Next Generation HPE Aruba Networking Central: ระบบบริหารจัดการ Network ผ่าน Cloud โฉมใหม่ ใช้ง่ายด้วยพลังของ Data และ AI โดย VST ECS

หากพูดถึงระบบ Cloud Networking สำหรับธุรกิจองค์กร Aruba Central คงเป็นหนึ่งในโซลูชันที่หลายๆ คนนึกถึง ด้วยความสามารถของระบบที่ครอบคลุมหลากหลาย และความง่ายดายในการใช้งาน จนได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในภาคธุรกิจองค์กรทั่วโลก

แต่เมื่อโลกของระบบเครือข่ายเปลี่ยนแปลงไป Aruba Central จึงได้รับการปรับปรุงสู่โฉมใหม่ เพื่อตอบโจทย์โลกของระบบ Network ที่มีความซับซ้อนมากยิ่งขึ้น มีการใช้งานข้อมูลในการจัดการมากยิ่งขึ้น และผสานนวัตกรรม AI เพื่อให้การบริหารจัดการระบบเครือข่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

ในบทความนี้เราจะพาทุกท่านไปรู้จักกับ Next Generation HPE Aruba Networking Central ซึ่งมีการปรับเปลี่ยนหน้าจอการใช้งานครั้งใหญ่ ให้ตอบโจทย์สำหรับเหล่า Network Engineer และ IT Administrator มากยิ่งกว่าที่เคยกันครับ

ทำไม HPE Aruba ถึงต้องอัปเกรดยกเครื่องครั้งใหญ่ให้ Aruba Central?

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ระบบเครือข่ายนั้นได้มีวิวัฒนาการมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วง 2 ปีล่าสุด ที่ธุรกิจองค์กรต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงาน และนำอุปกรณ์ IoT ใหม่ๆ มาใช้เพื่อตอบโจทย์การออกแบบออฟฟิศที่ไร้สัมผัส และจัดการสิ่งต่างๆ ในบริษัทให้เป็นอัตโนมัติมากยิ่งขึ้น

HPE Aruba ได้เล็งเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ และพบว่าผู้ใช้งาน Aruba ทั่วโลกนั้น ต่างกำลังเผชิญกับความท้าทายหลักๆ ด้วยกัน 2 ประการ ได้แก่

1. การดูแลรักษาระบบเครือข่ายที่มีความซับซ้อนสูงยิ่งขึ้น การมาของ Hybrid Work, Cloud และ IoT นั้นได้ทำให้ระบบเครือข่ายซับซ้อนยิ่งกว่าเดิม และมีอุปกรณ์หรือผู้ใช้งานจำนวนมากที่อาจตกสำรวจไป ทำให้ผู้ดูแลระบบเครือข่ายไม่สามารถตรวจสอบ ติดตาม และควบคุมการใช้งานเครือข่ายสำหรับอุปกรณ์หรือผู้ใช้งานเหล่านี้ จึงไม่อาจปรับแต่งระบบเครือข่ายเพื่อสร้างประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุดได้อย่างเหมาะสม และการปรับเปลี่ยนการตั้งค่าของระบบเครือข่ายก็อาจกระทบกับเหล่าผู้ใช้งานและอุปกรณ์ที่ตกสำรวจนี้ได้โดยไม่ตั้งใจ
2. การขาดแคลนทรัพยากรบุคคลด้าน IT ที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น นับวันผู้เชี่ยวชาญด้านระบบเครือข่ายที่จะเข้ามารับหน้าที่ดูแลระบบเครือข่ายขององค์กรจะยิ่งหายากขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่ปริมาณของอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อเครือข่ายกลับมีมากขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้การทำ Network Automation แบบดั้งเดิมนั้นไม่อาจตอบโจทย์การบริหารจัดการได้เพียงพออีกต่อไป และต้องอาศัยพลังของ Data กับ AI เข้ามาช่วยในส่วนนี้

ความท้าทายเหล่านี้เองได้ทำให้ HPE Aruba ตัดสินใจยกเครื่องให้กับระบบ Aruba Central ครั้งใหญ่ เพื่อให้การดูแลรักษาระบบเครือข่ายเพื่อรองรับอุปกรณ์จำนวนมากและหลากหลายนั้นสามารถเป็นไปได้ด้วยผู้ดูแลระบบเครือข่ายเพียงไม่กี่คน

Next Generation HPE Aruba Networking Central ใช้งานง่ายกว่าเดิม ตอบโจทย์ผู้ดูแลระบบเครือข่ายยิ่งกว่าที่เคย

ในงาน Atmosphere’23 ซึ่งเป็นงานสัมมนาใหญ่ประจำปีของ HPE Aruba ในระดับโลกนั้น ได้มีการเปิดตัว Next Generation HPE Aruba Networking Central ซึ่งเป็นระบบบริหารจัดการเครือข่ายผ่าน Cloud รุ่นใหม่ที่ถูกออกแบบมาเพื่อให้ธุรกิจองค์กรสามารถนำ Data จากระบบเครือข่ายมาใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และใช้ AI ช่วยดูแลรักษาบริหารจัดการเครือข่ายได้ดียิ่งกว่าเดิม ซึ่งผู้ใช้งาน Aruba Central นั้นสามารถปรับไปใช้หน้าจอบริหารจัดการแบบใหม่นี้ได้ทันทีโดยไม่มีค่าใช้จ่าย

สำหรับความสามารถใหม่ๆ ที่โดดเด่นภายในหน้า Dashboard ของ Next Generation HPE Aruba Networking Central จะมีดังนี้

Credit : HPE Aruba

1. Toggle View

ปุ่มสำหรับสลับรุ่นของ Aruba Central เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถปรับเปลี่ยนมาใช้ HPE Aruba Central รุ่นใหม่และรุ่นเก่าได้ตามต้องการ

2. Entity-centric Solar System

เนื่องจากองค์ประกอบใหม่ๆ ที่ถูกเพิ่มเข้ามาในระบบเครือข่ายนั้นมีความหลากหลายและซับซ้อนมากยิ่งขึ้น ทำให้ระบบเครือข่ายมีขนาดใหญ่กว่าที่เคย HPE Aruba จึงเรียกระบบสำหรับบริหารจัดการภาพรวมของเครือข่ายว่า Solar System เพื่อสื่อถึงการตรวจสอบภาพรวมของระบบที่มีขนาดใหญ่และหลากหลายนี้

Solar System จะทำการ Correlate ส่วนต่างๆ ภายในระบบเครือข่ายเข้าด้วยกัน เพื่อให้ผู้ดูแลระบบสามารถเชื่อมต่อเข้าถึงแต่ละส่วนได้อย่างง่ายดาย โดยแยกเป็นส่วนของการจัดการ Network, Clients, Applications, Security และ Alert สำหรับระบบเครือข่ายในแต่ละสาขา

นอกจากนี้ ภายในระบบยังมีการรวบรวมข้อมูลและวิเคราะห์ปัญหาถึงระบบ Layer 1 ของเครือข่าย เพื่อให้ผู้ดูแลระบบเครือข่ายสามารถตรวจสอบและแก้ไขปัญหาได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้นอีกด้วย

