คลังเก็บป้ายกำกับ: IBM_Z_SYSTEMS

Splunk จับมือ IBM รองรับการวิเคราะห์ข้อมูลจาก IBM Z ได้แล้ว

Splunk และ IBM ได้ออกมาประกาศความเป็นพันธมิตรร่วนมกัน เพื่อผสานระบบ Mainframe อย่าง IBM Z เข้ากับโซลูชันของ Splunk ทำให้การวิเคราะห์ข้อมูลภายใน Data Center ของ Splunk สามารถตอบโจทย์ IT Operations Analytics (ITOA) ได้อย่างครอบคลุมยิ่งขึ้น

Credit: Splunk

 

ในความร่วมมือครั้งนี้ IBM ได้พัฒนาให้ IBM Common Data Provider for z Systems (CDPz) สามารถส่งข้อมูลของ IBM Z ไปยัง Splunk ได้ ไม่ว่าจะเป็น SMF, Logs, Application Data และอื่นๆ ทำให้ Splunk สามารถรวบรวมข้อมูลเหล่านี้ไปทำการจัดระเบียบ, ทำ Correlation และทำ Data Visualization ร่วมกับระบบอื่นๆ ได้จากศูนย์กลาง

ข้อมูลจาก IBM Z นี้อาจเป็นข้อมูลปริมาณมหาศาลกว่าที่ใครๆ คิด เพราะที่ผ่านมา IBM Z นั้นมักอยู่ภายในระบบขนาดใหญ่ที่มี Transaction สำคัญจำนวนมากเกิดขึ้น และในแต่ละวัน IBM Z นี้ต้องรับภาระในการประมวลผล Transaction มากถึง 3,000 ล้านรายการต่อวัน Transaction เหล่านี้เกิดขึ้นจากการจ่ายเงินผ่านบัตรรูปแบบต่างๆ เป็นมูลค่ากว่า 6 ล้านล้านเหรียญหรือราวๆ 210 ล้านล้านบาท เรียกได้ว่า IBM Z เองก็เป็น Data Source แห่งหนึ่งของระบบ Big Data ก็คงไม่ผิดนัก

บทบาทของ Splunk ในที่นี้ก็คงไม่พ้น Big Data Analytics Tool ที่สามารถรวมข้อมูลจาก IBM Z เข้ากับ Data Source แหล่งอื่นๆ ทั้งจาก On-premises และ Cloud มาทำการวิเคราะห์รวมกันเพื่อค้นหาปัญหาที่เกิดขึ้นภายในระบบให้ได้อย่างทันท่วงที หรือทำนายปัญหาล่วงหน้าด้วย Machine Learning และทำการแก้ไขปัญหาเหล่านั้นให้ได้เร็วที่สุด ลด Downtime ของระบบให้ต่ำที่สุดตามแนวคิดของการทำ ITOA นั่นเอง

 

ทดสอบใช้งาน Software และ Download Free Whitepaper

สำหรับผู้ที่สนใจต้องการทดสอบ Software ต่างๆ จาก STelligence หรือศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมจาก Whitepaper สามารถโหลดได้จาก URL ดังต่อไปนี้

 

ติดต่อ STelligence ได้ทันที

stelligence_logo

ร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นทางด้านระบบ Data Analytics หรือสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ทดสอบระบบ Solution Network Monitoring หรือระบบ Data Center Monitoring, ระบบ Network Operation Center (NOC), ระบบ Security Operation Center (SOC), ระบบ SIEM ได้ทาง

  • ติดต่อบริษัท STelligence ได้ที่ info@stelligence.com
  • ติดต่อคุณธเนศ ฝ่ายขาย โทร 089-444-2443 หรือโทร 02-938-7475
  • สามารถกด Like เพื่อรับข่าวสารข้อมูลอัพเดต และ Use case ที่น่าสนใจมากมาย : http://www.facebook.com/stelligence
  • พูดคุยกับทางทีมงานได้แบบ Real-time ผ่าน Line ID : @stelligence
    stelligence-line-id

