คลังเก็บป้ายกำกับ: Xiaomi

Xiaomi รายงานผลประกอบการไตรมาส รายได้สมาร์ทโฟนลดลง ในจีนมีสัญญาณฟื้นตัว

Xiaomi รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 4 ปี 2022 รายได้รวม 66,047.4 ล้านหยวน ลดลง 22.8% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน ผลกระทบหลักจากธุรกิจสมาร์ทโฟน และมีกำไรสุทธิตามบัญชี non-IFRS 1,460.9 ล้านหยวน

Lu Weibing ประธานกลุ่ม Xiaomi ให้ข้อมูลเพิ่มเติมในช่วงแถลงผลประกอบการว่า ตลาดสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ของจีนเริ่มมีสัญญาณฟื้นตัวแล้วตอนนี้ แต่ต้องใช้เวลาสักระยะ

รายได้จากธุรกิจสมาร์ทโฟนอยู่ที่ 3.67 หมื่นล้านหยวน จำนวนเครื่องส่งมอบ 32.7 ล้านเครื่อง มีสัญญาณที่ดีในจีนโดยจำนวนเครื่องที่ส่งมอบเพิ่มขึ้น 6.8% ส่วนธุรกิจ IoT ไลฟ์สไตล์ มีรายได้ 2.14 หมื่นล้านหยวน เพิ่มขึ้น 12.5% สมาร์ททีวีมีจำนวนส่งมอบ 12.4 ล้านเครื่อง เพิ่มขึ้น 0.6%

ที่มา: Xioami (pdf) และ Reuters

No Description

No Description

No Description

from:https://www.blognone.com/node/133163

Advertisement

Xiaomi 13 Ultra อาจเปิดตัวที่จีน 17 เมษายนนี้

ก่อนหน้านี้มีรายงานว่า Xiaomi หมายเลขรุ่น 2304FPN6DC ซึ่งคาดว่าจะเป็นรุ่น Xiaomi 13 Ultra ได้รับการรับรองจากหน่วยงาน 3C ของประเทศจีน บ่งชี้ว่าอาจเปิดตัวที่ประเทศจีนในเดือนเมษายนนี้

ประกอบกับมีรายงานจาก Xiaomiui ระบุว่า MIUI สำหรับ Xiaomi 13 Ultra นั้นดูเหมือนจะพร้อมใช้งานบนเซิร์ฟเวอร์ MIUI อย่างเป็นทางการ ล่าสุดมีภาพทีเซอร์เผยวันเปิดตัวออกมาแล้ว

Xiaomi 13 Ultra

เว็บ Xiaomiui ได้โพสต์ภาพทีเซอร์เตรียมเปิดตัว Xiaomi 13 Ultra โดยจะเปิดตัวที่ประเทศจีนในวันที่ 17 เมษายน 2023 เวลา 19.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นซึ่งตรงกับบ้านเราเวลา 18.00 น. อย่างไรก็ตามยังไม่มีการยืนยันว่าภาพทีเซอร์เป็นของปลอมหรือของจริง

นอกจากนี้ยังมีข่าวลือว่า Xiaomi Pad 6 และ Pad 6 Pro จะเปิดตัวพร้อม Xiaomi 13 Ultra ในตลาดโลกภายในเดือนพฤษภาคม รายงานเปิดเผยว่า Xiaomi Pad 6 จะวางจำหน่ายในหลายตลาด แต่ Pad 6 Pro จะไม่วางจำหน่ายในตลาดนอกประเทศจีน

สำหรับ Xiaomi 11 Ultra นั้นวางจำหน่ายทั่วโลกในจำนวนจำกัด ในขณะที่ Xiaomi 12S Ultra วางจำหน่ายเฉพาะในประเทศจีนเท่านั้น และ Xiaomi 13 Ultra ได้รับการยืนยันว่าจะวางจำหน่ายในตลาดโลก มีการคาดเดามากมายว่าการเปิดตัวทั่วโลกของ Xiaomi 13 Ultra จะมีขึ้นในเดือนพฤษภาคมนี้

ทั้งนี้ คาดว่าสเปกของ Xiaomi 13 Ultra จะมาพร้อมหน้าจอแสดงผลจอขอบโค้งแบบ AMOLED ความละเอียด QHD+ และมีอัตรารีเฟรชเรท 120Hz ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ท Snapdragon 8 Gen 2, ติดตั้งกล้องหลัง 4 ตัวความละเอียด 50 ล้านพิกเซล และรองรับการชาร์จเร็ว 90W และชาร์จเร็วแบบไร้สาย 50W

ที่มา : Playfuldroid

.fb-background-color {
background: #ffffff !important;
}
.fb_iframe_widget_fluid_desktop iframe {
width: 100% !important;
}

from:https://www.mobileocta.com/xiaomi-13-ultra-may-launch-in-china-on-april-17/?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=xiaomi-13-ultra-may-launch-in-china-on-april-17

