คลังเก็บป้ายกำกับ: HYPERVISOR

VMware ออกแพตช์อุดช่องโหว่ Zero-day ที่ถูกเจาะในงาน Pwn2Own

VMware ออกแพตช์อุดช่องโหว่ Zero-day บน VMware Workstation และ Fusion Hypervisor ที่ถูกเจาะในงาน Pwn2Own Vancouver 2023

Credit:alexmillos/ShutterStock

ในงาน Pwn2Own Vancouver 2023 นั้น VMware Workstation และ VMware Fusion ซึ่งเป็น Hypervisor สำหรับใช้งานบน Desktop ถูกเจาะผ่านช่องโหว่ 2 ตัว ล่าสุด VMware ออกแพตช์อุดช่องโหว่นี้เรียบร้อยแล้ว ได้แก่ ช่องโหว่แรก CVE-2023-20869 ช่องโหว่ Stack-based buffer-overflow ในระบบ Bluetooth device-sharing ส่งผลให้ผู้โจมตีระดับ local ทำการรันโค้ดผ่านทาง VMX process ได้ ส่วนช่องโหว่ที่ 2 คือ CVE-2023-20870 ช่องโหว่ Information Disclosure ในขั้นตอน Bluetooth Sharing ทำให้ผู้โจมตีสามารถเข้าถึงข้อมูลที่อยู่ภายในหน่วยความจำของ Hypervisor ได้จาก VM

นอกจากนี้ VMware ออกแพตช์อุดช่องโหว่อื่นอีก 2 ตัว สำหรับ VMware Workstation และ Fusion ได้แก่ CVE-2023-20871 และ CVE-2023-20872 ผู้ใช้งานสามารถอัปเดตไปใช้งาน VMware Workstation 17.0.2 และ VMware Fusion 13.0.2 เพื่ออุดช่องโหว่ได้แล้ว

ที่มา: https://www.bleepingcomputer.com/news/security/vmware-fixes-critical-zero-day-exploit-chain-used-at-pwn2own/

from:https://www.techtalkthai.com/vmware-releases-patches-for-zero-day-exploit-used-at-pwn2own/

VMware ประกาศเปิดตัว VMware Workstation 15 และ Fusion 11 อย่างเป็นทางการ รองรับ REST API แล้ว

VMware ประกาศเปิดตัว VMware Workstation 15 และ VMware Fusion 11 อย่างเป็นทางการแล้ว ปรับ UI ใหม่ พร้อมเพิ่ม REST API ให้กับ Workstation Pro

Credit: VMware

จุดเด่นหลักๆที่เพิ่มเข้ามาใน VMware Workstation 15 คือการรองรับการใช้งาน REST API แล้ว ช่วยตอบโจทย์นักพัฒนาที่มีการใช้งาน Automation Tools หรือต้องการทำ Testing pipeline แบบอัตโนมัติมากขึ้น ซึ่ง REST API ช่วยให้นักพัฒนาสามารถเขียนคำสั่งเพื่อควบคุม Virtual Mahcine (VM) และ Hypervisor ได้โดยตรง โดยจุดเด่นอื่นๆที่เพิ่มเข้ามาใน VMware Workstation 15 มีดังนี้

  • ปรับปรุง User Interface ใหม่ ให้รองรับ HiDPI 4K ทั้งการแสดงผลของ Host และ Guest VM
  • มี Stretch Mode เพื่อช่วยในการแสดงผลหน้าจอของ Guest ให้พอดีกับหน้าจอที่ใช้งาน โดยไม่จำเป็นต้องปรับเปลี่ยน Guest Resolution
  • รองรับ One-Click-SSH เพื่อเปิด SSH ไปยัง Linux VM ได้อย่างรวดเร็ว
  • รองรับ DirectX 10.1
  • รองรับการทำ Nested Virtualization สำหรับ vSphere 6.7 แล้ว พร้อมทั้งสามารถแสดงรายการ VM ที่อยู่ภายใน Nested Host ได้อีกด้วย
  • แก้ไขปัญหาด้านความปลอดภัย เช่น Spectre, Meltdown และ L1TF

นอกจากนี้ VMware ยังได้เปิดตัว VMware Fusion 11 สำหรับผู้ใช้งาน macOS อีกด้วย โดยมีความสามารถดังนี้

