คลังเก็บป้ายกำกับ: IBM_SOFTLAYER

CU ช่วยเสริมศักยภาพองค์กรด้วย IBM PureApplication ในการสร้าง Cloud Technology และ Docker: Tool ในการสร้าง Environment ช่วยติดตั้ง Application

จากการแข่งขันที่สูงขึ้นในโลกธุรกิจ หลายองค์กรเริ่มเห็นประโยชน์จากการใช้ Cloud Technology มากขึ้น เพื่อประหยัดต้นทุนในเรื่องของ Infrastructure และการบำรุงรักษา ทำให้มีความคล่องตัวและหันมาใส่ใจในเรื่องของการแข่งขันทางธุรกิจมากขึ้น การสร้างคลาวด์มีหลายรูปแบบ ทางคอมพิวเตอร์ยูเนี่ยน (CU) ขอเสนอการสร้างคลาวด์ด้วย IBM PureApplication และ Docker ที่เป็น Tool ในการสร้าง Environment ช่วยในการติดตั้ง Application รวมถึงการทำ Hybrid Cloud Integration

 

PureApplication คือ product ของ IBM สำหรับการสร้าง cloud ในระดับ SaaS (Software as a service) โดยมีทั้งหมด 3 editions ด้วยกัน เพือตอบโจทย์องค์การที่มีความหลากหลาย

  • PureApplication System สำหรับองค์กรขนาดใหญ่ ที่ต้องการสร้าง private cloud ภายในองค์กร โดยมาใน concept เดียวกับ Appliance คือผู้ใช้ไม่ต้องเตรียม infrastructure หรือติดตั้งโปรแกรม เพราะ PureApplication System มีการ pre-config เบื้องต้นมาแล้วจากโรงงาน โดยผู้ใช้สามารถเปิดเครื่อง config เบื้องต้นก็สามารถพร้อมใช้งานได้ในทันที
  • PureApplication Service (on SoftLayer) มาในรูปแบบของ public cloud ที่พร้อมใช้งานได้ในทันที และมีความยืดหยุ่น เนื่องจากสามารถเพิ่ม/ลด environment ต่างๆตามความต้องการได้ ทั้งยังไม่ต้องเตรียม infrastructure หรือไม่จำเป็นต้องดูแลระบบเอง เหมาะสำหรับองค์กรที่อยากลองเริ่มใช้งาน, ลักษณะงานแบบ by project หรือมี workload ที่ไม่แน่นอน
  • PureApplication Software สำหรับติดตั้งลงบน Hardware ขององค์กร โดยใช้ concept BYOH/BYOL (Bring your own hardware/Bring your own license) เหมาะสำหรับองค์กรที่มี Infrastructure พร้อมอยู่แล้ว และต้องการทำ private cloud แต่มีงบประมาณค่อนข้างจำกัด

 

Docker คือ Software container ลองนึกภาพง่ายๆ ว่าเป็นตู้ container ขนาดเล็กที่ข้างในมี Software และ environment ของ software ทั้งนี้ container ตู้นี้สามารถจะนำไปวางที่ไหนก็ได้ เนื่องจากมีขนาดเล็ก ใช้ทรัพยากรไม่เยอะ และไม่ได้รบกวนกับระบบอื่น ในขณะเดียวกันสิ่งที่อยู่ภายใน container ก็จะเป็น software อะไรก็ได้หรือมี environment อะไรก็ได้ที่เกี่ยวข้องตามที่ต้องการ

หลังจากที่ได้ทราบถึง product สำหรับการสร้าง cloud และ docker container กันแล้ว วันนี้เราจะมาดูกันว่า product ทั้งสองตัวนี้มีความเกี่ยวข้องกันอย่างไร

อย่างที่เราทราบว่า Docker container นั้นมีจุดเด่นในเรื่องการทำงานที่ใช้ทรัพยากรไม่เยอะ และสามารถนำไปรันบน on-premise หรือ cloud environment ได้ในลักษณะ Hybrid Cloud โดย IBM เองมี product หลายตัวที่สามารถทำงานร่วมกับ Docker container ได้เช่น PureApplication ที่สามารถ deploy pattern ของ Docker private registry เพื่อเป็น Repository สำหรับเก็บ images ของ software ภายในองค์กร แทน Docker Hub ที่เป็น Public repository ในขณะเดียวกันก็สามารถ deploy pattern ของ software ในรูปแบบ Docker container โดยเรียกใช้ image จาก Docker private registry ได้ โดย PureApplication เองซึ่งมีจุดเด่นในเรื่องของการทำ pattern deployment เมื่อนำมา deploy docker container ก็สามารถทำงานได้อย่างรวดเร็ว และง่ายดายผ่านทาง web console

นอกจากนี้ IBM ยังเป็น partner รายเดียวที่ลูกค้าสามารถ Subscribe docker support* ในกรณีที่ลูกค้ามีการใช้งาน docker solution และต้องการการดูแล ลูกค้าจึงสามารถหมดห่วงหากต้องการใช้ Docker solution ร่วมกับ IBM Software

 

Hybrid Cloud Integration – ขจัดปัญหาการรับส่งข้อมูลในระบบ Cloud ด้วย IBM AppConnect

หลายๆ องค์กรที่ใช้งาน Hybrid Cloud อาจจะพบปัญหาในเรื่องการรับส่งข้อมูลระหว่างระบบที่เป็น Public cloud กับ Private cloud เนื่องจากไม่สามารถรับส่งข้อมูลกันตรงๆ ได้ เนื่องจาก environment คนละแบบ ระบบคนละระบบกัน หรือ format ของข้อมูลไม่เหมือนกัน ทำให้ต้องมีการพัฒนา application หรือเขียน API สำหรับการแลกเปลี่ยนข้อมูลเอง ทำให้เสียเวลาและไม่มีความยืดหยุ่น ปัญหาเหล่านี้สามารถแก้ได้โดย IBM AppConnect ไม่ว่าจะเป็น Public cloud  ยี่ห้อไหน  Enterprise application ระบบใด หรือแม้แต่ ระบบ Application on premiss ก็จะสามารถเชื่อมต่อและแลกเปลี่ยนข้อมูลกันได้อย่างไม่สะดุดด้วย IBM AppConnect

 

Credit : เขียนโดย อนุกูล คงสกูล บริษัท คอมพิวเตอร์ยูเนี่ยน จำกัด

ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ บริษัท คอมพิวเตอร์ยูเนี่ยน จำกัด โทร 02 311 6881 # 7158

หรือ email : cu_mkt@cu.co.th

from:https://www.techtalkthai.com/build-your-own-cloud-technology-with-ibm-pureapplication-and-docker-by-computer-union/

สัมภาษณ์ Zanroo บริษัทคนไทยในตลาด Online Marketing Tools ที่กำลังก้าวสู่ระบบ Cloud เพื่อขยายบริการให้ครอบคลุมทั่วโลก

ibg_logo_2

ทางทีมงาน TechTalkThai มีโอกาสได้เข้าไปสัมภาษณ์กับทางทีมงาน Zanroo จากบริษัท Internet-based Business Group (IBG) ผู้ให้บริการะบบ Social Media Solution ที่จะช่วยให้องค์กรต่างๆ สามารถจัดการสื่อ Social Media และรับฟังความคิดเห็นของลูกค้าได้มากขึ้น โดยในการพูดคุยในครั้งนี้ทาง TechTalkThai มีโอกาสได้พูดคุยในแง่มุมเชิงเทคนิคและระบบ Cloud เป็นหลัก ก็เลยขอถือโอกาสมาสรุปเรื่องราวให้ได้ฟังกันดังนี้ครับ

zanroo_ss
Credit: http://www.zanroo.com

 

รู้จักกับ Zanroo ระบบ Data Analytics สำหรับงานด้านการตลาดบน Social Media และ Internet โดยเฉพาะ

ทางคุณ Chitpol Mungprom หรือคุณไฟต์ผู้ดำรงตำแหน่ง CEO และคุณ Udomsak Donkhampai หรือคุณอ๋อมผู้ดำรงตำแหน่ง CTO และทั้งคู่ก็เป็นผู้ก่อตั้งบริษัท Internet-based Business Group ขึ้นมาด้วยกัน และร่วมกันพัฒนาผลิตภัณฑ์ Zanroo ขึ้นมา ได้เล่าภาพรวมความเป็นมาของ Zanroo เอาไว้ให้ได้อย่างน่าสนใจทีเดียวครับ

“เขามีรถ ผมมีคอม” เป็นประโยคที่คุณอ๋อมกล่าวในขณะที่กำลังเล่าถึงความเป็นมาของ IBG และ Zanroo ที่เริ่มต้นจากการที่ผู้ก่อตั้งทั้งสองนั้นยังไม่มีอะไรเลย นอกจากความสามารถและวิสัยทัศน์ที่มีต่ออนาคตของวงการ Online Marketing อย่างชัดเจน

