เปิดตัว ThinkPad X1 Extreme Gen 5, P14s/P16s, T-series รุ่นปี 2022 ซีพียู 12th Gen

Lenovo เปิดตัวโน้ตบุ๊กใหม่หลายรุ่นในงาน MWC 2022 นอกจากตัวเด่น ThinkPad X13s ที่ใช้ซีพียู Arm ก็ยังมี ThinkPad อีกหลายรุ่น

ThinkPad X1 Extreme Gen 5 ThinkPad รุ่นเน้นความแรง เดินทางมาถึง Gen 5 แล้ว บอดี้ยังเป็นตัวเดียวกับ Gen 4 เน้นอัพเกรดสเปกมากกว่า

ซีพียูใส่ได้สูงุสด 12th Gen Core i9 H-series, จีพียูสูงสุด GeForce RTX 3080 Ti, แรมสูงสุด 64GB DDR5, สตอเรจเป็น SSD ได้สองตัว ความจุสูงสุด 8TB, หน้าจอขนาด 16″ เลือกใส่หน้าจอที่เป็น WQXGA 165Hz หรือจะเป็นจอ Dolby Vision ที่รองรับ HDR400 ก็ได้

น้ำหนักเริ่มต้น 1.88 กิโลกรัม ราคาเริ่มต้น 2,749 ยูโร เริ่มขายเดือนมิถุนายน 2022

No Description

No Description

ThinkPad P14s Gen 3 และ ThinkPad P16s Gen 1 โน้ตบุ๊กสายเวิร์คสเตชัน เดิมทีมีเฉพาะรุ่นจอ 14″ รอบนี้เพิ่มรุ่นจอ 16″ มาให้ด้วย สเปกที่เหลือเหมือนกัน ซีพียูเป็น Core i7 12th Gen, จีพียู NVIDIA T550 4GB + Iris Xe, แรมสูงสุด 48GB, สตอเรจสูงสุด 2TB NVMe

ระบบปฏิบัติการเลือกได้เป็นทั้ง Windows 11 Pro, Ubuntu และ Red Hat Enterprise Linux (RHEL)

ราคาเริ่มต้นที่ 1,529 ยูโร เริ่มขายเดือนเมษายน 2022

No Description

ThinkPad T14, T14s, T16 โน้ตบุ๊กสายมาตรฐานซีรีส์ T มีหน้าจอ 14″ และ 16″ รวมถึงแยกเป็นเวอร์ชันซีพียูอินเทล (ห้อยตัว i ท้ายชื่อรุ่น) และรุ่นซีพียู AMD

ตัวฝั่งอินเทลเป็น 12th Gen Core สูงสุด i7 (เป็นซีรีส์ U/P) ฝั่ง AMD เป็น Ryzen 6000 ซีรีส์, ฝั่งอินเทลได้แรมสูงสุด 48GB ส่วน AMD แรมสูงสุด 32GB

ราคาเริ่มต้น 1,399 ยูโร สำหรับรุ่น T16/T14 และ 1,599 ยูโร สำหรับรุ่น T14s

No Description

ที่มา – Lenovo

from:https://www.blognone.com/node/127381

รีวิว Acer Nitro 5 ตัวแรงน่าซื้อ สเปก i9-11900H + RTX 3070 จอ 15.6″ QHD 165Hz คมชัดลื่นไหล เล่นเกมจัดเต็ม !

Acer Nitro 5 รุ่นใหม่ในปี 2022 สเปกท็อปสุดชิปประมวลผลผล Intel Core i Gen 11 H45 อย่าง i9-11900H จับคู่มากับการ์ดจอแยกตัวแรง NVIDIA GeForce RTX 30 Series ในรุ่น RTX 3070 เป็นหนึ่งใน Gaming Notebook หน้าจอ 15.6″ อีกรุ่นในตลาดที่ได้รับความสนใจทีเดียว ทั้งจากสเปกที่แรงลื่นกว่ารุ่นก่อน อีกทั้งยังมีฟีเจอร์ที่จัดเต็ม อาทิ คีย์บอร์ดไฟ RGB แบบ 4 โซน พร้อมหน้าจอ QHD ที่ 165Hz ให้ความลื่นไหลทั้งการเล่นเกมหรือทำงาน ได้ประกัน 3 ปี On-site Serive ที่ดีเยี่ยม หรือส่งศูนย์ซ่อมด่วน 3 ชั่วโมง

Acer Nitro 5

Advertisementavw

สำหรับ Acer Nitro 5 รุ่นที่ได้รีวิวนี้เป็นรุ่นที่ดีที่สุดของ Acer ที่แรงลื่นกว่าทุกรุ่นของ Nitro 5 แน่นอน ในส่วนของแรมจัดเต็มมาให้เลยที่ 16GB DDR4 Bus 3200MHz แบบ 16GB จำนวน 1 แถว ส่วนที่เก็บข้อมูลให้มามาตรฐาน SSD M.2 NCMe PCIe ความจุ 1TB หน้าจอความละเอียด 2650 x 1440 พิกเซล เป็นพาเนล IPS เกรดสูง sRGB 95% รองรับ Refresh Rate ที่ 165Hz  แน่นอนว่าได้ Windows 11 Home ใช้งานได้ทันที โดยความร้อนที่เกิดขึ้นถือว่าน้อยมากๆ เมื่อเทียบกับรุ่นอื่นๆ ในราคาที่ 59,990 บาท

NBS Verdict

การมาของ Acer Nitro 5 สเปก Intel Core i Gen 11 Tiger Lake H45 หรือ Acer Nitro 5 AN515-57  นับได้ว่ามีความคล้ายกันเกือบทั้งหมด หลักๆ แล้วแตกต่างกันที่สเปกภายในเท่านั้น ซึ่งทำให้ผู้ซื้ออย่างเราๆ มีตัวเลือกใหม่เพิ่มขึ้น (พร้อมกันนั้นก็มีสเปกที่เป็น Intel Core i Gen 11 Tiger Lake H35 ด้วย) โดยเป็นโน๊ตบุ๊คเล่นเกมราคาคุ้มค่ารุ่นล่าสุดของทาง Acer ทำให้เป็น Gaming Notebook ที่ได้สเปกการ์ดจอตัวอย่าง NVIDIA GeForce RTX 3050 Ti (4GB GDDR6) TGP 75W ตัวใหม่ตัวแรง โดดเด่นด้วยพอร์ต Thunderbolt 4 ที่ล้ำกว่าหลายๆ รุ่น รวมถึงรุ่นก่อนๆ ของ Nitro 5

Acer Nitro 5

ซึ่งเหมาะกันคนที่ต้องการ Gaming Notebook ที่ได้สเปกใหม่ โดดเด่นด้วยประสิทธิภาพสูง พร้อมได้แรมขนาด 16GB แบบ DDR4 Bus 3200MHz พร้อม SSD มาตรฐาน M.2 NVMe PCIe ความจุ 512GB มีระบบปฏิบัติการ Windows 10 Home ใช้งานได้ทันที ให้ความแรงลื่นในการทำงานและเล่นเกม ฟีเจอร์อื่นๆ ก็ยังครบเครื่องแต่ก็เหมือนเดิม ด้วยไฟคีย์บอร์ด RGB แบบ 4 โซน คล้ายกับที่เคยมีมาในรุ่นพี่อย่าง Predator Series ปรับแต่งได้อิสระประมาณนึง และได้การตอบสนองของปุ่มแบบทันทีด้วยระยะการกด 1.6 มม. เสริมอารมณ์ในการเป็น Gaming Notebook ไปอีกระดับ

Acer Nitro 5

ลำโพงของตัวเครื่องใช้เป็นแบบสเตอริโอ โดยมีระบบเสียง DTS:X Ultra ให้เสียงจะชัดเจนและสามารถจำลองระบบเสียงรอบทิศทาง 3 มิติได้ รวมไปถึงมีเทคโนโลยี Acer CoolBoost  ซึ่งดีเยี่ยมกว่ารุ่นก่อนหน้าเช่นกัน พร้อมการอัพเกรดอินเตอร์เน็ตไร้สายเป็น Wi-Fi 6 AX ที่มีเทคโนโลยี 2×2 MU-MIMO ที่ดีกว่า และ LAN RJ45 ก็เป็น Killer Ethernet E2600 โดยมีซอฟต์แวร์ Killer Control Center 2.0 ตรงนี้เหนือชั้นกว่ารุ่นอื่นๆ ชัดเจนทีเดียว

Acer Nitro 5

สำหรับคนไหนสนใจ Gaming Notebook ขนาดหน้าจอ 15.6″ ได้ดีไซน์เก่า ที่มีการปรับเปลี่ยนเล็กน้อย ส่วนของลายฝาหลังและเส้นสีแดงที่ทัชแพดหายไป ให้ดูแตกต่าง พร้อมคงโฉบเฉียว มีการแซมสีแดงให้ดูโดดเด่นเหมือนเดิม การเชื่อมต่อต่างๆ ก็ครบครันกว่าหลายๆ รุ่น พร้อมเน้นให้ประสิทธิภาพความแรงที่สดใหม่เหนือชั้นล่ะก็ Acer Nitro 5 รุ่นนี้ สเปกIntel Core i Gen 11 Tiger Lake H45 น่าจะตอบโจทย์ได้ดีที่สุดรุ่นหนึ่งทีเดียว จากราคาและสเปกคุ้มๆ ได้หน้าจอเทพๆ ทั้งลื่นไหลและค่าขอบเขตสีที่ดีมากๆ sRGB 95%

Acer Nitro 5

รวมไปถึงการทดสอบใช้งานจริงต้องบอกว่าแบตเตอรี่ใช้งานได้ประมาณ 5:23 ชั่วโมง ซึ่งถือว่าอยู่ในเกณฑ์ปกติของประเภทการใช้งานแบบนี้ ในส่วนนี้ก็ถือว่าทำได้ดีกว่ามาตรฐานของ Gaming Notebook รุ่นอื่นๆ พอตัว อย่างไรก็ตามสิ่งหนึ่งที่ต้องรู้คือ ประสิทธิภาพความแรงน่าจะไปได้ไกลกว่านี้ จากที่ความร้อนที่เกิดขึ้นของชิปประมวลผลและการ์ดจอยังร้อนน้อยอยู่ ไม่แน่ใจว่าอนาคตจะมีซอฟต์แวร์มารีดความแรงอีกหรือเปล่า รวมไปถึงแม้จะมีพอร์ต Thunderbolt 4 ที่รองรับการโอนถ่ายข้อมูล 40Gbps และรองรับการต่อหน้าจอ 4K/8K ก็ตาม แต่พอร์ตนี้ไม่ได้รองรับการชาร์จไฟเข้าเครื่องแต่อย่างใด 

ข้อดี Acer Nitro 5

  • ดีไซน์การออกแบบสวยงามให้ความ Gaming ตามสไตล์ Nitro 5 งานประกอบแน่นหนา
  • ประสิทธิภาพสูงจากชิปประมวลผล Intel Core i Gen 11 Tiger Lake H45 อย่าง i9-11900H 
  • พร้อมได้การ์ดจอแยกตัวแรง NVIDIA GeForce RTX 3070 (8GB GDDR6) ค่า TGP 100W
  • ได้แรมขนาด 16GB DDR4 Bus 3200MHz และ SSD M.2 NVMe 1TB ความจุสูงมาเลย
  • มีโปรแกรม Nitrosense + CoolBoots ปรับรอบพัดลมติดตั้งมาให้ในเครื่องเลย
  • แกะอัปเกรดทำได้ง่าย รองรับ SSD M.2 สองสล็อต และยังมีสล็อต HDD/SSD 2.5″ อีก 1 ช่อง
  • จัดการความร้อนทำได้ดีเยี่ยม เย็นทั้ง CPU / GPU เมื่อใช้งานหนักๆ ดีกว่ารุ่นก่อนๆ
  • หน้าจอพาเนล IPS เกรดสูง ความละเอียด QHD พร้อมรองรับ Refresh Rate ที่ 165Hz
  • พอร์ตเชื่อมต่อครบครันทั้ง USB 3.2 Type-A x 3 และ Thunderbolt 4 x 1
  • LAN รองรับ Killer Ethernet E2600 ช่วยลด Ping เวลาเล่นเกมออนไลน์
  • Killer Wi-Fi 6 AX 1650i มีเทคโนโลยี 2×2 MU-MIMO ดีกว่าแบบเดิมๆ
  • คีย์บอร์ดมีไฟ RGB แบบ 4 โซน สามารถปรับแต่งเพิ่มเติมได้
  • แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนาน 5:50 ชั่วโมง
  • มาพร้อมกับการรับประกัน 3 ปี แบบ On-site Service ซ่อมฟรีถึงบ้าน
  • ตัวเครื่องมาพร้อมกับ Windows 11 Home และซอฟต์แวร์ Acer Care Center

ข้อสังเกต Acer Nitro 5

  • ยังคงเป็นดีไซน์แบบเดิมๆ และสเปกเองก็ Core i Gen 11 H45 
  • เป็น Acer Nitro 5 ที่สเปกแรง และราคาสูงที่สุด 
  • ยังไม่มี SD(XC/HC) Card reader มาให้ในตัวเช่นเดิม
  • เสียงพัดลมค่อนข้างดังถ้าสั่งให้ทำงาน 100% 
  • ความเร็วของ SSD น้อยกว่าที่ควรจะเป็น เมื่อเทียบกับค่าตัว 

Specification

สเปกภายในของ Acer Nitro 5 รุ่นที่เรานำมารีวิวครั้งนี้ จัดว่าเป็นสเปก Intel Core i Gen 11 Tiger Lake H45 ตัวท็อปสุด อย่าง Core i9-11900H พร้อมกับประสิทธิภาพความแรงจากเทคโนโลยีการผลิต 10 นาโนเมตร SuperFin ที่ส่งผลให้มีความแรงที่มากกว่าขึ้น ความร้อนที่น้อยลง แบตเตอรี่ยาวนาน ที่กับคู่มากับการ์ดจอตัวแรงอย่าง NVIDIA GeForce RTX 3070 (8GB GDDR6) ส่วนแรมได้มาตรฐานเป็นขนาด 16GB แบบ DDR4 Bus 3200MHz มีที่เก็บข้อมูลเป็น SSD มาตรฐาน M.2 NVMe PCIe ความจุ 1TB หรือ 1000GB (รองรับการอัพเกรด SSD M.2 / HDD 2.5″ SATA3 ภายหลัง) 

