คลังเก็บป้ายกำกับ: FORD

Ford จับมือ Tesla ให้รถยนต์ไฟฟ้า Ford สามารถชาร์จด้วย Supercharger ได้

Ford ประกาศความสำเร็จในข้อตกลงกับ Tesla ที่ฝ่ายหลังเปิดให้รถยนต์ไฟฟ้าของ Ford สามารถใช้งาน Supercharger ได้ ทั้งในสหรัฐและแคนาดา เริ่มตั้งแต่ช่วงฤดูใบไม้ผลิปีหน้าเป็นต้นไป

เบื้องต้น Tesla จะออกอแดปเตอร์หัวชาร์จให้กับลูกค้ารถไฟฟ้าของ Ford อย่าง F-150 Lightning truck หรือ Mustang Mach-E ที่ใช้พอร์ท CSS อยู่ (แต่ของ Tesla ใช้ NACS) นอกจากนี้ รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ของ Ford ที่จะออกหลังปี 2025 เป็นต้นไป ก็จะรองรับพอร์ต NACS ด้วย หลัง Tesla ประกาศให้เป็นมาตรฐานเปิด ซึ่ง Ford จะเป็นรายแรกที่ใช้

ที่มา – Ford

No Description

from:https://www.blognone.com/node/134028

ทำไมต้องรู้จัก Ford Anglia? รถยนต์รุ่นเก่าที่ผลิตจากเกาะอังกฤษ และปรากฎใน IG ของ ทิม พิธา

Ford Anglia (ฟอร์ด แองเกลีย) คือหนึ่งในรถยนต์รุ่นตำนานของ Ford UK หรือสาขาในสหราชอาณาจักร ผ่านหน้าตาที่เป็นเอกลักษณ์ และรุ่นต่าง ๆ ที่ผลิตตั้งแต่ปี 1939 จนถึง 1968 กลายเป็นที่ต้องการของนักสะสม

และ Ford Anglia นี้เคยไปปรากฏบนภาพยนตร์ แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับห้องแห่งความลับ ในฉากที่ รอน วีสลีย์ กับ แฮร์รี่ พอตเตอร์ ขับรถรุ่นนี้บินขึ้นไปบนฟ้าเพื่อจะกลับไปที่โรงเรียนเวทมนตร์ฮอกวอตส์

ฉากนั้นใช้ Ford Anglia โฉมสุดท้ายกับรหัสรุ่น 105E Deluxe แถมล่าสุด ทิม พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ยังมีภาพถ่ายรถยนต์รุ่นดังกล่าวปรากฏบน Instagram ส่วนตัว หรือว่าเขาจะจบจากฮอกวอตส์ และทั้งสองเรื่องนี้เกี่ยวกันอย่างไร

Ford

Ford Anglia 105E Deluxe รถคลาสสิกที่คนอยากลองเล่น

Ford Anglia 105E Deluxe เริ่มผลิตช่วงปี 1959 โดยเวลานั้น Ford ต้องการทำรถยนต์เก๋งที่ตอบโจทย์การใช้งานในครอบครัว และต้องมีการออกแบบที่มีเอกลักษณ์ รวมถึงสมรรถนะในการขับขี่ที่ดี ซึ่งผลลัพธ์ออกมาก็เป็นอย่างนั้นจริง ๆ

เพราะ Ford Anglia 105E Deluxe มีรูปลักษณ์ที่ใคร ๆ ก็จดจำได้ และนั่งได้สบายกว่ารุ่นก่อนหน้า ทั้งยังมากับเครื่องยนต์ Kent ความจุ 997 cc จับคู่กับเกียร์ 4 สปีด ทำให้เป็นขวัญใจในเวลานั้น และสร้างยอดขายได้หลายแสนคันก่อนหยุดไลน์ผลิต

แต่ด้วยหน้าที่เป็นเอกลักษณ์ทำให้หลายคนอยากได้มาครอบครองสักครั้ง แต่ในด้วย Ford Anglia 105E Deluxe อายุมากกว่า 50 ปีแล้ว ทำให้หากซื้อมาต้องตรวจสอบ และดูแลเรื่องสนิมให้ดี ส่วนเครื่องยนต์ และระบบส่งกำลังนั้นค่อนข้างทนทาน และไม่ประสบปัญหานัก

สำหรับในประเทศไทยมีกลุ่มคนเล่นรถยนต์ Ford Anglia 105E Deluxe อยู่บ้าง โดยมีราคาขายกันหลักแสนเป็นต้นไปในรถยนต์สภาพดี ส่วนสภาพที่ต้องนำไปปรับปรุง หรือซ่อมแซมก็จะมีราคาลดหลั่นลงมา โดยอะไหล่อาจต้องหากันสักนิด ถ้าไม่ได้จริง ๆ คงต้องปรึกษากับคนเล่นรถรุ่นนี้เป็นการส่วนตัว

