คลังเก็บป้ายกำกับ: ASUS_TUF

ASUS เปิดตัวการ์ดจอ GeForce RTX 4060 Ti ใหม่ 3 รุ่น! รวมเรือธงมาครบเครื่อง!!

เรียกว่าไม่ปล่อยให้รอนาน ในที่สุด ASUS ก็เปิดตัวการ์ดจอใหม่ซีรี่ส์ NVIDIA GeForce RTX 4060 Ti และ RTX 4060 ใหม่ แยกเป็นซีรี่ส์ย่อยอย่าง ROG Strix, TUF Gaming และ Dual ใช้สถาปัตยกรรมใหม่ Ada Lovelace ได้เทคโนโลยีการสร้างเฟรมภาพเพิ่มเฟรมเรทตอนเล่นเกมอย่าง NVIDIA DLSS 3 ติดมาให้

แรมการ์ดจอจะมี 2 ความจุ มี 16GB และ 8GB ให้เลือก ถ้าเน้นเล่นเกมจอ Full HD จะซื้อแรม 8GB ก็ถือว่าเพียงพอใช้เล่นเกมได้ เป็นจอ 2K QHD ทาง NVIDIA แนะนำให้ซื้อตัว 16GB จะมีพื้นที่พอเอาไว้พักไฟล์ Texture มากขึ้น ทาง ASUS จะเปิดตัวการ์ดจอ RTX 4060 Ti 8 GB ก่อน โดยมีซีรี่ส์ ROG Strix, TUF Gaming, ASUS Dual ปิดท้ายด้วย Dual White คาดว่าจะวางขายเดือนกรฎาคมเช่นเดียวกับที่ทาง NVIDIA ระบุไว้

Advertisementavw

ROG Strix GeForce RTX 4060 Ti สไตล์พังค์ สเปคจัดเต็ม!

ASUS เปิดตัวการ์ดจอ GeForce RTX 4060 Ti ใหม่ 3 รุ่น!

รุ่นแรกซีรี่ส์เรือธงดีไซน์ไซเบอร์พังค์แบบเดียวกับพี่น้องใน GeForce RTX 40 Series ขนาด 3.1 สล็อต โดยตัวการ์ดมีขนาดเล็กลงกว่าเดิมให้ใส่เคสที่ขนาดเล็กลงได้ ใช้ฮีตซิ้งค์ MaxContact ติดพัดลม 11 ใบพัดมาให้ 3 ตัว ช่วยระบายความร้อนได้ดีกว่ารุ่นก่อน 21% และถ้าไม่เล่นเกมหรือทำงานหนักก็มีฟีเจอร์​ 0dB สั่งพัดลมหยุดหมุนชั่วคราว ใช้พลังงานไฟฟ้าน้อยกว่าพี่น้องร่วมรุ่น RTX 40 Series ขอแค่สายไฟ 8-Pin เส้นเดียวเท่านั้น

ด้านฟีเจอร์อื่นๆ ที่น่าสนใจ ได้แก่ Dual BIOS, FanConnect II เป็นพอร์ตเชื่อมต่อ 2 หัว เข้ากับระบบแสงไฟ ARGB ของเคส สั่งเปลี่ยนเอฟเฟคแสงสีไฟได้ด้วยโปรแกรม AURA Sync ได้

TUF Gaming GeForce RTX 4060 Ti สายเรียบง่าย ไม่ยุ่งยาก แต่พร้อมเต็มที่กับทุกงาน!

ASUS เปิดตัวการ์ดจอ GeForce RTX 4060 Ti ใหม่ 3 รุ่น!

สายเรียบง่าย ARGB ไม่เยอะแต่ฟีเจอร์ต้องแน่นก็มี TUF Gaming เป็นตัวเลือก โดยซิ้งค์ของซีรี่ส์นี้จะหนากว่า ROG Strix เล็กน้อยเป็น 3.12 Slot ยาว 300 มม. ใช้พัดลม Axial-tech ใบพัด 11 ใบพัด ให้ระบายความร้อนได้เต็มประสิทธิภาพ มีสวิตช์ Dual BIOS เลือกสลับโหมดการใช้งานได้ ติดโลโก้ ARGB TUF ดีไซน์ใหม่ และเทคโนโลยีการจ่ายไฟ ASUS Auto-Extreme ให้จ่ายไฟได้ดีและเสถียรยิ่งขึ้น

ASUS Dual GeForce RTX 4060 Ti สวยคลาสสิคมีเอกลักษณ์!

สุดท้าย ASUS Dual รุ่นเรียบง่ายสีขาว Pristine White หรือดำ Classy Black เหมาะกับเกมเมอร์ที่ชอบการ์ดจอหน้าตาเรียบร้อยแต่แรง ดีไซน์ใช้คอนเซปท์ Retro-Futuristic ย้อนยุคแต่ก็ล้ำสมัย ติดตั้งเพลตหลังการ์ดจออลูมิเนียมมาให้, ได้พัดลมคู่ Axial-tech 11 ใบพัด มีเทคโนโลยี 0 dB เช่นกันและขนาดการ์ดจอก็สั้นพอใส่เคส ITX ได้สบายๆ เพราะยาวแค่ 227 มม. เท่านั้น ใช้สายไฟ 8-Pin เส้นเดียวเช่นกัน ถ้าอยากได้การ์ดจอเล็กน่าใช้หน้าตาไม่หวามากก็มีรุ่นนี้ให้เลือกเช่นกัน

สำหรับผู้อ่านที่สนใจข้อมูลโดยละเอียดของการ์ดจอทั้ง 3 รุ่น สามารถเข้าไปดูในลิ้งค์ข้างล่างนี้ได้

ที่มา: TechPowerUp

from:https://notebookspec.com/web/702630-asus-unveils-geforce-rtx-4060-ti-2023

รวม 10 โน๊ตบุ๊คน่าซื้องาน COMMART Big Deal ทั้งสายเกมมิ่งและคนทำงาน เด็ดจริงจัดไปถูกใจแน่นอน!!

รวมโน๊ตบุ๊คน่าซื้องาน COMMART Big Deal ตัวเด็ดสายทำงานและเกมมิ่ง ซื้อไปยังไงก็เวิร์ค!

โน๊ตบุ๊คน่าซื้องานCOMMART

โน๊ตบุ๊คน่าซื้องาน COMMART Big Deal ในวันที่ 2~5 มีนาคม 2023 ณ ไบเทค บางนาครั้งนี้ มีร้านค้าชั้นนำและตัวแทนจำหน่ายอุปกรณ์คอมพิวเตอร์เข้าร่วมงานมากมายจากผู้จัดจำหน่ายชั้นนำเจ้าต่างๆ กับโปรโมชั่นของแถมต่างๆ ให้ลูกค้าที่มาซื้อสินค้าในงานได้ของสมนาคุณคุ้มค่าสูงสุดอีกด้วย ซึ่งโน๊ตบุ๊คในงานนี้ก็มีให้เลือกหลากรุ่นหลายสเปคไม่ว่าจะซีพียู AMD, Intel การ์ดจอออนบอร์ดหรือแยกของ AMD, NVIDIA ก็มี อยากได้สเปคประมาณไหนก็เดินเลือกซื้อในงานได้เลย

Advertisementavw

หลังจากหาซื้อโน๊ตบุ๊คน่าซื้องาน COMMART Big Deal ได้แล้ว ก็เดินหาซื้ออุปกรณ์เสริมต่อได้ทันที ไม่ว่าจะเมาส์, คีย์บอร์ด, จอคอมทั้งทำงานและเกมมิ่งให้เลือกซื้อมากมาย แม้แต่เก้าอี้เกมมิ่งก็มีให้เลือกซื้อเช่นกัน เรียกว่าครบเครื่องจบในงานเดียวได้ทันที ดังนั้นถ้าโน๊ตบุ๊คของใครเก่าแล้วและมีแผนอยากเปลี่ยนเป็นเครื่องใหม่ส่งต่อเครื่องเก่าให้คนใกล้ตัวก็น่ามาเดินในงานปีนี้มากๆ

โน๊ตบุ๊คน่าซื้องาน COMMART Big Deal 

ด้านความเห็นของผู้เขียนว่าเราจะเลือกโน๊ตบุ๊คน่าซื้องาน COMMART Big Deal ให้คุ้มที่สุด ควรหาสเปคประมาณไหน ซีพียูรุ่นใดถึงจะคุ้มที่สุดก็ขอสรุปความเห็นเป็นรายชิ้นดังนี้

  • CPU : แนะนำเป็น AMD Ryzen 5000 หรือ 6000 Series ส่วน Intel เป็น Gen 11 หรือ 12 ก็ได้
  • Graphics : ถ้าใช้ทำงานออฟฟิศ เช่น งานเอกสาร, นำเสนองาน หรือแต่งรูปเล็กน้อยก็ซื้อเป็นรุ่นการ์ดจอออนบอร์ดก็ได้เพราะประหยัดพลังงานกว่า ถ้าเล่นเกม, ตัดต่อคลิปแต่งภาพแนะนำให้หารุ่นมีการ์ดจอแยก AMD, NVIDIA ด้วย
  • SSD : แนะนำ SSD ความจุ 512GB ขึ้นไปให้มีพื้นที่ลงโปรแกรมและเซฟงานมากพอ
  • RAM : เชื่อว่าผู้ใช้หลายคนอยากแนะนำให้หารุ่นมีแรม 16GB จากโรงงานหรืออัพแรมในงานให้ไปที่ 16GB เลย แต่ส่วนตัวผู้เขียนเองถือว่าแรม 8GB ณ ปี 2023 ก็ยังถือว่าไม่น่าเกลียดหากใช้ทำงานเอกสารเป็นหลัก แต่ก็ต้องหมั่นปิดโปรแกรมหรือแท็บเบราเซอร์ที่ไม่ใช้งานทิ้งเป็นระยะๆ ด้วย จะได้ไม่เสียพื้นที่แรมโดยเปล่าประโยชน์
  • Display : เริ่มต้น 13.3 หรือ 14 นิ้วสำหรับโน๊ตบุ๊คสายทำงาน เพราะขนาดกำลังดีและไม่หนักมาก เพราะปัจจุบันโน๊ตบุ๊คไซซ์ดังกล่าวน้ำหนักจะอยู่ราว 1.4~1.8 กิโลกรัม ยังพกใส่กระเป๋าไปไหนมาไหนได้สะดวก ส่วนเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คจะมีตั้งแต่ 14, 15.6 และ 17.3 นิ้วให้เลือก ซึ่งน้ำหนักจะผันแปรตามขนาดของหน้าจอ ซึ่งขนาดมาตรฐานจะยืนพื้นอยู่ที่ 15.6 นิ้ว ส่วน 17.3 นิ้ว น่าซื้อมาใช้งานแทนการประกอบเกมมิ่งพีซีมากกว่า ส่วนไซซ์ 14 นิ้วก็หาซื้อในงานได้และเครื่องก็ไม่หนัก เหมาะสำหรับคนอยากพกเครื่องไปไหนมาไหนด้วยแต่ราคาก็จะสูงเช่นกัน
  • Connectivity : แนะนำรุ่นมีพอร์ต USB-C อย่างน้อย 1 ช่อง ถ้าต่อจอแยกแบบ DisplayPort และชาร์จแบตเตอรี่แบบ Power Delivery ได้จะดีมาก หรือไม่ก็มีเพียงอย่างใดอย่างหนึ่งก็ได้ ส่วน Wi-Fi แนะนำเป็น Wi-Fi 5 ขึ้นไป ถ้าได้ Wi-Fi 6E จะดีมาก
  • Software : หารุ่นที่มี Windows 11 Home ติดตั้งมาให้ บางรุ่นอาจแถม Microsoft Office Home & Student 2019~2021 มาให้ในเครื่อง ส่วนเครื่องใดได้ Microsoft 365 ก็ถือว่าใช้ได้แต่จะเป็นบริการแบบจ่ายรายเดือนแล้วได้ Cloud ของ Microsoft มาใช้ด้วย

ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นวิธีการเลือกโน๊ตบุ๊คน่าซื้องาน COMMART Big Deal ครั้งนี้ และอาจนำไปปรับใช้ตอนเลือกซื้อโน๊ตบุ๊ครุ่นใหม่ๆ ในอนาคตได้อีกด้วย

สรุปสเปค 10 โน๊ตบุ๊คน่าซื้องาน COMMART Big Deal

สรุปสเปคโน๊ตบุ๊คน่าซื้องาน COMMART Big Deal CPU

GPU

SSD

RAM

Software

Display

Weight

Connectivity ราคา
(บาท)
ASUS Vivobook 15 X1502ZA-EJ506W Intel Core
i5-1235U

Intel Iris Xe Graphics

M.2 NVMe
512GB

8GB DDR4
3200MHz

Windows 11 Home

Microsoft Office Home & Student 2021

15.6″ FHD IPS

1.7 กก.

USB 2.0 x 1

USB-A 3.2 x 2

USB-C 3.2 x 1

HDMI x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 5

Bluetooth 4.1

18,990
HUAWEI MateBook D14 Intel Core
i5-1135G7

Intel Iris Xe Graphics

M.2 NVMe
512GB

8GB DDR4
3200MHz

Windows 11 Home

14″ FHD IPS

1.38 กก.

USB 2.0 x 1

USB-A 3.2 x 1

USB-C 3.2 x 1

HDMI x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6

Bluetooth 5.1

22,990
Lenovo IdeaPad 3 15IAU7-82RK00ABTA Intel Core
i5-1235U

Intel Iris Xe Graphics

M.2 NVMe
512GB

8GB DDR4
3200MHz

Windows 11 Home

Microsoft Office Home & Student 2021

15.6″ FHD IPS

1.63 กก.

USB 2.0 x 1

USB-A 3.2 x 1

USB-C 3.2 x 1

HDMI x 1

SD Card Reader x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6

Bluetooth 5.2

22,990
Hp Pavilion 15-eh2040AU AMD Ryzen 7 5825U

AMD Radeon Graphics

M.2 NVMe
512GB

16GB DDR4
3200MHz

Windows 11 Home

Microsoft Office Home & Student 2021

15.6″ FHD IPS

1.75 กก.

USB-A 3.2 x 2

USB-C 3.2 Full Function x 1

HDMI x 1

MicroSD Card Reader x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6

Bluetooth 5.2

27,490
Lenovo IdeaPad 5 Pro 16ARH7-82SN003BTA AMD Ryzen 7 6800HS

NVIDIA GeForce RTX 3050

M.2 NVMe
512GB

16GB LPDDR5
6400MHz

Windows 11 Home

Microsoft Office Home & Student 2021

16″ 2.5K
(2560×1600)
IPS

Refresh Rate 120Hz

100% sRGB

1.95 กก.

USB-C 3.2 Full Function x 1

USB-A 3.2 x 2

HDMI 1.4b x 1

SD Card Reader x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6

Bluetooth 5.1

38,990
Lenovo IdeaPad Gaming 3 15ACH6 AMD Ryzen 5 5600H

NVIDIA GeForce RTX 3050 Ti 

M.2 NVMe
512GB

8GB DDR4
3200MHz

Windows 11 Home

15.6″ FHD IPS

AMD FreeSync Premium

Refresh Rate 120Hz

2.25 กก.

USB-A 3.2 x 2

USB-C 3.2 x 1

HDMI 2.0 x 1

LAN x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6

Bluetooth 5.0

27,990
Lenovo Legion 5 15ARH7H AMD Ryzen 7 6800H

NVIDIA GeForce RTX 3070

M.2 NVMe
512GB

16GB DDR5
4800MHz

Windows 11 Home

15.6″ WQHD
IPS

Refresh Rate 165Hz

100% sRGB

Dolby Vision

NVIDIA
G-SYNC

AMD FreeSync Premium

2.4 กก.

USB-C 3.2 x 2 รองรับ DisplayPort

USB-C 3.2 Full Function x 1

USB-A 3.2 x 3

HDMI 2.1 x 1

LAN x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6E

Bluetooth 5.2

64,990
DELL G15 Gaming Intel Core
i5-12500H

NVIDIA GeForce RTX 3050

M.2 NVMe
512GB

8GB DDR5
4800MHz

Windows 11 Home

Microsoft Office Home & Student 2021

15.6″ FHD WVA

Refresh Rate 120Hz

2.51 กก.

USB-C 3.2 x 1 รองรับ DisplayPort

USB-A 3.2 x 3

HDMI 2.1 x 1

LAN x 1

Audio Combo x 1

Wi-Fi 6

Bluetooth 5.2

38,690
ASUS TUF Gaming A15 FA507RM-HN004W AMD Ryzen 7 6800H

NVIDIA GeForce RTX 3060

M.2 NVMe
512GB

16GB DDR5
4800MHz

Windows 11 Home

15.6″ FHD IPS

Refresh Rate 144Hz

2.2 กก.

USB-A 3.2 x 2

USB-C 3.2 รองรับ DisplayPort 1.2 และ NVIDIA G-SYNC  x 1

USB-C x 1

HDMI 2.0b x 1

LAN x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6

Bluetooth 5.2

45,990
ASUS ROG Strix G15 GL543RM-HQ349W AMD Ryzen 9 6900HX

NVIDIA GeForce RTX 3060

M.2 NVMe
1TB

32GB DDR5
4800MHz

Windows 11 Home

15.6″ WQHD
(2560×1440)
IPS

Refresh Rate 165Hz

2.3 กก.

USB-A 3.2 x 2

USB-C 3.2 x 1

USB-C 3.2 Full Function x 1 รองรับ NVIDIA G-SYNC

HDMI 2.0b x 1

LAN x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6E

Bluetooth 5.2

64,990

10 โน๊ตบุ๊คน่าซื้องาน COMMART Big Deal รวมรุ่นเด็ดทั้งสายทำงานและเกมมิ่ง!

ผู้ใช้คนไหนมีแผนหาโน๊ตบุ๊คน่าซื้องาน COMMART Big Deal เอาไว้ใช้ทำงานหรือเล่นเกมสักเครื่องล่ะก็ในงานนี้ก็มีรุ่นเด็ดให้เลือกเพียบ ส่วนรุ่นน่าสนใจที่ผู้เขียนแนะนำจะคละกันทั้งสายทำงานและเกมมิ่งโดยมีทั้งหมด 10 รุ่น ได้แก่

  1. ASUS Vivobook 15 X1502ZA-EJ506W (18,990 บาท)
  2. HUAWEI MateBook D14 (22,990 บาท)
  3. Lenovo IdeaPad 3 15IAU7-82RK00ABTA (22,990 บาท)
  4. Hp Pavilion 15-eh2040AU (27,490 บาท)
  5. Lenovo IdeaPad 5 Pro 16ARH7-82SN003BTA (38,990 บาท)
  6. Lenovo IdeaPad Gaming 3 15ACH6 (27,990 บาท)
  7. Lenovo Legion 5 15ARH7H (64,990 บาท)
  8. DELL G15 Gaming (38,690 บาท)
  9. ASUS TUF Gaming A15 FA507RM-HN004W (45,990 บาท)
  10. ASUS ROG Strix G15 GL543RM-HQ349W (64,990 บาท)
1. ASUS Vivobook 15 X1502ZA-EJ506W (18,990 บาท)

Asus Notebook Vivobook 15 X1502ZA 02 square medium

โน๊ตบุ๊คน่าซื้องาน COMMART Big Deal รุ่นแรกแนะนำเป็นสายทำงานอย่าง ASUS Vivobook 15 X1502ZA-EJ506W ซึ่งเป็นซีรี่ส์ราคาประหยัดเข้าถึงง่ายแต่สเปคดีน่าใช้และกางจอได้แบนราบ 180 องศาติดพื้นโต๊ะเพื่อแชร์หน้าจอให้เพื่อนร่วมงานดูได้ ดีไซน์แป้นพิมพ์ ErgoSense ให้พิมพ์ได้ถนัดมือแถมยังมีชุด Numpad ติดมาให้ด้วย ขนาดจอเครื่องนี้อยู่ที่ 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ใช้ซีพียู Intel Core i5-1235U แบบ 10 คอร์ 12 เธรด (2P+8E) ความเร็ว 3.3~4.4GHz มาให้และใช้การ์ดจอออนบอร์ด Intel Iris Xe Graphics มี M.2 NVMe SSD ความจุ 512GB ติดตั้ง Windows 11 Home และ Microsoft Office Home & Student 2021 มาให้และแรมออนบอร์ดอีก 8GB DDR4 บัส 3200MHz มีพอร์ต USB 2.0 x 1, USB-A 3.2 x 2, USB-C 3.2 x 1, HDMI x 1, Audio combo x 1 เชื่อมต่อ Wi-Fi 5 มาตรฐาน 802.11ac และ Bluetooth 4.1 ได้ น้ำหนักก็เบาพกง่ายเพียง 1.7 กิโลกรัมเท่านั้น เป็นรุ่นสเปคดีราคาเป็นมิตร น่าจะตอบโจทย์นักเรียนนักศึกษาและพนักงานออฟฟิศอย่างแน่นอน

สเปคของ ASUS Vivobook 15 X1502ZA-EJ506W
CPU Intel Core i5-1235U แบบ 10 คอร์ 12 เธรด (2P+8E) ความเร็ว 3.3~4.4GHz
GPU Intel Iris Xe Graphics
SSD M.2 NVMe SSD 512GB
RAM ออนบอร์ด 8GB DDR4 บัส 3200MHz
Display 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS
Connectivity USB 2.0 x 1, USB-A 3.2 x 2, USB-C 3.2 x 1, HDMI x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 5 มาตรฐาน 802.11ac และ Bluetooth 4.1

Software Windows 11 Home, Microsoft Office Home & Student 2021
Weight 1.7 กิโลกรัม
Price 18,990 บาท (คลิ๊กสั่งซื้อได้ที่นี่)
2. HUAWEI MateBook D14 (22,990 บาท)

MateBook D14 RAM 16GB 01

โน๊ตบุ๊คน่าซื้องาน COMMART Big Deal รุ่นถัดมาเป็น HUAWEI MateBook D14 ที่แม้จะวางจำหน่ายมาระยะหนึ่งแล้วก็ยังน่าใช้ เพราะมีเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือติดมาให้กับปุ่ม Power และชาร์จแบตเตอรี่ผ่านพอร์ต USB-C ได้และดีไซน์ซ่อนกล้อง Webcam เอาไว้กับแผงคีย์บอร์ดทำให้รีดกรอบจอได้บาง ให้จอขนาด 14 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS มีพื้นที่แสดงผลมากขึ้น ติดตั้งซีพียู Intel Core i5-1135G7 แบบ 4 คอร์ 8 เธรด ความเร็ว 2.4~4.2GHz และการ์ดจอ Intel Iris Xe Graphics มาให้ใช้ตัดต่อแต่งภาพและแสดงผลขึ้นหน้าจอได้อย่างลื่นไหล มี M.2 NVMe SSD ความจุ 512GB ติดตั้ง Windows 11 Home มาให้ มีแรม 8GB DDR4 บัส 3200MHz มีพอร์ต USB 2.0 x 1, USB-A 3.2 x 1, USB-C 3.2 x 1, HDMI x 1, Audio combo x 1 เชื่อมต่อ Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.1 ได้ในตัวและน้ำหนักก็เบาเพียง 1.38 กิโลกรัม นับเป็นโน๊ตบุ๊คน่าซื้องาน COMMART Big Deal อีกรุ่น ยิ่งถ้าใครใช้สมาร์ทโฟน HUAWEI อยู่ก็ใช้ฟีเจอร์ HUAWEI Share ดึงหน้าจอสมาร์ทโฟนมาใช้บนจอคอมได้ด้วย เรียกว่ามีลูกเล่นน่าใช้ใส่มาให้เพียบทีเดียว

สเปคของ HUAWEI MateBook D14
CPU Intel Core i5-1135G7 แบบ 4 คอร์ 8 เธรด ความเร็ว 2.4~4.2GHz
GPU Intel Iris Xe Graphics
SSD M.2 NVMe SSD 512GB
RAM 8GB DDR4 บัส 3200MHz
Display 14 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS
Connectivity USB 2.0 x 1, USB-A 3.2 x 1, USB-C 3.2 x 1, HDMI x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.1

Software Windows 11 Home
Weight 1.38 กิโลกรัม
Price 22,990 บาท (คลิ๊กสั่งซื้อได้ที่นี่)
3. Lenovo IdeaPad 3 15IAU7-82RK00ABTA (22,990 บาท)

Lenovo Notebook IdeaPad 3 15IAU7 01 square medium

ถ้าพูดถึงโน๊ตบุ๊คน่าซื้องาน COMMART Big Deal เพื่อคนทำงานก็ต้องมี Lenovo IdeaPad 3 15IAU7-82RK00ABTA รุ่นนี้รวมอยู่ด้วย เพราะทางผู้ผลิตติดตั้งเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือรวมมาให้กับปุ่ม Power เพื่อยืนยันตัวตนและน้ำหนักเครื่องยังเบาเพียง 1.63 กิโลกรัม จึงพกติดตัวไปเรียนหรือไปพบลูกค้าได้ง่ายมากแม้จอจะมีขนาดใหญ่ 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ก็ตาม ติดตั้งซีพียูรุ่นใหม่อย่าง Intel Core i5-1235U แบบ 10 คอร์ 12 เธรด (2P+8E) ความเร็ว 3.3~4.4GHz กับการ์ดจอออนบอร์ด Intel Iris Xe Graphics มาให้พร้อม M.2 NVMe SSD ความจุ 512GB กับระบบปฏิบัติการ Windows 11 Home และ Microsoft Office Home & Student 2021 มาให้ครบเครื่องกับแรมออนบอร์ดอีก 8GB DDR4 บัส 3200MHz มีพอร์ต USB 2.0 x 1, USB-A 3.2 x 1, USB-C 3.2 x 1, HDMI x 1, SD Card Reader x 1, Audio combo x 1 เชื่อมต่อ Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.2 ได้ด้วย ถือเป็นรุ่นสเปคดีราคาคุ้มค่าน่าจับอีกตัวในหมู่โน๊ตบุ๊คสายทำงานเลย 

สเปคของ Lenovo IdeaPad 3 15IAU7-82RK00ABTA
CPU Intel Core i5-1235U แบบ 10 คอร์ 12 เธรด (2P+8E) ความเร็ว 3.3~4.4GHz
GPU Intel Iris Xe Graphics
SSD M.2 NVMe SSD 512GB
RAM 8GB DDR4 บัส 3200MHz
Display 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS
Connectivity USB 2.0 x 1, USB-A 3.2 x 1, USB-C 3.2 x 1, HDMI x 1, SD Card Reader x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.2

Software Windows 11 Home, Microsoft Office Home & Student 2021
Weight 1.63 กิโลกรัม
Price 22,990 บาท (คลิ๊กสั่งซื้อได้ที่นี่)
4. Hp Pavilion 15-eh2040AU (27,490 บาท)

HP Notebook Pavilion 15 eh2040AU 01 square medium

ทีม AMD ที่อยากหาโน๊ตบุ๊คน่าซื้องาน COMMART Big Deal เอาไว้ใช้สักเครื่อง ส่วนตัวผู้เขียนอยากแนะนำ Hp Pavilion 15-eh2040AU ให้เป็นตัวเลือกแรก เพราะ HP ให้พอร์ต USB-C Full Function มาใช้ชาร์จแบตเตอรี่แบบ Power Delivery และต่อจอแยกแบบ DisplayPort ได้ด้วยแถมยังมีเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือติดตั้งมาให้อีกด้วย เรียกว่าครบเครื่องมากและได้จอขนาดใหญ่เต็มตา 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS พร้อมขุมพลังซีพียู AMD Ryzen 7 5825U แบบ 8 คอร์ 16 เธรด ความเร็ว 2.0~4.5GHz ใช้การ์ดจอออนบอร์ด AMD Radeon Graphics แบบ 8 คอร์มาให้ มี M.2 NVMe SSD ความจุ 512GB ติดตั้ง Windows 11 Home และ Microsoft Office Home & Student 2021 มาให้และแรมอีก 16GB DDR4 บัส 3200MHz เยอะจุใจใครหลายๆ คนแน่นอน มีพอร์ต USB-A 3.2 x 2, USB-C 3.2 Full Function x 1, HDMI x 1, MicroSD Card Reader x 1, Audio combo x 1 เชื่อมต่อ Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.2 ได้ในตัว น้ำหนักเพียง 1.75 กิโลกรัมเท่านั้น ส่วนตัวผู้เขียนถือเป็นโน๊ตบุ๊คน่าซื้องาน COMMART Big Deal ที่สเปคจบน่าใช้ เอาเงินไปซื้ออุปกรณ์เสริมแทนได้เลย

สเปคของ Hp Pavilion 15-eh2040AU
CPU AMD Ryzen 7 5825U แบบ 8 คอร์ 16 เธรด ความเร็ว 2.0~4.5GHz
GPU AMD Radeon Graphics แบบ 8 คอร์
SSD M.2 NVMe SSD 512GB
RAM 16GB DDR4 บัส 3200MHz
Display 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS
Connectivity USB-A 3.2 x 2, USB-C 3.2 Full Function x 1, HDMI x 1, MicroSD Card Reader x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.2

Software Windows 11 Home, Microsoft Office Home & Student 2021
Weight 1.75 กิโลกรัม
Price 27,490 บาท (คลิ๊กสั่งซื้อได้ที่นี่)
5. Lenovo IdeaPad 5 Pro 16ARH7-82SN003BTA (38,990 บาท)

Lenovo IdeaPad 5 Pro 03 square medium

สำหรับ Lenovo IdeaPad 5 Pro 16ARH7-82SN003BTA รุ่นนี้ถือเป็นโน๊ตบุ๊คน่าซื้องาน COMMART Big Deal ระดับพรีเมี่ยมพลัง AMD Ryzen รหัสพิเศษอย่าง AMD Ryzen 7 6800HS แบบ 8 คอร์ 16 เธรด ความเร็ว 3.2~4.7GHz โดยรหัสนี้เป็นซีพียูประสิทธิภาพสูงแต่จัดการพลังงานได้ดี จับคู่กับการ์ดจอแยก NVIDIA GeForce RTX 3050 แรม 4GB GDDR6 และหน้าจอเครื่องมีขนาด 16 นิ้ว ความละเอียด 2.5K (2560×1600) พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 120Hz ขอบเขตสีกว้าง 100% sRGB ติดกล้อง IR Camera มาให้สแกนหน้าปลดล็อคเครื่องได้ในตัว มี M.2 NVMe SSD ความจุ 512GB ติดตั้ง Windows 11 Home และ Microsoft Office Home & Student 2021 มาให้พร้อมแรมอีก 16GB LPDDR5 บัส 6400MHz มีพอร์ต USB-C 3.2 Full Function x 1, USB-A 3.2 x 2, HDMI 1.4b x 1, SD Card Reader x 1, Audio combo x 1 เชื่อมต่อไร้สายด้วย Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.1 ได้ น้ำหนักเครื่องอยู่ที่ 1.95 กิโลกรัม ซึ่ง IdeaPad 5 Pro เครื่องนี้เหมาะกับผู้ใช้ที่ต้องการโน๊ตบุ๊คระดับพรีเมี่ยมประสิทธิภาพสูงเอาไว้ทำงานได้รอบด้าน ตั้งแต่ตัดต่อแต่งภาพทำคลิปหรือจะเปิดเล่นเกมก็ได้เช่นกัน ซื้อเครื่องเดียวใช้งานได้หลายปีอย่างแน่นอน นับเป็นหนึ่งในโน๊ตบุ๊คน่าซื้องาน COMMART Big Deal ครั้งนี้เลย

สเปคของ Lenovo IdeaPad 5 Pro 16ARH7-82SN003BTA
CPU AMD Ryzen 7 6800HS แบบ 8 คอร์ 16 เธรด ความเร็ว 3.2~4.7GHz
GPU NVIDIA GeForce RTX 3050 แรม 4GB GDDR6
SSD M.2 NVMe SSD 512GB
RAM 16GB LPDDR5 บัส 6400MHz
Display 16 นิ้ว ความละเอียด 2.5K (2560×1600) พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 120Hz ขอบเขตสีกว้าง 100% sRGB
Connectivity USB-C 3.2 Full Function x 1, USB-A 3.2 x 2, HDMI 1.4b x 1, SD Card Reader x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.1

Software Windows 11 Home, Microsoft Office Home & Student 2021
Weight 1.95 กิโลกรัม
Price 38,990 บาท (คลิ๊กสั่งซื้อได้ที่นี่)
6. Lenovo IdeaPad Gaming 3 15ACH6 (27,990 บาท)

Notebook IdeaPad Gaming 3 15ACH6 01 square medium

ส่วนของเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คน่าซื้อในงาน COMMART Big Deal เริ่มจากรุ่นดีราคาประหยัดอย่าง Lenovo IdeaPad Gaming 3 15ACH6 ซึ่งยังหาซื้อได้ไม่ยากนักและมีโปรโมชั่นอย่างแน่นอน โดยจุดเด่นคือคีย์บอร์ด Full-size พ้อมไฟ 4-Zone RGB มี 100% N-key rollover ในตัวและหน้าจอเครื่องมีขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 120Hz รองรับ AMD FreeSync Premium ใช้ซีพียู AMD Ryzen 5 5600H  แบบ 6 คอร์ 12 เธรด ความเร็ว 3.3~4.2GHz จับคู่การ์ดจอแยก NVIDIA GeForce RTX 3050 Ti แรม 4GB GDDR6 มี M.2 NVMe SSD ความจุ 512GB ติดตั้ง Windows 11 Home กับแรม 8GB DDR4 บัส 3200MHz มาให้ มีพอร์ต USB-A 3.2 x 2, USB-C 3.2 x 1, HDMI 2.0 x 1, LAN x 1, Audio combo x 1 เชื่อมต่อ Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.0 ได้ในตัว น้ำหนักอยู่ที่ 2.25 กิโลกรัม เป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คน่าซื้อในงาน COMMART Big Deal เพื่อเกมเมอร์ที่มีงบจำกัดหรือครีเอเตอร์มือใหม่หาโน๊ตบุ๊คมีการ์ดจอแยกเอาไว้ตัดคลิป Vlog ก็ซื้อเครื่องนี้ไปใช้เริ่มต้นได้

สเปคของ Lenovo IdeaPad Gaming 3 15ACH6
CPU AMD Ryzen 5 5600H  แบบ 6 คอร์ 12 เธรด ความเร็ว 3.3~4.2GHz
GPU NVIDIA GeForce RTX 3050 Ti แรม 4GB GDDR6
SSD M.2 NVMe SSD 512GB
RAM 8GB DDR4 บัส 3200MHz
Display 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 120Hz รองรับ AMD FreeSync Premium
Connectivity USB-A 3.2 x 2, USB-C 3.2 x 1, HDMI 2.0 x 1, LAN x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.0

Software Windows 11 Home
Weight 2.25 กิโลกรัม
Price 27,990 บาท (คลิ๊กสั่งซื้อได้ที่นี่)
7. Lenovo Legion 5 15ARH7H (64,990 บาท)

Lenovo Notebook Legion 5 15ARH7H 01 square medium

เกมมิ่งโน๊ตบุ๊คน่าซื้องาน COMMART Big Deal ขวัญใจเกมเมอร์อย่าง Lenovo Legion 5 15ARH7H รุ่นนี้เชื่อว่ามีคนตามหากันเยอะแน่นอนเพราะสเปคต่อราคาคุ้มค่า ได้ระบบระบายความร้อน Coldfront 4.0 มีชิป Legion AI ช่วยปรับแต่งตัวเครื่องให้ทำงานได้ไหลลื่นขึ้นและได้คีย์บอร์ด Legion TrueStrike พร้อมไฟ 4-Zone RGB และลำโพงจูนเสียงโดย Nahimic Audio ให้เสียงมีมิติเต็มอิ่มยิ่งขึ้น ให้ดูหนังฟังเพลงและเล่นเกมบนจอ 15.6 นิ้ว ความละเอียด WQHD (2560×1440) พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 165Hz ได้ลื่นไหลขึ้นและจอนี้มีขอบเขตสีกว้าง 100% sRGB รองรับ Dolby Vision, NVIDIA G-SYNC, AMD FreeSync Premium ได้อย่างเต็มอิ่ม ติดตั้งซีพียู AMD Ryzen 7 6800H แบบ 8 คอร์ 16 เธรด ความเร็ว 3.2~4.7GHz มาคู่กับการ์ดจอแยก NVIDIA GeForce RTX 3070 แรม 8GB GDDR6 มี M.2 NVMe SSD ความจุ 512GB พร้อม Windows 11 Home กับแรม 16GB DDR5 บัส 4800MHz ในตัว มีพอร์ต USB-C 3.2 x 2 รองรับ DisplayPort, USB-C 3.2 Full Function x 1, USB-A 3.2 x 3, HDMI 2.1 x 1, LAN x 1, Audio combo x 1 เชื่อมต่อไร้สายได้ด้วย Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.2 ได้ น้ำหนักเครื่องอยู่ที่ 2.4 กิโลกรัม หากใครหาเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คน่าซื้องาน COMMART Big Deal อยู่ก็ซื้อเครื่องนี้ไปเล่นเกมได้เลย เชื่อว่าประทับใจอย่างแน่นอน

