คลังเก็บป้ายกำกับ: SAP

ขอเชิญร่วมงาน Accelerating Digital Transformation through RISE with SAP and future of Integrated with SAP BTP วันที่ 21 มีนาคมนี้ ณ SAP Thailand office [Guest Post]

บริษัท เอ็นทีที เดต้า บิสซิเนส โซลูชั่นส์ (ประเทศไทย) (NTT DATA Business Solutions Thailand) เดินหน้าจัดสัมมนาภายใต้หัวข้อ Accelerating Digital Transformation through RISE with SAP and future of Integrated with SAP BTP นำเสนอจุดเด่นของ RISE with SAP S/4HANA Cloud, private editions ช่วยให้ลูกค้าเปลี่ยนแปลงธุรกิจในทุกมิติ ตอบโจทย์การทำ Digital Transformation ในทุกขั้นตอน พร้อมเจาะลึกเทคโนโลยีดิจิทัลใน SAP Business Technology Platform  โดยงานจะจัดขึ้น ในวันอังคารที่ 21 มีนาคม  2566 เวลา 09:00 -12:00 น. ณ.  SAP Thailand office ตึก  PARQ ชั้น 8

เจาะลึกข้อหัวที่น่าสนใจ

-ความแตกต่างการใช้ RISE with SAP ใน SAP S/4HANA แบบ Public และ Private edition
-เปรียบเทียบความสามารถระหว่าง SAP S/4HANA  และ SAP เวอร์ชันเก่า
-การเตรียมความพร้อมขึ้นก่อนขึ้นระบบใหม่
-ธุรกิจของท่านเหมาะที่จะเลือกใช้งาน RISE with SAP  รูปแบบใด
-ทำความรู้จักกับ SAP Business Technology Platform

โดยงานสัมมนาในครั้งนี้ทาง NDBS Thailand ได้สรุปเกี่ยวกับจุดเด่น RISE with SAP S/4HANA ทั้งในรูปแบบของ Private Cloud & Public Cloud  ในการเพิ่มศักยภาพการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมถึงอรรถประโยชน์สูงสุดของ SAP License รูปแบบใหม่ ที่ปรับเปลี่ยนได้ตามการใช้งาน และประหยัดค่าใช้จ่ายในภาพรวมช่วยและนำข้อมูลในระบบ ERP มาวิเคราะห์ได้แบบ Real-time 

การวางวิสัยทัศน์ในระยะยาวสำหรับระบบ ERP นั้นย่อมต้องมองถึงการต่อยอดในอนาคตด้วย ดังนั้นในงานครั้งนี้ จึงมีการนำเสนอเทคโนโลยีต่อยอดจากระบบ SAP เพื่อสร้างความคุ้มค่าให้กับการลงทุนระบบ ERP สำคัญของคุณด้วย SAP Business Technology Platform (BTP) ยกระดับการวิเคราะห์ดาต้าผ่านการทำ Data Excellence, Integration และ Extension สนับสนุนองค์กรให้เติบโตได้ด้วยการใช้ดาต้าอย่างเต็มประสิทธิภาพเพื่อยกระดับศักยภาพนวัตกรรมองค์กรในยุคดิจิทัล

สนใจลงทะเบียนสามารถแสกนผ่าน QR CODE  หรือติดต่อ 02-2370553 * 103 ติดต่อคุณวันเพ็ญ เจ้าหน้าที่แผนกการตลาด  หรือ E-mail : Wanphen.sanmai@nttdata.com

 

from:https://www.techtalkthai.com/ntt-data-accelerating-digital-transformation-through-rise-with-sap-and-future-of-integrated-with-sap-btp-guest-post/

Advertisement

SAP ออกแพตช์อุดช่องโหว่ 19 ตัวบน SAP CMC และ SAP NetWeaver

SAP ได้ประกาศออกแพตช์อุดช่องโหว่กว่า 19 ตัวในหลายผลิตภัณฑ์ มีช่องโหว่ที่สำคัญกระทบกับ SAP Business Objects Business Intelligence Platform (CMC) และ SQP NetWeaver โดยช่องโหว่ที่สำคัญมีดังนี้

Credit: Pavel Ignatov/ShutterStock

  • CVE-2023-25616: (CVSS v3: 9.9) ช่องโหว่ Code Injection ใน SAP Business Intelligent Platform กระทบกับเวอร์ชัน 420 และ 430
  • CVE-2023-23857: (CVSS v3: 9.8) ช่องโหว่ Information disclosure และ DoS กระทบ SAP NetWeaver AS for Java เวอร์ชัน 7.50
  • CVE-2023-27269: (CVSS v3: 9.6) ช่องโหว่ Directory Traversal กระทบ SAP NetWeaver Application Server for ABAP ทำให้ผู้โจมตีทำการเขียน File system ได้โดยตรง เวอร์ชันที่ได้รับผลกระทบได้แก่ 700, 701, 702, 731, 740, 750, 751, 752, 753, 754, 755, 756, 757, และ 791
  • CVE-2023-27500: (CVSS v3: 9.6) ช่องโหว่ Directory Traversal บน SAP NetWeaver AS for ABAP ทำให้สามารถโจมตีผ่าน SAPRSBRO เพื่อเขียน File system ทำให้ Endpoint ได้รับความเสียหายได้ เวอร์ชันที่ได้รับผลกระทบได้แก่ 700, 701, 702, 731, 740, 750, 751, 752, 753, 754, 755, 756, และ 757
  • CVE-2023-25617: (CVSS v3: 9.0) ช่องโหว่ Command Execution บน SAP Business Objects Business Intelligence Platform เวอร์ชัน 420 และ 430 ทำให้ผู้โจมตีจากระยะไกลส่งคำสั่งไปยังระบบปฏิบัติการเพื่อใช้งาน BI Launchpad, Central Management Console และ Custom Application ที่เป็น Java SDK ได้

นอกจากนี้ SAP ยังออกแพตช์ช่องโหว่สำคัญอีก 4 ตัว และช่องโหว่ความรุนแรงระดับปานกลางอีก 10 ตัว ผู้ดูแลระบบควรทำการอัปเดตทันที ที่ผ่านมา SAP ถูกมุ่งเป้าโจมตีเนื่องจากเป็นระบบที่มีความสำคัญและองค์กรขนาดใหญ่ทั่วโลกนิยมใช้งาน ปัจจุบัน SAP มีลูกค้ามากกว่า 425,000 รายจาก 180 ประเทศทั่วโลก เมื่อช่วงปีที่แล้ว US Cybersecurity and Infrastucture Security Agency (CISA) เคยออกคำเตือนสำหรับผู้ดูแลระบบให้ทำการแพตช์ช่องโหว่สำคัญบน SAP Business App มาแล้ว เพื่อป้องกันการขโมยข้อมูลและการแพร่กระจายแรนซัมแวร์

