คลังเก็บป้ายกำกับ: VMWARE_VCLOUD

CS LOXINFO Cloud Service ตอบโจทย์ทั้งธุรกิจองค์กรและ Startup ด้วยเทคโนโลยีจาก VMware และ Microsoft พร้อมบริการครบวงจร

บริการ Cloud จาก CS LOXINFO อีกทางเลือกที่น่าพิจารณาสำหรับองค์กรในการเช่าใช้งานเป็น Data Center หลักของธุรกิจ หรือใช้เป็นสาขาสำรองก็ได้เช่นกัน

Credit: ShutterStock.com

 

ต่อยอดจาก Data Center สู่ Cloud ที่มีความหลากหลายมากขึ้น

ปัจจุบันธุรกิจผู้ให้บริการ Data Center ในไทยนั้นต่างก็เริ่มผันตัวไปเป็น Cloud Service Provider กันมากขึ้นเรื่อยๆ ด้วยการนำทรัพยากร องค์ความรู้ และประสบการณ์ที่มีในการให้บริการ Data Center แต่เดิมมายกระดับด้วยเทคโนโลยี Cloud เพื่อให้สามารถให้บริการ Cloud Data Center ที่มีความคล่องตัวสูงขึ้นได้ และ CS LOXINFO ก็เป็นหนึ่งในธุรกิจชั้นนำทางด้าน Data Center ในไทยที่ให้บริการ Cloud แก่องค์กรหลากขนาดหลายอุตสาหกรรมทั่วประเทศไทย

CS LOXINFO นั้นเริ่มต้นจากการนำเทคโนโลยี Cloud มาพัฒนาต่อยอด พร้อมปรับปรุงกระบวนการการทำงานต่างๆ เพื่อใช้งานภายใน CS LOXINFO เองก่อนเพื่อให้บริการต่างๆ มีประสิทธิภาพและคุณภาพที่สูงขึ้น จากนั้นเมื่อเทคโนโลยีและกระบวนการเหล่านี้เริ่มเข้าที่แล้ว ทาง CS LOXINFO ก็ได้นำองค์ความรู้และประสบการณ์ในส่วนนี้มาเปิดให้บริการ Cloud แบบ Infrastructure-as-a-Service (IaaS) สำหรับองค์กรและ Startup ต่างๆ ด้วยการใช้ทรัพยากร Data Center ที่ CS LOXINFO มีอยู่

ในบริการ Cloud Service ของ CS LOXINFO นี้จะใช้ Hardware ในระดับที่เป็น Enterprise Grade ทั้งในส่วนของ Server, Storage และ Network ซึ่งทั้งหมดนี้จะทำงานอยู่บนโครงสร้างที่ถูกออกแบบให้สามารถทำงานได้แบบ Redundant ในทุกๆ ส่วน มีระบบสำรองพร้อมทำงานแทนระบบหลักที่หยุดทำงานได้ทันทีเพื่อความทนทานของระบบ

CS LOXINFO นั้นแบ่งบริการ Cloud นี้ออกเป็นหลากหลายรูปแบบ เพื่อให้องค์กรและธุรกิจต่างๆ สามารถเลือกใช้บริการที่เหมาะสมกับลักษณะของธุรกิจและแนวทางการลงทุนในระบบ IT ได้ตามต้องการ เช่น การแบ่งขาย VM ออกเป็นเครื่องๆ ที่มีสเป็คแตกต่างกัน, การแบ่งขายเป็น Resource Pool ให้ผู้ใช้งานทำการสร้าง VM ได้เองตามจำนวนที่ต้องการ, การเลือกชนิดของ Storage ได้ว่าจะใช้ SAS หรือ SSD, การแบ่งประเภทของเทคโนโลยี Cloud และ Hypervisor ออกจากกัน

Credit: CS Loxinfo

 

