คลังเก็บป้ายกำกับ: QUICKSERV

Lenovo ThinkStation P620 – The Game Changer

Lenovo ThinkStation P620 เป็นคอมพิวเตอร์แบบ Workstation รุ่นแรกในกลุ่มของ Tower ที่มาพร้อม AMD Ryzen Threadripper PRO Processor ซึ่งเลอโนโวเป็นรายแรกที่มีการนำเสนอ Processor ดังกล่าว ที่ให้ขุมพลังแรงสุดและฉีกกฏเกณฑ์เดิมๆ ทั้งประสิทธิภาพ และความคล่องตัวในระดับแอดวานซ์ผ่านแพลตฟอร์มซ็อกเก็ต CPU เดียว แต่ได้ทั้ง Clock และ ได้ทั้ง Core

Workstation ที่รองรับคอร์ได้สูงสุดถึง 64 Core เจ้าแรกในโลก

ThinkStation P620 ให้พลังและประสิทธิภาพการทำงานเครื่องที่เหนือชั้นในแบบที่ไม่เคยมีมาก่อนในผลิตภัณฑ์ Workstation ด้วยหน่วยประมวลผล AMD Ryzen Threadripper PRO ที่รองรับคอร์สูงสุดได้ถึง 64 คอร์ ได้เข้ามาปฏิวัติวงการและยกระดับมาตรฐานผลิตภัณฑ์ Workstation ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น  โดย Threadripper PRO Processors มีความเร็วของ Clock Speed สูงถึง 4.0GHz, 128 Lanes of PCIe 4.0 Bandwidth และยังสามารถรองรับหน่วยความจำ 8-Channel ได้อีกด้วย นอกเหนือจากความเร็วและความยืดหยุ่นในการซัพพอร์ทการทำงานแล้ว ด้วยความสามารถในการรองรับ Core สูงสุดได้ถึง 64 คอร์ อาจกล่าวได้ว่า ThinkStation P620 เป็นคอมพิวเตอร์แบบ Workstation รุ่นแรก ที่ตอบโจทย์การทำงานแบบ Multi-Thread ภายใต้แพลตฟอร์มแบบ single socket ได้อย่างแท้จริง ในแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน เหมาะสำหรับการสร้างสรรค์งานดิจิทัลที่มีความซับซ้อน และขนาดใหญ่ อาทิ สร้างแบบจำลอง, การเรนเดอร์ หรืองาน AI ตลอดจนการสตรีมวีดีโอความระเอียดระดับ 8K ในแบบเรียลไทม์ ที่สามารถลด Processing Time ลงได้อย่างมีนัยสำคัญ ในขณะที่ได้ Productivity ที่สูงขึ้น

ปัจจุบัน จำนวนคอร์สูงสุดที่ Single Socket Platform CPU สามารถรองรับได้คือ 18 คอร์ ในขณะที่ Dual-Socket Platform CPU สามารถรองรับได้สูงสุดที่ 56 คอร์ แต่ ThinkStation P620 ได้ปลดล็อกและสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับวงการ Workstation ด้วยจำนวนคอร์ที่มากกว่า ผู้ใช้งานจึงสามารถสร้างสรรค์งานขนาดใหญ่ และซับซ้อน บน  Multi-Thread Software Application  ได้โดยไม่ต้องใช้งานเครื่องคอมพิวเตอร์ Workstation แบบ Dual Socket Platform ซึ่งมีราคาสูงกว่า นอกจากจำนวนคอร์ที่สูงกว่า ในราคาแบบ Single Socket CPU แล้ว ThinkStation P620 AMD Threadripper PRO Processors นั้น ยังมอบการใช้งานในมิติใหม่ ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ผู้ใช้งานไม่จำเป็นต้องเลือกว่าจะเน้นที่ Clock หรือ Core เนื่องจาก AMD Threadripper PRO Processors นั้นได้นำเสนอ CPU ประมวลผลที่ให้ทั้ง Clock Speed และจำนวนคอร์ที่สูงในเวลาเดียวกัน

ในส่วนของฟีเจอร์และขุมพลังเพื่องานสร้างสรรค์ระดับมืออาชีพนั้น ThinkStation P620 ได้มาพร้อมฟีเจอร์ที่ครบครัน ครอบคลุมทุกรูปแบบการใช้งานไม่ว่าจะเป็น จำนวนคอร์ที่สามารถเลือกได้ตั้งแต่ 12 คอร์, 16 คอร์, 32 คอร์, และ 64 คอร์ ตลอดจนมีหน่วยความจำ และการโอนถ่ายข้อมูลที่รวดเร็วขึ้น โดยมาพร้อมกับ Built-in Ethernet ขนาด 10GB ซึ่งเป็นมาตรฐานใหม่ในการเชื่อมต่อ นอกจากนี้ ThinkStation P620 ยังเป็น Workstation สำหรับ Creator อย่างแท้จริง ที่ให้ความยืดหยุ่นในการเลือกใส่การ์ดจอ เพื่อสามารถตอบสนองความต้องการ และรองรับรูปแบบการใช้งานที่หลากหลายรูปแบบได้มากที่สุดที่เคยมีมา โดย ThinkStation P620 สามารถรองรับการ์ดแสดงผล NVIDIA Quadro RTX 8000 ได้สูงสุดถึง 2 การ์ด หรือ RTX 4000 ได้สูงสุดจำนวน 4 การ์ด พร้อมกันนั้น ยังรองรับหน่วยความจำสูงสุด 1TB และพื้นที่เก็บข้อมูล 20TB และที่พิเศษสุด ในโลกปัจจุบันที่ความเร็วคือสิ่งสำคัญ อาจกล่าวได้ว่า ThinkStation P620 ตัวนี้เป็น Workstation รายแรกที่รองรับ PCIe Gen 4 ซึ่งสามารถให้ความเร็วในการอ่าน และเขียน ตลอดจน Bandwidth ได้ถึง 2 เท่าของ PCIe 3.0

ในส่วนของการออกแบบ เพื่อยกระดับความเสถียรในการใช้งานเครื่อง ThinkStation P620นั้น ทางเลอโนโวและ AMD ได้ร่วมมือกันออกแบบพัฒนาชุดระบายความร้อนขึ้นเพื่อแก้ไขปัญหาการระบายความร้อนของเครื่องโดยเฉพาะ เพื่อให้มั่นใจได้ว่า การใช้งานโปรเซสเซอร์ขั้นสูงซึ่งมักก่อให้เกิดความร้อนในเครื่องระหว่างการทำงานนั้น จะไม่เป็นอุปสรรคต่อความเสถียรของระบบ โดยโซลูชั่นระบายความร้อนได้ถูกออกแบบ และทดสอบมาอย่างมีประสิทธิภาพ ให้สามารถรองรับการทำงานที่หนักหน่วงและยาวนาน เพื่อการทำงานที่ลื่นไหล ไม่สะดุด  และสามารถตอบสนองทุกรูปแบบและขนาดการใช้งานได้อย่างไร้ข้อจำกัดแบบ Zero Downtime

สำหรับผู้ที่สนใจหรือต้องการสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับ ThinkStation P330 และสินค้ากลุ่ม Lenovo  สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่บริษัทควิกเซิร์ฟโปรไวเดอร์จำกัด

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม:
Call Center: +66 2-496-1234
Facebook: quickserv.enterprise
Email: sales@quickserv.co.th
Website: www.quickserv.co.th

from:https://www.techtalkthai.com/lenovo-thinkstation-p620-the-game-changer/

[Guest Post] Spyware โปรแกรมที่แฝงมาในคอมพิวเตอร์ของเราแบบไม่ได้รับเชิญ !

คุณคือผู้โชคดีได้รับรางวัลเป็นเงินจำนวน xxx,xxxx บาท! เพียงแค่คลิกลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิ์!’ หรือมีพัสดุส่งมาถึงคุณ แต่ว่าไม่มีคนรับทำให้พัสดุถูกตีกลับหากอยากให้เราทำการส่งใหม่ คลิกเพื่อจ่ายเงินค่าส่งได้เลย

เราเชื่อว่าหลายคนน่าจะเคยได้รับข้อความในรูปแบบนี้มาสักครั้งหนึ่งเมื่อยามที่ใช้อินเทอร์เน็ต อาจจะด้วยทางอีเมลหรือช่องทางอื่นๆ ซึ่งบางครั้งไม่อาจหักห้ามใจที่จะไม่ให้กดเข้าไปดูได้

เนื่องจากรางวัลที่ได้มามันช่างง่ายแสนง่าย เพียงแค่กรอกชื่อ ที่อยู่ อีเมลลงไป และรอลุ้น หรืออย่างอีเมลที่มีพัสดุมาส่ง แต่เราไม่อยู่หรือไม่สะดวกรับพัสดุ เราเชื่อว่ามีคนประมาณ 90% ต้องกดเข้าไปดูอย่างแน่นอน จะเห็นได้ว่าข้อความเหล่านี้มีวิวัฒนาการเรื่อยมา มีความแนบเนียนล่อลวงให้ผู้คนเกิดความอยากรู้อยากเห็นมากขึ้น ลองนึกดูว่าหากพ่อแม่ของเรา ท่านอาจจะไม่มีความเชี่ยวชาญในเรื่องของโปรแกรมหลอกลวงต้มตุ๋นต่างๆ บนอินเทอร์เน็ต จึงอาจถูกหลอก ก่อให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินได้ หรือแม้กระทั่งตัวเราเองเพียงแค่กดเข้าไปดูก็อาจเป็นภัยต่อข้อมูลส่วนตัวต่างๆ ของเราเช่นกัน

ในบทความนี้เราจะมาทำความเข้าใจเจ้าโปรแกรมหลอกลวงชนิดหนึ่ง ที่มีชื่อเรียกว่า ‘Spyware’ หรืออีกคำหนึ่งก็คือ Spying Software โปรแกรมที่แฝงมาในคอมพิวเตอร์ของเราแบบไม่ได้รับเชิญ!

1. Spyware เข้ามาในคอมพิวเตอร์เราได้อย่างไร?

Spyware (สปายแวร์) โปรแกรมที่ถูกพัฒนาเพื่อแฝงตัวเข้ามาในคอมพิวเตอร์ของเราด้วยการหลอกให้ผู้ใช้งานดาวน์โหลดเอาไปใส่ในเครื่องเอง หรือคอยอาศัยช่องโหว่เมื่อเราใช้งานอินเทอร์เน็ตอยู่และติดตั้งตัวเองลงในเครื่องคอมพิวเตอร์ของเราอย่างเช่น

  • การแนบไฟล์ในอีเมล ทำให้ผู้รับเกิดความสงสัย และกดดาวน์โหลด
  • เมื่อเราเจอกับโฆษณาที่เด้งขึ้นมา ทั้งๆ ที่เราไม่ได้เปิดเว็บไซต์ ทำให้เราเผลอกดเข้าไป
  • การส่งไฟล์ระหว่างกัน
  • หรือแม้กระทั่งการดาวน์โหลดโปรแกรมฟรีต่างๆ เมื่อเราทำการยกเลิกการติดตั้งไปแล้ว Spyware อาจจะคงอยู่ในคอมพิวเตอร์

2. ประเภทของ Spyware และรูปแบบการทำงาน

Spyware นั้นมีรูปแบบหลากหลายเพื่อตอบจุดประสงค์ของแฮ็กเกอร์ผู้สร้างที่แตกต่างกัน โดยจะมี 4 ประเภทหลักดังนี้

  • Keyloggers รูปแบบของ Spyware ประเภทนี้จะทำการสอดแนมทุกกิจกรรมที่เราทำบนคอมพิวเตอร์ไม่ว่าการเข้าอีเมล การเข้าเว็บไซต์ต่าง จนสามารถรวบรวมและรู้ได้ถึง Username & Password หมายเลขบัตรเครดิตและข้อมูลสำคัญต่างๆ โดยการดักจับและบันทุกข้อมูลจากการพิมพ์คีย์บอร์ดของผู้ใช้ ทั้งตัวอักษร ตัวเลข ข้อความต่างๆ และทำการส่งไปยังเครื่องคอมพิวเตอร์ปลายทางที่โปรแกรมได้ระบุเอาไว้
  • Adware คือ Spyware ที่มาในรูปแบบของ Pop-Up โฆษณา และทำให้ปุ่มปิด X หายาก ทำให้เราเผลอกดเข้าไปยังลิงค์ที่เป็นอันตรายต่อคอมพิวเตอร์เรา
  • Trojans จะหลอกให้ผู้ใช้งานติดตั้งโปรแกรมบางอย่างลงบนคอมพิวเตอร์ หรือสมาร์ตโฟน เพื่อเข้าถึงข้อมูลไฟล์ที่เป็นส่วนตัว Trojan บางประเภทยังสามารถทำการเปลี่ยนแปลงตั้งค่ารหัสผ่านของเราได้ด้วยเพื่อทำการควบคุมอุปกรณ์ของเรา
  • Cookie Trackers คุกกี้น่าจะเป็นหนึ่งในโปรแกรมที่เราคุ้นเคยกันมากที่สุด เพราะเว็บไซต์ส่วนใหญ่ก็มีการติดตั้งคุกกี้เพื่อความสะดวกสบายของผู้ใช้งาน เช่น เมื่อเราทำการ Login เว็บไซต์หนึ่งไว้ หากเรากดยอมรับให้มีคุกกี้เราก็ไม่ต้อง Login ครั้งต่อไปเมื่อต้องการใช้งาน แต่ก็มีคุกกี้ที่มาจาก Spyware ทำการสวมรอยมาแอบเก็บข้อมูลของเรา และทำการส่ง Junk Mail หรือ Pop-Up โฆษณาให้เราเผลอกดด้วยก็ได้

3. ใช้ Mac จะปลอดภัยจาก Spyware หรือไม่?

