คลังเก็บป้ายกำกับ: INTEL_GEN_12

5 โน๊ตบุ๊ค Microsoft Surface สุดแจ่มน่าใช้ Intel Gen 12 พกง่ายทำงานสะดวกสุดๆ อัพเดทปี 2023

โน๊ตบุ๊ค Microsoft Surface พกง่ายเหมือนแท็บเล็ตแต่ทำงานดีไม่แพ้โน๊ตบุ๊คเลยนะ!

5Notemicrosoft

ถ้าอยากได้ประสบการณ์ใช้งานโน๊ตบุ๊ค Windows ที่ดีสุด ก็ต้องลองใช้ฮาร์ดแวร์ของทาง Microsoft เองเลย อย่างเช่น โน๊ตบุ๊ค Microsoft Surface ซึ่งมีให้เลือกหลายดีไซน์ ทั้ง Surface Laptop แบบฝาพับเหมือนโน๊ตบุ๊คปกติที่คุ้นเคยและมีรุ่นราคาประหยัดอย่าง Surface Go ให้เลือก, Surface Pro ร่างแท็บเล็ตแต่ใช้งานดีไม่แพ้โน๊ตบุ๊คทั่วไป เน้นพกพาง่ายหรือแม้แต่ Surface Laptop Studio รุ่นประสิทธิภาพสูงมีการ์ดจอแยก NVIDIA GeForce สำหรับครีเอเตอร์ไว้ใช้ทำงานกราฟิคต่างๆ ได้ด้วย

อย่างไรก็ตาม โน๊ตบุ๊ค Microsoft Surface นั้นได้รับความนิยมก็จริง แต่ค่อนข้างเฉพาะกลุ่มที่ชื่นชอบและเน้นใช้ระบบปฏิบัติการ Windows เป็นหลัก อาจเพราะราคาที่ค่อนข้างสูงและสเปคซึ่งถ้าเทียบกับคู่แข่งหลายๆ เจ้าแล้วไม่ดึงดูดใจเท่าไหร่ก็จริง แต่ในแง่ใช้งานจริงกลับใช้งานดีมากทั้งปลดล็อคเครื่องได้ง่ายๆ ด้วยเซนเซอร์สแกนใบหน้าหรือนิ้วตามโมเดลที่เลือก, ใช้ปากกา Surface Pen เขียนจดสิ่งต่างๆ ลงบนจอทัชสกรีนได้ง่ายพกพาก็สะดวก ถ้าหากใครได้ลองใช้สักครั้งน่าจะประทับใจแน่นอน

Advertisementavw
โน๊ตบุ๊ค Microsoft Surface

ทำไมโน๊ตบุ๊ค Microsoft Surface ถึงน่าใช้?

surfacewhy

ข้อดีของโน๊ตบุ๊ค Microsoft Surface ทั้งฝั่ง Surface Laptop ดีไซน์ฝาพับมาตรฐานหรือ Surface Pro ในร่างแท็บเล็ตต่างก็มีข้อดีอยู่หลายข้อ ได้แก่

  1. Surface ทุกรุ่นเป็นหน้าจอทัชสกรีน – หน้าจอ PixelSense ของ Surface ทุกรุ่นเป็นพาเนลทัชสกรีนทั้งหมด สามารถแตะสัมผัสได้ง่ายและรวดเร็วไม่ต้องพกเมาส์เพิ่มให้วุ่นวาย สามารถกางหน้าจอใช้งานได้ทันทีไม่ต้องเตรียมตัวเยอะ
  2. อัตราส่วนหน้าจอ 3:2 ดีต่องานคอนเทนต์ – อัตราส่วนหน้าจอโดยปกติในปัจจุบันเป็น 16:9 ซึ่งเหมาะกับการใช้งานทุกประเภทแต่เน้นพื้นที่แนวนอนมากกว่า ทว่าโน๊ตบุ๊ค Microsoft Surface จะเป็น 3:2 ซึ่งเน้นอัตราส่วนแนวตั้งเป็นหลัก จึงเหมาะกับงานคอนเทนต์ประเภทเขียนเป็นพิเศษ ซึ่งผู้เขียนได้อธิบายข้อดีของหน้าจอ 3:2 ไปโดยละเอียดในบทความนี้แล้ว สามารถคลิ๊กเพื่ออ่านรายละเอียดได้
  3. ใช้ปากกา Surface Pen เขียนบนหน้าจอได้ – Microsoft Surface ทุกรุ่นเอาใช้ปากกา Surface Pen เขียนจอจดสิ่งต่างๆ ได้ ใช้กับ Microsoft Whiteboard ยิ่งจดไอเดียต่างๆ ได้สะดวกขึ้น ได้สัมผัสเหมือนเอาปากกาเขียนบนกระดาษและยังชาร์จไร้สายกับตัวเครื่องได้ด้วย
  4. ถอดคีย์บอร์ดใช้งานเป็นแท็บเล็ตได้ – เวลานั่งรถแท็กซี่หรือยืนอยู่บนรถไฟฟ้าก็หยิบเจ้า Surface Pro ออกมาใช้งานได้ง่ายๆ และมีกล้องหลังติดมาให้ใช้ถ่ายภาพกระดานประชุมหรือเลคเชอร์เอาไว้ใส่ในโน๊ตเพิ่มเติมความเข้าใจได้ง่ายๆ ซึ่งสะดวกมาก
  5. มีเซนเซอร์ยืนยันตัวแบบชีวมาตร (Biometric) – โน๊ตบุ๊ค Microsoft Surface ทุกรุ่นจะมีเซนเซอร์ดังกล่าวติดมาให้อย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น เซนเซอร์สแกนใบหน้าหรือนิ้วมือ เพื่อให้ปลดล็อคเครื่องได้ง่ายๆ ไม่ต้องพิมพ์รหัสผ่านให้เสียเวลาหรือโดนคนอื่นแอบมองเพื่อขโมยใช้งานได้ด้วย
  6. มีพอร์ต Thunderbolt 4 – พอร์ตสารพัดประโยชน์รุ่นใหม่ล่าสุดนี้ ทาง Microsoft ติดตั้งมาให้อย่างน้อย 1-2 พอร์ต ขึ้นอยู่กับซีรี่ส์ ใช้งานได้เต็มฟังก์ชั่นทั้งถ่ายโอนข้อมูลเข้าออกเครื่อง, ต่อหน้าจอแยกแบบ DisplayPort หรือชาร์จแบตเตอรี่แบบ Power Delivery ก็ได้ ใช้สาย Thunderbolt เส้นเดียวก็ใช้งานได้ครบเครื่อง ถ้ามีอุปกรณ์ที่เหมาะสมอย่างจอคอมที่ต่อ USB-C แล้วใช้งานได้เลยและเป็น Port Hub ในตัวยิ่งใช้งานสะดวกต่ออุปกรณ์ต่างๆ ใช้งานพร้อมกันได้หรือจะต่อ USB-C Multiport Adapter ก็แยกเป็นพอร์ตต่างๆ ใช้งานได้ง่าย

สรุปสเปค 5 โน๊ตบุ๊ค Microsoft Surface น่าใช้ รวมทั้ง Laptop และ Pro Series

สรุปสเปค
โน๊ตบุ๊ค Microsoft Surface
CPU

GPU

SSD

RAM

Software

Display

Weight

Connectivity Price (บาท)
Microsoft Surface Laptop 5
i5/8GB/256GB
Intel Core
i5-1235U

Intel Iris Xe Graphics

M.2 NVMe
256GB

8GB LPDDR5
5200MHz

Windows 11 Home

ทัชสกรีน
13.5″
(2256×1504) IPS

Dolby Vision IQ

1.27 กก.

Thunderbolt 4 x 1

USB-A 3.1 x 1

Surface Connect x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6

Bluetooth 5.1

40,900
Microsoft Surface Laptop 5
i7/8GB/256GB
Intel Core
i7-1255U

Intel Iris Xe Graphics

M.2 NVMe
256GB

8GB LPDDR5
5200MHz

Windows 11 Home

ทัชสกรีน
15″
(2496×1664) IPS

Dolby Vision IQ

1.27 กก.

Thunderbolt 4 x 1

USB-A 3.1 x 1

Surface Connect x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6

Bluetooth 5.1

50,900
Microsoft Surface Pro 9
i5/8/128GB
Intel Core
i5-1235U

Intel Iris Xe Graphics

M.2 NVMe
128GB

8GB LPDDR5
5200MHz

Windows 11 Home

ทัชสกรีน
13″
(2880×1920) IPS

Refresh Rate 120Hz

Dolby Vision IQ

กล้องหลัง
10 ล้านพิกเซล

880 กรัม

Thunderbolt 4 x 2

MicroSD
Card Reader x 1

Surface Connect x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6

Bluetooth 5.1

40,900
Microsoft Surface Pro 9
i5/8/256GB
Intel Core
i5-1235U

Intel Iris Xe Graphics

M.2 NVMe
256GB

8GB LPDDR5
5200MHz

Windows 11 Home

ทัชสกรีน
13″
(2880×1920) IPS

Refresh Rate 120Hz

Dolby Vision IQ

กล้องหลัง
10 ล้านพิกเซล

880 กรัม

Thunderbolt 4 x 2

MicroSD
Card Reader x 1

Surface Connect x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6

Bluetooth 5.1

50,900
Microsoft Surface Pro 9
i7/16/256GB
Intel Core
i7-1255U

Intel Iris Xe Graphics

M.2 NVMe
256GB

16GB LPDDR5
5200MHz

Windows 11 Home

ทัชสกรีน
13″
(2880×1920) IPS

Refresh Rate 120Hz

Dolby Vision IQ

กล้องหลัง
10 ล้านพิกเซล

880 กรัม

Thunderbolt 4 x 2

MicroSD
Card Reader x 1

Surface Connect x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6

Bluetooth 5.1

62,900

5 โน๊ตบุ๊ค Microsoft Surface น่าใช้ พกสะดวกสบายใช้ดีสุดๆ

BNN Coverpage Edit Claim Surface Q2FY23 130623 300623 1752x640 category banner medium

หากต้องการใช้ระบบปฏิบัติการ Windows ให้ได้ประสบการณ์ที่ดีสุด ก็ต้องใช้กับโน๊ตบุ๊ค Microsoft Surface ซึ่งตอนนี้ทาง BaNANA จัดโปรโมชั่นให้ส่วนลดนักเรียนนักศึกษาถึง 10% รวมทั้งได้ของแถมเพิ่มเติมอีกด้วย โดยรุ่นแนะนำจะมีทั้งหมด 5 รุ่นดังนี้

  1. Microsoft Surface Laptop 5 i5/8GB/256GB (40,900 บาท)
  2. Microsoft Surface Laptop 5 i7/8GB/256GB (50,900 บาท)
  3. Microsoft Surface Pro 9 i5/8/128GB (40,900 บาท)
  4. Microsoft Surface Pro 9 i5/8/256GB (44,900 บาท)
  5. Microsoft Surface Pro 9 i7/16/256GB (62,900 บาท)

1. Microsoft Surface Laptop 5 i5/8GB/256GB (40,900 บาท)

Microsoft Surface Laptop 5 13in i58 256 Platinum QZI 00022 1

Microsoft Surface Laptop 5 ภาคต่อของ Surface Laptop 4 ซึ่งได้รีวิวไปแล้ว ซึ่งรุ่นใหม่นี้จัดการเปลี่ยนซีพียูเป็น Intel 12th Gen รุ่นล่าสุดแล้วและผ่านมาตรฐาน Intel Evo เป็นที่เรียบร้อย ได้หน้าจอทัชสกรีน PixelSense รองรับการแสดงผล Dolby Vision IQ ให้ภาพสวยคมชัดยิ่งขึ้นและลำโพง Omnisonic รองรับ Dolby Atmos ให้เสียงดีมีคุณภาพ สแกนหน้าปลดล็อคเครื่องได้ด้วยกล้อง IR Camera ตรงขอบบนหน้าจอ และทาง Microsoft เคลมว่าแบตเตอรี่ในเครื่องสามารถใช้งานได้นาน 18 ชั่วโมงทีเดียว ถ้าพกเครื่องไปประชุม, เข้าห้องเรียนหรือทำงานนอกสถานที่ก็ใช้งานได้ทั้งวันแน่นอน แถมยังได้แรม LPDDR5 ที่แม้จะมีความจุ 8GB ก็ตามแต่ทำงานแบบ Dual channel ในตัว จึงใช้งานได้ดีไม่มีติดขัด เหมาะกับคนทำงานที่หาโน๊ตบุ๊คพกพาสะดวกงานประกอบพรีเมี่ยมอย่างแน่นอน

สเปค Microsoft Surface Laptop 5 i5/8GB/256GB

CPU Intel Core i5-1235U แบบ 10 คอร์ 12 เธรด (2P+8E) ความเร็วสูงสุด 4.4GHz
GPU Intel Iris Xe Graphics
SSD M.2 NVMe SSD ความจุ 256GB
RAM 8GB LPDDR5 บัส 5200MHz
Display ทัชสกรีน PixelSense 13.5 นิ้ว (2256×1504) พาเนล IPS รองรับ Dolby Vision IQ
Connectivity Thunderbolt 4 x 1, USB-A 3.1 x 1, Surface Connect x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.1

Software Windows 11 Home
Weight 1.27 กิโลกรัม
Price 40,990 บาท ได้รับ Surface Slim Pen 2 และเคสใส่โน้ตบุ๊ค คลิ๊กสั่งซื้อที่นี่

2. Microsoft Surface Laptop 5 i7/8GB/256GB (50,900 บาท)

Microsoft Surface Laptop 5 15in i7 8 256 Platinum RBY 00022 2

โน๊ตบุ๊ค Microsoft Surface Laptop 5 อีกสเปคที่แนะนำจะยกสเปคจากข้อก่อนมาทั้งหมดแต่อัพเกรดซีพียูเป็น Intel Core i7 รุ่นที่ 12 แทน ทำให้ทำงานได้รวดเร็วยิ่งขึ้นและเพิ่มขนาดหน้าจอ PixelSense ให้ใหญ่ขึ้นเป็น 15 นิ้ว มีเซนเซอร์สแกนใบหน้าปลดล็อคเครื่องได้เหมือนกันแต่แบตเตอรี่มีความจุมากขึ้นจึงใช้งานได้ 18 ชั่วโมงเท่ากันด้วย ถูกใจคนชอบโน๊ตบุ๊คจอใหญ่ดูคอนเทนต์บนจอได้สะดวกและน้ำหนักกำลังดีแค่ 1.5 กิโลกรัม เลยพกพาง่ายไม่หนักไหล่เกินไป

สเปค Microsoft Surface Laptop 5 i7/8GB/256GB

CPU Intel Core i7-1255U แบบ 10 คอร์ 12 เธรด (2P+8E) ความเร็วสูงสุด 4.7GHz
GPU Intel Iris Xe Graphics
SSD M.2 NVMe SSD ความจุ 256GB
RAM 8GB LPDDR5 บัส 5200MHz
Display ทัชสกรีน PixelSense 15 นิ้ว (2496×1664) พาเนล IPS รองรับ Dolby Vision IQ
Connectivity Thunderbolt 4 x 1, USB-A 3.1 x 1, Surface Connect x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.1

Software Windows 11 Home
Weight 1.27 กิโลกรัม
Price 50,900 บาท ได้รับ Surface Slim Pen 2 และเคสใส่โน้ตบุ๊ค คลิ๊กสั่งซื้อที่นี่

3. Microsoft Surface Pro 9 i5/8/128GB (40,900 บาท)

Microsoft Surface Pro9 i5 8 128 Thai Platinum QCB 00017 1

Microsoft Surface Pro 9 เป็นโน๊ตบุ๊ค Microsoft Surface รูปร่างแท็บเล็ตพกพาง่าย ได้จอทัชสกรีนและเอาปากกา Surface Pen เขียนวาดบนหน้าจอได้สะดวกมาก ถ้าใช้คู่กับ Microsoft Whiteboard ก็ใช้วาดเขียนและจดไอเดียที่ต้องการได้ง่ายๆ และทาง Microsoft ยังดีไซน์ติดขาตั้ง (Kickstand) มาให้ที่ด้านหลังเอาไว้ตั้งเครื่องใช้งานได้ง่ายๆ แถมยังพิมพ์งานได้เหมือนโน๊ตบุ๊คเมื่อต่อคีย์บอร์ด Type Cover เพิ่มเข้าไปก็ใช้เป็นเคสปิดหน้าจอได้ มีฟีเจอร์สแกนหน้าปลดล็อคเครื่อง, พอร์ต Thunderbolt 4 ติดมาถึง 2 ช่อง และทาง Microsoft ยังเคลมระยะเวลาใช้งานไว้นาน 15.5 ชั่วโมงทีเดียว มีน้ำหนักยังเบาพกง่ายเพียง 880 กรัม เหมาะกับนักเรียนนักศึกษาไปจนคนทำงานที่ต้องการแท็บเล็ตระบบปฏิบัติการ Windows ที่คุ้นมือเอาไว้ใช้สักเครื่องหนึ่ง ซึ่ง Surface Pro 9 ตัวนี้ถือว่าราคาไม่แพงถ้าอยากลองเริ่มใช้โน๊ตบุ๊ค Microsoft Surface ดู แต่เพราะมีความจุเพียง 128GB ถ้าจะใช้งานหนักแนะนำให้พ่วงระบบ Cloud หรือมี External Harddisk เอาไว้เซฟงานแยกโดยเฉพาะจะสะดวกกว่า

สเปค Microsoft Surface Pro 9 i5/8/128GB

CPU Intel Core i5-1235U แบบ 10 คอร์ 12 เธรด (2P+8E) ความเร็วสูงสุด 4.4GHz
GPU Intel Iris Xe Graphics
SSD M.2 NVMe SSD 128GB
RAM 8GB LPDDR5 บัส 5200MHz
Display จอทัช PixelSense 13 นิ้ว (2880×1920) พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 120Hz
รองรับ Dolby Vision IQ

กล้องหลังความละเอียด 10 ล้านพิกเซล

Connectivity Thunderbolt 4 x 2, MicroSD Card Reader x 1, Surface Connect x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax, Bluetooth 5.1

Software Windows 11 Home
Weight 880 กรัม
Price 40,900 บาท แถมคีย์บอร์ด Type Cover และซองใส่โน๊ตบุ๊ค คลิ๊กสั่งซื้อที่นี่

4. Microsoft Surface Pro 9 i5/8/256GB (44,900 บาท)

Microsoft Surface Pro9 i5 8 256 Thai Sapphire QEZ 00051

ถ้าโน๊ตบุ๊ค Microsoft Surface Pro 9 ในข้อก่อนมีความจุในเครื่องไม่พอใช้งาน ผู้เขียนขอแนะนำให้เพิ่มเงินอีก 4,000 บาท จะได้รุ่นความจุ 256GB ซึ่งความจุนี้ถือว่ามากกำลังดีพอใช้เซฟงานหรือพรีเซนต์ที่ใช้บ่อยๆ และลงโปรแกรมได้ระดับหนึ่ง แต่ก็ต้องหมั่นจัดการโปรแกรมและไฟล์งานภายในเครื่องเป็นระยะๆ ให้ SSD มีความจุรวมทั้งหมดไม่เกิน 70% เพื่อไม่ให้ตัวชิปความจุและคอนโทรลเลอร์เสียเร็วเกินไป ซึ่งผู้เขียนยังแนะนำให้ซื้อ External Harddisk หรือใช้บริการ Cloud เอาไว้แบ็คอัพงานร่วมด้วยจะดีสุด

สเปค Microsoft Surface Pro 9 i5/8/256GB

CPU Intel Core i5-1235U แบบ 10 คอร์ 12 เธรด (2P+8E) ความเร็วสูงสุด 4.4GHz
GPU Intel Iris Xe Graphics
SSD M.2 NVMe SSD 256GB
RAM 8GB LPDDR5 บัส 5200MHz
Display จอทัช PixelSense 13 นิ้ว (2880×1920) พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 120Hz
รองรับ Dolby Vision IQ

กล้องหลังความละเอียด 10 ล้านพิกเซล

Connectivity Thunderbolt 4 x 2, MicroSD Card Reader x 1, Surface Connect x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax, Bluetooth 5.1

Software Windows 11 Home
Weight 880 กรัม
Price 44,900 บาท แถมคีย์บอร์ด Type Cover และซองใส่โน๊ตบุ๊ค คลิ๊กสั่งซื้อที่นี่

5. Microsoft Surface Pro 9 i7/16/256GB (62,900 บาท)

Microsoft Surface Pro9 i7 16 256 Thai Graphite QIL 00034 4

ถ้าใครต้องเปิดโปรแกรมพร้อมกันหลายตัวหรือต้องเปิดเบราเซอร์พร้อมกันหลายแท็บล่ะก็ แนะนำให้เพิ่มงบอีกนิดมาซื้อโน๊ตบุ๊ค Microsoft Surface Pro 9 รุ่น Intel Core i7-1255U กับแรม 16GB LPDDR5 แทนจะใช้งานได้สะดวกไหลลื่นยิ่งขึ้น ไม่เจอปัญหาแรมไม่พอใช้แล้วเกิดอาการหน่วงมากวนใจ ทว่าราคาก็สูงพอสมควรถึง 62,900 บาท ถ้าไม่มีปัญหาเรื่องนี้และตั้งใจจะใช้นานๆ จ่ายครั้งเดียวจบไปเลยก็ลงทุนซื้อเจ้าเครื่องนี้ไปก็ดีเช่นกัน

สเปค Microsoft Surface Pro 9 i7/16/256GB

CPU Intel Core i7-1255U แบบ 10 คอร์ 12 เธรด (2P+8E) ความเร็วสูงสุด 4.7GHz
GPU Intel Iris Xe Graphics
SSD M.2 NVMe SSD 256GB
RAM 16GB LPDDR5 บัส 5200MHz
Display จอทัช PixelSense 13 นิ้ว (2880×1920) พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 120Hz
รองรับ Dolby Vision IQ

กล้องหลังความละเอียด 10 ล้านพิกเซล

Connectivity Thunderbolt 4 x 2, MicroSD Card Reader x 1, Surface Connect x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax, Bluetooth 5.1

Software Windows 11 Home
Weight 880 กรัม
Price 62,900 บาท แถมคีย์บอร์ด Type Cover และซองใส่โน๊ตบุ๊ค คลิ๊กสั่งซื้อที่นี่
surface 2

Alan Kay นักวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ชาวอเมริกันเคยกล่าวไว้ว่า “People who are really serious about software should make their own hardware.” (บริษัทใดที่จริงจังกับซอฟท์แวร์ของตน ควรสร้างฮาร์ดแวร์ของตัวเองด้วย) นั่นเพราะถ้านำซอฟท์แวร์นั้นๆ ไปรันบนเครื่องอื่นๆ ที่ตัวเองไม่ได้สร้างแม้จะรันได้แต่ก็ให้ประสบการณ์ใช้งานไม่ดีเท่าฮาร์ดแวร์ที่บริษัทตัวเองทำและ Optimized เองให้ทำงานได้ดีที่สุดอย่างแน่นอน

เหตุผลนี้เราจึงได้เห็นทาง Microsoft กระโดดลงสนามฮาร์ดแวร์ด้วยตัวเอง สร้างโน๊ตบุ๊ค Microsoft Surface มาขายทั้งที่ไปทำข้อตกลงร่วมพัฒนากับบริษัทผู้ผลิตคอมพิวเตอร์ชั้นนำให้ทำรุ่นพิเศษที่พัฒนาร่วมกับตนก็ได้ แต่ก็ไม่มีใครรู้จักระบบปฏิบัติการ Windows เท่ากับ Microsoft อยู่แล้ว ดังนั้นถ้าใครอยากได้ประสบการณ์ใช้งานระบบปฏิบัติการ Windows อย่างที่มันควรเป็น ก็มาลองใช้ Surface ดูสักครั้ง เชื่อว่าจะได้คำตอบว่าทำไมถึงมีแฟนคลับที่ชื่นชอบโน๊ตบุ๊คเหล่านี้อยู่


บทความที่เกี่ยวข้อง

7Notebook30K 1
NBS 230615 image link arm Zenbook S 13 OLED
6NotebookOLED

from:https://notebookspec.com/web/706431-5-recommend-microsoft-surface-2023

9 เกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค Intel ตัวแจ่มเพื่อเกมเมอร์ ครีเอเตอร์ก็ชอบ อัพเดทกลางปี 2023

เกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค Intel ตัวเด็ดอัพเดทกลางปี 2023 บอกเลยว่าของแรงเริ่มมากันเพียบ!

Share image Edit Name 1intel 1

เกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค Intel ช่วงกลางปี 2023 นี้ ก็ยังคึกคักเหมือนเดิม ยิ่งในตอนนี้เมื่อบริษัทใหญ่อย่าง Intel, NVIDIA เปิดตัวซีพียูรุ่นที่ 13 และการ์ดจอ GeForce RTX 4000 Series ลงตลาดมาให้เกมเมอร์เลือกซื้อคู่กับเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค Intel รุ่น 11~12 ที่จับคู่กับการ์ดจอ GeForce RTX 3000 Series ที่แม้จะเก่าไปบ้างแต่ก็ยังแรงเหลือเฟือพอใช้ทำงานและเล่นเกมได้สบายๆ

แต่ในเมื่อทุกคนรู้อยู่แก่ใจว่าถ้าเป็นซีพียู Intel การ์ดจอ NVIDIA เมื่อไหร่ มันต้องแรงเล่นเกมได้แทบทุกเกมสบายๆ อย่างแน่นอน ผู้ผลิตหลายๆ แบรนด์เลยพากันสร้างจุดเด่นให้เกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค Intel ของตัวเอง เสริมฟีเจอร์ต่างๆ ทั้งหน้าจอขอบเขตสีกว้าง ทำให้เล่นเกมก็ได้ทำงานครีเอเตอร์ก็ดีหรือจะเน้นถูกเข้าว่าและใส่ช่องอัพเกรดเพิ่ม SSD, RAM ได้ หรือแม้แต่ติดพอร์ตมาให้ครบเครื่องรอบตัวตั้งแต่ USB, HDMI ไปจน Thunderbolt ให้ใช้ หลายๆ เครื่องเลยมีฟีเจอร์ต่อหน้าจอแยกได้ 2-3 จอเลยทีเดียว ดังนั้นถ้ามองแค่สเปคก็ดีแต่ถ้าดูร่วมกับฟีเจอร์จะยิ่งเห็นชัดว่าโน๊ตบุ๊คเครื่องนั้นสร้างมาเพื่อจุดประสงค์อะไรด้วย

Advertisementavw
เกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค Intel

สรุปสเปค 9 เกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค Intel ตัวเด็ดน่าโดน เล่นเกมก็ดีทำงานก็โอเคไม่แพ้กัน

สรุปสเปค
เกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค Intel
CPU

GPU

SSD

RAM

Software

Display

Weight

Connectivity Price (บาท)
Gigabyte G5
GE-51TH263SH
Intel Core
i5-12500H

NVIDIA GeForce
RTX 3050

M.2 NVMe
512GB

8GB DDR4
3200MHz

Windows 11 Home

15.6″ FHD IPS

Refresh Rate 144Hz

1.9 กก.

USB 2.0 x 1

USB-A 3.2 x 1

USB-C 3.2 x 1

Thunderbolt 4 x 1

HDMI 2.1 x 1

LAN x 1

MicroSD Card Reader x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6

Bluetooth 5.2

29,990
MSI GF63 Thin
11UD-1031TH
Intel Core
i7-11800H

NVIDIA GeForce
RTX 3050 Ti

M.2 NVMe
512GB

8GB DDR4
3200MHz

Windows 11 Home

15.6″ FHD IPS

Refresh Rate 144Hz

1.86 กก.

USB-C 3.2 x 1

USB-A 3.2 x 3

HDMI x 1

LAN x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6

Bluetooth 5.2

26,990
MSI GF63 Thin
12VE-046TH
Intel Core
i7-12650H

NVIDIA GeForce
RTX 4050

M.2 NVMe
512GB

16GB DDR4
3200MHz

Windows 11 Home

15.6″ FHD IPS

Refresh Rate 144Hz

1.86 กก.

USB-C 3.2
DisplayPort x 1

USB-A 3.2 x 3

HDMI x 1

LAN x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6

Bluetooth 5.2

37,990
HP Victus
15-FA0087TX
Intel Core
i7-12700H

NVIDIA GeForce
RTX 3050 Ti

M.2 NVMe
512GB

8GB DDR4
3200MHz

Windows 11 Home

15.6″ FHD IPS

Refresh Rate 144Hz

2.29 กก.

USB-A 3.2 x 2

USB-C
DisplayPort x 1

HDMI x 1

LAN x 1

SD Card Reader x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6

Bluetooth 5.2

36,990
DELL G15 Gaming
W566312600M2CTH
Intel Core
i7-12700H

NVIDIA GeForce
RTX 3060

M.2 NVMe
512GB

16GB DDR5
4800MHz

Windows 11 Home

15.6″ FHD IPS

Refresh Rate 165Hz

2.51 กก.

Thunderbolt 4 x 1

USB-A 3.2 x 3

HDMI x 1

LAN x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6

Bluetooth 5.2

49,990
Lenovo Legion 5i
15IAH7H
Intel Core
i7-12650H

NVIDIA GeForce
RTX 3060

M.2 NVMe
512GB

16GB DDR5
4800MHz

Windows 11 Home

15.6″ WQHD
(2560×1600)
IPS

Refresh Rate 165Hz

100% sRGB

Dolby Vision

NVIDIA G-SYNC

VESA DisplayHDR 400

2.4 กก.

Thunderbolt 4 x 1

USB-C 3.2 DisplayPort x 1

USB-C 3.2 Full Function x 1

USB-A 3.2 x 3

HDMI 2.1 x 1

LAN x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6E

Bluetooth 5.1

51,990
ASUS ROG Flow Z13
GZ301VV
Intel Core
i9-13900H

NVIDIA GeForce
RTX 4060

M.2 NVMe
1TB

16GB LPDDR5
4800MHz

Windows 11 Home

Microsoft Office Home & Student 2021

13.4″ WQXGA
(2560×1600)
IPS

Refresh Rate 165Hz

100% DCI-P3

NVIDIA G-SYNC

Dolby Vision

PANTONE Validated

กล้องหน้า 5MP

กล้องหลัง 13MP

1.1 กก.

Thunderbolt 4 x 1

USB-C 3.2 Full Function x 1

USB-A 3.2 x 1

MicroSD Card Reader x 1

XG Mobile Interface x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6E

Bluetooth 5.2

69,990
ASUS ROG Strix
G16 G614JI
Intel Core
i9-13980HX

NVIDIA GeForce RTX 4070

M.2 NVMe
1TB

32GB LPDDR5
4800MHz

Windows 11 Home

16″ WQXGA
(2560×1600)
IPS

Refresh Rate 240Hz

100% DCI-P3

NVIDIA
G-SYNC

Dolby Vision

PANTONE Validated

2.5 กก.

Thunderbolt 4 x 1

USB-C 3.2 Full Function x 1

USB-A 3.2 x 2

HDMI 2.1 x 1

LAN x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6E

Bluetooth 5.2

79,990
Acer Predator Helios 16
PH16-71-78MQ
Intel Core
i7-13700HX

NVIDIA GeForce
RTX 4070

M.2 NVMe
1TB

32GB LPDDR5
4800MHz

Windows 11 Home

16″ WQXGA
(2560×1600)
IPS

Refresh Rate 250Hz

100% DCI-P3

2.6 กก.

Thunderbolt 4 x 2

USB-A 3.2 x 3

HDMI x 1

LAN x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6E

Bluetooth 5.2

79,990

9 เกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค Intel รุ่นดีน่าใช้กลางปี 2023 คุ้มค่าตัว สเปคน่าโดน!

KV INTEL 2 V

เกมเมอร์หรือครีเอเตอร์ที่อยากซื้อโน๊ตบุ๊คเครื่องใหม่ ณ ตอนนี้เกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค Intel จาก BaNANA ถือว่าน่าสนใจมาก เพราะนอกจากได้ส่วนลดแล้วยังได้ของแถมอย่างหูฟังเกมมิ่งเพิ่มเป็นพิเศษอีกด้วย โดยทั้ง 9 รุ่นที่น่าซื้อ จะมีรุ่นแนะนำดังนี้

  1. Gigabyte G5 GE-51TH263SH (29,990 บาท)
  2. MSI GF63 Thin 11UD-1031TH (26,990 บาท)
  3. MSI GF63 Thin 12VE-046TH (37,990 บาท)
  4. HP Victus 15-FA0087TX (36,990 บาท)
  5. DELL G15 Gaming-W566312600M2CTH (49,990 บาท)
  6. Lenovo Legion 5i 15IAH7H (51,990 บาท)
  7. ASUS ROG Flow Z13 GZ301VV (69,990 บาท)
  8. ASUS ROG Strix G16 G614JI (79,990 บาท)
  9. Acer Predator Helios 16 PH16-71-78MQ (79,990 บาท)

1. Gigabyte G5 GE-51TH263SH (29,990 บาท)

12316 c

เกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค Intel น่าซื้อเครื่องแรกแนะนำเป็น Gigabyte G5 GE-51TH263SH โดยเครื่องนี้เน้นด้านราคาถูกให้เกมเมอร์ตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น รีดบอดี้ให้บางเบาพกง่ายถ้าเทียบกับโน๊ตบุ๊คขนาด 15.6 นิ้วหลายๆ รุ่นแล้ว Gigabyte เคลมว่าโน๊ตบุ๊คนี้บางลง 22% และเบาแค่ 1.9 กิโลกรัม มีชิป MUX Switch เอาไว้สลับโหมดระหว่างการ์ดจอแยกและออนบอร์ดได้อย่างเหมาะสมและมีพอร์ตใช้งานติดตั้งมาให้ครบเครื่องอีกด้วย เจ้าเครื่องนี้ติดตั้งแรมได้ 2 ช่อง มากสุด 64GB DDR4 กับ M.2 NVMe SSD เสริมอีกช่อง

ส่วนกลุ่มเป้าหมายของ Gigabyte G5 กลุ่มแรกยกให้นักเรียนนักศึกษาทั้งที่เรียนอยู่และเพิ่งได้งานทำใหม่ๆ แล้วหาโน๊ตบุ๊คไว้ใช้เรียนและเล่นเกมได้ในเครื่องเดียว รวมไปถึงครีเอเตอร์ก็ซื้อไปใช้ได้เช่นกันแต่แนะนำให้ลงทุนซื้อจอครีเอเตอร์ขอบเขตสีกว้างและแม่นยำเอาไว้ใช้สักตัวจะดีสุดและแนะนำให้เพิ่มแรมไป 16GB ตั้งแต่ซื้อเครื่องมาเลยจะได้ใช้ทำงานและเล่นเกมได้ยาวๆ แล้วจะเติม SSD ตัวรองเข้าไปอีกก็ขึ้นอยู่กับผู้ใช้แต่ละคนเลย

สเปคของ Gigabyte G5 GE-51TH263SH

CPU Intel Core i5-12500H แบบ 12 คอร์ 16 เธรด (4P+8E) ความเร็วสูงสุด 4.5GHz
GPU NVIDIA GeForce RTX 3050 แรม 4GB GDDR6
SSD M.2 NVMe SSD ความจุ 512GB
RAM 8GB DDR4 บัส 3200MHz
Display 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 144Hz
Connectivity USB 2.0 x 1, USB-A 3.2 x 1, USB-C 3.2 x 1, Thunderbolt 4 x 1, HDMI 2.1 x 1, LAN x 1, MicroSD Card Reader x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax, Bluetooth 5.2

Software Windows 11 Home
Weight 1.9 กิโลกรัม
Price 29,990 บาท ใช้โค้ด BINNBJ10 ลดได้ 1,000 บาท แถมหูฟังเกมมิ่ง คลิ๊กสั่งซื้อที่นี่

2. MSI GF63 Thin 11UD-1031TH (26,990 บาท)

notebook 12106 GF63 Thin 11UD c

แม้ว่า MSI GF63 Thin 11UD-1031TH จะเป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค Intel ที่เปิดตัวมาสักพักใหญ่แล้วก็จริง แต่ก็ยังมีจุดแข็งหลายอย่างให้เกมเมอร์ตัดสินใจได้ไม่ยาก ได้แก่ ลำโพง Hi-Res ปรับจูนด้วย nahimic ให้เนื้อเสียงดีฟังเพลงเล่นเกมสนุก พกสะดวกด้วยน้ำหนักเบาเพียง 1.86 กิโลกรัม หนาเพียง 21.7 มม. เท่านั้นและยังอัพเกรดเพิ่มแรมได้มากสุด 2 ช่อง ความจุ 64GB DDR4 และหน้าตาสวยเรียบร้อยเหมือนโน๊ตบุ๊คธรรมดาเครื่องหนึ่ง พกไปออฟฟิศหรือเข้าห้องเรียนไม่สะดุดตาคนรอบตัวแต่ทำงานได้สบายๆ ตั้งแต่งานเอกสาร, ตัดต่อคลิปหรือแต่งภาพหรือแม้แต่เล่นเกมฟอร์มใหญ่ในยุคนี้ก็ได้ ตอบโจทย์นักเรียนนักศึกษาไปจนคนทำงานที่มีงบซื้อโน๊ตบุ๊คไม่เกิน 30,000 บาทสุดๆ แถมยังเหลือเงินเอาไว้เพิ่ม RAM, SSD หรือซื้อกระเป๋าโน๊ตบุ๊คดีๆ สักใบเพิ่มก็ยังได้ แต่ถ้าจะใช้แต่งภาพตัดคลิปแนะนำให้หาจอคอมมาต่อแยกจะได้ขอบเขตสีกว้างขึ้น ถ้าใครสนใจสามารถอ่านรีวิวฉบับเต็มได้ที่นี่

สเปคของ MSI GF63 Thin 11UD-1031TH

CPU Intel Core i7-11800H แบบ 8 คอร์ 16 เธรด ความเร็ว 2.3~4.6GHz
GPU NVIDIA GeForce RTX 3050 Ti แรม 4GB GDDR6
SSD M.2 NVMe SSD ความจุ 512GB
RAM 8GB DDR4 บัส 3200MHz
Display 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 144Hz
Connectivity USB-C 3.2 x 1, USB-A 3.2 x 3, HDMI x 1, LAN x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.2

Software Windows 11 Home
Weight 1.86 กิโลกรัม
Price 26,990 บาท ใช้โค้ด BINNBJ10 ลดได้ 1,000 บาท แถมหูฟังเกมมิ่ง คลิ๊กสั่งซื้อที่นี่

