Line กระตุกอยู่ใช่มั้ย? โรคนี้แก้ได้ด้วยยาสามัญประจำ Android

Line แอพแชตยอดนิยมอันดับหนึ่งของประเทศไทยที่ติดกันงอมแงมตั้งแต่วัยเด็ก, วัยรุ่น, วัยฉกรรจ์, วัยกลางคน จนถึงวัยชรา เรียกว่าใครจะซื้อมือถือเครื่องใหม่จะต้องมีคำถามอยู่เสมอว่า “เล่น Line ได้หรือเปล่า?” ซึ่ง Line เองก็เป็นแอพที่สามารถเล่นได้ทุก Platform หลักๆไม่ว่าจะเป็น Android, iOS, Windows Phone และ Windows Desktop แต่ปัญหาหนึ่งที่ผู้ใช้ Android ส่วนใหญ่เจอ หรือจริงๆก็เจอกันทุกคนนั่นแหละ แต่ไม่รู้ตัว คืออาการ “Line กระตุก” ไม่ว่าคุณจะใช้ Android รุ่นท็อปตัวแรงสุดซอยขนาดไหน คุณก็หนีไม่พ้นอาการนี้ เอ้า มาดูกันดีกว่าว่า Line กระตุกมันเป็นยังไง? แล้วจะแก้ไขมันอย่างไรดี?

 

เรื่องนี้เกิดมาจากความรำคาญส่วนตัวที่เวลาใช้งาน Line คุยกับเพื่อนหรือญาติผู้ใหญ่ ถ้าในหน้า Chat นั้นมีการคุยกันยาวหรือบางทีเราอาจจำเป็นต้องกลับไปอ่านข้อความเก่าๆ เราต้องใช้นิ้วปัดขึ้นหรือปัดลงในหน้า Chat เพื่อหาข้อความหรือรูปภาพที่เราต้องการ ปัญหามันอยู่ตรงนี้แหละ เพราะเวลาปัดหาข้อมูลในหน้า Chat เลื่อนกระตุกมากๆ ครับ ต่างกันกับการเลื่อนดูข้อมูลในหน้ารายชื่อหรือหน้าอื่นๆที่ลื่นกว่ากันลิบลับ ตอนแรกคิดว่าตัวเองคิดไปเอง แต่จากการรีวิวมือถือมาหลายเครื่องแล้วพบว่าเป็นเหมือนกันหมด และเวลาอยู่บนรถไฟฟ้าก็แอบสังเกตเครื่องคนอื่นที่เล่น Line อยู่พบว่า กระตุกเหมือนกันทุกคน ลองดู clip video ตัวอย่างอาการ Line กระตุกด้านล่าง


อาการ Line กระตุก

เนื่องจากเครื่องที่ใช้งานเป็น Galaxy Note 4 สเปกแรงสุดๆ อาการกระตุกช้าอาจจะไม่เห็นชัดมากเหมือนรุ่นอื่นที่สเปกน้อยกว่านี้ แต่ก็รู้สึกได้ชัดเจนว่า เวลานิ้วปัดไปแล้วหน้า Chat มันไม่เลื่อนตามนิ้วไป มันจะค่อยๆเลื่อนช้าๆ ซึ่งมันไม่น่าเกิดขึ้นกับมือถือสเปกขนาดนี้ แต่ตอนที่เราเลื่อนหาชื่อคนหรือหน้ารวม Chat กลับลื่นไหลต่างกันมาก อยากให้ท่านผู้อ่านลองดูกับเครื่องตัวเองด้วยว่าเป็นอย่างไร เลื่อนๆนิ้วปัดๆดูในหน้า Chat ที่คุยกับคนอื่น จะเป็นคุย 1 ต่อ 1 หรือ Group chat ก็ได้ เพราะอาการนี้น่าจะเกิดกับมือถือ Android ทุกรุ่นครับ

 

คราวนี้เรามาพูดถึงวิธีแก้อาการนี้กันดีกว่า โดยต้องอาศัยความสามารถที่ซ่อนอยู่ใน Developer Options ซึ่งสามารถเปิดมันขึ้นมาได้ด้วยขั้นตอนต่อไปนี้

