คลังเก็บป้ายกำกับ: ORACLE

Java 20 ออกแล้ว

Oracle ออก Java 20 ตามรอบการออกรุ่นทุก 6 เดือน โดยรุ่นนี้เป็นรุ่นซัพพอร์ตระยะสั้น 6 เดือนจนถึง Java 21 ในเดือนกันยายน (ซึ่ง Java 21 จะเป็นรุ่นซัพพอร์ตระยะยาว LTS ตัวใหม่ด้วย)

ของใหม่ใน Java 20 มีทั้งหมด 7 อย่าง แบ่งออกเป็น 3 กลุ่มตามโครงการพัฒนา Java ระยะยาว ที่มีโค้ดเนมเป็นชื่อโครงการ โดยฟีเจอร์เหล่านี้ยังเป็นการทดสอบแบบ Preview/Incubator ที่ยังไม่เข้าสถานะเสถียร แต่เปิดให้ทดลองใช้งานแล้ว

  • Project Amber การทำ Record Patterns และ Pattern Matching สำหรับ switch
  • Project Panama การเชื่อมต่อระหว่าง JVM กับโค้ดแบบเนทีฟ เพิ่ม Foreign Function & Memory API และ Vector API
  • Project Loom การทำเรื่องเธร็ดและ concurrent รอบนี้เพิ่ม Virtual Threads, Scoped Values, Structured Concurrency

นอกจากฟีเจอร์ 3 กลุ่มนี้แล้วยังมีการแก้บั๊ก ปรับปรุงประสิทธิภาพ และฟีเจอร์ย่อยอื่นๆ เช่น รองรับ Unicode 15.0

No Description

ที่มา – Oracle

Topics: 

from:https://www.blognone.com/node/133116

Advertisement

Oracle รายงานผลประกอบการ รายได้รวมโต 18% จากธุรกิจด้านคลาวด์

ออราเคิลรายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 3 ตามปีการเงินบริษัท 2023 สิ้นสุดเดือนมกราคม โดยมีรายได้รวม 12,398 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 18% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิตามบัญชี GAAP 1,896 ล้านดอลลาร์

Safra Catz ซีอีโอออราเคิลกล่าวว่าผลการดำเนินงานที่เติบโตมาจากสองธุรกิจคือบริการคลาวด์ส่วน Infrastucture และแอพพลิเคชัน ทำให้รายได้รวมของธุรกิจคลาวด์แบบคิดรายรับ 12 เดือน เติบโตมากกว่า 1.6 หมื่นล้านดอลลาร์แล้ว จำนวนลูกค้า Fusion ERP มีมากกว่า 1 หมื่นราย และ NetSuite ERP มีมากกว่า 3.4 หมื่นราย

รายได้ส่วนธุรกิจบริการคลาวด์และสนับสนุนไลเซนส์ เพิ่มขึ้น 17% เป็น 8,923 ล้านดอลลาร์ และเป็นรายได้ส่วนใหญ่ของบริษัท ขณะที่ธุรกิจไลเซนส์คลาด์และไลเซนส์ออนพรีมิส เพิ่มขึ้น 10% เป็น 1,288 ล้านดอลลาร์ นอกจากนั้นเป็นรายได้ธุรกิจฮาร์ดแวร์และบริการ ซึ่งต่างเติบโตเช่นกัน

ที่มา: ออราเคิล

from:https://www.blognone.com/node/132953

ความนิยมใน Java ยี่ห้ออื่นเพิ่มขึ้น หลัง Oracle เปลี่ยนวิธีคิดไลเซนส์แพงขึ้น

จากข่าว Oracle เปลี่ยนวิธีคิดค่าไลเซนส์ Java ใหม่ นับตามจำนวนพนักงานของทั้งองค์กร แทนการนับตามจำนวนพนักงานที่ต้องใช้งาน สิ่งที่เกิดขึ้นตามมาคือความนิยมใน Java ของบริษัทหรือหน่วยงานอื่นๆ ที่เพิ่มขึ้นแทน

Mike Milinkovich ผู้อำนวยการของมูลนิธิ Eclipse Foundation โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ บอกว่าเขาก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไม Java ถึงแพงขนาดนี้ และแนะนำให้ใช้ไบนารี Temurin Java ของโครงการ Adoptium ภายใต้ Eclipse Foundation แทน ซึ่งเป็นไบนารีที่เข้ากันได้กับ Oracle Java 100%