  • รองรับ Host และ Guest OS รุ่นใหม่ๆ เช่น macOS 10.14 Mojave, Windows 10 October 2018 Update, Windows Server 2016 Updates, Ubuntu 18.04.1 และ VMware Photon OS
  • รองรับการใช้งาน VMware Virtual Hardware Platform เวอร์ชัน 16 แล้ว
  • รองรับ DirectX 10.1 กับ Metal Graphic Rendering Engine
  • ปรับปรุง User Interface และ Application Menu ใหม่
  • ปรับปรุง Fusion REST API v1.2 รองรับการควบคุม Virtual Networking เช่น IP-DHCP binding และ NAT Port Forwarding
  • เพิ่ม One-Click SSH
  • รองรับการทำ Nested Virtualization สำหรับ vSphere 6.7
  • เพิ่มความสามารถในการทำ Automated Disk Cleanup เพื่อลดพื้นที่การใช้งานบน Host หลังจากที่ Shutdown VM แล้ว

ที่มา: https://blogs.vmware.com/workstation/2018/09/workstation-15-is-here.html

from:https://www.techtalkthai.com/vmware-releases-vmware-workstation-15-and-fusion-11-support-rest-api/

2 ผลสำรวจพบ Datacenter ยังจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง

ผลสำรวจ 2 แห่งจาก IHS Markit และ SNS Telecom&IT ชี้การใช้งาน Datacenter ยังคงเติบโตเพิ่มขึ้นสวนทางกับความกังวลของการมาถึงของ Cloud ที่ว่าอาจจะเป็นจุดจบของ Datacenter

IT Engineer Holding Notebook and Walking Through Data Center Full of Working Rack Servers.

IHS Markit ได้เข้าไปสำรวจเหล่าผู้จัดการแผนก IT กว่า 151 องค์กรในอเมริกาเหนือและได้พบกับสิ่งที่น่าสนใจคือส่วนใหญ่วางแผนที่จะเพิ่มจำนวนเซิร์ฟเวอร์แบบ Physical อย่างน้อยสองเท่าเข้า Datacenter ภายในปี 2019 ยังมีสถิติอื่นที่น่าสนใจดังนี้

  • ผู้ตอบคำถามส่วนใหญ่วางแผนที่จะเพิ่มจำนวนของการใช้ Hypervisor หรือ Container ให้มากขึ้น ที่น่าสนใจก็คือยังวางแผนที่จะใช้เซิร์ฟเวอร์แบบ Socket เดียวเพิ่มขึ้นด้วย
  • เหตุผลหลักของการลงทุนคือ 75% ตอบว่าเป็นเรื่องความมั่นคงปลอดภัย 71% ให้น้ำหนักไปที่ประสิทธิภาพของการใช้งานแอปพลิเคชัน
  • 53% ของผู้เข้ารว่มสำรวจยังวางแผนใช้งาน Software Design Storage โดยสัดส่วนคือ 52% เป็น NAS และ 42% เป็น SSD ตามลำดับ
  • ผู้เข้าร่วมสำรวจยังมีการสั่งซื้อสะสมสต็อกอุปกรณ์ Appliance อย่าง Router, Switch, Load Balancer, WAN Optimize และ อุปกรณ์ด้านความมั่นคงปลอดภัยอื่นๆ
  • เทคโนโลยีที่น่าสนใจมากในขณะนี้คือ AI และ Container
  • แอปพลิเคชันเก่า เช่น Microsoft Office, Email, SharePoint และกลุ่ม Unfied Communication รวมถึงอื่นๆ ทีเป็นแอปตอบโจทย์ด้านไอทีทั่วไปยังคงถูกใช้งานอยู่อย่างต่อเนื่อง

SNS Telecom&IT ได้สำรวจไปที่กลุ่มอุตสาหกรรมบริการธุรกิจการเงิน เช่น ธนาคาร  ประกัน บัตรเครดิต ผู้ให้บริการประมวลผลการชำระเงินต่างๆ ได้สรุปว่า Big Data และปริมาณข้อมูลแบบ Unstructure คือเหตุผลหลักของการลงทุนใน Datacenter ของธุรกิจกลุ่มนี้ นอกจากนี้ SNS ยังคาดว่าจะมีการลงทุนเพิ่มจากปัจจุบันคือ 9,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และโตขึ้นทุกปีๆ ละ 17% ไปเป็นมูลค่า 14,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ภายในปี 2021

