ตอบรับเกินต้าน OPPO Find N2 Flip เปิดรับเครื่องวันแรกที่ AIS Shop Flagship Siam Center มอบกระเป๋าหรูสุดเอ็กซ์คลูซีฟ ลิมิเต็ดดีไซน์จากแบรนด์ Milin พร้อมของแถมจัดเต็ม

วันศุกร์ ที่ 24 มีนาคม 2566  AIS 5G ร่วมกับ OPPO ส่งมอบ OPPO Find N2 Flip “พับที่ดีกว่า” ให้แก่ผู้ที่สั่งจองล่วงหน้าเป็นวันแรก บรรยากาศภายใน AIS Shop Flagship Siam Center เต็มไปด้วยความคึกคัก (ภาพซ้ายไปขวา)

นำโดยหมอโอ๊บธนดล วงศ์สอาดสกุล (Actor & Influencer), คุณมิลิน ยุวจรัสกุล (Milin Brand Designer) ผู้บริหารจาก AIS คุณสินสุพจน์ เจริญกุลธวัช (Product Marketing), ผู้บริหารจากออปโป้ไทย คุณซิน เฮอ ซู (Account Director Operator คุณอภิพล หอมทอง (Senior Account Manager)

พร้อมด้วย ฟอร์ด-อรัญญ์ อัศวสืบสกุล และอั๋น-ณภัทร พัชรชวลิต ที่ร่วมเป็นตัวแทนถ่ายภาพในครั้งนี้ ด้วยกระแสตอบรับที่ดีเกินคาดของนวัตกรรมสมาร์ตโฟนที่ผสานดีไซน์พร้อมฟังก์ชั่นที่มากกว่า โดดเด่นด้วยจอพับที่ตอบโจทย์เรื่องความทนทาน เรียบเนียนแทบไม่เห็นรอย

พร้อมโปรโมชั่นจัดหนักจัดเต็มที่มอบของแถมใจป้ำมูลค่ารวมกว่า 21,198 บาท หนึ่งในนั้นคือ กระเป๋าสุดหรู ลิมิเต็ดดีไซน์จากแบรนด์ Milin ที่เปล่งประกายความปังสะท้อนพลังความสดใสของสมาร์ตโฟนจอพับ ที่ปลุกกระแส Y2K ให้กลายเป็นแกดแจ็ตสุดน่ารักที่ครองใจเหล่าแฟชั่นนิสต้าตัวจริง

โดยภายในงานยังได้พบกับคุณมี่ มิลิน-ยุวจรัสกุล ดีไซน์เนอร์สาวคนเก่ง เจ้าของแบรนด์ Milin ที่ได้มาร่วมพูดคุยถึงแนวคิดในการออกแบบกระเป๋าหรูสุดพรีเมี่ยม โดยได้แรงบันดาลใจมาจากความเชื่อมั่นในพลังของการกระทำในสิ่งเล็กๆ ที่เป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลง 

ซึ่งเปรียบได้กับปรากฏการณ์ปีกผีเสื้อขยับ (Butterfly Effect) ที่สามารถส่งผลกระทบต่อเนื่องเป็นลูกโซ่ จนก่อให้เกิดเป็นพายุทอร์นาโดลูกใหญ่ในอีกฟากหนึ่งของทวีป  เมื่อสิ่งเล็กๆ ได้เปลี่ยนเป็นพลังสำคัญ ย่อมทำให้เกิดปรากฏการณ์ครั้งยิ่งใหญ่ได้ เฉกเช่นเดียวกันกับ Milin ที่มีแนวทางชัดเจนและกล้าที่จะเปลี่ยนแปลงอย่างไม่เกรงกลัว

ตัวแทนของสาวยุคใหม่ เปี่ยมไปด้วยพลัง ที่ต้องการค้นพบและสัมผัสในสิ่งที่ดีกว่า ผ่านศิลปะการออกแบบกระเป๋าที่สวยงาม สะกดทุกสายตาและมอบความโดดเด่นไม่เหมือนใคร 

นอกจากดีไซน์สุดประทับใจแล้ว งานนี้ยังมาพร้อมกับอินฟลูเอนเซอร์หนุ่มสุดฮอตอย่าง หมอโอ๊บ-ธนดล วงศ์สอาดสกุล คุณหมอผู้โด่งดังจาก ซีรีส์วายแนวการแพทย์และแฟนตาซี ‘ทริอาช The Series’ มาร่วมแชร์ประสบการณ์การใช้ OPPO Find N2 Flip กับเหล่าแฟนคลับที่มาร่วมสนุก 

พร้อมด้วยสองหนุ่มหล่อหน้าหวานนักแสดงดาวรุ่งจาก GMMTV (ซ้ายไปขวา)   ฟอร์ด-อรัญญ์ อัศวสืบสกุล และ อั๋น-ณภัทร พัชรชวลิต ที่มาโชว์โมเมนต์สุดฟินร่วมกันในบรรยากาศงาน First Sales Day กับ AIS 5G และ OPPO อีกด้วย กับเหล่าแฟนคลับที่มาร่วมสนุกภายในงาน

OPPO Find N2 Flip สมาร์ตโฟนที่มอบประสบการณ์พับที่ดีกว่า มาพร้อมหน้าจอด้านนอกขนาดใหญ่ที่สุดในอุตสาหกรรมด้วยขนาด 3.26 นิ้ว มอบรอยพับที่น้อยลงจนแทบมองไมเ่ห็นด้วย Flexion Hinge รุ่นล่าสุด เสริมด้วยประสิทธิภาพกล้องที่ดีกว่าด้วยร่วมมือกับแบรนด์กล้องระดับโลก Hasselblad

พร้อมด้วยกล้องหลัก 50MP และกล้องหน้า 32MP ให้คุณถ่ายภาพและวิดีโอได้สนุกทุกมุมด้วย FlexForm Camera เพียงแค่พับและวางลงบนพื้นผิวต่างๆ ก็สามารถถ่ายภาพโดยไม่ต้องใช้ขาตั้งกล้อง ครีเอทท่าทางได้อย่างอิสระยิ่งขึ้น

และใช้งานได้ยาวนานตลอดวันด้วยแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 4,300mAh และชาร์จไว 44W SUPERVOOC มอบประสิทธิภาพที่ทรงพลังด้วยการรับรองจาก TÜV Rheinland ว่าสามารถพับและกางได้ถึง 400,000 ครั้ง เทียบเท่าการเปิดและปิดสมาร์ตโฟนประมาณ 100 ครั้งต่อวันเป็นเวลากว่าสิบปี 

