คลังเก็บป้ายกำกับ: ADIDAS

[รีวิว] ติดขอบสนาม Technology Innovations ใน FIFA World Cup 2022 ที่กาตาร์

มหกรรมฟุตบอลโลก 2022 ที่ประเทศกาตาร์ ได้เปิดฉากการแข่งขันนัดแรกของแต่ละกลุ่มแล้ว สิ่งที่ถูกกล่าวถึงกันมากที่สุดนอกเหนือจากสีสันของผลการแข่งขันนั่นก็คือ นวัตกรรมเทคโนโลยีที่นำเข้ามาใช้มากที่สุดเท่าที่เคยมีมา จะเห็นได้จากการยิงประตูที่ดีใจเก้อในหลายๆ ครั้ง ล้วนถูกปฏิเสธสกอร์จากการทำงานของเทคโนโลยีที่ถูกติดตัังไว้ภายในสนามฟุตบอลเพื่อรับบทบาทการเป็นผู้ช่วยให้กับผู้ตัดสินชี้ขาดได้รวดเร็วมากขึ้น ทำให้มีผลการแข่งขันที่ขาวสะอาด ไร้ซึ่งดราม่าหลังเกม ประจักษ์ชัดด้วยภาพเคลื่อนไหวแบบ 3D สู่สายตาผู้ชมทั่วทุกมุมโลก เบื้องหลังความล้ำสมัยเหล่านี้ ถูกขับเคลื่อนโดยนวัตกรรมเทคโนโลยีซึ่งเข้ามามีบทบาทที่สำคัญอย่างยิ่ง และเป็นการยกระดับให้กับวงการกีฬาสู่ความยั่งยืนที่ยอดเยี่ยม
 

Image Blackground : FIFA
นอกจากผลการแข่งขันที่มีทั้งการโชว์ฟอร์มสมกับราคาทีมเต็งแชมป์หรือการพลิกล็อกหักปากกาเซียนแบบช็อกโลก ยังมีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในระหว่างการแข่งขันมากมาย ทั้งการตัดสินให้ลูกจุดโทษย้อนหลังหรือการใช้เทคโนโลยีการตรวจจับล้ำหน้ากึ่งอัตโนมัติ ประสิทธิภาพได้แสดงให้เห็นกันในทุกเกมการแข่งขันโดยเฉพาะแมตท์การแข่งขันระหว่างทีมอาร์เจนติน่า กับ ซาอุดีอาระเบีย ที่มีการปฏิเสธสกอร์แม้ว่าจะส่งลูกบอลเข้าสู่ก้นตาข่ายถึง 3 ครั้งโดยทีมฟ้าขาวจากทวีปอเมริกาใต้ที่มีสตาร์ดาวดังอย่าง “เมสซี่” ก็ติดกับดักเทคโนโลยีนี้ด้วยเช่นกัน
 
 

Technology Innovations

FIFA World Cup 2022 ที่กาตาร์


 

 

เทคโนโลยี AI Rihla และ Multi-Camera ทั้ง 8 สนาม

Al Rihla แปลว่า “การเดินทาง” ในภาษาอาหรับ และได้รับแรงบันดาลใจจากวัฒนธรรม สถาปัตยกรรม เรืออันเป็นเอกลักษณ์ และธงชาติกาตาร์

Image Credit : Adidas
Al Rihla เป็นหนึ่งในนวัตกรรมเทคโนโลยีที่สำคัญที่สุดของทัวร์นาเมนต์นี้ ภายในลูกบอลคือระบบกันสะเทือนของ Adidas ซึ่งมีหน่วยวัดแรงเฉื่อย 500Hz เซ็นเซอร์ Inertial Measurement Unit (IMU) ตรวจจับการเคลื่อนไหวและส่งข้อมูลออกมา 500 ครั้งต่อวินาที เป็นข้อมูลเชิงลึกอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนในทุกองค์ประกอบของการเคลื่อนไหวของลูกฟุตบอลและใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ในตัวแบบชาร์จไฟได้ เทคโนโลยีนี้เป็นสิ่งที่มองไม่เห็นสำหรับผู้เล่นและไม่ส่งผลต่อประสิทธิภาพของลูกบอล
 
ข้อมูลจากลูกฟุตบอลจะช่วยให้สามารถเข้าถึงข้อมูลการสัมผัสที่ไม่ชัดเจนเพื่อปรับปรุงคุณภาพและความเร็วของการตัดสินใจในห้อง VAR (Video Assistant Referees) และเทคโนโลยีล้ำหน้ากึ่งอัตโนมัติ ด้วยประสิทธิภาพของข้อมูลที่ได้รับจากลูกฟุตบอลแบบเรียลไทม์ที่มีความแม่นยำสูง จะช่วยยกระดับมาตรฐานให้กับวงการกีฬาฟุตบอลทั้งในด้านการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกและการถ่ายทอดประสบการณ์สู่แฟนบอล
 
เทคโนโลยี Multi-Camera ลูกฟุตบอลจะทำงานเชื่อมต่อผสานการทำงานร่วมกับกล้องแบบติดตามเฉพาะจำนวน 12 ตัวที่ถูกติดตั้งอยู่รอบขอบสนาม เพื่อรับข้อมูลที่ถูกติดตามตำแหน่งภายในสนามหญ้า ข้อมูลเหล่านี้จะถูกส่งไปให้กับผู้จัดการทีมและผู้ตัดสินผ่านแอปของ FIFA เพื่อประเมินผลข้อมูลของผู้เล่นทั้งสองฝ่ายรวมไปถึงการบันทึกค่าสถิติต่างๆ ที่เกิดขึ้นในระหว่างการแข่งขัน
 

เทคโนโลยีการล้ำหน้ากึ่งอัตโนมัติ (Semi-automated offside) และการให้สกอร์ (scoring technology)

FIFA ได้ประกาศว่าเทคโนโลยีการล้ำหน้าแบบกึ่งอัตโนมัติจะถูกนำมาใช้ที่ FIFA World Cup 2022 ในกาตาร์ เริ่มตั้งแต่วันที่ 21 พฤศจิกายน โดยนำเสนอเครื่องมือสนับสนุนสำหรับเจ้าหน้าที่วิดีโอแมตช์และเจ้าหน้าที่ในสนาม เพื่อช่วยให้พวกเขาทำหน้าที่ออกมาได้อย่างรวดเร็วขึ้น แม่นยำยิ่งขึ้น และการตัดสินใจล้ำหน้าที่สามารถทำซ้ำได้มากขึ้น
 
โดยหลังจากประสบความสำเร็จในการใช้เทคโนโลยี VAR ในฟุตบอลโลก 2018 ที่รัสเซีย ประธานฟีฟ่า จานนี อินฟานติโน ได้ประกาศใน The Vision 2020-23 ว่า FIFA จะพยายามใช้ศักยภาพของเทคโนโลยีในฟุตบอลอย่างเต็มที่และปรับปรุง VAR ให้ดียิ่งขึ้น ในอีกสามปีถัดมา FIFA ยังคงเป็นผู้นำด้าน “technology in the game”
 
FIFA ทำงานร่วมกับ Adidas และพันธมิตรต่างๆ เพื่อความเป็นเลิศด้านนวัตกรรมและผู้ให้บริการเทคโนโลยี ฟีฟ่าได้ใช้เวลาไม่กี่ปีที่ผ่านมาในการปรับปรุงระบบ VAR ให้ดียิ่งขึ้น รวมถึงการใช้เทคโนโลยีล้ำหน้าแบบกึ่งอัตโนมัติเข้ามาช่วยยกระดับมาตรฐานการแข่งขันให้ผลออกมาขาวสะอาดมากที่สุด
 
จุดเด่น: เทคโนโลยีการล้ำหน้ากึ่งอัตโนมัติ
    • ระบบแจ้งเตือนการล้ำหน้าอัตโนมัติแก่ทีมเจ้าหน้าที่ควบคุมการแข่งขันในห้องวิดีโอ VAR
    • 3D animation ช่วยปรับปรุงการสื่อสารไปยังแฟนๆ ในสนามกีฬาและผู้ชมโทรทัศน์
    • เทคโนโลยีได้รับการทดสอบเรียบร้อยแล้วในการแข่งขัน FIFA ครั้งก่อน
ข้อมูลด้านเทคนิค
แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ เทคโนโลยีกล้องแบบติดตามเฉพาะ และเซ็นเซอร์ที่ถูกติดตั้งไว้ภายในลูกฟุบอล
เทคโนโลยีการล้ำหน้ากึ่งอัตโนมัตินี้ ใช้กล้องแบบติดตามเฉพาะจำนวน 12 ตัวที่ติดตั้งอยู่ใต้หลังคาสนามกีฬาเพื่อติดตามลูกบอลและข้อมูล 29 data points ของผู้เล่นแต่ละคน 50 ครั้งต่อวินาที เพื่อคำนวณตำแหน่งที่แม่นยำในสนาม ข้อมูลที่รวบรวมได้ทั้ง 29 data points ประกอบไปด้วยแขนขาและทุกส่วนของร่างกายทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการล้ำหน้า โดยจะผสานการทำงานร่วมกับ Al Rihla ลูกฟุตบอลที่ใช้ในการแข่งขันอย่างเป็นทางการของ Adidas ที่จะเป็นหนึ่งในองค์ประกอบสำคัญสำหรับการตรวจจับเหตุการณ์การล้ำหน้า ด้วยการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีเซ็นเซอร์วัดแรงเฉื่อย (IMU) ที่อยู่ภายในลูกฟุตบอล เซ็นเซอร์นี้ถูกติดตั้งวางตำแหน่งอยู่ตรงกลางลูกฟุตบอลและจะทำหน้าที่ส่งข้อมูลของลูกฟุตบอลไปยังห้องควบคุมวิดีโอ 500 ครั้งต่อวินาที ทำให้สามารถตรวจจับ kick point ได้อย่างแม่นยำสูง
 
