คลังเก็บป้ายกำกับ: STORAGE

ก่อนที่คุณจะอัปเกรด Microsoft Exchange คุณควรรู้จัก Synology MailPlus ก่อน

การอัปเดตเวอร์ชันของเมลเซิร์ฟเวอร์เป็นเรื่องที่ท้าทายอย่างมากสำหรับผู้ดูแลระบบ IT ขององค์กร ยกตัวอย่างระบบเมล Microsoft Exchange ที่องค์กรหลายแห่งนำมาใช้เป็นตัวอย่าง เวอร์ชัน 2013 กำลังจะ EoL อย่างเป็นทางการในเดือนเมษายนปีนี้ ซึ่งหมายความว่าองค์กรจะสูญเสียการซัพพอร์ตทางเทคนิคทั้งหมด

หากองค์กรเลือกที่จะไม่อัปเกรด Exchange และยังคงใช้เวอร์ชันเก่าอยู่ อาจพบปัญหาด้านความปลอดภัยกับเวอร์ชันของเซิร์ฟเวอร์อีเมล์ ด้วยกฎที่ว่า Exchange เวอร์ชันเก่าจะถูกยกเลิกทุกๆ 10 ปี เมื่อเวอร์ชันเก่าผ่านระยะการสนับสนุนแล้ว ปัญหาด้านความปลอดภัยจะไม่ได้รับการแก้ไขอีกต่อไป และผู้ใช้อาจพบสถานการณ์ที่จดหมายจาก Exchange เวอร์ชันเก่าถูกพิจารณาว่ามาจากแหล่งที่ไม่ปลอดภัยโดยเซิร์ฟเวอร์อื่น ๆ และไม่สามารถส่งได้ อาจก่อให้เกิดปัญหาที่ซับซ้อนมากขึ้น อย่างเช่นช่องโหว่ที่มีความเสี่ยงสูงหลายรายการที่เกิดขึ้นใน Exchange เดือนมีนาคม 2021 หากไม่มีการอัปเดตความปลอดภัยสำหรับเวอร์ชันเก่าในช่วงเวลานี้ อาจเปิดช่องโหว่ให้เซิร์ฟเวอร์อีเมลองค์กรเสี่ยงต่อสภาพแวดล้อมเครือข่ายที่อันตราย และสามารถส่งผลให้มีการรั่วไหลของการสื่อสารและข้อมูลที่เป็นความลับขององค์กรเกิดขึ้นได้

เหตุการณ์ที่คล้ายกันก็เกิดขึ้นบ่อยครั้งในโลกแห่งความเป็นจริง ตัวอย่างเช่น CMC Magnetics Corporation บริษัทที่มีการจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ใช้ระบบอีเมลของ Microsoft Exchange เวอร์ชันเก่าในอดีต ซึ่งสอดคล้องกับการระงับแพตช์ช่องโหว่ด้านความปลอดภัยอย่างเป็นทางการของ Microsoft ทำให้จดหมายที่ส่งออกไปถูกส่งกลับมาบ่อยครั้ง เมื่อพิจารณาจากค่าใช้จ่ายในการอัปเกรดระบบรวมไปถึงค่าบำรุงรักษารวมถึงข้อกำหนดด้านฟังก์ชันของเมลเซิร์ฟเวอร์ ในที่สุด CMC Magnetics Corporation จึงเลือกที่จะแทนที่ระบบเก่าด้วยอีเมลเซิร์ฟเวอร์ Synology MailPlus

ธุรกิจต้องเผชิญกับโครงสร้างค่าใช้จ่ายที่มากขึ้นหลังจากการอัปเกรดหรือย้ายไปใช้ระบบคลาวด์

เมื่อเผชิญกับความท้าทายเช่นนี้ สิ่งแรกที่องค์กรประเมินคือการอัปเกรดเป็น Exchange เวอร์ชันใหม่ ซึ่งช่วยให้สามารถใช้สถาปัตยกรรม Exchange On-prem ต่อไปได้ แต่ภาคธุรกิจยังต้องพบกับความท้าทายที่มากขึ้นจากประกาศอย่างเป็นทางการของ Exchange เวอร์ชันใหม่ที่จะปรับเปลี่ยนระบบการซื้อเพียงครั้งเดียวให้เป็นระบบการสมัครสมาชิก (subscription) สำหรับองค์กรที่ใช้ Exchange 2013, 2016 และ 2019 อยู่ในปัจจุบัน สิ่งแรกที่องค์กรต้องพิจารณาคือการวางแผนค่าใช้จ่ายโดยรวมและคำนวณงบประมาณใหม่เพื่อเตรียมการก่อนหรือหลังการอัพเกรด สำหรับองค์กรที่กำลังเติบโตเมื่อองค์กรขยายตัว จำนวนบัญชีผู้ใช้ที่ต้องการก็เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องส่งผลให้ค่าบริการสมัครสมาชิกจะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ซึ่งอาจทำให้เกิดภาระการเงินจากค่า subscription ในระยะยาว

(ภาพประกอบ: องค์กรที่กำลังใช้ Exchange จะพบกับหลายๆคำถาม เช่น ควรอัปเกรดไปยังเวอร์ชันใหม่ของ Exchangeหรือเปลี่ยนไปใช้ไปใช้งานโซลูชั่นอีเมลอื่นๆ)

ผู้ใช้ Exchange ที่มีอยู่ในปัจจุบันจะต้องเผชิญกับการเลือกอัพเกรดเป็นรุ่นใหม่ของ Exchange หรือเปลี่ยนไปใช้โซลูชั่นอีเมลอื่นๆ นอกจากการอัพเกรดเป็น Exchange เวอร์ชันใหม่ แบบ On-prem ยังมีตัวเลือกที่จะอัพเกรดโดยตรงไปยังเซิร์ฟเวอร์อีเมล์บนคลาวด์ของ Microsoft 365 อย่างไรก็ตาม โซลูชันอีเมลระบบคลาวด์หรือ SaaS ทั่วไปที่มีอยู่ในตลาดปัจจุบันมักไม่เหมาะสำหรับการใช้งานในระดับองค์กร ตัวอย่างเช่น โซลูชันอีเมล SaaS ขาดฟังก์ชันการสำรองข้อมูลและตรวจสอบอีเมล จึงไม่สามารถกู้คืนอีเมลสำคัญหลังจากถูกลบโดยไม่ได้ตั้งใจ หรือเมื่อเกิดข้อพิพาทขึ้นและเป็นไปไม่ได้ที่จะค้นหาอีเมลที่เกี่ยวข้องอย่างรวดเร็ว ต้องค้นหาแบบ manual ตามวันที่เท่านั้น ทำให้ยากต่อการตรวจสอบหลังจากนั้น และโครงสร้างค่าใช้จ่ายของการสมัครใช้งานระบบคลาวด์ตามจำนวนผู้ใช้มีแนวโน้มจะเป็นภาระหนักกับการเติบโตของขนาดของบริษัท ตัวอย่างเช่น หากโซลูชั่นเมล์ของ Google มีราคา $6 ต่อผู้ใช้ต่อเดือน บริษัทที่มีผู้ใช้ 100 คนจะต้องจ่ายราคาสูงถึง $7,200 ต่อปี และต้องเผชิญกับความเสี่ยงจากการเพิ่มราคาของ Google ได้อย่างไม่คาดคิด

