คลังเก็บป้ายกำกับ: BUYER’S_GUIDE

10 เมาส์บลูทูธ iPad น่าใช้งาน ราคาเริ่มต้น 1xx เท่านั้น อัปเดต 2023

แนะนำเมาส์บลูทูธ iPad น่าใช้งาน เชื่อมต่อง่าย ราคาเริ่มต้นหลักร้อย อัปเดต 2023

เมาส์บลูทูธ iPad, เมาส์บลูทูธใช้กับ iPad

iPad ในปัจจุบันนั้น มีฟีเจอร์ที่รองรับการทำงานร่วมกับเมาส์ทั้งแบบมีสายและไร้สาย ซึ่งช่วยให้การทำงานหรือการใช้งานต่างๆ นั้น สะดวกและง่ายดายมากยิ่งขึ้น อีกทั้งเมาส์ไร้สายอย่างเมาส์แบบบลูทูธนั้นก็มีหลากหลายแบบให้เลือกซื้อมาใช้งาน ทีมงาน NotebookSPEC ก็อยากมาแนะนำเมาส์บลูทูธ iPad เชื่อมต่อง่าย ใช้งานได้จริง ราคาเริ่มต้นแค่หลักร้อย สลับอุปกรณ์ก็ง่าย ทั้งยังสามารถปรับความเร็วเมาส์ได้อีกด้วย คุ้มค่า น่าซื้อมาใช้งาน


วิธีการเชื่อมต่อเมาส์บลูทูธ เข้ากับ iPad

สำหรับการใช้งานเมาส์บน iPad นั้น เริ่มมีการรองรับมาตั้งแต่ iPadOS 13.4 ที่มีพร้อมคุณสมบัติใหม่ในการรองรับ Trackpad สำหรับใช้งานร่วมกับอุปกรณ์อย่าง Magic Mouse หรือ Magic Keyboard ซึ่งเคอร์เซอร์ของเมาส์บน iPad นั้นจะมีลักษณะเป็นวงกลมเล็กๆ ซึ่งจะเป็นการใช้งานเมาส์ในลักษณะของการเลียนแบบการแตะจอแทนนิ้ว และนอกจากนี้เรายังสามารถใช้งานร่วมกับเมาส์อื่นๆ ได้ด้วย ทั้งแบบมีสายและไร้สาย โดยเมาส์แบบมีสายนั้นเราอาจต้องใช้ตัวแปลงในการเชื่อมต่อซึ่งมีความยุ่งยากมากกว่า เมาส์บลูทูธ จึงกลายเป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะไม่ต้องใช้งานผ่านตัวแปลง ไม่ต้องเสียบสาย ทั้งยังมีราคาเริ่มต้นที่ค่อนข้างถูกกว่าและหาซื้อได้ง่ายอีกด้วย สำหรับการเชื่อมต่อ iPad กับเมาส์บลูทูธนั้น สามารถทำได้ง่ายๆ ดังนี้

Advertisementavw
mb4
Cr: Apple
  • เริ่มต้นให้เราเข้าไปเปิดใช้งาน Bluetooth โดยไปที่ Settings >> จากนั้นเลือก Bluetooth
  • เปิดการเชื่อมต่อที่เมาส์บลูทูธ >> จากนั้นกลับมาที่ iPad ให้เลือกเปิด Bluetooth เพื่อค้นหาสัญญาณ >> เลือกที่ชื่ออุปกรณ์เพื่อทำการเชื่อมต่อ
  • สำหรับใครที่เชื่อมต่อแล้วไม่พบเคอร์เซอร์เมาส์ปรากฏขึ้นมาบน iPad นั้น ให้เราไปเปิดการใช้งาน AssistiveTouch ก่อน โดยไปที่ Settings >> Accessibility >> AssistiveTouch >> ‘On’

แนะนำเมาส์บลูทูธ iPad น่าใช้งาน ราคาเริ่มต้นหลักร้อย

เมาส์บลูทูธ iPad ราคา การเชื่อมต่อ DPI แบตเตอรี่
IWACHI I2 Rechargeable Bluetooth Mouse 259 บาท Wireless 2.4 GHz
Bluetooth 4.0
Bluetooth 5.0
3 ระดับ คือ 1000 DPI, 1600 DPI (ค่าเริ่มต้น) และ 2400 DPI ชาร์จแบตเตอรี่ผ่านทางพอร์ต USB-C
Actto Mouse Bluetooth LED 790 บาท Bluetooth 5.2 3 ระดับ คือ 800 DPI, 1200 DPI และ 1600 DPI ถ่าน AA จำนวน 1 ก้อน
Logitech Pebble M350 Wireless Mouse Bluetooth or USB Silent and Slim 759 บาท Wireless
Bluetooth
1000 DPI ถ่าน AA จำนวน 1 ก้อน
Anitech Bluetooth and Wireless Mouse W226 Black 319 บาท Wireless 2.4
Bluetooth 5.0
3 ระดับ คือ 800 DPI, 1200 DPI และ 1600 DPI ถ่าน AA จำนวน 1 ก้อน
NUBWO NM89W Wireless & Bluetooth Gaming Mouse 399 บาท Wireless 2.4 GHz
Bluetooth 5.1
4 ระดับ สูงสุดที่ 4800 DPI ชาร์จแบตเตอรี่ผ่านทางพอร์ต USB-C
GOOJODOQ M06 Wireless Mouse 130 บาท Wireless 2.4 GHz
Bluetooth 5.0
3 ระดับ คือ 800 DPI, 1200 DPI และ 1600 DPI ชาร์จแบตเตอรี่ผ่านทางพอร์ต Micro USB
UGREEN MU001 (90531) Dual Mode Mouse 449 บาท Wireless 2.4 GHz
Bluetooth 3.0
Bluetooth 5.0
4 ระดับ คือ 1000 DPI, 1600 DPI, 2000 DPI และ 4000 DPI ถ่าน AA จำนวน 1 ก้อน
Microsoft Bluetooth Mouse 499 บาท Bluetooth 4.0 / 4.1 / 4.2 / 5.0 ไม่ระบุ ถ่าน AA จำนวน 1 ก้อน
Xiaomi Dual Mode Wireless Mouse Silent Edition 389 – 499 บาท Wireless 2.4 GHz
Bluetooth 4.2
1300 DPI ถ่าน AAA จำนวน 2 ก้อน
IWACHI I3 Wireless mouse Rechargeable Bluetooth mouse 369 บาท Wireless 2.4 GHz
Bluetooth 3.0
Bluetooth 5.0
 3 ระดับ คือ 1000 DPI, 1600 DPI และ 2400 DPI ชาร์จแบตเตอรี่ผ่านทางพอร์ต USB-C

1. IWACHI I2 Rechargeable Bluetooth Mouse

mb1 1

เมาส์บลูทูธ iPad ตัวแรกที่อยากแนะนำเป็นเมาส์ไร้สายราคาเอื้อมถึงง่ายจากแบรนด์ IWACHI ที่มาพร้อมดีไซน์ทันสมัย สีสันสวยงาม มีแบตเตอรี่ในตัว สามารถเสียบชาร์จได้ง่าย ตัวเมาส์มีน้ำหนักเบาเพียง 75 กรัมเท่านั้น สามารถพกพาได้อย่างสะดวก เหมาะทั้งกับการทำงานในสถานที่และนอกสถานที่ แถมยังมาพร้อมกับการเชื่อมต่อ Bluetooth ที่สามารถเชื่อมต่อได้อย่างรวดเร็ว หรือจะสลับโหมดไปใช้งานผ่านสัญญาณ Wireless ก็สามารถทำได้ง่ายๆ เลย

  • Optical design มีให้เลือก 3 สี คือ สีเขียว, สีฟ้า และ สีชมพู
  • รองรับการเชื่อมต่อ 3 โหมด ทั้ง Wireless 2.4GHz, Bluetooth 4.0 และ Bluetooth 5.0 มาพร้อมไฟแสดงสถานะการใช้งานแต่ละโหมด
  • Wireless 2.4GHz สามารถเชื่อมสัญญาณได้ไกลสูงสุด 10 เมตร
  • เมาส์ออกแบบมาให้สามารถคลิกได้เงียบ ไร้เสียงรบกวน โดยมีเสียงอยู่ที่ 30.6dB – 40.6 dB เท่านั้น
  • รองรับการปรับความไวเมาส์ 3 ระดับ คือ 1000 DPI, 1600 DPI (ค่าเริ่มต้น) และ 2400 DPI
  • มาพร้อมไฟ LED ที่สามารถปรับได้ถึง 7 สี
  • รองรับ Plug & Play
  • แบตเตอรี่ Lithium ในตัว ขนาด 500mAh ใช้งานได้ยาวนาน สามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้ผ่านทางพอร์ต USB-C

ราคา: 259 บาท

สามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่: SHOPEE


2. Actto Mouse Bluetooth LED

mb3 1

เมาส์บลูทูธ iPad ตัวต่อมาที่น่าสนใจ ก็คือ เมาส์ไร้สายจากแบรนด์ Actto ที่มาพร้อมการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ของ Actto ดีไซน์โค้งมน ออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ สามารถจับได้ถนัดมือ ไม่ปวดข้อมือแม้ต้องใช้งานเป็นเวลานานๆ เมาส์มีน้ำหนักเบาเพียง 57.5 กรัมเท่านั้น ทำให้สามารถพกพาไปไหนมาไหนได้อย่างสะดวกสบาย ไม่หนักกระเป๋า หรือแม้จะทำงานที่บ้านหรือในสถานที่ก็สามารถทำได้สบาย เพราะเมาส์รองรับกับอุปกรณ์ที่หลากหลาย แถมยังมาพร้อมไฟ LED สวยงาม ที่จะเปลี่ยนแปลงไปตามลักษณะของการเชื่อมต่อ และการปรับ DPI

  • มีให้เลือก 5 สีด้วยกัน ได้แก่ Ivory, Mint, Navy, Pink และ White
  • เมาส์สามารถคลิกได้เงียบ ไร้เสียงรบกวน
  • มาพร้อมการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ด้วยสัญญาณ Bluetooth 5.2
  • มีไฟ LED ด้านข้างและด้านหลังของตัวเมาส์ โดยจะเปลี่ยนแปลงตามการเชื่อมต่อ Bluetooth หรือ การเปลี่ยนค่า DPI
  • สามารถปรับค่า DPI ได้ 3 ระดับ คือ 800 DPI, 1200 DPI และ 1600 DPI
  • แบตเตอรี่ใช้ถ่าน AA จำนวน 1 ก้อน สามารถใช้งานได้ยาวนานถึง 3 เดือน (หากใช้ประมาณวันละ 8 ชั่วโมง)

ราคา: 790 บาท

สามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่: SHOPEE


3. Logitech Pebble M350 Wireless Mouse Bluetooth or USB Silent and Slim

m3

เมาส์แบบไร้สายจาก Logitech ตัวนี้ มาพร้อมกับดีไซน์เรียบๆ แบนๆ แต่ใช้งานง่าย เหมาะกับสายมินิมอล พกพาสะดวก ด้วยขนาดที่เล็กกะทัดรัด ตัวเมาส์มีให้เลือกด้วยกัน 5 สี ได้แก่ White, Rose, Blue, Graphite และ Green เมาส์ออกแบบมาให้เน้นการทำงานแบบเงียบ ไร้เสียงรบกวน โดยทาง Logitech เคลมว่าเสียงเบากว่า 90% เลยทีเดียว

  • รองรับการเชื่อมต่อแบบ 2 ระบบ คือ Bluetooth และ Wireless ผ่าน USB Dongle
  • ใช้พลังงานผ่านแบตเตอรี่ด้วยถ่านขนาด AA 1 ก้อน ที่สามารถใช้งานได้นานสูงสุด 18 เดือน
  • ตัวเมาส์จะเข้าสู่ Sleep mode โดยอัตโนมัติ เมื่อไม่ได้ใช้งาน เพื่อเป็นการประหยัดพลังงาน
  • เซ็นเซอร์มีความละเอียด 1000 DPI ไม่สามารถปรับค่าจากตัวเมาส์ได้
  • รองรับการเชื่อมต่อไร้สายได้ระยะไกลสูงสุด 10 เมตร
  • รองรับการทำงานบนอุปกรณ์หลากหลายระบบ ทั้ง Windows, MacOS, iPadOSม Chrome OS, Linux, Android ฯลฯ

ราคา: 759 บาท

สามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่: LogitechSHOPEE


4. Anitech Bluetooth and Wireless Mouse W226 Black

เมาส์บลูทูธ ยี่ห้อไหนดี

เมาส์แบบไร้สายราคาย่อมเยาว์จาก Anitech แบรนด์แก็ดเจ็ตไอทีที่ได้รับความนิยมจากผู้ใช้งานไม่น้อยเลย โดยเมาส์แบบบลูทูธจาก Anitech รุ่นนี้ มาพร้อมกับรูปทรงที่ออกแบบมาให้สามารถจับได้ถนัดมือ แถมยังมีเสียงคลิกที่เงียบ ไม่รบกวนในการทำงาน สามารถเชื่อมต่อได้ถึง 2 ระบบด้วยกัน คือ Wireless และ Bluetooth รองรับการเชื่อมต่อได้ทั้ง PC, Notebook, Tablet ฯลฯ

  • รองรับการเชื่อมต่อ 2 ฟังก์ชัน คือ Wireless 2.4 และ Bluetooth 5.0
  • สามารถเปลี่ยนสลับโหมดการเชื่อมต่อได้ด้วยปุ่มเดียว
  • ออกแบบมาให้เป็น Soft Click เสียงคลิกเงียบ ไม่รบกวนการทำงาน
  • สามารถปรับ DPI ได้ถึง 3 ระดับ คือ 800 DPI, 1200 DPI และ 1600 DPI
  • ด้านข้างออกแบบมาให้มีปุ่ม Back และ Forward
  • สามารถเชื่อมต่อได้ในระยะไกลถึง 10 เมตร
  • ทำงานผ่านแบตเตอรี่ โดยใช้ถ่านขนาด AA จำนวน 1 ก้อน
  • รับประกัน 2 ปี

ราคา: 319 บาท

สามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่: SHOPEE


5. NUBWO NM89W Wireless & Bluetooth Gaming Mouse

mb7

เมาส์บลูทูธ จาก NUBWO รุ่นนี้มาเป็นแนวเกมมิ่ง เหมาะกับสายเกมมิ่งที่อยากได้เมาส์แบบไร้สายเป็นอย่างมาก ตัวเมาส์ออกแบบมาให้มีความโค้ง รับกับมือ สามารถจับได้ถนัด ตัวเมาส์ยังมาพร้อมไฟ RGB และปุ่มลัดต่างๆ สามารถใช้งานได้ผ่านการชาร์จแบตเตอรี่ ไม่ต้องใส่ถ่าน เหมาะกับทั้งการทำงานและการเล่นเกม

  • รองรับการเชื่อมต่อทั้ง Wireless 2.4 GHz และ Bluetooth 5.1
  • มีความไวในการส่งสัญญาณ 250 Hz
  • Chipset: PIXART PAW-3212 + MCU
  • รองรับการใช้งานปุ่มต่างๆ จำนวน 7 ปุ่ม เช่น Back / Forward, DPI + / DPI – เป็นต้น
  • สามารถปรับ DPI ได้ 4 ระดับ สูงสุดที่ 4800 DPI
  • รองรับการคลิกสูงถึง 10 ล้านครั้ง
  • สามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้ผ่านทางพอร์ต USB-C
  • แบตเตอรี่ 650 mAh สามารถใช้งานได้ต่อเนื่องยางนาน 60 ชั่วโมง ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง
  • รับประกัน 1 ปี

ราคา: 399 บาท

สามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่: SHOPEE


6. GOOJODOQ M06 Wireless Mouse

mb6

เมาส์แบบบลูทูธจาก GOOJODOQ มาพร้อมดีไซน์ที่เป็นแบบ Low-Profile มีความเรียบ แต่ก็มีความทันสมัย ตัวเมาส์มาพร้อมไฟ LED โดยรอบ สามารถใช้งานได้ทั้งการทำงานและเล่นเกม ตัวเมาส์ยังรองรับการเชื่อมต่อได้ถึง 2 ระบบ ทั้ง Wireless และ Bluetooth สามารถทำงานได้ผ่านการชาร์จไฟ ไม่ต้องเปลี่ยนถ่าน

  • รองรับการเชื่อมต่อทั้ง Wireless 2.4 GHz และ Bluetooth 5.0
  • สามารถเชื่อมต่อได้ไกลถึง 10 เมตร
  • มาพร้อมไฟ LED โดยรอบ
  • สามารถปรับ DPI ได้ 3 ระดับ คือ 800 DPI, 1200 DPI และ 1600 DPI
  • ออกแบบมาให้มีเสียงคลิกที่เงียบ ไม่รบกวนการทำงาน
  • สามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้ผ่านทางพอร์ต Micro USB
  • เมาส์มีขนาดกะทัดรัด พกพาสะดวก

ราคา: 130 บาท

สามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่: SHOPEE


7. UGREEN MU001 (90531) Dual Mode Mouse

mb5

เม้าส์บลูทูธจาก UGREEN อีกหนึ่งแบรนด์แก็ตเจ็ทยอดนิยม มาพร้อมการเชื่อมต่อแบบ Dual Mode ที่รองรับการทำงานทั้ง Wireless และ Bluetooth ตัวเมาส์ออกแบบมาเป็นแนวเรียบๆ ผิวด้าน ในสไตล์ที่เน้นการทำงาน เรียบหรู ดูดี แต่ในขณะเดียวกันก็รองรับกับสรีระของมือได้เป็นอย่างดี สามารถทำงานได้แบบไร้เสียงรบกวน โดยมีเสียงคลิกที่มีความดังน้อยกว่า 40dB

  • รองรับการเชื่อมต่อแบบ Dual-mode สามารถเชื่อมต่อได้ทั้ง Wireless 2.4 GHz และ Bluetooth 3.0 / Bluetooth 5.0
  • รองรับการเชื่อมต่อแบบไร้สายได้ไกล 10 – 15 เมตร
  • รองรับการปรับค่า DPI ได้ถึง 4 ระดับ คือ 1000 DPI, 1600 DPI, 2000 DPI และ 4000 DPI ผ่านการกดปุ่มด้านด้านล่างของตัวเมาส์
  • ใช้งานแบตเตอรี่จากถ่าน AA 1 ก้อน โดยสามารถใช้งานได้นานถึง 18 เดือน
  • ตัวเมาส์จะเข้าสู่ Sleep Mode โดยอัตโนมัติ เมื่อไม่ได้ใช้งาน เพื่อเป็นการประหยัดพลังงานแบตเตอรี่
  • รองรับการทำงานกับอุปกรณ์ที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น Windows, MacOS, Linux ฯลฯ
  • รองรับการทำงานหลากหลายพื้นผิว ทั้งบนกระจก, บนกระดาษ, บนผ้า และบนไม้

ราคา: 449 บาท

สามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่: SHOPEE


8. Microsoft Bluetooth Mouse

mb3

เมาส์แบบบลูทูธจาก Microsoft รุ่นนี้มาในธีมสีพาสเทล สีสวย น่าใช้งานมากๆ สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ได้ผ่านทาง Bluetooth เพียงแค่กดปุ่มที่ใต้เมาส์ค้างไว้ประมาณ 3 วินาที ตัวเมาส์มีน้ำหนักเบาเพียง 78 กรัม (รวมแบตเตอรี่) เท่านั้น สามารถพกพาไปใช้งานนอกสถานที่ได้อย่างสะดวกสบายสุดๆ

  • มีให้เลือก 5 สีด้วยกัน ได้แก่ Pastel Blue, Mint, Peach, Black และ Glacier
  • รองรับการเชื่อมต่อผ่านสัญญาณ Bluetooth 4.0 / 4.1 / 4.2 / 5.0
  • ตัวเมาส์ใช้ความถี่ของเครือข่ายไร้สาย 2.4 GHz
  • สามารถเชื่อมต่อได้ไกลสูงสุดถึง 10 เมตร
  • รองรับการทำงานร่วมกับอุปกรณ์หลากหลาย
  • ทำงานผ่านแบตเตอรี่ ถ่าน AA จำนวน 1 ก้อน
  • มีรับประกัน 1 ปี

ราคา: 499 บาท

สามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่: SHOPEE


9. Xiaomi Dual Mode Wireless Mouse Silent Edition

เม้าส์บลูทูธ

เมาส์บลูทูธจาก Xiaomi รุ่นนี้ เป็นเมาส์ไร้สายแบบ 2 ระบบ คือสามารถเชื่อมต่อได้ทั้ง Wireless และ Bluetooth เลย สามารถที่จะสลับโหมดการทำงานได้ง่ายๆ เพียงแค่กดปุ่มตรงกลางเพียงปุ่มเดียว แถมการทำงานนั้นก็ต้องบอกเลยว่าเงียบมากๆ เหมาะสำหรับการพกพาไปทำงานนอกสถานที่ หรือแม้กระทั่งการทำงานที่ต้องการความเงียบ

  • รองรับการเชื่อมต่อทั้ง Wireless 2.4 GHz และ Bluetooth 4.2
  • ตัวเมาส์สามารถทำงานระยะไกลสูงสุด 8 เมตร
  • รองรับการทำงานทั้งกับระบบปฏิบัติการ Windows, MacOS, iPadOS และ Android
  • ด้านล่างตัวเมาส์มียางเรียบๆ ช่วยให้การใช้งานราบรื่นมากยิ่งขึ้น
  • ตัวเมาส์มีวัสดุเป็นแบบเรียบด้าน สามารถทำความสะอากได้อย่างง่ายดาย
  • เมาส์มีความไว 1300 DPI ไม่สามารถปรับค่า DPI ที่เมาส์ได้
  • มีปุ่มด้านข้างในการเป็นปุ่มลัดสำหรับการกด Back / Forward
  • ทำงานผ่านแบตเตอรี่ ถ่าน AAA จำนวน 2 ก้อน

ราคา: 389 – 499 บาท

สามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่: SHOPEEBaNANA


10. IWACHI I3 Wireless mouse Rechargeable Bluetooth mouse

m2

เมาส์ IWACHI I3 ตัวเมาส์มาพร้อมกับความน่ารัก แต่ก็แฝงไปด้วยความเท่ เพราะตัวเมาส์ออกแบบมาให้รองรับกับสรีระมือ มาพร้อมกับไฟ RGB เป็นเส้นสวยงาม เหมาะกับใครที่ชอบอุปกรณ์ไอทีที่มีไฟ RGB เป็นอย่างมาก ตัวเมาส์ยังมีการทำงานถึง 2 ระบบด้วยกัน ทั้ง Wireless และ Bluetooth เรียกว่าตอบโจทย์การใช้งานแบบสุดๆ

  • Dual-mode: รองรับการเชื่อมต่อทั้ง Wireless 2.4G + Bluetooth 3.0 และ Bluetooth 5.0
  • แบตเตอรี่ในตัว 650 mAh มาพร้อมพอร์ตชาร์จ USB Type-C
  • ไฟ RGB 11 สี
  • เมาส์เป็นแบบ Silence ทำงานได้อย่างเงียบ ไม่มีเสียงรบกวนการทำงาน
  • รองรับการปรับ DPI ได้ 3 ระดับ คือ 1000 DPI สำหรับการทำงานทั่วไป, 1600 DPI สำหรับการทำงานดีไซน์/ออกแบบ และ 2400 DPI สำหรับการเล่นเกม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกมแนว FPS
  • รองรับการทำงานกับอุปกรณ์ทั้งระบบ Windows, MacOS, iPadOS และ Android
  • รองระรับการเชื่อมต่อได้ไกลถึง 10 เมตร

ราคา: 369 บาท

สามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่: SHOPEE


และทั้งหมดนี้ก็คือเมาส์บลูทูธ iPad ในราคาย่อมเยา ที่น่าซื้อมาใช้งานร่วมกับ iPad สามารถเชื่อมต่อได้ง่าย ใช้งานสะดวก ทั้งการทำงานในสถานที่ และนอกสถานที่ เหมาะสำหรับใครที่ต้องใช้งาน iPad ที่ต้องพิมพ์งานไปด้วย เพราะการใช้เมาส์ช่วยนั้นก็จะทำให้การทำงานสามารถทำได้อย่างสะดวกและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม การใช้งานเมาส์บน iPad นั้น ก็เปรียบเสมือนการเลียนแบบการใช้นิ้วมือสัมผัสหน้าจอ การทำงานจึงมีความแตกต่างไปจากการคลิกเมาส์บนคอมพิวเตอร์ ใครที่จะใช้งานเมาส์กับ iPad นั้น ก็อาจจะต้องฝึกใช้งานและเรียนรู้กันไปสักเล็กน้อยเพื่อให้ใช้งานได้อย่างถนัดมือ


อ่านบทความเพิ่มเติม / เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

ยื่นภาษีออนไลน์ 2565
แอพหางาน part time, แอพหางานต่างประเทศ
แอพสีชมพู
แอพลบพื้นหลังฟรี
พิมพ์ดีดออนไลน์, เกมพิมพ์ดีด
เช็คความเร็วเน็ต
เฟสบุ๊คเข้าไม่ได้, เข้าเฟสบุ๊คไม่ได้
แอพวัดขนาดน้องชาย, แอพวัดน้องชาย
RingSizeApp
นาฬิกาออกกำลังกาย ผู้ชาย

from:https://notebookspec.com/web/693234-bluetooth-mouse-for-ipad-suggestion

Advertisement

6 โน๊ตบุ๊คคุ้มค่า 2023 รุ่นเด็ด ได้ Office แท้ เล่นเกมก็ลื่นสุดๆ เริ่มแค่ 15,990 บาทเอง!

โน๊ตบุ๊คคุ้มค่า 2023 จะสายทำงานล้วนหรือเกมเมอร์ซ่อนรูปก็มีให้เลือกนะ แถมมีโค้ดส่วนลดให้ด้วย!

6Notebook2023

โน๊ตบุ๊คคุ้มค่า 2023 ในปัจจุบันนี้ หลายคนน่าจะคิดถึงโน๊ตบุ๊คราคาไม่เกิน 30,000 บาท สเปคดีได้ซีพียูตัวแรงรุ่นใหม่ๆ จาก AMD หรือ Intel ติดตั้งมาในเครื่องแล้วมี Windows 11 Home ติดตั้งมาให้ แล้วบางเครื่องก็อาจจะมีโปรแกรม Microsoft Office แท้ติดตั้งมาในตัว จะได้พกไปทำงานหรือเข้าห้องเรียนได้สะดวกและจบงานได้เร็ว ยิ่งปัจจุบันนี้ซีพียู Intel 12th Gen และ AMD Ryzen 5000 Series ก็ถือว่าทรงพลังจนใช้ทำงานได้หลากหลายแบบ ไม่ว่าจะทำงานเอกสารทั่วไป, ตัดต่อแต่งภาพหรือถ้ารุ่นไหนมีการ์ดจอแยกติดตั้งมา ก็ติดตั้งเกมเล่นได้เลย

Advertisementavw

หากพูดถึงสเปค ถ้าเอาไว้ทำงานอย่างเดียวขอแค่ซีพียูเป็น AMD Ryzen 3 5000 Series หรือ Intel Core i3 ขึ้นไปและแรมตั้งต้นสัก 8GB ก็ทำได้ทุกงานแล้ว ถ้าได้ Ryzen 5 หรือ Intel Core i5 ขึ้นไปก็ยิ่งดีเพราะมีคอร์เอาไว้ใช้ทำงานมากยิ่งขึ้น ถ้าได้แรม 16GB ก็เหลือเฟือเหลือใช้ เหมาะกับคนที่ใช้หลายโปรแกรมพร้อมๆ กันหรือเปิดเว็บเบราเซอร์หลายๆ แท็บพร้อมกันอย่างแน่นอน ยิ่งถ้าใครอยากทดลองติดตั้งโปรแกรมสาย Virtual Machine แล้วทดลองติดตั้งระบบปฏิบัติการ Linux ตระกูลต่างๆ ไว้ในเครื่งแล้วฝึกใช้งานดูก็ไม่เลวและเป็นการเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ให้เราได้ลองระบบปฏิบัติการอื่นๆ นอกเหนือจาก Windows และ macOS ซึ่งผู้ใช้หลายๆ คนคุ้นเคยได้อีกด้วย

โน๊ตบุ๊คคุ้มค่า 2023

สรุปสเปค 6 โน๊ตบุ๊คคุ้มค่า 2023 ถูกใจสายทำงาน เกมเมอร์ก็ชอบ!

สเปคโน๊ตบุ๊คคุ้มค่า 2023 CPU

GPU

SSD

RAM

Software

Display

Weight

Connectivity ราคา
(บาท)
HP 15s-eq2203AU AMD Ryzen 3 5300U

AMD Radeon Graphics

M.2 NVMe
512GB

8GB DDR4
3200MHz

Windows 11 Home

15.6″ FHD IPS

1.69 กก.

USB-C 3.1 x 1

USB-A 3.1 x 2

HDMI x 1

SD Card Reader x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 5

Bluetooth 5.0

15,990
MSI Modern 14 C5M-032TH AMD Ryzen 5 5625U

AMD Radeon Graphics

M.2 NVMe
256GB

8GB DDR4
3200MHz

Windows 11 Home

14″ FHD IPS

1.4 กก.

USB 2.0 x 2

USB-A 3.2 x 1

USB-C 3.2 x 1

HDMI x 1

MicroSD Card Reader x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6E

Bluetooth 5.2

15,990
Lenovo IdeaPad 3 15ABA7 AMD Ryzen 5 5625U

AMD Radeon Graphics

M.2 NVMe
512GB

8GB DDR4
3200MHz

Windows 11 Home

Microsoft Office Home & Student 2021

15.6″ FHD IPS

1.63 กก.

USB 2.0 x 1

USB-A 3.2 x 1

USB-C 3.2 x 1

HDMI x 1

SD Card Reader x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6

Bluetooth 5.2

20,990
Lenovo IdeaPad 3 15IAU7 Intel Core
i5-1235U

Intel Iris Xe Graphics

M.2 NVMe
512GB

8GB DDR4
3200MHz

Windows 11 Home

Microsoft Office Home & Student 2021

15.6″ FHD IPS

1.63 กก.

USB 2.0 x 1

USB-A 3.2 x 1

USB-C 3.2 x 1

HDMI x 1

SD Card Reader x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6

Bluetooth 5.2

21,990
Lenovo IdeaPad Gaming 3 15IHU6 Intel Core
i5-11320H

NVIDIA GeForce RTX 3050

M.2 NVMe
512GB

8GB DDR4
3200MHz

Windows 11 Home

15.6″ FHD IPS

Refresh Rate 120Hz

2.25 กก.

USB-A 3.2 x 2

USB-C 3.2 x 1

HDMI x 1

LAN x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6

Bluetooth 5.0

24,990
Lenovo IdeaPad Gaming 3 15ACH6 AMD Ryzen 5 5600H

NVIDIA GeForce RTX 3050 Ti

M.2 NVMe
512GB

8GB DDR4
3200MHz

Windows 11 Home

15.6″ FHD IPS

Refresh Rate 120Hz

2.25 กก.

