คลังเก็บป้ายกำกับ: SOLID_STATE_STORAGE

Gartner Magic Quadrant for Solid-State Arrays 2016 ออกแล้ว มี Leader ด้วยกัน 5 ราย

เทคโนโลยี All Flash Array กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่องในตลาดทั่วโลกในเวลานี้

Gartner ได้ออกมาเผยถึง Magic Quadrant for Solid-State Arrays ประจำปี 2016 โดยมีการประเมินผู้ผลิตให้อยู่ใน Magic Quadrant ด้วยกันทั้งสิ้น 13 ราย และได้รับเลือกให้เป็น Leader ด้วยกันทั้งสิ้น 5 ราย ได้แก่ EMC (Dell EMC), Pure Storage, IBM, HPE และ NetApp

Gartner ได้ทำนายว่าตลาด Solid-State Array นี้จะเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง และภายในปี 2020 กว่า 50% ของ Data Center จะใช้ Solid-State Array ในการจัดเก็บข้อมูลหลักในการทำธุรกิจ และภายในปี 2021 50% ของการทำ High Performance Computing และ Big Data ก็จะใช้ Solid-State Array เช่นกัน จากเดิมที่ Solid-State Array นั้นมีส่วนแบ่งตลาดเพียงไม่ถึง 1% ในปัจจุบัน

ความน่าสนใจของ Gartner’s Magic Quadrant ในฉบับนี้ก็คือการที่จุดแข็งของเหล่า Vendor ส่วนใหญ่นั้นจะไม่ได้ถูกพูดถึงกันในแง่ของประสิทธิภาพกันอย่างระบบ Storage เดิมๆ และถูกแบ่งออกเป็นประเด็นดังนี้

  • กลยุทธ์ทางด้านราคาที่จะช่วยให้เหล่าองค์กรสามารถลงทุนได้อย่างคุ้มค่า
  • บริการหลังการขายที่จะทำให้องค์กรประทับใจและกล้าใช้งาน
  • ความง่ายในการใช้งาน
  • เทคโนโลยีที่โดดเด่นของผู้ผลิตแต่ละราย

ผู้ที่สนใจรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถโหลดเอกสาร Gartner’s Magic Quadrant for Solid-State Array ฉบับเต็มกันได้ที่ http://info.purestorage.com/2016Q3—APJ—Cloud—D—Gartner-MQ_Landing-page—PH.html?utm_campaign=2016gartnermq_apj&utm_source=techtalkthai&utm_medium=banner&utm_content=gartnermq ทันที

from:https://www.techtalkthai.com/gartner-magic-quadrant-for-solid-state-arrays-2016-is-announced-with-5-leaders/

Xitore เปิดตัวเทคโนโลยี NVM-X: SSD Storage ความเร็ว 4,000,000 IOPS

Xitore บริษัท Startup ผู้ผลิต Flash DIMM ได้ออกจาก Stealth Mode มาเปิดตัวผลิตภัณฑ์ NVM-X ระบบ Solid State Storage ที่มีความเร็ว 4,000,000 IOPS และมี Read/Write Throughput ที่ 24.88GBps/24.88GBps รวมถึงยังมี Latency เพียง 2 microsecond พร้อมประกาศหาผู้ลงทุนอยู่ในตอนนี้

Xitore-SNIA-chart-1

Xitore ได้เริ่มดำเนินกิจการในปี 2014 โดย CEO Mike Amidi ผู้เคยทำงานในบริษัทชั้นนำทางด้าน IT หลากหลายไม่ว่าจะเป็น STEC, SMART, Netlist, WD และยังมีสิทธิบัตรด้วยกันถึง 62 ฉบับ อีกทั้งยังมีสิทธิบัตรอีก 8 ฉบับที่กำลังรอการตรวจสอบ

Xitore ได้พัฒนา NVM-X ขึ้นมาโดยใช้องค์ความรู้ทางด้านเทคโนโลยีของระบบ Storage ที่มีทั้งหมดในการออกแบบ Storage Controller, Firmware, Device Driver และ Harware Acrhitecture เพื่อให้ NVM-X กลายเป็น Storage ที่มีความเร็วสูงสุดอย่างแท้จริง

Xitore-kpis-chart

Solid State Storage ของ Xitore นี้ทำงานอยู่บน Interface ของ DRAM และลดความซับซ้อนของ Data Path ลงด้วยการออกแบบให้ใช้ Single Controller เป็นหลัก ทำให้ Solid State Storage ของ Xitore นี้เชื่อมต่อกับหน่วยความจำของ Controller บน North Bridge และ CPU ได้โดยตรง

ยังไม่จบแค่นั้น การออกแบบ Software บน Controller ยัง Xitore เองก็ยังถูกจดสิทธิบัตรเอาไว้สำหรับการพัฒนาระบบ Localized Cache Architecture และ Buffer ที่มี Bandwidth สูงแต่มี Latency ต่ำ ทำให้ทุกๆ การ Write นั้นถูกส่งไปยัง DRAM Cache โดยตรง

