นอกจากโปรของทรูแล้ว ทางฝั่ง AIS ก็มีแพ็กเสริมแบบเดียวกันออกมาด้วยครับ เพียงเปิดเบอร์ใหม่ AIS แบบเติมเงิน สามารถสมัครแพ็กเสริมเล่นเน็ต 4Mbps ปริมาณ 32GB เพียงเดือนละ 100 บาท หรือ 100GB เดือนละ 200 บาท (รวม vat. แล้ว) สมัครได้ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2562
แนะนำแพ็กเกจเน็ตสุดคุ้มสำหรับคนใช้เบอร์ทรูแบบเติมเงิน ชื่อแพ็กเกจเสริม “สุขใจเถ้าแก่” แพ็กเกจเสริม สุขใจเถ้าแก่ เน็ตความเร็ว 4Mbps ปริมาณ 30GB ราคา 100 บาท และ แพ็กเกจเสริม สุขใจเถ้าแก่ เน็ตความเร็ว 4Mbps ปริมาณ 100GB ราคา 200 บาท พร้อมโทรฟรีได้ทุกเครือข่ายไม่อั้น เปิดให้สมัครได้เฉพาะซิมแบบเติมเงินที่เปิดใช้งานใหม่เท่านั้น (ซื้อซิมใหม่ที่เซเว่นฯ 49 บาท) สมัครได้ถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2562
กลุ่ม IHG ประกาศเปลี่ยนอุปกรณ์ของใช้ในห้องน้ำ เป็นขนาดใหญ่ชนิดเติมได้ เพื่อลดขยะพลาสติกปีละ 200 ล้านชิ้น ปรับใช้กับดรงแรมในเครือ 5,600 แห่งทั่วโลก
ใครที่ได้ไปเที่ยวพักผ่อน หรือไปทำงานแล้วต้องเข้าพักโรงแรมบ่อยๆ คงจะคุ้นเคยกับเซ็ตอุปกรณ์ของใช้ในห้องน้ำ ไม่ว่าจะเป็นแชมพู สบู่เหลว ครีมนวดผม โลชั่นทาผิว แปรงสีฟันต่างๆ ซึ่งบางโรงแรมจะเป็นเซ็ตขวดเล็กๆ แต่บางโรงแรมก็จะเป็นขวดใหญ่ๆ ที่สามารถรีฟิลใส่ได้เรื่อยๆ
ข้อดีของเซ็ตอุปกรณ์ขวดเล็กๆ นี้ก็คือ ผู้เข้าพักสามารถเก็บเป็นที่ระลึกได้ นำกลับไปใช้ที่บ้านได้ แต่ข้อเสียก็คือ สร้างขยะพลาสติกมากขึ้นอีกมากมายมหาศาล จึงกลายเป็นอีกประเด็นสำคัญทางธุรกิจในยุคนี้เช่นกัน
และก็เป็นการเคลื่อนไหวครั้งสำคัญในวงการโรงแรม เมื่อกลุ่มอินเตอร์คอนติเนนตัล โฮเต็ล กรุ๊ป (IHG®) เจ้าของธุรกิจโรงแรมระดับโลกได้ประกาศถึงนโยบายในการลดขยะพลาสติก
โดยที่จะมีการเปลี่ยนอุปกรณ์ของใช้ในห้องน้ำทั้งแชมพู สบู่ ครีมนวดผมที่แต่เดิมจะเป็นขวดขนาดเล็ก จะมีการเปลี่ยนเป็นขวดขนาดใหญ่ที่สามารถเติมได้เรื่อยๆ จะมีการปรับใช้กับห้องพักจำนวนกว่า 843,000 ห้องจากโรงแรมทั้งหมดในเครือ 5,600 แห่งทั่วโลก
ถือว่าเป็นแนวทางความยั่งยืนในการรักษาสิ่งแวดล้อมด้วยการลดปริมาณของพลาสติก ซึ่งถือเป็นธุรกิจโรงแรมระดับโลกที่แรกที่บอกว่าโรงแรมทั้งหมดในเครือจะลดปริมาณของใช้ และอุปกรณ์ขนาดเล็กในห้องน้ำ มีการตั้งเป้าว่าจะปรับใช้กับโรงแรมทั้งหมดให้สำเร็จภายในปี 2021
คีธ บาร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ IHG กล่าวว่า