โดย OPPO Find N2 Flip มาพร้อมดีไซน์บางเบา โดยมีน้ำหนักเพียง 191 กรัม และมีความบางเพียง 7.45 มม. พกพาง่าย ใช้งานสะดวก มาใน 2 สีให้เลือก ได้แก่ สีม่วง Moonlit Purple และสีดำ Astral Black

สำหรับท่านใดที่ต้องการเป็นเจ้าของ OPPO Find N2 Flip สมาร์ตโฟนจอพับระดับแฟลกชิปรุ่นแรกจากออปโป้ที่มอบประสบการณ์พับที่ดีกว่า มีวางจำหน่ายในราคา 29,990 บาท 

พิเศษด้วยการจับมือกันระหว่างออปโป้และพันธมิตร AIS  ส่งมอบโปรโมชันสุดพิเศษ ลดสูงสุดถึง 5,500 บาท!   เมื่อสั่งซื้อกับ AIS รับส่วนลดสูงสุด 5,500 บาท รับ OPPO Find N2 Flip ในราคาเริ่มต้นเพียง 24,490 บาท ผ่อน 0% นานสูงสุด 36 เดือน นำเครื่องเก่าแลกใหม่รับสิทธิ์ 2 ต่อ เป็นส่วนลดเพิ่มอีก 5,000 บ. รับสิทธิ์อัปเกรด Serenade เหนือกว่าใครทันที

และของแถมพิเศษรวมมูลค่าสูงสุด 18,199 บ. เมื่อสั่งซื้อเครื่องพร้อมกับแพ็กเกจรายเดือน 5G Hot Deal Max Speed ตามเงื่อนไขบริษัท ที่เอไอเอสช็อป, เทเลวิซ, AIS Online store สามารถหาซื้อได้แล้วตั้งแต่วันนี้ที่ AIS Shop รวมถึง OPPO Brand Shop และตัวแทนจำหน่ายทุกสาขาทั่วประเทศ

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://m.ais.co.th/qxHer4yhO

ติดตามรายละเอียดผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมที่ https://bit.ly/3J52gmx

#OPPOFindN2FlipTH #พับที่ดีกว่า #AIS5G #AISxOPPO 

.fb-background-color {
background: #ffffff !important;
}
.fb_iframe_widget_fluid_desktop iframe {
width: 100% !important;
}

from:https://www.mobileocta.com/overrespond-against-oppo-find-n2-flip/?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=overrespond-against-oppo-find-n2-flip

Advertisement

เปิดตัว Huawei FreeBuds 5 หูฟังไร้สายรุ่นใหม่ ดีไซน์ทรงหยดน้ำ

เปิดตัว Huawei FreeBuds 5 หูฟังไร้สายรุ่นใหม่ ดีไซน์ทรงหยดน้ำ
Wat.C

Huawei เปิดตัวหูฟังไร้สายแบบ True Wireless รุ่นใหม่ Huawei FreeBuds 5 ที่มีดีไซน์สุดแนว คล้าย AirPods แต่ตรงก้านออกแบบคล้ายกับหยดน้ำครับ

Huawei FreeBuds 5 รองรับ L2HC และ LDAC codecs สำหรับระบบเสียงคุณภาพสูงหรือ hi-res audio streaming รองรับ spatial audio สำหรับอุปกรณ์ที่ใช้งาน HarmonyOS 3 รวมถึงรองรับการตัดเสียงรบกวนหรือ active noise cancelation (ANC) และ dynamic EQ tuning ด้วย

ตัวหูฟังมีไดร์เวอร์LCP ขนาด 11 มม. รองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth 5.2 สามารถควบคุมการใช้งานได้ที่ก้านของตัวหูฟัง

Huawei FreeBuds 5 ใช้งานได้นาน 5 ชั่วโมงสำหรับการฟังเพลง และใช้งานได้นานสูงสุด 30 ชั่วโมง เมื่อใช้ร่วมกับเคสชาร์จ โดยตัวเคสชาร์จผ่านพอร์ต USB-C รองรับการกันน้ำและกันฝุ่นมาตรฐาน IP54

Huawei FreeBuds 5 มีให้เลือกทั้งหมด 3 สี ได้แก่ frost silver, ceramic white และ coral orange ราคาอยู่ที่ 899 หยวน หรือราว 4,500 บาท

ข่าว: เปิดตัว Huawei FreeBuds 5 หูฟังไร้สายรุ่นใหม่ ดีไซน์ทรงหยดน้ำ มีที่มาจาก: แอพดิสคัส.

from:https://www.appdisqus.com/huawei-freebuds-5-unveiled-with-new-design/

เปิดตัว Redmi A2 และ Redmi A2+ สมาร์ตโฟนราคาประหยัดในตลาดโลก

Redmi ประกาศเปิดตัว Redmi A2 และ Redmi A2+ สมาร์ตโฟนราคาประหยัดรุ่นใหม่ตระกูล A-Series อย่างเป็นทางการในตลาดโลก โดยมาพร้อมจุดเด่นใช้ชิปเซ็ท MediaTek Helio G36 และแบตเตอรี่ความจุ 5,000mAh

สเปก Redmi A2

ตัวเครื่องมีขนาด 164.9 x 76.8 x 9.1 มม. และน้ำหนัก 192 กรัม หน้าจอแสดงผล Dot Display แบบ IPS LCD ความละเอียด HD+ 720 x 1600 พิกเซล ขนาด 6.52 นิ้ว อัตราส่วน 20:9 โดยมีอัตรารีเฟรชเรท 60Hz และความสว่าง 400nits

ใช้หน่วยประมวลผลซีพียูแบบ Octa Core ความเร็ว 2.2GHz โดยใช้ชิปเซ็ท Mediatek Helio G36 (12 nm), หน่วยประมวลผลกราฟิก PowerVR GE8320 จับคู่กับ RAM 2GB/3GB แบบ LPDDR4x, หน่วยความจำภายใน 32GB แบบ eMMC 5.1 เพิ่มได้ด้วย microSD Card สูงสุด 1TB และรันบนระบบปฎิบัติการ Android 12 (Go edition) ครอบทับด้วย MIUI

ติดตั้งกล้องหลังคู่ Dual Camera พร้อมไฟแฟลช LED โดยกล้องหลักความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0 และกล้องตัวที่ 2 ความละเอียด QVGA ส่วนกล้องหน้าเซลฟี่ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2

