คลังเก็บป้ายกำกับ: RED_HAT

ระบบจัดการอัตโนมัติ RedHat Ansible Automation Platform [Guest Post]

Ansible เป็นระบบจัดการอัตโนมัติที่ช่วยลดเวลาการทำงาน ลดความซับซ้อนในการทำงานขององค์กร สามารถใช้ระบบอัตโนมัติเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดเตรียมระบบ การตั้งค่า การแพตช์ การทำงานร่วมกันระหว่างแอปพลิเคชัน ลดความผิดพลาดในขั้นตอนการทำงาน รวมถึงมีความปลอดภัยและเป็นไปตามกฎระเบียบการทำงานอย่างถูกต้องและแม่นยำ ทำให้การบริหารจัดการโครงสร้างพื้นฐานไอทีได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น รองรับการเติบโตของธุรกิจได้อย่างทันท่วงที

Ansible เติบโตจากชุมชน Opensource ที่ได้รับความนิยมอย่างสูงและได้รับการสนับสนุนโดย RedHat นอกจากจะสามารถจัดการ Linux เซิร์ฟเวอร์ได้เป็นอย่างดีแล้วยังพัฒนามาจนถึงจัดการอุปกรณ์ประเภทต่างๆ ได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังสามารถใช้งานกับ Windows Platform ได้เป็นอย่างดี เราจึงสามารถบริหารจัดการระบบ Infrastructure ได้ด้วย Ansible Playbook นั่นจึงเป็นที่มาของคำว่า “Infrastructure as Code”

Ansible ทำงานในรูปแบบ Agentless นั่นคือเราไม่จำเป็นต้องติดตั้ง Software สำหรับสื่อสารระหว่างเครื่อง Control และเครื่องที่ใช้บริหารจัดการ ขอเพียงแค่มี Python อยู่ในเครื่องก็สามารถทำงานได้แล้ว เนื่องจาก Ansible Engine นั้นพัฒนาและทำงานด้วยภาษา Python นั่นเอง และ Playbook ของ Ansible ถูกเขียนในรูปแบบของ YAML ซึ่งเป็นรูปแบบที่เข้าใจได้ง่ายและไม่ยุ่งยาก

Red Hat Ansible Engine เป็นรากฐานสำหรับระบบอัตโนมัติขององค์กร รวมถึงองค์ประกอบพื้นฐานสำหรับการทำให้เป็นอัตโนมัติ และการจัดการตามขนาดด้วย Red Hat Ansible Tower

ลองจินตนาการว่าเราต้องทำการติดตั้ง Software หรือกำหนดค่า Configuration ให้กับ Server จำนวน 500 เครื่อง และยิ่งไปกว่านั้นใน 500 เครื่องนี้ต้องมี 300 เครื่องที่ต้องติดตั้ง Software หรือการตั้งค่า Config ที่แตกต่างไปจาก 200 เครื่องแรก มันคงจะเป็นเรื่องยากและเสียเวลากับการที่จะต้องทำงานซ้ำๆ แบบเดิมๆ ทั้ง 500 เครื่อง และที่แย่ไปกว่านั้นคือต้องใช้เวลาเป็นอย่างมากอีกด้วย

แต่ปัญหานี้แก้ได้อย่างง่ายดายด้วยระบบ Automation ของ Ansible เพียงเรากำหนดกลุ่มของ Server แล้วจัดทำ Script Playbook เพื่อทำการติดตั้งและกำหนดค่า Configuration ของเครื่องตามกลุ่มเป้าหมายที่เรากำหนดไว้ แล้วใช้คำสั่งติดตั้งจาก Control ของ Ansible เพียงเท่านี้ Server ทั้ง 500 เครื่องก็จะมี Software และค่า Config ตามโจทย์ที่เราต้องการแล้ว ที่สำคัญคือมีความรวดเร็วมาก เนื่องจากสามารถสั่งติดตั้งได้พร้อมกันแบบคู่ขนาน

โลกของ Ansible มีโมดูลต่างๆ ให้ใช้งานมากมายหลายโมดูลทั้งจัดการ Software และจัดการค่า Configuration ที่พร้อมจะช่วยให้ทีมงานหรือองค์กรของคุณก้าวไปข้างหน้าได้อย่างทันท่วงทีด้วยความรวดเร็วของการทำงานกับ Ansible

ทาง Computer Union สามารถให้บริการ หรือทำ Services ในส่วนของ RedHat Ansible Automation Platform ได้หากลูกค้าสนใจสามารถติดต่อสอบถามได้ตามรายละเอียด้านล่าง

หากท่านมีความสนใจหรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ที่ บริษัท คอมพิวเตอร์ยูเนี่ยน จำกัด

โทร. 02-311-6881 #7151, 7158 หรือ Email. cu_mkt@cu.co.th และสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารทางด้านไอทีได้ที่ Facebook : www.facebook.com/ComputerUnionDistributor และ Youtube : Computer Union CU

ผู้เขียนบทความ :

Khun Worathan Boonwijit

System Engineer

Computer Union Co.,Ltd

from:https://www.techtalkthai.com/redhat-ansible-automation-platform-by-cu/

Advertisement

RHEL 9.1 ออกแล้ว, AlmaLinux ออกเวอร์ชัน 9.1 ตามทันที

Red Hat ออก Red Hat Enterprise Linux (RHEL) เวอร์ชัน 9.1 ทิ้งช่วงห่าง 6 เดือนพอดีจากเวอร์ชัน 9.0 ที่เป็นอัพเกรดใหญ่

