (8P+16E) ความเร็วสูงสุด 5.8GHz ให้เลือกซื้อ เป็นรุ่นสูงสุดในปัจจุบัน พร้อมใช้ทำงานได้ทุกรูปแบบตั้งแต่ทำงาน, เปิดดูความบันเทิง, เล่นเกมหรือเอาไว้ทำงานหนัก รัน Simulation ทางการแพทย์และฟิสิกส์ได้ดีมาก มีค่า TDP 125 วัตต์ แต่มี E-Core ให้เป็น 2 เท่าของ P-Core เพื่อรองรับงานต่างๆ ได้มากยิ่งขึ้นและลดการใช้พลังงานไฟฟ้าลงไประดับหนึ่งด้วย
  • Intel Core i7 – มี Intel Core i7-13700K แบบ 16 คอร์ 24 เธรด (8P+8E) ความเร็วสูงสุด 5.4GHz ให้เลือกซื้อ เพิ่มจำนวน P-Core เข้ามาอีก 2 คอร์ ให้ใช้ทำงานกราฟิค, โมเดล 3D และรัน Simulation ด้านแพทย์หรือฟิสิกส์ได้ดี จับคู่กับการ์ดจอเกมมิ่งหรือสายทำงานอย่าง Quadro ก็ได้ ถ้าเป็นเกมเมอร์จะซื้อเอาไว้เล่นเกม Livestream และตัดต่อคลิปก็เป็นตัวเลือกที่ดี มีค่า TDP 125 วัตต์
  • Intel Core i5 – มี Intel Core i5-13600K แบบ 14 คอร์ 20 เธรด (6P+8E) ความเร็วสูงสุด 5.1GHz ให้เลือกซื้อ จำนวนคอร์เธรดและความเร็วสูงพอใช้ทำงานต่างๆ ในชีวิตประจำวันและเล่นเกมได้สบายๆ สามารถจับคู่กับการ์ดจอแยกได้ทุกรุ่น มีค่า TDP 125 วัตต์

17336516265967 Medium e1671703324490โดยสรุปแล้ว Intel 13th Gen เป็นซีพียูรุ่นใหม่ประสิทธิภาพสูงมากและระบบ Intel Thread Director ก็จัดสรรงานต่างๆ ไปยัง P-Core และ E-Core ได้อย่างชาญฉลาด แค่ Intel Core i5-13600K ก็ทรงพลังพอรับมือโปรแกรมใหญ่ต่างๆ ได้เป็นอย่างดี แถมโปรแกรมเบื้องหลังก็ยังทำงานได้อย่างต่อเนื่อง ไม่มีอาการหน่วงช้าให้เห็นเลย ดังนั้นถ้าใครอยากได้ประกอบพีซีหรือหาโน๊ตบุ๊คเครื่องใหม่มาใช้งานก็แนะนำให้ดูซีพียู Intel รุ่นใหม่นี้ได้เลย มั่นใจว่านี่คือซีพียูที่ดีที่สุด ณ ตอนนี้อย่างแน่นอน 

from:https://notebookspec.com/web/680294-introduce-new-intel-13th-gen

10 เกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค COMMART GAME ON ทั้ง AMD, Intel รวมตัวคุ้มไปจนตัวแรงจัดหนัก ถูกใจรุ่นไหนซื้อได้เลยโดนใจแน่นอน

รวมเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค COMMART GAME ON ตัวเด็ด คิดไม่ออกซื้อรุ่นไหน ดูงบในกระเป๋าแล้วซื้อตามได้เลย

Share image Edit Name 1commart 1

งานอีเว้นท์อย่าง COMMART เป็นงานที่ผู้ใช้หลายๆ คนมาเลือกซื้ออุปกรณ์คอมพิวเตอร์ ไม่ว่าจะเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค COMMART GAME ON ก็มีให้เลือกซื้อ และแม้ผู้ใช้ส่วนใหญ่จะเห็นว่ารอซื้อช่วงแฟลชเซลส์บนเว็บไซต์ขายสินค้าออนไลน์ชั้นนำเจ้าต่างๆ จะได้ราคาถูกจนไม่ต้องไปงานก็ได้ แต่เสน่ห์ของงาน COMMART ที่แพลตฟอร์มออนไลน์ไม่มีให้ คือ ผู้ใช้ได้จับโน๊ตบุ๊คเครื่องจริงว่ารูปลักษณ์ของเครื่องถูกใจหรือไม่ ถ้าถูกใจก็สั่งซื้อและฝากทางร้านอัพเกรดเพิ่มแรมหรือ SSD ได้ทันที และหากเปิดเช็คแล้วมีปัญหาก็ขอเปลี่ยนเครื่องได้ทันที ไม่ต้องรอเคลมผ่านระบบออนไลน์ให้วุ่นวายเลย ได้ความทันใจและอุ่นใจก่อนจะรับโน๊ตบุ๊คเครื่องใหม่กลับมาใช้งาน

Advertisementavw

นอกจากเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค COMMART GAME ON แล้ว ก็ยังมีเกมมิ่งเกียร์อย่างเมาส์, หูฟัง, เกมมิ่งคีย์บอร์ด ฯลฯ ให้เลือกซื้อแบบครบเครื่อง นอกจากนี้เสน่ห์ของงานอีเว้นท์เช่นนี้ คือ มีสินค้าให้เลือกดูมากมาย บางทีอาจเจออุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่คิดอยากได้แต่หลงลืมไปในงานอีเว้นท์นี้ก็ได้แล้วจะซื้อมาใช้งานหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับตัวผู้ใช้เองได้เลย

เกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค COMMART GAME ON

สรุปสเปคเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค COMMART GAME ON ทั้ง 10 รุ่น อยากเปลี่ยนเครื่องมาดูทางนี้!

 

สเปคเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค COMMART GAME ON CPU

GPU

SSD

RAM

Software

หน้าจอ

น้ำหนัก

การเชื่อมต่อ ราคา
(บาท)
Acer Nitro 5 AN515-45-R2MT AMD Ryzen 5 5600H

NVIDIA GeForce RTX 3050

M.2 NVMe
512GB

8GB DDR4
3200 MHz

Windows 11 Home

15.6″ FHD IPS

Refresh Rate 144Hz

2.2 กก.

USB-A 3.2 x 3

USB-C 3.2 x 1

HDMI x 1

LAN x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6

Bluetooth 5.1

26,900
MSI Bravo 15 B5ED AMD Ryzen 7 5800H

AMD Radeon RX 6500M

M.2 NVMe
512GB

8GB DDR4
3200 MHz

Windows 11 Home

15.6″ FHD IPS

Refresh Rate 144Hz

2.35 กก.

USB 2.0 x 1

USB-A 3.2 x 2

USB-C x 1

HDMI x 1

LAN x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6E

Bluetooth 5.1

29,990
Acer Nitro 5 AN515-58-5026 Intel Core
i5-12500H

NVIDIA GeForce RTX 3060

M.2 NVMe
512GB

16GB DDR4
3200 MHz

Windows 11 Home

15.6″ FHD IPS

Refresh Rate 165Hz

2.5 กก.

Thunderbolt 4 x 1

USB-A 3.2 x 3

HDMI x 1

LAN x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6

Bluetooth 5.1

42,290
DELL G15 Gaming-W566311600ATH AMD Ryzen 7 6800H

NVIDIA GeForce RTX 3050 Ti

M.2 NVMe
512GB

16GB DDR5
4800 MHz

Windows 11 Home

Microsoft Office Home & Student 2021

15.6″ FHD IPS

Refresh Rate 165Hz

2.52 กก.

USB-A 3.2 x 3

USB-C 3.2 x 1

HDMI x 1

LAN x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6

Bluetooth 5.2

46,990
Lenovo Legion 5 15IAH7H Intel Core
i7-12700H

NVIDIA GeForce RTX 3060

M.2 NVMe
512GB

16GB DDR5
4800 MHz

Windows 11 Home

15.6″ FHD IPS

Refresh Rate 165Hz

2.4 กก.

Thunderbolt 4 x 1 รองรับ DisplayPort

USB-C 3.2 Gen 2 x 2 รองรับ DisplayPort ทั้งสองช่อง มี 1 ช่องรองรับ Power Delivery 135 วัตต์

USB-A 3.2 Gen 1 x 1

HDMI 2.1 x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6E

Bluetooth 5.1

56,990
ASUS ROG Zephyrus G14 GA402RJ AMD Ryzen 7 6800HS

AMD Radeon RX 6700S

M.2 NVMe
1TB

16GB DDR5
4800 MHz

Windows 11 Home

Microsoft Office Home&Student 2021

14″ WQXGA
(2560×1600)
IPS

Refresh Rate 120Hz

Dolby Vision HDR

Adaptive-Sync

Pantone Validated

1.72 กก.

USB-A 3.2 Gen 2 x 2

USB-C 3.2 Gen 2 x 1 รองรับ Power Delivery และ DisplayPort

USB-C 3.2 Gen 2 x 1 รองรับ DisplayPort

HDMI 2.0b x 1

MicroSD Card Reader x 1

Audio Combo x 1

Wi-Fi 6E

Bluetooth 5.2

69,990
Gigabyte Aorus 15 XE5 Intel Core
i7-12700H

NVIDIA GeForce RTX 3070 Ti

M.2 NVMe
1TB

16GB DDR5
4800 MHz

Windows 11 Home

15.6″ QHD
(2560×1440)
IPS

Refresh Rate 165Hz

2.4 กก.