รวมทั้งรองรับ 2 SIM, รองรับ 4G LTE, Wi-Fi 802.11 a/b/g/n, Bluetooth 5.0, GPS, GLONASS, GALILEO, BDS, ช่องหูฟัง 3.5 มม., วิทยุ FM, พอร์ต microUSB 2.0 และใช้แบตเตอรี่ความจุ 5,000mAh รองรับการชาร์จ 10W

ทั้งนี้ Redmi A2 มีให้เลือก 3 สีคือ Light Green, Light Blue และ Black ส่วนราคายังไม่มีการประกาศออกมาในตอนนี้

สเปก Redmi A2+

ตัวเครื่องมีขนาด 164.9 x 76.8 x 9.1 มม. และน้ำหนัก 192 กรัม หน้าจอแสดงผล Dot Display แบบ IPS LCD ความละเอียด HD+ 720 x 1600 พิกเซล ขนาด 6.52 นิ้ว อัตราส่วน 20:9 โดยมีอัตรารีเฟรชเรท 60Hz และความสว่าง 400nits

ใช้หน่วยประมวลผลซีพียูแบบ Octa Core ความเร็ว 2.2GHz โดยใช้ชิปเซ็ท Mediatek Helio G36 (12 nm), หน่วยประมวลผลกราฟิก PowerVR GE8320 จับคู่กับ RAM 2GB/3GB แบบ LPDDR4x, หน่วยความจำภายใน 32GB แบบ eMMC 5.1 เพิ่มได้ด้วย microSD Card สูงสุด 1TB และรันบนระบบปฎิบัติการ Android 12 (Go edition) ครอบทับด้วย MIUI

ติดตั้งกล้องหลังคู่ Dual Camera พร้อมไฟแฟลช LED โดยกล้องหลักความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0 และกล้องตัวที่ 2 ความละเอียด QVGA ส่วนกล้องหน้าเซลฟี่ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2

รวมทั้งติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้านหลังเครื่อง, รองรับ 2 SIM, รองรับ 4G LTE, Wi-Fi 802.11 a/b/g/n, Bluetooth 5.0, GPS, GLONASS, GALILEO, BDS, ช่องหูฟัง 3.5 มม., วิทยุ FM, พอร์ต microUSB 2.0 และใช้แบตเตอรี่ความจุ 5,000mAh รองรับการชาร์จ 10W

ทั้งนี้ Redmi A2+ มีให้เลือก 3 สีคือ Light Green, Light Blue และ Black ส่วนราคายังไม่มีการประกาศออกมาในตอนนี้

ที่มา : Gsmarena

.fb-background-color {
background: #ffffff !important;
}
.fb_iframe_widget_fluid_desktop iframe {
width: 100% !important;
}

from:https://www.mobileocta.com/redmi-a2-redmi-a2-plus-launched-in-global-markets/?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=redmi-a2-redmi-a2-plus-launched-in-global-markets

เปิดตัว HUAWEI FreeBuds Pro 2+ หูฟังไร้สายที่วัดอัตราการเต้นของหัวใจ และอุณหภูมิร่างกายได้

HUAWEI ประกาศเปิดตัว HUAWEI FreeBuds Pro 2+ หูฟังไร้สาย True Wireless รุ่นแรกของโลกที่สามารถวัดอัตราการเต้นของหัวใจ และอุณหภูมิร่างกายได้ 

โดยมาพร้อมกับเซ็นเซอร์ตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจแบบดูอัลโหมด รวมทั้งรองรับการตรวจสอบอย่างต่อเนื่องด้วยแสงอินฟราเรด และการระบบตรวจสอบความแม่นยำสูงด้วยแสงสีเขียว

HUAWEI FreeBuds Pro 2+ มีดีไซน์คล้ายกับ FreeBuds Pro 2 โดยมีการอัปเกรดเพิ่มเซ็นเซอร์ตัวใหม่เข้าไป ได้แก่ เซ็นเซอร์สำหรับวัดอัตราการเต้นหัวใจ และอุณหภูมิสำหรับเหมาะสำหรับมนุษย์ที่มีไลฟ์สไตล์แบบแอ็กทีฟ ซึ่ง HUAWEI เคลมว่านี่เป็นเซ็นเซอร์ตัวแรกในตลาดที่มีการตรวจวัดอัตราการเต้นหัวใจด้วยโดยใช้ทั้งอินฟราเรดและแสงเขียวในหนึ่งเดียว ทำให้มีความแม่นยำมากขึ้น

โดยผลจากการเพิ่มเซ็นเซอร์ใหม่เข้าไปก็ทำให้ HUAWEI FreeBuds Pro 2+ มีน้ำหนักเพิ่มขึ้นจาก Freebuds Pro 2 อีก 0.2 กรัม รวมเป็น 6.3 กรัม

นอกจากจุดเด่นด้านเซ็นเซอร์แล้ว HUAWEI FreeBuds Pro 2+ ยังมาพร้อมเคสชาร์จที่มีน้ำหนัก 52 กรัม แบตเตอรี่ความจุ 850 mAh แยกจากแบตเตอรี่ 55 mAh ของตัวหูฟัง โดยรองรับการชาร์จผ่านพอร์ต USB Type-C และการชาร์จไร้สาย Qi wireless charging

HUAWEI FreeBuds Pro 2+ ยังได้พัฒนาร่วมกับ Devialet โดยเลือกใช้ตัวขับเสียงแบบคู่ประกอบด้วยตัวขับเสียงแบบไดนามิกที่ใช้แม่เหล็กสี่ชุด และทวีตเตอร์แบบไมโครพาเนล ซึ่งการเลือกใช้ตัวขับเสียงขนาด 11mm ที่ใช้แม่เหล็กสี่ชุด ทำให้มีประสิทธิภาพรองรับพลังเสียงสูงกว่ารุ่นก่อนหน้า 30% ย่านความถี่ต่ำสามารถตอบสนองได้ลึกถึง 14Hz พร้อมพลังเสียงทุ้มที่หนักแน่นทรงพลัง

ส่วนสเปกอื่นๆ มาพร้อมไดรเวอร์ไดนามิก 11 มม., ตัวควบคุมแบบสัมผัส (touch control), ฟีเจอร์ตัดเสียง ANC, บลูทูธ 5.2 และได้มาตรฐาน IP54 กันละอองน้ำและฝุ่น