สุดท้ายนี้ถ้าถามว่า Ford Anglia 105E Deluxe มีอะไรเกี่ยวข้องกับ ทิม พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ก็น่าจะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องเลยแม้แต่น้อย เพียงแต่ปรากฏอยู่บน Instagram ส่วนตัวของว่าที่นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของไทยเท่านั้น และเขาไม่ได้จบจากโรงเรียนเวทมนตร์ฮอกวอตส์ แต่จบจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด

อ้างอิง // Autoexpress

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

The post ทำไมต้องรู้จัก Ford Anglia? รถยนต์รุ่นเก่าที่ผลิตจากเกาะอังกฤษ และปรากฎใน IG ของ ทิม พิธา first appeared on Brand Inside.
from:https://brandinside.asia/ford-anglia-tim-pita/

Ford ขอใช้ Apple CarPlay ระยะยาว รับพ่ายแพ้ในศึกระบบความบันเทิงในรถยนต์มานานนับ 10 ปี

Ford ทำสัญญาระยะยาวกับ Apple CarPlay เพื่ออำนวยความสะดวกด้านความบันเทิงในรถยนต์ ทั้ง Jim Farley ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Ford ยังออกมายอมรับว่า บริษัทพ่ายแพ้ในเรื่องนี้มานานนับ 10 ปี และต้องยอมรับความจริง แทนที่จะฝืนใจผู้บริโภคด้วยการมีแต่ระบบความบันเทิงของตัวเอง

Ford
ภาพจาก Ford

Ford มองต่าง ทำสัญญาระยะยาวกับ Apple CarPlay

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แม้บริการ Apple CarPlay และ Android Auto จะเป็นระบบความบันเทิงในรถยนต์ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน แต่ GM แบรนด์รถยนต์ชั้นนำจากสหรัฐอเมริกากลับเลือกที่จะไม่ต่อสัญญากับ Apple CarPlay โดยจะยุติการใช้งานตั้งแต่ปี 2024 ในรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นต่าง ๆ ของบริษัท

การทำแบบนี้ GM จะบังคับให้ผู้ใช้รถยนต์ใช้งานระบบความบันเทิงภายในรถที่บริษัทคิดค้นขึ้น เพราะต้องการรับรู้ถึงพฤติกรรม และรูปแบบการใช้งานของผู้บริโภคที่ปัจจุบันข้อมูลเหล่านั้นเกือบทั้งหมดอยู่กับฝั่งเจ้าของระบบปฏิบัติการ ทำให้ค่ายผู้ผลิตรถยนต์อาจเสียประโยชน์ในการนำไปวิเคราะห์ข้อมูลต่าง ๆ

อย่างไรก็ตาม Jim Farley ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Ford กลับมองในมุมต่าง เพราะได้เดินหน้าทำสัญญาระยะยาวกับ Apple CarPlay ผ่านความต้องการเรื่องการตอบโจทย์ผู้ใช้รถยนต์ และให้ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับเรื่องนี้เป็นผู้รับผิดชอบในการทำระบบความบันเทิงในรถยนต์

“ในมุมเนื้อหา เราแพ้ในสมรภูมินี้มานานนับ 10 ปี และต้องยอมรับความจริง เพราะคุณไม่ได้จะทำเงินจำนวนมากจากการสร้างเนื้อหาภายในรถยนต์” Jim Farley กล่าวกับสำนักข่าว Wall Street Journal ซึ่งระบบความบันเทิงในรถยนต์ในอดีตจะถูกบังคับจากค่ายผู้ผลิตรถยนต์ และบางครั้งทางค่ายก็สร้างรายได้จากการขายฟีเจอร์ต่าง ๆ

ขณะเดียวกัน Jim Farley ยังเสริมว่า ปัจจุบันทุกคนพกสมาร์ตโฟนเข้าไปใช้งานในรถยนต์ และพวกเขาต้องการให้ระบบความบันเทิงในรถยนต์เป็นส่วนขยายจากสมาร์ตโฟนของพวกเขา ทำให้การไปขวางเรื่องนี้อาจไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้อง และ Ford ต้องการมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า

อ้างอิง // The Drive

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

The post Ford ขอใช้ Apple CarPlay ระยะยาว รับพ่ายแพ้ในศึกระบบความบันเทิงในรถยนต์มานานนับ 10 ปี first appeared on Brand Inside.
from:https://brandinside.asia/ford-apple-carplay/

