คลังเก็บป้ายกำกับ: GAMING-PC

เช็คสเปคคอมฟรี 2023 อัพเกรดคอม เช็คสเปค อัพเกรด และตรวจสอบง่าย ไม่กี่คลิ๊ก Windows 11

เช็คสเปคคอมฟรี อัพเกรด แก้ปัญหาปี 2023 รู้จักฮาร์ดแวร์ก่อนซ่อม มือใหม่ เทิร์นโปร ก็ทำได้บน Windows

เช็คสเปคคอม

เช็คสเปคคอม จัดเป็นด่านแรกก่อนแกะคอมอัพเกรด ซ่อมหรือเปลี่ยนฮาร์ดแวร์ด้วยตัวเอง เพราะคุณจะได้รู้จักข้อมูลและการเช็ครายละเอียดต่างๆ ได้ดีขึ้น ซึ่งการเช็คสเปคนั้น มีประโยชน์มากมาย ไม่ว่าจะเป็น การเรียนรู้และทราบถึงอุปกรณ์ที่มีในเครื่อง หรือเป็นตัวช่วยในการอัพเกรด ยิ่งกรณีที่คุณไม่ได้ซื้อเครื่องมาเอง ได้มาจากคนอื่นบ้าง หรือคิดว่าจะเปลี่ยนฮาร์ดแวร์ใหม่ การเช็คให้มั่นใจ ก็จะทำให้คุณไม่พลาดในการเลือกซื้อ และที่สำคัญยังทราบถึงปัญหา เมื่อเกิดอาการผิดปกติกับคอมที่ใช้อยู่ และแก้ไขได้ถูกจุด เช่นเดียวกับคนที่ต้องการปรับปรุงประสิทธิภาพของระบบ ก็ช่วยให้ทราบถึงรุ่น เวอร์ชั่นของฮาร์ดแวร์ เพื่อเลือกอัพเดตไดรเวอร์ได้อย่างเหมาะสม ไม่ว่าจะเป็น ไดรเวอร์เมนบอร์ด คอนโทรลเลอร์ต่างๆ รวมถึงการ์ดจอและอื่นๆ ดังนั้นเรามาลองดูกันว่าจะเช็คสเปคคอมอย่างไรได้บ้าง


เช็คสเปคคอม


เช็คสเปคคอมไปเพื่ออะไร?

การเช็คสเปคคอม ถือว่ามีประโยชน์ในการใช้งานคอมพิวเตอร์ โน๊ตบุ๊คทั้งมือโปร และมือใหม่ สามารถใช้ข้อมูลต่างๆ จากการเช็ค มาเพื่อการเลือกซื้อ อัพเกรดและการเช็คความผิดปกติ เรียกว่าครอบคลุมในทุกเรื่องก็ว่าได้ แต่จะมีประโยชน์อย่างไรบ้าง?

Advertisementavw
Deepcool cg540 cg560 case 50

1.เช็คเพื่อติดตั้งไดรเวอร์

แม้ว่าในปัจจุบันการอัพเดตไดรเวอร์ จะเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้นแล้ว เพราะบางครั้งก็ใช้ซอฟต์แวร์เมนบอร์ด ช่วยอัพเดตอัตโนมัติ แต่หลายครั้งเราก็ต้องเป็นผู้เลือกดาวน์โหลดไดรเวอร์ด้วยตัวเอง ดังนั้นการรู้จักฮาร์ดแวร์ของตนเอง ว่าเป็นรุ่นใด เวอร์ชั่นไหน การเช็คสเปคคอมของตัวเองได้ในเบื้องต้น ก็ทำให้เราสามารถอัพเดตไดรเวอร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

2.เช็คเพื่อการเลือกซื้ออัพเกรด

หลายคนได้อุปกรณ์หรือคอมมาจากคนอื่น หรือบางทีก็ซื้อคอมมานาน จนจำไม่ได้ว่าซื้อรุ่นใดมา หรือเริ่มมาชำนาญในภายหลัง จะอัพเกรดคอมเอง การเช็คสเปคคอมได้ ก็ช่วยให้คุณทราบว่า จะซื้อซีพียูรุ่นใด ซ็อกเก็ตไหนมาใช้ แรมเป็นแบบใด และติดตั้งไปเท่าไรแล้ว รวมถึงการเช็คว่าจะเลือกการ์ดจอใหม่ ให้แรงขึ้นจากรุ่นเดิมอย่างไรนั่นเอง

3.เช็คเพื่อดูความผิดปกติ

การเช็คสเปคคอม ก็ช่วยให้เราเช็คความผิดปกติของคอมได้ อย่างเช่น อยู่ๆ เครื่องช้าลง เดิมเราติดตั้งแรม 16GB เป็น 8GB x2 สล็อต แต่อยู่ๆ ระบบเช็คว่าแรมเหลือแค่ 8GB แสดงว่าอาจเกิดปัญหาจากแรมแถวใดแถวหนึ่งได้ เป็นต้น รวมถึงฮาร์ดแวร์อื่นๆ อีกด้วย


เช็คได้ตั้งแต่ยังไม่เข้า Windows

เช็คสเปคคอม

BIOS เป็นสิ่งแรกที่คุณจะเห็นสเปคคอมได้ง่ายๆ เพราะในนี้ ก็แทบจะเหมือนเช็คฮาร์ดแวร์เบื้องต้นของระบบ โดยจะบอกทุกสิ่งสำคัญ เท่าที่คุณจะทราบได้ ในปัจจุบันใช้งานง่ายขึ้น ในรูปแบบของ UEFI ที่คุณสามารถใช้เมาส์คลิ๊กเพื่อใช้งาน โดยส่วนใหญ่ในหน้าแรก ก็แทบจะรวมหรือ Summary ให้คุณเห็นได้เกือบครบ ไม่ว่าจะเป็น ซีพียู เมนบอร์ด แคช แรม และ Storage ที่เหลือคุณสามารถคลิ๊กเข้าไปในส่วนของ Advance เพื่อดูเพิ่มได้

สิ่งที่สำคัญของ BIOS นี้ก็คือ ทำให้คุณดูรายละเอียด เช่น แรม Storage ติดตั้งครบตามที่คุณใส่ไว้หรือไม่ หรือเวอร์ชั่นของ BIOS ที่ให้คุณอัพเดตให้ใหม่กว่าเดิมได้ เพื่อรองรับซีพียูรุ่นใหม่ หรือจะใช้แก้ไขบั๊กบางอย่าง เพื่อให้เมนบอร์ดทำงานได้สมบูรณ์กว่าเดิม และการตรวจสอบอุณหภูมิ รอบพัดลม เพื่อเช็คความผิดปกติได้เลย ตรงนี้สำคัญ เพราะบางครั้งการติดตั้งฮีตซิงก์ไม่แน่น ซิลิโคนน้อย หรือการระบายความร้อนไม่ดีพอ ก็เช็คจากตรงนี้ได้ ก่อนที่จะเข้าสู่ระบบปฏิบัติการนั่นเอง และยังมีประโยชน์อื่นๆ อีกมากมาย เช่น การปรับแต่งโอเวอร์คล๊อก หรือเปิด-ปิดการใช้งานฟังก์ชั่นอื่นๆ ของเมนบอร์ดได้อีกด้วย


ดูจาก About

เช็คสเปคคอม

เป็นวิธีการที่ง่ายที่สุดเลยก็ว่าได้ เพราะถ้าคุณใช้ Windows 11 แล้วอยากจะเช็คว่าซีพียูรุ่นอะไร แรมเท่าไร มาเช็คตรงนี้ได้ ถ้าแรมคุณ 16GB แล้วตรงนี้บอกว่า 8GB แสดงว่าต้องมีอะไรผิดปกติ รวมถึงกรณีที่คุณจะอัพเดตไดรเวอร์ อยากรู้ว่าใช้ Windows อะไร เวอร์ชั่นไหน ก็ดูได้จากตรงนี้เช่นกัน

วิธีการเข้าไปใน About ให้คลิ๊กขวาที่โลโก้ Windows แล้วเลือก System แล้วเลื่อนมาด้านล่างสุด คลิ๊กที่ About หรืออีกวิธีหนึ่งกดปุ่มคีย์บอร์ด Win+I แล้วเลือกที่ About ได้เช่นกัน

ดูจาก Device Manager

เช็คสเปคคอม

เรียกว่าเป็นฟังก์ชั่นบนวินโดว์ ที่ให้ข้อมูลของฮาร์ดแวร์ได้แบบฟรีๆ และมีรายละเอียดเกือบครบถ้วน บอกถึงการเป็นฮาร์ดแวร์อะไร รุ่นไหน ซีรีส์ใด รวมถึงรายละเอียดบางรายการ เช่น ซีพียู ก็จะบอกถึง Core/ Thread ได้อีกด้วย และที่สำคัญยังลึกลงไปในรายละเอียด เพื่อให้คุณทราบว่าใช้ไดรเวอร์ เวอร์ชั่นใดอยู่ และการอัพเดตไดรเวอร์ ได้ในฟังก์ชั่นนี้อีกด้วยครับ กับข้อดีต่างๆ เหล่านี้

  • บอกถึงรุ่นฮาร์ดแวร์: ระบุไว้ชัดเจน เช่น ซีพียู Intel Core i5-1135G7 ความเร็ว 2.4GHz และมีกี่ Core/ Thread
  • บอกถึงเวอร์ชั่นและความผิดปกติได้: ซึ่งคุณจะเห็นได้จากเครื่องหมายที่ปรากฏอยู่บริเวณชื่อรุ่นของฮาร์ดแวร์ จะทราบได้ทันทีว่า เปิดใช้งานปกติ หรือถูกปิด หรือเกิดปัญหา จะได้เช็คและแก้ไขได้ทันที
  • เช็คและอัพเดตไดรเวอร์: ตรงนี้ค่อนข้างสำคัญ เพราะคุณจะทราบได้ว่า ฮาร์ดแวร์ควรได้รับการอัพเดตไดรเวอร์หรือไม่ เช่น ไดรเวอร์เก่ามาก ดูจากปีและเวอร์ชั่น ด้วยการคลิ๊กขวาที่ชื่อฮาร์แวร์ แล้วเลือก Properties หากเก่าไป ก็สามารถเลือกที่ Update Driver ได้

สุดท้ายหากฮาร์ดแวร์ที่ใช้อยู่ทำให้เกิดปัญหากับระบบ เช่น ค้าง แฮงก์ จอฟ้า ก็สามารถ Disable Device หรือ Uninstall Driver ได้อีกด้วย เรียกว่าเป็นเครื่องมือเช็คสเปคคอมที่มีครบเครื่อง แถมยังฟรี ให้การใช้งานได้ครอบคลุมทีเดียว

Control Panel ใช้งานง่าย บอกรายละเอียด และจัดการฮาร์ดแวร์ได้สะดวกแบบฟรีๆ

วิธการเข้าถึง Device Manager หากเป็น Windows 11 หรือ Windows 10 ที่อัพเดตแล้ว ให้คลิ๊กขวาที่รูปโลโก้ Windows ตรง Taskbar ด้านล่างหน้าจอ จากนั้นเลือกที่ Device Manager ได้เลยครับ


ดูจาก System Information

เช็คสเปคคอม

เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่ช่วยในการเช็คสเปคคอมได้เช่นกัน แม้ว่าจะไม่ได้ดูง่ายเหมือนกับ Device Manager แต่ในเรื่องรายละเอียดต่างๆ มีให้อย่างครบครัน มองว่าน่าจะเหมาะกับสายฮาร์ดแวร์จริงจัง หรือบรรดาช่าง ที่จะเข้ามาเช็คข้อมูลเพื่อทำการแก้ไข หรือทีมไอทีซัพพอร์ต ที่จะคอยดูแลความเรียบร้อยให้กับคอมพิวเตอร์ที่ใช้กันอยู่ในองค์กรมากกว่าผู้ใช้ทั่วไป เพราะหลักๆ จะเป็นการบอกรายละเอียดในเชิงลึก เช่น Hardware ID, Driver, Type, IP และอื่นๆ ที่ผู้ดูแล จะเข้ามาจัดการสิ่งต่างๆ เหล่านี้ให้ รวมถึงการแก้ไขปัญหา เมื่อเกิดความผิดปกตินั่นเอง

แต่ก็สามารถเข้าไปดูสเปคต่างๆ ได้ เช่น Name, Manufacturing, Type หรือ Description ในหัวข้อฮาร์ดแวร์ต่างๆ ได้ ซึ่งจะมีชื่อ รายละเอียดและไดรเวอร์ ให้ได้ตรวจเช็คกัน

วิธีการเข้าถึง System Information ให้กดปุ่ม Win แล้วพิมพ์ System Information ได้เลย


เช็คสเปคจาก DirectX Diagnostic tool

เช็คสเปคคอม

การเช็คสเปคคอมด้วยฟังก์ชั่นบน Windows การเข้าไปใน DirectX Diagnostic Tool ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการเช็คฮาร์ดแวร์เบื้องต้นได้ อย่างเช่น OS เวอร์ชั่น ซีพียู แรม กราฟิก เป็นต้น ส่วนใหญ่จะเกี่ยวข้องกับกราฟิก และมัลติมีเดียเป็นหลัก จึงอาจจะไม่เหมาะสำหรับการดูข้อมูลในเชิงลึก และฮาร์ดแวร์อื่นๆ ส่วนวิธีเข้าไปในฟังก์ชั่นนี้ ให้กดปุ่ม Win จากนั้นพิมพ์ “dxdiag” และกด Enter เท่านั้น


Task Manager

Windows Task manager

สำหรับ Task Manager ก็เป็นอีกหนึ่งตัวแทนของฟังก์ชั่นการเช็คสเปคคอมของเราได้ และยังทำได้ง่ายอีกด้วย แม้ว่าหัวใจหลักจะเน้นไปที่การตรวจเช็ค ดูความผิดปกติ และการจัดการปัญหาของระบบก็ตาม แต่ก็ยังดูได้ว่าฮาร์ดแวร์ หรือสเปคที่ติดตั้งระบบของเรามีอะไรบ้าง ไม่ว่าจะเป็น ซีพียู แรม Storage รวมถึงกราฟิก และ WiFi ซึ่งข้อดีของ Task Manager นี้ ก็มีอยู่มากมาย เช่น

  • Process: ตรวจเช็คได้ว่าระบบของคุณรันโปรแกรมอะไร และใช้ Resource ไปกับสิ่งใดบ้าง หากมีอะไรที่รันระบบของคุณผิดปกติ เช่น ไวรัสหรือซอฟต์แวร์แฝง ก็สามารถเช็คได้จากตรงนี้ หากไม่มั่นใจก็เลือก End Task เพื่อหยุดการทำงานไปได้เลย
  • Performance: สำหรับการเช็คประสิทธิภาพของระบบ ให้คุณมอนิเตอร์ ตรวจเช็คความผิดปกติ หรือโหลดการทำงานของระบบได้ ในปัจจุันลงรายละเอียดได้ลึกถึงระดับ Core/ Thread, Clock speed และ Cache อีกด้วย
  • App History: บอกได้ว่ามีการใช้โปรแกรมใดบ้างแบบย้อนหลัง เพื่อให้แน่ใจว่า ไม่มีซอฟต์แวร์แปลกปลอมเข้ามาแอบรันบนระบบ และเช็คว่าใช้การเชื่อมต่อด้วยหรือไม่ หากมีจะได้แก้ไขได้ทัน
  • Startup App: มีหลายโปรแกรมที่เปิดขึ้นมาพร้อมกับระบบ หากคุณไม่ต้องการให้เป็นเช่นนั้น เพราะอาจทำให้ระบบเปิดช้า หรือบางโปรแกรมก็ทำงานเบื้องหลัง เราสามารถลด Process เหล่านี้ได้ด้วยการ Disable

อยากดูสเปคคอมให้ละเอียดขึ้น ทำอย่างไร?

เช็คสเปคคอม

อย่างไรก็ดี เป็นที่ทราบกันอยู่แล้วว่า ฟังก์ชั่นบนวินโดว์ให้ผลในการเช็คสเปคคอมแค่เบื้องต้นเท่านั้น แม้ว่าบางฟังก์ชั่น จะมาพร้อมการปรับแต่ง อัพเดตหรือลงลึกในส่วนของฮาร์ดแวร์ได้ แต่เรื่องของอินเทอร์เฟส ก็ไม่ได้ง่ายและสะดวกมากนัก หากคุณต้องการจะใช้งานเช่น การเช็คเวอร์ชั่น การดูรายละเอียด และการทดสอบ การใช้ซอฟต์แวร์ในการตรวจเช็ค ดูจะทำได้ง่ายกว่า และช่วยให้การเพิ่มประสิทธิภาพทำได้ง่ายขึ้นอีกด้วย เราไปดูกันครับว่า มีซอฟต์แวร์ตรวจเช็คสเปคคอมแบบไหนน่าใช้บ้างและแบบฟรีมีมั้ย?


เทียบสเปคคอมใน Notebookspec.com

และถ้าคุณอยากจะทราบข้อมูลของฮาร์ดแวร์ หรือต้องการเปรียบเทียบสเปคของอุปกรณ์ ในหน้าจัดสเปคคอมของทาง Notebookspec.com สามารถให้คุณเช็ครายละเอียด สเปค พร้อมกับราคาของฮาร์ดแวร์แต่ละรุ่นได้สะดวกมากขึ้น รวมถึงการจัดอันดับของฮาร์ดแวร์แต่ละชิ้น ให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น

Notebookspec pc spec 1

จากตัวอย่างด้านบนนี้ คุณสามารถเลือกดูรายละเอียด สเปคของซีพียู ราคาและการรับประกัน พร้อมกับตัวเปรียบเทียบของซีพียูในรุ่นใกล้เคียงกันได้ เพื่อใช้ในการพิจารณา ก่อนจะจัดสเปคและสั่งซื้อได้จากในเครื่องมือนี้ หรือต้องการเข้าไปดูสเปคคอมที่หลายคนจัดเอาไว้ ก็มี Ranking หรืออันดับของสเปคที่ได้รับความนิยมเอาไว้ให้ชมด้วย เผื่อใช้เป็นแนวทางในการจัดสเปคกันต่อไป

Notebookspec pc spec Rank

CPUz

เช็คสเปคคอม

CPUz ถือว่าเป็นซอฟต์แวร์เช็คสเปคคอมฟรี ตัวเริ่มต้นได้ดีทีเดียว เพราะบอกรายละเอียดได้ครบครัน ไม่ว่าจะเป็น ร่น ซีรีส์ เวอร์ชั่น และการทดสอบ รวมถึงยังบอกได้ตรง แม้จะเป็นซีพียูรุ่นใหม่ๆ ก็ตาม มักจะมีให้อัพเดตเป็นรายแรกๆ

จุดเด่นของ CPUz คือ ใช้ง่าย เป็นไฟล์ติดตั้งขนาดเล็ก แต่บอกรายละเอียดทั้ง ซีพียู เมนบอร์ด ชิปเซ็ต แรมและกราฟิกได้ รวมถึงการทดสอบประสิทธิภาพของซีพียูแบบง่ายๆ ได้อีกด้วย ในแท็ปของ Bench ให้คุณวัดประสิทธิภาพของซีพียูในระบบ กับซีพียูรุ่นอื่นๆ ได้ เป็นการช่วยตัดสินใจในการอัพเกรดซีพียูได้เช่นกัน

นอกจากนี้ยังช่วยให้มือใหม่หรือมืออาชีพ สามารถเช็คได้ว่า อุปกรณ์ที่ติดตั้งลงไป หรือที่เคยใช้งานอยู่ ยังเป็นปกติดีหรือไม่ เช่น แรมหาย สล็อตแรมเสีย ก็เช็คได้เลยว่าครบหรือไม่ ความเร็วลดลงหรือเปล่า เพราะบางครั้งตั้งค่า Intel XMP หรือ AMD EXPO เมื่อเกิดความเสียหายที่แรม ก็อาจจะทำให้ความเร็วลดลงได้เช่นกัน

ดาวน์โหลด: CPUz


GPUz

เช็คสเปคคอม

GPUz ก็เป็นอีกโปรแกรมหนึ่งในการเช็คสเปคคอมที่น่าสนใจ รับหน้าที่สำหรับกราฟิกการ์ด หรือการ์ดจอเป็นหลัก เหมาะกับผู้ใช้หลากหลาย ทั้งมือใหม่และมืออาชีพ เพราะมีข้อมูลสำคัญของการ์ดจอ ไม่ว่าจะเป็น ชื่อรุ่น GPU กระบวนการผลิต ไบออส รวมถึงลงลึกถึงชุดโครงสร้างภายใน เช่น Shader, CUDA, Clock, Memory หรือจะเป็น Memory Type ก็ตาม

ประโยชน์ของ GPUz นอกจากจะบอกรายละเอียดของกราฟิกการ์ดได้ละเอียดแบบลงลึกแล้ว ยังมีฟีเจอร์ในการตรวจเช็คว่า การ์ดจอรุ่นนั้น มีการปรับเปลี่ยน แก้ไขหรือดัดแปลงมาหรือไม่ โดยจะบอกเป็น Fake Graphic อยู่บนโลโก้ด้านขวาของซอฟต์แวร์ หรือจะเช็คจะ BIOS Version ก็ได้ ตรงนี้จะช่วยให้คุณเช็คการ์ดจอมือสองได้ค่อนข้างดีทีเดียว

เช็คสเปคคอม

และสุดท้ายจะสามารถความผิดปกติได้ในแท็ป Sensor ไม่ว่าจะเป็นสัญญาณนาฬิกา อุณหภูมิ โหลดการทำงาน และแรงดันไฟ เอาไว้เทียบกับการ์ดมาตรฐานโรงงานได้ หรือใครที่กำลังจะอัพเกรดการ์ดจอ ก็นำมาใช้เปรียบเทียบสเปคเบื้องต้นได้เช่นกัน

ดาวน์โหลด: GPUz


CPUID HWMonitor

เช็คสเปคคอม

CPUID HWMonitor เป็นโปรแกรมที่ใช้ในการตรวจเช็คการทำงานของอุปกรณ์เป็นหลัก แต่ก็สามารถใช้เช็คฮาร์ดแวร์และสเปคคอมได้อีกด้วย เพราะสามารถบอกรายละเอียดของฮาร์ดแวร์ที่ติดตั้งมาบนพีซีหรือโน๊ตบุ๊คได้อย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็น ซีพียู แรม Storage กราฟิกการ์ด และเมนบอร์ด

จุดเด่นของซอฟต์แวร์นี้อยู่ที่การตรวจเช็ค โดยเฉพาะการรายงานข้อมูลแบบเรียลไทม์ คือ คุณสามารถดูสถานะของระบบได้ ณ ตอนนั้นเลย ไม่ว่าจะเป็น ความเร็ว ความจุ อุณหภูมิ แรงดันไฟ ทำให้ตรวจเช็คความผิดปกติได้ง่าย ซึ่งมีผลต่อการใช้งานหลายประเภท

สำหรับผู้ใช้ทั่วไป ดูสถานะของฮาร์ดแวร์ ทำงานปกติดีหรือไม่ ได้ของตรงรุ่นหรือเปล่า คนที่ซื้อของมือสอง เช็คได้ว่า มีความร้อนเพิ่มขึ้นมากน้อยเพียงได้ ของที่ได้ตรงรุ่นกับที่จำหน่ายในตลาดมั้ย นักโอเวอร์คล็อก ก็เช็คได้ว่าได้ผลดีต่อระบบหรือไม่ ความเร็วเพิ่มขึ้นตามที่ตั้งไว้มั้ย หรือคนที่เน้นความปลอดภัย ก็สามารถเช็คความร้อนได้ ร้อนเกินไปก็ทาซิลิโคนใหม่ หรือต้องเปลี่ยนฮีตซิงก์ ก็เช็คได้ง่ายขึ้นนั่นเอง

ดาวน์โหลด: CPUID HWMonitor


CrystalDiskInfo

เช็คสเปคคอม

ถ้าคุณมองว่าการตรวจเช็คฮาร์ดแวร์ควรจะครอบคลุมอุปกรณ์ในหลายๆ ด้าน ไม่ใช่แค่เพียงซีพียู แรม การ์ดจอ หรือเมนบอร์ดเท่านั้น ส่วนของ Storage อาจจะหาโปรแกรมที่ช่วยดูหรือจัดการได้ค่อนข้างยากทีเดียว ยิ่งต้องให้เหมาะกับผู้ใช้ทั่วไป ดูง่าย จัดการสะดวกด้วยแล้ว CrystalDiskInfo ถือว่าทำได้ค่อนข้างดีทีเดียว

หน้าที่ของโปรแกรมนี้ คือการเช็คสเปค Storage โดยเฉพาะ SSD ที่สามารถบอกรายละเอียดได้แบบลงลึก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องแบรนด์ ความจุ อินเทอร์เฟา หรือจะเป็นฟีเจอร์ที่อยู่ใน Storage ชิ้นนั้นๆ

แต่ที่น่าสนใจคือ คุณสามารถเช็คระยะเวลาในการใช้งานของ SSD เพื่อประเมินระยะเวลาการทำงาน เผื่อเอาไว้สำหรับการสำรองข้อมูลได้อีกด้วย เพื่อป้องกันปัญหาที่เกิดจากความเสียหาย รวมถึงการรายงานอุณหภูมิของอุปกรณ์ ว่ามีความร้อนสูงเกินไปหรือไม่ เพราะบางครั้งการติดตั้งใกล้กับจุดที่เกิดความร้อนสูง หรือ SSD ทำงานหนัก ก็ส่งผลเสียต่อประสิทธิภาพการจัดเก็บข้อมูลได้เช่นกัน ซอฟต์แวร์นี้สามารถใช้คู่กับซอฟต์แว์ทดสอบประสิทธิภาพอย่าง CrystalDiskMark ในการเช็คความเร็วการทำงานของ SSD ได้อีกด้วย

ดาวน์โหลด: CrystalDiskInfo


OCCT

เช็คสเปคคอม

OCCT จัดเป็นซอฟต์แวร์เอนกประสงค์ของคอมที่คุณใช้งานได้ดีทีเดียว เพราะมาพร้อมกับระบบตรวจเช็คครบครัน ไม่ใช่แค่เพียงการดูสเปคอุปกรณ์เท่านั้น แต่ยังใช้ในการทดสอบประสิทธิภาพ และการมอนิเตอร์ฮาร์ดแวร์ได้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น สัญญาณนาฬิกา อุณหภูมิ แรงดันไฟ รอบพัดลมและโหลดการทำงาน ให้มาครบเลยทีเดียว

จุดเด่นที่น่าสนใจของซอฟต์แวร์นี้ อยู่ที่การตรวจเช็คฮาร์ดแวร์ได้ครบเครื่อง โดยในส่วนของการบอกสเปค OCCT บอกได้ตั้งแต่ชื่อรุ่น ซีรีส์ ความเร็วสัญญาณนาฬิกา แรงดันไฟ ทำให้ผู้ใช้มือใหม่ สามารถเช็คการทำงานของอุปกรณ์ได้แบบเรียลไทม์ หรืออยากจะเช็คความผิดปกติ เช่น แรงดันไฟสูงเกินไป หรือความร้อนเพิ่มขึ้นแค่ไหน หลังจากที่ปรับแต่ง ก็สามารถทำได้ หรือจะเป็นนักโอเวอร์คล็อก ก็เช็คได้ทั้งความร้อน สัญญาณนาฬิกาที่เปลี่ยนไป และเสถียรภาพ เพราะระบบออกแบบมาให้เช็คด้วยการรันการทำงานของ ซีพียูและกราฟิกการ์ดแบบ Full-load 100% หากระบบทำงานไม่ไหว ระบายความร้อนไม่ทัน ก็จะเห็นได้จากโปรแกรมนี้

ถ้าจะเช็คฮาร์ดแวร์ ดูสถานะ และวัดเสถียรภาพ OCCT คือคำตอบ

OCCT แบ่งออกเป็น 2 ส่วนหลัก คือการมอนิเตอร์ หรือเช็คสถานะทั่วไปจะเลือกดูทีเดียวทั้งหมดก็ได้ หรือจะแยกดูแค่บางสถานะบางอย่างก็ได้เช่นกัน โดยจะมีรายงานทั้งแบบตัวเลขและเป็นกราฟ ส่วนที่ 2 จะเป็นโหมดของการทดสอบ เพื่อเช็คสถานะและความเสถียร เมื่อโหลดใช้งานจริง และยังทดสอบประสิทธิภาพของบางฮาร์ดแวร์ได้อีกด้วย อินเทอร์เฟสไม่ยุ่งยากนัก และทำงานได้คล่องตัว

ดาวน์โหลด: OCCT


HWiNFO

เช็คสเปคคอม

อีกหนึ่งโปรแกรมที่อยากจะแนะนำก็คือ HWInfo ซึ่งในบรรดาโปรแกรมเช็คสเปคคอม ต้องถือว่ามีความโดดเด่นอย่างมาก เพราะรายงานได้ทั้งฮาร์ดแวร์ และสถานะในการทำงานอย่างละเอียด

เช็คสเปคคอม

ละเอียดแค่ไหน เราจะไล่กันทีละจุดเลย เริ่มตั้งแต่การรายงานฮาร์ดแวร์ อย่างเช่น ซีพียู สามารถบอกถึง Stepping และ Code Name รวมถึงเทคโนโลยีภายใน ทำงานบนสัญญาณนาฬิกา ตัวคูณ และบัสเท่าไร บอกได้ชัดเจน ส่วนแรมนั้น บอกระดับค่า CL บนสัญญาณนาฬิกาที่ต่างกันได้ รวมถึงค่า Timing และ Mode ในแบบเรียลไทม์ ส่วนการ์ดจอยังบอกรุ่น โมเดลและ VRAM ได้

HWiNFO โปรแกรมแนะนำสำหรับคนที่ชอบส่องฮาร์ดแวร์ เช็คสถานะ และตรวจสอบหลังการโอเวอร์คล็อก ดูความผิดปกติ ใช้ง่าย รายละเอียดเยอะ

แต่อีกส่วนหนึ่งก็ทำหน้าที่เป็น Hardware monitor ได้อย่างละเอียดอีกด้วย และที่น่าสนใจก็คือ ทำงานในแบบเรียลไทม์อีกด้วย เพราะบอกสถานะปัจจุบัน สูงสุด ต่ำสุด และค่าเฉลี่ย ทำให้ผู้ใช้ ที่ต้องการตรวจเช็คผลจากการปรับแต่ง นักโอเวอร์คล็อก หรือเช็คความผิดปกติ ใช้ประโยชน์จากโปรแกรมนี้ได้อย่างคุ้มค่ามากที่สุด และที่สำคัญคือ ไม่มีค่าใช้จ่ายอีกด้วย

ดาวน์โหลด: HWiNFO


Conclusion

จุดเด่น
About ใช้งานง่าย บอกข้อมูลเล็กๆ น้อยๆ ได้
Device Manager บอกรายละเอียด โมเดลฮาร์ดแวร์ และใช้จัดการไดรเวอร์ได้
System Information บอกข้อมูลพื้นฐานทั่วไป
DirectX Diagnostic tool ใช้ดูรุ่นฮาร์ดแวร์ และเวอร์ชั่นของไดรเวอร์ได้
Task Manager ดูรุ่น และสถานะในการทำงานได้เกือบทั้งหมด
CPUz บอกรายละเอียดฮาร์ดแวร์สำคัญในเครื่องได้
GPUz เน้นไปที่รายละเอียดของการ์ดจอเป็นหลัก
CPUID HWMonitor แจ้งสถานะการทำงานของฮาร์ดแวร์ อุณหภูมิ แรงดันไฟ พัดลม
CrystalDiskInfo บอกรายละเอียด สถานะ และข้อมูลของ SSD
OCCT ตรวจเช็ค ดูสถานะ ทดสอบฮาร์ดแวร์ได้
HWInfo บอกรายละเอียดได้เกือบครบ ลงลึกและเช็คสถานะได้

ทั้งหมดนี้เป็นแนวทางในการเช็คสเปคคอมสำหรับผู้ใช้ทั้งมืออาชีพหรือมือใหม่ ที่จะเริ่มต้นกับการตรวจสอบฮาร์ดแวร์ หรือการดูแลคอมของตนให้เรียบร้อยอยู่เสมอ หากคุณไม่ได้คิดว่าจะลงลึกในข้อมูลเทคนิคมากนัก ฟังก์ชั่นบนวินโดว์ อย่างเช่น About, Task Manager หรือ Device Manager ก็เพียงพอ แต่ถ้าจะอยากได้รายละเอียดเพิ่มขึ้น เพื่อการอัพเกรด CPUz, GPUz, HWMonitor ก็ใช้งานได้ดีแล้ว แต่ถ้าต้องการตรวจเช็ค ทดสอบแนะนำ OCCT, CrystalDiskMark ก็ถือว่าใช้งานได้ดีพอสมควร เหมาะกับกลุ่มใช้งานทั่วไป รวมถึงช่างคอม และนักโอเวอร์คล็อกก็ใช้ได้เช่นกัน แล้วแต่ความสะดวกในการใช้งาน นอกจากนี้ยังมีฮาร์ดแวร์อีกมากมายนอกเหนือจากนี้ให้เลือกใช้กันอีกด้วย

from:https://notebookspec.com/web/690480-free-check-pc-spec-2023-windows-11

10 อันดับโน๊ตบุ๊ค 10000 บาท จอใหญ่ แรม 8GB มีวินโดว์พร้อมใช้ ดูหนังเพลิน

10 อันดับโน๊ตบุ๊ค 10000 บาท จอใหญ่ Full-HD มี SSD พร้อม Windows แรม 8GB เบา เทรดหุ้น ดูหนังครบ

Top 10 value notebook 10000B cov

10 อันดับโน๊ตบุ๊คเริ่ม 10000 บาท จ่ายเบาๆ ได้จอใหญ่ น้ำหนักเบา พกพาสะดวก มีอยู่จริง รวมมาให้แล้ว เป็นรุ่นเด็ดต้นปี 2023 นี้ สำหรับสายทำงานและบันเทิง ที่ต้องการโน๊ตบุ๊คประสิทธิภาพดี รองรับการใช้งานในชีวิตประจำวันได้ เริ่มต้นกับการเรียน หรือการศึกษาของเด็กๆ ไปจนถึงการดูหนัง 4K ที่เป็นจอขนาดใหญ่ 15.6″ ความละเอียด Full-HD แล้วด้วย ให้ภาพที่ดูได้อย่างเต็มตา และมาพร้อมแรม 8GB บางรุ่นเป็น 16GB รวมถึงใส่ SSD มาด้วยเช่นกัน เพื่อความลื่นไหล ซีพียูมีให้เลือกตั้งแต่น้องเล็กอย่าง Intel Celeron หรือ AMD Athlon ไปจนถึง Intel Core i Generation แต่ที่สำคัญมี Windows มาให้พร้อมใช้ เปิดเครื่องมา ก็ทำงานได้เลย ไม่ต้องซื้อเพิ่ม แต่ละรุ่นจัดว่าเด็ด แต่มีรุ่นไหนที่จะโดนใจคุณบ้าง ไปติดตามชมกันครับ

10 อันดับโน๊ตบุ๊ค 10000 บาท


โน๊ตบุ๊ค 10000 บาท เลือกแบบไหนดี?