นอกจากนี้ไม่ใช่ว่าทุกธุรกิจจะเหมาะสมกับการใช้งานระบบคลาวด์สาธารณะ สำหรับธุรกิจที่ต้องคำนึงถึงความลับขององค์กรและความปลอดภัยสูง เช่น อุตสาหกรรมการเงินและการแพทย์ การเข้าสู่ระบบคลาวด์ก็เหมือนการเอาบริการของบุคคลภายนอกมาใช้ ทำให้ยากต่อการปฏิบัติตามกฎระเบียบการตรวจสอบที่ต้องการสำหรับการดำเนินการตามข้อกำหนดต่าง ๆ และความเป็นเจ้าของข้อมูล

องค์กรจะต้องเผชิญกับอุปสรรคมากมายเกี่ยวกับค่าใช้จ่าย ฟังก์ชั่นการจัดการ และความเป็นส่วนตัวของข้อมูลเมื่ออัพเกรดเซิร์ฟเวอร์ Exchange ไม่ว่าจะเป็นโครงสร้าง On-prem หรือเลือกย้ายไปใช้บริการเมลในรูปแบบของคลาวด์ ธุรกิจที่เคยใช้บริการอีเมล Exchange หรือ SaaS บนระบบคลาวด์มาก่อน จึงสนใจเกี่ยวกับเซิร์ฟเวอร์อีเมล Synology MailPlus

Synology MailPlus เป็นระบบเมลบนคลาวด์ส่วนตัวที่ใช้ NAS ของ Synology ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาต่างๆ เช่น ค่าใช้จ่ายในการอัพเกรดรวมถึงความปลอดภัยและความเป็นเจ้าของข้อมูลให้กับองค์กรได้เป็นอย่างดี

ลงทุนเพียงครั้งเดียว ไม่มีค่าใช้จ่ายซ้ำซ้อนรายเดือน

เพื่อแก้ปัญหาค่าใช้จ่ายที่เป็นเรื่องหนักใจที่สุดสำหรับธุรกิจ Synology MailPlus เป็นระบบใบอนุญาตถาวร ดังนั้นบริษัทเพียงแค่ซื้อเครื่องเซิร์ฟเวอร์ NAS และฮาร์ดดิสก์ตามความต้องการของประสิทธิภาพและความจุ และจากนั้นซื้อใบอนุญาตถาวรตามจำนวนผู้ใช้จริง ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายครั้งเดียวเพื่อสร้างระบบบริการอีเมลขององค์กร

(ภาพประกอบ: Synology MailPlus เป็นโซลูชันอีเมลที่รวมสิทธิ์ใช้งานเซิร์ฟเวอร์และซอฟต์แวร์เข้าด้วยกัน)

หากพิจารณาตัวอย่างการคำนวณต้นทุนรวมของเครื่องเซิร์ฟเวอร์จดหมายอีเล็กทรอนิกส์สำหรับองค์กรที่มีพนักงาน 100 คนภายในระยะเวลา 3 ปี หากใช้เซิร์ฟเวอร์ Microsoft Exchange นอกจากต้นทุนการซื้อฮาร์ดแวร์แล้ว ยังต้องเสียค่าใช้จ่ายในการซื้อใบอนุญาตระบบปฏิบัติการและค่าสมาชิกตามจำนวนบัญชี ทำให้ต้นทุนรวมเป็น $29,500 สำหรับการติดตั้งและงบประมาณการอัปเกรดหากเซิร์ฟเวอร์ต้องได้รับการอัปเกรดในภายหลัง

ในขณะที่การเปลี่ยนไปใช้ Synology MailPlus ต้องการเพียงค่าธรรมเนียมการตั้งค่าเซิร์ฟเวอร์เริ่มต้น ($1,900 สำหรับ DS1621xs+ ระดับองค์กร) บวกกับการซื้อสิทธิ์ใช้งานถาวร (พนักงาน 100 คนลบสิทธิ์ใช้งานฟรี 5 รายการที่ MailPlusมอบให้) รวมเป็น $6,650 ซึ่งประหยัดได้มากถึง 77% เมื่อเทียบกับ Exchange

เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับแผนสิทธิ์การใช้งาน Synology MailPlus

อัปเกรดภายในคลิกเดียวพร้อมสิทธิ์เข้าถึงฟีเจอร์ใหม่และการอัปเดตด้านความปลอดภัยตลอดอายุการใช้งาน

นอกจากต้องคำนึงถึงค่าใช้จ่ายในการอัปเกรดแล้ว ธุรกิจยังจำเป็นต้องพิจารณาความง่ายของกระบวนการอัปเกรดด้วย ระบบ Synology MailPlus ยังมีข้อดีของการอัปเกรดด้วยคลิกเดียวจากภายในระบบ ช่วยลดความยุ่งยากและต้นทุนของการอัพเกรดรุ่นของระบบทั้งหมด

Synology MailPlus Server สนับสนุนระบบบัญชี LDAP และ AD โดยไม่จำเป็นต้องผูก Windows AD เช่น Exchangeทำให้มีความยืดหยุ่นในการจัดการมากขึ้น นอกจากนี้ MailPlus ยังมีอินเตอร์เฟซที่ใช้งานง่ายกว่า โดยทุกฟังก์ชั่นของเซิร์ฟเวอร์สามารถใช้ได้บน UI ด้วย ตัวอย่างเช่น MailPlus Server อนุญาตให้คุณตั้งค่า DKIM โดยตรงจาก UI ในขณะที่ Exchange ต้องใช้เครื่องมือจาก third-party เพื่อทำเช่นนั้น

(ภาพประกอบ: MailPlus Server สามารถตั้งค่า DKIM ได้โดยตรงบน UI ซึ่งแตกต่างจาก Exchange ที่ต้องใช้เครื่องมือของ third-party ในการดำเนินการดังกล่าว)