แรกเริ่มนั้นทั้งคู่มีไอเดียต่างๆ มากมายเกี่ยวกับการทำ Big Data Analytics เกี่ยวกับการนำมาปประยุกต์ใช้ทำการตลาดในโลกออนไลน์ก่อนที่คำว่า Big Data จะเป็นที่นิยมกันเสียอีก แต่สุดท้ายแล้วผลิตภัณฑ์ที่เลือกขึ้นมาทำก่อนก็คือ Zanroo ที่เริ่มต้นจากการทำ Social Listening ก่อนที่จะมีการขยับขยายกลายเป็น Online Marketing Tools ที่ครอบคลุมแทบจะทุกความต้องการของการใช้งานในฝ่ายการตลาดออนไลน์ระดับองค์กรไปอย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน

 

เติบโตด้วยความรู้เชิงเทคนิคและการขาย ไม่ต้องอาศัยนักลงทุน

อีกจุดเด่นที่ทำให้ Zanroo ยิ่งมีความน่าสนใจขึ้นไปอีกก็คือ ผู้ก่อตั้งทั้งคู่นี้ไม่ได้มีการระดมทุนเลยแม้แต่รอบเดียว แต่อาศัยการมุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่าง Zanroo ให้ตอบโจทย์การใช้งานของลูกค้าและองค์กรต่างๆ ให้มากขึ้นไปเรื่อยๆ จนมีลูกค้าองค์กรต่างๆ เข้ามามากมาย เป็นรายได้ให้กับทีมงานของ Zanroo สามารถเติบโตและขยายมาจนมีพนักงานเกินกว่า 50 คนแล้วในปัจจุบัน พร้อมยังมีการไปเปิดสาขาหลักที่ประเทศอังกฤษ เตรียมขยายออกไปสู่ตลาดโลกแล้วในตอนนี้

ด้วยการดำเนินตามแนวคิดนี้ ปัจจุบัน Zanroo มีลูกค้ากลุ่มองค์กรในไทยแทบจะทุกกลุ่มอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็นธนาคารชั้นนำอย่าง SCB และ KBANK, ผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือและเครื่องใช้ไฟฟ้าชั้นนำอย่าง Samsung หรือแม้แต่ผู้ให้บริการเครือข่ายสัญญาณโทรศัพท์ชั้นนำอย่าง True และ DTAC จนปัจจุบันในไทยมีลูกค้ารวมกว่า 90 องค์กร และเริ่มขยายไปสู่ลูกค้าต่างประเทศกว่า 30 องค์กร ทำให้ทีมงานของ Zanroo เองต้องมีการเรียนรู้และปรับปรุงเทคโนโลยีของตนอยู่ตลอด ไม่ว่าจะเป็นในเชิงการตอบโจทย์ธุรกิจในรูปแบบใหม่ๆ หรือการออกแบบระบบ IT Infrastructure ของตนเองให้เหมาะสมกับความต้องการใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา

 

วิเคราะห์ข้อมูลด้วย Virtual Machine 800 จำนวน 800 เครื่อง

ขึ้นชื่อว่าเป็นระบบ Big Data Analytics สำหรับการทำการตลาดแบบออนไลน์ Zanroo เองถือว่าเป็นบริษัทที่มีการพัฒนาเทคโนโลยีเฉพาะตัวต่างๆ เข้ามาใช้ค่อนข้างมากเลยทีเดียว โดยอัตราส่วนของระบบ Software ที่มีการใช้งานนั้น 20% นั้นเป็น Open Source ในขณะที่ 80% ที่เหลือคือ Software ที่มีการพัฒนาหรือปรับแต่งใช้กันเองเป็นการภายใน

Zanroo เองนั้นมีการพัฒนาทั้งระบบวิเคราะห์และตัดคำภาษาไทย, การทำ Sentiment สำหรับภาษาไทย, การวิเคราะห์ความนิยมของคำต่างๆ, การออกรายงานสำหรับลูกค้าแต่ละรายที่ต้องการข้อมูลรูปแบบที่แตกต่างกัน, การปรับแต่งฐานข้อมูลให้เหมาะสมต่อการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงการตลาด และอื่นๆ อีกมากมาย อีกทั้งยังต้องมีการปรับแต่งเทคโนโลยีเหล่านี้ให้รองรับภาษาของประเทศอื่นๆ ให้ได้ รวมถึงยังต้องมีการจัดเก็บข้อมูลหลักหลายร้อย Terabyte เพื่อใช้ในการวิเคราะห์เชิงสถิติย้อนหลัง ทำให้ Data Center ของ Zanroo นั้น โดยรวมแล้วมีการใช้งาน Virtual Machine มากกว่า 800 เครื่องเลยทีเดียว

ด้วยการเติบโตของ IT Infrastructure อย่างรวดเร็วนี้ Zanroo เองก็ต้องมีการศึกษาและทดสอบเทคโนโลยีใหม่ๆ อยู่เสมอ ซึ่งแน่นอนว่าเทคโนโลยีที่กำลังเป็นที่พูดถึงอย่างมากในเวลานี้อย่าง Docker หรือ Container เองนั้นก็เป็นหนึ่งในระบบที่ Zanroo เองก็ได้เข้าไปทดสอบด้วยเช่นกันเพื่อใช้เป็นทางเลือกในการตอบโจทย์ของระบบ Data Center ที่ขยายตัวอย่างรวดเร็ว

ส่วนหนึ่งที่กลายเป็นแนวคิดหลักทางด้านเทคโนโลยีของ Zanroo เองนั้นก็มาจากการที่ Zanroo มีจุดเริ่มต้นมาจากทีมงานเล็กๆ ทำให้ทุกๆ การใช้งานของ Server นั้นจะต้องมีการ Optimize อยู่เสมอ และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งแนวคิดที่ทำให้ถึงแม้ Zanroo จะเติบโตไปมากเพียงใด แต่ต้นทุนการดำเนินงานในเชิง IT Infrastructure นั้นก็ถือว่ายังมีความคุ้มค่าในระดับสูง

ibg_zanroo_img-content1

 

ตอบโจทย์การตลาดสำหรับองค์กรใหญ่ด้วยมาตรฐาน ISO 27001

เนื่องจากฐานลูกค้าทั้งหมดของ Zanroo คือองค์กรชั้นนำระดับประเทศและระดับโลก ดังนั้นการจัดการทางด้านความปลอดภัยของการจัดเก็บข้อมูลให้เป็นไปตามมาตรฐาน ISO / IEC 27001 นั้นก็ถือเป็นประเด็นที่สำคัญ ทาง Zanroo เองมองว่าการยกระดับบริการของตนให้ดียิ่งขึ้นและปลอดภัยยิ่งขึ้นนี้ นอกจากจะเป็นผลดีต่อลูกค้าของ Zanroo เองแล้ว ก็ยังจะเป็นการยกระดับมาตรฐาน Software ของวงการการตลาดออนไลน์ทั่วโลกให้สูงขึ้นด้วยเช่นกัน

 

เค้นประสิทธิภาพระดับสูงสุดจาก Cloud ด้วยการใช้ Bare Metal จาก IBM SoftLayer

แน่นอนว่าด้วยปริมาณของ Virtual Machine กว่า 800 เครื่องนั้นก็ถือเป็นจำนวนที่เยอะมากทีเดียว และการพิจารณาก้าวมาสู่บริการ Cloud นั้นก็เป็นทางเลือกที่เหมาะสมสำหรับทีมงาน Zanroo ในเวลานี้ ซึ่งหลังจากทำการทดสอบและพิจารณาทางเลือกต่างๆ แล้ว ทีมงาน Zanroo ก็ตัดสินใจว่าจะเลือกใช้บริการ Cloud แบบ Bare Metal เพื่อตอบโจทย์ทางด้านประสิทธิภาพและความคุ้มค่าเป็นหลัก ในขณะที่มีทีมงานของผู้ให้บริการ Cloud มาคอยช่วยแก้ไขปัญหาต่างๆ ให้อย่างรวดเร็ว

การที่บริการ Cloud แบบ Bare Metal มีความคุ้มค่าสูงนั้น ก็เป็นเพราะว่า Zanroo เองนั้นต้องการลงทุนในระยะยาว การใช้บริการ Cloud ในรูปแบบอื่นๆ ค่าใช้จ่ายจะเติบโตไปตามปริมาณการใช้งานไปอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่การใช้บริการ Cloud แบบ Bare Metal นั้นจะทำให้การลงทุนเพิ่มขยายระบบเกิดขึ้นเพียงครั้งแรกเท่านั้น จากนั้นก็สามารถใช้ Resource ที่เพิ่มขยายมาแล้วต่อไปได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เหมาะกับความถนัดของทีมงาน Zanroo ที่สามารถ Optimize ระบบงานต่างๆ ได้เป็นอย่างดีนั่นเอง