นอกจากนี้ยังสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์หลายเครื่อง เช่น สมาร์ตโฟน และแท็บเล็ต ซึ่งรองรับการเชื่อมต่อพร้อมกันกับอุปกรณ์สองเครื่องโดยไม่ต้องจับคู่ใหม่เมื่อเปลี่ยน และรองรับการสตรีมเสียงระหว่างอุปกรณ์ HarmonyOS หลายเครื่อง

ทั้งนี้ HUAWEI Freebuds Pro 2+ เปิดให้พรีออเดอร์ในประเทศจีนด้วยราคาพิเศษ 1,399 หยวนหรือประมาณ 7,000 บาท แต่เมื่อเริ่มวางขายอย่างเป็นทางการในวันที่ 9 เมษายนแล้วจะขายในราคา 1,499 หยวนหรือประมาณ 7,500 บาท ส่วนกำหนดการวางขายนอกประเทศจีนนั้น HUAWEI จะประกาศในวันที่ 9 เมษายน

ที่มา : Gsmarena

.fb-background-color {
background: #ffffff !important;
}
.fb_iframe_widget_fluid_desktop iframe {
width: 100% !important;
}

from:https://www.mobileocta.com/launch-of-huawei-freebuds-pro-2/?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=launch-of-huawei-freebuds-pro-2

เปิดตัว Samsung Galaxy F14 5G มาพร้อมชิป Exynos 1330,จอ 90Hz, กล้องหลังคู่ 50MP และแบตเตอรี่ 6,000mAh

หลังจากเปิดตัว Samsung Galaxy A54 5G และ Galaxy A34 5G ไปเมื่อช่วงกลางเดือนที่ผ่านมา ล่าสุด Samsung ได้เปิดตัว Samsung Galaxy F14 5G สมาร์ตโฟนระดับเริ่มต้นรุ่นใหม่ที่มาพร้อมจุดเด่นหน้าจอที่มีอัตรารีเฟรชเรท 90Hz, ใช้ชิปเซ็ท Exynos 1330 และแบตอึด 6,000mAh

สเปก Samsung Galaxy F14 5G

Samsung Galaxy F14 5G มาพร้อมหน้าจอแสดงผล Infinity-V แบบ PLS LCD ขนาด 6.6 นิ้ว ความละเอียด FHD+ 1080 x 2408 พิกเซล ในอัตราส่วน 20:9 โดยมีอัตรารีเฟรชเรท 90H และครอบทับด้วยกระจกกันรอย Corning Gorilla Glass 5

ใช้หน่วยประมวลผลซีพียูแบบ Octa Core ความเร็ว 2.4GHz โดยใช้ชิปเซ็ท Exynos 1330 (5nm), หน่วยประมวลผลกราฟิก Mali-G68 MP2, RAM 4GB/6GB, หน่วยความจำภายใน 128GB เพิ่มได้ด้วย microSD Card สูงสุด 1TB และรันบนระบบปฎิบัติการ Android 13 ครอบทับด้วย One UI Core 5.1

ติดตั้งกล้องหลังคู่ Dual Camera พร้อมไฟแฟลช LED ประกอบด้วย

• กล้องหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8, (wide), และระบบ PDAF
• กล้องตัวที่ 2 เลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4

ส่วนกล้องหน้าเซลฟี่ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0

รวมทั้งติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ด้านข้างเครื่อง, รองรับ 2 SIM, รองรับ 4G/5G แบบ Dual Mode (SA/NSA) , Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, dual-band, Wi-Fi Direct, Bluetooth 5.2, NFC, ช่องหูฟัง 3.5 มม., พอร์ต USB Type-C และแบตเตอรี่ความจุ 6,000mAh รองรับการชาร์จเร็ว 25W

ทั้งนี้ Samsung Galaxy F14 5G มีให้เลือก 3 สีคือ Black, Green และ Purple ส่วนราคาเริ่มต้นที่ 14,490 รูปีอินเดียหรือประมาณ 6,000 บาท สำหรับรุ่น RAM 4GB+128GB

และราคา 15,990 รูปีอินเดียหรือประมาณ 6,620 บาท สำหรับรุ่น RAM 6GB+128GB และจะเริ่มวางจำหน่ายที่ประเทศอินเดียในวันที่ 30 มีนาคมนี้

ที่มา : Gsmarena

.fb-background-color {
background: #ffffff !important;
}
.fb_iframe_widget_fluid_desktop iframe {
width: 100% !important;
}

from:https://www.mobileocta.com/samsung-galaxy-f14-5g-goes-official/?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=samsung-galaxy-f14-5g-goes-official

ซัมซุงเชิญชวนคนไทยร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการรักษ์โลก ปิดไฟ 1 ชั่วโมง 25 มี.ค.นี้

ซัมซุงเชิญชวนคนไทยมาปิดไฟที่ไม่ได้ใช้กันเถอะ ในช่วง Earth Hour หรือ “วันปิดไฟเพื่อโลก” ในวันที่ 25 มีนาคมนี้ ตั้งแต่เวลา 20.30 – 21.30 น. ด้วยการปิดไฟเป็นเวลา 1 ชั่วโมง และถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ได้ใช้งาน

โดยทางกรุงเทพมหานครจะมี การปิดไฟเชิงสัญลักษณ์ ทั้งหมด 5 สถานที่หลัก ได้แก่ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว) พระบรมมหาราชวัง วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร เสาชิงช้า สะพานพระราม 8 และวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร (ภูเขาทอง)

และทางซัมซุงได้มีส่วนร่วมปิดไฟเชิงสัญลักษณ์ ที่ป้ายโฆษณาและบิลบอร์ด ทั้งหมด 4 จุด ได้แก่ ป้ายโฆษณาที่โรงแรม Grand Fortune, บริเวณแยกเพชรบุรี, มักกะสัน และท่าเรือบางนา

เชิญชวนทุกคนร่วมแชร์ประสบการณ์การมีส่วนร่วมในกิจกรรม พร้อมถ่ายภาพความงดงามแม้ในที่แสงน้อยภายใต้คอนเซ็ปต์ “เมืองไทยในยามค่ำคืน”​ ผ่านโหมด Nightography จาก Galaxy S23 Ultra 

ผู้ที่สนใจเข้าร่วมสามารถแชร์รูปถ่ายพร้อมติด #SharetheEpic #GalaxyS23 และรอติดตามภาพสวยๆ จากชั่วโมงปิดไฟได้ในวันที่ 25 มีนาคมทางเฟซบุ๊ค https://www.facebook.com/SamsungThailand