3. MSI GF63 Thin 12VE-046TH (37,990 บาท)

12611 c

MSI GF63 Thin 12VE-046TH เป็นรุ่นอัพเกรดต่อจาก GF63 Thin ในข้อก่อน แม้จะใช้บอดี้เหมือนเดิมแต่ MSI ก็อัพเกรดเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ๆ เข้ามาให้ทั้ง Matrix Display ต่อจอแยกได้ 2 จอ รวมกับของโน๊ตบุ๊คเป็น 3 จอ ได้ซีพียู Intel 12th Gen รุ่นพิเศษที่ประสิทธิภาพดีและประหยัดไฟกับการ์ดจอแยก NVIDIA GeForce RTX 4000 Series ให้ทำงานและเล่นเกมได้ดีขึ้น แถมอัพเกรดชุดระบายความร้อน Cooler Boost ให้ดียิ่งขึ้น ได้ลำโพง Hi-Res ปรับจูนโดย nahimic เช่นเดิม เรื่องคุณภาพเสียงถือว่าไว้ใจได้ ถ้าใครเล่นเกมมือถือเยอะก็โหลดเกมมาเปิดในโปรแกรม MSI App Player ในเครื่องได้เลยไม่ต้องโหลดโปรแกรมอื่นมาลงเพิ่ม

ถ้าจะอัพเกรดก็ใส่แรม DDR4 เพิ่มได้ 2 ช่อง สูงสุด 64GB แต่ฮาร์ดดิสก์ในเครื่องจะมีช่องติดตั้ง M.2 NVMe SSD ช่องหลักและ 2.5″ SATA III SSD เป็นช่องเสริม แม้จะไม่เป็น M.2 NVMe ก็ตามแต่ก็ใช้งานดีไม่มีปัญหา ซึ่งเจ้า GF63 Thin รุ่นใหม่นี้เหมาะกับเกมเมอร์ที่มีงบประมาณระดับหนึ่งรวมถึงครีเอเตอร์ด้วย เพราะได้ใช้ซีพียูและการ์ดจอแยกรุ่นใหม่ล่าสุดและฟีเจอร์ครบเครื่องและยังจัดการแบตเตอรี่ได้ดีพอควรอีกด้วย

สเปคของ MSI GF63 Thin 12VE-046TH

CPU Intel Core i7-12650H แบบ 10 คอร์ 16 เธรด (6P+4E) ความเร็วสูงสุด 4.7GHz
GPU NVIDIA GeForce RTX 4050 แรม 6GB GDDR6
SSD M.2 NVMe SSD ความจุ 512GB
RAM 16GB DDR4 บัส 3200MHz
Display 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 144Hz
Connectivity USB-C 3.2 รองรับ DisplayPort x 1, USB-A 3.2 x 3, HDMI x 1, LAN x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax, Bluetooth 5.2

Software Windows 11 Home
Weight 1.86 กิโลกรัม
Price 37,990 บาท ใช้โค้ด BINNBJ10 ลดได้ 1,000 บาท แถมหูฟังเกมมิ่ง คลิ๊กสั่งซื้อที่นี่

4. HP Victus 15-FA0087TX (36,990 บาท)

12441 notebook 12098 Victus 15 blue c

ถ้าเป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค Intel แบรนด์ฝั่งอเมริการาคาคุ้มค่าแถมดีไซน์สวยเรียบร้อยไม่ต่างกับโน๊ตบุ๊คสายทำงาน HP Victus 15-FA0087TX เป็นตัวเลือกที่ดีเพราะนอกจากได้พอร์ตและ SD Card Reader ติดมาให้และมี USB-C ต่อจอแยก DisplayPort ได้กล้องเว็บแคม TNR ลด Noise ในภาพตอนประชุมออนไลน์และได้จอด้านกันแสงสะท้อนขอบบางและซีพียู Intel รุ่นล่าสุดและอัพเกรดเพิ่ม RAM, SSD ได้ด้วย ส่วนข้อดีที่ไม่ค่อยมีใครพูดถึงนักคือแป้นคีย์บอร์ดของ HP Victus 15 นั้นเว้นระยะระหว่างปุ่มเอาไว้ได้ดี พิมพ์ง่ายพอดีนิ้วมากแถมมีแป้น Numpad ให้ใช้ด้วย แต่มีจุดระวังอย่างเดียวคือก้านบานพับของ HP Victus ถ้ากางอาจจะสะบัดเล็กน้อยแต่ก็ไม่มีปัญหาเวลาใช้งานอย่างแน่นอน

สเปคของ HP Victus 15-FA0087TX

CPU Intel Core i7-12700H แบบ 14 คอร์ 20 เธรด (6P+8E) ความเร็วสูงสุด 4.7GHz
GPU NVIDIA GeForce RTX 3050 Ti แรม 4GB GDDR6
SSD M.2 NVMe SSD ความจุ 512GB
RAM 8GB DDR4 บัส 3200 MHz
Display 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 144Hz
Connectivity USB-A 3.2 x 2, USB-C รองรับ DisplayPort x 1, HDMI x 1, LAN x 1, SD Card Reader x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax, Bluetooth 5.2

Software Windows 11 Home
Weight 2.29 กิโลกรัม
Price 36,990 บาท แถมหูฟังเกมมิ่ง คลิ๊กสั่งซื้อได้ที่นี่

5. DELL G15 Gaming-W566312600M2CTH (49,990 บาท)

12324 notebook 11932 G15 gaming grey c

DELL G15 Gaming-W566312600M2CTH เป็นรุ่นที่เรียกว่าครบเครื่องทั้งสเปคและโปรแกรมในเครื่อง เพราะมันได้โปรแกรม Microsoft Office Home & Student 2021 ติดตั้งมาให้จากโรงงาน ไม่ต้องจ่ายซื้อเพิ่มให้เปลืองเงิน เหมาะจะซื้อเอาไว้เล่นเกมที่บ้านและพกไปออฟฟิศเพื่อทำงานได้ทั้งคู่ ยิ่งซีรี่ส์ใหม่นี้ทาง DELL ก็แก้ปัญหาเวลาใช้งานไปนานๆ แล้วอุณหภูมิเครื่องสูงเกินไปเป็นที่เรียบร้อย และรุ่นที่เลือกมาแนะนำก็ติดตั้งพอร์ต Thunderbolt 4 มาให้ต่อหน้าจอแยกได้ ใช้โปรแกรม Alienware Command Center ปรับจูนรีดประสิทธิภาพตัวเครื่องได้ดีขึ้น จะเรียกว่าเป็น Alienware ย่อส่วนก็ไม่ผิด แต่ถ้าเทียบกับเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ครุ่นอื่นอาจจะหนักกว่าเล็กน้อยที่ 2.51 กิโลกรัม จึงขอแนะนำให้พกใส่กระเป๋าเป้ไปไหนมาไหนจะดีกว่า อย่าใส่ถุงย่ามหรือกระเป๋าสะพายข้างให้สะสมอาการปวดไหล่ได้

สเปคของ DELL G15 Gaming-W566312600M2CTH

CPU Intel Core i7-12700H แบบ 14 คอร์ 20 เธรด (6P+8E) ความเร็วสูงสุด 4.7GHz
GPU NVIDIA GeForce RTX 3060 แรม 6GB GDDR6
SSD M.2 NVMe SSD ความจุ 512GB
RAM 16 GB DDR5 บัส 4800 MHz
Display 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 165Hz
Connectivity Thunderbolt 4 x 1, USB-A 3.2 x 3, HDMI x 1, LAN x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax, Bluetooth 5.2

Software Windows 11 Home, Microsoft Office Home & Student 2021
Weight 2.51 กิโลกรัม
Price 49,990 บาท แถมหูฟังเกมมิ่ง คลิ๊กสั่งซื้อได้ที่นี่

6. Lenovo Legion 5i 15IAH7H (51,990 บาท)

12560 notebook 11983 Legion 5 AH7H c

ถ้าขึ้นมาเป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค Intel หลักครึ่งแสนจะมีรุ่นน่าสนใจให้เลือกพอสมควรเลย อย่าง Lenovo Legion 5i 15IAH7H นี้ผู้เขียนเชื่อว่าจะเกมเมอร์หรือครีเอเตอร์ล้วนคิดถึงก่อนเป็นรุ่นแรกๆ แน่นอนเพราะได้หน้าจอขอบเขตสีกว้างดูหนังฟังเพลงและเล่นเกมได้ยอดเยี่ยมเพราะเป็น Dolby Vision มี NVIDIA G-SYNC ป้องกันภาพฉีกและอัพเกรดเพิ่ม SSD ได้ 2 ช่อง ตกช่องละ 1TB เพิ่มแรมได้สุด 32GB DDR5 บัส 4800MHz ได้ชุดระบายความร้อน Legion Coldfront 4.0 ทั้งระบายความร้อนดีและไม่ดังจนหนวกหูเกินไป และมีตัว Legion AI Engine ฝังมาให้ในเครื่องไว้ปรับโหมดเซ็ตโปรไฟล์และโอเวอร์คล็อกการ์ดจอได้ด้วย ส่วนคีย์บอร์ด Legion TrueStrike ก็กดดีตอบสนองเร็วรัวปุ่มไม่หลุด พิมพ์งานเร็วไม่มีปัญหาแถมยังได้พอร์ตรอบเครื่องยังเยอะอลังการไม่แพ้เกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค Intel ในข้ออื่นด้วย แต่ข้อสังเกตสำหรับเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คราคาครึ่งแสนนี้ยังยกให้เรื่องระบบปลดล็อคตัวเครื่องยังพิมพ์รหัสผ่านเหมือนเดิมอยู่ ยังใช้สแกนนิ้วหรือใบหน้าไม่ได้

สเปคของ Lenovo Legion 5i 15IAH7H

CPU Intel Core i5-12500H แบบ 12 คอร์ 16 เธรด (4P+8E) ความเร็วสูงสุด 4.5GHz
GPU NVIDIA GeForce RTX 3060 แรม 6GB GDDR6
SSD M.2 NVMe SSD ความจุ 512GB
RAM 16 GB DDR5 บัส 4800 MHz
Display 15.6 นิ้ว ความละเอียด WQHD (2560×1440) พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 165Hz ขอบเขตสีกว้าง 100% sRGB, Dolby Vision, NVIDIA G-SYNC, VESA DisplayHDR 400
Connectivity Thunderbolt 4 x 1,USB-C 3.2 DisplayPort x 1, USB-C 3.2 Full Function x 1, USB-A 3.2 x 3, HDMI 2.1 x 1, LAN x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax, Bluetooth 5.1

Software Windows 11 Home
Weight 2.4 กิโลกรัม
Price 51,990 บาท แถมหูฟังเกมมิ่ง คลิ๊กสั่งซื้อได้ที่นี่

7. ASUS ROG Flow Z13 GZ301VV (69,990 บาท)

12616 c

เพราะเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค Intel ไม่ต้องเป็นทรงโน๊ตบุ๊คก็ได้ ASUS เลยแหกกฏนั้นโดยทำเป็นทรงแท็บเล็ตแทนแล้วกลายเป็น ASUS ROG Flow Z13 GZ301VV แทน เวลาพกไปไหนมาไหนก็สะดวกเพราะเบาแค่ 1.1 กิโลกรัม ได้ชุดระบายความร้อนโลหะเหลว Liquid Metal กับ Vapor Chamber มาแทน ต่อ XG Mobile ที่บ้านแล้วเล่นเกมหรือทำงานกราฟิคหนักๆ ได้ หน้าจอ ROG Nebula Display ก็รองรับ NVIDIA G-SYNC กันภาพฉีกขาด, Dolby Vision, PANTONE Validated ว่าสีสันแม่นยำ ขอบเขตสีระดับ 100% DCI-P3 ลำโพง Smart Amp ให้เสียงดีหนักแน่น รองรับ Dolby Atmos และยังได้กล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล สแกนหน้าปลดล็อคเครื่องได้กับกล้องหลัง 13 ล้านพิกเซล เป็นคำตอบสุดท้ายสำหรับเกมเมอร์ที่อยากได้เครื่องเบาแต่แรง มีจุดสังเกตแค่เรื่องราคาที่ค่อนข้างสูงสักหน่อย แต่ถ้าไม่มีปัญหาเรื่องนี้รับรองว่าจะต้องตกหลุมรักมันอย่างแน่นอน

สเปคของ ASUS ROG Flow Z13 GZ301VV

CPU Intel Core i9-13900H แบบ 14 คอร์ 20 เธรด (6P+8E) ความเร็วสูงสุด 5.4GHz
GPU NVIDIA GeForce RTX 4060 แรม 8GB GDDR6
SSD M.2 NVMe SSD ความจุ 1TB
RAM 16GB LPDDR5 บัส 4800MHz
Display 13.4″ WQXGA (2560×1600) พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 165Hz ขอบเขตสีกว้าง 100% DCI-P3, NVIDIA G-SYNC, Dolby Vision, PANTONE Validated

กล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล สแกนหน้าปลดล็อคเครื่องได้, กล้องหลัง 13 ล้านพิกเซล

Connectivity Thunderbolt 4 x 1, USB-C 3.2 Full Function x 1, USB-A 3.2 x 1, MicroSD Card Reader x 1, XG Mobile Interface x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax, Bluetooth 5.2

Software Windows 11 Home, Microsoft Office Home & Student 2021
Weight 1.1 กิโลกรัม
Price 69,990 บาท แถมหูฟังเกมมิ่ง คลิ๊กสั่งซื้อได้ที่นี่

8. ASUS ROG Strix G16 G614JI (79,990 บาท)

12622 c

ASUS ROG Strix G16 G614JI รหัสนี้ถือเป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค Intel แบบ Desktop Replacement ซื้อมาแทนเกมมิ่งพีซีได้สบายๆ ได้สเปคแรงจบจากโรงงาน ไฟ RGB สวยงามและพัดลมระบายความร้อนในเครื่องถึง 3 ตัว ทำให้ชิ้นส่วนภายในเครื่องเย็น ดึงประสิทธิภาพออกมาได้สูงสุดตลอดเวลา ได้จอ ROG Nebula Display เช่นเดียวกับ Flow Z13 ในข้อก่อน ดังนั้นจะทำงานกราฟิคแต่งภาพตัดคลิปหรือเล่นเกมก็ดี และยังอัพเกรด Refresh Rate ให้สูงขึ้นเป็น 240Hz อีก ทำให้ภาพลื่นไหล ติด Hotkey มาให้เซ็ตปุ่มลัดเอาไว้กดใช้งานตอนเล่นเกมหรือทำงานได้ถนัดยิ่งขึ้นอีก แถมลำโพงยังรองรับ Dolby Atmos เสียงรอบทิศทาง 5.1.2 แชนแนลด้วย ด้านการพกพาถือว่าไม่ลำบากมากเพราะน้ำหนักอยู่ที่ 2.5 กิโลกรัม ส่วนระบบยืนยันตัวยังต้องใช้รหัสผ่านอยู่ ไม่มีกล้องสแกนหน้าหรือเซนเซอร์สแกนนิ้วติดมาให้

สเปคของ ASUS ROG Strix G16 G614JI

CPU Intel Core i9-13980HX แบบ 24 คอร์ 32 เธรด (8P+16E) ความเร็วสูงสุด 5.6GHz
GPU NVIDIA GeForce RTX 4070 แรม 8GB GDDR6
SSD M.2 NVMe SSD ความจุ 1TB
RAM 32 GB DDR5 บัส 4800 MHz
Display 16″ WQXGA (2560×1600) พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 240Hz ขอบเขตสีกว้าง 100% DCI-P3, NVIDIA G-SYNC, Dolby Vision, PANTONE Validated
Connectivity Thunderbolt 4 x 1, USB-C 3.2 Full Function x 1, USB-A 3.2 x 2, HDMI 2.1 x 1, LAN x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax, Bluetooth 5.2

Software Windows 11 Home
Weight 2.5 กิโลกรัม
Price 79,990 บาท แถมหูฟังเกมมิ่ง คลิ๊กสั่งซื้อได้ที่นี่

9. Acer Predator Helios 16 PH16-71-78MQ (79,990 บาท)

12721 c 1

ปิดท้ายด้วยเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค Intel รุ่นใหม่แกะกล่องจาก Acer อย่าง Acer Predator Helios 16 PH16-71-78MQ โดยจุดเด่นยกให้หน้าจอขอบเขตสีกว้าง 100% DCI-P3 ค่า Refresh Rate 250Hz และชุดระบายความร้อน 5th Gen AeroBlade 3D กับชุดระบายความร้อน Liquid Metal ซึ่งนอกจากระบายความร้อนได้ดีมากๆ แล้ว ยังกดปุ่ม Turbo โอเวอร์คล็อกให้เครื่องแรงขึ้นได้ ไฟคีย์บอร์ด Per-Key RGB และ Pulsar Lighting ด้วย เรียกว่าเกิดมาเพื่อเกมเมอร์และครีเอเตอร์โดยไม่ต้องสงสัย แถมยังได้พอร์ต Thunderbolt 4 อีกด้วย ส่วนลำโพงมีฟีเจอร์ DTS X:Ultra Audio & Acer TrueHarmony technology ให้เสียงดีคมชัด แต่จุดสังเกตคือเสียงพัดลมค่อนข้างดังเวลาทำงานเต็มที่แลกกับประสิทธิภาพที่ดีของเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค Intel เครื่องนี้

สเปคของ Acer Predator Helios 16 PH16-71-78MQ

CPU Intel Core i7-13700HX แบบ 16 คอร์ 24 เธรด (8P+8E) ความเร็ว 5GHz
GPU NVIDIA GeForce RTX 4070 แรม 8GB GDDR6
SSD M.2 NVMe SSD ความจุ 1TB
RAM 32 GB DDR5 บัส 4800 MHz
Display 16″ WQXGA (2560×1600) พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 250Hz ขอบเขตสีกว้าง 100% DCI-P3
Connectivity Thunderbolt 4 x 2, USB-A 3.2 x 3, HDMI x 1, LAN x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax, Bluetooth 5.2

Software Windows 11 Home
Weight 2.6 กิโลกรัม
Price 79,990 บาท แถมหูฟังเกมมิ่ง คลิ๊กสั่งซื้อได้ที่นี่
img mux

สำหรับเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค Intel ณ ตอนนี้จะมีรุ่นดีๆ ให้เลือกตั้งแต่ราคาไม่แพงมากไปจนตัวท็อปราคาเกือบหลักแสนเลยทีเดียว ขึ้นอยู่กับโจทย์และความต้องการของผู้ใช้ว่าหาเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คแบบไหนเอาไว้ใช้ ซึ่งถ้าใครขี้เกียจประกอบคอมพิวเตอร์จะซื้อเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คเหล่านี้ไปต่อจอแยกใช้งานก็ดีไม่แพ้กันเลย


บทความที่เกี่ยวข้อง

DellXPS13Plus17052023 1
NBS 230521 image link arm Razer BlackWidow V4 Pro
MsiNotebook

from:https://notebookspec.com/web/704894-9-intel-gaming-laptop-2023

7 โน๊ตบุ๊คน่าใช้ Acer รวมชุดใหญ่ทั้งบางเบาและเกมมิ่ง อัพเดทต้นปี 2023

โน๊ตบุ๊คน่าใช้ Acer ปี 2023 นี้ สายทำงานก็เด็ด เกมมิ่งก็ได้ใจเกมเมอร์ชัวร์ๆ

7AcerNotebook

ต้นปี 2023 นี้มีโน๊ตบุ๊คน่าใช้ Acer รุ่นใหม่ๆ เปิดตัวมาให้เลือกมากมายทั้งทำงานและเกมมิ่งและอัพเกรดสเปคใหม่มาให้ผู้ใช้ได้เลือกซื้อไปใช้งานได้ตามชอบ เลือกได้ทั้ง AMD Ryzen หรือ Intel Core Series รุ่นใหม่ๆ ก็ได้ และราคาเริ่มต้นก็ไม่เกิน 20,000 บาทก็หาซื้อมาทำงานได้แล้ว หากโน๊ตบุ๊คของใครเก่าจนเริ่มทำงานช้าไม่ทันใจก็น่าลงทุนเปลี่ยนเครื่องเป็นอย่างมาก

โน๊ตบุ๊คน่าใช้ Acer ซีรี่ส์น่าสนใจ ณ ตอนนี้มีหลายรุ่นทีเดียว ได้แก่ รุ่นเน้นความคุ้มค่าราคาไม่แพงอย่าง Aspire 3, รุ่นบางเบาเน้นพกพาสะดวกอย่าง Swift 3 หรือ Swift Edge เครื่องใหญ่แต่น้ำหนักเพียง 1 กิโลกรัมต้นๆ เท่านั้น ถ้าพูดถึงเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คก็มี Nitro 5 ซีรี่ส์ยอดนิยมของเกมเมอร์หรือรุ่นใหม่แกะกล่องอย่าง Predator Helios Neo 16 กับ Predator Helios 16 ก็คุ้มน่าใช้ไม่แพ้กันเลย

Advertisementavw
โน๊ตบุ๊คน่าใช้ Acer

สรุปสเปค 7 โน๊ตบุ๊คน่าใช้ Acer รวมมิตรสายเกมมิ่งและทำงานเด็ดๆ ประจำปี 2023 แนะนำให้โดน!!

สรุปสเปค
7 โน๊ตบุ๊คน่าใช้ Acer
CPU

GPU

SSD

RAM

Software

Display

Weight

Connectivity Price (บาท)
Acer Aspire 3
A315-24P-R6XV
AMD Ryzen 5 7520U

AMD Radeon 610M

M.2 NVMe
512GB

8GB LPDDR5
4800MHz

Windows 11 Home

15.6″ FHD IPS

1.78 กก.

USB-A 3.2 x 2

USB-C 3.2
Full Function x 1

HDMI 2.1 x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6E

Bluetooth 5.0

18,990
Acer Swift 3
SF314-512-55ZL
Intel Core
i5-1240P

Intel Iris Xe Graphics

M.2 NVMe
512GB

8GB LPDDR4x
4267MHz

Windows 11 Home

Microsoft Office
Home & Student 2021

14″ QHD
(2560×1440)
IPS

100% sRGB

1.25 กก.

Thunderbolt 4 x 2

USB-A 3.2 x 2

HDMI x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6E

Bluetooth 5.2

29,990
Acer Swift Edge
SFA16-41-R4B1
AMD Ryzen 5 6600U

AMD Radeon 660M

M.2 NVMe
1TB

16GB LPDDR5
6400MHz

Windows 11 Home

Microsoft Office
Home & Student 2021

16″ 4K UHD
(3840×2400)
OLED

100%
DCI-P3

1.17 กก.

USB-C 3.2
Full Function x 1

USB-A 3.2 x 2

HDMI 2.1 x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6E

Bluetooth 5.2

45,990
Acer Nitro 5
AN515-47-R60A
AMD Ryzen 7 7735HS

NVIDIA GeForce RTX 3050

M.2 NVMe
512GB

8GB DDR5
4800MHz

Windows 11 Home

15.6″ FHD IPS

Refresh Rate 165Hz

100% sRGB

2.5 กก.

USB-C 3.2 Power Delivery x 1

USB-A 3.2 x 1

HDMI x 1

LAN x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6E

Bluetooth 5.2

35,990
Acer Predator Helios Neo 16 PHN16-71-58MD Intel Core
i5-13500HX

NVIDIA GeForce RTX 4050

M.2 NVMe
512GB

16GB DDR5
4800MHz

Windows 11 Home

16″ WUXGA
(1920×1200)
IPS

Refresh Rate 165Hz

100% sRGB

2.6 กก.

Thunderbolt 4 x 2

USB-A 3.2 x 3

HDMI x 1

LAN x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6

Bluetooth 5.1

39,990
Acer Predator Helios Neo 16 PHN16-71-71EE Intel Core
i7-13700HX

NVIDIA GeForce RTX 4060

M.2 NVMe
512GB

16GB DDR5
4800MHz

Windows 11 Home

16″ WQXGA (2560×1440)
IPS

Refresh Rate 165Hz

100% sRGB

2.6 กก.

Thunderbolt 4 x 2

USB-A 3.2 x 3

HDMI x 1

LAN x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6

Bluetooth 5.1

52,990
Acer Predator Helios 16 PH16-71-78MQ Intel Core
i7-13700HX

NVIDIA GeForce RTX 4070

M.2 NVMe
1TB

32GB DDR5
4800MHz

Windows 11 Home

16″ WQXGA (2560×1440)
IPS

Refresh Rate 240Hz

100% DCI-P3

2.6 กก.

Thunderbolt 4 x 2

USB-A 3.2 x 3

HDMI x 1

LAN x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6E

Bluetooth 5.2

79,990

7 โน๊ตบุ๊คน่าใช้ Acer อัพเดทปี 2023 รวมสายทำงานและเกมมิ่งแบบจุกๆ ถูกใจทุกคน!

BNN BTSC 2 Coverpage 1752x640 category banner medium

ผู้ใช้คนไหนมองหาโน๊ตบุ๊คน่าใช้ Acer เครื่องใหม่มาแทนคอมเครื่องเก่าของตัวเองอยู่ล่ะก็ ณ ตอนนี้มีรุ่นน่าสนใจ 7 รุ่นพร้อมโปรโมชั่นสุดคุ้มจากทาง BaNANA ให้ใช้คูปองลดเพิ่มเติมได้สูงสุด 1,500 บาทอีกด้วย โดยมีรุ่นแนะนำดังนี้

  1. Acer Aspire 3 A315-24P-R6XV (18,990 บาท)
  2. Acer Swift 3 SF314-512-55ZL (29,990 บาท)
  3. Acer Swift Edge SFA16-41-R4B1 (45,990 บาท)
  4. Acer Nitro 5 AN515-47-R60A (35,990 บาท)
  5. Acer Predator Helios Neo 16 PHN16-71-58MD (39,990 บาท)
  6. Acer Predator Helios Neo 16 PHN16-71-71EE (52,990 บาท)
  7. Acer Predator Helios 16 PH16-71-78MQ (79,990 บาท)
1. Acer Aspire 3 A315-24P-R6XV (18,990 บาท)
aspire3 1

โน๊ตบุ๊คน่าใช้ Acer เครื่องแรกเป็น Acer Aspire 3 A315-24P-R6XV รุ่นเริ่มต้นราคาไม่เกิน 20,000 บาทสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการโน๊ตบุ๊คบางเบาราคาไม่แพงเอาไว้ทำงานหรือเรียนโดยเฉพาะ จุดเด่นคือได้ USB-C Full Function ต่อหน้าจอและชาร์จแบตเตอรี่ได้ มี Numpad และได้หน้าจอขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ใช้ซีพียู AMD Ryzen 5 7520U แบบ 4 คอร์ 8 เธรด ความเร็ว 2.8~4.3GHz ใช้การ์ดจอออนบอร์ด AMD Radeon 610M แบบ 2 คอร์ ความเร็ว 1,900MHz สำหรับแสดงผลขึ้นหน้าจอ มี M.2 NVMe SSD ความจุ 512GB ติดตั้ง Windows 11 Home มีแรม 8GB LPDDR5 บัส 4800MHz มีพอร์ต USB-A 3.2 Gen 1 x 2, USB-C 3.2 Gen 2 Full Function x 1, HDMI 2.1 x 1, Audio combo x 1 เชื่อมต่อ Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.0 ได้ น้ำหนักเพียง 1.78 กิโลกรัมเท่านั้น หากผู้อ่านท่านไหนสนใจโน๊ตบุ๊ครุ่นนี้อยู่แล้วแต่อยากทราบรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถอ่านรีวิวได้ที่นี่

สเปคของ Acer Aspire 3 A315-24P-R6XV
CPU AMD Ryzen 5 7520U แบบ 4 คอร์ 8 เธรด ความเร็ว 2.8~4.3GHz
GPU AMD Radeon 610M แบบ 2 คอร์ ความเร็ว 1,900MHz
SSD M.2 NVMe SSD ความจุ 512GB
RAM 8GB LPDDR5 บัส 4800MHz
Display 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS
Connectivity USB-A 3.2 Gen 1 x 2, USB-C 3.2 Gen 2 Full Function x 1, HDMI 2.1 x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.0

Software Windows 11 Home
Weight 1.78 กิโลกรัม
Price 18,990 บาท ใช้โค้ด BACBM7 ลดได้ 750 บาท คลิ๊กสั่งซื้อที่นี่
2. Acer Swift 3 SF314-512-55ZL (29,990 บาท)
swift3 2

โน๊ตบุ๊คน่าใช้ Acer ราคาไม่เกิน 30,000 บาท สำหรับสายทำงานในช่วงต้นปี 2023 นี้ต้อง Acer Swift 3 SF314-512-55ZL รุ่นนี้จะได้เซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือติดตั้งมาให้กับพอร์ต Thunderbolt 4 x 2 และพอร์ต USB-A 3.2 x 2, HDMI x 1, Audio combo x 1 ช่อง ซึ่งครบเครื่องพร้อมใช้งานและเบาเพียง 1.25 กิโลกรัมเท่านั้น ขนาดตัวเครื่องพกง่าย ขนาดจอเพียง 14 นิ้ว ความละเอียด QHD (2560×1440) พาเนล IPS ขอบเขตสี 100% sRGB ติดตั้ง Intel Core i5-1240P แบบ 12 คอร์ 16 เธรด (4P+8E) ความเร็วสูงสุด 4.4GHz ใช้การ์ดจอออนบอร์ด Intel Iris Xe Graphics มี M.2 NVMe SSD ความจุ 512GB ติดตั้ง Windows 11 Home และ Microsoft Office Home & Student 2021 มาให้กับแรมอีก 8GB LPDDR4x บัส 4267MHz เชื่อมต่อ Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.2 ได้อีกด้วย ถ้าใครมองหาโน๊ตบุ๊คน่าใช้ Acer ระดับพรีเมี่ยมเอาไว้ทำงาน เน้นพกง่ายๆ ไม่หนักไหล่เกินไปก็ซื้อตัวนี้เอาไว้ใช้ได้เลย

สเปคของ Acer Swift 3 SF314-512-55ZL
CPU Intel Core i5-1240P แบบ 12 คอร์ 16 เธรด (4P+8E) ความเร็วสูงสุด 4.4GHz
GPU Intel Iris Xe Graphics
SSD M.2 NVMe SSD ความจุ 512GB
RAM 8GB LPDDR4x บัส 4267MHz
Display 14 นิ้ว ความละเอียด QHD (2560×1440) พาเนล IPS ขอบเขตสี 100% sRGB
Connectivity Thunderbolt 4 x 2, USB-A 3.2 x 2, HDMI x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.2

Software Windows 11 Home, Microsoft Office Home & Student 2021
Weight 1.25 กิโลกรัม
Price 29,990 บาท ใช้โค้ด BACBM10 ลดได้ 1,000 บาท คลิ๊กสั่งซื้อที่นี่
3. Acer Swift Edge SFA16-41-R4B1 (45,990 บาท)
swiftedge 3

โน๊ตบุ๊คน่าใช้ Acer ระดับพรีเมี่ยมซีพียู AMD Ryzen นาทีนี้ต้อง Acer Swift Edge SFA16-41-R4B1 รุ่นนี้ที่หาซื้อง่ายและได้ระบบรักษาความปลอดภัยเหนือชั้นเพราะมีเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือติดตั้งมาให้คู่กับ TPM 2.0 และ Microsoft Pluton Security Processor ติดตั้งมาให้ในตัว ได้ตัวเครื่องจอใหญ่ 16 นิ้ว ความละเอียด 4K UHD (3840×2400) พาเนล OLED ขอบเขตสี 100% DCI-P3 แต่น้ำหนักเบาเพียง 1.17 กิโลกรัมเท่านั้น ติดตั้งซีพียู AMD Ryzen 5 6600U แบบ 6 คอร์ 12 เธรด ความเร็ว 2.9~4.5GHz มีการ์ดจอออนบอร์ด AMD Radeon 660M แบบ 6 คอร์ ความเร็ว 1,900MHz มี M.2 NVMe SSD ความจุ 1TB ติดตั้ง Windows 11 Home กับ Microsoft Office Home & Student 2021 กับแรม 16GB LPDDR5 บัส 6400MHz มีพอร์ต USB-C 3.2 Gen 2 รองรับ DisplayPort alt-mode และ Power Delivery, USB-A 3.2 Gen 1 x 2, HDMI 2.1 x 1, Audio combo x 1 เชื่อมต่อ Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax คลื่น 6GHz รองรับ Bluetooth 5.2 ได้ในตัว หากใครชอบโน๊ตบุ๊คน่าใช้ Acer เครื่องใหญ่สเปคแรงก็แนะนำให้ซื้อเครื่องนี้ไปใช้งานเลยและสามารถอ่านรีวิวฉบับเต็มได้ที่นี่

สเปคของ Acer Swift Edge SFA16-41-R4B1
CPU AMD Ryzen 5 6600U แบบ 6 คอร์ 12 เธรด ความเร็ว 2.9~4.5GHz
GPU AMD Radeon 660M แบบ 6 คอร์ ความเร็ว 1,900MHz
SSD M.2 NVMe SSD ความจุ 1TB
RAM 16GB LPDDR5 บัส 6400MHz
Display 16 นิ้ว ความละเอียด 4K UHD (3840×2400) พาเนล OLED
ขอบเขตสี 100% DCI-P3
Connectivity USB-C 3.2 Gen 2 รองรับ DisplayPort alt-mode และ Power Delivery, USB-A 3.2 Gen 1 x 2, HDMI 2.1 x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.2

Software Windows 11 Home, Microsoft Office Home & Student 2021
Weight 1.17 กิโลกรัม
Price 45,990 บาท ใช้โค้ด BACBM15 ลดได้ 1,500 บาท คลิ๊กสั่งซื้อที่นี่
4. Acer Nitro 5 AN515-47-R60A (35,990 บาท)
nitro5 4

ด้านเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คน่าใช้ Acer ต้องยกให้ Acer Nitro 5 AN515-47-R60A ซึ่งนอกจากได้ซีพียูตัวแรงอย่าง AMD Ryzen 7 7735HS แบบ 8 คอร์ 16 เธรด ความเร็ว 3.2~4.75GHz กับการ์ดจอ NVIDIA GeForce RTX 3050 แรม 4GB GDDR6 มาใช้งานแล้ว ยังได้จอใหญ่ 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 165Hz ขอบเขตสีกว้าง 100% sRGB มาใช้งานกับคีย์บอร์ด 4-Zone RGB อีกด้วย มี M.2 NVMe SSD ความจุ 512GB ติดตั้ง Windows 11 Home มาให้พร้อมแรม 8GB DDR5 บัส 4800MHz มีพอร์ต USB-C 3.2 รองรับ Power Delivery x 1, USB-A 3.2 x 3, HDMI x 1, LAN x 1, Audio combo x 1 เชื่อมต่อ Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.2 ได้ น้ำหนัก 2.5 กิโลกรัม จัดเป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค Acer น่าใช้อีกเครื่องสำหรับเกมเมอร์ที่มีงบจำกัดมาก แค่เพิ่มแรมในเครื่องเป็น 16GB เท่านี้ก็เหลือเฟือแล้ว

สเปคของ Acer Nitro 5 AN515-47-R60A
CPU AMD Ryzen 7 7735HS แบบ 8 คอร์ 16 เธรด ความเร็ว 3.2~4.75GHz
GPU NVIDIA GeForce RTX 3050 แรม 4GB GDDR6
SSD M.2 NVMe SSD ความจุ 512GB
RAM 8GB DDR5 บัส 4800MHz
Display 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 165Hz
ขอบเขตสีกว้าง 100% sRGB
Connectivity USB-C 3.2 รองรับ Power Delivery x 1, USB-A 3.2 x 3, HDMI x 1, LAN x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.2

Software Windows 11 Home
Weight 2.5 กิโลกรัม
Price 35,990 บาท ใช้โค้ด BACBM15 ลดได้ 1,500 บาท คลิ๊กสั่งซื้อที่นี่
5. Acer Predator Helios Neo 16 PHN16-71-58MD (39,990 บาท)
helios16 5

Acer Predator Helios Neo 16 PHN16-71-58MD เครื่องนี้เป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คน่าใช้ Acer รุ่นใหม่แกะกล่องของปี 2023 ซึ่งรุ่นนี้ยังดึงข้อดีของตระกูล Predator มาใช้ทั้งชุดระบายความร้อนประสิทธิภาพสูงและปุ่ม Turbo เร่งประสิทธิภาพเครื่องให้สูงขึ้นและไฟคีย์บอร์ด 4-Zone RGB และปรับจูนเครื่องด้วยโปรแกรม PredatorSense เพื่อเร่งกำลังของ Intel Core i5-13500HX แบบ 14 คอร์ 20 เธรด (6P+8E) ความเร็วสูงสุด 4.7GHz กับการ์ดจอแยก NVIDIA GeForce RTX 4050 แรม 6GB GDDR6 ให้ทรงพลังขึ้นอีก ได้จอขนาด 16 นิ้ว ความละเอียด WUXGA (1920×1200) พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 165Hz ขอบเขตสีกว้าง 100% sRGB อีกด้วย มี M.2 NVMe SSD ความจุ 512GB ติดตั้ง Windows 11 Home มาให้กับแรมอีก 16GB DDR5 บัส 4800MHz มีพอร์ต Thunderbolt 4 x 2, USB-A 3.2 x 3, HDMI x 1, LAN x 1, Audio combo x 1 เชื่อมต่อ Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.1 ได้ น้ำหนักเครื่องเพียง 2.6 กิโลกรัมเท่านั้น ถือว่าพกสะดวกแต่แรงพอใช้ทำงานและเล่นเกมได้ดีแน่นอน

สเปคของ Acer Predator Helios Neo 16 PHN16-71-58MD
CPU Intel Core i5-13500HX แบบ 14 คอร์ 20 เธรด (6P+8E) ความเร็วสูงสุด 4.7GHz
GPU NVIDIA GeForce RTX 4050 แรม 6GB GDDR6
SSD M.2 NVMe SSD ความจุ 512GB
RAM 16GB DDR5 บัส 4800MHz
Display 16 นิ้ว ความละเอียด WUXGA (1920×1200) พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 165Hz ขอบเขตสีกว้าง 100% sRGB
Connectivity Thunderbolt 4 x 2, USB-A 3.2 x 3, HDMI x 1, LAN x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.1

Software Windows 11 Home
Weight 2.6 กิโลกรัม
Price 39,990 บาท ใช้โค้ด BACBM15 ลดได้ 1,500 บาท คลิ๊กสั่งซื้อที่นี่
6. Acer Predator Helios Neo 16 PHN16-71-71EE (52,990 บาท)
helios16 6

เกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค Acer น่าใช้อีกรุ่นที่ผู้เขียนแนะนำเป็น Acer Predator Helios Neo 16 PHN16-71-71EE โดยเครื่องนี้อัพเกรดจาก Predator Helios 16 ในข้อก่อนให้แรงขึ้น ใช้ซีพียู Intel Core i7-13700HX แบบ 16 คอร์ 24 เธรด (8P+8E) ความเร็วสูงสุด 5GHz จับคู่การ์ดจอแยก NVIDIA GeForce RTX 4060 แรม 8GB GDDR6 และอัพเกรดหน้าจอให้มีความละเอียดสูงขึ้นเป็น 16 นิ้ว ความละเอียด WQXGA (2560×1440) พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 165Hz ขอบเขตสีกว้าง 100% sRGB อีกด้วย หากใครเน้นเล่นเกมเป็นหลักแล้วจะต่อหน้าจอเกมมิ่งแยกด้วยล่ะก็ Predator Helios Neo 16 สเปคนี้ถือว่าน่าสนใจมาก ซึ่งสเปคนี้สามารถเล่นบนความละเอียด QHD ได้สบายๆ อย่างแน่นอน

สเปคของ Acer Predator Helios Neo 16 PHN16-71-71EE
CPU Intel Core i7-13700HX แบบ 16 คอร์ 24 เธรด (8P+8E) ความเร็วสูงสุด 5GHz
GPU NVIDIA GeForce RTX 4060 แรม 8GB GDDR6
SSD M.2 NVMe SSD ความจุ 512GB
RAM 16GB DDR5 บัส 4800MHz
Display 16 นิ้ว ความละเอียด WQXGA (2560×1440) พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 165Hz ขอบเขตสีกว้าง 100% sRGB
Connectivity Thunderbolt 4 x 2, USB-A 3.2 x 3, HDMI x 1, LAN x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.1

Software Windows 11 Home
Weight 2.6 กิโลกรัม
Price 52,990 บาท ใช้โค้ด BACBM15 ลดได้ 1,500 บาท คลิ๊กสั่งซื้อที่นี่
7. Acer Predator Helios 16 PH16-71-78MQ (79,990 บาท)
helios16 7

เกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค Acer น่าใช้รุ่นสุดท้ายเป็น Acer Predator Helios 16 PH16-71-78MQ ตัวแรงระดับ Desktop Replacement พร้อมเล่นเกมฟอร์มใหญ่ได้สบายๆ ไม่ต้องประกอบเกมมิ่งพีซีก็ได้ โดยรุ่นนี้ได้จอ 16 นิ้ว ความละเอียด WQXGA (2560×1600) พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 240Hz ขอบเขตสีกว้าง 100% DCI-P3 ติดตั้งซีพียู Intel Core i7-13700HX แบบ 16 คอร์ 24 เธรด (8P+8E) ความเร็วสูงสุด 5GHz กับการ์ดจอแยก NVIDIA GeForce RTX 4070 แรม 8GB GDDR6 มาให้ มี M.2 NVMe SSD ความจุ 1TB ติดตั้ง Windows 11 Home กับแรม 32GB DDR5 บัส 4800MHz มาให้ มีพอร์ต Thunderbolt 4 x 2, USB-A 3.2 x 3, HDMI x 1, LAN x 1, Audio combo x 1 เชื่อมต่อ Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.2 ได้ น้ำหนัก 2.6 กิโลกรัม และยังคงเอกลักษณ์ของตระกูล Acer Predator เอาไว้ครบเครื่องทั้งไฟคีย์บอร์ด Per-Key RGB กับปุ่ม Turbo ไว้กดเร่งประสิทธิภาพของเครื่องได้ หากใครหาเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คน่าใช้ Acer ดีๆ สักตัว เครื่องนี้ตอบโจทย์แน่นอน

สเปคของ Acer Predator Helios 16 PH16-71-78MQ
CPU Intel Core i7-13700HX แบบ 16 คอร์ 24 เธรด (8P+8E) ความเร็วสูงสุด 5GHz
GPU NVIDIA GeForce RTX 4070 แรม 8GB GDDR6
SSD M.2 NVMe SSD ความจุ 1TB
RAM 32GB DDR5 บัส 4800MHz
Display 16 นิ้ว ความละเอียด WQXGA (2560×1600) พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 240Hz
ขอบเขตสีกว้าง 100% DCI-P3
Connectivity Thunderbolt 4 x 2, USB-A 3.2 x 3, HDMI x 1, LAN x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.2

Software Windows 11 Home
Weight 2.6 กิโลกรัม
Price 79,990 บาท ใช้โค้ด BACBM15 ลดได้ 1,500 บาท คลิ๊กสั่งซื้อที่นี่
aspire ksp 4 Static KSP Image Right Left L

โน๊ตบุ๊คน่าใช้ Acer ณ ปี 2023 นี้ ไม่ว่าจะเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คหรือโน๊ตบุ๊คทำงานราคาประหยัดไปจนรุ่นบางเบาดีไซน์พรีเมี่ยมก็ดูน่าใช้มากขึ้นเรื่อยๆ แถมราคาก็จับต้องง่ายอีกด้วย ถ้าผู้อ่านคนไหนมีแผนเปลี่ยนเครื่อง ส่งต่อโน๊ตบุ๊คเครื่องเก่าให้คนใกล้ตัวแล้วหาเครื่องใหม่มาใช้ทำงานหรือเล่นเกม ณ ตอนนี้ถือเป็นเวลาที่ดีแถมยังมีโค้ดส่วนลดจากร้าน BaNANA คอยซัพพอร์ตอีกด้วย


บทความที่เกี่ยวข้อง

Acer Aspire 3 1
สัมภาษณ์Acer 1
Share image Edit Name 1acer 1

from:https://notebookspec.com/web/699141-7-recommend-laptop-from-acer

รีวิว MSI Katana 15 B12VGK แรงสะใจเกมเมอร์ ครีเอเตอร์ก็เลิฟ ตัวท็อปหกหมื่นมีทอน!