อย่างที่เราได้ยินชื่อเสียงของระบบปฏิบัติการ Mac นั้นมีประสิทธิภาพสูง สามารถป้องกัน Spying Software, Malware และไวรัสอื่นๆ ได้ ทำให้เป็นที่นิยมของผู้ใช้งาน และยิ่งเป็นการทำให้แฮ็กเกอร์ทั้งหลายต่างพยายามพัฒนาโปรแกรมไวรัส Email Phishing Scams, Malware ต่างๆ ให้เข้าถึงความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งานให้ได้ โดยวิธีการและอาการติด Spyware ของ Mac จะมีอาการคล้ายคลึงกับที่ระบบ Windows แต่ส่วนใหญ่ Mac Hackers มักจะใช้เป็นวิธีการขโมยรหัสผ่านเป็นหลัก หรืออาศัยช่องโหว่เพื่อปล่อย Spyware อย่างเมื่อมีการส่งไฟล์ หรือทำการบันทึกการกดแป้นพิมพ์

4. สังเกตอาการของอุปกรณ์ของเรา และวิธีลบ Spyware

เมื่อเราสังเกตดูแล้วว่าคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์ต่างๆ มีอาการติดไวรัส Spyware อย่างเช่น

  • อุปกรณ์ของเราทำงานช้าอย่างผิดปกติ
  • ได้รับ Pop-Up โฆษณาจำนวนมาก แม้เราไม่ได้เปิดเว็บไซต์นั้นๆ
  • มีแถบเครื่องมือแปลกๆ ปรากฏขึ้นมา บนหน้า Search Engines หรือ Home Screens ของเราทั้ง ที่เราไม่ได้ดาวน์โหลด

ถ้าหากมีอาการเหล่านี้เกิดขึ้นก็เป็นไปได้ว่าอุปกรณ์ของเราติดเจ้าไวรัส Spyware เข้าแล้ว ส่วนวิธีการกำจัด Spyware นั้นมีหลากหลายรูปแบบ

  • ขั้นตอนแรกที่เราแนะนำก็คือให้ ทำการ Offline ปิดการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตบนอุปกรณ์ของคุณเพื่อป้องกันการแพร่กระจายไปทั่ว และป้องกันการรั่วไหลของข้อมูล
  • ขั้นตอนต่อไปให้ Restart อุปกรณ์ หลังจากที่ Restart เสร็จสิ้นให้เลือกกดไปที่ Safe Mode เพื่อให้โปรแกรมที่มีความจำเป็นดำเนินการต่อไป (หลังจากที่ Restart แล้วน่าจะมีตัวเลือกขึ้นมาให้เราเลือก Safe Mode หากไม่มีให้ เลือก 4 หรือ F4 เพื่อให้อุปกรณ์ของเราไปสู่ Safe Mode)
  • ลบไฟล์และโปรแกรมที่ไม่พึงประสงค์

ซึ่งวิธีเบื้องต้นนี้จะช่วยให้อุปกรณ์ของเราได้ทำการกำจัดไฟล์ที่ไม่จำเป็นออกไป ช่วยให้คอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์อื่นๆ มีการทำงานที่รวดเร็วขึ้น

5. โปรแกรมที่สามารถกำจัด Spyware ได้อย่างถาวร

อย่างไรก็ตามวิธีการกำจัด Spyware ได้อย่างถาวรคือการติดตั้ง Antivirus Software ที่มีความสามารถในการป้องกันและกำจัด Spyware ตัวโปรแกรมจะช่วยสแกนหาการติดไวรัส และคอยตรวจสอบดูว่ามีไวรัสซ่อนอยู่ในอุปกรณ์ของเราหรือไม่ และช่วยกำจัดออกไปก่อนที่เหล่าแฮ็กเกอร์จะทำการขโมยข้อมูลส่วนตัวของเราไปใช้ในทางที่ไม่ดี ซึ่งโปรแกรมกำจัด Spyware ก็มีทั้งรูปแบบที่ให้ดาวน์โหลดฟรี มากมายบนอินเทอร์เน็ต แต่เราจะมั่นใจได้อย่างไรว่าโปรแกรมฟรีเหล่านั้นปลอดภัยจากไวรัสจริง  ฉะนั้นเลือกโปรแกรม Anti-Spyware ที่น่าเชื่อถือได้จาก Bitdefender บริษัทพัฒนาโปรแกรมกำจัดไวรัสที่ได้รับการยกย่องให้เป็น The Best Antivirus Softwareในปี 2020 จากบริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีทั้งหลาย โดย Bitdefender ยังได้รับการยอมรับจากบริษัทระดับโลกอย่างเช่น IBM และ Virgin Media ที่เป็นพันธมิตรทางธุรกิจร่วมกันมาอย่างยาวนาน

6.  ทำความรู้จักกับ Anti-Spyware Software อย่าง GravityZone จาก Bitdefender

บริษัท Bitdefender ได้พัฒนา Antivirus Software โดยใช้เทคโนโลยีที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และให้ชื่อว่า Bitdefender GravityZone ซึ่งเป็นตัวแทนของการทำงานที่รวดเร็ว และประสิทธิภาพในการป้องกันไวรัสระดับสูง โดยซอฟต์แวร์ตัวนี้ได้ถูกออกแบบมาเพื่อรักษาความมั่นคงปลอดภัยของกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ ขนาดกลาง และขนาดเล็ก ทั้งยังรองรับระบบปฏิบัติการ Windows , Linux และ Mac และอื่นๆ อีกมากมาย พร้อมกับมีการควบคุมผ่าน Console เดียว ทำให้การบริหารจัดการเครื่องเวิร์กสเตชันและเซิร์ฟเวอร์ ได้อย่างสะดวกสบาย

เข้าไปเลือก Anti-Spyware Software ของบริษัท Bitdefender ได้ที่นี่ ไม่ว่าคุณจะเป็นบริษัทขนาดเล็กหรือใหญ่ หรือเพียงแค่ต้องการความปลอดภัยในการปกป้องข้อมูลส่วนตัวของคุณบนโลกอินเทอร์เน็ต เรามีโปรแกรมที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการ เพื่อยกระดับความปลอดภัยสูงสุดให้แก่คุณ

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม:
Call Center:
 +66 2-496-1234
Facebook: quickserv.enterprise
Email: sales@quickserv.co.th
Website: www.quickserv.co.th

from:https://www.techtalkthai.com/how-to-protect-your-computers-from-spyware/

โปรโมชัน HCI สุดคุ้มจาก Supermicro จองปั๊บรับของแถมเพียบ !! ก่อน 30 เมษายนนี้

โปรโมชัน Hyperconverged สุดคุ้มจากค่าย Supermicro เครื่องเซิร์ฟเวอร์ประสิทธิภาพสูงที่ติด Top 3 ยอดขายทั่วโลก พร้อมการรับประกัน 3 ปีเต็ม ถูกออกแบบมาให้รองรับการทำงานแบบ HCI เต็มรูปแบบ เหมาะสำหรับองค์กรที่ต้องการทำ IT Transformation รองรับ Workload ทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นงาน Enterprise Application, VDI, Remote and Branch Office, Dev/Test, Big Data หรือ Critical Workload

Promotion Item : #1 SuperServer 6029TP HTR 2U/3 Nodes
Promotion Item : #2 SuperServer 6029BP HTCOR 2U/3 Nodes
Promotion Item : #3 SuperServer 5019-MTR 1U x 3 Nodes
Promotion Item : #4 A+Server 1014S-WTRT 1U x 3 Nodes

คลิกที่ภาพเพื่อดูภาพขนาดใหญ่

เมื่อจอง Hyperconverged Supermicro 1 ใน 4 ตัวนี้ ผ่าน QuickServ รับทันที Zyxel SX1930-10 Switch 10Gb จำนวน 10 Ports

และสิทธิพิเศษที่พลาดไม่ได้อีก 6 อย่าง ดังนี้

1. Licenses VMware vSphere 6 Essentials Plus

ชุดซอฟต์แวร์สำหรับการเริ่มต้นเข้าสู่ Cloud สำหรับองค์กร ที่ประกอบไปด้วย

  • VMware vCenter for Essentials
  • Hypervisor
  • vMotion and X-Switch vMotion
  • High Availability
  • Data Protection
  • vShield Endpoint
  • vSphere Replication

2. Licenses VMware vSAN 6 Standard

โปรแกรม Software-defined Storage เพื่อเพิ่มความสามารถในการทำ Virtualization ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ด้วยการจัดการ Disk แบบ Local ทำงานร่วมกับ Disk บนเครื่องแม่ข่ายอื่นๆ ในระบบ

  • Storage Policy Based Management
  • Flash Read/Write Caching
  • Distributed RAID
  • Virtual Distributed Switch
  • Rack Awareness
  • Software Checksum
  • iSCSI Target Service
  • IOPS Limit

3. Support/Subscription VMware for 1 year

สอบถามและแจ้งปัญหาได้โดยตรงจาก VMware เป็นระยะเวลา 1 ปีเต็ม

4. ฟรี… ค่าบริการติดตั้งสำหรับลูกค้าในกรุงเทพและปริมณฑล

5. ฟรี… บริการย้ายข้อมูลขึ้นระบบใหม่ โดยขนาดข้อมูลไม่เกิน 500G จำนวน 1 ระบบ

6. ฟรี… เทรนนิ่งการใช้งาน VMware ที่ บริษัท ควิกเซิร์ฟ โปรไวเดอร์ จำกัด

สนใจสินค้าสามารถจองสิทธิ์ล็อกราคาไว้ก่อนได้เลย ภายใน 30 เม.ย. นี้เท่านั้น

ฝ่ายขายงานโครงการ โทรด่วน 08-0488-5555, 09-7003-4314 หรือ ช่องทางอื่นๆ
Call Center: +66 2496 1234
LINE: @quickserv
FB: quickserv.enterprise
Email: sales@quickserv.co.th
website: www.quickserv.co.th

from:https://www.techtalkthai.com/hci-supermicro-promotions-from-quickserv/

IBM Storwize ระบบ Storage ระดับ Enterprise ที่ถูกออกแบบมาให้เร็วขึ้น ดีขึ้นและช่วยประหยัดขึ้นกว่า 80%*

IBM STORWIZE V5000E ออกแบบมาเพื่อขับเคลื่อน นวัตกรรม และ ความคล่องตัวที่มากขึ้นด้วย Hybrid Storage Solution

การจัดเก็บข้อมูลในองค์กรเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วจาก Private Storage สู่ความท้าทายทาง IT ในระบบ Hybrid Multi-cloud การจัดการกับขนาดข้อมูลที่มากขึ้นคือสิ่งที่ธุรกิจสมัยใหม่และบริษัท IT ต้องเผชิญในโลกธุรกิจทุกวันนี้ ดังนั้นต้องการการแบ่งปันของข้อมูลมากขึ้นสะดวกรวดเร็วที่ความคล่องตัวและยืดหยุ่น และการจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อที่จะเหนือกว่าคู่แข่งอื่นๆ วันนี้ข้อมูลมีความสำคัญมากกว่าอย่างอื่นสำหรับการตัดสินใจในแบบทันทีทันใดในยุค Digital Transformation และเพิ่มตอบโจทย์นั้น IBM จึงได้พัฒนา IBM Storwize เพื่อตอบโจทย์องค์กรและธุรกิจ IT ที่มาพร้อมรับมือกับปัญหาต่างๆทั้งเชิงรุกและเชิงรับทางธุรกิจ ตัวอย่างเช่น

  • ผู้ดูแลระบบต้องการข้อมูลเพื่อรับรู้ ตระหนักและป้องกันการขโมยข้อมูลก่อนที่จะเกิดขึ้นอย่างทันท่วงที
  • คอลเซ็นเตอร์ต้องการข้อมูลเพื่อช่วยให้บริการลูกค้าอย่างแม่นยำ และรวดเร็วที่สุด
  • แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือผู้บริหารต้องการข้อมูลเพื่อพัฒนากลยุทธที่ชาญฉลาดสำหรับต่อกรกับคู่แข่งอันแข็งแกร่ง
  • การเพิ่มมากขึ้นของแอปพลิเคชั่นใหม่ๆ และ ความต้องการที่จะรวมข้อมูลเพื่อวิเคราะห์ Big-data
  • การเคลื่อนไหวของสื่อสังคม (Social Media) องค์กรต้องการเนื้อที่เก็บข้อมูลเพื่อเติม ประสิทธิภาพ การใช้สอยประโยชน์ขั้นสูงและความยืดหยุ่นคล่องตัวที่มากขึ้น
  • บริษัท IT ต้องส่งข้อมูลให้รวดเร็วด้วย Multi-cloud และมีประสิทธิภาพที่มากขึ้น สามารถที่จะวิเคราะห์ทำนายผลได้อย่างทันทีและการสนับสนุนที่มากกว่าการปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าทั่วไป
  • โครงสร้างพื้นฐานที่ดี ควรอนุญาตให้ผู้ใช้งานสามารถแบ่งบันข้อมูล รายงานความปลอดภัยและทำงานทันทีอย่างชาญฉลาด เพื่อที่จะเผชิญความท้าทายกับธุรกิจยุคใหม่
  • ดังนั้นองค์กรต้องการที่เก็บข้อมูลที่ทนทาน (Robust storage solutions) เช่น IBM Storwize V5000 เพื่อจัดชุดเครื่องมืออย่างครอบคลุมครบครันที่สามารถใช้ การจำลองเสมือนแบบรวมศูนย์ (Unified Virtualization), Extraordinary Scale และ ช่วยให้การจัดการเป็นไปอย่างเรียบง่าย (Simplified Management) ทั้งหมดถูกออกแบบมาเพื่อสนับสนุนเป้าหมายกลยุทธทางธุรกิจใปัจจุบัน

วันนี้เพื่อที่จัดการความท้าทายทางธุรกิจ IT IBM Storwize V5000 ออกโมเดลใหม่มาพร้อมกันถึง 3 รุ่น ได้แก่ IBM Storwize V5030 , IBM Storwize V5020 และ IBM Storwize V5010 Enterprise Storage ที่จะมาช่วยจัดความคล่องตัว ยืดยุ่นตั้งแต่จุดเริ่มต้นเล็กๆ จนเติบโตอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ใช้ประโยชน์จากที่เก็บข้อมูลอย่างคุ้มค่ามากที่สุดแก่การลงทุน ในราคาที่จับต้องได้ และ สามารถขยายเพิ่มเนื้อที่เก็บข้อมูลได้ในอนาคต ด้วยแนวคิด ง่ายที่จะซื้อ ง่ายที่จะใช้ และ ง่ายที่จะเข้าไปจัดการกับระบบเก็บข้อมูล