ที่มา: https://www.splunk.com/blog/2017/08/22/insane-in-the-mainframe-splunk-and-ibm-partner-to-provide-end-to-end-visibility-for-joint-customers.html

from:https://www.techtalkthai.com/splunk-and-ibm-support-ibm-z-data-to-splunk/

เปิดตัว IBM z14 Mainframe ล่าสุด กับแนวคิด Pervasive Encryption เข้ารหัสทุกข้อมูลได้ ไม่ส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพของ Application

ทีมงาน TechTalkThai มีโอกาสได้สัมภาษณ์พิเศษกับคุณสุรฤทธิ์ วูวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ ธุรกิจระบบคอมพิวเตอร์สำหรับคลาวด์แพลตฟอร์ม บริษัท ไอบีเอ็ม ประเทศไทย จำกัด เนื่องในโอกาสที่ IBM ประกาศเปิดตัว IBM Z รุ่นล่าสุดภายใต้ Hardware IBM z14 ระบบ Mainframe ที่รองรับการเข้ารหัสได้มากถึง 12,000 ล้าน Transaction ต่อวัน พร้อมนวัตกรรมใหม่ๆ มากมายที่มุ่งเน้นการเสริมความมั่นคงปลอดภัยให้กับ Application ต่างๆ เป็นหลักโดยเฉพาะ ด้วยการเพิ่มความสามารถในการเข้ารหัสได้โดยไม่ส่งผลกระทบทางด้านประสิทธิภาพต่อ Application ใดๆ เลย จึงขอนำมาสรุปให้ได้อ่านกันดังต่อไปนี้ครับ

Credit: IBM

 

Hardware ประสิทธิภาพสูงขึ้น ตอบโจทย์การประมวลผลได้เข้มข้มกว่าก่อน

IBM Z รุ่นล่าสุดนี้ทำงานด้วยความเร็วถึง 5.2GHz และมีขนาดใหญ่กว่า IBM z13 ถึง 35% ทำให้สามารถรองรับ Workload ต่างๆ ได้ดังนี้

  • รองรับ 12,000 ล้าน Transaction ต่อวันในระบบเดียว
  • รองรับการสร้าง MongoDB Instance ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
  • มีประสิทธิภาพของ NodeJS สูงกว่า x86 ถึง 2.5 เท่า
  • รองรับ Java ได้เร็วกว่า x86 ถึง 50%
  • รองรับสูงสุด 2,000,000 Docker Container
  • รองรับ NoSQL Database ได้ 1,000 Concurruent
  • มีหน่วยความจำมากกว่าเดิม 3 เท่า รองรับสูงสุด 32TB ในระบบเดียว
  • มี I/O เร็วกว่าเดิม 3 เท่า
  • มีเทคโนโลยี zHyperLink เชื่อมต่อ SAN ได้ด้วย Latency น้อยกว่าเดิม 10 เท่า

 

Pervasive Encryption เข้ารหัสได้ทุกๆ ข้อมูลตลอดเวลา

เดิมทีนั้น การเข้ารหัสถึงแม้จะเป็นปัจจัยสำคัญในการปกป้องข้อมูลองค์กร แต่ด้วยเทคโนโลยีการเข้ารหัสที่ยังทำงานได้ช้าอยู่ ทำให้การเข้ารหัสโดยมากนั้นมักจะส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพการทำงานของ Application โดยตรง ทำให้เหล่าองค์กรนั้นหลีกเลี่ยงการเข้ารหัส ส่งผลให้ที่ผ่านมามีเพียงข้อมูล 2% ขององค์กรเท่านั้นที่ถูกเข้ารหัส ในขณะที่การใช้งานข้อมูลผลโทรศัพท์มือถือนั้นกลับมีการเข้ารหัสเกินกว่า 80% ไปแล้ว

ด้วยเหตุนี้ IBM Z จึงมุ่งเน้นโจทย์ไปที่การเข้ารหัสของข้อมูลองค์กรเป็นหลัก พร้อมเปิดตัวแนวคิด Pervasive Encryption ที่จะเปิดให้เหล่าองค์กรสามารถเข้ารหัสข้อมูลทั้งหมดในทุกๆ ส่วนได้โดยไม่ส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพของ Application ใดๆ เลย ด้วยการเสริม Encryption Acceleration Hardware เข้าไปบน IBM z14 จำนวนมากกว่า IBM 13 ถึง 4 เท่า ทำให้สามารถเข้ารหัสได้เร็วกว่าระบบ Server ที่ใช้ x86 ถึง 18 เท่าเลยทีเดียว

