คลังเก็บป้ายกำกับ: Applications

ดาวน์โหลดฟรี! รายงานข้อมูลเชิงลึกด้านการผลิตปี 2022 ของ Epicor (ฉบับภาษาไทย) – ลุ้นฟรี Smart Watch!!

ค้นหาสาเหตุที่ผู้ผลิต 90% พอใจกับโซลูชั่น ERP ในระบบคลาวด์และสิ่งที่พวกเขามองหาในทุกขั้นตอนของการนำเทคโนโลยีมาปรับใช้ได้จากรายงานประจำปีนี้
เนื่องจากผู้ผลิตส่วนใหญ่ทำงานบนระบบคลาวด์แบบผสมผสานและโซลูชั่นภายในองค์กร เราจึงต้องทำความเข้าใจถึงความต้องการที่สำคัญที่สุดของพวกเขาในขณะที่ดำเนินการสำหรับการเปลี่ยนแปลงสู่ระบบดิจิทัล แบบสำรวจของผู้มีอำนาจตัดสินใจด้านการผลิต 630 รายนี้เผยให้เห็นความต้องการสูงสุดของพวกเขาในการประเมิน จัดซื้อ และการนำโซลูชั่นระบบคลาวด์มาใช้งาน

ในรายงานนี้ คุณจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับ:

– ทริกเกอร์อันดับต้น ๆ สำหรับการประเมินโซลูชั่น ERP อีกครั้ง
– ประสบการณ์ของลูกค้าใน 5 ขั้นตอนของการปรับใช้คลาวด์
– หลักการ 5 ข้อที่ผู้ผลิตใช้ในการประเมินผู้ให้บริการ ERP ก่อนตัดสินใจซื้อ
หมายเหตุ : ผู้ที่ลงทะเบียนดาวน์โหลดมีสิทธิ์ลุ้นรางวัล Smart Watch และ Gift Voucher และรางวัลอื่นๆ อีกมากมาย
คลิกลงทะเบียนดาวน์โหลด

from:https://www.enterpriseitpro.net/whitepaper-epicor-for-download/

Advertisement

Protected: PwC ออสเตรเลีย สร้างประสบการณ์การสื่อสารผ่านวิดีโอให้พนักงานและลูกค้าทั่วโลก อย่างไร้รอยต่อและปลอดภัยได้อย่างไร

This content is password protected. To view it please enter your password below:

Password:

from:https://www.techtalkthai.com/how-pwc-australia-securely-sustainably-connects-global-clients-via-vdoconference/

‘อโยเดีย’ คว้ามาตรฐาน CMMI ML3 ก้าวสู่บริษัทพัฒนาซอฟต์แวร์ที่เติบโตอย่างยั่งยืน [Guest Post]

คุณอานนท์ ตั้งสถิตพร กรรมการผู้จัดการใหญ่, คุณจักรพงศ์ นาคเดช รองกรรมการผู้จัดการ และคุณเตวิช ตั้งสถิตพร รองกรรมการผู้จัดการ 3 ผู้ก่อตั้งบริษัท อโยเดีย จำกัด (AYODIA CO.,LTD.) ผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ให้กับองค์กรชั้นนำต่างๆ ที่มีประสบการณ์มากกว่า 1 ทศวรรษ กล่าวถึงความสำเร็จในปี 2565 ที่ผ่านมาว่า ทางบริษัทฯ ได้รับการรับรองมาตรฐาน CMMI (Capability Maturity Model Integration) Level 3 ซึ่งสะท้อนความเป็นตัวจริงในด้าน Software Engineer ระดับสากล 

ทีมผู้บริหารบริษัท อโยเดีย จำกัด รับมอบใบประกาศนียบัตรรับรองมาตรฐาน CMML ML 3 จาก ดร.ชยากร 
ปิยะบัณฑิตกุล (ที่สองจากซ้าย) ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไอเซ็ม จำกัด เมื่อวันที่
27 มกราคม 2566