USB-A 3.2 x 1

USB-C 3.2 x 2 รองรับ Thunderbolt 4

HDMI x 1

LAN x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6E

Bluetooth 5.2

69,990
Acer Predator Helios 300 Intel Core
i7-12700H

NVIDIA GeForce RTX 3070 Ti

M.2 NVMe
1TB

32GB DDR5
4800 MHz

Windows 11 Home

15.6″ QHD
(2560×1440)
IPS

Refresh Rate 165Hz

NVIDIA
G-SYNC

2.5 กก.

Thunderbolt 4 x 1

USB-A 3.2 x 3

HDMI x 1

MiniDP x 1

LAN x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6E

Bluetooth 5.2

79,900
MSI GE67HX Raider 12UGS Intel Core
i7-12800HX

NVIDIA GeForce RTX 3070 Ti

M.2 NVMe
1TB

16GB DDR5
4800 MHz

Windows 11 Home

15.6″ QHD
(2560×1440)
OLED

Refresh Rate 240Hz

VESA DisplayHDR True Black 600

2.38 กก.

USB-A 3.2 x 3

Thunderbolt 4 x 1

USB-C 3.2 x 1

HDMI x 1

LAN x 1

SD Card Reader x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6E

Bluetooth 5.2

85,400
ASUS ROG Zephyrus M16 Intel Core
i9-12900H

NVIDIA GeForce RTX 3070 Ti

M.2 NVMe
1TB

32GB DDR5
4800 MHz

Windows 11 Home

16″ WQXGA
(2560×1600)
IPS

Refresh Rate 165Hz

100%
DCI-P3

Dolby Vision

Pantone Validated

Adaptive-Sync

Thunderbolt 4 x 1

USB-C 3.2 Gen 2 x 1 รองรับ DisplayPort, Power Delivery และ NVIDIA G-SYNC

USB-A 3.2 Gen 2 x 2

HDMI 2.0b x 1

LAN x 1

MicroSD Card Reader x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6E

Bluetooth 5.2

97,990

10 เกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค COMMART GAME ON รวมตัวแรงน่าซื้อสเปคเวิร์คสุด ณ ตอนนี้ อ่านเสร็จเลือกได้เลย!

เกมเมอร์ที่คิดจะไปอีเว้นท์เพื่อหาซื้อเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค COMMART GAME ON ไว้เล่นเกมสักเครื่อง แต่ยังไม่แน่ใจว่าจะซื้อรุ่นไหนดี ผู้เขียนก็ได้เลือกรุ่นน่าสนใจในระดับราคาต่างๆ ตั้งแต่ไม่เกิน 3 หมื่นบาท, ไม่เกิน 6 หมื่นบาทและไม่จำกัดงบประมาณแต่สเปคแรงเอาอยู่พร้อมเล่นเกมฟอร์มยักษ์ทุกเกมอย่างแน่นอน โดยทั้ง 10 รุ่นมีดังนี้

  1. Acer Nitro 5 AN515-45-R2MT (26,900 บาท)
  2. MSI Bravo 15 B5ED (29,990 บาท)
  3. Acer Nitro 5 AN515-58-5026 (42,290 บาท)
  4. DELL G15 Gaming-W566311600ATH (46,990 บาท)
  5. Lenovo Legion 5 15IAH7H (56,990 บาท)
  6. ASUS ROG Zephyrus G14 GA402RJ (69,990 บาท)
  7. Gigabyte Aorus 15 XE5 (69,990 บาท)
  8. Acer Predator Helios 300 (79,900 บาท)
  9. MSI GE67HX Raider 12UGS (85,400 บาท)
  10. ASUS ROG Zephyrus M16 (97,990 บาท)
1. Acer Nitro 5 AN515-45-R2MT (26,900 บาท)

1nitro5

เกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค COMMART GAME ON เครื่องแรกอย่าง Acer Nitro 5 AN515-45-R2MT แม้จะมีรุ่นใหม่เปิดตัวมาแล้ว แต่ Nitro 5 รุ่นนี้นอกจากสเปคจะยังแรงพร้อมเล่นเกมต่างๆ ในตอนนี้ได้สบายๆ อัพเกรดเพิ่มแรมเป็น 16GB ก็ใช้งานได้ดีมากแล้ว Nitro 5 รุ่นนี้มักถูกจัดโปรโมชั่นลดราคาจนต่ำกว่า 25,000 บาทและอาจจะแถมแรมให้ลูกค้าอีกด้วย ซึ่งมันจะเหมาะกับเกมเมอร์ที่มีงบประมาณไม่เยอะแต่ยังอยากได้เกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค COMMART GAME ON ดีๆ ไว้ใช้สักเครื่อง

ซีพียูเป็น AMD Ryzen 5 5600H แบบ 6 คอร์ 12 เธรด ความเร็ว 3.3-4.2GHz จับคู่การ์ดจอ NVIDIA GeForce RTX 3050 แรม 4GB GDDR6 กับหน้าจอ 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 144Hz มี M.2 NVMe SSD ความจุ 512GB ติดตั้ง Windows 11 Home มาให้ มีแรมในเครื่อง 8GB DDR4 บัส 3200MHz พอร์ตที่ตัวเครื่องได้แก่ USB-A 3.2 x 3, USB-C 3.2 x 1, HDMI x 1, LAN x 1, Audio combo x 1 เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตด้วย Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.1 น้ำหนักเครื่อง 2.2 กิโลกรัม ซึ่งถ้าใครเจอโน๊ตบุ๊คเครื่องนี้จัดโปรฯ ลดราคาต่ำกว่า 25,000 ไม่ว่าจะแถมหรือไม่แถมแรมก็น่าซื้อ

สเปคของ Acer Nitro 5 AN515-45-R2MT
  • CPU : AMD Ryzen 5 5600H แบบ 6 คอร์ 12 เธรด ความเร็ว 3.3-4.2GHz
  • GPU : NVIDIA GeForce RTX 3050 แรม 4GB GDDR6
  • SSD : แบบ M.2 NVMe ความจุ 512GB
  • RAM : 8GB DDR4 บัส 3200 MHz
  • Display : 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 144Hz
  • Ports : USB-A 3.2 x 3, USB-C 3.2 x 1, HDMI x 1, LAN x 1, Audio combo x 1
  • Wireless : Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.1
  • Webcam : 720p HD Camera 
  • Software : Windows 11 Home
  • Weight : 2.2 กิโลกรัม
  • Price : 26,900 บาท (Advice)
2. MSI Bravo 15 B5ED (29,990 บาท)

2msibravo15

เกมเมอร์ที่ชื่นชอบผลิตภัณฑ์ของ AMD ล่ะก็ MSI Bravo 15 B5ED น่าจะเป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค COMMART GAME ON ที่ถูกใจอย่างแน่นอน เพราะโน๊ตบุ๊คนี้ใช้ซีพียู AMD Ryzen กับการ์ดจอ AMD Radeon จับคู่กัน จึงรีดประสิทธิภาพออกมาได้ดีเป็นพิเศษและราคายังไม่เกิน 30,000 บาทอีกด้วย ซึ่งผู้สนใจสามารถสามารถอ่านรีวิวฉบับเต็มได้ที่นี่

รุ่นที่เลือกมาแนะนำสเปคสูงสุดซีพียู AMD Ryzen 7 5800H แบบ 8 คอร์ 16 เธรด ความเร็ว 3.2-4.4GHz ใช้การ์ดจอ AMD Radeon RX 6500M แรม 4GB GDDR6 หน้าจอมีขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 144Hz มี M.2 NVMe SSD ความจุ 512GB ติดตั้ง Windows 11 Home มาให้ มีแรม 8GB DDR4 บัส 3200MHz มีพอร์ต USB 2.0 x 1, USB-A 3.2 x 2, USB-C x 1, HDMI x 1, LAN x 1, Audio combo x 1 เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตด้วย Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.1 ในตัว มีน้ำหนัก 2.35 กิโลกรัม หากใครสนใจเครื่องนี้นอกจากจะมองหาร้านที่มีส่วนลดหรือมีโปรโมชั่นแถมแรมเป็น 16GB ไปเลย รับรองว่ามันจะใช้งานได้ดีมากแน่นอน

สเปคของ MSI Bravo 15 B5ED
  • CPU : AMD Ryzen 7 5800H แบบ 8 คอร์ 16 เธรด ความเร็ว 3.2-4.4GHz
  • GPU : AMD Radeon RX 6500M แรม 4GB GDDR6
  • SSD : แบบ M.2 NVMe ความจุ 512GB
  • RAM : 8GB DDR4 บัส 3200 MHz
  • Display : 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 144Hz
  • Ports : USB 2.0 x 1, USB-A 3.2 x 2, USB-C x 1, HDMI x 1, LAN x 1, Audio combo x 1
  • Wireless : Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.1
  • Webcam : 720p HD Camera 
  • Software : Windows 11 Home
  • Weight : 2.35 กิโลกรัม
  • Price : 29,900 บาท (ราคากลาง)
3. Acer Nitro 5 AN515-58-5026 (42,290 บาท)

