7 เคสคอมตัวเทพประจำปี 2023 ซื้อเอาไว้ใช้กันนานๆ หล่อเท่หรือสวยเรียบเป็นเฟอร์นิเจอร์ก็มี!

นอกจากสเปคแรงๆ แล้ว ก็น่าลงทุนซื้อเคสคอมดีๆ เอาไว้ใช้สักตัวด้วย!

ถ้าถามผู้เขียนว่าถ้าจะลงทุนประกอบคอมสักเครื่องจะลงทุนกับชิ้นส่วนไหนบ้าง? จะได้ไม่ต้องเปลี่ยนบ่อยแล้วใช้ไปได้นานๆ ในคำตอบทั้งหมดจะมีเคสคอมรวมอยู่ด้วยอย่างแน่นอน นั่นเพราะมันเป็นชิ้นส่วนที่มีโอกาสเปลี่ยนน้อยที่สุดและเป็นชิ้นที่มองเห็นบ่อยที่สุดตั้งแต่ตอนเปิดคอมไปจนต่อ USB ก็ต้องหันมาดูที่เคสอย่างแน่นอน ดังนั้นนอกจากความแข็งแรงทนทานคุ้มค่าแล้วเคสคอมสักตัวหนึ่งก็สะท้อนรสนิยมของเจ้าของคอมได้เป็นอย่างดีและยังเอาไว้แต่งโต๊ะคอมเกมมิ่งได้อีกด้วย

Advertisement

และถ้าเลือกเคสดีๆ จากแบรนด์ชั้นนำมาประกอบคอม นอกจากดีไซน์สวยแล้วยังได้ฟีเจอร์ต่างๆ ให้ใช้อีกด้วย ไม่ว่าจะฝากระจกข้างใส, ไฟ RGB, พอร์ตใหม่ๆ ทันสมัย, โครงโลหะแข็งแรงทนทานและมีลูกเล่นต่างๆ ให้ใช้มากมายไม่ว่าจะโครงครอบปิดพาวเวอร์ซัพพลายไปจนฐานวางการ์ดจอแนวตั้งติดมาให้ด้วย ดังนั้นนอกเรื่องสเปคแรงๆ มาจ่ายเงินลงทุนซื้อเคสดีๆ เอาไว้ใช้สักตัวให้ใช้งานได้หลายๆ ปีรับรองว่าคุ้มอย่างแน่นอน

สรุปสเปค 7 เคสคอมตัวเด็ดน่าลงทุน จัดห้องก็สวย การ์ดจอใหญ่แค่ไหนไม่กลัว!

สเปค 7 เคสคอม	Case Size (มม.) & Mainboard	Front I/O Port	CPU&GPU Sink Size (มม.)	Drive Bay	Price (บาท)
Corsair 4000D	453 x 230 x 466 ATX	USB-C 3.1 x 1 USB-A 3.0 x 1 Audio combo x 1	CPU 170 มม. GPU 360 มม.	2.5″ x 2 3.5″ x 2	2,800
Fractal Design Focus 2	472 x 215 x 451 ATX	USB-A 3.0 x 2 Audio combo x 1	CPU 170 มม. GPU 405 มม.	2.5″ x 2 3.5″ x 2	3,090
NZXT H5 Flow	446 x 227 x 464 ATX	USB-A 3.2 x 1 USB-C 3.2 x 1 Audio combo x 1	CPU 165 มม. GPU 365 มม.	2.5″ x 2 3.5″ x 1	3,250
MSI MPG GUNGNIR 110R EVA e-PROJECT	430 x 215 x 480 ATX	USB-A 3.2 x 2 USB-C 3.2 x 1 Audio-out x 1 Mic in x 1	CPU 170 มม. GPU 340 มม.	2.5″ x 2 3.5″ x 2	4,350
Fractal Design North	447 x 215 x 469 ATX	USB-C 3.1 x 1 USB-A 3.0 x 2 Audio combo x 1	CPU 170 มม. GPU 355 มม.	2.5″ x 2 3.5″ x 2	6,190
ASUS GT501 TUF GAMING	552 x 251 x 545 E-ATX	USB-A 3.1 x 2 Mic-in x 1 Headphone out x 1	CPU 180 มม. GPU 420 มม.	2.5″ x 3 3.5″ x 4	4,150
ASUS ROG Strix Helios GX601	565 x 250 x 591 E-ATX	USB-A 3.1 x 4 USB-C 3.1 x 1 Mic-in x 1 Headphone out x 1 ปุ่มควบคุมแสงไฟ LED ปุ่มปรับความเร็วรอบพัดลม	CPU 190 มม. GPU 450 มม.	2.5″ x 4 3.5″ x 2	9,650

7 เคสคอมตัวเด็ด อัพโต๊ะให้เกมมิ่งหรือสวยเท่ก็ได้ อัพเดทใหม่ปี 2023

เกมเมอร์หรือคนที่กำลังอยากประกอบคอมใหม่เอาไว้ใช้สักตัว นอกจากจัดสเปคให้แรงสะใจแล้วก็ควรเลือกดูเคสคุณภาพดีแข็งแรงทนทานเอาไว้ใช้สักตัวด้วย ซึ่งในปี 2023 นี้ ผู้เขียนมีเคสน่าลงทุนมาแนะนำทั้งหมด 7 รุ่น ได้แก่

1. Corsair 4000D (2,800 บาท)
2. Fractal Design Focus 2 (3,090 บาท)
3. NZXT H5 Flow (3,250 บาท)
4. MSI MPG GUNGNIR 110R EVA e-PROJECT (4,350 บาท)
5. Fractal Design North (6,190 บาท)
6. ASUS GT501 TUF GAMING (4,150 บาท)
7. ASUS ROG Strix Helios GX601 (9,650 บาท)

1. Corsair 4000D (2,800 บาท)

เริ่มต้นจากเคสหน้าตาเรียบง่ายหรูหราน่าใช้อย่าง Corsair 4000D ซึ่งจุดเด่นของมันอย่างแรกคือมีขนาดใหญ่ใส่เมนบอร์ดขนาด ATX ได้สบายๆ ด้วยไซซ์เคส 453 x 230 x 466 มม. ใส่ฮีตซิ้งค์ของซีพียูได้สูง 170 มม. กับการ์ดจอยาวสุด 360 มม. ได้สบายๆ แถมยังใส่ฮาร์ดดิสก์ขนาด 2.5″ กับ 3.5″ ได้อย่างละ 2 ช่อง มีพอร์ต USB-C 3.1, USB-A 3.0, Audio combo อย่างละช่องติดมาหน้าเคสและฝาข้างเป็นกระจกสวยงาม มี Expansion Slot สำหรับรองรับการ์ดจอและ Wi-Fi Card ได้ 7 ช่อง หรือจะเอาแท่นวางการ์ดจอแนวตั้งหัวอินเตอร์เฟส PCIe 3.0 มาต่อเข้ากับเคสก็ได้แถมมีช่อง Expansion Slot อีก 2 ช่องให้ใช้งาน ด้วยดีไซน์รังผึ้งด้านหน้าเคสทำให้ระบายอากาศได้ดีมากๆ หากใครอยากได้เคสคอมราคาไม่แรงเผื่อเอาไว้ใส่การ์ดจอตัวท็อปซิ้งค์มโหฬารในอนาคตได้สบายๆ ล่ะก็ Corsair 4000D ตัวนี้นับว่าน่าลงทุนมาก

สเปคของ Corsair 4000D

Case Size&Mainboard	453 x 230 x 466 มม. รองรับบอร์ด ATX
Front I/O Port	USB-C 3.1 x 1, USB-A 3.0 x 1, Audio combo x 1
CPU&GPU Sink Size	CPU 170 มม. GPU 360 มม.
Drive Bay	2.5″ x 2 3.5″ x 2
Price	2,800 บาท (Jedicool Shopee Mall)

2. Fractal Design Focus 2 (3,090 บาท)

แบรนด์และเคสคอมรุ่นที่ผู้เขียนชอบและแนะนำเป็นพิเศษยกให้ Fractal Design Focus 2 ซึ่งนอกจากหน้าตาเคสจะดูเรียบหรูและเป็นตาข่ายระบายอากาศได้ดีพร้อมฝาข้างกระจกแล้ว ตัวเคสมีขนาดค่อนข้างใหญ่ถึง 472 x 215 x 451 มม. ใส่เมนบอร์ดขนาด ATX ได้สบายๆ ใส่การ์ดจอได้ยาวมากถึง 405 มม. และใส่ฮีตซิ้งค์ซีพียูได้สูง 170 มม. ทีเดียว ดังนั้นถ้าใครจะใส่ซิ้งค์ลมรุ่นใหญ่ก็ไม่มีปัญหา มีช่องติดตั้งฮาร์ดดิสก์ 2.5″ กับ 3.5″ ได้อย่างละ 2 ตัวพร้อม Expansion Slot ด้านหลังเคสอีก 7 ช่อง รองรับการ์ดจอและการ์ด Wi-Fi ได้ทุกรุ่นในปัจจุบันอย่างแน่นอน แต่เสียดายเล็กน้อยว่าหน้าเคสมีพอร์ต USB 3.0 x 2, Audio combo x 1 ช่องเท่านั้น ไม่มีพอร์ต USB-C ติดมาให้แต่ก็ไม่มีปัญหามากนัก ถ้าใครชอบเคสคอมหน้าตาเรียบๆ แต่ไซซ์ใหญ่อลังการใส่การ์ดจอหรือฮีตซิ้งค์ซีพียูรุ่นที่ดีสุดในตลาดก็สบายๆ ถ้าลงทุนซื้อเคสนี้เอาไว้ใช้ตัวเดียวคุ้มแน่นอน

สเปคของ Fractal Design Focus 2

Case Size&Mainboard	472 x 215 x 451 มม. รองรับบอร์ด ATX
Front I/O Port	USB-A 3.0 x 2, Audio combo x 1
CPU&GPU Sink Size	CPU 170 มม. GPU 405 มม.
Drive Bay	2.5″ x 2 3.5″ x 2
Price	3,090 บาท (Jedicool Shopee Mall)

3. NZXT H5 Flow (3,250 บาท)

ชาวเคสคอมสีขาวหน้าตาเรียบหรูระบายอากาศดีและจัดสายไฟได้สวยด้วยล่ะก็ NZXT H5 Flow ตัวนี้ถือเป็นเคสคอมที่น่าซื้อมาใช้มากๆ เพราะนอกจากจะระบายอากาศดีและดีไซน์สวยเรียบง่ายแล้ว ยังมีขนาดใหญ่ถึง 446 x 227 x 464 มม. ใส่เมนบอร์ดขนาด ATX ได้ รองรับการ์ดจอยาว 365 มม. กับฮีตซิ้งค์ของซีพียูได้สูง 165 มม. ส่วนพอร์ตเชื่อมต่อด้านหน้าเคสมี USB-A 3.2, USB-C 3.2, Audio combo อย่างละช่องติดมาให้ใช้ ใส่ฮาร์ดดิสก์ขนาด 2.5″ x 2, 3.5″ x 1 ช่อง ด้านหลังมี Expansion Slot 7 ช่องเอาไว้ใส่การ์ดจอแยกและ Wi-Fi Card ได้สบายๆ แถมยังมีพื้นที่สำหรับจัดสายไฟได้แบบหลวมๆ อีกด้วย ถ้าใครอยากจัดสายไฟให้สวยๆ เก็บสายไฟให้ดูคลีนแต่ก็ยังมีพื้นที่ใส่ฮาร์ดดิสก์และการ์ดจอตัวท็อปได้ก็น่าซื้อเคสคอมตัวนี้ไปใช้มาก

สเปคของ NZXT H5 Flow

Case Size&Mainboard	446 x 227 x 464 มม. รองรับบอร์ด ATX
Front I/O Port	USB-A 3.2 x 1, USB-C 3.2 x 1, Audio combo x 1
CPU&GPU Sink Size	CPU 165 มม. GPU 365 มม.
Drive Bay	2.5″ x 2 3.5″ x 1
Price	3,250 บาท (BaNANA Shopee Mall)

4. MSI MPG GUNGNIR 110R EVA e-PROJECT (4,350 บาท)

ถ้าใครเป็นแฟนคลับอนิเมชั่นคลาสสิคอย่าง Neon Genesis Evangelion แล้วอยากได้ของสักชิ้นที่เกี่ยวกับอนิเมชั่นเรื่องนี้ เคสคอมรุ่น MSI MPG GUNGNIR 110R EVA e-PROJECT ตัวนี้น่าจะโดนใจใครหลายๆ คนอย่างแน่นอนทั้งการให้สี, ลวดลายและตัวอักษรคันจิบนตัวเคสเรียกว่าถอดแบบมาเลยทีเดียวแถมยังน่าใช้ด้วยเพราะตัวเคสใหญ่ 430 x 215 x 480 มม. ใส่เมนบอร์ด ATX ได้ ใส่การ์ดจอยาว 340 มม. กับฮีตซิ้งค์ของซีพียูได้สูง 170 มม. พร้อม Expansion Slot 7 ช่องเอาไว้ใส่การ์ดจอแยกและ Wi-Fi Card ได้สบายๆ มีช่องสำหรับใส่ฮาร์ดดิสก์ 2.5″ และ 3.5″ อย่างละ 2 ช่องให้ใช้งาน มีพอร์ต USB-A 3.2 x 2, USB-C 3.2 x 1, Audio-out x 1, Mic in x 1 ช่องให้ใช้งาน หากใครอยากได้เคสคอมดีๆ ลวดลายสวยมีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครน่าถ่ายภาพอวดเพื่อนลงโซเชียลเน็ตเวิร์คแถมยังรองรับการ์ดจอและซิ้งค์ตัวท็อปได้สบายๆ ก็ซื้อ MSI MPG GUNGNIR 110R EVA e-PROJECT ตัวนี้ไปได้เลย

สเปคของ MSI MPG GUNGNIR 110R EVA e-PROJECT

Case Size&Mainboard	430 x 215 x 480 มม. รองรับบอร์ด ATX
Front I/O Port	USB-A 3.2 x 2, USB-C 3.2 x 1, Audio-out x 1, Mic in x 1
CPU&GPU Sink Size	CPU 170 มม. GPU 340 มม.
Drive Bay	2.5″ x 2 3.5″ x 2
Price	4,350 บาท (Speed Gaming Shopee Mall)

5. Fractal Design North (6,190 บาท)

 

Fractal Design North เป็นเคสอีกตัวที่ได้ทั้งความสวยเรียบหรูเหมือนเฟอร์นิเจอร์แต่งห้องสักชิ้นหนึ่งด้วยความสวยเรียบง่ายและบานหน้าเคสเป็นไม้แท้ๆ ติดเข้ากับตัวเคสและมีสีให้เลือก 2 สีทั้งขาวและดำ แต่สเปคของเคสนี้เชื่อว่าโดนใจเกมเมอร์หลายๆ คนอย่างแน่นอนขนาดใหญ่ถึง 447 x 215 x 469 มม. ใส่เมนบอร์ดขนาด ATX ได้ รองรับการ์ดจอยาว 355 มม. และซิ้งค์ซีพียูสูงสุด 170 มม. ได้สบายๆ มี Expansion slot อีก 7 ช่องเอาไว้รองรับการ์ดจอและการ์ด Wi-Fi ได้ ใส่ฮาร์ดดิสก์ 2.5″ กับ 3.5″ ได้อย่างละ 2 ตัว มีพอร์ต USB-C 3.1 x 1, USB-A 3.0 x 2, Audio combo x 1 ติดไว้หน้าเคสและยังจัดสายไฟได้ง่ายด้วยเพราะพื้นที่ในเคสมีให้ใช้เยอะและถอดบานหลังคาเคสออกเพื่อติดชุดน้ำ 2 ตอนได้ ถ้าใครมองหาเคสคอมที่เป็นเฟอร์นิเจอร์ในห้องได้ด้วยก็แนะนำให้ดู Fractal Design North ตัวนี้เอาไว้ได้เลย

สเปคของ Fractal Design North

Case Size&Mainboard	447 x 215 x 469 มม. รองรับบอร์ด ATX
Front I/O Port	USB-C 3.1 x 1, USB-A 3.0 x 2, Audio combo x 1
CPU&GPU Sink Size	CPU 170 มม. GPU 355 มม.
Drive Bay	2.5″ x 2 3.5″ x 2
Price	5,990 บาท (Kim IT Online Shopee)

6. ASUS GT501 TUF GAMING (4,150 บาท)

ถ้าอยากได้เคสดีไซน์แข็งๆ ดูเท่และล่ำสันเน้นความแข็งแรงทนทานเป็นหลัก ASUS GT501 TUF GAMING น่าจะตรงโจทย์ที่ว่ามาอย่างแน่นอน ด้วยหน้าตเรียบง่ายพร้อมช่องนำลมเข้าด้านหน้า 2 ช่องพร้อมโลโก้ TUF Gaming และฝาข้างกระจกใสและปรับไฟ RGB “AURA SYNC” ในโปรแกรม Armoury Crate ของทาง ASUS ได้แถมยังใส่เมนบอร์ดขนาด E-ATX และชุดระบายความร้อนด้วยน้ำระบบปิด 3 ตอน ควบคู่กับซิ้งค์ซีพียูสูงได้ถึง 180 มม. และการ์ดจอตัวใหญ่ยาวได้สุด 420 มม. ได้สบายๆ เพราะตัวเคสมีขนาด 552 x 251 x 545 มม. และมีจุดยึดพัดลมติดไว้รอบตัวกับ Expansion Slot 7 ช่องในแนวนอนพร้อมแนวตั้งอีก 2 ช่องสำหรับโชว์การ์ดจอได้ ใส่ฮาร์ดดิสก์ 2.5″ x 3 และ 3.5″ x 4 ช่อง และมีพอร์ต USB-A 3.1 x 2, Mic-in x 1, Headphone out x 1 ช่องติดมาด้านหน้าเคสด้วย เรียกว่าเป็นเคสคอมไซซ์ใหญ่อลังการที่น่าลงทุนซื้อมาใช้มากๆ แม้ราคาจะสูงสักนิดแต่ใช้ได้นานหลายปีแน่นอน แค่อัพเกรดชิ้นส่วนภายในเคสอย่างเดียวเท่านั้นก็พอแล้ว

สเปคของ ASUS GT501 TUF GAMING

Case Size&Mainboard	552 x 251 x 545 มม. รองรับบอร์ด E-ATX
Front I/O Port	USB-A 3.1 x 2, Mic-in x 1, Headphone out x 1
CPU&GPU Sink Size	CPU 180 มม. GPU 420 มม.
Drive Bay	2.5″ x 3 3.5″ x 4
Price	4,150 บาท (ROG Shopee Mall)

