ISS Consulting (Thailand) Limited ได้จับมือกับ SAP จัดงานสัมมนาใหญ่ประจำปี ISS & SAP User Conference 2018 ในวันศุกร์ที่ 22 มิถุนายน 2018 เวลา 8.00 – 16.30 เพื่ออัปเดตเทคโนโลยีใหม่ๆ จาก SAP กับการนำไปประยุกต์ใช้งานในธุรกิจอย่างหลากหลาย ครอบคลุมเนื้อหาดังต่อไปนี้
SAP S/4HANA เทคโนโลยีพื้นฐานหัวใจหลักของ SAP สำหรับระบบ ERP ในทุกองค์กร
SAP Business Planning and Consolidation (BPC) วางแผนการเงินและจัดการงบประมาณต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำยิ่งขึ้นด้วยเทคโนโลยีจาก SAP
SAP Extended Warehouse Management (SAP EWM) บริหารจัดการคลังสินค้าขนาดใหญ่ได้อย่างยืดหยุ่นด้วย SAP
SAP Analytics Cloud ระบบ Business Intelligence ที่ชาญฉลาดสำหรับวิเคราะห์ข้อมูลธุรกิจด้วย Machine Learning
SAP IBP และ SAP ME&MII บริหารจัดการธุรกิจการผลิต ด้วยแนวคิด Factory Automation
Customer Engagement and Commerce รู้จักกับเทคโนโลยี CRM สำหรับทั้งธุรกิจ B2B และ B2C จาก SAP
SAP SuccessFactors ระบบบริหารจัดการทรัพยากรบุคคลแบบครบวงจรด้วย Cloud จาก SAP
SAP Ariba ปรับปรุงกระบวนการจัดซื้อให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ด้วยบริการ Cloud จาก SAP
SAP Business ByDesign รู้จักบริการ Cloud ERP สำหรับธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลางจาก SAP
โดยในงานนี้ทีมงาน ISS Consulting ได้ขนทัพผู้เชี่ยวชาญด้านระบบต่างๆ ของ SAP มาพบปะพูดคุยกับเหล่าผู้นำธุรกิจต่างๆ กว่า 300 รายซึ่งเป็นลูกค้าของ ISS Consulting เพื่อให้เหล่าธุรกิจต่างๆ ที่กำลังมองหาระบบใหม่ๆ ไปเสริมศักยภาพธุรกิจของตน ได้มาปรึกษาและพูดคุยรายละเอียดเชิงลึกกันโดยเฉพาะ พร้อมร่วมทำ Workshop ของ SAP S/4HANA สัมผัสประสบการณ์เทคโนโลยีล่าสุดจาก SAP ได้ทันทีติดต่อสอบถามทีมงาน ISS Consulting เพื่อเข้าร่วมงานผู้ที่สนใจเข้าร่วมงานสัมมนาครั้งนี้ สามารถติดต่อทีมงาน ISS Consulting โดยตรงได้ที่ฝ่ายการตลาดทาง porntip.meerakul@issconsulting.net หรือโทร 02-237-0553 ต่อ 102 โดยทีมงาน ISS Consulting ขอสงวนสิทธิ์ในการพิจารณาสิทธิ์ในการเข้าร่วมงานเป็นรายบุคคล และจะทำการแจ้งรายละเอียดเรื่องสถานที่จัดงานสัมมนาให้ผู้ที่มีสิทธิ์เข้าร่วมงานทราบ
ทางทีมงาน TechTalkThai ได้รับเกียรติมีโอกาสสัมภาษณ์คุณวิศิษฐ์ วิระยากรณ์ Managing Director แห่ง ISS Consulting (Thailand) Ltd. (ISS) ซึ่งเป็น SAP Partner ระดับ Platinum Partner และเป็น United VARs Partner เพียงรายเดียวในประเทศไทย โดยปัจจุบัน ISS มีพนักงานมากที่เป็นที่ปรึกษาของ SAP Solution ถึง 230 คน พร้อมให้บริการทุกโซลูชั่นของ SAP ได้อย่างครบครัน ในการพูดคุยครั้งนี้เราได้พูดคุยในหลายแง่มุมมาก และเชื่อว่าน่าจะมีประโยชน์กับผู้ที่มีความสนใจใน SAP Solution รวมถึงผู้ประกอบการสาย IT ในไทย และธุรกิจต่างๆ ที่กำลังเริ่มต้นทำ Digital Transformation ไม่น้อยทีเดียว เราจึงขอนำเนื้อหาที่พูดคุยมาสรุปให้ได้อ่านกันดังนี้ครับ
ISS Consulting (Thailand) Ltd. กับธุรกิจที่ดำเนินยาวมาเกือบ 20 ปี
ช่วงบ่ายแก่ๆ ของวันพุธกลางเดือนธันวาคมที่หลายๆ บริษัททางด้าน IT เริ่มว่างกันแล้ว คุณวิศิษฐ์ที่เพิ่งเสร็จจากประชุมงานก็เริ่มมีเวลามาให้สัมภาษณ์กับทางทีมงาน TechTalkThai ด้วยท่าทีที่เป็นกันเอง แต่ก็พร้อมที่จะตอบได้ทุกคำถามที่พูดคุยกันอย่างเปิดเผย ทำให้การสัมภาษณ์เริ่มต้นได้อย่างไม่ยากเย็นนัก
คุณวิศิษฐ์เล่าย้อนไปถึงตั้งแต่สมัยที่ได้เริ่มต้นเข้ามาทำงานในบริษัท ISS Consulting (Thailand) Ltd. ตั้งแต่เมื่อ 18 ปีก่อน ซึ่งเริ่มต้นจากการเป็นผู้ให้บริการในฐานะ SAP Consultant ด้วยพนักงานที่มีไม่ถึง 5 คน นับเป็นบริษัทแรกๆ ในไทยที่เข้ามาจับ SAP อย่างเต็มตัวด้วยการเล็งเห็นโอกาสในการเติบโตในตลาดนี้ไปพร้อมๆ กับธุรกิจไทยที่กำลังอยู่ในช่วงฟื้นตัวจากวิกฤติเศรษฐกิจตั้งแต่ครั้ง Subprime โดยมุ่งเน้นไปที่การเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านเทคโนโลยี Enterprise Resource Planning (ERP) ของ SAP ที่ปัจจุบันได้ถูกเปลี่ยนชื่อมาเป็น SAP S/4HANA หรือ SAP A1 เดิมนั่นเอง
