Airbnb Experiences: 3 ขั้นตอนง่าย ๆ ในการได้ยอดจองเพิ่ม

หากคุณได้สร้าง และเผยแพร่ประสบการณ์ของคุณบน Airbnb แล้ว ตอนนี้คุณต้องการให้ประสบการณ์ของคุณมีคนค้นเจอ และทำการจอง Airbnb ได้สร้างเครื่องมือที่ช่วยให้คุณควบคุมได้ ดังนั้นทำไมคุณไม่ลองทดสอบไปจนกว่าคุณจะเจอสูตรมหัศจรรย์ที่เหมาะกับคุณดูล่ะ

มันอาจจะต้องทดสอบหลายรอบในการปรับปรุงประสบการณ์ของคุณให้ประสบความสำเร็จ จากข้อมูลที่ทีม Airbnb รวมรวบมาจากโฮสต์ที่ประสบความสำเร็จ นี่คือตัวอย่างการปรับแต่งง่าย ๆ ที่คุณสามารถนำไปใช้ทดสอบเพื่อเพิ่มยอดจองของคุณได้

1. ดึงดูดแขกชุดแรกของคุณด้วยการลดราคาช่วงเปิดตัว

ถ้าคุณต้องการเพิ่มยอดจองแบบก้าวกระโดด คุณสามารถปรับแต่งราคา เพื่อช่วยเร่งการเติบโตประสบการณ์ของคุณในช่วงเริ่มต้นได้ ให้คุณนึกว่า 2-3 การจองแรก คือ “การลงทุน” เพื่อช่วยให้ธุรกิจของคุณเติบโตในอนาคต

ลองดูตัวอย่างแนวทางการตั้งราคาของ Travis โฮสต์จากซาน ฟรานซิสโกในช่วงที่เขาเริ่มปล่อยประสบการณ์

เช่นเดียวกัน Travis คุณอาจเริ่มต้นด้วยราคาต่ำ เพื่อดึงดูดแขกในช่วงแรก จากนั้นคุณค่อยเพิ่มราคาขึ้นมาหลังจากที่ได้รีวิวเชิงบวกมากขึ้น โดยปกติการปรับแต่งราคาจะขึ้นอยู่กับคุณทั้งหมด

จากข้อมูล Airbnb ชี้ให้เห็นว่าแขกมักชอบเมื่อพวกตั๋วพิเศษต่าง ๆ (การแสดง หรือพิพิธภัณฑ์) ถูกรวมเข้าไปในราคาของประสบการณ์แล้ว ลองพิจารณารวมตั๋วพวกนี้เข้าไปด้วย เพื่อให้ประสบการณ์ของคุณดึงดูดแขกมากขึ้น

อย่าลืมว่า ประสบการณ์ของคุณสามารถพัฒนา และเติบโตได้เสมอ คุณสามารถปรับข้อมูลในหน้าประสบการณ์ของคุณได้ทุกครั้งที่คุณเรียนรู้จากแขกของคุณ ว่าอะไรที่ให้ผลดีที่สุดสำหรับคุณ ทั้งด้านการเงิน และวิถีการดำเนินชีวิต

2. เพิ่มยอดจองโดยการปรับแต่งปฏิทิน

ในขณะที่ว่าที่แขกของคุณบางคน คือ นักเดินทางที่ชอบการวางแผนในทุกรายละเอียดของวันหยุดพักผ่อนล่วงหน้า แต่ก็มีนักเดินทางอีกบางกลุ่มที่มักจะวางแผนในทันทีในวันนี้ หรือพรุ่งนี้ โดยส่วนใหญ่ 40% ของการจองมักเกิดขึ้นภายในหนึ่งสัปดาห์ของประสบการณ์ แขกเหล่านี้มันเป็นนักท่องเที่ยวที่ชอบจองนาทีสุดท้าย หรือคนในท้องถิ่นที่หาอะไรสนุก ๆ ทำในช่วงบ่าย

สิ่งที่ควรพิจารณา

• ประสบการณ์ที่พร้อมจัดในอนาคตมักมีแนวโน้มที่จะได้แขกมากขึ้น ลองจัดปฏิทินประสบการ์ให้ว่างในอีก 3 เดือนข้างหน้า เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่ชอบวางแผนล่วงหน้า (ในปฏิทินบนเว็บ Airbnb คุณสามารถจัดเวลาล่วงหน้าได้นานถึง 18 เดือน) 
• ลองคิดการนำเสนอประสบการณ์ในช่วงวัน และเวลาที่แตกต่างกัน ให้คุณบันทึกไว้ว่าวันไหนในสัปดาห์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด จากนั้นไปปรับปฏิทินของคุณให้พร้อมในวันเหล่านั้น นอกจากนี้คุณยังสามารถยกเลิกประสบการณ์ที่ยังไม่ได้ถูกจองได้เสมอ
• โดยทั่วไปวันที่คนจองเยอะ คือ พฤหัส ศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์
• ลองวางแผนล่วงหน้าสำหรับเหตุการณ์สำคัญที่จะเกิดขึ้นในพื้นที่ที่คุณอยู่ โดยการเพิ่มวันที่คุณว่างพร้อมจัดประสบการณ์มากขึ้น (ยกตัวอย่างเช่นช่วงเทศกาลคาร์นิวัลในกรุงริโอ เดอ จาเนโร)
• หมั่นปรับปรุงปฏิทินของคุณให้ทันสมัย และเคารพต่อทุกการจอง การยกเลิก หรือเปลี่ยนแปลงประสบการณ์ที่ถูกจองมา อาจส่งผลกระทบต่อแขกและแผนที่พวกเขาวางไว้ นอกจากนี้คุณอาจได้รับบทลงโทษการการละเมิด Terms of Service ของ Airbnb อีกด้วย 
  

เช่นเคย กำหนดการของคุณขึ้นอยู่กับคุณทั้งหมด – อย่าลังเลที่จะทำสอบมัน

3. ทำให้ประสบการณ์ของคุณ Active ในผลการค้นหา

การตั้งค่าการจองสามารถสร้างผลกระทบที่ยิ่งใหญ่กับจำนวนแขกที่เห็นประสบการณ์ของคุณในผลการค้นหาได้ 20% ของการจองเกิดขึ้นภายใน 2 วันก่อนที่ประสบการณ์จะเริ่ม เพื่อที่จะทำให้ประสบการณของคุณ Active ในผลการค้นหา และยังคงมองเห็นจากพวกที่ชอบจองนาทีสุดท้าย ลองตั้งค่าเวลาตัดสิทธิ์การจองให้ใกล้กับเวลาที่ประสบการณ์จะเริ่มมากที่สุดเท่าที่ทำได้

คุณรู้หรือไม่?

• ถ้าคุณตั้งเวลาตัดสิทธิ์การจองไว้ที่ 1 ชม. แขกทุกคนสามารถค้นหาประสบการณ์ของคุณเจอ และสามารถจองได้จนกว่าจะถึง 1 ชม. ก่อนที่ประสบการณ์จะเริ่ม
• ถ้าไม่มีการจองเข้ามาเลยในช่วงเวลาตัดสิทธิ์การจอง ประสบการณ์ของคุณจะถูกยกเลิกโดยไม่มีบทลงโทษ

คุณสามารถศึกษาวิธีการตั้งเวลาตัดสิทธิ์การจองได้ที่นี่

คุณพอมีเวลาสักครู่ไหม? ไปยังหน้าประสบการณ์ของคุณ จากนั้นทำการรรีวิวราคา ความพร้อม และเวลาตัดสิทธิ์การจอง เช่นเคย คุณคือคนควบคุมการตั้งค่าทั้งหมด เราหวังว่าข้อมูลดังกล่าวสามารถช่วยให้คุณตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาด และพบกับความสำเร็จในระยะยาวได้

from:https://startitup.in.th/airbnb-experiences-3-simple-steps-to-more-bookings/

Airbnb Experiences: 3 ขั้นตอนง่าย ๆ ในการได้ยอดจองเพิ่ม

หากคุณได้สร้าง และเผยแพร่ประสบการณ์ของคุณบน Airbnb แล้ว ตอนนี้คุณต้องการให้ประสบการณ์ของคุณมีคนค้นเจอ และทำการจอง Airbnb ได้สร้างเครื่องมือที่ช่วยให้คุณควบคุมได้ ดังนั้นทำไมคุณไม่ลองทดสอบไปจนกว่าคุณจะเจอสูตรมหัศจรรย์ที่เหมาะกับคุณดูล่ะ

มันอาจจะต้องทดสอบหลายรอบในการปรับปรุงประสบการณ์ของคุณให้ประสบความสำเร็จ จากข้อมูลที่ทีม Airbnb รวมรวบมาจากโฮสต์ที่ประสบความสำเร็จ นี่คือตัวอย่างการปรับแต่งง่าย ๆ ที่คุณสามารถนำไปใช้ทดสอบเพื่อเพิ่มยอดจองของคุณได้

1. ดึงดูดแขกชุดแรกของคุณด้วยการลดราคาช่วงเปิดตัว

ถ้าคุณต้องการเพิ่มยอดจองแบบก้าวกระโดด คุณสามารถปรับแต่งราคา เพื่อช่วยเร่งการเติบโตประสบการณ์ของคุณในช่วงเริ่มต้นได้ ให้คุณนึกว่า 2-3 การจองแรก คือ “การลงทุน” เพื่อช่วยให้ธุรกิจของคุณเติบโตในอนาคต

ลองดูตัวอย่างแนวทางการตั้งราคาของ Travis โฮสต์จากซาน ฟรานซิสโกในช่วงที่เขาเริ่มปล่อยประสบการณ์

เช่นเดียวกัน Travis คุณอาจเริ่มต้นด้วยราคาต่ำ เพื่อดึงดูดแขกในช่วงแรก จากนั้นคุณค่อยเพิ่มราคาขึ้นมาหลังจากที่ได้รีวิวเชิงบวกมากขึ้น โดยปกติการปรับแต่งราคาจะขึ้นอยู่กับคุณทั้งหมด

จากข้อมูล Airbnb ชี้ให้เห็นว่าแขกมักชอบเมื่อพวกตั๋วพิเศษต่าง ๆ (การแสดง หรือพิพิธภัณฑ์) ถูกรวมเข้าไปในราคาของประสบการณ์แล้ว ลองพิจารณารวมตั๋วพวกนี้เข้าไปด้วย เพื่อให้ประสบการณ์ของคุณดึงดูดแขกมากขึ้น

อย่าลืมว่า ประสบการณ์ของคุณสามารถพัฒนา และเติบโตได้เสมอ คุณสามารถปรับข้อมูลในหน้าประสบการณ์ของคุณได้ทุกครั้งที่คุณเรียนรู้จากแขกของคุณ ว่าอะไรที่ให้ผลดีที่สุดสำหรับคุณ ทั้งด้านการเงิน และวิถีการดำเนินชีวิต

2. เพิ่มยอดจองโดยการปรับแต่งปฏิทิน

ในขณะที่ว่าที่แขกของคุณบางคน คือ นักเดินทางที่ชอบการวางแผนในทุกรายละเอียดของวันหยุดพักผ่อนล่วงหน้า แต่ก็มีนักเดินทางอีกบางกลุ่มที่มักจะวางแผนในทันทีในวันนี้ หรือพรุ่งนี้ โดยส่วนใหญ่ 40% ของการจองมักเกิดขึ้นภายในหนึ่งสัปดาห์ของประสบการณ์ แขกเหล่านี้มันเป็นนักท่องเที่ยวที่ชอบจองนาทีสุดท้าย หรือคนในท้องถิ่นที่หาอะไรสนุก ๆ ทำในช่วงบ่าย

สิ่งที่ควรพิจารณา

• ประสบการณ์ที่พร้อมจัดในอนาคตมักมีแนวโน้มที่จะได้แขกมากขึ้น ลองจัดปฏิทินประสบการ์ให้ว่างในอีก 3 เดือนข้างหน้า เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่ชอบวางแผนล่วงหน้า (ในปฏิทินบนเว็บ Airbnb คุณสามารถจัดเวลาล่วงหน้าได้นานถึง 18 เดือน) 
• ลองคิดการนำเสนอประสบการณ์ในช่วงวัน และเวลาที่แตกต่างกัน ให้คุณบันทึกไว้ว่าวันไหนในสัปดาห์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด จากนั้นไปปรับปฏิทินของคุณให้พร้อมในวันเหล่านั้น นอกจากนี้คุณยังสามารถยกเลิกประสบการณ์ที่ยังไม่ได้ถูกจองได้เสมอ
• โดยทั่วไปวันที่คนจองเยอะ คือ พฤหัส ศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์
• ลองวางแผนล่วงหน้าสำหรับเหตุการณ์สำคัญที่จะเกิดขึ้นในพื้นที่ที่คุณอยู่ โดยการเพิ่มวันที่คุณว่างพร้อมจัดประสบการณ์มากขึ้น (ยกตัวอย่างเช่นช่วงเทศกาลคาร์นิวัลในกรุงริโอ เดอ จาเนโร)
• หมั่นปรับปรุงปฏิทินของคุณให้ทันสมัย และเคารพต่อทุกการจอง การยกเลิก หรือเปลี่ยนแปลงประสบการณ์ที่ถูกจองมา อาจส่งผลกระทบต่อแขกและแผนที่พวกเขาวางไว้ นอกจากนี้คุณอาจได้รับบทลงโทษการการละเมิด Terms of Service ของ Airbnb อีกด้วย 
  

เช่นเคย กำหนดการของคุณขึ้นอยู่กับคุณทั้งหมด – อย่าลังเลที่จะทำสอบมัน

3. ทำให้ประสบการณ์ของคุณ Active ในผลการค้นหา

การตั้งค่าการจองสามารถสร้างผลกระทบที่ยิ่งใหญ่กับจำนวนแขกที่เห็นประสบการณ์ของคุณในผลการค้นหาได้ 20% ของการจองเกิดขึ้นภายใน 2 วันก่อนที่ประสบการณ์จะเริ่ม เพื่อที่จะทำให้ประสบการณของคุณ Active ในผลการค้นหา และยังคงมองเห็นจากพวกที่ชอบจองนาทีสุดท้าย ลองตั้งค่าเวลาตัดสิทธิ์การจองให้ใกล้กับเวลาที่ประสบการณ์จะเริ่มมากที่สุดเท่าที่ทำได้

คุณรู้หรือไม่?