7. ASUS ROG Strix Helios GX601 (9,650 บาท)

ปิดท้ายด้วยเคสคอมตัวใหญ่แข็งแรงอลังการพร้อมดีไซน์ล้ำอนาคตอย่าง ASUS ROG Strix Helios GX601 ซึ่งตัวเคสเป็นอลูมิเนียมแข็งแรงพิเศษพร้อมกระจกหน้าแบบ Tempered Glass มีไฟ RGB AURA SYNC สวยงามปรับเอฟเฟคแสงได้ในโปรแกรม Armoury Crate และในเคสมีฐานขาตั้งสำหรับปิดสายไฟการ์ดจอพร้อมเป็นฐานพยุงตัวการ์ดไปพร้อมๆ กันและยังเปิดฝาได้ง่ายๆ เพียงกดปุ่มแล้วดึงกระจกฝาเคสด้านข้างออกก็จัดการถอดเปลี่ยนอัพเกรดชิ้นส่วนในเคสได้ทันทีและตัวเคสจะมีผ้าตีนตุ๊กแกสำหรับจับยกเคสไปไหนมาไหนได้ง่ายๆ อีกด้วย ด้านขนาดของตัวเคสอยู่ที่  565 x 250 x 591 มม. ซึ่งใหญ่อลังการใส่เมนบอร์ด E-ATX ได้สบายๆ รองรับฮีตซิ้งค์ซีพียูสูงมากถึง 190 มม. และการ์ดจอยาว 450 มม. ทีเดียว มี Expansion Slot 8 ช่องแนวตั้งกับ 2 ช่องแนวนอน ใส่ฮาร์ดดิสก์ 2.5″ x 4 กับ 3.5″ x 2 ช่องได้ มีพอร์ต USB-A 3.1 x 4, USB-C 3.1 x 1, Mic-in x 1, Headphone out x 1 พร้อมปุ่มควบคุมแสงไฟ LED และความเร็วรอบพัดลมติดมาหน้าเคสให้เป็นพิเศษอีกด้วย จัดเป็นเคสคอมที่แข็งแรงอลังการสุดๆ ณ ปี 2023 นี้อย่างไม่ต้องสงสัย แต่ขนาดเคสจัดว่าใหญ่มากและเฉพาะน้ำหนักของเคสอย่างเดียวก็ 18 กิโลกรัม ดังนั้นขอแนะนำให้หาพื้นที่วางให้ดีๆ ด้วย

สเปคของ ASUS ROG Strix Helios GX601

Case Size&Mainboard	565 x 250 x 591 มม. รองรับบอร์ด E-ATX
Front I/O Port	USB-A 3.1 x 4, USB-C 3.1 x 1, Mic-in x 1, Headphone out x 1, ปุ่มควบคุมแสงไฟ LED, ปุ่มปรับความเร็วรอบพัดลม
CPU&GPU Sink Size	CPU 190 มม. GPU 450 มม.
Drive Bay	2.5″ x 4 3.5″ x 2
Price	9,650 บาท (Kim IT Online Shopee)

นอกจากจะลงทุนกับสเปคให้แรงเท่าใจต้องการแล้ว การลงทุนกับเคสคอมเองก็สำคัญมากเพราะนอกจากดีไซน์สวยงามแล้วยังได้ความแข็งแรงทนทานด้วย ซึ่งส่วนตัวผู้เขียนเองก็เปลี่ยนจากเคสระดับหลักพันต้นมาใช้เคสหลัก 3-4 พันบาทก็เห็นจุดแตกต่างระหว่างเคสทั้งสองระดับราคานี้อย่างมากแถมยังสัมผัสได้ถึงความใส่ใจของผู้ผลิตตอนออกแบบเคสอีกด้วย

จุดต่างระหว่างเคสหลักพันต้นไป 3-4 พันบาท มีหลายส่วนไม่ว่าจะช่อง Expansion Slot แบบขันล็อคด้วยน็อตซึ่งมันสามารถถอดเข้าออกได้ตามใจไม่ต้องคอยหักแผ่นเหล็กให้เสียแรงและเสี่ยงโดนขอบเหล็กบาดนิ้ว ไหนจะน็อตยึดเมนบอร์ดขนาดใหญ่ขึ้นจากไซซ์ล็อคฮาร์ดดิสก์เป็นไซซ์เดียวกับที่ใช้ยึดการ์ดจอแทนแถมยังมีพื้นที่จัดสายไฟหลังเคสมากขึ้น ใครที่ขี้เกียจจัดสายไฟให้วุ่นวายก็จับกลุ่มสายให้เข้าที่แล้วดันฝาเคสปิดไปก็ยังได้ ดังนั้นถ้าใครคิดอยู่ว่าจะลงทุนซื้อเคสคอมแพงๆ ไปทำไมก็น่าจะได้คำตอบจากประสบการณ์ตรงของผู้เขียนอย่างแน่นอน

---

บทความที่เกี่ยวข้อง

• รีวิว LOGA GARUDA PRO+, LOGA Shinryu Pro Wireless 2 เมาส์เทพแบรนด์คนไทย คุณภาพระดับโลก เกมเมอร์ถูกใจ!

• รีวิวจอย XBOX SERIES X ราคา 2,290 บาท อัพเดทใหม่ลูกเล่นเยอะใช้ถนัดกว่าเดิม!

• 6 จอคอม 32 นิ้ว น่าใช้ประจำปี 2023 รวมจอเกมมิ่งและจอทำงานแบบจุกๆ เริ่มแค่ 8,890 บาทเท่านั้น!

from:https://notebookspec.com/web/697583-7-recommend-computer-case-2023

8 เคสคอมสีขาวน่าใช้ สวยหรูดูดีประจำปี 2023 ดีไซน์สวยหมกของแรงได้เพียบ!! เริ่มแค่ 1,190 บาทเท่านั้น

เคสคอมสีขาวสวยๆ สายหรูต้องชอบ แต่งห้องคลีนๆ เอาไปไว้คือเข้ากันสุดๆ 

เคสคอมหลายๆ รุ่นในปัจจุบันมักเป็นสีดำหรือไม่ก็เล่นสีสวยๆ จนโดดเด่นสะดุดตา แต่ก็มีกลุ่มเกมเมอร์สายจัดโต๊ะคอมเน้นเรียบหรูก็มองหาเคสคอมสีขาวมาประกอบคอมเอาไว้ใช้สักเครื่องให้เข้ากับโทนสีในห้องให้ได้โทนสว่างหรือเอาไว้ตัดกับห้องโทนมืดให้ดูโดดเด่นแล้วเล่นไฟ RGB เพิ่มความสวยงามขึ้นไปอีกระดับหนึ่งได้ด้วย ส่วนดีไซน์ทั้งเรื่องขนาดและรูปร่างหน้าตาของของเคสคอมสีขาวก็ต้องยกให้เป็นเรื่องของรสนิยมส่วนบุคคลว่าอยากได้เคสไซซ์ไหนและหน้าตาอย่างไรถึงจะเข้ากับโทนของห้องที่สุด

Advertisement

สำหรับเกมเมอร์ที่อยากได้เคสคอมสีขาวเอาไว้ใช้ ณ ปัจจุบันนี้ราคาก็ไม่แพงมากแล้วและมีให้เลือกหลากหลายขนาด รองรับเมนบอร์ดตั้งแต่ mATX ไปจน E-ATX และมักจะใช้พาเนลข้างเคสเป็นกระจกให้ดูสวยงามและเน้นไฟ RGB ให้ดูโดดเด่นด้วยแถบไฟ RGB หรือจากพัดลม ARGB ให้โดดเด่นสวยงามยิ่งขึ้นไปอีกและเคสหลายๆ ตัวยังทำงานร่วมกับโปรแกรมคุมไฟ RGB ในเครื่องได้อีกด้วย ทำให้จัดโทนไฟให้สวยเข้ากันไม่ขัดสายตาได้ง่ายขึ้นด้วย

สรุปสเปค 8 เคสคอมสีขาวน่าใช้ โต๊ะคลีนสวยแต่ใส่ของแรงได้เพียบ!

สเปคเคสคอมสีขาว	Dimension (มิลลิเมตร)	Supported Mainboard	Supported GPU (มิลลิเมตร)	Drive Bays	Front I/O Panel	ราคา (บาท)
AZZA Spectra 280	458x200x365	ITX~ATX	290	3.5″ x 2 และ 2.5″ x 3	USB 3.0 x 1 USB 2.0 x 2 HD Audio	1,190
Montech X3 Glass	370x210x480	ITX~ATX	305	3.5″ x 2 และ 2.5″ x 2	USB 3.0 x 1 USB 2.0 x 2 HD Audio สวิตช์เปลี่ยนไฟ RGB	1,750
ASUS PRIME AP201	205x350x460	ITX mATX	338	3.5″ x 3 และ 2.5″ x 1	USB-A 3.2 Gen 1 x 2 USB-C 3.2 Gen 2 x 1 HD Audio	2,290
SEGOTEP GANK 360	478x221x488	E-ATX	390	3.5″ x 2 / 3.5″+2.5″ ใต้เคส ในเคสใส่ 2.5″ x 2	USB-A 3.0 x 1 USB-C x 1 HD Audio หรือ USB 3.0 x 2 HD Audio	2,980
ASUS TUF GAMING GT501	552x251x545	ATX หรือ E-ATX ขนาด 12″x10.9″	420	3.5″ x 4 และ 2.5″ x 3	USB-A 3.1 Gen 1 x 2 HD Audio	4,350
Fractal Design Pop Air	473.5x215x454	ATX	405	3.5″ x 3 และ 2.5″ x 4	USB 3.0 x 2 HD Audio ปุ่มเปลี่ยนไฟ RGB	4,490
Fractal Design Torrent Nano	417x222x374	ITX mATX	335	3.5″ x 1 และ 2.5″ x 2	USB-C 3.1 Gen 2 x 1 USB-A 3.0 x 2 HD Audio	5,390
Thermaltake Core P6	565x255x530	ATX	458	3.5″ x 4 หรือ 2.5″ x 8	USB-C 3.2 Gen 2 x 1 USB 3.0 x 2 USB 2.0 x 2 HD Audio x 1	6,350

8 เคสคอมสีขาวรุ่นน่าใช้ รวมเอาไว้ให้ประกอบคอมได้ตามใจ!!

ผู้อ่านที่จะประกอบคอมใหม่หรือจะเปลี่ยนเคสคอมเก่าที่ไม่เข้าธีมห้องเป็นเคสดีๆ สักตัวล่ะก็ ผู้เขียนได้รวมเคสคอมสีขาวดีๆ มาให้เลือกโดยเน้นเป็นเคสตั้งแต่ราคาถูกหลักพันบาทต้นๆ ไปจนเคสราคาครึ่งหมื่นคุณภาพดีมาให้เลือก ซึ่งทั้ง 8 รุ่นนี้ผู้เขียนมั่นใจว่าใช้งานต่อเนื่องได้หลายปีอย่างแน่นอน โดยมีรุ่นดังนี้

1. AZZA Spectra 280 (1,190 บาท)
2. Montech X3 Glass (1,750 บาท)
3. ASUS PRIME AP201 (2,290 บาท)
4. SEGOTEP GANK 360 (2,980 บาท)
5. ASUS TUF GAMING GT501 (4,350 บาท)
6. Fractal Design Pop Air (4,490 บาท)
7. Fractal Design Torrent Nano (5,390 บาท)
8. Thermaltake Core P6 (6,350 บาท)

1. AZZA Spectra 280 (1,190 บาท)

เคสคอมอันแรกที่เลือกมาแนะนำเป็น AZZA Spectra 280 ซึ่งแบรนด์นี้ผู้เขียนมั่นใจว่าผู้อ่านหลายคนน่าจะผ่านตามาหลายครั้งและเห็นจากที่ร้านจัดสเปคคอมมักเลือกใช้เคสนี้กัน โดยคุณภาพเคส AZZA ถือว่าดีไว้ใจได้อย่างแน่นอน โดยเคสนี้มีขนาด 458 x 200 x 365 มิลลิเมตร ใส่เมนบอร์ด ATX ได้ รองรับการ์ดจอยาวสุด 290 มิลลิเมตร สามารถใส่การ์ดจอเกมมิ่งแบบ 2 พัดลมได้หลายรุ่น มีช่องใส่ฮาร์ดดิสก์ 3.5″ x 2 และ 2.5″ x 3 ช่อง มีพอร์ต USB 3.0 x 1, USB 2.0 x 2, HD Audio ติดตั้งไว้ขอบบนหน้าเคสให้ต่อโอนไฟล์จาก External Harddisk หรือ Sync ข้อมูลจากสมาร์ทโฟนก็ได้ ถ้าจะติดตั้งพัดลมก็ติดพัดลม 120 มม. ได้มากสุด 8 ตัว หรือเลือกใส่พัดลม 140 มม. ที่หน้าเคส 2 อันก็ได้ และตัวเคสกว้างพอใส่ซิ้งค์พัดลมความสูง 170 มม. ได้ด้วย และราคาของเคสนี้ถือว่าไม่แพงมาก หากใครหาเคสดีราคาประหยัดไว้ใช้งานก็ซื้อรุ่นนี้ไปประกอบเครื่องได้เลย

สเปคของ AZZA Spectra 280

Dimension (มิลลิเมตร)	458 x 200 x 365
Supported Mainboard	ITX~ATX
Supported GPU (มิลลิเมตร)	290
Drive Bays	3.5″ x 2 และ 2.5″ x 3 ช่อง
Front I/O Panel	USB 3.0 x 1, USB 2.0 x 2, HD Audio
Price	1,190 บาท (Hpbyiqink Shopee)

 

2. Montech X3 GLASS (1,750 บาท)

Montech X3 GLASS เป็นเคสคอมสีขาวอีกรุ่นที่ร้านจัดสเปคคอมมักเลือกมาประกอบเครื่องให้ลูกค้าเป็นประจำ ด้านราคาก็ไม่แพงเกินไปและยังได้พัดลม ARGB x 6 ตัวติดมาให้ตั้งแต่แรกตามภาพตัวอย่างด้วย โดยหน้าเคสจะเป็นพัดลม 140 มม. x 3 ตัวเอาไว้ดึงอากาศเย็นเข้าไประบายความร้อนแล้วดึงออกที่หลังและหลังคาของเคสได้อย่างรวดเร็ว ด้านข้างเคสเป็นบานประตูกระจก Tempered Glass เปิดปิดได้แบบตู้เก็บของทำให้ถอดเปลี่ยนอัพเกรดชิ้นส่วนคอมได้ง่ายมาก มิติเคสอยู่ที่ 370 x 210 x 480 มม. มีช่องติดตั้งฮาร์ดดิสก์ 3.5″ และ 2.5″ อย่างละ 2 ช่อง ติดตั้งการ์ดจอยาวสุด 305 มม. และซิ้งค์พัดลมซีพียูสูง 160 มม. ได้ รองรับเมนบอร์ดขนาด ATX ได้ด้วย ส่วน Front I/O Panel ติดอยู่ขอบบนฝั่งขวาของตัวเครื่อง มีพอร์ต USB 3.0 x 1, USB 2.0 x 2, HD Audio และสวิตช์เปลี่ยนไฟ RGB อีกปุ่ม ซึ่งเคส Montech X3 GLASS ตัวนี้นับเป็นเคสคอมสีขาวน่าใช้ที่รองรับการ์ดจอแบบ 2 พัดลมได้สบายๆ และราคาก็ไม่แพงมาก

สเปคของ Montech X3 glass

Dimension (มิลลิเมตร)	370 x 210 x 480
Supported Mainboard	ITX~ATX
Supported GPU (มิลลิเมตร)	305
Drive Bays	3.5″ x 2 และ 2.5″ x 2
Front I/O Panel	USB 3.0 x 1, USB 2.0 x 2, HD Audio, สวิตช์เปลี่ยนไฟ RGB
Price	1,750 บาท (Speed computer Shopee)

3. ASUS PRIME AP201 (2,290 บาท)

ASUS PRIME AP201 เป็นเคสคอมสีขาวดีไซน์สวยเรียบร้อยเน้นความหรูหราน่าใช้ จะทำเป็นเคสคอมทำงานหรูๆ หรือเคสเกมมิ่งก็เข้ากันอย่างแน่นอน ตัวเคสเจาะรูระบายอากาศเอาไว้รอบตัวทั้งด้านหน้า, ข้างและหลังคาเคส ทำให้จัดทิศทางลมเข้าออกได้สะดวกและติดพัดลมได้มากสุด 6 ตัว และมีกรอบจัดสายไฟซ่อนเอาไว้ด้วย ขนาดของมันอยู่ที่ 205 x 350 x 460 มิลลิเมตร รองรับเมนบอร์ด mATX, ITX ติดตั้งหม้อน้ำระบายความร้อนซีพียู แบบ 3 ตอน ยาว 360 มม. ได้ รองรับการ์ดจอยาว 338 มม. ติดตั้งซิ้งค์ระบายความร้อนซีพียูได้สูงถึง 170 มม. ด้านหน้าเคสมีพอร์ต USB-A 3.2 Gen 1 x 2, USB-C 3.2 Gen 2 x 1, HD Audio มีช่องติดตั้งฮาร์ดดิสก์ 3.5″ x 3 และ 2.5″ x 1 ช่อง หากใครต้องการเคสดีไซน์หน้าตาสวยเรียบร้อยแต่ซ่อนความแรงเอาไว้ในตัว ใส่การ์ดจอเกมมิ่งตัวท็อปได้สบายๆ ล่ะก็ ASUS PRIME AP201 ตัวนี้ถือว่าน่าใช้มากและผู้เขียนเองก็ชื่นชอบมันเป็นพิเศษด้วย

สเปคของ ASUS PRIME AP201

Dimension (มิลลิเมตร)	205 x 350 x 460
Supported Mainboard	ITX~mATX
Supported GPU (มิลลิเมตร)	338
Drive Bays	3.5″ x 3 และ 2.5″ x 1
Front I/O Panel	USB-A 3.2 Gen 1 x 2, USB-C 3.2 Gen 2 x 1, HD Audio
Price	2,290 บาท (Hardware Corner Shopee)

4. SEGOTEP GANK 360 (2,980 บาท)

SEGOTEP GANK 360 ของ DEVAS IPASON เป็นเคสคอมสีขาวน่าใช้ติดไฟ ARGB เพิ่มสีสันความสวยงามมาด้วยและตัวเคสเป็นแบบแม่เหล็กจึงถอดออกใส่เข้าได้ง่าย รองรับเมนบอร์ดขนาด E-ATX ได้สบายๆ มีมิติเคส 478 x 221 x 488 มิลลิเมตร ติดตั้งการ์ดจอได้ยาว 390 มม. และใส่ซิ้งค์พัดลมระบายความร้อนสูง 170 มม. หรือจะเป็นหม้อน้ำ 3 ตอน ยาว 360 มม. ไว้ด้านหน้าหรือหลังคาของเคสก็ได้ ใส่ฮาร์ดดิสก์ขนาด 3.5″ ได้ 2 ช่องด้านใต้เคส หรือใส่ 3.5″ กับ 2.5″ อย่างละอันก็ได้ ส่วนในตัวเคสใส่ SSD  2.5″ x 2 อันได้ด้วย ด้านหน้าเคสมีพอร์ต USB-A 3.0, USB-C, HD Audio ได้อย่างละช่อง แต่มีรุ่นย่อยที่เป็น USB 3.0 x 2 กับ HD Audio ติดตั้งมาให้ หากใครใช้เมนบอร์ดขนาดใหญ่หรือใส่การ์ดจอ 3 พัดลมล่ะก็ แนะนำให้ดูเคส SEGOTEP ตัวนี้เอาไว้เลย รับรองว่าประกอบได้สบายๆ แน่นอน

สเปคของ SEGOTEP GANK 360

Dimension (มิลลิเมตร)	478 x 221 x 488
Supported Mainboard	E-ATX
Supported GPU (มิลลิเมตร)	390
Drive Bays	3.5″ x 2 / 3.5″+2.5″ ใต้เคส ในเคสใส่ 2.5″ x 2
Front I/O Panel	USB-A 3.0 x 1, USB-C x 1, HD Audio USB 3.0 x 2 กับ HD Audio
Price	2,980 บาท (DEVAS IPASON Shopee Mall)

