แม้ว่าไมโครซอฟท์จะหยุดซัพพอร์ต Windows Phone / Windows 10 Mobile ทั้งอัพเดตของระบบปฏิบัติการและแอพ Office มาได้ปีกว่าแล้ว แต่ฟีเจอร์ออนไลน์อื่นๆ เช่นบริการสำหรับเล่นเกมอย่าง Xbox ก็ยังใช้งานได้จนถึงทุกวันนี้
แต่อย่างไรก็ตามจากประกาศบนแอพ Xbox เมื่อไม่นานมานี้ ไมโครซอฟท์ได้ระบุว่าฟีเจอร์ Xbox บน Windows Phone จะหยุดให้บริการในวันที่ 16 พ.ค. 2022 และแม้ว่าเกมบน Windows Phone บางเกมจะสามารถเล่นต่อได้โดยไม่ต้องอาศัยบริการออนไลน์จาก Xbox แต่ฟีเจอร์อย่างระบบโปรไฟล์ของผู้เล่น, เซฟเกมบนคลาวด์ รวมถึง achievement บันทึกความสำเร็จในเกมจะไม่สามารถใช้งานได้อีกต่อไป
All new Surface Pro X ดีไวซ์ที่บางและเบาที่สุดของไมโครซอฟท์ ยังทรงประสิทธิภาพโดยเป็นทั้งแลปท็อปและแท็บเล็ตแบบทูอินวัน โดดเด่นด้วยดีไซน์ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยในการพกพาสะดวกไปได้ทุกที ทุกการประชุม ไม่ว่าจะเป็นสนามบิน โรงแรม หรือแม้แต่การดูวิดีโอรายการโปรดที่บ้าน
Surface Pro X มาพร้อมอุปกรณ์เสริมใหม่ๆ เพื่อเสริมประสบการณ์สู่การใช้งานแลปท็อปเต็มรูปแบบ หรือโหมดสตูดิโอแบบพกพา ด้วยคีย์บอร์ดรุ่นใหม่ล่าสุด Surface Pro X Signature Keyboard ปากกา Slim Pen และ Surface Arc Mouse ผู้ใช้จึงสามารถรังสรรค์ผลงานได้อย่างเป็นธรรมชาติตามความที่เขาต้องการ
ยิ่งไปกว่านั้นปากกา Surface Slim Pen ใหม่ยังช่วยเสริมประสิทธิภาพการทำงานของ Surface Pen รุ่นเดิม โดยสามารถชาร์จซ้ำได้และเก็บในตัวได้อย่างปลอดภัยบนคีย์บอร์ด Surface Pro X Signature Keyboard หุ้มวัสดุสุดหรูของ Alcantara พร้อมแป้นพิมพ์ที่เป็นระดับเดียวกับแล็ปท็อป มีแสงไฟบนคีย์บอร์ด และแทร็กแพดที่เป็นกระจกขนาดใหญ่แบบมัลติทัช
Surface for Business มอบประโยชน์มากกว่าสำหรับภาคธุรกิจ
ไมโครซอฟท์ ประเทศไทย ร่วมกับสถาบันเศรษฐกิจอนาคตและธรรมาภิบาลอินเทอร์เน็ต (Future Economy and Internet Governance – FEGO) โดยสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) หรือ สพธอ. (ETDA) นำหลักสูตรระดับโลก AI Business School มาปูพื้นฐานเทคโนโลยี AI ให้ผู้นำองค์กรและผู้บริหารธุรกิจระดับสูงในไทยสามารถทำความเข้าใจและนำไปประยุกต์ใช้ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ทั้งในเชิงกลยุทธ์ขับเคลื่อนธุรกิจด้วย AI การส่งเสริมวัฒนธรรมองค์กรที่เปิดรับนวัตกรรม และการผลักดันทุกภาคส่วนให้ก้าวสู่ยุคแห่ง AI บนพื้นฐานของจริยธรรมและความรับผิดชอบ ผ่านคอร์สอบรมแบบ e-Training
ปัจจุบัน เทคโนโลยี AI มีบทบาทสำคัญในทุกอุตสาหกรรมและธุรกิจ แต่ขณะเดียวกัน นวัตกรรมที่เปี่ยมศักยภาพนี้ก็มาพร้อมกับความท้าทายรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบการทำงานที่เปลี่ยนไปจากเดิม หรือผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากการปรับใช้ AI ในการบริหารจัดการ ดังนั้น ผู้นำองค์กรรุ่นใหม่จึงต้องเข้าใจพลังของเทคโนโลยีพลิกโฉมนี้อย่างแท้จริง และสามารถนำองค์กรก้าวเข้าสู่ยุคแห่ง AI ได้อย่างมั่นใจ