• ถ้าคุณตั้งเวลาตัดสิทธิ์การจองไว้ที่ 1 ชม. แขกทุกคนสามารถค้นหาประสบการณ์ของคุณเจอ และสามารถจองได้จนกว่าจะถึง 1 ชม. ก่อนที่ประสบการณ์จะเริ่ม
• ถ้าไม่มีการจองเข้ามาเลยในช่วงเวลาตัดสิทธิ์การจอง ประสบการณ์ของคุณจะถูกยกเลิกโดยไม่มีบทลงโทษ

คุณสามารถศึกษาวิธีการตั้งเวลาตัดสิทธิ์การจองได้ที่นี่

คุณพอมีเวลาสักครู่ไหม? ไปยังหน้าประสบการณ์ของคุณ จากนั้นทำการรรีวิวราคา ความพร้อม และเวลาตัดสิทธิ์การจอง เช่นเคย คุณคือคนควบคุมการตั้งค่าทั้งหมด เราหวังว่าข้อมูลดังกล่าวสามารถช่วยให้คุณตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาด และพบกับความสำเร็จในระยะยาวได้

[บทความต้นฉบับ] https://blog.atairbnb.com/3-simple-steps-to-more-bookings/

---

สำหรับคนที่สนใจการเป็นโฮสต์จัดประสบการณ์บน Airbnb Experiences นะครับ ผมขอแนะนำคอร์สเรียนออนไลน์ Airbnb Experiences Host ซึ่งอธิบายขั้นตอนการเป็นโฮสต์ Airbnb Experiences ตั้งแต่ต้นจนจบ รวมถึงวิธีการลงข้อมูลประสบการณ์ที่คุณต้องการจัดในเว็บไซต์ของ Airbnb อย่างละเอียด

from:http://startitup.in.th/airbnb-experiences-3-simple-steps-to-more-bookings/

Airbnb Experiences: คำถาม 10 ข้อ ช่วยให้ประสบการณ์ของคุณมียอดจองมากขึ้น

ผู้ประกอบการที่ยอดเยี่ยมทุกคนต่างคล่องแคล่วว่องไว และเปิดใจเรียนรู้จากความพยายามของพวกเขา ผู้ประกอบการที่มีความคิดสร้างสรรค์จะปรับปรุงกลยุทธ์ของตัวเองอย่างต่อเนื่อง และบ่อยครั้งก็ช่วยให้พวกเขาพบกับความต้องการของตลาด

ทีม Airbnb สังเกตโฮสต์ที่ได้รับรีวิวเชิงบวก คนเหล่านี้มีกรอบความคิดที่เหมือนกัน คือ พร้อมที่จะเรียนรู้จากโฮสต์คนอื่น และแขกของเขา โฮสต์เหล่านี้หมั่นอัพเดทข้อมูลประสบการณ์ซึ่งช่วยให้พวกเขาได้รับการจองเพิ่มขึ้น คำถาม 10 ข้อต่อไปนี้จะช่วยให้คุณตัดสินใจในการปรับปรุงข้อมูลประสบการณ์ของคุณ จำไว้ว่าคำถามเหล่านี้เป็นเพียงคำแนะนำ เพราะรายละเอียดประสบการณ์ของคุณขึ้นอยู่กับตัวคุณเอง ว่าคุณจะทดลองอะไรบ้าง

---

ชื่อประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมสามารถดึงดูดแขกให้เข้ามาดูประสบการณ์ของคุณจากผลการค้นหา นอกจากนี้ยังเปิดเผยบางอย่างที่พิเศษให้กับผู้อ่านด้วย

◯ ชื่อประสบการของฉันเริ่มต้นด้วยคำกริยา และสามารถสร้างแรงบันดาลใจให้กับว่าที่แขกเข้ามาลองร่วมประสบการณ์หรือไม่?

◯ ชื่อประสบการณ์ของฉันแตกต่าง ไม่เหมือนประสบการณ์อื่นบน Airbnb และเว็บไซต์อื่น ๆใช่หรือไม่?

---

คำบรรยายเกี่ยวกับประวัติส่วนตัวของคุณ แตกต่างจากโฮสต์คนอื่น และกระตุ้นให้แขกต้องการพบเจอคุณ คำถามต่อไปนี้คุณอาจลองถามตัวเองดูเมื่อคุณกำลังพิจารณาหัวข้อ “About your host”

◯  ประวัติส่วนตัวของฉันแสดงออกมาให้เห็นแทนที่จะเป็นการบอกเล่าใช่หรือไม่? ฉันได้อธิบายหรือไม่ว่าฉันเป็นผู้เชี่ยวชาญ หรืออยู่ในตำแหน่งที่แตกต่างจากคนอื่นในฐานะโฮสต์?

◯ ในหัวข้อ “เกี่ยวกับฉัน” ได้บรรยายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในชีวิตจริง เพื่อทำให้แขกเห็นภาพเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของฉันใช้หรือไม่?

---

โฮสต์ที่ประสบความสำเร็จหลายคนใช้เวลาในการขัดเกลาคำบรรยายในประสบการณ์ของพวกเขาในหัวข้อ “What we’ll do” 

◯  ฉันได้เปิดโอกาสให้แขกได้ลองจินตนาการให้เห็นภาพจากการอ่านคำบรรยายใช่หรือไม่ ไม่ว่าจะเป็นสิ่งที่พวกเขาจะได้เห็น ได้สัมผัส ได้ยิน หรือได้ลิ้มลอง

◯ ฉันได้พิจารณาถึงคำถามยอดฮิตจากแขก และคำบรรยาของฉันได้ตอบคำถามเหล่านั้นใช่หรือไม่?

◯ ฉันได้นำสิ่งต่าง ๆ ที่แขกคนก่อน ๆ ชื่นชอบ (หาได้จากรีวิว) มาใส่ในคำบรรยายของฉันใช่หรือไม่?

---

การเปิดโอกาสให้แขกที่ชอบจองในนาทีสุดท้าย และแขกที่มีการวางแผนล่วงหน้าจะช่วยให้โฮสต์มีอัตรการจองสูงขึ้น ลองถามตัวคุณเองด้วยคำถามต่อไป

◯ ฉันได้ตั้งปฏิทินให้ว่างตลอด 3 เดือน เพื่อให้แขกที่ชอบวางแผนล่วงหน้าสามารถจองได้ใช่หรือไม่?

◯ ฉันกำลังทดสอบการจัดวันที่ โดยลองเปิดปิดเวลาที่แตกต่างกันในแต่ละวัน และวันต่าง ๆ ในแต่ละสัปดาห์ใช่หรือไม่?

◯ ฉันได้เปิดโอกาสให้แขกที่ชอบจองในนาทีสุดท้ายโดยการยืดเวลาตัดสิทธิ์การจองใช่หรือไม่?

---

จำไว้ว่าคำถามเหล่านี้ช่วยให้คุณคิดอยู่เสมอว่า คุณควรปรับข้อมูลประสบการณ์ของคุณเพื่อให้ประสบความสำเร็จ เพรราะประสบการณ์การของคุณเองอยู่ในมือคุณ

หากคุณพร้อมที่จะลงลึกข้อมูลในหน้าประสบการณ์ บทความนี้ Airbnb Experiences: แนวทางการทำหน้าประสบการณ์ให้โดดเด่น มีข้อแนะนำในการสร้างหน้าประสบการณ์ที่ดึงดูดแขกให้มาจอง

[บทความต้นฉบับ] https://blog.atairbnb.com/the-10-point-experience-page-checklist

---

สำหรับคนที่สนใจการเป็นโฮสต์จัดประสบการณ์บน Airbnb Experiences นะครับ ผมขอแนะนำคอร์สเรียนออนไลน์ Airbnb Experiences Host ซึ่งอธิบายขั้นตอนการเป็นโฮสต์ Airbnb Experiences ตั้งแต่ต้นจนจบ รวมถึงวิธีการลงข้อมูลประสบการณ์ที่คุณต้องการจัดในเว็บไซต์ของ Airbnb อย่างละเอียด

from:https://startitup.in.th/airbnb-experiences-the-10-point-experience-page-checklist/

Airbnb Experiences: คำถาม 10 ข้อ ช่วยให้ประสบการณ์ของคุณมียอดจองมากขึ้น

ผู้ประกอบการที่ยอดเยี่ยมทุกคนต่างคล่องแคล่วว่องไว และเปิดใจเรียนรู้จากความพยายามของพวกเขา ผู้ประกอบการที่มีความคิดสร้างสรรค์จะปรับปรุงกลยุทธ์ของตัวเองอย่างต่อเนื่อง และบ่อยครั้งก็ช่วยให้พวกเขาพบกับความต้องการของตลาด

ทีม Airbnb สังเกตโฮสต์ที่ได้รับรีวิวเชิงบวก คนเหล่านี้มีกรอบความคิดที่เหมือนกัน คือ พร้อมที่จะเรียนรู้จากโฮสต์คนอื่น และแขกของเขา โฮสต์เหล่านี้หมั่นอัพเดทข้อมูลประสบการณ์ซึ่งช่วยให้พวกเขาได้รับการจองเพิ่มขึ้น คำถาม 10 ข้อต่อไปนี้จะช่วยให้คุณตัดสินใจในการปรับปรุงข้อมูลประสบการณ์ของคุณ จำไว้ว่าคำถามเหล่านี้เป็นเพียงคำแนะนำ เพราะรายละเอียดประสบการณ์ของคุณขึ้นอยู่กับตัวคุณเอง ว่าคุณจะทดลองอะไรบ้าง

---

ชื่อประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมสามารถดึงดูดแขกให้เข้ามาดูประสบการณ์ของคุณจากผลการค้นหา นอกจากนี้ยังเปิดเผยบางอย่างที่พิเศษให้กับผู้อ่านด้วย

◯ ชื่อประสบการของฉันเริ่มต้นด้วยคำกริยา และสามารถสร้างแรงบันดาลใจให้กับว่าที่แขกเข้ามาลองร่วมประสบการณ์หรือไม่?

◯ ชื่อประสบการณ์ของฉันแตกต่าง ไม่เหมือนประสบการณ์อื่นบน Airbnb และเว็บไซต์อื่น ๆใช่หรือไม่?

---

คำบรรยายเกี่ยวกับประวัติส่วนตัวของคุณ แตกต่างจากโฮสต์คนอื่น และกระตุ้นให้แขกต้องการพบเจอคุณ คำถามต่อไปนี้คุณอาจลองถามตัวเองดูเมื่อคุณกำลังพิจารณาหัวข้อ “About your host”

◯  ประวัติส่วนตัวของฉันแสดงออกมาให้เห็นแทนที่จะเป็นการบอกเล่าใช่หรือไม่? ฉันได้อธิบายหรือไม่ว่าฉันเป็นผู้เชี่ยวชาญ หรืออยู่ในตำแหน่งที่แตกต่างจากคนอื่นในฐานะโฮสต์?

◯ ในหัวข้อ “เกี่ยวกับฉัน” ได้บรรยายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในชีวิตจริง เพื่อทำให้แขกเห็นภาพเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของฉันใช้หรือไม่?

---

โฮสต์ที่ประสบความสำเร็จหลายคนใช้เวลาในการขัดเกลาคำบรรยายในประสบการณ์ของพวกเขาในหัวข้อ “What we’ll do” 

◯  ฉันได้เปิดโอกาสให้แขกได้ลองจินตนาการให้เห็นภาพจากการอ่านคำบรรยายใช่หรือไม่ ไม่ว่าจะเป็นสิ่งที่พวกเขาจะได้เห็น ได้สัมผัส ได้ยิน หรือได้ลิ้มลอง

◯ ฉันได้พิจารณาถึงคำถามยอดฮิตจากแขก และคำบรรยาของฉันได้ตอบคำถามเหล่านั้นใช่หรือไม่?

◯ ฉันได้นำสิ่งต่าง ๆ ที่แขกคนก่อน ๆ ชื่นชอบ (หาได้จากรีวิว) มาใส่ในคำบรรยายของฉันใช่หรือไม่?

---

การเปิดโอกาสให้แขกที่ชอบจองในนาทีสุดท้าย และแขกที่มีการวางแผนล่วงหน้าจะช่วยให้โฮสต์มีอัตรการจองสูงขึ้น ลองถามตัวคุณเองด้วยคำถามต่อไป

◯ ฉันได้ตั้งปฏิทินให้ว่างตลอด 3 เดือน เพื่อให้แขกที่ชอบวางแผนล่วงหน้าสามารถจองได้ใช่หรือไม่?

