คลังเก็บป้ายกำกับ: INTEL_NOTEBOOK

6 โน๊ตบุ๊คคุ้มค่า 2023 รุ่นเด็ด ได้ Office แท้ เล่นเกมก็ลื่นสุดๆ เริ่มแค่ 15,990 บาทเอง!

โน๊ตบุ๊คคุ้มค่า 2023 จะสายทำงานล้วนหรือเกมเมอร์ซ่อนรูปก็มีให้เลือกนะ แถมมีโค้ดส่วนลดให้ด้วย!

6Notebook2023

โน๊ตบุ๊คคุ้มค่า 2023 ในปัจจุบันนี้ หลายคนน่าจะคิดถึงโน๊ตบุ๊คราคาไม่เกิน 30,000 บาท สเปคดีได้ซีพียูตัวแรงรุ่นใหม่ๆ จาก AMD หรือ Intel ติดตั้งมาในเครื่องแล้วมี Windows 11 Home ติดตั้งมาให้ แล้วบางเครื่องก็อาจจะมีโปรแกรม Microsoft Office แท้ติดตั้งมาในตัว จะได้พกไปทำงานหรือเข้าห้องเรียนได้สะดวกและจบงานได้เร็ว ยิ่งปัจจุบันนี้ซีพียู Intel 12th Gen และ AMD Ryzen 5000 Series ก็ถือว่าทรงพลังจนใช้ทำงานได้หลากหลายแบบ ไม่ว่าจะทำงานเอกสารทั่วไป, ตัดต่อแต่งภาพหรือถ้ารุ่นไหนมีการ์ดจอแยกติดตั้งมา ก็ติดตั้งเกมเล่นได้เลย

Advertisementavw

หากพูดถึงสเปค ถ้าเอาไว้ทำงานอย่างเดียวขอแค่ซีพียูเป็น AMD Ryzen 3 5000 Series หรือ Intel Core i3 ขึ้นไปและแรมตั้งต้นสัก 8GB ก็ทำได้ทุกงานแล้ว ถ้าได้ Ryzen 5 หรือ Intel Core i5 ขึ้นไปก็ยิ่งดีเพราะมีคอร์เอาไว้ใช้ทำงานมากยิ่งขึ้น ถ้าได้แรม 16GB ก็เหลือเฟือเหลือใช้ เหมาะกับคนที่ใช้หลายโปรแกรมพร้อมๆ กันหรือเปิดเว็บเบราเซอร์หลายๆ แท็บพร้อมกันอย่างแน่นอน ยิ่งถ้าใครอยากทดลองติดตั้งโปรแกรมสาย Virtual Machine แล้วทดลองติดตั้งระบบปฏิบัติการ Linux ตระกูลต่างๆ ไว้ในเครื่งแล้วฝึกใช้งานดูก็ไม่เลวและเป็นการเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ให้เราได้ลองระบบปฏิบัติการอื่นๆ นอกเหนือจาก Windows และ macOS ซึ่งผู้ใช้หลายๆ คนคุ้นเคยได้อีกด้วย

โน๊ตบุ๊คคุ้มค่า 2023

สรุปสเปค 6 โน๊ตบุ๊คคุ้มค่า 2023 ถูกใจสายทำงาน เกมเมอร์ก็ชอบ!

สเปคโน๊ตบุ๊คคุ้มค่า 2023 CPU

GPU

SSD

RAM

Software

Display

Weight

Connectivity ราคา
(บาท)
HP 15s-eq2203AU AMD Ryzen 3 5300U

AMD Radeon Graphics

M.2 NVMe
512GB

8GB DDR4
3200MHz

Windows 11 Home

15.6″ FHD IPS

1.69 กก.

USB-C 3.1 x 1

USB-A 3.1 x 2

HDMI x 1

SD Card Reader x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 5

Bluetooth 5.0

15,990
MSI Modern 14 C5M-032TH AMD Ryzen 5 5625U

AMD Radeon Graphics

M.2 NVMe
256GB

8GB DDR4
3200MHz

Windows 11 Home

14″ FHD IPS

1.4 กก.

USB 2.0 x 2

USB-A 3.2 x 1

USB-C 3.2 x 1

HDMI x 1

MicroSD Card Reader x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6E

Bluetooth 5.2

15,990
Lenovo IdeaPad 3 15ABA7 AMD Ryzen 5 5625U

AMD Radeon Graphics

M.2 NVMe
512GB

8GB DDR4
3200MHz

Windows 11 Home

Microsoft Office Home & Student 2021

15.6″ FHD IPS

1.63 กก.

USB 2.0 x 1

USB-A 3.2 x 1

USB-C 3.2 x 1

HDMI x 1

SD Card Reader x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6

Bluetooth 5.2

20,990
Lenovo IdeaPad 3 15IAU7 Intel Core
i5-1235U

Intel Iris Xe Graphics

M.2 NVMe
512GB

8GB DDR4
3200MHz

Windows 11 Home

Microsoft Office Home & Student 2021

15.6″ FHD IPS

1.63 กก.

USB 2.0 x 1

USB-A 3.2 x 1

USB-C 3.2 x 1

HDMI x 1

SD Card Reader x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6

Bluetooth 5.2

21,990
Lenovo IdeaPad Gaming 3 15IHU6 Intel Core
i5-11320H

NVIDIA GeForce RTX 3050

M.2 NVMe
512GB

8GB DDR4
3200MHz

Windows 11 Home

15.6″ FHD IPS

Refresh Rate 120Hz

2.25 กก.

USB-A 3.2 x 2

USB-C 3.2 x 1

HDMI x 1

LAN x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6

Bluetooth 5.0

24,990
Lenovo IdeaPad Gaming 3 15ACH6 AMD Ryzen 5 5600H

NVIDIA GeForce RTX 3050 Ti

M.2 NVMe
512GB

8GB DDR4
3200MHz

Windows 11 Home

15.6″ FHD IPS

Refresh Rate 120Hz

2.25 กก.

USB-A 3.2 x 2

USB-C 3.2 x 1

HDMI x 1

LAN x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6

Bluetooth 5.0

27,990

BNN KV INTEL RESIZE Cover Page 1752x640 category banner medium 1

นอกจากนี้ ถ้าหากซื้อโน๊ตบุ๊คกับทาง BaNANA ภายในวันที่ 7~31 มีนาคม พ.ศ. 2566 นี้ ทางร้านก็มีโปรโมชั่นแถมและแลกซื้อของสมนาคุณให้กับลูกค้าและยังผ่อนชำระแบบ 0% นาน 24 เดือนได้อีกด้วย โดยมีรายละเอียดดังนี้

  • แถมลำโพงบลูทูธ TECHPRO Brick มูลค่า 750 บาท เมื่อซื้อโน๊ตบุ๊ค Intel Evo ที่ร่วมรายการ
  • แถมหูฟังเกมมิ่ง Onikuma K6 Gaming Headphone มูลค่า 790 บาท เมื่อซื้อโน๊ตบุ๊ครุ่นที่ใช้ซีพียู Intel 11th / 12th / 13th Gen
  • แถมเมาส์ไร้สาย Logitech B170 มูลค่า 290 บาท เมื่อซื้อโน๊ตบุ๊ครุ่นที่ร่วมรายการ
  • ได้สิทธิ์แลกซื้อโปรแกรม Microsoft 365 Personal มูลค่า 1,590 บาท (ปกติ 2,099 บาท)

จัดเป็นโปรโมชั่นส่งเสริมการขายที่น่าสนใจสำหรับคนที่มีแผนเปลี่ยนโน๊ตบุ๊คเครื่องใหม่อยู่แล้ว ก็สามารถเข้ามาเลือกดูรุ่นที่ร่วมรายการเพิ่มเติมได้ที่นี่

6 โน๊ตบุ๊คคุ้มค่า 2023 เพื่อสายทำงานและเกมเมอร์ แรงซ่อนรูปถูกใจคนทำงาน

ผู้ใช้คนไหนที่กำลังมองหาโน๊ตบุ๊คคุ้มค่า 2023 เครื่องใหม่เอาไว้ทำงานหรือเล่นเกมล่ะก็ ณ ตอนนี้ก็หาซื้อได้ไม่ยากมากและยังมีโปรโมชั่นใช้โค้ดพิเศษลดราคาสินค้าได้ โดยทั้ง 6 รุ่น จะคละกันทั้งซีพียู AMD, Intel และมีรุ่นที่ติดตั้งการ์ดจอแยกให้เลือกด้วย โดยมีรุ่นแนะนำดังนี้

  1. HP 15s-eq2203AU (15,990 บาท)
  2. MSI Modern 14 C5M-032TH (15,990 บาท)
  3. Lenovo IdeaPad 3 15ABA7 (20,990 บาท)
  4. Lenovo IdeaPad 3 15IAU7 (21,990 บาท)
  5. Lenovo IdeaPad Gaming 3 15IHU6 (24,990 บาท)
  6. Lenovo IdeaPad Gaming 3 15ACH6 (27,990 บาท)
1. HP 15s-eq2203AU (15,990 บาท)

HP 15s eq2203AU Silver 01

สำหรับโน๊ตบุ๊คคุ้มค่า 2023 เครื่องแรกอย่าง HP 15s-eq2203AU ถือเป็นรุ่นราคาเบาแต่สเปคดีพอใช้ทำงานออฟฟิศได้สบายๆ ถ้าใครทำงานบัญชีกดตัวเลขเป็นประจำก็มี Numpad ให้กรอกตัวเลขได้ง่ายๆ ตัวเครื่อมีขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียดจอระดับ Full HD พาเนล IPS แต่ก็เบาเพียง 1.69 กิโลกรัม ใช้ซีพียู AMD Ryzen 3 5300U แบบ 4 คอร์ 8 เธรด ความเร็ว 2.6~3.8GHz การ์ดจอออนบอร์ด AMD Radeon Graphics มี M.2 NVMe SSD ความจุ 512GB ติดตั้ง Windows 11 Home มาให้ มีแรม 8GB DDR4 บัส 3200MHz และยังเพิ่มแรมเป็น 16GB ได้ด้วย พอร์ตเชื่อมต่อมี USB-C 3.1 x 1, USB-A 3.1 x 2, HDMI x 1, SD Card Reader x 1, Audio combo x 1 เชื่อมต่อ Wi-Fi 5 มาตรฐาน 802.11ac และ Bluetooth 5.0 ได้ด้วย เป็นโน๊ตบุ๊คคุ้มค่าสเปคดีราคาเบาๆ เพื่อนักศึกษาที่เรียนอยู่หรือเพิ่งจบใหม่ได้งานทำแล้วอย่างแน่นอน

สเปคของ HP 15s-eq2203AU
CPU AMD Ryzen 3 5300U แบบ 4 คอร์ 8 เธรด ความเร็ว 2.6~3.8GHz
GPU AMD Radeon Graphics
SSD M.2 NVMe SSD 512GB
RAM 8GB DDR4 บัส 3200MHz
Display 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS
Connectivity USB-C 3.1 x 1, USB-A 3.1 x 2, HDMI x 1, SD Card Reader x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 5 มาตรฐาน 802.11ac และ Bluetooth 5.0

Software Windows 11 Home
Weight 1.69 กิโลกรัม
Price 15,990 บาท ใช้โค้ด BNFMM20 ลดได้ 2,000 บาท คลิ๊กสั่งซื้อที่นี่
2. MSI Modern 14 C5M-032TH (15,990 บาท)

MSI Modern 14 C5M 032TH 02

MSI Modern 14 C5M-032TH ก็เป็นโน๊ตบุ๊คคุ้มค่า 2023 อีกรุ่นสำหรับคนทำงานเช่นกัน โดยเครื่องนี้นอกจากน้ำหนักเบาพกง่ายเพียง 1.4 กิโลกรัม หน้าจอขนาด 14 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ยังได้ซีพียูรุ่นพิเศษอย่าง AMD Ryzen 5 5625U มี 6 คอร์  12 เธรด ความเร็ว 2.3~4.3GHz กับการ์ดจอ AMD Radeon Graphics ซึ่งรุ่นนี้เป็นรหัสพิเศษที่จัดการพลังงานดีขึ้นกว่าเดิม ได้ M.2 NVMe SSD ความจุ 256GB ติดตั้ง Windows 11 Home และแรมในตัวอีก 8GB DDR4 บัส 3200MHz มีพอร์ต USB 2.0 x 2, USB-A 3.2 x 1, USB-C 3.2 x 1, HDMI x 1, MicroSD Card Reader x 1, Audio combo x 1 เชื่อมต่อ Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.2 ได้ครบเครื่อง ถูกใจคนที่ต้องการโน๊ตบุ๊คคุ้มค่า 2023 ราคาดีสเปคแรงใช้งานได้หลายปีอย่างแน่นอน

สเปคของ MSI Modern 14 C5M-032TH
CPU AMD Ryzen 5 5625U มี 6 คอร์  12 เธรด ความเร็ว 2.3~4.3GHz
GPU AMD Radeon Graphics
SSD M.2 NVMe SSD 256GB
RAM 8GB DDR4 บัส 3200MHz
Display 14 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS
Connectivity USB 2.0 x 2, USB-A 3.2 x 1, USB-C 3.2 x 1, HDMI x 1, MicroSD Card Reader x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.2

Software Windows 11 Home
Weight 1.4 กิโลกรัม
Price 15,990 บาท ใช้โค้ด BNFMM10 ลดได้ 1,000 บาท คลิ๊กสั่งซื้อที่นี่
3. Lenovo IdeaPad 3 15ABA7 (20,990 บาท)

Lenovo Notebook IdeaPad 3 15ABA7 82RN003CTA Arctic Grey 5

Lenovo IdeaPad 3 15ABA7 ก็เป็นโน๊ตบุ๊คคุ้มค่า 2023 อีกเครื่องที่ไม่ควรพลาดเช่นกัน โดยจุดเด่นของมันนอกจากจะมี Windows 11 Home และ Microsoft Office Home & Student 2021 ติดตั้งมาให้แล้ว ยังได้เซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือติดตั้งมาให้ใช้ยืนยันตัวตนเพื่อปลดล็อคเครื่องได้ หน้าจอมีขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS มีน้ำหนักก็เบาเพียง 1.63 กิโลกรัมเท่านั้น ซีพียูเป็น AMD Ryzen 5 5625U มี 6 คอร์  12 เธรด ความเร็ว 2.3~4.3GHz กับการ์ดจอออนบอร์ด AMD Radeon Graphics เหมือนกัน มี M.2 NVMe SSD ความจุ 512GB และแรมอีก 8GB DDR4 บัส 3200MHz ติดตั้งมาให้พร้อมพอร์ต USB 2.0 x 1, USB-A 3.2 x 1, USB-C 3.2 x 1, HDMI x 1, SD Card Reader x 1, Audio combo x 1 เชื่อมต่อ Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.2 ได้ด้วย จัดเป็นโน๊ตบุ๊คคุ้มค่า 2023 ที่โปรแกรมครบเครื่อง สเปคพร้อมใช้ทำงานได้ทันทีและราคาก็ไม่แพงเกินไปอีกด้วย

สเปคของ Lenovo IdeaPad 3 15ABA7
CPU AMD Ryzen 5 5625U มี 6 คอร์  12 เธรด ความเร็ว 2.3~4.3GHz
GPU AMD Radeon Graphics
SSD M.2 NVMe SSD 512GB
RAM 8GB DDR4 บัส 3200MHz
Display 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS
Connectivity USB 2.0 x 1, USB-A 3.2 x 1, USB-C 3.2 x 1, HDMI x 1, SD Card Reader x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.2

Software Windows 11 Home, Microsoft Office Home & Student 2021
Weight 1.63 กิโลกรัม
Price 20,990 บาท ใช้โค้ด BNFMM20 ลดได้ 2,000 บาท คลิ๊กสั่งซื้อที่นี่
4. Lenovo IdeaPad 3 15IAU7 (21,990 บาท)

Lenovo Notebook IdeaPad 3 15IAU7 01

ถ้า Lenovo IdeaPad 3 ในข้อก่อนหน้าเข้าข่ายเป็นโน๊ตบุ๊คคุ้มค่า 2023 ในใจแล้ว แต่อยากได้ซีพียู Intel มากกว่าก็มี Lenovo IdeaPad 3 15IAU7 เป็นรุ่นเทียบเคียงกันที่สเปคเหมือนกันแทบทั้งหมด แต่เปลี่ยนซีพียูเป็น Intel Core i5-1235U มี 10 คอร์ 12 เธรด (2P+8E) ความเร็ว 3.3~4.4GHz กับการ์ดจอออนบอร์ด Intel Iris Xe Graphics แทน ในแง่ประสิทธิภาพจัดว่าดีไว้ใจได้และประหยัดพลังงานด้วย น่าจะตอบโจทย์ผู้ใช้ที่อยากได้โน๊ตบุ๊คซีพียู Intel รุ่นใหม่ไว้ใช้งานมาก

สเปคของ Lenovo IdeaPad 3 15IAU7
CPU Intel Core i5-1235U มี 10 คอร์ 12 เธรด (2P+8E) ความเร็ว 3.3~4.4GHz
GPU Intel Iris Xe Graphics
SSD M.2 NVMe SSD 512GB
RAM 8GB DDR4 บัส 3200MHz
Display 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS
Connectivity USB 2.0 x 1, USB-A 3.2 x 1, USB-C 3.2 x 1, HDMI x 1, SD Card Reader x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.2

Software Windows 11 Home, Microsoft Office Home & Student 2021
Weight 1.63 กิโลกรัม
Price 21,990 บาท ใช้โค้ด BNFMM10 ลดได้ 1,000 บาท คลิ๊กสั่งซื้อที่นี่
5. Lenovo IdeaPad Gaming 3 15IHU6 (24,990 บาท)

IdeaPad Gaming 3i 15IHU6 1

หากเป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คคุ้มค่า 2023 ก็มี Lenovo IdeaPad Gaming 3 15IHU6 ถือว่าน่าสนใจและสเปคก็ดีพอใช้เล่นเกมฟอร์มใหญ่ในปัจจุบันได้อย่างแน่นอนและตัวเครื่องก็ดูเรียบร้อยเหมือนโน๊ตบุ๊คทั่วไปไม่เตะตาเกินเวลาพกไปทำงานหรือเรียนอย่างแน่นอน ได้ซีพียู Intel Core i5-11320H แบบ 4 คอร์ 8 เธรด ความเร็ว 3.2~4.5GHz จับคู่การ์ดจอแยก NVIDIA GeForce RTX 3050 แรม 4GB GDDR6 พร้อม M.2 NVMe SSD ความจุ 512GB ติดตั้ง Windows 11 Home มาให้ มีแรม 8GB DDR4 บัส 3200MHz ในตัว อัพเกรดเพิ่มเป็น 16GB ได้ หน้าจอมีขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 120Hz มีพอร์ต USB-A 3.2 x 2, USB-C 3.2 x 1, HDMI x 1, LAN x 1, Audio combo x 1 เชื่อมต่อ Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.0 ได้ น้ำหนักเครื่อง 2.25 กิโลกรัม จัดเป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คคุ้มค่า 2023 อีกรุ่นที่ไม่ควรพลาด 

สเปคของ Lenovo IdeaPad Gaming 3 15IHU6
CPU Intel Core i5-11320H แบบ 4 คอร์ 8 เธรด ความเร็ว 3.2~4.5GHz
GPU NVIDIA GeForce RTX 3050 แรม 4GB GDDR6
SSD M.2 NVMe SSD 512GB
RAM 8GB DDR4 บัส 3200MHz
Display 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 120Hz
Connectivity USB-A 3.2 x 2, USB-C 3.2 x 1, HDMI x 1, LAN x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.0

Software Windows 11 Home
Weight 2.25 กิโลกรัม
Price 24,990 บาท ใช้โค้ด BNFMM10 ลดได้ 1,000 บาท คลิ๊กสั่งซื้อที่นี่
6. Lenovo IdeaPad Gaming 3 15ACH6 (27,990 บาท)

Notebook IdeaPad Gaming 3 15ACH6 01 1

เกมมิ่งโน๊ตบุ๊คคุ้มค่า 2023 รุ่นสุดท้ายเป็นดาวค้างฟ้าในใจเกมเมอร์งบจำกัดอย่าง Lenovo IdeaPad Gaming 3 15ACH6 ซึ่งรุ่นนี้นอกจากคีย์บอร์ดไฟ RGB สวยงามแต่ดีไซน์ตัวเครื่องเรียบร้อยดูดีไม่เตะตาเกินไปแล้ว หน้าจอยังใหญ่ถึง 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 120Hz ใช้ซีพียู AMD Ryzen 5 5600H แบบ 6 คอร์ 12 เธรด ความเร็ว 3.3~4.2GHz จับคู่การ์ดจอแยก NVIDIA GeForce RTX 3050 Ti แรม 4GB GDDR6 มี M.2 NVMe SSD ความจุ 512GB ติดตั้ง Windows 11 Home และแรม 8GB DDR4 บัส 3200MHz มาให้ครบเครื่อง มีพอร์ต USB-A 3.2 x 2, USB-C 3.2 x 1, HDMI x 1, LAN x 1, Audio combo x 1 เชื่อมต่อ Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.0 ได้ด้วย น้ำหนัก 2.25 กิโลกรัมเช่นกัน ถ้าใครอยากได้เกมมิ่งโน๊ตบุ๊คคุ้มค่า 2023 สเปค AMD Ryzen ก็ซื้อรุ่นนี้ไปใช้ได้

สเปคของ Lenovo IdeaPad Gaming 3 15ACH6
CPU AMD Ryzen 5 5600H แบบ 6 คอร์ 12 เธรด ความเร็ว 3.3~4.2GHz
GPU NVIDIA GeForce RTX 3050 Ti แรม 4GB GDDR6
SSD M.2 NVMe SSD 512GB
RAM 8GB DDR4 บัส 3200MHz
Display 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 120Hz
Connectivity USB-A 3.2 x 2, USB-C 3.2 x 1, HDMI x 1, LAN x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.0

Software Windows 11 Home
Weight 2.25 กิโลกรัม
Price 27,990 บาท ใช้โค้ด BNFMM30 ลดได้ 3,000 บาท คลิ๊กสั่งซื้อที่นี่

pexels fauxels 3184660

สำหรับโน๊ตบุ๊คคุ้มค่า 2023 นี้ ไม่ว่าจะสายทำงานหรือเกมมิ่งก็น่าสนใจทั้งนั้น แม้จะมีรุ่นเก่าที่วางขายมาระยะหนึ่งรวมอยู่แต่สเปคก็ยังดีน่าใช้เช่นเดิม ขอแค่อัพเกรดแล้วหาอุปกรณ์เสริมที่ต้องการใช้อย่างเมาส์หรือคีย์บอร์ดสักชุดมาใช้ให้ครบก็ดีแล้ว และส่วนตัวผู้เขียนก็แนะนำให้เปลี่ยนโน๊ตบุ๊คเป็นรุ่นใหม่ตามช่วงเทคโนโลยีไป จะได้ใช้งานเทคโนโลยีใหม่ๆ ให้งานเสร็จเร็วขึ้นและยังขายเครื่องเก่าได้ราคาอีกด้วย


บทความที่เกี่ยวข้อง

ReviweLogaMouse jpg

NBS 230313 image link template 3 2 1

7NotebookIntel

from:https://notebookspec.com/web/693064-6-recommend-laptop-2023-worth-buying

Advertisement

6 โน๊ตบุ๊คทำงาน 2023 รุ่นเด็ดจาก MSI ถูกใจสายทำงาน ครีเอเตอร์กดไลค์แน่นอน! ใครอยากเปลี่ยนเครื่องต้องโดน!

MSI มีโน๊ตบุ๊คทำงาน 2023 รุ่นใหม่ๆ ให้เลือกเพียบ จะ AMD หรือ Intel ก็เลือกได้!!

6MSINotebook

โน๊ตบุ๊คทำงาน 2023 สำหรับนักเรียนนักศึกษา, พนักงานออฟฟิศไปจนครีเอเตอร์ในปัจจุบันนี้มีตัวเลือกให้ผู้ใช้ได้หาเอาไว้ใช้งานมากมาย ตั้งแต่สเปคทั่วไปใช้ซีพียูและการ์ดจอออนบอร์ดของ AMD หรือ Intel ไปจนรุ่นที่มีการ์ดจอแยกของ NVIDIA ติดตั้งมาให้ครีเอเตอร์เลือกซื้อไปใช้งานก็มีเช่นกัน ซึ่งทาง MSI ก็มีโน๊ตบุ๊คเหล่านี้ให้เลือกซื้อหลากหลายรุ่นทีเดียว ไม่ว่าจะตระกูล Modern Series ซึ่งสร้างมาเพื่อใช้งานทั่วไป อย่างทำงานออฟฟิศหรือให้นักเรียนนักศึกษาพกไปเรียน Prestige Series เพื่อสายทำงานระดับพรีเมี่ยมซึ่งมีรุ่นหน้าจอทัชสกรีนให้เลือก ขอบเขตสีหน้าจอกว้างถึงระดับพรู้ฟงานอาร์ทหรือตัดต่อแต่งภาพก็ได้ไปจน Creator Series ซึ่งเกิดมาเพื่อครีเอเตอร์เอาไว้สร้างสรรค์ผลงานโดยเฉพาะ ติดตั้งหน้าจอทัชสกรีนขอบเขตสีกว้างและใช้ไดรเวอร์ NVIDIA Studio ซึ่งเสถียรและใช้ทำงานได้ยอดเยี่ยมมาก

Advertisementavw

ยิ่งในปี 2023 นี้ ทาง MSI นอกจากมีเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คประสิทธิภาพสูงทรงพลังให้เลือกซื้อแล้ว ทางบริษัทก็มีโน๊ตบุ๊คทำงาน 2023 ซีรี่ส์ยอดนิยมอย่างที่ได้กล่าวไปแต่อัพเกรดซีพียูเป็น AMD Ryzen 7000 Series และ Intel 12~13th Gen ออกมาวางตลาดให้ผู้ใช้ได้เลือกซื้อและบางรุ่นก็ติดตั้งโปรแกรม Microsoft Office Home & Student มาให้ใช้ เพียงแค่เปิดเครื่องแล้ว Sign in ก็เริ่มทำงานได้ทันทีและหลายๆ รุ่นก็ทำบอดี้ให้แข็งแรงแต่น้ำหนักเบาพกพาสะดวกและอาจเสริมฟีเจอร์ยืนยันตัวด้วยเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือหรือใบหน้ามาให้ด้วย เรียกว่าสะดวกปลอดภัยมาก

โน๊ตบุ๊คทำงาน 2023

เคล็ดลับเลือกโน๊ตบุ๊คทำงาน 2023 ให้คุ้มสุด!

โน๊ตบุ๊คทำงาน 2023

เคล็ดลับวิธีการเลือกโน๊ตบุ๊คทำงาน 2023 ให้คุ้มสุดนั้นไม่ยากมากอย่างที่ใครหลายคนกังวลกัน ซึ่งวิธีการนั้นผู้เขียนจะต้องแยกหมวดของโน๊ตบุ๊คทำงานออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆ ด้วยกัน ได้แก่ กลุ่มทำงานออฟฟิศและนักเรียนนักศึกษา อีกกลุ่มก็เป็นครีเอเตอร์เพราะต้องใช้โน๊ตบุ๊คซึ่งสเปคแตกต่างกันอยู่บ้าง ซึ่งวิธีการดูสเปคแยกแต่ละส่วนเพื่อให้ได้โน๊ตบุ๊คทำงาน 2023 ที่ดีถูกใจจะมีดังนี้

  • ซีพียู – ปัจจุบันซีพียูโน๊ตบุ๊คมีของ Intel และ AMD ซึ่งต่างใช้งานได้ดีทั้งคู่ และถ้าเทียบระหว่างซีพียู Intel และ AMD ว่าซีรี่ส์ไหนเป็นคู่แข่งกันโดยตรงและทำมาเพื่อใช้งานอะไรเป็นหลักจะแบ่งได้ตามนี้
    • Intel Pentium / AMD Athlon – ซีพียูซีรี่ส์เริ่มต้นของทั้งสองแบรนด์ เหมาะสำหรับใช้ทำงานทั่วไปอย่างเปิดเว็บไซต์ทำงานเอกสาร, เปิดเบราเซอร์ดูเว็บไซต์และทำงานด้วยเบราเซอร์เป็นหลัก ซึ่งซีรี่ส์นี้จะมี 2~4 คอร์ ให้ใช้งาน ผู้ผลิตโน๊ตบุ๊คมักเอามาติดตั้งให้โน๊ตบุ๊คราคาประหยัดเป็นหลัก โดยมีระดับแยกย่อยด้วยคำตามท้ายอย่าง Silver, Gold เหมือนกันทั้งสองค่ายให้แบ่งแยกง่ายๆ ตามลำดับเหรียญรางวัลการแข่งขันกีฬาได้เลย และซีรี่ส์ Gold รุ่นใหม่ๆ ก็ประสิทธิภาพดีพอเอาชนะหรือเทียบชั้น Intel Core Series, AMD FX และ AMD Ryzen รุ่นก่อนหน้าได้เลย
    • Intel Core i3 / AMD Ryzen 3 – ซีพียูรุ่นเริ่มต้นที่ผู้ใช้หลายๆ คนตั้งเป็นขั้นต่ำเวลาจะซื้อโน๊ตบุ๊คมาใช้ ซึ่งซีรี่ส์นี้จะมีคอร์ใช้งานจริงราว 2~4 คอร์และ Hyper-Threading เพิ่มจำนวนคอร์ใช้งานให้มากขึ้น ด้าน Intel ทั้งรุ่นที่ 12 และ 13 จะมีคอร์เยอะโดยนับรวม P-Core สำหรับทำงานหลักและ E-Core สำหรับประมวลผลงานเบื้องหลังเอาไว้ด้วยกัน แต่เมื่อดูเจาะจงต่อคอร์แล้วจะเห็นว่าซีพียูแต่ละตัวมีคอร์ทำงานหลักเท่าไหร่ ซึ่งผู้เขียนเคยทำบทความวิธีอ่านคอร์ซีพียู Intel เอาไว้แล้ว สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่ ด้าน AMD Ryzen 3 Series จะยังใช้วิธีการนับคอร์แบบเดิม มักมีมาในตัวชิป 4 คอร์ 8 เธรด ถือว่ามีพอให้ใช้ทำงานเอกสาร, ดูหนังความละเอียดสูง, เล่นเกมออนไลน์ และใช้ตัดต่อแต่งภาพด้วยโปรแกรมตระกูล Adobe Photoshop, Lightroom เพื่อประกอบรายงานได้ระดับหนึ่ง
    • Intel Core i5 / AMD Ryzen 5 – ซีรี่ส์ระดับกลางยอดนิยมของผู้ผลิตมักเลือกมาติดตั้งในโน๊ตบุ๊คหลายๆ รุ่นในปัจจุบันนี้และมีรุ่นย่อยเยอะมาก ซึ่ง Intel รุ่น 12, 13 จะมี P-Core และ E-Core ให้ใช้มากถึง 12 คอร์ 16 เธรด แยกเป็น 4 P-Core และ 8 E-Core ด้าน AMD Ryzen 5 จะมี 6 คอร์ 12 เธรด ซึ่งประสิทธิภาพสูงพอใช้ทำงานแทบทั้งหมดได้เป็นอย่างดี ตั้งแต่งานเอกสาร, ความบันเทิง, ตัดต่อแต่งภาพรวมถึงวิดีโอ Vlog รวมไปถึงเขียนโค้ดโปรแกรมมิ่งก็ได้ ซึ่งรุ่นนี้ผู้ผลิตมักติดตั้งการ์ดจอแยกทั้ง NVIDIA GeForce หรือ AMD Radeon มาให้ทำงานกราฟิคและเล่นเกมได้ลื่นไหลขึ้น
    • Intel Core i7 / AMD Ryzen 7 – ซีรี่ส์ระดับสูงซึ่งผู้ใช้หลายคนมักสนใจและอยากได้กัน ปัจจุบันนี้ราคาต่างจาก Intel Core i5 และ AMD Ryzen 5 ไม่มาก แต่ประสิทธิภาพต่างพอเห็นผลได้ระดับหนึ่งเลย มักพบในโน๊ตบุ๊คทำงานสเปคสูงเป็นหลัก ถ้าเป็นเกมมิ่งก็มีการ์ดจอแยกติดตั้งมาให้เล่นเกมได้ลื่นไหลยิ่งขึ้นอีกด้วย ใช้ทำงานต่างๆ ได้ดีกว่า Intel Core i5 / AMD Ryzen 5 ได้สบายๆ และทำให้งานเสร็จเร็วขึ้น มักมีการ์ดจอแยกติดตั้งมาให้ใช้งานด้วย เหมาะกับผู้ใช้กลุ่มทำงานออฟฟิศและครีเอเตอร์อย่างแน่นอน
    • Intel Core i9 / AMD Ryzen 9 – รุ่นทรงพลังสุดจากทั้งสองบริษัท ใช้ทำงานหนักต่างๆ ไม่ว่าจะตัดต่อแต่งภาพทำวิดีโอรวมไปถึงเขียนโปรแกรมก็ไหวแถมยังใช้เล่นเกมทุกเกมในปัจจุบันได้หมด มักเจอในเกมมิ่งหรือครีเอเตอร์โน๊ตบุ๊คเป็นหลักหรือไม่ก็เป็นโน๊ตบุ๊คสายทำงานระดับพรีเมี่ยม
  • การ์ดจอ – โน๊ตบุ๊คทำงาน 2023 ส่วนใหญ่จะมีการ์ดจอ 2 กลุ่มเท่านั้น คือการ์ดจออนบอร์ดอย่าง Intel Iris Xe Graphics หรือ AMD Radeon Graphics ซึ่งทั้งสองรุ่นนี้นอกจากเอาไว้แสดงผลภาพหรือวิดีโอความละเอียด 4K ขึ้นหน้าจอได้แล้ว การ์ดจอทั้งสองรุ่นก็จะมีจุดเด่นแตกต่างกันไป อย่าง Intel Iris Xe Graphics ก็จะเหมาะกับการทำงานอย่างเรนเดอร์ภาพหรือวิดีโอรวมถึงไฟล์โมเดล 3D ต่างๆ ได้ดีระดับหนึ่ง แต่จะไม่เหมาะกับการเล่นเกมเท่าไหร่ ในขณะที่ AMD Radeon Graphics จะใช้ตัดต่อแต่งภาพและวิดีโอรวมถึงเล่นเกมออนไลน์ได้พอสมควร แต่โมเดล 3D เป็นรองจาก Iris Xe Graphics อยู่บ้าง ซึ่งถ้าเป็นผู้ใช้ทั่วไปหาเครื่องเอาไว้ทำงานออฟฟิศหรือเอาไว้เรียนก็แรงเพียงพอแล้ว บางรุ่นอาจมีการ์ดจอแยก NVIDIA GeForce, AMD Radeon ติดตั้งมาให้ ซึ่งถ้าใครตัดต่อวิดีโอหรือทำโมเดล 3D แนะนำให้ดูโน๊ตบุ๊คพร้อม NVIDIA GeForce RTX 3060 หรือ AMD Radeon RX 6500M, 7600S จะใช้งานได้ดีอย่างแน่นอน
  • แรม – เชื่อว่าผู้ใช้หลายคนน่าจะตั้งธงเอาไว้ในใจแล้ว ว่าถ้าจะซื้อโน๊ตบุ๊คทำงาน 2023 เครื่องใหม่จะเลือกรุ่นแรม 16GB มาใช้งานหรือไม่ก็ต้องเป็นรุ่นที่อัพเกรดเพิ่มแรมได้มาใช้ ซึ่งถ้าได้แรมระดับนี้ก็ใช้ทำงานออฟฟิศไปจนตัดต่อวิดีโอได้ รวมถึงเปิดและใช้งานไฟล์ Microsoft Excel ที่มีข้อมูลเยอะๆ ได้รวดเร็วแน่นอน แต่แรม 8GB ในปี 2023 ก็ถือว่าไม่ได้ขี้เหร่นัก จะเอาไว้ทำงานเอกสารหรือเปิดเว็บเบราเซอร์ได้เหมือนกัน แค่ต้องบริหารปริมาณโปรแกรมและแท็บตอนใช้งานสักนิด ปิดบางอย่างที่ไม่ใช้งานทิ้งไปสักหน่อยก็ไม่มีปัญหาแล้ว
  • พอร์ตและการเชื่อมต่อ – พอร์ตของโน๊ตบุ๊คทำงาน 2023 อย่างน้อยควรมีพอร์ต USB-C แบบ Data เอาไว้โอนถ่ายข้อมูลติดตั้งมาให้ 1 ช่องให้เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ยุคใหม่ๆ ได้อย่างสะดวกรวดเร็ว บางรุ่นอาจต่อหน้าจอแยกแบบ DisplayPort หรือชาร์จแบตเตอรี่ตามมาตรฐาน Power Delivery อาจมีฟีเจอร์ใดฟีเจอร์หนึ่งเสริมเข้ามาหรือถ้ามีทั้ง 2 แบบ จะเรียกว่า Full Function หรืออาจเป็นพอร์ต Thunderbolt ก็ได้ถ้ารุ่นนั้นๆ ผ่านมาตรฐาน Intel Evo แล้ว ซึ่งข้อดีของการมี USB-C Full Function หรือ Thunderbolt นอกจากต่อ USB-C Multiport Adapter แปลงเป็นพอร์ตอื่นๆ ได้ ยังใช้สาย USB-C เส้นเดียวต่อจอคอมรุ่นที่รองรับแล้วใช้งานได้เลย และอาจมีพอร์ตใช้งานอื่นๆ เสริมเข้ามาให้อย่าง USB-A, HDMI, Card Reader ขึ้นอยู่กับการจัดสเปคของผู้ผลิต ส่วนการเชื่อมต่อไร้สาย ผู้เขียนแนะนำให้ดูรุ่นที่เป็น Wi-Fi 6 หรือ 6E เป็นหลักให้เชื่อมต่อรับส่งข้อมูลได้รวดเร็วและเสถียรยิ่งขึ้น
  • หน้าจอ – ส่วนตัวผู้เขียนไม่โฟกัสที่ขนาดหน้าจอ แต่ควรโฟกัสเรื่องความละเอียดหน้าจอว่าควรยืนพื้นที่ระดับ Full HD (1920×1080 หรือ 1920×1200 พิกเซล) ขึ้นไป จะได้ภาพคมชัดและมีพื้นที่เปิดโปรแกรมต่างๆ ได้เต็มตา หากหาเอาไว้ทำงานกราฟิคควรหารุ่นที่มีขอบเขตสีกว้าง 100% sRGB ขึ้นไปและค่าความเที่ยงตรงสี Delta-E น้อยกว่า 2 (เขียนด้วยสัญลักษณ์ว่า Delta-E <2) จะให้สีสันบนหน้าจอได้เที่ยงตรงทำงานอาร์ทได้ดี ยิ่งถ้าได้การรับรองจากบริษัทชั้นนำด้านงานศิลป์อย่าง CalMAN Verified, PANTONE Validated มารับรองยิ่งดี
  • ซอฟท์แวร์ – ปัจจุบันผู้ผลิตหลายเจ้าติดตั้งระบบปฏิบัติการ Windows 11 Home มาให้แล้ว แค่เปิดเครื่อง Sign in ไอดีของ Microsoft ก็ใช้งานได้เลย แต่ถ้ารุ่นไหนมี Microsoft Office Home & Student ไม่ว่าจะเวอร์ชั่น 2019, 2021 ก็ไม่ต้องเสียเงินซื้อซอฟท์แวร์เพิ่ม
  • น้ำหนัก – โน๊ตบุ๊คในปัจจุบันนี้น้ำหนักมีตั้งแต่ 1~3 กิโลกรัม ขึ้นอยู่กับสเปคและระบบระบายความร้อนที่ผู้ผลิตออกแบบติดตั้งมาให้ใช้งานปกติแล้วโน๊ตบุ๊คสายทำงานมักมีน้ำหนักราว 1.4~1.8 กิโลกรัม ขึ้นอยู่ว่าเป็นหน้าจอ 14, 15.6 หรือ 16 นิ้ว มักจะไม่หนักมากพกพาสะดวกไม่หนักไหล่เกินไป ส่วนโน๊ตบุ๊คครีเอเตอร์มีการ์ดจอแยกมักเริ่มต้นกันตั้งแต่ 1.9 กิโลกรัมขึ้นไป ควรใส่กระเป๋าเป้ให้พกพาได้สะดวกไม่เป็นต้นเหตุของอาการ Office Syndrome ในภายหลัง

สรุปสเปคโน๊ตบุ๊คทำงาน 2023 รุ่นเด่นทั้ง 6 รุ่น สายทำงานถูกใจ ครีเอเตอร์กดไลค์!

สรุปสเปคโน๊ตบุ๊คทำงาน 2023 CPU

GPU

SSD

RAM

Software

Display

Weight

Connectivity ราคา
(บาท)
MSI Modern 15 B7M AMD Ryzen 7 7730U

AMD Radeon Graphics

M.2 NVMe
512GB

8GB DDR4
3200MHz

Windows 11 Home

15.6″ FHD IPS

1.75 กก.