ในรายงานที่สองนี้ยังได้ระบุว่าธุรกิจกลุ่มนี้ก็มีการยอมรับแพลตฟอร์มบน Cloud เช่นกัน โดยเฉพาะการทำ Hybrid-cloud เพื่อเลี่ยงปัญหาการขยายตัวในการใช้งานที่ทำได้ยากใน On-premise โดยสิ่งที่ธุรกิจนี้กังวลเกี่ยวกับ Cloud ก็คือไม่ยอมรับในส่วนความมั่นคงปลอดภัยและการปกป้องข้อมูล เนื่องจากธุรกิจการเงินย่อมตกเป็นเป้าการโจมตีเสมอ กระนั้นเองดูเหมือนว่า Cloud เองก็ดูจะได้รับการยอมรับมากขึ้นแล้ว

ที่มา : https://www.networkworld.com/article/3289509/data-center/two-studies-show-the-data-center-is-thriving-instead-of-dying.html

from:https://www.techtalkthai.com/2-market-firms-shown-datacenter-trends-is-continually-growing/

ตอบโจทย์ Virtualization อย่างประหยัดและคุ้มค่า ด้วย Synology Virtual Machine Manager

ถึงแม้ว่า Virtualization นั้นจะกลายเป็นเทคโนโลยีพื้นฐานที่จำเป็นสำหรับ Data Center ในธุรกิจทุกขนาดไปแล้ว แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าการลงทุนระบบ Virtualization โดยทั่วไปนั้นมักมีราคาสูงจนหลายๆ ธุรกิจนั้นลงทุนได้ลำบาก ในบทความนี้เราจะมาทำความรู้จักกับ Synology Virtual Machine Manager ที่ทำให้การลงทุนในระบบ NAS Storage สำหรับธุรกิจนั้น ถูกต่อยอดเพิ่มคุณค่าด้วยการทำหน้าที่เป็น Hypervisor สำหรับรองรับการทำ Virtualization ไปด้วยได้ในตัว

 

ทำไม Synology ถึงสามารถให้บริการ Virtualization ภายใน Data Center ได้?

 

Credit: Synology

 

Synology นั้นถือเป็นผู้ผลิตระบบ NAS Storage ที่มีผลิตภัณฑ์หลากหลาย ครอบคลุมได้ทั้งตลาดการใช้งานตามบ้าน ไปจนถึงภาคธุรกิจและองค์กร ซึ่งแน่นอนว่า Storage รุ่นสำหรับภาคธุรกิจและองค์กรนั้นก็ย่อมมีการเลือกใช้งาน Hardware ในระดับที่สูงขึ้น ไม่ว่าจะเป็น CPU ในระดับ Data Center อย่าง Intel Xeon หรือ RAM ปริมาณมหาศาลยิ่งขึ้นเพื่อให้รองรับ Application เสริมต่างๆ ได้มากยิ่งขึ้น

 

Credit: Synology

 

การที่ Synology มีรุ่นที่รองรับ Hardware ระดับสูงเหล่านี้เองก็เป็นการสร้างความเป็นไปได้ในการเปลี่ยนอุปกรณ์ NAS Storage มาสู่ระบบ Virtualization ด้วยการพัฒนาระบบ Hypervisor ให้กลายเป็นหนึ่งใน Application เสริมที่สามารถติดตั้งเพิ่มเติมบน Synology ได้ และทำให้ Synology นั้นมีความอเนกประสงค์มากยิ่งขึ้นนั่นเอง

อันที่จริงแล้วหากใครติดตามเทคโนโลยีจาก Synology มาอย่างต่อเนื่องนั้นก็น่าจะพอทราบกันว่า Synology เองก็รองรับการทำ Virtualization มานานแล้ว และปัจจุบันนี้เองก็พัฒนาต่อยอดไปจนถึงขั้นรองรับ Container ได้แล้วด้วย

 

Synology Virtual Machine Manager สร้าง Virtual Machine บน NAS Storage ได้โดยตรง

 

Credit: Synology

 

สำหรับ Synology Virtual Machine Manager (VMM) นี้ก็คือ Application เสริมที่สามารถนำมาติดตั้งบน Synology เพื่อทำหน้าที่เป็นระบบ Hypervisor และเทคโนโลยีต่างๆ ทางด้าน Virtualization ไม่ว่าจะเป็นระบบริหารจัดการ, Virtual Switch และอื่นๆ นั่นเอง โดยรองรับการสร้าง Virtual Machine (VM) สำหรับติดตั้งระบบปฏิบัติการได้หลากหลายค่าย เช่น