3. Blended Indicator

ภายใน Solar System จะมีการให้คะแนนของภาพรวมในแต่ละส่วน เพื่อให้ผู้ดูแลระบบสามารถเข้าใจได้อย่างรวดเร็วว่าส่วนใดของระบบเครือข่ายที่กำลังมีปัญหารุนแรงในระดับใด และจัดลำดับความสำคัญในหารแก้ไขปรับปรุงระบบเครือข่ายให้มีประสิทธิภาพและส่งมอบประสบการณ์ที่ดีแก่ผู้ใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง

4. Industry-first Time Travel

Next Generation HPE Aruba Networking Central จะมีการเก็บข้อมูลของระบบเครือข่ายทั้งหมดย้อนหลังเอาไว้ 7 วัน และมีแถบช่วงเวลาให้ผู้ดูแลระบบสามารถเลื่อนย้อนเวลากลับไปได้ถึงระดับนาที เพื่อตรวจสอบแก้ไขปัญหาย้อนหลังได้อย่างง่ายดาย ซึ่งถือเป็นระบบบริหารจัดการเครือข่ายแรกของวงการที่มีการนำเสนอความสามารถนี้

5. Dynamic Information Panels

มีกราฟแสดงผลข้อมูลต่างๆ ที่จะเปลี่ยนแปลงไปตามการเลือกแต่ละ Entity ภายใน Solar System ช่วยให้ผู้ดูแลระบบสามารถเข้าใจสถานการณ์โดยรวมในแต่ละภาคส่วนได้ง่ายดายยิ่งขึ้น

นอกเหนือไปจาก Dashboard ที่เปลี่ยนแปลงไปแล้ว Next Generation HPE Aruba Networking Central ก็ยังมีการเสริมความสามารถใหม่ๆ ที่น่าสนใจอีกหลายประการ เช่น

• Sunburst Topology Views การนำเสนอ Network Topology ในแผนภาพแบบวงแหวน ที่ทำให้เข้าใจถึงภาพรวมของระบบเครือข่ายได้ง่ายดายกว่าการนำเสนอแบบกราฟความสัมพันธ์ เหมาะกับระบบเครือข่ายขนาดใหญ่ที่มีความซับซ้อนสูง

• Assurance Indicators ข้อมูลชี้วัดสำหรับ Device Health และ Client Experience ที่มีความแม่นยำ จากการใช้อัลกอริธึมเฉพาะในการวิเคราะห์
• Near real-time AI-powered Insights ใช้ AI วิเคราะห์และนำเสนอข้อมูลที่ผู้ดูแลระบบควรทราบในระดับเกือบ Real-Time ทำให้สามารถมองเห็นถึงปัญหาใหม่ๆ ที่กำลังเกิดขึ้นในระบบเครือข่ายได้อย่างรวดเร็ว
• AI-powered Client Profiling ใช้ AI ในการจำแนกประเภทของอุปกรณ์ ที่มีความแม่นยำสูงกว่า 99% จากการนำข้อมูล Fingerprint ของอุปกรณ์มากกว่า 200 ล้านรูปแบบมาให้ AI เรียนรู้
• Natural Language Aided AI Search ใช้ AI ที่เข้าใจภาษามนุษย์มาช่วยในการค้นหาข้อมูลต่างๆ ของระบบเครือข่าย ทำให้สามารถนำเสนอข้อมูลได้อย่างตรงจุดกว่าเดิม
• Flexible Configuration สามารถกำหนดการตั้งค่าระบบเครือข่ายได้ในแบบ Hierarchy หลายชั้น เหมาะสำหรับการออกแบบเครือข่ายเพื่อรองรับกรณีการใช้งานที่หลากหลายได้เป็นอย่างดี
• Device-agnostic Configuration Workflows สามารถออกแบบและกำหนดการตั้งค่าของระบบเครือข่ายได้ในแบบ Intent-based สำหรับการเชื่อมต่อเครือข่ายหลายรูปแบบพร้อมกัน ไม่ว่าจะเป็น Access Point, Switch หรือ Gateway ก็สามารถออกแบบนโยบายและบังคับใช้งานร่วมกันได้พร้อมกัน

จะเห็นได้ว่าความสามารถใหม่ๆ ภายใน Next Generation HPE Aruba Networking Central นี้สามารถตอบโจทย์ระบบเครือข่ายขนาดใหญ่ที่มีความซับซ้อนสูงได้ดีกว่าเดิมเป็นอย่างมาก ในขณะที่การบริหารจัดการดูแลรักษาระบบเครือข่ายที่มีขนาดเล็กเอง ก็จะได้ประโยชน์จากความง่ายดายในการใช้งานที่สูงขึ้น ทำให้ผู้ดูแลระบบไม่ต้องเสียเวลาในการตรวจสอบแก้ไขปัญหาอย่างในอดีตอีกต่อไป

สนใจโซลูชันของ HPE Aruba ติดต่อ VST ECS ได้ทันที

สำหรับผู้ที่สนใจโซลูชัน HPE Aruba Networking Central หรือโซลูชันใดๆ ของ HPE Aruba สามารถติดต่อทีมงาน VST ECS ได้ทันทีที่

บริษัท วีเอสที อีซีเอส (ประเทศไทย) จำกัด

โทร : 02-032-9999

Email : sukitta@vstecs.co.th

aruba.th@hpe.com

from:https://www.techtalkthai.com/next-generation-hpe-aruba-networking-central-by-vstecs/

TechTalk Webinar : HPE ProLiant DX : The Best choice for Nutanix Hybrid Cloud Solutions

VST ECS ร่วมกับ Nutanix และ HPE ขอเรียนเชิญทุกท่านเข้าร่วมงานสัมมนาออนไลน์ในหัวข้อ “HPE ProLiant DX : The Best choice for Nutanix Hybrid Cloud Solutions” ซึ่งท่านจะได้เรียนรู้กับโซลูชันที่ผสานความแข็งแกร่งของ Nutanix และ HPE เพื่อตอบโจทย์การทำงานในรูปแบบของ Hybrid Cloud โดยงานจะจัดขึ้นในวันพฤหัสบดีที่ 20 ตุลาคม 2565 เวลา 14.00 – 16.00 น.

รายละเอียดการบรรยาย

หัวข้อ : HPE ProLiant DX : The Best choice for Nutanix Hybrid Cloud Solutions

วันเวลา : วันพฤหัสบดีที่ 20 ตุลาคม 2565 เวลา 14.00 – 16.00 น.

วิทยากร

1. คุณทวิพงศ์ อโนทัยสินทวี, Country Manager / Nutanix (Thailand) Co., Ltd.
2.  คุณชัยรัตน์ โล้วโสภณกุล, HPE Compute Product Manager / Hewlett Packard Enterprise Thailand
3. คุณศรัณย์ ลิมปพยอม, Product Manager / VST ECS (Thailand) Co., Ltd.