USB 2.0 x 1

USB-A 3.2 x 1

USB-C 3.2 x 1 รองรับ
Power Delivery

HDMI 2.1 x 1

MicroSD Card Reader x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6

Bluetooth 5.2

22,900
MSI Modern 14 C12M Intel Core
i5-1235U

Intel Iris Xe Graphics

M.2 NVMe
512GB

8GB DDR4
3200MHz

Windows 11 Home

14″ FHD IPS

1.4 กก.

USB 2.0 x 2

USB-A 3.2 x 1

USB-C 3.2 x 1 รองรับ
Power Delivery

HDMI 1.4 x 1

MicroSD Card Reader x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6

Bluetooth 5.2

22,990
MSI Modern 15 B12M Intel Core
i7-1255U

Intel Iris Xe Graphics

M.2 NVMe
512GB

8GB DDR4
3200MHz

Windows 11 Home

14″ FHD IPS

1.4 กก.

USB 2.0 x 2

USB-A 3.2 x 1

USB-C 3.2 x 1 รองรับ
Power Delivery

HDMI 1.4 x 1

MicroSD Card Reader x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6

Bluetooth 5.2

28,990
MSI Prestige 14 Evo A12M Intel Core
i7-1280P

Intel Iris Xe Graphics

M.2 NVMe
512GB

16GB LPDDR4x
4267MHz

Windows 11 Home

Microsoft Office Home & Student 2021

14″ FHD IPS

100% sRGB

Delta-E <2

CalMAN Verified

1.29 กก.

Thunderbolt 4 x 2

USB-A 3.2 x 1

MicroSD Card Reader x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6E

Bluetooth 5.2

39,990
MSI Prestige 16 Evo A12M Intel Core
i7-1280P

Intel Iris Xe Graphics

M.2 NVMe
512GB

16GB LPDDR5
4800MHz

Windows 11 Home

Microsoft Office Home & Student 2021

16″ FHD+
(1920×1200)
IPS

100% sRGB

Refresh Rate 165Hz

1.9 กก.

Thunderbolt 4 x 2

USB-A 3.2 x 2

HDMI x 1

MicroSD Card Reader x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6E

Bluetooth 5.2

44,990
MSI Creator Z16 A12UET Intel Core
i9-12900H

NVIDIA GeForce RTX 3060

M.2 NVMe
2TB

32GB DDR5
4800MHz

Windows 11 Home

16″ QHD+
(2560×1600)
IPS

100% sRGB

Delta-E <2

CalMAN Verified

Refresh Rate 165Hz

2.2 กก.

Thunderbolt 4 x 1

USB-C 3.2 x 1 รองรับ
DisplayPort x 1

USB-A 3.2 x 1

SD Card
Reader x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6E

Bluetooth 5.2

104,990

แนะนำโน๊ตบุ๊คทำงาน 2023 รุ่นเด่นทั้ง 6 รุ่น จาก MSI ทำงานดี สเปคเด็ดตอบโจทย์คนทำงานแน่นอน

ผู้ใช้คนไหนที่กำลังมองหาโน๊ตบุ๊คทำงาน 2023 เครื่องใหม่มาแทนเครื่องเก่าที่ใช้มาหลายปีแล้ว และมันเริ่มรันโปรแกรมหรืองานใหม่ๆ ไม่เร็วไม่ทันใจเท่าเดิมล่ะก็ ผู้เขียนมีโน๊ตบุ๊คน่าใช้จากทาง MSI มาให้เลือกทั้งหมด 6 รุ่น แยกเป็นสายทำงานออฟฟิศและครีเอเตอร์ ซึ่งมีรุ่นดังนี้

  1. MSI Modern 15 B7M (22,900 บาท)
  2. MSI Modern 14 C12M (22,990 บาท)
  3. MSI Modern 15 B12M (28,990 บาท)
  4. MSI Prestige 14 Evo A12M (39,990 บาท)
  5. MSI Prestige 16 Evo A12M (44,990 บาท)
  6. MSI Creator Z16 A12UET (104,990 บาท)
1. MSI Modern 15 B7M (22,900 บาท)

12534 f

MSI Modern 15 B7M เป็นโน๊ตบุ๊คทำงาน 2023 รุ่นแรกที่สเปคดีตัวเครื่องใหญ่ทำงานสะดวกและสเปคจัดเต็มทีเดียว โดยตัวเครื่องมีขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ใช้ซีพียู AMD Ryzen 7 7730U แบบ 8 คอร์ 16 เธรด ความเร็ว 2.0~4.5GHz ใช้กราฟิคการ์ดออนบอร์ด AMD Radeon Graphics แบบ 8 คอร์ ความเร็ว 2,000MHz มี M.2 NVMe SSD ความจุ 512GB ติดตั้ง Windows 11 Home มาให้กับแรมอีก 8GB DDR4 บัส 3200MHz อัพเกรดได้มากสุด 16GB มีพอร์ตเชื่อมต่อ USB 2.0 x 1, USB-A 3.2 x 1, USB-C 3.2 x 1 รองรับ Power Delivery, HDMI 2.1 x 1, MicroSD Card Reader x 1, Audio combo x 1 เชื่อมต่อไร้สายด้วย Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.2 ได้ น้ำหนักเพียง 1.75 กิโลกรัม เทียบกับโน๊ตบุ๊คขนาด 15.6 นิ้วหลายๆ รุ่นแล้วถือว่าเบาพกพาสะดวกและยังกางหน้าจอได้แบนราบ 180 องศา ให้เพื่อนร่วมงานดูหรือปรับมุมจอให้เข้ากับมุมสายตาบนตอนวางบนแท่นวางโน๊ตบุ๊คก็ได้ จัดเป็นโน๊ตบุ๊คทำงาน 2023 รุ่นแรกที่น่าใช้มาก

สเปคของ MSI Modern 15 B7M
CPU AMD Ryzen 7 7730U แบบ 8 คอร์ 16 เธรด ความเร็ว 2.0~4.5GHz
GPU AMD Radeon Graphics แบบ 8 คอร์ ความเร็ว 2,000MHz
SSD M.2 NVMe SSD 512GB
RAM 8GB DDR4 บัส 3200MHz อัพเกรดได้มากสุด 16GB
Display 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS
Connectivity USB 2.0 x 1, USB-A 3.2 x 1, USB-C 3.2 x 1 รองรับ Power Delivery, HDMI 2.1 x 1, MicroSD Card Reader x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.2

Software Windows 11 Home
Weight 1.75 กิโลกรัม
Price 22,900 บาท (Advice)
2. MSI Modern 14 C12M (22,990 บาท)

12553 f

โน๊ตบุ๊คทำงาน 2023 รุ่นถัดมาที่ผู้เขียนแนะนำเป็น MSI Modern 14 C12M สำหรับสายพกพาซึ่งผู้เขียนเคยทำรีวิวไปก่อนหน้านี้แล้ว โดยจุดเด่นของมันคือพอร์ต USB-C ที่ชาร์จแบบ Power Delivery ได้, น้ำหนักเครื่อง 1.4 กิโลกรัม พกพาสะดวก ได้รับการรับรอง MIL-STD-810G การันตีความแข็งแรงทนทานแล้ว โดยขนาดหน้าจออยู่ที่ 14 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ใช้ซีพียู Intel Core i5-1235U แบบ 10 คอร์ 12 เธรด (2P+8E) ความเร็ว 3.3~4.4GHz ใช้การ์ดจอ Intel Iris Xe Graphics มี M.2 NVMe SSD ความจุ 512GB ติดตั้ง Windows 11 Home และแรม 8GB DDR4 บัส 3200MHz มาให้ มีพอร์ต USB 2.0 x 2, USB-A 3.2 Gen 2 x 1, USB-C 3.2 Gen 2 x 1 รองรับ Power Delivery, HDMI 1.4 x 1, MicroSD Card Reader x 1, Audio combo x 1 เชื่อมต่อ Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.2 ได้ เป็นโน๊ตบุ๊คทำงาน 2023 สำหรับคนที่ชอบพกโน๊ตบุ๊คไปไหนมาไหนมาก

สเปคของ MSI Modern 14 C12M
CPU Intel Core i5-1235U แบบ 10 คอร์ 12 เธรด (2P+8E) ความเร็ว 3.3~4.4GHz
GPU Intel Iris Xe Graphics
SSD M.2 NVMe SSD 512GB
RAM 8GB DDR4 บัส 3200MHz
Display 14 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS
Connectivity USB 2.0 x 2, USB-A 3.2 Gen 2 x 1, USB-C 3.2 Gen 2 x 1 รองรับ Power Delivery, HDMI 1.4 x 1, MicroSD Card Reader x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.2

Software Windows 11 Home
Weight 1.4 กิโลกรัม
Price 22,990 บาท (ราคากลาง)
3. MSI Modern 15 B12M (28,990 บาท)

12416 bk

MSI Modern 15 B12M นี้เป็นโน๊ตบุ๊คทำงาน 2023 อีกรุ่นที่น่าใช้แต่แชร์สเปคร่วมกับ Modern 14 ในข้อก่อนหน้าแทบทั้งหมด แต่อัพเกรดซีพียูเป็น Intel Core i7-1255U แบบ 10 คอร์ 12 เธรด (2P+8E) ความเร็ว 3.5~4.7GHz และใช้การ์ดจอ Intel Iris Xe Graphics และหน้าจอ 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS และเพิ่มแรมเป็น 16GB DDR4 บัส 3200MHz ได้ด้วย ตอบโจทย์คนอยากได้ซีพียู Intel ประสิทธิภาพสูงๆ เอาไว้ทำงานแน่นอน

สเปคของ MSI Modern 15 B12M
CPU Intel Core i7-1255U แบบ 10 คอร์ 12 เธรด (2P+8E) ความเร็ว 3.5~4.7GHz
GPU Intel Iris Xe Graphics
SSD M.2 NVMe SSD 512GB
RAM 8GB DDR4 บัส 3200MHz
Display 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS
Connectivity USB 2.0 x 2, USB-A 3.2 Gen 2 x 1, USB-C 3.2 Gen 2 x 1 รองรับ Power Delivery, HDMI 1.4 x 1, MicroSD Card Reader x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.2

Software Windows 11 Home
Weight 1.7 กิโลกรัม
Price 28,990 บาท (ราคากลาง)
4. MSI Prestige 14 Evo A12M (39,990 บาท)

12419 c

ขึ้นชื่อว่าเป็นโน๊ตบุ๊คทำงาน 2023 ระดับพรีเมี่ยม ต้องยกให้ MSI Prestige 14 Evo A12M เพราะนอกจากน้ำหนักจะเบามากแค่ 1.29 กิโลกรัมแล้ว ทาง MSI ยังติดตั้งลำโพง DTS Audio มาให้พร้อมกับหน้าจอขนาด 14 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ขอบเขตสีกว้าง 100% sRGB ค่าสีเที่ยงตรง Delta-E <2 และได้รับการรับรอง CalMAN Verified แถมยังสแกนลายนิ้วมือหรือใบหน้าปลดล็อคเครื่องได้ด้วย ซีพียูเป็น Intel Core i7-1280P แบบ 14 คอร์ 20 เธรด (6P+8E) ความเร็ว 3.6~4.8GHz ใช้การ์ดจอออนบอร์ด Intel Iris Xe Graphics มี M.2 NVMe SSD ความจุ 512GB ติดตั้ง Windows 11 Home และ Microsoft Office Home & Student 2021 มาให้ แรมเป็นออนบอร์ดความจุ 16GB LPDDR4x บัส 4267MHz มีพอร์ต Thunderbolt 4 x 2, USB-A 3.2 x 1, MicroSD Card Reader x 1, Audio combo x 1 เชื่อมต่อ Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.2 จัดเป็นโน๊ตบุ๊คทำงาน 2023 ระดับพรีเมี่ยมที่น่าลงทุนซื้อมาใช้งานมากๆ โดยเฉพาะหน้าจอขอบเขตสีกว้างเที่ยงตรงสามารถใช้พรู้ฟงานอาร์ทต่างๆ ได้อย่างแน่นอน

สเปคของ MSI Prestige 14 Evo A12M
CPU Intel Core i7-1280P แบบ 14 คอร์ 20 เธรด (6P+8E) ความเร็ว 3.6~4.8GHz
GPU Intel Iris Xe Graphics
SSD M.2 NVMe SSD 512GB
RAM 16GB LPDDR4x บัส 4267MHz
Display 14 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ขอบเขตสีกว้าง 100% sRGB, Delta-E <2, CalMAN Verified
Connectivity Thunderbolt 4 x 2, USB-A 3.2 x 1, MicroSD Card Reader x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.2

Software Windows 11 Home, Microsoft Office Home & Student 2021
Weight 1.29 กิโลกรัม
Price 39,990 บาท (ราคากลาง)
5. MSI Prestige 16 Evo A12M (44,990 บาท)

12309 f

โน๊ตบุ๊คทำงาน 2023 ระดับพรีเมี่ยมอย่าง MSI Prestige 16 Evo A12M รุ่นนี้นอกจากได้ซีพียู Intel 12th Gen อย่าง Intel Core i7-1280P แบบ 14 คอร์ 20 เธรด (6P+8E) ความเร็ว 3.6~4.8GHz และการ์ดจอออนบอร์ด Intel Iris Xe Graphics ติดตั้งมาให้แล้วใช้ระบบระบายความร้อน Dynamic Cooler Boost ติดตั้งมาให้ระบายความร้อนได้เป็นอย่างดีและตัวเครื่องก็มีขนาดใหญ่เต็มตาถึง 16 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ (1920×1200) พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 165Hz ขอบเขตสีกว้าง 100% sRGB เป็นหน้าจออัตราส่วน 16:10 ที่ทาง MSI เรียกว่าเป็น Golden Ratio เหมาะกับการทำงานทุกรูปแบบและมีฟีเจอร์ Tobii Aware จัดการเบลอหน้าจอพร้อมแจ้งเตือนผู้ใช้เวลามีผู้อื่นมามองหน้าจอโน๊ตบุ๊คและติดตั้งชิป Tile เอาไว้ให้ตามหาเครื่องได้ง่ายๆ เวลาลืมทิ้งเอาไว้ที่ไหนและยืนยันตัวปลดล็อคเครื่องโดยสแกนใบหน้าหรือลายนิ้วมือก็ได้ มี M.2 NVMe SSD ความจุ 512GB ติดตั้ง Windows 11 Home และ Microsoft Office Home & Student 2021 มาให้ มีแรม 16GB LPDDR5 บัส 4800MHz มีพอร์ต Thunderbolt 4 x 2, USB-A 3.2 x 2, HDMI x 1, MicroSD Card Reader x 1, Audio combo x 1 เชื่อมต่อ Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.2 ได้ น้ำหนักเครื่อง 1.9 กิโลกรัม และ MSI Prestige 16 Evo นี้ก็ผ่านมาตรฐาน Intel Evo อีกด้วย

สเปคของ MSI Prestige 16 Evo A12M
CPU Intel Core i7-1280P แบบ 14 คอร์ 20 เธรด (6P+8E) ความเร็ว 3.6~4.8GHz
GPU Intel Iris Xe Graphics
SSD M.2 NVMe SSD 512GB
RAM 16GB LPDDR5 บัส 4800MHz
Display 16 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ (1920×1200) พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 165Hz ขอบเขตสีกว้าง 100% sRGB
Connectivity Thunderbolt 4 x 2, USB-A 3.2 x 2, HDMI x 1, MicroSD Card Reader x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.2

Software Windows 11 Home, Microsoft Office Home & Student 2021
Weight 1.9 กิโลกรัม
Price 44,990 บาท
6. MSI Creator Z16 A12UET (104,990 บาท)

12422 c

สุดท้าย MSI Creator Z16 A12UET เป็นโน๊ตบุ๊คทำงาน 2023 เพื่อครีเอเตอร์โดยเฉพาะที่นอกจากเรื่องสเปคจะแรงทรงพลังแล้ว จุดแข็งของมันมีทั้งไดรเวอร์ NVIDIA Studio ซึ่งออกแบบมาให้ทำงานกราฟิคได้ไหลลื่น ตัดต่อและเรนเดอร์วิดีโอความละเอียดสูงสุด 8K HDR RAW ได้ลื่นไหล มี AI-Acceleration มาช่วยทำงาน ติดระบบระบายความร้อน Cooler Boost คู่กับชุดระบายความร้อนด้วยของเหลว Vapor Chamber Cooler ช่วยลดความร้อนและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้สูงยิ่งขึ้นและได้รับการรับรอง MIL-STD-810G ด้วย จึงแข็งแรงทนทานไว้ใจได้แน่นอนและหน้าจอทัชสกรีน 16 นิ้ว ความละเอียด QHD+ (2560×1600) พาเนล IPS นี้มีค่า Refresh Rate 165Hz มีขอบเขตสีกว้าง 100% DCI-P3 มีความเที่ยงตรงสี Delta-E <2 และได้รับการรับรองจาก CalMAN Verified อีกด้วย ติดตั้งซีพียู Intel Core i9-12900H แบบ 14 คอร์ 20 เธรด (6P+8E) ความเร็ว 3.8~5.0GHz ใช้การ์ดจอแยก NVIDIA GeForce RTX 3060 แรม 6GB GDDR6 มี M.2 NVMe SSD ความจุ 2TB ติดตั้ง Windows 11 Home มาให้ใช้งานกับแรม 32GB DDR5 บัส 4800MHz มีพอร์ต Thunderbolt 4 x 1, USB-C 3.2 x 1 รองรับ DisplayPort x 1, USB-A 3.2 x 1, SD Card Reader x 1, Audio combo x 1 เชื่อมต่อ Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.2 ได้ น้ำหนัก 2.2 กิโลกรัม หากครีเอเตอร์คนไหนหาโน๊ตบุ๊คทำงาน 2023 ระดับพรีเมี่ยมเอาไว้ใช้สักเครื่องแบบคุ้มๆ ใช้งานได้ยาวๆ แนะนำให้ดู MSI Creator Z16 เป็นพิเศษ

สเปคของ MSI Creator Z16 A12UET
CPU Intel Core i9-12900H แบบ 14 คอร์ 20 เธรด (6P+8E) ความเร็ว 3.8~5.0GHz
GPU NVIDIA GeForce RTX 3060 แรม 6GB GDDR6
SSD M.2 NVMe SSD 2TB
RAM 32GB DDR5 บัส 4800MHz
Display จอทัชสกรีน 16 นิ้ว ความละเอียด QHD+ (2560×1600) พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 165Hz ขอบเขตสีกว้าง 100% DCI-P3, Delta-E <2 ได้รับการรับรอง CalMAN Verified
Connectivity Thunderbolt 4 x 1, USB-C 3.2 x 1 รองรับ DisplayPort x 1, USB-A 3.2 x 1, SD Card Reader x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.2

Software Windows 11 Home
Weight 2.2 กิโลกรัม
Price 104,990 บาท (ราคากลาง)

1024 1

จะเห็นว่าโน๊ตบุ๊คทำงาน 2023 จาก MSI จะมีตั้งแต่รุ่นเริ่มต้นเพื่อนักเรียนนักศึกษาราคาเป็นมิตร เอาไว้ใช้เข้าห้องเรียนทำรายงานส่งอาจารย์และใช้ทำงานออฟฟิศต่างๆ ได้ แถมมีซีพียูให้เลือกทั้งรุ่น AMD, Intel ตามรสนิยมของผู้ใช้แต่ละคนอีกด้วย ซึ่งโน๊ตบุ๊คทำงาน 2023 จาก MSI แต่ละรุ่นก็มีจุดเด่นน่าใช้แตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับโจทย์การใช้งานของแต่ละคน แค่เลือกรุ่นให้ตรงโจทย์ก็ใช้ทำงานได้อย่างมีความสุข

ส่วนเคล็ดลับส่วนตัวของผู้เขียนถ้าจะเลือกโน๊ตบุ๊คทำงาน 2023 สักเครื่อง ผู้เขียนจะเริ่มจากโจทย์ใหญ่ก่อนว่าจะหาโน๊ตบุ๊คเอาไว้ทำอะไร จะใช้ทำงานเอกสารและทำงานผ่านเบราเซอร์อย่างเดียวก็ขอแค่ซีพียูระดับ Intel Core i5 หรือ AMD Ryzen 5 และแรมจะ 8GB หรือ 16GB ก็ได้ แต่ถ้าเป็นโน๊ตบุ๊คทำงานตัดต่อคลิปแต่งภาพทำโมเดล 3D ก็หารุ่นที่มีการ์ดจอแยกให้เรนเดอร์งานได้ดียิ่งขึ้นแล้วเอารุ่นที่เป็นซีพียู Intel Core i7 หรือ AMD Ryzen 7 ขึ้นไปกับแรมอีก 16GB ก็สามารถทำงานได้ดีแน่นอน และเลือกรุ่นที่สเปคสูงสุดเท่าที่พอจ่ายไหว จะได้ใช้งานได้นานหลายปีไม่ต้องเปลี่ยนเครื่องบ่อย


บทความที่เกี่ยวข้อง

MSI MODERN 15

MSI PRODP20ZA

MSI PRO AP242

from:https://notebookspec.com/web/691939-6-recommend-msi-working-laptop-2023

7 โน๊ตบุ๊ค Intel Evo น่าใช้ ได้ Office แท้ แบตฯ อึดสะใจ ตัวเบาพกสบาย อัพเดทปี 2023

โน๊ตบุ๊ค Intel Evo ยุคนี้น่าใช้มากๆ สเปคดีทรงพลัง แบตฯ อึดสุดๆ

7NotebookIntel

โน๊ตบุ๊ค Intel Evo เป็นมาตรฐานโน๊ตบุ๊คน้ำหนักเบาของทาง Intel ซึ่งเริ่มต้นมาตั้งแต่ยุคซีพียู Intel 11th Gen เป็นต้นมา ซึ่งพัฒนาต่อจาก Project Athena ซึ่งปัจจุบันนี้มีผู้ผลิตโน๊ตบุ๊คหลายแบรนด์ทำโน๊ตบุ๊คกลุ่มนี้ออกมาให้ผู้ใช้เลือกหลากหลายรุ่น มีสเปคหลากหลาย ซึ่งจุดเด่นและข้อกำหนดของ Intel Evo นอกจากน้ำหนักเบาเพียง 1 กิโลกรัมต้นๆ, มีพอร์ต USB-C รองรับ Thunderbolt หรือ Power Delivery ไว้ชาร์จแบตเตอรี่ให้โน๊ตบุ๊คได้โดยสะดวกและรวดเร็ว เพียง 30 นาทีก็ใช้งานได้ 4 ชั่วโมง และใช้งานบนจอความละเอียด Full HD ได้เกิน 9 ชั่วโมงแล้ว ยังเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตด้วย Wi-Fi 6 ได้เสถียรและรับส่งข้อมูลได้รวดเร็วและเสถียรยิ่งขึ้นอีกด้วย

Advertisementavw

จุดเด่นที่ต้องกล่าวถึงเป็นพิเศษ คือ ตัวเครื่องสามารถเปิดใช้งานได้เร็วภายใน 1 วินาทีและมีฟีเจอร์ AI ไว้เสริมประสิทธิภาพการทำงาน ได้แก่ ไมโครโฟนรับเสียงระยะไกลพร้อมฟีเจอร์ตัดเสียงรบกวนและ Deep Learning Boost แล้ว ปัจจุบันนี้ยังมีโปรแกรมและแอพฯ Intel Unison สำหรับเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน iOS, Android เข้ากับโน๊ตบุ๊ค Intel Evo ให้ใช้โทรออกรับสาย, โอนถ่ายไฟล์เข้าออกมือถือและดูการแจ้งเตือนต่างๆ บนหน้าจอโน๊ตบุ๊คได้ทันที ไม่ต้องเปลี่ยนอุปกรณ์ไปมาให้เสียสมาธิอีกด้วย

ในปัจจุบันนี้ โน๊ตบุ๊ค Intel Evo มีราคาไม่สูงมากแล้ว เริ่มต้นตั้งแต่ราคาไม่เกิน 30,000 บาทขึ้นไป สเปคเริ่มต้นเป็น Intel 11th Gen รุ่น Core i5 หรือ Core i7 มีแรม 8GB ได้ M.2 NVMe SSD ความจุ 256GB ติดตั้ง Windows 11 Home มาให้ใช้ในตัวและหลายๆ รุ่นก็เพิ่มฟีเจอร์ยืนยันตัวแบบชีวมาตร (Biometric) มาเสริมความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยไม่ให้ผู้อื่นเข้ามาใช้โดยพลการอีกด้วย

โน๊ตบุ๊ค Intel Evo

สรุปสเปค 7 โน๊ตบุ๊ค Intel Evo

สรุปสเปค
โน๊ตบุ๊ค Intel Evo
CPU

GPU

SSD

RAM

Software

Display

Weight

Connectivity ราคา
(บาท)
Acer Swift 3 SF314-512-56CB Intel Core
i5-1240P

Intel Iris Xe Graphics

M.2 NVMe
512GB

8GB LPDDR4x
4267MHz

Windows 11 Home

Microsoft Office Home & Student 2021

14″ QHD
(2560×1440)
IPS

1.25 กก.

Thunderbolt 4 x 2

USB-A 3.2 x 2

HDMI x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6E

Bluetooth 5.2

29,990
Acer Swift 5 SF514-56T-56M4 Intel Core
i5-1240P

Intel Iris Xe Graphics

M.2 NVMe
512GB

16GB LPDDR5
4800MHz

Windows 11 Home

Microsoft Office Home & Student 2021

14″ QHD
(2560×1440)
IPS

1.2 กก.

Thunderbolt 4 x 2

USB-A 3.2 x 2

HDMI x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6E

Bluetooth 5.2

37,990
ASUS Vivobook S 14X OLED S5402ZA-M9501WS Intel Core
i5-12500H

Intel Iris Xe Graphics

M.2 NVMe
512GB

16GB DDR4
3200MHz

Windows 11 Home

Microsoft Office Home & Student 2021

14.5″ 2.8K
(2880×1800)
OLED

100% DCI-P3

PANTONE
Validated

VESA DisplayHDR True Black 600

1.63 กก.

Thunderbolt 4 x 2

USB 2.0 x 1

USB-A 3.2 x 1

HDMI 2.1 x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6

Bluetooth 5.0

30,990
ASUS Vivobook S 14X OLED S5402ZA-M9701WS Intel Core
i7-12700H

Intel Iris Xe Graphics

M.2 NVMe
512GB

16GB DDR4
3200MHz

Windows 11 Home

Microsoft Office Home & Student 2021

14.5″ 2.8K
(2880×1800)
OLED

100% DCI-P3

PANTONE
Validated

VESA DisplayHDR True Black 600

1.63 กก.

Thunderbolt 4 x 2

USB 2.0 x 1

USB-A 3.2 x 1

HDMI 2.1 x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6

Bluetooth 5.0

36,990
ASUS ZenBook 14 OLED UX3402ZA-KM504WS Intel Core
i5-1240P

Intel Iris Xe Graphics

M.2 NVMe
512GB

16GB LPDDR5
4800MHz

Windows 11 Home

Microsoft Office Home & Student 2021

14″ 2.8K
(2880×1800)
OLED

Refresh Rate
90Hz

100% DCI-P3

PANTONE
Validated

VESA DisplayHDR True Black 600

1.35 กก.

Thunderbolt 4 x 2

USB-A 3.2 x 1

HDMI 2.0b x 1

MicroSD Card Reader x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6E 

Bluetooth 5.2

35,990
Fujitsu Ultralight UH-X Intel Core
i7-1255U

Intel Iris Xe Graphics

M.2 NVMe
1TB

16GB DDR4
3200MHz

Windows 11 Home

Microsoft Office Home & Student 2021

13.3″ Full HD
IPS

873 กรัม

Thunderbolt 4 x 2

USB-A 3.2 x 2

HDMI x 1

LAN x 1

SD Card
Reader x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6

Bluetooth 5.1

46,990
HUAWEI MateBook X Pro Intel Core
i7-1260P

Intel Iris Xe Graphics

M.2 NVMe
1TB

16GB LPDDR5
4267MHz

Windows 11 Home

Microsoft Office Home & Student 2021

14.2″ 3.1K
(3210×2080)
IPS

Refresh Rate
90Hz

ขอบเขตสี P3

Delta-E <1

1.26 กก.

Thunderbolt 4 x 2

USB-C 3.2
Full Function x 2

Audio combo x 1

Wi-Fi 6

Bluetooth 5.2

79,990

7 โน๊ตบุ๊ค Intel Evo น่าใช้ แบตฯ ทนทำงานดี พกพาสะดวกสุด

โน๊ตบุ๊ค Intel Evo ณ ตอนนี้มีให้เลือกหลากแบรนด์หลายรุ่น เริ่มตั้งแต่ราคาไม่เกิน 30,000 บาทขึ้นไปให้เลือกซื้อไปใช้งานได้ตามต้องการ สเปคจัดว่าตอบโจทย์คนทำงานทั้งนั่งทำงานในออฟฟิศหรือพกติดตัวไปไหนมาไหนเป็นประจำ หากใครกำลังหาโน๊ตบุ๊ค Intel Evo เครื่องใหม่มาแทนเครื่องเก่าที่ทำงานช้าไม่ทันใจแล้ว ผู้เขียนก็มีรุ่นแนะนำมาให้เลือกทั้งหมด 7 รุ่น ได้แก่

  1. Acer Swift 3 SF314-512-56CB (29,990 บาท)
  2. Acer Swift 5 SF514-56T-56M4 (37,990 บาท)
  3. ASUS Vivobook S 14X OLED S5402ZA-M9501WS (30,990 บาท)
  4. ASUS Vivobook S 14X OLED S5402ZA-M9701WS (36,990 บาท)
  5. ASUS ZenBook 14 OLED UX3402ZA-KM504WS (35,990 บาท)
  6. Fujitsu Ultralight UH-X (46,990 บาท)
  7. HUAWEI MateBook X Pro (79,990 บาท)
1. Acer Swift 3 SF314-512-56CB (29,990 บาท)

Acer Swift SF314 01

โน๊ตบุ๊ค Intel Evo เครื่องแรกเป็น Acer Swift 3 SF314-512-56CB ซึ่งได้รีวิวไปก่อนหน้านี้แล้ว โดยข้อดีของมัน คือ ได้เซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือติดตั้งมาให้ใช้งาน ได้จอ 14 นิ้ว ความละเอียด 2K QHD (2560×1440) พาเนล IPS น้ำหนักเพียง 1.25 กิโลกรัม พกพาง่าย ติดตั้งซีพียู Intel Core i5-1240P แบบ 12 คอร์ 16 เธรด (4P+8E) ความเร็ว 3.3-4.4GHz มาให้ ใช้การ์ดจอออนบอร์ด Intel Iris Xe Graphics มี M.2 NVMe SSD ความจุ 512GB ติดตั้ง Windows 11 Home และ Microsoft Office Home & Student 2021 มาให้และแรมอีก 8GB LPDDR4x บัส 4267MHz มีพอร์ต Thunderbolt 4 x 2, USB-A 3.2 x 2, HDMI x 1, Audio combo x 1 ติดตั้งมาให้ เชื่อมต่อ Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax ได้ รองรับ Bluetooth 5.2 ในตัว นอกจากนี้ยังได้กล้องหน้า Acer TNR ลด Noise ในกล้อง Webcam และไมค์ Acer PurifiedVoice ให้เสียงคมชัดและตัดเสียงรบกวนได้ด้วย จัดเป็นโน๊ตบุ๊ค Intel Evo ราคาเป็นมิตรสำหรับคนทำงานและนักเรียนนักศึกษาทุกคนอย่างแน่นอน

สเปคของ Acer Swift 3 SF314-512-56CB
CPU Intel Core i5-1240P แบบ 12 คอร์ 16 เธรด (4P+8E) ความเร็ว 3.3-4.4GHz
GPU Intel Iris Xe Graphics
SSD M.2 NVMe SSD 512GB
RAM 8GB LPDDR4x บัส 4267MHz
Display 14 นิ้ว ความละเอียด 2K QHD (2560×1440) พาเนล IPS
Connectivity Thunderbolt 4 x 2, USB-A 3.2 x 2, HDMI x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.2

Software Windows 11 Home, Microsoft Office Home & Student 2021
Weight 1.25 กิโลกรัม
Price 29,990 บาท คลิ๊กสั่งซื้อที่นี่
2. Acer Swift 5 SF514-56T-56M4 (37,990 บาท)

Acer Notebook Swift SF514 56T 56M4 01

Acer Swift 5 SF514-56T-56M4 นี้เป็นโน๊ตบุ๊ค Intel Evo ระดับพรีเมี่ยมจาก Acer บอดี้อลูมิเนียมที่ตัดด้วยเครื่อง CNC ให้ตัวเครื่องบางเพียง 14.95 มม. เท่านั้นและยังผสานชิ้นส่วนรักษ์โลกอย่างทัชแพดจากกระจก OceanGlass และมีเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือติดตั้งมาให้ใช้เช่นกัน ขนาดตัวเครื่องถือว่าใหญ่กำลังดีเพียง 14 นิ้ว ความละเอียด QHD (2560×1440) พาเนล IPS และเบาเพียง 1.2 กิโลกรัมเท่านั้น ติดตั้งซีพียู Intel Core i5-1240P แบบ 12 คอร์ 16 เธรด (4P+8E) ความเร็ว 3.3~4.4GHz ใช้การ์ดจอออนบอร์ด Intel Iris Xe Graphics มี M.2 NVMe SSD ความจุ 512GB ติดตั้ง Windows 11 Home และ Microsoft Office Home & Student 2021 มาให้กับแรม 16GB LPDDR5 บัส 4800MHz มีพอร์ต Thunderbolt 4 x 2, USB-A 3.2 x 2, HDMI x 1, Audio combo x 1 เชื่อมต่อ Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.2 ได้ในตัว ด้านฟีเจอร์เด่นก็มีฟีเจอร์ Acer TNR ลด Noise ในกล้อง Webcam กับระบบเสียง Acer PurifiedVoice ติดมาให้ใช้งานครบเครื่องแถมยังระบายความร้อนได้ดีด้วยพัดลมระบายความร้อนคู่ในเครื่องอีกด้วย ดังนั้นจะทำงานหนักๆ ก็ไม่มีปัญหาอย่างแน่นอน

สเปคของ Acer Swift 5 SF514-56T-56M4
CPU Intel Core i5-1240P แบบ 12 คอร์ 16 เธรด (4P+8E) ความเร็ว 3.3~4.4GHz
GPU Intel Iris Xe Graphics
SSD M.2 NVMe SSD 512GB
RAM 16GB LPDDR5 บัส 4800MHz
Display 14 นิ้ว ความละเอียด QHD (2560×1440) พาเนล IPS
Connectivity Thunderbolt 4 x 2, USB-A 3.2 x 2, HDMI x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.2

Software Windows 11 Home, Microsoft Office Home & Student 2021
Weight 1.2 กิโลกรัม
Price 37,990 บาท คลิ๊กสั่งซื้อที่นี่
3. ASUS Vivobook S 14X OLED S5402ZA-M9501WS (30,990 บาท)

Asus Notebook Vivobook S 14X OLED 01

ASUS Vivobook S 14X OLED S5402ZA-M9501WS เป็นโน๊ตบุ๊ค Intel Evo พร้อมซีพียู H-Series ประสิทธิภาพสูงสำหรับรันโปรแกรมที่กินทรัพยากรเครื่องหนักๆ ได้เป็นอย่างดี มีเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือ ใช้พร้อมระบบระบายความร้อน ASUS IceCool มาให้ ตัวเครื่องมีขนาด 14.5 นิ้ว ความละเอียด 2.8K (2880×1800) พาเนล OLED ขอบเขตสี 100% DCI-P3 ได้การันตีความเที่ยงตรงสีจาก PANTONE Validated และ VESA DisplayHDR True Black 600 ครบเครื่องและกางหน้าจอได้แบนราบ 180 องศา อีกด้วย ซีพียูเป็น Intel Core i5-12500H แบบ 12 คอร์ 16 เธรด (4P+8E) ความเร็ว 3.3~4.5GHz ใช้การ์ดจอออนบอร์ด Intel Iris Xe Graphics พร้อม M.2 NVMe SSD ความจุ 512GB ติดตั้ง Windows 11 Home และ Microsoft Office Home & Student 2021 กับแรม 16GB DDR4 บัส 3200MHz มีพอร์ต Thunderbolt 4 x 2, USB 2.0 x 1, USB-A 3.2 x 1, HDMI 2.1 x 1, Audio combo x 1 เชื่อมต่อ Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.0 ได้ในตัว น้ำหนัก 1.63 กิโลกรัมเท่านั้น เป็นโน๊ตบุ๊ค Intel Evo พร้อมซีพียูประสิทธิภาพสูง ช่วยให้ทำงานและรันโปรแกรมหนักๆ ได้เป็นอย่างดีและได้พาเนลจอ OLED อีกด้วย จัดเป็นโน๊ตบุ๊คที่น่าใช้มากอีกเครื่องหนึ่งเลย

สเปคของ ASUS Vivobook S 14X OLED S5402ZA-M9501WS
CPU Intel Core i5-12500H แบบ 12 คอร์ 16 เธรด (4P+8E) ความเร็ว 3.3~4.5GHz
GPU Intel Iris Xe Graphics
SSD M.2 NVMe SSD 512GB
RAM 16GB DDR4 บัส 3200MHz
Display 14.5 นิ้ว ความละเอียด 2.8K (2880×1800) พาเนล OLED ขอบเขตสี 100% DCI-P3 ได้การันตีความเที่ยงตรงสีจาก PANTONE Validated และ VESA DisplayHDR True Black 600
Connectivity Thunderbolt 4 x 2, USB 2.0 x 1, USB-A 3.2 x 1, HDMI 2.1 x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.0

Software Windows 11 Home, Microsoft Office Home & Student 2021
Weight 1.63 กิโลกรัม
Price 30,990 บาท คลิ๊กสั่งซื้อที่นี่
4. ASUS Vivobook S 14X OLED S5402ZA-M9701WS (36,990 บาท)

Asus Vivobook S 14X OLED S5402ZA M9701WS Midnight Black 3

ด้าน ASUS Vivobook S 14X OLED S5402ZA-M9701WS รหัสนี้จะแชร์สเปคร่วมกับ Vivobook S 14X OLED ในข้อก่อนแทบทั้งหมด ยกเว้นซีพียูซึ่งถูกอัพเกรดมาเป็น Intel Core i7-12700H แบบ 14 คอร์ 20 เธรด (6P+8E) ความเร็ว 3.5~4.7GHz แทน ให้มี P-Core เพิ่มขึ้นเอาไว้รันโปรแกรมต่างๆ ได้ดีกว่าเดิม เหมาะกับผู้ที่ใช้โปรแกรมกินทรัพยากรเครื่องหนักๆ อย่างเช่น Adobe Photoshop, Lightroom หรือเปิดไฟล์ Microsoft Excel ที่มีข้อมูลและสูตรที่ซับซ้อนเป็นอย่างมาก

สเปคของ ASUS Vivobook S 14X OLED S5402ZA-M9701WS
CPU Intel Core i7-12700H แบบ 14 คอร์ 20 เธรด (6P+8E) ความเร็ว 3.5~4.7GHz
GPU Intel Iris Xe Graphics
SSD M.2 NVMe SSD 512GB
RAM 16GB DDR4 บัส 3200MHz
Display 14.5 นิ้ว ความละเอียด 2.8K (2880×1800) พาเนล OLED ขอบเขตสี 100% DCI-P3 ได้การันตีความเที่ยงตรงสีจาก PANTONE Validated และ VESA DisplayHDR True Black 600
Connectivity Thunderbolt 4 x 2, USB 2.0 x 1, USB-A 3.2 x 1, HDMI 2.1 x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.0

Software Windows 11 Home, Microsoft Office Home & Student 2021
Weight 1.63 กิโลกรัม
Price 36,990 บาท คลิ๊กสั่งซื้อที่นี่
5. ASUS ZenBook 14 OLED UX3402ZA-KM504WS (35,990 บาท)

Asus Notebook Zenbook 14 OLED 01

จุดเด่นของ ASUS ZenBook 14 OLED UX3402ZA-KM504WS ที่ต้องเลือกมาแนะนำในบทความโน๊ตบุ๊ค Intel Evo นี้ ทั้งตัวเครื่องบางพกสะดวกและเบาเพียง 1.35 กิโลกรัม มีแป้น ASUS NumberPad 2.0 กดสลับทัชแพดเป็น Numpad ไว้พิมพ์ตัวเลขได้ง่ายๆ ลำโพง Dolby Atmos พร้อมชิป DSP Smart Amp และเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือตรงปุ่ม Power ได้จอขนาดกะทัดรัดพกง่าย 14 นิ้ว ความละเอียด 2.8K (2880×1800) พาเนล OLED ขอบเขตสีกว้าง 100% DCI-P3 ได้รับการรับรอง PANTONE Validated และ VESA DisplayHDR True Black 600 ค่า Refresh Rate 90Hz ซีพียูเป็น Intel Core i5-1240P แบบ 12 คอร์ 16 เธรด (4P+8E) ความเร็ว 3.3~4.4GHz ได้การ์ดจอออนบอร์ด Intel Iris Xe Graphics มี M.2 NVMe SSD ความจุ 512GB ติดตั้ง Windows 11 Home และ Microsoft office Home & Student 2021 กับแรม 16GB LPDDR5 บัส 4800MHz มาให้ มีพอร์ต Thunderbolt 4 x 2, USB-A 3.2 Gen 2 x 1, HDMI 2.0b x 1, MicroSD Card Reader x 1, Audio combo x 1 เชื่อมต่อ Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.2 ในตัว จัดเป็นโน๊ตบุ๊ค Intel Evo อีกรุ่นที่น่าใช้มาก หากใครต้องการอ่านรีวิวฉบับเต็มสามารถคลิ๊กอ่านได้ที่นี่