5. ASUS TUF GAMING GT501 (4,350 บาท)

ถ้าต้องการเคสคอมสีขาวไซซ์ใหญ่ดีไซน์เกมมิ่งอย่าง ASUS TUF GAMING GT501 เป็นรุ่นที่ผู้เขียนแนะนำสำหรับสายเคสใส่ เพราะใส่อุปกรณ์ต่างๆ ได้เยอะไม่ว่าจะชุดหม้อน้ำ 360 มม. เข้าหน้าหรือเพดานเคสได้ ติดเชือกยกเคสรับน้ำหนักได้ 30 กก. มาให้กับไฟ RGB ในตัว ปรับด้วยโปรแกรม ASUS AURA Sync ได้ ซึ่งผู้เขียนมั่นใจว่าแฟนคลับ ASUS น่าจะมองหาเคสรุ่นนี้อยู่อย่างแน่นอน ขนาดของเคสอยู่ที่ 552 x 251 x 545 มม. จัดว่าใหญ่มาก ใส่เมนบอร์ด ATX หรือ E-ATX ขนาด 12″ x 10.9″ ได้ รองรับการ์ดจอยาวสุด 420 มม. ใส่การ์ดจอตัวท็อปทุกรุ่นในปัจจุบันได้อย่างแน่นอนและรองรับซิ้งค์ซีพียูได้สูงสุด 180 มม. ถ้าใครชอบอวดการ์ดจอก็มี Expansion Slot แนวตั้งอีก 2 ช่องมาให้ มีช่องติดตั้งฮาร์ดดิสก์ 3.5″ x 4 กับ SSD 2.5″ x 3 ช่อง มีเทปตีนตุ๊กแกสำหรับจัดสายไฟติดมาให้ในตัว พอร์ตหน้าเคสมี USB-A 3.1 Gen 1 x 2, HD Audio อีกชุด หากใครหาเคสใส่อัพเกรดสะดวกใส่การ์ดจอหรือซิ้งค์อะไรก็ได้สบายๆ ไม่ต้องห่วงว่าจะติดข้างเคสชนพัดลมตรงไหนล่ะก็ เคส ASUS TUF GAMING ตัวนี้ถือว่าน่าเล่นมาก ลงทุนครั้งเดียวใช้ไปได้นานหลายปีแน่นอน

สเปคของ ASUS TUF GAMING GT501

Dimension (มิลลิเมตร)	552 x 251 x 545
Supported Mainboard	ATX หรือ E-ATX ขนาด 12″ x 10.9″
Supported GPU (มิลลิเมตร)	420
Drive Bays	3.5″ x 4 และ 2.5″ x 3
Front I/O Panel	USB-A 3.1 Gen 1 x 2, HD Audio
Price	4,350 บาท (BaNANA Shopee Mall)

6. Fractal Design Pop Air (4,490 บาท)

เจ้าแห่งเคสคอมสีขาวดีไซน์เรียบหรูดูดีจากประเทศสวีเดนต้องยกให้ Fractal Design อย่าง Fractal Design Pop Air รุ่นนี้น่าจะถูกใจคนแต่งห้องสายมินิมอลแน่นอน โดยเคสนี้ดีไซน์โตรงตาข่ายหน้าเครื่องแบบรังผึ้งแล้วติดพัดลม ARGB มาให้ถึง 3 ตัว เพื่อดึงลมจากหน้าเครื่องตรงออกหลังเคสได้อย่างรวดเร็ว และดีไซน์ซ่อนถาดใส่ไดรฟ์ขนาด 5.25″ x 2 ช่องเอาไว้หน้าเคสด้วย เผื่อผู้ใช้คนไหนยังอยากใช้ไดรฟ์ DVD ก็ถอดเปิดใส่แล้วปิดซ่อนกลับได้ทันที ติดตั้งฮาร์ดดิสก์แบบ 3.5″ x 3 และ 2.5″ x 4 ช่อง ขนาดตัวเคสอยู่ที่ 473.5 x 215 x 454 มม. ใส่เมนบอร์ด ATX ได้ รองรับการ์ดจอได้ยาวสุด 405 มม. และซิ้งค์พัดลมสำหรับซีพียูสูง 170 มม. ได้สบายๆ ส่วนพอร์ต Front I/O Panel ติดเอาไว้ขอบบนเครื่อง มี USB 3.0 x 2, HD Audio และปุ่มเปลี่ยนไฟ RGB ด้วย จัดเป็นเคสคอมสวยเรียบหรูแต่ใส่ซิ้งค์ซีพียูตัวใหญ่และการ์ดจอตัวท็อปได้สบายๆ ซึ่งผู้เขียนเชื่อว่ามีเกมเมอร์หลายคนชอบเคสคอมสีขาวสไตล์เรียบหรูแต่ใส่ของแรงได้สบายๆ อย่างตัวนี้อยู่อย่างแน่นอน ถ้าใครอยากได้ผู้เขียนก็คิดว่าคุ้มจะลงทุนซื้อมาใช้มาก

สเปคของ Fractal Design Pop Air

Dimension (มิลลิเมตร)	473.5 x 215 x 454
Supported Mainboard	ATX
Supported GPU (มิลลิเมตร)	405
Drive Bays	3.5″ x 3 และ 2.5″ x 4
Front I/O Panel	USB 3.0 x 2, HD Audio, ปุ่มเปลี่ยนไฟ RGB
Price	4,490 บาท (Jedicool Shopee Mall)

7. Fractal Design Torrent Nano (5,390 บาท)

Fractal Design Torrent Nano เป็นเคสคอมสำหรับสายเคสเล็กแต่เรื่องความเย็นจัดว่าสบายเหลือเฟือแน่นอน เพราะทางบริษัทติดพัดลมหน้าเคส 180 มม. มาให้ให้ระบายอากาศได้อย่างรวดเร็วและดีไซน์ซ่อน PSU เอาไว้ในกรอบด้านบนของเคสได้อย่างลงตัวแล้วซ่อนฮาร์ดดิสก์ 2.5″ x 2 อันเอาไว้ด้านหลังเมนบอร์ดและติดฮาร์ดดิสก์ 3.5″ อีกอันเอาไว้ถัดลงมาจากการ์ดจอได้ สามารถติดตั้งเมนบอร์ดขนาด mATX กับ ITX ได้ รองรับซิ้งค์ซีพียูสูง 165 มม. กับการ์ดจอได้ยาวสุด 335 มม. พร้อมก้านพยุงการ์ดจอแถมาให้ใช้ ตัวเคสขนาด 417 x 222 x 374 มม. เท่านั้น จัดว่าเล็กกำลังดี ส่วนพอร์ตหน้าเคสมี USB-C 3.1 Gen 2 x 1, USB-A 3.0 x 2, HD Audio อีกชุด เรียกว่าเป็นเคสเล็กแต่น่าใช้ ระบายอากาศได้เย็นถึงใจและใส่การ์ดจอใหญ่ระดับ RTX 4090 ได้ด้วยเพราะมี Expansion Slot อีก 3 ช่องหลังเคสด้วย ถูกใจเกมเมอร์ที่อยากเล่นเคสคอมสีขาวไซซ์เล็กแต่แรงถึงใจอย่างแน่นอน

สเปคของ Fractal Design Torrent Nano

Dimension (มิลลิเมตร)	417 x 222 x 374
Supported Mainboard	mATX, ITX
Supported GPU (มิลลิเมตร)	335
Drive Bays	3.5″ x 1 และ 2.5″ x 2
Front I/O Panel	USB-C 3.1 Gen 2 x 1, USB-A 3.0 x 2, HD Audio
Price	5,390 บาท (Kim IT Online Shopee)

8. Thermaltake Core P6 (6,350 บาท)

เคสคอมสีขาวรุ่นสุดท้ายเพื่อเกมเมอร์สายเคสกระจกสไตล์ตู้โชว์ของตั้งโต๊ะอย่าง Thermaltake Core P6 ซึ่งทีเด็ดของเคสนี้คือ ทาง Thermaltake ออกแบบให้ประกอบตัวเป็นเคสปิดแบบในภาพหรือถอดหลังคา, กระจกหน้าและฝาหลังเคสออกเป็นเฟรมเปิดได้ด้วยเรียกว่าซื้อเคสเดียวใช้ได้สองสไตล์ตามใจเจ้าของแถมยังมีช่องเจาะแขวนเคสเข้ากำแพงบ้านได้ด้วย โดยรายละเอียดสเปคส่วนนี้ผู้เขียนขอยกในกรณีประกอบใช้งานเป็นเคสคอมปิดตามภาพด้านบนว่าเคส Core P6 นี้มีขนาด 565 x 255 x 530 มม. รองรับการ์ดจอได้ยาวสุด 458 มม. หากไม่ติดชุดหม้อน้ำระบายความร้อน ใส่ซิ้งค์ซีพียูได้สูงสุด 180 มม. ติดตั้งเมนบอร์ดขนาด ATX ได้ รองรับฮาร์ดดิสก์ 3.5″ x 4 หรือ 2.5″ x 8 อัน มีพอร์ต USB-C 3.2 Gen 2 x 1, USB 3.0 x 2, USB 2.0 x 2, HD Audio x 1 ติดมาให้หน้าเครื่อง หากใครต้องการเคสสวยดีไซน์ไม่เหมือนใครถอดแยกชิ้นส่วนได้ตามต้องการล่ะก็ Thermaltake Core P6 เองเป็นเคสคอมสีขาวที่พลิกแพลงได้ดีมากรุ่นหนึ่งเลย

สเปคของ Thermaltake Core P6

Dimension (มิลลิเมตร)	565 x 255 x 530
Supported Mainboard	ATX
Supported GPU (มิลลิเมตร)	458
Drive Bays	3.5″ x 4 หรือ 2.5″ x 8
Front I/O Panel	USB-C 3.2 Gen 2 x 1, USB 3.0 x 2, USB 2.0 x 2, HD Audio x 1
Price	6,350 บาท (Thermaltake Shopee Mall)

จะเห็นว่าเคสคอมสีขาวดีไซน์สวยสเปคน่าใช้ ณ ปี 2023 นี้ ก็มีรุ่นเด็ดให้เลือกซื้อไปใช้งานเยอะทีเดียว ซึ่งทั้ง 8 รุ่นนี้ต้องถือเป็นรุ่นแนะนำในมุมมองของผู้เขียนเป็นหลักเท่านั้น แต่จริงๆ แล้วในท้องตลาดยังมีให้เลือกอีกหลากหลายรุ่นทีเดียว และยังไม่รวมหลายๆ รุ่นที่มีวางจำหน่ายต่างประเทศแต่ไม่ได้นำเข้าไทยอีกหลากหลายรุ่นทีเดียว หากใครอยากเปลี่ยนเคสให้เข้าธีมกับห้องโทนสว่างหรือเอามาตัดโทนมืดในห้องให้ดูสวยงามยิ่งขึ้นอยู่ก็เลือกรุ่นที่สนใจไปใช้งานได้เลย และมั่นใจว่าจะใช้งานได้อีกหลายปีไม่ต้องเสียเงินซื้อใหม่บ่อยๆ แน่นอน

---

บทความที่เกี่ยวข้อง

• 8 จอคอม 24 นิ้ว สายเกมมิ่งตัวเด็ดตัวเทพ พร้อมเรื่องน่ารู้ก่อนเลือกจอคอมใหม่ อัพเดทปี 2023

• 8 เคสคอมสวยๆ ดีไซน์อย่างล้ำ อย่างกับเฟอร์นิเจอร์!! อัพเดทปี 2023

• 7 เคสคอมสีชมพูเอาใจสายหวาน คุณภาพดี จะเคสเล็กเคสใหญ่ก็มีให้เลือก เริ่มแค่ 1,190 บาท อัพเดทปลายปี 2022

from:https://notebookspec.com/web/683401-8-white-computer-case-2023

7 เคสคอมสีชมพูเอาใจสายหวาน คุณภาพดี จะเคสเล็กเคสใหญ่ก็มีให้เลือก เริ่มแค่ 1,190 บาท อัพเดทปลายปี 2022

https://shope.ee/9eioZ8sCSQ

เคสคอมสีชมพูสวยคิ้วท์เอาใจสายหวาน ใส่ไดรฟ์ได้เยอะตามใจ!

Advertisement

รสนิมของผู้คนมีหลากหลาย โดยเฉพาะเรื่องสีของข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัวยิ่งเป็นประเด็นใหญ่ของใครหลายๆ คน เช่น เคสคอมสีชมพูที่เกมเมอร์โดยเฉพาะสาวๆ เกมเมอร์น่าจะชื่นชอบกันอย่างแน่นอน จะได้แต่งห้องให้เข้าธีมเป็นสีพาสเทลสวยๆ น่ารัก ไม่ต้องเป็นสีดำหรือสีขาวเท่านั้น ไม่ต้องพึ่งคนใกล้ตัวให้ขัดพ่นสีเคสใหม่อีกด้วย

นอกจากนี้เคสคอมสีชมพูหลายๆ รุ่นในปัจจุบันก็รองรับเมนบอร์ดขนาดใหญ่ระดับ ATX ได้ และยังได้ของแถมติดเคสเพิ่มเข้ามาด้วยและเป็นของแถมคุณภาพดีไม่ได้แถมมาเพื่อให้ดูดีอย่างเดียวอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะ Power Supply หรือชุดระบายความร้อนด้วยน้ำแบบตอนเดียว ช่วยประหยัดค่าอุปกรณ์ไปได้หลายพันบาท ตอบโจทย์ผู้ใช้ที่เน้นความคุ้มค่าทุกบาททุกสตางค์อย่างแน่นอน

สเปคเคสคอมสีชมพู	ขนาดเคส (เซนติเมตร) จำนวนพัดลม	ขนาดเมนบอร์ด ความยาวการ์ดจอ	Drive Bay	พอร์ตเชื่อมต่อ	ราคา (บาท)
Nubwo NPC-326 Brenner	20 x 36 x 39.5 120 mm. x 6	mATX การ์ดจอ 310 mm.	3.5″ x 2 2.5″ x 2	USB 3.0 x 1 USB 2.0 x 2 HD Audio x 1 Microphone x 1	1,190
DARKFLASH DLM21	37.6 x 20.8 x 40.5 120 mm. x 6 120 mm. x 4, 140 mm. x 2	mATX การ์ดจอ 330~350 mm.	3.5″, 2.5″ x 4	USB 3.0 x 1 USB 2.0 x 2 HD Audio x 1	1,290
DEEPCOOL MACUBE 110	22.5 x 40 x 43.1 120 mm. x 6 140 mm. x 4	mATX การ์ดจอ 320 mm.	3.5″ x 2 2.5″ x 2	USB 3.0 x 2 Audio x 1	1,680
TSUNAMI Coolman 190-1	19 x 38 x 44.7 120 mm. x 6	mATX การ์ดจอ 305 mm.	3.5″ x 2 2.5″ x 3	USB 3.0 x 1 USB 2.0 x 2 Audio combo x 1	1,790
Cooler Master NR200P	18.5 x 37.6 x 29.2 120 mm. x 6, 92 mm. x 1 140 mm. x 2, 120 mm. x 4, 92 mm. x 1	ITX การ์ดจอ 330 mm.	3 ช่อง เลือกระหว่าง 3.5″ x 2 หรือ 2.5″ x 3	USB-A 3.2 Gen 1 x 2 Audio combo x 1	3,390
INWIN A1 Plus	21 x 34.3 x 23.1 120 mm. x 4	ITX การ์ดจอ 320 mm.	2.5″ x 2	USB-A 3.0 x 2 HD Audio x 1	5,080
COUGAR Conquer MINI	22.35 x 46.9 x 56.8 120 mm. x 4	mATX การ์ดจอ 314 mm.	3.5″ x 2 2.5″ x 2	USB 3.0 x 2 Mic x 1 Audio combo x 1	8,990

7 เคสคอมสีชมพู เอาใจเกมเมอร์สายหวาน สวยแตกต่างมีสไตล์!

เกมเมอร์ที่กำลังอยากได้เคสคอมสีชมพูเอาไว้ประกอบคอมเครื่องใหม่อยู่ ณ ปี 2022 นี้ก็มีให้เลือกหลากหลายรุ่นจากแบรนด์ชั้นนำที่หลายๆ คนน่าจะรู้จักกันดี และบางรุ่นก็มีของแถมติดเคสมาให้อีกด้วย โดยทั้ง 7 รุ่นที่ผู้เขียนเลือกมาแนะนำ ได้แก่ 

1. Nubwo NPC-326 Brenner (1,190 บาท)
2. DARKFLASH DLM21 (1,290 บาท)
3. DEEPCOOL MACUBE 110 (1,680 บาท)
4. TSUNAMI Coolman 190-1 (1,790 บาท)
5. Cooler Master NR200P (3,390 บาท)
6. INWIN A1 Plus (5,080 บาท)
7. COUGAR Conquer MINI (8,990 บาท)

1. Nubwo NPC-326 Brenner (1,190 บาท)

เคสคอมสีชมพูอันแรกเป็นแบรนด์ราคาประหยัดขวัญใจเกมเมอร์ชาวไทยหลายคนอย่าง Nubwo NPC-326 Brenner ซึ่งตัวนี้ดีไซน์ให้เป็นเคสแบบวางพื้นห้องเพราะชุดพอร์ตและปุ่ม Front I/O Panel ติดตั้งเอาไว้ตรงฝาหลังของเคส หน้าเคสเป็นตาข่ายให้ระบายลมได้ดีและฝาข้างเป็นกระจก Tempered Glass ให้ความสวยงาม โชว์พาร์ทภายในตัวเครื่องแบบชัดเจน

สเปคของเคสตัวนี้มีขนาด 20 x 36 x 39.5 เซนติเมตร (กว้าง x ลึก x สูง) รองรับเมนบอร์ดได้ใหญ่สุดระดับ mATX ติดตั้งพัดลมระบายความร้อนขนาด 120 มม. ได้มากสุด 6 ตัว รองรับชุดระบายความร้อนด้วยน้ำแบบ 2 ตอน ขนาด 240~280 มม. ติดตั้งการ์ดจอได้ยาวสุด 310 มม. ได้ มี Drive Bay ใส่ฮาร์ดดิสก์ 3.5″ และ 2.5″ ได้อย่างละ 2 ช่อง ส่วนพอร์ต Front I/O Panel มี USB 3.0 x 1, USB 2.0 x 2, HD Audio x 1, Microphone x 1 และยังมีสีขาวและดำให้เลือกด้วย ถ้าใครอยากได้เคสคอมสีชมพูราคาไม่แพงเกินไปก็เริ่มจากเคสนี้ก่อนได้เลย

สเปคของ Nubwo NPC-326 Brenner

• Dimension (กว้าง x ลึก x สูง) : 20 x 36 x 39.5 เซนติเมตร
• Mainboard Size : mATX
• Fan Support : 120 mm. x 6
• Graphics Card Support : 310 mm.
• Drive Bay : 3.5″ x 2, 2.5″ x 2
• Front I/O Panel : USB 3.0 x 1, USB 2.0 x 2, HD Audio x 1, Microphone x 1
• Price : 1,190 บาท (hpbyiqink Shopee)