ลิงก์ลงทะเบียน : https://us06web.zoom.us/webinar/register/WN_xuIoFYw0SECSe_NAVKEapg

HPE ProLiant DX คือหนึ่งในโซลูชันด้าน IT Infrastructure ที่เกิดจากความร่วมมือของสองบริษัท IT ชั้นนำคือ Nutanix และ HPE Enterprise โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อลดปัญหาที่เกิดจากการใช้งานระบบ Infrastructure แบบเดิมๆ และเพื่อสร้างทางเลือกที่ดีกว่าให้กับผู้ใช้งาน โดย Nutanix และ HPE ได้มีการออกแบบโซลูชันและมีการพัฒนาร่วมกัน รวมถึง Service support ที่มีการทำงานร่วมกันในรูปแบบ Collaborative support ด้วยความตั้งใจและความมุ่งมั่นที่จะนำเสนอโซลูชันและบริการที่ดีที่สุดจากทั้งสองบริษัท IT Enterprise

ความพิเศษสุดของระบบ Infrastructure จากความร่วมมือครั้งนี้ คือเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์การใช้งานในทุกๆด้าน ไม่ว่าจะเป็นองค์กรณ์ขนาดเล็กที่มีความต้องการระบบ IT Infrastructure ขั้นพื้นฐานให้สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถรองรับการเปลี่ยนแปลงในอนาคตได้อย่างรวดเร็ว รวมถึงความต้องการในการบริหารจัดการที่ง่ายเพื่อลดค่าใช้จ่ายขององค์กรในด้านบุคลากร ให้ธุรกิจสามารถพัฒนาได้อย่างคล่องตัวและรวดเร็ว หรือจะเป็นองค์กรขนาดกลางที่มีความต้องการทางด้านระบบ IT ที่มากขึ้น สามารถรองรับความต้องการของระบบได้อย่างหลากหลาย รวมถึงการเริ่มต้นนำระบบ Database เข้ามาใช้งานเพื่อรองรับการขยายตัวขององค์กร ซึ่งเทคโนโลยีของนูทานิคซ์จะช่วยให้การบริหารจัดการ Database และการจัดการข้อมูลง่ายขึ้น พร้อมระบบความปลอดภัยในการเข้าถึงข้อมูลสูงสุด ด้วยเหตุนี้ โซลูชันด้านซอร์ฟแวร์เอ็นเตอร์ไพรซ์จาก Nutanix และเทคโนโลยีของ Appliance จาก HPE ที่จึงตอบโจทย์ในทุกๆด้าน พร้อมขับเคลือนธุรกิจให้ก้าวสู่องค์กรที่มีขนาดใหญ่ บนระบบ IT ที่สามารถขยับขยายได้อย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็วเพื่อทันต่อการเปลี่ยนแปลงของธุรกิจในอนาคต

from:https://www.techtalkthai.com/nutanix-x-hpe-proliant-dx-the-best-choice-for-nutanix-hybrid-cloud-solutions/

TechTalk Webinar : Defense in Depth – Ransomware Ready with Commvault

VSTECS ร่วมกับ Computer Union และ Commvault ขอเชิญผู้สนใจในสายงาน IT ทุกท่านเข้าร่วมงานสัมมนาออนไลน์ในหัวข้อ “Defense in Depth – Ransomware Ready with Commvault” โดยท่านจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับโซลูชันการป้องกันข้อมูลจากแรนซัมแวร์เพื่อทำให้ระบบขององค์กรเป็นไปตามแนวทาง Defense in Depth งานจะจัดขึ้นในวันจันทร์ที่ 6 มิถุนายน 2565 เวลา 14.00 – 15.30 น. มีกำหนดการลงทะเบียนดังนี้

รายละเอียดการบรรยาย

หัวข้อ : Defense in Depth – Ransomware Ready with Commvault

ผู้บรรยาย :

1. K.Kuruwan Thongphudphu, Product Manager – VST ECS (Thailand)
2. K.Sittiporn Orcharoen, Pre-sales Engineer /Technical Specialist – VST ECS (Thailand)
3. K.Thunyanontr Kunsiraprasoet, Technical Manager – VST ECS (Thailand)
4. K.Angsana Chonsakpipat, Presale Hardware Specialist – Computer Union

วันเวลา : วันจันทร์ที่ 6 มิถุนายน 2565 เวลา 14.00 – 15.30 น.

ช่องทางการเข้าร่วม : Zoom Webinar

ลิงก์ลงทะเบียน : https://us06web.zoom.us/webinar/register/WN_-gYu6o6UQziW8FF6jCq_NA

คุณมั่นใจแค่ไหนว่าสามารถกู้คืนจากการโจมตีของแรนซัมแวร์ได้? มันสามารถโจมตีได้ทุกเมื่อและแม้กระทั่งเมื่อคุณคิดว่าคุณพร้อมแล้ว รู้หรือไม่ 75% ของบริษัทที่ติดแรนซัมแวร์ใช้การป้องกันปลายทางที่ทันสมัย เพื่อป้องกันแรนซัมแวร์ คุณต้องใช้วิธีการรักษาความปลอดภัยแบบหลายชั้น ในวันนี้ทาง VST ECS (Thailand) มีความยินดีขอเรียนเชิญเข้าร่วมการสัมมนากับเรา และเรียนรู้ว่าการรักษาความปลอดภัยแบบเลเยอร์ของ Commvault สามารถปกป้องข้อมูลของคุณได้อย่างไรเมื่อเผชิญกับแรนซัมแวร์

ร่วมลุ้นรางวัลสำหรับ User ที่ตอบแบบสอบถามเสร็จก่อน 20 คนแรก

CV Polo T-Shirt จำนวน 20 รางวัล

Lucky Draw

รางวัลที่ 1. Central Voucher 1,500 บาท

รางวัลที่ 2. Central Voucher 1,000 บาท

รางวัลที่ 3. Central Voucher 500 บาท

from:https://www.techtalkthai.com/techtalk-webinar-defense-in-depth-ransomware-ready-with-commvault-07062022/

TechTalk Webinar : Nutanix and HPE Smart HYBRID MULTICLOUD solution

VST ECS ร่วมกับ Nutanix และ HPE ขอเรียนเชิญทุกท่านเข้าร่วมงานสัมมนาออนไลน์ในหัวข้อ “Nutanix and HPE Smart HYBRID MULTICLOUD solution” ซึ่งท่านจะได้เรียนรู้กับโซลูชันที่ผสานความแข็งแกร่งของ Nutanix และ HPE เพื่อตอบโจทย์การทำงานในรูปแบบของ Hybrid Cloud และ Multi Cloud โดยงานจะจัดขึ้นในวันพฤหัสบดีที่ 21 เมษายน 2565 เวลา 14.00 – 16.00 น.

รายละเอียดการบรรยาย

หัวข้อ : Nutanix and HPE Smart HYBRID MULTICLOUD solution

วันเวลา : วันพฤหัสบดีที่ 21 เมษายน 2565 เวลา 14.00 – 16.00 น.

วิทยากร :

1. คุณสุรชัย อรรถมงคลชัย, HPE HIT Country Manager / Hewlett Packard Enterprise Thailand
2. คุณทวิพงศ์ อโนทัยสินทวี, Country Manager / Nutanix (Thailand) Co., Ltd.
3. คุณชัยรัตน์ โล้วโสภณกุล, HPE Compute Product Manager / Hewlett Packard Enterprise Thailand
4. คุณศรัณย์ ลิมปพยอม, Product Manager / VST ECS (Thailand) Co., Ltd.