สเปคของ ASUS ZenBook 14 OLED UX3402ZA-KM504WS
CPU Intel Core i5-1240P แบบ 12 คอร์ 16 เธรด (4P+8E) ความเร็ว 3.3~4.4GHz
GPU Intel Iris Xe Graphics
SSD M.2 NVMe SSD 512GB
RAM 16GB LPDDR5 บัส 4800MHz
Display 14 นิ้ว ความละเอียด 2.8K (2880×1800) พาเนล OLED ขอบเขตสีกว้าง 100% DCI-P3 ได้รับการรับรอง PANTONE Validated และ VESA DisplayHDR True Black 600 ค่า Refresh Rate 90Hz
Connectivity Thunderbolt 4 x 2, USB-A 3.2 Gen 2 x 1, HDMI 2.0b x 1, MicroSD Card Reader x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.2

Software Windows 11 Home, Microsoft office Home & Student 2021
Weight 1.35 กิโลกรัม
Price 35,990 บาท คลิ๊กสั่งซื้อที่นี่
6. Fujitsu Ultralight UH-X (46,990 บาท)

Fujitsu Notebook UH X 4ZR1J37871 White 01

แข็งแรงทนทานแต่เบาไม่ถึงกิโลกรัมแถมพอร์ตจัดเต็มล้นเครื่อง เป็นคำจำกัดความที่ดีสุดสำหรับ Fujitsu Ultralight UH-X โน๊ตบุ๊ค Intel Evo รุ่นนี้และยังมีเซนเซอร์สแกนใบหน้าเอาไว้ยืนยันตัวปลดล็อคเครื่องได้ด้วยและน้ำหนักเครื่องเพียง 873 กรัม ตัวเครื่องขนาด 13.3 นิ้ว ความละเอียด Full HD (1920×1080) พาเนล IPS ใช้ซีพียู Intel Core i7-1255U แบบ 10 คอร์ 12 เธรด (2P+8E) ความเร็ว 3.5~4.7GHz การ์ดจอ Intel Iris Xe Graphics มี M.2 NVMe SSD ความจุ 1TB ติดตั้ง Windows 11 Home และ Microsoft Office Home & Student 2021 มาให้ใช้กับแรมอีก 16GB DDR4 บัส 3200MHz มีพอร์ต Thunderbolt 4 x 2, USB-A 3.2 x 2, HDMI x 1, LAN x 1, SD Card Reader x 1, Audio combo x 1 เชื่อมต่อ Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.1 ได้ด้วย หากใครหาโน๊ตบุ๊ค Intel Evo ที่เบาสุดๆ มีพอร์ตให้ใช้งานครบเครื่อด้วยล่ะก็ Fujitsu UH-X นี้ถือว่าน่าสนใจมาก

สเปคของ Fujitsu Ultralight UH-X
CPU Intel Core i7-1255U แบบ 10 คอร์ 12 เธรด (2P+8E) ความเร็ว 3.5~4.7GHz
GPU Intel Iris Xe Graphics
SSD M.2 NVMe SSD 1TB
RAM 16GB DDR4 บัส 3200MHz
Display 13.3 นิ้ว ความละเอียด Full HD (1920×1080) พาเนล IPS
Connectivity Thunderbolt 4 x 2, USB-A 3.2 x 2, HDMI x 1, LAN x 1, SD Card Reader x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.1

Software Windows 11 Home, Microsoft Office Home & Student 2021
Weight 873 กรัม
Price 46,990 บาท คลิ๊กสั่งซื้อที่นี่
7. HUAWEI MateBook X Pro (79,990 บาท)

Huawei Notebook MateBook X Pro 02

สุดท้ายเป็นโน๊ตบุ๊ค Intel Evo ระดับพรีเมี่ยมอย่าง HUAWEI MateBook X Pro ซึ่งจุดเด่นอยู่ที่หน้าจอ 14.2 นิ้ว ความละเอียด 3.1K (3210×2080) พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 90Hz อัตราส่วน 3:2 นั้นเป็นจอ ขอบเขตสีกว้าง P3 ค่าความแม่นยำสี Delta-E <1 และน้ำหนักเบาเพียง 1.26 กิโลกรัม ใช้ซีพียู Intel Core i7-1260P แบบ 12 คอร์ 16 เธรด (4P+8E) ความเร็ว 3.4~4.7GHz ใช้การ์ดจอออนบอร์ด Intel Iris Xe Graphics มี M.2 NVMe SSD ความจุ 1TB ติดตั้ง Windows 11 Home และ Microsoft Office Home & Student 2021 กับแรม 16 GB LPDDR5 บัส 4267MHz มาให้ใช้งาน มีพอร์ต Thunderbolt 4 x 2, USB-C 3.2 Full Function x 2, Audio combo x 1 เชื่อมต่อ Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.2 ได้ มีเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือติดตั้งมาให้ที่ปุ่ม Power และมีลำโพงติดตั้งมาให้ทั้งหมด 6 ตัว ให้เสียงมีมิติยิ่งขึ้นและถ้าใครใช้สมาร์ทโฟน HUAWEI ก็ใช้ฟีเจอร์ HUAWEI Share นำหน้าจอสมาร์ทโฟนมาใช้งานบน HUAWEI MateBook ได้อีกด้วย ต้องถือว่าเป็นโน๊ตบุ๊คระดับพรีเมี่ยมที่น่าใช้อีกรุ่นหนึ่ง แต่แนะนำให้หา USB-C Multiport Adapter มาเผื่อเอาไว้ใช้ด้วยจะดีมาก

สเปคของ HUAWEI MateBook X Pro
CPU Intel Core i7-1260P แบบ 12 คอร์ 16 เธรด (4P+8E) ความเร็ว 3.4~4.7GHz
GPU Intel Iris Xe Graphics
SSD M.2 NVMe SSD 1TB
RAM 16 GB LPDDR5 บัส 4267MHz
Display 14.2 นิ้ว ความละเอียด 3.1K (3210×2080) พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 90Hz อัตราส่วน 3:2 ขอบเขตสีกว้าง P3 ความแม่นยำสี Delta-E <1
Connectivity Thunderbolt 4 x 2, USB-C 3.2 Full Function x 2, Audio combo x 1

Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.2

Software Windows 11 Home, Microsoft Office Home & Student 2021
Weight 1.26 กิโลกรัม
Price 79,990 บาท คลิ๊กสั่งซื้อที่นี่

computer 2982270 1280

จะเห็นว่าโน๊ตบุ๊ค Intel Evo นั้นมีตั้งแต่รุ่นราคาเริ่มต้นไม่เกิน 30,000 บาท ไปจนรุ่นพรีเมี่ยมซึ่งใช้วัสดุกับพาร์ทคุณภาพดีขึ้น ไม่ว่าจะพาเนลจอ OLED ขอบเขตสีกว้าง, ชิป DSP และระบบเสียง Dolby Atmos และฟีเจอร์อื่นๆ อีกหลากหลายอย่างที่ทางผู้ผลิตใส่มาให้ใช้กัน โดยส่วนตัวผู้เขียนเองได้ใช้โน๊ตบุ๊ค Intel Evo มาระยะหนึ่งแล้วต้องถือว่าน่าลงทุนซื้อมาใช้อย่างแน่นอน เพราะนอกจากแบตเตอรี่จะทนทานและเบาพกง่ายเป็นทุนเดิมแล้ว ประสิทธิภาพของชิป Intel ก็ทำงานได้รวดเร็วทันใจและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

แต่อย่างไรก็ตาม นอกจากโน๊ตบุ๊คจะดีก็อยากแนะนำให้หาซื้ออุปกรณ์เสริมต่างๆ มาใช้คู่กับโน๊ตบุ๊ค Intel Evo สัก 1-2 ชิ้นด้วย อย่างแรกคือ USB-C Multiport adapter ไว้แปลงพอร์ต Thunderbolt 4 หรือ USB-C Full Function เป็นพอร์ตพื้นฐานอื่นๆ อย่างเช่น USB-A 3.0, HDMI, VGA ฯลฯ ให้ใช้งานได้สะดวกยิ่งขึ้นและเมาส์ Ergonomic สักตัว จะช่วยให้ทำงานได้มีความสุขยิ่งกว่าเดิมมาก


บทความที่เกี่ยวข้อง

ตัวรับWifi

7MouseBluetooth 1 1

8หูฟังไอโฟน

from:https://notebookspec.com/web/691472-7-recommend-intel-evo-laptop

คอมช้า คอมกระตุก จอฟ้า จบใน 7 ขั้นตอนฟรี! คอมลื่นเหมือนใหม่ 2023

คอมช้า คอมกระตุก 2023 รีสตาร์ท เปิดคอมใหม่ก็เป็น จบใน 7 ขั้นตอน มือใหม่ทำตามได้

solve pc slowly and crash 2023 cov

คอมช้า คอมกระตุกเกิดได้จากหลายสาเหตุ 7 วิธีนี้ช่วยลดปัญหาได้ ไม่ว่าจะเป็นคอมเก่าใช้มานาน หรือคอมใหม่เพิ่งซื้อ ก็อาจเกิดอาการช้า หรือจอฟ้า BSOD ได้เช่นกัน แต่ถ้าหาต้นเหตุของอาการได้ ก็แก้ไขได้ไม่ยาก แต่อาจจะต้องมีขั้นตอนวิธีในการเช็ค ว่าเกิดจากฮาร์ดแวร์หรือซอฟต์แวร์ โดยในบางกรณีอาจเกิดจากปัญหาเล็กๆ เช่น ไดรเวอร์ หรือการติดตั้งฮาร์ดแวร์ผิดปกติเท่านั้น เมื่อแก้ไขก็กลับมาใช้ได้เหมือนเดิม อาการเหล่านั้นก็หายไป ดังนั้นมาลองดูกันครับว่า สิ่งที่เกิดขึ้นและทำให้คอมคุณช้า กระตุกหรือทำงานไม่ได้ตามปกติ ต้องทำอย่างไร กับวิธีง่ายๆ เหล่านี้

คอมช้า คอมกระตุกจบปัญหาใน 8 ขั้นตอน


แก้ปัญหาคอมช้า

ปัญหาคอมช้า คอมอืด กระตุกหรือหนักขึ้น จนเกิดอาการจอฟ้า BSOD สิ่งเหล่านี้ อาจจะต้องเริ่มที่การแก้ไขในแบบที่เราคุ้นเคย หรือสามารถทำได้ก่อน เช่น การใช้ฟีเจอร์จากบน Windows มาช่วยในการปรับปรุงแก้ไข และค่อยๆ ใช้ซอฟต์แวร์ และฮาร์ดแวร์เข้ามาลองปรับเปลี่ยนตามลำดับ อย่างไรก็ดีการปรับลดหรือเพิ่มในฟังก์ชั่นบางอย่าง ก็มีส่วนช่วยลดอาการได้เช่นกัน ดังนั้นแล้วควรทำควบคู่กันไป ตามอาการที่เกิดขึ้น ตัวอย่างเช่น การใช้วิธีต่างๆ เหล่านี้

Advertisementavw

โซลูชั่นแก้ปัญหาคอมช้า คอมกระตุก แบบเร่งด่วน

เริ่มจากการเช็ค สแกน > อัพเดต > ตรวจสอบระบบฮาร์ดแวร์ > อัพเกรดหรือเปลี่ยน


1.ปิดโปรแกรมที่ไม่ใช้บ้าง

หลานท่านชอบใช้งานคอมหลายอย่างพร้อมกัน เช่น ดูหุ้น พร้อมกับทำงานเอกสาร และเปิดเพลงฟัง หรือบางคนก็อาจจะแต่งภาพ ไปพร้อมๆ กับการดูหนัง ฟังเพลง รวมถึงเปิดเว็บไซต์หาข้อมูล หรือใช้ในการโอนถ่ายไฟล์งานต่างๆ สิ่งเหล่านี้ หากเป็นคอมที่สเปคกลางๆ ขึ้นไป เช่น ซีพียูระดับ Intel Core หรือ AMD Ryzen มีแรม 8GB หรือมากกว่า การทำงานระดับนี้ ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบมากนัก แต่ถ้าเป็นคอมที่สเปคไม่แรง หรือเป็นรุ่นเก่า ใช้งานมานาน ใช้งานระดับนี้ก็อาจกระตุกหรือค้างได้ในบางจังหวะ

คอมช้า

สิ่งที่ต้องทำเป็นอันดับแรกก็คือ ลองเช็คดูว่าคุณใช้งานโปรแกรมเยอะเกินไปหรือไม่ รวมถึงเปิดใช้เว็บเบราว์เซอร์ ไม่ว่าจะเป็น Chrome หรือ Microsoft Edge มากเกินไปหรือเปล่า เพราะอย่าลืมว่า เมื่อเปิดแต่ละแท็ปหรือแต่ละหน้าต่าง ก็ใช้แรมเพิ่มมากขึ้น หากคุณมีแรมน้อย ก็ย่อมส่งผลทำให้คอมช้า คอมกระตุกได้เลย

วิธีการแก้ไข

คอมช้า
  1. ปิดโปรแกรม ที่ไม่จำเป็นต้องใช้ในขณะนั้น
  2. เข้าไปดูใน Startup program ด้วยการกด Ctrl+Shift+Del ปิดโปรแกรมที่ทำงานอยู่เบื้องหลังออก
  3. ปิดแท็ปหรือหน้าต่างหรือเว็บไซต์บนเว็บเบราว์เซอร์ เหลือไว้เท่าที่ใช้งาน
  4. รีสตาร์ทระบบ เพื่อเคลียร์สิ่งต่างๆ ให้เหลือพื้นที่แรมเพิ่มขึ้น

2.ฮาร์ดดิสก์หรือ SSD เต็มหรือเปล่า

เรียกว่าเป็นปัญหาใหญ่ของใครหลายคนก็ว่าได้ เก็บข้อมูลไฟล์ ลงเกม ติดตั้งโปรแกรมเพลิน จนลืมไปว่าแทบไม่เหลือพื้นที่ในฮาร์ดดิสก์หรือ SSD แล้ว ยิ่งเป็นโน๊ตบุ๊คบางรุ่น มี SSD มาให้น้อยมาก ลงโปรแกรมที่จำเป็นกับเก็บข้อมูลส่วนตัวไว้อีกหน่อย ก็เกือบจะเต็มพื้นที่อยู่แล้ว เป็นแบบนี้ใช้งานไม่นาน คอมหรือโน๊ตบุ๊คก็ช้าลงได้ เพราะไม่มีพื้นที่ให้จัดการไฟล์ ระบบไม่สามารถทำงานได้ตามปกตินั่นเอง

คอมช้า

สิ่งที่ต้องแก้ไข ก็คงต้องเริ่มจากการปรับพฤติกรรมของผู้ใช้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการจัดสรรพื้นที่เก็บไฟล์ การเคลียร์ไฟล์ที่ไม่จำเป็น ลดโปรแกรมที่ไม่ใช้ รวมไปถึงเกม และยังมีวิธีอื่นๆ อีกมากมาย ช่วยให้คุณได้พื้นที่เก็บข้อมูลกลับมา

วิธีการแก้ไข

  • เคลียร์ไฟล์ขยะและ Temporary file หรือไฟล์ตกค้างจากการทำงานของ Windows ที่ไม่ได้ลบทิ้ง
  • ให้เข้าไปที่ Disk Cleanup เลือกไดรฟ์ C: จากนั้นใส่เครื่องหมายหน้ารายการต่างๆ เลือก OK แล้ว Clean up ได้เลย จะลดไฟล์เหล่านั้นไปได้อีกหลาย GB เลยทีเดียว
  • ลบโปรแกรมที่ไม่ได้ใช้ออกไป ด้วยการเข้าไปที่ Program & Feature จากนั้น Uninstall or change a program แล้วเลือกโปรแกรมที่ไม่ได้ใช้งาน หมดอายุ หรือเป็นโปรแกรมเก่า ที่ไม่ได้ใช้มาเนิ่นนานออกไป ด้วยการ Remove จะได้พื้นที่กลับมาในระดับ GB หรือมากกว่า 10GB เลยทีเดียว
  • เกมที่ไม่ได้เล่น ไม่ว่าจะติดตั้งโดยตรงหรือลงผ่าน Game Platform ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Steam, Origins หรือ EPIC เป็นต้น ลบโดยตรงจากโปรแกรมได้เลย ตรงนี้ใครที่เล่นเกมใหญ่ๆ จะได้คืนมาระดับ 100GB เลยทีเดียว
  • ลบไฟล์ซ้ำๆ ออกบ้าง เพราะบางคนเก็บไฟล์เดียวกัน แต่เอาไว้หลายที่ เพราะไม่ได้วางแผนจัดเก็บที่ดี ทำให้กลายเป็นไฟล์ขยะ เปลืองพื้นที่บน Storage อย่างมากเลย วิธีลบถ้าทำแบบ Manual ไม่ได้ ก็เลือกใช้โปรแกรมที่ใช้ลบไฟล์ซ้ำ เช่น Duplicate file Cleaner, AllDup หรืออื่นๆ ตามที่พอหาได้
  • แต่ถ้าสุดท้ายอั้นไม่ไหว ไม่อยากลบ เพราะมีแต่ไฟล์ที่จำเป็น ก็ลองขยายพื้นที่จัดเก็บ เช่น การเปลี่ยน SSD, เพิ่มความจุฮาร์ดดิสก์ลูกใหม่ หรือจะใช้แบบจัดเก็บข้อมูลต่อภายนอก และสุดท้ายคือ ใช้บริการ Cloud Storage ก็ได้เช่นกัน
อุปกรณ์ ค่าใช้จ่าย
SSD 1TB เริ่ม 2,900 บาท
ฮาร์ดดิสก์ 2.5″ SATA 1TB เริ่ม 1,000 บาท
External HDD 1TB เริ่ม 1,400 บาท
External SSD 1TB เริ่ม 3,300 บาท
Cloud storage MEGA ฟรี 20GB
Google One ฟรี 15GB
iCloud ฟรี 5GB
Dropbox ฟรี 2GB
Google One 2TB, 350 บาท/ด
iCloud 2TB, 349 บาท/ด
Dropbox 2TB, 350 บาท/ด
MEGA 2TB, 391 บาท/ด

3.แรมหาย คอมก็ช้าได้

แรมหายจากการที่ซอฟต์แวร์หรือโปรแกรมเรียกใช้งาน อย่างเช่น บางโปรแกรมที่เปิดอยู่กำลังทำงาน อาจจะเรียกใช้อยู่ไม่กี่ MB แต่เมื่อรวมการใช้งานร่วมกับภาพไฟล์ข้อมูลเข้าไปด้วย ก็ยิ่งใช้แรมมากขึ้น หรือแม้กระทั่งเว็บเบราว์เซอร์เอง ก็มีการเรียกใช้แรม เพิ่มมากขึ้นตามจำนวนหน้าหรือแท็ปที่เปิดใช้งานอยู่เวลานั้น ยิ่งทำให้คอมช้าลง นอกจากนี้ยังมีเรื่องของแรมหาย จากความเสียหายทางกายภาพอีกด้วย มาดูสาเหตุกัน

คอมช้า

แรมไม่พอ: เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ง่าย และสังเกตได้ อาการจะมีหลายแบบ เช่น เปิดโปรแกรมช้า เปิดไฟล์ไม่ได้ หรือบางครั้งก็จะแฮงก์ค้างไปดื้อๆ

วิธีการแก้ไข

  1. เริ่มจากปิดหน้าเว็บเบราว์เซอร์ที่ไม่จำเป็น หรือปิดไปทั้งหมด แล้วจึงเปิดขึ้นมาใหม่อีกครั้ง ถ้าเป็น Chrome หรือ Edge สามารถกดปุ่ม Ctrl+Shift+ปุ่ม T พร้อมกัน ก็จะเรียกหน้าต่างที่เราปิดไป กลับคืนมาให้
  2. กดปุ่ม Ctrl+Shift+Esc แล้วเข้าไปใน Task manager เลือกปิดโปรแกรมที่ใช้ Memory มากผิดปกติ แล้วคลิ๊กที่ End Task
  3. Restart ระบบ แล้วกลับมาใช้งานอีกครั้ง เพื่อเป็นการ Clear พื้นที่การใช้งานแรม ให้เหลือมากขึ้น
คอมช้า

แรมเสีย: อาการนี้มีโอกาสเกิดขึ้นได้ โดยที่ผู้ใช้ไม่ทันรู้ตัว จนกว่าจะมีอาการช้าจนผิดปกติ เพราะจากเดิมอาจมีแรม 8GB แบ่งเป็น 4GB จำนวน 2 ตัว ก็ยังทำงานได้ลื่น แต่พอแรมพังไป 1 ตัว เหลือแค่ 4GB เราทำงานแบบเดิม แต่ก็จะช้าลงอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ สำหรับคนที่ไม่ทราบข้อมูล หรือไม่ได้มีความรู้ด้านฮาร์ดแวร์มากนัก แต่ก็มีวิธีสังเกตง่ายๆ คือ

คอมช้า
  • คุณอาจจะต้องหาข้อมูลที่แท้จริงว่า โน๊ตบุ๊คหรือพีซีที่คุณใช้อยู่นั้น มีแรมอยู่เท่าไร โดยดูจากโบรชัวร์ หรือสอบถามจากร้านหรือคนที่ซื้อมาให้คุณ
  • เมื่อได้ข้อมูลมาแล้ว ให้เช็คจากในเครื่องคุณว่ามีแรมครบถูกต้องมั้ย ทำได้หลายวิธี เช่น ดูจาก Task manager, ฟังก์ชั่น System ของระบบ หรือจะใช้โปรแกรมเสริมก็ได้
  • ดูจาก Task Manager ไปที่แท็ป Performance แล้วดูที่ Memory จะบอกความจุแรมให้ชัดเจน
  • ดูจาก System สำหรับ Windows 11 ให้คลิ๊กขวาที่ปุ่ม Start จากนั้นเลือก System เข้าไปดูใน Device Specification ลงมาตรง Installed RAM ตรงนี้จะบอกความจุที่ระบบมองเห็น ครบหรือไม่ครบ ก็ทราบได้เลย
  • แต่ถ้ายังรู้สึกคลุมเครือ มีคนสามารถวางใจได้ หรือมีสกิลในการแกะอยู่บ้าง ก็แกะดูได้ เป็นพีซีจะมองได้ง่าย แต่โน๊ตบุ๊คอาจจะยากนิดหน่อย
  • หากเสีย ก็เช็คอีกทีว่าเสียจริงมั้ย หรือแค่สกปรก หรืออาจจะเสียจากสล็อตแรมก็เป็นได้ ถ้าเป็นแบบสุดท้าย ก็ต้องพึ่งพาช่างซ่อมแล้วครับ

4.อัพเดตไดรเวอร์หรือ Windows บ้าง

เป็นเรื่องที่จำเป็นต้องทำและทำได้ง่ายมากที่สุด อาจจะไม่ได้เป็นการแก้ปัญหา คอมช้า คอมกระตุกโดยตรง แต่ก็มีส่วนช่วยอย่างเลี่ยงไม่ได้ เพราะระบบจะได้รับการปรับปรุง แก้ไข หรือเพิ่มประสิทธิภาพ ก็มาจากการ Update Windows หรือ Update Driver นั่นเอง วิธีการค่อนข้างง่าย

คอมช้า

Update Windows: ให้คลิ๊กขวาที่ปุ่ม Win จากนั้นเลือก System แล้วเลือก Windows Update ที่อยู่ทางซ้ายมือ คลิ๊กที่ Check for Updates จากนั้นเลือก Download & Install รอจนกว่าจะติดตั้งเสร็จ แล้วรีสตาร์ทระบบใหม่อีกครั้ง

คอมช้า

Update Driver: สามารถใช้วิธีการเดียวกับ Update Windows ได้ แต่ให้เลือกที่ Advance Options แล้วเลือกที่ Additional options ทางด้านขวา แล้วคลิ๊กที่ Optional Updates ใส่เครื่องหมายด้านหน้าอุปกรณ์ในช่อง แล้วเลือก Download & Install

วิธีที่ 2 ในการอัพเดตไดรเวอร์ ด้วยการดาวน์โหลดจากหน้าเว็บไซต์ผู้ผลิต เพียงแต่คุณต้องทราบว่าคุณใช้โน๊ตบุ๊คหรือฮาร์ดแวร์ ซีรีส์ใด รุ่นใด จากนั้นดาวน์โหลดไฟล์มาติดตั้งได้ทันที

วิธีที่ 3 เข้าไปใน Device Manager จากนั้นคลิ๊กขวาบนฮาร์ดแวร์ตัวที่คุณจะอัพเดต แล้วเลือก Update Driver ได้ทันที


5.ปิดการใช้แอนิเมชั่นบางอย่าง

เราเคยสังเกตหรือไม่ว่า ระบบสามารถแสดงผล มีหน้าตาที่สวย โปร่งแสงดูทันสมัย เพราะสิ่งเหล่านั้นได้มาจากฟังก์ชั่นของ Windows ที่เพิ่มความสวยงามในการใช้งาน แต่ก็มาพร้อมกับการใช้ทรัพยากรของระบบอยู่ด้วยเช่นกัน การปิดใช้งานสิ่งเหล่านี้ ก็มีส่วนช่วยลดปัญหาคอมช้าได้

คอมช้า

ผลที่ได้จากการปิดเอฟเฟกต์แอนิเมชั่นของระบบ ทำให้ลดภาระในการสร้างกราฟิกและเอฟเฟกต์ต่างๆ ลง โดยเฉพาะกับแรมและซีพียู แม้จะไม่มาก แต่ถ้าทำร่วมกับวิธีการอื่นๆ ก็ลดปัญหาคอมช้าได้เช่นกัน อย่างไรก็ดีการเปิดหน้าต่าง เลื่อน การแสดงผล เปลี่ยนหน้าอาจลื่นไหล แต่ก็ยังสบายตา รวมถึงเอฟเฟกต์โปร่งแสงจะหายไป แต่ได้ Process ที่ดีกลับมา ทำให้เครื่องลื่นขึ้น

วิธีการแก้ไข

ให้คลิ๊กขวาบนหน้าเดสก์ทอป > เลือก Personalize > เลือก Accessibility ทางด้านซ้าย > เลือก Visual ที่อยู่ด้านขวา > Transparency effects ให้เลือกเป็น Off และ Animation effectss ก็เป็น Off เช่นเดียวกัน

คอมช้า

นอกจากนี้คุณอาจจะเลือกการตั้งค่า Theme เป็นแบบสีพื้น ไม่ต้องมีการเปลี่ยนไปมาแบบ Slide พร้อมกันไปด้วย อาจดูเรียบง่ายธรรมดา แต่ก็ช่วยให้ไหลลื่นมากขึ้น


6.สแกนระบบอย่างสม่ำเสมอ

บางครั้งที่เราเจอกับปัญหาคอมช้า คอมกระตุก อาจจะไม่ได้เกิดจากฮาร์ดแวร์เสีย ทำงานบกพร่องหรือไดรฟ์เต็มเพียงเท่านั้น แต่บางครั้งอาจเกิดจากความบกพร่องของระบบหรือซอฟต์แวร์ ที่ทำงานผิดปกติ มีสิ่งที่รบกวนการทำงาน หลังจากที่คุณทำการอัพเดตไดรเวอร์หรือ Windows Updates ไปแล้ว ก็อยากให้เพิ่มในส่วนของ Windows Security, Internet Security หรือบรรดาป้องกันไวรัส มัลแวร์เอาไว้ด้วย และอย่าลืมสั่ง Scan ทั้งหมด

คอมช้า

Scan Virus: ไวรัส มัลแวร์ โทรจัน มีส่วนอย่างมากในการรบกวนระบบ ทำให้คอมช้า คอมกระตุกได้เช่นกัน ยิ่งบางครั้งแฝงตัวอยู่แอบทำงานเบื้องหลัง ไม่ให้เรารู้ กว่าจะไปไล่หาเจอว่าตัวไหน บางทีก็ช้าไป ใช้การสแกนหาง่ายกว่าเยอะ จะใช้ Windows Security หรือ Internet Security หรือ Anti Virus มาช่วยเสริมก็ดีไม่น้อย

เลือกใช้ Anti-Virus ที่เหมาะสมกับระบบของคุณ ซึ่งมีทั้งป้องกันไวรัส และแบบครอบคลุมถึงการเชื่อมต่อต่างๆ เช่น Internet Security สำหรับผู้ใช้ที่มีธุรกรรมและการทำงานออนไลน์เต็มรูปแบบ เลือกที่มีการอัพเดตได้บ่อย เพื่อเพิ่มความทันสมัยในการตรวจจับภัยคุกคาม และหมั่นสแกนไวรัสแบบละเอียด หรือตั้งค่าการ Scan ให้ไม่กระทบต่อการใช้งานในแต่ละวันของคุณ

คอมช้า

Error checking: เพื่อ Scan ระบบเช็คความผิดปกติ เป็นตัวช่วยที่ดี ในการแก้ปัญหาจะซอฟต์แวร์ หรือระบบ เมื่อเกิดขึ้นในขณะที่ใช้งาน ซึ่งส่งผลต่อระบบ ทำให้คอมช้า คอมกระตุกได้เช่นกัน โดยวิธีใช้ตามขั้นตอนนี้ เปิด File Explorer (กดปุ่ม Win+E) จากนั้นคลิ๊กขวาที่ไดรฟ์ C: แล้วเลือก Properties > เข้าไปที่แท็ป Tools > คลิ๊กที่ Error checking แล้วคลิ๊กที่ Check รอจนกว่าระบบจะทำงานเสร็จสิ้น

คอมช้า

Optimize: เป็นการเสริมระบบการทำงานได้เช่นกัน ใช้วิธีเดียวกับการทำ Error checking เมื่อเข้าไปที่แท็ป Tools > ให้เลือกที่ Optimized and Defragment Drive แล้วคลิ๊กที่ปุ่ม Optimized

คอเกมที่อยากเล่นเกมลื่นๆ มาทางนี้เลยครับ ทิปเล่นเกมลื่น


7.เช็ค Error Code เมื่อเกิดจอฟ้า

ปัญหาจอฟ้า เป็นผลข้างเคียง เมื่อคอมช้า ซึ่งอาจเกิดจากไฟล์ระบบหรือฮาร์ดแวร์ทำงานไม่เข้ากัน หรือไฟล์ระบบบางตัวเสีย ซึ่งจะมีผลออกมาในแต่ละ Code ไม่เหมือนกัน เราสามารถสังเกตรหัสที่เกิดขึ้น เพื่อนำมาใช้ในการวิเคราะห์ปัญหาได้ง่ายขึ้น

คอมช้า

แต่ก่อนที่จะไปเช็ค Code ของ BSOD ได้นั้น คุณต้องมองเห็น Code ได้ทัน แต่ส่วนใหญ่ ระบบมักจะรีสตาร์ท จนเรามองไม่ทัน ดังนั้นสิ่งที่ต้องทำก็คือ ให้ระบบค้างหน้าจอ Stop Code ไม่ต้องรีสตาร์ท เมื่อเกิดปัญหากับระบบ ไม่ว่าจะเป็น Error หรือ BSOD ก็ตาม ให้ค้างหน้าจอเอาไว้นิ่งๆ วิธีการคือ

วิธีหยุดไม่ให้ระบบรีสตาร์ทอัตโนมัติ: เข้าไปที่ Control Panel จากนั้นเลือก System and Security จากนั้นเลือก System ไปที่ Advanced system settings คลิ๊กที่ Settings แล้วเลื่อนลงมาด้านล่าง ให้เอาเครื่องหมายหน้า Automatically restart แล้วคลิ๊ก Ok เพื่อบันทึกการตั้งค่า

วิธีการแก้ไข

สามารถหาข้อมูล Stop Code เพิ่มเติมมากกว่า 300 Code จากทาง Microsoft

สามารถเช็ค Stop Code ได้ตามข้อมูลในตารางนี้

Error Cause Solution
DATA_BUS_ERROR

Memory failure Check RAM stick function with MemTest, replace hardware if necessary
INACCESSIBLE_BOOT_DEVICE
 

 

Missing driver

Virus/Malware

Update or install driver

Antivirus scan, Switch from “IDE” to “AHCI” in BIOS under “SATA Mode Selection”

UNEXPECTED_KERNEL_MODE_TRAP Hardware error

Temperature too high

Uninstall and reinstall device driver (primarily for recently added devices)

Check fan performance, clean PC or check environment if necessary

NTFS_FILE_SYSTEM

High CPU memory usage Search for costly processes in the Task Manager; uninstall/reinstall programs in question if necessary; check hard drive on which Windows is installed for errors in Windows processes (Right-click, then “Properties”, “Tools”, and “Check”)
IRQL_NOT_LESS_OR_EQUAL

Incompatible or outdated device driver Deactivate drivers for recently installed devices via the device manager (search and run “mmc devmgmt.msc” command in Start menu); then obtain the newest version of the driver from the device manufacturer and install
BAD_POOL_CALLER

Unwanted memory access Deactivate drivers for recently installed devices (see above); then obtain the newest version of the driver from the device manufacturer and install
FAT_FILE_SYSTEM

Corrupt file system Check hard drive function; search and run “chkdsk” in Start menu
OUT_OF_MEMORY

Memory failure Check RAM stick function with MemTest, replace hardware if necessary
PAGE_FAULT_IN_NON_PAGED_AREA

Memory failure Check RAM stick function with MemTest, replace hardware if necessary
UNABLE_TO_LOAD_DEVICE_DRIVER

Defective device driver Deactivate drivers for recently installed devices (see above); then obtain the newest version of the driver from the device manufacturer and install
KMODE_EXCEPTION_NOT_HANDLED

 

Defective software

With .sys file: System file error

Uninstall/reinstall recently used software (newest or system-compatible version)

For system file error: Run Windows Repair Tool (see below: “Check and repair system files”)

ที่มา: ionos.com

Conclusion

สรุปส่งท้ายสำหรับคนที่เจอปัญหาคอมช้า คอมกระตุก ก็อย่าเพิ่งตระหนกไปว่าเจอกับปัญหาใหญ่ บางครั้งแค่รีสตาร์ทเครื่องใหม่ ก็กลับมาไหลลื่นได้เหมือนเดิมแล้ว เพียงแต่ขั้นตอนต่างๆ ที่เราแนะนำมานี้ บางอย่างก็จะเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาซ้ำในภายหลัง และยังช่วยให้การทำงานไหลลื่นยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปิดหรือลบโปรแกรมบางอย่าง ที่แอบทำงานเบื้องหลัง หรือการป้องกันไวรัส และบรรดามัลแวร์ ที่มักจะสร้างความรำคาญ และเข้ามาล้วงตับข้อมูลของคุณได้ การอัพเดตและการสแกนบ่อยๆ จะช่วยให้เครื่องของคุณปลอดภัย ใช้งานได้อย่างอุ่นใจ สุดท้ายคือ การจัดเรียงไฟล์ ให้เป็นหมวดหมู่ จะช่วยให้คุณทราบว่า ไฟล์ไหนควรเก็บ ไฟล์ใดควรลบ จะได้ไม่รกพื้นที่ภายในเครื่อง และทำให้คอมช้าลงนั่นเองครับ

from:https://notebookspec.com/web/688897-7-tip-solve-problems-pc-slowdown

10 โปรแกรมตัดต่อวีดีโอ 2023 ใช้ง่าย ไม่ติดลายน้ำ ฟีเจอร์แน่นเพื่อ Content Creator

โปรแกรมตัดต่อวีดีโอ 2023 นักสร้างคอนเทนต์มือใหม่ ใช้ง่าย เอฟเฟกต์เยอะ รุ่นไหนโดน?

โปรแกรมตัดต่อวีดีโอ

โปรแกรมตัดต่อวีดีโอ ในปี 2023 ถือเป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้างสรรผลงานด้านวีดีโอคอนเทนต์ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน ในครั้งนี้เราจัดมาให้ 10 โปรแกรมฟรีน่าใช้ เอาใจเหล่า Content Creator โดยเฉพาะบนโลกออนไลน์ที่มีสื่อที่เป็นวีดีโอในเกือบทุกช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นการโฆษษณา ขายสินค้า พรีเซนเทชั่น ไปจนถึงการสร้างตัวตน สื่อที่เป็นภาพนิ่งสามารถเป็นตัวแทนการแนะนำสิ่งที่ต้องการสื่อออกไปได้ก็จริง แต่วีดีโอได้รับความสนใจมากกว่า เพราะภาพเคลื่อนไหว ทำให้ดูมีชีวิตชีวาและสร้างความแปลกใหม่ได้เสมอ และดึงดูมให้ผู้ชมแชร์ออกไปในโลกออนไลน์หรือสื่อโซเชียลได้มากที่สุดอีกด้วย วันนี้เราจึงมาแนะนำซอฟต์แวร์ในการตัดต่อวีดีโอ ที่น่าสนใจและบางค่ายก็ใช้ฟรี เพื่อให้คุณเลือกตัดต่อวีดีโอในแบบที่ต้องการได้ง่ายขึ้น และถ้าคุณต้องการมองหาโน๊ตบุ๊คสำหรับงานตัดต่อที่เหมาะกับคุณได้ที่นี่เลย

โปรแกรมตัดต่อวีดีโอ 10 รุ่นแบบไหนดี?