ทีม SAP S/4 HANA แห่ง ISS Consulting
เมื่อทีมงานในประเทศไทยของ ISS Consulting เริ่มมีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีของ SAP กันแล้ว ทางทีมงานก็ได้เริ่มต่อยอดการให้บริการ Business Consulting เพิ่มแก่ลูกค้าด้วยการเข้าไปวาง Business Process ให้กับเหล่าธุรกิจต่างๆ ที่กำลังเริ่มต้นนำระบบ ERP เข้ามาใช้งานในธุรกิจของตน พัฒนาขึ้นมาเป็น Best Practice เบื้้องต้นที่ทีมงาน ISS Consulting สามารถนำไปประยุกต์ใช้ให้กับลูกค้าในธุรกิจอุตสาหกรรมต่างๆ เพื่อให้ขึ้นระบบ SAP ได้อย่างรวดเร็วในเวลาถัดมา
จนกระทั่งปี 2005 ที่ SAP เริ่มมองหา Partner ในประเทศไทยสำหรับจัดจำหน่าย Software ของตนเองด้วย ทาง ISS Consulting ที่ในเวลานั้นเติบโตจนมีพนักงานถึง 40 คนแล้วก็ได้กลายมาเป็น Partner รายแรกๆ ของ SAP ในประเทศไทย และได้เติบโตมาพร้อมๆ กับ SAP พร้อมทั้งค่อยๆ เริ่มต้นเรียนรู้และนำเสนอเทคโนโลยีใหม่ๆ จาก SAP ที่นอกจาก ERP โดยเริ่มต้นสร้างทีม Business Intelligence (BI) และทีม SAP 2nd Level Help Desk Support ในลำดับต่อมา ในปี 2015 บริษัทได้เริ่มทำ SAP Business One (B1) ซึ่งเป็นระบบ ERP Solution สำหรับธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็กโดยปัจจุบันมีลูกค้า SAP B1 ประมาณ 60 บริษัทฯ ล่าสุดได้เริ่มต้นนำบริการ Cloud Solution จาก SAP เข้ามาเป็นอีกทางเลือกหนึ่งแก่ธุรกิจไทยในปี 2017
ทีม SAP B1 แห่ง ISS Consulting
เติบโตไปพร้อมกับลูกค้า มีพนักงานที่ปรึกษา 230 คน มีประสบการณ์ในระบบ SAP สำหรับธุรกิจไทยกว่า 200 แห่ง
“ตอนนี้เราเชื่อว่าเราเป็นบริษัททำ SAP ที่มีพนักงานประจำมากที่สุดในไทย ให้ลูกค้ามั่นใจได้ว่าเราจะทำงานให้พวกเขาได้แน่นอน”
จวบจนถึงปัจจุบันนี้ ISS Consulting ได้เติบโตอย่างรวดเร็วด้วยการขยายทีมงานจนมีจำนวนที่ปรึกษาถึง 250 คน และพร้อมให้บริการทุกโซลูชันของ SAP ได้อย่างครอบคลุมทั้งระบบที่ติดตั้งภายในองค์กรแบบ On-premises ไปจนถึงบริการ Cloud ของ SAP รองรับได้ทั้งธุรกิจเล็กจนถึงธุรกิจขนาดใหญ่ อีกทั้งยังมีทีมงานเพื่อคอยสนับสนุน, แก้ไขปัญหา และพัฒนาโมดูลเสริมเพิ่มเติมให้กับลูกค้าเป็นงานๆ ไปด้วย ไม่ได้จับเฉพาะโครงการขึ้นระบบขนาดใหญ่เท่านั้น ทำให้ ISS Consulting กลายเป็นธุรกิจ IT ที่มีพนักงานทางด้าน SAP จำนวนมากที่สุดในประเทศไทยรายหนึ่งไปแล้ว ด้วยประสบการณ์การติดตั้งระบบ SAP แบบครบวงจรรวมมากกว่า 160 แห่ง และดูแลระบบให้กับลูกค้ารายต่างๆ มากกว่า 80 แห่ง
Managing Director พร้อม Sales Director SAP A1 และ SAP B1
การเติบโตนี้เกิดขึ้นจากแนวคิดพื้นฐานของคุณวิศิษฐ์ที่ได้กลายมาเป็นวัฒนธรรมองค์กรของ ISS Consulting ไปแล้วว่าต้องการจะเติบโตไปพร้อมๆ กับธุรกิจของลูกค้า เพราะการที่ธุรกิจใดจะเริ่มนำ SAP ไปใช้งานนั้นก็เป็นไปเพื่อให้ธุรกิจสามารถเติบโตได้อย่างมั่นคงทั้งนั้น และยิ่ง ISS Consulting สามารถช่วยปรับแต่งระบบของ SAP ให้เข้ากับกระบวนการการทำงานของลูกค้าได้ดีขึ้นเท่าไหร่ ก็จะแปลว่าธุรกิจของลูกค้านั้นก็ย่อมเติบโตอย่างรวดเร็วได้ตามไปด้วย และนี่ก็เองก็เป็นที่มาของการส่งมอบระบบ SAP ที่มีคุณภาพสูงได้อย่างตรงเวลา และการมีพนักงานจำนวนมากเพื่อคอยสนับสนุนลูกค้าให้ต่อยอดระบบ SAP ได้อย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ ISS Consulting ยังได้รับเลือกให้เป็น Partner ของ SAP ในระดับ United VARs ซึ่งประเทศเดียวจะมี Partner เพียงหนึ่งรายเท่านั้นในกลุ่มนี้ เพื่อให้บรรดาบริษัทในกลุ่ม United VARs นั้นทำการจับมือกันแบ่งปันความรู้และทำงานร่วมกันเพื่อสนับสนุนลูกค้าองค์กรที่มีธุรกิจหลายสาขากระจายอยู่หลายประเทศทั่วโลก แข่งขันกับเหล่า Big 5 ในวงการ SAP ได้แก่ Deloitte, EY, KPMG, PwC และ IBM ซึ่งก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ทำให้ ISS Consulting มีลูกค้าเป็นกลุ่มธุรกิจข้ามชาติเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
