คลังเก็บป้ายกำกับ: MICROSOFT_SQL_SERVER_2017

[โปรโมชันพิเศษ] SQL Server 2017 ลดสูงสุดถึง 10% ก่อนสิ้นเดือนมิถุนายนนี้

สำหรับธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMB) ที่ใช้ SQL Server 2008 ที่กำลังจะ End of Support เดือนกรกฎาคมนี้และกำลังหาช่องทางอัปเกรดไปเป็นเวอร์ชันใหม่อยู่ Microsoft Thailand ได้ออกโปรโมชันพิเศษสำหรับ SQL Server 2017 พร้อมส่วนลดสูงสุดถึง 10% จนถึงวันที่ 28 มิถุนายน 2019 เท่านั้น

ทดแทน SQL Server 2008 พร้อมอัปเกรดขึ้น Cloud ในอนาคต

Microsoft ได้ประกาศยกเลิกการสนับสนุน (End of Support) SQL Server 2008 ในเดือนกรกฎาคมนี้ ส่งผลให้หลังจากนั้นจะไม่มีการสนับสนุนด้านแพตช์สำหรับแก้บั๊กหรืออุดช่องโหว่ด้านความมั่นคงปลอดภัยอีกต่อไป Microsoft Thailand จึงแนะนำให้ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMB) อัปเกรด SQL Server 2008 ไปเป็น SQL Server 2017 เวอร์ชันล่าสุดซึ่งมีประสิทธิภาพดีกว่าและฟีเจอร์ที่ตอบโจทย์การใช้งานในยุค Cloud มากกว่าแทน โดยระบบจัดการฐานข้อมูลดังกล่าวมีคุณสมบัติเด่น ดังนี้

1. ขยายฐานข้อมูลไปเก็บบน Cloud ได้

SQL Server 2017 เพิ่มความยืดหยุ่นให้แก่ระบบจัดการฐานข้อมูล โดยสามารถกำหนดนโยบายเพื่อสั่งให้ยืด (Stretch) พื้นที่ที่ไม่ได้ใช้เก็บข้อมูลเป็นประจำ ไปเก็บไว้บน Azure ซึ่งเป็นระบบ Cloud ของ Microsoft ได้โดยอัตโนมัติ เพิ่มพื้นและประสิทธิภาพในการจัดเก็บข้อมูลบน SQL Server ให้ดียิ่งขึ้น

2. ใช้งานได้บนทุกแพลตฟอร์ม

SQL Server 2017 รองรับการจัดการกับข้อมูลได้ทุกแฟลตฟอร์ม ไม่ว่าจะเป็น Windows, Linux, Docker Containers และอื่นๆ โดยสามารถติดตั้ง Package ผ่านทาง Installation, Yum Install, Apt-Get หรือ Zypper ได้

3. อัปเกรดเวอร์ชันใหม่หรือขึ้น Cloud ได้ทันที

สำหรับลูกค้าที่ซื้อ License ของ SQL Server 2017 แบบ Software Assurance (SA) จะสามารถอัปเกรดเป็นเวอร์ชันใหม่พร้อมใช้ฟีเจอร์ล่าสุดได้ตลอดอายุการใช้งาน รวมไปถึงสามารถย้าย License เพื่อเปลี่ยนไปใช้ SQL Server บน Cloud ได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม

โปรโมชันพิเศษ ลดสูงสุดถึง 10% ก่อนสิ้นเดือนมิถุนายนนี้

สำหรับธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMB) ที่ต้องการอัปเกรดระบบจัดการฐานข้อมูลไปเป็น SQL Server 2017 ทาง Microsoft Thailand ได้ออกโปรโมชันพิเศษ ลดราคา License สูงสุดถึง 10% เมื่อสั่งซื้อผลิตภัณฑ์ SQL Server 2017 สำหรับรุ่นดังต่อไปนี้

  • SQL Server 2017 รุ่น Standard Server พร้อม 5 CALs
  • SQL Server 2017 รุ่น Standard Core ตั้งแต่ 2 Licenses ขึ้นไป
  • SQL Server 2017 รุ่น Enterprise Core ตั้งแต่ 2 Licenses ขึ้นไป

เงื่อนไขสำหรับผู้ขอรับโปรโมชัน

  • สำหรับ Open License NL (L-Only หรือ L+SA) เท่านั้น
  • สงวนสิทธิ์สำหรับลูกค้าในกลุ่มธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMB) เท่านั้น สำหรับภาคการศึกษา ภาครัฐ และองค์กรการกุศล ไม่สามารถเข้าร่วมรายการส่งเสริมการขายนี้ได้
  • โปรโมชันนี้สำหรับการสั่งซื้อตั้งแต่วันที่ 15 พฤษภาคม ถึง 28 มิถุนายน 2019 เท่านั้น
  • จำกัดจำนวนสูงสุดไม่เกิน 250 License
  • Microsoft Thailand ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

ลูกค้าในกลุ่มธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMB) ที่สนใจใช้งาน SQL Server 2017 สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและสั่งซื้อได้ที่

  • โทรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ: 1800-012-821 (Toll-free/โทรฟรี)
  • สนทนากับฝ่ายขาย: https://aka.ms/ContactMicrosoftTH
  • ลงทะเบียนเพื่อรับการติดต่อกลับ: https://aka.ms/SQLDiscount

from:https://www.techtalkthai.com/microsoft-sql-server-2019-promotion-with-10-percent-discount/

ต่ออายุ Microsoft Windows Server และ SQL Server 2008 ง่ายๆ เพียงแค่ย้ายขึ้น Azure หรือ Azure Stack

สำหรับหลายๆ องค์กรที่กำลังร้อนใจกันอยู่ เนื่องจาก Microsoft Windows Server 2008/2008 R2 และ Microsoft SQL Server 2008/2008 R2 นั้นกำลังจะเข้าสู่ช่วง End of Support (EOS) ภายในปี 2019 – 2020 ที่จะถึงนี้แล้ว การแก้ไขระบบเพื่อให้ใช้งานกับ Windows Server หรือ SQL Server รุ่นใหม่กว่าก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ทาง Microsoft จึงได้เสนอทางออกใหม่ที่จะช่วยยืดอายุการใช้งานของระบบเหล่านั้นต่อไปง่ายๆ เพียงแค่ย้ายมาใช้ Microsoft Azure หรือ Microsoft Azure Stack แทนเท่านั้น