ประสิทธิภาพในการเข้ารหัสนี้จะทำให้การออกแบบ Application ในอนาคตนั้นเปลี่ยนไปเป็นอย่างมาก เพราะการเข้ารหัสข้อมูลทั้งหมดสามารถเกิดขึ้นได้โดยไม่ส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพของ Application แล้ว ทำให้องค์กรสามารถเข้ารหัสฐานข้อมูลทั้งหมด, ไฟล์ทั้งหมด รวมถึงทุกๆ การเชื่อมต่อเครือข่ายได้โดยที่ไม่ต้องคัดเลือกเข้ารหัสข้อมูลเฉพาะบางส่วนอย่างแต่ก่อนอีกต่อไป

 

Tamper-Responding Encryption Key รู้ได้ทันทีว่ากุญแจเข้ารหัสใดถูกโจมตี

IBM z14 นี้ยังมาพร้อมกับเทคโนโลยี Hardware Encryption Module (HSM) สำหรับจัดเก็บกุญแจเข้ารหัสอย่างปลอดภัยในตัวที่รองรับมาตรฐาน Federal Information Processing Standards (FIPS) Level 4 อีกทั้งยังมี Hardware พิเศษสำหรับคอยตรวจจับได้ทันที พร้อมทั้งสั่งให้กุญแจเหล่านั้นใช้งานไม่ได้อีกต่อไป ซึ่งความสามารถเหล่านี้เองที่จะมาตอบโจทย์กฎหมายด้าน Data Protection ในประเทศต่างๆ ที่บังคับให้องค์กรต้องเปิดเผยข่าวสารสู่สาธารณะเมื่อมีเหตุ Data Breach ภายในกรอบเวลาที่กำหนด พร้อมหลักฐานและข้อมูลประกอบต่างๆ ที่ทำให้เชื่อได้ว่าองค์กรได้ทำการปกป้องข้อมูลอย่างเต็มที่แล้ว

นอกจากนี้ ด้วยพลังประมวลผลที่เพิ่มขึ้นมา ก็ทำให้ IBM Z สามารถเสริมความสามารถใหม่ๆ เช่น Secure Service Container ที่ใช้การทำงานร่วมกันระหว่าง Hardware และ Firmware ในการช่วยตรวจจับอีกชั้นหนึ่งว่า Application ใดๆ ถูกโจมตีเข้ามาจนสำเร็จแล้วหรือไม่ พร้อมทำการหยุด Application เหล่านั้นไม่ให้ทำงานต่อทันทีเพื่อควบคุมความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้จากการโจมตีนั้นๆ ในขณะเดียวกัน IBM Z ก็ยังสนับสนุนการทำ Security Analytics ได้ดีขึ้น ด้วยการสร้างข้อมูล Audit Trail จำนวนมหาศาล พร้อมระบบวิเคราะห์และทำ User Behavior Analytics ได้ในตัว ทำให้สามารถตรวจจับการโจมตีได้จากทั้งภายในและภายนอกได้อย่างแม่นยำมากยิ่งขึ้น

 

Encrypted API เชื่อมต่อสู่ระบบ Cloud ผ่าน API ได้อย่างปลอดภัย

เทคโนโลยี IBM z/OS Connect นี้ทำให้การแปลง Application และ Data ใดๆ บน IBM Z กลายเป็น API นั้นสามารถทำได้ง่ายดายและปลอดภัย พร้อมการเข้ารหัสเบ็ดเสร็จในตัวด้วยประสิทธิภาพที่สูงกว่าระบบ x86 ถึง 3 เท่า

Credit: IBM

 