3nitro5

หากผู้ใช้คนไหนตั้งใจจะซื้อ Acer Nitro 5 รุ่นใหม่ในงาน COMMART GAME ON ครั้งนี้ Acer Nitro 5 AN515-58-5026 รหัสนี้เป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค COMMART GAME ON รุ่นที่น่าสนใจเป็นพิเศษ เพราะมีพอร์ต Thunderbolt 4 Full Function, คีย์บอร์ด 4-Zone RGB และยังเพิ่ม SSD กับแรมได้ด้วย หากใครสนใจสามารถอ่านรีวิวฉบับเต็มได้ที่นี่

สเปคแนะนำเป็นซีพียู Intel Core i5-12500H แบบ 12 คอร์ 16 เธรด ความเร็ว 3.3-4.5GHz ใช้การ์ดจอแยก NVIDIA GeForce RTX 3060 แรม 6GB GDDR6 กับหน้าจอขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 165Hz มาให้ มี M.2 NVMe SSD ความจุ 512GB ติดตั้ง Windows 11 Home กับแรม 16GB DDR4 บัส 3200MHz มีพอร์ต Thunderbolt 4 x 1, USB-A 3.2 x 3, HDMI x 1, LAN x 1, Audio combo x 1 เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตด้วย Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.1 และน้ำหนักเครื่อง 2.5 กิโลกรัม ซึ่งเครื่องนี้จะเหมาะกับคนที่เน้นเล่นเกมโดยเฉพาะทว่าถ้าใครอยากเอาไว้ใช้ทำงาน 3D CG ด้วย จะมีรุ่นที่ติดตั้ง Intel Core i7-12700H ราคา 46,090 บาทให้เลือกด้วย

สเปคของ Acer Nitro 5 AN515-58-5026
  • CPU : Intel Core i5-12500H แบบ 12 คอร์ 16 เธรด ความเร็ว 3.3-4.5GHz
  • GPU : NVIDIA GeForce RTX 3060 แรม 6GB GDDR6
  • SSD : แบบ M.2 NVMe ความจุ 512GB
  • RAM : 16GB DDR4 บัส 3200 MHz
  • Display : 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 165Hz
  • Ports : Thunderbolt 4 x 1, USB-A 3.2 x 3, HDMI x 1, LAN x 1, Audio combo x 1
  • Wireless : Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.1
  • Webcam : 720p HD Camera 
  • Software : Windows 11 Home
  • Weight : 2.5 กิโลกรัม
  • Price : 42,290 บาท (Advice)
4. DELL G15 Gaming-W566311600ATH (46,990 บาท)

4dellg15

DELL G15 Gaming-W566311600ATH เป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค COMMART GAME ON ที่น่าสนใจไม่ใช่แค่สเปคที่ได้ AMD Ryzen 6000 Series และไฟ LED Backlit บนคีย์บอร์ด Full-size อย่างเดียว เพราะมันมี Microsoft Office Home & Student 2021 ติดตั้งมาด้วย จึงไม่ต้องเสียเงินซื้อโปรแกรมเพิ่มเลยก็ได้

ซีพียูในเครื่องเป็น AMD Ryzen 7 6800H แบบ 8 คอร์ 16 เธรด ความเร็ว 3.2-4.7GHz มีการ์ดจอแยก NVIDIA GeForce RTX 3050 Ti แรม 4GB GDDR6 ติดตั้งมาให้ หน้าจอมีขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 165Hz มี M.2 NVMe SSD ความจุ 512GB ติดตั้ง Windows 11 Home กับ Microsoft Office Home & Student 2021 มาพร้อมแรม 16GB DDR5 บัส 4800MHz รองรับการอัพเกรดเพิ่มเป็น 32GB DDR5 มีพอร์ต USB-A 3.2 x 3, USB-C 3.2 x 1, HDMI x 1, LAN x 1, Audio combo x 1 เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตด้วย Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.2 น้ำหนักเครื่อง 2.52 กิโลกรัม นับเป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค COMMART GAME ON เพื่อเกมเมอร์ที่ทำงานแล้วอย่างแน่นอน

สเปคของ DELL G15 Gaming-W566311600ATH
  • CPU : AMD Ryzen 7 6800H แบบ 8 คอร์ 16 เธรด ความเร็ว 3.2-4.7GHz
  • GPU : NVIDIA GeForce RTX 3050 Ti แรม 4GB GDDR6
  • SSD : แบบ M.2 NVMe ความจุ 512GB
  • RAM : 16GB DDR5 บัส 4800MHz
  • Display : 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 165Hz
  • Ports : USB-A 3.2 x 3, USB-C 3.2 x 1, HDMI x 1, LAN x 1, Audio combo x 1
  • Wireless : Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.2
  • Webcam : 720p HD Camera 
  • Software : Windows 11 Home, Microsoft Office Home & Student 2021
  • Weight : 2.52 กิโลกรัม
  • Price : 46,290 บาท (ราคากลาง)
5. Lenovo Legion 5 15IAH7H (56,990 บาท)

5legion5

ถ้าพูดถึงเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค COMMART GAME ON สเปคดีระบายความร้อนได้ยอดเยี่ยมและมีไฟ RGB สวยงามและหน้าจอเป็น Dolby Vision HDR ล่ะก็ Lenovo Legion 5 15IAH7H เป็นรุ่นที่มีคุณสมบัติตามที่ว่ามาข้างต้นทั้งหมดและยังต่อหน้าจอแยกได้พร้อมกัน 3 จออีกด้วย ถ้าใครสนใจรุ่นนี้อยู่แล้วแต่อยากได้รายละเอียดเพิ่ม ก็สามารถอ่านรีวิวฉบับเต็มได้ที่นี่

รุ่นที่เลือกมาแนะนำนี้ติดตั้งซีพียู Intel Core i7-12700H แบบ 14 คอร์ 20 เธรด (6P+8E) ความเร็ว 3.5-4.7GHz จับคู่การ์ดจอแยก NVIDIA GeForce RTX 3060 แรม 6GB GDDR6 กับหน้าจอคุณภาพสูงขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 165Hz รองรับ NVIDIA G-SYNC, Dolby Vision ขอบเขตสีกว้าง 100% sRGB ได้รับการรับรอง VESA DisplayHDR 400 ด้วย มี M.2 NVMe SSD ความจุ 512GB ติดตั้ง Windows 11 Home มาให้ในตัว มีแรมจากโรงงาน 16GB DDR5 บัส 4800 MHz มีพอร์ต Thunderbolt 4 x 1 รองรับ DisplayPort, USB-C 3.2 Gen 2 x 2 รองรับ DisplayPort ทั้งสองช่อง มี 1 ช่องรองรับ Power Delivery 135 วัตต์, USB-A 3.2 Gen 1 x 1, HDMI 2.1 x 1, Audio combo x 1 ติดตั้งมาให้ รองรับ Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.1 ในตัว ส่วนน้ำหนักเครื่อง 2.4 กิโลกรัม ดูโดยรวมแล้วถือว่า Lenovo Legion 5 นี้เป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค COMMART GAME ON สำหรับเกมเมอร์และครีเอเตอร์ที่ต้องการโน๊ตบุ๊คเกมมิ่งที่ทำงานครีเอเตอร์ได้ด้วย

สเปคของ Lenovo Legion 5 15IAH7H
  • CPU : Intel Core i7-12700H แบบ 14 คอร์ 20 เธรด (6P+8E) ความเร็ว 3.5-4.7GHz
  • GPU : NVIDIA GeForce RTX 3060 แรม 6GB GDDR6
  • SSD : แบบ M.2 NVMe ความจุ 512GB
  • RAM : 16GB DDR5 บัส 4800 MHz
  • Monitor : 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 165Hz, Response Time 3ms ขอบเขตสีกว้าง 100% sRGB, VESA DisplayHDR 400, Dolby Vision รองรับ NVIDIA G-SYNC ความสว่าง 300Nits
  • Port : Thunderbolt 4 x 1 รองรับ DisplayPort, USB-C 3.2 Gen 2 x 2 รองรับ DisplayPort ทั้งสองช่อง มี 1 ช่องรองรับ Power Delivery 135 วัตต์, USB-A 3.2 Gen 1 x 1, HDMI 2.1 x 1, Audio combo x 1
  • Wireless : Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax, Bluetooth 5.1
  • Camera : 720p HD Camera
  • Software : Windows 11 Home
  • Weight : 2.4 กิโลกรัม
  • Price : 56,990 บาท (ราคากลาง)
6. ASUS ROG Zephyrus G14 GA402RJ (69,990 บาท)

6g14

ASUS ROG Zephyrus G14 GA402RJ นี้เป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค COMMART GAME ON รุ่นที่ผ่านมาตรฐานเป็น AMD Advantage ซึ่งหน้าจอมีขอบเขตสีกว้างความละเอียดสูง, แบตเตอรี่ใช้งานต่อเนื่องได้นาน 10 ชั่วโมง, มีกล้อง IR Camera ใช้สแกนใบหน้าปลดล็อคเครื่องได้และยังมี Microsoft Office Home & Student 2021 ติดตั้งมาให้ด้วย ผู้สนใจสามารถอ่านรีวิวฉบับเต็มได้ที่นี่