คุณอานนท์ ตั้งสถิตพร กรรมการผู้จัดการใหญ่, คุณจักรพงศ์ นาคเดช รองกรรมการผู้จัดการ และคุณเตวิช ตั้งสถิตพร รองกรรมการผู้จัดการ 3 ผู้ก่อตั้งบริษัท อโยเดีย จำกัด (AYODIA CO.,LTD.) ผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ให้กับองค์กรชั้นนำต่างๆ ที่มีประสบการณ์มากกว่า 1 ทศวรรษ กล่าวถึงความสำเร็จในปี 2565 ที่ผ่านมาว่า ทางบริษัทฯ ได้รับการรับรองมาตรฐาน CMMI (Capability Maturity Model Integration) Level 3 ซึ่งสะท้อนความเป็นตัวจริงในด้าน Software Engineer ระดับสากล

          สำหรับ Capability Maturity Model Integration หรือ CMMI คือมาตราฐานกระบวนการพัฒนาซอฟต์แวร์ที่กำหนดขึ้นโดยสถาบันวิศวกรรมซอฟต์แวร์ มหาวิทยาลัยคาร์เนกี้เมลลอน สหรัฐอเมริกา (Software Engineering Institute, Carnegie Mellon University, USA)  หากองค์กรใดได้รับรองมาตรฐาน CMMI Level 3 ขึ้นไป ถือว่าองค์กรนั้นมี กระบวนการพัฒนาซอฟต์แวร์ที่เป็นมาตรฐานเดียวกันทั้งองค์กร เป็นที่น่าเชื่อถือ ในระดับสากล ซึ่งในประเทศไทยมีบริษัทพัฒนาซอฟต์แวร์เพียงไม่กี่แห่งที่ได้รับมาตรฐานระดับนี้ อีกทั้งบริษัทฯ ยังได้รับการคัดเลือกจากเขตอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ประเทศไทย (ซอฟต์แวร์ปาร์ค) โดยการสอบสัมภาษณ์ผู้บริหารให้ได้รับทุนสนับสนุนในการทำการตรวจวัดและประเมินมาตรฐาน CMMI ในครั้งนี้ด้วย

สามผู้ก่อตั้งบริษัท อโยเดีย จำกัด (จากซ้ายไปขวา) คุณเตวิช ตั้งสถิตพร รองกรรมการผู้จัดการ,
คุณอานนท์ ตั้งสถิตพร กรรมการผู้จัดการใหญ่ และ คุณจักรพงศ์ นาคเดช รองกรรมการผู้จัดการ

“ผมมีความภูมิใจที่อโยเดียได้รับการรับรองมาตรฐานระดับนี้ ซึ่งชี้วัดความมีมาตรฐานในกระบวนการพัฒนาซอฟต์แวร์ของเรา นอกจากมาตรฐานนี้จะช่วยสนับสนุนให้อโยเดียได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าแล้ว ยังส่งผลบวกต่อตัวชี้วัดประสิทธิภาพด้านต่างๆ ของบริษัท ที่สำคัญไปกว่านั้นคือ การยืนยันความเป็นมืออาชีพ และความเป็นตัวจริงของบุคลากรภายในองค์กร อันนำมาซึ่งความภาคภูมิใจของพนักงานทุกคน” คุณอานนท์กล่าว

บริษัท อโยเดีย จำกัด เป็นองค์กรที่เต็มเปี่ยมไปด้วยศักยภาพในการพัฒนาซอฟต์แวร์ตามความต้องการของลูกค้า ด้วยการบริหารจัดการที่มีคุณภาพ ความใส่ใจในการวิเคราะห์และออกแบบระบบ กระบวนการทำงานที่เป็นไปตามหลักวิศวกรรมซอฟต์แวร์ และการนำเอาเทคนิคและเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ทันสมัยมาใช้  แม้จะเป็นองค์กรที่ยังมีขนาดไม่ใหญ่นัก แต่อโยเดียสามารถส่งมอบสินค้าและบริการได้ประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง มีลูกค้าทั้งองค์กรเอกชนชั้นนำ และภาครัฐ รวมถึงภาคการเงิน การธนาคาร ไว้วางใจมาโดยตลอด โดยศักยภาพในการพัฒนาซอฟต์แวร์ของบริษัทฯ มีครบรอบด้าน ทั้งการพัฒนาในรูปแบบ Application, Web Application ตลอดจนการพัฒนา Mobile Application มีขีดความสามารถในการออกแบบและพัฒนาระบบที่มีขนาดใหญ่ และมีความซับซ้อนเชิงโครงสร้างให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีความปลอดภัย ทั้งนี้ คุณอานนท์กล่าวเพิ่มเติมว่า “คุณภาพซอฟต์แวร์ไม่ได้ขึ้นกับการทำงานได้ถูกต้องตามความต้องการเท่านั้น (Functional Requirements) แต่ความต้องการด้านอื่นที่แฝงอยู่ซึ่งไม่เกี่ยวกับความต้องการโดยตรง (Non-Functional Requirements) เช่น ประสบการณ์ใช้งานที่ลื่นไหล ไม่ค้างหรือสะดุด, ความปลอดภัยของระบบ ไปจนถึงความสะดวกในการบำรุงรักษา ก็มีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน”  โดยอโยเดียยังมีผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปด้านงานบุคคล (HR Suite), งานชีวอนามัย (Health Risk Assessment), ระบบสารสนเทศโรงพยาบาล (HIS) และระบบบริหารสถานพยาบาลภายในองค์กร (PromptCure Solution) ซึ่งตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในทุกภาคธุรกิจอย่างแท้จริง