รูปแบบการจ่ายเงินใหม่: จ่ายตามการใช้งานจริง และวัตถุประสงค์การนำไปใช้งาน

ก่อนหน้านี้ IBM Z มีรูปแบบการลงทุนคือการซื้อขาด และการจ่ายรายเดือนแบบ Consumption-based ที่คิดจาก Capacity ของระบบเป็นหลัก แต่ในการเปิดตัว IBM z14 นี้ทาง IBM ก็ยังได้เสริมรูปแบบการจ่ายเงินใหม่ขึ้นมาอีก 3 แบบ ได้แก่

  • การจ่ายรายเดือนสำหรับการนำไปใช้ให้บริการ Microservice – ราคาจะเทียบเคียงได้กับการเช่าใช้บริการ Public Cloud และระบบ On-premises
  • การจ่ายรายเดือนสำหรับการนำไปทำ DevOps – ใช้ Capacity ได้สูงกว่ากรณีทั่วไปถึง 3 เท่าในราคาเท่าเดิม
  • การจ่ายรายเดือนสำหรับระบบ Payment System – คิดค่าใช้จ่ายเป็นราย Transaction ที่เกิดขึ้นจริง

ก็ถือเป็นทางเลือกใหม่ที่จะทำให้องค์กรมีทางเลือกในการลงทุนที่เหมาะสมกับธุรกิจของตนมากขึ้นนั่นเองครับ ส่วนด้านล่างนี้เป็น Infographic จาก IBM ที่เน้นประเด็นเรื่องของการที่ภาคธุรกิจยังขาดการเข้ารหัสอยู่อย่างไรบ้างครับ

Credit: IBM

สุดท้ายนี้ ขอขอบคุณข้อมูลโดยตรงจากทีมงาน IBM Thailand ครับ

from:https://www.techtalkthai.com/ibm-z14-mainframe-is-announced-with-pervasive-encryption-concept/

IBM ประกาศเปิดตัว Docker Enterprise Edition บน IBM z Systems, LinuxONE และ Power Systems

ในงาน DockerCon17 ทาง IBM ได้เผยแผนที่จะทำระบบ Docker Enterprise Edition (EE) สำหรับ Linux บน IBM z Systems, IBM LinuxONE และ IBM Power Systems เพื่อตอบโจทย์องค์กรขนาดใหญ่ที่ต้องการสร้างระบบ Native Cloud Application และ Hybrid Cloud สำหรับระบบ Mission Critical Application

 

Docker EE นี้เป็น Docker Container Management Platform รุ่นที่ถูกออกแบบมาสำหรับให้ใช้งานภายในองค์กรเพื่อตอบโจทย์ของระบบ Application ขนาดใหญ่เป็นหลัก โดย IBM ได้ประกาศรองรับ Docker EE บน Server หลากหลายรุ่นเพื่อให้องค์กรต่างๆ มีทางเลือกในการลงทุนที่เหมาะสมกับความต้องการของตนเองได้ สำหรับใช้ในการเป็นพื้นฐานไปสู่การสร้าง Private Cloud และ Hybrid Cloud ภายในองค์กร

IBM LinuxONE และ IBM z Systems นี้สามารถรองรับ Docker Container ได้สูงสุดถึง 1 ล้าน Container ภายในระบบเดียว พร้อมฟีเจอร์ในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยและการเข้ารหัสด้วยประสิทธิภาพสูง ในขณะที่ IBM Power Systems ก็สามารถตอบโจทย์เรื่องการทำ Advanced Analytics ด้วย Latency ต่ำและรองรับการ Scale-out ได้เป็นอย่างดี

 

ที่มา: http://www-03.ibm.com/press/us/en/pressrelease/52096.wss

from:https://www.techtalkthai.com/ibm-supports-docker-enterprise-edition-on-ibm-z-systems-linuxone-and-power-systems/

เปิดตัว IBM Machine Learning ให้องค์กรทำ Machine Learning บน Mainframe ได้เองแล้ว