Image Credit : FIFA
การผสานเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ AI เข้ากับการรวมข้อมูลการติดตามแขนขาและลูกบอล ทำให้สามารถแจ้งเตือนเหตุการณ์ล้ำหน้าได้โดยอัตโนมัติแก่เจ้าหน้าที่ควบคุมการแข่งขันในห้องวิดีโอ (VAR) ซึ่งมีหน้าที่ทำการตรวจสอบการตัดสินที่ระบบเสนอเข้ามาการตรวจจับตำแหน่ง Kick Point และแสดงแนวเส้นสิ้นสุดวัดตำแหน่งการล้ำหน้าที่ระบบสร้างขึ้นมาให้โดยอัตโนมัติเช่นกัน ข้อมูลตำแหน่งเหล่านี้จะถูกคำนวณและแสดงออกมาในรูปแบบภาพเคลื่อนไหว 3 มิติ ที่จะทำให้เห็นส่วนประกอบเสมือนจริงของแขนขาที่ผู้เล่นถูกตรวจจับได้ กระบวนการนี้จะเกิดขึ้นภายในไม่กี่วินาที และหมายความว่าการตัดสินใจล้ำหน้าจะสามารถทำได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำสูง
 
Image Credit : FIFA
data points ตำแหน่งเดียวกันที่ใช้ในการตัดสินจะถูกสร้างเป็นภาพเคลื่อนไหวแบบ 3 มิติที่ให้รายละเอียดตำแหน่งแขนขาของผู้เล่นได้อย่างสมบูรณ์ โดยจะแสดงมุมมองที่ดีที่สุดสำหรับสถานการณ์การล้ำหน้า และแสดงภาพขึ้นบนจอยักษ์ภายในสนามฟุตบอลซึ่งรวมถึงการถ่ายทอดสดทางทีวีด้วย
ตัวอย่างเหตุการณ์เกมการแข่งขันจริงที่เทคโนโลยี เทคโนโลยีการล้ำหน้ากึ่งอัตโนมัติทำงานร่วมกับเทคโนโลยี AI Rihla
    • เหตุการณ์ล้ำหน้าซึ่งที่ผ่านมาตั้งแต่นัดแรกของการแข่งขันมีการใช้เทคโนโลยีการล้ำหน้ากึ่งอัตโนมัติให้เห็นแล้วโดยเฉพาะเกมที่อาร์เจนตินาแพ้ซาอุฯ ด้วยสกอร์ 1-2 นัดนี้ทีมอาร์เจนตินาส่งลูกฟุตบอลเข้าสู่ก้นตาข่ายถึง 3 ลูก (ไม่นับลูกจุดโทษ) แต่ถูกเทคโนโลยีการล้ำหน้ากึ่งอัตโนมัติตรวจจับว่ามีล้ำหน้าและปฏิเสธการให้สกอร์ทั้งหมด
    • เหตุการณ์ทำฟาวล์ของผู้เล่นในพื้นที่ต่างๆ โดยเฉพาะภายในกรอบเขตโทษที่ชี้วัดการให้ลูกตั้งเตะที่จุดโทษที่ผู้ตัดสินในสนามมองไม่เห็นเหตุการณ์ ตัวอย่างที่ทีมอาร์เจนติน่า ได้จุดโทษย้อนหลังเหตุการณ์ที่ผ่านไปแล้วและเป็นประตูขึ้นนำจากการสังหารของ เมสซี่ สตาร์ดาวดังของทีม โดยการแจ้งเตือนอัตโนมัติจากเทคโนโลยี VAR
scoring technology หรือ goal line technology อีกเหตุการณ์ที่ยังไม่เกิดขึ้นให้ถูกกล่าวถึงนั่นก็คือ การตัดสินสกอร์ที่มีข้อกังขา ผู้ตัดสินจะมีหน้าจอที่ข้อมือเพื่อช่วยตัดสินว่าการยิงประตูนั้นเป็นสกอร์หรือไม่ อันที่จริงสิ่งนี้จะดีขึ้นด้วย VAR แต่เจ้าเซ็นเซอร์ในลูกฟุตบอลบอลของ Adidas จะผสานการทำงานร่วมกับกล้องเพื่อช่วยให้แน่ใจว่าจะไม่มีการโต้เถียงเกิดขึ้นแม้ว่าผู้รักษาประตูจะรับลูกฟุตบอลจากภายในประตูซึ่งล้ำเส้นสีขาวแล้วก็ตาม
 

FIFA Player App

เป็นครั้งแรกที่ผู้เล่นในการแข่งขันฟุตบอลโลกปี 2022 จะสามารถเข้าถึง FIFA Player App ได้ แอปนี้พัฒนาขึ้นโดยอิงจากผู้เล่นระดับมืออาชีพ เพื่อให้ได้ข้อมูลเชิงลึกของผู้เล่นในสนามและข้อมูลประสิทธิภาพทางร่างกายของผู้เล่นรายบุคคลหลังจบจากการแข่งขันทุกเกม
 
Image Credit : FIFA
FIFA Player App ประสบความสำเร็จในการทดลองใช้จริงกับผู้เล่นจากทีมต่างๆ ที่ FIFA Arab Cup 2021 และนำเสนอต่อทีมที่เข้าร่วม FIFA World Cup ในระหว่างการประชุมเชิงปฏิบัติการของทีมล่าสุดในโดฮา FIFA Player App ได้รวบรวมข้อมูลที่ได้รับการปรับปรุงและเมตริกข่าวกรองที่รวบรวมโดยทีมนักวิเคราะห์ประสิทธิภาพจาก FIFA ผู้เชี่ยวชาญและข้อมูลการติดตาม ซึ่งจะพิจารณาว่าผู้เล่นเคลื่อนที่ไปรับบอลหรือไม่ เคลื่อนที่อย่างไร เทคติกเกมรุกที่กดดันคู่ต่อสู้มีรูปแบบใดบ้าง ตำแหน่งแนวรับป้องกันการถูกโจมตีอย่างไร และข้อมูลรูปแบบอื่นๆ ของเกมการแข่งขัน
 
FIFA Player App ประกอบด้วยเมตริกสมรรถภาพทางร่างกายที่รวบรวมผ่านการติดตามในสนามกีฬาผ่านกล้องแบบติดตามเฉพาะทั้ง 12 ตัว ตัวอย่างเช่น แอปจะแสดงระยะทางที่ครอบคลุมตามเกณฑ์ความเร็วต่างๆ จำนวนของการกระทำที่มากกว่า 25 กม.ต่อชม. (ประมาณ 15 ไมล์ต่อชั่วโมง) และความเร็วสูงสุด แอปนี้จะช่วยประมวลผลข้อมูลให้ผู้เล่นได้เห็นผลงานของตนเองในทุกแมตท์การแข่งขันในฟุตบอลโลกที่กาตาร์ 2022 หนนี้ ซึ่งจะให้ข้อมูลส่วนตัวสำหรับผู้เล่นแต่ละคนเพื่อดูว่าพวกเขาทำผลงานในสนามเป็นอย่างไรบ้าง ผู้เล่นสามารถย้อนดูภายหลังการแข่งขันได้สะดวกและง่ายดาย นอกจากนี้ ภาพถ่ายแอคชันต่างๆ ที่ถูกถ่ายไว้ในช่วงเวลาสำคัญของการแข่งขัน FIFA World Cup ในแต่ละนัดจะถูกบันทึกเก็บไว้และแชร์ไว้ในฐานข้อมูลของแอปเพื่อให้ผู้เล่นแต่ละคนเข้าถึงได้สะดวก ผู้เล่นจะสามารถบันทึกหรือแชร์รูปภาพต่อบนโซเชียลมีเดียพร้อมกับแนบข้อมูลค่าสถิติการแข่งขันที่พวกเขาชื่นชอบได้โดยตรงจากแอปได้เลย
 
หนึ่งในเป้าหมายของ Vision 2020-2023 ของ FIFA คือการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีเพื่อให้บริการฟุตบอล ผู้เล่น และเกมการแข่งขันที่ดีที่สุด ซึ่งรวมถึงวิธีที่ FIFA ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เล่นด้วย ทีมงาน FIFA ทำงานอย่างหนักเพื่อรักษาข้อมูลส่วนบุคคลทั้งหมดให้ปลอดภัย ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการที่ FIFA ปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลได้ที่พอร์ทัลการปกป้องข้อมูลของ FIFA และใน FIFA Data Protection Pocket Guide ซึ่งจะอธิบายถึงสิทธิ์ในการปกป้องข้อมูลโดยละเอียด
 