MSI Katana 15 B12VGK ของแรง ราคาคุ้ม เกมเมอร์โดนใจ!

MSIKatana15 1

MSI Katana 15 B12VGK รุ่นใหม่นี้เป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คขวัญใจเกมเมอร์อีกรุ่นที่ MSI ปรับปรุงให้สเปคและฟีเจอร์ของมันดีขึ้นเรื่อยๆ หากจำกันได้ตั้งแต่เปิดตัวใหม่ๆ น่าจะติดภาพว่ามันเป็นซีรี่ส์ระดับราคากลางๆ แต่โมเดลใหม่ปี 2023 ถูกปรับปรุงเพิ่มฟีเจอร์ใหม่เข้าหลายอย่างให้ดีไซน์สวยดูดี เพิ่มความไซเบอร์พังก์มากขึ้นจากโมเดลก่อนแต่ก็ยังไม่ทิ้งความเรียบง่ายในบอดี้ทรงเดิมที่สร้างชื่อมาอย่างยาวนานของซีรี่ส์นี้อีกด้วย

Advertisementavw

ด้านสเปค ณ ตอนนี้ทาง MSI ได้ติดตั้งซีพียู Intel 12th Gen “Alder Lake” เข้ามาให้และจับคู่กับการ์ดจอแยก NVIDIA GeForce RTX 4000 Series รุ่นใหม่แกะกล่องกับแรม DDR5 ปรับแต่งระบบระบายความร้อน Cooler Boost 5 ให้ระบายความร้อนได้ดีกว่าเดิมและเปลี่ยนไฟ LED Backlit ของคีย์บอร์ดจากไฟสีแดงโทนเดียวเป็น 4-Zone RGB พร้อมทำคีย์แคปปุ่ม WASD ซึ่งเกมเมอร์ใช้เป็นประจำให้เป็นปุ่มใสแบบใหม่เหมือนเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คซีรี่ส์อื่นๆ ภายในค่ายด้วย แถมยังติดตั้งพอร์ตต่างๆ มาให้ครบถ้วน ต่อหน้าจอแยกใช้งานพร้อมกัน 2 หน้าจอ เมื่อรวมจอโน๊ตบุ๊คเข้าไปจะได้มากถึง 3 จอ เรียกว่ามีพื้นที่ Desktop ให้ใช้ได้จุใจกว่าเดิม

ข้อดีของการ์ดจอ NVIDIA GeForce RTX 4000 Series แม้จะเป็นเวอร์ชั่น Max-Q ก็ตาม แต่ก็เป็นรุ่นใหม่เวอร์ชั่นที่ 5 แล้ว ซึ่งทางบริษัทก็ปรับปรุงเสริมฟีเจอร์ใหม่ๆ เข้าไปให้การ์ดจอโน๊ตบุ๊คทำงานได้ดีแต่ก็ประหยัดพลังงานไปพร้อมๆ กัน โดยฟีเจอร์ทั้ง 9 อย่างของ NVIDIA Max-Q นี้ ผุ้เขียนได้กล่าวถึงไปในรีวิว MSI Titan GT77 HX 13V แล้ว สามารถอ่านทำความเข้าใจเติมได้ และจะเห็นว่ามันก็ใช้งานได้ดีไม่ต้องง้อ Max-P เสมอไปก็ได้เช่นกัน

MSI Katana 15 B12VGK

NBS Verdicts

MSI Katana 15 RTX 4070 Ti DSC01788

MSI Katana 15 B12VGK รุ่นใหม่ปี 2023 นี้อัพเกรดสเปคและราคาขึ้นมาเป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คระดับกลาง ราคาแม้จะสูงขึ้นจนเริ่มต้นที่ 44,990 บาท และรุ่นสูงสุดไปจบที่ 59,900 บาทก็ตาม แต่สเปคและฟีเจอร์ในตัวเครื่องก็ถือว่าสมราคากันอย่างแน่นอน เพราะได้ซีพียู Intel 12th Gen กับการ์ดจอแยก NVIDIA GeForce RTX 4000 Series รุ่นใหม่ล่าสุดและสเปคจบจากโรงงาน เปิดเครื่องแล้วเล่นเกมได้เลยไม่ต้องทำอะไรเพิ่มก็ได้

จุดน่าประทับใจของ MSI Katana 15 B12VGK นอกจากสเปคแล้ว ต้องยกให้ Matrix Display สำหรับต่อหน้าจอแยกพร้อมกัน 2 จอได้พร้อมกันด้วยพอร์ต HDMI และ USB-C 3.2 DisplayPort ซึ่งประโยชน์ของมันนอกจากต่อสองจอเอาไว้ใช้เล่นหรือสตรีมเกมแล้ว ยังเพิ่มพื้นที่ Desktop เอาไว้ทำงานเปิดโปรแกรมให้มากขึ้นและยังได้พอร์ตใช้งานพื้นฐานต่างๆ ครบถ้วนอีกด้วย หรือถ้าใครซื้อมาเน้นเล่นเกมอย่างเดียว พอร์ต HDMI ของตัวเครื่องก็ต่อหน้าจอแยก 8K 60Hz หรือ 4K 120Hz ได้เช่นกันแถมยังเล่นเกมฟอร์มใหญ่หลายๆ เกมไม่ว่าจะ Resident Evil 4 Remake, Cyberpunk 2077, Call of Duty: Modern Warfare II บนจอ Full HD หรือ QHD แล้วปรับกราฟิคระดับสูงสุดเลยก็ได้สบายๆ อาจจะเปิด NVIDIA DLSS 3 เสริมสักนิดก็เล่นได้ไหลลื่นอย่างแน่นอน แถมระบบระบายความร้อน Cooler Boost 5 ตัวนี้ก็จัดการอุณหภูมิได้ดีขึ้นมาก จะทำงานหรือเล่นเกมเครื่องก็เย็นตลอดอย่างแน่นอน

ในทางกลับกัน MSI Katana 15 B12VGK ก็มีข้อสังเกตอยู่ 1-2 เรื่อง คือ หน้าจอ Full HD แม้เป็นพาเนล IPS ก็ยังเป็นเกรดทั่วไป ขอบเขตสีก็ยังไม่กว้างพอทำงานครีเอเตอร์ได้เหมือนเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คจากแบรนด์คู่แข่งที่แข่งกันในเรื่องนี้อย่างเข้มข้นต่อเนื่อง หากใครเป็นครีเอเตอร์ก็ควรต่อหน้าจอแยกโดยเฉพาะไปเลย แต่ถ้าเป็นเกมเมอร์อาจไม่มีปัญหาเรื่องนี้มากนัก

ข้อสังเกตอีกจุด คือ แม้ทางบริษัทจะใส่หัว M.2 NVMe SSD อินเตอร์เฟส PCIe 4.0 มาให้ 2 ตัวแล้วก็ตาม แต่ตัวที่ 2 ไม่มีแท่นยึดน็อตสำหรับล็อค SSD ให้อยู่กับที่ ถึงจะปิดฝาขันน็อตให้เข้าที่ได้ก็ตาม แต่ก็หวังว่าทาง MSI จะจัดการเพิ่มฐานและน็อตเข้ามาให้อีกสักหน่อยจะช่วยให้ผู้ใช้อัพเกรดเครื่องได้อย่างอุ่นใจยิ่งขึ้น

ข้อดีของ MSI Katana 15 B12VGK
  1. ซีพียูเป็น Intel Core i7-12650H ประสิทธิภาพดี ทำงานและเล่นเกมได้สบายๆ
  2. การ์ดจอแยกเป็น NVIDIA GeForce RTX 4070 ประสิทธิภาพสูงเล่นได้ทุกเกม
  3. มีฟีเจอร์ Matrix Display ต่อจอแยกใช้งานได้ 2 จอพร้อมกันด้วยพอร์ต USB-C, HDMI
  4. พอร์ต HDMI อัพเกรดเป็นเวอร์ชั่น 2.1 ต่อหน้าจอแยกความละเอียดสูงสุด 8K 60Hz
  5. มีช่องเชื่อมต่อ M.2 NVMe SSD ช่องที่ 2 ติดตั้งมาให้ สามารถอัพเกรดเพิ่มความจุได้
  6. แรม 16GB DDR5 จากโรงงานอัพเกรดได้มากสุด 64GB ให้ทำงานและเล่นเกมได้ดีขึ้น
  7. ได้คีย์บอร์ดพร้อมไฟ 4-Zone RGB ดีไซน์ใหม่แล้ว จากรุ่นก่อนที่เป็นไฟสีแดงอย่างเดียว
  8. ระบบระบายความร้อน CoolerBoost 5 จัดการอุณหภูมิดีขึ้น เล่นเกมนานๆ เครื่องไม่ร้อน
  9. ดีไซน์ตัวเครื่องสวยเรียบร้อยไม่หวือหวามาก พกไปทำงานหรือเล่นเกมก็ไม่สะดุดตา
  10. กางหน้าจอได้แบนราบ 180 องศา จัดมุมองศาหน้าจอหรือแชร์จอให้เพื่อนดูได้ง่าย
ข้อสังเกตของ MSI Katana 15 B12VGK
  1. M.2 NVMe SSD ช่องเสริมไม่มีฐานน็อตให้ใช้ แม้จะใช้งานได้แต่ก็ไม่แข็งแรงนัก
  2. หน้าจอยังเป็นความละเอียด Full HD และขอบเขตสียังไม่กว้างมากแบบเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คในปีนี้ 

รีวิว MSI Katana 15 B12VGK

Specification

katana15

MSI Katana 15 B12VGK เป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ครุ่นปรับแต่งสเปคและฟีเจอร์ใหม่ให้ทันสมัย ใช้ทำงานและเล่นเกมได้ดียิ่งขึ้น ได้คีย์บอร์ด 4-Zone RGB และต่อหน้าจอแยก Matrix display ได้ 2 หน้าจอพร้อมกัน โดยสเปคจะมีรายละเอียดดังนี้

สเปคของ MSI Katana 15 B12VGK
CPU Intel Core i7-12650H แบบ 10 คอร์ 16 เธรด (6P+4E) ความเร็วสูงสุด 4.7GHz
GPU NVIDIA GeForcer RTX 4070 แรม 8GB GDDR6
SSD M.2 NVMe SSD 1TB อินเตอร์เฟส PCIe 4.0
RAM 16GB DDR5 บัส 4800MHz อัพเกรดได้มากสุด 64GB
Display 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 144Hz
Connectivity USB-C 3.2 Gen 1 รองรับการต่อหน้าจอ DisplayPort x 1, USB-A 3.2 Gen 1 x 2, USB 2.0 x 1, HDMI 2.1 ต่อหน้าจอแยก 8K 60Hz หรือ 4K 120Hz ได้ x 1, LAN x 1, Audio combo x 1 

Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.2

Software Windows 11 Home
Weight 2.25 กิโลกรัม
Price 59,900 บาท ชมสเปคโดยละเอียดคลิ๊กที่นี่

Hardware & Design

MSI Katana 15 RTX 4070 Ti DSC01782

MSI Katana 15 RTX 4070 Ti DSC01759
MSI Katana 15 RTX 4070 Ti DSC01760
MSI Katana 15 RTX 4070 Ti DSC01758

ดีไซน์ของ MSI Katana 15 B12VGK แม้จะได้ชื่อว่าเป็นรุ่นใหม่ปี 2023 ก็ตาม แต่ยังคงใช้บอดี้เดิมตั้งแต่เปิดตัวแต่ปรับปรุงรายละเอียดตัวเครื่องในส่วนต่างๆ แทน ซึ่งถ้าสังเกตจะเห็นว่ารูปร่างลายเส้นโค้งและหยักเล็กน้อยขอบตัวเครื่องเหมือนดาบคาตานะก็ยังอยู่เช่นเดิม มีสติ๊กเกอร์ซีพียู, การ์ดจอและฟีเจอร์เด่นของตัวเครื่องติดเอาไว้บริเวณแถบที่วางข้อมือทั้งสองฝั่งซ้ายขวา มีช่องดึงลมเข้าเล็กและเป็นดีไซน์เหนือแถบคีย์บอร์ดอีกช่อง

ถ้าสังเกตจะเห็นว่าบริเวณขอบตัวเครื่องส่วนต่างๆ ของ MSI Katana 15 B12VGK จะปั๊มลายจุดและเติมลายหัวน็อตให้เข้ากับคอนเซปท์ไซเบอร์พังก์เสริมเข้ามาตามจุดต่างๆ ของเครื่องด้วยแต่ไม่เยอะเกินไปจนดูรก ถือว่าทางบริษัทเสริมดีไซน์ตามคอนเซปท์ใหม่ของปีนี้ได้ลงตัวและไม่กลืนความสวยเรียบง่ายดั้งเดิมของซีรี่ส์ Katana ไป

MSI Katana 15 RTX 4070 Ti DSC01751

MSI Katana 15 RTX 4070 Ti DSC01725
MSI Katana 15 RTX 4070 Ti DSC01726
MSI Katana 15 RTX 4070 Ti DSC01746
MSI Katana 15 RTX 4070 Ti DSC01747

ชุดบานพับหน้าจอยังเป็นแบบติดขอบด้านนอกเครื่องเหมือน MSI Katana รุ่นก่อนหน้าและเชื่อมก้านบานพับหน้าจอเข้าไปรับกับฐานบานพับในตัวเครื่องเช่นเดิม และยังคงแข็งแรงไม่มีอาการโยกคลอนเวลากางหน้าจอใช้งานและยังกดให้ตัวหน้าจอกางได้กว้างถึง 180 องศาแบนราบติดกับพื้นโต๊ะทำงานได้ จึงแชร์หน้าจอให้เพื่อนร่วมงานดูได้สะดวก จะวางเครื่องบนโต๊ะบนแท่นวางโน๊ตบุ๊คก็ปรับจอให้เข้ากับมุมสายตาได้เป็นอย่างดี

MSI Katana 15 RTX 4070 Ti DSC01743

MSI Katana 15 RTX 4070 Ti DSC01744
MSI Katana 15 RTX 4070 Ti DSC01745

ฝาหลังของ MSI Katana 15 B12VGK ยังคงเรียบง่ายเหมือนรุ่นก่อนหน้าโดยสลักโลโก้เกมมิ่งเอาไว้ตรงกลางค่อนบน ขอบล่างสลักคำว่า “Engineered & Designed By Micro-Star International” หรือออกแบบและผลิตโดยบริษัท Micro-Star International (MSI) เอาไว้และมีเส้นตีเฉียง 80 องศาอยู่ 2 ฝั่งของฝาหลังตัวเครื่องด้วย 

MSI Katana 15 RTX 4070 Ti DSC01739

ด้านใต้เป็นดีไซน์รังผึ้งพร้อมช่องดึงอากาศเย็นเข้าไปในระบบระบายความร้อน Cooler Boost 5 ถ้าสังเกตจะเห็นว่ามีช่องเยอะและค่อนข้างโปร่งจนเห็นชุดฮีตไปป์ด้านในเครื่อง ติดแถบยางกันไถลเอาไว้ 5 เส้นพร้อมยึดน็อตปิดฝาเอาไว้ 13 ตัว เป็นหัวแฉก Philips Head ใช้ไขควงทั่วไปขันปลดฝาได้เลย

Screen & Speaker

MSI Katana 15 RTX 4070 Ti DSC01753

MSI Katana 15 RTX 4070 Ti DSC01755
MSI Katana 15 RTX 4070 Ti DSC01754
MSI Katana 15 RTX 4070 Ti DSC01756
MSI Katana 15 RTX 4070 Ti DSC01757

จอของ MSI Katana 15 B12VGK มีขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 144Hz เช่นเดียวกับรุ่นก่อน มีขอบจอด้านข้างบางทั้งสองฝั่ง ส่วนขอบบนจะมีมุมเฉียงลาดลงทั้งสองด้านรับกับขอบตัวเครื่องและติดกล้องเว็บแคมกับไมค์เอาไว้ ด้านล่างมีโลโก้ MSI สกรีนเอาไว้ตรงกลางเช่นเดิม ด้านการแสดงผลของพาเนล IPS ยังคงใช้งานได้ดีเช่นเดิม สามารถมองหน้าจอได้กว้าง 178 องศาจากทุกมุมโดยไม่มีเงาทาบบนจอหรือเกิดสีเพี้ยนไปจากปกติแม้แต่น้อยถือว่าพาเนลนี้ใช้งานได้ดีไม่มีปัญหา ผลิตโดยบริษัท A/Vaux Electronics

MSI Katana 15 RTX 4070 Ti DSC01776

Screenshot 2023 03 17 142455
Screenshot 2023 03 18 214802
display

การตั้งค่า Refresh Rate ในคำสั่ง Advanced display จะมีให้เลือก 2 ค่าเท่านั้น คือ 60 หรือ 144Hz และเมื่อทดสอบด้วย DisplayCal 3 ด้วยเครื่อง Colorchecker ของ Calibrite ได้ค่า Gamut coverage หรือค่าขอบเขตสีจริงของหน้าจอได้ผลเพียง 62.9% sRGB, 44.5% Adobe RGB, 45.7% DCI-P3 ด้าน Gamut volume หรือขอบเขตสีองค์รวมได้ 64.5% sRGB, 44.5% Adobe RGB, 45.7% DCI-P3 ค่าความเที่ยงตรงสี Delta-E เฉลี่ย 0.18~1.51 ซึ่งขอบเขตสีนี้ถือว่ากว้างในระดับเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คทั่วไป ได้สีเที่ยงตรงไม่เพี้ยนแต่เมื่อเทียบกับแบรนด์คู่แข่งระดับราคาใกล้เคียงกันถือว่าไม่กว้างนัก เพราะหลายๆ แบรนด์ทยอยเปลี่ยนพาเนล IPS ขอบเขตสีจอ 100% sRGB หรือบางแบรนด์อาจได้ 100% DCI-P3 เพื่อให้เกมมิ่งโน๊ตบุ๊คใช้ทำงานครีเอเตอร์ได้ด้วย ซึ่งในส่วนนี้ผู้เขียนหวังว่าทางบริษัทจะอัพเกรดพาเนลให้ MSI Katana รุ่นต่อไปดียิ่งขึ้นจนเทียบชั้นแบรนด์อื่นได้ด้วย

ความสว่างหน้าจอสูงสุด 100% เมื่อวัดแล้วสว่างสูงสุด 249.36 cd/m2 ถ้าใช้งานในอาคารหรือห้องส่วนตัวถือว่าสว่างพอดี ปรับความสว่างได้เต็มที่แต่พอพกไปทำงานนอกสถานที่อาจจะไม่พอสู้แดดนัก ดังนั้นถ้าพกไปใช้ตามร้านกาแฟอาจจะต้องหามุมหลบแดดสักนิดจะช่วยได้

MSI Katana 15 RTX 4070 Ti DSC01741
MSI Katana 15 RTX 4070 Ti DSC01742
MSI Katana 15 RTX 4070 Ti DSC01734
MSI Katana 15 RTX 4070 Ti DSC01735

ลำโพงคู่ของ MSI Katana 15 B12VGK ถือว่าดังพอสมควร เมื่อวัดแล้วได้ความดังราว 75~80dB เมื่อทดลองฟังเพลงแล้วถือว่าเนื้อเสียงลำโพงที่ปรับจูนโดย Nahimic audio ได้เสียงดังและใสเคลียร์และเสียงนักร้องฟังชัดเจนแต่เสียงเบสไม่ค่อยชัดเจนและไม่มีแรงปะทะนัก ถ้าไม่ซีเรียสก็ถือว่าพอฟังเพลงป็อบ, แจ๊สและดูหนังได้พอสมควร แต่ถ้าฟังเพลงแนวร็อคหรือฮิปฮอปแนะนำให้ต่อลำโพงแยกต่างหากจะได้อารมณ์กว่า

Keyboard & Touchpad

MSI Katana 15 RTX 4070 Ti DSC01763

MSI Katana 15 RTX 4070 Ti DSC01764
MSI Katana 15 RTX 4070 Ti DSC01765
MSI Katana 15 RTX 4070 Ti DSC01771
MSI Katana 15 RTX 4070 Ti DSC01770
MSI Katana 15 RTX 4070 Ti DSC01772
MSI Katana 15 RTX 4070 Ti DSC01774
MSI Katana 15 RTX 4070 Ti DSC01766
MSI Katana 15 RTX 4070 Ti DSC01768

คีย์บอร์ด Full-size ของ MSI Katana 15 B12VGK หากเทียบกับรุ่นก่อนซึ่งได้ทำรีวิวไปก็ยังเป็นเลย์เอ้าท์แบบเดิมโดยมีปุ่ม Shift กับ Ctrl ยาวเท่ากันให้เกมเมอร์กดได้สะดวกแล้วย้ายปุ่ม Fn ไปอยู่ฝั่งขวามือติดปุ่มลูกศรซ้ายและมี Numpad ติดมาให้ด้วยแต่ขนาดค่อนข้างเล็กกว่าปกติ ตอนใช้งานแรกๆ อาจจะไม่คุ้นเคยนักและต้องปรับตัวบ้างถึงจะใช้งานได้ถนัดมือขึ้น

จุดแตกต่างจากคีย์บอร์ดของ MSI Katana รุ่นก่อน คือ ปุ่ม WASD และ Power จะเปลี่ยนจากปุ่มทึบกลายเป็นปุ่มใสให้ไฟ LED Backlit ลอดได้เต็มที่แถมเปลี่ยนจากไฟสีแดงอย่างเดียวเป็น 4-Zone RGB และสกรีนตัวอักษรไว้บนคีย์แคปแทน ส่วนดีไซน์ของปุ่มลูกศรจะเปลี่ยนจากเส้นลูกศรขนาดเล็กให้กลายเป็นเครื่องหมายขนาดใหญ่แล้วซ้อนไอคอนตั้งค่าตัวเครื่องเข้าไปในตัวลูกศรแทน ได้แก่ ปุ่มเล่นหรือหยุดเพลง, เร่งความเร็วพัดลม, เปิดเป้าเล็งปืน (Crosshair) และปิดหน้าจออยู่ ส่วน Function Key อื่นๆ จะอยู่ถัดจากปุ่ม F1~F12 ส่วนปุ่ม Home, End, Page Up, Page Down ถูกรวมไว้ในชุด Numpad แทน ถือว่ามีให้ใช้งานครบถ้วนและเป็นเลย์เอ้าท์แบบคีย์บอร์ดแยกตามปกติ

MSI Katana 15 RTX 4070 Ti DSC01777

ด้านปุ่ม F1~F12 จะมีชุดปุ่ม Function Hotkey ติดตั้งมาให้ เมื่อต้องการใช้ก็กด Fn ค้างไว้ก่อนกดหรือจะกด Fn+Esc สลับเลเยอร์ก็ได้ แต่คีย์ลัดยังเหมือนกับ MSI Katana รุ่นก่อนโดยมีคำสั่งดังนี้

  • F1~F3 – ปิด, ลดหรือเพิ่มเสียงลำโพง
  • F4 – ปิด/เปิดทัชแพด
  • F5 – ปิด/เปิดไมโครโฟน
  • F6 – ปิด/เปิดเว็บแคม
  • F7 – เรียกโปรแกรม MSI Center
  • F8 – ปรับความสว่างไฟ LED Backlit
  • F9~F10 – ลด/เพิ่มความสว่างหน้าจอ
  • F11 – ปุ่ม Project ตั้งค่าหน้าจอหลักและเสริม

อย่างไรก็ตามถึงอัพเดทดีไซน์ให้ทันสมัยและเพิ่มไฟ 4-Zone RGB เข้ามา แต่ปุ่ม F12 ยังเป็นปุ่มเปล่าไม่มี Function Hotkey ติดมาให้ใช้งานเหมือนเดิม ซึ่งปุ่มนี้สามารถเซ็ตเป็นปุ่มลัดสำหรับเกมเมอร์ได้หลายปุ่ม ไม่ว่าจะล็อคปุ่ม Windows, หมุนจอกลับ 180 องศาหรือทำเป็นปุ่มให้ผู้ใช้ตั้งค่าเองในโปรแกรม MSI Center ไปเลยก็ได้ ซึ่งหวังว่าทางบริษัทจะอัพเดทฟังก์ชั่นให้ปุ่มนี้มีคีย์ลัดน่าใช้ติดมาในอนาคตด้วย

MSI Katana 15 RTX 4070 Ti DSC01761
MSI Katana 15 RTX 4070 Ti DSC01762

ด้านทัชแพดของ MSI Katana 15 B12VGK มีขนาดปานกลางไม่ใหญ่มากและรองรับ Gesture Control ของ Windows 11 ได้เป็นอย่างดีแต่จะอยู่ค่อนมาทางซ้ายมือ จึงทำให้สันมือทาบขอบแป้นทัชแพดโดยเลี่ยงไม่ได้ แต่ถ้าไม่ใช้งานก็กด Fn+F4 ปิดการทำงานทัชแพดไปก็ได้ แต่เวลาใช้ทำงานเอกสารทั่วไปก็ใช้งานได้เป็นอย่างดี ไม่มีปัญหาแน่นอน

Connector / Thin & Weight

MSI Katana 15 RTX 4070 Ti DSC01748
MSI Katana 15 RTX 4070 Ti DSC01749

แม้ MSI Katana 15 B12VGK จะให้และเซ็ตพอร์ตด้านข้างเครื่องเอาไว้เหมือนรุ่นก่อนหน้า แต่ข้อดีคือ ทางบริษัทอัพเดทพอร์ต USB-C จากที่ใช้ต่ออุปกรณ์หรือ External Harddisk อย่างเดียวให้ต่อหน้าจอแยก DisplayPort ได้แล้วและอัพเกรดพอร์ต HDMI เป็นเวอร์ชั่น 2.1 ให้ต่อจอแยกความละเอียดสูง 8K 60Hz หรือ 4K 120Hz ได้ และมีฟีเจอร์ Matrix Display ต่อหน้าจอแยกได้ 2 จอพร้อมกัน สำหรับพอร์ตทั้งสองฝั่งมีดังนี้

  • ฝั่งซ้ายจากซ้ายมือ – ช่องอแดปเตอร์, USB-A 3.2 Gen 1, USB 2.0
  • ฝั่งขวาจากซ้ายมือ – Audio combo, USB-A 3.2 Gen 1, USB-C 3.2 Gen 1 รองรับการต่อหน้าจอแยก DisplayPort, HDMI 2.1 รองรับความละเอียด 8K 60Hz หรือ 4K 120Hz, LAN RJ45
  • การเชื่อมต่อไร้สาย – Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.2

ถึงรูปแบบการจัดเรียงพอร์ตยังเป็นเหมือน MSI Katana รุ่นก่อนหน้าก็ตาม แต่ก็มีพอร์ตจำเป็นใช้งานติดตั้งมาครบถ้วนแถมยังอัพเดทเวอร์ชั่นให้ดีขึ้นเช่นนี้ ถือว่าทำได้ดีแต่ถ้าทาง MSI ให้พอร์ต USB-C Full Function หรือทำเป็น Thunderbolt 4 มาเลย จะยิ่งน่าใช้กว่านี้มาก แต่เท่านี้ก็ถือว่าน่าประทับใจแล้ว

MSI Katana 15 RTX 4070 Ti DSC01715

MSI Katana 15 RTX 4070 Ti DSC01719
MSI Katana 15 RTX 4070 Ti DSC01717
MSI Katana 15 RTX 4070 Ti DSC01716

น้ำหนักของ MSI Katana 15 B12VGK เฉพาะเครื่องอยู่ที่ 2.29 กิโลกรัม รวมอแดปเตอร์อีก 710 กรัมแล้วจะมีน้ำหนักรวม 3 กิโลกรัม ถือว่าน้ำหนักถือว่าเกาะกลุ่มกับเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คส่วนใหญ่ในปัจจุบันไม่มากน้อยเกินไป พอใส่กระเป๋าเป้พกออกไปทำงานข้างนอกบ้านได้หรือจะเน้นวางติดโต๊ะแทนเกมมิ่งพีซีก็ดี

Inside&Upgrade

MSI Katana 15 RTX 4070 Ti DSC01720

MSI Katana 15 RTX 4070 Ti DSC01731
MSI Katana 15 RTX 4070 Ti DSC01732
MSI Katana 15 RTX 4070 Ti DSC01733

ภายใน MSI Katana 15 B12VGK เมื่อขันน็อตหัวแฉก Philips Head ออกทั้ง 13 ตัวแล้ว ก็ใช้การ์ดแข็งไล่ตามขอบเครื่องแล้วเปิดฝามาอัพเกรดได้เลย โดยภายในจะเห็นชุด Cooler Boost 5 กับพัดลมคู่ใหญ่เล็กอย่างละตัว, แบตเตอรี่ด้านล่างและเมนบอร์ดชุดใหญ่และแผ่นวงจรสำหรับหัว USB ฝั่งซ้ายตัวเครื่องแยกอยู่อีกชิ้นหนึ่ง

ช่องแรมของ Katana 15 จะเป็นแบบซ้อน 2 ชั้น สเปคเดิมจากโรงงานจะได้มา 16GB DDR5 บัส 4800MHz อัพเกรดเพิ่มได้มากสุด 64GB แบบ 32GB x 2 ช่องและมีแผ่นปิดป้องกันไฟฟ้าสถิตย์ติดมาให้แรมแต่ละแผ่นอีกด้วย ด้าน M.2 NVMe SSD จะมีติดตั้งมาให้จากโรงงาน 1 ตัว ความจุ 1TB อินเตอร์เฟสเป็น PCIe 4.0 ทั้งช่องหลักและช่องเสริม ติดตั้ง Windows 11 Home มาให้และความจุนี้มากพอใช้ติดตั้งเกมกับโปรแกรมใช้งานได้สบายๆ แต่ M.2 NVMe ช่องเสริมมีแต่หัวไม่มีฐานขันน็อตล็อค SSD ติดมาให้

ถ้าหากคลิ๊กอ่านในหน้าสเปคโดยละเอียดของ MSI Katana 15 B12VGK จะเห็นว่าทางบริษัทเน้นข้อความให้ผู้ใช้ติดต่อศูนย์บริการเพื่ออัพเกรดเพิ่ม SSD ซึ่งในส่วนนี้คิดว่าเน้นให้ผู้ใช้ที่ยังไม่เชี่ยวชาญเรื่องการถอดประกอบอัพเกรดโน๊ตบุ๊คไม่ต้องตกใจและนำเครื่องมาให้ทีมช่างผู้ชำนาญการจัดการให้เพื่อความปลอดภัยแต่ถ้าใครเปิดฝาอัพเกรดเครื่องได้ก็สามารถสอดตัว M.2 NVMe SSD เข้าไป แล้วปิดลงมาให้ตัวฝาครอบดันตัว SSD ให้เข้าที่ก็ใช้งานได้

ในทางกลับกัน ผู้เขียนมองว่าการใส่หัว M.2 NVMe มาแบบไม่มีฐานรับค่อนข้างน่ากังวลอยู่พอควร เพราะนอกจากไม่มั่นคงยังไม่รู้ด้วยว่าผู้ใช้ได้เครื่องไปแล้วจะเผลอทำเครื่องตกหรือเกิดอุบัติเหตุอะไรแล้วทำให้ SSD หลุดหรือเปล่า ดังนั้นถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้เครื่องล็อตใหม่ใส่ฐานเสริมเข้ามาด้วยจะดีกว่า

Performance & Software

cpu
mb

ซีพียูของ MSI Katana 15 B12VGK แม้ยังเป็น Intel 12th Gen อยู่ แต่ก็ได้ Intel Core i7-12650H แบบ 10 คอร์ 16 เธรด (6P+4E) ความเร็วสูงสุด 4.7GHz มาให้ใช้งานและเล่นเกม มี P-Core ให้ใช้รันโปรแกรมและเกมได้สบาย เป็นสถาปัตยกรรม Intel 7 ขนาด 10 นาโนเมตร ค่า TDP 45 วัตต์ ส่วนเมนบอร์ดรองรับ M.2 NVMe SSD อินเตอร์เฟส PCIe 4.0 ผลิตโดย MSI เอง

ram
ram2

แรมในเครื่องมีความจุ 16GB DDR5 บัส 4800MHz เป็น 8GB x 2 ช่อง ชิป Samsung ซึ่งประสิทธิภาพดีไว้ใจได้แน่นอน รองรับการอัพเกรดมากสุด 64GB แบบ 32GB x 2 ช่อง ถ้าใช้เล่นเกมอย่างเดียวอาจใช้ความจุเดิมนี้ไปก่อนก็ได้ หรือจะอัพเกรดเผื่อไป 32GB DDR5 เผื่อเอาไว้ก็ได้ เพราะนอกจากเกมแล้วก็น่าจะเปิดโปรแกรมอื่นๆ อย่าง Discord หรือเบราเซอร์ต่างๆ เอาไว้เผื่อใช้งานหรือดูแจ้งเตือนแชตหรือดูจอเวลาไลฟ์สตรีมด้วยแน่นอน