สเปคของ Lenovo Legion 5 15ARH7H
CPU AMD Ryzen 7 6800H แบบ 8 คอร์ 16 เธรด ความเร็ว 3.2~4.7GHz
GPU NVIDIA GeForce RTX 3070 แรม 8GB GDDR6
SSD M.2 NVMe SSD 512GB
RAM 16GB DDR5 บัส 4800MHz
Display 15.6 นิ้ว ความละเอียด WQHD (2560×1440) พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 165Hz ได้ลื่นไหลขึ้นและจอนี้มีขอบเขตสีกว้าง 100% sRGB รองรับ Dolby Vision, NVIDIA G-SYNC, AMD FreeSync Premium
Connectivity USB-C 3.2 x 2 รองรับ DisplayPort, USB-C 3.2 Full Function x 1, USB-A 3.2 x 3, HDMI 2.1 x 1, LAN x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.2

Software Windows 11 Home
Weight 2.4 กิโลกรัม
Price 64,990 บาท (คลิ๊กสั่งซื้อได้ที่นี่)
8. DELL G15 Gaming (38,690 บาท)

Dell Inspiron G15 W566311300TH Green 02 square medium

เกมมิ่งโน๊ตบุ๊คน่าซื้องาน COMMART Big Deal อย่าง DELL G15 Gaming นั้นถือว่าน่าซื้อไม่แพ้เครื่องอื่นในลิสท์นี้เลย เพราะทางบริษัทใส่โปรแกรมปรับแต่งตัวเครื่องอย่าง Alienware Command Center มาให้ปรับแต่งและรีดประสิทธิภาพตัวเครื่องออกมาได้เต็มที่ซึ่งผู้เขียนได้รีวิวไปก่อนหน้านี้แล้ว หากสนใจก็สามารถคลิ๊กอ่านได้ที่นี่ แถมมี Microsoft Office Home & Student 2021 ติดตั้งมาให้คู่กับ Windows 11 Home ด้วย จะทำงานหรือเล่นเกมก็ดีทั้งคู่และขนาดเครื่องก็ไล่เลี่ยกับเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ครุ่นอื่นๆ ที่ 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล WVA ค่า Refresh Rate 120Hz ติดตั้ง Intel Core i5-12500H แบบ 12 คอร์ 16 เธรด (4P+8E) ความเร็ว 3.3~4.5GHz กับการ์ดจอแยก NVIDIA GeForce RTX 3050 แรม 4GB GDDR6 มาให้ มี M.2 NVMe SSD ความจุ 512GB และแรม 8GB DDR5 บัส 4800MHz มีพอร์ต USB-C 3.2 x 1 รองรับ DisplayPort, USB-A 3.2 x 3, HDMI 2.1 x 1, LAN x 1, Audio Combo x 1 เชื่อมต่อ Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.2 ได้ น้ำหนัก 2.51 กิโลกรัม ซึ่งข้อดีของ DELL G15 Gaming นั้นต้องยกให้โปรแกรม Microsoft Office แท้ที่แถมมาให้เลย ผู้ใช้จะได้ไม่ต้องเสียเงินซื้อโปรแกรมเพิ่มให้เปลือง เหลือเพียงแค่อัพเกรดเพิ่มแรมไป 16GB ก็พร้อมใช้งานแล้ว หากใครหาเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คน่าซื้องาน COMMART Big Deal ก็ดูตัวนี้ไว้ได้เลย

สเปคของ DELL G15 Gaming
CPU Intel Core i5-12500H แบบ 12 คอร์ 16 เธรด (4P+8E) ความเร็ว 3.3~4.5GHz
GPU NVIDIA GeForce RTX 3050 แรม 4GB GDDR6
SSD M.2 NVMe SSD 512GB
RAM 8GB DDR5 บัส 4800MHz
Display 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล WVA ค่า Refresh Rate 120Hz
Connectivity USB-C 3.2 x 1 รองรับ DisplayPort, USB-A 3.2 x 3, HDMI 2.1 x 1, LAN x 1, Audio Combo x 1

Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.2

Software Windows 11 Home, Microsoft Office Home & Student 2021
Weight 2.51 กิโลกรัม
Price 38,690 บาท (คลิ๊กสั่งซื้อได้ที่นี่)
9. ASUS TUF Gaming A15 FA507RM-HN004W (45,990 บาท)

Asus Notebook TUF Gaming A15 FA507RM 01 square medium

หากเกมเมอร์คนไหนหาเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คน่าซื้องาน COMMART Big Deal ไปแทนเกมมิ่งพีซีเพราะที่บ้านมีพื้นที่ใช้สอยจำกัด ผู้เขียนขอแนะนำให้ดู ASUS TUF Gaming A15 FA507RM-HN004W เป็นพิเศษ เพราะทาง ASUS ติดตั้ง MUX Switch เอาไว้สลับโหมดการทำงานระหว่างการ์ดจอแยกและออนบอร์ดได้อย่างเหมาะสมกับพัดลม Arc Flow Fan ไว้ระบายความร้อนได้เป็นอย่างดี มี Adaptive-Sync ลดอาการภาพฉีกเวลาเล่นเกมและยังมี Hotkeys ติดตั้งมาให้ 4 ปุ่มเอาไว้กดคีย์ลัดได้ด้วย ส่วนขนาดเครื่องอยู่ที่ 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 144Hz ติดตั้ง AMD Ryzen 7 6800H แบบ 8 คอร์ 16 เธรด ความเร็ว 3.2~4.7GHz จับคู่การ์ดจอ NVIDIA GeForce RTX 3060 แรม 6GB GDDR6 และ M.2 NVMe SSD ความจุ 512GB ติดตั้ง Windows 11 Home มาให้กับแรม 16GB DDR5 บัส 4800MHz มีพอร์ต USB-A 3.2 x 2, USB-C 3.2 รองรับ DisplayPort 1.2 และ NVIDIA G-SYNC  x 1, USB-C x 1, HDMI 2.0b x 1, LAN x 1, Audio combo x 1 เชื่อมต่อ Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.2 ได้ น้ำหนักเพียง 2.2 กิโลกรัม ถือเป็นโน๊ตบุ๊คน่าซื้องาน COMMART Big Deal อีกรุ่นที่น่าซื้อในงานนี้

สเปคของ ASUS TUF Gaming A15 FA507RM-HN004W
CPU AMD Ryzen 7 6800H แบบ 8 คอร์ 16 เธรด ความเร็ว 3.2~4.7GHz
GPU NVIDIA GeForce RTX 3060 แรม 6GB GDDR6
SSD M.2 NVMe SSD 512GB
RAM 16GB DDR5 บัส 4800MHz
Display 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 144Hz
Connectivity USB-A 3.2 x 2, USB-C 3.2 รองรับ DisplayPort 1.2 และ NVIDIA G-SYNC  x 1, USB-C x 1, HDMI 2.0b x 1, LAN x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.2

Software Windows 11 Home
Weight 2.2 กิโลกรัม
Price 45,990 บาท (คลิ๊กสั่งซื้อได้ที่นี่)
10. ASUS ROG Strix G15 GL543RM-HQ349W (64,990 บาท)

Asus Notebook ROG Strix G15 GL543RM 04 square medium

ถ้าต้องการฟีเจอร์แบบเกมมิ่งเต็มที่ สเปคแรงและมีปุ่มมาโครให้เซ็ตตั้งค่าได้ด้วยก็ต้อง ASUS ROG Strix G15 GL543RM-HQ349W ซึ่งนอกจากปุ่มมาโครแล้วยังได้ชิป MUX Switch, ระบบ Dolby Vision และ Dolby Atmos รวมทั้งไฟ RGB “AURA SYNC” และมีชิป Smart AMP มาเสริมให้เสียงลำโพงดีมีมิติยิ่งขึ้น และขนาดเครื่องเพียง 15.6 นิ้ว ความละเอียด WQHD (2560×1440) พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 165Hz พกพาได้ไม่ยากมาก ติดตั้ง ซีพียูสุดแรง AMD Ryzen 9 6900HX แบบ 8 คอร์ 16 เธรด ความเร็ว 3.3~4.9GHz กับการ์ดจอ NVIDIA GeForce RTX 3060 แรม 6GB GDDR6 มาให้ มี M.2 NVMe SSD ความจุ 1TB ติดตั้ง Windows 11 Home มาให้ มีแรม 32GB DDR5 บัส 4800MHz มีพอร์ต USB-A 3.2 x 2, USB-C 3.2 x 1, USB-C 3.2 Full Function x 1 รองรับ NVIDIA G-SYNC, HDMI 2.0b x 1, LAN x 1, Audio combo x 1 เชื่อมต่อไร้สายด้วย Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.2 น้ำหนักเครื่อง 2.3 กิโลกรัมเท่านั้น จัดเป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คน่าซื้องาน COMMART Big Deal สุดทรงพลังอีกเครื่อง จะเอาไว้เล่นเกมหรือใช้ทำงานก็ยอดเยี่ยมอย่างแน่นอน

สเปคของ ASUS ROG Strix G15 GL543RM-HQ349W
CPU AMD Ryzen 9 6900HX แบบ 8 คอร์ 16 เธรด ความเร็ว 3.3~4.9GHz
GPU NVIDIA GeForce RTX 3060 แรม 6GB GDDR6
SSD M.2 NVMe SSD 1TB
RAM 32GB DDR5 บัส 4800MHz
Display 15.6 นิ้ว ความละเอียด WQHD (2560×1440) พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 165Hz
Connectivity USB-A 3.2 x 2, USB-C 3.2 x 1, USB-C 3.2 Full Function x 1 รองรับ NVIDIA G-SYNC, HDMI 2.0b x 1, LAN x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.2

Software Windows 11 Home
Weight 2.3 กิโลกรัม
Price 64,990 บาท (คลิ๊กสั่งซื้อได้ที่นี่)

pexels karina kholina 12266706

ณ ตอนนี้ ถ้าใครคิดว่าจะไปหาซื้อโน๊ตบุ๊คน่าซื้องาน COMMART Big Deal สักเครื่องล่ะก็ ผู้เขียนก็เห็นด้วยแม้บางคนจะเปลี่ยนมาซื้อออนไลน์มากกว่าก็ตาม แต่ถ้ามาในงานแล้วได้เห็นของจริง จับดูแล้วถูกใจไม่มีปัญหากับมิติตัวเครื่องและน้ำหนักก็เป็นเรื่องที่ดี และผู้จัดจำหน่ายแต่ละเจ้าก็มีโปรโมชั่นส่งเสริมการขายดีๆ รอซัพพอร์ตอยู่แล้วและถ้ามาเดินในงานก็อาจจะได้อัพเกรดเครื่องและเลือกหาเกมมิ่งเกียร์ไปให้ครบเซ็ตในทีเดียวได้เลยเช่นกัน


บทความที่เกี่ยวข้อง

7จอพกพาน่าใช้ 1

ตัวรับWifi

Artboard 1 1

from:https://notebookspec.com/web/689281-10-recommend-laptop-in-commart-2023

7 เกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค Intel ร้าน BaNANA น่าซื้อ ลดสูงสุด 4,000 เริ่ม 28,990 บาท เท่านั้น!! ใครอยากได้จัดไปเลย!!

เกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค Intel ร้าน BaNANA น่าซื้อ

7 เกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค intel 1

ก่อนหน้านี้ผู้เขียนได้แนะนำโน๊ตบุ๊คร้าน BaNANA น่าซื้อไปครั้งหนึ่งแล้ว แต่ถ้ามองหาเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค Intel ร้าน BaNANA น่าซื้อเอาไว้เล่นเกมสักเครื่องในช่วงต้นปี 2023 นี้ ทาง BaNANA ก็จัดโปรโมชั่นร่วมกับทาง Intel เป็นงาน Intel Brand Fair โดยมีโค้ดส่วนลดสูงสุด 4,000 บาท และยังเลือกผ่อนกับบัตรเครดิตได้นานสุด 0% 24 เดือนอีกด้วย โดยอีเว้นท์นี้จัดถึงวันที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2566 นี้ ซึ่งจะสั่งซื้อที่หน้าเว็บไซต์แล้วไปรับสินค้าที่หน้าร้านเลยหรือรอให้สินค้ามาส่งที่บ้านก็ได้เช่นกัน จัดว่าสะดวกมากๆ 

Advertisementavw

สำหรับโน๊ตบุ๊ค Intel จากแบรนด์ต่างๆ ที่มีโปรโมชั่นจากทาง BaNANA จะมีตั้งแต่ Intel Core i3 จนถึง i9 เลือกได้ทั้ง Intel 11th Gen ซึ่งประสิทธิภาพยังดีพร้อมเล่นเกมต่างๆ ในปัจจุบันได้สบายๆ หรือแม้แต่ Intel 12th Gen รุ่นใหม่ล่าสุดพร้อมคอร์ 2 ชุด โดยมี P-Core ไว้รันงานหลักและ E-Core ไว้รันโปรแกรมเบื้องหลังได้ลื่นไหลยิ่งขึ้นด้วย

เกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค Intel ร้าน BaNANA น่าซื้อ

สรุปสเปค 7 เกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค Intel ร้าน BaNANA น่าซื้อ ให้เกมเมอร์ได้โดนกัน!

สเปค 7 เกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค Intel ร้าน BaNANA น่าซื้อ CPU

GPU

SSD

RAM

Software

Display

Weight

Connectivity ราคา
(บาท)
ASUS TUF Gaming F15 FX506HC-HN111W Intel Core
i5-11400H

NVIDIA GeForce RTX 3050

M.2 NVMe
512GB

8GB DDR4
3200MHz

Windows 11 Home

15.6″ FHD IPS 144Hz

2.3 กก.

Thunderbolt 4 รองรับ DisplayPort x 1

USB-A 3.2 x 3

HDMI x 1

LAN x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6

Bluetooth 5.2

28,990
Acer Nitro 5 AN515-58-55UB Intel Core
i5-12500H

NVIDIA GeForce RTX 3050

M.2 NVMe
512GB

8GB DDR4
3200MHz

Windows 11 Home

15.6″ FHD IPS 165Hz

100% sRGB

2.5 กก.

Thunderbolt 4 x 1

USB-A 3.2 x 3

HDMI x 1

LAN x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6

Bluetooth 5.1

33,990
Acer Nitro 5 AN515-58-50WD Intel Core
i5-12500H

NVIDIA GeForce RTX 3050 Ti

M.2 NVMe
512GB

8GB DDR4
3200MHz

Windows 11 Home

15.6″ FHD IPS 165Hz

100% sRGB

2.5 กก.

Thunderbolt 4 x 1

USB-A 3.2 x 3

HDMI x 1

LAN x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6

Bluetooth 5.1

35,990
ASUS TUF Gaming F15 FX506HM-HN016W Intel Core
i5-11400H

NVIDIA GeForce RTX 3060

M.2 NVMe
512GB

16GB DDR4
3200MHz

Windows 11 Home

15.6″ FHD IPS 144Hz

2.3 กก.

Thunderbolt 4 รองรับ DisplayPort x 1

USB-A 3.2 x 3

HDMI x 1

LAN x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6

Bluetooth 5.2

35,900
MSI Katana GF76 12UD-010TH Intel Core
i7-12700H

NVIDIA GeForce RTX 3050 Ti

M.2 NVMe
512GB

16GB DDR4
3200MHz

Windows 11 Home

17.3″ FHD IPS 144Hz

2.6 กก.

USB-C 3.2 x 1

USB-A 3.2 x 2

USB 2.0 x 1

HDMI x 1

LAN x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6

Bluetooth 5.2

45,590
ASUS ROG Strix Scar 15 G543ZW-HF187W Intel Core
i9-12900H

NVIDIA GeForce RTX 3070 Ti

M.2 NVMe
1TB

32GB DDR5
4800MHz

Windows 11 Home

15.6″ FHD IPS 300Hz

2.3 กก.

Thunderbolt x 1

USB-A 3.2 x 2

HDMI x 1

LAN x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6E

Bluetooth 5.2

74,990
ASUS ROG Strix Scar 15 G543ZS-HF010W Intel Core
i9-12900H

NVIDIA GeForce RTX 3080

M.2 NVMe
1TB

32GB DDR5
4800MHz

Windows 11 Home

15.6″ FHD IPS 300Hz

2.3 กก.

Thunderbolt x 1

USB-A 3.2 x 2

HDMI x 1

LAN x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6E

Bluetooth 5.2

84,990

7 เกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค Intel ร้าน BaNANA น่าซื้อ

BNN Cover intel Brand Fair 160123 310123 category banner medium 1

จากครั้งก่อนผู้เขียนได้แนะนำโน๊ตบุ๊ค Intel ร้าน BaNANA น่าซื้อโดยรวมทุกแบบทั้งโน๊ตบุ๊คทำงานและเกมมิ่งเอาไว้ด้วยกัน แต่ถ้าใครหาเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค Intel ร้าน BaNANA น่าซื้อเอาไว้เล่นเกมหรือทำงานครีเอทีฟสักเครื่อง ผู้เขียนได้เลือกเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ครุ่นน่าซื้อทั้งหมด 7 รุ่นมาแนะนำให้เกมเมอร์ได้ซื้อไปใช้งานกัน เริ่มต้นราคาไม่เกิน 30,000 บาทไปจนสเปคแรงระดับ Desktop Replacement ได้เลย โดยมีรุ่นแนะนำดังนี้

  1. ASUS TUF Gaming F15 FX506HC-HN111W (28,990 บาท)
  2. Acer Nitro 5 AN515-58-55UB (33,990 บาท)
  3. Acer Nitro 5 AN515-58-50WD (35,990 บาท)
  4. ASUS TUF Gaming F15 FX506HM-HN016W (35,900 บาท)
  5. MSI Katana GF76 12UD-010TH (45,590 บาท)
  6. ASUS ROG Strix Scar 15 G543ZW-HF187W (74,990 บาท)
  7. ASUS ROG Strix Scar 15 G543ZS-HF010W (84,990 บาท)
1. ASUS TUF Gaming F15 FX506HC-HN111W (28,990 บาท)

tuf1 1

เกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค Intel ร้าน BaNANA น่าซื้อเครื่องแรกเป็น ASUS TUF Gaming F15 FX506HC-HN111W ซึ่งทาง BaNANA นำมาลดราคาเป็นพิเศษ ซึ่งลูกค้าจะได้รับของแถมแล้วยังแลกซื้อกระเป๋าเดินทางในราคาพิเศษได้และยังผ่อน 0% 24 เดือนได้อีกด้วย ส่วนตัวผู้เขียนแนะนำให้อัพเกรดแรมเป็น 16GB จะสามารถใช้ทำงานและเล่นเกมได้ดียิ่งขึ้น

TUF Gaming F15 เครื่องนี้ติดตั้ง Intel Core i5-11400H แบบ 6 คอร์ 12 เธรด ความเร็ว 2.7~4.5GHz กับการ์ดจอแยก NVIDIA GeForce RTX 3050 แรม 4GB GDDR6 มาให้กับจอ 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 144Hz มี M.2 NVMe SSD ความจุ 512GB ติดตั้ง Windows 11 Home มาให้กับแรม 8GB DDR4 บัส 3200MHz มีพอร์ต Thunderbolt 4 รองรับ DisplayPort x 1, USB-A 3.2 x 3, HDMI x 1, LAN x 1, Audio combo x 1 เชื่อมต่อ Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.2 ได้ มีน้ำหนัก 2.3 กิโลกรัม และราคาเครื่องยังไม่ถึง 30,000 บาท จึงถึงว่า TUF Gaming F15 เครื่องนี้เป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค Intel ร้าน BaNANA น่าซื้อเครื่องแรกที่ไม่ควรมองข้ามเลย

สเปคของ ASUS TUF Gaming F15 FX506HC-HN111W
CPU Intel Core i5-11400H แบบ 6 คอร์ 12 เธรด ความเร็ว 2.7~4.5GHz
GPU NVIDIA GeForce RTX 3050 แรม 4GB GDDR6
SSD M.2 NVMe SSD 512GB
RAM 8GB DDR4 บัส 3200MHz
Display 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 144Hz
Connectivity Thunderbolt 4 รองรับ DisplayPort x 1, USB-A 3.2 x 3, HDMI x 1, LAN x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.2

Software Windows 11 Home
Weight 2.3 กิโลกรัม
Price 28,990 บาท (คลิ๊กสั่งซื้อได้ที่นี่)
2. Acer Nitro 5 AN515-58-55UB (33,990 บาท)

nitro1 1

เกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค Intel ร้าน BaNANA น่าซื้อเครื่องถัดมาเป็น Acer Nitro 5 AN515-58-55UB ซึ่ง Acer ได้เปลี่ยนบอดี้ตัวเครื่องเป็นแบบใหม่, ใส่พอร์ต Thunerbolt 4 รองรับ DisplayPort และ Power Delivery 100 วัตต์มาให้และยังเปิดฝาอัพเกรดเพิ่ม RAM, SSD ได้ แถมขอบเขตสีหน้าจอยังกว้างระดับ 100% sRGB อีกด้วย ถ้าใครสนใจสามารถอ่านรีวิวได้ที่นี่

ซีพียูในเครื่องเป็น Intel Core i5-12500H แบบ 12 คอร์ 16 เธรด (4P+8E) ความเร็ว 3.3~4.5GHz กับการ์ดจอแยก NVIDIA GeForce RTX 3050 แรม 4GB GDDR6 และหน้าจอ 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 165Hz ขอบเขตสีกว้าง 100% sRGB มี M.2 NVMe SSD ความจุ 512GB ติดตั้ง Windows 11 Home มาให้ใช้งานและแรมอีก 8GB DDR4 บัส 3200MHz มีพอร์ต Thunderbolt 4 x 1, USB-A 3.2 x 3, HDMI x 1, LAN x 1, Audio combo x 1 รองรับ Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.1 น้ำหนักเครื่อง 2.5 กิโลกรัม ซึ่งถ้าใครทำงานอาร์ทแต่งหรือวาดภาพทำงานอยู่บ่อยๆ ล่ะก็ Acer Nitro 5 รุ่นใหม่นี้เป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค Intel ร้าน BaNANA น่าซื้อมากอีกเครื่องหนึ่งเลย

สเปคของ Acer Nitro 5 AN515-58-55UB
CPU Intel Core i5-12500H แบบ 12 คอร์ 16 เธรด (4P+8E) ความเร็ว 3.3~4.5GHz
GPU NVIDIA GeForce RTX 3050 แรม 4GB GDDR6
SSD M.2 NVMe SSD 512GB
RAM 8GB DDR4 บัส 3200MHz
Display 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 165Hz
ขอบเขตสีกว้าง 100% sRGB
Connectivity Thunderbolt 4 x 1, USB-A 3.2 x 3, HDMI x 1, LAN x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.1

Software Windows 11 Home
Weight 2.5 กิโลกรัม
Price 33,990 บาท (คลิ๊กสั่งซื้อได้ที่นี่)
3. Acer Nitro 5 AN515-58-50WD (35,990 บาท)

nitro2 1

ด้าน Acer Nitro 5 AN515-58-50WD เครื่องนี้ก็เป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค Intel ร้าน BaNANA น่าซื้อเช่นกัน โดยทางร้านจัดโปรโมชั่นใช้โค้ด BNINTBFJ10 แล้วจะลดราคาสินค้าได้ 1,000 บาท และยังได้รับของแถมและแลกซื้อกระเป๋าเดินทางได้อีกด้วย ส่วนสเปคต้องถือว่าแชร์กับ Nitro 5 ข้อก่อนหน้าแทบทั้งหมด แต่อัพเกรดการ์ดจอเป็น NVIDIA GeForce RTX 3050 Ti แรม 4GB GDDR6 ให้รีดเฟรมเรทได้ดีขึ้น ถ้าใครเน้นเล่นเกมเป็นหลักก็ขยับมาซื้อเครื่องนี้ได้เลย

สเปคของ Acer Nitro 5 AN515-58-50WD
CPU Intel Core i5-12500H แบบ 12 คอร์ 16 เธรด (4P+8E) ความเร็ว 3.3~4.5GHz
GPU NVIDIA GeForce RTX 3050 Ti แรม 4GB GDDR6
SSD M.2 NVMe SSD 512GB
RAM 8GB DDR4 บัส 3200MHz
Display 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 165Hz
ขอบเขตสีกว้าง 100% sRGB
Connectivity Thunderbolt 4 x 1, USB-A 3.2 x 3, HDMI x 1, LAN x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.1

Software Windows 11 Home
Weight 2.5 กิโลกรัม
Price 35,990 บาท (คลิ๊กสั่งซื้อได้ที่นี่)
4. ASUS TUF Gaming F15 FX506HM-HN016W (35,900 บาท)

tuf2 1

ในบรรดาเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค Intel ร้าน BaNANA น่าซื้อ ASUS TUF Gaming F15 FX506HM-HN016W เป็นรุ่นที่ได้การ์ดจอตัวแรงอย่าง RTX 3060 มาใช้เล่นเกมแล้วและสเปคจัดว่าจบจากโรงงาน อย่างมากก็เพิ่ม SSD เข้าไปให้มีความจุมากขึ้นเป็น 1TB ก็ใช้ทำงานและเล่นเกมได้ดีขึ้นมากแล้ว ผู้อ่านที่สนใจรุ่นนี้อยู่สามารถอ่านรีวิวรุ่นใกล้เคียงในซีรี่ส์เดียวกันได้ที่นี่

TUF Gaming F15 ติดตั้งซีพียู Intel Core i5-11400H แบบ 6 คอร์ 12 เธรด ความเร็ว 2.7~4.5GHz กับการ์ดจอ NVIDIA GeForce RTX 3060 แรม 6GB GDDR6 และหน้าจอขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 144Hz มาให้ มี M.2 NVMe SSD ความจุ 512GB ติดตั้ง Windows 11 Home และแรม 16GB DDR4 บัส 3200MHz พอร์ตเชื่อมต่อมี Thunderbolt 4 รองรับ DisplayPort x 1, USB-A 3.2 x 3, HDMI x 1, LAN x 1, Audio combo x 1 เชื่อมต่อ Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.2 น้ำหนักเครื่อง 2.3 กิโลกรัม ต้องถือว่าเป็นตัวแรงราคาคุ้มที่มีให้เลือกใน Intel Brand Fair ครั้งนี้เลยย

สเปคของ ASUS TUF Gaming F15 FX506HM-HN016W
CPU Intel Core i5-11400H แบบ 6 คอร์ 12 เธรด ความเร็ว 2.7~4.5GHz
GPU NVIDIA GeForce RTX 3060 แรม 6GB GDDR6
SSD M.2 NVMe SSD 512GB
RAM 16GB DDR4 บัส 3200MHz
Display 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 144Hz
Connectivity Thunderbolt 4 รองรับ DisplayPort x 1, USB-A 3.2 x 3, HDMI x 1, LAN x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.2

Software Windows 11 Home
Weight 2.3 กิโลกรัม
Price 35,990 บาท (คลิ๊กสั่งซื้อได้ที่นี่)
5. MSI Katana GF76 12UD-010TH (45,590 บาท)

katana 1

MSI Katana GF76 12UD-010TH เป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค Intel ร้าน BaNANA น่าซื้อจากแบรนด์ MSI อีกรุ่น ซึ่งทางบริษัทได้ติดตั้งระบบระบายความร้อน Cooler Boost รุ่นปรับแต่งใหม่มาให้ใช้งาน, ได้ซีพียู Intel 12th Gen และหน้าจอใหญ่เต็มตาขนาด 17.3 นิ้ว อีกด้วย โดยทาง BaNANA ได้จัดโปรโมชั่นให้ผู้ที่สั่งซื้อได้รับของแถมและแลกซื้อกระเป๋าเดินทางไปใช้ได้ด้วย

ซีพียูของ Katana GF76 เป็น Intel Core i7-12700H แบบ 14 คอร์ 20 เธรด (6P+8E) ความเร็ว 3.5~4.7GHz กับการ์ดจอ NVIDIA GeForce RTX 3050 Ti แรม 4GB GDDR6 และหน้าจอขนาด 17.3 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 144Hz มี M.2 NVMe SSD ความจุ 512GB ติดตั้ง Windows 11 Home และแรมอีก 16GB DDR4 บัส 3200MHz มาให้ใช้งาน พอร์ตและการเชื่อมต่อมี USB-C 3.2 x 1, USB-A 3.2 x 2, USB 2.0 x 1, HDMI x 1, LAN x 1, Audio combo x 1 รองรับ Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.2 ในตัว น้ำหนัก 2.6 กิโลกรัม

สเปคของ MSI Katana GF76 12UD-010TH
CPU Intel Core i7-12700H แบบ 14 คอร์ 20 เธรด (6P+8E) ความเร็ว 3.5~4.7GHz
GPU NVIDIA GeForce RTX 3050 Ti แรม 4GB GDDR6
SSD M.2 NVMe SSD 512GB
RAM 16GB DDR4 บัส 3200MHz
Display 17.3 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 144Hz
Connectivity USB-C 3.2 x 1, USB-A 3.2 x 2, USB 2.0 x 1, HDMI x 1, LAN x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.2

Software Windows 11 Home
Weight  2.6 กิโลกรัม
Price 45,490 บาท (คลิ๊กสั่งซื้อได้ที่นี่)
6. ASUS ROG Strix Scar 15 G543ZW-HF187W (74,990 บาท)

strix1 1

ASUS ROG Strix Scar 15 G543ZW-HF187W เองก็เป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค Intel ร้าน BaNANA น่าซื้อสเปคระดับท็อปเพื่อเกมเมอร์ที่ไม่อยากประกอบเกมมิ่งพีซีก็เปลี่ยนมาใช้เครื่องนี้แทนได้เลย โดยจุดเด่นของมัน ได้แก่ ROG Keystoe II สำหรับตั้งค่าโปรไฟล์ตัวเครื่องว่าถ้าใส่หรือถอดชิป NFC ตัวนี้จะทำงานในโหมดใด, มี ASUS NumberPad สำหรับพิมพ์ตัวเลขได้, ปุ่มมาโครสำหรับตั้งค่าตอนเล่นเกมและอื่นๆ ซึ่งถือว่าครบเครื่องในฐานะเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คเครื่องหนึ่งเลย หากใครสนใจเครื่องนี้อยู่สามารถอ่านรีวิวได้ที่นี่

สเปคของ Strix Scar 15 เครื่องนี้จัดว่าทรงพลังสมค่าตัวโดยได้ Intel Core i9-12900H แบบ 14 คอร์ 20 เธรด (6P+8E) ความเร็ว 3.8~5.0GHz กับการ์ดจอแยก NVIDIA GeForce RTX 3070 Ti แรม 8GB GDDR6 และหน้าจอ 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 300Hz มี M.2 NVMe SSD ความจุ 1TB ติดตั้ง Windows 11 Home มาให้กับแรม 32GB DDR5 บัส 4800MHz การเชื่อมต่อและพอร์ตมี Thunderbolt x 1, USB-A 3.2 x 2, HDMI x 1, LAN x 1, Audio combo x 1 และรองรับ Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.2 ในตัว น้ำหนัก 2.3 กิโลกรัม ถือว่า ASUS ROG Strix Scar 15 รุ่นนี้เป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค Intel ร้าน BaNANA น่าซื้อสเปคแรงและราคาสมเหตุผลดีมากรุ่นหนึ่ง หากใครหาเครื่องแรงน่าลงทุนซื้อมาใช้แนะนำให้ซื้อเครื่องนี้มาเล่นได้เลย

สเปคของ ASUS ROG Strix Scar 15 G543ZW-HF187W
CPU Intel Core i9-12900H แบบ 14 คอร์ 20 เธรด (6P+8E) ความเร็ว 3.8~5.0GHz
GPU NVIDIA GeForce RTX 3070 Ti แรม 8GB GDDR6
SSD M.2 NVMe SSD 1TB
RAM 32GB DDR5 บัส 4800MHz
Display 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 300Hz
Connectivity Thunderbolt x 1, USB-A 3.2 x 2, HDMI x 1, LAN x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.2

Software Windows 11 Home
Weight 2.3 กิโลกรัม
Price 74,990 บาท (คลิ๊กสั่งซื้อได้ที่นี่)
7. ASUS ROG Strix Scar 15 G543ZS-HF010W (84,990 บาท)

Screenshot 2023 01 23 112102 1

เกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค Intel ร้าน BaNANA น่าซื้อรุ่นสุดท้ายเป็น ASUS ROG Strix Scar 15 G543ZS-HF010W เช่นกัน ซึ่งรุ่นนี้ราคาจะอยู่ที่ 84,990 บาท เมื่อซื้อจะได้รับของแถมและแลกซื้อกระเป๋าเดินทางได้ แถมยังผ่อน 0% 24 เดือนได้ด้วย โดยสเปคจะแชร์กับ Strix Scar 15 ในข้อก่อนทั้งหมด ยกเว้นการ์ดจอแยกจะอัพเกรดเป็น NVIDIA GeForce RTX 3080 แรม 8GB GDDR6 แทน ซึ่งประสิทธิภาพนั้นแรงพอใช้ทำงานและเล่นเกมทุกเกมในปัจจุบันได้สบายๆ ไปอีกหลายปีแน่นอน

สเปคของ ASUS ROG Strix Scar 15 G543ZS-HF010W
CPU Intel Core i9-12900H แบบ 14 คอร์ 20 เธรด (6P+8E) ความเร็ว 3.8~5.0GHz
GPU NVIDIA GeForce RTX 3070 Ti แรม 8GB GDDR6
SSD M.2 NVMe SSD 1TB
RAM 32GB DDR5 บัส 4800MHz
Display 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 300Hz
Connectivity Thunderbolt x 1, USB-A 3.2 x 2, HDMI x 1, LAN x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.2

Software Windows 11 Home
Weight 2.3 กิโลกรัม
Price 84,990 บาท (คลิ๊กสั่งซื้อได้ที่นี่)

alex abazis BUhfBTwiQqs unsplash

เกมเมอร์หรือครีเอเตอร์ที่กำลังคิดจะเปลี่ยนโน๊ตบุ๊คเครื่องเก่าเป็นรุ่นใหม่ให้ทำงานได้ดีขึ้นอยู่ล่ะก็ ผู้เขียนแนะนำให้ดูเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค Intel ร้าน BaNANA น่าซื้อในบทความนี้หรือจะดูที่หน้าเว็บไซต์ BaNANA แล้วเลือกรุ่นที่ตอบโจทย์ทีหลังก็ได้เช่นกัน โดยส่วนตัวผู้เขียนแนะนำว่าถ้าใครใช้โน๊ตบุ๊คอายุเฉลี่ย 3-5 ปีแล้ว ประสิทธิภาพย่อมเทียบกับรุ่นใหม่พร้อมเทคโนโลยีใหม่ๆ อย่างแน่นอน ซึ่งถ้าเปลี่ยนก็จะช่วยให้ทำงานได้ไหลลื่นและเสร็จเร็วกว่าเดิม เป็นผลดีต่อเจ้าของเครื่องอย่างแน่นอน


บทความที่เกี่ยวข้อง

Share image Edit Name 2acer 2022 office

Share image Edit Name 1katanagf66gen12

Share image Edit Name 1aceri5 1

from:https://notebookspec.com/web/683850-7-intel-gaming-laptop-banana-2023

Asus เปิดตัวโน้ตบุ๊คเกมมิ่ง Intel 12th Gen ยกแผง แรงสุดพลัง RTX ทั้ง ROG Zephyrus M16 , Strix Scar 15 และ TUF Gaming F15

เกมมิ่งโน้ตบุ๊คพร้อม Intel 12th Gen รุ่นแรกในไทยมาแล้ว ไม่ใช่สิ ต้องบอกว่ามาแบบยกทีม พร้อมวางขายเลยอีกต่างหาก โดยมาจากฟากฝั่งของ Asus ที่มีทั้ง ROG Zephyrus M16 กับหน้าจอใหญ่สะใจ 16 นิ้ว Nebula Display , ROG Strix Scar 15 ในดีไซน์สุดโฉบเฉี่ยว โชว์ระบบระบายความร้อน แรงจัดด้วย RTX 3080Ti และ Asus TUF Gaming F15 มาพร้อมสเปคหลากหลายให้เกมเมอร์เลือกตามใจชอบ

Intel ได้เปิดตัว CPU 12th Gen สำหรับโน้ตบุ๊คไปในงาน CES เมื่อช่วงต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา ซึ่งไม่นานเกินรอตอนนี้ทาง Asus ได้จับเอามาใส่กับเหล่าบรรดาเกมมิ่งโน้ตบุ๊คเจนใหม่ด้วยกันถึง 3 รุ่น 6 สเปค โดยมาพร้อมกับความแรงระดับสุดจาก GPU ของ NVIDIA

ROG ZEPHYRUS M16

มันคือเกมมิ่งโน้ตบุ๊คที่แรงสะใจแต่ยังพกพาได้ ด้วยน้ำหนัก 1.9 กิโล แต่ใส่ความแรงมาเกินน้ำหนัก ไล่ไปตั้งแต่ Intel Core i9-12900H ใช้ RAM DDR5 32GB และ GPU NVIDIA® GeForce RTX™ 3070Ti 8GB GDDR6 ใช้ระบบระบายความร้อน ROG Intelligent Cooling พร้อมโลหะเหลว Liquid Metal ของ Thermal Grizzly

หน้าจอใหญ่ 16 นิ้ว ROG Nebula Display อัตราส่วน 16:10 WQXGA ที่รีเฟรชเรต 165Hz รองรับ Dolby Vision HDR และระบบเสียง Dolby ATMOS