USB-A 3.2 x 2

USB-C 3.2 x 1

HDMI x 1

LAN x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6

Bluetooth 5.0

27,990

BNN KV INTEL RESIZE Cover Page 1752x640 category banner medium 1

นอกจากนี้ ถ้าหากซื้อโน๊ตบุ๊คกับทาง BaNANA ภายในวันที่ 7~31 มีนาคม พ.ศ. 2566 นี้ ทางร้านก็มีโปรโมชั่นแถมและแลกซื้อของสมนาคุณให้กับลูกค้าและยังผ่อนชำระแบบ 0% นาน 24 เดือนได้อีกด้วย โดยมีรายละเอียดดังนี้

  • แถมลำโพงบลูทูธ TECHPRO Brick มูลค่า 750 บาท เมื่อซื้อโน๊ตบุ๊ค Intel Evo ที่ร่วมรายการ
  • แถมหูฟังเกมมิ่ง Onikuma K6 Gaming Headphone มูลค่า 790 บาท เมื่อซื้อโน๊ตบุ๊ครุ่นที่ใช้ซีพียู Intel 11th / 12th / 13th Gen
  • แถมเมาส์ไร้สาย Logitech B170 มูลค่า 290 บาท เมื่อซื้อโน๊ตบุ๊ครุ่นที่ร่วมรายการ
  • ได้สิทธิ์แลกซื้อโปรแกรม Microsoft 365 Personal มูลค่า 1,590 บาท (ปกติ 2,099 บาท)

จัดเป็นโปรโมชั่นส่งเสริมการขายที่น่าสนใจสำหรับคนที่มีแผนเปลี่ยนโน๊ตบุ๊คเครื่องใหม่อยู่แล้ว ก็สามารถเข้ามาเลือกดูรุ่นที่ร่วมรายการเพิ่มเติมได้ที่นี่

6 โน๊ตบุ๊คคุ้มค่า 2023 เพื่อสายทำงานและเกมเมอร์ แรงซ่อนรูปถูกใจคนทำงาน

ผู้ใช้คนไหนที่กำลังมองหาโน๊ตบุ๊คคุ้มค่า 2023 เครื่องใหม่เอาไว้ทำงานหรือเล่นเกมล่ะก็ ณ ตอนนี้ก็หาซื้อได้ไม่ยากมากและยังมีโปรโมชั่นใช้โค้ดพิเศษลดราคาสินค้าได้ โดยทั้ง 6 รุ่น จะคละกันทั้งซีพียู AMD, Intel และมีรุ่นที่ติดตั้งการ์ดจอแยกให้เลือกด้วย โดยมีรุ่นแนะนำดังนี้

  1. HP 15s-eq2203AU (15,990 บาท)
  2. MSI Modern 14 C5M-032TH (15,990 บาท)
  3. Lenovo IdeaPad 3 15ABA7 (20,990 บาท)
  4. Lenovo IdeaPad 3 15IAU7 (21,990 บาท)
  5. Lenovo IdeaPad Gaming 3 15IHU6 (24,990 บาท)
  6. Lenovo IdeaPad Gaming 3 15ACH6 (27,990 บาท)
1. HP 15s-eq2203AU (15,990 บาท)

HP 15s eq2203AU Silver 01

สำหรับโน๊ตบุ๊คคุ้มค่า 2023 เครื่องแรกอย่าง HP 15s-eq2203AU ถือเป็นรุ่นราคาเบาแต่สเปคดีพอใช้ทำงานออฟฟิศได้สบายๆ ถ้าใครทำงานบัญชีกดตัวเลขเป็นประจำก็มี Numpad ให้กรอกตัวเลขได้ง่ายๆ ตัวเครื่อมีขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียดจอระดับ Full HD พาเนล IPS แต่ก็เบาเพียง 1.69 กิโลกรัม ใช้ซีพียู AMD Ryzen 3 5300U แบบ 4 คอร์ 8 เธรด ความเร็ว 2.6~3.8GHz การ์ดจอออนบอร์ด AMD Radeon Graphics มี M.2 NVMe SSD ความจุ 512GB ติดตั้ง Windows 11 Home มาให้ มีแรม 8GB DDR4 บัส 3200MHz และยังเพิ่มแรมเป็น 16GB ได้ด้วย พอร์ตเชื่อมต่อมี USB-C 3.1 x 1, USB-A 3.1 x 2, HDMI x 1, SD Card Reader x 1, Audio combo x 1 เชื่อมต่อ Wi-Fi 5 มาตรฐาน 802.11ac และ Bluetooth 5.0 ได้ด้วย เป็นโน๊ตบุ๊คคุ้มค่าสเปคดีราคาเบาๆ เพื่อนักศึกษาที่เรียนอยู่หรือเพิ่งจบใหม่ได้งานทำแล้วอย่างแน่นอน

สเปคของ HP 15s-eq2203AU
CPU AMD Ryzen 3 5300U แบบ 4 คอร์ 8 เธรด ความเร็ว 2.6~3.8GHz
GPU AMD Radeon Graphics
SSD M.2 NVMe SSD 512GB
RAM 8GB DDR4 บัส 3200MHz
Display 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS
Connectivity USB-C 3.1 x 1, USB-A 3.1 x 2, HDMI x 1, SD Card Reader x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 5 มาตรฐาน 802.11ac และ Bluetooth 5.0

Software Windows 11 Home
Weight 1.69 กิโลกรัม
Price 15,990 บาท ใช้โค้ด BNFMM20 ลดได้ 2,000 บาท คลิ๊กสั่งซื้อที่นี่
2. MSI Modern 14 C5M-032TH (15,990 บาท)

MSI Modern 14 C5M 032TH 02

MSI Modern 14 C5M-032TH ก็เป็นโน๊ตบุ๊คคุ้มค่า 2023 อีกรุ่นสำหรับคนทำงานเช่นกัน โดยเครื่องนี้นอกจากน้ำหนักเบาพกง่ายเพียง 1.4 กิโลกรัม หน้าจอขนาด 14 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ยังได้ซีพียูรุ่นพิเศษอย่าง AMD Ryzen 5 5625U มี 6 คอร์  12 เธรด ความเร็ว 2.3~4.3GHz กับการ์ดจอ AMD Radeon Graphics ซึ่งรุ่นนี้เป็นรหัสพิเศษที่จัดการพลังงานดีขึ้นกว่าเดิม ได้ M.2 NVMe SSD ความจุ 256GB ติดตั้ง Windows 11 Home และแรมในตัวอีก 8GB DDR4 บัส 3200MHz มีพอร์ต USB 2.0 x 2, USB-A 3.2 x 1, USB-C 3.2 x 1, HDMI x 1, MicroSD Card Reader x 1, Audio combo x 1 เชื่อมต่อ Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.2 ได้ครบเครื่อง ถูกใจคนที่ต้องการโน๊ตบุ๊คคุ้มค่า 2023 ราคาดีสเปคแรงใช้งานได้หลายปีอย่างแน่นอน

สเปคของ MSI Modern 14 C5M-032TH
CPU AMD Ryzen 5 5625U มี 6 คอร์  12 เธรด ความเร็ว 2.3~4.3GHz
GPU AMD Radeon Graphics
SSD M.2 NVMe SSD 256GB
RAM 8GB DDR4 บัส 3200MHz
Display 14 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS
Connectivity USB 2.0 x 2, USB-A 3.2 x 1, USB-C 3.2 x 1, HDMI x 1, MicroSD Card Reader x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.2

Software Windows 11 Home
Weight 1.4 กิโลกรัม
Price 15,990 บาท ใช้โค้ด BNFMM10 ลดได้ 1,000 บาท คลิ๊กสั่งซื้อที่นี่
3. Lenovo IdeaPad 3 15ABA7 (20,990 บาท)

Lenovo Notebook IdeaPad 3 15ABA7 82RN003CTA Arctic Grey 5

Lenovo IdeaPad 3 15ABA7 ก็เป็นโน๊ตบุ๊คคุ้มค่า 2023 อีกเครื่องที่ไม่ควรพลาดเช่นกัน โดยจุดเด่นของมันนอกจากจะมี Windows 11 Home และ Microsoft Office Home & Student 2021 ติดตั้งมาให้แล้ว ยังได้เซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือติดตั้งมาให้ใช้ยืนยันตัวตนเพื่อปลดล็อคเครื่องได้ หน้าจอมีขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS มีน้ำหนักก็เบาเพียง 1.63 กิโลกรัมเท่านั้น ซีพียูเป็น AMD Ryzen 5 5625U มี 6 คอร์  12 เธรด ความเร็ว 2.3~4.3GHz กับการ์ดจอออนบอร์ด AMD Radeon Graphics เหมือนกัน มี M.2 NVMe SSD ความจุ 512GB และแรมอีก 8GB DDR4 บัส 3200MHz ติดตั้งมาให้พร้อมพอร์ต USB 2.0 x 1, USB-A 3.2 x 1, USB-C 3.2 x 1, HDMI x 1, SD Card Reader x 1, Audio combo x 1 เชื่อมต่อ Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.2 ได้ด้วย จัดเป็นโน๊ตบุ๊คคุ้มค่า 2023 ที่โปรแกรมครบเครื่อง สเปคพร้อมใช้ทำงานได้ทันทีและราคาก็ไม่แพงเกินไปอีกด้วย

สเปคของ Lenovo IdeaPad 3 15ABA7
CPU AMD Ryzen 5 5625U มี 6 คอร์  12 เธรด ความเร็ว 2.3~4.3GHz
GPU AMD Radeon Graphics
SSD M.2 NVMe SSD 512GB
RAM 8GB DDR4 บัส 3200MHz
Display 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS
Connectivity USB 2.0 x 1, USB-A 3.2 x 1, USB-C 3.2 x 1, HDMI x 1, SD Card Reader x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.2

Software Windows 11 Home, Microsoft Office Home & Student 2021
Weight 1.63 กิโลกรัม
Price 20,990 บาท ใช้โค้ด BNFMM20 ลดได้ 2,000 บาท คลิ๊กสั่งซื้อที่นี่
4. Lenovo IdeaPad 3 15IAU7 (21,990 บาท)

Lenovo Notebook IdeaPad 3 15IAU7 01

ถ้า Lenovo IdeaPad 3 ในข้อก่อนหน้าเข้าข่ายเป็นโน๊ตบุ๊คคุ้มค่า 2023 ในใจแล้ว แต่อยากได้ซีพียู Intel มากกว่าก็มี Lenovo IdeaPad 3 15IAU7 เป็นรุ่นเทียบเคียงกันที่สเปคเหมือนกันแทบทั้งหมด แต่เปลี่ยนซีพียูเป็น Intel Core i5-1235U มี 10 คอร์ 12 เธรด (2P+8E) ความเร็ว 3.3~4.4GHz กับการ์ดจอออนบอร์ด Intel Iris Xe Graphics แทน ในแง่ประสิทธิภาพจัดว่าดีไว้ใจได้และประหยัดพลังงานด้วย น่าจะตอบโจทย์ผู้ใช้ที่อยากได้โน๊ตบุ๊คซีพียู Intel รุ่นใหม่ไว้ใช้งานมาก

สเปคของ Lenovo IdeaPad 3 15IAU7
CPU Intel Core i5-1235U มี 10 คอร์ 12 เธรด (2P+8E) ความเร็ว 3.3~4.4GHz
GPU Intel Iris Xe Graphics
SSD M.2 NVMe SSD 512GB
RAM 8GB DDR4 บัส 3200MHz
Display 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS
Connectivity USB 2.0 x 1, USB-A 3.2 x 1, USB-C 3.2 x 1, HDMI x 1, SD Card Reader x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.2

Software Windows 11 Home, Microsoft Office Home & Student 2021
Weight 1.63 กิโลกรัม
Price 21,990 บาท ใช้โค้ด BNFMM10 ลดได้ 1,000 บาท คลิ๊กสั่งซื้อที่นี่
5. Lenovo IdeaPad Gaming 3 15IHU6 (24,990 บาท)

IdeaPad Gaming 3i 15IHU6 1

หากเป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คคุ้มค่า 2023 ก็มี Lenovo IdeaPad Gaming 3 15IHU6 ถือว่าน่าสนใจและสเปคก็ดีพอใช้เล่นเกมฟอร์มใหญ่ในปัจจุบันได้อย่างแน่นอนและตัวเครื่องก็ดูเรียบร้อยเหมือนโน๊ตบุ๊คทั่วไปไม่เตะตาเกินเวลาพกไปทำงานหรือเรียนอย่างแน่นอน ได้ซีพียู Intel Core i5-11320H แบบ 4 คอร์ 8 เธรด ความเร็ว 3.2~4.5GHz จับคู่การ์ดจอแยก NVIDIA GeForce RTX 3050 แรม 4GB GDDR6 พร้อม M.2 NVMe SSD ความจุ 512GB ติดตั้ง Windows 11 Home มาให้ มีแรม 8GB DDR4 บัส 3200MHz ในตัว อัพเกรดเพิ่มเป็น 16GB ได้ หน้าจอมีขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 120Hz มีพอร์ต USB-A 3.2 x 2, USB-C 3.2 x 1, HDMI x 1, LAN x 1, Audio combo x 1 เชื่อมต่อ Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.0 ได้ น้ำหนักเครื่อง 2.25 กิโลกรัม จัดเป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คคุ้มค่า 2023 อีกรุ่นที่ไม่ควรพลาด 

สเปคของ Lenovo IdeaPad Gaming 3 15IHU6
CPU Intel Core i5-11320H แบบ 4 คอร์ 8 เธรด ความเร็ว 3.2~4.5GHz
GPU NVIDIA GeForce RTX 3050 แรม 4GB GDDR6
SSD M.2 NVMe SSD 512GB
RAM 8GB DDR4 บัส 3200MHz
Display 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 120Hz
Connectivity USB-A 3.2 x 2, USB-C 3.2 x 1, HDMI x 1, LAN x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.0

Software Windows 11 Home
Weight 2.25 กิโลกรัม
Price 24,990 บาท ใช้โค้ด BNFMM10 ลดได้ 1,000 บาท คลิ๊กสั่งซื้อที่นี่
6. Lenovo IdeaPad Gaming 3 15ACH6 (27,990 บาท)

Notebook IdeaPad Gaming 3 15ACH6 01 1

เกมมิ่งโน๊ตบุ๊คคุ้มค่า 2023 รุ่นสุดท้ายเป็นดาวค้างฟ้าในใจเกมเมอร์งบจำกัดอย่าง Lenovo IdeaPad Gaming 3 15ACH6 ซึ่งรุ่นนี้นอกจากคีย์บอร์ดไฟ RGB สวยงามแต่ดีไซน์ตัวเครื่องเรียบร้อยดูดีไม่เตะตาเกินไปแล้ว หน้าจอยังใหญ่ถึง 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 120Hz ใช้ซีพียู AMD Ryzen 5 5600H แบบ 6 คอร์ 12 เธรด ความเร็ว 3.3~4.2GHz จับคู่การ์ดจอแยก NVIDIA GeForce RTX 3050 Ti แรม 4GB GDDR6 มี M.2 NVMe SSD ความจุ 512GB ติดตั้ง Windows 11 Home และแรม 8GB DDR4 บัส 3200MHz มาให้ครบเครื่อง มีพอร์ต USB-A 3.2 x 2, USB-C 3.2 x 1, HDMI x 1, LAN x 1, Audio combo x 1 เชื่อมต่อ Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.0 ได้ด้วย น้ำหนัก 2.25 กิโลกรัมเช่นกัน ถ้าใครอยากได้เกมมิ่งโน๊ตบุ๊คคุ้มค่า 2023 สเปค AMD Ryzen ก็ซื้อรุ่นนี้ไปใช้ได้

สเปคของ Lenovo IdeaPad Gaming 3 15ACH6
CPU AMD Ryzen 5 5600H แบบ 6 คอร์ 12 เธรด ความเร็ว 3.3~4.2GHz
GPU NVIDIA GeForce RTX 3050 Ti แรม 4GB GDDR6
SSD M.2 NVMe SSD 512GB
RAM 8GB DDR4 บัส 3200MHz
Display 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 120Hz
Connectivity USB-A 3.2 x 2, USB-C 3.2 x 1, HDMI x 1, LAN x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.0

Software Windows 11 Home
Weight 2.25 กิโลกรัม
Price 27,990 บาท ใช้โค้ด BNFMM30 ลดได้ 3,000 บาท คลิ๊กสั่งซื้อที่นี่

pexels fauxels 3184660

สำหรับโน๊ตบุ๊คคุ้มค่า 2023 นี้ ไม่ว่าจะสายทำงานหรือเกมมิ่งก็น่าสนใจทั้งนั้น แม้จะมีรุ่นเก่าที่วางขายมาระยะหนึ่งรวมอยู่แต่สเปคก็ยังดีน่าใช้เช่นเดิม ขอแค่อัพเกรดแล้วหาอุปกรณ์เสริมที่ต้องการใช้อย่างเมาส์หรือคีย์บอร์ดสักชุดมาใช้ให้ครบก็ดีแล้ว และส่วนตัวผู้เขียนก็แนะนำให้เปลี่ยนโน๊ตบุ๊คเป็นรุ่นใหม่ตามช่วงเทคโนโลยีไป จะได้ใช้งานเทคโนโลยีใหม่ๆ ให้งานเสร็จเร็วขึ้นและยังขายเครื่องเก่าได้ราคาอีกด้วย


บทความที่เกี่ยวข้อง

ReviweLogaMouse jpg

NBS 230313 image link template 3 2 1

7NotebookIntel

from:https://notebookspec.com/web/693064-6-recommend-laptop-2023-worth-buying

6 โน๊ตบุ๊คทำงาน 2023 รุ่นเด็ดจาก MSI ถูกใจสายทำงาน ครีเอเตอร์กดไลค์แน่นอน! ใครอยากเปลี่ยนเครื่องต้องโดน!

MSI มีโน๊ตบุ๊คทำงาน 2023 รุ่นใหม่ๆ ให้เลือกเพียบ จะ AMD หรือ Intel ก็เลือกได้!!

6MSINotebook

โน๊ตบุ๊คทำงาน 2023 สำหรับนักเรียนนักศึกษา, พนักงานออฟฟิศไปจนครีเอเตอร์ในปัจจุบันนี้มีตัวเลือกให้ผู้ใช้ได้หาเอาไว้ใช้งานมากมาย ตั้งแต่สเปคทั่วไปใช้ซีพียูและการ์ดจอออนบอร์ดของ AMD หรือ Intel ไปจนรุ่นที่มีการ์ดจอแยกของ NVIDIA ติดตั้งมาให้ครีเอเตอร์เลือกซื้อไปใช้งานก็มีเช่นกัน ซึ่งทาง MSI ก็มีโน๊ตบุ๊คเหล่านี้ให้เลือกซื้อหลากหลายรุ่นทีเดียว ไม่ว่าจะตระกูล Modern Series ซึ่งสร้างมาเพื่อใช้งานทั่วไป อย่างทำงานออฟฟิศหรือให้นักเรียนนักศึกษาพกไปเรียน Prestige Series เพื่อสายทำงานระดับพรีเมี่ยมซึ่งมีรุ่นหน้าจอทัชสกรีนให้เลือก ขอบเขตสีหน้าจอกว้างถึงระดับพรู้ฟงานอาร์ทหรือตัดต่อแต่งภาพก็ได้ไปจน Creator Series ซึ่งเกิดมาเพื่อครีเอเตอร์เอาไว้สร้างสรรค์ผลงานโดยเฉพาะ ติดตั้งหน้าจอทัชสกรีนขอบเขตสีกว้างและใช้ไดรเวอร์ NVIDIA Studio ซึ่งเสถียรและใช้ทำงานได้ยอดเยี่ยมมาก

Advertisementavw

ยิ่งในปี 2023 นี้ ทาง MSI นอกจากมีเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คประสิทธิภาพสูงทรงพลังให้เลือกซื้อแล้ว ทางบริษัทก็มีโน๊ตบุ๊คทำงาน 2023 ซีรี่ส์ยอดนิยมอย่างที่ได้กล่าวไปแต่อัพเกรดซีพียูเป็น AMD Ryzen 7000 Series และ Intel 12~13th Gen ออกมาวางตลาดให้ผู้ใช้ได้เลือกซื้อและบางรุ่นก็ติดตั้งโปรแกรม Microsoft Office Home & Student มาให้ใช้ เพียงแค่เปิดเครื่องแล้ว Sign in ก็เริ่มทำงานได้ทันทีและหลายๆ รุ่นก็ทำบอดี้ให้แข็งแรงแต่น้ำหนักเบาพกพาสะดวกและอาจเสริมฟีเจอร์ยืนยันตัวด้วยเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือหรือใบหน้ามาให้ด้วย เรียกว่าสะดวกปลอดภัยมาก

โน๊ตบุ๊คทำงาน 2023

เคล็ดลับเลือกโน๊ตบุ๊คทำงาน 2023 ให้คุ้มสุด!

โน๊ตบุ๊คทำงาน 2023

เคล็ดลับวิธีการเลือกโน๊ตบุ๊คทำงาน 2023 ให้คุ้มสุดนั้นไม่ยากมากอย่างที่ใครหลายคนกังวลกัน ซึ่งวิธีการนั้นผู้เขียนจะต้องแยกหมวดของโน๊ตบุ๊คทำงานออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆ ด้วยกัน ได้แก่ กลุ่มทำงานออฟฟิศและนักเรียนนักศึกษา อีกกลุ่มก็เป็นครีเอเตอร์เพราะต้องใช้โน๊ตบุ๊คซึ่งสเปคแตกต่างกันอยู่บ้าง ซึ่งวิธีการดูสเปคแยกแต่ละส่วนเพื่อให้ได้โน๊ตบุ๊คทำงาน 2023 ที่ดีถูกใจจะมีดังนี้

  • ซีพียู – ปัจจุบันซีพียูโน๊ตบุ๊คมีของ Intel และ AMD ซึ่งต่างใช้งานได้ดีทั้งคู่ และถ้าเทียบระหว่างซีพียู Intel และ AMD ว่าซีรี่ส์ไหนเป็นคู่แข่งกันโดยตรงและทำมาเพื่อใช้งานอะไรเป็นหลักจะแบ่งได้ตามนี้
    • Intel Pentium / AMD Athlon – ซีพียูซีรี่ส์เริ่มต้นของทั้งสองแบรนด์ เหมาะสำหรับใช้ทำงานทั่วไปอย่างเปิดเว็บไซต์ทำงานเอกสาร, เปิดเบราเซอร์ดูเว็บไซต์และทำงานด้วยเบราเซอร์เป็นหลัก ซึ่งซีรี่ส์นี้จะมี 2~4 คอร์ ให้ใช้งาน ผู้ผลิตโน๊ตบุ๊คมักเอามาติดตั้งให้โน๊ตบุ๊คราคาประหยัดเป็นหลัก โดยมีระดับแยกย่อยด้วยคำตามท้ายอย่าง Silver, Gold เหมือนกันทั้งสองค่ายให้แบ่งแยกง่ายๆ ตามลำดับเหรียญรางวัลการแข่งขันกีฬาได้เลย และซีรี่ส์ Gold รุ่นใหม่ๆ ก็ประสิทธิภาพดีพอเอาชนะหรือเทียบชั้น Intel Core Series, AMD FX และ AMD Ryzen รุ่นก่อนหน้าได้เลย
    • Intel Core i3 / AMD Ryzen 3 – ซีพียูรุ่นเริ่มต้นที่ผู้ใช้หลายๆ คนตั้งเป็นขั้นต่ำเวลาจะซื้อโน๊ตบุ๊คมาใช้ ซึ่งซีรี่ส์นี้จะมีคอร์ใช้งานจริงราว 2~4 คอร์และ Hyper-Threading เพิ่มจำนวนคอร์ใช้งานให้มากขึ้น ด้าน Intel ทั้งรุ่นที่ 12 และ 13 จะมีคอร์เยอะโดยนับรวม P-Core สำหรับทำงานหลักและ E-Core สำหรับประมวลผลงานเบื้องหลังเอาไว้ด้วยกัน แต่เมื่อดูเจาะจงต่อคอร์แล้วจะเห็นว่าซีพียูแต่ละตัวมีคอร์ทำงานหลักเท่าไหร่ ซึ่งผู้เขียนเคยทำบทความวิธีอ่านคอร์ซีพียู Intel เอาไว้แล้ว สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่ ด้าน AMD Ryzen 3 Series จะยังใช้วิธีการนับคอร์แบบเดิม มักมีมาในตัวชิป 4 คอร์ 8 เธรด ถือว่ามีพอให้ใช้ทำงานเอกสาร, ดูหนังความละเอียดสูง, เล่นเกมออนไลน์ และใช้ตัดต่อแต่งภาพด้วยโปรแกรมตระกูล Adobe Photoshop, Lightroom เพื่อประกอบรายงานได้ระดับหนึ่ง
    • Intel Core i5 / AMD Ryzen 5 – ซีรี่ส์ระดับกลางยอดนิยมของผู้ผลิตมักเลือกมาติดตั้งในโน๊ตบุ๊คหลายๆ รุ่นในปัจจุบันนี้และมีรุ่นย่อยเยอะมาก ซึ่ง Intel รุ่น 12, 13 จะมี P-Core และ E-Core ให้ใช้มากถึง 12 คอร์ 16 เธรด แยกเป็น 4 P-Core และ 8 E-Core ด้าน AMD Ryzen 5 จะมี 6 คอร์ 12 เธรด ซึ่งประสิทธิภาพสูงพอใช้ทำงานแทบทั้งหมดได้เป็นอย่างดี ตั้งแต่งานเอกสาร, ความบันเทิง, ตัดต่อแต่งภาพรวมถึงวิดีโอ Vlog รวมไปถึงเขียนโค้ดโปรแกรมมิ่งก็ได้ ซึ่งรุ่นนี้ผู้ผลิตมักติดตั้งการ์ดจอแยกทั้ง NVIDIA GeForce หรือ AMD Radeon มาให้ทำงานกราฟิคและเล่นเกมได้ลื่นไหลขึ้น
    • Intel Core i7 / AMD Ryzen 7 – ซีรี่ส์ระดับสูงซึ่งผู้ใช้หลายคนมักสนใจและอยากได้กัน ปัจจุบันนี้ราคาต่างจาก Intel Core i5 และ AMD Ryzen 5 ไม่มาก แต่ประสิทธิภาพต่างพอเห็นผลได้ระดับหนึ่งเลย มักพบในโน๊ตบุ๊คทำงานสเปคสูงเป็นหลัก ถ้าเป็นเกมมิ่งก็มีการ์ดจอแยกติดตั้งมาให้เล่นเกมได้ลื่นไหลยิ่งขึ้นอีกด้วย ใช้ทำงานต่างๆ ได้ดีกว่า Intel Core i5 / AMD Ryzen 5 ได้สบายๆ และทำให้งานเสร็จเร็วขึ้น มักมีการ์ดจอแยกติดตั้งมาให้ใช้งานด้วย เหมาะกับผู้ใช้กลุ่มทำงานออฟฟิศและครีเอเตอร์อย่างแน่นอน
    • Intel Core i9 / AMD Ryzen 9 – รุ่นทรงพลังสุดจากทั้งสองบริษัท ใช้ทำงานหนักต่างๆ ไม่ว่าจะตัดต่อแต่งภาพทำวิดีโอรวมไปถึงเขียนโปรแกรมก็ไหวแถมยังใช้เล่นเกมทุกเกมในปัจจุบันได้หมด มักเจอในเกมมิ่งหรือครีเอเตอร์โน๊ตบุ๊คเป็นหลักหรือไม่ก็เป็นโน๊ตบุ๊คสายทำงานระดับพรีเมี่ยม
  • การ์ดจอ – โน๊ตบุ๊คทำงาน 2023 ส่วนใหญ่จะมีการ์ดจอ 2 กลุ่มเท่านั้น คือการ์ดจออนบอร์ดอย่าง Intel Iris Xe Graphics หรือ AMD Radeon Graphics ซึ่งทั้งสองรุ่นนี้นอกจากเอาไว้แสดงผลภาพหรือวิดีโอความละเอียด 4K ขึ้นหน้าจอได้แล้ว การ์ดจอทั้งสองรุ่นก็จะมีจุดเด่นแตกต่างกันไป อย่าง Intel Iris Xe Graphics ก็จะเหมาะกับการทำงานอย่างเรนเดอร์ภาพหรือวิดีโอรวมถึงไฟล์โมเดล 3D ต่างๆ ได้ดีระดับหนึ่ง แต่จะไม่เหมาะกับการเล่นเกมเท่าไหร่ ในขณะที่ AMD Radeon Graphics จะใช้ตัดต่อแต่งภาพและวิดีโอรวมถึงเล่นเกมออนไลน์ได้พอสมควร แต่โมเดล 3D เป็นรองจาก Iris Xe Graphics อยู่บ้าง ซึ่งถ้าเป็นผู้ใช้ทั่วไปหาเครื่องเอาไว้ทำงานออฟฟิศหรือเอาไว้เรียนก็แรงเพียงพอแล้ว บางรุ่นอาจมีการ์ดจอแยก NVIDIA GeForce, AMD Radeon ติดตั้งมาให้ ซึ่งถ้าใครตัดต่อวิดีโอหรือทำโมเดล 3D แนะนำให้ดูโน๊ตบุ๊คพร้อม NVIDIA GeForce RTX 3060 หรือ AMD Radeon RX 6500M, 7600S จะใช้งานได้ดีอย่างแน่นอน
  • แรม – เชื่อว่าผู้ใช้หลายคนน่าจะตั้งธงเอาไว้ในใจแล้ว ว่าถ้าจะซื้อโน๊ตบุ๊คทำงาน 2023 เครื่องใหม่จะเลือกรุ่นแรม 16GB มาใช้งานหรือไม่ก็ต้องเป็นรุ่นที่อัพเกรดเพิ่มแรมได้มาใช้ ซึ่งถ้าได้แรมระดับนี้ก็ใช้ทำงานออฟฟิศไปจนตัดต่อวิดีโอได้ รวมถึงเปิดและใช้งานไฟล์ Microsoft Excel ที่มีข้อมูลเยอะๆ ได้รวดเร็วแน่นอน แต่แรม 8GB ในปี 2023 ก็ถือว่าไม่ได้ขี้เหร่นัก จะเอาไว้ทำงานเอกสารหรือเปิดเว็บเบราเซอร์ได้เหมือนกัน แค่ต้องบริหารปริมาณโปรแกรมและแท็บตอนใช้งานสักนิด ปิดบางอย่างที่ไม่ใช้งานทิ้งไปสักหน่อยก็ไม่มีปัญหาแล้ว
  • พอร์ตและการเชื่อมต่อ – พอร์ตของโน๊ตบุ๊คทำงาน 2023 อย่างน้อยควรมีพอร์ต USB-C แบบ Data เอาไว้โอนถ่ายข้อมูลติดตั้งมาให้ 1 ช่องให้เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ยุคใหม่ๆ ได้อย่างสะดวกรวดเร็ว บางรุ่นอาจต่อหน้าจอแยกแบบ DisplayPort หรือชาร์จแบตเตอรี่ตามมาตรฐาน Power Delivery อาจมีฟีเจอร์ใดฟีเจอร์หนึ่งเสริมเข้ามาหรือถ้ามีทั้ง 2 แบบ จะเรียกว่า Full Function หรืออาจเป็นพอร์ต Thunderbolt ก็ได้ถ้ารุ่นนั้นๆ ผ่านมาตรฐาน Intel Evo แล้ว ซึ่งข้อดีของการมี USB-C Full Function หรือ Thunderbolt นอกจากต่อ USB-C Multiport Adapter แปลงเป็นพอร์ตอื่นๆ ได้ ยังใช้สาย USB-C เส้นเดียวต่อจอคอมรุ่นที่รองรับแล้วใช้งานได้เลย และอาจมีพอร์ตใช้งานอื่นๆ เสริมเข้ามาให้อย่าง USB-A, HDMI, Card Reader ขึ้นอยู่กับการจัดสเปคของผู้ผลิต ส่วนการเชื่อมต่อไร้สาย ผู้เขียนแนะนำให้ดูรุ่นที่เป็น Wi-Fi 6 หรือ 6E เป็นหลักให้เชื่อมต่อรับส่งข้อมูลได้รวดเร็วและเสถียรยิ่งขึ้น
  • หน้าจอ – ส่วนตัวผู้เขียนไม่โฟกัสที่ขนาดหน้าจอ แต่ควรโฟกัสเรื่องความละเอียดหน้าจอว่าควรยืนพื้นที่ระดับ Full HD (1920×1080 หรือ 1920×1200 พิกเซล) ขึ้นไป จะได้ภาพคมชัดและมีพื้นที่เปิดโปรแกรมต่างๆ ได้เต็มตา หากหาเอาไว้ทำงานกราฟิคควรหารุ่นที่มีขอบเขตสีกว้าง 100% sRGB ขึ้นไปและค่าความเที่ยงตรงสี Delta-E น้อยกว่า 2 (เขียนด้วยสัญลักษณ์ว่า Delta-E <2) จะให้สีสันบนหน้าจอได้เที่ยงตรงทำงานอาร์ทได้ดี ยิ่งถ้าได้การรับรองจากบริษัทชั้นนำด้านงานศิลป์อย่าง CalMAN Verified, PANTONE Validated มารับรองยิ่งดี
  • ซอฟท์แวร์ – ปัจจุบันผู้ผลิตหลายเจ้าติดตั้งระบบปฏิบัติการ Windows 11 Home มาให้แล้ว แค่เปิดเครื่อง Sign in ไอดีของ Microsoft ก็ใช้งานได้เลย แต่ถ้ารุ่นไหนมี Microsoft Office Home & Student ไม่ว่าจะเวอร์ชั่น 2019, 2021 ก็ไม่ต้องเสียเงินซื้อซอฟท์แวร์เพิ่ม
  • น้ำหนัก – โน๊ตบุ๊คในปัจจุบันนี้น้ำหนักมีตั้งแต่ 1~3 กิโลกรัม ขึ้นอยู่กับสเปคและระบบระบายความร้อนที่ผู้ผลิตออกแบบติดตั้งมาให้ใช้งานปกติแล้วโน๊ตบุ๊คสายทำงานมักมีน้ำหนักราว 1.4~1.8 กิโลกรัม ขึ้นอยู่ว่าเป็นหน้าจอ 14, 15.6 หรือ 16 นิ้ว มักจะไม่หนักมากพกพาสะดวกไม่หนักไหล่เกินไป ส่วนโน๊ตบุ๊คครีเอเตอร์มีการ์ดจอแยกมักเริ่มต้นกันตั้งแต่ 1.9 กิโลกรัมขึ้นไป ควรใส่กระเป๋าเป้ให้พกพาได้สะดวกไม่เป็นต้นเหตุของอาการ Office Syndrome ในภายหลัง

สรุปสเปคโน๊ตบุ๊คทำงาน 2023 รุ่นเด่นทั้ง 6 รุ่น สายทำงานถูกใจ ครีเอเตอร์กดไลค์!

สรุปสเปคโน๊ตบุ๊คทำงาน 2023 CPU

GPU

SSD

RAM

Software

Display

Weight

Connectivity ราคา
(บาท)
MSI Modern 15 B7M AMD Ryzen 7 7730U

AMD Radeon Graphics

M.2 NVMe
512GB

8GB DDR4
3200MHz

Windows 11 Home

15.6″ FHD IPS

1.75 กก.