4070 msi
tgp

การ์ดจอของ MSI Katana 15 B12VGK เป็น NVIDIA GeForce RTX 4070 แรม 8GB GDDR6 มี Shader Units ให้ใช้ 4,608 CUDA เป็น NVIDIA Max-Q ค่า TDP 105 วัตต์ รองรับ Dynamic Boost ถ่ายเทค่าวัตต์มาเร่งประสิทธิภาพได้อย่างแน่นอน รองรับชุดคำสั่ง OpenCL, OpenGL 4.6, CUDA, DirectCompute, DirectML, Vulkan, Ray Tracing และ PhysX จึงใช้ทำงานเรนเดอร์วิดีโอหรือโมเดล 3D ได้ดีแน่นอน

devicemgr

ชิ้นส่วนในเครื่องเมื่อเช็คใน Device Manager จะมีชิป TPM 2.0 สำหรับรักษาความปลอดภัยร่วมกับ Windows 11 และการ์ด Wi-Fi PCIe รุ่น Intel AX201 เชื่อมต่อ Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.2 ได้ แต่ไม่มีระบบยืนยันตัวตนแบบชีวมาตร (Biometric) ติดมาให้

ssd

M.2 NVMe SSD ความจุ 1TB ในเครื่องเป็น Micron 2400 ซึ่งประสิทธิภาพดีพอควร โดยสเปคเป็น M.2 NVMe SSD อินเตอร์เฟส PCIe 4.0 x4 ความเร็ว Sequential Read 4,500 MB/s และ Sequential Write 3,600 MB/s รองรับการเขียนข้อมูลเข้าออกไดรฟ์ได้ 300 TBW มีระบบรักษาความปลอดภัย AES 256-bit, TCG Opal 2.01, TCG Pyrite 2.01 และใช้ Secure boot ได้

พอรันทดสอบด้วย CrystalDiskMark 8 ได้ Sequential Read 4,675.52 MB/s และ Sequential Write 3,582.73 MB/s ซึ่งถือว่าเร็วพอใช้ทำงานและเปิดเกมต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งส่วนตัวแนะนำว่าใช้งานไดรฟ์เดิมจากโรงงานได้เลย แต่ไดรฟ์เสริมอาจใส่ WD Black SN770, Samsung 980 หรือ Transcend MTE250S เสริมเข้ามาเพื่อติดตั้งเกมหรือลงโปรแกรมอื่นๆ ก็ได้

Screenshot 2023 03 18 214658

ผลการทดสอบเล่นเกมด้วย 3DMark Time Spy ทำคะแนนเฉลี่ยได้ 11,467 คะแนน แยกเป็น CPU score 10,426 คะแนนและ Graphics score 11,673 คะแนน ซึ่งคะแนนระดับนี้ถือว่าแรงพอใช้เล่นเกมบนจอ Full HD ปรับสุดได้ทุกเกมหรือขึ้นไปจอ QHD ก็ปรับกราฟิคระดับสูงก็ไม่มีปัญหา แต่ถ้าเป็นจอ 4K UHD อาจจะเปิด NVIDIA DLSS เสริมสักหน่อยก็เล่นได้ไหลลื่นแล้ว

Screenshot 2023 04 09 201856

เฟรมเรทตอนทดลองเล่นเกมยอดนิยมบนจอ Full HD ปรับกราฟิคสูงสุดแล้วไม่เปิดตัวช่วยอย่าง NVIDIA DLSS จะเห็นว่าเฟรมเรทเฉลี่ยของทุกเกมสูงเกิน 60 Fps ไปจนแตะ 100 Fps หลายเกม ดังนั้นถ้า MSI Katana 15 B12VGK ทำเฟรมเรทด้วยจอ Full HD ได้สูงระดับนี้ก็สามารถเล่นเกมบนจอ QHD ได้สบายๆ ส่วนจอ 4K แนะนำให้เปิด NVIDIA DLSS เสริมเลยเพื่อเพิ่มเฟรมเรทให้เล่นได้ลื่นไหลยิ่งขึ้น

ความลื่นไหลและเฟรมเรทที่ได้ตอนทดสอบถือว่า MSI Katana 15 ทำได้ดีน่าประทับใจ ไม่อาการกระตุกให้เห็นและเฟรมเรทก็ไม่ร่วงหรือลดวูบน่าใจหายเลยแม้น้อย แต่ถ้าจะต่อหน้าจอเสริมขอแนะนำให้หาจอที่มีฟีเจอร์ NVIDIA G-SYNC ด้วยจะดีที่สุดเพื่อลดอาการภาพฉีกขาดและถ้าเป็นเกมเมอร์สาย FPS ถ้าจอมีฟีเจอร์ NVIDIA Reflex ด้วยจะยอดเยี่ยม เพราะมันจะช่วยลดความหน่วง (Latency) ให้ลดลงและตอบสนองได้เร็วขึ้นอีก

pcmark10

ด้านการทำงานต้องถือว่า MSI Katana 15 B12VGK ก็ทำผลงานได้ดี ได้คะแนนเฉลี่ย 7,278 คะแนน โดยการทำงานพื้นฐานต่างๆ เช่น เปิดโปรแกรม, ประชุมออนไลน์หรือทำงานเอกสารต่างๆ เรียกว่าทำได้ดีไม่มีที่ติและทำผลงานในหมวด Digital Content Creation ได้ดีมาก โดยคะแนนรวมหมวดนี้จะได้สูงถึง 11,433 คะแนน เด่นเรื่องงานแต่งภาพหรือเรนเดอร์โมเดล 3D ต่างๆ ส่วนงานตัดต่อวิดีโอก็ทำได้ดีไม่แพ้กัน ดังนั้นถ้าใครจะซื้อไปทำงานอย่างเดียวก็ดีแต่แนะนำให้หาหน้าจอสายครีเอเตอร์มาใช้คู่กันจะดีที่สุด

Screenshot 2023 03 18 232736
r23

ด้านโปรแกรม CINEBENCH R20 สำหรับทดสอบพลังประมวลผลของซีพียูทำคะแนนได้ 5,923 pts อยู่ในระดับไล่เลี่ยกับซีพียู Intel 12th Gen หลายๆ รุ่นด้วย P-Core ถึง 6 คอร์ ทำให้มันเรนเดอร์งานกราฟิคต่างๆ ได้ค่อนข้างดี ส่วน CINEBENCH R23 สำหรับทดสอบแบบหลายคอร์พร้อมกัน (Multi Core) ทำคะแนนรวมได้ 14,066 pts ถือว่าอยู่ระดับกลางไล่เลี่ยกับเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คซีพียู Intel Core i7 หลายๆ รุ่นในปัจจุบัน คะแนนต่อคอร์ได้ 1,663 คะแนน ถือว่ามีพลังเรนเดอร์กราฟิคสูงพอควร

Screenshot 2023 03 19 151927

Screenshot 2023 03 19 151951
Screenshot 2023 03 19 151846

นอกจากนี้ MSI Katana 15 B12VGK ก็มีโปรแกรม MSI Center ติดตั้งมาให้ตั้งค่าตัวเครื่อง, อัพเดทเฟิร์มแวร์ต่างๆ รวมทั้งเซ็ตโหมดตัวเครื่องสำหรับโปรแกรมหรือเกมต่างๆ โดยเฉพาะได้ด้วย และถ้าต้องการรีดประสิทธิภาพของตัวเครื่องให้ออกมาสูงสุดแนะนำให้เปิด User Scenario แล้วเลือกคำสั่ง GPU Switch ให้เป็น Discrete Graphics Mode ก็ได้แล้วเครื่องจะบังคับรีเซ็ต 1 ครั้ง แล้วปรับโหมดเป็น Extreme Performance จะทำเฟรมเรทตอนเล่นเกมและทำงานได้ดีขึ้นอย่างชัดเจน หรือถ้าไม่อยากจุกจิกส่วนนี้อาจปล่อยให้ MUX Switch ทำงานเองโดยเลือกโหมด MSHybrid Graphics Mode แทนก็สะดวกเช่นกัน

Battery & Heat & Noise

MSI Katana 15 RTX 4070 Ti DSC01736

แบตเตอรี่ของ MSI Katana 15 B12VGK เป็นลิเธียมโพลีเมอร์ ความจุแบบ Typical Capacity วัดได้ 53.5Wh (4,700mAh) ส่วน Rated Capacity ได้ 52Wh (4,562mAh) จัดว่ามีให้ใช้พอสมควร ถ้าเทียบกับเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ครุ่นใหม่ๆ ที่แบตเตอรี่มีขนาดใหญ่ขึ้นระดับ 70Wh แล้ว ยังถือว่าน้อยอยู่บ้าง

batt

เมื่อทดสอบตามมาตรฐานเว็บไซต์โดยปรับตัวเครื่องเข้าโหมดประหยัดพลังงานและสั่งให้ใช้แค่การ์ดจอออนบอร์ด, ปรับความสว่างหน้าจอ 50%, เปิดเสียงลำโพง 10% ใช้ Microsoft Edge ดูคลิปนาน 30 นาทีแล้ว MSI Katana 15 B12VGK จะใช้งานได้นานสุด 4 ชั่วโมง 37 นาทีเท่านั้น ถือว่านานพอใช้ประชุมงานนานๆ หรือเอาเข้าคลาสเลคเชอร์จบได้หนึ่งคลาสพอดี คาดว่าเพราะ Intel Core i7-12650H, MUX Switch และระบบจัดการพลังงานทำงานได้ดี จึงได้ระยะเวลาใช้งานไล่เลี่ยกับเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คหลายๆ รุ่นที่ได้ทดสอบมาก่อนหน้านี้ แม้โน๊ตบุ๊คเหล่านั้นจะให้แบตเตอรี่มาเยอะกว่าก็ใช้งานได้ไม่เกิน 5 ชั่วโมงครึ่งหรือ 6 ชั่วโมง ถือว่า MSI Katana 15 B12VGK แม้จะให้แบตเตอรี่มาน้อยกว่าแต่ก็ยังจัดการพลังงานได้ดีจนเกาะกลุ่มกับรุ่นเรือธงหลายๆ รุ่นในปัจจุบันได้

MSI Katana 15 RTX 4070 Ti DSC01721

MSI Katana 15 RTX 4070 Ti DSC01722
MSI Katana 15 RTX 4070 Ti DSC01723
MSI Katana 15 RTX 4070 Ti DSC01724

ชุดระบายความร้อน Cooler Boost 5 จะมีฮีตไปป์ 6 เส้น พาดบนเพลตนำความร้อนจากซีพียูและการ์ดจอรวมไปถึงชิปแรมการ์ดจอแล้วตรงออกไปยังซิ้งค์หน้าพัดลมโบลวเวอร์ 2 ตัว โดยตัวเล็กจะระบายอุณหภูมิออกด้านหลังอย่างเดียวส่วนตัวใหญ่จะออกทั้งด้านข้างและหลังเครื่อง

temp
high temp

อุณหภูมิเวลาใช้งานตามปกติตอนดูหนังฟังเพลงหรือทำงานเอกสารจะเห็นว่า MSI Katana 15 B12VGK ไม่ร้อนเลย และอุณหภูมิเฉลี่ยของซีพียูและการ์ดจอจะอยู่ที่ 47 หรือ 52 องศาเซลเซียสเท่านั้น พอเปิดโปรแกรมทดสอบและเล่นเกมแล้ว อุณหภูมิซีพียูจะขึ้นไปที่ 52~87 องศาเซลเซียส แต่ตอนใช้งานจริงจะวิ่งอยู่ราว 70~75 องศาเท่านั้น ขึ้นอยู่กับจังหวะและการใช้งาน ส่วนอุณหภูมิการ์ดจอจะอยู่ราว 47~71 องศาเซลเซียส ตอนใช้งานจริงมักอยู่ช่วง 61~64 องศาเซลเซียสเป็นส่วนใหญ่และตัวเครื่องก็แค่อุ่นขึ้นมาเล็กน้อย สามารถวางมือเล่นบนคีย์บอร์ดได้แน่นอน

ต้องถือว่า MSI Katana 15 B12VGK นั้นลบจุดอ่อนข้อครหาในอดีตว่าแม้สเปคจะแรงแต่เล่นเกมนานๆ แล้วเครื่องร้อนได้อย่างสวยงาม โดยรุ่นใหม่นี้เล่นเกมฟอร์มยักษ์ต่อเนื่องทั้งวันได้สบายๆ ไม่ร้อนกวนใจกวนมือเจ้าของอย่างแน่นอน ดังนั้นถ้าเกมเมอร์คนไหนกังวลเรื่องนี้อยู่ก็สบายใจได้

User Experience

MSI Katana 15 RTX 4070 Ti DSC01793

คำนิยามสั้นๆ สำหรับ MSI Katana 15 B12VGK คงไม่พ้นคำว่า “เหล้าใหม่ในขวดเก่า” เพราะยังใช้บอดี้ของ MSI Katana รุ่นก่อนมาปรับปรุงดีไซน์, อัพเกรดสเปคและเปลี่ยนพอร์ตให้ทันสมัยขึ้น แต่ทาง MSI ก็ปรับแต่งมันได้ลงตัวและได้สเปคตอบโจทย์เกมเมอร์หลายๆ คนในยุคนี้อย่างแน่นอน อย่างพอร์ต HDMI 2.1 น่าจะถูกใจเกมเมอร์หลายๆ คนที่อยากเล่นเกมภาพคมๆ บนจอ 8K 60Hz หรือ 4K 120Hz และภาพที่ได้ก็สวยคมลื่นไหลดีมากด้วยพลังของ Intel Core i7-12650H กับการ์ดจอ NVIDIA GeForce RTX 4070 ในตัวและสเปคโดยองค์รวมถือว่าจบจากโรงงาน แต่ในมุมผู้เขียนจากที่ลองต่อจอเล่นเกมแล้วคิดว่าจอ QHD น่าจะเป็นความละเอียดที่เหมาะสมที่สุดเพราะไม่กินแรงเครื่องมากและได้ภาพสวยลื่นด้วย

แง่การเล่นเกม จากที่ผู้เขียนลองเล่นเกมมา 2-3 ชั่วโมงถือว่า MSI ทำการบ้านกับระบบระบายความร้อน Cooler Boost 5 ของ Katana 15 มาดีและลบข้อครหาเรื่องความร้อนได้อย่างสวยงาม ไม่มีปัญหาเรื่องความร้อนมารบกวนมือตอนเล่นเกมเลยและวางมือใช้คีย์บอร์ดของโน๊ตบุ๊คได้สบายๆ ดังนั้นถ้าใครติดภาพจำจาก MSI Katana รุ่นก่อนมาบอกได้เลยว่ารุ่นใหม่นี้ไม่มีปัญหาเรื่องนี้เลยแม้จะเล่นอุณหภูมิห้องก็ตามและถ้าเปิดแอร์เล่นก็ยิ่งดีมาก

MSI Katana 15 RTX 4070 Ti DSC01791

ส่วนใครตัดสินใจจะซื้อ MSI Katana แล้วแต่ไม่รู้ว่าจะเลือกรุ่นไหนดีก็แนะนำให้ดูตามรูปแบบการใช้งานได้เลย โดยถ้าใครทำงานกราฟิคและเล่นเกมด้วยก็แนะนำให้ซื้อตัวท็อปซีพียู Intel Core i7-12650H ให้มีคอร์ทำงานเพิ่มขึ้นจะดีที่สุด แต่ถ้าใครเล่นเกมอย่างเดียวก็มีรุ่นรองสเปคเหมือนกันที่ราคาถูกลงเหลือ 56,990 บาท แค่ลดซีพียูเหลือรุ่น Intel Core i5-12450H แบบ 8 คอร์ 12 เธรด (4P+4E) ความเร็วสูงสุด 4.4GHz เท่านั้น ซึ่งทั้งสองรุ่นนี้ถ้าเล่นเกมเรียกว่าแรงไม่แพ้กันอย่างแน่นอน สำหรับจอครีเอเตอร์เล่นเกมได้ผู้เขียนแนะนำให้หาจอ MSI Creator PS321QR ไว้ใช้สักตัวจะดีที่สุด

ในส่วนข้อสังเกตนอกจากเรื่องช่อง M.2 NVMe SSD ช่องที่ 2 จะไม่มีฐานยึดน็อตมาแต่ก็พอยอมรับได้บ้างเพราะใช้วิธีเอาฝากดตัว SSD ให้เข้าที่แทน แต่ก็หวังว่าทาง MSI จะเสริมฐานน็อตเข้ามาให้ผู้ใช้อุ่นใจขึ้นอีกสักนิดก็จะดีมาก ส่วนจุดสังเกตอีกอย่างคือขอบเขตสีหน้าจอของ MSI Katana 15 B12VGK ยังไม่กว้างพอเทียบชั้นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คราคาใกล้เคียงกันหลายๆ รุ่นในตลาดที่แข่งกันอัพเกรดพาเนลจอให้ขอบเขตสีกว้างขึ้นเรื่อยๆ โดยปัจจุบันเริ่มตั้งแต่ 100% sRGB ไปจน 100% DCI-P3 เลยก็มี ซึ่งผู้เขียนหวังว่าทางบริษัทจะอัพเกรดพาเนลของ MSI Katana รุ่นต่อไปให้ขอบเขตสีกว้างขึ้นอีกนิดจะได้เทียบชั้นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คจากแบรนด์คู่แข่งได้ด้วย

Conclusion & Award

MSI Katana 15 RTX 4070 Ti DSC01792

แม้จะมีข้อสังเกตประปรายอยู่ระดับหนึ่งก็ตาม แต่ MSI Katana 15 B12VGK ถือเป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ครุ่นที่สเปคต่อราคาคุ้มและจบจากโรงงาน เปิดเครื่องมาเล่นเกมเดิมๆ ได้เลยไม่ต้องอัพเกรดเพิ่มก็ได้ หากใครหาโน๊ตบุ๊คแบบนี้อยู่น่าจะถูกใจและเล่นเกมฟอร์มใหญ่ในปัจจุบันได้ทุกเกม ทำงานครีเอเตอร์ปั้นโมเดล 3D ได้สบายๆ ไปอีกหลายปีแล้วเอาเงินไปลงกับอุปกรณ์เสริมอื่นๆ ที่ต้องการได้ตามสะดวกเลย

award
award new value
best value

สเปคตัวท็อปจบไม่เกินหกหมื่นบาท แต่ได้สเปคแรงจบจากโรงงานพอเล่นเกมฟอร์มยักษ์หรือทำงาน 3D ได้สบายๆ หรือจะเลือกรุ่นรองลงมาแทนก็คุ้มไม่แพ้กันถือว่าคุ้มค่าน่าลงทุนมาก

award new Gaming

best gaming

Intel Core i7-12650H, การ์ดจอ NVIDIA GeForce RTX 4070 กับแรม 16GB DDR5 ในเครื่องถือเป็นสเปคที่ดี เล่นเกมจอ QHD หรือ UHD ก็ได้ ถือเป็นรุ่นที่เกมเมอร์ไม่ควรมองข้าม

from:https://notebookspec.com/web/696073-review-msi-katana-15-b12vgk

6 โน๊ตบุ๊คเกมมิ่ง MSI ตัวเทพสเปคแรง เกมเมอร์ชอบ! ได้ GeForce RTX 4000 Series ตัวเด็ด อัพเดทปี 2023

โน๊ตบุ๊คเกมมิ่ง MSI ปี 2023 นี้มีตัวแรงให้เลือกเพียบ! ใครหาเอาไว้เล่นเกมบอกเลยโดน!

6GamingNotebookMSI

ถ้าพูดถึงโน๊ตบุ๊คเกมมิ่ง เชื่อว่าเกมเมอร์หลายๆ คนคิดถึงโน๊ตบุ๊คเกมมิ่ง MSI ขึ้นมาเป็นชื่อแรกๆ แน่นอน ด้วยสเปคแรงทันสมัยเล่นได้ทุกเกมและดีไซน์เท่มีเอกลักษณ์โดนใจเกมเมอร์อีกด้วย ยิ่งในปี 2023 นี้ โน๊ตบุ๊คเกมมิ่ง MSI ก็ยิ่งมีอัตลักษณ์ของตัวเองชัดเจนยิ่งขึ้นโดยเน้นดีไซน์ล้ำอนาคตสังเกตจากคีย์แคปโปร่งใสบริเวณปุ่ม WASD ให้แสงไฟ RGB ส่องสว่างได้สวยงามเต็มที่และเสริมลูกเล่นไว้ตามส่วนต่างๆ ของตัวเครื่องให้ดูโดดเด่นแตกต่างยิ่งขึ้น

Advertisementavw

นอกจากดีไซน์สวยแตกต่างจากอดีตแล้ว โน๊ตบุ๊คเกมมิ่ง MSI ซีรี่ส์ปี 2023 ก็ถูกอัพเกรดซีพียูและการ์ดจอแยกให้ทันสมัยยิ่งขึ้น นอกจากซีพียู Intel 11th, 12th Generation แล้วก็มี Intel 13th Generation เสริมเข้ามาในไลน์สินค้าและมีการ์ดจอแยก NVIDIA GeForce RTX 4000 Series เพิ่มเข้ามารวมกับการ์ดจอ GeForce RTX 3000 Series และมี GeForce GTX 1650 Max-Q หรือโน๊ตบุ๊คเกมมิ่ง AMD Ryzen ให้เกมเมอร์สายประหยัดหรือคนทำงานที่หาโน๊ตบุ๊คมีการ์ดจอแยกเอาไว้ใช้ได้เลือกซื้ออีกด้วย ถึอได้ว่าโน๊ตบุ๊คเกมมิ่ง MSI นั้นมีซีรี่ส์ให้เกมเมอร์ทุกระดับได้เลือกซื้อกัน

โน๊ตบุ๊คเกมมิ่ง MSI

เลือกโน๊ตบุ๊คเกมมิ่ง MSI อย่างไรในปี 2023 ให้ดีโดนใจ สเปคแรงพร้อมเล่นทุกเกม?

เชื่อว่าเกมเมอร์ที่มองหาโน๊ตบุ๊คเกมมิ่ง MSI อยู่ น่าจะมีคำถามในใจแน่นอนว่าวิธีเลือกเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คในปี 2023 นี้ จะมีวิธีเลือกอย่างไรบ้าง แล้วมีวิธีเลือกแตกต่างจากโน๊ตบุ๊คสายทำงานที่ได้แนะนำไปก่อนหน้านี้อย่างไรบ้าง จากมุมของผู้เขียนจะเป็นดังนี้

  • ซีพียู – หากอิงจากเกมฟอร์มใหญ่ระดับ AAA ในปัจจุบันหลายๆ เกม จะเห็นว่าผู้สร้างเกมแต่ละเจ้าเขียนแนะนำให้เกมเมอร์ใช้พีซีหรือโน๊ตบุ๊คที่ติดตั้งซีพียู Intel Core i5 หรือ AMD Ryzen 5 ขึ้นไปให้มีคอร์และเธรดพอใช้เล่นเกมได้ไหลลื่น หรือถ้าได้ Intel Core i7 หรือ AMD Ryzen 7 ยิ่งดี จะได้เผื่อสเปคเอาไว้ให้เล่นเกมใหม่ในอนาคตได้ด้วย
  • การ์ดจอ – หากอิงจากการ์ดจอเกมมิ่งในโน๊ตบุ๊คเกมมิ่ง MSI หลายๆ รุ่นในปัจจุบันแล้ว จะเห็นว่าทางบริษัทมีให้เลือกหลายรุ่นทีเดียว หากจำแนกจะเป็นดังนี้
    • GeForce GTX 1650 Max-Q – ถือว่าประสิทธิภาพยังดี เล่นเกมฟอร์มยักษ์ได้ระดับหนึ่งแค่ต้องปรับกราฟิคลงมาระดับกลางแต่เล่นเกมออนไลน์ได้สบายๆ ถ้าใช้ตัดต่อคลิปและแต่งภาพยังทำงานได้ดีอยู่
    • GeForce RTX 3050 – รุ่นยอดนิยมที่ทรงพลังขึ้น เล่นเกมฟอร์มใหญ่ในปัจจุบันได้ทุกเกม แต่แนะนำให้ปรับกราฟิคระดับสูงได้แทบทั้งหมด แต่ไม่แนะนำให้เปิดเอฟเฟคแสงเงานักไม่อย่างนั้นอาจเฟรมเรทอาจตกได้ ถ้าซื้อรุ่น Ti (Titanium) ประสิทธิภาพจะดีขึ้น 10~15% 
    • GeForce RTX 4060~4080 – เป็นซีรี่ส์ล่าสุดจากทาง NVIDIA เทียบแล้ว RTX 4050 ก็เทียบชั้นกับการ์ดจอรุ่นยอดนิยมรุ่นก่อนอย่าง RTX 3060 ได้แล้ว ถ้าเป็น GeForce RTX 4060 ก็เล่นเกมด้วยจอความละเอียด 2K QHD ได้ ถ้าเป็น RTX 4070~4080 ก็เล่นเกมบนจอ 4K ได้สบายๆ
  • ฮาร์ดดิสก์และซอฟท์แวร์ – ปัจจุบันเป็น M.2 NVMe SSD กันหมดแล้ว และได้ความจุยืนพื้นกันที่ 512GB ไปจน 2TB และติดตั้ง Windows 11 Home มาให้แล้ว แค่เปิดเครื่องตั้งค่าเล็กน้อยก็พร้อมลงเกมเล่นได้ทันที ซึ่งความจุ 512GB ก็ติดตั้งเกมใหญ่ๆ ได้ 2-3 เกมแล้ว ถ้าไม่พอก็ค่อยเปิดฝาอัพเกรดได้ตามต้องการ ถ้าไม่ชอบความยุ่งยากก็ต่อ External SSD ทำเป็น Game Drive แทนก็สะดวกไม่แพ้กัน เพราะในปัจจุบันพอร์ต USB-C หรือ USB-A 3.2 ก็รับส่งข้อมูลได้เร็วพอจะโหลดฉากในเกมขึ้นมาได้ภายในไม่กี่วินาทีเท่านั้น
  • แรม – โน๊ตบุ๊คเกมมิ่ง MSI บางรุ่นอาจยังให้แรมมา 8GB อยู่ แนะนำให้อัพเกรดไป 16GB จะเล่นได้ทุกเกมในปัจจุบันอย่างแน่นอน ถ้าเผื่อเอาไว้ทำงานไม่ว่าจะตัดต่อกราฟิคหรือวิดีโอ, ทำโมเดล 3D และ Virtualization และเขียนโปรแกรมแนะนำให้เผื่อแรมไว้ที่ 32GB จะดีที่สุด จะเป็นแรม DDR4 ก็ไม่มีปัญหาเพราะราคาไม่แพงและหาซื้อง่าย ส่วนแรม DDR5 แม้จะแพงกว่าแต่ก็ทำงานได้เร็วขึ้นอย่างชัดเจน ทั้งนี้ต้องอิงตามสเปคตัวเครื่องด้วยว่ารับแรมแบบใด
  • พอร์ตและการเชื่อมต่อ – พอร์ตที่แนะนำให้ดูเอาไว้เป็นพื้นฐานเวลาจะซื้อโน๊ตบุ๊คเกมมิ่ง MSI หรือแบรนด์อื่นๆ ก็ตาม ควรมีพอร์ต HDMI เอาไว้ต่อหน้าจอแยกค่า Refresh Rate สูง, LAN ให้ใช้เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตได้ลื่นไหลและเสถียรขึ้น ส่วน USB-C ถ้าเป็น Data transfer อย่างเดียวก็ใช้ต่อ External SSD เอาไว้เป็นไดรฟ์ติดตั้งเกมแยกได้ ถ้ารองรับ DisplayPort ก็ใช้ต่อจอแยกเพิ่มได้อีกตัว ถ้ารองรับ Power Delivery เวลาพกออกไปธุระจะได้พกแต่อแดปเตอร์ GaN กำลังชาร์จ 100 วัตต์กับสาย USB-C อีกเส้นก็ใช้ชาร์จแบตฯ ให้โน๊ตบุ๊คได้แล้ว อื่นๆ อาจมี USB-A 2.0 / 3.2 เอาไว้ต่อเมาส์คีย์บอร์ดและอุปกรณ์อื่นๆ ถ้ามี Card Reader ก็โอนไฟล์ภาพกับวิดีโอจากกล้องเข้าคอมได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น
  • หน้าจอ – แนะนำให้ดูรุ่นจอ 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS จะเป็นไซซ์ที่พกพาง่ายแต่ก็ไม่เล็กเกินไปจนต้องเพ่งสายตานัก และควรโฟกัสค่า Refresh Rate ให้ยืนพื้น 144Hz ขึ้นไปถ้ามากกว่านั้นยิ่งดีเพราะภาพจะยิ่งลื่นไหลขึ้น หากไม่ได้ก็ไม่เป็นไรแล้วใช้วิธีต่อจอเกมมิ่งค่า Refresh Rate สูงแทนก็ทดแทนกันได้ บางทีโน๊ตบุ๊คเกมมิ่ง MSI ก็มีจอ 17.3 นิ้ว ความละเอียด QHD+ พาเนล IPS ค่า Refresh Rate สูงถึง 240Hz และพ่วงขอบเขตสีกว้างและเที่ยงตรงให้ใช้เล่นเกมและทำงานครีเอเตอร์ได้ดีขึ้น
  • น้ำหนักและระบบระบายความร้อน – โน๊ตบุ๊คเกมมิ่ง MSI ในปัจจุบันมีน้ำหนักเริ่มตั้งแต่ 1.86 กิโลกรัมไปจน 3 กิโลกรัม ซึ่งเรื่องน้ำหนักนั้นจะเกี่ยวข้องกับขนาดเครื่องและระบบระบายความร้อนของ MSI อย่าง Cooler Boost ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของโน๊ตบุ๊คเกมมิ่ง MSI ด้วย ยิ่งเป็นรุ่นเรือธงก็ยิ่งมีชุดระบายความร้อนใหญ่และระบายความร้อนได้ดี แต่น้ำหนักก็มากขึ้นเป็นเงาตามตัว ดังนั้นถ้าจะพกไปทำงาน, พบลูกค้าหรือติดตัวไปเล่นเกมตอนไปต่างจังหวัดก็ต้องเลือกกระเป๋าที่ดีและมีฟองน้ำซับไหล่ที่หนาพอควรด้วยจะได้ไม่บาดไหล่จนเกินไป

ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นวิธีเลือกโน๊ตบุ๊คเกมมิ่ง MSI ในแบบฉบับของผู้เขียนเอง ผู้อ่านอาจเอาไปปรับหรือใช้เป็นแนวทางตอนเลือกหรือแนะนำโน๊ตบุ๊คเกมมิ่งให้คนรอบตัวได้ด้วย อย่างไรก็ต้องดูตามงบประมาณด้วยว่ามีเท่าไหร่และพร้อมจ่ายแค่ไหน ถ้าให้ดีแนะนำให้เผื่อเงินเอาไว้ราว 3-5,000 บาทไว้ซื้อเกมมิ่งเกียร์ดีๆ สักเซ็ต ทั้งคีย์บอร์ด, เมาส์, หูฟัง, แผ่นรองเมาส์และจอยเกมสักหน่อยจะได้เล่นเกมได้สนุกยิ่งขึ้น

สรุปสเปค 6 โน๊ตบุ๊คเกมมิ่ง MSI ตัวเด็ดถูกใจเกมเมอร์ 

สรุปสเปค
โน๊ตบุ๊คเกมมิ่ง MSI
CPU

GPU

SSD

RAM

Software

Display

Weight

Connectivity ราคา
(บาท)
MSI GF63 Thin 11SC Intel Core
i5-11400H

NVIDIA GeForce GTX 1650 Max-Q

M.2 NVMe
512GB

8GB DDR4
3200MHz

Windows 11 Home

15.6″ FHD IPS

1.86 กก.

USB-A 3.2 x 3

USB-C 3.2 x 1

HDMI x 1

LAN x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6

Bluetooth 5.1

22,900
MSI Bravo 15 B5ED AMD Ryzen 7 5800H

AMD Radeon RX 6500M

M.2 NVMe
512GB

8GB DDR4
3200MHz

Windows 11 Home

15.6″ FHD IPS

Refresh Rate 144Hz

2.35 กก.

USB 2.0 x 1

USB-A 3.2 x 2

USB-C 3.2 x 1

HDMI ต่อหน้าจอแยก 4K 60Hz x 1

LAN x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6E

Bluetooth 5.2

26,990
MSI GF66 Katana 12UCO Intel Core
i5-12450H

NVIDIA GeForce RTX 3050

M.2 NVMe
512GB

8GB DDR5
4800MHz

Windows 11 Home

15.6″ FHD IPS

Refresh Rate 144Hz

2.25 กก.

USB 2.0 x 1

USB-A 3.2 x 2

USB-C 3.2 x 1

HDMI x 1

LAN x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6

Bluetooth 5.2

30,900
MSI Cyborg 15 A12VF Intel Core
i5-12450H

NVIDIA GeForce RTX 4060

M.2 NVMe
512GB

16GB DDR5
4800MHz

Windows 11 Home

15.6″ FHD IPS

Refresh Rate 144Hz

1.98 กก.

USB-A 3.2 x 2

USB-C 3.2 รองรับ DisplayPort x 1

HDMI 2.1 x 1

LAN x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6

Bluetooth 5.2

46,990
MSI Katana 15 B12VGK Intel Core
i5-12450H

NVIDIA GeForce RTX 4070

M.2 NVMe
1TB

16GB DDR5
4800MHz

Windows 11 Home

15.6″ FHD IPS

Refresh Rate 144Hz

2.25 กก.

USB 2.0 x 1

USB-A 3.2 x 2

USB-C 3.2 รองรับ DisplayPort x 1

HDMI 2.1 x 1

LAN x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6

Bluetooth 5.2

56,900
MSI Raider GE78HX 13VH Intel Core
i7-13700HX

NVIDIA GeForce RTX 4080

M.2 NVMe
2TB

64GB DDR5
5600MHz

Windows 11 Home

17″ QHD
(2560×1600)
IPS

Refresh Rate 240Hz

100% DCI-P3

3.1 กก.

USB-A 3.2 x 2

Thunderbolt 4 x 1

USB-C 3.2 รองรับ DisplayPort x 1

USB-C 3.2 รองรับ DisplayPort และ Power Delivery x 1

HDMI 2.1 x 1

SD Card
Reader x 1

LAN x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6E

Bluetooth 5.3

149,900

6 โน๊ตบุ๊คเกมมิ่ง MSI ตัวแรงขวัญใจเกมเมอร์! รวมรุ่นแนะนำราคาเป็นมิตรจนตัวแรงทะลุจักรวาล!