ช่องทางการเข้าร่วม : Zoom Webinar

ลิงก์ลงทะเบียน : https://us06web.zoom.us/webinar/register/WN_oKmkADbZQHq95Rnl8RWGQg

* พิเศษสุดสำหรับท่านที่ Register เข้ามาและได้เข้าร่วมงาน มีสิทธิ์ได้รับรางวัล Lucky Draw เป็นเครื่องชงกาแฟ Moka Pot จาก Nutanix มูลค่า 2,000 บาท จำนวน 3 รางวัล และ เสื้อ POLO HPE ProLiant DX จำนวน 30 รางวัล

ด้วยความร่วมมือที่มีมาอย่างยาวนานของ HPE และ Nutanix เริ่มต้นจากการเล็งเห็นถึงโอกาสในการส่งมอบโซลูชั่นร่วมกันให้กับลูกค้า พร้อมพัฒนาโซลูชั่น Hyper-converged infrastructure ที่มีประสิทธิภาพร่วมกัน ทั้งในด้าน Software และ Hardware อย่างต่อเนื่อง และยังมีการ Update โซลูชั่นใหม่ๆ จนปัจจุบันทั้งสองบริษัทได้พัฒนาโซลูชันที่ได้รับการยอมรับในหลากหลายการใช้งาน ตัวอย่างเช่น โซลูชั่น Virtual desktop infrastructure, Private cloud infrastructure และ Database management ที่รันบน Hardware Platform จาก HPE และนอกจากนั้นเพื่อเพิ่มความคล่องตัวให้กับลูกค้าแล้วเรายังมีบริการคลาวด์ HPE Green Lake ที่ช่วยลดค่าใช้จ่ายในเรื่องของการดูแลรักษาระบบโครงสร้างพื้นฐานทางด้าน IT และยังสามารถบริหารจัดการระบบ Nutanix ได้ในรูปแบบ Hybrid Cloud พร้อมทั้งมีบริการ Pay per use คือลูกค้าสามารถชำระเงินตามจำนวนที่ใช้จริง ทั้งนี้โซลูชั่นทั้งหมดของเราได้ออกแบบเพื่อรองรับความต้องการของของธุรกิจ และเพื่อให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกในปัจจุบัน

 สำหรับงานในครั้งนี้พวกเรา Nutanix และ HPE มุ่งมั่นที่จะส่งมอบแนวคิดการใช้งานที่ทันสมัยของ Enterprise Datacenter ยุคใหม่ ด้วยโซลูชั่น Enterprise cloud platform ของนูทานิคซ์ ที่มอบประสบการณ์ใช้งานที่ดีให้กับผู้ใช้งาน ทั้งในด้านการบริหารจัดการที่ง่าย ความคล่องตัวในการใช้งาน และความปลอดภัยของข้อมูล ที่นูทานิคซ์ให้ความสำคัญเป็นอันดัน 1 พร้อมความสามารถที่ครบครันตั้งแต่วันแรกที่ส่งมอบ ผสมผสาน Feature ด้านความปลอดภัยและทันสมัยของ HPE ไว้อย่างลงตัว บนแพล๊ตฟอร์ม Hardware ที่สมบูรณ์แบบและมีความยืดหยุ่น สามารถปรับใช้หรือ Configuration ให้เหมาะสมกับองค์กรและภาระงานที่ได้รับมอบหมาย

 ด้วยโซลูชั่นทั้งหมด ที่นำเสนอในวันนี้ ทุกท่านสามารถมั้นใจได้ว่าจะได้รับประสบการณ์ที่ดีและสามารถนำไปประยุกต์ใช้ให้เข้ากันความต้องการในปัจจุบันและอนาคตได้อย่างลงตัว ซึ่งงานในวันนี้เราได้รับเกียรติจากวิทยากรณ์ผู้ทรงคุณวุฒิและมากด้วยประสบการณ์ จากทั้งสามบริษัทคือ บริษัท นูทานิคซ์ (ประเทศไทย), บริษัท ฮิวเลตต์-แพคการ์ด เอ็นเตอร์ไพรส์ (ประเทศไทย) และบริษัท วีเอสที อีซีเอส (ประเทศไทย) ที่พร้อมให้บริการสำหรับผู้ที่มีความสนใจใช้งาน หรือต้องการสอบถามข้อมูลโซลูชั่นของเรา

Agenda :

14.00pm – 14.10pm	Welcome Speech
14.10pm – 15.00pm	Round talk : Smart HYBRID MULTICLOUD​ solution      ด้วยความร่วมมือที่มีมาอย่างยาวนาน Nutanix และ HPE เริ่มต้นจากการพัฒนาโซลูชั่นด้าน Hyper-converged infrastructure ร่วมกัน เพื่อเติมเต็มโซลูชั่นและสร้างทางเลือกในการใช้งานที่มากขึ้นให้กับผู้ใช้งาน จนได้รับการยอมรับจากหลากหลายกลุ่มธุรกิจ และในวันนี้ Nutanix และ HPE พร้อมแล้ว ที่จะนำเสนอโซลูชั่นการใช้งานในแบบ Smart HYBRID MULTICLOUD​ ​ solution ด้วยระบบการทำงานที่ชาญฉลาด สามารถรองรับการใช้งานที่มีความหลากหลาย คล่องตัวและทันสมัย ทันต่อการเปลี่ยนแปลงในโลกปัจจุบัน
15.00pm – 15.40pm	User benefit for Smart HYBRID MULTICLOUD​ solution (Show case)     สำหรับ Solution ของเราในวันนี้ ได้ประสบความสำเร็จ และสามารถตอบโจทย์การใช้งานจนได้รับการยอมรับจากหลากหลายกลุ่มธุรกิจ, ในวันนี้ Nutanix และ HPE พร้อมแล้ว ที่จะนำเสนอข้อมูล Show case การใช้งานใน Scenario ต่างๆ ตัวย่างเช่น Hybrid cloud infrastructure, Edge Computing และ End user computing ที่สามารถนำไปปรับใช้กับองค์กรได้อย่างแท้จริง
15.40pm – 16.00pm	Q&A and Lucky draw

#HPE#Nutanix#VSTECS#multicloud#hybridcloud

from:https://www.techtalkthai.com/techtalk-webinar-nutanix-and-hpe-smart-hybrid-multicloud-solution/

HPE Solutions for Qumulo: ระบบ Enterprise File Storage ตอบโจทย์งาน Unstructured Data ขนาดใหญ่ของธุรกิจองค์กร

ข้อมูลในแบบ Unstructured Data นั้นได้เข้ามามีบทบาทต่อธุรกิจองค์กรไทยและทั่วโลกเป็นอย่างมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา จากการเติบโตอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยีรูปแบบใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็น Internet of Things (IoT), AI, Machine Learning, 3D ไปจนถึงการนำไฟล์ภาพขนาดใหญ่มาใช้งานในรูปแบบที่หลากหลาย ทำให้ระบบ IT Infrastructure เพื่อรองรับข้อมูลในรูปแบบนี้มีความจำเป็นต่อธุรกิจองค์กรมากอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

VST ECS และ HPE จึงพร้อมช่วยธุรกิจองค์กรตอบโจทย์นี้ได้ ด้วยโซลูชัน HPE Qumulo ระบบ Software-Defined Storage ที่ถูกออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับการจัดเก็บไฟล์ปริมาณมหาศาล พร้อมความสามารถที่หลากหลายเพื่อให้มั่นใจได้ว่าทุกการเข้าถึงและใช้งานข้อมูล Unstructured Data จะเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด อีกทั้งยังรองรับการเพิ่มขยายระบบได้อย่างง่ายดาย และปกป้องข้อมูลสำคัญขององค์กรได้อย่างมั่นใจ

