คลังเก็บป้ายกำกับ: ISTIO

Google ยื่นเรื่องขอส่งต่อโปรเจ็ค Istio ให้ CNCF

โปรเจ็คที่เกี่ยวข้องกับ Kubernetes อย่าง Istio ของ Google กำลังถูกส่งต่อให้ทีมงาน CNCF รับไปพิจารณาแล้ว

Credit: Kubernetes

Istio เป็นโปรเจ็คสำหรับ Service Mesh ซึ่งช่วยจัดการการสื่อสารระดับเครือข่ายระหว่าง API Service ในแอปพลิเคชันภายใน Kubernetes ทั้งนี้ส่วนหลังถูกส่งต่อให้แก่ CNCF ตั้งแต่ปี 2015 แล้ว แต่ก่อนหน้านี้ปี 2019 Google ยังยืนกรานว่าไม่มีความคิดที่จะบริจาคส่วนประกอบใน Kubernetes อย่าง Istio หรือโปรเจ็ค Knative (Serverless Platform) แต่ในที่สุดก็เปลี่ยนใจเสนอ Istio ให้ CNCF แล้ว ประกอบกับเมื่อเดินก่อน Knative ก็เพิ่งไปสู่มือ CNCF เพื่อให้ Community ช่วยกันดูแลต่อ

https://www.techtalkthai.com/what-really-is-a-service-mesh/

https://www.techtalkthai.com/cncf-embraced-knative-project-from-google/

Service Mesh ไม่ได้มีเพียงแค่ Istio เท่านั้นแต่ยังมีเจ้าอื่นอย่าง Linkerd, Consul หรือ Open Service Mesh จากไมโครซอฟ์ที่ส่งให้ CNCF ไปก่อนหน้า หากความต้องการนี้สำเร็จ Istio ก็จะกลายเป็นชิ้นส่วนหลักสุดท้ายของระบบ Kubernetes ที่เข้าสู่การดูแลของ CNCF 

ที่มา : https://www.infoworld.com/article/3658206/google-to-donate-istio-service-mesh-to-the-cncf.html

from:https://www.techtalkthai.com/google-offers-istio-to-cncf/

กูเกิลส่ง Istio Service Mesh สมัครเข้าเป็นโครงการของมูลนิธิ CNCF

Istio ซอฟต์แวร์ service mesh สำหรับจัดการคลัสเตอร์ Kubernetes ที่ริเริ่มโดยกูเกิลเมื่อปี 2017 ยื่นเรื่องขอเข้าเป็นโครงการของมูลนิธิ Cloud Native Computing Foundation (CNCF) แล้ว (หลังไปทำแยกเองเป็นเวลานาน 5 ปี)

CNCF เป็นองค์กรกลางที่กูเกิลตั้งขึ้นมาในปี 2015 เพื่อรับช่วงโปรเจค Kubernetes ไปดูแลต่อ ซึ่งหลังจากนั้นมีโครงการที่เกี่ยวข้องกับ Kubernetes จำนวนมากจากองค์กรอื่นๆ เข้ามาอยู่ภายใต้ CNCF เช่น Rancher k3s, etcd, linkerd, Dapr, Knative

โครงการ Istio ริเริ่มโดย 3 องค์กรคือ กูเกิล, IBM, Lyft แต่ภายหลัง IBM ก็วิจารณ์กูเกิลว่าเปิดซอร์ส Istio เพียงอย่างเดียว กระบวนการพัฒนายังทำโดยพนักงานกูเกิลแทบทั้งหมด การยก Istio ให้องค์กรกลางอย่าง CNCF ดูแลย่อมช่วยให้ทิศทางการพัฒนา Istio เปิดกว้างมากขึ้น ขั้นถัดไปคือรอฝั่งคณะกรรมการของ CNCF โหวตว่าจะรับ Istio เข้ามาดูแลหรือไม่

No Description

ที่มา – Istio

from:https://www.blognone.com/node/128187

Istio 1.9 ออกแล้ว เน้นเพิ่มความสามารถใหม่สำหรับใช้งานใน Production

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทีมพัฒนา Istio ได้ออกมาประกาศเปิดตัว Istio 1.9 แล้วอย่างเป็นทางการ โดยเน้นการเพิ่มความสามารถในส่วนของ Day 2 Operation เพื่อให้การใช้งานจริงในระดับ Production เป็นไปได้อย่างลื่นไหลมากยิ่งขึ้น โดยมีความสามารถใหม่ที่โดดเด่นดังนี้