1) การเปิด Developer Options

ขั้นตอนแรกคือเราต้องเปิด Developer Options โดยวิธีการคือ

  1. เข้าไปใน Settings หรือ “การตั้งค่า” 
  2. เลือก About device หรือ “เกี่ยวกับอุปกรณ์” 
  3. มองหา Build number จากนั้นให้เอานิ้วแตะรัวๆต่อเนื่องกัน 7 ครั้ง จะมีข้อความแจ้งกลับมาว่า Developer mode has been turned on หรือ “โหมดนักพัฒนาถูกเปิดแล้ว”
  4. ย้อนกลับไป 1 ระดับเราจะเห็นว่ามี Developer Options หรือ “เมนูเพิ่มเติมสำหรับนักพัฒนา” โผล่ขึ้นมาใน Settings แล้ว
 
 

หมายเหตุ: คนที่ใช้มือถือ vivo ที่เป็น Funtouch OS จะไม่สามารถเปิด Developer Options ด้วยวิธีแบบนี้ได้ ต้องกดเบอร์รหัส *#*#7777#*#* แทนนะครับ
 
 
2) การเปิด Force GPU Rendering
 
การเปิด Force GPU Rendering คือการบังคับให้การแสดงผลของแอพที่ยังใช้วิธีการแสดงผลด้วยการวาดภาพแบบ 2 มิติ (2D Rendering) ซึ่งใช้ CPU ของเครื่องในการวาดภาพอยู่ เปลี่ยนมาใช้ GPU วาดภาพแทน และหน้า Chat ของ Line ก็ยังใช้วิธีวาดภาพแบบ 2 มิติอยู่ ดังนั้นการใช้ GPU วาดภาพแทน CPU จะมีประสิทธิภาพดีกว่ากันมาก เพราะตามชื่อของมัน GPU หรือ Graphic Processing Unit คือหน่วยประมวลผลสำหรับภาพกราฟฟิกโดยเฉพาะ ทำให้การวาดภาพหน้าจอทำได้รวดเร็วและลื่นไหลในการใช้งานมากกว่า  ขึ้นตอนการเปิดก็ไม่ยากดังนี้
  1. เข้าไปใน Settings หรือ “การตั้งค่า”
  2. เลือก Developer Options หรือ “เมนูเพิ่มเติมสำหรับนักพัฒนา” 
  3. ติ๊กเครื่องหมายถูกที่ Force GPU Rendering หรือ “เร่งการแสดงผลของ GPU”
 
 
 
3) ติดตามผล

หลังจากเปิด Force GPU Rendering เรียบร้อย เราก็มาติดตามผลกันว่า Line ของเรามันลื่นขึ้นหรือยัง โดยอย่างแรกคือ ต้องปิด Line ออกจากหน่วยความจำก่อน วิธีง่ายๆคือ เปิด Recent apps หรือ Task Manager ขึ้นมา แล้วปัดแอพ Line ทิ้งออกไปด้านข้าง จากนั้นก็เปิด Line กลับขึ้นมาใหม่ แล้วเช็คผลได้เลย

 

 

[ของแถม] เพิ่มความเร็วให้ Android ของคุณง่ายๆ ภายใน 1 นาที

ไหนๆเราก็รู้จัก Developer Options กันแล้ว ขออนุญาตแนะนำกลเม็ดในการเพิ่มความเร็วใน Android ของคุณแบบง่ายๆ ใช้เวลาไม่มาก เพราะเราจะไปปรับค่าที่อยู่ใน Developer Options นี่แหละ โดยส่วนที่เราจะไปปรับนี้เป็นค่าเกี่ยวกับความเร็วในการแสดงภาพเคลื่อนไหวต่างๆ เวลาที่เราเลือกเมนู, เปิด-ปิด app และ folder, การเลื่อนดูหรือย่อ-ขยายรูปภาพ โดยค่าที่เราจะปรับนั้นยิ่งน้อยยิ่งเร็วขึ้น สำหรับค่าที่แนะนำคือ 0.5x 

  • Window animation scale: 0.5x
  • Transition animation scale: 0.5x
  • Animator duration scale: 0.5x

บางคนอาจจะบอกว่า ทำไมไม่ปรับเป็น 0x ไปเลย เร็วกว่า? สำหรับผม 0x คือการปิดภาพเคลื่อนไหวไปเลย มันดูทื่อๆเกินไปครับ มันขาดความสวยงามของระบบไป แต่ถ้าใครไม่สนใจตรงนี้ ก็ปรับเป็น 0x ไปเลยก็ได้ครับ สำหรับขั้นตอนการปรับค่าดูตามวิดีโอด้านล่างได้เลย

 