  • Microsoft Windows 7/8/8.1/10
  • Microsoft Windows Server 2008/2008 R2/2012/2012 R2/2016
  • CentOS
  • Fedora
  • OpenSUSE
  • Red Hat Enterprise Linux
  • Ubuntu
  • SUSE Linux Enterprise Desktop

ทั้งนี้การบริหารจัดการระบบ VM ทั้งหมดนี้ก็สามารถทำได้ผ่าน Web-browser ทั้งหมด ในขณะที่ความสามารถต่างๆ ด้านการบริหารจัดการและปกป้องข้อมูลของ Synology ทั้งหมดเองก็สามารถถูกนำมาประยุกต์ใช้ในการปกป้องข้อมูลของ VM ได้ ทั้งการทำ Snapshot, Backup, Replication และอื่นๆ อีกมากมาย และยังสามารถสร้าง URL สำหรับข้อมูลของ VM เพื่อให้ผู้ใช้งานทำการ Download ไปใช้งานที่อื่นได้ง่ายๆ อีกด้วย

 

Credit: Synology

 

จุดเด่นมากๆ จุดหนึ่งของ Synology VMM นี้ก็คือการที่ความสามารถนี้เปิดให้ใช้งานได้ฟรีๆ ดังนั้นสำหรับธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลางที่กำลังมองหาระบบ Virtualization เพื่อรองรับ Server จำนวนไม่มากนัก ก็สามารถใช้ Synology ได้ทันที พร้อมทั้งยังเปิดใช้บริการอื่นๆ เช่น File Sharing, Backup, Collaboration เพื่อรองรับงานอื่นๆ ภายในธุรกิจได้ด้วยในตัว

 

ต่อยอดสู่ระบบ Cluster ด้วย Synology Virtual Machine Manager Pro

 

Credit: Synology

 

สำหรับธุรกิจที่มีการเติบโตและต้องการเพิ่มขยายระบบ Data Center ของตน Synology เองก็สามารถทำการอัปเกรดด้วยการซื้อลิขสิทธิ์ Synology Virtual Machine Manager Pro (VMM Pro) เพื่อเสริมความสามารถทางด้านการทำ Virtualization ให้มากยิ่งขึ้นให้ Synology NAS Storage จำนวน 3-7 ชุดที่นำมาทำงานร่วมกันแบบ Cluster ไม่ว่าจะเป็นการรองรับ Snapshot ได้สูงขึ้นถึง 255 ชุด, การทำ Remote Replication, การย้าย VM ระหว่างอุปกรณ์แบบ Live Migration, การย้ายข้อมูลระหว่างอุปกรณ์หรือเรียกว่า Storage Migration, การทำ High Availability สำหรับ VM, การปรับค่า QoS และอื่นๆ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของ Data Center ขนาดใหญ่และซับซ้อนยิ่งขึ้นกว่าเดิมของธุรกิจนั่นเอง

 

Credit: Synology

 

อย่างไรก็ดี Synology เองก็จะมีการแนะนำรุ่น, สเป็คของอุปกรณ์ และจำนวน VM ที่เหมาะสมจะใช้งานเอาไว้เพื่อให้ผู้ที่สนใจสามารถวางแผนลงทุนเลือกใช้อุปกรณ์ที่เหมาะสมต่อธุรกิจของตนได้ โดยสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.synology.com/en-global/products/VMMPro_License_Pack

 

เปลี่ยน Synology เป็น iSCSI SAN Storage รองรับ Hypervisor ชั้นนำอื่นๆ ได้อย่างยืดหยุ่น

 

Credit: Synology

 

หากการเติบโตของธุรกิจองค์กรเป็นไปอย่างต่อเนื่องและ Data Center เองนั้นก็ต้องขยายตาม จนเกิดความต้องการในการเปลี่ยนไปใช้ระบบ Hypervisor ที่ต้องมีการลงทุนสูงขึ้นเพื่อให้ได้มาซึ่งความสามารถสำหรับตอบโจทย์ความต้องการที่ซับซ้อนขึ้น Synology เองก็ได้ผ่านการรับรองให้ทำหน้าที่เป็นอุปกรณ์ iSCSI Storage สำหรับระบบ Virtualization ชั้นนำอย่างครบถ้วน ทั้ง VMware® vSphere™, Microsoft® Hyper-V®, Citrix® XenServer™ และ OpenStack Cinder