Credit: Istio
  • Virtual Machine Integration (Beta) ทำให้ Workload ที่อยู่บน VM นั้นสามารถถูกรวมเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งใน Istio Service Mesh ได้
  • Request Classification (Beta) เพิ่มความสามารถในการปรับแต่ง Mesh Telemetry Collection ให้มากขึ้น โดยการเพิ่ม Request Classification เข้ามาจะทำให้ผู้ดูแลระบบเข้าใจทราฟฟิกที่เกิดขึ้นใน Service Mesh ได้ดีขึ้น
  • Kubernetes Service API Support (Alpha) เชื่อมต่อกับ Kubernetes เพื่อทำงานร่วมกันได้ดีขึ้น
  • Integration with External Authorization Systems (Experimental) ผสานระบบภายนอกเพื่อควบคุมสิทธิ์ได้มากขึ้น เช่น ทำงานร่วมกับ OPA, OAuth 2 และอื่นๆ
  • Remote Fetch & Load of WebAssembly HTTP Filters (Experimental) สามารถ Fetch WebAssembly Module จาก Repository ภายนอกและทำการ Reload ได้โดยไม่ต้อง Restart ที่ Proxy ภายใน Mesh ทำให้สามารถเพิ่มโค้ด C++ เข้าไปใน Mesh เพื่อจัดการกรณีการใช้งานที่นอกเหนือเกินความสามารถของ Istio API ได้
  • Mirroring of Images on gcr.io มี Registry แยกที่ gcr.io/istio-release เพื่อแก้ปัญหากรณี Rate-Limiting Policy ของ Docker Hub ห
  • อัปเดตใหม่สำหรับ istioctl เช่น เพิ่มคำสั่ง verify-install ให้ระบบแจ้งเตือน Error ที่เกิดขึ้นในการตั้งค่าของการติดตั้งได้ และปรับปรุงคำสั่ง analyze ให้ทำงานได้ดีขึ้น

สำหรับปี 2021 นี้ ทีมพัฒนา Istio ก็จะยังคงยึดแนวทางการเน้นเสริม Day 2 Operation ให้ดียิ่งขึ้นต่อไป

ที่มา: https://istio.io/latest/news/releases/1.9.x/announcing-1.9/

from:https://www.techtalkthai.com/istio-1-9-is-announced/

Microsoft เปิดตัว Open Service Mesh, จะปล่อยให้เป็นโอเพ่นซอร์สกับ CNCF

เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา Microsoft ได้ทำการเปิดตัว Service mesh แบบ Opensource ที่มีชื่อว่า Open Service Mesh (OSM) และประกาศถึงแผนการมอบโปรเจกต์นี้ให้กับ Cloud Native Computing Foundation (CNCF) เร็วๆนี้

Credit: Ricardo Gomez Angel

Open Service Mesh นั้นเป็น Service mesh ที่ถูกพัฒนาขึ้นด้วยความตั้งใจให้เป็นตัวต้นแบบ (Reference Implementation) ของการพัฒนา Service mesh ตามมาตรฐาน Service Mesh Interface (SMI) ซึ่งเป็น Interface สำหรับ Service mesh ที่ทำงานบน Kubernetes

และเนื่องจาก OSM นี้สร้างขึ้นบน SMI เหมือนกัน ผู้ที่ต้องการใช้ฟีเจอร์ขั้นสูงก็สามารถขยับจาก OSM ไปใช้ Envoy Proxy ได้โดยง่าย ในขณะที่ OSM จะถูกออกแบบโดยคำนึงถึงประสบการณ์ในการใช้งานที่ดี เพื่อแก้ไขปัญหาความซับซ้อนของ Service mesh ที่ไมโครซอฟท์ได้รับฟังมาจากลูกค้าบ่อยครั้ง

การประกาศเปิดตัว OSM และเปิดเป็นโอเพ่นซอร์สกับ CNCF ในครั้งนี้มีขึ้นหลังจากที่ Google ประกาศย้าย Istio จาก CNCF ไปยัง Open Usage Commons Foundation ซึ่งเป็นองค์กรของ Google เอง โดย Gabe Monroy ผู้อำนวยการฝ่าย Partner Management ของ Azure กล่าวกับ TechCrunch ว่าปัญหาของ Istio คือผู้คนโฟกัสกับการบริหารโปรเจคมากเกินไปจนละเลยความจริงที่ว่าลูกค้าไม่ได้มีช่วงเวลาที่ดีกับ Istio นัก