นอกจากการอัพเดตแพ็กเกจตามปกติ ของใหม่คือการติดตั้ง Microsoft SQL Server ง่ายขึ้น, Smart Management สำหรับการจัดการระดับสูง, Insights วิเคราะห์ข้อมูลของระบบ

Red Hat ยังออกแพ็กเกจ .NET 7 ให้ลูกค้า RHEL ทั้งบน RHEL 8.7 และ 9.1 โดยซัพพอร์ตเครื่องที่เป็น IBM Power ด้วย

สำหรับผู้ใช้สายฟรี ดิสโทรที่อิงจาก RHEL บางตัวก็อัพเดตเวอร์ชันเป็น 9.1 ตามอย่างรวดเร็ว เช่น AlmaLinux ที่ออกเวอร์ชัน 9.1 ตามในวันเดียวกัน

ที่มา – Red Hat

No Description

from:https://www.blognone.com/node/131548

Red Hat เปิดตัว Red Hat Enterprise Linux for Workstations บน AWS

Red Hat เปิดตัว Red Hat Enterprise Linux for Workstations บน AWS รองรับการใช้งาน GPU-accelerated สำหรับงาน Animation Rendering และ Data Visualization

Credit: Red Hat

Red Hat Enterprise Linux for Workstations เป็นบริการ Linux Workstation ทำงานอยู่บน Amazon Web Services (AWS) ผู้ใช้งานสามารถเข้าใช้งานผ่านทาง NICE DCV โปรโตคอล Remote Desktop ประสิทธิภาพสูงของ Amazon หรือผ่านทาง Web Browser ได้ทันที ช่วยตอบโจทย์องค์กรที่ต้องการใช้งาน Workstation ประสิทธิภาพสูงบน Cloud โดยโซลูชันมีจุดเด่นดังนี้

  • มีการปรับแต่ง Red Hat Enterprise Linux ให้รองรับ High-performance Workload รวมถึงการรองรับแอพพลิเคชันที่ใช้งาน Graphic มาตั้งแต่เริ่มต้น
  • รองรับซอฟต์แวร์ใน Ecosystems ของ Red Hat Enterprise Linux ทั้งหมด สามารถนำซอฟต์แวร์จาก Independent Software Vendor (ISV) มาใช้งานได้ทันที
  • รองรับ Amazon EC2 instance หลากหลาย เช่น G-family ที่มีการติดตั้ง GPU อยู่ภายใน ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นในเลือกใช้งาน
  • รองรับการเข้าใช้งานได้จากทาง Web Browser, Windows, Mac และ Linux Thin Client
  • มี Software Development Stack เวอร์ชันล่าสุดแบบ Stable รวมถึงระบบฐานข้อมูลและเครื่องมือต่างๆ

ผู้ที่สนใจสามารถเริ่มต้นใช้งานผ่านทาง AWS Marketplace ได้ทันที โดยมี Amazon Machine Image (AMI) ให้เลือกทั้งแบบ GRID driver และ Tesla driver

ที่มา: https://www.redhat.com/en/about/press-releases/red-hat-launches-red-hat-enterprise-linux-workstations-aws

from:https://www.techtalkthai.com/red-hat-launces-red-hat-enterprise-linux-for-workstations-on-aws/

G-Able | Red Hat | F5 Webinar: Empower your business with powerful application platform [25 ต.ค. 2022 – 9.00น.]

ทำไมต้องเข้าร่วม?

ปัจจุบัน Application มีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจในทุกๆ องค์กร ซึ่งการเตรียมความพร้อมเพื่อตอบสนอง Application ได้นั้น จำเป็นจะต้องมี Platform ที่สามารถรองรับ ปรับเปลี่ยน รวมถึงมีความต้องการที่เพิ่มเติมตามการเปลี่ยนไปของ Applicationได้ โดย Platform ที่ดี จะต้องมีการผสมผสานเข้าด้วยกัน ทั้งในส่วนของ Infrastructure, Middleware และส่วนประกอบอื่นๆ ที่จำเป็น ซึ่ง Application Platform ดังกล่าว จะต้องสามารถทำให้กระบวนการ Deployment รวมถึงการ Operation ของ Application นั้นทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

ประโยชน์ที่ลูกค้าจะได้รับจากการร่วมงานนี้  

  • เพิ่ม Productivity โดยสามารถใช้ Tool ในการทำ Automation ได้ 24 ช.ม.
  • เพิ่ม ความถูกต้อง เพราะใช้ Tool  Automation ในการทำงาน
  • สามารถให้พนักงานในองค์กร Focus งานอื่นได้มากขึ้น และให้ Automation Tool ช่วยดำเนินการแทน
  • RedHat OpenShift ความพร้อมสำหรับการใช้งานระดับองค์กร ไม่ต้องหาอะไรเพิ่มเอง เริ่มต้นใช้งานได้ทันที

กลุ่มลูกค้าที่เหมาะกับ  Solution นี้ ได้แก่

  • กลุ่ม Infrastructure และ Application
  • ทุกองค์กรที่ต้องการลดงาน Routine, และเพิ่ม productivity ของงาน
  • องค์กรที่มีการพัฒนา Application บนพื้นฐาน Container หรือ ลูกค้าที่กำลังมองหา Platform ที่ใช้สำหรับพัฒนา Modernize Application

กำหนดการ:

วันที่ : 25 ตุลาคม 2022

เวลา : 9:00 – 12:00 น. (สำหรับ ออนไลน์เท่านั้น)

สถานที่ : Zoom

ลงทะเบียนเข้าร่วมงาน (ไม่มีค่าใช้จ่าย) : https://qr.page/g/2ZQE2nBiiHJ

สอบถามข้อมูลได้ที่:

G-Able Public Company Limited

event.bpe@g-able.com

หรือโทร 06-5719-3851 

from:https://www.techtalkthai.com/g-able-l-red-hat-l-f5-empower-your-business-with-powerful-application-platform-1/

G-Able | Red Hat | F5 Webinar: Empower your business with powerful application platform [25 ต.ค. 2022 – 9.00น.]