สเปค ROG Zephyrus M16

  • Intel® Core™ i9-12900H
  • NVIDIA® GeForce RTX™ 3070Ti 8GB GDDR6 (120W TGP)
  • RAM 32GB 4800MHz DDR5
  • 1TB M.2 NVMe™ PCIe® 4.0 SSD
  • 16-inch,16:10, ROG Nebula Display® , Dolby Vision HDR, WQXGA (2560×1600), 165Hz 3ms, 100% DCI-P3,
    Adaptive-Sync, Pantone Validated
  • MUX Switch
  • Wi-Fi 6E
  • Backlit Chiclet Keyboard RGB
  • Windows 11 Home
  • ราคา 92,990 บาท
  • เริ่มวางจำหน่าย 1 กุมภาพันธ์

 

ROG STIRX SCAR 15 (2022)

รุ่นใหม่ตระกูล Strix Scar ยังเอาใจสาย eSprots ด้วยชุดฮาร์ดแวร์ขั้นเทพ อัดจอ 15.6 นิ้ว รีเฟรชเรตสูง 300Hz แล้วไปให้สุดด้วย NVIDIA GeForce RTX 3080 Ti ที่พลังไฟ 150W

ตัวเครื่องมาในดีไซน์โปร่งใส โชว์ลวดลายของระบบและแผงระบายความร้อนภายในสวยงาม ทัชแพดขนาดใหญ่เพื่อความมั่นใจในการควบคุม

สเปค ROG Strix Scar 15 (G543ZW-HF160W)

  • Intel® Core™ i9-12900H
  • NVIDIA® GeForce RTX™ 3070Ti 8GB GDDR6 (150W TGP)
  • RAM 16GB 4800MHz DDR5 (8GB x2)
  • 1TB M.2 NVMe™ PCIe® 4.0 SSD
  • 15.6” FHD (1920×1080) 16:9, 300Hz, 3ms, 100% sRGB, Adaptive-Sync, Dolby Vision
  • MUX Switch
  • Wi-Fi 6E
  • Backlit Chiclet Keyboard Per-Key RGB, NumberPad, Aura
    Sync
  • Windows 11 Home
  • ราคา 84,990 บาท

สเปค ROG Strix Scar 15 (G543ZX-HF058W)

  • Intel® Core™ i9-12900H
  • NVIDIA® GeForce RTX™ 3080Ti 16GB GDDR6 (150W TGP)
  • RAM 32GB 4800MHz DDR5 (16GB x2)
  • 1TB M.2 NVMe™ PCIe® 4.0 SSD
  • 15.6” FHD (1920×1080) 16:9, 300Hz, 3ms, 100% sRGB, Adaptive-Sync, Dolby Vision
  • MUX Switch
  • Wi-Fi 6E
  • Backlit Chiclet Keyboard Per-Key RGB, NumberPad, Aura
    Sync
  • Windows 11 Home
  • ราคา 114,990 บาท:

ทั้ง 2 สเปค เริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่ 1 กุมภาพันธ์เป็นต้นไป

AUS TUF Gaming F15

ทางฝั่งของ TUF เองก็ได้ความแรงของ Intel 12th Gen มาด้วย กับ Core i7-12700H แต่ซอยย่อยเป็นหลายสเปคเพื่อให้สามารถเลือกได้เหมาะสมตามการใช้งาน (และตามงบ) เพราะในส่วนของ GPU นั้นมีตั้งแต่ 3050Ti ไปจนถึง 3070 ในรุ่นท็อปสุด เช่นเดียวกับหน้าจอ 15.6 นิ้ว ก็มีรุ่นที่ 144Hz และ 300Hz เช่นกัน

สเปค ASUS TUF Gaming F15 (FX507ZE-HN047W)

  • Intel® Core™ i7-12700H
  • NVIDIA® GeForce RTX™ 3050Ti 4GB GDDR6 (95W TGP)
  • 8GB DDR5 4800MHz
  • 512GB M.2 NVMe™ PCIe® 3.0 SSD
  • 15.6” FHD 144Hz, Adaptive-Sync
  • MUX Switch
  • Backlit Chiclet Keyboard RGB/ Aura Sync
  • Wi-Fi 6E
  • 56WHrs
  • Windows 11 Home
  • ราคา 42,990 บาท:

สเปค ASUS TUF Gaming F15 (FX507ZM-HN016W)

  • Intel® Core™ i7-12700H
  • NVIDIA® GeForce RTX™ 3060 6GB GDDR6 (140W TGP)
  • 16GB DDR5 4800MHz (8GB x2)
  • 512GB M.2 NVMe™ PCIe® 3.0 SSD
  • 15.6” FHD 144Hz, Adaptive-Sync
  • MUX Switch
  • Backlit Chiclet Keyboard RGB, Aura Sync
  • Wi-Fi 6E
  • 90WHrs
  • Windows 11 Home
  • ราคา 52,990 บาท:

สเปค ASUS TUF Gaming F15 (FX507ZR-HN004W)

  • Intel® Core™i7-12700H
  • NVIDIA® GeForce RTX™ 3070 8GB GDDR6 (140W TGP)
  • 16GB DDR5 4800MHz (8GB x2)
  • 1TB M.2 NVMe™ PCIe® 3.0 SSD
  • 15.6” FHD 300Hz,100% sRGB, Adaptive-Sync
  • MUX Switch
  • Backlit Chiclet Keyboard RGB, AuraSync
  • Wi-Fi 6E
  • 90WHrs
  • Windows 11 Home
  • ราคา 67,990 บาท

ซีรี่ส์ TUF Gaming F15 จะเริ่มวางจำหน่ายกลางเดือนกุมภาพันธ์เป็นต้นไป

 

from:https://droidsans.com/asus-gaming-laptop-zephyrus-m16-strix-scar-15-tuf-gaming-f15/

Commart Bright 2021 ของแถม, ส่วนลดจัดเต็มจุใจ โปรฯ จัดเต็ม! รวมวิธีเข้างานและโปรฯ เด็ดไว้ในบทความเดียว!

Commart Bright 2021 งานใหญ่ปลายปีมาแล้ว!! โน๊ตบุ๊ครุ่นไหนน่าสน? โปรฯ ไหนเด็ดสะระตี่? วิธีเข้างานทำอย่างไร? บทความนี้อ่านทีเดียวจบ!!

commart bright cover

หลังจากงาน Commart เมื่อเดือนมีนาคม 2021 ที่ผ่านมาก็เป็นเวลาร่วม 8 เดือนแล้ว ในที่สุด Commart Bright 2021 ก็กลับมาจัดที่ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา ได้อีกครั้ง โดยปีนี้จะมีมาตรการการเข้างานที่รัดกุมยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะต้องลงทะเบียนก่อนเข้างานและมีระยะเวลาเดินเที่ยวชมเลือกซื้ออุปกรณ์คอมพิวเตอร์ในงานได้จำกัดด้วย แต่เพราะเป็นงานขายสินค้าเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ครั้งใหญ่รอบปลายปี งานนี้เรียกว่าทุกแบรนด์ต่างพากันขนของแรงของดีมาให้ทุกคนได้เลือกซื้อกัน

Advertisementavw

โดยบทความนี้จะรวมทั้งแผนที่บูธต่างๆ ในงาน Commart Bright, วิธีการเข้างาน, โปรโมชั่นและโน๊ตบุ๊ครุ่นน่าสนใจทั้งเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คและโน๊ตบุ๊คสายทำงานเอาไว้ให้ทุกคนได้เลือกซื้อกันอย่างจุใจ ถ้าใครกำลังจะไปงานคอมมาร์ทหรือกำลังจะไปกับเพื่อนๆ ก็สามารถดูวิธีการเข้างานและแผนผังงานในบทความนี้แบบรวบยอดได้เลย และเราจะมีบทความรวมโน๊ตบุ๊ครุ่นน่าสนใจตามคำแนะนำของทางทีมงานแบ่งตามระดับราคามาให้เลือกดูด้วย และช่วง 6 โมงเย็นของทุกวันงานก็จะมีการจับรางวัลใหญ่โดยเป็น Gadget IT จากทาง Commart ด้วย

Commart Bright

bts commart
259375108 4869187366445242 6051527158568879937 n
257473182 4848902745140371 823114270995582059 n
257325283 4848902701807042 5199036572587449721 n
257208802 4848907448473234 3096447316877868833 n

งาน Commart Bright 2021 จะจัดตั้งแต่วันที่ 25-28 พ.ย. 64 นี้ ตั้งแต่เวลา 10:00 – 21:00 น. สามารถเข้างานได้ฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายแต่มีเงื่อนไขเพิ่มเติมคือ ผู้ต้องการเข้าชมงานจำเป็นต้องลงทะเบียนเข้าชมงานล่วงหน้าผ่านไลน์ออฟฟิเชียลของทาง Commart Thailand ก่อนแล้วนำหลักฐานการจองคิวเข้างานมายื่นที่ช่อง Fast Track เพื่อเข้างานได้เลย และถ้ามีอัพเดทการเข้างานหรือเงื่อนไขเพิ่มเติมก็สามารถติดตามที่หน้า Facebook ของทาง Commart Thailand ได้โดยตรงเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม สำหรับวันศุกร์ที่ 26 พฤศจิกายนจะมีพิธีเปิดงาน Commart Bright 2021 อย่างเป็นทางการ ดังนั้นทางผู้จัดงานจะจำกัดเข้างานให้เป็นรอบ 10:00 – 12:00 น. เป็นรอบแรกและมีรอบ 16:00 น. เป็นต้นไปอีกรอบหนึ่ง ดังนั้นถ้าใครสะดวกวันศุกร์ขอให้วางแผนการเที่ยวชมงาน Commart Bright ให้ดี จะได้ไม่เสียเที่ยวเสียเวลามาเที่ยวชมงาน

259612068 4870028079694504 8682856177461498660 n 1

แผนที่เดินงาน Commart Bright 2021 นี้ จะมีทางเข้า Fast Track อยู่ด้านหน้างานมุมซ้ายล่างของแผนที่ และภายในงานจะมีบูธใหญ่ของแบรนด์ต่างๆ เข้ามาร่วมครบครัน ทั้ง IT City, Speed, BaNANA, Advice รวมไปถึงแบรนด์พีซีและโน๊ตบุ๊คโดยเฉพาะก็จะมีบูธแยกของตัวเองตามจุดต่างๆ ในงานด้วย ส่วนบูธที่น่าสนใจ 2 บูธในมุมของผู้เขียน คือ Powerbuy ที่มักมีโปรโมชั่นร่วมบัตรเครดิตสุดคุ้มกับ Office Mate เข้ามาร่วมงานด้วย เรียกว่าถ้าใครหาโน๊ตบุ๊คสายทำงานโปรโมชั่นจัดเต็มก็แวะเข้าไปดูทั้งสองบูธนี้ก่อนได้เลย

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากงานนี้ยังอยู่ในมาตรการควบคุมโรค COVID-19 ดังนั้นจำนวนพนักงานผู้ให้บริการและประจำบูธจะมีจำนวนจำกัด ดังนั้นถ้าใครมาร่วมงานขอให้ใจเย็นรอพนักงานให้บริการลูกค้าไปตามคิวการให้บริการด้วย เพื่อประโยชน์และความสบายใจของทุกฝ่าย นอกจากนี้ของสมนาคุณที่แถมให้ลูกค้าทุกคนจะมีจำนวนจำกัด แนะนำว่าถ้าพบสินค้าที่ต้องการและราคากับโปรโมชั่นตอบโจทย์ของเราก็ตัดสินใจซื้อได้เลย

รวมโปรฯ น่าสนใจทุกแบรนด์ในงาน Commart Bright 2021

IMG 20211125 103825

ภายในงาน Commart Bright นอกจากโน๊ตบุ๊คก็จะมีบูธจัดและประกอบคอมพิวเตอร์กระจายอยู่ตามร้านขายสินค้าคอมพิวเตอร์ชั้นนำเจ้าต่างๆ เช่น BaNANA, IT City ฯลฯ ซึ่งเราสามารถตรงเข้าไปสอบถามราคาและจัดสเปคได้ นอกจากนี้ยังผ่อนชำระสินค้าด้วยบัตรเครดิตหรือจ่ายเงินสดซื้อสินค้าก็ได้

promotion creditcard

ภายในงานจะมีโปรโมชั่นใช้โค้ดส่วนลดของแพลตฟอร์มร้านค้าออนไลน์อย่าง Shopee, Lazada ได้ รวมไปถึงใช้บัตรเครดิตผ่อนชำระสินค้าแบบ 0% x 10, 24, 36 เดือนได้ตามเงื่อนไขที่ร้านค้านั้นๆ กำหนด ซึ่งระยะเวลาผ่อนชำระหรือแม้แต่การใช้แต้มสะสมในบัตรเป็นส่วนลดราคาสินค้าแนะนำให้สอบถามกับทางพนักงานของทางร้านโดยตรงก่อนชำระเงินด้วย

IMG 20211125 110632

IMG 20211125 110701
IMG 20211125 105759
IMG 20211125 105831
IMG 20211125 105857
IMG 20211125 105948
IMG 20211125 105732 1

โปรฯ อย่างแรกในงาน Commart Bright ที่ร่วมกับแพลตฟอร์มร้านค้าออนไลน์อย่าง Lazada โดยมีเงื่อนไข คือ ถ้าซื้อโน๊ตบุ๊คมูลค่าเกิน 25,000 บาท จะใช้โค้ดส่วนลดราคาสินค้า 2,000 บาทได้ด้วย โดยร้านค้าชั้นนำที่ร่วมรายการได้แก่ Advice, Top Computer, Jaymart, Speed Computer นอกจากนี้ยังมี This Shop แพลตฟอร์มขายสินค้าออนไลน์อีกเจ้ามาร่วมงานเช่นกัน ซึ่งถ้าใครซื้อสินค้ากับทาง Advice ก็สามารถมารับส่วนลดกับทางร้านได้ด้วย นอกจากนี้ยังมีส่วนลดอื่นๆ ในงานด้วย สามารถสอบถามเพิ่มเติมกับทางพนักงานประจำบูธได้เลย

IMG 20211125 104029

IMG 20211125 104049
IMG 20211125 105326

ด้านบูธเกมมิ่งเกียร์แบรนด์ต่างๆ ในงาน Commart Bright จะมีโปรโมชั่นแยกตามบูธ ทั้งบูธโน๊ตบุ๊คและเกมมิ่งเกียร์แบรนด์ต่างๆ โดยโปรโมชั่นที่น่าสนใจได้แก่

  • Logitech – เมื่อซื้อเกมมิ่งเกียร์ Logitech G ตามยอดที่กำหนด จะได้รับของสมนาคุณคือ
    • ครบ 3,000 บาท จะได้รับเสื้อคอวี MiTH สีขาว มูลค่า 990 บาท
    • ครบ 5,000 บาท จะได้รับกระเป่า Messenger bag ลาย Logitech G มูลค่า 1,290 บาท
    • ครบ 8,000 บาท จะได้รับเสื้อฮู้ด Logitech G x MiTH มูลค่า 2,990 บาท
    • เมื่อซื้อเกมมิ่งคีย์บอร์ดรุ่น G913 / G913 TKL / G PRO X จะได้รับกระเป๋าใส่คีย์บอร์ด PRO KEYBOARD BAG มูลค่า 1,590 บาท
    • เมื่อซื้อเกมมิ่งเฮดโฟนรุ่น G933s / G633s / G733 / G PRO X / G PRO X WIRELESS จะได้รับกระเป๋าใส่หูฟัง PRO HEADSET GAB มูลค่า 1,090 บาท
  • RAZER – เมื่อซื้อเก้าอี้เกมมิ่งรุ่นไหนก็ได้ จะได้รับ SSD แบบ M.2 ความจุ 500GB ซึ่งรุ่นที่ได้รับขอให้สอบถามเพิ่มเติมกับทางผู้จัดจำหน่ายเพิ่มเติม
  • ACE by IT City – โน๊ตบุ๊ครุ่นที่ใช้ซีพียู Intel Core i5 หรือ i7 รุ่นที่ 11 และเป็น Intel Evo จะได้รับของสมนาคุณเป็น Xiaomi Computer Monitor Light Bar มูลค่า 1,490 บาท (มีจำนวนจำกัด)

260358005 6869503689756653 3274088462966889133 n

ส่วนโปรโมชั่นจากทาง BaNANA จะเน้นเซลส์โน๊ตบุ๊คทั้งสายเกมมิ่งและโน๊ตบุ๊คทำงานก็มีเช่นกัน โดยมีส่วนลดสูงสุด 70% โดยรุ่นหลักๆ ที่นำมาลดราคาในงานนี้ ได้แก่

  • ASUS TUF Gaming A15 (AMD Ryzen 7 4800H/NVIDIA GeForce RTX 3050/M.2 NVMe SSD 512GB/RAM 8GB/Windows 10 Home/จอ 15.6 นิ้ว) จาก 31,990 บาท เหลือ 30,990 บาท
  • ASUS TUF Gaming FX506HM (Intel Core i5-11400H/NVIDIA GeForce RTX 3060/M.2 NVMe SSD 512GB/RAM 16GB/Windows 10 Home/จอ 15.6 นิ้ว) จาก 39,990 บาท เหลือ 38,990 บาท
  • HP Pavilion Aero 13 (AMD Ryzen 7 5800U/AMD Radeon Graphics/M.2 NVMe SSD 512GB/RAM 16GB/Windows 10 Home/จอ 13.3 นิ้ว) จาก 32,990 บาท เหลือ 30,990 บาท
  • HUAWEI MateBook 14 (Intel Core i5-1135G7/Intel Iris Xe Graphics/M.2 NVMe SSD 512GB/RAM 16GB/Windows 10 Home/จอ 14 นิ้ว) จาก 34,990 บาท เหลือ 31,990 บาท
  • HUAWEI MateBook 14 (AMD Ryzen 5 4600H/AMD Radeon Graphics/M.2 NVMe SSD 512GB/RAM 8GB/Windows 10 Home/จอ 14 นิ้ว) จาก 27,990 บาท เหลือ 24,990 บาท
  • HP Victus 16-e0093AX (AMD Ryzen 5 4600H/NVIDIA GeForce RTX 3060/M.2 NVMe SSD 512GB/RAM 8GB/Windows 10 Home/จอ 16.1 นิ้ว) จาก 39,990 บาท เหลือ 37,990 บาท
  • DELL Inspiron 5410 (Intel Core i5-11320H/Intel Iris Xe Graphics/M.2 NVMe SSD 512GB/RAM 8GB/Windows 10 Home/จอ 14 นิ้ว) จาก 31,990 บาท เหลือ 30,990 บาท
  • DELL Inspiron 5415 (AMD Ryzen 7 5700U/AMD Radeon Graphics/M.2 NVMe SSD 256GB/RAM 8GB/Windows 10 Home/จอ 14 นิ้ว) จาก 32,890 บาท เหลือ 31,890 บาท
  • MSI Modern 15 (AMD Ryzen 5 5500U/AMD Radeon Graphics/M.2 NVMe SSD 512GB/RAM 8GB/Windows 10 Home/จอ 15.6 นิ้ว) จาก 21,990 บาท เหลือ 20,990 บาท
  • MSI Modern 15 (AMD Ryzen 7 5700U/AMD Radeon Graphics/M.2 NVMe SSD 512GB/RAM 16GB/Windows 10 Home/จอ 15.6 นิ้ว) จาก 26,990 บาท เหลือ 25,990 บาท
  • Acer Swift Swift X (AMD Ryzen 5 5500U/NVIDIA GeForce GTX1650/M.2 NVMe SSD 512GB/RAM 8GB/Windows 10 Home/จอ 14 นิ้ว) จาก 28,990 บาท เหลือ 27,990 บาท
  • Acer Swift Swift 3 SF314 (Intel Core i5-1135G7/Intel Iris Xe Graphics/M.2 NVMe SSD 512GB/RAM 8GB/Windows 10 Home/จอ 14 นิ้ว) จาก 25,990 บาท เหลือ 24,990 บาท
  • Lenovo Yoga 7 14ACN6 (AMD Ryzen 5 5600U/AMD Radeon Graphics/M.2 NVMe SSD 512GB/RAM 16GB/Windows 10 Home/จอ 14 นิ้ว) จาก 34,990 บาท เหลือ 33,990 บาท
  • Lenovo IdealPad Flex 5 (Intel Core i5-1135G7/Intel Iris Xe Graphics/M.2 NVMe SSD 512GB/RAM 8GB/Windows 10 Home/จอ 14 นิ้ว) จาก 27,990 บาท เหลือ 26,990 บาท

IMG 20211125 085757 1 1

ส่วนคนที่ซื้อพีซีแบรนด์สำเร็จรูป, โน๊ตบุ๊ค, All-In-One PC รุ่นที่กำหนดโดยเป็นรุ่นที่ใช้ซีพียู AMD แล้ว จะได้รับของแถมและสิทธิ์ลุ้นรางวัล Lucky Draw ลุ้นของรางวัลมากมายร่วม 4 ต่อด้วยกัน โดยเงื่อนไขคือ

  • ต่อที่ 1 – ได้รับของสมนาคุณจาก AMD ตามรุ่นซีพียูที่กำหนด
    • AMD Athlon, AMD Ryzen 3 : ได้รับถุง Shopping Bag ลาย AMD Ryzen
    • AMD Ryzen 5 : ได้รับแก้ว Tumbler ลาย AMD (เลือกสีขาวหรือดำ)
    • AMD Ryzen 7, Ryzen 9 : ได้รับ Wireless Charger (เลือกสีขาวหรือเงิน)
  • ต่อที่ 2 – ได้รับสิทธิ์ลุ้น Exclusive Lucky Draw ลุ้นรับรางวัลพิเศษตามมูลค่าสินค้าที่ซื้อ แยกตามรุ่นซีพียูที่เลือกซื้อ โดยลุ้นรางวัล Xbox Series S Console สีขาว 512GB มูลค่า 14,490 บาท (2 รางวัล) และ Gaming Desk แบบปรับระดับความสูงได้ มูลค่า 6,990 บาท (5 รางวัล) โดยจำนวนตั๋วที่ได้รับมีดังนี้ 
    • AMD Athlon, AMD Ryzen 3 : ได้รับตั๋ว Lucky Draw 1 ใบ
    • AMD Ryzen 5 : ได้รับตั๋ว Lucky Draw 2 ใบ
    • AMD Ryzen 7 : ได้รับตั๋ว Lucky Draw 3 ใบ
    • AMD Ryzen 9 : ได้รับตั๋ว Lucky Draw 4 ใบ
  • ต่อที่ 3 – เมื่อซื้อโน๊ตบุ๊คที่ใช้ซีพียู AMD Ryzen 5000 Series การ์ดจอ AMD Radeon RX 6000M Series ได้รับหูฟัง Razer Kraken X มูลค่า 1,490 บาท ทันทีในงาน
  • ต่อที่ 4 – เมื่อซื้อโน๊ตบุ๊คที่ใช้ซีพียู AMD ทุกรุ่นคู่กับ WD My Passport SSD ความจุ 1TB ขึ้นไป จะได้รับ Lotus Voucher มูลค่า 1,500 บาท โดยใช้สิทธิ์รับตั๋วได้ที่บูธ D3, D10 ในงาน

IMG 20211125 105349
IMG 20211125 104311 1

สำหรับคนที่ซื้อซีพียู AMD Ryzen หรือสั่งซื้อเกมมิ่งพีซีแบบประกอบในงาน จะได้รับของสมนาคุณเพิ่มเติมหลากหลายอย่าง เช่นเสื้อ, ถุงผ้า, Mouse Mat ลาย AMD, เสื้อแจ็คเก็ต และโน๊ตบุ๊ค, พีซีประกอบสำเร็จและ All-In-One PC รุ่นที่ใช้ซีพียู AMD Ryzen 5000, 7000 รุ่น U หรือ H / Ryzen 9000 H Series จะได้รับลำโพง EGA Speaker Type S3 ไปใช้ฟรีด้วย (มีจำนวนจำกัด) ส่วนโปรโมชั่นน่าสนใจ คือ เมื่อซื้อซีพียู AMD Ryzen กับการ์ดจอ AMD Radeon คู่กันตามรุ่นที่กำหนด จะได้รับเกม Far Cry 6 กับ Resident Evil Village ไปเล่นเกมด้วย

intel promotion

บูธใหญ่อย่าง Intel เองก็มีโปรโมชั่นสำหรับคนที่ต้องการอัพเกรดคอม เปลี่ยนซีพียูเป็นรุ่นใหม่ของ Intel, ซื้อเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คหรือโน๊ตบุ๊ค Intel Evo ก็จะได้รับของสมนาคุณต่างๆ ไปด้วย โดยมีของสมนาคุณดังนี้

  • Intel Celeron, Intel Pentium, Intel Core i3 – ได้รับกระเป๋าผ้าลาย Intel
  • Intel Core i5 – ได้รับแผ่นรองเมาส์ลาย Intel
  • Intel Core i7 หรือโน๊ตบุ๊ค Intel Evo ระดับ Intel Core i5 ขึ้นไป – ได้รับกระเป๋าช็อปปิ้งลาย Intel สีน้ำเงินดำ
  • Intel Core i9 หรือโน๊ตบุ๊ค Intel Evo ระดับ Intel Core i7 ขึ้นไป – พัดลม
  • เกมมิ่งโน๊ตบุ๊คติดตั้ง Intel Core รุ่นที่ 10 หรือ 11 รุ่น H-Series – เสื้อ E-Sport ลาย Intel เป็นรุ่น Limited Edition

IMG 20211125 104233 1

และทาง Intel เองก็มีโปรโมชั่นซื้อซีพียูเดสก์ท็อปแถมเกมเช่นกัน โดยเงื่อนไขคือเมื่อซื้อซีพียู Intel รุ่นที่ 10-12 รุ่นที่ร่วมรายการจาก Advice, BaNANA, IT City จะได้รับเกมฟรีด้วย โดยเงื่อนไขสามารถสอบถามเพิ่มเติมที่บูธของผู้จัดจำหน่ายเพิ่มเติมได้เลย

msi promotion

โปรโมชั่นของ MSI ในงาน Commart Bright 2021 จะเป็นส่วนลดสำหรับเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ครุ่นต่างๆ และโน๊ตบุ๊คสายทำงานด้วย สูงสุดที่ 7,500 บาท และได้ของแถมเพิ่มเติม มูลค่ารวมสูงสุด 5,590 บาท โดยของแถมจะแตกต่างกันไปตามโน๊ตบุ๊ครุ่นที่ร่วมรายการปีนี้ ซึ่งจะมีทั้งกระเป๋าโน๊ตบุ๊คคุณภาพดีจาก MSI ทั้งแบบกระเป๋าเป้และกระเป๋าสะพายข้าง, เมาส์ทำงานและเมาส์เกมมิ่ง, แผ่นรองเมาส์และเกมมิ่งเฮดโฟน

โดยเฉพาะ MSI Katana GF76 เมื่อซื้อในงาน Commart Bright จะได้เซ็ตบันเดิล MSI Helmet & Katana Set Limited Edition สุดสวยงามที่ออกแบบร่วมกับคุณ Nagano Tsuyoshi ศิลปินนักออกแบบชื่อดังชาวญี่ปุ่นพร้อมกับเกมมิ่งเมาส์อีกหนึ่งชิ้นเอาไว้ใช้เล่นเกมและจัดโต๊ะคอมได้อย่างสวยงาม

IMG 20211125 090001 1

นอกจากนี้ ถ้าใครซื้อสินค้าของ MSI ตามกลุ่มสินค้าที่กำหนด จะได้รับของกำนัลภายในงาน มูลค่า 20,000 บาท เฉพาะในงาน Commart นี้เท่านั้น โดยของแถมที่ได้รับมีดังนี้

  • Gaming Monitor – ได้รับ Monitor Stand, กระบอกน้ำ, กระเป๋า เสื้อและถุง Shopping Mag ลาย MSI, พวงกุญแจ ตุ๊กตา, เมาส์, MSI Lucky Sleep Mask และคีย์บอร์ดเกมมิ่ง รวมมูลค่า 9,600 บาท (แยกของแถมที่ได้รับตามรุ่น
  • Gaming Desktop – MSI Gaming Headset, เมาส์และคีย์บอร์ดเกมมิ่ง MSI, เสื้อ MSI รวมมูลค่า 3,900 บาท
  • MSI Creator หรือ Pro monitor – LED LUX Light bar, กระบอกน้ำ, กระเป๋า, ปากกา, MSI Speaker, พวงกุญแจลาย MSI มูลค่ากว่า 8,200 บาท
  • MSI AIO, Cubi, Pro DT ที่ร่วมรายการ – LED LUX Light bar, MSI FHD ProCam, MSI Speaker, Keyboard กับ เมาส์ไร้สาย MSI, MSI Lucky Sleep Mask กับปากกา Lucky Styling Pen ลาย MSI รวมมูลค่ากว่า 9,000 บาท

IMG 20211125 124729 1

และนอกจากหน้าจอและ Gaming Desktop แล้ว เกมมิ่งโน๊ตบุ๊คของ MSI ในงาน Commart Bright หลายรุ่นจะได้ของแถมเป็น MSI Gaming Mouse M99 ส่วนกระเป๋าจะมี MSI Stealth Trooper Backpack หรือ MSI Essential Backpack โดยแถมกับรุ่นที่ร่วมรายการ และมีส่วนลดเพิ่มเติมตั้งแต่ 2,500-7,400 บาท แยกรุ่นตามส่วนลดได้ดังนี้

 

IMG 20211125 110402
IMG 20211125 103948

IMG 20211125 105419 1
IMG 20211125 105223 1
IMG 20211125 105403 1

นอกจากนี้ โน๊ตบุ๊คแบรนด์ต่างๆ ก็จะมีของแถมแยกกันไปตามที่ผู้จำหน่ายเซ็ตโปรโมชั่นเอาไว้ หลักๆ แล้วจะได้เมาส์เกมมิ่งหรือเมาส์ทำงาน, แผ่นรองเมาส์ลายพิเศษ เช่น ROG x Intel Mouse pad, ลำโพงพกพา, หูฟัง True Wireless เป็นต้น ส่วนคนที่ต้องการซื้อ Microsoft Surface Pro 7, Surface Go 2 จะได้ Type Cover ตัว Cover หน้าจอที่เป็นแป้นคีย์บอร์ดในตัวกับซองใส่โน๊ตบุ๊ค ส่วนถ้าเป็น Surface Laptop Series จะได้แผ่นรองเมาส์กับ Microsoft Office Home & Student 2019 แทน และได้ส่วนลดเพิ่มเติม ขึ้นอยู่กับรุ่นและร้านค้า

IMG 20211125 104404 1
IMG 20211125 111712 1

ส่วนคนที่หา SSD, RAM, External SSD หรือเมมโมรี่การ์ดมาใช้งาน จะมีบูธ Kingston และ Western Digital มาจัดโปรโมชั่นให้ลูกค้าได้ซื้อสินค้ากัน โดยมีโปรโมชั่นดังนี้

  • Kingston – ส่วนลดสินค้าสูงสุด 30% และได้ของแถม และมีช่วงโปรโมชั่นนาทีทองเริ่มต้น 1 บาท (ติดตามที่หน้าเพจ Advice Club) หรือส่วนลดสูงสุด 800 บาท ตามรุ่นที่ร่วมรายการ
    • เมื่อซื้อ RAM DDR5 หรือแรม Kingston Fury Beast 16GB ขึ้นไป / SSD แบบ M.2 NVMe PCIe 3.0, 4.0 ความจุ 500GB ขึ้นไป จะได้รับถุงเท้าหรือแก้วน้ำ Kingston
    • เมื่อซื้อ Kingston USB Drive หรือ Memory Card ความจุ 64GB ขึ้นไป จะได้รับพวงกุญแจหรือที่แขวนบัตรลาย Kingston
  • Western Digital – จัดโปรโมชั่นร่วมกับ SSD กับ HDD เมื่อซื้อสินค้ารุ่นที่กำหนดจะได้รับของสมนาคุณเพิ่มเติม โดยแยกดังนี้ 
    • WD Green SN350 480GB ขึ้นไป – ได้รับ Jacket WD Green
    • WD Green / WD Blue ทั้ง 2.5″ SATA III และ M.2 ความจุ 240GB ขึ้นไป – ได้กระเป๋าสะพายข้างสีดำ
    • WD Blue SN550 – ถ้าเป็นรุ่น 250GB ได้รับบัตร Lotus’s Gift Card มูลค่า 100 บาท ถ้าเป็นรุ่น 500GB เพิ่มเป็น 200 บาท
    • WD Red SN700 ความจุ 500GB ขึ้นไป – ได้รับ Jacket WD Red
    • WD Black SN750 / SN750 SE / AN1500 – ทุกความจุได้รับเสื้อ WD_Black
    • WD Black SN850 ทุกความจุ – ได้รับเสื้อ Jacket WD_Black
    • WD Blue / WD_Black HDD – ถ้าซื้อรุ่นความจุ 2-3TB ได้รับ Lotus’s Gift Card มูลค่า 100 บาทกับกระติกน้ำเก็บความเย็น ถ้าซื้อรุ่นความจุ 4TB ขึ้นไปได้รับ Lotus’s Gift Card มูลค่า 200 บาทกับกระติกน้ำเก็บความเย็น
    • WD Red HDD – ความจุ 2-3TB ได้รับ Lotus’s e-Voucher มูลค่า 200 บาท และถ้าความจุเกิน 4TB ทั้ง HDD, SSD จะได้รับ Lotus’s Gift Card มูลค่า 500 บาท
    • WD Purple HDD – ความจุ 2-3TB ได้รับ Lotus’s e-Voucher มูลค่า 200 บาท และถ้าความจุเกิน 4TB ได้รับ Lotus’s Gift Card มูลค่า 500 บาท

powerbuy

โปรโมชั่นบูธ Powerbuy ในงาน Commart Bright หลักๆ แล้วจะเน้นโปรโมชั่นร่วมกับบัตรเครดิต The 1 Card เช่นเดิม โดยสินค้าที่เข้าร่วมงานจะลดราคาสูงสุด 5% จากราคาป้าย ผ่อนชำระด้วยบัตร The 1 Card จะได้ส่วนลดเพิ่ม 15% ได้ผ่อน 0% นานสุด 36 เดือนและได้เครดิตเงินคืนสูงสุด 39,000 บาทอีกด้วย เรียกว่าถ้าใครมีบัตรเครดิตนี้อยู่ในมือไปซื้อกับ Powerbuy ก็ได้ส่วนลดสุดคุ้มค่าแน่นอน

ส่วนใครที่ต้องการอัพเดทโปรโมชั่นต่างๆ อย่างต่อเนื่องในงาน Commart Bright อย่างต่อเนื่อง สามารถดูที่หน้าเว็บไซต์ของทาง Commart Thailand ได้เช่นกัน ซึ่งผู้สนใจสามารถคลิกได้ที่นี่

แนะนำ 12 โน๊ตบุ๊คน่าสนใจในงาน Commart Bright 2021

สำหรับโน๊ตบุ๊ครุ่นรุ่นน่าสนใจในงาน Commart Bright ปีนี้ทั้ง 12 รุ่น จะคละทั้งเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คและโน๊ตบุ๊คสายทำงานด้วย โดยส่วนตัวผู้เขียนจะเน้นที่ราคาและสเปคสมเหตุสมผลกันที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และผู้เขียนเชื่อว่าถ้าหาโปรโมชั่นในงานจากทางร้านค้าเพิ่มเติมก็จะได้ของแถมและส่วนลดอีกมากมายอย่างแน่นอน โดยรุ่นที่แนะนำมีดังนี้

  1. Acer Aspire Vero AV15 (25,990 บาท)
  2. Acer Nitro 5 AN515-45-R4U8 (43,990 บาท)
  3. ASUS TUF Gaming F15 FX506HEB (33,990 บาท)
  4. ASUS VivoBook 15 OLED (26,990 บาท)
  5. DELL Inspiron 5410 (32,490 บาท)
  6. Fujitsu Ultralight CH-4ZR1C22928 (32,900 บาท)
  7. Gigabyte G5 MD (35,990 บาท)
  8. HP ENVY x360 13-ay1030AU (33,990 บาท)
  9. Lenovo Yoga Slim 7 Pro OLED (37,990 บาท)
  10. Lenovo Legion 7 16ACHG6 (99,990 บาท)
  11. MSI Prestige 14 Evo (33,900 บาท)
  12. MSI Katana GF76 (51,990 บาท)
1. Acer Aspire Vero AV15 (25,990 บาท)

20211013 225918 c

เริ่มต้นด้วยโน๊ตบุ๊ครักษ์โลกรุ่นใหม่ล่าสุดจาก Acer รุ่น Acer Aspire Vero AV15 รุ่นที่บอดี้ทำจากพลาสติกรีไซเคิล ให้สีสันสวยแปลกตาและสเปคแรงไว้ใจได้, ติดตั้งที่สแกนลายนิ้วมือมาให้รักษาความเป็นส่วนตัวและได้ใช้ Windows 11 Home ตั้งแต่เปิดเครื่องเลย และถ้าใครอยากอ่านรีวิวโดยละเอียดสามารถคลิกอ่านได้ที่นี่