  1. Openshot
  2. CapCut
  3. Davinci Resolve
  4. LightWorks Free Edition
  5. Hitfilm Express
  6. Adobe Premier Pro
  7. Vegas
  8. Wondershare Filmora
  9. VideoStudio Pro 2023
  10. VSDC Free Video Editor

1.Openshot

โปรแกรมตัดต่อวีดีโอ

โปรแกรมตัดต่อวีดีโอ ที่มีอินเทอร์เฟสน่าใช้ เป็นกันเอง ใช้ง่ายรองรับวีดีโอความละเอียด 4K เลยทีเดียว รอบรับการใส่ซาวด์และแอนิเมชั่นต่างๆ เช่น 3D และมี Transition หลากหลายน่าใช้งาน แม้จะลูกเล่นเยอะ แต่ก็เป็นโปรแกรมขนาดเล็ก ตัดต่อง่าย ใช้แค่การลากวาง (Drag & Drop) จากนั้นเลือกเอฟเฟกต์ที่ชอบ แล้วระบบจะจัดเรียงให้อย่างสวยงาม เหมาะกับกลุ่มนักศึกษา หรือนักสร้างคอนเทนต์ เน้นใช้ง่าย ทำวีดีโอได้ไว

Advertisementavw

ใช้ฟรี
รองรับ 3D Animation Effect
มีเทมเพลต Slow motion และ Time effect
อินเทอร์เฟสดูง่าย
เพิ่ม Track ไม่จำกัด

จุดเด่น ข้อสังเกต เหมาะกับ
รองรับวีดีโอความละเอียดสูง มีข้อจำกัดในการปรับแต่ง นักศึกษาทำพรีเซนท์
นักสร้างคอนเทนต์มือใหม่

ดาวน์โหลดโปรแกรมและรายละเอียดเพิ่มเติม: OpenShot


2.CapCut

โปรแกรมตัดต่อวีดีโอ

แอพสำหรับตัดต่อวีดีโอของเหล่า Creator ที่เป็นสาย TikTok ใหม่ล่าสุด ใช้งานง่าย เข้ากับทั้งโมบายและพีซีเป็นที่สุด จุดเด่นอยู่ที่ความง่าย ครบเครื่อง ฟิลเตอร์เพียบ เหมาะกับมือใหม่ในงานตัดต่อ ที่อยากเรียนรู้ฟังก์ชั่น และรูปแบบการทำงานที่ง่ายมากขึ้น คุณสามารถลบพื้นหลัง ใส่เพลงที่มีให้เลือกเพียบ อีกทั้งยังรองรับวีดีโอระดับ 4K อีกด้วย และสนับสนุนวีดีโอในแนวตั้ง เพื่อให้เข้ากับ TikTok และ Reels ได้อย่างลงตัว แถมโหมด Beauty ปรับความขาวใส และเพิ่มความเร็วได้ ที่สำคัญไม่มีลายน้ำมากวนใจ

รองรับการใส่ภาษาได้อัตโนมัติ แม่นยำสูง
ลบฉากหลังได้ดี
มีให้เลือกทั้ง Mobile, PC และ Web browser
เหมาะทั้ง TikTok, Youtube

จุดเด่น ข้อสังเกต เหมาะกับ
ใช้งานง่าย ฟิลเตอร์เยอะ มีฟอนต์ไม่เยอะมาก ยูทูปเบอร์และอินฟลูเอนเซอร์
รองรับวีดีโอความละเอียดสูง

ดาวน์โหลดโปรแกรมและรายละเอียดเพิ่มเติม: CapCut


3.Davinci Resolve

โปรแกรมตัดต่อวีดีโอ

โปรแกรมตัดต่อวีดีโอที่มีความเป็นกันเองกับผู้ใช้ และมอบฟีเจอร์ในระดับมืออาชีพให้ไม่แพ้คู่แข่งรุ่นใหญ่ในตลาด ตั้งแต่ในเวอร์ชั่นพื้นฐานด้วยซ้ำไป เพราะโปรแกรมส่วนใหญ่ที่ฟรีมักมีลายน้ำ แต่ Davinci ไม่ใช่ อีกทั้งเครื่องมือที่ใช้ตัดต่อ ก็ง่าย การ Import หรือ Export ก็ทำได้รวดเร็ว พร้อมคุณสมบัติในการจัดการเสียงที่เพิ่มเติมมาใหม่ สำหรับการทำ Visual Effect และการใส่เอฟเฟกต์ภาพ ที่มีความโดดเด่น อย่างไรก็ดีหากต้องการใช้ร่วมกับบรรดา 3D หรือเอฟเฟกต์ที่ซับซ้อนมากขึ้น สามารถใช้เวอร์ชั่น Studio ที่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มได้อีกด้วย

จุดเด่น ข้อสังเกต เหมาะกับ
ให้งานระดับมืออาชีพ ใช้ทรพยากรเครื่องค่อนข้างมาก มืออาชีพด้านภาพและเสียง
ไม่มีค่าใช้จ่าย ไม่มีลายน้ำ

ดาวน์โหลดโปรแกรมและรายละเอียดเพิ่มเติม: Davinci Resolve


4.LightWorks Free Edition

โปรแกรมตัดต่อวีดีโอ

เป็นหนึ่งในโปรแกรมตัดต่อวีดีโอที่เหมาะสำหรับมือใหม่ ใช้ฟรี และไม่มีลายน้ำ มีหน้าตาที่เป็นกันเอง ดูง่าย เมนูไม่ซับซ้อนมาก รองรับการใช้งานด้านวีดีโอพื้นฐานได้เกือบครบ ไม่ใช้สเปคเครื่องมากนัก มือใหม่ที่จะเริ่มต้นการตัดต่อ ทำวีดีโอนำเสนองานแบบง่ายๆ รวมถึงสายยูทูปเบอร์ที่ต้องการงานไว ทำได้บนคอมที่ไม่ต้องแรงมากนัก ไม่ต้องกังวลกับการไม่มีพื้นฐานที่ใช้งานด้านตัดต่อมาก่อน ถือว่าเป็นโปรแกรมที่ไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่ง แม้จะมีข้อดีหลายอย่าง แต่ก็มีข้อจำกัดอยู่บ้าง เช่นความละเอียดที่ใช้บนเวอร์ชั่นฟรี จะทำได้แค่ 720p เท่านั้น แต่ใครอยากจะใช้จริงจัง หรือถูกใจในแง่ของความง่าย ฟังก์ชั่นมาแบบครบๆ แนะนำให้ใช้เวอร์ชั่น Pro ในงบประมาณ 9.99USD ต่อเดือนเท่านั้น ใช้กันยาวๆ

จุดเด่น ข้อสังเกต เหมาะกับ
ใช้งานง่าย ตัวฟรีใช้ได้ที่ 720p นักตัดต่อมือใหม่
ฟังก์ชั่นสำคัญครบ ยูทูปเบอร์เริ่มทำคอนเทนต์

ดาวน์โหลดโปรแกรมและรายละเอียดเพิ่มเติม: LightWorks


5.Hitfilm Express

โปรแกรมตัดต่อวีดีโอ

โปรแกรมตัดต่อวีดีโอ ที่ใช้ได้ทั้ง Mac และ Windows ที่หลายคนให้ความสนใจ และยังใช้ฟรีอีกด้วย มีอินเทอร์เฟสที่ปรับแต่งได้ง่าย ใช้วิธีลาก Drag and Drop ใส่เอฟเฟกต์สะดวก และคนที่สนใจยังมีไกด์ไลน์หรือ Tutorial แนะนำการใช้งานฟรีจำนวนมาก เหมาะกับมือใหม่และสายยูทูปเบอร์สะดวกทีเดียว ในเวอร์ชั่นใหม่มีฟีเจอร์ใช้ร่วมกับเอฟเฟกต์ 3D Render หรือเอฟเฟกต์ Flares รวมถึงบันทึกเสียงได้ในตัว แต่ถ้าต้องการลูกเล่นที่มากขึ้น จะมีตัวป้องกันภาพสั่นไหวอัตโนมัติ และฟิลเตอร์อื่นๆ เข้ามาอีกเพียบ ให้ความละเอียดวีดีโอสูงสุดระดับ 4K

แบบใช้งานฟรี

จำกัดการ Export ที่ HD แบบไม่จำกัด

ให้ Visual Effect แบบจัดเต็ม ทั้งเสียง ภาพและเอฟเฟกต์

10 เพลง, 25 เอฟเฟกต์เสียงและ 5 เทมเพลต

จุดเด่น ข้อสังเกต เหมาะกับ
ใช้งานฟรี ใช้สเปคเครื่องค่อนข้างสูง มือใหม่และยูทูปเบอร์
ฟีเจอร์ครบครัน

ดาวน์โหลดโปรแกรมและรายละเอียดเพิ่มเติม: Hitfilm Express


6.Adobe Premier Pro

โปรแกรมตัดต่อวีดีโอ

ที่สุดของสายงานตัดต่อ โปรแกรมตัดต่อวีดีโอที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นมือใหม่ ต้องการที่จะปรับใช้งานวีดีโอระดับมืออาชีพหรือมือโปร ที่ต้องการเครื่องมือในการสร้างสรรค์ผลงาน ฟีเจอร์และเอฟเฟกต์อัดแน่น รองรับงานที่มีความซับซ้อน การจัดเรียงหรือปรับใช้ Transition, Effect, และการซิงก์เสียงใส่ข้อมูล เพิ่มตัดช็อตต่างๆ ทำได้ต่อเนื่อง ให้ผู้ใช้ปรับรูปแบบเครื่องมือและตั้งค่าให้เหมาะกับสไตล์การใช้งานอีกด้วย รองรับงานวีดีโอความละเอียดสูง รองรับการจัดเก็บข้อมูลบน Cloud เพียงแต่จะใช้พลังของระบบค่อนข้างมาก รวมถึงมีให้ทดลองใช้งานได้ฟรี 7 วัน ค่าใช้จ่ายสำหรับบุคคลทั่วไป ประมาณ 800 บาท/เดือน

ให้งานระดับมืออาชีพ

ลูกเล่นและฟีเจอร์ พร้อมเทมเพลตจัดเต็ม

มีข้อมูลการเรียนรู้บนสื่อต่างๆ เยอะ

รองรับการ Export วีดีโอความละเอียดสูง

จุดเด่น ข้อสังเกต เหมาะกับ
คุณสมบัติวีดีโอครอบคลุม ใช้พลังของระบบค่อนข้างสูง นักสร้างคอนเทนต์มืออาชีพ
เอฟเฟกต์และฟีเจอร์ขั้นสูง

ดาวน์โหลดโปรแกรมและรายละเอียดเพิ่มเติม: Adobe


7.Vegas Pro

โปรแกรมตัดต่อวีดีโอ

โปรแกรมตัดต่อวีดีโอระดับมืออาชีพที่เปลี่ยนมาเป็น Vegas Pro ได้รับความนิยมอยู่ไม่น้อยสำหรับสายทำคอนเทนต์ เพราะทั้งลูกเล่น ฟีเจอร์ และการตอบสนองดี ให้ผู้ใช้เลือกปรับแต่งเครื่องมือเพื่อใช้งานได้ง่าย แต่ได้งานระดับการตัดต่อภาพยนตร์ เหมาะตั้งแต่ผู้ใช้มือใหม่ด้านการตัดต่อ ที่จะก้าวไปสู่มืออาชีพหรือจะใช้ในการสร้างงานแบบจริงจัง เพราะมีเอฟเฟกต์ให้เลือกมากมาย รวมถึงฟังก์ชั่นการปรับโทนสีและเสียง เพิ่มเลเยอร์ในการซ้อนภาพและเสียงได้ไม่จำกัด ตอบสนองได้ไว แต่ถ้าจะใช้ Pro หรือ Edit version ที่ให้ฟีเจอร์ได้มากกว่า มีเริ่มตั้งแต่ 12.99USD ต่อเดือน

จุดเด่น ข้อสังเกต เหมาะกับ
ลูกเล่นเยอะ เหมาะกับมือโปร มีค่าใช้จ่าย มืออาชีพด้านวีดีโอ
ตอบสนองได้ไว ปรับแต่งง่าย งานตัดต่อที่ต้องการรายละเอียด

ดาวน์โหลดโปรแกรมและรายละเอียดเพิ่มเติม: Vegas


8.Wondershare Filmora

โปรแกรมตัดต่อวีดีโอ

อีกหนึ่งในโปรแกรมตัดต่อวีดีโอที่ได้รับความนิยมจากเหล่าบล็อกเกอร์ และยูทูปเบอร์มือใหม่ ที่จะเริ่มต้นตัดต่อวีดีโออย่างง่าย และใช้ทรัพยากรเครื่องน้อย แต่มีเครื่องมือให้ใช้งานได้ครบครัน เช่นเดียวกับอินเทอร์เฟสที่เรียบง่าย แก้ไขรายละเอียดเรื่องสีได้ดี และการตั้งค่าที่ง่าย มีลูกเล่นน่าสนใจอย่างละลายพื้นหลัง และโฟกัสตัวแบบ ทำให้เบลอพื้นหลังออกมาได้สวยงาม มีแบบทดลองใช้ได้ประมาณ 10 ครั้ง และจะมีลายน้ำในวีดีโอ ส่วนถ้าใช้งานถูกใจ เวอร์ชั่น Personal ราคาเริ่มต้นแค่ 39.99USD/ Year เท่านั้น

จุดเด่น ข้อสังเกต เหมาะกับ
ลูกเล่นค่อนข้างเยอะ เวอร์ชั่นทดลองมีลายน้ำ Bloger หรือยูทูปเบอร์มือใหม่
ใช้สเปคเครื่องไม่แรง

ดาวน์โหลดโปรแกรมและรายละเอียดเพิ่มเติม: Filmola


9.VideoStudio Pro 2023

โปรแกรมตัดต่อวีดีโอ

มุมมองและอินเทอร์เฟสของโปรแกรมตัดต่อวีดีโอนี้ อาจจะต่างไปจากค่ายอื่นๆ อยู่เล็กน้อย อาจจะต้องปรับรูปแบบการใช้งานให้เหมาะสมกับตัวคุณ ไม่ว่าจะเป็น แถบเครื่องมือและเมนู ส่วนปุ่มสำคัญๆ ยังอยู่ในจุดที่ใช้ง่าย การใส่ Transition หรือ Effect ต่างๆ มีให้เลือกเยอะ และยังเป็น Drag & Drop ลากวางได้เลย เป็นโปรแกรมที่เหมาะกับนักสร้างคอนเทนต์สายโซเชียล จัดการแชร์เข้าไปยังแพลตฟอร์มสะดวก มีเป็นเวอร์ชั่นแบบให้ทดลองใช้งาน 30 วัน ใช้ได้เกือบเต็มฟีเจอร์ ส่วนราคาอยู่ที่ 79.99USD/ เดือน

มาพร้อมเทมเพลตที่หลากหลาย
มีเอฟเฟกต์และ Transition ให้เลือกเยอะ
ฟิลเตอร์แบบ Drag & Drop ใช้ง่าย
รองรับกล้องหลายตัวพร้อมกัน
มีดนตรีแบบปลอดลิขสิทธิ์ให้ใช้

จุดเด่น ข้อสังเกต เหมาะกับ
รองรับการตัดวีดีโอแบบหลายมุมมอง บางฟังก์ชั่นอาจมีความซับซ้อน นักสร้างคอนเทนต์
มีฟีเจอร์ในงานวีดีโอครบครัน

ดาวน์โหลดโปรแกรมและรายละเอียดเพิ่มเติม: VideoStudio


10.VSDC Free Video Editor

โปรแกรมตัดต่อวีดีโอ

โปรแกรมตัดต่อวีดีโอฟรี แบบไม่มีลายน้ำ ใช้ทรัพยากรเครื่องน้อย และให้งานตัดต่อพื้นฐานอยู่ในเกณฑ์ที่ดี สำหรับคนที่เริ่มต้นกับการสร้างคอนเทนต์ ไม่เน้นลูกเล่นซับซ้อน หรือฟีเจอร์ที่ล้ำเกินไป แต่ใช้งานได้ไม่ยาก เข้ากันได้กับนักศึกษา คนทำงานและงานพรีเซนเทชั่นแบบด่วนๆ เพิ่มความ Advance ขึ้นจากโปรแกรมพื้นฐานทั่วไป เลือกปรับโทนสี และเอฟเฟกต์สวยๆ ได้เยอะ รองรับวีดีโอ 4K อัพเดตบนแพลตฟอร์มโซเชียลได้ง่าย การตอบสนองอยู่ในระดับที่น่าพอใจเลยทีเดียว

จุดเด่น ข้อสังเกต เหมาะกับ
ใช้ทรัพยากรเครื่องน้อย อินเทอร์เฟสซับซ้อนเล็กน้อย นักเรียน นักศึกษา
มีเครื่องมือให้ครบครัน คนทำงาน

ดาวน์โหลดโปรแกรมและรายละเอียดเพิ่มเติม: VSDC


Conclusion

จุดเด่น เหมาะกับ
1.Openshot รองรับวีดีโอความละเอียดสูง นักศึกษาทำพรีเซนท์,
นักสร้างคอนเทนต์มือใหม่
2.CapCut ใช้งานง่าย ฟิลเตอร์เยอะ
รองรับวีดีโอความละเอียดสูง
ยูทูปเบอร์และอินฟลูเอนเซอร์
3.Davinci Resolve ให้งานระดับมืออาชีพ
ไม่มีค่าใช้จ่าย ไม่มีลายน้ำ
มืออาชีพด้านภาพและเสียง
4.LightWorks Free Edition ใช้งานง่าย
ฟังก์ชั่นสำคัญครบ
นักตัดต่อมือใหม่,
ยูทูปเบอร์เริ่มทำคอนเทนต์
5.Hitfilm Express ใช้งานฟรี
ฟีเจอร์ครบครัน
มือใหม่และยูทูปเบอร์
6.Adobe Premier Pro คุณสมบัติวีดีโอครอบคลุม
เอฟเฟกต์และฟีเจอร์ขั้นสูง
นักสร้างคอนเทนต์มืออาชีพ
7.Vegas ลูกเล่นเยอะ เหมาะกับมือโปร
ตอบสนองได้ไว ปรับแต่งง่าย
มืออาชีพด้านวีดีโอ,
งานที่มีรายละเอียดสูง
8.Wondershare Filmora ลูกเล่นค่อนข้างเยอะ
ใช้สเปคเครื่องไม่แรง
Bloger หรือยูทูปเบอร์มือใหม่
9.VideoStudio Pro 2023 รองรับการตัดวีดีโอแบบหลายมุมมอง
มีฟีเจอร์ในงานวีดีโอครบครัน
นักสร้างคอนเทนต์
10.VSDC Free Video Editor ใช้ทรัพยากรเครื่องน้อย
มีเครื่องมือให้ครบครัน
นักเรียน, นักศึกษา, คนทำงาน

โปรแกรมตัดต่อวีดีโอ จัดว่าได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน เพราะคอนเทนต์ส่วนใหญ่ออกมาในแบบวีดีโอกันเกือบหมดแล้ว เพราะให้รายละเอียด และความสมจริงได้มากที่สุด ทำให้เหล่านักสร้างคอนเทนต์ ไม่ว่าจะเป็น VLOG, Bloger หรือจะเป็น Youtuber และเกมเมอร์ที่เป็นสตรีมเมอร์ ทั้งมือเก่าและมือใหม่ ได้สร้างสรรค์ผลงานกันอย่างเต็มที่ ในการเลือกใช้ นอกจากจะต้องเลือกให้เหมาะกับความสะดวกหรือมีฟังก์ชั่นที่ลงตัวกับผู้ใช้ อย่างเช่น CapCut ที่โดดเด่นในสายยูทูปเบอร์ รวมถึงเหล่า TikTok ก็ต้องออกแบบมาให้ง่ายต่อการใช้งาน เข้าใจได้รวดเร็ว และรองรับความละเอียดที่ให้ผลงานออกมาได้ดีที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในส่วนของฟีเจอร์เสริม และการสนับสนุน ก็ต้องมีมากพอในการสร้างคอนเทนต์ใหม่ๆ ได้เป็นอย่างดี อย่างเช่น Davinci และ Premire Pro โดยในตัวเลือกของเราจะมีทั้งแบบฟรี ที่เป็นส่วนใหญ่ อย่าง Hitfilm, VSDC, LightWork หรือ Davinci เป็นต้น ผู้ใช้สามารถเลือกมาใช้ทดลองทำงานก่อนได้ หากมีตรงจุดไหนขาดหรืออยากได้เพิ่ม ก็ยังมีตัวเลือกที่เป็นแบบเพิ่มฟีเจอร์ หรือเปิดความสามารถให้มากขึ้นได้ ด้วยค่าใช้จ่ายที่ไม่สูงเกินไปนัก แต่อาจจะต้องเช็คสเปคคอมที่ใช้ด้วยว่า รองรับกับการทำงานได้มากน้อยเพียงใดด้วย

โน๊ตบุ๊คสำหรับงานตัดต่อที่เหมาะกับคุณได้ที่นี่เลย Notebookspec.com

นอกจากนี้ยังมีโปรแกรมที่น่าสนใจอีกมากมาย ให้ได้เลือกใช้กัน อย่างเช่น Icecream Video Editor, VideoPad หรือจะเป็นแอพแบบ Movavi Clips, PowerDirector หรือจะเป็น WeVideo ก็ตาม

from:https://notebookspec.com/web/690347-10-free-video-editor-2023

รวม 10 โน๊ตบุ๊คน่าซื้องาน COMMART Big Deal ทั้งสายเกมมิ่งและคนทำงาน เด็ดจริงจัดไปถูกใจแน่นอน!!

รวมโน๊ตบุ๊คน่าซื้องาน COMMART Big Deal ตัวเด็ดสายทำงานและเกมมิ่ง ซื้อไปยังไงก็เวิร์ค!

โน๊ตบุ๊คน่าซื้องานCOMMART

โน๊ตบุ๊คน่าซื้องาน COMMART Big Deal ในวันที่ 2~5 มีนาคม 2023 ณ ไบเทค บางนาครั้งนี้ มีร้านค้าชั้นนำและตัวแทนจำหน่ายอุปกรณ์คอมพิวเตอร์เข้าร่วมงานมากมายจากผู้จัดจำหน่ายชั้นนำเจ้าต่างๆ กับโปรโมชั่นของแถมต่างๆ ให้ลูกค้าที่มาซื้อสินค้าในงานได้ของสมนาคุณคุ้มค่าสูงสุดอีกด้วย ซึ่งโน๊ตบุ๊คในงานนี้ก็มีให้เลือกหลากรุ่นหลายสเปคไม่ว่าจะซีพียู AMD, Intel การ์ดจอออนบอร์ดหรือแยกของ AMD, NVIDIA ก็มี อยากได้สเปคประมาณไหนก็เดินเลือกซื้อในงานได้เลย

Advertisementavw

หลังจากหาซื้อโน๊ตบุ๊คน่าซื้องาน COMMART Big Deal ได้แล้ว ก็เดินหาซื้ออุปกรณ์เสริมต่อได้ทันที ไม่ว่าจะเมาส์, คีย์บอร์ด, จอคอมทั้งทำงานและเกมมิ่งให้เลือกซื้อมากมาย แม้แต่เก้าอี้เกมมิ่งก็มีให้เลือกซื้อเช่นกัน เรียกว่าครบเครื่องจบในงานเดียวได้ทันที ดังนั้นถ้าโน๊ตบุ๊คของใครเก่าแล้วและมีแผนอยากเปลี่ยนเป็นเครื่องใหม่ส่งต่อเครื่องเก่าให้คนใกล้ตัวก็น่ามาเดินในงานปีนี้มากๆ

โน๊ตบุ๊คน่าซื้องาน COMMART Big Deal 

ด้านความเห็นของผู้เขียนว่าเราจะเลือกโน๊ตบุ๊คน่าซื้องาน COMMART Big Deal ให้คุ้มที่สุด ควรหาสเปคประมาณไหน ซีพียูรุ่นใดถึงจะคุ้มที่สุดก็ขอสรุปความเห็นเป็นรายชิ้นดังนี้

  • CPU : แนะนำเป็น AMD Ryzen 5000 หรือ 6000 Series ส่วน Intel เป็น Gen 11 หรือ 12 ก็ได้
  • Graphics : ถ้าใช้ทำงานออฟฟิศ เช่น งานเอกสาร, นำเสนองาน หรือแต่งรูปเล็กน้อยก็ซื้อเป็นรุ่นการ์ดจอออนบอร์ดก็ได้เพราะประหยัดพลังงานกว่า ถ้าเล่นเกม, ตัดต่อคลิปแต่งภาพแนะนำให้หารุ่นมีการ์ดจอแยก AMD, NVIDIA ด้วย
  • SSD : แนะนำ SSD ความจุ 512GB ขึ้นไปให้มีพื้นที่ลงโปรแกรมและเซฟงานมากพอ
  • RAM : เชื่อว่าผู้ใช้หลายคนอยากแนะนำให้หารุ่นมีแรม 16GB จากโรงงานหรืออัพแรมในงานให้ไปที่ 16GB เลย แต่ส่วนตัวผู้เขียนเองถือว่าแรม 8GB ณ ปี 2023 ก็ยังถือว่าไม่น่าเกลียดหากใช้ทำงานเอกสารเป็นหลัก แต่ก็ต้องหมั่นปิดโปรแกรมหรือแท็บเบราเซอร์ที่ไม่ใช้งานทิ้งเป็นระยะๆ ด้วย จะได้ไม่เสียพื้นที่แรมโดยเปล่าประโยชน์
  • Display : เริ่มต้น 13.3 หรือ 14 นิ้วสำหรับโน๊ตบุ๊คสายทำงาน เพราะขนาดกำลังดีและไม่หนักมาก เพราะปัจจุบันโน๊ตบุ๊คไซซ์ดังกล่าวน้ำหนักจะอยู่ราว 1.4~1.8 กิโลกรัม ยังพกใส่กระเป๋าไปไหนมาไหนได้สะดวก ส่วนเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คจะมีตั้งแต่ 14, 15.6 และ 17.3 นิ้วให้เลือก ซึ่งน้ำหนักจะผันแปรตามขนาดของหน้าจอ ซึ่งขนาดมาตรฐานจะยืนพื้นอยู่ที่ 15.6 นิ้ว ส่วน 17.3 นิ้ว น่าซื้อมาใช้งานแทนการประกอบเกมมิ่งพีซีมากกว่า ส่วนไซซ์ 14 นิ้วก็หาซื้อในงานได้และเครื่องก็ไม่หนัก เหมาะสำหรับคนอยากพกเครื่องไปไหนมาไหนด้วยแต่ราคาก็จะสูงเช่นกัน
  • Connectivity : แนะนำรุ่นมีพอร์ต USB-C อย่างน้อย 1 ช่อง ถ้าต่อจอแยกแบบ DisplayPort และชาร์จแบตเตอรี่แบบ Power Delivery ได้จะดีมาก หรือไม่ก็มีเพียงอย่างใดอย่างหนึ่งก็ได้ ส่วน Wi-Fi แนะนำเป็น Wi-Fi 5 ขึ้นไป ถ้าได้ Wi-Fi 6E จะดีมาก
  • Software : หารุ่นที่มี Windows 11 Home ติดตั้งมาให้ บางรุ่นอาจแถม Microsoft Office Home & Student 2019~2021 มาให้ในเครื่อง ส่วนเครื่องใดได้ Microsoft 365 ก็ถือว่าใช้ได้แต่จะเป็นบริการแบบจ่ายรายเดือนแล้วได้ Cloud ของ Microsoft มาใช้ด้วย

ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นวิธีการเลือกโน๊ตบุ๊คน่าซื้องาน COMMART Big Deal ครั้งนี้ และอาจนำไปปรับใช้ตอนเลือกซื้อโน๊ตบุ๊ครุ่นใหม่ๆ ในอนาคตได้อีกด้วย

สรุปสเปค 10 โน๊ตบุ๊คน่าซื้องาน COMMART Big Deal

สรุปสเปคโน๊ตบุ๊คน่าซื้องาน COMMART Big Deal CPU

GPU

SSD

RAM

Software

Display

Weight

Connectivity ราคา
(บาท)
ASUS Vivobook 15 X1502ZA-EJ506W Intel Core
i5-1235U

Intel Iris Xe Graphics

M.2 NVMe
512GB

8GB DDR4
3200MHz

Windows 11 Home

Microsoft Office Home & Student 2021

15.6″ FHD IPS

1.7 กก.

USB 2.0 x 1

USB-A 3.2 x 2

USB-C 3.2 x 1

HDMI x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 5

Bluetooth 4.1

18,990
HUAWEI MateBook D14 Intel Core
i5-1135G7

Intel Iris Xe Graphics

M.2 NVMe
512GB

8GB DDR4
3200MHz

Windows 11 Home

14″ FHD IPS

1.38 กก.

USB 2.0 x 1

USB-A 3.2 x 1

USB-C 3.2 x 1

HDMI x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6

Bluetooth 5.1

22,990
Lenovo IdeaPad 3 15IAU7-82RK00ABTA Intel Core
i5-1235U

Intel Iris Xe Graphics

M.2 NVMe
512GB

8GB DDR4
3200MHz

Windows 11 Home

Microsoft Office Home & Student 2021

15.6″ FHD IPS

1.63 กก.

USB 2.0 x 1

USB-A 3.2 x 1

USB-C 3.2 x 1

HDMI x 1

SD Card Reader x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6

Bluetooth 5.2

22,990
Hp Pavilion 15-eh2040AU AMD Ryzen 7 5825U

AMD Radeon Graphics

M.2 NVMe
512GB

16GB DDR4
3200MHz

Windows 11 Home

Microsoft Office Home & Student 2021

15.6″ FHD IPS

1.75 กก.

USB-A 3.2 x 2

USB-C 3.2 Full Function x 1

HDMI x 1

MicroSD Card Reader x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6

Bluetooth 5.2

27,490
Lenovo IdeaPad 5 Pro 16ARH7-82SN003BTA AMD Ryzen 7 6800HS

NVIDIA GeForce RTX 3050

M.2 NVMe
512GB

16GB LPDDR5
6400MHz

Windows 11 Home

Microsoft Office Home & Student 2021

16″ 2.5K
(2560×1600)
IPS

Refresh Rate 120Hz

100% sRGB

1.95 กก.

USB-C 3.2 Full Function x 1

USB-A 3.2 x 2

HDMI 1.4b x 1

SD Card Reader x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6

Bluetooth 5.1

38,990
Lenovo IdeaPad Gaming 3 15ACH6 AMD Ryzen 5 5600H

NVIDIA GeForce RTX 3050 Ti 

M.2 NVMe
512GB

8GB DDR4
3200MHz

Windows 11 Home

15.6″ FHD IPS

AMD FreeSync Premium

Refresh Rate 120Hz

2.25 กก.

USB-A 3.2 x 2

USB-C 3.2 x 1

HDMI 2.0 x 1

LAN x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6

Bluetooth 5.0

27,990
Lenovo Legion 5 15ARH7H AMD Ryzen 7 6800H

NVIDIA GeForce RTX 3070

M.2 NVMe
512GB

16GB DDR5
4800MHz

Windows 11 Home

15.6″ WQHD
IPS

Refresh Rate 165Hz

100% sRGB

Dolby Vision

NVIDIA
G-SYNC

AMD FreeSync Premium

2.4 กก.

USB-C 3.2 x 2 รองรับ DisplayPort

USB-C 3.2 Full Function x 1

USB-A 3.2 x 3

HDMI 2.1 x 1

LAN x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6E

Bluetooth 5.2

64,990
DELL G15 Gaming Intel Core
i5-12500H

NVIDIA GeForce RTX 3050

M.2 NVMe
512GB

8GB DDR5
4800MHz

Windows 11 Home

Microsoft Office Home & Student 2021

15.6″ FHD WVA

Refresh Rate 120Hz

2.51 กก.

USB-C 3.2 x 1 รองรับ DisplayPort

USB-A 3.2 x 3

HDMI 2.1 x 1

LAN x 1

Audio Combo x 1

Wi-Fi 6

Bluetooth 5.2

38,690
ASUS TUF Gaming A15 FA507RM-HN004W AMD Ryzen 7 6800H

NVIDIA GeForce RTX 3060

M.2 NVMe
512GB

16GB DDR5
4800MHz

Windows 11 Home

15.6″ FHD IPS

Refresh Rate 144Hz

2.2 กก.

USB-A 3.2 x 2

USB-C 3.2 รองรับ DisplayPort 1.2 และ NVIDIA G-SYNC  x 1

USB-C x 1

HDMI 2.0b x 1

LAN x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6

Bluetooth 5.2

45,990
ASUS ROG Strix G15 GL543RM-HQ349W AMD Ryzen 9 6900HX

NVIDIA GeForce RTX 3060

M.2 NVMe
1TB

32GB DDR5
4800MHz

Windows 11 Home

15.6″ WQHD
(2560×1440)
IPS

Refresh Rate 165Hz

2.3 กก.

USB-A 3.2 x 2

USB-C 3.2 x 1

USB-C 3.2 Full Function x 1 รองรับ NVIDIA G-SYNC

HDMI 2.0b x 1

LAN x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6E

Bluetooth 5.2

64,990

10 โน๊ตบุ๊คน่าซื้องาน COMMART Big Deal รวมรุ่นเด็ดทั้งสายทำงานและเกมมิ่ง!

ผู้ใช้คนไหนมีแผนหาโน๊ตบุ๊คน่าซื้องาน COMMART Big Deal เอาไว้ใช้ทำงานหรือเล่นเกมสักเครื่องล่ะก็ในงานนี้ก็มีรุ่นเด็ดให้เลือกเพียบ ส่วนรุ่นน่าสนใจที่ผู้เขียนแนะนำจะคละกันทั้งสายทำงานและเกมมิ่งโดยมีทั้งหมด 10 รุ่น ได้แก่

  1. ASUS Vivobook 15 X1502ZA-EJ506W (18,990 บาท)
  2. HUAWEI MateBook D14 (22,990 บาท)
  3. Lenovo IdeaPad 3 15IAU7-82RK00ABTA (22,990 บาท)
  4. Hp Pavilion 15-eh2040AU (27,490 บาท)
  5. Lenovo IdeaPad 5 Pro 16ARH7-82SN003BTA (38,990 บาท)
  6. Lenovo IdeaPad Gaming 3 15ACH6 (27,990 บาท)
  7. Lenovo Legion 5 15ARH7H (64,990 บาท)
  8. DELL G15 Gaming (38,690 บาท)
  9. ASUS TUF Gaming A15 FA507RM-HN004W (45,990 บาท)
  10. ASUS ROG Strix G15 GL543RM-HQ349W (64,990 บาท)
1. ASUS Vivobook 15 X1502ZA-EJ506W (18,990 บาท)

Asus Notebook Vivobook 15 X1502ZA 02 square medium

โน๊ตบุ๊คน่าซื้องาน COMMART Big Deal รุ่นแรกแนะนำเป็นสายทำงานอย่าง ASUS Vivobook 15 X1502ZA-EJ506W ซึ่งเป็นซีรี่ส์ราคาประหยัดเข้าถึงง่ายแต่สเปคดีน่าใช้และกางจอได้แบนราบ 180 องศาติดพื้นโต๊ะเพื่อแชร์หน้าจอให้เพื่อนร่วมงานดูได้ ดีไซน์แป้นพิมพ์ ErgoSense ให้พิมพ์ได้ถนัดมือแถมยังมีชุด Numpad ติดมาให้ด้วย ขนาดจอเครื่องนี้อยู่ที่ 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ใช้ซีพียู Intel Core i5-1235U แบบ 10 คอร์ 12 เธรด (2P+8E) ความเร็ว 3.3~4.4GHz มาให้และใช้การ์ดจอออนบอร์ด Intel Iris Xe Graphics มี M.2 NVMe SSD ความจุ 512GB ติดตั้ง Windows 11 Home และ Microsoft Office Home & Student 2021 มาให้และแรมออนบอร์ดอีก 8GB DDR4 บัส 3200MHz มีพอร์ต USB 2.0 x 1, USB-A 3.2 x 2, USB-C 3.2 x 1, HDMI x 1, Audio combo x 1 เชื่อมต่อ Wi-Fi 5 มาตรฐาน 802.11ac และ Bluetooth 4.1 ได้ น้ำหนักก็เบาพกง่ายเพียง 1.7 กิโลกรัมเท่านั้น เป็นรุ่นสเปคดีราคาเป็นมิตร น่าจะตอบโจทย์นักเรียนนักศึกษาและพนักงานออฟฟิศอย่างแน่นอน

สเปคของ ASUS Vivobook 15 X1502ZA-EJ506W
CPU Intel Core i5-1235U แบบ 10 คอร์ 12 เธรด (2P+8E) ความเร็ว 3.3~4.4GHz
GPU Intel Iris Xe Graphics
SSD M.2 NVMe SSD 512GB
RAM ออนบอร์ด 8GB DDR4 บัส 3200MHz
Display 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS
Connectivity USB 2.0 x 1, USB-A 3.2 x 2, USB-C 3.2 x 1, HDMI x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 5 มาตรฐาน 802.11ac และ Bluetooth 4.1

Software Windows 11 Home, Microsoft Office Home & Student 2021
Weight 1.7 กิโลกรัม
Price 18,990 บาท (คลิ๊กสั่งซื้อได้ที่นี่)
2. HUAWEI MateBook D14 (22,990 บาท)

MateBook D14 RAM 16GB 01

โน๊ตบุ๊คน่าซื้องาน COMMART Big Deal รุ่นถัดมาเป็น HUAWEI MateBook D14 ที่แม้จะวางจำหน่ายมาระยะหนึ่งแล้วก็ยังน่าใช้ เพราะมีเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือติดมาให้กับปุ่ม Power และชาร์จแบตเตอรี่ผ่านพอร์ต USB-C ได้และดีไซน์ซ่อนกล้อง Webcam เอาไว้กับแผงคีย์บอร์ดทำให้รีดกรอบจอได้บาง ให้จอขนาด 14 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS มีพื้นที่แสดงผลมากขึ้น ติดตั้งซีพียู Intel Core i5-1135G7 แบบ 4 คอร์ 8 เธรด ความเร็ว 2.4~4.2GHz และการ์ดจอ Intel Iris Xe Graphics มาให้ใช้ตัดต่อแต่งภาพและแสดงผลขึ้นหน้าจอได้อย่างลื่นไหล มี M.2 NVMe SSD ความจุ 512GB ติดตั้ง Windows 11 Home มาให้ มีแรม 8GB DDR4 บัส 3200MHz มีพอร์ต USB 2.0 x 1, USB-A 3.2 x 1, USB-C 3.2 x 1, HDMI x 1, Audio combo x 1 เชื่อมต่อ Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.1 ได้ในตัวและน้ำหนักก็เบาเพียง 1.38 กิโลกรัม นับเป็นโน๊ตบุ๊คน่าซื้องาน COMMART Big Deal อีกรุ่น ยิ่งถ้าใครใช้สมาร์ทโฟน HUAWEI อยู่ก็ใช้ฟีเจอร์ HUAWEI Share ดึงหน้าจอสมาร์ทโฟนมาใช้บนจอคอมได้ด้วย เรียกว่ามีลูกเล่นน่าใช้ใส่มาให้เพียบทีเดียว

สเปคของ HUAWEI MateBook D14
CPU Intel Core i5-1135G7 แบบ 4 คอร์ 8 เธรด ความเร็ว 2.4~4.2GHz
GPU Intel Iris Xe Graphics
SSD M.2 NVMe SSD 512GB
RAM 8GB DDR4 บัส 3200MHz
Display 14 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS
Connectivity USB 2.0 x 1, USB-A 3.2 x 1, USB-C 3.2 x 1, HDMI x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.1

Software Windows 11 Home
Weight 1.38 กิโลกรัม
Price 22,990 บาท (คลิ๊กสั่งซื้อได้ที่นี่)
3. Lenovo IdeaPad 3 15IAU7-82RK00ABTA (22,990 บาท)

Lenovo Notebook IdeaPad 3 15IAU7 01 square medium

ถ้าพูดถึงโน๊ตบุ๊คน่าซื้องาน COMMART Big Deal เพื่อคนทำงานก็ต้องมี Lenovo IdeaPad 3 15IAU7-82RK00ABTA รุ่นนี้รวมอยู่ด้วย เพราะทางผู้ผลิตติดตั้งเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือรวมมาให้กับปุ่ม Power เพื่อยืนยันตัวตนและน้ำหนักเครื่องยังเบาเพียง 1.63 กิโลกรัม จึงพกติดตัวไปเรียนหรือไปพบลูกค้าได้ง่ายมากแม้จอจะมีขนาดใหญ่ 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ก็ตาม ติดตั้งซีพียูรุ่นใหม่อย่าง Intel Core i5-1235U แบบ 10 คอร์ 12 เธรด (2P+8E) ความเร็ว 3.3~4.4GHz กับการ์ดจอออนบอร์ด Intel Iris Xe Graphics มาให้พร้อม M.2 NVMe SSD ความจุ 512GB กับระบบปฏิบัติการ Windows 11 Home และ Microsoft Office Home & Student 2021 มาให้ครบเครื่องกับแรมออนบอร์ดอีก 8GB DDR4 บัส 3200MHz มีพอร์ต USB 2.0 x 1, USB-A 3.2 x 1, USB-C 3.2 x 1, HDMI x 1, SD Card Reader x 1, Audio combo x 1 เชื่อมต่อ Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.2 ได้ด้วย ถือเป็นรุ่นสเปคดีราคาคุ้มค่าน่าจับอีกตัวในหมู่โน๊ตบุ๊คสายทำงานเลย 

สเปคของ Lenovo IdeaPad 3 15IAU7-82RK00ABTA
CPU Intel Core i5-1235U แบบ 10 คอร์ 12 เธรด (2P+8E) ความเร็ว 3.3~4.4GHz
GPU Intel Iris Xe Graphics
SSD M.2 NVMe SSD 512GB
RAM 8GB DDR4 บัส 3200MHz
Display 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS
Connectivity USB 2.0 x 1, USB-A 3.2 x 1, USB-C 3.2 x 1, HDMI x 1, SD Card Reader x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.2

Software Windows 11 Home, Microsoft Office Home & Student 2021
Weight 1.63 กิโลกรัม
Price 22,990 บาท (คลิ๊กสั่งซื้อได้ที่นี่)
4. Hp Pavilion 15-eh2040AU (27,490 บาท)

HP Notebook Pavilion 15 eh2040AU 01 square medium

ทีม AMD ที่อยากหาโน๊ตบุ๊คน่าซื้องาน COMMART Big Deal เอาไว้ใช้สักเครื่อง ส่วนตัวผู้เขียนอยากแนะนำ Hp Pavilion 15-eh2040AU ให้เป็นตัวเลือกแรก เพราะ HP ให้พอร์ต USB-C Full Function มาใช้ชาร์จแบตเตอรี่แบบ Power Delivery และต่อจอแยกแบบ DisplayPort ได้ด้วยแถมยังมีเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือติดตั้งมาให้อีกด้วย เรียกว่าครบเครื่องมากและได้จอขนาดใหญ่เต็มตา 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS พร้อมขุมพลังซีพียู AMD Ryzen 7 5825U แบบ 8 คอร์ 16 เธรด ความเร็ว 2.0~4.5GHz ใช้การ์ดจอออนบอร์ด AMD Radeon Graphics แบบ 8 คอร์มาให้ มี M.2 NVMe SSD ความจุ 512GB ติดตั้ง Windows 11 Home และ Microsoft Office Home & Student 2021 มาให้และแรมอีก 16GB DDR4 บัส 3200MHz เยอะจุใจใครหลายๆ คนแน่นอน มีพอร์ต USB-A 3.2 x 2, USB-C 3.2 Full Function x 1, HDMI x 1, MicroSD Card Reader x 1, Audio combo x 1 เชื่อมต่อ Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.2 ได้ในตัว น้ำหนักเพียง 1.75 กิโลกรัมเท่านั้น ส่วนตัวผู้เขียนถือเป็นโน๊ตบุ๊คน่าซื้องาน COMMART Big Deal ที่สเปคจบน่าใช้ เอาเงินไปซื้ออุปกรณ์เสริมแทนได้เลย

สเปคของ Hp Pavilion 15-eh2040AU
CPU AMD Ryzen 7 5825U แบบ 8 คอร์ 16 เธรด ความเร็ว 2.0~4.5GHz
GPU AMD Radeon Graphics แบบ 8 คอร์
SSD M.2 NVMe SSD 512GB
RAM 16GB DDR4 บัส 3200MHz
Display 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS
Connectivity USB-A 3.2 x 2, USB-C 3.2 Full Function x 1, HDMI x 1, MicroSD Card Reader x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.2