ความเป็นส่วนตัวและความพร้อมใช้งานสำหรับธุรกิจในขณะที่เพิ่มเวลาให้บริการสูงสุด

สำหรับองค์กรที่ใช้งาน Synology MailPlus ระบบการจัดการเดียว ช่วยให้สามารถจัดการกระบวนการที่สำคัญและการปฏิบัติตามความปลอดภัย การควบคุมและความต้องการการสำรองข้อมูลได้ดีกว่า ตัวอย่างเช่นในอุตสาหกรรมทางการแพทย์ MailPlus Server สามารถจัดการเก็บรวบรวมข้อมูลและส่งข้อมูลความลับของผู้ป่วยได้อย่างปลอดภัย อีกทั้งคุณสมบัติการจัดการอีเมลธุรกิจทั้งหมดของ Synology MailPlus อยู่บน NAS ช่วยให้ผู้ดูแลระบบสามารถเปิดใช้งานแอปพลิเคชันการจัดการ เช่น การตรวจสอบและการสำรองข้อมูลได้ตามความต้องการ

นอกจากจะง่ายต่อการการปฏิบัติตามข้อบังคับการป้องกันข้อมูลทั้งหมดและอนุญาตให้ธุรกิจเป็นเจ้าของข้อมูลแบบเต็มรูปแบบ MailPlus ยังสามารถตอบสนองความต้องการของธุรกิจในการปรับปรุงความพร้อมให้บริการได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยให้ความยืดหยุ่นที่มากขึ้นในการสำรองข้อมูลอีเมลด้วยแพ็กเกจที่เกี่ยวข้องกับการสำรองข้อมูลของ Synology ในขณะที่ Exchange ระบบอาจจะล่มได้หลายชั่วโมง แต่ระยะเวลาในการหยุดทำงานของระบบของ MailPlus น้อยกว่าหนึ่งชั่วโมงหรือแม้กระทั่งน้อยกว่านั้น ด้วยการปรับใช้ Synology MailPlus High Availability หรือ Synology High Availability (SHA) หรือปรับใช้ทั้งสองอย่าง จะช่วยลดการขัดข้องของบริการและเวลาในการหยุดให้บริการของอีเมลที่ต่ำที่สุด เพื่อให้แน่ใจว่าการดำเนินธุรกิจจะไม่หยุดชะงัก

ในปัจจุบันตัวเลือกบริการอีเมลสำหรับธุรกิจขนาดเล็กและกลางมีหลากหลาย ได้แก่ เซิร์ฟเวอร์อีเมลที่ใช้ฮาร์ดแวร์และบริการคลาวด์แบบสมัครสมาชิก นอกจากนี้ยังมี Microsoft Exchange เป็นตัวเลือกอีกด้วย แต่ในขณะที่องค์กรขยายตัวอย่างต่อเนื่อง พวกเขาต้องการระบบเมลที่ยืดหยุ่นมากขึ้น ด้วยงบประมาณและการจัดการที่เหมาะสม หากคุณยังสงสัยว่าควรจะจะอัพเกรด Microsoft Exchange หรือไม่ ขอให้คุณพิจารณา Synology MailPlus เป็นตัวเลือกที่จะตอบโจทย์ความต้องการให้กับธุรกิจของคุณ

ติดต่อ Synology สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม: https://sy.to/sbkjf

from:https://www.enterpriseitpro.net/sinology-mailplus-for-microsoft-exchange-upgrade/

Advertisement

Pure Storage เผยยอดบริการ Subscription มากกว่า 1,000 ล้านเหรียญแล้ว

Pure Storage ได้ออกมาเปิดตัวความสามารถใหม่ในบริการ Subscription อย่าง Evergreen//One ที่สามารถตรวจสอบและบริหารจัดการด้านความยั่งยืนได้ พร้อมเผยความสำเร็จในการผลักดันตลาด Subscription ที่เติบโตถึง 30% ต่อปี จนมียอดรวมสูงถึง 1,000 ล้านเหรียญเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ในการเปิดตัวครั้งนี้ Pure Storage ได้เผยถึง Evergreen//One Energy Efficiency SLA ที่ครอบคลุมทั้ง Pure1 Sustainability Assessment สำหรับวัดระดับความยั่งยืน และ Energy Savings Visualizer สำหรับติดตามการประหยัดพลังงานที่เกิดขึ้นในการใช้งานโซลูชันต่างๆ ของ Pure Storage ได้จากศูนย์กลาง ให้สามารถรับประกันความคุ้มค่าในการใช้พลังงานได้ พร้อมบริการในการปรับแต่งแก้ไขเพื่อให้เป็นไปตามเงื่อนไข เพื่อลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับสิ่งแวดล้อม และเสริมสร้างความยั่งยืนให้กับธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
 
นอกจากนี้ Pure Storage ก็ยังได้รายงานถึงธุรกิจ Subscription ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วปีละ 30% จนในปีล่าสุดที่ผ่านมามียอดรวมถึง 244.8 ล้านเหรียญ และทำให้ยอดสะสมทั้งหมดของบริการ Subscription แตะ 1,000 ล้านเหรียญแล้ว โดยบริการเหล่านี้ครอบคลุมทั้งกลุ่ม Pure Storage Evergreen, Pure Cloud Block Store และ Portworx
 
ผู้ที่สนใจรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Evergreen//One สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.purestorage.com/products/staas/evergreen/one.html
 

from:https://www.techtalkthai.com/pure-storage-reports-more-than-1-billion-subscriptions/

Dentons UKIME ธุรกิจกฎหมายที่ใหญ่ที่สุดในโลก ใช้ Pure Storage จัดเก็บข้อมูลเอกสารกฎหมาย รองรับการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต

Dentons UKIME ธุรกิจกฎหมายที่ใหญ่ที่สุดในโลกซึ่งมีพนักงานมากกว่า 21,000 คนใน 200 สาขาจากมากกว่า 80 ประเทศทั่วโลก ได้ตัดสินใจใช้งาน Pure Storage เพื่อวางรากฐานด้านการจัดเก็บข้อมูลและเอกสารทางกฎหมายอย่างยั่งยืน มั่นคงปลอดภัย

ในการยกระดับการจัดเก็บข้อมูลครั้งนี้ Dentons UKIME ได้ตัดสินใจเลือกใช้ Pure Storage FlashArray ระบบ All Flash Storage ประสิทธิภาพสูงที่บริหารจัดการดูแลรักษาได้ง่าย ควบคู่กับ Evergreen//One บริการ Subscription เพื่อใช้งานระบบ All Flash Storage ในแบบ As-a-Service เพื่อให้เกิดความยืดหยุ่นต่อการลงทุนและการเพิ่มขยาย รวมถึงบริหารจัดการระบบทั้งหมดจากศูนย์กลางอย่างง่ายดายผ่านบริการ Pure1 ระบบบริหารจัดการ All Flash Storage ผ่าน Cloud เพื่อให้ได้รับประโยชน์ดังนี้
 