โน๊ตบุ๊คเกมมิ่ง MSI ในปี 2023 นี้ จะมีตั้งแต่รุ่นเก่าราคาเป็นมิตรเพื่อเกมเมอร์และคนที่อยากได้โน๊ตบุ๊คมีการ์ดจอแยกเอาไว้ทำงาน ไปจนรุ่นเรือธงสเปคอลังการทำงานได้ไหลลื่นเล่นเกมปรับสุดได้หมดให้เลือก ซึ่งผู้เขียนเลือกตั้งแต่ราคาไม่เกิน 25,000 หรือ 35,000 บาทไปจนรุ่นแรงไม่แคร์งบประมาณ ขอสเปคแรงเอาไว้ก่อนทั้งหมด 6 รุ่น ได้แก่

  1. MSI GF63 Thin 11SC (22,900 บาท)
  2. MSI Bravo 15 B5ED (26,990 บาท)
  3. MSI GF66 Katana 12UCO (30,900 บาท)
  4. MSI Cyborg 15 A12VF (46,990 บาท)
  5. MSI Katana 15 B12VGK (56,900 บาท)
  6. MSI Raider GE78HX 13VH (149,900 บาท)
1. MSI GF63 Thin 11SC (22,900 บาท)

12637 f

MSI GF63 Thin 11SC เป็นโน๊ตบุ๊คเกมมิ่ง MSI สเปคดีราคาประหยัดแต่สเปคถือว่าเล่นเกมฟอร์มใหญ่ในปัจจุบันได้อย่างแน่นอน แต่แนะนำให้ปรับกราฟิคระดับกลางก่อนแล้วค่อยปรับกราฟิคบางตัวขึ้นไประดับสูงจะได้ภาพในเกมสวยงามและเฟรมเรทลื่นไหลขึ้น และให้ดีแนะนำให้อัพเกรดเพิ่มแรมเป็น 16GB DDR4 ไปเลยจะใช้ทำงานและเล่นเกมได้ดีแน่นอน ตัวเครื่องมีขนาดจอ 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ซีพียูเป็น Intel Core i5-11400H มี 6 คอร์ 12 เธรด ความเร็ว 2.7~4.5GHz กับการ์ดจอ NVIDIA GeForce GTX 1650 Max-Q แรม 4GB GDDR6 มี M.2 NVMe SSD ความจุ 512GB ติดตั้ง Windows 11 Home กับแรม 8GB DDR4 บัส 3200MHz มาให้ มีพอร์ต USB-A 3.2 x 3, USB-C 3.2 x 1, HDMI x 1, LAN x 1, Audio combo x 1 เชื่อมต่อ Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.1 ได้ จุดเด่นคือน้ำหนักเบาเพียง 1.86 กิโลกรัมเท่านั้นและรูปลักษณ์ก็ดูเรียบร้อยไม่หวือหวาเกินไปด้วย ดังนั้นถ้าใครเน้นเอาไว้ทำงานและเล่นเกมบ้างเป็นบางโอกาส MSI GF63 Thin 11SC ตัวนี้แม้ทำตลาดมาสักระยะหนึ่งแล้วก็ยังน่าซื้อน่าใช้งานอยู่

สรุปสเปค MSI GF63 Thin 11SC
CPU Intel Core i5-11400H มี 6 คอร์ 12 เธรด ความเร็ว 2.7~4.5GHz
GPU NVIDIA GeForce GTX 1650 Max-Q แรม 4GB GDDR6 
SSD M.2 NVMe SSD 512GB
RAM 8GB DDR4 บัส 3200MHz
Display 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS
Connectivity USB-A 3.2 x 3, USB-C 3.2 x 1, HDMI x 1, LAN x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.1

Software Windows 11 Home
Weight 1.86 กิโลกรัม
Price 22,900 บาท ชมสเปคได้ที่นี่
2. MSI Bravo 15 B5ED (26,990 บาท)

12352 c

ด้านแฟนคลับ AMD Ryzen ทาง MSI ก็มีโน๊ตบุ๊คเกมมิ่ง MSI Bravo 15 B5ED ให้เลือก ซึ่งได้เขียนรีวิวไปแล้วหากสนใจสามารถอ่านรายละเอียดและจุดเด่นได้ที่นี่ ซึ่งประสิทธิภาพของการ์ดจอ AMD Radeon RX 6500M แรม 4GB GDDR6 นั้นเมื่อจับคู่กับ AMD Ryzen 7 5800H มี 8 คอร์ 16 เธรด ความเร็ว 3.2~4.4GHz แล้ว ก็ใช้ฟีเจอร์อย่าง AMD SmartShift Max และ AMD S.A.M. เข้ามาเสริมการทำงานได้ด้วย แถมยังจัดการพลังงานได้ดี ใช้งานได้นานร่วม 8 ชั่วโมงครึ่งทีเดียว หน้าจอมีขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 144Hz ติดตั้ง M.2 NVMe SSD ความจุ 512GB พร้อม Windows 11 Home มาให้พร้อมแรม 8GB DDR4 บัส 3200MHz มีพอร์ต USB 2.0 x 1, USB-A 3.2 x 2, USB-C 3.2 x 1, HDMI ต่อหน้าจอแยก 4K 60Hz ได้ x 1, LAN x 1, Audio combo x 1 เชื่อมต่อ Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.2 ได้ น้ำหนัก 2.35 กิโลกรัม ด้านประสิทธิภาพกับราคาต้องถือว่า MSI Bravo 15 เป็นโน๊ตบุ๊คเกมมิ่ง MSI รุ่นที่น่าสนใจมาก แค่อัพเกรดแรมเป็น 16GB ก็ใช้ทำงานและเล่นเกมได้ดีมากแล้ว

สเปคของ MSI Bravo 15 B5ED
CPU AMD Ryzen 7 5800H มี 8 คอร์ 16 เธรด ความเร็ว 3.2~4.4GHz
GPU AMD Radeon RX 6500M แรม 4GB GDDR6
SSD M.2 NVMe SSD 512GB
RAM 8GB DDR4 บัส 3200 MHz
Display 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 144Hz
Connectivity USB 2.0 x 1, USB-A 3.2 x 2, USB-C 3.2 x 1, HDMI ต่อหน้าจอแยก 4K 60Hz x 1, LAN x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.2

Software Windows 11 Home
Weight 2.35 กิโลกรัม
Price 26,990 บาท ชมสเปคได้ที่นี่
3. MSI GF66 Katana 12UCO (30,900 บาท)

12675 notebook 12224 GF66 Katana 11UD c

แม้ซีรี่ส์ MSI Katana จะทำตลาดมานานสักระยะหนึ่งแล้ว ทางบริษัทก็ยังออกรุ่นใหม่ในบอดี้เดิมโดยปรับแต่งสเปคให้ดีขึ้นและตั้งราคาให้ไม่แพงมาก โดยรุ่นแนะนำเป็น MSI GF66 Katana 12UCO ซึ่งขนาดตัวเครื่งยังอยู่ที่ 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 144Hz เช่นเดิม ติดตั้งซีพียู Intel Core i5-12450H แบบ 8 คอร์ 12 เธรด (4P+4E) ความเร็ว 3.3~4.4GHz มาให้ จับคู่กับการ์ดจอแยก NVIDIA GeForce RTX 3050 แรม 4GB GDDR6 มี M.2 NVMe SSD ความจุ 512GB ติดตั้ง Windows 11 Home มาให้พร้อมอัพเดทแรมจาก DDR4 เป็น 8GB DDR5 บัส 4800MHz แล้ว มีพอร์ต USB 2.0 x 1, USB-A 3.2 x 2, USB-C 3.2 x 1, HDMI x 1, LAN x 1, Audio combo x 1 เชื่อมต่อ Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.2 ได้ น้ำหนัก 2.25 กิโลกรัม ซึ่งข้อดีของซีพียูนี้นอกจากมีคอร์เธรดให้ใช้งานเยอะแล้วยังได้แรม DDR5 เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุดอีกด้วยและราคาก็ไม่แพงมาก หากใครต้องการสเปคประมาณนี้อยู่แล้วก็เลือกรุ่นนี้ไปใช้ได้เลย

สเปคของ MSI GF66 Katana 12UCO
CPU Intel Core i5-12450H แบบ 8 คอร์ 12 เธรด (4P+4E) ความเร็ว 3.3~4.4GHz
GPU NVIDIA GeForce RTX 3050 แรม 4GB GDDR6
SSD M.2 NVMe SSD 512GB
RAM 8GB DDR5 บัส 4800MHz
Display 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 144Hz
Connectivity USB 2.0 x 1, USB-A 3.2 x 2, USB-C 3.2 x 1, HDMI x 1, LAN x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.2

Software Windows 11 Home
Weight 2.25 กิโลกรัม
Price 30,900 บาท ชมสเปคได้ที่นี่
4. MSI Cyborg 15 A12VF (46,990 บาท)

12524 c

ด้านโน๊ตบุ๊คเกมมิ่ง MSI ซีรี่ส์ใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวในปีนี้อย่าง MSI Cyborg 15 A12VF วางคอนเซปท์เป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คที่มีความไซเบอร์พังก์ ใช้ธีมสีตัวเครื่องเป็นสีฟ้าประกอบกับบอดี้และคีย์แคปกึ่งโปร่งใสให้ความล้ำสมัยยิ่งขึ้นและพกพาไม่ยากเกิน โดยตัวเครื่องและจอขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 144Hz มีน้ำหนักเครื่องเพียง 1.98 กิโลกรัมเท่านั้น ติดตั้งซีพียู Intel Core i5-12450H แบบ 8 คอร์ 12 เธรด (4P+4E) ความเร็ว 3.3~4.4GHz จับคู่การ์ดจอแยก NVIDIA GeForce RTX 4060 แรม 8GB GDDR6 มาให้ มี M.2 NVMe SSD ความจุ 512GB ติดตั้ง Windows 11 Home และแรม 16GB DDR5 บัส 4800MHz มาครบพร้อมเล่นเกมทันที มีพอร์ต USB-A 3.2 x 2, USB-C 3.2 รองรับ DisplayPort x 1, HDMI 2.1 x 1, LAN x 1, Audio combo x 1 เชื่อมต่อ Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.2 ได้ จัดเป็นโน๊ตบุ๊คเกมมิ่ง MSI รุ่นเด็ดสเปคดีที่แค่เห็นบอดี้ก็น่าจะได้ใจเกมเมอร์หลายๆ คนแน่นอน

สเปคของ MSI Cyborg 15 A12VF
CPU Intel Core i5-12450H แบบ 8 คอร์ 12 เธรด (4P+4E) ความเร็ว 3.3~4.4GHz
GPU NVIDIA GeForce RTX 4060 แรม 8GB GDDR6
SSD M.2 NVMe SSD 512GB
RAM 16GB DDR5 บัส 4800MHz
Display 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 144Hz
Connectivity USB-A 3.2 x 2, USB-C 3.2 รองรับ DisplayPort x 1, HDMI 2.1 x 1, LAN x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.2

Software Windows 11 Home
Weight 1.98 กิโลกรัม
Price 46,990 บาท ชมสเปคได้ที่นี่
5. MSI Katana 15 B12VGK (56,900 บาท)

12607 f

ถ้าถามว่าโน๊ตบุ๊คเกมมิ่ง MSI ตัวไหนที่สเปคดีคุ้มค่าที่สุด เล่นเกมก็ดีทำงานเอกสารก็แรงเหลือเฟือ ยกให้เป็น MSI Katana 15 B12VGK รหัสนี้ที่ทาง MSI เพิ่มไฟ 4-Zone RGB เข้ามาที่คีย์บอร์ดและต่อหน้าจอแยกได้ 2 จอพร้อมกันและมี MUX Switch ด้วย ตัวเครื่องนี้มีหน้าจอขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 144Hz ติดตั้งซีพียู Intel Core i5-12450H แบบ 8 คอร์ 12 เธรด (4P+4E) ความเร็ว 3.3~4.4GHz มาเหมือนกัน แต่อัพเกรดการ์ดจอแยกเป็น NVIDIA GeForce RTX 4070 แรม 8GB GDDR6 แทน มี M.2 NVMe SSD ความจุ 1TB มี Windows 11 Home ติดมาให้ มีแรม 16GB DDR5 บัส 4800MHz มีพอร์ต USB 2.0 x 1, USB-A 3.2 x 2, USB-C 3.2 รองรับ DisplayPort x 1, HDMI 2.1 x 1, LAN x 1, Audio combo x 1 เชื่อมต่อ Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.2 ได้ น้ำหนักเครื่อง 2.25 กิโลกรัม ถือเป็นตัวแรงสเปคคุ้มค่าที่สุด ณ ตอนนี้ในสายตาของผู้เขียนหาจะซื้อโน๊ตบุ๊คเกมมิ่ง MSI สักเครื่อง

สเปคของ MSI Katana 15 B12VGK
CPU Intel Core i5-12450H แบบ 8 คอร์ 12 เธรด (4P+4E) ความเร็ว 3.3~4.4GHz
GPU NVIDIA GeForce RTX 4070 แรม 8GB GDDR6
SSD M.2 NVMe SSD 1TB
RAM 16GB DDR5 บัส 4800MHz
Display 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 144Hz
Connectivity USB 2.0 x 1, USB-A 3.2 x 2, USB-C 3.2 รองรับ DisplayPort x 1, HDMI 2.1 x 1, LAN x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.2

Software Windows 11 Home
Weight 2.25 กิโลกรัม
Price 56,900 บาท ชมสเปคได้ที่นี่
6. MSI Raider GE78HX 13VH (149,900 บาท)

12610 c

ปิดท้ายด้วยรุ่นเรือธงของโน๊ตบุ๊คเกมมิ่ง MSI อย่าง MSI Raider GE78HX 13VH โดยทีเด็ดของโน๊ตบุ๊คเกมมิ่งเครื่องนี้ได้แก่กล้อง IR Camera ไว้สแกนหน้าปลดล็อคเครื่องได้, รองรับ Bluetooth 5.3 เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุด, มีฟีเจอร์ MSI OverBoost Ultra ไว้เร่งประสิทธิภาพของซีพียูและได้ระบบระบายความร้อน Cooler Boost 5 ซึ่งทาง MSI ออกแบบใหม่ให้ระบายความร้อนได้ดีกว่าเดิมและมีไฟ RGB “MSI Mystic Light” รอบเครื่อง ได้ความสวยงามล้ำสมัยขึ้น ตัวเครื่องขนาดใหญ่จอ 17 นิ้ว ความละเอียด QHD+ (2560×1600) พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 240Hz ขอบเขตสีกว้าง 100% DCI-P3 ติดตั้งซีพียู Intel Core i7-13700HX แบบ 16 คอร์ 24 เธรด (8P+8E) ความเร็ว 3.7~5GHz จับคู่การ์ดจอแยก NVIDIA GeForce RTX 4080 แรม 12GB GDDR6 มี M.2 NVMe SSD ความจุ 2TB ติดตั้ง Windows 11 Home กับแรม 64GB DDR5 บัส 5600MHz มาให้จากโรงงาน มีพอร์ต USB-A 3.2 x 2, Thunderbolt 4 x 1, USB-C 3.2 รองรับ DisplayPort x 1, USB-C 3.2 รองรับ DisplayPort และ Power Delivery x 1, HDMI 2.1 x 1, SD Card Reader x 1, LAN x 1, Audio combo x 1 เชื่อมต่อ Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.3 ได้ น้ำหนักเครื่อง 3.1 กิโลกรัม

สเปคของ MSI Raider GE78HX 13VH
CPU Intel Core i7-13700HX แบบ 16 คอร์ 24 เธรด (8P+8E) ความเร็ว 3.7~5GHz
GPU NVIDIA GeForce RTX 4080 แรม 12GB GDDR6
SSD M.2 NVMe SSD 2TB
RAM 64GB DDR5 บัส 5600MHz
Display 17 นิ้ว ความละเอียด QHD+ (2560×1600) พาเนล IPS
ค่า Refresh Rate 240Hz ขอบเขตสีกว้าง 100% DCI-P3
Connectivity USB-A 3.2 x 2, Thunderbolt 4 x 1, USB-C 3.2 รองรับ DisplayPort x 1, USB-C 3.2 รองรับ DisplayPort และ Power Delivery x 1, HDMI 2.1 x 1, SD Card Reader x 1, LAN x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.3

Software Windows 11 Home
Weight 3.1 กิโลกรัม
Price 149,900 บาท ชมสเปคได้ที่นี่

msi katana 1

จะเห็นว่าโน๊ตบุ๊คเกมมิ่ง MSI รุ่นใหม่ปี 2023 นี้ มีตั้งแต่รุ่นตัวคุ้มราคาไม่แพงเพื่อนักเรียนนักศึกษาไปจนตัวแรงทรงพลังระดับ Desktop Replacement แรงจนแทนเกมมิ่งพีซีได้ให้เลือก ตอบโจทย์เกมเมอร์ทุกคนทุกระดับชั้น จากรุ่นแนะนำจะเห็นว่าทางบริษัทมีให้เลือกได้ตามความต้องการและรสนิยมเลย

อย่างไรก็ตาม นอกจากเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คแล้วก็ควรหาเกมมิ่งเกียร์มาใช้คู่กันด้วยจะได้ให้ประสบการณ์ให้เต็มอิ่มยิ่งขึ้นทั้งเมาส์, คีย์บอร์ด, หูฟัง ฯลฯ หรือแม้แต่หน้าจอแยกสเปคเกมมิ่งก็ตาม ซึ่งผู้เขียนแนะนำว่าจะซื้อรวดเดียวพร้อมเครื่องหรือจะทยอยซื้อไปก็ได้ แต่ถ้ามีใช้ครบรับรองว่ามีความสุขอย่างแน่นอน


บทความที่เกี่ยวข้อง

6MSINotebook

Share image Edit Name 1katanagf66gen12

MSI Titan GT77 HX 13V

from:https://notebookspec.com/web/694152-6-new-msi-gaming-laptop

6 โน๊ตบุ๊คทำงาน 2023 รุ่นเด็ดจาก MSI ถูกใจสายทำงาน ครีเอเตอร์กดไลค์แน่นอน! ใครอยากเปลี่ยนเครื่องต้องโดน!

MSI มีโน๊ตบุ๊คทำงาน 2023 รุ่นใหม่ๆ ให้เลือกเพียบ จะ AMD หรือ Intel ก็เลือกได้!!

6MSINotebook

โน๊ตบุ๊คทำงาน 2023 สำหรับนักเรียนนักศึกษา, พนักงานออฟฟิศไปจนครีเอเตอร์ในปัจจุบันนี้มีตัวเลือกให้ผู้ใช้ได้หาเอาไว้ใช้งานมากมาย ตั้งแต่สเปคทั่วไปใช้ซีพียูและการ์ดจอออนบอร์ดของ AMD หรือ Intel ไปจนรุ่นที่มีการ์ดจอแยกของ NVIDIA ติดตั้งมาให้ครีเอเตอร์เลือกซื้อไปใช้งานก็มีเช่นกัน ซึ่งทาง MSI ก็มีโน๊ตบุ๊คเหล่านี้ให้เลือกซื้อหลากหลายรุ่นทีเดียว ไม่ว่าจะตระกูล Modern Series ซึ่งสร้างมาเพื่อใช้งานทั่วไป อย่างทำงานออฟฟิศหรือให้นักเรียนนักศึกษาพกไปเรียน Prestige Series เพื่อสายทำงานระดับพรีเมี่ยมซึ่งมีรุ่นหน้าจอทัชสกรีนให้เลือก ขอบเขตสีหน้าจอกว้างถึงระดับพรู้ฟงานอาร์ทหรือตัดต่อแต่งภาพก็ได้ไปจน Creator Series ซึ่งเกิดมาเพื่อครีเอเตอร์เอาไว้สร้างสรรค์ผลงานโดยเฉพาะ ติดตั้งหน้าจอทัชสกรีนขอบเขตสีกว้างและใช้ไดรเวอร์ NVIDIA Studio ซึ่งเสถียรและใช้ทำงานได้ยอดเยี่ยมมาก

Advertisementavw

ยิ่งในปี 2023 นี้ ทาง MSI นอกจากมีเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คประสิทธิภาพสูงทรงพลังให้เลือกซื้อแล้ว ทางบริษัทก็มีโน๊ตบุ๊คทำงาน 2023 ซีรี่ส์ยอดนิยมอย่างที่ได้กล่าวไปแต่อัพเกรดซีพียูเป็น AMD Ryzen 7000 Series และ Intel 12~13th Gen ออกมาวางตลาดให้ผู้ใช้ได้เลือกซื้อและบางรุ่นก็ติดตั้งโปรแกรม Microsoft Office Home & Student มาให้ใช้ เพียงแค่เปิดเครื่องแล้ว Sign in ก็เริ่มทำงานได้ทันทีและหลายๆ รุ่นก็ทำบอดี้ให้แข็งแรงแต่น้ำหนักเบาพกพาสะดวกและอาจเสริมฟีเจอร์ยืนยันตัวด้วยเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือหรือใบหน้ามาให้ด้วย เรียกว่าสะดวกปลอดภัยมาก

โน๊ตบุ๊คทำงาน 2023

เคล็ดลับเลือกโน๊ตบุ๊คทำงาน 2023 ให้คุ้มสุด!

โน๊ตบุ๊คทำงาน 2023

เคล็ดลับวิธีการเลือกโน๊ตบุ๊คทำงาน 2023 ให้คุ้มสุดนั้นไม่ยากมากอย่างที่ใครหลายคนกังวลกัน ซึ่งวิธีการนั้นผู้เขียนจะต้องแยกหมวดของโน๊ตบุ๊คทำงานออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆ ด้วยกัน ได้แก่ กลุ่มทำงานออฟฟิศและนักเรียนนักศึกษา อีกกลุ่มก็เป็นครีเอเตอร์เพราะต้องใช้โน๊ตบุ๊คซึ่งสเปคแตกต่างกันอยู่บ้าง ซึ่งวิธีการดูสเปคแยกแต่ละส่วนเพื่อให้ได้โน๊ตบุ๊คทำงาน 2023 ที่ดีถูกใจจะมีดังนี้

  • ซีพียู – ปัจจุบันซีพียูโน๊ตบุ๊คมีของ Intel และ AMD ซึ่งต่างใช้งานได้ดีทั้งคู่ และถ้าเทียบระหว่างซีพียู Intel และ AMD ว่าซีรี่ส์ไหนเป็นคู่แข่งกันโดยตรงและทำมาเพื่อใช้งานอะไรเป็นหลักจะแบ่งได้ตามนี้
    • Intel Pentium / AMD Athlon – ซีพียูซีรี่ส์เริ่มต้นของทั้งสองแบรนด์ เหมาะสำหรับใช้ทำงานทั่วไปอย่างเปิดเว็บไซต์ทำงานเอกสาร, เปิดเบราเซอร์ดูเว็บไซต์และทำงานด้วยเบราเซอร์เป็นหลัก ซึ่งซีรี่ส์นี้จะมี 2~4 คอร์ ให้ใช้งาน ผู้ผลิตโน๊ตบุ๊คมักเอามาติดตั้งให้โน๊ตบุ๊คราคาประหยัดเป็นหลัก โดยมีระดับแยกย่อยด้วยคำตามท้ายอย่าง Silver, Gold เหมือนกันทั้งสองค่ายให้แบ่งแยกง่ายๆ ตามลำดับเหรียญรางวัลการแข่งขันกีฬาได้เลย และซีรี่ส์ Gold รุ่นใหม่ๆ ก็ประสิทธิภาพดีพอเอาชนะหรือเทียบชั้น Intel Core Series, AMD FX และ AMD Ryzen รุ่นก่อนหน้าได้เลย
    • Intel Core i3 / AMD Ryzen 3 – ซีพียูรุ่นเริ่มต้นที่ผู้ใช้หลายๆ คนตั้งเป็นขั้นต่ำเวลาจะซื้อโน๊ตบุ๊คมาใช้ ซึ่งซีรี่ส์นี้จะมีคอร์ใช้งานจริงราว 2~4 คอร์และ Hyper-Threading เพิ่มจำนวนคอร์ใช้งานให้มากขึ้น ด้าน Intel ทั้งรุ่นที่ 12 และ 13 จะมีคอร์เยอะโดยนับรวม P-Core สำหรับทำงานหลักและ E-Core สำหรับประมวลผลงานเบื้องหลังเอาไว้ด้วยกัน แต่เมื่อดูเจาะจงต่อคอร์แล้วจะเห็นว่าซีพียูแต่ละตัวมีคอร์ทำงานหลักเท่าไหร่ ซึ่งผู้เขียนเคยทำบทความวิธีอ่านคอร์ซีพียู Intel เอาไว้แล้ว สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่ ด้าน AMD Ryzen 3 Series จะยังใช้วิธีการนับคอร์แบบเดิม มักมีมาในตัวชิป 4 คอร์ 8 เธรด ถือว่ามีพอให้ใช้ทำงานเอกสาร, ดูหนังความละเอียดสูง, เล่นเกมออนไลน์ และใช้ตัดต่อแต่งภาพด้วยโปรแกรมตระกูล Adobe Photoshop, Lightroom เพื่อประกอบรายงานได้ระดับหนึ่ง
    • Intel Core i5 / AMD Ryzen 5 – ซีรี่ส์ระดับกลางยอดนิยมของผู้ผลิตมักเลือกมาติดตั้งในโน๊ตบุ๊คหลายๆ รุ่นในปัจจุบันนี้และมีรุ่นย่อยเยอะมาก ซึ่ง Intel รุ่น 12, 13 จะมี P-Core และ E-Core ให้ใช้มากถึง 12 คอร์ 16 เธรด แยกเป็น 4 P-Core และ 8 E-Core ด้าน AMD Ryzen 5 จะมี 6 คอร์ 12 เธรด ซึ่งประสิทธิภาพสูงพอใช้ทำงานแทบทั้งหมดได้เป็นอย่างดี ตั้งแต่งานเอกสาร, ความบันเทิง, ตัดต่อแต่งภาพรวมถึงวิดีโอ Vlog รวมไปถึงเขียนโค้ดโปรแกรมมิ่งก็ได้ ซึ่งรุ่นนี้ผู้ผลิตมักติดตั้งการ์ดจอแยกทั้ง NVIDIA GeForce หรือ AMD Radeon มาให้ทำงานกราฟิคและเล่นเกมได้ลื่นไหลขึ้น
    • Intel Core i7 / AMD Ryzen 7 – ซีรี่ส์ระดับสูงซึ่งผู้ใช้หลายคนมักสนใจและอยากได้กัน ปัจจุบันนี้ราคาต่างจาก Intel Core i5 และ AMD Ryzen 5 ไม่มาก แต่ประสิทธิภาพต่างพอเห็นผลได้ระดับหนึ่งเลย มักพบในโน๊ตบุ๊คทำงานสเปคสูงเป็นหลัก ถ้าเป็นเกมมิ่งก็มีการ์ดจอแยกติดตั้งมาให้เล่นเกมได้ลื่นไหลยิ่งขึ้นอีกด้วย ใช้ทำงานต่างๆ ได้ดีกว่า Intel Core i5 / AMD Ryzen 5 ได้สบายๆ และทำให้งานเสร็จเร็วขึ้น มักมีการ์ดจอแยกติดตั้งมาให้ใช้งานด้วย เหมาะกับผู้ใช้กลุ่มทำงานออฟฟิศและครีเอเตอร์อย่างแน่นอน
    • Intel Core i9 / AMD Ryzen 9 – รุ่นทรงพลังสุดจากทั้งสองบริษัท ใช้ทำงานหนักต่างๆ ไม่ว่าจะตัดต่อแต่งภาพทำวิดีโอรวมไปถึงเขียนโปรแกรมก็ไหวแถมยังใช้เล่นเกมทุกเกมในปัจจุบันได้หมด มักเจอในเกมมิ่งหรือครีเอเตอร์โน๊ตบุ๊คเป็นหลักหรือไม่ก็เป็นโน๊ตบุ๊คสายทำงานระดับพรีเมี่ยม
  • การ์ดจอ – โน๊ตบุ๊คทำงาน 2023 ส่วนใหญ่จะมีการ์ดจอ 2 กลุ่มเท่านั้น คือการ์ดจออนบอร์ดอย่าง Intel Iris Xe Graphics หรือ AMD Radeon Graphics ซึ่งทั้งสองรุ่นนี้นอกจากเอาไว้แสดงผลภาพหรือวิดีโอความละเอียด 4K ขึ้นหน้าจอได้แล้ว การ์ดจอทั้งสองรุ่นก็จะมีจุดเด่นแตกต่างกันไป อย่าง Intel Iris Xe Graphics ก็จะเหมาะกับการทำงานอย่างเรนเดอร์ภาพหรือวิดีโอรวมถึงไฟล์โมเดล 3D ต่างๆ ได้ดีระดับหนึ่ง แต่จะไม่เหมาะกับการเล่นเกมเท่าไหร่ ในขณะที่ AMD Radeon Graphics จะใช้ตัดต่อแต่งภาพและวิดีโอรวมถึงเล่นเกมออนไลน์ได้พอสมควร แต่โมเดล 3D เป็นรองจาก Iris Xe Graphics อยู่บ้าง ซึ่งถ้าเป็นผู้ใช้ทั่วไปหาเครื่องเอาไว้ทำงานออฟฟิศหรือเอาไว้เรียนก็แรงเพียงพอแล้ว บางรุ่นอาจมีการ์ดจอแยก NVIDIA GeForce, AMD Radeon ติดตั้งมาให้ ซึ่งถ้าใครตัดต่อวิดีโอหรือทำโมเดล 3D แนะนำให้ดูโน๊ตบุ๊คพร้อม NVIDIA GeForce RTX 3060 หรือ AMD Radeon RX 6500M, 7600S จะใช้งานได้ดีอย่างแน่นอน
  • แรม – เชื่อว่าผู้ใช้หลายคนน่าจะตั้งธงเอาไว้ในใจแล้ว ว่าถ้าจะซื้อโน๊ตบุ๊คทำงาน 2023 เครื่องใหม่จะเลือกรุ่นแรม 16GB มาใช้งานหรือไม่ก็ต้องเป็นรุ่นที่อัพเกรดเพิ่มแรมได้มาใช้ ซึ่งถ้าได้แรมระดับนี้ก็ใช้ทำงานออฟฟิศไปจนตัดต่อวิดีโอได้ รวมถึงเปิดและใช้งานไฟล์ Microsoft Excel ที่มีข้อมูลเยอะๆ ได้รวดเร็วแน่นอน แต่แรม 8GB ในปี 2023 ก็ถือว่าไม่ได้ขี้เหร่นัก จะเอาไว้ทำงานเอกสารหรือเปิดเว็บเบราเซอร์ได้เหมือนกัน แค่ต้องบริหารปริมาณโปรแกรมและแท็บตอนใช้งานสักนิด ปิดบางอย่างที่ไม่ใช้งานทิ้งไปสักหน่อยก็ไม่มีปัญหาแล้ว
  • พอร์ตและการเชื่อมต่อ – พอร์ตของโน๊ตบุ๊คทำงาน 2023 อย่างน้อยควรมีพอร์ต USB-C แบบ Data เอาไว้โอนถ่ายข้อมูลติดตั้งมาให้ 1 ช่องให้เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ยุคใหม่ๆ ได้อย่างสะดวกรวดเร็ว บางรุ่นอาจต่อหน้าจอแยกแบบ DisplayPort หรือชาร์จแบตเตอรี่ตามมาตรฐาน Power Delivery อาจมีฟีเจอร์ใดฟีเจอร์หนึ่งเสริมเข้ามาหรือถ้ามีทั้ง 2 แบบ จะเรียกว่า Full Function หรืออาจเป็นพอร์ต Thunderbolt ก็ได้ถ้ารุ่นนั้นๆ ผ่านมาตรฐาน Intel Evo แล้ว ซึ่งข้อดีของการมี USB-C Full Function หรือ Thunderbolt นอกจากต่อ USB-C Multiport Adapter แปลงเป็นพอร์ตอื่นๆ ได้ ยังใช้สาย USB-C เส้นเดียวต่อจอคอมรุ่นที่รองรับแล้วใช้งานได้เลย และอาจมีพอร์ตใช้งานอื่นๆ เสริมเข้ามาให้อย่าง USB-A, HDMI, Card Reader ขึ้นอยู่กับการจัดสเปคของผู้ผลิต ส่วนการเชื่อมต่อไร้สาย ผู้เขียนแนะนำให้ดูรุ่นที่เป็น Wi-Fi 6 หรือ 6E เป็นหลักให้เชื่อมต่อรับส่งข้อมูลได้รวดเร็วและเสถียรยิ่งขึ้น
  • หน้าจอ – ส่วนตัวผู้เขียนไม่โฟกัสที่ขนาดหน้าจอ แต่ควรโฟกัสเรื่องความละเอียดหน้าจอว่าควรยืนพื้นที่ระดับ Full HD (1920×1080 หรือ 1920×1200 พิกเซล) ขึ้นไป จะได้ภาพคมชัดและมีพื้นที่เปิดโปรแกรมต่างๆ ได้เต็มตา หากหาเอาไว้ทำงานกราฟิคควรหารุ่นที่มีขอบเขตสีกว้าง 100% sRGB ขึ้นไปและค่าความเที่ยงตรงสี Delta-E น้อยกว่า 2 (เขียนด้วยสัญลักษณ์ว่า Delta-E <2) จะให้สีสันบนหน้าจอได้เที่ยงตรงทำงานอาร์ทได้ดี ยิ่งถ้าได้การรับรองจากบริษัทชั้นนำด้านงานศิลป์อย่าง CalMAN Verified, PANTONE Validated มารับรองยิ่งดี
  • ซอฟท์แวร์ – ปัจจุบันผู้ผลิตหลายเจ้าติดตั้งระบบปฏิบัติการ Windows 11 Home มาให้แล้ว แค่เปิดเครื่อง Sign in ไอดีของ Microsoft ก็ใช้งานได้เลย แต่ถ้ารุ่นไหนมี Microsoft Office Home & Student ไม่ว่าจะเวอร์ชั่น 2019, 2021 ก็ไม่ต้องเสียเงินซื้อซอฟท์แวร์เพิ่ม
  • น้ำหนัก – โน๊ตบุ๊คในปัจจุบันนี้น้ำหนักมีตั้งแต่ 1~3 กิโลกรัม ขึ้นอยู่กับสเปคและระบบระบายความร้อนที่ผู้ผลิตออกแบบติดตั้งมาให้ใช้งานปกติแล้วโน๊ตบุ๊คสายทำงานมักมีน้ำหนักราว 1.4~1.8 กิโลกรัม ขึ้นอยู่ว่าเป็นหน้าจอ 14, 15.6 หรือ 16 นิ้ว มักจะไม่หนักมากพกพาสะดวกไม่หนักไหล่เกินไป ส่วนโน๊ตบุ๊คครีเอเตอร์มีการ์ดจอแยกมักเริ่มต้นกันตั้งแต่ 1.9 กิโลกรัมขึ้นไป ควรใส่กระเป๋าเป้ให้พกพาได้สะดวกไม่เป็นต้นเหตุของอาการ Office Syndrome ในภายหลัง

สรุปสเปคโน๊ตบุ๊คทำงาน 2023 รุ่นเด่นทั้ง 6 รุ่น สายทำงานถูกใจ ครีเอเตอร์กดไลค์!

สรุปสเปคโน๊ตบุ๊คทำงาน 2023 CPU

GPU

SSD

RAM

Software

Display

Weight

Connectivity ราคา
(บาท)
MSI Modern 15 B7M AMD Ryzen 7 7730U

AMD Radeon Graphics

M.2 NVMe
512GB

8GB DDR4
3200MHz

Windows 11 Home

15.6″ FHD IPS

1.75 กก.

USB 2.0 x 1

USB-A 3.2 x 1

USB-C 3.2 x 1 รองรับ
Power Delivery

HDMI 2.1 x 1

MicroSD Card Reader x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6

Bluetooth 5.2

22,900
MSI Modern 14 C12M Intel Core
i5-1235U

Intel Iris Xe Graphics

M.2 NVMe
512GB

8GB DDR4
3200MHz

Windows 11 Home

14″ FHD IPS

1.4 กก.

USB 2.0 x 2

USB-A 3.2 x 1

USB-C 3.2 x 1 รองรับ
Power Delivery

HDMI 1.4 x 1

MicroSD Card Reader x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6

Bluetooth 5.2

22,990
MSI Modern 15 B12M Intel Core
i7-1255U

Intel Iris Xe Graphics

M.2 NVMe
512GB

8GB DDR4
3200MHz

Windows 11 Home

14″ FHD IPS

1.4 กก.

USB 2.0 x 2

USB-A 3.2 x 1

USB-C 3.2 x 1 รองรับ
Power Delivery

HDMI 1.4 x 1

MicroSD Card Reader x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6

Bluetooth 5.2

28,990
MSI Prestige 14 Evo A12M Intel Core
i7-1280P

Intel Iris Xe Graphics

M.2 NVMe
512GB

16GB LPDDR4x
4267MHz

Windows 11 Home

Microsoft Office Home & Student 2021

14″ FHD IPS

100% sRGB

Delta-E <2

CalMAN Verified

1.29 กก.

Thunderbolt 4 x 2

USB-A 3.2 x 1

MicroSD Card Reader x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6E

Bluetooth 5.2

39,990
MSI Prestige 16 Evo A12M Intel Core
i7-1280P

Intel Iris Xe Graphics

M.2 NVMe
512GB

16GB LPDDR5
4800MHz

Windows 11 Home

Microsoft Office Home & Student 2021

16″ FHD+
(1920×1200)
IPS

100% sRGB

Refresh Rate 165Hz

1.9 กก.

Thunderbolt 4 x 2

USB-A 3.2 x 2

HDMI x 1

MicroSD Card Reader x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6E

Bluetooth 5.2

44,990
MSI Creator Z16 A12UET Intel Core
i9-12900H

NVIDIA GeForce RTX 3060

M.2 NVMe
2TB

32GB DDR5
4800MHz

Windows 11 Home

16″ QHD+
(2560×1600)
IPS

100% sRGB

Delta-E <2

CalMAN Verified

Refresh Rate 165Hz

2.2 กก.