คุณอานนท์ ตั้งสถิตพร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อโยเดีย จำกัด

         

“อโยเดียพร้อมรักษาและยกระดับมาตรฐานกระบวนการการทำงานอย่างต่อเนื่อง มุ่งสู่การเป็นองค์กรที่บุคลากรล้วนภาคภูมิใจที่ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งขององค์กร และในปี 2566 นี้ เรามีเป้าหมายด้านการรักษามาตรฐาน CMMI และ ISO29110 และจะยกระดับต่อยอดด้วยการรับรองมาตรฐาน ISO/IEC 27001 ซึ่งเกี่ยวข้องกับระบบความปลอดภัยของข้อมูล เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนและต่อเนื่อง  และทำงานเพื่อส่งมอบความสำเร็จให้กับลูกค้าได้อย่างสมบูรณ์แบบที่สุด” นายอานนท์กล่าวทิ้งท้าย

ทีมผู้บริหาร และพนักงาน บริษัท อโยเดีย จำกัด ถ่ายภาพหมู่ร่วมกัน ในงานรับมอบใบประกาศนียบัตรรับรองมาตรฐาน CMML ML3

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมของอโยเดียได้ที่ https://ayodiacompany.com/

from:https://www.techtalkthai.com/ayodia-cmmi-ml3-guest-post/

OpenText ซื้อ Micro Focus แล้ว เสริมการจัดการระบบดิจิทัลโดยรวมแบบไฮบริด

เมื่อสิ้นเดือนที่ผ่านมา OpenText ประกาศว่าได้ปิดดีลซื้อกิจการบริษัท Micro Focus International ที่เคยแจ้งไว้ก่อนหน้าเรียบร้อยแล้ว โดย Micro Focus ถือเป็นผู้จำหน่ายชั้นนำด้านเทคโนโลยีซอฟต์แวร์และบริการที่จำเพาะ สำหรับช่วยให้ลูกค้าปฏิวัติระบบดิจิทัลได้อย่างรวดเร็ว

ซีอีโอและซีทีโอ OpenText คุณ Mark J. Barrenechea กล่าวว่า “ผมขอต้อนรับลูกค้า พาร์ทเนอร์ และพนักงานของ Micro Focus เข้ามาสู่ความดูแลของ Open Text ด้วยผลิตภัณฑ์และความเชี่ยวชาญของ Micro Focus จะช่วยให้พวกเราพาองค์กรทุกขนาดไปสู่การปฏิวัติดิจิทัลได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น”

“จากการเข้าซื้อธุรกิจครั้งนี้ ทำให้ภารกิจของบริษัท OpenText ครอบคลุมไปถึงการช่วยเหลือองค์กรทั้งหลายในการปกป้องการดำเนินงานของตัวเอง ได้มุมมองเชิงลึกเกี่ยวกับข้อมูลต่างๆ และจัดการระบบดิจิทัลโดยรวมที่ทั้งซับซ้อนและเป็นแบบไฮบริดได้ดีมากขึ้น”

