Microsoft ประเทศไทยจับมือ 5 แบรนด์ดังแนะนำอุปกรณ์ Windows 10 รุ่นใหม่

สวัสดีเพื่อนสมาชิก Droidsans ทุกท่านครับ อ่านหัวข้อบทความแล้วอย่าเพิ่งตกใจคิดว่าเข้าผิดเว็บหรือเปล่า เพราะนานๆทีเว็บเราจะเขียนถึงอุปกรณ์ฝั่ง Windows ซึ่งที่จริงเราเปิดกว้างต้อนรับข่าวทุก Platform อยู่แล้ว หลายคนก็ใช้อุปกรณ์ของ Windows เป็นประจำอยู่แล้วล่ะ ล่าสุดทาง Microsoft ประเทศไทย ได้เชิญทาง Droidsans ไปรับฟังข้อมูลเกี่ยวกับ Windows 10 Anniversary Update ตัวล่าสุดและแนะนำอุปกรณ์จาก 5 แบรนด์ดังที่มาพร้อมกับ Windows 10 เวอร์ชันล่าสุดนี้ด้วย มาดูรายละเอียดกันครับ

 

เริ่มต้นกันที่ผู้บริหารของ Microsoft ประเทศไทย คุณเอกราช ปัญจวีณิน ได้ขึ้นมาอัพเดตสถานการณ์ล่าสุดของ Windows 10 ในปัจจุบัน โดยทาง Microsoft เน้นย้ำว่า Windows 10 คือ Windows ที่ดีที่สุดเท่าที่ Microsoft เคยทำมา และอุปกรณ์ Windows ในปัจจุบันล้วนมีคุณภาพสูงสามารถแข่งขันได้กับอุปกรณ์ Platform อื่นๆในตลาดปัจจุบัน

windows-10-anniversary-update-01.jpg

 

โดยเป้าหมายของ Microsoft ที่ทาง Satya Nadella ผู้นำสูงสุดได้กล่าวไว้คือ

Quote:

“เราต้องการทำให้ผู้คนที่ต้องการ Windows กลับมาเลือก Windows และรัก Windows อีกครั้ง”              (We want to move from people needing Windows to choosing Windows, to loving Windows)

และก็ถือเป็นเป้าหมายที่พนักงานในบริษัททุกคนต้องทำให้สำเร็จให้ได้

windows-10-anniversary-update-02.jpg

 

และตอนนี้มีการยืนยันอย่างเป็นทางการแล้วว่า มีจำนวนอุปกรณ์ที่ติดตั้ง Windows 10 แล้ว 400 ล้านเครื่อง

windows-10-anniversary-update-03.jpg

 

Concept ของ Windows 10 คือไม่ได้เจาะจงทำงานเฉพาะบนอุปกรณ์ชนิดใดชนิดหนึ่ง แต่จะเป็น OS ที่ทำงานอยู่บนอุปกรณ์มากมายหลายชนิด และทุกชนิดจะทำงานบน Platform เดียวกัน ใช้งาน Store ร่วมกัน และให้ประสบการณ์ใช้งานแบบเดียวกัน ดังประโยคที่ว่า “One Platform, One Store, One Experience”

windows-10-anniversary-update-04.jpg

 

Windows 10 Anniversary Update

อัพเดตตัวล่าสุดของ Windows 10 ที่มาพร้อมกับความสามารถใหม่ๆมากมาย และการปรับปรุงอะไรหลายๆอย่างให้ดียิ้งขึ้นไปอีก เรียกว่าเป็น Major update ที่ทำให้ Windows 10 สมบูรณ์แบบมากขึ้น เดี๋ยวเรามาดูฟีเจอร์เด่นๆที่ทาง Microsoft หยิบมาพูดให้ฟังกันว่ามีอะไรบ้าง

windows-10-anniversary-update-05.jpg

 

Windows Ink ฟีเจอร์ทีทำมาเพื่อการใช้งานปากกาที่รวดเร็วและมีประโยชน์มากขึ้น โดยเราสามารถกดปุ่มที่ปากกาเพื่อเปิดแถบ Windows Ink ขึ้นแล้ว แล้วทำการจดบนกระดาษโน้ตแปะบนเดสก์ท็อป, หน้ากระดาษแบบเต็มจอ หรือจับภาพหน้าจอแล้วขีดเขียนตามใจได้เลย

 

Windows Hello การเข้าใช้งาน Windows ไม่ได้ขึ้นอยู่กับรหัสผ่านเพียงอย่างเดียวอีกต่อไป เพราะ Windows 10 สามารถรับรู้ใบหน้าหรือลายนิ้วมือของเรา เพื่ออนุญาตให้เข้าใช้งานเครื่องได้ นอกจากนั้นตอนนี้ Windows Hello สามารถทำงานคู่กับแอพต่างๆได้ รวมไปถึงเว็บเบราเซอร์ Microsoft Edge เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการเข้าถึงข้อมูลบนอินเตอร์เน็ตอีกด้วย

 