IBM Storwize V5000 มาพร้อมกับคุณสมบัติหลากหลายอันโดดเด่นมากมายดังนี้:

  • Virtualized Storage ด้วย IBM Spectrum Virtualize Transform:
    ระบบจัดการข้อมูลทั้งหมดร่วมกันเสมือนจริง ที่จะช่วยให้องค์กรจัดการข้อมูลในระบบจัดเก็บข้อมูลระบบเดียวกันเป็นไปได้อย่างง่ายดายและช่วยลดต้นทุนการทำงานขององค์กร
    • จัดการที่เก็บข้อมูลจากหลายที่ทั้งหมดมาไว้ในที่เดียวและบริหารจัดการที่เก็บข้อมูลได้จากศูนย์กลาง (Storage Pool) ด้วย IBM Spectrum Control รองรับการจัดการกับอุปกรณ์เหล่า SAN Storage จากผู้ผลิตมากกว่า 200 ราย
    • ปรับปรุงการป้องกันข้อมูล/สำรองข้อมูล ช่วยให้สร้างข้อมูลใหม่ในจากไดร์ฟที่เสียหายไวขึ้น 5 – 10 เท่า
    • ปรังปรุงให้พร้อมใช้งานเสมอและช่วยกำจัด Downtime ช่วยให้ใช้งานได้อย่างราบรื่นไร้การติดขัด
    • ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของที่เก็บข้อมูลได้มากขึ้นถึง 2 เท่า และซอฟแวร์เข้ารหัสเพื่อเพิ่มความปลอดภัยของข้อมูลและสำรองข้อมูลด้วย IBM Spectrum Protect
    • เพิ่มเนื้อที่เก็บข้อมูลที่มีอยู่ทำให้สามารถเก็บข้อมูลให้มากขึ้น 5 เท่า และลดค่าใช้จ่ายในการซื้อเนื้อที่เก็บเพิ่มในอนาคตด้วยการทำ Thin Provisioning และ Snapshot Replication
    • รองรับการใช้งาน IBM HyperSwap สำหรับ Non-disruptive Application และ Data Mobility ระหว่างศูนย์กลางข้อมูล
    • เพิ่มประสิทธิภาพของที่เก็บข้อมูลที่ใช้ โดยย้ายข้อมูลไปไว้ในที่เหมาะสมตามชนิดของที่เก็บข้อมูลนั้นขึ้นอยู่กับการตั้งค่าของผู้ใช้งานใน IBM Spectrum Control
    • สามารถเชื่อมต่อ/ย้ายข้อมูลระหว่าง On-premises และ Public Cloud ด้วย Amazon Web Services (AWS), IBM Cloud
    • รองรับการทำงาน Virtualized Server กับ VMware vCenter, Microsoft Hyper-V, IBM PowerVM, Kubernetes และ Docker
  • รองรับการทำ RAID & Distributed RAID
  • เครื่องมือจัดการที่ใช้งานง่าย ด้วยการแสดงผลแบบ Advanced GUI: เพื่อให้การบริหารจัดการระบบที่เก็บข้อมูลเป็นไปได้อย่างราบรื่น รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ลดความเสียหายของข้อมูลและความผิดพลาดอื่นๆ ผ่านระบบแสดงผลแบบ Visualization ที่ถูกออกแบบมาให้ใช้งานและเข้าใจได้ง่าย ช่วยลดเวลาการทำงาน สามารถใช้ร่วมกับ VMware vCenter และรองรับ IP Replication with Bridgeworks WANrockIT Technology ได้อีกด้วย
  • การบริหารจัดการด้วย AI (AI Monitoring & Tiering): ด้วยเทคโนโลยี IBM Storage Insights ช่วยให้ผู้ใช้งานเข้าใจถึงแนวโน้มของที่เก็บข้อมูลและประสิทธิภาพและช่วยเร่งแก้ปัญหาเมื่อจำเป็น มากกว่านั้น IBM Storage Insights ช่วยแสดงผลสภาพการใช้งานของที่เก็บข้อมูล ปริมาณเนื้อที่เก็บและประสิทธิภาพด้วย IBM Block Storage และ Storage ภายนอกภายใต้การบริหารจัดการบนหน้าจอเดียว มีการทำนายการใช้งานด้วย AI-based Analytics ที่จะช่วยระบุปัญหาที่เป็นไปได้ก่อนที่มันจะเกิด และเมื่อไหร่ที่ผู้ใช้ต้องการความช่วยเหลือ AI จะช่วยเพิ่มความเร็วในการแก้ปัญหาด้วยขั้นตอนลดความซับซ้อนและการอัพโหลด log ไฟล์อัตโนมัติและรองรับทำ Storage Tiering ร่วมกันระหว่าง Storage หลายๆ ชุดได้
  • เพิ่มความสามารถในการทำงานขององค์กร IT ผ่าน Hybrid Multi-cloud: สามารถใช้งานได้บน IBM Cloud และ AWS, IBM Spectrum Virtualize ทำงานร่วมกับ IBM Storwize V5000E เพื่อกระจายการบริหารจัดการข้อมูลที่สอดคล้องกันระหว่าง On-premises Storage และ Public Cloud ในการย้ายข้อมูลและแอปพลิเคชั่น ด้วยเครื่องมือยุทธวิธีทาง DevOps ใหม่ในการใช้ Public Cloud สำหรับ DR ปราศจากต้นทุนที่ต้องหาที่เก็บข้อมูลสำรองชั่วคราวเพิ่มเติมและยังช่วยปรับปรุงความคล่องตัวยืดหยุ่นทางไซเอบร์ด้วย “Air Gap” Cloud Snapshots
  • IBM Flash Copy สำหรับการใช้งาน Remote Mirror และ Remote Replication: ช่วยให้การคัดลอกข้อมูลเป็นไปได้อย่างรวดเร็วและสามารถคัดลอกข้อมูลจาก Storage ระยะไกลได้เหมาะกับการทำ DR Site (Disaster Recovery Site) และ Synchronize, Asynchronize ข้อมูลกันอย่างสม่ำเสมอ
  • การลดรูปข้อมูล (Data Reduction Options): ปรับปรุงประสิทธิภาพด้วยการลดรูปสระข้อมูล (Data Reduction Pools) ด้วยวิธี Block Deduplication และ การบีบอัด (Compression) ที่จะมาช่วยจัดการประสิทธิภาพข้ามแอปพลิเคชั่น Workload Patterns นอกจากนี้ด้วย SCSI UNMAP ช่วยผู้ใช้มีเนื้อที่ว่างเพิ่มขึ้น โดยวิธีการลบข้อมูลที่ไม่เกี่ยวข้องออก
  • ปรับปรุงการเข้าถึงที่เก็บข้อมูลด้วย IBM EasyTier (Automated Tiered Storage): Easy Tier บริการจัดการโยกย้ายข้อมูลที่เข้าถึงเป็นประจำอัตโนมัติ ด้วยฟังชั่นการย้ายตำแหน่งของข้อมูลที่ต่างชนิดกันให้อยู่ในไดร์ฟที่เหมาะสมอย่างอัตโนมัติ ช่วยเสริมประสิทธิภาพการใช้งาน
  • IBM Flash Watch: เพื่อให้ผู้ใช้งานมั่นใจ IBM Storwize V5000E ได้รับประกันแพ็คเกจรวมในการรองรับการอัพเกรดโปรแกรมและการสนับสนุนเพิ่มเติมที่สามารถลดความเสี่ยงในการทำงาน ลดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา การจ้างบุคลากรเพิ่มและช่วยปรับปรุงแผนโครงสร้างพื้นฐานทางข้อมูลให้ดีขึ้น ด้วยข้อประโยชน์ที่มากมายเหล่านี้ใน IBM FlashWatch เป็น IBM Controller Upgrade Program ที่รับประกันสนับสนุน 7 ปี และบริการความช่วยเหลือแบบ 24×7 ประกันความทนทานและบำรุงรักษา
  • Six 9’s availability: ข้อมูลใช้งานได้ตลอดเวลาเป็นเรื่องสำคัญสำหรับธุรกิจ การเกิด downtime นั้นจะส่งผลต่อธุรกิจทันดีและเกิดความเสียหายต่อผู้ใช้งานและต้นทุนทางการเงินได้ ดังนั้น IBM Storwize V5000E ด้วย ซอฟแวร์สนับสนุนของ IBM ปัจจุบัน ช่วยให้มั่นใจได้ว่าข้อมูลจะใช้งานได้ตลอดเวลาด้วยแนวคิด 9’s (99.9999%) ระบบนี้รวมถึง ไม่มีจุดที่เกิดความเสียหาย (Single Point of Failure), Enterprise Proven Control Software และ ความสามารถในการบำรุงรักษาพร้อมกันด้วย I/O และที่มากกว่านั้นด้วย Cloud-based IBM Storage Insights ช่วยตรวจจับการตั้งค่าที่ผิดพลาดเพื่อปรับปรุงสภาพพร้อมใช้งานได้ดียิ่งขึ้นไปอีกขั้น
  • พร้อมกับมือกับการเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยีในอนาคต: ด้วยซอฟแวร์ที่หลากหลาย เทคโนโลยีและการช่วยเหลือของ IBM ที่มีการอัพเกรดตลอดเวลาทำให้มั่นใจได้ว่าเทคโนโลยีที่ใช้จะไม่ล้าสมัยและสามารถแข่งขันในธุรกิจในยุคที่ Digital Transformation ได้อย่างแน่นอน
  • รองรับการ upgrade เป็น V5020 และ V5030

“ความเป็นไปได้ที่มากกว่า อย่างไร้ขีดจำกัด IBM Storwize V5000”

คุณสมบัติเบื้องต้น(Specification)

Storwize V5030E

Storwize V5010E

Dual Controller Dual Controller
Connectivity (standard):
10 Gb iSCSI (On the motherboard)
Connectivity (standard):
1 Gb iSCSI (On the motherboard)
Cache: 32 GB or 64 GB cache per system Cache: 16, 32 GB or 64 GB cache per system
Maximum drives supported:
Maximum of 760 drives per system and 1,520 drives in two-way clustered
Maximum drives supported:
Maximum of 392 drives per system
Maximum expansion enclosure capacity:
Up to 20 standard expansion enclosures and up to 8 high density expansion enclosures per controller
Maximum expansion enclosure capacity:
Up to 10 standard expansion enclosures and up to 4 high density expansion enclosures per controller

ทั้งนี้ IBM Storwize V5000E series เป็น Hybrid Flash Storage สำหรับผู้เริ่มต้นใช้งาน มีเสถียรภาพสูงที่ถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์องค์กรด้วยฟังชั่นการงานใช้งานและประสิทธิภาพที่หลากหลายในราคาที่ประหยัด สามารถจับต้องได้เช่น ขยายเนื้อที่ได้มาก ทนฝุ่น ทนร้อน ถูกสร้างมาพร้อมกับคุณสมบัติที่หลากหลายของ IBM Spectrum Virtualize และระบบวิเคราะห์จัดการที่เก็บข้อมูลล่วงหน้าด้วย AI-powered และการสนับสนุนเชิงรุกด้วย เทคโนโลยี Storage Insights และหมดกังวลด้วยการรับประกันแบบ 24×7 ตลอด 3 ปีเต็มอีกด้วย ด้วยคุณสมบัติราคาและเทคโนโลยีสนับสนุนเหล่านี้จะช่วยทำให้มั่นใจได้ว่า IBM Storwize V5000 series จะช่วยให้องค์กรของคุณประหยัดมากขึ้นกว่า 80% อย่างแน่นอน

วันนี้ IBM StorwizeV5010E LFF&SFF มาพร้อมกับ Promotion แพ็คคู่สุดคุ้มในราคาพิเศษ

หรือ

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม:
Call Center: +66 2-496-1234
LINE: @quicksery
Facebook: quickserv.enterprise
Email: sales@quickserv.co.th
Website:
www.quickserv.co.th

from:https://www.techtalkthai.com/ibm-storwize-enterprise-grade-storage-by-quickserv/

อยากได้ระบบ Monitoring ดีๆ ฟรี … สำหรับเครื่องสำรองไฟในองค์กร เลือก APC SmartConnect UPS

เชื่อว่าปัญหาส่วนใหญ่ที่หลายคนหรือองค์กรมักจะต้องประสบปัญหาเป็นประจำ นั่นก็คือ ในขณะที่กำลังทำงานสำคัญอยู่ แต่เกิดเหตุไฟดับหรือไฟตกขึ้นมาทำให้คอมพิวเตอร์ดับ และงานในบริษัทต้องหยุดชะงัก เพราะกระแสไฟฟ้าขัดข้องทำให้เกิดความเสียหายต่อข้อมูลที่สำคัญ ถ้าหากไม่ได้ทำการบันทึกข้อมูลอย่างสม่ำเสมอไว้ทั้งที่กำลังจะใกล้เสร็จ ต้องมานั่งทำงานกันใหม่หมด เสียทั้งเวลา เสียงาน หรืออาจจะทำให้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เกิดความเสียหาย ถ้าเกิดกระแสไฟกระชากแบบแรงๆ

นอกจากนี้ต้องยอมรับว่าโลกดิจิตอลทุกวันนี้ ระบบไอทีมีบทบาทและความสำคัญมากต่อธุรกิจยุคปัจจุบันที่นำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้งานหลายๆอย่าง และทุกอย่างต้องเชื่อมต่อเข้ากับฐานข้อมูลหรืออินเตอร์เน็ต เช่น ระบบของโรงพยาบาล ตั้งแต่การติดต่อขอการรักษา จนถึงขั้นตอนสุดท้ายจ่ายยาและจ่ายเงิน ดังนั้นการปกป้องระบบไอทีจึงเป็นเรื่องสำคัญ ระบบบริหารการจัดการที่ชาญฉลาด และอุปกรณ์ที่ช่วยตรวจสอบ ดูแล และปกป้องระบบไอทีเหล่านี้จึงมีความสำคัญและจำเป็นอย่างมาก

ด้วยเหตุนี้ต้องมั่นใจได้ว่าระบบ UPS (Uninterruptible Power Supply) พร้อมทำงานตลอดเวลา ไม่ต้องตัวสอบการใช้งานอยู่บ่อยๆ เพื่อให้มั่นใจว่าระบบ UPS พร้อมทำงานจริง สามารถทราบสถานะการทำงานของอุปกรณ์ที่ต่อเชื่อมได้ตลอดเวลา เหมือนมีผู้ช่วยค่อยติดตามดู ระบบของท่าน

APC Smart UPS ที่มาพร้อมกับระบบ ระบบตรวจสอบเฝ้าระวังอันชาญฉลาด APC SmartConnect เพื่อให้สามารถดูแล ตรวจสอบ เพื่อเพิ่มความมั่นใจได้ว่าระบบ UPS พร้อมทำงานตลอดเวลาจริงๆ โดยเฉพาะเมื่อต้องดูแลระบบ เครื่องสำรองไฟที่ติดตั้งกับอุปกรณ์ไอทีที่สำคัญหลายๆจุด หรือบางธุรกิจที่มีหลายๆสาขา

ทำไม APC Smart-UPS by Schneider Electric ถึงเป็นที่ชอบ (ใช้) และที่ใช่?