CS LOXINFO Virtual Server Service: บริการ Cloud ด้วยเทคโนโลยีจาก VMware

สำหรับบริการ Virtual Server ของ CS LOXINFO นั้น จะใช้เทคโนโลยี Cloud และ Virtualization จากทาง VMware เป็นหลัก ซึ่งสามารถบริหารจัดการได้ผ่าน VMWare vCloud Director ทำให้องค์กรสามารถแบ่งสรรทรัพยากรบน Cloud ให้กับแผนกต่างๆ ภายในองค์กรได้ตามต้องการ พร้อมความสามารถในการจำกัดสิทธิ์และกำหนดโควต้าการใช้งาน Cloud ให้ผู้ใช้งานสามารถสร้าง VM ได้เองผ่าน Self-Service Portal ขององค์กรตาม Catalog ที่กำหนดไว้

Credit: CS Loxinfo

 

CS LOXINFO AZCloud Service: บริการ Cloud ด้วยเทคโนโลยีจาก Microsoft

สำหรับองค์กรที่ใช้งานเทคโนโลยีจากฝั่ง Microsoft เป็นหลักก็อาจประหยัดค่าใช้จ่ายทางด้านลิขสิทธิ์ของฝั่ง Microsoft ลงได้ด้วยการใช้บริการ AZCloud Service ที่ใช้เทคโนโลยี Microsoft Hyper-V ในการให้บริการ Cloud ซึ่งสามารถลดค่าใช้จ่ายในลิขสิทธิ์การใช้งาน Microsoft Windows Server ในแต่ละเดือนลงไปได้มากกว่าโซลูชันอื่นๆ และเหมาะสมอย่างยิ่งกับองค์กรที่มีการพัฒนา Software บน Platform ของ Microsoft เป็นหลัก ซึ่งอาจต้องการ VM จำนวนมากสำหรับใช้ใน Software Development Cycle ขององค์กร

Credit: CS Loxinfo

 

ไม่ได้มีแค่ Virtual Machine แต่ยังปรับแต่งระบบเครือข่าย, ระบบรักษาความปลอดภัย และลิขสิทธิ์ Software ที่ต้องการใช้ได้ด้วย

CS LOXINFO นั้นเข้าใจธรรมชาติของตลาดองค์กรที่ต้องการปรับแต่งระบบ Cloud ให้เข้ากับนโยบายการรักษาความปลอดภัยที่ต้องการ และเชื่อมต่อกับระบบเครือข่ายที่มีอยู่เดิมภายในองค์กรได้เป็นอย่างดี รวมถึงความต้องการอื่นๆ เฉพาะสำหรับแต่ละองค์กรที่แตกต่างกันไป ทำให้ CS LOXINFO ได้ทำบริการเสริมในส่วนนี้ขึ้นมา

บริการเหล่านี้ได้แก่การเสริมและปรับแต่ง Firewall ภายใน Cloud ได้, การปรับแต่ง IP Address, VLAN และ Network ทั้งหมดให้เข้ากับระบบเครือข่ายขององค์กรได้, การเสริม Private Link เพื่อเชื่อมต่อ Cloud เข้ากับระบบเครือข่ายขององค์กรโดยตรง, การเปิดให้เช่าใช้ลิขสิทธิ์ Software ต่างๆ เช่น Microsoft Windows Server, Microsoft SQL Server, Parallel Plesk และอื่นๆ อีกมากมาย

 

ต่อยอดบริการให้หลากหลาย ด้วยทีมงานมากประสบการณ์จาก CS LOXINFO

ไม่เพียงแต่ในแง่ของการขายและการเช่าใช้เท่านั้น แต่ CS LOXINFO ยังได้เสริมบริการในการให้คำปรึกษา, การออกแบบ, การติดตั้ง, การย้ายระบบ ไปจนถึงการดูแลรักษาอย่างครบวงจรเพื่อช่วยให้องค์กรสามารถแก้ไขปัญหาต่างๆ หรือต่อยอดระบบ Cloud ให้ทำหน้าที่อื่นๆ เช่น การเป็น Disaster Recovery (DR) Site หรือการเป็น Backup Site ได้แบบ One Stop Service ไม่ต้องวุ่นวายกับการจ้างทีมงานอื่นๆ ภายนอกมาทำ มีให้เลือกใช้ได้ทั้งการบริการเป็นครั้งๆ หรือการให้บริการระยะยาวแบบ Managed Service ได้ตามต้องการ

 