ทำไมต้องเข้าร่วม?

ปัจจุบัน Application มีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจในทุกๆ องค์กร ซึ่งการเตรียมความพร้อมเพื่อตอบสนอง Application ได้นั้น จำเป็นจะต้องมี Platform ที่สามารถรองรับ ปรับเปลี่ยน รวมถึงมีความต้องการที่เพิ่มเติมตามการเปลี่ยนไปของ Applicationได้ โดย Platform ที่ดี จะต้องมีการผสมผสานเข้าด้วยกัน ทั้งในส่วนของ Infrastructure, Middleware และส่วนประกอบอื่นๆ ที่จำเป็น ซึ่ง Application Platform ดังกล่าว จะต้องสามารถทำให้กระบวนการ Deployment รวมถึงการ Operation ของ Application นั้นทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

ประโยชน์ที่ลูกค้าจะได้รับจากการร่วมงานนี้  

  • เพิ่ม Productivity โดยสามารถใช้ Tool ในการทำ Automation ได้ 24 ช.ม.
  • เพิ่ม ความถูกต้อง เพราะใช้ Tool  Automation ในการทำงาน
  • สามารถให้พนักงานในองค์กร Focus งานอื่นได้มากขึ้น และให้ Automation Tool ช่วยดำเนินการแทน
  • RedHat OpenShift ความพร้อมสำหรับการใช้งานระดับองค์กร ไม่ต้องหาอะไรเพิ่มเอง เริ่มต้นใช้งานได้ทันที

กลุ่มลูกค้าที่เหมาะกับ  Solution นี้ ได้แก่

  • กลุ่ม Infrastructure และ Application
  • ทุกองค์กรที่ต้องการลดงาน Routine, และเพิ่ม productivity ของงาน
  • องค์กรที่มีการพัฒนา Application บนพื้นฐาน Container หรือ ลูกค้าที่กำลังมองหา Platform ที่ใช้สำหรับพัฒนา Modernize Application

กำหนดการ:

วันที่ : 25 ตุลาคม 2022

เวลา : 9:00 – 12:00 น. (สำหรับ ออนไลน์เท่านั้น)

สถานที่ : Zoom

ลงทะเบียนเข้าร่วมงาน (ไม่มีค่าใช้จ่าย) : https://qr.page/g/2ZQE2nBiiHJ

สอบถามข้อมูลได้ที่:

G-Able Public Company Limited

event.bpe@g-able.com

หรือโทร 06-5719-3851 

from:https://www.techtalkthai.com/g-able-l-red-hat-l-f5-empower-your-business-with-powerful-application-platform/

Red Hat ออก RHEL 8.7 และ 9.1 เวอร์ชัน Beta

Red Hat ได้ประกาศออก RHEL เวอร์ชันเบต้นของ 8.1 และ 9.1 แล้วโดยมีฟีเจอร์ที่น่าสนใจดังนี้

Credit: Red Hat

ตัวเวอร์ชัน 8.7 และ 9.1 เองไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงต่างจากเวอร์ชันก่อนหน้านัก แต่ก็มีเรื่องน่าสนใจใหม่อยู่บ้างคือ

  • เวอร์ชัน 9.1 มีฟีเจอร์ด้านความมั่นคงปลอดภัยใหม่ 2 ตัวคือ แอดมินสามารถตรวจสอบ Integrity ของการบูตระบบจากทางไกลได้ และความสามารถ Multilevel Security (MLS) สำหรับองค์กรรัฐบาลหรือผู้ให้บริการซอฟต์แวร์ที่มีความต้องการด้าน Security สูงเป็นพิเศษ
  • ทำให้สามารถใช้ระบบตัวตนใน OS ผ่าน Ansible ได้เช่นการคอนฟิคการพิสูจน์ตัวตนด้วย Smart Card ใน Topology ของตน ตลอดจนการเข้าถึงระบบ RHEL ที่มีการเก็บ Identity ไว้แหล่งอื่นเช่น AWS, Azure และ Google Cloud
  • ในมุมของเครื่องมือใหม่สำหรับนักพัฒนาเช่น  Ruby 3.1, Maven 3.8 และ NodeJS 18 รวมถึง V8 Runtime 
  • เครื่องมือบริหารจัดการระบบผ่าน Web Console อย่าง Cockpit ก็มีความสามารถใหม่เช่น การจัดการไฟล์วอล, Live-patching, ดาวน์โหลดอิมเมจติดตั้ง, การมอนิเตอร์ Podman Container และอื่นๆ 

ผู้สนใจสามารถติดตามประกาศฉบับเต็มของ Red Hat ได้ที่ https://www.techzine.eu/news/devops/90233/red-hat-introduces-rhel-8-7-and-rhel-9-1-beta/ 