Dark mode สมัยนี้ใครๆก็ชอบติดตามข่าวสารตลอดเวลาทั้งกลางวันและกลางคืน แต่การจ้องหน้าจอในที่มืดตอนกลางคืนนั้นอาจไม่ดีต่อดวงตามากนัก ใน Windows 10 Anniversary Update จึงมี theme สีดำเพิ่มเข้ามา เพื่อช่วยถนอมดวงตาจากการใช้งานในที่มืดได้

windows-10-anniversary-update-06.jpg

 

Connect แอพที่สามารถทำให้เราแชร์หน้าจอจากเครื่องเราไปยังเครื่องอื่นได้ผ่านทาง Miracast หรือ Wi-Fi Direct นอกจากนั้นเครื่องต้นทางยังสามารถเปิดโอกาสให้เครื่องปลายทางควบคุมเมาส์และคีย์บอร์ดของตัวเองเพื่อใช้งานแบบ Remote Access ได้ด้วย แถมอีกอย่างคือเราสามารถใช้หน้าจอของเครื่องปลายทางเป็นหน้าจอที่ 2 ได้เหมือนกับการเสียบหน้าจอใน notebook เพิ่มนั่นเอง

windows-10-anniversary-update-07.jpg

 

คร่าวๆกันเท่านี้ก่อนสำหรับของใหม่ใน Windows 10 Anniversary Update ยังมีฟีเจอร์อีกมากมายที่ Microsoft เพิ่มเข้ามาใน Windows 10 ใครที่สนใจสามารถอ่านเพิ่มได้จาก Windows blog เลยครับ

https://blogs.windows.com/windowsexperience/2016/08/02/new-video-series-…

 

ในงานนอกจากทาง Microsoft จะมาอัพเดตข้อมูลของ Windows 10 Anniversary Update แล้ว ยังได้เชิญตัวแทนจากแบรนด์ผู้ผลิตสำคัญของ Windows มา 5 แบรนด์ด้วยกัน ได้แก่ Acer, ASUS, Dell, HP และ Lenovo ซึ่งแต่ละแบรนด์ก็ได้มาแนะนำอุปกรณ์รุ่นใหม่ของตัวเองที่รองรับ Windows 10 Anniversary Update เป็นที่เรียบร้อย มาดูกันว่ามีรุ่นไหนน่าสนใจบ้าง

 

Acer Switch Alpha 12 (ข้อมูล)

windows-10-anniversary-update-08.jpg

Notebook แบบ 2 in 1 คือสามารถทำงานได้ทั้งแบบ Laptop และ Tablet ด้วยการแยกคีย์บอร์ออกจากตัวเครื่อง โดยรุ่นนี้มีจุดเด่นที่ระบบระบายความร้อนด้วยของเหลว Acer Liquid Loop ที่เงียบมาก โดยเป็นรุ่นที่เดินตาม Surface Pro แทบทุกอย่าง อุปกรณ์ครบมีทั้งคีย์บอร์ดและปากกา แต่ราคานั้นถูกกว่า Surface Pro ค่อนข้างมาก มี 3 รุ่นตาม CPU Core i3, i5 และ i7 ราคาเริ่มต้น 25,990 บาท

 

ASUS Transformer 3 Pro (ข้อมูล)

windows-10-anniversary-update-09.jpg

ต้นตำรับ Notebook แปลงร่าง 2-in-1 ที่เดินทางมาถึงรุ่นที่ 3 แล้ว โดยรอบนี้ยังคงจัดเต็มเรื่องสเปก, งานออกแบบ และวัสดุที่ใช้มีความหรูหราพรีเมียมมากขึ้น นอกจากนั้นยังมีระบบเสียง SonicMaster Premium ที่ออกแบบร่วมกับ Harman Kardon ผู้ผลิตเครื่องเสียงเยอรมันอีกด้วย จัดหนักมาขนาดนี้ราคาเริ่มต้นที่ 42,990 บาท

 

Dell XPS 13 (ข้อมูล)

windows-10-anniversary-update-10.jpg

Laptop ตระกูลดังของ Dell ที่ยังคงคอนเซ็ปต์ InfinityEdge หรือขอบหน้าจอบางสุดๆ บางจนทำให้ตัว Laptop ที่มีหน้าจอขนาด 13.3 นิ้ว กลับมาขนาดตัวเครื่องโดยรวม (form factor) เท่ากับ Laptop ที่มีขนาดหน้าจอ 11 นิ้วเท่านั้น และทำให้ Dell XPS 13 เป็น Laptop หน้าจอ 13 นิ้วที่ขนาดเล็กที่สุดในโลกอีกด้วย ในส่วนสเปกนั้นไม่น้อยหน้าใครในตลาด มาพร้อมประกัน On-site 2 ปีที่หลายคนชื่นชอบเช่นเดิม

 