“ด้วยทูลเทคโนโลยีใหม่ที่มีตั้งแต่ด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์, การจัดการการดำเนินงานแบบดิจิทัล, การปรับปรุงแอพพลิเคชั่นให้ทันสมัย, การส่งมอบบริการ, และ AI รวมทั้งระบบอนาไลติก ทำให้ซอฟต์แวร์จัดข้อมูลใหม่นี้ช่วยผลักดันการเติบโตพร้อมๆ กับลดค่าใช้จ่ายได้ไปพร้อมกัน”

อ่านเพิ่มเติมที่นี่ – PRNews

from:https://www.enterpriseitpro.net/opentext-buys-micro-focus/

ตลาด SaaS มีแนวโน้มจะแข่งขันดุเดือดมากขึ้นทุกปี

อัตราการเติบโต Dynamics 365 ของ Microsoft กำลังถูกเบียดพื้นที่ส่วนแบ่งตลาดจากผู้เล่นรายใหญ่อย่าง Oracle, SAP, Workday และ Salesforce ซึ่งได้รับรายรับโตขึ้นตามลำดับอย่างน่าพอใจ
 

Image Credit : salesforce.com
สรุปข้อมูลรายรับหมวด SaaS รายไตรมาสสิ้นสุดเมื่อวันที่ 30 พ.ย. 2022
  • Oracle มีรายได้เติบโต 40% คิดเป็นรายรับรายประจำไตรมาสที่ 2,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
  • SAP มีรายได้เติบโต 30% คิดเป็นรายรับรายประจำไตรมาสที่ 2,330 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
  • Workday มีรายได้เติบโต 22.3% คิดเป็นรายรับรายประจำไตรมาสที่ 1,430 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ข้อมูลอัปเดตสิ้นสุดเมื่อวันที่ 31 ต.ค. 2022)
  • Salesforce มีรายได้เติบโต 15% คิดเป็นรายรับรายประจำไตรมาสที่ 5,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ข้อมูลยังไม่ชัดเจน เป็นแค่การคาดการณ์)
  • Microsoft ไม่เปิดเผยรายรับรายไตรมาสสำหรับ Dynamics 365 แม้ถูกคาดการณ์ว่าจะเติบโตขึ้น 21% แต่เมื่อเทียบรายรับรายไตรมาสในปีก่อนหน้า Microsoft มีอัตราการเติบโตสูงถึง 45% นั่นหมายความว่า ณ ปีปัจจุบันตัวเลขการเติบโตมีตัวเลขที่ดิ่งลงมากกว่าครึ่งๆ
SaaS ตลาดซอฟต์แวร์ที่มีการแข่งขันช่วงชิงพื้นที่ส่วนแบ่งการตลาดกันอย่างดุเดือดมาตลอดหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งสามารถช่วยพลิกชีวิตให้กับกลุ่มธุรกิจต่างๆ สามารถปรับตัวก้าวเข้าสู่ยุคดิจิทัล ทั้ง Microsoft, Oracle, SAP, Workday และ Salesforce ล้วนแต่เผยกลยุทธ์เชิงรุกออกมาเพื่อนำเสนอให้กับผู้บริโภค และสำหรับปี 2023 คาดว่าบริษัทด้าน SaaS จะเน้นด้านประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ของตนเองมากขึ้นเพื่อการนำเสนอบริการที่แตกต่างและช่วยนำพาองค์กรต่างๆ ไปสู่ Digital Transformation ได้อย่างยั่งยืน
 

ที่มา : https://accelerationeconomy.com/cloud-wars/cloud-wars-minute/apps-wars-oracle-sap-outgrow-microsoft-dynamics-365/

from:https://www.techtalkthai.com/the-saas-market-tends-to-become-more-competitive-every-year/

[Ebook ฟรี] เปลี่ยนระบบให้ทันสมัยที่ทำได้เร็วกว่า! ด้วยการย้ายมาใช้งานโอเพ่นซอร์ส

ธุรกิจต่างๆ ที่ตั้งใจจะปฏิวัติระบบดิจิทัลต่างพากันย้ายมาใช้ฐานข้อมูลแบบโอเพ่นซอร์สอย่างเช่น Postgres เป็นเคล็ดไม่ลับฉบับองค์กรที่อยากประสบความสำเร็จเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นการช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย ให้ความยืดหยุ่นเหนือชั้น และอื่นๆ อีกมากมาย

องค์กรคุณก็สามารถเติมเต็มความต้องการด้านฐานข้อมูลด้วย Postgres ได้ แต่มีปัจจัยอะไรบ้างที่ต้องพิจารณาถ้าจะใช้แนวทางนี้?