สเปคใช้ซีพียู Intel Core i7-1195G7 แบบ 4 คอร์ 8 เธรด ความเร็ว 2.9-5.0 GHz การ์ดจอออนบอร์ด Intel Iris Xe Graphics ติดตั้ง SSD แบบ M.2 NVMe 512GB มี Windows 11 Home และ Microsoft Office Home & Student 2019 ติดตั้งมาให้ มีแรม 16GB DDR4 บัส 3200 MHz ส่วนหน้าจอมีขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS มีพอร์ต USB 2.0, USB-A 3.2 x 2, USB-C 3.2 x 1, HDMI x 1, RJ45 LAN x 1 เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตด้วย Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.0 ได้ ส่วนน้ำหนักตัวเครื่องเพียง 1.8 กิโลกรัมเท่านั้น จัดเป็นโน๊ตบุ๊คสายทำงานรุ่นแรกที่ผู้เขียนแนะนำสำหรับคนหาโน๊ตบุ๊คทำงานเป็นอย่างมาก

สเปคของ Acer Aspire Vero AV15
  • ซีพียู Intel Core i7-1195G7 แบบ 4 คอร์ 8 เธรด ความเร็ว 2.9-5.0 GHz
  • การ์ดจอออนบอร์ด Intel Iris Xe Graphics
  • SSD แบบ M.2 NVMe 512GB
  • แรม 16GB DDR4 บัส 3200 MHz
  • หน้าจอขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS
  • มีพอร์ต USB 2.0, USB-A 3.2 x 2, USB-C 3.2 x 1, HDMI x 1, RJ45 LAN x 1
  • เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตด้วย Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.0
  • ระบบปฏิบัติการ Windows 11 Home มี Microsoft Office Home & Student 2019
  • น้ำหนักตัวเครื่อง 1.8 กิโลกรัม
  • ราคา 25,990 บาท (ราคากลาง)
2. Acer Nitro 5 AN515-45-R4U8 (43,990 บาท)

20210407 101743 c

ถ้าพูดถึงเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คจากแบรนด์เดียวกันกับข้อที่แล้วและขอราคาสมเหตุผลมีไฟ RGB เล่นเกม AAA ปรับสูงได้ลื่นๆ หาซื้อในงาน Commart Bright ได้ไม่ยากนักแนะนำเป็น Acer Nitro 5 AN515-45-R4U8 รุ่นนี้ ซึ่งนอกจากสเปคจะแรงแล้วยังรองรับการอัพเกรดทั้งแรมและ SSD ในเครื่องได้สบายๆ

สเปครุ่นนี้ใช้ซีพียู AMD Ryzen 7 5800H แบบ 8 คอร์ 16 เธรด ความเร็ว 3.2-4.4 GHz สถาปัตยกรรม AMD Zen 3 จับคู่การ์ดจอแยก NVIDIA GeForce RTX 3060 แรม 6 GB GDDR6 และ SSD แบบ M.2 NVMe 512GB พร้อม Windows 10 Home กับแรม 16GB DDR4 บัส 3200 MHz ด้านหน้าจอมีขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด QHD (2560×1440 พิกเซล) พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 165 Hz ลื่นนวลตาอย่างแน่นอน มีพอร์ต USB-A 3.2 x 3, USB-C 3.2 x 1, HDMI x 1, RJ45 LAN x 1 เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตด้วย Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.1 ด้วย ส่วนน้ำหนักตัวเครื่องอยู่ที่ 2.2 กิโลกรัม ซึ่งถ้าใครอยากหาเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คสเปคแรงน่าใช้และคุ้มค่าตัวในงาน Commart Bright ปีนี้ แนะนำให้ดูตัวนี้เลย

สเปคของ Acer Nitro 5 AN515-45-R4U8
  • ซีพียู AMD Ryzen 7 5800H แบบ 8 คอร์ 16 เธรด ความเร็ว 3.2-4.4 GHz
  • การ์ดจอแยก NVIDIA GeForce RTX 3060 แรม 6 GB GDDR6
  • SSD แบบ M.2 NVMe 512GB
  • แรม 16GB DDR4 บัส 3200 MHz
  • หน้าจอขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด QHD (2560×1440 พิกเซล) พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 165 Hz
  • มีพอร์ต USB-A 3.2 x 3, USB-C 3.2 x 1, HDMI x 1, RJ45 LAN x 1
  • เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตด้วย Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.1
  • ระบบปฏิบัติการ Windows 10 Home
  • น้ำหนักตัวเครื่อง 2.2 กิโลกรัม
  • ราคา 43,990 บาท (BaNANA)
3. ASUS TUF Gaming F15 FX506HEB (33,990 บาท)

20210903 032918 c

ส่วนเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คจาก ASUS ในงาน Commart Bright รุ่นที่สเปคแรงกำลังดี เล่นเกมได้ทำงานลื่นด้วย ณ ตอนนี้จะมี ASUS TUF Gaming F15 FX506HEB ที่ดีไซน์ดูเท่แข็งแรง ส่วนความแรงก็ไม่แพ้แบรนด์อื่น สามารถเล่นเกม AAA ได้สบายๆ และมีรีวิว ASUS รุ่นนี้โดยละเอียดไปก่อนหน้านี้แล้ว ผู้ที่สนใจสามารถคลิกอ่านได้ที่นี่

สเปคเครื่องนี้ติดตั้งซีพียู Intel Core i5-11400H แบบ 6 คอร์ 12 เธรด ความเร็ว 2.7-4.5 GHz ทำงานหนักหรือเล่นเกม AAA ปรับสูงได้สบายๆ กับการ์ดจอ NVIDIA GeForce RTX 3050 Ti แรม 4GB GDDR6 มี SSD แบบ M.2 NVMe 512GB ติดตั้ง Windows 10 Home มาให้พร้อใช้งานกับแรม 8GB DDR4 บัส 3200 MHz ส่วนหน้าจอมีขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 144 Hz พร้อมพอร์ต USB-A 3.2 x 3, USB-C 3.2 x 1 รองรับ Thunderbolt, HDMI x 1, RJ45 LAN x 1 เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตด้วย Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.2 ด้วยส่วนน้ำหนักตัวเครื่องอยู่ที่ 2.3 กิโลกรัม ถือเป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คที่สเปคดีราคาไม่แรงเกินไป เล่นเกม AAA ได้สบายๆ และมีการ์ดจอแยกช่วยเรนเดอร์ตอนตัดต่อคลิปและแต่งภาพได้ลื่นขึ้น หากให้ดีสุดแนะนำให้หาแรมอีก 8GB มาอัพเกรดตั้งแต่ซื้อเครื่องในงาน Commart Bright เลย จะดีที่สุด

สเปคของ ASUS TUF Gaming F15 FX506HEB
  • ซีพียู Intel Core i5-11400H แบบ 6 คอร์ 12 เธรด ความเร็ว 2.7-4.5 GHz
  • การ์ดจอแยก NVIDIA GeForce RTX 3050 Ti แรม 4GB GDDR6
  • SSD แบบ M.2 NVMe 512GB
  • แรม 8GB DDR4 บัส 3200 MHz
  • หน้าจอขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 144 Hz
  • มีพอร์ต USB-A 3.2 x 3, USB-C 3.2 x 1 รองรับ Thunderbolt, HDMI x 1, RJ45 LAN x 1
  • เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตด้วย Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.2
  • ระบบปฏิบัติการ Windows 10 Home
  • น้ำหนักตัวเครื่อง 2.3 กิโลกรัม
  • ราคา 33,990 บาท (BaNANA, Advice, TopValue)
4. ASUS VivoBook 15 OLED (26,990 บาท)

20211013 122754 c

 

ถ้าโจทย์คือต้องการโน๊ตบุ๊คสายทำงานหน้าจอคุณภาพดี ได้การรับรอง Pantone Validated และ VESA DisplayHDR TRUE BLACK 600 ล่ะก็ ASUS VivoBook 15 OLED ที่ผู้เขียนได้ทำรีวิวไปก่อนหน้านี้คือคำตอบที่ดีที่สุดอย่างแน่นอน เพราะสีสันสวยแม่นยำระดับทำงานอาร์ตเวิร์คต่างๆ ได้อย่างยอดเยี่ยมแน่นอน เป็นอีกรุ่นน่าสนใจของ ASUS ในงาน Commart Bright ปีนี้มาก

สเปคเครื่องนี้ใช้ซีพียู Intel Core i5-1135G7 แบบ 4 คอร์ 8 เธรด ความเร็ว 2.4-4.2 GHz กับการ์ดจอออนบอร์ด Intel Iris Xe Graphics ติดตั้ง SSD แบบ M.2 NVMe 512GB ติดตั้ง Windows 10 Home มาในตัวกับ Microsoft Office Home & Student 2019 ด้วย ใช้แรมออนบอร์ดความจุ 8GB DDR4 บัส 3200 MHz ด้านหน้าจอมีขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล OLED คุณภาพสูงระดับ Cinema-grade มีพอร์ต USB 2.0 x 2, USB-A 3.2 x 1, USB-C 3.2 x 1, HDMI x 1 เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตด้วย Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.0 ส่วนน้ำหนักตัวเครื่องเพียง 1.8 กิโลกรัม นับเป็นโน๊ตบุ๊คสายทำงานที่ไม่ควรมองข้ามและรองรับการอัพเกรดเพิ่มแรมให้เป็น 16GB ได้สบายๆ ซึ่ง ASUS VivoBook รุ่นนี้ผู้เขียนแนะนำสำหรับคนหาโน๊ตบุ๊คทำงานหน้าจอคุณภาพสูงเป็นอย่างมาก

สเปคของ ASUS VIVOBOOK 15 OLED
  • ซีพียู Intel Core i5-1135G7 แบบ 4 คอร์ 8 เธรด ความเร็ว 2.4-4.2 GHz
  • การ์ดจอออนบอร์ดรุ่น Intel Iris Xe Graphics
  • SSD แบบ M.2 NVMe ความจุ 512GB
  • แรมออนบอร์ด 8GB DDR4 บัส 3200 MHz
  • หน้าจอขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล OLED ระดับ Cinema-grade ได้ Pantone Validated
  • มีพอร์ต USB 2.0 x 2, USB-A 3.2 x 1, USB-C 3.2 x 1, HDMI x 1
  • เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตด้วย Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.0
  • ระบบปฏิบัติการ Windows 10 Home มี Microsoft Office Home & Student 2019
  • น้ำหนักตัวเครื่อง 1.8 กิโลกรัม
  • ราคา 26,990 บาท (Advice, BaNANA, TopValue)
5. DELL Inspiron 5410 (32,490 บาท)

20210606 180911 c

เชื่อว่าแฟนคลับ DELL น่าจะตามหาโน๊ตบุ๊คสายทำงานคุ้มๆ ในงาน Commart Bright สักเครื่องอย่างแน่นอน ซึ่งถ้าแนะนำว่ารุ่นไหนน่าสนใจและราคาสมเหตุผลกับสเปคแนะนำเป็น DELL Inspiron 5410 รุ่นนี้ที่งานประกอบแข็งแรง ดีไซน์แบบใหม่มี ErgoLift Hinge ในตัวและบางเบาสวยงามอีกด้วย

สเปคเครื่องนี้จัดว่าน่าสนใจเพราะใช้ซีพียูรุ่นพิเศษของ Intel รุ่น Intel Core i7-11370H แบบ 4 คอร์ 8 เธรด ความเร็ว 3.3-4.8 GHz และใช้การ์ดจอออนบอร์ดรุ่น Intel Iris Xe Graphics มี SSD แบบ M.2 NVMe ความจุ 512GB มาในตัวพร้อมติดตั้ง Windows 10 Home กับ Microsoft Office Home & Student 2019 มาให้ครบถ้วน มีแรม 8GB DDR4 บัส 3200 MHz ส่วนหน้าจอมีขนาด 14 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ส่วนพอร์ตมี USB-A 3.2 x 2, USB-C 3.2 x 1, HDMI x 1 เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตด้วย Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.1 ด้วย ส่วนน้ำหนักอยู่ที่ 1.46 กิโลกรัมเท่านั้น ซึ่งถ้าใครจะหาโน๊ตบุ๊คสายทำงานของ DELL แนะนำให้ดูดีไซน์รุ่นใหม่สเปคนี้ในงาน Commart Bright เลย จะคุ้มค่าที่สุด

สเปคของ DELL Inspiron 5410
  • ซีพียู Intel Core i7-11370H แบบ 4 คอร์ 8 เธรด ความเร็ว 3.3-4.8 GHz
  • การ์ดจอออนบอร์ดรุ่น Intel Iris Xe Graphics
  • SSD แบบ M.2 NVMe ความจุ 512GB
  • แรมออนบอร์ด 8GB DDR4 บัส 3200 MHz
  • หน้าจอขนาด 14 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS
  • มีพอร์ต USB-A 3.2 x 2, USB-C 3.2 x 1, HDMI x 1
  • เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตด้วย Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.1
  • ระบบปฏิบัติการ Windows 10 Home มี Microsoft Office Home & Student 2019
  • น้ำหนักตัวเครื่อง 1.46 กิโลกรัม
  • ราคา 32,490 บาท (Advice)
6. Fujitsu Ultralight CH-4ZR1C22928 (32,900 บาท)

20210515 161300 c

หากถามหาโน๊ตบุ๊คคุณภาพ Japan Quality หนึ่งเดียวในสนาม Commart Bright ปีนี้ มี Fujitsu Ultralight CH-4ZR1C22928 มาให้เลือกซื้อกัน จุดเด่นนอกจากงานประกอบตัวเครื่องจะแน่นและแข็งแรงแล้ว ตัวเครื่องยังเบาไม่ถึงกิโลกรัมเท่านั้น เรียกว่าน่าสนใจมาก

สเปคของเครื่องนี้ใช้ซีพียู Intel Core i5-1135G7 แบบ 4 คอร์ 8 เธรด ความเร็ว 2.4-4.2 GHz กับการ์ดจอ Intel Iris Xe Graphics ติดตั้ง SSD แบบ M.2 NVMe ความจุ 512GB ติดตั้ง Windows 10 Home มาให้ ส่วนแรมเป็นออนบอร์ดความจุ 8GB LPDDR4x บัส 4266 MHz หน้าจอมีขนาด 13.3 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS มีพอร์ต USB-A 3.1 และ USB-C 3.1 อย่างละ 2 พอร์ต และ HDMI x 1 เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.0 ส่วนน้ำหนักตัวเครื่องอยู่ที่ 0.99 กิโลกรัม จัดว่าเบาพกพาสะดวกแต่แข็งแรง ซึ่งถ้าใครอยากใช้โน๊ตบุ๊คสายทำงานงานประกอบพรีเมี่ยมสักเครื่อง Fujitsu รุ่นนี้คือน่าสนใจมาก

สเปคของ DELL Inspiron 5410
  • ซีพียู Intel Core i5-1135G7 แบบ 4 คอร์ 8 เธรด ความเร็ว 2.4-4.2 GHz
  • การ์ดจอออนบอร์ดรุ่น Intel Iris Xe Graphics
  • SSD แบบ M.2 NVMe ความจุ 512GB
  • แรมออนบอร์ด 8GB LPDDR4x บัส 4266 MHz
  • หน้าจอขนาด 13.3 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS
  • มีพอร์ต USB-A 3.1 x 2, USB-C 3.1 x 2, HDMI x 1
  • เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตด้วย Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.0
  • ระบบปฏิบัติการ Windows 10 Home
  • น้ำหนักตัวเครื่อง 0.99 กิโลกรัม
  • ราคา 32,900 บาท
7. Gigabyte G5 MD (35,990 บาท)

20210806 221934 c

Gigabyte G5 MD ที่ผู้เขียนเคยเผยแพร่รีวิวให้รับชมไปก่อนหน้านี้ ก็ถือเป็นรุ่นม้ามืดสำหรับคนอยากได้เกมมิ่งโน๊ตบุ๊คหน้าจอขอบเขตสีกว้างเอาไว้ทำงานได้ด้วย เล่นเกมก็ดีซึ่งในงาน Commart Bright ปีนี้จะมีตัวแทนจำหน่ายของ Gigabyte จัดโปรโมชั่นน่าสนใจให้เลือกซื้อกันอย่างแน่นอน

สเปคเครื่องนี้ใช้ซีพียู Intel Core i5-11400H แบบ 6 คอร์ 12 เธรด ความเร็ว 2.7-4.5 GHz จับคู่กับการ์ดจอ NVIDIA GeForce RTX 3050 Ti แรม 4GB GDDR6 พร้อมเล่นเกม AAA ได้อย่างไหลลื่น มี SSD แบบ M.2 NVMe ความจุ 512GB ติดตั้ง Windows 10 Home และแรม 16GB DDR4 บัส 3200 MHz มาให้ หน้าจอขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 144 Hz มีพอร์ต USB 2.0 x 1, USB-A 3.2 x 2, USB-C 3.2 x 1, HDMI x 1, RJ45 LAN x 1 เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตด้วย Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.2 ด้วย ส่วนน้ำหนักตัวเครื่องอยู่ที่ 2.03 กิโลกรัม ซึ่งสเปคระดับนี้ถือว่าแรงกำลังดี ทำงานลื่นไหลและรองรับการอัพเกรดได้สบายๆ อีกด้วย แนะนำสำหรับคนที่เน้นเรื่องความแรง, คุ้มค่าและพาเนลหน้าจอคุณภาพสูงเป็นอย่างมาก

สเปคของ Gigabyte G5 MD
  • ซีพียู Intel Core i5-11400H แบบ 6 คอร์ 12 เธรด ความเร็ว 2.7-4.5 GHz
  • การ์ดจอ NVIDIA GeForce RTX 3050 Ti แรม 4GB GDDR6
  • SSD แบบ M.2 NVMe ความจุ 512GB
  • แรม 16GB DDR4 บัส 3200 MHz
  • หน้าจอขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 144 Hz
  • มีพอร์ต USB 2.0 x 1, USB-A 3.2 x 2, USB-C 3.2 x 1, HDMI x 1, RJ45 LAN x 1
  • เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตด้วย Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.2
  • ระบบปฏิบัติการ Windows 10 Home
  • น้ำหนักตัวเครื่อง 2.03 กิโลกรัม
  • ราคา 35,990 บาท
8. HP ENVY x360 13-ay1030AU (33,990 บาท)

Envy x360 13 black f

เห็นโน๊ตบุ๊คฝาพับมาตรฐานหรือแบบ Clamshell กันมาเยอะแล้ว ก็ต้องมีรุ่นพับหน้าจอกลับเป็นแท็บเล็ตได้อย่าง HP ENVY x360 13-ay1030AU มาเป็นตัวเลือกรุ่นต่างที่ไม่ควรมองข้ามในงาน Commart Bright ปีนี้ให้เลือกด้วย ซึ่ง HP ENVY ตัวนี้สามารถพับจอกลับเป็นแท็บเล็ตได้และมีปากกาสไตลัสแถมมาให้เขียนหน้าจอ รองรับการสแกนลายนิ้วมือปลดล็อคเครื่องและพอร์ต USB-C ก็รองรับการต่อหน้าจอแยกแบบ DisplayPort 1.4 และชาร์จแบตเตอรี่ตามมาตรฐาน USB Power Delivery ได้ จึงไม่ต้องพกปลั๊กเฉพาะรุ่นไปไหนมาไหนเสมอๆ

สเปคของเครื่องนี้ติดตั้งซีพียู AMD Ryzen 5 5600U แบบ 6 คอร์ 12 เธรด ความเร็ว 2.3-4.2 GHz สถาปัตยกรรม AMD Zen 3 ใช้การ์ดจอออนบอร์ด AMD Radeon Graphics 7 คอร์ ติดตั้ง SSD แบบ M.2 NVMe ความจุ 512GB มี Windows 11 Home มาให้พร้อม Microsoft Office Home & Student 2019 ครบเสร็จสรรพ ส่วนแรมออนบอร์ดความจุ 8GB DDR4 บัส 3200 MHz หน้าจอทัชมีขนาด 13.3 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ใช้สไตลัสของ HP เขียนบนจอได้ มีพอร์ต USB-C 3.1 x 1, USB-A 3.1 x 2 เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตด้วย Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.2 ส่วนน้ำหนักเบาเพียง 1.33 กิโลกรัมเท่านั้น ถือว่าเบาสบายพกง่ายมาก และงานประกอบจัดว่าหรูหราแข็งแรง เป็นอีกรุ่นที่น่าหาซื้อมาใช้งานในอีเว้นท์ Commart Bright ปีนี้จริงๆ

สเปคของ HP ENVY x360 13-ay1030AU
  • ซีพียู AMD Ryzen 5 5600U แบบ 6 คอร์ 12 เธรด ความเร็ว 2.3-4.2 GHz
  • การ์ดจอออนบอร์ด AMD Radeon Graphics 7 คอร์
  • SSD แบบ M.2 NVMe ความจุ 512GB
  • แรมออนบอร์ดความจุ 8GB DDR4 บัส 3200 MHz
  • หน้าจอทัชมีขนาด 13.3 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ใช้สไตลัสของ HP เขียนบนจอได้
  • มีพอร์ต USB-C 3.1 x 1, USB-A 3.1 x 2
  • เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตด้วย Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.2
  • ระบบปฏิบัติการ Windows 11 Home พร้อม Microsoft Office Home & Student 2019
  • น้ำหนักตัวเครื่อง 1.33 กิโลกรัม
  • ราคา 33,990 บาท (BaNANA)
9. Lenovo Yoga Slim 7 Pro OLED (37,990 บาท)

Yoga Slim 7 pro oled l

 

Lenovo Yoga Slim 7 Pro OLED รุ่นนี้ถือว่าจัดจ้านสุดๆ ไม่ว่าจะกล้องหน้าอินฟาเรด IR Camera ใช้สแกนใบหน้าปลดล็อคเครื่องได้, หน้าจอ OLED ความละเอียดสูง เป็นจอ Dolby Vision ค่า Refresh Rate 90 Hz แล้ว ยังให้ซอฟท์แวร์มาครบพร้อมใช้งานอีกด้วย จัดเป็นรุ่นเด็ดสายทำงานจาก Lenovo ที่น่าจะมีโปรโมชั่นให้จับจ่ายกันอย่างสนุกสนานในงาน Commart Bright ครั้งนี้อย่างแน่นอน

สเปคเครื่องนี้ใช้ซีพียู Intel Core i5-11300H แบบ 4 คอร์ 8 เธรด ความเร็ว 3.1-4.4 GHz จับคู่การ์ดจอ NVIDIA GeForce MX450 แรม 2GB GDDR6 ติดตั้ง SSD แบบ M.2 NVMe ความจุ 512GB พร้อมระบบปฏิบัติการ Windows 10 Home และ Microsoft Office Home & Student 2019 ครบเครื่องกับแรมออนบอร์ด 16GB LPDDR4x บัส 3200 MHz ส่วนหน้าจอขนาด 14 นิ้ว ความละเอียด 2.8K (2880×1800 พิกเซล) พาเนล OLED เป็นจอ Dolby Vision ค่า Refresh Rate 90 Hz ให้ภาพบนหน้าจอลื่นไหลต่อเนื่อง มีพอร์ต USB-C 3.2 x 2 รองรับ Thunderbolt, USB-A 3.2 x 1 เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตด้วย Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.1 และตัวเครื่องเบาพกง่ายแค่ 1.38 กิโลกรัมเท่านั้น ซึ่งถ้าหาโน๊ตบุ๊คสายทำงานสเปคสุดเจ๋งในงาน Commart Bright ครั้งนี้ นี่คือเครื่องที่ผู้เขียนเชียร์จากใจรุ่นหนึ่งเลย

สเปคของ Lenovo Yoga Slim 7 Pro OLED
  • ซีพียู Intel Core i5-11300H แบบ 4 คอร์ 8 เธรด ความเร็ว 3.1-4.4 GHz
  • การ์ดจอ NVIDIA GeForce MX450 แรม 2GB GDDR6
  • SSD แบบ M.2 NVMe ความจุ 512GB
  • แรมออนบอร์ด 16GB LPDDR4x บัส 3200 MHz
  • หน้าจอขนาด 14 นิ้ว ความละเอียด 2.8K (2880×1800 พิกเซล) พาเนล OLED เป็นจอ Dolby Vision ค่า Refresh Rate 90 Hz
  • มีพอร์ต USB-C 3.2 x 2 รองรับ Thunderbolt, USB-A 3.2 x 1
  • เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตด้วย Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.1
  • ระบบปฏิบัติการ Windows 10 Home และ Microsoft Office Home & Student 2019
  • น้ำหนักตัวเครื่อง 1.38 กิโลกรัม
  • ราคา 37,990 บาท (BaNANA)
10. Lenovo Legion 7 16ACHG6 (99,990 บาท)

20210405 114907 c

ถ้าเป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คที่สุดทั้งสเปคและคุ้มราคาที่มีแต่คนตามหามาตลอดทั้งปี 2021 อย่างไรก็ต้องมี Lenovo Legion 7 16ACHG6 รุ่นนี้มาแนะนำด้วยอย่างแน่นอน ซึ่งโน๊ตบุ๊ครุ่นนี้ก็เริ่มมีสินค้าเติมกลับมาขายบ้างแล้ว และน่าจะมีโปรโมชั่นและของแถมส่งเสริมการขายอย่างแน่นอน เรียกว่าเป็นรุ่นคุ้มค่าน่าลงทุนในยุคการ์ดจอแพงเกินทนเช่นนี้ ถ้าใครอยากทราบความแรงสามารถอ่านรีวิวฉบับเต็มที่นี่ได้เลย

สเปคเครื่องนี้ใช้ซีพียู AMD Ryzen 9 5900HX แบบ 8 คอร์ 16 เธรด ความเร็ว 3.3-4.6 GHz สถาปัตยกรรม AMD Zen 3 จับคู่การ์ดจอ NVIDIA GeForce RTX 3080 แรม 16GB GDDR6 ติดตั้ง SSD แบบ M.2 NVMe ความจุ 2TB พร้อม Windows 11 Home กับแรม 32GB DDR4 บัส 3200 MHz มาให้ ส่วนหน้าจอมีขนาด 16 นิ้ว ความละเอียด QHD+ (2560×1600 พิกเซล) เป็นจอ Dolby Vision, HDR400, 100% sRGB ค่า Refresh Rate 165 Hz มีพอร์ต USB-A 3.2 x 3, USB-C 3.2 x 3, HDMI x 1, RJ45 LAN x 1 เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตด้วย Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.1 น้ำหนักเครื่อง 2.5 กิโลกรัม ถือเป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คตัวสุดแรงแบบไม่เกรงใจใครในงาน Commart Bright ครั้งนี้เลย

สเปคของ Lenovo Legion 7 16ACHG6
  • ซีพียู AMD Ryzen 9 5900HX แบบ 8 คอร์ 16 เธรด ความเร็ว 3.3-4.6 GHz
  • การ์ดจอ NVIDIA GeForce RTX 3080 แรม 16GB GDDR6
  • SSD แบบ M.2 NVMe ความจุ 2TB
  • แรม 32GB DDR4 บัส 3200 MHz
  • หน้าจอขนาด 16 นิ้ว ความละเอียด QHD+ (2560×1600 พิกเซล) เป็นจอ Dolby Vision, HDR400, 100% sRGB ค่า Refresh Rate 165 Hz
  • มีพอร์ต USB-A 3.2 x 3, USB-C 3.2 x 3, HDMI x 1, RJ45 LAN x 1
  • เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตด้วย Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.1
  • ระบบปฏิบัติการ Windows 11 Home
  • น้ำหนักตัวเครื่อง 2.5 กิโลกรัม
  • ราคา 99,990 บาท (BaNANA)
11. MSI Prestige 14 Evo (33,900 บาท)

Prestige 14 evo c

MSI Prestige 14 Evo รุ่นนี้ก็มีโปรโมชั่นน่าสนใจในงาน Commart Bright ทั้งได้ส่วนลดและของแถมให้ลูกค้าที่ต้องการเลือกซื้อโน๊ตบุ๊คเครื่องนี้ไปใช้ ส่วนจุดเด่นนอกจากเป็นโน๊ตบุ๊ค Intel EVO แล้ว ตัวเครื่องยังน้ำหนักเบาพกพาสะดวกแบตเตอรี่ทนทานร่วม 14 ชั่วโมงและสแกนใบหน้าปลดล็อคเครื่องได้ด้วย ซึ่งถ้าใครสนใจสามารถอ่านรีวิวโดยละเอียดได้ที่นี่

สเปคที่เลือกมาแนะนำติดตั้งซีพียู Intel Core i7-1185G7 แบบ 4 คอร์ 8 เธรด ความเร็ว 3.0-4.8 GHz ใช้การ์ดจอออนบอร์ดรุ่น Intel Iris Xe Graphics ติดตั้ง SSD แบบ M.2 NVMe ความจุ 512GB มีระบบปฏิบัติการ Windows 10 Home มาให้กับแรมออนบอร์ด 16GB LPDDR4 บัส 4267 MHz หน้าจอขนาด 14 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS พอร์ตมี USB-C 3.2 x 2 รองรับ Thunderbolt ทั้งคู่, USB 2.0 x 1, MicroSD Card reader x 1 เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตด้วย Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.1 และตัวเครื่องเบาพกง่ายแค่ 1.29 กิโลกรัมเท่านั้น เรียกว่าเป็นโน๊ตบุ๊ค Intel EVO ที่น่าซื้อหามาใช้งานอีกรุ่นในงาน Commart Bright ครั้งนี้มาก โดยเฉพาะคนที่ต้องพกเครื่องไปไหนมาไหนเป็นประจำแนะนำให้ดูรุ่นนี้เอาไว้เป็นตัวเลือกแรกๆ ได้เลย

สเปคของ MSI Prestige 14 Evo
  • ซีพียู Intel Core i7-1185G7 แบบ 4 คอร์ 8 เธรด ความเร็ว 3.0-4.8 GHz
  • การ์ดจอออนบอร์ดรุ่น Intel Iris Xe Graphics
  • SSD แบบ M.2 NVMe ความจุ 512GB
  • แรมออนบอร์ด 16GB LPDDR4 บัส 4267 MHz
  • หน้าจอขนาด 14 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS
  • มีพอร์ต USB-C 3.2 x 2 รองรับ Thunderbolt ทั้งคู่, USB 2.0 x 1, MicroSD Card reader x 1
  • เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตด้วย Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.1
  • ระบบปฏิบัติการ Windows 10 Home
  • น้ำหนักตัวเครื่อง 1.29 กิโลกรัม
  • ราคา 33,900 บาท (Advice)
12. MSI Katana GF76 (51,990 บาท)

20210903 001040 c

ส่วนเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คจาก MSI รุ่นที่ห้ามพลาด คือ MSI Katana GF76 รุ่นนี้ที่จัดโปรโมชั่นแถม MSI Helmet & Katana Set Limited Edition พร้อมเกมมิ่งเมาส์เมื่อซื้อในงาน Commart Bright เรียกว่าได้ทั้งเครื่องแรง, สวยและได้เกมมิ่งเกียร์ครบพร้อมเล่นเกม AAA ได้สบายๆ แถมยังจัดโต๊ะคอมได้สวยเท่ไม่เหมือนใครอย่างแน่นอน

สเปคของเครื่องนี้เรียกว่าแรงไม่แพ้ใครด้วยซีพียู Intel Core i7-11800H แบบ 8 คอร์ 16 เธรด ความเร็ว 2.3-4.6 GHz จับคู่กับการ์ดจอ NVIDIA GeForce RTX 3070 แรม 8GB GDDR6 มี SSD แบบ M.2 NVMe ความจุ 512GB ติดตั้ง Windows 10 Home พร้อมแรม 16GB DDR4 บัส 3200 MHz มาให้ หน้าจอมีขนาด 17.3 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 144 Hz มีพอร์ต USB 2.0 x 1, USB-A 3.2 x 2, USB-C 3.2 x 1, HDMI x 1, RJ45 LAN x 1 เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตด้วย Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.2 น้ำหนักตัวเครื่องอยู่ที่ 2.6 กิโลกรัม เรียกว่าเป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คจาก MSI ที่ราคาไม่แพงมากแต่สเปคแรงหายห่วง สามารถเล่นเกม AAA ปรับสุดไปได้อย่างน้อยอีก 2-3 ปีอย่างแน่นอน ซึ่งถ้าใครชื่นชอบแบรนด์ MSI ก็เลือกซื้อรุ่นนี้ไปได้เลย ส่วนรีวิวสำหรับเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ครุ่นนี้อ่านได้ที่นี่

สเปคของ MSI Katana GF76
  • ซีพียู Intel Core i7-11800H แบบ 8 คอร์ 16 เธรด ความเร็ว 2.3-4.6 GHz
  • การ์ดจอ NVIDIA GeForce RTX 3070 แรม 8GB GDDR6
  • SSD แบบ M.2 NVMe ความจุ 512GB
  • แรม 16GB DDR4 บัส 3200 MHz
  • หน้าจอขนาด 17.3 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 144 Hz
  • มีพอร์ต USB 2.0 x 1, USB-A 3.2 x 2, USB-C 3.2 x 1, HDMI x 1, RJ45 LAN x 1
  • เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตด้วย Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.2
  • ระบบปฏิบัติการ Windows 10 Home
  • น้ำหนักตัวเครื่อง 2.6 กิโลกรัม
  • ราคา 51,990 บาท (BaNANA)

จะเห็นว่าในงาน Commart Bright ปีนี้ โน๊ตบุ๊คแต่ละแบรนด์ก็พากันขนโน๊ตบุ๊คสายทำงานและเกมมิ่งมาจัดโปรโมชั่นแบบจัดเต็ม ทั้งโปรโมชั่นบัตรเครดิต, ของแถม ฯลฯ เรียกว่าใครอยากได้โน๊ตบุ๊คสักเครื่อง เกมมิ่งเกียร์สักเซ็ตมาเดินงานนี้เรียกว่าจบแน่นอน! อย่างไรก็อย่าลืมดูแลตัวเองป้องกันโรคและรักษาระเบียบการเข้าชมงานเพื่อตนเองและส่วนรวมด้วย จะได้มีความสุขโดยถ้วนหน้ากัน

from:https://notebookspec.com/web/625369-commart-bright-2021-promotion

6 Notebook GTX 1660 Ti เพื่อเกมเมอร์ สเปคดี เล่นเกมลื่นฟิน ๆ ราคาเริ่ม 30,000 บาท AMD, Intel เลือกได้!

Notebook GTX 1660 Ti จัดว่าแรงทีเดียว ถ้าเล่นเกมบนจอ Full HD แล้วก็ปรับกราฟฟิคกลาง-สูงได้เลย

1660 ti cover

Notebook GTX 1660 Ti นั้น เรียกว่าเป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คที่ประสิทธิภาพสูงกลุ่มหนึ่ง ถึงจะมีเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คใส่การ์ดจอ GeForce RTX 3000 Series ออกมาแล้วก็ตาม แต่ประสิทธิภาพนั้นถือว่าไม่แพ้กันเลยถ้าถ้าเอามาเล่นเกมบนความละเอียหน้าจอ 1080p ก็ยังปรับกราฟฟิคในระดับ Medium-High ได้สบาย ๆ ไม่ว่าจะเล่นบนหน้าจอของเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คหรือจะต่อหน้าจอแยกความละเอียด 1080p หรือ 2K ก็ยังแสดงประสิทธิภาพออกมาได้ดีไม่แพ้รุ่นอื่น ๆ แน่นอน

นอกจากนี้ ราคาของ Notebook GTX 1660 Ti นั้น ยังคาบเกี่ยวกับรุ่นที่เป็น GTX 1650 Ti อยู่กลากหลายรุ่นด้วยกัน ซึ่งถ้าเกมเมอร์พร้อมเพิ่มเงินอีกเล็กน้อย แล้วขยับรุ่นมาเป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ครุ่นที่ใส่การ์ดจอนี้ก็ถือว่าคุ้มค่ามาก และสามารถเลือกหารุ่นและแบรนด์ที่ต้องการได้อีกด้วย

Notebook GTX 1660 Ti

ประสิทธิภาพตอนเล่นเกมของ Notebook GTX 1660 Ti และวิธีค้นหาผ่านระบบค้นหาของ Notebookspec

ถ้าเกมเมอร์สงสัยว่า GTX 1650 รุ่นยอดนิยมที่ผู้ผลิตเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คหลาย ๆ เจ้า กับ GTX 1660 Ti ตัวแรงสุดของสาย GTX 1600 Series แล้ว ความแรงต่างกันขนาดไหน Notebookspec เองก็เคยทำคลิป Gaming Test เปรียบเทียบกันเอาไว้ก่อนหน้านี้แล้ว ซึ่งจะต่างกันราว 1 รุ่นก็ตาม แต่จะเห็นว่า GTX 1660 Ti สามารถทำเฟรมเรทเฉลี่ยในเกมได้สูงราว 60 fps และมากกว่าได้แทบทุกเกม ในขณะที่ GTX 1650 จะลดลงมาอยู่ราว 30-58 fps เท่านั้น

เมื่อเทียบแล้วจะเห็นว่าถ้าเพิ่มเงินผ่อนต่อเดือนสักหน่อยแค่ไม่กี่ร้อยบาท ก็จะได้เกมมิ่งโน๊ตบุ๊คประสิทธิภาพดี สามารถเล่นเกมในปัจจุบันได้ทุกเกม แล้วจะต่อหน้าจอแยกแล้วเล่นเกมก็ได้เฟรมเรทสูงอย่างแน่นอน 