ข้อมูลกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว และมี Workload ใหม่ๆ เกิดขึ้นทุกวัน

IDC ได้ทำนายแนวโน้มของการใช้งานข้อมูลในธุรกิจองค์กรว่ากำลังมีการเติบโตอย่างรวดเร็วในระดับที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในวงการ โดย IDC เชื่อว่าภายในปี 2025 ทั่วทั้งโลกจะมีการจัดเก็บข้อมูลสำหรับตลาดธุรกิจองค์กรมากถึง 79 Zettabytes จากการจัดเก็บข้อมูลที่เกิดขึ้นโดยเครื่องจักร, เซ็นเซอร์ และกล้องวงจรปิด เพื่อนำข้อมูลเหล่านี้ไปใช้วิเคราะห์ต่อโดยระบบ Data Analytics, Machine Learning และ AI สำหรับสร้างคุณค่าใหม่ๆ ให้กับภาคธุรกิจ

Credit : HPE

นอกจากนี้ กระแสของการทำ Digital Transformation ในระดับของธุรกิจองค์กรเองนั้นก็ยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องไม่หยุดยั้ง รวมถึงแรงผลักดันจากการมาของ Metaverse ที่กำลังเป็นที่นิยม ส่งผลให้เกิดการนำข้อมูลไปใช้ต่อยอดในเชิงธุรกิจด้วยรูปแบบใหม่ๆ ในทุกๆ วัน ทำให้มีการคาดการณ์กันว่าการเติบโตของข้อมูลยังอาจรวดเร็วกว่าที่ได้ทำนายกันเอาไว้ ในขณะที่ธุรกิจองค์กรเองก็ต้องเตรียมความพร้อมต่อการสร้างสรรค์นวัตกรรมรูปแบบใหม่ๆ ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนให้ได้อย่างทันท่วงที

ด้วยเหตุนี้เอง ธุรกิจองค์กรหลายแห่งจึงต้องพิจารณาถึงการวางระบบ IT Infrastructure เพื่อรองรับข้อมูลเหล่านี้โดยเฉพาะ ด้วยโจทย์ของการมองหาระบบ Enterprise Storage สำหรับจัดเก็บข้อมูลในรูปแบบไฟล์เป็นหลัก ที่รองรับพื้นที่การจัดเก็บข้อมูลขนาดใหญ่, เพิ่มขยายได้ง่าย, บริหารจัดการได้ง่าย และคุ้มค่าต่อการลงทุนในระยะยาว ในขณะที่ยังต้องสามารถรองรับการใช้งานได้ทั้งในระดับของ Cloud, On-Premises และ Edge ได้อย่างครบถ้วน

HPE Solutions for Qumulo: ระบบ Enterprise Software-Defined Storage สำหรับจัดเก็บไฟล์ปริมาณมหาศาลได้อย่างยั่งยืน

HPE Solutions for Qumulo มักถูกใช้งานในธุรกิจองค์กรขนาดใหญ่ที่มีโจทย์ด้านการจัดเก็บและใช้งาน Unstructured Data ที่คาดเดาทั้งในแง่ของประสิทธิภาพและความจุที่ต้องเพิ่มเติมในอนาคตได้ยาก โดยโซลูชันนี้จะมีค่าใช้จ่ายในการลงทุนระยะยาวที่คุ้มค่าจากการเป็น Software-Defined Storage อย่างเช่นการใช้งานสำหรับจัดเก็บข้อมูล PACS ซึ่งเป็นข้อมูลภาพถ่ายทางการแพทย์ที่มีขนาดใหญ่, การจัดเก็บภาพหรือวิดีโอจากธุรกิจกีฬาและความบันเทิง ไปจนถึงการจัดเก็บ Dataset ที่เป็นภาพหรือวิดีโอเพื่อรองรับการใช้งานด้าน AI และ Machine Learning ในอุตสาหกรรมต่างๆ

Credit ; HPE

ประสิทธิภาพสูง ในราคาที่คุ้มค่า

จากคุณสมบัติของระบบ SDS ใน Qumulo นั้น ทำให้ HPE สามารถนำ Server ที่ใช้งานในระดับธุรกิจองค์กรมาเป็น Hardware สำหรับระบบ Enterprise Storage ขนาดใหญ่ได้ ช่วยให้ลดค่าใช้จ่ายในการลงทุนระบบ Storage โดยรวมลงได้เป็นอย่างดี ในขณะที่องค์กรเองก็มีอิสระในการเลือกใช้และปรับแต่ง Server Hardware เหล่านี้ให้สอดคล้องกับความต้องการที่แตกต่างออกไปในแต่ละการใช้งานได้

HPE Solutions for Qumulo นี้สามารถเลือกใช้งานได้ทั้งในแบบ All-NVMe Flash บน HPE ProLiant DL325 Gen10 Plus Server ที่ความจุ 34TB – 145TB ต่อ Node หรือในแบบ Hybrid SATA/SAS บน HPE Apollo 4200 Gen10 Server ที่ความจุ 36TB – 336TB ต่อ Node ได้ ซึ่งไม่ว่าจะเลือกใช้งานในแบบใด ระบบดังกล่าวก็จะยังคงมีประสิทธิภาพที่สูง ด้วยความสามารถดังนี้

HPE ProLiant DL325 Gen10 Plus Server, Credit: HPE

• Flash-First Architecture ออกแบบมาสำหรับทำงานร่วมกับ Flash โดยเฉพาะ ทำให้สามารถดึงศักยภาพของ Flash ออกมาได้อย่างเต็มที่
• Machine Learning, Read-ahead Cache นำ Machine Learning มาใช้วิเคราะห์การจัดเก็บข้อมูลใน Cache ได้อย่างแม่นยำ ทำให้ทุกการเข้าถึงข้อมูลเกิดขึ้นได้ในประสิทธิภาพที่สูงในระดับ Cache ในระบบที่มีการใช้งาน Flash ผสมผสานกับ Disk แบบจานหมุน

ทั้งนี้การใช้งาน HPE Solutions for Qumulo ก็สามารถเริ่มต้นได้จากระบบขนาดเล็ก และค่อยเพิ่มขยายไปในขนาดที่ใหญ่ขึ้น หรือเติม Node ที่มีประสิทธิภาพหรือความจุในระดับที่ต้องการเพิ่มเข้าไปภายหลัง ทำให้องค์กรไม่จำเป็นต้องลงทุนในระบบขนาดใหญ่ตั้งแต่แรก และเพิ่มขยายระบบตามการใช้งานจริงได้อย่างต่อเนื่องในระยะยาว โดยในอนาคตหากมี Server Hardware ใหม่ๆ ที่มีประสิทธิภาพสูงยิ่งขึ้นออกมาสู่ตลาด โซลูชันนี้ก็พร้อมที่จะใช้งานบน Hardware ใหม่ๆ ได้ทันที ทำให้ทุกการลงทุนมีความคุ้มค่าสูงสุดอยู่เสมอ

ใช้งานพื้นที่จัดเก็บข้อมูลทั้งหมดได้เต็มที่ ไม่ต้องกังวลว่าประสิทธิภาพของระบบจะลดลง