ใครสนใจรายละเอียดเพิ่มเติมลองศึกษาได้ที่ http://xitore.com/ นะครับ เว็บไซต์สมกับเป็น Startup มากๆ

ที่มา: http://www.theregister.co.uk/2016/02/04/xitores_flashing_fast_stealth_exit/

from:https://www.techtalkthai.com/xitore-announced-nvm-x-ssd-storage-with-4-million-iops/

Gartner เผย Magic Quadrant for Solid-State Arrays ประจำปี 2015

ในรายงาน Magic Quadrant ฉบับนี้จะกล่าวถึงเฉพาะผู้ผลิตที่มีผลิตภัณฑ์ Storage สำหรับใช้งานร่วมกับ Solid State Drive ล้วนๆ โดยเฉพาะ ซึ่งมีเทคโนโลยีพิเศษสำหรับให้ทำงานกับ Solid State Drive ได้พีขึ้น และไม่สามารถติดตั้ง Hard Drive ภายในเพื่อทำ Hybrid Array ได้เลย ดังนั้น Storage Vendor ที่คุ้นหน้าคุ้นตากันบางรายก็จะไม่ได้อยู่ในรายงานฉบับนี้

ภาพรวมของตลาด

ความต้องการของ Solid-State Arrays เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว ด้วยเหตุผลทางความต้องการประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นสำหรับระบบ Storage ที่มีอยู่เดิม และการลงทุนเทคโนโลยีใหม่เพื่อให้มีประสิทธิภาพตอบรับกับอนาคต ในปี 2014 ที่ผ่านมา ยอดขายเติบโตจากปี 2013 เป็น 2 เท่า โดยในปี 2017 คาดว่าจะมีผู้ผลิตเกิดใหม่อีก 50% จากเดิม จนในปี 2019 ยอดขายจะเติบโตขึ้นเป็น 5 เท่าจากปี 2014 และในปี 2020 คาดว่าจะมี Data Center ที่ใช้ Solid-State Arrays เป็นหลักถึง 25% ในโลก

Leader 4 ราย

ใน MQ ฉบับนี้มีผู้นำตลาดด้วยกันทั้งสิ้น 4 ราย ได้แก่ EMC, Pure Storage, IBM และ HP (เรียงลำดับตามแกน Y – Ability to Execution) โดยผู้ผลิตแต่ละรายต่างก็มีจุดเด่นที่แตกต่างกันไปอย่างชัดเจน ตั้งแต่ประเด็นทางด้านเทคโนโลยี, การใช้งาน SSD ให้คุ้มค่าสูงสุด, การเน้นตอบโจทย์ความต้องการของตลาดในรูปแบบต่างๆ และการตอบโจทย์ด้านราคาเป็นหลัก ดังนั้นผู้ที่กำลังมองหา Solid-State Arrays นี้ก็ควรจะพิจารณาความต้องการขององค์กรให้ดี และเลือกเทคโนโลยีหรือผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับความต้องการ

สำหรับผู้ที่อยากอ่านเอกสารฉบับเต็ม สามารถกรอกแบบฟอร์มเพื่อดาวน์โหลดได้ฟรีๆ จาก http://info.purestorage.com/2015-Gartner-MQ-Request-A.html ทันทีครับ

from:https://www.techtalkthai.com/gartners-magic-quadrant-for-solid-state-arrays-2015/

Datapro ผนึกกำลัง IBM ผลักดัน Data Center ประสิทธิภาพระดับสูงสุดด้วย IBM POWER8 และ IBM FlashSystems ตอบรับทุก Application สำหรับองค์กร

ทางทีมงาน TechTalkThai มีโอกาสได้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับคุณศิษฏากร อุสันโน ผู้บริหารระดับสูงแห่งบริษัท Datapro Computer Systems หรือที่รู้จักกันในชื่อย่อว่า DCS หนึ่งในบริษัทยักษ์ใหญ่ผู้ให้บริการทางด้าน Enterprise IT ในประเทศไทยมาเป็นระยะเวลานานเกือบ 30 ปี ถึงทิศทางการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีทางด้าน Server และ Storage ที่มาแรงมากในปีนี้ และการจับมือรุกตลาดครั้งใหญ่ด้วยสองเทคโนโลยีชั้นนำจาก IBM อย่าง IBM POWER8 และ IBM FlashSystem จึงได้นำมาเขียนเรียบเรียงสรุปให้ผู้อ่านทุกท่านได้เห็นแนวโน้มและวิสัยทัศน์ทางด้านเทคโนโลยีจากทีมงาน DCS ดังนี้

บคุณศิษฏากร อุสันโน ผู้บริหารระดับสูงแห่งบริษัท Datapro Computer Systems
บคุณศิษฏากร อุสันโน ผู้บริหารระดับสูงแห่งบริษัท Datapro Computer Systems