Thunderbolt 4 x 1

USB-C 3.2 x 1 รองรับ
DisplayPort x 1

USB-A 3.2 x 1

SD Card
Reader x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6E

Bluetooth 5.2

104,990

แนะนำโน๊ตบุ๊คทำงาน 2023 รุ่นเด่นทั้ง 6 รุ่น จาก MSI ทำงานดี สเปคเด็ดตอบโจทย์คนทำงานแน่นอน

ผู้ใช้คนไหนที่กำลังมองหาโน๊ตบุ๊คทำงาน 2023 เครื่องใหม่มาแทนเครื่องเก่าที่ใช้มาหลายปีแล้ว และมันเริ่มรันโปรแกรมหรืองานใหม่ๆ ไม่เร็วไม่ทันใจเท่าเดิมล่ะก็ ผู้เขียนมีโน๊ตบุ๊คน่าใช้จากทาง MSI มาให้เลือกทั้งหมด 6 รุ่น แยกเป็นสายทำงานออฟฟิศและครีเอเตอร์ ซึ่งมีรุ่นดังนี้

  1. MSI Modern 15 B7M (22,900 บาท)
  2. MSI Modern 14 C12M (22,990 บาท)
  3. MSI Modern 15 B12M (28,990 บาท)
  4. MSI Prestige 14 Evo A12M (39,990 บาท)
  5. MSI Prestige 16 Evo A12M (44,990 บาท)
  6. MSI Creator Z16 A12UET (104,990 บาท)
1. MSI Modern 15 B7M (22,900 บาท)

12534 f

MSI Modern 15 B7M เป็นโน๊ตบุ๊คทำงาน 2023 รุ่นแรกที่สเปคดีตัวเครื่องใหญ่ทำงานสะดวกและสเปคจัดเต็มทีเดียว โดยตัวเครื่องมีขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ใช้ซีพียู AMD Ryzen 7 7730U แบบ 8 คอร์ 16 เธรด ความเร็ว 2.0~4.5GHz ใช้กราฟิคการ์ดออนบอร์ด AMD Radeon Graphics แบบ 8 คอร์ ความเร็ว 2,000MHz มี M.2 NVMe SSD ความจุ 512GB ติดตั้ง Windows 11 Home มาให้กับแรมอีก 8GB DDR4 บัส 3200MHz อัพเกรดได้มากสุด 16GB มีพอร์ตเชื่อมต่อ USB 2.0 x 1, USB-A 3.2 x 1, USB-C 3.2 x 1 รองรับ Power Delivery, HDMI 2.1 x 1, MicroSD Card Reader x 1, Audio combo x 1 เชื่อมต่อไร้สายด้วย Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.2 ได้ น้ำหนักเพียง 1.75 กิโลกรัม เทียบกับโน๊ตบุ๊คขนาด 15.6 นิ้วหลายๆ รุ่นแล้วถือว่าเบาพกพาสะดวกและยังกางหน้าจอได้แบนราบ 180 องศา ให้เพื่อนร่วมงานดูหรือปรับมุมจอให้เข้ากับมุมสายตาบนตอนวางบนแท่นวางโน๊ตบุ๊คก็ได้ จัดเป็นโน๊ตบุ๊คทำงาน 2023 รุ่นแรกที่น่าใช้มาก

สเปคของ MSI Modern 15 B7M
CPU AMD Ryzen 7 7730U แบบ 8 คอร์ 16 เธรด ความเร็ว 2.0~4.5GHz
GPU AMD Radeon Graphics แบบ 8 คอร์ ความเร็ว 2,000MHz
SSD M.2 NVMe SSD 512GB
RAM 8GB DDR4 บัส 3200MHz อัพเกรดได้มากสุด 16GB
Display 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS
Connectivity USB 2.0 x 1, USB-A 3.2 x 1, USB-C 3.2 x 1 รองรับ Power Delivery, HDMI 2.1 x 1, MicroSD Card Reader x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.2

Software Windows 11 Home
Weight 1.75 กิโลกรัม
Price 22,900 บาท (Advice)
2. MSI Modern 14 C12M (22,990 บาท)

12553 f

โน๊ตบุ๊คทำงาน 2023 รุ่นถัดมาที่ผู้เขียนแนะนำเป็น MSI Modern 14 C12M สำหรับสายพกพาซึ่งผู้เขียนเคยทำรีวิวไปก่อนหน้านี้แล้ว โดยจุดเด่นของมันคือพอร์ต USB-C ที่ชาร์จแบบ Power Delivery ได้, น้ำหนักเครื่อง 1.4 กิโลกรัม พกพาสะดวก ได้รับการรับรอง MIL-STD-810G การันตีความแข็งแรงทนทานแล้ว โดยขนาดหน้าจออยู่ที่ 14 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ใช้ซีพียู Intel Core i5-1235U แบบ 10 คอร์ 12 เธรด (2P+8E) ความเร็ว 3.3~4.4GHz ใช้การ์ดจอ Intel Iris Xe Graphics มี M.2 NVMe SSD ความจุ 512GB ติดตั้ง Windows 11 Home และแรม 8GB DDR4 บัส 3200MHz มาให้ มีพอร์ต USB 2.0 x 2, USB-A 3.2 Gen 2 x 1, USB-C 3.2 Gen 2 x 1 รองรับ Power Delivery, HDMI 1.4 x 1, MicroSD Card Reader x 1, Audio combo x 1 เชื่อมต่อ Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.2 ได้ เป็นโน๊ตบุ๊คทำงาน 2023 สำหรับคนที่ชอบพกโน๊ตบุ๊คไปไหนมาไหนมาก

สเปคของ MSI Modern 14 C12M
CPU Intel Core i5-1235U แบบ 10 คอร์ 12 เธรด (2P+8E) ความเร็ว 3.3~4.4GHz
GPU Intel Iris Xe Graphics
SSD M.2 NVMe SSD 512GB
RAM 8GB DDR4 บัส 3200MHz
Display 14 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS
Connectivity USB 2.0 x 2, USB-A 3.2 Gen 2 x 1, USB-C 3.2 Gen 2 x 1 รองรับ Power Delivery, HDMI 1.4 x 1, MicroSD Card Reader x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.2

Software Windows 11 Home
Weight 1.4 กิโลกรัม
Price 22,990 บาท (ราคากลาง)
3. MSI Modern 15 B12M (28,990 บาท)

12416 bk

MSI Modern 15 B12M นี้เป็นโน๊ตบุ๊คทำงาน 2023 อีกรุ่นที่น่าใช้แต่แชร์สเปคร่วมกับ Modern 14 ในข้อก่อนหน้าแทบทั้งหมด แต่อัพเกรดซีพียูเป็น Intel Core i7-1255U แบบ 10 คอร์ 12 เธรด (2P+8E) ความเร็ว 3.5~4.7GHz และใช้การ์ดจอ Intel Iris Xe Graphics และหน้าจอ 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS และเพิ่มแรมเป็น 16GB DDR4 บัส 3200MHz ได้ด้วย ตอบโจทย์คนอยากได้ซีพียู Intel ประสิทธิภาพสูงๆ เอาไว้ทำงานแน่นอน

สเปคของ MSI Modern 15 B12M
CPU Intel Core i7-1255U แบบ 10 คอร์ 12 เธรด (2P+8E) ความเร็ว 3.5~4.7GHz
GPU Intel Iris Xe Graphics
SSD M.2 NVMe SSD 512GB
RAM 8GB DDR4 บัส 3200MHz
Display 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS
Connectivity USB 2.0 x 2, USB-A 3.2 Gen 2 x 1, USB-C 3.2 Gen 2 x 1 รองรับ Power Delivery, HDMI 1.4 x 1, MicroSD Card Reader x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.2

Software Windows 11 Home
Weight 1.7 กิโลกรัม
Price 28,990 บาท (ราคากลาง)
4. MSI Prestige 14 Evo A12M (39,990 บาท)

12419 c

ขึ้นชื่อว่าเป็นโน๊ตบุ๊คทำงาน 2023 ระดับพรีเมี่ยม ต้องยกให้ MSI Prestige 14 Evo A12M เพราะนอกจากน้ำหนักจะเบามากแค่ 1.29 กิโลกรัมแล้ว ทาง MSI ยังติดตั้งลำโพง DTS Audio มาให้พร้อมกับหน้าจอขนาด 14 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ขอบเขตสีกว้าง 100% sRGB ค่าสีเที่ยงตรง Delta-E <2 และได้รับการรับรอง CalMAN Verified แถมยังสแกนลายนิ้วมือหรือใบหน้าปลดล็อคเครื่องได้ด้วย ซีพียูเป็น Intel Core i7-1280P แบบ 14 คอร์ 20 เธรด (6P+8E) ความเร็ว 3.6~4.8GHz ใช้การ์ดจอออนบอร์ด Intel Iris Xe Graphics มี M.2 NVMe SSD ความจุ 512GB ติดตั้ง Windows 11 Home และ Microsoft Office Home & Student 2021 มาให้ แรมเป็นออนบอร์ดความจุ 16GB LPDDR4x บัส 4267MHz มีพอร์ต Thunderbolt 4 x 2, USB-A 3.2 x 1, MicroSD Card Reader x 1, Audio combo x 1 เชื่อมต่อ Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.2 จัดเป็นโน๊ตบุ๊คทำงาน 2023 ระดับพรีเมี่ยมที่น่าลงทุนซื้อมาใช้งานมากๆ โดยเฉพาะหน้าจอขอบเขตสีกว้างเที่ยงตรงสามารถใช้พรู้ฟงานอาร์ทต่างๆ ได้อย่างแน่นอน

สเปคของ MSI Prestige 14 Evo A12M
CPU Intel Core i7-1280P แบบ 14 คอร์ 20 เธรด (6P+8E) ความเร็ว 3.6~4.8GHz
GPU Intel Iris Xe Graphics
SSD M.2 NVMe SSD 512GB
RAM 16GB LPDDR4x บัส 4267MHz
Display 14 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ขอบเขตสีกว้าง 100% sRGB, Delta-E <2, CalMAN Verified
Connectivity Thunderbolt 4 x 2, USB-A 3.2 x 1, MicroSD Card Reader x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.2

Software Windows 11 Home, Microsoft Office Home & Student 2021
Weight 1.29 กิโลกรัม
Price 39,990 บาท (ราคากลาง)
5. MSI Prestige 16 Evo A12M (44,990 บาท)

12309 f

โน๊ตบุ๊คทำงาน 2023 ระดับพรีเมี่ยมอย่าง MSI Prestige 16 Evo A12M รุ่นนี้นอกจากได้ซีพียู Intel 12th Gen อย่าง Intel Core i7-1280P แบบ 14 คอร์ 20 เธรด (6P+8E) ความเร็ว 3.6~4.8GHz และการ์ดจอออนบอร์ด Intel Iris Xe Graphics ติดตั้งมาให้แล้วใช้ระบบระบายความร้อน Dynamic Cooler Boost ติดตั้งมาให้ระบายความร้อนได้เป็นอย่างดีและตัวเครื่องก็มีขนาดใหญ่เต็มตาถึง 16 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ (1920×1200) พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 165Hz ขอบเขตสีกว้าง 100% sRGB เป็นหน้าจออัตราส่วน 16:10 ที่ทาง MSI เรียกว่าเป็น Golden Ratio เหมาะกับการทำงานทุกรูปแบบและมีฟีเจอร์ Tobii Aware จัดการเบลอหน้าจอพร้อมแจ้งเตือนผู้ใช้เวลามีผู้อื่นมามองหน้าจอโน๊ตบุ๊คและติดตั้งชิป Tile เอาไว้ให้ตามหาเครื่องได้ง่ายๆ เวลาลืมทิ้งเอาไว้ที่ไหนและยืนยันตัวปลดล็อคเครื่องโดยสแกนใบหน้าหรือลายนิ้วมือก็ได้ มี M.2 NVMe SSD ความจุ 512GB ติดตั้ง Windows 11 Home และ Microsoft Office Home & Student 2021 มาให้ มีแรม 16GB LPDDR5 บัส 4800MHz มีพอร์ต Thunderbolt 4 x 2, USB-A 3.2 x 2, HDMI x 1, MicroSD Card Reader x 1, Audio combo x 1 เชื่อมต่อ Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.2 ได้ น้ำหนักเครื่อง 1.9 กิโลกรัม และ MSI Prestige 16 Evo นี้ก็ผ่านมาตรฐาน Intel Evo อีกด้วย

สเปคของ MSI Prestige 16 Evo A12M
CPU Intel Core i7-1280P แบบ 14 คอร์ 20 เธรด (6P+8E) ความเร็ว 3.6~4.8GHz
GPU Intel Iris Xe Graphics
SSD M.2 NVMe SSD 512GB
RAM 16GB LPDDR5 บัส 4800MHz
Display 16 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ (1920×1200) พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 165Hz ขอบเขตสีกว้าง 100% sRGB
Connectivity Thunderbolt 4 x 2, USB-A 3.2 x 2, HDMI x 1, MicroSD Card Reader x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.2

Software Windows 11 Home, Microsoft Office Home & Student 2021
Weight 1.9 กิโลกรัม
Price 44,990 บาท
6. MSI Creator Z16 A12UET (104,990 บาท)

12422 c

สุดท้าย MSI Creator Z16 A12UET เป็นโน๊ตบุ๊คทำงาน 2023 เพื่อครีเอเตอร์โดยเฉพาะที่นอกจากเรื่องสเปคจะแรงทรงพลังแล้ว จุดแข็งของมันมีทั้งไดรเวอร์ NVIDIA Studio ซึ่งออกแบบมาให้ทำงานกราฟิคได้ไหลลื่น ตัดต่อและเรนเดอร์วิดีโอความละเอียดสูงสุด 8K HDR RAW ได้ลื่นไหล มี AI-Acceleration มาช่วยทำงาน ติดระบบระบายความร้อน Cooler Boost คู่กับชุดระบายความร้อนด้วยของเหลว Vapor Chamber Cooler ช่วยลดความร้อนและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้สูงยิ่งขึ้นและได้รับการรับรอง MIL-STD-810G ด้วย จึงแข็งแรงทนทานไว้ใจได้แน่นอนและหน้าจอทัชสกรีน 16 นิ้ว ความละเอียด QHD+ (2560×1600) พาเนล IPS นี้มีค่า Refresh Rate 165Hz มีขอบเขตสีกว้าง 100% DCI-P3 มีความเที่ยงตรงสี Delta-E <2 และได้รับการรับรองจาก CalMAN Verified อีกด้วย ติดตั้งซีพียู Intel Core i9-12900H แบบ 14 คอร์ 20 เธรด (6P+8E) ความเร็ว 3.8~5.0GHz ใช้การ์ดจอแยก NVIDIA GeForce RTX 3060 แรม 6GB GDDR6 มี M.2 NVMe SSD ความจุ 2TB ติดตั้ง Windows 11 Home มาให้ใช้งานกับแรม 32GB DDR5 บัส 4800MHz มีพอร์ต Thunderbolt 4 x 1, USB-C 3.2 x 1 รองรับ DisplayPort x 1, USB-A 3.2 x 1, SD Card Reader x 1, Audio combo x 1 เชื่อมต่อ Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.2 ได้ น้ำหนัก 2.2 กิโลกรัม หากครีเอเตอร์คนไหนหาโน๊ตบุ๊คทำงาน 2023 ระดับพรีเมี่ยมเอาไว้ใช้สักเครื่องแบบคุ้มๆ ใช้งานได้ยาวๆ แนะนำให้ดู MSI Creator Z16 เป็นพิเศษ

สเปคของ MSI Creator Z16 A12UET
CPU Intel Core i9-12900H แบบ 14 คอร์ 20 เธรด (6P+8E) ความเร็ว 3.8~5.0GHz
GPU NVIDIA GeForce RTX 3060 แรม 6GB GDDR6
SSD M.2 NVMe SSD 2TB
RAM 32GB DDR5 บัส 4800MHz
Display จอทัชสกรีน 16 นิ้ว ความละเอียด QHD+ (2560×1600) พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 165Hz ขอบเขตสีกว้าง 100% DCI-P3, Delta-E <2 ได้รับการรับรอง CalMAN Verified
Connectivity Thunderbolt 4 x 1, USB-C 3.2 x 1 รองรับ DisplayPort x 1, USB-A 3.2 x 1, SD Card Reader x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.2

Software Windows 11 Home
Weight 2.2 กิโลกรัม
Price 104,990 บาท (ราคากลาง)

1024 1

จะเห็นว่าโน๊ตบุ๊คทำงาน 2023 จาก MSI จะมีตั้งแต่รุ่นเริ่มต้นเพื่อนักเรียนนักศึกษาราคาเป็นมิตร เอาไว้ใช้เข้าห้องเรียนทำรายงานส่งอาจารย์และใช้ทำงานออฟฟิศต่างๆ ได้ แถมมีซีพียูให้เลือกทั้งรุ่น AMD, Intel ตามรสนิยมของผู้ใช้แต่ละคนอีกด้วย ซึ่งโน๊ตบุ๊คทำงาน 2023 จาก MSI แต่ละรุ่นก็มีจุดเด่นน่าใช้แตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับโจทย์การใช้งานของแต่ละคน แค่เลือกรุ่นให้ตรงโจทย์ก็ใช้ทำงานได้อย่างมีความสุข

ส่วนเคล็ดลับส่วนตัวของผู้เขียนถ้าจะเลือกโน๊ตบุ๊คทำงาน 2023 สักเครื่อง ผู้เขียนจะเริ่มจากโจทย์ใหญ่ก่อนว่าจะหาโน๊ตบุ๊คเอาไว้ทำอะไร จะใช้ทำงานเอกสารและทำงานผ่านเบราเซอร์อย่างเดียวก็ขอแค่ซีพียูระดับ Intel Core i5 หรือ AMD Ryzen 5 และแรมจะ 8GB หรือ 16GB ก็ได้ แต่ถ้าเป็นโน๊ตบุ๊คทำงานตัดต่อคลิปแต่งภาพทำโมเดล 3D ก็หารุ่นที่มีการ์ดจอแยกให้เรนเดอร์งานได้ดียิ่งขึ้นแล้วเอารุ่นที่เป็นซีพียู Intel Core i7 หรือ AMD Ryzen 7 ขึ้นไปกับแรมอีก 16GB ก็สามารถทำงานได้ดีแน่นอน และเลือกรุ่นที่สเปคสูงสุดเท่าที่พอจ่ายไหว จะได้ใช้งานได้นานหลายปีไม่ต้องเปลี่ยนเครื่องบ่อย


บทความที่เกี่ยวข้อง

MSI MODERN 15

MSI PRODP20ZA

MSI PRO AP242

from:https://notebookspec.com/web/691939-6-recommend-msi-working-laptop-2023

คอมช้า คอมกระตุก จอฟ้า จบใน 7 ขั้นตอนฟรี! คอมลื่นเหมือนใหม่ 2023

คอมช้า คอมกระตุก 2023 รีสตาร์ท เปิดคอมใหม่ก็เป็น จบใน 7 ขั้นตอน มือใหม่ทำตามได้

solve pc slowly and crash 2023 cov

คอมช้า คอมกระตุกเกิดได้จากหลายสาเหตุ 7 วิธีนี้ช่วยลดปัญหาได้ ไม่ว่าจะเป็นคอมเก่าใช้มานาน หรือคอมใหม่เพิ่งซื้อ ก็อาจเกิดอาการช้า หรือจอฟ้า BSOD ได้เช่นกัน แต่ถ้าหาต้นเหตุของอาการได้ ก็แก้ไขได้ไม่ยาก แต่อาจจะต้องมีขั้นตอนวิธีในการเช็ค ว่าเกิดจากฮาร์ดแวร์หรือซอฟต์แวร์ โดยในบางกรณีอาจเกิดจากปัญหาเล็กๆ เช่น ไดรเวอร์ หรือการติดตั้งฮาร์ดแวร์ผิดปกติเท่านั้น เมื่อแก้ไขก็กลับมาใช้ได้เหมือนเดิม อาการเหล่านั้นก็หายไป ดังนั้นมาลองดูกันครับว่า สิ่งที่เกิดขึ้นและทำให้คอมคุณช้า กระตุกหรือทำงานไม่ได้ตามปกติ ต้องทำอย่างไร กับวิธีง่ายๆ เหล่านี้

คอมช้า คอมกระตุกจบปัญหาใน 8 ขั้นตอน


แก้ปัญหาคอมช้า

ปัญหาคอมช้า คอมอืด กระตุกหรือหนักขึ้น จนเกิดอาการจอฟ้า BSOD สิ่งเหล่านี้ อาจจะต้องเริ่มที่การแก้ไขในแบบที่เราคุ้นเคย หรือสามารถทำได้ก่อน เช่น การใช้ฟีเจอร์จากบน Windows มาช่วยในการปรับปรุงแก้ไข และค่อยๆ ใช้ซอฟต์แวร์ และฮาร์ดแวร์เข้ามาลองปรับเปลี่ยนตามลำดับ อย่างไรก็ดีการปรับลดหรือเพิ่มในฟังก์ชั่นบางอย่าง ก็มีส่วนช่วยลดอาการได้เช่นกัน ดังนั้นแล้วควรทำควบคู่กันไป ตามอาการที่เกิดขึ้น ตัวอย่างเช่น การใช้วิธีต่างๆ เหล่านี้

Advertisementavw

โซลูชั่นแก้ปัญหาคอมช้า คอมกระตุก แบบเร่งด่วน

เริ่มจากการเช็ค สแกน > อัพเดต > ตรวจสอบระบบฮาร์ดแวร์ > อัพเกรดหรือเปลี่ยน


1.ปิดโปรแกรมที่ไม่ใช้บ้าง

หลานท่านชอบใช้งานคอมหลายอย่างพร้อมกัน เช่น ดูหุ้น พร้อมกับทำงานเอกสาร และเปิดเพลงฟัง หรือบางคนก็อาจจะแต่งภาพ ไปพร้อมๆ กับการดูหนัง ฟังเพลง รวมถึงเปิดเว็บไซต์หาข้อมูล หรือใช้ในการโอนถ่ายไฟล์งานต่างๆ สิ่งเหล่านี้ หากเป็นคอมที่สเปคกลางๆ ขึ้นไป เช่น ซีพียูระดับ Intel Core หรือ AMD Ryzen มีแรม 8GB หรือมากกว่า การทำงานระดับนี้ ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบมากนัก แต่ถ้าเป็นคอมที่สเปคไม่แรง หรือเป็นรุ่นเก่า ใช้งานมานาน ใช้งานระดับนี้ก็อาจกระตุกหรือค้างได้ในบางจังหวะ

คอมช้า

สิ่งที่ต้องทำเป็นอันดับแรกก็คือ ลองเช็คดูว่าคุณใช้งานโปรแกรมเยอะเกินไปหรือไม่ รวมถึงเปิดใช้เว็บเบราว์เซอร์ ไม่ว่าจะเป็น Chrome หรือ Microsoft Edge มากเกินไปหรือเปล่า เพราะอย่าลืมว่า เมื่อเปิดแต่ละแท็ปหรือแต่ละหน้าต่าง ก็ใช้แรมเพิ่มมากขึ้น หากคุณมีแรมน้อย ก็ย่อมส่งผลทำให้คอมช้า คอมกระตุกได้เลย

วิธีการแก้ไข

คอมช้า
  1. ปิดโปรแกรม ที่ไม่จำเป็นต้องใช้ในขณะนั้น
  2. เข้าไปดูใน Startup program ด้วยการกด Ctrl+Shift+Del ปิดโปรแกรมที่ทำงานอยู่เบื้องหลังออก
  3. ปิดแท็ปหรือหน้าต่างหรือเว็บไซต์บนเว็บเบราว์เซอร์ เหลือไว้เท่าที่ใช้งาน
  4. รีสตาร์ทระบบ เพื่อเคลียร์สิ่งต่างๆ ให้เหลือพื้นที่แรมเพิ่มขึ้น

2.ฮาร์ดดิสก์หรือ SSD เต็มหรือเปล่า

เรียกว่าเป็นปัญหาใหญ่ของใครหลายคนก็ว่าได้ เก็บข้อมูลไฟล์ ลงเกม ติดตั้งโปรแกรมเพลิน จนลืมไปว่าแทบไม่เหลือพื้นที่ในฮาร์ดดิสก์หรือ SSD แล้ว ยิ่งเป็นโน๊ตบุ๊คบางรุ่น มี SSD มาให้น้อยมาก ลงโปรแกรมที่จำเป็นกับเก็บข้อมูลส่วนตัวไว้อีกหน่อย ก็เกือบจะเต็มพื้นที่อยู่แล้ว เป็นแบบนี้ใช้งานไม่นาน คอมหรือโน๊ตบุ๊คก็ช้าลงได้ เพราะไม่มีพื้นที่ให้จัดการไฟล์ ระบบไม่สามารถทำงานได้ตามปกตินั่นเอง

คอมช้า

สิ่งที่ต้องแก้ไข ก็คงต้องเริ่มจากการปรับพฤติกรรมของผู้ใช้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการจัดสรรพื้นที่เก็บไฟล์ การเคลียร์ไฟล์ที่ไม่จำเป็น ลดโปรแกรมที่ไม่ใช้ รวมไปถึงเกม และยังมีวิธีอื่นๆ อีกมากมาย ช่วยให้คุณได้พื้นที่เก็บข้อมูลกลับมา

วิธีการแก้ไข

  • เคลียร์ไฟล์ขยะและ Temporary file หรือไฟล์ตกค้างจากการทำงานของ Windows ที่ไม่ได้ลบทิ้ง
  • ให้เข้าไปที่ Disk Cleanup เลือกไดรฟ์ C: จากนั้นใส่เครื่องหมายหน้ารายการต่างๆ เลือก OK แล้ว Clean up ได้เลย จะลดไฟล์เหล่านั้นไปได้อีกหลาย GB เลยทีเดียว
  • ลบโปรแกรมที่ไม่ได้ใช้ออกไป ด้วยการเข้าไปที่ Program & Feature จากนั้น Uninstall or change a program แล้วเลือกโปรแกรมที่ไม่ได้ใช้งาน หมดอายุ หรือเป็นโปรแกรมเก่า ที่ไม่ได้ใช้มาเนิ่นนานออกไป ด้วยการ Remove จะได้พื้นที่กลับมาในระดับ GB หรือมากกว่า 10GB เลยทีเดียว
  • เกมที่ไม่ได้เล่น ไม่ว่าจะติดตั้งโดยตรงหรือลงผ่าน Game Platform ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Steam, Origins หรือ EPIC เป็นต้น ลบโดยตรงจากโปรแกรมได้เลย ตรงนี้ใครที่เล่นเกมใหญ่ๆ จะได้คืนมาระดับ 100GB เลยทีเดียว
  • ลบไฟล์ซ้ำๆ ออกบ้าง เพราะบางคนเก็บไฟล์เดียวกัน แต่เอาไว้หลายที่ เพราะไม่ได้วางแผนจัดเก็บที่ดี ทำให้กลายเป็นไฟล์ขยะ เปลืองพื้นที่บน Storage อย่างมากเลย วิธีลบถ้าทำแบบ Manual ไม่ได้ ก็เลือกใช้โปรแกรมที่ใช้ลบไฟล์ซ้ำ เช่น Duplicate file Cleaner, AllDup หรืออื่นๆ ตามที่พอหาได้
  • แต่ถ้าสุดท้ายอั้นไม่ไหว ไม่อยากลบ เพราะมีแต่ไฟล์ที่จำเป็น ก็ลองขยายพื้นที่จัดเก็บ เช่น การเปลี่ยน SSD, เพิ่มความจุฮาร์ดดิสก์ลูกใหม่ หรือจะใช้แบบจัดเก็บข้อมูลต่อภายนอก และสุดท้ายคือ ใช้บริการ Cloud Storage ก็ได้เช่นกัน
อุปกรณ์ ค่าใช้จ่าย
SSD 1TB เริ่ม 2,900 บาท
ฮาร์ดดิสก์ 2.5″ SATA 1TB เริ่ม 1,000 บาท
External HDD 1TB เริ่ม 1,400 บาท
External SSD 1TB เริ่ม 3,300 บาท
Cloud storage MEGA ฟรี 20GB
Google One ฟรี 15GB
iCloud ฟรี 5GB
Dropbox ฟรี 2GB
Google One 2TB, 350 บาท/ด
iCloud 2TB, 349 บาท/ด
Dropbox 2TB, 350 บาท/ด
MEGA 2TB, 391 บาท/ด

3.แรมหาย คอมก็ช้าได้

แรมหายจากการที่ซอฟต์แวร์หรือโปรแกรมเรียกใช้งาน อย่างเช่น บางโปรแกรมที่เปิดอยู่กำลังทำงาน อาจจะเรียกใช้อยู่ไม่กี่ MB แต่เมื่อรวมการใช้งานร่วมกับภาพไฟล์ข้อมูลเข้าไปด้วย ก็ยิ่งใช้แรมมากขึ้น หรือแม้กระทั่งเว็บเบราว์เซอร์เอง ก็มีการเรียกใช้แรม เพิ่มมากขึ้นตามจำนวนหน้าหรือแท็ปที่เปิดใช้งานอยู่เวลานั้น ยิ่งทำให้คอมช้าลง นอกจากนี้ยังมีเรื่องของแรมหาย จากความเสียหายทางกายภาพอีกด้วย มาดูสาเหตุกัน

คอมช้า

แรมไม่พอ: เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ง่าย และสังเกตได้ อาการจะมีหลายแบบ เช่น เปิดโปรแกรมช้า เปิดไฟล์ไม่ได้ หรือบางครั้งก็จะแฮงก์ค้างไปดื้อๆ

วิธีการแก้ไข

  1. เริ่มจากปิดหน้าเว็บเบราว์เซอร์ที่ไม่จำเป็น หรือปิดไปทั้งหมด แล้วจึงเปิดขึ้นมาใหม่อีกครั้ง ถ้าเป็น Chrome หรือ Edge สามารถกดปุ่ม Ctrl+Shift+ปุ่ม T พร้อมกัน ก็จะเรียกหน้าต่างที่เราปิดไป กลับคืนมาให้
  2. กดปุ่ม Ctrl+Shift+Esc แล้วเข้าไปใน Task manager เลือกปิดโปรแกรมที่ใช้ Memory มากผิดปกติ แล้วคลิ๊กที่ End Task
  3. Restart ระบบ แล้วกลับมาใช้งานอีกครั้ง เพื่อเป็นการ Clear พื้นที่การใช้งานแรม ให้เหลือมากขึ้น
คอมช้า

แรมเสีย: อาการนี้มีโอกาสเกิดขึ้นได้ โดยที่ผู้ใช้ไม่ทันรู้ตัว จนกว่าจะมีอาการช้าจนผิดปกติ เพราะจากเดิมอาจมีแรม 8GB แบ่งเป็น 4GB จำนวน 2 ตัว ก็ยังทำงานได้ลื่น แต่พอแรมพังไป 1 ตัว เหลือแค่ 4GB เราทำงานแบบเดิม แต่ก็จะช้าลงอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ สำหรับคนที่ไม่ทราบข้อมูล หรือไม่ได้มีความรู้ด้านฮาร์ดแวร์มากนัก แต่ก็มีวิธีสังเกตง่ายๆ คือ

คอมช้า
  • คุณอาจจะต้องหาข้อมูลที่แท้จริงว่า โน๊ตบุ๊คหรือพีซีที่คุณใช้อยู่นั้น มีแรมอยู่เท่าไร โดยดูจากโบรชัวร์ หรือสอบถามจากร้านหรือคนที่ซื้อมาให้คุณ
  • เมื่อได้ข้อมูลมาแล้ว ให้เช็คจากในเครื่องคุณว่ามีแรมครบถูกต้องมั้ย ทำได้หลายวิธี เช่น ดูจาก Task manager, ฟังก์ชั่น System ของระบบ หรือจะใช้โปรแกรมเสริมก็ได้
  • ดูจาก Task Manager ไปที่แท็ป Performance แล้วดูที่ Memory จะบอกความจุแรมให้ชัดเจน
  • ดูจาก System สำหรับ Windows 11 ให้คลิ๊กขวาที่ปุ่ม Start จากนั้นเลือก System เข้าไปดูใน Device Specification ลงมาตรง Installed RAM ตรงนี้จะบอกความจุที่ระบบมองเห็น ครบหรือไม่ครบ ก็ทราบได้เลย
  • แต่ถ้ายังรู้สึกคลุมเครือ มีคนสามารถวางใจได้ หรือมีสกิลในการแกะอยู่บ้าง ก็แกะดูได้ เป็นพีซีจะมองได้ง่าย แต่โน๊ตบุ๊คอาจจะยากนิดหน่อย
  • หากเสีย ก็เช็คอีกทีว่าเสียจริงมั้ย หรือแค่สกปรก หรืออาจจะเสียจากสล็อตแรมก็เป็นได้ ถ้าเป็นแบบสุดท้าย ก็ต้องพึ่งพาช่างซ่อมแล้วครับ

4.อัพเดตไดรเวอร์หรือ Windows บ้าง

เป็นเรื่องที่จำเป็นต้องทำและทำได้ง่ายมากที่สุด อาจจะไม่ได้เป็นการแก้ปัญหา คอมช้า คอมกระตุกโดยตรง แต่ก็มีส่วนช่วยอย่างเลี่ยงไม่ได้ เพราะระบบจะได้รับการปรับปรุง แก้ไข หรือเพิ่มประสิทธิภาพ ก็มาจากการ Update Windows หรือ Update Driver นั่นเอง วิธีการค่อนข้างง่าย

คอมช้า

Update Windows: ให้คลิ๊กขวาที่ปุ่ม Win จากนั้นเลือก System แล้วเลือก Windows Update ที่อยู่ทางซ้ายมือ คลิ๊กที่ Check for Updates จากนั้นเลือก Download & Install รอจนกว่าจะติดตั้งเสร็จ แล้วรีสตาร์ทระบบใหม่อีกครั้ง

คอมช้า

Update Driver: สามารถใช้วิธีการเดียวกับ Update Windows ได้ แต่ให้เลือกที่ Advance Options แล้วเลือกที่ Additional options ทางด้านขวา แล้วคลิ๊กที่ Optional Updates ใส่เครื่องหมายด้านหน้าอุปกรณ์ในช่อง แล้วเลือก Download & Install

วิธีที่ 2 ในการอัพเดตไดรเวอร์ ด้วยการดาวน์โหลดจากหน้าเว็บไซต์ผู้ผลิต เพียงแต่คุณต้องทราบว่าคุณใช้โน๊ตบุ๊คหรือฮาร์ดแวร์ ซีรีส์ใด รุ่นใด จากนั้นดาวน์โหลดไฟล์มาติดตั้งได้ทันที

วิธีที่ 3 เข้าไปใน Device Manager จากนั้นคลิ๊กขวาบนฮาร์ดแวร์ตัวที่คุณจะอัพเดต แล้วเลือก Update Driver ได้ทันที


5.ปิดการใช้แอนิเมชั่นบางอย่าง

เราเคยสังเกตหรือไม่ว่า ระบบสามารถแสดงผล มีหน้าตาที่สวย โปร่งแสงดูทันสมัย เพราะสิ่งเหล่านั้นได้มาจากฟังก์ชั่นของ Windows ที่เพิ่มความสวยงามในการใช้งาน แต่ก็มาพร้อมกับการใช้ทรัพยากรของระบบอยู่ด้วยเช่นกัน การปิดใช้งานสิ่งเหล่านี้ ก็มีส่วนช่วยลดปัญหาคอมช้าได้

คอมช้า

ผลที่ได้จากการปิดเอฟเฟกต์แอนิเมชั่นของระบบ ทำให้ลดภาระในการสร้างกราฟิกและเอฟเฟกต์ต่างๆ ลง โดยเฉพาะกับแรมและซีพียู แม้จะไม่มาก แต่ถ้าทำร่วมกับวิธีการอื่นๆ ก็ลดปัญหาคอมช้าได้เช่นกัน อย่างไรก็ดีการเปิดหน้าต่าง เลื่อน การแสดงผล เปลี่ยนหน้าอาจลื่นไหล แต่ก็ยังสบายตา รวมถึงเอฟเฟกต์โปร่งแสงจะหายไป แต่ได้ Process ที่ดีกลับมา ทำให้เครื่องลื่นขึ้น

วิธีการแก้ไข

ให้คลิ๊กขวาบนหน้าเดสก์ทอป > เลือก Personalize > เลือก Accessibility ทางด้านซ้าย > เลือก Visual ที่อยู่ด้านขวา > Transparency effects ให้เลือกเป็น Off และ Animation effectss ก็เป็น Off เช่นเดียวกัน

คอมช้า

นอกจากนี้คุณอาจจะเลือกการตั้งค่า Theme เป็นแบบสีพื้น ไม่ต้องมีการเปลี่ยนไปมาแบบ Slide พร้อมกันไปด้วย อาจดูเรียบง่ายธรรมดา แต่ก็ช่วยให้ไหลลื่นมากขึ้น


6.สแกนระบบอย่างสม่ำเสมอ

บางครั้งที่เราเจอกับปัญหาคอมช้า คอมกระตุก อาจจะไม่ได้เกิดจากฮาร์ดแวร์เสีย ทำงานบกพร่องหรือไดรฟ์เต็มเพียงเท่านั้น แต่บางครั้งอาจเกิดจากความบกพร่องของระบบหรือซอฟต์แวร์ ที่ทำงานผิดปกติ มีสิ่งที่รบกวนการทำงาน หลังจากที่คุณทำการอัพเดตไดรเวอร์หรือ Windows Updates ไปแล้ว ก็อยากให้เพิ่มในส่วนของ Windows Security, Internet Security หรือบรรดาป้องกันไวรัส มัลแวร์เอาไว้ด้วย และอย่าลืมสั่ง Scan ทั้งหมด

คอมช้า

Scan Virus: ไวรัส มัลแวร์ โทรจัน มีส่วนอย่างมากในการรบกวนระบบ ทำให้คอมช้า คอมกระตุกได้เช่นกัน ยิ่งบางครั้งแฝงตัวอยู่แอบทำงานเบื้องหลัง ไม่ให้เรารู้ กว่าจะไปไล่หาเจอว่าตัวไหน บางทีก็ช้าไป ใช้การสแกนหาง่ายกว่าเยอะ จะใช้ Windows Security หรือ Internet Security หรือ Anti Virus มาช่วยเสริมก็ดีไม่น้อย

เลือกใช้ Anti-Virus ที่เหมาะสมกับระบบของคุณ ซึ่งมีทั้งป้องกันไวรัส และแบบครอบคลุมถึงการเชื่อมต่อต่างๆ เช่น Internet Security สำหรับผู้ใช้ที่มีธุรกรรมและการทำงานออนไลน์เต็มรูปแบบ เลือกที่มีการอัพเดตได้บ่อย เพื่อเพิ่มความทันสมัยในการตรวจจับภัยคุกคาม และหมั่นสแกนไวรัสแบบละเอียด หรือตั้งค่าการ Scan ให้ไม่กระทบต่อการใช้งานในแต่ละวันของคุณ

คอมช้า

Error checking: เพื่อ Scan ระบบเช็คความผิดปกติ เป็นตัวช่วยที่ดี ในการแก้ปัญหาจะซอฟต์แวร์ หรือระบบ เมื่อเกิดขึ้นในขณะที่ใช้งาน ซึ่งส่งผลต่อระบบ ทำให้คอมช้า คอมกระตุกได้เช่นกัน โดยวิธีใช้ตามขั้นตอนนี้ เปิด File Explorer (กดปุ่ม Win+E) จากนั้นคลิ๊กขวาที่ไดรฟ์ C: แล้วเลือก Properties > เข้าไปที่แท็ป Tools > คลิ๊กที่ Error checking แล้วคลิ๊กที่ Check รอจนกว่าระบบจะทำงานเสร็จสิ้น

คอมช้า

Optimize: เป็นการเสริมระบบการทำงานได้เช่นกัน ใช้วิธีเดียวกับการทำ Error checking เมื่อเข้าไปที่แท็ป Tools > ให้เลือกที่ Optimized and Defragment Drive แล้วคลิ๊กที่ปุ่ม Optimized

คอเกมที่อยากเล่นเกมลื่นๆ มาทางนี้เลยครับ ทิปเล่นเกมลื่น


7.เช็ค Error Code เมื่อเกิดจอฟ้า

ปัญหาจอฟ้า เป็นผลข้างเคียง เมื่อคอมช้า ซึ่งอาจเกิดจากไฟล์ระบบหรือฮาร์ดแวร์ทำงานไม่เข้ากัน หรือไฟล์ระบบบางตัวเสีย ซึ่งจะมีผลออกมาในแต่ละ Code ไม่เหมือนกัน เราสามารถสังเกตรหัสที่เกิดขึ้น เพื่อนำมาใช้ในการวิเคราะห์ปัญหาได้ง่ายขึ้น

คอมช้า

แต่ก่อนที่จะไปเช็ค Code ของ BSOD ได้นั้น คุณต้องมองเห็น Code ได้ทัน แต่ส่วนใหญ่ ระบบมักจะรีสตาร์ท จนเรามองไม่ทัน ดังนั้นสิ่งที่ต้องทำก็คือ ให้ระบบค้างหน้าจอ Stop Code ไม่ต้องรีสตาร์ท เมื่อเกิดปัญหากับระบบ ไม่ว่าจะเป็น Error หรือ BSOD ก็ตาม ให้ค้างหน้าจอเอาไว้นิ่งๆ วิธีการคือ

วิธีหยุดไม่ให้ระบบรีสตาร์ทอัตโนมัติ: เข้าไปที่ Control Panel จากนั้นเลือก System and Security จากนั้นเลือก System ไปที่ Advanced system settings คลิ๊กที่ Settings แล้วเลื่อนลงมาด้านล่าง ให้เอาเครื่องหมายหน้า Automatically restart แล้วคลิ๊ก Ok เพื่อบันทึกการตั้งค่า

วิธีการแก้ไข

สามารถหาข้อมูล Stop Code เพิ่มเติมมากกว่า 300 Code จากทาง Microsoft

สามารถเช็ค Stop Code ได้ตามข้อมูลในตารางนี้

Error Cause Solution
DATA_BUS_ERROR

Memory failure Check RAM stick function with MemTest, replace hardware if necessary
INACCESSIBLE_BOOT_DEVICE
 

 

Missing driver

Virus/Malware

Update or install driver

Antivirus scan, Switch from “IDE” to “AHCI” in BIOS under “SATA Mode Selection”

UNEXPECTED_KERNEL_MODE_TRAP Hardware error

Temperature too high

Uninstall and reinstall device driver (primarily for recently added devices)

Check fan performance, clean PC or check environment if necessary

NTFS_FILE_SYSTEM

High CPU memory usage Search for costly processes in the Task Manager; uninstall/reinstall programs in question if necessary; check hard drive on which Windows is installed for errors in Windows processes (Right-click, then “Properties”, “Tools”, and “Check”)
IRQL_NOT_LESS_OR_EQUAL

Incompatible or outdated device driver Deactivate drivers for recently installed devices via the device manager (search and run “mmc devmgmt.msc” command in Start menu); then obtain the newest version of the driver from the device manufacturer and install
BAD_POOL_CALLER

Unwanted memory access Deactivate drivers for recently installed devices (see above); then obtain the newest version of the driver from the device manufacturer and install
FAT_FILE_SYSTEM

Corrupt file system Check hard drive function; search and run “chkdsk” in Start menu
OUT_OF_MEMORY

Memory failure Check RAM stick function with MemTest, replace hardware if necessary
PAGE_FAULT_IN_NON_PAGED_AREA

Memory failure Check RAM stick function with MemTest, replace hardware if necessary
UNABLE_TO_LOAD_DEVICE_DRIVER

Defective device driver Deactivate drivers for recently installed devices (see above); then obtain the newest version of the driver from the device manufacturer and install
KMODE_EXCEPTION_NOT_HANDLED

 

Defective software

With .sys file: System file error

Uninstall/reinstall recently used software (newest or system-compatible version)

For system file error: Run Windows Repair Tool (see below: “Check and repair system files”)

ที่มา: ionos.com

Conclusion

สรุปส่งท้ายสำหรับคนที่เจอปัญหาคอมช้า คอมกระตุก ก็อย่าเพิ่งตระหนกไปว่าเจอกับปัญหาใหญ่ บางครั้งแค่รีสตาร์ทเครื่องใหม่ ก็กลับมาไหลลื่นได้เหมือนเดิมแล้ว เพียงแต่ขั้นตอนต่างๆ ที่เราแนะนำมานี้ บางอย่างก็จะเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาซ้ำในภายหลัง และยังช่วยให้การทำงานไหลลื่นยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปิดหรือลบโปรแกรมบางอย่าง ที่แอบทำงานเบื้องหลัง หรือการป้องกันไวรัส และบรรดามัลแวร์ ที่มักจะสร้างความรำคาญ และเข้ามาล้วงตับข้อมูลของคุณได้ การอัพเดตและการสแกนบ่อยๆ จะช่วยให้เครื่องของคุณปลอดภัย ใช้งานได้อย่างอุ่นใจ สุดท้ายคือ การจัดเรียงไฟล์ ให้เป็นหมวดหมู่ จะช่วยให้คุณทราบว่า ไฟล์ไหนควรเก็บ ไฟล์ใดควรลบ จะได้ไม่รกพื้นที่ภายในเครื่อง และทำให้คอมช้าลงนั่นเองครับ

from:https://notebookspec.com/web/688897-7-tip-solve-problems-pc-slowdown

7 โน๊ตบุ๊คคุ้มค่า 2023 น่าใช้ มีการ์ดจอแยกและ Office แท้ให้ซื้อ เริ่มแค่ 14,990 บาทเท่านั้น!

