คลังเก็บป้ายกำกับ: REVIEW

Tome เว็บทำ Presentation ด้วย AI แบบง่าย ๆ !

วันนี้ทีมงานจะพามาแนะนำเว็บไซต์ที่ช่วยทำ Presentation ด […] More

from:https://www.iphonemod.net/tome-make-presentation-ai.html?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=tome-make-presentation-ai

REVIEW | รีวิว HUAWEI nova 11 Pro มือถือสายคอนเทนต์จัดจ้าน ด้วยกล้องเซลฟี่คู่ 60MP จอ 120Hz แถมชาร์จไว 100W

HUAWEI nova 11 Pro  มือถือซีรีส์ใหม่ล่าสุดจาก HUAWEI เป็นสมาร์ทโฟนที่เหมาะกับสายเซลฟี่และสายทำคอนเทรต์ Vlog โดยเฉพาะ ด้วยจุดเด่นกล้องถ่ายภาพหน้าคู่แบบ Ultra 60MP ควบคู่กล้องหลัก 50MP จอใหญ่ถึง 6.78 นิ้ว 120Hz , ชาร์จไว 100W แถมเครื่องยังแข็งแกร่งด้วยกระจก Kunlun Glass ราคาเริ่มต้น 19,990 บาท

ดีไซน์เป็นเอกลักษณ์ ด้วยโมโนแกรมจากหนังธรรมชาติ

สมาร์ทโฟน HUAWEI nova 11 Pro เป็นมือถือสายเซลฟี่ที่มาพร้อมดีไซน์ขอบโค้งมน ดูสวยงามจากหนังธรรมชาติ แฝงไปด้วยลวดลายศิลปะแบบ Monogram Vegan Leather ให้ความพรีเมียม พร้อมสลักลาย nova ที่ด้านหลังอย่างลงตัว ส่วนตัวเครื่องมีด้วยกัน 2 สี ได้แก่ สีดำ Black และ สีเขียว Green โดยตัวที่เรานำมารีวิวเป็นสีเขียวเข้ม สัมผัสแรกที่จับรู้สึกถนัดมือ แถมผิวสัมผัสยังให้ความละเอียดอ่อน และสบายมืออีกด้วย

ด้านหลังตัวเครื่องมีวงแหวนกล้องเรียงกันมาสามตัวพร้อมการปั๊มนูนบริเวณกล้องเป็นรูปทรงเม็ดยาให้ความสวยงามมีมิติ ไม่ว่าจะหยิบใช้ไปที่ไหน ก็สามารถอวดความงามของตัวเครื่องได้อย่างเด่นชัด และถ้าทุกคนสังเกตดูจะเห็นว่าปุ่มเพิ่ม-ลดเสียงจะอยู่ด้านขวา ควบคู่ปุ่ม Power ที่มีแถบสีแดงเป็นกิมมิคอีกด้วย

ด้านบนให้ช่องลำโพง และไมโครโฟนสำหรับตัดเสียงรบกวน ส่วนด้านล่างมีทั้งถาดซิมการ์ดรองรับ 2 SIM, ไมโครโฟนสนทนา, พอร์ต USB Type-C และลำโพงคู่สเตอริโอ


หน้าจอใหญ่ ไหลลื่น ทนทานด้วยกระจก Kunlun Glass 10 เท่า

HUAWEI nova 11 Pro มาพร้อมกับเทคโนโลยี Display Turbo บนหน้าจอ OLED  ขนาด 6.78 นิ้ว ให้สัมผัสลื่นไหลด้วยจอแสดงผล Punch Hole Display แบบ OLED 1 พันล้านสี ความละเอียด FHD+ 1200 x 2652 พิกเซล รองรับ HDR10 พร้อมครอบทับด้วยกระจกกันรอย Kunlun Glass ความแข็งแรงทนทานสูงกว่าจอปกตั้ง 10 เท่า ไม่ว่าจะทำตกแค่ไหนก็ยังสบายใจได้ทุกเมื่อ

จะเห็นว่าสีบนหน้าจอสามารถแสดงได้อย่างคมชัดทุกเฉดสี แถมในเรื่องการรับชมความบันเทิงยังดูได้ทุกคอนเทนต์ และใช้เทคโนโลยี Display Turbo เป็นรุ่นแรกที่รองรับ  และอัตตรารีเฟรชเรทสูงสุดที่ 120Hz ยังปรับแสง PWM ได้สูงถึง 1,440 Hz ช่วยให้ดวงตาไม่อ่อนล้าขณะเล่นมือถือ


กล้องหลังคู่เก็บภาพได้น่าประทับใจ

กล้องหลักถ่ายภาพในรุ่นนี้มาด้วยกันทั้งหมด 2 ตัว ประกอบด้วยกล้องหลัก 50 ล้านพิกเซล f/1.9 ที่สามารถซูมดิจิทัลได้ถึง 10 เท่า ควบคู่กับกล้อง Ultra-wide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล f/2.2 สามารถถ่ายมาโครได้ระยะใกล้ด้วยกล้องมาโครที่มีมุมกว้างพิเศษ 112° ในระยะการถ่ายภาพใกล้เพียง 2 ซม.










 

แถมยังจับภาพได้รวดเร็วด้วย AI Snapshot เนื่องจากเลเซอร์โฟกัสขั้นสูง QPD Full-Pixel Precise Focus และเทคโนโลยีชัตเตอร์ zero-delay ทำให้เราสามารถถ่ายภาพได้เป็นธรรมชาติ และยังให้ความคมชัดทั้งกลางวันและกลางคืน ไม่ว่าจะเป็นคน ตึก สัตว์ หรือวัตถุ ก็เก็บภาพได้อย่างน่าประทับใจ



 

กล้องเซลฟี่คู่สุดจัด 60MP ชัดทุกอณู

สำหรับกล้องหน้าใช้กล้องหน้าแบบเจาะรูบนหน้าจอ ใช้กล้องหน้าคู่ทรงเม็ดยา ประกอบด้วยกล้อง Ultra-wide ความละเอียด 60 ล้านพิกเซล f/2.4 โฟกัสอัตโนมัติ รองรับการบันทึกวิดีโอความละเอียด 4K และกล้องถ่ายภาพบุคคล ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล f/2.2 ซูม 2 เท่า ซูมดิจิทัลได้ 5 เท่า ทำให้กล้องหน้ามีระยะใช้งานตั้งแต่ 0.7X – 5X



เปรียบเทียบระยะ 0.7X > 2X > 5X


 

และยังสามารถถ่ายภาพเซลฟี่แบบกลุ่มหรือแบบเดี่ยวโดยให้ระยะของภาพได้โดดเด่น แถมยังดึงความพอร์ตเทรตออกมาได้เป็นธรรมชาติมากขึ้น



 

 

ไม่หมดเพียงเท่านี้ ยังมีลูกเล่นมาให้เพียบเลยในโหมด Beauty ทั้งปรับรูปหน้า, สีผิว, หน้าชัดหลังเบลอ เลือกได้เยอะ แถมยังมีโหมด Vlog มาให้สำหรับคนชอบถ่ายคอนเทนต์ หรือสร้างสีสันในวิดีโออีกด้วย

การถ่ายวิดีโอ

การถ่ายวิดีโอรองรับการถ่ายสูงสุด 3 ความละเอียด ทั้งกล้องหน้า และกล้องหลัง มีตั้งแต่ 720p, 1080p  และ 4k ปรับได้ 60fps สามารถถ่ายวิดีโอหรือ Vlog ได้สบาย ๆ แถมยังมี AIS มาให้เรียกว่ากันสั่นได้นิ่ง จะทำคอนเทนต์แบบไหนก็ได้ตามต้องการ

 

แบตเตอรี่ใช้งานได้เพียงพอ

แบตเตอรี่มีขนาดอยู่ที่ 4,500mAh ใช้งานตั้งแต่เวลา เวลา 13.00 น. – 23.00 น. เป็นเวลา 8 ชั่วโมง ทางเราจะเทสตั้งแต่การใช้โทร, เล่นโซเชียลตอบแชท, รับชมคอนเทนต์ 2 – 3 ชม. เล่นเกมติดต่อกันพักหนึ่ง และออกไปถ่ายภาพทำกิจกรรมข้างนอกด้วย

 

พบว่าแบตเตอรี่เหลืออยู่ที่ราว ๆ 18 – 20% หลังจากใช้อาจจะไม่ได้มีแบตให้เหลือใช้จนข้ามวันแต่สิ่งนี้ไม่เป็นปัญหาค่ะ เพราะ HUAWEI nova 11 Pro รองรับการชาร์จเร็ว 100W ชาร์จ 20-80% ภายใน 10 นาที เรียกว่าเร็วทันใจ

การใช้งานทั่วไป

ใช้ LINE / แอปธนาคาร / เกมฮิต ๆได้ครบ หนึ่งในสิ่งที่คนจะซื้อมือถือ HUAWEI ใช้ซักเครื่องเป็นกังวลกันมากก็คือ…มันมีแอปฮิต ๆ ใน Google Play Store ให้ใช้ได้รึเปล่า? อันนี้ต้องบอกเลยว่าใน HUAWEI AppGallery มีแอปยอดนิยมให้ได้ใช้กันเยอะแยะแล้ว ไม่ว่าจะเป็นแอปอะไรก็สามารถโหลดมาติดตั้งในเครื่องได้เลย



 

หลังจากที่เล่นมาหลายวัน รู้สึกว่าตัวระบบปฏิบัติการ UI EMUI 13 ใช้งานได้ราบรื่นไม่มีติดขัดเลยค่ะ เข้าออกแอปได้สบาย ดูสวยงามด้วยนะ



 

สเปค HUAWEI nova 11 Pro

  • หน้าจอ OLED ขนาด 6.78 นิ้ว ความละเอียด FHD+  รีเฟรชเรท 120Hz ครอบด้วย Kunlun Glass
  • CPU : Qualcomm Snapdragon 778G 4G
  • RAM : 8GB
  • ความจุ ROM : 256GB / 512GB
  • กล้องหลัง 3 ตัว

-กล้องหลักเซนเซอร์ RYYB Ultra Vision ความละเอียด 50MP รูรับแสง (f/1.9)

-กล้อง Ultra-Wide 8MP (f/2.2) ควบคู่ Macro 10X Digital zoom

  • กล้องหน้า  2 ตัว

-กล้อง Wide ความละเอียด 60MP รูรับแสง (f/2.4)
-กล้อง Portrait ความละเอียด 8MP รูรับแสง (f/2.2)

  • การเชื่อมต่อ : Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/6 , Bluetooth 5.2, NFC, GPS, USB-Type C
  • เซนเซอร์ : Gravity sensor / Fingerprint sensor / Gyroscope / Compass /Ambient light sensor
  • แบตเตอรี่ : 4500 mAh ชาร์จไว  100W
  • ขนาด / น้ำหนัก : 164.24 มม. x 74.35 มม. / 188 กรัม
  • ระบบ HarmonyOS 3.0





 

แถมยังสามารถดาวน์โหลดแอปมาใช้งานได้ทุกตัว ไม่ว่าจะช้อปออนไลน์ สั่งอาหาร ฟังเพลง รับชมสื่อบันเทิงใน YouTube, Tiktok, Spotify, instagram และ Facebook แทบทำได้หมด และยังเล่นเกมได้หายห่วง

สำหรับการเล่นเกม จากการทดสอบประสิทธิภาพของ HUAWEI nova 11 Pro ในการใช้งานพบว่าการเล่น PUBG สามารถเล่นลื่นยิงปืนกันได้แหลกลาน จะลุยเดี่ยวหรือหมู่ก็ใส่ได้หมดเลยค่ะ 😎 อีกอย่างที่อยากชื่นชมเรื่องของลำโพงคู่ Stereo เวลาเราเล่นเกมจะได้ยินเสียงค่อนข้างชัดเจนทำให้สนุกขึ้นเยอะ


 

หรือเกมยิงซอมบี้อย่าง Doomsday ก็เล่นได้สนุกตลอดการเดินทาง ไม่ว่าเพื่อนๆ จะเล่นแนวไหนใน HUAWEI AppGallery รองรับได้หมด


สรุป

HUAWEI nova 11 Pro เป็นมือถือที่เหมาะกับคนชอบถ่ายคอนเทนต์ ทำ Vlog เน้นเซลฟี่จ๋า ๆ มากกว่าค่ะ ด้วยสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ตั้งแต่การออกแบบทั้งภายในภายในแบบ  Monogram Vegan Leather คงหนีไม่พ้นการเป็นมือถือไลฟ์สไตล์อย่างโฉบเฉี่ยว เพราะกล้องที่ให้มาอย่างกล้องหน้าคู่แบบอัลตร้า 60MP อีกทั้งการถ่ายวิดีโอได้ระดับ 4K เรียกว่าไม่ธรรมดาเลยทีเดียว แถมวัสดุที่นำมาปรับใช้กับตัวเครื่องยังมีความแข็งแรงเต็มเปี่ยมด้วย Kunlun Glass จะตกเท่าไหนก็ไม่หวั่น จึงเหมาะกับทั้งผู้ชายผู้หญิงที่ต้องการทำให้ชีวิตตัวเองมีสีสันมากขึ้น จะออกไปลุยแมน ๆ หรือถ่ายภาพแบบสายหวานก็ทำได้หมด เพียงพอต่อความต้องการแน่นอน

จุดเด่น

  • หน้าจอสวย ลื่นไหล 120Hz
  • ดีไซน์สวยงามด้วย Monogram Vegan Leather
  • กล้องถ่ายวิดีโอได้ 4K
  • กล้องหน้าถ่ายเซลฟี่คู่ 60MP ถ่ายได้ทุกระยะ
  • กล้องเซลฟี่มีลูกเล่นให้ปรับแต่งเยอะ
  • กระจกทนทานด้วย Kunlun Glass
  • รองรับชาร์จไว 100W
  • เหมาะกับสายถ่ายภาพ สาย Vlog
  • เล่นเกมปรับกราฟฟิคได้ High Quality
  • ลำโพงคู่ Stereo
  • น้ำหนักเบา พกพาง่าย

จุดสังเกต

  • ไม่สามารถเพิ่ม microSD ได้
  • เล่นเกมติดต่อกันแล้วเครื่องค่อนข้างร้อน
  • เล่นติดต่อกันแบตลดลงไว
  • ดู Netflix ไม่ได้

ราคาและการวางจำหน่าย 

HUAWEI nova 11 Pro มีด้วยกันสองสีได้แก่ สีเขียว และสีดำ มาพร้อมของสมนสคุณสุดพิเศษ ถ้าหากเพื่อน ๆ สั่งซื้อตั้งแต่ 24 มิถุนายน 2566 – 9 กรกฎาคม 2566 รับฟรี HUAWEI FreeBuds Pro มูลค่า 5,499 บาท

  • HUAWEI nova 11 Pro 8GB+256GB ราคา 19,990 บาท  

from:https://droidsans.com/review-huawei-nova-11-pro/

รีวิว HUAWEI Nova 11i สมาร์ตโฟนจอใหญ่ 6.8 นิ้ว 90Hz, สนุกกับกล้องเซลฟี่ 16MP พร้อมหน่วยความจำเต็มพิกัด 256GB และชาร์จไว 40W

หลังจากที่ HUAWEI เปิดตัว HUAWEI Nova 11 Series ที่ประเทศจีน ซึ่งประกอบด้วย HUAWEI Nova 11, Nova 11 Pro และ Nova 11 Ultra ที่ประเทศจีนในเดือนเมษายน ตามมาด้วย HUAWEI Nova 11i น้องเล็กที่แอฟริกาใต้เมื่อต้นเดือนพฤษภาคม โดยรุ่นที่นำเข้ามาบ้านเรามี 2 รุ่นด้วยกันคือ HUAWEI Nova 11 Pro และ Nova 11i ซึ่งรุ่นที่ทาง MobileOcta ได้มารีวิวคือรุ่น nova 11i

HUAWEI nova 11i

สเปคเบื้องต้น HUAWEI nova 11i

ขนาด 164.6 x 75.6 x 8.6 มม.
น้ำหนัก 193 กรัม
หน้าจอ จอแสดงผล HUAWEI FullView Display แบบ IPS LCD ความละเอียด FHD+ 1080 x 2388 พิกเซล (385ppi) ขนาด 6.8 นิ้ว ในอัตราส่วน 20:9 โดยมีอัตรารีเฟรชเรท 90Hz และอัตราสุ่มตัวอย่างแบบสัมผัส 270Hz
หน่วยประมวลผล ใช้หน่วยประมวลผลซีพียูแบบ Octa Core ความเร็ว 2.4GHz โดยใช้ชิปเซ็ท Qualcomm Snapdragon 680 4G (6 nm) และหน่วยประมวลผลกราฟิก Adreno 610
RAM 8GB
หน่วยความจำภายในเครื่อง 256GB
microSD Card
ระบบปฏิบัติการ EMUI 13
เชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, dual-band, Bluetooth 5.0 รองรับ BLE, SBC, AAC, พอร์ต USB Type-C 2.0, GPS, GLONASS, GALILEO, BDS, QZSS
กล้องถ่ายภาพ กล้องหลังคู่ AI Dual Camera พร้อมไฟแฟลช LED ประกอบด้วย
– กล้องหลัก ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล และรูรับแสง f/1.8, (wide) และระบบ PDAF
– กล้องตัวที่ 2 เลนส์ Depth ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล, รูรับแสง f/2.4

รองรับการถ่ายภาพความละเอียดสูงสุด 8000 × 6000 พิกเซล
รองรับการบันทึกวิดีโอความละเอียดสูงสุด 1920 × 1080 พิกเซล

โหมดจับภาพกล้องด้านหลัง:
Photo Mode, Portrait Mode, Pro Mode, Panorama Mode, Aperture Mode, Slow-Mo, High-Res Mode

กล้องหน้าเซลฟี่ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2

รองรับการถ่ายภาพความละเอียดสูงสุด 4608 × 3456 พิกเซล
รองรับการถ่ายวิดีโอได้ถึง 1080p

โหมดการจับภาพกล้องด้านหน้า:
Photo Mode, Portrait Mode

รองรับระบบ 4G LTE FDD: Bands B1/B2/B3/B4/B5/B7/B8/B13/B20/B28/B66/B26
4G LTE TDD: Bands B38/B40/B41
3G WCDMA: Bands B1/B2/B4/B5/B8
2G GSM: Bands B2/B3/B5/B8
แบตเตอรี่ 5,000 mAh รองรับการชาร์จเร็ว 40W HUAWEI SuperCharge Turbo 
สี Starry Black และ Mint Green
ราคา 9,990 บาท

บรรจุภัณฑ์ / อุปกรณ์ภายในกล่อง

HUAWEI nova 11i มาพร้อมกล่องบรรจุภัณฑ์สีขาวสลักชื่อรุ่นสีทองอยู่ด้านบน ถัดลงมามีรูปตัวเครื่อง และด้านล่างมีข้อความ Explore It On AppGallery และด้านข้างทั้ง 2 ด้านของกล่องก็มีชื่อรุ่นด้วยเหมือนกัน

ด้านท้ายกล่องระบุหน่วยความจำ รหัสรุ่น และสีตัวเครื่อง พร้อมข้อมูลการผลิต หมายเลขซีเรียล และเลขอีมี่เครื่อง

เมื่อเปิดกล่องออกมาจะพบกับตัวเครื่อง HUAWEI nova 11i ในสี Starry Black พร้อมติดฟิล์มกันรอยหน้าจอแบบ TP มาให้เรียบร้อย

ส่วนอุปกรณ์ภายในกล่องมีดังนี้

  • สาย USB Type-C
  • อะแดปเตอร์ชาร์จเร็ว 40W HUAWEI SuperCharge Turbo 
  • เคสใสยืดหยุ่น
  • คู่มือใช้งาน และใบรับประกัน
  • อุปกรณ์เปิดถาดซิมการ์ด

อะแดปเตอร์ชาร์จเร็ว 40W HUAWEI SuperCharge Turbo ที่แถมมาให้ในกล่อง

รูปลักษณ์ดีไซน์ / การออกแบบ

ตัวเครื่อง HUAWEI nova 11i โดดเด่นด้วยดีไซน์ Star Ring เป็นวงแหวนคู่สวยงาม ในขณะที่ฝาหลังของ HUAWEI nova 11i มาพร้อมพื้นผิวแบบด้านที่ละเอียดสามารถป้องกันรอยเปื้อนและจับถือได้อย่างถนัดมือ

โดยสี Mint Green แสดงถึงคลื่นอันงดงามบนผิวน้ำของทะเลสาบยามเช้าตรู่ รวมถึงสีสันที่สดใสของฤดูใบไม้ผลิ วงแหวนวงโคจรแห่งดวงดาวสองวงส่องแสงภายใต้แสงนำพาความลึกลับใหม่มาสู่สายตา

ส่วนสี Starry Black ฝาครอบด้านหลังสีดำสนิทช่วยชูความงดงามของวงแหวน Star Orbit สีทองได้อย่ำงไร้ที่ติ นำจินตนาการของคุณไปสู่อีกระดับของท้องฟ้า

หน้าจอแสดงผล HUAWEI FullView Display แบบ IPS LCD ขนาด 6.8 นิ้ว และขอบจอที่บางเป็นพิเศษเพียง 1 มม. ที่ทำให้อัตราส่วนหน้าจอสูงถึง 94.9% ความคมชัดสดใสที่นำเสนอโดยหน้าจอช่วยให้คุณชมภำพยนตร์และเล่นเกมใน ความละเอียดระดับ HD ที่ยอดเยี่ยมไม่ว่าคุณจะอยู่กลางแจ้งในวันที่แดดจ้าหรือภายใต้แสงไฟในเมืองยามค่ำคืน คุณก็สามารถเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การรับชมที่ยอดเยี่ยมได้เสมอ

ตรงกลางด้านบนเจาะรูฝังกล้องเซลฟี่ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2 ยกระดับการเซลฟี่ให้สวยสะกดทุกสายตา