ใน Ebook ของ EDB เรื่อง 7 ปัจจัยสำคัญสู่ความสำเร็จในการย้ายมาใช้ฐานข้อมูลแบบโอเพ่นซอร์ส (อย่างเช่น Postgres) มีเนื้อหาที่เป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับผู้ที่เริ่มต้นทำความรู้จักกับ Postgres โดยเฉพาะ

ก้าวแรก ต้องทำอย่างไร?

ทั้ง 7 ปัจจัยสำคัญสู่ความสำเร็จนี้จะทำให้คุณมั่นใจได้ว่า องค์กรเตรียมพร้อมเพียงพอในการพาเทคโนโลยีที่ใช้ในธุรกิจคุณไปสู่อนาคตได้ ด้วยเป้าหมายที่ชัดเจน และวิธีการที่เหมาะสมในการติดตั้งระบบ อันได้แก่ความเข้าใจทางเลือกต่างๆ และรู้ว่าแบบไหนดีที่สุดสำหรับองค์กร, การเตรียมความพร้อมของทีมงานและสภาพแวดล้อมการทำงานของแอพพลิเคชั่น, รวมถึงการร่วมงานกับผู้วางระบบและนักพัฒนาเพื่อนำ Postgres มาใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เหล่านี้ต่างทำให้คุณก้าวสู่ความคล่องตัวและการรองรับการปรับเปลี่ยนขนาดระบบได้อย่างรวดเร็วแล้ว

ที่สำคัญที่สุดคือ คุณไม่จำเป็นต้องทำทั้งหมดนี้คนเดียว ทาง EDB ได้ช่วยเหลือองค์กรหลายพันแห่งให้ได้รับประโยชน์จาก Postgres อย่างเต็มที่ อธิบายให้คุณฟังได้ตั้งแต่ต้นเลยว่าคุณจะประสบความสำเร็จอย่างไรบ้างจากการใช้ DBMS ที่เยี่ยมยอดนี้ เราจะนำวิสัยทัศน์ขององค์กรคุณผสานเข้ากับประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญหลายสิบปีของเรา พาคุณไปสู่อนาคตที่น่าตื่นเต้นเกินกว่าที่คุณคาด

คลิกดาวน์โหลด Ebook ที่นี่ 

อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ความสำเร็จของบริษัทชั้นนำด้วยความช่วยเหลือจาก EDB หรืออีเมลขอข้อมูลเพิ่มเติมได้จาก edbapacmarketing@enterprisedb.com

from:https://www.enterpriseitpro.net/7-critical-success-factors-for-moving-to-open-source-databases/

พรูเด็นเชียล ประเทศไทย จับมือ ทรู ดิจิทัล [Guest Post]

ยกระดับการดูแลสุขภาพยุคดิจิทัลให้ลูกค้าพรูเด็นเชียลฯ เข้าถึงบริการระบบการแพทย์ทางไกล (Telemedicine)ผ่านแอป MorDee

จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้พฤติกรรมในด้านสุขอนามัยของคนเปลี่ยนไป บริการระบบการแพทย์ทางไกล (Telemedicine) ได้เข้ามามีบทบาทมากขึ้นในการดูแลสุขภาพของผู้คนภายหลังจากการระบาดของโรค ผู้คนส่วนใหญ่ตระหนักในด้านการดูแลสุขภาพและสุขอนามัยทั้งของตนเองและส่วนรวมมากขึ้น พรูเด็นเชียล ประเทศไทย ผู้นำด้านธุรกิจประกันชีวิต จึงได้ผนึกความร่วมมือกับ ทรู ดิจิทัล ผู้นำบริการดิจิทัลครบวงจร ให้ลูกค้าพรูเด็นเชียลฯ ใช้บริการโทรเวชกรรม หรือ Telemedicine ผ่านแอปพลิเคชัน MorDee (หมอดี) เพื่อให้สามารถเข้าถึงบริการทางการแพทย์ที่ง่ายและสะดวกมากยิ่งขึ้น ไม่ต้องเสียเวลาในการเดินทางและรอคิวในโรงพยาบาล ลดความเสี่ยงต่อการใกล้ชิด และสัมผัสเชื้อโรคต่างๆ