การวางโครงสร้างแนวคิดเชิงกลยุทธ์ เพื่อกำหนดบทบาทของ AI ในการวางกลยุทธ์ขององค์กรแบบองค์รวม ตั้งแต่ด้านความเป็นผู้นำ พฤติกรรม และศักยภาพของบุคลากรในองค์กร
AI Culture
การสร้างวัฒนธรรมองค์กรให้เปิดรับเทคโนโลยี AI ในทุกด้าน และส่งเสริมให้ทุกแผนก ทุกตำแหน่งร่วมกันขับเคลื่อน องค์กรด้วย AI ซึ่งรวมไปถึงแผนกอื่น ๆ ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี อาทิ ฝ่ายบัญชี การตลาด การจำหน่าย และบริการลูกค้าสัมพันธ์ ซึ่งมีบทบาทสำคัญในองค์กรเช่นเดียวกัน
Responsible AI
การศึกษาวิเคราะห์บทบาทและผลกระทบที่จะเกิดจากการใช้ AI ในมิติของภาครัฐและองค์กรธุรกิจ ผ่านการศึกษาคู่มือแนะนำ เพื่อให้ผู้บริหารสามารถกำหนดหลักการด้านจริยธรรมและแนวทางปฏิบัติด้านการใช้ AI ในองค์กรบนพื้นฐานของธรรมาภิบาล รวมไปถึงเรียนรู้การจัดการทรัพยากร ข้อเสนอแนะ และเครื่องมือที่เกี่ยวข้อง
Technology of AI
การเรียนรู้เทคโนโลยีล่าสุดเกี่ยวกับเครื่องมือ ผลิตภัณฑ์ และบริการที่เกี่ยวกับ AI เพื่อนำไปใช้บรรลุเป้าหมายในการทำงานและสร้างผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้นให้กับองค์กรและธุรกิจ
“เราอยู่ในจุดที่คนทำงานทุกคนไม่สามารถปฏิเสธได้อีกต่อไปว่า AI เป็นนวัตกรรมที่จะนำคลื่นความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เข้ามาในทุกอุตสาหกรรมและทุกธุรกิจ การนำ AI เข้าไปเป็นหัวใจหลักของธุรกิจจะช่วยให้องค์กรมีศักยภาพมากขึ้นในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นการ Engage (การเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย) Innovate (การสร้างความเป็นไปได้ใหม่ๆ ให้กับธุรกิจ) Work (การเปลี่ยนแปลงรูปแบบการทำงาน) หรือ Solve (การเอาชนะอุปสรรคเพื่อแก้ไขปัญหาในสังคม) ด้วยเหตุนี้เอง เราจึงได้ขยายหลักสูตร AI Business School มายังประเทศไทย เพื่อให้ผู้นำในโลกธุรกิจสามารถพัฒนาต่อยอดจากความสามารถของ AI และก้าวเดินสู่อนาคตอย่างมั่นใจ” นายธนวัฒน์กล่าว
ไมโครซอฟท์ชวนลูกค้าองค์กรก้าวสู่ยุคคลาวด์เต็มตัวบนแพลตฟอร์ม Microsoft Azure เพื่อเพิ่มทางเลือก ลดความซับซ้อน และเสริมความปลอดภัยให้กับผู้ใช้ระบบปฏิบัติการเซิร์ฟเวอร์ Windows Server 2008 / 2008 R2 ที่จะสิ้นสุดการสนับสนุนลงในวันที่ 14 มกราคม 2563 นี้ และแพลตฟอร์มฐานข้อมูล SQL Server 2008 / 2008 R2 ซึ่งสิ้นสุดการสนับสนุนไปเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ด้วยค่าใช้จ่ายที่ต่ำกว่าผู้ให้บริการคลาวด์รายอื่นถึง 5 เท่าตัว พร้อมมั่นใจกว่าด้วยการสนับสนุนโดยตรงจากทีมงานผู้เชี่ยวชาญของไมโครซอฟท์