ทำงานเอกสาร เรียน ประชุมออนไลน์

Advertisementavw
10 อันดับ

สำหรับโน๊ตบุ๊คงบ 10000 บาท อยู่ในกลุ่มที่รองรับการใช้งานด้านงานเอกสาร และในสำนักงานเบื้องต้นได้ แต่ถ้าเป็นงานที่ต้องใช้ทรัพยากรมาก เช่น เปิดไฟล์ขนาดใหญ่ หรือใช้โปรแกรมที่ต้องอาศัยแรม และซีพียู เช่น โปรแกรมสร้างพรีเซนเทชั่น เปิดเอกสารทีเดียวจำนวนมาก ซีพียู 2 core/ 4 thread เป็นตัวเริ่มต้นได้ แต่ควรมีแรมอย่างน้อย 8GB เพื่อให้การทำงานลื่นขึ้น ส่วนการจัดเก็บข้อมูล หากมีจำนวนมาก แนะนำว่าให้ใช้ SSD 512GB หรือใช้บริการ Cloud Storage น่าจะสะดวกมากยิ่งขึ้น จอขนาดใหญ่ ช่วยให้มีพื้นที่ในการประชุมและมองเห็นข้อมูลได้ดียิ่งขึ้น

เทรดหุ้น ท่องอินเทอร์เน็ตหาข้อมูล

10 อันดับ

การใช้งานด้านเทรดหุ้น แม้จะมองว่าการดูกราฟ จะต้องใช้สเปคแรงด้วยหรือ? ถ้าเป็นการดูข้อมูลเฉยๆ ซีพียูรุ่นน้องเล็ก ก็เพียงพอ แต่ส่วนใหญ่ผู้ใช้จะควบคู่ไปกับการหาข้อมูลตลาด การฟังข่าวหรือการรีเช็คราคาที่ผ่านมาในอดีต ดังนั้นจึงเป็นการทำงานแบบมัลติทาส์ก เพราะต้องประมวลผลหลายอย่างพร้อมกัน การมีซีพียูในระดับที่สูงขึ้น เช่น Intel Core i3 หรือ AMD Ryzen 3 กับแรมอย่างน้อย 8GB ก็ช่วยให้ไหลลื่นขึ้น แต่ถ้าเปิดแท็ปเว็บเบราว์เซอร์ค่อนข้างเยอะ แนะนำว่าแรม 16GB เหมาะสมมากกว่า จอใหญ่ไฟสว่าง ก็ไม่ต้องซูมบ่อย ยกเว้นจะพกพาด้วยจอ 14″ FHD ก็เพียงพอแล้ว

ดูหนัง เล่นเกมออนไลน์เบาๆ

10 อันดับ

โน๊ตบุ๊ค 10000 บาท เป็นโน๊ตบุ๊คที่อาจจะคาดหวังกับการเล่นเกมได้ยาก แต่ถ้าเป็นเกมออนไลน์เบาๆ เช่น ยิงไข่ ไล่ซอมบี้ เรียงเพชรหรือจะเป็นแนว 2D ในแบบต่างๆ สามารถทำได้สบายๆ ดังนั้นหากคุณต้องการเล่นเกมหนักๆ ก็อาจจะต้องลองเริ่มต้นกับการตั้งค่าในเกม ปรับ Detail ให้เหมาะ แต่สุดท้ายไม่ได้ ก็คงต้องขยับไปที่เกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค ปัจจุบันเริ่มที่ประมาณ 20000 บาท ส่วนการดูหนัง Full-HD, 4K และใช้เพียงหน้าจอเดียว เลือกรุ่นประหยัดสุด ก็ยังไหว แต่อยากให้เป็นแรม 8GB ดูน่าสนใจกว่า และถ้ามีน้องๆ หนูๆ เล่นด้วยกัน จัดจอใหญ่ 15.6″ ก็แบ่งปันกันดูได้ดียิ่งขึ้น


1.Acer Aspire 3 A314-35

10 อันดับ

โน๊ตบุ๊คที่มาแบบครบครัน ใน 10 อันดับครั้งนี้ กับสายพันธุ์ของ Aspire 3 ที่ออกแบบมาลงตัวกับผู้ใช้ในกลุ่มคนทำงาน ไลฟ์สไตล์และนักเรียน ขนาดกระทัดรัด น้ำหนักเบาแค่ 1.6Kg สเปคพอใช้ท่องเน็ต ทำงานเอกสาร และดูหนังบนจอ 14″ Full-HD ได้ลื่นๆ กับซีพียู Intel Pentium N6000 (2 core/ 4 thread) พร้อมแรม 4GB ที่อัพเกรดเพิ่มได้ และใส่ฮาร์ดไดรฟ์มา 500GB รุ่นนี้เท่าที่เช็ค มีโมเดลที่เป็น SSD 256GB ด้วย มี Windows 10 มาให้ คีย์บอร์ดไม่มีแสงไฟ และแบตค่อนข้างเล็กไปนิด เคาะราคามา 8,990 บาท เท่านั้น ไปช้อปกันได้ ที่นี่

จุดเด่น ข้อสังเกต
น้ำหนักเบา แรม 4GB
ให้พอร์ตมาเยอะ

รายละเอียดเพิ่มเติม: Acer


2.IPASON MAXBOOK P2 PRO-P981

10 อันดับ

ติด 10 อันดับ โน๊ตบุ๊คราคาไม่ถึงหมื่นบาท IPASON แบรนด์น้องใหม่ในบ้านเรา ที่กระแสตอบรับดี บอดี้ที่บางเบา ฟังก์ชั่นจัดเต็ม ทั้งสแกนลายนิ้วมือ กางได้ 180 องศา คีย์บอร์ด Full-size แต่เสียดายที่ไม่มีไฟ Backlit มาให้ แต่ก็ได้อย่างอื่นแทน เช่น แรม 16GB ใส่ซีพียู Intel Celeron มาให้ แต่เป็นรุ่นใหม่ 4 core/ 4 thread กราฟิก Intel UHD สำหรับการใช้งานพื้นฐานทั่วไป หน้าจอ IPS 15.6” Full-HD สีสดใส พอร์ตใหม่ๆ USB-C และ HDMI มีให้ครบ พร้อมแบตขนาดใหญ่ Windows 11 พร้อมใช้ ตัวเครื่องรับประกัน 2 ปี ราคาแค่ 9,890 บาท แต่เวลานี้ค่อนข้างหายากนิดนึงครับ ไปช้อปได้ ที่นี่

จุดเด่น ข้อสังเกต
ให้แรมมาเยอะ ไม่มีไฟคีย์บอร์ด
กางจอได้ 180 องศา

รายละเอียดเพิ่มเติม: IPASON


3.Lenovo IdeaPad 1 15IGL7

10 อันดับ

สำหรับโน๊ตบุ๊ค 10000 สุดประหยัดรุ่นนี้ ดีกรีไม่ธรรมดา วัสดุดูดี งานประกอบแน่น หน้าจอใหญ่ 15.6″ Full-HD ดูหนังเต็มตา ทำงานก็สะดวก เล่นเกมออนไลน์เบาๆ ขุมพลัง Intel Pentium N4020 กับกราฟิก Intel UHD ก็พอไหว งาน 2D/3D พรีเซนเทชั่นทั่วไป ไม่ยาก มาพร้อมแรม 4GB เสียดายที่อัพแรมเพิ่มไม่ได้ ส่วน SSD มีให้ 256GB พอร์ตก็มีให้ครบๆ USB-C, HDMI ใส่ Card Reader มาให้ด้วย พร้อม Windows 11 Home พร้อมใช้งาน แบตใหญ่ น้ำหนัก 1.5Kg ประกัน 2 ปี แต่เป็นอุบัติเหตุ 1 ปีด้วยนะ ราคาประมาณ 9,990 บาทเท่านั้น ไปช้อปได้ ที่นี่

จุดเด่น ข้อสังเกต
จอใหญ่สีสดใส มีแรมให้ 4GB
วัสดุค่อนข้างดี

รายละเอียดเพิ่มเติม: Lenovo


4.HP 15s-eq1575AU

10 อันดับ

เป็นอีกหนึ่งใน 10 อันดับโน๊ตบุ๊คสไตล์บางๆ ที่มีความพรีเมียม หน้าจอ 15.6″ Full-HD กว้างขวาง ขอบจอบาง เอาใจคนทำงานและการเริ่มต้นเรียนรู้ของเด็กๆ แถมยังให้ Windows 11 Home มาแล้วด้วย โดยมีขุมพลัง AMD Athlon Gold 3150U เป็นน้องเล็ก ทำงาน 2 core/ 4 thread พร้อมแรม 8GB อัพเกรดเพิ่มได้ในภายหลัง กราฟิก AMD Radeon ดูหนัง เล่นเกมเบาๆ เอาใจน้องๆ ยังไหว ใช้เทรดหุ้นก็ลื่นดี มี SSD 256GB คีย์บอร์ด Full-size ใส่แบตมากลางๆ พอร์ต USB-C, HDMI มีให้ครบ น้ำหนักประมาณ 1.7Kg ประกัน 2 ปี ราคา 11,390 บาท ไปช้อปได้ ที่นี่

จุดเด่น ข้อสังเกต
ให้แรมมา 8GB น้ำหนักค่อนข้างเยอะ
พอร์ตเยอะ พร้อม USB-C

รายละเอียดเพิ่มเติม: HP


5.ASUS Vivobook 15 X1500EA-EJP01W

10 อันดับ

สำหรับ Vivobook 15 ก็มาตามคาด กับราคาที่ดีงาม บอดี้ที่ถอดแบบมาจากรุ่นพี่ บางสวย แม้ซีพียูจะเป็นน้องเล็ก Pentium Gold 7505 แต่ถือว่าสดใหม่ เรี่ยวแรงพอใช้งานในหลายๆ ด้านได้ พร้อมแรม 4GB อัพเกรดเพิ่มได้ และ SSD 512GB หาได้ยากในราคาประมาณนี้ พอร์ตมีทั้ง USB-C และ HDMI หน้าจอ 15.6″ Full-HD กว้างขวาง สำหรับงานและความบันเทิง แม้จะไม่ได้เสริมฟีเจอร์พิเศษมามากมาย แต่ก็สะดวกต่อการใช้งานพื้นฐาน โดยมี Windows 11 พร้อมใช้ประกัน 2 ปี ราคา 12,990 บาท ไปช้อปได้ ที่นี่

จุดเด่น ข้อสังเกต
ดีไซน์บาง กระทัดรัด มีแรม 4GB

รายละเอียดเพิ่มเติม: ASUS


6.Lenovo V15 G3 ABA 82TV004VTA

10 อันดับ

เป็นโน๊ตบุ๊คในกลุ่มทำงาน บอดี้ที่ดูพรีเมียม ดูสบายตา ราคา 10000 บาทนิดๆ ได้สเปคใหม่หมดจด เหมาะทั้งเรียน ทำงาน และความบันเทิง กับซีพียู AMD Ryzen 3 5425U รุ่นใหม่ คู่กับแรม 8GB อัพเกรดเพิ่มได้ และให้ SSD 256GB บนจอแสดงผล 15.6″ กราฟิกสามารถเล่นเกมเบาๆ ได้ ดูหนัง 4K ระบบเสียงก็ถือว่าดี พร้อมพอร์ต USB-C ชาร์จเร็ว และต่อจอได้ แบตอาจจะน้อยไปบ้าง สำหรับจอใหญ่แบบนี้ และไม่มี OS มาให้ น้ำหนักประมาณ 1.7Kg พกได้ไม่ยาก ประกัน 1 ปี ราคา 12,990 บาท ถ้าใครอยากได้ Windows ด้วย ขยับไป IdeaPad 3 ก็ได้ เพิ่มอีกประมาณพันนึงครับ ไปช้อปได้ ที่นี่

จุดเด่น ข้อสังเกต
วัสดุแข็งแรง น้ำหนัก 1.7Kg
ได้แรม 8GB

รายละเอียดเพิ่มเติม: Lenovo


7.ASUS X515JA-EJ331W

10 อันดับ

10 อันดับโน๊ตบุ๊คราคาหมื่นนิดๆ แต่ได้เป็น Intel Core i3 Gen10 ได้แรงเพิ่มอีกนิด 2 core/ 4 thread ให้เร่งสปีดงานต่างๆ ได้ดีขึ้น เหมาะกับการใช้งานทั่วไป และความบันเทิงภายในบ้าน จอใหญ่ 15.6″ Full-HD กับบอดี้ที่ทำออกมาได้ดี ตามสไตล์ ASUS แรมให้มา 4GB แต่อัพเกรดเพิ่มได้ภายหลัง SSD 512GB จัดเต็มมาให้แล้ว พอร์ต USB-C, HDMI มีให้ครบ คีย์บอร์ดฟอนต์ใหญ่ เห็นได้ชัดเจน มี Windows 11 Home มาพร้อมใช้ แบตอาจจะเล็กไปบ้าง น้ำหนักค่อนข้างเยอะหน่อย 1.7Kg แต่เรื่องสเปคและการอัพเกรดไม่ได้เป็นรองใคร รับประกัน 2 ปี ในราคาสบายกระเป๋า 12,990 บาท ไปช้อปได้ ที่นี่

จุดเด่น ข้อสังเกต
จอใหญ่ ขอบจอบาง มีแรม 4GB
มีพอร์ตให้เยอะ

รายละเอียดเพิ่มเติม: ASUS


8.Infinix Book X2 I5 71008300113

10 อันดับ

Infinix Book เป็นโน๊ตบุ๊คที่เปิดตัวมาได้ค่อนข้างดีเลยทีเดียว กับความบางเบา ราคาเข้าถึงง่าย จุดแข็งที่บอดี้อะลูมิเนียมทั้งตัว สีสันสดใส พร้อมให้ Windows 11 มาด้วย นอกเหนือจากสเปค Intel Core i5-1035G1 พร้อมแรม 8GB และให้ SSD 512GB มาใช้งาน หน้าจอขนาด 14″ Full-HD พาแนล IPS คมชัด ขอบเขตสีกว้าง พอร์ตจัดวางให้ครบครัน รวม USB-C และ HDMI ที่สำคัญคือ คีย์บอร์ดกดง่าย มีไฟ Backlit แบตอึด หาตัวเทียบยากในราคาเดียวกัน รับประกัน 1 ปี น้ำหนัก 1.24Kg ใครที่ชอบความบางเบา พกพาง่าย บอดี้แกร่ง ไม่ควรพลาด ราคา 13,900 บาท ไปช้อปได้ ที่นี่

จุดเด่น ข้อสังเกต
ให้แรม 8GB
ซีพียู Intel Core i5

รายละเอียดเพิ่มเติม: Infinix


9.Lenovo IdeaPad Flex 5i

10 อันดับ

เข้ามาใน 10 อันดับ กับ Lenovo ที่มีโมเดลในตลาดเริ่มต้นค่อนข้างเยอะ เช่นเดียวกับรุ่นนี้ ที่ราคาจะสูงนิดนึง แต่ได้ลูกเล่นเพียบ เช่นการพับจอเป็นโหมดต่างๆ รองรับทัชสกรีน 14″ Full-HD พาแนล IPS คมชัด มุมมองกว้าง ซีพียู Intel Core i3 Gen 11 ให้แรม 4GB ออนบอร์ด แต่อัพเพิ่มไม่ได้ SSD 256GB มาตรฐาน กราฟิก Intel UHD Graphic ให้พอร์ตมาเยอะ USB-C และ HDMI แถมยังมีไฟคีย์บอร์ด มาอีกด้วย รวมถึงระบบสแกนลายนิ้วมือ บอดี้อะลูมิเนียม น้ำหนักตัวแค่ประมาณ 1.5Kg เท่านั้น ราคา 13,990 บาท ไปช้อปได้ ที่นี่

จุดเด่น ข้อสังเกต
พับจอได้ 360 องศา ให้แรม 4GB
บอดี้แข็งแรง

รายละเอียดเพิ่มเติม: Lenovo


10.HP 15s-fq5154TU

10 อันดับ

HP 15s รุ่นนี้ทำราคากับสเปคได้ดีน่าสนใจเข้ามาใน 10 อันดับโน๊ตบุ๊คนี้ ด้วยบอดี้ที่น่าจะถูกใจสายพรีเมียม เพราะดูเหมือนลายอลูมิเนียมปัดเสี้ยนมาสวยๆ หน้าจอ 15.6″ Full-HD มาให้ และใส่ซีพียู Intel Core i3-1215U รุ่นใหม่ แรง ประหยัดไฟ พร้อมแรม 8GB และ SSD 256GB กราฟิก Intel UHD มี Windows 11 Home พร้อมใช้ แบตจัดได้ว่ากลางๆ แต่ก็ใหญ่กว่าในหลายรุ่น พอร์ตมี USB-C พอให้ใช้กับ HDMI น้ำหนักตัว 1.69Kg ส่วนตัวถือว่าทำได้ค่อนข้างดี การรับประกัน 2 ปี ราคา 13,900 บาท แต่ซื้ออนไลน์ถูกลงอีก ใครชอบสไตล์นี้ จัดได้เลย ไปช้อปได้ ที่นี่

จุดเด่น ข้อสังเกต
บอดี้แข็งแรง ดีไซน์สวย น้ำหนัก 1.69Kg
ให้แรม 8GB

รายละเอียดเพิ่มเติม: HP


Conclusion

Model Display CPU RAM Storage Graphic Weight Price
1.Acer Aspire 3 A314 14″ FHD Intel Pentium N6000 4GB 256GB Intel UHD 1.62Kg 8,990
2.IPASON MAXBOOK P2 15.6″ FHD Intel Celeron N5105 16GB 256GB Intel UHD 1.5Kg 9,890
3.Lenovo IdeaPad 1 15.6″ FHD Intel Pentium N4020 4GB 256GB Intel UHD 1.5Kg 9,990
4.HP 15s-eq1575AU 15.6″ FHD AMD Athlon Gold 3150U 8GB 256GB AMD Radeon 1.7Kg 11,390
5.ASUS Vivobook 15 15.6″ FHD Intel Pentium Gold 7505 4GB 512GB Intel UHD 1.8Kg 12,990
6.Lenovo V15 G3 15.6″ FHD AMD Ryzen 3 5425U 8GB 256GB AMD Radeon 1.7Kg 12,990
7.ASUS X515JA 15.6″ FHD Intel Core i3-1005G1 4GB 512GB Intel UHD 1.7Kg 12,990
8.Infinix Book X2 I5 14″ FHD Intel Core i5-1035G1 8GB 512GB Intel UHD 1.24Kg 13,900
9.Lenovo IdeaPad Flex 5i 14″ FHD Intel Core i3-1115G4 4GB 256GB Intel UHD 1.5Kg 13,990
10.HP 15s 15.6″ FHD Intel Core i3-1215U 8GB 256GB Iris Xe 1.69Kg 13,900

10 อันดับโน๊ตบุ๊คในราคา 10000 บาท สเปคที่เราเห็นกันส่วนใหญ่ ออกแบบมาเพื่องานพื้นฐาน เช่น งานเอกสาร ท่องเน็ตหรือความบันเทิงทั่วไป แต่ถ้าขับไปหมื่นต้นๆ มีตัวเลือกอย่าง Intel Core i3 หรือ i5 ให้ได้ใช้ แต่ก็ขึ้นอยู่กับความต้องการและงบประมาณ เราขอสรุปกันแบบง่ายๆ ดังนี้ครับ

เน้นงบน้อยไม่ถึงหมื่นบาท มีทั้ง Acer และ IPASON และ Lenovo ซึ่ง IPASON ทำได้ดีทั้งสเปคและฟังก์ชั่น แต่ตอนนี้หาซื้อยากหน่อย

แต่ถ้าหมื่นต้นๆ ก็มี HP 15s, ASUS Vivobook และ Lenovo V15 ที่ส่วนใหญ่ให้แรมมากขึ้น และซีพียูที่แรงกว่า เช่น ซีพียู Core i และแรม 8GB เป็นต้น

ส่วนในกลุ่ม 13,900 บาท จะเป็นตัวสุดในราคานี้ มีทั้ง Infinix, HP15s และ Lenovo IdeaPad ซึ่ง Infinix ใส่ซีพียู Core i5 มาให้ แต่ Lenovo พับจอกับทัชสกรีนได้ แต่ HP 15s ได้ซีพียู Intel Gen 12 รุ่นใหม่ ก็เรียกว่าวัดใจกันพอสมควรครับ ทั้งหมดนี้เป็นกลุ่มโน๊ตบุ๊คราคาประหยัด ทั้ง 10 รุ่นที่เราเอามาแนะนำกันในวันนี้ครับ มีความคิดเห็นกันอย่างไร คอมเมนต์กันเข้ามาได้เลยครับ

from:https://notebookspec.com/web/688656-10-value-notebook-10000-2023

คอมประกอบ 10000 เล่นเกมออนไลน์ ราคาถูก 2023 ทำงาน ดูหนัง อัพเกรดได้

คอมประกอบ 10000 จัดสเปคคอม ราคาถูก 2023 แรม 16GB คอมทำงาน เด็กนักเรียน ดูหนัง เล่นเกมออนไลน์เบาๆ ครบ

PC spec 10000 2023 rev1

คอมประกอบ 10000 ในปี 2023 นี้ มีตัวเลือกเยอะขึ้น เหมาะกับคนทำงาน คอมใช้ในบ้าน และความบันเทิงทั่วไป ดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกมเบาๆ ครบ ครั้งนี้เราจัดสเปคคอมมาให้ 4 สเปคด้วยกัน มีตัวเลือกทั้งค่าย Intel และ AMD โดยมีซีพียูสุดคุ้มอย่าง Intel Core i3 และ AMD Ryzen 3 มาให้ รวมถึงแนวทางในการเลือกฮาร์ดแวร์ จัดสเปคสำหรับใช้งานในโอกาสต่างๆ และถ้าใครยังไม่เคยจัดสเปคด้วยตัวเอง สามารถเข้ามาทดลองใช้ ระบบจัดสเปค NBS ใหม่ของเรา ที่มาพร้อมคำอธิบายข้อมูลฮาร์ดแวร์ และรีวิว มาให้ได้ตัดสินใจในการเลือกซื้อผ่านทางหน้าร้านจากลิงก์ของเรากันได้เลย


คอมประกอบ 10000 เล่นเกมออนไลน์ 2023


เลือกซีพียู

การเลือกใช้ซีพียูกับการคอมประกอบ 10000 แบ่งออกได้เป็นหลายมิติ เพราะถ้าจะใช้งานทั่วไป เน้นที่งานเอกสาร แสดงภาพแบบเบาๆ แต่งภาพง่ายๆ กราฟิกไม่ซับซ้อนเกินไป และความบันเทิงทั่วไป ซีพียูในกลุ่มของ Intel Celeron หรือ Pentium ก็ตอบสนองได้ดีหรือ AMD Athlon ก็น่าสนใจ กับการทำงานแบบ 2 core/ 4 thread และซีพียูมีสัญญาณนาฬิกาสูงในระดับหนึ่ง ซีพียูในกลุ่มนี้ราคาเริ่มต้นเพียง 1,xxx บาท เท่านั้น ซึ่งจะทำให้คุมราคาให้อยู่ในงบประมาณได้

Advertisementavw

แต่ถ้าต้องการสิ่งที่มากกว่า เช่น การทำงานเชิงซ้อน ใช้พร้อมกันหลายแอพพลิเคชั่น การแต่งภาพจริงจัง หรือการเล่นเกมที่ต้องการพลังมากขึ้น ซีพียูน้องเล็กอย่าง Intel Core i3 และ AMD Ryzen 3 ก็ถือว่าน่าสนใจไม่น้อยกับการทำงาน 4 core/ 8 thread ในงบประมาณเริ่มต้นแค่ 3,xxx บาท ยังพอเหลือที่จะจัดสรรไปยังอุปกรณ์อื่นๆ ต่อได้ ไม่ว่าจะเป็นแรม หรือ SSD ก็ตาม

ตัวอย่างของซีพียูราคาประหยัด

  • Intel Pentium Gold G6400: 2 core/ 4 thread, Freq.4.0GHz, L3-cache 4MB, TDP 58W, Intel UHD Graphics 610, LGA1200
  • AMD Ryzen 3 3200G: 4 core/ 4 thread, Boost 4.0GHz, L3-cache 4MB. TDP 65W, Radeon Vega 8 Graphics, AM4
  • Intel Core i3-12100: 4 core/ 8 thread, Boost 4.3GHz, L3-cache 12MB. TDP 60W, Intel UHD Graphics 730, LGA1700
  • AMD Ryzen 5 4600G: 6 core/ 12 thread, Boost 4.2GHz, L3-cache 8MB. TDP 65W, Radeon Graphics, AM4
Intel AMD
Intel Pentium Gold G6405 (LGA1200) ประมาณ 2,280 บาท
Intel Core i3-10105F (LGA1200) ประมาณ 2,790 บาท
Intel Core i5-11400 (LGA1200) ประมาณ 6,290 บาท
Intel Pentium Gold G7400 (LGA1700) ประมาณ 2,750 บาท
Intel Core i3-12100F (LGA1700) ประมาณ 3,690 บาท
Intel Core i3-12100 (LGA1700) ประมาณ 4,990 บาท
AMD Ryzen 3 4100 (AM4) ประมาณ 2,390 บาท
AMD Ryzen 5 4500 (AM4) ประมาณ 3,250 บาท
AMD Ryzen 3 3200G (AM4) ประมาณ 3,390 บาท
AMD Ryzen 5 3400G (AM4) ประมาณ 3,690 บาท
AMD Ryzen 5 4600G (AM4) ประมาณ 3,790 บาท
AMD Ryzen 5 5600G (AM4) ประมาณ 5,540 บาท
ราคา 17/2/66

เมนบอร์ด

ถ้าดูจากซีพียูแนะนำสำหรับคอมประกอบ 10000 ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นซีพียูรุ่นเล็ก ราคาประหยัด ไปจนถึงรุ่นเริ่มต้น มีทั้งซีพียู Intel Pentium ในแบบซ็อกเก็ต LGA1200 และ LGA1700 รุ่นใหม่ แต่คู่นี้จะต่างกันตรงที่แพลตฟอร์มของเมนบอร์ดครับ เนื่องจาก LGA1200 เลือกใช้กับ Intel H410, B460, H470 และ Z490 เรียงลำดับตั้งแต่ชิปเซ็ตเริ่มต้น ไปจนถึงชิปเซ็ตรุ่นท็อปสุดคือ Z490 ที่มาพร้อมฟีเจอร์ต่างๆ มากมาย โดยเฉพาะการปรับแต่งและโอเวอร์คล็อก ในขณะที่ชิปเซ็ตรุ่นรองลงไปจะไม่ได้สนับสนุน

คอมประกอบ 10000

แต่ถ้าเป็น Intel LGA1700 รุ่นใหม่ จะมีตัวเลือก ณ เวลานี้คือ Intel 600 series ประกอบด้วย H610, B660, H670 และ Z690 รวมถึง Intel 700 series รุ่นใหม่ ที่รองรับ Intel Gen13 ด้วย อย่างไรก็ดี ณ เวลานี้ ชิปเซ็ต 700 series ตัวเลือกจะยังมีเพียง B760 และ Z790 เท่านั้น รวมถึงราคายังค่อนข้างสูง การเลือกใช้ก็ดูจะเหมาะกับคนที่มีงบประมาณค่อนข้างสูง หรือต้องการจะใช้กับ Intel Gen 13 เต็มระบบ

คอมประกอบ 10000

ดังนั้นตัวเลือกสำหรับคนที่จะใช้กับสเปคคอมราคาประหยัดเวลานี้ อาจจะเลือกซีพียู Intel Gen 12 และใช้คู่กับเมนบอร์ดในกลุ่ม H610 หรือ B660 เป็นต้น แต่ถ้ามองว่าอยากจะขยับไปตัวใหม่เลย เพราะมีโอกาสจะเปลี่ยนไปใช้ Intel Gen 13 ในอนาคต ตัวเลือกอย่าง Intel B760 ก็น่าสนใจไม่น้อย ราคาสูงขึ้นมาไม่มากนัก


แรม

ตัวเลือกสำหรับการใช้งานเวลานี้ ถ้าดูจากแพลตฟอร์มที่มีในปัจจุบัน ก็จะมีทั้ง DDR4 และ DDR5 ซึ่งค่อนข้างจะแยกกันอย่างชัดเจน เพราะเมนบอร์ดจะเป็นตัวกำหนดให้คุณ ว่าจะใช้แรมแบบใด แต่สิ่งที่น่าสนใจก็คือ แรม DDR4 แม้จะประสิทธิภาพด้อยกว่า DDR5 อย่างชัดเจน แต่ในเรื่องของราคาก็น่าสนใจกว่า เนื่องจากถูกลงมาร่วมพันบาท หรือหลายพัน ขึ้นอยู่ว่าเป็นความจุและความเร็วบัสของแรม ทำให้อยู่ในงบคอมประกอบ 10000 มากยิ่งขึ้น

DDR4 3200 DDR4 3600 DDR5 5200 DDR5 6000
8GB 1,100
16GB 1,600 2,500 3,400
32GB 3,800 4,000 5,800 8,600
อ้างอิง: 17/2/66