ที่มา : https://www.theregister.com/2022/09/29/ibm_red_hat_linux/ และ https://www.techzine.eu/news/devops/90233/red-hat-introduces-rhel-8-7-and-rhel-9-1-beta/ และ https://venturebeat.com/programming-development/red-hat-advances-enterprise-linux-with-improved-podman-containers/

from:https://www.techtalkthai.com/red-hat-debuts-rhel-8-7-and-9-1-beta-version/

[Guest Post] การใช้ Edge automation กับ 7 อุตสาหกรรมหลัก

บทความโดย เด็บ ริชาร์ดสัน, Contribution Editor, เร้ดแฮท

คำอธิบายง่าย ๆ ของ edge computing คือการประมวลผลที่เกิดขึ้น ณ ตำแหน่ง หรือใกล้กับตำแหน่งทางกายภาพของผู้ใช้ หรือแหล่งที่มาของข้อมูลที่กำลังประมวลผล เช่น อุปกรณ์หรือเซ็นเซอร์

การวางบริการด้านการประมวลผลต่าง ๆ ไว้ใกล้กับตำแหน่งเหล่านี้ ช่วยให้ผู้ใช้ได้รับประโยชน์จากบริการที่รวดเร็วและเชื่อถือได้มากขึ้น และองค์กรจะได้ประโยชน์จากความยืดหยุ่นและความคล่องตัวของโอเพ่นไฮบริดคลาวด์ด้วย

ความท้าทายของ Edge computing

เนื่องจากมีการใช้อุปกรณ์และบริการต่าง ๆ ที่ติดตั้งอยู่ที่ edge แพร่หลายมากขึ้น ทำให้การบริหารจัดการนอกพื้นที่การทำงานแบบเดิม ๆ เพิ่มขึ้นตามไปด้วย มีการนำแพลตฟอร์มต่าง ๆ ไปใช้นอกดาต้าเซ็นเตอร์ อุปกรณ์หลากหลายเพิ่มขึ้นอย่างทวีคูณและกระจายไปอยู่ในพื้นที่ต่าง ๆ ตลอดจนออน-ดีมานด์แอปพลิเคชันและบริการต่าง ๆ ก็ทำงานอยู่บนโลเคชันที่ห่างไกล หลากหลาย และแตกต่างกันอย่างมาก

สภาพแวดล้อมของการใช้งานไอทีที่เปลี่ยนแปลงไปนี้ ทำให้องค์กรต้องเผชิญกับความท้าทายใหม่ ๆ เช่น

  • ความท้าทายด้านบุคลากรที่จะต้องมั่นใจได้ว่ามีทักษะในการจัดการกับความต้องการต่าง ๆ ของโครงสร้างพื้นฐานไอทีที่ edge ที่เปลี่ยนแปลงต่อเนื่อง
  • การสร้างความสามารถในการโต้ตอบและตอบสนองต่อสิ่งต่าง ๆ ได้ ด้วยการใช้มนุษย์ให้น้อยที่สุด แต่ต้องปลอดภัยและเชื่อถือได้มากขึ้น
  • ทำให้การทำงานที่ edge สามารถปรับขนาดได้อย่างมีประสิทธิภาพในขณะที่ต้องพิจารณาจำนวนอุปกรณ์และอุปกรณ์ปลายทางที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ

อย่างไรก็ตามความท้าทายที่ยากจะขจัดได้ดังกล่าวสามารถบรรเทาลงได้ด้วยการใช้ระบบอัตโนมัติที่ edge (edge automation)

คุณประโยชน์ของ Edge automation

การทำงานต่าง ๆ ที่ edge ได้แบบอัตโนมัติจะช่วยลดความยุ่งยากที่เกิดจากการใช้โครงสร้างพื้นฐานไฮบริดคลาวด์ได้มาก องค์กรจึงสามารถใช้ประโยชน์จาก edge computing ได้มากขึ้น

Edge automation สามารถช่วยองค์กรได้ดังนี้

  • เพิ่มความสามารถในการปรับขนาดการทำงาน ด้วยการใช้การกำหนดค่าที่ช่วยให้โครงสร้างพื้นฐานไอทีทั้งหมดขององค์กรมีความเสถียรมากขึ้น และบริหารจัดการอุปกรณ์ edge ต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
  • เพิ่มความคล่องตัว โดยปรับการทำงานให้ตรงตามความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไป และใช้ทรัพยากร edge เท่าที่จำเป็น
  • ให้ความสำคัญอย่างมากต่อความปลอดภัยและระบบรักษาความปลอดภัยของการทำงานจากระยะไกล ด้วยการอัปเดต การแพตช์ และการบำรุงรักษาที่จำเป็นแบบอัตโนมัติ โดยไม่ต้องส่งช่างเทคนิคไปที่หน้างาน
  • ลดดาวน์ไทม์ จากการบริหารจัดการเครือข่ายที่ง่ายขึ้น และลดโอกาสเกิดข้อผิดพลาดจากการทำงานของมนุษย์
  • เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ด้วยการวิเคราะห์ การตรวจสอบ และการแจ้งเตือนแบบอัตโนมัติ

ตัวอย่างการใช้ edge automation ในอุตสาหกรรม 7 ประเภท

1.  การขนส่ง
ธุรกิจขนส่งสามารถทำให้กระบวนการติดตั้งอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่เคยทำแบบแมลนวลและมีความซับซ้อนกลายเป็นอัตโนมัติได้ ด้วยการอัปเดทซอฟต์แวร์และแอปพลิเคชันต่าง ๆ ให้กับรถไฟ เครื่องบิน และยานพาหนะขับเคลื่อนอื่น ๆ ซึ่งช่วยลดการทำงานด้วยพนักงานได้อย่างมาก ทั้งยังช่วยประหยัดเวลาและขจัดความผิดพลาดจากการตั้งค่าต่าง ๆ แบบแมนนวล ช่วยให้ทีมงานสามารถทำงานอื่น ๆ ที่เป็นงานในเชิงกลยุทธ์ สร้างสรรค์นวัตกรรม และมีความสำคัญมากกว่าได้