ที่มา: https://www.bleepingcomputer.com/news/security/sap-releases-security-updates-fixing-five-critical-vulnerabilities/

from:https://www.techtalkthai.com/sap-releases-19-security-patches-on-sap-cmc-and-sap-netweaver/

SAP เปิดตัว Datasphere บริการ Cloud Data Warehouse

SAP เปิดตัว Datasphere บริการ Cloud Data Warehouse ใหม่ ต่อยอดมาจาก SAP Data Warehouse Cloud

SAP Datasphere ต่อยอดมาจาก SAP Data Warehouse Cloud ถูกออกแบบให้เป็นศูนย์กลางในการแลกเปลี่ยนและใช้งานข้อมูลระหว่างระบบ SAP และแอพพลิเคชันอื่นๆในองค์กร ทำงานบน SAP Business Technology Platform ซึ่งมีความสามารถหลากหลาย เช่น Database Security, Encryption และ Governance บริการนี้ถูกพัฒนาให้ใช้งานได้ง่าย มีการเพิ่มฟีเจอร์ใหม่หลายรายการ เช่น ระบบ Data Catalog ที่รองรับการทำ Automatic Discover ได้, รองรับการทำ Data Replication แบบ Real-time และปรับปรุง Data Modeling ใหม่เพื่อตอบโจทย์ทางธุรกิจ นอกจากนี้ยังรองรับพาร์ทเนอร์ทางด้าน Data Analytics หลายราย เช่น Collibra NV, Confluent Inc., Databrick Inc. และ DataRobot Inc.

ปัจจุบัน SAP Datasphere พร้อมให้บริการแล้วสำหรับลูกค้าใหม่ ส่วนลูกค้าที่ใช้งาน SAP Data Warehouse Cloud อยู่แล้วจะได้รับการอัปเกรดโดยอัตโนมัติแบบไม่มีค่าใช้จ่าย

ที่มา: https://siliconangle.com/2023/03/08/sap-debuts-sap-datasphere-next-generation-cloud-data-warehouse/

from:https://www.techtalkthai.com/sap-launches-datasphere-cloud-data-warehouse-services/

Zoom ยุติการว่าจ้าง Greg Tomb อดีตผู้บริหาร Google และ SAP จากตำแหน่งประธานบริษัท

“เลิกจ้างโดยไม่มีสาเหตุ” Zoom กล่าวในเอกสารของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์

(Greg Tomb) Image Credit : crn.com
Greg Tomb เข้ามาร่วมงานกับ Zoom ในตำแหน่งประธานบริษัทเมื่อเดือน มิถุนายน 2022 ก่อนจะถูกปลดหรือยุติการว่าจ้างเมื่อวันศุกร์ ที่ 3 มีนาคม 2023 เป็นระยะเวลาร่วม 9 เดือนเศษ ที่ดำรงบริหารงานให้กับ Zoom โดยไม่มีสาเหตุแถลงออกมาถึงการประกาศครั้งนี้
 
บทบาทของ Tomb ก่อนถูกปลด เขาได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประธานของ Zoom เพื่อดูแลกลยุทธ์การออกสู่ตลาดของบริษัท การหารายได้ และสำนักงานของ CIO ทั่วโลก โดยเขารายงานตรงต่อ Eric Yuan CEO ของ Zoom

ประวัติก่อนที่จะมาร่วมงานกับ Zoom ของ Tomb :

  • 20 ปี ในการดำรงตำแหน่งรองประธานฝ่ายขายของ Google Workspace, Security และ Geo Enterprise
  • 10 กว่าปี ในบทบาท leadership ในบริษัท SAP
ความเป็นผู้นำของ Zoom ในพื้นที่การทำงานร่วมกันผ่านวิดีโอในช่วงสามปีที่ผ่านมาเริ่มลดน้อยลงเนื่องจากรายได้ที่น่าประทับใจที่เห็นได้ในช่วงที่มีการระบาดใหญ่เริ่มลดลงในช่วงปลายปี 2022 ไตรมาสล่าสุดของบริษัทซึ่งสิ้นสุดวันที่ 31 มกราคม 2023 มีการเติบโต 7%

เมื่อเทียบกับการเติบโต 2-3 ปีที่ผ่านมา :

  • ปี 2021 เติบโต 55%
  • ปี 2020 เติบโตสูงถึง 326%
หุ้นของ Zoom ร่วงลงในช่วงต้นของวันศุกร์เมื่อมีข่าวการเลิกจ้าง แต่หุ้นฟื้นตัวในช่วงบ่าย เพิ่มขึ้น 0.25%
 

from:https://www.techtalkthai.com/zoom-terminates-hiring-of-ex-google-and-sap-executive-greg-tomb-as-president/

ทรานส์ฟอร์มองค์กร ขับเคลื่อนธุรกิจโลกดิจิทัลสู่ความเป็นเลิศ ด้วยระบบอัจฉริยะ กับ Atos x SAP

ก้าวเข้าสู่ปี 2023 กับความท้าทายในทุกๆ มิติบนโลกธุรกิจ อันเป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยีดิจิทัลที่ใช้เพื่อพลิกฟื้นเศรษฐกิจทั่วโลกหลังการฟื้นตัวจากโควิด-19 องค์กรทั่วโลกต่างเดินหน้าเปลี่ยนกลยุทธ์และปรับตัวเข้าสู่โลกดิจิทัล เพื่อรองรับการแข่งขันทางธุรกิจได้อย่างทันท่วงทีด้วยการจัดการข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อเพิ่มความคล่องตัวและเพื่อเพิ่มมูลค่าให้แก่องค์กรในการก้าวล้ำคู่แข่ง ซึ่งหากองค์กรใดที่ปรับตัวได้ช้าหรือไม่ทันกับกระแสของธุรกิจในโลกดิจิทัลอาจตกขบวนและเสียเปรียบเพลี่ยงพล้ำให้แก่คู่แข่งด้านธุรกิจในตลาดที่มีการแข่งขันตลอดอย่างต่อเนื่องตลอดเวลานี้ได้ การทรานส์ฟอร์มองค์กรสู่องค์กรดิจิทัลจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ทุกองค์กรทั้งขนาดใหญ่ กลาง หรือเล็ก ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐหรือภาคเอกชน ไม่อาจมองข้ามและหลีกเลี่ยงได้