บริการ Bare Metal Cloud ที่ Zanroo เลือกนี้คือบริการ IBM Cloud โดย SoftLayer เครื่องใหญ่สุด (ใครที่สนใจลองศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.softlayer.com/m/bare-metal-servers) ซึ่งนอกจากประเด็นทางด้านประสิทธิภาพและความคุ้มค่าที่ทาง Zanroo ได้ทดสอบไปแล้วนั้น การที่ IBM มีสาขาในประเทศไทยและทั่วโลกเอง ก็ทำให้การทำ Transaction ในการเช่าใช้บริการ Cloud นั้นสามารถทำได้สะดวก อีกทั้ง IBM เองก็ยังเป็นฐานที่จะช่วยให้บริการของ Zanroo เติบโตและเข้าสู่ตลาดต่างประเทศได้ง่ายขึ้นไปด้วยในเวลาเดียวกัน

 

ให้ IBM SoftLayer ช่วยตอบโจทย์เรื่องมาตรฐาน ISO 27001 บน Cloud

จากการที่ Zanroo ต้องการยกระดับมาตรฐาน Software ของวงการการตลาดออนไลน์ทั่วโลก การเลือกใช้บริการ Cloud ที่ผ่านการรองรับ ISO 27001 จึงเป็นประเด็นสำคัญ และ IBM SoftLayer เองก็ถือเป็นหนึ่งในไม่กี่บริการ Cloud ที่ตอบโจทย์นี้ได้สำหรับ Zanroo นั่นเอง และทำให้การตัดตัวเลือกของบริการ Cloud สำหรับองค์กรเหลือทางเลือกเพียงไม่กี่ทางให้ต้องพิจารณาเท่านั้น

 

ติดต่อ Zanroo ได้โดยตรง

สำหรับผู้ที่สนใจเครื่องมือวิเคราะห์การตลาดของ Zanroo สามารถติดต่อทีมงานของ Zanroo โดยตรงได้ทันทีที่ https://www.zanroo.com/ เลยนะครับ

 

ก็จบเพียงเท่านี้กับการสรุปสัมภาษณ์ในครั้งนี้ครับ ถือเป็นการเปิดหูเปิดตาที่น่าสนใจดีทีเดียว ทางทีมงาน TechTalkThai ก็ขอขอบคุณทีมงาน Zanroo ที่สละเวลามาให้สัมภาษณ์ในครั้งนี้ด้วยนะครับ

from:https://www.techtalkthai.com/zanroo-interview-on-moving-to-cloud/

Stream I.T. Consulting กับการเดินทางร่วมกับ IBM สู่การตอบโจทย์ Data Center องค์กรด้วย Cloud ในอนาคต

stream_it_orange_logo_h100

ถ้าจะพูดถึงชื่อของ Stream I.T. Consulting บริษัทผู้ให้บริการครบวงจรทางด้าน Digital Business และ Digital Transformation แล้ว หลายๆ คนก็คงจะนึกถึงชื่อของ IBM ขึ้นมาแทบจะพร้อมๆ กันขึ้นมาเลย นั่นก็เป็นเพราะว่า Stream I.T. Consulting และ IBM นั้นเป็น Partner เหนียวแน่นกันมาอย่างยาวนานตั้งแต่ Stream I.T. Consulting เพิ่งเปิดบริษัทได้ใหม่ๆ ก็ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่าง Stream I.T. Consulting และ IBM นี้ดำเนินมายาวนานกว่า 18 ปีเลยทีเดียว จนมาถึงปัจจุบันนี้ Stream I.T. Consulting เองก็มีโซลูชั่นร่วมกับ IBM มากมาย พร้อมสำหรับการตอบโจทย์ลูกค้าระดับองค์กรได้อย่างกว้างขวางและครอบคลุม

บทความนี้จะพยายามเล่าถึงความเป็นมาของ Stream I.T. Consulting ในแง่มุมที่มีต่อการเลือกนำเสนอโซลูชั่นต่างๆ และมุมมองต่ออนาคตของวงการ IT ในประเทศไทยจากฝั่งของ Stream I.T. Consulting นะครับ ซึ่งเชื่อว่าข้อมูลตรงนี้น่าจะเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านหลายๆ คนไม่มากก็น้อย เพราะแนวโน้มเทคโนโลยีทางด้าน Data Center เองก็มีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วในช่วงระยะเวลาไม่กี่ปีที่ผ่านมา การมองวิสัยทัศน์จากบริษัท Stream I.T. Consulting เป็นแนวทางตัวอย่างก็ถือเป็นข้อมูลที่ดีครับ

 

Server และ Storage: ยุคของ Turn Key Solution พร้อมบริการครบวงจร

ในยุคแรกเริ่มนั้นทุกๆ องค์กรต่างก็ต้องเริ่มลงทุนสร้าง Data Center ของตัวเอง เพื่อรองรับ IT Infrastructure ต่างๆ ที่จะตามเข้ามาเพื่อช่วยเปลี่ยนถ่ายจากยุคของเอกสารกระดาษมาสู่ยุคของ Digital และ Automation ดังนั้นสิ่งที่ Stream I.T. Consulting เข้ามาเติมเต็มความต้องการของตลาดในเวลานั้นก็คือการนำเสนอ Turn Key Solution สำหรับองค์กรพร้อมเติมเต็ม Solution อื่นๆ ที่จะช่วยเร่งให้องค์กรสามารถปรับตัวเข้าสู่ยุคของระบบ Digital ได้อย่างรวดเร็วที่สุด

Turn Key Solution นั้นก็คือ Solution สำเร็จรูปที่สามารถตอบโจทย์ที่ลูกค้าต้องการได้นั่นเอง โดยลูกค้านั้นก็จะมีโจทย์ต่างๆ ให้กับทาง Stream I.T. Consulting เพื่อให้ทีมงานของ Stream I.T. Consulting ได้ลงไปทำการศึกษาทั้งในเชิงของธุรกิจและ IT จากนั้นจึงนำเสนอ Solution ที่ประกอบไปด้วยทั้ง Application, IT Infrastructure และ Service กลับไปยังลูกค้า ทำให้การลงทุนของลูกค้ามีความชัดเจน ง่ายต่อการตัดสินใจ และยังรองรับไปถึงการบริการในระยะยาวเพื่อให้มั่นใจว่าระบบงานต่างๆ จะยังคงตอบสนองต่อความต้ตองการของธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงไปได้ด้วย

ในยุคของ Turn Key Solution นี้ Hardware และ Software ต่างๆ นั้นมีความสำคัญเป็นอย่างมากต่อการออกแบบ Solution ใดๆ และ Stream I.T. ก็เลือกใช้ระบบต่างๆ จาก IBM ดังนี้

ibm_server_powersystems

IBM Power Systems

Server ประสิทธิภาพสูงจาก IBM ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับการทำงานร่วมกับ CPU ชั้นนำอย่าง IBM POWER โดยเฉพาะ ด้วยความทนทานที่สูง, ความเร็วที่เหนือกว่า x86 CPU และเทคโนโลยีต่างๆ ที่ออกแบบมาสำหรับการรองรับ Application และ Infrastructure ต่างๆ ที่จำเป็นต่องานระดับองค์กรโดยเฉพาะ

 

IBM PowerVM

ระบบ Virtualization จาก IBM สำหรับใช้งานบน IBM Power Systems โดยเฉพาะ ที่รองรับทั้งการจัดการ Partition เพื่อแบ่ง Resource ต่างๆ สำหรับ Virtual Machine, การบริหารจัดการผ่านหน้าเว็บ และการเสริมความทนทานด้วยเทคโนโลยีการทำ High Availability และ Disaster Recovery พร้อมความปลอดภัยในระดับสูงสำหรับการใช้งานระดับองค์กร

 

IBM AIX

ระบบปฏิบัติการ UNIX จาก IBM เพื่อให้บริการ Mission Critical Application โดยเฉพาะ ด้วยประสิทธิภาพการทำงานที่สูง, ความเข้ากับได้กับ IBM Power Systems และ IBM PowerVM, การรองรับ Application และ Service ที่หลากหลาย, มีความทนทาน และความปลอดภัย อีกทั้งยังสามารถทำการ Migrate จากระบบต่างๆ มาใช้งานบน IBM AIX แทนเพื่อคุณสมบัติทั้งหมดที่กล่าวมานี้ได้อย่างง่ายดาย

ibm_ds8880_hybrid_storage

IBM Storage DS Series

ระบบ Disk Storage ที่มีความสามารถครบถ้วนจาก IBM และมีทั้งรุ่นขนาดเล็กสำหรับธุรกิจ SMB และรุ่นขนาดใหญ่สำหรับธุรกิจระดับองค์กร