การติดตั้งและบริหารจัดการอุปกรณ์ได้แบบอัตโนมัติ มีความปลอดภัยและเชื่อถือได้มากกว่าการทำงานเหล่านี้แบบแมนนวล

2.  ค้าปลีก
การก่อตั้งร้านค้าปลีกสักหนึ่งแห่งที่มีระบบการให้บริการแบบดิจิทัลผ่านออนไลน์อาจเป็นเรื่องซับซ้อน ตั้งแต่เรื่องของการจัดการตั้งค่าอุปกรณ์เน็ตเวิร์ก การตรวจสอบการกำหนดค่าต่าง ๆ และตั้งค่าทรัพยากรด้านการประมวลผลทั่วทุกส่วนของร้าน และเมื่อร้านพร้อมเปิดให้บริการ งานด้านไอทีจะเปลี่ยนไปให้ความสำคัญกับความเสถียร ความสม่ำเสมอ และความเชื่อถือได้แทนเรื่องของความเร็วและการปรับขนาด

Edge automation ช่วยให้ร้านค้าปลีกพึ่งพาตัวเองและดูแลอุปกรณ์ใหม่ ๆ ได้อย่างรวดเร็วและสม่ำเสมอมากขึ้น พร้อม ๆ กับช่วยลดข้อผิดพลาดที่เกิดจากการตั้งค่าและการอัปเดตแบบแมนนวลลงได้อย่างมาก

3.  อุตสาหกรรม 4.0

สำหรับอุตสาหกรรม 4.0 เราเห็นกันอยู่ว่ามีการนำเทคโนโลยีต่าง ๆ เช่น อินเทอร์เน็ตออฟธิงส์ (IoT), คลาวด์คอมพิวติ้ง, การวิเคราะห์ และปัญญาประดิษฐ์/แมชชีนเลิร์นนิง (AI/ML) มาผสมผสานใช้ในกระบวนการผลิตและการดำเนินงานต่าง ๆ ของภาคอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็นโรงกลั่นน้ำมันและก๊าซไปจนถึงโรงงานอัจฉริยะ และระบบซัพพลายเชน 

ตัวอย่างหนึ่งที่แสดงให้เห็นถึงคุณประโยชน์ของ edge automation ในอุตสาหกรรม 4.0 คือในส่วนของการผลิตที่ใช้เวอร์ชวลไลเซชัน อัลกอริธึม โดย edge automation สามารถช่วยตรวจจับความบกพร่องต่าง ๆ ของส่วนประกอบที่ผลิตขึ้นบนสายงานด้านการประกอบผลิตภัณฑ์ ทั้งยังช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับการทำงานต่าง ๆ ในโรงงาน ด้วยการระบุและแจ้งเตือนเมื่อเกิดปัจจัยแวดล้อมที่เป็นอันตรายหรือการกระทำใด ๆ ที่ไม่ได้รับอนุญาต

4. โทรคมนาคม สื่อ และความบันเทิง

Edge automation เป็นประโยชน์อย่างมากต่อผู้ให้บริการ รวมถึงการเพิ่มประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้ามากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

เช่น edge automation สามารถเปลี่ยนข้อมูลที่ได้รับจากอุปกรณ์ edge ให้เป็นข้อมูลเชิงลึกที่มีประโยชน์ สามารถนำไปใช้เพิ่มประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าได้ เช่น การแก้ไขปัญหาการเชื่อมต่อได้แบบอัตโนมัติ

Edge automation ยังช่วยให้ส่งมอบบริการใหม่ ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผู้ให้บริการสามารถส่งอุปกรณ์ไปยังบ้านหรือสำนักงานของลูกค้า และลูกค้าก็สามารถเสียบปลั๊กใช้งานได้เลย โดยไม่ต้องมีช่างเทคนิคมาติดตั้งให้ การให้บริการได้แบบอัตโนมัติไม่เพียงช่วยเพิ่มประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า แต่ยังสร้างกระบวนการดูแลรักษาเน็ตเวิร์กให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งมีศักยภาพในการลดค่าใช้จ่ายแฝงอยู่ด้วย

5. บริการด้านการเงินและประกันภัย

ลูกค้าของภาคการเงินต้องการบริการและเครื่องมือด้านการเงินที่เฉพาะตัวมากขึ้น และต้องสามารถเข้าใช้งานได้จากทุกที่ รวมถึงจากอุปกรณ์โมบายของลูกค้า

เช่น edge automation สามารถช่วยให้ธนาคารที่ต้องการเปิดตัวเครื่องมือทางการเงินแบบที่ลูกค้าสามารถหาข้อเสนอที่ต้องการได้ด้วยตนเอง (self-service tool) ไม่ว่าจะเป็นแพ็คเกจประกันภัยใหม่ ข้อเสนอในการจดจำนอง หรือบัตรเครดิต สามารถขยายบริการเหล่านี้ได้ในขณะที่ยังคงมาตรฐานความปลอดภัยของอุตสาหกรรมไว้อย่างเข้มงวดโดยอัตโนมัติ และไม่กระทบต่อประสบการณ์ลูกค้า

Edge automation ช่วยให้ลูกค้าสามารถเข้าใช้งานได้อย่างรวดเร็วตามต้องการ และมีสิ่งที่ผู้ให้บริการทางการเงินต้องการ นั่นคือ ความเชื่อถือได้และการปรับขยายขนาดการให้บริการได้ตามต้องการ