  1. ความยืดหยุ่นในการลงทุนและการเพิ่มขยายเสมือนการใช้ Cloud ด้วยการใช้ Pure Storage FlashArray ร่วมกับ Evergreen//One ที่ทำให้ Dentons UKIME สามารถใช้งาน Pure Storage FlashArray ในแบบ On-Premises โดยคิดค่าใช้จ่ายแบบ Subscription ได้
  2. การอัปเกรดได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่ต้องหยุดระบบและเสริมสร้างความยั่งยืน จากการใช้ Evergreen//One Subscription ที่ช่วยให้ Dentons UKIME สามารถใช้งานระบบ Storage เดิมที่อัปเกรดได้อย่างต่อเนื่องยาวนาน 3-5 ปี อีกทั้งยังประหยัดพลังงานสูงสุดกว่า 50%
  3. เสริมความมั่นคงปลอดภัยในการจัดเก็บข้อมูล ด้วยการนำข้อมูลทั้งในส่วนของ Email, SQL Database และระบบ Disaster Recovery มาใช้งานบน Pure Storage FlashArray พร้อมการเข้ารหัสข้อมูล Data at Rest สร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าในระยะยาว
ผู้ที่สนใจข้อมูลเพิ่มเติมสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ https://www.purestorage.com/docs.html?item=/type/pdf/subtype/doc/path/content/dam/pdf/en/case-studies/cs-dentons-ukime.pdf/context/company/newsroom/press-releases/law-firm-leverages-pure-for-global-expansion.html

from:https://www.techtalkthai.com/dentons-ukime-the-worlds-largest-law-firm-uses-pure-storage-to-store-legal-documents/

Webinar : วิธีการกู้ระบบได้อย่างรวดเร็วปลอดภัยและไว้ใจได้ด้วย Veeam Platform (24 มี.ค. นี้)

องค์กรต่างๆ กำลังประสบปัญหาการโจมตีจากภัยคุกคามอย่าง Ransomware โดยมากกว่า 85% ขององค์กรเหล่านี้จะโดนแรนซั่มแวร์ทำร้าย และทำให้ระบบเกิดล่ม ทำให้การดำเนินธุรกิจเป็นไปอย่างติดขัดและส่งผลเสียต่อองค์กรโดยรวม ในขณะที่ซอฟต์แวร์ป้องกันมัลแวร์ทั้งหลายก็ไม่สามารถจัดการกับภัยคุกคามเหล่านี้ได้ หลายองค์กรจึงจำเป็นต้องหาโซลูชั่นในการแบ็กอัพมาเพื่อสำรองข้อมูล

Veeam Software ได้ตระหนักถึงภัยคุกคามดังกล่าว จึงได้พัฒนาโซลูชั่นในการบริหารข้อมูลที่ช่วยให้คุณทราบถึงกิจกรรมที่เป็นอันตรายแก่ข้อมูล การแบ็กอัพที่แข็งแกร่ง ตลอดจนการกู้คืนอย่างรวดเร็ว ผ่านทางแพลตฟอร์มอัจฉริยะของ Veeam ซึ่งในงาน Webinar นี้คุณจะได้พบกับความสามารถของระบบที่จะมาช่วยแก้ไขปัญหาขององค์กรได้เป็นอย่างดี

กำหนดการ

วัน : ศุกร์ที่ 24 มีนาคม 2566
เวลา : 10.30 – 11.30 น.
ช่องทางการบรรยาย : zoom (ภาษาไทย)
วิทยากรผู้บรรยาย : Thanakorn Intharat, Technical Consultant – Veeam Software

สิ่งที่ท่านจะได้ทราบเกี่ยวกับงานสัมมนาครั้งนี้

– ความน่ากลัวของภัย Ransomware ที่มีต่อองค์กร
– การออกแบบวิธีการดึงข้อมูลแบ็กอัพกลับคืนมา
– กรณีศึกษาการจัดการข้อมูลในเคสต่างๆ
– โซลูชั่น Veeam ONE Ransomware Detection
– การกู้คืนข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว ปลอดภัยและไว้ใจได้

ท่านที่สนใจ สามารถลงทะเบียนได้ที่ Link ข้างล่างนี้

https://us02web.zoom.us/webinar/register/WN_l-e-7W2CT0uz6dkAjGvFGA

หมายเหตุ : ลุ้นรับรางวัลใหญ่รวมถึงของรางวัลภายในงาน (สงวนสิทธิ์สำหรับผู้ที่ลงทะเบียนองค์กรและอยู่จนจบงาน)

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 02-001-9973 หรือ veeam_event@enterpriseitpro.net

from:https://www.enterpriseitpro.net/webinar-%e0%b8%a7%e0%b8%b4%e0%b8%98%e0%b8%b5%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b8%81%e0%b8%b9%e0%b9%89%e0%b8%a3%e0%b8%b0%e0%b8%9a%e0%b8%9a%e0%b9%84%e0%b8%94%e0%b9%89%e0%b8%ad%e0%b8%a2%e0%b9%88%e0%b8%b2/

Webinar : วิธีการกู้ระบบได้อย่างรวดเร็วปลอดภัยและไว้ใจได้ด้วย Veeam Platform (24 มี.ค. นี้)

องค์กรต่างๆ กำลังประสบปัญหาการโจมตีจากภัยคุกคามอย่าง Ransomware โดยมากกว่า 85% ขององค์กรเหล่านี้จะโดนแรนซั่มแวร์ทำร้าย และทำให้ระบบเกิดล่ม ทำให้การดำเนินธุรกิจเป็นไปอย่างติดขัดและส่งผลเสียต่อองค์กรโดยรวม ในขณะที่ซอฟต์แวร์ป้องกันมัลแวร์ทั้งหลายก็ไม่สามารถจัดการกับภัยคุกคามเหล่านี้ได้ หลายองค์กรจึงจำเป็นต้องหาโซลูชั่นในการแบ็กอัพมาเพื่อสำรองข้อมูล

Veeam Software ได้ตระหนักถึงภัยคุกคามดังกล่าว จึงได้พัฒนาโซลูชั่นในการบริหารข้อมูลที่ช่วยให้คุณทราบถึงกิจกรรมที่เป็นอันตรายแก่ข้อมูล การแบ็กอัพที่แข็งแกร่ง ตลอดจนการกู้คืนอย่างรวดเร็ว ผ่านทางแพลตฟอร์มอัจฉริยะของ Veeam ซึ่งในงาน Webinar นี้คุณจะได้พบกับความสามารถของระบบที่จะมาช่วยแก้ไขปัญหาขององค์กรได้เป็นอย่างดี