โดยทั่วไปแล้วระบบ Enterprise Storage หลายระบบโดยเฉพาะระบบที่ใช้ Flash มักมีข้อจำกัดด้านประสิทธิภาพในการใช้งานภายใต้ภาวะที่มีการจัดเก็บข้อมูลเกินปริมาณที่กำหนดเอาไว้ เช่น เมื่อจัดเก็บข้อมูลที่ 50% – 90% ของพื้นที่จัดเก็บข้อมูลทั้งหมด ระบบ Storage ก็อาจทำงานได้ในประสิทธิภาพที่ต่ำลง เป็นต้น

แต่ HPE Solutions for Qumulo นั้นถูกออกแบบและพัฒนามาให้ไม่เกิดปัญหาเหล่านี้ ดังนั้นถึงแม้การใช้งานจริงจะมีการจัดเก็บข้อมูลเต็ม 100% ของพื้นที่ที่มีอยู่ ระบบทั้งหมดก็จะยังคงทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ทำนาย Latency ได้อย่างแม่นยำ ไม่ว่าไฟล์ที่จะใช้งานนั้นจะมีขนาดเล็กหรือขนาดใหญ่ หรือถูกจัดเก็บบน Flash หรือ Disk แบบจานหมุนก็ตาม

HPE Apollo 4200 Gen10 Server, Credit: HPE

วิเคราะห์ข้อมูลการใช้งานแบบ Real-Time แก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็ว

ภายในระบบ HPE Solutions for Qumulo นี้ยังมีการเสริมคตวามสามารถในการวิเคราะห์การเข้าถึงและใช้งานข้อมูลที่เกิดขึ้นจริงในแบบ Rela-Time ทำให้ผู้ดูแลระบบ Storage นั้นทราบถึงพฤติกรรมการใช้งานที่เกิดขึ้นอยู่ตลอด รวมถึงยังมีการแยกสถิติการใช้งานในระดับของ IP Address ที่เชื่อมต่อ ทำให้การแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในระบบไม่ว่าจะเป็นการใช้งาน IOPS ปริมาณที่สูงผิดปกติ หรือการใช้ Network Bandwidth เกินกว่าที่คาดฝันนั้นเป็นไปได้อย่างทันท่วงที

รองรับหลาย Protocol ใช้งานจริงได้อย่างยืดหยุ่น

HPE Solutions for Qumulo นี้รองรับการบริหารจัดการสิทธิ์ทั้งใน NTFS และ POSIX ทำให้สามารถใช้งานได้กับระบบปฏิบัติการที่หลากหลาย ช่วยให้การเข้าถึงข้อมูลในระบบต่างๆ เป็นไปได้อย่างมั่นใจ และสามารถควบคุมสิทธิ์เหล่านี้ได้จากศูนย์กลาง

ในขณะเดียวกัน การเชื่อมต่อเพื่อเข้าถึงใช้งานข้อมูลนั้นก็สามารถเลือกใช้ Protocol ได้หลายแบบ ไม่ว่าจะเป็น SMB, NFS หรือ FTP อีกทั้งยังมี REST API เพื่อให้บริหารจัดการระบบ Storage ได้แบบอัตโนมัติอีกด้วย

บริหารจัดการและปกป้องข้อมูลได้อย่างครบวงจร

ในฐานะของผู้นำด้านตลาด Enterprise Storage ของ HPE ในโซลูชัน HPE Solutions for Qumulo นี้จึงรองรับการบริหารจัดการในรูปแบบที่จำเป็นต่อธุรกิจองค์กรอย่างหลากหลาย โดย License การใช้งานที่คำนวณตามความจุนี้ครอบคลุมทุกความสามารถของระบบมาให้แล้ว จึงทำให้ไม่จำเป็นต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในส่วนนี้

ในแง่ของการปกป้องข้อมูล HPE Solutions for Qumulo รองรับทั้งการทำ Snapshot และ Replication ในตัว ช่วยให้ทำการสำรองข้อมูลหรือระบบเป็นไปได้อย่างง่ายดาย โดยความสามารถใหม่ๆ นั้นก็จะถูกอัปเดตอย่างต่อเนื่องจากคุณสมบัติของการเป็น Software-Defined Storage ที่ระบบโดยรวมจะเก่งขึ้นจาก Software Release ใหม่ๆ ในอนาคต

ทั้งนี้ License การใช้งาน Qumulo นี้ยังครอบคลุมไปถึงการใช้งานในทุกๆ รูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานภายในระบบ On-Premises, Private Cloud, Public Cloud หรือ Edge ทำให้องค์กรสามารถวางแผนการลงทุนได้อย่างง่ายดาย และบริหารจัดการข้อมูล Unstructured Data ทั้งหมดในองค์กรได้ด้วยประสบการณ์เดียวกันไม่ว่าข้อมูลนั้นๆ จะอยู่ที่ใดก็ตาม

สนใจ HPE Qumulo ติดต่อ VST ECS ได้ทันที

สำหรับธุรกิจองค์กรใดที่สนใจโซลูชัน HPE Qumulo หรือโซลูชัน Enterprise Storage อื่นๆ จาก HPE สามารถติดต่อทีมงาน VST ECS ได้ทันทีที่ HPEGroup@vstecs.co.th

วีเอสที อีซีเอส (ประเทศไทย) ผู้นำด้านสินค้าโซลูชันไอที จัดจำหน่ายสินค้าผ่านช่องทางตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ

https://www.facebook.com/vstecsth

https://www.vstecs.co.th/th/index.php

HPE#VSTECSth #VSTECSThailnd

from:https://www.techtalkthai.com/hpe-solutions-for-qumulo-the-enterprise-file-storage-for-unstructured-data-vstecs-promotion-032022/

HPE ปล่อยโปรแรง ProLiant Server Super Hero ตอบโจทย์ทุกธุรกิจต้อนรับปี 2022

ท่านใดที่กำลังสนใจเซิร์ฟเวอร์เพื่อนำไปใช้งานในภาคธุรกิจสำหรับปี 2022 ต้องบอกเลยว่าโอกาสดีเดินทางมาถึงแล้ว เมื่อบริษัท Hewlett Packard Enterprise (HPE) ได้ออกโปรแรงสำหรับทุกธุรกิจด้วยเซิร์ฟเวอร์ ProLiant Gen 10 และ Gen 10 Plus ที่ได้ผนึกเอาขุมพลังร้อนแรงจาก AMD EPYC และ Intel Xeon มาให้ท่านเลือกได้ตามความพอใจ

ในปี 2022 โลกของเราก็ยังไม่อาจก้าวพ้นวิกฤตของโควิด เสมือนว่าไม่รู้เมื่อไหร่ธานอสจะดีดนิ้วสร้างเรื่องตื่นเต้นให้กับการประกอบธุรกิจอีก แต่ในโลกแห่งความเป็นจริงที่ไม่มี Super Hero มีเพียงแต่ HPE ที่นำเสนอโปรแรงระดับ Super Hero มาช่วยรับมือกับวิกฤตการณ์อันท้าทายนี้ โดยโปรโมชันใหม่มีเซิร์ฟเวอร์ HPE ProLiant มาให้เลือกสรรกันถึง 9 รุ่นตามสไตล์ของธุรกิจ ไม่ว่าจะนำไปใช้ในดาต้าเซนเตอร์ ต้องการซีพียู หน่วยความจำสูง หรือ ถังเก็บข้อมูลขนาดใหญ่ เซิร์ฟเวอร์ประเภท Rack อาจเหมาะกับท่าน แต่หากสะดวกต้องการใช้นอกดาต้าเซนเตอร์ Tower ก็ดูเข้าที