นางสาวซูซาน แฟนนิง ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมธุรกิจสุขภาพ พรูเด็นเชียล ประเทศไทย เปิดเผยว่า “พรูเด็นเชียล ประเทศไทย มุ่งมั่นให้คนไทยทุกคนมีสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีแบบองค์รวม เราจึงได้ร่วมมือกับทรู ดิจิทัล ให้ลูกค้าพรูเด็นเชียลฯ ใช้บริการพบแพทย์ออนไลน์ (Telemedicine) ผ่านแอปพลิเคชัน MorDee (หมอดี) โดยลูกค้าที่มีกรมธรรม์ประกันสุขภาพกลุ่ม หรือกรมธรรม์ประกันสุขภาพรายบุคคลที่มีวงเงินการรักษาแบบผู้ป่วยนอก (OPD) โดยไม่ต้องสำรองเงินจ่ายล่วงหน้า (Cashless Claim) ซึ่งเราเชื่อมั่นว่าจะทำให้คนไทยได้เข้าถึงบริการทางแพทย์ที่สะดวกและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น”

ดร.อดิภัทร ชัยชนะสกุล กรรมการผู้จัดการ ธุรกิจดิจิทัล เฮลท์ บริษัท ทรู ดิจิทัล กรุ๊ป จำกัด
กล่าวว่า

“ทรู ดิจิทัล พัฒนาแอปพลิเคชัน MorDee (หมอดี) เพื่อให้คนไทยให้เข้าถึงบริการทางการแพทย์ได้สะดวกและง่ายขึ้น ตอบโจทย์การดูแลสุขภาพในยุคดิจิทัล สามารถนัดหมายพูดคุยปรึกษากับแพทย์ออนไลน์แบบเรียลไทม์ ได้ทุกที่ ตามเวลาที่ต้องการ  มีทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจากสถาบันชั้นนำกว่า 500 คน ครอบคลุม 20 แผนก ทั้งสุขภาพกายและสุขภาพใจ รวมถึงแพทย์เฉพาะทาง เลือกได้ทั้งการโทร แชต และวิดีโอ คอลล์ (VDO Call) พร้อมบริการส่งยาตามที่แพทย์สั่งถึงบ้าน และมีเภสัชกรให้คำแนะนำในการใช้ยา ทั้งยังมีการเชื่อมโยงบริการออนไลน์และออฟไลน์เข้าด้วยกันแบบไร้รอยต่อ (O2O) อีกด้วย  โดยปัจจุบันมีผู้ใช้งานแอปพลิเคชัน MorDee (หมอดี) มากกว่า 200,000 ราย  ซึ่งความร่วมมือกับ พรูเด็นเชียล ประเทศไทย ครั้งนี้  ช่วยให้ลูกค้าได้รับความสะดวก สบาย ในการพบแพทย์ออนไลน์ (Telemedicine) นอกจากนี้ ยังเป็นการส่งเสริมและขยายบริการพบแพทย์ออนไลน์ (Telemedicine) ให้มากขึ้น  สอดคล้องกับความมุ่งมั่นของทรู ดิจิทัล ในการนำเทคโนโลยีดิจิทัลช่วยดูแลสุขภาพคนไทยให้เข้าถึงบริการทางการแพทย์และสาธารณสุขได้อย่างทั่วถึง และยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดียิ่งขึ้น”

นอกเหนือจาก การส่งเสริมให้คนไทยมีสุขภาพที่แข็งแรงแล้ว พรูเด็นเชียล ประเทศไทย ยังต้องการสร้าง ระบบ Healthcare Ecosystem หรือระบบการเกื้อหนุนกันทางด้านสาธารณสุข เพื่อตอบโจทย์การพัฒนางานด้านสาธารณสุข ให้ประชาชนที่เข้ามารับบริการทางการแพทย์ได้ประโยชน์สูงสุด ด้วยการรวบรวมแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ การบริการทางสาธารณสุขต่าง ๆ เช่น การฉีดวัคซีน รวมถึงคำแนะนำในการตรวจสุขภาพ ที่สามารถเข้าถึงในแพลตฟอร์มต่างๆได้ทุกที่ทุกเวลา ซึ่งในแผนธุรกิจระยะยาวจะนำไปสู่การสร้างโมเดลต้นแบบ Wellness Room หรือห้องพยาบาลสำหรับลูกค้าประกันสุขภาพกลุ่ม ในรูปแบบห้องพยาบาลที่ให้บริการพบหมอออนไลน์  เพื่อให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงแพทย์และรับยาได้ครอบคลุมต่อกลุ่มโรคมากยิ่งขึ้น