1600 ti

วิธีการค้นหา Notebook GTX 1660 Ti เอาไว้เล่นเกมสักเครื่องนั้น สามารถค้นหาได้ในระบบค้นหาโน๊ตบุ๊คของทางเว็บไซต์ได้เลย ซึ่งเมื่อเราเลื่อนลงมาตรง GPU – การ์ดจอ แล้ว ให้คลิกตรงคำว่า แบบละเอียด เพื่อระบุรุ่นของการ์ดจอที่ต้องการได้เลย แล้วติ๊กเลือกที่ช่อง NVIDIA GeForce GTX 1660 Ti แล้วระบบค้นหาจะเลือกเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คที่ติดตั้งการ์ดจอรุ่นนี้ออกมาให้เลือกซื้อได้เลย

6 Notebook GTX 1660 Ti เล่นเกมลื่น ทำงานดีไม่ควรพลาด

nvidia rtx gpu

สำหรับ Notebook GTX 1660 Ti สเปคดีที่ผู้เขียนแนะนำทั้ง 6 รุ่นนี้ จะเป็นรุ่นที่คุ้มที่สุดและราคาอยู่ราว 30,000-40,000 บาท ขึ้นอยู่กับแบรนด์และรุ่นที่ผู้ผลิตสร้างออกมา แต่อย่างไรก็ตาม หลาย ๆ รุ่นจะมีปัญหาขาดตลาดอยู่บ้าง ซึ่งผู้เขียนแนะนำว่าให้คอยติดตามข่าวและสต็อกของผู้จัดจำหน่ายเอาไว้เป็นระยะ ๆ จะได้ซื้อเครื่องรุ่นที่หมายตาเอาได้ทัน ซึ่งรุ่นแนะนำมีดังนี้

  1. MSI GF65 Thin 10SDR-1016TH (30,390 บาท)
  2. Asus TUF Gaming A15 FA506IU-HN174TS (33,900 บาท)
  3. Lenovo Legion 5-82B10043TA  (34,790 บาท)
  4. Acer Nitro 5 AN515-55-77UK (35,690 บาท)
  5. DELL G3 15 3500-W56637200THAD (38,400 บาท)
  6. HP Omen Gaming 15-ek0122TXTX (39,900 บาท)
1. MSI GF65 Thin 10SDR-1016TH (30,390 บาท)

msi

Notebook GTX 1660 Ti รุ่นแนะนำตัวแรกเป็น MSI GF65 Thin 10SDR-1016TH เป็นรุ่นแรก เพราะนอกจากระบายอากาศได้ดีแล้ว ยังมีช่องอัพเกรดเพิ่ม M.2 SSD ในเครื่อง 2 ช่อง รวมทั้งแรมอีก 1 ช่องด้วยกัน แต่มีจุดแนะนำคือควรเพิ่มแรมจาก 8GB เป็น 16GB ไปเลยจะดีที่สุด ส่วน SSD จะเพิ่มภายหลังเวลาที่พื้นที่เก็บไฟล์และติดตั้งเกมไม่พอก็ได้ และน้ำหนักเบากว่าเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คหลาย ๆ รุ่น เพียง 1.86 กิโลกรัมเท่านั้น

สเปคใช้ซีพียู Intel Core i7-10750H แบบ 6 คอร์ 12 เธรด ความเร็ว 2.6-5.0 GHz ซึ่งแรงและใช้เล่นเกมในปัจจุบันได้ทุกเกมอย่างแน่นอน จับคู่กับการ์ดจอ NVIDIA GeForce GTX 1660 Ti แรม 6GB GDDR6 ประสิทธิภาพสูง สามารถเล่นได้ทุกเกมในปัจจุบันกับแรม 8GB DDR4 บัส 2666 MHz มีฮาร์ดดิสก์แบบ M.2 NVMe ความจุ 512GB พร้อมติดตั้ง Windows 10 Home (64-bit) มาให้ในตัว ส่วนหน้าจอมีขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 144 Hz เล่นเกมได้ลื่นไหลเนียนตา ต่ออินเตอร์เน็ตผ่าน Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.1

สเปคของ MSI GF65 Thin 10SDR-1016TH
  • ซีพียู Intel Core i7-10750H แบบ 6 คอร์ 12 เธรด ความเร็ว 2.6-5.0 GHz
  • การ์ดจอ NVIDIA GeForce GTX 1660 Ti แรม 6GB GDDR6
  • ฮาร์ดดิสก์แบบ M.2 NVMe ความจุ 512GB
  • แรม 8GB DDR4 บัส 2666 MHz
  • ระบบปฏิบัติการ Windows 10 Home (64-bit)
  • หน้าจอขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 144 Hz
  • ต่ออินเตอร์เน็ตผ่าน Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.1
  • ราคา 30,390 บาท (Advice)
2. Asus TUF Gaming A15 FA506IU-HN174TS (33,900 บาท)

asus

ส่วน Notebook GTX 1660 Ti ของ ASUS ที่ดูแล้วคุ้มที่สุดในนาทีนี้ ยกให้ ASUS TUF Gaming A15 FA506IU-HN174TS รุ่นนี้ที่จับคู่ระหว่าง AMD และ NVIDIA เอาไว้ จะเล่นเกมก็ดี ทำงานก็ได้เพราะมี Microsoft Office Home & Student 2019 ติดตั้งมาในตัว เรียกว่าดีรอบด้าน จะขาดแค่แรมที่มีเพียง 8GB ถ้าอัพเกรดเป็น 16GB ขึ้นไปจะดีมาก

สเปคใช้ซีพียู AMD Ryzen 7 4800H แบบ 8 คอร์ 16 เธรด ความเร็ว 2.9-4.2 GHz กับการ์ดจอ NVIDIA GeForce GTX 1660 Ti แรม 6GB GDDR6 กับแรม 8GB DDR4 บัส 3200 MHz ส่วนฮาร์ดดิสก์เป็น M.2 NVMe ความจุ 512GB ติดตั้ง Windows 10 Home (64-bit) มาให้ในตัว ถ้าต้องการอัพเกรดก็เพิ่มแรม, M.2 NVMe และ SATA III SSD 2.5″ ได้อย่างละ 1 ช่อง ส่วนหน้าจอมีขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 144 Hz เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตได้ด้วย Wi-Fi 5 มาตรฐาน 802.11ac และ Bluetooth 5.0 ส่วนรายละเอียดเชิงลึกสามารถอ่านรีวิวได้ที่นี่เลย

สเปคของ Asus TUF Gaming A15 FA506IU-HN174TS
  • ซีพียู AMD Ryzen 7 4800H แบบ 8 คอร์ 16 เธรด ความเร็ว 2.9-4.2 GHz
  • การ์ดจอ NVIDIA GeForce GTX 1660 Ti แรม 6GB GDDR6
  • ฮาร์ดดิสก์แบบ M.2 NVMe ความจุ 512GB
  • แรม 8GB DDR4 บัส 3200 MHz
  • ระบบปฏิบัติการ Windows 10 Home (64-bit), Microsoft Office Home & Student 2019
  • หน้าจอขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 144 Hz
  • ต่ออินเตอร์เน็ตผ่าน Wi-Fi 5 มาตรฐาน 802.11ac รองรับ Bluetooth 5.0
  • ราคา 33,900 บาท (JIB)
3. Lenovo Legion 5-82B10043TA (35,690 บาท)

legion

ถ้าพูดถึง Notebook GTX 1660 Ti ของ Lenovo ต้องเป็น Lenovo Legion 5-82B10043TA ที่ทั้งแรงเล่นเกมได้สบาย ๆ ใส่ระบายความร้อนประสิทธิภาพสูงมาให้ ซึ่งถ้าเกมเมอร์คนไหนชอบนั่งเล่นเกมต่อเนื่องหลาย ๆ ชั่วโมง เน้นความเสถียรและเย็นเป็นหลักก็ควรมองทาง Lenovo Legion เป็นรุ่นแรก ๆ 

สเปคของเครื่องนี้ติดตั้งซีพียู AMD Ryzen 7 4800H แบบ 8 คอร์ 16 เธรด ความเร็ว 2.9-4.2 GHz คู่กับการ์ดจอ NVIDIA GeForce GTX 1660 Ti แรม 6GB GDDR6 ส่วนแรมในตัวเครื่องให้มา 16GB DDR4 บัส 3200 MHz จัดว่าเยอะเพียงพอต่อการเล่นเกมและทำงานทั่ว ๆ ไปแล้ว มีฮาร์ดดิสก์ M.2 NVMe ความจุ 512GB ติดตั้งระบบปฏิบัติการ Windows 10 Home (64-bit) มาให้แล้ว ส่วนหน้าจอมีขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 144 Hz เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตด้วย Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.0 จัดว่าครบเครื่อง ไม่ต้องอัพเกรดอะไรเพิ่มเลยก็ยังได้

สเปคของ Lenovo Legion 5-82B10043TA
  • ซีพียู AMD Ryzen 7 4800H แบบ 8 คอร์ 16 เธรด ความเร็ว 2.9-4.2 GHz
  • การ์ดจอ NVIDIA GeForce GTX 1660 Ti แรม 6GB GDDR6
  • ฮาร์ดดิสก์แบบ M.2 NVMe ความจุ 512GB
  • แรม 16GB DDR4 บัส 3200 MHz
  • ระบบปฏิบัติการ Windows 10 Home (64-bit)
  • หน้าจอขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 144 Hz
  • ต่ออินเตอร์เน็ตผ่าน Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.0
  • ราคา 34,790 บาท (Advice)
4. Acer Nitro 5 AN515-55-77UK (35,690 บาท)

acer

ส่วนของ Acer เองก็มี Notebook GTX 1660 Ti เช่นกัน โดยอยู่ในตระกูล Nitro 5 รุ่น Acer Nitro 5 AN515-55-77UK ที่ออกแบบมาเพื่อเกมเมอร์ ซึ่งสเปคถือว่าจัดเต็มและใส่ระบบระบายความร้อนประสิทธิภาพสูงมาให้แบบครบเครื่อง ตอบโจทย์เกมเมอร์สายเน้นคุ้มเป็นหลักและได้คุณภาพงานประกอบดี ก็แนะนำดูรุ่นนี้เอาไว้เลย

ซีพียูของเครื่องนี้เป็น Intel Core i7-10750H แบบ 6 คอร์ 12 เธรด ความเร็ว 2.6-5.0 GHz จับคู่กับ NVIDIA GeForce GTX 1660 Ti แรม 6GB GDDR6 มีแรม 16GB DDR4 บัส 2933 MHz ติดตั้งมาให้ครบเครื่อง ส่วนฮาร์ดดิสก์เป็น M.2 NVMe ความจุ 512GB พร้อม Windows 10 Home (64-bit) ด้วย ส่วนหน้าจอมีขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 144 Hz เช่นกัน เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตผ่านทาง Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax กับ Bluetooth 5.0 ด้วย ซึ่งจุดสังเกตหลัก ๆ มีเพียงเรื่องคีย์บอร์ดของรุ่นนี้ยังเป็นแบบแสงสีแดงอย่างเดียว ไม่เป็น RGB เหมือนกับ Nitro 5 รุ่นใหม่ ๆ เท่านั้น

สเปคของ Acer Nitro 5 AN515-55-77UK
  • ซีพียู Intel Core i7-10750H แบบ 6 คอร์ 12 เธรด ความเร็ว 2.6-5.0 GHz
  • การ์ดจอ NVIDIA GeForce GTX 1660 Ti แรม 6GB GDDR6
  • ฮาร์ดดิสก์แบบ M.2 NVMe ความจุ 512GB
  • แรม 16GB DDR4 บัส 2933 MHz
  • ระบบปฏิบัติการ Windows 10 Home (64-bit)
  • หน้าจอขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 144 Hz
  • ต่ออินเตอร์เน็ตผ่าน Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.0
  • ราคา 35,690 บาท (Advice)
5. DELL G3 15 3500-W56637200THAD (38,400 บาท)

dell

เกมเมอร์ที่ชื่อนชอบในแบรนด์ DELL อยากได้ Notebook GTX 1660 Ti ล่ะก็ ต้องขยับงบประมาณมาเลือกเป็น DELL G3 15 3500-W56637200THAD รุ่นนี้ ซึ่งทาง Notebookspec เคยทำรีวิวไปแล้ว ซึ่งถ้าต้องการรายละเอียดเชิงลึกก็สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้เลย ส่วนข้อดีคือตัวเครื่องสามารถระบายความร้อนได้ดี, อัพเกรดเพิ่ม SATA III SSD 2.5″ กับแรมเพิ่มได้อีกอย่างละ 1 ช่อง และมี Microsoft Office Home & Student 2019 ติดตั้งมาให้ด้วย จัดเป็นรุ่นที่ครบเครื่องทั้งด้านทำงานและเล่นเกมรุ่นหนึ่ง

ซีพียูในเครื่องนี้เป็น Intel Core i7-10750H แบบ 6 คอร์ 12 เธรด ความเร็ว 2.6-5.0 GHz กับการ์ดจอ NVIDIA GeForce GTX 1660 Ti แรม 6GB GDDR6 ใส่ฮาร์ดดิสก์ M.2 NVMe ความจุ 512GB มาพร้อมติดตั้ง Windows 10 Home (64-bit) มาให้ในตัว ส่วนแรมในเครื่องมีความจุ 16GB DDR4 บัส 2933 MHz หน้าจอมีขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS เช่นรุ่นอื่น ๆ แต่ค่า Refresh Rate จะอยู่ที่ 120 Hz เท่านั้น เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตได้ผ่าน Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.0 ด้วย

สเปคของ DELL G3 15 3500-W56637200THAD
  • ซีพียู Intel Core i7-10750H แบบ 6 คอร์ 12 เธรด ความเร็ว 2.6-5.0 GHz
  • การ์ดจอ NVIDIA GeForce GTX 1660 Ti แรม 6GB GDDR6
  • ฮาร์ดดิสก์แบบ M.2 NVMe ความจุ 512GB
  • แรม 16GB DDR4 บัส 2933 MHz
  • ระบบปฏิบัติการ Windows 10 Home (64-bit), Microsoft Office Home & Student 2019
  • หน้าจอขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 120 Hz
  • ต่ออินเตอร์เน็ตผ่าน Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.0
  • ราคา 38,400 บาท (Advice)
6. HP Omen Gaming 15-ek0122TXTX (39,900 บาท)

hp

Notebook GTX 1660 Ti ของ HP จะเป็น HP Omen Gaming 15-ek0122TXTX รุ่นนี้ ที่ถึงราคาจะแพงสุดในกลุ่มมีแรม 8GB ซึ่งควรเพิ่มเป็น 16GB ก็ตาม แต่สเปคอื่น ๆ ถือว่าน่าสนใจทีเดียว ได้แก่ คีย์บอร์ดไฟ RGB 4 Zone, M.2 NVMe พร้อม Intel Optane 32GB สำหรับใช้แคชข้อมูลที่ใช้งานอยู่บ่อย ๆ ช่วยให้ Windows เรียกโปรแกรมนั้น ๆ ขึ้นมาได้เร็วขึ้น และมี DisplayPort เอาไว้ต่อจอเสริมได้ด้วย ดังนั้นถ้าใครอยากต่อจอเกมมิ่งดี ๆ สักตัวก็ไม่มีปัญหา

ซีพียูก็ใช้เป็น Intel Core i7-10750H แบบ 6 คอร์ 12 เธรด ความเร็ว 2.6-5.0 GHz จับคู่กับการ์ดจอ NVIDIA GeForce GTX 1660 Ti แรม 6GB GDDR6 เหมือนเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ครุ่นอื่น ๆ ที่เป็นรุ่นแนะนำในบทความ Notebook GTX 1660 Ti นี้ แต่ฮาร์ดดิสก์ M.2 NVMe 512GB นั้นติดตั้ง Intel Optane 32GB มาให้ในตัวพร้อม Windows 10 Home (64-bit) มีแรม 8GB DDR4 บัส 2933 MHz หน้าจอมีขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 144 Hz เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตด้วย Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.0 ซึ่งถ้าเพิ่มแรมสักหน่อย HP Omen Gaming 15 เครื่องนี้ก็ถือว่าสมบูรณ์แบบแล้ว

สเปคของ HP Omen Gaming 15-ek0122TXTX
  • ซีพียู Intel Core i7-10750H แบบ 6 คอร์ 12 เธรด ความเร็ว 2.6-5.0 GHz
  • การ์ดจอ NVIDIA GeForce GTX 1660 Ti แรม 6GB GDDR6
  • ฮาร์ดดิสก์แบบ M.2 NVMe ความจุ 512GB กับ Intel Optane 32GB
  • แรม 8GB DDR4 บัส 2933 MHz
  • ระบบปฏิบัติการ Windows 10 Home (64-bit)
  • หน้าจอขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 144 Hz
  • ต่ออินเตอร์เน็ตผ่าน Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.0
  • ราคา 39,900 บาท (JIB)

สรุปสเปคและความแรงของ Notebook GTX 1660 Ti ทุกรุ่น ตัวไหนน่าซื้อบ้าง?

จะเห็นว่า Notebook GTX 1660 Ti นั้นจะมีให้เลือกหลากหลายรุ่นทีเดียว แม้จะมีการ์ดจอซีรี่ส์ GeForce RTX 3000 Series มาแล้ว แต่ก็ยังใช้เล่นเกมได้ดีไม่แพ้กัน สำหรับสเปคโดยสรุปของโน๊ตบุ๊คทุกเครื่องที่ผู้เขียนเลือกมาจะเป็นดังนี้

สเปค Notebook GTX 1660 Ti CPU การ์ดจอ RAM ฮาร์ดดิสก์ หน้าจอ การเชื่อมต่อและระบบปฏิบัติการ ราคา
MSI GF65 THIN 10SDR-1016TH Intel Core
i7-10750H

NVIDIA GeForce
GTX 1660 Ti แรม 6GB GDDR6

8GB DDR4
บัส 2666 MHz
M.2 NVMe ความจุ 512GB 15.6 นิ้ว

Full HD IPS

Refresh Rate 144 Hz 

Wi-Fi 6

Bluetooth 5.1

Windows 10 Home

30,390 บาท
ASUS TUF GAMING A15 FA506IU-HN174TS AMD Ryzen 7 4800H 8GB DDR4 บัส 3200 MHz M.2 NVMe ความจุ 512GB 15.6 นิ้ว

Full HD IPS

Refresh Rate 144 Hz

Wi-Fi 5

Bluetooth 5.0

Windows 10 Home

Microsoft Office Home & Student 2019

33,900 บาท
LENOVO LEGION 5-82B10043TA AMD Ryzen 7 4800H 16GB DDR4 บัส 3200 MHz M.2 NVMe ความจุ 512GB 15.6 นิ้ว

Full HD IPS

Refresh Rate 144 Hz

Wi-Fi 6

Bluetooth 5.0

Windows 10 Home

34,790 บาท
ACER NITRO 5 AN515-55-77UK Intel Core
i7-10750H
16GB DDR4 บัส 2933 MHz M.2 NVMe ความจุ 512GB 15.6 นิ้ว

Full HD IPS

Refresh Rate 144 Hz

Wi-Fi 6

Bluetooth 5.0

Windows 10 Home

35,690 บาท
DELL G3 15 3500-W56637200THAD Intel Core
i7-10750H
16GB DDR4 บัส 2933 MHz M.2 NVMe ความจุ 512GB 15.6 นิ้ว

Full HD IPS

Refresh Rate 120 Hz

Wi-Fi 6

Bluetooth 5.0

Windows 10 Home

Microsoft Office Home & Student 2019

38,400 บาท
HP OMEN GAMING 15-EK0122TXTX Intel Core
i7-10750H
8GB DDR4 บัส 2933 MHz M.2 NVMe ความจุ 512GB

Intel Optane 32GB

15.6 นิ้ว

Full HD IPS

Refresh Rate 144 Hz

Wi-Fi 6

Bluetooth 5.0

Windows 10 Home

39,900 บาท

ถ้าดูเรียงตามรุ่นแล้ว จะเห็นว่า Notebook GTX 1660 Ti แต่ละเครื่องที่เลือกมาแนะนำ จะมีจุดเด่นต่างกัน ทั้งความคุ้มค่า, สเปค และโปรแกรมที่แถมมาให้ ซึ่งบางเครื่องก็มี Microsoft Office Home & Student 2019 ติดตั้งมาจากโรงงาน ซึ่งถ้าใครอยากซื้อโน๊ตบุ๊คมาแทนเกมมิ่งพีซีตัวเก่า แล้วจะใช้เป็นคอมทำงานด้วยเลยก็ได้ หรือถ้าใครมีโปรแกรมแบบถูกลิขสิทธิ์อยู่แล้ว ก็เลือกตัวแรงที่ตอบโจทย์ไปเลยก็ถือว่าจบในตัวเช่นกัน


บทความที่เกี่ยวข้อง

kickstand cover

nvme1tb cover

gaming monitor

from:https://notebookspec.com/web/596257-6-notebook-gtx-1660-ti-for-gaming

รีวิว ASUS TUF Dash F15 สเปก I5-11300H + RTX 3050 Ti ราคา 29,990 บาท ได้จอ 15.6″ IPS 144Hz แรงลื่น บางเบา 2 โล แบต 11 ช.ม. ฟีเจอร์ Gaming

ASUS TUF Dash F15 FX516 เป็น Gaming Notebook เน้นพกพก ราคาไม่แพง สเปกแรง มาในดีไซน์การออกแบบที่บางเบากว่า TUF Gaming ปกติ เพราะมีการใช้ DNA ของ ROG เพิ่มเข้ามา สเปกใหม่ล่าสุดด้วยชิปประมวลผล Intel Core i Gen 11 สถาปัตยกรรม Tiger Lake H35 อย่าง Core i5-11300H ตัวแรงประสิทธิภาพสูงแต่ร้อนน้อยกว่ารุ่นก่อนๆ เทคโนโลยี 10 นาโนเมตร SuperFin ที่ดีขึ้นในทุกๆ ด้าน เรียกได้ว่ามีการพัฒนาอย่างแท้จริง

ASUS TUF Dash F15

ส่วนการ์ดจอ NVIDIA GeForce RTX 3050 Ti รุ่นใหม่เช่นกัน จัดเต็มเรื่องของการทำงานและการเล่นเกม ที่เหนือชั้นกว่า RTX 16 Series จากการที่เป็นโน๊ตบุ๊คราคาคุ้มค่าของ ASUS สาย Gaming ที่เน้นความพรีเมียม การพกพาไปใช้งานนอกสถานที่ แบตยาวนานสูงสุดกว่า 11:30 ชั่วโมง ทำงานก็ดีเยี่ยมเล่นเกมก็ได้ดีกว่าเดิมมากๆ แสดงผลผ่านทางหน้าจอ 15.6″ Full HD IPS ที่ Refesh Rate 144 Hz

รุ่นนี้ที่เรานำมารีวิวจะเป็น ASUS TUF Dash F15 รุ่นราคาอยู่ที่ 29,990 บาท ส่วนสเปกอื่นๆ ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน มาพร้อมกับแรมขนาด 8GB ที่ดีเยี่ยมกว่ารุ่นก่อน อีกทั้งได้ที่เก็บข้อมูลมาเป็นแบบ SSD M.2 ความจุ 512GB พร้อมระบบปฏิบัติการ Windows 10 Home ประกันก็เป็น 2 ปีตามาตรฐาน ASUS ที่สามารถเคลมผ่านทางร้าน 7-11 ได้ และประกันอุบัติเหตุในปีแรกด้วย นับได้ว่าเป็น Gaming Notebook ปี 2021 ที่น่าซื้อที่สุดรุ่นนึงทีเดียว

NBS Verdict

ASUS TUF Dash F15 FX516 รุ่นราคาถูกที่สุด นับว่าเป็นมาตรฐาน Gaming Notebook บางเบาพกพาสะดวกยุคใหม่ที่จัดเต็มในทุกๆ มิติ โดยใช้ชิปประมวลผล Intel Core i5-11300H ซึ่งได้เทคโนโลยีการผลิตที่ 10 นาโนเมตร SuperFin สถาปัตยกรรม Tiger Lake-H ส่งผลให้แรงขึ้นแต่ร้อนน้อยลง โดยเป็นแบบ 4 คอร์ 8 เธรด ประสิทธิภาพดีแต่กินไฟต่ำกว่า พร้อมกับมีเทคโนโลยี Intel Deep Learning Boots ทำหน้าที่เป็น AIในตัวช่วยทำงานบางโปรแกรมที่รองรับ

ได้การ์ดจอออนชิป Iris Xe Graphics ที่สร้างมาตรฐานประสิทธิภาพที่มากกว่าชิปประมวลผลรุ่นก่อนๆ อีกทั้งยังได้แรมมาตรฐานเป็น Bus 3200MHz ขนาด 8GB ซึ่งก็เป็นส่วนช่วยเรื่องของประสิทธิภาพที่สำคัญทีเดียว พร้อมพอร์ต Thunderbolt 4 ที่สำคัญคือจัดการอุณหภูมิได้ดีด้วย จากเทคโนโลยีการระบายความร้อนที่ดีและเทคโนโลยีฮาร์ดแวร์ต่างๆ ที่ดียิ่งขึ้น ก็ถือว่าให้ประสบการณ์ใช้งานที่เยี่ยมยอด 

ASUS TUF Dash F15

ที่นอกจากชิปประมวลผลตัวแรงแล้ว การ์ดจอแยกก็ใช้เป็นรุ่นที่ประสิทธิภาพแรงลื่นระดับสูงอย่าง NVIDIA GeForce RTX 3050 Ti ซึ่งก็สามารถทำงานประสานร่วมกันเป็นอย่างดี มาแทนที่ GTX 1660 Ti เป็นหลัก พร้อมด้วย SSD M.2 NVMe PCIe ความจุ 512GB ที่ได้ความเร็วระดับ 3500 MB/s อีกทั้งได้หน้าจอพาเนล IPS ที่ Refresh Rate 144Hz พร้อม Adaptive Sync ร่วมไปถึงฟีเจอร์อื่นๆ ด้วยตัวเครื่องบางเบาพกพาสะดวก แบตยาวนานกว่า 11:30 ชั่วโมง 

เรียกได้ว่าใครกำลังมอง Gaming Notebook ตัวแรงลื่นรุ่นใหม่ล่าสุด ที่อยากได้ดีไซน์เรียบหรูดูดี เบาแค่ 2 โล ตัวเครื่องแข็งแรงทนทานมาตรฐานมาตรฐานแบบกองทัพ MIL-STD-810H ทำงานก็สะดวกเล่นเกมก็ลื่นไหล ก็ขอแนะนำให้ไปซื้อ ASUS TUF Dash F15 กันได้เลย ในงบประมาณไม่เกิน 30,000 บาท จัดว่าน่าซื้อจริงๆ เอาไปทำงานก็แรงลื่น หรือเอาไปเล่นเกมก็ตอบโจทย์แน่นอน 

ASUS TUF Dash F15

แม้ว่าจะไม่มีกล้องเว็บแคมในตัวตามสไตล์ของ ROG Zephyrus ที่เป็นต้นแบบมา และแรมเป็นแบบฝังบอร์ดมา 1 แถว และที่ต้องรู้ไว้คือหน้าจอ IPS 144Hz นั้นให้ค่าขอบเขตสีที่น้อยกว่ารุ่น IPS 240Hz ด้วย แต่นอกนั้นก็ต้องบอกว่าสมบูรณ์แบบจริงๆ ด้วยราคา 29,990 บาทก็ถือว่าคุ้มค่าน่าซื้อกว่ารุ่นปีก่อนๆ เยอะทีเดียว โดยพร้อมวางจำหน่ายผ่านทางตัวแทนจำหน่ายชั้นนำทั่วประเทศตามช่องทางอื่นๆ แล้วด้วย 

จุดเด่น ASUS TUF Dash F15

  • ดีไซน์การออกแบบสวยงามถูกใจตามสไตล์ TUF + ROG Zephyrus งานประกอบแน่นวัสดุดี
  • ขอบหน้าจอบางพิเศษ มิติเทียบเท่ารุ่น 14″ ตัวเครื่องเบา 2 กิโลกรัม และบางที่ 19.9 มิลลิเมตร
  • ตัวเครื่องแข็งแรงทนทานกว่าปกติ ด้วยมาตรฐานแบบกองทัพ MIL-STD-810H
  • ประสิทธิภาพสูงด้วยชิปประมวลผลสถาปัตยกรรมรุ่นใหม่อย่าง Intel Tiger Lake H35 แรงลื่นกว่า ร้อนน้อยกว่า
  • การ์ดจอแยกตัวแรงรุ่นล่าสุด NVIDIA GeForce RTX 3050 Ti มาแทนที่ GTX 1660 Ti รุ่นก่อน
  • ติดตั้ง SSD M.2 NVMe PCI ความจุ 512GB ความเร็วแรงสูง รองรับการอัพเกรดอีก 1 สล็อต
  • อุณหภูมิในการใช้งานถือว่าจัดการได้ดี ไม่ร้อนจนเกินไป มีระบบไล่ฝุ่นอัตโนมัติ
  • พอร์ตการเชื่อมต่อครบครันด้วย Thunderbolt 4 โอนถ่ายข้อมูลความเร็วสูง 40Gb/s รองรับต่อหน้าจอ 4K / 8K / ชาร์ไฟด้วย USB PD ได้
  • แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานกว่า 11:30 ชั่วโมง
  • มีซอฟต์แวร์ Armory Crate เวอร์ชั่นใหม่มาช่วยปรับแต่งการใช้งาน
  • มาพร้อม Windows 10 Home ใช้งานได้ทันที มีความสเถียร์ของไดร์เวอร์
  • ประสบการณ์ใช้งานดีเยี่ยม ประทับใจมาก เมื่อเทียบกับราคา
  • ประกัน 2 ปี ส่งศูนย์แบบทั่วโลก พร้อมฝากส่งเคลม 7-11 และมีประกันอุบัติเหตุ 1 ปี

ข้อสังเกต ASUS TUF Dash F15

  • ไม่มี SD Card Reader แต่พอหาซื้อมาเป็นอุปกรณ์เสริมเพิ่มได้
  • ไม่มีกล้องเว็บแคม ถ้าใช้งานต้องหามาติดตั้งเอง
  • แรมออนบอร์ดขนาด 8GB มา 1 แถว รองรับการใส่ได้อีกแค่ 1 แถว
  • ได้หน้าจอพาเนล IPS คุณภาพดีระดับกลางๆ ต่างจากสเปก 240Hz

Specification

ASUS TUF Dash F15 ที่ได้รับมารีวิวเป็นเครื่องขายจริงรุ่นเริ่มต้น มาพร้อมกับชิปประมวลผล Intel Core i5-11300H เป็นสถาปัตยกรรม Tiger Lake H35 เทคโนโลยีการผลิตที่ 10 นาโนเมตร SuperFin ที่เหนือชั้น ความเร็ว 2.60 – 4.40 GHz แบบ 4 Core/ 8 Thread ผสานกับการ์ดจอออนบอร์ดที่เป็น Iris Xe Graphics ที่นับว่าดีที่สุด รองรับการแสดงผล 4K / 8K ส่วนการ์ดจอแยกจะเป็น NVIDIA GeForce RTX 3050 Ti Max-P (4GB GDDR6) เพื่อมาแทนที่ GTX 1660 Ti รุ่นก่อนๆ

ในส่วนของแรมได้มาขนาด 8GB Bus 3200MHz แบบ Singer Channel ที่ออนบอร์ดมาแล้ว มาพร้อมกับที่เก็บข้อมูลแบบ SSD M.2 NVMe PCIe ความจุ 512GB ที่มีความลื่นไหลแบบสุดๆ อีกทั้งยังรองรับการติดตั้งอัพเกรดเพิ่ม SSD M.2 มาให้อีก 1 ช่อง โดดเด่นกว่ารุ่นก่อนหน้าคือได้หน้าจอขนาด 15.6″ ความละเอียด Full HD ที่ 1920 x 1080 พิกเซล พาเนล IPS เกรดคุณภาพสูง รองรับ Refresh Rate ที่ 144Hzให้ความลื่นไหลอย่างที่สุดด้วย พร้อมเทคโนโลยี Adaptive Sync ทำให้ภาพไม่ฉีกขาด (Tearing)

Asus TUF Gaming Dash F15 FX516PE HN004T

นอกจากนี้รายละเอียดอื่นๆ ของ ASUS TUF Dash F15 ก็จะมีระบบเสียง DTS:X Ultra และระบบตัดเสียงรบกวนสองทางขับเคลื่อนด้วย AI ขั้นสูง พร้อมพอร์ตการเชื่อมต่อครบครัน ทั้ง 3 x USB 3.2 Gen 2 Type-A และ Thunderbolt 4 ที่เป็นพอร์ตที่ดีที่สุด ระบบการเชื่อมต่อไร้สายเป็นมาตรฐานใหม่อย่าง Intel Wi-Fi 6 AX (2×2) และ Bluetooth 5.1 พร้อมติดจั้งระบบปฎิบัติการติดตั้ง Windows 10 Home และซอฟต์แวร์ Utility อย่าง Armory Crate มาให้ในตัว โดยมีข้อสังเกตที่น่าสนใจคือไม่ได้ติดตั้งกล้องเว็บแคมมา ถ้าใครจะใช้ต้องหามาติดตั้งเอง

การรับประกัน 2 ปีแบบทั่วโลก ที่สำคัญเมื่อเอาซีเรียลไปลงทะเบียนในเว็บไซต์ ASUS จะได้รับประกันอุบัติเหตุฟรี 1 ปีแรกจากทาง ASUS อีกด้วย อุ่นใจจัดเต็ม จัดได้ว่าเป็นมาตรฐานการรับประกันของทาง ASUS ปกติ สนนราคาของ ASUS TUF Dash F15 เริ่มต้นอยู่ที่ 29,990 บาทเท่านั้น ซึ่งมีเพียงรุ่นเดียวที่เป็นชิปประมวลผล Intel Core i5-11300H ซึ่งมีความแตกจากรุ่นอื่นๆ ในเรื่องความจุ SSD / การ์ดจอ RTX / คุณภาพหน้าจอด้วย 

ASUS TUF Gaming Dash F15 FX516PE-HN004T ราคา 29,990 บาท (ดูสเปคทั้งหมดคลิ้ก)

  • CPU : Intel Core i5-11300H (4C/8T & 2.60 – 4.40GHz)
  • GPU : Intel Iris Xe Graphics + NVIDIA GeForce RTX 3050 Ti (4GB GDDR6)
  • RAM : 8GB DDR4 Bus 3200 MHz
  • DISPLAY: 15.6″ IPS Full HD 144Hz 
  • STORAGE : SSD M.2 NVMe PCIe 512GB
  • OS : Windows 10 Home 
  • Warranty : 2 Y Carry-in + Perfect Warranty 1Y

Hardware / Design

ASUS TUF Dash F15 เป็นหนึ่งในซีรีส์ TUF ที่มีความใกล้เคียง ROG ไปอีกขั้น จากการที่นำดีไซน์ที่เน้นความบางเบามากกว่า Gaming Notebook ทั่วไป โดยมีความบางสุดที่ 19.9 มิลลิเมตร มาพร้อมน้ำหนักเบาที่ 2 กิโลกรัม รวมไปถึงแบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานกว่า Gaming Notebook ทั่วไปกับขนาดหน้าจอขอบบางที่ 6.2 มิลลิเมตร  สัดส่วนเป็น 81% ทำให้มิติโดยรวมมีความเล็กกระชับพกพาได้สะดวกยิ่งกว่ากับหน้าจอขนาด 15.6″ ความละเอียด Full HD พาเนล IPS โดยสเปกนี้รองรับ Refresh Rate ที่ 144Hz

การออกแบบหลักๆ เน้นความดุดันแต่ก็มีความเรียบง่าย พร้อมแข็งแกร่งสไตล์ TUF ที่ย่อมาจาก The Ultimate Force ด้วยวัสดุเป็นโลหะฝาหลังเป็นอลูมิเนียมอัลลอยด์พร้อมลวดลาย TUF ขนาดใหญ่ที่ขอบซ้าย พร้อมโลโก้แบบใหม่ที่มุมขวาบน พร้อมกันนั้นยังมี V-Shaped ที่ขอบด้านล่าง ทำให้ไม่บดบังช่องระบายความร้อน ที่นับว่าเป็น DNA ของโน้ตบุ๊คเล่นเกมของ ASUS เรียกได้ว่าดูเป็น Gamer สายจริงจังขั้นกว่า ที่นำไปพกพาทำงานก็ลงตัวสุดๆ ดูแล้วไม่ได้มีความเป็น Gaming เกินไปนัก 

ASUS TUF Dash F15 FX516 i5 RTX3060 Review 26

แน่นอนว่าตัวเครื่องเลือกใช้วัสดุเป็นโลหะทั้งหมดของชิ้นส่วนฝาหลัง ซึ่งด้านในก็น่าสนใจไม่แพ้กันกับการเป็นพลาสติกคุณภาพสูง มีความแข็งแรงทนทาน ผ่านมาตรฐาน Military-Gradeได้รับการทดสอบเพื่อให้ได้คุณภาพตรงตามมาตรฐานกองทัพ US MIL-STD-810G ที่มีความเข้มงวดเป็นพิเศษ ให้ความมั่นใจในความทนทานต่อการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นการตกกระแทก แรงสั่นสะเทือน หรือแม้แต่การใช้งานเครื่องในสภาวะที่มีอุณหภูมิสูงและต่ำเป็นพิเศษ โดยยังคงไว้ซึ่งความพรีเมียม ระบบระบายความร้อนที่มีความล้ำหน้าไม่เป็นรอง ROG Series เลย