 

IBM Storwize Series

ระบบ Disk Storage ที่ใช้เทคโนโลยี IBM Spectrum Virtualize และรองรับความสามารถชั้นสูงอย่างเช่นการทำ Real-time Compression เพื่อบีบอัดข้อมูลที่ทำการจัดเก็บ และ Easy Tier เพื่อให้สามารถทำ Tiering ร่วมกันระหว่าง Solid State Drive (SSD) และ Hard Disk Drive (HDD) ได้อย่างง่ายดาย

 

IBM PureSystems

ระบบ Integrated IT Infrastructure สำเร็จรูปที่รองรับทั้งการทำ Cloud Application, Big Data Analytics, Cloud Infrastructure และ Hybrid Cloud จาก IBM

 

ซึ่ง IT Infrastructure ต่างๆ เหล่านี้ก็จะถูกนำมาใช้เพื่อให้บริการระบบ Software ต่างๆ จาก IBM ที่มีการปรับแต่งโดยทีมงาน Stream I.T. Consulting เพื่อให้เข้ากับการทำงานของลูกค้าได้ ไม่ว่าจะเป็น

  • IBM Content Manager OnDemand ระบบบริหารจัดการเอกสารและรายงาน
  • IBM Intelligent Business Process Management ระบบบริหารจัดการและปรับปรุงกระบวนการทำงานภายในองค์กร
  • IBM Enterprise Content Management ระบบบริหารจัดการ Workflow ของเอกสารและวิเคราะห์ข้อมูลจากเอกสารเหล่านั้น
  • IBM B2B ระบบการทำธุรกรรมระหว่างองค์กรอย่างปลอดภัย

 

Mainframe: เทคโนโลยีที่อยู่ข้ามยุคสมัยและกาลเวลา

IBM z Systems เป็นระบบ Mainframe ประสิทธิภาพสูงสำหรับทำหน้าที่เป็น IT Infrastructure ขนาดใหญ่มาตั้งแต่ยุคแรกเริ่มของวงการ IT จวบมาจนถึงปัจจุบัน และจะยังคงมีบทบาทต่อไปในอนาคต ด้วยการทุ่มเทเทคโนโลยีและทรัพยากรของ IBM เข้าไปเพื่อพัฒนาและปรับปรุง IBM z Systems ให้สามารถตอบโจทย์ของ Data Center ขนาดใหญ่, Application ขนาดใหญ่, Mobile Application, Encrypted Transaction, Big Data Analytics, Virtualization และ Cloud Infrastructure ได้ด้วยประสิทธิภาพที่สามารถทดแทน x86 Server ได้มากถึง 20-30 เครื่องได้เลยทีเดียว

ibm_z13_1

นอกจากนี้ด้วยความสามารถในการลดต้นทุนค่าใช้จ่ายต่างๆ ของ Data Center ลงได้ในระยะยาว ก็ทำให้ระบบ Mainframe นี้ยังคงเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับองค์กรขนาดใหญ่มาโดยตลอด และมีแนวโน้มการเติบโตขององค์กรที่จะทำการ Migrate ระบบ Linux และ Unix Application ที่เคยใช้งานอยู่ทั้งหมดไม่ว่าจะเป็น Application บน IBM AIX, HP-UX หรือแม้แต่ Oracle Solaris มายัง IBM z Systems มากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อเพิ่มความคุ้มค่าในการลงทุนให้แก่องค์กร และพร้อมต่อยอดเป็นระบบ Private Cloud ได้อีกด้วย

 

Cloud: เทคโนโลยีแห่งอนาคตที่องค์กรต้องรีบทำความเข้าใจโดยด่วน

ด้วยประสบการณ์ของทีมงาน Stream I.T. Consulting ที่ได้เข้าไปทำความเข้าใจในความต้องการของลูกค้ามาโดยตลอดนั้น ก็ทำให้ Stream I.T. Consulting มีความมั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่า Cloud Computing นั้นจะเป็นที่ต้องการสำหรับตลาดองค์กรและ SMB ในประเทศไทยอย่างแน่นอน และความต้องการเหล่านั้นก็จะมีความหลากหลายมากจนทำให้ Cloud Provider ที่มีอยู่ในปัจจุบันนี้ไม่เพียงพอที่จะตอบโจทย์ขององค์กรต่างๆ ได้อย่างครอบคลุม ทีมงานของ Stream I.T. Consulting จึงได้ทำการศึกษาค้นคว้า Solution ต่างๆ มาตอบโจทย์ของระบบ Cloud ดังต่อไปนี้

  • Professsional Cloud Service จาก Stream I.T. Consulting ที่ลงทุนสร้าง Cloud Data Center ภายในประเทศไทยสำหรับให้บริการได้ทั้งลูกค้ากลุ่ม SMB และองค์กรขนาดใหญ่ให้ใช้งานระบบ Mission Critical Applciation และจัดเก็บ Sensitive Data ได้อย่างมั่นใจ รวมถึงยังพร้อมนำเทคโนโลยีต่างๆ เข้าไป Implement เป็นระบบ Cloud IT Infrastructure ด้วยเทคโนโลยีจาก IBM และผู้ผลิตรายอื่นๆ รองรับได้ทั้งการทำ On-premises, Public Cloud, Private Cloud และ Hybrid Cloud ได้อีกด้วย
  • IBM SoftLayer Cloud ที่ตั้งอยู่ต่างประเทศ สำหรับตอบโจทย์ระบบ Cloud ที่ไม่มีการจัดเก็บ Sensitive Data ขององค์กร เพื่อให้ง่ายต่อการเพิ่มขยาย และคุ้มค่าต่อการลงทุนเป็นหลัก
  • IBM Bluemix ระบบ Cloud ที่รองรับได้ทั้ง On-premises, Public Cloud, Private Cloud และ Hybrid Cloud จาก IBM พร้อมต่อยอดเป็นระบบ DevOps สำหรับองค์กรได้อย่างง่ายดาย

ดังนั้นสิ่งที่องค์กรต่างๆ ควรรีบทำความเข้าใจ ก็คือการทำความเข้าใจต่อระบบงานต่างๆ ที่มีอยู่ เพื่อให้เลือกระบบ Cloud ที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของระบบต่างๆ เหล่านั้นได้อย่างครบถ้วน และมีค่าใช้จ่ายในการลงทุนที่คุ้มค่ากว่าระบบเดิม ซึ่งทีมงานของ Stream I.T. Consulting ก็มีความพร้อมที่จะเข้าไปแนะนำและให้คำปรึกษากับทุกๆ องค์กรทางด้านการลงทุนระบบ Cloud และการเลือกใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสมแล้ว

ibm_bluemix_banner

สำหรับผู้ที่สนใจระบบ IT Infrastructure, Cloud และ Turn Key Solution นั้น ทางทีมงาน บริษัท สตรีม ไอ.ที. คอนซัลติ้ง จำกัด มีความพร้อมในการให้คำปรึกษา, ติดตั้งระบบ และบริหารจัดการโครงการทั้งหมด โดยสามารถติดต่อทีมงานบริษัท สตรีม ไอ.ที. คอนซัลติ้ง จำกัดได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 0-2679-2233 หรืออีเมลล์ info@stream.co.th

ติดตามข่าวสารผ่านทางเว็บไซด์ www.stream.co.th และ Facebook Fan Page https://www.facebook.com/Streamitconsulting

from:https://www.techtalkthai.com/stream-i-t-consulting-and-journey-with-ibm-solution-on-data-center-market-in-thailand/

เปลี่ยน VMware vSphere ที่มีให้กลายเป็น Hyper-Converged ง่ายๆ ด้วย IBM Spectrum Accelerate พร้อมต่อยอดเป็น Hybrid Cloud

dcs_logo-with-text-screen-tr

สำหรับองค์กรที่มีการใช้งาน VMware vSphere เพื่อทำ Virtualization Data Center จนพบกับปัญหาคอขวดของ SAN Storage ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่เต็ม หรือคอขวดทางด้านประสิทธิภาพ และคุณก็ต้องการที่จะแก้ไขปัญหานี้ ซึ่งการเพิ่มขยาย SAN ที่มีอยู่เดิมนั้นก็อาจจะยุ่งยากหรือมีราคาสูง

เพื่อแก้ปัญหานี้ ไปพร้อมๆ กับการวางแผนทางด้านเทคโนโลยีในระยะยาว DCS ขอแนะนำ IBM Spectrum Accelerate ระบบ Software Defined Storage ที่จะช่วยเปลี่ยน VMware vSphere ทั้งหมดในองค์กรของคุณให้กลายเป็น Hyper-Converged Infrastructure และรองรับการทำ Hybrid Cloud ต่อเนื่องได้ทันทีในอนาคต ด้วยราคาที่คุ้มค่า และเทคโนโลยีที่เหนือล้ำกว่าใคร