Acer Nitro 5

หน้าจอขนาด 15.6″ แบบ Screen-to-Body เป็น 80% ด้วยขอบจอบางเพียง 7.02 มิลลิเมตร บนความละเอียด Quad HD (2560 × 1440 พิกเซล) ที่เลือกใช้ พาเนล IPS คุณภาพสูง ให้มุมมองที่คมชัด สีสันสวยสดงดงามสมจริง Refresh Rate ที่ 165Hz แบบ 3ms ให้การแสดงผลได้ลื่นไหลกว่ารุ่น 60Hz โดยพื้นผิวจอเป็นแบบจอด้าน Anti-Glare ช่วยลดแสงสะท้อนเวลาเรานำโน๊ตบุ๊คไปทำงานข้างนอก เหมาะกับการใช้งานทั่วไปหรือการเล่นเกม ดูหนังก็ทำได้ย่อมทำได้อย่างน่าประทับใจ ลำโพงของตัวเครื่องใช้เป็นแบบสเตอริโอ โดยมีระบบเสียง DTS:X Ultra จำลองเสียง 3 มิติได้

มีพอร์ตเชื่อมต่อที่ครบครันอีกรุ่นเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น 3 x USB 3.2 Type-A (1 พอร์ตเป็นแบบชาร์จเจอร์ด้วย), 1 x USB 3.2 Type-C, 1, HDMI 2.0, RJ45 พร้อมด้วยความสามารถ Killer Ethernet E2600 เพื่อการเล่นเกมออนไลน์ที่ลื่นไหล และ Mic-in/Headphone-out แบบ Combo การเชื่อมต่อไร้สายอย่างรองรับทั้ง Bluetooth 5.1 และอินเตอร์เน็ตไร้สายอย่าง Killer Wi-Fi 6 AX 1650i ที่มีเทคโนโลยี 2×2 MU-MIMO เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่อพ่วงทั้งหมดด้วยพอร์ตที่ครบครัน โดยมีซอฟต์แวร์ Killer Control Center 2.0 คอยควบคุมด้วย พร้อมระบบปฏิบัติการ Windows 11 Home ใช้งานได้ทันที

Acer Nitro 5 AN515-57-99W3 ราคากลาง 59,990 บาท (ดูสเปคทั้งหมดคลิ้ก)

  • CPU : Intel Core i9-11900H (8C/16T : 2.50 – 4.90 GHz)
  • GPU : Intel Iris Xe + NVIDIA GeForce RTX 3070 (8GB GDDR6)
  • RAM : 16GB DDR4 3200 MHz (16GB x 1)
  • DISPLAY: 15.6″ IPS Quad HD 144Hz
  • STORAGE : SSD M.2 2280 PCIe NVMe Gen 4 1TB
  • OS : Windows 11 Home
  • Warranty : 3 Years On-site Service

Hardware / Design

การดีไซน์ออกแบบ Acer Nitro 5 สเปกชิปประมวลผล Intel Core i Gen 11 Tiger Lake H45 ไม่ว่าจะเป็น Core i5 / i7 หรือ i9 รูปลักษณ์ภายนอกนั้นเหมือนกันทั้งหมด แตกต่างกันเพียงสติ๊กเกอร์ที่ติดเครื่องเท่านั้น โดยวัสดุของตัวเครื่องทั้งหมดจะเป็นพลาสติกเกรดดีสัมผัสพรีเมียม ส่งผลให้ตัวเครื่องมีความบางเบาตามมาตรฐาน รวมไปถึงการพกพาก็สะดวกยิ่งขึ้น อย่าง Acer Nitro 5 หน้าจอ 15.6″ พาเนล IPS ขอบจอบางเพียง 7.02 มิลลิเมตร พื้นที่สัดส่วนกว่า 80% ทำให้มีขนาดเครื่องกระทัดรัด

Acer Nitro 5

ซึ่งมีน้ำหนักตัวเครื่องตามสเปกอยู่ที่ 2.2 กิโลกรัม แต่ชั่งจริงๆ ได้ 2.08 กิโลกรัม จัดว่าเป็นมาตรฐานของ Gaming Notebook ที่เบาในขนาดหน้าจอนี้โดยได้เป็นหน้าจอ Refresh Rate ที่ 144Hz ทั้งสีสันและลื่นไหลจัดว่าดีเยี่ยม เหมาะกับการใช้งานทั่วไปหรือการเล่นเกม ดูหนังก็ทำได้ย่อมทำได้อย่างน่าประทับใจไม่มีปัญหา อย่างไรก็ตามภายนอกเปลี่ยนไปเล็กน้อยในส่วนของฝาหลังที่เป็นลายใหม่ รวมถึงเส้นแดงรอบกรอบทัชแพดจะหายไป ก็จัดว่ามีความต่างจากรุ่นก่อนหน้าแบบสังเกตได้

Acer Nitro 5

สำหรับสีสันก็ยังคงเอกลักษณ์สีดำ Shale Black แซมด้วยสีแดง แต่เพิ่มความโดดเด่นและสวยงาม ที่ต้องว่า Acer Nitro 5 ฝาหลังจะมีลักษณะลวดลายผิวไม่เรียบลักษณะคล้ายโลหะบลัชปัดเสี้ยนบางส่วนบริเวณด้านข้างซ้ายและขวา ฝาบนจะโลโก้คำว่า Acer สีดำมันวาวเล็กน้อย ผิวฝาบนพื้นผิวเป็นพลาสติกมีสีดำด้านให้สัมผัสดีมีคุณภาพสูง พร้อมขอบตัวเครื่องหลังเป็นสีแดงแทนที่สีดำเหมือนรุ่นก่อนๆ รวมไปถึงขอบตัวเครื่องบริเวณฝาพับ จะเป็นสีดำพร้อมกับมีคำว่า Nitro สีแดงติดตั้งเอาไว้ โดยสามารถกางหน้าจอได้มากกว่า 145 องศาทีเดียว

Acer Nitro 5

ตัวเครื่องด้านในของ Acer Nitro 5 ยังให้ดีไซน์คล้ายรุ่นก่อน ที่มีการติดตั้งปุ่ม Power ไว้มุมขวาบนสุดของชุดคีย์บอร์ด รวมไปถึงยังมีการติดตั้งปุ่ม NitroSense ไว้เหนือแป้นตัวเลขด้วย กดใช้งานได้สะดวกดี แต่ก็โดดเด่นกว่าด้วยที่คีย์บอร์ดนั้นเป็นไฟ RGB แบบแบ่งเป็น 4 โซน พร้อมกับใช้ขอบของปุ่มคีย์บอร์ดเป็นสีขาวทั้งหมด ซึ่งยอมรับเลยว่ามีความสวยงามลงตัวเข้ากับตัวเครื่องเป็นอย่างดี เพราะเวลาที่เราปรับไฟ แสงไฟจะเข้ากับขอบสีขาวมากกว่าหลายๆ รุ่นที่เป็นปุ่มสีดำทั้งหมด 

Acer Nitro 5

นอกจากนั้นก็เป็นสติกเกอร์ต่างๆ ติดเอาไว้ไม่ว่าจะเป็น ชิปประมวลผล Intel Core i Gen 11 แบบใหม่ และการ์ดจอ NVIDIA GeForce RTX รวมไปถึงมีการบอกถึงบริการซ่อมด่วนใน 3 ชั่วโมงตามสไตล์ของ Acer อีกด้วย อีกทั้งยังมีการแจกแจงถึงฟีเจอร์ต่างๆ ที่น่าสนใจ อาทิเช่น Dual SSD M.2 + One HDD Slot / ขอบจอบาง / Network Optimize / NitroSense + CoolBoost /  HDMI Port / ระบบเสียง DTS:X เป็นต้น

Acer Nitro 5

ฝาล่างของตัวเครื่องใช้วัสดุเป็นพลาสติกเกรดดี พื้นผิวเป็นแบบสากๆ ทำให้หยิบจำแล้วไม่ลื่นไหล พร้อมยางรองตัวเครื่องขนาดใหญ่ 4 จุดด้วยกัน ซึ่งมีความมั่นคงดี ซึ่งเมื่อมองไปที่ช่องด้านล่างก็จะพบกับช่องดูดลมเย็นขนาดใหญ่พร้อมกับพัดลม 2 ตัว ที่กรณีที่เราเปิดเครื่องก็จะเห็นไฟสี RGB จากคีย์บอร์ดติดอยู่ด้วย ดูแล้วก็สวยงามไปอีกแบบ อีกทั้งเราจะเห็นในส่วนของสติ๊กเกอร์ปิดน็อตที่เราสามารถเจาะทะลุได้ 

Acer Nitro 5

สำหรับเทคโนโลยี Acer CoolBoost และช่องระบายความร้อนแบบจัดเต็ม 4 ช่องทาง แบ่งเป็นทางด้านหลัง 2 ช่อง และซ้ายขวาอย่างละ 1 ช่อง จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและระบายความร้อนด้วยพัดลมคู่ เมื่อมีการใช้งานที่หนักหน่วง CoolBoost จะเพิ่มความเร็วพัดลมมากขึ้น 10% และการระบายความร้อน CPU/GPU มากขึ้น 9% เมื่อเทียบกับโหมดอัตโนมัติ  พร้อมจัดการระบบของเราแบบเรียลไทม์ด้วยซอฟต์แวร์ NitroSense ซึ่งครอบคลุมถึงอุณหภูมิ ความเร็วพัดลมและอีกมากมาย ในส่วนนี้ก็ถือว่ายังคงมาตรฐานเดิมๆ ที่ดีเยี่ยม

Acer Nitro 5 i9 RTX3070 Review 39
Acer Nitro 5 i9 RTX3070 Review 44
Acer Nitro 5 i9 RTX3070 Review 33
Acer Nitro 5 i9 RTX3070 Review 23
Acer Nitro 5 i9 RTX3070 Review 27
Acer Nitro 5 i9 RTX3070 Review 18

Keyboard / Touchpad

Acer Nitro 5 ติดตั้งคีย์บอร์ดแบบ Full Size มาให้ผู้ใช้งานได้ใช้กันได้อย่างสบายๆ พร้อมกับการตอบสนองของปุ่มแบบทันทีด้วยระยะการกด 1.6 มม. ติดตั้งปุ่มแป้นคีย์ตัวเลข (Numpad) โดยตัวปุ่มจะเป็นสีดำ มีฟอนต์เป็นสีขาว รวมไปถึงแป้นปุ่มตรงตัวอักษร WASD และปุ่มทิศทาง รวมถึงปุ่ม NitroSense จะมีขอบเป็นไฮไลน์เด่นออกมา นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับไฟ RGB แบบ 4 โซน ดูแล้วเป็น Gaming Notebook สวยงาม เอามาเล่นตอนกลางคืนสบายๆ อีกทั้งเรื่องการกดการสัมผัสบนคีย์บอร์ดที่ปุ่มมีความติดมือ ดีกว่าโน๊ตบุ๊คธรรมดาทั่วไปแน่นอน จะเอาไปเล่นเกมหรือทำงานก็ตอบสนองได้ดีเยี่ยม

Acer Nitro 5

ในส่วนทัชแพดนั้นจะมีขนาดกลางๆ ไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป ดีไซน์มีลักษณะขอบแดงรอบๆ ออกแบบปุ่มมาเป็นแบบชิ้นเดียวซ่อนปุ่มตามสมัยนิยมทั้งคลิกซ้ายคลิกขวา โดยมีการตัดขอบเส้นสีแดงออก จากการที่รุ่นก่อนๆ เคยมี เน้นความเรียบง่ายขึ้นเล็กน้อย ให้ความลื่นไหลในการใช้งานเป็นอย่างดี ซึ่งตัวทัชแพดจะวางตัวไปทางด้านซ้ายของเครื่องเล็กน้อยไม่ได้อยู่ตรงกลางหน้าจอเป๊ะๆ โดยรวมก็สามารถใช้งานได้ดีไม่ปัญหาแต่อย่างใด

Acer Nitro 5 i9 RTX3070 Review 22
Acer Nitro 5 i9 RTX3070 Review 24
Acer Nitro 5 i9 RTX3070 Review 29

Screen / Speaker

Acer Nitro 5 มีหน้าจอแสดงผลขนาด 15.6″ พื้นผิวแบบด้าน สัดส่วน 16:9 บนความละเอียดเป็น 2K Quad HD (2560 x 1600 พิกเซล) รองรับ Refreash Rate ที่ 165Hz / 3ms  ทำให้ภาพปรากฏออกมามีความลื่นไหลแบบสุดๆ กว่าที่ตาเราเห็น อีกทั้งตัวภาพเองยังเนียนตาไม่ฉีกขาด จากการที่ได้เทคโนโลยี NVIDIA G-Sync ติดตั้งเข้ามา โดยรองรับตั้งแต่การใช้งานทั่วไป รวมไปถึงเล่นเกมที่ต้องเคลื่อนไหวรวดเร็ว เพราะหน้าจอปกตินั้นจะแสดงได้สูงสุด 60Hz เท่านั้น (แต่เกมเองก็ต้องสามารถทำเฟรมเรทได้ด้วย) โดยติดตั้งกล้องเว็บแคมและไมโครโฟนแบบคู่ไว้ด้านบนเหมือนเดิม

Acer Nitro 5

Acer Nitro 5 i9 RTX3070 Review 17
Acer Nitro 5 i9 RTX3070 Review 15
Acer Nitro 5 i9 RTX3070 Review 16