USB 2.0 x 1

USB-A 3.2 x 1

USB-C 3.2 x 1 รองรับ
Power Delivery

HDMI 2.1 x 1

MicroSD Card Reader x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6

Bluetooth 5.2

22,900
MSI Modern 14 C12M Intel Core
i5-1235U

Intel Iris Xe Graphics

M.2 NVMe
512GB

8GB DDR4
3200MHz

Windows 11 Home

14″ FHD IPS

1.4 กก.

USB 2.0 x 2

USB-A 3.2 x 1

USB-C 3.2 x 1 รองรับ
Power Delivery

HDMI 1.4 x 1

MicroSD Card Reader x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6

Bluetooth 5.2

22,990
MSI Modern 15 B12M Intel Core
i7-1255U

Intel Iris Xe Graphics

M.2 NVMe
512GB

8GB DDR4
3200MHz

Windows 11 Home

14″ FHD IPS

1.4 กก.

USB 2.0 x 2

USB-A 3.2 x 1

USB-C 3.2 x 1 รองรับ
Power Delivery

HDMI 1.4 x 1

MicroSD Card Reader x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6

Bluetooth 5.2

28,990
MSI Prestige 14 Evo A12M Intel Core
i7-1280P

Intel Iris Xe Graphics

M.2 NVMe
512GB

16GB LPDDR4x
4267MHz

Windows 11 Home

Microsoft Office Home & Student 2021

14″ FHD IPS

100% sRGB

Delta-E <2

CalMAN Verified

1.29 กก.

Thunderbolt 4 x 2

USB-A 3.2 x 1

MicroSD Card Reader x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6E

Bluetooth 5.2

39,990
MSI Prestige 16 Evo A12M Intel Core
i7-1280P

Intel Iris Xe Graphics

M.2 NVMe
512GB

16GB LPDDR5
4800MHz

Windows 11 Home

Microsoft Office Home & Student 2021

16″ FHD+
(1920×1200)
IPS

100% sRGB

Refresh Rate 165Hz

1.9 กก.

Thunderbolt 4 x 2

USB-A 3.2 x 2

HDMI x 1

MicroSD Card Reader x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6E

Bluetooth 5.2

44,990
MSI Creator Z16 A12UET Intel Core
i9-12900H

NVIDIA GeForce RTX 3060

M.2 NVMe
2TB

32GB DDR5
4800MHz

Windows 11 Home

16″ QHD+
(2560×1600)
IPS

100% sRGB

Delta-E <2

CalMAN Verified

Refresh Rate 165Hz

2.2 กก.

Thunderbolt 4 x 1

USB-C 3.2 x 1 รองรับ
DisplayPort x 1

USB-A 3.2 x 1

SD Card
Reader x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6E

Bluetooth 5.2

104,990

แนะนำโน๊ตบุ๊คทำงาน 2023 รุ่นเด่นทั้ง 6 รุ่น จาก MSI ทำงานดี สเปคเด็ดตอบโจทย์คนทำงานแน่นอน

ผู้ใช้คนไหนที่กำลังมองหาโน๊ตบุ๊คทำงาน 2023 เครื่องใหม่มาแทนเครื่องเก่าที่ใช้มาหลายปีแล้ว และมันเริ่มรันโปรแกรมหรืองานใหม่ๆ ไม่เร็วไม่ทันใจเท่าเดิมล่ะก็ ผู้เขียนมีโน๊ตบุ๊คน่าใช้จากทาง MSI มาให้เลือกทั้งหมด 6 รุ่น แยกเป็นสายทำงานออฟฟิศและครีเอเตอร์ ซึ่งมีรุ่นดังนี้

  1. MSI Modern 15 B7M (22,900 บาท)
  2. MSI Modern 14 C12M (22,990 บาท)
  3. MSI Modern 15 B12M (28,990 บาท)
  4. MSI Prestige 14 Evo A12M (39,990 บาท)
  5. MSI Prestige 16 Evo A12M (44,990 บาท)
  6. MSI Creator Z16 A12UET (104,990 บาท)
1. MSI Modern 15 B7M (22,900 บาท)

12534 f

MSI Modern 15 B7M เป็นโน๊ตบุ๊คทำงาน 2023 รุ่นแรกที่สเปคดีตัวเครื่องใหญ่ทำงานสะดวกและสเปคจัดเต็มทีเดียว โดยตัวเครื่องมีขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ใช้ซีพียู AMD Ryzen 7 7730U แบบ 8 คอร์ 16 เธรด ความเร็ว 2.0~4.5GHz ใช้กราฟิคการ์ดออนบอร์ด AMD Radeon Graphics แบบ 8 คอร์ ความเร็ว 2,000MHz มี M.2 NVMe SSD ความจุ 512GB ติดตั้ง Windows 11 Home มาให้กับแรมอีก 8GB DDR4 บัส 3200MHz อัพเกรดได้มากสุด 16GB มีพอร์ตเชื่อมต่อ USB 2.0 x 1, USB-A 3.2 x 1, USB-C 3.2 x 1 รองรับ Power Delivery, HDMI 2.1 x 1, MicroSD Card Reader x 1, Audio combo x 1 เชื่อมต่อไร้สายด้วย Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.2 ได้ น้ำหนักเพียง 1.75 กิโลกรัม เทียบกับโน๊ตบุ๊คขนาด 15.6 นิ้วหลายๆ รุ่นแล้วถือว่าเบาพกพาสะดวกและยังกางหน้าจอได้แบนราบ 180 องศา ให้เพื่อนร่วมงานดูหรือปรับมุมจอให้เข้ากับมุมสายตาบนตอนวางบนแท่นวางโน๊ตบุ๊คก็ได้ จัดเป็นโน๊ตบุ๊คทำงาน 2023 รุ่นแรกที่น่าใช้มาก

สเปคของ MSI Modern 15 B7M
CPU AMD Ryzen 7 7730U แบบ 8 คอร์ 16 เธรด ความเร็ว 2.0~4.5GHz
GPU AMD Radeon Graphics แบบ 8 คอร์ ความเร็ว 2,000MHz
SSD M.2 NVMe SSD 512GB
RAM 8GB DDR4 บัส 3200MHz อัพเกรดได้มากสุด 16GB
Display 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS
Connectivity USB 2.0 x 1, USB-A 3.2 x 1, USB-C 3.2 x 1 รองรับ Power Delivery, HDMI 2.1 x 1, MicroSD Card Reader x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.2

Software Windows 11 Home
Weight 1.75 กิโลกรัม
Price 22,900 บาท (Advice)
2. MSI Modern 14 C12M (22,990 บาท)

12553 f

โน๊ตบุ๊คทำงาน 2023 รุ่นถัดมาที่ผู้เขียนแนะนำเป็น MSI Modern 14 C12M สำหรับสายพกพาซึ่งผู้เขียนเคยทำรีวิวไปก่อนหน้านี้แล้ว โดยจุดเด่นของมันคือพอร์ต USB-C ที่ชาร์จแบบ Power Delivery ได้, น้ำหนักเครื่อง 1.4 กิโลกรัม พกพาสะดวก ได้รับการรับรอง MIL-STD-810G การันตีความแข็งแรงทนทานแล้ว โดยขนาดหน้าจออยู่ที่ 14 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ใช้ซีพียู Intel Core i5-1235U แบบ 10 คอร์ 12 เธรด (2P+8E) ความเร็ว 3.3~4.4GHz ใช้การ์ดจอ Intel Iris Xe Graphics มี M.2 NVMe SSD ความจุ 512GB ติดตั้ง Windows 11 Home และแรม 8GB DDR4 บัส 3200MHz มาให้ มีพอร์ต USB 2.0 x 2, USB-A 3.2 Gen 2 x 1, USB-C 3.2 Gen 2 x 1 รองรับ Power Delivery, HDMI 1.4 x 1, MicroSD Card Reader x 1, Audio combo x 1 เชื่อมต่อ Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.2 ได้ เป็นโน๊ตบุ๊คทำงาน 2023 สำหรับคนที่ชอบพกโน๊ตบุ๊คไปไหนมาไหนมาก

สเปคของ MSI Modern 14 C12M
CPU Intel Core i5-1235U แบบ 10 คอร์ 12 เธรด (2P+8E) ความเร็ว 3.3~4.4GHz
GPU Intel Iris Xe Graphics
SSD M.2 NVMe SSD 512GB
RAM 8GB DDR4 บัส 3200MHz
Display 14 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS
Connectivity USB 2.0 x 2, USB-A 3.2 Gen 2 x 1, USB-C 3.2 Gen 2 x 1 รองรับ Power Delivery, HDMI 1.4 x 1, MicroSD Card Reader x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.2

Software Windows 11 Home
Weight 1.4 กิโลกรัม
Price 22,990 บาท (ราคากลาง)
3. MSI Modern 15 B12M (28,990 บาท)

12416 bk

MSI Modern 15 B12M นี้เป็นโน๊ตบุ๊คทำงาน 2023 อีกรุ่นที่น่าใช้แต่แชร์สเปคร่วมกับ Modern 14 ในข้อก่อนหน้าแทบทั้งหมด แต่อัพเกรดซีพียูเป็น Intel Core i7-1255U แบบ 10 คอร์ 12 เธรด (2P+8E) ความเร็ว 3.5~4.7GHz และใช้การ์ดจอ Intel Iris Xe Graphics และหน้าจอ 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS และเพิ่มแรมเป็น 16GB DDR4 บัส 3200MHz ได้ด้วย ตอบโจทย์คนอยากได้ซีพียู Intel ประสิทธิภาพสูงๆ เอาไว้ทำงานแน่นอน

สเปคของ MSI Modern 15 B12M
CPU Intel Core i7-1255U แบบ 10 คอร์ 12 เธรด (2P+8E) ความเร็ว 3.5~4.7GHz
GPU Intel Iris Xe Graphics
SSD M.2 NVMe SSD 512GB
RAM 8GB DDR4 บัส 3200MHz
Display 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS
Connectivity USB 2.0 x 2, USB-A 3.2 Gen 2 x 1, USB-C 3.2 Gen 2 x 1 รองรับ Power Delivery, HDMI 1.4 x 1, MicroSD Card Reader x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.2

Software Windows 11 Home
Weight 1.7 กิโลกรัม
Price 28,990 บาท (ราคากลาง)
4. MSI Prestige 14 Evo A12M (39,990 บาท)

12419 c

ขึ้นชื่อว่าเป็นโน๊ตบุ๊คทำงาน 2023 ระดับพรีเมี่ยม ต้องยกให้ MSI Prestige 14 Evo A12M เพราะนอกจากน้ำหนักจะเบามากแค่ 1.29 กิโลกรัมแล้ว ทาง MSI ยังติดตั้งลำโพง DTS Audio มาให้พร้อมกับหน้าจอขนาด 14 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ขอบเขตสีกว้าง 100% sRGB ค่าสีเที่ยงตรง Delta-E <2 และได้รับการรับรอง CalMAN Verified แถมยังสแกนลายนิ้วมือหรือใบหน้าปลดล็อคเครื่องได้ด้วย ซีพียูเป็น Intel Core i7-1280P แบบ 14 คอร์ 20 เธรด (6P+8E) ความเร็ว 3.6~4.8GHz ใช้การ์ดจอออนบอร์ด Intel Iris Xe Graphics มี M.2 NVMe SSD ความจุ 512GB ติดตั้ง Windows 11 Home และ Microsoft Office Home & Student 2021 มาให้ แรมเป็นออนบอร์ดความจุ 16GB LPDDR4x บัส 4267MHz มีพอร์ต Thunderbolt 4 x 2, USB-A 3.2 x 1, MicroSD Card Reader x 1, Audio combo x 1 เชื่อมต่อ Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.2 จัดเป็นโน๊ตบุ๊คทำงาน 2023 ระดับพรีเมี่ยมที่น่าลงทุนซื้อมาใช้งานมากๆ โดยเฉพาะหน้าจอขอบเขตสีกว้างเที่ยงตรงสามารถใช้พรู้ฟงานอาร์ทต่างๆ ได้อย่างแน่นอน

สเปคของ MSI Prestige 14 Evo A12M
CPU Intel Core i7-1280P แบบ 14 คอร์ 20 เธรด (6P+8E) ความเร็ว 3.6~4.8GHz
GPU Intel Iris Xe Graphics
SSD M.2 NVMe SSD 512GB
RAM 16GB LPDDR4x บัส 4267MHz
Display 14 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ขอบเขตสีกว้าง 100% sRGB, Delta-E <2, CalMAN Verified
Connectivity Thunderbolt 4 x 2, USB-A 3.2 x 1, MicroSD Card Reader x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.2

Software Windows 11 Home, Microsoft Office Home & Student 2021
Weight 1.29 กิโลกรัม
Price 39,990 บาท (ราคากลาง)
5. MSI Prestige 16 Evo A12M (44,990 บาท)

12309 f

โน๊ตบุ๊คทำงาน 2023 ระดับพรีเมี่ยมอย่าง MSI Prestige 16 Evo A12M รุ่นนี้นอกจากได้ซีพียู Intel 12th Gen อย่าง Intel Core i7-1280P แบบ 14 คอร์ 20 เธรด (6P+8E) ความเร็ว 3.6~4.8GHz และการ์ดจอออนบอร์ด Intel Iris Xe Graphics ติดตั้งมาให้แล้วใช้ระบบระบายความร้อน Dynamic Cooler Boost ติดตั้งมาให้ระบายความร้อนได้เป็นอย่างดีและตัวเครื่องก็มีขนาดใหญ่เต็มตาถึง 16 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ (1920×1200) พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 165Hz ขอบเขตสีกว้าง 100% sRGB เป็นหน้าจออัตราส่วน 16:10 ที่ทาง MSI เรียกว่าเป็น Golden Ratio เหมาะกับการทำงานทุกรูปแบบและมีฟีเจอร์ Tobii Aware จัดการเบลอหน้าจอพร้อมแจ้งเตือนผู้ใช้เวลามีผู้อื่นมามองหน้าจอโน๊ตบุ๊คและติดตั้งชิป Tile เอาไว้ให้ตามหาเครื่องได้ง่ายๆ เวลาลืมทิ้งเอาไว้ที่ไหนและยืนยันตัวปลดล็อคเครื่องโดยสแกนใบหน้าหรือลายนิ้วมือก็ได้ มี M.2 NVMe SSD ความจุ 512GB ติดตั้ง Windows 11 Home และ Microsoft Office Home & Student 2021 มาให้ มีแรม 16GB LPDDR5 บัส 4800MHz มีพอร์ต Thunderbolt 4 x 2, USB-A 3.2 x 2, HDMI x 1, MicroSD Card Reader x 1, Audio combo x 1 เชื่อมต่อ Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.2 ได้ น้ำหนักเครื่อง 1.9 กิโลกรัม และ MSI Prestige 16 Evo นี้ก็ผ่านมาตรฐาน Intel Evo อีกด้วย

สเปคของ MSI Prestige 16 Evo A12M
CPU Intel Core i7-1280P แบบ 14 คอร์ 20 เธรด (6P+8E) ความเร็ว 3.6~4.8GHz
GPU Intel Iris Xe Graphics
SSD M.2 NVMe SSD 512GB
RAM 16GB LPDDR5 บัส 4800MHz
Display 16 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ (1920×1200) พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 165Hz ขอบเขตสีกว้าง 100% sRGB
Connectivity Thunderbolt 4 x 2, USB-A 3.2 x 2, HDMI x 1, MicroSD Card Reader x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.2

Software Windows 11 Home, Microsoft Office Home & Student 2021
Weight 1.9 กิโลกรัม
Price 44,990 บาท
6. MSI Creator Z16 A12UET (104,990 บาท)

12422 c

สุดท้าย MSI Creator Z16 A12UET เป็นโน๊ตบุ๊คทำงาน 2023 เพื่อครีเอเตอร์โดยเฉพาะที่นอกจากเรื่องสเปคจะแรงทรงพลังแล้ว จุดแข็งของมันมีทั้งไดรเวอร์ NVIDIA Studio ซึ่งออกแบบมาให้ทำงานกราฟิคได้ไหลลื่น ตัดต่อและเรนเดอร์วิดีโอความละเอียดสูงสุด 8K HDR RAW ได้ลื่นไหล มี AI-Acceleration มาช่วยทำงาน ติดระบบระบายความร้อน Cooler Boost คู่กับชุดระบายความร้อนด้วยของเหลว Vapor Chamber Cooler ช่วยลดความร้อนและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้สูงยิ่งขึ้นและได้รับการรับรอง MIL-STD-810G ด้วย จึงแข็งแรงทนทานไว้ใจได้แน่นอนและหน้าจอทัชสกรีน 16 นิ้ว ความละเอียด QHD+ (2560×1600) พาเนล IPS นี้มีค่า Refresh Rate 165Hz มีขอบเขตสีกว้าง 100% DCI-P3 มีความเที่ยงตรงสี Delta-E <2 และได้รับการรับรองจาก CalMAN Verified อีกด้วย ติดตั้งซีพียู Intel Core i9-12900H แบบ 14 คอร์ 20 เธรด (6P+8E) ความเร็ว 3.8~5.0GHz ใช้การ์ดจอแยก NVIDIA GeForce RTX 3060 แรม 6GB GDDR6 มี M.2 NVMe SSD ความจุ 2TB ติดตั้ง Windows 11 Home มาให้ใช้งานกับแรม 32GB DDR5 บัส 4800MHz มีพอร์ต Thunderbolt 4 x 1, USB-C 3.2 x 1 รองรับ DisplayPort x 1, USB-A 3.2 x 1, SD Card Reader x 1, Audio combo x 1 เชื่อมต่อ Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.2 ได้ น้ำหนัก 2.2 กิโลกรัม หากครีเอเตอร์คนไหนหาโน๊ตบุ๊คทำงาน 2023 ระดับพรีเมี่ยมเอาไว้ใช้สักเครื่องแบบคุ้มๆ ใช้งานได้ยาวๆ แนะนำให้ดู MSI Creator Z16 เป็นพิเศษ

สเปคของ MSI Creator Z16 A12UET
CPU Intel Core i9-12900H แบบ 14 คอร์ 20 เธรด (6P+8E) ความเร็ว 3.8~5.0GHz
GPU NVIDIA GeForce RTX 3060 แรม 6GB GDDR6
SSD M.2 NVMe SSD 2TB
RAM 32GB DDR5 บัส 4800MHz
Display จอทัชสกรีน 16 นิ้ว ความละเอียด QHD+ (2560×1600) พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 165Hz ขอบเขตสีกว้าง 100% DCI-P3, Delta-E <2 ได้รับการรับรอง CalMAN Verified
Connectivity Thunderbolt 4 x 1, USB-C 3.2 x 1 รองรับ DisplayPort x 1, USB-A 3.2 x 1, SD Card Reader x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.2

Software Windows 11 Home
Weight 2.2 กิโลกรัม
Price 104,990 บาท (ราคากลาง)

1024 1

จะเห็นว่าโน๊ตบุ๊คทำงาน 2023 จาก MSI จะมีตั้งแต่รุ่นเริ่มต้นเพื่อนักเรียนนักศึกษาราคาเป็นมิตร เอาไว้ใช้เข้าห้องเรียนทำรายงานส่งอาจารย์และใช้ทำงานออฟฟิศต่างๆ ได้ แถมมีซีพียูให้เลือกทั้งรุ่น AMD, Intel ตามรสนิยมของผู้ใช้แต่ละคนอีกด้วย ซึ่งโน๊ตบุ๊คทำงาน 2023 จาก MSI แต่ละรุ่นก็มีจุดเด่นน่าใช้แตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับโจทย์การใช้งานของแต่ละคน แค่เลือกรุ่นให้ตรงโจทย์ก็ใช้ทำงานได้อย่างมีความสุข

ส่วนเคล็ดลับส่วนตัวของผู้เขียนถ้าจะเลือกโน๊ตบุ๊คทำงาน 2023 สักเครื่อง ผู้เขียนจะเริ่มจากโจทย์ใหญ่ก่อนว่าจะหาโน๊ตบุ๊คเอาไว้ทำอะไร จะใช้ทำงานเอกสารและทำงานผ่านเบราเซอร์อย่างเดียวก็ขอแค่ซีพียูระดับ Intel Core i5 หรือ AMD Ryzen 5 และแรมจะ 8GB หรือ 16GB ก็ได้ แต่ถ้าเป็นโน๊ตบุ๊คทำงานตัดต่อคลิปแต่งภาพทำโมเดล 3D ก็หารุ่นที่มีการ์ดจอแยกให้เรนเดอร์งานได้ดียิ่งขึ้นแล้วเอารุ่นที่เป็นซีพียู Intel Core i7 หรือ AMD Ryzen 7 ขึ้นไปกับแรมอีก 16GB ก็สามารถทำงานได้ดีแน่นอน และเลือกรุ่นที่สเปคสูงสุดเท่าที่พอจ่ายไหว จะได้ใช้งานได้นานหลายปีไม่ต้องเปลี่ยนเครื่องบ่อย


บทความที่เกี่ยวข้อง

MSI MODERN 15

MSI PRODP20ZA

MSI PRO AP242

from:https://notebookspec.com/web/691939-6-recommend-msi-working-laptop-2023

7 โน๊ตบุ๊ค Intel Evo น่าใช้ ได้ Office แท้ แบตฯ อึดสะใจ ตัวเบาพกสบาย อัพเดทปี 2023

โน๊ตบุ๊ค Intel Evo ยุคนี้น่าใช้มากๆ สเปคดีทรงพลัง แบตฯ อึดสุดๆ

7NotebookIntel

โน๊ตบุ๊ค Intel Evo เป็นมาตรฐานโน๊ตบุ๊คน้ำหนักเบาของทาง Intel ซึ่งเริ่มต้นมาตั้งแต่ยุคซีพียู Intel 11th Gen เป็นต้นมา ซึ่งพัฒนาต่อจาก Project Athena ซึ่งปัจจุบันนี้มีผู้ผลิตโน๊ตบุ๊คหลายแบรนด์ทำโน๊ตบุ๊คกลุ่มนี้ออกมาให้ผู้ใช้เลือกหลากหลายรุ่น มีสเปคหลากหลาย ซึ่งจุดเด่นและข้อกำหนดของ Intel Evo นอกจากน้ำหนักเบาเพียง 1 กิโลกรัมต้นๆ, มีพอร์ต USB-C รองรับ Thunderbolt หรือ Power Delivery ไว้ชาร์จแบตเตอรี่ให้โน๊ตบุ๊คได้โดยสะดวกและรวดเร็ว เพียง 30 นาทีก็ใช้งานได้ 4 ชั่วโมง และใช้งานบนจอความละเอียด Full HD ได้เกิน 9 ชั่วโมงแล้ว ยังเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตด้วย Wi-Fi 6 ได้เสถียรและรับส่งข้อมูลได้รวดเร็วและเสถียรยิ่งขึ้นอีกด้วย

Advertisementavw

จุดเด่นที่ต้องกล่าวถึงเป็นพิเศษ คือ ตัวเครื่องสามารถเปิดใช้งานได้เร็วภายใน 1 วินาทีและมีฟีเจอร์ AI ไว้เสริมประสิทธิภาพการทำงาน ได้แก่ ไมโครโฟนรับเสียงระยะไกลพร้อมฟีเจอร์ตัดเสียงรบกวนและ Deep Learning Boost แล้ว ปัจจุบันนี้ยังมีโปรแกรมและแอพฯ Intel Unison สำหรับเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน iOS, Android เข้ากับโน๊ตบุ๊ค Intel Evo ให้ใช้โทรออกรับสาย, โอนถ่ายไฟล์เข้าออกมือถือและดูการแจ้งเตือนต่างๆ บนหน้าจอโน๊ตบุ๊คได้ทันที ไม่ต้องเปลี่ยนอุปกรณ์ไปมาให้เสียสมาธิอีกด้วย

ในปัจจุบันนี้ โน๊ตบุ๊ค Intel Evo มีราคาไม่สูงมากแล้ว เริ่มต้นตั้งแต่ราคาไม่เกิน 30,000 บาทขึ้นไป สเปคเริ่มต้นเป็น Intel 11th Gen รุ่น Core i5 หรือ Core i7 มีแรม 8GB ได้ M.2 NVMe SSD ความจุ 256GB ติดตั้ง Windows 11 Home มาให้ใช้ในตัวและหลายๆ รุ่นก็เพิ่มฟีเจอร์ยืนยันตัวแบบชีวมาตร (Biometric) มาเสริมความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยไม่ให้ผู้อื่นเข้ามาใช้โดยพลการอีกด้วย

โน๊ตบุ๊ค Intel Evo

สรุปสเปค 7 โน๊ตบุ๊ค Intel Evo

สรุปสเปค
โน๊ตบุ๊ค Intel Evo
CPU

GPU

SSD

RAM

Software

Display

Weight

Connectivity ราคา
(บาท)
Acer Swift 3 SF314-512-56CB Intel Core
i5-1240P

Intel Iris Xe Graphics

M.2 NVMe
512GB

8GB LPDDR4x
4267MHz

Windows 11 Home

Microsoft Office Home & Student 2021

14″ QHD
(2560×1440)
IPS

1.25 กก.

Thunderbolt 4 x 2

USB-A 3.2 x 2

HDMI x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6E

Bluetooth 5.2

29,990
Acer Swift 5 SF514-56T-56M4 Intel Core
i5-1240P

Intel Iris Xe Graphics

M.2 NVMe
512GB

16GB LPDDR5
4800MHz

Windows 11 Home

Microsoft Office Home & Student 2021

14″ QHD
(2560×1440)
IPS

1.2 กก.

Thunderbolt 4 x 2

USB-A 3.2 x 2

HDMI x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6E

Bluetooth 5.2

37,990
ASUS Vivobook S 14X OLED S5402ZA-M9501WS Intel Core
i5-12500H

Intel Iris Xe Graphics

M.2 NVMe
512GB

16GB DDR4
3200MHz

Windows 11 Home

Microsoft Office Home & Student 2021

14.5″ 2.8K
(2880×1800)
OLED

100% DCI-P3

PANTONE
Validated

VESA DisplayHDR True Black 600

1.63 กก.

Thunderbolt 4 x 2

USB 2.0 x 1

USB-A 3.2 x 1

HDMI 2.1 x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6

Bluetooth 5.0

30,990
ASUS Vivobook S 14X OLED S5402ZA-M9701WS Intel Core
i7-12700H

Intel Iris Xe Graphics

M.2 NVMe
512GB

16GB DDR4
3200MHz

Windows 11 Home

Microsoft Office Home & Student 2021

14.5″ 2.8K
(2880×1800)
OLED

100% DCI-P3

PANTONE
Validated

VESA DisplayHDR True Black 600

1.63 กก.

Thunderbolt 4 x 2

USB 2.0 x 1

USB-A 3.2 x 1

HDMI 2.1 x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6

Bluetooth 5.0

36,990
ASUS ZenBook 14 OLED UX3402ZA-KM504WS Intel Core
i5-1240P

Intel Iris Xe Graphics

M.2 NVMe
512GB

16GB LPDDR5
4800MHz

Windows 11 Home

Microsoft Office Home & Student 2021

14″ 2.8K
(2880×1800)
OLED

Refresh Rate
90Hz

100% DCI-P3

PANTONE
Validated

VESA DisplayHDR True Black 600

1.35 กก.

Thunderbolt 4 x 2

USB-A 3.2 x 1

HDMI 2.0b x 1

MicroSD Card Reader x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6E 

Bluetooth 5.2

35,990
Fujitsu Ultralight UH-X Intel Core
i7-1255U

Intel Iris Xe Graphics

M.2 NVMe
1TB

16GB DDR4
3200MHz

Windows 11 Home

Microsoft Office Home & Student 2021

13.3″ Full HD
IPS

873 กรัม

Thunderbolt 4 x 2

USB-A 3.2 x 2

HDMI x 1

LAN x 1

SD Card
Reader x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6

Bluetooth 5.1

46,990
HUAWEI MateBook X Pro Intel Core
i7-1260P

Intel Iris Xe Graphics

M.2 NVMe
1TB

16GB LPDDR5
4267MHz

Windows 11 Home

Microsoft Office Home & Student 2021

14.2″ 3.1K
(3210×2080)
IPS

Refresh Rate
90Hz

ขอบเขตสี P3

Delta-E <1

1.26 กก.

Thunderbolt 4 x 2

USB-C 3.2
Full Function x 2

Audio combo x 1

Wi-Fi 6

Bluetooth 5.2

79,990

7 โน๊ตบุ๊ค Intel Evo น่าใช้ แบตฯ ทนทำงานดี พกพาสะดวกสุด

โน๊ตบุ๊ค Intel Evo ณ ตอนนี้มีให้เลือกหลากแบรนด์หลายรุ่น เริ่มตั้งแต่ราคาไม่เกิน 30,000 บาทขึ้นไปให้เลือกซื้อไปใช้งานได้ตามต้องการ สเปคจัดว่าตอบโจทย์คนทำงานทั้งนั่งทำงานในออฟฟิศหรือพกติดตัวไปไหนมาไหนเป็นประจำ หากใครกำลังหาโน๊ตบุ๊ค Intel Evo เครื่องใหม่มาแทนเครื่องเก่าที่ทำงานช้าไม่ทันใจแล้ว ผู้เขียนก็มีรุ่นแนะนำมาให้เลือกทั้งหมด 7 รุ่น ได้แก่

  1. Acer Swift 3 SF314-512-56CB (29,990 บาท)
  2. Acer Swift 5 SF514-56T-56M4 (37,990 บาท)
  3. ASUS Vivobook S 14X OLED S5402ZA-M9501WS (30,990 บาท)
  4. ASUS Vivobook S 14X OLED S5402ZA-M9701WS (36,990 บาท)
  5. ASUS ZenBook 14 OLED UX3402ZA-KM504WS (35,990 บาท)
  6. Fujitsu Ultralight UH-X (46,990 บาท)
  7. HUAWEI MateBook X Pro (79,990 บาท)
1. Acer Swift 3 SF314-512-56CB (29,990 บาท)

Acer Swift SF314 01

โน๊ตบุ๊ค Intel Evo เครื่องแรกเป็น Acer Swift 3 SF314-512-56CB ซึ่งได้รีวิวไปก่อนหน้านี้แล้ว โดยข้อดีของมัน คือ ได้เซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือติดตั้งมาให้ใช้งาน ได้จอ 14 นิ้ว ความละเอียด 2K QHD (2560×1440) พาเนล IPS น้ำหนักเพียง 1.25 กิโลกรัม พกพาง่าย ติดตั้งซีพียู Intel Core i5-1240P แบบ 12 คอร์ 16 เธรด (4P+8E) ความเร็ว 3.3-4.4GHz มาให้ ใช้การ์ดจอออนบอร์ด Intel Iris Xe Graphics มี M.2 NVMe SSD ความจุ 512GB ติดตั้ง Windows 11 Home และ Microsoft Office Home & Student 2021 มาให้และแรมอีก 8GB LPDDR4x บัส 4267MHz มีพอร์ต Thunderbolt 4 x 2, USB-A 3.2 x 2, HDMI x 1, Audio combo x 1 ติดตั้งมาให้ เชื่อมต่อ Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax ได้ รองรับ Bluetooth 5.2 ในตัว นอกจากนี้ยังได้กล้องหน้า Acer TNR ลด Noise ในกล้อง Webcam และไมค์ Acer PurifiedVoice ให้เสียงคมชัดและตัดเสียงรบกวนได้ด้วย จัดเป็นโน๊ตบุ๊ค Intel Evo ราคาเป็นมิตรสำหรับคนทำงานและนักเรียนนักศึกษาทุกคนอย่างแน่นอน

สเปคของ Acer Swift 3 SF314-512-56CB
CPU Intel Core i5-1240P แบบ 12 คอร์ 16 เธรด (4P+8E) ความเร็ว 3.3-4.4GHz
GPU Intel Iris Xe Graphics
SSD M.2 NVMe SSD 512GB
RAM 8GB LPDDR4x บัส 4267MHz
Display 14 นิ้ว ความละเอียด 2K QHD (2560×1440) พาเนล IPS
Connectivity Thunderbolt 4 x 2, USB-A 3.2 x 2, HDMI x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.2

Software Windows 11 Home, Microsoft Office Home & Student 2021
Weight 1.25 กิโลกรัม
Price 29,990 บาท คลิ๊กสั่งซื้อที่นี่
2. Acer Swift 5 SF514-56T-56M4 (37,990 บาท)

Acer Notebook Swift SF514 56T 56M4 01

Acer Swift 5 SF514-56T-56M4 นี้เป็นโน๊ตบุ๊ค Intel Evo ระดับพรีเมี่ยมจาก Acer บอดี้อลูมิเนียมที่ตัดด้วยเครื่อง CNC ให้ตัวเครื่องบางเพียง 14.95 มม. เท่านั้นและยังผสานชิ้นส่วนรักษ์โลกอย่างทัชแพดจากกระจก OceanGlass และมีเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือติดตั้งมาให้ใช้เช่นกัน ขนาดตัวเครื่องถือว่าใหญ่กำลังดีเพียง 14 นิ้ว ความละเอียด QHD (2560×1440) พาเนล IPS และเบาเพียง 1.2 กิโลกรัมเท่านั้น ติดตั้งซีพียู Intel Core i5-1240P แบบ 12 คอร์ 16 เธรด (4P+8E) ความเร็ว 3.3~4.4GHz ใช้การ์ดจอออนบอร์ด Intel Iris Xe Graphics มี M.2 NVMe SSD ความจุ 512GB ติดตั้ง Windows 11 Home และ Microsoft Office Home & Student 2021 มาให้กับแรม 16GB LPDDR5 บัส 4800MHz มีพอร์ต Thunderbolt 4 x 2, USB-A 3.2 x 2, HDMI x 1, Audio combo x 1 เชื่อมต่อ Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.2 ได้ในตัว ด้านฟีเจอร์เด่นก็มีฟีเจอร์ Acer TNR ลด Noise ในกล้อง Webcam กับระบบเสียง Acer PurifiedVoice ติดมาให้ใช้งานครบเครื่องแถมยังระบายความร้อนได้ดีด้วยพัดลมระบายความร้อนคู่ในเครื่องอีกด้วย ดังนั้นจะทำงานหนักๆ ก็ไม่มีปัญหาอย่างแน่นอน