2. DARKFLASH DLM21 (1,290 บาท)

DARKFLASH DLM21 รุ่นนี้ก็เป็นเคสคอมสีชมพูสวยน่าใช้อีกรุ่นหนึ่งและยังมีสีเขียวมิ้นท์ให้เลือกด้วย กรณีว่าเกมเมอร์เบื่อสีขาวดำแล้วอยากเพิ่มสีสันให้ห้องของตัวเองบ้างก็น่าสนใจ ได้ฝาข้างกระจกใส Tempered Glass กางได้แบบบานประตู หน้าเคสเป็นตาข่ายให้ระบายอากาศได้ดีและติดพอร์ต Front I/O Panel เอาไว้ขอบบนของตัวเคสอีกด้วย

ขนาดของเคสตัวนี้อยู่ที่ 37.6 x 20.8 x 40.5 เซนติเมตร (กว้าง x ลึก x สูง) ติดตั้งเมนบอร์ดขนาด mATX ได้ รองรับพัดลมระบายความร้อนขนาด 120 มม. x 6 ตัว หรือจะติดตั้งพัดลมขนาด 140 มม. ตรงฝาหลังเคสอีก 2 ตัวก็ได้ รองรับชุดระบายความร้อนด้วยน้ำขนาด 240 มม. หรือฮีตซิ้งค์ซีพียูได้สูง 160 มม. รองรับการ์ดจอขนาด 330~350 มม. ได้ ด้าน Drive Bay มีทั้งหมด 4 ช่อง สำหรับใส่ฮาร์ดดิสก์ 3.5″ และ SSD 2.5″ ได้ ส่วนพอร์ต Front I/O Panel มี USB 3.0 x 1, USB 2.0 x 2, HD Audio x 1 ถ้าใครอยากได้เคสคอมสีชมพูตัวใหญ่เผื่อใส่การ์ดจอตัวท็อป ก็แนะนำให้ดู darkFlash ตัวนี้เอาไว้ได้เลย

สเปคของ DARKFLASH DLM21

• Dimension (กว้าง x ลึก x สูง) : 37.6 x 20.8 x 40.5 เซนติเมตร
• Mainboard Size : mATX
• Fan Support : 120 mm. x 6 / 120 mm. x 4, 140 mm. x 2
• Graphics Card Support : 330~350 mm.
• Drive Bay : 3.5″ และ 2.5″ x 4
• Front I/O Panel : USB 3.0 x 1, USB 2.0 x 2, HD Audio x 1
• Price : 1,290 บาท (hpbyiqink Shopee)

3. DEEPCOOL MACUBE 110 (1,680 บาท)

DEEPCOOL MACUBE 110 แบรนด์นี้ก็มีเคสคอมสีชมพูให้เลือกเช่นกัน และข้อดีคือเคสใหญ่มาก สามารถติดตั้งอุปกรณ์เสริมไม่ว่าจะพัดลมหรือชุดระบายความร้อนด้วยน้ำเสริมได้สบายๆ ไม่พอ ลูกเล่นของเคสนี้ได้แก่ฝาข้างแบบกระจก Tempered Glass ดูดติดกับตัวเคสด้วยแม่เหล็กได้สบายๆ ไม่พอ ทางผู้ผลิตก็ใส่ GPU Holder มาด้วย ช่วยซัพพอร์ตไม่ให้การ์ดจองอด้วย ส่วน Front I/O Panel ก็ถูกติดตั้งเอาไว้ฝาบนของตัวเคสเช่นกัน ได้ความสวยเรียบง่ายยิ่งขึ้น

ขนาดของเคสตัวนี้อยู่ที่ 22.5 x 40 x 43.1 เซนติเมตร (กว้าง x ลึก x สูง) รองรับเมนบอร์ดขนาด mATX เช่นกัน เลือกติดตั้งพัดลมระบายความร้อนได้ 2 ขนาด จะ 120 มม. x 6 หรือ 140 มม. x 4 ก็ได้ รองรับชุดระบายความร้อนด้วยน้ำขนาด 280 มม. หรือฮีตซิ้งค์ซีพียูสูง 165 มม. ติดตั้งการ์ดจอได้ยาวสุด 320 มม. ส่วน Drive Bay มีทั้งหมด 4 ช่อง แยกเป็น 3.5″  x 2, 2.5″ x 2 มีพอร์ต USB 3.0 x 2, Audio x 1 ติดตั้งไว้ตรง Front I/O Panel ตรงส่วนขอบบนเคส ถ้าใครชอบเคสหน้าตาเรียบง่ายแต่อัพเกรดได้เยอะก็เลือก DeepCool ตัวนี้ไปใช้ได้เลย

สเปคของ DEEPCOOL MACUBE 110

• Dimension (กว้าง x ลึก x สูง) : 22.5 x 40 x 43.1 เซนติเมตร
• Mainboard Size : mATX
• Fan Support : 120 mm. x 6 / 140 mm. x 4
• Graphics Card Support : 320 mm.
• Drive Bay : 3.5″  x 2, 2.5″ x 2
• Front I/O Panel : USB 3.0 x 2, Audio x 1
• Price : 1,680 บาท (KSC Official Shop Shopee)

4. TSUNAMI Coolman 190-1 (1,790 บาท)

TSUNAMI Coolman 190-1 ตัวนี้ผู้เขียนถือเป็นเคสคอมสีชมพูที่คุ้มมากตัวหนึ่ง เนื่องจากทางผู้ผลิตได้แถมชุดระบายความร้อนด้วยน้ำ 1 ตอน รุ่น Coolman CM-120 มาให้อีกตัว รองรับค่า TDP 150 วัตต์และยังมีชุดคุมแสงไฟ ARGB ใช้งานกับโปรแกรมคุมแสงไฟของเมนบอร์ดแต่ละรุ่นได้ตามชอบ จัดว่าคุ้มค่ามากและตัวเคสก็ติดตั้ง Front I/O Panel เอาไว้ขอบบนของตัวเคสเช่นเดียวกับเคสรุ่นอื่นที่เลือกมาแนะนำในบทความนี้

ขนาดของเคสคอม TSUNAMI อยู่ที่ 19 x 38 x 44.7 เซนติเมตร ติดตั้งเมนบอร์ดขนาด ATX ได้ รองรับพัดลมระบายความร้อนขนาด 120 มม. ได้ 6 ตัว ติดตั้งชุดระบายความร้อนด้วยน้ำ 2 ตอนหรือฮีตซิ้งค์สำหรับซีพียูความสูง 165 มม. ก็ได้ รองรับการ์ดจอแยกได้ยาวสุด 305 มม. มี Drive Bay สำหรับติดตั้งฮาร์ดดิสก์ได้ทั้งหมด 3.5″ x 2, 2.5″ x 3 ช่อง ส่วน Front I/O Panel มีพอร์ต USB 3.0 x 1, USB 2.0 x 2, Audio combo x 1 ช่องให้ใช้งาน ถ้าใครชอบเคสคอมสีชมพูคุ้มๆ สักตัวเอาไว้ใช้ก็ซื้อเคสของ TSUNAMI ตัวนี้ไปใช้งานได้เลย เพราะแค่ชุดระบายความร้อนด้วยน้ำตัวเดียวก็คุ้มค่าแล้ว

สเปคของ TSUNAMI Coolman 190-1

• Dimension (กว้าง x ลึก x สูง) : 19 x 38 x 44.7 เซนติเมตร
• Mainboard Size : ATX
• Fan Support : 120 mm. x 6
• Graphics Card Support : 305 mm.
• Drive Bay : 3.5″ x 2, 2.5″ x 3
• Front I/O Panel : USB 3.0 x 1, USB 2.0 x 2, Audio combo x 1
• Price : 1,790 บาท (Advice Shopee Mall)

5. Cooler Master NR200P (3,390 บาท)

Cooler Master NR200P เคสคอมสีชมพูจากแบรนด์ชั้นนำที่มีชื่อเสียงด้านนี้มานานก็น่าใช้มาก เพราะตัวโลหะทำเคสแข็งแรงและถอดแยกชิ้นส่วนจนเหลือแต่โครงเปล่าๆ ได้สบายๆ เหมาะกับสายแต่งคอมเป็นอย่างมาก และออกแบบเป็น Tool-free ไม่ต้องมีไขควงใช้มือเปล่าก็ประกอบเคสนี้ได้สบายๆ และทาง Cooler Master ก็แถม PCI Riser สำหรับติดตั้งการ์ดจอในแนวตั้งได้ด้วย เผื่อผู้ใช้คนไหนจะเปลี่ยนมาใช้ฝาข้างกระจกใสก็โชว์การ์ดจอในเครื่องได้ด้วย ส่วน Front I/O Panel ถูกติดตั้งเอาไว้ขอบบนของตัวเคส

มิติของเคส NR200P อยู่ที่ 18.5 x 37.6 x 29.2 เซนติเมตร (กว้าง x ลึก x สูง) รองรับเมนบอร์ด ITX ติดตั้งพัดลมระบายความร้อนขนาด 120 มม. x 6, 92 มม. x 1 ถ้าต้องการใส่พัดลมขนาด 140 มม. สามารถติดตั้งได้ 2 ตัวด้านข้างเคส รองรับชุดระบายความร้อนด้วยน้ำขนาด 240~280 มม. หรือฮีตซิ้งค์ระบายความร้อนด้วยลม 155 มม. ติดตั้งการ์ดจอได้ยาวสุด 330 มม. มี Drive Bay ให้ติดตั้งฮาร์ดดิสก์ได้ 3 ช่อง เลือกได้ว่าจะติดตั้งฮาร์ดดิสก์ขนาด 3.5″ x 2 หรือ 2.5″ x 3 ช่องก็ได้ ส่วน Front I/O Panel มีพอร์ต USB-A 3.2 Gen 1 x 2, Audio combo x 1 หากใครอยากได้เคสคอมสีชมพูงานประกอบแข็งแรงทนทานไว้ใจได้ ก็ซื้อ Cooler Master ตัวนี้ไปประกอบเครื่องได้เลย

สเปคของ Cooler Master NR200P

• Dimension (กว้าง x ลึก x สูง) : 18.5 x 37.6 x 29.2 เซนติเมตร
• Mainboard Size : ITX
• Fan Support : 120 mm. x 6, 92 mm. x 1 / 140 mm. x 2, 120 mm. x 4, 92 mm. x 1
• Graphics Card Support : 330 mm.
• Drive Bay : 3 ช่อง เลือกติดตั้งฮาร์ดดิสก์ขนาด 3.5″ x 2 หรือ 2.5″ x 3
• Front I/O Panel : USB-A 3.2 Gen 1 x 2, Audio combo x 1
• Price : 3,390 บาท (BaNANA)

6. INWIN A1 Plus (5,080 บาท)

แบรนด์ INWIN แม้ไม่คุ้นหูเกมเมอร์ชาวไทย แต่ผู้เขียนแนะนำ INWIN A1 Plus รุ่นนี้เป็นพิเศษ เพราะคุ้มค่าและมีฟีเจอร์น่าสนใจ อย่างแรกคือผู้ผลิตแถม Power Supply INWIN 650 วัตต์ 80+ Gold มาให้ในตัว ถัดมาคือฝาหลังเคสชาร์จไร้สายตามมาตรฐาน Qi กำลังไฟ 10 วัตต์ มีไฟ ARGB ปรับแต่งเอฟเฟคไฟด้วยโปรแกรมไฟของแบรนด์เกมมิ่งชั้นนำได้ และขนาดของตัวเคสยังเล็กกะทัดรัดวางบนโต๊ะคอมพิวเตอร์ได้สบาย

มิติของเคสอยู่ที่ 21 x 34.3 x 23.1 เซนติเมตร (กว้าง x ลึก x สูง) รองรับเฉพาะเมนบอร์ด ITX เท่านั้น ติดตั้งพัดลมระบายความร้อนขนาด 120 มม. ได้มากสุด 4 ตัว แต่เคสนี้จะเหมาะกับฮีตซิ้งค์ระบายความร้อนด้วยลมความสูงไม่เกิน 160 มม. เป็นหลักหรือไม่ก็ชุดน้ำตอนเดียวเท่านั้น รองรับการ์ดจอยาวสุด 320 มม. ด้าน Drive Bay ติดตั้งฮาร์ดดิสก์หรือ SSD ขนาด 2.5″ ได้ 2 ช่อง ส่วนของ Front I/O Panel มีพอร์ต USB 3.0 x 2, HD Audio x 1 ช่องให้ใช้งาน ซึ่งเคสคอมสีชมพูจาก INWIN ตัวนี้จัดว่าเหมาะกับผู้ใช้ที่อยากประกอบคอมเคสเล็กบอร์ด ITX เป็นอย่างมาก นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์น่าใช้และ Power Supply 650 วัตต์ 80+ Gold แถมมาให้ในเคสด้วย ประหยัดเงินเอาไว้ซื้อเกมมิ่งเกียร์หรือเติม SSD เข้าไปอีกตัวก็ยังได้

สเปคของ INWIN A1 Plus

• Dimension (กว้าง x ลึก x สูง) : 21 x 34.3 x 23.1 เซนติเมตร
• Mainboard Size : ITX
• Fan Support : 120 mm. x 4
• Graphics Card Support : 320 mm.
• Drive Bay : 2.5″ x 2
• Front I/O Panel : USB-A 3.0 x 2, HD Audio x 1
• Price : 5,080 บาท (MediaZ Shopee)

7. COUGAR Conquer MINI (8,990 บาท)

ถ้าใครเบื่อเคสคอมสีชมพูทรงกล่องสี่เหลี่ยมตามมาตรฐานแล้ว ก็มี COUGAR Conquer MINI ให้เลือกไปประกอบคอมเครื่องใหม่ได้เลย นอกจากดีไซน์จะสวย ได้ฝาข้าง Tempered Glass แล้ว ยังเป็นโครงสร้างแบบเปิดทำให้ระบายอากาศได้ดี ถ้ายิ่งเสริมพัดลมระบายความร้อนเข้าไปยิ่งระบายความร้อนได้ดีขึ้นมาก

มิติของเคสนี้อยู่ที่ 22.35 x 46.9 x 56.8 เซนติเมตร (กว้าง x ลึก x สูง) รองรับเมนบอร์ด mATX ได้ ติดตั้งพัดลมระบายความร้อนขนาด 120 มม. x 4 ตัว ติดตั้งชุดระบายความร้อนด้วยน้ำได้ใหญ่สุด 240 มม. หรือฮีตซิ้งค์ซีพียูสูงสุด 145 มม. รองรับการ์ดจอได้ยาวสุด 314 มม. ด้าน Drive Bay สำหรับติดตั้งฮาร์ดิสก์รองรับ 3.5″ x 2, 2.5″ x 2 ช่อง ด้าน Front I/O Panel มีพอร์ต USB 3.0 x 2, Mic x 1, Audio combo x 1 หากใครเบื่อหน้าตาเคสเดิมๆ อยากให้ห้องดูเท่แตกต่างก็ซื้อเคสตัวนี้ไปใช้งานได้เลย และจุดเด่นของเคสดีไซน์นี้ คือเรื่องการระบายอากาศที่ดีมาก ไม่มีปัญหาเรื่องความร้อนมากวนใจอย่างแน่นอน

สเปคของ COUGAR Conquer MINI

• Dimension (กว้าง x ลึก x สูง) : 22.35 x 46.9 x 56.8 เซนติเมตร
• Mainboard Size : mATX
• Fan Support : 120 mm. x 4
• Graphics Card Support : 314 mm.
• Drive Bay : 3.5″ x 2, 2.5″ x 2
• Front I/O Panel : USB 3.0 x 2, Mic x 1, Audio combo x 1
• Price : 8,990 บาท (Cougar Shopee Mall)

จะเห็นว่าเคสคอมพิวเตอร์ก็ไม่จำเป็นต้องยึดติดกับสีขาวดำอีกต่อไป ยังมีเคสคอมสีชมพูและเคสสีอื่นๆ ให้เลือกอีกหลากหลายรุ่นเพื่อเกมเมอร์ที่ชอบสีอื่นให้เลือกเอาไว้ประกอบพีซีของตัวเองได้ด้วย และราคาก็มีตั้งแต่ไม่กี่พันบาทไปจนเกือบหมื่นบาทเลยทีเดียว ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ ทั้งงานประกอบ, วัสดุ หรือแม้แต่ฟีเจอร์ก็เป็นปัจจัยที่ทำให้ราคาเคสแตกต่างกัน

แต่ในมุมของผู้เขียนอยากแนะนำว่า ถ้าจะซื้อเคสคอมพิวเตอร์อันใหม่ทั้งทีก็อยากให้ซื้อเคสดีๆ ให้จบไปเลย จะแพงสักหน่อยก็ไม่เป็นไรเพราะอุปกรณ์ชิ้นนี้ไม่ได้เปลี่ยนกันบ่อยๆ อย่างแน่นอน ถ้าลงทุนซื้ออย่างดีเอาไว้ใช้อันเดียวก็อยู่ได้หลายปี อัพเกรดสเปคในเครื่องไปกี่รอบก็ยังใช้งานได้ไม่ต้องซื้อใหม่ให้เปลืองเงิน ถ้าจะเลือกซื้อก็หาแบรนด์ชั้นนำใช้น็อตเบอร์ใหญ่ยึดเมนบอร์ดและการ์ดจอจะช่วยลดปัญหาที่จะตามมาในภายหลังได้มากอีกด้วย

---

บทความที่เกี่ยวข้อง

• 6 แท็บเล็ตราคาไม่เกิน 3000 บาท อ่านหนังสือก็ดีเรียนออนไลน์ก็โอเค อัพเดทปลายปี 2022

• 7 จอคอม 24 นิ้ว น่าใช้เพื่อคนทำงาน สเปคคุ้มน่าใช้ เริ่มต้น 3,800 บาท อัพเดทปลายปี 2022

• รีวิว ASUS ExpertBook B3 Detachable ชิป Snapdragon ทำงานลื่น แบตฯ 21 ชม. ไม่ง้อปลั๊ก!!

 

from:https://notebookspec.com/web/662911-7-pink-computer-case

6 เคสคอมสุดแจ่ม ใช้นานหลายๆ ปี ฝาข้างใสไฟ RGB วิบวับ เริ่ม 1,990 บาท!

เคสคอมนอกจากเป็นหน้าตาและการแสดงรสนิยมตอนจัดโต๊ะคอม ก็ยังแสดงรสนิยมของเราตอนจัดโต๊ะด้วย

เคสคอมเป็นอุปกรณ์คอมชิ้นที่หลายๆ คนชอบเรียกสลับเป็นซีพียูที่หมายถึงชิปประมวลผลบนเมนบอร์ดเป็นประจำ เวลาผู้ใช้ทั่วไปคุยกับคนเก่งเรื่องคอมบางทีก็ต้องมีถามกันบ้างว่าตกลงเราคุยเรื่องเดียวกันหรือเปล่าอย่างแน่นอน ซึ่งคนที่จะประกอบคอมสักเครื่องถ้าไม่ได้เป็น Modder มือฉมังที่สรรหาเอาข้าวของต่างๆ รอบบ้านมาทำเป็นเคสไว้ยึดเมนบอร์ด, การ์ดจอแล้ว ผู้ใช้ทั่วไปอย่างเราๆ (รวมถึงผู้เขียนด้วย) ก็ต้องมองหาเคสดีๆ เอาไว้เป็นโครงยึดชิ้นส่วนต่างๆ ของคอมพิวเตอร์อย่างแน่นอน

Advertisement

สำหรับมือใหม่ที่ยังไม่มีไอเดียว่าจะเลือกเคสมาประกอบคอมยังไงให้คุ้ม ใส่ชิ้นส่วนได้เยอะ ซื้อการ์ดจอใหม่หรือเปลี่ยนเมนบอร์ดสักทีก็ใส่ได้สบายๆ อัพเกรดต่อได้อีกหลายๆ ปี มีวิธีเลือกอย่างไรบ้าง? ซึ่งวิธีการเลือกนั้นจริงๆ แล้วไม่ได้ยากอย่างที่คิด และถ้าเข้าใจแก่นการเลือกของมันสักนิด ทีนี้จะอัพเกรดหรือจะทำอะไรกับมันก็ง่ายอย่างแน่นอน

ฮาวทูเลือกเคสคอมฉบับรีบอ่านรีบไปซื้อ หน้าสเปคเขาเขียนอะไรไว้จะได้ไม่โดนแกง!