 

IBM Spectrum Accelerate: ระบบ Software Defined Storage ที่ต่อยอดมาจาก IBM XIV

ibm_spectrum_accelerate_banner

ถ้าใครที่คุ้นเคยกับเทคโนโลยี Storage ของ IBM มาก่อน ก็คงจะต้องเคยได้ยินชื่อ Storage รุ่นในตำนานอย่าง IBM XIV ซึ่งวันนี้ IBM ก็ได้ตัดสินใจนำเทคโนโลยีของ IBM XIV มาปรับให้กลายเป็น Software Defined Storage หรือ SDS ที่ทำงานเป็น Virtual Machine บน VMware vSphere แทนนั่นเอง

ในการทำงานนั้น เครื่อง Virtual Machine ของ IBM Spectrum Accelerate จำนวนเริ่มต้นที่ 3 เครื่องนั้นจะทำงานร่วมกัน โดยแต่ละเครื่องจะนำ Local Drive ที่มีอยู่มาสร้างเป็น Storage Pool ร่วมกันแบบ Redundant ให้กลายเป็น Distributed Storage กลางที่ VMware vSphere ทุกเครื่องจะเห็นเป็น Storage กลางเพียงชุดเดียว พร้อมสำหรับใช้เป็น Datastore ได้ทันที

ibm_spectrum_accelerate_diagram

ด้วยการพัฒนาต่อยอดมาจาก IBM XIV นี้ ทำให้ Feature ต่างๆ ของ IBM XIV นั้นยังคงสามารถใช้งานบน IBM Spectrum Accelerate ได้อย่างครบถ้วน รวมถึงยังได้เพิ่มความสามารถใหม่ๆ มาดังต่อไปนี้

  • รองรับความจุต่อระบบตั้งแต่ 8TB – 325TB Usable Capacity ด้วย VMware vSphere Host ตั้งแต่ 3-15 เครื่อง
  • รองรับการบริหารจัดการร่วมกันสูงสุดได้ 144 ระบบ รวมความจุสูงสุดถึง 45PB
  • มีระบบ Data Distribution, Distributed Cache, Quality of Service และใช้ Flash เข้ามาเพิ่มขนาดของ Cache
  • ทำ Grid Redundancy จำนวน 2 Copy สำหรับทุกๆ Data Partition ขนาด 1MB กระจายอยู่ใน VM ที่แตกต่างกัน ที่มีการทำ Proactive Diagnostics, Automatic Rebuild และ Event Extenalization
  • มีระบบ Self Healing ที่จะซ่อมแซมข้อมูลส่วนที่เสียหายได้อย่างรวดเร็วมาก
  • สามารถทำ Snapshot ได้ โดยรองรับการทำ Writable Snapshot และการทำ Snapshot of Snapshot รวมถึงการกู้ระบบจาก Snapshot ได้
  • สามารถทำ Thin Provisioning ระดับ Pool ได้, ย้ายข้อมูลจาก Thick-to-Thin ได้
  • รองรับการ Mirror ข้อมูลได้ทั้งแบบ Synchronous และ Asynchronous รวมถึงสามารถ Mirror ข้อมูลกับ IBM XIV ที่มีอยู่ได้
  • สามารถกำหนด Volumes and Consistency Group ได้ โดยมีค่า Recovery Point Objective ในหลักวินาที
  • มีระบบ Monitoring ภายในตัวอย่างครอบคลุม ทั้ง Network, Disk, Data Center, I/O, Usage, Trend
  • แบ่งส่วนการบริหารจัดการได้แบบ Role-based, รองรับการทำ Multi-tenancy, iSCSI CHAP/Audit และยืนยันตัวตนกับ AD/LDAP ได้
  • บริหารจัดการผ่าน VMware VASA และเชื่อมต่อกับ VMware VAAI/VMware SRM ได้
  • รองรับการสำรองข้อมูลด้วย IBM Spectrum Protect และ VMware VADP ได้
  • รองรับการเชื่อมต่อกับ OpenStack Cinder ได้
  • สามารถใช้งานบนระบบ Cloud ของ IBM SoftLayer ได้

จะเห็นได้ว่าถึงแม้จะเป็น Software Defined Storage แต่ความสามารถนั้นก็ครอบคลุมรอบด้านไม่แพ้กับ Storage รุ่นสูงสุดของผู้ผลิตหลายๆ รายเลย อีกทั้งยังสามารถใช้งานบน Cloud ได้ ดังในหัวข้อถัดไป

 

Hyper-Converged Architecture ที่พร้อมจะต่อยอดเป็น Hybrid Cloud ได้

IBM ไม่ได้มองแค่ภาพเล็กๆ สำหรับให้ใช้งาน IBM Accelerate ภายใน Data Center ขององค์กรเท่านั้น แต่ด้วยสถาปัตยกรรมที่เป็นระบบ Grid ซึ่งสามารถทำ Mirroring ได้อย่างหลากหลาย ทำให้ IBM วางแผนที่จะทำให้ IBM Spectrum Accelerate เป็นส่วนหนึ่งที่จะทำให้องค์กรต่างๆ สามารถเริ่มต้นใช้เทคโนโลยี Hybrid Cloud ได้เร็วขึ้น ด้วยการเปิดบริการ IBM Spectrum Accelerate บนระบบ Cloud อย่าง IBM SoftLayer เป็นอีกทางเลือกให้องค์กรด้วยนั่นเอง

ibm_spectrum_accelerate_hybrid_cloud_diagram

การที่มี IBM Spectrum Accelerate ให้ใช้บน Cloud นี้ ทำให้องค์กรที่ใช้งาน IBM XIV อยู่ หรือกำลังใช้งาน IBM Spectrum Accelerate อยู่นี้สามารถทำการ Mirror ข้อมูลเข้ากับ Cloud เพื่อทำ Disaster Recovery ได้ทันที หรือแม้แต่จะย้ายระบบทั้งหมดเพื่อขึ้นไปใช้งานต่อบน Cloud เลยก็สามารถทำได้เช่นกัน

แต่สำหรับองค์กรที่ไม่ได้ต้องการใช้งานถึงระดับ Hybrid Cloud นั้น IBM Spectrum Accelerate เองนี้ก็สามารถถูกทำการบริหารจัดการร่วมกันได้สูงสุดถึง 144 ระบบ มีพื้นที่รวมกันสูงสุดถึง 45PB (ประมาณ 45,000TB) และทำให้การสร้าง Private Cloud ขององค์กรเองจากเทคโนโลยี Software Defined Storage นี้ก็เป็นจริงขึ้นมาได้อย่างง่ายดาย

 

Spec ขั้นต่ำสำหรับใช้งาน

ในการใช้งาน IBM Spectrum Accelerate นั้น ทาง IBM แนะนำให้เริ่มต้นที่ VMware vSphere จำนวนตั้งแต่ 3 เครื่องขึ้นไป โดยแต่ละเครื่องจะต้องติดตั้ง Virtual Machine ของ IBM Spectrum Accelerate ซึ่งมี Spec ขั้นต่ำดังนี้

  • 6x Non-virtualized Physical Cores
  • 48GB Physical Memory
  • 4x 10GbE Ports
  • 12x Hard Drive ที่มีขนาดไม่เกินกว่า 4TB
  • 1x 800GB SSD สำหรับทำหน้าที่เป็น Cache

แต่จากการทดสอบพบว่าจริงๆ แล้ว IBM Spectrum Accelerate ก็พอที่จะทำงานบน 1GbE Network ได้อยู่เช่นกัน รวมถึง Drive ต่างๆ ที่เริ่มใช้งานได้โดยไม่ต้องมี SSD และไม่ต้องมีจำนวนมากถึง 12 ชุดก็สามารถเริ่มต้นใช้งานได้ทันที

 

สำหรับองค์กรใดๆ ที่สนใจเทคโนโลยีทางด้าน Server หรือ Storage จาก IBM และต้องการให้ทีมงาน Datapro เข้าไปนำเสนอและช่วยให้คำปรึกษา หรือ ERP Consulting และ Software Provider รายใดที่ต้องการเป็นพาร์ทเนอร์กับ Datapro ในการให้บริการทางด้าน IT Infrastructure ด้วย IBM ก็สามารถติดต่อทีมงาน DCS ได้ทันทีที่คุณดวงเดือน โทร 02-684-8484

 

ข้อมูลเพิ่มเติม

from:https://www.techtalkthai.com/transform-vmware-vsphere-with-ibm-spectrum-accelerate-to-hybrid-cloud/