ความเข้มแข็งของ ISS Consulting นั้นเกิดจากการสั่งสมประสบการณ์มาเป็นระยะเวลานาน การเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง และการทำงานอย่างใกล้ชิดร่วมกับ SAP เพื่อเปิดรับเทคโนโลยีใหม่ๆ ในการนำมาตอบโจทย์ของลูกค้าให้ได้ในทุกแง่มุม หากจะสรุปจุดแข็งหลักๆ ของ ISS Consulting ก็สามารถสรุปได้ดังนี้
ความสามารถในการทำ Business Consulting ด้วยประสบการณ์ในการทำงานร่วมกับภาคธุรกิจในประเทศไทยมาอย่างยาวนาน ทำให้การแนะนำกระบวนการหรือ Workflow ต่างๆ ที่เหมาะสมและตอบโจทย์ต่อกฎหมายในประเทศไทยสามารถทำได้อย่างครบถ้วน
ความสามารถในการทำ SAP Consulting ที่เชี่ยวชาญให้หลากหลายโซลูชันของ SAP ทำให้สามารถเลือกนำเทคโนโลยีที่เหมาะสมที่สุดสำหรับลูกค้าไปใช้ตอบโจทย์ในแต่ละงานได้เป็นอย่างดี ทำให้ลูกค้ามีทางเลือกมากขึ้น และเปรียบเทียบข้อดีข้อเสียของแต่ละโซลูชันจาก SAP ได้โดยไม่มีประเด็นข้อจำกัดเรื่องทักษะหรือประสบการณ์ของทีมงานในการใช้งานเทคโนโลยีนั้นๆ
การเป็น United VARs ทำให้ธุรกิจต่างๆ สามารถวางใจได้หากวันหนึ่งจะต้องมีการขยายสาขาของธุรกิจไปยังประเทศอื่นๆ นอกเหนือจากประเทศไทย ซึ่ง ISS Consulting ก็สามารถช่วยเป็นตัวกลางให้กับธุรกิจนั้นๆ ในการทำงานร่วมกับ United VARs ในประเทศอื่นๆ เพื่อถ่ายทอดกระบวนการการทำงานและ Workflow ที่ได้ทำการออกแบบเอาไว้ได้ทั้งหมด
การที่มีพนักงานหรือ Consultant ที่เป็นพนักงานประจำซึ่งมีความรู้ความสามารถด้าน SAP เป็นจำนวนมาก ทำให้ลดความเสี่ยงในการประสบปัญหาขาดคนหรือขาดทีมงานในการทำโครงการต่างๆ และมั่นใจได้ว่าจะยังคงมีทีมงานคอยสนับสนุนการใช้งาน SAP ต่อไปในอนาคต
การที่มีบริการ Support ระบบ SAP และมีทีมงานพัฒนาระบบต่อยอดให้กับ SAP เดิมที่ธุรกิจองค์กรใช้งานอยู่ ทำให้ไม่ว่าจะเป็นโครงการขนาดเล็กหรือขนาดใหญ่ ISS Consulting จะสามารถเข้าไปช่วยเหลือลูกค้าได้เสมอ
ความรู้และประสบการณ์ที่ยาวนาน ทำให้โครงการขึ้นระบบ SAP จบได้ภายในเวลาเพียง 3-6 เดือน
หลายๆ คนอาจจะติดภาพว่า SAP นั้นเป็นระบบที่ใหญ่และใช้เวลาติดตั้งยาวนานเป็นปีๆ กว่าจะแล้วเสร็จ แต่ในมุมของ ISS Consulting กลับไม่ได้เป็นเช่นนั้น เพราะด้วยความที่ธุรกิจของ ISS Consulting เองนั้นมีครบถ้วนทั้งส่วนของ Business และ SAP ก็ทำให้สามารถนำ Best Practice ที่มีอยู่มาประยุกต์ให้เหมาะกับธูรกิจของลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว และเลือกใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสมที่สุดสำหรับความต้องการของลูกค้าได้ ส่งผลให้การบริหารจัดการ Project เป็นไปได้อย่างราบรื่น และปิดงานต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว เป็นผลดีกับลูกค้าอีกว่ามี Time to Market ที่เร็วขึ้น พร้อมแข่งขันในตลาดได้อย่างรวดเร็วเหนือกว่าคู่แข่ง
“เลือกเทคโนโลยีถูก ก็มีชัยไปกว่าครึ่ง”
Credit: SAP
หนึ่งในบทเรียนที่ได้รับจากคุณวิศิษฐ์ในระหว่างที่พูดคุยประเด็นนี้ก็คือข้อได้เปรียบที่สำคัญที่สุดของ ISS Consulting ที่มีเทคโนโลยีจาก SAP หลากหลายสำหรับเลือกนำเสนอแต่ละงาน การบริหารจัดการโครงการ Software ในลักษณะนี้นั้นต้นทุนหลักๆ ขึ้นอยู่กับเวลาที่ใช้ในการทำงานทั้งสิ้น ดังนั้นการวางแผนให้ถูกต้อง และการปฏิบัติงานให้ได้ตามแผนหรือดีกว่าแผนนั้นล้วนแต่จะทำให้ธุรกิจของ ISS Consulting เติบโต อีกทั้งยังทำให้ลูกค้าได้นำระบบงานใหม่ๆ ไปใช้อย่างรวดเร็ว สร้างความคุ้มค่าและคืนทุนได้ในเวลาที่สั้นลงอีกด้วย