Redmi Watch 3 เปิดตัวอย่างเป็นทางการ มาพร้อมจอ AMOLED 1.75 นิ้ว กันน้ำ 5 ATM แบตเตอรี่ใช้งานได้สูงสุด 12 วัน

ก่อนหน้าที่ Xiaomi ได้เปิดตัว Redmi Watch 3 ที่จีนไปแล้ว ล่าสุดทางบริษัทได้เปิดตัวสมาร์ทวอทช์รุ่นดังกล่าวอย่างเป็นทางการให้ทั่วโลกได้ยลโฉมเป็นที่เรียบร้อย โดย Redmi Watch 3 จะเป็นหน้าปัดจอ AMOLED ขนาด 1.75 นิ้ว กันน้ำ 5 ATM แบตเตอรี่ใช้งานได้สูงสุด 12 วัน/การชาร์จ 1 ครั้ง เปิดตัวมาในราคา 199 EUR หรือประมาณ 7,338.34 บาท แต่คาดว่าจะราคาถูกลงกว่านี้เมื่อเข้าไทยค่ะ

Redmi Watch 3 มาในดีไซน์เรียบหรู แต่ดูมีลูกเล่น หน้าจอเป็น AMOLED ขนาด 1.75 นิ้ว สามารถมองเห็นได้ชัดแม้อยู่กลางแจ้ง กันน้ำกันเหงื่อ 5 ATM อีกทั้งยังรวมโหมดกีฬาไว้มากถึง 120 โหมดด้วยกัน ไม่ว่าจะปั่นจักรยาน, ว่ายน้ำ, หรือวิ่ง หรือแม้กระทั่งขณะที่เราหลับก็ยังสามารถดูภาพรวมของสุขภาพในตอนนั้นได้

Redmi Watch 3 มีให้เลือกด้วยกันทั้งหมด 4 สี ด้วยกัน คือ Aqua Blue, Lime Green, Ivory และ Black มีภาพหน้าจอให้เลือก Custom มากกว่า 200 รูปแบบ

ฟีเจอร์ด้านสุขภาพ สมาร์ทวอทช์สามารถวัดค่าออกซิเจนในเลือด, วัดอัตราการเต้นของหัวใจแบบเรียลไทม์ ตามติดกิจกรรมในชีวิตประจำวันแบบ 24 ชั่วโมง แบตเตอรี่ชาร์จเพียงครั้งเดียวสามารถใช้งานได้นานสุด 12 วัน

ตัวอย่างฟีเจอร์การวัดออกซิเจนในเลือด

ตัวอย่างฟีเจอร์การวัดอัตราการเต้นของหัวใจแบบ Real Time 

ฟังก์ชันการอื่น ๆ Redmi Watch 3 สามารถรับสายโทรศัพท์, เลือกหรือเปลี่ยนเพลงผ่านบลูทูธของ Redmi Watch 3 ได้ ตอบโจทย์การใช้งานขณะขับรถมาก ๆ 

สรุปสเปค Redmi Watch 3

หน้าจอ : AMOLED ขนาด 1.75 นิ้ว ความละเอียด 390 x 450 pixel

ความสว่าง : 600 nits

น้ำหนัก : 37 g.

กันน้ำ : 5 ATM

แบตเตอรี่ : 289 mAh

รองรับ : Microphone, Speaker

ระบบที่รองรับการใช้งาน :  Android 6.0 หรือรุ่นที่สูงกว่านั้น , iOS 12 หรือรุ่นที่สูงกว่านั้น

-Bluetooth 5.2

-สั่งงานด้วยเสียงผ่าน Alexa

-มี Security 24 ชั่วโมง

แพ็คเกจ : สมาร์ทวอช, ที่ชาร์จแบบแม่เหล็ก, คู่มือ

Redmi Watch 3 เปิดตัวมาในราคา 199 EUR หรือ 7,338.34 บาทไม่รวมภาษี แต่เข้าไทยราคาก็คงจะเบากว่านี้ คาดว่าจะวางขายอย่างเป็นทางการในตลาดทั่วโลกเร็ว ๆ นี้ โดยวางจำหน่ายก่อน 2 สี คือ Ivory และ Black ส่วนสีอื่น ๆ จะวางขายเมื่อไหร่ต้องรอการอัปเดตจากทาง Redmi อีกทีค่ะ

 

ที่มา : Redmi, Gizmochina 

from:https://droidsans.com/redmi-watch-3-global-market-launch/

Xiaomi เปิดตัว Redmi Note 12 พร้อมกัน 4 รุ่น มีให้เลือกทั้ง 4G และ 5G สเปคอัดแน่นเหมือนเคย

Xiaomi Redmi Note 12 Series เปิดตัวเรียบร้อยแล้วในตลาด Global โดยมาพร้อมกันทั้งหมดถึง 4 รุ่น ให้เลือกได้ครบ ๆ ทั้ง 4G และ 5G คือ Redmi Note 12 / Note 12 Pro+ 5G / Note 12 Pro 5G / Note 12 5G ซึ่งแต่ละรุ่นก็แน่นอนว่าจัดสเปคมาให้แบบคุ้ม ๆ ตามสไตล์ Redmi เหมือนเคย