ดังนั้นองค์กรที่มีความยืดหยุ่นสูงและรองรับการปรับเปลี่ยนได้อย่างเหมาะสมทุกสถานการณ์ สามารถจัดการข้อมูลได้แบบเรียลไทม์ และยังมีระบบความปลอดภัยที่สามารถปกป้องข้อมูลสำคัญขององค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งที่จะช่วยให้องค์กรสามารถขับเคลื่อนไปได้แบบไม่มีสะดุด เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีและสร้างความน่าเชื่อถือให้แก่พันธมิตรและลูกค้าได้นั้น จึงจำเป็นต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญที่สามารออกแบบและนำซอฟต์แวร์อัจฉริยะประสิทธิภาพสูงมาใช้ พร้อมทั้งมีการบริการแบบครบวงจรที่เชื่อถือได้ระดับโลก อย่าง Atos x SAP เข้ามาช่วย

Atos x SAP ช่วยเปลี่ยนแปลงธุรกิจยุคดิจิทัลด้วยระบบจากองค์กรอัจฉริยะเพื่อบรรลุสู่เป้าหมายสูงสุด ได้อย่างไร

Atos และ SAP คือ สององค์กรยักษ์ใหญ่ที่เป็นผู้นำด้านนวัตกรรม ERP ระดับโลกที่มีประสบการณ์และความร่วมมือมายาวนานกว่า 40 ปี ในการเพิ่มศักยภาพทางธุรกิจผ่านระบบไอทีบนดิจิทัลแพลตฟอร์มให้แก่องค์กรชั้นนำทั่วโลกมากมาย ความชำนาญและมุ่งเน้นพัฒนานวัตกรรมด้านคลาวด์คอมพิวติ้ง จึงทำให้เราเข้าใจในระบบงานของทุกอุตสาหกรรมอย่างลึกซึ้ง สามารถออกแบบและจัดการระบบข้อมูลองค์กรและโครงสร้างพื้นฐานที่ทันสมัยให้องค์กรสามารถขับเคลื่อนและเปลี่ยนแปลงธุรกิจสู่องค์กรอัจฉริยะได้อย่างราบรื่นแบบไร้รอยต่อ

Atos ยังเป็น SAP Platinum Partner ซึ่งเป็นพาร์ทเนอร์ระดับสูงสุดของ SAP เป็นผู้ให้บริการด้านการจัดการข้อมูลบนคลาวด์รายใหญ่ที่สุดและมีมูลค่าเพิ่มขึ้นในแต่ละปีของ SAP มีฐานลูกค้าที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง จนสามารถเป็นศูนย์ปฏิบัติการด้านบริการและจัดการข้อมูลของ SAP พร้อมให้บริการแบบ end-to-end แนะนำโซลูชั่นและแพ็คเกจ ผ่านจุดบริการของ Atos ได้ในจุดเดียว

สำหรับปี 2023 ถือเป็นอีกก้าวสำคัญของ Atos IT Solutions and Services Ltd. หรือ บริษัท อาโทส (ประเทศไทย) ในการเดินหน้าเพื่อพัฒนาและรักษามาตรฐานระดับสูงด้านการให้บริการแก่องค์กรต่างๆ ในประเทศไทย ภายใต้การบริหารของ คุณวรรณี ไชยปัญญา กรรมการผู้จัดการ ของบริษัท อาโทส (ประเทศไทย) ซึ่งเป็นผู้บริหารหญิงคนแรกของบริษัท อาโทส (ประเทศไทย) และเป็นผู้หญิงคนเดียวในทีม Atos APAC ซึ่งคร่ำหวอดในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศ หรือ วงการไอที รวมถึงที่ปรึกษาทางธุรกิจในประเทศไทยมานานกว่า 30 ปี โดยเฉพาะธุรกิจการให้บริการงานด้านไอทีแบบครบวงจร และเคยดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการผู้จัดการและเป็นผู้บริหารระดับสูงของบริษัทไอทีที่มีชื่อเสียงหลายแห่งในประเทศไทย

ด้วยความสามารถอันโดดเด่น ประสบการณ์ในการบริหารองค์กรขนาดใหญ่ ความเข้าใจในธุรกิจด้านไอทีอย่างลึกซึ้ง และวิสัยทัศน์ในการบริหารองค์กรที่ชัดเจน จึงทำให้ คุณวรรณี ไชยปัญญา สามารถนำองค์กรให้ก้าวทันการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ปรับรูปแบบองค์กรได้อย่างทันท่วงที จนทำให้บริษัทสามารถเติบโตก้าวหน้าอย่างมั่นคง ประสบความสำเร็จและมีชื่อเสียงจนเป็นที่รู้จักในวงกว้าง นอกจากนี้ ที่ผ่านมายังได้สร้างความสัมพันธ์อันดีกับพาร์ทเนอร์ในธุรกิจหลากหลายประเภท ซึ่งได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดียิ่งในการร่วมงานกันในโอกาสต่างๆ อีกด้วย

 

คุณวรรณี ไชยปัญญา กรรมการผู้จัดการ ของบริษัท อาโทส (ประเทศไทย)

ด้วยวิสัยทัศน์ที่ต้องการยกระดับการให้บริการด้านไอทีและช่วยนำองค์กรธุรกิจในประเทศไทยให้แข็งแกร่งสามารถแข่งขันได้ทัดเทียมในโลกยุคดิจิทัล บริษัท อาโทส (ประเทศไทย) จึงได้ร่วมมือกับพาร์ทเนอร์คนสำคัญซึ่งเป็นเบอร์หนึ่งของวงการ ERP อย่าง SAP ในการใส่เกียร์เดินหน้าอย่างเต็มตัวในการนำเสนอนวัตกรรมและโซลูชั่นส์ที่ทันสมัยจาก SAP เพื่อให้องค์กรต่างๆ สามารถ “ทรานส์ฟอร์มสู่องค์กรอัจฉริยะ” ได้แบบไร้รอยต่อ พร้อมทั้งมอบประสบการณ์ด้านการใช้งานบนดิจิทัลแพลตฟอร์มที่มีประสิทธิภาพสูง ปลอดภัย และมีความยืดหยุ่นสูงสามารถรองรับการทำงานได้ทุกอุตสาหกรรม โดยมีทีมงานจากบริษัท อาโทส (ประเทศไทย) ซึ่งมีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการออกแบบ จัดทำและติดตั้งระบบโครงสร้างองค์กร พร้อมให้คำปรึกษา และให้บริการแบบครบวงจร ด้วยมาตรฐานระดับสากล

โซลูชั่นและบริการจาก Atos x SAP ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้แก่องค์กรได้อย่างไร

