คลังเก็บป้ายกำกับ: VOLTE

Ericsson วิเคราะห์ ไทยเตรียมใช้ LTE และ 5G เป็นเครือข่ายหลักในปี 2023

คุณวุฒิชัย วุฒิอุดมเลิศ ผู้ดำรงตำแหน่งหัวหน้างานฝ่าย Networks Solution แห่งบริษัทอีริคสัน (ประเทศไทย) จำกัด ได้ออกมาเล่าถึงรายงาน Ericsson Mobility Report November 2017 ที่เป็นแนวโน้มการใช้งานระบบเครือข่ายสำหรับโทรศัพท์มือถือทั่วโลก ซึ่งทางทีมงาน TechTalkThai ก็ขอนำมาสรุปให้ผู้อ่านทุกท่านได้อ่านกันดังนี้ครับ

 

สรุปแนวโน้มการใช้เครื่องข่ายโทรคมนาคมในปัจจุบัน

Key Highlights ทั่วโลก

  • LTE หรือ 4G กลายมาเป็นสื่อหลักไปแล้วในปลายปี 2017 แทน WCDMA หรือ 3G
  • จำนวนอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อ 5G ภายในปี 2023 จะมีจำนวนถึง 1,000 ล้านเครื่อง
  • Global Mobile Data Traffic จะเติบโตถึง 8 เท่าในปี 2023 เทียบเป็นปริมาณ 110 Exabyte ต่อเดือนเลยทีเดียว

ปัจจุบันนี้ทั่วโลกมีผู้ใช้งาน LTE เพิ่มขึ้นมาจนถึง 2,500 ล้านรายแล้วจากผู้ใช้งาน Mobile ทั้งหมด 7,800 ล้านราย และเอเชียถือเป็นตลาดใหญ่มาก โดยจีนเป็นอันดับ 1, อินเดียเป็นอันดับ 2 และรวมทั้งภูมิภาคเอเชียนอกเหนือจากสองประเทศนั้นก็จะมีมากกว่าจีนทั้งประเทศเสียอีก ทั้งนี้ภายในปี 2023 LTE จะเติบโตกลายเป็น 5,500 ล้าน Subscriber

เทคโนโลยี 5G แบบ Non-standalone ที่ต่อยอดขึ้นมาจากโครงข่ายของ LTE เดิมนั้นจะเริ่มต้นมีการใช้งานภายในปลายปี 2017 นี้แล้ว ส่วนเทคโนโลยี 5G NR ซึ่งเป็นแบบ Standalone นั้นมาตรฐานจะออกมากลางปี 2018 และจะเริ่มถูกนำมาใช้งานภายในปี 2019 โดยคาดว่าจะมีโครงการ 5G ขนาดใหญ่ภายในปี 2020 ซึ่งภูมิภาคอเมริกาเหนือและเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือ (จีน, ญี่ปุ่น, เกาหลี) จะมีสัดส่วนการใช้งานเทคโนโลยี 5G สูงสุด เป็นแนวโน้มเดียวกับ LTE ในปัจจุบัน

นอกจากนี้ จากที่มีการทำนายว่าปริมาณ Traffic ทั่วโลกจากจะเพิ่มขึ้นเป็น 110 Exabyte ต่อเดือนนั้น สัดส่วน Traffic เหล่านี้จะเกิดจากวิดีโอถึง 75% เนื่องจากวิดีโอนั้นจะมีความละเอียดและมีเทคโนโลยีใหม่ๆ มากขึ้น ทำให้ต้องใช้ Traffic สูงขึ้นนั่นเอง

 

Key Highlights สำหรับ APAC

  • ภายในปี 2023 จำนวนผู้ใช้งาน 5G จะมีจำนวนเกินกว่า 650 ล้านเครื่อง นับเป็นสัดส่วนเกินกว่าครึ่งหนึ่งของผู้ใช้งาน 5G ทั้งหมด
  • ภายในปี 2023 ปริมาณ Traffic ใน SEA และ Oceania จะเติบโตขึ้น 9 เท่าและนับเป็น 12 Exabyte ต่อเดือน แต่หากนับเฉพาะ Smartphone จะเติบโต 6 เท่าเท่านั้น
  • ส่วนประเทศไทย จะมีอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อ LTE/5G มากกว่า 60% ภายในปี 2023

สำหรับประเทศไทยปัจจุบันปี 2017 มีผู้ใช้งาน Smartphone อยู่ประมาณ 65 ล้านเครื่อง และจะเติบโตเป็นประมาณ 100 ล้านเครื่องภายในปี 2023 และปริมาณผู้ใช้งาน LTE/5G รวมกันจะเติบโตนับเป็น 2 เท่า ส่วนปริมาณการใช้งาน Data Plan ที่ระดับเกินกว่า 5GB ต่อเดือนนั้นมีถึง 66% ของผู้ใช้งานในปัจจุบัน

 

5G จะเข้ามามีบทบาทต่อธุรกิจอย่างไรบ้าง?

สำหรับทั่วโลกนั้น 5G นั้นจะเป็นรายรับของธุรกิจโทรคมนาคมถึง 36% ภายในปี 2026 นับเป็นรายได้ประมาณ 619,000 ล้านเหรียญ โดย Internet of Things (IoT) จะมีบทบาทสำคัญเป็นอย่างมาก ส่วนสำหรับไทย 5G จะมีส่วนแบ่ง 22% เกิดเป็นรายรับ 2,600 ล้านเหรียญ และตลาดสำคัญก็ยังคงเป็นภาคธุรกิจเช่นกัน

ทั้งนี้ Ericsson เองก็ได้ทำกรพัฒนาเทคโนโลยีของตนเองให้กลายเป็น Software-defined รองรับการสร้าง Cloud สำหรับเหล่าผู้ให้บริการโทรคมนาคมให้สามารถทำ NFV และ SDN ได้แล้วอย่างเต็มตัว ทำให้การบริหารจัดการค่าใช้จ่ายเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และนำเสนอบริการใหม่ๆ ให้แก่ลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว

Ericsson ทดสอบ 5G แล้วในประเทศไทย ได้ความเร็ว 5.7Gbps

Ericsson นั้นเป็นผู้ผลิตรายแรกที่นำเทคโนโลยี 5G เข้ามาทดสอบในไทยที่ความเร็วระดับ 5.7Gbps ซึ่งการทดสอบครั้งนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งในการฉลองครบรอบ 111 ปีของ Ericsson ในประเทศไทย

NB-IoT เหมาะกับอุปกรณ์ IoT ที่ส่งข้อมูลไม่มากในแต่ละวัน และวันหนึ่งๆ ส่งเพียงไม่กี่ครั้ง ใช้กับอุปกรณ์ที่ไม่ค่อยจะเคลื่อนที่นัก ในขณะที่ CAT-M1 จะรองรับปริมาณข้อมูลที่สูงกว่า และรองรับการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ที่เคลื่อนที่ได้ อีกทั้งยังสามารถทำ VoLTE over IoT ได้อีกด้วย ซึ่งทั้งสองเทคโนโลยีนี้ก็มีแผนที่จะถูกนำมาทดสอบและใช้งานจริงในไทยด้วยเหมือนกัน

นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยีหนึ่งที่น่าสนใจคือ Spectrum Sharing Solution ที่จะนำย่านความถี่ของ GSM สลับมาใช้ให้บริการ 5G เพิ่มเติม ทำให้ในภาพรวมแล้ว 5G จะครอบคลุมมากยิ่งขึ้น สำหรับภายในอาคารนั้น Ericsson มีโซลูชันชื่อ Dot สำหรับใช้ส่งสัญญาณภายในอาคาร โดยออกแบบมาให้สามารถรองรับ 5G เพิ่มเติมได้ในอนาคตด้วย

เทคโนโลยีปัจจุบันของ Ericsson นั้นรองรับการอัปเกรดไปเป็น 5G ได้อยู่แล้ว และยังมีระบบ Cloud RAN ซึ่งนำ Cloud มาใช้สำหรับการบริหารจัดการโครงข่ายเหล่านี้

from:https://www.techtalkthai.com/ericsson-predicts-lte-and-5g-will-be-major-connectivity-in-thailand-by-2023/

อีริคสันเปิดตัวบริการโครงข่ายสำหรับ Massive IoT

  • แพ็คเกจการให้บริการโครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ พร้อมให้ผู้ประกอบการนำเสนอแอพพลิเคชั่น Internet of Things ได้อย่างสะดวกรวดเร็ว
  • อีริคสันยังนำเสนอซอฟต์แวร์สำหรับ IoT รูปแบบใหม่ เช่น Voice over LTE สำหรับ Cat-M1 สามารถส่งข้อมูลเสียงไปยังอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อ IoT ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • เปิดตัว Automated Machine Learning ของศูนย์ปฏิบัติการโครงข่ายอีริคสัน ที่จะสามารถช่วยจัดการเรื่องต้นทุนค่าขนส่งและค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้นได้แบบเชิงรุก

สำหรับการเปิดตัวโครงข่าย Internet of Things (IoT) สู่สาธารณะชนครั้งแรก อีริคสันได้นำเสนอ cellular IoT software และ IoT Accelerator พร้อมกับการให้บริการโครงข่ายแบบครบวงจร ซึ่งจะทำให้ผู้ประกอบการโทรศัพท์เคลื่อนที่สามารถนำไปใช้งานกับอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อ IoT สำหรับโครงข่าย LTE ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การให้บริการด้านเทคโนโลยี Cat-M1 (หรือที่เรียกว่า LTE-M) และ Narrow Band IoT (NB-IoT) นั้น จะครอบคลุมไปถึงการออกแบบโครงข่าย IoT ให้เกิดประโยชน์สูงสุด การนำเอาไปใช้ การปฏิบัติการและการจัดการทั้งหมด รวมทั้งขยายการให้บริการ Support Services ไปถึงการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกและบริการอื่น ๆ อีกด้วย

ปีเตอร์ ลอริน หัวหน้างานฝ่ายบริการและบริหารธุรกิจของอีริคสันกล่าวว่า “เราคาดหวังว่าอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อ IoT จะมีจำนวนมากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ และจะเป็นอุปกรณ์เชื่อมต่อที่มีบริมาณมากที่สุดในปี 2561 ตามรายงานอีริคสัน Mobility Report ได้เผยว่าภายในปี 2565 จำนวนอุปกรณ์เชื่อมต่อ IoT จะเพิ่มขึ้นถึง 18 ล้าน ด้วยปริมาณที่เพิ่มขึ้นอย่างมากทำให้ต้องมีการวางแผนโครงข่าย การออกแบบ และการปฏิบัติการอย่างมีประสิทธิภาพ มากกว่าการใช้โครงข่าย Mobile broadband แบบเดิม”

นอกจากนี้อีริคสันยังได้นำเสนอซอฟต์แวร์สำหรับ IoT รูปแบบใหม่ เช่น Voice over LTE (VoLTE) สำหรับ Cat-M1 ซึ่งจะช่วยส่งเสริมธุรกิจใหม่ ๆ ให้แก่ผู้ประกอบการโทรศัพท์เคลื่อนที่ โดยใช้ประโยชน์จากอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อ IoT ในการส่งข้อมูลเสียง นับเป็นการเปิดโอกาสในการขยายการให้บริการทางธุรกิจสำหรับผู้ประกอบการไปยังส่วนต่าง ๆ เช่น ระบบสัญญาณเตือนความปลอดภัย เครื่องมือปฐมพยาบาลแบบรีโมท อุปกรณ์เชื่อมต่อที่สามารถสวมใส่ได้ กุญแจระบบดิจิทัล และการให้บริการแบบอื่น ๆ อีกมากมายของแอพพลิเคชั่น IoT

การออกแบบโครงข่ายและการทำให้เกิดประโยชน์สูงสุด ด้วยโครงข่าย IoT ที่แตกต่าง ความหลากหลายของการใช้งาน ผนวกกับความต้องการที่ต่างกัน ทำให้ต้องมีการวางแผนและออกแบบโครงข่ายที่เหมาะสม เพื่อที่จะตอบโจทย์ทั้งหมดนี้ อีริคสันจึงได้ทำการประเมินสถานการณ์ จำลองโครงข่าย พัฒนาการออกแบบ และประเมินค่าในการพัฒนาสำหรับโครงข่าย Massive IoT

การปฏิบัติการและการจัดการโครงข่าย เพื่อที่จะตอบสนองความต้องการในการปฏิบัติการและการจัดการโครงข่ายให้แก่ผู้ประกอบการโทรศัพท์เคลื่อนที่ได้อย่างเหมาะสม อีริคสันได้ทำการเปิดตัว Automated Machine Learning ของศูนย์ปฏิบัติการโครงข่ายอีริคสัน (NOCs) เครื่องมือนี้จะช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถจัดการเรื่องต้นทุนค่าขนส่งและค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ จากการทดลองพบว่าเครื่องมือนี้สามารถทำงานได้โดยไม่ต้องอาศัยการทำงานของมนุษย์และได้ผลถึง 80 เปอร์เซ็นต์ ในจำนวนนี้พบว่ามีความถูกต้องถึง 77 เปอร์เซ็นต์

เจมี่ มอส หัวหน้าทีมผู้ชำนาญการวิเคราะห์เทคโนโลยีและ IoT สำหรับผู้บริโภคกล่าวว่า “ผู้ประกอบการโทรศัพท์เคลื่อนที่ต้องการพันธมิตรที่จะสามารถช่วยนำเสนอเทคโนโลยีใหม่ ๆ ได้อย่างรวดเร็วและราบลื่น โดยเฉพาะการใช้งานของ LTE-M และ NB-IoT ซึ่งต้องใช้การปฏิบัติการในรูปแบบใหม่ทั้งหมด การนำเอาเทคโนโลยีใหม่มาใช้ทำให้ต้องมีการจัดการข้อมูลที่เกิดขึ้น และการบริหารจัดการบริการที่มีอยู่เดิม ซึ่งมีความจำเป็นต้องใช้โครงข่ายที่ครอบคลุมทุกความสามารถ เครื่องมือและปัญญาประดิษฐ์นี้ไม่ใช่เพียงแค่คำพูดลอย ๆ เท่านั้น แต่มันมีความจำเป็นและสำคัญอย่างยิ่ง และเป็นเครื่องมือที่น่าตื่นเต้นที่ผลิตขึ้นโดย

อีริคสัน สำหรับการใช้งานเพื่อที่จะช่วยให้ผู้ประกอบการโทรศัพท์เคลื่อนที่จัดการกับอุปกรณ์ใหม่ ๆ ที่จะเข้ามาอย่างมากมายในอนาคต”