◯ ฉันกำลังทดสอบการจัดวันที่ โดยลองเปิดปิดเวลาที่แตกต่างกันในแต่ละวัน และวันต่าง ๆ ในแต่ละสัปดาห์ใช่หรือไม่?

◯ ฉันได้เปิดโอกาสให้แขกที่ชอบจองในนาทีสุดท้ายโดยการยืดเวลาตัดสิทธิ์การจองใช่หรือไม่?

---

จำไว้ว่าคำถามเหล่านี้ช่วยให้คุณคิดอยู่เสมอว่า คุณควรปรับข้อมูลประสบการณ์ของคุณเพื่อให้ประสบความสำเร็จ เพรราะประสบการณ์การของคุณเองอยู่ในมือคุณ

หากคุณพร้อมที่จะลงลึกข้อมูลในหน้าประสบการณ์ บทความนี้ Airbnb Experiences: แนวทางนำเสนอข้อมูลในหน้าประสบการณ์ของคุณให้โดดเด่น มีข้อแนะนำในการสร้างหน้าประสบการณ์ที่ดึงดูดแขกให้มาจอง

[บทความต้นฉบับ] https://blog.atairbnb.com/the-10-point-experience-page-checklist

---

สำหรับคนที่สนใจการเป็นโฮสต์จัดประสบการณ์บน Airbnb Experiences นะครับ ผมขอแนะนำคอร์สเรียนออนไลน์ Airbnb Experiences Host ซึ่งอธิบายขั้นตอนการเป็นโฮสต์ Airbnb Experiences ตั้งแต่ต้นจนจบ รวมถึงวิธีการลงข้อมูลประสบการณ์ที่คุณต้องการจัดในเว็บไซต์ของ Airbnb อย่างละเอียด

from:http://startitup.in.th/airbnb-experiences-the-10-point-experience-page-checklist/

Airbnb Experiences: วิธีที่เราจะเอางานฝีมือ การท่องเที่ยว หรือความหลงใหลไปใส่ใน Airbnb

การจัดประสบการณ์บน Airbnb Experiences นั้นเป็นโอกาสที่น่าตื่นเต้นในการที่คุณจะนำความเชี่ยวชาญหรือคงามหลงใหลของคุณมาแบ่งปันให้กับผู้คนทั่วโลก ถ้าคุณมีประสบการณ์การนำเที่ยว หรือเป็นผู้นำเวิร์คช็อป การนำประสบการณ์ของคุณไปลิสต์บน Airbnb เป็นแนวทางที่น่าตื่นเต้นในการเชื่อมโยงกับกลุ่มคนใหม่ ๆ ประกอบด้วยนักท่องเที่ยวหลายล้านคน และคนท้องถิ่นที่กำลังมองหาประสบการณ์แปลกใหม่ นอกจากการเชื่อมโยงกับผู้คนใหม่ ๆ ที่สนใจในความเชี่ยวชาญ หรือเมืองที่คุณอยู่แล้ว คุณยังสามารถมีกระแสรายได้ใหม่เข้ามาช่วยคุณให้กลายเป็นผู้ประกอบการอีกด้วย

เรื่องที่สำคัญคือการนำเที่ยว หรือเวิร์คช็อปของคุณนั้นจำเป็นต้องเหมาะสมกับ Airbnb และตรงกับความคาดหวังที่สูงของกลุ่มคนเหล่านั้น ลองให้เวลากับการปรับแต่งแนวทางการนำเที่ยว หรือเวิร์คช็อปของคุณก่อนที่จะส่งขึ้นแพลตฟอร์ม Airbnb ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสให้คุณประสบความสำเร็จมากขึ้น และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่สนใจการจัดประสบการณ์ของคุณได้มากขึ้นด้วย แนวทาง 3 ขั้นตอนต่อไปนี้ ถูกเผยแพร่จากโฮสต์จัดประสบการณ์ที่ประสบความสำเร็จบน Airbnb และจะช่วยให้คุณเตรียมตัวสำหรับการนำประสบการณ์ของคุณโพสต์เข้าในแพลตฟอร์มของ Airbnb

1. ปล่อยประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครลงไปใน Airbnb

แขกของ Airbnb ต่างก็มองหาประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครในการสำรวจเมืองที่คุณอยู่ และพวกเขาให้ความสำคัญกับสิ่งเหล่านี้

• ประสบการณ์ที่ไม่ซ้ำใครในเมืองที่คุณอยู่ ช่วยให้แขกรู้สึกเหมือนเป็นคนท้องถิ่น
• ประสบการณ์ที่มอบมุมมองใหม่ ๆ ในระหว่างที่ทำกิจกรรม ซึ่งประสบการณ์เหล่านั้นมาจากความหลงใหล หรือความสงสัยเกี่ยวกับผู้เชี่ยวชาญ นั่นก็คือตัวคุณเอง
• ประสบการณ์ที่ช่วยให้เข้าถึงชุมชน หรือกิจกรรมที่แขกได้มีส่วนร่วม และช่วยให้พวกเขาเชื่อมโยงกับแขกคนอื่น ๆ ที่เข้าร่วมประสบการณ์ของคุณ

ประสบการณ์ที่ประสบความสำเร็จ หรือสร้างช่วงเวลาที่น่าจดจำได้นั้น เกิดจากความสามารถในการเชื่อมโยงสิ่งต่าง ๆ เข้าไว้ด้วยกันได้แก่ สถานที่ที่มีชื่อเสียง ความพิเศษในแต่ละท้องถิ่น หัวข้อที่กำลังเป็นกระแส ความหลงใหล และความเชี่ยวชาญ และการเข้าถึงบางสิ่งหรือบางสถานที่ที่ม่ีแต่คุณเท่านั้นที่ทำได้ ถ้าคุณกำลังนำเสนอการปั่นจักรยานเยี่ยมชมเมืองที่คุณอยู่ ลองพิจารณาถึงการจัดกิจกรรมในรูปแบบที่แตกต่าง และสร้างสรรค์ดู เช่น การเพิ่มสถานที่สำคัญ หรือแนวทางใหม่ ๆ ในทัวร์ของคุณ

ยกตัวอย่าง Ryan เจ้าของประสบการณ์ Hike the Runyon Canyon with a rescue dog ในตอนแรกเขานำเสนอการเปิดโอกาสให้ผู้คนได้มาพบปะกับสุนัขกู้ภัย แต่หลังจากที่ปล่อยประสบการณ์ออกไปไม่นาน เขาได้ปรับปรุงประสบการณ์ของเขาโดยเพิ่มการเดินเขาเข้าไป ซึ่งเป็นการเดินไปยังจุดที่ได้รับความนิยมต่าง ๆ ในนครลอส แองเจิลลิส กิจกรรมในประสบการณ์นี้ยังรวมถึงการหยุดถ่ายรูปกับป้ายฮอลลีวูดอีกด้วย ปัจจุบัน Ryan ได้รีวิว 5 ดาวกว่า 1,600 รีวิว และกำลังเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ และนี่คือความสำเร็จของ Ryan กับสุนัขกู้ภัยของเขา

2. คำนึงถึงมาตรฐานคุณภาพที่แขกคาดหวัง

แขกของ Airbnb ต่างเชื่อมั่นในประสบการณ์ที่แสดงอยู่บนแพลตฟอร์ม ซึ่งผ่านมาตรฐานคุณภาพที่สูง ในขณะที่คุณตรวจสอบทัวร์ หรือเวิร์กช็อปปัจจุบันของคุณ เพื่อประเมินว่าเหมาะสมกับ Airbnb หรือไม่ ให้ลองนึกดูว่าประสบการณ์นั้นจะสามารถตอบสนองความคาดหวังที่สูงของผู้คนในแพลตฟอร์ม Airbnb ได้อย่างไร ชุมชนโฮสต์ของ Airbnb ต่างเป็นที่รู้จักในเรื่องของการต้อนรับที่ยอดเยี่ยม การส่งมอบการเข้าถึงชุมชน หรือสถานที่ท้องถิ่น ซึ่งแขกอาจไม่สามารถค้นพบด้วยตนเองได้ และสุดท้าย การแสดงความสามารถพิเศษ ความหลงใหล และความเชี่ยวชาญของโฮสต์ที่จัดประสบการณ์

เมื่อคุณส่งมอบประสบการณ์ของคุณ คุณจะต้องทำให้ทัวร์ หรือเวิร์กช็อปของคุณสามารถ

• ทำให้แขกรู้สึกถึงการต้อนรับ ปลอดภัย และสะดวกสบาย
• นำเสนอการดำดิ่งเข้าสู่โลกของคุณผ่านความหลงใหลที่คุณมี
• ส่งมอบการเข้าถึงมุมมองใหม่ ๆ เกี่ยวกับเมืองของคุณ หรือนำเสนอมุมมองที่แขกไม่สามารถหาได้จากที่ไหนด้วยตนเอง
• ทำให้แขกมีส่วนร่วม
• ทำให้ผู้เข้าร่วมอยากมีส่วนร่วมอย่างกระตือรือร้น

คุณควรแน่ใจว่าทัวร์ หรือเวิร์กช็อปของคุณจะมีองค์ประกอบดังกล่าวรวมอยู่ด้วย และให้คุณเน้นสิ่งเหล่านี้ใส่ลงไปในคำบรรยายหน้าประสบการณ์ของคุณ มันจะช่วยให้คุณสามารถจัดประสบการณ์ที่ตรงกับความคาดหวังของแขกได้

ช่วงที่ดีที่สุดเกิดขึ้นหลังจากที่ผมถ่ายรูปผู้คนทั้งหมดในรูปที่ได้เริ่มมีการพูดคุย แลกเปลี่ยนข้อมูล และรู้สึกตื่นเต้นกับการพบปะผู้คนจากทั่วทุกมุมโลก มันเป็นช่วงเวลาที่ตรึงผมไว้ และรอยยิ้มของทุกคนในรูป คือ เหตุผลว่าทำไมผมถึงรักการเป็นผู้จัดประสบการณ์ – Dan เจ้าของประสบการ Dogtown Cultural History ในลอง แองเจิลลิส, แคลิฟอร์เนีย

3. เตรียมพร้อมที่จะปรับตัวเข้าสู่ความท้าทายใหม่

เมื่อคุณได้ส่งมอบทัวร์ หรือเวิร์กช็อปของคุณแล้ว คุณอาจคาดหวังว่าจะมีแขกประเภทอื่นเพิ่มขึ้น เนื่องจากแขกของ Airbnb นั้นเดินทางมาจากทั่วโลก ลองพิจารณาสิ่งที่ทำให้ประสบการณ์ของคุณบน Airbnb แตกต่างจากทัวร์ หรือเวิร์กช็อปทั่วไป

เมื่อคุณวางแผนที่จะโพสต์ประสบการณ์ของคุณไปบน Airbnb สิ่งที่คุณควรคำนึงถึงได้แก่

ประสบการณ์แต่ละตัวต้องพิเศษสำหรับแขก Airbnb ดังนั้นอย่าขายตั๋วเพื่อเดท โดยเฉพาะการยื่นข้อเสนอประสบการณ์ของ Airbnb บนแพลตฟอร์มอื่น หรือเว็บไซต์ของคุณเอง ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคุณเสนอประสบการณ์บน Airbnb ในวันเสาร์ตอน 1 ทุ่ม คุณต้องแน่ใจว่าประสบการณ์นั้นจัดขึ้นสำหรับแขกที่จองมาจาก Airbnb เท่านั้น แน่นอนว่าคุณสามารถทำได้ในการนำเสนอทัวร์ หรือเวิร์กช็อปที่คล้ายกันในเวลาอื่น และลูกค้าคนอื่น

• คนที่อยู่ในลิสต์ประสบการณ์ของคุณเท่านั้นที่สามารถเป็นผู้นำประสบการณ์ได้ แขกของคุณจะคาดหวังว่าคุณ คือ ผู้จัดประสบการณ์ ทั้งหมดเกี่ยวข้องกับตัวคุณ และเรื่องราวของคุณ
• จำนวนผู้เข้าร่วมสูงสุด คือ 10 คน เพื่อมอบประสบการณ์แบบส่วนบุคคล
• แขกสามารถวางแผนจองล่วงหน้า หรือจองทันทีก็ได้ บางคนชอบจองล่วงหน้าหลายเดือน เพื่อ ให้สามารถล็อคประสบการณ์ที่เฉพาะเจาะจงได้ แต่ก็มีอีกหลายคนที่เลือกจองในสัปดาห์ของประสบการณ์นั้น ๆ
• แขกอาจมีมีระดับความคุ้นเคยแตกต่างกันในหัวข้อที่คุณจัด ต้องแน่ใจว่าคุณได้อธิบายระดับทักษะของผู้เข้าร่วมไว้แล้ว
• แขกอาจไม่คุ้นเคยกับเมืองของคุณ ดังนั้นจงให้รายละเอียดทั้งหมดที่ชัดเจน เช่น สถานที่นัดพบ การแต่งกาย และสิ่งต่าง ๆ ที่รวม และไม่รวมในประสบการณ์ของคุณ ทั้งนี้เพื่อให้แขกจึงรู้สึกพร้อม และสบายใจก่อนที่ประสบการณ์จะเริ่มขึ้น
• พิจารณาเกี่ยวกับการตั้งความคาดหวัง ด้วยการสื่อสารที่ชัดเจนก่อนประสบการณ์เริ่ม โฮสต์ที่ประสบความสำเร็จหลายคน ใช้วิธีส่งข้อความไปแจ้งแจกล่วงหน้าเพื่อให้พวกเขาเตรียมตัว
• แขกอาจไม่สามารถเข้าถึงอุปกรณ์พิเศษได้ ดังนั้นโปรดระบุว่าคุณได้จัดเตรียมสิ่งที่จำเป็นสำหรับการเข้าร่วมประสบการณ์ให้กับแขกไว้ด้วย