จากตารางด้านบน เป็นราคาประมาณของแรม ในระดับเริ่มต้น ที่ไม่ได้เป็นแรม RGB หรือมี CL ต่ำเป็นพิเศษ จะเห็นได้ว่าความจุของแรม DDR4 3200 32GB นั้นถูกกว่า DDR5 5200 32GB อย่างน้อยๆ 2,000 บาท และจะต่างมากขึ้นไปอีก เมื่อเทียบกับ DDR5 6000

คอมประกอบ 10000

ดังนั้นนอกจากการเลือกใช้แพลตฟอร์มที่เป็น DDR5 นี้ จะต้องมีค่าใช้จ่ายของเมนบอร์ดที่ราคาสูงขึ้น อีกทั้งยังมีส่วนต่างของราคาแรม DDR5 เพิ่มมาอีกด้วย แต่ในจุดนี้ก็ขึ้นอยู่กับผู้ใช้ ว่าจะมองถึงประสิทธิภาพกับการใช้งานในวันข้างหน้า หรือว่าจะใช้แค่ชุด DDR4 ในวันข้างหน้าหากจำเป็นจะต้องเปลี่ยน ก็อาจจะซื้อใหม่ยกชุดกันไป

ส่วนถ้างบประมาณจำกัด ก็อยากจะแนะนำแรม DDR4 16GB ขึ้นไป ยิ่งในงบประกอบคอม 10000 บาทด้วยแล้ว แรม 8-16GB ก็ดูจะเหมาะสม และช่วยให้ระบบทำงานได้คล่องตัวมากยิ่งขึ้น


Storage

ในคอมประกอบ 10000 มีระบบจัดเก็บข้อมูล ในปัจจุบันคุณสามารถเลือกได้หลากหลาย มีตั้งแต่ HDD ในแบบ SATAIII หรือจะเป็น SSD ในแบบ SATAIII และ SSD ในแบบ M.2 PCIe ขึ้นอยู่กับงบประมาณและรูปแบบการใช้งานของแต่ละท่าน หรือจะใช้ร่วมกันก็ได้ เช่น SSD เป็นตัวบูตระบบ เพราะมีความเร็วสูง และ HDD เป็นตัวช่วยในการจัดเก็บข้อมูล เพราะมีความจุที่มาก ในราคาค่อนข้างประหยัดเป็นต้น

คอมประกอบ 10000

HDD มีสองแบบด้วยกันคือ แบบที่เป็น 3.5″ ที่มีขนาดใหญ่ และ 2.5″ ที่อออกแบบมาเพื่อใช้ในโน๊ตบุ๊ค ให้ความเร็วที่ดีในระดับหนึ่งประมาณ 200-350MB/s แต่โดดเด่นในเรื่องของความจุที่คุ้มค่า รวมถึงความทนทานที่วางใจได้ เมื่อเกิดความเสียหาย ยังมีโอกาสที่กู้ข้อมูลคือได้มากกว่า ราคาในตลาด 1TB ประมาณ 1,000 บาทเท่านั้น

คอมประกอบ 10000

SSD SATA เป็นตัวเลือกที่ดี เพราะราคาค่อนข้างประหยัด แต่ให้ความเร็วในระดับ 500MB/s ในงบประมาณประกอบคอมประหยัดนั้น 240-480GB เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ เพราะราคาเริ่มต้นเพียง 690 บาท ส่วนในรุ่น 512GB ราคาประมาณ 1,200 บาทเท่านั้น

คอมประกอบ 10000

SSD PCIe แต่สำหรับคนที่มองถึงความเร็วเป็นหลัก งบประมาณพอจะจัดสรรมาได้ ตัวเลือกอย่าง SSD M.2 NVMe PCIe ปัจจุบันมีให้เลือก PCIe Gen3 x4 และ Gen4 x4 โดยที่ Gen5 x4 กำลังจะลงตลาดมาในไม่ช้า แต่ราคาในกลุ่มนี้ค่อนข้างสูงขึ้นมา ตามประสิทธิภาพที่สูงขึ้น ตัวเลือกที่น่าสนใจอย่างเช่น M.2 PCIe Gen3 x4 256GB (R 2,000MB/s, W 1,500MB/s) ราคาประมาณ 850 บาท อีกรุ่นหนึ่งคือ M.2 PCIe Gen4 x4 500GB (R 3,000MB/s, 2,000MB/s) ราคาประมาณ 1,200 บาท


การ์ดจอ

สำหรับการ์ดจอในคอมประกอบ 10000 บาทนี้ ยังคงใช้กราฟิกบนซีพียูที่เป็น iGPU หรือ Integrate Graphic ที่มาพร้อมซีพียูเป็นหลัก ซึ่งคุณจะสามารถใช้งานในเบื้องต้นได้ จนกว่าจะมีงบประมาณสำหรับซื้อการ์ดจอแยกมาใช้ในภายหลัง แต่เวลาที่เลือกซีพียูที่มีการ์ดจอในตัวนั้น ต้องหลีกเลี่ยงซีพียูที่มี “F” หรือ “KF” ต่อท้ายรหัส สำหรับซีพียูจาก Intel ส่วนค่าย AMD นั้นต้องเลือกที่ต่อท้ายด้วย “G” ถึงจะมีกราฟิกมาให้ แต่เวลานี้มีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย เพราะซีพียูอย่าง AMD Ryzen บนซ็อกเก็ต AM5 รุ่นใหม่ 2023 ที่ต่อท้ายด้วย “X” จะมาพร้อมกราฟิกในตัวด้วยเช่นกัน

คอมประกอบ 10000

Intel UHD Graphic: เป็นกราฟิกที่อยู่บนซีพียู Intel ที่รองรับการใช้งานพื้นฐานในปัจจุบันได้ค่อนข้างดี ซึ่งจะมีอยู่ในซีพียู Intel Core family และ Pentium เหมาะกับการใช้งานทั่วไป ดูหนัง ถอดรหัสไฟล์วีดีโอ เล่นเกมออนไลน์ง่ายๆ และการแสดงผลกราฟิกที่ไม่หนักจนเกินไป รวมถึงแชร์หน่วยความจำร่วมกับแรมระบบอัตโนมัติ

Intel Pentium G6400 Graphoc

AMD Radeon Graphic: เป็นกราฟิกที่ Integrate หรือติดตั้งมาบนซีพียูในกลุ่มของ AMD Ryzen AM4 หลายรุ่น โดยมีอยู่ใน G series เป็นหลัก เช่น Ryzen 3 3200G, Ryzen 5 3400G หรือ Ryzen 3 Pro 4350G เป็นต้น เป็นกราฟิกที่เหมาะกับงานทั่วไป เล่นเกมง่ายๆ ไม่ใช้ทรัพยากรมาก หรือการดูหนัง รองรับการแสดงผลระดับ 4K เหมาะกับคอมประกอบราคาประหยัด

คอมประกอบ 10000

หากประกอบคอม 10000 บาทนี้ ค่อนข้างจะยากกับการหาการ์ดจอแยกมาใส่ แต่เมนบอร์ดพื้นฐานที่มีอยู่ทั่วไป ก็สามารถรองรับการติดตั้งการ์ดจอหรืออัพเกรดเพิ่มได้ แทบจะไม่ต้องกังวลมากนัก หากคุณจะประกอบใช้งานกราฟิกบนซีพียูไปก่อน เมื่อพร้อมก็หาการ์ดจอมาเพิ่มได้ในภายหลัง


เพาเวอร์ซัพพลายและเคส

คอมประกอบ 10000 เลือกในกา่รเพาเวอร์ซัพพลายและเคส เป็นสิ่งที่ให้ความสำคัญเป็นอันดับรองลงมาได้ ตามความเหมาะสมกับงบประมาณที่คุณมี โดยเพาเวอร์เริ่มต้นแนะนำที่ 550W-600W ที่เป็นแบบพื้นฐานมาใช้งานก่อนได้ ราคาเริ่มต้นประมาณ 600-900 บาทเท่านั้น แต่ถ้างบประมาณมีสูงขึ้นมาอีกเล็กน้อย อาจจะเลือกที่เป็น 80+ standrard ระดับ 500-550W ราคาประมาณ 1,000-1,500 บาท

คอมประกอบ 10000

แต่ถ้ามองว่าในอนาคตอาจจะมีการอัพเกรด เพิ่มการ์ดจอใหม่ ในระดับกลางๆ หรือต้องการเปลี่ยนซีพียูในภายหลัง แนะนำว่าให้เริ่มต้นที่ 600W 80+ standard ขึ้นไป เพราะราคาเริ่มต้นที่ 1,500 บาทเท่านั้น เพราะอย่าลืมว่าถ้าไม่ได้เลือกเพาเวอร์ที่สนับสนุนได้ดีพอแต่แรก คุณอาจจะต้องเหนื่อยกับการรื้อสายเพาเวอร์ภายในเคสออกมา เพื่อติดตั้งเพาเวอร์ตัวใหม่เข้าไป และต้องเก็บสายให้เรียบร้อย เสียเวลากับค่าใช้จ่ายไปรอบเดียว คุ้มค่ากว่าครับ

คอมประกอบ 10000

เคสเลือกแบบที่ต้องการได้เลย เพราะมีให้เลือกทั้งเคสเล็ก ใหญ่ ด้านในกว้าง รองรับ mATX หรือ ATX มีทั้งฝาข้างกระจก และแบบทึบ รวมถึงแสงไฟอะไรต่างๆ มากมาย แต่สิ่งที่อยากให้คำนึงเอาไว้มากๆ ก็คือ การเลือกเคสที่ติดตั้งง่าย มีองค์ประกอบครบ พาแนลมีพอร์ตมาให้ต่อสะดวก ติดตั้งพัดลมเอาไว้ให้แล้ว มีการระบายความร้อนที่ดี กระจกเทมเปอร์ต้องติดตั้งง่าย ไม่ต้องกลัวแตกเสียหาย และด้านในกว้างมากพอสำหรับกราฟิกการ์ดที่คุณจะใช้ในอนาคต พื้นที่ด้านหลังเคส กว้างพอในการลอดสายไฟได้สะดวก ราคาอยู่ในเกณฑ์ที่คุณรับได้


ตัวอย่างสเปคคอมประกอบ 10000 บาท

คอมประกอบ 10000

สเปค 1 – คอมประกอบ 10000 ทำงานเบาๆ เทรดหุ้น ดูหนัง

  • ซีพียู: Intel Pentium Gold G6400, 2 core/ 4 thread, 4.0GHz
  • เมนบอร์ด: Gigabyte H510M-H
  • แรม: TEAMGROUP T-Force DDR4 3200 16GB
  • SSD: WD SN570 250GB
  • การ์ดจอ: Intel UHD Graphics 610
  • เพาเวอร์ซัพพลาย: Antec B550
  • เคส: Tsunami Galaxy G15

ไปยังสเปคนี้: สเปคที่ 1


คอมประกอบ 10000

สเปค 2 – คอมประกอบ 10000 เรียนออนไลน์ เล่นเกมเบาๆ

  • ซีพียู: AMD Ryzen 3 3200G, 4 core/ 4 thread, Boost 4.0GHz, L3-cache 4MB. TDP 65W, Radeon Vega 8 Graphics, AM4
  • เมนบอร์ด: MSI A520M-A Pro
  • แรม: TEAMGROUP T-Force DDR4 3200 16GB
  • SSD: WD Green 240GB
  • การ์ดจอ: Radeon Vega 8 Graphics
  • เพาเวอร์ซัพพลาย: Aerocool Superb 600W
  • เคส: Montech X2 Mesh, Tempered Glass, w/ RGB Fan

ไปยังสเปคนี้: สเปคที่ 2


คอมประกอบ 10000

สเปค 3 – คอมประกอบ 10000 เล่นเกมออนไลน์ แต่งภาพ

  • ซีพียู: Intel Core i3-12100, 4 core/ 8 thread, Boost 4.3GHz, L3-cache 12MB. TDP 60W, Intel UHD Graphics 730, LGA1700
  • เมนบอร์ด: ASRock H610M-HDV
  • แรม: PNY DDR4 3200 16GB
  • SSD: HIKVISION E3000 256GB
  • การ์ดจอ: Intel UHD Graphics 730
  • เพาเวอร์ซัพพลาย: Aerocool Superb 600W
  • เคส: Tsunami Galaxy G15

ไปยังสเปคนี้: สเปคที่ 3


คอมประกอบ 10000

สเปค 4 – คอมประกอบ 10000 ทำงานมัลติทาส์ก แต่งภาพ ไฟล์งานขนาดใหญ่

  • ซีพียู: AMD Ryzen 5 4600G, 6 core/ 12 thread, Boost 4.2GHz, L3-cache 8MB. TDP 65W, Radeon Graphics, AM4
  • เมนบอร์ด: Gigabyte A520M-S2H
  • แรม: PNY DDR4 3200 16GB
  • SSD: Crucial P3 500GB
  • การ์ดจอ: Radeon Graphics
  • เพาเวอร์ซัพพลาย: Aerocool Superb 700W
  • เคส: Aerocool Glider Cosmos

ไปยังสเปคนี้: สเปคที่ 4


Conclusion

คอมประกอบ 10000
สเปคที่ 1 สเปคที่ 2 สเปคที่ 3 สเปคที่ 4
ซีพียู Intel Pentium Gold G6400 AMD Ryzen 3 3200G Intel Core i3-12100 AMD Ryzen 5 4600G
เมนบอร์ด Gigabyte H510M-H MSI A520M-A Pro ASRock H610M-HDV Gigabyte A520M-S2H
แรม TEAMGROUP T-Force DDR4 3200 16GB TEAMGROUP T-Force DDR4 3200 16GB PNY DDR4 3200 16GB PNY DDR4 3200 16GB
Storage WD SN570 250GB WD Green 240GB HIKVISION E3000 256GB Crucial P3 500GB
การ์ดจอ Intel UHD Graphics 610 Radeon Vega 8 Graphics Intel UHD Graphics 730 Radeon Graphics
เพาเวอร์ Antec B550 Aerocool Superb 600W Aerocool Superb 600W Aerocool Superb 700W
เคส Tsunami Galaxy G15 Montech X2 Mesh Tsunami Galaxy G15 Aerocool Glider Cosmos
ราคา 10,650.- 10,580.- 12,990.- 13,540.-

คอมประกอบ 10000 อาจจะต้องเลือกว่าคุณจะคุมสิ่งใดให้เหมาะสมกับการใช้งานของคุณ เพื่อให้อยู่ในงบประมาณมากที่สุด เช่น เน้นทำงานเป็นหลัก ซีพียูที่มีแกนหลักจำนวนมาก และมีสัญญาณนาฬิกาที่สูง ก็จะตอบโจทย์ได้ดี แต่ก็ต้องแลกมาด้วยค่าใช้จ่ายที่มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น Intel Core หรือ AMD Ryzen ก็ตาม เมื่อเทียบกับ Intel Pentium หรือ AMD Athlon รวมถึงการใส่แรม DDR 16GB ก็มีส่วนช่วยให้ระบบโดยรวมลื่นขึ้นได้ แต่ถ้าใช้งานทั่วไป ลดซีพียูลง และใช้แรม 16GB แต่ไปเพิ่ม Storage เช่น SSD ให้มากขึ้น หรือใช้ SSD 120-240GB แล้วเอางบประมาณบางส่วนไปลงกับ HDD 1-2TB ก็น่าสนใจ ในกรณีที่คุณเน้นเก็บงานเป็นหลัก ไม่ได้เรียกใช้งานอยู่ประจำ ทำให้ได้พื้นที่มากขึ้น อย่างไรก็ดีการจัดสเปคในงบประมาณนี้ อาจจะค่อนข้างจำกัด ในเรื่องของสล็อตแรม ที่คุณอาจจะต้องเปลี่ยนแรม หากต้องการอัพเกรด แต่ถ้าคิดว่า 16GB ก็เพียงพอต่อการใช้งานแล้ว ก็ไม่ต้องวิตกแต่อย่างใด สุดท้ายคือ หากจะอัพเกรดการ์ดจอ สเปคเหล่านี้ ก็ยังพอไปต่อได้ ในการ์ดจอระดับกลางๆ ลองตัดสินใจกันครับว่าไลฟ์สไตล์ของคุณเป็นอย่างไร และถ้าคุณยังไม่แน่ใจในเรื่องสเปคเหล่านี้ สามารถคลิ๊กเข้าไปในระบบจัดสเปค NBS เพื่อหาสเปคที่เป็นแนวทางของคุณกันได้เลย

from:https://notebookspec.com/web/685828-online-pc-spec-10000-2023

เพิ่มแรมโน๊ตบุ๊ค 2023 คอมช้า ไม่ทันใจ ใส่แรมใหม่ เลือกอย่างไร แบบไหนดี คุ้ม!

เพิ่มแรมโน๊ตบุ๊ค ไม่ต้องซื้อคอมใหม่ 2023 อัพเกรดง่าย เร็ว ทำเองได้ เลือกแบบไหน ดูอย่างไร ไปชม!

เพิ่มแรมโน๊ตบุ๊ค

เพิ่มแรมโน๊ตบุ๊ครุ่นใหม่ๆ ทำได้ง่ายขึ้น และเป็นวิธีที่ทำให้ระบบมีความเร็วเพิ่มขึ้นได้ ยิ่งในปัจจุบันแรมรุ่นใหม่ๆ อย่าง DDR5 ก็เริ่มมีมาให้ใช้งานกันบ้างแล้ว ความแรงเพิ่มขึ้น ประสิทธิภาพดีขึ้น อย่างไรก็ดีใครที่ใช้โน๊ตบุ๊ครุ่นเก่า หรือเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คที่ใช้เริ่มช้า อาจจะยังไม่ต้องซื้อใหม่ เพราะบางครั้งแค่อัพเกรดแรม ก็ทำงานลื่นขึ้นแล้ว แต่การอัพเกรดก็ต้องตรวจเช็คให้แน่ใจ ว่าโน๊ตบุ๊คที่ใช้รองรับการอัพเกรดแรมหรือไม่ ใช้แรมแบบใด มีสล็อตเพิ่มมาให้หรือไม่ และใส่ความจุสูงสุดได้เท่าไร? สิ่งเหล่านี้ผู้ใช้อาจจะต้องทราบก่อนที่จะไปซื้อแรมมาเพิ่มนั่นเอง จะได้ไม่เสียเวลา เสียเงินไปเปล่าๆ และถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่คิดว่า โน๊ตบุุ๊คที่ใช้อยู่ น่าจะได้เวลาอัพเกรดแรมแล้ว ไปดูกันว่าเราจะต้องสังเกต ตรวจเช็คอย่างไร

เพิ่มแรมโน๊ตบุ๊ค 2023 ง่าย สะดวก เร็วขึ้น


รู้จักกันแรมโน๊ตบุ๊ค

การเพิ่มแรมโน๊ตบุ๊ค สังเกตได้ชัดเจนกว่าแรมของพีซี เพราะฉะนั้นการซื้อมาใช้หรืออัพเกรด ต้องดูให้แน่ใจ ตามสัดส่วนที่เห็นง่ายๆ แบบนี้ ระหว่างแรม DIMM สำหรับพีซี และ SO-DIMM สำหรับโน๊ตบุ๊ค โดยด้านบนสุดจะเป็นแรม SO-DIMM ส่วนด้านล่าง จะเป็นแรม DDR4 และ DDR5 ของพีซี สังเกตไม่ยากครับ

Advertisementavw
เพิ่มแรมโน๊ตบุ๊ค

สำหรับในตลาดแรม DDR นอกจากเราจะเห็นคำว่า SO-DIMM ที่เป็นแรมแบบสั้นๆ เล็กกว่าแรมของพีซี ซึ่งจะออกแบบมาเพื่อแพลตฟอร์มของ Mobile หรือโน๊ตบุ๊คโดยเฉพาะ รวมถึงติดตั้งอยู่ใน Mini PC บางรุ่น ก็จะยังมีคำว่า LPDDR เข้ามาเกี่ยวข้องอีกด้วย โดยจะระบุอยู่บนแรม สเปคแรม และบนโน๊ตบุ๊คหลายๆ รุ่น สิ่งนี้หมายถึง แรมประหยัดพลังงาน หรือ Low Power Consumption ใช้พลังงานน้อยกว่าแรม DDR ปกติ ตัวอย่างเช่น แรม DDR4 มีแรงดันไฟ 1.2V แต่ LPDDR4 จะอยู่ที่ 1.1V เท่านั้น และยังมีแรมรุ่นใหม่อย่าง LPDDR4X ที่ลดการใช้พลังงานลงไปอีก เหลือเพียง 0.6V เท่านั้น ดังนั้นแล้วใครที่ค่อนข้างให้ความสำคัญกับการใช้พลังงาน หรือต้องการโน๊ตบุ๊คที่มีระดับการจัดการพลังงานมากขึ้น ก็อาจจะต้องมอง รุ่นที่ใช้แรมใหม่ๆ เช่นนี้ เอาไว้ด้วยเช่นกัน

เพิ่มแรมโน๊ตบุ๊ค
source: techcenturion.com

LPDDR/ LPDDRX: แรมทั้ง 2 รูปแบบนี้ มาจากพื้นฐานเดียวกัน และใช้ร่วมกันได้ แต่จะต่างกันเล็กน้อยนั่นคือ แรงดันไฟที่ LPDDRX จะใช้น้อยกว่า รวมถึงมีสัญญาณนาฬิกาที่สูงกว่านั่นเอง ซึ่งปัจจุบันเราจะเห็นได้บนโน๊ตบุ๊คบางเบา พรีเมียมโน๊ตบุ๊คและไลฟ์สไตล์ เช่น ASUS Zenbook 14 Duo, MSI Prestige 14 หรือ Lenovo ThinkBook, Ypga slim เป็นต้น

เพิ่มแรมโน๊ตบุ๊ค

DDR: สำหรับแรมประเภทนี้จะเน้นที่ Performance เป็นหลัก และเรื่องการใช้พลังงานเป็นเรื่องรอง ทำให้เรามักเห็นแรมประเภทนี้บนเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค นอกจากนี้แรม DDR ในแง่ของการผลิต ยังราคาถูกกว่า LPDDR ที่มีขนาดเล็กลง แต่มีประสิทธิภาพสูง และสิ่งที่แตกต่างเป็นสำคัญเลยคือ LPDDRX จะไม่สามารถอัพเกรดได้ ซึ่งจะใช้การติดตั้งลงบนบอร์ดโดยตรง หรือที่รู้จักกันว่าแรมออนบอร์ด แต่ถ้าเป็น DDR ส่วนใหญ่จะถอดเปลี่ยน และอัพเกรดได้

การสนับสนุนขึ้นอยู่กับเมนบอร์ดของโน๊ตบุ๊คในแต่ละรุ่น ว่าถูกออกแบบมาให้ใช้งานในลักษณะใด ตรงนี้ต้องว่ากันแต่ละรุ่นและซีรีส์ เพราะบางครั้งซีรีส์เดียวกัน แต่แยกออกไปหลายรุ่น หลายโมเดล ก็อาจจะใช้แรมที่ไม่เหมือนกัน บางครั้งเป็นแบบออนบอร์ดอย่างเดียว แต่บางทีก็มีออนบอร์ด รวมถึงมีสล็อตในการอัพเกรดได้

เช็คราคาแรมโน๊ตบุ๊ค 2023

Model Capacity Price
PNY DDR4 3200 8GB 975 บาท
Corsair Vengeance DDR4 3200 8GB 1090 บาท
ADATA DDR4 3200 16GB 1,850 บาท
TEAM TForce DDR4 3200 16GB 1,890 บาท
Kingston Value DDR4 3200 16GB 2,110 บาท
HyperX FURY IMPACT DDR4 3200 32GB 3,915 บาท
G.Skill RIPJAWS DDR5 4800 16GB 3,425 บาท
Corsair Vengeance DDR5 4800 32GB 8340 บาท
source: price 4/2/2023

แรมออนบอร์ด

อย่างที่ได้กล่าวไปในหัวข้อก่อนหน้านี้กับแรมออนบอร์ด หรือที่ติดตั้งในแบบบัดกรีติดกับเมนบอร์ด ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็น LPDDR แรมในรูปแบบนี้ จะมาพร้อมเครื่อง และมักจะไม่ได้ให้สล็อตสำหรับการอัพเกรดมาด้วย จะเป็นการกำหนดรุ่นให้ผู้ใช้ได้เลือก เช่น 8GB หรือ 16GB อย่างเช่นใน ASUS Zenbook หรือ Vivobook ในหลายๆ รุ่น ส่วนหนึ่ง ก็เพื่อให้ผู้ใช้ได้เลือกตามความเหมาะสมกับงาน และราคาที่ต้องการ

เพิ่มแรมโน๊ตบุ๊ค

อย่างไรก็ดียังมีโน๊ตบุ๊คในกลุ่มใกล้เคียงกันที่รองรับการอัพเกรด แม้ว่าจะมีแรมแบบออนบอร์ดติดตั้งมาด้วย เช่น Lenovo IdeaPad หรือ Yoga Slim บางรุ่น รวมถึง ASUS Zephyrus G14 เป็นต้น จะเห็นได้ว่าคาแรคเตอร์ของโน๊ตบุ๊คที่มีออนบอร์ด และสล็อตแรมส่วนใหญ่ อาจไม่ได้จำเพาะเจาะจง แต่สิ่งที่คล้ายกันคือ เป็นโน๊ตบุ๊คขนาดกระทัดรัด บาง และเน้นประสิทธิภาพเป็นหลัก

แต่ถ้าเป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คที่มักจะใช้เป็นแรม DDR ไม่ว่าจะเป็น DDR4 หรือ DDR5 ในแบบ SO-DIMM ปกติ ก็จะไม่ค่อยเห็นเป็นแบบออนบอร์ดมากนัก แต่ก็พอมีอยู่บ้าง เช่น ASUS ROG Zephyrus M16 ที่ให้แรมออนบอร์ดมาแล้ว 16GB และมีสล็อตว่าง สำหรับการอัพเกรดเพิ่มนั่นเอง


เมื่อไรต้องเพิ่มแรมโน๊ตบุ๊ค?

การเพิ่มแรมโน๊ตบุ๊ค หรืออัพเกรดแรม ช่วยให้ระบบสามารถทำงานได้ลื่นไหลมากขึ้น เช่นเดียวกับบนพีซี แต่เราจะสังเกตโน๊ตบุ๊คที่ใช้อย่างไร ว่าจำเป็นจะต้องเพิ่มแรมให้มากขึ้น

เพิ่มแรมโน๊ตบุ๊ค

เครื่องใช้เริ่มทำงานช้าลง อาจจะเปิดแอพพลิเคชั่นเดิม แต่ขนาดไฟล์ใหญ่ขึ้น ทำให้พื้นที่การ Swap file ต้องไปอาศัย Storage อย่างฮาร์ดดิสก์หรือ SSD การเพิ่มแรมมีส่วนช่วยได้

เปิดเว็บเบราว์เซอร์หลายหน้าต่างหรือหลายแท็ปบ่อย กับการทำงานในแบบมัลติทาส์ก คือทำหลายงานพร้อมกัน เช่น ดูหุ้น ทำเอกสาร ดูสตรีมมิ่งและการเปิดหาข้อมูลจากหลายๆ แหล่ง ก็จำเป็นต้องใช้แรมจำนวนมากเช่นกัน

เพิ่มแรมโน๊ตบุ๊ค

การเปิดไฟล์ขนาดใหญ่ หรือทำงานร่วมกับไฟล์จำนวนมาก ทำได้ช้า ใช้เวลานาน หรือมีอาการสะดุด แรมก็มีส่วนในการทำงานอยู่ด้วย

รวมไปถึงการเล่นเกม ที่บางเกมก็ต้องการแรมจำนวนมาก มาใช้ในการขับเคลื่อนข้อมูลเพื่อการประมวลผล แม้จะมี VRAM บนการ์ดจอก็ตาม แต่ก็มีความสำคัญในคนละส่วน ซึ่งการอัพเกรด มีส่วนช่วยให้การเล่นเกมไหลลื่นขึ้น และมีผลต่อเฟรมเรตที่ดีขึ้นในบางโอกาสอีกด้วย


โน๊ตบุ๊คที่ใช้ อัพเกรดได้มั้ย ดูอย่างไร?