Super Hero ย่อมปฏิบัติการได้แบบไม่หยุดพัก โดยลูกค้าจะได้รับการดูแลหลังการขายสุดพิเศษแบบ 24 ชั่วโมง (Essential Care) พร้อมทีมซัพพอร์ตมากประสบการณ์ที่สามารถเข้าถึงลูกค้าภายใน 4 ชั่วโมง ทั้งหมดนี้ฟรีแบบเหลือเชื่อ 3 ปีเต็ม

Super Hero ย่อมปฏิบัติงานอย่างชาญฉลาด ด้วยความสามารถสุดล้ำจาก HPE InfoSight ซึ่งเป็น AI อัจฉริยะบน Cloud พร้อมเก็บรวบรวมข้อมูลของท่านอยู่ตลอด ทำให้สามารถคาดการณ์แนวโน้มการเกิดปัญหาล่วงหน้า เปิดเคสติดตามงานให้อัตโนมัติ ทั้งหมดนี้ยังผสานข้อมูลได้ทุกภาคส่วนทั้ง Virtualize, Server, Network และ Storage มาวิเคราะห์ร่วมกัน นอกจากนี้ฐานข้อมูลความชาญฉลาดยังถูกอัปเดตอยู่เสมอด้วย

Super Hero ย่อมแข็งแกร่ง และด้วยเซิร์ฟเวอร์ HPE นี้สามารถรองรับการใช้งานฮาร์ดดิสก์แบบผสมผสานทั้ง SAS หรือ SATS SSD ทำให้ ProLiant สมดุลย์ทั้งการอ่านและเขียนที่เหมาะกับงานทั่วไป โดยเฉพาะเมื่อคุณเผชิญกับงาน Big Data เป็นต้น

รู้หรือไม่ว่าความสามารถพิเศษของ HPE Proliant Gen 10 และ Gen 10 Plus ยังมาพร้อมกับความโดดเด่นอีกนานับประการ ตัวอย่างเช่น

• ปรับแต่งโปรไฟล์ BIOS ให้เหมาะสมกับงาน (Workload Matching)
• ระบบให้คำแนะนำด้านการจัดเก็บและย้ายข้อมูลในรูปแบบ Hybrid Cloud เพื่อให้ระบบมีประสิทธิภาพสูงสุดและคุ้มค่าที่สุด (HPE Right Mix Advisor)
• มี ASIC พิเศษภายใน Server สำหรับตรวจสอบว่า Firmware ในส่วนต่างๆ ของ Server ที่ใช้งานนั้นไม่ได้ถูกแทรก Code ที่เป็นอันตรายแฝงเข้ามา (Silicon Root of Trust)
• สามารถตั้งรหัสผ่านเพื่อป้องกันไม่ให้มีการแก้ไขการตั้งค่าในระดับการบูทระบบหรือปรับแต่งการตั้งค่าอื่นๆ ได้โดยไม่ได้รับอนุญาต (Server Configuration Lock)
• บริหารจัดการเซิร์ฟเวอร์อย่างอัตโนมัติด้วย HPE iLO 5, HPE iLO RESTful API และ HPE OneView

HPE Proliant พร้อมเป็น Super Hero ให้องค์กรของท่านได้พึ่งพิงในยามที่สถานการณ์ดูไม่มั่นคง แต่ท่านสามารถมั่นใจในการให้บริการกับโปรแรงจาก HPE ครับ ชมรายละเอียดของโปรโมชันนี้ได้ตามภาพประกอบด้านล่าง หรือติดต่อสอบถามตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการของ HPE ได้ที่

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ VST ECS (Thailand) Co., Ltd. email : HPEGroup@vstecs.co.th หรือ โทร : 02-032-9999

สามารถอัปเดตโปรโมชันโดนโดน และราคาพิเศษก่อนใครได้ที่ Facebook :  https://www.facebook.com/Connecthpetoday/

#hpe #proliant #server #intel #amd #hero

from:https://www.techtalkthai.com/hpe-proliant-server-super-hero-promotion-2022-by-vstecs/

ขอเชิญร่วมงานสัมมนา Business continuity and disaster recovery while secure your business data by NetApp | 1 เม.ย. 10.00 น.

NetApp และ VST ECS Thailand ขอเชิญทุกท่านร่วมงานสัมมนาฟรี ! หัวข้อ Business continuity and disaster recovery while secure your business data by NetApp ในวันศุกร์ที่ 1 เมษายน 2022  เวลา 10.00-12.00 น. ผ่าน ZOOM 

หนึ่งในทรัพยากรที่มีมูลค่ามากที่สุดในปัจจุบันคือข้อมูลขององค์กร หากองค์กรของคุณมีการจัดการข้อมูลที่ดี เปรียบเสมือนคุณกำลังก้าวนำคู่แข่งไปอีกหนึ่งก้าว ทั้งนี้มาทำความรู้จักเทคโนโลยี ที่ช่วยให้คุณสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง ลดโอกาสการสูญหายของข้อมูล พร้อมกับเพิ่มความปลอดภัยในการจัดการข้อมูล จากทีมงาน NetApp และ VST ECS Thailand

รายละเอียดงาน 
หัวข้อ: Business continuity and disaster recovery while secure you business data by Netapp 
วันเวลา: วันศุกร์ที่ 1 เมษายน 2022  เวลา 10.00-12.00 น.
วิทยากร: Panuwat Maleelai Senior Pre-sales Engineer, Thitinan Nilsalub Technical Partner Manager,NetApp
ช่องทางการบรรยาย: Zoom Webinar

ลงทะเบียนร่วมงานฟรี:  https://us02web.zoom.us/webinar/register/WN_zTjUg70mSNCe_w_CQoFFrQ

พร้อมลุ้นรับรางวัล Lucky Draw ในงาน อาทิ Airpod Gen3 1 รางวัล และ Central Voucher มูลค่า 1,000 บาท 5 รางวัล

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่: netapp@vstecs.co.th 

from:https://www.techtalkthai.com/netapp-vstecs-business-continuity-and-disaster-recovery-while-secure-your-business-data-free-webinar/

[Guest Post] Aruba Instant On Trade In Program รับแลกเปลี่ยน AP ทุกรุ่นแล้ววันนี้!!