สำหรับบริการ Telemedicine ผ่านแอปพลิเคชัน MorDee (หมอดี) ลูกค้าสามารถเข้าถึงได้ผ่านหลากหลายช่องทางของพรูเด็นเชียลฯ ไม่ว่าจะเป็นผ่าน LINE OA @PrudentialThailand หรือแอปพลิเคชัน Pulse โดยเลือกใช้บริการ “ปรึกษาหมอออนไลน์” ระบบจะนำลูกค้าไปยังแอปพลิเคชันหมอดี โดยลูกค้าสามารถใช้บริการปรึกษาแพทย์ผ่านวิดีโอคอลได้มากกว่า 20 สาขา ทั้งโรคทั่วไปและโรคเฉพาะทาง พร้อมทั้งมีบริการจัดส่งยา และเวชภัณฑ์ในพื้นที่ให้บริการ

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังจัดโปรโมชันพิเศษสำหรับลูกค้าพรูเด็นเชียลฯ ที่ลงทะเบียนรับบริการ Telemedicine ครั้งแรกและสามารถผูกสิทธิประกันเพื่อรับสิทธิพิเศษ ฟรี Grab e-Voucher มูลค่า 50 บาท และฟรีค่าจัดส่งยา ตั้งแต่วันนี้ถึง 31 มีนาคม 2566 นี้อีกด้วย

from:https://www.techtalkthai.com/prudential-thailand-partners-with-true-digital/

ไม่ไหวอีกราย : SAP เตรียมหั่น 3,000 คน พร้อมขายหุ้น Qualtrics

บริษัทด้านซอฟต์แวร์ระดับองค์กรสัญชาติเยอรมัน SAP ออกมาประกาศเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาว่า กำลังจะลดพนักงานกว่า 3,000 ตำแหน่ง คิดเป็น 2.5% ของจำนวนพนักงานทั้งหมด ขึ้นแท่นบริษัทไอทีล่าสุดที่ประกาศตัวเลขเลย์ออฟครั้งใหญ่ในช่วงนี้

โดยซีอีโอ คุณ Christian Klein กล่าวระหว่างการประชุมแถลงผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 4 ปี 2022 ที่ผ่านมาว่า บริษัทต้องกลับมาให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์ที่เราแข็งที่สุด เพื่อรักษาอัตราการเติบโตทึ่ดีเอาไว้

นี่จึงเป็นสาเหตุที่บริษัทต้องประกาศปรับโครงสร้างองค์กร อันเป็นผลให้ต้องเลิกจ้างพนักงานดังกล่าว ซึ่งหลังแถลง ราคาหุ้นในตลาดลอนดอนก็ร่วงลง 2% ทาง CFO คุณ Luka Mucic ก็แจ้งว่าจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้ประมาณ 300 – 350 ล้านยูโรต่อปี

Luka ย้ำด้วยว่า ภารกิจของบริษัทในปี 2023 นี้จะต้องผลักดันเปอร์เซ็นต์อัตราการเติบโตขึ้นมาเป็นสองหลักให้ได้ ซึ่งการปรับโครงสร้างพนักงานครั้งนี้นอกจากจะช่วยลดค่าใช้จ่ายแล้ว ยังทำใหเราทุ่มกับกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่จะทำให้ได้ตามเป้าหมายจริงๆ ด้วย

อ่านเพิ่มเติมที่นี่ – CNBC

from:https://www.enterpriseitpro.net/sap-to-cut-3000-roles/

พบเว็บ Anydesk ปลอมกว่า 1,300 แห่งที่แอบปล่อยมัลแวร์จารกรรมข้อมูล Vidar

ปัจจุบันมีขบวนการขนาดใหญ่ที่ใช้มากกว่า 1,300 โดเมนในการปลอมเว็บไซต์ AnyDesk ทางการ โดยทุกเว็บจะรีไดเร็กต์ไปที่โฟลเดอร์ Dropbox ที่มีมัลแวร์สำหรับจารกรรมข้อมูลที่ชื่อ Vidar ทั้งนี้ AnyDesk ถือเป็นแอพพลิเคชั่นรีโมทเดสก์ท็อปยอดนิยมทั้งบนวินโดวส์ ลีนุกซ์ และ macOS