“การที่บริษัทในเครือกระตุ้นและท้าทายตัวเองด้วยการรับผิดชอบในการดำเนินธุรกิจนับเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง ซึ่งเรามีความเข้าใจอย่างดีถึงสิ่งที่คาดหวังของแต่ละกลุ่ม อาทิ แขกผู้เข้าพัก เจ้าของธุรกิจ พนักงานบริษัท นักลงทุน และซัพพลายเออร์ เป็นต้น การที่โรงแรมมากกว่า 5,600 แห่งจากทั่วโลกมีเป้าหมายเดียวกันที่จะเปลี่ยนไปใช้ของใช้และอุปกรณ์ขนาดใหญ่ขึ้นในห้องน้ำ ถือเป็นก้าวสำคัญครั้งยิ่งใหญ่ที่จะช่วยลดปริมาณขยะพลาสติกและรักษาสิ่งแวดล้อมในปัจจุบัน”
ปัจจุบันโรงแรมในเครือ IHG มีการใช้ของใช้ และอุปกรณ์ขนาดเล็กในห้องน้ำโดยเฉลี่ย 200 ล้านชิ้นต่อปี โดยมาตรฐานใหม่นี้ได้เริ่มดำเนินการแล้ว และตั้งเป้าให้สำเร็จภายในปี 2021
ซึ่งบริษัทคาดหวังที่จะได้เห็นปริมาณขยะพลาสติกที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้นโยบายดังกล่าวเป็นการสานต่อจากเป้าหมายที่ IHG ตั้งเป้าไว้โดยให้โรงแรมในเครือหยุดการใช้หลอดพลาสติกภายในสิ้นปี 2019 และขณะนี้การลดปริมาณขยะพลาสติกอยู่ในระดับที่น่าพอใจ
ตอนนี้ IHG ได้ทดลองการเปลี่ยนไปใช้ของใช้ และขวดขนาดใหญ่ที่สามารถเติมได้ในห้องน้ำแล้วเรียบร้อย ซึ่งพฤติกรรมผู้บริโภคมีการตอบรับที่ดี ไม่ว่าจะเป็นการเข้าพักแบบมาทำงานหรือแบบพักผ่อน แขกที่มาเข้าพักในโรงแรมล้วนใส่ใจด้านความยั่งยืนมากขึ้น โดยไม่กระทบต่อคุณภาพประสบการณ์ที่แขกจะได้รับ ซึ่งโรงแรมหลายโรงแรมในเครือ IHG ประสบความสำเร็จและได้รับผลตอบรับที่ดีจากแขกที่เข้าพัก ทั้งด้านคุณภาพของของใช้และอุปกรณ์ในห้องน้ำ รวมถึงข้อเสนอที่เพิ่มขึ้น
ร่วมรณรงค์ลดการใช้พลาสติก
ทั้งนี้ IHG มีกิจการแฟรนไชส์ กิจการที่ได้รับสัญญาการบริหารในฐานะผู้จัดการ หรือเป็นเจ้าของโรงแรมจำนวนมากถึง 5,600 แห่ง มีห้องพักรองรับผู้เข้าพักมากกว่า 843,000 ห้องใน 100 ประเทศทั่วโลก และยังมีโรงแรมอีกกว่า 1,900 แห่งที่อยู่ในจำนวนโรงแรมที่กำลังจะได้รับการพัฒนาต่อไป
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา
บริษัทวิจัยตลาด Strategy Analytics และ Counterpoint รายงานส่วนแบ่งและยอดจัดส่งสมาร์ทโฟนทั่วโลกในไตรมาสที่ 2 ปี 2019 ซึ่งทั้ง 2 แห่งได้ให้ข้อมูลที่ใกล้เคียงกัน Samsung ยังคงรักษาเบอร์หนึ่งเอาไว้อย่างเหนียวแน่น ตามมาด้วย Huawei และ Apple
ข้อมูลจาก Strategy Analytics พบว่าในไตรมาสที่ 2 ปีนี้ มียอดจัดส่งสมาร์ทโฟนทั่วโลก 341.4 ล้านเครื่อง ลดลง 2.6% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว
Samsung มียอดจัดส่งเพิ่มขึ้น 1.9% ครองส่วนแบ่งมากที่สุด 22.3% ตามมาด้วย Huawei มียอดจัดส่งเพิ่มขึ้น 1.7% ครองส่วนแบ่งเป็นอันดับสอง 17.2% ขณะที่ Apple มียอดจัดส่งลดลงเล็กน้อย 0.7% ครองส่วนแบ่งเป็นอันดับสาม 11.1%
ทางด้าน Counterpoint ก็ให้ข้อมูลคล้ายกับ Strategy Analytics โดย 5 อันดับบนของผู้ผลิตสมาร์ทโฟนรายใหญ่ยังคงเป็น Samsung, Huawei, Apple, Xiaomi และ OPPO ตามลำดับ ซึ่ง 3 อันดับบนสุดครองส่วนแบ่งร่วมกันในตลาด 45%
ข้อมูลจาก Counterpoint พบว่า LG มียอดขายแย่ที่สุด ลดลง 18.5% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ขณะที่แบรนด์ realme มียอดจัดส่งเติบโตขึ้นถึง 848%
Spotify ประกาศผลประกอบการประจำไตรมาส 2/2019 มีสถิติที่น่าสนใจดังนี้
ช่วงรอบปีที่ผ่านมา Spotify หันมาทุ่ม podcast แบบสุดตัว ทั้ง ออกแบบหน้า Library ใหม่ แยกเมนู podcast ออกมาให้ชัดเจน, เพิ่มเพลย์ลิสต์ Daily Drive ที่มี podcast รวมกับเพลงด้วย, เซ็นสัญญากับบริษัท Higher Groud ของโอบามา ทำ podcast แบบเอ็กซ์คลูซีฟ รวมถึง ซื้อกิจการ Gimlet Media ผู้ผลิตเนื้อหา podcast ชื่อดัง ซึ่งตัวเลขผู้ใช้งาน podcast ที่เติบโตขึ้น ก็สะท้อนผลงานของ Spotify ในการผลักดันให้เกิด
ที่มา – Spotify (PDF)
นักวิจัยด้านความปลอดภัยตรวจพบมัลแวร์ดูดข้อมูลที่เจาะกลุ่มเหยื่ออุปกรณ์พกพาแบบแอนดรอยด์ โดยใช้ชื่อว่า Monokle คอยเจาะความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ด้วยการจารกรรมข้อมูล และวิเคราะห์กรองข้อมูลที่ได้ส่งกลับไปยังเซิร์ฟเวอร์ควบคุม
โดยนักวิจัยจาก Lookout พบความเชื่อมโยงระหว่างมัลแวร์นี้กับคู่สัญญาด้านกลาโหมจากรัสเซียที่ชื่อ STC สำหรับมัลแวร์นี้ทำงานทั้งเชิงรุกและเชิงตั้งรับ โดยเลือกผู้ใช้อย่างเจาะจง ใช้ประโยชน์จากบริการด้าน Axxessibility บนแอนดรอยด์ในการดูดข้อมูล
ทาง Lookout พบว่ามัลแวร์ใช้อินเทอร์เฟซที่แชร์กันระหว่างแอพพลิเคชั่นที่ได้รับอนุญาตเป็นทางการควบค่กับของตัวมัลแวร์ที่พัฒนาขึ้นโดย STC ซึ่งมัลแวร์นี้สามารถติดตั้งใบเซอร์ที่จำเพาะกับการโจมตีเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้ระบบ
มัลแวร์ยังสามารถเปิดใช้ MITM บนทราฟิก TLS ด้วย โดยพบพฤติกรรมนี้ในแอพทางการชื่อดังทั้งหลายที่ถูกฝังโทรจันไม่ว่าจะเป็น Skype, Google Update, Signal, Es Explorerเป็นต้น จนพบการระบาดในวงกว้าง มีความพยายามในการบันทึกภาพหน้าจอระหว่างการปลดล็อกเพื่อดูดข้อมูลพินหรือรหัสผ่าน