ด้านหลัง ติดตั้งกล้องหลังคู่ AI Dual Camera อยู่ในโมดูลวงแหวน Star Ring มุมซ้ายด้านบน โดยมีไฟแฟลช LED อยู่ด้านขวาข้างโมดูลกล้อง และด้านซ้ายล่างมีโลโก้ HUAWEI

ประกอบด้วย

  • กล้องหลัก ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล และรูรับแสง f/1.8, เซ็นเซอร์ 1/2 นิ้ว และเทคโนโลยีฟิวชั่นพิกเซล 4-in-1 เพื่อสร้างพิกเซลขนาดใหญ่ขึ้น 1.6 μm
  • กล้องตัวที่ 2 เลนส์ Depth ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล, รูรับแสง f/2.4

ด้านซ้ายข้างเครื่องออกแบบเรียบๆ ไม่มีช่องหรือปุ่มกดใดๆ

ด้านขวาข้างเครื่องมีปุ่มปรับเพิ่มลดระดับเสียง กับปุ่ม Power สำหรับเปิดปิดเครื่อง และติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือฝังบนปุ่มนี้ด้วย

ด้านบนมีช่องไมโครโฟนตัดเสียง กับช่องใส่ซิมการ์ด ซึ่งรองรับแบบ 2 SIM แบบ nanoSIM Card

ด้านท้ายเครื่องมีช่องไมโครโฟน, พอร์ต USB Type-C และช่องลำโพงเสียง

คุณสมบัติการใช้งาน

HUAWEI nova 11i รันบนระบบปฎิบัติการ EMUI 13 ที่ได้รับการปรับปรุง User Interface บนหน้าจอหลัก ด้วยวิดเจ็ต ที่ช่วยให้เจ้าของสมาร์ตโฟนใช้งานบางอย่างได้ โดยไม่ต้องเปิดเข้าไปในแอป อีกทั้งยังสามารถจัดกลุ่มวิดเจ็ต และจัดเรียงวิดเจ็ต เพื่อประหยัดพื้นที่บนหน้าจอหลัก

โดยนำเสนอรูปแบบหน้าจอหลักแบบมินิมอล ซึ่งเหลือพื้นที่สำหรับการปรับแต่งระดับพิเศษ

Service widgets: ปัดขึ้นบนไอคอนแอพเพื่อสร้างวิดเจ็ต ซึ่งสามารถซูมเข้าหรือออก ซ่อนหรือแสดง หรือแม้แต่วิดเจ็ตซ้อนที่มีขนาดเท่ากัน

Swipe-to-access: วิดเจ็ตบริการให้กสรเข้าถึงแบบปัดโดยตรงเพื่อเข้าถึงคุณสมบัติที่หลากหลายของเนื้อหา การปัดไอคอนแอปหน้าจอหลักขึ้นจะขยายวิดเจ็ตบริกสร ซึ่งเปลี่ยนแปลงตามเวลาและสถานที่ เพื่อให้มีคุณสมบัติที่คุณต้องการมากที่สุด

EMUI 13 ยังมีการปรับปรุงวิธีการโต้ตอบกับไอคอนแอปเมื่อกดค้างไว้ให้ง่ายขึ้น เมื่อเทียบกับ EMUI 12 และยังสามารถเปลี่ยนรูปร่างของโฟลเดอร์ได้ 4 แบบ ขณะที่การแชร์ไฟล์กับอุปกรณ์อื่นๆ ก็ทำได้ง่ายขึ้นผ่านฟีเจอร์ SuperHub

ด้วยพื้นที่เก็บข้อมูลขนาด 256 GB คุณสามารถจัดเก็บละครทีวียอดฮิต 320 ตอน เพลงความละเอียดสูง 20,000 เพลง และภาพยนตร์ความละเอียดสูงพิเศษกว่า 140 เรื่องได้อย่างง่ายดาย

นอกจากนี้ยังสามารถเข้าถึงและดาวน์โหลดแอปต่างๆ มากมายผ่าน AppGallery ตลาดดาวน์โหลดแอปพลิเคชันที่ใหญ่ติดหนึ่งในสามของโลก จัดมาให้เลือกสรรตามไลฟ์สไตล์ ให้ใช้สมาร์ตโฟนหัวเว่ยกันได้แบบเต็มพิกัด รับรองว่าครบครันทันเทรนด์ปัจจุบันแน่นอน 

สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันฮิตที่คุ้นเคยได้จาก AppGallery ค้นหาแอปฯ ที่ต้องการ ครอบคลุมทั้งหมวดโซเชียล ความบันเทิง ธุรกรรมการเงิน ถ่ายภาพ เกม ชอปปิง และไลฟ์สไตล์ อาทิ LINE MAN, Grab, TikTok, WeTV, Major Cineplex, Free Fire, PUB G, Summoner War, Douluo Dalu, Shopee, Lazada, 7-Eleven TH, Blockdit, Comico, TrueID, KPlus, SCB Easy, เป๋าตัง และหมอพร้อม เป็นต้น พร้อมสิทธิพิเศษต่างๆ เพื่อเอกสิทธิ์ของผู้ใช้หัวเว่ยเท่านั้น

รองรับ 2 SIM แบบ dual sim dual standby สามารถใช้งาน 4G ได้พร้อมกันทั้งซิมหนึ่ง และซิมสอง

รองรับการปลดล็อคหน้าจอด้วยการสแกนใบหน้า

ติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือแบบฝังใต้หน้าจอ เพื่อปลดล็อคอุปกรณ์, เข้าถึงตู้นิรภัย, การเข้าถึงการล็อคแอป และกรอกชื่อผู้ใช้และรหัสผ่านโดยอัตโนมัติ

มาพร้อมอัตราการรีเฟรชเรท 90 Hz ของหน้าจอ ให้การแสดงผลหน้าจอที่ลื่นไหล และด้วยอัตรารีเฟรชในการสัมผัส 270 Hz ทำให้การตอบสนองการสัมผัสบนหน้าจอไม่ว่าจะเป็น ปัดผ่านเว็บไซต์และวิดีโอหรือเล่นเกมต่างๆ ได้เร็วและลื่นไหล

รวมทั้งมีคุณสมบัติที่ช่วยถนอมสายตา เช่น การปรับแสงให้นุ่มนวล โหมดกลางคืน โหมด eBook และโหมดปกป้องดวงตาเพื่อการรับชมที่สบายตายิ่งขึ้นในที่แสงสลัว

และเพลิดเพลินไปกับการเพิ่มระดับเสียงของลําโพงสูงสุดถึง 88 dB ทําให้เสียงเพลงและภาพยนตร์ดีขึ้นกว่าเดิม และด้วยเทคโนโลยี Histen 8.1 กับประสิทธิภาพเสียงที่ปรับแต่งอย่างมืออาชีพจะมอบโน้ตเบสที่หนักแน่น คมชัดในย่านกลาง และมีการปรับปรุงช่วงไดนามิกและเอฟเฟกต์เสียงเซอร์ราวด์ที่น่าทึ่งเพื่อประสบการณ์การฟังที่ยอดเยี่ยมอย่างแท้จริง

อ่านต่อหน้า 2

.fb-background-color {
background: #ffffff !important;
}
.fb_iframe_widget_fluid_desktop iframe {
width: 100% !important;
}

from:https://www.mobileocta.com/review-huawei-nova-11i/?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=review-huawei-nova-11i

รีวิว vivo X90 Pro 5G ที่สุดของสมาร์ตโฟนเรือธง กล้องดีที่สุดจากเซนเซอร์ ZEISS ขนาดใหญ่ 1 นิ้ว

รีวิว vivo X90 Pro 5G ที่สุดของสมาร์ตโฟนเรือธง กล้องดีที่สุดจากเซนเซอร์ ZEISS ขนาดใหญ่ 1 นิ้ว
Noppinij

vivo X90 Pro 5G เรียกได้ว่าในชั่วโมงนี้ไม่มีอะไรน่าสนใจไปกว่าสมาร์ตโฟนเรือธงที่เพิ่งเปิดตัวในประเทศไทยตัวนี้แล้วครับ เพราะจัดสเปกมาให้แบบสุดมาก! เป็นมือถือที่มาพร้อมกับเซนเซอร์กล้อง ZEISS ที่มีขนาดใหญ่มากถึง 1 นิ้ว! นับเป็นขนาดใหญ่มากที่สุดในตลาดที่มีเปิดจำหน่ายออกมาในบ้านเรา สเปกภายในไล่เรียงกันไปกับเทคโนโลยีที่ดีที่สุดของยุค ตัวเครื่องภายนอกยังมีดีไซน์ที่หรูหรา ผิวสัมผัสดี กับผิววัสดุจากหนังวีแกน

เรียกว่าเน้นมาทั้งการใช้งานภายในและตัวเครื่องภายนอก โดยในรีวิวนี้ผมจะพามารู้จักคุณสมบัติและความน่าสนใจของ vivo X90 Pro 5G กันครับ

vivo X90 Pro 5G DSC00123 | Review | รีวิว vivo X90 Pro 5G ที่สุดของสมาร์ตโฟนเรือธง กล้องดีที่สุดจากเซนเซอร์ ZEISS ขนาดใหญ่ 1 นิ้ว

ตัวเครื่องภายนอก

vivo X90 Pro 5G เป็นเครื่องรุ่นใหญ่ ที่ใช้หน้าจอใหญ่ขนาด 6.78 นิ้ว ความละเอียด 2800 × 1260 รองรับการแสดงผลในโลก 1.07 พันล้านสี รองรับ HDR 10+ขอบเขตสี DCI-P3 100% และรีเฟรชเรทที่สูงถึง 120Hz ซึ่งจอรุ่นนี้ใช้จอแสดงผล BOE Q9 ซึ่งเป็นจอเทคโนโลยีใหม่สุดของ BOE ที่ไม่เพียงแต่ใช้พลังงานที่ต่ำลง แต่ยังช่วยป้องกันแสงสีฟ้าที่เป็นอันตรายต่อดวงตาได้ดีมากเลยทีเดียว และยังรองรับเทคโนโลยีการหรี่แสงที่มีความถี่สูงพิเศษ (PWM) ที่สูงถึง 2,160Hz สูงกว่าหน้าจอทั่วไปหลายเท่าตัว

ทำให้จอตัวนี้เวลาใช้งานในที่แสงน้อยจะไม่ปวดตา สบายตากว่าหน้าจอทั่วไป และมีสีสันสดใส ให้แสงสว่างชัดเจนในยามใช้งานกลางวันหรือกลางแจ้ง

vivo X90 Pro 5G DSC00215 1 | Review | รีวิว vivo X90 Pro 5G ที่สุดของสมาร์ตโฟนเรือธง กล้องดีที่สุดจากเซนเซอร์ ZEISS ขนาดใหญ่ 1 นิ้ว

ขอบจอไม่มีครับ เพราะขอบทั้งสองข้างจะเป็นจอโค้ง 3D ไม่เหลือขอบเครื่องให้เกะกะสายตา ส่วนขอบด้านบนและด้านล่างก็จะเหลือที่นิดเดียวเท่านั้น รุ่นนี้ด้านหน้าเครื่องจึงบอกได้ว่าเป็นจอภาพทั้งหมดแบบเต็มๆ

และในด้านเสียงก็ให้ลำโพงคู่สเตอริโอมาด้วยเช่นกัน เสียงดังชัดเจน ไม่ต้องต่อลำโพงภายนอกเพิ่มเพื่อใช้งานในห้องส่วนตัวเลยครับ และติดตั้งไมโครโฟนเอาไว้รอบถึง 3 ตัว เพื่อตัดเสียงรบกวน เก็บเสียงสนทนาได้ดีมาก ใช้ประชุมสายโดยไม่ต้องถือเครื่องใกล้ๆ ก็คุยได้ชัดเจนครับ

vivo X90 Pro 5G DSC09846 | Review | รีวิว vivo X90 Pro 5G ที่สุดของสมาร์ตโฟนเรือธง กล้องดีที่สุดจากเซนเซอร์ ZEISS ขนาดใหญ่ 1 นิ้ว

รุ่นนี้จะใช้การสแกนนิ้วบนหน้าจอโดยตรง และติดตั้งกล้องหน้าความละเอียด 32MP รองรับการสแกนใบหน้าเข้าใช้งานได้ด้วยเช่นกัน

ด้านหลังตัวเครื่องคือพระเอกของรุ่น เพราะจุดเด็ดหลักของ vivo X90 Pro 5G แน่นอนว่าต้องเป็นเรื่องของกล้องถ่ายภาพ ด้วยการจับมือกับ ZEISS ผู้นำเทคโนโลยีด้านเลนส์กล้องระดับโปรมานานกว่า 2 ปี พัฒนาด้วยกันมาเยอะครับ

vivo X90 Pro 5G DSC00189 | Review | รีวิว vivo X90 Pro 5G ที่สุดของสมาร์ตโฟนเรือธง กล้องดีที่สุดจากเซนเซอร์ ZEISS ขนาดใหญ่ 1 นิ้ว

โดยในรุ่นนี้จะติดตังกล้องหลักเป็นเลนส์ ZEISS 50MP ใช้เซนเซอร์ IMX989 ขนาด 1 นิ้ว ซึ่งเป็นเซนเซอร์ที่ใหญ่ที่สุดในวงการที่มีจำหน่ายอยู่ในขณะนี้ ทำงานร่วมกับกล้องที่อาจจะนับเป็นกล้องหลักตัวที่สองก็ได้ เพราะให้มาเป็นกล้องพอร์ตเทรตความละเอียดสูง 50MP เช่นกัน ด้วยมุมมอง 50 มม. และมีระบบกันสั่น OIS ถ่ายคนในระยะนี้กำลังสวย และเป็นระยะนิยมของกล้องโปรที่ใช้ถ่ายนางแบบนั้นเอง ตัวที่สองจะเป็นเซนเซอร์ IMX758 รูรับแสงกว้าง f/1.6 จะเห็นว่าติดตั้งมาเพื่อการถ่ายภาพบุคคลโดยเฉพาะเลยครับ

และเลนส์สุดท้ายคือเลนส์มุมกว้าง 108 องศา ความละเอียด 12MP ใช้เป็นเซนเซอร์ IMX663 ค่ารูรับแสง f/2.0 เอาไว้ถ่ายภาพมุมกว้างและช่วยในการจับโฟกัส พร้อมติดตั้งตัว Laser Focus เอาไว้ จับโฟกัสแม่นเป๊ะทั้งรูปทรงวัตถุและการวัดระยะครับ

ชุดกล้องหลังทั้งสามตัวนั้นจะถูกติดตั้งอยู่รวมกันใน “Big Eye” ทรงกลมขนาดใหญ่ให้ความรู้สึกเหมือนหน้าเลนส์ของกล้องโปร ถูกปิดไว้ด้วยกระจก Corning Gorilla Glass ที่เคลือบสารกันแสงสะท้อนที่ผิวหน้าเอาไว้เป็นพิเศษ เป็นเทคนิคการเคลือบหน้าเลนส์แบบเลนส์กล้องโปรจาก ZEISS T* (ทีสตาร์) นั้นเองครับ เพื่อป้องกันการเกิดแสงสะท้อน ลดแสงแฟลร์และการเกิดภาพซ้อน แต่ไม่มีการลดปริมาณแสงที่จะเข้าสู่เซนเซอร์กล้องลงไป เป็นเทคนิคการเคลือบเลนส์ระดับโลกที่ถูกนำมาใช้งานในสมาร์ตโฟน vivo X90 Pro 5G รุ่นนี้ด้วย

vivo X90 Pro 5G DSC00150 | Review | รีวิว vivo X90 Pro 5G ที่สุดของสมาร์ตโฟนเรือธง กล้องดีที่สุดจากเซนเซอร์ ZEISS ขนาดใหญ่ 1 นิ้ว

นี่คือเทคนิคราคาแพงที่จะตีตราอยู่กับเลนส์ของ ZEISS เท่านั้น และยังจะช่วยเพิ่มความทนทานให้กับกระจกไปในตัวอีกด้วย โดยจะมีวงแหวน Halo ที่ทำจากสแตนเลสสตีลล้อมรอบตัวชุดเลนส์เพื่อป้องกันเอาไว้อีกชั้นหนึ่ง

ตัวเครื่อง vivo X90 Pro 5G มากับเฉดสีใหม่ “Legendary Black” สีดำคลาสสิก ดูหรูหรา ฝาหลังทำจากหนังวีแกน การประกอบแน่นมาตรฐานสูง ผลิตมาในมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP68 ตัวเครื่องหนา 9.34 มม. และหนัก 214.85 กรัม แต่ทำขอบเครื่องโค้งจึงรู้สึกว่าบาง จับกระชับเข้ามือ ผิวสัมผัสหนังจึงไม่ลื่นและไม่เกิดคราบลายนิ้วมือในการใช้งาน

vivo X90 Pro 5G DSC00194 | Review | รีวิว vivo X90 Pro 5G ที่สุดของสมาร์ตโฟนเรือธง กล้องดีที่สุดจากเซนเซอร์ ZEISS ขนาดใหญ่ 1 นิ้ว

จะสังเกตว่า vivo X90 Pro 5G ถูกออกแบบมาให้คล้ายกับกล้องถ่ายภาพในยุคคลาสสิค ตำแหน่งชุดกล้องหลังที่เยื้องขึ้นด้านบนเล็กน้อย โมดูลกล้องใหญ่ทรงกลม บวกกับผิววัสดุเป็นหนังสีดำ ให้อารมณ์เหมือนกล้องถ่ายภาพในอดีตอยู่มากจริงๆ ครับ

vivo X90 Pro 5G DSC09836 | Review | รีวิว vivo X90 Pro 5G ที่สุดของสมาร์ตโฟนเรือธง กล้องดีที่สุดจากเซนเซอร์ ZEISS ขนาดใหญ่ 1 นิ้ว

เสริมความโดดเด่นด้วยแถบคาดกลางเครื่องที่ทาง vivo เรียกว่า “Skyline” เป็นลวดลายตัวอักษรบนพื้นผิวเซรามิก พิมพ์ซิลค์สกรีนเอาไว้เป็นคำว่า “Xtreme Imagination” การออกแบบนี้ถูกวางตามสูตรสัดส่วนทองคำ (Golden Ratio) ให้ทุกอย่างอยู่ในตำแหน่งที่ต้องที่ควร และในการจับถือก็ถือได้สะดวกทั้งแนวตั้งและแนวนอน ชุดกล้องหลังที่มีขนาดใหญ่แต่จะไม่เกะกะมือเหมือนเครื่องรุ่นอื่นที่ติดตั้งชุดกล้องขนาดใหญ่ไว้ด้านหลัง รุ่นนี้ถือจับได้ถนัด อยู่ในตำแหน่งที่ดีและไม่เกะกะมือเลยครับ

vivo X90 Pro 5G จะไม่มีรูหูฟัง 3.5มม. ในตัวนะครับ แต่สามารถเชื่อมต่อได้ผ่านพอร์ต Type C ท้ายเครื่อง รองรับการใช้งาน 5G ทั้งสองซิมการ์ด โดยช่องหนึ่งสามารถตั้งค่าเป็นโหมด eSIM ทำงานคู่กันไปได้ด้วย

vivo X90 Pro 5G DSC00134 | Review | รีวิว vivo X90 Pro 5G ที่สุดของสมาร์ตโฟนเรือธง กล้องดีที่สุดจากเซนเซอร์ ZEISS ขนาดใหญ่ 1 นิ้ว
vivo X90 Pro 5G DSC00151 | Review | รีวิว vivo X90 Pro 5G ที่สุดของสมาร์ตโฟนเรือธง กล้องดีที่สุดจากเซนเซอร์ ZEISS ขนาดใหญ่ 1 นิ้ว
vivo X90 Pro 5G DSC00130 | Review | รีวิว vivo X90 Pro 5G ที่สุดของสมาร์ตโฟนเรือธง กล้องดีที่สุดจากเซนเซอร์ ZEISS ขนาดใหญ่ 1 นิ้ว
vivo X90 Pro 5G DSC00159 | Review | รีวิว vivo X90 Pro 5G ที่สุดของสมาร์ตโฟนเรือธง กล้องดีที่สุดจากเซนเซอร์ ZEISS ขนาดใหญ่ 1 นิ้ว

แบตเตอรี่ภายในใส่มาให้เป็นเทคโนโลยี Dual-Cell ขนาดความจุ 4870 mAh ซึ่ง vivo X90 Pro 5G จะเป็นรุ่นที่รองรับเทคโนโลยีชาร์จไว 120W FlashCharge ซึ่งมีความไวในการชาร์จที่สูงมาก โดยในโหมดชาร์จเร็วจะสามารถชาร์จแบตได้ 50% ในเวลาแค่ 8 นาทีเท่านั้นเอง! ไวมากๆๆๆๆ และรองรับการชาร์จไร้สายในระดับ 50W อีกด้วย ชาร์จได้ไวทั้งแบบเสียบสายและแบบ Wireless Charge เลยครับ

vivo X90 Pro 5G DSC00184 | Review | รีวิว vivo X90 Pro 5G ที่สุดของสมาร์ตโฟนเรือธง กล้องดีที่สุดจากเซนเซอร์ ZEISS ขนาดใหญ่ 1 นิ้ว

และสามารถใช้ตัวเองเป็นแท่นชาร์จไฟย้อนกลับออกไปแบบไร้สาย ชาร์จให้กับอุปกรณ์ภายนอกในยามฉุกเฉินได้ด้วยนะครับ โดยอุปกรณ์ภายในกล่อง ก็จะมีที่ชาร์จ 120W FlashCharge สายดาต้า USB Type C และเคสใสซิลิโคนแถมมาให้ครับ

vivo X90 Pro 5G DSC00182 | Review | รีวิว vivo X90 Pro 5G ที่สุดของสมาร์ตโฟนเรือธง กล้องดีที่สุดจากเซนเซอร์ ZEISS ขนาดใหญ่ 1 นิ้ว