IBM จับมือ ARM เสริมการทำ Data Analytics ให้อุปกรณ์ ARM mbed ตอบโจทย์ IoT สำหรับองค์กรด้วย Cloud

ibm_logo

IBM ได้ทำการร่วมมือกับ ARM ต่อยอดโครงการ IBM IoT Foundation โดยการรองรับการทำ Data Analytics บน IBM Cloud ให้แก่ทุกอุปกรณ์ที่ใช้เทคโนโลยีจากโครงการ ARM mbed ซึ่งมุ่งเน้นการพัฒนาซอฟต์แวร์เพื่อรองรับอุปกรณ์ IoT โดยเฉพาะร่วมกับ Partner หลายเจ้าทั่วโลก เป็นการเสริมศักยภาพสุดท้ายของอุปกรณ์ IoT ให้สามารถนำเข้อมูลมาวิเคราะห์ร่วมกันเพื่อสร้างคุณค่าใหม่ๆ ให้กับธุรกิจได้

arm_mbed_technology

การประกาศเปิดตัวครั้งนี้เรียกได้ว่าเป็นการเปิดตัวครั้งแรกของ IBM Cloud ที่ถูกออกแบบมาเพื่อตอบรับความต้องการของตลาด Internet of Things โดยเฉพาะ (ดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ http://www.ibm.com/IoT) และจะช่วยให้ผู้ผลิตวงจรอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ สามารถทำการรวบรวมข้อมูลจาก Sensor ที่ผลิตขึ้น เพื่อมาวิเคราะห์ร่วมกับข้อมูลอื่นๆ เพื่อนำเสนอบริการ Real-time Analytics ได้ โดยภายในโครงการ IBM IoT Foundation นี้จะใช้ระบบ Cloud ของ IBM SoftLayer ที่เสริมความสามารถดังต่อไปนี้เข้ามา

ibm_internet_of_things_foundation

  • สามารถวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ที่เติบโตอย่างรวดเร็วได้
  • เชื่อมต่อกับ IBM BlueMix ระบบ Platform-as-a-Service ของ IBM เพื่อสร้างช่องการในการเข้ามาวิเคราะห์ข้อมูลสำหรับผู้ใช้งานได้
  • มีระบบรักษาความปลอดภัยที่จะช่วยให้ข้อมูลขององค์กรจากระบบ IoT ไม่รั่วไหลออกไป ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลลับ, Intellectual Property หรือแม้แต่ข้อมูลทางกลยุทธ์ของธุรกิจก็ตาม

การร่วมมือกันครั้งนี้จะทำให้อุปกรณ์ที่ใช้เทคโนโลยี ARM mbed IoT Device Platform ทั้งหมด (ดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ https://www.mbed.org/) สามารถทำการลงทะเบียนและเชื่อมต่อเข้ากับ IBM IoT Foundation ได้โดยอัตโนมัติ เพื่อนำข้อมูลเหล่านั้นไปวิเคราะห์ หรือส่งคำสั่งกลับมาตามเงื่อนไขที่ได้รับมายัง ARM mbed Device และทำการส่งคำสั่งใหม่ๆ ไปยังเครื่องจักรต่างๆ

mbed_logo

ทั้งหมดนี้จะทำให้ผู้ผลิตวงจรอิเล็กทรอนิกส์ และธุรกิจต่างๆ สามารถนำเทคโนโลยี IoT ไปใช้สร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้นกว่าแต่ก่อน และไม่ต้องสร้างระบบ Data Analytics ของตนเองใหม่ตั้งแต่เริ่ม อีกทั้งยังมีมาตรฐานกลางให้ใช้งานร่วมกันได้จาก ARM mbed ในขณะที่ยังคงมีการเสริมความปลอดภัยให้กับระบบด้วย ก็จะทำให้นวัตกรรมใหม่ๆ นั้นถูกนำเสนอสู่ตลาดได้อย่างรวดเร็วนั่นเอง

ที่มา: http://www-03.ibm.com/press/us/en/pressrelease/47579.wss

from:https://www.techtalkthai.com/ibm-and-arm-to-deliver-data-analytics-for-enterprise-iot-on-arm-mbed-via-cloud/

IBM นำเสนอโซลูชั่น Private-Cloud-as-a-Service สำหรับองค์กรด้วย Blue Box พร้อมต่อยอดเป็น Hybrid Cloud ได้

ibm_logo

หลังจากที่ IBM เข้าซื้อกิจการของ Blue Box มาได้ราวๆ 3 เดือน ในวันนี้ IBM ก็พร้อมให้บริการ Blue Box Cloud Dedicated ซึ่งเป็นบริการสำหรับ Private-Cloud-as-a-Service (PCaaS) ที่มี OpenStack เป็นเทคโนโลยีหลักนั่นเอง โดยองค์กรที่นำ Blue Box Cloud Dedicated ไปใช้นี้ จะมีระบบ Private Cloud ที่สามารถบริหารจัดการประสิทธิภาพและค่าใช้จ่ายของแต่ละระบบที่ทำงานอยู่บน Private Cloud ได้ อีกทั้งยังสามารถทำ Provisioning และ Operations Support ได้อย่างง่ายดายเสมือนระบบ Public Cloud

Waiting at midnight to depart from SFO to Manila on a direct flight.
Waiting at midnight to depart from SFO to Manila on a direct flight.

โดยรวมแล้ว IBM Blue Box Dedicated มีความสามารถดังนี้

  • ทำให้องค์กรสามารถสร้าง Private Cloud บน Dedicated Server ที่มีอยู่ได้ผ่าน OpenStack
  • สามารถมีระบบ Private Cloud ที่กระจายอยู่ตาม Data Center หลายสาขาขององค์กรได้
  • สามารถมีระบบ Hybrid Cloud ทำงานร่วมกับ IBM SoftLayer ได้
  • สามารถใช้งาน Open Source ภายในระบบ Cloud ขององค์กรได้อย่างอิสระ

 

ibm_Nx1000xblue-box-cloud-stack.png.pagespeed.ic.mOUJCqLUWs

สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถตรวจสอบราคาของการใช้งาน IBM Blue Box ได้ทันทีที่ https://www.blueboxcloud.com/products/pricing

ที่มา: http://www-03.ibm.com/press/us/en/pressrelease/47556.wss 

from:https://www.techtalkthai.com/ibm-launched-blue-box-private-cloud-as-a-service/

IBM เสริมความสามารถให้ Spectrum Storage สำรองข้อมูลและระบบไปยัง Cloud ได้

ibm_logo

IBM ได้ประกาศเพิ่มความสามารถให้ Spectrum Protect ซึ่งเป็นระบบสำรองข้อมูล และ Spectrum Accelerate ระบบ Software Defined Storage โดยเพิ่มความสามารถดังต่อไปนี้

IBM Spectrum Protect

ibm_spectrum_protect_dashboard

ในเวลานี้ IBM Spectrum Protect สามารถทำการสำรองข้อมูลไปยังทั้ง Object Storage ภายในองค์กร และระบบ Cloud จาก IBM SoftLayer ได้แล้ว โดยในอนาคตจะรองรับการสำรองข้อมูลไปยัง Cloud จากผู้ให้บริการอื่นๆ เพิ่มเติม โดยจากการวิเคราะห์ค่าใช้จ่ายของลูกค้ากลุ่มทดลองนั้นพบว่าสามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายในการสำรองข้อมูลให้กับธุรกิจ SMB ได้มากถึง 53%

นอกจากนี้ IBM Spectrum Protect จะยังถูกเสนอเป็น Option ภายในระบบ VersaStack ซึ่งเป็น Integrated Infrastructure ร่วมกันระหว่าง IBM และ Cisco อีกด้วย

IBM Spectrum Accelerate

IBM เปิดตัวบริการ IBM Spectrum Accelerate on Cloud ซึ่งจะเป็นบริการของ Spectrum Accelerate as a Service บน Cloud ของ IBM SoftLayer นั่นเอง โดยทำให้ SoftLayer มีระบบ Block Storage ให้ใช้งานโดยองค์กรไม่ต้องซื้อ Storage เองอีกต่อไป และทำให้องค์กรมีทางเลือกในการทำ Remote Backup, Remote Snapshot และ Asynchronous Replication Data Center ในราคาประหยัดได้

ที่มา: http://www.ibm.com/press/us/en/pressrelease/47544.wss

from:https://www.techtalkthai.com/ibm-integrated-spectrum-storage-with-the-cloud/