นอกจากเรื่องไฟ RGB, กระจกข้างใสให้โชว์ไส้ในของคอมแล้ว การเลือกเคสสักอันเอาไว้เป็นกล่องรวมพาร์ทต่างๆ ของตัวเครื่องให้เรียบร้อยสวยงามและป้องกันชิ้นส่วนภายในได้รับความเสียหายจากสภาพแวดล้อมได้ด้วย ซึ่งวิธีการเลือกนั้นจริงๆ แล้วไม่ได้ยากเลย แต่ต้องอาศัยการคิดเผื่อและวางแผนการใช้งานของเราในอนาคตเพิ่มเติม ว่าเราจะอัพเกรดเครื่องต่อไปในแนวทางไหน? ใส่ชุดน้ำหรือซิ้งค์ลม? จะลงการ์ดจอตัวเด็ดหรืออยากทำคอมสายหมกแบบตัวเล็กกะปุ๊กลุกแต่สเปคเล่นเกม AAA ได้หน้าตาเฉย? ในส่วนนี้มีผลทั้งหมด ซึ่งผู้เขียนแนะนำให้ตั้งคำถามก่อนซื้อเคสเยอะๆ สักหน่อยเพื่อไม่ให้เราต้องมานั่งกลุ้มกันภายหลังว่าเคสเก่ามันเล็กเกินไปจนต้องเปลี่ยนเป็นอันที่ใหญ่ขึ้น และก็ไม่มีไอเดียเลยว่าจะเอาเคสเก่าไปทำอะไรต่อดี?

ดังนั้นสิ่งที่ผู้เขียนอยากไกด์เป็นแนวทางการเลือกเคสที่ตอบโจทย์การใช้งาน จะเอามาประกอบคอมทำงานหรือเกมมิ่งพีซีก็ใส่ได้สบายๆ อัพเกรดได้อีกยาวๆ ด้วย โดยมีหลักการเลือกดังนี้

1. คิดเรื่องไซซ์เมนบอร์ดก่อน – เรื่องแรกที่ต้องโฟกัส คือเรื่องเมนบอร์ดที่จะเอามาใช้งานว่าจะใช้เมนบอร์ดไซซ์ไหน? ซึ่งเมนบอร์ดไซซ์ปกติที่ออกแบบมาใช้กับซีพียูระดับผู้ใช้ทั่วไป (End user) ก็มักเป็นเมนบอร์ดตั้งแต่ ITX, micro ATX, ATX เสียเป็นส่วนใหญ่ ส่วน E-ATX ก็มักเป็นซีพียูรุ่นพิเศษระดับ Workstation มักเอามาใช้กัน ซึ่งก่อนจะซื้อเคสทุกครั้งให้เริ่มต้นดูกันก่อนว่าเมนบอร์ดที่เราใช้งานนั้นอยู่ไซซ์ไหน และจะอัพเกรดไปไซซ์ E-ATX ในอนาคตหรือเปล่า
2. ความยาวใส่การ์ดจอแยกได้ระดับไหน – ถ้าใครอยู่ตามกลุ่มประกอบคอมหรือจัดสเปคคอม มักจะเห็นใครหลายๆ คนมาโพสท์ถามกันบ่อยๆ ว่าเคสเล็กไปใส่การ์ดจอไม่ได้ ทำอย่างไรดี? ซึ่งเงื่อนไขหนึ่งเมื่อเลือกเคสมาประกอบเกมมิ่งพีซีที่ผู้เขียนใช้บ่อยๆ คือจะดูความยาวของการ์ดจอแบบรวมๆ หลายๆ รุ่นว่าตอนนี้การ์ดจอมีความยาวราวกี่ มม. ตัวอย่างเช่น ASUS TUF Gaming GeForce RTX 3090 OC Edition จากหน้าสเปคตอนนี้ยาว 29.99 x 12.69 x 5.17 ซม. ถ้าต้องการหาเคสที่ใส่การ์ดจอนี้ได้ ต้องเปิดกระดาษสเปคดูช่อง Dimension ของเคสรุ่นนั้นๆ ที่เราสนใจว่ายาวพอใส่ได้ไหม หรือดูช่อง Maximum VGA Length ในหน้าสเปคว่าเคสนี้รองรับการ์ดจอได้ยาวสุดกี่มิลลิเมตร
3. ทีมลมซิ้งค์หนาหรือทีมน้ำสองสามตอน? – เรื่องระบบระบายความร้อนซีพียูจะชุดลมหรือชุดน้ำ 2-3 ตอน ก็ต้องดูแยกกันสักหน่อยดังนี้
   1. ชุดลม – ให้ดูส่วนของความสูงฮีตซิ้งค์ว่าเกินความกว้างของเคสหรือเปล่า ถ้าไม่เกินก็สามารถใส่ได้ หรือถ้าความสูงของซิ้งค์และความกว้างเคสใกล้เคียงกันอาจจะหมิ่นเหม่กันประมาณว่าปลายซิ้งค์เกือบแตะฝาข้างเคสแล้ว ส่วนถ้าเป็นพัดลมระบายความร้อนแถมมากับซีพียูก็ข้ามได้เลยเพราะใส่ได้อย่างแน่นอน
   2. ชุดน้ำ – ต้องดูหน้าสเปคว่าทางผู้ผลิตใส่พัดลมเอาไว้ตรงส่วนด้านบน, ด้านหน้าเคสกี่ตัว เพราะจำนวนช่องติดพัดลมของเคสเป็นตัวบังคับระยะตอนของชุดน้ำปิดไปโดยปริยายซึ่งทั่วไปจะอยู่ที่ 2 ตัว ก็สามารถใส่ชุดน้ำสองตอนที่รองรับพัดลม 2 ตัวได้ ถ้ามีด้านหน้าหรือด้านบนของเคสรับพัดลมได้ 3 ตัว ก็ใส่ชุดน้ำ 3 ตอนได้
4. คุณภาพงานประกอบและการเก็บสายไฟ – เรื่องของงานประกอบและการเก็บสายไฟเรียกว่าต้องอาศัยประสบการณ์การเลือกเคสหรือไปดูของจริงหน้างาน ลองจับเนื้อเหล็กและเคาะดูนิดหน่อยว่าเสียงเหล็กแน่นหรือเปล่า, เปิดฝาข้างเครื่องและดูระยะที่ผู้ผลิตเว้นเอาไว้ให้ ว่ากว้างหรือแคบไปเพราะมีผลต่อการเก็บสายไฟให้เรียบร้อยสวยงามด้วย

นอกจากนี้ จากประสบการณ์ตรงของผู้เขียนที่เคยลองใช้เคสราคาประหยัด เพราะอยากประกอบคอมเครื่องแรกให้เสร็จก่อนแล้วค่อยคิดเรื่องอัพเกรดทีหลังค่อยว่ากัน แต่พอได้อัพเกรดจากเคสหลักพันต้นๆ ขึ้นมาเป็นเคสหลักพันกลางแล้วก็เห็นจุดแตกต่างกันระหว่างเคสทั้งสองเกรดอย่างชัดเจนทีเดียว

สิ่งที่พบ อย่างแรกคือคุณภาพของโลหะของเคสราคาสูงจะหนาและแข็งแรงกว่ารวมทั้งใช้น็อตเบอร์ใหญ่กว่าอีกด้วย ซึ่งเกรดหลักพันต้นจะใช้น็อตเบอร์เดียวกับที่ใช้ขันฮาร์ดดิสก์มาขันเมนบอร์ดด้วย แต่เกรดพันกลางที่ราคาแพงกว่าจะใช้น็อตขันการ์ดจอมาขันล็อตเมนบอร์ดด้วย ทำให้ยึดได้แข็งแรงลดโอกาสเมนบอร์ดงอได้เมื่อใช้ไปนานๆ สามารถถอดชั้นวางฮาร์ดดิสก์ทั้งชั้นออกแล้วติดชุดน้ำระบายความร้อนเข้าไปได้ ฯลฯ ดังนั้นถ้าใครมีงบประมาณลงกับเคสคอมดีๆ ก็จะมีแต้มต่อเรื่องการอัพเกรดได้เยอะขึ้นมาก 

สำหรับตัวอย่างหน้าสเปคเคสพีซีนั้น เชื่อว่าหลายๆ คนพอกางกระดาษออกมาแล้วอาจจะไม่เข้าใจว่าแต่ละอย่างหมายถึงอะไรบ้าง ซึ่งรายละเอียดหน้ากระดาษสเปคจะอธิบายถึงส่วนประกอบต่างๆ ของเคสดังนี้

• Case Type – ประเภทของเคสว่าเป็นเคสประเภทไหน ซึ่งขนาดของเคสทั้งหมดจะมี Full-Tower เป็นเคสขนาดใหญ่สุด ใส่เมนบอร์ดได้ทุกขนาด, Middle Tower เป็นขนาดมาตรฐานสำหรับผู้ใช้ทั่วไป ปกติจะใส่เมนบอร์ดได้ระดับ ATX และบางรุ่นใส่ E-ATX ได้, mini-tower ที่เป็นเคสขนาดเล็ก เน้นประหยัดพื้นที่วางแต่รับขนาดเมนบอร์ดได้ใหญ่สุดราว mATX ลงไป และขนาด SFF (Small Form Factor) ที่เป็นเคสขนาดเล็ก มักใส่เมนบอร์ดเล็กอย่าง mATX หรือ mini-ITX เป็นหลัก
• Motherboard Type – ขนาดของเมนบอร์ดที่ใส่เคสนี้ได้ ซึ่งผู้ผลิตจะเขียนเมนบอร์ดขนาดใหญ่ที่สุดที่เคสนั้นรองรับ ตัวอย่างเช่นถ้าเคสนั้นรองรับ ATX ก็จะรองรับเมนบอร์ดไซซ์ mATX, mini-ITX ทั้งหมด แค่ย้ายฐานน็อตให้พอดีกับช่องน็อตบนเมนบอร์ดเท่านั้น
• Dimensions – มิติตัวเคสว่ามีขนาดความกว้าง, ยาว, ลึก เท่าไหร่
• Available color – สีที่ผู้ผลิตทำมาให้เลือก ปกติเป็นสีขาวหรือดำแต่บางแบรนด์เช่น BitFenix เองก็เคสทำเคสรุ่น Prodigy ของตัวเองออกมาหลากหลายสีทั้งส้ม, เขียว, แดง, น้ำเงิน ด้วยเช่นกัน ถ้าใครอยากให้เคสบนโต๊ะคอมดูมีสีสันก็ลองเลือกหารุ่นที่มีให้เลือกหลายสีดูก็น่าสนใจ
• External/Internal Drive Bays – ช่องติดตั้งไดรฟ์ต่างๆ บนเคสถ้าเป็น External เป็นไดรฟ์ที่ยื่นออกด้านนอกตัวเคส อย่างเช่น DVD-RW Drive, Blu-Ray เป็นต้น ส่วน Internal จะเป็นฮาร์ดดิกส์ในเครื่อง ส่วนขนาดจะมี 5.25″ ที่เป็นไซซ์ทั่วไปของ DVD-RW Drive, 3.5″ ของฮาร์ดดิสก์มาตรฐานทั่วไปและเอา 2.5″ SATA III SSD มาขันล็อคเข้าไปได้ด้วย
• Expansion Slots – ช่องด้านหลังเคสคอม เป็นช่องแบบแกะหรือขันน็อตออกเพื่อใส่การ์ดจอหรือ Wi-Fi PCIe card 
•  I/O Panel – พาเนลหน้าเคสว่าผู้ผลิตติดตั้งพอร์ตอะไรมาให้ใช้บ้าง เช่นรุ่นในตัวอย่างมี USB-A 3.0, USB-A 2.0, ช่องเสียบไมค์และหูฟังอย่างละช่อง
• Screw-less mechanism – ถาดฮาร์ดดิสก์แบบเขี้ยวล็อค โดยถาดประเภทนี้จะใช้เขี้ยวข้างถาดที่ตรงกับช่องขันน็อตล็อคฮาร์ดดิสก์แล้วยึดฮาร์ดดิสก์ได้เลย ซึ่งแข็งแรงไม่มีทางหลุดง่ายๆ แต่ก็ถอดออกยากเช่นกัน
• Cooling System – ระบบระบายความร้อน ปกติแล้วผู้ผลิตจะใส่ข้อมูลว่าเคสคอมตัวนี้ใส่พัดลมได้กี่ตัว ขนาดกี่มิลลิเมตรและใส่ส่วนไหนได้บ้าง ซึ่งพัดลมขนาดมาตรฐานที่เจอเป็นประจำคือช่วง 120-140 มม.
• Bottom Fan Filter – จำนวนตาข่ายดักฝุ่นด้านใต้เคส
• Rear water cooling hole – ช่องต่อท่อน้ำกรณีที่ใช้ชุดน้ำเปิดที่ปรับแต่งเองได้แล้วต่อท่อน้ำระบายความร้อนเอาไว้ด้านนอกเคส สามารถเดินท่อเข้ามาจากด้านหลังเคสได้ ปกติจะมี 2 รู
• Maximum VGA Length – ความยาวการ์ดจอสูงสุดที่ใส่เคสคอมตัวนี้ได้โดยไม่ติดขอบตัวเครื่องหรือถาดใส่ฮาร์ดดิสก์

6 เคสคอมสุดแจ่มน่าโดน กดทีเดียวอยู่กันยาวสิบปีเพลินๆ

หลังจากเข้าใจวิธีเลือกและอ่านสเปคทั้งหมดแล้ว ถ้าจะเลือกซื้อเคสเอามาประกอบพีซีสักเครื่อง ส่วนตัวผู้เขียนแนะนำว่าให้ขยับงบประมาณขึ้นมาระดับ 3,000 บาท ก็จะได้เคสที่ทั้งสวยและคุณภาพดีให้เลือกหลายรุ่นทีเดียว โดยทั้ง 6 รุ่นที่ผู้เขียนเลือกมาแนะนำในบทความนี้ ได้แก่

1. Aerocool Gladiator Duo (1,990 บาท)
2. SilverStone FARA R1 PRO (1,990 บาท)
3. ThermalTake V250 TG ARGB (2,250 บาท)
4. Cooler Master Silencio S600 (2,690 บาท)
5. Corsair 4000D (2,690 บาท)
6. NZXT H510 FLOW (2,990 บาท)

1. Aerocool Gladiator Duo (1,990 บาท)

Aerocool เป็นแบรนด์ที่ทำทั้งพัดลม, เคสและพาวเวอร์ซัพพลายให้เลือกซื้อกันหลายรุ่นทีเดียว โดยเคสรุ่น Aerocool Gladiator Duo เป็นรุ่นแรกที่ทั้งราคาไม่แพงและคุณภาพดีมีไฟ ARGB เป็นเส้นด้านหน้าเครื่องพร้อม RGB Controller Hub ติดมาให้ในเครื่องด้วยช่วยให้คุมแสงไฟ RGB ของพัดลมคอม ARGB ได้ง่ายๆ ส่วนฝาข้างตัวเครื่องเป็นกระจก Tempered Glass เต็มบานให้อวดชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์ได้เต็มที่

เคสตัวนี้เป็นเคสขนาด Mid Tower ขนาด 210x519x404 มม. รองรับเมนบอร์ดใหญ่สุดได้ขนาด ATX มีช่อง Expansion Slots สำหรับต่อการ์ดจอหรือ Wi-Fi PCIe card หลังเครื่อง 7 ช่อง รองรับซิ้งค์ซีพียูสูงที่สุด 161 มม. ใส่การ์ดจอยาวสุด 326 มม. ถ้าถอดพัดลมหน้าเครื่องออก ติดตั้งฮาร์ดดิสก์ 3.5″ ได้ 2 ตัว และ 2.5″ ได้ 3 ตัว ส่วน Front I/O Panel ติดอยู่ด้านบนตัวเครื่องมี USB 3.0 x 2 และช่องไมค์กับหูฟังอย่างละ 1 ช่อง รับพัดลมขนาด 120 มม. ทั้งหมด 7 ตัว แยกเป็นหน้า 3 ตัว, ด้านบน 2 ตัว, ด้านหลัง 1 ตัว, ในตัวครอบ PSU x 2 ตัว เรียกว่าเป็นเคสแรกที่หน้าตาเท่ มีไฟ ARGB แล้วยังรับการ์ดจอรุ่นใหญ่ได้สบายๆ จัดว่าน่าสนใจทีเดียว

สเปคของ Aerocool Gladiator Duo

• เคสขนาด Mid Tower ขนาด 210x519x404 มม. 
• รองรับเมนบอร์ดใหญ่สุดได้ขนาด ATX มี Expansion Slots 7 ช่อง
• รองรับซิ้งค์ซีพียูสูงที่สุด 161 มม. ใส่การ์ดจอยาวสุด 326 มม. (ถอดพัดลมหน้าเครื่อง)
• ติดตั้งฮาร์ดดิสก์ 3.5″ ได้ 2 ตัว และ 2.5″ ได้ 3 ตัว
• Front I/O Panel ติดอยู่ด้านบนตัวเครื่องมี USB 3.0 x 2, ไมค์กับหูฟังอย่างละ 1 ช่อง
• รองรับพัดลม 120 มม. ทั้งหมด 8 ตัว แยกเป็นหน้า 3 ตัว, ด้านบน 2 ตัว, ด้านหลัง 1 ตัว, ในตัวครอบ PSU x 2 ตัว
• ราคา 1,990 บาท (Advice)

2. SilverStone FARA R1 PRO (1,990 บาท)

ชื่อชั้น SilverStone นั้นถ้าใครเป็นคนประกอบคอมพิวเตอร์นานจะรู้กันดีว่าเรื่องเคสและพาวเวอร์ซัพพลายของแบรนด์นี้จัดว่าดีไว้ใจได้ อย่าง SilverStone FARA R1 PRO รุ่นนี้จัดว่าน่าสนใจและเลือกได้ 2 สีคือขาวหรือดำ ออกแบบให้หน้าเครื่องโปร่งเป็นช่องรังผึ้งเพื่อดึงอากาศเย็นเข้าไปถ่ายเทความร้อนได้ดีและดีไซน์เน้นความเรียบร้อย ซ่อนอุปกรณ์เช่นฮาร์ดดิสก์เอาไว้ในตัวครอบพาวเวอร์ซัพพลายเลย