DCS กับการร่วมมือทางธุรกิจร่วมกับ IBM เกือบ 30 ปี

dcs_logo-with-text-screen-tr ibm_logo

นับตั้งแต่วันที่ DCS ได้เริ่มดำเนินกิจการในประเทศไทยในปี 1986 นั้น ก็เป็นปีเดียวกันที่ Datapro ได้ร่วมเป็นพาร์ทเนอร์กับ IBM ในการนำเสนอโซลูชั่นสำหรับตอบโจทย์ต่างๆ ให้กับธุรกิจในประเทศไทยมาเป็นระยะเวลาถึง 29 ปีแล้ว และ DCS ก็ได้สั่งสมทั้งองค์ความรู้และประสบการณ์มาอย่างต่อเนื่องยาวนาน ในการออกแบบ ติดตั้ง และดูแลรักษา IT Infrastructure ที่ใช้เทคโนโลยีของ IBM อย่างครบวงจร เพื่อให้มีทั้งประสิทธิภาพ และความทนทานในระดับสูงสุด ตอบรับต่อความต้องการของระบบ Application ที่มีความสำคัญต่อองค์กร

ปัจจุบันนี้ DCS มีความพร้อมที่จะให้บริการสนับสนุนการใช้ IBM ภายใน Data Center ขององค์กรต่างๆ ทั่วประเทศในแบบ 24×7 ด้วยทีมงานที่มีประสบการณ์ทางด้านเทคโนโลยีสำหรับ IBM จำนวนกว่า 100 คน และมีองค์กรที่ให้ความไว้วางใจใช้งานผลิตภัณฑ์จาก IBM ผ่านการบริการจากทีมงานของ Datapro ในกลุ่มอุตสาหกรรมที่หลากหลาย โดยส่วนมากจะเป็นกลุ่มธุรกิจโทรคมนาคม, ธนาคาร, สถาบันการเงิน, ธุรกิจประกันภัยและโรงงานต่างๆ ที่มีสำนักงานใหญ่อยู่บริเวณเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลนั่นเอง

และในช่วงปีนี้ก็ถือเป็นอีกปีที่น่าสนใจสำหรับพาร์ทเนอร์และลูกค้าของ IBM ทุกราย กับการรุกตลาดอย่างเต็มตัวของระบบ Server ที่ใช้ CPU สถาปัตยกรรมใหม่ล่าสุดอย่าง IBM POWER8 คู่กับระบบ Flash Storage ที่มีพร้อมทั้งความเร็วและความทนทานอย่าง IBM FlashSystem ที่สามารถตอบโจทย์การใช้งานสำหรับระบบ Application สำหรับองค์กรด้วยประสิทธิภาพในระดับสูงบนโครงสร้างที่ไม่ซับซ้อนอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

ขับเคลื่อนธุรกิจใหม่ๆ ด้วยซอฟต์แวร์บน Platform ประสิทธิภาพสูงจาก IBM

ด้วยการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ อย่างไม่หยุดยั้งของ IBM ในตอนนี้จึงได้มีระบบ Server และ Storage ที่น่าจับตามองจาก IBM ดังนี้

IBM Power System http://www-03.ibm.com/systems/power/

ibm_server_powersystems

IBM Power System เป็นระบบ Server ที่ถูกออกแบบมาสำหรับระบบ Big Data Analytics และ Cloud Computing โดยเฉพาะ ซึ่งภายใน IBM Power System นี้จะใช้สถาปัตยกรรม CPU แบบ IBM POWER8 รุ่นล่าสุด ซึ่งมีจุดเด่นทางด้านประสิทธิภาพการทำงานที่ออกแบบมาให้มีความคุ้มค่าสูงสุด ด้วยจำนวน Thread ที่มากถึง 8 Thread บนแต่ละ CPU Core ส่งผลให้มีประสิทธิภาพสูงกว่า CPU สถาปัตยกรรม x86 ถึง 2 เท่า และความทนทานจากการออกแบบ Redundant/Failover ในทุกส่วนอย่างครบคลุมทั้งระบบ ทำให้ IBM Power System จะกลายเป็นหัวใจหลักของระบบ Mission Critical Applications ทั้งหลายสำหรับองค์กร

 

IBM Flash System http://www-03.ibm.com/systems/storage/flash/

ibm_storage_flashsystem_900

ด้วยการนำเทคโนโลยี Solid State Drive (SSD) ซึ่งมีความเร็วสูงด้วยการนำ Flash มาใช้ ทำให้ IBM Flash System กลายเป็นระบบ Storage ที่มีความเร็วสูง, มี Latency ต่ำ เหมาะสำหรับระบบงานขององค์กรที่ต้องมีการเข้าถึงข้อมูลเพื่อทำการวิเคราะห์อย่างรวดเร็วและต้องการ IOPS ปริมาณมหาศาล ไม่ว่าจะเป็น Database, Data Analytics, Big Data Analytics หรือแม้แต่ Cloud Computing ก็ตาม โดย IBM ยังได้พัฒนาเทคโนโลยี RAID แบบพิเศษโดยเฉพาะสำหรับเสริมความทนทานให้กับระบบ Flash System นี้อีกด้วย ทำให้ IBM FlashSystem เป็นทางเลือกที่ดีของระบบที่ต้องการประสิทธิภาพสูง ตอบรับการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วของธุรกิจได้เป็นอย่างดี