Microsoft SQL Server 2008/2008 R2 เข้าสู่ EOS ในปี 2019 ส่วน Microsoft Windows Server 2008/2008 R2 เข้าสู่ EOS ในปี 2020

การเข้าสู่สถานะ EOS นี้ หมายถึงการที่ทาง Microsoft จะไม่มีการออกอัปเดตทั้ง Security และ Feature ใหม่ๆ รวมถึงไม่มีทีมงานสนับสนุนและไม่มีการเผยแพร่เนื้อหาการแก้ไขปัญหาใดๆ เพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์เหล่านี้อีกต่อไป โดยกำหนดการของทาง Microsoft ในการประกาศ EOS ให้กับผลิตภัณฑ์เหล่านี้มีดังนี้

  • Microsoft SQL Server 2008/2008 R2 จะมีระยะ Extended Support จนถึงเพียงแค่วันที่ 9 กรกฎาคม 2019 เท่านั้น
  • Microsoft Windows Server 2008/2008 R2 จะมีระยะ Extended Support จนถึงวันที่ 14 มกราคม 2019

ถึงแม้การใช้งานผลิตภัณฑ์เหล่านี้ต่อไปโดยไม่มีการอัปเดตหรือดูแลรักษาใดๆ ต่อนั้นจะสามารถทำได้ในทางปฏิบัติ แต่ก็ไม่เป็นที่แนะนำ เพราะในระยะยาวแล้วจะเกิดความเสี่ยงต่อธุรกิจในหลากหลายแง่มุม ทั้งในแง่ของการเกิดโอกาสที่จะถูกโจมตีระบบผ่านช่องโหว่ที่ถูกค้นพบใหม่ๆ และทำให้ข้อมูลสูญหาย การไม่ตอบโจทย์ต่อการทำ Compliance ต่างๆ อีกทั้งการแก้ไขปัญหาด้วยวิธีการอื่นๆ นั้นก็มีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง

แน่นอนว่าทาง Microsoft เองก็ไม่ได้นิ่งนอนใจสำหรับเหล่าลูกค้าที่ยังคงใช้ผลิตภัณฑ์เหล่านี้อยู่ เพราะผลิตภัณฑ์กลุ่มนี้คือผลิตภัณฑ์เรือธงของ Microsoft ในอดีตที่มีการใช้งานกันอย่างแพร่หลายในภาคธุรกิจทั่วโลก ทาง Microsoft จึงได้เพิ่มทางเลือกเพื่อให้ผู้ใช้งานยังคงใช้งานระบบดังกล่าวต่อไปได้และยังคงได้รับการสนับสนุนจากทาง Microsoft ต่อไป ดังนี้

1. ย้ายระบบขึ้น Microsoft Azure VM หรือ Microsoft Azure Stack พร้อมรับ Extended Security Update ฟรี 3 ปี

ทางเลือกแรกนั้นคือการย้าย Microsoft SQL Server 2008/2008 R2 หรือ Microsoft Windows Server 2008/2008 R2 ขึ้นไปยัง Microsoft Azure VM หรือ Microsoft Azure Stack โดยใช้ Technology Stack เดิมที่ใช้งานได้เลย ไม่ต้องมีการเปลี่ยนแปลงส่วนประกอบใดๆ ภายในระบบ เพื่อรับ Extended Security Update ต่ออีก 3 ปีฟรีๆ จาก Microsoft

ทางเลือกนี้เหมาะสำหรับธุรกิจที่ยังไม่พร้อมจะแก้ไข Application แต่มีแนวทางที่จะมุ่งไปใช้บริการ Cloud อยู่แล้ว โดยสำหรับองค์กรที่ต้องการใช้งาน Public Cloud ก็สามารถใช้ Microsoft Azure VM ได้เลย ส่วนสำหรับองค์กรที่มีข้อจำกัดหรือข้อกำหนดว่าจะต้องมีการจัดเก็บข้อมูลเอาไว้ภายใน Data Center ของตนเองหรือภายในประเทศไทย ก็อาจพิจารณาใช้ Microsoft Azure Stack เพื่อสร้าง Private Cloud ไว้ใช้งานภายในองค์กรเอง และรับสิทธิประโยชน์ดังกล่าวไปฟรีๆ สำหรับ SQL Server 2008/2008 R2 และ Windows Server 2008/2008 R2 ทั้งหมดที่มีอยู่ เพื่อให้มีเวลาในการเตรียมความพร้อมการแก้ไขอัปเกรด Application ให้รองรับ SQL Server 2017 และ Windows Server 2019 ต่อไป

ทั้งนี้ สำหรับผู้ที่มีการใช้งาน Software Assurance (SA) บนผลิตภัณฑ์ทั้งสองนั้น ก็จะได้รับส่วนลดเพิ่มในการใช้บริการ VM บน Microsoft Azure ด้วย ซึ่งจะทำให้ค่าใช้จ่ายโดยรวมนั้นถูกลงกว่าการใช้บริการจากผู้ให้บริการ Cloud รายอื่นๆ ถึง 5 เท่า

ผู้ที่สนใจสามารถเริ่มต้นทดลองใช้งาน Microsoft Azure ได้ฟรีๆ ที่ https://azure.microsoft.com/th-th/free/

2. ย้ายฐานข้อมูลขึ้น Azure SQL Database Managed Instance (MI) และไม่ต้องอัปเกรดอีกต่อไป

Microsoft SQL Database Managed Instance นี้ก็คือบริการ Platform-as-a-Service (PaaS) จาก Microsoft ที่มีการนำเทคโนโลยี Machine Learning มาช่วยปรับปรุงทั้งประสิทธิภาพการทำงานโดยอัตโนมัติ พร้อมเสริมความทนทานของระบบให้สูงถึง 99.99% ตาม Service Level Agreement (SLA) และยังมีการปกป้องระบบฐานข้อมูลให้มีความมั่นคงด้วย Advanced Threat Protection (ATP) หลากหลายแนวทาง ไม่ว่าจะเป็น Data Discovery, Data Classification, Vulnerability Assessment และการทำ Advanced Threat Detection