ลองทำกันดู ได้ผลยังไงมาแชร์กันด้วยนะครับ 

from:http://droidsans.com/how-to-fix-stutter-in-line-app-with-developer-options

พร้อมมั้ย? เตรียมตัวเกาะติดไปกับงาน MWC 2015

กับช่วงสิ้นเดือนของกุมภาพันธ์ซึ่งใกล้เข้ามาแล้วกับงานอีเวนท์ทางด้านไอทีสุดยิ่งใหญ่ระดับโลก กับงานที่กำลังจะจัดขึ้นในช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิที่จะถึงนี้ในบาร์เซโลนา

SavedPicture-2015227135447-620x302

ซึ่งเราจะทำการรายงานความเคลื่อนไหวและข่าวสารต่างๆ มาได้คุณตลอดระยะเวลาของกิจกรรมในครั้งนี้ ชนิดที่เรียกว่าเกาะติดกันประหนึ่งได้เข้าร่วมงานไปพร้อมๆ กันเลยทีเดียว

โดยเราเองก็ขอเกาะติดสถานการณ์งาน  MWC 2015 ที่กำลังจะเริ่มในวันที่ 2-5 มีนาคม 2558 นี้จากบาร์เซโลนา รับรองว่าทุกท่านจะได้รับความตื่นตาตื่นใจกลับไปอย่างแน่นอน

ขั้นตอนการเตรียมความพร้อมสำหรับงาน MWC 2015

  • ติดตาม Twitter จากบัญชีของ WMPU  โดยตรง เพื่อการรับข่าวสารได้อย่างรวดเร็วที่ถูกต้องที่สุด
  • โดยในส่วนของกิจกรรมต่างๆ จาก Microsoft นั้นจะเริ่มในวันจันทร์ที่ 2 มีนาคม 2558 งานจะเริ่มตั้งแต่เวลา 8:30 น. ตามเวลายุโรป หรือ 7:30 น. ตามเวลามาตรฐานของโลก, 13.00 น. ตามเวลาประเทศอินเดียและ 23:30 น. ตามเวลามาตรฐานแปซิฟิก (ประเทศสหรัฐอเมริกาและแคนาดา) นั่นเอง

P1000567-620x465

สิ่งที่คุณจะได้รับจากการรายงานของเรา

  • รายงานข่าวลือของ Lumia 1330 และ Lumia 640
  • ไฮไลท์อื่นๆ ข่าวลือจาก Acer กับโทรศัพท์มือถือ Windows Phone
  • ความลับของ MixRadio
  • อุปกรณ์จากกลุ่ม OEMs ที่มีส่วนร่วมในการออกแบบโปรแกรม Qualcomm Reference Design

งานนี้รับประกันความตื่นเต้นและรวดเร็วในการรายงานข่าวอย่างแน่นอน แล้วพบกันที่บาร์เซโลนานะคะ

ที่มา: Wmpoweruser

from:http://www.appdisqus.com/2015/03/01/getting-ready-mwc.html

รีวิว Samsung Galaxy E5 สมาร์ทโฟนราคาต่ำหมื่นตัวแรกของซัมซุงในปี 2015

Blognone เคยรีวิว Galaxy A7 และ Galaxy A5 มือถือราคาหมื่นต้น-หมื่นกลางของซัมซุง ที่ใช้ดีไซน์โลหะเรียบหรูแบบ Galaxy Alpha มาแล้ว

เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ซัมซุงยังออกมือถืออีกซีรีส์ที่ระดับต่ำลงมาอีกหน่อยคือ Galaxy E Series ประกอบด้วย Galaxy E7 และ Galaxy E5 โดยใช้ดีไซน์คล้ายกับ Galaxy A Series แต่วัสดุเป็นพลาสติกทำสีเลียนแบบโลหะแทน ราคาก็ต่ำลงมาอีกเล็กน้อยคือ Galaxy E7 ที่ 11,900 บาท และ Galaxy E5 ที่ 8,900 บาท

เราได้ Galaxy E5 มาทดสอบเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ และนี่คือรีวิวของมือถือต่ำหมื่นดีไซน์บางเบาตัวนี้ครับ

Galaxy E5-8

สเปกของ Galaxy E5 มีดังนี้

  • หน้าจอ 5″ Super AMOLED ความละเอียด HD (1280×720)
  • ซีพียูควอดคอร์ 1.2GHz
  • แรม 1.5GB
  • กล้องหลัง 8MP, กล้องหน้า 5MP
  • ความจุ 16GB + microSD
  • แบตเตอรี่ 2400 mAh
  • ระบบปฏิบัติการ Android 4.4.4 KitKat
  • รุ่นที่ขายในไทยรองรับสองซิม (สองขนาด) แต่ไม่รองรับ 4G