HP Spectre (ข้อมูล)

windows-10-anniversary-update-11.jpg

Laptop งานออกแบบสีดำทองสุดหรูหราเหมาะสำหรับผู้บริหารและนักธุรกิจที่เน้นภาพลักษณ์ของอุปกรณ์ที่ใช้งาน เพื่อช่วยเสริมภาพลักษณ์ของตัวเอง โดย Spectre นั้นเป็น Laptop ที่บางที่สุดในโลก แต่อัดแน่นด้วยสเปกระดับท็อปและระบบเสียงที่ HP ออกแบบร่วมกับ Bang & Olufsen อีกด้วย นอกจากยังมีพร้อมประกัน On-site 2 ปีอีกเช่นกัน ราคา 69,900 บาท

 

Lenovo Yoga Book

windows-10-anniversary-update-12.jpg

Notebook แบบ 2-in-1 ที่สร้างความฮือฮามากที่สุดรุ่นหนึ่ง ในงาน IFA 2016 ที่ผ่านมา โดยเป็น Laptop ขนาดเล็กที่มีจุดเด่นในเรื่องหน้าจอสัมผัสและคีย์บอร์ดแบบสัมผัส (ไม่ใช่ปุ่มจริง) ตัวเครื่องสามารถกางออกคล้ายกับสมุดโน้ตจริงๆ มีปากกาใช้เขียนได้ทั้งบนหน้าจอและคีย์บอร์ด และยังสามารถเขียนบนกระดาษจริงแล้วข้อความปรากฏขึ้นบนจอภาพในเครื่องได้เลย ตัวปากการองรับแรงกดถึง 2,048 ระดับ และเอียงมุมได้สูงสุด 100 องศา ไม่ต้องใช้แบตเตอรี่สำหรับปากกาด้วย เครื่องยังไม่วางจำหน่าย อาจจะต้องรอประกาศราคาวันขายจริงอีกที

 

ต้องบอกว่าน่าสนใจทุกรุ่นเลยสำหรับอุปกรณ์ Windows 10 ในปีนี้ ตอนที่ผมไปนั่งฟังเค้าบรรยายแต่ละรุ่นก็รู้สึกว่าน่าซื้อทุกรุ่นเช่นกัน แต่พอดูราคาแล้วก็รู้ว่าตัวเองเหมาะกับรุ่นไหนนะครับ 555 สำหรับคนที่มอง Notebook มาใช้งานสักเครื่องในปีนี้ ขอบอกว่าเป็นช่วงเวลาที่ดีมากๆที่จะได้เสียตังค์กันล่ะครับ วันนี้ผมขอลาไปก่อน สวัสดีครับ

windows-10-anniversary-update-end.jpg

 

from:http://droidsans.com/windows-10-anniversary-update-and-devices

เข้าไทยแล้ว!! Samsung Galaxy S7 edge ระเบิด เหตุเกิดกับหนุ่มเมืองนครศรีธรรมราช

Samsung-Galaxy-S7-edge-burns

มีรายงานเหตุการณ์สมาร์ทโฟนของ Samsung ระเบิดอีกแล้ว คราวนี้ใกล้ตัวมากขึ้น เพราะเกิดขึ้นในประเทศไทย นายหัสถชัย ชื่นสุวรรณ ชาวจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้แจ้งเจ้าหน้าที่จากสำนักงาน กสทช. เขต 12 หลังจากสมาร์ทโฟน Galaxy S7 edge ของตัวเองเกิดระเบิดขึ้นในระหว่างชาร์จแบตเตอรี่

640x390_720689_1475210890

นายหัสถชัย ชื่นสุวรรณ อ้างว่าสมาร์ทโฟนของเขาได้เกิดระเบิดขึ้นโดยไม่ทราบสาเหตุ หลังจากเสียบสายชาร์จแบตเตอรี่ ซึ่งยืนยันว่าเป็นของแท้ที่มากับกล่องบรรจุภัณฑ์ โชคดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ แต่สมาร์ทโฟนได้รับความเสียหายหนักจนไม่สามารถใช้งานได้ โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 28 กันยายนที่ผ่านมา เวลาประมาณ 10.00 น. ส่วนสมาร์ทโฟน Galaxy S7 edge เจ้าตัวบอกว่าได้ซื้อมาใช้งานในระยะหนึ่งแล้ว

720689_0_1475210890

นายชาญณรงค์ แพรกปาน ผู้อำนวยการสำนักงาน กสทช. เขต 12 นครศรีธรรมราช ได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปพบผู้เสียหายแล้ว รายงานว่า นายหัสถชัย ชื่นสุวรรณ ได้ซื้อ Galaxy S7 edge มาจากศูนย์ฯ ในจังหวัดสุราษฎร์ธานี และได้ประสานงานกับทาง Samsung เพื่อดูแลผู้เสียหายและนำสมาร์ทโฟนกลับไปตรวจสอบหาสาเหตุของการระเบิด