นวัตกรรมนี้เกิดขึ้นจากความร่วมมือระหว่าง FIFA และ FIFPRO ในการพัฒนามาตรฐานและแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดสำหรับการรวบรวม การปกป้อง และการใช้ข้อมูลประสิทธิภาพของผู้เล่นส่วนบุคคล ทั้งสององค์กรทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดเพื่อกำหนด “Charter of Player Data Rights” โดยมีเป้าหมายในการพัฒนามาตรฐานเหล่านี้ ในขณะเดียวกันก็แจ้งให้ผู้เล่นฟุตบอลทราบอย่างโปร่งใสเกี่ยวกับสิทธิ์ความเป็นส่วนตัวของนักกีฬาตามกฎหมายที่มีอยู่ เช่น European General Data Protection Regulation (GDPR) กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของ สหภาพยุโรป
 
สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ GDPR กับ PDPA ต่างกันอย่างไร
 

เทคโนโลยี Bonocle และ Feelix Palm เพื่อเปิดโลกความบันเทิงให้กับผู้พิการทางสายตา

เพื่อให้แฟนๆ ที่เป็นผู้พิการทางสายตาสามารถเพลิดเพลินไปกับ FIFI World Cup 2022 ด้วยการนำเครื่องมือของ “Bonocle และ Feelix Palm” Bonocle เป็นแพลตฟอร์มความบันเทิงอักษรเบรลล์แห่งแรกของโลก ด้วยการใช้ฟังก์ชันการแปลงรหัสและเทคโนโลยีบลูทูธ บุคคลที่มีความบกพร่องทางการมองเห็นสามารถสัมผัสกับความตื่นเต้นของการแข่งขันฟุตบอลโลกได้เช่นเดียวกับคนอื่นๆ

Image Credit : Bonocle
Bonocle ความบันเทิงอักษรเบรลล์ เป็นอุปกรณ์อักษรเบรลล์เซลล์เดียวแบบพกพาที่ทำหน้าที่เหมือนตัวควบคุมสำหรับสมาร์ทโฟน เป็นนวัตกรรมและออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์เพื่อให้ทำงานเหมือนกับจอแสดงผลอักษรเบรลล์แบบไม่มีบรรทัด โดยใช้แอปพลิเคชันที่พัฒนาและปรับให้เหมาะสมเพื่อให้สามารถทำงาน เรียนรู้ หรือเล่น ผ่านเสียงตอบรับที่สัมผัสได้ เช่น อักษรเบรลล์ ระบบสัมผัส และตัวอ่านเสียงแบบ Scree Reader/Voice Over และโต้ตอบกับแอปพลิเคชันผ่านปุ่ม การเคลื่อนไหว และเสียงพูด
 
Bonocle จะเข้ามาช่วยให้ชุมชนกลุ่มผู้พิการทางสายตาทั่วโลกได้สัมผัสกับอรรถรสบรรยากาศของมหกรรมฟุตบอลโลกในปี 2022 ในรูปแบบใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อน เป็นการขจัดข้อจำกัดให้แก่ผู้พิการทางสายตาและเป็นการเปิดประตูให้พวกเขาได้ทำการสำรวจโลกของเกมกีฬาด้วยความบันเทิง
 

Feelix Palm เป็นอุปกรณ์สื่อสารด้วยฝ่ามือที่มีคุณสมบัติ (tactile features) จะถูกใช้ในกาตาร์ครั้งนี้ ด้วยการใช้แรงกระตุ้นไฟฟ้า Feelix Palm นำเสนอข้อความคล้ายอักษรเบรลล์ให้กับผู้พิการทางสายตาโดยไม่จำกัดการเคลื่อนไหวร่างกายหรือการได้ยิน เทคโนโลยีนี้ช่วยให้ผู้คนสามารถรับข้อมูลแยกกันโดยไม่จำเป็นต้องเห็นหรือได้ยินข้อมูล Feelix Palm สื่อสารข้อมูลลวดลายสัมผัสด้วยไฟฟ้าไปยังฝ่ามือ ช่วยให้ผู้ใช้สามารถดื่มด่ำกับสภาพแวดล้อมได้มากขึ้นโดยรับข้อเสนอแนะแบบสัมผัสบนฝ่ามือ

Image Credit : Feelix Palm

 

เทคโนโลยีด้านความปลอดภัยภาคประชาชนด้วยกล้อง 15,000 ตัว

Image Credit : spfconsoles.com
Aspire Control and Command Centre เป็นศูนย์ควบคุมและสั่งการจะทำหน้าที่คอยเฝ้าตรวจสอบสนามกีฬาทั้งหมดพร้อมกัน เพื่อจับตาดูผู้เข้าชมที่คาดว่าจะมีมากกว่าหนึ่งล้านคนตั้งแต่วินาทีที่พวกเขาลงจากเครื่องบินจนถึงตอนที่พวกเขาออกเดินทางจากไป ไขข้อกังวลด้านความปลอดภัยด้วยการรับประกันความปลอดภัยด้วยการติดตั้งกล้องที่มีคุณสมบัติการจดจำใบหน้าทั้งหมด 15,000 ตัวเพื่อส่งข้อมูลไปยังศูนย์ Aspire สำหรับค้นหาบุคคลจากกระทำผิดที่อาจเกิดขึ้นและเพื่อป้องกันการโจมตีของผู้ก่อการร้าย
 

นอกจากนี้ เรื่องของการถ่ายทอดสด FIFA ปรับปรุงด้านคุณภาพของการออกอากาศถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลกครั้งนี้ จำนวน 64 แมทต์ จะถูกส่งสัญญาณภาพระดับ 4K เพื่อความคมชัดสูง สำหรับเครื่องรับที่รองรับเทคโนโลยี 4K เพื่อไม่ให้พลาดในทุกรายละเอียดตลอด 90 นาทีของเกมการแข่งขัน

 

เทคโนโลยีการระบายความร้อนสนามกีฬาขั้นสูง

กาตาร์ได้ปรับปรุงสนามฟุตบอล 7 ใน 8 แห่งที่ใช้แข่งขันฟุตบอลโลก 2022 ครั้งนี้ ด้วยเทคโนโลยีระบายความร้อนขั้นสูงเพื่อให้สนามกีฬามีอุณหภูมิประมาณ 68 องศาฟาเรนไฮต์ หรือ 20 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นอุณหภูมิที่เหมาะสำหรับผู้เล่นและแฟนบอล คาดว่าจะยั่งยืนกว่าและประหยัดพลังงานกว่า 40 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับเทคนิคการทำความเย็นทั่วไป ระบบทำความเย็นใช้การผสมผสานระหว่างฉนวนและการทำความเย็นแบบกำหนดเป้าหมายเพื่อทำให้เย็นลงเฉพาะในที่ที่มีผู้คนอยู่

ดร. ซาอูด อับดุลอาซิซ อับดุล กานี มีชื่อเล่นว่า ดร. คูล เป็นบุคคลสำคัญในภารกิจอันยิ่งใหญ่นี้ ได้อธิบายว่า “การทำสนามฟุตบอลให้มีอุณหภูมิเย็นลงก็เหมือนกับการทำให้ยานยนต์เย็นลงนั่นเอง การประยุกต์ใช้เครื่องมือและเทคโนโลยีเดียวกันในการจัดการระบายความร้อนเหล่านี้ แต่มันมีขนาดที่ใหญ่กว่ามากแค่นั้นเอง” ดร. คูล เป็นวิศวกรที่อยู่เบื้องหลังเทคโนโลยีทำความเย็นกลางแจ้งสำหรับสนามฟุตบอล FIFA World Cup Qatar 2022 ครั้งนี้ ซึ่งเขาได้รับแรงบันดาลใจจากการศึกษาระดับปริญญาเอกเกี่ยวกับการปรับอากาศสำหรับรถยนต์
 
ดร. คูล กล่าวเสริมว่า สิ่งที่เขานำเสนอให้กับเจ้าภาพกาตาร์พิจารณานั้น แตกต่างจากผู้นำเสนอรายอื่นๆ ที่นำเสนอการออกแบบสนามฟุตบอลเป็นหลัก แต่ ดร. คูล ได้นำเสนอสิ่งที่เป็น “เทคโนโลยี” เพื่อการผสานรวมเข้ากับสเตเดี้ยมในรูปแบบใหม่
 
อากาศเย็นเข้ามาทางตะแกรงบนอัฒจรรย์และหัวฉีดขนาดใหญ่บนสนาม การใช้เทคนิคการหมุนเวียนอากาศ อากาศเย็นจะถูกดึงกลับ การระบายความร้อน การกรองและผลักออก และสูบออกอีกครั้งโดยเครื่องไอพ่น นอกจากนี้ เทคโนโลยีทำความเย็นของ ดร. คูล มีความยั่งยืนมากกว่าเทคนิคที่มีอยู่ประมาณ 40% วิธีการของเขาหมายความว่าสนามฟุตบอลจะต้องเย็นลงก่อนการแข่งขันเพียง 2 ชั่วโมงเท่านั้น ซึ่งช่วยลดการใช้พลังงานของสถานที่ได้อย่างมากเมื่อเทียบกับวิธีการที่มีอยู่เดิม นอกจากนี้ยังทำให้อากาศบริสุทธิ์ซึ่งส่งผลดีต่อผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้จะไม่มีปัญหาเมื่อนั่งอยู่ภายในสนามฟุตบอล
 