ฮาร์ดแวร์ภายนอก

หน้าตาของ Galaxy E5 ก็ต้องบอกว่าคล้ายๆ มือถือช่วงหลังของซัมซุงนั่นล่ะครับ คือหน้าตาเหมือนกันหมด ไม่มีอะไรโดดเด่นเป็นพิเศษ แต่มุมเครื่องจะโค้งมากกว่า Galaxy A หน่อยนึง (เผอิญไม่มีของมาเทียบนะครับ)

Galaxy E5-2

การออกแบบจะคงแนวทางเดียวกับ Galaxy A Series คือเครื่องบาง แบตเตอรี่ถอดไม่ได้ น้ำหนักเบา โดยกรณีของ E5 เราพบว่าแรกสัมผัสตอนหยิบขึ้นมาคือ “มันเบามาก” (น้ำหนักตามสเปก 120 กรัม)

Galaxy E5-5

ขอบด้านข้างของ E5 ใช้แนวทางเดียวกับ Galaxy A แต่เปลี่ยนวัสดุเป็นพลาสติกชุบโครเมียมแทนโลหะ แต่การสัมผัสก็รู้สึกดีกว่ามือถือซัมซุงในอดีตมาก ถ้าไม่ตั้งใจจับละเอียดๆ อาจเข้าใจผิดว่าเป็นโลหะด้วยซ้ำ

Galaxy E5-7

เนื่องจากมือถือซีรีส์พวกนี้ถอดแบตไม่ได้ ช่องใส่ซิมจะย้ายมาอยู่ด้านข้างขวาแทนเหมือนกันหมด

Galaxy E5-6

ช่องเสียบซิมเป็นนาโนซิมนะครับ มีช่องนึงเลือกว่าจะใส่เป็นซิมหรือ microSD

Galaxy E5-11

ขอบด้านบน (รุ่นทดสอบมีสติ๊กเกอร์ 4G ติดมาด้วย รุ่นขายจริงไม่มีนะครับ)

Galaxy E5-10

ด้านล่าง มีพอร์ต Micro USB และช่องเสียบหูฟัง

Galaxy E5-9

ปุ่มควบคุม 3 ปุ่มมาตรฐานเกาหลี

Galaxy E5-4

ฝาหลังเป็นพลาสติกครับ แต่ดูดีมีชาติตระกูลกว่าเมื่อก่อน คือแบบใหม่นี้มันจะเลื่อมๆ มุกๆ หน่อย ไม่ดูเป็นพลาสติกราคาถูกเหมือนในอดีต

Galaxy E5-14

Galaxy E5-13

ซอฟต์แวร์

ตัวซอฟต์แวร์เป็น Android 4.4.4 KitKat พร้อมอินเทอร์เฟซ TouchWiz ตามมาตรฐานซัมซุงครับ (แอบผิดหวังเล็กน้อยว่ามือถือปี 2015 น่าจะเริ่มมาเป็น Lollipop เลย)

สำหรับคนที่มีความหลังฝังใจกับ TouchWiz ต้องบอกว่ารุ่นหลังๆ มันทำดีขึ้นมาก ไม่รกเหมือนสมัยก่อนแล้ว อย่างหน้าโฮมมาตรฐานมีมาให้แค่ 2 หน้าจอเท่านั้นเอง (ไม่น่าเชื่อ!!)

Screenshot_2015-02-26-08-12-10Screenshot_2015-02-26-08-12-14

แอพที่มากับเครื่องก็น้อยลงมาก มีเฉพาะแอพพื้นฐานที่จำเป็นจริงๆ และแอพสายของกูเกิลเป็นหลัก แอพที่ซัมซุงเพิ่มมาให้มีแค่ LINE, Galaxy Gift และ Galaxy Rewards เท่านั้น

Screenshot_2015-02-26-08-12-22Screenshot_2015-02-26-08-12-28

ลองรันเบนช์มาร์ค Antutu ได้ประมาณ 21,000 คะแนน

Screenshot_2015-02-26-08-12-46Screenshot_2015-02-28-23-05-19

กล้อง

กล้องหลัง 8MP ถ่ายกลางวันก็ทำได้ดีมีมาตรฐานครับ คลิกดูภาพใหญ่กันเองตามสะดวก (ถ่ายด้วยโหมดออโต้ สลับกับ HDR)

20150224_161244_Richtone(HDR)20150224_161206_Richtone(HDR)
20150224_131759_Richtone(HDR)20150224_133050
20150224_13141620150224_131327

ส่วนภาพตอนกลางคืนพอถูไถ ถ่ายได้แต่ยังไม่น่าประทับใจนักเมื่อเทียบกับมือถือรุ่นสูงๆ