สำหรับการใช้งานร่วมกับ VMware vSphere 6.5 นั้น Synology ก็รองรับ VAAI อย่างเต็มตัว ไม่ว่าจะป็นการรองรับ Hardware Assisted Locking (ATS), Block Zeroing, Full Copy, Thin Provisioning, Full Clone และ Reserved Space ทำให้ประสิทธิภาพในการสร้างหรือสำเนา VM เป็นไปได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้นกว่าเดิมเป็นอย่างมาก, ลดการทำงานของ CPU ในฝั่งของ Server ลง และยังช่วยให้การใช้งานพื้นที่จัดเก็บข้อมูลมีประสิทธิภาพสูงขึ้นด้วย

ส่วนการทำงานร่วมกับเทคโนโลยีในฝั่งของ Microsoft นั้น Synology เองก็รองรับการทำงานร่วมกับ ODX เพื่อ Offload การจัดการข้อมูลออกมาจาก Server อย่างเช่นการ Copy ข้อมูลที่จะทำให้ CPU ของ Server นั้นทำงานน้อยลงมาก และแทบไม่เกิด Traffic ในระบบเครือข่ายเลย ในขณะที่ความเร็วในการ Copy ข้อมูลก็สูงกว่าเดิมเกือบ 20 เท่า

 

Credit: Synology

 

และในอนาคตหากต้องการเพิ่มเติมประสิทธิภาพในการเข้าถึงข้อมูล Synology เองก็รองรับการทำ SSD Caching ได้ ทำให้การเพิ่ม IOPS เพื่อรองรับ Application อย่างเช่นระบบ Database ประสิทธิภาพสูงขึ้นก็สามารถทำได้อย่างง่ายดาย รวมถึง Synology เองก็มีรุ่นที่เป็น All Flash Storage ประสิทธิภาพสูงในราคาคุ้มค่า เพื่อเป็นอีกทางเลือกให้กับเหล่าธุรกิจที่เติบโตอย่างรวดเร็วและต้องการระบบ Storage ความเร็วสูงนั่นเอง

 

ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Synology

ผู้ที่สนใจรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Synology สามารถศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับ Synology ด้วยตนเองได้ที่ https://www.synology.com ทันที โดยผู้ที่สนใจใบเสนอราคาสามารถติดต่อตัวแทนจำหน่าย Synology ได้ดังนี้

หรือหากต้องการติดต่อทีมงาน Synology โดยตรงเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ใดๆ ก็สามารถกรอกแบบฟอร์มที่ https://www.synology.com/en-global/form/inquiry/product ได้ทันที

from:https://www.techtalkthai.com/synology-virtual-machine-manager-makes-your-nas-storage-to-become-a-virtualization-platform/

3 เหตุผลที่คุณไม่ควรพลาดงาน Nutanix 101 Customer Technology Bootcamp

ในวันนี้ Nutanix ก้าวสู่ความเป็นผู้นำสูงสุดของระบบ Hyper-Converged Platform จากรายงานล่าสุดของ Gartner ปี 2018 ซึ่งวันนี้ Nutanix มาไกลเกินกว่าสิ่งที่ผู้อื่นกำลังไล่ตาม มาเรียนรู้และรู้จักพื้นฐานทางเทคนิค และสถาปัตยกรรมของ Nutanix Enterprise Cloud Platform และการนำ Nutanix ไปใช้งานในองค์กร ในงาน Nutanix 101 Customer Technology Bootcamp

จัดเต็มกับเนื้อหาด้านเทคนิค พร้อมสาธิตการทำงานแบบเห็นกันจริงๆ สำหรับลูกค้าที่ยังไม่เคยสัมผัสและอยากทำความรู้จักกับ Nutanix มากยิ่งขึ้น ซึ่งเนื้อหาจะครอบคลุมถึงพื้นฐานของ Nutanix Acropolis, Acropolis Hypervisor (AHV), Prism, Data Protection, Disaster Recovery, Expansion, Upgrade และ Prism Central.