สำหรับ SQL Server 2008/2008 R2 นี้ก็สามารถทำการแก้ไขปัญหาระยะยาวได้ด้วยการย้ายฐานข้อมูลไปอยู่บน Microsoft Azure SQL Database Managed Instance ซึ่งเป็นระบบฐานข้อมูลแบบ Versionless ซึ่งหมายถึงการที่จะไม่ต้องมีการอัปเกรดใดๆ อีกในอนาคต เพียงแค่ย้ายฐานข้อมูลขึ้นไปและทำการเชื่อมต่อฐานข้อมูลนั้นๆ ไปยัง Application Server ก็ใช้งานต่อได้ทันที

ผู้ที่สนใจสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Microsoft SQL Database Managed Instance ได้ที่ https://docs.microsoft.com/en-us/azure/sql-database/sql-database-managed-instance

3. อัปเกรดระบบเป็น Microsoft SQL Server 2017 หรือ Windows Server 2019 และใช้งานต่อได้ทั้งบน Cloud และ On-Premises

สำหรับแนวทางสุดท้ายนี้ก็ถือเป็นแนวทางมาตรฐานสำหรับทุกๆ การ EOS ก็คือการอัปเกรดระบบที่มีอยู่เดิมให้กลายเป็นระบบที่ยังมีการอัปเดตและการสนับสนุนอยู่ ซึ่งทาง Microsoft ก็แนะนำให้อัปเกรดระบบไปเป็น Microsoft SQL Server 2017 หรือ Windows Server 2019 แทนนั่นเอง

สำหรับ Microsoft SQL Server 2017 นี้ก็มีความสามารถใหม่ๆ ที่น่าสนใจ ทั้งการเพิ่มความเร็วในการเขียนอ่านข้อมูลด้วยเทคโนโลยีแบบ In-Memory, การเชื่อมต่อและใช้งานร่วมกับ Microsoft PowerBI ได้บนทั้ง Desktop และ Mobile, การเข้ารหัสข้อมูล, การทำงานร่วมกันอย่างทนทาน และอื่นๆ อีกมากมาย ดังนั้นการอัปเกรดระบบเองนั้นก็อาจทำให้องค์กรสามารถสร้างโอกาสใหม่ๆ ได้จากประสิทธิภาพ, ความทนทาน และความง่ายดายในการใช้งานที่เพิ่มขึ้นมานี้

ติดต่อ Microsoft ได้ทันที

สำหรับผู้ที่สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถติดต่อทางทีมงาน Microsoft ได้โดยตรงที่ Call Center: 1800 012 705 หรือทักแชตมาได้ที่ SME Facebook chat: https://aka.ms/ContactMicrosoftTH

from:https://www.techtalkthai.com/upgrade-microsoft-windows-server-and-sql-server-2008-to-azure/

Cisco จับมือ WD ทำลายสถิติโลก SQL Server ประสิทธิภาพสูงสุดบน Linux

Cisco และ Western Digital (WD) ได้ออกมาประกาศความสำเร็จร่วมกันในการทำลายสถิติโลกด้านการทดสอบประสิทธิภาพของระบบ Microsoft SQL Server 2017 ที่มีฐานข้อมูลขนาด 3,000GB บนระบบปฏิบัติการ Linux ด้วย Server จาก Cisco และ NVMe SSD จาก WD

ในการทดสอบครั้งนี้ใช้ TPC-H Benchmark เป็นหลัก โดย Hardware ที่ใช้ในการทดสอบมีเสป็คดังนี้

Cisco® C240 M5

  • 2 x Intel® Xeon® Scalable Processor Platinum 8180M CPUs (2.5 GHz, 38.5MB L3 cache, 205W)
  • 24 x 64GB DRAM @2666 MHZ
  • 4 x Cisco HHHL AIC 3.2T HGST SN260 NVMe Extreme Perf High Endurance
  • 2 x 3.8TB 2.5-inch Enterprise Value 6G SATA SSD
  • 1 x Cisco 12G SAS Modular Raid Controller with 2GB Cache for C240 M5

 

ส่วนการกำหนดค่าการจัดเก็บข้อมูลภายใน Server นั้นเป็นดังนี้

Credit: WD

 

ในการทดสอบครั้งนี้ผลลัพธ์ดังนี้

Credit: WD

 

สำหรับข้อมูลการทดสอบฉบับเต็ม สามารถศึกษาได้ที่ http://www.tpc.org/tpch/results/tpch_price_perf_results.asp?resulttype=all ครับ

 

ที่มา: https://blogs.cisco.com/datacenter/world-record-sql-server-benchmark, https://blog.westerndigital.com/sql-server-on-linux-3tb-tpch/

from:https://www.techtalkthai.com/cisco-and-wd-break-world-record-on-fastest-3tb-microsoft-sql-server-2017-on-linux/

Microsoft Webinar: SQL Server 2017 New Features ภาษาไทย พร้อมแจก E-Book ฟรี!

Microsoft จัดงาน Webinar ในหัวข้อ SQL Server 2017 New Features ให้ทุกท่านได้รู้จักกับความสามารถใหม่ๆ ของ Microsoft SQL Server 2017 ในวันที่ 13 ธันวาคม 2017 นี้ โดยมีรายละเอียดและวิธีการลงทะเบียนดังต่อไปนี้

 

SQL Server 2017 New Features

วันที่: 13 ธันวาคม 2017
เวลา: 15.30 – 16.30
วิทยากร: คุณจุลเดช อร่ามศรี MCDBA
ลงทะเบียนฟรี: https://info.microsoft.com/AP-NOGEP-IPVNT-FY18-11Nov-03-SQLServer-MCW0002471_02OnDemandRegistration.html

บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด ขอเชิญท่านพบกับรูปแบบงานสัมนาแบบใหม่ด้วย webinar ในหัวข้อ “SQL Server 2017 New Feature Webinar โดยท่าน สามารถเข้าร่วมสัมนาจากที่ใดก็ได้ผ่าน internet ด้วยกันจากผลิตภัณฑ์ SQL Server 2017 ในเวลา 30 นาที บรรยายโดยผู้เชี่ยวชาญ และสามารถถามตอบข้อสงสัยได้ในทันใด นอกจากนี้หลังจากจบการบรรยาย และฟังครบทุกหัวข้อแล้ว ท่านยังสามารถดาวน์โหลด eBook คู่มือได้ฟรี