การทดสอบประสิทธิภาพหน้าจอของ Acer Nitro 5 ใช้เครื่องมือที่เป็นทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์อย่าง Spyder5Elite โดยให้ขอบเขตความกว้างของสีสันเทียบเท่ากับมาตรฐาน sRGB ที่ 95% / Adobe RGB ที่ 71% / DCI-P3 ที่ 72% เรียกได้ว่าให้ประสิทธิภาพเรื่องของสีสันนั้นดีมากกว่าเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ครุ่นอื่นๆ ซึ่งมีความเที่ยงตรงของสีสูง ส่วนความสว่างหน้าจอสูงสุดอยู่ที่เกือบๆ 300 cd/m2 ซึ่งจัดได้ว่าค่อนข้างสว่างเพียงๆ ต่อทุกๆ การทำงาน ทำให้เมื่อคาลิเบตหน้าจอแล้วสามารถไปทำงานภาพกราฟิกหรือตกแต่งภาพที่เน้นความเที่ยงตรงได้โอเคเลยทีเดียว

s4 3

ต่อกันที่วัดความสว่างของหน้าจอตามตำแหน่งต่างๆ โดยแบ่งเป็น 9 ช่อง เทียบจากช่องกลางที่ปกติแล้วจะให้ความสว่างที่มากที่สุด ที่จะเห็นได้ว่าช่องตรงกลางแถวบนมีค่า 0% ก็คือแสดงความสว่างได้เต็มที่ แต่สำหรับช่องมุมขวาบน จะมีแสงสว่างลดลงไปที่ 10% ในการทดสอบก็เพื่อให้เราใช้งานอย่างระมัดระวังสำหรับคนที่บังเอิญจำเป็นต้องใช้งานภาพถ่าย หรืองานกราฟิกอื่นๆ และค่าคลาดสี Delta-E เฉลี่ยแล้วอยู่ที่ 2.09 เท่านั้น ปิดท้ายด้วยคะแนน 4.0 เมื่อทดสอบด้านการแสดงผลต่างๆ ทั้งหมดแล้ว ผ่านทางอุปกรณ์ Spyder5Elite

s1 3
s2 2
s3 3

ส่วนทางด้านลำโพงของ Acer Nitro 5 นั้นจะมีด้วยกัน 2W x 2 ทำงานแบบสเตอริโอ โดยจะอยู่ทางด้านล่างมุมซ้ายและขวาของเครื่องอย่างละตัว ลำโพงนั้นจะมีการวางตำแหน่งในลักษณะเฉียงลงไปยังพื้นเพื่อที่จะให้เสียงได้สัมผัสกับพื้นแล้วสะท้อนขึ้นมาก ซึ่งคุณภาพเสียงการใช้งานต่างๆ นอกจากนี้ยังได้ระบบเสียงเป็น Acer Trueharmony DTS:X Ultra เพิ่มประสิทธิภาพเสียงในทุกย่านเสียง มีหลายโปรไฟล์ให้เลือก พร้อมจำลองเสียง 3 มิติได้ เพื่อรองรับความบันเทิง ไม่ว่าจะเป็นเล่นเกม หรือดูหนังฟังเพลง ก็สามารถทำออกมาได้ดีเช่นเดิม

Acer Nitro 5 i9 RTX3070 Review 48
Acer Nitro 5 i9 RTX3070 Review 50
Acer Nitro 5 i9 RTX3070 Review 49

Connector / Thin And Weight

Acer Nitro 5 จัดว่าเป็น Gaming Notebook ขนาดหน้าจอ 15.6″ ที่มีพอร์ตเชื่อมต่อที่ครบครันอีกรุ่นเลยทีเดียว ที่น่าสนใจคือได้พอร์ตการเชื่อมต่อที่ครบถ้วนและเหนือชั้นกว่า พร้อมทั้งมี 3 x USB 3.2 Type-A (1 พอร์ตเป็นแบบชาร์จเจอร์ด้วย), HDMI 2.0, RJ45 (Gigabit Ethernet) พร้อมด้วยความสามารถ Killer Ethernet E2600 เพื่อการเล่นเกมออนไลน์ที่ลื่นไหล  โดยมีซอฟต์แวร์ Killer Control Center 2.0 คอยควบคุมด้วย ซึ่งนับว่ามีความโดดเด่นที่มากกว่ารุ่นอื่นๆ ในตลาด

Acer Nitro 5

นอกจากนี้ยังมีในส่วนของช่องมาตรฐานด้านเสียงอย่าง Mic-in/Headphone-out 3.5 มิลลิเมตร แบบ Combo เรียกได้ว่าพอเพียงกับการใช้งานทั่วไปอย่างแน่นอน ทั้งในการโอนถ่ายไฟล์หรือเชื่อมต่ออุปกรณ์เทียบกับรุ่นก่อนก็ถือว่าดีกว่าหลายด้าน ส่วนพอร์ตชาร์จไฟอแดปเตอร์ติดตั้งไว้ที่ด้านนหลังเช่นเดิม อย่างไรก็ตามยังคงรูปแบบการเชื่อมต่อเดิมๆ ไว้ โดยที่ไม่ได้มีการปรับปรุงใดๆ ในส่วนนี้เลย จากการที่ยังคงเป็นโมเดลเหมือนกับรุ่นปี 2021 แบบ 100% 

Acer Nitro 5 i9 RTX3070 Review 32
Acer Nitro 5 i9 RTX3070 Review 35
Acer Nitro 5 i9 RTX3070 Review 37

การเชื่อมต่อไร้สายอย่างรองรับทั้ง Bluetooth 5.1 และอินเตอร์เน็ตไร้สายอย่าง Killer Wi-Fi 6 AX ที่มีเทคโนโลยี 2×2 MU-MIMO เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่อพ่วงทั้งหมดด้วยพอร์ตที่ครบครัน ทางด้านการพกพา Acer Nitro 5 ทำได้น่าพอใจในระดับที่ใกล้เคียงกับรุ่นเดิม จากการที่มีน้ำหนักตัวเครื่องที่ 2.08 กิโลกรัม และเมื่อรวมกับอแดปเตอร์กำลังไฟ 180W พร้อมสายชาร์จเข้าไปด้วยแล้วก็จะมีน้ำหนักอยู่ที่ประมาณ 2.5 กิโลกรัม นับได้ว่าพอพกพาสะดวกอยู่เวลาใช้งานนอกสถานที่ได้บ้าง

Acer Nitro 5

Inside / Upgrade

การแกะเครื่องเพื่ออัพเกรด Acer Nitro 5 นั้นสามารถทำได้ง่ายเช่นเดิม เพียงแค่ไขน็อตทุกตัวรอบฝาล่างออก จากนั้นใช้บัตรแข็งค่อยๆ รูดถอดออกที่ละส่วน จากด้านหลังมาด้านหน้าทีละข้าง โดยควรทำอย่างระมัดระวัง แล้วค่อยๆ แงะฝาขึ้นมาอีกที งานประกอบการจัดวางตำแหน่งคล้ายกับรุ่นเดิมมีฮีท์ไปป์ 3 เส้นพร้อมลักษณะชิ้นโลหะขนาดใหญ่พาดผ่าน CPU และ GPU โดยมีพัดลมสองแยกอิสระจากกัน ช่องระบายความร้อนแบบ 4 ทิศทางที่ดีกว่ารุ่นก่อนๆ แน่นอน

Acer Nitro 5

แรมสามารถติดตั้งได้ 2 แถว โดยติดตั้ง 16GB DDR4 Bus 3200MHz มาแล้ว 16GB x 1 แถว โดยรองรับสูงสุดที่ 32GB ส่วน SSD M.2 NVMe PCIe รองรับการติดตั้ง 2 สล็อตด้วยกัน โดยใส่มาแล้ว 1 ตัวที่ 512GB พร้อมมีการติดตั้งซิลิโคนที่แผงฝาล่างให้ด้วย แน่นอนว่ารองรับการใส่ SSD M.2 เป็น 2 ตัวพร้อมๆ กัน แล้วตั้งเป็น Raid ได้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพได้ ส่วนอื่นๆ ก็จะเป็นช่องใส่ HDD หรือ SSD แบบ 2.5″ ที่สามารถอัพเกรดได้เช่นกัน อย่างไรก็ตามการแกะฝาล่างนั้นไม่ทำให้หลุดประกัน แต่บริษัทจะไม่รับผิดชอบหากแกะเองแล้วเกิดความเสียหาย

Acer Nitro 5 i9 RTX3070 Review 58
Acer Nitro 5 i9 RTX3070 Review 60
Acer Nitro 5 i9 RTX3070 Review 62
Acer Nitro 5 i9 RTX3070 Review 61
Acer Nitro 5 i9 RTX3070 Review 63
Acer Nitro 5 i9 RTX3070 Review 59

Performance / Software

Acer Nitro 5 เครื่องที่นำมาทดสอบ สำหรับ Acer Predator Triton 500 SE มาพร้อมกับชิปประมวลผลรุ่นยอดนิยมของ Gaming Notebook อย่าง Intel Core i Gen 11 Tiger Lake H45 อย่าง Core i9-11900H เน้นนำไปใช้งานหนักๆ มากกว่ารุ่น Core i7-11800H ไม่จะเป็นการโปรเซสหรือเล่นเกม 3 มิติ ที่กินทรัพยากรสูง

โดยมีความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 2.50 GHz แต่สามารถเร่งประสิทธิภาพขึ้นไปได้สูงสุดถึง 4.90 GHz เป็นซีพียูแบบ 8 Core 16 Threads มาพร้อมแรมภายในขนาด 16GB DDR4 Bus 3200 MHz แบบ 16GB x 1 แถว ที่สามารถขับเคลื่อนระบบปฏิบัติการ Windows 101 Home ที่มีมาให้ใช้งานลื่นไหลทันทีแบบสบายๆ

c1 3.   c2 3

การ์ดจอเป็นแบบออนบอร์ดอย่าง Intel UHD Graphics Xe 750 32EUs  ที่ให้พลังในการประมวลผลที่ดีในระดับหนึ่ง ด้วยความเร็ว 350 – 1450 (Boost) MHz อย่างในเรื่องของกราฟิก 2 มิตินั้นก็รองรับได้อย่างสบายๆ หรือถ้าเป็น 3 มิติ ก็ต้องบอกว่ารองรับการทำงานได้ในระดับเบื้องต้น แต่ก็มาพร้อมกับฟีเจอร์ QuickSync ทำให้รองรับการแสดงผลระดับ 4K ได้อย่างลื่นไหล

อีกทั้งยังมีการ์ดจอแยกรุ่นใหม่ล่าสุดตัวแรงอย่าง NVIDIA GeForce RTX 3070 (8GB GDDR6) ค่า TGP 100W สถาปัตยกรรม Ampere โดยเป็น RTX เจนที่ 2 ที่ต้องบอกว่าแรงกว่ารุ่นก่อนหน้าอย่าง GeForce RTX 2070 Super (8GB GDDR6) แน่นอน ซึ่งไม่ใช่แค่แรงแต่ยังร้อนน้อยกว่า เน้นใช้งานกับ Gaming Notebook ทุกประเภท

ทั้งตัวหนาหนักและบางเบา รองรับ Ray Tracing ช่วยเพิ่มคุณภาพการแสดงแสงเงาให้แม้แต่เกมระดับ AAA ก็ยังสามารถปรับกราฟิกได้ถึง Ultra ให้ภาพสวยงาม ไหลลื่น สมจริงกว่าที่เคยมีมา เรียกได้ยิ่งตอบสนองในส่วนของการทำงานที่เกี่ยวข้องกับ 3 มิติ หรือเกมที่กินทรัพยากรได้เป็นอย่างดีทีเดียว

g1 2.   g2 2

สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH 15 / 20 ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล Intel Core i9-11900H คะแนนก็อยู่ในระดับสูงสุดๆ ที่น่าประทับใจสมกับเป็นเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด เปรียบเทียบกับชิปประมวลผล Intel Core i7-11800H ก็ทำได้ดีกว่าไปอีกระดับ รวมไปถึงตัวการ์ดจอเองก็มีประสิทธิภาพสูงประมาณนึงเช่นเดิม เรียกได้ว่าตอบโจทย์ในส่วนของงานประมวลผลหนักๆ ได้อย่างสบายๆ รวดเร็วทันใจแบบสุดๆ สมกับเป็นชิปประมวลผลตัวบนในรุ่นใช้งานเต็มกำลังที่เน้นการทำงานหนักๆ เป็นหลัก

cine15 3.   cine20 3

ตัวเก็บข้อมูลของเครื่องที่เลือกใช้ SSD ที่กลายเป็นมาตรฐานของ Gaming Notebook ไปแล้ว ทำคะแนนออกมาได้อย่างรวดเร็วเป็นที่น่าพอใจบนขนาดความจุ 512GB แบบ M.2 NVMe PCIe Gen 3 ยิ่งเมื่อนำไปใช้เทียบกับฮาร์ดดิสก์แบบจานหมุนแล้วละก็จะเห็นถึงประสิทธิภาพทั้งในด้านการทดสอบและในด้านการใช้งานจริงที่แตกต่างกันอย่างเห็นเห็นได้ชัด เรียกได้ว่าเปิดอะไรปุ๊บก็ติดปั๊บ ที่ต้องบอกว่าความเร็วระดับการอ่านที่ราวๆ 2074 MB/s และเขียนที่ 863 MB/s ที่เร็วกว่ารุ่นก่อนๆ ถือว่าช้ากว่าที่ครจะเป็น

ssd2

การทดสอบประสิทธิภาพกับโปรแกรม PCMark 10 Advance ซึ่งสามารถทำคะแนนการทดสอบรวมได้มากถึง 6086 คะแนน ถือได้ว่าในส่วนของการใช้งานทั่วไปโดยรวมนั้นสอบผ่านแบบสบายๆ ทั้งในส่วนของการเล่นเว็บไซต์ งานเอกสาร งานตกแต่งรูปภาพ รวมถึงงานตัดต่อวิดีโอ และจากการที่เป็น Gaming Notebook สเปกใหม่จากชิปประมวลผล Intel Core i Gen 11 H45 มีการ์ดจอแยกรุ่นล่าสุดระดับ Gaming  อย่าง GeForce RTX 3070 ทำให้มีคะแนนพุ่งกว่าโน๊ตบุ๊คปีก่อนๆ มากพอตัว อีกทั้งสเปกใช้แรมไป 16GB  ก็ผลในการทดสอบด้วย

pc10 2

สำหรับคะแนนและเฟรมเรมในการเล่นเกมจากการทดสอบด้วยโปรแกรม 3D Mark จากทาง Futuremark ที่พัฒนาและคิดค้นจากบริษัท AMD, Intel, Microsoft, NVIDIA ในส่วนของ Time Spy ทำออกมาน่าสนใจมากๆ ด้วยคะแนนรวม 8609 และประมวลผลคาดการณ์เกม Battlefield V ปรับสุด Quad HD ได้ 90+ FPS เน้นเรื่อง DirectX 12 เป็นตัวช่วยขับเคลื่อนเพื่อมาเสริมข้อบกพร่องทางด้านการทำงานต่างๆ ของการ์ดจอเป็นหลัก ซึ่งผลทดสอบนั้นจะดูว่าแต่ละการ์ดจอนั้นสามารถทำงานเข้าขากับ DirectX 12 ได้ดีขนาดไหน 