galaxy-s7-edge-explosion

นายหัสถชัย ไม่ใช่รายแรกที่พบว่า Samsung Galaxy S7 edge ของตัวเองระเบิดได้ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ก็มีรายงานว่า สมาร์ทโฟนรุ่นเดียวกันนี้ เกิดระเบิดขึ้นในฟิลิปปินส์ เจ้าของคือ Weng Briones โชคดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ อย่างไรก็ตาม โชคก็ไม่ได้เข้าข้างทุกคน Daniel Ramirez ชาวเมืองเทรซี่ รัฐแคลิฟอร์เนีย เป็นเจ้าของ Galaxy S7 edge ด้วยเช่นกัน แต่เขาโชคร้าย เพราะมันระเบิดในระหว่างที่เขาใส่มันไว้ในกระเป่ากางเกง Daniel Ramirez จึงได้รับบาดแผลไฟไหม้ในระดับ 2 และ 3 ตามที่เราเคยนำเสนอไปแล้ว

ที่มา – BangkokBiz News

from:http://www.flashfly.net/wp/?p=160357

เตรียมตัวให้พร้อม!!! Apple ประกาศวางจำหน่าย iPhone 7 ในประเทศไทย 21 ตุลาคมนี้!

รอกันมาก็ค่อนข้างนานว่าเมื่อไหร่ iPhone 7 จะได้ฤกษ์วางจำหน่ายเสียที แต่การรอคอยได้สิ้นสุดลงแล้ว เมื่อแหล่งข่าวยืนยันว่า Apple จะเริ่มทำตลาด iPhone 7 ในประเทศนอกเหนือจากนี้ตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคมเป็นต้นไป โดยบ้านเราจะวางจำหน่ายในวันที่ 21 ตุลาคมนี้

โดยรอบนี้ประเทศผู้โชคดีที่จะมี iPhone 7 ไปวางจำหน่ายนั้น มีดังต่อไปนี้

  • 7 ตุลาคม – อินเดีย, ยูเครน
  • 14 ตุลาคม – มาเก๊า, มาซิโดเนีย, มาเลเซีย, มอนเตเนโกร, แอฟริกาใต้, ตุรกี
  • 21 ตุลาคม – ประเทศไทย และเกาหลีใต้

ว่าแล้วก็เตรียมตัง และรอจับจองเป็นเจ้าของกันได้เลยครับ ^^

ที่มา:
iDownloadBlog


from:http://www.macstroke.com/120472/apple-announce-iphone-7-available-in-more-country-this-october

Amazon เปิดตัวเกมพีซีเกมแรก Breakaway เน้นการถ่ายทอดสดผ่าน Twitch

Amazon Game Studios สตูดิโอพัฒนาเกมของ Amazon เปิดตัวเกมพีซีเป็นครั้งแรก 3 เกมรวด โดยเกมเหล่านี้ถูกออกแบบมาสำหรับยุคการเล่นเกมเพื่อถ่ายทอดสดผ่านสตรีมมิ่ง และแน่นอนว่าผูกติดกับ Twitch บริการถ่ายทอดสดเกมของ Amazon อย่างแนบแน่น

เกมเด่นที่ชูโรงคือ Breakaway เป็นเกมแนวต่อสู้ฟาดฟัน (brawler) ผสมกับฉากที่คล้ายกับเกมตระกูล MOBA รูปแบบการเล่นเกมเป็นมัลติเพลเยอร์แบบ 4×4 โดยผู้เล่นต้องควบคุมตัวละครต่อสู้กัน และมีเป้าหมายเพื่อนำลูกบอลศักดิ์สิทธิ์ relic ไปไว้ที่ฐานของฝ่ายตรงข้ามให้ได้ ผู้เล่นยังสามารถวางวัตถุต่างๆ ลงในฉากช่วงก่อนเริ่มเกม เพื่อให้รูปแบบเกมเพลย์แตกต่างกันไปในการเล่นแต่ละครั้ง

Breakaway ระบุว่าเป็นเกมที่ “สร้างโดย streamer เพื่อ streamer” เกมถูกออกแบบมาให้เล่นโชว์ผู้ชม มุมมองเป็นแบบบุคคลที่สาม ผู้ชมจะเห็นผู้เล่นตลอดเวลา แถมการมี relic เป็นศูนย์กลางของเกม ก็ช่วยให้ผู้ชมติดตามเกมได้ง่ายว่าไปถึงไหนแล้ว (ลักษณะเดียวกับกีฬาฟุตบอล)

ในโอกาสเดียวกัน Twitch ก็เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่มารองรับเกมนี้หลายอย่าง

  • Stream+ ระบบที่ให้ผู้ชมสะสมแต้ม loyalty point จากการรับชม และใช้แต้มเพื่อเชียร์ผู้เล่นแบบเรียลไทม์
  • Twitch Metastream ผู้ชมทุกคนเข้าถึงสถิติของผู้เล่นแบบเรียลไทม์ สร้างกราฟรวบรวมสถิติของตัวเองได้
  • Broadcaster Spotlight แจ้งเตือนให้ผู้เล่นทราบว่ามีผู้เล่นคนอื่นๆ กำลังถ่ายทอดสดเกมเดียวกันหรือไม่ มีผู้รับชมอยู่กี่คน
  • Broadcaster Match Builder ตัวช่วยให้ผู้ถ่ายทอดสดสามารถส่งคำเชิญผู้เล่มมาดูการเล่นได้

