บทความนี้เป็นบทสัมภาษณ์พิเศษของ คุณชัยวัฒน์ รัตนประทีปพร CTO บริษัท Ascend Group เกี่ยวกับการปรับโครงสร้างของระบบคอมพิวเตอร์ทั้งหมดในเครือ ไม่ว่าจะเป็นบริการ E-payment, E-commerce, Digital Media และ True Data Center เพื่อไปใช้บริการระบบ Cloud Computing Service ของ Amazon หรือ Amazon AWS อย่างเต็มรูปแบบแทน ซึ่งเนื้อหาจะประกอบด้วย
ภาพรวมขององค์กร
ปัญหาและความท้าทาย
การปรับระบบไปใช้ Amazon AWS
ทำไมถึงเลือกใช้ Amazon AWS
ประโยชน์ที่ได้รับ
ปัญหาเกี่ยวกับการใช้ระบบคลาวด์
Credit: Pirak Anurakyawachon/Spaceshift Studio & WVK Design Solution
ภาพรวมขององค์กร
Ascend Group เป็นบริษัทที่ Spin-off ออกมาจาก True Corporation และปัจจุบันอยู่ภายใต้ C.P. Group โดยมุ่งเน้นการทำธุรกิจออนไลน์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีเป้าหมายคือ ให้บริการโซลูชันทางด้าน Digital Infrastructure แก่ผู้ใช้บริการในเมืองไทยและสังคม AEC
Ascend Group แบ่งธุรกิจออกเป็น 4 Business Units คือ
และในปีนี้ Ascend Group ก็ได้เพิ่มอีกหนึ่งโซลูชันสำหรับการทำระบบ Logistic ให้แก่ E-commerce นั่นคือ Aden
ปัจจุบันนี้ Ascend Group มีพนักงานประมาณ 1,200 คน และเป็นวิศวกรฝ่าย IT ประมาณ 400 คน
ปัญหาและความท้าทาย
ด้วยความต้องการที่จะให้บริการระบบ Digital Infrastructure ที่ดีที่สุดแก่ลูกค้า Ascend Group จึงได้พัฒนาฟีเจอร์ใหม่ๆเสริมลงไปในระบบต่างๆเสมอมา ส่งผลให้มีผู้นิยมใช้บริการระบบของ Ascend Group เพิ่มมากขึ้น ความต้องการใหม่ๆก็เริ่มมีปรากฏให้เห็น เหล่านี้กลายเป็นสิ่งท้าทายต่อการให้บริการธุรกิจออนไลน์ทั้งสิ้น
1. ปัญหาด้านการขยายระบบ
หลังจากที่เปิดบริการ E-commerce (iTruemart และ WeLoveShopping) พบว่ามีผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นเกือบสิบเท่าในแต่ละปี ส่งผลให้ระบบ Infrastructure ที่ใช้งานอยู่ไม่สามารถรับภาระได้ไหว การขยายระบบจำเป็นต้องลงทุนเป็นจำนวนเงินมหาศาล ไม่ว่าจะเป็นค่าอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ ค่าติดตั้ง และค่าดูแลรักษา นอกจากนี้ยังไม่สามารถพยากรณ์ได้ว่าจำเป็นต้องขยายระบบไปขนาดไหนจึงจะเพียงพอต่อการใช้งานในอนาคต
2. ปัญหาในการตอบสนองความต้องการของนักพัฒนาซอฟต์แวร์
เพื่อให้บริการต่างๆมีประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้น นักพัฒนาซอฟต์แวร์จึงต้องนำเทคโนโลยีใหม่ๆเข้ามาทดลองใช้อยู่ตลอดเวลา ตลอดจนมีการพัฒนาแอพพลิเคชันเพื่อตอบสนองความต้องการใหม่ๆของลูกค้า การขอ Resource ใหม่ เช่น เซิฟเวอร์สำหรับทดสอบ อุปกรณ์ด้านเน็ตเวิร์ค จำเป็นต้องยื่นเรื่องเพื่อขอใช้งาน ซึ่งบางครั้งกินเวลาถึง 2-3 เดือนเนื่องจากจำเป็นต้องจัดซื้อเข้ามาใหม่ ทำให้กระบวนการพัฒนาแอพพลิเคชันเกิดการสะดุด
3. ปัญหาเรื่องมาตรฐานและข้อกำหนดต่างๆ
เพื่อให้ลูกค้าได้รับบริการตามมาตรฐานสากล ข้อบังคับและข้อกำหนดต่างๆจึงได้ถูกนำมาใช้เพื่อเป็นแนวทางในการวางระบบและพัฒนาแอพพลิเคชัน เช่น ต้องมีอุปกรณ์สำรองที่พร้อมใช้งานเมื่ออุปกรณ์หลักมีปัญหา หรือการทำ DR Site เป็นต้น เหล่านี้ส่งผลให้ต้นทุนในการให้บริการเพิ่มสูงขึ้น และเพิ่มค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษา
Credit: Pirak Anurakyawachon/Spaceshift Studio & WVK Design Solution
การปรับระบบ Infrastructure ไปใช้ Amazon AWS