รุ่นที่ผู้เขียนแนะนำติดตั้งซีพียู AMD Ryzen 7 6800HS แบบ 8 คอร์ 16 เธรด ความเร็ว 3.2-4.7GHz จับคู่การ์ดจอแยก AMD Radeon RX 6700S แรม 8GB GDDR6 กับหน้าจอขนาด 14 นิ้ว ความละเอียด WQXGA (2560×1600) พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 120Hz รองรับ Dolby Vision HDR, Adaptive-Sync ได้รับรอง Pantone Validated การันตีว่าขอบเขตสีหน้าจอกว้างและแม่นยำใช้ทำงานอาร์ทได้อย่างแน่นอน มี M.2 NVMe SSD ความจุ 512GB ติดตั้ง Windows 11 Home กับ Microsoft Office Home&Student 2021 ติดตั้งมาให้ใช้งาน มีแรมในเครื่อง 16GB DDR5 บัส 4800 MHz มีพอร์ต USB-A 3.2 Gen 2 x 2, USB-C 3.2 Gen 2 x 1 รองรับ Power Delivery และ DisplayPort, USB-C 3.2 Gen 2 x 1 รองรับ DisplayPort, HDMI 2.0b x 1, MicroSD Card Reader x 1, Audio Combo x 1 ติดตั้งมาให้ใช้งาน เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.2 ด้วย และน้ำหนักยังเบามากเพียง 1.72 กิโลกรัมเท่านั้น เป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค COMMART GAME ON ที่ไม่ควรมองข้าม ซึ่งในงบประมาณ 70,000 บาทนี้ก็ได้โน๊ตบุ๊คแรงระดับ Desktop Replacement ไว้ใช้งาน และยังได้เซนเซอร์สแกนใบหน้าปลดล็อคเครื่องได้สะดวกมากอีกด้วย

สเปคของ ASUS ROG Zephyrus G14 GA402RJ
  • CPU : AMD Ryzen 7 6800HS แบบ 8 คอร์ 16 เธรด ความเร็ว 3.2-4.7GHz
  • GPU : AMD Radeon RX 6700S แรม 8GB GDDR6
  • SSD : แบบ M.2 NVMe ความจุ 1TB
  • RAM : 16GB DDR5 บัส 4800 MHz 
  • Display : 14 นิ้ว ความละเอียด WQXGA (2560×1600) พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 120Hz, Response Time 3ms รองรับ Dolby Vision HDR, Adaptive-Sync, Pantone Validated
  • Ports : USB-A 3.2 Gen 2 x 2, USB-C 3.2 Gen 2 x 1 รองรับ Power Delivery และ DisplayPort, USB-C 3.2 Gen 2 x 1 รองรับ DisplayPort, HDMI 2.0b x 1, MicroSD Card Reader x 1, Audio Combo x 1
  • Wireless : Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.2
  • Webcam : 720p HD IR Camera 
  • Software : Windows 11 Home, Microsoft Office Home&Student 2021
  • Weight : 1.72 กิโลกรัม
  • Price : 69,990 บาท (Advice)
7. Gigabyte Aorus 15 XE5 (69,990 บาท)

7aorus15

สำหรับเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค COMMART GAME ON ในงบ 70,000 บาท อีกรุ่นที่ถือเป็นม้ามืดและยังหาซื้อในงานได้อย่าง Gigabyte Aorus 15 XE5 รุ่นนี้ก็น่าซื้อ เพราะกล้องเว็บแคมมี IR Camera ไว้สแกนหน้าปลดล็อคเครื่องได้, หน้าจอความละเอียดสูงขอบเขตสีกว้าง, คีย์บอร์ดมีไฟ Per-Key RGB และพอร์ต Thunderbolt 4 ติดตั้งมาให้ หากใครสนใจสามารถอ่านรีวิวรุ่นใกล้เคียงได้ที่นี่

ซีพียูเป็น Intel Core i7-12700H แบบ 14 คอร์ 20 เธรด (6P+8E) ความเร็ว 3.5-4.7GHz กับการ์ดจอแยก NVIDIA GeForce RTX 3070 Ti แรม 8GB GDDR6 หน้าจอมีขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด QHD (2560×1440) พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 165Hz มี M.2 NVMe SSD ความจุ 1TB ติดตั้ง Windows 11 Home มาให้ มีแรม 16GB DDR5 บัส 4800MHz มีพอร์ต USB-A 3.2 x 1, USB-C 3.2 x 2 รองรับ Thunderbolt 4, HDMI x 1, LAN x 1, Audio combo x 1 เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตด้วย Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.2 น้ำหนักเครื่อง 2.4 กิโลกรัม ซึ่งเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค COMMART GAME ON เครื่องนี้เป็นตัวแรงระดับ Desktop Replacement ที่แม้จะไม่ค่อยคุ้นหูก็ตามแต่ก็เป็นแบรนด์เกมมิ่งชั้นนำที่เกมเมอร์รู้จักดี ดังนั้นจะซื้อมาเล่นเกมหรือเอาไว้ทำงานครีเอเตอร์ก็ดีอย่างแน่นอน

สเปคของ Gigabyte Aorus 15 XE5
  • CPU : Intel Core i7-12700H แบบ 14 คอร์ 20 เธรด (6P+8E) ความเร็ว 3.5-4.7GHz
  • GPU : NVIDIA GeForce RTX 3070 Ti แรม 8GB GDDR6
  • SSD : แบบ M.2 NVMe ความจุ 1TB
  • RAM : 16GB DDR5 บัส 4800MHz
  • Display : 15.6 นิ้ว ความละเอียด QHD (2560×1440) พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 165Hz
  • Ports : USB-A 3.2 x 1, USB-C 3.2 x 2 รองรับ Thunderbolt 4, HDMI x 1, LAN x 1, Audio combo x 1
  • Wireless : Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.2
  • Webcam : 720p HD IR Camera 
  • Software : Windows 11 Home
  • Weight : 2.4 กิโลกรัม
  • Price : 69,990 บาท (ราคากลาง)
8. Acer Predator Helios 300 (79,900 บาท)

8helios300

Acer Predator Helios 300 เป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค COMMART GAME ON ซึ่งผู้เขียนเคยทำรีวิวไปก่อนหน้านี้ หากใครสนใจจุดเด่นและรายละเอียดฉบับเต็มสามารถอ่านรีวิวฉบับเต็มได้ที่นี่ แต่จุดเด่นหลักของโน๊ตบุ๊คนี้คือหน้าจอขอบเขตสีกว้างเหมาะกับครีเอเตอร์หรือเกมเมอร์มีปุ่ม Turbo ให้กดเพื่อเร่งพลังการประมวลผลให้สูงยิ่งขึ้นและระบบระบายความร้อนภายในเครื่องจัดว่าดีมาก

ซีพียูของ Predator Helios 300 เป็น Intel Core i7-12700H แบบ 14 คอร์ 20 เธรด (6P+8E) ความเร็ว 3.5-4.7GHz กับการ์ดจอแยก NVIDIA GeForce RTX 3070 Ti แรม 8GB GDDR6 และหน้าจอขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด QHD (2560×1440) พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 165Hz รองรับ NVIDIA G-SYNC ในตัว ส่วน M.2 NVMe SSD ในเครื่องมีความจุ 1TB ติดตั้ง Windows 11 Home มาให้ มีแรม 32GB DDR5 บัส 4800 MHz พอร์ตเครื่องนี้มี Thunderbolt 4 x 1, USB-A 3.2 x 3, HDMI x 1, MiniDP x 1, LAN x 1, Audio combo x 1 รองรับการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตด้วย Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.2 และน้ำหนักเครื่องที่ 2.5 กิโลกรัม ถ้าครีเอเตอร์หรือเกมเมอร์คนไหนหาโน๊ตบุ๊คดีๆ มาแทนพีซีก็เหมาะกับเครื่องนี้มาก

สเปคของ Acer Predator Helios 300
  • CPU : Intel Core i7-12700H แบบ 14 คอร์ 20 เธรด (6P+8E) ความเร็ว 3.5-4.7GHz
  • GPU : NVIDIA GeForce RTX 3070 Ti แรม 8GB GDDR6
  • SSD : แบบ M.2 NVMe ความจุ 1TB
  • RAM : 32GB DDR5 บัส 4800 MHz
  • Display : 15.6 นิ้ว ความละเอียด QHD (2560×1440) พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 165Hz รองรับ NVIDIA G-SYNC
  • Ports : Thunderbolt 4 x 1, USB-A 3.2 x 3, HDMI x 1, MiniDP x 1, LAN x 1, Audio combo x 1
  • Wireless : Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.2
  • Webcam : 720p HD Camera 
  • Software : Windows 11 Home
  • Weight : 2.5 กิโลกรัม
  • Price : 79,900 บาท (Advice)
9. MSI GE67HX Raider 12UGS (85,400 บาท)

9ge67

ในบรรดาเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค COMMART GAME ON ที่ผู้เขียนเลือกมาแนะนำนั้น MSI GE67HX Raider 12UGS เป็นรุ่นที่โดดเด่น เพราะได้หน้าจอพาเนล OLED ค่า Refresh Rate สูงซึ่งเป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ครุ่นแรกที่ใช้พาเนลนี้และยังได้รับการรับรองคุณภาพมากมาย มีระบบระบายความร้อน Cooler Boost 5 มีระบบไฟ RGB “MSI Msytic Light” และมีพอร์ต Thunderbolt 4 จึงต่อหน้าจอแยกได้มากสุด 3 จอพร้อมกันด้วย