Software Windows 11 Home, Microsoft Office Home & Student 2021
Weight 1.75 กิโลกรัม
Price 27,490 บาท (คลิ๊กสั่งซื้อได้ที่นี่)
5. Lenovo IdeaPad 5 Pro 16ARH7-82SN003BTA (38,990 บาท)

Lenovo IdeaPad 5 Pro 03 square medium

สำหรับ Lenovo IdeaPad 5 Pro 16ARH7-82SN003BTA รุ่นนี้ถือเป็นโน๊ตบุ๊คน่าซื้องาน COMMART Big Deal ระดับพรีเมี่ยมพลัง AMD Ryzen รหัสพิเศษอย่าง AMD Ryzen 7 6800HS แบบ 8 คอร์ 16 เธรด ความเร็ว 3.2~4.7GHz โดยรหัสนี้เป็นซีพียูประสิทธิภาพสูงแต่จัดการพลังงานได้ดี จับคู่กับการ์ดจอแยก NVIDIA GeForce RTX 3050 แรม 4GB GDDR6 และหน้าจอเครื่องมีขนาด 16 นิ้ว ความละเอียด 2.5K (2560×1600) พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 120Hz ขอบเขตสีกว้าง 100% sRGB ติดกล้อง IR Camera มาให้สแกนหน้าปลดล็อคเครื่องได้ในตัว มี M.2 NVMe SSD ความจุ 512GB ติดตั้ง Windows 11 Home และ Microsoft Office Home & Student 2021 มาให้พร้อมแรมอีก 16GB LPDDR5 บัส 6400MHz มีพอร์ต USB-C 3.2 Full Function x 1, USB-A 3.2 x 2, HDMI 1.4b x 1, SD Card Reader x 1, Audio combo x 1 เชื่อมต่อไร้สายด้วย Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.1 ได้ น้ำหนักเครื่องอยู่ที่ 1.95 กิโลกรัม ซึ่ง IdeaPad 5 Pro เครื่องนี้เหมาะกับผู้ใช้ที่ต้องการโน๊ตบุ๊คระดับพรีเมี่ยมประสิทธิภาพสูงเอาไว้ทำงานได้รอบด้าน ตั้งแต่ตัดต่อแต่งภาพทำคลิปหรือจะเปิดเล่นเกมก็ได้เช่นกัน ซื้อเครื่องเดียวใช้งานได้หลายปีอย่างแน่นอน นับเป็นหนึ่งในโน๊ตบุ๊คน่าซื้องาน COMMART Big Deal ครั้งนี้เลย

สเปคของ Lenovo IdeaPad 5 Pro 16ARH7-82SN003BTA
CPU AMD Ryzen 7 6800HS แบบ 8 คอร์ 16 เธรด ความเร็ว 3.2~4.7GHz
GPU NVIDIA GeForce RTX 3050 แรม 4GB GDDR6
SSD M.2 NVMe SSD 512GB
RAM 16GB LPDDR5 บัส 6400MHz
Display 16 นิ้ว ความละเอียด 2.5K (2560×1600) พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 120Hz ขอบเขตสีกว้าง 100% sRGB
Connectivity USB-C 3.2 Full Function x 1, USB-A 3.2 x 2, HDMI 1.4b x 1, SD Card Reader x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.1

Software Windows 11 Home, Microsoft Office Home & Student 2021
Weight 1.95 กิโลกรัม
Price 38,990 บาท (คลิ๊กสั่งซื้อได้ที่นี่)
6. Lenovo IdeaPad Gaming 3 15ACH6 (27,990 บาท)

Notebook IdeaPad Gaming 3 15ACH6 01 square medium

ส่วนของเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คน่าซื้อในงาน COMMART Big Deal เริ่มจากรุ่นดีราคาประหยัดอย่าง Lenovo IdeaPad Gaming 3 15ACH6 ซึ่งยังหาซื้อได้ไม่ยากนักและมีโปรโมชั่นอย่างแน่นอน โดยจุดเด่นคือคีย์บอร์ด Full-size พ้อมไฟ 4-Zone RGB มี 100% N-key rollover ในตัวและหน้าจอเครื่องมีขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 120Hz รองรับ AMD FreeSync Premium ใช้ซีพียู AMD Ryzen 5 5600H  แบบ 6 คอร์ 12 เธรด ความเร็ว 3.3~4.2GHz จับคู่การ์ดจอแยก NVIDIA GeForce RTX 3050 Ti แรม 4GB GDDR6 มี M.2 NVMe SSD ความจุ 512GB ติดตั้ง Windows 11 Home กับแรม 8GB DDR4 บัส 3200MHz มาให้ มีพอร์ต USB-A 3.2 x 2, USB-C 3.2 x 1, HDMI 2.0 x 1, LAN x 1, Audio combo x 1 เชื่อมต่อ Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.0 ได้ในตัว น้ำหนักอยู่ที่ 2.25 กิโลกรัม เป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คน่าซื้อในงาน COMMART Big Deal เพื่อเกมเมอร์ที่มีงบจำกัดหรือครีเอเตอร์มือใหม่หาโน๊ตบุ๊คมีการ์ดจอแยกเอาไว้ตัดคลิป Vlog ก็ซื้อเครื่องนี้ไปใช้เริ่มต้นได้

สเปคของ Lenovo IdeaPad Gaming 3 15ACH6
CPU AMD Ryzen 5 5600H  แบบ 6 คอร์ 12 เธรด ความเร็ว 3.3~4.2GHz
GPU NVIDIA GeForce RTX 3050 Ti แรม 4GB GDDR6
SSD M.2 NVMe SSD 512GB
RAM 8GB DDR4 บัส 3200MHz
Display 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 120Hz รองรับ AMD FreeSync Premium
Connectivity USB-A 3.2 x 2, USB-C 3.2 x 1, HDMI 2.0 x 1, LAN x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.0

Software Windows 11 Home
Weight 2.25 กิโลกรัม
Price 27,990 บาท (คลิ๊กสั่งซื้อได้ที่นี่)
7. Lenovo Legion 5 15ARH7H (64,990 บาท)

Lenovo Notebook Legion 5 15ARH7H 01 square medium

เกมมิ่งโน๊ตบุ๊คน่าซื้องาน COMMART Big Deal ขวัญใจเกมเมอร์อย่าง Lenovo Legion 5 15ARH7H รุ่นนี้เชื่อว่ามีคนตามหากันเยอะแน่นอนเพราะสเปคต่อราคาคุ้มค่า ได้ระบบระบายความร้อน Coldfront 4.0 มีชิป Legion AI ช่วยปรับแต่งตัวเครื่องให้ทำงานได้ไหลลื่นขึ้นและได้คีย์บอร์ด Legion TrueStrike พร้อมไฟ 4-Zone RGB และลำโพงจูนเสียงโดย Nahimic Audio ให้เสียงมีมิติเต็มอิ่มยิ่งขึ้น ให้ดูหนังฟังเพลงและเล่นเกมบนจอ 15.6 นิ้ว ความละเอียด WQHD (2560×1440) พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 165Hz ได้ลื่นไหลขึ้นและจอนี้มีขอบเขตสีกว้าง 100% sRGB รองรับ Dolby Vision, NVIDIA G-SYNC, AMD FreeSync Premium ได้อย่างเต็มอิ่ม ติดตั้งซีพียู AMD Ryzen 7 6800H แบบ 8 คอร์ 16 เธรด ความเร็ว 3.2~4.7GHz มาคู่กับการ์ดจอแยก NVIDIA GeForce RTX 3070 แรม 8GB GDDR6 มี M.2 NVMe SSD ความจุ 512GB พร้อม Windows 11 Home กับแรม 16GB DDR5 บัส 4800MHz ในตัว มีพอร์ต USB-C 3.2 x 2 รองรับ DisplayPort, USB-C 3.2 Full Function x 1, USB-A 3.2 x 3, HDMI 2.1 x 1, LAN x 1, Audio combo x 1 เชื่อมต่อไร้สายได้ด้วย Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.2 ได้ น้ำหนักเครื่องอยู่ที่ 2.4 กิโลกรัม หากใครหาเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คน่าซื้องาน COMMART Big Deal อยู่ก็ซื้อเครื่องนี้ไปเล่นเกมได้เลย เชื่อว่าประทับใจอย่างแน่นอน

สเปคของ Lenovo Legion 5 15ARH7H
CPU AMD Ryzen 7 6800H แบบ 8 คอร์ 16 เธรด ความเร็ว 3.2~4.7GHz
GPU NVIDIA GeForce RTX 3070 แรม 8GB GDDR6
SSD M.2 NVMe SSD 512GB
RAM 16GB DDR5 บัส 4800MHz
Display 15.6 นิ้ว ความละเอียด WQHD (2560×1440) พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 165Hz ได้ลื่นไหลขึ้นและจอนี้มีขอบเขตสีกว้าง 100% sRGB รองรับ Dolby Vision, NVIDIA G-SYNC, AMD FreeSync Premium
Connectivity USB-C 3.2 x 2 รองรับ DisplayPort, USB-C 3.2 Full Function x 1, USB-A 3.2 x 3, HDMI 2.1 x 1, LAN x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.2

Software Windows 11 Home
Weight 2.4 กิโลกรัม
Price 64,990 บาท (คลิ๊กสั่งซื้อได้ที่นี่)
8. DELL G15 Gaming (38,690 บาท)

Dell Inspiron G15 W566311300TH Green 02 square medium

เกมมิ่งโน๊ตบุ๊คน่าซื้องาน COMMART Big Deal อย่าง DELL G15 Gaming นั้นถือว่าน่าซื้อไม่แพ้เครื่องอื่นในลิสท์นี้เลย เพราะทางบริษัทใส่โปรแกรมปรับแต่งตัวเครื่องอย่าง Alienware Command Center มาให้ปรับแต่งและรีดประสิทธิภาพตัวเครื่องออกมาได้เต็มที่ซึ่งผู้เขียนได้รีวิวไปก่อนหน้านี้แล้ว หากสนใจก็สามารถคลิ๊กอ่านได้ที่นี่ แถมมี Microsoft Office Home & Student 2021 ติดตั้งมาให้คู่กับ Windows 11 Home ด้วย จะทำงานหรือเล่นเกมก็ดีทั้งคู่และขนาดเครื่องก็ไล่เลี่ยกับเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ครุ่นอื่นๆ ที่ 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล WVA ค่า Refresh Rate 120Hz ติดตั้ง Intel Core i5-12500H แบบ 12 คอร์ 16 เธรด (4P+8E) ความเร็ว 3.3~4.5GHz กับการ์ดจอแยก NVIDIA GeForce RTX 3050 แรม 4GB GDDR6 มาให้ มี M.2 NVMe SSD ความจุ 512GB และแรม 8GB DDR5 บัส 4800MHz มีพอร์ต USB-C 3.2 x 1 รองรับ DisplayPort, USB-A 3.2 x 3, HDMI 2.1 x 1, LAN x 1, Audio Combo x 1 เชื่อมต่อ Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.2 ได้ น้ำหนัก 2.51 กิโลกรัม ซึ่งข้อดีของ DELL G15 Gaming นั้นต้องยกให้โปรแกรม Microsoft Office แท้ที่แถมมาให้เลย ผู้ใช้จะได้ไม่ต้องเสียเงินซื้อโปรแกรมเพิ่มให้เปลือง เหลือเพียงแค่อัพเกรดเพิ่มแรมไป 16GB ก็พร้อมใช้งานแล้ว หากใครหาเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คน่าซื้องาน COMMART Big Deal ก็ดูตัวนี้ไว้ได้เลย

สเปคของ DELL G15 Gaming
CPU Intel Core i5-12500H แบบ 12 คอร์ 16 เธรด (4P+8E) ความเร็ว 3.3~4.5GHz
GPU NVIDIA GeForce RTX 3050 แรม 4GB GDDR6
SSD M.2 NVMe SSD 512GB
RAM 8GB DDR5 บัส 4800MHz
Display 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล WVA ค่า Refresh Rate 120Hz
Connectivity USB-C 3.2 x 1 รองรับ DisplayPort, USB-A 3.2 x 3, HDMI 2.1 x 1, LAN x 1, Audio Combo x 1

Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.2

Software Windows 11 Home, Microsoft Office Home & Student 2021
Weight 2.51 กิโลกรัม
Price 38,690 บาท (คลิ๊กสั่งซื้อได้ที่นี่)
9. ASUS TUF Gaming A15 FA507RM-HN004W (45,990 บาท)

Asus Notebook TUF Gaming A15 FA507RM 01 square medium

หากเกมเมอร์คนไหนหาเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คน่าซื้องาน COMMART Big Deal ไปแทนเกมมิ่งพีซีเพราะที่บ้านมีพื้นที่ใช้สอยจำกัด ผู้เขียนขอแนะนำให้ดู ASUS TUF Gaming A15 FA507RM-HN004W เป็นพิเศษ เพราะทาง ASUS ติดตั้ง MUX Switch เอาไว้สลับโหมดการทำงานระหว่างการ์ดจอแยกและออนบอร์ดได้อย่างเหมาะสมกับพัดลม Arc Flow Fan ไว้ระบายความร้อนได้เป็นอย่างดี มี Adaptive-Sync ลดอาการภาพฉีกเวลาเล่นเกมและยังมี Hotkeys ติดตั้งมาให้ 4 ปุ่มเอาไว้กดคีย์ลัดได้ด้วย ส่วนขนาดเครื่องอยู่ที่ 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 144Hz ติดตั้ง AMD Ryzen 7 6800H แบบ 8 คอร์ 16 เธรด ความเร็ว 3.2~4.7GHz จับคู่การ์ดจอ NVIDIA GeForce RTX 3060 แรม 6GB GDDR6 และ M.2 NVMe SSD ความจุ 512GB ติดตั้ง Windows 11 Home มาให้กับแรม 16GB DDR5 บัส 4800MHz มีพอร์ต USB-A 3.2 x 2, USB-C 3.2 รองรับ DisplayPort 1.2 และ NVIDIA G-SYNC  x 1, USB-C x 1, HDMI 2.0b x 1, LAN x 1, Audio combo x 1 เชื่อมต่อ Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.2 ได้ น้ำหนักเพียง 2.2 กิโลกรัม ถือเป็นโน๊ตบุ๊คน่าซื้องาน COMMART Big Deal อีกรุ่นที่น่าซื้อในงานนี้

สเปคของ ASUS TUF Gaming A15 FA507RM-HN004W
CPU AMD Ryzen 7 6800H แบบ 8 คอร์ 16 เธรด ความเร็ว 3.2~4.7GHz
GPU NVIDIA GeForce RTX 3060 แรม 6GB GDDR6
SSD M.2 NVMe SSD 512GB
RAM 16GB DDR5 บัส 4800MHz
Display 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 144Hz
Connectivity USB-A 3.2 x 2, USB-C 3.2 รองรับ DisplayPort 1.2 และ NVIDIA G-SYNC  x 1, USB-C x 1, HDMI 2.0b x 1, LAN x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.2

Software Windows 11 Home
Weight 2.2 กิโลกรัม
Price 45,990 บาท (คลิ๊กสั่งซื้อได้ที่นี่)
10. ASUS ROG Strix G15 GL543RM-HQ349W (64,990 บาท)

Asus Notebook ROG Strix G15 GL543RM 04 square medium

ถ้าต้องการฟีเจอร์แบบเกมมิ่งเต็มที่ สเปคแรงและมีปุ่มมาโครให้เซ็ตตั้งค่าได้ด้วยก็ต้อง ASUS ROG Strix G15 GL543RM-HQ349W ซึ่งนอกจากปุ่มมาโครแล้วยังได้ชิป MUX Switch, ระบบ Dolby Vision และ Dolby Atmos รวมทั้งไฟ RGB “AURA SYNC” และมีชิป Smart AMP มาเสริมให้เสียงลำโพงดีมีมิติยิ่งขึ้น และขนาดเครื่องเพียง 15.6 นิ้ว ความละเอียด WQHD (2560×1440) พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 165Hz พกพาได้ไม่ยากมาก ติดตั้ง ซีพียูสุดแรง AMD Ryzen 9 6900HX แบบ 8 คอร์ 16 เธรด ความเร็ว 3.3~4.9GHz กับการ์ดจอ NVIDIA GeForce RTX 3060 แรม 6GB GDDR6 มาให้ มี M.2 NVMe SSD ความจุ 1TB ติดตั้ง Windows 11 Home มาให้ มีแรม 32GB DDR5 บัส 4800MHz มีพอร์ต USB-A 3.2 x 2, USB-C 3.2 x 1, USB-C 3.2 Full Function x 1 รองรับ NVIDIA G-SYNC, HDMI 2.0b x 1, LAN x 1, Audio combo x 1 เชื่อมต่อไร้สายด้วย Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.2 น้ำหนักเครื่อง 2.3 กิโลกรัมเท่านั้น จัดเป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คน่าซื้องาน COMMART Big Deal สุดทรงพลังอีกเครื่อง จะเอาไว้เล่นเกมหรือใช้ทำงานก็ยอดเยี่ยมอย่างแน่นอน

สเปคของ ASUS ROG Strix G15 GL543RM-HQ349W
CPU AMD Ryzen 9 6900HX แบบ 8 คอร์ 16 เธรด ความเร็ว 3.3~4.9GHz
GPU NVIDIA GeForce RTX 3060 แรม 6GB GDDR6
SSD M.2 NVMe SSD 1TB
RAM 32GB DDR5 บัส 4800MHz
Display 15.6 นิ้ว ความละเอียด WQHD (2560×1440) พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 165Hz
Connectivity USB-A 3.2 x 2, USB-C 3.2 x 1, USB-C 3.2 Full Function x 1 รองรับ NVIDIA G-SYNC, HDMI 2.0b x 1, LAN x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.2

Software Windows 11 Home
Weight 2.3 กิโลกรัม
Price 64,990 บาท (คลิ๊กสั่งซื้อได้ที่นี่)

pexels karina kholina 12266706

ณ ตอนนี้ ถ้าใครคิดว่าจะไปหาซื้อโน๊ตบุ๊คน่าซื้องาน COMMART Big Deal สักเครื่องล่ะก็ ผู้เขียนก็เห็นด้วยแม้บางคนจะเปลี่ยนมาซื้อออนไลน์มากกว่าก็ตาม แต่ถ้ามาในงานแล้วได้เห็นของจริง จับดูแล้วถูกใจไม่มีปัญหากับมิติตัวเครื่องและน้ำหนักก็เป็นเรื่องที่ดี และผู้จัดจำหน่ายแต่ละเจ้าก็มีโปรโมชั่นส่งเสริมการขายดีๆ รอซัพพอร์ตอยู่แล้วและถ้ามาเดินในงานก็อาจจะได้อัพเกรดเครื่องและเลือกหาเกมมิ่งเกียร์ไปให้ครบเซ็ตในทีเดียวได้เลยเช่นกัน


บทความที่เกี่ยวข้อง

7จอพกพาน่าใช้ 1

ตัวรับWifi

Artboard 1 1

from:https://notebookspec.com/web/689281-10-recommend-laptop-in-commart-2023

รีวิว MSI Titan GT77 HX 13V แรงสยบทุกเกมฟอร์มยักษ์ เกมมิ่งพีซีต้องถอยให้ด้วย Intel 13th Gen และ RTX 4000 Series!

MSI Titan GT77 HX 13V ของแรงที่เกมมิ่งพีซีต้องยอมถอยให้! มีอะไรที่ดี MSI ใส่มาให้หมดไม่มีกั๊ก!

MSI Titan GT77 HX 13V

ถ้าให้จำกัดความ MSI Titan GT77 HX 13V ด้วยประโยคสั้นๆ คงไม่พ้นคำว่า “เกมมิ่งโน๊ตบุ๊คที่แรงสุดในโลก” โดยไม่มีข้อกังขา ซึ่งซีรี่ส์นี้ทาง MSI ได้ใส่ฟีเจอร์และเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดเข้ามาให้ผู้ใช้ที่อยากหาเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คดีๆ สักเครื่องมาใช้แทนเกมมิ่งพีซีเสมอ เช่นรุ่นนี้ก็ถูกอัพเกรดซีพียูเป็น Intel 13th Gen สถาปัตยกรรม Raptor Lake ซึ่งมีระบบ Intel ABT (Adaptive Boost Technology), TVB (Thermal Velocity Boost) ไว้เร่งความเร็วต่อคอร์ได้มากขึ้น จับคู่กับการ์ดจอแยก NVIDIA GeForce RTX 4000 Series รุ่นล่าสุดจาก NVIDIA ที่มีฟีเจอร์ยอดนิยมต่างๆ ทั้ง NVIDIA DLSS 3, Ray Tracing, NVIDIA Max-Q Gen 5 รุ่นล่าสุดซึ่งทางบริษัทพัฒนามาเป็นอย่างดีให้ทรงพลังแต่ก็จัดการพลังงานได้ยอดเยี่ยมและยังรองรับ NVIDIA Reflex, Virtual Reality, Resizable BAR ในตัวอีกด้วย

Advertisementavw

ด้านการจัดการกำลังของซีพียูและการ์ดจอก็มีระบบ MSI OverBoost ULTRA สำหรับถ่ายโอนค่าวัตต์ข้ามไปมาระหว่างซีพียูและการ์ดจอตามแต่ละโปรแกรมว่าเน้นใช้ส่วนใดมากกว่า รองรับค่าวัตต์สูงถึง 250 วัตต์ มีชิป MUX Switch ไว้ใช้คุมการทำงานของการ์ดจอแยกและออนบอร์ดตามเหมาะสม ด้านผู้ใช้ที่ซื้อมาแล้วอยากอัพเกรด ก็มีช่อง M.2 NVMe SSD ให้ 3 ช่อง เป็นอินเตอร์เฟส PCIe 5.0 x 1 และ PCIe 4.0 x 2 ช่อง โดยทางบริษัทติดตั้งมาให้ 4TB จากโรงงานแล้วและทำ RAID เอาไว้ให้อีกด้วย ด้านช่องแรม DDR5 มีติดเครื่องมา 4 ช่อง รองรับความจุสูงสุด 128GB ให้เกมเมอร์ได้อัพสเปค MSI Titan GT77 HX 13V ได้ตามกำลังทรัพย์ส่วนบุคคลให้แรงเหลือใช้ไปอีกหลายปีอย่างแน่นอน

MSI Titan GT77 HX 13V

ฟีเจอร์อื่นๆ ที่ล้ำหน้าเกินเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คทุกรุ่นในปัจจุบัน นอกจากไฟ RGB “MSI Mystic Light” บนตัวเครื่อง, ช่องระบายความร้อนกับคีย์บอร์ด SteelSeries Per-Key RGB ที่ใช้สวิตช์เมคานิคอลจาก CHERRY MX แบบ Tactile ดีไซน์ปุ่มแบบเตี้ย Ultra Low Profile มาให้ตอบสนองได้รวดเร็วและได้ความแข็งแรงทนทานแล้ว ระบบระบายยความร้อนของตัวเครื่องก็เป็นรุ่นที่ดีสุดของ MSI ซึ่งใช้ชื่อว่า Cooler Boost Titan มีช่องระบายความร้อน 6 ช่อง, พัดลม 4 ตัว และฮีตไปป์ 8 เส้น ให้ระบายความร้อนได้อย่างรวดเร็ว ไม่ต้องเจอปัญหาตัวเครื่องร้อนเกินไปจนประสิทธิภาพตก (Thermal Throttling) เลย

หน้าจอของ MSI Titan GT77 HX 13V ก็ยอดเยี่ยมจนเกินระดับโน๊ตบุ๊คเกมมิ่งไปเทียบชั้นโน๊ตบุ๊คครีเอเตอร์หลายๆ รุ่นในปัจจุบันได้สบายๆ โดยจอ 17.3 นิ้ว ความละเอียด 4K UHD พาเนล IPS MiniLED ค่า Refresh Rate 144Hz นี้ ได้รับการรับรอง Calman Verified การันตีคุณภาพของสีสันและความเที่ยงตรงที่สุดและได้รับการรับรอง VESA DispayHDR 1000 อีกด้วย ซึ่งทุกจอของ Titan GT77 HX 13V จะได้รับการคาลิเบรตปรับจูนรายจอจากโรงงานโดยเทคโนโลยี True Color ของทาง MSI เองและมี K-Zone Local Dimming ในตัว

นอกจากนี้ฟีเจอร์อื่นๆ ของ MSI Titan GT77 HX 13V ที่ควรกล่าวถึงด้วย คือ ลำโพง DYNAUDIO เสียงดีทรงพลัง, แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 99.9Whr, ระบบกล้องสแกนใบหน้าพร้อมม่านชัตเตอร์ปิดกล้องเมื่อไม่ใช้งานและเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือไว้ใช้ยืนยันตัวตนปลดล็อคเครื่องโดยทำงานกับระบบ Windows Hello ของ Windows 11 Home, ชิป Wi-Fi 6E Intel AX1690 และ LAN 2.5GbE ซึ่งชิปนี้จะประสานงานกันให้รับส่งข้อมูลได้เร็วสุด 5.5Gbps และถ้าเชื่อมต่อ Wi-Fi ก็รองรับคลื่น 6GHz อีกด้วย ด้วยฟีเจอร์และสเปคทั้งหมดมวลนี้ ถือว่า MSI Titan GT77 HX 13V เป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คที่ทรงพลังสุดในโลกก็ไม่ผิด

NBS Verdicts

MSI Titan GT77 Intel Gen 13 DSC00558 New size 1

MSI Titan GT77 HX 13V ถือเป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คที่สุดยอดในทุกมิติ ทั้งสเปคและความแรงที่ไม่มีเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คเครื่องไหนในปัจจุบันนี้เทียบชั้นได้ อาจเทียบชั้นกับเกมมิ่งพีซีราคาหลักแสนสบายๆ หากเกมเมอร์คนไหนอยากต่อหน้าจอแยกหลายๆ จอ MSI Titan GT77 HX 13V ก็มีฟีเจอร์ Matrix Display ต่อจอใช้งานได้ 3 จอพร้อมกัน รวมจอหลักความละเอียด 4K ของตัว Titan GT77 HX 13V เองด้วย หรือจะต่อจอแยกตัวเดียวผ่านพอร์ต HDMI 2.1 ก็รองรับ 8K 60Hz หรือเป็น 4K 120Hz ก็ได้ แค่มีสาย HDMI 2.1 สักเส้นก็พอ ถ้าจะนั่งทำงานอาร์ทไม่ว่าจะตัดต่อคลิปหรือแต่งภาพก็ทำบนจอของ MSI Titan ที่ได้รับการรับรอง Calman Verified ได้เลย ส่วนลำโพงทั้ง 4 ตัว แยกเป็นลำโพงหลักวูฟเฟอร์กำลังขับดอกละ 2 วัตต์ รวม 4 ดอก ที่ได้ DYNAUDIO มาช่วยปรับแต่งให้ต้องถือว่ามิติเสียงดีน่าประทับใจทีเดียว ดังนั้นเรื่องความบันเทิงทั้งเกมและภาพยนตร์จัดว่ายอดเยี่ยม

คีย์บอร์ดของ MSI Titan GT77 HX 13V ก็ยังใช้สวิตช์ CHERRY MX Ultra Low Profile แบบ Tactile ที่เกมเมอร์ชื่นชอบเช่นเดิม กดสนุกเล่นเกมได้อารมณ์ยิ่งขึ้นแถมยังตอบสนองเร็วทันใจด้วย ซึ่งปัจจุบันนี้มีเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คระดับพรีเมี่ยมเท่านั้นที่เลือกมาใช้งานเพื่อให้ประสบการณ์ใช้งานที่ดีที่สุดและยังตั้งค่ามันในโปรแกรม SteelSeries GG ได้รวมถึงไฟ Mystic Light อีกด้วย เรียกว่าครบเครื่องสมกับที่ทั้งสองบริษัทจับมือร่วมกันพัฒนามาอย่างยาวนาน และยังเปิดเครื่องอัพเกรดเพิ่ม RAM, SSD ได้เยอะมากจนใช้งานได้อีกหลายปีสบายๆ

ด้านการเล่นเกม ไม่ว่าจะเล่นบนหน้าจอของ Titan GT77 HX 13V หรือต่อหน้าจอแยกความละเอียด 4K ก็ยอดเยี่ยม เรียกว่าไม่ต่างกับเกมมิ่งพีซีประสิทธิภาพสูงสักเครื่องหนึ่ง เหมาะกับฮาร์ดคอร์เกมเมอร์ที่อยู่คอนโดมิเนียมหรือห้องส่วนตัวมีขนาดไม่ใหญ่มากหรือครีเอเตอร์รวมถึงผู้ใช้ที่ต้องการซื้อคอมเครื่องเดียวแล้วใช้ทำงานและเล่นเกมบนจอ QHD~UHD ปรับสุดหมดได้สบายๆ ไปอีกหลายปี

อีกจุดสังเกตยังเป็นเรื่องแป้น Numpad ของ MSI Titan ยังมีขนาดเล็กกว่าไซซ์มาตรฐานเพราะต้องเว้นพื้นที่ให้ลำโพงและชุดคีย์บอร์ดจึงกดใช้งานไม่ถนัดอย่างที่ควร ถึงจะใช้งานได้แต่ผู้เขียนอยากเสนอให้ทาง MSI ดีไซน์ชุด Numpad ให้เป็นปุ่ม Macro, Multimedia Key แทน น่าจะโดนใจเกมเมอร์มากกว่า

ข้อดีของ MSI Titan GT77 HX 13V
  1. อัพเกรดซีพียูเป็น Intel 13th Gen รุ่นใหม่ล่าสุดแล้ว ประสิทธิภาพสูงใช้งานได้ดีมาก
  2. อัพเกรดการ์ดจอเป็น NVIDIA GeForce RTX 4090 แล้ว ใช้ทำงานและเล่นเกมได้ดีมาก
  3. มี MSI OverBoost ULTRA ไว้ถ่ายโอนค่าวัตต์ของซีพียูและการ์ดจอให้ประสิทธิภาพดีขึ้น
  4. ระบบระบายความร้อน Cooer Boost Titan ทำงานได้ดี ถึงใช้งานเต็มที่ประสิทธิภาพก็ไม่ลด
  5. ได้แรม 64GB DDR5 จากโรงงานอัพเกรดเพิ่มความจุได้สูงสุด 128GB จัดว่ามีให้ใช้เหลือเฟือ
  6. เพิ่ม SSD PCIe 5.0 และ 4.0 ในเครื่องได้รวม 3 ช่อง ใช้เซฟงานและลงโปรแกรมได้เยอะมาก
  7. หน้าจอ MiniLED ความละเอียด 4K ได้รับการรับรอง Calman Verified ใช้ทำงานครีเอเตอร์ได้ดี
  8. หน้าจอถูกคาลิเบรตจากโรงงานและมี K-Zone Local Dimming ให้ความสว่างได้เหมาะสม
  9. คีย์บอร์ดเป็นสวิตช์ CHERRY MX Ultra Low Profile แบบ Tactile มีไฟ RGB ตอบสนองดีมาก
  10. เชื่อมต่อหน้าจอแยกได้มากสุด 3 จอพร้อมกันด้วยพอร์ต Thunderbolt และ HDMI 2.1
  11. มีพอร์ต HDMI 2.1 ใช้เชื่อมต่อหน้าจอแยกความละเอียด 8K 60Hz หรือ 4K 120Hz ก็ได้
  12. มีลำโพง 4 ตัว ได้ DYNAUDIO ปรับจูนเสียงและมีโปรแกรมจากของ Nahimic ให้ใช้งาน
  13. มีเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือและ IR Camera ใช้ยืนยันตัวปลดล็อคเครื่องได้สะดวกปลอดภัย
  14. มีพอร์ต Thunderbolt 4 ใช้ชาร์จแบบ Power Delivery กระแส 100 วัตต์และต่อหน้าจอแยกได้
  15. รองรับ Wi-Fi 6E ด้วยชิป Intel Killer AX1690 เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตได้เสถียรและรวดเร็ว
  16. รองรับ Bluetooth 5.3 เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุดแล้ว ใช้เชื่อมต่ออุปกรณ์ไร้สายได้สะดวกและเสถียรขึ้น
ข้อสังเกตของ MSI Titan GT77 HX 13V
  1. น้ำหนักมากถึง 3 กิโลกรัม ไม่เหมาะจะพกไปไหนนัก เหมาะจะวางตั้งโต๊ะมากกว่า
  2. บอดี้เปิดฝาอัพเกรดยาก แนะนำว่าถ้าอยากเพิ่มแรมหรือ SSD ควรให้ช่างของ MSI จัดการให้
  3. ชุด Numpad ยังมีขนาดเล็กและกดได้ค่อนข้างยากเหมือนรุ่นก่อน ต้องปรับตัวสักพักถึงจะใช้ถนัด
  4. ชุดระบายความร้อน Cooler Boost Titan เมื่อทำงานเต็มที่เสียงจะดังราว 70 dB ซึ่งดังพอควร

รีวิว MSI Titan GT77 HX 13V

Specification

MSI Titan GT77 HX 13V

MSI Titan GT77 HX 13V นับเป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คที่ประสิทธิภาพดีที่สุดในโลก ณ ปัจจุบันนี้ก็ไม่ผิดนัก ซึ่งรุ่นใหม่ล่าสุดนี้ติดตั้งซีพียู Intel 13th Gen กับการ์ดจอแยก NVIDIA GeForce RTX 4000 Series ด้วย สำหรับสเปคโดยละเอียดเป็นดังนี้

CPU Intel Core i9-13980HX แบบ 24 คอร์ 32 เธรด (8P+16E) ความเร็ว 4.0~5.6GHz
GPU NVIDIA GeForcer RTX 4090 แรม 16GB GDDR6
SSD M.2 NVMe SSD 4TB
RAM 64GB DDR5 บัส 4800 MHz
Display 17.3 นิ้ว ความละเอียด 4K UHD พาเนล MiniLED IPS ค่า Refresh Rate 144Hz ได้รับการรับรอง Calman Verified, VESA DisplayHDR 1000 มี K-Zone Local Dimming
Connectivity Thunderbolt 4 x 2, USB-A 3.2 Gen 2 x 3, Mini DisplayPort x 1, HDMI 2.1 x 1, SD Card Reader x 1, LAN x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.3

Software Windows 11 Home
Weight 3.3 กิโลกรัม
Price 209,900 บาท ชมสเปคโดยละเอียดคลิ๊กที่นี่

Hardware & Design

MSI Titan GT77 Intel Gen 13 DSC00564 New size 1

MSI Titan GT77 Intel Gen 13 DSC00487 New size 1
MSI Titan GT77 Intel Gen 13 DSC00493 New size 1
MSI Titan GT77 Intel Gen 13 DSC00494 New size 1
MSI Titan GT77 Intel Gen 13 DSC00489 New size 1
MSI Titan GT77 Intel Gen 13 DSC00490 New size 1

ดีไซน์บอดี้ของ MSI Titan GT77 HX 13V ยังใช้บอดี้เดิมเหมือน Titan GT77 รุ่นก่อนหน้า แต่ทาง MSI ได้ถอดสติ๊กเกอร์ต่างๆ บนตัวเครื่องออกไปทั้งหมดแล้วสกรีนฟีเจอร์เด่นเอาไว้ตามมุมต่างๆ ของตัวเครื่อง ได้แก่ ลำโพง DYNAUDIO มุมบนซ้าย บนขวาเป็น SteelSeries ส่วนมุมซ้ายล่างของคีย์บอร์ดเป็นโลโก้ของทาง CHERRY MX เพื่อบอกผู้ใช้ว่าคีย์บอร์ดของโน๊ตบุ๊คนี้ใช้สวิตช์เมคานิคอลรุ่นใหม่แบบ Low Profile ซึ่งเหมาะกับเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คที่มีความหนาจำกัดอยู่ ส่วนที่วางข้อมือฝั่งขวามีเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือติดตั้งมาให้คู่กับ IR Camera เพื่อยืนยันตัวตนแล้วปลดล็อคเครื่อง ซึ่งจะใช้ทั้งสองฟังก์ชั่นนี้หรือเลือกใช้แบบใดแบบหนึ่งก็ได้เช่นกัน

MSI Titan GT77 Intel Gen 13 DSC00548 New size 1

MSI Titan GT77 Intel Gen 13 DSC00472 New size 1
MSI Titan GT77 Intel Gen 13 DSC00476 New size 1

องศาการกางหน้าจอ MSI Titan GT77 HX 13V จะกางได้กว้างสุดราว 120 องศา ไม่สามารถกางไปจนแบนราบได้เพราะติดบอดี้ตัวเครื่องส่วนหลังซึ่งเป็นชุดช่องระบายความร้อน Cooler Boost Titan อยู่ แต่ก็ถือว่ากางได้กว้างพอปรับให้เข้ามุมสายตาได้พอดีทั้งตอนวางบนโต๊ะหรือแท่นวางโน๊ตบุ๊คด้วย ส่วนก้านบานพับหน้าจอจะเป็นโลหะอลูมิเนียมยื่นออกมาจากตัวเครื่องแล้วล็อคเข้ากับส่วนล่างของบานหน้าจอ กางได้อย่างแข็งแรงไม่มีอาการโยกคลอนแม้แต่น้อย ถือว่าดีสมค่าตัวมาก

สังเกตว่าตัวเครื่องส่วนด้านหลังจะมีช่องครีบติดเอาไว้เป็นแถบเหมือนรถซุปเปอร์คาร์ด้วย และครีบแนวตั้ง 2 เส้นตรงกลางจะเปลี่ยนจากก้านพลาสติกเป็นหลอดไฟ RGB “MSI Mystic Light” แทน ปรับเอฟเฟคไฟได้โปรแกรม SteelSeries GG ได้อีกด้วย ทำให้บอดี้ตัวเครื่องไม่ดูดำเกินไปและมีลูกเล่นยิ่งขึ้น

MSI Titan GT77 Intel Gen 13 DSC00563 New size 1

MSI Titan GT77 Intel Gen 13 DSC00480 New size 1
MSI Titan GT77 Intel Gen 13 DSC00508 New size 1
MSI Titan GT77 Intel Gen 13 DSC00479 New size 1

ฝาหลังของ Titan GT77 HX 13V จะไม่มีลวดลายอะไรมากเป็นพิเศษ โดยมีเส้นแนวตั้งเฉียงขึ้น 2 เส้นและโลโก้มังกรปิดด้วยวัสดุเหมือนกระจกเอาไว้และมีลูกเล่นที่ตัวโลโก้ด้วย คือเป็นไฟ RGB เช่นกัน ซึ่งพอดูประกอบกับช่องระบายความร้อนแล้วก็แสดงความเป็นเกมเมอร์ได้ดีมาก ดูสวยมีเอกลักษณ์และไม่เป็นโลโก้ธรรมดาๆ ที่ติดเอาไว้บอกแบรนด์ของโน๊ตบุ๊คเท่านั้น

MSI Titan GT77 Intel Gen 13 DSC00457 New size 1

MSI Titan GT77 Intel Gen 13 DSC00458 New size 1
MSI Titan GT77 Intel Gen 13 DSC00471 New size 1
MSI Titan GT77 Intel Gen 13 DSC00461 New size 1

ด้านใต้ตัว MSI Titan GT77 HX 13V จะแบ่งครึ่งบนเป็นช่องนำลมเข้าไปเวียนระบาความร้อนในระบบ Cooler Boost Titan แล้วระบายออกส่วนด้านหลังและช่องฝั่งซ้ายและขวาของเครื่อง ทำลวดลายตัวพลาสติกแบบเฉียงและสลักเป็นโลโก้ MSI เอาไว้ส่วนขอบล่างขวามือใกล้แถบยางกันลื่นฟและล็อคฝาใต้เครื่องไว้ด้วยน็อต Philips Head อีก 11 ตัวเพื่อความแน่นแข็งแรงและป้องกันชิ้นส่วนภายในด้วย

แต่อย่างไรก็ตาม บอดี้ของ Titan GT77 ถูกซีลมาอย่างแน่นหนาจนแกะเปิดฝาได้ยากมากกว่าโน๊ตบุ๊คเกมมิ่งหลายๆ รุ่นที่ได้ทำรีวิวมาก่อนหน้านี้ และคาดว่าถ้าฝืนแกะโดยไม่ระวังฝาเครื่องอาจเสียหายได้ ผู้เขียนจึงขอไม่แกะเครื่องเพื่อดูชิ้นส่วนภายในและขอแนะนำให้ผู้อ่านที่อยากเพิ่มแรมหรือ SSD ให้ติดต่อช่างผู้ชำนาญการจาก MSI มาช่วยดูแลจะดีที่สุดและไม่เสี่ยงเกินไปด้วย

Screen & Speaker

MSI Titan GT77 Intel Gen 13 DSC00481 New size 1

MSI Titan GT77 Intel Gen 13 DSC00510 New size 1
MSI Titan GT77 Intel Gen 13 DSC00509 New size 1
MSI Titan GT77 Intel Gen 13 DSC00483 New size 1
MSI Titan GT77 Intel Gen 13 DSC00484 New size 1
MSI Titan GT77 Intel Gen 13 DSC00485 New size 1