วางใจด้วย Service Availability ระดับ 99.98% และบริการมืออาชีพตลอด 24 ชั่วโมง

CS LOXINFO นั้นได้รับ Certificate หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น ISO9001, ISO20000, ISO27001 และ ISO22301 รวมไปถึงภายในปีนี้ก็มีแผนที่จะผ่านการตรวจสอบตามมาตรฐาน CSA ทางด้านความปลอดภัยสำหรับระบบ Cloud ด้วย

นอกจากนี้หากนับจากสถิติตั้งแต่การเริ่มให้บริการที่ผ่านมา บริการของ CS LOXINFO นั้นก็มีความเสถียรอยู่ที่มากกว่า 99.98% พร้อมทั้งมีทีมงานคอยตรวจสอบการทำงานของระบบ Cloud และทำการแก้ไขปัญหาตลอด 24 ชั่วโมง ทำให้องค์กรต่างๆ สามารถมั่นใจในบริการ Cloud ของ CS LOXINFO ได้

 

ติดต่อทีมงาน CS LOXINFO ได้ทันที

ผู้ที่สนใจบริการ Cloud จาก CS LOXINFO และต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือทดสอบใช้งาน หรือขอใบเสนอราคา สามารถติดต่อทีมงาน CS LOXINFO ได้ทันทีที่ 02-263-8185 (presales@csloxinfo.net)

from:https://www.techtalkthai.com/cs-loxinfo-cloud-service-for-enterprise-and-startup-with-vmware-and-microsoft/

TechTalk Webinar Replay: รู้จัก VMware vRealize Automation เบื้องต้น กับทีมงาน VMUG Thailand

สำหรับผู้ที่ไม่ได้เข้าชมการบรรยาย TechTalk Webinar เรื่อง “รู้จัก VMware vRealize Automation เบื้องต้น กับทีมงาน VMUG Thailand” โดยคุณ Waroon Kaeowanich ที่ปรึกษาแห่งชุมชน VMware User Group (VMUG) Thailand และผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี Virtualization และ Cloud ผู้อยู่เบื้องหลังบริการ Cloud ชั้นนำหลายแห่งในประเทศไทย ซึ่งเป็นการปูพื้นฐานเทคโนโลยีการสร้างระบบ Private Cloud สำหรับใช้งานภายในองค์กรด้วยการใช้ VMware vRealize Automation สามารถดูวิดีโอบันทึกย้อนหลังได้ที่บทความนี้ครับ

from:https://www.techtalkthai.com/techtalk-webinar-replay-introduction-to-vmware-vrealize-automation-by-vmug-thailand/

รวม Facebook Group แลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์การใช้ Cloud สำหรับผู้ใช้งานชาวไทย

ช่วงนี้บริการ Cloud ต่างชาติเริ่มกลับมาได้รับความสนใจเป็นอย่างมากอีกครั้งหนึ่ง ทางทีมงาน TechTalkThai จึงขอถือโอกาสนี้รวบรวม Facebook Group สำหรับกลุ่มผู้ใช้งานบริการ Cloud และเทคโนโลยี Cloud ต่างๆ ให้ได้เข้าไปพูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์ หรือสอบถามปัญหาต่างๆ กันได้ง่ายๆ ดังนี้ครับ

ใครรู้จักกลุ่มไหนเพิ่มเติมก็มาแนะนำกันได้ที่ info@techtalkthai.com เลยนะครับผม จะได้เพิ่มเติมเข้าไปในรายชื่อให้ครับ

สุดท้ายนี้ขอฝากเพจ Thai Cloud Providers สำหรับติดตามข่าวสารด้าน Cloud ทั่วไทยและทั่วโลกเอาไว้ด้วยนะครับที่ https://www.facebook.com/thaicloudproviders/

from:https://www.techtalkthai.com/facebook-groups-for-cloud-users-in-thailand/

VMware รุกหนักตลาด Cloud เปิดตัว Cloud Foundation, Cross-Cloud Services และบริการใหม่บน vCloud

ตอบรับโจทย์ Hybrid Cloud สำหรับองค์กรด้วย Cross-Cloud Architecture

vmware_cloud_foundation

ในงาน VMworld 2016 ที่กำลังจัดขึ้นนี้ ทาง VMware ได้ออกมาปะรกาศถึงเทคโนโลยีสำหรับการทำ Hybrid Cloud ขององค์กรด้วยโซลูชันใหม่ล่าสุด VMware Cloud Foundation พร้อมกับการประกาศความร่วมมือกับ IBM ด้วยการเปิดตัว IBM Cloud Foundation on IBM Cloud Service ไปพร้อมๆ กัน