กำหนดการ

วัน : ศุกร์ที่ 24 มีนาคม 2566
เวลา : 10.30 – 11.30 น.
ช่องทางการบรรยาย : zoom (ภาษาไทย)
วิทยากรผู้บรรยาย : Thanakorn Intharat, Technical Consultant – Veeam Software

สิ่งที่ท่านจะได้ทราบเกี่ยวกับงานสัมมนาครั้งนี้

– ความน่ากลัวของภัย Ransomware ที่มีต่อองค์กร
– การออกแบบวิธีการดึงข้อมูลแบ็กอัพกลับคืนมา
– กรณีศึกษาการจัดการข้อมูลในเคสต่างๆ
– โซลูชั่น Veeam ONE Ransomware Detection
– การกู้คืนข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว ปลอดภัยและไว้ใจได้

ท่านที่สนใจ สามารถลงทะเบียนได้ที่ Link ข้างล่างนี้

https://us02web.zoom.us/webinar/register/WN_l-e-7W2CT0uz6dkAjGvFGA

หมายเหตุ : ลุ้นรับรางวัลใหญ่รวมถึงของรางวัลภายในงาน (สงวนสิทธิ์สำหรับผู้ที่ลงทะเบียนองค์กรและอยู่จนจบงาน)

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 02-001-9973 หรือ veeam_event@enterpriseitpro.net

from:https://www.enterpriseitpro.net/webinar-veeam-data-platform-for-backup/

เชิญร่วมงานสัมมนา Synology for Manufacturing – ระบบการจัดการข้อมูลสำหรับภาคการผลิต

ขอเรียนเชิญทุกท่านเข้าร่วมงาน Synology for Manufacturing – ระบบการจัดการข้อมูลสำหรับภาคการผลิต โดยงานนี้ เป็นการแนะนำโซลูชันการจัดการข้อมูล การปกป้องข้อมูล และการเฝ้าระวังของ Synology สำหรับธุรกิจภาคการผลิต สาธิตวิธีการใช้งานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของคุณ โดยงานจะจัดขึ้นในวันพุธที่ 29 มีนาคม 2023 เวลา 8:30 – 12:30 น. ณ Hotel Nikko Amata City Chonburi (อมตะนคร ชลบุรี)

กำหนดการ

วัน : วันพุธที่ 29 มีนาคม 2023
เวลา : 08:30 – 12:30 น.
สถานที่จัดงาน : Hotel Nikko Amata City Chonburi (อมตะนคร ชลบุรี)
วิทยากร : ผู้บรรยายจาก Synology

สิ่งที่ท่านจะได้ทราบเกี่ยวกับงานสัมมนาครั้งนี้

– การจัดการข้อมูล การจัดเก็บ การรวบรวม การจัดระเบียบข้อมูลธุรกิจภาคการผลิต
– การซิงโครไนซ์ข้ามไซต์ การเข้าถึงจากหลายแพลตฟอร์ม
– ปกป้องข้อมูลสำคัญของคุณในอุปกรณ์ปลายทาง คลาวด์ VM
– ผสานกับการปรับใช้ที่มีอยู่ของคุณอย่างราบรื่นด้วยการซัพพอร์ตกล้องรุ่นต่างๆ
– เทคนิคการกู้คืนข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพตามความต้องการ

ท่านที่สนใจ สามารถลงทะเบียนได้ที่ Link ข้างล่างนี้
คลิกลงทะเบียนที่นี่

หมายเหตุ :
1. ทางทีมงานได้จัดเตรียมอาหารกลางวัน พร้อมของรางวัลต่างๆ มากมายให้กับทุกท่านภายในงาน
2. กรุณากรอกข้อมูลให้ครบถ้วนเพื่อสะดวกในการติดต่อกลับ
3. หลังจากส่งแบบฟอร์มลงทะเบียนแล้ว คุณจะได้รับอีเมลอัตโนมัติเกี่ยวกับการลงทะเบียนของคุณ Synology ขอสงวนสิทธิ์ในการประเมินการลงทะเบียนของคุณ เราจะติดตามผลด้วยการแจ้งเตือนเมื่อการลงทะเบียนของคุณได้รับการยืนยัน กรุณาลงทะเบียนโดยเร็วที่สุด หากคุณมีคำถามใดๆ เกี่ยวกับกิจกรรม โปรดติดต่อเราที่ thailand@synology.com

 

from:https://www.enterpriseitpro.net/synology-for-manufacturing-chonburi/

IBM ร่วมมือกับ Cohesity เสริมแกร่งให้กับชุดสตอเรจใหม่

ความสามารถของผลิตภัณฑ์สำรองและกู้คืนข้อมูล DataProtect ของ Cohesity จะเป็นหนึ่งในสี่ชุดคุณสมบัติหลักในโปรแกรม Storage Defender ตามประกาศความร่วมมือพันธมิตรใหม่ของ IBM
 

Image Credit : Cohesity
IBM และ Cohesity ผู้ให้บริการความปลอดภัยข้อมูลและการสำรองข้อมูล ได้จับมือร่วมกันในฐานะพันธมิตรใหม่ เพื่อผสานรวมความสามารถด้านการปกป้องข้อมูลของ Cohesity เข้ากับชุดผลิตภัณฑ์สตอเรจของ IBM ซึ่งจะถูกเรียกว่า “Storage Defender” เพื่อการปกป้องข้อมูลสำคัญขององค์กรผู้ใช้ปลายทางที่ดียิ่งขึ้น
 
DataProtect ของ Cohesity จะมอบฟังก์ชันสแนปช็อตและการโจมตีทางไซเบอร์เพื่อการกู้คืนอย่างรวดเร็วจากเหตุการณ์แรนซัมแวร์หรือภัยพิบัติอื่นๆ รวมถึง data footprint ที่ลดลงผ่านการขจัดความซ้ำซ้อนและการบีบอัดข้อมูล
 
ชุดโปรแกรม Storage Defender ได้รับการออกแบบมาเพื่อรวบรวมผลิตภัณฑ์ของ IBM เพื่อรวมการจัดการการจำลองแบบหลัก การจำลองแบบรอง และการสำรองข้อมูลเข้าด้วยกัน ซึ่งเป็นข้อเสนอแบบ as-a-service ที่มีอินเทอร์เฟซแบบ single-pane-of-glass โดยมีการทำงานอัตโนมัติตามนโยบายที่ขับเคลื่อนด้วย SLA และความสามารถในการทำงานกับแหล่งข้อมูลที่หลากหลาย ซึ่งรวมไปถึง Physical Storage, Cloud Hypervisors และ Database ประเภทต่างๆ ด้วย
 