การใช้งานภายใน

vivo X90 Pro 5G เป็นเครื่องเรือธงสเปกแรง เป็นตัวระดับท็อปของสมาร์ตโฟน Android อย่างไม่ต้องสงสัย ประสิทธิภาพในการใช้งานรุ่นนี้แรงมาก ได้คะแนนของ AnTuTu สูงมากถึง 1.26 ล้านคะแนนเลยทีเดียว

ภายในสมาร์ตโฟนรุ่นนี้ถูกออกแบบมาให้ใช้ชิปประมวลผลแบบคู่ครับ ภายในมีสมองสองส่วนช่วยกัน โดยจะมี MediaTek Dimensity 9200 เป็นชิปหลักในการทำงานต่างๆ และจะมีชิป vivo V2 ใส่เข้ามาเป็นตัวช่วย ช่วยประมวลผลในด้านการถ่ายภาพและการแสดงภาพโดยเฉพาะ โดยทำงานร่วมกับหน่วยความจำเทคโนโลยีแรงสุด LPDDR5X ที่มีขนาดใหญ่ถึง 12GB และยังขยายได้อีกสูงสุด 8GB ทำงานร่วมกับหน่วยความจำที่เป็นเทคโนโลยีใหม่สุดเช่นกัน UFS 4.0 ขนาดใหญ่ 256GB

VIVO X90 Pro 5G Appdisqus 0009 | Review | รีวิว vivo X90 Pro 5G ที่สุดของสมาร์ตโฟนเรือธง กล้องดีที่สุดจากเซนเซอร์ ZEISS ขนาดใหญ่ 1 นิ้ว
VIVO X90 Pro 5G Appdisqus 0011 | Review | รีวิว vivo X90 Pro 5G ที่สุดของสมาร์ตโฟนเรือธง กล้องดีที่สุดจากเซนเซอร์ ZEISS ขนาดใหญ่ 1 นิ้ว
VIVO X90 Pro 5G Appdisqus 0098 | Review | รีวิว vivo X90 Pro 5G ที่สุดของสมาร์ตโฟนเรือธง กล้องดีที่สุดจากเซนเซอร์ ZEISS ขนาดใหญ่ 1 นิ้ว

เป็นชุดประมวลผลที่เป็นเทคโนโลยีใหม่สุดยกชุด แรง ทำงานลื่น ตอบสนองไวมากครับ

ยังไม่นับรวมกับซอฟท์แวร์ภายใน Funtouch OS 13 ที่ครอบทับบน Android 13.0 อย่างที่เคยรีวิวในสมาร์ตโฟนของ vivo มาหลายรุ่นแล้ว ซอฟท์แวร์แบรนด์นี้มีความพิเศษคือระบบเบาตัวมาก ทัชแล้วไป กดแล้วตอบสนองทันที เทียบกันระหว่างสเปกใกล้ๆ กันแม้แต่เครื่องรุ่นเล็กหรือรุ่นใหญ่ มักจะตอบสนองได้ทันใจและติดนิ้วได้มากกว่าเสมอๆ ครับ

ระบบ Funtouch OS 13 มีการใช้ระบบ Multi-Turbo ที่เป็นตัว AI คอยดูแลทั้งระบบ ตรวจสอบการส่งผ่านข้อมูล การเรียกข้อมูลและการส่งคืนข้อมูลเพื่อจัดการทรัพยากรของเครื่องให้ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพมากที่สุด ดูแลตลอดเวลา ทำซอฟท์แวร์มาได้ดีระบบจึงตอบสนองคล่องตัวมาก ใช้งานไม่เจอปัญหาค้าง ช้า แลค หรือรีสตาร์ท ยิ่งในรุ่นใหญ่แบบ vivo X90 Pro 5G ต้องเรียกว่าลื่นไหลสุดๆ ครับ เข้าออกแอปพลิเคชั่นไว ทัชแล้วไปทันทีแบบติดนิ้ว สมฐานะเครื่องระดับสูงของระบบ Android

vivo X90 Pro 5G DSC00166 | Review | รีวิว vivo X90 Pro 5G ที่สุดของสมาร์ตโฟนเรือธง กล้องดีที่สุดจากเซนเซอร์ ZEISS ขนาดใหญ่ 1 นิ้ว

จากการลองใช้งานเล่นเกมหรือเปิดใช้งานหน้าจอนานๆ vivo X90 Pro 5G ในด้านความลื่นไหลไม่ต้องห่วงไปเลยครับ ส่วนในเรื่องความร้อนก็ถือว่ายอดเยี่ยมมากเช่นกัน เล่นเกมไปด้วยชาร์จไฟไปด้วย ตัวเครื่องยังควบคุมความร้อนได้ดี เพราะด้านใน ทาง vivo ได้ใส่ Vapor Chamber ขนาดใหญ่พิเศษ ครอบคลุมส่วนกำเนิดความร้อนได้เพิ่มมากขึ้นกว่ารุ่นก่อนอย่างมาก จึงทำงานได้ในอุณหภูมิที่ค่อนข้างคงที่เลยทีเดียว

vivo X90 Pro 5G DSC00242 | Review | รีวิว vivo X90 Pro 5G ที่สุดของสมาร์ตโฟนเรือธง กล้องดีที่สุดจากเซนเซอร์ ZEISS ขนาดใหญ่ 1 นิ้ว

จากที่สังเกตการใช้งาน vivo X90 Pro 5G จะมีอุณหภูมิที่สูงขึ้นจากการเปิดหน้ากล้องค้างไว้มากกว่าการทำงานด้านอื่นๆ น่าจะเพราะด้วยการเปิดหน้าเลนส์จะเป็นการเรียกใช้ระบบ AI และการประมวลผลปรับภาพต่างๆ ของเครื่องเพื่อการตรวจจับสิ่งที่กล้องจะถ่ายแบบเรียลไทม์ตลอดเวลานั้นเองครับ แต่ก็ไม่มากจนเกิดปัญหาอะไรขึ้นมาให้เห็นนะครับ

ในเรื่องของการชาร์จแบตเตอรี่ ตัว vivo X90 Pro 5G จะมีโหมดการชาร์จไฟอยู่สองโหมดครับ นั้นคือโหมดชาร์จปกติและโหมด “การชาร์จด่วน” ซึ่งในโหมดการชาร์จด่วนตัวเครื่องจะเปิดรับกำลังไฟเข้าแบตเตอรี่ได้อย่างเต็มที่มากกว่า เพราะจะอนุญาตให้ตัวเครื่องมีความร้อนที่สูงขึ้นกว่าโหมดปกติได้เล็กน้อยโดยยังไม่ลดกำลังไฟชาร์จขาเข้าลงไป  แต่ก็ส่งผลให้เวลาชาร์จไปด้วยชาร์จไฟไปด้วยอาจจะเกิดความร้อนของเครื่องมากกว่าโหมดปกติให้รู้สึกครับ  แต่ถ้าใครไม่ได้กังวลใจในจุดนี้ ก็สามารถเปิดใช้งานโหมดชาร์จด่วนได้เลยในการตั้งค่าหัวข้อแบตเตอรี่

vivo X90 Pro 5G DSC00202 | Review | รีวิว vivo X90 Pro 5G ที่สุดของสมาร์ตโฟนเรือธง กล้องดีที่สุดจากเซนเซอร์ ZEISS ขนาดใหญ่ 1 นิ้ว

vivo X90 Pro 5G เล่นเกมสนุกครับ หน้าจอเต็มพื้นที่ ลำโพงเสียงดี และเล่นเกมลื่นไหลดีมากๆ และมีการใส่มอเตอร์สั่น X-Axis Linear เข้ามาไว้ด้วย เป็นมอเตอร์สั่นในแกน X เข้ามาเสริมเพื่อสร้างความแตกต่างในการสั่นที่แตกต่างกันได้หลากหลาย ตอบสนองต่อการสั่งงานและการเล่นเกมที่จะมีมิติของการสั่นที่มากกว่าเครื่องที่มีมอเตอร์แค่แกนเดียวครับ

vivo X90 Pro 5G DSC00253 | Review | รีวิว vivo X90 Pro 5G ที่สุดของสมาร์ตโฟนเรือธง กล้องดีที่สุดจากเซนเซอร์ ZEISS ขนาดใหญ่ 1 นิ้ว

แบตเตอรี่ 4870mAh ก็อยู่กับเราได้ทั้งวันครับ เช้าถึงค่ำสบายๆ เป็นเครื่องแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ จัดสรรพลังงานได้ดี เพราะถ้าตีเป็นตัวเลขกลมๆ แบตเตอรี่รุ่นนี้ก็เทียบเท่ากับเครื่องแบต 5,000mAh  เปิดหน้าจอใช้งานต่อเนื่องใช้แบตเตอรี่ชั่วโมงละประมาณ 14% ฉะนั้นไม่ต้องห่วงครับ แวะชาร์จระหว่างวันประมาณ 15 นาที แบตเตอรี่ก็กลับมาเกือบจะเต็ม 100% แล้วครับ

vivo X90 Pro 5G DSC00238 | Review | รีวิว vivo X90 Pro 5G ที่สุดของสมาร์ตโฟนเรือธง กล้องดีที่สุดจากเซนเซอร์ ZEISS ขนาดใหญ่ 1 นิ้ว

จับสัญญาณได้ดี รองรับการเชื่อมต่อสัญญาณ WiFi 6 คุยสนทนาคมชัดครับ ไมค์ค่อนข้างดีทีเดียว การใช้งานต่างๆ น่าประทับใจครับ สมเป็นเครื่องระดับพรีเมียมเรือธงของแบรนด์ vivo

กล้องถ่ายภาพ

กล้องของ vivo X90 Pro 5G จะเห็นว่ามีการใช้ฮาร์ดแวร์กล้องระดับสูงใส่มาให้ทั้งหมดครับ กล้องหลักเป็นเลนส์ ZEISS เซนเซอร์ IMX989 ขนาดใหญ่ 1 นิ้ว ซึ่งมีขนาดใหญ่ขึ้นกว่ารุ่นก่อนหน้ามากถึง 77%  และไม่ใช่แค่เรื่องเซนเซอร์ เพราะตัวเลนส์ยังใช้กระจก High-transmittance หรือกระจกที่แสงผ่านได้ง่าย พร้อมการเคลือบ ZEISS T* (ทีสตาร์)  ไว้ในทุกๆ ชั้นเลนส์ ซึ่งภายในกล้องตัวนี้ มีจำนวนชั้นเลนส์อยู่ถึง 7 ชั้นด้วยกัน ซึ่งตามสเปกเลนส์กล้องระดับนี้ถ้าเป็นเลนส์กล้องโปร ก็ไม่รู้ว่าราคาจะกี่หมื่นบาทครับ แต่นี่มันมีขนาดเล็กจึงไม่อาจจะตีราคาแบบนั้นได้ ยังไงก็ตามมาตรฐานแต่ละชิ้นทำให้เรารู้ว่า งานผลิตกล้องของ vivo X90 Pro 5G เป็นงานระดับกล้องโปรจากแบรนด์มืออาชีพของจริงทั้งระบบเลยครับ

กล้องที่สองเป็นกล้องพอร์ตเทรต ความละเอียด 50MP ใช้เซนเซอร์ IMX758 ที่ถูกปรับแต่งมาเป็นพิเศษ ใส่เทคโนโลยีกันสั่นที่ทำงานคู่กันทั้ง OIS-EIS และก็มีการเคลือบ ZEISS T* (ทีสตาร์) ช่วยทำให้ถ่ายภาพพอร์ตเทรตได้สวย แม้จะเป็นที่แสงน้อยภาพบุคคลก็ยังสวยงามครับ และกล้องที่สามคือเลนส์มุมกว้าง 108 องศา 12MP ใช้เซนเซอร์ IMX663

vivo X90 Pro 5G DSC09768 | Review | รีวิว vivo X90 Pro 5G ที่สุดของสมาร์ตโฟนเรือธง กล้องดีที่สุดจากเซนเซอร์ ZEISS ขนาดใหญ่ 1 นิ้ว

ไม่ได้จัดเต็มแค่เรื่องฮาร์ดแวร์กล้อง เพราะสิ่งที่กล้อง vivo X90 Pro 5G มีให้มามากและมากกว่าใคร ก็คือซอฟท์แวร์กล้องและฟังก์ชั่นที่เรียกได้ว่าเป็นมือถือที่มีโหมดถ่ายภาพเยอะมากที่สุดในตลาดเลยก็ได้ครับ มีทั้งฟังก์ชั่น, ฟิลเตอร์ เอฟเฟ็กต์ และการปรับแต่งต่างๆ ทั้งก่อนการถ่ายและหลังการถ่าย โดยผมจะแนะนำไฮไลท์ของการถ่ายภาพจากเครื่องรุ่นนี้มาให้รู้จักกันครับ

การทำงานของกล้อง vivo X90 Pro 5G จะทำงานภายใต้ AI ที่คอยตรวจจับสิ่งที่กำลังถ่ายได้อัตโนมัติ แต่จะมีตัวช่วยพิเศษของรุ่นนั้นคือ ZEISS Natural Color 2.0 ที่จะเข้ามาช่วยจูนแสงและสีของภาพ ให้สมจริงเป็นธรรมชาติตามที่ตามนุษย์จะมองเห็นได้มากขึ้นไปอีกระดับ เป็นผู้ช่วยอีกหนึ่งตัวเลือกที่เราสามารถเปิดใช้งานได้ใน vivo X90 Pro 5G รุ่นนี้ครับ

ตัวกล้อง จะรองรับการถ่ายภาพมุมกว้าง 0.6x ไปจนถึงซูมดิจิทัลได้ที่ 40x

VIVO X90 Pro 5G Appdisqus 0027 | Review | รีวิว vivo X90 Pro 5G ที่สุดของสมาร์ตโฟนเรือธง กล้องดีที่สุดจากเซนเซอร์ ZEISS ขนาดใหญ่ 1 นิ้ว
VIVO X90 Pro 5G Appdisqus 0016 | Review | รีวิว vivo X90 Pro 5G ที่สุดของสมาร์ตโฟนเรือธง กล้องดีที่สุดจากเซนเซอร์ ZEISS ขนาดใหญ่ 1 นิ้ว

บวกรวมกับพลังของกล้องที่ตรวจจับใบหน้าและปรับแต่งสีสันได้สมจริง ภาพออกมาดูมีโทนและสไตล์ของภาพที่ชัดเจนมากเลยครับ ปรับแต่งใบหน้าได้ละเอียด เนียนใส หรือแต่งหน้าใหม่แบบเมคอัพด้วยซอฟท์แวร์กล้องก็ทำให้ได้ และทำได้อย่างดี เนียนมากครับ หน้าสดใสดูมีการแต่งหน้าที่แตกต่างกันไปตามโทนที่เลือกได้เลย ระบบปรับใบหน้าฉลาดมากๆ

VIVO X90 Pro 5G Appdisqus 0052 | Review | รีวิว vivo X90 Pro 5G ที่สุดของสมาร์ตโฟนเรือธง กล้องดีที่สุดจากเซนเซอร์ ZEISS ขนาดใหญ่ 1 นิ้ว
VIVO X90 Pro 5G Appdisqus 0040 | Review | รีวิว vivo X90 Pro 5G ที่สุดของสมาร์ตโฟนเรือธง กล้องดีที่สุดจากเซนเซอร์ ZEISS ขนาดใหญ่ 1 นิ้ว

กล้องของ vivo X90 Pro 5G ภายใต้การทำงานร่วมกันกับ ZEISS จะให้อารมณ์ของภาพออกมาแนวจริงจัง ภาพมีโทนความเข้ม สีหนักแน่น ดูมีความเป็นผู้ใหญ่อยู่ในภาพเป็นหลัก แต่ก็จะมีการใส่สไตล์ภาพมาในหลายอารมณ์ โดยเฉพาะโทนภาพจากเลนส์ระดับตำนานของ ZEISS เช่น Biotar, Sonnar, Planar และ Distagon ถูกใส่เข้ามาเป็น ZEISS Style Portrait หรือภาพบุคคลในสไตล์ของ ZEISS นั้นเองครับ รวมถึง Cinematic ที่เป็นมุมมองภาพแปลกตาที่มีเอกลักษณ์เป็นภาพแนวกว้างแบบฟิล์มภาพยนตร์ใส่เข้ามาให้ด้วย

เสน่ห์ของเลนส์ Biotar ในอดีต คือเม็ดโบเก้ดวงโตและหมุนวนไปตามแนวใบมีดของเลนส์ ในสมัยนั้นเป็นเลนส์คลาสสิคที่ฮิตมากครับ สำหรับในสไตล์นี้ทำโทนภาพมาได้ในอารมณ์เหมือนกล้องคลาสสิคแบบนั้นจริงๆ ครับ

VIVO X90 Pro 5G Appdisqus 0030 | Review | รีวิว vivo X90 Pro 5G ที่สุดของสมาร์ตโฟนเรือธง กล้องดีที่สุดจากเซนเซอร์ ZEISS ขนาดใหญ่ 1 นิ้ว

1685720640271 | Review | รีวิว vivo X90 Pro 5G ที่สุดของสมาร์ตโฟนเรือธง กล้องดีที่สุดจากเซนเซอร์ ZEISS ขนาดใหญ่ 1 นิ้ว
1685720640189 | Review | รีวิว vivo X90 Pro 5G ที่สุดของสมาร์ตโฟนเรือธง กล้องดีที่สุดจากเซนเซอร์ ZEISS ขนาดใหญ่ 1 นิ้ว

และสไตล์ภาพ ZEISS Cine-flare Portrait สำหรับใครที่ต้องการแสงโบเก้สวยๆ แสงพื้นหลังแบบนุ่มๆ สไตล์ภาพนี้น่าจะถูกใจ โบเก้ด้านหลังจะถูกปรับให้เด่นมากขึ้นแต่ดูนุ่มนวลสบายตาครับ เหมาะทั้งแสงกลางวันและแสงกลางคืน

VIVO X90 Pro 5G Appdisqus 0059 | Review | รีวิว vivo X90 Pro 5G ที่สุดของสมาร์ตโฟนเรือธง กล้องดีที่สุดจากเซนเซอร์ ZEISS ขนาดใหญ่ 1 นิ้ว

1685720638192 1 scaled | Review | รีวิว vivo X90 Pro 5G ที่สุดของสมาร์ตโฟนเรือธง กล้องดีที่สุดจากเซนเซอร์ ZEISS ขนาดใหญ่ 1 นิ้ว
1685720636179 scaled | Review | รีวิว vivo X90 Pro 5G ที่สุดของสมาร์ตโฟนเรือธง กล้องดีที่สุดจากเซนเซอร์ ZEISS ขนาดใหญ่ 1 นิ้ว

และไม่ใช่แค่กล้องหลังเท่านั้น ที่จะสามารถใช้งานสไตล์ภาพเหล่านี้ได้ เพราะ ZEISS Style Portrait สามารถเรียกใช้งานกับกล้องถ่ายภาพด้านหน้าได้ด้วยเช่นกัน ทั้ง Biotar, Sonnar, Planar, Distagon และ Cinematic พร้อมกับฟิลเตอร์และเอฟเฟ็กต์ภาพให้เลือกถ่ายอีกเยอะมากๆ ในกล้องหน้ารุ่นนี้

1685720639703 | Review | รีวิว vivo X90 Pro 5G ที่สุดของสมาร์ตโฟนเรือธง กล้องดีที่สุดจากเซนเซอร์ ZEISS ขนาดใหญ่ 1 นิ้ว
1685720639631 | Review | รีวิว vivo X90 Pro 5G ที่สุดของสมาร์ตโฟนเรือธง กล้องดีที่สุดจากเซนเซอร์ ZEISS ขนาดใหญ่ 1 นิ้ว
1685720639374 | Review | รีวิว vivo X90 Pro 5G ที่สุดของสมาร์ตโฟนเรือธง กล้องดีที่สุดจากเซนเซอร์ ZEISS ขนาดใหญ่ 1 นิ้ว
1685720639421 | Review | รีวิว vivo X90 Pro 5G ที่สุดของสมาร์ตโฟนเรือธง กล้องดีที่สุดจากเซนเซอร์ ZEISS ขนาดใหญ่ 1 นิ้ว
1685720639476 | Review | รีวิว vivo X90 Pro 5G ที่สุดของสมาร์ตโฟนเรือธง กล้องดีที่สุดจากเซนเซอร์ ZEISS ขนาดใหญ่ 1 นิ้ว

สไตล์ภาพ Cinematic เป็นการถ่ายที่ให้ผลลัพท์ออกมาน่าสนใจครับ สไตล์ภาพที่มาในสัดส่วน 2.39:1 เพิ่มความแปลกตาและโดดเด่น พร้อมจับโฟกัสบุคคลทำชัดลึกชัดตื้นออกมาได้เหมือนภาพจากในภาพยนตร์

และแน่นอนว่าโหมด Cinematic รองรับการถ่ายภาพวิดีโอด้วยเช่นกัน เบลอหลังตัวนางแบบได้แบบเรียลไทม์ จับโฟกัสได้แม่นเป๊ะ ละลายหลังสวยๆ แม้จะเป็นภาพเคลื่อนไหวก็ตาม ในงานถ่ายวิดีโอของ vivo X90 Pro 5G ยอดเยี่ยมไม่แพ้ภาพนิ่งครับ สามารถถ่ายภาพวิดีโอได้ดีทั้งแสงกลางวันและแสงกลางคืน ฮาร์ดแวร์ทรงพลัง ทำงานเหล่านี้ได้ง่ายๆ เบาๆ เครื่องเลย

VIVO X90 Pro 5G Appdisqus 0069 | Review | รีวิว vivo X90 Pro 5G ที่สุดของสมาร์ตโฟนเรือธง กล้องดีที่สุดจากเซนเซอร์ ZEISS ขนาดใหญ่ 1 นิ้ว