 

VMware Cloud Foundation

VMware Cloud Foundation นี้เป็นระบบ Unified Software-Defined Data Center (SDDC) ที่จะช่วยให้องค์กรสามารถบริหารจัดการและสร้าง SDDC Cloud ได้โดยง่าย โดยมาพร้อมกับเทคโนโลยี Cross-Cloud Services ที่จะช่วยให้องค์กรสามารถบริหารจัดการ Private Cloud และ Public Cloud ได้พร้อมๆ กันไม่ว่าจะเป็นบริการ Cloud จาก Amazon Web Services (AWS), Microsoft Azure หรือ IBM Cloud ก็ตาม โดยภายใน VMware Cloud Foundation นี้จะประกอบไปด้วย

  • VMware vSphere
  • VMware Virtual SAN
  • VMware NSX
  • VMware SDDC Manager

ทั้งนี้องค์กรที่สนใจสามารถเลือกลงทุนได้ทั้งในรูปแบบของบริการอย่างเช่นการเช่าใช้ VMware Cloud Foundation บน IBM Cloud ก็ได้ หรือจะเลือกลงทุนติดตั้งเองบนระบบสำเร็จรูปอย่าง EMC VxRack Systems หรือลงทุนระบบ Server ที่เป็น VMware Virtual SAN Ready Node จากผู้ผลิตชั้นนำอย่าง Dell, HPE และ QCT ก็ได้เช่นกัน โดย VMware Cloud Foundation นี้ก็รองรับโซลูชันต่างๆ ของ VMware เอง ไม่ว่าจะเป็น

  • VMware vRealize Suite
  • VMware vSphere Integrated Containers
  • VMware Integrated OpenStack
  • VMware Horizon

 

Cross-Cloud Services

ส่วน Cross-Cloud Services นี้ก็เป็นเทคโนโลยีใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวออกมาในระดับ Tech Preview โดยจะช่วยให้เหล่าผู้ดูแลระบบสามารถบริหารจัดการระบบ Cloud และ Virtualization ทั้งแบบ vSphere และ Non-vSphere ร่วมกันได้ ไม่ว่าจะเป็น Data Center แบบ On-premises หรือ Public Cloud ก็ตาม ทำให้องค์กรสามารถเลือกใช้ Cloud และ Virtualization ได้อย่างอิสระ โดยมีความสามารถดังต่อไปนี้

  • Discovery and Analytics ค้นหาและควบคุม Application ต่างๆ ที่ใช้งานอยู่บน Public Cloud
  • Compliance and Security ใช้ Micro-segmentation และการตรวจสอบเข้ามาช่วยให้ Application บน Cloud มีความปลอดภัย
  • Deployment and Migration ทำให้ Developer สามารถใช้งานระบบ Cloud ทั้งหมดที่มีอยู่ได้ และช่วยให้ IT สามารถบริหารจัดการได้ง่ายขึ้น

 

VMware vCloud

ทางด้าน VMware vCloud เองนั้นก็เปิดตัวบริการใหม่ภายใต้ชื่อ VMware vCloud Availability สำหรับทำ Disaster Recovery ให้กับเหล่าพาร์ทเนอร์ VMware vCloud Air โดยเฉพาะด้วยการเปิดตัว VMware vCloud Availability for vCloud Director สำหรับทำ Replication ให้กับ vSphere ทั้งหมดขึ้นไปยัง vCloud Air Network และยังเปิดตัว VMware vCloud Air Hybrid Cloud Manager สำหรับช่วยย้าย Application ต่างๆ บน VMware vSphere ขึ้นไปยัง VMware vCloud Air ได้แบบไม่มี Downtime ไปด้วยพร้อมๆ กัน

 

ที่มา: http://www.vmware.com/company/news/releases/vmw-newsfeed.VMware-Unveils-New-Cross-Cloud-Architecture(TM)-to-Give-Customers-Cloud-Freedom-and-Control.2089557.html , https://cto.vmware.com/vmware-cloud-foundation/

from:https://www.techtalkthai.com/vmware-announces-cloud-foundation-cross-cloud-services-and-new-vcloud-services/