ปัจจัยหลักที่ทำให้ ISS Consulting สามารถเติบโตได้อย่างรวดเร็วก็คือการเลือกนำเสนอ Software ที่เหมาะสมกับลูกค้าได้ ตัวอย่างเช่น บางธุรกิจสามารถเริ่มต้นขึ้นระบบ ERP โดยเริ่มใช้งานจาก SAP B1 ตามคำแนะนำของ ISS Consulting เพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายในตอนเริ่มต้น, ค่อยๆ ปรับปรุงกระบวนการการทำงานไปทีละส่วน และช่วยให้สามารถมีระบบ ERP เริ่มต้นพร้อมใช้งานได้อย่างรวดเร็ว เพื่อให้ธุรกิจองค์กรมีเวลาในการเปลี่ยนรูปแบบการทำงานและปรับวัฒนธรรมในองค์กรไปพร้อมๆ กัน หรือในบางบริษัทที่มีกระบวนการทำงานที่เหมาะกับระบบ SAP A1 ทาง ISS Consulting พร้อมที่จะนำเสนอการขึ้นระบบ ERP โดยยึดหลัก SAP Best Practice และการบริหารโครงการตามแผนงานโครงการอย่างมีประสิทธิภาพและขึ้นระบบได้เร็วขึ้น หรือบางธุรกิจสามารถใช้บริการ SAP Cloud Solution ซึ่งสามารถเริ่มได้ง่ายและค่อยต่อขยายต่อไปเมื่อมีความพร้อมทั้ง SAP ByDesign, C4C, Hybris, Success Factor และ อื่นๆ เป็นต้น
การเลือกนำเสนอระบบ SAP ที่เหมาะสมกับลูกค้าและการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด นอกจากจะทำให้โครงการสำเร็จได้อย่างรวดเร็วแล้ว ลูกค้าเองก็ยังจะต้องไม่ต้องแบบรับภาระค่าใช้จ่ายที่สูงเกินไป และมีระบบที่เหมาะสมกับธุรกิจที่ช่วยดำเนินธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประเด็นด้านการเลือกเทคโนโลยีจึงถือว่าเป็นส่วนที่สำคัญมากสำหรับ ISS Consulting และทำให้กลยุทธ์ของ ISS Consulting คือการขยายทีมงานเพื่อมารองรับเทคโนโลยีของ SAP ได้อย่างครอบคลุมนั่นเอง
แนวโน้มปี 2017 ที่ผ่านมา: SAP S/4HANA + SAP Fiori กลายเป็นตัวเลือกหลักของธุรกิจไทยที่ต้องการก้าวสู่การทำ Digital Transformation อย่างเต็มตัว
ทั้งนี้ในช่วงปี 2017 ที่ผ่านมา และโครงการที่จะเริ่มต้นทำในปี 2018 ทาง ISS Consulting ได้เล่าถึงภาพที่เหล่าธุรกิจไทยนั้นเริ่มต้นมาใช้งาน SAP S/4HANA กันมากขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยบรรดาธุรกิจที่กำลังมองหาระบบ ERP แรกนั้นก็มักจะขึ้นระบบใหม่เป็น SAP S/4HANA ทันที ในขณะที่ลูกค้าเดิมที่เคยใช้ SAP มาก่อนแล้วก็มีแผนจำนวนมากในการอัปเกรดระบบมายัง SAP S/4HANA ด้วยเช่นกัน ด้วยสาเหตุทั้งแง่ของความเร็วของระบบที่สูงขึ้น, การรองรับการเชื่อมต่อกับเทคโนโลยีใหม่ๆ ในอนาคตไม่ว่าจะเป็น Artificial Intelligence (AI), Machine Learning, Business Intelligence (BI), Internet of Things (IoT) หรืออื่นๆ และทางเลือกในการติดตั้งที่มีทั้งแบบระบบ On-premises และ Cloud ให้เลือกใช้ได้ตามความเหมาะสม ซึ่งที่ผ่านมา ISS Consulting ก็ได้มีประสบการณ์ช่วยให้ลูกค้าสามารถ Go Live ระบบ SAP S/4HANA ไปแล้วมากกว่า 10 รายในประเทศไทย
ในขณะเดียวกัน อีกหนึ่งเทคโนโลยีที่ได้รับความสนใจจากภาคธุรกิจในไทยเป็นอย่างมากก็คือ SAP Fiori ที่ช่วยให้การใช้งานระบบ ERP ขององค์กรต่างๆ นั้นเกิดขึ้นได้ในแบบ Mobile-first ด้วยการรองรับทั้งการใช้งานผ่านอุปกรณ์พกพาอย่าง Smartphone และ Tablet ควบคู่ไปกับการเข้าถึงผ่าน PC หรือ Notebook ได้ ตอบโจทย์การใช้งานได้เป็นอย่างดีทั้งสำหรับเหล่าผู้บริหารหรือฝ่ายขายที่ต้องมีการเดินทางอยู่ตลอด ไปจนถึงสายการผลิตที่สามารถเลือกใช้อุปกรณ์พกพาในการทำงานภายในโรงงานได้ทุกที่ทุกเวลา
ส่วนการทำ Business Intelligence หรือ BI นั้นก็เริ่มกลับมาเป็นโจทย์ของเหล่าธุรกิจองค์กรอีกครั้งด้วยความที่ข้อมูลนั้นมีปริมาณมหาศาลมากขึ้น และการวิเคราะห์ข้อมูลธุรกิจก็ได้กลายเป็นหนึ่งในงานที่จำเป็นในการทำงานไปแล้ว จึงทำให้ SAP Analytics Cloud (SAC) ได้รับความนิยมไม่น้อยเช่นกันด้วยความสามารถในการสร้างรายงานทางธุรกิจได้อย่างรวดเร็ว ตอบโจทย์ฝ่ายต่างๆ ของธุรกิจในการวิเคราะห์ข้อมูลได้ในหลากหลายแง่มุมและคล่องตัว สร้างความคุ้มค่าให้กับธุรกิจได้ในเวลาไม่นาน