RISE with SAP เป็นบริการโซลูชั่นครบวงจรจาก SAP เพื่อการปฏิวัติรูปแบบธุรกิจสู่การเป็นองค์กรอัจฉริยะในทุกมิติ ที่ช่วยลดความซับซ้อนในการใช้งาน พร้อมรองรับการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องในอนาคต ช่วยปลดล็อกธุรกิจให้สามารถทำทรานส์ฟอร์มองค์กรเข้าสู่ระบบ Cloud ได้อย่างเต็มรูปแบบบนเครือข่ายความร่วมมือทางการค้ากับพาร์ทเนอร์ที่มีความชำนาญด้าน Cloud Solution ชั้นนำมากมายเพื่อความสะดวกและรวดเร็วในทุกขั้นตอน เพื่อการก้าวขึ้นเป็นผู้นำทางอุตสาหกรรมในธุรกิจยุคดิจิทัล ด้วยกระบวนการ

  • การออกแบบกระบวนการธุรกิจรูปแบบใหม่ ด้วยการทำ Business Process Intelligence จากการพัฒนาโมเดลธุรกิจและความเชี่ยวชาญด้านกระบวนการของ SAP ในหลากหลายอุตสาหกรรม จึงสามารถวิเคราะห์ประสิทธิภาพการขับเคลื่อนธุรกิจของตนได้อย่างต่อเนื่อง ตลอดจนปรับแนวทางการทำงานให้ตอบสนองความต้องการทางธุรกิจได้อย่างตอบโจทย์และตรงเป้าหมาย เช่น โซลูชั่น Robotic Process Automation (RPA) และบริการ Artificial Intelligence (AI) อื่นๆ
  • การย้ายฐานข้อมูลทางเทคนิคอย่างไร้รอยต่อ ขับเคลื่อนการใช้นวัตกรรมในระบบ Cloud โดยร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ชั้นนำ และการสนับสนุนด้านการใช้งานจากทีมผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิค เพื่อช่วยให้สามารถย้ายข้อมูลได้อย่างไร้รอยต่อและมีประสิทธิภาพสูง โดยใช้โครงสร้างพื้นฐาน Cloud Data Center ของ SAP หรือ ศูนย์จัดเก็บข้อมูลระดับ Hyperscale เอื้อต่อการใช้งานและขยายขีดความสามารถของการให้บริการโครงสร้างพื้นฐาน

ก้าวสู่การเป็นองค์กรอัจฉริยะ โดยการนำโซลูชั่น SAP Business Technology Platform (BTP) มาพร้อม Semantic Layer ที่พร้อมเชื่อมประสานองค์กรให้เป็นหนึ่งเดียว เพื่อการปรับเปลี่ยนธุรกิจในทุกมิติอย่างไร้รอยต่อ โดยโซลูชั่นดังกล่าวช่วยดูแลฐานข้อมูลศูนย์กลาง ให้เป็นระเบียบและเอื้อให้ผู้ใช้เข้าถึงข้อมูลได้สะดวกขึ้น

SAP Business Technology Platform (BTP) เป็นแพลตฟอร์มที่คำนึงถึงความยืดหยุ่นและมีตัวเลือกหลากหลายรูปแบบที่ช่วยเร่งนวัตกรรมและปลดล็อกศักยภาพทางธุรกิจขององค์กร เพื่อให้นักพัฒนาระบบและผู้ใช้งานในองค์กรสามารถใช้งานข้อมูล เพิ่มส่วนขยาย และปรับแต่งแอปพลิเคชัน SAP หรือรวมและเชื่อมต่อภูมิทัศน์ทั้งหมดเข้าด้วยกัน ในด้านข้อมูลและการวิเคราะห์ ปัญญาประดิษฐ์ การพัฒนาแอปพลิเคชัน ด้วยระบบอัตโนมัติ บนแพลตฟอร์มคลาวด์แบบครบวงจร เพื่อให้ได้รับรู้ข้อมูลในทุกๆ ด้าน สามารถใช้ในการตัดสินใจได้อย่างมั่นใจและถูกต้อง ทำให้ดำเนินธุรกิจได้อย่างต่อเนื่องไม่มีสะดุด โดย

• Personalize experiences for SAP Applications
ปรับแต่งแอปพลิเคชันให้เป็นรูปแบบที่เหมาะกับองค์กร ด้วยการรวมนวัตกรรมเข้ากับแอปพลิเคชันจาก SAP และประมวลผลโดยใช้ระบบปัญญาประดิษฐ์แบบอัตโนมัติ เพื่อสร้างประสบการณ์การใช้งานที่สะดวกและครอบคลุม และเข้าถึงข้อมูลต่างๆ ได้แบบเรียลไทม์

• Innovate faster with business context
ทำงานได้สะดวกและรวดเร็วด้วยเครื่องมือที่พัฒนาขึ้นรองรับทั้งแบบใช้โค้ดและไม่ใช้โค้ด เพื่อใช้และวิเคราะห์ข้อมูลได้อย่างแม่นยำและถูกต้อง โดยมีรูปแบบพร้อมกรณีศึกษาที่เหมาะสำหรับแต่ละธุรกิจในการจำลองตัวอย่าง

• Run on a trusted, enterprise-grade platform
ดำเนินการผ่านระบบคลาวด์ซึ่งบริหารจัดการโดยระบบ SAP ได้ สามารถปรับแต่งระบบการทำงานได้ไม่ต้องมีการบำรุงรักษา และยังทำงานร่วมกับระบบคลาวด์รายอื่นๆ ที่ใช้อยู่ได้อีกด้วย

Atos Cybersecurity นั้นเป็นผู้นำอันดับ 1 ในยุโรปและเป็นผู้นำระดับโลกด้าน Cybersecurity ที่มีทีมงานผู้เชี่ยวชาญกว่า 6,000 คน ด้วยเครือข่ายศูนย์การดูแลความปลอดภัย (SOCs) และมีพันธมิตรดูแลด้านความปลอดภัยทั่วโลก ให้บริการได้อย่างครบวงจร โดยมีบริการ ดังนี้

  • Big Data Analytics เชื่อมโยงข้อมูลร่วมกับระบบอัตโนมัติทั่วโลกเพื่อควบคุมความปลอดภัยเพื่อเพิ่มความคล่องตัวและมีประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้น
  • Atos Trusted Digital Identities การเข้าถึงทรัพยากรที่สำคัญได้อย่างปลอดภัยและสะดวกสบายได้หลากหลายอุปกรณ์ ด้วยระบบตรวจสอบที่รัดกุม
  • Industrial and IoT Security เสริมความปลอดภัยแก่ระบบ IOT ขององค์กรให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น
  • Atos Digital Workplace Security ทำงานได้ทุกที่ทุกเวลา บนอุปกรณ์ที่หลากหลายด้วยความปลอดภัยสูงสุด
  • Data Protection and Governance ทำงานผ่านระบบ Cloud แบบ real time ดูแลรักษาความปลอดภัยของระบบ IoT & OT ปกป้องข้อมูลที่สำคัญขององค์กรไม่ให้รั่วไหลได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • Hybrid Cloud Security โอนย้ายข้อมูลผ่านระบบคลาวน์ได้อย่างปลอดภัย มีความยืดหยุ่นสูง เข้าถึงข้อมูลด้วยความสะดวกและความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
  • ควบคุม ดูแล และตรวจสอบระบบภายในองค์กรทั้ง on-premise และบนคลาวน์ ได้ 360° ด้วย Atos Managed Detection and Response (MDR) สามารถให้บริการอย่างเต็มรูปแบบ ในการตรวจจับ ตอบสนอง และป้องกันต่อภัยคุกคามทางไซเบอร์ด้วยความรวดเร็วย่างอัตโนมัติ