เกม Breakaway ถูกพัฒนาโดย Amazon Game Studios สาขา Orange County ในแคลิฟอร์เนีย ซึ่งมาจากการซื้อสตูดิโอ Double Helix Games ในปี 2014 ส่วนตัวเอนจินใช้ Lumberyard เอนจินเกมของ Amazon เองที่พัฒนาจาก CryEngine ของบริษัท CryTek ตอนนี้สถานะของเกมยังอยู่ในขั้นอัลฟ่า

อีกสองเกมที่เหลือคือ New World เกมแนว sandbox ที่มีผู้เล่นจำนวนมากอยู่บนดินแดนต้องสาบ การกระทำของผู้เล่นจะส่งผลต่อสภาพเวลาและอากาศภายในเกม และ Crucicle เกมต่อสู้เพื่อหาผู้ชีวิตคนสุดท้าย โดยมีระบบสร้างพันธมิตรและหักหลังซึ่งกันและกัน สองเกมหลังยังไม่มีคลิปออกมาให้ชม

ที่มา – Amazon, VentureBeat

from:https://www.blognone.com/node/85964

Qualcomm เอาใจผู้ผลิตรายย่อย ชิป Snapdragon 410E/600E มีขายปลีก, ซัพพอร์ต 10 ปี

ธุรกิจชิป SoC นั้นปกติแล้วมักเป็นสินค้าขายส่งที่แม้แต่นักพัฒนาโดยทั่วไปก็ไม่รับรู้ว่าราคาชิปบนบอร์ดนั้นมีต้นทุนเท่าไหร่ หรือหลายตัวต่อให้รู้ก็มักประกาศราคาที่ยอดขายพันชุดที่บริษัทพัฒนาขนาดเล็กไม่สามารถลงทุนซื้อได้ ล่าสุด Qualcomm ก็ประกาศขายชิปสองรุ่นพิเศษ Snapdragon 410E/600E สำหรับงาน IoT และคอมพิวเตอร์ฝังตัวแบบอื่นๆ

ทั้งสองรุ่นมีความพิเศษคือขายผ่านบริษัท Arrow Electronics โดยรุ่น 410E มีขายแล้ววันนี้ที่ราคา 10.36 ดอลลาร์เมื่อซื้อ 2000 ชุด และ 17.283 ดอลลา่ร์เมื่อซื้อชิปเดียว

Snapdragon 410E เป็น Cortex-A53 สี่คอร์ 1.2GHz กราฟิก Adreno 306 ใช้แรม LPDDR2/3 แบบ single channel ที่ 533MHz รองรับสตอเรจ SDIO 3.0 และ eMMC 4.5 เชื่อมต่อได้ทั้ง 8021.22b/g/n, Bluetooth 4.1LE, GPS, USB 2.0 อีกสองพอร์ต ต่อจอภาพได้สองจอผ่าน MIPI-DSI หนึ่งจอ เชื่อมต่อกล้อง MIPI-CSI ที่ความละเอียดสูงสุด 13 ล้านพิกเซล

Snapdragon 600E เป็น Krait 300 สี่คอร์ 1.5GHz กราฟิก Adreno 306 ใช้แรม DDR3/3L แบบ dual-channel รับสตอเรจ SDIO 3.0, eMMC 4.5, และ SATA 3.0 เชื่อมต่อ 802.11a/b/g/n/ac ใช้งานได้ทั้ง 2.4GHz/5GHz รองรับ MIMO 2×2 Bluetooth 4.0LE รองรับ PCIe, USB 2.0 สามพอร์ต และ HSIC จอภาพสูงสุด 4 จอผ่าน MIPI-DSI สองจอ, HDMI หนึ่งจอ, และ LVDS อีกหนึ่งจอ รองรับกล้อง 21 ล้านพิกเซล 3 ชุด

Snapdragon 410E สั่งได้แล้ววันนี้ ส่วน Snapdragon 600E ยังต้องรอประกาศอีกครั้ง

ที่มา – CNX Software

from:https://www.blognone.com/node/85963

อุปกรณ์ Motorola เตรียมพบหน้าบูทเครื่องใหม่ “Hello Moto” พร้อมโลโก้ปีกค้างคาวจะกลับมา

พูดถึงคำว่า “Hello Moto” เชื่อว่าทุกคนคงคุ้นหูกับสโลแกนนี้ดีครับ เพราะนับตั้งแต่ Motorola ใช้สโลแกนนี้ครั้งแรกในช่วงโทรศัพท์ฝาพับรุ่น RAZR ก็นับว่านานเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังมีผู้ใช้หลายต่อหลายคนที่เลือกใช้สโลแกนนี้เป็นริงโทนอีก จึงไม่แปลกครับที่คำว่า “Hello Moto” จะกลายเป็นหนึ่งสัญลักษณ์ของบริษัท ไม่ต่างไปจากโลโก้ตัว M หรือปีกค้างคาวเลย