6.  เมืองอัจฉริยะ

เมืองหลายแห่งใช้เทคโนโลยี edge ที่ทันสมัยหลายอย่างผสมผสานกัน เพื่อปรับปรุงการให้บริการและเพิ่มประสิทธิภาพด้านต่าง ๆ เช่น ใช้  IoT และ AI/ML เพื่อติดตามและตอบสนองต่อปัญหาต่าง ๆ ที่กระทบต่อความปลอดภัยสาธารณะ ความพึงพอใจของประชาชน และความยั่งยืนของสภาพแวดล้อม

โครงการเมืองอัจฉริยะในช่วงแรก ๆ มีข้อจำกัดด้วยเทคโนโลยีในสมัยนั้น แต่เมื่อเกิด 5G networks (และเทคโนโลยีด้านการสื่อสารใหม่ ๆ ที่กำลังตามมา) ที่ส่งผลให้ไม่เพียงเข้ามาเพิ่มความเร็วของการรับส่งข้อมูล แต่ยังทำให้สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้ด้วย เมืองอัจฉริยะจึงต้องขยายขีดความสามารถต่าง ๆ ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และจำเป็นต้องทำให้การทำงานที่ edge เป็นไปโดยอัตโนมัติ ซึ่งรวมถึงการเก็บรวบรวมข้อมูล การประมวลผล การติดตามและการแจ้งเตือน

7.  ภาคสาธารณสุข

ภาคสาธารณสุขได้เริ่มเปลี่ยนจากการให้บริการภายในโรงพยาบาลไปสู่ทางเลือกในการให้บริการทางไกลมานานแล้ว เช่น ศูนย์ผู้ป่วยนอก, คลินิก และห้องฉุกเฉินอิสระ (freestanding emergency rooms) และได้มีการนำเทคโนโลยีต่าง ๆ มาใช้อย่างแพร่หลายต่อเนื่อง เพื่อให้การสนับสนุนสภาพแวดล้อมใหม่ ๆ เหล่านี้ นอกจากนี้ข้อมูลที่ได้จากอุปกรณ์สวมใส่และอุปกรณ์ทางการแพทย์อื่น ๆ ที่หลากหลาย ยังช่วยให้การตัดสินใจด้านการรักษาพยาบาลมีประสิทธิภาพและเฉพาะเจาะจงกับผู้รับบริการแต่ละรายมากขึ้น

การใช้ระบบอัตโนมัติ, edge computing และการวิเคราะห์ข้อมูล ช่วยให้แพทย์ผู้ทำการรักษาสามารถแปลงข้อมูลใหม่จำนวนมากมายเหล่านี้ ให้กลายเป็นข้อมูลเชิงลึกที่ทรงคุณค่า เพื่อช่วยให้การรักษาผู้ป่วยมีผลลัพธ์ดีขึ้น และมอบคุณประโยชน์ด้านการเงินและการดำเนินงานไปพร้อม ๆ กัน

Red Hat Edge

แพลตฟอร์มประมวลผลอันทันสมัยที่ขับเคลื่อนโดย Red Hat Edge สามารถช่วยองค์กรขยาย การใช้โอเพ่นไฮบริดคลาวด์ไปยัง edge ได้ Red Hat Edge แสดงให้เห็นถึงแรงผลักดันร่วมกันของ เร้ดแฮทในการรวม edge computing ไว้ในโอเพ่นไฮบริดคลาวด์ ระบบนิเวศของพันธมิตรที่มีขนาดใหญ่และกำลังขยายตัวตลอดจนวิธีการทำงานแบบโอเพ่นของเร้ดแฮท ทำให้องค์กรมีความยืดหยุ่นที่จำเป็นต่อการสร้างแพลตฟอร์มที่สามารถตอบสนองต่อสภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และสร้างข้อเสนอที่โดดเด่นให้กับลูกค้า

Red Hat Edge ประกอบด้วยพอร์ตโฟลิโอของซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์สระดับองค์กรที่เชื่อถือได้ เช่น Red Hat Enterprise Linux, Red Hat Ansible Automation Platform และอื่น ๆ สามารถช่วยให้ลูกค้าใช้แนวทางรักษาความปลอดภัยแบบเลเยอร์สำหรับบริหารจัดการความเสี่ยงทั้งในองค์กร, ในคลาวด์และที่ edge ให้ดีขึ้น  

ลูกค้าสามารถใช้พอร์ตโฟลิโอแพลตฟอร์มโอเพ่นซอร์ส และระบบนิเวศพันธมิตรที่ครอบคลุมของเร้ดแฮท เพื่อทำให้เกิดโซลูชันที่ยืดหยุ่นสำหรับ

  • การมอบโครงสร้างพื้นอันทันสมัยที่เน้นความปลอดภัยและปรับขนาดได้มากขึ้น ตั้งแต่ edge ไปสู่แกนกลางจนถึงระบบคลาวด์
  • การใช้ edge computing แก้ไขปัญหาต่าง ๆ และส่งเสริมกรณีการใช้งานที่เป็นนวัตกรรม
  • หลีกเลี่ยงการถูกล็อกอินจากผู้ขายเทคโนโลยี และสร้างแพลตฟอร์มที่ยั่งยืนมากขึ้น
  • การสร้างแพลตฟอร์ม edge ที่คล่องตัว ที่สามารถปรับใช้เพื่อรองรับความต้องการของตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป
  • การปรับเปลี่ยนตามสภาวะตลาด และสร้างความโดดเด่นในการแข่งขัน

from:https://www.techtalkthai.com/applying-edge-automation-to-7-key-industries/

Dell และ Red Hat ขยายความร่วมมือเชิงกลยุทธ์เพื่อเร่งความเร็ว DevOps ใน Multi-Cloud