เพื่อแก้ไขปัญหาและตอบโจทย์ความท้าทายต่างๆ Ascend Group ได้ศึกษาและวิเคราะห์การใช้ระบบคลาวด์ ซึ่งพบว่าช่วยเพิ่มความคล่องตัวในการพัฒนาแอพพลิคเชัน และการบำรุงรักษาระบบ รวมไปถึงช่วยลดค่าใช้จ่ายได้เป็นอย่างดี จึงได้ทำการปรับระบบ Infrastructure ทั้งหมดไปใช้ Amazon AWS แทน โดยเร่ิมต้นจาก iTrueMart เป็นอันดับแรก ซึ่ง Ascend Group ได้วางแผนการปรับระบบออกเป็น 3 เฟส
เฟสที่ 1 ย้ายระบบจาก Data Center ไปยังระบบ Amazon AWS
Ascend Group เริ่มต้นด้วยการย้ายระบบ Infrastructure ทั้งหมดของ iTrueMart ไปอยู่บนระบบคลาวด์ของ Amazon แทน โดยใช้หลายบริการ ไม่ว่าจะเป็น Amazon EC2 หรือ Amazon S3 เป็นต้น ซึ่งยังคงสถาปัตยกรรมรูปแบบเดิม แต่มีการปรับแต่งระบบให้สามารถทำงานบนคลาวด์ได้อย่างถูกต้องสมบูรณ์
เฟสที่ 2 ปรับแต่งระบบบน Amazon AWS ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
หลังจากย้ายระบบทั้งหมดไปไว้บนคลาวด์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว Acsend Group ได้นำบริการของ Amazon หลายรายการเข้ามาปรับใช้เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพและพร้อมตอบโจทย์การทำงานของนักพัฒนาแอพพลิเคชัน เช่น
Firewall และ Load Balance เพื่อเพิ่มความปลอดภัยและความเสถียรของการใช้งาน
Amazon S3 เพื่อเก็บข้อมูล Static Content มากขึ้น
Amazon CloudFront CDN สำหรับทำ Caching และเพิ่มความเร็วในการส่งข้อมูลไปยังลูกค้าผู้ใช้บริการ
Amazon Direct Connect สำหรับเชื่อมต่อ Data Center เข้ากับระบบบน Amazon AWS ได้อย่างไร้รอยต่อ
เฟสที่ 3 นำเทคโนโลยีใหม่ๆเข้ามาใช้เพื่อขยายธุรกิจ
ณ ปัจจุบันนี้ หลังจากที่ระบบทุกอย่างเสถียร ใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ Ascend Group ได้ทำการศึกษาและนำเทคโนโลยีใหม่ๆเข้ามาทดลองใช้ตลอดเวลา เพื่อเปิดโอกาสให้พัฒนาแอพพลิเคชันและบริการใหม่ๆ ออกสู่ตลาด เป็นการขยายธุรกิจให้เติบโตยิ่งขึ้น เช่น การนำ Amazon RDS มาใช้แทน MySQL แบบ Hosting ซึ่งไม่ตอบโจทย์การทำงานของนักพัฒนาแอพพลิเคชัน การนำ Amazon DynamoDB มาใช้เป็น RDBMS รวมถึงการใช้ Amazon EMR ในการทำ Big Data โดยไม่ต้องสร้าง Hadoop Cluster เอง ทำให้สามารถเริ่มกระบวนการพัฒนาได้เร็วและลดภาระการบำรุงรักษา เป็นต้น
ในส่วนของการปรับระบบและกำหนดนโยบายให้สอดคล้องกับมาตรฐาน PCI-DSS สำหรับการันตีความเชื่อมั่นในการให้บริการบัตรเครดิตนั้น Ascend Group ได้ทำการศึกษาข้อกำหนดดังกล่าวและเห็นว่าการทำบนระบบเดิม (On-premise) นั้น ทำได้ยากและเสียค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง จึงวางแผนการทำบน Amazon AWS แทน
Credit: Pirak Anurakyawachon/Spaceshift Studio & WVK Design Solution
ประโยชน์ที่ได้รับ
การย้ายระบบ Infratructure ของ iTrueMart จาก Data Center ไปยังระบบ Amazon AWS ช่วยให้ทีมงานฝ่าย IT ของ Ascend Group ได้รับประโยชน์มากมาย ได้แก่
สามารถขยายระบบเพิ่มได้ทันทีที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นเซิฟเวอร์เพียงหนึ่งเครื่อง หรือ 10 เครื่อง
ช่วยลดระยะเวลาและขั้นตอนในการจัดซื้อและส่งของเมื่อต้องการติดตั้งอุปกรณ์ใหม่
นักพัฒนาแอพพลิเคชันสามารถเริ่มทำงานใหม่ได้ทันที เพียงแค่ทำการจอง Resource ของ Amazon AWS เพิ่มเติม