ห้ามพลาด!!! งานสัมมนาที่ครบถ้วนไปด้วยสาระ ประหยัดเวลา เดินทาง
เสมือนท่านได้นั่งในห้องบรรยาย กับ Microsoft Webinar

from:https://www.techtalkthai.com/microsoft-webinar-sql-server-2017-new-features-invitation/

AWS รองรับการใช้งาน Microsoft SQL Server 2017 บน Amazon EC2 แล้ว

AWS รองรับการใช้งาน Microsoft SQL Server 2017 บน Amazon EC2 แล้ว สามารถสร้าง Instance จาก AWS Marketplace ได้ทันที

Credit: AWS

Amazon Web Services (AWS) ได้ประกาศรองรับการใช้งาน Microsoft SQL Server 2017 บน Amazon EC2 อย่างเป็นทางการ โดยมีการเพิ่ม AMI (Amazon Machine Images) ใหม่ที่ติดตั้ง Windows Server 2016 และ Microsoft SQL Server 2017 ให้เลือกใช้งานแล้ว รองรับ Microsoft SQL Server ทั้ง 4 Editions ได้แก่ Web, Express, Standard และ Enterprise นอกจากนี้ผู้ใช้งานสามารถเลือก EC2 Instance Types ได้เอง โดยรองรับ Instance x1e.32xlarge ซึ่งเปิดตัวไปไม่นาน ทำให้สามารถใช้งานได้สูงสุด 128 vCPU และ 4TB Memory

ผู้ที่สนใจสามารถสร้าง Instance ของ Microsoft SQL Server 2017 ผ่านทาง AWS Management Console หรือ AWS Marketplace ได้ทันที โดยสามารถเลือกใช้งาน Licenses ได้ทั้งหมด 3 รูปแบบ ได้แก่ Pay As You Go, License Mobility และ Bring Your Own Licenses

Credit: AWS

ที่มา: https://aws.amazon.com/blogs/aws/now-available-microsoft-sql-server-2017-for-amazon-ec2/

from:https://www.techtalkthai.com/aws-announces-support-for-microsoft-sql-server-2017-on-amazon-ec2/

Microsoft Azure รองรับ SQL Server 2017 แล้ว ติดตั้งได้ทั้งบน Linux และ Windows

Microsoft ประกาศรองรับ SQL Server 2017 บน Azure แล้วอย่างเป็นทางการ โดยผู้ใช้งานสามารถเลือก VM Image ได้ผ่านทาง Azure Marketplace สามารถเลือกติดตั้งได้ทั้งบน Linux และ Windows เพิ่มทางเลือกให้ผู้ใช้งานมากขึ้น

Credit: Azure

SQL Server 2017 เป็น SQL Server เวอร์ชั่นแรกที่รองรับการติดตั้งและทำงานบน Linux ทำให้ผู้ใช้งานสามารถเลือกติดตั้ง SQL Server บน Virtual Machine บนระบบปฏิบัติการ Windows, Red Hat Enterprise Linux (RHEL), SUSE Enterprise Linux หรือ Ubuntu ได้ โดย SQL Server 2017 มาพร้อมกับความสามารถที่หลากหลายมากขึ้นเช่น Graph Data Management, Adaptive Query Processing, Advanced Intelligence (AI) และยังรองรับ Container อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น Docker, Kubernetes หรือ OpenShift

ข้อดีของการใช้งาน SQL Server บน Azure มีดังนี้
  • Cloud flexibility – ติดตั้งและบริหารจัดการได้ง่าย สามารถ deploy SQL Server ได้ในเวลาเพียงไม่กี่นาที สามารถเลือก scale up หรือ scale out ได้แบบ on the fly
  • Tuned for performance – มั่นใจได้ว่า virtual machine บน Azure มีการ optimized โดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญเรียบร้อยแล้ว
  • Highly-secured and trusted – ข้อมูลและ database ของผู้ใช้งาน เก็บอยู่บน cloud ที่มีความปลอดภัยสูง เชื่อถือได้
ผู้ใช้งานสามารถเลือกติดตั้ง Standalone SQL Server 2017 instance บน Azure ได้บนระบบปฏิบัติการดังนี้
  • Windows Server 2016
  • Red Hat Enterprise Linux 7.4
  • SUSE Enterprise Linux 12 SP3
  • Ubuntu 16.04 LTS

ที่มา: https://azure.microsoft.com/en-us/blog/announcing-new-azure-vm-images-sql-server-2017-on-linux-and-windows/

from:https://www.techtalkthai.com/microsoft-announces-new-vm-image-for-sql-server-2017/

[PR] ไมโครซอฟท์เปิดตัว SQL Server 2017
แพลตฟอร์มข้อมูลแห่งอนาคต พร้อมเปิดกว้าง รองรับหลายแพลตฟอร์ม

พร้อมเสริมศักยภาพและขับเคลื่อนธุรกิจสู่โลกดิจิทัลด้วยนวัตกรรมด้านข้อมูล คลาวด์ และ AI บนแพลตฟอร์มที่นักพัฒนาเลือกใช้

กรุงเทพฯ30 พฤษภาคม 2560 – ไมโครซอฟท์สานต่อพันธกิจการเสริมศักยภาพธุรกิจในการปฏิรูปการทำงานสู่ยุคดิจิทัลด้วยการประกาศเปิดตัว SQL Server 2017 ซึ่งเป็นรุ่นล่าสุดของโซลูชั่นแพลตฟอร์มข้อมูลชั้นนำของโลก นอกจากประสิทธิภาพและความปลอดภัยที่เหนือกว่าคู่แข่ง และคุณสมบัติขั้นสูงในการวิเคราะห์ข้อมูลแล้ว SQL Server 2017 ยังเป็นแพลตฟอร์มข้อมูลรุ่นแรกของไมโครซอฟท์ที่รองรับทั้งระบบปฏิบัติการลินุกซ์และ
ด็อกเกอร์ ควบคู่ไปกับแพลตฟอร์มวินโดวส์ จึงทำให้ลูกค้าสามารถดึงศักยภาพของ SQL Server ออกมาใช้งานได้อย่างเต็มที่บนแพลตฟอร์มใดก็ได้