IBM จับมือ True จัดงาน Thailand Startup SmartCamp 2015 ส่งโซลูชั่น Smart Cities จากไทยไป Silicon Valley

ibm_logo

ไอบีเอ็มจับมือทรู พร้อมผนึกมหาวิทยาลัย หน่วยงานภาครัฐ องค์กรธุรกิจ และคอมมิวนิตี้สตาร์ทอัพ จัดกิจกรรม Thailand Startup SmartCamp 2015 ติวเข้มสตาร์ทอัพรุ่นใหม่ของไทย อัดแน่นความรู้ไอทีและธุรกิจ พร้อมผลักดันให้แจ้งเกิดในเวทีระดับภูมิภาคและระดับโลก

ibm_bluemix_internet_of_things_with_true

การเข้าร่วมกิจกรรม Thailand Startup SmartCamp 2015

Thailand Startup SmartCamp 2015 พร้อมสนับสนุนทั้งนักศึกษา นักพัฒนาอิสระ หรือทีมพัฒนาในองค์กรขนาดใหญ่ เพียงมีไอเดียการพัฒนาแอพพลิเคชันหรือเกมดิจิทัลสร้างสรรค์ ภายใต้แนวคิดเมืองอัจฉริยะ (Smarter Cities) หรืออาจเพิ่มความล้ำให้กับผลงานด้วยเทคโนโลยีอย่างอินเตอร์เน็ตออฟธิงส์ (Internet of Things: IoT) อนาไลติกส์ และแมชชีนเลิร์นนิง เป็นต้น โดยผลงานที่พัฒนานี้จะต้องอยู่บนแพลทฟอร์มที่เป็น Cloud ของ IBM ไม่ว่าจะเป็น IBM Bluemix หรือ IBM SoftLayer ก็ตาม

 

กำหนดการ

สำหรับทีมที่มีประสบการณ์การพัฒนาระบบบน IBM Bluemix หรือ IBM SoftLayer อยู่แล้ว สามารถสมัครเพื่อเข้าร่วมนำเสนอผลงานในวันที่ 27 สิงหาคมได้ทันที แต่สำหรับทีมที่ยังต้องการคำแนะนำ หรือเข้าร่วม Workshop สำหรับ IBM Bluemix หรือ IBM SoftLayer ก็สามารถเข้าร่วม Workshop/Hackathon ในวันที่ 22-23 สิงหาคมเพิ่มเติมได้

22 สิงหาคม 2558 ณ True Lab ม.ศรีนครินทรวิโรฒ

  • เวิร์คช็อปที่อัดแน่นไปด้วยความรู้และการถ่ายทอดประสบการณ์จริง ทั้งในเชิงเทคโนโลยี แพลตฟอร์มการพัฒนา และแนวคิดเชิงธุรกิจ จากผู้เชี่ยวชาญของไอบีเอ็มและองค์กรชั้นนำของไทย ครอบคลุมความรู้ในการใช้งาน IBM Bluemix และ IBM SoftLayer

23 สิงหาคม 2558 ณ True Lab ม.ศรีนครินทรวิโรฒ

  • Hackathon Day ลงมือพัฒนาผลงาน พร้อมทีมผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำปรึกษา เพื่อให้สามารถลงมือพัฒนาผลิตภัณฑ์เองบน IBM Bluemix หรือ IBM SoftLayer ได้ก่อนถึงวันนำเสนอผลงาน

27 สิงหาคม 2558 ณ Knowledge Exchange Center (KX) ม.เทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี

  • นำเสนอผลงานต่อคณะกรรมการ (ผู้ทรงคุณวุฒิจากไอบีเอ็ม ทรู มหาวิทยาลัย หน่วยงานภาครัฐ องค์กรธุรกิจ และคอมมิวนิตี้สตาร์ทอัพ) พร้อมประกาศผลทีมที่ชนะเลิศ

แผนที่สำหรับเดินทางไป KX

รางวัล

ชนะเลิศ (1 รางวัล)

  • ทุนสำหรับการพัฒนาผลงาน 50,000 บาท เครดิตคลาวด์ IBM Bluemix 1 ปีมูลค่า 800,000 บาท พร้อมตั๋วเครื่องบิน-ที่พัก สำหรับไปร่วมงาน IBM Connect ที่ประเทศสิงคโปร์

รองชนะเลิศ (4 รางวัล)

  • ทุนสำหรับการพัฒนาผลงาน 10,000 บาท และเครดิตคลาวด์ IBM Bluemix 1 ปีมูลค่า 800,000 บาท

 

จากเวทีอาเซียนสู่ซิลิคอนวัลเลย์ ซานฟรานซิสโก

ผู้ชนะ Thailand Startup SmartCamp 2015 จะได้เข้าร่วมอัพเดทเทรนด์และเทคโนโลยีใหม่ๆ พร้อมการโค้ชแบบตัวต่อตัวจากผู้เชี่ยวชาญระดับอาเซียนและระดับโลกจากไอบีเอ็ม ที่งาน IBM Connect ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 2-3 กันยายน 2558 ณ ประเทศสิงคโปร์ พร้อมร่วมนำเสนอผลงาน เพื่อฝ่าด่านไปร่วมชิงเงินสนับสนุนเพิ่มเติมมูลค่า 25,000 เหรียญสหรัฐ จากนักลงทุนระดับโลก Jason Calacanis ที่มหกรรม LAUNCH ณ ซิลิคอนวัลเลย์ รัฐซานฟรานซิสโก ประเทศสหรัฐอเมริกา ในเดือนกุมภาพันธ์ 2559

 

สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ cswgarpa@th.ibm.com หรือลงทะเบียนเข้าร่วมงานที่นี่ได้ทันที

from:https://www.techtalkthai.com/ibm-and-true-hold-thailand-startup-smartcamp-2015/

Gartner เผยผลวิเคราะห์ Magic Quadrant for Cloud Infrastructure as a Service, Worldwide มี Leader 2 รายด้วยกัน

การใช้ Clound Infrastructure as a Service (IaaS) เริ่มเป็นที่นิยมแพร่หลายตามองค์กรต่างๆ ในประเทศไทยมากขึ้น ทางทีมงาน TechTalkThai จึงขอนำเสนอผลวิเคราะห์ Gartner นี้คร่าวๆ ให้ผู้อ่านได้เห็นเป็นไอเดียกันนะครับ

นิยามของตลาด Cloud Infrastructure as a Service

Vendor ที่ถูกจัดอันดับใน Magic Quadrant นี้จะมีเฉพาะผู้ให้บริการ Infrastructure as a Service หรือ IaaS เท่านั้น ซึ่งไม่รวมบริการ Cloud Storage, PaaS, SaaS, Cloud Service Brokerage (CSB) หรือผู้ให้บริการ Cloud อื่นๆ ดังนั้นใน Cloud IaaS นี้จะนับรวมเฉพาะ Vendor ที่สามารถให้บริการระบบ IaaS ที่มีความเป็นมาตรฐาน และบริหารจัดการได้แบบอัตโนมัติ เพื่อผนวกรวมหน่วยประมวลผล, ระบบจัดเก็บข้อมูล และระบบเครือข่ายเข้าด้วยกันให้ตรงตามความต้องการของผู้ใช้งานหรือองค์กรได้ อีกทั้งระบบจะต้องเพิ่มขยายระบบได้ด้วยความเร็วแบบกึ่ง Real-Time และ คิดค่าใช้จ่ายตามการใช้งาน รวมถึงยังต้องมีระบบ Self-service เพื่อให้ผู้ใช้งานทำการบริหารจัดการเองได้ทั้งผ่าน Web UI และ API ทั้งนี้ Resource ต่างๆ ที่ต้องใช้ในระบบ Cloud IaaS นี้จะถูกติดตั้งอยู่ใน Data Center ของ Service Provider หรือติดตั้งแบบ On-Premises ใน Data Center ขององค์กรก็ได้

ในรายงานของ Gartner ฉบับนี้มีรายละเอียดเชิงลึกเกี่ยวกับการนิยาม Cloud IaaS เอาไว้อีกมาก อีกทั้งมีการจำแนกประเภท และคำแนะนำต่างๆ ที่เป็นประโยชน์อีกมากมาย แนะนำให้ผู้อ่านไปโหลดอ่านตัวเต็มกันนะครับถ้ากำลังจะลงทุนเช่า Cloud IaaS มาใช้งาน

Leader 2 ราย: Amazon AWS และ Microsoft Azure

Amazon AWS เป็น Cloud ที่มีพื้นฐานมาจาก Xen และเป็นผู้นำในตลาดของ Cloud IaaS อีกด้วย จะเรียกได้ว่า Amazon AWS เป็นผู้บุกเบิกตลาด Cloud เป็นรายแรกก็ไม่น่าจะผิดนัก โดย Resource รวมทั้งหมดใน Amazon AWS นี้มีมากกว่า Resource ของ Vendor ที่เหลือทั้งหมดใน Gartner Magic Quadrant รวมกันอยู่กว่า 10 เท่าเลยทีเดียว