5 ตัวอย่างของการใช้ Internet of Things จริงในธุรกิจระดับโลก

จากที่ Gartner เคยทำนายเอาไว้ว่าปี 2016 นี้จะเป็นปีของ Internet of Things (IoT) สำหรับการนำมาใช้งานในเชิงธุรกิจ ทาง VMware เองก็ต้องการร่วมผลักดันประเด็นนี้จึงได้รวบรวม 5 ตัวอย่างของการใช้ IoT จริงๆ ในธุรกิจมาให้เราได้ดูกัน ซึ่งทีมงาน TechTalkThai ก็ขอนำมาสรุปเอาไว้ดังนี้ครับ

Credit: ShutterStock.com
Credit: ShutterStock.com

 

1. British Telecommunications (BT) กับการใช้ Sensor ตรวจวัดตำแหน่งของสาย Cable ที่มีปัญหา

BT ได้ใช้เทคโนโลยี Location Intelligence จาก Pitney Bowes เพื่อติดตามตำแหน่งต่างๆ ที่เกิดปัญหาภายในระบบเครือข่ายและสาย Cable ในพื้นที่ให้บริการตามอาคารต่างๆ ของลูกค้า ทำให้การให้บริการด้านการสื่อสารเป็นไปได้อย่างราบรื่นขึ้นทั้งในแง่ของการติดตั้งและการแก้ไขปัญหา

 

2. Siemens เปลี่ยนฟาร์มผลิตไฟฟ้าพลังงานลมให้กลายเป็นระบบอัจฉริยะ

Siemens เป็นหนึ่งในผู้นำทางทางด้านเทคโนโลยีพลังงานลมของโลก และได้นำเทคโนโลยี RTI Messaging Software ร่วมกับ Sensor ต่างๆ เพื่อติดตามการทำงานของกังหันผลิตไฟฟ้านับหลายร้อยตัว และทำ Predictive Maintenance ล่วงหน้า พร้อมทั้งการปรับแต่งค่าการทำงานของกังหันให้เหมาะกับสภาพลมในแต่ละช่วงเวลา

 

3. UPS ประหยัดค่าใช้จ่ายในการติดตามเส้นทางการเดินรถ

UPS ทำการติดตั้ง GPS Tracking และระบบ Sensor ตรวจวัดการทำงานของรถยนต์ตั้งแต่ปี 2008 เพื่อค้นหารูปแบบของเส้นทางการเดินรถที่สั้นที่สุดและประหยัดค่าใช้จ่ายที่สุด โดยระบบ On-Road Integrated Optimization and Navigation (ORION) ของ UPS ก็ได้นำข้อมูลทั้งหมดนี้มาวิเคราะห์และช่วยให้ UPS ประหยัดน้ำมันไปได้แล้ว 1.5 ล้านแกลลอนจากการเดินรถด้วยกัน 10,000 เส้นทาง และเตรียมจะขยายการวิเคราะห์ข้อมูลนี้เพิ่มไปถึง 55,000 เส้นทางภายในปี 2017

 

4. Ochsner ใช้อุปกรณ์ IoT ทางการแพทย์ผสานเข้ากับระบบข้อมูลผู้ป่วย

Ochsner Health System ได้ทำการผสานระบบ Electronic Health Record (EHR) ที่มีชื่อว่า Epic เข้ากับอุปกรณ์ Wearable และ IoT เพื่อช่วยให้ได้รับข้อมูลและสื่อสารกับผู้ป่วยได้มากขึ้น และปรับปรุงผลการรักษาให้ดีขึ้นได้จากการนำข้อมูลสุขภาพแบบ Real-time จากอุปกรณ์ IoT ที่ติดตามตัวผู้ป่วยเพื่อวัดค่าต่างๆ มาส่งต่อให้ระบบ Epic เพื่อให้แพทย์สามารถติดตามข้อมูลทางสุขภาพได้โดยตลอด และสามารถวินิจัยอาการได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น

 