“เป้าหมายของไมโครซอฟท์คือการหนุนให้ธุรกิจประสบความสำเร็จในยุคของการปฏิรูปธุรกิจสู่โลกดิจิทัล และนวัตกรรม Internet of Things ด้วยเทคโนโลยี บิ๊ก ดาต้า คลาวด์ และปัญญาประดิษฐ์ ซึ่งสามารถช่วยให้องค์กรค้นพบข้อมูลหรือมุมมองใหม่ๆ ที่อาจนำไปสู่วิถีทางการทำงานที่ดีกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็นการเสริมประสิทธิภาพการทำงานด้วยระบบวิเคราะห์ข้อมูลแบบเรียลไทม์ การตัดสินใจที่รวดเร็วยิ่งขึ้นด้วยมุมมองและความเข้าใจใหม่ๆ ที่ทุกคนเข้าถึงได้ หรือแม้แต่การลดต้นทุนผ่านทางระบบประเมินความต้องการสินค้าล่วงหน้า เป็นต้น” คุณชาญ อาริยะกุล ผู้จัดการอาวุโส กลุ่มธุรกิจคลาวด์และโซลูชั่นสำหรับองค์กร บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว “ไม่ว่าจะเป็นระบบข้อมูลแบบ on-premises หรือบนคลาวด์ เราเข้าใจดีว่าลูกค้าทุกรายต่างให้ความสนใจในโซลูชั่นที่รองรับแพลตฟอร์มได้หลากหลายมากขึ้น เพื่อให้ตรงกับระบบข้อมูลที่แตกต่างกันไปของแต่ละราย ด้วยเหตุนี้เอง ไมโครซอฟท์จึงได้พัฒนา SQL Server 2017 ให้รองรับทั้งวินโดวส์ เซิร์ฟเวอร์ และแพลตฟอร์มโอเพนซอร์สต่างๆ ทั้ง Red Hat Enterprise Linux, SUSE Enterprise Linux Server, Ubuntu และด็อกเกอร์ คอนเทนเนอร์ บนลินุกซ์และแมค”

นอกจากนี้ SQL Server 2017 ในรุ่น Community Technical Preview ที่สามารถดาวน์โหลดไปทดลองใช้งานได้แล้วนั้น ยังมาพร้อมกับคุณสมบัติใหม่อันชาญฉลาด ด้วยการผสานนวัตกรรมปัญญาประดิษฐ์เข้าเป็นส่วนหนึ่งของระบบฐานข้อมูล ระบบจัดเก็บข้อมูลดิบ (data lake) และระบบคลาวด์ จึงถือได้ว่าเป็นระบบบริหารจัดการฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ (RDBMS) รายแรกที่มี AI ในตัว ส่วนบริการใหม่อย่าง Microsoft Machine Learning Services ก็ช่วยให้เซิร์ฟเวอร์ฐานข้อมูลสามารถทำงานกับสคริปต์ภาษาไพธอนและ R ได้ด้วยตนเอง ทั้งยังรองรับการใช้หน่วยประมวลผลกราฟฟิกของ NVIDIA ในการทำงานเชิงวิเคราะห์และเรียนรู้ขั้นสูง ทั้งกับข้อมูลในรูปแบบภาพ ข้อความ และข้อมูลที่ไร้โครงสร้าง

“ผลสำรวจของ McKinsey & Company เผยว่าธุรกิจที่ใช้งานระบบวิเคราะห์ข้อมูลกันอย่างกว้างขวางภายในองค์กร จะมีโอกาสทำผลงานได้ดีกว่าคู่แข่งถึงสองเท่าตัว ทั้งในด้านยอดขาย ผลกำไร การเติบโต และผลตอบแทนจากการลงทุน” คุณชาญกล่าวเสริม “SQL Server 2017 จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถทำการวิเคราะห์ข้อมูลแบบเรียลไทม์ได้ง่ายและแม่นยำยิ่งขึ้น การผนึกเอาระบบวิเคราะห์ข้อมูลเข้าเป็นส่วนหนึ่งของ SQL Server ส่งผลให้แพลตฟอร์มข้อมูลของเรามีความปลอดภัยสูง ลดความเสี่ยงด้านการรั่วไหลของข้อมูล และลดความซับซ้อนในเชิงกฎหมายลง เนื่องจากไม่จำเป็นต้องถ่ายโอนข้อมูลจากระบบฐานข้อมูลไปยังระบบวิเคราะห์อีกต่อไป”

SQL Server รุ่นล่าสุดนี้ เป็นระบบบริหารจัดการฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์แพลตฟอร์มแรกที่รองรับข้อมูลแบบกราฟ ซึ่งจะช่วยให้ธุรกิจสามารถนำข้อมูลแบบไร้โครงสร้างมาวิเคราะห์หาความสัมพันธ์และมุมมองใหม่ๆ อันเป็นประโยชน์ได้ นอกจากนี้ SQL Server 2017 ยังมีตัวเชือมต่อ (connector) ที่ครบครันและทันสมัย ใช้งานได้กับแหล่งข้อมูลจำนวนมาก เพื่อให้สามารถวิเคราะห์และประมวลผลข้อมูลในหน่วยความจำได้รวดเร็วยิ่งขึ้น

ส่วนในด้านประสิทธิภาพ SQL Server 2017 ยังพัฒนาต่อยอดความเป็นผู้นำเชิงสมรรถนะด้วยการประมวลผลข้อมูลแบบ row-based in-memory OLTP และการบีบอัดข้อมูลแบบ ColumnStore ซึ่งทำให้ระบบสามารถทำการวิเคราะห์ข้อมูลได้แบบเรียลไทม์ ส่วนในด้านระบบคลังข้อมูลนั้น SQL Server 2017 ยังเป็นผู้นำด้านความคุ้มค่า ด้วยสมรรถนะและราคาที่โดดเด่นที่สุดจากการทดสอบประมวลผลข้อมูล TPC-H 1TB, 10TB และ 30TB แบบ non-clustered

SQL Server 2017 ได้รับเลือกให้เป็นแพลตฟอร์มข้อมูลที่มีความปลอดภัยสูงสุดโดยสถาบันมาตรฐานและเทคโนโลยีแห่งชาติ (NIST) สหรัฐอเมริกา จึงพร้อมปกป้องข้อมูลของคุณในทุกขณะด้วยคุณสมบัติ Always Encrypted ที่เข้ารหัสข้อมูลในทุกขั้นตอนภายในแอพพลิเคชัน โดยไม่เปิดเผยกุญแจรหัสให้ระบบฐานข้อมูลนำไปใช้งาน ส่วนฟังก์ชันอย่าง Dynamic Data Masking และ Row-Level Security ก็ปกป้องข้อมูลของคุณด้วยการรักษาสิทธิ์การเข้าถึงสำหรับผู้ได้รับอนุญาตเท่านั้น