3d copy

สำหรับคะแนนและเฟรมเรมในการเล่นเกมทำออกมาน่าสนใจมากๆ โดยเฉลี่ยของเฟรมเรท (FPS) จากทั้ง 6 เกมที่ได้ทดสอบมีค่าเฟรมเรทเฉลี่ยมากกว่า 80 – 100 FPS ขึ้นไปแทบทุกเกม ประกอบไปด้วย Resident Evil 8   FarCry 6 / GTA V  ที่เป็นเกมออฟไลน์ที่กินทรัพยากร รวมไปถึงเกมออนไลน์ยอดนิยมอย่าง PUBG / DOTA 2 รวมไปถึง SCUM ที่กินสเปกหนักหน่อย ซึ่งตรงนี้ก็สามารถชี้วัดความสามารถในการเล่นเกมที่กราฟิกละเอียดๆ และภาพสวยๆ ได้ลื่นไหลเป็นอย่างดีเลย

game test 3

และด้วยพาเนล IPS แบบ 165Hz บนความละเอียดหน้าจอ Quad HD ทำให้เกมมีความลื่นไหลกับฉากที่เคลื่อนไหวเร็วๆ เวลาที่เราปรับให้ปล่อยเฟรมเรทสูงๆ แบบสุดๆ หมดปัญหาภาพฉีก หรือภาพกระตุกไปเลย แต่นั่นก็ต้องอยู่กับตัวเกมด้วยว่าขับเฟรมเรทได้แค่ไหน ถ้าเกมกินสเปกหนักๆ อาจไม่เห็นผลมากนักกับความลื่นไหล หรือเอาจริงๆ สำหรับเกมสไตล์ MOBA แค่ 60 FPS นิ่งๆ ก็เอาอยู่ หรือถ้าอยากให้วิ่ง 165Hz ก็จะปรับกราฟิกของเกมลงมาต่ำๆ หน่อย

ni2 copy

โดยมาพร้อมกับซอฟแวร์ยูทิลิตี้ NitroSense ที่ทำให้เราสามารถปรับค่าต่างๆ ในตัวเครื่องได้อย่างง่ายดายไม่ว่า CoolBoots เร่งรอบพัดลมให้สุดที่ 5000 – 6000 รอบทั้ง 2 ตัว ที่ใช้ระบายความร้อน CPU/GPU เมื่อต้องใช้งานหนักๆ รวมไปถึงการปรับโหมดการใช้งาน เช่นประหยัดพลังงานใช้แบตเตอรี่ก็ต้องเป็น Power Saver และสุดท้ายกับการดูสถานะการทำงานของตัวเครื่องก็มีทั้ง อุณหภูมิ รอบพัดลม กันแบบเวลาจริงเลยล่ะ เรียกได้ว่า Acer ใส่ใจใน NitroSense เพื่อให้เราใช้งานได้งานและใช้งานได้จริงทีเดียว

care

นอกจากนี้ก็ยังมีในส่วนของซอฟต์แวร์ที่จะเป็นตัวช่วยในการใช้งานของเราอีกด้วยอย่าง Acer Care Center (เปิดเครื่องมาเจอเลย) ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสเปกภายใน หรือเช็คสถานะการทำงานส่วนต่างๆ ของเครื่อง รวมไปถึงยังสามารถ ตรวจเช็คสถานะเครื่องกับข้อมูลแคชต่างๆ ก็ทำการลบทิ้งได้ตรงนี้เลย หรือเช็คอัพเดทซอฟ์ตแวร์และไดร์เวอร์ต่างๆ ของเครื่องก็สามารถทำผ่านตรงนี้ได้เช่นกัน ที่สำคัญถ้าใครต้องการ Backup หรือ Recovery ข้อมูลภายในก็จัดการได้เลย

Battery / Heat / Noise

แบตเตอรี่ที่ติดตั้งมาให้ในเครื่องนี้เป็นแบบฝังตามปกติ ความจุ 3750mAh ส่วนของการทดสอบระยะเวลาใช้งานของแบตเตอรี่โดยตั้งค่าความสว่างหน้าจอและเสียงให้ระดับต่ำ แล้วเล่นเว็บสลับกับดู Youtube พร้อมเปิดโปรแกรม BatteryMon แจ้งระยะเวลาใช้งานต่อเนื่องในเงื่อนไขดังกล่าวราวๆ เกือบ 6 ชั่วโมงโดยประมาณ เรียกได้ว่าน่าประทับใจทีเดียวกับการที่ Gaming Notebook จอ 15.6″ ใช้งานแบตเตอรี่ได้นานระดับนี้ เพราะจริงๆ ความจุก็ให้มาไม่มาก อย่างไรก็ตามในการใช้งานจริงๆ ที่มีการใช้งานหลากหลาย แบตเตอรี่อาจจะลดลงไวกว่านี้ได้ 

batt 2

ส่วนเรื่องอุณหภูมิในการใช้งานนั้น ในส่วนของ Hardware Monitor สามารถตรวจสอบได้ถึงข้อมูลของ CPU / GPU ทันที เมื่อใช้งานแบบปกติชิปประมวลผลจะอยู่ที่ประมาณ 40 – 60 องศาเซลเซีย ภายในห้องปรับอากาศอุณหภูมิประมาณ 25 – 27 องศาเซลเซียส จากนั้นทำการทดสอบเบิร์นให้เครื่องทำงาน 100% ด้วยการเล่นเกมกราฟิก 3 มิติ 

temp2 2

ที่ดูจากภาพแล้วจะเห็นได้ว่าอุณหภูมิสูงสุดของชิปประมวลผล CPU อยู่ที่ 94 องศาเซลเซียส นับว่าอยู่ในเกณฑ์เย็นอย่างน่าประทับใจเมื่อเทียบกับ Gaming Notebook สเปกใกล้เคียงนี้ ส่วนการ์ดจอถือว่าเย็นทีเดียวโดยร้อนสุดเพียง 74.5 องศาเซลเซียสเท่านั้น โดยรวมแล้วมีการจัดการอุณหภูมิได้เป็นอย่างดี แม้ในส่วนของ CoolBoots ไม่ได้ทำงาน คาดว่าเครื่องขายจริง ต้องมีการใช้ได้ เพื่อที่เราจะได้ปรับแต่งตามการใช้งานแน่นอน

Conclusion / Award

อีกหนึ่งตัวเลือกซื้อ Gaming Notebook งบ 5x,xxx บาท อย่าง Acer Nitro 5 ที่นอกจากได้ดีไซน์ใหม่ๆ ในกลิ่นอายเดิมแล้ว คือได้สเปกชิปประมวลผล Core i Gen 11 H45 ตัวท็อป i9-11900H และการ์ดจอแยก NVIDIA GeForce RTX 3070 ตัวรองท็อป ด้วยสเปกที่แรงลื่นกว่าเดิม พร้อมแรมขนาด 16GB DDR4 Bus 3200MHz และ SSD M.2 NVMe PCIe Gen 4 1TB ส่งผลให้ประสบการณ์ใช้งานโดยรวมประทับใจตั้งแต่ครั้งแรกที่เปิดเครื่องในเรื่องความรวดเร็วและการตอบสนองต่างๆ ที่สำคัญคือได้คีย์บอร์ดไฟ RGB แบบ 4 โซน ที่สามารถปรับแต่งได้ ตามสไตล์ของ Nitro 5

Acer Nitro 5

โดดเด่นด้วยการรองรับอัพเกรดใส่ SSD M.2 NVMe อีกจำนวน 1 ช่อง (ใส่ไปแล้ว 512GB 1 ช่อง) และ HDD/SSD 2.5″ SATA 3 จำนวน 1 ช่อง เพิ่มได้ภายหลัง พร้อมกับ LAN เป็น Killer Ethernet E2600 ทำให้เมื่อต่อสาย RJ45 ก็จะช่วยการเล่นเกมที่ลื่นไหลได้ ส่วนการเชื่อมต่อไร้สายก็เป็นมาตรฐาน Keller Wi-Fi 6 AX ที่ดีกว่า มีเทคโนโลยี 2×2 MU-MIMO เหนือชั้นกว่ารุ่นราคาใกล้เคียงกันที่ส่วนมากไม่มี ในเรื่องของการเชื่อมต่อก็ครบครันกว่าเดิมด้วย USB 3.2 Type-A จำนวน 3 ช่อง  พร้อมงานประกอบก็แน่นอนไว้ใจได้ การถอดอัพเกรดก็ง่ายเหมือนเดิม เชื่อได้ว่าเพื่อนๆ น่าจะถูกใจกันไม่น้อย

Acer Nitro 5

สำหรับการระบายความร้อนก็นับว่าทำได้ดีกว่าหลายๆ รุ่น จากการที่ทาง Acer ออกแบบมาได้ดีขึ้น รวมถึงชิปประมวลผล ก็ให้ความแรงที่และสเถียรภาพ ฉะนั้นถ้าดูจากผลทดสอบอุณหภูมิก็นับว่าทำได้ดีตามเกณฑ์มากๆ แล้ว ส่วนการ์ดจอแยกขับเคลื่อนเกม Quad HD ได้ลื่นไหล แต่ก็ได้ความร้อนต่ำมากๆ ต่อความแรงที่น่าประทับใจ ซึ่งรองรับการเล่นเกมได้อย่างลื่นไหลไม่มีสะดุด อย่างไรก็ตามสิ่งที่ต้องรู้คือ SSD ที่ติดตั้งมาให้ ทดสอบแล้วความเร็วน้อยกว่าที่คาดเอาไว้ รวมไปถึงประสิทธิภาพความแรงที่ได้โดยรวมจากผลทดสอบ มีความเป็นรองรุ่นอื่นๆ ที่สเปกใกล้เคียงกัน คาดว่าเป็นผลมาจากอแดปเตอร์เองก็ไม่ได้มีกำลังไฟสูงอย่างที่ควรจะเป็นเพื่ออัดไฟเพิ่ม  

Acer Nitro 5

Award

โดยในครั้งนี้จะเป็นการเปรียบเทียบการให้รางวัลกับเครื่องในกลุ่มของโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 15.6 นิ้วด้วยกัน ซึ่ง Acer Nitro 5 ก็ได้รางวัลต่างๆ ดังนี้

Best Design

เรื่องของรูปร่างหน้าตาก็เป็นหนึ่งในจุดเด่นที่มีอยู่ในผลิตภัณฑ์ของ Acer Nitro 5 โน๊ตบุ๊คเล่นเกมสายคุ้มค่ามาตั้งแต่ไหนแต่ไร ซึ่งจุดเด่นในข้อนี้ก็เห็นได้ชัดเจนใน Acer Nitro 5 รุ่นใหม่ สเปก Intel Core i Gen 11 H45 ที่มีดีไซน์ของตัวเครื่องสวยงามโฉบเฉี่ยวเป็นเอกลักษณ์ตามสไตล์ของ Nitro 5 Series  ที่ได้รับการปรับปรุงในมีความลงตัวมากยิ่งขึ้นไปอีก ดูแล้วน่าจะโดนใจคนรุ่นใหม่ที่ชอบเล่นเกม ที่สำคัญคือขอบจอบาง น้ำหนักเบาแค่ 2.08 กิโลกรัมเท่านั้น พร้อมระบบระบายความร้อนที่ดีเยี่ยมจากทาง Acer ที่คิดมาเป็นอย่างดีแล้ว อีกทั้งได้คีย์บอร์ดไฟ RGB แบบ 4 โซน ที่สามารถปรับแต่งได้

NBS award 7 Design 

Best Performance

Acer Nitro 5 สเปกชิปประมวลผลเป็น Intel Core i9-11900H ที่มาพร้อมกับประสิทธิภาพ ที่ส่งผลให้มีความแรงที่มากกว่าขึ้น พร้อมการ์ดจอ NVIDIA GeForce RTX 3070 ที่แรงลื่นรองรับทุกๆ การทำงานหรือเล่นเกม มีที่เก็บข้อมูลรองรับการติดตั้ง SSD แบบ M.2 NVMe และรองรับฮาร์ดดิสก์ 2.5″ มาตรฐาน SATA 3 อีก 1 สล็อต โดยตามสเปกได้ติดตั้งมาแล้วที่ 512GB ในส่วนของแรมเองมีมาให้ 16GB แบบ DDR4 Bus 3200 MHz รองรับการทำงานต่างๆ พร้อมๆ กันได้หลายๆ งาน รวมถึงเล่นเกมได้อย่างลื่นไหล

award new performance

Best Gaming

Acer Nitro 5 จัดว่าเป็นโน๊ตบุ๊คเล่นเกม ตัวท็อปสุดของ Nitro 5 กับขนาดหน้าจอ 15.6″ ได้หน้าจอ Quad IPS 165Hz  ลื่นไหลที่สุดอย่างไร้กังวล เรียกได้ว่าเป็น Gaming Nobook ที่หน้าจอขอบเขตสีที่สุดรุ่นนึงในตลาก พร้อมได้สเปกที่ดี ราคาคุ้มค่า ซึ่งในตอนนี้มีให้เลือกหลากหลายสเปก อีกทั้งความร้อนที่น้อยลง ส่งผลให้ทำงานได้อย่างลื่นไหล (จริงๆ ร้อนอีกหน่อยแต่แรงกว่านี้น่าจะทำได้) พร้อมได้ฟีเจอร์ Gaming ทั้งคีย์บอร์ด RGB และ Nitrosense สำหรับ Gaming Notebook  ที่มีประสิทธิภาพสูงและฟีเจอร์เพียบแบบนี้  ได้ประกัน 3 ปี On-site Serive

award new Gaming

 

from:https://notebookspec.com/web/640011-review-acer-nitro-5-i9-rtx3070

Huawei MateBook X Pro รุ่นปี 2022 อัพเกรดจอ ซีพียูยังเป็น 11th Gen, เปิดตัว MateBook E

Huawei อัพเกรดโน้ตบุ๊กของตัวเองในงาน MWC 2022 โดยโน้ตบุ๊กรุ่นเรือธงคือ MateBook X Pro รุ่นปี 2022 ได้รับการอัพเกรดเพิ่มเติมเล็กน้อย ใช้จอ 14.2″ 3.1K FullView 90Hz ที่ผ่านการรับรองความแม่นยำของสีจาก TÜV Rheinland, เพิ่มลำโพงเป็น 6 ตัว, ชาร์จเร็ว 90 วัตต์

จุดที่น่าสนใจคือ MateBook X Pro กลับยังใช้ซีพียู Core i7-1195G7 ที่เป็น 11th Gen ใกล้เคียงกับรุ่นของปี 2021 ยังไม่ได้เป็น 12th Gen รุ่นใหม่ล่าสุด ซึ่ง Huawei ก็ไม่ได้อธิบายว่าทำไมถึงยังใช้ซีพียูเก่าอยู่ – สเปกละเอียด