1. สัมผัสกับสถาปัยกรรม Nutanix

คุณจะได้พบกับเรื่องราวที่น่าสนใจในส่วนของพื้นฐานสำคัญในหัวข้อ Basic of Nutanix Architecture (Acropolis, AHV, Prism)

2. เทคนิคสุดล้ำผ่านระบบ Nutanix Prism

ในเซสชันดังกล่าวนี้คุณจะได้พบกับเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับเรื่องราวในประเด็นหัวข้อ Walk Through Nutanix Prism (Monitoring, HW, VM, DR & Backup) ที่ลงลึกถึงรายละเอียด

3. Acropolis Hypervisor คือสุดยอด!

แน่นอนว่า Acropolis คือสุดยอดระบบ Hypervisor ที่คุณไม่ควรจะพลาดเลยทีเดียว ซึ่งหัวข้อนี้เราจะมาตามติดกันกับ Overview Nutanix AHV (Acropolis Hypervisor)

กำหนดการจัดงาน
วันที่ : 26 เมษายน 2561
เวลา : 12.00 – 16.30 น.
สถานที่ : โรงแรม Intercontinental Bangkok ห้อง Pinnacle4-5, 4th Floor

 

Agenda:

12:00–13:00 Register & Lunch
13:00–13:45 Basic of Nutanix Architecture (Acropolis, AHV, Prism)
13:45–15:00 Walk Through Nutanix Prism (Monitoring, HW, VM, DR & Backup)
15:00–15:15 Break
15:15–16:15 Overview Nutanix AHV (Acropolis Hypervisor)
16:15–16:30 Q & A and Closing

งานนี้เหมาะสำหรับใคร

งาน Nutanix 101 Customer Technology Bootcamp เหมาะสมสำหรับ บุคลากรด้านไอทีต่างๆ ทั้ง Senior IT Management, Cloud Architects, IT Manager, IT Director, CTO, CIO และผู้บริหารไอทีในองค์กร

ลงทะเบียนร่วมงานได้ฟรีที่นี่ 

 

from:https://www.enterpriseitpro.net/nutanix-101-customer-technology-bootcamp/

Linux Foundation เปิดตัวโครงการ ACRN ระบบ Hypervisor ขนาดเล็กสำหรับ IoT

Linux Foundation ได้ออกมาประกาศเปิดตัวโครงการ Hypervisor ล่าสุดภายใต้ชื่อ ACRN สำหรับทำหน้าที่เป็นระบบ Hypervisor ให้แก่อุปกรณ์ Internet of Things (IoT) โดยเฉพาะ

 

Credit: ACRN

 

ACRN (อ่านว่า Acron) นี้จะเป็น Hypervisor จะเป็น Hypervisor ที่รองรับได้ทั้งการให้บริการ Linux-based Service และ Guest OS ในตัว โดยมีคุณสมบัติคือมีขนาดเล็ก, ใช้ทรัพยากรน้อย และรองรับการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ I/O ต่างๆ ได้หลากหลาย เพื่อรองรับการนำไปใช้งานกับอุปกรณ์ IoT ที่ต้องมีการเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่างๆ โดยเฉพาะ ต่างจากระบบ Hypervisor ในอดีตที่มักรองรับ Data Center ซึ่งเน้นการประมวลผลและการเข้าถึงข้อมูลเป็นหลัก

นอกจากนี้ ACRN ยังถูกออกแบบมาให้นำไปใช้ในยานยนต์ได้ด้วยความสามารถในการกำหนด Priority ให้กับ VM ต่างๆ ที่แตกต่างกัน เพื่อกำหนดให้ VM ที่ทำหน้าที่ประมวลผลใดๆ ซึ่งส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของผู้โดยสารและยานยนต์นั้นสามารถทำงานได้อยู่เสมอในทุกสถานการณ์

โครงการ ACRN นี้มีโค้ดอยู่เพียง 25,000 บรรทัดเท่านั้น ซึ่งถือว่าเล็กมากเมื่อเทียบกับ Data Center Hypervisor อื่นๆ ที่มีจำนวนโค้ดถึง 150,000 บรรทัด โดยโค้ดจำนวนมากในโครงการ ACRN นี้เป็นโค้ดมาจาก Intel ทำให้ปัจจุบันยังสามารถรองรับหน่วยประมวลผลจาก Intel ได้อยู่เป็นหลัก

ผู้ที่สนใจรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถศึกษาข้อมูลได้ที่ https://projectacrn.github.io/ ครับ

 

ที่มา: https://www.theregister.co.uk/2018/03/19/acrn_hypervizor_prject/

from:https://www.techtalkthai.com/linux-foundation-announces-project-acrn-hypervisor-for-iot-devices/