โดยรวมแล้วในปี 2017 ที่ผ่านมานี้ ทาง ISS Consulting ก็พบกับธุรกิจกลุ่มต่างๆ ที่เริ่มต้นใช้งาน ERP ใหม่ค่อนข้างมาก และกลายมาเป็นลูกค้าใหม่สำหรับ ISS Consulting ในส่วนของโซลูชัน SAP A1 มากกว่า 10 ราย และ SAP B1 มากกว่า 25 ราย
แนวโน้มปี 2018: ได้เวลาของ SAP Cloud และเทคโนโลยีแห่งอนาคต
ส่วนปี 2018 นี้ทางคุณวิศิษฐ์แห่ง ISS Consulting ได้วิเคราะห์ว่าบริการ SAP Cloud ต่างๆ นั้นจะเริ่มมีลูกค้าในไทยนำไปใช้งานกันมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่ใช้เวลาในปี 2017 ในการทำความรู้จัก, ทดลองใช้งาน และประเมินค่าใช้จ่ายเพื่อเปรียบเทียบกับระบบ SAP แบบเดิมกันมาทั้งปี ด้วยจุดเด่นด้านความง่ายในการขึ้นระบบ, ความยืดหยุ่นด้านค่าใช้จ่าย และความหลากหลายของโซลูชันที่มีมากกว่าแต่ก่อน โดยโซลูชันทางด้าน Cloud ที่เกี่ยวกับ SAP นั้นจะถูกแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มหลักๆ ได้แก่กลุ่มของบริการในแบบ IaaS/PaaS และ SaaS นั่นเอง
SAP บน IaaS/PaaS: ตอบโจทย์ธุรกิจที่กำลังเติบโตได้เป็นอย่างดี
Credit: SAP
บริการ Cloud ในแบบ IaaS หรือ Infrastructure as a Service นั้นก็คือการนำบริการระบบ Virtual Machine (VM) และ Cloud Database จากเหล่าผู้ให้บริการายที่ได้รับการรับรองคุณภาพและประสิทธิภาพการทำงานจาก SAP มาใช้ในการติดตั้งระบบต่างๆ ของ SAP ลงไป และเชื่อมต่อเครือข่ายกับองค์กรต่างๆ อย่างมั่นคงปลอดภัยด้วยวิธีการต่างๆ เพื่อให้เหล่าธุรกิจหรือองค์กรนั้นไม่ต้องลงทุนสร้าง Data Center ของตนเอง แต่ก็สามารถเริ่มใช้งาน SAP ได้ทันที ในขณะที่บริการ Cloud ในแบบ PaaS หรือ Platform as a Service นั้นทาง SAP จะมีระบบ Platform ที่ทำงานบนบริการ Cloud ของผู้ให้บริการชั้นนำรายต่างๆ เพื่อให้นำไปใช้ติดตั้งได้สำเร็จรูปยิ่งขึ้น รองรับการพัฒนา Software ต่อยอดในอนาคตได้อย่างง่ายดาย
ทาง ISS Consulting ก็ได้เตรียมตอบรับกระแสนี้แล้วด้วยการเตรียมความพร้อมด้านการติดตั้ง SAP บน AWS เพื่อเป็นอีกทางเลือกให้กับเหล่าธุรกิจองค์กร รวมถึงยังมีบริการ Migrate ระบบเพื่อให้ธุรกิจที่เดิมเคยมี Data Center ของตนเอง และอยากย้ายระบบขึ้นไปใช้ Cloud เพื่อลดค่าใช้จ่ายและเพิ่มความคล่องตัวนั้น มีผู้ให้บริการมืออาชีพที่มีประสบการณ์จาก ISS Consulting เป็นผู้ช่วยให้โครงการเหล่านี้สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี
SAP Cloud: ตอบโจทย์เฉพาะทางขององค์กรอย่างรวดเร็วด้วย SaaS
สำหรับบริการกลุ่ม SaaS หรือ Software as a Service นี้ ก็จะเป็นบริการอีกกลุ่มหนึ่งที่มีความหลากหลายสูงมาก เนื่องจากที่ผ่านมา SAP ได้มีการเข้าซื้อกิจการผู้ให้บริการ Cloud สำหรับธุรกิจจำนวนมากมาทำการปรับปรุงให้ระบบเหล่านั้นทำงานบน SAP HANA และเปิดให้บริการในฐานะโซลูชันของ SAP เอง ทำให้บริการเหล่านี้มีความน่าเชื่อถือสูง และยังสามารถทำการ Integrate ระบบเข้ากับระบบอื่นๆ ของ SAP เพื่อรองรับการขยายระบบและการเติบโตของธุรกิจในอนาคตได้อีกด้วย โดยบริการที่ ISS Consulting ได้เลือกนำมาให้บริการในไทยมีดังนี้
SAP Business ByDesign: บริการ Cloud ERP สำหรับธุรกิจขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ ที่ต้องการขึ้นระบบ SAP อย่างรวดเร็ว
SAP SuccessFactors: บริการ Cloud Human Capital Management (HCM) สำหรับตอบโจทย์การทำงานของแผนกทรัพยากรบุคคลหรือ HR ได้อย่างครอบคลุม
SAP Ariba: บริการ Cloud สำหรับงานทางด้านการจัดซื้อขององค์กร ช่วยให้แผนกจัดซื้อและ Supplier สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ โปร่งใส และรวดเร็ว
SAP Leonardo: บริการ Cloud สำหรับการต่อยอดเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อการทำ Digital Transformation โดยเฉพาะ รองรับทั้ง Internet of Things (IoT), Machine Learning, Big Data, Analytics และ Blockchain