ก่อนหน้านี้โซลูชันกลุ่ม Artificial Intelligence (AI), Machine Learning (ML) และ Deep Learning (DL) จากผู้ผลิตรายต่างๆ มักเป็นบริการบน Cloud เพราะต้องใช้พลังประมวลผลสูง แต่ IBM นั้นสามารถนำเทคโนโลยีของ IBM Watson มาทำงานบน IBM z System Mainframe ได้ และเปิดให้องค์กรสามารถ Train ระบบ AI ของตนเองได้แบบ On-premises ร่วมกับข้อมูลสำคัญต่างๆ ภายในองค์กรโดยไม่ต้องพึ่งพา Cloud ได้แล้ว

Credit: IBM

 

IBM Machine Learning นี้จะทำงานบนระบบปฏิบัติการ IBM z/OS บนเครื่อง Mainframe อย่าง IBM z System โดยตรง และเปิดให้เหล่า Data Scientist สามารถสร้างโมเดลต่างๆ ได้เองโดยรองรับการทำงานดังต่อไปนี้

  • รองรับได้ทุกภาษาพัฒนาโปรแกรม เช่น Scala, Java, Python และอื่นๆ
  • รองรับทุกๆ Machine Learning Framework เช่น Apache SparkML, TensorFlow, H2O และอื่นๆ
  • รองรับการประมวลผลข้อมูลแบบ Transactional Type ได้ทั้งหมด

โซลูชัน Machine Learning แบบ On-premises นี้ถือว่ามีข้อได้เปรียบใหญ่หลวงเมื่อเทียบกับ Cloud ในประเด็นของการที่ไม่ต้องย้ายข้อมูลจากภายในองค์กรขึ้นไปประมวลผลบน Cloud ทำให้องค์กรไม่ต้องมีค่าใช้จ่ายในการย้ายข้อมูล และไม่ต้องกังวลในประเด็นที่ข้อมูลสำคัญจะหลุดออกสู่สาธารณะจากความผิดพลาดที่เกิดขึ้นบนระบบ Cloud นั่นเอง และการย้ายระบบ Machine Learning มาภายในองค์กรได้ในครั้งนี้ก็จะช่วยให้องค์กรสามารถสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ จากข้อมูลภายในองค์กรร่วมกับข้อมูลภายนอกองค์กรได้อย่างมากมาย

นอกจากนี้ IBM ยังมีระบบ Cognitive Automation for Data Scientist ที่พัฒนาโดยทีม IBM Research เพื่อช่วยให้การเลือกใช้ Algorithm ในการวิเคราะห์ข้อมูลนั้นง่ายขึ้น ด้วยการเปรียบเทียบคะแนนระหว่างแต่ละ Algorithm และเลือกทางเลือกที่ดีที่สุดให้โดยอัตโนมัติ ทำให้สามารถประหยัดเวลาในการวิเคราะห์ข้อมูลลงไปได้ ในขณะที่ได้ผลลัพธ์แม่นยำมากยิ่งขึ้น

IBM z Systems นี้รองรับการประมวลผลข้อมูลได้มากถึง 2,500 ล้าน Transaction ในแต่ละวัน ซึ่งถือเป็นจำนวนมหาศาลประมาณ 100 เท่าของธุรกรรมที่เกิดขึ้นในวัน Cyber Monday ทำให้องค์กรสามารถอุ่นใจได้ว่าประสิทธิภาพการประมวลผลระดับนี้จะเพียงพอต่อธุรกิจอย่างแน่นอน

ในอนาคต IBM จะเปิด IBM Machine Learning ให้ใช้งานได้บน IBM POWER Systems ด้วยเช่นกัน

ผู้ที่สนใจสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://ibm.biz/machinelearning ทันที

 

ที่มา: http://www-03.ibm.com/press/us/en/pressrelease/51623.wss

from:https://www.techtalkthai.com/ibm-machine-learning-for-on-premises-machine-learning-is-launched-on-ibm-z-systems/

IBM เปิดตัว Power Systems for Cloud ติดตั้ง OpenStack มาให้ในตัว พร้อมเสริม z Systems for Cloud และ Spectrum ชุดใหม่