DCS ได้ทำการจับคู่ระบบ IBM PowerSystem และ IBM FlashSystem เป็น Infrastructure หลักสำหรับตอบโจทย์ของกลุ่มลูกค้าองค์กรในปีนี้ เพื่อให้ระบบประมวลผลและจัดเก็บข้อมูลสำหรับ Application ใดๆ หรือระบบ Virtualization มีทั้งความเร็วและความทนทานอย่างสูงสุด และสร้างความคุ้มค่าให้กับทุกการลงทุน อีกทั้งในแง่มุมของการลงทุนระบบด้วยเทคโนโลยีจาก IBM ทั้งหมดนั้นก็จะทำให้ค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาและการบริหารจัดการลดลง รวมถึงยังช่วยลดความเสี่ยงที่อาจจะเกิดจากการทำงานร่วมกันระหว่างอุปกรณ์จากผู้ผลิตต่างค่ายลงไปได้อีกด้วย

สำหรับพาร์ทเนอร์ของ DCS ที่เป็น ERP Consultant หรือ Software Provider นั้น ทาง DCS เองก็มีความพร้อมในการออกแบบ, ติดตั้ง และดูแลรักษา Infrastructure จาก IBM ให้เหมาะสมกับระบบ Application ต่างๆ สำหรับองค์กร ไม่ว่าจะเป็นระบบ IBM Power Systems สำหรับ SAP HANA หรือการออกแบบระบบ IBM Power Systems ให้รองรับกับ Application ที่ถูกปรับแต่งหรือพัฒนาขึ้นเองโดย Software Provider ก็ตาม ซึ่ง DCS เองก็ยินดีที่จะร่วมเป็นพาร์ทเนอร์กับทั้ง ERP Consultant และ Software Provider รายใหม่ๆ เพิ่มเติมเพื่อที่จะสร้าง Solution สำหรับตอบโจทย์องค์กรใหม่ๆ ร่วมกัน

IBM Power System กับการใช้งานจริง และแนวโน้มการเติบโตในประเทศไทย

ibm_systems-storage-flashsystem-900-620x273

ในช่วงปีที่ผ่านมา DCS เองได้เข้าไปมีส่วนร่วมในการพัฒนาระบบ IT Infrastructure ให้กับองค์กรใหญ่ๆ ด้วย IBM Power System อยู่มากมาย ไม่ว่าจะเป็นการติดตั้งระบบ Infrastructure ทั้งในส่วนของ IBM Power System และ IBM Storage สำหรับทำหน้าที่ให้บริการในส่วน Core Business Process สำหรับองค์กรในกลุ่มธุรกิจโทรคมนาคมรายใหญ่อันดับต้นในประเทศไทย หรือการติดตั้งระบบ Core Banking ด้วย IBM Power System จากสถาปัตยกรรมของ IBM POWER8 ก็ตาม ก็เป็นก้าวแรกๆ ขององค์กรในไทยที่เริ่มมีการนำ IT Infrastructure ประสิทธิภาพสูงมาใช้งานในธุรกิจกันมากขึ้นเรื่อยๆ

ทั้งนี้จากสภาพเศรษฐกิจที่ชะลอตัวมาเป็นระยะเวลาหนึ่ง ทางทีมงาน DCS ได้มองว่าช่วงปลายปีนี้จะเป็นช่วงที่ธุรกิจต่างๆ จะต้องเริ่มปรับตัวเพื่อเตรียมขยายธุรกิจให้เติบโตยิ่งขึ้น และจะเริ่มมีการลงทุนเพิ่มเติมทางด้าน IT เตรียมรับการแข่งขันที่จะดุเดือดรุนแรงยิ่งขึ้นจากปัจจัยทางด้านเทคโนโลยีที่กำลังจะเกิดขึ้น และ IBM Power System กับ IBM FlashSystem ก็จะเติบโตมากขึ้นในกลุ่มลูกค้าสถาบันการเงินและประกันภัย

สำหรับแนวโน้มของ Solution ที่องค์กรต่างๆ จะเริ่มลงทุนมากขึ้น ทาง DCS ก็มีแนวโน้มในใจด้วยกัน 3 แนวทาง ได้แก่

1. Enterprise Cloud

ด้วยการที่องค์กรต่างๆ ได้เริ่มศึกษาและทดลองใช้งานระบบ Cloud มากขึ้น องค์กรต่างๆ ก็จึงได้เริ่มเห็นภาพของการประยุกต์นำเทคโนโลยี Cloud ในรูปแบบที่เหมาะสมมาใช้งานในองค์กรไม่ว่าจะเป็น Public Cloud, Private Cloud หรือ Hybrid Cloud ก็ตาม แนวโน้มการใช้งานบริการ Cloud จากภายนอก หรือการลงทุนสร้างระบบ Cloud เองภายในก็เริ่มจะเติบโตขึ้นอย่างเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้นในฐานะของเทคโนโลยีที่จะมาช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับระบบ IT ขององค์กร และการลดค่าใช้จ่ายในการลงทุนระบบ IT ขององค์กร