สิ่งที่ยากที่สุด คือ ทำให้สนามกีฬาเย็นลงโดยที่มีการเปิดหลังคาสนามฟุตบอล เพราะนั่นคือที่ที่อากาศร้อนจากภายนอกเข้ามา นั่นเป็นเหตุผลที่มีการศึกษาว่าอากาศสามารถออกทางใดและเราจะดันและดึงกลับได้อย่างไร อากาศจะแตกต่างกันไปในแต่ละสนาม ขึ้นอยู่กับรูปร่าง ความสูง และความกว้างของสนาม ยิ่งไปกว่านั้น ดิฟฟิวเซอร์ใต้ที่นั่งยังช่วยให้มั่นใจได้ถึงความสะดวกสบายของแฟนๆ ที่จะดันอากาศออกเพื่อให้อากาศถ่ายเทอย่างนุ่มนวล นอกจากนี้ เซ็นเซอร์โดยรอบสนามจะรักษาอุณหภูมิให้คงที่และปรับการไหลเวียนของอากาศสำหรับที่นั่งทั้งในที่ร่มหรือกลางแดด
 
“สิ่งที่สำคัญที่สุดในการระบายความร้อนอย่างมีประสิทธิภาพคือคุณไม่ต้องการให้ลมจากภายนอกเข้าสู่สนามฟุตบอล เป็นเหตุผลให้การออกแบบของสนามกีฬาต้องได้รับการศึกษาและปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมเพื่อป้องกันไม่ให้อากาศอุ่นเข้ามาภายในสนามฟุตบอลได้”
 
นอกจากการทำให้สนามกีฬาเย็นลงแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการทำให้พื้นที่สาธารณะอื่นๆ ในกาตาร์เย็นลง Katara Plaza เพิ่งเปิดตัวเป็นพลาซ่าเชิงพาณิชย์แบบเปิดโล่งและปรับอากาศแห่งแรกของกาตาร์ อีกโครงการหนึ่งใน Aspire Park มีทางเดินเย็นซึ่งใช้แผงโซลาร์เซลล์เพื่อผลิตพลังงาน
 

บทสรุป

มหกรรมการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ จัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 20 พ.ย. – 18 ธ.ค. เป็นครั้งแรกที่ตารางปฏิทินการแข่งขันถูกเลื่อนมาอยู่ช่วงปลายปี เพื่อหลีกเลี่ยงสภาพภูมิอากาศที่มีความร้อนค่อนข้างสูงของประเทศกาตาร์ ถึงแม้ช่วงเวลาดังกล่าวจะมีอุณหภูมิความร้อนน้อยที่สุดของปีก็ตาม แต่ก็ยังไม่ได้ทำให้นักเตะจากภูมิภาคที่มีอากาศแบบอบอุ่นถึงหนาวเย็นคุ้นชิน สังเกตได้จากภาพบรรยากาศการซ้อมก่อนเริ่มเกมการแข่งขันถึงขั้นต้องใช้ปล่องลมไอน้ำเป่าช่วยคลายความร้อนภายในร่างกาย และนั้นก็เป็นคำตอบว่าทำไมจำเป็นต้องมีเทคโนโลยีการระบายความร้อนสนามกีฬาขั้นสูงของ ดร. คูล 
 
ตามที่ประธานฟีฟ่า จานนี อินฟานติโน ได้ประกาศใน The Vision 2020-23 ว่า FIFA จะพยายามใช้ศักยภาพของเทคโนโลยีในฟุตบอลอย่างเต็มที่และปรับปรุง VAR ให้ดียิ่งขึ้น ในอีกสามปีถัดมา FIFA ยังคงเป็นผู้นำด้าน “technology in the game”
 
การประกาศครั้งนั้นหลังจากจบ FIFA World Cup 2018 ที่รัสเซีย และมาประจักษ์ให้เห็นกันที่กาตาร์ 2022 ครั้งนี้ โดยมีนวัตกรรมเทคโนโลยีที่ได้ปรับปรุงให้มีความทันสมัยมากยิ่งขึ้น มีการนำระบบเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ AI เข้ามาผสานทำงานร่วมกับเซ็นเซอร์ที่ติดตั้งภายในลูกฟุตบอลของ Adidas และประมวลผลอัตโนมัติออกมาเป็นภาพเคลื่อนไหวแบบ 3 มิติ ที่ผ่านมาในเกมการแข่งขันรอบแรกของแต่ละกลุ่มเทคโนโลยีเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงเกมการแข่งขันที่ขาวสะอาดไม่มีข้อกังขา อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าเทคโนโลยีจะมีความแม่นยำสูง แต่คำตัดสินที่เด็ดขาดยังเป็นของมนุษย์ซึ่งเป็นผู้ตัดสินอยู่ดี จังหวะของเกมการแข่งขันเป็นรูปแบบข้อมูลที่มีความซับซ้อนมากกว่าที่จะส่งไม้ต่อให้เทคโนโลยีควบรวมบริบททั้งหมดไปชี้ขาดได้ ส่วนอนาคตอีก 4 ปีข้างหน้าของการจัดมหกรรมการแข่งขันฟุตบอลโลกครั้งต่อไปนั้น จะมีความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีนวัตกรรมอะไรเพิ่มเติมเข้ามาหรือพัฒนาให้ล้ำหน้าไปกว่าเดิมเราต้องติดตามดูกันต่อไป 
 
ที่มาของข้อมูล:
 

from:https://www.techtalkthai.com/review-technology-innovations-in-fifa-world-cup-2022-qatar/

ทิ้งจีน ไม่เอาไทย มุ่งไปเวียดนาม: Adidas พร้อมผลักดันให้เป็นฐานการผลิตโลก เดินหน้าขยายการลงทุนรัวๆ

Kasper Rorsted ซีอีโอ Adidas ผู้ผลิตชุดกีฬายักษ์ใหญ่ของโลกประชุมกับนายกรัฐมนตรีเวียดนาม Pham Minh Chinh และตั้งเป้าว่า บริษัทจะขยายการลงทุนในเวียดนามมากขึ้นและยังเลือกให้เป็นฮับแห่งการผลิตของแบรนด์ Adidas ด้วย หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้หารือกันทางโทรศัพท์เมื่อเดือนกันยายน ปี 2021 ที่ผ่านมา 

Adidas

ซีอีโอ Adidas ยังแสดงความยินดีกับนายกฯ เวียดนามที่สามารถควบคุมโควิดระบาดได้สำเร็จ ทำให้สภาพเศรษฐกิจและสังคมฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว สามารถควบคุมภาวะเงินเฟ้อได้ ส่งผลให้เศรษฐกิจเติบโตได้ดี ทาง Adidas จะลงทุนและขยายธุรกิจในเวียดนามต่อไป พร้อมเดินหน้าสร้างงาน สร้างอาชีพให้คนเวียดนามมากขึ้น และจะเปลี่ยนให้เวียดนามกลายเป็นศูนย์กลางการผลิตที่สำคัญของ Adidas

นอกจากจะลงทุนขยายธุรกิจเพิ่ม Adidas ยังเสนอให้รัฐบาลเวียดนามสร้างบรรยากาศที่ทำให้ Adidas ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการฝึกฝน พัฒนาทรัพยากรบุคคลในเวียดนามด้วย ด้านรัฐบาลเวียดนามก็รู้สึกยินดีที่การหารือทางธุรกิจกับ Adidas มีทิศทางบวกและทำให้เวียดนามกลายเป็นซัพพลายเออร์หลักของบริษัทยักษ์ใหญ่

โลกยุคหลังโควิดระบาด  กลุ่มธุรกิจยักษ์ใหญ่ขยายตัวในเวียดนามมากขึ้น ส่งผลให้สภาพทางเศรษฐกิจและสังคมเวียดนามเจริญก้าวหน้าตามพัฒนาการความสัมพันธ์ระหว่างเยอรมนีและเวียดนาม ในช่วงโควิดระบาด รัฐบาลเยอรมันให้การสนับสนุนเวียดนามจนทำให้เศรษฐกิจและสังคมของประเทศฟื้นตัวได้ดีขึ้น

นายกฯ เวียดนามเผย เศรษฐกิจประเทศมีเสถียรภาพจึงทำให้ควบคุมภาวะเงินเฟ้อได้ ส่งผลให้อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจสูงที่สุดในภูมิภาคในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2022 เวียดนามเน้นเศรษฐกิจที่พึ่งพาตัวเองและให้ความร่วมมือกับการรวมตัวกันระหว่างประเทศอย่างมีประสิทธิภาพ รัฐบาลพร้อมส่งเสริม Adidas ให้ขยายธุรกิจได้ราบรื่น พร้อมสนับสนุนแผนพัฒนาทรัพยากรบุคคลในเวียดนามตามที่ Adidas เสนอ โดยเฉพาะการเพิ่มทักษะให้แรงงาน พัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัล และร่วมรับมือกับวิกฤตสภาพภูมิอากาศ

ปัจจุบัน เยอรมนีคือตลาดจากยุโรปที่ใหญ่ที่สุดในเวียดนามและเป็นประเทศที่เวียดนามส่งออกมากที่สุดเป็นอันดับ 7 ขณะเดียวกัน เวียดนามก็เป็นหุ้นส่วนทางการค้าที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ที่มา – Tuoitre News

 

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

The post ทิ้งจีน ไม่เอาไทย มุ่งไปเวียดนาม: Adidas พร้อมผลักดันให้เป็นฐานการผลิตโลก เดินหน้าขยายการลงทุนรัวๆ first appeared on Brand Inside.
from:https://brandinside.asia/the-reason-why-adidas-need-vietnam/