การให้บริการโครงข่ายและ VoLTE เพื่อซอฟต์แวร์ IoT สำหรับคลื่นวิทยุและโครงข่ายของอีริคสัน พร้อมที่จะให้บริการแล้ววันนี้

from:http://mobileocta.com/ericsson-launches-network-services-for-massive-iot/

นักวิจัยค้นพบวิธีปลอมเบอร์โทรศัพท์, โทรฟรี และแอบติดตามผู้ใช้งานผ่านทาง 4G VoLTE บน Android

ทีมนักวิจัยจากบริษัท P1 Security ได้ออกมาเปิดเผยถึงปัญหาบนเทคโนโลยี 4G Voice over LTE (VoLTE) บน Android ว่ามีช่องโหว่ให้ผู้โจมตีทำการโจมตีได้หลากหลายช่องทาง ดังต่อไปนี้

Credit: SSTIC

 

  • ผู้โจมตีสามารถส่ง SIP INVITE Message ที่ปรับแต่งมาโดยเฉพาะเพื่อโจมตีระบบเครือข่ายของ Mobile Operator แบบ Brute Force เพื่อรวบรวมรายชื่อของผู้ใช้งานภายในเครือข่ายนั้นๆ ได้
  • ผู้โจมตีสามารถทำการโทร, ส่ง SMS และเชื่อมต่อ Mobile Data ผ่านเครือข่าย VoLTE โดยไม่ทำให้ระบบ CDR เริ่มต้นทำงานได้ ทำให้ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการสื่อสารจากการใช้ช่องโหว่ CDR Bypass บน SIP และ RTP
  • ผู้โจมตีสามารถปลอมแปลงตัวตนเป็นผู้อื่นได้ด้วยการแก้ไขค่า MSISDN ใน SIP INVITE Message Header ให้เป็นของผู้อื่น และทำการสื่อสารเสมือนเป็นบุคคลนั้นๆ ได้ รวมถึงเข้าถึงระบบ Voice Mail ของบุคคลอื่นได้ด้วย
  • ผู้โจมตีสามารถตรวจสอบประเภทของอุปกรณ์เครือข่าย LTE ได้โดยง่ายจากการดักฟังทราฟฟิก VoLTE ที่ส่งมายัง Android ทำให้สามาถรวบรวมข้อมูลเครือข่ายเพื่อวางแผนการโจมตีได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น
  • ผู้โจมตีสามารถเข้าถึงข้อมูล IMEI Number และตำแหน่งที่อยู่คร่าวๆ ของเหยื่อได้ โดยไม่ต้องอาศัยความร่วมมือใดๆ จากเหยื่อ

ช่องโหว่สุดท้ายนี้สามารถแก้ไขได้จากฝั่งของผู้ให้บริการในการปรับแต่ง 183 SIP Message Header ให้มีการรับส่งรายละเอียดน้อยลง สำหรับผู้ที่สนใจรายละเอียดฉบับเต็ม สามารถศึกษาได้ที่ https://www.sstic.org/media/SSTIC2017/SSTIC-actes/remote_geolocation_and_tracing_of_subscribers_usin/SSTIC2017-Article-remote_geolocation_and_tracing_of_subscribers_using_4g_volte_android_phone-le-moal_ventuzelo_coudray.pdf นะครับ

 

ที่มา: https://www.bleepingcomputer.com/news/security/hackers-can-spoof-phone-numbers-track-users-via-4g-volte-mobile-technology/

from:https://www.techtalkthai.com/researchers-reveal-android-4g-volte-vulnerabilities/

เปิดตัว Vivo Y66 มาพร้อมหน้าจอ 5.5 นื้ว, กล้องหน้าเซลฟี่ 16 ล้านพิกเซล, รองรับ 4G VoLTE ในราคาไม่ถึงหมื่น!!

Vivo เดินหน้าเปิดตัว Vivo Y66 สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ในตระกูล Y Series ที่ประเทศอินเดีย โดยเป็นสมาร์ทโฟนระดับกลางที่โดดเด่นด้วยกล้องหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล เอาใจคนรักเซลฟี่ และอัดแน่นด้วยสเปกใช้งานที่ครบครัน ในราคาไม่ถึงหมื่น

สำหรับสเปกของ Vivo Y66 ตัวเครื่องมีดีไซน์โค้งมนในแบบฉบับสมาร์ทโฟน Vivo ใช้วัสดุที่ทำจากโลหะขึ้นรูปชิ้นเดียวแบบ Unibody ด้วยขนาด 153.8 x 75.5 x 7.6 มม. และน้ำหนัก 155 กรัม หน้าจอแสดงผลเป็นจอแบบ IPS LCD ความละเอียด HD 1280 x 720 พิกเซล ขนาด 5.5 นิ้ว ครอบทับด้วยกระจกขอบโค้ง 2.5D ใช้หน่วยประมวลผลซีพียูแบบ Octa Core  64-bit (4 x 1.2 GHz Cortex A53 + 4 x 1.5 GHz Cortex A53) โดยใช้ชิปเซ็ท Qualcomm Snapdragon 430, หน่วยประมวลผลกราฟิก Adreno 505, RAM 3GB, หน่วยความจำภายใน 32GB เพิ่มได้ด้วย microSD Card สูงสุด 256GB และรันบนระบบปฎิบัติการ Android 6.0 Marshmallow ครอบทับด้วย Funtouch OS 3.0

นอกจากนี้ยังติดตั้งกล้องหน้าเซลฟี่ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลชแบบ Moon Light สำหรับถ่ายในที่มืดหรือแสงน้อย และรูรับแสง f/2.0 ส่วนกล้องหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช LED และรูรับแสง f/2.2 รวมทั้งรองรับ 2 SIM แบบไฮบริด, รองรับ 4G LTE with VoLTE, รองรับฟังก์ชั่น Smart Split 2.0 สำหรับเปิดแอพพลิเคชั่นพร้อมกัน 2 หน้าต่าง,  โหมดถนอมดวงตา สำหรับอ่าน E-Book เป็นเวลานานๆ และใช้แบตเตอรี่ความจุ 3,000 mAh

ทั้งนี้ ตัวเครื่อง Vivo Y66 มีให้เลือก 2 สีคือ สีทอง Crown Gold และสีชมพูทอง Rose Gold โดยมีราคาเปิดตัวอยู่ที่ 14,900 รูปีอินเดียหรือประมาณ 8,000 บาท และจะเริ่มวางจำหน่ายที่ประเทศอินเดยในวันที่ 20 มีนาคมเป็นต้นไป

ที่มา : Fonearena

from:http://mobileocta.com/launched-vivo-y66-comes-with-a-5-5-inch-screen-16-megapixel-camera-4g-volte/

HMD Global ยืนยัน Nokia 3, 5 และ 6 รองรับเทคโนโลยี VoLTE ได้แน่นอน

หลังจากที่ HMD Global ผู้ได้ไลเซนส์ ในการทำตลาดสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตแบรนด์ Nokia ได้เปิดตัวโทรศัพท์มือถือ Nokia รุ่นใหม่ใน MWC 2017 เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา และได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดี โดยเฉพาะ Nokia 3310 ที่นำกลับมาทำใหม่อีกครั้งเรียกว่าแย่งซีนงานเปิดตัวมือถือรุ่นอื่นๆ เลยก็ว่าได้