1685720637888 scaled | Review | รีวิว vivo X90 Pro 5G ที่สุดของสมาร์ตโฟนเรือธง กล้องดีที่สุดจากเซนเซอร์ ZEISS ขนาดใหญ่ 1 นิ้ว
1685720637918 scaled | Review | รีวิว vivo X90 Pro 5G ที่สุดของสมาร์ตโฟนเรือธง กล้องดีที่สุดจากเซนเซอร์ ZEISS ขนาดใหญ่ 1 นิ้ว
1685720637943 scaled | Review | รีวิว vivo X90 Pro 5G ที่สุดของสมาร์ตโฟนเรือธง กล้องดีที่สุดจากเซนเซอร์ ZEISS ขนาดใหญ่ 1 นิ้ว
1685720638029 scaled | Review | รีวิว vivo X90 Pro 5G ที่สุดของสมาร์ตโฟนเรือธง กล้องดีที่สุดจากเซนเซอร์ ZEISS ขนาดใหญ่ 1 นิ้ว

ลูกเล่นในการถ่ายภาพกลางคืนมีมากมายเลยครับ เก็บภาพได้คมกว่ารุ่นเดิม มีความเข้มและความแน่นของสีสัน มีมาให้ทั้งโหมดถ่ายดวงดาวที่สามารถถือถ่ายดาวได้ด้วยมือเปล่า หรือถ่ายพระจันทร์ และ Night Sports Mode การเก็บภาพให้คมชัดได้ในทันทีคล้ายการถ่ายด้วยสปีดชัตเตอร์ที่สูง เหมาะกับการถ่ายสิ่งที่เคลื่อนไหวเร็วๆ ในที่แสงน้อยนั้นเองครับ

VIVO X90 Pro 5G Appdisqus 0014 | Review | รีวิว vivo X90 Pro 5G ที่สุดของสมาร์ตโฟนเรือธง กล้องดีที่สุดจากเซนเซอร์ ZEISS ขนาดใหญ่ 1 นิ้ว

ตัวอย่างภาพภ่ายกลางคืนของ vivo X90 Pro 5G

1685720637858 scaled | Review | รีวิว vivo X90 Pro 5G ที่สุดของสมาร์ตโฟนเรือธง กล้องดีที่สุดจากเซนเซอร์ ZEISS ขนาดใหญ่ 1 นิ้ว
1685720641183 scaled | Review | รีวิว vivo X90 Pro 5G ที่สุดของสมาร์ตโฟนเรือธง กล้องดีที่สุดจากเซนเซอร์ ZEISS ขนาดใหญ่ 1 นิ้ว
1685720635789 scaled | Review | รีวิว vivo X90 Pro 5G ที่สุดของสมาร์ตโฟนเรือธง กล้องดีที่สุดจากเซนเซอร์ ZEISS ขนาดใหญ่ 1 นิ้ว
IMG 20230519 192910 scaled | Review | รีวิว vivo X90 Pro 5G ที่สุดของสมาร์ตโฟนเรือธง กล้องดีที่สุดจากเซนเซอร์ ZEISS ขนาดใหญ่ 1 นิ้ว
IMG 20230519 192729 scaled | Review | รีวิว vivo X90 Pro 5G ที่สุดของสมาร์ตโฟนเรือธง กล้องดีที่สุดจากเซนเซอร์ ZEISS ขนาดใหญ่ 1 นิ้ว
IMG 20230519 192753 scaled | Review | รีวิว vivo X90 Pro 5G ที่สุดของสมาร์ตโฟนเรือธง กล้องดีที่สุดจากเซนเซอร์ ZEISS ขนาดใหญ่ 1 นิ้ว

มีเอฟเฟ็กต์น่ารักอย่าง ZEISS Miniature Effect ในชื่อโหมด “ภูมิทัศน์และสถาปัตยกรรม” ที่จะเปลี่ยนโลกที่เราเห็นให้กลายเป็นโลกขนาดจิ๋ว น่ารักดีครับ

Screenshot 20230611 165137 | Review | รีวิว vivo X90 Pro 5G ที่สุดของสมาร์ตโฟนเรือธง กล้องดีที่สุดจากเซนเซอร์ ZEISS ขนาดใหญ่ 1 นิ้ว
1686562904662 | Review | รีวิว vivo X90 Pro 5G ที่สุดของสมาร์ตโฟนเรือธง กล้องดีที่สุดจากเซนเซอร์ ZEISS ขนาดใหญ่ 1 นิ้ว

ในที่แสงน้อย ก็ยังได้ภาพบุคคลที่ดูสวยคมอยู่เลยครับ แม้จะไม่เท่ากับแสงกลางวันแต่ก็ทำได้ดีกว่าสมาร์ตโฟนรุ่นอื่นเห็นได้ชัดครับ บวกกับตัวเลือกในระยะซูม 2x ของเลนส์เทเลโฟโต้ 50mm. ทำให้การถ่ายภาพบุคคลของกล้องรุ่นนี้มีองศาภาพและระยะที่เหมาะอย่างมากกับการถ่ายภาพบุคคลได้อย่างพอดีเลยครับ

1685720635433 scaled | Review | รีวิว vivo X90 Pro 5G ที่สุดของสมาร์ตโฟนเรือธง กล้องดีที่สุดจากเซนเซอร์ ZEISS ขนาดใหญ่ 1 นิ้ว
1685720636439 scaled | Review | รีวิว vivo X90 Pro 5G ที่สุดของสมาร์ตโฟนเรือธง กล้องดีที่สุดจากเซนเซอร์ ZEISS ขนาดใหญ่ 1 นิ้ว
1685720637267 scaled | Review | รีวิว vivo X90 Pro 5G ที่สุดของสมาร์ตโฟนเรือธง กล้องดีที่สุดจากเซนเซอร์ ZEISS ขนาดใหญ่ 1 นิ้ว
1685720637455 1 scaled | Review | รีวิว vivo X90 Pro 5G ที่สุดของสมาร์ตโฟนเรือธง กล้องดีที่สุดจากเซนเซอร์ ZEISS ขนาดใหญ่ 1 นิ้ว

ความสามารถในการแก้ไขภาพเมื่อหลังถ่ายภาพไปแล้ว เราสามารถกลับมาปรับแก้ใหม่ได้เยอะมากครับ ทั้งเลือกจุดโฟกัสใหม่ ปรับค่า f เพื่อเปลี่ยนระยะโฟกัสชัดลึกได้ใหม่ หรือการแต่งหน้านางแบบใหม่ให้สวยใสกว่าเดิม ^^

VIVO X90 Pro 5G Appdisqus 0114 | Review | รีวิว vivo X90 Pro 5G ที่สุดของสมาร์ตโฟนเรือธง กล้องดีที่สุดจากเซนเซอร์ ZEISS ขนาดใหญ่ 1 นิ้ว
VIVO X90 Pro 5G Appdisqus 0113 | Review | รีวิว vivo X90 Pro 5G ที่สุดของสมาร์ตโฟนเรือธง กล้องดีที่สุดจากเซนเซอร์ ZEISS ขนาดใหญ่ 1 นิ้ว
VIVO X90 Pro 5G Appdisqus 0115 | Review | รีวิว vivo X90 Pro 5G ที่สุดของสมาร์ตโฟนเรือธง กล้องดีที่สุดจากเซนเซอร์ ZEISS ขนาดใหญ่ 1 นิ้ว

หรือจะลบสิ่งที่ไม่เกี่ยวข้องบนภาพออกไป ก็สามารถทำได้ด้วยระบบจัดการภาพของเครื่องเลย ไม่ต้องโหลดแอปแก้ไขภาพมาเพิ่มครับ

VIVO X90 Pro 5G Appdisqus 0122 | Review | รีวิว vivo X90 Pro 5G ที่สุดของสมาร์ตโฟนเรือธง กล้องดีที่สุดจากเซนเซอร์ ZEISS ขนาดใหญ่ 1 นิ้ว
VIVO X90 Pro 5G Appdisqus 0117 | Review | รีวิว vivo X90 Pro 5G ที่สุดของสมาร์ตโฟนเรือธง กล้องดีที่สุดจากเซนเซอร์ ZEISS ขนาดใหญ่ 1 นิ้ว
VIVO X90 Pro 5G Appdisqus 0120 | Review | รีวิว vivo X90 Pro 5G ที่สุดของสมาร์ตโฟนเรือธง กล้องดีที่สุดจากเซนเซอร์ ZEISS ขนาดใหญ่ 1 นิ้ว

กล้องถ่ายภาพอยู่ในขั้นสุดของกล้องสมาร์ตโฟน ภาพสวย ภาพคนยิ่งสวย มีความเข้ม จริงจัง และโทนภาพที่มาในแบบกล้องโปร คมชัดถ่ายง่ายและปรับแต่งได้มากมาย ฟังก์ชั่นเยอะมากครับ

หลังจากได้ภาพสวยๆ ถูกใจเราแล้ว ก็นำมาใส่กรอบสวยๆ จากเครื่อง vivo X90 Pro 5G ได้ในการแต่งภาพนะครับ กรอบภาพที่มีให้เลือกใช้มากกว่า 20 แบบ มีทุกแนว พร้อมตรา ZEISS กับฐานข้อมูลภาพที่ถูกบันทึกลงบนกรอบให้เราเองอัตโนมัติ

เลือกที่ถูกใจ เพิ่มความเก๋ แล้วแชร์ออกไปพร้อมเฟรมภาพสวยๆ เราสามารถทำแบบนี้ได้ทั้งหมดจากในเครื่องโดยตรงเลยครับ ^^

VIVO X90 Pro 5G Appdisqus 1005 | Review | รีวิว vivo X90 Pro 5G ที่สุดของสมาร์ตโฟนเรือธง กล้องดีที่สุดจากเซนเซอร์ ZEISS ขนาดใหญ่ 1 นิ้ว
VIVO X90 Pro 5G Appdisqus 1006 | Review | รีวิว vivo X90 Pro 5G ที่สุดของสมาร์ตโฟนเรือธง กล้องดีที่สุดจากเซนเซอร์ ZEISS ขนาดใหญ่ 1 นิ้ว
VIVO X90 Pro 5G Appdisqus 1010 | Review | รีวิว vivo X90 Pro 5G ที่สุดของสมาร์ตโฟนเรือธง กล้องดีที่สุดจากเซนเซอร์ ZEISS ขนาดใหญ่ 1 นิ้ว
VIVO X90 Pro 5G Appdisqus 1011 | Review | รีวิว vivo X90 Pro 5G ที่สุดของสมาร์ตโฟนเรือธง กล้องดีที่สุดจากเซนเซอร์ ZEISS ขนาดใหญ่ 1 นิ้ว
VIVO X90 Pro 5G Appdisqus 1009 | Review | รีวิว vivo X90 Pro 5G ที่สุดของสมาร์ตโฟนเรือธง กล้องดีที่สุดจากเซนเซอร์ ZEISS ขนาดใหญ่ 1 นิ้ว
VIVO X90 Pro 5G Appdisqus 1008 | Review | รีวิว vivo X90 Pro 5G ที่สุดของสมาร์ตโฟนเรือธง กล้องดีที่สุดจากเซนเซอร์ ZEISS ขนาดใหญ่ 1 นิ้ว

สรุปท้ายรีวิว

vivo X90 Pro 5G สมาร์ตโฟนตัวชั้นยอด สเปกเครื่องแรงสมเป็นเรือธงของแบรนด์ ประสิทธิภาพสูงในทุกด้าน รองรับการชาร์จเร็วระดับ 120W ชาร์จแบตได้ 50% ในเวลาแค่ 8 นาที และรองรับการชาร์จไร้สายที่ 50W ด้วยเช่นกัน

ตัวเครื่องหรูด้วยวัสดุฝาหลังหนังวีแกน ผิวสัมผัสดี ละมุนมือและไม่เกิดคราบมัน มาตรฐานการผลิตกันน้ำกันฝุ่น IP68 หน้าจอขนาดใหญ่ ใช้จอเทคโนโลยีใหม่ของ BOE Q9 รองรับเทคโนโลยีการหรี่แสงจอ PWM ที่สูงถึง 2,160Hz และมีอัตรารีเฟรชสูงถึง 120Hz ภาพสวย จอสดใส และไร้ขอบจอครับ พร้อมลำโพงคู่สเตอริโอ

กล้องถ่ายภาพระดับตัวตึงของวงการ มากับกล้องถ่ายภาพที่ยอดเยี่ยมมากที่สุดจาก vivo เซนเซอร์ขนาดใหญ่ 1 นิ้ว และเทคนิคการเคลือบเลนส์จาก ZEISS มีโหมดถ่ายภาพเยอะมากที่สุด สไตล์ภาพสวยๆ จากกล้องระดับตำนาน

การถ่ายภาพยอดเยี่ยม ถ่ายได้ง่าย ถ่ายวิวสวยถ่ายคนก็ยิ่งสวย ภาพมีความเข้มจริงจังในสไตล์โทนคลาสสิค ถ่ายภาพและวิดีโอไม่กลัวเวลาแสงน้อย เก็บภาพได้คมทั้งกลางวันและกลางคืน

ใครที่มองหาสมาร์ตโฟนเรือธงตัวจบ ทั้งในด้านการใช้งานและการถ่ายภาพ เราขอแนะนำ vivo X90 Pro 5G ตัวนี้ครับ ครบเครื่องในระดับยอดเยี่ยมทุกด้านจริงๆ

ราคาและโปรโมชั่น

vivo X90 Pro 5G รุ่น RAM 12GB / ROM 256GB เปิดจำหน่ายในราคา 39,999 บาท พร้อมรับโปรโมชัน

  • EVIP Card: ประกันหน้าจอแตก 2 ปี 1 ครั้ง + ประกันตัวเครื่อง 2 ปี มูลค่า 10,999 บาท
  • แท่นชาร์จไร้สาย (vivo 50W Vertical Wireless Flash Charger) มูลค่า 2,999 บาท

วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 20 พฤษภาคม 2566 เป็นต้นไป

ข่าว: รีวิว vivo X90 Pro 5G ที่สุดของสมาร์ตโฟนเรือธง กล้องดีที่สุดจากเซนเซอร์ ZEISS ขนาดใหญ่ 1 นิ้ว มีที่มาจาก: แอพดิสคัส.

from:https://www.appdisqus.com/review-vivo-x90-pro-5g-zeiss-camera/

กลุ่มธุรกิจ TCP มีมากกว่ากระทิงแดง !! พาชมงานจัดแสดงสินค้าระดับโลกจากบูทกลุ่มธุรกิจ TCP ในงาน THAIFEX 2023

เชื่อว่าหลายคนน่าจะรู้จัก กระทิงแดง, เรดดี้ แมนซั่ม หรือแม้แต่ เพียวริคุ กันไม่มากก็น้อย แต่หลายคนอาจจะไม่ทราบว่าทั้งหมดนี้เป็นสินค้าที่อยู่ในกลุ่มธุรกิจ TCP และนอกจากสินค้าที่ชื่อคุ้นหูเหล่านี้แล้ว กลุ่มธุรกิจ TCP ยังมีสินค้าและบริการอีกมากมายที่ไปไกลระดับโลก

ซึ่งทีมงาน Thumbsup ได้ไปเยี่ยมชมอาณาจักรของ กลุ่มธุรกิจ TCP ภายในงาน THAIFEX 2023 แล้วต้องบอกเลยว่า น่าสนใจ และโชว์ให้เห็นถึงศักยภาพผู้นำธุรกิจ Food & Beverage แห่งเอเชีย สมกับความเป็นเจ้าของแบรนด์เครื่องดื่มให้พลังงานระดับโลกจริงๆ

TCP’s Story จุดกำเนิดของแบรนด์เครื่องดื่มให้พลังงานระดับโลก

ภายในโซนแรก พาเราไปรู้จักกับเรื่องราว ต้นกำเนิดของหลายแบรนด์ ภายใต้กลุ่มธุรกิจ TCP ที่หลายคนอาจจะไม่ทราบว่าเติบโตมาจากธุรกิจยา อยู่แถวถนนข้าวสาร ก่อตั้งโดยคุณเฉลียว อยู่วิทยา ซึ่งสินค้าตัวแรก ไม่ใช่กระทิงแดงนะ แต่เป็นยารักษาโรคที่ชื่อ ทีซี-มัยซิน นั่นเอง

จนต่อมาก็ได้มีการออกสินค้ากระทิงแดง ซึ่งเป็นเครื่องดื่มให้พลังงาน และกลายเป็น Red Bull แบรนด์ระดับโลกนั่นเอง

Product Showcase อาณาจักรสินค้าของกลุ่มธุรกิจ TCP

โซนที่น่าสนใจมากๆ คือกลุ่มสินค้าทั้งหมด ซึ่งหลายแบรนด์ไม่ได้มีขายในไทยด้วยนะ เราสามารถไปลองชิมสินค้าหลากหลายชนิดได้ เช่น Red Bull Gold, Red Bull Cold Brew Coffee

นอกจากนี้ยังมีการเปิดตัวสินค้าใหม่ ที่งาน THAIFEX 2023 เป็นที่แรก นั้นก็คือ FarmZaa (ฟาร์มซ่า) แบรนด์น้องใหม่ ที่เน้นสนับสนุนสินค้าจากเกษตรกรไทย ด้วยการนำ “มะปี๊ด” มาพัฒนาเป็นเครื่องดื่มมะปื๊ดโซดา และ Planett (แพลนเนต) เครื่องดื่ม Floral Soda ครั้งแรกในไทย ไม่มีน้ำตาลและแคลอรี่ 0% อีกด้วย

ทั้ง 2 สินค้าเอาใจคนรักสุขภาพและรักษ์โลกไปพร้อมกัน เพราะเป็น Product ที่มาในแพคเกจจิ้งที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากๆ

TCP Services พลังบริการครบวงจร

เมื่อมีสินค้าที่ดีแล้ว ก็ต้องมีการจัดการและการกระจายสินค้าที่ดีด้วย โซนนี้จะเป็นการทำความรู้จักกับ “กลุ่มธุรกิจ TCP” ที่นำโดย Durbell ผู้นำด้านการจัดจำหน่ายสินค้า และคลังสินค้าระดับประเทศ

ซึ่งนอกจากจะให้บริการกระจายสินค้าแล้ว ยังมีบริการให้คำปรึกษาด้านการตลาด ช่วยให้พันธมิตรและคู่ค้าที่ต้องการเปิดตลาดในไทยมีความมั่นใจมากขึ้น

อีกธุรกิจที่น่าสนใจอย่าง ที.จี. เวนดิ้ง ธุรกิจตู้จำหน่ายเครื่องดื่มอัตโนมัติ หรืออย่างรับจ้างผลิตเครื่องดื่ม (OEM) ก็ถือว่าเป็นโซนที่พลาดไม่ได้เช่นกัน

Product Experience สัมผัสพลังรสชาติใหม่

โซนที่สนุกที่สุดโซนนึง เพราะเราจะได้พบกับ MIXOLOGIST PERFORMANCE หรือการผสมเครื่องดื่ม โดย mixologist ชื่อดัง ที่นำเครื่องดื่มในกลุ่มธุรกิจ TCP มา Mix กันจนกลายเป็นเครื่องดื่มสูตรพิเศษ เป็นโซนที่คนให้ความสนใจกันมากทีเดียว

International Business ต่อยอดโอกาสทางธุรกิจ

ถ้าใครอยากนำธุรกิจโกอินเตอร์ แนะนำโซนนี้เลย โดยเราจะได้เรียนรู้ถึงการพาสินค้าไทยไปไกลถึงต่างประเทศ ด้วยกลุ่มธุรกิจ TCP ที่ส่งออกสินค้าไปยัง 14 ประเทศ ในเอเชียและทำตลาดในอีกกว่า 170 ประเทศทั่วโลก

TCP Sustainability กับอนาคตที่ยั่งยืน

ไม่ใช่แค่มีสินค้าและบริการระดับโลกเท่านั้น กลุ่มธุรกิจ TCP ก็ยังใส่ใจเรื่องของความยั่งยืนอย่างมาก โดยได้แสดงจุดยืนอย่างชัดเจนว่าจะใช้บรรจุภัณฑ์ที่รีไซเคิลได้ 100% ภายในปี 2567 และยังมีการจับมือกับองค์กรด้านสิ่งแวดล้อมระดับโลก เพื่อนำขวดแก้ว กระป๋องอะลูมิเนียม และขวดพลาสติกที่ใช้แล้ว มาเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิล เพื่อพัฒนาเป็นบรรจุภัณฑ์ที่ยั่งยืน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) อีกด้วย

ภายในพื้นที่จัดแสดง ยังมีกิจกรรมอีกมากมาย เช่น  TCP RUNNER ให้เราได้ลุ้นรับรางวัลพิเศษ และถ่ายภาพที่ระลึกที่โฟโต้บูท

จะเห็นได้ว่ากลุ่มธุรกิจ TCP ไม่ใช่แค่การทำธุรกิจที่เติบโตไปไกลระดับโลกเท่านั้น แต่ยังเป็นอาณาจักรธุรกิจที่สร้างประสบการณ์หลากหลายให้กับผู้บริโภค รวมถึงธุรกิจที่เกี่ยวข้องในไทยและสากล ให้เติบโตไปอย่างยั่งยืน และมีความรับผิดชอบต่อสังคมอีกด้วย

ข้อมูลเพิ่มเติม – TCP

from:https://www.thumbsup.in.th/tcp-thaifex-2023?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=tcp-thaifex-2023

รีวิว Fender RIFF ลำโพงไร้สาย โฉมใหม่ ใช้งานง่าย ต่อเบสและกีตาร์ขณะเปิดเพลงไปพร้อมกันได้

รีวิว Fender RIFF ลำโพงไร้สาย โฉมใหม่ ใช้งานง่าย ต่อเบส […] More

from:https://www.iphonemod.net/review-fender-riff.html?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=review-fender-riff

รีวิว OPPO A98 5G ที่สุดของสมาร์ตโฟน A Series อัปเกรดครบทุกด้าน ชาร์จไว 67W SUPERVOOC หน้าจอรีเฟรช 120Hz กล้องหลัก 64MP ดับเบิ้ล ROM 256GB และ ดับเบิ้ล RAM 8GB+8GB !!!