ซีพียูใน MSI Raider ติดตั้ง Intel Core i7-12800HX แบบ 16 คอร์ 24 เธรด (8P+8E) ความเร็ว 3.4-4.8GHz มีการ์ดจอแยก NVIDIA GeForce RTX 3070 Ti แรม 8GB GDDR6 มาให้ใช้กับหน้าจอ 15.6 นิ้ว ความละเอียด QHD (2560×1440) พาเนล OLED ค่า Refresh Rate 240Hz ได้รับการรับรอง VESA DisplayHDR True Black 600 มี M.2 NVMe SSD ความจุ 1TB ติดตั้ง Windows 11 Home มีแรม 16GB DDR5 บัส 4800MHz ติดตั้งมาให้ มีพอร์ต USB-A 3.2 x 3, Thunderbolt 4 x 1, USB-C 3.2 x 1, HDMI x 1, LAN x 1, SD Card Reader x 1, Audio combo x 1 เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตด้วย Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.2 ส่วนน้ำหนักเครื่อง 2.38 กิโลกรัม หากใครอยากเล่นเกมให้สีสันสวยเต็มอิ่มล่ะก็ จอ OLED ของ MSI Rader GE67HX เครื่องนี้คือคำตอบที่ดีมากและยังมีพอร์ตเชื่อมต่อติดตั้งมาครบเครื่อง เอื้อครีเอเตอร์และช่างกล้องทุกท่านเป็นที่สุด

สเปคของ MSI GE67HX Raider 12UGS
  • CPU : Intel Core i7-12800HX แบบ 16 คอร์ 24 เธรด (8P+8E) ความเร็ว 3.4-4.8GHz
  • GPU : NVIDIA GeForce RTX 3070 Ti แรม 8GB GDDR6
  • SSD : แบบ M.2 NVMe ความจุ 1TB
  • RAM : 16GB DDR5 บัส 4800 MHz
  • Display : 15.6 นิ้ว ความละเอียด QHD (2560×1440) พาเนล OLED ค่า Refresh Rate 240Hz ได้รับการรับรอง VESA DisplayHDR True Black 600
  • Ports : USB-A 3.2 x 3, Thunderbolt 4 x 1, USB-C 3.2 x 1, HDMI x 1, LAN x 1, SD Card Reader x 1, Audio combo x 1
  • Wireless : Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.2
  • Webcam : 720p HD Camera 
  • Software : Windows 11 Home
  • Weight : 2.38 กิโลกรัม
  • Price : 85,400 บาท (Advice)
10. ASUS ROG Zephyrus M16 (97,990 บาท)

10m16

เกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค COMMART GAME ON รุ่นสุดท้ายในบทความนี้ ผู้เขียนแนะนำเป็น ASUS ROG Zephyrus M16 ที่ได้กล้อง IR Camera สแกนใบหน้าปลดล็อคเครื่องได้, หน้าจอ ROG Nebula Display ขนาด 16 นิ้ว ความละเอียด WQXGA รองรับขอบเขตสีกว้าง 100% DCI-P3, Dolby Vision, Pantone Validated, Adaptive-Sync และยังอัพเกรดเพิ่ม SSD, RAM ได้อีกด้วย ผู้ที่สนใจสามารถอ่านรีวิวฉบับเต็มได้ที่นี่หรือชมคลิปรีวิวด้านล่างก็ได้

ซีพียูที่ติดตั้งมาให้ในเครื่องเป็น Intel Core i9-12900H แบบ 14 คอร์ 20 เธรด (6P+8E) ความเร็ว 3.8-5.0GHz กับการ์ดจอแยก NVIDIA GeForce RTX 3070 Ti แรม 8GB GDDR6 และหน้าจอ 16 นิ้ว ความละเอียด WQXGA (2560×1600) พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 165Hz มี M.2 NVMe SSD ความจุ 1TB ติดตั้ง Windows 11 Home กับแรม 32GB DDR5 บัส 4800MHz มีพอร์ต Thunderbolt 4 x 1, USB-C 3.2 Gen 2 x 1 รองรับ DisplayPort, Power Delivery และ NVIDIA G-SYNC, USB-A 3.2 Gen 2 x 2, HDMI 2.0b x 1, LAN x 1, MicroSD Card Reader x 1, Audio combo x 1 เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตได้ด้วย Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.2 น้ำหนักเครื่อง 1.9 กิโลกรัม

สเปคของ ASUS ROG Zephyrus M16
  • CPU : Intel Core i9-12900H แบบ 14 คอร์ 20 เธรด (6P+8E) ความเร็ว 3.8-5.0GHz
  • GPU : NVIDIA GeForce RTX 3070 Ti แรม 8GB GDDR6
  • SSD : แบบ M.2 NVMe ความจุ 1TB
  • RAM : 32GB DDR5 บัส 4800 MHz
  • Display : 16 นิ้ว ความละเอียด WQXGA (2560×1600) พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 165Hz รองรับขอบเขตสีกว้าง 100% DCI-P3, Dolby Vision, Pantone Validated, Adaptive-Sync
  • Ports : Thunderbolt 4 x 1, USB-C 3.2 Gen 2 x 1 รองรับ DisplayPort, Power Delivery และ NVIDIA G-SYNC, USB-A 3.2 Gen 2 x 2, HDMI 2.0b x 1, LAN x 1, MicroSD Card Reader x 1, Audio combo x 1
  • Wireless : Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.2
  • Webcam : 720p HD IR Camera 
  • Software : Windows 11 Home
  • Weight : 1.9 กิโลกรัม
  • Price : 97,900 บาท (Advice)

3 1

ซึ่งเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค COMMART GAME ON ทั้ง 10 รุ่นที่เลือกมาแนะนำในบทความนี้เป็นรุ่นเด่นในระดับราคาตั้งแต่ช่วงไม่เกิน 3 หมื่นบาทไปจนกระทั่งหลักเกือบแสนบาท โดยแต่ละรุ่นจะมีจุดเด่นจุดขายแตกต่างกันไปไม่ว่าจะราคาถูกหาซื้อเป็นเจ้าของได้ง่ายหรือจะตัวแรงที่เหมาหน้าที่ทั้งเล่นเกมและทำงานสายครีเอเตอร์ได้แบบครบจบในตัวเดียวก็ได้ หากใครคิดไม่ออกว่าจะซื้อเครื่องไหนก็ดูรุ่นแนะนำจากบทความนี้แล้วไปเลือกซื้อในงานเลยก็ได้

แต่นอกจากได้เกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค COMMART GAME ON มาเล่นเกมแล้ว อุปกรณ์เสริมและการอัพเกรดสเปคเครื่องให้แรงขึ้นก็สำคัญ ซึ่งถ้าใครซื้อโน๊ตบุ๊คมาแล้วก็อยากให้เตรียมเงินเผื่อไว้อัพเกรดเพิ่มแรม, ใส่ SSD เพิ่มหรือจะหาเกมมิ่งเกียร์ใหม่ๆ ซื้อพ่วงไปพร้อมกันทีเดียวเลย จะได้ครบเซ็ตพร้อมเล่นเกมในครั้งเดียว ไม่ต้องเสียเวลาซื้อแยกให้วุ่นวายในอนาคต

ส่วนตัวผู้เขียนแนะนำให้เกมเมอร์ที่กำลังตัดสินใจอยู่ว่าจะไปซื้อเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค COMMART GAME ON ในงานดีหรือจะรออีเว้นท์แฟลชเซลส์บนแพลตฟอร์มออนไลน์ก็อยากเชียร์ให้ไปดูสินค้าจริงในงานมากกว่า จะได้ลองจับถือดูตัวจริงให้เรียบร้อย และถ้าเครื่องไหนมีปัญหาตอนทดลองเปิดเครื่องจะได้ขอเปลี่ยนเครื่องได้ทันท่วงทีไม่ต้องเสียเวลาทำเคลมตามระบบออนไลน์ให้เสียเวลา จะได้เอาเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค COMMART GAME ON เครื่องใหม่กลับบ้านมาเล่นเกมได้อย่างมีความสุข


บทความที่เกี่ยวข้อง

Share image Edit Name 2predatorhelios 1

Share image Edit Name 3acergameon 1

Share image Edit Name 2ssd 1

from:https://notebookspec.com/web/676372-10-gaming-laptop-commart-game-on

6 คีย์บอร์ดเกมมิ่งตัวเด็ดเพื่อจริงจังเกมเมอร์ ฟีเจอร์ล้น เล่นเกมเพลิน อัพเดทปลายปี 2022

คีย์บอร์ดเกมมิ่งตัวท็อปสเปคเด็ดเทพ ปลายปีนี้มีของดีให้เลือกเพียบ!!