โน๊ตบุ๊คคุ้มค่า 2023 พร้อมส่วนลดคุ้มๆ เพื่อคนทำงานและนักเรียนักศึกษามีมาให้เลือกแล้ว!

NBS 230220 FB Link 7 value NB 2023

 

Advertisementavw

ต้นปี 2023 แล้ว ผู้ใช้หลายคนก็อยากเปลี่ยนโน๊ตบุ๊คสักเครื่องมาใช้ทำงานอย่างแน่นอนและน่าจะมองหาโน๊ตบุ๊คคุ้มค่า 2023 สักเครื่องมาเปลี่ยนกับเครื่องเก่าอยู่อย่างแน่นอน ซึ่งผู้เขียนเชื่อว่านอกจากเรื่องราคาและโปรโมชั่นส่วนลดพิเศษแล้ว หลายคนก็อยากได้เครื่องสเปคแรงจ่ายทีเดียวคุ้มใช้งานได้นานหลายปีอย่างแน่นอน ซึ่งปัจจุบันนี้ซีพียู AMD, Intel หลายๆ รุ่น ไม่ว่าจะ Intel Core i3 หรือ AMD Ryzen 3 ก็ดีพอใช้เรียนและทำงานต่างๆ ได้เป็นอย่างดี ดูหนังฟังเพลงได้อย่างมีความสุขแน่นอนและบางรุ่นที่มีการ์ดจอแยกในตัวก็เอามาเล่นเกมได้อีกด้วย

โน๊ตบุ๊คคุ้มค่า 2023 สำหรับผู้เขียนแล้ว หากจะซื้อโน๊ตบุ๊คใหม่สักเครื่องล่ะก็ ณ ตอนนี้ซีพียูไม่ว่าจะ Intel Gen 11 หรือ Gen 12 หรือจะ AMD Ryzen 5000 Series ก็ยังน่าใช้มากและประสิทธิภาพของมันก็ยังใช้ทำงานต่างๆ ได้สบาย ไม่ต้องซีเรียสว่าต้องซื้อรุ่นใหม่ล่าสุดเสมอ อาจจะหันมาเลือกซื้อรุ่นเก่าลงสัก 1-2 รุ่นแล้วเซฟเงินเอาไว้ซื้ออุปกรณ์เสริมอื่นๆ อย่างหน้าจอคอม, เมาส์หรือคีย์บอร์ดแทนก็น่าจะมีประโยชน์กว่าเอางบประมาณไปลงกับโน๊ตบุ๊คอย่างเดียว หรือถ้าใครมีอุปกรณ์เสริมที่จำเป็นใช้งานครบแล้วแต่อยากจะเปลี่ยนเครื่องอย่างเดียวจะเอาเงินไปลงกับโน๊ตบุ๊คให้หมดเลยก็ได้เช่นกัน

โน๊ตบุ๊คคุ้มค่า 2023

สรุปสเปค 7 โน๊ตบุ๊คคุ้มค่า 2023

สเปคโน๊ตบุ๊คคุ้มค่า 2023 CPU

GPU

SSD

RAM

Software

Display

Weight

Connectivity ราคา
(บาท)
Lenovo IdeaPad 3 15ITL05 Intel Core
i3-1115G4

Intel UHD Graphics

M.2 NVMe
256GB

8GB DDR4
2666MHz

Windows 11 Home

15.6″ FHD IPS

1.7 กก.

USB 2.0 x 1

USB-A 3.2 x 2

HDMI x 1

SD Card Reader x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 5

Bluetooth 5.0

14,990
Lenovo IdeaPad 3i 15IAU7 Intel Core
i3-1215U

Intel UHD Graphics

M.2 NVMe
256GB

8GB DDR4
3200MHz

Windows 11 Home

15.6″ FHD IPS

1.63 กก.

USB 2.0 x 1

USB-A 3.2 x 1

USB-C 3.2 x 1

HDMI x 1

SD Card Reader x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6

Bluetooth 5.2

16,990
Lenovo IdeaPad 3 15IAU7 Intel Core
i5-1235U

Intel Iris Xe Graphics

M.2 NVMe
512GB

8GB DDR4
3200MHz

Windows 11 Home

Microsoft Office Home & Student 2021

15.6″ FHD IPS

1.63 กก.

USB 2.0 x 1

USB-A 3.2 x 1

USB-C 3.2 x 1

HDMI x 1

SD Card Reader x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6

Bluetooth 5.2

22,990
Lenovo IdeaPad 3 15ABA7 AMD Ryzen 5 5625U

AMD Radeon Graphics

M.2 NVMe
512GB

8GB DDR4
3200MHz

Windows 11 Home

Microsoft Office Home & Student 2021

15.6″ FHD IPS

1.63 กก.

USB 2.0 x 1

USB-A 3.2 x 1

USB-C 3.2 x 1

HDMI x 1

SD Card Reader x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6

Bluetooth 5.2

20,990
Lenovo IdeaPad Gaming 3 15ACH6 AMD Ryzen 5 5600H

NVIDIA GeForce RTX 3050 Ti

M.2 NVMe
512GB

8GB DDR4
3200MHz

Windows 11 Home

15.6″ FHD IPS

Refresh Rate 120Hz

2.25 กก.

USB-A 3.2 x 2

USB-C 3.2 x 1

HDMI x 1

LAN x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6

Bluetooth 5.0

27,990
Huawei MateBook D14 Intel Core
i5-1135G7

Intel Iris Xe Graphics

M.2 NVMe
512GB

8GB DDR4
3200MHz

Windows 11 Home

14″ FHD IPS

1.38 กก.

USB 2.0 x 1

USB-A 3.2 x 1

USB-C 3.2 x 1

HDMI x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6

Bluetooth 5.1

22,990
Acer Aspire 7 A715-42G-R4BX AMD Ryzen 5 5500U

NVIDIA GeForce GTX 1650

M.2 NVMe
512GB

8GB DDR4
3200MHz

Windows 11 Home

15.6″ FHD IPS

Refresh Rate 144Hz

2.15 กก.

USB 2.0 x 1

USB-A 3.2 x 2

USB-C 3.2 x 1

HDMI x 1

LAN x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6

Bluetooth 5.1

22,990

7 โน๊ตบุ๊คคุ้มค่า 2023 ถูกใจสายทำงานและเกมมิ่งอย่างแน่นอน!

หากใครกำลังหาโน๊ตบุ๊คคุ้มค่า 2023 ราคาไม่แพงแต่สเปคดีเอาไว้ทำงานหรือเรียนออนไลน์ล่ะก็ ผู้เขียนได้เลือกรุ่นน่าสนใจทั้งหมด 7 รุ่นพร้อมโปรโมชั่นส่วนลดมาให้เลือกกัน โดยมีรายชื่อรุ่นดังนี้

  1. Lenovo IdeaPad 3 15ITL05 (14,990 บาท)
  2. Lenovo IdeaPad 3i 15IAU7 (16,990 บาท)
  3. Lenovo IdeaPad 3 15IAU7 (22,990 บาท)
  4. Lenovo IdeaPad 3 15ABA7 (20,990 บาท)
  5. Lenovo IdeaPad Gaming 3 15ACH6 (27,990 บาท)
  6. Huawei MateBook D14 (22,990 บาท)
  7. Acer Aspire 7 A715-42G-R4BX (22,990 บาท)
1. Lenovo IdeaPad 3 15ITL05 (14,990 บาท)

Lenovo Notebook IdeaPad 3 15ITL05 square medium

Lenovo IdeaPad 3 15ITL05 นั้นถือเป็นโน๊ตบุ๊คคุ้มค่า 2023 ที่แม้ซีพียูจะเป็น Intel Gen 11 แต่สเปคของมันถือว่ายังใช้งานได้ดี มี Numpad ติดตั้งมาให้ อัพเกรดเพิ่ม SSD, RAM ได้และน้ำหนักเครื่องก็ไม่หนักมาก พกพาไปไหนมาไหนได้สะดวกทีเดียว

ซีพียูเป็น Intel Core i3-1115G4 แบบ 2 คอร์ 4 เธรด ความเร็ว 3.0~4.1GHz ใช้การ์ดจอออนบอร์ด Intel UHD Graphics และหน้าจอขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS มี M.2 NVMe SSD ความจุ 256GB ติดตั้ง Windows 11 Home และแรมออนบอร์ด 8GB DDR4 บัส 2666MHz มีพอร์ต USB 2.0 x 1, USB-A 3.2 x 2, HDMI x 1, SD Card Reader x 1, Audio combo x 1 เชื่อมต่อ Wi-Fi 5 มาตรฐาน 802.11ac รองรับ Bluetooth 5.0 ได้ในตัว น้ำหนักเพียยง 1.7 กิโลกรัมเท่านั้น เป็นโน๊ตบุ๊คคุ้มค่า 2023 รุ่นแรกเพื่อนนักเรียนนักศึกษาหรือคนที่เพิ่งได้งานใหม่อย่างแน่นอน

สเปคของ Lenovo IdeaPad 3 15ITL05
CPU Intel Core i3-1115G4 แบบ 2 คอร์ 4 เธรด ความเร็ว 3.0~4.1GHz
GPU Intel UHD Graphics
SSD M.2 NVMe SSD 256GB
RAM ออนบอร์ด 8GB DDR4 บัส 2666MHz
Display 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS
Connectivity USB 2.0 x 1, USB-A 3.2 x 2, HDMI x 1, SD Card Reader x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 5 มาตรฐาน 802.11ac และ Bluetooth 5.0

Software Windows 11 Home
Weight 1.7 กิโลกรัม
Price 14,990 บาท ใช้โค้ด BNNDFMF10 ลดได้ 1,000 บาท (คลิ๊กสั่งซื้อได้ที่นี่)
2. Lenovo IdeaPad 3i 15IAU7 (16,990 บาท)

Lenovo IdeaPad Slim 3i 03 square medium

ถ้าซีพียู Intel 11th Gen ไม่ถูกใจอยากได้รุ่นใหม่ขึ้นก็ขยับมาเป็น Lenovo IdeaPad 3i 15IAU7 ซึ่งเป็นรุ่นพัฒนาต่อจาก IdeaPad ในข้อก่อนได้เลย โดยรุ่นใหม่นี้จะใช้บอดี้เดียวกัน มีชุด Numpad และพอร์ต USB-C 3.2 เสริมเข้ามาให้และได้ Intel Core i3-1215U แบบ 6 คอร์ 8 เธรด (2P+4E) ความเร็ว 3.3~4.4GHz รองรับ Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.2 ได้ในตัว จัดเป็นโน๊ตบุ๊คคุ้มค่า 2023 สำหรับคนอยากได้ซีพียูรุ่นใหม่ล่าสุดมาใช้งานมาก

สเปคของ Lenovo IdeaPad 3i 15IAU7
CPU Intel Core i3-1215U แบบ 6 คอร์ 8 เธรด (2P+4E) ความเร็ว 3.3~4.4GHz
GPU Intel UHD Graphics
SSD M.2 NVMe SSD 256GB
RAM ออนบอร์ด 8GB DDR4 บัส 3200MHz
Display 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS
Connectivity USB 2.0 x 1, USB-A 3.2 x 1, USB-C 3.2 x 1, HDMI x 1, SD Card Reader x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.2

Software Windows 11 Home
Weight 1.63 กิโลกรัม
Price 16,990 บาท ใช้โค้ด BNNDFMF20 ลดได้ 2,000 บาท (คลิ๊กสั่งซื้อได้ที่นี่)
3. Lenovo IdeaPad 3 15IAU7 (22,990 บาท)

Lenovo Notebook IdeaPad 3 15IAU7 03 square medium

สำหรับโน๊ตบุ๊คคุ้มค่า 2023 ราคาช่วง 20,000 บาทต้น จะมี Lenovo IdeaPad 3 15IAU7 ซึ่งรุ่นนี้จะใช้สเปคและฟีเจอร์ร่วมกับ IdeaPad 3 รุ่นก่อนหน้านี้แทบทั้งหมด ยกเว้นแค่อัพเกรดซีพียูเป็น Intel Core i5-1235U แบบ 10 คอร์ 12 เธรด (2P+8E) ความเร็ว 3.3~4.4GHz และการ์ดจอ Intel Iris Xe Graphics แทน รวมทั้งเพิ่มความจุ M.2 NVMe SSD ในเครื่องเป็น 512GB แทนและได้ Microsoft Office Home & Student 2021 แทน และทาง Lenovo ยังติดตั้งเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือมาให้ใช้ด้วย หากใครมีงบประมาณระดับ 20,000 บาทต้นๆ แล้วอยากได้โน๊ตบุ๊คคุ้มค่า 2023 เอาไว้ใช้ รุ่นนี้คือรุ่นที่ดีมากที่ผู้เขียนเองแนะนำให้ซื้อไปใช้งาน

สเปคของ Lenovo IdeaPad 3 15IAU7
CPU Intel Core i5-1235U แบบ 10 คอร์ 12 เธรด (2P+8E) ความเร็ว 3.3~4.4GHz
GPU Intel Iris Xe Graphics
SSD M.2 NVMe SSD 512GB
RAM ออนบอร์ด 8GB DDR4 บัส 3200MHz
Display 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS
Connectivity USB 2.0 x 1, USB-A 3.2 x 1, USB-C 3.2 x 1, HDMI x 1, SD Card Reader x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.2

Software Windows 11 Home, Microsoft Office Home & Student 2021
Weight 1.63 กิโลกรัม
Price 22,990 บาท ใช้โค้ด BNNDFMF10 ลดได้ 1,000 บาท (คลิ๊กสั่งซื้อได้ที่นี่)
4. Lenovo IdeaPad 3 15ABA7 (20,990 บาท)

Lenovo Notebook IdeaPad 3 15ABA7 82RN003CTA Arctic Grey 5 square medium

หากผู้ใช้คนไหนมองหาโน๊ตบุ๊คคุ้มค่า 2023 ซีพียู AMD Ryzen อยู่ ก็มี Lenovo IdeaPad 3 15ABA7 ให้เลือกซื้อ ซึ่งโน๊ตบุ๊คเครื่องนี้มีฟีเจอร์น่าใช้ติดตั้งมาให้ครบทั้งเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือ, Numpad และน้ำหนักเครื่องก็ไม่หนักเกินไป พกพาไปไหนมาไหนได้สะดวกอย่างแน่นอน

ซีพียูเป็น AMD Ryzen 5 5625U แบบ 6 คอร์ 12 เธรด ความเร็ว 2.3~4.3GHz ใช้การ์ดจอออนบอร์ด AMD Radeon Graphics กับหน้าจอขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS มี M.2 NVMe SSD ความจุ 512GB ติดตั้ง Windows 11 Home กับ Microsoft Office Home & Student 2021 มาให้ มีแรมออนบอร์ด 8GB DDR4 บัส 3200MHz มีพอร์ต USB 2.0 x 1, USB-A 3.2 x 1, USB-C 3.2 x 1, HDMI x 1, SD Card Reader x 1, Audio combo x 1 เชื่อมต่อ Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.2 ได้ในตัว น้ำหนักเพียง 1.63 กิโลกรัมเท่านั้น จัดเป็นโน๊ตบุ๊คคุ้มค่า 2023 เพื่อชาว AMD โดยเฉพาะอีกรุ่นหนึ่ง

สเปคของ Lenovo IdeaPad 3 15ABA7
CPU AMD Ryzen 5 5625U แบบ 6 คอร์ 12 เธรด ความเร็ว 2.3~4.3GHz
GPU AMD Radeon Graphics
SSD M.2 NVMe SSD 512GB
RAM ออนบอร์ด 8GB DDR4 บัส 3200MHz
Display 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS
Connectivity USB 2.0 x 1, USB-A 3.2 x 1, USB-C 3.2 x 1, HDMI x 1, SD Card Reader x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.2

Software Windows 11 Home, Microsoft Office Home & Student 2021
Weight 1.63 กิโลกรัม
Price 20,990 บาท ใช้โค้ด BNNDFMF20 ลดได้ 2,000 บาท (คลิ๊กสั่งซื้อได้ที่นี่)
5. Lenovo IdeaPad Gaming 3 15ACH6 (27,990 บาท)

Notebook IdeaPad Gaming 3 15ACH6 02 square medium

หากใครเป็นคอนเทนต์ครีเอเตอร์หรือเกมเมอร์ Lenovo IdeaPad Gaming 3 15ACH6 บอดี้เก่าตัวนี้ก็ยังน่าซื้อเพราะนอกจากไฟคีย์บอร์ด RGB แล้ว ยังเปิดฝาอัพเกรดเพิ่มแรมและ SSD ได้และดีไซน์ยังสวยดูดีเรียบง่ายเหมือนโน๊ตบุ๊คทำงานทั่วไป สามารถพกไปออฟฟิศได้โดยไม่เคอะเขินนัก ผู้สนใจสามารถอ่านรีวิวฉบับเต็มได้ที่นี่

รุ่นที่แนะนำติดตั้งซีพียู AMD Ryzen 5 5600H แบบ 6 คอร์ 12 เธรด ความเร็ว 3.3~4.2GHz การ์ดจอเป็น NVIDIA GeForce RTX 3050 Ti แรม 4GB GDDR6 หน้าจอขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 120Hz มี M.2 NVMe SSD ความจุ 512GB ติดตั้ง Windows 11 Home มีแรม 8GB DDR4 บัส 3200MHz พอร์ตเชื่อมต่อมี USB-A 3.2 x 2, USB-C 3.2 x 1, HDMI x 1, LAN x 1, Audio combo x 1 เชื่อมต่อ Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.0 ในตัว น้ำหนัก 2.25 กิโลกรัม จัดเป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คราคาคุ้มค่าและอัพเกรดเพียงอีกหน่อยก็ใช้งานได้ดีมากแล้ว

สเปคของ Lenovo IdeaPad Gaming 3 15ACH6
CPU AMD Ryzen 5 5600H แบบ 6 คอร์ 12 เธรด ความเร็ว 3.3~4.2GHz
GPU NVIDIA GeForce RTX 3050 Ti แรม 4GB GDDR6
SSD M.2 NVMe SSD 512GB
RAM 8GB DDR4 บัส 3200MHz
Display 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 120Hz
Connectivity USB-A 3.2 x 2, USB-C 3.2 x 1, HDMI x 1, LAN x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.0

Software Windows 11 Home
Weight 2.25 กิโลกรัม
Price 27,990 บาท ใช้โค้ด BNNDFMF30 ลดได้ 3,000 บาท (คลิ๊กสั่งซื้อได้ที่นี่)
6. Huawei MateBook D14 (22,990 บาท)

MateBook D14 RAM 16GB 03 square medium

Huawei MateBook D14 นี้ผู้เขียนก็นับเป็นโน๊ตบุ๊คราคาคุ้มค่า 2023 อีกเครื่องที่แม้จะเปิดตัวมานานแล้ว แต่ก็ยังน่าใช้เพราะพอร์ต USB-C รองรับ Power Delivery ใช้ชาร์จแบตเตอรี่ให้เครื่องได้และมีเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือติดตั้งมารวมกับปุ่ม Power ใช้ปลดล็อคเครื่องได้สะดวกและขนาดก็เล็กกะทัดรัดน้ำหนักเบา เหมาะกับคนที่ต้องพกโน๊ตบุ๊คไปไหนมาไหนเป็นประจำแน่นอน

ซีพียูเป็นรุ่น Intel Core i5-1135G7 แบบ 4 คอร์ 8 เธรด ความเร็ว 2.4~4.2GHz การ์ดจอออนบอร์ด Intel Iris Xe Graphics หน้าจอมีขนาด 14 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS มี M.2 NVMe SSD ความจุ 512GB  ติดตั้ง Windows 11 Home มาให้ แรมออนบอร์ด 8GB DDR4 บัส 3200MHz มีพอร์ต USB 2.0 x 1, USB-A 3.2 x 1, USB-C 3.2 x 1, HDMI x 1, Audio combo x 1 เชื่อมต่อ Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.1 น้ำหนักเครื่อง 1.38 กิโลกรัม ยิ่งถ้าใครใช้สมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตของ HUAWEI น่าจะชอบและใช้ฟีเจอร์ได้คุ้มอย่างแน่นอน 

สเปคของ Huawei MateBook D14
CPU Intel Core i5-1135G7 แบบ 4 คอร์ 8 เธรด ความเร็ว 2.4~4.2GHz
GPU Intel Iris Xe Graphics
SSD M.2 NVMe SSD 512GB
RAM ออนบอร์ด 8GB DDR4 บัส 3200MHz
Display 14 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS
Connectivity USB 2.0 x 1, USB-A 3.2 x 1, USB-C 3.2 x 1, HDMI x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.1

Software Windows 11 Home
Weight 1.38 กิโลกรัม
Price 22,990 บาท ใช้โค้ด BNNDFMF50 ลดได้ 5,000 บาท (คลิ๊กสั่งซื้อได้ที่นี่)
7. Acer Aspire 7 A715-42G-R4BX (22,990 บาท)

Aspire A715 42G R4BX 02 square medium

สุดท้ายคนทำงานตัดต่อคลิป Vlog และแต่งภาพอยากได้โน๊ตบุ๊คมีการ์ดจอแยก Acer Aspire 7 A715-42G-R4BX ที่ติดตั้งการ์ดจอแยก NVIDIA มาให้เครื่องนี้สามารถใช้งานได้สะดวกแน่นอนและยังเปิดเกมเล่นในเวลาพักผ่อนได้อีกด้วย เหมาะกับคนทำงานและนักเรียนนักศึกษามาก

ซีพียูเป็น AMD Ryzen 5 5500U แบบ 6 คอร์ 12 เธรด ความเร็ว 2.1~4.0GHz ใช้การ์ดจอแยก NVIDIA GeForce GTX 1650 แรม 4GB GDDR6 มีหน้าจอขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 144Hz ติดตั้งมาให้ใช้ มี M.2 NVMe SSD ความจุ 512GB พร้อม Windows 11 Home และแรม 8GB DDR4 บัส 3200MHz อัพเกรดเพิ่มความจุได้สบายๆ มีพอร์ต USB 2.0 x 1, USB-A 3.2 x 2, USB-C 3.2 x 1, HDMI x 1, LAN x 1, Audio combo x 1 เชื่อมต่อ Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.1 น้ำหนัก 2.15 กิโลกรัม เป็นโน๊ตบุ๊คคุ้มค่า 2023 ที่ทำงานได้เล่นเกมก็ดีอีกรุ่นที่ยังน่าซื้ออยู่แถมยังมีโค้ดส่วนลดให้ใช้งานอีกด้วย จัดว่าน่าสนใจมาก

สเปคของ Acer Aspire 7 A715-42G-R4BX
CPU AMD Ryzen 5 5500U แบบ 6 คอร์ 12 เธรด ความเร็ว 2.1~4.0GHz
GPU NVIDIA GeForce GTX 1650 แรม 4GB GDDR6
SSD M.2 NVMe SSD 512GB
RAM 8GB DDR4 บัส 3200MHz
Display 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 144Hz
Connectivity USB 2.0 x 1, USB-A 3.2 x 2, USB-C 3.2 x 1, HDMI x 1, LAN x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.1

Software Windows 11 Home
Weight 2.15 กิโลกรัม
Price 22,990 บาท ใช้โค้ด BNNDFMF20 ลดได้ 2,000 บาท (คลิ๊กสั่งซื้อได้ที่นี่)

sincerely media ylveRpZ8L1s unsplash 1

ถ้าใครหาโน๊ตบุ๊คคุ้มค่า 2023 เอาไว้ใช้งานสักเครื่อง ณ ตอนนี้ทางร้านค้าชั้นนำหลายเจ้าทำโปรโมชั่นลดราคาและให้ของแถมอีกมากมาย หากใครอยากเปลี่ยนโน๊ตบุ๊คเครื่องเก่าที่อัพเกรดเป็น Windows 11 ไม่ได้หรือเริ่มทำงานได้อืดมากแล้ว ก็ถือเป็นโอกาสที่ดี แค่เลือกรุ่นที่ตอบโจทย์แล้วเอาเงินส่วนต่างไปซื้ออุปกรณ์เสริมอย่างเมาส์คีย์บอร์ดที่ต้องการมาใช้งานได้เลย


บทความที่เกี่ยวข้อง

Acer Aspire 3 1

รีวิว Lenova IdeaPad 1 1

NBS 230130 FB Link Review Zenbook 14 OLED 1

from:https://notebookspec.com/web/688100-7-budget-laptop-worth-buying-2023

จอพับได้! โน๊ตบุ๊ค 2-in-1 ราคาถูก 7 รุ่น เบา จอสัมผัส เริ่มแค่หมื่นกว่า ได้ทั้งโน๊ตบุ๊คและแท็ปเล็ต ปี 2023

จอพับได้ โน๊ตบุ๊ค Convertible 7 รุ่น สุดประหยัด 2023 เป็นโน๊ตบุ๊คและแท็ปเล็ตได้ในตัว สะดวกเวอร์

จอพับ

วันนี้เรารวบรวมโน๊ตบุ๊คในแบบ 2-in-1 หรือ Convertible Notebook ที่จอพับได้ ราคาประหยัดมาฝากกัน 7 รุ่น สำหรับผู้ใช้ที่ต้องการโน๊ตบุ๊ค ที่มีความหลากหลาย รองรับการใช้งานได้หลายอย่าง ด้วยความสามารถในการพับจอ 360 องศาหรือแบบถอดจอได้นี้ ช่วยอำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวันได้ดี ไม่ว่าจะเป็นโน๊ตบุ๊คโหมดทำงานทั่วไป โหมดแท็ปเล็ต ด้วยการทัชสกรีน และรองรับ Digital Pen ก็เหมาะอย่างยิ่งกับแอพพลิเคชั่นในเวลานี้ และยังจับถือได้สะดวกขึ้น รวมถึงโหมดอื่นๆ เช่น Tent/ Stand mode ที่ใช้กับความบันเทิง ดูหนัง เล่นเกม และในปัจจุบันได้ดีทีเดียว ใครที่กำลังมองหาโน๊ตบุ๊คจอพับ จอสัมผัสราคาเบาๆ ติดตามกันได้เลยครับ

จอพับ! โน๊ตบุ๊ค Convertible 7 รุ่น ราคาถูก 2023

  1. เลือกโน๊ตบุ๊ค Convertible อย่างไร?
  2. ASUS Vivobook Go 14 Flip
  3. Lenovo DUET 3 10
  4. Lenovo Flex5 14
  5. Microsoft Surface GO 3
  6. ASUS Vivobook S 14 Flip
  7. ASUS ExpertBook B3 Flip
  8. HP Pavilion X360 14

เลือกโน๊ตบุ๊ค Convertible อย่างไร?

พับจอหรือถอดจอได้?: เรื่องนี้อยู่ที่ผู้ใช้เองจะเลือกแบบใด ถอดจอได้ข้อดีคือ พกพาสะดวก ประหยัดพลังงาน และบอดี้ง่ายต่อการจับถือ ส่วนพับจอได้ ทำให้การจัดวางในแบบต่างๆ ง่ายขึ้น แบตเยอะขึ้น แต่ก็ทำให้การจับถือในโหมดแท็ปเล็ตดูเทอะทะพอสมควร ซึ่งถ้ามองที่การพกพาเป็นหลัก แยกจอได้อาจจะสะดวก แต่ถ้าทำงานด้วย วางบนโต๊ะเป็นส่วนใหญ่ จอพับได้น่าจะเป็นคำตอบ

Advertisementavw
ASUS ExpertBook B5 Flip 6

สเปค: ถ้าคุณให้ความสำคัญกับการทำงาน มากกว่าฟังก์ชั่นอื่นใด ทำงานบนโต๊ะ หรือเน้นการอยู่กับที่ มีสายชาร์จ จะเลือกแบบที่ซีพียูแรง แรมเยอะ ก็ได้ เพราะทำให้งานคุณเสร็จได้ไวขึ้น ตัวอย่างเช่น ซีพียู Intel Core i family รุ่นใหม่หรือเป็น AMD Ryzen ก็น่าสนใจ แต่ในทางกลับกัน คุณใช้แค่พรีวิวภาพ ตรวจเช็คงาน ท่องอินเทอร์เน็ต หรือเทรดหุ้น สเปคพื้นฐาน ไม่ได้เปิดงานเยอะ ซีพียูรุ่นประหยัด แรม 8GB และมี SSD 256GB ก็เพียงพอ อยากเก็บข้อมูลหรือทำงาน ก็ใช้ระบบ Cloud มาเสริม ทำให้ประหยัดค่าใช้จ่าย และประหยัดไฟมากขึ้นอีกด้วย

จอแสดงผล: จอที่เราเลือกมานั้น ส่วนใหญ่จะเป็น Full-HD แต่มีหน้าจอหลายขนาด เริ่มตั้งแต่ 10.5″ ไปจนถึง 14″ โดยความละเอียดเป็นแบบ Full-HD ซึ่งถือว่าเหมาะกับการใช้งานในชีวิตประจำวันได้ดี แต่อาจจะต้องคำนึงถึงการใช้งานจริง เพราะพื้นที่การมองเห็นต่างกัน จอเล็กก็สะดวกต่อการพกพา นำไปใช้งานในโอกาสต่างๆ ได้ง่าย แต่เรื่องพื้นที่ใช้งานอาจมีน้อยกว่า ส่วนจอ 14″ มองเห็นได้ชัด เพราะเป็นขนาดพื้นฐานที่ใช้กันอยู่ทั่วไป แต่ก็ต้องแลกมาด้วยการจับถือที่ยาก อาจจะสะดวกต่อการวางบนโต๊ะเป็นส่วนใหญ่ อีกทั้งมีผลต่อการใช้แบตเตอรี่ที่มากขึ้นอีกด้วย

Expertbook B3 DSC00221

ความถนัดมือ: เป็นสิ่งสำคัญมากๆ หากคุณจะต้องใช้งานอยู่ด้วยทั้งวัน หากคุณจะต้องพกโน๊ตบุ๊คพับจอได้ขนาดใหญ่ เดินเข้าไปในไซต์งาน นอกสถานที่บ่อยๆ อาจไม่สะดวกเท่ากับการถือแค่จอไปเพียงอย่างเดียว เลือกใช้การทัชสกรีนที่คล่องตัวกว่า แต่ถ้างานที่คุณต้องทำ ยังอยู่กับการพิมพ์เป็นหลัก และอยู่กับในสำนักงาน อยู่ในบ้าน ปรับโหมดทำงานได้ง่าย และต้องการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ที่หลากหลายตลอดเวลา การเป็นโน๊ตบุ๊คพับจอได้น่าจะถนัดมือมากที่สุด


1.ASUS Vivobook Go 14 Flip

จอพับ

เป็นโน๊ตบุ๊คจอพับได้ในแบบ 2-in-1 จาก ASUS ใช้สำหรับการเริ่มต้นการเรียนรู้ ในชีวิตประจำ เช่น การเทรดหุ้น ดูหนัง พิมพ์เอกสาร แม้กระทั่งการแต่งภาพแบบเบาๆ ดีไซน์ที่ดูเรียบง่าย น้ำหนักแค่ 1.6Kg จอ 14″ Full-HD คมชัด พับจอได้ 360 องศา เป็นได้ทั้งโน๊ตบุ๊คและแท็ปเล็ต และเป็นจอสัมผัส รองรับ ASUS Pen ให้อารมณ์ในการทำงานได้มากกว่าการแตะพิมพ์ทั่วไป มีคีย์บอร์ดที่มีไฟ Backlit มาให้ และพอร์ตมาแบบจัดเต็ม เช่น USB-C 3.2 ต่อจอใหญ่ผ่าน HDMI ได้อีกด้วย ติดอยู่เล็กน้อย ตรงมี SSD 256GB และน่าจะเพิ่มแบตมาให้ใหญ่อีกหน่อย แต่ถ้าคุณใช้ Cloud storage และใช้งานแบบเปิดๆ ปิดๆ ที่ให้มานี้ ก็ใช้ได้เกินครึ่งวันแล้วครับ เคาะราคาที่ 13,900 บาท

จุดเด่น ข้อสังเกต
พับจอได้หลายโหมด ค่อนข้างหนาเมื่อใชโหมดแท็บเล็ต
คีย์บอร์ดแสงไฟ Backlit

รายละเอียดเพิ่มเติม: ASUS


2.Lenovo DUET 3 10

จอพับ

เป็นอีกหนึ่งโน๊ตบุ๊ค 2-in-1 จอพับได้ ที่มาได้แบบครบเครื่อง บางเบา พกพาสะดวก ใครที่ชอบความกระทัดรัดแนะนำเลย DUET 3 เพราะมาในแบบ Detachable หรือถอดจอแยกกับคีย์บอร์ดได้ และเป็นแบบจอสัมผัส รองรับ Digital Pen หรือปากกาใช้จด วาดได้ง่ายขึ้น บนหน้าจอขนาด 10.3″ เหมาะทั้งใช้เรียน และการออกไซต์งาน ปรับพับให้ใช้งานได้หลากหลาย ความละเอียด Full-HD พร้อมแรม 8GB รวมถึงมี Windows 10 มาในตัว ระบบเสียง DOLBY เพิ่มอรรถรสด้านความบันเทิงได้เต็มอิ่ม มี WiFi/ Bluetooth มาในตัว แต่เรื่องขุมพลัง อาจจะเหมาะกับใช้งานเบื้องต้น รีวิวภาพ เล่นวีดีโอ ซึ่งไม่เหมาะกับงานหนักมาก และพอร์ตที่ให้มาไม่เยอะมากนัก ด้วยข้อจำกัดของบอดี้ ราคาอยู่ที่ 20,490 บาท

จุดเด่น ข้อสังเกต
เบาเบา กระทัดรัด พอร์ตมีให้ไม่เยอะมาก
ถอดจอออกได้

รายละเอียดเพิ่มเติม: Lenovo


3.Lenovo Flex5 14

จอพับ

ใครที่อยากได้โน๊ตบุ๊ค Convertible พับจอได้ ฟิลลิ่งคล้ายๆ กับแท็ปเล็ต แต่ได้สเปคดี กดคีย์บอร์ดสนุก หน้าจอ 14″ Full-HD กว้างๆ Lenovo Flex5 อาจจะเป็นคำตอบ แม้จะไม่กระทัดรัดมาก เมื่อเทียบกับบางรุ่นในครั้งนี้ แต่ให้สเปคระดับ Core i3 Gen12 พร้อมแรม 8GB ความเร็วสูง และ SSD 512GB แบบคุ้มๆ หาตัวเทียบยากในราคาประมาณ 2 หมื่นบาทนี้ จอทัชสกรีน รองรับ Digital Pen ในการจดและวาดภาพ คีย์บอร์ดนุ่มๆ มีแสงไฟ Backlit สว่างชัด เว็บแคมชัดมาก 1080p พอร์ตเป็นตัวเด่น เพราะมี Thunderbolt4 มาด้วย ชาร์จเร็ว ต่อจอได้ โอนถ่ายข้อมูลไว รวมถึงให้แบตมาใช้เกินครึ่งวันข้างนอก เพิ่มความปลอดภัยด้วยสแกนลายนิ้วมือ ข้อสังเกตคือ เมื่อพับเป็นแท็ปเล็ตจะดูค่อนข้างหนา แต่ก็ทดแทนด้วยวัสดุที่ดี และน้ำหนักเบา ราคาประมาณ 22,900 บาท แต่หน้าร้านออนไลน์ ไม่ถึง 2 หมื่น

จุดเด่น ข้อสังเกต
ขอบจอบาง สเปคดี เมื่อพับแล้วค่อนข้างหนา
พอร์ตมีให้เยอะ

รายละเอียดเพิ่มเติม: Lenovo


4.Microsoft Surface GO 3

จอพับ

เป็นโน๊ตบุ๊ค 2-in-1 ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวจากทาง Microsoft จอพับได้ เพราะถ้าในสายของความบางเบา กระทัดรัด ตอบสนองได้ดี Surface Go ก็จัดว่าน่าสนใจ ในราคาประมาณ 2 หมื่นต้นๆ กับการเป็น Detachable ที่ถอดคีย์บอร์ดได้ แต่ก่อนหน้านี้มักจะเห็นว่า มาแค่ตัวจอ ไม่มีคีย์บอร์ด แต่หลายร้านเวลานี้ บันเดิลคีย์บอร์ดให้พร้อมใช้ ดูน่าสนใจขึ้นมาอีกเยอะ กับขุมพลังอย่าง Core i3 ได้แรม 8GB จอไซส์แค่ 10.5″ แต่ได้แบบ Full-HD รองรับทัชสกรีน รวมถึง Surface Pen วาดเขียนได้แบบเนียนๆ ด้วยความที่แยกคีย์บอร์ด ก็ทำให้เหมือนใช้แท็ปเล็ตเลย จับถนัดมือ ไม่เหมือนแบบพับ 360 องศา ซึ่งสิ่งที่ได้มาคือ ความเบาน้อยกว่า 1Kg รวมถึงแบตที่ใช้ได้นานขึ้น มี Windows ในตัวพร้อมใช้กับราคาประมาณ 22,990 บาทเท่านั้น

