คลังเก็บป้ายกำกับ: SME

finbiz by ttb เผยเคล็ดลับ SME

ในปัจจุบันผู้ประกอบธุรกิจต้องพบเจอความท้าทายที่หลากหลาย และสิ่งหนึ่งที่ต้องเผชิญก็คือ การรักษาคนเก่งให้ทำงานด้วยไปนาน ๆ หรือการดึงดูดคนเก่งมาทำงานด้วย  แน่นอนว่า พนักงานเก่ง ๆ ย่อมอยากร่วมงานกับองค์กรที่เป็น “งานที่มั่นคง” ซึ่งในยุคก่อนหมายถึง การทำงานกับหน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ ธนาคาร หรือ บริษัทเอกชนข้ามชาติ บริษัทที่มีการลงทุนขนาดใหญ่

แต่ในปัจจุบันมีบริษัทขนาดกลาง ขนาดเล็ก หรือแม้แต่บริษัทแบบ Start up ที่มีพนักงานไม่ถึง 50 คน เกิดขึ้นมากมาย ดังนั้น บริษัทเหล่านี้จะทำอย่างไรที่ทำให้คนเก่งรู้สึกว่าเป็นองค์กรที่มั่นคง อยากเข้ามาร่วมงานด้วย

finbiz by ttb ได้เสนอแนวคิดและเคล็ดวิธี สำหรับ SME เพื่อนำไปสู่การเป็นองค์กรที่มั่นคง ตอบโจทย์คนเก่ง ดึงดูดให้อยากมาร่วมงานและอยู่ไปนานๆ ซึ่ง SME ทำได้ไม่เกินกว่าความสามารถ เพื่อให้ก้าวผ่านความท้าทายนี้ไปได้

ความมั่นคง ในยุคปัจจุบัน คืออะไร

สิ่งที่คนในยุคปัจจุบันมองคือ ความยาวนาน ไม่ได้เท่ากับความมั่นคง หรือดึงดูดอีกต่อไป แต่ความมั่นคง สร้างความน่าเชื่อใจ และดึงดูด ในมุมมองของคนยุคปัจจุบัน ประกอบด้วยปัจจัยต่างๆ  ดังนี้

  1. องค์กรที่สามารถรับมือกับสถานการณ์ต่าง ๆ ได้ และสามารถสนับสนุนให้พนักงานสามารถปรับตัวได้ทัน เพื่อลดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด หรือกะทันหัน เช่น การลาออก หรือ การไล่ออก
  2. มีการสื่อสารในองค์กรแบบ 360 องศา ทั้งจากผู้บริหารถึงพนักงาน และจากพนักงานถึงผู้บริหาร โดยมีการรับฟัง และพยายามทำความเข้าใจ ในหลากหลายช่องทาง
  3. สามารถทำให้พนักงานมองเห็นเส้นทางอาชีพ หรือ การเติบโตในอนาคตของตัวเองในองค์กรได้
  4. องค์กรที่พนักงานรู้สึกว่าตัวเองมีการพัฒนาที่ดี สามารถดึงศักยภาพที่แท้จริงของพนักงานออกมาได้
  5. องค์กรสามารถให้เงินเดือนที่เหมาะสมกับความรู้ความสามารถ รวมไปถึงสวัสดิการ การดูแลสุขภาพด้านต่าง ๆ และให้การดูแลพนักงานตามที่กฎหมายแรงงานกำหนด

จากทั้งหมด 5 ข้อนี้ พบว่ามิติของความมั่นคง ได้เปลี่ยนไปจากความมั่นคงขององค์กร ไปสู่การสร้างเสริมความมั่นใจในการดำรงชีวิตให้กับพนักงาน ซึ่งเป็นทั้งสิ่งที่ “พนักงานอยากได้” และองค์กรก็ได้รับประโยชน์ด้วยเช่นกัน และเมื่อสามารถตอบโจทย์ดังกล่าวได้ จะมี “บุคลากรที่มีความสามารถ มีความคิดสร้างสรรค์ที่เต็มใจมอบแรงกายใจมันสมอง เพื่อพัฒนา สร้างผลงาน ยอดขาย รวมถึงสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับองค์กร” ถึงแม้จะองค์กรไม่ได้ใหญ่โตมากก็ตาม

SME มั่นคง เพราะ พนักงานมั่นใจ

การจะเป็นองค์กรที่พนักงานให้ความไว้วางใจ และร่วมงานกันอย่างมั่นใจนั้น ไม่ยากอย่างที่คิด

  1. หมั่นสื่อสารกับพนักงานอยู่เสมอ เช่น การประกาศผลประกอบการเป็นระยะ เพื่อให้พนักงานเข้าใจสถานการณ์ต่าง ๆ หากผลประกอบการดี พนักงานย่อมเกิดกำลังใจ หรือหากผลประกอบการไม่เป็นไปอย่างที่คาดหวัง จะต้องสามารถบอกสาเหตุได้ พนักงานจะได้เข้าใจ และเตรียมตัวรับมือกับสถานการณ์ต่าง ๆ ได้
  2. เปิดโอกาสให้พนักงานได้แสดงความคิดเห็น มีช่องทางในการแสดงความคิด วิธีนี้จะช่วยสร้างความรู้สึกเป็นส่วนสำคัญขององค์การ สร้างความผูกพันระหว่างพนักงานและองค์กร สร้างความรู้สึกเป็นเจ้าขององค์กรร่วมกัน และยังเป็นโอกาสได้แนวคิดในการพัฒนาองค์กร
  3. จัดการอบรมพัฒนาทักษะให้พนักงาน นอกจากจะช่วยพัฒนาฝีมือ ความคิดของพนักงานแล้ว ยังสามารถมาหักเป็นค่าใช้จ่ายให้เกิดประโยชน์ด้านภาษีได้อีกด้วย
  4. ปฏิบัติตามกฎหมายแรงงาน รวมถึงหาตัวช่วยในการพัฒนาสวัสดิการที่ดีให้กับพนักงาน เช่น ประกันกลุ่ม กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เป็นต้น
  5. เป็น SME ที่มีสวัสดิการดี มั่นคง มั่นใจ ทั้งสำหรับองค์กรและพนักงาน แต่เมื่อพูดถึงสวัสดิการที่ดีสำหรับ SME ส่วนใหญ่แล้วถือว่าไม่ใช่เรื่องง่าย มักจะต้องมีพนักงานจำนวนไม่ต่ำกว่า 50 คน จึงจะมีโอกาสต่อรอง เพื่อให้ได้สวัสดิการ เช่น ประกันกลุ่ม หรือจัดตั้งกองทุนสำรองเลี้ยงชีพดี ๆ ให้กับพนักงานได้

อย่างไรก็ตาม มีผลิตภัณฑ์ที่จะช่วยสร้างให้ SME มีสวัสดิการที่ดีได้ ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อทั้งพนักงานและองค์กรเองด้วย

ประกันกลุ่ม Group Insurance

ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์มารองรับองค์กร ที่มีพนักงานเริ่มต้นเพียง คน และยังสามารถจ่ายเบี้ยแบบแบ่งเป็นรายเดือนได้อีกด้วย

ประโยชน์สำหรับพนักงาน

  • ลดความกังวลให้กับพนักงาน เมื่อยามเจ็บป่วย
  • สามารถเข้ารักษาที่โรงพยาบาล และคลินิกได้โดยไม่ต้องสำรองจ่าย
  • มีความผูกพันกับองค์กรมากขึ้น รู้สึกได้รับการดูแล
  • ภูมิใจเมื่อได้อยู่กับองค์กรที่มีมาตรฐาน

ประโยชน์สำหรับองค์กร

  • องค์กรสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายได้ดี
  • สร้างความผูกพันกับพนักงาน ลดอัตราการลาออก (Turnover Rate)
  • ส่งเสริมภาพลักษณ์องค์กร
  • นำมาช่วยลดหย่อนภาษีได้

กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ Provident Fund

เริ่มต้นเพียง 2 คน ก็สามารถจัดตั้งกองทุนได้แล้ว และไม่กำหนดขั้นต่ำของจำนวนเงินนำส่งเข้ากองทุน อีกทั้งฟรีค่าธรรมเนียมจัดตั้งกองทุน

ประโยชน์สำหรับพนักงาน

  • ได้เงินสมทบจากนายจ้าง
  • มีเงินเก็บไว้ใช้หลังเกษียณ
  • สามารถนำเงินที่สะสมไปหักลดหย่อนภาษีได้
  • บริหารกองทุนโดยมืออาชีพ