Redmi Note 12

เริ่มกันที่รุ่นน้องเล็ก Redmi Note 12 ที่ใช้ระบบ 4G มากับจุดเด่นที่หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว ความละเอียด FHD+ รีเฟรชเรท 120Hz เร่งความสว่างสูงสุดได้ถึง 1200 nits สเปคใช้งานได้เหลือ ๆ ด้วยชิป Snapdragon 685, RAM LPDDR4x ขนาด 4GB ความจุ 64GB / 128GB รองรับ microSD 1TB

กล้องหลังมี 3 ตัว ประกอบด้วยกล้องหลัก 50MP + กล้อง Ultrawide 8MP + กล้อง Macro 2MP และกล้องเซลฟี่ 13MP ให้แบตเตอรี่มา 5000 mAh รองรับชาร์จไว 33W แถมยังได้มาตรฐาน IP53 ด้วย

สเปค Redmi Note 12

  • หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2,400 × 1,080) รีเฟรชเรท 120Hz
  • CPU : Snapdragon 685
  • RAM (LPDDR4x) : 4GB
  • ความจุ (UFS 2.2) : 64GB / 128GB รองรับ microSD (Hybrid)
  • กล้องหลัง 3 ตัว
    – กล้องหลัก 50MP
    – กล้อง Ultrawide 8MP
    – กล้อง Macro 2MP
  • กล้องหน้า : 13MP
  • การเชื่อมต่อ : 4G, WiFi 802.11a/b/g/n/ac, BT 5.0
  • เซนเซอร์ : Fingerprint (ข้างเครื่อง), Proximity Sensor, Ambient Light Sensor, Accelerometer, Electronic compass, IR Blaster, gyroscope
  • รูหูฟัง 3.5 มม.
  • มาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น : IP53
  • แบตเตอรี่ : 5000 mAh รองรับชาร์จไว 33W
  • ระบบ Android 13 ครอบด้วย MIUI 14

 

Redmi Note 12 5G

ต่อด้วยรุ่น 5G ที่ใช้หน้าจอแบบ AMOLED ขนาดเท่ากัน 6.67 นิ้ว ความละเอียด FHD+ รีเฟรชเรท 120Hz ความสว่าง 1,200 nits มากับชิป Snapdragon 4 Gen 1, RAM LPDDR4x ขนาด 4GB ความจุ 128GB รองรับ microSD 1TB

กล้องหลังมี 3 ตัว ประกอบด้วยกล้องหลัก 48MP + กล้อง Ultrawide 8MP + กล้อง Macro 2MP และกล้องเซลฟี่ 13MP ให้แบตเตอรี่มา 5000 mAh รองรับชาร์จไว 33W แถมยังได้มาตรฐาน IP53 ด้วย

สเปค Redmi Note 12 5G

  • หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2,400 × 1,080) รีเฟรชเรท 120Hz
  • CPU : Snapdragon 4 Gen 1
  • RAM (LPDDR4x) : 4GB
  • ความจุ (UFS 2.2) : 128GB รองรับ microSD (Hybrid)
  • กล้องหลัง 3 ตัว
    – กล้องหลัก 48MP
    – กล้อง Ultrawide 8MP
    – กล้อง Macro 2MP
  • กล้องหน้า : 13MP
  • การเชื่อมต่อ : 5G, WiFi 802.11a/b/g/n/ac, BT 5.1
  • เซนเซอร์ : Fingerprint (ข้างเครื่อง), Proximity Sensor, Ambient Light Sensor, Accelerometer, Electronic compass, IR Blaster, gyroscope
  • รูหูฟัง 3.5 มม.
  • มาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น : IP53
  • แบตเตอรี่ : 5000 mAh รองรับชาร์จไว 33W
  • ระบบ Android 13 ครอบด้วย MIUI 14

 

Redmi Note 12 Pro 5G

สำหรับรุ่น Pro ก็ยังมีหน้าจอขนาดเท่ากันอยู่ที่ 6.67 นิ้ว แบบ Flow AMOLED Display ความละเอียด FHD+ รีเฟรชเรท 120Hz ความสว่างสูงสุด 900 nits รองรับ Dolby Vision และครอบด้วย Gorilla Glass 5 ใช้ชิป Dimensity 1080, RAM LPDDR4x 6GB / 8GB ความจุ 128GB

กล้องหลังมี 3 ตัว ประกอบด้วยกล้องหลัก IMX766 50MP มีกันสั่น OIS + กล้อง Ultrawide 8MP + กล้อง Macro 2MP และกล้องเซลฟี่ 16MP ให้แบตเตอรี่มา 5000 mAh รองรับชาร์จไว 67W