โดยนอกจาก Nokia 3310 แล้วทาง HMD Global ยังได้เปิดตัวสมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติการ Android ถึง 3 รุ่นด้วยกันคือ Nokia 3, Nokia 5 และ Nokia 6 ซึ่งมาพร้อมรูปลักษณ์ดีไซน์และใช้วัสดุที่ดูพรีเมี่ยมในราคาที่เหมาะสม แต่มีคำถามจากผู้ใช้ว่าสมาร์ทโฟนทั้ง 3 รุ่นนี้จะรองรับเทคโนโลยี VoLTE หรือไม่ แม้ว่าชิปเซ็ท Snapdragon 430 และ Mediatek MT6737 ที่มีอยู่ในสมาร์ทโฟนดังกล่าวจะรองรับ VoLTE ก็ตาม แต่ก้ไม่มีระบุสเปกในเว็บไซต์ Nokia ล่าสุดทาง HMD Globla ได้ตอบชี้แจงในอีเมล์ฉบับหนึ่งว่าสมาร์ทโฟนทั้ง 3 รุ่นจะรองรับเทคโนโลยี VoLTE  อย่างแน่นอน

ทั้งนี้ เทคโนโลยี VoLTE ย่อมาจาก Voice-over-LTE เป็นรูปแบบการให้บริการโทรศัพท์สำหรับโทรคุยกัน โดยใช้การส่งข้อมูลเสียงด้วยความเร็วสูงผ่านสัญญาณ LTE หรือ 4G ส่งผลให้คุณภาพเสียงขณะคุยกันมีความคมชัดมากขั้น สัญญาณรบกวนน้อยลง ใช้เวลาในการเชื่อมต่อคู่สายขณะโทรออกเร็วขึ้นกว่าเดิมมาก

ที่มา : gsmarena

from:http://mobileocta.com/hmd-global-confirms-nokia-3-5-and-6-supports-volte-technology/

AIS เปิดใช้งาน VoLTE (Voice over LTE) คุณภาพคมชัด Full HD บน iPhone ได้แล้ว พร้อมวิธีเปิดใช้งานที่นี่

วันนี้ Apple ได้ปล่อยอัพเดท Carrier เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุดบน iPhone ให้กับผู้ให้บริการเครื่อข่ายมือถือในประเทศไทยทั้ง AIS ,dtac และ Truemove H เป็นที่เรียบร้อยโดยทางผู้ใช้งาน iPhone บนเครือข่าย AIS นั้นจะสามารถใช้งาน VoLTE (Voice over LTE) หรือการโทรผ่าน 4G ด้วยคุณภาพเสียงคมชัดระดับ Full HD ได้แล้ว หลังจากที่ใช้งาน Wi-Fi Calling หรือการโทรผ่าน Wi-Fi ได้มาก่อนหน้า

AIS-voLTE-flashfly

ซึ่งรุ่นที่รองรับก็คือ iPhone 6, iPhone 6plus, iPhone SE, iPhone 6s, iPhone 6s Plus, iPhone 7 ,iPhone 7 Plus โดยต้องมีคุณสมบัติดังนี้ต้องติดตั้ง iOS 9.3 ขึ้นไปพร้อมทำการ update Carrier Bundle เป็นเวอร์ชั่นที่สูงกว่า AIS 27.1

IMG_0621

วิธีการอัพเดท Carrier Bundle ให้เข้าไปที่ Settings > About จากนั้นก็จะพบกน้าต่างแจ้งเตือนให้อัพเดท

IMG_0622

เมื่ออัพเดทเสร็จแล้วจะเห็นว่าตรง Carrier Bundle จาก AIS 27.1 เป็น AIS 27.2 เรียบร้อย

IMG_0623

จากนั้นให้เข้าไปเปิดใช้งาน VoLTE โดยเข้าไปที่ Settings > Cellular > Cellular Data Option > Enable 4G > Voice & Data

VoLTE HD Voice คืออะไร?
เป็นบริการที่สามารถใช้งานโทรออกหรือรับสายด้วยเสียง (Voice) บนเครือข่าย 4G ซึ่งให้คุณภาพเสียงคมชัดยิ่งขึ้นระดับ Full HD, เสียงรบกวนต่ำ, การเชื่อมต่อคู่สายเร็วกว่าเดิม พร้อมสลับระหว่างคุยด้วยเสียง (VoLTE) กับผ่าน Video (ViLTE) ได้ทันที โดยไม่ต้องวางสาย ด้วยเทคโนโลยีส่งผ่านทางอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงบนเครือข่าย 4G เสถียรกว่าการใช้ระบบ Free Call ต่างๆ

Video over LTE (ViLTE) คืออะไร?
เป็นอีกเทคโนโลยีที่ให้ลูกค้าสามารถใช้งาน VDO Call ผ่านเครือข่าย 4G ซึ่งสามารถใช้งานร่วมกับ VoLTE โดยลูกค้าสามารถสลับการใช้งานระหว่างการโทรผ่าน VoLTE และ VDO Call ได้โดยไม่ต้องวางสาย

รายละเอียดพิ่มเติมได้ที่ http://www.ais.co.th/4g/volte/

from:http://www.flashfly.net/wp/?p=172238

รีวิว True Smart 4G Max 4.0 / 5.0 / 5.5 สามรุ่นใหม่ราคาประหยัด รองรับ VoLTE

สมาร์ทโฟนซีรี่ย์ True Smart 4G Max ล่าสุดกับสามขนาดหน้าจอ สามระดับสเปค ที่เน้นในเรื่องของความคุ้มค่าราคาประหยัด แต่ใส่เทคโนโลยีล้ำๆ อย่าง VoLTE กับ VoWiFI เข้ามาในเครื่องให้ด้วย มาพร้อมกับโปรโมชั่นเอาใจคนใช้ True ครับ

True Smart 4G Max เป็นสมาร์ทโฟนของทางทรูเองครับ ขายกันไม่แพง ทำออกมารองรับกลุ่มผู้ที่ต้องการใช้งานเทคโนโลยีการสนทนาผ่านเครือข่ายสัญญาณ 4G VoLTE เพื่อความคมชัดของเสียงระดับ HD ซึ่งระบบ VoLTE ที่ว่านี้ ทาง True ก็เปิดให้ใช้กันฟรีๆ เพื่อยกระดับมาตรฐานในการสนทนาของลูกค้าให้ดีกว่าเดิมครับ

True Smart 4G Max ออกมาในสามรุ่นด้วยกัน ชื่อรุ่นก็ตามขนาดหน้าจอ 4.0 / 5.0 และ 5.5 นิ้ว ออกมาพร้อมกับโปรโมชั่นจดทะเบียนรายเดือน เลือกใช้แพ็คเกจที่กำหนดก็สามารถรับเครื่องไปใช้กันฟรีทั้งลูกค้าใหม่เก่า มันจึงทำให้สมาร์ทโฟนสามรุ่นนี้น่าสนใจtrue-smart-4g-max-pc053196

ส่วนในเรื่องของประสิทธิภาพนั้น ก็ลองมาดูผลทดสอบการใช้งานของมันกันทั้งสามรุ่นดีกว่าครับ