ด้านดีไซน์และขนาดของเคสตัวนี้เป็น Mid-Tower ขนาด 207x446x390 มม. รองรับเมนบอร์ดขนาด ATX ได้พร้อม Expansion Slots 7 ช่อง ใส่ซิ้งค์ระบายความร้อนซีพียูได้สูงสุด 165 มม. และการ์ดจอยาวสุด 322 มม. แบบไม่ต้องถอดพัดลมหน้าเครื่อง ติดตั้งฮาร์ดดิสก์ขนาด 3.5″ ได้ 1 ตัว ส่วน 2.5″ ได้ 4 ตัว ที่ Front I/O Panel มี USB 3.0 x 2, USB 2.0 x 1 และ Audio Combo x 1 ชุด ติดตั้งพัดลม 120 มม. ได้ทั้งหมด 6 ตัว แยกเป็นด้านหน้า x 3, ด้านหลัง x 1, ด้านบน x 2 เรียกว่าเป็นอีกรุ่นเด็ดหน้าตาสวยเรียบร้อยแต่น่าใช้ไม่แพ้ใครอีกรุ่น และพัดลมยังมีไฟ ARGB ด้วย ถูกใจเกมเมอร์อย่างแน่นอน

สเปคของ SilverStone FARA R1 PRO

• เคสขนาด Mid Tower ขนาด 207x446x390 มม.
• รองรับเมนบอร์ดใหญ่สุดได้ขนาด ATX มี Expansion Slots 7 ช่อง
• รองรับซิ้งค์ซีพียูสูงที่สุด 165 มม. ใส่การ์ดจอยาวสุด 322 มม.
• ติดตั้งฮาร์ดดิสก์ 3.5″ ได้ 1 ตัว และ 2.5″ ได้ 4 ตัว
• Front I/O Panel มี USB 3.0 x 2, USB 2.0 x 1 และ Audio Combo x 1 ชุด
• รองรับพัดลม 120 มม. รวม 6 ตัว แยกเป็นหน้า 3 ตัว, ด้านบน 2 ตัว, ด้านหลัง 1 ตัว
• ราคา 1,990 บาท (Advice)

3. ThermalTake V250 TG ARGB (2,250 บาท)

แบรนด์เกมมิ่งเกียร์อย่าง ThermalTake เองก็มีเคสคอมน่าใช้พร้อมไฟ ARGB อย่างรุ่น ThermalTake V250 TG ARGB ที่เรียกว่าหน้าตาสวยเรียบร้อยไม่แพ้กับ SilverStone ในข้อที่แล้วและฝาข้างตัวเครื่องก็เป็น Tempered Glass ให้ความสวยงามอวดชิ้นส่วนในเครื่องเต็มที่และติด Front I/O Panel เอาไว้ที่ขอบบนของตัวเครื่อง ทำให้วางเคสกับพื้นแล้วเปิดใช้งานได้ง่าย ทำให้หน้าเคสสวยเรียบร้อยดีด้วย

เคสคอมตัวนี้จาก ThermalTake เองก็เป็น Mid-Tower ขนาด 430×216.5x 477 มม. รองรับเมนบอร์ดใหญ่สุดได้ขนาด ATX มี Expansion Slots อยู่ด้านหลังเคส 7 ช่อง รองรับฮีตซิ้งค์ของซีพียูสูงสุด 160 มม. และการ์ดจอยาวสุด 320 มม. ติดตั้งฮาร์ดดิสก์ขนาด 3.5″ กับ 2.5″ ได้อย่างละ 2 อัน ติดตั้งรองรับพัดลม 120 มม. ได้สูงสุด 6 ตัว แยกเป็นด้านหน้า 3 ตัว ด้านบน 2 ตัวและหลัง 1 ตัวด้วยกัน ส่วน Front I/O Panel มีพอร์ต USB 3.0 x 1, USB 2.0 x 2, Audio Combo x 1 ชุดด้วยกัน ดังนั้นถ้าใครชื่นชอบแบรนด์นี้และอยากได้เคสคุณภาพดีเอาไว้ใช้งานได้นานหลายปี แบรนด์นี้ก็น่าใช้งานเช่นกัน

สเปคของ ThermalTake V250 TG ARGB

• เคสขนาด Mid Tower ขนาด 430×216.5x 477 มม.
• รองรับเมนบอร์ดใหญ่สุดได้ขนาด ATX มี Expansion Slots 7 ช่อง
• รองรับซิ้งค์ซีพียูสูงที่สุด 160 มม. ใส่การ์ดจอยาวสุด 320 มม.
• ติดตั้งฮาร์ดดิสก์ 3.5″ และ 2.5″ ได้อย่างละ 2 อัน
• Front I/O Panel มี USB 3.0 x 1, USB 2.0 x 2, Audio Combo x 1 ชุด
• รองรับพัดลม 120 มม. รวม 6 ตัว แยกเป็นหน้า 3 ตัว, ด้านบน 2 ตัว, ด้านหลัง 1 ตัว
• ราคา 2,250 บาท (BaNANA)

4. Cooler Master Silencio S600 (2,690 บาท)

หลายคนน่าจะคุ้นชื่อ Cooler Master ว่าเป็นแบรนด์ทำเกมมิ่งเกียร์, ระบบระบายความร้อนซีพียูต่างๆ แต่เคสคอมก็เรียกว่าสวยเรียบหรูน่าใช้ไม่แพ้กัน เช่นรุ่น Cooler Master Silencio S600 ที่นอกจากตัวเคสจะแข็งแรงแล้วยังเก็บเสียงได้ดีเพราะเสริมวัสดุซับเสียงเอาไว้ในเคสและฝาหน้ายังเปิดได้และมีช่องใส่ DVD-RW ติดมาอีกช่องด้วย

เคสคอมจาก Cooler Master รุ่นนี้จะเป็นเคสแบบ Mid-Tower ขนาด 466x209x460.5 มม. รองรับเมนบอร์ดขนาด ATX ได้และมี Expansion Slots 7 ช่องเช่นกัน สามารถใส่ฮีตซิ้งค์ให้ซีพียูได้สูงสุด 167 มม. ส่วนการ์ดจอรองรับได้ยาวมากถึง 398 มม. ทีเดียว ดังนั้นถ้าใครใช้เคสนี้ก็ไม่ต้องห่วงเรื่องขนาดของการ์ดจอเลยว่าจะใส่ได้ไหม และมีช่องติดตั้งฮาร์ดดิสก์ขนาด 3.5″ ได้ 4 ตัว ส่วน 2.5″ อีก 5 ตัว กับช่อง 5.25″ สำหรับ DVD-RW หรือ Blu-Ray ที่หน้าเคสได้อีก 1 ช่องด้วย รองรับพัดลมขนาด 120 มม. ได้ทั้งหมด 5 ตัว คือด้านหน้าและด้านบนอย่างละ 2 ตัว และด้านหลัง 1 ตัว ส่วน Front I/O Panel มีพอร์ต USB 3.2 Gen 1 x 2, SD Card Reader x 1, Audio Combo x 1 ชุด เรียกว่าเป็นเคสคอมที่ใส่พอร์ตจำเป็นต่างๆ เอาไว้ให้ใช้งานเยอะครบเครื่องมาก ดังนั้นถ้าใครยังต้องใช้แผ่น DVD-RW หรือต้องโอนไฟล์เข้าออก SD Card เป็นประจำ แนะนำเป็นรุ่นนี้ได้เลย

สเปคของ Cooler Master Silencio S600

• เคสขนาด Mid Tower ขนาด 466x209x460.5 มม.
• รองรับเมนบอร์ดใหญ่สุดได้ขนาด ATX มี Expansion Slots 7 ช่อง
• รองรับซิ้งค์ซีพียูสูงที่สุด 167 มม. ใส่การ์ดจอยาวสุด 398 มม.
• ติดตั้งฮาร์ดดิสก์ 3.5″ ได้ 4 ตัว, 2.5″ ได้ 5 ตัว กับช่อง 5.25″ หน้าเคส 1 ช่อง
• Front I/O Panel มี USB 3.2 Gen 1 x 2, SD Card Reader x 1, Audio Combo x 1 ชุด
• รองรับพัดลม 120 มม. รวม 5 ตัว แยกเป็นหน้า 2 ตัว, ด้านบน 2 ตัว, ด้านหลัง 1 ตัว
• ราคา 2,690 บาท (Advice)

5. Corsair 4000D (2,690 บาท)

แบรนด์ Corsair เรียกว่าเด่นทั้งเกมมิ่งเกียร์และอุปกกรณ์คอมพิวเตอร์หลากหลายชิ้น รวมไปถึงเคสคอมรุ่น Corsair 4000D ที่ผู้เขียนเลือกมาแนะนำ โดยเคสตัวนี้นอกจากแข็งแรงสวยงามและจัดทิศทางลมได้ดีทำให้ระบายความร้อนได้อย่างรวดเร็วแล้ว ฝาข้างก็เป็นกระจกใส Tempered Glass พร้อมชุด Vertical PCIe Slot ไว้ใส่การ์ดจอเป็นแนวตั้งโชว์ฮีตซิ้งค์การ์ดจอให้ดูดีได้ มีสีขาวกับดำให้เลือกด้วย

ด้านสเปคของเคสนี้เป็นเคส Mid-Tower ขนาด 453x230x466 มม. รองรับเมนบอร์ดขนาด ATX ได้สบายๆ พร้อม Expansion Slots 7 ช่องแนวนอน กับ 2 ช่องแนวตั้ง ใส่ฮีตซิ้งค์ให้ซีพียูได้สูงสุด 170 มม. และรับการ์ดจอได้ยาวสุด 360 มม. ใครซื้อการ์ดจอตัวท็อปมาก็ใส่เคสได้แน่นอน มีช่องใส่ฮาร์ดดิสก์ 3.5″ กับ 2.5″ อย่างละ 2 ช่อง ติดตั้งพัดลม 120 มม. ได้ 5 ตัว แยกเป็นหน้ากับด้านบนอย่างละ 2 ตัว ส่วนด้านหลังอีก 1 ตัว พอร์ตที่ Front I/O Panel มี USB-C 3.1 x 1, USB-A 3.0 x 1, Audio Combo x 1 ชุด จัดว่าเป็นเคสขนาด Mid-Tower ที่น่าสนใจอีกรุ่นหนึ่งสำหรับคนที่อยากแต่งในเคสคอมให้ดูเท่มีสไตล์และอยากอวดการ์ดจอตัวเทพที่ใช้อยู่มากๆ

สเปคของ Corsair 4000D

• เคสขนาด Mid Tower ขนาด 453x230x466 มม.
• รองรับเมนบอร์ดใหญ่สุดได้ขนาด ATX มี Expansion Slots 7 ช่องแนวนอน กับ 2 ช่องแนวตั้ง
• รองรับซิ้งค์ซีพียูสูงที่สุด 170 มม. ใส่การ์ดจอยาวสุด 360 มม.
• ติดตั้งฮาร์ดดิสก์ 3.5″ ได้ 2 ตัว, 2.5″ ได้ 2 ตัว
• Front I/O Panel มี USB-C 3.1 x 1, USB-A 3.0 x 1, Audio Combo x 1 ชุด 
• รองรับพัดลม 120 มม. รวม 5 ตัว แยกเป็นหน้า 2 ตัว, ด้านบน 2 ตัว, ด้านหลัง 1 ตัว
• ราคา 2,690 บาท (Advice)

6. NZXT H510 FLOW (2,990 บาท)

NZXT เรียกว่าไม่คุ้นหูชาวไทยนัก แต่จริงๆ แล้วเป็นแบรนด์ผู้ผลิตเคสและชุดระบายความร้อคอมพิวเตอร์ที่น่าสนใจมากแบรนด์หนึ่ง อย่างรุ่น NZXT H510 FLOW ที่เลือกมาแนะนำก็เรียกว่าเป็นรุ่นหน้าตาเรียบร้อยคลีนๆ ดูสะอาดตาจนแทบจะเป็นเฟอร์นิเจอร์บนโต๊ะคอมแต่เน้นเรื่องการระบายความร้อนในเครื่องได้ดีรุ่นหนึ่ง เหมาะกับคนที่อยากให้เคสคอมดูเป็นส่วนหนึ่งของการแต่งห้องแต่งบ้านมาก และยังเป็นเคสแบบฝากระจก Tempered Glass ข้างใสโชว์อุปกรณ์ภายในอย่างสวยงามอีกด้วย

สเปคของเคสตัวนี้เป็นเคส Mid-Tower ขนาด 460x210x428 มม. รองรับเมนบอร์ดขนาด ATX ได้และมี Expansion Slots 7 ช่อง รองรับฮีตซิ้งค์ของซีพียูได้ 165 มม. และการ์ดจอยาวสุด 360 มม. เรียกว่าไล่เลี่ยกับเคสคอมหลายๆ รุ่นที่แนะนำไป ใส่ฮาร์ดดิสก์ขนาด 3.5″ และ 2.5″ ได้อย่างละ 2+1 ช่อง คือแยกเป็น 2 ช่องธรรมดาและ 1 ช่องพิเศษแบบซ่อน แต่ใส่พัดลมระบายความร้อน 120 มม. ได้รวม 4 ตัวเท่านั้น แยกเป็น 2 ตัวด้านหน้าและด้านบนกับด้านหลังอย่างละ 1 ตัว ส่วน Front I/O Panel มี USB-C 3.2 Gen 2 x 1, USB-A 3.2 Gen 1 x 1, และ Audio Combo x 1 ชุด 

สเปคของ NZXT H510 FLOW

• เคสขนาด Mid Tower ขนาด 460x210x428 มม.
• รองรับเมนบอร์ดใหญ่สุดได้ขนาด ATX มี Expansion Slots 7 ช่อง
• รองรับซิ้งค์ซีพียูสูงที่สุด 165 มม. ใส่การ์ดจอยาวสุด 360 มม.
• ติดตั้งฮาร์ดดิสก์ 3.5″ ได้ 2+1 ตัว, 2.5″ ได้ 2+1 ตัว
• Front I/O Panel มี USB-C 3.2 Gen 2 x 1, USB-A 3.2 Gen 1 x 1, และ Audio Combo x 1 ชุด
• รองรับพัดลม 120 มม. รวม 4 ตัว แยกเป็นหน้า 2 ตัว, ด้านบน 1 ตัว, ด้านหลัง 1 ตัว
• ราคา 2,990 บาท (Advice)

สรุปสเปค 6 เคสคอมสุดแจ่ม ซื้อทีเดียวใช้ยาวๆ หลายปีไปเลย! ตัวไหนดีตัวไหนเด็ดมาดู!

จะเห็นว่าเคสคอมในตอนนี้มีรุ่นราคาไม่แพงมาก แต่คุณภาพดีสเปคน่าสนใจให้เลือกหลายต่อหลายรุ่นทีเดียว ถ้าสรุปสเปครุ่นที่ผู้เขียนเลือกมาแนะนำจะเป็นดังนี้

สเปคเคสคอม	ขนาดเคสและเมนบอร์ดที่รองรับ	ขนาดฮีตซิ้งค์ซีพียูและการ์ดจอที่รองรับ	จำนวนฮาร์ดดิสก์ที่รองรับ	Front I/O Panel	พัดลมที่รองรับ (120 มม.)	ราคา
Aerocool Gladiator Duo	Mid-Tower 210x519x404 มม. ATX	CPU รองรับ 161 มม. การ์ดจอ 326 มม.	3.5″ x 2 2.5″ x 3	USB 3.0 x 2 Audio Combo x 1	8 ตัว หน้า x 3 ด้านบน x 2 หลัง x 1 ในตัวครอบ PSU x 2	1,990 บาท
SilverStone FARA R1 PRO	Mid-Tower 207x446x390 มม. ATX	CPU รองรับ 165 มม. การ์ดจอ 322 มม.	3.5″ x 1 2.5″ x 4	USB 3.0 x 2 USB 2.0 x 1 Audio Combo x 1	6 ตัว หน้า x 3 ด้านบน x 2 หลัง x 1	1,990 บาท
ThermalTake V250 TG ARGB	Mid-Tower 430×216.5x 477 มม. ATX	CPU รองรับ 160 มม. การ์ดจอ 320 มม.	3.5″ x 2 2.5″ x 2	USB 3.0 x 1 USB 2.0 x 2 Audio Combo x 1	6 ตัว หน้า x 3 ด้านบน x 2 หลัง x 1	2,250 บาท
Cooler Master Silencio S600	Mid-Tower 466x209x460.5 มม. ATX	CPU รองรับ 167 มม. การ์ดจอ 398 มม.	3.5″ x 4 2.5″ x 5 5.25″ x 1	USB 3.2 Gen 1 x 2 SD Card Reader x 1 Audio Combo x 1	5 ตัว หน้า x 2 ด้านบน x 2 หลัง x 1	2,690 บาท
Corsair 4000D	Mid-Tower 453x230x466 มม. ATX	CPU รองรับ 170 มม. การ์ดจอ 360 มม.	3.5″ x 2 2.5″ x 2	USB-C 3.1 x 1 USB-A 3.0 x 1 Audio Combo x 1	5 ตัว หน้า x 2 ด้านบน x 2 หลัง x 1	2,690 บาท
NZXT H510 FLOW	Mid-Tower 453x230x466 มม. ATX	CPU รองรับ 165 มม. การ์ดจอ 360 มม.	3.5″ x 2+1 2.5″ x 2+1	USB-C 3.2 Gen 2 x 1 USB-A 3.2 Gen 1 x 1 Audio Combo x 1	4 ตัว หน้า x 2 ด้านบน x 1 หลัง x 1	2,990 บาท

ถ้าถามเรื่องการเลือกซื้อเคสคอมสักตัว ส่วนตัวจากประสบการณ์ประกอบคอมมาแล้ว อยากแนะนำว่าถ้าซื้อทั้งทีแนะนำให้ซื้อของดีแบรนด์ชั้นนำไปเลยและคิดเผื่อการอัพเกรดเอาไว้ในอนาคตด้วย ว่าถ้าจะอัพซีพียู, การ์ดจอ, เมนบอร์ดหรือเติมชุดน้ำชุดลมเข้ามาแล้วเคสตัวนี้จะใส่ได้ไหม เพราะว่าเคสสักตัวถ้าเลือกดีๆ ก็อยู่กันได้เป็นสิบปีไม่ต้องเปลี่ยนเลย ยกเว้นกรณีเบื่อหน้าตาแล้วอยากเปลี่ยนเคสเป็นตัวที่หน้าตาโดนใจกว่าเดิมก็เป็นอีกกรณีหนึ่ง

ดังนั้นถ้าเราทำการบ้านเรื่องเคสคอมเยอะๆ หาข้อมูลและดูเคสรุ่นที่รองรับการอัพเกรดได้เยอะหน่อยก็ไม่ต้องทำอะไรกับมันมากกว่าการถอดเปลี่ยนหรือเติมชิ้นส่วนในเครื่องเท่านั้น ถ้าเจอสเปคที่ชอบแล้วก็ค่อยไปไล่ดูรุ่นที่หน้าตาตรงใจและราคาอยู่ในเรทที่รับได้ก็ค่อยตัดสินใจซื้อจะได้สบายใจกับเงินที่จ่ายซื้อไป 

---

บทความที่เกี่ยวข้อง

• 6 เมาส์มาโครตัวแจ่มประจำโต๊ะเพื่อเกมเมอร์ เริ่มแค่ 1,490 บาท อัพเดทปี 2021

• Review Logitech PRO Series League of Legends Collection 4 เกมมิ่งเกียร์ตะลุย Summoner’s Rift ให้มันส์ขึ้น

• Review MSI Prestige 14 Evo โน๊ตบุ๊ค Intel EVO, Intel Core i7 แบตอึด 14 ชม. ราคา 33,900 บาท

from:https://notebookspec.com/web/622927-6-recommended-pc-case-under-3000-baht

รีวิว – เคสเกมมิ่ง ASUS ROG Z11 mini-ITX ประกอบคอม วางแนวตั้งและนอนได้ ไฟ RGB ใส่การ์ดจอใหญ่ เพิ่มชุดน้ำ Cool