สเปค Redmi Note 12 Pro 5G

  • หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2,400 × 1,080) รีเฟรชเรท 120Hz
  • CPU : Dimensity 1080
  • RAM (LPDDR4x) : 6GB / 8GB
  • ความจุ (UFS 2.2) : 128GB
  • กล้องหลัง 3 ตัว
    – กล้องหลัก IMX766 50MP, OIS
    – กล้อง Ultrawide 8MP
    – กล้อง Macro 2MP
  • กล้องหน้า : 13MP
  • การเชื่อมต่อ : 5G, Wi-Fi 6/Wi-Fi 5/Wi-Fi 4/802.11a/b/g/n/ac, BT 5.2
  • เซนเซอร์ : Fingerprint (ข้างเครื่อง), Proximity Sensor, Ambient Light Sensor, Accelerometer, Electronic compass, IR Blaster, gyroscope
  • ระบบเสียง : ลำโพงคู่, Dolby Atmos, รูหูฟัง 3.5 มม.
  • แบตเตอรี่ : 5000 mAh รองรับชาร์จไว 67W
  • ระบบ Android 12 ครอบด้วย MIUI 14

 

Redmi Note 12 Pro+ 5G

สุดท้ายกับรุ่นท็อปที่สเปคจัดเต็มที่สุดในซีรีส์ แต่ยังคงหน้าจอขนาดเท่ากันที่ 6.67 นิ้ว แบบ Flow AMOLED Display ความละเอียด FHD+ รีเฟรชเรท 120Hz ความสว่างสูงสุด 900 nits รองรับ Dolby Vision และครอบด้วย Gorilla Glass 5 ใช้ชิป Dimensity 1080, RAM LPDDR4x 8GB ความจุ 256GB

กล้องหลังมี 3 ตัว ประกอบด้วยกล้องหลัก 200MP มีกันสั่น OIS + กล้อง Ultrawide 8MP + กล้อง Macro 2MP และกล้องเซลฟี่ 16MP ให้แบตเตอรี่มา 5000 mAh รองรับชาร์จไว 67W

สเปค Redmi Note 12 Pro+ 5G

  • หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2,400 × 1,080) รีเฟรชเรท 120Hz
  • CPU : Dimensity 1080
  • RAM (LPDDR4x) : 8GB
  • ความจุ (UFS 2.2) : 256GB
  • กล้องหลัง 3 ตัว
    – กล้องหลัก 200MP, OIS
    – กล้อง Ultrawide 8MP
    – กล้อง Macro 2MP
  • กล้องหน้า : 13MP
  • การเชื่อมต่อ : 5G, Wi-Fi 6/Wi-Fi 5/Wi-Fi 4/802.11a/b/g/n/ac, BT 5.2
  • เซนเซอร์ : Fingerprint (ข้างเครื่อง), Proximity Sensor, Ambient Light Sensor, Accelerometer, Electronic compass, IR Blaster, gyroscope
  • ระบบเสียง : ลำโพงคู่, Dolby Atmos, รูหูฟัง 3.5 มม.
  • แบตเตอรี่ : 5000 mAh รองรับชาร์จไว 67W
  • ระบบ Android 12 ครอบด้วย MIUI 14

ราคา

ราคาของทั้ง 4 รุ่น เป็นราคาในโซนยุโรปซึ่งมีภาษีแพงกว่าบ้านเราราว ๆ 20-30% นะครับ

  • Redmi Note 12 : เริ่มต้น 230 ยูโร (ประมาณ 8,500 บาท)
  • Redmi Note 12 5G : 300 ยูโร (ประมาณ 11,090 บาท)
  • Redmi Note 12 Pro 5G : เริ่มต้น 400 ยูโร (ประมาณ 14,790 บาท)
  • Redmi Note 12 Pro+ 5G : 500 ยูโร (ประมาณ 18,490 บาท)

สำหรับประเทศไทยต้องรอดูกันอีกทีว่าจะเอารุ่นไหนเข้ามาบ้างนะครับ ส่วนราคาถูกกว่าของโซนยุโรปแน่นอน…เอาไว้ถ้ามีข้อมูลแล้วจะมาอัปเดตให้ทันทีจ้า

from:https://droidsans.com/xiaomi-redmi-note-12-series-gloabl-announcement/

เผยดีไซน์ด้านหน้า Redmi Note 12 Turbo พร้อมอวดขอบจอที่บางกว่า iPhone 14

หลังจากที่ Redmi ปล่อยทีเซอร์ยืนยันเตรียมเปิดตัว Redmi Note 12 Turbo อย่างเป็นทางการที่ประเทศจีนในวันที่ 28 มีนาคมนี้ และจะเป็นสมาร์ตโฟนรุ่นแรกของโลกที่ใช้ชิปเซ็ท Snapdragon 7+ Gen 2 ล่าสุดทางแบรนด์ได้ปล่อยภาพทีเซอร์ชุดใหม่ออกมาเผยให้เห็นรูปลักษณ์ดีไซน์เพิ่มเติม