วิธีการสังเกตว่าโน๊ตบุ๊คที่ใช้อยู่นั้น สามารถอัพเกรดแรม หรือเพิ่มแรมได้หรือไม่ มีด้วยกันหลายวิธี ว่ากันตั้งแต่

เพิ่มแรมโน๊ตบุ๊ค

ดูข้อมูลจากเว็บไซต์ผู้ผลิต: ขั้นตอนนี้ถือว่าเป็นวิธีการในเบื้องต้น ที่พอจะช่วยให้ผู้ใช้สามารถเช็คได้ว่า ต้องใช้แรมแบบใด และมีสล็อตสำหรับการอัพเกรดหรือไม่ โดยค้นหารุ่นและซีรีส์จากในเว็บไซต์ได้เลย หรืออย่างน้อยให้ทราบรุ่น และรหัสที่แน่นอน เช่น ExpertBook B5 Flip (B5302F) ในวงเล็บที่ต่อท้ายนี้ ค่อนข้างสำคัญเลยทีเดียว ซึ่งเมื่อทราบแล้ว การค้นหามักจะไม่ผิดรุ่น ยกเว้นว่าจะไม่ได้มีบอกไว้ใน Specification ของรุ่นนั้นๆ ตัวอย่าง จากภาพด้านบนนี้ ทั้งจาก MSI, ASUS และ HP ครับ

ติดตั้งซอฟต์แแวร์ยูทิลิตี้: ถือว่าพอช่วยได้ในระดับหนึ่ง สำหรับโน๊ตบุ๊คที่เป็นแบบมีสล็อตมาให้ภายใน แต่บางครั้งก็ไม่อาจจะตรวจได้ครบถ้วน ยิ่งมีแรมแบบออนบอร์ด บางครั้งก็ตรวจพบมากกว่า 2 สล็อตอีกด้วย ซึ่งก็ทำให้การตรวจเช็คสับสนอยู่พอสมควร ซอฟต์แวร์แนะนำว่าให้ดูแบบคร่าวๆ สำหร้บเช็คความจุแรม และสเปคของแรมที่ติดตั้งอยู่ในเครื่องจะแม่นยำกว่า

เพิ่มแรมโน๊ตบุ๊ค

ใช้บริการตรวจเช็คจากเว็บไซต์: ข้อนี้เป็นวิธีที่ง่าย เหมือนกับการเข้าไปหาข้อมูลในเว็บไซต์ผู้ผลิต จะต่างกันอยู่บ้างตรงที่ จะอำนวยความสะดวกในการตรวจเช็คให้ คล้ายกับการที่คุณใช้ระบบการค้นหาไดรเวอร์การ์ดจอ ที่จะมีระบบตรวจเช็คสเปคเครื่องให้ แล้วแจ้งว่า คุณมีสเปคอะไรบ้าง และต้องใช้ไดรเวอร์ตัวไหน

เพิ่มแรมโน๊ตบุ๊ค

เพียงแต่ระบบตรวจเช็คแรมนี้ จะตรวจว่าในระบบของคุณมีแรมกี่สล็อต และติดตั้งแรมอะไรไปแล้วบ้าง รวมถึงมีสล็อตเหลือมั้ย อัพเกรดเพิ่มได้หรือเปล่า โดยที่คุณแค่หาแรมมาเพิ่มตามที่ระบบแจ้งเอาไว้เท่านั้น ตัวอย่างระบบนี้อย่างเช่น เว็บไซต์ของทาง Crucial ที่จะมี Scan my laptop หรือ Lookup my laptop ในการสแกนเพื่อค้นหาการใช้งานแรมในระบบ ตามตัวอย่างที่อยู่ด้านบนนี้ เป็นอีกวิธีที่ง่ายมากๆ และอยากจะแนะนำ จากการที่ได้ทดสอบใช้งาน

เพิ่มแรมโน๊ตบุ๊ค

แกะเครื่องเปิดดู: เป็นแบบที่ชัดเจนที่สุด เพราะคุณสามารถเห็นฮาร์ดแวร์ได้ชัดเจนว่า โน๊ตบุ๊คที่ใช้อยู่นั้น รองรับการเพิ่มแรมได้หรือไม่ แต่การแกะฝาหลังโน๊ตบุ๊คบางครั้ง ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะบางรุ่นออกแบบมาอย่างแน่นหนา เรียกว่าแกะแทบไม่ได้เลย ถ้าไม่มีเครื่องมือที่ดีพอ แต่บางรุ่นก็แกะได้ง่าย เรียกว่าไขควง 4 แฉกตัวเดียว และบัตรพลาสติก ที่ใช้ในการแกะขอบด้านข้างเท่านั้น ก็สามารถถอดฝาหลังได้อย่างง่ายดาย

เพิ่มแรมโน๊ตบุ๊ค

แต่สิ่งสำคัญก็คือ การจะจับแตะต้องชิ้นส่วนที่อยู่ภายในโน๊ตบุ๊คนั้น ต้องให้แน่ใจว่า มือเราไม่มีไฟฟ้าสถิตย์ ที่อาจเกิดอันตรายต่อชิ้นส่วน และเสียหาย ดังนั้นเป็นไปได้ หากจะให้เกิดความปลอดภัย ควรมีถุงมือกันไฟฟ้าสถิตย์ หรือถอดขั้วต่อจากแบตเตอรี่มาที่ตัวเมนบอร์ดออกก่อน จากนั้นจึงแกะหรือติดตั้งแรมใหม่เข้าไป

การแกะเครื่องด้วยตัวเอง ควรศึกษาข้อมูลให้แน่ใจก่อนลงมือ ทั้งวิธีการ และการรับประกัน ให้มั่นใจว่าสามารถแกะได้ โดยไม่เสียการประกัน และไม่เกิดความเสียหาย ซึ่งหลายครั้งจะไม่สามารถเคลมได้ โปรดหลีกเลี่ยงโดยไม่จำเป็น

ดูจากเว็บไซต์รีวิว: ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่แนะนำ เพราะคุณจะสามารถทำตามขั้นตอนได้ รวมถึงเหล่านักรีวิว ก็จะบอกถึงรายละเอียดของแรม ให้คุณไปซื้อได้อย่างถูกต้อง รุ่นหรือซีรีส์ที่ใกล้กัน ก็พอที่จะใช้วิธีการเดียวกันได้ ซึ่งหากไม่แน่ใจว่าจะไปดูที่ไหนดี หรือดูต่างประเทศ ก็กลัวว่าซีรีส์เดียวกัน แต่คนละโมเดล ก็ดูจากรีวิวเมืองไทยก็ได้ครับ อย่างทีมงาน Notebookspec ก็มีแกะให้ได้ชมกันไปแล้วหลายร้อยรุ่น น่าจะพอเป็นข้อมูลในการอัพเกรดแรมของคุณได้พอสมควร


แรม Single channel vs Dual channel

หลายคนที่ไม่ค่อยได้ใช้คอมบ่อย หรืออาจจะมีโน๊ตบุ๊คตัวแรก อาจไม่ค่อยคุ้นหูสำหรับแรม Single channel และ Dual channel มากนัก ซึ่งตรงนี้อธิบายในเบื้องต้นว่า Dual channel เป็นรูปแบบการทำงานของแรม 2 ชุดเข้าด้วยกัน ทำให้ระบบมีประสิทธิภาพที่สูงขึ้นกว่าการทำงานแบบ Single channel เพียงแต่ว่าการจะใช้งานแรมแบบ Dual นี้ ก็มีเงื่อนไขในการทำงานเช่นกัน

เพิ่มแรมโน๊ตบุ๊ค

เงื่อนไขที่เป็นเรื่องพื้นฐาน คือ การติดตั้งแรม 2 ตัว เข้าด้วยกัน แม้จะเป็นแรมต่างความเร็ว หรือความจุไม่เท่ากันก็ได้ ติดตั้งด้วยกัน 2 แถว 2 สล็อต หรือจะเป็นแรมบนเมนบอร์ด หรือที่เรียกว่าออนบอร์ด คู่กับแรมบนสล็อต ก็สามารถใช้งาน Dual channel ได้เหมือนกัน

แต่ในกรณีที่เป็นแรม 16GB ที่ฝังมาบนเมนบอร์ดนั้น ก็ต้องขึ้นอยู่กับผู้ผลิตด้วย ว่าจัดวางมาในรูปแบบใด เพราะบางครั้งเป็น DRAM 16GB เม็ดเดียว ก็อาจจะไม่ได้ทำงานแบบ Dual channel แต่เราไม่ค่อยได้เห็นบ่อยนักในเคสนี้ ส่วนใหญ่จะมาพร้อมกับเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คที่มีขนาดบาง และมีสล็อตมาให้อัพเกรด ตรงนี้ขึ้นอยู่กับการวางเม็ดแรม บางรุ่นมาในแบบ 4GB x4 อีกด้วย ดังนั้นต้องว่ากันที่การผลิตและรูปแบบการจัดวางในแต่ละรุ่น


แรมไม่เหมือนกันใส่ด้วยกันได้มั้ย?

บางท่านอาจจะสงสัย แรมแบบ DDR3/ DDR4/ DDR5 เหล่านี้ จะสามารถติดตั้งบนสล็อตร่วมกันได้หรือไม่ เพราะซื้อโน๊ตบุ๊คใหม่มาเป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค DDR5 แต่มีแรมจากโน๊ตบุ๊คตัวเก่าเป็น DDR4 16GB น่าจะเอามาใช้ร่วมกัน จะได้ไม่ต้องซื้อใหม่

เพิ่มแรมโน๊ตบุ๊ค
source: Crucial

ขอแจ้งเอาไว้ดังนี้เลยครับว่า ไม่สามารถใช้แรมต่างชนิด ต่างแบบร่วมกันได้ครับ อ้างอิงจากแรมค่าย Crucial ระหว่าง DDR5 จะเป็นขาแบบ 262-pins ส่วน DDR4 จะเป็นแบบ 260-pins แม้จะใกล้กันมาก แต่ก็ไม่สามารถติดตั้งลงบนสล็อตเดียวกันได้ แบบเดียวกับแรมบนพีซี แม้ว่าแรม DDR5 และ DDR4 จะใช้ DIMM 288-pins เช่นเดียวกัน แต่ด้วยตัวบาก (Notch) ไม่เหมือนกัน จึงไม่สามารถติดตั้งบนสล็อตเดียวกันได้ เพราะฉะนั้นอย่าฝืน หรืออย่าบังคับใส่ลงไป เพราะอาจทำให้บอร์ดและสล็อตเสียหายได้


ขั้นตอนการเพิ่มแรมโน๊ตบุ๊ค

สุดท้ายเป็นเรื่องของการติดตั้งแรมลงบนโน๊ตบุ๊ค หลังจากที่คุณได้แกะฝาหลังออกมาแล้ว รวมถึงเลือกแรมที่ใช้ร่วมกันให้พร้อม เสร็จแล้วก็ไปลุยกันเลย

เพิ่มแรมโน๊ตบุ๊ค

เตรียมแรมให้พ้อมสำหรับการเพิ่มแรมโน๊ตบุ๊ค โดยแนะนำเลยครับว่า ถ้ามีถุงมือให้ใส่ ก็ใส่เพื่อความปลอดภัยของตัวแรม และการติดตั้ง

เพิ่มแรมโน๊ตบุ๊ค

จากนั้นดูสล็อตที่เป็นช่องอัพเกรดแรมให้ตรงกับแรม โดยยึดเอาตัวบากหรือ Notch ที่เป็นร่องตรงกลางให้ตรงกันกับแรมที่ติดตั้งไว้ก่อนหน้านี้

เพิ่มแรมโน๊ตบุ๊ค

แล้วถ้าไม่มีแรมบนสล็อตนั้นล่ะ? ให้ลองวางตัวแรมลงบนสล็อต เพื่อวัดระยะก่อนว่า Notch นั้นตรงกันกับสล็อต จากนั้นเอียงแรมแบบในภาพ แล้วใส่ลงไปบนสล็อตแบบเอียงๆ นั้น จากนั้นกดแรมให้อยู่ในแนวราบเบาๆ จนกว่าจะได้ยินเสียงคลิ๊ก ที่หมายถึงล็อคตัวแรมลงบนสล็อตเป็นที่เรียบร้อย ก็ถือว่าเป็นอันเสร็จสิ้น

แต่ก่อนจะปิดฝาหลังของโน๊ตบุ๊คเพื่อจบงาน อย่าลืมตรวจเช็คด้วยการลองบูตเครื่อง เพื่อดูว่าสามารถเข้าระบบได้ตามปกติหรือไม่ หากติดปัญหา ไม่บูต ให้ลองแกะแรมออกมาอีกครั้ง แล้วติดตั้งกลับเข้าไปใหม่อีกครั้งหนึ่ง


แรมครบมั้ย

เมื่อติดตั้งแรมเสร็จแล้ว ก็อย่าลืมเช็คความเรียบร้อย ดูว่าระบบตรวจเช็คแรมได้ครบหรือไม่ หากคุณมีอยู่ 8GB แล้วเพิ่มไปอีก 8GB ก็ควรจะเป็น 16GB แต่ถ้าเช็คแล้วยังเป็น 8GB อยู่ ก็น่าจะมีอะไรผิดพลาด ด้วยวิธีการเช็คแบบง่ายๆ ดังนี้

เพิ่มแรมโน๊ตบุ๊ค

Task Manager วิธีนี้ค่อนข้างสะดวก ด้วยการกดปุ่ม Ctrl+Shift+Esc พร้อมกัน เพื่อเข้าไปใน Task Manager จากนั้นไปที่แท็ป Performance แล้วคลิ๊กที่ Memory ดูที่หน้าต่างด้านขวา จะเห็นความจุของแรมปรากฏขึ้น ให้ดูที่ตัวเลขที่อยู่มุมบนขวามือ จะบอกตัวเลขความจุทั้งหมดให้เราทราบ จากตัวอย่างนี้ เป็นแรม 4GB + ติดตั้งเพิ่ม 8GB รวมเป็น 12GB เห็นครบแบบนี้ก็มั่นใจได้ในระดับหนึ่ง เพราะสิ่งที่ต้องทำต่อไปนั้น คือการทดสอบเสถียรภาพ


อาการผิดปกติหลังเพิ่มแรม

เพิ่มแรมโน๊ตบุ๊ค

ความผิดปกติ หลังจากการเพิ่มแรมโน๊ตบุ๊ค ก็มีโอกาสเกิดขึ้นได้ และผู้ใช้อาจจะต้องสังเกตอาการที่เกิดขึ้น เพื่อแก้ไขปัญหาเบื้องต้น เรามาดูว่าอาการเกี่ยวกับแรมที่อาจเกิดขึ้นได้มีสิ่งใดบ้าง และจะต้องแก้ไขอย่างไร?

โน๊ตบุ๊คค้าง ไม่เข้าระบบ: หรือโน๊ตบุ๊คเปิดไม่ติด ให้ลองเปิดฝาหลังโน๊ตบุ๊ค แล้วติดตั้งแรมที่เพิ่งใส่เข้าไปใหม่ เพียงแถวเดียว และบูตเครื่องใหม่อีกครั้ง เพราะอาจเป็นไปได้ว่า แรมไม่เข้ากับแรมเก่าที่ใช้งานอยู่ จากนั้นอาจจะต้องเช็คบัสของแรมอีกครั้ง และแจ้งเปลี่ยนกับร้านค้าที่จำหน่ายแรม

เพิ่มแรมโน๊ตบุ๊ค

แต่ถ้าไม่มีแรมอื่นใด ติดตั้งอยู่เลย การติดตั้งแรมใหม่ ไม่สามารถบูตเข้าระบบได้ หากมี 2 สล็อต ให้ลองสลับเปลี่ยนสล็อตอีกอัน เพื่อดูอาการ ส่วนถ้ามีแรมออนบอร์ด และใส่แรมใหม่เข้าไป แต่ไม่บูต ก็เป็นไปได้ว่าแรมใช้ร่วมกันไม่ได้ ซึ่งเจอได้น้อยมาก

เพิ่มแรมโน๊ตบุ๊ค

จอฟ้า BSOD: หากเป็นจอฟ้าบ่อย ให้ลองติดตั้งแรมอีกครั้ง เพราะอาจเกิดจากการติดตั้งไม่แน่น หรือเอียง จนไม่เข้าล็อคตามปกติ ขยับแรมออกมาใหม่ อาจช่วยได้

รีสตาร์ทบ่อย: ให้เช็คว่า ก่อนหน้านี้โน๊ตบุ๊คมีอาการผิดปกติดังกล่าวนี้มั้ย ถ้าไม่เคยมี และเป็นหลังจากการติดตั้งแรม ให้ลองรีบูตใหม่ และลองอัพเดตวินโดว์และไดรเวอร์ชิปเซ็ตเมนบอร์ดอีกครั้ง ด้วยการดาวน์โหลดจากเว็บไซต์ผู้ผลิต หากยังเป็นอยู่ให้นำแรมและโน๊ตบุ๊คให้ร้านค้าดู เพื่อทำการเปลี่ยนต่อไป


Conclusion

สุดท้ายนี้ ในการเพิ่มแรมโน๊ตบุ๊ค การติดตั้งและการใช้งาน ไม่ได้ซับซ้อนเหมือนกับการขั้นตอนการตรวจเช็ค หรือหาข้อมูลว่าโน๊ตบุ๊ครองรับการติดตั้งแรมเพิ่มได้มั้ย หรือใช้งานกับแรมแบบใด เพราะบางครั้งอาจถึงขั้นที่ต้องแกะโน๊ตบุ๊คออกมาดูกันเลยทีเดียว อย่างไรก็ดีครับ การเพิ่มแรม ก็ถือว่าคุ้มค่ากับการลงทุนลงแรง เนื่องจากค่าใช้จ่ายไม่สูง หากสังเกตจากราคาจะเห็นว่า เพิ่มแรม DDR4 8GB ยังไม่ถึงพันบาท แต่ประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะการทำงานแบบ Dual channel เมื่อใช้ร่วมกับแรมเดิมที่มีอยู่ และคุณยังสามารถทำเองได้ ด้วยเครื่องมือที่มีอยู่ที่บ้าน แต่ก็แนะนำว่าให้ลองสอบถามร้านจำหน่าย ว่ามีผลต่อการรับประกันด้วยหรือไม่ ในกรณีที่เป็นโน๊ตบุ๊คซึ่งอยู่ในระยะประกัน แต่ถ้าคุณไม่สะดวก ก็แนะนำว่าให้ไปร้านที่จำหน่ายโน๊ตบุ๊คใกล้บ้าน ขอคำแนะนำ ซื้อแรมและอัพเกรดโดยช่างที่ชำนาญในร้าน ก็เป็นทางออกที่น่าสนใจครับ อุ่นใจและมั่นใจได้

from:https://notebookspec.com/web/685571-upgrade-ram-notebook-2023

10 อันดับ เคสคอม 2023 เปิดตัวใหม่ ไฟ ARGB ประกอบง่าย สุด Cool! เย็นสุดขั้ว

10 อันดับ เคสคอมสุด Cool เปิดตัวใหม่ CES2023 งานดี เทคโนโลยีสุด พร้อมไฟ RGB จัดเต็ม

10 อันดับ

10 อันดับ เคสคอมรุ่นใหม่ปี 2023 ที่เรารวบรวมมาให้ในครั้งนี้ จัดมาตั้งแค่เคสสุดล้ำ ดีไซน์หรู ไปจนถึงเคสคอม สำหรับเกมเมอร์ และนักโอเวอร์คล็อก กับเทคโนโลยีใหม่ ที่ช่วยในการระบายความร้อน และเพิ่มฟังก์ชั่น สำหรับการติดตั้งอุปกรณ์ได้สะดวกมากยิ่ง ซึ่งนับว่าในปี 2023 จะมีเคสรุ่นใหม่ๆ มาให้กับเหล่านักประกอบคอมเลือกใช้งานกันมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีนวัตกรรมเรื่องของการระบายความร้อน และการปรับแต่งที่น่าสนใจกว่าในช่วงปีที่ผ่านมา อย่างเช่นที่เรานำเสนอนี้ จะมีบางรุ่นที่เสริมกลไกการระบายอากาศ บางรุ่นมาพร้อมกระจกเทมเปอร์ที่ดีไซน์ทันสมัยมากขึ้น และบางรุ่นก็มาพร้อมชุด Liquid Cooling ในตัว ส่วนใหญ่เป็นผลดีต่อการเล่นเกม และการปรับแต่งในปัจจุบัน รวมถึงรองรับกราฟิกการ์ดรุ่นใหม่ๆ อีกด้วย วันนี้เรามาชมกันครับว่า จะมีเคสคอมรุ่นใด ที่ถูกใจคุณบ้าง เผื่อใครจะอยากเปลี่ยนเคสใหม่กันในปีนี้

10 อันดับ เคสคอม 2023

  1. Cyberpower Kinetix 360V
  2. Fractal Design – Torrent Compact Nano
  3. Lian Li – Lancool III
  4. Hyte Y60
  5. Thermaltake CTE
  6. Cooler Master Cooling X
  7. InWin POC Case
  8. COUGAR CRATUS
  9. MSI MEG Prospect 700
  10. ASUS HYPERION

1.Cyberpower Kinetix 360V

Cyberpower Kinetix 360V เป็นเคสคอมที่ออกแบบในแนวที่เรียกว่า Kinetic Enclosure หรือเป็นกล่องที่ขยับปรับเลื่อนได้ ซึ่งเมื่อปีก่อนก็จะมีของ Cyber Power ที่ทำออกมา แต่ตอนนั้นก็ลุ้นกันว่าจะออกมาวางตลาดมั้ย แต่ก็มีออกมาในบางรุ่น แต่สำหรับปีนี้ เป็นโมเดลพิเศษที่เรียกว่า Cyberpower Kinetix 360V Intelligent Airflow Series ที่มาโชว์ตัวในงาน CES 2023 เข้ามาใน 10 อันดับ เคสคอมครั้งนี้

Advertisementavw
10 อันดับ

ความโดดเด่นของเคสรุ่นนี้ อยู่ที่กลไกด้านหน้าของเคส ที่ขยับไปมาได้ เป็นแบบบานพับรูปทรงสามเหลี่ยม เลขาคณิต เปิดและปิดดูแล้วหวือหวา คล้ายกลไกของชุดไอรอนแมน ไม่ว่าจะเป็นสีสัน หรือการขยับของบานพับเหล่านี้

เคสรุ่นนี้ อาจจะไม่ได้นำเสนอเรื่องของ airflow เป็นหลักอย่างเดียว แต่มองว่าน่าจะเป็นการออกแบบเชิงนวัตกรรม ด้วยการใส่กลไกเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งภายในเคส ซึ่งถ้าถามว่าดีกว่าเคสปกติ หรือเคสที่มีพัดลมเคสด้านหน้าอย่างไร? 

10 อันดับ

ถ้าสังเกต เคสคอมบางเคสก็มีฝาเคสปิดทึบด้านหน้ามา บางทีต้องการจะให้ลมเข้ามากๆ ในช่วงที่ทำงานแบบ Full load ให้มีอากาศระบายได้ดีก็ทำได้ยาก แต่ก็ไม่ได้ต้องการเคสที่ว่า เปิดให้ลมไหลเข้าตลอดเวลา เพราะบ้านเราเรื่องฝุ่นเป็นปัญหาสำคัญ การมีกลไกเปิด-ปิดแบบนี้ ก็ตอบโจทย์ได้ดีทีเดียวครับ อยากได้ลมก็เปิด ไม่ใช้ก็ปิดง่ายมากๆ

ข้อมูลเพิ่มเติม: Cyberpowerpc


2.Fractal Design – Torrent Compact Nano

สำหรับเคสคอมจาก Fractal Design นี้ ดูเป็นที่รู้จักกันดีในบ้านเรา ด้วยคาแรคเตอร์ที่ดูหรูหรา พรีเมียม และเป็นที่คุ้นหูคุ้นตากันหลายรุ่น เช่นเดียวกับ Torrent Nano ที่เป็นเคสขนาด Mid-Tower แต่ใส่ Air flow มาขั้นสุด กับรูปลักษณ์เคสในโทนสีขาว มีช่องระบายอากาศด้านหน้า ออกแบบมาได้ลึกล้ำดีทีเดียว

10 อันดับ

ความโดดเด่นอยู่ที่ พัดลมขนาดใหญ่ 18cm พร้อมแสงไฟ RGB สวยงาม สามารถควบคุมรอบพัดลมได้ เสียงรบกวนน้อย ส่วนพื้นที่ภายในดูกว้างขวาง เพราะย้ายช่องติดตั้งเพาเวอร์ซัพพลายไปไว้ด้านบน ให้เดินสายได้สะดวก และมีทางลมดูดลมร้อนจากซีพียูได้โดยตรง

10 อันดับ

ส่วนภายในรองรับเมนบอร์ด mATX และมีช่อง PCI-Express ได้ถึง 3 สล็อต ติดตั้งการ์ดจอรุ่นใหม่ๆ ที่เป็น RTX40 series ได้และการ์ดความยาวระดับ 33.5cm เลยทีเดียว ใครที่ชอบเคสแนวนี้ เค้ามีให้เลือกถึง 5 สีด้วยกัน สำหรับผมนะ สวยทุกสี ตามที่ปรากฏในคลิปนี้เลยครับ บ้านเรามีจำหน่ายแล้ว ราคาประมาณ 5 พันกว่าบาท

ข้อมูลเพิ่มเติม: Fractal Design


3.Lian Li – Lancool III

เป็นเคสคอมที่เรียกว่า ถอดรหัสพันธุกรรมของสายพันธุ์ LANCOOL มาอย่างเต็มเปี่ยม แต่ที่โดดเด่น เราผมชอบมากคือ การเปิดช่องทางในส่วนต่างๆ ได้สะดวก ไม่ว่าจะเป็น ฝาข้าง หน้า และฝาปิดเพาเวอร์ซัพพลายที่อยู่ด้านล่าง กระจกข้างใสเทมเปอร์ ถอดออกง่าย รวมถึงมีพัดลมไฟ RGB มาให้แล้วถึง 4 ตัวด้วยกัน แบ่งเป็นหน้า 3 ตัว หลัง 1 ตัว พร้อมตะแกรงด้านหน้าให้ Air flow แบบสุดๆ

10 อันดับ
10 อันดับ

ด้านในรองรับ Radiator ชุดน้ำ 3 ตอน 360 ได้อีก 3 ตัว คือ ด้านบน ด้านล่างและด้านหน้า ติดตั้งพัดลม รวมกันได้ถึง 10 ตัว ผมว่าดีไซน์ได้ค่อนข้างอลังการทีเดียว เหมาะสำหรับคนที่จะใช้ชุดน้ำสำหรับซีพียู การ์ดจอ และอื่นๆ เพิ่มเติม

10 อันดับ

แถมด้วยช่อง Mount เพื่อติดตั้ง Storage ได้สูงสุดถึง 12 ตัว ในจุดต่างๆ ที่เค้าเตรียมเอาไว้ให้ ซึ่งเท่าที่ผมสังเกต เพลตที่อยู่ด้านบนของเพาเวอร์ สามารถปรับเลื่อนได้หลายรูปแบบ ตรงนี่ถือเป็นจุดสำคัญในการติดตั้งอุปกรณ์เหล่านี้ เท่าที่ผมเช็คมาในบ้านเราพอมีจำหน่ายบ้างแล้ว ราคาประมาณ 4 พันปลายๆ เท่านั้น

ข้อมูลเพิ่มเติม: Lian Li


4.Hyte Y60

แต่ถ้าจะเป็นเคสคอมที่ดูโดดเด่น เป็นกระแสมากที่สุดใน CES 2023 ปีนี้ ก็ต้องเป็นค่ายนี้ครับ HYTE ในรุ่น Y60 ล่าสุด ดีไซน์แนวตู้ปลา ราคาดี มีกระจกเทมเปอร์ 3 ด้าน งานดูพรีเมียม น่าสนใจไม่น้อยเลย เป็นเคสแนวที่คล้ายๆ กับเคสกระจกหลายรุ่นในบ้านเรา เมืองนอกเค้ายกให้เป็น Good compact, Good Material เลยทีเดียว แล้วถ้าถามว่าแปลกหรือเด่นอย่างไร

10 อันดับ

ก็ยังคงต้องเริ่มกันตั้งแต่ดีไซนกระทัดรัด ดีไซน์พรีเมียม ด้านหน้าตัดมุม 45 องศา ไม่เหมือนใคร ส่วนตัวผมรู้สึกว่า มันมองฮาร์ดแวร์ได้ในหลายมิติ ดูแล้วกว้าง แถบด้านบนและล่างกว้างขวาง ให้พื้นที่ในการจัดวางอุปกรณ์ได้มากขึ้น เช่น ปั้มน้ำ หรือชุดพัดลม Radiator ช่องตะแกรง ทั้งด้านบน และด้านล่าง ช่วยระบายอากาศ 

10 อันดับ

ติดตั้งชุด Radiator ได้อย่างน้อย 2 ชุด ด้านหลัง และด้านบน สามารถวางการ์ดจอแนวตั้งได้ ด้านหลังเหลือพื้นที่มากมาย ให้เก็บสายหรือประกอบฮาร์ดแวร์อื่นเพิ่มได้ เช่น SSD เป็นต้น

10 อันดับ

นอกจากนี้ภายในเคสยังมีอุปกรณ์ที่ช่วยให้ผู้ใช้ติดตั้งกราฟิกการ์ดแบบ Low-Profile ขนาดเล็กได้ ไม่ต้องไปหาแปลง Bracket ให้เสียเวลา และเสริมขาแขวนสายเพาเวอร์ที่ต่อการ์ดจอมาให้ในตัว พื้นที่ภายในรองรับการ์ดจอได้ยาวแบบ 3 พัดลมได้อีกด้วย บ้านเราพอมีให้ Pre-Order ในราคาประมาณ 8,000 บาท

ข้อมูลเพิ่มเติม: HYTE


5.Thermaltake CTE

เป็นเคสคอมในซีรีส์ที่เปิดตัวในงานได้สุดอลังการ สำหรับ Thermaltake CTE ที่ดีไซน์ออกมาในแบบที่เรียกว่า Centralized Thermal Efficiency ซึ่งเน้นที่การระบายความร้อน ปรับจูนอากาศให้ไหลเวียนได้ดี และจุดเด่นอยู่ที่การปรับหมุนเมนบอร์ดได้ในแบบ 90 องศา 

10 อันดับ

ตัวเคสผมว่าคล้ายกับการนำเอาจุดเด่นของหลายๆ รุ่นมารวมกัน ไม่ว่าจะเป็น Tower, V หรือ View ก็ตาม นำมาผสมผสานกันให้ลงตัว และภายในมีความยืดหยุ่น ปรับเลื่อน แกะ ประกอบได้หลากหลาย โดยเฉพาะการวางเมนบอร์ด ที่ปรับมุมได้ 90 องศา เพื่อให้รับลมหรือต่อเข้ากับ Block น้ำได้ลงตัวมากขึ้น

10 อันดับ

พัดลมและชุดน้ำก็วางกันได้แบบจุใจครับ ไม่มีกั๊ก ตามสไตล์ของค่ายนี้ ไม่ว่าจะเป็นด้านหน้า หรือด้านหลัง ที่ใส่ Radiator แบบ 360mm ได้ 2 ชุด ยังไม่รวมด้านล่างเคส และด้านบนก็ติดตั้งแบบ 240mm ได้ โดยที่ทาง Thermaltake เค้าดีไซน์ทางลมให้เป็นแบบ ดูดลมเข้าทางด้านหน้าและหลัง และระบายลมร้อนออกทางด้านบน ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี

10 อันดับ

หลายคนอาจสงสัยว่า แบบนี้จะมีพื้นที่ติดตั้งเพาเวอร์ตรงจุดใด? ถ้าสังเกตดีๆ จะเห็นว่าเพาเวอร์ในแต่ละรุ่น จะวางไม่เหมือนกัน บางรุ่นข้างล่าง หรือบางรุ่นก็อยู่ด้านหลังเคส และบางทีก็อยู่ด้านบน เพราะซีรีส์นี้ออกมาถึง 6 รุ่นด้วยกัน และการจัดวางก็ต่างกันไปตามดีไซน์นั่นเอง

10 อันดับ

ส่วนความยาวของการ์ดจอไม่น่ากังวล เพราะเท่าที่ดู นอกจากจะวางได้ทั้งแนวตั้ง และแนวนอนแล้ว ยังปรับ 90 องศาได้อีกด้วย การ์ดแบบ 3 พัดลมก็วางได้ ไม่ได้ดูติดขัดแต่อย่างใด ใครที่รอราคา คงต้องอดใจอีกนิดครับ เพราะบ้านเรากำลังเปิดตัวครับ

ข้อมูลเพิ่มเติม: Thermatake


6.Cooler Master Cooling X

ถ้าพูดถึงเคสคอมและชุดระบายความร้อน ไม่มีค่ายนี้ไม่ได้เลยครับ และใน CES 2023 ครั้งนี้ เค้าก็จัดแบบพิเศษมาให้กับ Cooling X ที่เป็นเคสออกแบบใหม่ ซึ่งมาพร้อมชุด Liquid Cooling มาในตัว สำหรับซีพียูและการ์ดจอ โดยใช้พื้นที่ฐานของตัวเคสแบบ Tower ด้วยบอดี้ทื่ใหญ่ วางตำแหน่งเอาไว้สำหรับเกมเมอร์ระด้บไฮเอนด์ รูปทรงคล้ายกับ Cosmos และยังผสมกับหน้าตาของรุ่นอื่นๆ มาไว้อีกด้วย ซึ่งช่วงหลังๆ ผมเองรู้สึกว่า ดีไซน์เค้าเริ่มไปไกลมาก

10 อันดับ

อย่างที่เห็นคือ ด้านหน้ามาพร้อมกับโลหะแบบตะแกรงดูดอากาศด้านนอก พร้อม Strip แสงไฟ ด้านข้างและด้านหลัง ก็เป็นช่องขนาดใหญ่ แต่ไม่ได้ถึงกับจะเป็นช่องลมทะลุไปยังภายในได้ทั้งหมด ซึ่งคล้ายกับว่าโครงสร้างภายนอก จะเป็นเหมือนครีบระบายความร้อน และใช้เป็นจุดไหลเวียนของเหลว โดยมีตัวปั้มและ Block อยู่ภายใน 

10 อันดับ

โดยเท่าที่ดูทิศทางการไหลของ Liquid Cooling ถ้าดูตามชาร์ทนี้แล้ว จะเป็นเหมือน มาจากด้านข้างซ้ายของเคส เข้าปั้ม ไหลไปยังซีพียู และ GPU แล้วไปยังฝาข้างด้านขวา แล้วไปเวียนที่ Radiator จากนั้นก็จะไหลกลับไปยังฝาข้างด้านซ้ายอีกครั้งหนึ่งแบบนี้

10 อันดับ

เปิดฝาข้างออกได้ทั้ง 2 ด้าน จัดวางเพาเวอร์ไว้ด้านล่าง ด้านหลังมี Radiator 1 ชุดสำหรับซีพียู แต่ที่แอบสงสัยคือ ช่องด้านหลังที่เป็นพอร์ตแสดงผลด้านบนเคสนี้ เอาไว้ให้การเชื่อมต่อในแบบใดกันแน่ หรืออาจจะเป็นการวางอีกแนว และเปิดฝาด้านบน เพื่อต่อจอก็เป็นได้ครับ ใครชอบเคสแนวนี้ อดใจรอครับ ถ้ามีข้อมูลมาเพิ่มเติม จะเอามานำเสนออีกครั้งหนึ่งนะครับ

ข้อมูลเพิ่มเติม: wccftech.com


7.InWin POC Case

ใครที่เป็นนัก Mod ชอบเคสแบบมีสไตล์ มีชิ้นส่วนประกอบได้เองแบบอิสระ เคสรุ่นนี้ที่ InWin นำมาโชว์ในงาน น่าจะถูกใจคุณ ใช้แนวคิดคือ POC ออกแบบมาเป็นแผงโลหะ SECC แข็งแรงแบบโครงสร้างเคสปกตินี่เลย คุณสามารถนำมาประกอบจนกลายเป็นเคส Mini-ITX ได้ คล้ายกับการพับกระดาษ Origami อะไรแบบนั้น เคสจะเน้นสีสันที่สดใสหน่อย เพราะมีให้เลือกโทน เขียว/เหลือง (Tropical Sweetheart) และ น้ำเงิน/ดำ (Race Blue)