นอกจาก DataProtect ของ Cohesity แล้ว Storage Defender ที่เพิ่งประกาศใหม่ยังผสานรวมกับ IBM Storage Protect ซึ่งเปลี่ยนชื่อเดิมจาก “Spectrum Protect” ซอฟต์แวร์สำหรับองค์กรที่ออกแบบมาเพื่อมอบความยืดหยุ่นและการผสานรวมฟอร์มแฟกเตอร์การจัดเก็บข้อมูลต่างๆ ที่หลากหลาย และยังรวมไปถึง Storage FlashSystem ของ IBM แพลตฟอร์มสตอเรจแบบออลแฟลชสำหรับเวิร์คโหลดประสิทธิภาพสูง และ Storage Fusion เครื่องมือจัดการข้อมูลที่ออกแบบมาเพื่อทำงานกับแอปพลิเคชันคอนเทนเนอร์
 
แนวคิดของ IBM สำหรับการประกาศพันธมิตรใหม่ร่วมกับ Cohesity คือ การจัดหาสถาปัตยกรรมแบบขยายขนาดที่ทันสมัยให้กับลูกค้าของบริษัท ในขณะเดียวกันก็ให้ความอุ่นใจในโลกที่การโจมตีทางไซเบอร์ยังคงเป็นเรื่องปกติ
 

from:https://www.techtalkthai.com/ibm-partners-with-cohesity-to-strengthen-new-storage-suite/

เปิดตัว Pure Storage FlashBlade//E ระบบ Unified File & Object Storage รุ่นล่าสุด ความจุเริ่มต้น 4PB ชูแนวคิด Sustainability

Pure Storage ผู้นำด้านโซลูชัน Flash Storage สำหรับธุรกิจองค์กร ได้ออกมาประกาศเปิดตัว Pure Storage FlashBlade//E โซลูชันล่าสุดทางด้าน Unified File & Object Storage ที่นอกเหนือจากประสิทธิภาพ ความจุ และความง่ายดายในการใช้งานแล้ว ก็ยังมาพร้อมกับแนวคิดของความยั่งยืนหรือ Sustainability อีกด้วย

Credit: Pure Storage

Pure Storage FlashBlade//E นี้เป็นโซลูชันที่พัฒนาต่อยอดจากรุ่นก่อนหน้าอย่าง Pure Storage FlashBlade//S โดยมีจุดเด่นที่แตกต่างกันคือ Pure Storage FlashBlade//S รุ่นก่อนหน้าจะมุ่งเน้นเพื่อรองรับ Workload ที่ต้องการประสิทธิภาพที่สูงเป็นหลัก ในขณะที่ Pure Storage FlashBlade//E จะมุ่งเน้นที่ความจุและความคุ้มค่าในการจัดเก็บข้อมูลที่เหนือกว่านั่นเอง

การใช้งาน Pure Storage FlashBlade//E นี้จะต้องเริ่มต้นจาก 2 Chassis ที่มีความจุเริ่มต้น 4 Petabyte (PB) โดยสามารถเพิ่มขยายได้ด้วยการเพิ่ม Chassis แบบ Scale Up ทีละ 2PB โดยอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลทั้งหมดจะใช้ Pure Storage DirectFlash Module ทำให้ประสิทธิภาพการใช้งานโดยรวมนั้นสูงในระดับ All Flash

ในแง่การเชื่อมต่อ Pure Storage FlashBlade//E นี้จะสามารถเชื่อมต่อเครือข่ายได้ด้วยพอร์ต 100GbE ที่สามารถเพิ่มขยายได้สูงสุดถึง 16 พอร์ต รองรับ Protocol มาตรฐานอย่างเช่น NFS, S3 และ SMB อย่างครบถ้วน ซึ่งสามารถจัดเก็บ File และ Object ได้หลายพันล้านรายการภายในระบบเดียว

อีกจุดหนึ่งที่ Pure Storage ให้ความสำคัญเป็นพิเศษในการออกแบบ Pure Storage FlashBlade//E นี้ก็คือประเด็นเรื่องของความยั่งยืน โดยเมื่อเปรียบเทียบกับการจัดเก็บข้อมูลด้วย Storage แบบดั้งเดิมที่ใช้ Hard Disk Drive (HDD) แล้ว Pure Storage FlashBlade//E จะช่วยลดการใช้ทรัพยากรได้มากกว่า ดังนี้

  • ใช้พื้นที่และพลังงานเพียง 1 ใน 5 เท่านั้น ใช้พลังงานเพียงประมาณ 1W ต่อข้อมูล 1TB
  • ลดค่าใช้จ่ายในการใช้งานและการดูแลรักษาลง 60%
  • ลดขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่เกิดขึ้น 85%
  • มีความมั่นคงทนทานสูงกว่า 10-20 เท่า

สำหรับการประยุกต์ใช้งาน Pure Storage FlashBlade//E ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ของการเก็บข้อมูล Unstructured Data ปริมาณมหาศาลที่นับวันจะยิ่งเติบโตขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะ ดังนั้น Pure Storage จึงต้องให้ความสำคัญเป็นพิเศษกับประเด็นด้านการใช้พลังงาน เพื่อไม่ให้การจัดเก็บข้อมูลขนาดใหญ่ของธุรกิจองค์กรอย่างต่อเนื่องยาวนานนั้นสร้างมลภาวะต่อสิ่งแวดล้อมอย่างที่ระบบ Storage แบบดั้งเดิมเคยเป็นมาก่อน

สำหรับผู้ที่สนใจรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Pure Storage FlashBlade//E สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.purestorage.com/products/unstructured-data-storage/flashblade-e.html

from:https://www.techtalkthai.com/pure-storage-flashblade-e-unified-file-and-object-storage-is-announced-with-sustainability/

สร้างปราการที่แข็งแกร่งให้กับข้อมูลด้วย แพลตฟอร์ม Arcserve Unified Data Resilience

ข้อมูล คือ สิ่งสำคัญในโลกแห่งการดำเนินธุรกิจปัจจุบัน หากเกิดปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อข้อมูลในองค์กรแล้ว ก็อาจจะทำให้การดำเนินธุรกิจหยุดชะงักและก่อให้เกิดความเสียหายทางธุรกิจได้

โดย Arcserve ผู้นำด้านการบริหารจัดการและป้องกันข้อมูลระดับโลก จึงได้พัฒนาแพลตฟอร์มสตอเรจที่ช่วยในการสำรอง กู้คืน และป้องกันความเสียหายของข้อมูล อันประกอบด้วยฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ที่มีประสิทธิภาพสูงและเหมาะสำหรับการใช้งานในทุกองค์กร