.fb-background-color {
background: #ffffff !important;
}
.fb_iframe_widget_fluid_desktop iframe {
width: 100% !important;
}

from:https://www.mobileocta.com/samsung-invites-thai-people-to-take-part-in-saving-the-world/?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=samsung-invites-thai-people-to-take-part-in-saving-the-world

เปิดตัว Amazfit T-Rex Ultra นาฬิกาสายลุย ที่ได้รับการรับรองด้านดำน้ำ

เปิดตัว Amazfit T-Rex Ultra นาฬิกาสายลุย ที่ได้รับการรับรองด้านดำน้ำ
Wat.C

สมาร์ตวอตช์ Amazfit ซีรีส์ T-Rex เป็นซีรีส์ที่เน้นความอึดและทนทาน โดยรุ่นใหม่ล่าสุดคือ Amazfit T-Rex Ultra ซึ่งชื่อก็บ่งบอกความเป็นสมาร์ตวอตช์เรือธงของซีรีส์นี้นั่นเองครับ

สเปก Amazfot T-Rex Ultra

• หน้าจอ AMOLED ขนาด 1.39 นิ้ว ความละเอียด 454 x 454 พิกเซล ความสว่างหน้าจอสูงสุด 1,000nits
• ได้รับการรองรับมาตรฐานการดำน้ำลึก 30 เมตร
• ได้รับมาตรฐานความทนทานระดับ MIL-STD
• ทนทานต่ออุณหภูมิที่สุดขั้วที่ต่ำถึง -30°C และสูงถึง +70°C
• ระบบ GPS แบบ Dual-Band สามารถดาวน์โหลดแผนที่แบบออฟไลน์ได้
• สามารถตรวจจับการออกกำลังกายอัตโนมัติได้ถึง 25 แบบ
• มีเซ็นเซอร์ BioTracker PPG ในตัวช่วยให้มั่นใจได้ถึงรายละเอียดการติดตามอัตราการเต้นของหัวใจและออกซิเจนในเลือดที่แม่นยำ
• รองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth 5.0 LE และ Wi-Fi
• แบตเตอรี่ขนาด 500mAh สามารถใช้งานได้ 20 วัน สำหรับการใช้งานทั่วไป และ 9 วันสำหรับการใช้งานที่หนัก
• มีโหมด Endurance GPS ที่ใช้งานได้นานถึง 3 วัน

มีให้เลือกทั้งหมด 2 สี ได้แก่ Abyss Black และ Sahara ราคา $400 หรือราว 13,600 บาท

ข่าว: เปิดตัว Amazfit T-Rex Ultra นาฬิกาสายลุย ที่ได้รับการรับรองด้านดำน้ำ มีที่มาจาก: แอพดิสคัส.

from:https://www.appdisqus.com/amazfit-t-rex-ultra-unveiled/

Belkin x Lazada 11th Year Grand Sale : 27-29 มี.ค. 2566

Mega แคมเปญสิ้นเดือนกับหัวชาร์จเร็ว 25 วัตต์ รองรับชาร์จเร็ว iPhone และ Samsung ด้วยเทคโนโลยี PD 3.0 PPS กับ Belkin BoostCharge USB-C PD 3.0 PPS Wall Charger 25W จากราคาปกติ 690.- พิเศษเหลือเพียง 490.-

• ชาร์จเร็ว Samsung จาก 0-50% ใน 26 นาที
• ชาร์จเร็ว iPhone 8 ขึ้นไป 0-50% ใน 30 นาที
• รองรับมาตรฐาน USB-C PD 3.0 PPS
• ขนาดกะทัดรัด พกพาสะดวก
• * พิเศษ ซื้อพร้อมสายลดพิเศษสูงสุด 38%

พิเศษ เก็บคูปองรับส่วนลดผลิตภัณฑ์ MagSafe สูงสุด 500.-

• BOOST↑CHARGE PRO 3-in-1 Wireless Charger with Official MagSafe Charging 15W
• BOOST↑CHARGE PRO 3-in-1 Wireless Charger with Official MagSafe Charging 15W

 เข้าไปเลือกช้อปสินค้าของแท้ มีรับประกัน ได้ที่ https://bit.ly/BelkinOfficialStore

.fb-background-color {
background: #ffffff !important;
}
.fb_iframe_widget_fluid_desktop iframe {
width: 100% !important;
}

from:https://www.mobileocta.com/belkin-x-lazada-11th-year-grand-sale/?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=belkin-x-lazada-11th-year-grand-sale

แกร็บ ส่งแคมเปญใหญ่ “แกร็บฟู้ดวินทุกเกมกินทั่วไทย” เขย่าตลาด

แกร็บ ส่งแคมเปญใหญ่ “แกร็บฟู้ดวินทุกเกมกินทั่วไทย” เขย่าตลาด
Cherry Cola

แกร็บ ชู 3 กลยุทธ์ ตอกย้ำแชมป์เดลิเวอรีอันดับหนึ่ง ส่งแคมเปญใหญ่ “แกร็บฟู้ดวินทุกเกมกินทั่วไทย” เขย่าตลาดขึ้นแท่นแอปสั่งอาหารและสั่งสินค้าควิกคอมเมิร์ซยอดนิยมอันดับหนึ่งในประเทศไทยจากผลสำรวจของกันตาร์ (Kantar) ส่งแคมเปญใหญ่ “แกร็บฟู้ดวินทุกเกมกินทั่วไทย” เล็งรักษาฐานลูกค้า-เพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดผ่าน 3 กลยุทธ์หลัก “Exclusivity” เปิดตัวซับ-แบรนด์ใหม่ “เฉพาะที่ Grab” ชูจุดขายความอร่อยสุดเอ็กซ์คลูซีฟด้วยร้านอาหารและเมนูพิเศษที่สั่งได้เฉพาะที่แกร็บเท่านั้น “Quality & Wide Selection” ตอกย้ำคุณภาพบริการผ่านแบรนด์ #GrabThumbsUp จ่อเพิ่มจำนวนพาร์ทเนอร์ร้านอาหาร-ร้านค้าทั่วประเทศ และ “Loyalty” มัดใจฐานผู้ใช้บริการผ่านโปรแกรมสมาชิก GrabUnlimited ต่อเนื่อง