อีกทางเลือกหนึ่งคือ Azul Platform Core ซึ่งเป็นแพ็กเกจ Java ของบริษัท Azul Systems ที่เสนอตัวเป็นทางเลือกของ Java แบบมีซัพพอร์ตในราคาที่ถูกกว่า Oracle มานานแล้ว ทาง Azul เองบอกว่าบริษัทได้รับการติดต่อจากลูกค้าเข้ามาอย่างมาก (massive increase) หลัง Oracle เปลี่ยนไลเซนส์

นอกจาก 2 ทางเลือกข้างต้นแล้ว ในตลาดยังมี Java ยี่ห้ออื่นๆ เช่น Amazon Corretto, Microsoft Build of OpenJDK, Red Hat OpenJDK ให้เลือกตามใจชอบ

จากสถิติของ New Relic ปี 2022 พบว่าความนิยมของ Oracle Java ลดลงจากเดิมมาก จากที่เคยมีส่วนแบ่งตลาด 75% ในปี 2020 เหลือเพียง 34.48% ในปี 2022 ส่วนอันดับสองคือ Amazon แรงขึ้นมาเป็น 22.04% ตามด้วย Adoptium 11.48%

No Description

ที่มา – InfoWorld

from:https://www.blognone.com/node/132532

ตลาด SaaS มีแนวโน้มจะแข่งขันดุเดือดมากขึ้นทุกปี

อัตราการเติบโต Dynamics 365 ของ Microsoft กำลังถูกเบียดพื้นที่ส่วนแบ่งตลาดจากผู้เล่นรายใหญ่อย่าง Oracle, SAP, Workday และ Salesforce ซึ่งได้รับรายรับโตขึ้นตามลำดับอย่างน่าพอใจ
 

Image Credit : salesforce.com
สรุปข้อมูลรายรับหมวด SaaS รายไตรมาสสิ้นสุดเมื่อวันที่ 30 พ.ย. 2022
  • Oracle มีรายได้เติบโต 40% คิดเป็นรายรับรายประจำไตรมาสที่ 2,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
  • SAP มีรายได้เติบโต 30% คิดเป็นรายรับรายประจำไตรมาสที่ 2,330 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
  • Workday มีรายได้เติบโต 22.3% คิดเป็นรายรับรายประจำไตรมาสที่ 1,430 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ข้อมูลอัปเดตสิ้นสุดเมื่อวันที่ 31 ต.ค. 2022)
  • Salesforce มีรายได้เติบโต 15% คิดเป็นรายรับรายประจำไตรมาสที่ 5,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ข้อมูลยังไม่ชัดเจน เป็นแค่การคาดการณ์)
  • Microsoft ไม่เปิดเผยรายรับรายไตรมาสสำหรับ Dynamics 365 แม้ถูกคาดการณ์ว่าจะเติบโตขึ้น 21% แต่เมื่อเทียบรายรับรายไตรมาสในปีก่อนหน้า Microsoft มีอัตราการเติบโตสูงถึง 45% นั่นหมายความว่า ณ ปีปัจจุบันตัวเลขการเติบโตมีตัวเลขที่ดิ่งลงมากกว่าครึ่งๆ
SaaS ตลาดซอฟต์แวร์ที่มีการแข่งขันช่วงชิงพื้นที่ส่วนแบ่งการตลาดกันอย่างดุเดือดมาตลอดหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งสามารถช่วยพลิกชีวิตให้กับกลุ่มธุรกิจต่างๆ สามารถปรับตัวก้าวเข้าสู่ยุคดิจิทัล ทั้ง Microsoft, Oracle, SAP, Workday และ Salesforce ล้วนแต่เผยกลยุทธ์เชิงรุกออกมาเพื่อนำเสนอให้กับผู้บริโภค และสำหรับปี 2023 คาดว่าบริษัทด้าน SaaS จะเน้นด้านประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ของตนเองมากขึ้นเพื่อการนำเสนอบริการที่แตกต่างและช่วยนำพาองค์กรต่างๆ ไปสู่ Digital Transformation ได้อย่างยั่งยืน
 

ที่มา : https://accelerationeconomy.com/cloud-wars/cloud-wars-minute/apps-wars-oracle-sap-outgrow-microsoft-dynamics-365/

from:https://www.techtalkthai.com/the-saas-market-tends-to-become-more-competitive-every-year/