ด้วยคุณสมบัติ ประสิทธิภาพและเทคโนโลยีอันชาญฉลาด ที่ออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหา ลดค่าใช้จ่าย ลดต้นทุนในการใช้ไฟฟ้า และเป็นผู้นำในการบริหารจัดการระบบไอทีในองค์กรมาอย่างยาวนาน ทำให้สินค้าแบรนด์ เอพีซี ในเครือชไนเดอร์ อิเล็คทริค (APC by Schneider) เป็นที่ได้รับความนิยมมากที่สุดอย่างแพร่หลายทั่วโลก และ เอพีซี บาย ชไนเดอร์ มีโซลูชั่นใหม่ ที่ทำให้ผู้ใช้งานเกิดความมั่นใจได้ว่าปัญหาที่เกิดขึ้นต่างๆ จะหมดไปอย่างแน่นอน  เพียงเลือกใช้สินค้า APC Smart UPS รุ่น SmartConnect ซึ่งสามารถ Monitoring อุปกรณ์ที่เชื่อมต่อแบบฟรี (Free)! โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ เพิ่ม

APC SmartConnect มาพร้อมกับคุณสมบัติดังนี้:

  • ระบบล็อคอิน และสมัครสมาชิกด้วยขั้นตอนง่าย
  • ไม่ต้องใช้ Network Card เพิ่ม
  • ระบบแจ้งเตือนล้วงหน้าเมื่อถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่ (Lifecycle Recommendations)
  • เข้าถึงได้จากอุปกรณ์ที่อินเตอร์เน็ตเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตจากเว็ปหรืออุปกรณ์พกพา
  • มั่นใจในความปลอดภัยของการปกป้องข้อมูล ที่ใช้มาตราฐานที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก

APC Smart-UPS SmartConnect มาพร้อมกับคุณสมบัติหลักๆดังนี้:

APC SmartConnect: เชื่อมต่อและสั่งการทางไกลด้วย UPS Cloud Monitoring ที่เข้าถึงได้ทุกที่ ที่มีอินเตอร์เน็ต

High-efficiency Greenmode: ระบบที่ดีที่สุด ประหยัด สารพัดประโยชน์ และ ลดต้นทุนค่าไฟ

Network-grade Power: เตรียมพร้อมและทำให้พลังงานคงที่โดยใช้ Filtering Noise, Automatic Voltage Regulation (AVR) และ การป้องกันไฟกระชาก (Surge Protection)

Pure Sinewave: รูปแบบคลื่นซายน์เวฟ (Sinewave) ออกแบบโดยเลียนแบบพลังงานไฟฟ้าที่มีรูปร่างของคลื่นที่ผลิตได้เหมือนกับรูปคลื่นไฟฟ้าตามบ้านทุกประการ จึงทำให้อุปกรณ์ทำงานมีประสิทธิภาพ

Intelligent Battery Management: ระบบจัดการแบตเตอรี่อัจฉริยะ ช่วยตรวจสอบแบตเตอรี่อัตโนมัติทุก 14 วัน ควบคุมอุณหภูมิ การชาร์จ เพื่อยืดอายุการใช้งาน และยังมีระบบอัลกอริทึมขั้นสูงช่วยแนะนำวันทึ่ควรเปลี่ยนแบต

EmergencyPower Off (EPO): การปิดระบบฉุกเฉินทางไกล เมื่อเกิดเหตุเพลิงไหมหรือเหตุฉุกเฉินอื่นๆ (ขนาดที่มีระบบนี้ คือ 2200VA ขึ้นไป)

APC เปิดตัว UPS ระบบใหม่ SmartConnect มี 2 ตระกูล ได้แก่ Smart C และ Smart T ทั้งแบบ Tower และ Rack Mount:

  • Connected Smart-UPS T (SMT Series): รุ่น SMTc มี 5 ขนาด ได้แก่ 750VA, 1000VA, 1500VA, 2200VA, 3000VA
  • Connected Smart-UPS C (SMC Series): รุ่น SMCc มี 2 ขนาด ได้แก่ 1000VA, 1500VA

เครื่องสำรองไฟขนาดตั้งแต่ 500VA -1500VA นั้นเหมาะสมสำหรับการใช้งานทั่วไป ทั้งภายในบ้านและสำนักงาน 

เราขอแนะนำ APC Smart C (SMC Series) ขนาด 1500VA (900Watt) รุ่น SMC1500IC เหมาะสำหรับงานที่จำเป็นต้องใช้ไฟต่อเนื่องนานๆ หรือมีจำนวนอุปกรณ์ต่อพ่วงเยอะ เช่น ออฟฟิต ร้านอาหาร โรงพยาบาล หรือ Server room มีระบบป้องกันเมื่อไฟดับ ไฟตก ไฟเกิน ไฟกระชาก ช่วยถนอมอุปกรณ์ไฟฟ้าจากการแสไฟฟ้าที่ไม่เสถียร ช่วยให้งานนั้นดำเนินต่อไปได้อย่างราบรื่น ช่วยยืดอายุการใช้งาน ซึ่งมาพร้อมผู้ช่วย Smart Connect สามารมองเห็น และตรวจสอบการทำงานของอุปกรณ์ของท่านผ่านมือถือ ช่วยให้วางใจได้ว่าอุปกรณ์ที่สำคัญสำหรับธุรกิจของท่านทำงานได้ดีตลอดเวลา

UPS ที่เข้าใจง่าย เพียงแค่มอง…

UPS ที่เข้าใจง่าย ใช้งานง่าย

นี่แหละ APC Smart Connected…

ระบบเชื่อมต่ออย่างชาญฉลาด (SmartConnect) ที่อุปกรณ์ต่างๆ สามารถเชื่อมต่อใช้งานสั่งการ (Monitor) UPS ผ่านระบบ Cloud เป็นเรื่องง่ายและที่สำคัญมากกว่านั้น เราจัดให้ฟรี โดยไม่ต้องลงทุนซื้อ Network card (SMNP) เพิ่มเติม และไม่เสียค่าใช้จ่ายในการใช้บริการเพียงเลือกซื้อ UPS รุ่นที่มีระบบ SmartConnect Technology ผ่านตัวแทนจำหน่าย บริษัท ควิกเซิร์ฟ โปรไวเดอร์ จำกัด 

คุณจะได้ระบบ monitoring ไปฟรีๆ ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆเพิ่มเติม หากสนใจสินค้า APC Smart UPS (SmartConnect) สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโปรโมชั่นและผลิตภันฑ์ ได้ที่ Quickserv.co.th หรือ โทร +662 496 1234 

from:https://www.techtalkthai.com/apc-smart-connect-ups-with-free-monitoring-system-by-quickserv/

ทลายทุกข้อจำกัดเรื่องจัดเก็บข้อมูลระดับ Enterprise ทุกอย่างจะเร็วและง่ายด้วย HPE Nimble

HPE Nimble เป็นเทคโนโลยีการจัดเก็บข้อมูลแบบอัจฉริยะ สามารถช่วยให้การจัดเก็บข้อมูลขององค์กรขนาดใหญ่ทำได้ง่าย รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าเดิม

บนโลกธุรกิจ การทำงานในวันนี้กลายเป็นโลกที่แข่งขันกันด้วยข้อมูลไปแล้ว และเมื่อเอ่ยถึงเรื่องระบบการจัดเก็บข้อมูล ในทุก ๆ องค์กรธุรกิจไม่ว่าจะเป็นขนาดเล็กหรือใหญ่ มักจะมอบหมายหน้าที่นี้ให้เป็นเรื่องของฝ่ายไอที เพราะรู้สึกว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่มีความซับซ้อนและเข้าใจยาก แต่ในวันนี้ที่เราเข้าสู่ยุคของ Big Data ในอนาคตข้างหน้าอีกไม่ช้าบุคลากรในระบบผู้บริหารขององค์กรต่าง ๆ จะต้องทำการประสานงานอย่างใกล้ชิดกับบุคลากรฝ่ายไอทีมากขึ้น เพราะเทคโนโลยีการบริหารจัดเก็บข้อมูลนั้นจะส่งผลต่อศักยภาพการแข่งขันของธุรกิจอย่างมาก ทั้งนี้การทำความรู้จักเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่จะเข้ามาช่วยให้การจัดเก็บ ประมวลผล และวิเคราะห์ข้อมูลทำได้ง่ายและรวดเร็วขึ้นนั้น จึงมีความสำคัญเป็นอย่างมากสำหรับคนทั้งองค์กร ซึ่งหนึ่งเทคโนโลยีที่น่าสนใจและตอบโจทย์การจัดเก็บข้อมูลในระดับ Enterprise ในวันนี้ คงไม่มีใครเกิน HPE Nimble

HPE Nimble คืออะไร

HPE Nimble คือ เทคโนโลยีการจัดเก็บข้อมูลประสิทธิภาพสูง โดยได้มีการนำหลักการของแมชชีนเลิร์นนิ่ง (Machine Learning) เข้ามาช่วยให้การจัดเก็บข้อมูลระดับองค์กรให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น 

ศักยภาพที่เหนือระดับของ HPE Nimble

เชื่อว่าองค์กรในระดับ Enterprise น่าจะมีความคุ้นเคยกับระบบการจัดเก็บข้อมูลแบบ SAN Storage และหลาย ๆ องค์กรธุรกิจก็อาจจะยังมีการใช้ระบบนี้อยู่ ซึ่งขอปูพื้นความเข้าใจกันอีกครั้ง SAN Storage เป็นรูปแบบการจัดเก็บข้อมูลแบบหนึ่ง ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายยาวนานมากว่า 10 ปี จะมีการนำ HDD ติดตั้งลงใน Storage แล้วส่งข้อมูลผ่านข้อมูลผ่าน SAN Switch โดยมีการนำ Storage มาเชื่อมต่อกับ Server หลายเครื่อง และก็จะมีระบบเฉพาะเข้ามาช่วยให้อุปกรณ์ต่าง ๆ ทำงานตามหน้าที่ประสานกันในการรับส่งข้อมูล แม้ระบบนี้จะดีแต่ก็ยังมีข้อจำกัดในตัวอุปกรณ์ที่เป็นอุปสรรคทำให้ระบบทำงานได้อย่างไม่เต็มประสิทธิภาพ ข้อจำกัดดังกล่าวก็อยู่ตรงที่ HDD ที่ระบบการทำงานนั้นยังเป็นแบบจานหมุน การจะรับส่ง บันทึก หรือค้นหาข้อมูลแต่ละครั้งจะทำได้ไม่เร็วพอ เพราะกว่าหัวอ่านจะไปค้นหาตำแหน่งข้อมูลที่บันทึกอยู่ในจานหมุน หรือค้นหาตำแหน่งที่เหมาะสมที่จะบันทึกข้อมูลก็ต้องใช้เวลา ซึ่งเทคโนโลยี HPE Nimble นั้นได้เข้ามาทลายข้อจำกัดในเรื่องฮาร์ดแวร์ตรงนี้ออกไป โดยในมีการพัฒนาระบบที่เรียกว่า CASL เข้ามาช่วยค้นหาและบันทึกข้อมูลลง HDD ได้เร็วขึ้น ซึ่งนั่นทำให้ประสิทธิภาพการอ่าน เขียน และบันทึกข้อมูลของ HDD สามารถทำได้เร็วเทียบเท่ากับการใช้อุปกรณ์จัดเก็บแบบ SSD เลยทีเดียว พร้อมกันนั้นเทคโนโลยีนี้ยัง สามารบีบอัดข้อมูลขนาดใหญ่ ๆ ให้เล็กลงได้โดยไม่ทำให้ไฟล์ข้อมูลต้องสูญเสียคุณภาพ เพื่อการจัดเก็บ รับส่ง และสำรองข้อมูลได้ง่ายขึ้น 

ศักยภาพที่เหนือระดับอีกประการของ HPE Nimble ก็คือการพัฒนาระบบการทำงานให้มีความอัจฉริยะมากขึ้น สามารถที่จะงานทำการเชื่อมโยงระบบ Data Center ขององค์กรไว้เป็นหนึ่งเดียว และระบบการทำงานแบบอัจฉริยะจะช่วยคาดการณ์แนวโน้มของปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้ระหว่างการรับส่ง หรือสำรองข้อมูล รวมถึงวิเคราะห์ปัญหาและทำการแจ้งเตือนให้ผู้ดูแลระบบรู้ล่วงหน้าก่อนปัญหาจะเกิดขึ้นได้อย่างเสร็จสรรพ นี่จึงเป็นศักยภาพที่เหนือระดับของ HPE Nimble ที่องค์กรต่าง ๆ มองข้ามไปไม่ได้

ทำไมคุณควรใช้เทคโนโลยี HPE Nimble 

มาถึงตรงนี้หลาย ๆ ท่านอาจจะเริ่มเห็นประโยชน์และศักยภาพของเทคโนโลยี HPE Nimble กันแล้ว แต่อาจจะยังไม่แน่ใจว่าองค์กรของตนควรจะลงทุนกับเทคโนโลยีนี้ดีหรือไม่ จึงขอสรุปเพื่อให้ง่ายต่อการตัดสินใจของทุกท่านดังนี้ 