10 อันดับ

ตัวเคสมาพร้อมพัดลมขนาด 120mm มาให้ 1 ตัว รองรับการติดตั้งเพาเวอร์ยาว 16cm แต่ที่น่าสนใจคือ มีช่องสำหรับติดตั้งการ์ดจอแบบแนวตั้งได้อีกด้วย มี PCI-Express 4.0 riser cable ให้ และรองรับการ์ดจอรุ่นใหญ่ 3.5 สล็อต ยาวถึง 34cm ได้อีกด้วย

10 อันดับ

อย่างไรก็ดีในงานนี้ เท่าที่ได้เห็นไม่ได้มีความแปลกตากับโครงสร้างเคสเพียงอย่างเดียว แต่บรรจุภัณฑ์ที่เค้าใส่มาในแต่ละชิ้นนั้น ยังเป็นแบบซองกระดาษ รีไซเคิล ห่อมาให้อีกด้วย เซอร์ไพรซ์กันไปใหญ่ 

10 อันดับ

เคสแบบนี้ ชวนให้ผมนึกถึงบ้านน็อคดาวน์ในปัจจุบัน ที่คุณสามารถจัดการได้เอง เพราะเมื่อแกะของออกมาจากห่อ จะเป็นโลหะแบนเรียบ และคุณต้องมาพับงอในบางจุด แล้วไขน็อตยึดเพิ่มความแข็งแรง  เพื่อประกอบให้กลายเป็นเคสแบบ 3 มิติให้พร้อมใช้งาน

ตอนที่เห็นภาพเคสที่ประกอบสำเร็จแล้ว ส่วนตัวรู้สึกค่อนข้างทึ่ง แล้วน่าจะเป็นแนวโน้มที่ดีกับเคส Custom ในอนาคต ถ้ามีเรื่องของราคาเราจะมาอัพเดตให้ฟังกันอีกครั้งครับ

ข้อมูลเพิ่มเติม: InWin


8.COUGAR CRATUS

ถ้าพูดถึงเคสล้ำๆ หลายคนก็น่าจะนึกถึงค่ายนี้ COUGAR ที่มีเคสสวยล้ำอีกรุ่นหนึ่งมาลงตลาด ในชื่อ CRATUS สำหรับผมมองว่า มันเหมือนกับแชสซีส์ของรถแข่งเลยทีเดียว กับรูปลักษณ์ที่ดูดุดัน โครงสร้างท่อโลหะ ผสานกับกระจกเทมเปอร์ ที่มีการดัดโค้ง ให้ดูลงตัว ภายในกว้างขวาง เหมาะกับการติดตั้งอุปกรณ์ และสายนักโมดิฟาย ที่แทบจะสวยมาจากโรงงาน 

10 อันดับ

กระจกเทมเปอร์ เป็นคีย์หลักที่สร้างความโดดเด่น เพราะมีให้ถึง 4 ด้าน ด้านหน้าดัดโครงให้เข้ากับโครงเคส ยาวไปจนถึงด้านบน และ

10 อันดับ

การจัดทิศทางลม ใช้การดูดลมเย็นจากด้านหน้า และด้านล่าง ให้หมุนเวียนภายในเคส แล้วปล่อยลมร้อนออกทางด้านหลัง พร้อมแสงไฟ ARGB สวยเวอร์วัง ปรับแต่งได้ ด้วยการกดปุ่ม RGB บนตัวเคส แต่ก็มีหัวต่อ เพื่อเสียบเข้ากับเมนบอร์ด ในการใช้ร่วมกับซอฟต์แวร์ได้อีกด้วย 

10 อันดับ

จัดวางเคสได้ตั้งแต่ ATX ไปจนถึง E-ATX ซึ่งทำให้การวางการ์ดจอ ใส่ได้ยาวถึง 46cm ถ้าไม่ได้ติดตั้ง Radiator ด้านข้างเมนบอร์ด พร้อมพื้นที่ด้านหลังติดตั้ง SSD 2.5″ ได้ถึง 3 ตัวด้วยกัน และช่องสำหรับ HDD 3.5″ การติดตั้งชุดระบายความร้อน ทำได้ทั้งชุดพัดลมได้สูงสุด 9 ตัว และชุดน้ำ ติดตั้ง Radiator 360mm ได้ 

ที่ชอบเลยก็คือ ด้านหลังมีช่องเก็บสายเคเบิล ที่เปิดออกได้ ไม่ต้องแกะให้วุ่นวาย ความหนาที่มากพอสำหรับ ม้วนสายเอาไว้ในนั้น แทบจะมองไม่เห็นสายต่อเลยก็ว่าได้

10 อันดับ

เรื่องของราคายังไม่ได้เคาะออกมาเป็นทางการ ส่วนตัวมองว่า ถ้าคุณชอบเคสแบบนี้ ที่เปิดให้ลมเข้าหลายด้าน กระจกเทมเปอร์ที่โชว์ได้เกือบทุกอณู พร้อมกับดีไซน์ที่ไม่เหมือนใคร กำเงินรอไว้ได้เลยครับ ไตรมาสแรกปีนี้ได้ลุ้น

ข้อมูลเพิ่มเติม: COUGAR


9.MSI MEG Prospect 700

มาถึงเคสที่ 9 แล้ว เคสนี้ ไม่ได้ถือว่าใหม่มาก เพราะเปิดตัวมาตั้งแต่ปลายปี 2565 และสื่อบ้านเราก็ได้รีวิวกันไปบ้างแล้ว แต่ที่นำมาเพราะความล้ำสมัย มีฟังก์ชั่นที่ตอบโจทย์การใช้งานได้ดี โดยเฉพาะการมีพาแนลบนตัวเคส สำหรับปรับแต่งสิ่งต่างๆ ภายใน 

10 อันดับ

กระจกเทมเปอร์สวยใสด้านข้าง เปิดกางได้ง่าย รวมถึงฝาปิดข้าง ที่เก็บสายไฟ ก็กว้างขวางดีทีเดียว

10 อันดับ

จอเป็นแบบทัชสกรีนขนาดใหญ่ ปรับโหมดไฟ ARGB ได้ เลือกได้หลายแบบ รวมถึงปรับรอบพัดลม มีโพรไฟล์ ตั้งเวลาเปิด-ปิดหน้าจอ ซิงก์กับซอฟต์แวร์บนเมนบอร์ดได้เช่นกัน ทำให้ผมรู้สึกเหมือนกับที่มีอยู่บนเกมมิ่งพีซีบางรุ่นของ MSI 

10 อันดับ

ภายในติดตั้งชุดน้ำ Radiator 360mm ได้ มีพัดลมให้เป็นแบบ ARGB จำนวน 4 ตัว หน้า 3 หลัง 1 ขนาด 140mm พาแนลด้านหลังปรับเลื่อนได้ สำหรับการวาง Radiator หรือจะใช้เป็นพัดลมก็ได้เช่นกัน พื้นที่ภายในวางการ์ดจอตัวใหญ่ๆ 3 พัดลมได้สบายๆ กว้างขวาง

10 อันดับ

แต่เรื่องของมิติ ก็อาจจะดูใหญ่พอสวมควร แต่ถ้ามองว่า ตั้งใจจะจับฮาร์ดแวร์แรงๆ รุ่นใหญ่ ยัดเข้าไปให้ได้ รวมถึงชุดน้ำ ผมว่า MSI รุ่นนี้ตอบโจทย์คุณได้เลย เคาะราคาอยู่ที่ประมาณ 14,900 บาทครับ มีจำหน่ายแล้ว สนใจก็ไปตำกันได้เลย

ข้อมูลเพิ่มเติม: MSI


10.ASUS HYPERION

เป็นเคสเกมมิ่งสำหรับคอเกม ที่มีความโดดเด่นในด้านการออกแบบ ซึ่งหากคุณเป็นแฟนบอยของ ASUS ROG เคสนี้ น่าจะเป็นทางของคุณ ตัวเคสขนาดใหญ่ เพิ่มระดับความสูง ให้อากาศไหลเวียนได้มากขึ้น และรองรับ Radiator ขนาด 420mm ได้ถึง 2 ตัวด้วยกัน กับการออกแบบรูปลักษณ์ที่ยังล้ำสมัย พร้อมใส่สีสันไฟ RGB มาเป็นทางเลือกให้กับการแต่งคอม กับการจัดวางเคส ที่ใช้โครงรูปตัว X ในการกระจายน้ำหนัก

10 อันดับ

ภายในเปิดให้เป็นห้องขนาดใหญ่ รับการติดตั้งเมนบอร์ด E-ATX ได้ พร้อมพื้นที่ขนาดใหญ่ ให้สามารถรองรับการ์ดจอรุ่นใหญ่อย่าง GeForce RTX4090 ได้สบาย ซึ่งสามารถใส่การ์ดจอได้ยาวสุดถึง 46cm เลยทีเดียว โดยให้พื้นที่แนวตั้งสูงสุด 13cm เผื่อการ์ดจอตัวใหญ่ จะได้ไม่ติดขอบฝาเคส

นอกจากนี้ยังมาพร้อมโครงอะลูมิเนียม สำหรับรับกราฟิกการ์ดแบบ 2-way ยึดไม่ให้ตัวการ์ดห้อย หรือเอียงไปทางด้านใดด้านหนึ่ง รวมถึงยังจัดสายเคเบิลได้ง่ายกว่าเดิม

10 อันดับ

พื้นที่ด้านหลังเมนบอร์ดกว้างพอในการจัดเก็บสาย พร้อมกับแถบยาง เพื่อใช้ในการรัดจัดเก็บให้เป็นระเบียบ เช่นเดียวกับฝาปิดอะคลิลิคทางด้านหลัง ให้เปิดออก และใส่สายเข้าไปได้ โดยมีคอนโทรลเลอร์ ARGB มาในตัว เพื่อใช้ต่อเข้ากับบรรดาอุปกรณ์ที่รองรับ AURA Sync ซึ่งติดตั้งชุดอุปกรณ์ไฟ RGB เพิ่มได้ถึง 8 ชิ้นและพัดลมแบบ PWM 6 ตัว

10 อันดับ

นับว่าเป็นเคสคอมอีกรุ่นหนึ่ง ที่สามารถปรับเปลี่ยนและโมดิฟายได้ง่าย เหมาะกับคนที่ชอบประกอบคอมเซ็ตด้วยตัวเอง และเพิ่มอุปกรณ์เข้าไปได้สะดวก การระบายความร้อนที่ดียิ่งขึ้น

ข้อมูลเพิ่มเติม: ASUS


Conclusion

10 อันดับ เคสคอม 2023 ที่เราได้รวบรวมมาในครั้งนี้ ในแต่ละรุ่นถือว่ามีความโดดเด่นแตกต่างกันออกไป ซึ่งหากมองกันที่นวัตกรรมแล้ว CYBERPOWERPC ถือว่ามีลูกเล่นที่น่าสนใจทีเดียว แต่ถ้าจะเน้นที่การระบายความร้อน MSI, COUGAR และ Cooler Master ก็มีทิศทางในการปรับแต่งเคสของตน เพื่อให้ผู้ใช้ได้นำไปใช้งานได้เลย แทบจะไม่ต้องเพิ่มเติมสิ่งอื่นใดมากนัก และยังรองรับการติดตั้ง Radiator ได้มากกว่า 1 ชุดอีกด้วย แต่ถ้าชอบความล้ำสมัย สวยงามเคสจาก COUGAR, MSI และ ASUS ก็ตอบโจทย์เกมเมอร์ และนักโมดิฟายได้ดี แต่ถ้าชอบความเก๋ไก๋ ดูไม่ซ้ำใคร สวยได้แม้จะมินิมอล เคสจาก InWin และ Hyte น่าจะเป็นสิ่งที่คุณชื่นชอบได้เป็นอย่างดีครับ ความชอบของคุณเป็นแบบใด เลือกใช้กันได้ตามสะดวก แล้วอย่าลืมคอมเมนต์ให้เพื่อนๆ ได้ทราบกันบ้างนะครับ แล้วพบกันกับการรวบรวมข้อมูลไอทีครั้งต่อไปครับ

from:https://notebookspec.com/web/684474-10-pc-case-ces-2023

โน๊ตบุ๊คเล่นเกมราคาถูก 8 รุ่น เริ่มไม่ถึง 30,000 ปี 2023 เล่นเกมใหม่ เฟรมเรตลื่น

โน๊ตบุ๊คเล่นเกมราคาถูก 8 รุ่นเด็ด เริ่ม 29,900 การ์ดจอแรง จอใหญ่ เล่นเกมลื่น อัพเกรดได้

โน๊ตบุ๊คเล่นเกม

โน๊ตบุ๊คเล่นเกมราคาถูก 8 รุ่น ต้นปี 2023 ครั้งนี้จัดมาให้สำหรับคอเกม ที่กำลังมองหาโน๊ตบุ๊คสำหรับเล่นเกมใหม่ๆ ในปีนี้ กับราคาในระดับที่จ่ายง่าย สบายกระเป๋า เริ่มแค่ 29,900 บาท ไปจนถึง 35,900 บาท แต่เล่นเกมได้แบบโหดๆ กับสเปคที่ให้คุณเล่นเกมบนความละเอียด Full-HD ได้ลื่น ว่ากันตั้งแต่ซีพียูระดับ Intel Core i5 จนถึง Core i7 และ AMD Ryzen 5 กับความแรงที่จะตอบโจทย์ทั้งการเล่นเกมพื้นฐาน ไปจนถึงเกมระดับ AAA โดยมีกราฟิกการ์ด GeForce RTX3050, RTX3050Ti และ RTX3060 ให้ใช้งาน จอแสดงผลขนาดใหญ่ ซึ่งในเวลานี้มีให้เลือกเกือบทุกแบรนด์ แต่จะมีรุ่นไหนที่น่าสนใจ ซึ่งเข้ามาตามเงื่อนไขหรือจัดสเปคให้เกินจากนี้บ้าง ไปติดตามชมกันครับ

โน๊ตบุ๊คเล่นเกมราคาถูก 8 รุ่น ปี 2023

  1. MSI GF66 Katana 12UC
  2. ASUS TUF Gaming A17
  3. Gigabyte A5 K1
  4. Gigabyte G5 ME
  5. HP Victus Gaming 16
  6. ASUS TUF Dash F15
  7. Lenovo Gaming3
  8. Acer Nitro AN515

1.MSI GF66 Katana 12UC

โน๊ตบุ๊คเล่นเกม

มาเริ่มกันที่โน๊ตบุ๊คเล่นเกมรุ่นแรก ที่ทำราคาออกมาได้ดีเลยทีเดียว สำหรับ GF66 Katana ซึ่งเป็นซีรีส์ในตระกูลเกมมิ่ง ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปีที่ผ่านมา เพราะเรื่องของการดีไซน์และวัสดุ มีความคุ้มค่าน่าสนใจ แม้ว่าจะไม่ได้มีลูกเล่นหวือหวามากนัก คีย์บอร์ดเป็นไฟสีแดง ตัดกับโครงสร้างสีดำ ดูโหดๆ ดีเหมือนกัน แต่ถ้าเน้นที่พลังในการเล่นเกม หน้าจอขนาดใหญ่ สีสดใส ระดับ 15.6″ FHD และรีเฟรชเรตสูงถึง 144Hz ก็ต้องบอกว่า ราคาหาตัวจับมาแข่งได้ยาก ซึ่งทาง MSI ใส่ขุมพลัง Intel Core i5-12450H เกมมิ่งซีพียูตัวแรงมาให้ พร้อมแรม DDR5 8GB และใส่การ์ดจอ GeForce RTX3050 4GB มาให้ด้วย แบตเตอรี่อาจจะไม่ใหญ่นัก น้ำหนักตัวเลยอยู่ที่ประมาณ 2.25Kg เท่านั้น พอร์ตจัดมาให้ครบ เช่นเดียวกับชุดระบายความร้อน CooloerBoost 5 ที่มีฮีตไปป์หลายเส้น คู่กับพัดลมคู่ขนาดใหญ่ อันเป็นเอกลักษณ์ กับการรับประกัน 2 ปี ราคาอยู่ที่ราว 29,900 บาทเท่านั้น

Advertisementavw
จุดเด่น ข้อสังเกต
มาพร้อมแรม DDR5 ไม่มี Thunderbolt 4
แบตค่อนข้างอึด

ข้อมูลเพิ่มเติม: MSI


2.ASUS TUF Gaming A17

โน๊ตบุ๊คเล่นเกม

เป็นอีกหนึ่งโน๊ตบุ๊คเล่นเกมตัวคุ้มสุดโหด ดีไซน์สวย ฟังก์ชั่นเด่นในตลาดบ้านเรา สำหรับงบประมาณ 3 หมื่นกว่าบาท ซึ่งมีการต่อยอดมาอย่างต่อเนื่องจาก ASUS TUF รุ่นก่อนๆ มาได้ดี จากบอดี้ที่ก่อนหน้านี้เน้นอึดถึก ดูบึกบึน มาถึงตอนนี้ เริ่มปรับเส้นสายและมิติให้ดูบาง ลงตัวมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น Cover สีเทาเรียบๆ แต่ใส่โลโก้ให้ดูสะดุดตา ด้านใต้เป็นช่องลมแบบรังผึ้ง ด้านในลายอลูมิเนียมปัดเสี้ยน และให้หน้าจอใหญ่ 17.3″ FHD อัตรารีเฟรชเรตสูงถึง 144Hz ขุมพลัง AMD Ryzen 7 4800H พร้อมแรม DDR4 3200 8GB อัพเกรดเพิ่มได้ และ SSD 512GB โดยใช้การ์ดจอพิมพ์นิยม GeForce RTX3050 มาด้วย กับระบบเสียงสุดกระหึ่มเอาใจเกมเมอร์ และคอบันเทิงได้ดีทีเดียว พอร์ตต่อก็ครบ ทั้ง USB 3.2, USB Type-C ที่ใช้ต่อจอได้ และ HDMI ไปจนถึง LAN ชุดระบายความร้อนพัดลมคู่ และฮีตไปป์ จุดเด่นอยู่ที่คีย์บอร์ดแสงไฟ RGB ปรับแต่งได้ พร้อมโพรไฟล์ให้เลือก 4 แบบด้วยกัน การรับประกัน 2 ปี ราคาประมาณ 30,990 บาท

จุดเด่น ข้อสังเกต
คีย์บอร์ด RGB แรม DDR4
จอขนาดใหญ่

ข้อมูลเพิ่มเติม: ASUS


3.Gigabyte A5 K1

โน๊ตบุ๊คเล่นเกม

เข้าป้ายมาอีกหนึ่งรุ่นสำหรับโน๊ตบุ๊คเล่นเกมจาก Gigabyte ที่จัดสเปคมาให้แบบจัดเต็ม ไม่เป็นรองใคร อาจจะต่างจากรุ่นของ G5 อยู่บ้าง ในแง่ของบอดี้ที่อาจะดูบึกบึนขึ้นมา แต่มาในสไตล์ที่ดูเป็นเกมมิ่งดุดัน ให้ขุมพลังมาเพื่อรีดเฟรมเรตโดยเฉพาะ กับโครงสร้างที่แข็งแกร่ง หน้าจอแบบ 15.6″ IPS 144Hz Full-HD และมีขอบจอบางพิเศษ โดยให้ซีพียู AMD Ryzen 5 5600H ที่รับได้ทั้งงานและการเล่นเกมปัจจุบัน พร้อมแรม DDR4 3200 8GB เช่นเดียวกับ SSD 512GB มาตรฐาน รองรับการอัพเกรดได้พอสมควร ส่วนการ์ดจอต้องจัดว่าแรงแซงหน้าคู่แข่งในงบพอกัน เพราะจัด RTX3060 มาให้ เล่นเกมได้ลื่นมากขึ้น ส่วนคีย์บอร์ดสไตล์เกมมิ่ง ที่มีแสงไฟ Backlit มาในตัว ตั้งรูปแบบแสงไฟได้ 15 สี พอร์ตโดดเด่นตรงที่มี Mini DP เพิ่มมาให้ นอกเหนือจาก HDMI จึงต่อเพิ่มได้อีก 2 จอ และพอร์ต USB 3.2 Type-C แต่ไม่มี Thunderbolt 4 มาให้ น้ำหนักตัวประมาณ 2.12Kg ราคาสบายกระเป๋า 31,990 บาท

จุดเด่น ข้อสังเกต
ให้การ์ดจอ RTX3060 แรม DDR4
มีพอร์ต HDMI และ Mini DP ต่อจอใหญ่ได้

ข้อมูลเพิ่มเติม: Gigabyte


4.Gigabyte G5 ME-51TH263SH

โน๊ตบุ๊คเล่นเกม

มาถึงโน๊ตบุ๊คเล่นเกมจากทาง Gigabyte ซึ่งเป็นค่ายที่ช่ำชองในตลาดของเกมมิ่งมายาวนาน และในไทยก็มีโน๊ตบุ๊คที่ล้ำๆ มาให้ได้ใช้กันด้วย ในราคาที่เป็นกันเอง อย่างเช่น G5 Gen12 รุ่นนี้ ที่ใส่มาทั้งดีไซน์และฟีเจอร์น่าสนใจมากมาย หน้าจอขนาด 15.6″ FHD 144Hz ฝาหลังมีการออกแบบเส้นสายให้ดูไม่น่าเบื่อ กับบอดี้ที่ดูปรับให้ลงตัวมากขึ้น บานพับขนาดใหญ่ เน้นการใช้งานที่ไม่โยกคลอนง่าย พอร์ตต่อพ่วงกระจายออกไปในทุกด้าน เพื่อลดความแออัด ขุมพลัง Intel Core i5-12500H และให้แรม DDR4 3200 8GB มาให้ และ SSD 512GB แต่ขยับการ์ดจอให้แรงขึ้นอีกนิดกับ RTX3050Ti น้ำหนักทำได้ค่อนข้างดีอยู่ที่ 1.9Kg เท่านั้น กับระบบเสียง DTS:X จัดเต็มสำหรับคอเกม คู่กับลำโพงใต้เครื่องให้มิติเสียงได้สนุก โดยมีพอร์ตพื้นฐานอย่าง USB 3.2 Type-C และ HDMI รวมถึง Mini-DP มาให้ จะขาดไปเพียง Thunderbolt 4 ที่จะอยู่ในรุ่น G5 KE เท่านั้น อย่างไรก็ดีโดยรวมยังถือว่ามาแบบครบๆ สเปคก็ถือว่าจัดจ้าน กับการรับประกัน 2 ปี ในราคา 32,490 บาท เท่านั้น

จุดเด่น ข้อสังเกต
ได้การ์ดจอ RTX3050Ti ไม่มี Thunderbolt 4
ดีไซน์ทันสมัย

ข้อมูลเพิ่มเติม: Gigabyte


5.HP Victus Gaming 16-e1081AX

โน๊ตบุ๊คเล่นเกม

มาถึงโน๊ตบุ๊คเล่นเกมตัวแกร่งของทาง HP กันบ้าง ใครที่ชื่นชอบเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คที่มีมิติเพรียวบาง Victus ก็น่าจะเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ ดีไซน์ของรุ่นนี้ จะออกไปทางสาย Pavilion ที่ดูมีความหรูหรา และให้ความแรงที่แตกต่าง กับหน้าจอขนาดใหญ่ 16″ ที่กว้างขึ้น ความละเอียด Full-HD รีเฟรชเรต 144Hz จัดได้ว่าเป็นหน้าจอที่สว่างสดใส ให้ความแม่นยำของสีได้ดีพอสมควร กับสเปคที่จัดว่าขิงกับค่ายอื่นได้สบาย ในราคาเดียวกัน เพราะได้ซีพียูใหม่อย่าง AMD Ryzen 5 6600H 6 core/ 12 thread กับความเร็วสูงสุด 4.5GHz ที่มากับแรม DDR5 ที่เสริมความแรงมาให้ถึง 16GB รวมถึง SSD 512GB และการ์ดจออย่าง GeForce RTX 3050Ti อีกด้วย อีกทั้งยังให้ระบบเสียงมาเพื่อคอเกมโดยเฉพาะ กับพอร์ตเชื่อมต่อสำคัญก็มีมาเกือบครบ อย่าง USB 3.2 Type-C, HDMI และ RJ-45 แต่คีย์บอร์ดจะมาในแบบแสงไฟสีขาวมาเท่านั้น การรับประกันเป็นแบบ 2 ปี On-site service ราคาอยู่ที่ 33,400 บาท

จุดเด่น ข้อสังเกต
แรม 16GB คีย์บอร์ดไฟขาว
ได้การ์ดจอ RTX3050Ti

ข้อมูลเพิ่มเติม: HP


6.ASUS TUF Dash F15 FX517

โน๊ตบุ๊คเล่นเกม

เรียกว่าสายของ TUF Dash จาก ASUS ไม่เคยแผ่ว โตในสายเกมมิ่งได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งโน๊ตบุ๊คเล่นเกมรุ่นนี้เอง ก็จัดว่าน่าสนใจ เพราะใส่ขุมพลังตัวแรง อย่าง Intel Core i5-12450H เกมมิ่งตัวแรงมาด้วย คู่กับแรม DDR5 8GB รองรับการอัพเกรดเพิ่มได้ เช่นเดียวกับ SSD 512GB M.2 รุ่นใหม่ ความเร็วสูง กับหน้าจอขนาด 15.6″ FHD อัตรารีเฟรชเรต 144Hz ซึ่งขอบจอบางพิเศษ กับใครที่อยากจะได้การ์ดจอที่แรงขึ้นสุดในราคาระดับนี้ ASUS ให้มาเป็น RTX3050Ti พร้อม MUX switch ในตัว คีย์บอร์ดแสงไฟ RGB ใช้งานร่วมกับ AURA Sync ได้ จุดเด่นอยู่ที่การนำเสนอความทนทานกับดีไซน์ที่สวยโดดเด่น วัสดุเป็นอะลูมิเนียม ชุดระบาบความร้อนออกแบบมาเป็นพิเศษ Arc Flow Fans ที่ให้การหมุนเวียนของอากาศได้ดี ช่วยลดความร้อนในขณะเล่นเกม กับพอร์ตต่อพ่วงสำคัญอย่าง Thunderbolt 4, USB 3.2 Type-C และ HDMI มีให้ใช้ครบ กับการรับประกัน 2 ปีและ Perfect Warranty น้ำหนักเบาเพียง 2Kg. เท่านั้น เคาะราคามาที่ 34,990 บาท

จุดเด่น ข้อสังเกต
ได้ RTX3050Ti
คีย์บอร์ดแสงไฟ RGB

ข้อมูลเพิ่มเติม: ASUS


7.Lenovo IdeaPad Gaming 3 15IAH7

โน๊ตบุ๊คเล่นเกม

สำหรับโน๊ตบุ๊คเล่นเกมจากทาง Lenovo ในราคาระดับนี้ ทำให้ผมชั่งใจพอสมควร ระหว่างรุ่นนี้ที่ใช้ Intel Core i5-12500H กับ i5-12450H เพราะได้การ์ดจอต่างกันในราคาเบียดๆ กันเลยทีเดียว โดย i5-12450H+RTX3050Ti ราคาสูงกว่ารุ่นนี้ 1,000 บาทเท่านั้น น่าสนใจด้วยกันทั้งคู่ แต่ถ้าคุณอยากได้เกมมิ่งโน๊ตบุ๊คและจะแบ่งไปจัดเกมมิ่งเกียร์ด้วย ก็จัดรุ่นนี้ได้เลย ดูคมเข้ม ยิ่งรุ่นสีขาว Limited Edition ยิ่งโดนใจกับแสงไฟสีฟ้า การออกแบบใหม่ จัดว่าสวยลงตัว จอขนาด 15.6″ FHD รีเฟรชเรตสูงถึง 165Hz จอสีตรง ให้ความสว่างสูง โดยมีแรม DDR4 3200 8GB อัพเกรดเพิ่มได้ และ SSD 512GB ที่มีสล็อตเพิ่มให้ ระบบเสียง Nahimic สดใส เอฟเฟกต์แน่น พอร์ตมีให้ครบ ส่วนใหญ่ไปอยู่ด้านหลังทั้ง Thunderbolt 4 และ HDMI คีย์บอร์ดกดได้สนุก ชุดระบายความร้อนขนาดใหญ่ ออกแบบมาได้ดี น้ำหนักประมาณ 2.31Kg รับประกัน 3 ปีแบบ Onsite Service ราคาอยู่ที่ 33,900 บาท

จุดเด่น ข้อสังเกต
อัตรารีเฟรชเรตสูง 165Hz น้ำหนัก 2.31Kg
มี Thunderbolt 4

ข้อมูลเพิ่มเติม: Lenovo


8.Acer Nitro AN515-58

โน๊ตบุ๊คเล่นเกม

เป็นอีกค่ายหนึ่งที่ออกโน๊ตบุ๊คเล่นเกมในกลุ่มเกมมิ่งได้ถูกอกถูกใจเหล่าเกมเมอร์มายาวนาน ในซีรีส์ Nitro ถือว่าโดดเด่น และทำราคาที่จับต้องได้ง่าย ใส่ฟีเจอร์มาแน่น เช่นเดียวกับสเปคที่ไม่ธรรมดา โดยมีซีพียู Intel Core i5-12500H ที่ถือว่าจัดจ้าน แต่น่าเสียดายที่ใส่แรม DDR4 มาให้ แต่ก็จัดมาให้เยอะกว่าคู่แข่ง เพราะให้ถึง 16GB และให้การ์ดจอเริ่มต้นอย่าง RTX3050 มาอีกด้วย กับหน้าจอแสดงผล 15.6″ FHD 165Hz เป็นแบบ IPS สีสดใสคมชัด เรื่องของเส้นสาย Cover มาในแบบที่เด่น ตามสไตล์ของรุ่นนี้ ด้านในขอบจอบางเฉียบ และฝาพับที่ค่อนข้างแข็งแรง คีย์บอร์ดเป็นแบบ RGB 4 zone ปรับโพรไฟล์สีได้ กดแน่นสำหรับการเล่นเกมโดยเฉพาะ การระบายความร้อนมาพร้อมพัดลม 2 ตัวกับฮีตไปป์ ด้านท้ายตัวเครื่องออกแบบมาให้มีช่องระบายความร้อนขนาดใหญ่มาให้ ทำงานคู่กับ Nitro Sense ให้การรับประกัน 3 ปี ราคา 35,900 บาท

จุดเด่น ข้อสังเกต
ได้จอรีเฟรชเรต 165Hz
แรม 16GB

ข้อมูลเพิ่มเติม: Acer


Conclusion

Display CPU RAM SSD Graphic Price
1.MSI GF66 Katana 12UC 15.6″ 144Hz Intel Core i5-12450H DDR5 8GB 512GB RTX3050 29,900 บาท
2.ASUS TUF Gaming A17 17.3″ 144Hz AMD Ryzen 7 4800H DDR4 8GB 512GB RTX3050 30,990 บาท
3.Gigabyte A5 K1 15.6″ 144Hz AMD Ryzen 5 5600H DDR4 8GB 512GB RTX3060 31,990 บาท
4.Gigabyte G5 ME 15.6″ 144Hz Intel Core i5-12500H DDR4 8GB 512GB RTX 3050Ti 32,490 บาท
5.HP Victus Gaming 16 16.0″ 144Hz AMD Ryzen 5 6600H DDR5 16GB 512GB RTX 3050Ti 33,400 บาท
6.ASUS TUF Dash F15 15.6″ 144Hz Intel Core i5-12450H DDR5 8GB 512GB RTX 3050Ti 34,990 บาท
7.Lenovo Gaming3 15.6″ 165Hz Intel Core i5-12500H DDR4 8GB 512GB RTX3050 33,900 บาท
8.Acer Nitro AN515 16.0″ 165Hz Intel Core i5-12500H DDR4 16GB 512GB RTX3050 35,900 บาท