2. Enterprise Big Data Analytics

การมาของเทคโนโลยี Big Data Analytics นี้จะช่วยให้องค์กรสามารถผสานรวมการวิเคราะห์ข้อมูลทางธุรกิจให้มีมิติที่หลากหลายได้มากยิ่งขึ้น เพื่อวิเคราะห์และทำความเข้าใจความสัมพันธ์ของข้อมูลในแง่มุมต่างๆ และจะกลายเป็นอาวุธหลักในการแข่งขันทางธุรกิจ ซึ่งนอกจากองค์กรจะต้องเร่งเฟ้นหาผู้ที่มีความรู้ความสามารถในการทำหน้าที่รวบรวมและประมวลผลข้อมูลในระบบ Big Data แล้ว องค์กรเองก็จะต้องมี IT Infrastructure ที่มีประสิทธิภาพและความจุเพียงพอ รวมถึงต้องมีความยืดหยุ่นสูงเพื่อรับการปรับเปลี่ยนการวิเคราะห์ข้อมูลให้ได้หลากหลายรูปแบบมากที่สุดด้วย

3. Business Continuity Plan & Disaster Recovery

ถึงแม้จะเป็นหัวข้อที่เคยมีการพูดถึงกันยกใหญ่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ไปรอบหนึ่งแล้ว แต่ในเวลานี้ Data Center ต่างๆ ก็มีการรับเอาแนวคิดและเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาเพิ่มเติมมากมาย จนได้เวลาที่จะต้องกลับมามองการทำระบบ BCP และ DR สำหรับระบบงานที่เสริมเพิ่มเข้ามากันอีกครั้งแล้ว รวมถึง Infrastructure ใหม่ๆ ที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว เช่น Mobile Application Back-end, Enterprise Cloud และ Big Data Analytics ต่างก็ต้องมีการวางแผนสำหรับการทำ BCP และ DR ทั้งสิ้น ทำให้ Data Center สำรองนี้มีความสำคัญไม่แพ้กับ Data Center หลักเลยทีเดียว

สำหรับองค์กรใดๆ ที่สนใจเทคโนโลยีทางด้าน Server หรือ Storage จาก IBM และต้องการให้ทีมงาน Datapro เข้าไปนำเสนอและช่วยให้คำปรึกษา หรือ ERP Consulting และ Software Provider รายใดที่ต้องการเป็นพาร์ทเนอร์กับ Datapro ในการให้บริการทางด้าน IT Infrastructure ด้วย IBM ก็สามารถติดต่อทีมงาน DCS ได้ทันทีที่คุณดวงเดือน โทร 02-684-8484

ข้อมูลเพิ่มเติม

from:https://www.techtalkthai.com/datapro-with-ibm-to-empower-data-center-with-ibm-power8-and-flashsystem/

Throughwave Solution: สร้าง VDI ขนาด 1,000 – 3,500 ผู้ใช้งาน ด้วย EMC XtremIO All Flash Array

VDI เริ่มเป็นที่นิยมแพร่หลายในองค์กรต่างๆ มากขึ้นทุกที ด้วยความง่ายในการบริหารจัดการ, ความปลอดภัยที่สูงขึ้น และการต่อยอดรับกับการมาของ Mobile Device ภายในองค์กร แต่องค์กรใหญ่ๆ ที่เริ่มผ่านพ้นขั้นตอนการทดลองใช้งาน VDI ที่มักจะเริ่มต้นจากผู้ใช้งานเพียง 100 – 500 คนนั้น ก็เริ่มจะพบกับปัญหาต่างๆ ในการใช้งานจริง และการเพิ่มขยายระบบกันบ้างแล้ว

ปัญหาของระบบ VDI ขนาดใหญ่ที่มักพบเจอ

ปัญหาหลักๆ นี้จะเป็นประเด็นปัญหาทางด้านประสิทธิภาพ เนื่องจากในการออกแบบระบบ VDI ขนาดเล็กนั้น มักนิยมใช้ HDD ที่มีความเร็วสูงสุดอย่าง SAS เพื่อรองรับผู้ใช้งาน Virtual Desktop ทั้งหมด และยังคงมีพื้นที่เหลือจากการสร้าง Virtual Desktop ด้วยเทคโนโลยี Linked Clone นั่นเอง ทำให้เมื่อองค์กรพิจารณาที่จะทำการเพิ่มขยายระบบ VDI ก็มักจะใช้ Storage ชุดเดิมที่ยังเหลือพื้นที่เหล่านี้ เพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย

แต่ในความเป็นจริงแล้ว ถึงแม้ Storage เหล่านั้นจะยังเหลือ Capacity อยู่ แต่ Performance ของ Storage ส่วนใหญ่ไม่สามารถรับ Workload ของการทำ VDI ขนาดใหญ่ได้เลยถ้าไม่ได้ผ่านการออกแบบเอาไว้รองรับล่วงหน้าทั้งในแง่ของประสิทธิภาพ, ความทนทาน และพื้นที่จัดเก็บข้อมูล และในจุดนี้เองที่ EMC XtremIO ได้เข้ามามีบทบาทโดดเด่นในตลาดของ VDI

การทำงานของระบบ VDI ขนาดใหญ่ด้วย EMC XtremIO

emc_xtremio_1

ด้วยระบบ Storage ที่เป็นแบบ All Flash Array ซึ่งใช้งาน Solid State Drive (SSD) ทั้งหมด และมีการ Cache ข้อมูลบน RAM ขนาด 256-512GB ต่อชุด ทำให้ EMC XtremIO เพียงชุดเดียว สามารถรองรับผู้ใช้งาน VDI ได้มากถึง 1,000 – 3,500 ผู้ใช้งานทันทีได้ตั้งแต่เริ่มต้น และยังรองรับการ Scale Out เพิ่มในอนาคตได้อีก โดยมีรายละเอียดดังนี้

  • EMC XtremIO Starter X-Brick (3.2TB Usable Capacity) มีประสิทธิภาพรองรับ Virtual Desktop ได้ 1,250 Full Clone หรือ 1,750 Linked Clone ในเครื่องเดียว
  • EMC XtremIO Full X-Brick (8.3-33.6TB Usable Capacity) มีประสิทธิภาพรองรับ Virtual Desktop ได้ 2,500 Full Clone หรือ 3,500 Linked Clone ในเครื่องเดียว

โดยในการทดสอบใช้งานที่ 2.500 Virtual Desktop นั้น ทาง EMC ได้มีผลการทดสอบว่า Latency ของ Data Store นั้นต่ำกว่า 0.7ms ในทุกๆ รูปแบบการใช้งาน อีกทั้ง EMC XtremIO นี้ยังมีเทคโนโลยีในการทำ Deduplication และ Compression เพื่อลดพื้นที่การใช้งาน ทั้งนั้น Clone ทั้งหมดของ Virual Desktop จึงใช้พื้นที่รวมกันน้อยมาก และเหลือพื้นที่สำหรับให้ผู้ใช้งานทำการใช้งาน, การเพิ่มเติมระบบอื่นๆ หรือแม้แต่การสำรองข้อมูลอีกด้วย

ทั้งนี้ในการใช้งานจริงที่บริษัท Boston Scientific นั้น การ Deploy Virtual Desktop ขนาด 40GB ที่เดิมเคยใช้เวลาถึง 8 นาที ได้ลดลงมาเหลือเพียง 17 วินาทีบน XtremIO เท่านั้น

จุดเด่นของ Solution

1. ผ่านการทดสอบการรองรับ VDI จำนวน 1,000 – 3,500 ผู้ใช้งานมาแล้ว ทำให้องค์กรต่างๆ ที่จะลงทุนกับระบบ VDI สามารถวางใจได้ว่า EMC XtremIO จะมีประสิทธิภาพสูงพอรองรับการใช้งานจริงได้อย่างแน่นอน

2. เพิ่มขยายระบบในอนาคตได้ง่าย ด้วยการทำ Scale Out เพิ่มได้สูงสุดถึง 8 ชุด มีพื้นที่ใช้งานถึง 268TB และใช้งานจริงหลังการ Deduplication ได้ถึง 1,600TB

3. สามารถรองรับ Workload อื่นๆ ที่หลากหลายได้ใน Storage ชุดเดียว ไม่ว่าจะเป็น VDI, Database, ERP, Email และ EMR ได้ ซึ่งต่างจากระบบ Hyper-Converged Infrastructure ที่ไม่สามารถรองรับ Workload ได้อย่างอิสระเช่นนี้

4. คุ้มค่าต่อการลงทุน เพราะ EMC XtremIO เพียงระบบเดียว ก็สามารถรองรับ Critical Workload ที่ต้องการ Performance สูงๆ ทั้งหมดได้ในระบบเดียว ไม่ต้องมีการลงทุนซ้ำซ้อนอีกต่อไป

Systems Integrator ที่สนใจรับราคา Reseller หรือองค์กรที่สนใจระบบ Virtual Desktop Infrastructure หรือ VDI หรือ EMC XtremIO All Flash Array สำหรับ VDI, Database, ERP และอื่นๆ สามารถติดต่อบริษัททรูเวฟ ประเทศไทย จำกัด ได้ที่เบอร์ 02-210-0969 หรืออีเมลล์มาที่ info@throughwave.co.th ได้ทันที

ส่วนผู้ที่ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สามารถทำการกรอกแบบฟอร์มเพิ่ม Download เอกสาร EMC VSPEX End-User Computing ซึ่งเป็น Reference Architecture สำหรับการสร้าง VDI สำหรับผู้ใช้งาน 1,000 – 3,500 คนด้วย XtremIO ได้ฟรีๆ ทันที

from:https://www.techtalkthai.com/throughwave-solution-1000-3500-vdi-with-emc-xtremio/