เพิ่มความยืดหยุ่นในการให้บริการ เช่น สามารถเพิ่มจำนวน Resource ในช่วงที่คาดว่าจะมีผู้ใช้บริการเยอะ และลด Resource ลงเมื่อกลับสู่ภาวะปกติได้ เป็นต้น
ลดต้นทุนและค่าใช้จ่ายในการทำระบบสำรองหรือ DR Site รวมไปถึงช่วยลดค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษา
ลดภาระงานของผู้ดูแลระบบ เมื่อเทียบกับระบบของ TrueMoney ที่เล็กว่าเกือบ 2 เท่าแต่ไม่ได้ใช้ระบบคลาวด์ TrueMoney ใช้ผู้ดูแลระบบมากกว่าถึง 2 เท่าตัว
Amazon AWS มีทีมสำหรับคอยติดตามการใช้บริการอยู่ตลอดเวลา ซึ่งจะคอยแจ้งเตือนเมื่อพบเหตุการณ์ผิดปกติหรือระบบถูกโจมตี
ยกตัวอย่างการใช้งานที่เห็นผลมากที่สุดคือ การตั้งระบบ iTrueMart ในประเทศฟิลิปปินส์ ทีมงาน Ascend Group ใช้เวลาเพียง 2 เดือนในการติดตั้งระบบพร้อมให้บริการ โดยไม่จำเป็นต้องให้พนักงานเดินทางไปยังประเทศฟิลิปปินส์เลย รวมทั้งไม่จำเป็นต้องสั่งซื้ออุปกรณ์แล้วขนส่งข้ามประเทศไปอีกด้วย ช่วยประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในการลงทุนได้อย่างมหาศาล
ทำไมถึงเลือกใช้ Amazon AWS
ความต้องการพื้นฐานของของ Ascend Group คือ ทางบริษัทมีระบบ Infrastructure อยู่แล้ว เพียงแค่ต้องการเปลี่ยนไปใช้บนระบบคลาวด์ในรูปของ Infrastructure-as-a-Service (IaaS) จึงต้องการ Cloud Service ที่ใช้งานได้ง่าย และไม่จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนโครงสร้างเยอะ รวมไปถึงต้องการพัฒนาแอพพลิเคชันโดยใช้โมเดลแบบ Agile ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบคุณสมบัติของ Cloud Service ในท้องตลาดพบว่า Amazon AWS ตอบโจทย์ได้ตรงตามความต้องการมากที่สุด
กระแสตอบรับการใช้ Amazon AWS ของพนักงานฝ่าย IT ก็เป็นไปได้ด้วยดี เนื่องจาก Learning Curve ไม่สูงมาก ทำให้พนักงานสามารถปรับตัวเพื่อให้เข้ากับการใช้งานได้ง่ายและรวดเร็ว และจนถึงทุกวันนี้ การทำงานของระบบต่างๆบน Amazon AWS ก็ดำเนินไปอย่างราบรื่น ยังไม่พบปัญหาที่ส่งผลกระทบร้ายแรงต่อการดำเนินธุรกิจแต่อย่างใด
Credit: Pirak Anurakyawachon/Spaceshift Studio & WVK Design Solution
ปัญหาเกี่ยวกับการใช้ระบบคลาวด์
ถึงแม้ว่าการเปลี่ยนไปใช้ระบบคลาวด์จะช่วยลดภาระด้านอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์และค่าบำรุงรักษา แต่ด้วยความที่สามารถขยายระบบได้ง่าย ส่งผลให้นักพัฒนาแอพพลิเคชันอาจเพิ่ม Resource กันเป็นว่าเล่น ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายอาจบานปลายจนควบคุมไม่อยู่ จึงจำเป็นต้องมีการติดตามการใช้งานระบบ Amazon AWS อย่างใกล้ชิดและมีการกำหนดนโยบายเพื่อควบคุมการใช้ Resource ให้เหมาะสม ซึ่งสิ่งเหล่านี้ทาง Amazon AWS มีบริการให้สามารถใช้งานได้ทันที
นอกจากนี้ ทางธนาคารแห่งประเทศไทยต้องการให้ข้อมูลที่เก็บอยู่บนระบบคลาวด์มีความมั่นคงปลอดภัย และทางธนาคารฯ ต้องสามารถตรวจสอบ (Audit) ได้ จึงต้องมีการออกข้อกำหนดและข้อบังคับในการใช้งานระบบคลาวด์ให้รัดกุม แต่เนื่องจากยังไม่เคยมีบริษัทใดในประเทศไทยที่ให้บริการระบบ E-payment บนคลาวด์มาก่อน ทาง Ascend Group จึงได้ทำงานร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทยเพื่อพัฒนาข้อกำหนดและข้อบังคับให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น พร้อมใช้เป็นมาตรฐานสำหรับบริษัทอื่นๆในอนาคต
แล้วการนำระบบคลาวด์เข้ามาใช้จะทำให้ผู้ดูแลระบบ IT ตกงานหรือไม่ ?