ปัจจุบันมีผู้ใช้ AnyDesk หลายล้านคนทั่วโลกสำหรับเชื่อมต่อระยะไกลอย่างปลอดภัย หรือใช้จัดการระบบจากระยะไกลต่างๆ ทำให้มีแคมเปญมัลแวร์จำนวนมากอาศัยชื่อแบรนด์ AnyDesk หรือแบรนด์ซอฟต์แวร์ที่มีชื่ออื่นๆ ในการหลอกลวงเหยื่อ

ตัวอย่างเช่น เมื่อตุลาคม 2022 ทาง Cyble รายงานพบขบวนการที่อยู่เบื้องหลังตัว Mitsu Stealer ใช้เว็บฟิชชิ่งในรูปของแบรนด์ AnyDesk ในการส่งต่อมัลแวร์ใหม่ของตัวเอง และในกรณีล่าสุดนี้พบโดยนักวิเคราะห์อันตรายทางไซเบอร์ของ SEKOIA ที่ใช้ชื่อ crep1x

ซึ่งเขาเตือนผ่านทวิตเตอร์พร้อมรายการโฮสเนมทั้งหมดที่มัลแวร์นี้ใช้ ที่ทุกโฮสเนมต่างลิงค์ไปที่ไอพี 185.149.120(.)9 ทั้งสิ้น ตัวอย่างเช่นคำที่พิมพ์ผิดให้ใกล้เคียงกับคำว่า AnyDesk, MSI Afterburner, 7-ZIP, Blender, Dashlane, Slack, VLC, OBS, ชื่อแอพเทรดคริปโต และชื่อซอฟต์แวร์ที่มีชื่อเสียงต่างๆ

อ่านเพิ่มเติมที่นี่ – BPC

 

from:https://www.enterpriseitpro.net/over-1300-fake-anydesk-sites/

Salesforce เตรียมปลดพนักงานลง 10% คาดว่าอาจจะกระทบมากกว่า 7,000 คน

Salesforce ประกาศเมื่อวันพุธ ในจดหมายถึงพนักงานจากซีอีโอร่วมอย่าง Marc Benioff ว่า ได้เตรียมลดคน 10% ของพนักงานทั้งหมด (พนักงานทั้งหมดกว่า 79,000 คน) และลดพื้นที่สำนักงานตัวเองลงในฐานะส่วนหนึ่งของแผนปรับโครงสร้างองค์กร

พร้อมเหตุผลว่าลูกค้ากำลัง “พิจารณามากขึ้น” เกี่ยวกับการตัดสินใจซื้อท่ามกลางสภาพเศรษฐกิจโดยรวมที่ท้าทายแบบนี้ ซึ่งการเลือกจะเลย์ออฟพนักงานครั้งนี้ถือเป็น “การตัดสินใจที่ยากลำบากมาก” สำหรับ Salesforce

เขาระบุในจดหมายว่า “ผมนั่งคิดมาตลอดว่าทำไมเราถึงมาจุดนี้ได้ ทั้งๆ ที่รายรับของเราเพิ่มขึ้นในช่วงโควิด แต่เราก็จ้างพนักงานมากเกินไปจนได้รับผลกระทบจากช่วงเศรษฐกิจถดถอยตอนนี้เป็นอย่างมาก ซึ่งถือเป็นความรับผิดชอบของผมด้วย”

ทั้งนี้บริษัทจะบันทึกรายจ่ายประมาณ 1 – 1.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับการเชิญพนักงานออก และกว่า 450 – 650 ล้านดอลลาร์ฯ สำหรับการลดพื้นที่สำนักงาน ซึ่งหลังประกาศดังกล่าวหุ้นของ Salesforce ก็ดีดขึ้นมากว่า 3%

อ่านเพิ่มเติมที่นี่ – CNBC

from:https://www.enterpriseitpro.net/salesforce-is-cutting-10-of-its-personnel-more-than-7000-employees/