แต่หลังจากที่ Lenovo ได้ซื้อ Motorola ไปจาก Google ทำให้หลายๆคนเริ่มคิดว่าแบรนด์ Motorola จะเริ่มจางหายไปจากหน้าประวัติศาสตร์อย่างช้าๆ ดังจะเห็นได้ว่าโลโก้ปีกค้างคาวไม่ปรากฎในอุปกรณ์ Moto G4 และ Moto Z ซึ่งมาถึงตอนนี้เหตุการณ์อาจจะไม่ได้เป็นไปอย่างที่ทุกคนคาดคิดครับ เพราะล่าสุดจากทวีตของ Moto US ดูท่าแล้วทาง Lenovo น่าจะอยากเก็บและยึดถือความเป็น Motorola ไว้อยู่

จะเห็นได้จากทวีตด้านบนว่าเป็นคลิปวิดีโอสั้นๆที่มีเสียง “Hello Moto” แบบใหม่ แถมด้วยตอนจบคลิปมีโลโก้ Lenovo โผล่ขึ้นมา ซึ่งเจ้าคลิปนี้แหละครับจะกลายมาเป็นหน้าบูทเครื่องใหม่ของอุปกรณ์ Motorola ทุกรุ่นในปัจจุบัน ส่วนการเปลี่ยนแปลงจะเกิดขึ้นเมื่อไรนั้นทาง Moto US ไม่ได้แจ้งรายละเอียดไว้แต่อย่างใด ยังไงคงต้องมาติดตามดูกันอีกที

ทั้งนี้สำหรับเพื่อนๆคนไหนที่เริ่มสังเกตุเห็นการเปลี่ยนแปลงหรือคิดเห็นอย่างไรกับหน้าอนิเมชั่นบูทเครื่องแบบใหม่นี้ก็สามารถเข้ามาพูดคุยกับเราได้ในแฟนเพจเลยครับ อยากทราบเหมือนกันว่าเพื่อนๆคิดเห็นอย่างไรกันบ้าง โดยเฉพาะช่วงสุดท้ายของคลิปที่มีหมัดมาชกโลโก้ Motorola ปลิวไป แล้วมาชี้ที่โลโก้ Lenovo แทน….

from:https://www.appdisqus.com/2016/10/01/moto-batwing-isnt-going-away-new-boot-animaition-for-all-moto-devices.html

เผยสถาปัตยกรรมเบื้องหลัง Pokemon Go ใช้ Google Cloud, ทราฟฟิกมากกว่าที่คาด 50 เท่า

ถ้ายังจำกันได้ ปัญหาของเกม Pokemon Go ในช่วงแรกๆ คือเซิร์ฟเวอร์ไม่พอกับความต้องการ แต่ท้ายที่สุดแล้วทาง Niantic ก็ไม่เคยเผยข้อมูลว่าเซิร์ฟเวอร์ของ Pokemon Go ใช้ระบบของอะไร

วันนี้ข้อมูลเผยออกมาแล้ว ว่าเป็น Google Cloud Platform ตามที่หลายคนคาดกัน สิ่งที่น่าสนใจคือทราฟฟิกของ Pokemon Go สูงกว่าที่ทีมงานคาดการณ์ไว้ถึง 50 เท่าเลยทีเดียว

เรื่องนี้เปิดเผยโดยทีมงาน Google Cloud Platform ที่ประเมินกันว่าทราฟฟิกระดับ worst case น่าจะมากกว่าทราฟฟิกที่ประเมินไว้ราว 5 เท่า แต่เอาเข้าจริง ทราฟฟิกกลับทะลุความคาดหมายอย่างรวดเร็วภายในเวลาเพียง 15 นาทีหลังเปิดให้ดาวน์โหลดในออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ และจบที่ทราฟฟิกจริงสูงกว่าที่คาดไว้ 50 เท่า

หน้าที่ในการดูแลโหลดระดับนี้เป็นของทีม Google Customer Reliability Engineering (CRE) ทีมใหม่ที่กูเกิลตั้งขึ้นมาเพื่อดูแลลูกค้ารายใหญ่โดยเฉพาะ และลูกค้ารายแรกก็คือ Niantic กับ Pokemon Go นั่นเอง

หลังจากเปิดให้ดาวน์โหลดและทราฟฟิกโตเกินเป้า ทีมงาน Niantic ก็โทรหาทีม Google CRE เพื่อขอความช่วยเหลือทันที เพราะตามแผนต้องเปิดเซิร์ฟเวอร์ให้ผู้เล่นในสหรัฐอเมริกาในวันต่อไป