Matt เจ้าของประสบการณ์ Harbour Kayak Adventure ในซิดนีย์ ออสเตรเลีย แสดงให้ถึงการเข้าร่วมของแขกในเรื่องของความสบาย และปลอดภัยสามารถช่วยให้แขกรู้สึกปลอดภัย และสะดวกสบายได้ Matt ได้รับรีวิว 5 ดาวซึ่งชี้ให้เห็นว่าเขาได้ทำให้แขกของเขารู้สึกปลอดภัยและมีส่วนร่วม:

การพายเรือคายัคกับ Matt ผ่านอ่าวซิดนีย์ เป็นประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมมาก แม้ว่าพวกเราจะเคยเดินทางทางน้ำ โดยเรือเฟอร์รี่ เรือสำราญ และเรือยอร์ชส่วนตัว แต่ประสบการณ์นี้น่าสนใจในการมองผืนน้ำในมุมนี้ และรู้สึกว่ามันปลอดภัย เพราะ Matt จับตาเฝ้าดูพวกเราอยู่เสมอ ส่วนหนึ่งของทัวร์มีการจอดพักที่เกาะ Goat ซึ่งไม่อนุญาตให้เข้าไปถ้าคุณไม่มีใบอนุญาต Matt แบ่งปันเรื่องราวที่น่าสนใจมาก ๆ เกี่ยวประวัติของเกาะเล็ก ๆ แห่งนี้ และนำเสนอมุมมองของเมืองที่คนทั่วไปมองข้าม โดยเฉพาะอย่างยิ่งฉันรักที่ข้อเท็จจริงที่ว่า มันเป็นกลุ่มเล็ก (อ้างอิงจาก Matt เขาชอบที่จะรักษากลุ่มเล็ก ๆ แบบนี้ไว้ เพื่อรองรับความปลอดภัยในระดับสูง) ซึ่งเปิดโอกาสให้พวกเราสามารถเข้าถึง Matt ในการสอบถามข้อมูลต่าง ๆ ได้ตลอดเวลา 4 ชั่วโมงจากการล่องเรือไปกับ Matt และรู้สึกดีที่ได้ออกกำลังกาย (โดยที่ไม่หมดแรง) และเพลิดเพลินกับการชมทิวทัศน์ – Oliver

[บทความต้นฉบับ] https://blog.atairbnb.com/how-to-bring-your-craft-tour-or-passion-to-airbnb/

---

สำหรับคนที่สนใจป็นโฮสต์จัดประสบการณ์บน Airbnb Experiences อยากสร้างรายได้จากการจัดกิจกรรมที่คุณรักให้กับนักท่องเที่ยวทั่วโลก ผมมีคอร์สเรียนที่จะช่วยให้คุณเริ่มต้นได้อยากถูกต้อง ไม่ต้องเสียเวลาไปลองผิดลองถูกเองในการเริ่มต้นเป็นโฮสต์ และทำเงินจาก Airbnb Experiences สนใจคอร์สดูรายละเอียดได้ที่ https://startitup.in.th/airbnb-experiences-course/

from:https://startitup.in.th/airbnb-experiences-how-to-bring-your-craft-tour-or-passion-to-airbnb/

Airbnb Experiences: วิธีที่เราจะเอางานฝีมือ การท่องเที่ยว หรือความหลงใหลไปใส่ใน Airbnb

การจัดประสบการณ์บน Airbnb Experiences นั้นเป็นโอกาสที่น่าตื่นเต้นในการที่คุณจะนำความเชี่ยวชาญหรือคงามหลงใหลของคุณมาแบ่งปันให้กับผู้คนทั่วโลก ถ้าคุณมีประสบการณ์การนำเที่ยว หรือเป็นผู้นำเวิร์คช็อป การนำประสบการณ์ของคุณไปลิสต์บน Airbnb เป็นแนวทางที่น่าตื่นเต้นในการเชื่อมโยงกับกลุ่มคนใหม่ ๆ ประกอบด้วยนักท่องเที่ยวหลายล้านคน และคนท้องถิ่นที่กำลังมองหาประสบการณ์แปลกใหม่ นอกจากการเชื่อมโยงกับผู้คนใหม่ ๆ ที่สนใจในความเชี่ยวชาญ หรือเมืองที่คุณอยู่แล้ว คุณยังสามารถมีกระแสรายได้ใหม่เข้ามาช่วยคุณให้กลายเป็นผู้ประกอบการอีกด้วย

เรื่องที่สำคัญคือการนำเที่ยว หรือเวิร์คช็อปของคุณนั้นจำเป็นต้องเหมาะสมกับ Airbnb และตรงกับความคาดหวังที่สูงของกลุ่มคนเหล่านั้น ลองให้เวลากับการปรับแต่งแนวทางการนำเที่ยว หรือเวิร์คช็อปของคุณก่อนที่จะส่งขึ้นแพลตฟอร์ม Airbnb ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสให้คุณประสบความสำเร็จมากขึ้น และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่สนใจการจัดประสบการณ์ของคุณได้มากขึ้นด้วย แนวทาง 3 ขั้นตอนต่อไปนี้ ถูกเผยแพร่จากโฮสต์จัดประสบการณ์ที่ประสบความสำเร็จบน Airbnb และจะช่วยให้คุณเตรียมตัวสำหรับการนำประสบการณ์ของคุณโพสต์เข้าในแพลตฟอร์มของ Airbnb

1. ปล่อยประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครลงไปใน Airbnb

แขกของ Airbnb ต่างก็มองหาประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครในการสำรวจเมืองที่คุณอยู่ และพวกเขาให้ความสำคัญกับสิ่งเหล่านี้

• ประสบการณ์ที่ไม่ซ้ำใครในเมืองที่คุณอยู่ ช่วยให้แขกรู้สึกเหมือนเป็นคนท้องถิ่น
• ประสบการณ์ที่มอบมุมมองใหม่ ๆ ในระหว่างที่ทำกิจกรรม ซึ่งประสบการณ์เหล่านั้นมาจากความหลงใหล หรือความสงสัยเกี่ยวกับผู้เชี่ยวชาญ นั่นก็คือตัวคุณเอง
• ประสบการณ์ที่ช่วยให้เข้าถึงชุมชน หรือกิจกรรมที่แขกได้มีส่วนร่วม และช่วยให้พวกเขาเชื่อมโยงกับแขกคนอื่น ๆ ที่เข้าร่วมประสบการณ์ของคุณ

ประสบการณ์ที่ประสบความสำเร็จ หรือสร้างช่วงเวลาที่น่าจดจำได้นั้น เกิดจากความสามารถในการเชื่อมโยงสิ่งต่าง ๆ เข้าไว้ด้วยกันได้แก่ สถานที่ที่มีชื่อเสียง ความพิเศษในแต่ละท้องถิ่น หัวข้อที่กำลังเป็นกระแส ความหลงใหล และความเชี่ยวชาญ และการเข้าถึงบางสิ่งหรือบางสถานที่ที่ม่ีแต่คุณเท่านั้นที่ทำได้ ถ้าคุณกำลังนำเสนอการปั่นจักรยานเยี่ยมชมเมืองที่คุณอยู่ ลองพิจารณาถึงการจัดกิจกรรมในรูปแบบที่แตกต่าง และสร้างสรรค์ดู เช่น การเพิ่มสถานที่สำคัญ หรือแนวทางใหม่ ๆ ในทัวร์ของคุณ

ยกตัวอย่าง Ryan เจ้าของประสบการณ์ Hike the Runyon Canyon with a rescue dog ในตอนแรกเขานำเสนอการเปิดโอกาสให้ผู้คนได้มาพบปะกับสุนัขกู้ภัย แต่หลังจากที่ปล่อยประสบการณ์ออกไปไม่นาน เขาได้ปรับปรุงประสบการณ์ของเขาโดยเพิ่มการเดินเขาเข้าไป ซึ่งเป็นการเดินไปยังจุดที่ได้รับความนิยมต่าง ๆ ในนครลอส แองเจิลลิส กิจกรรมในประสบการณ์นี้ยังรวมถึงการหยุดถ่ายรูปกับป้ายฮอลลีวูดอีกด้วย ปัจจุบัน Ryan ได้รีวิว 5 ดาวกว่า 1,600 รีวิว และกำลังเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ และนี่คือความสำเร็จของ Ryan กับสุนัขกู้ภัยของเขา

2. คำนึงถึงมาตรฐานคุณภาพที่แขกคาดหวัง

แขกของ Airbnb ต่างเชื่อมั่นในประสบการณ์ที่แสดงอยู่บนแพลตฟอร์ม ซึ่งผ่านมาตรฐานคุณภาพที่สูง ในขณะที่คุณตรวจสอบทัวร์ หรือเวิร์กช็อปปัจจุบันของคุณ เพื่อประเมินว่าเหมาะสมกับ Airbnb หรือไม่ ให้ลองนึกดูว่าประสบการณ์นั้นจะสามารถตอบสนองความคาดหวังที่สูงของผู้คนในแพลตฟอร์ม Airbnb ได้อย่างไร ชุมชนโฮสต์ของ Airbnb ต่างเป็นที่รู้จักในเรื่องของการต้อนรับที่ยอดเยี่ยม การส่งมอบการเข้าถึงชุมชน หรือสถานที่ท้องถิ่น ซึ่งแขกอาจไม่สามารถค้นพบด้วยตนเองได้ และสุดท้าย การแสดงความสามารถพิเศษ ความหลงใหล และความเชี่ยวชาญของโฮสต์ที่จัดประสบการณ์

เมื่อคุณส่งมอบประสบการณ์ของคุณ คุณจะต้องทำให้ทัวร์ หรือเวิร์กช็อปของคุณสามารถ

• ทำให้แขกรู้สึกถึงการต้อนรับ ปลอดภัย และสะดวกสบาย
• นำเสนอการดำดิ่งเข้าสู่โลกของคุณผ่านความหลงใหลที่คุณมี
• ส่งมอบการเข้าถึงมุมมองใหม่ ๆ เกี่ยวกับเมืองของคุณ หรือนำเสนอมุมมองที่แขกไม่สามารถหาได้จากที่ไหนด้วยตนเอง
• ทำให้แขกมีส่วนร่วม
• ทำให้ผู้เข้าร่วมอยากมีส่วนร่วมอย่างกระตือรือร้น

คุณควรแน่ใจว่าทัวร์ หรือเวิร์กช็อปของคุณจะมีองค์ประกอบดังกล่าวรวมอยู่ด้วย และให้คุณเน้นสิ่งเหล่านี้ใส่ลงไปในคำบรรยายหน้าประสบการณ์ของคุณ มันจะช่วยให้คุณสามารถจัดประสบการณ์ที่ตรงกับความคาดหวังของแขกได้

ช่วงที่ดีที่สุดเกิดขึ้นหลังจากที่ผมถ่ายรูปผู้คนทั้งหมดในรูปที่ได้เริ่มมีการพูดคุย แลกเปลี่ยนข้อมูล และรู้สึกตื่นเต้นกับการพบปะผู้คนจากทั่วทุกมุมโลก มันเป็นช่วงเวลาที่ตรึงผมไว้ และรอยยิ้มของทุกคนในรูป คือ เหตุผลว่าทำไมผมถึงรักการเป็นผู้จัดประสบการณ์ – Dan เจ้าของประสบการ Dogtown Cultural History ในลอง แองเจิลลิส, แคลิฟอร์เนีย

3. เตรียมพร้อมที่จะปรับตัวเข้าสู่ความท้าทายใหม่

เมื่อคุณได้ส่งมอบทัวร์ หรือเวิร์กช็อปของคุณแล้ว คุณอาจคาดหวังว่าจะมีแขกประเภทอื่นเพิ่มขึ้น เนื่องจากแขกของ Airbnb นั้นเดินทางมาจากทั่วโลก ลองพิจารณาสิ่งที่ทำให้ประสบการณ์ของคุณบน Airbnb แตกต่างจากทัวร์ หรือเวิร์กช็อปทั่วไป

เมื่อคุณวางแผนที่จะโพสต์ประสบการณ์ของคุณไปบน Airbnb สิ่งที่คุณควรคำนึงถึงได้แก่

ประสบการณ์แต่ละตัวต้องพิเศษสำหรับแขก Airbnb ดังนั้นอย่าขายตั๋วเพื่อเดท โดยเฉพาะการยื่นข้อเสนอประสบการณ์ของ Airbnb บนแพลตฟอร์มอื่น หรือเว็บไซต์ของคุณเอง ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคุณเสนอประสบการณ์บน Airbnb ในวันเสาร์ตอน 1 ทุ่ม คุณต้องแน่ใจว่าประสบการณ์นั้นจัดขึ้นสำหรับแขกที่จองมาจาก Airbnb เท่านั้น แน่นอนว่าคุณสามารถทำได้ในการนำเสนอทัวร์ หรือเวิร์กช็อปที่คล้ายกันในเวลาอื่น และลูกค้าคนอื่น