Redmi Note 12 Turbo

สำหรับดีไซน์ด้านหน้าของ Redmi Note 12 Turbo จะมาพร้อมหน้าจอแสดงผลจอแบนแบบ Punch Hole Display เจาะรูฝังกล้องเซลฟี่ที่ตรงกลางด้านบน และเหลือขอบใต้หน้าจอที่บางเฉียบ

นอกจากนี้ Redmi ยังอ้างว่าขอบของ Redmi Note 12 Turbo นั้นบางกว่าของ iPhone 14 โดยในทีเซอร์ระบุว่า Redmi Note 12 Turbo มีขอบบางเฉียบทั้งสี่ด้าน โดยขอบด้านข้างวัดได้ 1.95 มม. และขอบด้านบนวัดได้ 1.42 มม. มม. และคางวัดได้ 2.2 มม.

ด้วนขอบจอที่บางเฉียบ Redmi Note 12 Turbo มาพร้อมหน้าจอแสดงผลแบบ OLED โดยมีสัดส่วนจอต่อเครื่องที่ 93.4% และตัวเครื่องจะมาพร้อมกรอบโลหะแทนกรอบพลาสติก

ตัวเครื่องมีน้ำหนัก 191 กรัม และบางเพียง 7.9 มม. มาพร้อมกับแบตเตอรี่ความจุ 5,000mAh และรองรับการชาร์จเร็ว 67W ซึ่งได้รับการยืนยันผ่านการรับรอง 3C โดยจะมีอายุการใช้งานแบตเตอรี่ 1.3 วัน

ทั้งนี้ ในส่วนสเปกอื่นๆ ของ Redmi Note 12 Turbo คาดว่าจะมาพร้อมหน้าจอแสดงผลแบบ OLED ความละเอียด FHD+ ขนาด 6.67 นิ้ว

ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ท Snapdragon 7+ Gen 2 จับคู่กับ RAM แบบ LPDDR5 สูงสุด 12GB และหน่วยความจำภายในแบบ UFS 3.1 ขนาด 512GB และรันบนระบบปฏิบัติการ Android 13 ครอบทับด้วย MIUI 14

ติดตั้งกล้องหลัง 3 ตัว ความละเอียด 64 ล้านพิกเซล, ติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือแบบฝังใต้หน้าจอ, ลำโพงสเตอริโอคู่, ช่องหูฟังขนาด 3.5 มม. และพอร์ตอินฟราเรท

ที่มา : Gizmochin

.fb-background-color {
background: #ffffff !important;
}
.fb_iframe_widget_fluid_desktop iframe {
width: 100% !important;
}

from:https://www.mobileocta.com/redmi-note-12-turbo-front-design-revealed/?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=redmi-note-12-turbo-front-design-revealed

เผยคะแนน Redmi Note 12 Turbo บน Geekbench พร้อมข้อมูลสเปค ใช้ชิป Snapdragon 7+ Gen 2 จอลื่น 120Hz

Redmi ออกมาเผยเสปค Redmi Note 12 Turbo เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกของโลกที่ใช้ชิป Snapdragon 7+ Gen 2 พร้อมเปิดตัวในวันที่ 28 มีนาคมนี้ ซึ่งได้รับการประกาศไปเมื่อสัปดาห์ก่อน โดยล่าสุดก็มีข้อมูลทดสอบความแรงโผล่บนเว็บ Geekbench พร้อมระบุสเปคด้านใน กับความจุ 12GB  และใช้ระบบ Android 13 ,แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5000 mAh กล้องหลัก 50MP

สมาร์ทโฟนรุ่น Redmi Note 12 Turbo โผล่ขึ้นมาในเว็บ Geekbench โดยมีรหัสของรุ่นว่า Xiaomi 23049RAD8C  พร้อมกับระบุชิปประมวลผลเป็น Snapdragon 7+ Gen 2  เป็นชิประดับกลางพรีเมียม ที่เร็ว แรงแถมประสิทธิภาพยังอัปเกรดใหม่หมด เรียกได้ว่าต้องมีคนสนใจกันไม่น้อย ส่วนความจุ RAM แบบ LPDDR5 + 12GB ควบคู่หน่วยความจำแบบ UFS 3.1  ต้องบอกว่าสเปคแรงใกล้เคียงระดับเรือธงเลยทีเดียว

ส่วนจากผลการทดสอบบน Geekbench ได้คะแนน Single-Core 1213 คะแนน และคะแนน Multi-Core 3972 คะแนน ทางด้านข้อมูลสเปคอื่น ๆ โดยรุ่นนี้จะรองรับการชาร์จเร็ว  67W เหมือนกับ Redmi Note 12 Pro

ด้านหน้าจอเป็น OLED ขนาด 6.67 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ อัตรารีเฟรชเรท 120Hz ใช้ระบบปฏิบัติการ Android 13 คลอบทับด้วย  MIUI 14 แบตเตอรี่ 5,000mAh  กล้องหน้ามีขนาด 16MP ,กล้องหลัก 50 MP, กล้องอัลตราไวด์ 8 MP, กล้องมาโคร 2 MP