พร้อมกันนี้บริษัท อาโทส (ประเทศไทย) ได้ยกระดับความแข็งแกร่งด้าน Cyber Security ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ด้วยการจับมือกับ บริษัท ไซเบอร์ อีลีท จำกัด ซึ่งเป็นพันธมิตรใหม่ที่เชี่ยวชาญด้าน Cyber Security โดยเฉพาะ มาเป็นผู้ดำเนินการด้านการจัดจำหน่าย พร้อมทั้งให้คำแนะนำปรึกษาในการบริหารจัดการด้านความปลอดภัย เพื่อป้องกันภัยคุกคามทางธุรกิจบนโลกไซเบอร์อย่างเต็มรูปแบบอีกด้วย


บริษัท อาโทส (ประเทศไทย) ยังมี Digital Solutions และบริการต่างๆ อีกมากมาย ที่ตอบโจทย์หน่วยงานหรือองค์กรที่ต้องการปรับเปลี่ยนรูปแบบเข้าสู่ระบบดิจิทัลเพื่อเป็นองค์กรอัจฉริยะอย่างเต็มตัว ซึ่งเหมาะสมกับสภาวะของเศรษฐกิจและสังคมที่เปลี่ยนแปลงในปัจจุบัน นี่จึงเป็นกลไกการตลาดที่สำคัญที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้แก่องค์กร เพื่อลดต้นทุน และการบริหารจัดการเวลาได้อย่างคุ้มค่า ทำให้องค์กรก้าวกระโดดได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน พร้อมรับการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ได้อย่างทันท่วงที

สนใจบริการ RISE with SAP และ Atos Services
สามารถติดต่อได้ที่ คุณรตนพร สุริย์ อีเมล ratanaporn.suri@atos.net
หรือ ส่งข้อมูลความสนใจผลิตภัณฑ์มาที่ https://forms.gle/WCiXH3ZdFJUf1gFx6

from:https://www.enterpriseitpro.net/sap-collapse-atos-to-transformations-for-digital-business/

SAP แต่งตั้ง Ryan Poggi ขึ้นดำรงตำแหน่ง MD ประจำอังกฤษและไอร์แลนด์

SAP ประกาศแต่งตั้ง Ryan Poggi เป็นกรรมการผู้จัดการคนใหม่ประจำสหราชอาณาจักรและประเทศไอร์แลนด์ แทนคนเก่าอย่าง Michiel Verhoeven ที่กำลังจะออกไป โดยให้รายงานตรงต่อประธานภูมิภาคยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกา คุณ Rohit Nagarajan

Poggi จะได้มาคุมทีมงานจำนวนกว่า 5 พันคน ตั้งเป้าเพิ่มมูลค่าของลูกค้าและผลักดันบริการคลาวด์ให้เติบโตยิ่งขึ้น รวมไปถึงการยกระดับประสบการณ์ใช้งานของลูกค้าในสองประเทศนี้ ขณะที่ก่อนหน้านี้ Poggi ดำรงตำแหน่งผู้บริหารมาหลายภูมิภาคตั้งแต่ร่วมงานกับ SAP ในปี 2007

โดยเฉพาะเคยดำรงตำแหน่ง COO ในส่วนกลุ่มธุรกิจในอังกฤษและไอร์แลนด์ก่อนด้วย ขณะที่เอ็มดีคนก่อน Michiel Verhoeven ที่ทำมาสามปี กำลังจะออกไปเป็น CEO ของบริษัทด้านแพลตฟอร์มระบบอัตโนมัติด้านประมวลผลข้อมูล Xceptor

Rohit กล่าวว่า Poggi มีประสบการณ์ในการดูแลบริการลูกค้า SAP มาอย่างครอบคลุม ถือเป็นตัวเลือกที่ดีมากที่จะเอาเข้ามาแทนที่เอ็มดีคนก่อน โดยเฉพาะความเชี่ยวชาญด้านธุรกิจคลาวด์ และทักษะความเป็นผู้นำของเขา

อ่านเพิ่มเติมที่นี่ – ITPro

from:https://www.enterpriseitpro.net/sap-appoints-ryan-poggi-as-managing-director-for-uk-and-ireland/

SAP S/4HANA Cloud คว้า 3 รางวัล “Best Of” จาก TrustRadius

TrustRadius ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการตรวจสอบโดยผู้รู้อิสระชั้นนำสำหรับซอฟต์แวร์ B2B ในหมวดการวางแผนทรัพยากรองค์กร (ERP)
 

เมแกน เฮดลีย์ รองประธานฝ่ายวิจัยของ TrustRadius กล่าวว่า “SAP S/4HANA Cloud ได้รับรางวัล Winter Best Of สำหรับชุดฟีเจอร์ที่ดีที่สุด คุ้มค่ากับราคาที่สุด และความสัมพันธ์ที่ดีที่สุด โดยพิจารณาจากคำติชมจากลูกค้าทั้งหมด”
 
TrustRadius พิจารณาบทวิจารณ์ของลูกค้าในช่วงสองไตรมาสสุดท้ายของปี 2022 เพื่อพิจารณารางวัลโดยใช้เกณฑ์ต่อไปนี้:
  • Best Feature Set: พิจารณาจากเปอร์เซ็นต์สูงสุดของผู้ตอบแบบสอบถามที่พอใจกับชุดคุณลักษณะของผลิตภัณฑ์
  • Best Relationship: จากข้อมูลเชิงลึกที่สำคัญในบทวิจารณ์ผลิตภัณฑ์สำหรับการซื้อซ้ำ ความคาดหวังในการดำเนินการ และคำสัญญาด้านการขายและการตลาด
  • Best Value for Price: พิจารณาจากเปอร์เซ็นต์สูงสุดของผู้ตอบแบบสอบถามที่พึงพอใจกับความคุณค่าและราคาของผลิตภัณฑ์ที่สุด
97% ของตอบแบบสอบถามใน TrustRadius พอใจกับชุดฟีเจอร์นี้ 100% ระบุว่าคุ้มค่ากับราคา และ 99% บอกว่าจะซื้อผลิตภัณฑ์นี้อีก พร้อมยกย่องระบบ ERP บนคลาวด์ที่มีต้นทุนต่ำและการอำนวยความสะดวกในการแปลงทางดิจิทัล
 