• คนที่อยู่ในลิสต์ประสบการณ์ของคุณเท่านั้นที่สามารถเป็นผู้นำประสบการณ์ได้ แขกของคุณจะคาดหวังว่าคุณ คือ ผู้จัดประสบการณ์ ทั้งหมดเกี่ยวข้องกับตัวคุณ และเรื่องราวของคุณ
• จำนวนผู้เข้าร่วมสูงสุด คือ 10 คน เพื่อมอบประสบการณ์แบบส่วนบุคคล
• แขกสามารถวางแผนจองล่วงหน้า หรือจองทันทีก็ได้ บางคนชอบจองล่วงหน้าหลายเดือน เพื่อ ให้สามารถล็อคประสบการณ์ที่เฉพาะเจาะจงได้ แต่ก็มีอีกหลายคนที่เลือกจองในสัปดาห์ของประสบการณ์นั้น ๆ
• แขกอาจมีมีระดับความคุ้นเคยแตกต่างกันในหัวข้อที่คุณจัด ต้องแน่ใจว่าคุณได้อธิบายระดับทักษะของผู้เข้าร่วมไว้แล้ว
• แขกอาจไม่คุ้นเคยกับเมืองของคุณ ดังนั้นจงให้รายละเอียดทั้งหมดที่ชัดเจน เช่น สถานที่นัดพบ การแต่งกาย และสิ่งต่าง ๆ ที่รวม และไม่รวมในประสบการณ์ของคุณ ทั้งนี้เพื่อให้แขกจึงรู้สึกพร้อม และสบายใจก่อนที่ประสบการณ์จะเริ่มขึ้น
• พิจารณาเกี่ยวกับการตั้งความคาดหวัง ด้วยการสื่อสารที่ชัดเจนก่อนประสบการณ์เริ่ม โฮสต์ที่ประสบความสำเร็จหลายคน ใช้วิธีส่งข้อความไปแจ้งแจกล่วงหน้าเพื่อให้พวกเขาเตรียมตัว
• แขกอาจไม่สามารถเข้าถึงอุปกรณ์พิเศษได้ ดังนั้นโปรดระบุว่าคุณได้จัดเตรียมสิ่งที่จำเป็นสำหรับการเข้าร่วมประสบการณ์ให้กับแขกไว้ด้วย

Matt เจ้าของประสบการณ์ Harbour Kayak Adventure ในซิดนีย์ ออสเตรเลีย แสดงให้ถึงการเข้าร่วมของแขกในเรื่องของความสบาย และปลอดภัยสามารถช่วยให้แขกรู้สึกปลอดภัย และสะดวกสบายได้ Matt ได้รับรีวิว 5 ดาวซึ่งชี้ให้เห็นว่าเขาได้ทำให้แขกของเขารู้สึกปลอดภัยและมีส่วนร่วม:

การพายเรือคายัคกับ Matt ผ่านอ่าวซิดนีย์ เป็นประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมมาก แม้ว่าพวกเราจะเคยเดินทางทางน้ำ โดยเรือเฟอร์รี่ เรือสำราญ และเรือยอร์ชส่วนตัว แต่ประสบการณ์นี้น่าสนใจในการมองผืนน้ำในมุมนี้ และรู้สึกว่ามันปลอดภัย เพราะ Matt จับตาเฝ้าดูพวกเราอยู่เสมอ ส่วนหนึ่งของทัวร์มีการจอดพักที่เกาะ Goat ซึ่งไม่อนุญาตให้เข้าไปถ้าคุณไม่มีใบอนุญาต Matt แบ่งปันเรื่องราวที่น่าสนใจมาก ๆ เกี่ยวประวัติของเกาะเล็ก ๆ แห่งนี้ และนำเสนอมุมมองของเมืองที่คนทั่วไปมองข้าม โดยเฉพาะอย่างยิ่งฉันรักที่ข้อเท็จจริงที่ว่า มันเป็นกลุ่มเล็ก (อ้างอิงจาก Matt เขาชอบที่จะรักษากลุ่มเล็ก ๆ แบบนี้ไว้ เพื่อรองรับความปลอดภัยในระดับสูง) ซึ่งเปิดโอกาสให้พวกเราสามารถเข้าถึง Matt ในการสอบถามข้อมูลต่าง ๆ ได้ตลอดเวลา 4 ชั่วโมงจากการล่องเรือไปกับ Matt และรู้สึกดีที่ได้ออกกำลังกาย (โดยที่ไม่หมดแรง) และเพลิดเพลินกับการชมทิวทัศน์ – Oliver

[บทความต้นฉบับ] https://blog.atairbnb.com/how-to-bring-your-craft-tour-or-passion-to-airbnb/

---

สำหรับคนที่สนใจป็นโฮสต์จัดประสบการณ์บน Airbnb Experiences อยากสร้างรายได้จากการจัดกิจกรรมที่คุณรักให้กับนักท่องเที่ยวทั่วโลก ผมมีคอร์สเรียนที่จะช่วยให้คุณเริ่มต้นได้อยากถูกต้อง ไม่ต้องเสียเวลาไปลองผิดลองถูกเองในการเริ่มต้นเป็นโฮสต์ และทำเงินจาก Airbnb Experiences สนใจคอร์สดูรายละเอียดได้ที่ https://startitup.in.th/airbnb-experiences-course/

from:http://startitup.in.th/airbnb-experiences-how-to-bring-your-craft-tour-or-passion-to-airbnb/

Airbnb Experiences: 7 กลยุทธ์การตั้งราคาสำหรับประสบการณ์ของคุณ

Airbnb Experiences: กลยุทธ์การตั้งราคาสำหรับประสบการณ์ของคุณ

การตั้งราคาที่เหมาะสมกับประสบการณ์ของคุณสามารถใช้เล่ห์เหลี่ยม พวกเราหวังว่านี่จะเป็นสูตรง่าย ๆ ที่เราแชร์ให้เพื่อคุณจะได้ราคาที่เหมาะสม แต่ความจริงคือ ประสบการณ์ของคุณไม่เหมือนใคร และเป็นโอกาสที่คุณจะใช้ตั้งราตาอีกด้วย พวกเราได้สัมภาษณ์โฮสต์จากทั่วโลก และรวบรวมเคล็ดลับ 7 ประการจากโฮสต์ที่มีอัตราการจองสูง และเรตติ้งดี โปรดจำไว้ว่าราคาของคุณขึ้นอยู่กับตัวคุณเอง เหล่านี้ คือ คำแนะนำที่ช่วยให้คุณวางราคาที่เหมาะสมสำหรับความสำเร็จ

1. พิจารณาลูกค้ากลุ่มเป้าหมายของคุณ

ใครคือแขกในอุดมคติของคุณ คำถามนี้มีประโยชน์มากในการกำหนด Persana ของลูกค้าที่เหมาะกับประสบการณ์นี้ คนที่มีลักษณะนิสัยแบบไหนที่สนใจในทักษะและความรู้ของคุณ พวกเขาทำงานอะไร งบที่พวกเขาใช้ท่องเที่ยวมากน้อยแค่ไหน กิจกรรมอะไรที่พวกเขาอาจจะสนใจ ร้านอาหารหรือบาร์ใดที่พวกเขาชื่นชอบมากที่สุด

พิจารณาต่ออีกว่าคน ๆ นั้นชอบใช้เวลาในช่วงบ่าย หรือกลางคืน คุณอาจพิจารณาค่าอาหารโดยเฉลี่ยของพวกเขา หรือเหตุการณ์ หรือประสบการณ์ที่พวกเขาเข้าร่วม จงจำไว้ว่าคุณต้องการคนที่สนใจประสบการณ์ของคุณแบบจริงจัง แต่ก็ไม่ควรตั้งราคาที่กลุ่มเป้าหมายของคุณเอื้อมไม่ถึง

2. เลื่อนขั้นเพื่อความสำเร็จ

เมื่อคุณเริ่มต้นสู่การเป็นผู้ประกอบการ การทำความเข้าใจเป็นสิ่งสำคัญซึ่งต้องอาศัยระยะเวลาเพื่อประสบความสำเร็จ โฮสต์หลายคนที่เพิ่งเริ่มต้น และยังไม่มีลูกค้าหรือได้รีวิว 5 ดาว เพื่อดึงดูดแขกให้จองประสบการณ์ของพวกเขา คิดดูว่ามันสมเหตุสมผลที่เราจะเริ่มจากราคาต่ำ ๆ ก่อนในช่วงเปิดตัว วิธีนี้อาจดึงดูดแขกคนแรกของคุณ และช่วยให้คุณสร้างรีวิว และการบอกเล่าแบบปากต่อปาก นอกจากนี้รีวิวยังเป็นการพิสูจน์ความนิยมทางสังคม อีกทั้งยังเป็นเครื่องมือขายที่ทรงพลัง ที่ช่วยให้คุณสามารถปรับราคาเพิ่มขึ้นได้อย่างช้า ๆ อีกด้วย

โฮสต์หลายคนพบว่านี่เป็นช่วงเวลาที่ดี ที่จะนึกถึงความเหมาะสมของประสบกาณ์พวกเขาในตลาด แขกที่ถูกดึงดูดในช่วงแรกด้วยราคาเปิดตัว ช่วยให้คุณเห็นความสมเหตุสมผลของไอเดียคุณได้ แขกเหล่านี้ให้โอกาสคุณได้เรียนรู้จากผู้โชคดีกลุ่มแรกที่เข้าร่วมประสบการณ์ของคุณ

นี่คือตัวอย่างหนึ่ง Travis เจ้าของประสบการณ์ Meditation at Land’s End ได้วางแนวทางกำหนดราคาให้ตัวเอง เขาใช้กลยุทธ์การปรับราคาตามเทียร์ กลยุทธ์นี้ช่วยให้เขาทำงานเพื่อบรรลุเป้าหมาย โดยเฉพาะการพิสูจน์ทางสังคม ซึ่งช่วยให้เขาได้ทดสอบราคา และประสบการณ์ของเขาในเวอร์ชั่นต่าง ๆ ด้วย

 

 

เลเวล 1: เริ่มต้นที่ $20

• เพิ่มราคาหลังจากได้รับ 10 รีวิว
• ราคาต่ำ ความคาดหวังต่ำ กลุ่มใหญ่ คนก็อาจไม่มา
• รางวัลจากการนำเสนอสิ่งที่แขกคาดไม่ถึงยิ่งสูงยิ่งได้รับรีวิวดีในช่วงแรก

เลเวล 2: $34

• เพิ่มราคาหลังจากได้รับ 20 รีวิว
• ดอกเบี้ยที่แข็งแกร่งในราคาที่เหมาะสม (เท่ากับค่าตั๋วหนัง 2 ใบ)

เลเวล 3: $49

• เพิ่มราคาหลังจากได้รับ 60 รีวิว
• ราคาที่ยอดเยี่ยมช่วยให้ผมสร้างแหล่งรายได้แบบที่ตรงกับความจริงในฐานะโฮสต์

3. ทำการทดลองอุปสงค์ และอุปทาน

รู้หรือไม่คุณสามารถเสนอราคาที่แตกต่างกันสำหรับประสบการณ์ของคุณในแต่ละวันได้ เลือกหนึ่งหรือสองวันจากปฏิทินมาปรับราคาให้ถูกลง หรือแพงขึ้น ถ้าคุณพบว่ามีแขกจองมาเข้าร่วมจากราคาที่คุณปรับ นั่นอาจเป็นเวลาเพิ่มหรือลดราคา เพื่อให้แน่ใจว่าคุณกำลังจับคู่ความต้องการที่เหมาะสม

เคล็ดลับมืออาขีพ: เมื่อไหร่ก็ตามที่ความต้องการประสบการณ์ของคุณเพิ่มขึ้น หรือลดลง ให้จดบันทึกไว้ตลอดว่าคุณอาจต้องการทดสอบราคา ลองนึกถึงเหตุการณ์ในท้องถิ่น ตามฤดูกาล เวลาในแต่ละวันหรือสัปดาห์ เช่น ช่วงเทศกาลคาร์นิวัลมีโอกาสที่นักท่องเที่ยวในนครริโอจะเพิ่มมากขึ้น หรือในช่วงมกราคา ถึงกุมภาพันธ์อาจไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวไปที่นิวยอร์ค เป็นต้น

4. ทำความเข้าใจต้นทุนที่ใช้ดำเนินการ

เขียนรายการต้นทุนทั้งหมดที่คุณใช้ในการดำเนินประสบการณ์ของคุณ โดยพิจารณาเรื่องของเวลาในการเตรียม ค่าเดินทาง ใบอนุญาต วัตถุดิบ วัสดุ เครื่องมือ ค่าผ่านทาง ค่าขนม และเครื่องดื่ม อะไรบ้างที่จำเป็น อะไรบ้างที่คุณซื้อเหมาโหลเพื่อประหยัดเงินได้ อะไรบ้างที่คุณสามารถเอาออกไปได้โดยยังคงทำให้ประสบการณ์ของคุณยอดเยี่ยมอยู่ อะไรบ้างที่คุณใส่เข้าไปในกิจกรรม ในการแลกเปลี่ยน หรือไม่มีต้นทุน จำไว้ว่าทุกประสบการณ์มีแขกได้ขั้นต่ำ คือ 1 คน ดังนั้นให้หลีกเลี่ยงต้นทุนคงที่ในกรณีที่มีแขกจองมาน้อย

James เจ้าของประสบการณ์ See buzz bands with a music blogger ในซาน ฟรานซิสโก จัดหาเบียร์ ตั๋วคอนเสิร์ต และ Perk ที่ไม่มีต้นทุนในฐานะโฮสต์ เช่น บล็อกโพสต์/รายการเพลง/พ็อดแคสต์ ของนักดนตรีก่อนที่จะขึ้นแสดง James ได้ทำการวิจัยวงดนตรีก่อนที่ประสบการณ์ของเขาจะจัด เขาใช้โอกาสนี้ในการสร้าง Perk ที่ไม่เหมือนใครมอบให้กับแขก Perk เป็นมูลค่าเพิ่มที่ไม่มีต้นทุน