ประสบการณ์ในการใช้งาน และการจัดการแบบ Opensource โดย CNCF เป็นสองประเด็นที่ Microsoft พยายามสร้างความแตกต่างออกมาจาก Istio หากท่านใดสนใจ OSM สามารถเข้าไปศึกษาได้ที่ https://github.com/openservicemesh/osm/


ที่มา

from:https://www.techtalkthai.com/microsoft-open-service-mesh-cncf-opensource/

กูเกิลสร้างองค์กรควบคุมการใช้ชื่อและโลโก้โครงการโอเพนซอร์สของตัวเอง ส่ง Istio, Angular, Gerrit เข้าร่วม

กูเกิลสร้างกรรมการ Open Usage Commons (OUC) สำหรับควบคุมการใช้ชื่อและโลโก้ของโครงการโอเพนซอร์สของตัวเอง โดยส่งโครงการโอเพนซอร์สเข้าร่วม ได้แก่ Istio, Gerrit, และ Angular

แม้ว่าโครงการเหล่านี้จะเป็นโอเพนซอร์สทำให้ใช้โค้ดได้อิสระ แต่ตัวเครื่องหมายการค้าอย่างชื่อโครงการและโลโก้นั้นเป็นทรัพย์สินของกูเกิลโดยตรงที่อาจจะบังคับการใช้งานอย่างไรก็ได้ OUC จะกำหนดแนวทางการใช้งานตลอดจนการทดสอบความเข้ากันได้กับโครงการที่ต่อยอดไปจากโครงการหลัก แนวทางแบบนี้คล้ายกับแอนดรอยด์ที่กูเกิลควบคุมผู้ผลิตโทรศัพท์ที่จะระบุว่าเป็นโทรศัพท์แอนดรอยด์ได้ต่อเมื่อผ่านการทดสอบจากกูเกิลเท่านั้น โดย OUC ควบคุมโดยกรรมการที่กูเกิลตั้งขึ้น เริ่มต้นมีกรรมการ 6 คน

ไอบีเอ็มที่ร่วมโครงการ Istio แต่ต้นแสดงความไม่เห็นด้วยกับการตั้ง OUC ครั้งนี้โดยระบุว่ากระบวนการไม่เปิดกว้างต่อภายนอกมากพอ และกูเกิลเคยตกลงว่าจะส่ง Istio เข้า CNCF เมื่อโครงการพร้อม ทำให้ไอบีเอ็มเรียกร้องให้กูเกิลทำตามสัญญาเดิม

ที่มา – Open Usage Commons, Istio, IBM

No Description

from:https://www.blognone.com/node/117378

สรุป Red Hat Webinar: เปลี่ยน Microservices ให้กลายเป็นเรื่องง่ายด้วยเทคโนโลยี Service Mesh โดย Red Hat

เมื่อธุรกิจองค์กรมีการใช้สถาปัตยกรรมแบบ Microservices ในระบบ Application มากขึ้นเรื่อยๆ สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นลำดับถัดมาก็คือความวุ่นวายที่เกิดขึ้นในการสื่อสารระหว่างแต่ละส่วนของ Application ผ่านระบบเครือข่าย และแนวคิดที่ถูกนำมาใช้เพื่อแก้โจทย์นี้ก็คือ Service Mesh ทีมงาน Red Hat ได้มาถ่ายทอดความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับ Service Mesh ใน Webinar ที่ผ่านมา ทางทีมงาน TechTalkThai จึงขอนำสรุปเนื้อหาให้ทุกท่านที่สนใจดังนี้ครับ

Microservices Architecture คือ Distributed Architecture

เบื้องหลังระบบ Microservices Architecture นั้นก็คือการออกแบบระบบให้กลายเป็นส่วนย่อยจำนวนมากๆ และทำงานร่วมกันผ่านระบบเครือข่าย ดังนั้นในการทำสิ่งใดๆ บน Application หนึ่งๆ นั้น เบื้องหลังก็อาจมีการเชื่อมต่อไปยังบริการต่างๆ จำนวนมากภายในก่อนจะนำผลลัพธ์สุดท้ายมานำเสนอต่อผู้ใช้งานก็เป็นได้