ราคาขายในยุโรปคือ 1,899 ยูโร (แรม 16GB + 1TB) หรือราว 70,000 บาท

No Description

สินค้าไลน์ใหม่ที่น่าสนใจคือ MateBook E แท็บเล็ตแบบ 2-in-1 (แต่ Huawei เรียกว่าเป็นโน้ตบุ๊ก) สายวินโดวส์ ที่ใช้หน้าจอ OLED เป็นรุ่นแรกของบริษัท รองรับปากกา M-Pencil และมีเคสคีย์บอร์ดพร้อมขาตั้ง (ลักษณะคล้าย Surface) น้ำหนัก 709 กรัม ตัวเครื่องบาง 7.9 มิลลิเมตร ซึ่ง Huawei โฆษณาว่า “บางกว่าแบรนด์ S”

สเปกของ MateBook E คือหน้าจอ 12.6″ OLED 2560×1600, ซีพียู Intel 11th Gen (Core i3-1110G4, i5-1130G7, i7-1160G7) แรม 8GB/16GB, สตอเรจสูงสุด 512GB NVMe SSD, ชาร์จเร็ว 65 วัตต์, ระบบปฏิบัติการ Windows 11 – สเปกละเอียด

ราคาเริ่มต้น 649 ยูโร (Core i3 + 8GB + 128GB) ไปจนถึงรุ่นแพงสุด 1,399 ยูโร (Core i7 + 16GB + 512GB)

No Description

ที่มา – Huawei

from:https://www.blognone.com/node/127380

9 โน๊ตบุ๊ค Intel 2022 น่าซื้อ สเปคดีคุ้มค่าน่าซื้อมาใช้ แบรนด์หน้าใหม่น่าสนใจเพียบ! เริ่มแค่ 18,990 บาทเท่านั้น

โน๊ตบุ๊ค Intel 2022 น่าซื้อในปีนี้พากันตบเท้าเปิดตัวกันต่อเนื่อง แต่จะมีรุ่นไหนน่าสนใจบ้างนะ?

laptop cover

โน๊ตบุ๊ค Intel 2022 น่าซื้อช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้ ถือว่ามีรุ่นน่าสนใจสเปคดีให้เลือกมากมาย ตอบโจทย์ทั้งสายทำงานและมีเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คที่ตอบโจทย์ทั้งเกมเมอร์และคนทำงานที่ต้องตัดต่อวิดีโอด้วย และสิ่งที่น่าสนใจของปี 2022 นี้ คือมีผู้เล่นหน้าใหม่เอาโน๊ตบุ๊คราคาคุ้มค่ามาให้เลือกมากมายไม่พอ ยังมีดีไซน์ใหม่และแบรนด์เก่าแก่ที่ทำตลาดสินค้าไลน์อื่นมาก่อนแล้วเพิ่งนำโน๊ตบุ๊ครุ่นน่าสนใจกลับมาทำตลาดในประเทศไทยเพิ่มด้วย อาจจะพูดได้ว่าปีนี้มีตัวเลือกเด่นดีน่าสนใจตบเท้ามาให้เลือกกันมากมายเลยทีเดียว

Advertisementavw

ซึ่งโน๊ตบุ๊ค Intel 2022 น่าซื้อในบทความนี้ ผู้เขียนจะรวมเครื่องน่าสนใจรุ่นใหม่ๆ และแซมด้วยรุ่นที่เปิดตัวก่อนหน้านี้แต่สเปคยังถือว่าคุ้มค่า ใช้ได้อีกยาวๆ ให้เลือกด้วย เพื่อตอบโจทย์ทั้งนักเรียน, คนทำงาน และบางรุ่นก็ได้ Microsoft Office Home & Student 2021 ติดตั้งมาให้พร้อมใช้งานอีกด้วย

โน๊ตบุ๊ค Intel 2022 น่าซื้อ

9 โน๊ตบุ๊ค Intel 2022 น่าซื้อ มีทั้งสายทำงานและเกมมิ่งให้เลือกตามชอบ!

สำหรับโน๊ตบุ๊ค Intel 2022 น่าซื้อในบทความนี้จะคละกันทั้งโน๊ตบุ๊คสายทำงาน และเกมมิ่งพีซีสำหรับเกมเมอร์หรือสายตัดต่อวิดีโอที่อยากได้พีซีประสิทธิภาพสูงเอาไว้ทำงาน และมีโน๊ตบุ๊คจากแบรนด์ดังต่างประเทศมาให้เลือกด้วย โดยทั้ง 9 รุ่นนี้ได้แก่

  1. Infinix INBook X2 (18,990 บาท)
  2. HP Pavilion x360 14-dy0123TU (24,990 บาท)
  3. Acer Swift 3 SF314 (25,990 บาท)
  4. Gigabyte G5 MD (35,990 บาท)
  5. MSI GF66 Katana 11UE (40,990 บาท)
  6. ASUS TUF Gaming F15 FX507ZE (42,990 บาท)
  7. LG Gram 15 15Z95P (53,900 บาท)
  8. LG Gram 17 17Z95P (85,900 บาท)
  9. ASUS ROG Flow Z13 GZ301ZC (59,990 บาท)
1. Infinix INBook X2 (18,990 บาท)

20220214 131403 c

เครื่องแรกที่เลือกมาแนะนำเป็น Infinix INBook X2 โน๊ตบุ๊คบางเบาจากแบรนด์ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนคุ้มค่าราคาเป็นมิตร โดยจุดเด่นของเครื่องนี้คือไฟส่องสว่างคู่หน้า “Dual-Starlight” สำหรับส่องใบหน้าผู้ใช้ให้สว่างขึ้น ไม่มืดเกินไปเวลาเปิดกล้องประชุมออนไลน์ ผู้สนใจสามารถอ่านรีวิวฉบับเต็มได้ที่นี่

รุ่นที่เลือกมาแนะนำติดตั้งซีพียู Intel Core i5-1035G1 แบบ 4 คอร์ 8 เธรด ความเร็ว 1.0-3.6 GHz ใช้การ์ดจอออนบอร์ด Intel UHD Graphics G1 สำหรับแสดงผล มี SSD แบบ M.2 NVMe ความจุ 512GB ติดตั้ง Windows 11 Home มาให้พร้อมแรมออนบอร์ด 8GB LPDDR4x บัส 3200MHz ส่วนหน้าจอมีขนาด 14 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS มีพอร์ต USB-C 3.0 กับ USB-A 3.1 อย่างละ 2 ช่องและ HDMI x 1, Audio Combo x 1 กับ MicroSD Card Reader x 1 เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตด้วย Wi-Fi 5 มาตรฐาน 802.11ac รองรับ Bluetooth 5.1 ส่วนน้ำหนักตัวเครื่องเพียง 1.24 กิโลกรัมเท่านั้น ถ้าใครหาโน๊ตบุ๊ค Intel 2022 น่าซื้อเครื่องใหม่เอาไว้ทำงานหรือเรียนออนไลน์เป็นหลักก็แนะนำให้ดูรุ่นนี้เอาไว้ได้เลย

สเปคของ Infinix INBook X2
  • CPU : Intel Core i5-1035G1 แบบ 4 คอร์ 8 เธรด ความเร็ว 1.0-3.6 GHz
  • GPU : Intel UHD Graphics G1
  • SSD : แบบ M.2 NVMe ความจุ 512GB
  • RAM : ออนบอร์ด 8GB LPDDR4x บัส 3200MHz 
  • Display : 14 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ขอบเขตสีกว้าง 100% sRGB
  • Ports : USB-C รองรับการชาร์จแบตฯ Power Delivery, ต่อหน้าจอแยก DisplayPort x 1, USB-C x 1, USB 3.0 x 2, HDMI 1.4 x 1, MicroSD Card Reader x 1, Audio Combo x 1
  • Wireless : Wi-Fi 5 มาตรฐาน 802.11ac รองรับ Bluetooth 5.1
  • Webcam : 720p HD Camera พร้อมดวงไฟคู่ Dual-Star light
  • OS : Windows 11 Home, Microsoft Office
  • Weight : 1.24 กิโลกรัม
  • Price : 18,990 บาท
2. HP Pavilion x360 14-dy0123TU (24,990 บาท)

20210819 141700 c

รุ่นถัดมาจะเป็น HP Pavilion x360 14-dy0123TU ที่วางขายมาสักระยะหนึ่งแล้ว แต่ทั้งสเปคและฟีเจอร์นับว่ายังทันสมัยใช้งานได้ดีอยู่ เพราะพับตัวเครื่องกลับ 360 องศาเป็นแท็บเล็ตได้, มี HP Stylus ไว้เขียนหน้าจอได้และ USB-C รองรับการต่อหน้าจอแยก DisplayPort 1.4 และรองรับ USB Power Delivery ชาร์จแบตเตอรี่ให้ตัวเครื่องได้ จัดว่าคุ้มค่าจนไม่ควรมองข้ามเลย

ด้านสเปคเรียกว่าไม่แพ้โน๊ตบุ๊คทำงานเครื่องไหนอย่างแน่นอน โดยซีพียูเป็น Intel Core i3-1125G4 มี 4 คอร์ 8 เธรด ความเร็ว 2.0-3.7 GHz กล่าวคือเทียบชั้น Intel Core i5~i7 ได้เลย ใช้การ์ดจอออนบอร์ด Intel Iris Xe Graphics G4 เรนเดอร์ภาพขึ้นหน้าจอ มี SSD แบบ M.2 NVMe ความจุ 512GB ติดตั้ง Windows 10 Home กับโปรแกรม Microsoft Office Home& Student 2019 มาให้ มีแรม 8GB DDR4 บัส 3200MHz หน้าจอทัชพาเนลของตัวเครื่องมีขนาด 14 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS รองรับปากกา HP Stylus เขียนวาดบนหน้าจอได้ มีพอร์ต USB-C 3.2 x 1, USB-A 3.2 x 2, HDMI x 1, Audio Combo x 1 เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตได้ด้วย Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.2 และหนักเพียง 1.5 กิโลกรัมเท่านั้น ถ้าใครหาโน๊ตบุ๊ค Intel 2022 น่าซื้อ ผู้เขียนมั่นใจว่า HP เครื่องนี้คือเครื่องที่ไม่ควรมองข้ามอย่างแน่นอน

สเปคของ HP Pavilion x360 14-dy0123TU
  • CPU : Intel Core i3-1125G4 มี 4 คอร์ 8 เธรด ความเร็ว 2.0-3.7 GHz
  • GPU : Intel Iris Xe Graphics G4
  • SSD : แบบ M.2 NVMe ความจุ 512GB
  • RAM : 8GB DDR4 บัส 3200MHz 
  • Display : จอทัช 14 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS รองรับ HP Stylus
  • Ports : USB-C 3.2 x 1, USB-A 3.2 x 2, HDMI x 1, Audio Combo x 1
  • Wireless : Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.2
  • Webcam : 720p HD Camera
  • OS : Windows 10 Home, Microsoft Office Home& Student 2019
  • Weight : 1.5 กิโลกรัม
  • Price : 24,990 บาท (BaNANA)
3. Acer Swift 3 SF314 (25,990 บาท)

20210728 041614 c

Acer Swift 3 SF314 เป็นโน๊ตบุ๊ค Intel 2022 น่าซื้อที่เหมาะกับคนที่ต้องพกโน๊ตบุ๊คติดตัวไปติดต่อธุระหรือหาเครื่องเอาไว้ทำงานเอกสารทั่วไปมาก โดยเครื่องนี้มีที่สแกนลายนิ้วมือติดตั้งมาให้ใช้ปลดล็อคเครื่องได้สะดวก และน้ำหนักเครื่องเบามาก เพียง 1.2 กิโลกรัมเท่านั้น และพอร์ต USB-C ยังรองรับ Thunderbolt อีกด้วย ผู้สนใจสามารถอ่านรีวิวได้ที่นี่

สเปคเครื่องนี้สามารถทำงานออฟฟิศต่างๆ ได้อย่างแน่นอน โดยติดตั้งซีพียู Intel Core i5-1135G7 แบบ 4 คอร์ 8 เธรด ความเร็ว 2.4-4.2 GHz ใช้การ์ดจอ Intel Iris Xe Graphics ติดตั้ง SSD แบบ M.2 NVMe ความจุ 512GB ติดตั้ง Windows 10 Home ติดตั้ง Microsoft Office Home & Student 2019 มาให้ ส่วนแรมออนบอร์ดในเครื่องมีความจุ 8GB LPDDR4x บัส 4266MHz ส่วนหน้าจอมีขนาด 14 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS มีพอร์ต USB-C 3.2 x 1, USB-A 3.2 x 2, HDMI x 1, Audio Combo x 1 รองรับ Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.1 ด้วย ดังนั้นถ้าใครหาโน๊ตบุ๊ค Intel 2022 น่าซื้อน้ำหนักเบาสักเครื่อง ต้องถือว่า Acer Swift 3 เครื่องนี้น่าสนใจมาก

สเปคของ Acer Swift 3 SF314
  • CPU : Intel Core i5-1135G7 แบบ 4 คอร์ 8 เธรด ความเร็ว 2.4-4.2 GHz
  • GPU : Intel Iris Xe Graphics
  • SSD : แบบ M.2 NVMe ความจุ 512GB
  • RAM : 8GB LPDDR4x บัส 4266MHz
  • Display : จอ 14 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS 
  • Ports : USB-C 3.2 x 1, USB-A 3.2 x 2, HDMI x 1, Audio Combo x 1
  • Wireless : Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.1
  • Webcam : 720p HD Camera
  • OS : Windows 10 Home, Microsoft Office Home& Student 2019
  • Weight : 1.2 กิโลกรัม
  • Price : 25,990 บาท (TopValue)
4. Gigabyte G5 MD (35,990 บาท)

20210806 221934 c

ด้าน Gigabyte G5 MD เครื่องนี้เป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค Intel 2022 น่าซื้อเครื่องหนึ่งที่สเปคดี ตอบโจทย์ทั้งเกมเมอร์และคนทำงานเป็นอย่างมาก โดดเด่นเรื่องการอัพเกรดสเปคเครื่องที่ใส่ SSD แบบ M.2 NVMe ได้ 2 ช่องกับ 2.5″ SATA III HDD/SSD ได้อีกช่อง ใส่แรม SO-DIMM ได้ 2 สล็อต รองรับความจุสูงสุด 64GB ทีเดียว เรียกว่าอัพเกรดได้จัดเต็มสำหรับเกมเมอร์ที่ต้องการพื้นที่เก็บไฟล์งานหรือลงเกมหลายๆ เกมมาก ส่วนรีวิวฉบับเต็มอ่านได้ที่นี่