ทั้ง Windows Server 2008 และ SQL Server 2008 เปิดตัวออกสู่ตลาดเมื่อกว่า 11 ปีก่อน และมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนให้แอปพลิเคชันในระดับองค์กรเปลี่ยนมาทำงานในแบบ 64 บิท ทั้งยังเป็นหนึ่งในก้าวแรกๆ ของการนำระบบ virtualization และการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกมาใช้งานอย่างจริงจัง แต่ในปัจจุบัน มาตรฐานทางเทคโนโลยีระดับองค์กรในปัจจุบันได้เปลี่ยนไปอย่างมาก จนกระทั่งเทคโนโลยีอย่างคลาวด์และ AI เปลี่ยนจากอนาคตไกลตัวเมื่อ 11 ปีก่อนมาเป็นส่วนสำคัญของการทำงานในยุคนี้
นอกจากการอัปเกรดระบบขององค์กรสู่เวอร์ชั่นปัจจุบันอย่าง Windows Server 2019 และ SQL Server 2019 แล้ว ไมโครซอฟท์ยังพร้อมมอบทางเลือกที่สะดวกและง่ายจากแพลตฟอร์มคลาวด์ Microsoft Azure ที่เหมาะสำหรับ Windows Server 2008 และ SQL Server 2008 ให้ลูกค้าองค์กรสามารถย้ายระบบงานและแอปพลิเคชันที่ยังใช้งานอยู่กับ Windows Server 2008 และ SQL Server 2008 ขึ้นสู่คลาวด์ที่เสถียร ปลอดภัย โดยไม่จำเห็นต้องอัพเกรดใดๆ สามารถย้ายขึ้นไปได้ทันที โดยลูกค้าที่เลือกย้ายระบบ Windows Server 2008 และ SQL Server 2008 ขึ้นสู่คลาวด์กับ Microsoft Azure จะได้รับอัปเดตด้านความปลอดภัยต่อเนื่องอีกถึง 3 ปีเต็มโดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ เพราะฉะนั้น คุณยังสามารถใช้ Windows Server 2008 และ SQL Server 2008 ต่อไปได้อีก 3 ปี อีกทั้งยังคุ้มค่ากว่า ด้วย Azure Hybrid Benefit ที่มอบค่าบริการคลาวด์ในอัตราพิเศษสำหรับลูกค้าที่มีไลเซนส์ซอฟต์แวร์ Windows Server 2008 และ SQL Server 2008 ที่มี Software Assurance ที่มีอยู่ขึ้นสู่ Microsoft Azure
วสุพล ธารกกาญจน์ ผู้จัดการกลุ่มผลิตภัณฑ์สำหรับองค์กรและคลาวด์ บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “เราทราบดีว่าหลายองค์กรยังมีแอปพลิเคชันสำคัญที่ออกแบบมาเพื่อทำงานกับ Windows Server 2008 และ SQL Server 2008 อยู่ ด้วยเหตุนี้เอง เราจึงพร้อมรองรับให้แอปพลิเคชันเหล่านี้สามารถย้ายมาทำงานบน Azure ได้ทันที โดยที่ในสถานการณ์ส่วนใหญ่แล้ว จะไม่จำเป็นต้องทำการแก้โค้ดของแอปพลิเคชันใหม่ นอกจากนี้ เรายังมีชุดเครื่องมือที่จะช่วยวิเคราะห์แอปพลิเคชันและระบบเซิร์ฟเวอร์ในองค์กร ก่อนจะแนะนำว่าแอปพลิเคชันไหนหรือระบบใด ควรย้ายขึ้นคลาวด์โดยตรงหรือทำการอัปเกรดตามปกติแทน”
ลูกค้าองค์กรที่ยังคงใช้งาน Windows Server 2008 และ SQL Server 2008 อยู่ สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับทางเลือกต่างๆ ในการก้าวขึ้นสู่คลาวด์หรืออัปเกรดระบบเดิมได้ที่เว็บไซต์ของไมโครซอฟท์ดังนี้