จอของ MSI Titan GT77 HX 13V มีขนาดใหญ่ถึง 17.3 นิ้ว ความละเอียด 4K UHD พาเนล MiniLED IPS ค่า Refresh Rate 144Hz ได้รับการรับรอง Calman Verified, VESA DisplayHDR 1000 มี K-Zone Local Dimming ช่วยปรับความสว่างในโซนต่างๆ ของหน้าจอให้เหมาะสมและได้สีดำสนิทขึ้น ดีไซน์ให้กรอบหน้าจอบางทั้ง 3 ด้าน ทั้งขอบบนและกรอบฝั่งซ้ายและขวา ทำให้มีพื้นที่แสดงผลกว้างขึ้น ขอบล่างของหน้าจอสกรีนโลโก้ MSI สีขาวเอาไว้

กรอบบนหน้าจอที่มีกล้องเว็บแคมกับ IR Camera และไมค์จะมีบานสไลด์ปิดกล้องติดตั้งมาให้สไลด์ปิดเวลาไม่ต้องการใช้งานและป้องกันเผื่อโดนเจาะระบบเข้ามาใช้กล้องโดยพลการ เพิ่มความเป็นส่วนตัวและปลอดภัยขึ้น ถ้ากล้องเว็บแคมปิดอยู่หน้าเลนส์จะเป็นแถบสีส้มแทน

display New size 1

gamut 1
luminance 1

ค่า Refresh Rate ของจอ MSI Titan GT77 HX 13V ปรับได้ 2 ระดับว่าจะใช้ 60Hz หรือ 144Hz ก็ได้ในหมวดการตั้งค่า Advanced display ของ Windows 11 ส่วนขอบเขตสีหน้าจอเมื่อวัดด้วยโปรแกรม DisplayCal 3 และใช้เครื่อง Colorchecker ของ Calibrite วัดค่า Gamut coverage ซึ่งเป็นค่าขอบเขตสีจริงของหน้าจอนี้ได้ 96.3% sRGB, 70.9% Adobe RGB, 72.9% DCI-P3 ส่วน Gamut volume ซึ่งเป็นขอบเขตสีโดยรวมทั้งหมดของจอได้ 103.4% sRGB, 71.3% Adobe RGB, 73.3% DCI-P3 มีค่าความเที่ยงตรงสีหรือ Delta-E เฉลี่ย 0.08~0.67 จัดว่าจอของ MSI Titan นั้นได้ขอบเขตสีที่กว้างพอใช้ทำงานอาร์ทต่างๆ ได้สบายและยังเที่ยงตรง ใช้แต่งภาพถ่ายจากกล้องหรือตัดคลิปก็ทำได้ดีอย่างแน่นอน

ความสว่างสูงสุดของจอนี้เมื่อปรับความสว่าง 100% อยู่ที่ 887.62 cd/m2 จัดว่าสว่างเหลือเฟือถ้าใช้ในอาคารหรือห้องพักส่วนตัวและผู้เขียนขอแนะนำให้เปิดความสว่างเพียง 40% จะกำลังพอดีไม่จ้าเกินไปจนรบกวนสายตา และถ้าพกเครื่องติดไปใช้งานนอกตัวอาคารเช่นที่ชานร้านกาแฟก็ปรับความสว่างเพิ่มก็สู้แดดที่สะท้อนหน้าจอได้สบายๆ และต้องถือว่าจอนี้สว่างมากจนสู้แสงแดดสะท้อนหน้าจอได้แน่นอน

nahimic New size 1

MSI Titan GT77 Intel Gen 13 DSC00459 New size 1
MSI Titan GT77 Intel Gen 13 DSC00460 New size 1
MSI Titan GT77 Intel Gen 13 DSC00470 New size 1
MSI Titan GT77 Intel Gen 13 DSC00469 New size 1

ลำโพงของ MSI Titan GT77 HX 13V ทั้ง 4 ตัวเป็นลำโพงกำลังขับ 2 วัตต์ทั้งหมด โดยแยกเป็นดอกลำโพงหลักและวูฟเฟอร์อย่างละคู่และมีช่องลำโพงหันหน้าเข้าตัวผู้ใช้ด้วย มีโปรแกรม Nahimic สำหรับปรับโหมดเสียงให้เข้ากับคอนเทนต์ที่กำลังใช้อยู่ โดยแบ่งเป็นหมวด Music, Movie, Communication, Gaming และ Smart ให้โปรแกรมตัดสินใจเองก็ได้ หรือจะตั้งค่าเสียงด้วยตัวเองก็ปรับในโปรแกรมนี้ได้

พอปรับโหมดในโปรแกรมเป็น Music แล้วฟังเพลงแล้ว เสียงลำโพง MSI Titan GT77 HX 13V นั้นมีมิติเสียงที่น่าประทับใจ ได้สเตจเสียงกว้าง โทนเสียงมีมิติและรายละเอียดเสียงดีมีมิติดี ใช้ฟังเพลงได้หลากหลายแนวแถมเบสก็ซัพพอร์ตเสียงเพลงได้ดีไม่เยอะเกินไปจนบวมและมีแรงปะทะอยู่ระดับหนึ่ง ถือว่าใช้ฟังเพลงได้หลากหลายแนว ส่วนความดังเมื่อวัดด้วยเครื่องวัดเสียงแล้วดังสุดราว 80 dB

Keyboard & Touchpad

MSI Titan GT77 Intel Gen 13 DSC00513 New size 1

MSI Titan GT77 Intel Gen 13 DSC00498 New size 1
MSI Titan GT77 Intel Gen 13 DSC00499 New size 1
MSI Titan GT77 Intel Gen 13 DSC00536 New size 1
MSI Titan GT77 Intel Gen 13 DSC00537 New size 1

คีย์บอร์ดของ MSI Titan GT77 HX 13V เป็นสวิตช์เมคานิคอลรุ่นใหม่ล่าสุดซึ่งดีไซน์โปรไฟล์ปุ่มให้เป็นแบบบางพิเศษ รุ่น CHERRY MX Ultra Low Profile มีระยะกดสั้นและเป็นปุ่ม Tactile แบบ 2 จังหวะแต่ไม่มีเสียงกระเดื่องเหมือนสวิตช์แบบ Clicky และพัฒนาร่วมกับแบรนด์เกมมิ่งเกียร์คู่หูอย่าง SteelSeries เช่นเดิม ส่วนสัมผัสตอนใช้งาน่าจะถูกใจผู้ใช้ที่ชอบหวดปุ่มคีย์บอร์ดแน่นอน เพราะตัวปุ่มมีแรงต้านและเด้งดันนิ้วกลับระดับหนึ่ง แถมมีไฟ RGB พร้อมเอฟเฟคแสงสวยงาม สามารถปรับโหมดการแสดงผลได้ในโปรแกรม SteelSeries GG อีกด้วย

MSI Titan GT77 Intel Gen 13 DSC00543 New size 1
MSI Titan GT77 Intel Gen 13 DSC00541 New size 1
MSI Titan GT77 Intel Gen 13 DSC00546 New size 1
MSI Titan GT77 Intel Gen 13 DSC00547 New size 1
MSI Titan GT77 Intel Gen 13 DSC00542 New size 1
MSI Titan GT77 Intel Gen 13 DSC00538 New size 1

การจัดเลย์เอ้าท์คีย์บอร์ดของ MSI Titan GT77 HX 13V ถือได้ว่ายกจาก Titan รุ่นก่อนหน้ามาใช้ก็ไม่ผิด ซึ่งข้อดีจากรุ่นก่อนไม่ว่าจะปุ่ม Ctrl กับ Shift ซ้ายที่ยาวเท่ากันให้เกมเมอร์กดได้ง่ายขึ้น, ปุ่มฟังก์ชั่นสำคัญสำหรับการเล่นเกมอยย่างเร่งรอบพัดลม, เปิดเป้าเล็งปืนค้างบนจอ (Static Crosshair), ปุ่มดับจอโน๊ตบุ๊ค, เล่นหรือหยุดเพลงชั่วคราวตรงปุ่มลูกศรมุมขวาล่างของคีย์บอร์ด, Function Lock ตรงปุ่ม Esc สำหรับสลับเลเยอร์ระหว่าง F1~F12 กับ Function Hotkey ได้

อย่างไรก็ตามถึงจะมีข้อดีแต่ข้อสังเกตต่างๆ จากคีย์บอร์ดของ MSI Titan รุ่นก่อนก็ยยังมีติดมาเช่นเดิม ได้แก่ชุด Numpad ปุ่มเล็กกดไม่ค่อยถนัดเพราะต้องแบ่งพื้นที่ให้ปุ่มคีย์บอร์ดชุดหลักและปุ่ม Num Lock ใต้ปุ่ม Power ที่โดนรวมเอาไว้กับชุดแป้นคีย์บอร์ด ซึ่งทาง MSI ยังไม่ดึงแยกออกไปเป็นปุ่มเฉพาะอีกปุ่มหนึ่ง ซึ่งในช่วงแรกๆ อาจกดถูกกดผิดบ้างและต้องอาศัยเวลาปรับตัวระดับหนึ่ง ส่วนตัวผู้เขียนเองคิดว่าถ้าทาง MSI จะดีไซน์ Titan รุ่นใหม่ ก็ขอแนะนำให้เปลี่ยนจาก Numpad เป็นชุดปุ่มมาโครหรือ Multimedia Key แทน น่าจะตอบโจทย์เกมเมอร์ได้ดีกว่า

MSI Titan GT77 Intel Gen 13 DSC00544 New size 1

สำหรับ Function Hotkey ของ MSI Titan GT77 HX 13V ถูกเซ็ตรวมเอาไว้กับปุ่ม F1~F11 เท่านั้น เว้นปุ่ม F12 เอาไว้ ซึ่งส่วนตัวผู้เขียนคิดว่าถ้าทางบริษัทใส่คำสั่งปุ่มดังกล่าวเอาไว้เรียก SteelSeries GG แทนและใส่คีย์ลัดเรียก Snipping Tool มาอยู่กับปุ่ม Print Screen แล้วรวบปุ่ม Delete, Insert ไว้ ก็จะมีปุ่มว่างอีกปุ่มให้ใส่คีย์ลัดอื่นๆ ได้ เช่นปุ่ม Windows Lock, เรียกโปรแกรม Nahimic ก็จะดีกว่านี้ ส่วนคีย์ลัดของปุ่ม F1~F11 จะมีดังนี้

  • F1~F3 – ปิด, ลดหรือเพิ่มเสียงลำโพง
  • F4 – ปิดทัชแพด
  • F5 – ปิดไมโครโฟน
  • F6 – ปิดกล้องเว็บแคม
  • F7 – เรียกใช้โปรแกรม MSI Center
  • F8 – ปรับความสว่างไฟ LED Backlit ของคีย์บอร์ด
  • F9~F10 – ลดหรือเพิ่มความสว่างหน้าจอ
  • F11 – ปุ่ม Project ตั้งค่าหน้าจอหลักและจอเสริม

MSI Titan GT77 Intel Gen 13 DSC00491 New size 1
MSI Titan GT77 Intel Gen 13 DSC00492 New size 1

ทัชแพดของ MSI Titan GT77 HX 13V มีขนาดใหญ่แต่เซ็ตตัวแป้นให้อยู่ค่อนไปทางขวามือเล็กน้อย เวลาวางมือซ้ายเพื่อเล่นเกมแล้วสันมือจะไม่พาดลงบนแป้นทัชแพดแน่นอน ทว่าตอนพิมพ์มือขวาจะพาดลงตรงกลางทัชแพดอย่างเลี่ยงไม่ได้อย่างแน่นอน ซึ่งแก้ได้โดยยกสันมือขึ้นเล็กน้อยเวลาพิมพ์หรือจะปิดทัชแพดแล้วต่อเมาส์ใช้งานแทนก็ได้ ส่วนทัชแพดจะรองรับ Gesture Control ของ Windows 11 ครบถ้วนและตอบสนองได้เร็วทันใจ ไม่หน่วงช้าเลยแม้แต่น้อย

SteelSeries GG 2 10 2023 6 22 21 AM New size 1

SteelSeries GG Device Configurations 2 10 2023 6 22 33 AM New size 1
SteelSeries GG Device Configurations 2 10 2023 6 22 28 AM New size 1

โปรแกรมสำคัญนอกจากโปรแกรมพื้นฐานอย่าง MSI Center แล้ว MSI แล้ว Titan GT77 HX 13V ก็มี SteelSeries GG ให้ใช้ปรับแต่งคีย์บอร์ดได้ด้วย ไม่ว่าจะเซ็ตมาโครหรือกด Fn กับปุ่มตัวเลขเพื่อเรียกคำสั่งใดคำสั่งหนึ่งขึ้นมาใช้งาน แถมยังปรับแต่งไฟ RGB ของคีย์บอร์ดได้รายปุ่มและเปลี่ยนเอฟเฟคไฟบนส่วนต่างๆ ของตัวเครื่องได้ด้วย ในหน้าโปรแกรมจะแยกหมวดการตั้งค่าออกจากกัน คือ MSI Mystic Light ไว้ปรับไฟ RGB ตัวเครื่อง ส่วน MSI Per Key RGB Keyboard จะใช้เซ็ตฟังก์ชั่นนคำสั่งและไฟ RGB ของคีย์บอร์ดแทน

Connector / Thin & Weight

MSI Titan GT77 Intel Gen 13 DSC00549 New size 1
MSI Titan GT77 Intel Gen 13 DSC00551 New size 1
MSI Titan GT77 Intel Gen 13 DSC00555 New size 1
MSI Titan GT77 Intel Gen 13 DSC00554 New size 1

พอร์ตการเชื่อมต่อของ MSI Titan GT77 HX 13V จะถูกเซ็ตเอาไว้ข้างตัวเครื่องสองฝั่งเท่านั้น ส่วนด้านหลังเครื่องไม่มีเพราะเป็นโซนช่องระบายความร้อนของชุด Cooler Boost Titan โดยมีพอร์ตและการเชื่อมต่อดังนี้

  • พอร์ตฝั่งซ้ายจากซ้ายมือ – ช่องต่ออแดปเตอร์เฉพาะของตัวเครื่อง, USB-A 3.2 Gen 2 x 2, SD Card Reader, Audio combo
  • พอร์ตฝั่งขวาจากซ้ายมือ – USB-A 3.2 Gen 2, Thunderbolt 4, Thunderbolt 4 รองรับการชาร์จแบบ Power Delivery กระแส 100 วัตต์, Mini DisplayPort, HDMI 2.1 รองรับจอความละเอียดสูงสุด 8K 60Hz หรือ 4K 120Hz, LAN RJ45
  • การเชื่อมต่อไร้สาย – Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.3

อาจกล่าวได้ว่าการเชื่อมต่อทั้งมีและไร้สายของ Titan GT77 HX 13V นั้นครบเครื่องน่าใช้มาก นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ Matrix Display ต่อหน้าจอแยกได้มากสุด 3 จอพร้อมกัน เหมาะกับผู้ที่ต้องใช้คอมหลายจอแต่ไม่สะดวกประกอบพีซีก็ใช้เป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คแทนก็ได้ หรือถ้าอยากต่อจอแยกเล่นเกมก็ต่อผ่านพอร์ต HDMI 2.1 ได้ รองรับความละเอียดสูงถึง 8K 60Hz หรือ 4K 120Hz ซึ่งการ์ดจอ NVIDIA GeForce RTX 4090 สามารถเรนเดอร์ภาพได้แน่นอน

MSI Titan GT77 Intel Gen 13 DSC00451 New size 1

MSI Titan GT77 Intel Gen 13 DSC00556 New size 1
MSI Titan GT77 Intel Gen 13 DSC00453 New size 1
MSI Titan GT77 Intel Gen 13 DSC00452 New size 1

แม้ฟีเจอร์และฟังก์ชั่นจะล้ำสมัยมาก แต่ต้องแลกกับน้ำหนักเครื่อง 3.4 กิโลกรัม เมื่อรวมอแดปเตอร์กำลังไฟ 330 วัตต์ น้ำหนัก 1.4 กิโลกรัมเข้าไปแล้ว MSI Titan GT77 HX 13V จะหนักถึง 4.9 กิโลกรัม ซึ่งถือว่าหนักที่สุดในบรรดาเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คของปี 2023 นี้ แต่ก็แลกกับสเปคอันทรงพลังใช้ทำงานหรือเล่นเกมได้อีกหลายปีสบายๆ เช่นกัน

อย่างไรก็ตาม ผู้เขียนคิดว่าถ้าต้องการพก Titan GT77 HX 13V ไปไหนมาไหน แนะนำให้หากระเป๋าลากไว้ใส่เครื่องโดยเฉพาะจะดีกว่าใส่กระเป๋าเป้แล้วสะพายเครื่องไปไหนมาไหน ในทางกลับกันมันก็เหมาะจะตั้งเอาไว้กับโต๊ะคอมที่บ้านหรือที่ทำงานแทนพีซีเช่นกัน

Performance & Software

Screenshot 2 10 2023 6 23 59 AM New size 1

mb
CPU Z 2 10 2023 6 24 04 AM
CPU Z 2 10 2023 6 24 11 AM
CPU Z 2 10 2023 6 24 07 AM

ซีพียูของ MSI Titan GT77 HX 13V เป็น Intel Core i9-13950HX สถาปัตยกรรม 10 nm “Intel Raptor Lake” นับเป็น Intel 13th Gen มี 24 คอร์ 32 เธรด (8P+16E) ความเร็ว 4.0~5.5GHz แต่มีฟีเจอร์ Intel ABT กับ TVB ช่วยเร่งความเร็วของซีพียูเพิ่มขึ้น 100MHz ทำให้ความเร็วของ P-Core จำนวน 2 คอร์ เร่งไปได้สุดที่ 5.6GHz ได้ รองรับชุดคำสั่งพื้นฐานต่างๆ ค่อนข้างครบถ้วน มีค่า TDP ที่ 55~157 วัตต์

เมนบอร์ดในเครื่องเป็นของทาง MSI เอง รองรับแรม DDR5 ทั้งหมด 4 ช่อง ความจุสูงสุด 128GB กล่าวคือได้ 32GB x 4 ช่อง ซึ่งแรมเดิมติดเครื่องจากทาง MSI ติดตั้งมาให้ 64GB DDR5 บัส 4800MHz แล้ว หากจะอัพเกรดก็เพิ่มอีก 64GB DDR5 บัส 4800MHz (32GB*2) มาใส่เพิ่มได้ รองรับ M.2 NVMe SSD ได้ 3 ช่อง เป็น PCIe 5.0 x 1 ช่อง และ PCIe 4.0 x 2 ช่อง โดย MSI Titan GT77 HX 13V ได้ SSD จากโรงงานมาแล้ว 4TB และทำ RAID เอาไว้เพื่อความเร็วสูงสุด 

gpu
tgp

การ์ดจอในเครื่องเป็น NVIDIA GeForce RTX 4090 แรม 16GB GDDR6 มี CUDA Core ในตัว 9,728 Unified ซึ่งเยอะมากพอใช้ทำงานและเล่นเกมได้สบายๆ มีค่า TGP 175 วัตต์ รองรับชุดคำสั่ง ได้แก่ OpenCL, OpenGL 4.6, CUDA, DirectCompute, DirectML, Vulkan, Ray Tracing, PhysX ดังนั้นนอกจากเล่นเกมได้ดี จะเอาไว้ปั้นโมเดลและงาน 3D ต่างๆ พร้อมลงแสงเงาด้วยระบบ Ray Tracing ก็ทำได้สบายๆ อย่างแน่นอน

แม้ GeForce RTX 4090 นี้จะเป็นแบบ Max-Q ก็ตาม แต่ทาง NVIDIA ก็พัฒนาฟีเจอร์ของมันมาอย่างต่อเนื่องโดยปัจจุบันนี้ก็เป็น Max-Q เวอร์ชั่นที่ 5 แล้ว และมีฟีเจอร์ในการ์ดจอมากถึง 9 อย่างด้วยกัน ได้แก่

  1. DLSS 3 – ฟีเจอร์เร่งประสิทธิภาพของจีพียูเวลาเล่นเกม โดยเพิ่มประสิทธิภาพตอนเล่นเกมและจัดการพลังงานได้ดียิ่งขึ้น
  2. CPU Optimizer – เป็นฟีเจอร์ปรับแต่งการทำงานซีพียูรุ่นใหม่ๆ ให้ประสิทธิภาพดีขึ้นและเย็นลง
  3. Rapid Core Scaling – ฟังก์ชั่นปรับเพิ่มลดกำลังการทำงานของจีพียูโดยอัตโนมัติตามความเหมาะสม โดยตัวการ์ดจอจะเรียกใช้คอร์เท่าที่จำเป็นไม่ดึงไปใช้งานทั้งหมดในคราวเดียว เน้นทำงานกับโปรแกรมเช่น Adobe Premier / Blender / Matlab เป็นต้น
  4. Battery Boost – ฟีเจอร์ช่วยประหยัดพลังงานเวลาเล่นเกมด้วยแบตเตอรี่ในโน๊ตบุ๊คให้ใช้ได้นานขึ้น 70% โดยระบบจะคำนวณหากำลังที่เหมาะสมของซีพียูและจีพียูให้โดยอัตโนมัติแบบเรียลไทม์
  5. Advanced Optimus – ฟังก์ชั่นสลับการใช้งานการ์ดจอออนบอร์ดและการ์ดจอแยกเพื่อแสดงผลภาพขึ้นจอ ให้ประสิทธิภาพได้ดีขึ้นกินไฟน้อยลงลดค่าความหน่วง (Latency) ให้ต่ำที่สุด
  6. Dynamic Boost – ฟังก์ชั่นใช้ AI บูสต์การทำงานระหว่างตัวจีพียู, หน่วยความจำในจีพียูและซีพียูให้ใช้พลังงานได้ตามความเหมาะสมและทำงานโดยอัตโนมัติ โดยฟีเจอร์นี้จะจัดการพลังงานให้แบบเรียลไทม์
  7. WhisperMode – อัลกอริธึ่มที่ใช้ AI สำหรับควบคุมซีพียูและจีพียูให้ทำงานดีที่สุด แต่อุณหภูมิจะไม่สูงเกินไปและเสียงพัดลมไม่ดังมาก 
  8. Resizable BAR – เป็นฟีเจอร์ที่เกี่ยวกับ PCI Express โดยเปิดให้ซีพียูเชื่อมต่อแล้วใช้ frame buffer ในจีพียูได้อย่างเต็มที่ ผู้ที่สนใจสามารถอ่านรายละเอียดได้ที่นี่
  9. NVIDIA OPS – ย่อจากคำว่า NVIDIA Optimal Playale Settings ฟังก์ชั่นปรับการแสดงผลโดยผู้ใช้เลือกได้เอง โดยระบบการ์ดจอจะปรับสมดุลย์ระหว่างคุณภาพของภาพและเฟรมเรทลื่นไหลให้โดยอัตโนมัติ หรือผู้ใช้จะปรับตั้งค่าเองก็ได้เช่นกัน

ดังนั้นแม้จะเป็นการ์ดจอ Max-Q ก็ตามแต่ทาง NVIDIA ก็พัฒนาให้มันทำงานได้ดีกว่าในอดีตมาก จึงไม่ต้องกังวลประเด็นนี้เลยก็ได้ เพราะประสิทธิภาพและฟีเจอร์ในตัวจีพียูจัดว่าดีเหลือใช้อย่างแน่นอน

device mgr New size 1

พาร์ทภายในเครื่องเมื่อเช็คด้วย Device Manager แล้ว MSI Titan GT77 HX 13V ติดตั้งเซนเซอร์สแกนใบหน้ามาคู่กับเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือของ Goodix สำหรับยืนยันตัวผ่านระบบ Windows Hello และมีชิป TPM 2.0 สำหรับรักษาความปลอดภัยในเครื่อง Wi-Fi PCIe Card เป็น Intel Killer AX1690i รองรับ Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.3 แบนด์วิธ 160MHz และพอร์ต LAN ก็เป็น Intel Killer E3100G ด้วย หากเกมเมอร์คนไหนจะต่อสาย LAN เล่นเกม ตัวชิป Intel Killer จะคอยจัดสรรแบนด์วิธให้เหมาะสมเองโดยอัตโนมัติ

CrystalDiskMark 8.0.4 x64 Admin 2 6 2023 9 06 16 PM

M.2 NVMe SSD ในเครื่องความจุ 4TB ถูกเซ็ตมาเป็นแบบ RAID 0 ให้ความเร็วตอนอ่านเขียนข้อมูลเข้าออกไดรฟ์มีความเร็วสูงสุด เมื่อทดสอบด้วยโปรแกรม CrystalDiskMark 8 แล้ว ได้ Sequential Read 13,214.85 MB/s และ Sequential Write 10,298.73 MB/s กล่าวได้ว่า M.2 NVMe SSD ใน MSI Titan GT77 HX 13V สามารถเปิดโปรแกรม, ไฟล์งานและโหลดเกมต่างๆ มาติดตั้งในเครื่องได้เร็วทันใจอย่างแน่นอน และมีความจุเยอะมากถึง 4TB เช่นนี้ก็ถือว่าเหลือใช้ไม่ต้องอัพเกรดก็ได้ ใช้เดิมๆ จากโรงงานไปได้เลย

3DMark Advanced Edition 2 6 2023 9 13 18 PM New size 1

ด้านการทดสอบด้วยโปรแกรม Benchmark ต่างๆ ณ ตอนนี้ ทางผู้เขียนขอแจ้งผู้อ่านทุกท่านไว้ล่วงหน้าก่อน ว่า MSI Titan GT77 HX 13V เครื่องที่ได้รับมาเป็น Engineering Sample และไดรเวอร์ต่างๆ ยังต้องรอการปรับจูนจากทาง NVIDIA และ MSI อีกเล็กน้อย เชื่อว่าเมื่อเป็นเวอร์ชั่นวางจำหน่ายจริงอย่างเป็นทางการแล้วจะทำคะแนนได้ดีกว่านี้อย่างแน่นอน

ผลการทดสอบการเล่นเกมด้วย 3DMark Time Spy จะได้ผลคะแนนเฉลี่ยรวมที่ 18,735 คะแนน แยกเป็น CPU score 14,811 คะแนน และ Graphics score 19,654 คะแนนด้วยกัน ต้องถือว่าซีพียู Intel Core i9-13950HX และการ์ดจอแยก NVIDIA GeForce RTX 4090 นั้นทรงพลังสุดๆ สามารถเล่นเกมฟอร์มยักษ์ในปัจจุบันได้ทุกเกมอย่างแน่นอนบนจอความละเอียด QHD หรือ 4K UHD ก็ได้สบายๆ ยิ่งถ้าเปิด NVIDIA DLSS เสริมเข้าไปยิ่งได้เฟรมเรทมากยิ่งขึ้นหลายเท่า ดังนั้นจะต่อหน้าจอแยกหรือเล่นบนจอของตัว MSI Titan เองก็ได้ภาพที่สวยงามถูกใจเกมเมอร์อย่างแน่นอน

titan gt77 hx 13v

เฟรมเรทตอนใช้ MSI Titan GT77 HX 13V เล่นเกมนั้นต้องถือว่าไหลลื่นจนน่าประทับใจ สามารถรับมือเกมฟอร์มยักษ์ต่างๆ ได้เป็นอย่างดีและไม่เกิดอาการเฟรมเรทตกเลยแม้แต่ครั้งเดียว โดยผู้เขียนตั้งใจตั้งความละเอียดจอเป็น 2K QHD ตั้งค่ากราฟิคระดับสูงสุดแล้วเริ่มทดสอบดู จะเห็นว่าทุกเกมที่หยิบมาทดสอบนั้นทำเฟรมเรทเฉลี่ยได้เกิน 100 Fps ทั้งหมด ดังนั้นไม่ว่าจะต่อหน้าจอแยกหรือเล่นบนหน้าจอของโน๊ตบุ๊คเองก็ทำได้ดีแน่นอน และถ้าใครอยากต่อหน้าจอเสริมความละเอียด QHD เฟรมเรทสูงระดับ 165~180Hz ก็ไม่มีปัญหา

ส่วนตัวผู้เขียนทดลองปรับความละเอียดหน้าจอเป็น 4K UHD แล้วเล่นเกมดู พบว่าถ้าเล่นโดยใช้พลังของกราฟิคการ์ดล้วนๆ ไม่เปิด NVIDIA DLSS เข้ามาเสริมก็ยังเล่นได้ดี แต่เฟรมเรทเฉลี่ยจะอยู่ระดับ 70~85 Fps แต่ถ้าเปิด DLSS เมื่อไหร่ก็เล่นได้ไม่ต่างกับจอ QHD อย่างแน่นอน กล่าวคือ MSI Titan GT77 HX 13V นั้นทรงพลังไม่มีข้อกังขาใดๆ ถ้าซื้อมาเล่นเกมก็ใช้ไปได้อีกหลายปีอย่างแน่นอน อย่างมากอาจจะเปิดฝาเพิ่ม M.2 NVMe SSD เล็กน้อย กรณีที่ลงเกมเอาไว้เยอะ หรือในอนาคตแรม 64GB DDR5 ในเครื่องไม่พอใช้งาน ซึ่งกว่าจะถึงตอนนั้นเชื่อว่าเกมเมอร์หลายคนก็คงจะเปลี่ยนเครื่องไปแล้ว

PCMark 10 Advanced Edition 2 6 2023 8 57 10 PM

ผลการทดสอบการทำงานด้วย PCMark 10 นั้น MSI Titan GT77 HX 13V ก็ทำผลงานได้ดีเหนือกว่าเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คทุกรุ่น กวาดคะแนนเฉลี่ยได้ 8,722 คะแนน ทุกหมวดการทดสอบย่อยก็ได้คะแนนเกินหมื่นไปทั้งหมดไม่ว่าจะใช้งานทั่วไป ทำงานเอกสารเปิดเว็บหรือประชุมงานออนไลน์ และ NVIDIA GeForce RTX 4090 ก็ทำคะแนนในส่วนของ Digital Content Creation ไปได้สูงถึง 15,823 คะแนน ซึ่งสูงสุดเท่าที่ผู้เขียนได้ทดสอบโน๊ตบุ๊คมา ดังนั้นถ้าจะใช้แต่งภาพ, ตัดต่อคลิปก็ทำได้ไหลลื่น ยิ่งถ้าใครปั้นโมเดล 3D หรือทำ Motion Graphics ก็ไม่มีปัญหาแม้แต่นิดเดียว สามารถเอาเครื่องไปเรนเดอร์และแก้งานตรงหน้างานให้ลูกค้าได้เลย หรือแม้แต่งานจำลองผลทดลองทางวิทยาศาสตร์ก็ทำได้ยอดเยี่ยมอย่างแน่นอน

r15 1
r20 1

ส่วนการทดสอบงานกราฟิคต่างๆ ด้วย CINEBENCH R15 เพื่อวัดประสิทธิภาพโดรวมแล้ว ได้คะแนน OpenGL 195.68 fps และได้ CPU 4,954 cb ส่วนคะแนนของ CINEBENCH R20 ทำคะแนน CPU ได้ 11,702 pts จากผลคะแนนนี้ถือว่า MSI Titan GT77 HX 13V เองก็ทรงพลังพอใช้จำลองโมเดล 3D หรือเรนเดอร์โมเดลต่างๆ ได้สบายๆ โดยเฉพาะ CINEBENCH R20 นั้น ปกติจะทำคะแนนได้สูงสุดในช่วงหลักพันเท่านั้น แต่ Titan GT77 HX นี้ทำได้สูงทะลุหลักหมื่นคะแนนเลยทีเดียว ประกอบกับหน้าจอขอบเขตสีกว้างแล้วก็ถือว่าโน๊ตบุ๊คเครื่องนี้เหมาะกับครีเอเตอร์เช่นกัน นับว่าประสิทธิภาพของโน๊ตบุ๊คนี้มีให้ใช้เหลือเฟือเลย

msi center 1

general settings
user scenario
utilities update

นอกจากนี้ทางบริษัทก็ติดตั้ง MSI Center มาให้ผู้ใช้ปรับแต่งตัวตัวเครื่องให้ทำงานได้ดีขึ้น จะมอนิเตอร์ตัวเครื่อง, ตั้งค่าฟังก์ชั่นต่างๆ หรืออัพเดทเฟิร์มแวร์ในเครื่องก็ได้ หากใครอยากซื้อ MSI Titan มาใช้แทนการประกอบคอมก็ปรับโหมดการทำงานใน User Scenario ให้เป็น Extreme Performance แล้วเลือก GPU Switch เป็นการ์ดจอแยกอย่างเดียว (Discrete Graphics Mode) ได้เลย แต่ถ้าต้องการให้ตัวโปรแกรมปรับโหมดเองก็เลือกเป็น Smart Auto แล้วเลือก GPU Switch ให้เป็น MSHybrid Graphics Mode แทน เวลาใช้งานทั่วไปอย่างเปิดเว็บดูหนังฟังเพลงก็ไม่ใช้พลังงานเยอะ เวลาเล่นเกมหรือทำงานกราฟิคหนักๆ ก็เปลี่ยนเป็นการ์ดจอแยกได้เช่นกัน

Battery & Heat & Noise

BatteryMon 91 Charge 2 12 2023 6 45 14 PM New size 1

แบตเตอรี่ใน MSI Titan GT77 HX 13V มีความจุสูงถึง 99.9Whr ซึ่งเป็นความจุสูงสุดเท่าที่ผู้ใช้สามารถพกโน๊ตบุ๊คใส่กระเป๋าขึ้นเครื่องบินได้ เมื่อทดสอบตามมาตรฐานของทางเว็บไซต์โดยเปิดความสว่างจอที่ 50%, เปิดเสียงลำโพง 10% แล้วตั้งค่าตัวเครื่องให้เป็นโหมดประหยัดพลังงานแล้วดูคลิป YouTube ด้วย Microsoft Edge นาน 30 นาทีแล้ว จะใช้งานได้นานสุด 5 ชั่วโมง 9 นาทีเท่านั้น ซึ่งถือว่าใช้งานได้นานระดับหนึ่ง พอใช้นำเสนองานหรือแก้งานได้ระดับหนึ่งแต่ก็ไม่นานระดับเดียวกับโน๊ตบุ๊คบางเบาที่อยู่ได้ระดับ 10 ชั่วโมงขึ้นไป ดังนั้นถ้าใครจะนำ MSI Titan ติดตัวไปทำงานนานๆ หลายชั่วโมงก็แนะนำให้เตรียมอแดปเตอร์ใส่กระเป๋าติดตัวไปด้วยจะดีที่สุด

MSI Titan GT77 Intel Gen 13 DSC00479 New size 1

MSI Titan GT77 Intel Gen 13 DSC00550 New size 1
MSI Titan GT77 Intel Gen 13 DSC00552 New size 1

ระบบระบายความร้อน Cooler Boost Titan จะมีช่องระบายความร้อน 6 ช่อง พัดลม 4 ตัวและฮีตไปป์อีก 8 เส้นเพื่อระบายความร้อนออกจากตัวเครื่องให้เร็วที่สุด ซึ่งช่องระบายความร้อนจะอยู่ด้านข้างเครื่องสองฝั่งทั้งซ้ายและขวา รวมทั้งด้านหลังเครื่องที่เป็นแถบยาวอีก 4 ช่อง นั่นเอง ซึ่งระบบระบายความร้อนนี้ก็ระบายความร้อนออกจากตัวเครื่องได้รวดเร็ว ไม่เกิดอาการร้อนจนประสิทธิภาพลดลงเลยแม้แต่น้อย แต่จุดสังเกตคือ เมื่อใช้งานเครื่องเต็มประสิทธิภาพแล้ววัดเสียงพัดลมดูแล้ว เสียงพัดลมจะดังราว 70 dB ทีเดียว ซึ่งตอนใช้งานจริงก็ได้ยินเสียงพัดลมดังพอสมควร

Untitled New size 1

ด้านอุณหภูมิตอนทดสอบเบิร์นเครื่องให้รันเต็มประสิทธิภาพแล้ว จะเห็นว่า MSI Titan GT77 HX 13V ก็มีอุณหภูมิในเครื่องค่อนข้างสูง สำหรับซีพียูทั้ง Package จะมีอุณหภูมิอยู่ระดับ 53~97 องศา เฉลี่ย 83 องศาเซลเซียส กล่าวได้ว่าสูงพอสมควร ด้านการ์ดจอแยก NVIDIA GeForce RTX 4090 ตอนรันเต็มที่ก็มีอุณหภูมิอยู่ระดับ 47~78 องศา เฉลี่ย 77 องศาเซลเซียส ซึ่งผู้เขียนเชื่อว่าผู้อ่านหลายท่านอาจกังวลว่ามันจะร้อนเกินไปหรือไม่ ซึ่งอันที่จริงแล้วอุณหภูมิระดับนี้จัดว่าเป็นอุณหภูมิปกติของโน๊ตบุ๊คหลายๆ รุ่นเมื่อใช้งานเต็มที่ ซึ่งถ้าอุณหภูมิทั้งซีพียูและการ์ดจอรันอยู่ระดับ 75~100 องศาเซลเซียส ก็ถือว่าใช้งานได้ไม่มีปัญหาแน่นอน

เวลาวางมือบนแป้นคีย์บอร์ดตอนผู้เขียนทดสอบเล่นเกมไม่ว่าจะเล่นในห้องอุณหภูมิปกติหรือเปิดแอร์ก็ตาม ถ้านั่งอยู่ต่อหน้า MSI Titan GT77 HX 13V จะไม่มีอาการความร้อนแผ่ขึ้นมาจากตัวเครื่องรบกวนผู้ใช้อย่างแน่นอน แม้แต่แป้นคีย์บอร์ดก็ไม่ร้อนรบกวนผู้ใช้อย่างแน่นอน ดังนั้นไว้ใจเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คตัวท็อปของทาง MSI แล้วใช้งานไปได้เลย

User Experience

MSI Titan GT77 Intel Gen 13 DSC00575 New size 1

ผู้เขียนเชื่อว่าเกมเมอร์หลายๆ คนก็มี MSI Titan GT77 HX 13V เป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คในฝัน อยากมีครอบครองเป็นเจ้าของเอาไว้เล่นเกมหรือทำงานกันอย่างแน่นอน แต่อย่างไรก็ตามผู้เขียนเชื่อว่าเมื่อเห็นราคาช่วง 2 แสนบาท ไม่ว่าใครก็อาจจะทำใจซื้อได้ยากอย่างแน่นอน แต่ประสิทธิภาพและฟีเจอร์นั้นถือว่าดีคุ้มค่าตัวสุดๆ จนเกมมิ่งพีซีบางเครื่องก็แรงไม่เทียบเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คเครื่องนี้อย่างแน่นอน เรื่องความร้อนตอนใช้งานเต็มที่ก็ไม่รบกวนมือของผู้ใช้แม้แต่น้อยและไม่เกิดอาการร้อนจนประสิทธิภาพลดแน่นอน อาจมีเรื่องเสียงพัดลมดัง 70 dB ตอนรันเต็มที่เท่านั้น ซึ่งส่วนตัวผู้เขียนแนะนำว่าถ้านั่งเล่นเกมอยู่ก็ให้ใช้หูฟังแบบเฮดโฟนครอบหูแล้วเล่นเกมไปก็พอช่วยลดเสียงรบกวนไปได้ระดับหนึ่ง

สิ่งที่ผู้เขียนประทับใจ คือประสิทธิภาพของเจ้า Titan GT77 HX 13V นั้นแรงเหลือใช้มาก จะเล่นเกมด้วยความละเอียด 4K UHD ปรับกราฟิคสูงสุดเท่าที่เปิดได้ก็ไม่มีปัญหาและเฟรมเรทไม่ตกแม้แต่น้อย เพราะกำลังการประมวลผลของ NVIDIA GeForce RTX 4090 นั้นถือว่าสุดยอด ถ้าใครอยากเร่งเฟรมเรทขึ้นสักหน่อยก็เปิด NVIDIA DLSS เข้าไปหน่อยก็ดันเฟรมเรทขึ้นไปเกิน 100 Fps ได้สบายๆ ดังนั้นถ้าใครต่อจอแยก QHD ก็เล่นได้สบายๆ แต่แนะนำให้ต่อผ่านพอร์ต HDMI 2.1 จะดีที่สุดเพราะรองรับความละเอียดสูงถึง 8K 60Hz ดังนั้นถ้าเป็น QHD 180Hz ก็รันได้อย่างแน่นอน ส่วนถ้าใครเป็นครีเอเตอร์อยากได้เกมมิ่งโน๊ตบุ๊คแรงๆ เอาไว้ทำงานต่างๆ ไม่ว่าจะตัดต่อคลิป, เรนเดอร์โมเดล 3D ก็ได้ หรือแม้แต่นักวิทยาศาสตร์นักฟิสิกส์จะเอาไปรันแบบจำลองวิทยาศาสตร์ก็ทำได้ลื่นไหลรวดเร็วทันใจแน่นอน อาจเพิ่มแรมไป 128GB ก็ได้ถ้าต้องการ ซึ่งสเปคระดับนี้ผู้เขียนเชื่อว่า MSI Titan GT77 HX 13V นั้นสามารถใช้งานไปได้ยาวๆ ราว 5~7 ปี ได้อย่างแน่นอน เชื่อว่าคุ้มค่าและทำกำไรคืนจากเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คที่แรงที่สุดในโลกของปี 2023 นี้ได้อย่างแน่นอน