จุดเด่น ข้อสังเกต
ถอดจอแยกคีย์บอร์ดได้ ราคาค่อนข้างสูง
ให้สัมผัสที่ดีเมื่อใช้กับ Surface Pen

รายละเอียดเพิ่มเติม: Microsoft


5.ASUS Vivobook S 14 Flip

จอพับ

ถ้าจะพูดถึงโน๊ตบุ๊ค Convertible สายบางเบา เชื่อว่า Vivobook เป็นอีกชื่อหนึ่งที่หลายคนใช้งานอยู่ และสำหรับ Flip นี้ จัดเป็นโน๊ตบุ๊ค 2-in-1 ที่มีฟังก์ชั่นแบบจัดเต็มให้ใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นจอ 14″ IPS Full-HD พื้นที่กว้าง รองรับทัชสกรีน และใช้ร่วมกับ ASUS Pen ได้ จะวาดเขียน จดก็ง่าย ความแรงไม่เป็นรองใคร ด้วยขุมพลัง AMD Ryzen 5 5600H ตัวแรง กับแรม 8GB ที่อัพเกรดเพิ่มได้อีกด้วย พอร์ตให้มาแน่นๆ โดยเฉพาะ USB 3.2 Type-C ชาร์จ โอนถ่ายรวดเร็ว ได้กล้อง Full-HD และระบบเสียงจัดจ้าน พับจอได้ 360 องศา คีย์บอร์ดปุ่มใหญ่ กดสะดวก มีไฟ Backlit ในตัว คู่มากับทัชสกรีนที่มีลูกเล่นในตัว ดูจะเป็นตัวจบครบเครื่องได้ ข้อสังเกตคือ เมื่อพับเป็นแท็ปเล็ตอาจไม่แนบดีนัก จากส่วนเว้าส่วนโค้ง รวมถึงพลังจากซีพียูที่แรง อาจจะมีผลต่อระยะการใช้งานแบตได้เช่นกัน เคาะราคาอยู่ที่ราว 25,990 บาท ก็น่าสนใจไม่น้อยเลย

จุดเด่น ข้อสังเกต
จอภาพให้สีสันสดใส บานพับแข็งแรง
ซีพียูประสิทธิภาพสูง

รายละเอียดเพิ่มเติม: ASUS


6.ASUS ExpertBook B3 Flip

จอพับ

ในซีรีส์ของ ExpertBook จาก ASUS นั้น ต้องถือว่าแยกออกมาได้หลายรุ่น และ B3 Flip จะโดดเด่น นอกเหนือจากความเพรียวบาง และทนทาน แต่ให้การพับหน้าจอ 360 องศา และยังเป็นพาแนลแบบ OLED สีสันสดใส เอาใจคนทำงาน และสายบันเทิง รองรับการทัชสกรีน และใช้ร่วมกับ ASUS Pen ในการวาดเขียนหน้าจอ ที่มีให้ในตัว เป็นจอ 14″ ความละเอียด Full-HD แต่ที่โดดเด่นอยู่ที่พอร์ตมี Thunderbolt4 มาให้ และต่อ LAN RJ-45 ได้ในตัว แต่นั่นก็ทำให้บอดี้หนาขึ้นเล็กน้อย จุดแข็งมองว่าบานพับ ASUS ทำออกมาได้แน่นทีเดียว ชาร์จไฟได้ไว มีกล้อง 2 ตัว ทัชแพดยังใส่เป็น NumberPad มาอีกด้วย สเปคอาจจะเบาไปบ้าง ถ้าเทียบกับ Vivobook ในครั้งนี้ เพราะได้เป็น i3 แรม 4GB แต่ในราคาเดียวกันนี้ มีรุ่นที่เป็น AMD Ryzen 5 แรม 8GB ได้แบตใหญ่ขึ้น แต่ไม่มี Thunderbolt 4 ให้เลือกด้วยนะ แล้วแต่ความชื่นชอบของแต่ละบุคคล ราคา 26,900 บาท

จุดเด่น ข้อสังเกต
เน้นผู้ใช้ที่ชอบบางเบา แข็งแรง มีแรมให้ 4GB
มี Thunderbolt 4

รายละเอียดเพิ่มเติม: ASUS


7.HP Pavilion X360 14

จอพับ

มาถึงโน๊ตบุ๊ค Convertible จอพับได้จาก HP รุ่นโปรดของผู้ที่ชอบความพรีเมียมกันบ้าง แม้ว่าราคาจะเกินงบไปสักหน่อย แต่ถ้าดูจากดีไซน์เพรียวบาง สีเมทัลลิคมี Texture ที่เป็นเอกลักษณ์ และพับได้ 360 องศา หน้าจอ 14″ Full-HD ในแบบทัชสกรีน ที่คมชัดมุมมองกว้าง เพราะเป็นแบบ IPS ขอบจอบางสุดๆ รองรับ Digital Pen ให้คุณวาดเขียนได้ตามจินตนาการ ขุมพลัง Intel Gen12 รุ่นใหม่และได้แรม 16GB ความแรงที่ตอบโจทย์ได้ดี ไม่ว่าจะเป็น การดูหนัง แต่งภาพ ทำเอกสาร หรือการเทรดหุ้นไปพร้อมกัน มีระบบสแกนลายนิ้วมือมาให้ และพอร์ตที่มีให้ครบครัน แบตใช้ได้นาน 10 ชั่วโมง มี Windows 11 พร้อมใช้ อยากได้ตัวจบ งบไม่บาน ใช้งานง่าย HP รุ่นนี้ 28,000 บาทเท่านั้น

จุดเด่น ข้อสังเกต
วัสดุสวย สเปคดี
รองรับสแกนลายนิ้วมือ

รายละเอียดเพิ่มเติม: HP


Conclusion

Display Detachable/Flip CPU RAM Storage Graphic Weight Price
1.ASUS Vivobook Go 14 Flip 14″ FHD Flip Intel Pentium N6000 4GB 256GB Intel UHD 1.5Kg 13,900
2.Lenovo DUET 3 10.3″ FHD Detachable Intel Celeron N4020 8GB 128GB Intel UHD 0.6Kg 20,490
3.Lenovo Flex5 14 14″ FHD Flip Intel Core i3-1215U 8GB 512GB Intel Iris Xe 1.5Kg 22,900
4.Microsoft SURFACE GO 3 10.5″ 1280p Detachable Intel Core i3-10100Y 8GB 128GB Intel UHD 0.64Kg 22,990
5.ASUS Vivobook S 14 Flip 14″ FHD Flip AMD Ryzen 5 5600H 4GB 256GB Radeon Graphic 1.5Kg 25,990
6.ASUS ExpertBook B3 Flip 14″ FHD Flip Intel Core i3-1115G4 4GB 256GB Intel UHD 1.61Kg 26,990
7.HP Pavilion X360 14 14″ FHD Flip Intel Core i5-1235U 16GB 512GB Intel Iris Xe 1.51Kg 28,000

สุดท้ายนี้จะเห็นได้ว่าโน๊ตบุ๊คกลุ่มนี้มีให้เลือก 2 แบบคือ กลุ่มที่เป็นแบบแยกจอกับคีย์บอร์ด (Detachable) และพับจอได้ (Flip) ทั้งสองแบบมีความโดดเด่นต่างกันออกไป ซึ่งจุดหนึ่งที่เห็นได้ชัดคือ บอดี้และน้ำหนัก ถ้าเน้นคล่องตัวแบบที่ถอดจอออกได้สะดวกกว่า เบากว่า แต่แบบ Flip จะค่อนข้างหนาและหนักขึ้น เมื่อถือนานๆ อาจจะเมื่อยได้ รวมถึงอาจมีผลต่อการใช้พลังงาน และการจับถือ แต่ลูกเล่นของ Flip ก็มีพลัง ปรับได้หลากหลาย ใช้งานได้หลายประเภท โดยเฉพาะเมื่อตั้งอยู่บนโต๊ะ คุณให้ความสำคัญส่วนไหนมากสุด ก็เลือกตามสไตล์ที่ใช้งาน ส่วนเรื่องสเปคแรม 4GB อาจจะพอใช้ แต่ถ้าใช้งานหนักมาก เลือกที่ 8GB ขึ้นไป บางรุ่นอาจจะเพิ่มเติมในภายหลังไม่ได้ ต้องประเมินการทำงานเผื่อเอาไว้ด้วย และสุดท้ายราคาที่เหมาะสม ในแต่ละรุ่นสเปคต่างกัน แต่ก็เหมือนจะเป็นตัวกำหนดราคาไปด้วย เน้นความแรง ลูกเล่นดี ฟีเจอร์และพอร์ตเยอะ ราคาก็สูงขึ้นตามลำดับ ถ้างานที่ใช้อยู่ เน้นแค่การพรีวิวหรือท่องเน็ต ไม่ต้องแรงมาก ราคาสบายกระเป๋า ก็ตอบโจทย์ได้แล้วครับ

from:https://notebookspec.com/web/686619-convertible-20-in-1-notebook-2023

7 โน๊ตบุ๊ค Microsoft Surface พร้อมของแถมจาก BaNANA อยากเปลี่ยนคอมใหม่ต้องดูทางนี้!!

โน๊ตบุ๊ค Microsoft Surface วันนี้ BaNANA มีของแถมแจ่มๆ ให้นะ!

7 โน๊ตบุ๊ค Microsoft Surface 1

 

Advertisementavw

โน๊ตบุ๊ค Microsoft Surface จากบริษัทผู้ผลิตระบบปฏิบัติการ Windows ที่ครองส่วนแบ่งตลาดระบบปฏิบัติการทั่วโลกกว่า 75.44% ในปี 2022 จากการสำรวจตลาดของเว็บไซต์ Statcounter ซึ่งรูปลักษณ์ของคอมพิวเตอร์ตระกูลนี้ถูกออกแบบเป็นแท็บเล็ตและโน๊ตบุ๊คให้เลือกซื้อไปใช้กัน ถ้าใครอยากได้รุ่นพกพาสะดวกดีไซน์เครื่องเป็นแท็บเล็ตก็มีรุ่นเริ่มพกพาสะดวกอย่าง Surface Go ให้ผู้ใช้หยิบใส่กระเป๋าไปไหนมาไหนก็ได้ ถัดมาเป็น Surface Pro ซึ่งมีขนาดและแบตเตอรี่ใหญ่ขึ้น ใช้ทำงานได้สบายๆ และรุ่นที่เป็นแท็บเล็ตสามารถกางขาตั้งตัวเครื่องเพื่อปรับมุมองศาการมองเห็นได้ด้วย ถ้าใครรูปลักษณ์โน๊ตบุ๊คตามปกติก็มี Surface Laptop ให้เลือกและใช้วัสดุประกอบตัวเครื่องเป็นแมซ็กนีเซียมอัลลอยด์กับผ้า Alcantara เสริมความหรูหรายิ่งขึ้น ปิดท้ายด้วยสเปคสูงสุดเพื่อครีเอเตอร์อย่าง Surface Laptop Studio ก็มีให้เลือกเช่นกัน

จุดเด่นร่วมของโน๊ตบุ๊ค Microsoft Surface นั้น หลักๆ ได้แก่ ระบบยืนยันตัวตนแบบไบโอเมทริค ทั้งแบบสแกนนิ้วหรือใบหน้าด้วยกล้องอินฟาเรดเพื่อยืนยันตัวตนปลดล็อคเครื่อง, หน้าจอทัชสกรีนอัตราส่วน 3:2 ขนาดตั้งแต่ 10.5~15 นิ้ว ซึ่งเป็นอัตราส่วนสำหรับการทำงานโดยเฉพาะและตัวเครื่องน้ำหนักเบา เริ่มต้นตั้งแต่ช่วง 500 กรัมจนถึง 1.25 กก. จึงพกไปไหนมาไหนได้สะดวกขึ้น และผู้เขียนเชื่อว่าถ้าใครได้ลองใช้โน๊ตบุ๊ค Microsoft Surface ดูสักครั้ง เชื่อว่าจะถูกใจอย่างแน่นอน

โน๊ตบุ๊ค Microsoft Surface

สรุปสเปคโน๊ตบุ๊ค Microsoft Surface 7 รุ่นน่าใช้ ซื้อเอาไว้ทำงานดีถูกใจแน่นอน

สรุปสเปคโน๊ตบุ๊ค Microsoft Surface CPU

GPU

SSD

RAM

Software

Display

Weight

Camera

Connectivity ราคา
(บาท)
Microsoft Surface Go 3 Intel Core
i3-10100Y

Intel UHD Graphics

M.2 NVMe
128GB

8GB LPDDR3
1866MHz

Windows 11 Home

PixelSense
10.5″ FHD IPS

544 กรัม

กล้องหน้า
5 ล้านพิกเซล

กล้องหลัง
8 ล้านพิกเซล

USB-C x 1

microSDXC Card Reader x 1

Surface Connect x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6

Bluetooth 5.0

24,390
Microsoft Surface Pro 7+ Intel Core
i3-11135G4

Intel Iris Xe Graphics

M.2 NVMe
128GB

8GB LPDDR4x
3733MHz

Windows 11 Home

PixelSense
12.3″ 
(2736×1824)
IPS

770 กรัม

กล้องหน้า
5 ล้านพิกเซล

กล้องหลัง
8 ล้านพิกเซล

USB-C x 1

USB-A x 1

Surface Connect x 1

microSDXC Card Reader x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6

Bluetooth 5.0

29,900
Microsoft Sufrace Pro 8 Intel Core
i5-1135G7

Intel Iris Xe Graphics

M.2 NVMe
128GB

8GB LPDDR4x
3200MHz

Windows 11 Home

PixelSense
13″ 
(2880×1920)
IPS

Refresh Rate 120Hz

Dolby Vision

891 กรัม

กล้องหน้า
5 ล้านพิกเซล

กล้องหลัง
10 ล้านพิกเซล

Thunderbolt 4 x 2

Surface Connect x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6

Bluetooth 5.1

36,900
Microsoft Surface Pro 9 Intel Core
i5-1235U

Intel Iris Xe Graphics

M.2 NVMe
256GB

8GB LPDDR5
5200MHz

Windows 11 Home

PixelSense
13″ 
(2880×1920)
IPS

Dolby Vision IQ

879 กรัม

กล้องหน้า
1080p

กล้องหลัง
10 ล้านพิกเซล

Thunderbolt 4 x 2

microSDXC Card Reader x 1

Surface Connect x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6

Bluetooth 5.1

42,900
Microsoft Surface Laptop Go 2 Intel Core
i5-1135G7

Intel Iris Xe Graphics

M.2 NVMe
256GB

8GB LPDDR4x
4267MHz

Windows 11 Home

PixelSense
12.4″ 
(1536×1024)
IPS

1.1 กิโลกรัม

USB-C x 1

USB-A x 1

Surface Connect x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6

Bluetooth 5.1

29,900
Microsoft Surface Laptop 5 Intel Core
i5-1235U

Intel Iris Xe Graphics

M.2 NVMe
256GB

8GB LPDDR5
5200MHz

Windows 11 Home

PixelSense
13.5″ 
(2256×1504)
IPS

1.2 กิโลกรัม

Thunderbolt 4 x 1

USB-A 3.1 x 1

Surface Connect x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6

Bluetooth 5.1

40,900
Microsoft Surface Laptop Studio Intel Core
i5-11300H

Intel Iris Xe Graphics

M.2 NVMe
512GB

16GB LPDDR4x
3200MHz

Windows 11 Home

PixelSense
14.4″ 
(2400×1600)
IPS

Refresh Rate 120Hz

Dolby Vision

1.7 กิโลกรัม

Thunderbolt 4 x 2

Surface Connect x 1

Audio combo x 1

Wi-Fi 6

Bluetooth 5.1

59,790

7 โน๊ตบุ๊ค Microsoft Surface รวมรุ่นเด็ดน่าซื้อมาแนะนำพร้อมโปรฯ ดีๆ จาก BaNANA

Cover Microsoft Surface love deal 060223 130223 category banner medium 1

หากผู้ใช้คนไหนอยากเปลี่ยนคอมเครื่องเก่าเป็นโน๊ตบุ๊ค Microsoft Surface ล่ะก็ ทาง BaNANA ได้จัดแคมเปญ Surface Love Deal เมื่อซื้อ Microsoft Surface จะได้ของแถมตามรุ่นที่ร่วมรายการ ได้แก่ Microsoft TypeCover, กระเป๋าโน๊ตบุ๊ครวมถึง Microsoft 365 ไปใช้งานอีกด้วย โดยโน๊ตบุ๊ค Microsoft Surface ที่ผู้เขีนแนะนำจะมี 7 รุ่น ดังนี้

  1. Microsoft Surface Go 3 (24,390 บาท)
  2. Microsoft Surface Pro 7+ (29,900 บาท)
  3. Microsoft Sufrace Pro 8 (36,900 บาท)
  4. Microsoft Surface Pro 9 (42,900 บาท)
  5. Microsoft Surface Laptop Go 2 (29,900 บาท)
  6. Microsoft Surface Laptop 5 (40,900 บาท)
  7. Microsoft Surface Laptop Studio (59,790 บาท)
1. Microsoft Surface Go 3 (24,390 บาท)

1 2

โน๊ตบุ๊ค Microsoft Surface รุ่นแรกนี้ ขอแนะนำเป็น Microsoft Surface Go 3 ราคาประหยัดแต่สเปคดี ใช้ทำงานหรือเรียนออนไลน์ได้สบายๆ เมื่อซื้อในแคมเปญนี้จะได้รับ TypeCover และปากกา Surface Pen ไว้ใช้ทำงานด้วย ส่วนฟีเจอร์เด่น ได้แก่ ฟีเจอร์สแกนใบหน้าปลดล็อคเครื่องด้วยกล้อง IR Camera รองรับการชาร์จเร็วและใช้งานได้นาน 11 ชั่วโมง ปิดด้วยกระจก Gorilla Glass 3 เพื่อความแข็งแรงทนทานยิ่งขึ้น

ซีพียูในเครื่องติดตั้ง Intel Core i3-10100Y แบบ 2 คอร์ 4 เธรด ความเร็ว 1.3~3.9GHz ใช้การ์ดจอออนบอร์ด Intel UHD Graphics สำหรับทำงานและแสดงผลขึ้นจอทัชสกรีน PixelSense ขนาด 10.5 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ได้เป็นอย่างดี มี M.2 NVMe SSD ความจุ 128GB ติดตั้ง Windows 11 Home กับแรมอีก 8GB LPPDDR3 บัส 1866MHz มาให้ มีพอร์ต USB-C x 1, microSDXC Card Reader x 1, Surface Connect สำหรับต่ออแดปเตอร์เฉพาะของเครื่อง x 1, Audio combo x 1 เชื่อมต่อไร้สายด้วย Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.0 น้ำหนักเพียง 544 กรัมเท่านั้น มีกล้องหน้าความละเอียด 5 ล้าน และกล้องหลัง 8 ล้านพิกเซลติดตั้งมาให้ใช้ด้วย หากใครอยากลองเริ่มใช้โน๊ตบุ๊ค Microsoft Surface ราคาไม่แพงสักเครื่องก็เริ่มกับ Surface Go 3 ก่อนได้เลย

สเปคของ Microsoft Surface Go 3
CPU Intel Core i3-10100Y แบบ 2 คอร์ 4 เธรด ความเร็ว 1.3~3.9GHz
GPU Intel UHD Graphics
SSD M.2 NVMe SSD 128GB
RAM 8GB LPDDR3 บัส 1866MHz
Display จอทัชสกรีน PixelSense ขนาด 10.5 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS มีกล้อง IR Camera สแกนหน้าปลดล็อคเครื่อง
Connectivity USB-C x 1, microSDXC Card Reader x 1, Surface Connect x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.0

กล้องหน้าความละเอียด 5 ล้าน และกล้องหลัง 8 ล้านพิกเซล

Software Windows 11 Home
Weight 544 กรัม
Price 24,390 บาท แถม TypeCover และปากกา Surface Pen (คลิ๊กสั่งซื้อได้ที่นี่)
2. Microsoft Surface Pro 7+ (29,900 บาท)

2 2

ถัดมาเป็นโน๊ตบุ๊ค Microsoft Surface Pro 7+ ซึ่งร่วมแคมเปญแถม TypeCover และปากกา Surface Pen อีกด้ามเอาไว้ใช้งานด้วย โดย Surface Pro 7+ เป็นรุ่นอัพเกรดมาใช้ Intel 11th Gen แล้ว และใช้งานต่อเนื่องได้นานสุด 15 ชั่วโมง หน้าจอใหญ่พร้อมกล้อง IR Camera สแกนหน้าปลดล็อคเครื่องได้แถมน้ำหนักยังเบาพกพาง่ายอีกด้วย

สเปครุ่นที่เลือกมาแนะนำใช้ซีพียู Intel Core i3-11135G4 แบบ 2 คอร์ 4 เธรด ความเร็ว 3.0~4.1GHz ใช้การ์ดจอออนบอร์ด Intel Iris Xe Graphics ได้หน้าจอทัชสกรีน PixelSense ขนาด 12.3 นิ้ว ความละเอียด 2736×1824 พิกเซล พาเนล IPS ติดตั้ง M.2 NVMe SSD ความจุ 128GB กับ Windows 11 Home และแรมออนบอร์ด 8GB LPDDR4x บัส 3733MHz มีพอร์ต USB-C x 1, USB-A x 1, Surface Connect x 1, microSDXC Card Reader x 1, Audio combo x 1 เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตด้ว Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.0 มีกล้องหน้า 5 ล้าน และกล้องหลังความละเอียด 8 ล้านพิกเซลติดตั้งมาให้ น้ำหนัก 770 กรัมเท่านั้น ถ้าใครต้องการโน๊ตบุ๊ค Microsoft Surface สเปคดีน้ำหนักไม่มาก พกพาสะดวกน่าใช้ก็ขยับงบประมาณสักนิดมาซื้อรุ่นนี้ได้เลย

สเปคของ Microsoft Surface Pro 7+
CPU Intel Core i3-11135G4 แบบ 2 คอร์ 4 เธรด ความเร็ว 3.0~4.1GHz
GPU Intel Iris Xe Graphics
SSD M.2 NVMe SSD 128GB
RAM 8GB LPDDR4x บัส 3733MHz
Display จอทัชสกรีน PixelSense ขนาด 12.3 นิ้ว ความละเอียด 2736×1824 พิกเซล พาเนล IPS
Connectivity USB-C x 1, USB-A x 1, Surface Connect x 1, microSDXC Card Reader x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.0

กล้องหน้า 5 ล้าน และกล้องหลังความละเอียด 8 ล้านพิกเซล

Software Windows 11 Home
Weight 770 กรัม
Price 29,990 บาท แถม TypeCover และปากกา Surface Pen (คลิ๊กสั่งซื้อได้ที่นี่)
3. Microsoft Sufrace Pro 8 (36,900 บาท)

3 2

โน๊ตบุ๊ค Microsoft Sufrace Pro 8 นี้ต้องถือเป็นรุ่นอัพเกรดจาก Surface Pro 7+ ในข้อก่อนหน้าโดยคงข้อดีของรุ่นก่อนเอาไว้แล้วเสริมฟีเจอร์เด่นเข้ามาอีกหลายอย่าง ได้แก่ ได้รับการรับรอง Intel Evo แล้วและทางบริษัทก็การันตีว่าแบตเตอรี่ของมันทนทานใช้งานได้ทั้งวัน มีพอร์ต Thunderbolt 4 ติดตั้งมาให้และทาง BaNANA เองก็มีแคมเปญแถม TypeCover พร้อมปากกา Surface Pen รุ่นล่าสุดนี้เช่นกัน

ด้านสเปคของรุ่นนี้เป็น Intel Core i5-1135G7 แบบ 4 คอร์ 8 เธรด ความเร็ว 2.4~4.2GHz ใช้การ์ดจอออนบอร์ด Intel Iris Xe Graphics กับหน้าจอทัชสกรีน PixelSense ขนาด 13 นิ้ว ความละเอียด 2.8K (2880×1920) พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 120Hz แสดงผลแบบ Dolby Vision มี M.2 NVMe SSD ความจุ 128GB ติดตั้ง Windows 11 Home แรมออนบอร์ด 8GB LPDDR4x บัส 3200MHz มีพอร์ต Thunderbolt 4 x 2, Surface Connect x 1, Audio combo x 1 เชื่อมต่อ Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.1 มีกล้องหน้า 5 ล้าน และกล้องหลัง 10 ล้านพิกเซลติดตั้งมาให้ใช้งาน น้ำหนักเครื่อง 891 กรัม ถือเป็นโน๊ตบุ๊ค Microsoft Surface รุ่นอัพเกรดที่สเปคคุ้มราคาเครื่องหนึ่ง ถ้าจะซื้อไว้ใช้เป็นโน๊ตบุ๊คเครื่องหลักล่ะก็ถือว่าคุ้มค่ามาก

สเปคของ Microsoft Sufrace Pro 8
CPU Intel Core i5-1135G7 แบบ 4 คอร์ 8 เธรด ความเร็ว 2.4~4.2GHz
GPU Intel Iris Xe Graphics
SSD M.2 NVMe SSD 128GB
RAM 8GB LPDDR4x บัส 3200MHz
Display จอทัชสกรีน PixelSense ขนาด 13 นิ้ว ความละเอียด 2.8K (2880×1920) พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 120Hz แสดงผลแบบ Dolby Vision
Connectivity Thunderbolt 4 x 2, Surface Connect x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.1

กล้องหน้า 5 ล้าน และกล้องหลัง 10 ล้านพิกเซล

Software Windows 11 Home
Weight 891 กรัม
Price 36,900 บาท แถม TypeCover พร้อมปากกา Surface Pen (คลิ๊กสั่งซื้อได้ที่นี่)
4. Microsoft Surface Pro 9 (42,900 บาท)

4 2

ส่วนโน๊ตบุ๊ค Microsoft Surface Pro 9 รุ่นล่าสุดจากทาง Microsoft โดยรุ่นล่าสุดนี้ยกข้อดีของ Surface 8 มาแล้วปรับเปลี่ยนซีพียูเป็น Intel 12th Gen รุ่นใหม่และปรับปรุง Surface Pen ให้ทำงานดีกว่าเดิมจนเหมือนเขียนบนหน้ากระดาษจริงๆ และได้รับการรับรอง Intel Evo เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนแคมเปญจากทาง BaNANA เมื่อซื้อ Surface Pro 9 ถือว่าคุ้มค่ามาก เพราะจะได้ทั้ง TypeCover, เคสใส่ Surface 9, Microsoft 365 Professional ไปใช้อีกด้วย

ซีพียูในเครื่องเป็น Intel Core i5-1235U แบบ 10 คอร์ 12 เธรด (2P+8E) ความเร็ว 3.3~4.4GHz จับคู่การ์ดจอออนบอร์ด Intel Iris Xe Graphics ใช้หน้าจอทัชสกรีน PixelSense ขนาด 13 นิ้ว ความละเอียด 2.8K (2880×1920) พาเนล IPS รองรับ Dolby Vision IQ มี M.2 NVMe SSD ความจุ 256GB ติดตั้ง Windows 11 Home แรม 8GB LPDDR5 บัส 5200MHz มีพอร์ต Thunderbolt 4 x 2, microSDXC Card Reader x 1, Surface Connect x 1, Audio combo x 1 เชื่อมต่อไร้สายด้วย Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.1 ติดตั้งกล้องหน้า 1080p ใช้สแกนหน้าปลดล็อคเครื่องได้และกล้องหลัง 10 ล้านพิกเซลมาด้วย น้ำหนักเครื่อง 879 กรัม จัดเป็นโน๊ตบุ๊ค Microsoft Surface ทรงแท็บเล็ตที่น่าใช้และราคาค่อนข้างสมเหตุผลคุ้มลงทุนอย่างแน่นอน

สเปคของ Microsoft Surface Pro 9
CPU Intel Core i5-1235U แบบ 10 คอร์ 12 เธรด (2P+8E) ความเร็ว 3.3~4.4GHz
GPU Intel Iris Xe Graphics
SSD M.2 NVMe SSD 256GB
RAM 8GB LPDDR5 บัส 5200MHz
Display จอทัชสกรีน PixelSense ขนาด 13 นิ้ว ความละเอียด 2.8K (2880×1920) พาเนล IPS รองรับ Dolby Vision IQ
Connectivity Thunderbolt 4 x 2, microSDXC Card Reader x 1, Surface Connect x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.1

กล้องหน้า 1080p ใช้สแกนหน้าปลดล็อคเครื่องได้และกล้องหลัง 10 ล้านพิกเซล

Software Windows 11 Home
Weight 879 กรัม
Price 42,900 บาท แถม TypeCover, เคสใส่ Surface 9, Microsoft 365 Professional
(คลิ๊กสั่งซื้อได้ที่นี่)
5. Microsoft Surface Laptop Go 2 (29,900 บาท)

5 2

ถ้าใครต้องการโน๊ตบุ๊ค Microsoft Surface ดีไซน์ฝาพับราคาไม่แพงมาก Microsoft Surface Laptop Go 2 เป็นโน๊ตบุ๊ครุ่นเริ่มต้นราคาดี ตอบโจทย์คนที่อยากเริ่มใช้สินค้าของทาง Microsoft อย่างแน่นอน ด้านจุดเด่นนอกจากน้ำหนักเบาเพียง 1.1 กิโลกรัม แบตเตอรี่ใช้งานได้นานสุด 13.5 ชั่วโมง ยังติดตั้งเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือมาที่ปุ่ม Power ด้วย ถือว่าครบเครื่องน่าใช้มาก

ซีพียูใน Surface Go 2 เป็น Intel Core i5-1135G7 แบบ 4 คอร์ 8 เธรด ความเร็ว 2.4~4.2GHz ใช้การ์ดจอออนบอร์ด Intel Iris Xe Graphics กับจอทัชสกรีน PixelSense 12.4 นิ้ว ความละเอียด 1536×1024 พิกเซล พาเนล IPS มี M.2 NVMe SSD ความจุ 256GB ติดตั้ง Windows 11 Home มาให้ มีแรมออนบอร์ด 8GB LPDDR4x บัส 4267MHz มีพอร์ต USB-C x 1, USB-A x 1, Surface Connect x 1, Audio combo x 1 เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตด้วย Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.1 หากใครหาโน๊ตบุ๊ค Microsoft Surface ดีๆ ราคาไม่แพงมาลองเริ่มใช้งานดูสักครั้งว่าเป็นอย่างไร ก็เริ่มที่รุ่นนี้ได้เลย

สเปคของ Microsoft Surface Laptop Go 2
CPU Intel Core i5-1135G7 แบบ 4 คอร์ 8 เธรด ความเร็ว 2.4~4.2GHz
GPU Intel Iris Xe Graphics
SSD M.2 NVMe SSD 256GB
RAM 8GB LPDDR4x บัส 4267MHz
Display จอทัชสกรีน PixelSense 12.4 นิ้ว ความละเอียด 1536×1024 พิกเซล พาเนล IPS
Connectivity USB-C x 1, USB-A x 1, Surface Connect x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.1

Software Windows 11 Home
Weight 1.1 กิโลกรัม
Price 29,900 บาท (คลิ๊กสั่งซื้อได้ที่นี่)
6. Microsoft Surface Laptop 5 (40,900 บาท)

6 1

Microsoft Surface Laptop 5 เป็นโน๊ตบุ๊ค Microsoft Surface รุ่นล่าสุดจากทางบริษัทที่ผ่านมาตรฐาน Intel Evo การันตีว่าโน๊ตบุ๊คเครื่องนี้แบตเตอรี่ทนทานใช้งานได้หลายชั่วโมง มีหน้าจอ 13 และ 15 นิ้ว ให้เลือกและรองรับ Dolby Vision IQ ในตัว ลำโพงรองรับ Dolby Atmos มีพอร์ต Thunderbolt 4 ติดตั้งมาให้ใช้งาน ส่วนแบตเตอรี่ทางบริษัทเคลมว่าใช้งานต่อเนื่องได้นานสุด 17 ชั่วโมง และมีกล้องอินฟาเรด IR Camera ติดตั้งมาให้สแกนหน้าปลดล็อคเครื่องได้ด้วย

ซีพียูในเครื่องเป็น Intel Core i5-1235U แบบ 10 คอร์ 12 เธรด (2P+8E) ความเร็ว 3.3~4.4GHz ใช้การ์ดจอออนบอร์ด Intel Iris Xe Graphics กับหน้าจอทัชสกรีน PixelSense ขนาด 13.5 นิ้ว ความละเอียด 2.2K (2256×1504) พาเนล IPS ขอบเขตสีกว้าง มี M.2 NVMe SSD ความจุ 256GB ติดตั้ง Windows 11 Home มาให้ แรมออนบอร์ดความจุ 8GB LPDDR5 บัส 5200MHz มีพอร์ต Thunderbolt 4 x 1, USB-A 3.1 x 1, Surface Connect x 1, Audio combo x 1 เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตด้วย Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.1 น้ำหนักตัวเครื่อง 1.2 กิโลกรัม ส่วนแคมเปญจากทาง BaNANA เมื่อซื้อ Surface Laptop 5 จะได้รับ Microsoft Office Home & Student ฟรีด้วย ถือว่าคุ้มค่าครบเครื่องไม่ต้องจ่ายเงินเพิ่มเปิดเครื่องมาทำงานได้ทันที 

สเปคของ Microsoft Surface Laptop 5
CPU Intel Core i5-1235U แบบ 10 คอร์ 12 เธรด (2P+8E) ความเร็ว 3.3~4.4GHz
GPU Intel Iris Xe Graphics
SSD M.2 NVMe SSD 256GB
RAM 8GB LPDDR5 บัส 5200MHz
Display จอทัชสกรีน PixelSense ขนาด 13.5 นิ้ว ความละเอียด 2.2K (2256×1504) พาเนล IPS
Connectivity Thunderbolt 4 x 1, USB-A 3.1 x 1, Surface Connect x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.1

Software Windows 11 Home
Weight 1.2 กิโลกรัม
Price 40,900 บาท แถม Microsoft Office Home & Student ฟรี (คลิ๊กสั่งซื้อได้ที่นี่)
7. Microsoft Surface Laptop Studio (59,790 บาท)

7

สุดท้ายโน๊ตบุ๊ค Microsoft Surface เพื่อครีเอเตอร์โดยเฉพาะอย่าง Microsoft Surface Laptop Studio ปัจจุบันนี้ก็มีให้เลือกซื้อจากทาง BaNANA ได้แล้ว โดยจุดเด่นของซีรี่ส์ Studio คือ ชุดบานพับหน้าจอ Dynamic Woven Hinge ออกแบบให้พับยื่นจอมาข้างหน้าเพื่อเน้นนำเสนองานได้หรือพับเป็นแท็บเล็ตแล้วใช้ Surface Slim Pen 2 เขียนวาดจดไอเดียต่างๆ ได้ตามต้องการ ถูกใจสายวาดหรือจดโน้ตเนื้อหาต่างๆ ลงในเอกสารเป็นอย่างมาก และยังมีรุ่นย่อยที่ติดตั้งการ์ดจอแยก NVIDIA เอาไว้ทำงานกราฟิคด้วย

สเปครุ่นที่เลือกมาแนะนำ เป็น Intel Core i5-11300H แบบ 4 คอร์ 8 เธรด ความเร็ว 3.1~4.4GHz ใช้การ์ดจอออนบอร์ด Intel Iris Xe Graphics หน้าจอทัชสกรีน PixelSense Flow ขนาด 14.4 นิ้ว ความละเอียด 2400×1600 พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 120Hz รองรับ Dolby Vision แสดงผลได้ดียิ่งขึ้น มี M.2 NVMe SSD ความจุ 512GB ติดตั้ง Windows 11 Home กับแรมออนบอร์ด 16GB LPDDR4x บัส 3200MHz มีพอร์ต Thunderbolt 4 x 2, Surface Connect x 1, Audio combo x 1 เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตด้วย Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.1 ด้วย น้ำหนักเครื่อง 1.7 กิโลกรัม หากใครต้องการโน๊ตบุ๊ค Microsoft Surface รุ่นทรงพลัง ทำงานหนักสบายๆ สักเครื่องเอาไว้ใช้ก็เพิ่มเงินมาซื้อรุ่นนี้ได้เลย เชื่อว่าคุ้มค่าถูกใจสายทำงานทุกคนอย่างแน่นอน

สเปคของ Microsoft Surface Laptop Studio
CPU Intel Core i5-11300H แบบ 4 คอร์ 8 เธรด ความเร็ว 3.1~4.4GHz
GPU Intel Iris Xe Graphics
SSD M.2 NVMe SSD 512GB
RAM 16GB LPDDR4x บัส 3200MHz
Display จอทัชสกรีน PixelSense Flow ขนาด 14.4 นิ้ว ความละเอียด 2400×1600 พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 120Hz รองรับ Dolby Vision
Connectivity Thunderbolt 4 x 2, Surface Connect x 1, Audio combo x 1

Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.1

Software Windows 11 Home
Weight 1.7 กิโลกรัม
Price 59,790 บาท (คลิ๊กสั่งซื้อได้ที่นี่)

bram van oost 6WvZo5FOxww unsplash

Alan Kay นักวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ชาวอเมริกันเคยกล่าวไว้ว่า “People who are really serious about software should make their own hardware.” (ใครที่ใส่ใจซอฟท์แวร์ของตน ควรสร้างฮาร์ดแวร์ของตนขึ้นมาด้วย) ซึ่งทาง Microsoft ก็สร้างโน๊ตบุ๊ค Microsoft Surface มาเพื่อผู้ใช้ได้รับประสบการณ์ใช้งานโน๊ตบุ๊ค Windows ที่ดีสุดเท่าที่ทางบริษัทต้องการให้เป็น และแม้ราคาจะสูงอยู่บ้างก็ตามแต่คุ้มค่าจะลงทุนซื้อมาลองใช้งานสักครั้ง และถ้าถูกใจเชื่อว่าโน๊ตบุ๊ค Microsoft Surface จะกลายเป็นโน๊ตบุ๊ครุ่นโปรดในใจอย่างแน่นอน


บทความที่เกี่ยวข้อง

7 mechanical keyboard full size 1

Acer Aspire 3 1

7เมาท์ไร้สายเทพๆ

from:https://notebookspec.com/web/686818-7-recommend-microsoft-surface