เพียงนำ AP เครื่องเก่าของคุณยี่ห้อใดก็ได้ มาแลกเป็น Aruba Instant On AP22 ได้ในราคาพิเศษทันที เพียง 5,500 บาท เท่านั้น
 (ราคา​ End user รวม Vat แล้ว)

ตั้งแต่วันนี้ – 30 เมษายน 2565

ท่านที่สนใจสามารถติดต่อได้ที่ตัวแทนจำหน่าย Aruba Instant On ** ของพร้อมส่ง **

วีเอสที อีซีเอส (ประเทศไทย) ผู้นำด้านสินค้าโซลูชันไอที จัดจำหน่ายสินค้าผ่านช่องทางตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ

สนใจสั่งซื้อสินค้าติดต่อได้ที่ตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ

#ArubaInstantOn #TradeInProgram #Aruba #VSTECSth #VSTECSThailand

from:https://www.techtalkthai.com/aruba-instant-on-trade-in-program-ap22-vstecs/

[Guest Post] VMware HCI – ทางเลือกที่ง่ายสำหรับยุค Infrastructure Modernization

VMware Hyperconverged Infrastructure เป็นอีกตัวเลือกที่ง่ายสำหรับการปรับระบบ Infra ของลูกค้าให้ทันสมัยได้ตามต้องการ สามารถพัฒนาจาก Virtualization เดิมที่ใช้อยู่ในองค์กร ให้เป็น Core HCI และ Full Stack HCI โดยใช้โครงสร้างพื้นฐานที่สอดคล้องกันทั้ง on-cloud และ on-premises

VMware เป็นผู้นำทางด้าน HCI ได้รับการยอมรับจากผู้ใช้งานทั่วโลก จะช่วยให้ท่านลดความยุ่งยาก และซับซ้อนในการบริหารจัดการระบบ Server/Storage ในรูปแบบเดิม ด้วยความสามารถของ Software ขั้นสูงและใช้งานง่าย สามารถเริ่มต้นการใช้งานได้อย่างรวดเร็วและได้รับประสิทธิภาพสูงสุด อีกทั้งยังรองรับการใช้งาน Workload หลากหลายประเภท เช่น VM, Kubernetes, VDI หรือการทำ DR-Site ในรูปแบบต่างๆ

พบกับโปรโมชั่นของ VMware HCI

 

สนใจติดต่อสอบถามทีมงาน VMware ได้ทันที

ผู้ที่สนใจโปรโมชั่นของ VMware และ ข้อมูลผลิตภัณฑ์เพิ่มเติม สามารถสอบถามได้ที่ VMware@vstecs.co.th

from:https://www.techtalkthai.com/guest-post-vmware-hci/

[Guest Post] HPE Qumulo โซลูชันประสิทธิภาพสูงที่รองรับการปรับขยายแบบ scale out สำหรับข้อมูล Unstructured data

ปลดปล่อยขีดจำกัดของข้อมูลของจัดการที่ง่ายและรวดเร็วด้วย HPE Qumulo ตอบโจทย์อีกขั้นในยุค Hybrid IT โซลูชั่นการจัดเก็บข้อมูล เพื่อรองรับข้อมูลที่เพิ่มขึ้นในอนาคต สามารถจัดการและดูแลข้อมูลได้แบบเรียลไทม์ ปรับขนาดการใช้งานได้อย่างมีระบบและมีประสิทธิภาพ มีความอย่างยืดหยุ่นตามที่องค์กรต้องการและช่วยลดต้นทุนของอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลได้อีกด้วย จึงตอบโจทย์ธุรกิจยุคดิจิทัลที่มีการใช้งานข้อมูลที่หลากหลายและมีปริมาณเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ไม่ว่าจะภาพ เสียง หรือวีดิโอ จากงาน Media Streaming กล้องวงจรปิด หรือระบบเก็บข้อมูล x-ray ในโรงพยาบาล HPE Qumulo จึงเป็นทางเลือกใหม่ที่คุ้มค่ากว่า มีประสิทธิภาพสูง สำหรับการจัดเก็บสำรองข้อมูลของคุณ

Figure 1: การเพิ่มประมาณอย่างมหาศาลของ Unstructured Data

องค์กรต่างๆที่มีปริมาณ workload ของข้อมูลมาก (data-intensive workloads) มักเผชิญกับการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของ unstructured data ยิ่งเมื่อองค์การนั้นต้องการนำข้อมูลเหล่านี้มาใช้ให้เกิดประโยชน์และต้องการเข้าถึงด้วยความรวดเร็วเพื่อวิเคราะห์ได้แบบเรียลไทม์และดูข้อมูลเชิงลึก ซึ่งองค์กรจำเป็นปรับขยายตามให้ทันข้อมูลเหล่านั้นมีอยู่ทุกหนทุกแห่งตั้งแต่ edge ไปจนถึง cloud ทั้ง on- and off-premises ซึ่งในการดูแลจัดการข้อมูลเหล่านี้จะยิ่งยากขึ้นรวมถึงค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นเป็นอย่างมาก

Figure 2:Use Cases กับ ธุรกิจประเภทต่างๆ

HPE Qumulo นำเสนอโซลูชันเพื่อตอบสนองความต้องการสำหรับการจัดเก็บข้อมูลไฟล์ Unstructured Data ที่สามารถขยายแบบ Scale-out ได้อย่างง่ายดาย และยังสามารถปรับขนาดได้อย่างยืดหยุ่น สามารถนำข้อมูลไปใช้งานได้ภายในไม่กี่นาที และยังรองรับการปรับขยายข้อมูลที่เติบโตขึ้นเรื่อยๆของคุณให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ  

Figure 3:HPE Qumulo

นอกจาก Qumulo จะช่วยให้คุณจัดการปรับขนาดความจุได้อย่างมีระบบและมีประสิทธิภาพเพื่อรองรับข้อมูลที่เพิ่มขึ้นในอนาคตแล้ว ยังสามารถจัดการและดูแลข้อมูลได้อย่างเรียลไทม์ Qumulo มอบประสิทธิภาพสุงสุดในการจัดเก็บไฟล์ด้วยความจุของข้อมูลที่สามารถนำไปใช้ได้ทั้ง 100% ของการจัดเก็บ และนอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์เด่นๆอีกมากมาย

การปรับขยายโดยไร้ขีดจำกัด

• เริ่มจากขนาดใดก็ได้และปรับขนาดได้มากมายถึงล้านๆไฟล์อย่างง่ายดาย
• คาดการณ์ที่มีประสิทธิภาพในไฟล์ทุกประเภทและทุกๆขนาดของไฟล์
• สามารถนำไปใช้ on-premises หรือใน cloud-native พร้อมมอบความคล่องตัวให้กับข้อมูลประเภท bidirectional data mobility และความสามารถในการจัดการแบบรวมศูนย์

ความสามารถในการคาดการณ์, การมองเห็น, และดูแลข้อมูล

• สามารถมองเห็นและเข้าถึงได้แบบเรียลไทม์(Real-Time) ของ data usage, performance และโครงสร้างพื้นฐาน (infrastructure) อย่างมีประสิทธิภาพ
• ใช้ประโยชน์จากความจุได้ทั้งหมด 100% ของข้อมูล
• ความสามารถในการคาดการณ์ถึงประสิทธิภาพและความจุที่ใช้ในขณะที่ปรับขยายโครงสร้างพื้นฐาน(infrastructure) ได้
• มี AI คอยช่วยบริหารจัดการ

นวัตกรรมที่ล้ำสมัย

• การผสมผสานที่ลงตัวของความรวดเร็วและความจุที่เหมาะสม ลูกค้าจะได้รับประโยชน์จากระยะเวลาในการนำผลิตภัณฑ์เข้าสู่ตลาด (Time-to-market) ที่ดีกว่าใคร
• องค์กรสามารถเคลื่อนย้ายข้อมูลได้รวดเร็วยิ่งขึ้นตามที่กำหนดในแผนจัดการข้อมูล
• เร่งความรวดเร็วในการนำ data-driven ไปใช้งานต่างๆ

สนใจโซลูชัน HPE Qumulo หรือโซลูชันอื่นของ HPE  ติดต่อ VSTECS หรือ HPEGroup@vstecs.co.th

from:https://www.techtalkthai.com/hpe-qumulo-ready-to-scale-out-supports-unstructured-data-by-vstecs/