ถ้าใครกำลังรอมือถือรุ่นนี้อยู่เตรียมตัวไว้ได้เลย เพราะ Redmi ประกาศวันเปิดตัว Redmi Note 12 Turbo เป็นที่เรียบร้อย วันที่ 28 มีนาคมนี้ที่ประเทศจีนค่ะ

 

ที่มา  : gsmarena

 

from:https://droidsans.com/redmi-note-12-turbo-geekbench-snapdragon-7-gen-2/

OPPO vivo Xiaomi จับมือร่วมพัฒนาระบบย้ายข้อมูลมือถือ โอนง่ายไม่เสียข้อมูลแอป

ผู้ผลิตมือถือจีนค่ายดัง OPPO vivo และ Xiaomi ได้ร่วมทีมกันพัฒนาระบบถ่ายโอนข้อมูลจากมือถือแอนดรอยด์เครื่องเดิมไปเครื่องใหม่ ขจัดปัญหาระบบย้ายข้อมูลเดิมที่ปกติจะย้ายแอป Third-party ไม่ค่อยได้ แล้วพวกข้อมูลต่าง ๆ ในแอปก็จะไม่ถูกย้ายมาด้วย ก็เลยทำให้คนเปลี่ยนมือถือยังเจอปัญหาอยู่บ้าง ตอนนี้ก็หวังว่าจะได้ระบบที่ดีขึ้นระหว่าง 3 ค่ายนี้

มีโพสต์ประกาศอย่างเป็นทางการของ 3 บริษัทบนเว็บ Weibo ระบุว่าได้มีการร่วมมือกันพัฒนาระบบย้ายเครื่องมือถือให้ดีขึ้น โดยจะสามารถย้ายข้อมูลแอป Third-party ระหว่างมือถือ 3 ค่ายนี้ได้เลยผ่านแอปย้ายเครื่อง

ประโน์ที่เห็นได้ชัด ๆ ก็คือพวกประวัติการแชทต่าง ๆ ก็จะถูกย้ายมา รวมไปถึงการตั้งค่าในแอป หรือเซฟเกมต่าง ๆ เป็นต้น ซึ่งก็จะต่างกับแต่ก่อน ที่เวลาย้ายแอปข้ามค่ายแล้วข้อมูลในแอปจะไม่ถูกย้ายมาด้วย

ทั้งนี้ ระบบย้ายมือถือข้ามค่ายแบบใหม่ ยังจำกัดให้ใช้แค่ในประเทศจีนเท่านั้น ซึ่งก็ถือเป็นเครื่องมือที่มีความจำเป็นกับชาวจีนมาก ๆ เพราะบ้านเค้าไม่ได้ใช้ระบบ Google Services ทำให้ไม่มี Google Drive, Google Photo และอื่น ๆ ที่ปกติก็จะช่วยเรื่องการเก็บข้อมูลในระบบ Cloud

โดยค่ายมือถือจีนก็จะมีการจับมือกันร่วมพัฒนาระบบมาแล้วหลายด้าน อย่างฟีเจอร์รับส่งไฟล์ความเร็วสูงข้ามค่าย และตอนนั้นก็แท็กทีมกับ HUAWEI เปิดตัวมาตรฐานชาร์จไวด้วย

ที่มา : androidpolice

from:https://droidsans.com/oppo-vivo-xiaomi-transfer-phones-alliance/

Redmi Note 12 Turbo สมาร์ตโฟนขุมพลัง Snapdragon 7+ Gen 2 รุ่นแรกของโลก เตรียมเปิดตัว 28 มีนาคมนี้

เป็นข่าวมาสักพักแล้วสำหรับ Redmi Note 12 Turbo สมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ตระกูล Note 12 Series ล่าสุดบริษัทได้ปล่อยภาพทีเซอร์เผยวันเปิดตัวอย่างเป็นทางการออกมาแล้ว

Redmi Note 12 Turbo

บัญชี Weibo อย่างเป็นทางการของ Redmi ได้โพสต์ภาพทีเซอร์เตรียมเปิดตัว Redmi Note 12 Turbo อย่างเป็นทางการที่ประเทศจีนในวันที่ 28 มีนาคม 2566 เวลา 19.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งตรงกับบ้านเราเวลา 18.00 น.