Dell และ RedHat สร้างความร่วมมือที่ประสบความสำเร็จมาอย่างยาวนานโดยร่วมกันพัฒนา DevOps ใน Multi-Cloud เพื่อเพิ่มความคล่องตัวภายในองค์กร และเร่งการคิดค้นสิ่งใหม่บนระบบ Cloud

Picture Credit : Dell Technologies

ในการทำงานร่วมกันระหว่าง Dell Technologies และ Red Hat จะช่วยลดความซับซ้อนเพื่อให้วิธีการที่ใช้ในการจัดการกับการเปลี่ยนแปลงของระบบไอทีระดับองค์กรได้ง่ายขึ้น ช่วยให้ทีมไอทีสามารถสร้างแอปพลิเคชันได้เพียงครั้งเดียวสำหรับการปรับใช้ภายในองค์กร

โซลูชันใหม่ประกอบไปด้วย:
  • Dell APEX Containers สำหรับ Red Hat OpenShift นำเสนอประสบการณ์ระบบคลาวด์แบบ on-premise สำหรับนักพัฒนาด้วยโซลูชัน Container-as-a-Service ที่จัดการโดย Dell – พร้อมให้ใช้งานช่วงต้นปี 2023 โดยเริ่มวางจำหน่ายในสหรัฐฯ และขยายพื้นที่ให้บริการในลำดับต่อไป
  • Dell Validated Platform สำหรับ Red Hat OpenShift ขับเคลื่อนโดย Intel ซึ่งช่วยให้คล่องตัวและนำเสนอคำแนะนำที่เป็นเอกสารสำหรับทีม DevOps เพื่อช่วยเร่งความเร็วในการปรับใช้ไอทีภายในองค์กรสำหรับการจัดการคอนเทนเนอร์ – พร้อมให้ใช้งานทั่วโลกในวันที่ 30 ก.ย. 2022
  • hybrid cloud solution Dell และ Red Hat กำลังร่วมกันออกแบบโซลูชันไฮบริดคลาวด์โดยใช้ซอฟต์แวร์ของ Dell เพื่อผสานรวม Red Hat OpenShift กับ Dell infrastructure นอกจากนี้ IBM และ Dell ยังวางแผนที่จะนำเสนอปัญญาประดิษฐ์สำหรับการดำเนินงานด้านไอที (AIOps) และเพิ่มซอฟต์แวร์ระบบอัตโนมัติอัจฉริยะเข้ามาช่วยสำหรับการตรวจสอบประสิทธิภาพของแอปพลิเคชันเพื่อช่วยให้มีความพร้อมใช้งานในระดับสูง – พร้อมให้ใช้งานและแผนวางจำหน่ายภายในปี 2023
 
ที่มา :
 
 

from:https://www.techtalkthai.com/dell-and-red-hat-expand-strategic-partnership-to-accelerate-devops-on-multi-cloud/

Red Hat Webinar: Red Hat Enterprise Linux on Azure ก้าวสู่โลก Hybrid Multicloud ด้วย Red Hat Enterprise Linux 9 [21 ก.ย. 2022 – 14.00น.]

Red Hat และ TechTalkThai ขอเรียนเชิญ CTO, CIO, IT Manager, Software Development Leader, Software Developer, Cloud Engineer และผู้ดูแลระบบ IT ทุกท่าน เข้าร่วม Webinar ในหัวข้อ Red Hat Webinar: Red Hat Enterprise Linux on Azure ก้าวสู่โลก Hybrid Multicloud ด้วย Red Hat Enterprise Linux 9 ในวันพุธที่ 21 กันยายน 2022 เวลา 14.00น. – 15.30น. เพื่อทำความรู้จักกับ Red Hat Enterprise Linux 9 และความสามารถใหม่ๆ ในการตอบโจทย์ด้าน Hybrid Multicloud, DevOps และการใช้งานบน Microsoft Azure สำหรับภาคธุรกิจองค์กร โดยผู้ที่สนใจสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมงานได้ทันทีโดยไม่มีค่าใช้จ่าย ดังนี้

รายละเอียดการบรรยาย

หัวข้อ: Red Hat Webinar: Red Hat Enterprise Linux on Azure ก้าวสู่โลก Hybrid Multicloud ด้วย Red Hat Enterprise Linux 9
ผู้บรรยาย: คุณวรภัทร์ นิกลมัย, Account Solutions Architect, Red Hat และคุณสิทธิมัย วงศ์วุฒิอนันต์, Account Solutions Architect, Red Hat
วันเวลา: วันพุธที่ 21 กันยายน 2022 เวลา 14.00น. – 15.30น.
ช่องทางการบรรยาย: Online Web Conference
ภาษา: ไทย
ลงทะเบียนเข้าร่วมงาน (ไม่มีค่าใช้จ่าย): https://us06web.zoom.us/webinar/register/WN_VcVfqCvKSCeIWJ3CIJ02Lw

 

Red Hat Enterprise Linux (RHEL) 9 ถือเป็นระบบปฏิบัติการ Linux สำหรับภาคธุรกิจองค์กรรุ่นใหม่ล่าสุดที่จะเข้ามาช่วยให้วิสัยทัศน์ Hybrid Multicloud ของธุรกิจองค์กรเป็นจริงขึ้นมาได้ โดยนอกจากจะมีการออกแบบเพื่อรองรับ Cloud-Native Application ได้ดีขึ้นแล้ว ความสามารถด้านการบริหารจัดการจากศูนย์กลาง, การเสริมความมั่นคงปลอดภัย, การจัดการแบบอัตโนมัติ และการรองรับ Edge Computing เองนั้นก็ได้ถูกเสริมเข้ามาภายใน Software ล่าสุดรุ่นนี้ด้วย