from:https://www.enterpriseitpro.net/monokle-mobile-surveillance-malware-developed-by-russian/
DJI เปิดตัว DJI Digital FPV System เป็นชุดอุปกรณ์สำหรับกลุ่มใช้งาน first-person view หรือ FPV ที่ให้ผู้ใช้ใส่แว่นตาเพื่อให้เห็นภาพจากอุปกรณ์และบังคับอุปกรณ์นั้น ๆ
ชุดอุปกรณ์ FPV มีอุปกรณ์สี่อย่าง คือ DJI FPV Air Unit Module (ตัวส่งสัญญาณ), DJI FPV Camera (กล้อง), DJI FPV Goggles (แว่นตา) และ DJI FPV Remote Controller โดย DJI ใช้เทคโนโลยีส่งสัญญาณแบบดิจิทัล ต่างจาก FPV แบบเดิมที่มักจะใช้อะนาล็อก ทำให้ได้ภาพที่ชัดสุดถึง 720p ที่ 60 หรือ 120 เฟรมต่อวินาที มี latency สูงสุดเพียง 28 มิลลิวินาทีจากระยะ 2.5 ไมล์
ตัวอุปกรณ์ FPV Air Unit สามารถอัด live feed ที่ 1080p/60fps หรือ 720p/120fps เก็บลงการ์ด microSD ได้ด้วย ส่วนตัวแว่นก็อัด live feed ที่ 720p/60fps เก็บลง microSD ได้เช่นกัน รวมถึงหากเกิดการแครช ตัวอัดวิดีโอในแว่นตาสามารถเปิดวิดีโอย้อนดูได้ด้วยว่าโดรนตกที่ไหน
ตัวกล้องของ DJI FPV เป็นเลนส์มุมกว้าง 150 องศา จึงให้ภาพที่กว้างมาก ตัวกล้องมีโหมดให้ปรับ 3 โหมด คือ โหมดมาตรฐาน เน้นรักษาคุณภาพของภาพ, โหมดแข่งขัน เน้นความอิ่มสีให้จำแนกความต่างของสีได้ง่าย และโหมด LED ที่เหมาะกับการใช้งานในสภาพแสงน้อย
ลักษณะการใช้งาน FPV มีหลากหลาย ตั้งแต่การใช้ในงานแข่งโดรน ไปจนถึงพื้นที่ที่คนเข้าไปยากและต้องใช้โดรนถ่ายทำ เช่น การถ่ายทอดสดกีฬา, ถ่ายทำภาพยนตร์ เป็นต้น
DJI FPV System มีให้เลือกสองชุด
ที่มา – The Verge, DJI, Engadget
เป็นที่ทราบกันดีว่าทางกลุ่มทรูได้ลิขสิทธิ์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ ฤดูกาลที่ 2018/2019 ถึง 2021/2022 ซึ่งในฤดูกาลที่จะถึงนี้ทรูวิชั่นส์ เริ่มถ่ายตั้งแต่คู่แรก วันที่ 9 สิงหาคมนี้ และครบจนถึงแมตช์สุดท้าย รวม 380 แมตช์ ผ่านแพ็กเกจที่ชื่อว่า True Premier Football HD Plus เริ่มต้นที่เดือนละ 199 บาท ขึ้นอยู่กับแพ็กเกจและประเภทของการสมัคร ดังตารางด้านล่างนี้
โดยแพ็เกจ True Premier Football HD Plus จะมาพร้อมกับช่องทีวี 9 ช่อง เป็นช่องที่ถ่ายทอดสดเฉพาะฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษเลย 6 ช่อง ส่วนอีก 3 ช่อง เป็นช่องสำหรับฟุตบอลไทยลีก และเจลีก
พร้อมกันนี้ทาง True Visions จะมีการถอดช่องในกลุ่มของ beIN SPORTS ออก เริ่มตั้งแต่วันที่ 10 สิงหาคม 2562 เป็นต้นไป นั่นหมายความว่าจะไม่สามารถรับชมฟุตบอลลีกอื่นๆ ที่ทาง beIN SPORTS ถือลิขสิทธิ์ผ่านทางช่องของทรูได้อีกต่อไป