Ascend Group ระบุว่า บริษัทไม่ได้นำระบบคลาวด์มาใช้เพื่อแทนที่ทรัพยากรมนุษย์ในองค์กร กลับมองว่าระบบคลาวด์จะช่วยพัฒนาทีมงานในองค์กรของตนให้มีทักษะสูงยิ่งขึ้น กล่าวคือ ผู้ดูแลระบบจะต้องพัฒนาตัวเองให้พร้อมสนับสนุนการใช้งานระบบคลาวด์ และนักพัฒนาแอพพลิเคชันก็ต้องฝึกใช้งานระบบคลาวด์เพื่อให้สามารถแสดงประสิทธิภาพการทำงานออกมาได้อย่างเต็มที่
Credit: Pirak Anurakyawachon/Spaceshift Studio & WVK Design Solution
สรุปผลลัพธ์การใช้งานระบบ Amazon AWS
ปัจจุบันนี้ ระบบของ iTrueMart 100% และระบบอื่นๆบางส่วนทำงานอยู่บน Amazon AWS เป็นที่เรียบร้อย ซึ่งผลตอบรับทั้งทางฝั่งลูกค้า และพนักงานในองค์กรเป็นไปในทางที่ดี Ascend Group จึงพร้อมวางแผนที่จะย้ายระบบอื่นๆไปทำงานบน Amazon AWS เร็วๆนี้ นอกจากนี้ Ascend Group ยังได้ออกนโยบาย “Cloud-First” สำหรับโปรเจ็คท์ใหม่ๆ นั่นคือ การพัฒนาแอพพลิเคชันหรือบริการต่างๆในอนาคต จะต้องเลือกพัฒนาบนระบบคลาวด์ก่อนเสมอ
“Cloud Service ถือว่าเป็นระบบ Next-generation ของวงการ IT ด้วยศักยภาพในกาสนับสนุนการใช้งานเชิงธุรกิจ และลดภาระค่าใช้จ่าย ทำให้แทบทุกองค์กรเตรียมวางแผนใช้งานระบบคลาวด์ในอนาคต Ascend Group จึงเลือกเป็นบริษัทแรกๆ ที่ใช้งานระบบคลาวด์อย่างเต็มรูปแบบ เพราะเราต้องการพัฒนาคนให้มีทักษะเพิ่มมากขึ้น Cloud Engineer และ Cloud Architecture จะกลายเป็นกุญแจสำคัญในการพัฒนาองค์กรและธุรกิจต่อไปในอนาคต” — คุณชัยวัฒน์ รัตนประทีปพร CTO บริษัท Ascend Group
Credit: Pirak Anurakyawachon/Spaceshift Studio & WVK Design Solution
Credit
ทีมงาน TechTalkThai ขอขอบพระคุณ คุณชัยวัฒน์ ที่เสียสละเวลาให้สัมภาษณ์ประสบการณ์การใช้ Amazon AWS และทีมงานจาก Amazon AWS ที่ช่วยติดประสานงานให้ครับ นอกจากนี้ขอขอบพระคุณ WVK Design Solution ผู้ร่วมออกแบบสถานที่ทำงานของ Ascend Group ให้มีความทันสมัย ดูผ่อนคลาย และมีสีสันความสนุกสนาน ซึ่งเป็นเบื้องหลังของแรงบันดาลใจให้ทีมงาน Ascend ทุกท่านสามารถแสดงศักยภาพในการทำงานออกมาได้อย่างเต็มที่ และคุณภิรักษ์ อนุรักษ์เยาวชน จาก Spaceshift Studio ที่เอื้อเฟื้อภาพถ่ายประกอบบทความอันแสนสวยงามนี้
from:https://www.techtalkthai.com/case-study-ascend-group-using-amazon-aws/