Microsoft ได้หยุดให้การสนับสนุนด้านซอฟต์แวร์กับ Windows Phone 8.1 ในปี 2017 และตอนนี้ได้ประกาศแล้วว่าจะปิดบริการ Windows Phone Store สำหรับสมาร์ทโฟนที่ทำงานบน Windows Phone 8.1 ในวันที่ 16 ธันวาคมนี้
หลังจากวันที่ 16 ธันวาคม 2019 เป็นต้นไป เจ้าของสมาร์ทโฟนที่ทำงานบน Windows Phone 8.1 จะไม่สามารถเข้าไปดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นใน Windows Phone Store ได้อีกต่อไป ส่วนแอพพลิเคชั่นที่เคยดาวน์โหลดมาติดตั้งอยู่ก่อนแล้ว ยังคงใช้งานได้ตามปกติ (แต่จะไม่ได้รับการอัพเดท) ดังนั้น ใครที่ยังใช้ Windows Phone 8.1 ควรรีบเข้าไปดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นที่ต้องการ ก่อนวันที่ 16 ธันวาคมนี้ และถ้าลบแอพออกไปหลังจากวันดังกล่าว ก็จะไม่สามารถดาวน์โหลดมาติดตั้งได้ใหม่
สำหรับเจ้าของสมาร์ทโฟนที่ทำงานบน Windows Phone 8.1 ยังมีโอกาสที่จะดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นจาก Windows Phone Store ได้หลังจากวันที่ 16 ธันวาคมนี้ เพียงอัพเดทระบบปฏิบัติการมาเป็น Windows 10
รายชื่อสมาร์ทโฟนที่รองรับการอัพเดทมาใช้ Windows 10
ซึ่งจะส่งผลให้ผู้ที่ยังใช้ WP 8.1 ไม่สามารถดาวน์โหลดแอพจาก Store เพื่ออัพเดตแอพหรือติดตั้งแอพใหม่ ภายหลังจากวันที่ที่ประกาศไว้ข้างต้น ผู้ที่ต้องการใช้งานระบบปฏิบัติการ WP 8.1 ต่อไป (แม้ว่าจะหมดระยะซัพพอร์ตมานานแล้ว) หากต้องการรีเซ็ตโทรศัพท์ (ซึ่งจะลบแอพที่เคยติดตั้งไว้) ก็ให้รีบดำเนินการและควรติดตั้งแอพที่ต้องการใช้ให้เรียบร้อยก่อน Store จะหยุดให้บริการ
หรือเลือกอัพเกรดระบบปฏิบัติการเพื่อใช้งาน Store ของ Windows 10 Mobile แทน สำหรับรุ่นของอุปกรณ์ที่สามารถอัพเกรดได้มีดังนี้
Microsoft Lumia 430
Microsoft Lumia 435
Microsoft Lumia 532
Microsoft Lumia 535
Microsoft Lumia 540
Nokia Lumia 635 (เฉพาะรุ่น RAM 1GB)
Nokia Lumia 636
Nokia Lumia 638
Microsoft Lumia 640
Microsoft Lumia 640 XL
Nokia Lumia 730
Nokia Lumia 735
Nokia Lumia 830
Nokia Lumia 929
Nokia Lumia Icon
Nokia Lumia 930
Nokia Lumia 1520
อย่างไรก็ตามการอัพเกรดเป็น Windows 10 Mobile นั้นเป็นเพียงแนวทางแก้ไขสำหรับการดาวน์โหลดแอพผ่าน Store เท่านั้น ตัวระบบปฏิบัติการเองจะไม้ได้รับการแก้ไขบั๊ก หรือแพตช์ความปลอดภัยใดๆ ภายหลังการหยุดซัพพอร์ตในอีกไม่กี่วันนี้
แจ้งเตือนความจำแฟนๆ Windows Phone / Windows 10 Mobile ว่าวันอังคารนี้ 10 ธันวาคม 2019 ถือเป็นวันสุดท้ายของการซัพพอร์ต Windows 10 Mobile ตามที่ไมโครซอฟท์ประกาศไว้ตอนต้นปี
ไมโครซอฟท์ยังประกาศว่าแอพ Office for Windows 10 Mobile ซึ่งประกอบด้วย Word, Excel, PowerPoint, OneNote จะหมดระยะซัพพอร์ตในวันที่ 21 มกราคม 2021 หรืออีกประมาณหนึ่งปีกว่าๆ นับจากวันนี้