Oracle เปลี่ยนวิธีคิดค่าไลเซนส์ Java ใหม่ นับตามจำนวนพนักงานของทั้งองค์กร

Oracle ออกแพ็กเกจการคิดค่าไลเซนส์ Java สำหรับลูกค้าองค์กรที่เรียกว่า Java SE Universal Subscription บังคับคิดเงินตามจำนวนพนักงานของทั้งองค์กร (per employees) แม้พนักงานกลุ่มนั้นไม่ใช่สายไอที และไม่ได้ใช้ Java เลยก็ตาม

เดิมที Oracle มีแพ็กเกจคิดค่าไลเซนส์ Java เรียกว่า Java SE Subscription และ Java SE Desktop Subscription ซึ่งคิดเงินตามจำนวนผู้ใช้ (per users) หรือจำนวนซีพียู (per processors) แต่แพ็กเกจเหล่านี้จะถูกแทนที่ด้วยแพ็กเกจใหม่ Universal Subscription แทน

ราคาของ Universal Subscription เริ่มต้นที่ 15 ดอลลาร์ต่อพนักงานต่อเดือน สำหรับองค์กรขนาดเล็กที่มีพนักงานไม่เกิน 999 คน หากเป็นองค์กรขนาดใหญ่มากๆ (พนักงานมากกว่า 40,000 คน) จะลดให้เหลือหัวละ 5.25 ดอลลาร์ต่อเดือน

การคิดค่าไลเซนส์ตามจำนวนพนักงาน “ทั้งหมด” (นับรวมพาร์ทไทม์ พนักงานช่วยคราว เอาท์ซอร์ส ฯลฯ ด้วย) ทำให้ Oracle ถูกวิจารณ์ เพราะหลายองค์กรต้องจ่ายค่าไลเซนส์ Java ที่แพงขึ้นมาก บางรายอาจต้องจ่ายเพิ่มถึง 10 เท่าเลยทีเดียว

ค่าไลเซนส์เหล่านี้มีผลเฉพาะกับ Oracle Java เท่านั้น หากใช้ OpenJDK เวอร์ชันโอเพนซอร์สก็ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย

No Description

ที่มา – Oracle, The Register, InfoWorld

Topics: 

from:https://www.blognone.com/node/132414

Oracle ออกแพตช์อัปเดตแรกของปี 2023 จำนวน 327 รายการ

Oracle แนะนำให้ลูกค้าใช้โปรแกรมแก้ไขความปลอดภัย Critical Patch Update Advisory – January 2023 โดยเร็วที่สุด เพื่อลดความเสี่ยงของการโจมตีที่สำเร็จ
 

สำหรับเวอร์ชันผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมภายใต้ระยะการสนับสนุนระดับ Premier Support หรือ Extended Support ของนโยบายการสนับสนุนตลอดอายุการใช้งาน การแก้ไขส่วนใหญ่ใช้สำหรับซอฟต์แวร์ 3rd Party ในผลิตภัณฑ์ Oracle ต่างๆ จำนวนมาก ซึ่งประกอบด้วยแพตช์ 327 รายการ :
 