ตัวเครื่องภายนอก

ทัั้งสามรุ่นออกแบบมาคล้ายกันครับ ด้านหลังเป็นโพลีคาร์บอเนตผิวสัมผัสคล้ายยางสีดำ ทำให้ไม่ลื่น นุ่มมือ ขอบเครื่องโค้งมน การออกแบบสวยดีครับ ดูวัยรุ่น ส่วนขนาดหน้าจอก็จะต่างกันตามรุ่น มีตั้งแต่  4.0 นิ้ว / 5.0 นิ้ว และ 5.5 นิ้วครับ ตามลำดับ

true-smart-4g-max-pc053213




ทุกเครื่องจะสามารถใช้งานได้สองซิมการ์ด รองรับการใช้งาน 3G/4G ในช่องซิมการ์ดที่ 1 ครับ ส่วนซิมการ์ดที่สองจะรองรับแค่ 2G  สามารถใส่ Micro SD card เพิ่มได้ถึง 128GB

true-smart-4g-max-pc053224

ให้อุปกรณ์ในกล่องมาครบครับ ทั้งเคสซิลิโคนใส ฟิล์มกันรอย สายชาร์จ หูฟัง ครบ ไม่ต้องไปซื้ออะไรเพิ่มอีกแล้วทั้งสามรุ่น

True Smart 4G Max 4.0 / 5.0 / 5.5  แม้จะจำหน่ายกันในราคาไม่แพง แต่ทาง True ประกันตัวเครื่องให้ยาวนานถึง 15 เดือนเลยครับtrue-smart-4g-max-pc053236

ฟังชั่นการใช้งานภายใน

หน้า UI ออกแบบเบื้องต้นมาในโทนแดงตามสีของเครือข่ายครับ มีแอพพลิเคชั่นและบริการของทาง True เตรียมไว้ให้พร้อมใช้งานแล้วตั้งแต่แรก เมนูภายในมีรูปแบบการใช้งานที่เรียบง่ายครับ ไม่มีการปรับแต่งอะไรมากนัก ผู้ใหญ่หรือเด็กก็น่าจะใช้กันไม่ยาก




True Smart 4G Max 4.0 / 5.0 / 5.5 มาพร้อม Android 6.0 ไม่ต้องรอการอัพเดท ความลื่นไหลในหน้าแรกนั้นน่าพอใจ ส่วนการเล่นเกมหรือดูหนังความละเอียดสูง แนะนำเป็นตัว 5.5 จะเหมาะกว่า ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพมากกว่า มีหน่วยความจำและหน้าจอขนาดใหญ่ใช้งานได้เต็มอารมณ์เต็มตากว่าครับ

หน้าจอแสดงผลความละเอียดต่างกันระหว่างเครื่องรุ่น 4.0 ซึ่งใช้หน้าจอ 480p และ 5.0 กับ 5.5 ใช้หน้าจอที่มีความละเอียดขึ้นมาหน่อย เป็น 720p ความละเอียดระดับนี้ก็เพียงพอใช้แล้วครับ มุมมอง สีสัน พอใช้ได้ครับ

true-smart-4g-max-pc053188

ส่วนเจ้าตัวเล็ก หน้าจอ 4 นิ้ว ผมว่าเหมาะสมหรับพกพาใช้งานเป็นโทรศัพท์และใช้งานแอพพลิเคชั่นพื้นฐานเท่านั้น เช่นโซเชี่ยลเน็ตเวิร์คทั้งหลายอย่าง Facebook หรือ Line แอพพวกนี้ใช้งานได้ไม่มีปัญหาครับ

ฟังก์ชั่นการใช้งานนั้น จะขอเน้นไปที่รุ่นใหญ่ตัว 5.5 นะครับ เพราะเจ้าตัว 5.5 นี้ จะมีฟังก์ชั่นเยอะมากที่สุด ซึ่งบางอย่างจะไม่มีในรุ่น 4.0 และ 5.0 ครับ อย่างเช่นระบบ Turbo Download ที่เราสามารถนำเอาความเร็วของ Wi-Fi มาบวกรวมกับความเร็วของสัญญาณ 4G เพื่อดาวน์โหลดไฟล์ขนาดใหญ่กว่า 20 MB มาลงเครื่องได้เร็วขึ้น แต่แน่นอนว่า ก็ต้องเปลืองสัญญาณ 4G ไปด้วยนะครับ

true-smart-4g-max-004

มีฟังก์ชั่นหน้าจออัจฉริยะที่สามารถใช้การลากนิ้วไปในรูปแบบต่างๆ เพื่อเข้าใช้งานตามที่เราต้องการได้โดยตรง เช่นการลากนิ้วขึ้นเพื่อเข้าหน้าอ่านข้อความ การสไลด์นิ้วไปทางขวาเพื่อเข้าการใช้งานแอพพลิเคชั่นไลน์ รวมถึงการใช้การวาดเป็นตัวอักษรเช่นตัว m เพื่อเข้าหน้าเครื่องเล่นเพลง ซึ่งทุกอย่างเรากำหนดค่าไว้ได้ครับ สามารถเรียกใช้สิ่งเหล่านี้ได้โดยไม่ต้องกดปลุกเครื่องก่อน


ซึ่งฟั่งก์ชั่นเหล่านี้จะมีแต่ในเครื่องรุ่นหน้าจอ 5.5 นิ้วเท่านั้นนะครับ ส่วนที่จะมีให้ใช้กันในทุกๆ รุ่น นั้นก็คือระบบ VoLTE ที่เราสามารถเปิดปิดการทำงานของมันได้ง่ายๆ จากไอคอนในหน้าการแจ้งเตือน รุดลงมาก็จะเป็นไอคอน VoLTE แนะนำว่าเปิดไว้เลยครับ ใช้ซิม True รองรับ VoLTE แน่นอน

true-smart-4g-max-015

รองรับการรับฟังวิทยุ FM (ใช้หูฟังสำหรับเป็นเสาอากาศรับสัญญาณ) มีหน้าพิเศษสำหรับการเล่นเพลง และแสดงภาพโดยเฉพาะ



มาดูในเรื่องของกล้องถ่ายภาพ กล้องหลังของทั้งสามรุ่นมาพร้อมกับแฟลช LED แต่สำหรับรุ่น  True Smart 4G Max 5.5 จะเป็นกล้องที่มีความละเอียดสูงที่สุดในสามรุ่นครับ กล้องหลังความละเอียด 13 ล้าน และกล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล ความละเอียดถือว่าไม่น้อย

true-smart-4g-max-pc053229

มีโหมดการถ่่ายภาพใส่เข้ามาให้เยอะมากครับ ทั้งภาพถ่ายในโหมดบิวตี้ พาโนรามา ภาพถ่ายกลางคืน ซึ่งแต่ละโหมด ตัวกล้องก็จะปรับแต่งความเหมาะสมตามแต่สถานการณ์ให้อย่างอัตโนมัติ สามารถระบุวัตถุที่จะถ่ายเพื่อให้มีการปรับแต่งโทนภาพได้เหมาะสม เช่นถ่ายอาหาร หรือการถ่ายภาพบุคคล เหล่านี้มีให้ทั้งหมดครับtrue-smart-4g-max-009

และทั้งสามรุ่น คุณภาพของกล้องเมื่อมองว่าในราคาเท่านี้ ถือว่าทำได้ดีอยู่นะครับ  มาดูตัวอย่างภาพถ่ายของทั้งสามรุ่นด้านล่างนี้กัน