ทางทีม CRE ก็ตอบรับโดยการเพิ่มขีดความสามารถของคลาวด์แบบเต็มที่ให้ Niantic เพื่อรองรับความต้องการ แต่อุปสรรคก็ยังไม่หมด เพราะตัวเกมมีปัญหาเสถียรภาพ ทั้งสองทีมจึงต้องทำงานร่วมกันเพื่อแก้ปัญหาไปทีละเปลาะ โดยทีม CRE เข้าไปช่วยรีวิวสถาปัตยกรรมของ Pokemon Go ตลอดเวลา

ระบบเบื้องหลัง Pokemon Go ได้แก่

  • Google Cloud Datastore ฐานข้อมูลแบบ NoSQL ไว้เก็บข้อมูลของผู้เล่น
  • ตัวลอจิกของเกม รันอยู่บน Google Container Engine (GKE) ที่ใช้ซอฟต์แวร์จากโครงการ Kubernetes บริการคลัสเตอร์ จุดที่น่าสนใจคือทีมงานต้องเปลี่ยนเวอร์ชันของ GKE กลางคันเพื่อให้รับโหลดได้มากขึ้น ซึ่งต้องระวังไม่ให้ผู้เล่นได้รับผลกระทบ
  • HTTP/S Load Balancer สำหรับกระจายโหลดไปยังเซิร์ฟเวอร์ต่างๆ ตัวนี้เป็นซอฟต์แวร์ใหม่ที่เขียนขึ้นมาแทน Network Load Balancer เดิมของกูเกิล

หลังจากเปิดบริการในสหรัฐแล้ว ทางทีม Niantic และ CRE ก็มีประสบการณ์มากพอ และการปรับระบบเซิร์ฟเวอร์ในช่วงแรก ทั้งการขยายขีดความสามารถคลาวด์ และการปรับมาใช้ GKE กับ HTTP/S Load Balancer เวอร์ชันใหม่ ช่วยให้ระบบสามารถรองรับการเปิดบริการในญี่ปุ่นได้อย่างราบรื่นไม่มีสะดุด

ทีมงาน Google Cloud บอกว่า Pokemon Go คือระบบที่ใช้ Kubernetes บน Google Container Engine ที่ใหญ่ที่สุดตั้งแต่เคยมีมา (ไม่บอกจำนวนที่แน่ชัด แต่บอกว่าเป็นหลัก “หลายหมื่นคอร์”) ทีมงานแก้ไขโค้ดจำนวนมากเพื่อรองรับสเกลระดับนี้ และส่งโค้ดกลับไปยังโครงการโอเพนซอร์สแล้ว

from:https://www.blognone.com/node/85962

Amazon EC2 เพิ่มเครื่อง P2 ใส่การ์ด Tesla K80 แรม 12GB

Amazon EC2 เพิ่มเครื่องประเภทที่ต้องการชิปกราฟิกจากเดิมเครื่องแบบ G2 ที่ให้กราฟิกไม่ระบุรุ่น มาเป็นเครื่อง P2 ที่ให้การ์ด Tesla K80 แรม 12GB

เครื่อง P2 ใช้ซีพียูเป็น Intel Xeon E5-2686v4 พร้อมกับการ์ดเน็ตเวิร์คแบบใหม่ที่สามารถส่งข้อมูลได้สูงสุด 20Gbps เหมาะกับงานที่ต้องการประมวลผลสูง เช่น งานจำลองและงานเรนเดอร์

เครื่องมีให้เลือก 3 แบบ คือ

  • p2.xlarge มาพร้อมการ์ด 1 ใบ แรมกราฟิก 12GB ซีพียู 4 คอร์ แรม 61GB
  • p2.8xlarge มาพร้อมการ์ด 8 ใบ แรมกราฟิก 96GB ซีพียู 32 คอร์ แรม 488GB
  • p2.16xlarge มาพร้อมการ์ด 16 ใบ แรมกราฟิก 192GB ซีพียู 64 คอร์ แรม 732GB

โดยรวมแล้วเครื่อง P2 ใหญ่กว่าเครื่อง G2 ค่อนข้างมาก ถ้าใครไม่ได้ใช้เครื่อง G2 อยู่แล้ว เครื่อง P2 ก็น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่าพอสมควร

ตอนนี้มีให้เลือกเฉพาะในสหรัฐฯ และยุโรปเท่านั้น

ที่มา – BusinessWire

from:https://www.blognone.com/node/85961

Google เลื่อนอัพเดท Android Wear 2.0 ไปปีหน้า พร้อมปล่อย Developer Preview 3 เพิ่ม Play Store แยกสำหรับ Android Wear

หลังจากที่ผ่านมา 2 เดือนนับตั้งแต่ Google ได้ปล่อย Android Wear 2.0 Developer Preview 2 ออกมา ล่าสุดทางบริษัทก็ได้ปล่อยตัว Developer Preview 3 ออกมาให้เหล่านักพัฒนาได้โหลดมาทดสอบกันแล้ว โดยในเวอร์ชันนี้จะเป็นการมาของ Play Store แยกสำหรับอุปกรณ์ Andoid Wear โดยเฉพาะ ซึ่งนับเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เลยทีเดียว

image00

อธิบายก็คือตั้งแต่นี้ต่อไปผู้ใช้จะสามารถโหลดและติดตั้งแอพผ่าน Android Wear ได้เลย ไม่จำเป็นต้องโหลดผ่านสมาร์ทโฟน โดยการมาของฟีเจอร์นี้ทาง Google ระบุเอาไว้ว่าจะช่วยเหล่านักพัฒนาแอพได้อย่างมาก เพราะผู้ใช้จะเข้าถึงแอพต่างๆสำหรับอุปกรณ์ Android Wear ได้ง่ายขึ้นนั่นเอง