Bloomberg รายงาน: Adidas เตรียมประกาศยุติสัญญากับ Kanye West

หลังจากประกาศทบทวนสัญญาการเป็นพาร์ตเนอร์กับ Kanye West ล่าสุด Adidas เตรียมประกาศยุติความสัมพันธ์กับ Kanye West หลังเขาประพฤติตัวไม่เหมาะสมหลายครั้ง หรืออาจจะถึงจุดจบของแบรนด์ Yeezy

Adidas

Adidas เตรียมยุติความสัมพันธ์กับ Kanye West

แหล่งข่าวรายหนึ่งกล่าวกับสำนักข่าว Bloomberg ว่า Adidas จะประกาศแผนในการยุติความสัมพันธ์กับ Kanye West ภายในวันที่ 25 ต.ค. 2022 (ตามเวลาสหรัฐอเมริกา) หลังจากทางแบรนด์เคยออกประกาศอย่างเป็นทางการเมื่อต้นเดือน ต.ค. 2022 ว่า บริษัทอยู่ระหว่างทบทวนดีลดังกล่าว

ปัจจุบัน Adidas กับ Kanye West ได้ร่วมกันพัฒนา Yeezy แบรนด์สินค้าที่ผสานแฟชั่น และความเป็นสินค้ากีฬาเข้าด้วยกัน มีสินค้าเด่นคือ Sneaker รุ่นต่าง ๆ ที่มีความต้องการสูง และมีราคาขายต่อเพิ่มหลายเท่าตัว ซึ่งบริษัทเคยแจ้งกับสำนักข่าว BBC ว่า ความร่วมมือนี้ประสบความสำเร็จมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของสินค้าอุปกรณ์กีฬา

หากเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นจริง Adidas จะเป็นแบรนด์สินค้า และบริการล่าสุดที่ยุติความสัมพันธ์กับ Kanye West ตามหลังแบรนด์เครื่องแต่งกาย เช่น Gap และ Balenciaga, สถาบันการเงิน JPMorgan, นิตยสาร Vogue รวมถึงเอเจนซีศิลปินชั้นนำ CAA

เหตุผลที่หลายแบรนด์ยุติความสัมพันธ์กับ Kanye West แม้เขาจะสร้างมูลค่ามากมายให้กับแบรนด์ เพราะเขาควบคุมตัวเองไม่ได้ เช่นล่าสุดสวมใส่เสื้อสกรีนประโยค White Lives Matter จนเกิดการวิจารณ์เป็นวงกว้าง ขัดแย้งกับการรณรงค์ไม่เหยียดสีผิว ทั้งเขายังมองว่ามันเป็นเรื่องสนุกที่สวมใส่ และประโยคดังกล่าวนั้นถูกต้องแล้ว

สรุป

งานนี้ต้องติดตามกันต่อไปว่าจะมีแบรนด์ใดอีกตัดสินใจยุติความสัมพันธ์กับ Kanye West อีกบ้าง เพราะถึงจะอยู่ช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับแบรนด์ได้ แต่ถ้ามีพฤติกรรมที่ควบคุมไม่ได้ก็ค่อนข้างเสี่ยงที่จะทำตลาดร่วมกัน แม้ว่า Kanye West จะอ้างว่าเขาเป็น Bipolar ก็ตาม

อ้างอิง // Business Insider

อ่านเพิ่มเติม

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

The post Bloomberg รายงาน: Adidas เตรียมประกาศยุติสัญญากับ Kanye West first appeared on Brand Inside.
from:https://brandinside.asia/bloomberg-adidas-kanye-west/

Yeezy อาจจบแค่นี้? Adidas ประกาศขอพิจารณาดีลกับ Kenye West เหตุเจ้าตัวตำหนิบริษัท

Adidas ออกแถลงการณ์ขอการพิจารณาดีลความร่วมมือกับ Kanye West ศิลปิน และผู้มีส่วนร่วมในแบรนด์รองเท้า Yeezy เนื่องจากศิลปินออกมาตำหนิว่า Adidas และผู้บริหารจงใจลองแนวคิดในการออกแบบของเขา

Yeezy

Adidas กับ Kanye West อาจจบไม่สวย

Adidas ออกแถลงการณ์ว่า หลังจากใช้ความพยายามหารือเป็นการส่วนตัวกับ Kanye West เพื่อเดินหน้าความร่วมมือต่อไป ล่าสุดทางบริษัทได้ข้อสรุปว่า ดีลนี้จะอยู่ระหว่างพิจารณา (Under Review) โดยระหว่างนี้บริษัทยังทำงานกับ Kanye West ในการพัฒนาสินค้าเช่นเดิม

ทั้งนี้ Adidas ยังย้ำเรื่องการใช้ความคิดสร้างสรรค์, พัฒนานวัตกรรมใหม่ และสนับสนุนนักกีฬา รวมถึงศิลปินในการออกแบบสินค้าไปด้วยกันตามจินตนาการของพวกเขา ซึ่ง Yeezy ถือเป็นความร่วมมือระหว่างแบรนด์อุปกรณ์กีฬากับศิลปินที่ประสบความสำเร็จมาที่สุดในโลก

อย่างไรก็ตามความร่วมมือต่าง ๆ จะสำเร็จได้ต้องมาจากการให้เกียรติ และเคารพซึ่งกันและกัน แต่ก่อนหน้านี้ Kanye West มีการตำหนิ Adidas และประธานเจ้าหน้าที่บริหารในที่สาธารณะว่า ทางแบรนด์จงใจลอกแนวคิดในการออกแบบสินค้าของเขา

สำหรับความร่วมมือระหว่าง Adidas และ Kanye West เกิดขึ้นในปี 2013 ปัจจุบันมีสินค้าออกมาหลากหลายรูปแบบ แต่มีกลุ่ม Sneaker กับรองเท้ารูปแบบต่าง ๆ ที่โดดเด่นที่สุด ในทางกลับกัน Nike เคยจบดีลกับ Kanye West เนื่องจากไม่สามารถตกลงในเรื่องส่วนแบ่งรายได้ และสิทธิ์ในการออกแบบในช่วงปลายปี 2012

สรุป

ถ้าดีลนี้หารือกันไม่ได้จริง ๆ Adidas จะสูญเสียโอกาสในการทำตลาดรองเท้า Sneaker ที่ได้รับความนิยม และมีราคาขายต่อที่สูงทันที แต่ด้วยการที่ Kanye West ดูถูกแบรนด์ในที่สาธารณะขนาดนี้ก็คงจะทำงานกันต่อได้ยาก ซึ่งต้องดูกันว่า Adidas จะยอมหักไม่ยอมงอหรือไม่ เพราะงานนี้ Kanye West คงลอยตัวอยู่แล้ว

อ้างอิง // CNBC, Reuters

อ่านเพิ่มเติม

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

The post Yeezy อาจจบแค่นี้? Adidas ประกาศขอพิจารณาดีลกับ Kenye West เหตุเจ้าตัวตำหนิบริษัท first appeared on Brand Inside.
from:https://brandinside.asia/adidas-west-under-review/

Adidas เปิดตัวหูฟังไร้สายสุดล้ำ Adidas RPT-02 SOL ชาร์จแบตด้วยแสงสว่าง ฟังได้ยาว ๆ กว่า 80 ชั่วโมง

คอเพลงคนไหนที่มีดนตรีในหัวใจชอบฟังเพลงตลอดเวลา แต่ขี้เกียจต้องชาร์จแบตหุฟังกันบ่อย ๆ เราขอแนะนำหูฟังที่เข้าได้กับสภาพอากาศในประเทศไทยกันค่ะ นั่นก็คือ Adidas RPT-02 Sol เป็นหูฟังครอบหัวแบบไร้สาย ที่มากับฟีเจอร์รักษ์โลกสุด ๆ เพราะมันชาร์จพลังงานได้จากทั้งแสงอาทิตย์ หรือแค่แสงไฟในห้องนอนก็ได้ โดยสามารถใช้งานได้นานสูงสุดถึง 80 ชั่วโมง!

แบรนด์อุปกรณ์กีฬาที่เราคุ้นหูกันดีอย่าง Adidas ได้เปิดตัวหูฟังแบบ on-ear รุ่น Adidas RPT-02 SOL เป็นความร่วมมือระหว่าง Adidas กับบริษัท Zound Industries ก่อนหน้านี้ทาง Adidas เคยเปิดตัวหูฟังไร้สาย RPT-01 มาก่อน มีอายุการใช้งานแบตเตอรี่ 40 ชั่วโมง แต่รุ่นใหม่ใช้ได้นานกว่าถึงสองเท่า เป็น 80 ชั่วโมง

และยังมากับฟีเจอร์สุดล้ำที่ทำให้หูฟังตัวนี้สามารถชาร์จแบตเตอรี่ผ่านแหล่งกำเนิดแสงเทียมและแสงธรรมชาติได้ค่ะ ไม่ว่าจะเป็นแสงจากหลอดไฟ หรือแสงจากแสงอาทิตย์ กลายเป็นว่าเราสามารถชาร์จแบตเตอรี่ให้หูฟังได้ตลอดวัน ในระหว่างการทำกิจกรรมต่างๆ ไปด้วยเลย โดยมันจะชาร์จผ่าน Powerfoyle ที่อยู่ตรงด้านบนของที่คาดหัวนั่นเองค่ะ และยังมีไฟคอยบอกด้วยว่าแสงที่ชาร์จอยู่ตอนนี้แรงแค่ไหน แต่ตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลนะคะว่าการชาร์จด้วยแสงสว่างจะต้องใช้เวลาเท่าไหร่บ้าง