สำหรับใครที่เริ่มเบื่อกับการประกอบคอม ด้วยเคสสไตล์เก่าแบบเดิมๆ อยากเปลี่ยนไปใช้เคสใหม่ ที่ดูโดดเด่น ไม่ซ้ำแบบใคร ประกอบง่าย แต่ติดตั้งอุปกรณ์สะดวก และระบายอากาศได้ดี ลองมาดูเคส mini-ITX จากทาง ASUS รุ่นนี้กัน

ASUS ROG Z11 จัดว่าเป็นเคสคอม ที่ออกแบบมาเอาใจนักประกอบคอม ที่ชื่นชอบความแปลกใหม่ ในสไตล์ของ mini-ITX ที่กำลังได้รับความนิยมอยู่ในขณะนี้ สำหรับเคสรุ่นนี้ ดีกรีไม่ธรรมดา เพราะเพิ่งคว้ารางวัล Reddot Winner 2020 และ CES Innovation Award 2020 มา กับการดีไซน์ที่ไม่เหมือนใคร ด้วยรูปทรงที่ค่อนข้างบาง แต่จะไม่มินิมอลเหมือน mini-ITX เหมือนค่ายอื่น แต่ใส่ความเป็นเกมมิ่งมาอย่างชัดเจน โดยที่มาของรุ่น Z11 นั้นมาจากนวัตกรรมการจัดวางเมนบอร์ด ในตัวเครื่องทำมุม 11 องศา ซึ่งทาง ASUS วิจัยมาว่า การวางในทิศทางนี้ จะได้การระบายอากาศภายในดีกว่าการวางแนวราบติดหลังเคสทั่วไป ซึ่งจะดีจริงหรือไม่ ก็คงต้องไปดูในการทดสอบกันอีกที นอกจากนี้แม้จะออกแบบมาได้ค่อนข้าง Sleek หรือแนวเคสที่บางกระชับกว่าเคสทั่วไป แต่ก็สามารถติดตั้งอุปกรณ์ภายในได้เต็มที่ ไม่ว่าจะเป็น การ์ดจอขนาดใหญ่แบบพัดลม 3 ตัว หรือจะชุดน้ำแบบ Custom Cooling รวมถึงฮีตซิงก์ระบายความร้อน แต่ที่สำคัญ ASUS ไม่ลืมที่จะใส่ความสวยงาม ด้วย Aura Sync ที่เป็นรูปแบบของแสงไฟ RGB ให้ผู้ใช้ปรับแต่งได้เองตามชอบอีกด้วย มองผ่านกระจกเทมเปอร์ แล้วต้องบอกว่าสวยหรู ดูตัดกับตัวเคสอย่างเด่นชัด

Specification – ประกอบคอม ASUS ROG Z11

• Dimensions: 194 x 386 x 531 mm (WxDxH)
• Form Factor: Mini ITX/Mini-DTX(up to 6.7”x 8”)
• Drive Bays: Up to 2.5” SSD x 4 pcs or 2.5” SSD x 2 pcs / 3.5″ HDD x 1 pcs
• System Fan Support: Pre-installed Fans
  • Top: 2 x 140 mm
  • Bottom: 1 x 140 mm
• Expansion Slots: PCI-E x 2 (3 expansion slots space)
• Weight: N.W. 8.73 kg
• Color: Black
• Front I/O Ports
  • 1 x USB 3.2 Gen 2 Type-C
  • 2 x USB 3.2 Gen 1 TYPE A
  • 2 x USB 2.0 TYPE A
  • 1 x Headphone / Microphone
  • Power On Button
  • Reset Button
  • 1 x ARGB LED-illuminated Mode/Color Button
• Power Supply: ATX or SFX PSU: 160mm
• Material: Aluminum, Steel, Tempered Glass, ABS Plastic
• Maximum GPU Length: 320 mm
• Maximum CPU Cooler Height: 130 mm
• Radiator Compatibility
  • Rear: 120, 240 mm (Thickness: 30mm)
  • Bottom: 120 mm (Thickness: 30mm)
• Cooling Support
  • Rear: 2 x 120 mm
  • Top: 2 x 120mm / 2 x140 mm
  • Bottom: 1 x 120mm / 1 x 140 mm
• Cable Routing: Max. 40mm
• Extension Hub
  • Support Fan x 6, ARGB LED Strip x 3, USB 2.0 x 2

การออกแบบและฟีเจอร์

มาดูที่หน้าตาของ ASUS ROG Z11 โดยรวมกันก่อน ด้านหน้าค่อนข้างจะแปลกตาไปจากเคสทั่วไปอยู่บ้าง มีเป็นโครงโลหะแบ่งครึ่งกับกระจกเทมเปอร์ แต่ก็ดูสวยงามดุดันดี กับโลโก้ ROG ที่มีทั้งด้านข้างและด้านบน

ส่วนอีกด้านหนึ่งจะเป็นฝาปิดอะลูมิเนียมลายปัดเสี้ยน ในโทนสีดำ พร้อมกับลวดลายที่ดูทันสมัย มีช่องระบายความร้อนที่เป็นตะแกรงมาให้ ดูสะดุดตาทีเดียว ซึ่งถ้ามองตรงเข้าไป จะเห็นว่ามีฝาด้านบนสูงขึ้นมาเล็กน้อย ที่เป็นจุดระบายความร้อนด้วยเช่นกัน

มาถึงด้านข้าง หรือจะบอกว่าเป็นด้านหน้าดี เพราะมันเป็นด้านที่โชว์ทุกสิ่งอย่าง และใช้สำหรับการติดตั้งอุปกรณ์ด้วย ซึ่งกระจกเทมเปอร์ด้านนี้ จะสามารถถอดออกมาได้ ซึ่งดูแล้วสวยงามเลยทีเดียว

มาดูรายละเอียดของด้านบนกันบ้าง จะเห็นโลโก้ ROG สวยๆ แบบนี้ ไฮไลต์อยู่ที่จะมีแสงไฟ RGB สว่างขึ้นตรงจุดนี้ด้วย

ส่วนของ Front panel นี้ จะมีบรรดาพอร์ตต่างๆ ที่เตรียมไว้ให้มากมาย ไม่ว่าจะเป็น USB 3.2 Gen 1 และ Gen 2, Type-A และ Type-C รวมถึง Combo jack, ปุ่มเพาเวอร์ และรีเซ็ต

ด้านหลังหรือด้านใต้ของเครื่อง จะเป็นส่วนปิด ซึ่งมีการออกแบบร่องระบายอากาศขนาดใหญ่ พร้อมกรองฝุ่นอยู่ด้านใน และยังเป็นจุดที่ใช้ติดตั้งเพาเวอร์ซัพพลายได้ รองรับการติดตั้งได้ทั้ง ATX ขนาดปกติ และ SFX ที่เป็นเพาเวอร์ขนาดเล็กพิเศษสำหรับ mini-ITX case

ในส่วนด้านข้าง จะเป็นตะแกรงกันฝุ่นสามารถถอดออกได้เช่นกัน ด้วยการปลดล็อคออก ซึ่งไม่ซับซ้อนมากนัก ในส่วนนี้จะเป็นตัวปิดพัดลมขนาดใหญ่ 2 ตัวด้านใน

การปลดล็อค เพื่อนำฝาปิดออกค่อนข้างง่าย ด้วยการกดตัวล็อคด้านข้าง ใช้นิ้วมือบีบเข้าหากัน จากนั้นก็ดึงออกมาได้เลย

เมื่อแกะออกมาแล้ว จะเห็นด้านในแบบในภาพ ซึ่งจะมีพัดลมให้ 2 ตัว และในส่วนนี้เอง สามารถถอดเปลี่ยนพัดลม และติดตั้ง Radiator หรือหม้อน้ำสำหรับชุดน้ำได้อีกด้วย

สามารถติดตั้งพัดลมได้ทั้ง 120mm และ 140mm เหมือนกันทั้ง 2 ด้าน ซ้ายและขวา และยังติดตั้ง Radiator 120mm และ 140mm ความหนา 30mm ได้

ส่วนด้านหน้าที่มีกระจกเทมเปอร์นั้น เป็นจุดที่ใช้สำหรับเปิดออก เพื่อติดตั้งอุปกรณ์ต่างๆ ลงไป เช่นเดียวกับเคสทั่วไป โดยการถอดกระจก ใช้ไขควง 4 แฉก ในการไขน็อตสกรู 2 ตัว แล้วสไลด์ฝาเคสออกด้านข้าง จะมีสลักยึดแน่นๆ หน่อย แต่ก็ไม่ได้แกะยากมากนัก

เมื่อไขน็อตสกรู และดันตัวยึดออกแล้ว ก็สามารถถอดกระจกออกมาได้เลยทันที ไม่ได้ซับซ้อน เพียงแต่ต้องระมัดระวัง หาที่วางกระจกให้ปลอดภัย

เมื่อเอากระจกปิดฝาเคสออกแล้ว จะเห็นพื้นที่ด้านใน ที่มีการติดตั้งอุปกรณ์มาเป็นตัวอย่างแล้ว โดยประกอบคอม AMD Ryzen คู่กับเมนบอร์ด mini-ITX จาก ASUS มาด้วย ซึ่งเคสนี้ ติดตั้งมาครบทั้ง ซีพียู เมนบอร์ด แรม SSD กราฟิกการ์ดและเพาเวอร์ซัพพลาย เดี๋ยวเรามาแยกกันทีละจุด

ในเบื้องต้นมาดูส่วนของซีพียู พัดลม แรม และเมนบอร์ด ตามที่ได้กล่าวถึงไปว่า เคสรุ่นนี้ออกแบบมาเพื่อ เมนบอร์ดระดับ mini-ITX และ DTX form factor ในภาพนี้ ติดตั้งซีพียู AMD Ryzen 5 3600XT มาพร้อมกับเมนบอร์ด ASUS ROG STRIX B550-I Gaming แต่ใครที่จะใช้ฮีตซิงก์แยก อาจจะต้องเช็คว่าความสูงไม่ควรเกิน 13cm เพราะอาจจะไปชิดกับขอบกระจกได้

และด้วยพื้นที่ค่อนข้างจำกัด และเลย์เอาท์ของเมนบอร์ด mini-ITX ทำให้การติดตั้งอุปกรณ์ในบางจุด เช่น แรม และ SSD SATA อาจดูคับแคบไปบ้าง แต่ถ้าจัดระเบียบในการติดตั้งดีๆ ก็พอไปได้ ส่วนสล็อตแรม ก็จะพอดีๆ แบบนี้ แต่ก็รองรับแรมแบบไซส์ใหญ่ มีแถบไฟ RGB ก็ติดตั้งได้เข่นกัน ซึ่งในภาพจะเป็น Thermaltake TOUGHRAM ก็ลงตัว

ส่วนการติดตั้งกราฟิกการ์ด อาจจะเป็นสิ่งที่หลายคนกังวล แต่ถ้าหากดูพื้นที่ในการติดตั้งให้ดีแล้ว จะเห็นว่ากราฟิกการ์ดระดับ 3 พัดลมตัวใหญ่ RTX 3080 จากทาง ASUS ก็สามารถติดตั้งลงไปได้สบาย และข้อมูลจากสเปคก็ระบุว่า รองรับกราฟิกการ์ดที่ยาวถึง 32cm ได้ ดังนั้นการ์ดจอทั่วไป ติดตั้งได้เลย

มาถึงด้านหลังที่ใช้สำหรับการจัดเก็บสายกันบ้าง ด้านนี้แกะฝาออกแบบเดียวกับด้านหน้าที่เป็นกระจกเทมเปอร์ ด้วยการปลดล็อคฝาปิด และใช้ไขควงไขน็อตสกรูออก แล้วสไลด์ออกมา ด้านในจะเห็นว่าเป็นพื้นที่ว่างๆ พร้อมสายไฟมากมายอยู่ตรงนี้

ไฮไลต์ที่เป็นจุดเด่นของเคส ROG Z11 อยู่ที่ตรงนี้ แม้มุมนี้จะมองไม่ชัดเจนมาก แต่ก็พอให้เห็นภาพได้ นั่นคือ มุมเอียง 11 องศา ของเมนบอร์ด และการ์ดจอ ที่เอียง เพื่อให้ทิศทางลมภายในไหลเวียนได้ดี ช่วยลดความร้อนให้กับระบบอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งสามารถดูจากภาพกราฟิกด้านล่างนี้ได้

หากดูจากภาพกราฟิกที่อธิบายพื้นที่ด้านใน จะเห็นได้ชัดว่า ASUS พยายามที่จะนำเสนอนวัตกรรมให้กับคนที่ชอบประกอบคอม หรืออยากได้เคสแนว ITX แต่มีพื้นที่จัดการสิ่งต่างๆ รวมถึงติดตั้งอุปกรณ์ได้มากพอ ที่สำคัญยังต้องมีพื้นที่ระบายความร้อน พร้อมพื้นที่จัดเก็บสายได้อีกด้วย ซึ่งการเอียง 11 องศานี้ ก็มีส่วนทำให้เหลือพื้นที่ในการจัดการเก็บสายต่างๆ ได้มากขึ้น

ตรงด้านหลังนี้ จะสามารถจัดเก็บสายได้ดีทีเดียว ซึ่งหากคุณเป็นคนที่ชอบแต่งคอม อยากได้สายถักสวยๆ มาต่อ ก็น่าสนใจ ส่วนจะเก็บได้เนี๊ยบแค่ไหน ก็ขึ้นอยู่กับฝีมือของคุณแล้ว

ในภาพรวมสำหรับการเก็บสายแบบคร่าวๆ จะเห็นว่าสายต่อจาก Front panel ค่อนข้างจะเยอะพอสมควร แต่สิ่งหนึ่งที่น่าจะช่วยให้ดูเรียบร้อยได้ก็คือ การใช้เพาเวอร์แบบ Full modular หรือแบบถอดสายได้ทั้งหมด เลือกใช้แต่บางเส้นเท่านั้น

มุมนี้จะพอให้เห็นความลาดเอียงในการติดตั้งเมนบอร์ดที่อยู่ภายในเครื่อง แต่จุดที่น่าสังเกตคือ หากคุณต้องใช้พอร์ต USB ต่อพ่วงเยอะ อาจจะต้องลอดสาย USB มาต่อภายในเครื่องแทน แล้วใช้พอร์ต USB ที่หน้า Front panel ในการต่อพ่วงอุปกรณ์ภายนอก

จากตัวอย่างด้านใต้หรือหลังเคส จะมีช่องสำหรับลอดสายไฟและสายสัญญาณของ เมาส์ คีย์บอร์ด ให้เข้าไปต่อกับเมนบอร์ดได้โดยตรง

อย่างที่ได้กล่าวไปในตอนต้น เคสนี้สามารถวางได้ทั้งแนวนอนและแนวตั้ง ขึ้นอยู่กับความต้องการ เพราะมีฐานและยางรองตัวเครื่องเอาไว้ให้แล้ว

ประกอบคอมเสร็จแล้วต่อไฟ เปิดเครื่อง ก็ดูสวยงามไม่เบา แสงไฟจากโลโก้ ROG ช่วยเสริมเสน่ห์ให้กับเคสได้ไม่น้อย และที่สำคัญยังรองรับ ASUS Aura Sync ให้คุณสามารถปรับแต่งแสงไฟผ่านทางซอฟต์แวร์ได้อีกด้วย

หรูหราสง่างาม แสงสีที่ตัดกับแสงไฟ ทำให้ดูน่าสนใจยิ่งขึ้น นอกจากนี้ตัวเคสยังมาพร้อมฟีเจอร์ในการปรับเปลี่ยนโลโก้ให้กับคุณอีกด้วย

ทดสอบประสิทธิภาพและการระบายความร้อน

สเปคที่ประกอบคอมขึ้นมาในครั้งนี้ มีหัวใจหลักเป็น ซีพียู AMD Ryzen 5 3600XT ทำงานในแบบ 6 core/ 12 thread และความเร็วบูสท์สูงสุดที่ xxxGHz ทำงานบนเมนบอร์ด ASUS ROG STRIX B550-I Gaming

ส่วนกราฟิกการ์ดที่นำมาใช้เป็น GeForce RTX 3080 จากทาง ASUS เช่นเดียวกัน ซึ่งเป็นการ์ดแบบ Custom 3 พัดลม

ในการทดสอบ เล่นเกม PUBG ในโหมด Ultra ก็เรียกว่าใช้พลังของซีพียู และกราฟิการ์ดยังไม่โหดหินนัก ด้วยสเปคที่แรงเช่นนี้ ในการระบายความร้อนก็เป็นไปแบบชิลๆ คอเกมที่จะเล่นเกมโหดกว่านี้ เช่น BattlefieldV, GTAV หรือจะเป็น Red Dead และ NFS เคสรุ่นนี้ก็ยังเอาอยู่

ในการเล่นเกมต่อเนื่อง ก็คงไม่ได้ทำให้เกิดความร้อนได้มากมาย เท่ากับการทดสอบแบบ Full-load โดยเราใช้ OCCT ในการทดสอบซีพียูอย่างหนักหน่วงต่อเนื่อง กับความเร็วที่วิ่งไประดับ 4.2GHz ความร้อนกลับไปแตะอยู่ที่ประมาณ 65-75 องศาเซลเซียสโดยประมาณเท่านั้น ซึ่งก็ถือว่าเป็นตัวเลขที่ค่อนข้างดี สำหรับฮีตซิงก์เดิมจากโรงงาน แม้จะเป็นตัวท็อปก็ตาม

Conclusion

หากมองในภาพรวมของเคสคอมพิวเตอร์รุ่นใหม่ จากทาง ASUS ROG Z11 รุ่นนี้ ก็ถือว่าน่าจะตอบโจทย์กลุ่มที่ชื่นชอบความแปลกใหม่ ไม่ซ้ำใคร และมีเอกลักษณ์ในตัว โดยเฉพาะคนที่ประกอบคอม และชื่นชอบแบรนด์นี้เป็นทุนเดิม ซึ่งทาง ASUS เอง แม้ว่าจะมีพีซีเกมมิ่งออกมาในตลาดให้เห็นบ้าง แต่ในด้านของเคสเราแทบไม่ได้เจอแนวนี้กันเลย การออก ROG Z11 มาในครั้งนี้ ก็ถือว่าเอาใจคอเกมได้ดีทีเดียว ติดอยู่เล็กน้อยในเรื่องของน้ำหนักตัวที่อยู่เกือบ 9Kg จึงต้องหาโต๊ะที่แข็งแรงพอสมควรมาวาง

นอกจากในเรื่องความสวย ทันสมัยแล้ว นวัตกรรมที่การันตีด้วย Reddot กับ CES Innovation 2020 ด้วยการจัดวางและเอียงเมนบอร์ด 11 องศา แม้ว่าจะดูเป็นเทคโนโลยีที่ไม่ได้แปลกมากมาย แต่ในการทดสอบและใช้งาน ก็ยังพอตรวจเช็คได้ว่า ความร้อนถูกควบคุมได้ดีในระดับหนึ่ง แม้ว่าจะอยู่ในสภาวะ Full load ก็ตาม ส่วนหนึ่งมาจากพัดลมขนาดใหญ่ ที่ติดมาให้ 2 ตัว พร้อมกับช่องระบายอากาศที่ถูกจัดเตรียมไว้ให้โดยรอบ แต่ถ้าหากเพิ่มพัดลหรือชุดน้ำเข้าไปเพิ่ม ก็น่าจะทำให้ภายในเย็นมากขึ้น แต่ก็ขึ้นอยู่กับการดีไซน์ของผู้ใช้เอง