ด้านพอร์ตและการเชื่อมต่อก็ถือว่าสมบูรณ์แบบ ทั้งรองรับการต่อจอแบบ Matrix Display ได้ 3 จอ ด้วยพอร์ต HDMI 2.1, Mini DisplayPort และ Thunderbolt 4 ได้สบายๆ มี USB-A 3.2 Gen 2 x 3 ช่อง, LAN ไปจนถึง SD Card Reader เรียกว่าไม่เหลือพื้นที่ว่างข้างตัวเครื่องไว้เปล่าๆ เลย ยิ่งจุดน่าประทับใจ คือทาง MSI ใช้ Wi-Fi PCIe Card ของ Intel Killer AX1690i ซึ่งรับส่งข้อมูลได้เสถียรและเน้นความสำคัญให้กับเกมเป็นหลักและยังรองรับ Bluetooth 5.3 เวอร์ชั่นล่าสุดซึ่งเพิ่งเปิดตัวเมื่อปี 2021 ที่ผ่านมา เพราะมันสามารถรับส่งข้อมูลแบบไร้สายได้เสถียรและรวดเร็วยิ่งกว่าเดิม ดังนั้นจะเชื่อมต่อแบบมีหรือไร้สายก็ยอดเยี่ยมสุดๆ จัดเป็นอีกเรื่องประทับใจไม่แพ้ช่องอัพเกรดภายในเครื่องที่รองรับแรม DDR5 ถึง 4 ช่องและ M.2 NVMe SSD อีก 3 ช่องเลย

อย่างไรก็ตาม จุดสังเกตที่ผู้เขียนขอกล่าวถึงจะมีอยู่ไม่กี่เรื่อง นอกจากเรื่องเสียงพัดลมระบายความร้อนแล้ว ก็มีเรื่องน้ำหนักตัวเครื่อง 3.4 กิโลกรัม เมื่อรวมอแดปเตอร์เข้าไปก็หนักร่วม 5 กิโลกรัมทีเดียว ส่วนตัวไม่ขอแนะนำให้ใส่กระเป๋าเป้พกไปไหนมาไหนนัก หากต้องนำเครื่องออกไปตามสถานที่ต่างๆ ควรใส่กระเป๋าล้อลากไปเลยจะดีที่สุด ด้านบอดี้ตัวเครื่องแม้ทาง MSI จะซีลมาดีและงานประกอบแข็งแรงแต่กลับกันมันก็เปิดฝาอัพเกรดได้ยากมากจนผู้เขียนขอแนะนำให้ติดต่อช่างผู้เชี่ยวชาญของ MSI มาจัดการเปิดฝาอัพเกรดเครื่องจะดีกว่า เพื่อลดโอกาสแกะพลาดแล้วเกิดความเสียหายนั่นเอง

Conclusion & Award

MSI Titan GT77 Intel Gen 13 DSC00576 New size 1

หากจำกัดความให้ MSI Titan GT77 HX 13V แล้ว มันคือเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คที่แรงสุดในโลก ณ ตอนนี้ด้วยพลังของ Intel 13th Gen และ NVIDIA GeForce RTX 4000 Series จะเอาไว้ทำงานหรือเล่นเกมก็ใช้ได้อย่างแน่นอนและยังอัพเกรดเพิ่ม RAM, SSD ในเครื่องได้เยอะไม่แพ้กับพีซีเลย หากใครจะลงทุนซื้อเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คเอาไว้ใช้แบบเครื่องเดียวจบไม่ง้อพีซีไม่แคร์งบราคาล่ะก็ นี่คือคำตอบที่ดีสุด ณ ตอนนี้เลยและไม่มีเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คเครื่องไหนเทียบชั้นได้อย่างแน่นอน

อย่างไรก็ตาม ผู้เขียนเชื่อว่าผู้อ่านหลายคนอาจติดใจเรื่องราคาหลัก 2 แสนบาท ซึ่งสูงจนหลายคนอาจคิดว่าเอาเงินก้อนนี้ไปเป็นราคาดาวน์หรือซื้อยานพาหนะไว้ใช้งานจะดีกว่า แต่ส่วนตัวผู้เขียนมองในทางกลับกันว่านี่คือการลงทุนซื้อเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คที่ดีที่สุดในโลกเครื่องหนึ่งเอาไว้ทำงานหาเงินได้อย่างยอดเยี่ยม ลงทุนแค่ครั้งเดียวก็ใช้งานไปได้อีกหลายปีไม่ว่าจะงานอาร์ทหรืองานทางวิทยาศาสตร์ก็เหมาะกับมันอย่างแน่นอน

award

NBS award Upgradable

 

best upgradable

ปกติแล้วเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คหลายๆ เครื่องจะอัพ M.2 NVMe SSD และ RAM ได้อย่างละช่องเท่านั้นแต่ Titan GT77 HX 13V ใส่ M.2 NVMe ได้ 3 ช่องและ RAM อีก 4 ช่อง นับว่ามีอินเตอร์เฟสให้ใช้แบบเหลือเฟือ

NBS award Innovation

best innovation

Titan GT77 HX 13V ถือว่าใส่นวัตกรรมล้ำสมัยมาให้มากมาย ทั้งซีพียูและการ์ดจอรุ่นใหม่ล่าสุดจาก Intel, NVIDIA รวมไปถึงคีย์บอร์ด Mechanical สวิตช์ CHERRY MX, และจอ Mini LED ความละเอียด 4K 144Hz ฯลฯ เป็นโน๊ตบุ๊คที่รวมนวัตกรรมใหม่ๆ เอาไว้ในเครื่องเดียวแบบจัดเต็ม

award new performance

best performance

ประสิทธิภาพของ MSI Titan นั้นถือว่ายอดเยี่ยมที่สุดจนเหนือกว่าเกมมิ่งพีซีหลายๆ เครื่องในปัจจุบัน การันตีจากผลการทดสอบด้วยโปรแกรม Benchmark ซึ่งเหนือว่าเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คทุกรุ่นที่ได้ทดสอบมา หากใครจะซื้อมันไปใช้งานก็ไม่ต้องสงสัยว่ามันจะทำอะไรได้บ้าง แต่อยากเอามันไปทำอะไรก็เอาไปทำได้เลย

award new Gaming

best gaming

“ทุกเกมฟอร์มยักษ์ต้องสยบให้” คือคำจำกัดความง่ายๆ สั้นๆ ของ MSI Titan GT77 HX 13V มันสามารถเล่นเกมทุกเกมในปัจจุบันแบบปรับกราฟิคสูงสุดได้สบายๆ บนความละเอียดจอ 4K เลย ยิ่งเปิด NVIDIA DLSS เสริมเข้าไปยิ่งได้เฟรมเรทเพิ่มอีก จัดว่ายอดเยี่ยมมาก

from:https://notebookspec.com/web/688268-review-msi-titan-gt77-hx-13v

7 โน๊ตบุ๊คคุ้มค่า 2023 น่าใช้ มีการ์ดจอแยกและ Office แท้ให้ซื้อ เริ่มแค่ 14,990 บาทเท่านั้น!

โน๊ตบุ๊คคุ้มค่า 2023 พร้อมส่วนลดคุ้มๆ เพื่อคนทำงานและนักเรียนักศึกษามีมาให้เลือกแล้ว!

NBS 230220 FB Link 7 value NB 2023

 

Advertisementavw

ต้นปี 2023 แล้ว ผู้ใช้หลายคนก็อยากเปลี่ยนโน๊ตบุ๊คสักเครื่องมาใช้ทำงานอย่างแน่นอนและน่าจะมองหาโน๊ตบุ๊คคุ้มค่า 2023 สักเครื่องมาเปลี่ยนกับเครื่องเก่าอยู่อย่างแน่นอน ซึ่งผู้เขียนเชื่อว่านอกจากเรื่องราคาและโปรโมชั่นส่วนลดพิเศษแล้ว หลายคนก็อยากได้เครื่องสเปคแรงจ่ายทีเดียวคุ้มใช้งานได้นานหลายปีอย่างแน่นอน ซึ่งปัจจุบันนี้ซีพียู AMD, Intel หลายๆ รุ่น ไม่ว่าจะ Intel Core i3 หรือ AMD Ryzen 3 ก็ดีพอใช้เรียนและทำงานต่างๆ ได้เป็นอย่างดี ดูหนังฟังเพลงได้อย่างมีความสุขแน่นอนและบางรุ่นที่มีการ์ดจอแยกในตัวก็เอามาเล่นเกมได้อีกด้วย

โน๊ตบุ๊คคุ้มค่า 2023 สำหรับผู้เขียนแล้ว หากจะซื้อโน๊ตบุ๊คใหม่สักเครื่องล่ะก็ ณ ตอนนี้ซีพียูไม่ว่าจะ Intel Gen 11 หรือ Gen 12 หรือจะ AMD Ryzen 5000 Series ก็ยังน่าใช้มากและประสิทธิภาพของมันก็ยังใช้ทำงานต่างๆ ได้สบาย ไม่ต้องซีเรียสว่าต้องซื้อรุ่นใหม่ล่าสุดเสมอ อาจจะหันมาเลือกซื้อรุ่นเก่าลงสัก 1-2 รุ่นแล้วเซฟเงินเอาไว้ซื้ออุปกรณ์เสริมอื่นๆ อย่างหน้าจอคอม, เมาส์หรือคีย์บอร์ดแทนก็น่าจะมีประโยชน์กว่าเอางบประมาณไปลงกับโน๊ตบุ๊คอย่างเดียว หรือถ้าใครมีอุปกรณ์เสริมที่จำเป็นใช้งานครบแล้วแต่อยากจะเปลี่ยนเครื่องอย่างเดียวจะเอาเงินไปลงกับโน๊ตบุ๊คให้หมดเลยก็ได้เช่นกัน

โน๊ตบุ๊คคุ้มค่า 2023

สรุปสเปค 7 โน๊ตบุ๊คคุ้มค่า 2023

สเปคโน๊ตบุ๊คคุ้มค่า 2023 CPU

GPU

SSD

RAM

Software

Display

Weight

Connectivity ราคา
(บาท)
Lenovo IdeaPad 3 15ITL05 Intel Core
i3-1115G4

Intel UHD Graphics

M.2 NVMe
256GB

8GB DDR4
2666MHz

Windows 11 Home

15.6″ FHD IPS

1.7 กก.

USB 2.0 x 1

USB-A 3.2 x 2

HDMI x 1

SD Card Reader x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 5

Bluetooth 5.0

14,990
Lenovo IdeaPad 3i 15IAU7 Intel Core
i3-1215U

Intel UHD Graphics

M.2 NVMe
256GB

8GB DDR4
3200MHz

Windows 11 Home

15.6″ FHD IPS

1.63 กก.

USB 2.0 x 1

USB-A 3.2 x 1

USB-C 3.2 x 1

HDMI x 1

SD Card Reader x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6

Bluetooth 5.2

16,990
Lenovo IdeaPad 3 15IAU7 Intel Core
i5-1235U

Intel Iris Xe Graphics

M.2 NVMe
512GB

8GB DDR4
3200MHz

Windows 11 Home

Microsoft Office Home & Student 2021

15.6″ FHD IPS

1.63 กก.

USB 2.0 x 1

USB-A 3.2 x 1

USB-C 3.2 x 1

HDMI x 1

SD Card Reader x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6

Bluetooth 5.2

22,990
Lenovo IdeaPad 3 15ABA7 AMD Ryzen 5 5625U

AMD Radeon Graphics

M.2 NVMe
512GB

8GB DDR4
3200MHz

Windows 11 Home

Microsoft Office Home & Student 2021

15.6″ FHD IPS

1.63 กก.

USB 2.0 x 1

USB-A 3.2 x 1

USB-C 3.2 x 1

HDMI x 1

SD Card Reader x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6

Bluetooth 5.2

20,990
Lenovo IdeaPad Gaming 3 15ACH6 AMD Ryzen 5 5600H

NVIDIA GeForce RTX 3050 Ti

M.2 NVMe
512GB

8GB DDR4
3200MHz

Windows 11 Home

15.6″ FHD IPS

Refresh Rate 120Hz

2.25 กก.

USB-A 3.2 x 2

USB-C 3.2 x 1

HDMI x 1

LAN x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6

Bluetooth 5.0

27,990
Huawei MateBook D14 Intel Core
i5-1135G7

Intel Iris Xe Graphics

M.2 NVMe
512GB

8GB DDR4
3200MHz

Windows 11 Home

14″ FHD IPS

1.38 กก.

USB 2.0 x 1

USB-A 3.2 x 1

USB-C 3.2 x 1

HDMI x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6

Bluetooth 5.1

22,990
Acer Aspire 7 A715-42G-R4BX AMD Ryzen 5 5500U

NVIDIA GeForce GTX 1650

M.2 NVMe
512GB

8GB DDR4
3200MHz

Windows 11 Home

15.6″ FHD IPS

Refresh Rate 144Hz

2.15 กก.

USB 2.0 x 1

USB-A 3.2 x 2

USB-C 3.2 x 1

HDMI x 1

LAN x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6

Bluetooth 5.1

22,990

7 โน๊ตบุ๊คคุ้มค่า 2023 ถูกใจสายทำงานและเกมมิ่งอย่างแน่นอน!

หากใครกำลังหาโน๊ตบุ๊คคุ้มค่า 2023 ราคาไม่แพงแต่สเปคดีเอาไว้ทำงานหรือเรียนออนไลน์ล่ะก็ ผู้เขียนได้เลือกรุ่นน่าสนใจทั้งหมด 7 รุ่นพร้อมโปรโมชั่นส่วนลดมาให้เลือกกัน โดยมีรายชื่อรุ่นดังนี้

  1. Lenovo IdeaPad 3 15ITL05 (14,990 บาท)
  2. Lenovo IdeaPad 3i 15IAU7 (16,990 บาท)
  3. Lenovo IdeaPad 3 15IAU7 (22,990 บาท)
  4. Lenovo IdeaPad 3 15ABA7 (20,990 บาท)
  5. Lenovo IdeaPad Gaming 3 15ACH6 (27,990 บาท)
  6. Huawei MateBook D14 (22,990 บาท)
  7. Acer Aspire 7 A715-42G-R4BX (22,990 บาท)
1. Lenovo IdeaPad 3 15ITL05 (14,990 บาท)

Lenovo Notebook IdeaPad 3 15ITL05 square medium

Lenovo IdeaPad 3 15ITL05 นั้นถือเป็นโน๊ตบุ๊คคุ้มค่า 2023 ที่แม้ซีพียูจะเป็น Intel Gen 11 แต่สเปคของมันถือว่ายังใช้งานได้ดี มี Numpad ติดตั้งมาให้ อัพเกรดเพิ่ม SSD, RAM ได้และน้ำหนักเครื่องก็ไม่หนักมาก พกพาไปไหนมาไหนได้สะดวกทีเดียว

ซีพียูเป็น Intel Core i3-1115G4 แบบ 2 คอร์ 4 เธรด ความเร็ว 3.0~4.1GHz ใช้การ์ดจอออนบอร์ด Intel UHD Graphics และหน้าจอขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS มี M.2 NVMe SSD ความจุ 256GB ติดตั้ง Windows 11 Home และแรมออนบอร์ด 8GB DDR4 บัส 2666MHz มีพอร์ต USB 2.0 x 1, USB-A 3.2 x 2, HDMI x 1, SD Card Reader x 1, Audio combo x 1 เชื่อมต่อ Wi-Fi 5 มาตรฐาน 802.11ac รองรับ Bluetooth 5.0 ได้ในตัว น้ำหนักเพียยง 1.7 กิโลกรัมเท่านั้น เป็นโน๊ตบุ๊คคุ้มค่า 2023 รุ่นแรกเพื่อนนักเรียนนักศึกษาหรือคนที่เพิ่งได้งานใหม่อย่างแน่นอน

สเปคของ Lenovo IdeaPad 3 15ITL05
CPU Intel Core i3-1115G4 แบบ 2 คอร์ 4 เธรด ความเร็ว 3.0~4.1GHz
GPU Intel UHD Graphics
SSD M.2 NVMe SSD 256GB
RAM ออนบอร์ด 8GB DDR4 บัส 2666MHz
Display 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS
Connectivity USB 2.0 x 1, USB-A 3.2 x 2, HDMI x 1, SD Card Reader x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 5 มาตรฐาน 802.11ac และ Bluetooth 5.0

Software Windows 11 Home
Weight 1.7 กิโลกรัม
Price 14,990 บาท ใช้โค้ด BNNDFMF10 ลดได้ 1,000 บาท (คลิ๊กสั่งซื้อได้ที่นี่)
2. Lenovo IdeaPad 3i 15IAU7 (16,990 บาท)

Lenovo IdeaPad Slim 3i 03 square medium

ถ้าซีพียู Intel 11th Gen ไม่ถูกใจอยากได้รุ่นใหม่ขึ้นก็ขยับมาเป็น Lenovo IdeaPad 3i 15IAU7 ซึ่งเป็นรุ่นพัฒนาต่อจาก IdeaPad ในข้อก่อนได้เลย โดยรุ่นใหม่นี้จะใช้บอดี้เดียวกัน มีชุด Numpad และพอร์ต USB-C 3.2 เสริมเข้ามาให้และได้ Intel Core i3-1215U แบบ 6 คอร์ 8 เธรด (2P+4E) ความเร็ว 3.3~4.4GHz รองรับ Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.2 ได้ในตัว จัดเป็นโน๊ตบุ๊คคุ้มค่า 2023 สำหรับคนอยากได้ซีพียูรุ่นใหม่ล่าสุดมาใช้งานมาก

สเปคของ Lenovo IdeaPad 3i 15IAU7
CPU Intel Core i3-1215U แบบ 6 คอร์ 8 เธรด (2P+4E) ความเร็ว 3.3~4.4GHz
GPU Intel UHD Graphics
SSD M.2 NVMe SSD 256GB
RAM ออนบอร์ด 8GB DDR4 บัส 3200MHz
Display 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS
Connectivity USB 2.0 x 1, USB-A 3.2 x 1, USB-C 3.2 x 1, HDMI x 1, SD Card Reader x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.2

Software Windows 11 Home
Weight 1.63 กิโลกรัม
Price 16,990 บาท ใช้โค้ด BNNDFMF20 ลดได้ 2,000 บาท (คลิ๊กสั่งซื้อได้ที่นี่)
3. Lenovo IdeaPad 3 15IAU7 (22,990 บาท)

Lenovo Notebook IdeaPad 3 15IAU7 03 square medium

สำหรับโน๊ตบุ๊คคุ้มค่า 2023 ราคาช่วง 20,000 บาทต้น จะมี Lenovo IdeaPad 3 15IAU7 ซึ่งรุ่นนี้จะใช้สเปคและฟีเจอร์ร่วมกับ IdeaPad 3 รุ่นก่อนหน้านี้แทบทั้งหมด ยกเว้นแค่อัพเกรดซีพียูเป็น Intel Core i5-1235U แบบ 10 คอร์ 12 เธรด (2P+8E) ความเร็ว 3.3~4.4GHz และการ์ดจอ Intel Iris Xe Graphics แทน รวมทั้งเพิ่มความจุ M.2 NVMe SSD ในเครื่องเป็น 512GB แทนและได้ Microsoft Office Home & Student 2021 แทน และทาง Lenovo ยังติดตั้งเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือมาให้ใช้ด้วย หากใครมีงบประมาณระดับ 20,000 บาทต้นๆ แล้วอยากได้โน๊ตบุ๊คคุ้มค่า 2023 เอาไว้ใช้ รุ่นนี้คือรุ่นที่ดีมากที่ผู้เขียนเองแนะนำให้ซื้อไปใช้งาน

สเปคของ Lenovo IdeaPad 3 15IAU7
CPU Intel Core i5-1235U แบบ 10 คอร์ 12 เธรด (2P+8E) ความเร็ว 3.3~4.4GHz
GPU Intel Iris Xe Graphics
SSD M.2 NVMe SSD 512GB
RAM ออนบอร์ด 8GB DDR4 บัส 3200MHz
Display 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS
Connectivity USB 2.0 x 1, USB-A 3.2 x 1, USB-C 3.2 x 1, HDMI x 1, SD Card Reader x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.2

Software Windows 11 Home, Microsoft Office Home & Student 2021
Weight 1.63 กิโลกรัม
Price 22,990 บาท ใช้โค้ด BNNDFMF10 ลดได้ 1,000 บาท (คลิ๊กสั่งซื้อได้ที่นี่)
4. Lenovo IdeaPad 3 15ABA7 (20,990 บาท)

Lenovo Notebook IdeaPad 3 15ABA7 82RN003CTA Arctic Grey 5 square medium

หากผู้ใช้คนไหนมองหาโน๊ตบุ๊คคุ้มค่า 2023 ซีพียู AMD Ryzen อยู่ ก็มี Lenovo IdeaPad 3 15ABA7 ให้เลือกซื้อ ซึ่งโน๊ตบุ๊คเครื่องนี้มีฟีเจอร์น่าใช้ติดตั้งมาให้ครบทั้งเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือ, Numpad และน้ำหนักเครื่องก็ไม่หนักเกินไป พกพาไปไหนมาไหนได้สะดวกอย่างแน่นอน

ซีพียูเป็น AMD Ryzen 5 5625U แบบ 6 คอร์ 12 เธรด ความเร็ว 2.3~4.3GHz ใช้การ์ดจอออนบอร์ด AMD Radeon Graphics กับหน้าจอขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS มี M.2 NVMe SSD ความจุ 512GB ติดตั้ง Windows 11 Home กับ Microsoft Office Home & Student 2021 มาให้ มีแรมออนบอร์ด 8GB DDR4 บัส 3200MHz มีพอร์ต USB 2.0 x 1, USB-A 3.2 x 1, USB-C 3.2 x 1, HDMI x 1, SD Card Reader x 1, Audio combo x 1 เชื่อมต่อ Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.2 ได้ในตัว น้ำหนักเพียง 1.63 กิโลกรัมเท่านั้น จัดเป็นโน๊ตบุ๊คคุ้มค่า 2023 เพื่อชาว AMD โดยเฉพาะอีกรุ่นหนึ่ง

สเปคของ Lenovo IdeaPad 3 15ABA7
CPU AMD Ryzen 5 5625U แบบ 6 คอร์ 12 เธรด ความเร็ว 2.3~4.3GHz
GPU AMD Radeon Graphics
SSD M.2 NVMe SSD 512GB
RAM ออนบอร์ด 8GB DDR4 บัส 3200MHz
Display 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS
Connectivity USB 2.0 x 1, USB-A 3.2 x 1, USB-C 3.2 x 1, HDMI x 1, SD Card Reader x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.2

Software Windows 11 Home, Microsoft Office Home & Student 2021
Weight 1.63 กิโลกรัม
Price 20,990 บาท ใช้โค้ด BNNDFMF20 ลดได้ 2,000 บาท (คลิ๊กสั่งซื้อได้ที่นี่)
5. Lenovo IdeaPad Gaming 3 15ACH6 (27,990 บาท)

Notebook IdeaPad Gaming 3 15ACH6 02 square medium

หากใครเป็นคอนเทนต์ครีเอเตอร์หรือเกมเมอร์ Lenovo IdeaPad Gaming 3 15ACH6 บอดี้เก่าตัวนี้ก็ยังน่าซื้อเพราะนอกจากไฟคีย์บอร์ด RGB แล้ว ยังเปิดฝาอัพเกรดเพิ่มแรมและ SSD ได้และดีไซน์ยังสวยดูดีเรียบง่ายเหมือนโน๊ตบุ๊คทำงานทั่วไป สามารถพกไปออฟฟิศได้โดยไม่เคอะเขินนัก ผู้สนใจสามารถอ่านรีวิวฉบับเต็มได้ที่นี่

รุ่นที่แนะนำติดตั้งซีพียู AMD Ryzen 5 5600H แบบ 6 คอร์ 12 เธรด ความเร็ว 3.3~4.2GHz การ์ดจอเป็น NVIDIA GeForce RTX 3050 Ti แรม 4GB GDDR6 หน้าจอขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 120Hz มี M.2 NVMe SSD ความจุ 512GB ติดตั้ง Windows 11 Home มีแรม 8GB DDR4 บัส 3200MHz พอร์ตเชื่อมต่อมี USB-A 3.2 x 2, USB-C 3.2 x 1, HDMI x 1, LAN x 1, Audio combo x 1 เชื่อมต่อ Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.0 ในตัว น้ำหนัก 2.25 กิโลกรัม จัดเป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คราคาคุ้มค่าและอัพเกรดเพียงอีกหน่อยก็ใช้งานได้ดีมากแล้ว

สเปคของ Lenovo IdeaPad Gaming 3 15ACH6
CPU AMD Ryzen 5 5600H แบบ 6 คอร์ 12 เธรด ความเร็ว 3.3~4.2GHz
GPU NVIDIA GeForce RTX 3050 Ti แรม 4GB GDDR6
SSD M.2 NVMe SSD 512GB
RAM 8GB DDR4 บัส 3200MHz
Display 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 120Hz
Connectivity USB-A 3.2 x 2, USB-C 3.2 x 1, HDMI x 1, LAN x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.0

Software Windows 11 Home
Weight 2.25 กิโลกรัม
Price 27,990 บาท ใช้โค้ด BNNDFMF30 ลดได้ 3,000 บาท (คลิ๊กสั่งซื้อได้ที่นี่)
6. Huawei MateBook D14 (22,990 บาท)

MateBook D14 RAM 16GB 03 square medium

Huawei MateBook D14 นี้ผู้เขียนก็นับเป็นโน๊ตบุ๊คราคาคุ้มค่า 2023 อีกเครื่องที่แม้จะเปิดตัวมานานแล้ว แต่ก็ยังน่าใช้เพราะพอร์ต USB-C รองรับ Power Delivery ใช้ชาร์จแบตเตอรี่ให้เครื่องได้และมีเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือติดตั้งมารวมกับปุ่ม Power ใช้ปลดล็อคเครื่องได้สะดวกและขนาดก็เล็กกะทัดรัดน้ำหนักเบา เหมาะกับคนที่ต้องพกโน๊ตบุ๊คไปไหนมาไหนเป็นประจำแน่นอน

ซีพียูเป็นรุ่น Intel Core i5-1135G7 แบบ 4 คอร์ 8 เธรด ความเร็ว 2.4~4.2GHz การ์ดจอออนบอร์ด Intel Iris Xe Graphics หน้าจอมีขนาด 14 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS มี M.2 NVMe SSD ความจุ 512GB  ติดตั้ง Windows 11 Home มาให้ แรมออนบอร์ด 8GB DDR4 บัส 3200MHz มีพอร์ต USB 2.0 x 1, USB-A 3.2 x 1, USB-C 3.2 x 1, HDMI x 1, Audio combo x 1 เชื่อมต่อ Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.1 น้ำหนักเครื่อง 1.38 กิโลกรัม ยิ่งถ้าใครใช้สมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตของ HUAWEI น่าจะชอบและใช้ฟีเจอร์ได้คุ้มอย่างแน่นอน 

สเปคของ Huawei MateBook D14
CPU Intel Core i5-1135G7 แบบ 4 คอร์ 8 เธรด ความเร็ว 2.4~4.2GHz
GPU Intel Iris Xe Graphics
SSD M.2 NVMe SSD 512GB
RAM ออนบอร์ด 8GB DDR4 บัส 3200MHz
Display 14 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS
Connectivity USB 2.0 x 1, USB-A 3.2 x 1, USB-C 3.2 x 1, HDMI x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.1

Software Windows 11 Home
Weight 1.38 กิโลกรัม
Price 22,990 บาท ใช้โค้ด BNNDFMF50 ลดได้ 5,000 บาท (คลิ๊กสั่งซื้อได้ที่นี่)
7. Acer Aspire 7 A715-42G-R4BX (22,990 บาท)

Aspire A715 42G R4BX 02 square medium

สุดท้ายคนทำงานตัดต่อคลิป Vlog และแต่งภาพอยากได้โน๊ตบุ๊คมีการ์ดจอแยก Acer Aspire 7 A715-42G-R4BX ที่ติดตั้งการ์ดจอแยก NVIDIA มาให้เครื่องนี้สามารถใช้งานได้สะดวกแน่นอนและยังเปิดเกมเล่นในเวลาพักผ่อนได้อีกด้วย เหมาะกับคนทำงานและนักเรียนนักศึกษามาก

ซีพียูเป็น AMD Ryzen 5 5500U แบบ 6 คอร์ 12 เธรด ความเร็ว 2.1~4.0GHz ใช้การ์ดจอแยก NVIDIA GeForce GTX 1650 แรม 4GB GDDR6 มีหน้าจอขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 144Hz ติดตั้งมาให้ใช้ มี M.2 NVMe SSD ความจุ 512GB พร้อม Windows 11 Home และแรม 8GB DDR4 บัส 3200MHz อัพเกรดเพิ่มความจุได้สบายๆ มีพอร์ต USB 2.0 x 1, USB-A 3.2 x 2, USB-C 3.2 x 1, HDMI x 1, LAN x 1, Audio combo x 1 เชื่อมต่อ Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.1 น้ำหนัก 2.15 กิโลกรัม เป็นโน๊ตบุ๊คคุ้มค่า 2023 ที่ทำงานได้เล่นเกมก็ดีอีกรุ่นที่ยังน่าซื้ออยู่แถมยังมีโค้ดส่วนลดให้ใช้งานอีกด้วย จัดว่าน่าสนใจมาก

สเปคของ Acer Aspire 7 A715-42G-R4BX
CPU AMD Ryzen 5 5500U แบบ 6 คอร์ 12 เธรด ความเร็ว 2.1~4.0GHz
GPU NVIDIA GeForce GTX 1650 แรม 4GB GDDR6
SSD M.2 NVMe SSD 512GB
RAM 8GB DDR4 บัส 3200MHz
Display 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 144Hz
Connectivity USB 2.0 x 1, USB-A 3.2 x 2, USB-C 3.2 x 1, HDMI x 1, LAN x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.1

Software Windows 11 Home
Weight 2.15 กิโลกรัม
Price 22,990 บาท ใช้โค้ด BNNDFMF20 ลดได้ 2,000 บาท (คลิ๊กสั่งซื้อได้ที่นี่)

sincerely media ylveRpZ8L1s unsplash 1

ถ้าใครหาโน๊ตบุ๊คคุ้มค่า 2023 เอาไว้ใช้งานสักเครื่อง ณ ตอนนี้ทางร้านค้าชั้นนำหลายเจ้าทำโปรโมชั่นลดราคาและให้ของแถมอีกมากมาย หากใครอยากเปลี่ยนโน๊ตบุ๊คเครื่องเก่าที่อัพเกรดเป็น Windows 11 ไม่ได้หรือเริ่มทำงานได้อืดมากแล้ว ก็ถือเป็นโอกาสที่ดี แค่เลือกรุ่นที่ตอบโจทย์แล้วเอาเงินส่วนต่างไปซื้ออุปกรณ์เสริมอย่างเมาส์คีย์บอร์ดที่ต้องการมาใช้งานได้เลย


บทความที่เกี่ยวข้อง

Acer Aspire 3 1

รีวิว Lenova IdeaPad 1 1

NBS 230130 FB Link Review Zenbook 14 OLED 1

from:https://notebookspec.com/web/688100-7-budget-laptop-worth-buying-2023

จอพับได้! โน๊ตบุ๊ค 2-in-1 ราคาถูก 7 รุ่น เบา จอสัมผัส เริ่มแค่หมื่นกว่า ได้ทั้งโน๊ตบุ๊คและแท็ปเล็ต ปี 2023

จอพับได้ โน๊ตบุ๊ค Convertible 7 รุ่น สุดประหยัด 2023 เป็นโน๊ตบุ๊คและแท็ปเล็ตได้ในตัว สะดวกเวอร์

จอพับ

วันนี้เรารวบรวมโน๊ตบุ๊คในแบบ 2-in-1 หรือ Convertible Notebook ที่จอพับได้ ราคาประหยัดมาฝากกัน 7 รุ่น สำหรับผู้ใช้ที่ต้องการโน๊ตบุ๊ค ที่มีความหลากหลาย รองรับการใช้งานได้หลายอย่าง ด้วยความสามารถในการพับจอ 360 องศาหรือแบบถอดจอได้นี้ ช่วยอำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวันได้ดี ไม่ว่าจะเป็นโน๊ตบุ๊คโหมดทำงานทั่วไป โหมดแท็ปเล็ต ด้วยการทัชสกรีน และรองรับ Digital Pen ก็เหมาะอย่างยิ่งกับแอพพลิเคชั่นในเวลานี้ และยังจับถือได้สะดวกขึ้น รวมถึงโหมดอื่นๆ เช่น Tent/ Stand mode ที่ใช้กับความบันเทิง ดูหนัง เล่นเกม และในปัจจุบันได้ดีทีเดียว ใครที่กำลังมองหาโน๊ตบุ๊คจอพับ จอสัมผัสราคาเบาๆ ติดตามกันได้เลยครับ

จอพับ! โน๊ตบุ๊ค Convertible 7 รุ่น ราคาถูก 2023

  1. เลือกโน๊ตบุ๊ค Convertible อย่างไร?
  2. ASUS Vivobook Go 14 Flip
  3. Lenovo DUET 3 10
  4. Lenovo Flex5 14
  5. Microsoft Surface GO 3
  6. ASUS Vivobook S 14 Flip
  7. ASUS ExpertBook B3 Flip
  8. HP Pavilion X360 14

เลือกโน๊ตบุ๊ค Convertible อย่างไร?

พับจอหรือถอดจอได้?: เรื่องนี้อยู่ที่ผู้ใช้เองจะเลือกแบบใด ถอดจอได้ข้อดีคือ พกพาสะดวก ประหยัดพลังงาน และบอดี้ง่ายต่อการจับถือ ส่วนพับจอได้ ทำให้การจัดวางในแบบต่างๆ ง่ายขึ้น แบตเยอะขึ้น แต่ก็ทำให้การจับถือในโหมดแท็ปเล็ตดูเทอะทะพอสมควร ซึ่งถ้ามองที่การพกพาเป็นหลัก แยกจอได้อาจจะสะดวก แต่ถ้าทำงานด้วย วางบนโต๊ะเป็นส่วนใหญ่ จอพับได้น่าจะเป็นคำตอบ

Advertisementavw
ASUS ExpertBook B5 Flip 6

สเปค: ถ้าคุณให้ความสำคัญกับการทำงาน มากกว่าฟังก์ชั่นอื่นใด ทำงานบนโต๊ะ หรือเน้นการอยู่กับที่ มีสายชาร์จ จะเลือกแบบที่ซีพียูแรง แรมเยอะ ก็ได้ เพราะทำให้งานคุณเสร็จได้ไวขึ้น ตัวอย่างเช่น ซีพียู Intel Core i family รุ่นใหม่หรือเป็น AMD Ryzen ก็น่าสนใจ แต่ในทางกลับกัน คุณใช้แค่พรีวิวภาพ ตรวจเช็คงาน ท่องอินเทอร์เน็ต หรือเทรดหุ้น สเปคพื้นฐาน ไม่ได้เปิดงานเยอะ ซีพียูรุ่นประหยัด แรม 8GB และมี SSD 256GB ก็เพียงพอ อยากเก็บข้อมูลหรือทำงาน ก็ใช้ระบบ Cloud มาเสริม ทำให้ประหยัดค่าใช้จ่าย และประหยัดไฟมากขึ้นอีกด้วย

จอแสดงผล: จอที่เราเลือกมานั้น ส่วนใหญ่จะเป็น Full-HD แต่มีหน้าจอหลายขนาด เริ่มตั้งแต่ 10.5″ ไปจนถึง 14″ โดยความละเอียดเป็นแบบ Full-HD ซึ่งถือว่าเหมาะกับการใช้งานในชีวิตประจำวันได้ดี แต่อาจจะต้องคำนึงถึงการใช้งานจริง เพราะพื้นที่การมองเห็นต่างกัน จอเล็กก็สะดวกต่อการพกพา นำไปใช้งานในโอกาสต่างๆ ได้ง่าย แต่เรื่องพื้นที่ใช้งานอาจมีน้อยกว่า ส่วนจอ 14″ มองเห็นได้ชัด เพราะเป็นขนาดพื้นฐานที่ใช้กันอยู่ทั่วไป แต่ก็ต้องแลกมาด้วยการจับถือที่ยาก อาจจะสะดวกต่อการวางบนโต๊ะเป็นส่วนใหญ่ อีกทั้งมีผลต่อการใช้แบตเตอรี่ที่มากขึ้นอีกด้วย

Expertbook B3 DSC00221

ความถนัดมือ: เป็นสิ่งสำคัญมากๆ หากคุณจะต้องใช้งานอยู่ด้วยทั้งวัน หากคุณจะต้องพกโน๊ตบุ๊คพับจอได้ขนาดใหญ่ เดินเข้าไปในไซต์งาน นอกสถานที่บ่อยๆ อาจไม่สะดวกเท่ากับการถือแค่จอไปเพียงอย่างเดียว เลือกใช้การทัชสกรีนที่คล่องตัวกว่า แต่ถ้างานที่คุณต้องทำ ยังอยู่กับการพิมพ์เป็นหลัก และอยู่กับในสำนักงาน อยู่ในบ้าน ปรับโหมดทำงานได้ง่าย และต้องการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ที่หลากหลายตลอดเวลา การเป็นโน๊ตบุ๊คพับจอได้น่าจะถนัดมือมากที่สุด


1.ASUS Vivobook Go 14 Flip

จอพับ

เป็นโน๊ตบุ๊คจอพับได้ในแบบ 2-in-1 จาก ASUS ใช้สำหรับการเริ่มต้นการเรียนรู้ ในชีวิตประจำ เช่น การเทรดหุ้น ดูหนัง พิมพ์เอกสาร แม้กระทั่งการแต่งภาพแบบเบาๆ ดีไซน์ที่ดูเรียบง่าย น้ำหนักแค่ 1.6Kg จอ 14″ Full-HD คมชัด พับจอได้ 360 องศา เป็นได้ทั้งโน๊ตบุ๊คและแท็ปเล็ต และเป็นจอสัมผัส รองรับ ASUS Pen ให้อารมณ์ในการทำงานได้มากกว่าการแตะพิมพ์ทั่วไป มีคีย์บอร์ดที่มีไฟ Backlit มาให้ และพอร์ตมาแบบจัดเต็ม เช่น USB-C 3.2 ต่อจอใหญ่ผ่าน HDMI ได้อีกด้วย ติดอยู่เล็กน้อย ตรงมี SSD 256GB และน่าจะเพิ่มแบตมาให้ใหญ่อีกหน่อย แต่ถ้าคุณใช้ Cloud storage และใช้งานแบบเปิดๆ ปิดๆ ที่ให้มานี้ ก็ใช้ได้เกินครึ่งวันแล้วครับ เคาะราคาที่ 13,900 บาท

จุดเด่น ข้อสังเกต
พับจอได้หลายโหมด ค่อนข้างหนาเมื่อใชโหมดแท็บเล็ต
คีย์บอร์ดแสงไฟ Backlit

รายละเอียดเพิ่มเติม: ASUS


2.Lenovo DUET 3 10

จอพับ

เป็นอีกหนึ่งโน๊ตบุ๊ค 2-in-1 จอพับได้ ที่มาได้แบบครบเครื่อง บางเบา พกพาสะดวก ใครที่ชอบความกระทัดรัดแนะนำเลย DUET 3 เพราะมาในแบบ Detachable หรือถอดจอแยกกับคีย์บอร์ดได้ และเป็นแบบจอสัมผัส รองรับ Digital Pen หรือปากกาใช้จด วาดได้ง่ายขึ้น บนหน้าจอขนาด 10.3″ เหมาะทั้งใช้เรียน และการออกไซต์งาน ปรับพับให้ใช้งานได้หลากหลาย ความละเอียด Full-HD พร้อมแรม 8GB รวมถึงมี Windows 10 มาในตัว ระบบเสียง DOLBY เพิ่มอรรถรสด้านความบันเทิงได้เต็มอิ่ม มี WiFi/ Bluetooth มาในตัว แต่เรื่องขุมพลัง อาจจะเหมาะกับใช้งานเบื้องต้น รีวิวภาพ เล่นวีดีโอ ซึ่งไม่เหมาะกับงานหนักมาก และพอร์ตที่ให้มาไม่เยอะมากนัก ด้วยข้อจำกัดของบอดี้ ราคาอยู่ที่ 20,490 บาท