Adidas RPT-02 SOL ผลิตจากวัสดุรีไซเคิลทำจากวัสดุพลาสติกและไนลอนที่มีความยืดหยุ่นสูง และทนทานต่อการใช้งานด้วย ด้านดีไซน์ ออกแบบมาให้มีความทันสมัย โฉบเฉี่ยว เหมาะกับการทำกิจกรรมที่ต้องการความคล่องตัว นอกจากนี้ยังกันน้ำที่ระดับ IPX4 อีกด้วย

ในเรื่องของราคาและการวางจำหน่าย Adidas RPT-02 SOL นี้จะขายอยู่ที่ 229 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว ๆ 8,100 บาท จะวางจำหน่ายผ่านเว็บไซต์ของ Adidas วันที่ 23 สิงหาคมนี้ค่ะ

 

 

ที่มา ADIDAS

from:https://droidsans.com/adidas-headphone-wireless-solar-cell/

Adidas เปิดตัวหูฟังใหม่ RPT-02 SOL ชาร์จได้ด้วยแสงไฟ และแสงอาทิตย์

Adidas เปิดตัวหูฟังใหม่ RPT-02 SOL ชาร์จได้ด้วยแสงไฟ แล […] More

from:https://www.iphonemod.net/rpt-02-sol-new-solar-headphone-from-adidas.html

Adidas เปิดตัวหูฟังครอบศีรษะใหม่ ชาร์จพลังงานแสงอาทิตย์ได้ ใช้แสงไฟชาร์จก็ได้

Adidas ร่วมมือกับ Zound Industries บริษัทเครื่องเสียงสัญชาติสวีเดนภายใต้ลิขสิทธิ์ในชื่อ Marshall เปิดตัวหูฟังครอบศีรษะรุ่น RPT-02 SOL ที่มีแผ่นรับแสงอาทิตย์ที่ใช้ในการชาร์จแบตอยู่บริเวณที่ครอบศีรษะโดยใช้เทคโนโลยี Powerfoyle สิทธิบัตรของบริษัท Exeger ความพิเศษ คือ เป็นแผงที่สกรีนลงไปบนพลาสติกได้และสามารถชาร์จได้จากทั้งแสงอาทิตย์และแสงไฟทำให้ชาร์จได้ทุกเวลา นอกจากนี้ ยังมีตัววัดระดับความเข้มแสงที่เหมาะสมสำหรับการชาร์จด้วย

หูฟังสามารถใช้งานได้ถึง 80 ชั่วโมงซึ่งมีระยะเวลาเป็น 2 เท่าของรุ่นก่อนอย่าง RPT-01 ที่ใช้ได้ 40 ชั่วโมง หูฟังกันน้ำระดับ IPX4 มีพอร์ต USB-C รวมทั้งผู้ใช้สามารถเปลี่ยนเพลงหรือปรับระดับความดังได้ที่ตัวหูฟัง ตัวหูฟังทำมาจากพลาสติกรีไซเคิลและไนลอน

RPT-02 SOL จะวางจำหน่ายในราคา $229 หรือประมาณ 8,100 บาท และสามารถซื้อทางออนไลน์ได้ในวันที่ 23 สิงหาคมนี้

ก่อนหน้านี้เทคโนโลยี Powerfolye ได้ถูกนำไปใช้กับหูฟังครอบศีรษะและหูฟังไร้สายของแบรนด์สวีเดน Urbanista มาก่อนแล้วด้วย

ที่มา: Engadget

No Description

Topics: 

from:https://www.blognone.com/node/129873

[Guest Post] adidas ย้ายการใช้งาน SAP มาอยู่บน AWS

AWS ในฐานะผู้ให้บริการระบบคลาวด์หลักสำหรับรองรับระบบ SAP ของ adidas จะช่วยหนึ่งในแบรนด์กีฬาที่ใหญ่ที่สุดในโลกในการเปลี่ยนแปลงการดำเนินธุรกิจโดยใช้ SAP S/4HANA

อะเมซอน เว็บ เซอร์วิสเซส (Amazon Web Services: AWS) บริษัทในเครือ Amazon.com, Inc. ประกาศว่า adidas AG ซึ่งเป็นหนึ่งในแบรนด์กีฬาที่ใหญ่ที่สุดในโลกได้เลือก AWS เป็นผู้ให้บริการระบบคลาวด์สำหรับ SAP นั่นหมายถึง adidas จะย้ายการใช้งาน SAP มายัง AWS และใช้แพลตฟอร์ม SAP S/4HANA ที่ทันสมัย การใช้งาน SAP ที่มีความสำคัญต่อธุรกิจบนระบบคลาวด์จะช่วยให้ adidas สามารถเปลี่ยนกระบวนการของธุรกิจหลักรวมถึงระบบต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเข้าสู่ระบบดิจิทัล เพื่อมอบประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้นแก่ลูกค้า กลายเป็นธุรกิจที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลมากยิ่งขึ้น และสนับสนุนธุรกิจรูปใหม่ ๆ เช่น การตลาดแบบ direct-to-consumer.

การปรับระบบ ERP ให้ทันสมัยด้วย SAP ทำให้ adidas มีเทคโนโลยีพื้นฐานที่จำเป็นสำหรับการเชื่อมต่อข้อมูลในการดำเนินงานทั่วโลก บนระบบคลาวด์ใหม่นี้จะช่วยในด้านช่องทางการขายหน้าร้าน ด้วยการทำให้ระบบ SAP สามารถผสานเทคโนโลยีกับความสามารถของ AWS เช่น แมชชีนเลิร์นนิ่งและการวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของการดำเนินงานในแต่ละหน่วยภายในองค์กร สินค้าในคลัง และการขายสินค้าของร้านค้าปลีกทั่วโลก ด้วยการสร้างประสบการณ์ของลูกค้าบนระบบคลาวด์ ทำให้ adidas สามารถมอบลดเฉพาะบุคคล เข้าถึงการเปิดตัวผลิตภัณฑ์และความร่วมมือใหม่ ๆ ก่อนใคร ลำดับการให้บริการแก่ลูกค้าที่สำคัญ และความสามารถในการออกแบบประสบการณ์และข้อเสนอแบบเฉพาะตัว

ความชำนาญด้าน SAP ของ AWS ช่วยให้ adidas สามารถผสาน SAP S/4HANA เข้ากับเทคโนโลยีของ AWS ได้อย่างง่ายดาย เพื่อเข้าถึงความสามารถในการวิเคราะห์ขั้นสูง การนำข้อมูลมาใช้ให้เป็นประโยชน์ และการจัดทำรายงานภายในองค์กร การสร้าง Data Lake บนคลาวด์ของ AWS ทำให้ adidas มองเห็นภาพรวมการดำเนินงานทั้งภายในและกับลูกค้าโดยตรงได้อย่างทั่วถึงเพื่อข้อมูลเชิงลึกของธุรกิจใหม่ ๆ และลูกค้า ด้วยการใช้แมชชีนเลิร์นนิ่ง เช่น Amazon SageMaker ซึ่งเป็นบริการของ AWS ที่ช่วยให้นักพัฒนาและนักวิเคราะห์ข้อมูลสามารถสร้าง เทรน และปรับใช้โมเดลแมชชีนเลิร์นนิ่งในระบบคลาวด์ได้อย่างรวดเร็วและทันสมัยที่สุด ช่วยให้นักวิเคราะห์ข้อมูลของ adidas สามารถคาดการณ์ความต้องการผลิตภัณฑ์ตามฤดูกาลได้ เพื่อให้มั่นใจว่ามีสินค้าที่เหมาะสมในคลังสินค้าหรือวางขายหน้าร้านในเวลาที่เหมาะสมเพื่อเพิ่มความพึงพอใจของลูกค้า นอกจากนี้ Amazon SageMaker ยังสามารถนำไปใช้กับข้อมูลการขาย เพื่อให้บริษัทสามารถจัดหาผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับลูกค้าแต่ละคนและส่งคำแนะนำที่เหมาะสมได้ ความสามารถนี้จะช่วยให้อีคอมเมิร์ซของ adidas สอดคล้องกับความชอบและสไตล์ของลูกค้าแต่ละราย และมอบประสบการณ์แบบเฉพาะตัวที่ช่วยเพิ่มความสัมพันธ์ของลูกค้ากับแบรนด์ให้ลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น

การใช้การประมวลผลประสิทธิภาพสูง (High Performance Computing หรือ HPC) บน AWS ทำให้ทีมออกแบบของ adidas ทั่วโลกสามารถทำงานที่ซับซ้อนและตัองใช้พลังการประมวลผลสูงๆ ได้พร้อมกัน เพื่อพัฒนาขีดความสามารถในการออกแบบ 3D ให้ทันสมัย

ความสามารถนี้จะช่วยเร่งกระบวนการออกแบบและสร้างสรรค์ให้เร็วขึ้น ลดต้นทุน ช่วยให้แบรนด์กีฬาสร้างแบบจำลองวัตถุขึ้นในโลกดิจิทัล (digital twins) การเปิดตัวออนไลน์ของกลุ่มผลิตภัณฑ์ ซึ่งจะช่วยให้เกิดความร่วมมือกับลูกค้าและนักออกแบบมากยิ่งขึ้น โดยรวมแล้ว การผสานเทคโนโลยีเหล่านี้เข้ากับกระบวนการออกแบบจะส่งผลให้การสร้างผลิตภัณฑ์ และการออกแบบสำหรับเครื่องแต่งกายและรองเท้ากีฬานั้นเร็วขึ้น ทำให้นักออกแบบสามารถนำคำติชมของลูกค้าในช่วงเริ่มต้นของกระบวนการสร้างมาปรับปรุงได้อย่างรวดเร็ว