ด้วยเหตุนี้ เมื่อระบบมีขนาดใหญ่ การเชื่อมต่อภายในระบบจึงมีความซับซ้อนสูง ยิ่งมีการเพิ่มส่วนประกอบหรือเทคโนโลยีใหม่ๆ ภายในระบบมากแค่ไหน การจัดการก็ยิ่งซับซ้อนมากขึ้น ดังนั้นที่ผ่านมาจึงต้องมีการนำแนวคิดอย่างเช่นการใช้ Circuit Breaking, Bulkheading, Timeout/Retries, Service Discovery และอื่นๆ เพื่อให้ระบบนั้นสามารถทำงานต่อไปได้อย่างมีเสถียรภาพ แม้ว่าจะเกิดปัญหากับระบบย่อยที่อยู่เบื้องหลัง

ถึงแม้ว่าวิธีการดังกล่าวจะช่วยแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นกับ Distributed Architecture ได้ แต่ก็ต้องแลกมาด้วยขนาดของ container ที่มากขึ้นจากการเพิ่ม Library ต่างๆเข้าไป ยิ่งในระบบที่มีความหลากหลายของภาษาที่ใช้พัฒนายิ่งทำให้มีความท้าทายในการพัฒนาและบริหารจัดการให้เป็นไปในมาตรฐานเดียวกัน และนี่เองก็จึงเป็นที่มาของแนวคิด Service Mesh ที่จะช่วยลดภาระของ Developer ให้มีโอกาสได้มุ่งพัฒนา Application ตามความต้องการทางธุรกิจแทนที่จะต้องเสียเวลากับการเพิ่มความสามารถใน การเชื่อมต่อ (Connect) การรักษาความปลอดภัย (Secure) การควบคุม (Control) หรือแม้กระทั่งการสังเกตุพฤติกรรมการทำงาน (Observe) เข้าไปใน Application หรือ Service

Istio โครงการ Open Source สำหรับทำ Service Mesh เพื่อรองรับ Kubernetes

โครงการ Istio นี้เป็นโครงการ Open Source ที่ริเริ่มโดย Google และ IBM เพื่อตอบโจทย์การทำ Service Mesh ภายใน Microservices โดยเฉพาะ ซึ่งมีความสามารถหลักๆ ด้วยกัน 4 ส่วน ได้แก่

  • Connect สามารถควบคุม Traffic ของ Service ได้ และทำ Canary Deployment หรือ Service Breaking, Retries/Timeout ได้
  • Secure สามารถรักษาความมั่นคงปลอดภัยในระดับเครือข่ายให้กับระบบ Container ได้ ให้การรับส่งข้อมูลระหว่างระบบย่อยเบื้องหลังมีความปลอดภัยเพียงพอ
  • Control ควบคุมการเชื่อมต่อทั้งหมดภายในให้เป็นไปได้ตามต้องการได้
  • Observe สามารถแสดงผลการเชื่อมต่อระหว่างแต่ละบริการย่อยภายในระบบใหญ่ และติดตามประสิทธิภาพหรือปัญหาที่เกิดขึ้นได้

โดยความสามารถเหล่านี้ต้องสามารถใช้งานได้ในระดับของระบบไม่ใช่ระดับของโค้ด และทำการตั้งค่า Configuration จากศูนย์กลางเพื่อจัดการระบบขนาดใหญ่ได้อย่างง่ายดาย

แนวทางที่ Istio ใช้นั้นก็คือการนำ Sidecar Pattern มาใช้ โดยมีการติดตั้ง Layer 7 Proxy มาติดตั้งภายใน Pod ของ Application เพื่อควบคุม Traffic ทั้งขาเข้าและออกทั้งหมด ทำให้สามารถกำหนดค่าการเชื่อมต่อต่างๆ และควบคุมระบบได้โดยไม่ต้องแก้ไขที่ระดับของ Application ซึ่ง Proxy นี้ก็ใช้โครงการ Envoy ซึ่งเป็นระบบ Proxy อัจฉริยะในส่วนของ Data Plane ส่วนใน Control Plane ก็มี Engine ที่หลากหลายเพื่อทำงานร่วมกับ Kubernetes หรือ Red Hat OpenShift เพื่อทำการตั้งค่าและควบคุมการทำงานของ Envoy อีกทีหนึ่ง

สำหรับผู้ที่สนใจรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Istio สามารถเยี่ยมชมเว็บไซต์ของโครงการได้ที่ https://istio.io/ ครับ