สเปคของ Acer Swift 5 SF514-56T-56M4
CPU Intel Core i5-1240P แบบ 12 คอร์ 16 เธรด (4P+8E) ความเร็ว 3.3~4.4GHz
GPU Intel Iris Xe Graphics
SSD M.2 NVMe SSD 512GB
RAM 16GB LPDDR5 บัส 4800MHz
Display 14 นิ้ว ความละเอียด QHD (2560×1440) พาเนล IPS
Connectivity Thunderbolt 4 x 2, USB-A 3.2 x 2, HDMI x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.2

Software Windows 11 Home, Microsoft Office Home & Student 2021
Weight 1.2 กิโลกรัม
Price 37,990 บาท คลิ๊กสั่งซื้อที่นี่
3. ASUS Vivobook S 14X OLED S5402ZA-M9501WS (30,990 บาท)

Asus Notebook Vivobook S 14X OLED 01

ASUS Vivobook S 14X OLED S5402ZA-M9501WS เป็นโน๊ตบุ๊ค Intel Evo พร้อมซีพียู H-Series ประสิทธิภาพสูงสำหรับรันโปรแกรมที่กินทรัพยากรเครื่องหนักๆ ได้เป็นอย่างดี มีเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือ ใช้พร้อมระบบระบายความร้อน ASUS IceCool มาให้ ตัวเครื่องมีขนาด 14.5 นิ้ว ความละเอียด 2.8K (2880×1800) พาเนล OLED ขอบเขตสี 100% DCI-P3 ได้การันตีความเที่ยงตรงสีจาก PANTONE Validated และ VESA DisplayHDR True Black 600 ครบเครื่องและกางหน้าจอได้แบนราบ 180 องศา อีกด้วย ซีพียูเป็น Intel Core i5-12500H แบบ 12 คอร์ 16 เธรด (4P+8E) ความเร็ว 3.3~4.5GHz ใช้การ์ดจอออนบอร์ด Intel Iris Xe Graphics พร้อม M.2 NVMe SSD ความจุ 512GB ติดตั้ง Windows 11 Home และ Microsoft Office Home & Student 2021 กับแรม 16GB DDR4 บัส 3200MHz มีพอร์ต Thunderbolt 4 x 2, USB 2.0 x 1, USB-A 3.2 x 1, HDMI 2.1 x 1, Audio combo x 1 เชื่อมต่อ Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.0 ได้ในตัว น้ำหนัก 1.63 กิโลกรัมเท่านั้น เป็นโน๊ตบุ๊ค Intel Evo พร้อมซีพียูประสิทธิภาพสูง ช่วยให้ทำงานและรันโปรแกรมหนักๆ ได้เป็นอย่างดีและได้พาเนลจอ OLED อีกด้วย จัดเป็นโน๊ตบุ๊คที่น่าใช้มากอีกเครื่องหนึ่งเลย

สเปคของ ASUS Vivobook S 14X OLED S5402ZA-M9501WS
CPU Intel Core i5-12500H แบบ 12 คอร์ 16 เธรด (4P+8E) ความเร็ว 3.3~4.5GHz
GPU Intel Iris Xe Graphics
SSD M.2 NVMe SSD 512GB
RAM 16GB DDR4 บัส 3200MHz
Display 14.5 นิ้ว ความละเอียด 2.8K (2880×1800) พาเนล OLED ขอบเขตสี 100% DCI-P3 ได้การันตีความเที่ยงตรงสีจาก PANTONE Validated และ VESA DisplayHDR True Black 600
Connectivity Thunderbolt 4 x 2, USB 2.0 x 1, USB-A 3.2 x 1, HDMI 2.1 x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.0

Software Windows 11 Home, Microsoft Office Home & Student 2021
Weight 1.63 กิโลกรัม
Price 30,990 บาท คลิ๊กสั่งซื้อที่นี่
4. ASUS Vivobook S 14X OLED S5402ZA-M9701WS (36,990 บาท)

Asus Vivobook S 14X OLED S5402ZA M9701WS Midnight Black 3

ด้าน ASUS Vivobook S 14X OLED S5402ZA-M9701WS รหัสนี้จะแชร์สเปคร่วมกับ Vivobook S 14X OLED ในข้อก่อนแทบทั้งหมด ยกเว้นซีพียูซึ่งถูกอัพเกรดมาเป็น Intel Core i7-12700H แบบ 14 คอร์ 20 เธรด (6P+8E) ความเร็ว 3.5~4.7GHz แทน ให้มี P-Core เพิ่มขึ้นเอาไว้รันโปรแกรมต่างๆ ได้ดีกว่าเดิม เหมาะกับผู้ที่ใช้โปรแกรมกินทรัพยากรเครื่องหนักๆ อย่างเช่น Adobe Photoshop, Lightroom หรือเปิดไฟล์ Microsoft Excel ที่มีข้อมูลและสูตรที่ซับซ้อนเป็นอย่างมาก

สเปคของ ASUS Vivobook S 14X OLED S5402ZA-M9701WS
CPU Intel Core i7-12700H แบบ 14 คอร์ 20 เธรด (6P+8E) ความเร็ว 3.5~4.7GHz
GPU Intel Iris Xe Graphics
SSD M.2 NVMe SSD 512GB
RAM 16GB DDR4 บัส 3200MHz
Display 14.5 นิ้ว ความละเอียด 2.8K (2880×1800) พาเนล OLED ขอบเขตสี 100% DCI-P3 ได้การันตีความเที่ยงตรงสีจาก PANTONE Validated และ VESA DisplayHDR True Black 600
Connectivity Thunderbolt 4 x 2, USB 2.0 x 1, USB-A 3.2 x 1, HDMI 2.1 x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.0

Software Windows 11 Home, Microsoft Office Home & Student 2021
Weight 1.63 กิโลกรัม
Price 36,990 บาท คลิ๊กสั่งซื้อที่นี่
5. ASUS ZenBook 14 OLED UX3402ZA-KM504WS (35,990 บาท)

Asus Notebook Zenbook 14 OLED 01

จุดเด่นของ ASUS ZenBook 14 OLED UX3402ZA-KM504WS ที่ต้องเลือกมาแนะนำในบทความโน๊ตบุ๊ค Intel Evo นี้ ทั้งตัวเครื่องบางพกสะดวกและเบาเพียง 1.35 กิโลกรัม มีแป้น ASUS NumberPad 2.0 กดสลับทัชแพดเป็น Numpad ไว้พิมพ์ตัวเลขได้ง่ายๆ ลำโพง Dolby Atmos พร้อมชิป DSP Smart Amp และเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือตรงปุ่ม Power ได้จอขนาดกะทัดรัดพกง่าย 14 นิ้ว ความละเอียด 2.8K (2880×1800) พาเนล OLED ขอบเขตสีกว้าง 100% DCI-P3 ได้รับการรับรอง PANTONE Validated และ VESA DisplayHDR True Black 600 ค่า Refresh Rate 90Hz ซีพียูเป็น Intel Core i5-1240P แบบ 12 คอร์ 16 เธรด (4P+8E) ความเร็ว 3.3~4.4GHz ได้การ์ดจอออนบอร์ด Intel Iris Xe Graphics มี M.2 NVMe SSD ความจุ 512GB ติดตั้ง Windows 11 Home และ Microsoft office Home & Student 2021 กับแรม 16GB LPDDR5 บัส 4800MHz มาให้ มีพอร์ต Thunderbolt 4 x 2, USB-A 3.2 Gen 2 x 1, HDMI 2.0b x 1, MicroSD Card Reader x 1, Audio combo x 1 เชื่อมต่อ Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.2 ในตัว จัดเป็นโน๊ตบุ๊ค Intel Evo อีกรุ่นที่น่าใช้มาก หากใครต้องการอ่านรีวิวฉบับเต็มสามารถคลิ๊กอ่านได้ที่นี่

สเปคของ ASUS ZenBook 14 OLED UX3402ZA-KM504WS
CPU Intel Core i5-1240P แบบ 12 คอร์ 16 เธรด (4P+8E) ความเร็ว 3.3~4.4GHz
GPU Intel Iris Xe Graphics
SSD M.2 NVMe SSD 512GB
RAM 16GB LPDDR5 บัส 4800MHz
Display 14 นิ้ว ความละเอียด 2.8K (2880×1800) พาเนล OLED ขอบเขตสีกว้าง 100% DCI-P3 ได้รับการรับรอง PANTONE Validated และ VESA DisplayHDR True Black 600 ค่า Refresh Rate 90Hz
Connectivity Thunderbolt 4 x 2, USB-A 3.2 Gen 2 x 1, HDMI 2.0b x 1, MicroSD Card Reader x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.2

Software Windows 11 Home, Microsoft office Home & Student 2021
Weight 1.35 กิโลกรัม
Price 35,990 บาท คลิ๊กสั่งซื้อที่นี่
6. Fujitsu Ultralight UH-X (46,990 บาท)

Fujitsu Notebook UH X 4ZR1J37871 White 01

แข็งแรงทนทานแต่เบาไม่ถึงกิโลกรัมแถมพอร์ตจัดเต็มล้นเครื่อง เป็นคำจำกัดความที่ดีสุดสำหรับ Fujitsu Ultralight UH-X โน๊ตบุ๊ค Intel Evo รุ่นนี้และยังมีเซนเซอร์สแกนใบหน้าเอาไว้ยืนยันตัวปลดล็อคเครื่องได้ด้วยและน้ำหนักเครื่องเพียง 873 กรัม ตัวเครื่องขนาด 13.3 นิ้ว ความละเอียด Full HD (1920×1080) พาเนล IPS ใช้ซีพียู Intel Core i7-1255U แบบ 10 คอร์ 12 เธรด (2P+8E) ความเร็ว 3.5~4.7GHz การ์ดจอ Intel Iris Xe Graphics มี M.2 NVMe SSD ความจุ 1TB ติดตั้ง Windows 11 Home และ Microsoft Office Home & Student 2021 มาให้ใช้กับแรมอีก 16GB DDR4 บัส 3200MHz มีพอร์ต Thunderbolt 4 x 2, USB-A 3.2 x 2, HDMI x 1, LAN x 1, SD Card Reader x 1, Audio combo x 1 เชื่อมต่อ Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.1 ได้ด้วย หากใครหาโน๊ตบุ๊ค Intel Evo ที่เบาสุดๆ มีพอร์ตให้ใช้งานครบเครื่อด้วยล่ะก็ Fujitsu UH-X นี้ถือว่าน่าสนใจมาก

สเปคของ Fujitsu Ultralight UH-X
CPU Intel Core i7-1255U แบบ 10 คอร์ 12 เธรด (2P+8E) ความเร็ว 3.5~4.7GHz
GPU Intel Iris Xe Graphics
SSD M.2 NVMe SSD 1TB
RAM 16GB DDR4 บัส 3200MHz
Display 13.3 นิ้ว ความละเอียด Full HD (1920×1080) พาเนล IPS
Connectivity Thunderbolt 4 x 2, USB-A 3.2 x 2, HDMI x 1, LAN x 1, SD Card Reader x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.1

Software Windows 11 Home, Microsoft Office Home & Student 2021
Weight 873 กรัม
Price 46,990 บาท คลิ๊กสั่งซื้อที่นี่
7. HUAWEI MateBook X Pro (79,990 บาท)

Huawei Notebook MateBook X Pro 02

สุดท้ายเป็นโน๊ตบุ๊ค Intel Evo ระดับพรีเมี่ยมอย่าง HUAWEI MateBook X Pro ซึ่งจุดเด่นอยู่ที่หน้าจอ 14.2 นิ้ว ความละเอียด 3.1K (3210×2080) พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 90Hz อัตราส่วน 3:2 นั้นเป็นจอ ขอบเขตสีกว้าง P3 ค่าความแม่นยำสี Delta-E <1 และน้ำหนักเบาเพียง 1.26 กิโลกรัม ใช้ซีพียู Intel Core i7-1260P แบบ 12 คอร์ 16 เธรด (4P+8E) ความเร็ว 3.4~4.7GHz ใช้การ์ดจอออนบอร์ด Intel Iris Xe Graphics มี M.2 NVMe SSD ความจุ 1TB ติดตั้ง Windows 11 Home และ Microsoft Office Home & Student 2021 กับแรม 16 GB LPDDR5 บัส 4267MHz มาให้ใช้งาน มีพอร์ต Thunderbolt 4 x 2, USB-C 3.2 Full Function x 2, Audio combo x 1 เชื่อมต่อ Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.2 ได้ มีเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือติดตั้งมาให้ที่ปุ่ม Power และมีลำโพงติดตั้งมาให้ทั้งหมด 6 ตัว ให้เสียงมีมิติยิ่งขึ้นและถ้าใครใช้สมาร์ทโฟน HUAWEI ก็ใช้ฟีเจอร์ HUAWEI Share นำหน้าจอสมาร์ทโฟนมาใช้งานบน HUAWEI MateBook ได้อีกด้วย ต้องถือว่าเป็นโน๊ตบุ๊คระดับพรีเมี่ยมที่น่าใช้อีกรุ่นหนึ่ง แต่แนะนำให้หา USB-C Multiport Adapter มาเผื่อเอาไว้ใช้ด้วยจะดีมาก

สเปคของ HUAWEI MateBook X Pro
CPU Intel Core i7-1260P แบบ 12 คอร์ 16 เธรด (4P+8E) ความเร็ว 3.4~4.7GHz
GPU Intel Iris Xe Graphics
SSD M.2 NVMe SSD 1TB
RAM 16 GB LPDDR5 บัส 4267MHz
Display 14.2 นิ้ว ความละเอียด 3.1K (3210×2080) พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 90Hz อัตราส่วน 3:2 ขอบเขตสีกว้าง P3 ความแม่นยำสี Delta-E <1
Connectivity Thunderbolt 4 x 2, USB-C 3.2 Full Function x 2, Audio combo x 1

Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.2

Software Windows 11 Home, Microsoft Office Home & Student 2021
Weight 1.26 กิโลกรัม
Price 79,990 บาท คลิ๊กสั่งซื้อที่นี่

computer 2982270 1280

จะเห็นว่าโน๊ตบุ๊ค Intel Evo นั้นมีตั้งแต่รุ่นราคาเริ่มต้นไม่เกิน 30,000 บาท ไปจนรุ่นพรีเมี่ยมซึ่งใช้วัสดุกับพาร์ทคุณภาพดีขึ้น ไม่ว่าจะพาเนลจอ OLED ขอบเขตสีกว้าง, ชิป DSP และระบบเสียง Dolby Atmos และฟีเจอร์อื่นๆ อีกหลากหลายอย่างที่ทางผู้ผลิตใส่มาให้ใช้กัน โดยส่วนตัวผู้เขียนเองได้ใช้โน๊ตบุ๊ค Intel Evo มาระยะหนึ่งแล้วต้องถือว่าน่าลงทุนซื้อมาใช้อย่างแน่นอน เพราะนอกจากแบตเตอรี่จะทนทานและเบาพกง่ายเป็นทุนเดิมแล้ว ประสิทธิภาพของชิป Intel ก็ทำงานได้รวดเร็วทันใจและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

แต่อย่างไรก็ตาม นอกจากโน๊ตบุ๊คจะดีก็อยากแนะนำให้หาซื้ออุปกรณ์เสริมต่างๆ มาใช้คู่กับโน๊ตบุ๊ค Intel Evo สัก 1-2 ชิ้นด้วย อย่างแรกคือ USB-C Multiport adapter ไว้แปลงพอร์ต Thunderbolt 4 หรือ USB-C Full Function เป็นพอร์ตพื้นฐานอื่นๆ อย่างเช่น USB-A 3.0, HDMI, VGA ฯลฯ ให้ใช้งานได้สะดวกยิ่งขึ้นและเมาส์ Ergonomic สักตัว จะช่วยให้ทำงานได้มีความสุขยิ่งกว่าเดิมมาก


บทความที่เกี่ยวข้อง

ตัวรับWifi

7MouseBluetooth 1 1

8หูฟังไอโฟน

from:https://notebookspec.com/web/691472-7-recommend-intel-evo-laptop

5 เมาส์บลูทูธยี่ห้อไหนดี? เพื่อคนทำงานโดยเฉพาะ จับทั้งวันไม่เมื่อย ถูกหลักสรีรศาสตร์

เมาส์บลูทูธยี่ห้อไหนดีถึงจะดีต่อสายทำงานกันนะ?

7MouseBluetooth 1 1

 

Advertisementavw

เมาส์บลูทูธยี่ห้อไหนดีเป็นคำถามยอดนิยมในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมานี้เพราะผู้ใช้หลายๆ คนที่ทำงาน Work From Home แล้วหาข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ มาจัดโต๊ะคอมให้บรรยากาศดีถ่ายรูปสวยขึ้น แล้วหลายคนก็คิดต่อว่าจะซื้อเมาส์บลูทูธยี่ห้อไหนดีถึงจะถนอมข้อมือและดีต่อสุขภาพ ไม่ให้อาการ Office syndrome ถามหาในอนาคตด้วย ซึ่งปัจจัยหลายๆ ข้อนี้รวมกันก็ทำให้ผู้ใช้หลายคนหันมาซื้อเมาส์บลูทูธที่ออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์มากยิ่งขึ้น ซึ่งเมาส์เหล่านี้จะมีคำว่า Ergonomic ตามท้ายมาด้วยเสมอ

ด้านดีไซน์ของเมาส์บลูทูธที่ออกแบบมาให้ถูกหลักสรีรศาสตร์ที่มีขายในท้องตลาด ณ ตอนนี้มี 2 แบบหลักๆ ได้แก่เมาส์แบบ Ergonomic ซึ่งออกแบบมาให้เข้ากับรูปมือและการวางมือมากที่สุด ตัวเมาส์จะยกเฉียงขึ้นเล็กน้อยให้เข้าอุ้งมือของผู้ใช้ยิ่งขึ้นและมีปุ่มใช้งานต่างๆ ติดตั้งมาให้พร้อมเสริมฟีเจอร์ต่างๆ มาให้ใช้อีกเพียบ และในช่วงนี้เมาส์แนวตั้ง (Vertical Ergonomic Mouse) ก็ได้รับความนิยมมากขึ้น ซึ่งเมาส์ทรงนี้ออกแบบให้ตัวเมาส์เป็นครีบแนวตั้งขึ้นมาเกือบตั้งฉาก 90 องศา ทำมุมเข้ามือได้พอดีไม่ต้องบิดข้อมือเข้ากับเมาส์ให้ใช้งานได้เป็นธรรมชาติไม่ปวดข้อมือ ซึ่งเมาส์แนวตั้งเหล่านี้ปัจจุบันราคาเพียงหลักร้อยไปจนถึงพันบาทต้นๆ ก็หาซื้อมาใช้งานได้แล้ว

เมาส์บลูทูธยี่ห้อไหนดี

ด้านข้อดีของเมาส์บลูทูธแบบ Ergonomic จะมีข้อดีหลายอย่างและดีต่อคนทำงานอย่างมากแถมยังพกไปไหนมาไหนได้ง่าย ซึ่งถ้าจะจำกัดความข้อดีเป็นข้อๆ จะมีดังนี้

  1. ดีไซน์เมาส์เข้ากับสรีระร่างกาย – เมาส์แนวตั้งหรือเมาส์ Ergonomic ถูกออกแบบมาให้เข้ากับทรงมือของผู้ใช้และลดอาการกล้ามเนื้อล้าเมื่อใช้ต่อเนื่องนานหลายชั่วโมง ยิ่งถ้าเป็นเมาส์แนวตั้งก็ยิ่งดี เพราะทำให้การวางแขนจับเมาส์เป็นธรรมชาติที่สุดเหมือนวางมือแนบข้างลำตัวนั่นเอง
  2. ลดอาการโรคการกดทับเส้นประสาทบริเวณข้อมือ (carpal tunnel syndrome) – แม้เมาส์ทั่วไปจะจับใช้งานได้ แต่ถ้าใช้ต่อเนื่องหลายชั่วโมงก็จะค่อยๆ สะสมอาการล้าที่แขนและข้อมือขึ้นเรื่อยๆ จนพัฒนาเป็นอาการชาจนก่อปัญหาต่อการใช้ชีวิตประจำวัน ซึ่งเมาส์เหล่านี้ลดอาการกล้ามเนื้อล้าที่แขนและข้อมือไปได้
  3. มีฟีเจอร์ติดมาให้ใช้งานหลากหลาย – ถ้าถามหาเมาส์บลูทูธยี่ห้อไหนดีที่เหมาะกับการทำงาน ณ ตอนนี้หลายๆ แบรนด์นอกจากดีไซน์แล้วยังเสริมฟีเจอร์ต่างๆ เข้ามาให้เพียบทั้งปุ่มเสริมต่างๆ นอกจากการคลิ๊ก Forward/Backward หรือปุ่มปรับ DPI แล้ว บางรุ่นก็ติดสกรอล์เมาส์ในแนวนอน, ปุ่มเสริมรวมไปถึงเซนเซอร์แบบพิเศษสำหรับใช้งานบนกระจกใสได้และยังมีโปรแกรมตั้งค่าเมาส์ให้โหลดมาใช้งานได้อีกด้วย
  4. ช่วยให้ท่านั่งทำงานดียิ่งขึ้น – เชื่อว่าหลายคนอาจสงสัยว่าเมาส์ตัวเดียวจะทำให้เปลี่ยนท่านั่งให้ดีขึ้นได้จริงหรือ? ซึ่งเมาส์ Ergonomic เหล่านี้ถูกดีไซน์ให้เข้ากับทรงมือของมนุษย์ แต่ถ้านั่งไม่เข้าที่หรือวางแขนไม่ถูกท่าก็จะจับเมาส์ไม่ถนัดเท่าที่ควร ซึ่งวิธีจับเมาส์ที่ถูกต้องจะต้องจับแขนตรงเข้าเมาส์แล้วศอกทำมุมกับแขนให้ได้ 90 องศา ซึ่งพอตั้งศอกเข้าที่ให้จับเมาส์ได้ถูกต้อง ก็จะต้องนั่งให้หลังตรงทำให้เราต้องปรับท่านั่งไปโดยปริยายนั่นเอง
  5. รองรับหลากหลายระบบปฏิบัติการ – เมาส์บลูทูธหลายๆ รุ่นในปัจจุบันสามารถใช้งานได้หลากหลายระบบปฏิบัติการ ไม่ว่าจะ macOS, Windows, Linux ไปจน Chrome OS ก็เชื่อมต่อใช้งานได้ทันที และยังโหลดโปรแกรมสำหรับตั้งค่ามาติดตั้งใช้งานได้ทันทีอีกด้วย

จะเห็นว่าแค่ตั้งคำถามว่าจะเลือกเมาส์บลูทูธยี่ห้อไหนดีที่ถูกหลักสรีรศาสตร์เอาไว้ทำงาน ก็จะส่งผลต่อไปเป็นทอดๆ ให้ผู้ใช้ทำงานได้ดีแล้วลดอาการ Office syndrome ไปโดยปริยายและยังมีฟังก์ชั่นเสริมให้ทำงานได้สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้นอีกด้วย ถ้าใครนั่งทำงานหน้าคอมต่อเนื่องหลายชั่วโมงก็น่าลงทุนซื้อมาใช้มากๆ จะได้ทำงานได้รวดเร็วและสะดวกยิ่งขึ้น แถมเมาส์เหล่านี้แบตเตอรี่ยังทนทานใช้งานได้หลายวัน ตั้งแต่ 10 วันไปจน 1-2 เดือน แถมบางรุ่นยังมีฟีเจอร์ชาร์จไวติดมาให้ใช้อีกด้วย จัดว่าล้ำสมัยมากๆ

สรุปสเปคเมาส์บลูทูธยี่ห้อไหนดีทั้ง 5 รุ่น เด็ดดีน่าใช้มีเอาไว้ใช้สะดวกดี!

สเปคเมาส์บลูทูธยี่ห้อไหนดี Connectivity

Device

DPI Battery Life Program

Supported OS

ราคา
(บาท)
Delux M618XSD Seeker Bluetooth 4.0

Bluetooth 5.0

USB 2.4GHz

USB-C

4 อุปกรณ์

800 / 1,200 / 1,600 / 2,400 / 4,000 DPI 2 สัปดาห์

ชาร์จด้วย USB-C

โปรแกรมของ
Delux

Windows

1,499
Logitech Lift Vertical Ergonomic Mouse Bluetooth

Logi Bolt

3 อุปกรณ์

400~4,000 DPI แบตเตอรี่ AA x 1

ใช้ได้ 2 ปี

Logi Options+

Windows

macOS

Chrome OS

Linux

1,859
Logitech MX Master 3S Bluetooth

Logi Bolt

3 อุปกรณ์

เซนเซอร์ Darkfield

200~8,000 DPI

70 วัน

ชาร์จไว 1 นาที
ใช้ได้ 3 ชั่วโมง

ชาร์จด้วย USB-C

Logi Options+

Windows

macOS

Linux

Chrome OS

iPadOS 14

Android 8.0

3,390
Microsoft Bluetooth Ergonomic Mouse Bluetooth 5.0

3 อุปกรณ์

สูงสุด
2,400 DPI
แบตเตอรี่ AAA x 2

ใช้ได้ 15 เดือน

Mouse and Keyboard Center

Windows

1,349
Razer Orochi V2 Bluetooth

Razer HyperSpeed

สูงสุด
18,000 DPI
Bluetooth
950 ชั่วโมง

Razer HyperSpeed
425 ชั่วโมง

แบตเตอรี่
AA หรือ AAA
2 ก้อน

Razer Synapse 3

Windows

2,490

เมาส์บลูทูธยี่ห้อไหนดี? รวม 5 รุ่นเด็ดถูกหลักสรีรศาสตร์ ถูกใจคนทำงานแน่นอน!

ถ้าใครคิดว่าจะซื้อเมาส์บลูทูธยี่ห้อไหนดีมาทำงานแล้วกำลังหาข้อมูลอยู่หรือคิดว่าจะเลือกจากบทความนี้ไปเลย ผู้เขียนก็มีเมาส์บลูทูธให้เลือก 5 รุ่นจากแบรนด์ชั้นนำที่ผู้ใช้หลายๆ คนรู้จักดีให้เลือกดังนี้

  1. Delux M618XSD Seeker (1,499 บาท)
  2. Logitech Lift Vertical Ergonomic Mouse (1,859 บาท)
  3. Logitech MX Master 3S (3,390 บาท)
  4. Microsoft Bluetooth Ergonomic Mouse (1,349 บาท)
  5. Razer Orochi V2 (2,490 บาท)
1. Delux M618XSD Seeker (1,499 บาท)

07c96aaff18b6e7532eab1ce2c01467d

สำหรับเมาส์บลูทูธแบรนด์ที่อยู่คู่ตลาดคอมพิวเตอร์มานานเช่น Delux ก็มี Delux M618XSD Seeker เมาส์บลูทูธแนวตั้งติดที่รองสันมือแบบถอดได้ให้เลือก โดยจุดเด่นของมันคือที่ขอบเมาส์ด้านที่หันเข้าหาผู้ใช้มีจอ OLED ติดมาให้แสดงผลด้วย ว่าตอนนี้เมาส์เซ็ตค่า DPI เอาไว้เท่าไหร่และเชื่อมต่อแบบไหนอยู่ เพราะมันเชื่อมต่อด้วย Bluetooth 4.0, Bluetooth 5.0, USB 2.4GHz Dongle ได้ เชื่อมต่อได้มากสุด 4 เครื่องด้วยกัน มี Thumb Scroll Wheel เอาไว้เลื่อนขึ้นลงได้ เอาไว้เลื่อนจอไปด้านซ้ายและขวาได้และตั้งค่าเมาส์ได้ 6 ปุ่ม ปรับค่า DPI ได้สูงสุด 800 / 1,200 / 1,600 / 2,400 / 4,000 DPI และเปลี่ยนกริพหลังเมาส์ได้ว่าเป็นแบบหน้าเรียบหรือเจาะรูให้ไฟ RGB ลอดก็ได้ ชาร์จแบตเตอรี่ผ่านพอร์ต USB-C ที่ตัวเมาส์ใช้งานได้นานสุด 2 สัปดาห์ มีโปรแกรมตั้งค่าเมาส์ให้โหลดไปตั้งค่าได้อีกด้วย แต่จะรองรับ Windows เป็นหลัก ถ้าใครไม่รู้ว่าจะซื้อเมาส์บลูทูธยี่ห้อไหนดีก็ซื้อเมาส์ Delux ตัวนี้ไปใช้ได้และมันก็มีฟีเจอร์ให้ใช้เยอะทีเดียว

สเปคของ Delux M618XSD Seeker
Connectivity & Device Bluetooth 4.0, Bluetooth 5.0, USB 2.4GHz, USB-C
รวม 4 อุปกรณ์
DPI 800 / 1,200 / 1,600 / 2,400 / 4,000 DPI
Battery Life 2 สัปดาห์ ชาร์จผ่าน USB-C
Program

Supported OS

โปรแกรมของ Delux

Windows

Price 1,499 บาท (delux.th Shopee)
2. Logitech Lift Vertical Ergonomic Mouse (1,859 บาท)

lift intro pink tablet 1

Logitech Lift Vertical Ergonomic Mouse ตัวนี้เป็นเมาส์บลูทูธรุ่นที่ออกแบบและพัฒนาใน Logi Ergo Lab และได้รับการรับรองจากสถาบันด้านสรีรศาสตร์ชั้นนำ ทำให้ผู้ใช้จับได้สบายมือและเป็นธรรมชาติยิ่งขึ้น โดยตัวเมาส์จะเอียงทำมุม 57 องศาซึ่งเข้ากับมือของมนุษย์ที่สุด ได้สกรอล์เมาส์ SmartWheel แบบเลื่อนหน้าจอตามความเร็วการเลื่อนของผู้ใช้ มีโปรแกรม Logi Options+ เอาไว้ตั้งค่าตัวเมาส์ โหลดไปใช้ได้ทั้ง Windows, macOS, Chrome OS, Linux ใช้ปรับค่า DPI ก็ตั้งได้ตั้งแต่ 400~4,000 DPI เซ็ตปุ่มลัดทั้ง 6 ปุ่มบนเมาส์ได้ตามถนัด รองรับ Logitech Flow ใช้เมาส์คีย์บอร์ด Logitech Master Series เซ็ตเดียวคุมคอมพิวเตอร์ที่จับคู่กับเมาส์นี้ได้ 3 เครื่อง แถมรับส่งไฟล์ข้ามเครื่องได้ เชื่อมต่อ Bluetooth และ USB 2.4GHz Dongle “Logi Bolt” ใช้แบตเตอรี่ AA เพียง 1 ก้อน ใช้งานได้นานสุด 2 ปี จัดเป็นเมาส์ฟีเจอร์ดีล้นตัวเพื่อสายทำงานโดยเฉพาะ ยิ่งถ้าใครใช้คอมพิวเตอร์หลายเครื่องต่างระบบปฏิบัติการกันก็น่าใช้เมาส์ตัวนี้มากๆ แถมมันยังดีต่อสรีระของเราอีกด้วย

สเปคของ Logitech Lift Vertical Ergonomic Mouse
Connectivity & Device Bluetooth, USB 2.4GHz Dongle “Logi Bolt”
เชื่อมต่อได้ 3 อุปกรณ์
DPI 400~4,000 DPI
Battery Life แบตเตอรี่ AA x 1 ก้อน ใช้งานได้นานสุด 2 ปี
Program