การรองรับระบบปฏิบัติการลินุกซ์ของ SQL Server 2017 ยังรวมถึงโครงสร้างระบบ HA (High Availability) ที่มีความยืดหยุ่นสูงขึ้น เปิดโอกาสให้ลูกค้าสามารถวางระบบ Always On ที่ผสมผสานเซิร์ฟเวอร์ลินุกซ์และวินโดวส์ไว้ด้วยกัน พร้อมทำงานทดแทนกันเพื่อให้แพลตฟอร์มข้อมูลพร้อมใช้งานอยู่เสมอ แม้ในกรณีเหตุการณ์ไม่คาดฝัน โดยมีระบบสำรองที่พร้อมทำงานตั้งแต่ระดับระบบปฏิบัติการ ส่วนในด้านความปลอดภัย SQL Server บนลินุกซ์ ก็มีคุณสมบัติครบครัน ทั้งยังมอบทั้งความปลอดภัยมาตรฐานระดับองค์กร พร้อมด้วยสมรรถนะและความคุ้มค่าสูงสุดเช่นเดียวกับบนวินโดวส์

ผู้สนใจสามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมและดาวน์โหลด SQL Server 2017 รุ่น Community Technical Preview ไปทดลองใช้งานได้ที่ https://www.microsoft.com/en-us/sql-server/sql-server-2017 หรือสอบถามข้อมูลได้ที่ โทร. 02 263 6888

###

ข้อมูลเกี่ยวกับไมโครซอฟท์

บริษัท ไมโครซอฟท์ (Nasdaq “MSFT” @Microsoft) ผู้นำระดับโลกในด้านการพัฒนาแพลตฟอร์มและบริการที่มุ่งเสริมประสิทธิภาพการสร้างสรรค์ในโลกยุคโมบายและคลาวด์ เพื่อเป็นกำลังสำคัญให้ทุกคนและทุกองค์กรทั่วโลกให้บรรลุผลสำเร็จทีดียิ่งกว่า

บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด ก่อตั้งขึ้นในปี 2536  มีความมุ่งมั่นในการช่วยให้คุณภาพชีวิตคนไทย 70 ล้านคน ดีขึ้นด้วยเทคโนโลยีของไมโครซอฟท์   ไมโครซอฟท์ ส่งเสริมให้คนไทยและภาคธุรกิจได้ตระหนักถึงศักยภาพที่มีอย่างเต็มเปี่ยมผ่านการใช้เทคโนโลยีที่สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลง ในการทำงาน การใช้ชีวิต และการสื่อสาร  ไมโครซอฟท์ให้บริการซอฟต์แวร์ บริการ และดีไวซ์ ที่สามารถก่อให้เกิดโอกาสใหม่ๆ  มีความสะดวกทันสมัย  และช่วยให้คนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น  ไมโครซอฟท์ ไม่หยุดนิ่งในการทำงานร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ พันธมิตร อย่างต่อเนื่องในการนำพลังของเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประเทศไทย

หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดตามความเคลื่อนไหวล่าสุดได้ทางศูนย์ข่าวสารประเทศไทยhttp://news.microsoft.com/th-th/ และทวิตเตอร์ @MicrosoftTH

from:https://www.techtalkthai.com/microsoft-launches-sql-server-2017%e2%80%a8/

[PR] Microsoft เปิดตัว SQL Server 2017 แพลตฟอร์มข้อมูลแห่งอนาคต พร้อมเปิดกว้าง รองรับหลายแพลตฟอร์ม

พร้อมเสริมศักยภาพและขับเคลื่อนธุรกิจสู่โลกดิจิทัลด้วยนวัตกรรมด้านข้อมูล คลาวด์ และ AI บนแพลตฟอร์มที่นักพัฒนาเลือกใช้

กรุงเทพฯ – 30 พฤษภาคม 2017 – ไมโครซอฟท์สานต่อพันธกิจการเสริมศักยภาพธุรกิจในการปฏิรูปการทำงานสู่ยุคดิจิทัลด้วยการประกาศเปิดตัว SQL Server 2017 ซึ่งเป็นรุ่นล่าสุดของโซลูชั่นแพลตฟอร์มข้อมูลชั้นนำของโลก นอกจากประสิทธิภาพและความปลอดภัยที่เหนือกว่าคู่แข่ง และคุณสมบัติขั้นสูงในการวิเคราะห์ข้อมูลแล้ว SQL Server 2017 ยังเป็นแพลตฟอร์มข้อมูลรุ่นแรกของไมโครซอฟท์ที่รองรับทั้งระบบปฏิบัติการลินุกซ์และด็อกเกอร์ ควบคู่ไปกับแพลตฟอร์มวินโดวส์ จึงทำให้ลูกค้าสามารถดึงศักยภาพของ SQL Server ออกมาใช้งานได้อย่างเต็มที่บนแพลตฟอร์มใดก็ได้

“เป้าหมายของไมโครซอฟท์คือการหนุนให้ธุรกิจประสบความสำเร็จในยุคของการปฏิรูปธุรกิจสู่โลกดิจิทัล และนวัตกรรม Internet of Things ด้วยเทคโนโลยี บิ๊ก ดาต้า คลาวด์ และปัญญาประดิษฐ์ ซึ่งสามารถช่วยให้องค์กรค้นพบข้อมูลหรือมุมมองใหม่ๆ ที่อาจนำไปสู่วิถีทางการทำงานที่ดีกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็นการเสริมประสิทธิภาพการทำงานด้วยระบบวิเคราะห์ข้อมูลแบบเรียลไทม์ การตัดสินใจที่รวดเร็วยิ่งขึ้นด้วยมุมมองและความเข้าใจใหม่ๆ ที่ทุกคนเข้าถึงได้ หรือแม้แต่การลดต้นทุนผ่านทางระบบประเมินความต้องการสินค้าล่วงหน้า เป็นต้น” คุณชาญ อาริยะกุล ผู้จัดการอาวุโส กลุ่มธุรกิจคลาวด์และโซลูชั่นสำหรับองค์กร บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว “ไม่ว่าจะเป็นระบบข้อมูลแบบ on-premises หรือบนคลาวด์ เราเข้าใจดีว่าลูกค้าทุกรายต่างให้ความสนใจในโซลูชั่นที่รองรับแพลตฟอร์มได้หลากหลายมากขึ้น เพื่อให้ตรงกับระบบข้อมูลที่แตกต่างกันไปของแต่ละราย ด้วยเหตุนี้เอง ไมโครซอฟท์จึงได้พัฒนา SQL Server 2017 ให้รองรับทั้งวินโดวส์ เซิร์ฟเวอร์ และแพลตฟอร์มโอเพนซอร์สต่างๆ ทั้ง Red Hat Enterprise Linux, SUSE Enterprise Linux Server, Ubuntu และด็อกเกอร์ คอนเทนเนอร์ บนลินุกซ์และแมค”