Red Hat OpenShift พร้อมใช้ Istio ได้ทันที และมีระบบอื่นๆ เพิ่มเติมเพื่อให้ใช้งานได้ง่ายขึ้น

สำหรับ Red Hat OpenShift นี้ก็มีการผนวกรวม Istio สำหรับทำ Service Mesh ให้อยู่แล้ว และยังมีการเพิ่มเครื่องมืออื่นๆ เช่น Prometheus + Grafana สำหรับการแสดงผลให้ติดตามการทำงานและสถิติต่างๆ ของระบบได้ง่าย, Jaeger สำหรับเก็บข้อมูลการ Trace ระบบและติดตามประสิทธิภาพการทำงานของระบบได้ในเชิงลึก, Kiali สำหรับการบริหารจัดการ Istio ผ่านหน้าเว็บ เข้ามาเพื่อช่วยให้การทำ Service Mesh นั้นมีประสิทธิภาพมากขึ้น และใช้งานได้ง่ายดายมากขึ้นไปด้วย

รับชม Webinar ย้อนหลัง

ใน Webinar นี้เนื้อหาเต็มมีความยาวและยังมีการ Demo โซลูชันของ Istio ในการใช้งานจริงและการทำงานร่วมกับ Red Hat OpenShift ให้เราได้รับชมกันด้วย ดังนั้นถ้าหากท่านใดสนใจก็สามารถรับชม Webinar ย้อนหลังโดยคุณวรวิทย์ เลิศกิติพงศ์พันธ์, Senior Solutions Architect, Red Hat และคุณเฟื่องวิชญ์ โสภารัตน์, Channel Solutions Architect, Red Hat กันได้ที่ https://redhat.lookbookhq.com/c/84-2?x=a0Db4d เลยนะครับ

from:https://www.techtalkthai.com/red-hat-webinar-summary-service-mesh-for-microservices-with-red-hat/

Red Hat Webinar: เปลี่ยน Microservices ให้กลายเป็นเรื่องง่ายด้วยเทคโนโลยี Service Mesh

TechTalkThai ขอเรียนเชิญ IT Manager, DevOps Engineer, Software Engineer, และผู้ที่สนใจทุกท่าน เข้าร่วมฟัง Red Hat Webinar ในหัวข้อเรื่อง “เปลี่ยน Microservices ให้กลายเป็นเรื่องง่ายด้วยเทคโนโลยี Service Mesh โดย Red Hat” เพื่อทำความรู้จักกับการใช้ Istio เพื่อสร้าง Service Mesh เสริมความสามารถในการจัดการ Microservices ให้เป็นระบบมากยิ่งขึ้น ในวันอังคารที่ 9 มิถุนายน 2020 เวลา 10.30 – 12.00 น. โดยมีกำหนดการและวิธีการลงทะเบียนดังนี้

รายละเอียดการบรรยาย

หัวข้อ: เปลี่ยน Microservices ให้กลายเป็นเรื่องง่ายด้วยเทคโนโลยี Service Mesh โดย Red Hat
ผู้บรรยาย: คุณวรวิทย์ เลิศกิติพงศ์พันธ์, Senior Solutions Architect, Thailand, Red Hat
วันเวลา: วันอังคารที่ 9 มิถุนายน 2020 เวลา 10.30 – 12.00 น.
ช่องทางการบรรยาย: Online Web Conference
ภาษา: ไทย

ความท้าทายจำนวนมากนั้นได้เกิดขึ้นมาท่ามกลางการใช้งาน Cloud-Native Application เนื่องจากการย้ายระบบมาสู่สถาปัตยกรรมแบบ Microservices ที่ไม่ใช่เรื่องง่าย สิ่งที่คุณต้องเผชิญแทบจะทันทีนั้นก็คือการที่มีบริการจำนวนมหาศาลกว่าในอดีตเป็นเท่าตัวที่จะต้องตรวจสอบการทำงาน, มี API จำนวนมากที่จะต้องทำการจัดการให้มีความมั่นคงปลอดภัย และก็ยังมีทราฟฟิกปริมาณมหาศาลที่เกิดขึ้นในการสื่อสารกันระหว่าแต่ละบริการ คุณและทีมงานของคุณต้องการความช่วยเหลือเพื่อให้ยังคงก้าวนำคู่แข่งให้ได้อย่างรวดเร็ว