สำหรับคนที่เป็นแฟน เซเรีย อา, ลาลีก้า, ลีกเอิง และรายการฟุตบอลถ้วยอย่าง เอฟเอคัพ คงต้องตามไปสมัครแพ็กเกจ beIN SPORTS CONNECT ซึ่งตอนนี้มีโปรโมชั่น SEASON PASS ให้ดูได้ยาวๆ ทั้งฤดูกาล ในราคาเพียง 529 บาท โปรโมชั่นถึง 12 กันยายน 2562 นี้เท่านั้น
from:http://www.9tana.com/node/true-visions-cancel-bein-sports/
ซัมซุงเปิดตัว Galaxy Tab S6 แท็บเล็ตหน้าจอ 10.5″ พร้อมสเปกระดับไฮเอนด์ (อัพเกรดจาก Galaxy Tab 5e ที่เปิดตัวเมื่อต้นปี) และมาพร้อมปากกา S Pen ที่รองรับ Bluetooth LE ใช้เป็นรีโมทควบคุมแท็บเล็ตได้ (เหมือนกับ Galaxy Note 9) มีระยะทำงานไกล 10 เมตร
Galaxy Tab S6 ยังมีฟีเจอร์ฮาร์ดแวร์หลายอย่างที่นำมาจากฝั่งสมาร์ทโฟน เช่น กล้องหลังคู่มุมกว้าง 123 องศา, ตัวสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ, ลำโพง 4 ตัวแบรนด์ AKG รองรับ Dolby Atmos
สเปกของ Galaxy Tab S6 มีดังนี้
ฟีเจอร์อื่นของ Galaxy Tab S6 คือรองรับโหมดเดสก์ท็อป Samsung DeX ในตัว และอุปกรณ์เสริม Book Cover Keyboard ที่มีปุ่มเข้าโหมด DeX ได้ทันที
Galaxy Tab S6 มีให้เลือก 4 สีคือ เทา Mountain Gray, น้ำเงิน Cloud Blue, ชมพู Rose Blush เริ่มวางขายช่วงปลายเดือนสิงหาคม ราคาในสหรัฐเริ่มต้นที่ 649 ดอลลาร์ (ประมาณ 20,000 บาท) รวมปากกาแล้วแต่ยังไม่รวมอุปกรณ์เสริมคีย์บอร์ด
ที่มา – Samsung, Android Police
ก่อนหน้านี้เราเคยนำเสนอภาพเรนเดอร์ Samsung Galaxy Note 10 สีชมพู กันไปแล้ว และก็เป็นอีกครั้งที่ถูกแชร์ออกมาจากอีกแหล่งข่าว ที่สำคัญก็คือ มาพร้อมภาพเรนเดอร์ Galaxy Note 10+ สีขาว Aura White
สำหรับในประเทศไทย Samsung Galaxy Note 10+ ได้ผ่านการรับรองจาก กสทช. แล้ว นั่นหมายถึง Galaxy Note รุ่นใหม่ที่ Samsung พร้อมให้ทำรายการสั่งซื้อล่วงหน้า ก่อนเปิดตัวทางการในวันที่ 7 สิงหาคมนี้ อาจจะหมายถึง Galaxy Note 10+ และคาดว่าจะมีสเปกแตกต่างจาก Galaxy Note 10 ตามตารางด้านล่าง
Exclusive: Here’s your first look at the Samsung Galaxy Note10+ Aura White Colour Option! So yeah, its basically plain white colour, not like the Prism White (Aura Glow is Fancy enough!). Also sharing the render of Galaxy Note10 Pink Colour. Like it?
LINK: https://t.co/QKovTxEknB pic.twitter.com/3KbTEPCBpb— Ishan Agarwal (@ishanagarwal24) July 31, 2019
techfeedthai 