นายวรฉัตร ลักขณาโรจน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ แกร็บ ประเทศไทย เผยว่า “แกร็บฟู้ด เปิดให้บริการในประเทศไทยมากว่า 5 ปีแล้ว โดยได้รับความนิยมจากผู้ใช้บริการทั่วประเทศมาอย่างต่อเนื่องจนกลายเป็นแบรนด์อันดับต้นๆ ที่คนไทยนึกถึง (Top-of-Mind brand) เมื่อต้องการสั่งอาหารผ่านแอปพลิเคชัน ด้วยมาตรฐานและคุณภาพของการให้บริการ ตลอดจนแคมเปญและกิจกรรมการตลาดที่มีสีสันและนำเทรนด์อยู่เสมอ ทำให้วันนี้แกร็บฟู้ดกลายเป็นแบรนด์เดลิเวอรียอดนิยมอันดับหนึ่งในประเทศไทย ด้วยมูลค่าธุรกรรมรวมในตลาด (GMV) ที่สูงที่สุดในปี 25651 หรือคิดเป็นสัดส่วนถึง 51% ของทั้งอุตสาหกรรม1 ทั้งยังได้รับรางวัลการันตีความเชื่อมั่นจากหลายสถาบัน อาทิ The Most Powerful Brand of Thailand จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย Thailand’s Most Admired Brand จากนิตยสาร BrandAge No.1 Brand Thailand จากนิตยสาร Marketeer และแบรนด์ทรงอิทธิพลที่สุดแห่งปี จาก Influential Brands”

“ล่าสุด กันตาร์ (Kantar) ผู้นำด้านการวิจัยพฤติกรรมการจับจ่ายของผู้บริโภคเชิงลึก ได้สำรวจพฤติกรรมของผู้ใช้บริการเดลิเวอรีในประเทศไทยและประกาศให้ แกร็บ (ทั้งบริการแกร็บฟู้ดและแกร็บมาร์ท) ครองอันดับหนึ่งแบรนด์เดลิเวอรีที่ผู้บริโภคไทยนิยมมากที่สุด2 และเพื่อเป็นการตอกย้ำความเป็นเจ้าตลาดเดลิเวอรี ในปีนี้ เราจึงได้ส่งแคมเปญใหญ่ที่ชื่อ ‘แกร็บฟู้ดวินทุกเกมกินทั่วไทย’ เพิ่มสิทธิประโยชน์ทั้งส่วนลดและโปรโมชันเอาใจผู้ใช้บริการ พร้อมสนับสนุนพาร์ทเนอร์ร้านอาหาร-ร้านค้าในการกระตุ้นการจับจ่ายเพื่อเพิ่มยอดขาย”

ภายใต้แคมเปญ “แกร็บฟู้ดวินทุกเกมกินทั่วไทย” แกร็บเดินหน้าตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดเดลิเวอรี พร้อมมัดใจผู้ใช้บริการผ่าน 3 กลยุทธ์หลัก อันได้แก่ Exclusivity: สร้างความแตกต่างด้วยการนำเสนอประสบการณ์ความอร่อยแบบเอ็กซ์คลูซีฟให้กับผู้ใช้บริการผ่านการเปิดตัวซับ-แบรนด์น้องใหม่ “เฉพาะที่ Grab” เพื่อคัดสรรร้านอร่อยชื่อดังจากทั่วประเทศมาเอาใจผู้ใช้บริการที่สามารถสั่งได้เฉพาะที่แกร็บเท่านั้น โดยเปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรกในงาน “วินทุกเกมกินทั่วไทย เฉพาะที่ Grab” ที่จะยกขบวนความอร่อยจาก 50 ร้านเด็ดทั่วไทยมาไว้ใจกลางกรุงเทพฯ อาทิ ยำปูม้าเจ็ดยอด จากเชียงใหม่, คุณจี๊ดยอดผักและ Phuketique จากภูเก็ต, พ่อสนั่นลาบก้อย จากขอนแก่น และ Eggdrop แซนวิชไข่เกาหลี รวมถึงร้านพิเศษที่มีเฉพาะที่แกร็บมาร์ทอย่าง Soul Korea Town สินค้านำเข้าจากเกาหลี และ Radiance Wholefoods สินค้าเพื่อสุขภาพ ณ ลานหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ระหว่างวันที่ 24 – 26 มีนาคม 2566

พร้อมมอบโปรโมชันสูงสุด 50% และสิทธิ์กินฟรีตลอดเดือนมูลค่า 3,000 บาทเมื่อสั่งอาหารผ่านร้าน “เฉพาะที่Grab” ครบ 8 ครั้ง3 Quality & Wide Selection: เดินหน้าคัดสรรร้านเด็ดที่ครบเครื่องทั้งคุณภาพและความอร่อยจากทั่วประเทศเพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับสายกินผ่านโปรแกรม #GrabThumbsUp หรือ “ร้านอร่อยยกนิ้ว” โดยในปีนี้จะเน้นเพิ่มประเภทอาหารใหม่ๆ ที่สอดรับกับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค เช่น เมนูบรันช์ หรือเมนูใหม่ๆ ที่เกิดจากการร่วมมือของแบรนด์ต่างๆ (Collab Menu) เพื่อสร้างความหลากหลายและตอกย้ำว่า #GrabThumbsUp คือสัญลักษณ์การันตีความอร่อยจากร้านคุณภาพอย่างแท้จริง พร้อมเล็งเพิ่มจำนวนพาร์ทเนอร์ร้านอาหารอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในตลาดต่างจังหวัด ซึ่งในปีที่ผ่านมามีการเติบโตสูงกว่าในกรุงเทพฯ ถึง 3 เท่า4 ขณะที่บริการแกร็บมาร์ทมีแผนจะเพิ่มจำนวนพาร์ทเนอร์ร้านค้าให้มากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มร้านโชว์ห่วยหรือร้านขนาดเล็กทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด รวมถึงการเพิ่มความหลากหลายของประเภทสินค้าเพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้บริการจากในปัจจุบันที่มีสินค้าให้เลือกช้อปมากกว่า 4 แสนประเภท