Share image Edit Name 1gamingkb 1 1

คีย์บอร์ดเกมมิ่งเป็นอุปกรณ์เกมมิ่งสำคัญอีกชิ้นไม่แพ้เมาส์เกมมิ่งดีๆ เลย หากเลือกคีย์บอร์ดที่ฟีเจอร์ตอบโจทย์และถูกสไตล์ของเราแล้ว นอกจากจะเล่นเกมได้สนุกก็ยังใช้ทำงานต่างๆ ได้ง่ายยิ่งขึ้นอีกด้วย ซึ่งคีย์บอร์ดเกมมิ่งดีไซน์ยอดนิยมของเกมเมอร์มักเป็นขนาด Tenkeyless ซึ่งไม่มีชุด Numpad ติดตั้งมาให้ แต่ในยุคนี้หลายๆ บริษัทปรับตัวมาทำงานแบบผสม ให้พนักงาน Work From Home สลับกับเข้าบริษัทได้แล้ว จะใช้คีย์บอร์ด Tenkeyless ก็อาจทำงานได้ไม่ถนัดเท่าแบบ Full-size อย่างแน่นอน โดยเฉพาะนักบัญชีที่ต้องทำงานกับตัวเลขเยอะๆ นั้นยิ่งขาด Numpad ไม่ได้เลย

Advertisementavw

นอกจากเวลางาน หลายๆ คนก็คลายเครียดจากงานประจำของตัวเองด้วยการเล่นเกมต่างๆ ซึ่งคีย์บอร์ดก็เป็นอุปกรณ์ควบคุมตัวละครในเกมที่สำคัญมากอีกชิ้น ซึ่งเกมเมอร์หลายๆ คนอาจจะมองว่าเป็นคีย์บอร์ดธรรมดาหรือแบบเมคานิคเท่านั้น ซึ่งจะใช้เกณฑ์ดังกล่าวเป็นตัวเลือกก็ได้ แต่ถ้าใส่ใจรายละเอียดต่างๆ เพิ่มขึ้นไม่ว่าจะดีไซน์, ฟีเจอร์และลูกเล่นต่างๆ ของคีย์บอร์ดตัวนั้นเพิ่มหน่อยรับรองว่าจะได้คีย์บอร์ดคู่ใจตัวใหม่น่าใช้มาคู่กับพีซีของเราแน่นอน

คีย์บอร์ดเกมมิ่ง

สำหรับหลักการเลือกคีย์บอร์ดเกมมิ่งนั้นไม่ยากนักและยังเอาหลักการนี้ไปใช้เลือกเมาส์เกมมิ่งได้ด้วย ซึ่งจุดที่ต้องโฟกัสก่อนเลือกจะมีทั้งหมด 5 เรื่องด้วยกัน ได้แก่

  1. ขนาดของคีย์บอร์ด – เพราะโต๊ะสำหรับวางคีย์บอร์ดและการกวาดมือของแต่ละคนนั้นไม่เหมือนกัน ซึ่งถ้าเน้นเล่นเกมอย่างเดียวแล้วกวาดมือลากเมาส์ได้กว้างๆ คีย์บอร์ด Tenkeyless เป็นไซซ์ที่ดีและไม่กินพื้นที่บนโต๊ะมากเกินไป แต่ถ้าต้องทำงานด้วยก็เปลี่ยนเป็นแบบ Full-size จะทำงานได้ถนัดกว่าอย่างแน่นอน
  2. ฟีเจอร์และเทคโนโลยีในคีย์บอร์ด – ฟีเจอร์ที่ต้องใส่ใจหลักๆ 2 อย่าง ได้แก่ N-Key Rollover ซึ่งช่วยให้ทุกปุ่มที่เรากดทำงานและ Anti-Ghosting ทำให้เวลากดปุ่มบนคีย์บอร์ดแล้วฟังก์ชั่นบนคีย์บอร์ดส่งข้อมูลได้อย่างถูกต้อง ไม่รวนไปส่งคำสั่งเป็นปุ่มอื่นที่อยู่ใกล้ปุ่มที่เรากดแทน นอกจากนั้น ก็ควรดูเรื่องฟังก์ชั่นลูกเล่นอื่นๆ ที่ต้องการเข้าไปด้วย ได้แก่ Multimedia Key ไว้เพิ่มลดหรือเปลี่ยนเพลง, Macro Key ไว้รวบคำสั่งที่กดบ่อย จากปกติที่กด 5-10 คำสั่ง ผสานกันหลายปุ่มให้กดเพียงครั้งเดียวก็ทำงานได้ทันทีแทน, Profile Key ให้ผู้ใช้ปรับโหมดคีย์บอร์ดได้ ว่าจะใช้เล่นเกมหรือทำงาน
  3. คุณภาพงานประกอบ – เป็นจุดใส่ใจไม่แพ้กับฟีเจอร์หรือดีไซน์ของคีย์บอร์ดเลย นั่นเพราะเกมมิ่งคีย์บอร์ดจะมีทั้งบอดี้พลาสติกหรือโลหะ, คีย์แคปฉีดขึ้นรูปจาก ABS หรือ PBT ซึ่งมีความทนทานตัวอักษรลอกแตกต่างกัน โดยพลาสติก ABS แม้จะมีความบางและให้แสงไฟ RGB ลอดได้สว่างกว่า แต่ PBT จะแข็งแรงและตัวอักษรเลือนได้ยากกว่า ทว่าเกมมิ่งคีย์บอร์ดบางแบรนด์อาจใช้พลาสติก ABS ซึ่งฉีดเนื้อพลาสติกมาหนาและแข็งแรงกว่าก็กลายเป็นข้อยกเว้นได้
  4. การเชื่อมต่อ – ส่วนใหญ่ในปัจจุบันนี้ เกมมิ่งคีย์บอร์ดจะเชื่อมต่อกับพีซีด้วยสาย USB-A x 1 ช่องเป็นหลักเพื่อใช้เชื่อมต่อใช้งานคีย์บอร์ดเป็นหลักและมักเป็นสายแบบฝังติดมากับตัวคีย์บอร์ดเลย แต่บางรุ่นอาจจะเป็นสาย USB-A x 2 หัว โดยมีช่องสำหรับฟีเจอร์ USB Passthrough ซึ่งเป็นช่อง USB 2.0 บนตัวคีย์บอร์ดไว้ให้ผู้ใช้ต่ออุปกรณ์อย่างเมาส์, คีย์บอร์ดหรือแฟลชไดรฟ์ให้ใช้งานได้โดยไม่ต้องเอื้อมไปต่อกับคอมพิวเตอร์ก็ได้และบางรุ่นผู้ผลิตอาจจะออกแบบให้ถอดสายได้ให้ผู้ใช้สามารถนำคีย์บอร์ดติดตัวไปไหนมาไหนได้สะดวกหรือจัดสายบนโต๊ะคอมได้ง่าย และปัจจุบันนี้ก็มีเกมมิ่งคีย์บอร์ดไร้สาย เชื่อมต่อด้วย USB 2.4GHz Dongle ให้เลือกซื้อ ข้อดีคือสายไม่รกรุงรังแต่ก็ต้องชาร์จแบตเตอรี่เป็นระยะๆ เช่นกัน
  5. ราคา – ข้อนี้เป็นใจความสำคัญของเกมเมอร์หลายๆ คน แม้เกมมิ่งคีย์บอร์ดตัวนั้นๆ จะฟีเจอร์เยอะล้นตัว ดีไซน์อลังการถอดแยกชิ้นส่วนได้ มีอุปกรณ์เสริมมากมาย แต่ถ้ารูปแบบการใช้งานและเล่นเกมของเราไม่ได้จำเป็นระดับนั้นก็ลดมาซื้อรุ่นที่ราคาไม่แพงมาก ราคาและฟีเจอร์สมเหตุผลและเหมาะต่อรูปแบบการใช้งานของเราก็เพียงพอแล้ว