ใน Webinar นี้ คุณจะได้เจาะลึกกับ Istio เครื่องมือ Open Source ที่เชื่อมต่อและบริหารจัดการ Microservices ที่ได้กลายเป็นระบบ Service-Mesh ชั้นนำของวงการสำหรับ Kubernetes โดยคุณจะได้ลงลึกว่า Istio จะช่วยให้ผสานการทำงานร่วมกันในแต่ละบริการอย่างเช่น Load Balancing, Mutual Service-to-Service Authentication, Transport Layer Encryption และการทำ Application Telemetry โดยเปลี่ยนแปลงโค้ดของคุณในแต่ละบริการให้น้อยที่สุดได้อย่างไร

การเข้าร่วมฟัง Webinar ครั้งนี้จะนำเสนอเป็นภาษาไทยโดยทีมงาน Red Hat ที่พร้อมตอบทุกคำถามที่เกี่ยวข้อง

ลงทะเบียนเข้าร่วม Webinar ได้ฟรี

ผู้ที่สนใจสามารถกรอกแบบฟอร์มเพื่อเข้าร่วม Webinar ในหัวข้อนี้ได้ฟรีๆ ทันทีที่ https://events.redhat.com/profile/form/index.cfm?PKformID=0x162850abcd&sc_cid=7013a000002DgQgAAK#SessionAbstract โดยทีมงานขอความกรุณากรอกข้อมูลชื่อบริษัทด้วยชื่อเต็มของหน่วยงานหรือองค์กร เพื่อไม่ให้เกิดความสับสนในการจัดการกับข้อมูลการลงทะเบียน

from:https://www.techtalkthai.com/red-hat-webinar-service-mesh-for-microservices-with-istio/

ซอยย่อยเกินไป Istio รวบไบนารีหลักเหลือ istiod ตัวเดียว แม้เป็นแพลตฟอร์มทำ microservice

โครงการ Istio ที่เป็นแพลตฟอร์มทำ service mesh ควบคุมการสื่อสารระหว่าง microservice ประกาศเปลี่ยนสถาปัตยกรรมใหม่ จากเดิมเซิร์ฟเวอร์หลักแบ่งเป็นส่วนย่อยๆ ถึง 5 ชิ้น ได้แก่ Mixer, Pilot, Gallery, Citadel, และ Injector มาเหลือ istiod ไบนารีเดียวเท่านั้น โดย Mixer เป็นส่วนขยายที่ลงแยกได้ และเวอร์ชั่นใหม่จะไม่ลงเป็นค่าเริ่มต้น

สำหรับซอฟต์แวรร์ที่รันบนโหนดก็จะรวบจาก Node Agent และ Istio Agent เหลือ Istio Agent ตัวเดียวเช่นกัน

Christian Posta ผู้เขียนหนังสือ Microservices for Java Developers เขียนบล็อกกถึงเรื่องนี้ ว่า Istio เป็นตัวอย่างของกรณีที่ไม่ควรแบ่งแอปพลิเคชั่นเป็น microservice ด้วยเหตุผลหลักคือระบบจะซับซ้อนขึ้นมาก และคำถามสำคัญคือ “แต่ละชิ้นสามารถ deploy แยกกันได้จริงหรือไม่”ปรากฎว่าในโลกความเป็นจริงไม่มีใครติดตั้งชิ้นส่วนของ Istio แยกกันนัก มักจะอัพเกรดไปพร้อมๆ กัน แถมในแง่ความปลอดภัย ชิ้นส่วนย่อยๆ ของ Istio ก็มีสิทธิ์เท่ากันอยู่ดี

Istio จะเปลี่ยนสถาปัตยกรรมในเวอร์ชั่น 1.5 โดยตอนนี้อยู่ที่สถานะ beta 5 คาดว่าจะออกตัวจริงได้ภายในเดือนนี้

ที่มา – Istio Blog

No Description

Topics: 

from:https://www.blognone.com/node/115020

แค่เปิดซอร์สไม่พอ IBM เรียกร้องกูเกิลเปิดการพัฒนา Knative, Istio, TensorFlow ด้วย

โครงการ Knative เป็นซอฟต์แวร์ที่กูเกิลพัฒนาขึ้นเพื่อขยายความสามารถของ Kubernetes ให้จัดการรันงานที่เป็น serverless ได้ (Run serverless containers on Kubernetes with ease)