สเปคเครื่องนี้ใช้ซีพียู Intel Core i5-11400H แบบ 6 คอร์ 12 เธรด ความเร็ว 2.7-4.5 GHz จับคู่การ์ดจอ NVIDIA GeForce RTX 3050 Ti แรม 4GB GDDR6 สามารถเล่นเกมความละเอียด 1080p ได้สบายๆ มี SSD แบบ M.2 NVMe ความจุ 512GB ติดต้ง Windows 11 Home พร้อมแรม 16GB DDR4 บัส 3200MHz มาให้ เรียกว่าสเปคเดิมๆ เท่านี้ก็สามารถเล่นเกมระดับ AAA ได้ทุกเกมในปัจจุบันนี้แล้ว ส่วนหน้าจอมีขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 144 Hz พอร์ตที่ติดตั้งมาให้มี USB 2.0 x 1, USB-A 3.2 x 2, USB-C 3.2 x 1, HDMI x 1, LAN x 1, Audio Combo x 1 เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตด้วย Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.2 ด้วย ส่วนน้ำหนักอยู่ที่ 2.03 กิโลกรัม อาจจะหนักกว่าโน๊ตบุ๊ครุ่นก่อนหน้านี้ที่เลือกมาแนะนำเล็กน้อย แต่ก็ถือว่าเบากว่าเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คหลายๆ รุ่น จัดเป็นโน๊ตบุ๊ค Intel 2022 น่าซื้อสำหรับเกมเมอร์และคนทำงานตัดต่อวิดีโอมากๆ

สเปคของ Gigabyte G5 MD
  • CPU : Intel Core i5-11400H แบบ 6 คอร์ 12 เธรด ความเร็ว 2.7-4.5 GHz
  • GPU : NVIDIA GeForce RTX 3050 Ti แรม 4GB GDDR6
  • SSD : แบบ M.2 NVMe ความจุ 512GB
  • RAM : 16GB DDR4 บัส 3200MHz
  • Display : จอ 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 144 Hz
  • Ports : USB 2.0 x 1, USB-A 3.2 x 2, USB-C 3.2 x 1, HDMI x 1, LAN x 1, Audio Combo x 1
  • Wireless : Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.2
  • Webcam : 720p HD Camera
  • OS : Windows 11 Home
  • Weight : 2.03 กิโลกรัม
  • Price : 35,990 บาท (ราคากลาง)
5. MSI GF66 Katana 11UE (40,990 บาท)

20220118 105652 c

MSI GF66 Katana 11UE เครื่องนี้ทางเว็บไซต์ได้ได้รีวิวไปก่อนหน้านี้แล้ว โดยรุ่นที่เลือกมาแนะนำเป็นบอดี้ขนาด 15.6 นิ้วที่ขนาดพกพาง่ายกว่าเดิม ผิดกับสเปคเครื่องที่แรงพอเล่นเกมฟอร์มใหญ่ได้ทุกเกมในปัจจุบันนี้และสามารถอัพเกรดเพิ่ม RAM, SSD เพื่อรีดประสิทธิภาพเพิ่มได้ด้วย

ด้านสเปคตัวเครื่องจัดว่าแรงจบแน่นอนด้วย Intel Core i5-11400H แบบ 6 คอร์ 12 เธรด ความเร็ว 2.7-4.5 GHz จับคู่กับการ์ดจอแยก NVIDIA GeForce RTX 3060 แรม 6GB GDDR6 มี SSD แบบ M.2 NVMe ความจุ 512GB ติดตั้ง Windows 11 Home กับแรม 16GB DDR4 บัส 3200MHz เรียกว่าสเปคแรงเสร็จสรรพ เพิ่ม SSD เอาไว้ติดตั้งเกมอย่างเดียวก็ได้ ส่วนหน้าจอมีขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 144Hz ทำให้การแสดงผลภาพบนหน้าจอไหลลื่น มีพอร์ต USB 2.0 x 1, USB-A 3.2 x 2, USB-C 3.2 x 1, HDMI x 1, LAN x 1, Audio Combo x 1 รองรับการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตด้วย Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.2 ส่วนน้ำหนักเครื่องอยู่ที่ 2.25 กิโลกรัม จัดว่าไม่หนักเกินไปจึงเข้าข่ายเป็นโน๊ตบุ๊ค Intel 2022 น่าซื้ออีกรุ่นที่ผู้เขียนเลือกมาแนะนำให้เลือกซื้อกัน

สเปคของ MSI GF66 Katana 11UE
  • CPU : Intel Core i5-11400H แบบ 6 คอร์ 12 เธรด ความเร็ว 2.7-4.5 GHz
  • GPU : NVIDIA GeForce RTX 3060 แรม 6GB GDDR6
  • SSD : แบบ M.2 NVMe ความจุ 512GB
  • RAM : 16GB DDR4 บัส 3200MHz
  • Display : จอ 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 144 Hz
  • Ports : USB 2.0 x 1, USB-A 3.2 x 2, USB-C 3.2 x 1, HDMI x 1, LAN x 1, Audio Combo x 1
  • Wireless : Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.2
  • Webcam : 720p HD Camera
  • OS : Windows 11 Home
  • Weight : 2.25 กิโลกรัม
  • Price : 40,990 บาท (ราคากลาง)
6. ASUS TUF Gaming F15 FX507ZE (42,990 บาท)

20220201 235258 c

ถ้าอยากได้เกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค Intel 2022 น่าซื้อที่ติดตั้ง Intel 12th Gen Alder Lake มาให้พร้อมทำงานแต่ไม่เอาราคาแพงมาก จะมี ASUS TUF Gaming F15 FX507ZE น้องใหม่ตระกูล TUF Gaming ที่ราคาไม่แพงเกินไป เข้าถึงง่ายเล่นเกมได้ทำงานดีอีกด้วย

สเปคเครื่องนี้ใช้ Intel Core i7-12700H แบบ 14 คอร์ 20 เธรด (6P+8E Cores) ความเร็ว 3.5-4.7GHz จับคู่การ์ดจอแยก NVIDIA GeForce RTX 3050 Ti แรม 4GB GDDR6 แรม 4GB GDDR6 มี SSD แบบ M.2 NVMe ความจุ 512GB ติดตั้ง Windows 11 Home มาให้ มีแรม 8GB DDR5 บัส 4800MHz ส่วนหน้าจอมีขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 144Hz มีพอร์ต USB-A 3.2 x 2, USB-C 3.2 x 1, HDMI x 1, LAN x 1, Audio Combo x 1 เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตด้วย Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.2 ส่วนตัวเครื่องหนักเพียง 2.2 กิโลกรัมเท่านั้น ต้องถือว่า ASUS TUF Gaming เครื่องนี้เป็นโน๊ตบุ๊ค Intel 2022 น่าซื้ออีกเครื่องที่ไม่ควรมองข้ามเลย

สเปคของ ASUS TUF Gaming F15 FX507ZE
  • CPU : Intel Core i7-12700H แบบ 14 คอร์ 20 เธรด (6P+8E Cores) ความเร็ว 3.5-4.7GHz
  • GPU : NVIDIA GeForce RTX 3050 Ti แรม 4GB GDDR6
  • SSD : แบบ M.2 NVMe ความจุ 512GB
  • RAM : 8GB DDR4 บัส 3200MHz
  • Display : จอ 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 144 Hz
  • Ports : USB-A 3.2 x 2, USB-C 3.2 x 1, HDMI x 1, LAN x 1, Audio Combo x 1
  • Wireless : Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.2
  • Webcam : 720p HD Camera
  • OS : Windows 11 Home
  • Weight : 2.2 กิโลกรัม
  • Price : 42,990 บาท (ราคากลาง)
7. LG Gram 15 15Z95P (53,900 บาท)

20220218 230013 c

เชื่อว่าหลายคนอาจจะรู้จักชื่อ LG จากแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านมาโดยตลอด แต่จริงๆ แล้วไลน์อัพโน๊ตบุ๊คของทางบริษัทจัดว่าแข็งแกร่งและขึ้นชื่อเรื่องน้ำหนักเบาเป็นอย่างมาก โดยโน๊ตบุ๊ค Intel 2022 น่าซื้อนี้ผู้เขียนเลือก LG Gram 15 15Z95P ที่เป็นโน๊ตบุ๊ค Intel Evo หน้าจอ 15.6 นิ้วแต่เครื่องเบาสุดๆ เพียง 1.12 กิโลกรัมเท่านั้น ในแง่น้ำหนักต้องถือว่าเบากว่าโน๊ตบุ๊ค 14 นิ้วหลายๆ รุ่นด้วยซ้ำ และพอร์ตของตัวเครื่องก็ได้มาครบเครื่องจัดเต็มและสแกนลายนิ้วมือที่ปุ่ม Power เพื่อปลดล็อคเครื่องได้ด้วย

ด้านสเปคเครื่องนี้ใช้ซีพียู Intel Core i5-1155G7 แบบ 4 คอร์ 8 เธรด ความเร็ว 2.5-4.5GHz เป็นซีพียูรุ่นพิเศษของทาง Intel ใช้การ์ดจอออนบอร์ด Intel Iris Xe Graphics G7 มี SSD แบบ M.2 NVMe ความจุ 512GB ติดตั้ง Windows 11 Home มาให้ แรมเป็นออนบอร์ด ความจุ 16GB LPDDR4x บัส 4266MHz ส่วนหน้าจอมีขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ขอบเขตสีกว้าง 99% sRGB ติดพอร์ต USB-C 4.0 x 2 รองรับ Thunderbolt 4, USB-A 3.2 x 2, HDMI x 1, HDMI x 1, MicroSD Card Reader x 1, Audio Combo x 1 เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตได้ด้วย Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.1 และด้านแบตเตอรี่จัดว่าน่าสนใจมากเพราะในเครื่องมีแบตเตอรี่ 80Wh ซึ่งทางบริษัทเคลมไว้ว่าสามารถใช้งานต่อเนื่องได้นานสุด 21 ชั่วโมงทีเดียว ถือว่าใช้งานได้นานต่อเนื่องมาก ซึ่งถ้างบประมาณไม่ใช่ปัญหา นี่คือโน๊ตบุ๊ค Intel 2022 น่าซื้อที่ผู้เขียนขอแนะนำให้ซื้อไว้ใช้งานเลย

สเปคของ LG Gram 15 15Z95P
  • CPU : Intel Core i5-1155G7 แบบ 4 คอร์ 8 เธรด ความเร็ว 2.5-4.5GHz
  • GPU : Intel Iris Xe Graphics G7
  • SSD : แบบ M.2 NVMe ความจุ 512GB
  • RAM : 16GB LPDDR4x บัส 4266MHz
  • Display : จอ 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ขอบเขตสีกว้าง 99% sRGB
  • Ports : USB-C 4.0 x 2 รองรับ Thunderbolt 4, USB-A 3.2 x 2, HDMI x 1, MicroSD Card Reader x 1, Audio Combo x 1
  • Wireless : Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.1
  • Webcam : 720p HD Camera
  • OS : Windows 11 Home
  • Weight : 1.12 กิโลกรัม
  • Price : 53,990 บาท (ราคากลาง LG Thailand)
8. LG Gram 17 17Z95P (85,900 บาท)

20220218 233213 c

สำหรับโน๊ตบุ๊ค Intel 2022 น่าซื้อเครื่องถัดมา ถ้า LG ในข้อที่แล้วน่าสนใจแต่อยากได้หน้าจอใหญ่ขึ้นสเปคดีกว่าเดิมหน่อย แนะนำเป็น LG Gram 17 17Z95P เครื่องนี้ที่แชร์สเปคกับข้อที่แล้วแทบทั้งหมด แต่อัพเกรดสเปคหลายๆ ส่วนให้สเปคดีขึ้น ได้แก่ เปลี่ยนซีพียูเป็น Intel Core i7-1195G7 แบบ 4 คอร์ 8 เธรด ความเร็ว 2.9-5.0GHz ใช้การ์ดจอ Intel Iris Xe Graphics G7 เหมือนกัน แต่อัพเกรดเพิ่มแรมออนบอร์ดเป็น 32GB LPDDR4x บัส 4266MHz แล้วขยายขนาดหน้าจอเป็น 17 นิ้ว ความละเอียด 2K WQXGA (2560×1600 พิกเซล) พาเนล IPS ขอบเขตสีกว้าง 99% DCI-P3 แต่น้ำหนักเครื่องเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเท่านั้น เป็น 1.35 กิโลกรัม ซึ่งถ้าใครอยากได้เครื่องใหญ่จอเต็มตาทำงานสะดวก ภาพคมชัดแนะนำให้เพิ่มงบโน๊ตบุ๊ค Intel 2022 น่าซื้อมาเป็นรุ่นนี้ได้เลย

สเปคของ LG Gram 17 17Z95P
  • CPU : Intel Core i7-1195G7 แบบ 4 คอร์ 8 เธรด ความเร็ว 2.9-5.0GHz
  • GPU : Intel Iris Xe Graphics G7
  • SSD : แบบ M.2 NVMe ความจุ 512GB
  • RAM : 32GB LPDDR4x บัส 4266MHz
  • Display : จอ 17 นิ้ว ความละเอียด 2K WQXGA (2560×1600 พิกเซล) พาเนล IPS ขอบเขตสีกว้าง 99% DCI-P3
  • Ports : USB-C 4.0 x 2 รองรับ Thunderbolt 4, USB-A 3.2 x 2, HDMI x 1, HDMI x 1, MicroSD Card Reader x 1, Audio Combo x 1
  • Wireless : Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.1
  • Webcam : 720p HD Camera
  • OS : Windows 11 Home
  • Weight : 1.35 กิโลกรัม
  • Price : 85,900 บาท (ราคากลาง LG Thailand)
9. ASUS ROG Flow Z13 GZ301ZC (59,990 บาท)

Flow Z13 c

โน๊ตบุ๊ค Intel 2022 น่าซื้อเครื่องสุดท้ายเรียกว่าเอาใจสายทำงานที่ไม่จำกัดว่าโน๊ตบุ๊คต้องใช้ดีไซน์ Clamshell เหมือนที่ผ่านมาก็ได้และพกพาง่ายเป็นหลัก มี ASUS ROG Flow Z13 GZ301ZC เครื่องนี้ให้เลือกซื้อ ซึ่งรูปลักษณ์มาเป็นแท็บเล็ต Windows เครื่องหนึ่งพร้อมแป้นคีย์บอร์ดที่กลายเป็นตัวปิดหน้าจอในตัว รองรับการต่อกล่องการ์ดจอแยกเพื่อเล่นเกมได้ด้วย