SAP Analytics Cloud: บริการ Cloud BI สำหรับใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลธุรกิจ, ออกรายงาน, ทำนายแนวโน้มธุรกิจล่วงหน้าด้วย Machine Learning และวางแผนงานและการเงินในอนาคต
บริการเหล่านี้ช่วยให้ ISS Consulting สามารถเติบโตได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้นกว่าแต่ก่อน เนื่องจากทำให้ ISS Consulting มีเทคโนโลยีที่จะไปช่วยตอบโจทย์หรือแก้ไขปัญหาให้กับแผนกต่างๆ ขององค์กรมากยิ่งขึ้น เติมเต็มวิสัยทัศน์ที่ต้องการจะเติบโตไปพร้อมกับลูกค้าของ ISS Consulting ได้เป็นอย่างดี
บริษัท เน็กซัส ซิสเท็ม รีซอร์สเซส จำกัด เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการวางระบบซอฟต์แวร์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจให้กลุ่มธุรกิจอุตสาหกรรม โรงงาน การกระจายสินค้าและธุรกิจค้าส่ง-ค้าปลีก และมีประสบการณ์กว่า 18 ปี โดยบริษัทมีโซลูชั่นประกอบด้วย โซลูชั่นระดับเอนเตอร์ไพรส์ และระดับเอสเอ็มอี รวมถึงโซลูชั่นบนคลาวด์ ทั้ง SAP ERP (S/4HANA, SAP Business All-in-One, SAP Business One), SAP CRM, SAP Hybris Sales Cloud, SAP Business Intelligence, SAP Analytics และระบบเสริมอื่นๆ เพื่อช่วยสนับสนุนลูกค้าในการบริหารรวมถึงยกระดับการทำงานให้มีประสิทธิภาพและเป็นมาตรฐานสากล เพื่อการแข่งขันในตลาดยุคดิจิทัล
ในงาน SAP Solution Summit 2017 ที่ผ่านมา ทาง SAP Thailand ได้ออกมาเล่าถึงทิศทางใหม่ๆ ของ SAP เอง ที่นอกจากจะมีผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ สำหรับตอบโจทย์การทำ Digital Transformation ได้หลากหลายมากยิ่งขึ้นแล้ว SAP เองก็ยังปรับตัวและเปลี่ยนโฉมให้กลายเป็นเทคโนโลยีที่องค์กรทุกขนาดสามารถเข้าถึงได้อย่างง่ายดายยิ่งกว่าแต่ก่อน ด้วยการมาของ SAP Cloud นั่นเอง ทางทีมงาน TechTalkThai จึงขอสรุปเนื้อหาที่ได้รับฟังมาให้ได้อ่านกันดังนี้ครับ
3 กลยุทธ์หลักของ SAP
คุณนพดล เจริญทอง ผู้ดำรงตำแหน่ง General Business Team Lead จาก SAP ประเทศไทย ได้ให้สัมภาษณ์ถึงความเปลี่ยนแปลงไปของ SAP ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ว่ามีกลยุทธ์สำคัญด้วยกัน 3 ประการ ได้แก่
การผลักดัน SAP S/4HANA อย่างเต็มตัว เพื่อให้เหล่าองค์กรขนาดใหญ่ปรับใช้ SAP S/4HANA ซึ่งเป็นเทคโนโลยี In-memory Data Platform จาก SAP เพื่อให้การประมวลผลข้อมูลต่างๆ มีความรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ตอบรับกับBusiness Application ใหม่ๆ ของ SAP ได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังตอบรับต่อโลกของ Big Data, Artificial Intelligence (AI) และ Internet of Things (IoT) ในอนาคตได้เป็นอย่างดีอีกด้วย
การผลักดันบริการ Cloud จาก SAP เพื่อให้เทคโนโลยีของ SAP นั้นสามารถถูกเข้าถึงได้อย่างง่ายดายยิ่งกว่าในอดีต และเปิดตลาดไปสู่ธุรกิจ SMB ได้ง่ายขึ้น
การส่งเสริมพันธมิตรทางการค้าให้เติบโตมากขึ้น เพื่อให้ในแต่ละประเทศนั้นมีผู้เชี่ยวชาญในแต่ละผลิตภัณฑ์หรือโมดูลของ SAP มากขึ้น เป็นอีกแรงผลักที่จะช่วยให้การนำ SAP ไปใช้งานภายในหลายๆ อุตสาหกรรมเกิดขึ้นได้รวดเร็วยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ ในประเทศไทยเองเราก็เห็นภาพของ 3 กลยุทธ์นี้ค่อนข้างชัดเจนแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการที่เหล่าลูกค้าองค์กรของ SAP เริ่มหันไปใช้ SAP S/4 HANA กันมากขึ้น, การที่เริ่มมีพันธมิตรทางการค้ากลายเป็นผู้เชี่ยวชาญในผลิตภัณฑ์ Cloud ต่างๆ ของ SAP และเริ่มนำเสนอบริการ Cloud ไปยังลูกค้าองค์กร ไปจนถึงการจัดอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีของ SAP อย่างต่อเนื่องแทบทุกเดือนในแต่ละปี ให้เหล่าองค์กรต่างๆ สามารถเข้าไปอบรมกันได้ฟรีๆ เพื่อนำแนวคิดของ SAP และเทคโนโลยีใหม่ๆ ไปใช้ปรับปรุงการทำงานภายในแผนกต่างๆ ได้เป็นอย่างดี