SAP S/4HANA Cloud เป็นระบบ ERP บนคลาวด์ ซึ่งขับเคลื่อนโดยปัญญาประดิษฐ์ (AI) และการวิเคราะห์ ซึ่งช่วยให้ลูกค้า
  • สามารถดำเนินการตามภารกิจที่สำคัญได้แบบเรียลไทม์
  • สามารถเปลี่ยนรูปแบบธุรกิจของพวกเขาให้เป็นดิจิทัลได้โดยการสร้าง value chains ที่ยืดหยุ่นด้วยกระบวนการแบบครบวงจร
  • สามารถแนะนำรูปแบบธุรกิจใหม่ในอุตสาหกรรมของลูกค้าและขยายไปทั่วโลกอย่างยั่งยืนกับพันธมิตรที่เชื่อถือได้ใน SAP
โซลูชัน Cloud ERP ของ SAP เป็นหัวใจสำคัญทางดิจิทัลที่แข็งแกร่ง การตัดสินใจลงทุนที่ถูกต้องและคุ้มค่าที่สุดให้กับการขับเคลื่อนธุรกิจเมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล คือ การเติบโตที่สามารถสร้างมูลค่าให้กับธุรกิจอย่างยั่งยืน
 

from:https://www.techtalkthai.com/sap-s-4hana-cloud-wins-three-best-of-awards-from-trustradius/

“ไอทีวัน” วางรากฐานจัดการข้อมูลให้กับกลุ่มบริษัท เอสซีจี จัดทำ Data Governance พร้อมผลักดันธุรกิจให้ใช้ประโยชน์จากข้อมูลได้เต็มที่

ปัจจุบันธุรกิจต่างขับเคลื่อนด้วยข้อมูลเป็นหลัก และเกิดการตื่นตัวในเรื่องการนำ “ข้อมูล” มาใช้ให้เกิดประโยชน์ทางธุรกิจสูงสุด โดยแต่ละองค์กรต้องการข้อมูลที่พร้อมนำไปวิเคราะห์เพื่อพัฒนาและต่อยอดทางธุรกิจในหลากหลายมิติ

แต่หลายองค์กร ข้อมูลอาจยังไม่ได้ถูกนำมาจัดเก็บให้พร้อมสำหรับการนำไปใช้ เนื่องจากยังไม่ได้จัดทำในเรื่องของ Master Data Governance หรือ การกำกับดูแลข้อมูลหลัก ซึ่งถือว่าเป็นองค์ประกอบสำคัญอย่างหนึ่ง ที่จะช่วยส่งเสริมศักยภาพขององค์กรในการนำข้อมูลไปใช้ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

กลุ่มบริษัท เอสซีจี เป็นองค์กรระดับประเทศที่เล็งเห็นถึงความสำคัญของ Master Data Governance ซึ่งถือได้ว่าเป็นส่วนสำคัญในการบริหารจัดการข้อมูลเพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนองค์กรด้วยข้อมูลคุณภาพได้อย่างยั่งยืน โดยเลือก ไอทีวัน ผู้ให้บริการด้านไอทีและดิจิทัลโซลูชันครบวงจร มาช่วยวางรากฐานการจัดการข้อมูล รวมถึงการจัดทำ Master Data Governance เพื่อให้กลุ่มบริษัท เอสซีจี นำประโยชน์จากข้อมูลไปใช้ในการขับเคลื่อนธุรกิจได้อย่างเต็มที่

เป้าหมายของ Master Data Governance เริ่มจากข้อมูลที่ดี

การจัดทำ Master Data Governance มีเป้าหมายอยู่ที่การทำให้เกิดข้อมูลที่ดีภายในองค์กร ซึ่งข้อมูลที่ดีจะต้องมีคุณภาพ ครบถ้วน เป็นปัจจุบัน มีมาตรฐานเดียวกัน และตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานได้

เพื่อเป็นการวางรากฐานการจัดการข้อมูลหลักให้มีมาตรฐานเดียวกันในกลุ่มบริษัท เอสซีจี ทางไอทีวัน จึงได้ช่วยพัฒนาระบบ SAP Master Data Governance (SAP MDG) ให้กับทางเอสซีจี  เพื่อเชื่อมต่อการทำงานในการบริหารจัดการข้อมูลหลักระหว่างกลุ่มธุรกิจต่างๆ ภายในเอสซีจี ซึ่งมีระบบ SAP ERP ของตนเองใช้งานอยู่ เช่น SCG Corporate, SCG Chemicals, SCG Packaging, SCG Cement and Building Materials และ SCG Ceramics เป็นต้น

 

นางสาวนพนิดา  สุขจิระ เจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไอทีวัน จำกัด กล่าวว่า “ในระบบจัดการทรัพยากร SAP จะมีโปรแกรมที่เรียกว่า SAP MDG (Master Data Governance) เพื่อนำมาใช้กำกับดูแลคุณภาพของข้อมูลหลักที่จะใช้ในองค์กรให้เป็นข้อมูลที่ถูกต้อง ครบถ้วน สมบูรณ์ และเป็นปัจจุบัน เมื่อข้อมูลหลักมีคุณภาพ หน่วยงานต่างๆ หรือบริษัทอื่นที่เกี่ยวข้องภายในเอสซีจี ก็จะได้รับประโยชน์จากการใช้ข้อมูลหลักเหล่านั้นด้วย ซึ่งทางเอสซีจีกำลังมองหาซอฟต์แวร์ใหม่ที่ดีและยืดหยุ่นเข้ามาใช้ในการจัดการบริหารข้อมูลหลักเพื่อทดแทนระบบงานเดิม หรือทำงานแบบ manual บางส่วน และซอฟต์แวร์ใหม่ควรจะสามารถใช้งานได้ต่อไปอีกอย่างน้อย 5-10 ปี จึงเป็นที่มาของความร่วมมือครั้งนี้”

ระบบ SAP MDG ทรานส์ฟอร์มสู่ข้อมูลที่ดีมีคุณภาพ

เมื่อการอัปเดตข้อมูลหลักเกิดขึ้นด้วยวิธีการทำงานแบบ manual อาจส่งผลถึงคุณภาพของข้อมูล โดยเฉพาะความถูกต้องครบถ้วนของข้อมูล ดังนั้น ทางไอทีวันได้แนะนำระบบ SAP MDG ซอฟต์แวร์ใหม่ให้กับกลุ่มบริษัท เอสซีจี ในการทรานส์ฟอร์มสู่ข้อมูลหลักที่ดี เพื่อจัดทำมาตรฐานของข้อมูลให้พร้อมใช้งานต่อไป