Supported OS

Logi Options+

Windows, macOS, Chrome OS, Linux

Price 1,859 บาท (Hardware Corner Shopee)
3. Logitech MX Master 3S (3,390 บาท)

mx master 3s mouse top side view graphite

ถ้าคิดว่าจะลงทุนซื้อของดีมาใช้งานแต่ยังคิดไม่ออกว่าจะซื้อเมาส์บลูทูธยี่ห้อไหนดี ส่วนตัวผู้เขียนอยากแนะนำให้ลงทุนซื้อ Logitech MX Master 3S รุ่นใหม่ที่พัฒนาจาก MX Master 3 มาใช้ เพราะเมาส์นี้จับถนัดมือมากและมีฟีเจอร์ให้ใช้ล้นตัวไม่ว่าจะปรับค่า DPI ได้ตั้งแต่ 200~8,000 DPI ตั้งค่าปุ่มบนตัวเมาส์ทั้ง 7 ปุ่มได้ด้วยโปรแกรม Logi Options+ และเซนเซอร์เมาส์เป็น Darkfield ความแม่นยำสูงและใช้บนกระจกใสที่มีความหนาระดับหนึ่งได้อีกด้วย ถ้าเป็นโต๊ะกระจกร้านกาแฟไม่มีปัญหาแน่นอน ใช้งานได้ทั้ง Windows, macOS, Linux, Chrome OS, iPadOS 14, Android 8.0 สกรอล์เมาส์ของ MX Master 3S มี 2 ตัว แยกเป็นสกรอล์เลื่อนจอแนวนอนและแนวตั้งเป็น MagSpeed ไว้เลื่อนบรรทัดบนหน้าจอได้อย่างรวดเร็วถึง 1,000 บรรทัดใน 1 วินาที แบตเตอรี่ในตัวเมื่อชาร์จเต็มใช้งานได้นานสุด 70 วัน รองรับชาร์จไว 1 นาที ใช้งานได้ 3 ชั่วโมงด้วยสาย USB-C เชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ได้มากสุด 3 เครื่องด้วย USB 2.4GHz Dongle “Logi Bolt” และ Bluetooth รองรับ Logitech Flow สำหรับคุมคอมพิวเตอร์ 3 เครื่องด้วยเมาส์คีย์บอร์ด Logitech Master Series ชุดเดียว เป็นรุ่นในใจที่ผู้เขียนขอแนะนำให้ลองซื้อมาใช้งานหากคิดว่าจะซื้อเมาส์บลูทูธยี่ห้อไหนดีเอาไว้ทำงาน

สเปคของ Logitech MX Master 3S
Connectivity & Device USB 2.4GHz Dongle “Logi Bolt”, Bluetooth เชื่อมต่อได้ 3 เครื่อง
DPI เซนเซอร์ Darkfield 200~8,000 DPI
Battery Life 70 วัน รองรับชาร์จไว 1 นาที ใช้งานได้ 3 ชั่วโมง
ชาร์จด้วยสาย USB-C
Program

Supported OS

 Logi Options+

Windows, macOS, Linux, Chrome OS, iPadOS 14, Android 8.0

Price 3,390 บาท (Hardware Corner Shopee)
4. Microsoft Bluetooth Ergonomic Mouse (1,349 บาท)

7cc66928b61b2c2c545a93dba403837e

 

แม้จะมีชื่อเสียงด้านซอฟท์แวร์และเป็นระบบปฏิบัติการแรกของใครหลายคน แต่เมาส์ Microsoft Bluetooth Ergonomic Mouse ก็เป็นเมาส์ Ergonomic น่าใช้อีกรุ่นหากใครกำลังคิดว่าจะซื้อเมาส์บลูทูธยี่ห้อไหนดี โดยทางบริษัทออกแบบตัวเมาส์ให้เข้ากับสรีรศาสตร์ของมือมนุษย์และใช้บอดี้เป็นพลาสติกเนื้อเดียวต่อเนื่องและเลือกได้หลากหลายสี จับถนัดมือไมหลุดง่ายแถมยังมีปีกเมาส์ไว้พักนิ้วโป้งติดมาให้ด้วย ตัวเมาส์เชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ได้มากสุด 3 เครื่อง ผ่าน Bluetooth 5.0 และกดสลับตัวเครื่องไปมาได้ง่ายๆ ใช้แบตเตอรี่ AAA x 2 ก้อน ใช้งานได้นานสุด 15 เดือน รองรับระบบปฏิบัติการ Windows เป็นหลัก ปรับค่า DPI ได้สูงสุด 2,400 DPI ด้วยโปรแกรม Mouse and Keyboard Center ของ Microsoft เอง จัดเป็นเมาส์สายทำงานหน้าตาเรียบง่ายแต่สีสวยที่ออกแบบมาเพื่อผู้ใช้ Windows โดยเฉพาะ หากใครใช้คอมพิวเตอร์ Windows เป็นหลักก็น่าซื้อมาใช้งานมาก

สเปคของ Microsoft Bluetooth Ergonomic Mouse
Connectivity & Device Bluetooth 5.0 เชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ได้ 3 เครื่อง
DPI  สูงสุด 2,400 DPI
Battery Life แบตเตอรี่ AAA x 2 ก้อน ใช้งานได้นาน 15 เดือน
Program

Supported OS

Mouse and Keyboard Center

Windows

Price 1,349 บาท (pchanakarn. Shopee)
5. Razer Orochi V2 (2,490 บาท)

393636d4d01a0a0c15b8312c32856996

Razer Orochi V2 เป็นเมาส์บลูทูธเกมมิ่งน้ำหนักเบาสำหรับเกมเมอร์ที่อยากซื้อเมาส์ตัวเดียวเอาไว้ใช้กับเกมมิ่งพีซีที่บ้านแล้วพกไปทำงานหรือเล่นเกมที่ไหนก็ได้ ตัวเมาส์จับถนัดทั้ง Claw, Palm, Fingertip Grip และน้ำหนักเบาเพียง 60 กรัมเท่านั้น เชื่อมต่อผ่าน Bluetooth ใช้งานได้นานสุด 950 ชั่วโมง ส่วน USB 2.4GHz Dongle “Razer HyperSpeed” จะเหลือ 425 ชั่วโมง แต่เหมาะกับตอนเล่นเกมเป็นพิเศษ ใช้แบตเตอรี่ AA หรือ AAA x 2 ก้อนเท่านั้น ใช้โปรแกรม Razer Synapse 3 ตั้งค่า DPI เมาส์ได้สูงสุด 18,000 DPI ซึ่งเมาส์นี้จาก Razer จัดเป็นเมาส์ลูกผสมที่เน้นใช้งานได้รอบด้าน ทำงานดีเล่นเกมก็ได้และยังประหยัดแบตเตอรี่ด้วยแต่เหมาะกับระบบปฏิบัติการ Windows เป็นหลัก หากใครคิดอยู่ว่าจะซื้อเมาส์บลูทูธยี่ห้อไหนดีเอาไว้ใช้ได้หมดทั้งทำงานและเล่นเกมล่ะก็ Razer Orochi V2 ตัวนี้ก็จัดว่าน่าสนใจมากๆ เช่นกัน

สเปคของ Razer Orochi V2
Connectivity & Device  Bluetooth, USB 2.4GHz Dongle “Razer HyperSpeed”
DPI  สูงสุด 18,000 DPI
Battery Life Bluetooth 950 ชั่วโมง, Razer HyperSpeed 425 ชั่วโมง

ใช้แบตเตอรี่ AA หรือ AAA x 2 ก้อน

Program

Supported OS

Razer Synapse 3

Windows

Price 2,290 บาท (Razer Shopee Mall)

yasin hasan RwLX8q5Y2qQ unsplash 1

จะเห็นว่ายุคนี้เมาส์บลูทูธดีๆ มีให้เลือกมากมายหลายรุ่น มีทั้งดีไซน์ทั่วไป, แบบ Ergonomic หรือจะหาเอาไว้เผื่อเล่นเกมก็มีให้เลือกเช่นกัน ขอแค่พีซีเครื่องนั้นมีตัวรับสัญญาณ Bluetooth ติดไว้ก็พอ หรือไม่ก็ซื้อตัวรับสัญญาณ WiFi ไปติดเพิ่มก็ใช้งานได้เช่นกัน แถมไม่ต้องห่วงว่าตัว USB 2.4GHz Dongle หายแล้วจะใช้งานไม่ได้ด้วย เชื่อว่าใช้สะดวกถูกใจใครหลายๆ คนแน่นอน


บทความที่เกี่ยวข้อง

ตัวรับWifi

8หูฟังไอโฟน

8ตัวปล่อยสัญญาณWiFi 1

from:https://notebookspec.com/web/690854-5-recommend-ergonomic-bluetooth-mouse

8 หูฟังไอโฟนเพื่อคนรักเสียงเพลง ออกกำลังกายก็เลิศ! อัพเดทปี 2023

หูฟังไอโฟนยุคใหม่ๆ เสียงดีฟังเพลงเพลินสุดๆ โดนเอาไว้ฟินหูสุด!

8หูฟังไอโฟน

ถ้าพูดถึงหูฟังไอโฟนเมื่อไหร่ ใครหลายๆ คนก็จะนึกถึงบรรดา AirPods ซึ่งเป็นหูฟัง True Wireless ที่เกิดมาใช้คู่กันกับ iPhone โดยเฉพาะ ซึ่งแม้หลายๆ คนจะรู้สึกไม่คุ้นชินไม่คุ้นตาไม่คุ้นชินกับหูฟังแบบนี้เท่าไหร่ก็ตาม แต่หลังจากปี 2016 เป็นต้นมา ผู้ผลิตหูฟังแบรนด์ต่างๆ ก็พากันเปิดตัวหูฟังประเภทนี้ออกมาอย่างต่อเนื่องหลากหลายรุ่นจนผู้ใช้ส่วนใหญ่ยอมรับหูฟังประเภทนี้แล้วมีติดตัวใช้ในกิจกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเที่ยว, ทำงาน, เล่นเกม แต่บางทีการออกกำลังกายก็ไม่เหมาะกับหูฟัง True Wireless เท่าไหร่ เพราะตอนออกท่าทางแล้วหลายๆ คนก็พลอยทำหูฟังข้างใดข้างหนึ่งหายโดยไม่ตั้งใจ บางคนจึงมีหูฟังไอโฟนแบบ Lace Earbuds ซึ่งเป็นหูฟังบลูทูธแบบมีสายคล้องคอและเชื่อมระหว่างหูทั้งสองข้างไว้ เวลาออกท่าทางเมื่อไหร่ก็แค่หลุดแล้วพาดคอเอาไว้ไม่ได้หล่นหายไปไหนอย่างแน่นอน

Advertisementavw

สำหรับจุดแข็งของหูฟังไอโฟน นอกจากเรื่อง Gesture Control ทั้งการแตะ, รูดก้านหูฟังเพื่อควบคุมการเปลี่ยนเพลงหรือเพิ่มลดเสียงในหูฟังได้แล้ว ทาง Apple ก็ติดตั้งชิปพิเศษอย่าง Apple H1, H2 สำหรับปรับแต่งคุณภาพเสียงให้ดียิ่งขึ้นก่อนออกยังไดรเวอร์และแอมปลิฟายเออร์ในตัว AirPods ให้ผู้ใช้ได้ฟังเพลงให้ได้อรรถรสยิ่งกว่าเดิมและชิปนี้ยังเอาไว้ใช้จับคู่กับ iPhone ได้อย่างรวดเร็วอีกด้วย เรียกว่าเป็นฟีเจอร์ซึ่งผู้ใช้หลายๆ คนชื่นชอบจนไม่อยากเปลี่ยนไปใช้หูฟัง True Wireless รุ่นอื่นเลยด้วยซ้ำ และข้อดีอีกอย่างคือ ระบบตัดเสียงรบกวนของ AirPods นั้นถือว่าดีในระดับแนวหน้าไม่แพ้แบรนด์อื่นเลย

หูฟังไอโฟน

ตัวหูฟังไอโฟนนอกจากกลุ่ม AirPods ที่ได้กล่าวมา หากจำกันได้ทาง Apple ได้เข้าซื้อกิจการของผู้ผลิตหูฟังชั้นนำของโลกอย่าง Beats by Dre มาตั้งแต่ปี 2014 ที่ผ่านมา ทำให้ผู้ใช้มีทางเลือกเพิ่มเติมว่าถ้าไม่ชอบดีไซน์หรือโทนเสียงของ AirPods ก็มี Beats ให้เลือกซื้อ ซึ่งโทนเสียงน่าจะถูกใจผู้ใช้ที่ชอบฟังเพลงแนว Hip Hop, R&B หรือเพลงที่เน้นเบสอย่างแน่นอนและยังได้คุณสมบัติจับคู่กับหูฟัง iPhone ได้อย่างรวดเร็วติดมาอีกด้วย เรียกว่าดีน่าใช้และได้โทนเสียงถูกใจยิ่งขึ้นอีกด้วย

สรุปสเปค 8 หูฟังไอโฟนน่าใช้ แนะนำให้โดน!

สรุปสเปคหูฟังไอโฟน Type Connectivity Battery Life Supported OS

Application

ราคา
(บาท)
Beats Flex Lace Earbuds Bluetooth

ชิป Apple W1

12 ชม.

ชาร์จไว 10 นาที ฟังเพลงได้
1.5 ชม.

iPhone

Android

2,700
Beats Studio Buds True Wireless

ANC

IPX4

Bluetooth
Class 1

One-Touch

8 ชม.

รวมเคสได้ 24 ชม.

Fast Fuel
ชาร์จไว 5 นาที
ใช้ได้ 1 ชม.

iPhone, Android

Beats

5,700
Powerbeats Pro True Wireless

Apple H1

IPX4

Bluetooth
Class 1
9 ชม.

รวมเคสได้ 24 ชม.

Fast Fuel
ชาร์จไว 5 นาที
ใช้ได้ 1.5 ชม.

iPhone, Android

Beats

9,600
AirPods (รุ่นที่ 2) True Wireless

Apple H1

Gesture Control

Bluetooth 5.0 5 ชม.

รวมเคสได้ 24 ชม.

ชาร์จไว 15 นาที
ใช้ได้ 3 ชม.

ชาร์จผ่าน Lightning, Qi

อุปกรณ์ Apple

ระบบ iOS

5,290
AirPods (รุ่นที่ 3) True Wireless

Apple H1

Gesture Control

Spatial Audio

Bluetooth 5.0 6 ชม.

รวมเคสได้ 30 ชม.

ชาร์จไว 5 นาที
ใช้ได้ 1 ชม.

ชาร์จผ่าน Lightning, Qi

อุปกรณ์ Apple

ระบบ iOS

6,990
AirPods Pro (รุ่นที่ 2) True Wireless

Apple H2

Gesture Control

Spatial Audio

Bluetooth 5.3 6 ชม.

รวมเคสได้ 30 ชม.

ชาร์จไว 5 นาที
ใช้ได้ 1 ชม.

ชาร์จผ่าน Lightning, Qi, MagSafe

อุปกรณ์ Apple

ระบบ iOS

8,990
Sony
WF-1000XM4
True Wireless

Integrated Processor V1

IPX4

Bluetooth 5.2 8 ชม.

รวมเคสได้ 16 ชม.

ชาร์จไว 5 นาที
ใช้ได้ 1 ชม.

ชาร์จผ่าน USB-C

iPhone, Android

Sony Headphone Connect

6,800
Sennheiser Momentum True Wireless 3 True Wireless

Hybrid Adaptive ANC

IPX4

Bluetooth 5.2

aptX

aptX adaptive

7 ชม.

รวมเคสได้ 28 ชม.

ชาร์จไว 10 นาที
ใช้ได้ 1 ชม.

ชาร์จผ่าน
USB-C, Qi

iPhone, Android

Sennheiser Smart Control App

8,699

8 หูฟังไอโฟนเพื่อสายฟังเพลง เสียงดีฟังเพลงสนุกน่ามีติดกระเป๋า

ผู้ใช้คนไหนที่อยากหาซื้อหูฟังไอโฟนดีๆ ไว้ใช้คู่กับ iPhone สักตัวล่ะก็ ณ ตอนนี้ก็มีให้เลือกหลากหลายรุ่น ไม่ว่าจะ AirPods หรือ Beats รวมไปถึงแบรนด์ชั้นนำด้านหูฟังก็มีให้เลือก ซึ่งถ้าใครอยากเปลี่ยนหรือกำลังคิดจะซื้ออยู่ล่ะก็ ผู้เขียนก็มีรุ่นน่าซื้อมาแนะนำทั้งหมด 8 รุ่นด้วยกัน ได้แก่

  1. Beats Flex (2,700 บาท)
  2. Beats Studio Buds (5,700 บาท)
  3. Powerbeats Pro (9,600 บาท)
  4. AirPods (รุ่นที่ 2) (5,290 บาท)
  5. AirPods (รุ่นที่ 3) (6,990 บาท)
  6. AirPods Pro (รุ่นที่ 2) (8,990 บาท)
  7. Sony WF-1000XM4 (6,800 บาท)
  8. Sennheiser Momentum True Wireless 3 (8,699 บาท)
1. Beats Flex (2,700 บาท)

MYMC2

หูฟังไอโฟนรุ่นแรกจากบริษัทในเครือ Apple อย่าง Beats Flex เป็นหูฟังแบบ Lace Earbuds โดยออกแบบมาให้คล้องคอผู้ใช้และมีปุ่มคอนโทรลติดมาให้ที่ตัวสายให้กดเพิ่มลดเสียงหรือหยุดเพลงก็ได้และใช้งานต่อเนื่องได้นาน 12 ชั่วโมง ใช้สาย USB-C ชาร์จแบตเตอรี่ให้หูฟังได้ มีฟีเจอร์ Fast Fuel ชาร์จเพียง 10 นาที ฟังเพลงได้ 1.5 ชั่วโมง มีชิป Apple W1 ติดตั้งมาให้สำหรับจับคู่กับอุปกรณ์ Apple ได้อย่างรวดเร็วผ่านทาง Bluetooth อีกด้วย หากผู้ใช้คนไหนเป็นสายออกกำลังกายไม่ว่าจะเข้ายิมหรือวิ่งออกกำลังกายเป็นประจำล่ะก็ Beats Flex ตัวนี้ถือว่าน่าใช้งานมากและไม่ต้องห่วงว่าหูฟังจะตกหายด้วย และถ้าใครใช้สมาร์ทโฟน Android ก็ซื้อไปใช้งานได้เช่นกัน

สเปคของ Beats Flex
Type Lace Earbuds
Connectivity Bluetooth มีชิป Apple W1
Battery Life 12 ชม. ชาร์จไว 10 นาที ฟังเพลงได้ 1.5 ชม.
Supported OS

Application

iPhone, Android

Price 2,700 บาท (Apple)
2. Beats Studio Buds (5,700 บาท)

MJ503

ถ้าชื่นชอบดีไซน์ True Wireless เน้นฟังเพลงและใช้งานทั่วไปล่ะก็ Beats Studio Buds รุ่นนี้ผู้เขียนแนะนำเป็นส่วนตัวหากอยากใช้หูฟัง Beats ดู โดยรุ่นนี้ใช้งานกับ iPhone, Android ได้โดยเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth Class 1 แต่ไม่มีชิปเฉพาะทางของ Apple แต่มีเทคโนโลยีตัดเสียงรบกวน (ANC) ในตัวเพื่อช่วยตัดเสียงรบกวนได้เป็นอย่างดี มีฟังก์ชั่นจับคู่เร็วแบบ One-Touch และใช้งานต่อเนื่องได้ 8 ชั่วโมง เมื่อรวมปริมาณแบตเตอรี่ในเคสแล้วใช้งานได้นานสุด 24 ชั่วโมง มี Fast Fuel ชาร์จไว 5 นาที ฟังเพลงได้ 1 ชั่วโมง ชาร์จแบตเตอรี่ให้เคสและหูฟังได้ผ่านสาย USB-C กันน้ำกันฝุ่น IPX4 และมี Gesture Control แตะควบคุมการทำงานได้ง่ายๆ และรองรับการเรียก “Hey Siri” อีกด้วย มีแอพฯ Beats ไว้ใช้ตั้งค่าหูฟังให้โหลดทั้ง Android, iOS ส่วนเนื้อเสียงของหูฟังตัวนี้จะเน้นเรื่องเสียงเบสเป็นหลักตามสไตล์หูฟัง Beats มีแรงปะทะหนักแน่นและเบสลงลึกพอควรแต่ก็ไม่บวมจนเสียงเพลงเพี้ยน สเตจเสียงอยู่ระดับกลางๆ ไม่กว้างมากและเครื่องดนตรีมีรายละเอียดดีระดับหนึ่ง เหมาะกับผู้ใช้ที่อยากได้หูฟังไอโฟนแบบฟังเพลงได้อรรถรส ฟังสนุกเบสหนักแน่นก็น่าลงทุนซื้อตัวนี้ไปฟังเพลงมากๆ

สเปคของ Beats Studio Buds
Type True Wireless มีระบบตัดเสียงรบกวน ANC, IPX4
Connectivity Bluetooth Class 1 มีฟังก์ชั่น One-Touch
Battery Life 8 ชม. รวมเคสแล้วนาน 24 ชม. มี Fast Fuel ชาร์จไว 5 นาที ใช้งานได้ 1 ชม. 
Supported OS

Application

iPhone, Android

Beats

Price 5,700 บาท (Apple)
3. Powerbeats Pro (9,600 บาท)

MY582 AV3

ถ้าหาหูฟังไอโฟนแบบ True Wireless เน้นออกกำลังกายโดยเฉพาะ ตัว Powerbeats Pro นี้จัดว่าน่าซื้อมาใช้งานมาก เพราะทาง Beats ดีไซน์ให้ตัวหูฟังมีก้านคล้องเข้าโค้งหูของผู้ใช้ให้ไม่หลุดง่ายและได้ชิป Apple H1 มาเสริมคุณภาพเสียงให้ดียิ่งขึ้น มีระบบจับคู่กับอุปกรณ์ Apple ไม่ว่าจะ iPhone, iPad ได้อย่างรวดเร็วด้วย Bluetooth Class 1 และกันน้ำกันฝุ่นระดับ IPX4 แถมยังใช้หูฟังแยกข้างได้ ไม่เจาะจงว่าตัวไหนเป็นตัวหลักหรือรองเหมือน TWS บางรุ่น ระยะเวลาใช้งานของ Powerbeats Pro จะใช้งานได้นานสุด 9 ชั่วโมง นำกลับไปชาร์จในเคสและเอากลับมาใช้งานต่อได้นานสุด 24 ชั่วโมง มีฟีเจอร์ชาร์จไว Fast Fuel ชาร์จ 5 นาที ฟังเพลงได้นาน 1.5 ชั่วโมงอีกด้วย แต่พอร์ตชาร์จยังเป็นสาย Lightning อยู่ จึงเหมาะกับผู้ที่ใช้ iPhone เป็นหลัก แต่ก็หาสายหรือหัวแปลงสายชาร์จมาใช้ก็ได้ จัดเป็น TWS เสียงดี กำลังขับดุดันเบสแน่นอีกรุ่นที่ผู้เขียนอยากแนะนำให้ไปลองฟังที่ Apple Store สักครั้ง

สเปคของ Powerbeats Pro
Type True Wireless มีชิป Apple H1 กันน้ำและฝุ่น IPX4
Connectivity Bluetooth Class 1
Battery Life 9 ชม. รวมเคสแล้วนาน 24 ชม. มี Fast Fuel ชาร์จไว 5 นาที ใช้งานได้ 1.5 ชม. 
Supported OS

Application

iPhone, Android

Beats

Price 9,600 บาท (Apple)
4. AirPods (รุ่นที่ 2) (5,290 บาท)

MV7N2

แม้ว่า AirPods (รุ่นที่ 2) จะเปิดตัวมานานแล้ว แต่ก็ยังมีให้ผู้ใช้เลือกซื้อได้อยู่และเป็นรุ่นราคาประหยัดสุดสำหรับคนที่อยากได้หูฟังไอโฟนโดยเฉพาะสักอัน โดยหูฟังตัวนี้นอกจากจะมีชิป Apple H1 เอาไว้เชื่อมต่อกับ iPhone ได้เสถียรด้วย Bluetooth 5.0 และเสริมคุณภาพเสียงตอนฟังเพลงให้ดียิ่งขึ้น สามารถใช้งานต่อนเื่องได้นาน 5 ชั่วโมง และนำกลับไปชาร์จในเคสแล้วเอากลับมาใช้ได้อีกรวม 24 ชั่วโมง มีฟีเจอร์ชาร์จไว 15 นาที ใช้งานได้ 3 ชั่วโมงด้วยสาย Lightning และยังรองรับการชาร์จไร้สายตามมาตรฐาน Qi แถมยังมี Gesture Control สำหรับควบคุมหูฟังโดยแตะที่ก้านหูฟังได้ แต่อย่างไรก็ตามแม้ AirPods (รุ่นที่ 2) จะเอาไปใช้กับสมาร์ทโฟน Android ได้ก็ตามแต่จะเหมาะกับอุปกรณ์ Apple ที่สุด และแม้ AirPods รุ่นนี้จะมีอายุพอควรแล้วแต่ก็ยังฟังเพลงและตัดเสียงรบกวนตอนโทรศัพท์ได้ดีทีเดียว

สเปคของ AirPods (รุ่นที่ 2)
Type True Wireless มีชิป Apple H1, Gesture Control
Connectivity Bluetooth 5.0 
Battery Life 5 ชม. รวมเคสแล้วนาน 24 ชม. มีฟังก์ชั่นชาร์จไว 15 นาทีใช้ได้ 3 ชม. รองรับการชาร์จไร้สายมาตรฐาน Qi หรือสาย Lightning
Supported OS

Application

อุปกรณ์ Apple

ระบบ iOS

Price 5,290 บาท (Apple)
5. AirPods (รุ่นที่ 3) (6,990 บาท)

MME73

ด้าน AirPods (รุ่นที่ 3) นอกจากจะอัพเดทดีไซน์ให้ต่างจากรุ่นก่อนหน้าจนคล้าย AirPods Pro มากขึ้น แต่ก็เสริมฟีเจอร์เพื่อความบันเทิงอย่าง Spatial Audio ให้เสียงรอบทิศทางให้ได้อรรถรสตอนดูหนังฟังเพลงยิ่งขึ้น มี EQ แบบปรับการทำงานอัตโนมัติให้ฟังเพลงได้อรรถรสยิ่งขึ้นและติดเซนเซอร์รับแรงกดเข้ามาให้ระบบ Gesture Control มีฟังก์ชั่นหลากหลายยิ่งขึ้นและกันน้ำกันฝุ่นระดับ IPX4 ด้วย ด้านการเชื่อมต่อมีชิป Apple H1 สำหรับเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ Apple ได้อย่างรวดเร็วผ่าน Bluetooth 5.0 ใช้ฟังเพลงต่อเนื่องได้นานสุด 6 ชั่วโมง ชาร์จแล้วนำกลับมาใช้ต่อได้นานสุดรวม 30 ชั่วโมง รองรับการชาร์จเร็ว 5 นาที ใช้งานได้ 1 ชั่วโมง และรองรับการชาร์จไร้สายตามมาตรฐาน Qi ได้ในตัว เป็นหูฟังไอโฟนรุ่นที่อัพเกรดคุณภาพเสียงให้ดีและมีมิติยิ่งขึ้นกว่าเดิม หากใครอยากได้หูฟังไร้สายดีๆ ก็ลงทุนซื้อตัวนี้ไปเชื่อว่าดีถูกใจอย่างแน่นอน

สเปคของ AirPods (รุ่นที่ 3)
Type True Wireless มีชิป Apple H1, Gesture Control, Spatial Audio
Connectivity Bluetooth 5.0
Battery Life 6 ชม. รวมเคสแล้วนาน 30 ชม. มีฟังก์ชั่นชาร์จไว 5 นาทีใช้ได้ 1 ชม. รองรับการชาร์จไร้สายมาตรฐาน Qi หรือสาย Lightning
Supported OS

Application

อุปกรณ์ Apple

ระบบ iOS

Price 6,990 บาท (Apple)
6. AirPods Pro (รุ่นที่ 2) (8,990 บาท)

MQD83 AV2

AirPods Pro (รุ่นที่ 2) นี้ถือเป็นหูฟังไอโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดจาก Apple ซึ่งทางบริษัทอัพเกรดเพิ่มฟีเจอร์ดีๆ เข้าไปหลายอย่าง ไม่ว่าจะระบบตัดเสียงรบกวน (ANC) ที่ดีขึ้นกว่ารุ่นก่อน 2 เท่า Gesture Control ที่รองรับการเลื่อนนิ้วที่ตัวก้านหูฟัง ติดตั้งชิป Apple H2 รุ่นใหม่ล่าสุดให้คุณภาพเสียงตอนฟังเพลงดียิ่งกว่าเดิมและปรับ EQ อัตโนมัติให้ฟังเพลงได้อรรถรสกว่าและจับคู่กับอุปกรณ์ Apple ได้รวดเร็วยิ่งขึ้นด้วย Bluetooth 5.3 และมี Spatial Audio ด้วย ระยะเวลาใช้งานเปิดเพลงฟังได้นานสุด 6 ชั่วโมง รวมชาร์จในเคสแล้วจะใช้ได้นาน 30 ชั่วโมง รองรับชาร์จไว 5 นาที ใช้ฟังเพลงได้ 1 ชั่วโมง ชาร์จด้วยสาย Lightning หรือไร้สายด้วยแท่นชาร์จไร้สายระบบ Qi หรือ MagSafe ก็ได้ นอกจากนี้ยังมีชิป Apple U1 เอาไว้ติดตามหาตัวหูฟังได้กรณีทำตกหายหรือลืมทิ้งเอาไว้ที่ไหนก็ตาม จัดเป็นหูฟังไอโฟนแบบ True Wireless ที่ดีสุดจาก Apple ณ ตอนนี้และมีฟีเจอร์ให้ใช้หลากหลายแบบด้วย หากใครใช้ AirPods รุ่นเก่าอยู่แล้วอยากอัพเกรดมาใช้ ก็น่าลงทุนซื้อมาใช้งานมาก

สเปคของ AirPods Pro (รุ่นที่ 2)
Type True Wireless มีชิป Apple H2, Apple U1, Gesture Control, Spatial Audio
Connectivity Bluetooth 5.3
Battery Life 6 ชม. รวมเคสแล้วนาน 30 ชม. มีฟังก์ชั่นชาร์จไว 5 นาทีใช้ได้ 1 ชม. รองรับการชาร์จไร้สายมาตรฐาน Qi, MagSafe หรือสาย Lightning
Supported OS

Application

อุปกรณ์ Apple

ระบบ iOS

Price 8,990 บาท (Apple)
7. Sony WF-1000XM4 (6,800 บาท)

3fd1aceeea087ea64fa81995af39f70f

Sony WF-1000XM4 เป็นหูฟังไอโฟนและสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์จาก Sony ที่ผู้ใช้หลายๆ คนชื่นชอบ โดยรุ่นนี้นอกจากเสียงจะเป็น Hi-Res Audio และมีระบบประมวลผลเสียง DSEE Extreme ให้คุณภาพเสียงให้ดียิ่งกว่าเดิม ทาง Sony ก็ใส่ชิป Integrated Processor V1 มาให้ใช้ตัดเสียงรบกวนได้ยอดเยี่ยมและกันน้ำกันฝุ่นระดับ IPX4 เชื่อมต่อ Bluetooth 5.2 เข้ากับสมาร์ทโฟน Android, iPhone ได้ ตั้งค่าด้วยแอพฯ Sony Headphone Connect ได้ ใช้งานร่วมกับ Google Assistant, Amazon Alexa ได้หมด ใช้งานต่อเนื่องได้ 8 ชั่วโมง รวมเคสชาร์จได้อีก 16 ชั่วโมง ชาร์จแบตเตอรี่ให้เคสด้วยสาย USB-C ได้ โดยส่วนตัวผู้เขียนเองใช้ WF-1000XM3 อยู่เป็นทุนและได้ลองฟังหูฟังไอโฟนรุ่นนี้ที่เลือกมาแนะนำด้วย ก็ถือว่าเนื้อเสียงดีน่าประทับใจมาก ได้เสียงใสดีและขับเบสได้เต็มอิ่มมีแรงปะทะดี รายละเอียดเสียงครบถ้วนฟังเพลงสนุกและตัดเสียงได้หมดไม่มีเสียงแทรกตอนฟังเพลงเลย แถมยังปรับ EQ ได้ในแอพฯ ของทาง Sony อีกด้วย เลือกสไตล์เสียงที่ชอบได้ตามใจ จัดเป็นหูฟังไอโฟนรุ่นที่น่าใช้มากๆ อีกรุ่น

สเปคของ Sony WF-1000XM4
Type True Wireless มีชิป Integrated Processor V1 ตัดเสียงรบกวนได้ดีมาก รองรับ Google Assistant, Amazon Alexa, IPX4
Connectivity Bluetooth 5.2
Battery Life 8 ชม. รวมเคสได้อีก 16 ชม. ชาร์จด้วยสาย USB-C
Supported OS

Application

iPhone, Android

Sony Headphone Connect

Price 6,800 บาท (Munkong Gadget Shopee Mall)
8. Sennheiser Momentum True Wireless 3 (8,699 บาท)

sg 11134201 22090

หูฟังไอโฟนแนะนำสำหรับสายฟังเพลงอีกรุ่นเป็น Sennheiser Momentum True Wireless 3 โดยโทนเสียงของหูฟังนี้จะได้เรื่องเสียงเบสหนักแน่นลงลึก เก็บรายละเอียดได้ดีแถมยังปรับ EQ ได้ด้วยตัวเองและมีระบบตัดเสียงรบกวน (Hybrid Adaptive ANC) และกันน้ำกันฝุ่นระดับ IPX4 ในตัว ใช้ฟังเพลงได้นาน 7 ชั่วโมง รวมเคสชาร์จแล้วใช้ได้นานสุด 28 ชั่วโมง มีฟีเจอร์ชาร์จไว 10 นาที ฟังเพลงได้ 1 ชั่วโมง ชาร์จตัวเคสด้วยสาย USB-C หรือชาร์จไร้สายมาตรฐาน Qi ก็ได้ เชื่อมต่อผ่าน Bluetooth 5.2 ได้ในตัวและรองรับ aptX, aptX adaptive ได้ ตั้งค่าตัวหูฟังได้ด้วยแอพฯ Sennheiser Smart Control App ซึ่งโหลดมาติดตั้งได้ทั้ง Android, iOS ได้เลย จัดเป็นหูฟัง True Wireless คุณภาพเสียงเยี่ยมอีกชิ้นที่ไม่อยากให้พลาด ถ้าหาโอกาสทดลองฟังได้ก็อยากให้ลองมาก เชื่อว่าจะตกหลุมรักมันได้ไม่ยากนัก