  • เทคโนโลยีนี้ช่วยลดปัญหาข้อจำกัดต่าง ๆ ในการจัดเก็บข้อมูลในระดับองค์กรได้เป็นอย่างดี สามารถที่จะจัดเก็บข้อมูลบันทึกและอ่านข้อมูลได้อย่างแม่นยำ รวมถึงสำรองข้อมูลจำนวนมาก ๆ ในองค์กรขนาดใหญ่ได้อย่างรวดเร็ว มีความปลอดภัยสูง และยังสามารถทำงานเชื่อมต่อกับระบบ Cloud ขององค์กรได้อย่างง่ายดายและรวดเร็วด้วย จึงนับเป็นทางเลือกที่ดีที่สามารถตอบโจทย์เรื่องการจัดเก็บข้อมูลตั้งแต่องค์กรขนาดกลางไปจนถึงองค์กรขนาดใหญ่
  • เทคโนโลยีนี้ช่วยลดต้นทุนให้กับองค์กรได้ เพราะโดยปกติแล้วในทุก ๆ องค์กรจะต้องมีการซื้อลิขสิทธิ์ระบบสำรองข้อมูลและกู้คืนข้อมูล เป็นค่าใช้จ่ายแยกย่อยออกมาจากเรื่องของการสร้างระบบจัดเก็บข้อมูล แต่หากเลือกใช้เทคโนโลยีนี้ ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องเสียค่าใช้จ่ายตรงส่วนนี้อีกเลย เพราะเทคโนโลยี HPE Nimble สามารถดูแลครอบคลุมในเรื่องสำรองข้อมูลและกู้คืนข้อมูลได้อย่างครบครัน
  • เทคโนโลยีนี้ช่วยให้องค์กรสามารถบริหารจัดการเรื่อง Data Center ได้ง่ายมากขึ้น สามารถนำไปใช้กับการแก้ไขปรับปรุงศูนย์ข้อมูล หรือ Data Center ขององค์กรได้อย่างสะดวกและง่ายมากยิ่งขึ้น จึงเป็นการช่วยลดภาระงานด้านไอทีให้กับองค์กร
  • เทคโนโลยีนี้ช่วยลดขั้นตอนที่ไม่จำเป็นในระบบการจัดเก็บข้อมูลแบบเดิม ๆ โดยใช้ Machine Learning เข้ามาช่วยทำให้ระบบมีความอัจฉริยะ สามารถที่จะทำงานร่วมกับระบบ Network, Server, ฐานข้อมูล และแอปพลิเคชันขององค์กรได้แบบครบจบในที่เดียว ช่วยให้กระบวนการต่าง ๆ ในการทำงานเกี่ยวกับข้อมูลลดความซับซ้อนลง จึงช่วยให้องค์กรมีศักยภาพในการแข่งขันด้านข้อมูลที่สูงขึ้น ส่งผลให้องค์กรสามารถเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วได้

กรณีศึกษาองค์กรระดับโลกกับการใช้เทคโนโลยี HPE Nimble

องค์กรใหญ่ระดับโลกที่ดำเนินธุรกิจด้านอุตสาหกรรมพลังงาน วิศวกรรมการผลิตไฟฟ้าและโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งมีสาขาอยู่ที่ประเทศไทยด้วย อย่างบริษัท Siemens เป็นองค์กรที่ช่วยยืนยันได้ว่าประสิทธิภาพของเทคโนโลยีนี้เข้ามาเปลี่ยนแปลงและส่งผลดีต่อองค์กรอย่างไร หากมองจากโครงสร้างองค์กรและรูปแบบธุรกิจของ Siemens ก็จะเห็นว่ามีความเกี่ยวข้องกับเรื่องของ Data จำนวนมาก มีปริมาณข้อมูลที่ต้องวิเคราะห์ ประมวลผลและจัดเก็บมากมายในแต่ละวัน 

ซึ่งแต่เดิมวิศวกรของ Siemens เมื่อจะทำโครงการอะไรสักชิ้น ก็จะต้องมาคำนึงถึงเรื่องของ Data ว่าจะค้นหาอย่างไร จะจัดเก็บอย่างไร ซึ่งทำให้เสียเวลาในการโฟกัสงานหลัก ๆ ไปพอสมควร โครงการต่าง ๆ ที่ควรจะใช้เวลาทำเพียงนิดเดียวจึงมีความจำเป็นต้องยืดเวลาออกไปโดยไม่จำเป็น ผู้บริหาร Siemens มองเห็นปัญหานี้จึงเลือกที่จะใช้ HPE Nimble เข้ามาช่วยในการบริหารจัดการข้อมูล โดยทาง Siemens ได้นำเทคโนโลยีนี้มาใช้ในส่วนของงาน Digital Factory ขององค์กร ทำให้เหล่าวิศวกรของ Siemens สามารถที่จะมีเวลามากขึ้นกับการโฟกัสงานของตนเอง มีเวลามากขึ้นในการหาแนวคิดใหม่ ๆ ที่ดีขึ้นในการทำงาน โดยไม่ต้องไปเสียเวลากับเรื่องของการหาวิธีจัดเก็บหรือรับส่งข้อมูลต่าง ๆ ในงานโครงการต่าง ๆ ดังเช่นที่เคยเป็นมาอีกต่อไป 

หลังจากที่ Siemens ได้ใช้งานเทคโนโลยีนี้มาสักระยะปรากฎว่าไม่เพียงที่เทคโนโลยีจะเข้ามาช่วยลดเวลาในการจัดการข้อมูลต่าง ๆ และช่วยลดปริมาณงานเท่านั้น แต่ยังสามารถนำมาประยุกต์ใช้กับระบบซอฟต์แวร์การทำงานขององค์กรได้เป็นอย่างดี ช่วยให้พวกเขาสามารถบริหารจัดการเรื่อง Data Center ได้ง่ายขึ้น และยังสามารถที่จะคาดการณ์ปัญหาของระบบการจัดเก็บข้อมูลต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นล่วงหน้าได้ชัดเจนและรวดเร็วมากยิ่งขึ้นด้วย

นี่คือ ความน่าสนใจของเทคโนโลยี HPE Nimble ที่สามารถทลายทุกข้อจำกัดแบบเดิม ๆ ในเรื่องการจัดเก็บข้อมูลองค์กรระดับ Enterpriseได้อย่างตอบโจทย์  เป็นเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพสอดคล้องกับองค์กรธุรกิจยุคใหม่ที่ต้องการเติบโตอย่างก้าวกระโดด หนึ่งโซลูชั่นด้านไอทีที่บอกเลยว่าลงทุนแล้วคุ้มค่าไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน

สอบถามข้อมูลเกี่ยวกับ HPE Nimble Storage  และสินค้ากลุ่ม Storage  เพิ่มเติมได้ที่ บริษัท ควิกเซิร์ฟ โปรไวเดอร์ จำกัด โทร 024961234 หรือเว็บไซต์ https://www.quickserv.co.th

from:https://www.techtalkthai.com/quickserv-introduces-hpe-nimble-storage-for-enterprises/

เซิร์ฟเวอร์เจเนอร์เรชันใหม่ได้รับการปรับแต่งให้เหมาะสมสำหรับการซื้อขายที่มีความหน่วงต่ำ

Hyper-Speed ​​SuperServers เจนเนอเรชันที่ 5 ของ Supermicro ทำสถิติโลกด้วยการปรับปรุงความหน่วงเป็นสองหลักในแอปพลิเคชันทางการเงิน

ความหน่วงต่ำ: กุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จ

เมื่อเร็ว ๆ นี้ การเพิ่มขึ้นของการซื้อขายแบบความหน่วงต่ำทำให้นักลงทุนสามารถทำกำไรได้อย่างมหาศาลด้วยการดำเนินการเทรดด้วยความเร็วที่สูง ด้วยการทำธุรกรรมหลักทรัพย์ที่เกิดขึ้นในระดับหน่วยเศษหนึ่งในล้านวินาที (microsecond) และเข้าใกล้หนึ่งส่วนพันล้านของวินาที (nanosecond) เข้าไปทุกที บริษัทหลักทรัพย์ที่มีเครื่องมือการซื้อขายสามารถจับข้อมูลตลาดได้อย่างรวดเร็วและการสร้างคำสั่งซื้อจะประสบความสำเร็จ ในขณะที่คู่แข่งที่ช้ากว่าจะเริ่มมีความล้าหลัง ด้วยเหตุนี้ ความหน่วงที่ต่ำมากจึงไม่เพียงแต่เป็นกุญแจสำคัญในการสร้างโครงสร้างพื้นฐานการซื้อขายเท่านั้น แต่ยังมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความสำเร็จในการดำเนินงานด้านวาณิชธนกิจและการบริหารกองทุน

การคงความสามารถในการแข่งขัน

เพื่อให้สามารถแข่งขันในโลกการค้าที่มีความหน่วงต่ำ บริษัทหลักทรัพย์ต้องปรับใช้เซิร์ฟเวอร์ที่มีความเร็วและทรงพลังที่สุด เซิร์ฟเวอร์เหล่านี้ซึ่งจัดวางในตำแหน่งเดียวกับเซิร์ฟเวอร์ในการแลกเปลี่ยนหลักทรัพย์ จะดึงข้อมูลตลาดขนาดใหญ่จากเซิร์ฟเวอร์เหล่านี้ ทำการวิเคราะห์ด้วยกลยุทธ์การซื้อขาย สร้างคำสั่งสำหรับการดำเนินการ และส่งมันกลับไปที่เซิร์ฟเวอร์แลกเปลี่ยน (รูปที่ 1)

ในขณะที่การบรรลุความหน่วงต่ำเป็นสิ่งสำคัญ เซิร์ฟเวอร์ยังต้องมีประสิทธิภาพในการส่งคำสั่งการซื้อขายที่สม่ำเสมอ ค่าความผันแปรในการส่งข้อมูลสามารถทำให้คำสั่งเกิดความล่าช้า หรือความเสียหายต่ออัลกอริทึม ซึ่งจะนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ไม่พึงประสงค์และการสูญเสียอย่างมีนัยสำคัญเมื่อสิ้นสุดการซื้อขาย ดังนั้น การปรับแต่งฮาร์ดแวร์ให้เหมาะสมนั้นเป็นสิ่งจำเป็นในการออกแบบเซิร์ฟเวอร์ที่มีความหน่วงต่ำและปราศจากค่าความผันแปร เพื่อให้บริษัทค้าหลักทรัพย์สามารถคงความได้เปรียบในการแข่งขัน

รูปที่ 1: High Performance Trading Network Diagram

เทคโนโลยี Hyper-Speed ​​& Hyper-Turbo เจนเนอเรชันที่ 5 ของ Supermicro สำหรับการซื้อขายที่มีความหน่วงต่ำมาก

บริษัท Supermicro ได้ทำการทุ่มเทเพื่อให้บริการลูกค้าในอุตสาหกรรมการเงิน และได้แนะนำเทคโนโลยี Hyper-Speed ​​และ Hyper-Turbo เจนเนอเรชันที่ 5: การเพิ่มประสิทธิภาพระดับบอร์ดเซิร์ฟเวอร์ที่เป็นกรรมสิทธิ์เฉพาะสำหรับการซื้อขายที่มีความหน่วงต่ำ เทคโนโลยีเหล่านี้เกิดขึ้นได้กับ VRM ล่าสุด เช่นเดียวกับเฟิร์มแวร์ที่ได้รับการปรับปรุงเพื่อมุ่งเน้นการปรับแต่งที่ยืดหยุ่น ด้วย Hyper-Speed ​​ซีพียู หน่วยความจำ และการ์ด PCI-E จะถูกเร่งความเร็วล่วงหน้าในโหมดล็อคสเต็ป (lockstep mode) เพื่อประสิทธิภาพที่เชื่อถือได้มากที่สุด เมื่อรวมกับ Hyper-Speed ​​แล้ว Hyper-Turbo ยังช่วยให้ซีพียูระบบเซิร์ฟเวอร์สามารถรักษาความถี่เทอร์โบ (Turbo Mode frequency) สูงสุดได้ภายใต้ภาระงานที่หนักหน่วง

รูปที่ 2: SuperServer® 1029UX-LL1/2/3-S16

โซลูชัน Supermicro Hyper-Speed ​​Ultra

ระบบเซิร์ฟเวอร์ Hyper-Speed ​​Ultra ได้รับการเสนอให้เป็นโซลูชันสำหรับลูกค้าแบบเบ็ดเสร็จ ซึ่งจะประกอบด้วยระบบเซิร์ฟเวอร์แร็คเมาท์ SuperServer® 1029UX- LL1/2/3-S16 Ultra 1U ประกอบด้วยโปรเซสเซอร์ Intel®Xeon® ที่สามารถปรับขนาดได้ล่าสุด (ตารางที่ 1): โปรเซสเซอร์ Gold 6144 (TDP 150W) สำหรับชุด LL1, โปรเซสเซอร์ Gold 6146 (TDP 165W) สำหรับชุด LL2 และ โปรเซสเซอร์ Gold 6154 (TDP 200W) สำหรับชุด LL3

 นอกจากนี้ เซิร์ฟเวอร์ยังมีหน่วยความจำแบบ RDIMM ECC DDR4-2666MHz RDIMM ขนาด 192GB ในสล็อตแบบ 12 DIMM สำหรับแบนด์วิดธ์สูงสุด จำนวน PCI-E 3.0 แบบ 3 สล็อต ที่รองรับการ์ดที่มีความยาวและความสูงสูงสุด 2 การ์ด สำหรับการส่งผ่าน I/O ที่ความเร็วสูงสุด ฮาร์ดดิสค์ SAS3 SSD/HDD ชนิดถอดเปลี่ยนได้อย่างรวดเร็ว การจัดการเซิร์ฟเวอร์ IPMI 2.0 ผ่าน LAN โดยเฉพาะ พร้อมชุดซอฟต์แวร์การจัดการแบบ out-of-band ของ Supermicro และอุปกรณ์จ่ายพลังงานแบบดิจิตอลประสิทธิภาพสูงขนาด 750W ระดับแพลตตินัม (95% +)