Oracle VM VirtualBox 5.2.2 ออกแล้ว รองรับ Linux 4.14

Oracle ปล่อยอัปเดต Maintenance Release ให้กับ Oracle VM VirtualBox 5.2.2 รองรับการใช้งานบน Linux Kernel 4.14 พร้อมปรับปรุง UI ใหม่

credit: VirtualBox

Oracle VM VirtualBox ซอฟต์แวร์ Virtualization ยอดนิยม ได้ออกอัปเดต 5.2.2 เป็น Maintenance Release แรก หลังจากที่เปิดตัว Major Update 5.2.0 ในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา โดยส่วนสำคัญที่ถูกปรับปรุงในเวอร์ชันนี้ มีดังนี้

  • รองรับการทำงานบน Host ที่ใช้ Linux Kernel 4.14 LTS พร้อมแก้บั๊กหลายจุดที่เกิดขึ้น
  • ปรับปรุง User Interface (UI) ให้รองรับหน้าจอแบบ High Resolutions หรือ HiDPI มากขึ้น
  • รองรับการทำ Duplicate กับ Optical หรือ Floppy images ใน UI แล้ว
  • ปรับปรุงการทำงานร่วมกับ Guest OS หลายตัว เช่น Haiku และ Plan 9
  • แก้ไขอาการค้างเมื่อใช้งาน Shared Clipboard ระหว่าง OS X host และ Linux guest
  • แก้ไขบั๊กการใช้งาน iSCSI, Serial, USB/OHCI และ EFI

ผู้ที่สนใจสามารถดาวน์โหลด Oracle VM VirtualBox 5.2.2 ได้ทันทีที่: https://www.virtualbox.org/wiki/Downloads

ที่มา: https://www.phoronix.com/scan.php?page=news_item&px=VirtualBox-5.2.2-Released

from:https://www.techtalkthai.com/oracle-vm-vitualbox-5-2-2-updated-support-for-linux-4-14/

AWS พัฒนา Hypervisor ใหม่ หันมาใช้ KVM แทน Xen เน้นตอบโจทย์ AI และ Deep Learning

AWS ได้ออกมาเผยถึงการพัฒนา Hypervisor รุ่นใหม่พร้อมๆ กับการเปิดตัว C5 Instance ที่ทำงานบน Intel Skylake Xeon โดย Hypervisor ใหม่นี้พัฒนาต่อยอดขึ้นมาจาก KVM ไม่ใช่ Xen เหมือนอย่างแต่ก่อน

Credit: AWS

 

การย้ายไปใช้ KVM ครั้งนี้ของ AWS เกิดขึ้นเนื่องจากความพยายามในการ Optimize ทรัพยากรบนบริการ Cloud ให้ถึงที่สุด โดยนอกจากจะพัฒนาให้ทำงานเข้ากับ CPU ที่ Intel ออกแบบมาให้โดยเฉพาะเป็นรุ่น 3.0GHz Xeon Platinum 8000-Series แล้ว KVM นี้ยังถูกปรับแต่งมาให้รองรับการทำงานร่วมกับ AI/Deep Learning Engine ด้วยการเปิดให้ทำงานร่วมกับ Intel Math Kernel Library ได้อย่ามีประสิทธิภาพด้วย ส่งผลให้ MXNet และ Deep Learning Framework อื่นๆ นั้นสามารถทำงานบน Amazon EC2 C5 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ก่อนหน้านี้ AWS ถือเป็นบริษัทที่มีการใช้งาน Xen มากที่สุดในโลก และเป็นกำลังสำคัญในการผลักดันโครงการ Xen Project ร่วมกับ Citrix แต่เมื่อ AWS หันไปใช้ KVM แทน อนาคตก็ถือว่าน่าสนใจไม่น้อยว่า KVM จะถูกพัฒนาต่อไปในทิศทางใด อีกทั้ง KVM เองก็ถือเป็น Hypervisor ที่หลายๆ โครงการให้การสนับสนุน ไม่ว่าจะเป็น OpenStack หรือการที่ Nutanix นำไปพัฒนาต่อยอดเป็น Acropolis ก็ตาม

 

ที่มา: https://www.theregister.co.uk/2017/11/07/aws_writes_new_kvm_based_hypervisor_to_make_its_cloud_go_faster/

from:https://www.techtalkthai.com/aws-new-hypervisor-uses-kvm-instead-of-xen/

Citrix เปิดตัว Hypervisor Security Layer บน Citrix XenServer

เมื่อ Hypervisor กลายเป็นเทคโนโลยีพื้นฐานของทุกองค์กร Citrix จึงตัดสินใจเสริมความปลอดภัยให้กับ XenServer ด้วยการสร้าง Security Layer ขึ้นมาอีกชั้น