  1. Oracle Communications มีแพตช์ความปลอดภัยใหม่ 79 รายการ
  2. Oracle Fusion Middleware มีแพตช์ความปลอดภัยใหม่ 50 รายการ
  3. Oracle Communications Applications มีแพตช์ความปลอดภัยใหม่ 39 รายการ
  4. Oracle MySQL มีแพตช์ความปลอดภัยใหม่ 37 รายการ
  5. Oracle Financial Services Applications มีแพตช์ความปลอดภัยใหม่ 16 รายการ
  6. Oracle E-Business Suite มีแพตช์ความปลอดภัยใหม่ 12 รายการ
  7. Oracle PeopleSoft มีแพตช์ความปลอดภัยใหม่ 12 รายการ
  8. Oracle Database Server มีแพตช์ความปลอดภัยใหม่ 9 รายการ
  9. Oracle Supply Chain มีแพตช์ความปลอดภัยใหม่ 8 รายการ
  10. Oracle Construction and Engineering มีแพตช์ความปลอดภัยใหม่ 7 รายการ
  11. Oracle Food and Beverage Applications มีแพตช์ความปลอดภัยใหม่ 7 รายการ
  12. Oracle Utilities Applications มีแพตช์ความปลอดภัยใหม่ 7 รายการ
  13. Oracle Support Tools มีแพตช์ความปลอดภัยใหม่ 6 รายการ
  14. Oracle Virtualization มีแพตช์ความปลอดภัยใหม่ 6 รายการ
  15. Oracle HealthCare Applications มีแพตช์ความปลอดภัยใหม่ 4 รายการ
  16. Oracle Java SE มีแพตช์ความปลอดภัยใหม่ 4 รายการ
  17. Oracle GoldenGate มีแพตช์ความปลอดภัยใหม่ 3 รายการ
  18. Oracle Enterprise Manager มีแพตช์ความปลอดภัยใหม่ 3 รายการ
  19. Oracle Essbase มีแพตช์ความปลอดภัยใหม่ 2 รายการ
  20. Oracle Commerce มีแพตช์ความปลอดภัยใหม่ 2 รายการ
  21. Oracle Health Sciences Applications มีแพตช์ความปลอดภัยใหม่ 2 รายการ
  22. Oracle Hyperion มีแพตช์ความปลอดภัยใหม่ 2 รายการ
  23. Oracle JD Edwards มีแพตช์ความปลอดภัยใหม่ 2 รายการ
  24. Oracle Siebel CRM มีแพตช์ความปลอดภัยใหม่ 2 รายการ
  25. Oracle Systems มีแพตช์ความปลอดภัยใหม่ 2 รายการ
  26. Oracle TimesTen In-Memory Database มีแพตช์ความปลอดภัยใหม่ 1 รายการ
  27. Oracle Hospitality Applications มีแพตช์ความปลอดภัยใหม่ 1 รายการ
  28. Oracle Insurance Applications มีแพตช์ความปลอดภัยใหม่ 1 รายการ
  29. Oracle Retail Applications มีแพตช์ความปลอดภัยใหม่ 1 รายการ

สำหรับผลิตภัณฑ์ของ Oracle ที่ไม่มีรายการอัปเดตแพตช์ในรอบนี้ คือ

  • Oracle Global Lifecycle Management
  • Oracle Graph Server and Client
  • Oracle Spatial Studio
  • Oracle Big Data Graph
สำหรับผลิตภัณฑ์ Oracle Database ที่สำคัญมีจำนวน 15 รายการ ซึ่งรวมอยู่ใน 327 รายการที่กล่าวไว้ข้างต้น โดยแบ่งเป็นดังนี้ :
  • Oracle Database Products มีแพตช์ความปลอดภัยใหม่ 9 รายการ
  • Oracle GoldenGate มีแพตช์ความปลอดภัยใหม่ 3 รายการ
  • Oracle Essbase มีแพตช์ความปลอดภัยใหม่ 2 รายการ
  • Oracle TimesTen In-Memory Database มีแพตช์ความปลอดภัยใหม่ 1 รายการ

ที่มา : https://www.oracle.com/security-alerts/cpujan2023.html

from:https://www.techtalkthai.com/oracle-released-the-first-patch-of-2023-with-327-updates/

IBM เพิ่มจำนวนคอร์โปรเซสเซอร์มากขึ้น 4 เท่า สำหรับ Oracle

เมื่อเดือนที่แล้ว IBM ประกาศอย่างเงียบๆ ว่ามีแผนที่จะเปิดตัวโปรเซสเซอร์ Power 10 แบบ 24 คอร์ เพื่อประโยชน์ของฐานข้อมูล Oracle ตามประกาศลงวันที่ 13 ธันวาคม 2022 ให้รายละเอียดเกี่ยวกับแผนของ IBM สำหรับเซิร์ฟเวอร์ Power S1014

เซิร์ฟเวอร์ S1014 ติดตั้งบนแร็คขนาด 4U แบบซ็อกเก็ตเดียวพร้อม NVMe SSD 16 ตัวและความจุหน่วยความจำสูงสุด 64GB เอกสารกล่าวในบางส่วน
 