อีกเรื่องหนึ่งก็คือ ข้อจำกัดที่สำคัญของเคส Z11 รุ่นนี้อยู่ที่รองรับเมนบอร์ด mini-ITX กับ DTX form factor เท่านั้น ไม่สามารถใส่ที่ใหญ่กว่านี้ได้ การติดตั้งอุปกรณ์เสริม ก็อาจจะถูกจำกัดไปด้วย เช่น PCIe slot หรือ M.2 เป็นต้น แต่ถ้าอุปกรณ์ส่วนใหญ่ที่คุณใช้ เน้นไปที่ USB เป็นหลัก ก็ถือว่าเคสรุ่นนี้ทำได้ไม่ยาก มีให้เหลือเฟือ แต่บางส่วนก็ต้องลอดสายผ่านเข้าเครื่อง แต่ก็ไม่ได้เป็นเรื่องยุ่งยากแต่อย่างใด ส่วนเรื่องการอัพเกรดในภายหลัง ต้องดูกันเป็นจุดๆ ไป เพราะบางช่วงก็พื้นที่คับแคบ จะแทรกมือเข้าไปได้ยาก เช่น SATA แนะนำว่าต่อสายรอไว้ก่อนจะนำเมนบอร์ดลงเคส จะช่วยให้การอัพเกรดในภายหลังง่ายขึ้น เช่นเดียวกับ SSD M.2 ส่วนแรมส่วนใหญ่มี 2 สล็อต ก็ใส่ให้เต็มไว้ก่อนเลยดีกว่า

จุดเด่น

• การระบายความร้อนมีประสิทธิภาพ ให้ทิศทางลมเข้าออกได้ดี
• ติดตั้งการ์ดจอแบบยาว 3 พัดลมได้
• กระจกเทมเปอร์ โชว์พื้นที่ภายใน
• รองรับการปรับแต่งไฟ ASUS AURA Sync
• วางได้ทั้งแนวตั้ง และแนวนอน

ข้อสังเกต

• ติดตั้งได้เฉพาะเมนบอร์ด mini-ITX เท่านั้น
• การใช้พอร์ตบนเมนบอร์ด อาจจะต้องแกะเครื่องก่อนติดตั้ง

ราคา: ยังไม่วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ

ติดต่อหรือข้อมูลเพิ่มเติม: ASUS ROG Z11

from:https://notebookspec.com/review-gaming-case-asus-rog-z11-mini-itx/539968/

NZXT H400 Black เคสสายแต่ง กระจกข้างใส พัดลมเพียบ เงียบและสวย

คงต้องบอกว่าไม่ง่ายเลยกับการหาเคสคอมพิวเตอร์ให้ถูกใจ และใช้งานได้สะดวก เพราะถ้ามองว่าแค่เน้นสวย ก็คงไม่มีความน่ากังวลนัก แต่ถ้าคุณซีเรียสกับฟีเจอร์ การติดตั้ง หรือพื้นที่สำหรับจัดการสิ่งต่างๆ ภายในเคสได้ดีแล้วล่ะก็ คุณอาจต้องใช้เวลาพอสมควรในการค้นหา แต่ถ้าวันนี้ไม่มีเวลา แอดมีเคสรุ่นหนึ่งจากค่ายยักษ์ใหญ่ระดับโลก เคส NZXT มาแนะนำกันครับ

NZXT H400 Black เป็นเคสในซีรีส์ H ที่เน้นในเรื่องฟังก์ชั่นการใช้งานมาแบบครบๆ ทั้งในแง่ของการติดตั้งอุปกรณ์และการระบายความร้อน ด้วยสนนราคาสบายกระเป๋า จึงเหมาะกับทั้งกลุ่มผู้ใช้ทั่วไป ที่ต้องการเคสที่ดูเรียบๆ แต่มีฟังก์ชั่นการใช้งานที่สะดวก เกมเมอร์ที่อยากได้ระบบระบายความร้อนที่ดี เสียงเงียบ ขณะที่ใช้ทำงาน รวมถึงกลุ่มผู้ใช้ที่ชื่นชอบการตกแต่งคอมให้สวยงาม ด้วยไฟและแสงสีของอุปกรณ์ต่างๆ เพราะ เคส NZXT ให้ฟีเจอร์ที่เป็นกระจกข้างใส โชว์อุปกรณ์ต่างๆ ไว้อย่างสวยงาม กับการติดตั้งอุปกรณ์ที่ค่อนข้างง่าย ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของค่ายนี้ ไม่ว่าจะเป็นการต่อพ่วงอุปกรณ์พื้นฐาน หรือการอำนวยความสะดวกในการติดตั้งชิ้นส่วนต่างๆได้อย่างรวดเร็ว แทบจะไม่ต้องใช้เครื่องมือ พร้อมชุดกรองฝุ่นตลอดทั้งตัว สนนราคาประมาณ 3 พันกว่าบาท เท่านั้น

 

Specification

• Dimensions: W: 210mm H: 417mm D: 421mm (with feet)
• Material(s): SGCC Steel and Tempered Glass
• Weight: 7.6 kg
• Motherboard Support: mini-ITX and microATX
• I/O Ports: 2 x USB 3.1 Gen 1, 1 x Audio/Mic
• Filters: Front, Top, and PSU Intake
• Expansion Slots: 4
• Drive Bays 2.5”: 3+1, 3.5”: 1
• Radiator Support:
• Front: 2 x 140 or 2 x 120mm with Push/Pull
• Rear: 1 x 120
• Fan Support: Front: 2 x 120/2 x 140mm (2 Aer F120 Case Version included)
• Top: 2 x 120/2 x 140mm
• Rear: 1 x 120mm (1 Aer F120 Case Version included)
• Fan Specs: Aer F120 (Case Version)
• Speed: 1200 + 200 RPM
• Airflow: 50.42
• CFM Noise: 28 dBA
• Bearing: Rifle Bearing
• Clearance Cable Management: 18-22mm
• GPU Clearance: Up to 411mm
• CPU Cooler: Up to 164mm
• Front Radiator: 60mm

 

รูปลักษณ์และการออกแบบ

 

หน้าตาของ เคส NZXT H400 รุ่นนี้ มาในโฉมแบบเปิดข้างใส เห็นอุปกรณ์ภายในเกือบทั้งหมด และมีพื้นที่กว้างขวาง มากพอสำหรับติดตั้งการ์ดจอขนาดใหญ่และชุดพัดลมจำนวนมาก เพื่อช่วยในการระบายความร้อน

ด้านหน้าตัวเคสเป็นแบบปิด มีเพียงโลโก้ NZXT เล็กๆ อยู่ด้านหน้าเท่านั้น ไม่ได้มีดีไซน์หวือหวามากนัก สำหรับใครที่ชอบแนวเรียบๆ แบบนี้ น่าจะชื่นชอบแน่นอน

ฟังก์ชั่นพาแนลด้านบน ประกอบด้วย ไฟสถานะ Mic/ Headset, USB 3.0 และปุ่มเพาเวอร์

ด้านบนเปิดโล่ง ช่วยในการระบายความร้อน รองรับการติดตั้งพัดลมหรือ Radiator ได้ทั้งขนาด 120mm 2 ตัวและ 140mm 2 ตัวเช่นเดียวกัน

ตะแกรงกรองฝุ่นแบบแม่เหล็กมาตรฐาน สามารถแกะออกมาล้าง เป่าฝุ่น ทำความสะอาดได้

ด้านหลังเป็นโลหะแผ่นเรียบสีดำ ไม่ได้มีความโดดเด่นเป็นพิเศษ ซึ่งด้านในเปิดเป็นพื้นที่สำหรับการจัดเก็บสายได้สะดวกทีเดียว

ด้านหลังมาพร้อมสล็อตสำหรับ Expansion card จำนวน 4 ช่อง และด้านบนสำหรับติดตั้งพัดลม ส่วนพื้นที่ด้านล่างใช้จัดวางเพาเวอร์ซัพพลาย

ด้านหลังติดตั้งพัดลมขนาด 120mm มาให้ด้วย ปรับเลื่อนขึ้น-ลงได้ตามสะดวก เพื่อให้เหมาะกับพื้นที่ภายใน

ช่องด้านล่างสำหรับการติดตั้งเพาเวอร์ซัพพลาย ที่รองรับได้หลายขนาด ซึ่งจากที่ลองใช้เพาเวอร์ทั่วไปจะติดตั้งง่ายเป็นพิเศษ แต่ถ้าเพาเวอร์รุ่นใหญ่ อาจจะต้องขยับสายให้ลงตัวก่อนที่จะยึดเพาเวอร์เข้ากับเคส จะช่วยให้ใช้งานได้สะดวกขึ้น

พื้นที่ภายในมีความกว้างขวางพอสมควร แต่ก็จำกัดเมนบอร์ดไว้ที่ mATX ซึ่งหากใครต้องการติดตั้งเมนบอร์ดระดับ ATX อาจต้องขยับไปที่ H500 ขึ้นไป แต่ที่เห็นโดดเด่นเลย ก็น่าจะเป็นเรื่องพัดลม ที่ติดตั้งมาแน่นเลยทีเดียว

เคส NZXT ด้านหน้ามาพร้อมพัดลม 120mm จำนวน 2 ตัว หรือจะเปลี่ยนใช้แบบ 140mm ก็ได้เช่นกัน ส่วนด้านหลังเป็นพัดลม 120mm จำนวน 1 ตัว

สล็อตสำหรับ SSD หรือ HDD ขนาด 2.5″ ติดโชว์ด้านหน้าได้เลย แต่อาจจะต้องมองไลน์ในการเดินสาย SATA สักหน่อย

ด้านหลังเมื่อเปิดฝาออกมา จะเห็นพิ้นที่จัดวางอุปกรณ์ และจุดที่ใช้ในการเก็บสาย ที่นอกจากจะวางช่องสำหรับเดินสายไฟและสายสัญญาณเอาไว้แล้ว ก็ยังมีสายรัดเพิ่มมาให้ สำหรับเก็บสายได้สะดวกยิ่งขึ้น

เพลตสำหรับติดตั้ง SSD อยู่ด้านหลังของเมนบอร์ด ติดตั้งง่ายทีเดียว แค่แกะเพลตออกมาติดตั้ง แล้วติดตั้งกลับเข้าไป ก็พร้อมในการใช้งานแล้ว

สายรัดและช่องสำหรับรัดสายได้ทั้งสายแบบอ่อนและแข็ง พร้อมช่องที่สามารถสายให้โค้งได้ตามความเหมาะสม ซึ่งถือว่าช่วยในการจัดเก็บสายได้ง่ายขึ้น

พื้นที่โล่งด้านหลังเมนบอร์ด ช่วยให้การติดตั้งฮีตซิงก์ทำได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะฮีตซิงก์จำหน่ายแยก ที่บางครั้งต้องถอดเมนบอร์ดออกจากเคสก่อน แต่สำหรับเคสรุ่นนี้ เปิดช่องให้พร้อมใช้งาน

ฝาด้านหน้าสามารถถอดออกมาได้ ด้านในเป็นตะแกรงสำหรับกรองฝุ่น ถอดออกมาทำความสะอาดได้เช่นกัน

 

Conclusion

NZXT H400 เป็นเคสขนาดกระทัดรัดในสไตล์ mATX ที่ให้ฟังก์ชั่นการใช้งานมาอย่างครบครัน กับดีไซน์ที่มีความเรียบหรู ด้วยหน้าตาที่อาจจะดูไม่หวือหวา แต่ใส่กระจกเทมเปอร์ด้านข้างมาให้ สำหรับโชว์รายละเอียดภายในอย่างครบครัน สิ่งที่น่าสนใจอยู่ที่ฟังก์ชั่นในการติดตั้งอุปกรณ์ และพื้นที่ในการจัดวาง ที่มีความลงตัว เริ่มตั้งแต่ในการจัดวางเมนบอร์ด ที่มีช่องด้านข้างในการเดินสายไฟต่อพ่วงอย่างทั่วถึง ไม่ว่าจะเป็น 24-pins หรือ 8-pins ที่เดินเข้ามาในเคส และสล็อตสำหรับติดตั้ง SSD ด้านหลังเคส 2 ตัวและด้านข้างตรงบริเวณเพาเวอร์ซัพพลาย พร้อมพัดลมช่วยในการระบายความร้อนมาทั้งด้านหน้าและหลัง ซึ่งค่อนข้างหาได้ยากกับเคสในระดับเดียวกัน ใครที่ซีเรียสเรื่องช่องทางการระบายลม ถ้าได้ลองเล่นเคสรุ่นนี้น่าจะชื่นชอบเป็นพิเศษ เพราะด้านหน้า เมื่อแกะฝาปิดออกมา จะเป็นแบบเปิดโล่ง มีตะแกรงสำหรับกรองฝุ่นมาให้ เช่นเดียวกับด้านบน ที่รองรับการติดตั้ง Radiator ของชุดน้ำ พร้อมพัดลมใหญ่สุด 140mm มาด้วย ด้านหลังก็มีพัดลมมาให้ ส่วนพื้นที่ด้านล่างสำหรับติดตั้งเพาเวอร์ซัพพลาย ก็ใหญ่พอสำหรับเพาเวอร์ไซส์ใหญ่ เพราะตรงจุดที่เป็นเบย์ HDD นั้น ปรับเลื่อนได้ ซึ่งถ้าใช้กับเพาเวอร์แบบถอดสายได้ ก็ยิ่งใช้งานได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม ในภาพรวมต้องถือว่า เมื่อดูจากฟังก์ชั่น และงานออกแบบ รวมถึงวัสดุ เทียบกับราคาประมาณ 3 พันกว่าบาท ถือว่าคุ้มค่าน่าใช้ทีเดียว เรียกว่าถ้าอยากจะแต่งไฟ หรือการ์ดจอใหญ่ๆ เคส NZXT H400 รุ่นนี้สบายๆ ครับ

 

จุดเด่น

• ฝาข้างกระจกใสเทมเปอร์เปิดโล่งเห็นภายใน
• พื้นที่จัดเก็บสายด้านหลังกว้างขวางจัดการง่าย
• มีพัดลมระบายความร้อนเสียงรบกวนต่ำมาด้วย
• สามารถติดตั้งการ์ดจอยาวได้ถึง 41cm

ข้อสังเกต

• น็อตยึดในจุดต่างๆ ค่อนข้างแน่น ต้องออกแรงพอสมควร

ราคา: ประมาณ 3,690 บาท

ติดต่อ: JIB, Advice, Computeandmore

from:https://notebookspec.com/nzxt-h400-black-case-temper-glass/484704/

PC DIY – Riotoro “Project Morpheus” ยืดได้ หดได้ ดั่งใจนึก เคสพีซีแนวใหม่ เปลี่ยนไซส์ได้ ตัวแรกของโลก !!!

นับวันโลกของพีซีก็ยิ่งมีการเปลี่ยนแปลง ณ วันนี้คอมตัวเล็ก ไม่ได้มีความหมายถึง ประสิทธิภาพที่น้อยลงเสมอไป แต่สามารถปรับเปลี่ยนได้ ตามความต้องการ เพราะผู้ใช้เองเลือกใช้อุปกรณ์ที่นำมาติดตั้งได้ แม้จะมีขนาดเล็ก แต่ก็เลือกระดับความแรงได้ เช่นเดียวกับเคสรุ่นใหม่จาก Riotoro รุ่นนี้ ที่ออกแบบมาให้ปรับขนาดเล็ก-ใหญ่ได้ มีความยืดหยุ่น และตอบโจทย์การใช้งานได้ดีทีเดียว เพราะจะเลือกปรับเป็น mini Tower หรือเป็น Medium Tower ก็ได้ แถมดีไซน์ยังสวยอีกด้วย นับเป็นเคสตัวแรกของโลกที่ปรับได้แบบนี้

ไอเดียสุดบรรเจิดนี้ เกิดขึ้นภายใต้ชื่อ “Project Morpheus” อาจเรียกได้ว่าเป็น Covertible PC case ซึ่งออกแบบมาให้เปลี่ยนรูปร่างจากรูปทรงสี่เหลี่ยมพื้นฐาน (Cube) บนมาตรฐาน mini Tower ให้กลายมาเป็น medium Tower ได้ ด้วยการปรับกลง่ายๆ ภายในตัวเคส ด้วยโครงสร้างพื้นฐานที่มาจาก Small PC แล้วออกแบบให้ทุกอย่างปรับเลื่อนได้ แนวคิดคือ ให้ผู้ใช้เลือกปรับเปลี่ยน รองรับการอัพเกรด เช่นจากเดิมใน mini ITX แล้วอยากเปลี่ยนมาใช้ mATX ก็สามารถทำได้ ไม่ต้องเปลี่ยนเคส รวมถึงการปรับพื้นที่ภายใน ให้รองรับระบบระบายความร้อนที่มีขนาดใหญ่ขึ้น แต่ที่น่าสนใจก็คือ ในเคสตัวอย่างที่ทาง eteknix นำเสนอมานี้ รองรับการ์ดจอได้ 2 ตัวและเมนบอร์ด ATX แบบ Full size ได้อีกด้วย ภายใต้ขนาดของเคสที่ปรับเป็น mid-Tower แล้ว

ด้านในตัวเคส ประกอบด้วยโครงสร้างที่เป็นโลหะและอลูมิเนียม แยกออกเป็นชิ้น เชื่อมต่อด้วยสกรู พร้อมเพลตสำหรับติดตั้งเมนบอร์ด และ Rack สำหรับ HDD และ SSD วัสดุด้านนอกออกแบบเป็นรูพรุน เพื่อใช้ในการระบายความร้อน พอจะสังเกตได้ว่า ทุกชิ้นส่วนสามารถแยกออกจากกันได้สะดวก นั่นหมายถึงเวลาที่ปรับโครงสร้างขนาดของเคส ก็ให้ถอดจุดยึดต่างๆ ออก จากนั้นขยับตัวล็อคของเคสให้สูงขึ้น แล้วติดตั้งอุปกรณ์กลับเข้าไปเท่านั้น

การสนับสนุนอุปกรณ์ภายใน Morpheus รุ่นนี้ ประกอบด้วย HDD 3.5″ 2 ชุด กับไดรฟ์ SSD อีก 2 ชุด รองรับพัดลม 120mm จำนวน 2 ตัว ด้านหน้า หรือจะเป็น Radiator สำหรับชุดน้ำแบบ 240mm ติดตั้งพัดลมด้านหลัง 120mm โดยมีพอร์ต USB 3.0 และ USB Type-C ที่บริเวณ I/O ด้านหน้าอีกด้วย

ทั้งนี้ Riotoro ยังไม่ได้เปิดเผยข้อมูลการวางจำหน่ายและราคา แต่ก็เชื่อว่ามีหลายค่ายที่กำลังจับจ้องและสนใจแนวคิดแบบนี้อย่างแน่นอน เพราะดูไปก็เป็นการฉีกกฎแบบเดิมๆ ของเคสพีซีที่มีอยู่ในทุกวันนี้อีกด้วย

ที่มา: Riotoro Morpheus

 

from:https://notebookspec.com/riotoro-debuts-morpheus-worlds-1st-convertible-pc-case/442966/