ตัวอย่างภาพถ่ายของ True Smart 4G Max 4.0








ตัวอย่างภาพถ่ายของ True Smart 4G Max 5.0







ตัวอย่างภาพถ่ายของ True Smart 4G Max 5.5








ทดสอบการใช้งานในการเล่นเกมรับชมภาพยนตร์ ตัว True Smart 4G Max 5.5  สามารถเล่นเกมและรับชมภาพยนตร์ระดับ HD ได้ครับ  เข้าเว็บไซด์ดู Youtube การใช้งานทั่วไปใช้งานได้สบาย ทดสอบกับเกมระดับ HD สำหรับตัว 5.5 ถ้าเกมไม่หนักมากเล่นได้ครับ แต่ถ้าเป็นเกมกราฟฟิคสูงเกินไปก็ไม่ไหวนะครับ มีแลคมีหน่วงให้เห็นเช่นกัน

true-smart-4g-max-pc053192

ผลทดสอบต่างๆ ของรุ่น  True Smart 4G Max 5.5 สามารถจับตำแหน่ง GPS ได้ไวปกติครับ





ความแตกต่างที่สำคัญของสามรุ่นในซีรีย์นี้ นอกจากเรื่องขนาดหน้าจอแล้ว ก็เป็นเรื่องแรม ตัวหน้าจอ 4.0 และ 5.0 นั้นค่อนข้างจะมีแรมจำกัด การเข้าออกแอพพลิเคชั่นใหญ่ๆ อาจจะมีความล่าช้ากว่าพอสมควรเลย ดูเหมือนจะวางสเปคมาให้ใช้งานแค่แอพพลิเคชั่นพื้นฐานทั่วๆ ไปเท่านั้น เน้นการติดต่อสื่อสารมากกว่างานบันเทิง ซึ่งต่างจากตัว 5.5 มากครับ

ทั้งสามเครื่องแบตเตอรี่ถือว่าอึดนะครับ ใช้งานทั่วไปก็อาจจะอยู่ได้ทั้งวันโดยเฉพาะเจ้าตัวเล็ก เพราะด้วยขนาดหน้าจอที่เล็กและหน่วยประมวลผลที่เน้นประหยัดไฟ ถ้าเปิดเครื่องแสตนด์บายไว้ก็อยู่ได้เป็นอาทิตย์ละครับ

true-smart-4g-max-00

ราคาและโปรโมชั่นของเครื่อง

ความน่าสนใจ ของTrue Smart 4G Max 4.0, 5.0 และ 5.5 ก็น่า่จะเป็นการเลือกใช้ร่วมกันกับโปรโมชั่นของทาง True นั้นเองแหละครับ เพราะมีสิทธิรับเครื่องมากันแบบฟรีๆ ซึ่งโปรโมชั่นที่มีการปล่อยออกมาในช่วงนี้ก็ตามรายละเอียดด้านล่างนี้ครับ

4g-max-spec-compare-600x486

True SMART 4G MAX 4.0 ฟรี! เมื่อสมัครแพ็คเกจ 4G+ Super Smart 399 ขึ้นไป (จ่ายค่าบริการล่วงหน้า 800 บาท  สัญญาใช้งาน 1 ปี)

True SMART 4G MAX 5.0 ฟรี! เมื่อสมัครแพ็คเกจ 4G+ Super Smart 399 ขึ้นไป (จ่ายค่าบริการล่วงหน้า 1,500 บาท สัญญาใช้งาน 1 ปี)

True SMART 4G MAX 5.5 ฟรี! เมื่อสมัครแพ็คเกจ 4G+ Super Smart 499 ขึ้นไป (จ่ายค่าบริการล่วงหน้า 2,500 บาท สัญญาใช้งาน 1 ปี)

สรุปท้ายรีวิว

โดยทั้งสามรุ่น มีการวางตลาดที่ค่อนข้างชัดเจน เน้นความคุ้มค่า ราคาไม่แพงแถมมีโปรโมชั่นได้เครื่องฟรี มีสามขนาดหน้าจอเพื่อกลุ่มคนใช้งานในสามระดับ ตัวรุ่น 5.5 เรียกว่าพอใช้ในงานด้านบันเทิงต่างๆ ได้พอตัวเลยครับ มีประสิทธิภาพสูงกว่ารุ่นน้องของมันมาก รุ่นน้องที่รองลงมาก็ลดประสิทธิภาพตามราคา ก็น่าจะเหมาะกับผู้ที่ต้องการมองหาสมาร์ทโฟนเพื่อการติดต่อสื่อสารเป็นหลัก

ตัดสินใจได้ไม่ยากครับ อยากได้หน้าจอขนาดไหน นำไปใช้ทำอะไร ถ้าเล่นเกมดูหนังชอบความบันเทิงก็เอาตัวใหญ่ เน้นใช้ติดต่อสื่อสารพกพาง่ายๆ ก็เอารุ่นเล็กลงมาก็ได้ เพราะยังไงทั้งสามรุ่นก็ราคาถูกมากครับ ยิ่งถ้าได้มาพร้อมกับโปรโมชั่นก็เลือกรุ่นที่ถูกใจกันได้เลย เพราะฟรีหมด ^^

4g-max-poster-600x788

 

from:https://www.appdisqus.com/2016/12/20/reivew-true-smart-4g-max-4-0-5-0-5-5.html

dtac – AIS ร่วมมือข้ามค่ายให้บริการ VoLTE โทร 4G ภาพ-เสียง ครั้งแรกในไทยและอาเซียน

ลูกค้า dtac และ AIS ทดลองโทรหากันได้เลย เพื่อสัมผัสประสบการณ์ใหม่ VoLTE (Voice over LTE) ข้ามเครือข่ายเป็นครั้งแรกในไทยและอาเซียน หลังผู้ให้บริการทั้ง 2 รายจับมือเปิดให้บริการร่วมกัน เพื่อยกระดับคุณภาพการโทรไปอีกขั้น บนเครือข่าย 4G และมอบเป็นสิทธิประโยชน์ของลูกค้าร่วมกัน

ลูกค้าทั้งสองค่าย สามารถใช้งาน VoLTE (Voice over LTE) ข้ามเครือข่ายได้ทุกพื้นที่บนเครือข่าย 4G ทั่วไทย ด้วยคุณภาพที่เหนือกว่าจากเสียงคมชัดระดับ HD เชื่อมต่อเร็วกว่าเดิม เพิ่มเติมด้วย HD วิดีโอคอลล์ โดยคิดค่าบริการเหมือนการโทรปกติ ตามแพ็กเกจที่ลูกค้าใช้บริการทั้งระบบเติมเงินและรายเดือน

ais-dtac_2x

สิทธิโชค นพชินบุตร รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มการตลาด บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ dtac และ ฐิติพงศ์ เขียวไพศาล ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ อาวุโส บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ AIS บอกว่า นี่คือปรากฏการณ์ครั้งสำคัญของผู้นำในการให้บริการ 4G ครั้งแรกของไทยและภูมิภาคอาเซียน ในการร่วมกันนำบริการ VoLTE (Voice over LTE) ที่ได้เปิดให้บริการกับลูกค้าในเครือข่ายของตน มาสู่การใช้งาน VoLTE (Voice over LTE) ระหว่างเครือข่ายร่วมกันเป็นผลสำเร็จ