นอกจากนี้ SQL Server 2017 ในรุ่น Community Technical Preview ที่สามารถดาวน์โหลดไปทดลองใช้งานได้แล้วนั้น ยังมาพร้อมกับคุณสมบัติใหม่อันชาญฉลาด ด้วยการผสานนวัตกรรมปัญญาประดิษฐ์เข้าเป็นส่วนหนึ่งของระบบฐานข้อมูล ระบบจัดเก็บข้อมูลดิบ (data lake) และระบบคลาวด์ จึงถือได้ว่าเป็นระบบบริหารจัดการฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ (RDBMS) รายแรกที่มี AI ในตัว ส่วนบริการใหม่อย่าง Microsoft Machine Learning Services ก็ช่วยให้เซิร์ฟเวอร์ฐานข้อมูลสามารถทำงานกับสคริปต์ภาษาไพธอนและ R ได้ด้วยตนเอง ทั้งยังรองรับการใช้หน่วยประมวลผลกราฟฟิกของ NVIDIA ในการทำงานเชิงวิเคราะห์และเรียนรู้ขั้นสูง ทั้งกับข้อมูลในรูปแบบภาพ ข้อความ และข้อมูลที่ไร้โครงสร้าง

“ผลสำรวจของ McKinsey & Company เผยว่าธุรกิจที่ใช้งานระบบวิเคราะห์ข้อมูลกันอย่างกว้างขวางภายในองค์กร จะมีโอกาสทำผลงานได้ดีกว่าคู่แข่งถึงสองเท่าตัว ทั้งในด้านยอดขาย ผลกำไร การเติบโต และผลตอบแทนจากการลงทุน” คุณชาญกล่าวเสริม “SQL Server 2017 จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถทำการวิเคราะห์ข้อมูลแบบเรียลไทม์ได้ง่ายและแม่นยำยิ่งขึ้น การผนึกเอาระบบวิเคราะห์ข้อมูลเข้าเป็นส่วนหนึ่งของ SQL Server ส่งผลให้แพลตฟอร์มข้อมูลของเรามีความปลอดภัยสูง ลดความเสี่ยงด้านการรั่วไหลของข้อมูล และลดความซับซ้อนในเชิงกฎหมายลง เนื่องจากไม่จำเป็นต้องถ่ายโอนข้อมูลจากระบบฐานข้อมูลไปยังระบบวิเคราะห์อีกต่อไป”

SQL Server รุ่นล่าสุดนี้ เป็นระบบบริหารจัดการฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์แพลตฟอร์มแรกที่รองรับข้อมูลแบบกราฟ ซึ่งจะช่วยให้ธุรกิจสามารถนำข้อมูลแบบไร้โครงสร้างมาวิเคราะห์หาความสัมพันธ์และมุมมองใหม่ๆ อันเป็นประโยชน์ได้ นอกจากนี้ SQL Server 2017 ยังมีตัวเชือมต่อ (connector) ที่ครบครันและทันสมัย ใช้งานได้กับแหล่งข้อมูลจำนวนมาก เพื่อให้สามารถวิเคราะห์และประมวลผลข้อมูลในหน่วยความจำได้รวดเร็วยิ่งขึ้น

ส่วนในด้านประสิทธิภาพ SQL Server 2017 ยังพัฒนาต่อยอดความเป็นผู้นำเชิงสมรรถนะด้วยการประมวลผลข้อมูลแบบ row-based in-memory OLTP และการบีบอัดข้อมูลแบบ ColumnStore ซึ่งทำให้ระบบสามารถทำการวิเคราะห์ข้อมูลได้แบบเรียลไทม์ ส่วนในด้านระบบคลังข้อมูลนั้น SQL Server 2017 ยังเป็นผู้นำด้านความคุ้มค่า ด้วยสมรรถนะและราคาที่โดดเด่นที่สุดจากการทดสอบประมวลผลข้อมูล TPC-H 1TB, 10TB และ 30TB แบบ non-clustered

SQL Server 2017 ได้รับเลือกให้เป็นแพลตฟอร์มข้อมูลที่มีความปลอดภัยสูงสุดโดยสถาบันมาตรฐานและเทคโนโลยีแห่งชาติ (NIST) สหรัฐอเมริกา จึงพร้อมปกป้องข้อมูลของคุณในทุกขณะด้วยคุณสมบัติ Always Encrypted ที่เข้ารหัสข้อมูลในทุกขั้นตอนภายในแอพพลิเคชัน โดยไม่เปิดเผยกุญแจรหัสให้ระบบฐานข้อมูลนำไปใช้งาน ส่วนฟังก์ชันอย่าง Dynamic Data Masking และ Row-Level Security ก็ปกป้องข้อมูลของคุณด้วยการรักษาสิทธิ์การเข้าถึงสำหรับผู้ได้รับอนุญาตเท่านั้น

การรองรับระบบปฏิบัติการลินุกซ์ของ SQL Server 2017 ยังรวมถึงโครงสร้างระบบ HA (High Availability) ที่มีความยืดหยุ่นสูงขึ้น เปิดโอกาสให้ลูกค้าสามารถวางระบบ Always On ที่ผสมผสานเซิร์ฟเวอร์ลินุกซ์และวินโดวส์ไว้ด้วยกัน พร้อมทำงานทดแทนกันเพื่อให้แพลตฟอร์มข้อมูลพร้อมใช้งานอยู่เสมอ แม้ในกรณีเหตุการณ์ไม่คาดฝัน โดยมีระบบสำรองที่พร้อมทำงานตั้งแต่ระดับระบบปฏิบัติการ ส่วนในด้านความปลอดภัย SQL Server บนลินุกซ์ ก็มีคุณสมบัติครบครัน ทั้งยังมอบทั้งความปลอดภัยมาตรฐานระดับองค์กร พร้อมด้วยสมรรถนะและความคุ้มค่าสูงสุดเช่นเดียวกับบนวินโดวส์