ประโยชน์สำหรับองค์กร

  • ลดอัตราการลาออก (Turnover Rate)
  • ส่งเสริมภาพลักษณ์องค์กรด้านความมั่นคง
  • ส่งเสริมภาพลักษณ์ด้านความใส่ใจพนักงาน
  • บริหารกองทุนโดยมืออาชีพ
  • นำมาช่วยลดหย่อนภาษีได้

การหาตัวช่วยดี ๆ จะช่วยให้ SME สามารถเป็นองค์กรที่สร้างความมั่นคง มั่นใจในการดำรงชีวิต ดึงดูดพนักงานเก่ง ๆ ได้ไม่ยากอีกต่อไป โดย ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี มีบริการ ttb payroll plus ที่แม้บริษัทจะไม่ได้มีพนักงานมากมายนัก ก็สามารถใช้บริการได้ทั้งบริหารจัดการเงินเดือนได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถดูแลสวัสดิการพนักงานให้องค์กร แบบครบวงจร และประหยัดต้นทุนได้ด้วย ดูรายละเอียดเพิ่มเติม ที่ https://www.ttbbank.com/th/sme/sme-digital-banking-and-other-services/sme-payroll/ttb-payroll-plus

from:https://www.thumbsup.in.th/finbiz-by-ttb-sme-worker?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=finbiz-by-ttb-sme-worker

SME จะใช้เทคโนโลยีอย่างไร? AIS SME ตอบคำถามด้วยไอซีทีโซลูชั่นหนุน 4 ธุรกิจ พร้อมเปิดบริการใหม่ Yellow B2B2C e-marketplace

หนึ่งใน Sector ของภาคธุรกิจที่มีส่วนสำคัญต่อการเติบโตของประเทศ คือ SME ที่ปัจจุบันมีผู้ประกอบการกว่า 3.18 ล้านราย ซึ่งเป็น 1 ในเครื่องยนต์หลักขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจ ในขณะเดียวกันกลุ่ม SME ก็ยังมีส่วนร่วมในการสร้าง GDP ให้กับประเทศถึง 34.2% ดังนั้นการเพิ่มขีดความสามารถให้กับการดำเนินธุรกิจผ่านการทำ Digital Transformation ก็ยังคงเป็นหัวใจสำคัญที่จะทำให้ SME มีอาวุธใหม่ๆ ในการสร้างโอกาสและการเติบโตในอนาคตได้อย่างยั่งยืน

ais

ธนพงษ์ อิทธิสกุลชัย หัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มลูกค้าองค์กร AIS กล่าวว่า สิ่งที่ผู้ประกอบการ SME ส่วนใหญ่ต้องการ อาทิ เครื่องมือหรือแพลตฟอร์มด้านดิจิทัลมาร์เก็ตติ้ง, แพลตฟอร์มค้าขาย online หรือ E-Commerce เพื่อให้เสริมศักยภาพ เพิ่มความคล่องตัวในการทำงาน สามารถลดต้นทุนการดำเนินงาน ขยายช่องทางการขาย หรือแม้กระทั่งการขยายฐานลูกค้าและการเข้าถึงตลาดใหม่ๆ ดังนั้น  AIS Business ที่เข้าใจถึงความต้องการดังกล่าว จึงขอเป็นหนึ่งในฟันเฟืองที่จะช่วยผลักดันและสนับสนุนการเติบโตให้กับผู้ประกอบการ SME ด้วย กลยุทธ์ 7S

  • AIS SME Mobile Services บริการโทรศัพท์เพื่อการสื่อสาร
  • AIS SME Internet Services บริการอินเทอร์เน็ต
  • AIS SME Digital Marketing Services เครื่องมือด้านการตลาดออนไลน์
  • AIS SME IT & Digital Solutions พัฒนาระบบไอทีหลังบ้าน
  • AIS SME Full e-Services งานบริการแบบ E-Service ที่อำนวยความสะดวกให้แก่นิติบุคคล
  • AIS SME Special Privileges สิทธิพิเศษที่ทำให้การทำธุรกิจง่ายขึ้นด้วย AIS SME BIZ UP
  • AIS SME Strategic Partnership การผนึกกำลังกับพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศเพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการ

ais

AIS Business เน้นการสนับสนุน 4 อุตสาหกรรมหลัก SME ได้แก่ การค้า, การผลิต, บริการ, ดิจิทัล/เทคโนโลยี โดย AIS SME ได้จัดทำแพ็คเกจสำหรับผู้ค้า SME ออนไลน์ ให้ได้ใช้แอปถุงเงิน หรือแอป TikTok ในราคาประหยัด, รวมถึงแพ็กเกจ AIS Fibre พร้อมระบบกล้องวงจรปิด เป็นต้น

ล่าสุด เปิดบริการใหม่ Yellow B2B2C e-marketplace โดยความร่วมมือข้ามอุตสาหกรรมระหว่าง AIS และ FTI (สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย) แพลตฟอร์ม B2B2C e-marketplace ให้ SME สามารถต่อยอดธุรกิจทั้งเชิง B2B และ B2C แบบครบวงจร ผ่าน www.yellow.co.th โดยผู้ซื้อสามารถค้นหาสินค้าและบริการได้ง่ายๆ หรือโพสต์สร้างความต้องการสินค้าหรือบริการ (RFQ Marketplace) เพื่อให้ผู้ขายติดต่อเสนอราคาได้ทันที ผู้ขายยังสามารถเจรจาธุรกิจไปจนถึงปิดการขายได้ผ่านช่องแชท อีกทั้งยังมีเครื่องมือในการอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่ช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถทำธุรกิจได้ทุกที่ทุกเวลา ซึ่งบริการนี้สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (FTI) ได้เข้ามาร่วมเป็นพันธมิตร เพื่อเชิญชวนและเปิดโอกาสให้สมาชิกของสภาอุตสาหกรรมสามารถใช้บริการนี้ได้ด้วยข้อเสนอพิเศษอีกด้วย

ais

AIS พร้อมมอบสิทธิพิเศษให้แก่ลูกค้า SME เพื่อรับสิทธิพิเศษได้แบบจัดเต็มเช่นเดียวกับลูกค้าทั่วไป รวมถึงโปรแกรม AIS SME BIZ UP ทั้งการอัพเดตความรู้ เทรนด์ใหม่ๆ ให้กับธุรกิจแบบเอ็กคลูซีฟ ส่วนลดค่าสินค้าและบริการจากพันธมิตร ร้านค้า ดังเช่น บริการจาก สตาร์ทอัพในกลุ่ม AIS The StartUp ที่เข้ามาส่งมอบบริการให้ผู้ประกอบการ SME สามารถเข้าถึงได้ในราคาพิเศษ อาทิ ส่วนลดสุงสุด 20% กับบริการขนส่งออนไลน์ Shippop แพลตฟอร์มด้านการขนส่ง ที่ช่วย SME ในเรื่องการบริหารจัดการขนส่งสินค้า หรือการจัดการเอกสารต่างๆ ให้เหมาะสมกับรูปแบบและระยะเวลาที่ต้องการ หรือแม้แต่ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมร้านอาหาร ให้สามารถใช้แพลตฟอร์มบริหารจัดการระบบในร้านอาหารจาก Foodstory ที่จะเชื่อมต่อข้อมูลของทั้งหน้าร้าน การจัดการสต๊อก รวมถึงระบบ CRM ที่ผู้ประกอบการสามารถใช้งานแพลตฟอร์ม Foodstory ได้ในราคาพิเศษอีกด้วย

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

The post SME จะใช้เทคโนโลยีอย่างไร? AIS SME ตอบคำถามด้วยไอซีทีโซลูชั่นหนุน 4 ธุรกิจ พร้อมเปิดบริการใหม่ Yellow B2B2C e-marketplace first appeared on Brand Inside.
from:https://brandinside.asia/ais-sme-yellow-b2b2c-e-marketplace/

SAP เปิดตัว GROW with SAP โซลูชัน Cloud ERP เพื่อ SMEs ในภูมิภาคอาเซียน

SAP เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (SEA) เปิดตัว GROW with SAP โซลูชัน ERP ระบบคลาวด์แบบใหม่ที่นำเสนอบริการแก่ลูกค้า SMEs โดยเฉพาะ เพื่อให้องค์กรสามารถทำงานได้อย่างรวดเร็ว คาดการณ์ธุรกิจได้อย่างแม่นยำ และสร้างสรรค์นวัตกรรมได้อย่างต่อเนื่อง