 

“ฉันพยายามที่จะลดราคาลง โดยคิดว่ามันอาจจะช่วยให้มีคนจองประสบการณ์ของฉันมากขึ้น ฉันปรับสิ่งที่ฉันจัดหาให้ มันทำให้ฉันลดค่าธรรมเนียม และมันได้ผลจริง ๆ” – Gabriela เจ้าของประสบการณ์ Get to know Little Africa in Rio

 

ในช่วงจัดประสบการณ์แรก ๆ Gabriela ได้ระบุว่าแขกของเธอจะได้รับ ไคปิรินย่า (ค็อกเทลของบราซิล) ในไม่ช้าเธอตระหนักได้ว่าการเพิ่มเครื่องดื่มนี้เข้าไป ทำให้เธอมีต้นทุน ดังนั้นเธอจึงนำมันออกจากประสบการณ์ การเอาต้นทุนส่วนเกินออกช่วยให้เธอปรับราคาประสบการณ์ได้ถูกลง ช่วยเพิ่มยอดจอง และยังเป็นมิตรกับกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เข้าร่วมแบบเป็นครอบครัวอีกด้ว

5. อย่าขายแบบที่คุณขาดทุน

เมื่อคุณเข้าใจต้นทุนทั้งหมดที่ใช้ดำเนินการแล้ว คุณจะรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้นในการเล่นกับราคา ดังนั้นถ้าคุณต้องการทำกำไร คุณคงไม่ต้องการตั้งราคาที่แขกเห็นแล้วหนีเป็นแน่ หลังจากที่อ่านคำบรรยายของคุณแล้ว คุณคิดว่าแขกจะตีราคาประสบการณ์ของคุณกี่บาท โฮสต์บางคนมีจุดขายที่ทำให้แขกประหลาดใจ และพึงพอใจ ซึ่งช่วยให้ความพึงพอใจในภาพรวมดีขึ้น แต่ต้องแน่ใจว่าคุณได้แจ้งให้แขกทราบถึงคุณค่าที่พวกเขาอาจพลาดถ้าไม่ได้จองประสบการณ์ของคุณ

แล้วคุณจะเพิ่มการรับรู้คุณค่าได้อย่างไร โฮสต์หลายคนประสบความสำเร็จในการเพิ่มคุณค่า โดยใส่ลงไปในคำบรรยายประสบการณ์ พวกเขาโฟกัสไปที่หัวข้อเหล่านี้ในประสบการณ์ของพสกเขา “What I’ll provide”, “What we’ll do” และแม้กระทั่ง “Where we’ll be”

รีวิวเชิงบวกอาจมีผลต่อแขกในการเข้าถึงประสบการณ์ของคุณ James กล่าวว่า Perk ต่าง ๆ ที่ไม่เหมือนใครซึ่งเขาจัดหาให้ ส่งผลให้เขาได้รับรีวิวเชิงบวกตั้งแต่ต้นจากแขก และแขกบางคนพร้อมจ่ายมากขึ้น

“มันสนุกสุด ๆ เลย James มีความรู้ที่น่าทึ่งเกี่ยวกับวงดนตรี (และเบียร์ และซาน ฟรานซิสโก) อย่าหลงกลกับราคา ฉันจินตนาการง่าย ๆ ว่าถ้าต้องจ่ายเพิ่มอีก 5 เท่า และยังคงมีความสุขกับค่ำคืนนี้ได้” – Hannah

6. สำรวจแขกของคุณ

ถ้าคุณเคยทำสอบจัดประสบการณ์กับเพื่อนและครอบครัวของคุณ ลองขอผลฟีดแบ็กจากราคาที่คุณเปิดตัวดู จำไว้ว่าอย่าถามผู้คนว่าเขาจะจ่ายเท่าไหร่ พวกเขามักจ่ายคุณในราคาที่ถูกมาก ๆ อีกทางเลือกหนึ่ง ให้ถามว่าถ้าพวกเขาจะจ่าย 10 เหรียญ หรือ 20 เหรียญ จากราคาที่คุณตั้งไว้ ถ้าแขกตอบกลับมาอย่างกระตือรือล้นว่า “ยอม” นั่นหมายความว่าคุณมีจุดเริ่มต้นที่ดี คุณต้องทำให้เกินความคาดหวังของแขกเสมอ สิ่งนี้สามารถนำไปรีวิวระดับ 5 ดาวได้

7. นึกถึงภาพรวม

คุณอาจถูกกระตุ้นให้เปรียบเทียบราคาที่คุณตั้งกับประสบการณ์ที่คล้ายกัน อย่างไรก็ตามเมื่อนักท่องเที่ยวเข้ามาดูประสบการณ์ พวกเขามีเป้าหมายแบบกว้าง ๆ อยู่ใจใจ บางคนมองหากิจกรรมที่เกิดขึ้นเฉพาะในเมืองของคุณ หรือละแวกใกล้เคียง บางคนมองหาคืนวันศุกร์ที่น่าจดจำ บางคนมองหาที่ผ่อนคลายยามบ่ายในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ มันน่าจะมีประโยชน์ในการคิดว่าทำอย่างไรให้ประสบการณ์ของคุณเหมาะสมกับทริปของแขก และเปรียบเทียบราคาของคุณกับสิ่งอื่น ๆ ที่สามารถเติมเต็มเวลานั้นได้ เมื่อแขกเห็นตู้ดีดพินบอล พวกเขาอาจเปรียบเทียบกับไนท์คลับ หรือคอนเสิร์ตแทนที่จะเป็นประสบการณ์เล่นพินบอลตัวอื่น

นอกจากนี้โปรดทราบว่า หากคุณเปรียบเทียบราคาประสบการณ์ของคุณกับประสบการณ์คนอื่น โดยไม่ได้พิจารณาว่าโฮสต์คนนั้นเพิ่งจะมีการปรับราคาประสบการณ์ของเขา แสดงว่าคุณอาจเปรียบเทียบกับราคาที่ยังไม่ได้ถูกทดสอบ

ราคาประสบการณ์ของคุณเอง ทั้งหมดทั้งมวลขึ้นอยู่กับคุณ พวกเราหวังว่าเคล็ดลับเหล่านี้จะช่วยให้คุณพิจารณา การทดลองตั้งราคา ซึ่งช่วยให้คุณได้ราคาที่เหมาะสมกับแขกของคุณ และการเติบโตของคุณในฐานะผู้จัดประสบการณ์ ถ้าคุณพร้อมทดสอบราคาแล้ว ไปที่รายการของคุณและทดสอบ ขอให้โชคดี

[บทความต้นฉบับ] https://blog.atairbnb.com/pricing-strategies-for-experiences/

---

สำหรับคนที่สนใจการเป็นโฮสต์จัดประสบการณ์บน Airbnb Experiences นะครับ ผมขอแนะนำคอร์สเรียนออนไลน์ Airbnb Experiences Host ซึ่งอธิบายขั้นตอนการเป็นโฮสต์ Airbnb Experiences ตั้งแต่ต้นจนจบ รวมถึงวิธีการลงข้อมูลประสบการณ์ที่คุณต้องการจัดในเว็บไซต์ของ Airbnb อย่างละเอียด

from:https://startitup.in.th/airbnb-experiences-pricing-strategies-for-experiences/

Airbnb Experiences: 7 กลยุทธ์การตั้งราคาสำหรับประสบการณ์ของคุณ

การตั้งราคาที่เหมาะสมกับประสบการณ์ของคุณนั้น คุณสามารถใช้เทคนิคพลิกแพลงได้ บทความนี้ทางทีม Airbnb หวังว่าคุณจะสามารถนำไปใช้เป็นแนวทางในการตั้งราคาที่เหมาะสมกับประสบการณ์ของคุณได้

ในความจริงคือ ประสบการณ์ของคุณนั้นไม่เหมือนใคร และเป็นโอกาสที่คุณจะใช้ตั้งราคาอีกด้วย ทีม Airbnb ได้สัมภาษณ์โฮสต์จัดประสบการณ์จากทั่วโลก และได้รวบรวมเคล็ดลับทั้ง 7 ประการจากโฮสต์ที่มีคนจองเยอะ และได้รับคะแนนเรตติ้งที่ดี โปรดพึงระลึกไว้ว่าราคาของประสบการณ์นั้นขึ้นอยู่กับคุณทั้งหมดว่าคุณพอใจตั้งไว้กี่บาท ต่อไปนี้คือคำแนะนำที่จะช่วยให้คุณได้ราคาที่เหมาะสม และช่วยให้คุณเป็นโฮสต์จัดประสบการณ์ที่ประสบความสำเร็จได้

Airbnb Experiences: กลยุทธ์การตั้งราคาสำหรับประสบการณ์ของคุณ

1. พิจารณาลูกค้ากลุ่มเป้าหมายของคุณ

แขกในอุดมคติของคุณคือใคร คำถามนี้มีประโยชน์มากในการกำหนด Persona ของลูกค้าที่เหมาะกับประสบการณ์ของคุณ คนลักษณะนิสัยแบบไหนที่สนใจในทักษะและความรู้ของคุณ พวกเขาทำงานอะไร งบประมาณที่พวกเขาใช้ท่องเที่ยวมีมากน้อยแค่ไหน กิจกรรมอะไรที่พวกเขาน่าจะสนใจ ร้านอาหารหรือบาร์ใดที่พวกเขาชื่นชอบมากที่สุด

จากนั้นลองพิจารณาต่ออีกว่าคน ๆ นั้นชอบใช้เวลาในช่วงกลางวัน หรือกลางคืน คุณอาจพิจารณาค่าอาหารโดยเฉลี่ยของพวกเขา รวมไปถึงเหตุการณ์ หรือประสบการณ์ที่พวกเขาเข้าร่วม จงจำไว้ว่าคุณต้องการคนที่สนใจประสบการณ์ของคุณแบบจริงจัง แต่ก็ไม่ควรตั้งราคาที่กลุ่มเป้าหมายของคุณเอื้อมไม่ถึง

2. เลื่อนขั้นเพื่อความสำเร็จ

เมื่อคุณเริ่มต้นสู่การเป็นผู้ประกอบการ การทำความเข้าใจเป็นสิ่งสำคัญซึ่งต้องอาศัยระยะเวลาเพื่อประสบความสำเร็จ โฮสต์หลายคนที่เพิ่งเริ่มต้น และยังไม่มีลูกค้าหรือยังไม่ได้รับรีวิว 5 ดาว วิธีการง่าย ๆ ที่คุณสามารถใช้ดึงดูดแขกให้มาจองได้นั้น คือ การเริ่มจากการตั้งราคาต่ำก่อนในช่วงเปิดตัวประสบการณ์ (Introductory Price)

วิธีนี้ช่วยดึงดูดแขกคนแรกของคุณ และช่วยให้คุณได้รับรีวิวอย่างรวดเร็ว รวมถึงเกิดการบอกเล่าแบบปากต่อปาก นอกจากนี้รีวิวยังเป็นข้อมูลทางสังคมที่ช่วยยืนยันถึงความนิยมได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังเป็นเครื่องมือการขายที่ทรงพลังช่วยให้คุณสามารถปรับราคาประสบการณ์เพิ่มขึ้นได้อย่างช้า ๆ อีกด้วย

โฮสต์หลายคนพบว่านี่เป็นช่วงเวลาที่ดี ที่จะนึกถึงความเหมาะสมของประสบการณ์พวกเขาในตลาด แขกที่ถูกดึงดูดเข้ามาในช่วงแรกด้วยราคาเปิดตัวนั้น ช่วยให้คุณเห็นว่าไอเดียของคุณนั้นมันเวิร์กหรือไม่เวิร์ก แขกเหล่านี้มอบโอกาสให้คุณได้เรียนรู้ พวกเขาคือผู้โชคดีกลุ่มแรกที่ได้เข้าร่วมประสบการณ์ของคุณ

นี่คือตัวอย่างหนึ่ง Travis เจ้าของประสบการณ์ Meditation at Land’s End ได้วางแนวทางกำหนดราคาให้ตัวเอง เขาใช้กลยุทธ์การปรับราคาแบบเป็นลำดับชั้น (Tier) กลยุทธ์นี้ช่วยให้เขาทำงานเพื่อบรรลุเป้าหมาย โดยเฉพาะการได้รับรีวิว ซึ่งช่วยให้เขาได้ทดสอบราคา และประสบการณ์ของเขาในเวอร์ชั่นที่แตกต่างกันได้อีกด้วย

 

 

เลเวล 1: เริ่มต้นที่ $20

• เพิ่มราคาหลังจากได้รับ 10 รีวิว
• ราคาต่ำ ความคาดหวังต่ำ กลุ่มใหญ่ แต่ก็อาจมีคนที่ไม่มาเข้าร่วม
• รางวัลจากการนำเสนอสิ่งที่แขกคาดไม่ถึงยิ่งสูงยิ่งได้รับรีวิวดีในช่วงแรก

เลเวล 2: $34

• เพิ่มราคาหลังจากได้รับ 20 รีวิว
• ราคาเริ่มเหมาะสมมากขึ้น (เท่ากับค่าตั๋วหนัง 2 ใบ)