20150224_193306_Richtone(HDR)20150224_193040_Richtone(HDR)

เพื่อให้เห็นการเปรียบเทียบแบบชัดๆ ผมลองถ่ายภาพเดียวกันตอนกลางคืน เทียบระหว่าง Galaxy E5 (ซ้าย) กับ Galaxy Note 4 (ขวา) ก็พบว่า E5 ยังเป็นรอง Note 4 อยู่พอสมควร (ตามราคาแหละนะ)

20150224_19354520150224_193557
20150224_193723_Richtone(HDR)20150224_193746
20150224_19393120150224_193949

ส่วนของกล้องหน้า 5MP ก็มีฟีเจอร์ Palm Selfie และหน้าเนียน-หน้าเรียว-ตาโต แบบมือถือรุ่นหลังๆ ของซัมซุงครับ (อ่านรายละเอียดในรีวิว Galaxy A5)

สรุป

โดยสรุปแล้ว Galaxy E5 เป็นมือถือต่ำหมื่นที่น่าสนใจอีกตัวหนึ่งครับ ข้อดีคือใช้ดีไซน์แนวใหม่ที่ดูเรียบหรูกว่าเดิม บางเบาแน่นกระชับ สเปกและการใช้งานโอเค ขนาดหน้าจอไม่ใหญ่เกินไป ตอบสนองรวดเร็ว มีจุดขายเรื่องกล้องหน้าแบบเดียวกับ Galaxy A5

ในอีกด้านหนึ่ง มันคือ Galaxy A5 เวอร์ชันลดสเปกลงเล็กน้อย (เช่น ไม่รองรับ 4G, ลดขนาดกล้องหลังจาก 13MP เหลือ 8MP) และปรับวัสดุลดความหรูหราลงมา แลกกับราคาที่ลดลงมาหลายพันอยู่ (Galaxy A5 ราคาเปิดตัว 12,900 บาท ต่างกันสี่พัน)

Galaxy E, Mobile, Review, Samsung

from:https://www.blognone.com/node/66166

เครือข่าย 5G แรงทำลายสถิติโลก เร็วกว่าเครือข่าย 4G ถึง 6,500 เท่า

เทคโนโลยีด้านเครือข่ายไร้สาย เริ่มแรงไส้ทะลักมากขึ้นไปทุกที ตอนนี้เราอยู่ในยุค 4G ช่วงเริ่มต้น แต่เครือข่าย 5G เริ่มพัฒนากันแล้วแถมแรงกว่าถึง 6,500 เท่า

Screen Shot 2558-02-28 at 11.09.18 PM

นักวิจัยจากมหาวิทยาลัย Surrey ในประเทศอังกฤษ ประสบความสำเร็จในการทดสอบส่งข้อมูลไร้สายบนเครือข่าย 5G ซึ่งสามารถระเบิดการส่งข้อมูลได้สูงถึง 1 Tbps หรือ 1 terabit ต่อวินาที

ถ้านึกไม่ออกจากเร็วขนาดไหน ..

เครือข่าย 3G วิ่งด้วยความเร็ว 42 Mbps

เครือข่าย 4G ที่เราใช้งานกันอยู่คือ Category 4 ที่ความเร็ว 150Mbps และกำลังจะมี Category 5 ที่ 300 Mbps และความเร็วทางทฤษฏีได้สูงสุดคือ 1,000 Mbps ครับ

แต่นี่เร็วกว่าคนละขุม คือ ถ้าเทียบความเร็ว 1Tbps ก็คือ 1,000,000 Mbps นั่นแหละครับ

แรงกว่า CAT 4 ที่เราใช้งานกันอยู่ถึง 6,666 เท่ากันเลยทีเดียว แม่เจ้าว้อย

อย่างไรก็ตามการทดสอบครั้งนี้ ทดสอบที่ระยะห่างแค่เพียง 100 เมตรเท่านั้น และเครือข่าย 5G มีแผนจะเปิดตัวให้บริการในปี 2020 ครับ

ความเห็นจากทีมข่าวล้ำหน้า

ทำไมเราถึงต้องการเครือข่ายไร้สายที่มันเร็วมากขึ้นเรื่อยๆ ก็เพราะว่า ในทางปฏิบัติแล้ว ความเร็วสูงสุดที่ให้บริการ เช่นอย่าง 4G แบบ CAT4 ที่ความเร็ว 150 Mbps เนี่ย จริงๆแล้ว มันหารโดยจำนวนผู้ใช้ทั้งหมดใน Cell Site นั้นๆนะครับ ถ้ามีกัน 100 คน ความเร็วก็หารร้อยนั่นแหละ