GROW with SAP ได้ผสานนำ SAP Business Technology Platform มาไว้ในบริการนี้เพื่อให้องค์กรสามารถปรับใช้และกำหนดแนวทางซอฟต์แวร์ในแบบคลาวด์เนทีฟผ่าน SAP Build โดยผู้ใช้งานสามารถสร้างแอปพลิเคชันภายในองค์กร สร้างกระบวนการทำงานอัตโนมัติ และออกแบบเว็บไซต์ธุรกิจได้อย่างง่ายดายโดยไม่ต้องเขียนโค้ด 

จากรายงานเรื่อง The impact of the Great Resignation on digital transformation in APJ’s SMEs ของ SAP ชี้ SMEs มากกว่า 2 ใน 3 เผยว่า Digital Transformation มีความสำคัญต่อองค์กรและความอยู่รอดในอนาคตเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปัจจุบันที่องค์กรจำเป็นต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญและพาร์ตเนอร์ที่สามารถให้คำแนะนำพวกเขาตลอดกระบวนการพลิกโฉมสู่ดิจิทัล เพื่อช่วยให้องค์กรสามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงได้อย่างคล่องตัวและคุ้มค่ากับการลงทุน

“SME เปรียบเสมือนกระดูกสันหลังของเศรษฐกิจในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งคิดเป็นเกือบ 99% ของธุรกิจทั้งหมด ก่อให้เกิดการจ้างงาน 90% และคิดเป็นเกือบ 60% ของ GDP ในหลายประเทศในอาเซียน การร่วมมือประสานกันระหว่างกลุ่มพันธมิตรธุรกิจของ SAP และพาร์ตเนอร์ทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ผ่านการใช้ประโยชน์จากโซลูชัน GROW WITH SAP จะช่วยส่งเสริมศักยภาพขององค์กรขนาดกลางและขนาดเล็กในการขับเคลื่อนการเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัล กระตุ้นให้องค์กรเกิดการเติบโตอย่างต่อเนื่องและก่อให้เกิดข้อได้เปรียบทางการแข่งขันในตลาดที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ทั้งยังส่งเสริมศักยภาพเพื่อโอกาสการเติบโตทางธุรกิจระหว่างประเทศใหม่ ๆ อีกด้วย”

Verena Siow ประธานและกรรมการผู้จัดการ SAP เอเชียตะวันออกเฉียงใต้

“SAP ผนึก 3 องค์ประกอบสำคัญที่มีประสิทธิภาพสูงสุดเข้าด้วยกันในโซลูชันครบวงจร เพื่อช่วยให้ลูกค้าย้ายไปยังระบบคลาวด์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ลูกค้าของเราสามารถพัฒนาธุรกิจผ่านการใช้งานบนระบบ SAP S/4HANA® CLOUD  ตลอดจนสามารถสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ ๆ ผ่าน SAP BUSINESS TECHNOLOGY PLATFORM ซึ่งความสำเร็จดังกล่าวเป็นผลพวงมาจากการประสบการณ์ในการช่วยเหลือลูกค้ามายาวนานกว่า 50 ปีของ SAP ยิ่งเรานำเทคโนโลยีและโซลูชันดังกล่าวมาใช้งานเร็วเท่าไร ข้อได้เปรียบทางการแข่งขันขององค์กรยิ่งมีมากขึ้นเท่านั้น”

คุณกริช วิโรจน์สายลี ประธานกรรมการ บริษัท ไอแอม คอนซัลติ้ง จำกัด

สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ GROW with SAP for Partners ได้ที่ SAP Partner Portal

from:https://www.techtalkthai.com/sap-sea-launches-grow-with-sap-for-smes/

CPF จับมือ BBL ธนาคารกรุงเทพ หนุนคู่ค้าเข้าถึงแหล่งเงินทุน ต้นทุนต่ำ ดอกเบี้ยพิเศษ

ธนาคารกรุงเทพ จับมือกับ CPF ให้คู่ค้าเข้าถึงแหล่งเงินทุนวงเงินสูง ต้นทุนต่ำ ดอกเบี้ยพิเศษ ไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน

BBL x CPF

ธนาคารกรุงเทพ​ จำกัด (มหาชน) ร่วมกับบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด หรือซีพีเอฟ เปิดตัวโครงการ “CPF x BBL เสริมสภาพคล่อง…เคียงข้างคู่ค้า” มอบสินเชื่อหมุนเวียนด้วยดอกเบี้ยพิเศษ สำหรับคู่ค้า CPF

จรัมพร โชติกเสถียร กรรมการบริหาร ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ระบุ ธนาคารกรุงเทพมีความยินดียิ่งที่ได้ร่วมพัฒนาต่อยอดความร่วมมือกับ CPF เพื่อสนับสนุนคู่ค้าให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่มีต้นทุนต่ำ เสริมสภาพคล่องทางการเงิน ผ่านบริการสินเชื่อหมุนเวียนของธนาคารกรุงเทพ โดยธนาคารจัดเตรียมเจ้าหน้าที่ให้คำปรึกษาและระบบงานดิจิทัลเข้ามาสนับสนุนคู่ค้าสามารถใช้บริการได้สะดวก รวดเร็วและได้รับประโยชน์เต็มที่

ด้านพิพัฒน์ อัสสมงคล ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ ระบุว่า ภายใต้ความร่วมมือาดังกล่าว ธนาคารได้ออกแบบสินเชื่อหมุนเวียนเพื่อเสริมสภาพคล่องให้ธุรกิจ ด้วยอัตราดอกเบี้ยพิเศษสำหรับคู่ค้าของ CPF ให้วงเงินสูง อนุมัติไว ไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน ลูกค้าสามารถเบิกใช้วงเงินได้ง่าย ชำระคืนได้ทุกวัน ตรวจสอบวงเงินออนไลน์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง เบาใจได้เรื่องภาระดอกเบี้ย

ขณะที่ประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ ประธานคณะผู้บริหาร ซีพีเอฟ กล่าวว่า บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและอาหารมีคู่ค้าที่ผลิตวัตถุดิบและสินค้าต่างๆ กว่า 10,000 ราย ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการผลิตและส่งมอบอาหารคุณภาพปลอดภัยให้ผู้บริโภคได้ต่อเนื่อง การร่วมมือกันระหว่าง CPF x BBL นี้ จะช่วยให้คู่ค้าสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนต้นทุนต่ำ

จะช่วยให้ผู้ประกอบการมีเงินทุนหมุนเวียนดีขึ้น สามารถดำเนินธุรกิจได้ต่อเนื่องโดยเฉพาะผู้ประกอบการ SME คิดเป็น 60% ของจำนวนคู่ค้าทั้งหมด เป็นกลุ่มที่จะได้รับประโยชน์สูงสุดจากโครงการนี้เพราะเป็นกลุ่มที่มีโอกาสน้อยในการเข้าถึงเงินกู้ดอกเบี้ยพิเศษได้มีโอกาส เติบโตและยกระดับเป็นผู้ผลิตขนาดใหญ่ในอนาคต

BBL x CPF

ธิดารัตน์ เดชายนต์บัญชา รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ด้านจัดซื้อพัสดุครุภัณฑ์ ซีพีเอฟ ระบุ โครงการ CPF x BBL เสริมสภาพคล่อง…เคียงข้างคู่ค้า เป็นอีกแนวทางที่ช่วยเสริมสภาพคล่องทางการเงินในการดำเนินธุรกิจให้แก่คู่ค้าได้เข้าถึงแหล่งทุนได้ง่ายขึ้น เป็นสินเชื่อหมุนเวียนที่มีอัตราดอกเบี้ยพิเศษโดยเฉพาะธุรกิจ SME

โครงการ “CPF x BBL เสริมสภาพคล่อง…เคียงข้างคู่ค้า” คือการต่อยอดจากโครงการ Faster Payment ที่ CPF ดำเนินการตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคม 2563 ต่อเนื่องจนถึงสิ้นปี 2565 นี้ เป็นโครงการที่คู่ค้าของ CPF ลดระยะเวลาเครดิตเทอมเหลือภายใน 30 วัน เพื่อช่วยเหลือคู่ค้า SME จำนวน 6,000 รายที่ได้รับผลกระทบจากโควิดมีสภาพคล่อง มีเงินหมุนเวียนในการทำธุรกิจโดยไม่หยุดชะงัก รักษาการจ้างงานและฟื้นเศรษฐกิจในภาพรวมได้ดีขึ้น

ที่มา – BBL

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

The post CPF จับมือ BBL ธนาคารกรุงเทพ หนุนคู่ค้าเข้าถึงแหล่งเงินทุน ต้นทุนต่ำ ดอกเบี้ยพิเศษ first appeared on Brand Inside.
from:https://brandinside.asia/cpf-collaboration-bbl-support-sme/