Credit: Citrix

 

Citrix ได้จับมือกับ Bitdefender เพื่อพัฒนาสถาปัตยกรรมด้านความปลอดภัยใหม่โดยเฉพาะสำหรับ Citrix XenServer ให้สามารถให้บริการ Hypervisor ได้อย่างปลอดภัย โดยการทำงานร่วมกันระหว่าง Citrix XenServer Direct Inspect API และ Bitdefender Hypervisor Introspection (HVI) เพื่อใช้ตรวจจับภัยคุกคามที่อยู่บน Virtual Machine (VM) โดยเฉพาะ

Security Layer นี้จะทำงานโดยการทำการ Scan หน่วยความจำของ VM แบบ Real-time และทำการ Monitor ระบบอยู่ตลอด เพื่อคอยตรวจหา Malware ที่อาจซุกซ่อนอยู่ในแต่ละ VM โดยเฉพาะ ซึ่งแนวทางนี้จะช่วยให้ทั้ง XenServer, XenApp และ XenDesktop ของ Citrix นั้นมีความปลอดภัยสูงขึ้น โดยไม่ส่งผลกระทบทางด้านประสิทธิภาพต่อผู้ใช้งานระบบดังกล่าว และไม่ทำให้ VM Instance มีขนาดใหญ่ขึ้นหรือมีภาระเพิ่มขึ้นแต่อย่างใด

 

ที่มา: https://www.citrix.com/blogs/2017/02/09/announcing-the-first-ever-hypervisor-security-layer-only-available-with-xenserver/

from:https://www.techtalkthai.com/citrix-announces-hypervisor-security-layer-in-citrix-xenserver/

Microsoft แจกลิขสิทธิ์ Windows Server Datacenter 2016 ฟรี ให้องค์กรใช้แทน VMware ได้เลย

Microsoft หวังชิงส่วนแบ่งตลาด Hypervisor จาก VMware เปิดให้ลูกค้าใช้งาน Windows Server Datacenter 2016 ฟรีๆ แทน VMware vSphere

microsoft_techtalkthai_banner

เป็นหนึ่งในแคมเปญใหญ่เปิดตัว Microsoft Windows Server 2016 เพื่อให้เหล่าลูกค้าองค์กรหันมาใช้ Microsoft Windows Server กันมากขึ้น ทาง Microsoft จึงจัดโปรหนัก แจกฟรีลิขสิทธิ์ Microsoft Windows Server 2016 รุ่น Datacenter ให้ใช้แทน VMware vSphere กันได้ฟรีๆ เพียงแค่ลูกค้าองค์กรจ่ายค่า Software Assurance เท่านั้น ไม่ต้องซื้อลิขสิทธิ์ Windows Server แต่อย่างใด

ใครที่สนใจทำตาม 5 ขั้นตอนนี้ได้เลยครับ

  • ติดต่อเซลส์ของ Microsoft ได้ทันที
  • ระบุว่าจะย้าย Virtualization Workload มามากน้อยแค่ไหน จะได้ออกแบบจำนวน Core ที่ต้องการบน Windows Server Datacenter ได้ถูก
  • รอให้เซลส์ของ Microsoft ช่วย Approve ให้
  • เริ่ม Migrate ระบบ
  • ใส่ลิขสิทธิ์ของ Windows Server Datacenter พร้อม Software Assurance ได้เลย เสียค่าใช้จ่ายแค่ส่วนของ Software Assurance เท่านั้น

สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมของเข้าไปดูที่ http://www.microsoft.com/vmwareshift นะครับ และ Microsoft ได้ทำตารางเปรียบเทียบความคุ้มค่าให้ดูเล่นกันด้วยดังนี้

microsoft_vs_vmware_2016

Microsoft ยังทิ้งท้ายไว้อีกด้วยว่า เดี๋ยวพรุ่งนี้จะมีข่าวน่าสนใจที่ห้ามพลาดอีก รอติดตามกันได้เลยครับ

ที่มา: https://blogs.technet.microsoft.com/windowsserver/2016/08/24/announcing-the-new-vmware-migration-offer-for-windows-server-2016/

from:https://www.techtalkthai.com/microsoft-offers-free-windows-server-datacenter-2016-license-to-replace-vmware-vsphere/