เลเวล 3: $49

• เพิ่มราคาหลังจากได้รับ 60 รีวิว
• ราคาที่ยอดเยี่ยมช่วยให้ Travis สร้างแหล่งรายได้แบบที่ตรงกับความจริงในฐานะโฮสต์

3. ทำการทดลองอุปสงค์ และอุปทาน

รู้หรือไม่คุณสามารถนำเสนอราคาที่แตกต่างกันสำหรับประสบการณ์ของคุณในแต่ละวันได้ ลองเลือกหนึ่งหรือสองวันจากปฏิทิน มาลองปรับราคาให้ถูกลง หรือแพงขึ้น ถ้าคุณพบว่ายังมีแขกจองมาจากราคาที่คุณปรับแล้ว นั่นอาจเป็นเวลาที่คุณควรเพิ่มหรือลดราคา การทำแบบนี้ก็เพื่อให้แน่ใจว่าคุณกำลังได้ราคาที่เหมาะสมกับความต้องการของลูกค้า

เคล็ดลับมืออาขีพ: เมื่อไหร่ก็ตามที่ความต้องการประสบการณ์ของคุณเพิ่มขึ้น หรือลดลง ให้จดบันทึกไว้ตลอดว่าคุณอาจต้องการทดสอบราคา ลองนึกถึงเหตุการณ์ในท้องถิ่น เหตุการณ์ตามฤดูกาล ช่วงเวลาในแต่ละวันหรือสัปดาห์ เช่น ช่วงเทศกาลคาร์นิวัลมีโอกาสที่นักท่องเที่ยวในนครริโอจะเพิ่มมากขึ้น หรือในช่วงมกราคา ถึงกุมภาพันธ์อาจไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวไปที่นิวยอร์ค เป็นต้น

4. ทำความเข้าใจต้นทุนที่ใช้ดำเนินการ

ลองลิสต์รายการต้นทุนทั้งหมดที่คุณต้องใช้ในการจัดประสบการณ์ของคุณออกมา โดยพิจารณาเรื่องของเวลาในการเตรียม ค่าเดินทาง ใบอนุญาต วัตถุดิบ วัสดุ เครื่องมือ ค่าผ่านทาง ค่าขนม และเครื่องดื่ม อะไรบ้างที่จำเป็น อะไรบ้างที่คุณซื้อเหมาโหลเพื่อประหยัดเงินได้ อะไรบ้างที่คุณสามารถเอาออกจากลิสต์ไปได้ โดยที่ประสบการณ์ของคุณยังคงยอดเยี่ยมอยู่ อะไรบ้างที่คุณใส่เข้าไปในกิจกรรม ในการแลกเปลี่ยน หรือไม่มีต้นทุน จำไว้ว่าทุกประสบการณ์มีแขกได้ขั้นต่ำ คือ 1 คน ดังนั้นให้หลีกเลี่ยงต้นทุนคงที่ในกรณีที่มีแขกจองมาน้อย

James เจ้าของประสบการณ์ See buzz bands with a music blogger ในซาน ฟรานซิสโก จัดหาเบียร์ ตั๋วคอนเสิร์ต และของแถม (Perk) ที่ไม่มีต้นทุนในฐานะโฮสต์ เช่น บล็อกโพสต์/รายการเพลง/พ็อดแคสต์ ของนักดนตรีก่อนที่จะขึ้นแสดง James ได้ทำการวิจัยวงดนตรีก่อนที่ประสบการณ์ของเขาจะจัดขึ้น เขาใช้โอกาสนี้ในการสร้างของแถมที่ไม่เหมือนใครส่งมอบให้กับแขก ซึ่งของแถมเหล่านั้นช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับประสบการณ์โดยที่โฮสต์ไม่ต้องลงทุนเพิ่ม

 

“ฉันพยายามที่จะลดราคาลง โดยคิดว่ามันอาจจะช่วยให้มีคนจองประสบการณ์ของฉันมากขึ้น ฉันปรับสิ่งที่ฉันจัดหาให้ มันทำให้ฉันลดค่าธรรมเนียม และมันได้ผลจริง ๆ” – Gabriela เจ้าของประสบการณ์ Get to know Little Africa in Rio

 

ในช่วงจัดประสบการณ์แรก ๆ Gabriela ได้ระบุว่าแขกของเธอจะได้รับ ไคปิรินย่า (ค็อกเทลของบราซิล) ในไม่ช้าเธอตระหนักได้ว่าการเพิ่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นี้เข้าไป ทำให้เธอมีต้นทุน ดังนั้นเธอจึงนำมันออกจากประสบการณ์ การเอาต้นทุนส่วนเกินออกช่วยให้เธอปรับราคาประสบการณ์ได้ถูกลง ช่วยเพิ่มยอดจอง และยังเป็นมิตรกับกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เข้าร่วมแบบเป็นครอบครัวอีกด้วย

5. อย่าขายแบบที่คุณขาดทุน

เมื่อคุณเข้าใจต้นทุนทั้งหมดที่ใช้ดำเนินการแล้ว คุณจะรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้นในการเล่นกับราคา ดังนั้นถ้าคุณต้องการทำกำไร คุณคงไม่ต้องการตั้งราคาที่แขกเห็นแล้วหนีเป็นแน่ หลังจากที่อ่านคำบรรยายประสบการณ์ของคุณแล้ว คุณต้องคิดว่าแขกจะตีราคาประสบการณ์ของคุณกี่บาท โฮสต์บางคนมีจุดขายที่ทำให้แขกประหลาดใจ และพึงพอใจ ซึ่งช่วยให้ความพึงพอใจในภาพรวมดีขึ้น แต่ต้องแน่ใจว่าคุณได้แจ้งให้แขกทราบถึงคุณค่าที่พวกเขาอาจพลาดถ้าไม่ได้จองประสบการณ์ของคุณ

แล้วคุณจะเพิ่มการรับรู้คุณค่าได้อย่างไร โฮสต์หลายคนประสบความสำเร็จในการเพิ่มคุณค่า โดยใส่ลงไปในคำบรรยายประสบการณ์ พวกเขาโฟกัสไปที่หัวข้อเหล่านี้ในประสบการณ์ของพวกเขา “What I’ll provide”, “What we’ll do” และแม้กระทั่ง “Where we’ll be”

รีวิวเชิงบวกอาจมีผลต่อแขกในการเข้าถึงประสบการณ์ของคุณ James กล่าวว่าของแถมต่าง ๆ ที่ไม่เหมือนใครซึ่งเขาเป็นคนจัดหาให้ ส่งผลให้เขาได้รับรีวิวเชิงบวกจากแขกตั้งแต่เริ่มต้น และแขกบางคนก็พร้อมที่จะจ่ายมากขึ้น

“มันสนุกสุด ๆ เลย James มีความรู้ที่น่าทึ่งเกี่ยวกับวงดนตรี (และเบียร์ และซาน ฟรานซิสโก) อย่าหลงกลกับราคา ฉันจินตนาการง่าย ๆ ว่าถ้าต้องจ่ายเพิ่มอีก 5 เท่า และยังคงมีความสุขกับค่ำคืนนี้ได้” – Hannah

6. สำรวจแขกของคุณ

ถ้าคุณเคยทดสอบจัดประสบการณ์กับเพื่อนและครอบครัวของคุณ ลองขอผลฟีดแบ็กจากราคาที่คุณเปิดตัวดู จำไว้ว่าอย่าถามผู้คนว่าเขาจะจ่ายเท่าไหร่ พวกเขามักจ่ายคุณในราคาที่ถูกมาก ๆ อีกทางเลือกหนึ่ง ให้ถามว่าถ้าพวกเขาจะจ่าย 10 เหรียญ หรือ 20 เหรียญ จากราคาที่คุณตั้งไว้ ถ้าแขกตอบกลับมาอย่างกระตือรือล้นว่า “ยอม” นั่นหมายความว่าคุณมีจุดเริ่มต้นที่ดี คุณต้องทำให้เกินความคาดหวังของแขกเสมอ สิ่งนี้สามารถนำคุณไปสู่การได้รับรีวิวระดับ 5 ดาวได้

7. นึกถึงภาพรวม

คุณอาจถูกกระตุ้นให้เปรียบเทียบราคาที่คุณตั้งกับประสบการณ์ของคนอื่นที่คล้ายคลึงกัน อย่างไรก็ตามเมื่อนักท่องเที่ยวเข้ามาดูประสบการณ์ พวกเขามีเป้าหมายแบบกว้าง ๆ อยู่ในใจ บางคนมองหากิจกรรมที่เกิดขึ้นเฉพาะในเมืองของคุณ หรือละแวกใกล้เคียง บางคนมองหาคืนวันศุกร์ที่น่าจดจำ บางคนมองหาที่ผ่อนคลายยามบ่ายในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์

แนวทางที่ดี คือ คิดว่าทำอย่างไรให้ประสบการณ์ของคุณนั้นเหมาะสมกับทริปของแขก ลองเปรียบเทียบราคาของคุณกับสิ่งของอื่น ๆ ที่สามารถเติมเต็มเวลานั้นของแขกได้ เช่นเมื่อแขกเห็นตู้ดีดพินบอล พวกเขาอาจเปรียบเทียบกับไนท์คลับ หรือคอนเสิร์ตแทนที่จะเป็นประสบการณ์เล่นพินบอลตัวอื่น

นอกจากนี้จงจำไว้ว่า หากคุณเปรียบเทียบราคาประสบการณ์ของคุณกับประสบการณ์ของคนอื่น โดยไม่ได้คำนึงว่าโฮสต์คนอื่นนั้นเพิ่งจะมีการปรับราคาประสบการณ์หรือไม่ นั่นอาจทำให้การเปรียบเทียบราคานั้นไม่ถูกต้องแน่นอน

การตั้งราคาประสบการณ์ของคุณเองนั้น ทั้งหมดทั้งมวลขึ้นอยู่กับคุณ ก็หวังว่าเคล็ดลับเหล่านี้จะช่วยให้คุณได้แนวทางสำหรับการทดลองตั้งราคา ซึ่งช่วยให้คุณได้ราคาที่เหมาะสมกับแขกของคุณ และช่วยให้คุณเติบโตในฐานะผู้จัดประสบการณ์ได้ ถ้าคุณพร้อมทดสอบราคาแล้ว ให้ไปที่รายการประสบการณ์ของคุณและทดสอบ ขอให้โชคดีครับ

[บทความต้นฉบับ] https://blog.atairbnb.com/pricing-strategies-for-experiences/

---

สำหรับคนที่สนใจการเป็นโฮสต์จัดประสบการณ์บน Airbnb Experiences นะครับ ผมขอแนะนำคอร์สเรียนออนไลน์ Airbnb Experiences Host ซึ่งอธิบายขั้นตอนการเป็นโฮสต์ Airbnb Experiences ตั้งแต่ต้นจนจบ รวมถึงวิธีการลงข้อมูลประสบการณ์ที่คุณต้องการจัดในเว็บไซต์ของ Airbnb อย่างละเอียด

from:http://startitup.in.th/airbnb-experiences-pricing-strategies-for-experiences/

ทำไมการเป็นโฮสต์ Airbnb Experiences ถึงน่าสนใจ

เชื่อว่าหลายคนกำลังมองหาแนวทางที่ตัวเองจะสามารถแบ่งปันความหลงใหลให้กับโลกใบนี้ Airbnb ได้ทำให้เรื่องนี้นี้ให้กลายเป็นเรื่องง่าย และปลอดภัยที่คน ๆ หนึ่งจะสร้างรายได้จากความหลงใหลของตัวเอง โดยการลงประสบการณ์ของคุณในแพลตฟอร์ม Airbnb และแบ่งปันให้กับนักท่องเที่ยวหลายล้านคน และคนในท่องถิ่นที่กำลังมองหาประสบการณ์ที่เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร ซึ่งพวกเขาอาจหาไม่ได้จากช่องทางแบบดังเดิม

ประโยชน์ต่าง ๆ จากการเป็นโฮสต์ หรือผู้จัดประสบการณ์บน Airbnb มีดังนี้

สร้างรายได้

ปลุกความหลงใหลของคุณขึ้น และใช้มันสร้างรายได้เสริมในระหว่างที่คุณเพลิดเพลินไปกันมัน

พบปะผู้คนใหม่ ๆ

จัดประสบการณ์ และเชื่อมโยงกับแขกจากทั่วโลกในขณะที่คุณก็ได้ทำในสื่งที่ตัวเองรัก

แสดงตัวตนของคุณ

นี่คือโอกาสที่คุณจะได้แบ่งปันความหลงใหล และความสามารถของคุณให้กับโลกใบนี้ คุณจะเป็นคนสร้างประสบการ์ของคุณเอง และสามารถควบคุมได้ว่าคุณต้องการสร้างแบรนด์แบบไหนได้ตลอดเวลา

เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายจำนวนมหาศาล

การเป็นพาร์ทเนอร์กับ Airbnb ช่วยให้คุณสามารถเข้าถึงคนที่สนใจประสบการณ์ของคุณจำนวนมาก ซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก และคนในท้องถิ่น

คุณเป็นคนกำหนดประสบการณ์ของคุณเอง

สร้างประสบการณ์ที่คิดว่าเหมาะกับตัวคุณ ในแพลตฟอร์ม Airbnb คุณมีสิทธิ์เต็มที่ในการควบคุมประสบการณ์ที่คุณสร้างขึ้น ไม่ว่าจะเป็นตารางเวลา ราคา และจำนวนผู้เข้าร่วม คุณสามารถสื่อสารกับแขกตามกฎที่คุณวางไว้ผ่านเครื่องมือออนไลน์ของ Airbnb