โดยในภาพทีเซอร์ยังมีภาพตัวเครื่องที่เผยให้เห็นดีไซน์ด้านหลังที่ติดตั้งกล้อง 3 ตัวความละเอียด 64 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช LED ขณะที่ด้านขวาข้างเครื่องมีปุ่มปรับเพิ่มลดระดับเสียง กับปุ่มเปิดปิดเครื่อง

ด้านบนมีช่องหูฟัง 3.5 มม., ช่องลำโพงเสียง, ช่องไมโครโฟนตัดเสียง และพอร์ตอินฟราเรด และด้านท้ายเครื่องมีช่องลำโพงเสียง, พอร์ต USB Type-C, ช่องไมโครโฟน และช่องใส่ซิมการ์ด และมี 2 สี

นอกจากนี้ยังมีภาพทีเซอร์ที่ยืนยันว่า Redmi Note 12 Turbo จะเป็นสมาร์ตโฟนรุ่นแรกของโลกที่ใช้ชิปเซ็ท Snapdragon 7+ Gen 2 ใหม่ล่าสุดด้วย โดยเป็นชิปเซ็ทขนาด 4nm รองรับ RAM แบบ LPDDR5 และหน่วยความจำภายในแบบ UFS 3.1

ในส่วนสเปกอื่นๆ ของ Redmi Note 12 Turbo คาดว่าจะมาพร้อมหน้าจอแสดงผลแบบ OLED ความละเอียด FHD+ ขนาด 6.67 นิ้ว และมีอัตรารีเฟรชเรท 120Hz ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ท Snapdragon 7+ Gen 2 จับคู่กับ RAM แบบ LPDDR5 ขนาด 12 GB และหน่วยความจำภายในแบบ UFS 3.1 ขนาด 256 GB

ติดตั้งกล้องหลัง 3 ตัวประกอบด้วยกล้องหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล, กล้องตัวที่ 2 เลนส์ Ultra Wide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล และกล้องตัวที่ 3 เลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล ส่วนกล้องหน้าเซลฟี่ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล

รวมทั้งใข้แบตเตอรี่ความจุ 5,000mAh รองรับการชาร์จไว 67W และรันบนระบบปฎิบัติการ Android 13

อย่างไรก็ตาม รายงานล่าสุดอ้างว่า Poco จะเปิดตัว Poco F5 5G ในวันที่ 6 เมษายน 2566 ที่ประเทศอินเดีย มีการคาดการณ์ว่า Poco F5 จะเป็นรุ่นรีแบรนด์ของ Redmi Note 12 Turbo

ที่มา : Gizmochina

.fb-background-color {
background: #ffffff !important;
}
.fb_iframe_widget_fluid_desktop iframe {
width: 100% !important;
}

from:https://www.mobileocta.com/redmi-note-12-turbo-to-launch-on-march-28/?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=redmi-note-12-turbo-to-launch-on-march-28

Apple ครองแชมป์ตลาดมือถือพรีเมี่ยมปี 2022 ตามมาห่าง ๆ ด้วย Samsung และ HUAWEI

แม้ว่าปี 2022 ตลาดสมาร์ทโฟนทั่วโลกจะทรง ๆ ทรุด ๆ มาตลอด แต่มือถือยอดฮิตจากค่าย Apple ที่แม้จะมีราคาแรงแค่ไหน แต่ก็ยังคงได้รับความนิยมสูงจากแฟน ๆ ไม่เสื่อม โดยข้อมูลล่าสุดได้ออกมาแล้วว่าในปี 2022 ส่วนแบ่งการตลาดมือถือระดับพรีเมี่ยมตกเป็นของ Apple ทิ้งห่างคู่แข่งตลอดกาล Samsung ไปหลายช่วงตัวเลยทีเดียว

ข้อมูลดังกล่าวรวบรวมโดย Counterpoint Research สำหรับมือถือพรีเมี่ยมจะนับตั้งแต่ที่มีช่วงราคาตั้งแต่ 600 ดอลลาร์ หรือประมาณ 20,600 บาทขึ้นไป ทั้งระบบ Android และ iOS

จากสถิติของปี 2022 พบว่าค่าย Apple มีส่วนแบ่งการตลาดมือถือพรีเมี่ยมสูงที่สุดถึง 75% เพิ่มขึ้นจากปี 2021 ที่มีส่วนแบ่งการตลาด 71% คิดเป็นยอดการเติบโตอยู่ที่ 6%

ตามมาห่าง ๆ ด้วยคู่แข่งตลอดกาลอย่าง Samsung มีส่วนแบ่งการตลาดที่ 16% ลดลงจากปีที่แล้วทำได้ 17% และอันดับ 3 ที่เซอร์ไพรส์อยู่นิดนึงเพราะมันคือ HUAWEI มีส่วนแบ่งที่ 3% ลดลงมาจากเดิม 5%

อันดับ 4 คือ Xiaomi มีส่วนแบ่งอยู่ที่ 1% จากเดิม 2% อันดับ 5 คือ HONOR ที่แม้จะมีส่วนแบ่งแค่ 1% เหมือนกัน แต่ก็เรียกว่าทำได้ดี เพราะเติบโตขึ้นจากปี 2021 ถึง 110% ด้วยอานิสงส์จากซีรีส์ Magic4 ที่ได้รับความนิยมพอประมาณในตลาดจีน แถม HONOR ยังบอกว่าปี 2023 จะบุกตลาดโลกมากขึ้นด้วย