ใน Webinar ครั้งนี้ ทีมงาน Red Hat ประเทศไทยจึงได้เตรียมเนื้อหามาพูดคุยในประเด็นเหล่านี้โดยเฉพาะ เพื่อเจาะลึกถึงความสามารถใหม่ๆ ใน RHEL 9 ที่จะช่วยให้การสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ บน Cloud เป็นไปได้อย่างง่ายดาย พร้อมแนวทางในการดูแลรักษาบริหารจัดการระบบปฏิบัติการทั้งหมดให้มีความมั่นคงปลอดภัยและเป็นอัตโนมัติ รวมถึงความสามารถใหม่ๆ ในการทำงานร่วมกับ Microsoft Azure ซึ่งเป็นบริการ Cloud ชั้นนำที่ธุรกิจองค์กรเลือกใช้งาน และตัวอย่างการรองรับการใช้งาน SAP บน Microsoft Azure ด้วย RHEL

พบกับเนื้อหาดังต่อไปนี้ภายใน Webinar

  • มีอะไรใหม่ใน Red Hat Enterprise Linux 9
  • ความสามารถในการบริหารจัดการและการเสริมความมั่นคงปลอดภัยให้กับ Linux
  • การใช้งาน RHEL 9 ร่วมกับ Microsoft Azure และการผสานการทำงานร่วมกับบริการต่างๆ บน Cloud
  • แนวทางการออกแบบระบบ Hybrid Multicloud ด้วย Red Hat และ Microsoft Azure
  • การใช้งาน SAP บน Microsoft Azure ด้วย RHEL
  • วิธีการใช้งาน RHEL 9 โดยไม่มีค่าใช้จ่ายสำหรับ Software Developer

เข้าร่วม Webinar ครั้งนี้ และพูดคุยกับทีมงาน Red Hat ประเทศไทยเพื่อถามตอบข้อสงสัยต่างๆ ได้โดยตรง

 

ลงทะเบียนเข้าร่วม Webinar ได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย

ผู้ที่สนใจสามารถกรอกแบบฟอร์มเพื่อเข้าร่วม Webinar ในหัวข้อนี้ได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายทันทีที่ https://us06web.zoom.us/webinar/register/WN_VcVfqCvKSCeIWJ3CIJ02Lw โดยทีมงานขอความกรุณากรอกข้อมูลชื่อบริษัทด้วยชื่อเต็มของหน่วยงานหรือองค์กร เพื่อไม่ให้เกิดความสับสนในการจัดการกับข้อมูลการลงทะเบียน

from:https://www.techtalkthai.com/red-hat-webinar-red-hat-enterprise-linux-on-azure/

[Guest Post] Ingram Micro ผนึกพันธมิตร รุกไฮบริด คลาวด์

Ingram Micro ผนึกพันธมิตร HPE Red Hat Cohesity และ NVidia รุกไฮบริด คลาวด์

เมื่อเร็วๆ นี้ บริษัท อินแกรม ไมโคร (ประเทศไทย) จำกัด ผนึกบริษัท ฮิวเลตต์ แพคการ์ด เอ็นเตอร์ไพรส์ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ เอชพีอี จัดงาน Get Ready for the Edge to Cloud As-a-Service รวมสุดยอดเทคโนโลยีที่หลากหลายและโซลูชันที่ตอบโจทย์การทำงานในยุคไฮบริด คลาวด์ จากผู้นำด้านเทคโนโลยีชั้นนำระดับโลก ไม่ว่าจะเป็น เอชพีอี (HPE)  เรดแฮต (Red Hat) เอ็นวิเดีย (Nvidia) และโคฮีซิตี้ (Cohesity) โดยมีประเด็นที่น่าสนใจต่าง ๆ สำหรับองค์กรที่กำลังเปลี่ยนผ่านระบบงานแบบเดิมเข้าสู่ระบบคลาวด์ สามารถปรับขยายระบบได้ รวมถึงการสร้างระบบนิเวศ (Ecosystem) ที่รองรับระบบข้อมูล บิ๊กดาต้า นำข้อมูลมาใช้ในการวิเคราะห์เพื่อวางแผนในอนาคต และยังช่วยองค์กรในการบริหารตันทุนแบบจ่ายตามจริง  (Pay per Use)

ในภาพ – คุณพรเทพ วัชรอำนวย กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินแกรม ไมโคร (ประเทศไทย) จำกัด (ที่ 3 จากซ้าย)  คุณพลาศิลป์ วิชิวานิเวศน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฮิวเลตต์ แพคการ์ด เอ็นเตอร์ไพรส์ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ เอชพีอี ประเทศไทย (ที่ 4 จากซ้าย) คุณทรงพล แสงมาศ ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท โคฮีซิตี้ (ประเทศไทย) (คนแรกจากซ้าย) คุณปานแก้ว สีหาวงษ์  ผู้จัดการธุรกิจระดับองค์กร ประจำประเทศไทย บริษัท เอ็นวิเดีย (ประเทศไทย) จำกัด (ที่สองจากซ้าย) และคุณเกรียงศักดิ์ จีระธัญญาสกุล  Solution Architect บริษัท เรดแฮต (ประเทศไทย) จำกัด (ที่ 5 จากซ้าย)

 

from:https://www.techtalkthai.com/guest-post-ingram-micro-hpe-red-hat-cohesity-nvidia/