Amazon AWS นี้มีจุดแข็งเรื่องของความครอบคลุมของโซลูชั่นที่แทบจะตอบโจทย์ได้ทุกรูปแบบด้วย Cloud รวมถึงยังรองรับ Application ที่มีความ Sensitive สูงอย่าง SAP ได้อีกด้วย แต่ในขณะเดียวกันทาง Gartner ก็ให้ข้อสังเกตว่าการใช้โซลูชั่นของ Amazon นี้มีความซับซ้อนสูง เพราะรูปแบบการคิดราคาตามการใช้งานจริง ทำให้บางครั้งองค์กรก็ประเมินยากเช่นกันว่าค่าใช้จ่ายของระบบจะเป็นเท่าไหร่กันแน่ และต้องเลือกใช้ Tier ในการ Support ให้เหมาะสมตามความต้องการ รวมถึงการเลือกใช้บาง Component ใน Amazon AWS นี้ก็ต้องประเมินดีๆ เพราะบางบริการของ AWS ก็ไม่ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องเท่าที่ควร

Microsoft Azure เองเพิ่งเปิดตัวบริการ IaaS มาเมื่อต้นปี 2013 โดยมีพื้นฐานมาจาก Hyper-V เป็นหลัก และลงทุนอย่างต่อเนื่องจนมีบริการที่สามารถตอบโจทย์ได้หลากหลายรูปแบบเช่นกัน ด้วยการเป็นเบอร์ 2 ของตลาด Cloud IaaS นี้ทำให้ Microsoft มี Resource ในระบบ IaaS มากกว่า 2 เท่าของ Vendor รายอื่นๆ นอกจาก Amazon AWS ใน Magic Quadrant รวมกัน

Microsoft Azure นี้มีจุดแข็งทางด้านภาพรวมของระบบ Cloud ที่เป็นผืนเดียวกันหมดทั้งสำหรับ IaaS, PaaS และ On-Premises Infrastructure รวมถึงยังมีฐานลูกค้าเก่าที่ใช้งาน Microsoft Infrastructure เป็นหลักอยู่มากมาย ทำให้ภาพการทำ Hybrid Cloud สำหรับองค์กรมีความชัดเจน แต่ในขณะเดียวกัน Microsoft Azure เองก็ยังต้องพัฒนาต่อไปในแง่มุมต่างๆ มากมาย เนื่องจากยังคงมีข่าวที่ Azure หยุดทำงานอยู่บ้าง และ Partner ใน Market Place เองก็ยังขาดความเชี่ยวชาญ รวมถึงยังมีโซลูชั่นจาก 3rd Party อย่างจำกัดอยู่ในเวลานี้

โดยความเห็นส่วนตัวจากทีมงาน TechTalkThai ตลาด Cloud IaaS เองก็เริ่มเข้ามารุกๆ ตลาด Enterprise ในเมืองไทยบ้างแล้ว และผู้ผลิตเองก็มีหลากหลาย รวมถึงในไทยเองก็มีผู้ให้บริการ Cloud แบบ Local อยู่ด้วยเช่นกัน ดังนั้นองค์กรต่างๆ จึงควรเริ่มศึกษาเอาไว้เป็นทางเลือกในการลงทุนบ้าง และเมื่อถึงเวลาที่จะต้องใช้จริงๆ จะได้สามารถประเมินจุดดีจุดด้อยของแต่ละเจ้าได้ จากเมื่อก่อนที่เคยประเมินเชิงเทคนิคเป็นส่วนๆ ของระบบย่อยไป ตอนนี้ต้องหันมามาองภาพรวมของการให้บริการเบ็ดเสร็จแบบนี้แทน ซึ่งก็ต้องอาศัยมุมมองในการประเมินที่แตกต่างออกไปเลยทีเดียว

สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถกรอกฟอร์มเพื่อ Download รายงานฉบับเต็มและดู Magic Quadrant ได้ทันทีที่ https://aws.amazon.com/resources/gartner-2015-mq-learn-more-apac/ ซึ่งในรายงานนี้จะมีข้อมูลที่น่าสนใจของ Google, VMware และ IBM SoftLayer อยู่ด้วย

from:https://www.techtalkthai.com/gartners-magic-quadrant-for-cloud-infrastructure-as-a-service-iaas-worldwide/

IBM เปิดตัว IBM Verse ระบบ Social Messaging Software สำหรับการทำธุรกิจ ที่จะมาแทน Email และ Calendar แบบเดิมๆ

ibm_logo

IBM ได้ประกาศเปิดตัว IBM Verse ที่ทาง IBM ได้ลงทุนไปกว่า 100 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ (หรือราวๆ 3,500 ล้านบาทไทย) ซึ่งเป็นระบบ Social Messaging Software ที่มีการนำระบบ Data Analytics เข้าไปผูกกับข้อมูลของ Email, Calendar, File Sharing, Instant Messaging และ Social Media เพื่อให้การติดต่อสื่อสารในการทำงานและทำธุรกิจมีประสิทธิภาพสูงขึ้น ภายใน Application เพียงชุดเดียว

ibm_verse_lead_1920x560

สาเหตุที่ทำให้ IBM ต้องมาทำระบบ Collaboration ใหม่ แทนที่จะต่อยอดจาก IBM Notes และ IBM Domino นั้น เป็นเพราะว่าปัจจุบันการใช้ Email ในการทำธุรกิจนี้มีปริมาณมากถึง 108,000 ล้านฉบับต่อวัน ในขณะที่การทำงานก็ยังต้องใช้ระบบอื่นๆ เช่น Calendar, File Sharing และ Social ควบคู่ไปด้วย ดังนั้น Application ที่มีความฉลาดที่จะสามารถช่วยเหลือให้เราทำงานได้ดีขึ้น และช่วยให้เราตัดสินใจได้ดีขึ้นจึงเป็นที่มาของ IBM Verse ซึงตอนนี้ก็มีการเปิดให้ลูกค้าบางกลุ่มของ IBM ใช้งานบ้างแล้ว

ibm_verse_concept

ทั้งนี้นอกเหนือจาก Email แล้ว ฟีเจอร์หลักๆ ในการเปิดตัวครั้งแรกของ IBM Verse จะมีดังนี้

ibm_verse_people

  • Team Analytics – มีระบบวิเคราะห์ความสัมพันธ์ของผู้ส่งและผู้รับ Email และการติดต่อสื่อสารทั้งหมด ทำให้เข้าใจภาพรวมว่า Email ฉบับนี้ส่งต่อถึงใคร ตำแหน่งไหน ทีมไหนในองค์กรบ้าง ทำให้ผู้อ่านเข้าใจภาพรวมได้อย่างรวดเร็วและทำงานได้ดียิ่งขึ้น

ibm_verse_talent

  • Calendaring – ระบบปฏิทินเป็นอีกระบบที่มีการออกแบบใหม่ให้สวยงามและใช้งานง่าย โดยผู้ใช้งานจะสามารถมองเห็น Meeting ต่างๆ ที่ถูก Invite มาได้อย่างรวดเร็ว และกดตอบรับได้อย่างง่ายดายโดยไม่ต้องเปลี่ยนหน้าจอ ทำให้พลาด Meeting ต่างๆ ได้ยากขึ้น

ibm_verse_email

  • File Sharing – ระบบ Social File Sharing นี้จะทำให้ผู้ร่วมงานทั้งหมดสามารถเปิดอ่าน, แสดงความเห็น และช่วยกันทำการแก้ไขไฟล์ต่างๆ ได้ทันที โดยสามารถนำไฟล์ใน Attachment ของ Email มาแสดงความเห็นและแก้ไขได้ ทำให้ง่ายต่อการใช้งาน รวมถึงมีระบบ Versioning, Encryption และสามารถ Synchronize ไปยังอุปกรณ์ต่างๆ พร้อมทั้งมี Statistics แสดงปริมาณการ Download ไฟล์ด้วย

ในเวลานี้ IBM Verse จะถูก Deploy ในแบบ Cloud บน SoftLayer Cloud เท่านั้น แต่ในอนาคตจะมี On-premise และ Hybrid ให้เลือกใช้ได้ด้วย

สำหรับปลายเดือนนี้ IBM จะเปิดตัว Verse บน iPhone และภายในไตรมาสที่สองนี้ก็จะปล่อยเวอร์ชัน Android และ iPad ออกมาด้วย โดย App บน iOS นี้จะสามารถทำงานร่วมกับ IBM MobileProtect และ App อื่นๆ ใน IBM MobileFirst ได้ด้วย

ใครที่สนใจ ตามไปลอง Signup ทิ้งไว้เตรียมตัวใช้งานได้ที่ IBM Verse Website http://www.ibm.com/social-business/us/en/newway/  เลยนะครับ

from:https://www.techtalkthai.com/ibm-verse-social-messaging-software-for-business/