นายกรกช จันทรศุภวงษ์ ผู้จัดการโครงการ บริษัท ไอทีวัน จำกัด กล่าวว่า “ระบบ SAP MDG เป็นซอฟต์แวร์ที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อจัดการข้อมูลหลัก ซึ่งจะมีความสามารถที่โดดเด่นทางด้านคุณภาพข้อมูล (Data Quality) การทำงานที่ลื่นไหล (Workflow) และการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล (Data Validation) ซึ่งตอบโจทย์ความต้องการของทางกลุ่มบริษัท เอสซีจี ได้แก่

  • ซอฟต์แวร์ที่เป็นศูนย์กลางสำหรับจัดเก็บข้อมูลหลัก ที่มีการตรวจสอบว่าข้อมูลถูกต้อง และสามารถเชื่อมโยงข้อมูลหลักไปยังระบบงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเข้าไว้ด้วยกัน
  • ซอฟต์แวร์ที่สามารถรองรับการขยายการเชื่อมต่อของข้อมูลหลักไปยังระบบงานอื่นๆ เพิ่มเติมได้ในอนาคต
  • ซอฟต์แวร์ที่สามารถรองรับการทำงานในรูปแบบต่างๆ ของผู้ใช้งาน ทั้งบนคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ และทำงานนอกสถานที่ได้
  • ซอฟต์แวร์ที่สามารถตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลหลักได้ เพื่อให้ข้อมูลมีคุณภาพ”

ความสำเร็จของการจัดทำ Data Governance

หลังจากนำระบบ SAP MDG มาใช้ในกลุ่มบริษัทภายใต้ SCG เป็นระยะเวลา 5 เดือน สำหรับบริหารฐานข้อมูลผู้ขายและลูกค้า พบว่าระบบช่วยให้การทำงานตั้งแต่การสร้าง การปรับปรุงข้อมูล การอนุมัติ การยืนยันข้อมูล ตลอดจนการเชื่อมโยงข้อมูลไปยังระบบงานหลักต่างๆ เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

“ระบบบริหารข้อมูลบน SAP MDG ช่วยให้การทำงานของบุคลากรที่เกี่ยวข้องเป็นไปด้วยความรวดเร็ว ถูกต้อง และเพิ่มความสามารถในการให้บริการบริษัทในเครือ SCG ได้มากขึ้น จากเดิมที่การจัดการข้อมูลเพื่อให้บริการธุรกิจบนระบบงานที่แตกต่างกัน ต้องอาศัยบุคลากรเป็นหลักในการนำเข้าและปรับปรุงข้อมูล หลังจากที่นำระบบ SAP MDG มาใช้งาน การนำข้อมูลเข้าสู่ระบบ การบริหารข้อมูลแบบรวมศูนย์ เพื่อกระจายข้อมูลไปยังระบบต่างๆ ของบริษัทในเครือฯ ที่อ้างอิงและใช้งานข้อมูลร่วมกัน สามารถทำได้โดยอัตโนมัติ รวมถึงการสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้ใช้บริการในด้านความพร้อมและคุณภาพของข้อมูลที่มีการสำรองข้อมูลและเชื่อมต่อกับกรมสรรพากรเพื่อตรวจสอบความถูกต้อง” นายปิยะพล วลัยกนก บริษัทปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (Director – Corporate IT) กล่าว

หากองค์กรใดกำลังมองหาแนวทางการยกระดับข้อมูลหลักให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน เพื่อเตรียมข้อมูลให้พร้อมสำหรับรองรับระบบงานและสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ไอทีวัน มีที่ปรึกษาที่มีความเชี่ยวชาญด้านไอทีและดิจิทัลโซลูชันครบวงจรให้กับองค์กรธุรกิจชั้นนำในหลากหลายอุตสาหกรรม ซึ่งพร้อมช่วยทรานส์ฟอร์มสู่การเป็นองค์กรที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล (Data-Driven Organization) ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่

 

from:https://www.techtalkthai.com/itone-data-governance-guest-post/

การบินไทย ไว้ใจ I AM Consulting ยกระดับ ระบบ ERP ขึ้นบน Cloud [Guest Post]

เพิ่มศักยภาพนำธุรกิจสู่การแข่งขันกลุ่มอุตสาหกรรมการบินระดับโลก

 

การบินไทยไว้วางใจ I AM Consulting” เป็นที่ปรึกษาเดินหน้าโครงการ SAP Migration to AWS Cloud Platform พัฒนาซอฟต์แวร์บริหารจัดการธุรกิจบนรูปแบบคลาวด์ รองรับการเปลี่ยนแปลงสู่ยุคดิจิทัลเต็มรูปแบบ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันสู่สายการบินชั้นนำของโลก

กรุงเทพฯ// นายชัยยง รัตนาไพศาลสุข ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายดิจิทัล บริษัท การบินไทย จำกัด มหาชน กล่าวว่า จากเดิมที่ ระบบ SAP ระบบบริหารจัดการทรัพยากรภายในองค์กร (ERP) ของการบินไทย ติดตั้งอยู่บนเซิร์ฟเวอร์ขององค์กรเอง นับเป็นโอกาสดีที่จะได้นำข้อมูลขึ้นบนระบบคลาวด์ซึ่งจะช่วยให้การบินไทยพร้อมรองรับเทคโนโลยีที่หลากหลายในการพัฒนาธุรกิจในอนาคต โดยมีความยินดีที่ได้ I AM Consulting เข้ามาร่วมงานกันอีกครั้ง เพราะนับว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการทำ Digital Transformation ที่ร่วมงานกับการบินไทยมาแล้วหลายโครงการ ซึ่งสามารถส่งมอบทุกโครงการได้ทันตามแผนที่วางไว้และประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดี

สำหรับการยกระบบ ERP ขึ้น Cloud Platform ในครั้งนี้ ทางการบินไทย ได้เลือกใช้ Cloud Service ของ Amazon Web Services (AWS) ซึ่งเป็นผู้ให้บริการระบบคลาวด์ชั้นนำของโลกที่มีระบบคลาวด์ที่ยืดหยุ่นและปลอดภัยที่สุดในปัจจุบัน