เปิดตัวและพร้อมวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการสำหรับ “OPPO A98 5G” สมาร์ตโฟนที่ดีที่สุดจาก A Series โดยมาพร้อมสโลแกน “ชาร์จไวไม่ช็อตฟีล” ด้วยเทคโนโลยีชาร์จไว 67W SUPERVOOC เป็นครั้งแรกของ A Series

และยังอัปเกรดสเปคมาแบบรอบด้านที่เหนือกว่ารุ่นก่อนหน้า ไม่ว่าจะเป็นดับเบิ้ล ROM 256GB และ ดับเบิ้ล RAM 8GB ที่เพิ่มได้อีก 8GB ผสานด้วยหน้าจอลื่นไหล 120HZ

รวมถึงดีไซน์อัปเกรด ที่มอบความพรีเมียมไปอีกขั้นด้วย 3D Micro-Curved รวมถึงความละเอียดกล้องหน้าและหลังที่เพิ่มขึ้นและยังมีฟีเจอร์เด่น ๆ แบบอัดแน่นในสไตล์ A Series มาให้ใช้งานอย่างจุใจอีกด้วย

มาถึงตรงนี้เชื่อว่าหลายคนคงอยากรู้กันแล้วว่า OPPO A98 5G จะมีฟีเจอร์และความน่าสนใจในภาพรวมเป็นอย่างไรกันบ้าง ไปรับชมรีวิวฉบับเต็มพร้อม ๆ กันได้เลยครับ

สเปคเบื้องต้น OPPO A98 5G

OPPO A98 5G
  • ขนาด 165.6 x 76.1 x 8.20 มม.น้ำหนัก 192 กรัม 
  • หน้าจอแสดงผล Punch Hole Display ขนาด 6.72 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2400×1080), Screen ratio: 91.40%, Refresh rate: 120Hz ความสว่าง 680nits (Typical)
  • ชิปเซ็ต Qualcomm® Snapdragon™ 695 (SDM 695)
  • กล้องหลัง 3 เลนส์ AI Triple Camera
    กล้องหลัก: 64MP; f/1.7; FOV 79°; 6P lens; AF support; MONO: 2MP; f/2.4; FOV 89°; 3P lens;
    Microscope: 2MP; f/3.3; FOV 65°; 3P lens, 5.5mm shooting, 20x/40x zoom in
  • กล้องหน้า 32MP; f/2.4; FOV 89°; 5P lens; FF
  • แรม 8GB + 8GB (RAM Expansion)
  • พื้นที่จัดเก็บข้อมูล 256GB (รองรับการ์ดหน่วยความจำภายนอก MicroSD)
  • ระบบปฏิบัติการ ColorOS 13.1 บนพื้นฐาน Android 13 
  • แบตเตอรี่ 5,000mAh รองรับเทคโนโลยีชาร์จไว 67W SUPERVOOCTM, VOOC, และ PD (9V/2A)
  • สีที่มีวางจำหน่าย สีดำ Cool Black | สีฟ้า Dreamy Blue
  • ราคาเปิดตัว 10,990 บาท 

บรรจุภัณฑ์ / อุปกรณ์ภายในกล่อง

OPPO A98 5G มีการอัปเกรดในแบบรอบด้าน รวมถึงกล่องบรรจุภัณฑ์ที่เปลี่ยนมาใช้สีขาวเป็นโทนหลัก ซึ่งให้ความรู้สึกสะอาดสบายตามีความเป็นมินิมอล พร้อมตอบโจทย์ทาร์เก็ตของ A Series ได้เป็นอย่างดี 

สีที่ทางทีมงานได้รับมารีวิวในครั้งนี้ คือสีฟ้า Dreamy Blue โดยเมื่อเปิดกล่องออกมาจะพบตัวเครื่องซึ่งติดฟิล์มกันรอยมาให้เรียบร้อยตั้งแต่โรงงาน สำหรับอุปกรณ์ภายในกล่องจะมีดังนี้

  • อแดปเตอร์ชาร์จไฟรองรับชาร์จเร็ว 67W SUPERVOOC 
  • สายชาร์จ Type-C
  • Soft Case TPU แบบใส
  • อุปกรณ์เปิดถาด SIM Card
  • คู่มือความปลอดภัย,และคู่มือการใช้งานฉบับย่อ

ไฮไลท์ฟีเจอร์เด่น OPPO A98 5G สมาร์ตโฟนที่ดีที่สุดในรุ่น A Series พร้อมสเปคอัปเกรดในทุก ๆ ด้าน

เติมเต็มและชาร์จพลังงานในแต่ละวันด้วยแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5,000mAh ไม่ว่าจะส่งข้อความ พูดคุยสนทนา หรือสตรีมเกม แค่ไหนก็เอาอยู่ตั้งแต่เช้าจรดค่ำ โดย OPPO A98 5G สามารถใช้งานโทรศัพท์ได้นาน 39 ชั่วโมง, รับชมวิดีโอ YouTube 16 ชั่วโมง, เล่นเกมได้ 8.4 ชั่วโมงเมื่อชาร์จเต็ม

และยังรองรับการชาร์จเร็ว 67W SUPERVOOC ที่มีการชาร์จที่รวดเร็วที่สุดใน A series ณ ขณะนี้ (รุ่นก่อน OPPO A96 รองรับชาร์จไว 33W SUPERVOOC )

ซึ่งการอัปเกรดการชาร์จเร็วในครั้งนี้ ส่งผลให้ OPPO A98 5G สามารถตอบสนองไลฟ์สไตล์การใช้งานในยุคปัจจุบันได้อย่างลงตัว ทั้งการใช้งานได้ต่อเนื่องยาวนานด้วยเทคโนโลยีที่รองรับการยืดอายุแบตเตอรี่และการชาร์จที่รวดเร็ว

อีกทั้งยังมาพร้อมระบบความปลอดภัยขั้นสุดด้วยเทคโนโลยีการป้องกันการชาร์จถึง 5 ชั้น เพื่อให้มั่นใจถึงประสบการณ์ที่ปลอดภัยยิ่งขึ้นตลอดกระบวนการชาร์จทั้งหมดไม่ว่าจะเป็น Hardware จนไปถึง Software ที่ทำงานร่วมได้อย่างสมบูรณ์ลงตัว 

ที่สุดของการชาร์จเร็วบน A Series ด้วยเทคโนโลยี 67W SUPERVOOC ชาร์จไว ไม่ช็อตฟีล เร็วแรงเกินต้าน ซึ่งเป็นการอัปเกรดการชาร์จที่รวดเร็วขึ้นแบบสัมผัสได้จริง โดย OPPO A98 5G สามารถชาร์จได้ถึง 50% ภายใน 18 นาที และใช้เวลาชาร์จเพียง 44 นาที โทรศัพท์ของผู้ใช้งานก็จะมีแบตเตอรี่เต็มที่เพียงพอพร้อมสำหรับการโทร ทำงาน และเล่นสนุกข้างนอกบ้านได้อีกหลายชั่วโมง

อีกทั้งยังใช้งานได้ต่อเนื่องไม่มีสะดุด โดย OPPO A98 5G ชาร์จเพียง 5 นาที สามารถใช้โทรศัพท์ได้ 6 ชั่วโมง หรือดูวิดีโอ YouTube ได้ 2.5 ชั่วโมง

อายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนานที่สุด

นอกเหนือจากการชาร์จที่รวดเร็วและปลอดภัยยิ่งขึ้นแล้ว OPPO A98 5G ยังมี Battery Health Engine อันเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของ OPPO ซึ่งในเทคโนโลยีที่เป็นนวัตกรรมใหม่นี้จะช่วยยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่เพื่อให้แบตเตอรี่ทำงานใกล้ความจุสูงสุดได้นานขึ้น

โดย Battery Health Engine จะช่วยให้อายุการใช้งานของแบตเตอรี่สามารถขยายได้ถึงประมาณ 1,600 รอบการชาร์จ/การคายประจุ ซึ่งจะทำให้แบตเตอรี่ทำงานได้ใกล้เคียงกับความจุสูงสุดสำหรับการใช้งานนานถึง 4 ปีหรือมากกว่า โดยผ่านวิธีการตรวจสอบรอบการชาร์จโทรศัพท์ของคุณอย่างรอบคอบ เพื่อให้แบตเตอรี่อยู่ในสภาพดีอยู่เสมอ

Qualcomm Snapdragon 695 5G ชิปเซ็ตที่ทรงพลัง

OPPO A98 5G ขับเคลื่อนด้วยขุมพลัง Qualcomm Snapdragon 695 5G ที่มีประสิทธิภาพสูงและทรงพลังที่สร้างขึ้นบนเทคโนโลยีการผลิตขั้นสูง 6 นาโนเมตร มอบประสิทธิภาพที่มั่นคงและเร่งความเร็วการเชื่อมต่อ 5G พร้อมประสิทธิภาพการใช้พลังงานที่ดีขึ้น

โดย OPPO A98 5G รองรับการเชื่อมต่อ 5G ทั้งในแบบ Sub-6 + mmWave ที่ให้ความเร็วในการดาวน์โหลดสูงสุด 2.5 Gbps มอบประสิทธิภาพการใช้งาน 5G ที่ครอบคลุมและยืดหยุ่นยิ่งกว่าที่เคย

และด้วยสถาปัตยกรรม octa -core แบบ 8 core ความเร็วสูงถึง 2.2 GHz ผสานด้วยหน่วยประมวลผลกราฟิก Adreno™ 619 @840MHz พร้อมหน่วยความจำขนาดใหญ่ 8GB + 256GB ที่ออกแบบมาเพื่อประสิทธิภาพโดยใช้ RAM ชนิด LPDDR4X (2133MHz 4 x 16-bit) และ ROM ชนิด UFS 2.2 @ 1Lanes Gear3 ช่วยให้การอ่านเขียนและเข้าถึงข้อมูลได้เร็วขึ้น และยังช่วยลดการใช้พลังงาน รวมถึงการเปิดแอปพลิเคชันได้ลื่นไหลเป็นพิเศษ

นอกจากนี้ OPPO A98 5G ยังรองรับการเพิ่มหน่วยความจำเสริม MicroSD Card ได้ถึง 1TB สำหรับผู้ใช้งานที่ต้องการพื้นที่จัดเก็บเพิ่มเติม

RAM Expansion (Double RAM 8+8GB)  

OPPO A98 5G อัปเกรดการใช้งานให้ลื่นไหลด้วย RAM Expansion ที่สามารถเพิ่มได้อีก 8GB (รุ่นก่อน: RAM 8GB และ RAM Expansion สูงสุด 5GB) โดยเมื่อเปิดใช้งานฟีเจอร์ RAM Expansion แล้ว RAM มาตรฐานจะสามารถยืมหน่วยความจำได้มากถึง 8GB จาก ROM ที่ไม่ได้ใช้งาน

และด้วยฟีเจอร์อัปเกรดหน่วยความจำเป็น 8GB+8GB ส่งผลให้สามารถใช้งาน RAM ได้สูงสุดถึง 16GB จึงพร้อมตอบโจทย์การสลับไปมาระหว่างหลายแอปหรือเกมที่เน้นการประมวลผลในพื้นหลังได้อย่างมีประสิทธิภาพและราบรื่นไม่มีสะดุดตลอดทั้งวัน 

ประสิทธิภาพเหมือนใหม่ ใช้งานได้ลื่นไหล ยาวนาน 48 เดือน

ใช้งานได้ลื่นไหลในระยะยาวด้วยฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ที่ได้รับการอัปเกรดบน OPPO A98 5G ซึ่งส่งมอบประสบการณ์การใช้งานที่ลื่นไหลได้นานถึง 48 เดือน ด้วย Qualcomm Snapdragon 695, Dynamic Computing Engine, RAM Expansion ฯลฯ

ผู้ใช้งานสามารถสัมผัสความสนุกได้อย่างลื่นไหล ไม่กระตุกตลอดระยะเวลา 4 ปี ให้เป็น 4 ปีที่ยอดเยี่ยมและยาวนานกับช่วงเวลาที่ผู้ใช้งานสามารถปัดไปมาระหว่างแอป ฟังเพลง และเล่นเกมได้อย่างสบาย ๆ มอบความเพลิดเพลินกับประสบการณ์ที่ราบรื่นเป็นพิเศษ ราวกับว่าเพิ่งแกะโทรศัพท์ออกมาจากกล่องนั่นเอง

Punch Hole Display ขยายหน้อจอใหญ่ขึ้น มอบประสบการณ์การใช้งานที่ลื่นไหลยิ่งขึ้นกว่าเดิม

OPPO A98 5G มาพร้อมหน้าจอขนาดใหญ่เต็มตาในขนาด 6.72 นิ้ว ซึ่งใหญ่กว่ารุ่นก่อนหน้า (OPPO A96) ที่มีขนาดหน้าจอ 6.59 นิ้ว และหน้าจอของ OPPO A98 5G ยังอัดแน่นไปด้วยฟีเจอร์ที่มอบความดื่มด่ำในการรับชมคอนเทนต์และใช้งานทั่วไปได้อย่างลงตัว ด้วยหน้าจอแสดงผล Punch Hole Display ขนาด 6.72 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2400×1080) และมาพร้อมคุณสมบัติดังต่อไปนี้

  • อัตราส่วนหน้าจอต่อขนาดตัวเครื่อง 91.40% 
  • อัตราการรีเฟรชหน้าจอ 120Hz
  • อัตราความไวหน้าจอสัมผัส 240Hz
  • ระดับเฉดสี Vivid mode: 96%NTSC/100% DCI-P3, Gentle mode: 71%NTSC/100% sRGB
  • ความลึกของสี 16.7 million colors (8-bit)
  • ความสว่าง 680nits (Typical)

ในภาพรวมหน้าจอแสดงผลของ OPPO A98 5G มีขนาดที่ใหญ่และลื่นไหลขึ้น ไม่ว่าจะเล่นเกม หรือดูวิดีโอก็สามารถสัมผัสกับประสบการณ์รับชมอันเหนือชั้นที่ให้มุมมองกว้างและสมจริง อีกทั้งยังมาพร้อมฟีเจอร์ปรับความสว่างตามสภาพแวดล้อมโดยอัตโนมัติ และยังมีโหมดปกป้องดวงตาที่ช่วยกรองแสงสีฟ้าอันเป็นอันตรายต่อการใช้งานในระยะยาวอีกด้วย

อัตราการรีเฟรชสูงเป็นพิเศษ 120Hz ลื่นไหล โดนใจ ไม่สะดุด

ที่สุดของความสบายตาด้วยอัตรารีเฟรช 120Hz หมดปัญหาอาการตาล้ากับหน้าจอถนอมสายตาด้วยอัตรารีเฟรช 120Hz ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้งานได้สบายตาตลอดทั้งกลางวันและกลางคืน แม้จะใช้งานต่อเนื่องยาวนานตลอดทั้งวัน อีกทั้งยังมีโหมด AI ที่มาพร้อมความสามารถในการปรับเเสงพื้นหลัง โดยจะเรียนรู้พฤติกรรมของผู้ใช้งาน พร้อมปรับค่าแสงตามสายตาและความต้องการได้ในทันที

สัมผัสประสบการณ์เสียงสมจริงด้วยลำโพงคู่สเตอริโอ ให้เสียงคมชัด และทรงพลัง

ตอบทุกโจทย์การใช้งานด้านความบันเทิงด้วยลำโพงสเตอริโอคู่ ที่ให้เสียงที่หนักแน่นและทรงพลัง ไม่ว่าจะดู MV คอนเสิร์ต, ซีรีส์, หรือเล่นเกม ก็พร้อมเปิดประสบการณ์การรับฟังที่ยกระดับขึ้นไปอีกขั้น เพราะลำโพงคู่สเตอริโอบน OPPO A98 5G จะมาพร้อมฟีเจอร์ Real Original Sound ที่ช่วยปรับแต่งเสียงให้เหมาะสำหรับการฟังเพลง วิดีโอ และ เล่นเกม โดยจะปรับเสียงให้เข้ากับสภาพเเวดล้อมในขณะใช้งานให้โดยอัตโนมัติ เพื่อมอบประสบการณ์เสียงสเตอริโออันนุ่มลึกสมจริง 

นอกจากนี้ยังมาพร้อมฟีเจอร์อันชาญฉลาด ด้วยโหมด Ultra Volume ที่ผู้ใช้งานสามารถเพิ่มระดับเสียงได้สูงถึง 200% ไม่ว่าจะเพิ่มเสียงตอนที่คุยโทรศัพท์ หรือตอนฟังเพลงโปรดผ่านลำโพง เพื่อให้ผู้ใช้งานจะไม่พลาดทุกสายหรือทุกข้อความที่สำคัญอีกต่อไป

เพลิดเพลินไปกับประสบการณ์ใช้งานบน ColorOS 13.1 

OPPO A98 5G มาพร้อมระบบปฏิบัติการที่ชาญฉลาดและปลอดภัยยิ่งขึ้น มอบความเพลิดเพลินกับประสบการณ์การใช้งานที่มีประสิทธิภาพสูงและใช้งานง่ายใน ColorOS 13.1  ที่ผู้ใช้งานสามารถสัมผัสถึงความฉลาด ความสะดวกสบาย และความเป็นส่วนตัวที่ได้รับการพัฒนามาโดยตลอด

OPPO A98 5G รองรับการใช้งานพื้นฐานได้อย่างครอบคลุม ไม่ว่าจะเป็นการดูหนัง ฟังเพลง ท่องเว็บและเล่นโซเชี่ยล อีกทั้งยังรองรับการติดตั้งแอปพลิเคชันยอดนิยมได้อย่างครบถ้วนโดยไม่พบปัญหาแต่อย่างใด

ในภาพรวม OPPO A98 5G พร้อมมอบประสบการณ์การใช้งานที่เต็มเปี่ยมด้วยประสิทธิภาพยิ่งขึ้นด้วย ColorOS 13.1 และผสานด้วยฟีเจอร์  RAM Expansion ที่ได้รีบการอัปเกรด ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้สมาร์ตโฟนทำงานได้อย่างลื่นไหลทุกเวลา ทำให้การตอบสนองของแอปและเกมเร็วขึ้นและช่วยให้เล่นเกมได้ไม่กระตุกและดูวิดีโอได้โดยไม่ดีเลย์อีกด้วย 

ผู้ใช้งานสามารถปรับเปลี่ยนหน้าจอโฮม,  ธีม, แบบอักษร, วอลเปเปอร์, ไลฟ์วอลเปเปอร์, ริงโทนแบบวิดีโอ ซึ่งมีให้เลือกใช้งานอย่างจุใจ ทั้งแบบฟรีและเสียเงิน นอกจากนี้ตัว ColorOS ยังตั้งค่า UI ได้อย่างยืดหยุ่น อาทิ รูปแบบหน้าจอหลัก, ไอคอน, การจัดวางแอป, แถบรายการแจ้งเตือน ฯลฯ 

Three-finger Translate ด้วย Google Lens

ด้วยการขับเคลื่อนโดย Google Lens การปัดด้วยสามนิ้วจากด้านบนลงมาด้านล่างของจอแสดงผล จะเป็นการจับภาพหน้าจอและสามารถแปลข้อความภายในภาพทั้งหมดได้ในคราวเดียว

นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ Freeform Screenshot ที่รองรับการบันทึกภาพหน้าจอได้หลากหลายรูปแบบ เมื่อเลือกพื้นที่ภาพหน้าจอที่แคปแล้ว เพียงแตะปุ่ม “แปล” เพื่อเปิด Google Lens ก็จะสามารถแปลเนื้อหาเป็นภาษาต่าง ๆ ได้ถึงกว่า 100 ภาษา

Auto Pixelate สามารถจดจำและทำการเบลอพิกเซลข้อมูลที่ละเอียดอ่อนโดยอัตโนมัติ เช่น รูปโปรไฟล์และชื่อบนภาพหน้าจอแชทของคุณด้วยการคลิกเพียงครั้งเดียว ช่วยประหยัดเวลาของคุณไม่ต้องซ่อนข้อมูลด้วยตัวเอง ตอนนี้ แชร์แชทกับเพื่อน ๆ ได้ง่ายกว่าเดิมมาก โดยไม่ต้องกังวลว่าจะเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวมากเกินไป

ใน ColorOS 13.1 อัดแน่นไปด้วยมีฟีเจอร์ที่ช่วยให้การใช้งาน OPPO A98 5G เป็นไปอย่างราบรื่นและสะดวกง่ายดายยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการกำหนดปุ่มนำทางของระบบ, การบันทึกหน้าจอ, ปุ่มย้อนกลับแบบด่วน, แถบด้านข้างอัจฉริยะ, รวมถึงท่าทางและการเคลื่อนไหว ซึ่งเป็นฟีเจอร์ช่วยอำนวยความสะดวกในการใช้งานเป็นหลัก เช่น วาดตัวอักษรบนหน้าจอเพื่อเปิดใช้งานแอปพลิเคชัน, จับภาพหน้าจอ หรือการควบคุมการเล่นเพลงเป็นต้น 

ด้านความปลอดภัย

OPPO A98 5G รองรับระบบไบโอแมทริกซ์ทั้งการสแกนลายนิ้วมือที่ติดตั้งมาในปุ่มพาวเวอร์แบบ Side Fingerprint Unlock โดยรองรับการใช้งานได้ 5 ลายนิ้วมือ ส่วนการปลดล็อกใบหน้าสามารถปลดล็อกได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังตั้งค่าได้ค่อนข้างยืดหยุ่น โดยสามารถตั้งค่าความสว่างหน้าจอแสดงผลอัตโนมัติเพื่อให้สามารถปลดล็อกได้ดีแม้ในที่แสงน้อย รวมถึงกำหนดค่าให้ปลดล็อกเฉพาะเมื่อลืมตาเท่านั้นได้อีกด้วย