Table 1. CPU Specifications with All Cores Enabled

Table 2. CPU Specifications with 2 Cores Enabled

คุณภาพและความน่าเชื่อถือระดับองค์กร

เพื่อปรับปรุงคุณภาพและความน่าเชื่อถือของเซิร์ฟเวอร์ระดับ Hyper-Speed ​​Ultra โปรเซสเซอร์หน่วยความจำ NIC และ บอร์ดเซิร์ฟเวอร์ จะถูกคัดกรองล่วงหน้าระหว่างการรวมระบบ และแต่ละระบบจะต้องผ่านกระบวนการเบิร์นอินอย่างเข้มงวด Supermicro จะทำการเร่งซีพียูและหน่วยความจำล่วงหน้าเพื่อให้ลูกค้าสามารถจัดทรัพยากรเพื่อมุ่งเน้นไปในการพัฒนาและปรับแต่งซอฟต์แวร์ บริการนี้สอดคล้องกับเงื่อนไขการรับประกันของ Supermicro การบริการนอกสถานที่ และการสนับสนุนทางเทคนิคที่จัดให้โดยเฉพาะ

เกณฑ์มาตรฐาน

LINPACK เป็นเกณฑ์มาตรฐานที่วัดกำลังการคำนวณจุดลอยตัวของระบบ ด้วยซีพียู Skylake เซิร์ฟเวอร์ Hyper-Speed ​​Ultra เจเนอร์เรชันใหม่สามารถทำงานได้ดีกว่ารุ่นก่อนหน้าประมาณ 53% ด้วยจำนวนแกนการปฏิบัติการที่เท่ากัน

Table 3. Hyper-Speed Ultra Gen-4 LINPACK Results

Table 4. Hyper-Speed Ultra Gen-5 LINPACK Results

Sockperf เป็นเครื่องมือทดสอบเครือข่ายที่ใช้วัดความหน่วงของเครือข่ายและการเพิ่มขึ้นของความหน่วงบนเครือข่าย แพ็คเก็ตขนาด UDP 64 ไบต์ได้ถูกส่งออกด้วยความเร็ว 600K ต่อวินาทีระหว่างเซิร์ฟเวอร์ Hyper-Speed ​​Ultra ระดับ LL1 สองชุด ผ่าน Mellanox MCX354A เซิร์ฟเวอร์ Supermicro Hyper-Speed ​​Ultra ใหม่ได้รับการปรับปรุงในการลดความผันแปรอย่างมีนัยสำคัญ (ความแตกต่างของความหน่วงระดับกลางและความหน่วงแฝง 99.99%) เกือบ 80% จากรุ่นก่อนหน้านี้ (รูปที่ 3)

รูปที่ 3: 1029UX-LL1-S16 Sockperf Results

STAC-N1 เป็นมาตรฐานที่พัฒนาโดย STAC (ศูนย์วิเคราะห์เทคโนโลยีหลักทรัพย์) ซึ่งวัดประสิทธิภาพของสแต็กของเครือข่ายโฮสต์ โดยใช้ปริมาณงานในรูปแบบข้อมูลตลาด การวัดประสิทธิภาพนี้ดำเนินการกับเซิร์ฟเวอร์ Supermicro SYS-1029UX-LL1-S16 หนึ่งคู่ โดยแต่ละคู่ประกอบด้วยซีพียูแบบ Intel® 8-core

โปรเซสเซอร์ Xeon® Scalable 6144 (Gold) โอเวอร์คล็อกได้ถึง 4.18GHz เซิร์ฟเวอร์ทั้งสองยังถูกโหลดด้วย Red Hat Enterprise Linux 7.5 และ Solarflare X2522 Adapters เมื่อเปรียบเทียบกับผลลัพธ์ STAC-N1 ทั้งหมดที่เปิดเผยต่อสาธารณชนก่อนหน้านี้ ระบบได้แสดงค่าความหน่วงเฉลี่ยต่ำสุดที่ 2.3 microsecond ที่ค่าพื้นฐานทั้งสอง (100k ข้อความต่อวินาที) และอัตราสูงสุดที่เคยทดสอบมา (1 ล้านเมกกะบิตต่อวินาที)

รูปที่ 4: 1029UX-LL1-S8 STAC-N1 Results

สรุปรีวิวประโยชน์ของ Hyper-Speed Ultra

นอกเหนือจากการนำเสนอโซลูชันเซิร์ฟเวอร์ที่เชื่อถือได้ด้วยความหน่วง ค่าความผันแปรที่ต่ำสุด และประสิทธิภาพที่ดีที่สุดแล้ว บริษัท Supermicro ยังคงภารกิจต่อไปเพื่อช่วยลูกค้าลดต้นทุนและเพิ่มรายได้ให้สูงสุด สถาปัตยกรรม Hyper-Speed ​​Ultra สามารถรองรับซีพียูระดับ Xeon 205W อันทรงพลังที่สุดในรูปลักษณะแบบ 1U Hyper-Speed ​​Ultra ยังสามารถรองรับการ์ดที่มีความสูงและความยาวเต็มรูปแบบ รวมถึงการ์ดความละเอียดต่ำ 1 การ์ด และการ์ด SAS3 ในตัว ความสามารถในการขยายนี้ได้รับการสนับสนุนเพิ่มเติมจากระบบการระบายความร้อนด้วยที่มีประสิทธิภาพสูงเพื่อรักษาประสิทธิภาพและความเสถียรของระบบที่ดีที่สุด

การออกแบบเพื่อเป็นระบบแบบเบ็ดเสร็จ เซิร์ฟเวอร์ Hyper-Speed ​​Ultra สามารถช่วยให้ลูกค้าประหยัดเวลาและกำลังคนที่จำเป็นสำหรับการรวม การปรับแต่ง และการทดสอบ Supermicro ยังมีการ์ด NIC ที่ผ่านการรับรองแล้ว และส่วนประกอบอื่น ๆ ที่ผ่านการคัดกรองล่วงหน้าก่อนการติดตั้งจากโรงงาน การทดสอบและการปรับแต่งระบบของ Supermicro ทำให้มั่นใจได้ว่า Hyper-Speed ​​Ultra ทุกเครื่องจะทำงานได้อย่างไร้ที่ติ

เนื่องจากบริษัทหลักทรัพย์มักจะมีการจำกัดการเข้าถึงเซิร์ฟเวอร์ที่จัดเก็บไว้ Supermicro ยังมีความสามารถในการสนับสนุนการจัดการระยะไกลในเซิร์ฟเวอร์ Hyper-Speed ​​Ultra ด้วยการผสานเข้ากับ IPMI 2.0 เซิร์ฟเวอร์ Hyper-Speed ​​Ultra ได้รวมพอร์ต IPMI LAN เฉพาะและชุดยูทิลิตี้การจัดการระดับองค์กร: ซึ่งเป็นคุณสมบัติมาตรฐานที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถควบคุม ตรวจสอบ และทำการอัปเดตเซิร์ฟเวอร์ของตนโดยอัตโนมัติในระยะไกลและด้วยความง่ายดาย

 การเข้าถึงฮาร์ดแวร์ที่ทันสมัยที่สุดพร้อมวงจรการรีเฟรชตามแผนช่วยให้บริษัทหลักทรัพย์สามารถแซงหน้าคู่แข่งในการซื้อขายที่มีความหน่วงน้อย เรามุ่งมั่นที่จะนำเสนอเทคโนโลยีล่าสุดและจะยังคงสร้างชื่อเสียงด้วยแพลตฟอร์ม Hyper-Speed ​​Ultra

ในฐานะผู้จัดหาเซิร์ฟเวอร์ชั้นนำในอุตสาหกรรม Supermicro และ QuickServe ตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ พร้อมการบริการด้วยความเชี่ยวชาญและประสบการณ์เฉพาะด้านที่เกี่ยวกับ Server และ อุปกรณ์เครือข่ายเป็นระยะเวลานานกว่า 10 ปี ที่ทำให้เราได้รับความไว้วางใจจาก Supermicro ให้เป็นตัวแทนจำหน่าย Supermicro Server

ผู้ที่สนใจ Solution ของ Supermicro สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.quickserv.co.th/

from:https://www.techtalkthai.com/supermicro-5th-gen-hyper-speed-superservers-set-world-record/

บริหารองค์กรได้เหนือชั้นกว่าด้วยระบบ Data Center ยุคใหม่กับ VxRail

มารู้จักกับ VxRail Hyper-Converged อุปกรณ์ที่ช่วยให้องค์กรจัดการระบบ Server, Storage และ Softwareได้ง่าย ครบจบในที่เดียว

ปฏิเสธไม่ได้ว่าองค์กรธุรกิจในยุคปัจจุบันต้องดำเนินงานไปด้วยระบบไอทีที่ทันสมัย ทุกองค์กรจะต้องมีความเกี่ยวข้องกับเรื่องของ Network, Server, Storage อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ยิ่งโดยเฉพาะเรื่องของ Server ในยุคก่อนองค์กรทุกองค์กรจะมีเครื่อง Server ไว้ 1 เครื่องที่เตรียมไว้สำหรับการลงระบบปฏิบัติการ (Windows , Linux) หากองค์กรขนาดเล็กก็มักจะไม่มีอะไรน่าหนักใจเพราะข้อมูลไม่เยอะ แต่เมื่อนานวันไปองค์กรเริ่มเติบโต ข้อมูลการใช้งานผ่าน Server นั้นก็มีมากขึ้น จนเริ่มต้นมีการขยายหรือเปลี่ยนเครื่อง Server ที่ใหญ่ขึ้น แต่การจะย้ายข้อมูล Data ต่าง ๆ จาก Server เก่าไปยัง Server ใหม่นั้นต้องลุ้นกันตัวโก่งทุกครั้งไหนจะเรื่อง Data ที่จะได้มาครบหรือไม่ ไหนจะเรื่องของการเตรียม Storage หรืออุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลที่ต้องคิดเผื่อวันข้างหน้าที่จะต้องมีข้อมูลมากขึ้น ทั้งหมดนี้นอกจากจะเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยุ่งยากแล้วยังเป็นเรื่องที่ต้องใช้งบประมาณที่สูงด้วย แต่วันนี้มีเทคโนโลยีที่น่าสนใจเข้ามาช่วยจัดการในเรื่องนี้ เป็นอุปกรณ์ที่เรียกว่า VxRail ที่จะทำให้เรื่องจัดการระบบที่แสนยากแบบที่กล่าวมาเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้นแบบไม่น่าเชื่อ มาดูกันดีกว่าว่าเทคโนโลยีนี้คืออะไรและน่าสนใจอย่างไร

Credit: DellEMC.com

VxRail อุปกรณ์ที่ทำงานบนเทคโนโลยี Hyper-Converged

ก่อนที่จะไปถึงเรื่อง VxRail ต้องปูพื้นฐานความเข้าใจในเรื่องของเทคโนโลยี Hyper-Converged กันก่อน อย่างที่กล่าวไปตอนต้นว่า เมื่อองค์กรธุรกิจเติบโตขยายตัวมากขึ้นข้อมูลก็เยอะขึ้น องค์กรก็จะมีความต้องการ Server ที่มากขึ้น แต่การลงทุนกับ Server แต่ละเครื่องถือเป็นการลงทุนที่สูงมาก ทุกองค์กรจึงพยายามหลีกเลี่ยง นั่นจึงทำให้การคิดถึงหลัก Virtualization คือการนำ Server มารีดเอาศักยภาพที่แท้จริงออกมา เพื่อให้ตอบโจทย์การใช้งานในองค์กรที่หลากหลายมากขึ้น จะได้ไม่ต้องลงทุนเพิ่ม Server ใหม่บ่อย ๆ ซึ่งวิธีนี้ช่วยลดต้นทุนองค์กรและช่วยให้องค์กรสามารถใช้งาน Server ได้อย่างคุ้มค่ามากขึ้น แต่อย่างไรก็ดีแม้ว่าจะสามารถรีดเอาศักยภาพและความคุ้มค่าออกมาจาก Server แต่ละเครื่องได้ ก็ไม่ได้หมายความว่าจะสามารถป้องกันปัญหาระบบ Server ล่ม หรือปัญหาอื่น ๆ ที่อาจเกิดขึ้นกับ Server ได้ หากจะแก้ไขปัญหาเหล่านี้องค์กรก็จะต้องมีการลงทุนเยอะพอสมควรในการสร้างระบบ และจัดซื้ออุปกรณ์ Storage และบางองค์กรก็ลองหันไปใช้เทคโนโลยี Cloud เพื่อแก้ปัญหาเหล่านี้ แต่ก็เช่นกันการนำข้อมูลไปเก็บไว้ใน Cloud ก็จะมีค่าใช้จ่ายตลอดเวลา ยิ่งข้อมูลเยอะขึ้นก็ต้องมีการเสียค่าใช้จ่ายเยอะขึ้น รวมถึงความกังวลใจเกี่ยวเรื่องข้อมูลที่ต้องถูกนำไปเก็บไว้บน Cloud ที่ดูเหมือนจะเสียความเป็นส่วนตัวไป

จากปัญหาที่กล่าวมาข้างต้น จึงนำไปสู่การออกแบบระบบเพื่อใช้แก้ปัญหา Server ล่ม ซึ่งระบบนี้มีชื่อว่า Hyper-Converged เทคโนโลยีนี้เป็นการนำ Server หลาย ๆ ตัวมาเชื่อมโยงเข้าหากัน จนเป็นระบบเดียวที่สามารถทำงานเชื่อมต่อกันได้ เสมือนเรามี Server เพียงตัวเดียวที่มีขนาดใหญ่ขึ้นเท่านั้น โดยระบบบริหารจัดการ Server หลาย ๆ ตัวให้กลายเป็นเครื่องเดียวนั้นจะใช้ซอฟต์แวร์เข้ามาช่วยจัดการ ทำให้แยกส่วนการบริหารจัดการดูแล Server แต่ละเครื่องได้ง่ายขึ้น หากเกิดปัญหาที่ Server เครื่องที่ 1 ระบบทั้งหมดจะไม่ล่ม Server เครื่องที่ 2 จะเข้ามาทำงานแทนที่ Server เครื่องที่ 1 ที่มีปัญหาทันทีแบบอัตโนมัติ ปัญหาที่เกิดขึ้นจะไม่ส่งกระทบกับ Server เครื่องอื่น ๆ เลย นั่นจึงทำให้ระบบทำงานต่อไปได้อย่างไร้ปัญหา แบบนี้จะช่วยแก้ปัญหาเรื่องระบบล่มได้ค่อนข้างดี ซึ่งระบบ Hyper-Converged จะมีอุปกรณ์ชิ้นหนึ่งที่เป็นสถาปัตยกรรมด้านไอทีเข้ามาช่วยควบรวมการดูแลระบบดังที่กล่าวมาทั้งหมดให้มีศูนย์กลางรวมอยู่ในทีเดียว อุปกรณ์ชิ้นนี้ก็คือ VxRail นั่นเอง ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางควบคุมดูแลตั้งแต่เรื่องของ Server, Storage และ Software เอาไว้ในที่เดียว เรียกว่าเป็น Data Center หรือจุดบริการแบบ One stop Service ด้าน Data ขององค์กรเลยทีเดียวนั่นเอง