5 ประเด็นหลักในงาน SAP Solution Summit 2017: วันนี้ SAP กลายเป็น Cloud Company แล้ว
คุณนพดลได้กล่าวสรุปเนื้อหาภายในงาน SAP Solution Summit เอาไว้ด้วยกัน 5 ประเด็นหลักๆ ดังนี้
Core Digital หัวใจสำคัญของเทคโนโลยีทั้งหมดใน SAP โดยรองรับการใช้งานภายใน 25 อุตสาหกรรมธุรกิจ ทำให้สามารถตอบโจทย์องค์กรต่างๆ ได้อย่างหลากหลาย
Internet of Things (IoT) ในภาคธุรกิจ สามารถตอบโจทย์ได้ด้วย SAP Leonardo
Workforce Management สามารถตอบโจทย์ของแผนกทรัพยากรบุคคลในแต่ละองค์กรได้ด้วย SAP SuccessFactors
Customer Engagement สามารถตอบโจทย์ของธุรกิจค้าปลีก หรือธุรกิจที่ต้องการเปิดช่องทางการขายแบบ Omnichannel ได้ด้วย SAP Hybris
Supplier Management สามารถตอบโจทย์ของแผนกจัดซื้อภายในองค์กรให้ทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้นได้ด้วย SAP Ariba
จะเห็นได้ว่า 4 หัวข้อนี้เป็นเรื่องของ Cloud ล้วนๆ ซึ่งทางคุณนพดลเองก็ได้ชี้ให้เห็นด้วยเช่นกันว่าทุกวันนี้ SAP ได้เปลี่ยนไปเป็น Cloud Company แล้ว และภายในงาน SAP Solution Summit 2017 นี้เองก็ได้มีเหล่าพันธมิตรทางการค้ามาเปิดบูธเพื่อนำเสนอบริการ Cloud จาก SAP กันอย่างคับคั่งเลยทีเดียว
ลองฟังบทสัมภาษณ์ของคุณนพดลในงาน SAP Solution Summit 2017 เพิ่มเติมได้เลยครับ
Cloud: ตัวแปรสำคัญที่ทำให้ธุรกิจทุกขนาดทั่วโลก สามารถเข้าถึง SAP ได้อย่างง่ายดาย ด้วย Time to Value ที่รวดเร็ว
หากใครติดตามข่าวของ SAP มาอย่างต่อเนื่อง จะเห็นว่าในระยะหลังนั้น SAP มีการเข้าซื้อกิจการของ Cloud Business Application สำหรับตอบโจทย์แผนกต่างๆ ขององค์กรอย่างหลากหลายมาโดยตลอด ซึ่งสาเหตุของการเข้าซื้อกิจการเหล่านั้น ก็เป็นเพราะว่า SAP ต้องการเข้าสู่ตลาดของ Cloud ด้วยการนำบริการ Cloud Business Application ที่ดีที่สุดในแต่ละหมวดผลิตภัณฑ์มานำเสนอต่อลูกค้าปัจจุบันของ SAP และว่าที่ลูกค้ารายใหม่ๆ ของ SAP ในอนาคตนั่นเอง
การที่ SAP ก้าวเข้าสู่ธุรกิจ Cloud เองนี้ ก็เป็นการช่วยล้างภาพความเป็นระบบใหญ่ที่จะมีแต่องค์กรขนาดใหญ่สามารถเข้าถึงได้ไปค่อนข้างมาก เพราะบริการ Cloud ต่างๆ ของ SAP นั้นสามารถเริ่มใช้งานได้ตั้งแต่ 5 – 10 ผู้ใช้งาน ทำให้แม้แต่องค์กรขนาดเล็กหรือขนาดกลางเองก็สามารถใช้งานเทคโนโลยีของ SAP ได้ ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะว่า SAP นั้นมองว่าธุรกิจในอนาคตนั้นจะใช้คนปริมาณน้อยลงในการดำเนินธุรกิจที่มีความสำคัญสูง ดังนั้นการที่เปิดให้เหล่าธุรกิจที่มีพนักงานจำนวนน้อยสามารถใช้งานเทคโนโลยีของ SAP เองได้ ก็จะเป็นตัวช่วยเร่งการเติบโตของธุรกิจเหล่านี้ได้อย่างมีนัยยะสำคัญ
ในทางกลับกัน การที่ธุรกิจใดๆ สามารถเริ่มต้นใช้งาน SAP ได้ตั้งแต่ตอนที่ธุรกิจยังมีขนาดเล็ก ก็จะทำให้ธุรกิจเหล่านั้นสามารถเติบโตได้อย่างมั่นคงในอนาคต เพราะ SAP เองก็มีบริการ Cloud ที่รองรับการเติบโตของธุรกิจจนกลายเป็นองค์กรขนาดใหญ่ได้เลย ทำให้ธุรกิจเหล่านั้นไม่ต้องกังวลถึงประเด็นเรื่องของการย้ายข้อมูล, การย้ายระบบ, การเพิ่มแผนกใหม่ในองค์กร หรือแม้แต่การปรับเปลี่ยน Workflow ต่างๆ เพราะ SAP มีพร้อมให้หมดแล้ว
สำหรับบริการ SAP Cloud Solution ที่ถือว่าโดดเด่นและน่าสนใจที่ได้นำมาจัดแสดงภายในงาน มีดังนี้
SAP Leonardo ระบบ IoT Platform จาก SAP ที่มีการผสานเทคโนโลยี IoT, Big Data Analytics, Blockchain และ AI เข้าไว้ภายในระบบเดียวกัน พร้อมให้นำไปใช้สร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ได้ทันที
SAP Hybris ระบบ Omni-channel E-Commerce จาก SAP ที่ตอบโจทย์ได้ทั้งฝ่ายขาย, ฝ่ายการตลาด, ฝ่ายบริการได้ภายในระบบเดียว สามารถใช้งานได้ทั้งสำหรับธุรกิจ B2B และ B2C
SAP Ariba ระบบบริหารจัดการ Supplier จาก SAP ที่จะช่วยให้สามารถวิเคราะห์ประสิทธิภาพการทำงานของ Supplier แต่ละราย, ประเมินความคุ้มค่าในการจัดซื้อ พร้อมวิเคราะห์ว่าการจัดซื้อแต่ละครั้งจะสามารถปรับปรุงให้คุ้มค่าสูงสุดได้อย่างไรบ้าง