Infographic เปลี่ยนธุรกิจให้ดีขึ้นในพริบตาด้วย Flash จาก NetApp

netapp_logo

สำหรับผู้ที่กำลังพิจารณาเทคโนโลยี Flash Storage อยู่ ทาง NetApp มี Infographic ภาพรวมคร่าวๆ ว่า Flash Storage จะช่วยทำให้ธุรกิจดีขึ้นได้อย่างไรบ้าง ดังด้านล่างนี้เลยครับ

from:https://www.techtalkthai.com/infographic-intro-to-flahs-storage-from-netapp/

5 คุณสมบัติของ All Flash Array ที่ต้องพิจารณาก่อนนำไปใช้งานในระดับองค์กร

emc_logo

เทคโนโลยี All Flash Array หรือ SAN Storage ที่ถูกออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับการใช้งาน SSD ล้วนๆ ถือเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับองค์กรในทุกวันนี้ ด้วยประสิทธิภาพการทำงานที่รวดเร็วจน Storage ไม่กลายเป็นคอขวดของระบบงานขนาดใหญ่อีกต่อไป และรองรับการนำไปใช้งานที่หลากหลาย ดังนั้นถ้าหากองค์กรใดต้องการเลือกซื้อ All Flash Array การพิจารณาประเด็นต่างๆ เหล่านี้ถือเป็นสิ่งสำคัญ

emc_xtremio_front

1. All Flash Array ควรมีระบบ Data Protection ที่ออกแบบมาสำหรับ SSD โดยเฉพาะ

เนื่องจาก SSD เป็นเทคโนโลยีที่มีพื้นฐานต่างจาก HDD โดยสิ้นเชิง ดังนั้นวิธีการรักษาข้อมูลให้มีความทนทานด้วยเทคโนโลยี RAID ที่สามารถใช้งานกับ HDD ได้ดี จึงไม่สามารถนำมาใช้กับ SSD ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่ง All Flash Array ที่ดีมักจะมีวิธีการในการรักษาข้อมูลให้มีความทนทานด้วยการใช้ SSD หลายๆ ลูก โดยมีการคำนึงถึงอายุการใช้งานของ SSD ไปพร้อมๆ กัน ไม่เช่นนั้นการใช้งาน SSD + RAID ก็อาจทำให้ RAID Volume พังเพราะ SSD หมดอายุการใช้งานพร้อมๆ กันทีละหลายๆ ลูกก็เป็นได้

2. All Flash Array จะต้องมีวิธีการในการใช้งานข้อมูลต่างๆ ที่จัดเก็บอยู่บน SSD อย่างคุ้มค่า

โดยทั่วไปในราคาที่เท่ากัน ถึงแม้ SSD จะมีความเร็วสูงกว่า HDD หลายเท่า แต่ความจุของ SSD ก็น้อยกว่า HDD หลายเท่าตัวเช่นกัน อีกทั้งอายุการใช้งานของ SSD ยังมีจำกัดจำนวนครั้งในการเขียนอีกด้วย ดังนั้น All Flash Array ที่ดีจึงควรจะต้องมีความสามารถที่ช่วยทั้งยืดอายุการใช้งานของ SSD ไปพร้อมๆ กับการลดพื้นที่การใช้งานบน SSD ไปด้วยในตัว ไม่ว่าจะเป็นการ Deduplication หรือ Compression แบบ Inline ก่อนมีการเขียนข้อมูลลง SSD ก็ตาม

3. ตรวจสอบผลการทดสอบทางด้านประสิทธิภาพของ All Flash Array ที่เปิดใช้งาน Feature ทั้งหมด

เพราะ SSD มีอายุการใช้งานที่จำกัด ดังนั้น All Flash Array จึงมักจะมาพร้อมกับความสามารถในการยืดอายุการใช้งานให้ SSD เช่น การทำ Deduplication หรือการทำ Compression รวมถึงการตั้งค่า Block Size ขนาดต่างๆ แต่ผลการรายงานทางด้านประสิทธิภาพของ All Flash Array มักจะไม่ได้เปิดใช้งาน Feature ต่างๆ เหล่านี้อย่างเต็มที่ ทำให้เรามักจะได้เห็น All Flash Array ที่มีค่า IOPS หลายแสนหรือหลายล้าน IOPS ต่อวินาที แต่เมื่อใช้งานจริงแล้วประสิทธิภาพก็ไม่ถึงตามที่ต้องการ หรืออาจมี Performance Spike เกิดขึ้นเป็นระยะๆ ระหว่างการใช้งานจริงได้เช่นกัน