bernin uben b20J7YbTK8w unsplash

สรุปสเปคคีย์บอร์ดเกมมิ่งตัวเด็ด 6 รุ่น น่าใช้ ฟีเจอร์อลังการ ไฟ RGB จัดเต็ม

สเปคคีย์บอร์ดเกมมิ่ง Design

Connection

Switch Features Software ราคา
(บาท)
MSI Vigor GK50 Elite Full-size

USB 2.0

Kailh Box White Switch แบบ Clicky N-Keys Rollover

Full Keys
Anti-Ghosting

Multimedia Key

Windows Lock

MSI Center 2,890
Steelseries APEX 7 Full-size

USB 2.0

SteelSeries QX2 Mechanical RGB Switch แบบ Linear N-Key Rollover

100%
Anti-Ghosting

USB Passthrough

SteelSeries Engine 5,290
ASUS ROG Strix Flare II Animate Full-size

USB 2.0 ค่า Polling Rate 8,000 Hz

ROG NX mechanical switchs

เลือกได้ 2 แบบ เป็น Linear, Clicky

N-Key Rollover

100%
Anti-Ghosting

USB Passthrough

Hot-Swap

AniMe Matrix

Intuitive Controls

Macro

ตั้งค่าได้ 6 Profiles

Windows Lock

Armoury Crate 5,650
ASUS ROG Claymore II Full-size

USB-A

USB-C

USB 2.4GHz Dongle

แบตเตอรี่ 4,000mAh

ROG RX mechanical switchs

เลือกได้ 2 แบบ เป็น Linear, Clicky

N-Key Rollover

100%
Anti-Ghosting

USB Passthrough

Intuitive Controls

Macro

ตั้งค่าได้ 6 Profiles

Windows Lock

Armoury Crate 6,660
Logitech G913 Wireless Gaming Keyboard Full-size

MicroUSB

USB 2.4GHz Dongle

Bluetooth

แบตเตอรี่
30 ชั่วโมง

GL Clicky

GL Tactile

GL Linear

N-Key Rollover

100%
Anti-Ghosting

Macro 3 ปุ่ม

ปุ่ม G1~G5 ตั้งค่าได้ 5 Profiles

Multimedia Keys

Logitech
G HUB
7,290
Razer Huntsman V2 Analog Full-size

USB-C

USB-A 3.0

Razer Analog Optical Switch N-Key Rollover

100%
Anti-Ghosting

Multimedia Keys

Gaming mode

USB 3.0 Passthrough

Razer Chroma

Razer Synapse 3

8,490

6 คีย์บอร์ดเกมมิ่งตัวเด็ด ฟีเจอร์อลังการ RGB จัดเต็ม ถูก พรบ. เกมเมอร์แน่นอน

เกมเมอร์ที่มองหาคีย์บอร์ดเกมมิ่งตัวใหม่มาเล่นเกม แล้วซีเรียสเรื่องงบประมาณพร้อมจ่ายเพื่อซื้อคีย์บอร์ดดีๆ ไว้ใช้เลยล่ะก็ ณ ปัจจุบันนี้ก็มีคีย์บอร์ดเกมมิ่งจากผู้ผลิตเกมมิ่งเกียร์ชั้นนำมาแนะนำทั้งหมด 6 รุ่น พร้อมฟีเจอร์เด็ดๆ ให้เลือก ได้แก่

  1. MSI Vigor GK50 Elite (2,890 บาท)
  2. Steelseries APEX 7 (5,290 บาท)
  3. ASUS ROG Strix Flare II Animate (5,650 บาท)
  4. ASUS ROG Claymore II (6,660 บาท)
  5. Logitech G913 Wireless Gaming Keyboard (7,290 บาท)
  6. Razer Huntsman V2 Analog (8,490 บาท)
1. MSI Vigor GK50 Elite (2,890 บาท)

GK50 ELITE W XS 1

MSI Vigor GK50 Elite ตัวนี้เป็นคีย์บอร์ดเกมมิ่งน่าใช้ ดีไซน์เป็น Full-size พร้อมไฟ RGB บอดี้ท่อนบนเป็นอลูมิเนียมพร้อมสกรีนโลโก้มังกรของ MSI ตั้งค่าคีย์บอร์ดด้วย MSI Center ตั้งค่าและคุมการทำงานได้ มี Multimedia Key, Windows Lock หรือแม้แต่ฟังก์ชั่นปรับไฟ RGB ก็มีติดตั้งมาให้ครบถ้วน มีฟังก์ชั่น N-Keys Rollover, Full Keys Anti-Ghosting ช่วยให้เกมเมอร์กดหลายปุ่มพร้อมกันตอนเล่นเกมได้แล้วคีย์บอร์ดตอบสนองครบถ้วน ใช้สวิตช์เมคานิคอล Kailh Box White Switch เป็นสวิตช์แบบ Clicky เหมือน Blue Switch ซึ่งเป็นเสียงที่เกมเมอร์ต้องถูกใจอย่างแน่นอน เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ด้วยสาย USB 2.0 ก็ใช้งานได้ทันที เป็นคีย์บอร์ดเกมมิ่งตัวแรกเพื่อเกมเมอร์ที่ชื่นชอบแบรนด์ MSI โดยเฉพาะ

สเปคของ MSI Vigor GK50 Elite
  • Design & Connection : Full-size, USB 2.0
  • Switch : Kailh Box White Switch แบบ Clicky
  • Features : N-Keys Rollover, Full Keys Anti-Ghosting, Multimedia Key, Windows Lock
  • Software : MSI Center
  • Price : 2,890 บาท (MSI Shopee Mall)
2. Steelseries APEX 7 (5,290 บาท)

buyimg apex7 001 v2.jpg 1850x800 q100 crop scale optimize subsampling 2

คีย์บอร์ดเกมมิ่งตัวเด็ดที่แม้จะเปิดตัวมาสักพักแล้วก็ยังน่าใช้อย่าง Steelseries APEX 7 นั้นเป็นรุ่นสเปคสูงสุดที่ทางบริษัทมีให้เลือกซื้อ ณ ตอนนี้ โดยบอดี้ของคีย์บอร์ดเป็นอลูมิเนียมซีรี่ส์ 5000 เกรดเดียวกับที่ใช้ประกอบอากาศยานจึงสวยงามแข็งแรงมากและยังมีช่องจัดสายไฟของคีย์บอร์ดติดอยู่ใต้ตัวคีย์บอร์ดด้วย นอกจากนี้ยังมีที่รองข้อมือแถมมาให้ใช้งานและปรับไฟ RGB ได้ ส่วนฟีเจอร์เด่นไม่เหมือนใครของ Apex 7 นี้ คือหน้าจอ OLED สำหรับแสดงผลการตั้งค่าและการแจ้งเตือนจากแอพฯ ต่างๆ ได้ทันที ส่วนสวิตช์ของคีย์บอร์ดนี้เป็น SteelSeries QX2 Mechanical RGB Switch ซึ่งเป็นสวิตช์ Linear มีฟีเจอร์เกมมิ่งครบถ้วนไม่ว่าจะ N-Key Rollover, 100% Anti-Ghosting, USB Passthrough ตั้งค่าโปรไฟล์ได้ 5 แบบและเซฟมาโครได้โดยใช้โปรแกรม SteelSeries Engine เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ด้วยสาย USB ก็พร้อมใช้งานทันที จัดเป็นเกมมิ่งคีย์บอร์ดรุ่นที่ผู้เขียนแนะนำเป็นส่วนตัวรุ่นหนึ่ง ส่วนใครต้องการข้อมูลโดยละเอียดสามารถอ่านรีวิวได้ที่นี่

สเปคของ Steelseries APEX 7
  • Design & Connection : Full-size, USB 2.0
  • Switch : SteelSeries QX2 Mechanical RGB Switch แบบ Linear
  • Features : N-Key Rollover, 100% Anti-Ghosting, USB Passthrough
  • Software : SteelSeries Engine
  • Price : 5,290 บาท (Soundproofbros Shopee)
3. ASUS ROG Strix Flare II Animate (5,650 บาท)

h525 1

ASUS นั้นนอกจากจะมีอุปกรณ์พีซีคุณภาพที่เกมเมอร์ชื่นชอบแล้วยังมีคีย์บอร์ดเกมมิ่งอย่าง ASUS ROG Strix Flare II Animate ให้เลือก ซึ่งบอดี้ของคีย์บอร์ดเป็นอลูมิเนียมพร้อมติดไฟ Mini-LEDs “AniMe Matrix” ปรับเอฟเฟคไฟได้ 312 แบบ, ถอดสวิตช์แบบ Hot-swap ได้, มี USB Passthrough พร้อม Intuitive Controls เอาไว้ปรับ Hotkeys ปรับเสียงลำโพงได้สะดวกและเปลี่ยนไฟ RGB “AURA Sync” ได้ เซฟโปรไฟล์ของคีย์บอร์ดได้ 6 Profiles, ตั้งค่ามาโคร, มีปุ่ม Windows Lock ติดตั้งมาให้และมีฟีเจอร์ N-Key Rollover และ 100% Anti-Ghosting ครบถ้วน ตั้งค่าได้ด้วยโปรแกรม Armoury Crate ใช้การเชื่อมต่อผ่านทางสาย USB 2.0 ส่วนจุดเด่นของ ROG Strix Flare II คือ ตัวคีย์บอร์ดตอบสนองการกดปุ่มได้รวดเร็ว โดยมีค่า Polling Rate 8,000 Hz ซึ่งเร็วกว่าเกมมิ่งคีย์บอร์ดทั่วไป 8 เท่า ส่วนสวิตช์ที่ติดตั้งมาให้เป็น ROG NX mechanical switchs สามารถถอดเปลี่ยนกับ Cherry MX Switch แบบ 3-Pin ได้ทันที เลือกได้ว่าต้องการใช้ Red Switch แบบ Linear หรือ Blue Switch แบบ Clicky เป็นเกมมิ่งคีย์บอร์ดตัวเด็ดที่ตอบโจทย์ทั้งเกมเมอร์และสาย Custom Keyboard อย่างแน่นอน