จุดเด่น ข้อสังเกต
เบาเบา กระทัดรัด พอร์ตมีให้ไม่เยอะมาก
ถอดจอออกได้

รายละเอียดเพิ่มเติม: Lenovo


3.Lenovo Flex5 14

จอพับ

ใครที่อยากได้โน๊ตบุ๊ค Convertible พับจอได้ ฟิลลิ่งคล้ายๆ กับแท็ปเล็ต แต่ได้สเปคดี กดคีย์บอร์ดสนุก หน้าจอ 14″ Full-HD กว้างๆ Lenovo Flex5 อาจจะเป็นคำตอบ แม้จะไม่กระทัดรัดมาก เมื่อเทียบกับบางรุ่นในครั้งนี้ แต่ให้สเปคระดับ Core i3 Gen12 พร้อมแรม 8GB ความเร็วสูง และ SSD 512GB แบบคุ้มๆ หาตัวเทียบยากในราคาประมาณ 2 หมื่นบาทนี้ จอทัชสกรีน รองรับ Digital Pen ในการจดและวาดภาพ คีย์บอร์ดนุ่มๆ มีแสงไฟ Backlit สว่างชัด เว็บแคมชัดมาก 1080p พอร์ตเป็นตัวเด่น เพราะมี Thunderbolt4 มาด้วย ชาร์จเร็ว ต่อจอได้ โอนถ่ายข้อมูลไว รวมถึงให้แบตมาใช้เกินครึ่งวันข้างนอก เพิ่มความปลอดภัยด้วยสแกนลายนิ้วมือ ข้อสังเกตคือ เมื่อพับเป็นแท็ปเล็ตจะดูค่อนข้างหนา แต่ก็ทดแทนด้วยวัสดุที่ดี และน้ำหนักเบา ราคาประมาณ 22,900 บาท แต่หน้าร้านออนไลน์ ไม่ถึง 2 หมื่น

จุดเด่น ข้อสังเกต
ขอบจอบาง สเปคดี เมื่อพับแล้วค่อนข้างหนา
พอร์ตมีให้เยอะ

รายละเอียดเพิ่มเติม: Lenovo


4.Microsoft Surface GO 3

จอพับ

เป็นโน๊ตบุ๊ค 2-in-1 ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวจากทาง Microsoft จอพับได้ เพราะถ้าในสายของความบางเบา กระทัดรัด ตอบสนองได้ดี Surface Go ก็จัดว่าน่าสนใจ ในราคาประมาณ 2 หมื่นต้นๆ กับการเป็น Detachable ที่ถอดคีย์บอร์ดได้ แต่ก่อนหน้านี้มักจะเห็นว่า มาแค่ตัวจอ ไม่มีคีย์บอร์ด แต่หลายร้านเวลานี้ บันเดิลคีย์บอร์ดให้พร้อมใช้ ดูน่าสนใจขึ้นมาอีกเยอะ กับขุมพลังอย่าง Core i3 ได้แรม 8GB จอไซส์แค่ 10.5″ แต่ได้แบบ Full-HD รองรับทัชสกรีน รวมถึง Surface Pen วาดเขียนได้แบบเนียนๆ ด้วยความที่แยกคีย์บอร์ด ก็ทำให้เหมือนใช้แท็ปเล็ตเลย จับถนัดมือ ไม่เหมือนแบบพับ 360 องศา ซึ่งสิ่งที่ได้มาคือ ความเบาน้อยกว่า 1Kg รวมถึงแบตที่ใช้ได้นานขึ้น มี Windows ในตัวพร้อมใช้กับราคาประมาณ 22,990 บาทเท่านั้น

จุดเด่น ข้อสังเกต
ถอดจอแยกคีย์บอร์ดได้ ราคาค่อนข้างสูง
ให้สัมผัสที่ดีเมื่อใช้กับ Surface Pen

รายละเอียดเพิ่มเติม: Microsoft


5.ASUS Vivobook S 14 Flip

จอพับ

ถ้าจะพูดถึงโน๊ตบุ๊ค Convertible สายบางเบา เชื่อว่า Vivobook เป็นอีกชื่อหนึ่งที่หลายคนใช้งานอยู่ และสำหรับ Flip นี้ จัดเป็นโน๊ตบุ๊ค 2-in-1 ที่มีฟังก์ชั่นแบบจัดเต็มให้ใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นจอ 14″ IPS Full-HD พื้นที่กว้าง รองรับทัชสกรีน และใช้ร่วมกับ ASUS Pen ได้ จะวาดเขียน จดก็ง่าย ความแรงไม่เป็นรองใคร ด้วยขุมพลัง AMD Ryzen 5 5600H ตัวแรง กับแรม 8GB ที่อัพเกรดเพิ่มได้อีกด้วย พอร์ตให้มาแน่นๆ โดยเฉพาะ USB 3.2 Type-C ชาร์จ โอนถ่ายรวดเร็ว ได้กล้อง Full-HD และระบบเสียงจัดจ้าน พับจอได้ 360 องศา คีย์บอร์ดปุ่มใหญ่ กดสะดวก มีไฟ Backlit ในตัว คู่มากับทัชสกรีนที่มีลูกเล่นในตัว ดูจะเป็นตัวจบครบเครื่องได้ ข้อสังเกตคือ เมื่อพับเป็นแท็ปเล็ตอาจไม่แนบดีนัก จากส่วนเว้าส่วนโค้ง รวมถึงพลังจากซีพียูที่แรง อาจจะมีผลต่อระยะการใช้งานแบตได้เช่นกัน เคาะราคาอยู่ที่ราว 25,990 บาท ก็น่าสนใจไม่น้อยเลย

จุดเด่น ข้อสังเกต
จอภาพให้สีสันสดใส บานพับแข็งแรง
ซีพียูประสิทธิภาพสูง

รายละเอียดเพิ่มเติม: ASUS


6.ASUS ExpertBook B3 Flip

จอพับ

ในซีรีส์ของ ExpertBook จาก ASUS นั้น ต้องถือว่าแยกออกมาได้หลายรุ่น และ B3 Flip จะโดดเด่น นอกเหนือจากความเพรียวบาง และทนทาน แต่ให้การพับหน้าจอ 360 องศา และยังเป็นพาแนลแบบ OLED สีสันสดใส เอาใจคนทำงาน และสายบันเทิง รองรับการทัชสกรีน และใช้ร่วมกับ ASUS Pen ในการวาดเขียนหน้าจอ ที่มีให้ในตัว เป็นจอ 14″ ความละเอียด Full-HD แต่ที่โดดเด่นอยู่ที่พอร์ตมี Thunderbolt4 มาให้ และต่อ LAN RJ-45 ได้ในตัว แต่นั่นก็ทำให้บอดี้หนาขึ้นเล็กน้อย จุดแข็งมองว่าบานพับ ASUS ทำออกมาได้แน่นทีเดียว ชาร์จไฟได้ไว มีกล้อง 2 ตัว ทัชแพดยังใส่เป็น NumberPad มาอีกด้วย สเปคอาจจะเบาไปบ้าง ถ้าเทียบกับ Vivobook ในครั้งนี้ เพราะได้เป็น i3 แรม 4GB แต่ในราคาเดียวกันนี้ มีรุ่นที่เป็น AMD Ryzen 5 แรม 8GB ได้แบตใหญ่ขึ้น แต่ไม่มี Thunderbolt 4 ให้เลือกด้วยนะ แล้วแต่ความชื่นชอบของแต่ละบุคคล ราคา 26,900 บาท

จุดเด่น ข้อสังเกต
เน้นผู้ใช้ที่ชอบบางเบา แข็งแรง มีแรมให้ 4GB
มี Thunderbolt 4

รายละเอียดเพิ่มเติม: ASUS


7.HP Pavilion X360 14

จอพับ

มาถึงโน๊ตบุ๊ค Convertible จอพับได้จาก HP รุ่นโปรดของผู้ที่ชอบความพรีเมียมกันบ้าง แม้ว่าราคาจะเกินงบไปสักหน่อย แต่ถ้าดูจากดีไซน์เพรียวบาง สีเมทัลลิคมี Texture ที่เป็นเอกลักษณ์ และพับได้ 360 องศา หน้าจอ 14″ Full-HD ในแบบทัชสกรีน ที่คมชัดมุมมองกว้าง เพราะเป็นแบบ IPS ขอบจอบางสุดๆ รองรับ Digital Pen ให้คุณวาดเขียนได้ตามจินตนาการ ขุมพลัง Intel Gen12 รุ่นใหม่และได้แรม 16GB ความแรงที่ตอบโจทย์ได้ดี ไม่ว่าจะเป็น การดูหนัง แต่งภาพ ทำเอกสาร หรือการเทรดหุ้นไปพร้อมกัน มีระบบสแกนลายนิ้วมือมาให้ และพอร์ตที่มีให้ครบครัน แบตใช้ได้นาน 10 ชั่วโมง มี Windows 11 พร้อมใช้ อยากได้ตัวจบ งบไม่บาน ใช้งานง่าย HP รุ่นนี้ 28,000 บาทเท่านั้น

จุดเด่น ข้อสังเกต
วัสดุสวย สเปคดี
รองรับสแกนลายนิ้วมือ

รายละเอียดเพิ่มเติม: HP


Conclusion

Display Detachable/Flip CPU RAM Storage Graphic Weight Price
1.ASUS Vivobook Go 14 Flip 14″ FHD Flip Intel Pentium N6000 4GB 256GB Intel UHD 1.5Kg 13,900
2.Lenovo DUET 3 10.3″ FHD Detachable Intel Celeron N4020 8GB 128GB Intel UHD 0.6Kg 20,490
3.Lenovo Flex5 14 14″ FHD Flip Intel Core i3-1215U 8GB 512GB Intel Iris Xe 1.5Kg 22,900
4.Microsoft SURFACE GO 3 10.5″ 1280p Detachable Intel Core i3-10100Y 8GB 128GB Intel UHD 0.64Kg 22,990
5.ASUS Vivobook S 14 Flip 14″ FHD Flip AMD Ryzen 5 5600H 4GB 256GB Radeon Graphic 1.5Kg 25,990
6.ASUS ExpertBook B3 Flip 14″ FHD Flip Intel Core i3-1115G4 4GB 256GB Intel UHD 1.61Kg 26,990
7.HP Pavilion X360 14 14″ FHD Flip Intel Core i5-1235U 16GB 512GB Intel Iris Xe 1.51Kg 28,000

สุดท้ายนี้จะเห็นได้ว่าโน๊ตบุ๊คกลุ่มนี้มีให้เลือก 2 แบบคือ กลุ่มที่เป็นแบบแยกจอกับคีย์บอร์ด (Detachable) และพับจอได้ (Flip) ทั้งสองแบบมีความโดดเด่นต่างกันออกไป ซึ่งจุดหนึ่งที่เห็นได้ชัดคือ บอดี้และน้ำหนัก ถ้าเน้นคล่องตัวแบบที่ถอดจอออกได้สะดวกกว่า เบากว่า แต่แบบ Flip จะค่อนข้างหนาและหนักขึ้น เมื่อถือนานๆ อาจจะเมื่อยได้ รวมถึงอาจมีผลต่อการใช้พลังงาน และการจับถือ แต่ลูกเล่นของ Flip ก็มีพลัง ปรับได้หลากหลาย ใช้งานได้หลายประเภท โดยเฉพาะเมื่อตั้งอยู่บนโต๊ะ คุณให้ความสำคัญส่วนไหนมากสุด ก็เลือกตามสไตล์ที่ใช้งาน ส่วนเรื่องสเปคแรม 4GB อาจจะพอใช้ แต่ถ้าใช้งานหนักมาก เลือกที่ 8GB ขึ้นไป บางรุ่นอาจจะเพิ่มเติมในภายหลังไม่ได้ ต้องประเมินการทำงานเผื่อเอาไว้ด้วย และสุดท้ายราคาที่เหมาะสม ในแต่ละรุ่นสเปคต่างกัน แต่ก็เหมือนจะเป็นตัวกำหนดราคาไปด้วย เน้นความแรง ลูกเล่นดี ฟีเจอร์และพอร์ตเยอะ ราคาก็สูงขึ้นตามลำดับ ถ้างานที่ใช้อยู่ เน้นแค่การพรีวิวหรือท่องเน็ต ไม่ต้องแรงมาก ราคาสบายกระเป๋า ก็ตอบโจทย์ได้แล้วครับ

from:https://notebookspec.com/web/686619-convertible-20-in-1-notebook-2023

7 โน๊ตบุ๊ค Microsoft Surface พร้อมของแถมจาก BaNANA อยากเปลี่ยนคอมใหม่ต้องดูทางนี้!!

โน๊ตบุ๊ค Microsoft Surface วันนี้ BaNANA มีของแถมแจ่มๆ ให้นะ!

7 โน๊ตบุ๊ค Microsoft Surface 1

 

Advertisementavw

โน๊ตบุ๊ค Microsoft Surface จากบริษัทผู้ผลิตระบบปฏิบัติการ Windows ที่ครองส่วนแบ่งตลาดระบบปฏิบัติการทั่วโลกกว่า 75.44% ในปี 2022 จากการสำรวจตลาดของเว็บไซต์ Statcounter ซึ่งรูปลักษณ์ของคอมพิวเตอร์ตระกูลนี้ถูกออกแบบเป็นแท็บเล็ตและโน๊ตบุ๊คให้เลือกซื้อไปใช้กัน ถ้าใครอยากได้รุ่นพกพาสะดวกดีไซน์เครื่องเป็นแท็บเล็ตก็มีรุ่นเริ่มพกพาสะดวกอย่าง Surface Go ให้ผู้ใช้หยิบใส่กระเป๋าไปไหนมาไหนก็ได้ ถัดมาเป็น Surface Pro ซึ่งมีขนาดและแบตเตอรี่ใหญ่ขึ้น ใช้ทำงานได้สบายๆ และรุ่นที่เป็นแท็บเล็ตสามารถกางขาตั้งตัวเครื่องเพื่อปรับมุมองศาการมองเห็นได้ด้วย ถ้าใครรูปลักษณ์โน๊ตบุ๊คตามปกติก็มี Surface Laptop ให้เลือกและใช้วัสดุประกอบตัวเครื่องเป็นแมซ็กนีเซียมอัลลอยด์กับผ้า Alcantara เสริมความหรูหรายิ่งขึ้น ปิดท้ายด้วยสเปคสูงสุดเพื่อครีเอเตอร์อย่าง Surface Laptop Studio ก็มีให้เลือกเช่นกัน

จุดเด่นร่วมของโน๊ตบุ๊ค Microsoft Surface นั้น หลักๆ ได้แก่ ระบบยืนยันตัวตนแบบไบโอเมทริค ทั้งแบบสแกนนิ้วหรือใบหน้าด้วยกล้องอินฟาเรดเพื่อยืนยันตัวตนปลดล็อคเครื่อง, หน้าจอทัชสกรีนอัตราส่วน 3:2 ขนาดตั้งแต่ 10.5~15 นิ้ว ซึ่งเป็นอัตราส่วนสำหรับการทำงานโดยเฉพาะและตัวเครื่องน้ำหนักเบา เริ่มต้นตั้งแต่ช่วง 500 กรัมจนถึง 1.25 กก. จึงพกไปไหนมาไหนได้สะดวกขึ้น และผู้เขียนเชื่อว่าถ้าใครได้ลองใช้โน๊ตบุ๊ค Microsoft Surface ดูสักครั้ง เชื่อว่าจะถูกใจอย่างแน่นอน

โน๊ตบุ๊ค Microsoft Surface

สรุปสเปคโน๊ตบุ๊ค Microsoft Surface 7 รุ่นน่าใช้ ซื้อเอาไว้ทำงานดีถูกใจแน่นอน

สรุปสเปคโน๊ตบุ๊ค Microsoft Surface CPU

GPU

SSD

RAM

Software

Display

Weight

Camera

Connectivity ราคา
(บาท)
Microsoft Surface Go 3 Intel Core
i3-10100Y

Intel UHD Graphics

M.2 NVMe
128GB

8GB LPDDR3
1866MHz

Windows 11 Home

PixelSense
10.5″ FHD IPS

544 กรัม

กล้องหน้า
5 ล้านพิกเซล

กล้องหลัง
8 ล้านพิกเซล

USB-C x 1

microSDXC Card Reader x 1

Surface Connect x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6

Bluetooth 5.0

24,390
Microsoft Surface Pro 7+ Intel Core
i3-11135G4

Intel Iris Xe Graphics

M.2 NVMe
128GB

8GB LPDDR4x
3733MHz

Windows 11 Home

PixelSense
12.3″ 
(2736×1824)
IPS

770 กรัม

กล้องหน้า
5 ล้านพิกเซล

กล้องหลัง
8 ล้านพิกเซล

USB-C x 1

USB-A x 1

Surface Connect x 1

microSDXC Card Reader x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6

Bluetooth 5.0

29,900
Microsoft Sufrace Pro 8 Intel Core
i5-1135G7

Intel Iris Xe Graphics

M.2 NVMe
128GB

8GB LPDDR4x
3200MHz

Windows 11 Home

PixelSense
13″ 
(2880×1920)
IPS

Refresh Rate 120Hz

Dolby Vision

891 กรัม

กล้องหน้า
5 ล้านพิกเซล

กล้องหลัง
10 ล้านพิกเซล

Thunderbolt 4 x 2

Surface Connect x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6

Bluetooth 5.1

36,900
Microsoft Surface Pro 9 Intel Core
i5-1235U

Intel Iris Xe Graphics

M.2 NVMe
256GB

8GB LPDDR5
5200MHz

Windows 11 Home

PixelSense
13″ 
(2880×1920)
IPS

Dolby Vision IQ

879 กรัม

กล้องหน้า
1080p

กล้องหลัง
10 ล้านพิกเซล

Thunderbolt 4 x 2

microSDXC Card Reader x 1

Surface Connect x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6

Bluetooth 5.1

42,900
Microsoft Surface Laptop Go 2 Intel Core
i5-1135G7

Intel Iris Xe Graphics

M.2 NVMe
256GB

8GB LPDDR4x
4267MHz

Windows 11 Home

PixelSense
12.4″ 
(1536×1024)
IPS

1.1 กิโลกรัม

USB-C x 1

USB-A x 1

Surface Connect x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6

Bluetooth 5.1

29,900
Microsoft Surface Laptop 5 Intel Core
i5-1235U

Intel Iris Xe Graphics

M.2 NVMe
256GB

8GB LPDDR5
5200MHz

Windows 11 Home

PixelSense
13.5″ 
(2256×1504)
IPS

1.2 กิโลกรัม

Thunderbolt 4 x 1

USB-A 3.1 x 1

Surface Connect x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6

Bluetooth 5.1

40,900
Microsoft Surface Laptop Studio Intel Core
i5-11300H

Intel Iris Xe Graphics

M.2 NVMe
512GB

16GB LPDDR4x
3200MHz

Windows 11 Home

PixelSense
14.4″ 
(2400×1600)
IPS

Refresh Rate 120Hz

Dolby Vision

1.7 กิโลกรัม

Thunderbolt 4 x 2

Surface Connect x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6

Bluetooth 5.1

59,790

7 โน๊ตบุ๊ค Microsoft Surface รวมรุ่นเด็ดน่าซื้อมาแนะนำพร้อมโปรฯ ดีๆ จาก BaNANA

Cover Microsoft Surface love deal 060223 130223 category banner medium 1

หากผู้ใช้คนไหนอยากเปลี่ยนคอมเครื่องเก่าเป็นโน๊ตบุ๊ค Microsoft Surface ล่ะก็ ทาง BaNANA ได้จัดแคมเปญ Surface Love Deal เมื่อซื้อ Microsoft Surface จะได้ของแถมตามรุ่นที่ร่วมรายการ ได้แก่ Microsoft TypeCover, กระเป๋าโน๊ตบุ๊ครวมถึง Microsoft 365 ไปใช้งานอีกด้วย โดยโน๊ตบุ๊ค Microsoft Surface ที่ผู้เขีนแนะนำจะมี 7 รุ่น ดังนี้

  1. Microsoft Surface Go 3 (24,390 บาท)
  2. Microsoft Surface Pro 7+ (29,900 บาท)
  3. Microsoft Sufrace Pro 8 (36,900 บาท)
  4. Microsoft Surface Pro 9 (42,900 บาท)
  5. Microsoft Surface Laptop Go 2 (29,900 บาท)
  6. Microsoft Surface Laptop 5 (40,900 บาท)
  7. Microsoft Surface Laptop Studio (59,790 บาท)
1. Microsoft Surface Go 3 (24,390 บาท)

1 2

โน๊ตบุ๊ค Microsoft Surface รุ่นแรกนี้ ขอแนะนำเป็น Microsoft Surface Go 3 ราคาประหยัดแต่สเปคดี ใช้ทำงานหรือเรียนออนไลน์ได้สบายๆ เมื่อซื้อในแคมเปญนี้จะได้รับ TypeCover และปากกา Surface Pen ไว้ใช้ทำงานด้วย ส่วนฟีเจอร์เด่น ได้แก่ ฟีเจอร์สแกนใบหน้าปลดล็อคเครื่องด้วยกล้อง IR Camera รองรับการชาร์จเร็วและใช้งานได้นาน 11 ชั่วโมง ปิดด้วยกระจก Gorilla Glass 3 เพื่อความแข็งแรงทนทานยิ่งขึ้น

ซีพียูในเครื่องติดตั้ง Intel Core i3-10100Y แบบ 2 คอร์ 4 เธรด ความเร็ว 1.3~3.9GHz ใช้การ์ดจอออนบอร์ด Intel UHD Graphics สำหรับทำงานและแสดงผลขึ้นจอทัชสกรีน PixelSense ขนาด 10.5 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ได้เป็นอย่างดี มี M.2 NVMe SSD ความจุ 128GB ติดตั้ง Windows 11 Home กับแรมอีก 8GB LPPDDR3 บัส 1866MHz มาให้ มีพอร์ต USB-C x 1, microSDXC Card Reader x 1, Surface Connect สำหรับต่ออแดปเตอร์เฉพาะของเครื่อง x 1, Audio combo x 1 เชื่อมต่อไร้สายด้วย Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.0 น้ำหนักเพียง 544 กรัมเท่านั้น มีกล้องหน้าความละเอียด 5 ล้าน และกล้องหลัง 8 ล้านพิกเซลติดตั้งมาให้ใช้ด้วย หากใครอยากลองเริ่มใช้โน๊ตบุ๊ค Microsoft Surface ราคาไม่แพงสักเครื่องก็เริ่มกับ Surface Go 3 ก่อนได้เลย

สเปคของ Microsoft Surface Go 3
CPU Intel Core i3-10100Y แบบ 2 คอร์ 4 เธรด ความเร็ว 1.3~3.9GHz
GPU Intel UHD Graphics
SSD M.2 NVMe SSD 128GB
RAM 8GB LPDDR3 บัส 1866MHz
Display จอทัชสกรีน PixelSense ขนาด 10.5 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS มีกล้อง IR Camera สแกนหน้าปลดล็อคเครื่อง
Connectivity USB-C x 1, microSDXC Card Reader x 1, Surface Connect x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.0

กล้องหน้าความละเอียด 5 ล้าน และกล้องหลัง 8 ล้านพิกเซล

Software Windows 11 Home
Weight 544 กรัม
Price 24,390 บาท แถม TypeCover และปากกา Surface Pen (คลิ๊กสั่งซื้อได้ที่นี่)
2. Microsoft Surface Pro 7+ (29,900 บาท)

2 2

ถัดมาเป็นโน๊ตบุ๊ค Microsoft Surface Pro 7+ ซึ่งร่วมแคมเปญแถม TypeCover และปากกา Surface Pen อีกด้ามเอาไว้ใช้งานด้วย โดย Surface Pro 7+ เป็นรุ่นอัพเกรดมาใช้ Intel 11th Gen แล้ว และใช้งานต่อเนื่องได้นานสุด 15 ชั่วโมง หน้าจอใหญ่พร้อมกล้อง IR Camera สแกนหน้าปลดล็อคเครื่องได้แถมน้ำหนักยังเบาพกพาง่ายอีกด้วย

สเปครุ่นที่เลือกมาแนะนำใช้ซีพียู Intel Core i3-11135G4 แบบ 2 คอร์ 4 เธรด ความเร็ว 3.0~4.1GHz ใช้การ์ดจอออนบอร์ด Intel Iris Xe Graphics ได้หน้าจอทัชสกรีน PixelSense ขนาด 12.3 นิ้ว ความละเอียด 2736×1824 พิกเซล พาเนล IPS ติดตั้ง M.2 NVMe SSD ความจุ 128GB กับ Windows 11 Home และแรมออนบอร์ด 8GB LPDDR4x บัส 3733MHz มีพอร์ต USB-C x 1, USB-A x 1, Surface Connect x 1, microSDXC Card Reader x 1, Audio combo x 1 เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตด้ว Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.0 มีกล้องหน้า 5 ล้าน และกล้องหลังความละเอียด 8 ล้านพิกเซลติดตั้งมาให้ น้ำหนัก 770 กรัมเท่านั้น ถ้าใครต้องการโน๊ตบุ๊ค Microsoft Surface สเปคดีน้ำหนักไม่มาก พกพาสะดวกน่าใช้ก็ขยับงบประมาณสักนิดมาซื้อรุ่นนี้ได้เลย

สเปคของ Microsoft Surface Pro 7+
CPU Intel Core i3-11135G4 แบบ 2 คอร์ 4 เธรด ความเร็ว 3.0~4.1GHz
GPU Intel Iris Xe Graphics
SSD M.2 NVMe SSD 128GB
RAM 8GB LPDDR4x บัส 3733MHz
Display จอทัชสกรีน PixelSense ขนาด 12.3 นิ้ว ความละเอียด 2736×1824 พิกเซล พาเนล IPS
Connectivity USB-C x 1, USB-A x 1, Surface Connect x 1, microSDXC Card Reader x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.0

กล้องหน้า 5 ล้าน และกล้องหลังความละเอียด 8 ล้านพิกเซล

Software Windows 11 Home
Weight 770 กรัม
Price 29,990 บาท แถม TypeCover และปากกา Surface Pen (คลิ๊กสั่งซื้อได้ที่นี่)
3. Microsoft Sufrace Pro 8 (36,900 บาท)

3 2

โน๊ตบุ๊ค Microsoft Sufrace Pro 8 นี้ต้องถือเป็นรุ่นอัพเกรดจาก Surface Pro 7+ ในข้อก่อนหน้าโดยคงข้อดีของรุ่นก่อนเอาไว้แล้วเสริมฟีเจอร์เด่นเข้ามาอีกหลายอย่าง ได้แก่ ได้รับการรับรอง Intel Evo แล้วและทางบริษัทก็การันตีว่าแบตเตอรี่ของมันทนทานใช้งานได้ทั้งวัน มีพอร์ต Thunderbolt 4 ติดตั้งมาให้และทาง BaNANA เองก็มีแคมเปญแถม TypeCover พร้อมปากกา Surface Pen รุ่นล่าสุดนี้เช่นกัน

ด้านสเปคของรุ่นนี้เป็น Intel Core i5-1135G7 แบบ 4 คอร์ 8 เธรด ความเร็ว 2.4~4.2GHz ใช้การ์ดจอออนบอร์ด Intel Iris Xe Graphics กับหน้าจอทัชสกรีน PixelSense ขนาด 13 นิ้ว ความละเอียด 2.8K (2880×1920) พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 120Hz แสดงผลแบบ Dolby Vision มี M.2 NVMe SSD ความจุ 128GB ติดตั้ง Windows 11 Home แรมออนบอร์ด 8GB LPDDR4x บัส 3200MHz มีพอร์ต Thunderbolt 4 x 2, Surface Connect x 1, Audio combo x 1 เชื่อมต่อ Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.1 มีกล้องหน้า 5 ล้าน และกล้องหลัง 10 ล้านพิกเซลติดตั้งมาให้ใช้งาน น้ำหนักเครื่อง 891 กรัม ถือเป็นโน๊ตบุ๊ค Microsoft Surface รุ่นอัพเกรดที่สเปคคุ้มราคาเครื่องหนึ่ง ถ้าจะซื้อไว้ใช้เป็นโน๊ตบุ๊คเครื่องหลักล่ะก็ถือว่าคุ้มค่ามาก

สเปคของ Microsoft Sufrace Pro 8
CPU Intel Core i5-1135G7 แบบ 4 คอร์ 8 เธรด ความเร็ว 2.4~4.2GHz
GPU Intel Iris Xe Graphics
SSD M.2 NVMe SSD 128GB
RAM 8GB LPDDR4x บัส 3200MHz
Display จอทัชสกรีน PixelSense ขนาด 13 นิ้ว ความละเอียด 2.8K (2880×1920) พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 120Hz แสดงผลแบบ Dolby Vision
Connectivity Thunderbolt 4 x 2, Surface Connect x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.1

กล้องหน้า 5 ล้าน และกล้องหลัง 10 ล้านพิกเซล

Software Windows 11 Home
Weight 891 กรัม
Price 36,900 บาท แถม TypeCover พร้อมปากกา Surface Pen (คลิ๊กสั่งซื้อได้ที่นี่)
4. Microsoft Surface Pro 9 (42,900 บาท)

4 2

ส่วนโน๊ตบุ๊ค Microsoft Surface Pro 9 รุ่นล่าสุดจากทาง Microsoft โดยรุ่นล่าสุดนี้ยกข้อดีของ Surface 8 มาแล้วปรับเปลี่ยนซีพียูเป็น Intel 12th Gen รุ่นใหม่และปรับปรุง Surface Pen ให้ทำงานดีกว่าเดิมจนเหมือนเขียนบนหน้ากระดาษจริงๆ และได้รับการรับรอง Intel Evo เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนแคมเปญจากทาง BaNANA เมื่อซื้อ Surface Pro 9 ถือว่าคุ้มค่ามาก เพราะจะได้ทั้ง TypeCover, เคสใส่ Surface 9, Microsoft 365 Professional ไปใช้อีกด้วย

ซีพียูในเครื่องเป็น Intel Core i5-1235U แบบ 10 คอร์ 12 เธรด (2P+8E) ความเร็ว 3.3~4.4GHz จับคู่การ์ดจอออนบอร์ด Intel Iris Xe Graphics ใช้หน้าจอทัชสกรีน PixelSense ขนาด 13 นิ้ว ความละเอียด 2.8K (2880×1920) พาเนล IPS รองรับ Dolby Vision IQ มี M.2 NVMe SSD ความจุ 256GB ติดตั้ง Windows 11 Home แรม 8GB LPDDR5 บัส 5200MHz มีพอร์ต Thunderbolt 4 x 2, microSDXC Card Reader x 1, Surface Connect x 1, Audio combo x 1 เชื่อมต่อไร้สายด้วย Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.1 ติดตั้งกล้องหน้า 1080p ใช้สแกนหน้าปลดล็อคเครื่องได้และกล้องหลัง 10 ล้านพิกเซลมาด้วย น้ำหนักเครื่อง 879 กรัม จัดเป็นโน๊ตบุ๊ค Microsoft Surface ทรงแท็บเล็ตที่น่าใช้และราคาค่อนข้างสมเหตุผลคุ้มลงทุนอย่างแน่นอน

สเปคของ Microsoft Surface Pro 9
CPU Intel Core i5-1235U แบบ 10 คอร์ 12 เธรด (2P+8E) ความเร็ว 3.3~4.4GHz
GPU Intel Iris Xe Graphics
SSD M.2 NVMe SSD 256GB
RAM 8GB LPDDR5 บัส 5200MHz
Display จอทัชสกรีน PixelSense ขนาด 13 นิ้ว ความละเอียด 2.8K (2880×1920) พาเนล IPS รองรับ Dolby Vision IQ
Connectivity Thunderbolt 4 x 2, microSDXC Card Reader x 1, Surface Connect x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.1

กล้องหน้า 1080p ใช้สแกนหน้าปลดล็อคเครื่องได้และกล้องหลัง 10 ล้านพิกเซล

Software Windows 11 Home
Weight 879 กรัม
Price 42,900 บาท แถม TypeCover, เคสใส่ Surface 9, Microsoft 365 Professional
(คลิ๊กสั่งซื้อได้ที่นี่)
5. Microsoft Surface Laptop Go 2 (29,900 บาท)

5 2

ถ้าใครต้องการโน๊ตบุ๊ค Microsoft Surface ดีไซน์ฝาพับราคาไม่แพงมาก Microsoft Surface Laptop Go 2 เป็นโน๊ตบุ๊ครุ่นเริ่มต้นราคาดี ตอบโจทย์คนที่อยากเริ่มใช้สินค้าของทาง Microsoft อย่างแน่นอน ด้านจุดเด่นนอกจากน้ำหนักเบาเพียง 1.1 กิโลกรัม แบตเตอรี่ใช้งานได้นานสุด 13.5 ชั่วโมง ยังติดตั้งเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือมาที่ปุ่ม Power ด้วย ถือว่าครบเครื่องน่าใช้มาก

ซีพียูใน Surface Go 2 เป็น Intel Core i5-1135G7 แบบ 4 คอร์ 8 เธรด ความเร็ว 2.4~4.2GHz ใช้การ์ดจอออนบอร์ด Intel Iris Xe Graphics กับจอทัชสกรีน PixelSense 12.4 นิ้ว ความละเอียด 1536×1024 พิกเซล พาเนล IPS มี M.2 NVMe SSD ความจุ 256GB ติดตั้ง Windows 11 Home มาให้ มีแรมออนบอร์ด 8GB LPDDR4x บัส 4267MHz มีพอร์ต USB-C x 1, USB-A x 1, Surface Connect x 1, Audio combo x 1 เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตด้วย Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.1 หากใครหาโน๊ตบุ๊ค Microsoft Surface ดีๆ ราคาไม่แพงมาลองเริ่มใช้งานดูสักครั้งว่าเป็นอย่างไร ก็เริ่มที่รุ่นนี้ได้เลย

สเปคของ Microsoft Surface Laptop Go 2
CPU Intel Core i5-1135G7 แบบ 4 คอร์ 8 เธรด ความเร็ว 2.4~4.2GHz
GPU Intel Iris Xe Graphics
SSD M.2 NVMe SSD 256GB
RAM 8GB LPDDR4x บัส 4267MHz
Display จอทัชสกรีน PixelSense 12.4 นิ้ว ความละเอียด 1536×1024 พิกเซล พาเนล IPS
Connectivity USB-C x 1, USB-A x 1, Surface Connect x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.1

Software Windows 11 Home
Weight 1.1 กิโลกรัม
Price 29,900 บาท (คลิ๊กสั่งซื้อได้ที่นี่)
6. Microsoft Surface Laptop 5 (40,900 บาท)

6 1

Microsoft Surface Laptop 5 เป็นโน๊ตบุ๊ค Microsoft Surface รุ่นล่าสุดจากทางบริษัทที่ผ่านมาตรฐาน Intel Evo การันตีว่าโน๊ตบุ๊คเครื่องนี้แบตเตอรี่ทนทานใช้งานได้หลายชั่วโมง มีหน้าจอ 13 และ 15 นิ้ว ให้เลือกและรองรับ Dolby Vision IQ ในตัว ลำโพงรองรับ Dolby Atmos มีพอร์ต Thunderbolt 4 ติดตั้งมาให้ใช้งาน ส่วนแบตเตอรี่ทางบริษัทเคลมว่าใช้งานต่อเนื่องได้นานสุด 17 ชั่วโมง และมีกล้องอินฟาเรด IR Camera ติดตั้งมาให้สแกนหน้าปลดล็อคเครื่องได้ด้วย

ซีพียูในเครื่องเป็น Intel Core i5-1235U แบบ 10 คอร์ 12 เธรด (2P+8E) ความเร็ว 3.3~4.4GHz ใช้การ์ดจอออนบอร์ด Intel Iris Xe Graphics กับหน้าจอทัชสกรีน PixelSense ขนาด 13.5 นิ้ว ความละเอียด 2.2K (2256×1504) พาเนล IPS ขอบเขตสีกว้าง มี M.2 NVMe SSD ความจุ 256GB ติดตั้ง Windows 11 Home มาให้ แรมออนบอร์ดความจุ 8GB LPDDR5 บัส 5200MHz มีพอร์ต Thunderbolt 4 x 1, USB-A 3.1 x 1, Surface Connect x 1, Audio combo x 1 เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตด้วย Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.1 น้ำหนักตัวเครื่อง 1.2 กิโลกรัม ส่วนแคมเปญจากทาง BaNANA เมื่อซื้อ Surface Laptop 5 จะได้รับ Microsoft Office Home & Student ฟรีด้วย ถือว่าคุ้มค่าครบเครื่องไม่ต้องจ่ายเงินเพิ่มเปิดเครื่องมาทำงานได้ทันที 

สเปคของ Microsoft Surface Laptop 5
CPU Intel Core i5-1235U แบบ 10 คอร์ 12 เธรด (2P+8E) ความเร็ว 3.3~4.4GHz
GPU Intel Iris Xe Graphics
SSD M.2 NVMe SSD 256GB
RAM 8GB LPDDR5 บัส 5200MHz
Display จอทัชสกรีน PixelSense ขนาด 13.5 นิ้ว ความละเอียด 2.2K (2256×1504) พาเนล IPS
Connectivity Thunderbolt 4 x 1, USB-A 3.1 x 1, Surface Connect x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.1

Software Windows 11 Home
Weight 1.2 กิโลกรัม
Price 40,900 บาท แถม Microsoft Office Home & Student ฟรี (คลิ๊กสั่งซื้อได้ที่นี่)
7. Microsoft Surface Laptop Studio (59,790 บาท)

7

สุดท้ายโน๊ตบุ๊ค Microsoft Surface เพื่อครีเอเตอร์โดยเฉพาะอย่าง Microsoft Surface Laptop Studio ปัจจุบันนี้ก็มีให้เลือกซื้อจากทาง BaNANA ได้แล้ว โดยจุดเด่นของซีรี่ส์ Studio คือ ชุดบานพับหน้าจอ Dynamic Woven Hinge ออกแบบให้พับยื่นจอมาข้างหน้าเพื่อเน้นนำเสนองานได้หรือพับเป็นแท็บเล็ตแล้วใช้ Surface Slim Pen 2 เขียนวาดจดไอเดียต่างๆ ได้ตามต้องการ ถูกใจสายวาดหรือจดโน้ตเนื้อหาต่างๆ ลงในเอกสารเป็นอย่างมาก และยังมีรุ่นย่อยที่ติดตั้งการ์ดจอแยก NVIDIA เอาไว้ทำงานกราฟิคด้วย

สเปครุ่นที่เลือกมาแนะนำ เป็น Intel Core i5-11300H แบบ 4 คอร์ 8 เธรด ความเร็ว 3.1~4.4GHz ใช้การ์ดจอออนบอร์ด Intel Iris Xe Graphics หน้าจอทัชสกรีน PixelSense Flow ขนาด 14.4 นิ้ว ความละเอียด 2400×1600 พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 120Hz รองรับ Dolby Vision แสดงผลได้ดียิ่งขึ้น มี M.2 NVMe SSD ความจุ 512GB ติดตั้ง Windows 11 Home กับแรมออนบอร์ด 16GB LPDDR4x บัส 3200MHz มีพอร์ต Thunderbolt 4 x 2, Surface Connect x 1, Audio combo x 1 เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตด้วย Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.1 ด้วย น้ำหนักเครื่อง 1.7 กิโลกรัม หากใครต้องการโน๊ตบุ๊ค Microsoft Surface รุ่นทรงพลัง ทำงานหนักสบายๆ สักเครื่องเอาไว้ใช้ก็เพิ่มเงินมาซื้อรุ่นนี้ได้เลย เชื่อว่าคุ้มค่าถูกใจสายทำงานทุกคนอย่างแน่นอน

สเปคของ Microsoft Surface Laptop Studio
CPU Intel Core i5-11300H แบบ 4 คอร์ 8 เธรด ความเร็ว 3.1~4.4GHz
GPU Intel Iris Xe Graphics
SSD M.2 NVMe SSD 512GB
RAM 16GB LPDDR4x บัส 3200MHz
Display จอทัชสกรีน PixelSense Flow ขนาด 14.4 นิ้ว ความละเอียด 2400×1600 พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 120Hz รองรับ Dolby Vision
Connectivity Thunderbolt 4 x 2, Surface Connect x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.1

Software Windows 11 Home
Weight 1.7 กิโลกรัม
Price 59,790 บาท (คลิ๊กสั่งซื้อได้ที่นี่)

bram van oost 6WvZo5FOxww unsplash

Alan Kay นักวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ชาวอเมริกันเคยกล่าวไว้ว่า “People who are really serious about software should make their own hardware.” (ใครที่ใส่ใจซอฟท์แวร์ของตน ควรสร้างฮาร์ดแวร์ของตนขึ้นมาด้วย) ซึ่งทาง Microsoft ก็สร้างโน๊ตบุ๊ค Microsoft Surface มาเพื่อผู้ใช้ได้รับประสบการณ์ใช้งานโน๊ตบุ๊ค Windows ที่ดีสุดเท่าที่ทางบริษัทต้องการให้เป็น และแม้ราคาจะสูงอยู่บ้างก็ตามแต่คุ้มค่าจะลงทุนซื้อมาลองใช้งานสักครั้ง และถ้าถูกใจเชื่อว่าโน๊ตบุ๊ค Microsoft Surface จะกลายเป็นโน๊ตบุ๊ครุ่นโปรดในใจอย่างแน่นอน


บทความที่เกี่ยวข้อง

7 mechanical keyboard full size 1

Acer Aspire 3 1

7เมาท์ไร้สายเทพๆ

from:https://notebookspec.com/web/686818-7-recommend-microsoft-surface