ฟรี eBook: คู่มือ PDPA สำหรับผู้ประกอบการ SMEs

สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ออก eBook ใหม่เรื่อง “คู่มือ PDPA สำหรับผู้ประกอบการ SMEs” เพื่อให้คำแนะนำและแนวทางปฏิบัติในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตาม PDPA สำหรับธุรกิจ SMEs ผู้ประกอบการธุรกิจและผู้ที่สนใจสามารถดาวน์โหลด eBook ไปศึกษาได้ฟรี

คู่มือ PDPA สำหรับผู้ประกอบการ SMEs ฉบับนี้มีความยาวรวม 34 หน้า ประกอบด้วยเนื้อหาดังต่อไปนี้

  • บทที่ 1 ทำความเข้าใจเบื้องต้นเกี่ยวกับกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
  • บทที่ 2 หน้าที่ของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลในกิจการขนาดเล็ก
  • บทที่ 3 การจัดทำบันทึกรายการ
  • บทที่ 4 การจัดการมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล

from:https://www.techtalkthai.com/pdpa-guidelines-for-sme-by-pdpc-mdes/

[Guest Post] อเมซอน โกลบอล เซลลิ่ง เพิ่มสิทธิประโยชน์ผลักดันผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยขายสินค้าออนไลน์ผ่านโครงการ “AMAZON New Seller Incentives” ในประเทศไทย

โครงการใหม่มอบสิทธิประโยชน์สูงสุด 50,000 ดอลลาร์สหรัฐ ออกแบบเพื่อดึงดูดผู้ประกอบการธุรกิจในไทยให้เริ่มต้นขายสินค้าออนไลน์บนเว็บไซต์อเมซอนและเติบโตในเวทีโลกอย่างรวดเร็ว

กรุงเทพ, 24 พฤษภาคม 2565 – อเมซอน โกลบอล เซลลิ่ง ประเทศไทย สนับสนุนให้ผู้ประกอบการไทยมีโอกาสเข้าถึงการขายออนไลน์บนเว็บไซต์ระดับโลกอย่าง Amazon และเข้าถึงลูกค้าทั่วโลกได้มากขึ้นผ่านโครงการ New Seller Incentives

อเมซอนมีเครื่องมือ ความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์ที่จะช่วยให้ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อย(เอ็สเอ็มอี) บรรลุศักยภาพสูงสุด โดยที่อเมซอนช่วยให้ธุรกิจเข้าถึงอีคอมเมิร์ซระหว่างประเทศซึ่งเข้าถึงลูกค้ากว่า 300 ล้านคนทั่วโลกและนำเสนอโอกาสในการสร้างแบรนด์สินค้าในตลาดโลก ในปีพ.ศ. 2563 อเมซอนได้ลงทุนกว่า 18,000 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ ในระบบโลจิสติกส์ เครื่องมือ บริการ และโปรแกรมต่างๆ  พร้อมด้วยสำนักงานใน 21 ประเทศ และศูนย์บริการคลังสินค้ามากกว่า 400 แห่งทั่วโลก ในปีเดียวกันธุรกิจเอสเอ็มอีกว่า 1.9 ล้านรายขายสินค้าผ่านร้านค้าของอเมซอนทั่วโลกซึ่งคิดเป็น 60% ของมูลค่าการค้าขายปลีกที่ผ่านอเมซอนทั้งหมด

โครงการ New Seller Incentives* สำหรับผู้ขายใหม่ที่เริ่มขายบนอเมซอน ที่เข้าร่วมในแผนการขายในระดับมืออาชีพที่ได้ลงทะเบียนแบรนด์สินค้าบน Amazon Brand Registry สามารถได้รับสิทธิประโยชน์ครบครันที่อเมซอนได้เตรียมไว้ ซึ่งประกอบด้วยโบนัส 5% คำนวณจากยอดขายสินค้า 1 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐแรก (มูลค่าสิทธิประโยชน์สูงสุด 50,000 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ)  บริการ Amazon Vine ซึ่งเปิดให้ผู้ขายรับรีวิวสินค้า ตลอดจนบริการ Transparency ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ช่วยปกป้องผู้ขายจากการถูกปลอมแปลงสินค้า ผู้ขายที่ใช้บริการ Fulfillment by Amazon (FBA)  จะได้รับเครดิตมูลค่า 100 เหรียญดอลลาร์สหรัฐสำหรับโปรแกรม Amazon Partnered Carrier หรือค่าบริการส่งสินค้าขาเข้าผ่าน Amazon Global Logistics นอกจากนั้นผู้ขายใหม่จะยังได้รับบริการลงทะเบียนโดยอัตโนมัติบน FBA New Selection ซึ่งมาพร้อมกับการยกเว้นค่าธรรมเนียมบริการเก็บสินค้ารายเดือน ค่าจัดการล้างสต็อกสินค้าส่วนเกิน และค่าใช้จ่ายในกระบวนการในการส่งสินค้าคืนสำหรับผลิตภัณฑ์ใหม่บน FBA ที่เข้าเกณฑ์

อเมซอนหวังว่าโครงการ New Seller Incentives ซึ่งอยู่ในชุดบริการ Perfect Launch playbook จะดึงดูดผู้ขายสินค้าและผู้ประกอบการไทยจำนวนมาก และนวัตกรรมเครื่องมือและบริการของอเมซอนจะสนับสนุนการเติบโตของผู้ขาย การค้นคว้าวิจัยของอเมซอนแสดงให้เห็นว่าผู้ขายสินค้าออนไลน์รายใหม่ๆมีโอกาผลักดันยอดขายให้เติบโตได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้นด้วยการใช้นวัตกรรมใหม่ๆ

คุณเจมี่ เบรนแนน หัวหน้าทีมของ Amazon Global Selling ในประเทศไทยกล่าวว่า “นับเป็นสถานการณ์ win-win ทั้งของผู้ขายและอเมซอน อเมซอนต้องพึ่งพาผู้ขายเพื่อที่จะสร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้แก่ผู้ซื้อสินค้า ในขณะที่เอสเอ็มอีหรือผู้ประกอบการไทยจะได้ใช้ศักยภาพของอีคอมเมิร์ซระหว่างประเทศด้วยการขายสินค้าบนอเมซอนซึ่งเชื่อมโยงกับผู้ซื้อที่มีศักยภาพจำนวนร้อยล้านคนทั่วโลก เรามีความยินดีมากที่โครงการ New Seller Incentives เกิดขึ้นในประเทศไทยซึ่งจะมอบสิทธิประโยชน์ครบครัน มูลค่าสูงสุดถึง 50,000 เหรียญดอลลาร์สหรัฐแก่ผู้ขายใหม่ที่ขายสินค้าบน Amazon  และPerfect Launch Playbook ก็เป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้ผู้ขายชาวไทยประสบความสำเร็จได้เร็วขึ้น”

สิทธิประโยชน์เหล่านี้ย่อมเปิดโอกาสที่ดีสำหรับเอสเอ็มอีไทยที่ยังไม่ได้ใช้บริการขายบนอเมซอนให้ริเริ่มนำสินค้าจากที่ไทย  หรือธุรกิจใหม่ นำเสนอให้ผู้บริโภคในเวทีโลกผ่านอีคอมเมิร์ซระหว่างประเทศในระดับโลก โครงการ FBA New Selection จะให้สิทธิประโยชน์เพิ่มเติม เพื่อช่วยให้ผู้ที่ขายสินค้าบนอเมซอนเร่งสร้างยอดขายและขยายธุรกิจได้ในช่วงแรก

ผู้ขายไทยรายใหม่ที่เข้าร่วมโครงการ FBA (Fulfillment by Amazon) New Selection* จะสามารถใช้บริการชำระบัญชีนำสินค้าออกโดยไม่มีค่าใช้จ่าย และได้รับการยกเว้นค่าบริการคืนสินค้าสำหรับสินค้า ASIN ใหม่ (สินค้าไอเท็มใหม่ที่ขายบน Amazon) ที่ใช้บริการ FBA (จำกัดระยะเวลาภายใน 180 วันแรกหลังจากวันที่สินค้าเข้าคลัง) ผู้ขายที่ลงทะเบียนแบรนด์สินค้า (Brand Registry) จะได้รับเครดิตเงินคืน 5% รายเดือนนับจากยอดขายสินค้าASIN (ไอเท็มสินค้า) ที่จดทะเบียนใหม่