5-Grade Access Control

ด้วยฟีเจอร์ความเป็นส่วนตัวที่ใช้งานง่ายและมีประสิทธิภาพ เช่น Privacy Dashboard, Approximate Location Sharing, Microphone and Camera Indicators, Microphone and Camera Toggles, และ Presentation of Notifications ให้คุณสามารถควมคุมการเข้าถึงข้อมูลของตัวเองได้ทุกเมื่อ

รวมถึงยังมาพร้อมฟีเจอร์ Photo Information Protection เมื่อแชร์รูปภาพหรือวิดีโอในอัลบั้มรูปภาพ ตัวจัดการไฟล์ และแอปพลิเคชันอินเทอร์เน็ตของบริษัทอื่น OPPO A98 5G มีตัวเลือกในการลบข้อมูลตำแหน่งของรูปภาพและข้อมูลเมตาของรูปภาพเพิ่มเติม (ชื่อ เวลา รุ่นโทรศัพท์ พารามิเตอร์) เพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัวของคุณ

ด้านการเล่นเกม

Game Space ถูกออกแบบมาเพื่อความสนุกในการเล่นเกมขั้นสุด ซึ่งสามารถเลือกการทำงานได้ถึง 3 โหมดตามความเหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นโหมดโปรแกรมเมอร์ ที่สามารถรีดพลังในการเล่นเกมออกมาได้แบบเต็มประสิทธิภาพยิ่งขึ้น, โหมดสมดุล ที่จัดสรรทั้งในด้านประสิทธิภาพและการใช้พลังงานไปควบคู่กัน, และโหมดกำลังไฟฟ้าต่ำ เพื่อการประหยัดพลังงาน 

นอกจากนี้ Game Space ยังมี Graphics Acceleration สำหรับรีดประสิทธิภาพการประมวลผลของ GPU เพื่อให้การเล่นเกมเป็นไปอย่างลื่นไหลที่สุด รวมไปถึง Network Protection สำหรับจำกัดการใช้งานอินเทอร์เน็ตของแอปพลิเคชันที่ทำงานอยู่เบื้องหลัง เพื่อช่วยลดอาการแลคขณะเล่นเกมออนไลน์ที่จำเป็นต้องมีการรับ-ส่งข้อมูลอยู่ตลอดเวลา

ในภาพรวม OPPO A98 5G เป็นสมาร์ตโฟนที่พร้อมตอบโจทย์ในด้านการเล่นเกมได้อย่างน่าประทับใจ ด้วยสเปคที่อัปเกรดขึ้นจากรุ่นก่อนหน้าแบบรอบด้าน แต่ทั้งนี้ก็ควรเลือกค่าเริ่มต้นที่ตัว OPPO A98 5G กำหนดให้อย่างเหมาะสม ซึ่งจะช่วยให้การเล่นเกมเป็นไปอย่างไหลลื่นไม่เสียอรรถรสอย่างแน่นอน

อ่านต่อหน้า 2

.fb-background-color {
background: #ffffff !important;
}
.fb_iframe_widget_fluid_desktop iframe {
width: 100% !important;
}

from:https://www.mobileocta.com/review-oppo-a98-5g/?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=review-oppo-a98-5g

รีวิว realme C53 แชมป์เปี้ยนชาร์จ แชมป์เปี้ยนหน่วยความจำ ดีไซน์หรูจอใหญ่ 6.74 นิ้ว 90Hz บางเฉียบ 7.49 มม. ชาร์จไว 33W และความจุ 128GB ในราคา 4,999 บาท

หลังจากที่ realme เปิดตัว realme C55 สมาร์ตโฟนที่มาพร้อมกลยุทธ์ใหม่ A Champion of The Segment เพื่อยกระดับ C Series ให้มีความสามารถสูงขึ้นไปเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ล่าสุดได้เปิดตัว realme C53 น้องใหม่ในตระกูลเดียวกันออกมาอีกรุ่นกับสโลแกน “33W Champion Charge”

โดย realme C53 ยังคงเดินหน้าตอกย้ำความเป็นแชมป์เปี้ยนของสมาร์ตโฟนระดับเริ่มต้น และได้พัฒนาใน 3 ด้านได้แก่ การชาร์จ, หน่วยความจำ และดีไซน์ และยังมาพร้อมกับฟีเจอร์ Mini Capsule เหมือนกับ realme C55 ที่มีฟังก์ชั่นการแจ้งเตือนการชาร์จ การแจ้งเตือนข้อมูล และฟังก์ชั่นอื่นๆ เพื่อไม่ให้เสียเวลาเราไปดูรีวิวกันเลยครับ

สเปคเบื้องต้น  realme C33

ขนาด 167.4 x 77 x 7.49 มิลลิเมตร
น้ำหนัก 187 กรัม
หน้าจอ Mini Drop Full Screen Display แบบ IPS LCD ความละเอียด HD+ 720 x 1600 พิกเซล ขนาด 6.74 นิ้ว ในอัตราส่วน 20:9, อัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่อง 90.3%, ความสว่างสูงสุด 450nits โดยมีอัตรารีเฟรชเรท 90Hz และมีอัตราสุ่มตัวอย่างแบบสัมผัส 180Hz
หน่วยประมวลผล Octa Core ความเร็ว 1.82GHz โดยใช้ชิปเซ็ท Unisoc T612 (12 nm), หน่วยประมวลผลกราฟิก ARM Mali-G57
RAM 6GB แบบ  LPDDR4X พร้อม Dynamic RAM สูงสุด 12GB
หน่วยความจำภายในเครื่อง 128GB แบบ UFS 2.2
microSD Card สูงสุด 2TB
กล้องถ่ายภาพ กล้องหลังคู่ Dual Camera ประกอบด้วย  
– กล้องหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล (wide) รูรับแสง f/1.8 และระบบ PDAF
– กล้องตัวที่ 2 VGA ความละเอียด 0.08 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/3.0

พร้อมโหมด 50MP, Video, Night Mode, Panoramic view, Expert, Timelapse, Portrait Mode, HD AI Scene Recognition, Filter, Slow Motion

กล้องหน้าเซลฟี่ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0

ระบบปฏิบัติการ Android 13 ครอบทับด้วย realme UI T Edition
เชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, dual-band, Bluetooth 5.0 A2DP, LE, GPS with A-GPS, GLONASS, GALILEO, ช่องหูฟัง 3.5 มม. และพอร์ต USB Type-C 2.0
รองรับระบบ GSM: 850/900/1800/1900
WCDMA: Bands 1/5/8
FDD-LTE: Bands 1/3/5/8
TD-LTE: Bands 38/40/41
แบตเตอรี่ 5,000 mAh รองรับระบบชาร์จเร้ว 33W SuperVOOC
สี สีทอง Champion Gold และสีดำ Mighty Black
ราคา RAM 6GB+128GB ราคา 4,999 บาท

บรรจุภัณฑ์ / อุปกรณ์ภายในกล่อง

realme C53 มาพร้อมกล่องบรรจุภัณฑ์แบบกล่องกระดาษสีเหลืองที่คุ้นเคยกันเป็นอย่างดี ไซส์พอดีกับตัวเครื่อง ด้านหน้ากล่องสลักชื่อรุ่นขนาดใหญ่มองเห็นได้ชัดอยู่ตรงกลาง และโลโก้ realme อยู่ด้านล่าง และด้านข้างกล่องทั้ง 2 ด้านก็มีชื่อรุ่นเหมือนกัน

ส่วนด้านหลังกล่องด้านบนระบุสเปกเด่น 6 อย่างด้วยกันคือ รองรับชาร์จไว 33W SuperVOOC Charge, แบตเตอรี่ความจุ 5,000mAh, กล้อง AI ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล, หน้าจอขนาด 17.13 ซม. (6.74 นิ้ว) อัตรารีเฟรชเรท 90Hz, ตัวเครื่องบางเฉียบ 7.49 มม. Ultra Slim และขับเคลื่อนด้วยซีพียู Octa Core อันทรงพลัง

อุปกรณ์ภายในกล่องประกอบไปด้วย

1.ตัวเครื่อง realme C53 พร้อมติดฟิลม์กันรอย

2.สายดาต้าลิงค์ USB-C

3.อะแดปเตอร์ชาร์จเร็ว 33W SuperVOOC

4.อุปกรณ์เปิดถาดซิมการ์ด

5.คู่มือการใช้งานฉบับย่อ + ใบรับประกันสินค้า

6.เคสซิลิโคนใส

อะแดปเตอร์ชาร์จ 33W ที่แถมมาพร้อมในกล่อง

รูปลักษณ์ดีไซน์

ตัวเครื่อง realme C53 มาพร้อมกับดีไซน์อันแวววับระดับแชมป์เปี้ยน มีให้เลือก 2 สีคือ สีทอง Champion Gold มอบความหรูหรากับสีทองอร่ามในธีม Shiny Champion โดดเด่นด้วยเส้นแสงสีทองที่แลดูวิบวับทุกทิศทางดึงดูดทุกคู่สายตาและสีดำ Mighty Black

โดดเด่นด้วยความบางเฉียบเพียง 7.49 มิลลิเมตร เรียกว่าบางที่สุดในระดับเซกเมนต์เดียวกัน เทียบกับ realme C55 ที่บาง 7.89 มิลลิเมตร เบาสบายทุกการสัมผัส

หน้าจอแสดงผล Mini Drop Full Screen Display แบบ IPS LCD ความละเอียด HD+ 720 x 1600 พิกเซล ขนาด 6.74 นิ้ว ในอัตราส่วน 20:9, อัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่อง 90.3% หมายความว่ามีขอบหน้าจอที่ค่อนข้างบาง, ความสว่างสูงสุด 450nits โดยมีอัตรารีเฟรชเรท 90Hz และมีอัตราสุ่มตัวอย่างแบบสัมผัส 180Hz

ในรอยบากตรงกลางด้านบนติดตั้งกล้องเซลฟี่ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0 สามารถถ่ายเซลฟี่ที่คมชัด รองรับฟังก์ชั่นฟิลเตอร์และ HDR ด้วย AI Beauty ช่วยให้การภาพถ่ายเซลฟี่ของคุณออกมาอย่างสวยงามยิ่งขึ้น และยังมาพร้อมฟีเจอร์ Mini Capsule แสดงการแจ้งเตือนต่างๆ บนพื้นที่ของกล้องหน้าที่ผสานเข้ากับ User Interface อย่างกลมกลืน

พลิกมาด้านหลังเครื่อง มุมซ้ายด้านบนติดตั้งกล้องเลนส์คู่ AI Dual Camera พร้อมไฟแฟลช LED อยู่ในโมดูลสี่เหลี่ยมชนาดใหญ่

ประกอบด้วย

  • กล้องหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล (wide) รูรับแสง f/1.8 และระบบ PDAF
  • กล้องตัวที่ 2 VGA ความละเอียด 0.08 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/3.0

ด้านซ้ายข้างเครื่องมีช่องสำหรับใส่ SIM Card แบบ Triple Slot Tray แบ่งเป็นช่องใส่ SIM Card แบบ nanoSIM Card 2 ช่อง และช่องใส่การ์ดหน่วยความจำภายนอก 1 ช่อง

ด้านขวาข้างเครื่องมีปุ่มปรับเพิ่มลดระดับเสียง กับปุ่ม Power สำหรับเปิดปิดเครื่อง พร้อมติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือฝังไว้บนปุ่ม

ด้านบนเครื่องออกแบบเรียบๆ ไม่มีช่อง หรือปุ่มกดใดๆ

ด้านท้ายเครื่องมีช่องหูฟังขนาด 3.5 มม. ช่องไมโครโฟน, พอร์ต USB Type-C และช่องลำโพงเสียง

นอกจากนี้ realme C53 ยังผ่านการทดสอบที่เข้มงวดมากกว่า 100,000 ครั้ง ไม่ว่าจะเป็นทดสอบการตก ทดสอบการกันฝุ่น ทดสอบในสภาพแวดล้อมที่รุนแรง ทดสอบอายุการใช้งาน ทดสอบความปลอดภัย ไปจนถึงการทดสอบประสิทธิภาพของแบตเตอรี่ จึงมั่นใจได้ว่า realme C53 มีความทนทานต่อการใช้งานในชีวิตประจำวัน

จุดเด่นของ realme C33

realme C53 ใช้ขุมพลังชิปเซ็ท Unisoc T612 บนกระบวนการผลิตขนาด 12nm ประมวลแบบ octa-core ความเร็วสูงสุด 1.8 GHz พร้อมใข้โครงสร้าง Arm Cortex-A75 นำประสิทธิภาพอันทรงพลังที่มอบความเสถียรและความราบรื่น และยังทำคะแนนทดสอบบนแอป AnTuTu ได้ถึง 221,253 คะแนน

realme C53 มาพร้อมแบตเตอรี่ยักษ์ความจุ 5,000mAh ที่จ่ายไฟได้ยาวนานเพื่อการใช้งานตลอดวัน สามารถเล่นเกม และรับชมวิดีโอต่างๆ ได้อย่างเต็มที่ตลอดทั้งวัน ไม่ต้องกลัวแบตหมด พร้อมรองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 33W SUPERVOOC เร็วกว่าการชาร์จ 18W ของแบรนด์เพื่อนบ้านเกือบสองเท่า ช่วยประหยัดเวลาได้ถึงครึ่งหนึ่ง สามารถชาร์จแบตเตอรี่จนถึงระดับ 50% ในเวลาเพียง 30 นาที และชาร์จจนเต็ม 100% ในเวลา 72 นาที

realme C53 ยังรองรับฟีเจอร์ Dynamic RAM Expansion สามารถยืมความจุ ROM มาใช้เป็นความจำ RAM ได้สูงสุด 6GB จึงเปรียบเสมือนมีความจำ RAM สูงสุด 12GB ทำให้การสลับใช้งานแอปพลิเคชั่นได้ลื่นหลาย เปิดทิ้งไว้ได้หลายแอป และหน่วยความจำภายในสูงสุด 128GB ทำให้ผู้ใช้งานได้รับประสบการณ์ที่ราบรื่นเป็นสองเท่า และจัดเก็บภาพถ่ายและวิดีโอได้มากขึ้น

หากยังไม่เพียงพอ realme C53 ก็ยังขยายความจำได้สูงสุด 2TB ผ่านการ์ด microSD โดยมีช่องใส่การ์ด microSD แยกต่างหาก ไม่ต้องแย่งใส่กับช่อง SIM 2

realme C53 เป็นสมาร์ตโฟนรุ่นที่ 2 ในตระกูล C Series ที่รองรับอัตราการรีเฟรชหน้าจอสูงสุด 90Hz จึงแสดงภาพกราฟิกได้ลื่นไหลยิ่งขึ้น ให้สัมผัสที่ดีขึ้น และให้อัตราสุ่มตัวอย่างแบบสัมผัส (Touch Sampling Rate) สูงสุด 180Hz โดยมีความละเอียด HD+ 720 x 1600 พิกเซล ความสว่างสูงสุด 450nits ดีไซน์ขอบจอบางจนทำให้มีอัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่อง 90.3% อีกทั้งยังมีขนาดใหญ่ถึง 6.74 นิ้ว รับชมวิดีโอหรือดูคอนเทนต์ต่างๆ ได้เต็มอิ่ม 

และมาพร้อมฟีเจอร์ใหม่ Mini Capsule ใช้พื้นที่วงกลมสีดำของกล้องหน้า ผสานเข้ากับซอฟต์แวร์จนทำให้เกิด User Interface ใหม่ สำหรับแสดงการแจ้งเตือนต่างๆ ตัวอย่างเช่น สถานะแบตเตอรี่ สามารถแสดงแสงไดนามิกสีเขียว เมื่อแบตเตอรี่เต็ม 100%, แสดงแสงไดนามิกสีน้ำเงินเมื่อกำลังชาร์จแบตเตอรี่, แสดงแสงไดนามิกสีแดง เมื่อแบตเตอรี่อยู่ในระดับต่ำ 5%

ผู้ใช้งานยังสามารถตั้งค่าให้ Mini Capsule แจ้งเตือนการใช้งานข้อมูลหรืออินเทอร์เน็ต เมื่อเข้าถึงระดับ 90% จากที่ตั้งค่าไว้ เพื่อป้องกันการใช้ข้อมูลเกินขีดจำกัด และยังสามารถตั้งค่าให้แจ้งเตือนจำนวนก้าวเดินตลอดทั้งวันได้ด้วย

อ่านต่อหน้า 2

.fb-background-color {
background: #ffffff !important;
}
.fb_iframe_widget_fluid_desktop iframe {
width: 100% !important;
}

from:https://www.mobileocta.com/review-realme-c53/?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=review-realme-c53

รีวิว : Acer Swift Go 14 แล็ปท็อปเพื่อธุรกิจที่ความคล่องตัว ขับเคลื่อนด้วย Intel Core i7 เจนเนอเรชัน 13 รุ่นล่าสุด

Acer Swift Go 14 จะเข้ามาเป็นคู่หูที่รู้ใจให้การทำงานในรูปแบบ Working from Anywhere มีความคล่องตัวมากยิ่งขึ้น ด้วยความบางเพียง 14.9 มม. มีน้ำหนักเบาถึง 1.25 กก. และหน้าจอแสดงผล OLED ให้ภาพที่คมชัด มาพร้อมขุมพลังรุ่นล่าสุด CPU Intel® Core™ เจนเนอเรชัน 13 รองรับ Intel® Unison™ ทำให้การเชื่อมต่อแล็ปท็อปและสมาร์ทโฟนสะดวกและง่ายขึ้น มีอายุแบตเตอรี่ที่เหนือระดับเพื่อการทำงานที่ยาวนานตลอดวัน และสุดยอดระบบระบายความร้อนแบบ TwinAir ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพได้สูงถึง 60.7% รู้สึกได้ถึงควมเย็นขึ้นจนสัมผัสได้ด้วยฝ่ามือ
 

Swift Go 14 มุ่งเน้นไปที่การมอบประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยมและหน้าจอแสดงผล OLED ที่มีความคมชัดของภาพสูง ในราคาที่สามารถจับต้องได้สำหรับแล็ปท็อปที่มีความทนทาน มีรูปลักษณ์ภายนอกเป็นสีเงินเรียบง่ายหรูหราสวยงามแบบมินิมอลตรงกับเทรนด์ปัจจุบัน ซึ่งสร้างขึ้นด้วยโครงสร้างอะลูมิเนียมทั้งหมดเน้นความแข็งแรงรวมถึงฐานวางแป้นพิมพ์คีย์บอร์ดด้วย

จุดเด่นของ Acer Swift Go 14

  1. แรง ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี 13th Gen Intel Core i7-13700H รุ่นล่าสุด
  2. เย็น จนสัมผัสได้ด้วยฝ่ามือ
  3. เบา น้ำหนักเพียง 1.25 กก.
  4. ชัด หน้าจอ OLED 14 นิ้ว 2,880 x 1,800 พิกเซล

การออกแบบ Acer Swift Go 14

 

Acer Swift Go 14 ภายนอกออกแบบมาอย่างเรียบง่ายด้วยวัสดุอะลูมีเนียมมีให้เลือก 2 เฉด สีเงินแวววาวและสีทองประกาย พื้นผิวไม่ทิ้งคราบรอยนิ้วมือไว้ให้ดูต่างหน้า จุดนี้ถือว่าทำมาได้อย่างดีเยี่ยม ฝาครอบเมื่อเปิดขึ้นมาจะดันยกฐานเครื่องให้ลอยขึ้นมาจากพื้นเพื่อเพิ่มช่องว่างช่วยในเรื่องการระบายความร้อนให้มีความเย็นเร็วมากขึ้น สัดส่วนของหน้าจอ 16:10 เว้นพื้นที่ขอบด้านบนเพื่อวางตำแหน่งกล้อง Webcam ส่วนขอบด้านล่างมองดูมีมิติทำมุมลึกตัดกับขอบตัวฐานซึ่งซ่อนช่องระบายความร้อนหลบสายตา จุดนี้ถือว่าใส่ใจการออกแบบได้ดีมาก และยังทำให้มุมมองของหน้าจอดูใหญ่ขึ้นกว่าปกติ

แป้นพิมพ์ออกแบบมาให้มีขนาดปุ่มขนาดใหญ่และเว้นระยะห่างระหว่างปุ่มได้ดีมาก เพิ่มความรู้สึกการสัมผัสที่นุ่มปลายนิ้ว ซึ่งตรงกับความชอบส่วนตัวที่นิยมใช้งานลักษณะแบบนี้เมื่อต้องอยู่กับการพิมพ์เป็นระยะเวลานานๆ ใต้ปุ่มแป้นพิมพ์มีการเพิ่มแสงไฟสีขาว LED เพิ่มเข้ามาช่วยให้การพิมพ์งานมีมิติที่สว่างสบายตามากขึ้น และในส่วนพื้นที่ทัชแพดมีขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่เกินไปมีการตอบสนองได้ดีมาก
 

Acer Swift Go รุ่นหน้าจอขนาด 14 นิ้ว มีน้ำหนักเพียง 1.25 กก. สัดส่วนอย่างละเอียด ความหนา 14.98 มม. กว้าง 312.92 มม. และ ยาว 217.93 มม. เหมาะสำหรับการพกพาโดยที่ไม่สร้างความเหมื่อยล้าในทุกการเดินทาง

พอร์ตการเชื่อมต่อ

 

Acer Swift Go 14 มีจำนวนพอร์ตที่เพียงพอสำหรับการใช้งานทั้งระดับองค์กรและการใช้งานส่วนบุคคลทั่วไป พอร์ตการเชื่อมต่อทั้งสองข้างที่ Acer ให้มานั่น มีช่องสำหรับอ่าน MicroSD Card เป็นสิ่งที่หลายคนอาจจะถูกใจเพราะตรงกับพฤติกรรมการใช้งานที่เอื้ออำนวยความสะดวก ส่วนอื่นๆ ไล่จากพอร์ต USB-C Thunderbolt 4 จำนวน 2 พอร์ต (สำหรับชาร์จไฟ และ ถ่ายโอนข้อมูล) USB-A 3.2 Gen1 จำนวน 2 พอร์ต HDMI 2.1 จำนวน 1 พอร์ต และ 1 พอร์ต สำหรับไว้อ่านข้อมูลจาก MicroSD Card ท้ายสุดของการเชื่อต่อไร้สาย Wi-Fi 6E และ Bluetooth 5.1 ที่เข้ามาสร้างความสมบูรณ์ให้ Working Anywhere บน Acer Swift Go มีความคล่องตัวที่ไร้รอยต่อบนเทคโนโลยีเวอร์ชันล่าสุด

ลำโพง อยู่ไหน?