Ford ยืนยัน ไม่ทิ้งระบบ CarPlay, Android Auto แบบเดียวกับ GM

จากข่าว GM ประกาศเลิกสนับสนุน CarPlay/Android Auto, เปลี่ยนไปใช้ Android Automotive ทำให้เว็บไซต์ 9to5mac สอบถามไปยังคู่แข่งเพื่อนร่วมชาติ Ford ว่ามีนโยบายนี้อย่างไร

คำตอบของ Ford คือจะยังสนับสนุน Apple CarPlay และ Android Auto ต่อไป เพราะเป็นสิ่งที่ผู้ใช้ต้องการ โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้า EV เนื่องจากรถ EV บางยี่ห้อไม่มีฟีเจอร์นี้

ฝั่งของ Ford เองมีผู้บริหาร Doug Field ดูแลด้าน Advanced Technology และ Embedded Systems ซึ่งเขาเคยเป็นหัวหน้าโครงการรถยนต์ของแอปเปิลมาก่อน แต่ย้ายมาอยู่ Ford ในปี 2021 นอกจากนี้ Ford มีสัญญากับกูเกิล และมีชื่อปรากฏอยู่ในกลุ่มผู้ใช้งาน Android Automotive ด้วย แม้ตัวรถยนต์ที่ใช้ Android Automotive ยังไม่ออกสู่ตลาดในตอนนี้ก็ตาม

ที่มา – 9to5mac

No Description

from:https://www.blognone.com/node/133455

MG ลั่น ขอขึ้น Top 5 ตลาดรถยนต์ไทย ถ้าทำได้ Ford หรือ Mazda อาจถูกแซง

MG ประเทศไทย แจ้งแผนธุรกิจประจำปี 2566 และครบรอบ 10 ปีกิจการในไทย เดินหน้ารถยนต์ไฟฟ้าเต็มที่ พร้อมตั้งเป้าขึ้น 5 อันดับแรกของตลาดรถยนต์ไทย จากปัจจุบันอยู่ที่ 6 ตามหลัง Ford และ Mazda ตามลำดับ

MG

MG ขอแซงหน้า Ford และ Mazda

พงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ปี 2566 เอ็มจี ได้กำหนดแผนการยกระดับแบรนด์ให้เติบโตประกอบด้วย สร้าง MG ให้ขึ้นไปสู่ 5 อันดับแรกของตลาดรถยนต์ประเทศไทย เบื้องต้นปี 2566 จะมีการเปิดตัวอย่างน้อย 2 รุ่น และเร่งส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้าที่ค้างอยู่

ควบคู่ไปกับการรุกตลาดรถยนต์ไฟฟ้าล้วน หรือ Battery Electric Vehicle (BEV) อย่างต่อเนื่อง หลังเริ่มตั้งแต่ 4 ปีก่อน จนปัจจุบันมีรถยนต์ไฟฟ้า MG วิ่งอยู่บนท้องถนนกว่า 8,000 คัน และปี 2566 ตั้งเป้าส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้าเฉลี่ยไม่น้อยกว่า 1,000 คัน/เดือน รวมถึงขยายสถานีชาร์จให้ครอบคลุมมากกว่า 200 แห่งทั่วประเทศ

รวมถึงตั้งเป้าขยายผู้จำหน่าย และศูนย์บริการให้ครอบคลุม 77 จังหวัด และเพิ่มศูนย์ซ่อมสี และตัวถังจาก 67 แห่ง เป็น 80 แห่ง ที่สำคัญยังเพิ่มจำนวนศูนย์จำหน่ายรถยนต์มือสอง Approved Certified Used Car by MG อีก 5-10 แห่ง เพื่อคลายความกังวลเรื่องราคาขายต่อของลูกค้าปัจจุบัน และลูกค้าที่กำลังสนใจในแบรนด์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า MG ทำตลาดในประเทศไทยครบรอบ 10 ปี และหากอ้างอิงข้อมูลรายงานยอดขาย Toyota ประเทศไทย ปี 2565 MG ทำยอดขายไปได้ทั้งหมด 27,293 คัน ลดลง 12.0% จากปีก่อน กินส่วนแบ่งตลาด 3.2% เป็นอันดับที่ 7 ของตลาด ผ่านการทำตลาดรถกระบะ, รถเก๋ง, รถ SUV และรถยนต์ไฟฟ้า

หากต้องการเป็น 5 อันดับแรก MG ต้องแซงหน้า Ford ที่อยู่อันดับ 5 มียอดจำหน่ายปี 2565 43,628 คัน ผ่านการจำหน่ายรถกระบะ และรถ PPV กับ Mazda ที่อยู่อันดับ 6 มียอดจำหน่าย 31,638 คัน ผ่านการจำหน่าย รถเก๋ง, รถ SUV และ รถกระบะ