และในการประชุมเปิดโครงการ นายกริช วิโรจน์สายลี กรรมการ บริษัท I AM Consulting จำกัด นำทีมที่ปรึกษาเข้าร่วมประชุมและอธิบายแผนงาน เผยว่า โครงการนี้เป็นโครงการขนาดใหญ่ ที่มีความท้าทายเพราะเป็นการยกระบบที่เกี่ยวข้องกับผู้ใช้งานทั้งองค์กร ไม่ว่าจะเป็นฝั่ง Corporate และ Technical ซึ่งทีมที่ปรึกษาจะต้องทำงานอย่างระมัดระวัง เพื่อให้มั่นใจได้ว่า Functional ต่างๆ ของระบบสามารถทำงานได้อย่างปกติ แต่ก็ไม่มีความหนักใจ เนื่องจากทีมงานของ I AM มีความเชี่ยวชาญ และคุ้นเคย กับระบบต่างๆ ของการบินไทยเป็นอย่างดี นอกจากนี้ ด้วย DNA ของ I AM ที่ใส่ใจในทุกรายละเอียด ในทุกโครงการ จึงมั่นใจได้ว่าจะสามารถดำเนินโครงการนี้ได้อย่างประสบความสำเร็จ ตามแผนงานและงบประมาณที่กำหนดไว้ ดังหลักการทำงานที่เรายึดถือว่า “When I AM Promises I AM Delivers”

การร่วมงานกันในครั้งนี้ ถือเป็นอีกก้าวสำคัญของการบินไทย ซึ่ง I AM พร้อมด้วย Amazon Web Services (AWS) จะเข้ามาช่วยออกแบบกระบวนการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น จัดการข้อมูลได้อย่างฉับไว เพิ่มโอกาสขับเคลื่อนธุรกิจได้เต็มรูปแบบและยั่งยืน สอดคล้องกับสภาวะการแข่งขันทางเทคโนโลยีในปัจจุบัน ก้าวสู่อุตสาหกรรมการบินแนวหน้าในระดับสากล

from:https://www.techtalkthai.com/thai-airways-trusts-i-am-consulting-to-upgrade-the-erp-system-on-the-cloud/

ขอเชิญร่วมสัมมนาออนไลน์ Unleashed the ultimate power of SAP Digital core with NDBS Solutions ปลดล็อคพลังทางธุรกิจสู่โลกดิจิทัลกับเทคโนโลยีแพลตฟอร์มจาก NDBS Thailand 22 กุมภาพันธ์ 2023 เวลา 10.00 – 12.00 น.

NTT DATA Business Solutions (Thailand) Ltd. ขอเรียนเชิญผู้บริหารทุกท่านเข้าร่วมงานสัมมนาออนไลน์ในหัวข้อ Unleashed the ultimate power of SAP Digital core with NDBS Solutions ปลดล็อคพลังทางธุรกิจสู่โลกดิจิทัลกับเทคโนโลยีแพลตฟอร์มจาก NDBS Thailand ในวันพุธที่ 22 กุมภาพันธ์ 2023 เวลา 10.00 – 12.00 น.

ภายในงาน Webinar ครั้งนี้ท่านจะได้เจาะลึกถึงโซลูชัน SAP S/4 HANA Cloud  ทั้งในรูปแบบของ Private Edition and Public Edition ว่ามีความแตกต่างกันอย่างไร และต้องเลือกใช้งานอย่างไรให้เหมาะสม รวมถึงมีการนำเสนอโซลูชันอื่นๆ เพื่อต่อยอดจากระบบ SAP ไม่ว่าจะเป็นการบริหารจัดการ Master Data, ระบบบริหารจัดการ Supplier และการทำงานแบบ Paperless สำหรับกระบวนการต่างๆ ในธุรกิจ

SAP S/4HANA Cloud กำลังเป็นโซลูชันระบบ ERP ที่ได้รับความนิยมมากยิ่งขึ้นในปัจจุบัน ทั้งสำหรับธุรกิจองค์กรที่กำลังมองหาระบบ ERP ใหม่ หรือธุรกิจองค์กรที่ต้องการอัปเกรดระบบต่อจาก SAP ECC 6.0

แต่ SAP S/4HANA Cloud นี้สามารถเลือกใช้งานได้ทั้งแบบ Private Edition และ Public Edition คำถามคือ ทั้งสองโซลูชันนี้แตกต่างกันอย่างไร? และธุรกิจของท่านเหมาะที่จะเลือกใช้งานแบบไหน? ใน Webinar ครั้งนี้มีคำตอบให้กับคุณ

นอกจากนี้ การวางวิสัยทัศน์ในระยะยาวสำหรับระบบ ERP นั้นย่อมต้องมองถึงการต่อยอดในอนาคตด้วย ดังนั้นในงาน Webinar ครั้งนี้ จึงมีการนำเสนอเทคโนโลยีต่อยอดจากระบบ SAP เพื่อสร้างความคุ้มค่าให้กับการลงทุนระบบ ERP สำคัญของคุณ ดังนี้

it.capture ระบบ Paperless ที่สามารถประมวลผลเอกสารในรูปแบบกระดาษมาสู่ Digital เพื่อปรับกระบวนการที่เคยเป็น Manual ในองค์กรให้กลายเป็นอัตโนมัติ

it.master data simplified ระบบดูแลรักษาข้อมูล Master Data ของ SAP และ Workflow ภายใน ให้ข้อมูลมีคุณภาพ และควบคุมการเข้าถึงหรือจัดการกับข้อมูลภาคส่วนต่างๆ ภายใน ERP ให้เหมาะสมกับบทบาทของผู้บริหารหรือพนักงานแต่ละคน

it.mx direct spend portal ระบบบริหารจัดการ Supplier และการจัดซื้อที่สามารถใช้งานได้อย่างง่ายดาย ช่วยให้ฝ่ายจัดซื้อและ Supplier สามารถทำงานร่วมกันได้บนระบบเดียว ที่เห็นข้อมูลตรงกันอยู่เสมอในแบบ Real-Time

งานสัมมนานี้เหมาะกับ CEO, CTO, CFO และผู้ดูแลระบบ SAP ในภาคส่วนต่างๆ ขององค์กร ที่ต้องการมองหาแนวทางใหม่ๆ ในการใช้งานระบบ SAP บน Cloud ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และต่อยอดจากข้อมูลธุรกิจที่มีอยู่ได้อย่างเหมาะสม รวมถึงธุรกิจองค์กรที่ยังไม่เคยใช้งานระบบ ERP หรือ SAP มาก่อน และกำลังมองหาระบบสำหรับบริหารจัดการธุรกิจของท่านในทุกแง่มุม

ลงทะเบียนเข้าร่วมงานสัมมนาครั้งนี้ได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย

สำหรับผู้ที่ลงทะเบียนผ่าน QR CODE  แล้วจะมีเจ้าหน้าที่ติดต่อกลับเพื่อยืนยันสิทธิ์การเข้าร่วมสัมมนาหรือสามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ 02-2370553*103 คุณวันเพ็ญ แผนก การตลาด

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

from:https://www.techtalkthai.com/ntt-data-unleashed-the-ultimate-power-of-sap-digital-core-with-ndbs-solutions-22-feb-23/