5. AT&T กับเทคโนโลยีการติดตามตู้ Container ด้วย IoT

สำหรับธุรกิจต่างๆ ที่มีบริการขนตู้ Container นั้น ทาง AT&T ได้มีโซลูชั่น IoT และระบบเครือข่ายสำหรับติดตามตู้ Container และรถขนตู้ Container ได้แบบ Real-time เพื่อลดการฉ้อโกงลง, ติดตาม Inventory ได้แม่นยำ และบริหารจัดการการขนส่งได้ดีขึ้นไปพร้อมๆ กัน

 

VMware กับการรุกเข้าตลาด IoT

ทางด้าน VMware เองก็ได้โฆษณาโซลูชั่นของตัวเองใน Blog ด้วย ซึ่งก็ถือว่าน่าสนใจมากเพราะผลิตภัณฑ์ฝั่ง EUC และ Data Analytics ของ VMware เองจะได้เข้ามามีบทบาทในตลาด IoT เป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็น AirWatch, vRealize Opearations หรือ vRealize Log Insight ที่สามารถใช้ควบคุม IoT Device, ติดตามการทำงาน และจัดเก็บพร้อมประมวลผลข้อมูลที่ได้รับจาก IoT Device พร้อมๆ กัน ในขณะที่ VMware vCloud, vCloud Air, Federation Enterprise Hybrid Cloud เองนั้นก็จะมามีบทบาทในฐานะ Data Center สำหรับ IoT นั่นเอง

ก็ถือเป็นแนวทางที่ดีสำหรับการนำ IoT มาใช้ในธุรกิจครับ ใครคิดจะทำอะไรสาย IoT ก็ลองรับไปพิจารณาเป็นแนวทางดูได้

ที่มา: http://blogs.vmware.com/euc/2016/03/5-examples-of-iot-in-business.html

from:https://www.techtalkthai.com/5-internet-of-things-in-businesses-examples/

VMware เตือนผู้ใช้งาน vCenter, vCloud และ Horizon ให้ทำการอุดช่องโหว่ที่อาจทำให้ข้อมูลรั่วไหลได้

VMware ได้ออก Security Advisory เพื่อเตือนผู้ใช้งาน VMware vCenter, VMware vCloud Director และ VMware Horizon View ให้ทำการอัพเกรดระบบเพื่ออุดช่องโหว่ที่จะทำให้ผู้โจมตีสามารถเข้าถึงข้อมูลที่ไม่ควรถูกเปิดเผยบางส่วนได้ ซึ่งปัญหานี้เกิดจาก Component ของ Apache และ Adobe ที่ใช้งานอยู่ในผลิตภัณฑ์ของ VMware โดยรุ่นที่ได้รับผลกระทบมีดังนี้

Credit: ShutterStock.com
Credit: ShutterStock.com
  • VMware vCenter 5.0/5.1/5.5
  • VMware vCloud Director 5.5/5.6
  • VMware Horizon View 5.0/6.0

สำหรับวิธีการแก้ไขเบื้องต้นก็คืออัพเกรดไปใช้ Version ที่ไม่ได้รับผลกระทบ หรือทำการ Patch ตามที่ VMware แจ้งออกมา โดยสามารถเข้าไปศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.vmware.com/security/advisories/VMSA-2015-0008.html เลยครับ

from:https://www.techtalkthai.com/vmware-warned-to-update-vcenter-vcloud-and-horizon-view/

จะเกิดอะไรขึ้นกับ VMware หลังจาก Dell เข้าซื้อกิจการของ EMC?

federation-lockup-aug15-dell

เป็นอีกหนึ่งคำถามที่ทุกคนในวงการ Enterprise IT ต้องการคำตอบอย่างเร็วที่สุด ดังนั้นทางทีมงาน TechTalkThai จึงได้ทำการวบรวมข้อมูลและสรุปเอาไว้ให้ ซึ่งก็จะมีทั้งข้อเท็จจริง และบทวิเคราะห์ปนๆ กันไปดังนี้นะครับ