สเปคของเครื่องนี้ใช้ซีพียู Intel Core i7-12700H แบบ 14 คอร์ 20 เธรด (6P+8E Cores) ความเร็ว 3.5-4.7GHz จับคู่การ์ดจอแยกในเครื่องรุ่น NVIDIA GeForce RTX 3050 แรม 4GB GDDR6 มี SSD แบบ M.2 NVMe ความจุ 512GB ติดตั้ง Windows 11 Home มาให้ มีแรม 16GB LPDDR5 บัส 5200MHz ส่วนหน้าจอมีขนาด 13.4 นิ้ว ความละเอียด WUXGA (1920×1200 พิกเซล) พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 120Hz มีพอร์ต USB 2.0 x 1, USB-C 3.2 x 1 รองรับ Thunderbolt, Audio Combo x 1 เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตด้วย Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.2 ส่วนน้ำหนักเครื่องเพียง 1.18 กิโลกรัม ในแง่สเปคจากที่แนะนำมาอาจจะดูพื้นๆ ไม่ได้โดดเด่นนักเมื่อเทียบกับโน๊ตบุ๊ค Intel 2022 น่าซื้อรุ่นอื่นๆ ที่เลือกมาแนะนำก่อนหน้านี้ แต่ใจความของเครื่องนี้คือการพกพาง่ายเอาไปทำงานที่ออฟฟิศหรือพกไปประชุมติดต่องานกับลูกค้าได้สะดวก เวลาพักผ่อนก็ต่อกล่องการ์ดจอแยก ROG XG Mobile เพื่อเล่นเกมฟอร์มยักษ์ได้สบายๆ ด้วย ดังนั้นถ้าซื้อไปใช้เฉพาะตัวแท็บเล็ตอย่างเดียวอาจจะใช้งานได้ไม่เต็มที่ ซึ่งถ้าใครอยากได้เครื่องนี้แนะนำให้เตรียมงบไว้ซื้อกล่องการ์ดจอแยกนี้ด้วยจะดีกว่า

สเปคของ ASUS ROG Flow Z13 GZ301ZC
  • CPU : Intel Core i7-12700H แบบ 14 คอร์ 20 เธรด (6P+8E Cores) ความเร็ว 3.5-4.7GHz
  • GPU : NVIDIA GeForce RTX 3050 แรม 4GB GDDR6
  • SSD : แบบ M.2 NVMe ความจุ 512GB
  • RAM : 16GB LPDDR5 บัส 5200MHz
  • Display : จอ 13.4 นิ้ว ความละเอียด WUXGA (1920×1200 พิกเซล) พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 120Hz
  • Ports : USB 2.0 x 1, USB-C 3.2 x 1 รองรับ Thunderbolt, Audio Combo x 1
  • Wireless : Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.2
  • Webcam : 720p HD Camera
  • OS : Windows 11 Home
  • Weight : 1.18 กิโลกรัม
  • Price : 59,990 บาท (ราคากลาง ASUS Thailand ยังไม่รวม ROG XG Mobile)

สรุปสเปค 9 โน๊ตบุ๊ค Intel 2022 น่าซื้อ สเปคดีแรงจบทั้งสายทำงานและเกมเมอร์

จะเห็นว่าโน๊ตบุ๊ค Intel 2022 น่าซื้อตอนนี้มีตัวเลือกเด็ดน่าสนใจให้เลือกมากมาย จะสายทำงานหรือเกมเมอร์ก็มีตัวเลือกดีๆ เพียบ ถ้าสรุปสเปคจะเป็นดังนี้

สเปคโน๊ตบุ๊ค Intel 2022 น่าซื้อ ซีพียู, การ์ดจอ SSD, RAM, ระบบปฏิบัติการ หน้าจอ, น้ำหนัก การเชื่อมต่อ ราคา
Infinix INBook X2 Intel Core
i5-1035G1

Intel UHD Graphics G1

M.2 NVMe
512GB

8GB LPDDR4x
3200MHz

Windows 11 Home

Microsoft Office

14″ FHD IPS 100% sRGB

1.24 กก.

USB-C x 1
รองรับ USB-PD, DisplayPort 1.4

USB-C x 1

USB 3.0 x 2

HDMI 1.4 x 1

MicroSD Card Reader x 1

Audio Combo x 1

Wi-Fi 5

Bluetooth 5.1

18,990 บาท
HP Pavilion x360 14-dy0123TU Intel Core
i3-1125G4

Intel Iris Xe Graphics G4

M.2 NVMe
512GB

8GB DDR4
3200MHz

Windows 10 Home

Microsoft Office Home& Student 2019

จอทัช 14″ FHD IPS

รองรับ HP Stylus

1.5 กก.

USB-C 3.2 x 1

USB-A 3.2 x 2

HDMI x 1

Audio Combo x 1

Wi-Fi 6

Bluetooth 5.2

24,990 บาท
Acer Swift 3 SF314 Intel Core
i5-1135G7

Intel Iris Xe Graphics

M.2 NVMe
512GB

8GB LPDDR4x
3200MHz

Windows 10 Home

Microsoft Office Home& Student 2019

14″ FHD IPS

1.2 กก.

USB-C 3.2 x 1

USB-A 3.2 x 2

HDMI x 1

Audio Combo x 1

Wi-Fi 6

Bluetooth 5.1

25,990 บาท
Gigabyte G5 MD Intel Core
i5-11400H

NVIDIA GeForce RTX 3050 Ti

M.2 NVMe
512GB

16GB DDR4
3200MHz

Windows 11 Home

15.6″ FHD IPS

Refresh Rate 144 Hz

2.03 กก.

USB 2.0 x 1

USB-A 3.2 x 2

USB-C 3.2 x 1

HDMI x 1

LAN x 1

Audio Combo x 1

Wi-Fi 6

Bluetooth 5.2

35,990 บาท
MSI GF66 Katana 11UE Intel Core
i5-11400H

NVIDIA GeForce RTX 3060

M.2 NVMe
512GB

16GB DDR4
3200MHz

Windows 11 Home

15.6″ FHD IPS

Refresh Rate 144 Hz

2.25 กก.

USB 2.0 x 1

USB-A 3.2 x 2

USB-C 3.2 x 1

HDMI x 1

LAN x 1

Audio Combo x 1

Wi-Fi 6

Bluetooth 5.2

40,990 บาท
ASUS TUF Gaming F15 FX507ZE Intel Core
i7-12700H

NVIDIA GeForce RTX 3050 Ti

M.2 NVMe
512GB

8GB DDR4
3200MHz

Windows 11 Home

15.6″ FHD IPS

Refresh Rate 144 Hz

2.2 กก.

USB-A 3.2 x 2

USB-C 3.2 x 1

HDMI x 1

LAN x 1

Audio Combo x 1

Wi-Fi 6E

Bluetooth 5.2

42,990 บาท
LG Gram 15 15Z95P Intel Core
i5-1155G7

Intel Iris Xe Graphics G7

M.2 NVMe
512GB

16GB LPDDR4x
3200MHz

15.6″ FHD IPS

99% sRGB

1.12 กก.

USB-C 4.0 x 2

USB-A 3.2 x 2

HDMI x 1

MicroSD Card Reader x 1

Audio Combo x 1

Wi-Fi 6

Bluetooth 5.1

53,990 บาท
LG Gram 17 17Z95P Intel Core
i7-1195G7

Intel Iris Xe Graphics G7

M.2 NVMe
512GB

32GB LPDDR4x
3200MHz

17″ 2K WQXGA (2560×1600)
IPS

99% DCI-P3

1.35 กก.

USB-C 4.0 x 2

USB-A 3.2 x 2

HDMI x 1

MicroSD Card Reader x 1

Audio Combo x 1

Wi-Fi 6

Bluetooth 5.1

85,900 บาท
ASUS ROG Flow Z13 GZ301ZC Intel Core
i7-12700H

NVIDIA GeForce RTX 3050

M.2 NVMe
512GB

32GB LPDDR5
5200MHz

13.4″ WUXGA (1920×1200)

IPS

Refresh Rate 120 Hz

1.18 กก.

USB 2.0 x 1

USB-C 3.2 x 1

Audio Combo x 1

Wi-Fi 6E

Bluetooth 5.2

59,990 บาท

จากสเปคทั้ง 9 รุ่นที่เลือกมาแนะนำ จะเห็นว่าในปีนี้จะมีโน๊ตบุ๊คที่เป็น Intel 11th Gen ผสมกับ 12th Gen รวมๆ กันอยู่ ซึ่งซีพียูทั้งสองรุ่น ณ ตอนนี้ต้องถือว่าประสิทธิภาพดี จะทำงานหรือเล่นเกมก็สามารถรันได้อย่างดีแน่นอน แล้วจะเห็นว่าตอนนี้โน๊ตบุ๊ครุ่นน่าสนใจจะไม่ได้วนอยู่กับแบรนด์หลักๆ ที่เราคุ้นเคยอีกแล้ว เนื่องจากมีแบรนด์หน้าใหม่เข้ามาเป็นตัวเลือกใหม่ๆ ในตลาดมากมายทีเดียว ก็ไม่จำเป็นต้องฝังใจเลือกแต่แบรนด์หลักอีกต่อไปก็ได้ อาจจะเปิดใจมาลองแบรนด์ใหม่สเปคคุ้มแทนก็น่าสนใจเช่นกัน


บทความที่เกี่ยวข้อง

macbook reset cover

hp aio cover

laptop15000cover

from:https://notebookspec.com/web/583281-intel-laptop-2022-worth-your-money

มุ่งสู่แพลตฟอร์มวิดีโอขนาดยาว TikTok ให้อัพโหลดวิดีโอความยาวสูงสุด 10 นาที

TikTok ส่งข้อความอัพเดตไปยังครีเอเตอร์ ว่าผู้ใช้งานสามารถอัปโหลดได้ความยาวสูงสุดเพิ่มเป็น 10 นาที มีผลกับผู้ใช้งานทั่วโลก

ก่อนหน้านี้ TikTok ขยายความยาววิดีโอสูงสุดที่ 3 นาที เมื่อปีที่แล้ว

Matt Navarra ที่ปรึกษาด้านโซเชียลมีเดียตั้งข้อสังเกต ว่าการเปลี่ยนแปลงของ TikTok นี้ เป็นการชนกับ YouTube ที่ชัดเจนมากขึ้น อย่างไรก็ตามด้วยความยาววิดีโอที่เพิ่มเป็น 10 นาที จึงอาจกระทบกับอัลกอริทึมการคัดเลือกแสดงวิดีโอเดิม ซึ่งเป็นจุดแข็งของ TikTok

ที่มา: Android Central

TikTok

Topics: 

from:https://www.blognone.com/node/127379

โตโยต้าหยุดโรงงานในญี่ปุ่นทั้งหมด หลังผู้ผลิตชิ้นส่วนถูกโจมตีไซเบอร์

โตโยต้าและโรงงานในเครือบางส่วน เช่น Hino และ Daihatsu ต้องหยุดสายการผลิตในญี่ปุ่น หลังซัพพลายเออร์รายหนึ่งถูกโจมตีไซเบอร์

บริษัทที่ถูกโจมตีคือ Kojima Industries Corp เป็นซัพพลายเออร์รายใหญ่ให้กับเครือโตโยต้า ทำหน้าที่ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วนพลาสติก คาดว่าคนร้ายโจมตีโดยส่งมัลแวร์เข้ามาทางอีเมล แต่ตอนนี้ยังไม่สามารถยืนยันได้แน่ชัดเนื่องจากบริษัทปิดเซิร์ฟเวอร์ทั้งหมดป้องกันปัญหาลุกลาม ทำให้ตอนนี้ระบบคอมพิวเตอร์ของ Kojima เชื่อมต่อข้อมูลกับทางโตโยต้าไม่ได้ และไม่สามารถมอนิเตอร์การทำงานของเครื่องจักรได้เลย

โตโยต้ามีโรงงานในญี่ปุ่นทั้งหมด 14 แห่ง มีกำลังผลิต 1 ใน 3 ของโรงงานทั้งโลก การหยุดสายการผลิตแต่ละวันกระทบรถยนต์วันละประมาณ 13,000 คัน

ปีที่ผ่านมาอุตสาหกรรมยานยนต์มีปัญหากำลังผลิตค่อนข้างมากจากเหตุการณ์ชิปขาดแคลน การหยุดสายการผลิตขนานใหญ่เช่นนี้น่าจะทำให้ปัญหาร้ายแรงไปอีกขั้น

ที่มา – Fox19, Reuters, Wall Street Journal

Topics: 

from:https://www.blognone.com/node/127378

เปิดตัว Lenovo Legion Y700 แท็บเล็ตเกมมิ่งจอ 8.8 นิ้ว 120Hz ชิป Snapdragon 870 เริ่มต้นราว 11,400 บาท

หลังจากที่เล่นตัวเผยภาพเรนเดอร์และสเปคผลุบ ๆ โผล่ ๆ มาตั้งแต่ช่วงปลายปี 2021 ล่าสุด Lenovo ก็ได้ฤกษ์เปิดตัวแท็บเล็ตเกมมิ่ง Legion Y700 ที่มากับหน้าจอขนาดพกพาง่ายแค่ 8.8 นิ้ว รีเฟรชเรทลื่น ๆ 120Hz พร้อมสเปคแรง ๆ ด้วยชิป Snapdragon 870 ออกมาแล้ว โดยเคาะราคาวางจำหน่ายในจีนมาได้น่าสนใจ เริ่มต้นที่ 2199 หยวน หรือราว ๆ 11,400 บาทเท่านั้นเอง

Legion Y700 เป็นแท็บเล็ตระบบ Android สเปคระดับไฮเอนด์ที่มากับหน้าจอขนาด 8.8 นิ้ว ซึ่งปัจจุบันเรียกว่าไม่มีแบรนด์ดัง ๆ เจ้าไหนทำออกมาแล้ว (แท็บเล็ต Android สเปคแรง ๆ จอขนาด 10+ นิ้วทั้งนั้น) ทำให้มันมีความน่าสนใจสำหรับผู้ที่อยากได้แท็บเล็ตทรงพลังแต่มีขนาดที่พกพาง่ายจนถือด้วยมือเดียวได้เลย

Legion Y700 ใช้พาเนลหน้าจอแบบ LCD ขนาด 8.8 นิ้ว ความละเอียด 2.5K (2560 x 1600) รีเฟรชเรท 120Hz, Touch Sampling Rate 240Hz รองรับ DCI-P3 100%, Dolby Vision และ HDR10, ให้ความสว่างสูงสุดที่ 500 nits