การช่วยเหลือ

Airbnb มีการช่วยเหลือลูกค้าตลอด 24 ชม.ทั้งทางฝั่งโฮสต์ และแขก นอกจากนี้ยังมีประกันความคุ้มครอง การคืนเงิน ระบบชำระเงิน รวมถึงช่างถ่ายรูป และทีมงานช่วยเขียนคำโฆษณาสำหรับโฮสต์ที่มีคุณสมบัติ Airbnb ยังมีเครื่องมือ เคล็ดลับต้อนรับแขก การช่วยเหลือตลอด 24 ชม. และชุมชนออนไลน์ของโฮสต์ที่มีประสบการณ์ เพื่อตอบคำถาม และแป่งบันไอเดียสำหรับความสำเร็จ

from:https://startitup.in.th/why-host-an-experience-on-airbnb/

Airbnb Experiences แนวทางใหม่ที่ช่วยเพิ่มรายได้ของคุณบน Airbnb

ปัจจุบัน Airbnb ได้กลายมาเว็บไซต์อันดับหนึ่งของตลาดให้เช่าที่พัก ปัจจุบันพวกเขาต่อยอดธุรกิจสายท่องเที่ยวด้วยแพลตฟอร์มตัวใหม่ที่เรียกว่า Airbnb Experiences ซึ่งถูกปล่อยออกมาในปี 2016 โดย Airbnb Experiences คือ การนำเอาความเป็นท้องถิ่นส่งมอบให้กับนักท่องเที่ยวที่ใช้แพลตฟอร์ม Airbnb ในขณะเดียวกันมันก็ได้กลายเป็นช่องทางทำเงินใหม่ให้กับโฮสต์ Airbnb

ข้อมูลต่อไปนี้ เป็นข้อมูลสรุปคร่าว ๆ เกี่ยวกับแพลตฟอร์ม Airbnb Experiences และเหตุผลว่าทำไมมันถึงเป็นก้าวต่อไปที่สำคัญสำหรับแขกและโฮสต์ของ Airbnb

Airbnb Experiences คืออะไร

Airbnb Experiences คือ กิจกรรมต่าง ๆ ที่ถูกออกแบบมาเพื่อ engage กับแขกในช่วงที่พวกเขาไปพักอาศัย ณ ที่ใดที่หนึ่ง พวกเขาถูกเชิญชวน และได้รับแรงบันดาลใจจากผู้คนในแต่ละท้องถิ่นนั้น ๆ พวกเขาเป็นมากกว่าไกด์นำเที่ยว หรือผู้นำคลาสเรียนแบบดั้งเดิม ในความเป็นจริง คนเหล่านั้นถูกออกแบบมาสำหรับใครก็ตามที่เข้ามาใช้แพลตฟอร์ม Airbnb โดยการแบ่งปันความหลงใหลของพวกเขาให้กับโลกใบนี้

แพลตฟอร์มไม่ได้สร้างขึ้นมาเพื่อตอบสนองตลาดเพียงกลุ่มเดียว ในขณะที่นักท่องเที่ยวบางคนใช้มันเพื่อพบปะผู้คนใหม่ ๆ แต่คนบางกลุ่มกลับใช้แพลตฟอร์มเพื่อค้นหากิจกรรมท้องถิ่นในช่วงที่พวกเขาท่องเที่ยวอยู่ อันที่จริง Airbnb Experiences นั้นดึงดูดทั้งกลุ่มนักท่องเที่ยว รวมถึงผู้ที่เดินทางคนเดียวด้วยเช่นกัน

Airbnb Experiences นั้นเป็นบริการที่ถูกแยกออกมาจากบริการหลักของ Airbnb คือ การให้เช่าที่พัก ดังนั้นคนที่ต้องการเป็น “ผู้จัดประสบการณ์” หรือ โฮสต์ Airbnb Experiences ไม่จำเป็นต้องมีที่พักให้เช่า พวกเขามีอิสระที่จะจัดประสบการณ์แก่นักท่องเที่ยวได้มากเท่าที่พวกเขาต้องการ และไม่มีจำนวนสูงสุดกำหนดไว้

อย่างไรก็ตาม สิ่งหนึ่งที่แพลตฟอร์มทั้งสองมีเหมือนกัน คือ โฮสต์บนแพลตฟอร์มทั้งสองอาจจำเป็นต้องได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องกับอาหาร, แอลกอฮอล์ หรือการขนส่ง

Airbnb Experiences เริ่มให้บริการมานานเท่าไหร่

แพลตฟอร์ม Airbnb Experiences เริ่มปล่อยในนิวยอร์ค ปี 2016 โดยมีประสบการณ์จำนวน 150 ประสบการณ์ และตอนนี้ก็ได้ขยายไปยังหัวเมืองหลักต่าง ๆ ทั่วโลก แพลตฟอร์มนี้สร้างผลประโยชน์กับ Airbnb (ให้เช่าที่พัก) มากขึ้น เนื่องจากพวกเขาได้รับอนุญาตให้สามารถดำเนินงานแพลตฟอร์ม Experiences ในเมืองต่าง ๆ ที่มีกฎหมายบังคับเข้มงวด หรือแม้กระทั้งเมืองที่แบนการปล่อยเช่าที่พักบน Airbnb

ตามที่ Brian Chesky – CEO ของ Airbnb ให้ข้อมูลไว้ในเดือนตุลาคม ปี 2016 ว่า Airbnb Experiences นั้นเติบโต 12 เท่าจากเดือนมกราคม ปี 2017 ถ้าเปรียบเทียบกับธุรกิจให้เช่าที่พักของ Airbnb Chesky กล่าวว่า Experiences นั้นโตเร็วกว่า Airbnb แบบปล่อยเช่าที่พักถึง 13 เท่าในระยะเวลาที่เท่ากัน

ในแง่ของรายได้ Chesky รายงานว่า Airbnb Experiences แนวเพื่อสังคมหรือ Social Impact นั้นมียอดขายถึง 500,000 เหรียญในปี 2017 หากนับรวมประสบการณ์ทั้งหมดในแพลตฟอร์ม แขกจะจ่ายโดยเฉลี่ย 55 เหรียญต่อการจอง

อย่างไรก็ตาม ธุรกิจประสบการณ์ของ Airbnb ยังเพิ่งเริ่มได้รับ Traction Chesky พูดว่า เขาคาดหวังว่าในอีก 2-3 ปีข้างหน้า Airbnb Experiences จะกลายมาเป็นตัวหลักของบริษัทที่สร้างรายได้รวมให้กับบริษัทพอ ๆ กับธุรกิจให้เช่าที่พัก

ประสบการณ์ใดบน Airbnb Experience ได้รับความนิยมมากที่สุด

ในปี 2018 มีประสบการณ์มากกว่า 3,100 ประสบการณ์ในแพลตฟอร์มใน 40 เมือง 26 ประเทศ สำหรับแขกหรือนักท่องเที่ยวที่กำลังมองหาประสบการณ์ในตอนนี้ Airbnb Experiences มีหมวดหมู่ประสบการณ์ต่าง ๆ ดังนี้

• Arts
• Concerts
• Classes & Workshops
• Nature
• Sports
• Food & Drink
• History
• Entertainment
• Music
• Health & Wellness
• Social Impact
• Nightlife

สำหรับสถานที่ที่กำหนดไว้ Airbnb ตั้งหัวข้อชื่อ “Experiences in the spotlight” เพื่อไฮไลท์ประสบการณ์ใหม่ และกำลังได้รับความนิยมในแพลตฟอร์ม ผู้ใช้สามารถค้นหาสปอตไลท์ Airbnb Experience ในปารีส, นิวยอร์ค, บาร์เซโลนา และเมืองใหญ่อื่น ๆ ทั่วโลก

ปัจจุบันประสบการณ์ด้านอาหาร และเครื่องดื่ม ได้รับความนิยมมากที่สุดในแพลตฟอร์ม นับเป็น 29% ของการจองทั้งหมด นครบาร์เซโลนา เป็นเมืองที่ได้รับความนิยมสูงสุดสำหรับ Experiences

Airbnb ยังได้เผยแพร่รายการประสบการณ์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดตั้งแต่เดือนตุลาคม – พฤศจิกายน 2017 ประสบการณ์เหล่านี้ได้แก่

• Los Angeles, USA: Hollywood Sign Walk to the Top
• Rome, Italy: Family Vineyard
• Barcelona, Spain: Captain Deo
• Florence, Italy: Organic Wines Secrets
• London, UK: Brixton Hidden Jazz Club
• Paris, France: Laugh Your Way Through the Louvre
• New York, USA: Graffiti Art with a Local Legend
• Tokyo, Japan: From Market to Meal
• Lisbon, Portugal: Lisbon’s Best Flavors
• San Francisco, USA: Sunset Silent Disco

โฮสต์สามารถสร้างรายได้จาก Airbnb Experiences ได้อย่างไร

แม้ว่าโฮสต์ Airbnb Experiences จะไม่จำเป็นต้องมีที่พักปล่อยเช่า แต่โฮสต์ Airbnb ทั่วไปก็สามารถเข้าร่วม Experiences เพื่อทำเงินมากขึ้นได้ เช่นเดียวกับโฮสต์ปล่อยเช่าที่พัก คุณจำเป็นต้องมีใบอนุญาตเพื่อใช้ในการดำเนินธุรกิจในเมืองที่คุณอยู่

ผลที่ตามมา การเพิ่ม Airbnb Experience คือ แนวทางที่ดีที่ช่วยให้มีรายได้เพิ่มขึ้น ไม่เพียงแค่คุณสามารถโปรโมทประสบการณ์ที่คุณเป็นผู้จัดได้เท่านั้น แต่คุณยังสามารถโปรโมทที่พักของคุณให้กับนักท่องเที่ยวได้อีกด้วย แสดงให้พวกเขาเห็นว่าคุณมีประสบการณ์ที่คุณอยากแบ่งปัน และคุณสามารถขายประสบการณ์เหล่านั้นเหมือนกับที่คุณใช้การปรับปรุงที่พัก เพื่อเป็นแนวทางในการเพิ่มรายได้บนแพลตฟอร์ม Airbnb

นี่ คือ เหตุผลว่าทำไมคุณถึงได้รับประโยชน์ 2 เด้งจากการเป็นโฮสต์ Airbnb Experiences และโฮสต์ปล่อยเช่าที่พักบน Airbnb

อย่างแรก การที่คุณให้เช่าที่พัก และเป็นไกด์ท้องถิ่นนำเที่ยวในเมืองที่คุณอยู่ มันช่วยให้แขกของคุณสะดวกมากขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยให้พวกเขารู้สึกสบายใจ เมื่อรู้ว่าคุณที่เป็นคนถิ่นจะสามารถนำเสนอที่เที่ยวใหม่ ๆ ให้กับพวกเขาได้

อย่างที่สอง ประโยชน์ที่โฮสต์ Airbnb Experiences จะได้รับ คือ การรองรับแขกได้มากขึ้นในหนึ่งครั้ง ในขณะที่การปล่อยเช่าที่พักอาจรองรับผู้เข้าพักได้เพียง 1 หรือ 2 คนต่อครั้ง แต่สำหรับ Airbnb Experiences คุณสามารถรองรับแขกที่มาเป็นกลุ่มได้อย่างง่ายดาย

จะสมัคร Airbnb Experiences ต้องทำอย่างไร

ในการเริ่มต้น Airbnb Experiences โฮสต์จะต้องสมัคร และส่งข้อมูลให้ทาง Airbnb อนุมัติ โดย Airbnb จะหักค่า Commission 20% ในแต่ละประสบการณ์ที่แขกจองมา

แม้ว่าค่า Commission สำหรับ Airbnb Experiences จะสูงกว่า Airbnb แบบปล่อยเช่าที่พัก Brian Chesky กล่าวว่าโฮสต์ Airbnb Experiences ยังได้รับประโยชน์ แม้ว่าค่า Commission ที่หักไปจะสูงกว่า เนื่องจากพวกเขาสามารถจัดประสบการณ์ได้บ่อยกว่าการปล่อยเช่าที่ที่พัก

มีกฎอะไรบ้างที่จำเป็นในการรักษาสถานะโฮสต์ Airbnb Experiences

โฮสต์จำเป็นต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดที่เข้มงวดเมื่อได้รับฟีดแบ็ค Airbnb จะติดตามแขกเป็นกรณีไป ถ้าแขกให้คะแนนรีวิวต่ำกว่า 5 ดาวแก่ประสบการณ์นั้น ๆ ผลที่ตามมา คือ โฮสต์จำเป็นต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อรักษาคะแนนรีิวิว และรักษาสถานะของพวกเขาใน Airbnb Experiences

คุณควรทำ Airbnb Experiences หรือไม่

คุณควรทำ Airbnb Experiences หรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับภูมิหลังของคุณ ถ้าคุณมีความปรารถนาอย่างแรงกล้าในการเริ่มต้นธุรกิจจากงานอดิเรก หรือทักษะความคิดสร้างสรรค์ มันอาจเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับคุณ แต่ถ้าคุณต้องการเพิ่มรายได้จากแพลตฟอร์ม Airbnb และคุณรู้ว่าจะเพิ่มอย่างไร แน่นอน Airbnb Experiences คือสิ่งที่คุณควรพิจารณาอย่างไม่ต้องสงสัย

from:https://startitup.in.th/airbnb-experiences-a-new-way-to-increase-your-airbnb-income/