ก็เรียกว่าน่าจะครบครันไปแล้ว สำหรับข้อมูลของ 8 โน๊ตบุ๊คเล่นเกมราคาถูกในงบเริ่ม 29,900 บาท ซึ่งมีหลายรุ่นที่น่าสนใจ ซึ่งหากต้องการซีพียู และสเปคที่ค่อนข้างใหม่ ราคาราวๆ 3 หมื่นกว่าบาท มีให้เลือกมากมายเลยทีเดียว ถ้าเน้นราคาเริ่มต้น MSI GF66 ดีไซน์เกมมิ่ง ดุดันสเปคน่าใช้ แต่ถ้าอยากได้จอใหญ่ 17.3″ ซีพียูแรงๆ ASUS TUF A17 ตอบโจทย์คุณได้ ส่วนถ้าเลือกเฉพาะการ์ดจอแรงๆ มีทั้ง Gigabyte G5, HP Victus และ ASUS TUF Dash F15 ถือว่าน่าใช้ และถ้าต้องการจอรีเฟรชเรตสูง Lenovo และ Acer Nitro ทั้งคู่มาเป็น 165Hz แล้ว ส่วนถ้าอยากได้แรม 16GB มีทั้ง HP และ Acer แต่ HP จัดมาเป็น DDR5 อีกด้วย ที่เหลือจะเป็นเรื่องของดีไซน์และฟังก์ชั่น อย่างเช่น เรื่องการระบายความร้อน คีย์บอร์ดไฟ RGB หรือจะเป็นพอร์ต Thunderbolt 4 ก็มีให้ในบางรุ่น อยู่ที่คุณจะตัดสินใจเลือกใช้ และเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ครุ่นไหนโดนใจคุณบ้าง อย่าลืมคอมเมนต์มาบอกเพื่อนๆ กันบ้างนะครับ

from:https://notebookspec.com/web/682754-8-value-gaming-notebook-2023

ล้างเครื่อง Reset PC เหมือนได้คอมใหม่ ง่าย ทำได้ไว ไม่ต้องลงวินโดว์ฉบับปี 2023

ล้างเครื่องใหม่อัพเดต 2023 Reset PC ไม่ต้องลงวินโดว์ใหม่ ทำงาน เล่นเกมลื่นไหล

ล้างเครื่อง

ล้างเครื่อง Reset PC ในโอกาสใดบ้าง ทำไมถึงต้องทำ? วิธีการนี้ เป็นทำให้คอมเครื่องเก่าหรือเครื่องที่ใช้อยู่นั้นกลับมาทำงานได้ตามปกติ เหมือนกับตอนที่ลงวินโดว์ใหม่ๆ รวมถึงทำให้คนที่อาจเจอปัญหากับการใช้ซอฟต์แวร์ หรือไฟล์ระบบทำงานไม่ปกติ การแก้ปัญหาในเบื้องต้นอาจยังไม่พอ ยกตัวอย่างง่ายๆ อย่างเช่น คุณอาจได้คอมมือสอง ที่เป็นมรดกตกทอดจากพี่ หรือซื้อคอมมือสองมา แล้วอยากจะทำให้เหมือนเครื่องใหม่ พร้อมเคลียร์พื้นที่ในระบบให้พร้อมสำหรับใช้งาน หรือแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น เช่น บางครั้งก็จอฟ้า BSOD รวมไปถึงเมื่อต้องการจะขายโน๊ตบุ๊ค หรือเปลี่ยนมือให้คนอื่นใช้ จำเป็นต้องเคลียร์ข้อมูล เพื่อความปลอดภัย นอกจากวิธีการ Recovery แล้ว การ Reset PC ก็ทำให้คอมของคุณกลับมาเหมือนลงวินโดว์ใหม่แบบ Clean ได้เช่นกัน ให้คอมกลับมาทำงานลื่นไหล เหมือนได้คอมเครื่องใหม่ โดยที่ไม่ต้องใช้แฟลชไดรฟ์ มาบูทเครื่องเพื่อลงวินโดว์ใหม่ให้เสียเวลาแล้ว ด้วยขั้นตอนเหล่านี้ คุณสามารถทำด้วยวิธีนี้ทั้งบนโน๊ตบุ๊คหรือพีซีของคุณ


ล้างเครื่อง Reset PC เหมือนได้คอมใหม่

เงื่อนไขและสิ่งที่ต้องเตรียม

  • มีวินโดว์ที่ติดตั้งเอาไว้ก่อนแล้ว หรือเป็นระบบจากเครื่องเก่า (แต่วิธีอาจต่างกันไปใน Windows แต่ละเวอร์ชั่น)
  • จะเป็นวินโดว์แท้ หรือยังไม่ได้ Activate อย่างเป็นทางการ ก็ทำได้ แต่ผลที่ได้อาจไม่เหมือนกัน 100% ถ้าไม่ใช่วินโดว์แท้ติดเครื่อง ก็อาจจะต้อง Activate ใหม่ด้วยคีย์เดิม
  • ต้องมีอแดปเตอร์หรือที่ชาร์จ ที่เสียบชาร์จไฟเอาไว้ได้ กรณีที่เป็นโน๊ตบุ๊ค และชาร์จเอาไว้จนกว่าจะเสร็จสิ้นขั้นตอน
  • ไม่จำเป็นต้องมีแฟลชไดรฟ์ในการบูต ไม่ต้องอาศัยแผ่นติดตั้ง Windows ง่ายและสะดวกกว่าเยอะ
  • ย้ำอีกครั้ง หากคุณมีข้อมูลสำคัญ ให้โยกย้าย สำรองเอาไว้ เช่น Document, Photo, Video, Download หรืออื่นๆ ใส่เอาไว้ใน External Drive เอาไว้ก่อนดีที่สุด

Backup สำรองข้อมูลในส่วนใดบ้าง?

ล้างเครื่อง
  • Desktop: เป็นอีกที่หนึ่งที่หลายคนใช้ในการเก็บไฟล์และจัดวางโฟลเดอร์งาน เพื่อให้เปิดใช้งานได้สะดวก ซึ่งบางครั้งต้องเช็คให้ถี่ถ้วนว่านำมาครบหรือไม่
  • Document: ส่วนใหญ่จะใช้ในการเก็บไฟล์งาน และเอกสาร ข้อมูลต่างๆ ภายในนี้ ซึ่งอาจจะเป็นโฟลเดอร์ซับซ้อน ให้เริ่มเก็บจากโฟลเดอร์หลักมาให้ครบ
  • Pictures: ไฟล์ภาพ และไฟล์ที่ได้จากการ Capture อาจเข้าไปอยู่ในโฟลเดอร์ Screenshot หากยังต้องใช้ ก็ไม่ควรลืมสำรองเอาไว้ด้วย
  • Videos: โฟลเดอร์ที่ใช้เก็บไฟล์วีดีโอต่างๆ รวมไฟล์ที่ Capture มาเป็นวีดีโอ ก็จะอยู่ในนี้ด้วยเช่นกัน
  • Downloads: อาจจะเลือกเก็บเป็นบางไฟล์ หรือบางโปรแกรมที่นำมาใช้ โดยใช้เป็นไฟล์ที่มีการอัพเดตใหม่ หรืออาจจะสำรองเอาไว้ทั้งหมด เพื่อนำไปแยกการใช้งานอีกครั้ง
  • Music: เพลง เสียง และอื่นๆ ถ้ามีสิ่งสำคัญให้สำรองเอาไว้ก่อน
  • นอกจากนี้ก็จะมีเรื่องของ Sticker note หรืออื่นๆ ให้ลองดูว่าเราเพิ่มเติมการใช้งานอื่นใดเข้าไปบ้าง เพราะบางอย่างไม่ต้องสำรองไฟล์ แค่ใช้ Log-in เดิม เช่น Google account หรือ Microsoft account สิ่งต่างๆ เหล่านั้นก็พร้อมให้คุณใช้งานได้ทันที

ประโยชน์ และข้อควรระวังในการล้างเครื่อง Reset PC

  1. การ Reset PC ช่วยให้คุณได้คอมเหมือนเครื่องที่เพิ่งลงวินโดว์มาใหม่ๆ แต่อาจจะมีแตกต่างกันไปบ้าง ตามเวอร์ชั่น รวมถึงควรต้องเตรียมไดรเวอร์หรือแหล่งดาวน์โหลด เพื่อการอัพเดตได้อย่างรวดเร็ว
  2. แต่การ Reset จะทำให้โปรแกรม และข้อมูลของคุณหายไปทั้งหมด ยกเว้นว่า คุณจะสำรองข้อมูลเอาไว้แล้ว หรือจะเลือกเป็นแบบ Keep Data
  3. การ Reset PC เช่นนี้ อาจไม่ได้ส่งผลให้การเล่นเกม เฟรมเรตพุ่ง โดยตรง แต่ก็ช่วยให้การเล่นเกมโดยรวมดีขึ้น เพราะมีการ Clear Cache, ลบไฟล์ขยะ และกำจัดสิ่งที่เป็น Process ของซีพียู แรม เป็นต้น
  4. ข้อควรระวัง สำรองข้อมูล ต่ออแดปเตอร์จ่ายไฟไว้ตลอด โปรแกรมกับไดรเวอร์ต้องหามาเตรียมเอาไว้ กรณีที่อุปกรณ์บางอย่าง ใช้ไดรเวอร์เฉพาะ

ขั้นตอนในการ Reset PC

ล้างเครื่อง

สำหรับใครที่ใช้ Windows 10 และ Windows 11 กดปุ่ม Start เลือก Settings แล้วไปที่ Update & Security ในหน้านี้จะมีตัวเลือกค่อนข้างเยอะ ควรเลือกให้ถูกต้องตามขั้นตอน

Advertisementavw
ล้างเครื่อง

เลือกที่ Recovery ที่อยู่ในแถบซ้ายมือ บริเวณใกล้กับ Activation จากนั้น ไปที่หัวข้อ Reset this PC ทางด้านขวา กดปุ่ม Get started

ล้างเครื่อง

จากนั้นจะเข้าสู่หน้าที่ให้เราเลือกว่าจะทำการ Reinstall Windows แบบใด จะมีให้เลือก 2 แบบ ที่มีการใช้งานต่างกันคือ

ล้างเครื่อง
  • Keep my files: จะเป็นการ Reset ระบบ พร้อมเก็บข้อมูลส่วนตัวของคุณไว้ เช่น ภาพ วีดีโอ Document และอื่นๆ รวมถึงโปรแกรมที่คุณใช้) ข้อดีคือ คุณไม่ต้องไปโปรแกรมเดิมมาลงใหม่ ไฟล์ข้อมูลของคุณจะไม่หายไปไหน แต่คุณจะต้องรอนานมากในขั้นตอนนี้ นานชนิดบางทีคุณลงวินโดว์ใหม่ เร็วกว่า
  • Remove Everything: เป็นแบบที่เหมาะกับคนที่ต้องการความเร็ว และเคลียร์ไฟล์ รวมถึงซอฟต์แวร์ที่มีปัญหาต่างๆ ออกทั้งหมด ในส่วนนี้จะใช้เวลาไม่มาก และได้ผลค่อนข้างดี เพราะจะแก้ปัญหาบางอย่างที่อาจจะไม่สามารถทำได้ใน Error checking หรือการ Uninstall Program เพียงอย่างเดียว

ซึ่งถ้าคุณสำรองไฟล์ข้อมูลต่างๆ เอาไว้ตั้งแต่ต้นเรียบร้อยแล้ว ให้เลือกที่ Remove everything ได้เลยครับ ให้คลิ๊กตรงนี้

ล้างเครื่อง

เมื่อเข้ามาที่ Additional settings หรือการตั้งค่าพื้นฐาน สามารถเลือก Change settings ได้

ล้างเครื่อง

ให้ตั้งเป็นค่าเดิมไว้ คือ Off ตรงนี้ถ้าเลือก On ก็จะเข้าเงื่อนไขของระบบ เช่น ลบได้ไว แต่ไม่ปลอดภัย รวมถึงเฉพาะข้อมูลที่อยู่ในไดรฟ์นี้ จะหายไปเมื่อติดตั้งวินโดว์ จากนั้นกด Confirm จากนั้นคลิ๊ก Next ต่อไป

ล้างเครื่อง

มาถึงตรงนี้ หากเป็นโน๊ตบุ๊ค ระบบจะแจ้งเลยว่า ให้ต่อสายอแดปเตอร์เข้ากับเครื่อง เพื่อทำการชาร์จไฟ ซึ่งอาจเกิดปัญหาได้ หากไฟดับ แบตหมดขณะที่กำลัง Reset อยู่ หากของใครไม่ยอม Reset ให้ ลองเสียบสายชาร์จดูครับ

ล้างเครื่อง

เมื่อเข้าหน้า Ready to reset this pc ระบบบอกว่าพร้อมแล้ว สำหรับการ Reset เลือกที่ Reset ได้เลย

ล้างเครื่อง

ให้รอสักครู่ ระบบกำลังทำการ Preparing หรือจัดเตรียมลำดับสักครู่ ก่อนจะทำการ Reset จะนานหรือไม่ขึ้นอยู่กับความแรงของโน๊ตบุ๊ค

Reset PC Cleanup 2023 31

ระหว่างขึ้นหน้าจอสีดำ อย่าเพิ่งทำอะไร หรือไปถอดปลั๊ก ให้รอกระบวนการ Reset ไปสักระยะ จากนั้นระบบจะเริ่มเข้าสู่กระบวนการติดตั้ง Windows อีกครั้งหนึ่ง บนหน้าจอสีฟ้าๆ ให้รอจนกว่าจะเสร็จสิ้น

เสร็จแล้วระบบจะให้เราทำการตั้งค่าต่างๆ ก่อนจะใช้งาน Windows ซึ่งตรงนี้ จะคล้ายกับที่เราติดตั้ง Windows ใหม่นั่นเอง ใครที่อยากดูรายละเอียดตรงนี้ให้ครบๆ สามารถคลิ๊กดูบทความ สอนลงวินโดว์ ฉบับเต็ม ได้เลยครับ

ล้างเครื่อง

ขั้นแรก เลือก Region ตรงนี้จะเลือก Thailand หรือจะคลิ๊ก Yes ไปก่อน แล้วค่อยตั้งค่า เมื่อเข้าสู่ Windows แล้ว ก็ได้

ล้างเครื่อง

ต่อมา Keyboard layout เลือก US จากนั้น Language ให้เลือก ภาษาไทย แล้ว Next เลือก Thai Kedmanee

ล้างเครื่อง

เมื่อเข้ามาหน้าการเชื่อมต่อเครือข่าย ตรงนี้แนะนำว่าให้กด I don’t have internet ไปก่อนครับ เพราะไม่อย่างนั้น คุณจะต้อง Log-in Microsoft account ก่อน ซึ่งจะใช้เวลาค่อนข้างนาน

ล้างเครื่อง

ต่อมาระบบจะถามว่า ใครจะเป็นคนที่ใช้เครื่องนี้ ใส่ชื่อเราที่เป็นเจ้าของเครื่องก็ได้ครับ แล้วกด Next

ล้างเครื่อง

ส่วนของ Password หรือรหัส ใครจะตั้งเลยก็ได้ หากใช้เครื่องคนเดียว แต่ถ้าใช้กันหลายคน อาจจะเอาไว้ตั้งทีหลังก็ได้ครับ กด Next

ล้างเครื่อง

ในหัวข้อ Choose Privacy Settings นี้ จะให้คุณเลือกเปิดใช้งานความเป็นส่วนตัวของคุณ ตัวอย่างเช่น Location เพื่อให้ระบบรายงานเส้นทาง สภาพอากาศ รวมถึงการบริการต่างๆ จากไมโครซอฟท์ เมื่ออยู่ในพื้นที่นั้นๆ หรือไม่ หรือจะเป็น Find my device ในการเปิดให้ค้นหาอุปกรณ์ของคุณ กรณีที่เกิดการสูญหาย รวมถึง Diagnostic data จะส่งข้อมูลบางส่วนให้กับเว็บไซต์จากเบราว์เซอร์ที่คุณใช้ เพื่อให้ทำงานร่วมกับอุปกรณ์และเปิดใช้งานฟีเจอร์เกี่ยวกับ Activity และอื่นๆ เพื่อรายงานความผิดพลาด ที่เกิดขึ้นเมื่อใช้งาน หรือจะเป็น Inking & Typing เป็นต้น

ล้างเครื่อง

รอจนกว่าระบบจะบูตเข้าสู่หน้า Desktop ตรงนี้ถ้าเป็นโน๊ตบุ๊คแบรนด์ต่างๆ อาจจะมีขั้นตอนที่เพิ่มเติมเข้ามา รวมถึงแอพพลิเคชั่นที่จะติดตั้งเพิ่มเติมเข้ามาในระบบ ไม่ต้องตกใจ ให้ทำตามขั้นตอนต่อไปได้เลย นั่นคือการอัพเดตสิ่งต่างๆ ให้พร้อมสำหรับการใช้งาน

ล้างเครื่อง

สิ่งที่คุณจะต้องทำต่อไปคือ ต่ออินเทอร์เน็ต จะใช้ WiFi หรือสาย LAN ก็ตามสะดวกครับ ตรงนี้ผมแนะนำว่า หากคุณจะเครือข่ายนี้ที่บ้านเป็นค่าปกติ ก็เชื่อมต่ออัตโนมัติได้เลย เพราะจะต้องใช้อินเทอร์เน็ตอีกพอสมควรในการอัพเดตและติดตั้งสิ่งต่างๆ ภายในเครื่อง

ล้างเครื่อง

ให้ทำการ Update Windows, ลงโปรแกรม และย้ายไฟล์ของคุณกลับมาวางเอาไว้ที่เดิม เป็นอันเสร็จสิ้น

ทั้งหมดนี้ จะใช้เวลาอยู่ที่ราวๆ 10 กว่านาที ถามว่าเร็วกว่าลง Windows ใหม่มั้ย บอกเลยว่าใกล้เคียงกัน แต่…ไม่ต้องเตรียมแฟลชไดรฟ์ ไม่ต้องใช้แผ่นลง ลดเวลาไปไม่น้อยเลย


ข้อสังเกตหลังการ Reset

  • Windows หลักตัวเดิมของคุณเป็นเวอร์ชั่นใด เมื่อ Reset จะกลับไปเป็นแบบเดิมคือ ระบบตั้งต้น
  • ต้องอัพเดตไดรเวอร์ใหม่ ไม่ว่าจะเป็นชิปเซ็ต เมนบอร์ด การ์ดจอ และอื่นๆ
  • ต้องเตรียมโปรแกรมและซอฟต์แวร์ใหม่ให้พร้อม เมื่อติดตั้งเสร็จให้ Activate ใหม่อีกครั้ง
  • อย่าลืม หากใครใช้ระบบ 2 ภาษา แล้วต้องใช้งานปุ่ม “Grave Accent” หรือปุ่มตัวหนอนในการสลับภาษา สามารถทำตามขั้นตอนนี้ได้เลย สำหรับคนที่ใช้ Windows 11

วิธีสลับภาษาด้วยปุ่ม Grave Accent

ล้างเครื่อง
  1. คลิ๊กขวาที่ปุ่ม Win แล้วเลือก Settings
  2. เลือกที่ Time & Language ที่อยู่ทางแถบด้านซ้าย
  3. จากนั้นเลือก Language & Region
  4. เลื่อนลงมาด้านล่าง แล้วเลือก Typing
  5. ในหน้า Typing ให้เลือก Advance keyboard settings
  6. หน้านี้ ให้เลื่อนลงมาด้านล่าง ดูในหัวข้อ Switch input methods ให้คลิ๊กที่หัวข้อ Input language hot keys
  7. เลือกที่ between input languages
  8. แล้วเลือก Change key sequence…
  9. หน้าต่างที่ปรากฏขึ้น ให้เลือกใส่เครื่องหมาย Grave Accent แล้ว Ok
  10. เท่านี้เป็นอันเสร็จสิ้น การสลับภาษาด้วยปุ่มตัวหนอน

สรุปการล้างเครื่อง

ล้างเครื่อง

โดยสรุปกับขั้นตอนการล้างเครื่อง Reset PC ไม่ได้ยุ่งยากใช่มั้ยครับ ด้วยการทำไม่กี่ขั้นตอนนี้ สามารถนำมาใช้ในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นกับระบบ ในกรณีที่เกิดสิ่งผิดปกติในการใช้งาน เช่น ไดรเวอร์ ซอฟต์แวร์ และยูทิลิตี้ต่างๆ ที่ลงไปในเครื่อง แล้วทำให้ระบบทำงานผิดเพี้ยน หรือใช้งานมานาน แล้วอยากจะล้างระบบ เพื่อเคลียร์สิ่งต่างๆ ให้ระบบกลับมาเฟรชเหมือนใหม่ แต่สิ่งที่สำคัญ ที่อยากจะย้ำในทุกครั้งที่ต้องทำสิ่งใดเกี่ยวกับระบบ แนะนำว่าให้สำรองข้อมูลต่างๆ เอาไว้ก่อนเพื่อความปลอดภัย รวมถึงเตรียมสายชาร์จ ในกรณีที่ใช้โน๊ตบุ๊ค และมีอินเทอร์เน็ตในการเชื่อมต่อ จากนั้นทำทีละขั้นตอนแบบไม่ต้องรีบร้อน และหลังจากที่ล้างเครื่องเรียบร้อยแล้ว ใครที่ไม่แน่ใจ ผมอยากให้ดูในแต่ละขั้นตอนให้ครบถ้วน ก่อนจะลงมือทำจะดีที่สุดครับ ย้ำว่า การเตรียม สำรองข้อมูล และโปรแกรมบางส่วนไว้ ช่วยให้หลัง Reset ง่ายขึ้น ส่วนถ้ามีติดตรงจุดใด สามารถคอมเมนต์กันเอาไว้ได้เลยครับ สุดท้ายนี้ ปปป

from:https://notebookspec.com/web/683632-reset-pc-windows-11-2023

พัดลมการ์ดจอไม่หมุน ทำไงดี? 7 วิธีเช็ค แก้ไข จัดการได้เอง ลดปัญหาความร้อน

พัดลมการ์ดจอไม่หมุน แก้ได้ใน 7 วิธี ตรวจเช็ค ปรับแต่ง ซ่อมแซม เปลี่ยนใหม่ จ่ายเบาๆ

พัดลมการ์ดจอไม่หมุน

พัดลมการ์ดจอไม่หมุน เป็นปัญหาที่หลายคนพบอยู่ แม้จะปี 2023 แล้วก็ตาม แต่ก็มีบางคนที่ไม่ได้สังเกต จนกว่าจะเจออาการหลังเล่นเกมต่อเนื่อง จนการ์ดจอร้อนขึ้น เกิดจอฟ้า เด้งออกจากเกม หรือภาพแตก แต่สิ่งนี้อาจจะไม่ได้เกิดจากการ์ดจอทำงานผิดเพี้ยน พัดลมเสียหายเพียงอย่างเดียว แต่อาจเกิดขึ้นได้จากการตั้งค่าการ์ดจอด้วย รวมถึงเรื่องของระบบการจ่ายไฟของเพาเวอร์ซัพพลาย ดังนั้นการแก้ไข ก็ต้องว่ากันไปตามอาการ แต่สามารถตรวจเช็คในเบื้องต้นได้ ด้วยการไล่ไปทีละขั้นตอน หรือถ้าใครมีเมนบอร์ด ที่มีสล็อต PCIe x16 มากกว่า 1 สล็อตหรือมีการ์ดจอตัวอื่นสำรอง หรือสามารถหยิบยืมมาได้ ก็จะช่วยให้วิเคราะห์อาการได้ชัดเจนมากขึ้น และบางทีอาจจะยังไม่ต้องส่งช่างซ่อมหรือส่งเคลมก็ได้ เรามาดูกันว่า จะสามารถเช็คอาการผิดปกติเหล่านี้ และมีวิธีการแก้ไขอย่างไรได้บ้าง


พัดลมการ์ดจอไม่หมุน แก้ไขอย่างไร?


จะเกิดปัญหาอะไรขึ้น เมื่อพัดลมการ์ดจอไม่หมุน

สิ่งที่จะตามมาจากอาการพัดลมการ์ดจอไม่หมุน นั่นคือ ปัญหามากมาย โดยเฉพาะเรื่องของความร้อนสะสม เมื่อเปิดใช้งาน หากไม่ได้เล่นเกม ก็จะไม่มีปัญหาอะไร แต่จะเกิดขึ้นเมื่อคุณเล่นเกมแบบต่อเนื่อง ที่เมื่อการ์ดจอเริ่มทำงานหนัก แต่

Advertisementavw
พัดลมการ์ดจอไม่หมุน

การ์ดจออยู่ในเครื่องแกะเปิดเครื่องไม่เป็น แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าพัดลมการ์ดจอไม่หมุน เรื่องนี้ก็สำคัญ เพราะหลายคน ก็ไม่ค่อยสะดวกในการแกะหรือเปิดเครื่องเอง หรือบางทีประกอบร้าน ก็อยากจะให้ร้านแกะเช็คให้ง่ายกว่า วิธีสังเกตง่ายๆ ก็คือ

อุณหภูมิขึ้นสูงจนผิดปกติ: ให้สังเกตดูว่า เล่นเกมอยู่ แล้วเด้งหลุดออกจากเกมมั้ย หรือลองฟังเสียงพัดลมการ์ดจอดูได้ เวลาที่เล่นเกมหนักๆ ถ้าพัดลมยังทำงาน ส่วนใหญ่จะพอมีเสียงให้เราได้ยินบ้าง รวมถึงเช็คด้วยซอฟต์แวร์ที่ใช้เช็คฮาร์ดแวร์ก็ได้ จะเห็นรายละเอียดได้ชัดขึ้น เช่น OCCT, HWMonitor, MSI Afterburner และอื่นๆ

พัดลมการ์ดจอไม่หมุน

GPUz: แนะนำเลยครับ สำหรับโปรแกรมนี้ เพราะตัวเล็ก ฟรี โหลดมาใช้ง่าย เช็คสเปคการ์ดจอพีซีและโน๊ตบุ๊คได้รวดเร็ว บอกรายละเอียดของการ์ดจอออนบอร์ดและแยกได้ครบถ้วน แม่นยำ โดยดูที่ชื่อการ์ดจออยู่ด้านล่างแล้วเลือกการ์ดจอรุ่นที่ต้องการดูข้อมูลได้ทันที จะแสดงทั้งชื่อรุ่นการ์ดจอ, สถาปัตยกรรมของการ์ดจอรุ่นนั้น ๆ รวมถึง เวอร์ชั่นของ DirectX และอื่น ๆ ได้ละเอียดมาก ส่วนหน้า Sensors จะใช้สำหรับเช็คสถานะการทำงานของการ์ดจอ เช่น GPU Clock, Memory Clock และดูอุณหภูมิ ทำให้เราทราบถึงความผิดปกติของการ์ดจอได้ทันที แถบอุณหภูมิจะไม่พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว แม้ว่าโปรแกรม GPUz นี้ ไม่ได้ระบุความเร็วรอบของพัดลมมาให้ แต่ก็พอดูได้ว่าการ์ดจอร้อนผิดปกติอย่างรวดเร็วหรือเปล่า

แสดงผลผิดปกติ: ส่วนใหญ่ถ้าอาการเป็นถึงขั้นนี้แล้ว ก็แทบจะเรียกว่าเป็นปัญหาหนัก เพราะการ์ดจออาจเกิดความเสียหาย จนการแสดงผลผิดเพี้ยน เช่น แตกเป็นลายๆ ภาพหาย ไปจนถึงเล่นเกมภาพค้างไปเลยก็มี แบบนี้ไม่ควรใช้ต่อ ส่งเคลมหรือร้านซ่อมให้เช็คให้ทันทีดีที่สุด


1.สลับเปลี่ยนไปใช้สล็อตอื่น

เป็นวิธีที่ง่ายที่สุด และสามารถทำได้ในเวลานั้นเลย โดยที่ไม่ต้องไปหาซื้อหรือเปลี่ยนอุปกรณ์อื่นใด ให้วุ่นวาย และช่วยให้การตรวจเช็คพัดลมการ์ดจอไม่หมุนได้ง่ายที่สุด แต่เงื่อนไขเดียวที่จำเป็นก็คือ เมนบอร์ดของคุณนั้นจะต้องมีสล็อต PCIe x8 หรือ x16 อย่างน้อย 2 สล็อต สังเกตง่ายๆ คือ เป็นสล็อตแบบยาว เพื่อให้ติดตั้งการ์ดจอได้ แต่เมนบอร์ดส่วนใหญ่ที่ทำได้ มักจะเป็นเมนบอร์ดที่ใช้ชิปเซ็ตระดับกลางขึ้นไป เช่น Intel B หรือ Z series หรือจะเป็น AMD B หรือ X series เป็นต้น

พัดลมการ์ดจอไม่หมุน

ตัวอย่างเช่น เมนบอร์ด ASRock X570 AQUA ที่มาพร้อมสล็อต PCIe x16 มาถึง 3 สล็อตด้วยกัน ทำให้คุณสามารถสลับสล็อตได้ตามสะดวก เพื่อเช็คการทำงานของการ์ดจอได้ แต่ก็มีข้อสังเกตเล็กน้อยคือ บางสล็อตนั้น จะใช้ช่องทาง PCIe ร่วมกับ SSD ในแบบ M.2 ที่อยู่ใกล้กัน หากคุณติดตั้ง SSD M.2 อยู่ใกล้กันนั้น ก็อาจจะทำให้การ์ดจอไม่ทำงาน

โดยพื้นฐานหากการ์ดจอทำงานปกติ พัดลมไม่ได้เสียหาย หรือติดขัด สล็อตบนเมนบอร์ดเชื่อมสัญญาณได้ตามปกติ หลังจากที่ต่อสายไฟเลี้ยงแล้ว การ์ดจอก็จะทำงานได้ และพัดลมการ์ดจอก็จะหมุนได้ตามปกติ แต่ถ้าพัดลมไม่หมุน ก็คงจะต้องหาสาเหตุกันต่อไป


2.เช็คสายต่อไฟเลี้ยง

บางครั้งก็เป็นปัญหาที่คาดไม่ถึงได้เช่นกัน เพราะหลายคนติดตั้งเมนบอร์ด ใส่แรม เสียบการ์ดจอ และติดตั้งฮีตซิงก์ระบายความร้อน ชุดน้ำครบถ้วน แต่มาลืมสายไฟต่อการ์ดจอที่เป็นแบบ 6+2 pins ที่เป็นคอนเน็กเตอร์อยู่บนการ์ดจอ ก็ไม่สามารถทำงานได้ จอไม่แสดงผล รวมถึงพัดลมการ์ดจอก็ไม่ทำงานเช่นกัน ดังนั้นควรจะต้องตรวจเช็คจุดนี้เป็นจุดแรกๆ หรือต้องต่อสายให้ครบ เพื่อให้ระบบทำงานได้ตามปกติ

พัดลมการ์ดจอไม่หมุน

แต่ในบางครั้งการใช้เพาเวอร์ซัพพลายแบบถอดสายได้ (Full modular) เวลาที่มีการเคลื่อนย้าย หรือดึงรั้งสายไปมา อาจทำให้สายต่อหลุดหลวม ก็อาจจะทำให้การ์ดจอไม่ทำงาน หรือพัดลมการ์ดจอไม่หมุนได้เช่นกัน อย่าลืมเช็คสายที่ต่อจากเพาเวอร์ซัพพลายพร้อมกันไปด้วย และบางครั้งสายพัก เสียหาย ก็ไม่สามารถใช้งานได้ ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้กับเพาเวอร์ที่ใช้งานมานาน หรือมีการถอดเคลื่อนย้ายบ่อยนั่นเอง

พัดลมการ์ดจอไม่หมุน
source: pcguide

สุดท้ายต้องไม่ลืมว่า ไฟเลี้ยงจากเพาเวอร์ซัพพลาย +12V ต้องเพียงพอต่อการใช้งานของการ์ดจอ ซึ่งในเบื้องต้น อาจจะต้องตรวจเช็คจากค่าการใช้พลังงาน และต้องไม่ลืมบวกกับองค์ประกอบอื่นๆ ที่อยู่ในพีซีที่คุณประกอบเข้าไปด้วย ดังนั้นอาจจะดูข้อมูลจากผู้ผลิตการ์ดจอแต่ละรายได้เช่นกัน และในบางครั้งเราจะพบว่า การ์ดจออาจดับหรือทำงานผิดปกติ เมื่อเพาเวอร์ไม่สามารถจ่ายไฟได้ตามปกตินั่นเอง