Loyalty: มัดใจผู้ใช้บริการผ่านแพคเกจสมาชิก GrabUnlimited ซึ่งถือเป็นหนึ่งในโปรแกรมที่ประสบความสำเร็จที่สุดในปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ จากอินไซต์ของผู้ใช้บริการพบว่า ผู้สมัครสมาชิก GrabUnlimited มีความถี่ในการสั่งอาหารผ่านแกร็บฟู้ดมากกว่าผู้ใช้บริการทั่วไปถึง 3 เท่า5 จากความนิยมที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในปีนี้แกร็บเตรียมยกระดับความพิเศษของแพคเกจสมาชิก GrabUnlimited ไปอีกขั้น ด้วยการขยายการมอบส่วนลดและโปรโมชันให้ครอบคลุมทุกบริการ ไม่ว่าจะเป็น การสั่งอาหาร การสั่งซื้อสินค้า การส่งพัสดุ หรือแม้แต่การเดินทาง พร้อมอัปเลเวลความพิเศษของสมาชิกด้วยการเพิ่มสิทธิประโยชน์อื่นๆ จากพันธมิตรธุรกิจรวมถึงสิทธิสะสมคะแนน GrabRewards ด้วย

“แกร็บคงไม่สามารถก้าวสู่การเป็นแบรนด์เดลิเวอรียอดนิยมอันดับหนึ่งได้ หากขาดซึ่งการสนับสนุนจากทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็น ผู้ใช้บริการที่เชื่อมั่นในแบรนด์และบริการของเรา พาร์ทเนอร์ร้านอาหารที่คอยเคียงข้างและรักษาคุณภาพความอร่อยอย่างต่อเนื่อง พี่ๆ พาร์ทเนอร์คนขับที่คอยจัดส่งอาหารไปถึงมือผู้บริโภคอย่างทุ่มเทในทุกๆ วัน รวมถึงพันธมิตรทางธุรกิจทุกรายที่ให้การสนับสนุนแกร็บมาโดยตลอด เราจะยังคงเดินหน้าเพื่อพัฒนาและปรับปรุงเทคโนโลยีและบริการอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคให้ให้สามารถครองใจคนไทยต่อไป” นายวรฉัตร กล่าวทิ้งท้าย

ข่าว: แกร็บ ส่งแคมเปญใหญ่ “แกร็บฟู้ดวินทุกเกมกินทั่วไทย” เขย่าตลาด มีที่มาจาก: แอพดิสคัส.

from:https://www.appdisqus.com/grab-launches-a-big-campaign/

แนะนำ 10 หนังและซีรีส์น่าดู แนวเอาตัวรอดจากภัยพิบัติ จาก Netflix และแพลตฟอร์มอื่น ๆ

กลับมาพบกันอีกครั้งกับบทความแนะนำหนังและซีรีส์ ในสัปดาห์ที่ผ่านมานี้หลังจากที่มีข่าวซีเซียม 137 ถูกหลอมไปในปริมาณที่น้อยมาก แต่ก็สร้างความตื่นตระหนกต่อประชาชนชาวไทยไม่น้อย จึงทำให้ผู้เขียนเกิดไอเดียรวม 10 หนังและซีรีส์แนวเอาชีวิตรอดจากภัยพิบัติหรือเหตุการณ์อันตราย เผื่อวันใดวันนึงในอนาคตเจอเหตุการณ์เหล่านี้ เราจะได้รอดตายกันทั้งหมด (อินไปมั้ยเนี่ย)

1.Chernobyl

เรื่องแรกที่นึกถึงหลังจากที่มีข่าวซีเซียม 137 ออกมา ย้อนกลับไปสมัยโซเวียต ในตอนนั้นเกิดความประมาทของวิศวกรคนหนึ่งที่ต้องการทดสอบระบบความปลอดภัยในโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ จนเกิดความผิดพลาดที่นับเป็นหายนะของมวลมนุษยชาติ เรียกได้ว่าเกิดเหตุการร์นี้หนึ่งครั้งคือตายกันทั้งโลกแน่ ๆ ไม่ต่างกับถ้าเราหลอมซีเซียม 137 ไปในเตาหลอมแล้วเคมีที่อยู่ในนั้นกระจายออกมาสู่โลกภายนอก

ช่องทางการรับชม : Netflix

 

2.Meltdown : Three Mile Island

อันนี้เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ที่สร้างมาจากเรื่องจริง เรื่องราวย้อนกลับไปเมื่อปี 1979 โรงไฟฟ้าที่ตั้งอยู่บนเกาะทรีไมล์ในรัฐเพนซิลเวเนียเกิดข้อผิดพลาด ทำให้มีการรั่วไหลของรังสีอันตราย หายนะอันยิ่งใหญ่ของประวัติศาสตร์จึงได้เกิดขึ้น โดยรัฐบาลได้จีดความรุนแรงของเหตุการณ์รุนแรงที่ระดับ 5 จาก 7 ระดับ ซึ่งก็แปลว่าสามารถส่งผลกระทบไปในวงกว้างสุดๆๆๆ

ช่องทางการรับชม : Netflix

 

3.Pandora 2016

ถ้าพูดถึงเรื่องการระเบิดของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เอยไรเอย อีกหนึ่งเรื่องที่นึกถึงเลยก็คือ Pandora เมื่อประเทศเกาหลีเกิดแผ่นดินไหว 6.1 ริกเตอร์ ได้ไปทำให้โรงไฟฟ้าที่เปิดมานานกว่า 40 ปีเกิดรอยรั่ว ซึ่งถ้าหากควบคุมสถานการณ์ไม่ได้ แล้วมันไปกระตุ้นให้เตาปฏิกรณ์ระเบิดขึ้นมาก็จะสร้างความเสียหายระยะยาวและใหญ่หลวงให้แก่ประชาชนโดยรอบ

ช่องทางการรับชม : Netflix

 

4.Greenland 2020

ภาพยนตร์วันสิ้นโลกที่ดูจบแล้วรู้สึกว่า เออ เวลาคนมันกลัวตายหรือใกล้ตายในเหตุการณ์แบบนี มันสามารถทำได้ทุกอย่างให้ตัวเองรอดจริง ๆ นะ…ว่าด้วยเรื่องราวของดาวหางที่กำลังพุ่งชนโลก จอห์น วิศวกรโครงสร้างที่ได้รับสิทธิไปอยู่ศูนย์พักพิงที่รัฐจัดไว้ให้พร้อมกัลครอบครัว แต่ยังไม่ทันไรพวกเค้าก็พัดพรากจากกันเพราะความวุ่นวายของคนรอบข้างซะเนี่ย

ช่องทางการรับชม : HBO Go

 

5.Crawl

 