ตัวเครื่องในทุกมิติเน้นความเป็นทรงแบบเหลี่ยมมุมตลอดทั้งตัวเครื่อง เรียกได้ว่าแทบไม่มีความโค้งเว้าใดๆ ซึ่งดูแล้วมีความสมมาตรลงตัว ขอบของตัวเครื่องรวมไปถึงขอบด้านหลังนั้นถูกออกแบบมุมมาเป็นอย่างดี พร้อมรูปแบบขอบหน้าจอเป็นแบบบานพับสองแกนดูแล้วแข็งทนทานกางหน้าจอได้ประมาณ 145 องศา พร้อมเว้นขอบเอาไว้โชว์ไฟแสดงไฟ LED การทำงานต่างๆ ส่วนด้านท้ายและขอบเครื่องทางขวาจะเห็นถึงช่องระบายความร้อนขนาดใหญ่ 4 ช่อง 2 สองพัดลมขนาดใหญ่ ทำงานร่วมกับระบบ ASUS Intelligent Cooling

ASUS TUF Dash F15 FX516 i5 RTX3060 Review 35

ส่วนด้านฐานของตัวเครื่องวัสดุพลาสติกที่แข็งแรง งานประกอบเรียบร้อย พร้อมอากาศเย็นผ่าน โดยมีช่องดูดลมเย็นขนาดใหญ่ด้านล่างใต้เครื่อง และยางรองด้านหลังช่วยยกตัวเครื่องให้สูงยิ่งขึ้นไปอีก อีกทั้งยังมีช่องด้านบนเหนือคีย์บอร์ดมีช่องดูดลมอีกช่องช่วยนำพาอากาศเย็นเข้าไปอีก อีกทั้งมีระบบไล่ฝุ่นอัตโนมัติ Anti-Dust Cooling ส่งผลให้ไม่มีความร้อนสะสมขึ้นในอนาคต พัดลมคู่ n-Blade หมุนใบพัดมากถึง 83 ใบ เทคโนโลยี Liquid-Crystal Polymer ที่มีความยืดหยุ่นสูง ซึ่งทำงานร่วมกับท่อความร้อนจำนวน 5 ท่อดึงความร้อนออกจาก CPU / GPU ได้เต็มประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

จุดเด่นที่สุดของ ASUS TUF Dash F15 ที่เป็น Gaming Notebook รุ่นแรกที่มาพร้อมกับชิปประมวลผล Intel Core i Gen 11 สถาปัตยกรรม Tiger Lake-H35 ที่ทั้งแรงร้อนน้อยและประหยัดแบต ได้ตัวบางเบาแต่แรง พร้อมติดตั้งการ์ดจอ NVIDIA GeForce RTX 30 Series โดยทั้งคู่จะมีสติ๊กเกอร์ติดไว้ที่ตัวเครื่องบริเวณที่วางข้อมือพร้อมฟีเจอร์อื่นๆ อย่างชัดเจน นอกจากนั้นยังมีเรื่องของสติ๊กเกอร์การรับประกันแบบ Prefect Warranty ระยะเวลา 1 ปีจากทาง ASUS ที่เป็นอุบัติเหตุตัวเครื่องอย่างที่ไม่มีใครเหมือนด้วย

ASUS TUF Dash F15 FX516 i5 RTX3060 Review 49

อย่างไรก็ตามแม้ ASUS TUF Dash F15 จะอยู่บนพื้นฐานการออกแบบของตระกูล TUF ที่เน้นสายเกมเมอร์เป็นหลักด้วยสเปกภายในที่ทรงประสิทธิภาพทั้งชิปประมวลผลและการ์ดจอแยก พร้อมรองรับสำหรับคนที่นำไปทำงานเบาๆ พร้อมทำงานหนักๆ ได้เต็มรูปแบบ รวมไปถึงพกพาไปใช้งานนอกสถานที่ จากฟีเจอร์ และสเปกแรงล้ำกว่ารุ่นก่อนๆ รวมไปถึงหน้าจอก็ใหญ่ที่ 15.6″ แต่ตัวเครื่องเทียบเท่า 14″ ทำให้ใช้งานได้เต็มตามากขึ้น แม้ดีไซน์รวมๆ มีกลิ่นอายคล้ายกับ ROG Zephyrus G15 รุ่นปีก่อน แต่ก็มีการปรับหลายๆ ส่วนให้ดียิ่งขึ้น 

สรุปสั้นๆ สำหรับการดีไซน์และออกแบบตัวเครื่องของ ASUS TUF Dash F15 ต้องบอกว่า ASUS ทำการบ้านมาเป็นอย่างดี ด้วยวัสดุคุณภาพสูงและสวยงามน่าประทับใจ ประกอบกับการดีไซน์ที่ตอบสนองความต้องการของเกมเมอร์ที่ต้องการ Gaming Notebook บางเบาได้อย่างลงตัว ส่งผลให้เสริมประสบการณ์ใช้งานยิ่งขึ้นไปอีก จากแต่ก่อนแทบเป็นไปไม่ได้ที่ความแรงระดับนี้ จะอยู่บนตัวเครื่องที่บางและเบาแบบนี้ แต่ตอนนี้ทาง ASUS ทำออกมาได้แล้ว ในประสิทธิภาพและฟีเจอร์ที่ล้ำหน้ากว่า ในราคาที่จัดว่าคุ้มค่ามากๆ

Keyboard / Touchpad

ASUS TUF Dash F15 เป็นคีย์บอร์ดมีไฟ LED สีฟ้าสีเดียว กับสีที่บ่งบอกถึง TUF รุ่นนี้ ให้ความสะดวกด้วยปุ่ม Spacebar ด้านมุมล่างซ้ายก็ทำแหว่งออกมานิดหนึ่งเพื่อให้ใช้นิ้วโป้งซ้ายกดง่ายขึ้น แต่ละปุ่มมีมุมโค้งขนาด 0.25 มิลลิเมตร เข้ากับนิ้วมือเวลากดลงไปสุดๆ โดยระยะของปุ่มที่เลื่อนลงไปเพียง 1.7 มิลลิเมตร อีกทั้งปุ่มรุ่นใหม่นี้ยังช่วยให้การพิมพ์มีเสียงรบกวนต่ำกว่า 30 เดซิเบลด้วยกัน

พร้อมเทคโนโลยี OverStroke เพื่อการกดรัวที่ดียิ่งขึ้นด้วยปุ่ม N-key rollover & anti-ghosting และอายุคีย์บอร์ดที่สามารถกดได้ 20 ล้านครั้ง รวมถึงสามารถมีฟังก์ชั่น Hot Key เพิ่มลดเสียง เปิดปิดไมค์ และเรียกซอฟต์แวร์ Armory Crate ขึ้นมา ซึ่งตัวปุ่มต่างๆ ออกแบบมาสำหรับเกมเมอร์หรือคนทำงานอย่างแท้จริง

ASUS TUF Dash F15 FX516 i5 RTX3060 Review 6

ทัชแพดเองขนาดใหญ่แบบซ้อนปุ่ม ซึ่งการใช้งานสามารถใช้งานได้อย่างราบรื่นสะดวกสบาย ปุ่มนุ่มกดง่าย การใช้งานจัดได้ว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจมาก ตัวซอฟต์แวร์ควบคุมก็ช่วยจัดการได้ดี ฟีเจอร์ Multi-touch หรือ Smart Gesture ที่สามารถใช้งานควบคู่กับ Windows 10 ได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญมีในส่วนของปุ่มลัดบนคีย์บอร์ดอย่าง F5 ทำให้ผู้ใช้สามารถสลับเปลี่ยนโหมดการใช้งานระหว่าง Turbo mode สำหรับประสิทธิภาพในการเล่นเกมระดับสูงสุด, Silen Mode ให้พัดลมทำงานเงียบที่สุด

ASUS TUF Dash F15 FX516 i5 RTX3060 Review 14
ASUS TUF Dash F15 FX516 i5 RTX3060 Review 15
ASUS TUF Dash F15 FX516 i5 RTX3060 Review 17

Screen / Speaker

ASUS TUF Dash F15 มีหน้าจอขอบจอบางเฉียบเพียง 6.2 มิลลิเมตรทั้งขอบด้านข้างและด้านบนทำให้ไม่มีกล้องเว็บแคม ถ้าใช้งานต้องหามาติดตั้งเอง ขนาด 15.6″ ความละเอียด Full HD (1920×1080 พิกเซล) พาเนลเป็น IPS คุณภาพดี มุมมองกว้าง พื้นผิวจอแบบด้าน Anti-Glare รวมๆ ทั้งสีสันความคมชัดแล้วจัดว่าอยู่ในเกณฑ์ดีเยี่ยม เหมาะกับการใช้งานทั่วไปหรือการเล่นเกม ก็ทำได้อย่างน่าประทับใจ รวมไปถึงยังเป็นหน้าจอ Refresh Rate 144Hz / Respond Time 3ms ทำให้ใช้งานเล่นเกม FPS ฉากเคลื่อนไหวเร็วๆ ได้อย่างลื่นไหล

ASUS TUF Dash F15 FX516 i5 RTX3060 Review 7

ในเรื่องคุณภาพเสียงนั้นถือว่าดีมากๆ ทั้งเรื่องคุณภาพและความดัง ซึ่งหากว่าเพื่อนๆ เป็นผู้ใช้งานทั่วไป คุณภาพเสียงที่ได้นั้น ก็ถือว่าดีกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไปแบบรู้สึกได้ทันที อีกทั้งยังมีการติดต่อสื่อสารระหว่างกันด้วยเสียง (Voice Calls) จะชัดเจนกว่าที่เคยด้วยระบบตัดเสียงรบกวนแบบสองทางที่ทำงานด้วย AI จากการที่มีการติดตั้งตัวตัดเสียง 4 ช่อง ซึ่งติดตั้งอยู่ที่ขอบหน้าจอตัวเครื่องด้านล่างอีกด้วย

ASUS TUF Dash F15 FX516 i5 RTX3060 Review 8
ASUS TUF Dash F15 FX516 i5 RTX3060 Review 9
ASUS TUF Dash F15 FX516 i5 RTX3060 Review 10

ทดสอบหน้าจอที่แม้จะเป็นพาเนล IPS แต่ก็มีหลายเกรด โดยการดูประสิทธิภาพต่างๆ นแต่ละด้าน ด้วยเครื่องมือที่เป็นทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์อย่าง Spyder5Elite โดยให้ขอบเขตความกว้างของสีสัน Gamut เทียบเท่ากับมาตรฐาน sRGB 61% และ AdobeRGB 46% เรียกได้ว่าให้ประสิทธิภาพเรื่องของสีสันระดับสูง ถือว่าไม่แตกต่างจาก TUF รุ่นก่อน ส่วนความสว่างหน้าจอสูงสุดอยู่ที่เกือบๆ 220 cd/m2 ซึ่งจัดได้ว่าอยู่ในเกณฑ์ดี พอสู้แสงกลางแจ้งได้ รวมไปถึงการทำงานภาพกราฟิกหรือตกแต่งภาพทั่วไป 

s1 7
s2 7
s3 7

วัดความสว่างของหน้าจอแบ่งเป็น 9 ช่อง เทียบจากช่องกลางที่ปกติแล้วจะให้ความสว่างที่มากที่สุด ที่จะเห็นได้ว่าช่องกลางเป็น 0% ก็คือแสดงความสว่างได้เต็มที่ 220 cd/m2 แต่สำหรับช่องซ้ายล่างจะมีแสงสว่างที่ลดลงระดับ 14%ในการทดสอบก็เพื่อให้เราใช้งานอย่างระมัดระวังสำหรับคนที่บังเอิญจำเป็นต้องใช้งานภาพถ่าย หรืองานกราฟิกอื่นๆ ปิดท้ายด้วยคะแนน 3.0 เมื่อทดสอบด้านการแสดงผลต่างๆ ทั้งหมดแล้ว ถือว่าเป็นรองรุ่นหน้าจอ 240Hz ที่เป็นตัวท็อปสุด

ตัวเครื่อง ASUS TUF Dash F15 มีช่องลำโพงคู่อยู่ขอบตัวเครื่องข้างๆ ซ้ายขวา คุณภาพสูง พร้อมระบบ DTS: X Ultra ที่มีความเที่ยงตรงสูงได้อย่างเต็มที่ การติดต่อสื่อสารระหว่างกันด้วยเสียง (Voice Calls) จะชัดเจนกว่าที่เคยด้วยระบบตัดเสียงรบกวนแบบสองทางที่ทำงานด้วย AI จำลองการให้เสียงรอบทิศทาง 7.1 แชนแนล ให้ระดับเสียงที่ดังและสมจริง เพื่อให้ได้รับประสบการณ์ระบบเสียงชั้นยอดอีกด้วย ให้เสียงคมชัด เพิ่มอรรถรสในการเล่นเกมให้ถึงใจยิ่งขึ้น ด้วยขอบเขตเสียงที่กว้าง จากการที่เสียงกลางแหลมออกชัดเจนดี ส่วนทุ้มมีออกมาหน่อยๆ แม้จะไม่มีลำโพงซัฟวูฟเฟอร์ก็ตาม

ASUS TUF Dash F15 FX516 i5 RTX3060 Review 45
ASUS TUF Dash F15 FX516 i5 RTX3060 Review 44
ASUS TUF Dash F15 FX516 i5 RTX3060 Review 46

Connector / Thin And Weight

ด้านพอร์ตการเชื่อมต่อตัวเครื่อง ASUS TUF Dash F15 จัดว่าเป็นโน๊ตบุ๊คบางเบาที่มีพอร์ตเชื่อมต่อมาให้ครบครับใช้ได้เลยทีเดียว โดยตัวพอร์ตจะอยู่ด้านซ้ายและขวาของตัวเครื่อง โดยมีทั้ง USB 3.2 Type-A (Gen 2) จำนวน 3 พอร์ต รองรับการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ที่หลากหลาย อย่าง Thunderbolt 4 ซึ่งนอกจากการโอนถ่ายข้อมูลที่ความเร็ว 40Gbp/s แล้ว ซึ่งนับว่าเร็วที่สุดดีที่สุด ยังรองรับการชาร์จไฟเข้าเครื่องด้วย

ASUS TUF Dash F15 FX516 i5 RTX3060 Review 47

กับอแดปเตอร์ก็เป็น USB-C หรือ Power Bank ที่เป็นมาตรฐาน PD (Power Delivery) ด้วย อีกทั้งได้มาตรฐาน DisplayPort 1.4 เชื่อต่อความละเอียดสูงที่ 4K / 8K ได้ พร้อมช่องต่อหูฟังกับไมค์แบบ Combo ขนาด 3.5 มิลลิเมตร 1 ช่อง, LAN RJ45 และ HDMI ไว้เชื่อมต่อหน้าจอภานอก ส่วน Kensington จะอยู่ที่ด้านขวาไว้ล็อคตัวเครื่องกับโต๊ะ

ASUS TUF Dash F15 FX516 i5 RTX3060 Review 50

ในส่วนของการเชื่อมต่อไร้สายจะใช้ Bluetooth 5.1 และ Intel Wi-Fi 6 AX (2×2) ซึ่งจะช่วยให้การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตให้มีความสเถียรมากยิ่งขึ้น ส่วนขนาดของตัวเครื่อง 360 x 252 x 19.9 มิลลิเมตร น้ำหนัก 2 กิโลกรัม ถือว่าค่อนข้างเบาเลยทีเดียว เมื่อเทียบกับเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ครุ่นอื่นๆ และเมื่อรวมกับอแดปเตอร์ชาร์จไฟขนาด 200W เข้าไปด้วยจะมีน้ำหนักอยู่ที่ประมาณไม่เกิน 2.4 กิโลกรัมเท่านั้น พอแบกพกพาไปไหนมาไหนได้อยู่ไม่หนักมาก ถือมือเดียวก็สบายๆ หยิบจับไปไหนก็สะดวกทีเดียว

ASUS TUF Dash F15 FX516 i5 RTX3060 Review 54

Inside / Upgrade

การแกะเครื่อง ASUS TUF Dash F15 เพื่อทำการอัพเกรดนั้นทำง่ายมากเพียงแกะน็อตออกทุกตัวแล้วใช้บัตรแข็งๆ ค่อยๆ แงะจากด้านหลังตรงแกนฝาพับตัวเครื่องแล้วค่อยๆ รูดไปตามแนวฝาหลังและแกะแผ่นออกมาทั้งหมด เมื่อแกะออกมาแล้วก็จะเห็นฮาร์ดแวร์หลายๆ ถูกออกแบบจัดระเบียบได้ค่อนข้างดีเลยทีเดียว มีพัดลมขนาดใหญ่เทคโนโลยี ASUS Intelligent Cooling พร้อมระบายความร้อนที่มี Anti-Dust Tunnels ที่อยู่ในชุดฟินสีดำพร้อมทำร่องเพิ่มหน้าสัมผัสอากาศ หมดกังวลเรื่องฝุ่นที่ติดตรงครีบระบายความร้อนจุดสังเกตที่เปลี่ยนไปคือตัวเครื่องเลือกใช้ฮีทไปป์ 5 เส้น เรียกได้ว่าเอาอยู่กับสเปกแบบนี้แล้ว

ASUS TUF Dash F15 FX516 i5 RTX3060 Review 58

ซึ่งหลังจากที่แกะออกมาแล้วนั้นจะเห็นแผ่นสีดำ สีเทาแปะติดไว้อยู่ในหลายๆ ส่วนเพื่อกันไฟฟ้าสถิต และในส่วนของฮาร์ดแวร์ที่สามารถทำการอัพเกรดคือมีช่องใส่ SSD M.2 NVMe PCIe มาให้อีก 1 ช่อง โดยเดิมๆ ให้มาแล้ว 1 สล็อตอยู่แล้ว (รวมเป็น 2) ส่วนหน่วยความจำแรมขนาด 8GB โดดเด่นด้วยมาตรฐาน DDR4 Bus 3200 MHz แถวแรกเป็นแบบฝังบอร์ด และรองรับการใส่ 1 แถว แนะนำว่าให้ใส่เพิ่มอีก 8GB รวมกัน 16GB และจากที่เป็น Gaming Notebook บางเบานั่นเอง อีกทั้งไม่รองรับการใส่ฮาร์ดดิสก์ขนาด 2.5″ ตามรูปแบบของโน๊ตบุ๊คที่เน้นความบางเบา

Performance / Software

ASUS TUF Dash F15 ได้สเปกเป็นชิปประมวลผล Intel Core i5-11300H ที่แรงกว่า Intel Core i5-10300H รุ่นก่อนหน้าแบบก้าวกระโดด ด้วยสถาปัตยกรรม Tiger Lake H35 เน้นประสิทธิภาพมากกว่า Tiger Lake U มาพร้อมกับเทคโนโลยีการผลิตที่ 10 นาโนเมตร SuperFin ความเร็ว 2.60 – 4.40 GHz แบบ 4 Core/ 8 Thread ร้อนน้อยกว่า ได้ L3 Cache ที่ 8MB Smart Cache มีค่าอัตราการใช้พลังงานสูงสุด (TDP) ที่ 35W ที่ต้องบอกเลยว่าเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่จริงๆ โดยสามารถดูได้จากผลการทดสอบเล่นเกมที่ลื่นไหลกว่า Gaming Notebook สเปกเดิมๆ มาก 

ส่วนหน่วยความจำแรมได้ขนาด 8GB จำนวน 1 แถวแบบฝั่งบอร์ด Singer Channel เป็นมาตรฐาน Bus 3200 MHz รองรับการอัพเกรดเพิ่มได้โดยการใส่แรม SO-DIM เพิ่มไปอีก 8GB เพื่อรวมเป็น 16GB ได้ทันที พร้อมให้ SSD M.2 NVMe PCIe 3.0 ความจุ 512GB ที่ทั้งขนาดใหญ่ได้ความเร็วสูง ซึ่งมีช่องว่างใส่ SSD M.2 NVMe 3.0 อีก 1 ตัวไว้อัพเกรดภายหลังได้ ที่สามารถขับเคลื่อนระบบปฏิบัติการ Windows 10 Home ลิขสิทธิ์ที่มีมาให้แบบสบายๆ

c1 6.   c2 6

การ์ดจอเป็นแบบออนบอร์ดรุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง Intel Iris Xe Graphics ที่ให้พลังในการประมวลผลที่ดีในระดับที่ก้าวกระโดดกว่ารุ่นก่อนๆ อย่างในเรื่องของกราฟิก 2 มิตินั้นก็รองรับได้อย่างสบายๆ หรือถ้าเป็น 3  มิติก็ต้องบอกว่ารองรับการทำงานได้ในระดับเบื้องต้นหรือระดับสูง รองรับการทำงานกับหน้าจอความละเอียดสูงอย่าง 4K / 8K ได้แบบไม่มีปัญหา เหมาะสำหรับคนที่ต้องการเพิ่มพลังการสร้างสรรค์คอนเทนต์ มองหาความบันเทิง หรือการเล่นเกมเปี่ยมอรรถรส  

อีกทั้งยังมีการ์ดจอแยกรุ่นใหม่ล่าสุดตัวแรงอย่าง NVIDIA GeForce RTX 3050 Ti (4GB GDDR6) สถาปัตยกรรม Ampere โดยเป็น RTX เจนที่ 2 ที่ต้องบอกว่าแรงกว่ารุ่นก่อนหน้าอย่าง GTX 16 Series โดย  มี CUDA 2560 คอร์ (ส่วน RTX 3050 มี CUDA 2048 คอร์) ใช้แรม GDDR6 4GB ความกว้างบัสหน่วยความจำ 128 บิต สัญญาณนาฬิกาอยู่ที่ 1035 – 1695 MHz อัตราการกินพลังงานของ RTX 3050 Ti อยู่ที่ 35-80 วัตต์ รองรับ Ray Tracing ช่วยเพิ่มคุณภาพการแสดงแสงเงาให้ภาพสวยงาม ไหลลื่นสมจริง

g1 6.   g2 6

สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH 15 / CINEBENCH 20 ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล Intel Core i5-11300H คะแนนก็อยู่ในระดับสูงน่าประทับใจสมกับเป็นเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดจาก Intel Core i เปรียบเทียบกับชิปประมวลผล AMD Ryzen 5 4600H / Intel Core i5-10300H ก็ทำได้ดีกว่าแบบชัดเจนทีเดียว รวมไปถึงตัวการ์ดจอออนชิป Iris Xe Graphics และ RTX 3050 Ti เองก็มีประสิทธิภาพสูงเช่นเดิม เรียกได้ว่าตอบโจทย์ในส่วนของงานประมวลผลหนักๆ ได้อย่างสบายๆ รวดเร็วทันใจแบบสุดๆ สมกับเป็นชิปประมวลผลตัวบนในรุ่นใช้งานเต็มกำลัง และการ์ดจอระดับบน ที่เน้นการทำงานเป็นหลัก

cine15 6.   cine20 6

ตัวเก็บข้อมูลของเครื่องที่เลือกใช้ SSD ที่กลายเป็นมาตรฐานของ Gaming Notebook ไปแล้ว โดยใช้เป็นเกรดสูงสุด ซึ่งทำคะแนนออกมาได้อย่างรวดเร็วเป็นที่น่าประทับใจมากๆ บนขนาดความจุ 512GB แบบ M.2 NVMe PCIe 3.0 ยิ่งเมื่อนำไปใช้เทียบกับฮาร์ดดิสก์แบบจานหมุนแล้วละก็จะเห็นถึงประสิทธิภาพทั้งในด้านการทดสอบและในด้านการใช้งานจริงที่แตกต่างกันอย่างเห็นเห็นได้ชัด เรียกได้ว่าเปิดอะไรปุ๊บก็ติดปั๊บ ที่ต้องบอกว่าความเร็วระดับการอ่านที่ราวๆ 3518 MB/s และเขียนที่ 2951 MB/s ที่ต้องบอกว่าเหนือชั้นกว่า ASUS TUF รุ่นก่อนๆ แบบก้าวกระโดดของจริง 

ssd 6

การทดสอบประสิทธิภาพกับโปรแกรม PCMark 10 Advance ซึ่งสามารถทำคะแนนการทดสอบรวมได้มากถึง 5,321 คะแนน ถือได้ว่าในส่วนของการใช้งานทั่วไปโดยรวมนั้นสอบผ่านแบบสบายๆ ทั้งในส่วนของการเล่นเว็บไซต์ งานเอกสาร งานตกแต่งรูปภาพ รวมถึงงานตัดต่อวิดีโอ และจากการที่เป็น Gaming Notebook สเปกใหม่ล่าสุดจากชิปประมวลผล Intel Core i5-11300H พร้อม AI ในตัว โดยมีการ์ดจอแยกระดับ Gaming ตัวบนอย่าง NVIDIA GeForce RTX 3050 Ti ทำให้มีคะแนนพุ่งกว่าโน๊ตบุ๊คปีก่อนๆ มากพอตัว

pc10 5

สำหรับคะแนนและเฟรมเรมในการเล่นเกมจากการทดสอบด้วยโปรแกรม 3D Mark จากทาง Futuremark ที่พัฒนาและคิดค้นจากบริษัท AMD, Intel, Microsoft, NVIDIA ในส่วนของ Time Spy ทำออกมาน่าสนใจมากๆ ด้วยคะแนนรวม 5,259 เน้นเรื่อง DirectX 12 เป็นตัวช่วยขับเคลื่อนเพื่อมาเสริมข้อบกพร่องทางด้านการทำงานต่างๆ ของการ์ดจอเป็นหลัก ซึ่งผลทดสอบนั้นจะดูว่าแต่ละการ์ดจอนั้นสามารถทำงานเข้าขากับ DirectX 12 ได้ดีขนาดไหน

3d

สำหรับคะแนนและเฟรมเรมในการเล่นเกมทำออกมาน่าสนใจมากๆ โดยเฉลี่ยของเฟรมเรท (FPS) จากทั้ง 7 เกมที่ได้ทดสอบมีค่าเฟรมเรทเฉลี่ยมากกว่า  40 – 100 FPS ขึ้นไปแทบทุกเกม ประกอบไปด้วย Resident Evil 3 Remake / Battlefield V / FarCry 5 / GTA V ที่เป็นเกมออฟไลน์ที่กินทรัพยกร รวมไปถึงเกมออนไลน์ยอดนิยมอย่าง PUBG / DOTA 2 / Overwatch ซึ่งตรงนี้ก็สามารถชี้วัดความสามารถในการเล่นเกมที่กราฟิกละเอียดๆ และภาพสวยๆ ได้ลื่นไหลเป็นอย่างดีเลย

ทดสอบเกมกินทรัพยากรพอตัวอย่าง RE 3 / BF V / GTA V / FarCry 5 ก็สามารถเล่นได้ดีที่ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล โดยกราฟิกปรับระดับสูงสุดทั้งหมด !!! จากกราฟตามภาพด้านบน ที่ต้องบอกว่าเฟรมเรทที่ออกมานั้นมีความลื่นไหลสุดๆ กับการตอบสนองความต้องการเล่นเกมได้สมบูรณ์ที่สุดแล้ว ซึ่งถ้าอยากให้เฟรมเรทลื่นไหลกว่านี้ก็สามารถเลือกปรับกราฟิกระดับกลางๆ ก็ได้ แต่ถ้าให้ดีแนะนำแรมเป็น 16GB จะดีมากๆ 

เฟรมเรทเฉลี่ยในการทดสอบเล่นเกม

  • RE 3 Remark : 42
  • GTA V : 53
  • BF V : 47
  • FarCry 5 : 50
  • PUBG : 53
  • Overwatch : 101
  • DOTA 2 : 65

ต่อกันที่เกมออนไลน์อย่าง PUBG / Overwatch / DOTA 2 ก็จัดการทดสอบแบบปรับสุดหมดให้ด้วยเช่นกัน โดยทั้งนี้การตั้งค่าความละเอียดของภาพก็อยู่ที่ 1920 x 1080 พิกเซล ซึ่งเป็นความละเอียดที่จะสามารถเล่นให้ลื่นได้ สำหรับรายละเอียดภาพอื่นๆ ก็เรียกได้ว่าเปิดทุกอัน  ผลที่ได้ออกมาก็คือสามารถเรนเดอร์ได้อย่างไหลลื่นในระดับเฟรมเรทที่สูงสุด ซึ่งสรุปโดยรวมแล้ว ก็ถือว่าเล่นได้สบายๆ อยู่ ทั้ง 7 เกม

นอกเหนือจากนี้ ASUS TUF Dash F15 ยังมี Armory Crate ซอฟต์แวร์ Utility เวอร์ชั้นล่าสุด ที่ใช้กับ Gaming Notebook ทั้ง TUF และ ROG รุ่นอื่นๆ ซึ่งรวบรวมเอาฮาร์ดแวร์ต่างๆของ TUF/ROG มาไว้บนยูทิลิตี้เดียว ทำให้สามารถเข้าถึงฟังค์ชั่นต่างๆได้อย่างง่ายดาย การตั้งค่าต่างๆ ของระบบร อาทิ ผู้ใช้สามารถบันทึกการตั้งค่าต่างๆตามความชอบเป็นรูปแบบได้หลายโปรไฟล์

arm

ซึ่งการตั้งค่าต่างๆ จะถูกเรียกใช้งานโดยอัตโนมัติเมื่อมีการเปิดเกมที่ได้เลือกไว้ Armoury Crate ยังมาพร้อมกับโปรแกรมเสริม Mobile Dashboard สำหรับ Android และ iOS รวมไปถึงความสามารถอื่นๆ ที่จะมีเพิ่มขึ้นจากการอัพเดทในอนาคต ปิดท้ายด้วยซอฟต์แวร์ Utility อีกตัวอย่าง MyASUS ที่ไว้คอยตรวจระยะเวลากรับประกันและอัพเดทไดร์เวอร์ได้ครบๆ

myasus 2

Battery / Heat / Noise

แบตเตอรี่ที่ติดตั้งมาให้ใน ASUS TUF Dash F15 เครื่องนี้เป็นแบบฝังตามปกติความจุ 3800 mAh ส่วนของการทดสอบระยะเวลาใช้งานของแบตเตอรี่โดยตั้งค่าความสว่างหน้าจอและเสียงให้ระดับกลางๆ แล้วเล่นเว็บสลับกับดู Youtube แล้ว โปรแกรม BatteryMon แจ้งระยะเวลาใช้งานต่อเนื่องในเงื่อนไขดังกล่าวราวๆ 11:30 ชั่วโมงโดยประมาณ เรียกได้ว่าน่าประทับใจทีเดียว อีกทั้งเราสามารถชาร์จไฟได้ผ่านทางพอร์ต USB-C ด้วยเทคโนโลยี USB PD (USB Power Delivery) กับอแดปเตอร์หรือ Power Bank ที่รองรับด้วย (แต่ก็ชาร์จไฟเข้าช้ากว่าอแดปเตอร์มาตรฐาน)

batt 5

สำหรับอุณหภูมิทดสอบด้วยโปรแกรม Hardware Monitor ยังไม่สามารถตรวจสอบในส่วนของชิปประมวลผลได้ แต่จากการทดสอบเมื่อใช้งานแบบปกติจะอยู่ที่ประมาณ 30 – 60 องศาเซลเซียส ภายในห้องปรับอากาศอุณหภูมิประมาณ 25 องศาเซลเซียส จากนั้นทำการทดสอบเบิร์นให้เครื่องทำงาน 100% ด้วยการเล่นเกมกราฟิก 3 มิติ เพื่อให้เห็นถึงระบบระบายความร้อนและเสียงรบกวนที่จะเกิดขึ้นเมื่อพัดลมหมุนรอบจัด ด้วยการเปิดโหมด Turbo ที่เร่งประสิทธิภาพในทุกๆ ด้าน

temp 4

ประสิทธิภาพโดยรวมยังลื่นไหลอยู่  ซึ่งชิปประมวลผลร้อนสุดๆ ที่ 83 องศาเซลเซียส นับว่าควบคุมความร้อนได้ดี โดยไม่สูงเกินไปกว่านี้แน่นอน เพราะระบบยังคงจัดการได้ดีอยู่ พร้อมกันนั้นไม่กระทบต่อการใช้งานด้วย เพราะประสิทธิภาพไม่ตกเลย ในส่วนของการ์ดจอจะร้อนสุดอยู่ที่ 73 องศาเซลเซียสเท่านั้น ส่วนเสียงพัดลมก็ดังพอสมควร จากการที่มีซอฟต์แวร์ Armory Crate ถ้าใช้งานทั่วไป เราสามารถเลือกปรับโหมดต่างๆ เช่น Windows ทำให้พัดลมแทบไม่หมุนและไม่มีเสียงเลย

Conclusion / Award

สมการมาของชิปประมวลผล Intel Core i Gen 11 ที่เป็น Tiger Lake H35 รุ่นใหม่ล่าสุด ที่ต้องบอกว่าแรงกว่ารุ่นก่อนมากๆ มาพร้อมสเปกชิปประมวลผล Core i5-11300H เทคโนโลยี 10 นาโนเมตร SuperFin ผสานกาทำงานร่วมกับการ์ดจอออนชิป Iris Xe Graphics และการ์ดจอแยกตัวแรงล้ำสุดอย่าง NVIDIA GeForce RTX 3050 Ti รวมไปถึงในส่วนของแรมยังได้เป็นมาตรฐานใหม่ด้วยขนาด 8GB DDR4 Bus 3200 MHz แน่นอนว่าที่เก็บข้อมูลเป็น SSD M.2 NVMe PCIe ความเร็วสูงสุดด้วย ซึ่งต้องบอกว่าประทับใจมากๆ กับความแรงและราคาคุ้มค่าสุดๆ ช่วงต้นปี 2021 นี้

จากการทดสอบใช้งานจริงเล่นเกมจริงๆ เห็นได้ชัดถึงความทรงพลังของชิปประมวลผลและการ์ดจอแยกมีประสิทธิภาพดีเยี่ยมเหนือชั้นกว่า Core i Gen 10 + GeForce GTX 16 Series ไประดับ โดยมาพร้อมชิปประมวลผลได้สบายในราคาที่ถูกกว่าคุ้มค่ากว่าที่เคยมีมา ซึ่งนอกจากสเปกภายในที่แรงมากๆ แล้ว ดีไซน์ภายนอกก็มีความสวยงามบางเบา แข็งแรงทนทาน รองรับทั้งการเล่นเกม 3 มิติ AAA ใหม่ๆ หรือจะนำไปทำงานในเครื่องเดียวกันก็เยี่ยมยอด โดดเด่นที่แบตเตอรี่ก็ใช้งานได้ยาวนานกว่า 11:30 ชั่วโมง แถมยังมีการเชื่อมต่อ Wi-Fi 6 AX (2×2) และ Thunderbolt 4 ล้ำๆ ด้วย

ASUS TUF Dash F15 FX516 i5 RTX3060 Review 36

สำหรับ ASUS TUF Dash F15 รุ่นล่าสุด ราคาถูกที่สุด ถูกวางเป็น Gaming Notebook ตัวเครื่องเน้นความเบาที่มากกว่า และใช้พื้นฐานของ ROG Zephyrus G15 อีกทั้งมีพอร์ต Thunderbolt 4 รองรับการทำงานพกพา และเล่นเกมได้ยอดเยี่ยม  โดยได้การรับประกัน 2 ปีแบบทั่วโลก และที่สำคัญเมื่อเอาซีเรียลไปลงทะเบียนในเว็บไซต์ ASUS จะได้รับประกันอุบัติเหตุฟรี 1 ปีแรกจากทาง ASUS อีกด้วย อุ่นใจจัดเต็ม

เรียกได้ว่าการมาของ ASUS TUF Dash F15 ในครั้งนี้ เป็นการเขย่าวงการ Gaming Notebook ปี 2021 ทันที เพราะได้เรื่องของสเปกภายในใหม่ล่าสุด ความแรงลื่นที่เหนือกว่ารุ่นก่อนๆ ในทุกๆ มิติ อีกทั้งมาในราคาที่ไม่แพง หรือถูกกว่ารุ่นก่อนๆ ด้วยซ้ำ ถ้าเทียบกับฟีเจอร์และประสบการณ์ใช้งานจริงที่ได้แล้ว นับว่าการมาของชิปประมวลผล Intel Core i Gen 11 ที่เป็น Tiger Lake H35 รุ่นใหม่ล่าสุด เป็นรุ่นราคาที่ถูกสุดในตลาด ณ ตอนนี้เลยก็ว่าได้ ยังไงคาดว่าจะมีรุ่นอื่นๆ ตามมาอีก ทั้งจาก ASUS และแบรนด์อื่นๆ 

ASUS TUF Dash F15 FX516 i5 RTX3060 Review 37

Award

โดยในครั้งนี้จะเป็นการเปรียบเทียบการให้รางวัลกับเครื่องในกลุ่มของโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 15.6 นิ้วด้วยกัน ซึ่ง ASUS TUF Dash F15 FX516 ก็ได้รางวัลต่างๆ ดังนี้