อีกก้าวของ IBM ในการรุกตลาด Cloud สำหรับองค์กร นอกจากจะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่แล้ว ยังจับมือผู้พัฒนา Open Source อีกหลายราย ทั้ง Canonical, Hortonworks, Mirantis, NGINX และ Red Hat แถมยังเผยผลสำรวจองค์กรด้านการใช้ระบบ Cloud ด้วย

ibm_power_systems_for_cloud_01

IBM ได้ประกาศเปิดตัวผลิตภัณฑ์ชุดใหม่จำนวนมากเพื่อตอบโจทย์ความต้องการในการเปลี่ยน IT Infrastructure ภายในองค์กรให้กลายเป็น Hybrid Cloud ดังนี้

  • IBM Power Systems for Cloud ชุด IBM Power Systems Server ที่ติดตั้งมาพร้อมกับ OpenStack ในตัวและมีการคิดค่าใช้จ่ายตามการใช้งานจริง สำหรับตอบโจทย์การสร้าง Local Cloud เพื่อให้บริการ IBM AIX, IBM i และ Linux รวมถึงยังรองรับการเชื่อมต่อการทำงานเข้ากับ IBM Cloud ได้อีกด้วย http://www-03.ibm.com/systems/power/hardware/enterprise-cloud/index.html
  • IBM z Systems for Cloud เสริมความสามารถในการนำ IBM z Systems ไปใช้ทำระบบ Hybrid Cloud ด้วยการเพิ่ม IBM z Systems Operational Insights บริการ SaaS สำหรับใช้ติดตามประสิทธิภาพและความคุ้มค่าของ Application ที่ทำงานอยู่บน z Systems ได้ และเมื่อทำงานร่วมกับ IBM OMEGAMON ก็จะทำให้สามารถติดตามการทำงานของทุกๆ Workload บน Hybrid Cloud ได้อย่างครอบคลุม อีกทั้งยังมีการเปิดตัว IBM Common Data Provider ที่จะส่งข้อมูลด้านประสิทธิภาพการทำงานของ IBM z Systems ออกไปยังระบบวิเคราะห์การทำงานอื่นๆ ได้อย่างครอบคลุม http://www-03.ibm.com/systems/z/solutions/hybrid-cloud/
  • IBM Specturm Copy Data Management โซลูชันใหม่ล่าสุดในตระกูล IBM Spectrum สำหรับใช้ในการ Copy ข้อมูลระหว่าง Application ภายใน Data Center โดยเฉพาะ
  • IBM Spectrum Protect เสริมการรองรับการทำงานร่วมกับ Cloud Object STorage เพื่อการสำรองข้อมูลสำหรับระบบ Hybrid Cloud ได้

ทั้งนี้ IBM ยังได้ทำการสำรวจองค์กรต่างๆ จากผู้ตอบแบบสอบถามมมากกว่า 1,000 คนในประเด็นด้านการใช้ Cloud ดังนี้

  • 92% แสดงความเห็นว่าโครงการ Cloud ที่ประสบความสำเร็จที่สุดที่เคยทำในองค์กรนั้น สามารถช่วยให้ธุรกิจสร้างโมเดลทางธุรกิจรูปแบบใหม่ได้
  • ผู้ตอบแบบสอบถามคาดว่า 45% ของ Workload นั้นจะยังคงอยู่บนระบบ On-premises ขององค์กกร ถึงแม้ว่าการใช้ Cloud จะเติบโตมากขึ้นก็ตาม
  • 83% ขององค์กรที่มีสมรรถนะในการดำเนินธุรกิจสูงนั้นกล่าวว่าการริเริ่มใช้ Cloud ต้องมีการผสานเข้ากับระบบต่างๆ เป็นอย่างมาก

นอกจากนี้ IBM Systems for Hybrid Cloud นี้ยังได้ประกาศความร่วมมือกับผู้ผลิต Open Source ชั้นนำมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Canonical, Hortonworks, Mirantis, NGINX และ Red Hat ก็ตาม เพื่อสร้าง Reference Architecture ในการใช้งานร่วมกัน เป็นการผลักดันการใช้งาน Open Source ภายในองค์กรไปด้วยอีกทาง

ที่มา: http://www-03.ibm.com/press/us/en/pressrelease/50551.wss

from:https://www.techtalkthai.com/ibm-announces-new-hybrid-cloud-solution-on-ibm-power-systems-and-ibm-z-systems/