หนังหายนะที่ดูแล้วรู้สึกใกล้ตัวที่สุดก็คือเรื่องนี้เลยค่ะ เพราะถ้าประเทศไทยน้ำท่วม มันก็มีโอกาสที่น้องจรเข้จะหลุดจากฟาร์มมางาบเราได้ เรื่องราวของเฮลีย์สาวใจแกร่งที่เดินทางไปช่วยพ่อท่ามกลางพายุเฮอริเคน ซึ่งพายุนี้ได้ทำให้บ้านพ่อของเธอถูกน้ำท่วมสูง เหล่าจระเข้ที่หลบซ่อนตัวอยู่ในหนองน้ำหลังบ้านก็ได้เวลาออกมาล่าเหยื่อ ซึ่งแน่นอนว่าการที่เฮลีย์จะเข้าไปพาพ่อเธอออกมานั้นต้องผ่านเหล่าผู้หิวโหยพวกนี้ไปก่อน

ช่องทางการรับชม : ตอนนี้เหมือนว่าหลายแพลตฟอร์มจะเอาเรื่องนี้ออกไป ถ้าเข้าฉายช่องทางไหนจะแจ้งให้ทราบอีกทีค่ะ

 

6.Frozen 2010

เห็นเมืองไทยร้อน ๆ แบบนี้อย่าพึ่งคิดว่าความหนาวยะเยือกเป็นเรื่องไกลตัว เพราะถ้าเราไปเที่ยวเมืองนอกแล้วเกิดเจอภัยพิบัติแบบนักศึกษา 3 คนนี้เข้าล่ะ…เรื่องราวของ 3 นักศึกษาเพื่อนซี้ที่กำลังอยู่ในวัยคึกคะนองได้ไปเล่นสกีบนเขาแบบฟรี ๆ ก็เลยแอบขึ้นกระเช้าไฟฟ้า แล้วก็พากันไปติดดอยอยู่บนยอดเขาที่ทั้งหนาว มืด และอันตรายจากพายุหิมะ

ช่องทางการรับชม : ยังไม่ทราบแพลตฟอร์มที่แน่ชัด เดี๋ยวจะมาอัปเดตให้ภายหลังนะคะ

 

7.San Andreas

พูดถึงหนังเกี่ยวกับภัยพิบัติ ภาพยนตร์ในตำนานรองจาก The day after tomorrow ก็คือเรื่อง San Andreas นี่แหละ เรื่องราวของแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ 9.5 ริกเตอร์ สร้างความเสียหายและสูญเสียมากมาย เรย์ นักกู้ภัยวัยกลางคนที่นอกจากจะต้องช่วยเหลือผู้คนจำนวนมากแล้วยังต้องมาช่วยเหลือครอบครัวตัวเองให้พ้นวิกฤติในครั้งนี้ด้วย บอกเลยว่าดูกี่ทีก็ลุ้นจนนั่งไม่ติดเก้าอี้ทุกที

ช่องทางการรับชม : HBO Go

 

8.Exit (2019)

ทุกปัญหามีทางออก แต่ถ้าหมอกพิษจะลงขนาดนี้ จะหนียังไงรอด เรื่องราวของยงนัม หนุ่มว่างงานอดีตสมาชิกชมรมปีนเขาที่ได้มาเจอกัน ณ โรงแรมแห่งหนึ่ง หลังจากนั้นไม่นานจู่ ๆ ก็มีก๊าซพิษปริศนากระจายไปทั่วทั้งเมือง ทำให้ยงนัมและผองเพื่อนรีบหนีเอาตัวรอด แต่คือถ้าเป็นเราจะหนียังไง อันนี้ก็น่าคิด

ช่องทางการรับชม : ยังไม่ทราบแพลตฟอร์มที่แน่ชัด เดี๋ยวจะมาอัปเดตให้ภายหลังนะคะ

 

9.Just a Breath Away

หมอกจาง ๆ และควันของพี่เบิร์ดต้องหลบไป ถ้ามาเจอหมอกร้ายอย่างหมอกมฤตยูในเรื่อง Just a Breath Away เรื่องราวการเอาชีวิตรอดของครอบครัวหนึ่งที่ลูกสาวป่วยหนัก ไม่สามารถออกมาเจอโลกภายนอกแบบเด็กทั่วไปได้ ซ้ำร้ายจู่ๆ ในปารีสก็มีหมอกปริศนาที่สามารถคร่าชีวิตของสิ่งมีชีวิตได้

ช่องทางการรับชม : ยังไม่ทราบแพลตฟอร์มที่แน่ชัด เดี๋ยวจะมาอัปเดตให้ภายหลังนะคะ

 

10.Geostorm

มันจะดีนะถ้าเราสามารถควบคุมภัยธรรมชาติได้ แต่ถ้าควบคุมและเกิดข้อผิดพลาดแบบนี้ล่ะ Geostorm เรื่องราวที่บอกเล่าหายนะที่เกิดขึ้นกับโลก โดยมีสาเหตุมาจากมนุษย์ต้องการจะควบคุมธรรมชาติโดยการใช้ดาวเทียม แต่วันนึงดาวเทียมดวงนี้เกิดเกเรขึ้นมา เปลี่ยนจากการคุมภัยธรรมชาติ เป็นการปล่อยหายนะออกมาทุกๆนาที (ก็เหมือนทุกวันนี้ ภัยธรรมชาติต่างๆก็เกิดขึ้นเพราะฝีมือมนุษย์อะเนอะ) แล้วคราวนี้มนุษย์จะหยุดยั้งมันได้อย่างไร

ช่องทางการรับชม : Netflix

 

และทั้งหมดนี้ก็คือหนังและซีรีส์แนวหนีเอาตัวรอดจากภัยพิบัติรุนแรทั้งเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ และเกิดขึ้นโดยความประมาทของมนุษย์ ทั้งนี้โปรดรับชมอย่างมีสติ อย่าพึ่งจิตหลุดจากข่าวที่เกิดขึ้น ปล่อยให้ผู้เขียนอินไปคนเดียวพอแล้ว ส่วนใครที่รู้สึกว่ายังไม่อยากดูแนวนี้ในช่วงนี้ ก็แวะมาดูพัคยอนจินพากย์ไทยแบบมัน ๆ ที่ลิงก์ด้านล่างก่อนจ้า

แนะนำ 10 ซีรีส์เกาหลีพากย์ไทยน่าดู หลากหลายแนว จาก Netflix

 

from:https://droidsans.com/how-to-survive-movies-and-series-25-march-2023/