Best Design

เรื่องของรูปร่างหน้าตาก็เป็นหนึ่งในจุดเด่นที่มีอยู่ในผลิตภัณฑ์ของ TUF โน๊ตบุ๊คสายคุ้มค่ามาตั้งแต่ไหนแต่ไร ซึ่งจุดเด่นในข้อนี้ก็เห็นได้ชัดเจนใน ASUS TUF Dash F15 ซึ่งมีการนำ DNA ของ ROG Zephyrus เข้ามาผสานอย่างลงตัว ทำให้มีดีไซน์ของตัวเครื่องสวยงามโฉบเฉี่ยวเป็นเอกลักษณ์ ดูแล้วเรียบหรูตามสไตล์คนรุ่นใหม่ที่ชอบเล่นเกม ที่สำคัญคือขอบจอบาง ทำให้มิติตัวเครื่องใกล้เคียงพวกจอ 14″ แถมน้ำหนักเบาแค่ 2 กิโลกรัม และบางเพียง 19.9 มิลลิเมตรเท่านั้น วัสดุคุณภาพดีงานประกอบก็เยี่ยมทั้งอลูมิเนียมอัลลอยด์และพลาสติกเกรดดี มีความทนทานสูง เอาไปทำงานหรือเล่นเกมได้หมดรอบด้าน

NBS award 7 Design  

Best Performance

สเปคเป็น Intel Core i5-11300H + NVIDIA GeForce RTX 3050 Ti + จอ IPS 144Hz ขอบหน้าจอบาง + Ram 8GB Bus 3200MHz + SSD M.2 NVMe 512GB + มี Windows 10 แท้ ซึ่งทดสอบการใช้งานเล่นเกมจริงแล้วแรงกว่า Gaming Notebook รุ่นปี 2020 ไปอีกขั้น ทั้ง AMD / Intel มากๆ รวมไปถึงการทดสอบด้วยโปรแกรมต่างๆ ค่าคะแนนต่างๆ ก็ทำออกมาได้ดี ส่วนการใช้งานทั่วไปนั้นก็ลื่นไหลสุดๆ หรือเล่นเกมก็ให้ประสบการณ์ใช้งานที่ดีเยี่ยม ที่สำคัญได้ความเป็น ROG Zephyrus เพิ่มเข้ามา ที่พรีเมียม บางเบา เรียกได้ว่าคุ้มค่าจนหาตัวจับได้ยากทีเดียว สำหรับ Gaming Notebook หน้าจอ 15.6″ แบบนี้

award new performance

Best Mobility

ปัจจัยสำคัญของด้านการพกพาบางเบาก็คือขนาดที่กะทัดรัด แบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานกว่า 11:30 ชั่วโมง และการเชื่อมต่อแบบไร้สายที่ครอบคลุม ตอบโจทย์ทั้งสามด้านได้อย่างครบถ้วนครับ กับตัวเครื่องบางเบา และการเชื่อมต่อแบบไร้สายที่รองรับทั้ง WiFi 6 AX (2×2) รวมถึง Bluetooth 5.1 หรือหากต้องการใช้งานร่วมกับอุปกรณ์เสริม ตัวเครื่องก็ยังมีพอร์ตที่ครบครันสำหรับการใช้งานทั่วไปด้วยเช่นกัน ที่สำคัญจากการที่มีพอร์ต Thunderbolt 4 ที่ดีที่สุด พร้อมตัวเครื่องได้มาตรฐานกองทัพระดับ Military-Gradeให้ความมั่นใจในความทนทานต่อการใช้งานกว่า Gaming Notebook ทั่วไป

NBS award 4 Mobility

from:https://notebookspec.com/web/594738-review-asus-tuf-dash-f15-i5-rtx3050ti

รีวิว ASUS TUF Gaming A15 FA506 สเปก Ryzen 7 5800H + RTX 3070 ทรงพลังแรงสุดในรุ่น จอสีตรง 240Hz ราคาดี 46,900 บาท

ASUS TUF Gaming A15 (FA506) เป็นอีกหนึ่งสุดยอด AMD Notebook ที่ทรงพลังในราคาที่คุ้มค่าที่สุด ในปี 2021 สำหรับการที่เป็น Gaming Notebook ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพ มาพร้อมกับชิปประมวลผล AMD Ryzen 5000H ด้วยเทคโนโลยีการผลิต 7nm จับคู่มากับการ์ดจอ NVIDIA GeForce RTX 30 Series ความแรงที่เหนือชั้นกว่า พร้อมสเปกอื่นๆ ก็จัดเต็มด้วย 

ต่อยอดความสำเร็จมาจาก ASUS TUF Gaming A15 รุ่นปีก่อน ที่ประสบความเร็จเป็นอย่างดี โดยเครื่องเองก็มีความโดดเด่นไม่เหมือนใครทั้งจากดีไซน์ภายนอก ฟีเจอร์ภายใน รวมถึงความแข็งแรงทนทานตามสไตล์ของ TUF Series ด้วย นับว่าเป็น Gaming Notebook ที่ให้ความแรงลื่นทรงพลังที่คุ้มค่าที่สุดในงบประมาณ 3x,xxx – 4x,xxx บาททีเดียว

ASUS TUF Gaming A15

โดย ASUS TUF Gaming A15 FA506 เครื่องที่เราได้รับมารีวิวนั้น เป็นเครื่องขายจริง ได้ชิปประมวลผล Ryzen 7 5800H การ์ดจอ GeForce RTX 3070 ส่วนสเปกอื่นๆ มีหน่วยความจำแรมขนาด 16GB DDR4 Bus 3200MHz และมี SSD M.2 NVMe PCIe ความจุ 1TB มาให้ด้วย โดยราคารุ่นนี้อยู่ที่ 46,900 บาท 

ส่วนหน้าจอก็ขนาด 15.6″ความละเอียด Full HD พาเนล IPS รองรับ Refresh Rate ที่ 240Hz มีเทคโนโลยี Adaptive Sync ให้ภาพลื่นไหลไม่ฉีกขาด พร้อมระบบปฏิบัติการ Windows 10 Home  ได้ประกัน 2 ปี แบบ Global Warranty และประกันอุบัติเหตุ Perfect Warranty 1 ปีแรก พร้อมบริการด้วย 7-11 droppoint กว่าหมื่นสาขาทั่วประเทศไทย

VDO Review

Coming Soon !!!

NBS Verdict

ASUS TUF Gaming A15 จัดว่าเป็น Gaming Notebook ปี 2021 ที่ใช้ชิปประมวลผล AMD Ryzen 5000H Series ที่มีความเจ๋งมากมาย มาพร้อมกับประสิทธิภาพความแรงจากการที่ได้เทคโนโลยีการผลิต 7 นาโนเมตร สถาปัตยกรรมโค้ดเนม Cezanne สุดล้ำหน้า อีกทั้งยังเป็นแรนด์แรกที่ขายตั้งแต่ต้น ปี 2021 นี้ด้วย ดีไซน์ยังมีความเฉียบโดยฝาหลังจอแบบใหม่ ใช้วัสดุเป็นโลหะผสมแบบอลูมิเนียมอัลลอยทั้งชิ้นพร้อมโลโก้ TUF Gaming แบบใหม่บริเวณมุมตัวเครื่องและหมุดยึดสี่มุมตามสไตล์

รวมไปถึง ASUS TUF Gaming A15 โดดเด่นกว่ารุ่นก่อนหน้าคือได้หน้าจอขนาด 15.6″ ความละเอียด Full HD ที่ 1920 x 1080 พิกเซล พาเนล IPS เกรดคุณภาพสูง sRGB 89% พร้อมทำเลือกรุ่นที่รองรับ Refresh Rate ที่ 240Hz ให้ความลื่นไหลอย่างที่สุดด้วย พร้อมเทคโนโลยี Adaptive Sync ทำให้ภาพไม่ฉีกขาด (Tearing) ซึ่งนับว่าเป็นสิ่งสำคัญสำหรับคนที่ต้องการหน้าจอดีๆ ในการทำงานด้วย อย่างไรก็ตามถ้าเป็นรุ่น 144Hz จะได้ sRGB ที่ 60% โดยประมาณ

ASUS TUF Gaming A15

นอกจากนี้มีลำโพงคุณภาพสูงระบบเสียง DTS:X Ultra จำลองเสียง 7.1 ในการเล่นเกมได้ พร้อมพอร์ตการเชื่อมต่อครบครัน ทั้ง 3 x USB 3.2 Gen 2 Type-A และ 1 x USB 3.2 Gen2 Type-C โดยทำงานเป็น DisplayPort 1.4 ระบบการเชื่อมต่อไร้สายเป็นมาตรฐานอย่าง Wi-Fi 6 AX  และ Bluetooth 5.0 ซึ่งนับว่าเพียงพอต่อการใช้งานที่พื้นฐานเราแน่นอน อีกทั้งยังมีการตัด USB 2.0 Type-A ทางขวาตัวเครื่องออกไปแล้วที่มีในรุ่นก่อนออกไป โดยแทนที่เป็น USB 3.2 Gen 2 Type-A แล้วนั่นเอง

ASUS TUF Gaming A15

ระบบระบายความร้อน ASUS Intelligent Cooling ของ ASUS TUF Gaming A15 FA506 สามารถปรับการทำงานได้สามโหมด อีกทั้งยังมี Anti-Dust Cooling ช่องระบายฝุ่นที่อยู่ด้านข้างฮีทซิ้งค์ทั้งสองฝั่ง ซึ่งควบคุมความร้อนได้ดีขึ้นคือไม่เกิน 96 องศาเซลเซียสสำหรับชิปประมวลผล ช่วยให้เครื่องสามารถทำงานได้เสถียรยาวนาน แน่นอนว่าด้วยความที่เป็น TUF Gaming ก็จะได้รับการรับรองตามมาตรฐานทางการทหาร MIL-STD-810H โดยสามารถทนต่อแรงสั่นสะเทือน, อุณหภูมิและความชื้นสูง ส่งผลให้มีความทนทานกว่า Gaming Notebook ทั่วไป 

สรุปแล้ว ASUS TUF Gaming A15 FA506 มีความน่าใช้ในหลายๆ ส่วน ที่นอกจากเรื่องสเปกภายใน ความคุ้มค่าต่อราคาที่ได้แล้ว ในส่วนของฟีเจอร์อื่นๆ ก็ยังมีความน่าสนใจไม่น้อย อย่างชุมคีย์บอร์ดก็สามารถตอบสนองได้ดีเยี่ยมสมกับการที่เป็น Gaming Notebook เหมือนยกมาจาก ROG Series เลยก็ว่าได้ พร้อมปรับไฟคีย์บอร์ดแบบ RGB Aura โดยเป็นแบบ All Zone แม้อาจจะมีข้อจำกัดหลายๆ ส่วน แต่เข้าเอาจริงด้วย ก็ยังน่าซื้อมาใช้งานอยู่ดี ขึ้นอยู่กับว่าเรารับข้อสังเกตได้หรือเปล่าเท่านั้นเอง นอกจากนี้ในส่วนของบันเดินเองยังให้สติ๊กเกอร์ TUF เก๋ๆ มาให้ด้วย ไว้สำหรับติดนู้นนี่นั่นเอง

ASUS TUF F15 FA506 R5800H RTX3070 Review 2

จุดเด่น ASUS TUF Gaming A15

  • ดีไซน์ใหม่ถูกใจตามสไตล์ TUF Gaming งานประกอบแน่นวัสดุดี ฝาหลังเป็นโลหะ
  • ตัวเครื่องมีความแข็งแรงทนทาน ผ่านมาตรฐานทางการทหาร Military Grade (MIL-STD-810H) 
  • ประสิทธิภาพสูงด้วยชิปประมวลผลรุ่นใหม่อย่าง AMD Ryzen 7 5800H แรงลื่นกว่า
  • การ์ดจอ NVIDIA GeForce RTX 3070 ที่ให้ความแรงลื่นที่มากกว่า GTX Series 
  • แรมขนาด 16GB Bus 3200 MHz แบบ Dual Channel จัดเต็ม SSD M.2 NVMe PCIe ความจุ 1TB
  • ได้หน้าจอพาเนล IPS คุณภาพสูง มุมมองกว้าง พร้อมรองรับ Refresh Rate ที่ 240Hz
  • อุณหภูมิในการใช้งานถือว่าจัดการได้ดี ไม่ร้อนจนเกินไป ทำงานได้ไม่มีสะดุด
  • พอร์ตการเชื่อมต่อครบครัน ด้วย USB 3.2 Type-A / C รองรับ DisplayPort
  • รองรับการอัพเกรดทั้ง SSD M.2 เพิ่มอีก 1 ช่อง 
  • แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานประมาณ 14 – 15 ชั่วโมง
  • มีซอฟต์แวร์ Armory Crate และ myASUS เวอร์ชันใหม่มาช่วยปรับแต่งการใช้งาน
  • มาพร้อม Windows 10 Home ใช้งานได้ทันที มีความสเถียร์ของไดร์เวอร์
  • ประสบการณ์ใช้งานดีเยี่ยม แรงลื่น ประทับใจมาก เมื่อเทียบกับราคา
  • ประกัน 2 ปี ส่งศูนย์ พร้อมฝากส่งเคลม 7-11 และมีประกันอุบัติเหตุ 1 ปี

ข้อสังเกต ASUS TUF Gaming A15

  • ดีไซน์หลักๆ ยังคล้ายเดิม หลักๆ เปลี่ยนที่ฝาหลังลวดลายใหม่ 
  • ไม่มี SD Card Reader มาให้ใช้งาน ทำให้ต้องหาอุปกรณ์มาเชื่อมต่อ
  • หน้าจอ IPS เกรดสูงขึ้น เฉพาะรุ่นสเปก 240Hz ส่วน 144Hz ยังใกล้เคียงรุ่นก่อน
  • การ์ดจอเป็นซีรีส์ Max-Q แต่ความแรงก็ไม่เป็นรอง Max-P เท่าไรนัก

Specification

ASUS TUF Gaming A15 FA506 สเปกที่นำมารีวิว มาพร้อมกับชิปประมวลผล AMD Ryzen 7 5800H สถาปัตยกรรม Zen 3 มาพร้อมกับสถาปัตยกรรม 7 nm โค้ดเนม Cezanne ทำงานที่ความเร็ว 3.20 – 4.40 GHz แบบ 8 Core/ 16 Thread ที่ให้ประสิทธิภาพการทำงานที่ดีไปอีกขั้นเทียบกับรุ่นก่อนหน้านี้แบบแรงขึ้นในทุกๆ การทำงานหรือเล่นเกม พร้อมผสานกับ APU การ์ดจอออนบอร์ดที่เป็น Radeon 8 ที่เพียงพอกับการใช้งานพื้นฐาน 2 มิติ 3 มิติทั่วไป ส่วนการ์ดจอแยกจะเป็นรุ่นใหม่ NVIDIA GeForce RTX 3070 (8GB GDDR6) 

ซึ่งแรงลื่นและเย็นกว่า GTX 20 Series ในทุกๆ มิติ พร้อมฟีเจอร์อื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น DLSS / Ray Tracing มาแบบจัดเต็ม รองรับกราฟิกที่สวยงามมากกว่า แต่ก็ได้ความแรงที่มากกว่า RTX 2060 รุ่นก่อน โดยเน้นให้มีความร้อนที่น้อยกว่าและประหยัดพลังงานเข้ากับตัวเครื่องที่บางเบา  แรมได้มาขนาด 16GB DDR4 Bus 3200 MHz แบบ Dual Channel (8GB x 2 แถว) มาพร้อมกับที่เก็บข้อมูลแบบ SSD M.2 NVMe PCIe ความจุ 1TB ที่มีความลื่นไหลทั้งระบบ พร้อมอัพเกรด SSD M.2 ได้อีกตัวทันที 

ASUS TUF Gaming A15

โดดเด่นกว่ารุ่นก่อนหน้าสำหรับสเปกนี้คือได้หน้าจอขนาด 15.6″ ความละเอียด Full HD ที่ 1920 x 1080 พิกเซล พาเนล IPS เกรดสูง รองรับ Refresh Rate ที่ 240Hz ให้ความลื่นไหลอย่างที่สุดด้วย พร้อมเทคโนโลยี Adaptive Sync ทำให้ภาพไม่ฉีกขาด (Tearing)รวมไปถึงมีลำโพงคุณภาพสูงระบบเสียง DTS:X Ultra พร้อมพอร์ตการเชื่อมต่อครบครัน ทั้ง 3 x USB 3.2 Gen 2 Type-A และ 1 x USB 3.2 Gen2 Type-C โดยทำงานเป็น DisplayPort 1.4 ได้ด้วย ระบบการเชื่อมต่อไร้สายอย่าง Wi-Fi 6 AX และ Bluetooth 5.2 (Dual band)

ASUS TUF F15 FA506 R5800H RTX3070 Review 3

พร้อมติดตั้งระบบปฎิบัติการติดตั้ง Windows 10 Home และซอฟต์แวร์ Utility อย่าง Armory Crate รุ่นใหม่ มาให้ในตัว ส่วนการรับประกัน 2 ปี ส่งเคลม 7-11 และที่สำคัญเมื่อเอาซีเรียลไปลงทะเบียนในเว็บไซต์ ASUS จะได้รับประกันอุบัติเหตุฟรี 1 ปีแรกจากทาง ASUS อีกด้วย อุ่นใจจัดเต็ม จัดได้ว่าเป็นมาตรฐานการรับประกันของทาง ASUS ปกติ สนนราคาของ ASUS TUF Gaming A15 FA506 รุ่นใหม่สเปกที่นำมารีวิวอยู่ที่ 46,900 บาท (หรือถูกกว่านั้นในสเปกรองลงไป) จัดว่าคุ้มค่าไม่แพงเมื่อเทียบกับความแรง รวมไปถึงมีรุ่นหน้าจอ 17.3″ อย่าง A17 FA706 เป็นตัวเลือกด้วย 

ASUS TUF Gaming A15 FA506 / A17 FA706 รุ่นสเปกที่ขาย

ASUS TUF Gaming A15 FA506QM-HN077T ราคา 34,900 บาท (ดูสเปคทั้งหมดคลิ้ก)

  • CPU : AMD Ryzen 7 5800H
  • GPU : NVIDIA GeForce RTX 3060 GDDR6 6GB
  • RAM : 16GB DDR4 Bus 3200MHz
  • DISPLAY: 15.6″ IPS Full HD (1920 x 1080) 144Hz
  • STORAGE : SSD M.2 NVMe PCIe 512GB
  • OS : Windows 10 (64 Bit)
  • Connector : Wi-Fi 6E (2 x 2) + BT5.1
  • Keyboard : RGB Gaming Keyboard
  • Warranty : 2 Years  Inter / 1 Year Perfect warranty 

ASUS TUF Gaming A15 FA506QR-HN035T ราคา 42,900 บาท (ดูสเปคทั้งหมดคลิ้ก)

  • CPU : AMD Ryzen 7 5800H
  • GPU : NVIDIA GeForce RTX 3070 GDDR6 8GB
  • RAM : 16GB DDR4 Bus 3200MHz
  • DISPLAY: 15.6″ IPS Full HD (1920 x 1080) 144Hz
  • STORAGE : SSD M.2 NVMe PCIe 512GB
  • OS : Windows 10 (64 Bit)
  • Connector : Wi-Fi 6E (2 x 2) + BT5.1
  • Keyboard : RGB Gaming Keyboard
  • Warranty : 2 Years  Inter / 1 Year Perfect warranty 

ASUS TUF Gaming A15 FA506QR-HN035T ราคา 46,900 บาท (ดูสเปคทั้งหมดคลิ้ก)

  • CPU : AMD Ryzen 7 5800H
  • GPU : NVIDIA GeForce RTX 3070 GDDR6 8GB
  • RAM : 16GB DDR4 Bus 3200MHz
  • DISPLAY: 15.6″ IPS Full HD (1920 x 1080) 240Hz
  • STORAGE : SSD M.2 NVMe PCIe 1TB
  • OS : Windows 10 (64 Bit)
  • Connector : Wi-Fi 6 AX (2×2) + BT5.1
  • Keyboard : RGB Gaming Keyboard
  • Warranty : 2 Years  Inter / 1 Year Perfect warranty

ASUS TUF Gaming A17 FA706QR-HX025T ราคา 44,900 บาท (ดูสเปคทั้งหมดคลิ้ก)

  • CPU : AMD Ryzen 7 5800H
  • GPU : NVIDIA GeForce RTX 3070 GDDR6 8GB
  • RAM : 16GB DDR4 Bus 3200MHz
  • DISPLAY: 17.3″ IPS Full HD (1920 x 1080) 144Hz
  • STORAGE : SSD M.2 NVMe PCIe 512GB
  • OS : Windows 10 (64 Bit)
  • Connector : Wi-Fi 6E (2 x 2) + BT5.1
  • Keyboard : RGB Gaming Keyboard
  • Warranty : 2 Years  Inter / 1 Year Perfect warranty

Hardware / Design

ที่ผ่านมาหลายรุ่นหลายปีสำหรับ ASUS TUF Gaming Series นับว่าเป็น Gaming Notebook ที่ดีมากๆ เป็นการต่อยอดมาโดยตลอด ได้ทั้งความคุ้มค่า ประสิทธิภาพความแรง แบบที่หลายๆ อย่างยกมาจากรุ่นพี่ ROG เลย แต่มาในราคาที่ไม่แพง สามารถจับต้องได้ง่าย โดยที่ผ่านมาเราเห็นกันมาแล้ว อย่าง ASUS TUF Gaming  ซึ่งเป็นตัวแรงยอดนิยมสุดๆ

ได้สเปกเป็น AMD Ryzen 5000H กับการ์ดจอ NVIDIA GeForce RTX 30 Seriesในช่วงงบ 3x,xxx – 4x,xxx บาท แทบไม่มี Gaming Notebook รุ่นไหนสู้ได้ทีเดียวในปีก่อน แน่นอนปี 2020 – 2021 ก็จัดเต็มนอกเหนือความแรงแล้ว ก็จะเป็นในส่วนของฟีเจอร์ประสบการณ์ใช้งานอื่นๆ รวมไปถึงดีไซน์ด้วย ให้ความรู้สึกเป็น Gaming Notebook อย่างแท้จริง

ASUS TUF F15 FA506 R5800H RTX3070 Review 79

โดยการมาของ ASUS TUF Gaming A15 FA506 มีความน่าสนใจยิ่งกว่าซึ่งนอกเหนือสเปกภายในแล้ว อย่างในเรื่องของขอบหน้าจอบาง slim bezel Nano-Edge นั่นก็ทำให้ตัวเครื่องมิติโดยรวมมีความเล็กกระทัดรัดลง แม้เป็น Gaming Notebook หน้าจอ 15.6″ แต่ก็มีความใกล้เคียงกับโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 14″ แบบสมัยก่อนๆ มาก

ส่วนน้ำหนักก็อยู่ที่ 2.3 กิโลกรัม จัดได้ว่าเป็น Notebook ที่สเปกแรงมากๆ แต่น้ำหนักเบาๆ พกพาสะดวก มีความทนทานระดับ Military Grade (MIL-STD-810H) ต่อแรงกระแทก อุณหภูมิสูงต่ำ ความชื้น ความกดอากาศ และแสงแดด เรียกได้ว่าเป็น Gaming Notebook น้อยรุ่นนักที่มาพร้อมคุณสมบัติแบบนี้

ASUS TUF Gaming A15

ดีไซน์การออกแบบของ ASUS TUF Gaming A15 FA506 เรียกได้ว่ายกระดับกว่ารุ่นก่อนหน้านี้มาแบบเหนือชั้น ฝาหลังจอแบบใหม่สีสัน Fortress Gray ใช้วัสดุเป็นโลหะผสมแบบอลูมิเนียมอัลลอยทั้งชิ้นพร้อมโลโก้ TUF Gaming รูปแบบใหม่เน้นความเรียบง่ายแต่ดูดี โดยมี TUF เป็นอักษรขนาดใหญ่ และมีโลโก้เล็กๆ ที่มุมขวาบน พร้อมด้วยหมุดยึดสี่มุมให้ความรู้สึกแข็งแกร่งและเรียบหรูในเวลาเดียวกัน 

ส่วนด้านหลังตัวเครื่องออกแบบให้มีช่องระบายความร้อนแบบ 3 ทิศทาง ด้วยสองช่องขนาดใหญ่ด้านหลัง พร้อมอีก 1 ช่องด้านซ้าย ฟินระบายความร้อนเป็นสีทองแดง พร้อมระบบไหลฝุ่นอัตโนมัติ การันตีเรื่องของการระบายความร้อนที่ยอดเยี่ยม เพื่อให้ตัวเครื่องใช้งานได้อย่างสมบูรณ์ที่สุด 

ASUS TUF F15 FA506 R5800H RTX3070 Review 73

ฝาด้านล่างตัวเครื่องเป็นพลาสติกโพลีเมอร์ผสมซิลิคอนคาไบด์ สินแร่ที่มักถูกใช้ผสมกับวัสดุอื่นๆ เพื่อเสริมความแข็งแกร่งและเพิ่มคุณสมบัติการทนทานต่อความร้อน พบได้ในเบรก/คลัทช์ของรถยนต์ และแผ่นเซรามิกในเสื้อเกราะกันกระสุน นอกจากวัสดุที่แข็งแกร่งทนทาน ซึ่งฝาด้านล่างยังถูกออกแบบเพื่อเสริมความแข็งแกร่งอีกขั้น ด้วยรูปทรงหกเหลี่ยมแบบรังผึ้ง (Honeycomb) ที่บริเวณช่องดูดลมเย็นเข้าเครื่องเพื่อช่วยในเรื่องของการระบายความร้อนที่ดียิ่งขึ้น อีกทั้งโครงสร้างภายในก็ยังเป็นรังผึ้งด้วย 

ASUS TUF F15 FA506 R5800H RTX3070 Review 67

นอกจากนี้ยังเป็นเรื่องของระบบระบายความร้อนก็ใช้ระบบ Scenario Profiles และ Self-Cleaning Cooling ที่สามารถปรับเร่งรับได้ พร้อมมี Anti-Dust Tunnel สำหรับเป่าฝุ่นออกมาให้อีกด้วย จัดเต็มจริงๆ ให้มาครบไม่มีกั๊ก ส่วนของคีย์บอร์ดจะให้ไฟ RGB แบบ All Zone ปุ่ม WASD ทำไฮไลท์ไว้ สามารถรองรับการกดได้ 20 ล้านครั้ง เชื่อมั่นได้เรื่องของความทนทาน 

ได้ Travel Key 1.8 มิลลิเมตร (ระยะที่กดปุ่มลงไปลึก) การวางเลเอาท์จะเหมือนกับคีย์บอร์ดแยกจริงๆ อีกทั้งยังมีช่องด้านบนเหนือคีย์บอร์ดมีช่องดูดลมอีกช่องช่วยนำพาอากาศเย็นเข้าไปอีก รวมๆ แล้วต้องยอมรับว่าทาง ASUS นั้นใส่ใจในการออกแบบมาจริงๆ นอกจากที่อัพเกรดได้ไม่ยากแล้ว ยังทำความสะอาดได้สะดวกสบายอีกด้วย

ASUS TUF F15 FA506 R5800H RTX3070 Review 61

ส่วนด้านในจะเป็นพลาสติกแบบมีลวดลายคล้ายโลหะปัดเสี้ยนให้สัมผัสผิวไม่เรียบ ที่นอกสายสวยงามแล้วคือเป็นลายนิ้วมือได้ยาก นับว่าเป็นอะไรที่น่าประทับใจมากๆ ทั้งภายนอกและภายใน ที่ดูแล้วลงตัวกว่ารุ่นก่อนหน้าไปอีกขั้น ทางด้านพับตัวเครื่องถูกออกแบบมาให้เป็นแบบบานพับคู่วัสดุเป็นพลาสติกแข็งแรง พร้อมมีการตัดช่องเป็น V-Sharp ช่วงให้อากาศไหลผ่านได้ดีขึ้น และมีช่องระบายอากาศด้านบนคีย์บอร์ดเพิ่มเข้ามา

สรุปโดยรวมการออกแบบดีไซน์ภายนอกและวัสดุนั้น ทำได้ดีเยี่ยมสมการมาของ ASUS TUF Gaming A15 FA506 รุ่นใหม่ปี 2021 ที่ทุกคนไว้ใจและมั่นใจจริงๆ ตอบโจทย์ของคนที่ต้องการโน๊ตบุ๊คประสิทธิภาพสูงในดีไซน์ Gaming แต่แอบแฝงความแรงและเรียบหรูเอาไว้ ที่ไม่ใช่แค่แรง แต่แข็งแรงทนทาน ระบบระบายความร้อนดี ขอบจอต้องบางเฉียบ ยกให้เป็น Gaming Notebook ราคาคุ้มค่าที่สุดฟีเจอร์แน่นอนที่สุด 

ASUS TUF F15 FA506 R5800H RTX3070 Review 26
ASUS TUF F15 FA506 R5800H RTX3070 Review 24
ASUS TUF F15 FA506 R5800H RTX3070 Review 31
ASUS TUF F15 FA506 R5800H RTX3070 Review 46
ASUS TUF F15 FA506 R5800H RTX3070 Review 50
ASUS TUF F15 FA506 R5800H RTX3070 Review 52
ASUS TUF F15 FA506 R5800H RTX3070 Review 55
ASUS TUF F15 FA506 R5800H RTX3070 Review 59
ASUS TUF F15 FA506 R5800H RTX3070 Review 74

Keyboard / Touchpad

คีย์บอร์ดของ ASUS TUF Gaming A15 FA506 มาพร้อมไฟ RGB Aura โดยเป็นแบบ All Zone ที่สามารถเปลี่ยนสีได้ผ่านทางซอฟต์แวร์ ได้หลากหลายรูปแบบ รองรับการกดได้ทนทานถึง 20 ล้านครั้ง มีเทคโนโลยี Overstroke จากประสบการณ์ใช้งานจัดว่าเป็นคีย์บอร์ดที่แฝงไว้ด้วยคาแรคเตอร์ของความเป็น Gaming ด้วย 4 ปุ่ม WASD ที่เกมเมอร์คุ้นเคยเสริมความโดดเด่นสวยงาม สามารถสังเกตได้ง่าย จากการที่ปุ่มมีความขาวใส โดยวางนิ้วบนปุ่มได้อย่างรวดเร็ว 

ASUS TUF F15 FA506 R5800H RTX3070 Review 43

ตัวปุ่มกดแบบ Chiclet Switches ที่มีระยะห่างระหว่างปุ่ม 1.8 มิลลิเมตร พร้อมปุ่มมีความโค้ง 0.25 มม. รองรับ N-key Rollover และแยกปุ่มลูกศรชัดเจน อีกทั้งปุ่ม WASD จะมีความพิเศษคือเป็นสีขาวใส รวมถึงมี Numpad แป้นตัวเลขก็มีมาให้เพื่อความสะดวกในการใช้งานได้ แบบแป้นพิมพ์ Full Size ส่วนของทัชแพดที่มีขนาดพอเหมาะพอดีกับตัวเครื่อง ถูกออกแบบมาให้เป็นแบบแยกปุ่มออกมาชัดเจน และทำไฮไลท์ที่มุมของทัชแพด เข้ากับตัวเครื่องโดยรวมได้เป็นอย่างดี ใช้งานได้แม่นยำ

ASUS TUF F15 FA506 R5800H RTX3070 Review 35
ASUS TUF F15 FA506 R5800H RTX3070 Review 37
ASUS TUF F15 FA506 R5800H RTX3070 Review 36

Screen / Speaker

ASUS TUF Gaming A15 FA506  มีหน้าจอขอบจอบางเฉียบเพียง 6.5 มิลลิเมตรทั้งขอบด้านข้างและด้านบน ขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD (1920×1080 พิกเซล) พาเนลเป็น IPS คุณภาพสูง สีสันตรง มุมมองกว้าง พื้นผิวจอแบบด้าน Anti-Glare รวมๆ ทั้งสีสันความคมชัดแล้วจัดว่าอยู่ในเกณฑ์ดี

เหมาะกับการใช้งานทั่วๆ ไปหรือการเล่นเกมก็ทำได้อย่างน่าประทับใจ รวมไปถึงยังเป็นหน้าจอ 240Hz ทำให้ใช้งานเล่นเกม FPS ฉากเคลื่อนไหวเร็วๆ ได้อย่างลื่นไหลกว่าหน้าจอทั่วไปที่แค่ 60Hz รวมๆ แล้ว ถือว่าดีกว่ามาตรฐานของ Notebook ใช้งานพื้นฐานของปี 2021 ทั่วไปมากทีเดียว

ASUS TUF Gaming A15

การทดสอบประสิทธิภาพหน้าจอของ ASUS TUF Gaming A15 FA506 ที่เป็นโน๊ตบุ๊คที่ใช้หน้าจอพาเนล IPS คุณภาพมืออาชีพ ที่แน่นอนว่าต้องกว่า TN เรื่องของสีสันและมุมมอง จึงได้ทำการทดสอบหน้าจอแบบละเอียดๆ ด้วยเครื่องมือที่เป็นทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์อย่าง Spyder5Elite พร้อมทั้งคาลิเบรทหน้าจอให้สีสันมีความตรงความเป็นจริงมากที่สุด 

โดยให้ขอบเขตความกว้างของสีสันเทียบเท่ากับมาตรฐาน sRGB 89% และ AdobeRGB 68% เรียกได้ว่าให้ประสิทธิภาพเรื่องของสีสันระดับกลางๆ ค่อนไปทางดี ความสว่างหน้าจอสูงสุดอยู่ที่เกือบๆ 250 cd/m2 ซึ่งจัดได้ว่าอยู่ในเกณฑ์ดี9k,มาตรฐานความสว่างของหน้าจอในโน๊ตบุ๊คทั่วไป คือ พอสู้แสงกลางแจ้งได้ รวมไปถึงการทำงานภาพกราฟิกหรือตกแต่งภาพที่เน้นมืออาชีพหน่อยก็ทำได้ดีเช่นกัน

ต่อกันที่วัดความสว่างของหน้าจอตามตำแหน่งต่างๆ โดยแบ่งเป็น 9 ช่อง เทียบจากช่องกลางที่ปกติแล้วจะให้ความสว่างที่มากที่สุด ที่จะเห็นได้ว่าช่องกลางจอเป็น 0% ก็คือแสดงความสว่างได้เต็มที่ที่ 220 cd/m2 แต่สำหรับช่องล่างกลางจะมีแสงสว่างที่ลดลงระดับ 12%  ปิดท้ายด้วยคะแนน 4.0 เมื่อทดสอบด้านการแสดงผลต่างๆ ทั้งหมดแล้ว ผ่านทางอุปกรณ์ Spyder5Elite นับว่าดีกว่ารุ่นสเปก 144Hz แน่นอน

ลำโพงของตัวเครื่องใช้เป็นแบบ Stereo แบบช่องเสียงออกสี่ทิศทางถูกออกแบบมาอย่างแนบเนียน อยู่ด้านใต้ตัวเครื่องมุมซ้ายขวา ให้เสียงดังขึ้น 1.8 เท่า และเบสที่ลึกกว่าเดิม 2.7 เท่า พร้อมจำลองเสียงแบบ 7.1 แชแนลผ่านการเชื่อมต่อหูฟัง ระบบเสียง DTS:X ทำให้มีเสียงดังฟังชัด มีน้ำหนักที่มากกว่า ถือว่าเอามาเล่นเกมฟังเพลงได้ดีกว่ามาตรฐาน Gaming Notebook ทั่วไปพอตัว 

ASUS TUF F15 FA506 R5800H RTX3070 Review 15
ASUS TUF F15 FA506 R5800H RTX3070 Review 16
ASUS TUF F15 FA506 R5800H RTX3070 Review 14

Connector / Thin And Weight

ด้านพอร์ตการเชื่อมต่อตัวเครื่อง ASUS TUF Gaming A15 FA506 ก็จัดว่าครบครันดีขึ้น ซึ่งเครื่องนี้จัดว่าเป็นโน๊ตบุ๊คที่มีพอร์ตเชื่อมต่อมาให้ครบถ้วนใช้ได้เลยทีเดียว โดยตัวพอร์ตเกือบทั้งหมดจะอยู่ด้านซ้ายมือตัวเครื่อง มีทั้ง USB 3.2 Gen2 Type-C จำนวน 1 พอร์ตโดยทำงานเป็น DisplayPort 1.4 พร้อม USB 3.2 Type-A (Gen 1) จำนวน 3 พอร์ต พร้อมช่องต่อหูฟังกับไมค์แบบ Combo ขนาด 3.5 มิลลิเมตร 1 ช่อง, LAN RJ45 และ HDMI ส่วน Kensington จะอยู่ที่ด้านขวา โดยตัวเครื่องจะไม่มี SD Card Reader เหมือนรุ่นก่อนหน้าด้วย 

ASUS TUF Gaming A15

ในส่วนของการเชื่อมต่อไร้สายจะใช้ Bluetooth 5.2 (2×2) และ Wi-Fi 6 AX ที่ดีกว่ารุ่นก่อนที่เป็น 5 AC  รองรับการใช้งานได้แบบสบายๆ ส่วนขนาดของตัวเครื่อง 359.8 x 256 x 22.8 ~24.7 มม. น้ำหนัก 2.3 กิโลกรัม ถือว่าอยู่ในเกณ์ที่ดีตามมาตรฐาน Gaming Notebook และเมื่อรวมกับอแดปเตอร์ชาร์จไฟขนาด 200 W เข้าไปด้วยจะมีน้ำหนักอยู่ที่ 2 กิโลกรัมกลางๆ ซึ่งสำหรับหนุ่มๆ ก็พกพาไปไหนมาไหนได้สบายๆ แน่นอน

ASUS TUF F15 FA506 R5800H RTX3070 Review 68
ASUS TUF F15 FA506 R5800H RTX3070 Review 66
ASUS TUF F15 FA506 R5800H RTX3070 Review 1