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด

ท่านสามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Amazon Global Selling ได้ที่  https://amzn.to/PerfectLaunchTH

from:https://www.techtalkthai.com/amazon-new-seller-incentives-in-thailand/

สมัครฟรี! สร้างหน้าร้านออนไลน์ ปิดการขายง่ายในพริบตากับ “โครงการส่งเสริมธุรกิจไทย ใช้พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์เพิ่มความสามารถในการแข่งขัน”

“อยากมีเว็บขายของแต่ทำไม่เป็น”

“อยากมีหน้าร้านออนไลน์ แต่ไม่อยากเสียตังค์ทำเว็บ”

“สร้างเว็บไซต์หน้าร้านยังไงให้ลูกค้ากล้าเข้ามาซื้อ”

โอกาสดีและฟรี! ที่ไม่ควรปล่อยผ่านมาถึงแล้วสำหรับผู้ประกอบการยุค COVID-19 ที่ต้องการผันตัวสู่การเป็นผู้ค้าออนไลน์และอยากมีเว็บไซต์หน้าร้านของตัวเองกับ โครงการส่งเสริมธุรกิจไทย ใช้พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์เพิ่มความสามารถในการแข่งขัน” โดยมูลนิธิศูนย์สารสนเทศเครือข่ายไทย (THNiC) ร่วมกับหน่วยงานพันธมิตรที่พร้อมสนับสนุนธุรกิจไทยให้ทุกความฝันของคนอยากขายออนไลน์เป็นจริงได้ 

เตรียมลงสนามออนไลน์ เริ่มต้นขายอย่างมืออาชีพ เพียงสมัครเข้าร่วมโครงการตั้งแต่วันนี้ พร้อมรับสิทธิประโยชน์พิเศษจัดเต็มเพื่อผู้ประกอบการโดยเฉพาะ ติดตามอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ในบทความนี้

เปิดหน้าร้านออนไลน์ง่าย ๆ กับโครงการส่งเสริมธุรกิจไทยฯ

ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ที่ทำให้การซื้อขายสินค้าและบริการบนโลกออนไลน์กลายเป็น New normal ผู้ประกอบการต่างต้องเผชิญกับความท้าทายต่าง ๆ ในยุคดิจิทัล ไม่ว่าจะเป็นการแข่งขันอันดุเดือดบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียและ E-marketplace ต่าง ๆ หรือความเสียเปรียบคู่แข่งเพียงเพราะไม่มีหน้าเว็บไซต์หน้าร้านที่ส่งผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือของผู้ค้าเอง

อย่างไรก็ดี ผู้ประกอบการหลาย ๆ ท่านอาจมีความเชื่อว่า การสร้างเว็บไซต์เป็นเรื่องยาก ต้องมีความเชี่ยวชาญและมีเงินทุนมากพอถึงจะเปิดเว็บไซต์ขายสินค้าของตนเองได้ ทว่าถึงแม้จะสร้างเว็บไซต์สำเร็จ ความกังวลข้อต่อมาคือจะทำอย่างไรให้ลูกค้าวางใจกับสินค้าและการทำธุรกรรมผ่านเว็บไซต์ของตน

ข้อจำกัดเหล่านี้เองจึงเป็นที่มาของโครงการส่งเสริมธุรกิจไทยฯ ซึ่งจัดตั้งขึ้นเพื่อสนับสนุนธุรกิจไทยให้ก้าวหน้าตามทันโลกด้วยพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ โดยโครงการนี้เกิดจากความร่วมมือของหลายหน่วยงาน ได้แก่ มูลนิธิศูนย์สารสนเทศเครือข่ายไทย (THNiC), กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ (DBD), สมาคมผู้ดูแลเว็บไทย, สมาคมผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไทย, สมาคมการค้าดิจิทัลไทย (TDTA) และสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (ETDA)

มูลนิธิฯ และหน่วยงานภาคีล้วนเป็นผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมช่วยสานฝันของผู้ประกอบการในการสร้างเว็บไซต์หน้าร้านออนไลน์ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับผู้ค้าและธุรกิจ อีกทั้งยังเพิ่มโอกาสและช่องทางการเติบโตในระยะยาว ช่วยปิดการขายได้อย่างราบรื่น ง่ายดายและรวดเร็วยิ่งขึ้นด้วย

Image credit: Shutterstock

สิทธิประโยชน์มากมี จัดให้ฟรีแก่ผู้เข้าร่วมโครงการฯ

โครงการส่งเสริมธุรกิจไทยฯ ถือว่าเข้ามาช่วยตอบโจทย์ผู้ประกอบการมือใหม่ที่ต้องการมีเว็บไซต์หน้าร้านออนไลน์ของตน เพราะผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการจะได้รับสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ นอกเหนือจากเว็บไซต์ร้านค้า ได้แก่

โดเมน .th และ เว็บไซต์เริ่มต้น 1 ปี

โครงการฯ จะช่วยผู้ประกอบการสร้างเว็บไซต์ Sale Page ให้ พร้อมชื่อโดเมน .th ฟรี ภายใต้หมวด .co.th (สำหรับนิติบุคคลเท่านั้น) .online.th หรือ .shop.th ซึ่งจะช่วยให้สินค้าและบริการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าคนไทยได้ง่าย พร้อมการันตีความมั่นคงปลอดภัย ความน่าเชื่อถือและความโปร่งใสในการให้บริการของธุรกิจบนโลกออนไลน์ด้วย

เว็บไซต์นี้จึงเปรียบเสมือนหน้าร้านดิจิทัลของธุรกิจที่ผู้ค้าสามารถกำหนดข้อมูลให้ลูกค้าเข้าเยี่ยมชมได้โดยไม่ขึ้นกับเงื่อนไขของแพลตฟอร์มดิจิทัล เหมาะอย่างยิ่งสำหรับร้านค้าออนไลน์ พร้อมปิดการขายได้ในหน้าเดียว

Image credit: THNiC

เครื่องหมายรับรองผู้ประกอบธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (DBD Registered)

เครื่องหมาย DBD Registered เป็นเครื่องหมายสำคัญเพื่อแสดงความมีตัวตนของร้านค้าที่อยู่ในโลกของธุรกิจ E-commerece นับเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้ร้านค้า ทำให้ลูกค้าเกิดความมั่นใจเมื่อสั่งซื้อสินค้าหรือบริการจากร้านที่มีเครื่องหมายนี้

พิเศษ! สำหรับนิติบุคคลที่ยังไม่มีเครื่องหมาย DBD Registered จากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ทางโครงการฯ ก็มีบริการอำนวยความสะดวกในการขอรับเครื่องหมาย DBD Registered สำหรับชื่อโดเมนที่ขอจดทะเบียนได้ทันทีอีกด้วย

สมาชิกวิสามัญ 1 ปี

ผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการฯ สามารถสมัครสมาชิกวิสามัญสมาคมของโครงการฯ (สมาคมผู้ดูแลเว็บไทย สมาคมผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไทย และสมาคมการค้าดิจิทัลไทย) เป็นระยะเวลา 1 ปี เพื่อรับสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ เช่น การรับคำปรึกษาเกี่ยวกับการทำเว็บไซต์ การทำธุรกิจอีคอมเมิร์ซแก่ผู้ประกอบการ การใช้เครื่องมือดิจิทัลในการทำธุรกิจระหว่างประเทศ รวมถึงโอกาสเข้าร่วมกิจกรรมที่สมาคมเป็นผู้จัดอีกด้วย

กิจกรรมอบรมสัมมนา

ผู้เข้าร่วมโครงการยังสามารถเข้าร่วมกิจกรรมอบรมสัมมนาหลากหลายหัวข้อ อาทิ 

  • กลยุทธ์เพิ่มยอดขายด้วยคอนเทนต์​บนเว็บไซต์ในปี 2022
  • Workshop: คอร์สเร่งรัดสร้างร้านค้าออนไลน์ด้วย WooCommerce
  • PDPA: พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ฉบับย่อสำหรับผู้ประกอบการ

และในเดือนมิถุนายนนี้ สำหรับมือใหม่หัดขายออนไลน์ พลาดไม่ได้กับหัวข้อ อบรม Zavanna Sale Page เพื่อพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ เครื่องมือช่วยปิดการขายภายในหน้าเดียว ฉบับจับมือทำ ในวันที่ 23 มิถุนายน 2565 ที่จะพาผู้ค้ายุคใหม่ไปรู้จักและลงมือปฏิบัติจริงกับ Zavanna Sale Page เครื่องมือขายของออนไลน์ที่พัฒนาโดยบริษัท ยีราฟ จำกัด ซึ่งจะช่วยปิดการขายด้วยเว็บไซต์เพียงหน้าเดียว รองรับคอนเทนต์นำเสนอทุกรูปแบบ มาพร้อมกับระบบจัดการสินค้า ฟีเจอร์ส่งเสริมการตลาดที่ใช้งานง่าย พร้อมขายสินค้าได้ทันที ผู้ที่สนใจเข้าอบรมสัมมนาสามารถลงทะเบียนได้แล้ววันนี้