ทั้งนี้อัพเดท Developer Preview 3 ยังจะมาพร้อมกับฟีเจอร์ Smart replies ที่จะเข้ามาช่วยให้ผู้ใช้สามารถตอบกลับการแจ้งเตือนต่างๆจากแอพแชทได้ง่ายดายขึ้นด้วยการเลือกคำตอบที่เจ้า Smart replies แนะนำขึ้นมา ไม่ต้องพิมพ์ให้ลำบากเหมือนแต่ก่อนแล้ว

image01

อย่างไรก็ตามถึงแม้การมาของ Developer Preview 3 จะเป็นข่าวดีของเหล่าผู้ใช้ แต่ทว่าทาง Google ก็มีข่าวร้ายมาฝากด้วยเช่นกันนั่นก็คือ บริษัทขอเลื่อนการปล่อยอัพเดท Android Wear 2.0 ไปเป็นช่วงต้นปีหน้านู่นเลย (2017) โดยจะปล่อยออกมาหลังจากที่ Developer Preview 4 ถูกปล่อยออกมาอีกทีครับ

ถึงแม้ว่า Google จะไม่ได้ชี้แจงเหตุผลของการเลื่อนอัพเดทไว้อย่างชัดเจน แต่เชื่อว่าทุกคนคงพอเดาได้ครับว่าถ้าไม่สมบูรณ์เพียงพอ การจะปล่อยเวอร์ช้น Public ออกมาไม่น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีเท่าไรนัก ดังนั้นการประกาศเลื่อนในครั้งนี้จึงถือเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดของบริษัทครับ

from:https://www.appdisqus.com/2016/10/01/android-wear-2-0-gets-delayed-until-early-2017-third-developer-preview-brings-play-store-to-your-wrist.html

Samsung Galaxy A8 (2016) เปิดตัวแล้ว จอ 5.7 นิ้ว ชิพ Exynos 7420 และ RAM 3GB

ในที่สุดก็มาถึงคราวของ Samsung Galaxy A8 บ้างแล้วครับที่ได้รับการอัพเกรดสเปคและเปิดตัวออกมาในเวอร์ชัน 2016 หลังจากที่เป็นข่าวลือในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา โดยการเปิดตัวของ Samsung Galaxy A8 (2016) ถูกจัดขึ้นในประเทศเกาหลีใต้ และจะเริ่มวางขายด้วยราคาเริ่มต้นที่ 649,000 วอน คิดเป็นเงินไทยประมาณ 20,400 บาท ซึ่งถือว่าราคาแพงเอาเรื่องเลย และเพื่อให้แน่ใจว่าราคาแรงขนาดนี้ผู้ใช้จะได้อะไรบ้าง เราไปดูสเปคและรายละเอียดต่างๆของอุปกรณ์กันเลยดีกว่า

gsmarena_002

สเปค Samsung Galaxy A8 (2016)

  • หน้าจอ : AMOLED ขนาด 5.7 นิ้ว ความละเอียด Full HD 1080p
  • ชิพเซท : Samsung Exynos 7420 (ตัวเดียวกับใน Galaxy S6)
  • RAM : 3GB
  • ความจุภายใน : 32GB
  • กล้องหลัง : ความละเอียด 16MP
  • กล้องหน้า : ความละเอียด 8MP
  • แบตเตอรี่ : ความจุ 3,300 mAh
  • ระบบปฏิบัติการ : Android 6.0.1 Marshmallow

samsung-galaxy-a8-2016

ทั้งนี้เจ้า Galaxy A8 (2016) จะมีฟีเจอร์ Always On Display มาให้ รวมทั้งมีเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือถูกฝังมาให้ในปุ่ม Home และแน่นอนครับว่าอุปกรณ์จะรองรับการใช้งานร่วมกับ Samsung Pay ด้วย

อย่างไรก็ตามตอนนี้ทาง Samsung ยังไม่ได้ออกมาชี้แจงใดๆในเรื่องการวางขายในต่างประเทศ ทราบแต่ว่าจะเปิดขายอุปกรณ์ในรุ่นที่มีสีฟ้าแบบพรีออเดอร์ผ่านทาง SK Telecom (ผู้ให้บริการในเกาหลี) ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมเป็นต้นไป

from:https://www.appdisqus.com/2016/10/01/samsung-galaxy-a8-2016-is-finally-official-with-a-5-7-display-exynos-7420-chipset-3gb-of-ram.html