สเปคของ Sennheiser Momentum True Wireless 3
Type True Wireless ระบบตัดเสียง Hybrid Adaptive ANC กันน้ำและฝุ่น IPX4 ปรับ EQ ได้
Connectivity Bluetooth 5.2 รองรับ aptX, aptX adaptive
Battery Life 7 ชม. รวมเคสแล้วนาน 28 ชม. มีชาร์จไว 10 นาที ฟังเพลงได้ 1 ชั่วโมง ด้วยสาย USB-C หรือไร้สายตามมาตรฐาน Qi
Supported OS

Application

iPhone, Android

Sennheiser Smart Control App

Price 8,699 บาท (Munkong Gadget Shopee Mall)

daniel romero AgLMrojqjAM unsplash

จะเห็นว่ายุคนี้หูฟังไอโฟน นอกจาก AirPods ซึ่งทาง Apple สร้างมาให้ใช้กับสมาร์ทโฟนของตัวเองโดยเฉพาะแล้ว ยังมีแบรนด์ในเครืออย่าง Beats หรือแบรนด์ชั้นนำด้านเสียงเพลงเจ้าอื่นๆ ให้เลือกซื้อมาใช้ได้อีกด้วย แต่อุปกรณ์อย่างหูฟังนั้นเป็นสิ่งที่อ่านรีวิวอย่างเดียวแล้วไปซื้อเลยก็ไม่ได้ เพราะรสนิยมการฟังเพลงของแต่ละคนนั้นแตกต่างกันมาก ดังนั้นถ้ามีโอกาสก็อยากแนะนำให้ลองไปฟังเพลงที่ชอบฟังด้วยหูฟังรุ่นที่สนใจดูสักเล็กน้อย จะสามารถตัดสินใจเลือกได้ง่ายยิ่งขึ้น ไม่ต้องเสียอารมณ์ว่าซื้อหูฟังมาไม่ถูกใจแล้วต้องทนฟังไปหรือต้องหาทางขายต่อในอนาคตนั่นเอง


บทความที่เกี่ยวข้อง

8ตัวปล่อยสัญญาณWiFi 1

ตัวรับWifi

Artboard 1 1

from:https://notebookspec.com/web/690618-8-recommend-iphone-true-wireless

7 นาฬิกาออกกำลังกาย ผู้ชาย ใส่แล้วเท่ โหมดกีฬาเพียบ อัปเดต 2023

แนะนำนาฬิกาออกกำลังกาย ผู้ชาย สวมใส่ได้ทุกวัน รองรับโหมดออกกำลังกายมากมาย อัปเดต 2023

นาฬิกาออกกำลังกาย ผู้ชาย

Smart Watch ในปัจจุบันนั้นมีให้เลือกเยอะแยะมากมาย ทั้งการเน้นไปที่การสวมใส่ในชีวิตประจำวัน หรือ เน้นการสวมใส่เพื่อตรวจจับ วัดค่าต่างๆ ในขณะที่ออกกำลังกาย เพื่อช่วยให้การออกกำลังกายมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น หรืออย่างใครที่ต้องการเน้นไปที่การรักษาสุขภาพ นาฬิกาเหล่านี้ก็สามารถช่วยให้เราได้ทราบถึงค่าต่างๆ ได้เป็นอย่างดี แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น นาฬิกาออกกำลังกายก็มีหลากหลายรูปแบบ ดีไซน์ รวมไปถึงขนาด ทีมงาน NotebookSPEC ก็อยากจะมาแนะนำนาฬิกาออกกำลังกาย ผู้ชาย สำหรับผู้ชายที่กำลังมองหาสมาร์ทวอทช์ที่มีขนาดพอดีมือ ดีไซน์สวย สวมใส่แล้วเท่ ดูดี แถมยังรองรับการตรวจจับค่าต่างๆ ได้ดี มีโหมดออกกำลังกายมากมายอีกด้วย


แนะนำนาฬิกาออกกำลังกาย ผู้ชาย สวมใส่ได้ทุกวัน

นาฬิกาออกกำลังกาย ผู้ชาย ราคา สิ่งที่น่าสนใจ ข้อสังเกต
Apple Watch Series 8 (45 mm.) เริ่มต้น 15,900 บาท ฟีเจอร์ครบครัน
มีรุ่นที่รองรับการใส่ eSIM
มีเซ็นเซอร์ Crash Detection
มีเซ็นเซอร์สำหรับการตรวจจับอุณหภูมิ
แบตเตอรี่ค่อนข้างหมดเร็ว เมื่อเทียบกับสมาร์ทวอทช์รุ่นอื่นๆ ทำให้ผู้ใช้งานจะต้องชาร์จแบตเตอรี่อยู่บ่อยครั้ง
Amazfit GTR 4 ประมาณ 7,190 – 7,990 บาท ฟีเจอร์ครบครัน
น้ำหนักเบา
สวมใส่สบาย
รองรับการพูดคุยโทรศัพท์
การแจ้งเตือนต่างๆ รองรับการใช้งานภาษาไทย แต่อย่างไรก็ตาม ตัวอักษรพิเศษนั้นยังไม่สามารถอ่านได้ ซึ่งต้องรอการอัปเดตปรับปรุงระบบต่อไป นอกจากนี้ แบตเตอรี่ค่อนข้างหมดไวหากใช้พูดคุยโทรศัพท์เป็นเวลานาน
Amazfit T-Rex 2 ประมาณ 6,290 บาท มีความทนทานสูง ป้องกันการกระแทก กันรอยขีดข่วนได้ดี
โหมดออกกำลังกายเยอะ
ทนทานต่ออุณหภูมิ
การแจ้งเตือนต่างๆ รองรับการใช้งานภาษาไทย แต่ตัวอักษรพิเศษนั้นยังไม่สามารถอ่านได้ ซึ่งต้องรอการอัปเดตปรับปรุงระบบต่อไป นอกจากนี้ แบตเตอรี่ค่อนข้างหมดไวเมื่อเปิดใช้งาน GPS
SUUNTO 5 PEAK 6,900 บาท ฟีเจอร์ครบ
น้ำหนักเบา
สวมใส่สบาย
รองรับการวางแผนการเดินทาง มี GPS Navigation
ฟีเจอร์ที่มีมาให้ค่อนข้างครบครัน แต่หากเทียบกับสมาร์ทวอชแบรนด์อื่นๆ SUUNTO 5 PEAK จะออกไปทางการเน้นการออกกำลังกายมากกว่าไลฟ์สไตล์ อีกทั้งการตอบกลับข้อความยังจำกัดให้ใช้ได้เฉพาะระบบปฏิบัติการ Android ด้วย
Samsung Galaxy Watch 5 เริ่มต้น 9,990 บาท ฟีเจอร์การใช้งานครบครัน
รองรับการติดตั้งแอพพลิเคชัน
มี GPS, NFC ฯลฯ
มีฟีเจอร์ช่วยวัด Body Composition
การใช้งานฟีเจอร์ต่างๆ ใน iOS อาจจะมีข้อจำกัดที่มากกว่า แต่สำหรับ Android สามารถใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากกว่า
Huawei Watch GT 3 Pro ประมาณ 11,990 บาท ฟีเจอร์ครบครัน
มี GPS ในตัว
เซ็นเซอร์ต่างๆ ครนครัน
การใช้งานฟีเจอร์ต่างๆ ใน iOS อาจจะมีข้อจำกัดที่มากกว่า แต่สำหรับ Android สามารถตั้งค่าการแจ้งเตือนแอพได้ตามปกติ
SUUNTO 7 ประมาณ 8,900 บาท ฟีเจอร์ครบ
น้ำหนักเบา
สวมใส่สบาย
รองรับการวางแผนการเดินทาง มี GPS Navigation
ฟีเจอร์ที่มีมาให้ค่อนข้างครบครัน แต่หากเทียบกับสมาร์ทวอชแบรนด์อื่นๆ SUUNTO 7 จะเน้นไปที่การใส่ออกกำลังกายมากกว่าแนวไลฟ์สไตล์ทั่วไป

 1. Apple Watch Series 8 (45 mm.)

smww3

นาฬิกาออกกำลังกาย ผู้ชาย ตัวแรกที่อยากจะแนะนำเลยก็คือ Apple Watch Series 8 จากทาง Apple ที่ถึงแม้ว่าจะมาในดีไซน์รูปทรงสี่เหลี่ยมเช่นเคย แต่ก็มาพร้อมฟีเจอร์ใหม่ๆ มากมาย โดยในรุ่นนี้มาพร้อมขนาดหน้าจอที่ให้เลือก 2 ขนาด คือ 41 mm. และ 45 mm. โดยสามารถเลือกตัวเรือนได้ทั้ง Aluminium และ Stainless steel

Advertisementavw

สเปคคร่าวๆ

  • หน้าจอ Retina LTPO OLED มาพร้อมฟีเจอร์ Always On Display
  • มาพร้อมกับชิป SiP S8 64bit dual-core processor, ชิประบบไร้สาย W3 และชิป U1 (Ultra-Wideband)
  • รองรับการเชื่อมต่อด้วย Bluetooth 5.3
  • มีไมโครโฟนและลำโพงในตัว
  • มีเซ็นเซอร์สำหรับการตรวจจับอุณหภูมิ
  • มีเซ็นเซอร์ Crash Detection สำหรับตรวจจับแรงกระแทกที่เกิดจากการชน หรืออุติบัติเหตุทางรถยนต์ อุบัติเหตุรุนแรงได้
  • รองรับการวัดอัตราการเต้นของหัวใจ, การนอนหลับ, ติดตามรอบเดือน, ออกซิเจนในเลือด ฯลฯ
  • รองรับการแจ้งเตือนต่างๆ
  • กันน้ำกันฝุ่นที่มาตรฐาน IP6X
  • แบตเตอรี่สามารถใช้งานได้ยาวนานต่อเนื่อง 18 ชั่วโมง

สิ่งที่น่าสนใจ

Apple Watch Series 8 มาพร้อมกับเซ็นเซอร์ที่มีความละเอียดมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังมีการใส่เซ็นเซอร์ ตรวจจับแรงกระแทก, อุบัติเหตุ อย่าง Crash Detection รวมไปถึงมีการในเซ็นเซอร์สำหรับตรวจวัดอุณหภูมิเพิ่มเข้ามาด้วย ทำให้ Apple Watch Series เป็นอีกหนึ่งนาฬิกาที่มีความแม่นยำแต่ประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ทั้งในเรื่องของการออกกำลังกายและสุขภาพ

ข้อสังเกต

สำหรับ Apple Watch Series 8 นั้น แม้ว่าจะสามารถใช้งานได้ยาวนานยิ่งขึ้น แต่โดยรวมนั้น แบตเตอรี่ก็ถือว่าค่อนข้างหมดเร็ว เมื่อเทียบกับสมาร์ทวอทช์รุ่นอื่นๆ ทำให้ผู้ใช้งานจะต้องชาร์จแบตเตอรี่อยู่บ่อยครั้ง

ราคา: เริ่มต้น 15,900 บาท

สามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่: SHOPEE


2. Amazfit GTR 4

SmartWatch รุ่นไหนดี

นาฬิกาออกกำลังกาย ผู้ชาย รุ่นต่อมาที่น่าสนใจมากๆ เลยก็คือ นาฬิกาจากแบรนด์ Amazfit ซึ่งถือเป็นแบรนด์ที่ทำ Smart Watch ออกมาได้น่าใช้งานมากๆ และได้รับความนิยมสูง จนถึงตอนนี้ก็ได้มีรุ่นใหม่ออกมาแล้ว อย่าง Amazfit GTR 4 ที่มาในดีไซน์หน้าปัดกลม ดูทันสมัย เท่ และเรียบหรูไปด้วยในตัว สามารถสวมใส่ได้ทุกเพศทุกวัย มาพร้อมฟีเจอร์ที่ครบครัน น่าใช้งาน โดยในรุ่นนี้มีให้เลือก 3 สีด้วยกัน คือ Grey, Black และ BrownADVERTISEMENT

สเปคคร่าวๆ

  • หน้าจอ AMOLED ขนาด 1.43 นิ้ว ความละเอียด 466 x 466 พิกเซล, 326PPI
  • หน้าจอกระจกนิรภัย เคลือบ Anti-fingerprint ป้องกันรอยนิ้วมือ และป้องกันแสงสะท้อน
  • มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Zepp OS 2.0
  • เฉพาะตัวเรือน น้ำหนัก 34 กรัม
  • แบตเตอรี่ขนาด 475mAh ใช้งานได้ยาวกว่า 14 วัน มาพร้อม Battery Saver Mode
  • มี Watch Face เลือกกว่า 200 แบบ
  • รองรับ Always-on Display
  • รองรับการใช้งาน Alexa
  • รองรับการกันน้ำได้ลึกในระดับ 50 เมตร (5ATM) รองรับการวัด Heart Rate ในขณะว่ายน้ำ
  • รองรับฟีเจอร์ SpO2 หรือออกซิเจนในเลือด
  • รองรับการวิเคราะห์การออกกำลังกาย
  • รองรับการตรวจอัตราการเต้นของหัวใจ
  • รองรับการตรวจสอบการนอนหลับ
  • รองรับการตรวจจับความเครียด
  • รองรับโหมดกีฬากว่า 150+ โหมด
  • รองรับการประเมินสุขภาพ PAI
  • รองรับฟีเจอร์ การค้นหาโทรศัพท์, นาฬิกาจับเวลา, Pomodoro, พยากรณ์อากาศ, การแจ้งเตือนการยืน, การแจ้งเตือนแอพต่างๆ จากสมาร์ทโฟน, แจ้งเตือนสายเรียกเข้า, ปลดล็อกโทรศัพท์, ไฟฉาย, โหมดห้ามรบกวน, การควบคุมการฟังเพลง เป็นต้น
  • รองรับการทำงานร่วมกับแอพพลิเคชัน Zepp
  • รองรับการพูดคุยโทรศัพท์ผ่านทาง SmartWatch

สิ่งที่น่าสนใจ

สมาร์ทวอช Amazfit GTR 4 รุ่นนี้ออกแบบมาให้ครอบคลุมการใช้งานมากยิ่งขึ้น น้ำหนักเบา สวมใส่สบาย ถึงแม้จะมีดีไซน์ที่คล้ายเดิม แต่ก็ได้รับการพัฒนาปรับปรุงฟีเจอร์ต่างๆ ให้มีประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม มีโหมดการใช้งานและฟีเจอร์ต่างๆ มาให้ครบครัน การตรวจจับการเคลื่อนไหว การวัดอัตราการเต้นของหัวใจ ทำออกมาได้ค่อยข้างดีพอสมควร อีกทั้งยังสามารถพูดคุยโทรศัพท์โดยตรงผ่านทางตัวนาฬิกาได้เลยด้วย

ข้อสังเกต

เบื้องต้นนั้น การแจ้งเตือนต่างๆ รองรับการใช้งานภาษาไทย แต่อย่างไรก็ตาม ตัวอักษรพิเศษนั้นยังไม่สามารถอ่านได้ ซึ่งต้องรอการอัปเดตปรับปรุงระบบต่อไป นอกจากนี้ แบตเตอรี่ค่อนข้างหมดไวหากใช้พูดคุยโทรศัพท์เป็นเวลานาน

ราคา ประมาณ 7,190 – 7,990 บาท

สามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่: SHOPEE


3. Amazfit T-Rex 2

msm1

Amazfit T-Rex 2 สมาร์ทวอชอีกรุ่นจาก Amazfit ที่น่าสนใจ มาพร้อมความเท่ ลุยๆ และความทนทาน ผ่านการทดสอบทางการทหารถึง 15 ครั้ง ทนต่ออากาศหนาวเย็นได้ต่ำสุดถึง -40 องศาเซลเซียส สามารถกันรอยขีดข่วน กันกระแทกได้สบายๆ ตัวนาฬิกามีการออกแบบดีไซน์ในหน้าปัดกลม ดูดี ทันสมัย มาพร้อมกับประสิทธิภาพการทำงานที่ดี มีฟีเจอร์ใช้งานครบครัน สวมใส่สบายได้ทั้งวัน พร้อมหน้าจอคมชัดความละเอียดสูง เหมาะสำหรับสายลุยสุดๆ

สเปคคร่าวๆ

  • หน้าจอขนาดใหญ่ AMOLED 1.39 นิ้ว ที่มีความละเอียด 454 x 4654 พิกเซล ความสว่าง 1000 nits
  • ตัวเรือน Polymer Alloy กันรอยขีดข่วนได้ดี
  • น้ำหนัก 66.5 กรัม
  • รองรับการใช้งานในอุณหภูมิ 70 ถึง – 40 องศาเซลเซียส
  • แบตเตอรี่ 500mAh สามารถใช้งานได้อย่างยาวนานสูงสุด 24 วัน
  • มีระดับการกันน้ำกันเหงื่ออยู่ที่ 10ATM
  • มี GPS ในตัว
  • รองรับระบบนำทาง 5 ระบบ พร้อมรองรับ Dual-band
  • เซนเซอร์ตรวจวัดสุขภาพ BioTracker 3.0
  • เชื่อมต่อ Bluetooth 5.0 BLE
  • รองรับการตรวจวัดออกซิเจนในเลือด
  • รองรับการตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจ
  • รองรับการตรวจจับคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า, ตรวจจับคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า, มาตรวัดความดันอากาศ, เซ็นเซอร์ตรวจวัดแสง
  • รองรับการแจ้งเตือนข้อความ แอพต่างๆ
  • รองรับการแจ้งเตือนสายเรียกเข้า
  • รองรับการใส่เพลง
  • รองรับโหมดการออกกำลังได้กว่า 158 โหมด
  • รองรับการติดตามคุณภาพการนอน
  • รองรับการทำงานร่วมกับแอพพลิเคชัน Zepp

สิ่งที่น่าสนใจ

สำหรับ Amazfit T-Rex 2 ถือว่าเป็นสมาร์ทวอชที่น่าสนใจมากๆ รุ่นหนึ่ง ด้วยราคาในระดับกลาง ที่มาพร้อมความสามารถในการติดตามการออกกำลังกายที่มีความแม่นยำ ดีไซน์ออกมาเหมาะสำหรับการทำกิจกรรม Outdoor เหมาะสำหรับใครที่ชอบทำกิจกรรมกลางแจ้ง รวมไปถึงสายลุยเป็นอย่างมาก

ข้อสังเกต

ถึงแม้ว่าทางแบรนด์จะเคลมว่าสามารถใช้งานได้อย่างยาวนานสูงสุดถึง 24 วัน แต่การใช้งานจริงนั้น อาจไม่ถึง ขึ้นอยู่กับการปรับความถี่ของการตรวจจับ รวมไปถึง การใช้งานฟีเจอร์ต่างๆ ก็มีส่วนให้แบตเตอรี่หมดไวยิ่งขึ้น

ราคา ประมาณ 6,290 บาท

สามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่: SHOPEE


4. SUUNTO 5 PEAK

smw4

SmartWatch จากแบรนด์ SUUNTO อย่าง SUUNTO 5 PEAK ที่ต้องบอกเลยว่าตัวนี้ก็เป็นอีกรุ่นที่น่าสนใจมากๆ ออกแบบมาด้วยดีไซน์ทันสมัย สวมใส่ได้ในทุกโอกาส มาพร้อมกับฟีเจอร์และลูกเล่นต่างๆ ครบครัน ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ทั้งการออกกำลังกายและส่วมใสใช้งานทั่วไป มีให้เลือกกว่า 6 สีสัน ไม่ว่าจะเป็น Ridge Sand Multicolor, Cave Green, Ochre, Black, Ridge Sand, Dark Heather

สเปคคร่าวๆ

  • หน้าจอสัมผัส TFT LCD ขนาด 1.69 นิ้ว ความละเอียด 240×280 พิกเซล
  • มาพร้อม LED Backlight
  • น้ำหนัก 39 กรัม
  • มีมาตรฐานกันน้ำกันได้ถึง 30 เมตร
  • แบตเตอรี่สามารถใช้งานได้ต่อเนื่องยาวนานสูงถึง 100 ชั่วโมง
  • รองรับโหมดกีฬากว่า 80 โหมด
  • รองรับการแจ้งเวลาพระอาทิตย์ขึ้น พระอาทิตย์ตกผ่านทางหน้าจอ
  • มี GPS ในตัว
  • รองรับการตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจ
  • รองรับการตรวจจับคุณภาพการนอน, นับก้าว, แคลอรี่
  • รองรับการแจ้งเตือนสายเรียกเข้า แจ้งเตือนข้อความ ฯลฯ
  • รองรับการตอบกลับข้อความ (เฉพาะ Android)
  • รองรับ Adventure function สำหรับการวางแผนการเดินทาง สามารถใช้งานร่วมกับแอพ 3D Map ได้
  • มีระบบ GPS Navigation

สิ่งที่น่าสนใจ

SUUNTO 5 PEAK เป็นอีกหนึ่งสมาร์ทวอชที่น่าซื้อมาใช้งาน ตอบโจทย์ทั้งไลฟ์ไสตล์ และการออกกำลังกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการตรวจจับวัดค่าต่างๆ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ชอบการออกกำลังกาย

ข้อสังเกต

โดยรวมนั้นฟีเจอร์ที่มีมาให้ค่อนข้างครบครัน แต่หากเทียบกับสมาร์ทวอชแบรนด์อื่นๆ SUUNTO 5 PEAK จะออกไปทางการเน้นการออกกำลังกายมากกว่าไลฟ์สไตล์ อีกทั้งการตอบกลับข้อความยังจำกัดให้ใช้ได้เฉพาะระบบปฏิบัติการ Android ด้วย

ราคา ประมาณ 6,900 บาท

สามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่: SHOPEE


5. Samsung Galaxy Watch 5 (44 mm.)

นาฬิกาออกกำลังกาย 2023

Samsung Galaxy Watch 5 นาฬิกา Smart Watch จากทาง Samsung รุ่นนี้มาพร้อมกับฟีเจอร์ที่น่าสนใจมากมาย รวมไปถึงฟีเจอร์การวัดความดันโลหิต โดยรุ่นที่เราได้นำมาแนะนำกันนั้นเป็นรุ่น Bluetooth มาที่มาพร้อมหน้าปัดกลม กระจกหน้าจอที่ใช้วัสดุ Sapphire crystal มีความแข็งแรงทนทาน มาพร้อมจอภาพ Super AMOLED ที่มีการแสดงผลที่คมชัดเป็นอย่างมาก สำหรับ Galaxy Watch 5 มาพร้อมเซ็นเซอร์มากมายไม่ว่าจะเป็น การตรวจวัดแสง, การวัดหัวใจแบบ Optical, เซ็นเซอร์วัดหัวใจแบบไฟฟ้า, Gyroscope, การตรวจจับการเคลื่อนไหว, มาตรวัดความดันอากาศ, เซ็นเซอร์การวิเคราะ BIA เป็นต้น นอกจากนี้ยังมาพร้อมฟังก์ชันในการใช้งานสำหรับการเป็น นาฬิกาออกกำลังกายอย่างครบครัน

สเปคคร่าวๆ

  • หน้าปัดกลม ขนาด 40 mm, 44 mm., ตัวเรือนใช้วัสดุ Aluminium
  • รองรับโหมดออกกำลังกายกว่า 90 โหมด
  • แบตเตอรี่ Lithium Ion สามารถใช้งานยาวนานได้ต่อเนื่อง 5 วัน, รองรับการชาร์จเร็วและชาร์จไร้สาย
  • มี GPS, NFC ฯลฯ
  • มาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น 5ATM + IP68 และมาตรฐานทางการทหาร MIL-STD-810G
  • รองรับการใช้งานร่วมกับแอพ Samsung Health
  • รองรับการวัดระดับความเครียด
  • มีฟีเจอร์ช่วยวัด Body Composition
  • รองรับการวัดคุณภาพการนอน
  • รองรับการดาวน์โหลดแอพพลิเคชันมาใช้งาน เช่น LINE, Google Maps
  • มีไมโครโฟน, ลำโพงในตัว

สิ่งที่น่าสนใจ

Samsung Galaxy Watch 5 เป็นอีกหนึ่งนาฬิกาออกกำลังกาย ผู้ชาย ที่น่าสนใจมากๆ โดยเฉพาะสำหรับผู้ใช้งานสมาร์ทโฟน Android อย่าง Samsung ที่สามารถใช้งานร่วมกับนาฬิกาได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ อีกทั้งตัวนาฬิกายังมีฟีเจอร์ต่างๆ ที่รองรับการใช้งานอย่างครบครัน

ข้อสังเกต

สำหรับรุ่นนี้นั้นการใช้งานฟีเจอร์ต่างๆ ใน iOS อาจจะมีข้อจำกัดที่มากกว่า แต่สำหรับ Android สามารถใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากกว่า

ราคา: 9,990 บาท

สามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่: SHOPEE


6. Huawei Watch GT 3 Pro

smww4

HUAWEI WATCH GT 3 Pro อีกหนึ่งสมาร์ทวอชจาก HUAWEI ที่มาพร้อมความอัจฉริยะ ในราคาที่เอื้อมถึงได้ สำหรับรุ่นนี้ โดดเด่นด้วยฟีเจอร์ต่างๆ มากมาย ที่รองรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน ไปจนถึงการออกกำลังกาย ด้วยดีไซน์เรียบหรู ดูดี มีความทันสมัย สำหรับ HUAWEI WATCH GT 3 Pro มีให้เลือก 2 รุ่นด้วยกัน คือ Titanium Edition และ Ceramic Edition

สเปคคร่าวๆ

  • หน้าจอ AMOLED กระจก Sapphire crystal ขนาด 1.43 นิ้ว ความละเอียด 466 x 466 พิกเซล, 326PPI
  • รองรับการสัมผัสเต็มหน้าจอ
  • มาตรฐานการกันน้ำกันเหงื่อ 5ATM
  • สามารถใช้งานได้ยาวนานสูงสุด 14 วัน
  • รองรับโหมดออกกำลังกายกว่า 100 โหมด
  • รองรับการตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจ
  • รองรับการตรวจวัดออกซิเจนในเลือด
  • รองรับการวัดและติดตามความเครียด
  • มี GPS ในตัว
  • รองรับ Emergency SOS
  • รองรับ Quick replies
  • รองรับการติดตามระยะเดินทาง, ระยะความสูง ฯลฯ
  • รองรับการแจ้งเตือนแอพพลิเคชันต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น LINE, Facebook ฯลฯ
  • รองรับการแจ้งเตือนสายเรียกเข้า, มีไมโครโฟน, มีลำโพงในตัว
  • รองรับการควบคุมเพลง, ดาวน์โหลดเพลงมาเก็บไว้ในนาฬิกาได้
  • สามารถใช้งานร่วมกับแอพพลิเคชัน HUAWEI Health

สิ่งที่น่าสนใจ

HUAWEI WATCH GT 3 Pro เป็น Smart Watch ที่มีความน่าสนใจมากๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับใครที่ต้องการฟีเจอร์การออกกำลังกาย ไปจนถึงการตรวจจับ วัดค่าต่างๆ ของร่างกาย อีกทั้งในรุ่นนี้ยังมี GPS ในตัว และเซนเซอร์ที่น่าสนใจอีกมากมาย ไม่ว่าจะป็น Gyroscope, Accelerometer, Barometer เป็นต้น

ข้อสังเกต

สำหรับรุ่นนี้นั้นการใช้งานฟีเจอร์ต่างๆ ใน iOS อาจจะมีข้อจำกัดที่มากกว่า แต่สำหรับ Android สามารถตั้งค่าการแจ้งเตือนแอพได้ตามปกติ

ราคา ประมาณ 11,990 บาท

สามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่: SHOPEE


7. SUUNTO 7

smww1

Smart Watch จากแบรนด์ SUUNTO อย่าง SUUNTO 7 ที่ต้องบอกเลยว่าตัวนี้ก็เป็นนาฬิกาออกกำลังกาย อีกรุ่นที่น่าสนใจและเหมาะสำหรับการสวมใส่มากๆ ตัวเรือนออกแบบมาด้วยดีไซน์ทันสมัย สวมใส่ได้ในทุกโอกาส มาพร้อมกับฟีเจอร์และลูกเล่นต่างๆ ครบครัน ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ทั้งการออกกำลังกายและส่วมใสใช้งานทั่วไป มีให้เลือกกว่า 5 สีสัน ไม่ว่าจะเป็น All Black, Black Lime, Graphite Copper, Sandston Rosegold และ White Burgundy

สเปคคร่าวๆ

  • หน้าจอสัมผัส AMOLED ขนาด 1.39 นิ้ว ความละเอียด 454 x 454 พิกเซล ความสว่าง 1000nits
  • น้ำหนัก 70 กรัม
  • มีมาตรฐานกันน้ำกันได้ถึง 50 เมตร
  • แบตเตอรี่สามารถใช้งานได้ต่อเนื่องยาวนานสูงถึง 48 ชั่วโมง
  • รองรับโหมดกีฬากว่า 70 โหมด
  • รองรับการแจ้งเวลาพระอาทิตย์ขึ้น พระอาทิตย์ตกผ่านทางหน้าจอ
  • มี GPS, GLONASS, BEIDOU, QZSS ในตัว
  • รองรับการแสดงผลแผนที่สีได้เต็มรูปแบบ
  • รองรับการตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจ, วัดความสูงด้วยความดันอากาศ
  • รองรับการตรวจจับคุณภาพการนอน, นับก้าว, แคลอรี่
  • รองรับการแจ้งเตือนสายเรียกเข้า แจ้งเตือนข้อความ ฯลฯ
  • รองรับ Wear OS จาก Google
  • รองรับ Adventure function สำหรับการวางแผนการเดินทาง สามารถใช้งานร่วมกับแอพ 3D Map ได้
  • มีระบบ GPS Navigation

สิ่งที่น่าสนใจ

SUUNTO 7 เป็นอีกหนึ่งสมาร์ทวอทช์ที่น่าซื้อมาใช้งาน ตอบโจทย์ทั้งไลฟ์ไสตล์ และการออกกำลังกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการตรวจจับวัดค่าต่างๆ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ชอบการออกกำลังกาย

ข้อสังเกต

โดยรวมนั้นฟีเจอร์ที่มีมาให้ค่อนข้างครบครัน แต่หากเทียบกับสมาร์ทวอชแบรนด์อื่นๆ SUUNTO 7 จะออกไปทางการเน้นการออกกำลังกายมากกว่าไลฟ์สไตล์ อีกทั้งยังเน้นไปที่การใช้งานร่วมกับ Android มากกว่า iOS ถึงแม้ว่าจะรองรับทั้งการใช้งาน iOS และ Android แต่ Android นั้นจะสามารถใช้งานร่วมกันได้มีประสิทธิภาพมากกว่า

ราคา: ประมาณ 8,900 บาท

สามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่: SHOPEE


และทั้งหมดนี้ก็คือนาฬิกาออกกำลังกาย ผู้ชาย ที่ทีมงานได้นำมาแนะนำกัน โดยจะมีทั้งรุ่นที่เปิดตัวมาได้สักระยะหนึ่งแล้ว และรุ่นใหม่ๆ ที่น่าสนใจ มีช่วงราคาตั้งแต่ช่วงหลักพันไปจนถึงหลักหมื่น ทั้งยังมีขนาดหน้าจอที่สามารถมองได้อย่างสบายตา และมีขนาดพอดีกับข้อมือ เพราะโดยส่วนใหญ่นั้นผู้ชายมักจะมีขนาดข้อมือที่ใหญ่กว่าผู้หญิง สำหรับใครที่กำลังมองหานาฬิกาออกกำลังกาย ผู้ชาย ก็สามารถนำสมาร์ทวอทช์ที่ทีมงานได้นำมาแนะนำไปเป็นตัวเลือกในการตัดสินใจซื้อกันได้เลย จะซื้อสวมใส่เองก็ได้ จะซื้อเป็นของขวัญในโอกาสพิเศษๆ ก็ดี


อ่านบทความเพิ่มเติม / เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

แอพหาคู่, แอพหาเพื่อน, แอพหาคนคุย, แอพหาเพื่อนคุย
แอพวัดที่ดิน
สมัครเน็ต AIS รายวัน, โปรเน็ต AIS รายวัน
นาฬิกาออกกำลังกาย 2023
โหลดคลิปจาก Facebook
เกมมือถือเล่นกับเพื่อน ฟรี, เกมมือถือเล่นกับเพื่อน 2023
ฟอนต์ไอโฟน ฟรี
อัดหน้าจอคอม Windows 11

from:https://notebookspec.com/web/690615-smart-watch-for-men-suggestion

10 โน๊ตบุ๊ค AMD ตัวเทพ ดีทั้งทำงานและเกมมิ่ง แรงโดนใจโปรแกรมพร้อมใช้ครบเครื่อง!!

โน๊ตบุ๊ค AMD ยุคนี้ดีๆ แรงๆ เพียบ มีทั้งสายทำงานและเกมมิ่งให้เลือก!