แถมคนเรายังสูบ Data มากขึ้นทุกที ดูวีดีโอออนไลน์กันเป็นว่าเล่น ยังไงถ้าเกิดไม่พัฒนาเครือข่าย 5G ไว้ ซักวันพอมีคนใช้งานเป็นปริมาณเยอะๆ สุดท้าย 4G ที่ว่าแน่ ก็ไม่พอใช้อยู่ดีครับ

from:http://www.techoffside.com/2015/02/%e0%b9%80%e0%b8%84%e0%b8%a3%e0%b8%b7%e0%b8%ad%e0%b8%82%e0%b9%88%e0%b8%b2%e0%b8%a2-5g-%e0%b9%81%e0%b8%a3%e0%b8%87-%e0%b8%81%e0%b8%a7%e0%b9%88%e0%b8%b2-4g/

[ข่าวลือ] Nexus ตัวต่อไปจะได้ LG และผู้ผลิตจีนรายหนึ่งมารับช่วง (คาดเป็น Huawei)

แหล่งข่าวในจีน GizmoChina รายงานว่า Google อาจร่วมมือผลิต Nexus Phone รุ่นต่อไปกับผู้ผลิตในจีนรายหนึ่ง (GizmoChina คาดว่าจะเป็น Huawei) ซึ่งอาจจะเปิดตัวปลายปีนี้

แหล่งข่าวบอกว่าปีนี้จะมี Nexus สองตัว ตัวแรกผลิตโดย LG ส่วนตัวที่สองบอกเพียงว่าเป็นผู้ผลิตจากจีน ซึ่งก็เป็นไปได้ว่าจะเป็น Huawei และเป็นไปได้ว่ารุ่นที่ผลิตโดยผู้ผลิตจากจีนอาจจะใช้ชิปเซ็ตของตนแทนของ Qualcomm

เว็บไซต์ SlashGear ยังได้รับภาพเครื่อง mock up ของ Huawei Honor 6 Plus มาเป็นจำนวนมาก โดยที่ตัวเครื่องมีการสกรีนแบรนด์ Nexus ไว้บนฝาหลัง อย่างไรก็ตามภาพดังกล่าวยังไม่ได้รับการยืนยันจาก Google และ Huawei แต่อย่างใด

ที่มา – GSMArena, SlashGear, GizmoChina

Google Nexus, Android, Huawei, Rumor, LG

from:https://www.blognone.com/node/66165

PhotoMath แอพแก้โจทย์คณิตศาสตร์ ด้วยการถ่ายรูป (มี Ver. Android แล้ว)

เมื่อปีที่แล้วมีแอพให้วงการนักเรียนนักศึกษาออกมานั่นคือ PhotoMath เป็นแอพที่ให้ช่วยแก้โจทย์คณิตศาสตร์ ใช้งานง่ายๆ เพียงแค่เปิดแอพ แล้วส่องไปที่โจทย์ที่ต้องการ ตัวแอพจะแสดงผลคำตอบ และเราสามารถดูวิธีทำ แบบเป็นขั้นตอนทีละสเต็ป …ล่าสุดตอนนี้ PhotoMath ได้เปิดตัวเวอร์ชั่นสำหรับ Android ออกมาแล้วครับ

PhotoMath จะช่วยเหล่านักเรียน นักศึกษา ในการตรวจคำตอบ ว่าที่เราได้ฝึกทำโจทย์ไปนั้น ถูกต้องหรือไม่ ผิดขั้นตอนไหน ก็สามารถกดสเต็ป เพื่อตรวจคำตอบได้ แต่แอพฯ นี้ มันอาจจะเป็นฝันร้ายของครูสอนวิชาคณิตศาสตร์ก็ได้ 😛

แอพพลิเคชั่นมีประโยชน์อย่างมาก ถ้าเรารู้จักใช้มันอย่างถูกวิธี คณิตศาสตร์สอนให้เรารู้จัก และเรียนรู้วิธีคิดอย่างเป็นระบบ เป็นขั้นตอน เพื่อที่จะสามารถนำมาใช้แก้ปัญหาต่างๆ ในชีวิตประจำวันได้

ดาวน์โหลดแอพ PhotoMath

Available on the App Store

Get it on Google play


from:http://feedproxy.google.com/~r/9tana/~3/HFCsLvwQ0fs/

PhotoMath แอพแก้โจทย์คณิตศาสตร์ ด้วยการถ่ายรูป (มี Ver. Android แล้ว)