พัดลมการ์ดจอไม่หมุน
source: tech4gamer

3.เช็คสภาพพัดลม

หากคุณมองว่าจากสองข้อแรกที่ผ่านมา ไม่มีอะไรผิดปกติ เพาเวอร์ซัพพลายใหม่ สล็อตการ์ดจอบนเมนบอร์ดทำงานได้ แต่สุดท้ายแล้วพัดลมการ์ดจอไม่หมุน จะทำอย่างไร

พัดลมการ์ดจอไม่หมุน

สิ่งที่ควรทำต่อไป ก็คือ การเช็คสภาพพัดลมการ์ดจอ ว่ามีสิ่งใดผิดปกติหรือไม่ เพราะส่วนใหญ่พัดลมการ์ดจอที่ทำงานมาหนัก ใช้งานมานาน ก็มักจะเกิดสิ่งสกปรกขึ้นได้ โดยเฉพาะอยู่ในสภาพแวดล้อม ที่มีฝุ่น น้ำมัน ความชื้น ซึ่งก็จะทำให้พัดลมไม่หมุน หรือหมุนช้าลงได้ เนื่องจากสิ่งสกปรกไปเกาะอยู่ที่แกนพัดลม ถ้าเป็นเช่นนี้ ก็ต้องใช้วิธีทำความสะอาด เพราะถือว่าไม่ได้เกิดจากความเสื่อมของพัดลม

พัดลมการ์ดจอไม่หมุน

อีกเรื่องหนึ่งคือ พัดลมการ์ดจอถูกใช้งานมานาน เช่น หมุนอยู่ตลอดทั้งวัน หรือมีชั่วโมงทำงานจำนวนมาก อย่างเช่น ที่เรามักจะพบอยู่บนการ์ดจอขุดบิตคอยน์ Cryptocurrency ที่ทำงานแบบ 24/7 ก็มีผลทำให้พัดลมเสียหายได้เช่นกัน แบบนี้ถือว่าเกิดความเสื่อมขึ้นกับพัดลม มีเพียงการซ่อมแซม หรือการเปลี่ยนพัดลมใหม่เท่านั้น ที่จะแก้ไขได้ผลดีที่สุด

อีกเรื่องหนึ่งก็คือ พัดลมยังอยู่ในสภาพปกติหรือไม่ อย่างเช่น ใบพัดเสียหาย แตกหัก เนื่องจากอุบัติเหตุ หรือที่มักจะเจอกันบ่อยคือ มีสายสัญญาณหรือของบางอย่าง หล่นลงไปในพัดลมการ์ดจอ ก็อาจะทำให้เสียหายได้เช่นกัน และถ้าเสียหายแบบนั้น ก็จะไม่อยู่ในเงื่อนไขของการรับประกัน และคุณต้องหาทางซ่อมเองครับ

พัดลมการ์ดจอไม่หมุน

แต่ถ้าเช็คสภาพพัดลมแล้ว ยังแค่สกปรก พอจะมีโอกาสทำความสะอาด และกลับมาใช้งานได้ตามปกติ หรือพอจะหมุน เพื่อทำงานได้ไปสักระยะ ก็แนะนำว่าให้ทำความสะอาด เพื่อให้กลับมาใช้งานได้ เพื่อลดค่าใช้จ่าย


4.ทำความสะอาด

พัดลมการ์ดจอไม่หมุน

การทำความสะอาดการ์ดจอ ในกรณีที่พัดลมการ์ดจอไม่หมุน ก็ทำได้หลายวิธี มีตั้งแต่ใช้การเป่าฝุ่นธรรมดา ไปจนถึงแกะฮีตซิงก์และพัดลมออกมาปัดกวาดเช็ดถูให้สะอาด โดยเตรียมอุปกรณ์อย่างเช่น ที่เป่าลม แปรงปัดฝุ่น น้ำยาเช็ดทำความสะอาด

การทำความสะอาดมีด้วยกันหลายรูปแบบ เริ่มตั้งแต่ง่ายๆ เลย ขั้นพื้นฐาน ไม่ต้องถอดฮีตซิงก์ คือการใช้แปรงขนอ่อน ที่มีความยาว ค่อนๆ ปัด ให้ขนแปรงซอกซอนเข้าไปในช่องต่างๆ อาจจะใช้พัดลมคอยเป่าลม ให้ฝุ่นกระจายออกมาได้เร็วมากขึ้น

VGA card cleaning 2023 8 1

หรือการใช้เครื่องเป่าลม เป่าไปยังพัดลมของตัวการ์ด แต่ให้จับใบพัดลมให้แน่นๆ เพื่อไม่ให้ใบพัดทำงาน เพื่อป้องกันความเสียหาย อันเนื่องจากใบพัดลมหมุนรอบสูง จากการถูกลมเป่าใส่นั่นเอง

พัดลมการ์ดจอไม่หมุน

ส่วนถ้าเอาแบบฮาร์ดคอร์ ก็อาจจะแกะฮีตซิงก์ และใบพัดลมแยกออกมาจากตัวการ์ด จากนั้นทำความสะอาดทีละชิ้น ใช้ตัวเป่าลมอัดลมไปทั้ง 2 ด้านของครอบพัดลมที่แกะออกมา จากนั้นใช้แปรงขนอ่อน ค่อยๆ ไล่ผุ่นที่อยู่ภายในออกมา โดยเฉพาะบริเวณแกนพัดลม แล้วใช้ไม้พันสำลีเล็กๆ ชุบแอลกอฮอล์สำหรับทำความสะอาดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ มาเช็คตามซอกหลืบของพัดลม


5.เช็คการตั้งค่าพัดลม

หากเป็นการ์ดจอในอดีต พัดลมจะทำงานทันที เมื่อเริ่มต้นบูตระบบ หรือเปิดใช้งาน แต่ในปัจจุบันการ์ดจอมีการปรับเปลี่ยน ให้พัดลมสามารถทำงานตามรอบที่กำหนด หรืออุณหภูมิที่ตั้งเอาไว้ได้ เมื่อไม่ได้ใช้งานการ์ดจอหนัก เช่น ไม่ได้เล่นเกม เปิดดูเว็บทำงานทั่วไป พัดลมการ์ดจอจะไม่หมุน จนกว่าจะร้อนสูงถึงระดับ ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ 60 องศาเซลเซียส จึงจะเริ่มหมุน

พัดลมการ์ดจอไม่หมุน

อย่างเช่น การ์ดจอของทาง MSI ที่มีฟีเจอร์ Zero Frozr ซึ่งจะไม่หมุน เมื่ออุณหภูมิการ์ดจอต่ำกว่า 60 องศา ส่วนหนึ่งเพื่อการลดเสียงรบกวนในขณะทำงาน โดยตรงนี้ผู้ผลิตบางค่าย ก็จะมีซอฟต์แวร์ยูทิลิตี้ให้ได้ปรับแต่งกัน คือจะปิดการทำงาน กรณีที่อยากให้พัดลมการ์ดจอทำงานตลอดเวลาก็ได้ หรือบางค่าย ก็จะมีโหมดให้ปรับจูน ทั้งโหมด Silent เน้นเสียงรบกวนน้อย, OC สำหรับการโอเวอร์คล็อกเพิ่มความเร็ว หรือโหมดเกม ตรงนี้ก็จะเป็นโพรไฟล์ให้ผู้ใช้เลือกตามความเหมาะสมนั่นเอง ดังนั้นหากไม่มั่นใจว่าการที่พัดลมการ์ดจอไม่หมุน อาจเกิดจากสิ่งเหล่านี้ได้เช่นกัน

พัดลมการ์ดจอไม่หมุน

อย่างทาง Gigabyte เอง ก็มี 3D Active Fan ที่ให้พัดลมทำงานตามอุณหภูมิที่เหมาะสม นอกเหนือจากชุดพัดลมที่ออกแบบมาให้ และบางรุ่นที่เป็น 3 พัดลม ก็มี ALTERNATE SPINNING ในการจัดทิศทางการหมุนให้ระบายความร้อนได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย

พัดลมการ์ดจอไม่หมุน

ส่วนทาง PowerColor ก็มีเทคโนโลยีที่เรียกว่า Mute Fan ที่จะไม่ให้พัดลมการ์ดจอหมุน หากอุณหภูมิไม่ถึง 60 องศาเซลเซียส เพื่อลดโหลดการใช้พลังงาน และลดเสียงรบกวนที่อาจเกิดขึ้นขณะที่ใช้งานนั่นเอง

พัดลมการ์ดจอไม่หมุน

ดังนั้นช่วงแรก อาจจะยังไม่ต้องตกใจ ให้ลองเล่นเกม แล้วเปิดดูอุณหภูมิตามไปด้วย หรือใช้โปรแกรมอย่าง FURMARK และโปรแกรมอย่าง MSI Afterburner ตั้งค่าให้แสดงอุณหภูมิของการ์ดจอตามไปด้วย หากตัวเลขขึ้นสูงเกินกว่าระดับ 60 องศาเซลเซียส แล้วพัดลมยังไม่ทำงาน อีกทั้งมีอาการผิดปกติ ก็อาจเป็นไปได้ว่าพัดลมการ์ดจออาจจะเสียได้


6.เปลี่ยนพัดลมการ์ดจอใหม่

สำหรับขั้นตอนนี้ อาจจะเหมาะกับผู้ใช้ที่พอมีพื้นฐานด้านช่าง การแกะชิ้นส่วนอุปกรณ์อยู่บ้าง รวมถึงเคยทำมาก่อน แม้ว่าจะไม่ได้ซับซ้อน แต่ก็บางจุดที่ควรจะต้องระมัดระวัง มีเครื่องมือให้พอใช้งาน และที่สำคัญจะต้องหาซื้อชิ้นส่วนที่เป็นชุดพัดลม นำมาเป็นพาร์ทสำหรับเปลี่ยนกับพัดลมตัวเก่าที่ใช้งานไม่ได้แล้ว

พัดลมการ์ดจอไม่หมุน

สิ่งที่ต้องเตรียมประกอบด้วย ไขควง 4 แฉก อุปกรณ์เซาะหรือง้างชิ้นส่วน ฮีตซิงก์หรือคีมเล็กๆ ที่ใช้ในการดึงสายไฟ รวมถึงสิ่งที่ใช้ในการทำความสะอาด เพราะไหนๆ ก็แกะพัดลม ฮีตซิงก์ออกมาแล้ว ก็น่าจะทำความสะอาดตัวการ์ดไปด้วยเลย เพื่อให้ตัวการ์ดสะอาดเหมือนใหม่ ใช้งานต่อไปได้ยาวๆ

หาซื้ออะไหล่ที่ไหนได้บ้าง?

เรื่องการซื้อหาอะไหล่พัดลมมาเปลี่ยน มีด้วยกันหลากหลายที่เลยทีเดียว ว่ากันตั้งแต่หน้าร้านออนไลน์ในบ้านเรา มีตั้งแต่ร้านออนไลน์ไอทีทั่วไป หรือจะเป็นบรรดา Store ต่างๆ รวมถึงตลาดออนไลน์ กลุ่มหรือ Group ที่เป็น Facebook group ที่เป็นกลุ่มสินค้าไอทีมือสอง กลุ่มการ์ดจอ หรือจะเป็นกลุ่มที่เป็นสายขุด (Cryptocurrency) ที่มักมีอะไหล่มาแลกเปลี่ยนกันอย่างมากมาย

พัดลมการ์ดจอไม่หมุน

ถ้าใครชอบการการันตี มีของให้เลือก และมีช่องทางการชำระเงินที่สะดวก ทางเลือกอย่าง Shopee หรือ Lazada เหล่านี้ก็น่าสนใจ ยังไม่รวมถึงตลาดออนไลน์ระดับโลกขนาดใหญ่อย่าง Amazon ก็มีตัวเลือกให้มากมายเลยทีเดียว

พัดลมการ์ดจอไม่หมุน

การแกะชิ้นส่วนพัดลม ยากง่ายขึ้นอยู่กับผู้ผลิตแต่ละราย ว่ามีงานประกอบละเอียดมากน้อยเพียงใด เพราะการ์ดบางรุ่นแกะตัวล็อคกับน็อตไม่กี่จุด พร้อมดึงขั้วต่อพัดลมออกเท่านั้น แต่บางรุ่นซ้อนชั้นพัดลม ฮีตซิงก์และตัวล็อคขนาดเล็ก การแกะพัดลมออกมา ก็ต้องพิถีพิถันมากขึ้น เพื่อป้องกันความเสียหาย

พัดลมการ์ดจอไม่หมุน

สิ่งที่ต้องระวังมีอยู่หลายส่วนเลย หากต้องการจะแกะพัดลม ฮีตซิงก์การ์ดจอด้วยตัวเอง ตั้งแต่เรื่องของไฟฟ้าสถิตย์ ควรมีถุงมือ หรือคลายประจุก่อนทำการแกะทุกครั้ง ชิ้นส่วนหรือน็อตบางตัว มีขนาดเล็ก อยู่ลึกหรือมีความซับซ้อน ต้องระวังเป็นอย่างยิ่ง เครื่องมือมีให้พร้อมเอาไว้ดีกว่า ไม่ว่าจะเป็นไขควง ชุดแกะแยกชิ้นส่วน รวมถึงเมื่อแกะออกมาแล้ว หาที่จัดเก็บชิ้นส่วนต่างๆ ให้ดี อย่าให้หาย การวางตัวการ์ดที่ไม่มีฮีตซิงก์ ระวังอย่าให้ตกกระแทกหรือให้สิ่งใดกระทบจนเสียหายหรือเป็นรอย ถ้าคิดว่าต้องซ่อมหรือรอพัดลมอะไหล่นาน แนะนำว่าเก็บใส่ซองบับเบิลกันกระแทกเอาไว้ ดีที่สุด


7.ส่งซ่อมกับช่างผู้ชำนาญ

หากถึงที่สุดแล้ว พยายามทำหลายๆ ทาง แต่พัดลมการ์ดจอ ก็ยังไม่สามารถใช้งานได้ตามปกติ การส่งร้านซ่อม ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ทำให้การ์ดจอของคุณกลับมาทำงานได้ตามปกติ ร้านซ่อมเหล่านี้มีอยู่มากมายทั่วประเทศ หรือสามารถเข้าไป Search ข้อมูล เอาแบบที่อยู่ใกล้บ้าน ติดตามงานได้สะดวกดีที่สุด รวมถึงเข้าไปดู Feedback จากบรรดาลูกค้าที่เข้ามาคอมเมนต์อีกทางหนึ่ง เพื่อความมั่นใจ แต่วิธีนี้ แนะนำสำหรับคนที่ใช้การ์ดจอหมดประกันแล้ว หากยังมีประกัน ให้ส่งเคลมตัวแทนจำหน่ายน่าจะเหมาะสมกว่า

พัดลมการ์ดจอไม่หมุน

สิ่งที่ต้องสังเกตก็คือ ควรเลือกร้านซ่อมที่วางใจได้ มีผลงานที่สามารถพิจารณาได้ และน่าไว้วางใจ มีการรับประกันงานซ่อม สามารถติดต่อได้หลายช่องทาง อัพเดตงานบ่อย โดยที่ผู้ใช้อาจจะตรวจสอบได้จากเพจหน้าร้าน หรือบางร้านก็โปรโมตผลงานผ่านทาง Community หรือ Facebook Group ต่างๆ ที่เหลือก็เป็นการสอบถามเรื่องค่าใช้จ่าย และระยะเวลาในการซ่อม หากพึงพอใจ ก็ติดต่อเพื่อส่งซ่อมได้ทันที

พัดลมการ์ดจอไม่หมุน

การส่งซ่อมควรมีที่อยู่ร้าน ตำแหน่งแน่ชัด รวมถึงช่องทางการติดต่อที่สะดวก เพื่อให้เราสามารถตามงานได้ง่าย หรือเป็นไปได้ หากไปส่งด้วยมือที่ร้านได้ก็ยิ่งดี ย้ำครับว่าอย่าลืมสอบถามการรับประกันงานซ่อม เป็นระยะเวลาเท่าใด หลังจากซ่อมเสร็จแล้ว อย่างน้อยการันตีว่า หากเกิดปัญหาจะได้รับการดูแลต่อเนื่องไป ไม่หายกันไปไหน

ได้รับการ์ดจอที่ซ่อมกลับมาแล้ว ก็อย่าลืมรีเช็ค ทดลองใช้งานด้วยว่า พัดลมหมุนตามปกติหรือไม่ มีเสียงรบกวนหรือไม่ ใบพัดเสถียรดีหรือเปล่า รวมถึงลดความร้อนการ์ดจอได้ตามปกติมั้ย? หากไม่มีปัญหาอะไรใช้งานได้ตามปกติ ก็ถือว่าคุ้มค่า!


Conclusion

Gigabyte GeForce RTX 3060 Ti GAMING OC 014

สุดท้ายนี้หากคุณต้องเจอกับปัญหา พัดลมการ์ดจอไม่หมุน และยังไม่รู้จะหาทางแก้อย่างไร ลองนำวิธีการตรวจเช็คและแก้ไขทั้ง 7 ข้อนี้ ไปลองปรับใช้กันดูครับ เพราะบางครั้งอาจจะเกิดจากแค่ไดรเวอร์หรือการปรับแต่งบางอย่างที่ผิดเพี้ยนไป เพียงแค่เข้าไปปรับแก้เล็กน้อย ก็ใช้งานได้ตามปกติแล้ว หรือถ้าเกิดจากความสกปรก เนื่องจากใช้งานมานาน และการ์ดจอของคุณหมดประกันไปแล้ว อยากจะลองทำความสะอาดด้วยตัวเอง ก็สามารถลองทำดูได้ เตรียมอุปกรณ์ให้พร้อม และเน้นที่ความระมัดระวัง แต่ถ้ากังวลไม่อยากทำเอง ก็มีผู้ให้บริการทำความสะอาดการ์ดจออยู่มากมายเลยทีเดียว เช่นเดียวกับร้านซ่อม หากซ่อมเปลี่ยนพัดลมเอง อาจจะไม่ได้ยาก หากคุณหาพาร์ทของพัดลมให้ตรงรุ่นได้ แต่ราคาอาจจะสูง หรือใช้เวลา ส่วนถ้าส่งร้านซ่อมบางครั้งราคาอาจจะสูงบ้าง แต่ก็วางใจได้ว่ามีช่างที่ชำนาญในการซ่อมแซม ซึ่งก็มีข้อดีข้อด้อยต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับความสะดวก และค่าใช้จ่ายของคุณ ในช่วงครึ่งปีหลัง 2565 ที่ผ่านมา การ์ดจอราคาถูกลงมาเยอะแล้ว หากคุณคิดว่าเอามาซ่อมอาจไม่คุ้มค่า หรือน่าจะได้เวลาเปลี่ยนใหม่ ก็แนะนำเลยครับ เพราะคุณจะได้เทคโนโลยีใหม่ แรงมากขึ้น และการรับประกันแบบเต็มๆ ไม่ต้องลุ้น หรือหากจะลองมาดูรุ่นของการ์ดจอเพิ่มเติม สามารถเข้าชมได้ที่หน้าจัดสเปคพีซีของเรากันได้เลยครับ

from:https://notebookspec.com/web/681180-graphic-card-fan-not-spin

โต๊ะคอมเกมมิ่ง 8 รุ่น ถูกแค่ 5,000.- ไฟ RGB วางคอมได้ เล่นเกมสะดวก ฟังก์ชั่นครบ

โต๊ะคอมเกมมิ่ง 8 รุ่น ราคาถูก 5,000.- ปีใหม่ 2023 สวยล้ำไฟ RGB ฟังก์ชั่นแน่น โปรฯ ดี

โต๊ะคอมเกมมิ่ง

โต๊ะคอมเกมมิ่งแทบจะกลายเป็นสิ่งที่หลายคนต้องมีติดบ้าน โดยเฉพาะคอเกมที่ต้องการเซ็ตห้องตัวเองให้เข้ากับธีมการเล่น ให้สวยครบ ไม่ว่าจะเป็นเซ็ตคอม เกมมิ่งเกียร์ รวมถึงโต๊ะและเก้าอี้เกมมิ่งอีกด้วย เพราะจะช่วยให้สนุกไปกับการเล่นได้มากขึ้น ปัจจุบันมีโต๊ะคอมให้เลือกมากมาย ราคาเริ่มตั้งแต่พันต้นๆ ไปจนหลักหมื่นบาท ขึ้นอยู่กับวัสดุ งานประกอบ ความทันสมัย ไปจนถึงฟังก์ชั่นต่างๆ เช่น พื้นโต๊ะขนาดใหญ่ ไฟ RGB หรือที่วางแก้วน้ำ แขวนหูฟัง และจุดเสริมความแข็งแรง ให้ใช้งานได้อุ่นใจ แต่การเลือกใช้ ก็ต้องดูตามความเหมาะสม และความชื่นชอบ รวมถึงการคำนวณพื้นที่ในการจัดวาง ให้การเล่นเกมได้ไหลลื่น โดยเฉพาะคนที่ต้องการวางคอมโชว์ความสวยงาม พื้นที่โต๊ะที่มากกว่า 140cm ดูจะเหมาะสมกว่า เพราะยังเหลือพื้นที่ในการเลื่อนเมาส์ไปมาได้สะดวกมากขึ้น หรือพื้นที่วางแผ่นรองเมาส์ เพื่อใช้งานได้เต็มพื้นที่อีกด้วย แต่จะมีส่วนไหนที่คุณจะต้องเลือกเพิ่มเติมกันบ้าง และมีรุ่นใดที่น่าสนใจ วันนี้เราจัดมาให้แล้ว 8 รุ่น ชอบรุ่นไหน ไปจัดกันตามลิงก์ที่เราเตรียมไว้ให้แล้วครับ

โต๊ะคอมเกมมิ่ง 8 รุ่นเด็ดงบ 5,000.-


เลือกโต๊ะคอมเกมมิ่ง

ดีไซน์: โต๊ะคอมเกมมิ่งการออกแบบค่อนข้างสำคัญ และผู้ใช้หลายคนใช้ในการพิจารณาเป็นอันดับต้นๆ ซึ่งไม่ใช่แค่เรื่องความสวยงามเท่านั้น แต่ต้องเข้ากับรูปแบบการใช้งานของผู้ใช้ รวมถึงตอบโจทย์การใช้งาน อย่างเช่น ขาโต๊ะ ที่นอกจากจะแข็งแรง ให้ความสมดุลได้ดีแล้ว ก็ต้องไม่เกะกะ เวลาที่นั่งใช้งาน หรือการเปลี่ยนอิริยาบท และมีส่วนเซฟตี้ เพื่อความปลอดภัย อาทิ บางรุ่นมีการเสริมมุมให้แข็งแรง หรือมีการหลบมุม ให้ไม่เกะกะเวลาที่เดินใกล้ๆ พื้นท็อปโต๊ะ มีคลุมวัสดุให้ทนทาน เป็นรอยยาก และกันน้ำได้ นอกเหนือจากลวดลายที่ดูทันสมัย

Advertisementavw
Gaming set2

ฟังก์ชั่น: หลายท่านก็คาดหวังกับฟังก์ชั่นของโต๊ะเหล่านี้ ที่ควรจะต้องมีเหนือกว่าโต๊ะทำงานทั่วไป ซึ่งส่วนใหญ่ที่เราจะได้พบกันนั้น ก็จะเป็นเรื่องของสิ่งสำคัญในการจัดวางองค์ประกอบต่างๆ ให้ใช้งานได้สะดวก เช่น ที่วางแก้วน้ำ ประหยัดพื้นที่บนโต๊ะ ลดปัญหาน้ำหกใส่ คีย์บอร์ด เมาส์ และมีพื้นที่เหลือในการใช้เมาส์มากขึ้น หรือทางแขวนหูฟัง สะดวกในการใช้งาน และอาจจะมีเพิ่มเติมการปรับเลื่อนระดับความสูงได้ในบางรุ่น หรือบางทีก็มีแสงไฟ RGB มาประดับ เพื่อเพิ่มอรรถรสในการเล่นเกมได้มากขึ้น

Gaming set

พื้นที่จัดวาง: เรื่องของพื้นที่โต๊ะคอมค่อนข้างสำคัญทีเดียว เพราะคุณจะต้องใช้พื้นที่บนโต๊ะเล่นเกมให้ได้ประโยชน์มากที่สุด ยิ่งจุดที่เคลื่อนไหวบ่อย เช่นเมาส์หรือการวางคีย์บอร์ด ให้กดได้ง่าย เลื่อนเมาส์สะดวก ย่อมมีผลต่อการแข่งขันหรือแพ้ชนะได้เลย เพราะบางครั้งสะดุดไปแค่ไม่กี่วินาที ก็อาจหมายถึงการโดนโจมตีจากศัตรู หรือโอกาสจะโจมตี ก็หายไปด้วย เรียกว่ากลับจุดเซฟได้แบบไม่รู้ตัว หากคุณดีไซน์พื้นที่วางของได้ไม่เต็มที่ แนะนำให้เลือกโต๊ะที่มีความยาวมากขึ้น ยิ่งถ้าต้องการวางคอมโชว์บนโต๊ะด้วยแล้ว ก็ต้องเผื่อพื้นที่ให้ได้มากที่สุด

วัสดุและงานประกอบ: นอกเหนือจากวัสดุที่แข็งแรงทนทาน และรับน้ำหนักในการจัดวางสิ่งของบนโต๊ะได้มากพอสมควรแล้ว ยังมีเรื่องของงานประกอบที่อาจจะต้องเก็บรายละเอียดได้ดีในระดับหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสี รอยเชื่อมต่อ และการติดตั้งง่าย ไม่เกิดความเสียหายได้ในภายหลัง ยิ่งเป็นรุ่นที่ผู้ใช้จะต้องประกอบเองด้วยแล้ว ควรจะต้องมีเครื่องมือ และคู่มือแนะนำให้อย่างชัดเจน เพื่อความสะดวกของผู้ใช้


1.Gamer Desk L LS2-1600

โต๊ะคอมเกมมิ่ง

โต๊ะคอมเกมมิ่งในแบบ L shape ความยาว 160cm กว้าง 60cm กว้างขวาง วางอุปกรณ์และคอมตั้งโต๊ะได้สะดวกมากขึ้น ไม่ต้องกังวลเรื่องพื้นที่ใช้งาน โครงสร้างขาและฐาน เป็นโลหะคาร์บอนกันสนิม มีความแข็งแรง รับน้ำหนักได้ดี พร้อมยางที่รองขาโต๊ะกันลื่น มีระยะให้กระจายน้ำหนัก พื้นโต๊ะมาในแบบลายเคฟลาร์ ให้ดีไซน์ที่ดูสปอร์ต ความหนา 18mm เป็นวัสดุกันลื่น และกันน้ำได้อีกด้วย มาพร้อมชั้นวาง 90cm อีก 1 ชุด สำหรับวางจอมอนิเตอร์ หรืออุปกรณ์เสริม และช่องลอดสายไฟให้ 2 ช่อง บริเวณด้านบน รวมถึงลูกเล่นอย่างที่แขวนหูฟัง และที่วางแก้วน้ำทางด้านขวา โดดเด่นด้วยแสงไฟ RGB ที่อยู่บริเวณด้านข้างของโต๊ะ เพิ่มความสวยงาม ไม่เหมือนใคร สนนราคาอยู่ที่ 3,520 บาท

จุดเด่น ข้อสังเกต
เป็นทาง L วางของเพิ่มได้
ยางถึง 160cm

ข้อมูลเพิ่มเติม: LS2-1600


2.OKER DX-449

โต๊ะคอมเกมมิ่ง

เป็นโต๊ะคอมจากค่ายเกมมิ่งเกียร์ ที่มีไลน์ผลิตภัณฑ์ไม่น้อยเลยทีเดียว สำหรับ OKER และราคาก็น่าสนใจ ออกแบบมาใทนสีแดงของขา ตัดกับสีดำของท็อปโต๊ะ โดยขาโต๊ะมาในสไตล์ที่ลงตัว ไม่เกะกะเมื่อนั่ง ให้สมดุลได้ดี วัสดุเป็นโลหะสี่เหลี่ยม มีความทนทาน พื้นโต๊ะด้านบนเป็นลายคาร์บอน โทนสีดำ กันรอยและกันน้ำได้ มีช่องลอดสายไฟ ไปยังด้านล่างสะดวก โดยมีให้ 2 ช่องด้วยกัน นอกจากนี้ยังมีที่แขวนหูฟัง และที่วางแก้วมาให้ครบ เพิ่มความสวยงามด้วยขอบแสงไฟ RGB ที่ปรับสีได้ตามต้องการ ผ่านทางรีโมทที่ให้มาด้วย ช่วยเพิ่มบรรยากาศในการเล่นเกมได้ดีทีเดียว ราคา 3,590 บาท

จุดเด่น ข้อสังเกต
มีไฟ RGB ดีไซน์ Armor ค่อนข้างใหญ่
ครอบมุมโต๊ะกันกระแทก

ข้อมูลเพิ่มเติม: OKER


3.EGA TYPE-GD2

โต๊ะคอมเกมมิ่ง

ใครที่ชื่นชอบโต๊ะคอมเล่นเกม สไตล์เกมมิ่งจัดๆ ลูกเล่นล้ำ กับค่าย EGA นี้ ที่กระแสของเกมมิ่งเกียร์มีอยู่ตลอด และโต๊ะคอมเกมมิ่งรุ่นนี้ ก็ดูจะตอบโจทย์คอเกมได้ดีทีเดียว มิติอยู่ที่ 120cm x 60cm โครงสร้างใช้โครงขาโลหะสีดำ ตัดโลโก้เขียวสะดุดตา ขาวางเอาไว้ได้ดีมีสมดุล ไม่เกะกะ ด้านข้างเสริมแสงไฟ LED ที่ปรับแสงไฟได้ 5 สี สว่างสดใส ท็อปโต๊ะด้านบนเป็นลายคาร์บอน กันน้ำและรอยขูดขีด ดูทันสมัย ปิดขอบด้านข้างได้เรียบเนียน พร้อมช่องลอดสายไฟ ต่อลงมายังที่วางปลั๊กราง ให้ดูสบายตา ไม่เกะกะ และไม่ลืมใส่ที่วางแก้ว และที่แขวนหูฟัง เอาไว้ให้ด้วย ราคา 3,590 บาท

จุดเด่น ข้อสังเกต
มีแสงไฟ RGB
เพิ่มที่วางปลั๊กให้

ข้อมูลเพิ่มเติม: EGA


4.Neolution E-Sport Gaming Desk Eagle

โต๊ะคอมเกมมิ่ง

โต๊ะคอมเล่นเกมในสไตล์ที่เรียบหรู ดูดี มิติใหญ่ วางคอม และพื้นที่กว้างขวาง สำหรับการวาดเมาส์ไปมาได้สนุก โดยรุ่น Eagle นี้ ให้มิติความยาวได้ถึง 140cm x 60cm ท็อปโต๊ะด้านบน เป็นแบบ P2PB บอร์ด คลุมด้วยลายคาร์บอนกันรอยขีดข่วน และกันน้ำได้ดี เหมาะกับคนที่เล่นไปทานขนมไป ขาโต๊ะเป็นโลหะ และมีชิ้นส่วนที่เป็น ABS เพื่อความยืดหยุ่น รับน้ำหนักได้ถึง 100Kg แม้จะไม่ได้มีแสงไฟ RGB มาให้ แต่ให้ฟังก์ชั่นเพิ่มความสะดวกมาครบ ไม่ว่าจะเป็น ที่แขวนหูฟัง ที่วางแก้ว รวมถึงที่ลอดสายไฟ และเชื่อมต่อไปยังช่องกลาง ที่วางปลั๊กรางเอาไว้ให้ ทำให้ง่ายต่อการจัดเก็บและไม่เกะกะอีกด้วย แต่ที่น่าสนใจคือ ยังแถมแผ่นรองเมาส์ขนาดใหญ่ คลุมพื้นที่บนโต๊ะให้ใช้งานได้อย่างสะดวกทีเดียว ราคา 3,990 บาท