“IBM ตั้งใจที่จะประกาศโปรเซสเซอร์ 24 คอร์ที่มีความหนาแน่นสูงสำหรับระบบ IBM Power S1014 (MTM 9105-41B) เพื่อจัดการกับสภาพแวดล้อมของแอปพลิเคชัน Oracle Database พร้อมโมเดลสิทธิ์การใช้งาน Standard Edition 2 (SE2) โดยตั้งใจที่จะรวมเอาความแข็งแกร่ง การคำนวณ throughput ด้วยคุณสมบัติความน่าเชื่อถือและความพร้อมใช้งานที่เหนือกว่าของแพลตฟอร์ม IBM Power ในขณะที่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์การให้สิทธิ์การใช้งาน Oracle Database SE2”
 
IBM เพิ่มจำนวนคอร์ของ RISC CPU เป็น 4 เท่า เพื่อประโยชน์ของฐานข้อมูลของ Oracle โดยปกติแล้ว Power Processor ใน S1014 จะมีจำนวน 4 หรือ 8 คอร์ แต่ IBM ตั้งใจที่จะเพิ่มเป็น 24 คอร์ โดยอ้างอิงโมเดลการให้สิทธิ์การใช้งาน Oracle Database Standard Edition 2 (SE2) โดยเฉพาะ “แบบต่อซ็อกเก็ต ไม่ใช่แบบต่อคอร์” และสิทธิ์ใช้งานของลูกค้าจะยังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง
 
“การเพิ่มจาก 4 หรือ 8 คอร์เป็น 24 คอร์ จะเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพครั้งใหญ่”
 
การเพิ่มจำนวนคอร์มากถึง 4 เท่า แน่นอนว่าจะต้องเกี่ยวข้องกับค่าใช้จ่ายภายในการดำเนินการและ IBM คาดหวังที่จะคืนเงินนั้นเช่นกัน แต่จะด้วยวิธีการอย่างไรยังไม่แน่ชัด เพราะ Oracle Database SE2 ไม่ใช่ฐานข้อมูลระดับบนสุดของ Oracle (เหตุใด Oracle จึงเลือก SE ไม่ใช่ EE) ซึ่ง Bob O’Donnel นักวิเคราะห์ของ Technalysis Research มองว่า IBM มีลูกค้าจำนวนมากที่ใช้ฐานข้อมูล Oracle และพวกเขาคิดว่านี่เป็นวิธีที่ค่อนข้างง่ายในการนำเสนอสิ่งที่ดีที่สุดในระดับเดียวกันให้แก่ลูกค้า
 
ในส่วนของ Oracle กล่าวว่า “ไม่ได้ร้องขอการเพิ่มแกนนี้จาก IBM และสำหรับคำถามอื่นๆ คุณจะต้องถาม IBM
 

from:https://www.techtalkthai.com/ibm-quadruples-the-number-of-processor-cores-for-oracle/

Oracle เปิดพื้นที่ให้บริการคลาวด์ใหม่ชิคาโก้ ตอบสนองความต้องการที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง

ผู้จำหน่ายผลิตภัณฑ์ฐานข้อมูลและผู้ให้บริการคลาวด์ Oracle ประกาศเมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมาว่า เปิดคลาวด์ภูมิภาค (Cloud region) ที่ 4 ในสหรัฐฯ แล้วสำหรับพาร์ทเนอร์ภาครัฐและเอกชน รวมถึงลูกค้าทั่วไป โดยถือเป็นภูมิภาคที่ 41 ของทั้งหมดทั่วโลก และเข้าเป็นส่วนหนึ่งของคลาวด์สำหรับหน่วยงานภาครัฐที่มีอยู่เดิมด้วย

สำหรับคลาวด์ภูมิภาคใหม่นี้ตั้งในเมืองชิคาโก้ เปิดให้พาร์ทเนอร์และลูกค้าโดยเฉพาะในพื้นที่ฝั่งตะวันตกตอนกลางของสหรัฐฯ มีทางเลือกเพิ่มเติมสำหรับตำแหน่งที่ตั้งในการใช้บริการด้านระบบโครงสร้างพื้นฐาน แอพพลิเคชั่น และการเก็บข้อมูล

ครั้งนี้แสดงให้เห็นว่า Oracle ยังลงทุนขยายระบบของตัวเองเพื่อตอบสนองความต้องการบริการคลาวด์ที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง จนล่าสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา บริษัทด้านการลงทุน KeyBanc ได้ออกรายงานแสดงความกังวลเกี่ยวกับการลงทุนของ Oracle ที่จ่ายไม่หยุดหย่อน