ผู้สนใจสามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมและดาวน์โหลด SQL Server 2017 รุ่น Community Technical Preview ไปทดลองใช้งานได้ที่ https://www.microsoft.com/en-us/sql-server/sql-server-2017 หรือสอบถามข้อมูลได้ที่ โทร. 02 263 6888

###

ข้อมูลเกี่ยวกับไมโครซอฟท์

บริษัท ไมโครซอฟท์ (Nasdaq “MSFT” @Microsoft) ผู้นำระดับโลกในด้านการพัฒนาแพลตฟอร์มและบริการที่มุ่งเสริมประสิทธิภาพการสร้างสรรค์ในโลกยุคโมบายและคลาวด์ เพื่อเป็นกำลังสำคัญให้ทุกคนและทุกองค์กรทั่วโลกให้บรรลุผลสำเร็จทีดียิ่งกว่า

บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด ก่อตั้งขึ้นในปี 2536 มีความมุ่งมั่นในการช่วยให้คุณภาพชีวิตคนไทย 70 ล้านคน ดีขึ้นด้วยเทคโนโลยีของไมโครซอฟท์ ไมโครซอฟท์ ส่งเสริมให้คนไทยและภาคธุรกิจได้ตระหนักถึงศักยภาพที่มีอย่างเต็มเปี่ยมผ่านการใช้เทคโนโลยีที่สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลง ในการทำงาน การใช้ชีวิต และการสื่อสาร ไมโครซอฟท์ให้บริการซอฟต์แวร์ บริการ และดีไวซ์ ที่สามารถก่อให้เกิดโอกาสใหม่ๆ มีความสะดวกทันสมัย และช่วยให้คนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ไมโครซอฟท์ ไม่หยุดนิ่งในการทำงานร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ พันธมิตร อย่างต่อเนื่องในการนำพลังของเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประเทศไทย

หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดตามความเคลื่อนไหวล่าสุดได้ทางศูนย์ข่าวสารประเทศไทย http://news.microsoft.com/th-th/ และทวิตเตอร์ @MicrosoftTH

from:https://www.techtalkthai.com/microsoft-releases-sql-server-2017/

Red Hat จับมือ Microsoft และ HPE เปิดตัวโซลูชัน MS SQL Server บน Linux

HPE, Microsoft และ Red Hat ประกาศความร่วมมือกันในการนำ Microsoft SQL Server มาติดตั้งบน Red Hat Enterprise Linux (RHEL) ใน HPE Proliant DL380 Gen9 เพื่อเป็นทางเลือกให้แก่เหล่าองค์กรในการใช้งาน MS SQL Server และยังมีผลการทดสอบออกมาว่า การติดตั้ง MS SQL Server 2017 บน RHEL นั้นสามารถทำงานได้เร็วกว่าบน Microsoft Windows Server รุ่นก่อนเสียอีก

ความร่วมมือกันครั้งนี้เกิดขึ้นเพื่อให้องค์กรนั้นมีทางเลือกในการลงทุนระบบปฏิบัติการสำหรับใช้งานภายใน Data Center ที่ยืดหยุ่นขึ้น เพื่อเตรียมรับต่อระบบ IT Architecture ที่จะต้องสามารถโยกย้ายได้ง่ายขึ้นในอนาคต โดยในความร่วมมือกันครั้งนี้ก็ได้เปิดทางเลือกใหม่ๆ ในการติดตั้งใช้งาน Microsoft SQL Server 2017 ให้สามารถใช้งานได้ทั้งบน Microsoft Windows Server และ Red Hat Enterprise Linux นั่นเอง ซึ่งการใช้งาน MS SQL Server บน Linux นี้เป็นจริงขึ้นมาได้ก็เพราะการประกาศเป็นพันธมิตรกับ Linux อย่างเต็มตัวของ Microsoft ในปี 2016 ที่ผ่านมานี่เอง

นอกจากนี้ จากการทดสอบประสิทธิภาพการทำงานของ Microsoft SQL Server 2017 Enterprise Edition บน Red Hat Enterprise Linux 7.3 ด้วย HPE ProLiant DL380 Gen 9 นั้น ก็พบว่ามีประสิทธิภาพการทำงานที่สูงกว่า Microsoft SQL Server 2016 Enterprise Edition บน Microsoft Windows Server 2012 R2 Standard Edition ถึง 6% ด้วยกัน ในขณะที่ค่าใช้จ่ายในการลงทุนก็ยังถูกกว่าถึง 5% เมื่อเทียบจาก Price/Performance ทำให้ในแง่ของประสิทธิภาพนั้นเรียกได้ว่าไม่ต้องกังขากันเลยว่า MS SQL Server 2017 จะทำงานได้ดีแค่ไหนบน RHEL

ในการทดสอบครั้งนี้ใช้ Database Benchmark ชั้นนำอย่าง TPC-H ที่ชี้วัดค่าประสิทธิภาพของระบบออกมาเป็น Query-per-Hour Performance (QphH) ที่ตัวเลขยิ่งมากแปลว่ายิ่งมีประสิทธิภาพ และได้ผลดังตารางต่อไปนี้

Credit: Red Hat

 

ส่วนสาเหตุที่ทำให้ RHEL ทำงานได้เร็วกว่า MS Windows Server นั้น ก็เพราะ RHEL รองรับการทำ DirectIO, การใช้ Non-Uniform Memory Access (NUMA) และ x86_64 Hughpages ทำให้การจัดการทั้ง I/O, CPU และ Memory มีประสิทธิภาพที่สูงขึ้นไปพร้อมๆ กัน

 

ที่มา: http://rhelblog.redhat.com/2017/04/19/microsoft-red-hat-hpe/

from:https://www.techtalkthai.com/red-hat-microsoft-and-hpe-launches-microsoft-sql-server-on-linux/