จุดเด่น ข้อสังเกต
พื้นที่โต๊ะยาว 140cm ขนาดบอดี้ค่อนข้างใหญ่
มีแผ่นรองเมาส์ขนาดใหญ่ให้

ข้อมูลเพิ่มเติม: Neolution E-Sport


5.MEETION DSK10 Z

โต๊ะคอมเกมมิ่ง

มาที่อีกค่ายหนึ่งบ้าง ที่มีไลน์ทั้งเกมมิ่งเกียร์ และโมเดลที่เป็นโต๊ะเกมมิ่ง รวมถึงเก้าอี้ให้เลือกเพียบ และใครที่ชอบแนวสปอร์ตดูเหมือนรถแข่งสไตล์ Naked ไม่ควรพลาดกับโต๊ะรุ่นนี้ มาในขนาด 110cm x 66cm ซึ่งถือว่าพอเหมาะกับเกมเมอร์ โทนสีส้มตัดกับสีดำ ค่อนข้างแปลกตา โครงโลหะแข็งแรง และเสริมจุดยึดตรงกลาง มีหมุดรองใต้ขาให้มีความมั่นคง โดยออกแบบเป็นตัว Z เน้นสมดุลที่ดี สะดุดตากับแถบโลหะด้านข้างกับการเป็น Armor ที่เพนท์สีในแบบ Piano paint มีความวิบวับพอสมควร พร้อมช่องลอดสายมาให้ ในภาพรวมถือว่าลงตัว ขาดแค่ส่วนของวางแก้วน้ำกับแขวนหูฟังเท่านั้น ราคา 4,590 บาท

จุดเด่น ข้อสังเกต
สีสันสดใส พื้นที่ท็อปโต๊ะ 110cm
ตัวยึดตรงกลางโต๊ะ

ข้อมูลเพิ่มเติม: MEETION


6.NUBWO NXGD-800 RGB

โต๊ะคอมเกมมิ่ง

NUBWO นับว่าเป็นอีกค่ายหนึ่งที่ไม่ได้มีเพียงเกมมิ่งเกียร์ที่มีลูกเล่น และดีไซน์สวย ในราคาที่โดนใจเหล่าเกมเมอร์เท่านั้น แต่ยังมีไลน์ของโต๊ะเกมมิ่ง และเก้าอี้เกมมิ่งอีกหลายรุ่น เช่นเดียวกับ NXGD-800 RGB รุ่นนี้ ที่มาในดีไซน์ไม่ธรรมดา กับขาโต๊ะดีไซน์ใหม่ เสริมแสงไฟ LED ปรับได้ถึง 8 สีด้วยกัน คาดเป็นเส้นสวยงาม แถบด้านบนโต๊ะ เป็นแสงไฟ RGB เช่นกัน ตัดกับลวดลายคาร์บอนบนพื้นโต๊ะได้ลงตัว พร้อมช่องลอดสายไฟ ขนาดใหญ่ ด้านใต้มีที่วางปลั๊กราง เพื่อความสะดวกในการจัดสาย มิติของโต๊ะยาว 120cm และกว้าง 60cm เรื่องการอำนวยความสะดวก มีทั้งที่วางแก้ว และที่แขวนหูฟังให้ครบ ราคาอยู่ที่ 4,990 บาท

จุดเด่น ข้อสังเกต
ดีไซน์ทันสมัย ไฟ RGB มี Armor ด้านข้างใหญ่
ฟังก์ชั่นสำคัญครบ

ข้อมูลเพิ่มเติม: NUBWO


7.Ergopixel Terra

โต๊ะคอมเกมมิ่ง

โต๊ะเกมมิ่งไซส์ใหญ่ ราคาสบายกระเป๋าของค่ายนี้ เป็นโต๊ะกึ่ง Ergonomic ที่มาในขนาด 140cm x 60cm ให้เกมเมอร์ได้วาดลวดลาย เคลื่อนไหวเมาส์ได้อิสระ พร้อมกับวางคอมบนโต๊ะได้ลงตัว ขาโต๊ะที่วางกึ่งกลาง รูปตัว T เพื่อสร้างสมดุล เป็นโลหะแข็งแรง ใต้ฐานมีจุดยึดให้แน่นหนา ท็อปโต๊ะเป็นแบบลายคาร์บอน กันรอยและกันน้ำได้ดี พร้อมช่องลอดสายมาให้ โดยด้านใต้ก็มีถาดเอาไว้ใส่ปลั๊กรางอีกด้วย เสริมฟังก์ชั่นอย่างที่แขวนหูฟัง และที่วางแก้วมาครบครันเช่นกัน เรียกว่าดูลงตัวดีทีเดียว ราคา 5,900 บาท

จุดเด่น ข้อสังเกต
ให้ความยาว 140cm ขนาดค่อนข้างใหญ่
วางปลั๊กรางได้

ข้อมูลเพิ่มเติม: Ergopixel


8.BAIERDI MALL Ergonomic Desk

โต๊ะคอมเกมมิ่ง

แต่ถ้าสไตล์ของคุณชอบขยับ ปรับเลื่อนไปมา ไม่ให้เมื่อยล้าจนเกินไป โต๊ะไฟฟ้าปรับเลื่อนได้รุ่นนี้ ก็น่าสนใจไม่น้อยเลย กับขาโต๊ะวางกลาง เน้นความสมดุล กับท็อปโต๊ะขนาด 120cm x 60cm มาตรฐาน ในโทนสีขาว ตัดกับสีไม้เมเปิล ดูนุ่มนวลสบายตา เหมาะกับคนที่จัดห้องใทนสะอาด ดูสว่าง จุดเด่นอยู่ที่สามารถปรับเลื่อนขึ้น-ลงได้ตั้งแต่ 71-117cm ด้วยชุดคอนโทรลที่มีให้ ใช้งานง่าย รองรับการจดจำระดับทำเป็นโพรไฟล์ของผู้ใช้ได้ในหลายระดับ จะนั่งจะยืน ก็สะดวก พร้อมช่องลอดสายมาให้ 2 ด้าน ราคา 5,990 บาท

จุดเด่น ข้อสังเกต
ปรับเลื่อนความสูงได้ ไม่มีชุดวางแก้วกับที่แขวน

ข้อมูลเพิ่มเติม: BAIERDI MALL


Conclusion

ท็อปโต๊ะ ฟีเจอร์พิเศษ ที่แขวนหูฟัง ที่วางแก้ว ราคา
1.Gamer Desk L
LS2-1600
160cm x 60cm RGB มี มี 3,520
2.OKER DX-449 120cm x 60cm RGB มี มี 3,590
3.EGA TYPE-GD2 120cm x 60cm RGB มี มี 3,590
4.Neolution E-Sport
Gaming Desk Eagle
140cm x 60cm Mousepad มี มี 3,990
5.MEETION DSK10 Z 10cm x 66cm Armor 4,590
6.NUBWO NXGD-800 120cm x 60cm RGB มี มี 4,990
7.Ergopixel Terra 140cm x 60cm มี มี 5,900
8.BAIERDI MALL
Ergonomic Desk
120cm x 60cm ปรับความสูงได้ 5,990

มาสรุปเรื่องราวของโต๊ะคอมเกมมิ่งทั้ง 8 รุ่นในวันนี้กันครับ สำหรับการใช้งานอย่างที่ได้กล่าวไปในเบื้องต้นว่า เลือกในสไตล์ที่คุณคิดว่าเหมาะกับคุณ เช่น บางครั้งไม่ได้สนใจเรื่องของสีสัน หรืออยากได้ที่เรียบง่าย ตัวเลือกErgonomic Desk หรือ Ergopixel ก็น่าสนใจไม่น้อย แล้วคุณไปใส่ความสวยงามในแบบของคุณได้เอง แต่ถ้าอยากได้แบบโต๊ะเกมเมอร์จ๋าๆ มาแต่ต้น EGA, MEETION หรือ NUBWO ก็จะตอบโจทย์คุณได้อย่างเต็มที่ ทั้งในเรื่องของสีสัน รูปลักษณ์ และวัสดุ ส่วนถ้าใครชอบโต๊ะแบบยาวๆ วางของได้เยอะ วางคอมบนโต๊ะได้สะดวก Neolution, Ergopixel ให้คุณได้ กับความยาวโต๊ะระดับ 140cm แต่ถ้าพิเศษเลย ก็จะเป็น Gamer Desk L ที่เป็นทั้งโต๊ะเข้ามุม มีความยาว 160cm รวมถึง มีชั้นวางจอมาให้ ก็สะดวกไม่น้อยเลย ที่เหลือคือ ความชื่นชอบ และลูกเล่นเสริมต่างๆ ที่เพิ่มเติมเข้ามาให้ ชอบแบบไหน แนะนำว่ามีโอกาสได้ไปดูตัวจริง ก็จะช่วยคุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้นครับ


Desktop PC table 2022 Cov7

โต๊ะคอมพิวเตอร์ ราคาถูก 8 รุ่นในงบ 2000.-

from:https://notebookspec.com/web/680431-8-gaming-desk-5000-2023

โต๊ะคอมพิวเตอร์ ราคาถูก 8 รุ่นในงบ 2000.- แข็งแรง วางคอมได้ ดีไซน์สวย

โต๊ะคอมพิวเตอร์ ราคาถูก 8 รุ่น จัดโต๊ะคอมให้ถูกใจคุณรับปี 2023 นี้ แข็งแรง ดูดี มีฟังก์ชั่นเยอะ

โต๊ะคอมพิวเตอร์-ราคาถูก

โต๊ะคอมพิวเตอร์ ราคาถูก เป็นสิ่งที่เกมเมอร์หลายคนมองหา ในปัจจุบันโต๊ะคอมมีให้เลือกมากมาย หลากหลายสไตล์ เพราะนอกจากจะทำให้คุณนั่งเล่นเกมหรือดูหนัง เทรดหุ้น ได้อย่างสบายใจแล้ว หรือคนทำงานก็ได้ใช้ฟังก์ชั่นสะดวก ราคาก็ยังถูกลง ในปัจจุบันการจ่าย 2,000 บาทกับการเลือกโต๊ะคอมดีๆ สักรุ่น ก็มีให้ใช้ เพียงแต่ผู้ใช้เอง จะต้องเลือกสรรให้เหมาะสมกับตัวเอง เช่น วัสดุ ขนาด ความแข็งแรง งานประกอบ ไปจนถึงฟังก์ชั่นเสริม ที่เพิ่มเติมเข้ามา เช่น แสงไฟ LED, ที่วางแก้วน้ำ หรือที่แขวนหูฟัง เพราะสิ่งเหล่านี้ จะลดการใช้พื้นที่บนโต๊ะได้ไม่น้อย และทำให้วางสิ่งสำคัญอื่นๆ ได้มากขึ้น เช่น สมาร์ทโฟน แท็ปเล็ต พรินเตอร์ กรอบรูป หรือจะเป็นต้นไม้เล็กๆ สักต้น และถ้าวันนี้คุณยังไม่มีไอเดียในการเลือกโต๊ะคอมเอาไว้ในใจ เรามีแนวทางดีๆ กับตัวอย่างโต๊ะคอมในงบสายกระเป๋ามาฝากกันครับ

โต๊ะคอมพิวเตอร์ ราคาถูก 2000 บาท

โต๊ะคอมพิวเตอร์ ราคาถูก

มิติและการจัดวาง โต๊ะคอมมีด้วยกันหลายขนาด ดังนั้นก็ต้องเลือกให้เหมาะกับขนาดห้อง พื้นที่จัดวาง เพราะจะช่วยให้คุณออกแบบ โซนพื้นที่ทำงานหรือเล่นเกมของคุณให้ลงตัวมากที่สุด ไม่เกะกะ และยังทำความสะอาดง่าย ซึ่งรวมถึงการตกแต่งให้เข้ากับสไตล์ของคุณ ไม่รกห้องหรือเกะกะ ทำความสะอาดง่าย โต๊ะคอมพิวเตอร์ ราคาถูก ก็มีตัวเลือกให้คุณได้ใช้งานได้ไม่น้อยเลย

Advertisementavw
Conclusion Content MSI

แข็งแรงรองรับการจัดวางพีซีได้ สิ่งนี้สำคัญเป็นอย่างยิ่ง เพราะหลายคนมักจะชอบวางพีซีบนโต๊ะ มากกว่าบนพื้น ส่วนหนึ่งก็เพื่อความสะดวกในการใช้งาน ต่อสาย และอุปกรณ์ต่อพ่วง ที่ง่ายกว่า ดังนั้นการเลือกโต๊ะคอมที่มีโครงสร้างแข็งแรง จุดยึดที่แน่นหนา รวมถึงพื้นโต๊ะที่ไม่เป็นรอยง่าย ก็ทำให้ดูน่าสนใจยิ่งขึ้น ปัจจุบันก็มีวัสดุให้เลือกมากมาย ตั้งแต่ ไม้พาติเคิล ไม้อัด ไม้ยาง โลหะ กระจก ความสวยงามและความทนทาน ก็มีมากน้อย ลดหลั่นกันไป

ประกอบง่าย ดูแลสะดวก เป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ โดยเฉพาะคนที่ซื้อโต๊ะคอมมาเป็นแพ๊คแล้วประกอบเอง ถ้ามีชิ้นส่วนเยอะ ความซับซ้อนมาก ก็จะยิ่งใช้เวลานาน และอาจประกอบผิดได้ ซึ่งบางชิ้นติดผิดแล้วขยับออกไม่ได้ เสียแล้วเสียเลย แบบนี้ต้องระวัง หากไมชำนาญ และเครื่องมือไม่พร้อม แนะนำให้เลือกแบบที่ประกอบเสร็จ หรือมีช่างมาติดตั้งให้ จะลดปัญหาไปได้มากทีเดียว

Desktop PC table 2022 Cov3

ขนาด พื้นที่วางของบนโต๊ะ อยากให้เลือกโต๊ะคอม ที่มีพื้นที่ใช้งานกว้างกว่าการจัดวางพื้นฐานเล็กน้อย เพราะอย่าลืมว่า คุณอาจจะต้องใช้พื้นที่ในการวางสิ่งอื่นๆ หรือเป็นพื้นที่ใช้สอยเพิ่มเติม เช่น การวางมือถือ พรินเตอร์ กระดาษจดบันทึก หรือของใช้ส่วนตัว รวมถึงการเล่นเกม ที่ต้องอาศัยพื้นที่ในการเลื่อนเมาส์ได้แบบไม่ติดขัด เพราะคุณอาจจะเสียอารมณ์อย่างมาก ขณะที่เล่นแล้วต้องสะดุด หากใช้งานทั่วไป ไม่มีของเยอะ วางคอมใต้โต๊ะความยาว 120cm ก็เพียงพอ แต่ถ้าวางคอมบนโต๊ะ เป็นคอเกม มีอุปกรณ์ต่อพ่วงเสริม แนะนำที่ 140cm ขึ้นไป เพื่อให้จัดโต๊ะคอมได้สะดวกกว่า

ฟังก์ชั่นพิเศษอื่นๆ โต๊ะคอมพิวเตอร์ ราคาถูก ก็มีให้เลือกตามความเหมาะสม หากคุณคิดว่าจำเป็นต้องใช้ หรือคุ้มค่าใช้จ่าย เช่น ลิ้นชักเก็บของ ชั้นวางของเล็กๆ ช่องใส่แก้วน้ำ แสงไฟ RGB หรือจะเป็นที่แขวนหูฟังก็ตาม ยิ่งเป็นโต๊ะรุ่นใหม่ๆ ในสไตล์ Ergonomic Design ที่ปรับระดับความสูงได้ แบบนี้ราคาก็จะสูงตามไปด้วย

ปรับระดับได้ นับว่าเป็นสไตล์ของโต๊ะทำงานในแบบ Ergonomic design ที่หลายค่ายทำออกมาแข่งขันกัน ซึ่งข้อดีของโต๊ะแบบนี้ก็คือ ผู้ใช้สามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานตามอิริยาบทได้ เช่นอาจจะยืน นั่งหรือบางครั้งก็สลับกันไปมา ลดความเมื่อยล้า แต่ก็มีข้อสังเกตในการเลือกคือ มอเตอร์เป็นสิ่งสำคัญ เพราะมักจะรับบทหนัก หากผู้ใช้จะปรับเลื่อนบ่อยๆ รวมถึงการรับน้ำหนัก ซึ่งควรจะให้อยู่ในเกณฑ์ที่ผู้ผลิตกำหนด ลดความเสียหายระหว่างการใช้


1.NEOLUTION QUORA – 2,090 บาท

โต๊ะคอมพิวเตอร์ ราคาถูก

สำหรับโต๊ะคอมพิวเตอร์ ราคาถูกจาก NEOLUTION รุ่นนี้ ต้องถือว่าน่าสนใจไม่น้อยเลย เพราะมีส่วนขยายเพิ่มเติมให้ผู้ใช้ จัดวางสิ่งของต่างๆ ได้มากขึ้นกว่าพื้นที่โต๊ะที่ขนาด 60cm x 100cm โดยพื้นโต๊ะเป็นพาติเคิล 1.5cm ทับด้วยเมลามีน ที่มีความแข็งแรง ไม่เป็นรอยง่าย เป็นแบบแผ่นเรียบ ให้การเคลื่อนย้ายสิ่งต่างๆ บนโต๊ะได้สะดวก เพียงพอสำหรับการวางจอคอมขนาดใหญ่ได้ไม่ยาก ติดตั้งบนโครงสร้างขาตั้งโลหะสีดำ โดยไม่มีโครงสร้างตรงกลางมาให้เกะกะ งานประกอบค่อนข้างปราณีต พร้อมใส่ฟังก์ชั่นการใช้งานมากอย่างครบครัน เช่น ที่วางแก้ว ที่แขวนหูฟัง แต่จะไม่ได้เจาะรูลอดสายไฟมาให้ มีส่วนขยายพื้นที่ด้านข้างมาให้ จัดโต๊ะคอมได้ค่อนข้างสะดวกทีเดียว ราคาอยู่ที่ 2,090 บาท

จุดเด่น ข้อสังเกต
ดีไซน์ดูทันสมัย ความยาวอยู่ที่ 100cm
มีที่วางแก้ว แขวนหูฟังมาด้วย

ไปช้อปได้ที่: NEOLUTION


2.Index Living Mall เอช-ลาร่า/พีเอสทู – 2,190 บาท

โต๊ะคอมพิวเตอร์ ราคาถูก

โต๊ะคอมกึ่งทำงานจากทาง INDEX ที่ดูแตกต่างที่สุดในการรวมโต๊ะคอมครั้งนี้ เพราะมาในสไตล์ของโต๊ะไม้ที่ดูพรีเมียม และมีทั้งที่วางคีย์บอร์ด สไลด์เก็บได้ และลิ้นชักเก็บของ บนท็อปโต๊ะขนาด 60cmx120cm เรียกว่าพอเหมาะกับการใช้งาน ผลิตจากไม้พาร์ทิเคิลบอร์ด และปิดผิวหน้าด้วยเมลามีนที่เคลือบเลซิ่น ลดการเกิดรอย เหมาะกับคนที่เป็นเกมเมอร์ ที่เล่นเกมบนโน๊ตบุ๊คหรือจะวางจอมอนิเตอร์ขนาดใหญ่ก็ยังไหว โต๊ะคอมรุ่นนี้ไม่ได้เจาะช่องลอดสาย ที่แขวนหูฟังหรือที่วางแก้วน้ำแยกมาให้ แต่ก็เสริมฟังก์ชั่้นอื่นๆ มาให้แทน ราคาอยู่ที่ 2,190 บาทเท่านั้น

จุดเด่น ข้อสังเกต
มาพร้อมลิ้นชัก ที่วางคีย์บอร์ดแยก ไม่ได้เจาะรู หรือที่วางแก้วมาให้
ได้ท็อปโต๊ะ 120cm

ไปช้อปได้ที่: Index


3.IKEA LAGKAPTEN / ADILS – 2,290 บาท

โต๊ะคอมพิวเตอร์ ราคาถูก
ที่มา: IKEA

แต่ถ้าคุณเป็นคนที่ชอบพื้นที่จัดวางของเยอะๆ หรือใช้งานพื้นที่โต๊ะแบบที่ต้องวางคอมไว้บนโต๊ะได้ด้วย แนะนำโต๊ะจาก IKEA รุ่นนี้เลย เพราะใช้งานง่าย ติดตั้งประกอบสะดวก วัสดุท็อปโต๊ะเป็นบอร์ดออนเฟรม ผลิตจากกระดาษรีไซเคิลและปิดทับด้วยกรอบไม้ พาร์ติเคิลบอร์ด หรือไฟเบอร์บอร์ด ความหนาพอสมควร และขาแยกต่างหาก สามารถไขน็อตยึดได้เอง มีขาโต๊ะให้ถึง 5 ขาด้วยกัน รองรับน้ำหนักพื้นที่ตรงกลางโต๊ะ มิติความยาวมากถึง 200cm มากกว่าโต๊ะรุ่นอื่นๆ และกว้าง 60cm มีให้เลือกเฉดสีของโต๊ะและขามากถึง 8 รูปแบบ สนนราคาอยู่ที่ 2,290 บาท

จุดเด่น ข้อสังเกต
ความยาวโต๊ะมากถึง 200cm เรียบง่าย ไม่มีลูกเล่นเสริม
มีขาโต๊ะให้ 5 ขา

ไปช้อปได้ที่: IKEA


4.BAIERDI MALL – 2,340 บาท

โต๊ะคอมพิวเตอร์ ราคาถูก
ที่มา: BAIERDI MALL

โต๊ะคอมแบบนั่งคู่ สำหรับเกมเมอร์ที่เล่นเป็นคู่ หรือสู้เป็นทีม กับดีไซน์ให้ความทันสมัย เน้นความสปอร์ต กับดีไซน์ขาด้านข้างตัว K มิติกว้างxยาวอยู่ที่ 60cm x 180cm จะใช้พื้นที่วางคอมก็สะดวก หรือจะเน้นวางแผ่นรองเมาส์ไซส์ XL ก็สบาย ท็อปโต๊ะหนา 1.6cm และวัสดุแบบไฟเบอร์ มุมโต๊ะมีความโค้งมน จะได้ไม่สะดุดหรือชนง่ายๆ ขาโต๊ะโลหะชิ้นใหญ่ เสริมจุดยึดขาทั้งสองข้างเข้าด้วยกัน 2 ชั้น และมีสติ๊กเกอร์ประดับมาด้วย มีช่องลอดสายไฟมาให้ 2 จุดซ้าย-ขวา นอกจากนี้ก็มีที่แขวนหูฟังมาให้ ทำความสะอาดได้ไม่ยาก ราคาอยู่ที่ 2,340 บาท

จุดเด่น ข้อสังเกต
ได้พื้นที่โต๊ะกว้างขึ้น ยาว 180cm ไม่มีช่องลอดสายไฟ
มีที่ลอดสายไฟ และที่แขวนหูฟัง

ไปช้อปได้ที่: BAIERDI MALL


5.Nubwo ND-600S – 2,390 บาท

โต๊ะคอมพิวเตอร์ ราคาถูก

โต๊ะคอมสไตล์เกมมิ่งที่มาในแบบล้ำๆ และความยาวของพื้นโต๊ะระดับ 120cm และกว้างถึง 75cm ด้วยกัน มีให้เลือกทั้งแดง ดำและน้ำเงิน โครงสร้างฐานที่เป็นโลหะ ให้สมดุลได้ดีพอสมควร ผิวสัมผัสเป็นแบบลายไฟเบอร์คาร์บอน เพื่อความสปอร์ตและมีช่องลอดสายไฟมาให้ เช่นเดียวกับ ที่แขวนหูฟัง ซึ่งทำมาค่อนข้างใหญ่พอสมควร แต่ไม่มีที่วางแก้วมาด้วย ตรงกลางมีโครงสร้างมายึดขาโต๊ะทั้งสองด้านเอาไว้ มีการทำลวดลายและเส้นสายไว้ดูสะดุดตา เคาะราคามาประมาณ 2,390 บาท

จุดเด่น ข้อสังเกต
ให้พื้นโต๊ะได้กว้างมากขึ้น 75cm จุดยึดขาโต๊ะใกล้ที่วางขา
มีช่องลอดสายไฟ และที่แขวนหูฟัง

ไปช้อปได้ที่: Nubwo


6.Furradec CT-2013 – 2,410 บาท

โต๊ะคอมพิวเตอร์ ราคาถูก

มาถึงโต๊ะคอมเกมมิ่ง ที่มาในสไตล์ Ergonomic กันบ้าง สำหรับค่าย Furradec นี้ ที่มาในขนาด 60cm x 120cm ในมิติความกว้างxยาว ตัวโครงสร้างเป็นโลหะแข็งแรง เป็นโทนสีดำทั้งหมด พ่นสีมาได้สวยงาม มิติของฐานไม่ใหญ่ แต่น่าจะโดนใจใครที่ไม่ชอบขาแบบเอียงๆ เพราะเค้าออกแบบมาเป็นขาตรง พร้อมตัวยกระดับให้สูงจากพื้น มีตัวจับยึดขาโต๊ะไม่เกะกะ เวลาที่นั่งเหยียดขา และด้านบนโต๊ะใช้เป็น MDF เคลือบผิวด้วย PVC ไม่เป็นรอยง่าย ให้ฟังก์ชั่นมาแบบครบๆ ไม่ว่าจะเป็น ที่วางแก้ว ที่แขวนหูฟัง และมีเจาะรูลอดสายไฟมาให้ทั้งสองด้านอีกด้วย จากบางร้านทำโปรฯ ได้ค่อนข้างดีทีเดียว เคาะราคาที่ 2,410 บาท

จุดเด่น ข้อสังเกต
ดูไซน์ขาโต๊ะแนวตั้ง ไม่เกะกะ
มีที่ลอดสายไฟ ที่แขวนหูฟัง และที่วางแก้ว

ไปช้อปได้ที่: Furradec


7.Tengu Musashi – 2,490 บาท

โต๊ะคอมพิวเตอร์ ราคาถูก

เป็นโต๊ะคอมในสไตล์เกมมิ่ง ที่มาในโครงสร้างที่สะดุดตา ราคาสบายกระเป๋า อยู่ที่ราว 2,490 บาท ขาโต๊ะมีให้เลือกสีขาวและดำ เป็นแบบโลหะ จุดยึดค่อนข้างแข็งแรง เมื่อดูจากด้านข้างจะเหมือนตัว K ที่มีการกระจายน้ำหนักไปยังพื้นได้มากขึ้น พื้นโต๊ะหุ้มด้วยวัสดุลายคาร์บอนไฟเบอร์ ให้ดูสปอร์ตมากยิ่งขึ้น พร้อมช่องลอดสายไฟ และตัวครอบ โดยมีฟังก์ชั่นเพิ่มเติมอย่าง ที่วางแก้ว และที่แขวนหูฟังมาให้ครบครัน ไฮไลต์ที่สำคัญคือ แสงไฟ LED ที่ปรับได้ 4 โหมดด้วยกัน อยู่มุมโต๊ะด้านซ้ายและขวา โดยมีขนาดกว้างxยาว 60cm x 120cm และความสูงที่ 75cm ตามมาตรฐาน ติดตั้งขายึดจอคอมได้

จุดเด่น ข้อสังเกต
มีที่แขวนหูฟัง ลอดสายไฟและที่วางแก้ว มีขอบด้านข้างโต๊ะมาด้วย
แสงไฟ LED เพิ่มความสวยงาม

ไปช้อปได้ที่: Tengu


8.Nubwo-X NXGD-400 – 2,690 บาท

โต๊ะคอมพิวเตอร์ ราคาถูก

โต๊ะคอมสายเกมมิ่ง ที่มีความสปอร์ท โดดเด่นด้วยพื้นโต๊ะที่เป็นท็อปหุ้มด้วยวัสดุลายคาร์บอนไฟเบอร์ มีมิติกว้างxยาว อยู่ที่ 62cm x 119cm เหมาะกับการจัดวางเคสขนาดกลางและเล็ก และจอมอนิเตอร์ พร้อมแผ่นรองเมาส์ได้พอดีๆ โครงสร้างโลหะประกอบง่าย ความสูงจากพื้น 75cm ตามมาตรฐาน และแสงไฟ LED ที่อยู่ด้านข้างทั้งสองด้าน ช่วยประดับโต๊ะให้ดูมีมิติ และความเป็นเกมมิ่งอย่างเด่นชัด มีความแข็งแรง พร้อมช่องลอดสายไฟ 2 ช่องซ้าย-ขวา และที่วางแก้วมาให้ ด้านหลัง รวมถึงที่แขวนหูฟัง เรียกว่าจัดมาอย่างครบครัน สนนราคาเคาะอยู่ที่ประมาณ 2,690 บาท

จุดเด่น ข้อสังเกต
มาพร้อมช่องลอดสาย ที่วางแก้วและแขวนหูฟัง
มีแสงไฟ LED เพิ่มความสวยงาม

ไปช้อปได้ที่: NUBWO


Conclusion

ท็อปโต๊ะ วัสดุขาตั้ง ที่แขวนหูฟัง ที่วางแก้ว ราคา
1.NEOLUTION QUORA 60cmx100cm โลหะ มี มี 2,090
2.Index Living Mall เอช-ลาร่า 60cmx120cm โลหะ ไม่มี ไม่มี 2,190
3.IKEA LAGKAPTEN / ADILS 60cm x 200cm โลหะ ไม่มี ไม่มี 2,290
4.BAIERDI MALL 60cm x 180cm โลหะ มี ไม่มี 2,340
5.Nubwo ND-600S 75cm x 120cm โลหะ มี ไม่มี 2,390
6.Furradec CT-2013 60cm x 120cm โลหะ มี มี 2,410
7.Tengu Musashi 60cm x 120cm โลหะ มี มี 2,490
8.NUBWO-X NXGD-400 62cm x 119cm โลหะ มี มี 2,690

โต๊ะคอมพิวเตอร์ ราคาถูกในปัจจุบันมีให้เลือกมากมาย ตั้งแต่โต๊ะพื้นฐานทั่วไป ที่ใช้ในการเรียนในชีวิตประจำวัน ไปจนถึงโต๊ะทำงาน และโต๊ะคอมสำหรับเล่นเกม การเลือกใช้ ก็ขึ้นอยู่กับหลายๆ ปัจจัย ตามที่ได้แนะนำไปในเบื้องต้น บรรดาโต๊ะคอมที่เรารวบรวมมานี้ เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น อย่างไรก็ดี หากคุณชื่นชอบ ก็สามารถคลิ๊กลิงก์ไปหาข้อมูลหรือร้านจำหน่ายได้จากบทความนี้ สำหรับคนที่ชอบโต๊ะยาวๆ มีตัวเลือกจาก IKEA และ BAIERDI MALL ที่ระดับ 180cm – 200cm ให้เลือก สามารถวางอุปกรณ์เสริมและคอมไว้บนโต๊ะได้ แต่ถ้าเน้นฟังก์ชั่นมีหลายรุ่นที่เป็นโต๊ะคอเกมมิ่ง ที่มีทั้งแขวนหูฟัง และวางแก้วให้ครบ แต่จะมีเพียงบางรุ่นเท่านั้น ที่มีแสงไฟ LED มาให้ที่โต๊ะเลย เช่น Tengu Musashi เป็นต้น ส่วนถ้างบจำกัด 2,000 บาท ก็มี NEOLUTION QUORA ที่ให้ฟังก์ชั่นมาแน่นๆ ในงบประมาณนี้มาเลย เพียงแต่จะได้ความยาวโต๊ะ 100cm ซึ่งถ้าคุณใช้งานในพื้นที่จำกัดอยู่แล้ว ก็ถือว่าลงตัวครับ

และเรื่องที่สำคัญอย่างมากก็คือ การปรับสรีระการนั่งให้เหมาะสม เพื่อสุขภาพที่ดีในวันข้างหน้า และพักสายตาจากการทำงานหรือเล่นเกมบ้าง เพื่อลดปัญหาที่จะเกิดขึ้นตามมาในภายหลัง แม้คุณจะเลือกโต๊ะคอมได้ตามต้องการแล้วก็ตาม อย่าลืมพักผ่อน และจัดท่าทางการนั่งของคุณให้ดีด้วยครับ โอกาสหน้าพบกันใหม่

from:https://notebookspec.com/web/679110-8-gaming-desktop-2022