โน๊ตบุ๊ค AMD

โน๊ตบุ๊ค AMD ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องมาหลายปีหลังจากที่ทางบริษัทเปิดตัวซีรี่ย์ AMD Ryzen มาให้ผู้ใช้ได้สัมผัสกับประสิทธิภาพของซีพียู AMD ยุคใหม่ซึ่งตอบโจทย์ทั้งใช้ทำงานและเล่นเกม ก็ทำให้ผู้ใช้หลายๆ คนที่อยากได้โน๊ตบุ๊คราคาไม่แพงแต่สเปคแรงทำงานลื่นตัดสินใจได้ง่ายขึ้น จากเมื่อก่อนที่มีรุ่นซีพียู AMD เป็นรุ่นทางเลือกเท่านั้น ก็กลายเป็นซีรี่ส์หลักซึ่งผู้ใช้หลายๆ คนหันมาเลือกซื้อกันมากขึ้นและก็ยังคงเอกลักษณ์ว่าราคาไม่แพงจับต้องได้อยู่เช่นเดิมด้วย

Advertisementavw

สำหรับโน๊ตบุ๊ค AMD ณ ตอนนี้ ผู้ผลิตหลายๆ เจ้าจะโฟกัสรุ่นที่เป็นซีพียู AMD Ryzen 5 และ Ryzen 7 เป็นกลุ่มหลัก เพราะคอร์เธรดมีให้ใช้งานเยอะทำงานลื่นแต่จะคละกันทั้ง Ryzen 5000, Ryzen 6000 Series ซึ่งไม่ว่ารุ่นไหนก็น่าใช้และยังได้โปรแกรม Microsoft Office Home & Student แถมมาให้ และบางรุ่นก็มีกล้องสแกนใบหน้า IR Camera ทำงานร่วมกับระบบ Windows Hello ได้ แถมบางรุ่นก็ติดตั้งการ์ดจอแยก AMD Radeon RX Series ซึ่งใช้ทำงานและเล่นเกมได้ดีไม่แพ้ NVIDIA GeForce เลย

โน๊ตบุ๊ค AMD

สรุปสเปค 10 โน๊ตบุ๊ค AMD ทั้งสายเกมมิ่งและสายทำงาน เด็ดสุดคุ้มเงินแรงชัวร์!

สรุปสเปคโน๊ตบุ๊ค AMD CPU

GPU

SSD

RAM

Software

Display

Weight

Connectivity ราคา
(บาท)
Hp Pavilion 15-eh2040AU AMD Ryzen 7 5825U

AMD Radeon Graphics

M.2 NVMe
512GB

16GB DDR4
3200MHz

Windows 11 Home

Microsoft Office Home & Student 2021

15.6″ FHD IPS

1.75 กก.

USB-A 3.2 x 2

USB-C Full Function 3.2 x 1

HDMI 2.1 x 1

MicroSD Card Reader x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6

Bluetooth 5.2

27,490
Acer Swift Edge SFA16-41-R4B1 AMD Ryzen 5 6600U

AMD Radeon 660M

M.2 NVMe
1TB

16GB LPDDR5
6400MHz

Windows 11 Home

Microsoft Office Home & Student 2021

16″ 4K UHD
(3840×2400)
OLED

100% DCI-P3

1.17 กก.

USB-A 3.2 x 2

USB-C 3.2 x 2

HDMI x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6E

Bluetooth 5.2

45,990
Acer Swift Edge SFA16-41-R74U AMD Ryzen 7 6800U

AMD Radeon 680M

M.2 NVMe
1TB

16GB LPDDR5
6400MHz

Windows 11 Home

Microsoft Office Home & Student 2021

16″ 4K UHD
(3840×2400)
OLED

100% DCI-P3

1.17 กก.

USB-A 3.2 x 2

USB-C 3.2 x 2

HDMI x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6E

Bluetooth 5.2

49,990
MSI Bravo 15 B5ED-008TH AMD Ryzen 7 5800H

AMD Radeon RX 6500M

M.2 NVMe
512GB

8GB DDR4
3200MHz

Windows 11 Home

15.6″ FHD IPS

Refresh Rate 144Hz

2.35 กก.

USB 2.0 x 1

USB-A 3.2 x 2

USB-C 3.2 x 1

HDMI x 1

LAN RJ45 x 1

Wi-Fi 6E

Bluetooth 5.2

26,990
Lenovo IdeaPad Gaming 3 15ACH6 AMD Ryzen 5 5600H

NVIDIA GeForce RTX 3050 Ti

M.2 NVMe
512GB

8GB DDR4
3200MHz

Windows 11 Home

15.6″ FHD IPS

Refresh Rate 120Hz

2.25 กก.

USB-A 3.2 x 2

USB-C 3.2 x 1

HDMI x 1

LAN x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6

Bluetooth 5.0

27,990
Acer Nitro 5 AN515-46-R12A AMD Ryzen 5 6600H

NVIDIA GeForce RTX 3050 Ti

M.2 NVMe
512GB

8GB DDR5
4800MHz

Windows 11 Home

15.6″ FHD IPS

Refresh Rate 165Hz

100% sRGB

2.5 กก.

USB-A 3.2 x 3

USB-C 3.2 x 1

HDMI x 1

LAN x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6E

Bluetooth 5.2

37,990
ASUS TUF Gaming A15 FA507RM-HN004W AMD Ryzen 7 6800H

NVIDIA GeForce RTX 3060

M.2 NVMe
512GB

16GB DDR5
4800MHz

Windows 11 Home

15.6″ FHD IPS

Refresh Rate 144Hz

2.2 กก.

USB-A 3.2 x 2

USB-C 3.2 x 2

HDMI x 1

LAN x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6

Bluetooth 5.2

45,990
Lenovo Legion 5 15ARH7H-82RD0040TA AMD Ryzen 7 6800H

NVIDIA GeForce RTX 3060

M.2 NVMe
512GB

16GB DDR5
4800MHz

Windows 11 Home

15.6″ FHD IPS

Refresh Rate 165Hz

100% sRGB

Dolby Vision

2.4 กก.

USB-C 3.2 x 3

USB-A 3.2 x 3

HDMI x 1

LAN x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6E

Bluetooth 5.2

54,990
Lenovo Legion 5 15ARH7H-82RD0041TA AMD Ryzen 7 6800H

NVIDIA GeForce RTX 3070

M.2 NVMe
512GB

16GB DDR5
4800MHz

Windows 11 Home

15.6″ FHD IPS

Refresh Rate 165Hz

100% sRGB

Dolby Vision

2.4 กก.

USB-C 3.2 x 3

USB-A 3.2 x 3

HDMI x 1

LAN x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6E

Bluetooth 5.2

64,990
ASUS ROG Zephyrus G14 GA402RJ AMD Ryzen 9 6900HS

AMD Radeon RX 6700S

M.2 NVMe
1TB

16GB DDR5
4800MHz

Windows 11 Home

Microsoft Office Home & Student 2021

14″ WQXGA
(2560×1600)
IPS

Refresh Rate 120Hz

100% DCI-P3

1.72 กก.

USB-A 3.2 x 2

USB-C 3.2 Full Function x 1

USB-C 3.2 DisplayPort x 1

HDMI 2.0b x 1

MicroSD Card Reader x 1

Audio Combo x 1

Wi-Fi 6E

Bluetooth 5.2

74,990

10 โน๊ตบุ๊ค AMD น่าใช้ ชาวออฟฟิศชอบ เกมเมอร์ถูกใจ!

เกมเมอร์หรือสายทำงานคนไหนอยากได้โน๊ตบุ๊ค AMD เครื่องใหม่มาใช้แทนเครื่องเก่าที่เก่าจนเริ่มใช้งานไม่ไหลลื่นเท่าที่เคย ทำงานไม่ทันใจอย่างที่เป็นล่ะก็ ผู้เขียนมีโน๊ตบุ๊ค AMD แนะนำทั้งหมด 10 รุ่น ได้แก่

  1. Hp Pavilion 15-eh2040AU (27,490 บาท)
  2. Acer Swift Edge SFA16-41-R4B1 (45,990 บาท)
  3. Acer Swift Edge SFA16-41-R74U (49,990 บาท)
  4. MSI Bravo 15 B5ED-008TH (26,990 บาท)
  5. Lenovo IdeaPad Gaming 3 15ACH6 (27,990 บาท)
  6. Acer Nitro 5 AN515-46-R12A (37,990 บาท)
  7. Lenovo Legion 5 15ARH7H-82RD0040TA (54,990 บาท)
  8. Lenovo Legion 5 15ARH7H-82RD0041TA (64,990 บาท)
  9. ASUS ROG Zephyrus G14 GA402RJ (74,990 บาท)
1. Hp Pavilion 15-eh2040AU (27,490 บาท)

HP Notebook Pavilion 15 eh2040AU 01

เริ่มต้นเป็น Hp Pavilion 15-eh2040AU โน๊ตบุ๊ค AMD เพื่อสายทำงานขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS พร้อมซีพียู AMD Ryzen 7 5825U แบบ 8 คอร์ 12 เธรด ความเร็ว 2.0~4.5GHz และการ์ดจอออนบอร์ด AMD Radeon Graphics นอกจากทำงานได้ดียังจัดการพลังงานเยี่ยม มี M.2 NVMe SSD ความจุ 512GB ติดตั้ง Windows 11 Home และ Microsoft Office Home & Student 2021 มาให้ มีแรม 16GB DDR4 บัส 3200MHz ติดตั้งพอร์ต USB-A 3.2 x 2, USB-C Full Function 3.2 x 1, HDMI 2.1 x 1, MicroSD Card Reader x 1, Audio combo x 1 เชื่อมต่อ Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.2 ได้ในตัว น้ำหนักเพียง 1.75 กิโลกรัมเท่านั้น จุดเด่นของมันนอกจากมี Numpad ติดตั้งมาให้ใช้พิมพ์ตัวเลขได้สะดวกขึ้นแล้วน้ำหนักยังเบาพกพาสะดวกอีกด้วย หากใครหาโน๊ตบุ๊คสายทำงานราคาคุ้มสเปคดีเอาไว้ใช้แนะนำให้ดูรุ่นนี้เอาไว้เลย

สเปคของ Hp Pavilion 15-eh2040AU
CPU AMD Ryzen 7 5825U แบบ 8 คอร์ 12 เธรด ความเร็ว 2.0~4.5GHz
GPU AMD Radeon Graphics
SSD M.2 NVMe SSD 512GB
RAM 16GB DDR4 บัส 3200MHz
Display 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS
Connectivity USB-A 3.2 x 2, USB-C Full Function 3.2 x 1, HDMI 2.1 x 1, MicroSD Card Reader x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.2

Software Windows 11 Home, Microsoft Office Home & Student 2021
Weight 1.75 กิโลกรัม
Price 27,490 บาท ใช้โค้ด BAMDBFM10 ลดได้ 1,000 บาท (คลิ๊กสั่งซื้อได้ที่นี่)
2. Acer Swift Edge SFA16-41-R4B1 (45,990 บาท)

Acer Notebook Swift Edge SFA16 01

โน๊ตบุ๊ค AMD สำหรับสายทำงานรุ่นถัดมาเป็น Acer Swift Edge SFA16-41-R4B1 ตัวใหม่ล่าสุดจาก Acer ถูกใจสายจอใหญ่ด้วยจอขนาด 16 นิ้ว ความละเอียด 4K UHD (3840×2400) พาเนล OLED ติดตั้งซีพียู AMD Ryzen 5 6600U แบบ 6 คอร์ 12 เธรด ความเร็ว 2.9~4.5GHz กับการ์ดจอออนบอร์ด AMD Radeon 660M แบบ 6 คอร์ ความเร็ว 1,900MHz มาให้ มี M.2 NVMe SSD ความจุ 1TB ติดตั้ง Windows 11 Home และ Microsoft Office Home & Student 2021 มาพร้อมแรม 16GB LPDDR5 บัส 6400MHz มีพอร์ต USB-A 3.2 x 2, USB-C 3.2 x 2, HDMI x 1, Audio combo x 1 เชื่อมต่อ Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.2 ได้ แต่น้ำหนักเบาผิดคาดเพียง 1.17 กิโลกรัมเท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้น Swift Edge ก็มีชิปเซ็ตรักษาความปลอดภัย Microsoft Pluton Security Processor ติดมาในตัวและได้หน้าจอขอบเขตสีกว้าง 100% DCI-P3 อีกด้วย เรียกว่าเป็นยอดโน๊ตบุ๊คสายทำงานน่าใช้อีกรุ่น หากใครต้องการชมรีวิวฉบับเต็มสามารถอ่านได้ที่นี่

สเปคของ Acer Swift Edge SFA16-41-R4B1
CPU AMD Ryzen 5 6600U แบบ 6 คอร์ 12 เธรด ความเร็ว 2.9~4.5GHz
GPU AMD Radeon 660M แบบ 6 คอร์ ความเร็ว 1,900MHz
SSD M.2 NVMe SSD 1TB
RAM 16GB LPDDR5 บัส 6400MHz
Display 16 นิ้ว ความละเอียด 4K UHD (3840×2400) พาเนล OLED ขอบเขตสีกว้าง 100% DCI-P3
Connectivity USB-A 3.2 x 2, USB-C 3.2 x 2, HDMI x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.2

Software Windows 11 Home, Microsoft Office Home & Student 2021
Weight 1.17 กิโลกรัม
Price 45,990 บาท ใช้โค้ด BAMDBFM20 ลดได้ 2,000 บาท (คลิ๊กสั่งซื้อได้ที่นี่)
3. Acer Swift Edge SFA16-41-R74U (49,990 บาท)

Acer Notebook Swift Edge SFA16 05

ถ้าชอบ Swift Edge แต่ขอซีพียูประสิทธิภาพสูงขึ้นหน่อย จะมี Acer Swift Edge SFA16-41-R74U เป็นตัวท็อปซีพียู AMD Ryzen 7 6800U แบบ 8 คอร์ 16 เธรด ความเร็ว 2.7~4.7GHz ซึ่งได้การ์ดจอออนบอร์ด AMD Radeon 680M แบบ 12 คอร์ ความเร็ว 2,200MHz แทน ซึ่งซีพียูตัวนี้ประสิทธิภาพสูงดีพอใช้เล่นเกมฟอร์มใหญ่ได้ แค่ตั้งค่ากราฟิคเล็กน้อยก็พอแล้ว จัดเป็นโน๊ตบุ๊ค AMD สายทำงานที่น่าใช้อีกรุ่น ณ ตอนนี้

สเปคของ Acer Swift Edge SFA16-41-R74U
CPU AMD Ryzen 7 6800U แบบ 8 คอร์ 16 เธรด ความเร็ว 2.7~4.7GHz
GPU AMD Radeon 680M แบบ 12 คอร์ ความเร็ว 2,200MHz
SSD M.2 NVMe SSD 1TB
RAM 16GB LPDDR5 บัส 6400MHz
Display 16 นิ้ว ความละเอียด 4K UHD (3840×2400) พาเนล OLED ขอบเขตสีกว้าง 100% DCI-P3
Connectivity USB-A 3.2 x 2, USB-C 3.2 x 2, HDMI x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.2

Software Windows 11 Home, Microsoft Office Home & Student 2021
Weight 1.17 กิโลกรัม
Price 49,990 บาท ใช้โค้ด BAMDBFM20 ลดได้ 2,000 บาท (คลิ๊กสั่งซื้อได้ที่นี่)
4. MSI Bravo 15 B5ED-008TH (26,990 บาท)

MSI Bravo 15 B5ED 008TH 02

MSI Bravo 15 B5ED-008TH รุ่นนี้เป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค AMD ที่น่าซื้อในราคาไม่เกิน 30,000 บาท ซึ่งรุ่นใหม่นี้ยังใช้จอขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 144Hz มาให้ ซีพียูเป็น AMD Ryzen 7 5800H แบบ 8 คอร์ 16 เธรด ความเร็ว 3.2~4.4GHz กับการ์ดจอแยก AMD Radeon RX 6500M แรม 4GB GDDR6 มาให้ ใช้เล่นเกมความละเอียด Full HD ได้ดี มี M.2 NVMe SSD ความจุ 512GB กับแรม 8GB DDR4 บัส 3200MHz ติดตั้งมาให้ในตัว มีพอร์ต USB 2.0 x 1, USB-A 3.2 Gen 1 x 2, USB-C 3.2 Gen 1 x 1, HDMI x 1, LAN RJ45 x 1 เชื่อมต่อ Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.2 ได้ น้ำหนัก 2.35 กิโลกรัม จัดเป็นรุ่นสเปคดีราคาคุ้มอีกรุ่นและยังอัพเกรดเพิ่มแรมได้ หากใครสนใจโน๊ตบุ๊ค AMD เครื่องนี้สามารถคลิ๊กชมรีวิวด้านล่างได้เลย

สเปคของ MSI Bravo 15 B5ED-008TH
CPU AMD Ryzen 7 5800H แบบ 8 คอร์ 16 เธรด ความเร็ว 3.2~4.4GHz
GPU AMD Radeon RX 6500M แรม 4GB GDDR6
SSD M.2 NVMe SSD 512GB
RAM 8GB DDR4 บัส 3200MHz
Display 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 144Hz
Connectivity USB 2.0 x 1, USB-A 3.2 x 2, USB-C 3.2 x 1, HDMI x 1, LAN RJ45 x 1

Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.2

Software Windows 11 Home
Weight 2.35 กิโลกรัม
Price 26,990 บาท ใช้โค้ด BAMDBFM10 ลดได้ 1,000 บาท (คลิ๊กสั่งซื้อได้ที่นี่)
5. Lenovo IdeaPad Gaming 3 15ACH6 (27,990 บาท)

Notebook IdeaPad Gaming 3 15ACH6 01

เกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค AMD สเปคคุ้มหน้าตาเรียบร้อยเหมือนโน๊ตบุ๊คทำงานอย่าง Lenovo IdeaPad Gaming 3 15ACH6 รุ่นนี้ก็ยังพอหาซื้อได้ไม่ยากมากและยังได้คีย์บอร์ดไฟ RGB อีกด้วย ส่วนหน้าจอมีขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 120Hz ได้ซีพียู AMD Ryzen 5 5600H แบบ 6 คอร์ 12 เธรด ความเร็ว 3.3~4.2GHz จับคู่การ์ดจอแยก NVIDIA GeForce RTX 3050 Ti แรม 4GB GDDR6 มี M.2 NVMe SSD ความจุ 512GB ติดตั้ง Windows 11 Home มาให้ แรม 8GB DDR4 บัส 3200MHz อัพเกรดเพิ่มได้ พอร์ตเชื่อมต่อมี USB-A 3.2 x 2, USB-C 3.2 x 1, HDMI x 1, LAN x 1, Audio combo x 1 เชื่อมต่อ Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.0 น้ำหนักเครื่อง 2.25 กิโลกรัม จัดเป็นรุ่นดีราคาเบาๆ ที่ยังน่าซื้อ ซึ่งเกมเมอร์หลายๆ คนยังต้องการอย่างแน่นอน

สเปคของ Lenovo IdeaPad Gaming 3 15ACH6
CPU AMD Ryzen 5 5600H แบบ 6 คอร์ 12 เธรด ความเร็ว 3.3~4.2GHz
GPU NVIDIA GeForce RTX 3050 Ti แรม 4GB GDDR6
SSD M.2 NVMe SSD 512GB
RAM 8GB DDR4 บัส 3200MHz
Display 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 120Hz
Connectivity USB-A 3.2 x 2, USB-C 3.2 x 1, HDMI x 1, LAN x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.0

Software Windows 11 Home
Weight 2.25 กิโลกรัม
Price 27,990 บาท ใช้โค้ด BAMDBFM10 ลดได้ 1,000 บาท (คลิ๊กสั่งซื้อได้ที่นี่)
6. Acer Nitro 5 AN515-46-R12A (37,990 บาท)

Acer Notebook Nitro AN515 01

Acer Nitro 5 AN515-46-R12A รุ่นนี้เป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คสเปคแรงน่าใช้อีกรุ่นที่เกมเมอร์หลายคนสนใจ ซึ่งข้อดีของมันคือได้แรม DDR5 ซึ่งทำงานได้เร็วขึ้นติดตั้งมาให้ในตัวเครื่องจอ 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 165Hz ขอบเขตสี 100% sRGB ได้ซีพียู AMD Ryzen 5 6600H แบบ 6 คอร์ 12 เธรด ความเร็ว 3.3~4.5GHz กับการ์ดจอแยก NVIDIA GeForce RTX 3050 Ti แรม 4GB GDDR6 และ M.2 NVMe SSD ความจุ 512GB ติดตั้งแรมมา 8GB DDR5 บัส 4800MHz ในตัว มีพอร์ต USB-A 3.2 x 3, USB-C 3.2 x 1, HDMI x 1, LAN x 1, Audio combo x 1 เชื่อมต่อ Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.2 ได้ น้ำหนัก 2.5 กิโลกรัม หากใครหาเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค AMD เครื่องใหม่เอาไว้เล่นเกมก็แนะนำให้ดูรุ่นนี้ไว้ใช้ได้เลย

สเปคของ Acer Nitro 5 AN515-46-R12A
CPU AMD Ryzen 5 6600H แบบ 6 คอร์ 12 เธรด ความเร็ว 3.3~4.5GHz
GPU NVIDIA GeForce RTX 3050 Ti แรม 4GB GDDR6
SSD M.2 NVMe SSD 512GB
RAM 8GB DDR5 บัส 4800MHz
Display 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 165Hz ขอบเขตสี 100% sRGB
Connectivity USB-A 3.2 x 3, USB-C 3.2 x 1, HDMI x 1, LAN x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.2

Software Windows 11 Home
Weight 2.5 กิโลกรัม
Price 37,990 บาท ใช้โค้ด BAMDBFM20 ลดได้ 2,000 บาท (คลิ๊กสั่งซื้อได้ที่นี่)
7. ASUS TUF Gaming A15 FA507RM-HN004W (45,990)

Asus Notebook TUF Gaming A15 FA507RM 03

ASUS TUF Gaming A15 FA507RM-HN004W เป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค AMD ซึ่งเกมเมอร์หลายๆ คนสนใจอย่างแน่นอน ซึ่งตระกูล TUF นี้ได้จอ 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 144Hz ได้ซีพียู AMD Ryzen 7 6800H แบบ 8 คอร์ 16 เธรด ความเร็ว 3.2~4.7GHz จับคู่การ์ดจอแยก NVIDIA GeForce RTX 3060 แรม 6GB GDDR6 มี M.2 NVMe SSD ความจุ 512GB และแรม 16GB DDR5 บัส 4800MHz มาให้ มีพอร์ต USB-A 3.2 x 2, USB-C 3.2 x 2, HDMI x 1, LAN x 1, Audio combo x 1 เชื่อมต่อ Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.2 ได้ น้ำหนัก 2.2 กิโลกรัม กับราคานี้ต้องถือว่า ASUS TUF Gaming A15 นี้เป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค AMD ที่น่าซื้ออีกเครื่อง

สเปคของ ASUS TUF Gaming A15 FA507RM-HN004W
CPU AMD Ryzen 7 6800H แบบ 8 คอร์ 16 เธรด ความเร็ว 3.2~4.7GHz
GPU NVIDIA GeForce RTX 3060 แรม 6GB GDDR6
SSD M.2 NVMe SSD 512GB
RAM 16GB DDR5 บัส 4800MHz
Display 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 144Hz
Connectivity USB-A 3.2 x 2, USB-C 3.2 x 2, HDMI x 1, LAN x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.2

Software Windows 11 Home
Weight 2.2 กิโลกรัม
Price 45,990 บาท ใช้โค้ด BAMDBFM20 ลดได้ 2,000 บาท (คลิ๊กสั่งซื้อได้ที่นี่)
8. Lenovo Legion 5 15ARH7H-82RD0040TA (54,990 บาท)

Lenovo Notebook Legion 5 15ARH7H 01

เกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค AMD ขวัญใจเกมเมอร์ชาวไทยอย่าง Lenovo Legion ก็มีรุ่นที่เป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค AMD เช่นกัน ซึ่งจุดเด่นคือได้ระบบระบายความร้อน Coldfront 4.0 พร้อมหน้าจอคุณภาพสูงขอบเขตสีกว้าง 100% sRGB, Dolby Vision ในตัว โดยรุ่นแนะนำเป็น Lenovo Legion 5 15ARH7H-82RD0040TA ขนาดจอ 15.6 นิ้ว ความละเอียด WQHD (2560×1440) พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 165Hz ติดตั้งซีพียู AMD Ryzen 7 6800H แบบ 8 คอร์ 16 เธรด ความเร็ว 3.2~4.7GHz จับคู่การ์ดจอแยก NVIDIA GeForce RTX 3060 แรม 6GB GDDR6 มี M.2 NVMe SSD ความจุ 512GB ติดตั้ง Windows 11 Home กับแรม 16 GB DDR5 บัส 4800 MHz สามารถอัพเกรดเพิ่มได้ มีพอร์ต USB-C 3.2 x 3, USB-A 3.2 x 3, HDMI x 1, LAN x 1, Audio combo x 1 เชื่อมต่อ Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.2 ในตัว น้ำหนัก 2.4 กิโลกรัม ซึ่งจุดเด่นของ Lenovo Legion นั้น มี USB-C แบบต่อจอแยก DisplayPort ได้และมีช่องหนึ่งชาร์จแบตเตอรี่แบบ Power Delivery ได้ด้วย จัดเป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค AMD ที่ตอบโจทย์ทั้งเกมเมอร์และครีเอเตอร์มากๆ

สเปคของ Lenovo Legion 5 15ARH7H-82RD0040TA
CPU AMD Ryzen 7 6800H แบบ 8 คอร์ 16 เธรด ความเร็ว 3.2~4.7GHz
GPU NVIDIA GeForce RTX 3060 แรม 6GB GDDR6
SSD M.2 NVMe SSD 512GB
RAM 16 GB DDR5 บัส 4800 MHz
Display 15.6 นิ้ว ความละเอียด WQHD (2560×1440) พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 165Hz ขอบเขตสีกว้าง 100% sRGB, Dolby Vision
Connectivity USB-C 3.2 x 3, USB-A 3.2 x 3, HDMI x 1, LAN x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.2

Software Windows 11 Home
Weight 2.4 กิโลกรัม
Price 54,990 บาท ใช้โค้ด BAMDBFM50 ลดได้ 5,000 บาท (คลิ๊กสั่งซื้อได้ที่นี่)
9. Lenovo Legion 5 15ARH7H-82RD0041TA (64,990 บาท)

Lenovo Notebook Legion 5 15ARH7H 04

ถ้าการ์ดจอ GeForce RTX 3060 ยังไม่โดนใจ อยากได้เฟรมเรทเยอะขึ้นอีกหน่อยก็มี Lenovo Legion 5 15ARH7H-82RD0041TA ซึ่งแชร์สเปคร่วมกับ Legion 5 ในข้อก่อนหน้าแทบทั้งหมด แต่อัพเกรดการ์ดจอแยกเป็น NVIDIA GeForce RTX 3070 แรม 8GB GDDR6 ให้เล่นเกมได้ดีขึ้น ยิ่งใครต่อหน้าจอแยกความละเอียด 2K QHD เล่นเกมก็แนะนำให้ขยับงบมาซื้อเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค AMD รุ่นนี้ได้เลย

สเปคของ Lenovo Legion 5 15ARH7H-82RD0041TA
CPU AMD Ryzen 7 6800H แบบ 8 คอร์ 16 เธรด ความเร็ว 3.2~4.7GHz
GPU NVIDIA GeForce RTX 3070 แรม 8GB GDDR6
SSD M.2 NVMe SSD 512GB
RAM 16 GB DDR5 บัส 4800 MHz
Display 15.6 นิ้ว ความละเอียด WQHD (2560×1440) พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 165Hz ขอบเขตสีกว้าง 100% sRGB, Dolby Vision
Connectivity USB-C 3.2 x 3, USB-A 3.2 x 3, HDMI x 1, LAN x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.2

Software Windows 11 Home
Weight 2.4 กิโลกรัม
Price 64,990 บาท ใช้โค้ด BAMDBFM50 ลดได้ 5,000 บาท (คลิ๊กสั่งซื้อได้ที่นี่)
10. ASUS ROG Zephyrus G14 GA402RJ (74,990 บาท)

Asus Notebook ROG Zephyrus G14 GA402RJ 04

ปิดท้ายด้วยเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค AMD ซึ่งผ่านเกณฑ์เป็น AMD Advantage ด้วยสเปคและขอบเขตสีหน้าจอระดับ 100% DCI-P3 อย่าง ASUS ROG Zephyrus G14 GA402RJ ซึ่งผู้เขียนเคยทำรีวิวไปก่อนหน้านี้แล้ว ผู้ที่ต้องการอ่านรีวิวโดยละเอียดสามารถคลิ๊กอ่านได้ที่นี่ โดยจุดเด่นของมันนอกจากได้กล้องหน้า IR Camera สแกนหน้าปลดล็อคเครื่องได้ งานประกอบดีและสเปคแรงแล้วยังพกพาสะดวกด้วยขนาดหน้าจอ 14 นิ้ว WQXGA (2560×1600) พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 120Hz ได้ซีพียูรหัสแรง AMD Ryzen 9 6900HS แบบ 8 คอร์ 16 เธรด ความเร็ว 3.3~4.9GHz กับการ์ดจอแยก AMD Radeon RX 6700S แรม 8GB GDDR6 ติดตั้งมาให้ ทำงานดีเล่นเกมลื่น มี M.2 NVMe SSD ความจุ 1TB ติดตั้ง Windows 11 Home กับ Microsoft Office Home & Student 2021 มาให้พร้อมใช้งานและแรมอีก 16GB DDR5 บัส 4800MHz พอร์ตเชื่อมต่อมี USB-A 3.2 Gen 2 x 2, USB-C 3.2 Full Function x 1, USB-C 3.2 DisplayPort x 1, HDMI 2.0b x 1, MicroSD Card Reader x 1, Audio Combo x 1 เชื่อมต่อ Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.2 ได้ น้ำหนักเพียง 1.72 กิโลกรัมเท่านั้น จัดเป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค AMD แบบ “แดงทั้งเครื่อง” ที่น่าซื้อมากอีกรุ่นหนึ่ง

สเปคของ ASUS ROG Zephyrus G14 GA402RJ
CPU AMD Ryzen 9 6900HS แบบ 8 คอร์ 16 เธรด ความเร็ว 3.3~4.9GHz
GPU AMD Radeon RX 6700S แรม 8GB GDDR6
SSD M.2 NVMe SSD 1TB
RAM 16GB DDR5 บัส 4800MHz
Display 14 นิ้ว WQXGA (2560×1600) พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 120Hz ขอบเขตสีกว้าง 100% DCI-P3
Connectivity USB-A 3.2 Gen 2 x 2, USB-C 3.2 Full Function x 1, USB-C 3.2 DisplayPort x 1, HDMI 2.0b x 1, MicroSD Card Reader x 1, Audio Combo x 1

Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.2

Software Windows 11 Home, Microsoft Office Home & Student 2021
Weight 1.72 กิโลกรัม
Price 74,990 บาท ใช้โค้ด BAMDBFM50 ลดได้ 5,000 บาท (คลิ๊กสั่งซื้อได้ที่นี่)

fortnite 4129124 1280

จะเห็นว่าตอนนี้โน๊ตบุ๊ค AMD มีทั้งสายทำงานและเกมมิ่งให้เลือกมากมายไปจนรุ่นที่เป็นโน๊ตบุ๊ค AMD Advantage ซึ่งเป็นซีพียูและการ์ดจอ AMD ทั้งหมดให้เลือกอีกด้วย ซึ่งปัจจุบันนี้ไม่ว่าจะซีพียูหรือการ์ดจอแยกนี้ก็ใช้ทำงานและเล่นเกมได้ยอดเยี่ยมทีเดียว หากใครอยากได้เครื่องแรงสเปคคุ้มไปใช้งานก็เลือกรุ่นที่แนะนำไปใช้ได้เลย


บทความที่เกี่ยวข้อง

8ตัวปล่อยสัญญาณWiFi 1

ตัวรับWifi

Artboard 1 1

from:https://notebookspec.com/web/690451-10-recommend-amd-gaming-laptop

8 ตัวปล่อยสัญญาณ WiFi แบบใส่ซิม ถูกใจสายท่องเที่ยว ใส่ซิม 5G, 4G ได้หมด อัพเดทปี 2023

ตัวปล่อยสัญญาณ WiFi แบบใส่ซิมของดีน่ามีติดกระเป๋าสายเที่ยวในและนอกประเทศ มีไว้เวิร์คชัวร์

8ตัวปล่อยสัญญาณWiFi 1

หลังจากแต่ละประเทศปรับโรค COVID-19 เป็นโรคประจำถิ่นแล้วเปิดพรมแดนให้ผู้คนเดินทางเข้าออกประเทศเพื่อท่องเที่ยวได้ หลายคนก็หาซื้อตัวปล่อยสัญญาณ WiFi แบบใส่ซิมมาใส่ซิมท่องเที่ยวไว้ปล่อยสัญญาณอินเตอร์เน็ตเมื่อไปเที่ยวต่างประเทศให้สมาร์ทโฟนและอุปกรณ์ต่างๆ ที่พกติดตัวไปด้วย ซึ่งผู้ใช้หลายคนอาจคิดว่าก็ปล่อยสัญญาณอินเตอร์เน็ตจากสมาร์ทโฟนไปก็ได้ ไม่เห็นต้องซื้อตัวปล่อยสัญญาณพวกนี้มาใช้ให้เปลืองและไม่ต้องพกของเพิ่มให้วุ่นวายก็ได้ แต่ในทางกลับกันมันก็ใช้แบตเตอรี่ของมือถืออย่างต่อเนื่องและทำให้แบตเตอรี่หมดเร็วขึ้น ซึ่งถ้ามี Powerbank ติดมาด้วยก็ไม่น่ามีปัญหา

Advertisementavw

ในทางกลับกันตัวปล่อยสัญญาณ WiFi แบบใส่ซิมนั้นมีขนาดเล็กพกง่ายเท่ากุญแจรถยนต์ เอาใส่กระเป๋ากางเกงหรือติดช่องเล็กๆ บนกระเป๋าได้สบายๆ แค่ใส่ซิมเปิดเครื่องเชื่อมต่อ WiFi ก็ใช้งานได้ทันทีและเชื่อมต่อหลายอุปกรณ์พร้อมกันได้สบายๆ อีกด้วย แถมแบตเตอรี่ก็ทนทานพอใช้งานได้หลายชั่วโมงไม่ต้องเปลืองแบตเตอรี่และทำให้สมาร์ทโฟนร้อนขึ้นมาโดยไม่จำเป็น

ยิ่งปัจจุบันนี้ ตัวปล่อยสัญญาณ WiFi แบบใส่ซิมก็รองรับเครือข่าย 4G LTE เป็นมาตรฐานแถมใส่ซิมของผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือได้ทุกเจ้าแล้วและบางรุ่นก็รองรับเครือข่าย 5G ซึ่งมีความเร็วสูงกว่าได้อีกด้วย และผู้ผลิตบางค่ายก็ใส่ลูกเล่นต่างๆ เสริมเข้ามาอย่างเช่นติดหน้าจอแสดงผลให้ผู้ดูได้ว่า ณ ตอนนี้ใช้อินเตอร์เน็ตไปกี่ GB แล้ว ช่วยให้ผู้ใช้เตรียมตัวได้ถูกว่าจะใช้ต่อไปแล้วซื้อแพ็คเกจเพิ่มหรือพอแค่นี้ดี นอกจากนี้และยังดูเข้าใจได้ง่ายอีกด้วย หากใครจะไปท่องเที่ยวหรือไปทำงานต่างประเทศเป็นเวลาสั้นๆ แล้วมีอุปกรณ์ไอทีอย่างแท็บเล็ตหรือโน๊ตบุ๊คติดไปด้วยก็อยากแนะนำให้ซื้อตัวปล่อยสัญญาณ WiFi แบบใส่ซิมเตรียมเอาไว้สักตัวจะดีที่สุด

ตัวปล่อยสัญญาณ WiFi แบบใส่ซิม

และข้อดีของตัวปล่อยสัญญาณ WiFi แบบใส่ซิม คือ นอกจากพกไปไหนมาไหนได้สะดวกแล้ว บางบ้านที่ผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ตบ้านทำจุดกระจายสัญญาณไปไม่ถึงหรือที่บ้านไม่สะดวกจะเดินสายอินเตอร์เน็ตเข้าบ้านก็ซื้อซิมอินเตอร์เน็ตแบบใช้งานไม่จำกัดมาใส่ตัวปล่อยสัญญาณแล้วใช้เล่นเกมเล่นเน็ตแทนได้ด้วย ซึ่งสะดวกไม่แพ้การเดินเน็ตเข้าบ้านตามปกติอย่างแน่นอน

สรุปสเปค 8 ตัวปล่อยสัญญาณ WiFi แบบใส่ซิม พกสะดวกใช้สบายปล่อยเน็ตเร็วลื่นทันใจ!!