Credit: Quickserv.co.th

แล้วทำไมจะต้องเลือกใช้ VxRail

มาถึงตรงนี้แม้จะได้รู้กันแล้วว่า VxRail คืออะไรและเอาไว้ใช้งานอย่างไร แต่เชื่อว่าหลายคนก็ยังคงมีคำถามค้างคาใจว่า แม้เทคโนโลยีและอุปกรณ์ชิ้นนี้จะดีและน่าสนใจก็จริง แต่จำเป็นหรือไม่ที่จะต้องเลือกใช้ หากเป็นองค์กรไม่ใหญ่ ไม่จำเป็นที่จะต้องใช้ก็ได้ใช่หรือไม่ เรามีเหตุผลดี ๆ มาบอกคุณว่าทำไมคุณควรเลือกใช้ VxRail

  1. องค์กรธุรกิจของคุณมีระบบ Data Center ที่มีเสถียรภาพและความมั่นคงมากขึ้น เนื่องจากโซลูชั่นดังกล่าวนี้จะช่วยทำให้เรื่องระบบบริหารจัดการ Server, Storage และ Software ที่เคยแยกส่วนกันและเป็นปัญหาในการดูแลบริหารจัดการ จะไม่เป็นปัญหาอีกต่อไป เพราะทุกส่วนจะถูกรวมกันเป็นหนึ่งเดียว จึงสามารถบริหารดูแลจัดการได้ง่ายและสะดวกมากยิ่งขึ้นนั่นเอง
  2. หมดปัญหาเรื่องของการอัพเกรดระบบที่ยุ่งยาก ในสมัยก่อนองค์กรมักกังวลเรื่องการอัพเกรดระบบ เพราะเกรงว่าเมื่ออัพเกรดส่วนหนึ่งก็จะไปกระทบกับงานของอีกส่วนหนึ่ง และอาจทำให้ข้อมูลหายได้ แต่ VxRail โซลูชั่นจะช่วยทำให้เรื่องการอัพเกรดระบบ Firmware ทั้งส่วนของ Server และ Storage เป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น สามารถทำได้โดยไม่ต้องกลัวว่าอัพเกรดไปแล้วจะไปกระทบกับส่วนอื่น
  3. ลดต้นทุนและช่วยควบคุมค่าใช้จ่ายการลงทุนในเรื่องระบบไอที บางครั้ง Server เก่า หรือ Storage เราใช้มานานอยากจะอัพเกรดก็ไม่สามารถทำได้ เนื่องจากว่าเครื่องและอุปกรณ์ตกรุ่นจึงไม่สามารถที่จะไปหาซื้ออุปกรณ์มาเปลี่ยนได้ ก็ต้องซื้อใหม่อย่างเดียว ซึ่งแบบนี้จะต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มตามมามากมาย แต่ถ้าเลือกใช้โซลูชั่นนี้คุณจะไม่ต้องกังวลกับปัญหาเหล่านี้ เพราะคุณสามารถต่อขยายระบบตามงบประมาณที่คุณมีได้อย่างอิสระ องค์กรโตขึ้นค่อยขยายระบบก็สามารถทำได้ไม่ต้องซื้ออุปกรณ์เผื่อไว้ แบบนี้ถือเป็นการออกแบบและควบคุมค่าใช้จ่ายในการวางระบบได้ดีและคุ้มค่าในระยะยาวมากกว่า
  4. คิดจะต่อยอดระบบให้สูงขึ้นก็สามารถทำได้ง่าย บางองค์กรที่ใช้ระบบ Cloud ในองค์กร หากคิดที่จะพัฒนาต่อยอดระบบไปเป็น Private หรือ Hybrid ในอนาคต ถ้ามีโซลูชั่นนี้เอาไว้จะทำให้เรื่องการต่อยอดของระบบสามารถทำได้ง่ายและมีความสะดวกมายิ่งขึ้น ไม่ต้องลงทุนกับการพัฒนาระบบอีกครั้ง
Credit: DellEMC.com

คุณคงได้รับทราบกันแล้วถึงความน่าสนใจและเหตุผลว่าทำไมองค์กรคุณควรเลือกใช้ VxRail โซลูชั่น เทคโนโลยี Data Center ที่มาพร้อมความทันสมัยเข้าใจระบบการทำงานในองค์กรยุคใหม่เช่นนี้ หากไม่เลือกใช้ก็คงไม่สอดคล้องกับสไตล์การบริหารองค์กรในยุค 4.0 เป็นแน่

ถ้าคุณกำลังหนักใจกับระบบบริหารจัดการเรื่องไอทีและ Data Center ในองค์กรของคุณกำลังเป็นกังวลกับเรื่องต้นทุนที่หนักหนาขึ้นจากปัจจัยด้านอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล และกำลังเครียดกับปัญหาด้านการ Support ของระบบไอทีที่จะต้องใช้ระยะเวลานานกว่าจะพบเจอปัญหาที่แท้จริงในระบบการจัดเก็บข้อมูล จบทุกปัญหา Server, Storage และ Software ได้ง่ายครบจบในที่เดียวด้วย Dell EMC VxRail กันดีกว่า อุปกรณ์ที่ลงทุนแล้วไม่หนักหนาแต่มีความคุ้มค่าแบบครบจบในครั้งเดียว โซลูชั่นดี ๆ พร้อมที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันองค์กรของคุณให้เติบโตอย่างก้าวกระโดดดังที่คุณตั้งใจ ซึ่งวันนี้ QuickServ มอบความพิเศษสุด ๆให้กับคุณลูกค้าด้วย โปรโมชั่นระดับพรีเมียม, บริการ On-Site Service ติดตั้งระบบ พร้อมบริการ Migration ระบบไม่ว่าจะเป็น Physical to Virtual (P2V) และ Virtual to Virtual (V2V) ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย โปรโมชั่นดี ๆ มีความพรีเมียมเช่นนี้ไม่ได้มีกันบ่อย ๆ ไม่ต้องลังเล สั่งซื้อได้เลย เพื่อการบริหาร Data Center ในองค์กรได้อย่างเหนือชั้นกว่าใคร

สอบถามข้อมูลโปรโมชั่น และ ข้อมูลสินค้าเพิ่มเติมได้ที่ บริษัท ควิกเซิร์ฟ โปรไวเดอร์ จำกัด โทร 024961234 หรือเว็บไซต์ https://www.quickserv.co.th

from:https://www.techtalkthai.com/dell-emc-vxrail-hyper-converged-infrastructure-by-quickserv/

Delta UPS มาตรฐานระดับโลก อุปกรณ์สำรองไฟฟ้าสำหรับ Server และเครือข่าย

Quickserv ผู้เชี่ยวชาญด้านการวางระบบ IT Server และเครือข่าย กับบทความสำคัญของตัวแทนจำหน่าย Delta UPS อุปกรณ์สำรองไฟฟ้ามาตรฐานระดับโลกให้กับองค์กรชั้นน

องค์กร บริษัท หรือห้างร้านที่กำลังมองหา UPS เพื่อสำรองไฟฟ้าในกรณีฉุกเฉินเมื่อเกิดไฟฟ้าดับหรือเหตุการณ์ขัดข้องเพื่อให้เครือข่าย เครื่อง Server รวมถึงอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง สามารถใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง วันนี้ Quickserv พร้อมแล้วที่จะนำเสนอโซลูชั่นของ Delta UPS อุปกรณ์สำรองไฟฟ้ามาตรฐานระดับโลกจาก Delta Electronics บริษัทชั้นนำจากประเทศไต้หวัน ผู้นำโซลูชั่นทางด้านระบบ Data Center, UPS, การจัดการพลังงาน รวมถึงการผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ต่าง ที่ได้เริ่มดำเนินธุรกิจมาตั้งแต่ปี .. 2531 อีกทั้งยังมีประสบการณ์ในการผลิต ออกแบบและจำหน่าย UPS ให้กับองค์กรชั้นนำทั่วโลกมาเป็นระยะเวลานานกว่าทศวรรษ ทำให้ปัจจุบัน Delta Electronics ขึ้นแท่นเป็นองค์กรระดับโลกที่ผลิตสินค้ากลุ่มไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ให้กับหลากหลายธุรกิจ เพื่อช่วยให้ภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมต่าง ดำเนินไปได้อย่างต่อเนื่อง โดยไม่มีการหยุดชะงักและไม่มีอุปสรรคในเรื่องของพลังงานไฟฟ้า

Quickserv ตัวแทนจำหน่าย Delta UPS อย่างเป็นทางการจาก Delta Electronics

ปัจจุบันบริษัทควิกเซิร์ฟ โปรไวเดอร์ จำกัด หรือ Quickserv ได้รับการแต่งตั้งจาก บริษัท Delta Electronics ให้เป็นตัวแทนจำหน่าย Delta UPS เพื่อนำเสนอโซลูชั่นอุปกรณ์สำรองไฟฟ้าให้กับภาคธุรกิจและองค์กรต่าง ในประเทศไทย อาทิ ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ, งานโทรคมนาคม, Data Center, Work Station, Server และอุปกรณ์เครือข่าย ทั้งสำหรับอุปกรณ์ขนาดเล็กตลอดไปจนถึงโครงการขนาดใหญ่ รวมถึงระบบสื่อสาร ภาคอุตสาหกรรม ธนาคารโรงพยาบาล บริษัทการบิน ระบบโลจิสติกส์และสาธารณูปโภคพื้นฐานต่าง โดยในปัจจุบัน Quickserv ได้จำหน่าย Delta UPS ซีรีย์ยอดนิยม 2 ซีรีย์ ได้แก่

  • Delta UPS N Series เครื่องสำรองไฟฟ้าระบบ True Online ที่ให้ประสิทธิภาพดีเยี่ยมขนาดเล็ก ตั้งแต่ 1-3 kVA สำหรับไฟ 1 เฟส สำหรับการใช้งานในองค์กรขนาดเล็กและขนาดกลางรวมถึงการใช้เป็น UPS สำหรับคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ IT ซึ่งง่ายสำหรับการติดตั้ง ใช้พื้นที่น้อย เหมาะสำหรับการใช้งานกับอุปกรณ์เครือข่าย Workstation, เครื่อง POS (Point of Sale), ตู้ ATM, อุปกรณ์เครือข่ายสำหรับธุรกิจขนาดเล็ก หรือการสำรองไฟสำหรับอุปกรณ์เครือข่ายที่กระจายตามอาคาร อีกทั้งยังเหมาะสำหรับการใช้เป็นเครื่องสำรองไฟสำหรับคอมพิวเตอร์ส่วนตัวภายในบ้านอีกด้วย
  • Delta UPS RT Series เครื่องสำรองไฟฟ้าระบบ True Online ที่สามารถติดตั้งได้ทั้ง แบบ Rack และ Tower ขนาด ตั้งแต่ 1-10 kVA สำหรับไฟ 1 เฟส มีให้เลือกมากมายหลายรุ่นตั้งแต่รุ่นเพื่อการสำรองไฟเพื่อใช้งานกับคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์เครือข่ายและสำนักงานขนาดเล็ก ไปจนถึงรุ่นที่มีกำลังไฟสูงเพื่อใช้กับเครือข่าย ภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ อาทิ การใช้เป็นอุปกรณ์สำรองไฟฟ้าสำหรับ Network และ Data Center, เครือข่าย VoIP และระบบโทรคมนาคมที่ต้องการ UPS ประสิทธิภาพสูงเพื่อการจ่ายไฟฟ้าสำรองได้ยาวนานอย่างต่อเนื่องในกรณีที่เกิดไฟฟ้าขัดข้อง

ข้อดีของ Delta UPS ที่ทำให้องค์กรชั้นนำเลือกใช้

Delta UPS ถูกออกแบบมาให้รองรับกับการใช้งานเพื่อตอบสนองการดำเนินงานของภาคธุรกิจและองค์กร ตั้งแต่บริษัทขนาดเล็ก ขนาดกลาง ไปจนถึงเครือข่ายขนาดใหญ่ มีให้เลือกใช้ตั้งแต่ UPS แบบ 1 เฟส ไปจนถึง 3 เฟส พร้อมระบบ True Online Double Conversion เริ่มตั้งแต่การใช้เป็นอุปกรณ์สำรองไฟฟ้าสำหรับคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลและอุปกรณ์ต่อพ่วง, ใช้เป็น UPS สำหรับเซิร์ฟเวอร์และอุปกรณ์เครือข่ายที่ต้องการกำลังไฟสูงเกินกว่า 1kVA ไปจนถึงความต้องการใช้งานในระดับกำลังไฟสูงกว่า 20kVA  ขึ้นไป ตอบสนองการใช้งานตั้งแต่ระบบรักษาความปลอดภัย, ระบบกล้องวงจรปิด ระบบ POS สำหรับธุรกิจห้างร้าน ไปจนถึงธุรกิจขนาดใหญ่ที่ต้องการอุปกรณ์สำรองไฟฟ้าสำหรับระบบงานที่มีความสำคัญสูง อย่างเช่น ธุรกิจโทรคมนาคม สถาบันการเงินและธุรกิจธนาคาร Data Center โรงพยาบาล และภาคอุตสาหกรรม รวมถึงการใช้เป็นระบบสำรองไฟฟ้าให้กับระบบเครือข่ายหรือ Server ที่มูลค่าสูงเพื่อป้องกันความเสียหายในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน

Delta UPS แต่ละรุ่นออกแบบมาให้มีฟังก์ชั่นสะดวกสำหรับการใช้งาน พร้อมระบบซอฟต์แวร์การจัดการที่ครบถ้วนซึ่งสามารถดาวน์โหลดได้ฟรี ซอฟแวร์ใช้งานง่าย สามารถตรวจสอบสถานะการทำงานและสภาพของแบตเตอรี่ได้ผ่านทางหน้าจอ พร้อมระบบ Intelligent Battery Management ที่ช่วยให้แบตเตอรี่มีอายุการใช้งานยาวนาน คงทน สามารถเชื่อมต่อผ่านสาย USB เพื่อใช้งานร่วมกับโมดูลเสริมสำหรับ SNMP และ Software สำหรับการบริหารจัดการโดยเฉพาะได้ อีกทั้งยังมีระบบการแจ้งเตือนเมื่อมีเหตุผิดปกติผ่านทาง Email และ SMS

Delta UPS เป็นอุปกรณ์สำรองไฟฟ้าที่มั่นใจได้ในเรื่องของความทนทานในระดับสูงสุด มีวิธีการดูแลรักษาที่ง่าย รองรับการเพิ่มจำนวนได้ตามต้องการ ยังประหยัดพื้นที่ในการจัดวาง แต่ละรุ่นออกแบบมาให้สะดวกสำหรับการจัดวางและการใช้งาน ไม่สิ้นเปลืองพื้นที่อีกทั้งยังสะดวกสำหรับการเคลื่อนย้าย คุ้มค่ากับค่าใช้จ่ายในการลงทุน มาพร้อมกับการรับประกันเป็นระยะเวลาสูงสุดถึง 3 ปี แบบ Onsite ด้วยการบริการจากช่างผู้ที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านจาก Quickserv อีกทั้งหากมีปัญหาเครื่องเสีย Quickserv ยังนำเสนอการเปลี่ยน Delta UPS เครื่องใหม่ให้ทันที

องค์กรชั้นนำทั้งภาครัฐและภาคเอกชนที่ไว้วางใจเลือกใช้ Delta UPS ได้แก่ ระบบสำรองไฟของกล้องวงจรปิด กรุงเทพมหานคร, ระบบสำรองไฟสำหรับด่านเก็บเงินทางด่วนกรุงเทพ, ระบบสำรองไฟของศูนย์ข้อมูลและสาขาของธนาคารชั้นนำทั่วประเทศ, ระบบสำรองไฟของศูนย์ข้อมูลผู้ให้บริการโทรคมนาคม และระบบสำรองไฟของเครื่อง CT Scan และ MRI ในโรงพยาบาลชั้นนำหลายแห่ง   

นอกจากความเชี่ยวชาญและประสบการณ์เฉพาะด้านที่เกี่ยวกับ Server และ อุปกรณ์เครือข่ายรวมถึงระบบ Internet Data Center เป็นระยะเวลานานกว่า 7 ปี ที่ทำให้ Quickserv ได้รับความไว้วางใจ Delta Electronics ให้เป็นตัวแทนจำหน่าย Delta UPS แล้ว Quickserv ยังมีเกียรติบัตรที่สามารถรับรองและการันตีคุณภาพโดยการยอมรับให้เป็น Intel Technology Provider ในระดับ Platinum Partner เพียงรายเดียวในไทยที่ได้รับ Server Specialist Certification อีกด้วย

ผู้สนใจสามารถศึกษารายละเอียดและขอข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Delta UPS ผ่านทาง Quickserv ได้ที่ : https://www.quickserv.co.th/ups/DELTA.html

from:https://www.techtalkthai.com/delta-ups-for-servers-and-networks/

HPE Server ลงตัวกับธุรกิจ ติดตั้งและจัดการง่าย ทำงานได้ไวเต็มประสิทธิภาพ

มารู้จักกับ HPE Server นวัตกรรมเซิร์ฟเวอร์สุดเสถียรตัวเก๋าของวงการ ที่ทำงานด้วยฮาร์ดแวร์ชั้นสูงสุดพิเศษ และเหตุผลที่คุณควรจะต้องใช้เซิร์ฟเวอร์แบรนด์นี้

เมื่อธุรกิจในยุคดิจิทัล 4.0 เป็นโลกแห่งการแข่งขันเชิงข้อมูล องค์กรธุรกิจใดที่มีการบริหารจัดการและประมวลผลเรื่องของข้อมูลปริมาณมาก ๆ ที่ไหลบ่าเข้ามาได้อย่างรวดเร็วย่อมจะได้เปรียบในเชิงธุรกิจมากยิ่งขึ้น เทคโนโลยีการจัดเก็บและประมวลผลข้อมูลจึงนับว่ามีความสำคัญมากขึ้นเรื่อย ๆ ต่อภาคธุรกิจ และนับเป็นกุญแจสำคัญอีกอย่างหนึ่งที่จะทำให้ธุรกิจยุคใหม่ก้าวไปสู่การแข่งขันที่มีศักยภาพได้ “คอมพิวเตอร์เซิร์ฟเวอร์” หรือ เครื่องคอมพิวเตอร์แม่ข่าย จึงเป็นหัวใจสำคัญในเรื่องนี้ เพราะองค์กรธุรกิจใดเลือกใช้ Server ที่มีประสิทธิภาพสูง มีความเสถียร ติดตั้งง่าย ควบคุมการทำงานจากระยะไกลได้ แม้มีปัญหาก็สามารถที่จะแก้ไขจัดการกับปัญหาได้โดยที่ไม่ทำให้ระบบล่ม ย่อมจะทำให้การจัดเก็บและส่งถ่ายข้อมูลเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพแบบไม่มีสะดุด ไม่กระทบต่อผู้ใช้งานทั้งภายในและภายนอก ดังนั้น เราจึงอยากที่จะมาแนะนำสุดยอดนวัตกรรมอย่าง HPE Server ให้ทุกองค์กรธุรกิจรู้จักกัน เพราะถ้าคุณรู้ว่าสิ่งนี้ดีอย่างไร เราเชื่อว่าคุณจะเปลี่ยนใจมาใช้ Server จากแบรนด์นี้แน่นอน

Credit: HPE.com

HPE Server ความเสถียรสุดเก๋าที่ทุกองค์กรธุรกิจต้องยกนิ้วให้

HPE Server เป็นผลิตภัณฑ์นวัตกรรม Server จากบริษัท Hewlett Packard Enterprise (HPE) ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจย่อยที่แยกตัวออกมาจากบริษัทผู้ผลิตคอมพิวเตอร์แบรนด์ดังอย่าง HP และแค่ชื่อแบรนด์แม่อย่าง HP ก็แทบจะการันตีได้แล้วว่ามีประสบการณ์และความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ในองค์กรธุรกิจขนาดไหน แต่แม้จะเปลี่ยนมาบริหารจัดการโดย HPE แล้วก็ตาม แต่ประสิทธิภาพและคุณภาพก็ไม่ได้ลดลงหรือเปลี่ยนแปลงไปเลย เรียกว่าความเก๋าเกมของการเป็นเครื่อง Server ชั้นนำในองค์กรธุรกิจนั้นยังคงมีอยู่เต็มเปี่ยม จึงได้รับความไว้วางใจจากองค์กรธุรกิจชั้นนำในการเลือกใช้งานเป็นเครื่อง Server ประจำบริษัทเรื่อยมา HPE Server นั้นมีการพัฒนาโซลูชั่นของตนเองมาเรื่อย จนเข้าสู่ยุคที่ 10 แล้วในปัจจุบัน ซึ่งเครื่อง Server นั้นอย่างที่ทราบกันว่ามีหลายขนาด หลายสเปก โดยแต่ละขนาด สเปก หรือ Gen ต่าง ที่ออกมาใหม่ของ HPE Server นั้นก็มีความเหมาะสมกับขนาดของธุรกิจที่แตกต่างกันไป เช่น

Server สำหรับองค์กรธุรกิจขนาดใหญ่

  • HPE ProLiant DL560 Gen10 เป็น Server ที่ประมวลผลข้อมูลได้เร็วมีประสิทธิภาพสูง และอัดแน่นมาด้วยหน่วยความจำที่มหาศาล ความแรงระดับเทพแต่ขนาดเครื่องเล็กไม่เปลืองพื้นที่จัดเก็บ ดีไซน์ออกมาให้ใช้วางบนตู้ Rack
  • HPE ProLiant DL380 Gen10 เป็น Server ที่ตัวเล็กสเปกแรงเหมาะกับการนำไปติดตั้งกับตู้ Rack เช่นกัน จุดเด่นของรุ่นนี้ก็น่าจะอยู่ที่ผู้ใช้งานสามารถที่จะเลือกติดตั้ง Hardware ภายในได้ค่อนข้างอิสระและหลากหลายตามจุดประสงค์การใช้งาน
Credit: HPE.com

Server สำหรับองค์กรธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก

  • HPE ProLiant ML110 Gen10 เป็นเครื่อง Server แบบ Tower รุ่นกลาง อยู่ใน Gen10 เหมือนกัน ประสิทธิภาพแรงพอตัว เครื่องทำงานเงียบติดตั้งภายในออฟฟิศบริษัทได้อย่างสบาย
  • HPE ProLiant DL20 Gen9 รุ่นนี้เป็น HPE Server รุ่นยอดนิยมในเมืองไทย เป็นเครื่อง Server แบบตู้ Rack ตัวเครื่องสั้นจัดเก็บง่าย ระบายอากาศได้เยี่ยม เปี่ยมประสิทธิภาพเพราะรองรับการใช้งานที่หลากหลาย ธุรกิจขนาดกลางหรือขนาดเล็กที่ต้องการ Server สำหรับการดูแลเรื่อง Web Server, Web Hosting หรือ File and Print Sharing ต่าง รุ่นนี้เอาอยู่ได้หมด
Credit: HPE.com

ซึ่งคุณจะเห็นว่าคอมพิวเตอร์เซิร์ฟเวอร์แต่ละรุ่นแต่ละ Model ก็จะมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันไป โดยขนาดของธุรกิจและจุดประสงค์การใช้งานขององค์กรจะเป็นสิ่งที่ช่วยกำหนดสเปกของเครื่อง Server ที่คุณต้องการนั่นเอง สำหรับเครื่อง HPE Server Gen10 มีการพัฒนาประสิทธิภาพความปลอดภัยการจัดเก็บและถ่ายโอนข้อมูล โดยจะมีการใส่เทคโนโลยีพิเศษเฉพาะของทาง HPE เพิ่มประสิทธิภาพในเรื่องดังกล่าวลงไป แต่ไม่ว่าจะเป็นรุ่นไหนก็ยืนยันได้ว่าภาคธุรกิจไว้ใจเครื่อง Server ของแบรนด์นี้กันได้แบบไม่ต้องเป็นกังวล

Credit: HPE.com

เหตุผลที่คุณควรเลือกใช้ HPE Server ในธุรกิจของคุณ

  1. ติดตั้งและจัดการดูแลได้อย่างง่ายดายมีความสะดวก สามารถตรวจสอบสั่งงานจากระยะไกลได้อย่างสบาย รวมไปถึงการบำรุงรักษาก็ทำได้อย่างง่ายดาย ไม่กระทบกับการใช้งาน
  2. สามารถรองรับ Workload จำนวนมากหรือการทำงานที่ต้องการความเร็วสูงได้อย่างดี
  3. เป็นเครื่อง Server ที่มีความเสถียรและความปลอดภัยของระบบสูงมาก มั่นใจได้ว่าระบบข้อมูลของคุณจะปลอดภัยจากมัลแวร์และเฟิร์มแวร์
  4. ทนทานและมีระบบการสำรองข้อมูลชั้นเยี่ยม แม้เกิดปัญหาไฟฟ้าดับก็ไม่ต้องกังวลเรื่องข้อมูลจะสูญหาย
  5. ช่วยลดต้นทุนของธุรกิจ เนื่องจากประสิทธิภาพและความทนทานของ HPE Server ทำให้บริษัทสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายในการติดตั้งดูแล รวมไปถึงค่าซ่อมแซมระบบได้มากทีเดียว

ถ้าคุณต้องการให้ธุรกิจของคุณทะยานไปสู่โลกดิจิทัลอย่างสง่างาม เพิ่มโอกาสทางการแข่งขัน และสามารถเติบโตอย่างก้าวกระโดดได้ การวางแผนลงทุนเพื่อเลือกเทคโนโลยีอันทันสมัยมาใช้นับเป็นเรื่องสำคัญที่คุณต้องรีบตัดสินใจ การตัดสินใจเลือกใช้เครื่อง Server ในบริษัทจึงนับเป็นสิ่งสำคัญที่คุณต้องตัดสินใจเลือกใช้ให้ดี และถ้าบริษัทของคุณเป็นบริษัทธุรกิจขนาดกลางหรือขนาดเล็ก กำลังมองหาเครื่อง Server ตัวเล็กประสิทธิภาพสูง เราขอแนะนำให้คุณสัมผัสประสบการณ์ที่เหนือระดับกับ QuickServ.co.th กับ HPE Server ในรุ่น HPE ProLiant DL20 Gen9 พร้อมโปรโมชั่นสุดพิเศษ แถมฟรี ! บริการCo – Location 3 เดือน แบบไม่มีสัญญาผูกมัดใด และฟรีค่าบริการแรกเข้ารวมไปถึงค่าติดตั้ง เท่านั้นยังไม่พอยังแถมโปรแกรมจัดการเครื่องแม่ข่ายไปให้คุณฟรี อีกด้วยนะ ทั้งหมดนี้เราขอนำเสนอให้คุณในราคาที่น่าคบหาสุด มาปฏิวัติธุรกิจของคุณให้เดินหน้าอย่างเต็มที่ไปสู่ยุคดิจิทัล 4.0 ไปพร้อม กันเถอะ

รายระเอียดโปรโมชั่นเพิ่มเติมhttps://bit.ly/2MWdTO1

หรือ สอบถามข้อมูลอื่นๆ ได้ที่ บริษัท ควิกเซิร์ฟ โปรไวเดอร์ จำกัด https://www.quickserv.co.th/server/HP.html

from:https://www.techtalkthai.com/hpe-server-gen10-with-promotion-by-quickserv/