ผู้ใช้บริการ 4G Calling ของ dtac และ 4G VoLTE HD Voice ของ AIS จะสัมผัสได้ถึงประสบการณ์อันเป็นมาตรฐานใหม่บนเครือข่าย 4G จากการใช้งานดาต้า มาเป็นการใช้งานโทร VoLTE (Voice over LTE) ที่ไม่ได้จำกัดการใช้งานในเครือข่ายตัวเองเท่านั้น แต่สามารถสื่อสารบน VoLTE ข้ามค่ายได้แล้วอย่างสะดวกสบาย

“วันนี้ ทั้งสองบริษัทมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมกัน สร้างไมล์สโตนใหม่ของ 4G ให้กับอุตสาหกรรมโทรคมนาคมของประเทศ และที่สำคัญคือ เรามีความตั้งใจอย่างยิ่งที่จะให้ลูกค้าได้สัมผัสสุดยอดประสบการณ์จากเทคโนโลยี 4G อย่างครบถ้วนทุกรูปแบบ ซึ่งเป็นสิทธิประโยชน์ของผู้ใช้งานทั้งสองเครือข่าย ที่สามารถโทรบนเครือข่ายคุณภาพสูง 4G ทั่วประเทศ ด้วยเสียงคุณภาพคมชัด แบบ HD ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่คุณภาพสูงกว่าการโทรแบบเดิม และยังทำให้โทรไปยังหมายเลขปลายทางเชื่อมต่อคู่สาย หรือ Call Setup รวดเร็วกว่าเดิม และเพิ่มประสบการณ์ใหม่ด้วยวิดีโอคอลล์คุณภาพคมชัดแบบ HD ซึ่งสามารถโทรพร้อมเห็นภาพคู่สนทนาผ่านหน้าจอสมาร์ทโฟน* และสามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่านแอปพลิเคชันต่างๆ หรือแชร์ไฟล์ภาพและวิดีโอจากสมาร์ทโฟนระหว่างใช้งานโทรสนทนาด้วยกัน โดยไม่ต้องหยุดหรือวางสายแต่อย่างใด”

ais-dtac_3x

นับเป็นการยืนยันถึงความตั้งใจในฐานะผู้ให้บริการเครือข่าย ว่าจะร่วมกันนำเทคโนโลยีล่าสุด ระดับสากลอย่าง 4G มามอบให้แก่ผู้บริโภคชาวไทยได้ใช้ประโยชน์อย่างครบถ้วน ทั้งเสียง, ข้อมูลและวิดีโอสอดคล้องกับเจตนารมณ์ของภาครัฐที่มุ่งหวังให้เอกชนนำทรัพยากรคลื่นความถี่มาก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่คนไทย

ทั้งนี้ ลูกค้า AIS และ dtac สามารถดูรายละเอียดเกี่ยวกับบริการ VoLTE และสมาร์ทโฟนรุ่นที่รองรับ VoLTE ได้บนเว็บไซต์ของทั้งสองบริษัท ได้ที่ http://www.dtac.co.th/network/4g-volte.html และ http://www.ais.co.th/4g/volte/

* สำหรับฟังก์ชั่นวิดีโอคอลล์คุณภาพคมชัดแบบ HD ข้ามเครือข่าย เริ่มให้บริการตั้งแต่วันที่ 18 ต.ค. 59

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

from:https://brandinside.asia/dtac-ais-coop-for-volte-4g/

dtac และ AIS จับมือใช้งาน VoLTE บนเครือข่าย 4G ข้ามเครือข่ายเป็นครั้งแรกในไทยและอาเซียน

ลูกค้าดีแทคและเอไอเอสพร้อม สัมผัสประสบการณ์ใหม่ร่วมกันได้แล้ว ด้วย VoLTE (Voice over LTE) ข้ามเครือข่ายเป็นครั้งแรกในไทยและอาเซียน หลังผู้ให้บริการดีแทคและเอไอเอสจับมือเปิดให้บริการร่วมกัน เพื่อยกระดับคุณภาพการโทรไปอีกขั้น บนเครือข่าย 4G และมอบเป็นสิทธิประโยชน์ของลูกค้าร่วมกัน ซึ่งลูกค้าทั้งสองค่าย สามารถใช้งาน VoLTE (Voice over LTE) ข้ามเครือข่ายได้ทุกพื้นที่บนเครือข่าย 4G ทั่วไทย ด้วยคุณภาพที่เหนือกว่าจากเสียงคมชัดระดับ HD เชื่อมต่อเร็วกว่าเดิม เพิ่มเติมด้วย HD วิดีโอคอลล์ โดยคิดค่าบริการเหมือนการโทรปกติ ตามแพ็กเกจที่ลูกค้าใช้บริการทั้งระบบเติมเงินและรายเดือน

AIS-Dtac_4x

นายสิทธิโชค นพชินบุตร รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มการตลาด บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค และ นายฐิติพงศ์ เขียวไพศาล ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ อาวุโส บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส ร่วมกันกล่าวว่า “นี่คือปรากฏการณ์ครั้งสำคัญของผู้นำในการให้บริการ 4G ครั้งแรกของไทยและภูมิภาคอาเซียน โดยดีแทคและเอไอเอสได้ร่วมกันนำบริการ VoLTE (Voice over LTE) ที่ได้เปิดให้บริการกับลูกค้าในเครือข่ายของตน มาสู่การใช้งาน VoLTE (Voice over LTE)ระหว่างเครือข่ายร่วมกันเป็นผลสำเร็จ ซึ่งผู้ใช้บริการ 4G Calling ของดีแทค และ 4G VoLTE HD Voice ของเอไอเอส จะสัมผัสได้ถึงประสบการณ์อันเป็นมาตรฐานใหม่บนเครือข่าย 4G จากการใช้งานดาต้า มาเป็นการใช้งานโทร VoLTE (Voice over LTE) ที่ไม่ได้จำกัดการใช้งานในเครือข่ายตัวเองเท่านั้น เพราะลูกค้าดีแทคและเอไอเอสสามารถสื่อสารบน VoLTE ข้ามค่ายได้แล้วอย่างสะดวกสบาย ระหว่างดีแทคโทรไปเอไอเอส หรือเอไอเอสโทรมาดีแทค”

Screen Shot 2559-10-13 at 10.12.26 AM

“วันนี้ ทั้งสองบริษัทมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมกัน สร้างไมล์สโตนใหม่ของ 4G ให้กับอุตสาหกรรมโทรคมนาคมของประเทศ และที่สำคัญคือ เรามีความตั้งใจอย่างยิ่งที่จะให้ลูกค้าได้สัมผัสสุดยอดประสบการณ์จากเทคโนโลยี 4G อย่างครบถ้วนทุกรูปแบบ ซึ่งเป็นสิทธิประโยชน์ของผู้ใช้งานทั้งสองเครือข่าย ที่สามารถโทรบนเครือข่ายคุณภาพสูง 4G ทั่วประเทศ ด้วยเสียงคุณภาพคมชัด แบบ HD ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่คุณภาพสูงกว่าการโทรแบบเดิม และยังทำให้โทรไปยังหมายเลขปลายทางเชื่อมต่อคู่สาย หรือ Call Setup รวดเร็วกว่าเดิม และเพิ่มประสบการณ์ใหม่ด้วยวิดีโอคอลล์คุณภาพคมชัดแบบ HD ซึ่งสามารถโทรพร้อมเห็นภาพคู่สนทนาผ่านหน้าจอสมาร์ทโฟน* และสามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่านแอปพลิเคชันต่างๆ หรือแชร์ไฟล์ภาพและวิดีโอจากสมาร์ทโฟนระหว่างใช้งานโทรสนทนาด้วยกัน โดยไม่ต้องหยุดหรือวางสายแต่อย่างใด”