สเปคของ ASUS ROG Strix Flare II Animate
  • Design & Connection : Full-size, USB 2.0 ค่า Polling Rate 8,000 Hz
  • Switch : ROG NX mechanical switchs เลือกได้ว่าต้องการใช้ Red Switch แบบ Linear หรือ Blue Switch แบบ Clicky
  • Features : N-Key Rollover, 100% Anti-Ghosting, USB Passthrough, Hot-Swap, AniMe Matrix 312 แบบ, Intuitive Controls, Macro, ตั้งค่าได้ 6 Profiles, Windows Lock
  • Software : Armoury Crate
  • Price : 5,650 บาท (ROG TH Shopee Mall)
4. ASUS ROG Claymore II (6,660 บาท)

h5255 1 e1668066743125

คีย์บอร์ดเกมมิ่งของ ASUS อีกรุ่นที่ผู้เขียนแนะนำคือ ASUS ROG Claymore II รุ่นนี้ที่ดีไซน์แตกต่างมาก โดยตัวคีย์บอร์ดเป็น Full-size ที่ถอดแป้น Numpad เป็น Tenkeyless ได้ นอกจากนี้ยังมีที่รองข้อมือแถมมาให้อีกด้วย เชื่อมต่อด้วยสาย USB-A, USB-C หรือจะ USB 2.4GHz Dongle แล้วเล่นแบบไร้สายก็ได้ มีแบตเตอรี่ในตัว 4,000mAh ให้ใช้งานได้ต่อเนื่องนานสุด 43 ชั่วโมง กรณีใช้แบบ Full-size และเปิดไฟ RGB “AURA Sync” ด้วย มี USB Passthrough ให้เชื่อมต่ออุปกรณ์ต่างๆ และปุ่ม Intuitive Control เอาไว้ตั้งค่า Hotkeys ได้ ติดมาให้เหนือแป้น Numpad พร้อมฟีเจอร์เกมมิ่งต่างๆ ได้แก่ 100% Anti-Ghosting, N-Key Rollover, Macro, Windows Lock ติดตั้งมาให้ เซฟโปรไฟล์ออนบอร์ดไว้ใช้ได้ 6 Profiles และใช้โปรแกรม Armoury Crate ตั้งค่าคีย์บอร์ดเช่นกัน ส่วนสวิตช์เป็น ROG RX ซึ่งเป็นสวิตช์ทรงกล่องดีไซน์พิเศษ ซึ่งทาง ASUS เคลมว่ามันตอบสนองได้รวดเร็วและทนทานมาก เลือกได้ว่าจะใช้ Red Switch แบบ Linear หรือ Blue Switch แบบ Clicky ก็ได้ เป็นคีย์บอร์ดเกมมิ่งที่ลูกเล่นเยอะน่าใช้มาก ถูกใจเกมเมอร์หลายๆ คนอย่างแน่นอน

สเปคของ ASUS ROG Claymore II
  • Design & Connection : Full-size, USB-A, USB-C, USB 2.4GHz Dongle มีแบตเตอรี่ในตัว 4,000mAh ใช้งานได้นาน 43 ชั่วโมง
  • Switch : ROG RX mechanical switchs เลือกได้ว่าต้องการใช้ Red Switch แบบ Linear หรือ Blue Switch แบบ Clicky
  • Features : N-Key Rollover, 100% Anti-Ghosting, USB Passthrough, Intuitive Controls, Macro, ตั้งค่าได้ 6 Profiles, Windows Lock
  • Software : Armoury Crate
  • Price : 6,660 บาท (CHI CHANG Shopee)
5. Logitech G913 Wireless Gaming Keyboard (7,290 บาท)

logitech 1

Logitech G913 Wireless Gaming Keyboard ตัวนี้ก็เป็นคีย์บอร์ดเกมมิ่งหน้าตาเรียบง่ายแต่ Logitech ก็ใส่ฟีเจอร์เกมมิ่งมาครบเครื่องมาก โดยตัวคีย์บอร์ดเป็น Full-size และปุ่มเตี้ยแบบ Low Profile ซึ่งผู้ใช้ที่ชอบแป้นแบบโน๊ตบุ๊คน่าจะถูกใจปุ่มนี้อย่างแน่นอน นอกจากนี้ยังมีปุ่มปรับ Gaming Mode, Macro Key อีก 4 แบบ, G1~G5 สำหรับปรับตั้งค่าเซ็ตโปรไฟล์ได้ 5 Profiles, ลูกล้อพร้อม Multimedia Keys และปุ่มปรับโหมดการเชื่อมต่อ ว่าจะใช้สาย MicroUSB, USB 2.4GHz Dongle “LIGHTSPEED” หรือ Bluetooth ก็ได้ และมีปุ่มปิดเปิดไฟ RGB “LIGHTSYNC” ด้วย ซึ่งถ้าเปิดไฟ RGB จะใช้งานได้นานสุด 30 ชั่วโมง นอกจากนี้ยังมี N-Key Rollover, 100% Anti-Ghosting ครบถ้วน ส่วนสวิตช์ยังเลือกได้ 3 แบบว่าจะเป็น GL Clicky, GL Tactile, GL Linear ก็ได้ ส่วนการตั้งค่าคีย์บอร์ดทั้งหมดใช้โปรแกรม Logitech G HUB ก็ปรับแต่งคีย์บอร์ดได้เต็มที่ ดังนั้นถ้าใครชอบคีย์บอร์ดเกมมิ่งตัวบางเชื่อมต่อได้หลากหลายแบบก็ซื้อตัวนี้ไปใช้งานได้เลย

สเปคของ Logitech G913 Wireless Gaming Keyboard
  • Design & Connection : Full-size, MicroUSB, USB 2.4GHz Dongle, Bluetooth ใช้งานได้นานสุด 30 ชั่วโมง
  • Switch : GL Clicky, GL Tactile, GL Linear
  • Features : N-Key Rollover, 100% Anti-Ghosting, Macro 3 ปุ่ม, ปุ่ม G1~G5 ตั้งค่าได้ 5 Profiles, ลูกล้อปรับเสียงพร้อม Multimedia Keys
  • Software : Logitech G HUB
  • Price : 7,290 บาท (Logitech Shopee Mall)
6. Razer Huntsman V2 Analog (8,490 บาท)

razer huntsman v2 analog hero desktop

คีย์บอร์ดเกมมิ่งจากแบรนด์ชั้นนำอย่าง Razer นั้น แม้จะมีให้เลือกหลายซีรี่ส์ก็ตาม แต่ ณ ตอนนี้ Razer Huntsman V2 Analog จัดว่าน่าสนใจมาก โดยคีย์บอร์ดเป็น Full-size บอดี้อลูมิเนียม ติดตั้งสวิตช์ Razer Analog Optical Switch ที่ใช้แสงเลเซอร์จับระยะการกดของเราว่าน้ำหนักการกดของเรามากน้อยแค่ไหน ทำให้การกดปุ่มเบาและหนักของเรามีผลต่อการควบคุมตัวละครของเราอย่างชัดเจน เช่น ถ้าเป็นเกมแข่งรถก็เหมือนการกดคันเร่งเบาหรือหนักหรือเกม FPS ก็แยกเป็น 2 คำสั่งในปุ่มเดียว อย่างกดเบาเป็นการหยิบระเบิดขึ้นมาถือรอไว้ และถ้ากดหนักเต็มปุ่มก็ขว้างระเบิดออกไป เป็นต้น จัดเป็นลูกเล่นที่น่าสนใจมาก นอกจากนี้ยังมี Multimedia Keys ติดมาให้เหนือชุด Numpad, USB 3.0 Passthrough และยังมีที่รองข้อมือแบบดูดติดคีย์บอร์ดด้วยแม่เหล็ก, ตั้งโปรไฟล์คีย์บอร์ดได้ 5 แบบ, N-Key Rollover, 100% Anti-Ghosting และ Gaming mode ตั้งค่าไฟ RGB ด้วยโปรแกรม Razer Chroma และเซ็ตการทำงานด้วยโปรแกรม Razer Synapse 3 ได้ เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ด้วยสาย USB-C, USB-A 3.0 ได้ นับเป็นเกมมิ่งคีย์บอร์ดที่โดดเด่นตรงปุ่มสวิตช์

สเปคของ Razer Huntsman V2 Analog
  • Design & Connection : Full-size, USB-C, USB-A 3.0
  • Switch : Razer Analog Optical Switch
  • Features : N-Key Rollover, 100% Anti-Ghosting, Multimedia Keys, Gaming mode, USB 3.0 Passthrough
  • Software : Razer Chroma, Razer Synapse 3
  • Price : 8,490 บาท (Razer Shopee Mall)

jay zhang mFtcZzLruCQ unsplash 1

จะเห็นว่าคีย์บอร์ดเกมมิ่งดีๆ ณ ช่วงปลายปี 2022 นี้ มีรุ่นเด่นให้เลือกซื้อเยอะทีเดียว แต่แม้ราคาจะสูงก็ตาม แต่ก็มีฟีเจอร์และลูกเล่นต่างๆ ใส่มาให้ผู้ใช้จัดเต็มครบเครื่องมาก ทว่าสิ่งหนึ่งที่ผู้เขียนขอเน้นย้ำก่อนจะซื้อเกมมิ่งคีย์บอร์ดอันใหม่ คือ คุณควรหาลองจับตัวจริง ทดลองพิมพ์และกดใช้งานดูสักเล็กน้อยว่าชอบน้ำหนักปุ่ม, ดีไซน์และลูกเล่นของมันหรือไม่ ซึ่งถ้าถูกใจไม่มีปัญหาใดๆ ก็ซื้อไปใช้งานได้เลย และอย่าลืมโหลดโปรแกรมตั้งค่าเกมมิ่งคีย์บอร์ดมาติดตั้งในเครื่องด้วย จะทำให้เราใช้คีย์บอร์ดเกมมิ่งตัวนั้นๆ ได้เต็มประสิทธิภาพของมันยิ่งขึ้น


บทความที่เกี่ยวข้อง

Share image Edit Name 2ssd 1 1

Share image Edit Name 2keyboard 1

Share image Edit Name 2keyboard 1

from:https://notebookspec.com/web/674430-6-full-size-gaming-keyboard