สเปคตัวปล่อยสัญญาณ WiFi แบบใส่ซิม Supported SIM Frequency
&
Speed
Connection Capacity Battery ราคา
(บาท)
4G/5G Pocket WiFi AIS, True, TOT, My by CAT 2600/2100/1800/900/800/850 MHz

150 Mbps

10 เครื่อง 2,100mAh 659
Pocket WiFi True True 300 Mbps 12 เครื่อง 2,300mAh 959
HUAWEI Pocket WiFi E5785-92C AIS, True, TOT, My by CAT 900/1800/2100 Mhz

150 Mbps

16 เครื่อง 1,500mAh

ใช้ได้
6 ชั่วโมง

1,200
D-Link
DWR-932C
AIS, True, My by CAT 2100/1800/850/2600/900 Mhz

150 Mbps

10 เครื่อง 2,000mAh

ใช้ได้
10 ชั่วโมง

1,459
TP-LINK M7200 AIS, True, TOT, My by CAT 2100/1800/2600/900/800 MHz

150 Mbps

10 เครื่อง 2,000mAh

ใช้ได้
8 ชั่วโมง

1,450
TP-Link M7350 4G LTE AIS, True, TOT, My by CAT 800/900/1800/2100/2600 MHz

150 Mbps

10 เครื่อง 2,100mAh

ใช้ได้
8 ชั่วโมง

2,749
Tenda 4G185 AIS, True, TOT, My by CAT B1/B3/B7/B8/B28

150 Mbps

10 เครื่อง 2,100mAh

ใช้ได้
10 ชั่วโมง

1,485
ZTE MU5002 5G AIS 5G NSA+SA

1,800 Mbps

32 เครื่อง 4,500mAh

ใช้ได้
8 ชั่วโมง

9,990

8 ตัวปล่อยสัญญาณ WiFi แบบใส่ซิมน่าใช้ ซื้อติดกระเป๋าไว้ก่อนบินต่างประเทศ!!

ผู้ใช้คนไหนที่มีแผนไปเที่ยวต่างประเทศหรืออยากได้ตัวปล่อยสัญญาณ WiFi สักตัวเอาไว้ใช้เวลาจะไปเที่ยวต่างประเทศหรือเอาไว้ปล่อยเน็ตใช้ในหอพักหรือบ้าน ผู้เขียนก็มีตัวปล่อยสัญญาณ WiFi แบบใส่ซิมได้มาแนะนำทั้งหมด 8 รุ่นด้วยกัน ได้แก่

  1. 4G/5G Pocket WiFi (659 บาท)
  2. Pocket WiFi True (959 บาท)
  3. HUAWEI Pocket WiFi E5785-92C (1,200 บาท)
  4. D-Link DWR-932C (1,459 บาท)
  5. TP-LINK M7200 (1,450 บาท)
  6. TP-Link M7350 4G LTE (2,749 บาท)
  7. Tenda 4G185 (1,485 บาท)
  8. ZTE MU5002 5G (9,990 บาท)
1. 4G/5G Pocket WiFi (659 บาท)

12e2afc6ddb438a75f67a7c77a3a6811

4G/5G Pocket WiFi แบรนด์ OEM ตัวนี้เป็นตัวปล่อยสัญญาณ WiFi ราคาประหยัดรองรับซิม 4G LTE ได้ทุกค่ายไม่ว่าจะ AIS, True, TOT, My by CAT ก็ใช้ได้ โดยรับคลื่น 2600/2100/1800/900/800/850 MHz สามารถปล่อยสัญญาณอินเตอร์เน็ตให้อุปกรณ์ต่างๆ ใช้งานพร้อมกันได้ถึง 10 เครื่อง มีแบตเตอรี่ในตัว 2,100mAh ใช้งานต่อเนื่องได้นานหลายชั่วโมง เพียงใส่ซิมก็ใช้งานได้ทันทีไม่ต้องตั้งค่าอะไรให้วุ่นวายและปล่อยสัญญาณอินเตอร์เน็ตได้เร็วสุด 150 Mbps ทีเดียว ดังนั้นถ้าใครมองหาตัวปล่อยสัญญาณ WiFi ราคาไม่แพงมากเอาไว้ใช้ในโอกาสต่างๆ ก็ซื้อตัวนี้ไปใช้งานได้เลย

สเปคของ 4G/5G Pocket WiFi
Supported SIM AIS, True, TOT, My by CAT
Frequency&Speed 2600/2100/1800/900/800/850 MHz, 150 Mbps
Connection capacity 10 เครื่อง
Battery 2,100mAh
Price 659 บาท (happydeesure Shopee)
2. Pocket WiFi True (959 บาท)

749752b374ade4178c4281e85599d8ec

Pocket WiFi True ตัวนี้เป็นตัวปล่อยสัญญาณ WiFi แบบใส่ซิม True เท่านั้น ไม่รองรับซิมจากผู้ให้บริการเจ้าอื่น สามารถใส่ซิม 4G LTE ได้และมีหน้าจอแสดงผลแบบ TFT LCD ไว้แสดงผลว่าเหลืออินเตอร์เน็ตไว้ใช้งานเท่าไหร่และใช้ไปเท่าไหร่แล้วและแสดงผลค่าต่างๆ ของตัวเครื่องได้อย่างละเอียด มีความเร็วรับส่งข้อมูลสูงสุด 300 Mbps ปล่อยสัญญาณ Wi-Fi 5 มาตรฐาน 802.11ac แต่ต้องเลือกว่าจะใช้คลื่น 2.4GHz หรือ 5GHz มีแบตเตอรี่ในตัว 2,300mAh และใช้มันเป็น WiFi Repeater ได้และเชื่อมต่ออุปกรณ์พร้อมกันได้มากสุด 12 เครื่องพร้อมกัน หากใครใช้งานซิม True เป็นหลักแล้วจะเอามันไปเที่ยวต่างประเทศก็เลือกตัวปล่อยสัญญาณ WiFi ตัวนี้ไปใช้งานได้

สเปคของ Pocket WiFi True
Supported SIM True
Frequency&Speed 300 Mbps, Wi-Fi 5 มาตรฐาน 802.11ac 
Connection capacity 12 เครื่อง
Battery 2,300mAh
Price 959 บาท (soda5665 Shopee)
3. HUAWEI Mobile WiFi 3s E5576 (1,200 บาท)

pc kv

 

แบรนด์ชั้นนำที่เชี่ยวชาญเรื่องอุปกรณ์ไอทีอย่าง HUAWEI มีตัวปล่อยสัญญาณ WiFi แบบใส่ซิมราคาประหยัดอย่าง HUAWEI Mobile WiFi 3s E5576 ให้เลือก ซึ่งรุ่นนี้แม้จะไม่มีหน้าจอ LCD ติดตั้งมาให้แต่ก็ดูสถานะผ่านทางไฟและเครื่องหมายหน้ากล่องได้ รองรับ 4G LTE คลื่น 900/1800/2100 Mhz ของ AIS, True, TOT และ My by CAT ได้ รับส่งข้อมูลได้เร็วสุด 150 Mbps รองรับการเชื่อมต่อพร้อมกันได้ถึง 16 เครื่อง ตั้งค่าด้วยแอพฯ HUAWEI ใน Android และ iOS ได้ มีแบตเตอรี่ในตัว 1,500mAh ใช้งานต่อเนื่องได้นาน 6 ชั่วโมง จัดเป็นตัวปล่อยสัญญาณ WiFi ที่มีลูกเล่นและตั้งค่าผ่านแอพฯ ได้สะดวกด้วย

สเปคของ HUAWEI Mobile WiFi 3s E5576
Supported SIM AIS, True, TOT, My by CAT
Frequency&Speed 900/1800/2100 Mhz, 150 Mbps
Connection capacity 16 เครื่อง
Battery 1,500mAh ใช้งานได้ 6 ชั่วโมง
Price 1,200 บาท (simnetagentplus Shopee Mall)
4. D-Link DWR-932C (1,459 บาท)

DWR 932C E1 mainimage

แบรนด์คุณภาพดีอย่าง D-Link ก็มีตัวปล่อยสัญญาณ WiFi แบบใส่ซิมรุ่น D-Link DWR-932C แบบติดแถบไฟแสดงสถานะการทำงานติดอยู่หน้าตัวเครื่อง ส่วนลูกเล่นน่าสนใจของมันคือมีช่องใส่ MicroSD Card ได้ 32GB ไว้แบ็คอัพข้อมูลได้เล็กน้อยอีกด้วย ใส่ซิม 4G LTE คลื่น 2100/1800/850/2600/900 Mhz ของ AIS, True, My by CAT ได้ รับส่งข้อมูลได้เร็วสุด 150 Mbps เชื่อมต่ออุปกรณ์ต่างๆ ได้มากสุด 10 เครื่อง ใช้งานได้นานสุด 10 ชั่วโมงด้วยแบตเตอรี่ 2,000mAh ในตัวและมีระบบรักษาความปลอดภัย WPA 2, WPS, Firewall ในตัวแบบครบเครื่อง จัดเป็นรุ่นประสิทธิภาพดีและปลอดภัยอีกเครื่องแถมยังเป็นแบรนด์ชั้นนำของโลกอีกเจ้าที่ไม่ควรพลาด

สเปคของ D-Link DWR-932C
Supported SIM AIS, True, My by CAT
Frequency&Speed 2100/1800/850/2600/900 Mhz, 150 Mbps
Connection capacity 10 เครื่อง
Battery 2,000mAh ใช้งานได้ 10 ชั่วโมง
Price 1,459 บาท (D-Link Thailand Shopee Mall)
5. TP-LINK M7200 (1,450 บาท)

M7200 EU 1.0 01 normal 1509007521135p

ตัวปล่อยสัญญาณ WiFi แบบใส่ซิม ของ TP-Link จะมีรุ่นเด่น 2 รุ่น ตัวแรกคือ TP-LINK M7200 เป็นตัวแบบมีไฟแสดงสถานะการทำงานหน้าเครื่อง ใส่ซิม 4G LTE คลื่น 2100/1800/2600/900/800 MHz ความเร็วสูงสุด 150 Mbps กระจายสัญญาณให้อุปกรณ์ต่างๆ ได้ทั้งหมด 10 เครื่อง พร้อมกัน มีแบตเตอรี่ในตัว 2,000mAh ใช้งานได้นาน 8 ชั่วโมง ตั้งค่าได้ด้วยแอพฯ tpMiFi โหลดใช้ได้ใน Android, iOS ทั้งหมด เป็นรุ่นดีราคาไม่แพงคุณภาพไว้ใจได้แถมยังตั้งค่าตัวเครื่องผ่านแอพฯ ได้อีกด้วย แถมเป็นรุ่นตัวเล็กพกสะดวกถูกใจใครหลายๆ คนอย่างแน่นอน

สเปคของ TP-LINK M7200
Supported SIM AIS, True, TOT, My by CAT
Frequency&Speed 2100/1800/2600/900/800 MHz, 150 Mbps
Connection capacity 10 เครื่อง
Battery 2,000mAh ใช้งานได้นาน 8 ชั่วโมง
Price 1,450 บาท (satitjaichumni Shopee)
6. TP-Link M7350 4G LTE (2,749 บาท)

TP-Link M7350 4G LTE ตัวนี้เป็นรุ่นอัพเกรดเพิ่มหน้าจอแสดงผลคอยบอกสถานะการทำงานและปริมาณอินเตอร์เน็ตที่ใช้ไปและเหลือให้ใช้งานอยู่ รวมทั้งใส่ MicroSD Card ได้ 32GB เอาไว้แบ็คอัพข้อมูลที่ต้องการได้ด้วย สามารถใส่ซิม 4G LTE ได้ทุกเครือข่าย คลื่น 800/900/1800/2100/2600 MHz ความเร็ว 150 Mbps กระจายสัญญาณให้ใช้งานพร้อมกันได้ 10 เครื่อง ใช้งานได้นาน 8 ชั่วโมงด้วยแบตเตอรี่ 2,000mAh ในตัว ตั้งค่าตัว M7350 โหลดแอพฯ tpMiFi มาติดตั้งในอุปกรณ์ Android, iOS เพื่อตั้งค่าตัวเครื่องและโหลดไฟล์เข้าออก MicroSD Card ได้อีกด้วย เป็นรุ่นน่าใช้พร้อมฟีเจอร์ครบเครื่องรุ่นหนึ่งแถมยังบอกสถานะของอินเตอร์เน็ตและตัวเครื่องได้ละเอียดทีเดียว

สเปคของ TP-Link M7350 4G LTE
Supported SIM AIS, True, TOT, My by CAT
Frequency&Speed 800/900/1800/2100/2600 MHz, 150 Mbps
Connection capacity 10 เครื่อง
Battery 2,100mAh ใช้งานได้นาน 8 ชั่วโมง
Price 2,749 บาท (Nava IT Shopee)
7. Tenda 4G185 (1,485 บาท)

596e31b5dc46e9955f4bb5d19f2273d5

Tenda 4G185 เครื่องนี้เป็นตัวปล่อยสัญญาณ WiFi แบบใส่ซิมพร้อมหน้าจอ OLED 1.44 นิ้ว แสดงรายละเอียดชัดเจนทั้งแบตเตอรี่และสัญญาณอินเตอร์เน็ต แถมยังดูได้ด้วยว่าเราใช้งานอินเตอร์เน็ตไปกี่ GB แล้ว จะได้ใช้งานไม่เกินกำหนด สามารถใส่ซิม 4G LTE คลื่น B1/B3/B7/B8/B28 แล้วใช้งานได้เลย มีความเร็วสูงสุด 150 Mbps กระจายสัญญาณให้อุปกรณ์ต่างๆ ได้ 10 เครื่องพร้อมกัน มีแบตเตอรี่ในตัว 2,100mAh ใช้งานได้นานสุด 10 ชั่วโมง และมีช่องใส่ MicroSD Card รองรับความจุสูงสุด 32GB เป็นของดีราคาประหยัดอีกรุ่นสำหรับคนหาตัวปล่อยสัญญาณ WiFi แบบใส่ซิมไว้ใช้งานสักตัว

สเปคของ Tenda 4G185
Supported SIM AIS, True, TOT, My by CAT
Frequency&Speed B1/B3/B7/B8/B28, 150 Mbps
Connection capacity 10 เครื่อง
Battery 2,100mAh ใช้งานได้นาน 10 ชั่วโมง
Price 1,485 บาท (Tenda Shopee Mall)
8. ZTE MU5002 5G (9,990 บาท)

ZTE

ปิดท้ายด้วย ZTE MU5002 5G ตัวปล่อยสัญญาณ WiFi แบบใส่ซิมของ AIS รุ่นประสิทธิภาพสูง รองรับ 5G NSA+SA ในตัว กระจายสัญญาณเป็น Wi-Fi 6 ความเร็วสูงสุด 1,800 Mbps ให้อุปกรณ์ต่างๆ ใช้อินเตอร์เน็ตได้พร้อมกัน 32 เครื่อง และมีช่อง Gigabit Network LAN ติดตั้งมาให้ต่อคอมได้และมีแบตเตอรี่ในตัว 4,500mAh ใช้งานได้ 8 ชั่วโมง ติดตั้งหน้าจอ TFT ทัชสกรีน 2.4 นิ้วมาให้ดูสถานะและกดตั้งค่าตัวเครื่องบนหน้าจอได้ทันทีหรือจะใช้แอพฯ ZTElink ก็ได้เช่นกันแต่ใช้งานกับเครือข่ายของ AIS เป็นหลัก หากใครใช้งานเครือข่าย AIS อยู่แล้วและอยากกระจายสัญญาณ 5G ไปใช้กับอุปกรณ์ต่างๆ ของตัวเอง ก็แนะนำให้ซื้อตัวปล่อยสัญญาณ WiFi 5G ตัวนี้ไปใช้เลย

สเปคของ ZTE MU5002 5G 
Supported SIM AIS
Frequency&Speed 5G NSA+SA, 1,800 Mbps
Connection capacity 32 เครื่อง
Battery 4,500mAh ใช้งานได้ 8 ชั่วโมง
Price 9,990 บาท (AIS Store)

ตัวปล่อยสัญญาณ WiFi แบบใส่ซิม

จะเห็นว่าตัวปล่อยสัญญาณ WiFi ณ ตอนนี้จะยืนพื้นกับสัญญาณแบบ 4G LTE เป็นหลัก เพราะมันรับส่งข้อมูลได้เร็วระดับหนึ่ง โดยเฉพาะผู้ใช้ทั่วไปที่เน้นทำงานหรือเปิดเน็ตดูหนังฟังเพลงก็ถือว่าเพียงพอและก็มีตัว 5G ให้เลือกบ้างแล้ว ถ้าหากผู้ใช้คนไหนมีแผนไปเที่ยวต่างประเทศก็แนะนำให้หาอุปกรณ์ชิ้นนี้ใส่กระเป๋าเอาไว้ให้เรียบร้อยจะได้ใช้งานอินเตอร์เน็ตได้ทั้งวันอย่างมีความสุข


บทความที่เกี่ยวข้อง

ลำโพงพกพา 1

ตัวรับWifi

Artboard 1 1

from:https://notebookspec.com/web/690179-8-recommend-pocket-wifi-4g-5g-2023

Commart Big Deal 2023 โปรคอมประกอบ คอมเล่นเกมทุกค่าย Advice, Banana, ACE, JIB และ Speed

Commart Big Deal 2023 รวมโปรโมชั่นคอมประกอบทุกค่าย ราคาดี มีของแถมอะไรบ้าง?

Commart Hot Deal 2023 PC promotion cov

Commart Big Deal 2023 รวมโปรโมชั่นคอมประกอบ คอมเล่นเกม จัดสเปคคอม ไม่ต้องไปเดินหาให้เหนื่อย เพราะเรารวมราคาคอมประกอบทุกค่ายมาให้ได้ชมกัน เช็คราคากันได้เลย เริ่มตั้งแต่ไม่ถึง 10000 บาท ถึงหลักแสน รวมทุกค่าย Advice, ACE, Banana E-QUIP, JIB, GALAX, Speed เป็นต้น บอกเลยว่าแต่ละค่ายจัดกันมาไม่ธรรมดา ว่ากันตั้งแต่ใช้งานเบาๆ ที่บ้าน เกมเมอร์ ฮาร์ดคอร์เกมเมอร์ ไปจนถึงการทำงานจริง พร้อมกับโปรผ่อนบัตร และของพรีเมียมต่างๆ ที่มีมาให้เลือกกันจนจุกเลยทีเดียว เรื่องของราคายังสามารถไปพูดคุยกันที่หน้าร้านได้เช่นกัน จะมีรุ่นไหนที่ถูกใจคุณกันบ้าง ไปติดตามชมกันเลยครับ


Commart Big Deal 2023 รวมโปรคอมประกอบ

โปรโมชั่นคอมเซ็ตจาก Advice

  • บูธ Advice: ไบเทคบางนา บูธ A2, B2, B3, C5, D14 และ X1
  • ผ่อนนานแบบตะโกน 0% นานสูงสุด 48 เดือน!!
  • ใบเสร็จนำไปเล่นกิจกรรมที่บูธ X1 ลุ้นรับรางวัลมูลค่ารวมกว่า 400,000 บาท
  • กิจกรรมพิเศษยิ้มแลกส่วนลด 😁
  • Computer Set โดย นพ ExtremeIT ตอบโจทย์ทุกการใช้งาน กว่า 24 เซ็ต ลดสูงสุด 22,000 บาท เริ่มต้นเพียง 7,990 บาท พร้อมของแถมแบบจัดเต็ม
  • นาทีทองออนไลน์ ลดสูงสุด 99% เริ่มต้นแค่ 1 บาทกับสินค้าไอทีโคตรรรรรรคุ้ม!
  • โปรโมชั่นราคาพิเศษ และของแถมแบบจัดเต็ม
  • เป็นเจ้าของสินค้า Apple พร้อมข้อเสนอสุดพิเศษที่แอดไวซ์
  • ส่วนลดสุดพิเศษสำหรับชาว TIKTOK ลดสูงสุด 2,400 บาท ที่ TikTok : @AdviceClub
  • Lazada x Advice แจกส่วนลด 3 ต่อ ลดสูงสุด 4,500 บาท
  • กระทบไหล่กูรูไอทีระดับประเทศ “นพ Extreme It” ตอบชัดทุกคำถาม
  • เกมเมอร์ตัวจริงต้องไม่พลาดกับ Gaming Gear จัดเต็มทุกแบรนด์ชั้นนำ!!
  • ช้อปสินค้าในงานครบ 5,000 บาท ส่งถึงบ้านฟรี!!
  • Commart Big Deal

โปรโมชั่นคอมเซ็ตจาก ACE Gamer

  • Commart Big Deal
  • ผ่อนสบายสูงสุด 36เดือน
  • ของพรีเมียม เสื้อ เมาส์ เกมและพัดลมเป็นต้น
  • บางรุ่นเป็นแว่นตา หูฟังเกมมิ่ง

โปรโมชั่นคอมเซ็ตจาก Banana

  • ผ่อน 0% นานสูงสุด 36 เดือน**
  • เครดิตเงินคืนสูงสุด 30,000.-**
  • ใช้คะแนนแลกรับส่วนลดทันที 25%** กับบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ
  • Lazada แจกโค้ดลับที่บูธ BaNANA ลดสูงสุด 4,500.- (จำนวนจำกัด)

โปรโมชั่นคอมเซ็ตจาก JIB

  • Commart Big Deal
  • รับส่วนลดสูงสุด 15,000 บาท
  • ยังไม่หมดแค่นั้น ซื้อวันนี้ รับฟรีของแถมสุดพิเศษ! เอ็กซ์คูซีฟไม่เหมือนใคร
  • คอมเซ็ตพร้อมใช้ ส่งด่วน ส่งไว ไว้ใจ #เจไอบี เครื่องเสียเปลี่ยนสวนทันทีภายใน 24 ชั่วโมง *เป็นไปตามเงื่อนไขกำหนด
  • สามารถผ่อน 0% นาน 10 เดือน บัตรเครดิต : กสิกร, เคทีซี, กรุงศรี และเฟิร์สช้อยส์
  • สามารถผ่อน 0% นาน 36 เดือน
  • ทุกเซ็ตส่งฟรี ภายใน 6 ชั่วโมง *เฉพาะกรุงเทพ และปริมณฑล
  • รับบัตรเครดิตเงินคืนสูงสุด 30,000 บาท

สเปคคอมไม่เกิน 30,000 บาท

Advice – ไม่เกิน 30,000 บาท

Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal

ACE Gamer – ไม่เกิน 30,000 บาท

Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal

Banana E-QUIP – ไม่เกิน 30,000 บาท

Banana 1
Banana 4
Banana 13
Banana 3
Banana 8
Banana 5
Banana 14
Banana 2
Banana 15

xxxx

Advertisementavw

GALAX – ไม่เกิน 30,000 บาท

Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal

xxxx


JIB – ไม่เกิน 30,000 บาท

Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal

xxxx


Speed Gaming – ไม่เกิน 30,000 บาท

Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal

xxxx


สเปคคอม 30,000 – 60,000 บาท

Advice 30,000 – 60,000 บาท

Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal

xxxx


ACE Gamer 30,000 – 60,000 บาท

Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal

Banana E-QUIP 30,000 – 60,000 บาท

Banana 6
Banana 9
Banana 10

GALAX 30,000 – 60,000 บาท

Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal

JIB 30,000 – 60,000 บาท

Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal

Speed Gaming 30,000 – 60,000 บาท

Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Speed 14

สเปคคอม 60,000 – 100,000 บาท

Advice 60,000 – 100,000 บาท

Commart Big Deal
Commart Big Deal

ACE Gamer 60,000 – 100,000 บาท

Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal

Banana E-QUIP 60,000 – 100,000 บาท

Banana 7
Banana 11

GALAX 60,000 – 100,000 บาท

Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal

JIB 60,000 – 100,000 บาท

Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal

Speed Gaming 60,000 – 100,000 บาท

Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal

Commart Big Deal สเปคคอม 100,000 บาท ขึ้นไป

Advice 100,000 บาท ขึ้นไป

Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal

ACE Gamer 100,000 บาท ขึ้นไป

Commart Big Deal
Commart Big Deal

Banana E-QUIP 100,000 บาท ขึ้นไป

Banana 12

GALAX 100,000 บาท ขึ้นไป

Commart Big Deal

JIB 100,000 บาท ขึ้นไป

Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal
Commart Big Deal

Speed Gaming 100,000 บาท ขึ้นไป

Commart Big Deal
Commart Big Deal

สรุปสเปคคอมในงาน Commart Hot Deal 2023

คอมประกอบราคา ไม่เกิน 10,000 บาท

  1. Advice_AMD#103 ให้มาเป็นสเปค ซีพียู AMD Ryzen 5 3400G พร้อมแรม 16GB และได้ SSD 240GB การ์ดจอ Radeon Graphic เพาเวอร์ 550W ราคา 7,990 บาท
  2. JIB MARU-2303022 ให้ซีพียู AMD Ryzen 5 4600G ให้แรมมา 8GB และ SSD 240GB การ์ดจอออนซีพียู เพาเวอร์ 550W และเคส AEROCOOL TALON ในราคา 8,990 บาท
  3. Speed SP_COM2318 ได้ซีพียู Intel Core i5-9500 พร้อมแรม 8GB และได้ SSD 240GB เพาเวอร์ 550W ราคา 8,990 บาท
  4. Banana E-QUIP เปิดราคาได้ดีเช่นกัน กับซีพียู AMD Ryzen 5 Pro 4650G มาคู่กับแรม DDR4 16GB และ SSD 256GB เพาเวอร์ 600W ราคา 9,700 บาท

คอมประกอบงบ 30,000 บาท คอเกมปลื้ม

  1. Advice ราคา 29,900 บาท ซีพียู Intel Core i5-12400F, แรม DDR4 16GB, SSD 500GB, RTX3060Ti, PSU 650W
  2. ACE Gamer ราคา 29,900 บาท ซีพียู Intel Core i5-13400F, แรม DDR4 16GB, SSD 500GB, RTX3060, PSU 750W
  3. GALAX Gamer ราคา 29,900 บาท ซีพียู Intel Core i5-12400F, แรม DDR4 16GB, SSD 500GB, RTX3060Ti, PSU 650W
  4. JIB ราคา 29,900 บาท ซีพียู AMD Ryzen 5 5600X, แรม DDR4 16GB, SSD 500GB, RX6750XT, PSU 750W
  5. Banana E-QUIP ราคา 29,500 บาท ซีพียู Intel Core i5-13400F, แรม DDR4 16GB, SSD 500GB, Intel ARC770, PSU 650W
  6. Speed Gaming ราคา 28,240 บาท ซีพียู AMD Ryzen 5 5600G, แรม DDR4 16GB, SSD 500GB, RX6700XT, PSU 750W

คอมประกอบตัวเทพเกมมิ่ง ราคาเกิน 100,000 บาท ใน Commart Big Deal

  1. Advice ราคา 199,900 บาท ได้ซีพียู Intel Core i9-13900K แรม DDR5 64GB กับ SSD 2TB การ์ดจอ RTX4090 เพาเวอร์ 1600W
  2. JIB ราคา 192,000 บาท ซีพียู Intel Core i9-13900K แรม DDR5 64GB และมี SSD 1TB การ์ดจอ RTX4090 เพาเวอร์ 1350W
  3. ACE Gamer อยู่ที่ 159,990 บาท ได้ซีพียู Intel Core i9-13900K พร้อมแรม DDR5 64GB กับมี SSD 1TB การ์ดจอ RTX4090 เพาเวอร์ 1350W
  4. GALAX ราคา 116,900 บาท ซีพียู Intel Core i7-13700K แรม DDR5 32GB ให้ SSD 1TB และการ์ดจอ RTX4090 เพาเวอร์ 1000W
  5. Banana E-QUIP ราคา 115,000 บาท ได้ซีพียู Intel Core i7-13700K แรม DDR5 32GB พร้อม SSD 1TB และการ์ดจอ RTX4090 เพาเวอร์ 1000W
  6. Speed Gaming ราคา 114,000 บาท ซีพียู Intel Core i7-13700K แรม DDR5 32GB ให้ SSD 1TB และการ์ดจอ RTX4090 เพาเวอร์ 1000W

Commart Big Deal 2023 ต้องถือว่าเป็นงานในช่วงต้นปีนี้ ที่จัดเต็มเรื่องของโมเดล ราคาและโปรโมชั่น มาแบบครบครัน เหมาะสำหรับคนที่ต้องการจะซื้อคอมใหม่ จัดสเปคคอม หรืออัพเกรดคอมให้มีประสิทธิภาพดีขึ้น เพราะสินค้าหลายชิ้นลดราคาจากปลายปีก่อนมากมายเลยทีเดียว อย่างเช่น แรม และการ์ดจอ ส่วน SSD ก็มีตัวเลือกมาให้เยอะขึ้น ที่สำคัญบรรดาอุปกรณ์บางอย่าง ลดราคาแบบไม่ขนกลับอีกด้วย งานนี้ไม่ใช่แค่คอมเท่านั้น ที่ทำราคาได้ดี แต่ยังรวมถึงโน๊ตบุ๊ค และ Accessories ที่มีให้เลือกครบทุกไลน์ และยังมีรุ่นใหม่ที่ใช้ซีพียู การ์ดจอใหม่มาให้เลือกอีกด้วย ใครสนใจก็แวะกันเข้ามาช้อปได้เลย งานจัดขึ้นที่ ไบเทค บางนา ตั้งแต่วันที่ 2-5 มีนาคม 2566 นี้

from:https://notebookspec.com/web/688836-commart-big-deal-2023-pc-spec