กูเกิลสร้าง Knative ขึ้นมาใช้กับ Google Cloud Platform ของตัวเอง แม้ตัวซอฟต์แวร์เป็นโอเพนซอร์สตามสไตล์กูเกิล แต่กระบวนการพัฒนายังอิงอยู่กับทีมงานของกูเกิลเป็นหลัก ไม่มีองค์กรกลางขึ้นมาดูแลแบบเดียวกับ Cloud Native Computing Foundation (CNCF) ที่ปัจจุบันดูแลการพัฒนา Kubernetes และซอฟต์แวร์ที่เกี่ยวข้องตัวอื่นๆ

เรียกง่ายๆ ว่าซอฟต์แวร์ตัวไหนที่สำคัญ กูเกิลมักเลือกเปิดซอร์สโค้ดอย่างเดียว แต่ยังจำกัดกระบวนการพัฒนาไม่ให้เป็นของชุมชนทั้งหมด ลักษณะเดียวกับ Android, Istio, TensorFlow

กรณีของ Knative ท่าทีของกูเกิลทำให้ชุมชนไม่พอใจ แต่กูเกิลก็ยังไม่เปลี่ยนใจ เมื่อเดือนตุลาคม ตัวแทนของกูเกิลระบุว่าฝ่ายบริหารของกูเกิลยังไม่มีแผนยก Knative ให้องค์กรกลางในอนาคตอันใกล้นี้

และเมื่อเดือนพฤศจิกายน คณะทำงานกำกับทิศทาง Knative เขียนจดหมายเรียกร้องให้ชุมชนนักพัฒนากลับมาร่วมแรงร่วมใจกัน กำหนดแนวทางการพัฒนาที่โปร่งใสชัดเจนขึ้น แต่ก็ยังไม่สัญญาว่าจะยก Knative ให้องค์กรกลางอยู่ดี

ล่าสุด Chris Ferris หัวหน้าฝ่ายโอเพนซอร์สของ IBM ในฐานะผู้ร่วมพัฒนา Knative ออกมาให้สัมภาษณ์ เรียกร้องให้กูเกิลเปิดกว้างกว่านี้ เขาบอกว่าโครงการโอเพนซอร์สที่ประสบความสำเร็จ มักอยู่ภายใต้การดูแลขององค์กรกลาง ทำให้ IBM เลือกสนับสนุนองค์กรอย่าง Linux Foundation, JS Foundation, Eclipse Foundation และ CNCF

Ferris บอกว่าจุดยืนของ IBM คือต้องการเห็น Knative, Istio, TensorFlow อยู่ภายใต้การดูแลขององค์กรกลาง ซึ่งจะเป็น CNCF หรือมูลนิธิอื่นก็ได้

ที่มา – The Register

from:https://www.blognone.com/node/113801

กูเกิลออก Istio ซอฟต์แวร์จัดการคลัสเตอร์ Kubernetes เวอร์ชัน 1.4 เพิ่มฟีเจอร์ฝั่งองค์กร

กูเกิลออก Istio ซอฟต์แวร์จัดการคลัสเตอร์ (หรือชื่อเรียกในวงการคือ service mesh) เวอร์ชันใหม่ 1.4

Istio เป็นแกนหลักของ Anthos ชุดจัดการคลาวด์ Kubernetes ที่กูเกิลออกมาจับตลาดองค์กร โดยกูเกิลบอกว่าฟีเจอร์หลายอย่างของ Istio 1.4 เกิดจากสิ่งที่กูเกิลเรียนรู้จากลูกค้าองค์กรของ Anthos

ฟีเจอร์ใหม่ของ Istio 1.4 คือ Mixer-less telemetry ซึ่งเป็นการเก็บข้อมูลการใช้งาน (telemetry) เพื่อนำไปใช้ปรับปรุงประสิทธิภาพของระบบคลัสเตอร์ โดยไม่ต้องพึ่งพาซอฟต์แวร์ Mixer ของเดิม ช่วยให้ลดทรัพยากรที่ต้องใช้ลง

ฟีเจอร์อื่นๆ คือปรับปรุง authorization policy API สำหรับจำกัดสิทธิการเข้าถึงของคนในองค์กร และปรับกระบวนการติดตั้ง/อัพเกรดให้ใช้ง่ายขึ้น

ที่มา – Google, Istio

No Description

from:https://www.blognone.com/node/113299