“นับเป็นการยืนยันถึงความตั้งใจในฐานะผู้ให้บริการเครือข่าย ว่าจะร่วมกันนำเทคโนโลยีล่าสุด ระดับสากลอย่าง 4G มามอบให้แก่ผู้บริโภคชาวไทยได้ใช้ประโยชน์อย่างครบถ้วน ทั้งเสียง, ข้อมูลและวิดีโอสอดคล้องกับเจตนารมณ์ของภาครัฐที่มุ่งหวังให้เอกชนนำทรัพยากรคลื่นความถี่มาก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่คนไทย”

ทั้งนี้ ลูกค้าดีแทคและเอไอเอส สามารถดูรายละเอียดเกี่ยวกับบริการ VoLTE และสมาร์ทโฟนรุ่นที่รองรับ VoLTE ได้บนเว็บไซต์ของทั้งสองบริษัท ได้ที่ http://www.dtac.co.th/network/4g-volte.html สำหรับลูกค้าดีแทค และ http://www.ais.co.th/4g/volte/ สำหรับลูกค้าเอไอเอส

from:http://www.flashfly.net/wp/?p=161687

AIS เปิดตัวสมาร์ทโฟน LAVA 4G VoLTE ใหม่ 3 รุ่นราคาเริ่มต้นเพียง 1,990 บาท

c5dfd988-55b8-439b-9736-d61225270227

“เอไอเอส” ผู้นำตัวจริงด้านเครือข่ายดิจิทัลของประเทศ คุณภาพอันดับ 1 พร้อม 4G ครอบคลุม 77 จังหวัด ทั่วไทย เปิดตัว “LAVA 4G VoLTE” 3 รุ่น สมาร์ทโฟน 4G ที่ใครก็เป็นเจ้าของได้ พร้อมเทคโนโลยีล้ำหน้า 4G VoLTE ที่ให้คุณภาพเสียงคมชัดระดับ HD ลดเสียงรบกวน และโทรติดเร็ว ขยายประโยชน์สู่ประชาชนทั่วประเทศ ในราคาเริ่มต้นที่ 1,990 บาท พร้อมข้อเสนอพิเศษ! ฟรีค่าโทรและเน็ต เท่าค่าเครื่อง

51298186-a4c6-4209-a72d-7eb4b1b0a72f

VoLTE (Voice over LTE) ที่เป็นเทคโนโลยีที่ทันสมัยล่าสุดระดับโลกบนเครือข่าย 4G และ 4.5G ที่ให้ประสบการณ์การโทรด้วยเสียง (Voice) บนเครือข่าย 4G ที่เหนือกว่า จนผู้ใช้งานสามารถสัมผัสได้ถึงความแตกต่างจากสมาร์ทโฟนทั่วไป ประกอบด้วย

– คุณภาพเสียงคมชัดระดับ HD

– ลดทอนเสียงรบกวน

– โทรติดได้รวดเร็วทันที

นายฐิติพงศ์ เขียวไพศาล ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการอาวุโส สายงานการตลาดและการขาย เอไอเอส เปิดเผยว่า “ด้วยปณิธานของเอไอเอสที่มุ่งมั่นตั้งใจส่งมอบบริการที่ดีที่สุดในทุกๆ ด้าน ให้ลูกค้าและคนไทยได้ใช้ชีวิตที่มากกว่าเสมอ โดยในด้าน Network เอไอเอสได้มุ่งมั่นพัฒนาเครือข่ายทั้ง Mobile และ Fixed อย่างต่อเนื่อง ทำให้วันนี้ เรายังครองความเป็นผู้นำตัวจริงด้าน เครือข่ายดิจิทัลของประเทศ ทั้ง 3G, 4G, 4.5G และ WiFi โดยเฉพาะเครือข่าย 4G ที่ครอบคลุม ครบทั้ง 77 จังหวัด ทั่วไทย โดยใช้เวลาในการขยายเครือข่ายเร็วที่สุดเท่าที่เคยมีมา และยังคงพัฒนาต่อเนื่องอย่างไม่หยุดนิ่ง เมื่อวันนี้ ที่เครือข่าย AIS 4G มีความพร้อม คนไทยทั่วประเทศพร้อมได้สัมผัสและใช้ประโยชน์เทคโนโลยี 4G อย่างทั่วถึง ด้วยการสรรหา นวัตกรรมสมาร์ทโฟนที่รองรับการ ใช้งานบนเครือข่าย 4G ทั้ง Voice และ DATA ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ครบครันด้วยฟังก์ชั่นทันสมัย คุณภาพดี ราคาคุ้มค่าที่สุด ที่ใครก็เป็นเจ้าของได้”

82555be2-3f01-485e-a509-f2485e62d88c

ทั้งนี้ ลูกค้าที่ซื้อมือถือ LAVA 4G VoLTE สามารถใช้งาน VoLTE ได้โดยอัตโนมัติ โดยไม่ต้องกดสมัคร (ซึ่งจะสามารถใช้บริการ VoTLE ได้ในวันรุ่งขึ้น) แต่หากต้องการใช้งาน VoLTE อย่างรวดเร็ว สามารถกด *412*1# โทรออก โดยการโทรบน VoLTE จะคิดค่าบริการเหมือนการโทรปกติ ตามแพ็กเกจที่ลูกค้าใช้บริการ โดยไม่คิดค่าบริการดาต้าหรืออินเทอร์เน็ต 4G แต่อย่างใด

77d1634e-3c54-48f9-8895-a7fd506ea0a3

Lava 4G VoLTE

– LAVA 4G VoLTE 560 ราคา1,990 บาท พร้อมฟรี! ค่าโทรและเน็ต รวมมูลค่า 1,950 บาท
(โทรฟรี 180 บาทต่อเดือน นาน 10 เดือน เน็ตฟรี 100 MB ต่อเดือน (มูลค่า 150 บาท) นาน 10 เดือน)

– LAVA 4G VoLTE 755 ราคา 2,990 บาท พร้อมฟรี! ค่าโทรและเน็ต รวมมูลค่า 3,000 บาท
(โทรฟรี 270 บาทต่อเดือน นาน 10 เดือน เน็ตฟรี 200 MB ต่อเดือน (มูลค่า 300 บาท) นาน 10 เดือน)

– LAVA 4G VoLTE 870 ราคาเพียง 3,590 บาท พร้อมฟรี! ค่าโทรและเน็ต รวมมูลค่า 3,650 บาท
(โทรฟรี 320 บาทต่อเดือน นาน 10 เดือน เน็ตฟรี 300 MB ต่อเดือน (มูลค่า 450 บาท) นาน 10 เดือน)

ทั้งนี้ ลูกค้าเอไอเอส วัน-ทู-คอล! สามารถกดรับสิทธิ์ภายใน 30 วัน นับตั้งแต่วันที่ซื้อเครื่อง จะได้รับโบนัสโทรฟรี เน็ตฟรี เมื่อเติมเงินสะสมครบ 100 บาท ต่อเดือน รายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.ais.co.th/supercombo

from:http://www.flashfly.net/wp/?p=144874