 

ลำโพงจำนวน 2 ตัว ถูกวางไว้ ณ ตำแหน่งด้านล่างค่อนถัดมาเกือบสุดขอบของฐานซ้ายและขวา คุณภาพเสียงไม่ได้ดังกังวานมากนัก สำหรับใครที่ชื่นชอบเสียงในระดับคุณภาพระดับสเตอริโอคงไม่ตอบโจทย์ เนื่องจากตำแหน่งลำโพงเมื่อวางลงบนพื้นโต๊ะเสียงที่ได้จะออกแนวทุ้มอู้ๆ ไม่ค่อยกังวานเท่าไหร่ ถึงแม้ว่า Acer จะพยายามออกแบบให้บางส่วนของช่องลำโพงโค้งทำมุมเปิดเพื่อให้เสียงสามารถกระจายออกมาด้านข้างได้ง่ายขึ้นก็ตาม แต่คุณภาพก็ยังดูแตกต่างเมื่อลองเทียบกับการยกตัวเครื่องขึ้นมาฟัง อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้งานส่วนมากมักจะใช้อุปกรณ์เสริมจากลำโพงบลูทูธที่สามารถเลือกซื้อตามระดับคุณภาพเสียงที่ต้องการได้

หน้าจอ OLED

คมชัดระดับ 2.8K (2880 x 1800) 5.1 ล้านพิกเซล

ด้านประสิทธิภาพการทำงานของรุ่นนี้

Acer Swift Go 14 ได้ใส่ชิปประมวล Intel Core i7 Gen 13 รุ่นใหม่ล่าสุดของปี ผสมผสานการทำงานร่วมกับหน่วยประมวลผลกราฟิก Intel Iris Xe และหน่วยความจำ 16GB LPDDR5 เพื่อการขับเคลื่อนเวิร์กโหลดภาคส่วนธุรกิจได้ไหลลื่น ด้านการออกแบบมุ่งเน้นไปการใช้งานในรูปแบบ Work form Anywhere ตัวเครื่องจึงมีน้ำหนักเบาบางพกพาได้สะดวกสบาย เพิ่มความคล่องตัวในทุกๆ ที่ที่ต้องการเปิดขึ้นมาใช้งาน ด้วยขนาดหน้าจอ 14 นื้ว กับคุณสมบัติข้างต้นที่กล่าวมา ถือว่าเป็นแล็ปท็อปที่มีน่าสนใจรุ่นนึงสำหรับปีนี้เลย

  • Processor : Intel Core i7-13700H
  • Graphics : Intel Iris Xe
  • RAM : 16GB LPDDR5
  • Storage : 512GB PCIe Gen4 SSD
  • Display : 14 inch WQXGA+ (2,880 x 1,800) OLED, 90Hz
  • Webcam : QHD (1440p)
  • Battery : 65 watt-hours
  • Operating System : Windows 11 Home Single Language V.22H2

เย็นเป็นสองเท่า เย็นจนสัมผัสได้ด้วยฝ่ามือ

เรื่องการระบายความร้อนในแล็ปท็อป ถือว่ามีความสำคัญมากที่สุดที่ต้องคำนึงถึง ไม่ว่าสถาปัตยกรรมจะล้ำสมัยมากแค่ไหน แต่ถ้าออกแบบการระบายความร้อนได้ไม่ดีพอ อาจจะส่งผลต่อความต่อเนื่องให้ธุรกิจสะดุดได้ง่ายๆ ซึ่งนั่นหมายถึง สูญเสียความต่อเนื่องลง สำหรับ Acer Swift Go 14 ถูกเคลมว่า “เย็นเป็นสองเท่า เย็นจนสัมผัสได้ด้วยฝ่ามือ” รับรู้ได้จริงในถานการณ์การใช้งานปกติ ซึ่งตรงกับคอนเซ็ปการออกแบบที่มุ่งเน้นการใช้งานในระดับธุรกิจทั่วไป แต่อาจจะยังไม่ก้าวไปถึงระดับการโหลดงานกราฟฟิกที่ซับซ้อนสูง ซึ่งอาจจะต้องอาศัยพลังการขับเคลื่อนที่มากกว่านี้ เช่น สเปกของ GPU แยกส่วนเข้ามาช่วยให้ประสิทธิภาพการทำงานไหลลื่นยิ่งขึ้น ถ้าใครที่กำลังมองหาแล็ปท็อปสเปกสูงๆ เพื่อประมวลผลงานเวิร์กโหลดระดับองค์กร รุ่น Swift Go 14 อาจจะเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจใน พ.ศ. นี้

ด้วยระบบระบายความร้อนแบบ TwinAir Cooling พัดลมแบบคู่ที่ออกแบบมาเป็นพิเศษช่วยให้การระบายความร้อนมีประสิทธิภาพสูงถึง 60.7% เมื่อเทียบกับพัดลมแบบตัวเดียว Single Fan ต้องบอกว่าสัมผัสความเย็นได้จริงแค่วางฝ่ามือลงบนตัวเครื่องและแป้นคีย์บอร์ด

ทดสอบด้วยโปรแกรม Cinebench R23

โปรแกรม Cinebench ใช้สำหรับทดสอบประสิทธิภาพกราฟิกและซีพียู ซึ่งจะแสดงผลเปรียบเทียบชิปประมวลเพื่อประเมินผลประสิทธิภาพการทำงานของการเรนเดอร์ซีพียูและการ์ดจอด้วยเอนจิ้น 3D จากการทดสอบบน Acer Swift Go 14 เป็นลำดับ Ranking อยู่สองโหมด คือ Single Mode ทำได้ 1,851 คะแนน Ranking ขึ้นมารั้งอันดับที่ 1 และ Multi Mode ทำได้ 11,378 คะแนน Ranking อยู่อันดับที่ 4 เป็นรอง AMD Ryzen 16C/20T 3.4 GHz ซึ่งมีสเปกที่สูงกว่า แต่เมื่อดูคะแนนแล้ว ไม่ได้ทิ้งห่างกันมาก 

สกอร์เรทการทดสอบบนเครื่องมือ PCMARK 10 ชี้ให้เห็นคุณภาพการทำเวิร์กโหลดสกอร์ค่อนข้างดีเยี่ยมทั้ง 3 หมวดหมู่

  • Essentials ทำได้ 10,575 คะแนน เน้นการทำงานระดับพื้นฐานทั้งในส่วนของแอปพลิเคชัน การประชุมออนไลน์ การท่องเว็บต่างๆ
  • Productivity ทำได้ 7,601 คะแนน เน้นการทำงานในส่วนตารางสเปรดชีทที่มีการคำนวนสูตรเป็นหลัก
  • Digital Content Creation ทำได้ 7,389 คะแนน เน้นการประมวลผลด้านกราฟฟิกทั้ง การสร้างแก้ไขรูปภาพ การแรนเดอร์ และการประมวลผลในรูปแบบภาพเคลื่อนไหว (Video)

ภาพรวมของการทดสอบถือว่าตรงปก เป็นแล็ปท็อปเพื่อธุรกิจที่มีความคล่องตัว เมื่อย้อนกลับไปดูสเปกมีการเพิ่มหน่วยความจำมากถึง 16GB ซึ่งให้มาตั้งแต่ตั้งต้น ซึ่งทำให้ Acer Swift GO 14 มีขุมพลังที่มีประสิทธิภาพสูงพอที่จะรับมือกับงานเวิร์กโหลดที่ยากๆ ในระดับองค์กรได้สบายๆ

บทสรุป

ภาพรวมที่ได้สัมผัสและทดสอบการใช้งานจริงแล็ปท็อปรุ่น Acer Swift Go 14 ถือว่าออกแบบมาค่อนข้างลงตัวดี มีฟังก์ชันครอบคลุมสำหรับการทำงานทั่วไป ด้านประสิทธิภาพเปิดตัวมาพร้อมกับชิปประมวลผลรุ่นใหม่ล่าสุดจากค่าย Intel Gen. 13th คงไม่ต้องเปรียบเทียบอะไรเพื่อหาที่ติเพราะ Acer ได้ใส่หน่วยความจำขนาด 16GB เพื่อผสานการทำงานให้มีประสิทธิภาพสูงสุด แต่เรื่องที่น่าแปลกใจ คือ การระบายความร้อน รุ่นนี้ Acer ทำได้ดีเกินคาด ด้วยเทคโนโลยี TwinAir Cooling พัดลมแบบคู่ นอกจากนี้ ยังเสริมตัวช่วยด้านกายภาพจากฝาครอบเมื่อเปิดขึ้นมาตัวเครื่องจะถูกดันยกระดับจากพื้นให้มีช่องว่างซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้การระบายลมมีความคล่องตัวขึ้น Acer Swift Go 14 เปิดตัวราคา 32,990 บาท ไม่แพงเกินถ้าเทียบกับสเปกที่ได้มาในกล่อง

from:https://www.techtalkthai.com/review-acer-swift-go-14-laptop-for-versatility-business-laptops-powered-by-the-latest-13th-gen-intel-core-i7/

รีวิว OPPO A98 5G สเปกแรง สวยน่าใช้ ชาร์จไวสุด 67W SUPERVOOC

รีวิว OPPO A98 5G สเปกแรง สวยน่าใช้ ชาร์จไวสุด 67W SUPERVOOC
Noppinij

OPPO A98 5G สมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ที่ออกแบบมาได้อย่างสวยงาม ตัวเครื่องบาง ดีไซน์วัยรุ่น มากับหน้าจอขนาดใหญ่ 6.72 นิ้ว เป็นจอคุณภาพที่มีรีเฟรชเรทสูง 120Hz และลำโพงคู่สเตอริโอ รองรับการใช้งาน 5G และที่สำคัญมาพร้อมกับความสามารถในการชาร์จไว 67W SUPERVOOC ซึ่งเป็นระบบชาร์จที่ไวที่สุดของเครื่องในตระกูล OPPO A Series อีกด้วยครับ

สำหรับนักศึกษา, วัยรุ่น หรือวัยเริ่มทำงาน ใครที่อยากได้มือถือเครื่องสวยที่มีมาตรฐานดีจาก OPPO ก็แนะนำรุ่นนี้ครับ ครบเครื่องจบในตัว และจะบอกว่ากล้องถ่ายภาพก็น่าจะถูกใจสายท่องเที่ยวเช่นกัน เพราะให้มาเป็นกล้องความละเอียดสูงทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง คุณภาพ AI และซอฟท์แวร์กล้องขึ้นชื่อว่า OPPO ถ่ายวิวก็ได้ภาพสวย ถ่ายคนก็ได้หน้าใส ^^ และเพิ่มเติมพิเศษสำหรับรุ่นนี้ที่จะทำให้ทุกคนได้สนุกกัน ก็คือกล้อง Microlens ทีสามารถนำไปถ่ายสิ่งต่างๆ รอบตัวในมุมมองที่ต่างออกไป ด้วยระดับการซูมภาพระยะประชิด 40 เท่า ทำให้เราเห็นสิ่งต่างๆ ได้เหมือนมองผ่านกล้องจุลทรรศน์กันเลยทีเดียวครับ ^^

OPPO A98 5GDSC09579 | OPPO | รีวิว OPPO A98 5G สเปกแรง สวยน่าใช้ ชาร์จไวสุด 67W SUPERVOOC

ชาร์จไว 67W SUPERVOOC ชาร์จไวที่สุดใน A series

OPPO A98 5G เป็นรุ่นที่ใส่ความสามารถในการชาร์จไว 67W SUPERVOOC ซี่งมีความเร็วในการชาร์จที่สูงที่สุดแล้วใน Series A ของ OPPO ณ ปัจจุบันนี้ครับ แน่นอนว่าระบบชาร์จไวของ OPPO เราจะไม่ได้พูดกันแค่เรื่องของความเร็วในการชาร์จ แต่พูดถึงข้อดีด้วยความปลอดภัยด้วย เพราะระบบ SUPERVOOC ของ OPPO คือระบบชาร์จไฟที่ความปลอดภัยสูง มีการฝังระบบตรวจสอบไฟเกินและการควบคุมอุณหภูมิเอาไว้ตรวจความปลอดภัยถึง 5 ขั้นตอน

เป็นระบบชาร์จที่ผมย้ำเสมอว่า ไม่ใช่แค่ไว แต่ตัวเครื่องไม่ร้อน ปลอดภัย มีการถนอมอายุแบตเตอรี่ให้ใช้งานได้ยาวนาน และอุ่นใจผู้ใช้ด้วยครับ

OPPO A98 5GDSC09966 | OPPO | รีวิว OPPO A98 5G สเปกแรง สวยน่าใช้ ชาร์จไวสุด 67W SUPERVOOC
OPPO A98 5GDSC09973 | OPPO | รีวิว OPPO A98 5G สเปกแรง สวยน่าใช้ ชาร์จไวสุด 67W SUPERVOOC

ตัว OPPO A98 5G มีแบตเตอรี่ภายในใส่ให้มา 5,000mAh ด้วยระบบชาร์จไว 67W SUPERVOOC จะใช้เวลาชาร์จเพียงแค่ 18 นาทีเท่านั้นในการชาร์จแบตเตอรี่ให้ถึง 50% และชาร์จเต็ม 100% ได้ในเวลา 44 นาที เร็วมากครับ

OPPO A98 5GDSC09978 | OPPO | รีวิว OPPO A98 5G สเปกแรง สวยน่าใช้ ชาร์จไวสุด 67W SUPERVOOC

มีการใส่เทคโนโลยี Battery Health Engine ซึ่งเป็นนวัตกรรมเฉพาะของ OPPO ที่ออกแบบมาเพื่อยืดอายุการใช้งานของแบต ให้สามารถทำงานในระดับใกล้เคียงความจุสูงสุดของตัวแบตได้ยาวนานถึงประมาณ 4 ปี

รองรับรอบการชาร์จไฟเข้าและคายประจุออกได้มากกว่า 1,600 รอบ ซึ่งถ้าคิดเฉลี่ยว่าเราใช้แบตชาร์จเต็มและหมดวันละรอบ ก็ใช้ได้นาน 1,600 วันนั้นเอง

OPPO A98 5GDSC09868 1 | OPPO | รีวิว OPPO A98 5G สเปกแรง สวยน่าใช้ ชาร์จไวสุด 67W SUPERVOOC

ทดสอบใช้งานเล่นเกมพร้อมชาร์จแบตเตอรี่ไปด้วยพร้อมกัน ตัวเครื่องคุมอุณหภูมิได้ดีมาก ไม่มีความร้อนให้รู้สึกจนเป็นกังวลครับ เรียกว่าแทบไม่รู้สึกถึงความต่างเลยก็ว่าได้

OPPO A98 5GDSC09896 | OPPO | รีวิว OPPO A98 5G สเปกแรง สวยน่าใช้ ชาร์จไวสุด 67W SUPERVOOC
OPPO A98 5GDSC09900 | OPPO | รีวิว OPPO A98 5G สเปกแรง สวยน่าใช้ ชาร์จไวสุด 67W SUPERVOOC

อัปเกรดสเปคแรง RAM และ ROM ขนาดใหญ่

ในด้านการประมวลผลของ OPPO A98 5G ใช้ชิปเซ็ตตัวนิยมของสมาร์ตโฟนระดับกลาง นั้นคือ Qualcomm Snapdragon 695 5G เทคโนโลยีการผลิต 6 นาโนเมตร มีประสิทธิภาพที่สูง และประหยัดพลังงานได้ดี

ทั้งตัวประมวลผล ทั้ง RAM และ ROM เป็นชุดสเปคที่สูงเพียงพอต่อการใช้งานได้ทุกอย่างเหลือๆ ครับ

review OPPO A98 5G Appdisqus 0060 | OPPO | รีวิว OPPO A98 5G สเปกแรง สวยน่าใช้ ชาร์จไวสุด 67W SUPERVOOC
review OPPO A98 5G Appdisqus 0061 | OPPO | รีวิว OPPO A98 5G สเปกแรง สวยน่าใช้ ชาร์จไวสุด 67W SUPERVOOC

สามารถเข้าออกแอปพลิเคชั่นได้ไว เพราะรุ่นนี้ให้ RAM มาขนาดใหญ่ ด้วยขนาด RAM 8GB และสามารถขยายพื้นที่แรมออกไปได้อีกถึง 8GB ด้วยพื้นที่หน่วยความจำที่ยังไม่ใช้งาน โดยมีการให้หน่วยความจำภายใน (ROM) 256GB

ประสิทธิภาพสามารถใช้นำมาเล่นเกม และทำงานต่างๆ ดูหนังฟังเพลง ใช้แชตหรือใช้งานแอปใน Google Play Store ก็ทำงานได้ลื่นไหลทั้งหมดแล้วครับ

OPPO A98 5GDSC09912 | OPPO | รีวิว OPPO A98 5G สเปกแรง สวยน่าใช้ ชาร์จไวสุด 67W SUPERVOOC

ColorOS 13.1 ระบบยอดเยี่ยม เสถียร ใช้งานได้นานโดยไม่เสื่อมสภาพ

OPPO A98 5G ใช้ระบบปฏิบัติการ Android 13 ครอบทับไว้ด้วย ColorOS 13.1 ซึ่งภายในมีใส่ชุดระบบที่ถูกปรับแต่งมาให้คอยดูแลทรัพยากรของเครื่องเอาไว้ตลอดแบบเรียลไทม์ ทำให้การเข้าออกแอปพลิเคชั่นทำได้เร็วและไม่ติดขัด คล่องตัวและรู้สึกลื่นไหลดีมาก

ระบบ ColorOS 13.1 ได้ใส่ความสามารถช่วยเหลือผู้ใช้เข้ามาหลายด้าน ทั้งด้านความสายงาม ที่จะมีการปรับเปลี่ยนไอคอน ธีม และสีสันของแถบเมนูต่างๆ ได้

review OPPO A98 5G Appdisqus 0003 1 | OPPO | รีวิว OPPO A98 5G สเปกแรง สวยน่าใช้ ชาร์จไวสุด 67W SUPERVOOC
review OPPO A98 5G Appdisqus 0058 | OPPO | รีวิว OPPO A98 5G สเปกแรง สวยน่าใช้ ชาร์จไวสุด 67W SUPERVOOC
review OPPO A98 5G Appdisqus 0059 | OPPO | รีวิว OPPO A98 5G สเปกแรง สวยน่าใช้ ชาร์จไวสุด 67W SUPERVOOC
review OPPO A98 5G Appdisqus 0081 | OPPO | รีวิว OPPO A98 5G สเปกแรง สวยน่าใช้ ชาร์จไวสุด 67W SUPERVOOC
review OPPO A98 5G Appdisqus 0082 | OPPO | รีวิว OPPO A98 5G สเปกแรง สวยน่าใช้ ชาร์จไวสุด 67W SUPERVOOC

ความสามารถเซฟภาพหน้าจอโดยการสไลด์นิ่วลงบนหน้าจอสามนิ้วพร้อมกัน พร้อมคำสั่งแปลภาษาจากภาพที่เซฟได้ทันทีโดยไม่ต้องสลับแอป หรือการสไลด์สามนิ้วขึ้นเพื่อแบ่งภาพหน้าจอทำงานได้สองแอปพร้อมกัน หรือจะทำงานแบบเป็นป๊อบอัพหน้าต่างเล็กก็ได้เช่นกันนะครับ ตัวเครื่องมีแรมขนาดใหญ่ เปิดทำงานหลายแอปพร้อมกันไม่มีปัญหาครับ ทำงานได้ลื่นๆ

review OPPO A98 5G Appdisqus 0103 | OPPO | รีวิว OPPO A98 5G สเปกแรง สวยน่าใช้ ชาร์จไวสุด 67W SUPERVOOC
review OPPO A98 5G Appdisqus 0104 | OPPO | รีวิว OPPO A98 5G สเปกแรง สวยน่าใช้ ชาร์จไวสุด 67W SUPERVOOC
review OPPO A98 5G Appdisqus 0092 | OPPO | รีวิว OPPO A98 5G สเปกแรง สวยน่าใช้ ชาร์จไวสุด 67W SUPERVOOC
review OPPO A98 5G Appdisqus 0087 | OPPO | รีวิว OPPO A98 5G สเปกแรง สวยน่าใช้ ชาร์จไวสุด 67W SUPERVOOC
review OPPO A98 5G Appdisqus 0085 | OPPO | รีวิว OPPO A98 5G สเปกแรง สวยน่าใช้ ชาร์จไวสุด 67W SUPERVOOC

ความสามารถในการรักษาความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว มีระบบป้องกันแอปด้วยการล็อคไว้ด้วยรหัส หรือการแชร์ภาพโดยการลบข้อมูลส่วนตัวออกจากข้อมูลภาพก่อนการแชร์ ป้องกันการพบแท็กสถานที่หรือเวลาที่เราไปถ่ายภาพ และระบบเซนเซอร์ใบหน้าบุคคลจากการแชตได้โดยอัตโนมัติในคลิ๊กเดียว

review OPPO A98 5G Appdisqus 0091 | OPPO | รีวิว OPPO A98 5G สเปกแรง สวยน่าใช้ ชาร์จไวสุด 67W SUPERVOOC
review OPPO A98 5G Appdisqus 0111 | OPPO | รีวิว OPPO A98 5G สเปกแรง สวยน่าใช้ ชาร์จไวสุด 67W SUPERVOOC