Image credit: THNiC

สาระความรู้ครบเครื่องจัดอบรมฟรีกันตลอดทั้งปีเพื่อผู้ประกอบการออนไลน์ที่เข้าร่วมโครงการยังมีอีกมากมาย โดยสามารถดูกำหนดการกิจกรรมงานสัมมนาอื่น ๆ ได้ที่นี่

สิทธิประโยชน์อื่น ๆ จากพันธมิตรของโครงการ

ผู้เข้าร่วมโครงการยังได้รับสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมจากพันธมิตรของโครงการ เช่น 

  • ฟรี! อีเมลภาษาไทย
  • ฟรี! คู่มือทำเว็บและการตลาดอย่างมืออาชีพ 
  • ฟรี! ที่ปรึกษาเกี่ยวกับการจัดทำเว็บไซต์
  • ส่วนลดพิเศษอีกมากมาย
Image credit: THNiC

ผลตอบรับจากผู้เข้าร่วมโครงการฯ

การเข้าร่วมโครงการฯ นี้ นับว่าเป็นการเปิดโอกาสของผู้ค้าจากประเภทธุรกิจต่าง ๆ ที่ได้ลงมือทำจริงกับการสร้างเว็บไซต์หน้าร้านด้วย Zavanna Sale Page ซึ่งผู้เข้าร่วมโครงการฯ ในปีที่ผ่านมาต่างมีเป้าหมายเดียวกัน คือ ต้องการเพิ่มโอกาสในการขาย ตั้งเป้าให้ธุรกิจเติบโตด้วยช่องทางการขายที่มีความน่าเชื่อถือ มีมาตรฐาน และเพิ่มโอกาสให้สินค้าเป็นที่รู้จักมากขึ้น

คุณศุภกิจ ดีเจริญ จากร้าน Allnice99  (http://allnice.shop.th/) ผู้จำหน่ายผ้าม่าน และคุณชญาภัทร แก้วเนตร จากร้าน Miss Chaya Beauty House (http://misschaya.shop.th/) ผู้จำหน่ายผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าแบรนด์คนไทย เป็นอีกตัวอย่างของผู้เข้าร่วมโครงการฯ  ที่สร้างเว็บไซต์ของร้านด้วย Zavanna Sale Page ได้สำเร็จ พร้อมเรียนรู้ต่อยอด และสนใจเข้าร่วมอบรมกับทางโครงการฯ ในโอกาสต่อไป

“อยากจะขอบคุณโครงการฯ ที่ช่วยส่งเสริมธุรกิจ SME เพราะถ้า SME รอด ประเทศไทยก็รอด” 

คุณชญาภัทร แก้วเนตร ร้าน Miss Chaya Beauty House

สมัครเข้าร่วมโครงการฯ ทางลัดสู่ความสำเร็จ

โครงการดี ไม่มีค่าใช้จ่าย พร้อมสาระความรู้จัดเต็มอัดแน่นแบบนี้ ต้องรีบคว้า อย่าปล่อยผ่านให้เสียโอกาส! ผู้ประกอบการที่สนใจสามารถสมัครเข้าร่วมโครงการได้ที่เว็บไซต์ https://domain.online.th ตั้งแต่วันนี้ ถึง 31 ธันวาคม 2565 

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ อีเมล info@domain.online.th และ Line: @domainthai

Image credit: THNiC

from:https://www.techtalkthai.com/domain-online-for-thai-sme/

ทำบุญ 4.0 ด้วย ‘ชุดตักบาตรออนไลน์’ ไอเดียเจ๋งร้านแกงใต้ อุทิศส่วนกุศลให้ใครบอกร้านได้เลย

ครัวโกรัน แกงปักษ์ใต้ ผุดไอเดีย ‘ชุดตักบาตรออนไลน์’ ตอบโจทย์สายบุญที่ไม่ว่างหรือไม่กล้าออกจากบ้านเพราะโควิด-19 ในราคาย่อมเยา 59 บาท/ชุด

ชุดตักบาตรออนไลน์ จากร้าน แกงปักษ์ใต้

ในยุคโควิด-19 ทำให้การออกนอกบ้านเป็นเรื่องไม่สะดวก การทำบุญง่ายๆ อย่างการตักบาตรก็ดูเหมือนจะเป็นเรื่องไกลตัวมากขึ้น

ร้านครัวโกรัน แกงปักษ์ใต้ ผุดไอเดีย ‘ชุดตักบาตรออนไลน์’ สั่งได้ผ่านแอปพลิเคชัน LINE MAN ลูกค้าสั่ง ร้านใส่บาตรให้ ในราคาชุดละ 59 บาท ประกอบด้วยข้าว 1 ถุง กับข้าว 1 อย่าง พร้อมน้ำดื่ม 1 ขวด ในราคา 59 บาท 

ทางร้านระบุว่าชุดทำบุญที่สั่งจะนำไปใส่บาตรให้กับพระสงฆ์จากวัดด่านสำโรงที่เดินบิณฑบาตผ่านหน้าร้านทุกๆ เช้า ในช่วงเวลาก่อน 7.45 น. โดยลูกค้าต้องแจ้ง ชื่อ สกุล เพื่อให้ทางร้านสามารถอนุโมทนาบุญให้ได้ และหากต้องการอุทิศส่วนกุศลให้ใครก็สามารถแจ้งทางร้านได้อีกเช่นกัน

คุณธนกร ถิ่นพังงา อายุ 47 ปี เจ้าของร้านครัวโกรัน แกงปักษ์ใต้ พูดถึงสาเหตุที่คิดชุดตักบาตรออนไลน์ว่า “เรานึกถึงคนที่อยากทำบุญแต่ไม่มีโอกาสได้ทำเพราะไม่สะดวกออกจากบ้านหรือต้องเร่งรีบในตอนเช้าเพื่อไปทำงาน ประกอบกับว่าส่วนตัวเราตักบาตรทุกวันอยู่แล้ว เลยมีโจทย์ให้ทีมงานไปคิดตรงนี้มา” 

ทุกวันนี้ผลตอบรับต่อชุดตักบาตรออนไลน์ถือว่าดีไม่น้อยเพราะสามารถขายได้ประมาณ 3-5 ออเดอร์ต่อวัน โดยแต่ละออเดอร์ก็สั่งเข้ามาประมาณ 2-3 ชุด แต่คุณธนกรชี้ว่าที่จริงแล้วได้กำไรไม่มากจากเรื่องนี้เพียงแต่นึกถึงคนที่อยากจะทำบุญมากกว่า

กล่องสุ่ม เซ็ตครอบครัว อีกหลายไอเดียปัง

นอกจากชุดทำบุญออนไลน์ ทางร้านยังมีไอเดียธุรกิจบนแพลตฟอร์มเดลิเวอรีที่น่าสนใจอย่างอื่นอีกเช่น กล่องสุ่มข้าวแกงใต้ ราคา 99 บาท ทางร้านจะจัดข้าวราดแกงแบบสุ่มให้แบบแน่นๆ 

ซึ่งที่จริงแล้วก่อนคำว่ากล่องสุ่มจะบูม ทางร้านก็มีกล่องสุ่มแบบนี้อยู่แล้วเพื่อตอบโจทย์ลูกค้าหลายคนที่เร่งรีบไม่อยากคิดเมนูอาหารนานๆ หรือบางคนก็ไม่รู้จะทานอะไรจริงๆ เพียงแต่มาเปลี่ยนชื่อเป็นกล่องสุ่มหลังเกิดเป็นกระแสขึ้น

นอกจากนี้ เมื่อช่วงสงกรานต์ทางร้านก็ยังทำการตลาดตามบริบท จัด ชุดครอบครัวสุขสันต์วันสงกรานต์ เป็นกับข้าวชุดใหญ่ในราคาโปรโมชันที่ 399 และ 599 บาท เหมาะสำหรับการทานในช่วงเทศกาลที่ครอบครัวเจอกันพร้อมหน้าพร้อมตา

ทางร้านยังแอบแง้มๆ อีกด้วยว่าในเดือนพฤษภาคมที่จะถึงนี้ก็จะออกโปรโมชันสำหรับวันแรงงานออกมาก