vmware_vcloud_air_banner

1. VMware ยังคงเป็นบริษัท Publicly-Traded Company อยู่เช่นเดิม

ถึงแม้ปัจจุบันนี้ Dell จะกลายเป็นผู้ถือหุ้นที่ใหญ่ที่สุดของ VMware ไปแล้ว จากการที่ EMC นั้นถือหุ้นของ VMware ถึง 80% แต่ VMware ก็จะยังคงเป็นบริษัทเดิมต่อไป และมีจุดมุ่งหมายและกลยุทธ์ต่างๆ เหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยนแปลง และจริงๆ แล้ว Dell เองก็ยังจะได้เข้าไปถือหุ้นเดิมของ EMC ใน Pivotal (ธุรกิจ Cloud Native Platform), RSA (ธุรกิจ Security), VCE (ธุรกิจ Converged Infrastructure), Virtustream (ธุรกิจ Managed Cloud Service) ในขณะที่ VMware เองก็ยังเคยเข้าซื้อกิจการมาแล้วมากมาย หนึ่งในชื่อที่เราคุ้นเคยกันดีก็คงหนีไม่พ้น AirWatch นั่นเอง

(จากบทสนทนากับคนรอบตัว มีคนแซวขำๆ กันว่า AirWatch by VMware อาจกลายเป็น AirWatch by VMware by EMC by Dell ก็เป็นได้)

 

2. ยอดขายของ VMware จะเติบโตยิ่งขึ้นด้วย Channel ของ Dell

Pat Gelsinger ผู้ดำรงตำแหน่ง CEO ของ VMware ได้ประเมินว่ายอดขายของ VMware อาจเพิ่มขึ้นอีกถึงหลักพันล้านดอลลาร์ได้ และเป็นการช่วยนำเสนอเทคโนโลยีต่างๆ ของ VMware ให้เข้าถึงลูกค้าเป็นวงกว้างได้มากขึ้น โดยเฉพาะเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับ Storage และ Converged Infrastructure ที่จะแข็งแกร่งขึ้นด้วยการผนึกกำลังร่วมกันระหว่าง Dell, EMC และ VMware

 

3. vCloud Air จะกลายเป็นอีกทางเลือกสำหรับโซลูชั่น Disaster Recovery ของ Dell

บริการ Disaster-Recovery-as-a-Service ชั้นนำอย่าง VMware vCloud Air นั้นจะกลายเป็นอีกทางเลือกที่ Dell สามารถนำไปเสนอลูกค้าได้อย่างน่าสนใจ

 

4. Desktop-as-a-Service จะกลายเป็นอีกหนึ่งอาวุธของ Dell

ด้วย VMware Horizon นั้น ก็จะทำให้ Dell ที่มีธุรกิจฝั่ง Endpoint ครอบคลุมไม่ว่าจะเป็น PC, Notebook, Thin Client, Zero Client และ Mobile Device นั้นสามารถนำเสนอ Desktop-as-a-Service จาก VMware เพิ่มเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้ครอบคลุมยิ่งกว่าเดิมได้

 

5. ยังไม่มี Public Cloud อยู่ดี

ถึงแม้จะเป็นการรวมตัวกันของผู้เล่นรายใหญ่ในตลาด Enterprise IT แต่ไม่ว่าจะเป็น Dell, EMC, VMware, Pivotal, Virtustream, RSA หรือ VCE นั้นต่างก็ไม่มีใครที่มีธุรกิจ Public Cloud ที่สู้กับผู้เล่นรายใหญ่อย่าง Amazon, Google หรือ Microsoft ได้อยู่ดี ซึ่งถ้าหาก Dell ต้องการที่จะมีทิศทางไปยัง Public Cloud ก็คงต้องมีการปรับเปลี่ยนอะไรบางอย่างก่อน แต่อย่างไรก็ดี การรวมตัวครั้งนี้ก็เป็นการรวมตัวของผู้ผลิต Private Cloud สำหรับองค์กร ที่รองรับเทคโนโลยี Hybrid Cloud ครั้งใหญ่ด้วยเช่นกัน

ทั้งนี้ที่ผ่านมา Dell และ Citrix เองก็มีความสัมพันธ์อันดีกันมาโดยตลอด และเป็นอีกประเด็นที่ต้องติดตามว่าจะเกิดอะไรขึ้น

 