SAP SuccessFactors ระบบ Human Resource Management จาก SAP ที่ครอบคลุมทั้งการจัดการเงินเดือนและสวัสดิการพนักงาน, การฝึกอบรม, การประเมินประสิทธิภาพ, การจ้างพนักงานใหม่ ไปจนถึงการวางแผนจ้างพนักงานในแต่ละแผนกได้อย่างครอบคลุม
SAP Concur ระบบบริหารจัดการการเดินทางของพนักงาน เพื่อให้ทุกการเดินทางข้ามประเทศนั้นเป็นไปได้อย่างคุ้มค่าและมีประสิทธิภาพสูงสุด เหมาะสำหรับธุรกิจที่พนักงานต้องมีการเดินทางไปต่างประเทศบ่อยๆ
Credit: SAP
ต่อยอดจากระบบ Cloud สู่ ERP ได้อย่างเต็มตัวด้วย SAP S/4HANA และ SAP Cloud Platform
ถึงแม้บริการ Cloud จาก SAP นั้นเกิดขึ้นมาจากการเข้าซื้อกิจการหลากหลายสำหรับแต่ละผลิตภัณฑ์ แต่ SAP เองนั้นก็มีกลยุทธ์ภาพใหญ่มาโดยตลอดที่ทุกๆ บริการ Cloud เหล่านั้นจะต้องทำงานร่วมกันจนกลายเป็นระบบ ERP ขนาดใหญ่ได้ในท้ายที่สุด ดังนั้นในแต่ละการเข้าซื้อกิจการนั้น ทาง SAP เองก็จะตั้งทีมพัฒนาซอฟต์แวร์ขึ้นมาทำงานร่วมกับธุรกิจที่ได้เข้าซื้อกิจการมา เพื่อปรับเปลี่ยน Backend ของระบบเหล่านั้นให้ทำงานบน SAP S/4HANA และสามารถเชื่อมโยงข้อมูลเข้ากับ Business Application อื่นๆ ของ SAP เองได้อย่างสมบูรณ์ เพื่อรองรับภาพของการ Integrate ระบบขนาดใหญ่ในอนาคตได้นั่นเอง
ด้วยแนวทางนี้ ทำให้เหล่าลูกค้ารายใหม่ๆ ของ SAP เองนั้นอาจจะเริ่มต้นจากการใช้งานบริการ Cloud จาก SAP เพียงระบบเดียว จากนั้นจึงค่อยๆ เพิ่มการใช้งานบริการ Cloud อื่นๆ ในภายหลัง และผสานระบบทั้งหมดเข้าด้วยกันด้วยการใช้ SAP Cloud Platform ส่วนสำหรับลูกค้าที่มีการใช้งาน SAP เดิมอยู่แล้ว ก็สามารถใช้งานบริการ Cloud ของ SAP ในบางผลิตภัณฑ์ที่สนใจ และทำการ Integrate ระบบร่วมกันกลายเป็นการทำงานแบบ Hybrid Cloud ได้ทันที
SAP Digital Boardroom อีกหนึ่งอนาคตสำคัญของ SAP สำหรับตอบโจทย์การทำ Data-driven Decision Making โดยผู้บริหารระดับสูง
ภายในงาน SAP Solution Summit 2017 นี้ก็ยังได้มีการจัดแสดงอีกหนึ่งโซลูชันที่น่าสนใจจาก SAP อย่าง SAP Digital Boardroom ที่เป็น Software สำหรับการทำ Business Intelligence รุ่นล่าสุดที่ตอบโจทย์เหล่าผู้บริหารโดยเฉพาะ ด้วยแนวคิดการแบ่งหน้าจอออกเป็น 3 ส่วน เพื่อแสดงข้อมูลในอดีต, ปัจจุบัน และอนาคตในแต่ละจอ
ข้อมูลที่จะนำมาแสดงบน SAP Digital Boardroom นี้สามารถเลือกได้ทั้งข้อมูลจากภายในระบบ SAP เอง, ข้อมูลภายในบริการ Cloud ต่างๆ ของ SAP ไปจนถึงข้อมูลจากแหล่งข้อมูลภายนอก ทำให้องค์กรสามารถทำการออกแบบการแสดงผลและ Interaction ในการ Drill-down ข้อมูลต่างๆ บน SAP Digital Boardroom ได้เป็นอย่างดี
IBM รุกหนักตลาด Digital Agency มาก โดยคราวนี้ได้ประกาศเข้าซื้อกิจการของ ecx.io ผู้ให้บริการครบวงจรทางด้าน Digital Agency ที่มีสาขาแม่อยู่ที่ Dusseldorf ในประเทศเยอรมนี และนี่นับเป็นบริษัท Digital Agency แห่งที่ 3 ที่ IBM ประกาศเข้าซื้อกิจการตั้งแต่เปิดปีนี้มา ซึ่งทั้งหมดจะถูกผนวกเข้าไปอยู่ภายใต้ทีม IBM Interactive Experience (IBM iX) เพื่อนำองค์ความรู้ทางด้าน Digital Marketing, Commerce และ Platform ของ IBM และบริษัทที่เข้าซื้อกิจการทั้งหมดนี้มาช่วยให้ลูกค้าองค์กรก้าวไปสู่การทำ Digital Transformation ได้อย่างเต็มตัว
ecx.io เป็น Digital Agency ชื่อดังในแถบยุโรปที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านการนำเทคโนโลยีทางด้าน Platform สำหรับร้านค้าและลูกค้า ได้แก่ Adobe, Sitecore และ SAP hybris ไปติดตั้งใช้งานให้แก่กลุ่มลูกค้าองค์กร
พนักงานทั้ง 200 คนจาก ecx.io จะเข้าร่วมกับทีมของ IBM เพื่อนำความเชี่ยวชาญทางด้านเทคโนโลยีเหล่านี้มาเสริมทีม IBM iX ในขณะที่ลูกค้าเก่าของ ecx.io เองก็จะได้มีโอกาสในการเข้าถึงเทคโนโลยีทางด้าน Data Analytics, Cloud และ Cognitive จาก IBM ด้วยเช่นกัน