นอกจากนี้ โปรแกรม AWS Sustainability จะช่วยให้ adidas ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากการใช้งานระบบคลาวด์อีกด้วย โซลูชัน อาร์คิเทค ด้านความยั่งยืนของ AWS รวมทั้งที่ปรึกษาที่มีประสบการณ์เกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานที่ยั่งยืนและการออกแบบซอฟต์แวร์ จะประเมินสถาปัตยกรรมระบบคลาวด์ที่ใช้ในปัจจุบันและอนาคต และกำหนดว่าเทคโนโลยีใดจะสนับสนุนเป้าหมายด้านความยั่งยืนโดยรวมของ adidas

“เราต้องการขับเคลื่อนนวัตกรรมในทุกธุรกิจของเรา ตั้งแต่การออกแบบผลิตภัณฑ์ไปจนถึงการมีส่วนร่วมกับลูกค้าที่ซื้อผลิตภัณฑ์ ด้วยการใช้โครงสร้างพื้นฐานบนระบบคลาวด์ เรามีความสามารถในการปรับขนาดและมีความยืดหยุ่นที่จำเป็น เพื่อจัดการกับธุรกิจของเราที่มีความต้องการสูงในช่วงฤดูกาลต่าง ๆ และรองรับการเติบโตที่คาดการณ์ไว้ในธุรกิจอีคอมเมิร์ซของเราในปีต่อ ๆ ไป” มาร์คัส เราเติร์ต รองประธานอาวุโสฝ่ายเทคโนโลยีของ adidas AG (Markus Rautert Senior Vice President, Technology Enablement) กล่าว “การปรับใช้งาน SAP บน AWS ไม่ใช่แค่การเปลี่ยนเทคโนโลยีของเราเท่านั้น แต่ยังเป็นการเปลี่ยนโฉมโอกาสทางธุรกิจและรใช้ความสามารถของระบบคลาวด์ที่หลากหลายของ AWS เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและทำให้เราใกล้ชิดลูกค้ามากขึ้น”

“เราเห็นการเปลี่ยนแปลงพื้นฐานในการที่บริษัทสินค้าอุปโภคบริโภคใช้โครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีของตน adidas เข้าร่วมกับลูกค้าหลายพันรายที่ใช้ SAP บน AWS โดยใช้ประโยชน์จากโครงสร้างพื้นฐานระดับโลกที่เชื่อถือได้และปรับขนาดได้ของ AWS รวมถึงประสบการณ์ SAP ที่ไม่เหมือนใคร เพื่อเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกที่สำคัญ ขับเคลื่อนนวัตกรรม และสนับสนุนการสร้างผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ ๆ” เกร็ก เพียร์สัน รองประธานฝ่ายการขายเพื่อการพาณิชย์ทั่วโลกของอะเมซอน เว็บ เซอร์วิสเซส (Greg Pearson, Vice President of Worldwide Commercial Sales at Amazon Web Services, Inc.) กล่าว “เรามุ่งมั่นที่จะได้ร่วมงานกับ adidas ในด้าน SAP และกลยุทธ์การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลที่จะช่วยเร่งการเปิดตัวประสบการณ์ใหม่ ๆ ของลูกค้าบนระบบคลาวด์ เช่น แอปบนมือถือ การเลือกซื้อสินค้าและข้อเสนอแบบเฉพาะบุคคล ที่ช่วยทำให้ความสัมพันธ์ของลูกค้ากับแบรนด์ให้ลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น”

ด้วยประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครในการใช้งาน SAP ทำให้ AWS ช่วยให้ลูกค้าได้รับประสิทธิภาพที่ดีที่สุดและคุ้มค่าที่สุดจากเทคโนโลยี SAP ที่มีความสำคัญต่อการดำเนินธุรกิจ การใช้งาน SAP บน AWS ช่วยให้ลูกค้าสามารถควบคุมและมั่นใจในการดำเนินธุรกิจได้อย่างปลอดภัย โดยใช้ประโยชน์จากโครงสร้างพื้นฐานที่น่าเชื่อถือและปรับขนาดได้ ความสามารถของระบบคลาวด์ที่หลากหลาย และชุมชนคู่ค้าด้านเทคโนโลยีที่ช่วยในการย้ายและการทำให้ SAP ทันสมัย

 

from:https://www.techtalkthai.com/guest-post-adidas-migrates-sap-enviroments-to-aws/

ประเทศไหนสวยสุด? Adidas เปิดตัว ULTRABOOST คอลเลคชัน CITY PACK นำเสนอ 6 วัฒนธรรมอาเซียน

อาดิดาส จับมือกับเหล่าศิลปินจากทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เปิดตัวคอลเลคชันสุดเอ็กซ์คลูซีฟ ประกอบไปด้วยรองเท้า ULTRABOOST DNA ดีไซน์ใหม่ที่สะท้อนถึงตัวตนของแต่ละประเทศทั้ง 6 แบบ

อาดิดาส เปิดตัวคอลเลคชัน “ซิตี แพค” (CITY PACK) นำรองเท้าวิ่งรุ่นยอดนิยม “ULTRABOOST DNA” มาสร้างสรรค์รูปแบบใหม่ โดยร่วมมือกับเหล่าศิลปินจากแต่ละประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ทั้ง 6 คน

จนได้ออกมาเป็นรองเท้า ULTRABOOST DNA 6 แบบที่ได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบจากเอกลักษณ์ประจำท้องถิ่นของแต่ละประเทศ ได้แก่ อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไทย และเวียดนาม โดยจะมีการวางจำหน่ายในราคา 6,800 บาท ตั้งแต่วันที่ 11 พฤศจิกายน 2564 เป็นต้นไป

เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ถือเป็นศูนย์กลางของโลกในอนาคต และไม่เพียงแต่เป็นภูมิภาคที่เต็มไปด้วยขนบธรรมเนียมประเพณี ความหลากหลายทางวัฒนธรรม ภาษาที่ไพเราะและสถาปัตยกรรมที่มีความสวยงาม แต่ยังผนึกรวมกันอย่างมีความหวังเพื่อสร้างอนาคตที่ดีในภายภาคหน้า

นอกจากนี้ ภูมิภาคแห่งนี้ยังเป็นแหล่งกำเนิดของผู้มากพรสวรรค์และความสามารถในด้านกีฬา ศิลปะ แฟชัน และดนตรี ด้วยเหตุนี้ คอลเลคชัน CITY PACK จึงถูกออกแบบขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองการรวมเป็นหนึ่งเดียวของวัฒนธรรมและผู้คนที่มีความแตกต่างในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อนำเสนอผลงานที่เต็มไปด้วยวัฒนธรรม ชุมชน และเอกลักษณ์อันหลากหลายภายในภูมิภาคแห่งนี้

นางสาววรหทัย คุนุผกาพันธ์ ผู้จัดการฝ่ายสื่อสารการตลาด บริษัท อาดิดาส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “รองเท้าวิ่ง ULTRABOOST คือรุ่นบุกเบิกที่ชนะใจผู้บริโภคจากทั่วทุกมุมโลกมาโดยตลอด ซึ่งได้เปลี่ยนมุมมองและประสบการณ์ของทุกคนที่มีต่อการวิ่งไปอย่างสิ้นเชิง”

“สำหรับคอลเลคชัน CITY PACK นี้เราได้นำเอารองเท้ารุ่น ULTRABOOST DNA กลับมาอีกครั้งด้วยหลายๆ เหตุผลด้วยกัน ประการแรกคือ เราต้องการเฉลิมฉลองเอกลักษณ์และวัฒนธรรมอันหลากหลายในภูมิภาคแห่งนี้ ผ่านการออกแบบที่เต็มไปด้วยความหมายและแสดงให้เห็นถึงตัวตนที่แท้จริงเหล่านั้นบนรองเท้ารุ่นที่ทุกคนชื่นชอบ”

“และที่สำคัญกว่านั้นก็คือ เราต้องการสนับสนุนเหล่านักออกแบบท้องถิ่นจากทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยการจัดหาช่องทองการนำเสนอผลงานระดับโลก เพื่อให้ทุกคนได้เห็น ได้รับฟัง และได้แสดงมุมมองของพวกเขาที่มีต่อโลกใบนี้ผ่านการออกแบบที่แตกต่างของพวกเขานั่นเอง”

จาก 6 ประเทศ สู่ 1 คอลเลคชัน

คอลเลคชัน CITY PACK ถูกสร้างสรรค์ขึ้นเพื่อให้ทุกคนได้นำ ULTRABOOST DNA มาปรับโฉมใหม่ผ่านมุมมองของพวกเขาที่มีต่อโลกใบนี้ ซึ่งคอลเลคชันนี้ก็ได้มีการออกแบบอย่างเป็นเอกลักษณ์

โดยได้ร่วมมือกับเหล่าศิลปินอย่าง Yeri Afriyani จากอินโดนีเซีย, Jaemy Choong จากมาเลเซีย, Greg Guleserian (Egg Fiasco) จากฟิลิปปินส์, Eman Raharno Jeman (Clogtwo) จากสิงคโปร์, Le Thanh Tung (Crazy Monkey) จากเวียดนาม และ คุณฐานิต ลิขิตธรรมรักษ์ จากประเทศไทย