หน้าจอของแท็บเล็ตรุ่นนี้มีอัตราส่วนอยู่ที่ 21:10 แต่มีฟีเจอร์ Field of View Mode ที่จะช่วยปรับภาพของแต่ละเกมให้เหมาะสมกับอัตราส่วนหน้าจอของเครื่อง ซึ่งเราจะเลือกเองก็ได้ว่าจะให้ Crop ภาพเพื่อแสดงผลแบบเต็มจอ หรือจะแสดงภาพเกมให้เห็นทุกส่วนแต่เหลือขอบดำไว้ก็ไม่มีปัญหา

จัดเต็มเรื่องหน้าจอไปแล้ว ระบบเสียงก็ไม่แพ้กัน เพราะมันมีลำโพงสเตอรีโอ JBL กับระบบ Dolby Atmos เข้ามาเพิ่มความกระหึ่มและสมจริงให้กับเสียงของหนังและเกมมากขึ้นไปอีก…แถมยังถูกใจคนใช้หูฟังมีสายด้วยรูหูฟัง 3.5 มม. อีกด้วย

สเปคแรงหายห่วงด้วย Snapdragon 870 ที่แม้ว่าจะไม่แรงขนาด Snapdragon 888 ของปีที่แล้ว หรือรุ่นล่าสุดอย่าง Snapdragon 8 Gen 1 แต่ก็ยังแรงพอสำหรับการใช้งานทุกอย่างในปัจจุบันแบบไม่มีติดขัด บวกกับ RAM แบบ LPDDR5 สูงสุด 12GB จะเล่นเกมอะไรก็ลื่นปรื๊ดไม่เสียชื่อแท็บเล็ตเกมมิ่ง

นอกจากนี้ยังมากับระบบระบายความร้อนแบบ Vapor Chamber ที่มีพื้นที่ในการกระจายความร้อนสูงถึง 8,500 ตารางมิลลิเมตร ทำให้การระบายอุณหภูมิมีประสิทธิภาพมากขึ้นไปอีก

 

Legion Y700 มีแบตเตอรี่ขนาด 6550 mAh ซึ่งทาง Lenovo เคลมว่าเล่นเกม Honor of Kings หรือ ROV แบบต่อเนื่องได้ถึง 6 ชั่วโมงต่อการชาร์จแบตเตอรี่เต็ม 1 ครั้ง ส่วนการใช้งานอื่น ๆ อย่างเช่นดูวิดีโอจะใช้ต่อเนื่องได้ถึง 12 ชั่วโมง การท่องเว็บทำได้ยาว ๆ ถึง 15 ชั่วโมงกันไปเลย และยังรองรับระบบชาร์จไว 45W ที่สามารถชาร์จแบตเตอรี่จาก 0 – 100% ได้ในเวลาเพียง 44 นาที

Legion Y700 ทำงานบนระบบ Android 11 ครอบด้วย ZUI 13 ที่มากับฟีเจอร์แบ่งจอเพื่อใช้ 2 แอปพร้อมกัน และยังมีฟีเจอร์ต่อเข้ากับหน้าจอนอกเพื่อใช้งาน UI ในรูปแบบแนวนอนที่คล้ายกับการใช้งานบนคอมพวิเตอร์ได้อีกต่างหาก

สเปค Lenovo Legion Y700

  • หน้าจอ LCD ขนาด 8.8 นิ้ว ความละเอียด 2.5K (2560 x 1600) รีเฟรชเรท 120Hz, Touch Sampling Rate 240Hz
  • CPU : Snapdragon 870
  • RAM (LPDDR5) : 8GB / 12GB
  • ความจุ (UFS 3.1) : 128GB / 256GB รองรับ microSD Card 1TB
  • กล้องหลัง : 13MP
  • กล้องหน้า : 8MP
  • การเชื่อมต่อ : WiFI 6, BT 5.1
  • ระบบเสียง : ลำโพงสเตอรีโอ JBL, Dolby Atmos, รูหูฟัง 3.5 มม.
  • แบตเตอรี่ : 6550 mAh รองรับชาร์จไว 45W (แถมหัวชาร์จ 50W ในกล่อง)
  • ระบบ Android 11 ครอบด้วย ZUI 13
  • ขนาด / น้ำหนัก : 207.1 x 128.1 x 7.9 มม. / 375 กรัม

Lenovo Legion Y700 จะวางจำหน่ายในจีนตั้งแต่วันที่ 10 มีนาคมเป็นต้นไป โดยรุ่น 8GB / 128GB มีราคาอยู่ที่ 2199 หยวน หรือประมาณ 11,400 บาท และรุ่นท็อป 12GB / 256GB ราคา 2499 หยวน หรือประมาณ 13,000 บาท ส่วนหลังจากนี้จะวางจำหน่ายที่ประเทศไหนบ้าง ต้องรอติดตามกันต่อไปครับ

 

ที่มา : Gizchina

from:https://droidsans.com/lenovo-legion-y700-8-8-inch-gaming-tablet-legion-y90-gaming-phone-unveiled/

ซีรีย์เกาหลี Business Proposal EP.1 ซับไทย (นัดบอดวุ่นลุ้นรักท่านประธาน) – NETFLIX

Business Proposal EP.1 เรื่องราวกุ๊กกิ๊กในออฟฟิศระหว่างซีอีโอหนุ่มสุดเพอร์เฟกต์ที่เพียบพร้อมทั้งหน้าตาและมันสมอง กับพนักงานธรรมดาๆ ที่กลายมาเป็นคู่นัดบอดของเขา  ฮารียอมสวมรอยไปนัดบอดแทนเพื่อนเพื่อให้หนุ่มคนนั้นปฏิเสธ แต่แผนกลับไม่เป็นไปตามคาดเมื่อคู่นัดบอดคือประธานบริษัทของเธอเอง แต่แทนที่จะหนี เขากลับขอเธอแต่งงานด้วย ติดตามชม Business Proposal EP.1 ได้จากลิงก์ NETFLIX ด้านล่าง

ดู Business Proposal EP.1 ซับไทย (NETFLIX) >> คลิกที่นี่

from:https://www.9tana.com/node/business-proposal-ep1/

ซีรีย์เกาหลี Military Prosecutor Doberman EP.1 ซับไทย

Military Prosecutor Doberman EP.1 : แม้ “โดแบมัน” (อันโบฮยอน) จะเลือกเป็นอัยการทหาร แต่เขาทำไปเพียงแค่เพื่อชื่อเสียงและเงินทอง และพร้อมจะลาออกได้ทุกเมื่อ ในขณะที่ “ชาอูอิน” (โจโบอา) อัยการสาวหน้าใหม่ ผู้ซึ่งมาจากตระกูลมหาเศรษฐี ที่มาทำอาชีพนี้ เพราะว่าต้องการล้างแค้น พวกเขาทั้งคู่จำเป็นต้องร่วมมือกัน เพื่อกำจัดความไม่ยุติธรรมภายในหน่วยทหารให้หมดไป ติดตามชม Military Prosecutor Doberman EP.1 ซับไทยมาไวสุดเวลา 05.40 น. ที่ลิงก์ VIU ด้านล่าง

ดู Military Prosecutor Doberman EP.1 ซับไทย >> คลิกที่นี่

from:https://www.9tana.com/node/military-prosecutor-ep1/

เปิดราคา POCO X4 Pro 5G และ POCO M4 Pro ใช้จอ OLED ทั้งคู่ ขนาดเบาบาง แบต 5000 mAh เริ่มต้น 7,499 บาท

POCO ได้นำสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่สองตัวมาเปิดตัวในงาน Mobile World Congress หรือ MWC 2022 นั่นก็คือ POCO X4 Pro 5G และ POCO M4 Pro ซึ่งรอบนี้ชูจุดเด่นหน้าจอ AMOLED ทั้งคู่ ดีไซน์การออกแบบบางเบากว่าเดิม แต่ยังให้แบตเตอรี่ขนาด 5000 mAh มาอยู่ โดยราคาของทั้งสองรุ่นนี้จะเริ่มต้นที่ 7,499 บาท

POCO X4 Pro 5G

POCO X4 Pro 5G เมื่อนำไปเทียบกับ POCO X3 Pro รุ่นก่อนหน้านี้ จะเห็นว่าสมาร์ทโฟนรุ่นดังกล่าวจะมีขนาดที่บางลงและน้ำหนักเบากว่าเดิม แถมวัสดุเปลี่ยนจากพลาสติก มาเป็นแบบกระจกเรียบร้อยแล้ว

POCO X4 Pro 5G มาพร้อมกับหน้าจอ AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว รีเฟรชเรท 120Hz และ Touch Sampling Rate อีก 360Hz โดยทางค่ายเคลมว่า POCO X4 Pro 5G สามารถดันความสว่างได้สูงสุดถึง 1,200 nits เลยทีเดียว

โดย POCO X4 Pro 5G ถือเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกในซีรีส์ X ของบริษัทฯ เลยที่มาพร้อมกับกล้องหลังความละเอียดสูง 108MP เก็บรายละเอียดดีเทลต่างๆ ของภาพได้แบบครบๆ พ่วงกับกล้อง Ultra-Wide มุมกว้าง 118 องศา ความละเอียด 8MP และกล้อง Macro ความละเอียด 2MP

แม้ว่า POCO X4 Pro 5G จะจัดเป็นสมาร์ทโฟนในซีรีส์ X ที่มีขนาดที่บางที่สุด แต่ด้านในของมันก็มาพร้อมกับแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5000 mAh ที่สามารถใช้งานต่อเนื่องได้สูงสุด 2 วันเลยทีเดียว แถมยังรองรับระบบชาร์จไว 67W อีกต่างหาก ในส่วนนี้บริษัทฯ บอกว่าสามารถชาร์จไฟจาก 0% – 100% ภายในระยะเวลาแค่ 41 นาทีเท่านั้น

ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ต Snapdragon 695 จาก Qualcomm ผลิตบนสถาปัตยกรรมขนาด 6 นาโนเมตร ใช้ CPU แกนหลักเป็น Cortex-A78 โดยชิปตัวนี้สามารถทำคะแนน AnTuTu Benchmark แซงหน้า Snapdragon 765G และ 750G ไปได้ราวๆ 1-2 หมื่นคะแนนเลยทีเดียว

สเปค POCO X4 Pro 5G

  • หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ รีเฟรชเรท 120Hz ครอบทับด้วยกระจกนิรภัย Corning Gorilla Glass 5
  • ชิปเซ็ต Snapdragon 695
  • RAM 8GB (LPDDR4X)
  • หน่วยความจำ UFS 2.2 ความจุ  256GB
  • กล้องหลัง 3 ตัว
    • Main Camera : 108MP f/1.9
    • Ultra-Wide : 8MP f/2.2
    • Macro : 2MP
  • กล้องหน้าความละเอียด 16MP f/2.4
  • เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้านข้างตัวเครื่อง
  • WiFi 802.11 a/b/g/n/ac | Bluetooth 5.1
  • แบตเตอรี่ 5000 mAh รองรับชาร์จไว 67W
  • ระบบปฏิบัติการ MIUI 13 for POCO บนพื้นฐาน Android 11

POCO M4 Pro

POCO M4 Pro มากับหน้าจอ AMOLED ขนาด 6.43 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ รีเฟรชเรท 90Hz รองรับการแสดงผลภาพแบบ DCI-P3 ดันความสว่างได้สูงสุด 1,000 nits และมี Touch Sampling Rate อยู่ที่ 180Hz

น้ำหนักของ POCO M4 Pro อยู่ที่ 179.5 กรัม เบาที่สุดในบรรดามือถือของ POCO และมีขนาดความบางอยู่ที่ 8.09 มม. บางที่สุดในซีรีส์ M ด้วยเช่นกัน

และแม้ว่าจะมีขนาดที่เบาและบางขนาดนั้น แต่ POCO M4 Pro ก็อัดแบตเตอรี่มาให้ 5000 mAh สามารถใช้งานต่อเนื่องได้ 2 วัน รองรับชาร์จไว 33W ที่ทางบริษัทฯ บอกว่าชาร์จจาก 0% – 100% ภายใน 61 นาที

กล้องหลักของ POCO M4 Pro ให้ตัวความละเอียด 64MP มาให้ บวกกับกล้อง Ultra-Wide มุมกว้าง 118 องศา ความละเอียด 8MP และกล้อง Macro ถ่ายใกล้สุด 4 เซนติเมตร ความละเอียด 2MP

ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ต Helio G96 จาก MediaTek พ่วงกับ RAM สูงสุด 8GB และหน่วยความจำ 256GB สามารถใส่ microSD Card เพิ่มได้สูงสุด 1TB

สเปค POCO M4 Pro

  • หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.43 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ รีเฟรชเรท 90Hz
  • ชิปเซ็ต Helio G96
  • RAM 8GB (LPDDR4X)
  • หน่วยความจำ UFS 2.2 ความจุ 256GB
  • กล้องหลัง 3 ตัว
    • Main Camera : 64MP f/1.8
    • Ultra-Wide : 8MP f/2.2
    • Macro : 2MP
  • กล้องหน้าความละเอียด 16MP f/2.4
  • เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้านข้างตัวเครื่อง
  • WiFi 802.11 a/b/g/n/ac | Bluetooth 5.0
  • แบตเตอรี่ 5000 mAh รองรับชาร์จไว 33W
  • ระบบปฏิบัติการ MIUI 13 for POCO บนพื้นฐาน Android 11

ราคาและวันวางจำหน่าย

โดย POCO X4 Pro 5G จะเริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปผ่านช่องทาง JD Central ราคา 10,990 บาท โดยในช่วงตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ. – 3 มี.ค. 2565 จะมีโปรโมชั่น Early Bird ลดไปเลย 1,991 บาท เหลือเพียง 8,999 บาทเท่านั้น พร้อมรับฟรี 1,000 JD Points

ส่วน POCO M4 Pro จะเริ่มวางขายวันที่ 3 มีนาคม ผ่าน Shopee ราคา 7,999 บาท โดยในวันเดียวกัน ตั้งแต่เวลา 00.00 – 02.00 น. จะมี Flash Sale ลดราคาเหลือเพียงแค่เครื่องละ 7,499 บาทเท่านั้น พร้อมรับฟรีคูปองส่วนลดอีก 500 บาท

from:https://droidsans.com/poco-x4-pro-5g-poco-m4-pro-announced/