เมื่อปีที่แล้วมีแอพให้วงการนักเรียนนักศึกษาออกมานั่นคือ PhotoMath เป็นแอพที่ให้ช่วยแก้โจทย์คณิตศาสตร์ ใช้งานง่ายๆ เพียงแค่เปิดแอพ แล้วส่องไปที่โจทย์ที่ต้องการ ตัวแอพจะแสดงผลคำตอบ และเราสามารถดูวิธีทำ แบบเป็นขั้นตอนทีละสเต็ป …ล่าสุดตอนนี้ PhotoMath ได้เปิดตัวเวอร์ชั่นสำหรับ Android ออกมาแล้วครับ

PhotoMath จะช่วยเหล่านักเรียน นักศึกษา ในการตรวจคำตอบ ว่าที่เราได้ฝึกทำโจทย์ไปนั้น ถูกต้องหรือไม่ ผิดขั้นตอนไหน ก็สามารถกดสเต็ป เพื่อตรวจคำตอบได้ แต่แอพฯ นี้ มันอาจจะเป็นฝันร้ายของครูสอนวิชาคณิตศาสตร์ก็ได้ 😛

แอพพลิเคชั่นมีประโยชน์อย่างมาก ถ้าเรารู้จักใช้มันอย่างถูกวิธี คณิตศาสตร์สอนให้เรารู้จัก และเรียนรู้วิธีคิดอย่างเป็นระบบ เป็นขั้นตอน เพื่อที่จะสามารถนำมาใช้แก้ปัญหาต่างๆ ในชีวิตประจำวันได้

ดาวน์โหลดแอพ PhotoMath

Available on the App Store

Get it on Google play

from:http://www.9tana.com/node/photomath/

YouTube for Android เพิ่มฟีเจอร์ตัดหัว-ท้ายวิดีโอ (Trimming)

แอพ YouTube for Android เพิ่มฟีเจอร์เอาใจคนชอบอัพโหลดวิดีโอจากสมาร์ทโฟน โดยใส่ฟีเจอร์ตัดวิดีโอแบบง่ายๆ (video trimming คือตัดหัวตัดท้าย) เข้ามาด้วย วิธีการใช้งานก็ไม่ยากอะไรคือลากแถบเลื่อนเพื่อเลือกช่วงวิดีโอที่ต้องการอัพโหลดก็เรียบร้อยแล้ว

นอกจากนี้แอพ YouTube รุ่นนี้ยังพรีวิววิดีโอก่อนอัพโหลด และกูเกิลบอกว่ามันยังอัพโหลดได้เร็วขึ้นอีกด้วย

ที่มา – +YouTube Creators

YouTube, Android, Google, Video Editing

from:https://www.blognone.com/node/66164

Software Engineer ของ Facebook สามารถเข้าถึงบัญชีของเราได้ โดยที่ไม่ต้องใช้ Password

เครือข่ายสังคมออนไลน์ที่ใหญ่สุดในโลก มีคนใช้งานกว่า 1,000 ล้านคน .. แต่ตัว วิศวกรซอฟท์แวร์ของ Facebook สามารถเข้ามาในบัญชีของเราได้โดยที่ไม่ต้องใช้รหัสผ่านของเรา มันหมายฟายว่าไงฟระ!

เรื่องของเรื่องก็คือ นาย Paavo Siljamaki ซึ่งเป็นผู้อำนวยการค่ายเพลง Anjunabeats ได้เข้าไปเยี่ยมชมสำนักงานของ Facebook ใน Los Angeles เมื่อเจ้าหน้าที่ของ Facebook คนนึงได้ขออนุญาตเข้าไปใน Facebook Account ของเขาเพื่อจัดการอะไรบางอย่าง

ซึ่งหลังจากได้รับอนุญาต เจ้าหน้าที่ก็เข้าไปยังบัญชีของเขาได้ทันที โดยไม่ต้องใช้รหัสผ่านของเขาเลย ซึ่ง Paavo ก็ได้ Post เรื่องราวนี้ใน Facebook พร้อมทั้งสอบถามเรื่องนี้ ว่ามีเจ้าหน้าที่ของ Facebook กี่คนกัน ที่สามารถทำเรื่องแบบนี้ได้

ทาง Facebook ตอบกลับมาว่า สำหรับการเข้าถึงข้อมูลของผู้ใช้ทาง Facebook ได้มีการตรวจสอบร่วมกับบริษัทนอกที่ทำหน้าที่ยืนยันเรื่องนี้โดยเฉพาะ ซึ่งทำตามขั้นตอนการตรวจสอบของ Irish Data Protection Commissioner’s Office หลายครั้งเพื่อให้มั่นใจในขั้นตอนนี้