เวลาใช้งานสมาร์ตโฟนของ OPPO จะไม่เจอปัญหา แลค ค้าง ช้า หรือมีการติดขัดอะไรเราให้รู้สึกได้ นิ่งและเสถียร ซึ่งผมจะบอกว่าในเรื่องซอฟท์แวร์ก็นับเป็นข้อดีของแบรนด์ OPPO ได้เลยนะครับ อีกทั้งตัวระบบของ OPPO นอกจากจะเข้ามาช่วยเร่งความเร็วในการทำงานแล้ว ยังช่วยลดความเสื่อมสภาพของอุปกรณ์ไปในตัวอีกด้วย เพราะมันถูกออกแบบมาภายใต้แนวคิด 48-Month Fluency Protection ของ OPPO เพื่อคงอัตราการเสื่อมสภาพของเครื่องให้อยู่ในระดับเฉลี่ยน้อยกว่า 10% หลังจากใช้งานทุกๆ วันเป็นเวลานานถึง 4 ปีไปแล้วนั้นเองครับ มันถูกกำหนดและออกแบบมาโดยคำนึงถึงมาตรฐานข้อนี้ด้วย

OPPO A98 5GDSC09719 | OPPO | รีวิว OPPO A98 5G สเปกแรง สวยน่าใช้ ชาร์จไวสุด 67W SUPERVOOC

จากการทดสอบใช้งานสมาร์ตโฟนของ OPPO มาหลายรุ่น ก็ยืนยันได้ว่าระบบของแบรนด์นี้ทำมาได้เนี๊ยบมากๆ ไม่เคยเจอปัญหา รวม ค้าง รีสตาร์ทใส่เลยในการทดสอบ และมีมาตรฐานความทนไม้ทนมือ ที่จะอยู่กับเราได้ในระยะยาวอีกด้วยครับ

เรื่องความทนทานต่อการใช้งานทั้งภายในและภายนอกของเครื่อง OPPO นับเป็นจุดเด่นของแบรนด์ได้เลยครับ ตัวเครื่องทนจริงๆ แทบไม่เคยได้ยินข่าวเรื่องตัวเครื่องเสียหายได้ง่าย หรือเสื่อมไวก่อนเวลาเลย

OPPO A98 5GDSC09939 | OPPO | รีวิว OPPO A98 5G สเปกแรง สวยน่าใช้ ชาร์จไวสุด 67W SUPERVOOC

จอแสดงผลใหญ่เต็มตา 6.72 นิ้ว รีเฟรชเรทสูง 120Hz

หน้าจอของ OPPO A98 5G ก็ถือว่าสุดจัดครับ มาในขนาดที่ใหญ่เต็มตา เป็นจอ LCD ขนาด 6.72 นิ้ว FullHD+ ความสว่าง 650nits มีขนาดจอที่ใหญ่ขึ้นกว่ารุ่นก่อนมากพอสมควรครับ และขอบจอบางมากโดยมีสัดส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่องสูงถึง 91.4%  และเป็นจอรีเฟรชเรทสูง 120Hz อีกด้วย

OPPO A98 5GDSC09671 | OPPO | รีวิว OPPO A98 5G สเปกแรง สวยน่าใช้ ชาร์จไวสุด 67W SUPERVOOC

จอสวย ใหญ่ ขอบจอบาง สีสด ความแม่นยำของสี 100% DCI-P3 ลำโพงคู่สเตอริโอเสียงดังชัด รองรับเทคโนโลยีปรับแต่งเสียง Real Sound ความดังของเสียงเปิดสุดเสียงดังดีมาก เพราะมีระบบ Ultra Volume ที่สามารถเร่งเสียงให้ดังมากขึ้นกว่าปกติได้ถึง 200% แต่ยังคุมคุณภาพเสียงได้ดี เสียงลำโพงไม่แตกแม้จะเปิดสุดที่ระดับ 200% ก็ตามครับ

OPPO A98 5GDSC09971 | OPPO | รีวิว OPPO A98 5G สเปกแรง สวยน่าใช้ ชาร์จไวสุด 67W SUPERVOOC

เจาะรูวางกล้องหน้าความละเอียดสูง 32MP วางตรงกลางจอมีขนาดเล็ก ไม่เกะกะสายตาเวลาใช้งานครับ รับชมคลิป, ภาพยนตร์ ดูหนังเล่นเกมเต็มตามาก

OPPO A98 5GDSC09813 | OPPO | รีวิว OPPO A98 5G สเปกแรง สวยน่าใช้ ชาร์จไวสุด 67W SUPERVOOC

ยอดเยี่ยมทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง พร้อมกล้องจุลทรรศน์ 40X Microlens

กล้องถ่ายภาพของ OPPO A98 5G มีความละเอียดสูงทั้งหลังและกล้องหน้า กล้องหลังมากับกล้อง AI 64MP ทำงานคู่กับ Depth Camera 2MP และพิเศษกับ Microlens 2MP ที่มีความสามารถในการถ่ายภาพได้ระดับคล้ายกล้องจุลทรรศน์ และกล้องหน้าความละเอียดสูง 32MP

OPPO A98 5GDSC09575 | OPPO | รีวิว OPPO A98 5G สเปกแรง สวยน่าใช้ ชาร์จไวสุด 67W SUPERVOOC

เป็นชุดกล้องที่มีคุณภาพของภาพที่ยอดเยี่ยมครับ และพิเศษแปลกใหม่กับการถ่ายภาพจุลทรรศน์ที่ขยายได้สูงสุดถึง 40 เท่าเลยทีเดียวครับ

OPPO A98 5GDSC00006 | OPPO | รีวิว OPPO A98 5G สเปกแรง สวยน่าใช้ ชาร์จไวสุด 67W SUPERVOOC

กล้องถ่ายภาพทำงานร่วมกับ AI และ HDR จับโฟกัสได้ไว จับใบหน้าได้แม่น ภาพสวยคมครับ สีของภาพออกโทนสดใส มีฟิลเตอร์ปรับสีภาพมาให้ใช้เยอะครับ และใครที่ชอบโหมดถ่ายภาพพอร์ตเทรต หรือการถ่ายภาพบุคคลละลายหลัง รุ่นนี้มีฟิลเตอร์โทนสีต่างๆ และเอฟเฟ็กต์พิเศษ เช่น bokeh flare portrait ที่จะเร่งดวงไฟโบเก้ด้านหลังให้กลมโตและสวยงามได้มากกว่าปกติครับ

review OPPO A98 5G Appdisqus 0046 | OPPO | รีวิว OPPO A98 5G สเปกแรง สวยน่าใช้ ชาร์จไวสุด 67W SUPERVOOC
review OPPO A98 5G Appdisqus 0014 | OPPO | รีวิว OPPO A98 5G สเปกแรง สวยน่าใช้ ชาร์จไวสุด 67W SUPERVOOC
review OPPO A98 5G Appdisqus 0015 | OPPO | รีวิว OPPO A98 5G สเปกแรง สวยน่าใช้ ชาร์จไวสุด 67W SUPERVOOC
review OPPO A98 5G Appdisqus 0038 | OPPO | รีวิว OPPO A98 5G สเปกแรง สวยน่าใช้ ชาร์จไวสุด 67W SUPERVOOC

กล้องหน้าของ OPPO A98 5G มีความละเอียดสูงครับ 32MP และมีมุมองศาที่ค่อนข้างกว้างด้วย เวลาเซลฟี่เก็บบรรยากาศรอบข้างไดสบายๆ และกล้องหน้าก็สามารถทำภาพ Selfie bokeh flare portrait ได้เหมือนกล้องหลังเช่นกัน โดยขะเพิ่มความพิเศษด้วยโหมด AI Color portrait ที่จะปรับสีของฉากหลังทั้งหมดของตัวแบบให้กลายเป็นขาวดำได้เพิ่มเติมอีกหนึ่งฟังก์ชั่นด้วย

review OPPO A98 5G Appdisqus 0023 | OPPO | รีวิว OPPO A98 5G สเปกแรง สวยน่าใช้ ชาร์จไวสุด 67W SUPERVOOC
review OPPO A98 5G Appdisqus 0029 | OPPO | รีวิว OPPO A98 5G สเปกแรง สวยน่าใช้ ชาร์จไวสุด 67W SUPERVOOC
review OPPO A98 5G Appdisqus 0028 | OPPO | รีวิว OPPO A98 5G สเปกแรง สวยน่าใช้ ชาร์จไวสุด 67W SUPERVOOC
review OPPO A98 5G Appdisqus 0026 | OPPO | รีวิว OPPO A98 5G สเปกแรง สวยน่าใช้ ชาร์จไวสุด 67W SUPERVOOC

ภาพบุคคลที่ได้จากกล้อง OPPO A98 5G สวยงามครับ ตัดฉากหลังได้ฉลาด รวมกับการปรับแต่งใบหน้าที่ทำมาได้เนียน หน้าใส น่าจะถูกใจสายชอบถ่ายภาพคนหรือเซลฟี่กันแน่นอนครับ

IMG20230526163228 1 scaled | OPPO | รีวิว OPPO A98 5G สเปกแรง สวยน่าใช้ ชาร์จไวสุด 67W SUPERVOOC
IMG20230526163300 scaled | OPPO | รีวิว OPPO A98 5G สเปกแรง สวยน่าใช้ ชาร์จไวสุด 67W SUPERVOOC
IMG20230526164303 scaled | OPPO | รีวิว OPPO A98 5G สเปกแรง สวยน่าใช้ ชาร์จไวสุด 67W SUPERVOOC
IMG20230526174525 scaled | OPPO | รีวิว OPPO A98 5G สเปกแรง สวยน่าใช้ ชาร์จไวสุด 67W SUPERVOOC
IMG20230526164318 scaled | OPPO | รีวิว OPPO A98 5G สเปกแรง สวยน่าใช้ ชาร์จไวสุด 67W SUPERVOOC
IMG20230526164402 scaled | OPPO | รีวิว OPPO A98 5G สเปกแรง สวยน่าใช้ ชาร์จไวสุด 67W SUPERVOOC
IMG20230526190552 scaled | OPPO | รีวิว OPPO A98 5G สเปกแรง สวยน่าใช้ ชาร์จไวสุด 67W SUPERVOOC
IMG20230526190739 scaled | OPPO | รีวิว OPPO A98 5G สเปกแรง สวยน่าใช้ ชาร์จไวสุด 67W SUPERVOOC
IMG20230526190906 scaled | OPPO | รีวิว OPPO A98 5G สเปกแรง สวยน่าใช้ ชาร์จไวสุด 67W SUPERVOOC

ที่พิเศษคือโหมดกล้องจุลทรรศน์ การถ่ายภาพที่เข้าไปยังโลกที่ตาเปล่ามนุษย์ไม่สามารถมองเห็นได้ เราจะได้ภาพแบบซูมที่เห็นได้ถึงเม็ดเซลของวัตถุ ด้วยพลังขยายภาพได้สูงถึง 40 เท่า!

OPPO A98 5GDSC00001 | OPPO | รีวิว OPPO A98 5G สเปกแรง สวยน่าใช้ ชาร์จไวสุด 67W SUPERVOOC
IMG20230528193203 | OPPO | รีวิว OPPO A98 5G สเปกแรง สวยน่าใช้ ชาร์จไวสุด 67W SUPERVOOC

ได้เห็นโลกที่แปลกตา แค่ส่องไม่ต้องถ่ายจริง ก็สนุกแล้วครับ ^^

ตัวเครื่องสวย บางกระชับมือ โดดเด่นด้วยเอกลักษณ์ของ OPPO Glow

ตัวเครื่องจริงสวย บาง และสีสันดูดีมากๆ  เลือกใช้สีที่ดูโดดเด่น โดย OPPO A98 5G จะมีเข้ามาจำหน่ายสองสีนั้นคือCool Black สีดำ เครื่องโทนเข้มที่ได้รับการผลิตฝาหลังด้วยเอฟเฟ็กต์พิเศษ ให้เกิดแสงและเงาบนพื้นผิวที่เป็นแบบสัมผัสด้าน ใช้งานไม่เกิดรอยนิ้วมือ และอีกหนึ่งสีคือ Dreamy Blue ซึ่งเป็นสีที่เห็นในบทความรีวิวนี้ เป็นเครื่องที่ให้โทนสีฟ้าที่คล้ายกับสีของท้องฟ้าครับ เวลาโดนแสงเข้ามาสะท้อนจะเป็นเหลือบสีหลากหลายแสดงขึ้นมาแบบสายรุ้ง สวยงาม และมีผิวสัมผัสแบบด้าน

OPPO A98 5GDSC09593 | OPPO | รีวิว OPPO A98 5G สเปกแรง สวยน่าใช้ ชาร์จไวสุด 67W SUPERVOOC

OPPO A98 5GDSC09675 | OPPO | รีวิว OPPO A98 5G สเปกแรง สวยน่าใช้ ชาร์จไวสุด 67W SUPERVOOC

ใช้เทคนิคการผลิตฝาหลังแบบ OPPO Glow ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเฉพาะของแบรนด์ OPPO โดยเทคนิคนี้จะมีการสลักผลึกคริสตัลขนาดเล็กนับล้านชิ้น ลงไปในวัสดุของฝาหลังตัวเครื่อง ทำให้เกิดประกายเล่นกับแสงสะท้อนมีความเงางาม แต่ยังให้ผิวสัมผัสมาในลักษณะของผิวสัมผัสแบบด้าน เวลาจับถือรู้สึกสบายมือ ละมุนน่าลูบไล้ ถือจับถนัดไม่มีความลื่น และไม่เกิดลายนิ้วมือในการใช้งาน ทั้งยังทนทนและลดการเกิดรอยขีดข่วนได้ดีมากยิ่งกว่าปกติอีกด้วย

OPPO A98 5GDSC09717 | OPPO | รีวิว OPPO A98 5G สเปกแรง สวยน่าใช้ ชาร์จไวสุด 67W SUPERVOOC

ตัวเครื่อง OPPO A98 5G ใช้การดีไซน์ด้านหลังแบบ 3D Micro-Curved ขอบเครื่องคล้ายจะตัดเหลี่ยม แต่ก็จะมีความโค้งเข้ารูปมือ ช่วยเพิ่มความงดงามของตัวเครื่อง และยังช่วยให้เราถือจับได้ง่ายกว่าเดิม

ตัวเครื่องมีความบางแค่ 8.2 มม. แม้ภายในจะใส่แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5,000mAh และใช้ที่สแกนลายนิ้วมือตรงปุ่มพาวเวอร์ด้านข้างเครื่อง แต่ก็ยังทำเครื่องมาได้บาง ถือจับได้ง่ายครับ ได้เครื่องหน้าจอใหญ่ในขนาดที่สามารถถือใช้งานด้วยมือเดียวได้ โดยตัวเครื่องจะมีน้ำหนักรวมแค่ 192กรัม

OPPO A98 5GDSC09704 | OPPO | รีวิว OPPO A98 5G สเปกแรง สวยน่าใช้ ชาร์จไวสุด 67W SUPERVOOC

ใส่ใจในการออกแบบ ด้วยการใส่รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เพื่อเพิ่มความสวยงาม เช่นพื้นที่กล้องด้านหลังที่ทำมาได้โดดเด่น โดยการใส่วงแหวนรอบเลนส์กล้องคล้ายกับขอบหน้าปัดแบบนาฬิกา พร้อมกับตกแต่งพื้นที่วงรีเป็นรันเวย์ต่อเนื่องกับชุดกล้องหลัง เป็นพื้นที่ที่ดูแตกต่างกับพื้นฝาหลังในส่วนทั่วไป สลักลายเป็นเส้นเล่นกับแสงเหมือนฝนดาวตก

OPPO A98 5GDSC09953 | OPPO | รีวิว OPPO A98 5G สเปกแรง สวยน่าใช้ ชาร์จไวสุด 67W SUPERVOOC

พอร์ตการเชื่อมต่อมาครบครับ ทั้งรูหูฟัง 3.5มม. ใช้ที่ชาร์จแบบ USB Type C

OPPO A98 5GDSC09783 | OPPO | รีวิว OPPO A98 5G สเปกแรง สวยน่าใช้ ชาร์จไวสุด 67W SUPERVOOC
OPPO A98 5GDSC09786 | OPPO | รีวิว OPPO A98 5G สเปกแรง สวยน่าใช้ ชาร์จไวสุด 67W SUPERVOOC

รองรับ 2 ซิมการ์ดแบบไฮบริด สลับใส่ micro SD Card เพิ่มหน่วยความจำแทนการใส่ซิมที่สองได้ และรองรับการใช้งาน 5G ได้ทั้งสองซิมการ์ด อุปกรณ์ภายในกล่องมีมาให้ทั้งเคสใสซิลิโคน สายดาต้า USB Type C และที่ชาร์จ 67W SUPERVOOC มาให้เลยไม่ต้องไปหาซื้อเพิ่ม

OPPO A98 5GDSC09851 | OPPO | รีวิว OPPO A98 5G สเปกแรง สวยน่าใช้ ชาร์จไวสุด 67W SUPERVOOC
OPPO A98 5GDSC09850 | OPPO | รีวิว OPPO A98 5G สเปกแรง สวยน่าใช้ ชาร์จไวสุด 67W SUPERVOOC
OPPO A98 5GDSC09983 | OPPO | รีวิว OPPO A98 5G สเปกแรง สวยน่าใช้ ชาร์จไวสุด 67W SUPERVOOC
OPPO A98 5GDSC09999 | OPPO | รีวิว OPPO A98 5G สเปกแรง สวยน่าใช้ ชาร์จไวสุด 67W SUPERVOOC

ตัวเครื่องสวย น่าใช้ครับ และผลิตมาภายใต้มาตรฐานการทดสอบคุณภาพกว่า 100,000 รายการ ที่ออกแบบมาเพื่อให้แน่ใจว่าสมาร์ตโฟนของ OPPO จะพร้อมรับมือกับการใช้งานได้อย่างเต็มที่ ในชีวิตประจำวันของผู้ใช้โดยที่จะไม่เสียหาย หรือชำรุดไปได้ง่ายๆ

โดยการทดสอบความทนทานของ OPPO ก็จะตัวอย่างเช่น การทดสอบการตก การทดสอบการกระเซ็นของน้ำ การทดสอบการบิดและทนต่อแรงบีบอัด รวมถึงทดสอบความทนทานของการใช้งานตัวเครื่อง เช่นการทดสอบปุ่มเปิดปิดให้มีความคงทนได้มากกว่า 500,000 ครั้ง หรือทดสอบความทนขงช่องเสียบ USB มากกว่า 20,000 ครั้ง เป็นต้น

OPPO A98 5GDSC09641 | OPPO | รีวิว OPPO A98 5G สเปกแรง สวยน่าใช้ ชาร์จไวสุด 67W SUPERVOOC

โดยการทดสอบเหล่านี้ของ OPPO ทำให้เราได้ตัวเครื่องที่มีความทนทานสูง ใช้งานได้นาน ไม่ชำรุดเสียหายได้ง่าย และนี้คือมาตรฐานที่สร้างชื่อในด้านความทนให้กับเครื่องแบรนด์ OPPO มาอย่างยาวนานเป็นเวลาหลายปีนั้นเองครับ

สรุปท้ายรีวิว

สมาร์ตโฟนเครื่องสวย บาง งานดีไซน์สมัยใหม่ ตัวเครื่องจริงสวยถูกใจผู้ใช้แน่นอนครับ การให้สีและผิววัสดุจาก OPPO Glow ยิ่งใช้จะยิ่งชอบ สัมผัสละมุนมือและไม่มีคราบมันให้ต้องคอยเช็ดกันบ่อยๆ

หน้าจอขนาดใหญ่ รีเฟรชเรทสูง 120Hz ลำโพงคู่สเตอริโอ ฉะนั้นด้านภาพและเสียงสำหรับความบันเทิงตัวนี้ตัวเดียวจบครับ ใหญ่เต็มตาและเสียงดังสะใจเพราะสามารถขยายเสียงได้ดังกว่าปกติถึง 200%

กล้องถ่ายภาพทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง มาในมาตรฐานคุณภาพที่ดีจาก OPPO ปรับแต่งใบหน้าเนียนได้ฉลาด จับโฟกัสได้แม่น มีความละเอียดสูงทั้งกล้องหน้า 32MP และกล้องหลัง 64MP พกพาไปใช้ท่องเที่ยวหรือเซลฟี่กับเพื่อนๆ ได้เลยครับ

สิ่งที่เด็ดที่สุดของรุ่นก็คงจะเป็นเรื่องของระบบชาร์จไว 67W SUPERVOOC ที่สามารถชาร์จแบตได้ไวมากที่สุดของ OPPO  A Series และมีความปลอดภัยสูง จากการทดสอบสามารถใช้งานไปพร้อมกับชาร์จไฟได้โดยที่ตัวเครื่องรักษาอุณหภูมิได้ดีมาก

น่าใช้ สเปคดี มีความปลอดภัย ทนทานใช้งานได้นาน ราคาจำหน่ายไม่แพง

ราคาและโปรโมชั่น

OPPO A98 5G ราคา 10,990 บาท พิเศษเมื่อสั่งซื้อทางผู้ให้บริการเครือข่าย AIS, dtac และ true ราคาเริ่มต้นเพียง 5,490 บาท

พร้อมรับของแถมสุดพิเศษ! E-VIP Card ประกันจอแตก และ OPPO Trendy Bag มูลค่ารวม 6,499 บาท  ตั้งแต่วันที่ 1 – 30 มิถุนายน 2566

A98 first sale16 9 | OPPO | รีวิว OPPO A98 5G สเปกแรง สวยน่าใช้ ชาร์จไวสุด 67W SUPERVOOC

ข่าว: รีวิว OPPO A98 5G สเปกแรง สวยน่าใช้ ชาร์จไวสุด 67W SUPERVOOC มีที่มาจาก: แอพดิสคัส.

from:https://www.appdisqus.com/reivew-oppo-a98-5g-67w-supervooc/