6. ควรติดตามข่าวต่อไปอีกซักระยะใหญ่ๆ

นี่คือการเข้าซื้อกิจการครั้งใหญ่ที่สุดในวงการ IT เท่าที่เคยมีมา (จากบทสนทนารอบข้าง มีคนเปรียบเปรยไว้ว่านี่คือการซื้อ Instagram ถึง 67 บริษัท ซึ่งก็เห็นภาพชัดดี แต่จำนวนพนักงานเยอะกว่ามาก) และ EMC เองก็เป็นบริษัทที่ใหญ่มาก ดังนั้นการควบรวมกิจการหรือการขยับตัวใดๆ ก็อาจต้องใช้เวลาบ้าง แต่ไม่ช้าก็เร็วก็ต้องมีการเปลี่ยนแปลงอย่างแน่นอน ดังนั้นไม่ว่าจะเป็น Policy เรื่องการซื้อขาย, การสนับสนุน หรือประเด็นทางด้านราคานั้น ก็คงจะค่อยๆ เปลี่ยนแปลงไป ยังไงถ้าใช้ผลิตภัณฑ์อะไรของใครอยู่ก็ติดต่อสื่อสารกับ Vendor คอยอัพเดตกันไปเรื่อยๆ ก็เป็นทางเลือกที่ดีครับ

 

ที่มา: http://www.dell.com/learn/us/en/uscorp1/secure/2015-10-12-dell-emc-transaction , http://www.emc.com/futurereadyhttp://www.infoworld.com/article/2991754/technology-business/4-no-bull-takeaways-from-the-dellemcvmware-buyout.html#tk.rss_all , http://www.channelregister.co.uk/2015/10/12/vmware_sees_billiondollar_upside_in_dell_buy/ 

from:https://www.techtalkthai.com/how-about-vmware-after-dell-acquired-emc/

Vodafone Germany ใช้ VMware vCloud NFV Platform รองรับระบบเครือข่ายสำหรับบริการ Voice-over-LTE

vmware_logo

เพื่อรองรับบริการ Voice-over-LTE (VoLTE) สำหรับผู้ใช้งาน LTE ในประเทศเยอรมนี ทาง Vodafone Germany ได้เลือกใช้ VMware vCloud NFV Platform เพื่อให้บริการระบบเครือข่ายที่เป็นแกนกลางของระบบ VoLTE นี้ได้อย่างยืดหยุ่น และรองรับ Virtual Network Functions (VNFs) จากผู้ผลิตหลากหลายเพื่อผสานเป็นบริการ VoLTE แบบครบวงจร ปัจจุบันบริการนี้สามารถทำให้การพูดคุยกันระหว่างผู้ใช้งานโทรศัพท์มือถือมีเสียงที่ชัดเจนขึ้น, ใช้เวลาเชื่อมต่อคู่สายน้อยลง และใช้พลังงานบนโทรศัพท์มือถือน้อยลง โดยบริการนี้เป็นที่แพร่หลายครอบคลุมผู้ใช้งานกว่า 70% ทั่วประเทศเยอรมนี

techtalkthai_networking

ทั้งนี้สาเหตุที่ทาง Vodafone Germany เลือกใช้ VMware vCloud NFV Platform นั้น ก็เพราะต้องการนำความยืดหยุ่นและทนทานของ Cloud มาใช้สร้างแกนกลางของระบบเครือข่ายสำหรับ VoLTE ให้สามารถทำการปรับแต่งแก้ไขเพื่อรองรับความต้องการใหม่ๆ ของลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว เพื่อจะได้ขึ้นเป็นผู้นำของตลาดอยู่เสมอนั่นเอง ด้วยการติดตั้ง Virtual Network Function ใหม่ๆ ที่ต้องการซึ่งมีอยู่มากกว่า 40 ผลิตภัณฑ์จากผู้ผลิตมากกว่า 30 ราย ทำให้การสร้าง Telco Cloud นี้เป็นไปได้อย่างรวดเร็ว ยืดหยุ่น และตอบสนองต่อความต้องการของตลาดอย่างแท้จริง

ข้อมูลเพิ่มเติม

ที่มา: http://ir.vmware.com/releasedetail.cfm?ReleaseID=910790

from:https://www.techtalkthai.com/vodafone-germany-deployed-vmware-vcloud-nfv-platform-for-volte/