Arcserve Integrated Backup เทคโนโลยีเพื่อการสำรองข้อมูลชั้นเลิศ

Arcserve ได้พัฒนาโซลูชันแบบฮาร์ดแวร์ (Appliance) ในชื่อว่า Arcserve Integrated Backup ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มสตอเรจชั้นนำที่ช่วยในการสำรอง กู้คืน และป้องกันความเสียหายของข้อมูลที่สำรองไว้ ไม่ว่าจะเป็นจากแรนซัมแวร์หรือภัยพิบัติอื่นใดก็ตาม

โดยความสามารถของ Arcserve Appliance นี้ จะเป็นการผสานระหว่างเทคโนโลยี Arcserve Unified Data Protection (UDP) เข้ากับระบบการป้องกันภัยคุกคาม Sophos Intercept X Advanced for Servers ทำให้กลายเป็นโซลูชันสำรองข้อมูลที่ป้องกันแรนซัมแวร์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ เป็นแพลตฟอร์มที่สร้างความพร้อมการให้บริการได้ทั้งแอปพลิเคชันและข้อมูล ผ่านฟังก์ชันการทำงานชั้นสูง ที่รวมเอา Deep Learning และ AI มาช่วยปกป้องข้อมูลจากการโจมตีทั้งแรนซัมแวร์หรือมัลแวร์ ที่เกิดจากพวกผู้ไม่ประสงค์ดี

โดยปัจจุบัน Arcserve Appliance มีอยู่ด้วยกัน 3 ซีรี่ส์ ประกอบด้วย

– Arcserve 9000 Series เป็นอุปกรณ์การป้องกันข้อมูลที่ไม่ซับซ้อนแต่ให้พลังการทำงานที่สูง มาพร้อมกับเทคโนโลยีในการป้องกันข้อมูลแบบ All In one ที่รวมเอาความสามารถด้านความปลอดภัย Sophos Intercept X Advance for Servers ผนึกเข้ากับ ตัว UDP ของ Arcserve เพื่อช่วยในการป้องกันข้อมูลในระดับสูงสุด รองรับเครื่องเวอร์ชวลแมชชีนได้เป็นจำนวนมาก

– Arcserve X Series มีคุณสมบัติที่มีความคล้ายกับตัว Arcserve 9000 Series แต่ขยายขีดความสามารถได้มากถึงระดับเพตาไบต์ มาพร้อมกับเทคโนโลยีในการป้องกันข้อมูลแบบ All In One ที่รวมเอาความสามารถด้านความปลอดภัย Sophos Intercept X Advance for Servers ผนึกเข้ากับตัว UDP ของ Arcserve เพื่อช่วยในการป้องกันข้อมูลในระดับสูงสุด

– Arcserve N Series ผลิตภัณฑ์ในตระกูลนี้จะมีความสามารถสูงที่ออกแบบมาเพื่อขยายขีดความสามารถให้รองรับเทคโนโลยีในระดับไฮเปอร์-คอนเวิร์จ (HCI) โดยเป็นการผนึกรวมความสามารถของตัวเทคโนโลยี Hyperconverged จาก Nutanix และเทคโนโลยีความปลอดภัยจาก Sophos ตลอดจนตัว UDP ของ Arcserve ทำให้เป็นแพลตฟอร์มขั้นสูงในการป้องกันข้อมูลสำหรับองค์กรที่ต้องการเสถียรภาพในการทำงานสูงสุด

ขอแนะนำ Arcserve OneXafe เทคโนโลยีแบบ Immutable Storage  

นอกจากผลิตภัณฑ์ Arcserve Integrated Backup แล้วทาง Arcserve ยังมีผลิตภัณฑ์ในเชิงสตอเรจที่น่าสนใจภายใต้ชื่อว่า Arcserve OneXafe : ตู้เซฟดิจิทัลที่ป้องกันการแก้ไขข้อมูลได้อย่างสมบูรณ์

โดยที่ Arcserve OneXafe ผสานสถาปัตยกรรมสตอเรจแบบอ็อปเจ็กต์แบบ Scale-out ร่วมกับความเข้ากันได้กับแอปพลิเคชันแบบ Plug-and-Play สร้างความสามารถในการป้องกันการแก้ไขได้ด้วยคุณสมบัติของตัวสตอเรจที่ รองรับการจัดเก็บข้อมูลและไม่สามารถแก้ไขได้ (Immutable Storage) มาพร้อมฟีเจอร์ระดับองค์กรอย่างเช่น การป้องกันข้อมูลซ้ำตั้งแต่ตอนสตรียมข้อมูล, การบีบอัด,  การทำสแนปช็อตแบบป้องกันการแก้ไข, การเข้ารหัส,  การขยายสตอเรจได้แบบ Zero-configuration, และการปกป้องข้อมูลต่อเนื่อง ที่ปรับให้เหมาะสมกับระบบ WAN ที่ออกแบบมาสำหรับการกู้คืนข้อมูลเมื่อเกิดภัยพิบัติ

ปัจจุบัน Arcserve มีผลิตภัณฑ์ OneXafe ในรุ่น Arcserve OneXafe 4500 Series ที่มีความสามารถสูงให้ได้ใช้งาน โดยมีคุณสมบัติเช่น

– เทคโนโลยีสตอเรจแบบ Scale-out

– การป้องกันข้อมูลอย่างต่อเนื่อง

– การเข้ารหัสข้อมูลเสริมความแข็งแกร่ง

– การทำคลัสเตอร์แบบ Scale-out

– ป้องกันแรนซัมแวร์และมัลแวร์ต่างๆ

– ป้องกัน Fault Domain

– จัดเก็บข้อมูลแบบ Unstructured Data ได้

– และอื่นๆ อีกมากมาย

 สูตรสำเร็จในการสร้างระบบที่แข็งแกร่งให้กับข้อมูลขององค์กร

องค์กรสามารถเพิ่มความแข็งแกร่งในการป้องกันภัยให้กับข้อมูลได้อย่างง่ายดาย ด้วยการผสานรวมเอาทั้ง Arcserve Integrated Backup ผนึกเข้ากับตัว Arcserve OneXafe เท่ากับว่า จะเป็นการสร้างแพลตฟอร์มสตอเรจชั้นยอดที่ช่วยในการสำรอง กู้คืน และป้องกันความเสียหายของข้อมูลที่สำรองไว้ ไม่ว่าจะเป็นจากแรนซัมแวร์หรือภัยพิบัติอื่นใดก็ตามภายในแนวคิด Arcserve Unified Data Resilience