คุณธนกรพูดถึงหลักคิดของการออกโปรโมชันแบบเกาะกระแสต่างๆ ว่า “ผมคิดและปรึกษากับทีมงานที่เป็นคนรุ่นใหม่ซึ่งมีควาามคุ้นเคยกับสื่อสมัยใหม่อยู่ตลอด เวลาคิดอะไรออกก็จะคุยกันตลอดเวลา หรือบางครั้งทีมงานก็เป็นฝ่ายเสนอขึ้นมาเอง”

สำหรับใครที่อยากลองทานอาหารปักษ์ใต้ต้นตำหรับ มีอาหารให้เลือกหลากหลาย สามารถลองไปทานกันได้ที่ ครัวโกรัน แกงปักษ์ใต้ ซอยสุขุมวิท 109 หรือสามารถสั่งชุดตักบาตรออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชัน LINE MAN ได้ที่ http://bit.ly/LM_Korun1

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

The post ทำบุญ 4.0 ด้วย ‘ชุดตักบาตรออนไลน์’ ไอเดียเจ๋งร้านแกงใต้ อุทิศส่วนกุศลให้ใครบอกร้านได้เลย first appeared on Brand Inside.
from:https://brandinside.asia/merit-4-0-idea/

CP ALL แนะ 5 ไม้เด็ด SME: พร้อมช่วยผู้ประกอบการรายย่อย สร้างช่องทางขายผ่านร้าน 7-Eleven

สถานการณ์ COVID-19 ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา สร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับโลกในทุกมิติ ผู้ที่มี “ไม้เด็ด” พร้อมรับมือความเปลี่ยนแปลง คือผู้ที่มีโอกาสรุ่งและแข่งขันในตลาดได้ 

“ศูนย์ 7 สนับสนุน SME หรือ 7 SME Support Center ภายใต้ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารเซเว่น อีเลฟเว่นและเซเว่น เดลิเวอรี่ จึงได้แนะนำ “ไม้เด็ดที่ SME ควรมีติดตัว” หากต้องการที่จะเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนบนโลกแห่งการเปลี่ยนแปลงนี้

1. เด็ดด้วยไอเดีย : เพราะไอเดียดี คือรากฐานสู่อนาคตปัง SME ที่จะเติบโตและสามารถแข่งขันในตลาดได้นั้น ต้องหลุดออกจากความคิดเดิมๆ เพื่อให้เท่าทันต่อพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป ยิ่งในช่วง COVID19 ยิ่งทำให้เห็นถึงแนวโน้มธุรกิจใหม่และสินค้าใหม่ๆ มากขึ้น ผู้ประกอบการต้องกล้าคิด กล้าทำในสิ่งใหม่ พยายามมองหาช่องว่างทางการตลาด หรือนำนวัตกรรมมาเสริม สร้างความต่างให้กับสินค้า และพัฒนาให้เป็นจริง 

2. เด็ดด้วยความไวในการปรับตัว : จุดเด่นข้อหนึ่งของผู้ประกอบการ SME คือเป็นธุรกิจขนาดเล็กที่เมื่อเกิดปัญหาแล้ว ก็สามารถแก้ปัญหาได้เร็ว ขอเพียงแค่เมื่อพลาดแล้วต้องรีบลุกและปรับตัวให้ไว เตรียมพร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้น เช่น ในสถานการณ์ COVID19 ที่ผ่านมา อาจเปลี่ยนมาผลิตสินค้าที่ตลาดต้องการ บนพื้นฐานวัตถุดิบเดิมที่มี ให้สอดรับกับวิถีชีวิตใหม่ ควบคู่ไปกับการปรับตัวด้านการจัดการธุรกิจ

3. เด็ดด้วยช่องทางการขาย : ช่องทางการขายที่เหมาะสมกับสินค้าของตัวเอง คือกุญแจสำคัญอย่างหนึ่งในการพิชิตตลาด ขณะเดียวกันจำนวนช่องทางการขายที่มากกว่าคู่แข่ง คืออีกโอกาสในการสร้างการเติบโตแบบก้าวกระโดด และเป็นรากฐานของการกระจายความเสี่ยง การสร้างไม้เด็ดด้วยเรื่องช่องทางการขายจึงถือเป็นเรื่องสำคัญ การมี “คู่ค้า” ที่ดี มีความเข้าใจ สามารถให้คำแนะนำที่ดีได้ อาจเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญสู่การมีช่องทางการขายที่แข็งแกร่ง 

4. เด็ดด้วยการจัดการสภาพคล่อง : งบดีอุ่นใจไปเกินครึ่ง การวางแผนกระแสเงินสด ถือเป็นหัวใจสำคัญของการดำเนินธุรกิจให้ผ่านพ้นทุกปัจจัยท้าทาย การบริหารจัดการงบกระแสเงินสดอย่างเป็นระบบ จะช่วยให้ธุรกิจมีเงินทุนหมุนเวียนที่เพียงพอ SME ที่ขาดการวางแผนในส่วนนี้ก็เท่ากับจุดฉนวนระเบิดให้ธุรกิจ เมื่อไหร่ที่ธุรกิจประสบกับภาวะขาดสภาพคล่อง 

5.เด็ดด้วยความรู้ใหม่ๆ : การหยุดพัฒนาทักษะและองค์ความรู้ต่างๆ ก็เท่ากับหยุดการเติบโตของธุรกิจ ในช่วงที่สถานการณ์ปกติผู้ประกอบการจึงต้องเร่งแสวงหาความรู้แบบรอบด้านให้มากที่สุด ถือเป็นการเตรียมความพร้อมและเสริมอาวุธให้ธุรกิจ อาทิ เรื่องการตลาด การพัฒนาสินค้า การบริหารจัดการระบบหลังบ้าน ฯลฯ เมื่อธุรกิจประสบปัญหาองค์ความรู้เหล่านี้จะมีประโยชน์อย่างมาก หรือแม้ในยามประสบปัญหาก็ต้องมุ่งหน้าแสวงหาความรู้ใหม่ๆให้เพิ่มมากขึ้น 

แม้ว่าปัจจุบันผู้ประกอบการ SME จะมีประสบการณ์การเรียนรู้จากสถานการณ์ COVID-19 มาบ้างแล้ว แต่ในโลกที่มีความเปลี่ยนแปลงในทุกมิติและตลาดมีการแข่งขันสูง ผู้ประกอบการจำเป็นต้องแสวงหาความรู้อยู่เสมอ ซึ่ง “ศูนย์ 7 สนับสนุน SME พร้อมที่จะร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนและส่งเสริมผู้ประกอบการ SME ผ่านการจัดโครงการและกิจกรรมดีอย่างต่อเนื่อง

อาทิ เพิ่มช่องทางให้ผู้ประกอบการ SME นำเสนอสินค้าเพื่อจำหน่ายในร้านเซเว่น อีเลฟเว่น และผ่านช่องทางออนไลน์  เช่น การจัด Business Matching การจัด SME Shelf  จัดอบรมสัมมนาแก่ผู้ประกอบการ SME อย่างต่อเนื่อง ตลอดจนร่วมกับภาครัฐและเอกชนต่างๆ จัดทำโครงการต่างๆ อาทิ โปรแกรมพัฒนาคู่ค้า โครงการปรับปรุงบรรจุภัณฑ์และยืดอายุสินค้า โครงการส่งเสริมเกษตรกรและให้ความรู้มาตรฐานอาหารปลอดภัย เพื่อช่วยให้ SME สามารถยืนหยัดอยู่บนโลกแห่งการเปลี่ยนแปลงได้อย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน  

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

The post CP ALL แนะ 5 ไม้เด็ด SME: พร้อมช่วยผู้ประกอบการรายย่อย สร้างช่องทางขายผ่านร้าน 7-Eleven first appeared on Brand Inside.
from:https://brandinside.asia/cp-all-gives-5-sme-tricks/

เปิด 5 ฟีเจอร์ ของ SCB Business Anywhere ที่จะทำให้ธุรกิจไม่สะดุด โอนจ่ายได้ทั่วโลก

Brand Inside พาไปชมบริการ SCB Business Anywhere รูปแบบใหม่ มาพร้อม 5 ฟีเจอร์ ที่จะทำให้ SME คล่องตัวยิ่งขึ้น แถมยังทำธุรกิจได้ไม่สะดุด โอนจ่ายได้ทั่วโลก

SCB Business Anywhere รูปแบบใหม่ เสริมความคล่องตัวให้ธุรกิจ

ทุกวันนี้โจทย์ใหญ่ในโลกของการทำธุรกิจคือความเร็ว และยิ่งเป็น SME ก็ยิ่งต้องมีความคล่องตัวเข้าไปใหญ่เพราะนี่คือจุดเด่นหลักของธุรกิจ SME ในการต่อสู้กับธุรกิจที่ใหญ่กว่า