จนคาดว่าจะมีค่าใช้จ่ายรวมขึ้นไปถึง 9.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในส่วนของ Oracle Cloud Infrastructure ได้ แต่ก็ถือว่าเป็นการสร้างความเชื่อมั่นในการเติบโตขององค์กร ด้วยตัวเลขการเติบโตในไตรมาสล่าสุดที่ 28 เปอร์เซ็นต์ เพิ่มขึ้นจากก่อนหน้าที่อยู่ที่ 22 เปอร์เซ็นต์

อ่านเพิ่มเติมที่นี่ – CRN

from:https://www.enterpriseitpro.net/oracle-opens-new-cloud-region-in-chicago/

Oracle รายงานผลประกอบการ รายได้โต 18% จาก Infrastructure และ Cloud Business Application

ออราเคิลรายงานผลประกอบการ ของไตรมาสที่ 2 ตามปีการเงินบริษัท 2023 สิ้นสุดเดือนพฤศจิกายน มีรายได้รวม 12,275 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 18% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ ตามบัญชี GAAP 1,741 ล้านดอลลาร์

Safra Catz ซีอีโอออราเคิลกล่าวว่า การเติบโตของรายได้ในภาพรวม มาจากการเติบโตที่แข็งแกร่งในธุรกิจ Infrastructure และธุรกิจแอพพลิเคชันภาคธุรกิจบนคลาวด์ โดย Infrastructure เติบโต 59% ส่วนแอพพลิเคชันโต 45% ขณะที่ Larry Ellison ซีทีโอและประธานออราเคิล พูดถึงธุรกิจด้านสุขภาพ ที่ออราเคิลตั้งเป้าหมายเข้าไปมีส่วนยกเครื่องบริการให้ดีมากขึ้น ซึ่งเป็นผลจากเหตุการณ์โควิด 19

การเติบโตของรายได้แยกตามกลุ่มธุรกิจหลักของออราเคิล บริการคลาวด์และสนับสนุนไลเซนส์ มีรายได้เพิ่มขึ้น 14%, ไลเซนส์คลาด์และไลเซนส์ออนพรีมิส เพิ่มขึ้น 16%

ที่มา: ออราเคิล

from:https://www.blognone.com/node/131834

CISA ออกเตือนให้เร่งแพตช์ช่องโหว่บน Oracle Fusion Middleware

ช่องโหว่ที่ CISA แจ้งเตือนนี้ไม่ใช่ช่องโหว่ใหม่แต่อย่างใด โดยมีแพตช์ออกมาตั้งแต่เมื่อเดือนมกราคม 2022 แล้ว ซึ่งด้วยความอันตรายและดึงดูดต่อการใช้งานทำให้ล่าสุด CISA ได้เพิ่มช่องโหว่นี้ในฐานข้อมูลของตนพร้อมเตือนผู้ใช้งานทุกราย

CVE-2021-35587 เป็นช่องโหว่ระดับร้ายแรงที่กระทบกับ Oracle Access Manager (OAM) เวอร์ชัน 11.1.2.3.0, 12.2.1.3.0 และ 12.2.1.4.0 โดยคนร้ายที่เข้าถึงเครือข่ายผ่าน HTTP สามารถลอบรันคำสั่งเพื่อเข้ายึดเครื่องได้แม้จะไม่ผ่านการพิสูจน์ตัวตน นอกจากนี้ยังมีข้อมูลจาก GreyNoise บริษัทด้าน Threat Intelligence ระบุว่าพบการใช้งานจากหลายประเทศเช่น จีน สหรัฐฯ เยอรมัน สิงค์โปร์ และแคนนาดา

ในการเพิ่มช่องโหว่ที่น่าสนใจลงในฐานข้อมูล Know Exploited Vulnerablities (KEV) ครั้งนี้ ยังมีช่องโหว่จาก Google Chrome หมายเลขอ้างอิง CVE-2022-4135 ที่นำไปสู่การทำ Heap Buffer Overflow ที่เพิ่งได้รับการแพตช์ไปเมื่อสัปดาห์ก่อน

ที่มา : https://thehackernews.com/2022/11/cisa-warns-of-actively-exploited.html และ https://www.darkreading.com/threat-intelligence/oracle-fusion-middleware-flaw-flagged-by-cisa

from:https://www.techtalkthai.com/cisa-add-oracle-fusion-middleware-vulnerability-to-kev/