ส่วนเจ้าหน้าที่ระดับไหนบ้างที่สามารถทำแบบนี้ได้ ทาง Facebook ตอบแบบอ้อมๆมาว่า มีเพียงเจ้าหน้าที่ ที่ได้รับมอบหมายงานเฉพาะบางส่วนเท่านั้นที่สามารถเข้าถึงข้อมูลแบบนี้ได้  และ ทาง Facebook ยังไม่เคยมีประวัติ พนักงานคนไหนไปยุ่มย่ามกับข้อมูลส่วนนี้ ซึ่งใครก่อเรื่องขึ้นมาจะโดนไล่ออกทันที

ความเห็นจากทีมข่าวล้ำหน้า

สรุปคร่าวๆก็คือ เพื่อเป็นการช่วยให้เจ้าหน้าที่ของ Facebook สามารถสนับสนุน และ แก้ไขปัญหาของผู้ใช้ได้ ก็เลยทำเครื่องมือให้พนักงานเหล่านี้เข้าถึงบัญชีผู้ใช้งานได้สะดวกมากขึ้น แต่ก็จะเข้าถึงข้อมูลบางอย่างไม่ได้ และถ้าใครทำเรื่องเวรกรรมขึ้นมาโดยใช้เครื่องมือเหล่านี้ จะถูกไล่ออกทันที

เอิ่มมมม สรุปว่า มีคนเข้าดู Post / Feed ของเราได้ โดยที่ไม่ต้องใช้ Password ของเราครับ จ๊ากกกกก

 

from:http://www.techoffside.com/2015/02/facebook-access-our-account/

Uber แถลง ถูกเจาะดาต้าเบสตั้งแต่ปีที่แล้ว ข้อมูลคนขับรั่วไหล 50,000 ราย

วันนี้ทาง Uber ออกมาประกาศว่ามีข้อมูลจากดาต้าเบสรั่วไหลจากการถูกเจาะเมื่อปีที่แล้ว ถือเป็นเรื่องเกี่ยวกับ Uber ที่น่าตกใจยิ่งกว่าถูกแบนในหลายๆ ประเทศซะอีก

เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 13 พฤษภาคมปีที่แล้ว โดยข้อมูลที่รั่วออกไปก็คือชื่อ หมายเลขใบอนุญาตขับขี่ของคนขับรถ Uber ราวๆ 50,000 คนจากหลายๆ พื้นที่ โดยทาง Uber ระบุว่าตัวเลขดังกล่าวยังถือเป็นเปอร์เซนต์ที่น้อยมาก เมื่อเทียบกับจำนวนผู้ขับขี่ทั้งในปัจจุบัน และจนถึงตอนนี้ ยังไม่ได้รับรายงานว่ามีการขำเอาข้อมูลเหล่านั้นไปใช้ในทางไม่ควรแต่อย่างใด

uber

ในขณะนี้ Uber ได้ทำการแจ้งไปยังผู้ขับขี่เหล่านั้นเรียบร้อยแล้ว

Uber ได้แจ้งไว้ในบล็อกของตัวเองว่าเริ่มพบการรั่วไหลของข้อมูลดังกล่าวเมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว ทำให้ทางบริษัทต้องปรับเปลี่ยนวิธีการจัดเก็บและเข้าถึง รวมทั้งเริ่มทำการสืบสวน และทางบริษัทก็ไม่ได้แจ้งว่าทำไมต้องปล่อยเวลาให้ผ่านมานานขนาดนี้ กว่าจะออกมาบอกให้สาธารณะชนรับรู้และแจ้งเตือนผู้ขับขี่

นอกจากนี้ สิ่งที่ Uber ได้พยายามชดเชยให้กับคนขับรถที่ข้อมูลรั่วไหลคือ การให้เป็นสมาชิกของ Experian’s ProtectMyID Alert บริการป้องกันการขโมย ID แบบฟรีๆ เป็นเวลา 1 ปีเต็ม และดำเนินการฟ้องร้องผู้ก่อเหตุต่อไป เรื่องตลกคือ ทาง Uber ใส่ชื่อแฮ็คเกอร์ว่า “John Doe” เอาไว้ในเอกสารฟ้องร้อง

ที่มา : Techcrunch

from:http://thumbsup.in.th/2015/02/uber-database-breach-exposed-information-of-50000-drivers/