ที่สำคัญ เรากำลังอยู่ในโลกที่ทุกคนให้ความสำคัญกับความยืดหยุ่นมากยิ่งขึ้น เราจึงได้เห็นการ work from anywhere และถ้าพูดในมุมของธุรกิจ เราก็จะต้องสามารถทำธุรกิจจากที่ไหนก็ได้ ทำตอนไหนก็ได้ ไม่มีกรอบด้านเวลาและสถานที่มาปิดกั้น

เพื่อให้ SME สามารถทำธุรกิจได้อย่างไม่สะดุด SCB จึงเปิดตัวตัวช่วยในการทำธุรกิจ คือ SCB Business Anywhere รูปแบบใหม่ เป็น Digital Banking Platform ที่จะมาตอบโจทย์ SME เสริมความเร็ว ความคล่องตัว และความสะดวกให้กับธุรกิจมากยิ่งขึ้น

ที่สำคัญคือ Business Anywhere รูปแบบใหม่ ยังมอบการเชื่อมต่อทางการเงินไปทั่วโลก และสามารถทำได้ผ่านทุกอุปกรณ์ไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟน หรือแท็บเล็ต ไม่ต้องเดินทางไปทำธุรกรรมที่สาขาธนาคารอีกต่อไป

วันนี้ Brand Inside จะพาทุกท่านไปสำรวจ 5 ฟีเจอร์ของ SCB Business Anywhere รูปแบบใหม่ ที่จะช่วยให้ SME ดำเนินธุรกิจได้อย่างคล่องตัวมากขึ้น

5 ฟีเจอร์ ของ SCB Business Anywhere รูปแบบใหม่

1. International Transfer

scb business anywhere

International Transfer ช่วยให้ SME สามารถทำธุรกิจได้อย่างไม่มีสะดุด โอนจ่ายได้ทั่วโลก ไม่ว่าจะทำธุรกิจกับลูกค้าประเทศไหนก็ทำได้สะดวกขึ้น แถมมีทางเลือกให้โอนเงินไปต่างประเทศที่ครอบคลุมถึง 18 สกุลเงิน ทั้ง AUD, CAD, CHF, CNY, DKK, EUR, GBP, HKD, IDR, INR, JPY, MYR, NOK, NZD, SEK, SGD, THB, USD

จากที่ก่อนหน้านี้ หากต้องการโอนเงินไปต่างประเทศจะต้องไปใช้บริการที่สาขา ศูนย์ธุรกิจต่างประเทศ หรือช่องทางออนไลน์ผ่าน SCB Business Net แต่ตอนนี้สามารถใช้ผ่าน SCB Busienss Anywhere ได้เลย เป็นการเพิ่มความสะดวกให้กับ SME ที่มีการทำธุรกิจกับคู่ค้าต่างประเทศ

2. Payment Recommendation 

ทุกวันนี้การทำธุรกิจต้องมีการโอนเงินและชำระเงินหลากหลายรูปแบบ แต่ปัญหาคือไม่รู้ว่าควรจะเลือกใช้บริการแบบไหน เพราะแต่ละบริการก็มีค่าธรรมเนียมที่ต่างกัน วงเงินโอนสูงสุดต่างกัน ตอบโจทย์วัตถุประสงค์ที่แตกต่างกันไป

ประเด็นคือ SME จะต้องเจอปัญหาการเลือกบริการชำระที่เหมาะสมกับธุรกรรมที่สุด เพื่อจำกัดต้นทุนที่อาจเกิดขึ้นมากเกินไปจากการเสียค่าธรรมเนียมเกินควร 

ฟีเจอร์ Payment Recommendation จะเข้ามาตอบโจทย์ SME ในการช่วยแนะนำบริการโอนเงินและชำระเงิน ที่เหมาะสมและคุ้มค่าที่สุดให้อัตโนมัติ เพียงระบุผู้รับ จำนวนเงิน และวันที่ที่ต้องการทำรายการ สร้างความสะดวกและประสบการณ์การใช้งานที่ดีขึ้นสำหรับธุรกิจ

3. Real Time Transaction

ในโลกที่เชื่อมต่อถึงกันแบบ 24/7 ความรวดเร็วถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการทำธุรกิจ และด้วยฟีเจอร์ Real Time Transaction จะสามารถทำให้เจ้าของธุรกิจทำธุรกรรมได้แบบเรียลไทม์แม้จะอยู่ในช่วงเวลาที่เกิดการทำธุรกรรมจำนวนมาก ด้วยศักยภาพของระบบประมวลผลที่รวดเร็ว สามารถรองรับการใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ ยังสามารถตรวจสอบความเคลื่อนไหวของบัญชี แสดงยอดเงินคงเหลือ และแสดงรายการเดินบัญชีได้แบบเรียลไทม์ตลอด 24 ชั่วโมง

4. Self Admin 

นอกจากจะสามารถโอนจ่ายได้ทั่วโลกแบบไม่มีสะดุด SCB Business Anywhere ยังช่วยให้เจ้าของธุรกิจมีความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้นเพราะฟีเจอร์ Self Admin ทำให้บริหารจัดการระบบได้อย่างรวดเร็ว 

เช่น การจัดการข้อมูลบริษัท เปลี่ยนแปลงวงเงินการทำรายการ กำหนดรูปแบบการอนุมัติได้ด้วยตนเองผ่านระบบได้เลย  โดยที่ไม่จำเป็นต้องไปธนาคาร กรอกเอกสารเปลี่ยนแปลง เตรียมเอกสารประกอบและรอธนาคารจัดการ

scb business anywhere

นอกจากนี้ เจ้าของธุรกิจยังสามารถใช้ฟีเจอร์นี้ตั้งผู้ใช้งานอื่นๆให้เข้ามาทำธุรกรรมของบริษัทได้ โดยสามารถกำหนดสิทธิผู้ใช้งานได้ตั้งแต่ Viewer / Maker / Reviewer / Approver / Admin เพิ่มความสะดวกสบายในการบริหารจัดการ เสริมความคล่องตัวให้กับ SME

  1. SCB Digital Token 

SCB Business Anywhere ยังการันตีเรื่อง Safety ด้วย SCB  Digital Token ซึ่งเป็นอีกหนึ่งทางเลือกนอกเหนือจากการยืนยันตัวตนด้วยระบบ OTP 

เจ้าของธุรกิจสามารถใช้ Digital Token บนแอปพลิเคชัน SCB Business Anywhere กรอก Pin 8 หลัก ยืนยันธุรกรรมได้ทันที สะดวกกว่าระบบ token ธรรมดา ที่ต้องพกพาเครื่อง token ในการอนุมัติธุรกรรมอยู่ตลอดเวลา ถ้าหากวันไหนลืมเครื่องก็ต้องเสียเวลากลับไปเอา หรือหากแบตเตอรี่หมดก็ต้องไปติดต่อธนาคารเพื่อขอเปลี่ยนเครื่อง

scb business anywhere

สมัครง่าย เอกสารไม่เยอะ ฟรีค่าธรรมเนียมถึงปีหน้า

สำหรับธุรกิจที่สนใจใช้ SCB Business Anywhere รูปแบบใหม่ สามารถสมัครได้ง่ายๆ และรวดเร็วผ่าน Start Biz ซึ่งเป็น Digital Subscription เพียงแค่สำเนาบัตรประชาชนใบเดียวของบุคคลหรือผู้มีอำนาจลงนามกระทำแทนนิติบุคคล ก็สมัครได้ทันทีที่สาขาธนาคารไทยพาณิชย์ทั่วประเทศ

และที่สำคัญบริการ SCB Business Anywhere ไม่มีค่าธรรมเนียมแรกเข้า ฟรีค่าธรรมเนียมรายปี และหากเริ่มใช้ตั้งแต่วันนี้ ฟรีค่าธรรมเนียมสำหรับการโอนเงินภายในประเทศทุกรายการ จนถึง 31 ธันวาคม 2565

หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมสามารถติดต่อ Call Center 02-722-2222 หรือเว็บไซต์ https://www.scb.co.th/th/sme-banking/digital-banking/digital-banking-products/scb-business-anywhere.html

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

The post เปิด 5 ฟีเจอร์ ของ SCB Business Anywhere ที่จะทำให้ธุรกิจไม่สะดุด โอนจ่ายได้ทั่วโลก first appeared on Brand Inside.
from:https://brandinside.asia/scb-business-anywhere-new-functions/