โดยปัจจุบัน Arcserve ได้แนะนำโซลูชันการผสานการทำงานให้ได้เราได้ใช้ก็คือ Arcserve 9000 Series ทำงานร่วมกับ Arcserve OneXafe 4500 Series เพื่อสร้างความสมบูรณ์แบบสำหรับยุทธศาสตร์ความมั่นคงข้อมูลต่างๆ ขององค์กร พร้อมเติมเต็มความต้องการในการกู้คืนจากภัยพิบัติที่เกิดขึ้นเพื่อรักษาความต่อเนื่องทางธุรกิจได้เป็นอย่างดี

คุณประโยชน์สูงสุดของแพลตฟอร์ม Arcserve Unified Data Resilience

Arcserve ได้นำเสนออรรถประโยชน์จากการสร้างแพลตฟอร์ม Arcserve Unified Data Resilience เอาไว้อย่างน่าสนใจ ในหลายมุมมอง ไม่ว่าจะเป็น

เสริมความแข็งแกร่ง สร้างความพร้อมการให้บริการ และการันตีการกู้คืนระบบได้

องค์กรต่างๆ ต้องการโซลูชันที่ครอบคลุมเพื่อตอบโจทย์แผนการสร้างความต่อเนื่องทางธุรกิจ และกู้คืนระบบจากวิกฤติ รวมทั้งความสามารถในการกู้คืนได้อย่างสมบูรณ์ และการสร้างความพร้อมในการให้บริการสำหรับแอปพลิเคชันระดับองค์กรอย่างเช่น ฐานข้อมูล Oracle, แอปพลิเคชันที่พัฒนาเอง, หรือข้อมูลแบบไร้โครงสร้างระดับเพตาไบต์

ใช้แนวทางแบบ Building-Block

ด้วยระบบของ Arcserve ทำให้สามารถติดตั้งโซลูชันเพิ่มเติมตามความต้องการที่ต่อเนื่องได้ ด้วยการพัฒนาโซลูชันให้ยืดหยุ่นเหมาะกับรูปแบบการใช้งานที่หลากหลาย เปลี่ยนมาแทนที่ในระบบดั้งเดิม ในกรณีที่องค์กรมีความต้องการเปลี่ยนแปลง ก็มักใช้แนวทางการติดตั้งแบบซื้อเปลี่ยนใหม่ทั้งหมด (Rip-and-Replace)  แต่ปัจจุบันโซลูชันที่ติดตั้งแบบ Building-Block นี้จะช่วยให้เพิ่มระบบที่องค์กรต้องการได้โดยไม่กระทบกับระบบเดิมเลย

ลดข้อมูลได้เป็นอย่างมหาศาล (Deep Data Reduction)

โซลูชัน Arcserve 9000 Series มีเทคโนโลยีหลายแบบที่ให้การลดข้อมูลซ้ำกันจากฝั่งแหล่งข้อมูลทั้งหมด โดยลดปริมาณข้อมูลได้มากถึง 20 เท่า ช่วยให้คุณประหยัดเนื้อที่ในการสำรองข้อมูล ลดปริมาณข้อมูลที่วิ่งไปมาบนเครือข่าย และลดเวิร์กโหลดบนเซิร์ฟเวอร์ได้อย่างมาก  นอกจากนี้ยังมีกลไกลดปริมาณข้อมูล ด้วยการบีบอัดข้อมูลพร้อมกับการใช้เทคโนโลยี I2 technology (เป็นการเพิ่มข้อมูลเชิงบล็อกแบบไร้ขีดจำกัด)  โดย OneXafe ให้คุณปรับแต่งค่าในการบีบลดขนาดข้อมูลได้ตามประเภทแอปพลิเคชัน มีการใช้อัลกอริทึมลบข้อมูลซ้ำตามความยาวของตัวแปร เหมาะอย่างยิ่งสำหรับข้อมูลสำเนาที่สำรองไว้ ด้วยวิธีการทั้งหมดนี้ทำให้ลดปริมาณข้อมูลที่ต้องสำรองลงได้มาก พร้อมกับการเปิดการเข้าถึงข้อมูลได้อย่างรวดเร็วไปพร้อมกันอีกด้วย

สนใจสอบถามเพิ่มเติมข้อมูลผลิตภัณฑ์ได้ที่ อินแกรม ไมโคร ประเทศไทย:
TH-Arcserve@ingrammicro.com

from:https://www.enterpriseitpro.net/arcserve-unified-data-resilience-9-0/

NetApp ประกาศเลย์ออฟพนักงานถึง 8 เปอร์เซ็นต์ เพื่อจัดสรรทรัพยากรใหม่

บริษัทด้านเทคโนโลยีสตอเรจและการจัดการบนคลาวด์ NetApp ได้ประกาศเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า เตรียมเลย์ออฟพนักงานทั่วโลกประมาณ 8 เปอน์เซ็นต์ ตามข้อมูลที่ยื่นแบบฟอร์มให้หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง เพื่อจัดสรรทรัพยากรใหม่ไปเน้นธุรกิจที่มีโอกาสมากที่สุดก่อน

แผนการเลย์ออฟนี้มีกำหนดจะเสร็จภายในปีงบประมาณ 2023 ของ NetApp ซึ่งน่าจะภายในวันที่ 28 เมษายน ครั้งนี้ไม่ใช่การเลย์ออฟครั้งแรกของบริษัท ช่วงครึ่งปีแรกของปีงบประมาณ 2022 ก็มีเลย์ออฟไปแล้ว 1 เปอร์เซ็นต์เพื่อปรับโครงสร้าง ลดการใช้พื้นที่สำนักงาน

นอกจากนี้ก็มีเลย์ออฟอีก 1 เปอร์เซ็นต์ช่วงต้นปีงบประมาณ 2023 เพื่อปรับโครงสร้าง จัดสรรทรัพยากรใหม่ให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ ทั้งนี้เมื่อกรกฎาคม 2023 NetApp มีพนักงานทั่วโลกประมาณ 12,000 คน อ้างอิงจากข้อมูลที่ยื่นต่อคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ

การเลย์ออฟครั้งนี้คาดว่าจะมีค่าใช้จ่ายจากการจ่ายค่าชดเชยและสวัสดิการที่เกี่ยวข้องจากการปรับโครงสร้างองค์กรอยู่ในช่วง 85 – 95 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ รวมแล้วในช่วงเดือนแรกของปีนี้ มีบริษัทไอทีที่ประกาศเลย์ออฟไปอย่างน้อย 17 บริษัท

อ่านเพิ่มเติมที่นี่ – CRN

from:https://www.enterpriseitpro.net/netapp-laying-off-8-percent-of-workforce/