อินโดนีเซีย

แรงบันดาลใจจากนานาสีสันแห่งชีวิตประจำวันในอินโดนีเซีย Yeri Afriyani แฟชันดีไซเนอร์และผู้ก่อตั้งแบรนด์แฟชั่น Calla The Label ได้สร้างลวดลายที่มีสีสันซึ่งประกอบด้วยรูปทรงต่างๆ ซึ่งแต่ละรูปทรงนั้นแสดงถึงลักษณะที่พบเจอบนท้องถนน และสีสันที่แสดงถึงองค์ประกอบของประเทศ

“ในฐานะศิลปินท้องถิ่น การได้มีโอกาสร่วมงานกับแบรนด์ใหญ่อย่าง อาดิดาส ถือเป็นประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้น ดิฉันเห็นถึงความหลากหลายและสีสันในทุกที่ในอินโดนีเซีย สีฟ้าในการออกแบบของฉันมาจากมหาสมุทรที่ล้อมรอบเรา ส่วนสีเขียวได้แรงบันดาลใจจากป่าฝนเขตร้อน และสีส้มก็หมายถึงทรายบนชายหาดของเรานั่นเอง”

มาเลเซีย

Wayang Kulit หรือที่รู้จักกันในนามหุ่นกระบอกเงา ถือเป็นเอกลักษณ์และมรดกทางวัฒนธรรมที่สำคัญของมาเลเซีย เพื่อเป็นการระลึกถึงศิลปะดั้งเดิมนี้ Jaemy Choong ศิลปินกราฟิกดีไซน์จากมาเลเซีย ได้ผสมผสานองค์ประกอบของ Wayang Kulit เข้ากับโทนสีที่ทันสมัยผ่านแนวทาง “old-meets-new”

“การได้ร่วมงานกับ อาดิดาส ถือว่ามีความพิเศษเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากอาดิดาสได้ขยายขอบเขตความคิดสร้างสรรค์ของผมอยู่เสมอ ผมชื่นชอบเรื่องราวเกี่ยวกับตัวละครแปลกๆ ตำนานโบราณ และวิธีการใหม่ๆ ผมจึงได้รวบรวม Wayang Kulit และทุกอย่างเข้าไว้ด้วยกัน รวมทั้งการเป็นแฟนเพลงป็อปของตัวผมเอง ผมจึงได้ถักทอตัวละครหุ่นเงาสองตัวลงไปด้วยสัญลักษณ์มือที่สื่อถึงสันติภาพและความรัก”

ฟิลิปปินส์

Greg Guleserian หรือที่รู้จักกันในนาม Egg Fiasco เป็นศิลปินร่วมสมัยที่ถ่ายทอดความทรงจำในวัยเด็กที่เติบโตขึ้นมาในฟิลิปปินส์และเชื่อมโยงอดีตของเขากับปัจจุบัน

เขาได้สร้างแนวคิดในการออกแบบเกี่ยวกับวิดีโอเกมดังที่เห็นในลวดลายของถุงเท้าที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ โดยใช้การออกแบบที่อ้างอิงจากวีดีโอเกมส์ นอกจากนี้ ยังได้รับแรงบันดาลใจจากไอเทมในเกมส์ เช่น โพชั่น และ อีลิกเซอร์ ที่ผู้เล่นมักจะใช้เพิ่มพลังชีวิตในเกมส์ของพวกเขา Egg ได้ใส่สีส้มและสีทองที่ส้นและสีกรมท่าเพื่อแสดงถึงสิ่งเหล่านี้

“สำหรับการออกแบบนั้น พวกเรามองว่ารองเท้าคู่นี้เปรียบเหมือนผืนผ้าใบเปล่าๆ ซึ่งเราสามารถนำองค์ประกอบต่างๆ ของงานไปใส่ได้ เช่น ลวดลาย พื้นผิว และสีสันที่สดใส เราต้องการทำสร้างผลงานชิ้นนี้โดยคำนึงถึงเอกลักษณ์ในการออกแบบของอาดิดาสและความน่าสวมใส่ เพื่อให้เกิดรูปแบบที่สามารถเข้ากับทุกคนได้อย่างลงตัว”

สิงคโปร์

การใช้ลวดลายนั้นได้รับแรงบันดาลใจจากมุมมองแบบฟิวเจอริสติกของสิงคโปร์และวิธีการทำงานที่มีประสิทธิภาพและมีความเป็นระบบ ซึ่งถือเป็นส่วนสำคัญของในความก้าวหน้าของสิงคโปร์ ซึ่ง Eman Raharno Jeman (Clogtwo) ศิลปินกราฟิตีและวิชวลเอ็นจิเนียร์ ได้ปักไอคอนรูปโปรเซสเซอร์ที่ด้านบน รวมถึงเกล็ดของเมอร์ไลออนอันเป็นเอกลักษณ์ของสิงคโปร์ที่บริเวณส้นเท้า

“ผมเลือกที่จะวาดลายเส้นที่แสดงถึงความเชื่อมโยงกันระหว่างส่วนประกอบของกลไก, สายไฟ และเกียร์ แทนการใช้มรดกและประเพณีต่างๆ เพื่อเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงถึงผู้คนที่ขับเคลื่อนเกาะสิงคโปร์ที่เปรียบสเมือนเครื่องจักรที่มีการเปลี่ยนแปลงและความก้าวหน้าอยู่ตลอดเวลา โปรเซสเซอร์ถือเป็นสัญลักษณ์ของประเทศของผม ซึ่งเป็นส่วนประกอบที่เล็กที่สุดแต่ทรงพลังที่สุดในคอมพิวเตอร์ เหมือนกับสิ่งที่สิงคโปร์เป็นอยู่ในตอนนี้ก็คือ รัฐแห่งศิลปะ ประเทศที่มีการขับเคลื่อนอยู่ตลอดเวลาด้วยขุมพลังที่มีคุณภาพ”

 ไทย

เนื่องในโอกาสเฉลิมฉลองงานเครื่องจักสานไทยแบบดั้งเดิมที่มีเสน่ห์อันเป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมในประเทศไทย คุณฐานิต ลิขิตธรรมรักษ์ กราฟิคดีไซเนอร์ ได้นำลวดลายเครื่องจักสานที่วิจิตรงดงามมาปรับใช้กับสีดำและสีขาวทั่วพื้นรองเท้าและเชือกรองเท้า

“การได้ร่วมงานกับ อาดิดาส เป็นสิ่งที่ดิฉันใฝ่ฝันมาตลอด ดิฉันภูมิใจที่ได้เป็นตัวแทนของประเทศของดิฉันและทุกคนที่รักการสร้างสรรค์งานศิลปะทุกประเภท สำหรับเครื่องจักสานไทยนั้นเป็นที่นิยมใช้ในงานหัตถกรรมพื้นบ้านมากมาย ดังนั้นคนไทยจึงคุ้นเคยกับลวดลายนี้และจำได้ทันทีว่านี่คืองานฝีมือของไทย ดิฉันใช้รูปแบบนี้เพื่อสร้างกราฟิกที่เรียบง่ายและเพิ่มรายละเอียดและสีสันเพื่อสะท้อนไลฟ์สไตล์ไทยที่มีชีวิตชีวา”

เวียดนาม

อิทธิพลจากวัฒนธรรมพื้นบ้านเวียดนามอย่างภาพวาด Dong Ho ที่นำประวัติศาสตร์ 3 ศตวรรษและ Bat Trang Ceramics Village ซึ่ง Le Thanh Tung หรือ Crazy Monkey ศิลปินทัศนศิลป์จากเวียดนาม ผสมผสานการออกแบบและไอคอนที่เป็นเอกลักษณ์เพื่อนำรูปลักษณ์ที่สดใหม่และทันสมัยมาสู่รองเท้า ULTRABOOST DNA

“ในฐานะศิลปินชาวเวียดนาม นี่เป็นโอกาสของผมที่จะนำความรู้ที่มีไปปรับใช้กับไอคอนของวงการแฟชันอย่าง อาดิดาส เพื่อทำการออกแบบสินค้าที่สร้างแรงบันดาลใจ ผมเลือกใช้สีชมพูพาสเทลและสีเขียวที่มักใช้ในงานจิตรกรรมพื้นบ้าน Dong Ho ของเวียดนาม พร้อมกับรายละเอียดที่คดเคี้ยวจากดอกไม้ประจำชาติของเวียดนามอย่างดอกบัว และสุดท้ายคือเมฆหลากสีจากงานศิลปะและงานฝีมือแบบดั้งเดิม”

คอลเลคชันรองเท้า ULTRABOOST DNA CITY PACK จะวางจำหน่ายในราคา 6,800 บาท ตั้งแต่วันที่ 11 พฤศจิกายน 2564 เป็นต้นไป

ที่ อาดิดาส แบรนด์ เซ็นเตอร์, อาดิดาส แอปพลิเคชัน, อาดิดาส ออนไลน์ สโตร์ www.adidas.co.th, และร้านค้าอุปกรณ์กีฬาชั้นนำที่ร่วมรายการ

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

The post ประเทศไหนสวยสุด? Adidas เปิดตัว ULTRABOOST คอลเลคชัน CITY PACK นำเสนอ 6 วัฒนธรรมอาเซียน first appeared on Brand Inside.
from:https://brandinside.asia/adidas-ultraboost-dna-city-pack-collection/