4. All Flash Array จะต้องสามารถใช้งานได้กับ Application และ Infrastructure ที่หลากหลาย

เพื่อเป็นการ Utilize ระบบ All Flash Array ที่มีราคาสูงให้คุ้มค่าสูงสุด All Flash Array ควรจะต้องสามารถทำงานร่วมกับ Application และ Infrastructure ที่หลากหลายภายในองค์กรได้ ไม่ว่าจะเป็นการทำงานร่วมกับ Hypervisor ได้หลายยี่ห้อ, การทำงานร่วมกับระบบปฏิบัติการได้หลายยี่ห้อ, การจัดเก็บข้อมูลของ Database ได้หลายยี่ห้อ โดยรองรับการทำ Backup และ Recovery ได้ถึงระดับ Application และสามารถรองรับ Workload ของ Application ทุกประเภทพร้อมๆ กันได้ โดยไม่ต้องทำการปรับแต่งค่าการใช้งานของ All Flash Array ให้ซับซ้อน

5. All Flash Array ไม่ใช่ SAN Storage ทั่วๆ ไปที่ใส่ SSD แทน HDD

หลายๆ ผู้ผลิตพยายามเข้ามายังตลาดของ All Flash Array โดยใช้ SAN Storage และเทคโนโลยีแบบเดิมๆ ที่ติดตั้ง SSD แทน HDD ทั้งหมด ทำให้ผลการทดสอบทางด้านประสิทธิภาพสูงขึ้น แต่การใช้งานจริงจะมีปัญหาต่างๆ เช่น SSD หมดอายุการใช้งานเร็ว, มีความเสี่ยงที่ SSD RAID Group จะพังพร้อมๆ กัน, พื้นที่การใช้งานมีน้อย, การปรับแต่งประสิทธิภาพให้เข้ากับแต่ละ Application ทำได้ยาก, เกิดปัญหาทางด้าน Performance กับ Application บางประเภท และอื่นๆ อีกมากมายที่ผู้ดูแลระบบคาดไม่ถึง เพราะ All Flash Array และ SSD เป็นเทคโนโลยีที่ค่อนข้างใหม่ ดังนั้นการตรวจสอบย้อนหลังเพื่อดูว่า All Flash Array ที่ผู้ขายพยายามนำเสนอ เป็น All Flash Array จริงๆ หรือเป็น SAN Storage แบบเดิมๆ ที่ใส่ SSD เพื่อทำงานแบบ Hybrid Array ได้ ก็ถือเป็นประเด็นที่ค่อนข้างสำคัญเช่นกัน

EMC XtremIO ผู้นำทางด้านเทคโนโลยี All Flash Array ทางเลือกอันดับหนึ่งในปัจจุบัน

emc_xtremio_xbrick

EMC XtremIO เป็นระบบ All Flash Array ที่ถูกออกแบบมาด้วยเทคโนโลยีที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น

  • XDP เทคโนโลยีสำหรับการรักษาข้อมูลบน SSD ให้ทนทานระดับเดียวกับ RAID ไปพร้อมๆ กับการยืดอายุการใช้งาน
  • In-Memory Metadata ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของ All Flash Array ให้มีความเร็วระดับ RAM ในขณะที่ทำ Deduplication เพื่อลดพื้นที่การใช้งาน และยืดอายุ SSD ไปด้วยในตัว
  • AppSync สามารถบริหารจัดการการทำ Backup, Recovery และ Cloning ได้ถึงระดับ Application ที่เก็บข้อมูลอยู่บน XtremIO ทำให้มั่นใจได้ว่าข้อมูลที่ทำการ Backup หรือ Clone นั้นจะสามารถใช้งานได้อย่างแน่นอน
  • Scale-out ทำให้ XtremIO สามารถเพิ่มขยายพื้นที่ไปพร้อมๆ กับประสิทธิภาพ ไม่ทำให้เกิดคอขวดที่ Controller และไม่ต้องลงทุน Controller ขนาดใหญ่แต่แรก คุ้มค่าต่อการลงทุน

นอกจากนี้ EMC XtremIO ยังถูกจัดให้เป็น Leader ใน Gartner’s Magic Quadrant สำหรับ Solid State Arrays 2014 อีกด้วย โดยมีประสิทธิภาพสูงถึง 250,000/150,00 Random Read/Random Write IOPS ต่อเครื่องในขณะที่เปิดใช้งานทุกฟีเจอร์ และสามารถ Scale-out ได้รวมกันสูงสุดถึง 6 เครื่องผ่าน Infiniband ที่ความเร็ว 40Gbps

ส่วนผู้ที่กำลังมองหาระบบ VDI ระยะยาว EMC XtremIO หนึ่งเครื่อง สามารถรองรับ VDI แบบ Linked Clone ได้สูงสุดพร้อมกันถึง 3,500 VM เลยทีเดียว

สำหรับผู้ที่สนใจและอยากทดสอบความเร็วของ EMC XtremIO สามารถติดต่อ Partner ของ EMC ทั่วประเทศไทย หรือติดต่อ EMC Thailand ได้ทันที

ข้อมูลเพิ่มเติม

from:https://www.techtalkthai.com/5-things-to-consider-before-buying-all-flash-array/