อันดับสุดท้ายคือ Google ที่ได้อยู่ 1% เหมือนกัน แต่เติบโตขึ้นถึง 118% มาจาก Pixel 6 และ 7 Pro ที่ได้เสียงตอบรับค่อนข้างดีเลย (ถ้าขยายตลาดให้ได้หลายประเทศกว่านี้ อาจจะได้ส่วนแบ่งเพิ่มขึ้นอีกก็ได้นะ…)

Counterpoint วิเคราะห์ว่าในปี 2023 ส่วนแบ่งการตลาดของมือถือระดับพรีเมี่ยมระบบ Andorid น่าจะเพิ่มขึ้นมาได้อีก เพราะเทรนด์มือถือจอพับกำลังมาแรง และในปีนี้ก็จะมีมือถือจอพับวางจำหน่ายในตลาด Global มากขึ้นด้วย (ปีที่แล้วหลาย ๆ รุ่นแค่ลองตลาดเฉพาะในจีนเท่านั้น) รวมถึง HONOR ที่เริ่มรุกตลาดโซนยุโรปมากขึ้นอีกต่างหาก

 

ที่มา : Counterpoint

from:https://droidsans.com/apple-dominated-premium-smart-phone-market-share-2022/

Xiaomi เปิดตัว MIJIA Air Purifier Ultra เครื่องฟอกอากาศ 7 ชั้น ฆ่าเชื้อโรคได้ 99.99%

Xiaomi เจ้าของไลน์เครื่องกรองอากาศมากมายหลายตัว อีกแบรนด์ที่ชาวไทยรู้จักกันดี เพิ่งประกาศเปิดตัว MIJIA Air Purified รุ่นใหม่ ที่ใช้เทคโนโลยีใหม่มาช่วยจัดการอากาศให้มีความสะอาดมากยิ่งขึ้น ตัวนี้จะถือเป็นเครื่องกรองระดับไฮเอนด์ มาในดีไซน์สุดพิเศษไม่ได้เหมือนกับรุ่นก่อนหน้าที่เปิดตัวมา

MIJIA Air Purifier Ultra 米家全效空气净化器 Ultra

MIJIA Air Purifier Ultra 米家全效空气净化器 Ultra

ตัวเครื่องใช้ดีไซน์เหลี่ยมเพิ่มมิติด้วยการแบ่งเส้นคั่นตรงกลาง ให้กลายเป็น 4 บล็อค ซึ่งที่หน้าตาแปลกก็ไม่ใช่เพื่อความเท่ แต่เป็นการเพิ่มฟังก์ชันใช้งานล้ำ ๆ นั่นเอง รุ่นนี้ใส่เซนเซอร์เข้ามา 5 ตัว ใช้ใบพัด EBM DC ที่ส่งกระแสลมได้มากถึง 12,500 ลิตรต่อนาที

ด้านในมีระบบทำความสะอาดอากาศถึง 7 ขั้นตอน ประกอบไปด้วย ไส้กรองหลัก, ไส้กรอง durable, high energy plasma field, carbon array, ไส้กรอง aldehyde, แสง UV ฆ่าเชื้อ, และยังมีฟิลเตอร์กรองทำความสะอาดภายในด้วย

ระบบทั้งหมดนี้ช่วยให้ Xiaomi MIJIA Air Purifier Ultra สามารถกรองอากาศในพื้นที่ 90 ตารางเมตรให้สะอาดได้ภายใน 17 นาทีเท่านั้นเอง โดยเค้าเคลมว่าจะช่วยฆ่าเชื้อไวรัสได้มากสุดถึง 99.99% และกำจัดสารฟอร์มาลดีไฮด์ (Formaldehyde) ที่เกิดจากสารเคมีผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด และวัสดุก่อสร้างต่าง ๆ ได้ดีถึง 99.05%

ไม่ต้องกลัวว่าเครื่องใหญ่ ฟังก์ชันเยอะแล้วจะเสียงดัง เพราะเมื่อเปิดใช้งานจะมีเสียงเครื่องเพียง 30.7 เดซิเบล เปิดตอนนอนก็ไม่รำคาญ สามารถดูข้อมูลได้ผ่านหน้าจอที่อยู่ด้านหน้าตัวเครื่อง

ราคาและการวางขาย

MIJIA Air Purifier ราคาเปิดมาที่ 3699 หยวน (~ 18,400 บาท) และจะวางขายในจีนตั้งแต่ 31 มีนาคม 2023 เป็นต้นไป ยังไม่มีข้อมูลว่าจะนำมาวางขายต่างประเทศด้วยหรือไม่ครับ

ส่วนใครมองหาเครื่องกรองอากาศดี ๆ ที่มีวางขายในไทย เราก็มีรุ่นราคาย่อมเยาแนะนำให้ งบไม่เกิน 4000

ที่มา : gizmochina, Xiaomi

from:https://droidsans.com/xiaomi-mijia-air-purified-launched/