Inside / Upgrade

การแกะเครื่อง ASUS TUF Gaming A15 FA506 เพื่อทำการอัพเกรดนั้นทำง่ายมากเพียงแกะน็อตออกทุกตัวแล้ว โดยมุมนึงจะมีสกรูแบบพิเศษหนึ่งตัวที่จะช่วยให้การเข้าถึงการอัพเกรดเป็นเรื่องง่ายโดยไม่ต้องใช้เครื่องมือพิเศษ เพียงไขน็อตทุกตัวออกปกติ (ระวังความยาวไม่เท่ากันด้วย) เมื่อแกะออกมาแล้วก็จะเห็นฮาร์ดแวร์หลายๆ ถูกออกแบบจัดระเบียบได้ค่อนข้างดีเลยทีเดียว มีพัดลมขนาดใหญ่ 2 ตัว แบบ 3 ทิศทาง พร้อมระบายความร้อนที่มี Self-Cleaning Cooling  ที่อยู่ในชุดฟินสีทองแดง หมดกังวลเรื่องฝุ่นที่ติดตรงครีบระบายความร้อน

ASUS TUF Gaming A15

จุดสังเกตที่เปลี่ยนไปคือตัวเครื่องเลือกใช้ฮีทไปป์ 4 เส้นขนาดใหญ่พาดผ่าน เรียกได้ว่าเอาอยู่กับสเปกแบบนี้แล้ว ซึ่งหลังจากที่แกะออกมาแล้วนั้นจะเห็นแผ่นสีดำ สีเทาแปะติดไว้อยู่ในหลายๆ ส่วนเพื่อกันไฟฟ้าสถิต และในส่วนของฮาร์ดแวร์ที่สามารถทำการอัพเกรดคือมีช่องใส่ SSD M.2 NVMe PCIe สรุปคือเราสามารถติดตั้ง SSD M.2 NVMe PCIe ได้ 2 ตัวพร้อมกันนั่นเอง แรมให้มาแล้วแบบ 16GB ที่เป็น 8GB x 2 แถว ซึ่งเอาเข้าจริงก็เพียงพอกับการใช้งานทุกๆ อย่างแล้ว แต่สำหรับในอนาคตใครอยากอัพเกรดแรมเป็น 16GB x 2 แถว ก็สามารถทำได้เช่นกัน

ASUS TUF F15 FA506 R5800H RTX3070 Review 6
ASUS TUF F15 FA506 R5800H RTX3070 Review 9
ASUS TUF F15 FA506 R5800H RTX3070 Review 13
ASUS TUF F15 FA506 R5800H RTX3070 Review 10
ASUS TUF F15 FA506 R5800H RTX3070 Review 11
ASUS TUF F15 FA506 R5800H RTX3070 Review 12

Performance / Software

ASUS TUF Gaming A15 FA506 มาพร้อมกับชิปประมวลผลตัวแรงในตลาดของ Gaming Notebook ของ AMD อย่าง Ryzen 7 5800H เน้นนำไปใช้งานหนักๆ มากกว่า Ryzen 4000H ด้วยสถาปัตยกรรม Zen 3 โค้ดเนม Cezanne มาพร้อมกับเทคโนโลยีการผลิตที่ 7 nm ความเร็ว 3.20 – 4.40 GHz แบบ 8 Core/ 16 Thread ร้อนน้อยกว่า ได้ L3 Cache ที่ 16MB มีค่าอัตราการใช้พลังงานสูงสุด (TDP) ที่ 45W รองรับการทำงานประมวลผลหนักๆ หรือเล่นเกมได้ดีกว่า

ที่ต้องบอกว่าสร้างมาตรฐานประสิทธิภาพที่มากกว่าชิปประมวลผลรุ่นก่อนๆ มากยิ่งขึ้นไปอีก แรงเพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไปมากๆ หรือถ้างานที่ต้องประมวลผลจริงจังรวมไปถึงเล่นเกมเป็นหลัก ก็รองรับได้อย่างสบายๆ และดีที่สุดแน่นอน เรียกได้ว่าแรงกว่าชิปประมวลผลที่เป็น AMD Ryzen 4000H อย่าง Ryzen 7 4800H แน่นอน พร้อมได้แรมขนาด 16GB DDR4 Bus 3200MHz (8GB x 2) ใช้งานได้ทันที ที่สามารถขับเคลื่อนระบบปฏิบัติการ Windows 10 Home ลิขสิทธิ์ที่มีมาให้แบบสบายๆ

c1 7.   c2 7

ผสานกับการ์ดจอออนบอร์ดรุ่นใหม่อย่าง AMD Radeon 8 มีความเร็วในการทำงานที่ 2000MHz มาตรฐานแรม DDR4 ขนาด 512MB ให้พลังในการประมวลผลที่ดีในระดับหนึ่ง อย่างในเรื่องของกราฟิก 2 มิตินั้นก็รองรับได้อย่างสบายๆ หรือถ้าเป็น 3 มิติ ก็ต้องบอกว่ารองรับการทำงานได้ในระดับเบื้องต้นเป็นหลัก กับหน้าจอความละเอียดสูงให้ความลื่นไหลเป็นอย่างดี ซึ่งโดดเด่นจริงๆ จะเป็นเรื่องของการประหยัดพลังงานเมื่อใช้งานเบาๆ

g1 7.   g2 7

อีกทั้งยังมีการ์ดจอแยกรุ่นใหม่ล่าสุดตัวแรงอย่าง NVIDIA GeForce RTX 3070 (8GB GDDR6) ซึ่งตรวจสอบแล้วเป็น Max-Q ไม่ใช่ Max-P เน้นความแรงแต่ปลดปล่อยความร้อนที่ต่ำกว่า สถาปัตยกรรม Ampere  เทคโนโลยีการผลิต 8 นาโนเมตร โดยเป็น RTX เจนที่ 2 ที่ต้องบอกว่าแรงกว่ารุ่นก่อนหน้าที่เทียบเคียงอย่าง GeForce RTX 2070 ได้ดีกว่า ซึ่งไม่ใช่แค่แรงแต่ยังร้อนน้อยกว่าด้วย

เน้นใช้งานกับ Gaming Notebook ทุกประเภท ทั้งตัวหนาหนักและบางเบา รองรับ Ray Tracing ช่วยเพิ่มคุณภาพการแสดงแสงเงาให้แม้แต่เกมระดับ AAA ก็ยังสามารถปรับกราฟิกได้ถึง Ultra ให้ภาพสวยงาม ไหลลื่น สมจริงกว่าที่เคยมีมา เรียกได้ยิ่งตอบสนองในส่วนของการทำงานที่เกี่ยวข้องกับ 3 มิติ หรือเกมที่กินทรัพยากรได้เป็นอย่างดีทีเดียว แม้ว่าจะเป็น Max-Q แต่ความแรงไม่เป็นรองสเปก Max-P เลย

cine15 5.   cine20 5 

สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH 15 / CINEBENCH 20 ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล AMD Ryzen 7 5800H คะแนนก็อยู่ในระดับสูงมากๆ อย่างน่าประทับใจสมกับเป็นเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดจาก Ryzen 5000H เปรียบเทียบกับชิปประมวลผล AMD Ryzen 7 4800H / Intel Core i7-10875H ก็ทำได้ดีกว่าแบบชัดเจนทีเดียว รวมไปถึงตัวการ์ดจอแยก RTX 3070 เองก็มีประสิทธิภาพสูงเช่นเดิม เรียกได้ว่าตอบโจทย์ในส่วนของงานประมวลผลหนักๆ ได้อย่างสบายๆ รวดเร็วทันใจแบบสุดๆ สมกับเป็นชิปประมวลผลตัวบนในรุ่นใช้งานเต็มกำลัง และการ์ดจอระดับบนสุด ที่เน้นการทำงาน 3D เป็นหลัก

ssd 7

ตัวเก็บข้อมูลของเครื่องที่เลือกใช้ SSD ที่กลายเป็นมาตรฐานของ Gaming Notebook ไปแล้ว ทำคะแนนออกมาได้อย่างรวดเร็วเป็นที่น่าพอใจบนขนาดความจุ 1TB แบบ M.2 NVMe PCIe ยิ่งเมื่อนำไปใช้เทียบกับฮาร์ดดิสก์แบบจานหมุนแล้วละก็จะเห็นถึงประสิทธิภาพทั้งในด้านการทดสอบและในด้านการใช้งานจริงที่แตกต่างกันอย่างเห็นเห็นได้ชัด เรียกได้ว่าเปิดอะไรปุ๊บก็ติดปั๊บ ที่ต้องบอกว่าความเร็วระดับการอ่านที่ราวๆ 3597 MB/s และเขียนที่ 3022 MB/s สมกับเป็นรุ่นบนๆ ของตลาดจริงๆ

pc10 7

การทดสอบประสิทธิภาพกับโปรแกรม PCMark 10 Advance ซึ่งสามารถทำคะแนนการทดสอบรวมได้มากถึง 6,595 คะแนน ถือได้ว่าในส่วนของการใช้งานทั่วไปโดยรวมนั้นสอบผ่านแบบสบายๆ ทั้งในส่วนของการเล่นเว็บไซต์ งานเอกสาร งานตกแต่งรูปภาพ รวมถึงงานตัดต่อวิดีโอ และจากการที่เป็น Gaming Notebook สเปกใหม่ล่าสุดจากชิปประมวลผล AMD Ryzen 7 5800H มีการ์ดจอแยกระดับ Gaming อย่าง NVIDIA GeForce RTX 2070 ทำให้มีคะแนนพุ่งกว่าโน๊ตบุ๊คปีก่อนๆ มากพอตัว

3d 1

สำหรับคะแนนและเฟรมเรมในการเล่นเกมจากการทดสอบด้วยโปรแกรม 3D Mark จากทาง Futuremark ที่พัฒนาและคิดค้นจากบริษัท AMD, Intel, Microsoft, NVIDIA ในส่วนของ Time Spy ทำออกมาน่าสนใจมากๆ ด้วยคะแนนรวม 8,321 และประมวลผลคาดการณ์เกม Apex Legends ปรับสุด Full HD ได้ 140+ FPS เน้นเรื่อง DirectX 12 เป็นตัวช่วยขับเคลื่อนเพื่อมาเสริมข้อบกพร่องทางด้านการทำงานต่างๆ ของการ์ดจอเป็นหลัก ซึ่งผลทดสอบนั้นจะดูว่าแต่ละการ์ดจอนั้นสามารถทำงานเข้าขากับ DirectX 12 ได้ดีขนาดไหน

game test 6

สำหรับคะแนนและเฟรมเรมในการเล่นเกมทำออกมาน่าสนใจมากๆ โดยเฉลี่ยของเฟรมเรท (FPS) จากทั้ง 7 เกมที่ได้ทดสอบมีค่าเฟรมเรทเฉลี่ยมากกว่า 100 – 160 FPS ขึ้นไปแทบทุกเกม ประกอบไปด้วย Resident Evil 3 Remake / Battlefield V / FarCry 5 ที่เป็นเกมออฟไลน์ที่กินทรัพยกร รวมไปถึงเกมออนไลน์ยอดนิยมอย่าง PUBG / DOTA 2 / Overwatch ซึ่งตรงนี้ก็สามารถชี้วัดความสามารถในการเล่นเกมที่กราฟิกละเอียดๆ และภาพสวยๆ ได้ลื่นไหลเป็นอย่างดีเลย

ทดสอบเกมกินทรัพยากรพอตัวอย่าง RE 3 / BF V / FarCry 5 ก็สามารถเล่นได้ดีที่ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล โดยกราฟิกปรับระดับสูงสุดทั้งหมด จากกราฟตามภาพด้านบน ที่ต้องบอกว่าเฟรมเรทที่ออกมานั้นมีความลื่นไหลสุดๆ กับการตอบสนองความต้องการเล่นเกมได้สมบูรณ์ที่สุดแล้ว ซึ่งถ้าอยากให้เฟรมเรทลื่นไหลกว่านี้ก็สามารถเลือกปรับกราฟิกระดับกลางๆ ก็ได้ โดยในส่วนของ RE 3 ซึ่งเป็นเกมออกใหม่ล่าสุด เราปรับกราฟิกในเกมเป็น MAX ที่ใช้แรมการ์ดจอไปกว่า 12GB ซึ่งเกินกว่าตัวการ์ดจอที่ 8GB แต่ก็ยังทำเฟรมเรทได้ลื่นไหลจริงๆ

ต่อกันที่เกมออนไลน์อย่าง PUBG / Overwatch / DOTA 2 ก็จัดการทดสอบแบบปรับสุดหมดให้ด้วยเช่นกัน โดยทั้งนี้การตั้งค่าความละเอียดของภาพก็อยู่ที่ 1920 x 1080 พิกเซล ซึ่งเป็นความละเอียดที่จะสามารถเล่นให้ลื่นได้ สำหรับรายละเอียดภาพอื่นๆ ก็เรียกได้ว่าเปิดทุกอัน  ผลที่ได้ออกมาก็คือสามารถเรนเดอร์ได้อย่างไหลลื่นในระดับเฟรมเรทที่สูงสุด แม้กระทั่งฉากตะลุมบอนกันก็ไม่มีอาการช้าหรือหน่วงเลย 

arm

นอกเหนือจากนี้ ASUS TUF Gaming A15 FA506 ยังมี Armory Crate รุ่นใหม่ โดยเป็นซอฟต์แวร์ Utility ที่ยกมาจาก ROG รุ่นอื่นๆ ซึ่งรวบรวมเอาฮาร์ดแวร์ต่างๆของ ROG มาไว้บนยูทิลิตี้เดียว ทำให้สามารถเข้าถึงฟังค์ชั่นต่างๆได้อย่างง่ายดาย การตั้งค่าต่างๆ ของระบบร อาทิ ผู้ใช้สามารถบันทึกการตั้งค่าต่างๆตามความชอบเป็นรูปแบบได้หลายโปรไฟล์

ซึ่งการตั้งค่าต่างๆ จะถูกเรียกใช้งานโดยอัตโนมัติเมื่อมีการเปิดเกมที่ได้เลือกไว้ Armoury Crate ยังมาพร้อมกับโปรแกรมเสริม Mobile Dashboard สำหรับ Android และ iOS รวมไปถึงความสามารถอื่นๆ ที่จะมีเพิ่มขึ้นจากการอัพเดทในอนาคต ปิดท้ายด้วยซอฟต์แวร์ Utility อีกตัวอย่าง MyASUS รุ่นใหม่ที่ไว้คอยตรวจระยะเวลากรับประกันและอัพเดทไดร์เวอร์ได้ครบถ้วน

my

Battery / Heat / Noise

แบตเตอรี่ที่ติดตั้งมาให้ใน ASUS TUF Gaming A15 FA506 เครื่องนี้เป็นแบบฝังตามปกติขนาด 90Whrs ส่วนของการทดสอบระยะเวลาใช้งานของแบตเตอรี่โดยตั้งค่าความสว่างหน้าจอและเสียงให้ระดับกลางๆ แล้วเล่นเว็บสลับกับดู Youtube แล้ว โปรแกรม BatteryMon แจ้งระยะเวลาใช้งานต่อเนื่องในเงื่อนไขดังกล่าวราวๆ 13 – 14 ชั่วโมงโดยประมาณ เรียกได้ว่าน่าประทับใจมากๆ กับการที่ Gaming Notebook จอ 15.6″ ใช้งานแบตเตอรี่ได้ยาวนานขนาดนี้

batt2

ส่วนเรื่องอุณหภูมิในการใช้งานนั้น ASUS TUF Gaming A15 FA506 เมื่อใช้งานแบบปกติ ชิปประมวลผลจะอยู่ที่ประมาณ 40 – 60 องศาเซลเซียส ส่วนการ์ดจอจะอยู่ที่ 40 – 60 องศาเซลเซียสเช่นกัน ภายในห้องปรับอากาศอุณหภูมิประมาณ 25 – 28 องศาเซลเซียส จากนั้นทำการทดสอบเบิร์นให้เครื่องทำงาน 100% ด้วยการเล่นเกมกราฟิก 3 มิติ เพื่อให้เห็นถึงระบบระบายความร้อนและเสียงรบกวนที่จะเกิดขึ้นเมื่อพัดลมหมุนรอบจัดสุด

ด้วยการเปิดโหมด Turbo เพื่อเริ่งประสิทธิภาพ จากการทดสอบขณะนี้ดูได้ผ่านทางซอฟต์แวร์ Hardware Monitor รุ่นใหม่ล่าสุด ที่สามารถดูข้อมูลได้ละเอียดมากๆ โดย CPU ชิปประมวลผล อยู่ที่ไม่เกิน 96 องศาเซลเซียส ส่วน GPU การ์ดจอจะอยู่ที่ไม่เกิน 78 องศาเซลเซียส ซึ่งต้องยอมรับว่าเย็นกว่ารุ่นก่อนๆ และเย็นกว่าหลายรุ่นในตลาด นับว่าทาง ASUS ทำการบ้านมาดีจริงๆ  

temp2 3

โดยรวมแล้วมีการจัดการอุณหภูมิได้ดีในแง่ของความลื่นไหล ไม่มีสะดุด ซึ่งเมื่อเทียบกับประสิทธิภาพที่ได้กลับมา แน่นอนว่ามากกว่า Gaming Notebook ในสเปกเดียวกัน สำหรับเสียงรบกวนในเวลาทำงานนั้นถือว่าดังประมาณนึงแต่ไม่ถึงขั้นดังรบกวน จากการที่เราสามารถเพิ่มรอบสูงสุดได้ด้วยซอฟต์แวร์จากปกติที่จะเป็นแบบ Windows เพื่อใช้งานทั่วไปก็สามารถทำได้ค่อนข้างเงียบทีเดียว

Conclusion / Award

จาการที่สัมผัสและใช้งานจริงๆ ของ ASUS TUF Gaming A15 FA506 ทั้งการเล่นเกมหลากหลายเกม รวมไปถึงทำงานและความบันเทิงดูหนังฟังเพลง ในเรื่องของดีไซน์การออกแบบที่ล้ำหน้า ขอบจอบาง น้ำหนักเบา มีไฟคีย์บอร์ด RGB งานประกอบและวัสดุที่เยี่ยมยอด ได้ประสบการณ์ใช้งานที่เหนือชั้นเมื่อเทียบกับ Gaming Notebook รุ่นก่อนๆ รวมไปถึงระบบระบายความร้อนที่ดียิ่งขึ้น สเปคประสิทธิภาพสูง ที่สำคัญคือได้หน้าจอพาเนล IPS เกรดสูง sRGB 89% ที่ Refresh Rate 240Hz ได้สเปกที่รองรับการเล่นเกมได้อย่างสนุกสนานอย่างแท้จริง 

ASUS TUF Gaming A15

ด้วยการรวมตัวของใหม่อย่าง AMD Ryzen 7 5800H ที่มีความแรงที่ดีกว่ารุ่นก่อนแบบไม่กั๊ก ที่สำคัญความร้อนมีไม่มาก พร้อมด้วยการ์ดจอ NVIDIA GeForce RTX 3070 (8GB GDDR6) แบบ Max-Q และแรม DDR4 ขนาด 16GB ที่ไม่ต้องอัพเกรดแล้ว  อีกทั้งยังมี SSD แบบ M.2 NVMe ความจุ 1TB แบบความเร็วสูง มาให้พร้อมใช้งาน ครบครันกับการใช้งาน สมกับเป็น Gaming Notebook มีความเป็น TUF Gaming ที่ไม่ใช่แค่สวยงามดุดัน แต่เน้นประสิทธิภาพต่อราคาที่คุ้มค่าด้วย อย่างที่แบรนด์อื่นๆ ไม่สามารถให้ได้

ASUS TUF Gaming A15

เรื่องของการออกแบบที่ ASUS TUF Gaming A15 FA506 ทำได้ดีมาก ฉีกรูปแบบเดิมๆ ออกไป ด้วยดีไซน์สไตล์ TUG Gaming ที่เป็น Gaming Notebook หน้าจอขนาด 15.6″ แต่มีมิติตัวเครื่องพกพาสะดวก ที่ดูดุดันจริงจังเกินราคา บวกกับฟีเจอร์อย่างคีย์บอร์ดมีไฟแบบพิเศษ ด้วยปุ่ม WASD เป็นแบบโปร่งแสงโดดเด่น ​ระบบเสียงคุณภาพดีเยี่ยม แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานกว่า 14 ชั่วโมง !!! ที่สำคัญเครื่องนี้มีระบบป้องกันฝุ่น Self-Cleaning Cooling พร้อมระบบระบายความร้อนจัดเต็ม เหมาะกับคนที่ต้องการ Gaming Notebook ที่แรงและคุ้มค่าอย่างแท้จริง

ASUS TUF Gaming A15

ปิดท้ายเทียบ ASUS TUF Gaming A15 FA506 รุ่นใหม่ปี 2021 เทียบกับ Gaming Notebook หลายๆ รุ่นในตลาดตอนนี้ที่ขายๆ กันอยู่ ในช่วงราคา 3x,xxx บาทขึ้นไป ตามแต่สเปกหรืองบประมาณที่เราตั้งเอาไว้ ก็ต้องยอมรับว่าน่าซื้อสุดๆ นอกจากได้ชิปประมวลผลที่แรงขึ้นกว่าเดิม การ์ดจอที่แรงลื่นแม้จะเป็นซีรีส์ Max-Q (ปี 2021 นี้ทาง NVIDIA ไม่บอกแล้ว ต้องหาข้อมูลเสริมเอง) ไม่ใช่ Max-P แบบรุ่นก่อนๆ แต่ทาง ASUS ก็ OC เร่งความแรงขึ้นให้ด้วย ทำให้เล่นเกมได้ลื่นกว่าแล้ว ความร้อนต้องบอกว่าเย็นขึ้นได้อีก

อย่างไรก็ตามต้องยอมรับว่า Gaming Notebook แบรนด์อื่นๆ ในปี 2021 รุ่นใหม่ๆ ได้ทำการส่งสเปกที่ใกล้เคียงนี้มาเหมือนกัน ทั้งสเปกที่เป็น AMD หรือ Intel โดยต้องเปรียบเทียบแล้วก็มีจุดเด่นและข้อสังเกตที่แตกต่างกันออกไป ตรงนี้เพื่อนๆ ต้องลองเปรียบเทียบกันอีกทีว่าชอบแบบไหน เพราะโจทย์ของการใช้งานแต่ละคนนั้นไม่เหมือนกัน แต่บอกเลยว่าถ้าใครสนใจ ASUS TUF Gaming A15 อยู่แล้วก็จัดได้เลย เพราะขายดีและของหายากจากความต้องการที่สูงและโรงงานผลิตไม่ทัน

ASUS TUF Gaming A15

Award

โดยในครั้งนี้จะเป็นการเปรียบเทียบการให้รางวัลกับเครื่องในกลุ่มของโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 15.6 นิ้วด้วยกัน ซึ่ง ASUS TUF Gaming A15 FA506 ก็ได้รางวัลต่างๆ ดังนี้

Best Performance 

ASUS TUF Gaming A15 FA506 สเปกใหม่ล่าสุด พร้อมขายก่อนใครเป็น AMD Ryzen 7 5800H + NVIDIA GeForce RTX 3070 + Ram 16GB Bus 3200Hz + SSD M.2 NVMe PCIe 1TB + มี Windows 10 Home ซึ่งทดสอบการใช้งานเล่นเกมจริงแล้วแรงกว่า Gaming Notebook รุ่นก่อนๆ ทั้ง AMD Ryzen / Intel Core i รุ่นก่อนมากๆ รวมไปถึงการทดสอบด้วยโปรแกรมต่างๆ ค่าคะแนนต่างๆ ก็ทำออกมาได้ดี ส่วนการใช้งานทั่วไปนั้นก็ลื่นไหลสุดๆ หรือเล่นเกมก็ให้ประสบการณ์ใช้งานที่ดีเยี่ยม สำหรับ Gaming Notebook หน้าจอ 15.6″ แบบนี้ 

 award new performance  

Best Design

เรื่องของรูปร่างหน้าตาก็เป็นหนึ่งในจุดเด่นที่มีอยู่ในผลิตภัณฑ์ของ TUF Gaming โน๊ตบุ๊คสายคุ้มค่ามาตั้งแต่ไหนแต่ไร ซึ่งจุดเด่นในข้อนี้ก็เห็นได้ชัดเจนใน ASUS TUF Gaming A15 FA506 ที่มีดีไซน์ของตัวเครื่องสวยงามโฉบเฉี่ยวเป็นเอกลักษณ์ ดูแล้วเรียบหรูตามสไตล์คนรุ่นใหม่ที่ชอบเล่นเกม ที่สำคัญคือขอบจอบาง ทำให้มิติตัวเครื่องใกล้เคียงพวกจอ 14″ แถมน้ำหนักเบาแค่ 2.3 กิโลกรัมเท่านั้น ที่สำคัญคือดีไซน์ให้ความสวยงามดูทนทานกว่ารุ่นก่อนๆ ทั้งหมด จากการใช้สีสันเป็น Fortress Gray ใช้วัสดุเป็นโลหะผสมแบบอลูมิเนียมอัลลอยทั้งชิ้น

NBS award 7 Design

Best Durability

ASUS TUF Gaming A15 FA506 มีความทนทานระดับ Military Grade ต่อแรงกระแทก อุณหภูมิสูงต่ำ ความชื้น ความกดอากาศ และแสงแดด เรียกได้ว่าเป็น Gaming Notebook น้อยรุ่นนักที่มาพร้อมคุณสมบัติแบบนี้ เพราะที่ผ่านมาเราจะหาความทนทานระดับ Military Grade ได้ก็พวก Ultrabook ราคาแพงเท่านั้น แต่สิ่งนี้ ASUS จัดเต็มมาให้เลย สำหรับ Gaming Notebook ช่วงราคา 3x,xxx – 4x,xxx บาท นับว่ามีความใจเป็นอย่างมาก มากกว่าแบรนด์อื่นๆ ชัดเจน

award new Durability

Best Gaming

นอกเหนือจากสเปกหลัก ยังให้ความ Gaming โดดเด่นกว่ารุ่นก่อนหน้าคือได้หน้าจอขนาด 15.6″ ความละเอียด Full HD ที่ 1920 x 1080 พิกเซล พาเนล IPS เกรดคุณภาพดี รองรับ Refresh Rate ที่ 240Hz ให้ความลื่นไหลอย่างที่สุดด้วย พร้อมเทคโนโลยี Adaptive Sync ทำให้ภาพไม่ฉีกขาด (Tearing)รวมไปถึงมีลำโพงคุณภาพสูงระบบเสียง DTS:X Ultra พร้อมพอร์ตการเชื่อมต่อครบครัน ทั้ง 3 x USB 3.2 Gen 2 Type-A และ 1 x USB 3.2 Gen2 Type-C โดยทำงานเป็น DisplayPort 1.4  ได้ไฟคีย์บอร์ด RGB และระบบระบายความร้อนที่เยี่ยมยอดด้วย

award new Gaming

 

from:https://notebookspec.com/web/589923-review-asus-tuf-gaming-a15-r7-rtx-3070

ASUS TUF Gaming F17

ASUS TUF Gaming นั้นมีสินค้าในกลุ่มออกมาหลากหลายอย่าง และตอนนี้ก็มีข้อมูลของ ASUS TUF Gaming F17 ซึ่งอัพเดทจาก ASUS TUF Gaming F15 รุ่นเก่าที่ทาง Notebookspec เคยทำรีวิวไปก่อนหน้านี้ ซึ่งมีข้อมูลหลุดออกมาหน้าเว็บไซต์ Amazon สาขาอิตาลี โดยเปลี่ยนขนาดตัวเครื่องและคีย์บอร์ดแต่ยังคงดีไซน์เดิมเอาไว้และเปลี่ยนซีพียูเป็น Intel Tiger Lake-H45 ตัวประสิทธิภาพสูงแทน

ASUS TUF Gaming F17

สเปคของ ASUS TUF Gaming F17

ASUS TUF Gaming F17 Laptop With Intel Core i7 11800H NVIDIA GeForce RTX 3060 3 1473x1480 1

รหัสเฉพาะรุ่นของ ASUS TUF Gaming F17 ใหม่นี้คือ FX706-HX062T ดีไซน์ยังเหมือนรุ่น F15 เดิม แต่ขยายขนาดหน้าจอจาก 15.6 นิ้วขึ้นมาเป็น 17.3 นิ้วแทนและเพิ่มแป้น Numpad เข้ามาด้วย และยังติดตั้งฟีเจอร์เอกลักษณ์ของรุ่นอย่างระบบเสียง DTS Audio, ความแข็งแรงทนทานและคีย์บอร์ดเกมมิ่งพร้อมไฟ RGB เหมือนเดิม

ASUS TUF Gaming F17 Laptop With Intel Core i7 11800H NVIDIA GeForce RTX 3060 4 1480x1201 1

ด้านของสเปคที่หลุดออกมาหน้าเว็บไซต์ของ Amazon สาขาอิตาลีจะมีดังนี้

  • ซีพียู Intel Core i7-11800H แบบ 8 คอร์ 16 เธรด ความเร็ว 2.5-4.5 GHz ทำงานแบบคอร์เดียวจะมีความเร็วสูงสุด 4.9 GHz ค่า TDP 45 วัตต์ สถาปัตยกรรม 10 นาโนเมตร คอร์ซีพียูเป็น Willow Cove x86 
  • การ์ดจอในซีพียูเป็น Intel Iris Xe (GT1)ความเร็ว 1,450 MHz
  • การ์ดจอแยกเป็น NVIDIA GEFORCE RTX 3060 แรม 6 GB GDDR6 มี 3840 CUDA cores ความเร็ว Memory clock 12 Gbps มี Bandwidth 288 GB/s ค่า TGP (Total Graphics Power) อยู่ที่ 60-115W ยังไม่ยืนยันว่าเป็น Max-P หรือ Max-Q
  • แรมในเครื่อง 16 GB DDR4 รองรับการอัพเกรดสูงสุด 32 GB DDR4
  • ฮาร์ดดิสก์เป็น M.2 NVMe ความจุ 1 TB
  • หน้าจอ 17.3 นิ้ว ความละเอียด Full HD (1920×1080 พิกเซล) พาเนล IPS เป็นจอกันแสงสะท้อน Anti-Glare ค่า Refresh Rate 144 Hz
  • ต่ออินเตอร์เน็ตด้วย Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax แต่ Wccftech เผยว่าติดตั้ง Wi-Fi 6E มาให้เลย และ Bluetooth 5.2
  • แบตเตอรี่มีขนาด 90Whr
  • น้ำหนัก 2.6 กิโลกรัม ซึ่งจัดว่าไม่หนักมากสำหรับหน้าจอ 17.3 นิ้ว
  • ติดตั้ง Windows 10 Home (64-bit) มาให้พร้อมใช้งาน
  • ราคาที่หลุดออกมาอยู่ที่ 1,799 ยูโร หรือราว 67,000 บาท

ASUS TUF Gaming F17 Laptop With Intel Core i7 11800H NVIDIA GeForce RTX 3060 1
ASUS TUF Gaming F17 Laptop With Intel Core i7 11800H NVIDIA GeForce RTX 3060 2 1480x1038 1

อย่างไรก็ตามซีพียู Intel Core รุ่นที่ 11 ทาง Intel ยังไม่มีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ดังนั้นซีพียูอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงในภายหลังได้ ส่วนวันเริ่มจัดส่งสินค้าให้ลูกค้าได้จะอยู่ช่วงวันที่ 10 พฤษภาคม ถึงวันที่ 8 มิถุนายนนี้ อย่างไรก็ตามถ้ามีข้อมูลหลุดว่าจะมีเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คที่ใช้ซีพียูรุ่นใหม่ออกมาแล้ว ทาง Intel ก็น่าจะประกาศเปิดตัวซีพียูรุ่นที่ 11 ของตัวเองอย่างเป็นทางการเร็ว ๆ นี้เช่นกัน ดังนั้นใครที่มีแผนซื้อเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คแล้วมีงบประมาณเยอะหน่อยอาจจะรอสักนิดก็ได้

ที่มา : VideoCardz, Notebookcheck, Wccftech

from:https://notebookspec.com/web/589062-asus-tuf-gaming-f17

ASUS TUF Gaming F17 ใส่ Intel I7 รุ่น 11, RTX 3060 แรม 16 GB เริ่ม 67k

ASUS TUF Gaming นั้นมีสินค้าในกลุ่มออกมาหลากหลายอย่าง และตอนนี้ก็มีข้อมูลของ ASUS TUF Gaming F17 ซึ่งอัพเดทจาก ASUS TUF Gaming F15 รุ่นเก่าที่ทาง Notebookspec เคยทำรีวิวไปก่อนหน้านี้ ซึ่งมีข้อมูลหลุดออกมาหน้าเว็บไซต์ Amazon สาขาอิตาลี โดยเปลี่ยนขนาดตัวเครื่องและคีย์บอร์ดแต่ยังคงดีไซน์เดิมเอาไว้และเปลี่ยนซีพียูเป็น Intel Tiger Lake-H45 ตัวประสิทธิภาพสูงแทน

ASUS TUF Gaming F17

สเปคของ ASUS TUF Gaming F17

ASUS TUF Gaming F17 Laptop With Intel Core i7 11800H NVIDIA GeForce RTX 3060 3 1473x1480 1

รหัสเฉพาะรุ่นของ ASUS TUF Gaming F17 ใหม่นี้คือ FX706-HX062T ดีไซน์ยังเหมือนรุ่น F15 เดิม แต่ขยายขนาดหน้าจอจาก 15.6 นิ้วขึ้นมาเป็น 17.3 นิ้วแทนและเพิ่มแป้น Numpad เข้ามาด้วย และยังติดตั้งฟีเจอร์เอกลักษณ์ของรุ่นอย่างระบบเสียง DTS Audio, ความแข็งแรงทนทานและคีย์บอร์ดเกมมิ่งพร้อมไฟ RGB เหมือนเดิม

ASUS TUF Gaming F17 Laptop With Intel Core i7 11800H NVIDIA GeForce RTX 3060 4 1480x1201 1

ด้านของสเปคที่หลุดออกมาหน้าเว็บไซต์ของ Amazon สาขาอิตาลีจะมีดังนี้

  • ซีพียู Intel Core i7-11800H แบบ 8 คอร์ 16 เธรด ความเร็ว 2.5-4.5 GHz ทำงานแบบคอร์เดียวจะมีความเร็วสูงสุด 4.9 GHz ค่า TDP 45 วัตต์ สถาปัตยกรรม 10 นาโนเมตร คอร์ซีพียูเป็น Willow Cove x86 
  • การ์ดจอในซีพียูเป็น Intel Iris Xe (GT1)ความเร็ว 1,450 MHz
  • การ์ดจอแยกเป็น NVIDIA GEFORCE RTX 3060 แรม 6 GB GDDR6 มี 3840 CUDA cores ความเร็ว Memory clock 12 Gbps มี Bandwidth 288 GB/s ค่า TGP (Total Graphics Power) อยู่ที่ 60-115W ยังไม่ยืนยันว่าเป็น Max-P หรือ Max-Q
  • แรมในเครื่อง 16 GB DDR4 รองรับการอัพเกรดสูงสุด 32 GB DDR4
  • ฮาร์ดดิสก์เป็น M.2 NVMe ความจุ 1 TB
  • หน้าจอ 17.3 นิ้ว ความละเอียด Full HD (1920×1080 พิกเซล) พาเนล IPS เป็นจอกันแสงสะท้อน Anti-Glare ค่า Refresh Rate 144 Hz
  • ต่ออินเตอร์เน็ตด้วย Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax แต่ Wccftech เผยว่าติดตั้ง Wi-Fi 6E มาให้เลย และ Bluetooth 5.2
  • แบตเตอรี่มีขนาด 90Whr
  • น้ำหนัก 2.6 กิโลกรัม ซึ่งจัดว่าไม่หนักมากสำหรับหน้าจอ 17.3 นิ้ว
  • ติดตั้ง Windows 10 Home (64-bit) มาให้พร้อมใช้งาน
  • ราคาที่หลุดออกมาอยู่ที่ 1,799 ยูโร หรือราว 67,000 บาท

ASUS TUF Gaming F17 Laptop With Intel Core i7 11800H NVIDIA GeForce RTX 3060 1
ASUS TUF Gaming F17 Laptop With Intel Core i7 11800H NVIDIA GeForce RTX 3060 2 1480x1038 1

อย่างไรก็ตามซีพียู Intel Core รุ่นที่ 11 ทาง Intel ยังไม่มีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ดังนั้นซีพียูอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงในภายหลังได้ ส่วนวันเริ่มจัดส่งสินค้าให้ลูกค้าได้จะอยู่ช่วงวันที่ 10 พฤษภาคม ถึงวันที่ 8 มิถุนายนนี้ อย่างไรก็ตามถ้ามีข้อมูลหลุดว่าจะมีเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คที่ใช้ซีพียูรุ่นใหม่ออกมาแล้ว ทาง Intel ก็น่าจะประกาศเปิดตัวซีพียูรุ่นที่ 11 ของตัวเองอย่างเป็นทางการเร็ว ๆ นี้เช่นกัน ดังนั้นใครที่มีแผนซื้อเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คแล้วมีงบประมาณเยอะหน่อยอาจจะรอสักนิดก็ได้

ที่มา : VideoCardz, Notebookcheck, Wccftech

from:https://notebookspec.com/web/589062-asus-tuf-gaming-f17-leaked-intel-11th