สรุป

จากแบรนด์ที่อาจจะเดินเกมพลาด หรือวางกลยุทธ์ผิดในช่วงแรก ๆ ผ่านมา 10 ปี MG กลายเป็นแบรนด์รถยนต์จากจีนที่แข็งแกร่งในประเทศไทย และล้มแบรนด์ญี่ปุ่นไปแล้วหลายราย ยิ่งตอนนี้ MG เดินเกมรถยนต์ไฟฟ้าเต็มที่ และคู่แข่งญี่ปุ่นยังไม่จริงจังเท่า โอกาสที่จะเห็น MG ขึ้นไปอยู่ใน 5 อันดับแรกก็อาจมีความเป็นไปได้

อ้างอิง // Toyota

อ่านเพิ่มเติม

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

The post MG ลั่น ขอขึ้น Top 5 ตลาดรถยนต์ไทย ถ้าทำได้ Ford หรือ Mazda อาจถูกแซง first appeared on Brand Inside.
from:https://brandinside.asia/mg-top-5-thai-martket-2023/

เพราะ CEO ไปโฟกัสอย่างอื่น? รายงานระบุ Tesla Autopilot แพ้ Toyota Safety Sense 3.0 แล้ว

หลายคนอาจมีภาพจำว่าระบบช่วยขับของ Tesla หรือที่รู้จักกันในชื่อ Autopilot นั้นเป็นผู้นำตลาดเพราะบุกเบิกมาก่อนและสร้างชื่อเสียงมานาน แต่รายงานล่าสุดของ Consumer Reports กลับพบว่าไม่ใช่แบบนั้นแล้ว

Consumer Reports (CR) ได้ทดสอบระบบช่วยขับขี่ 12 ระบบทั้งในสนามปิดและบนถนนจริง และแบ่งเกณฑ์ออกเป็น 5 ประเภทคือความสามารถและประสิทธิภาพ, การกระตุ้นผู้ขับขี่, ความง่ายในการใช้งาน, การใช้งานเมื่อปลอดภัย และปฏิกิริยาเมื่อคนขับไม่ตอบสนอง

ผลการทดสอบสรุปออกมาว่าระบบ BlueCruise ของ Ford ได้คะแนนรวมสูงที่สุด 84 คะแนน ตามมาด้วย Super Cruise ของ GM (75 คะแนน) และ Driver Assistance ของ Mercedes-Benz (72 คะแนน) ส่วน Tesla Autopilot นั้นรูดไปอยู่อันดับ 7 ได้เพียง 61 คะแนน แพ้แม้กระทั่งระบบ Safety Sense 3.0 ของ Toyota ที่ได้ 65 คะแนน โดยเมื่อปี 2020 Tesla เคยอยู่อันดับ 2

Consumer Reports ระบุว่า Autopilot ไม่ค่อยมีการพัฒนาเพิ่ม เพราะ Tesla มัวแต่เพิ่มฟีเจอร์ใหม่แทนที่จะปรับปรุงของเดิมด้วย โดย CR บอกว่า Autopilot ยังไม่มีการตรวจจับว่าผู้ขับขี่ตื่นตัวหรือไม่ คือเช็คจากการแตะพวงมาลัยอย่างเดียว ไม่มีการตรวจจับใบหน้าและดวงตาของคนขับ แถมยังรอถึง 30 วินาทีกว่าจะเริ่มเตือน ทำให้รถอาจแล่นไปไกลกว่าครึ่งไมล์ นับว่าอันตราย ในขณะที่ระบบ BlueCruise ของ Ford ใช้กล้องอินฟราเรดตรวจจับดวงตาของผู้ขับและเตือนภายใน 5 วินาทีหากไม่มองถนน

นอกจากนี้ Autopilot ยังอนุญาตให้ผู้ขับเปิดใช้งานระบบได้แม้เส้นบนถนนจะมีเพียงเส้นเดียว ในบางสถานการณ์อาจทำให้รถแล่นใกล้ขอบถนนมากเกินไป

อย่างไรก็ดี จุดเด่นของ Autopilot ที่ CR ชมคือมันหมุนพวงมาลัยได้นุ่มนวลและรักษารถให้อยู่กลางเลนได้ดีทั้งบนทางตรงและโค้ง

Jake Fisher ผู้เชี่ยวชาญจาก CR ระบุว่าระบบช่วยขับขี่แต่ละยี่ห้อนั้นถูกสร้างมาไม่เท่ากัน และ “บางยี่ห้อ” อาจทำให้ผู้ขับเข้าใจผิดว่ารถกำลังควบคุมทุกอย่างเองเบ็ดเสร็จ และ Autopilot ไม่ได้แปลว่ารถจะ “ขับเอง” ได้แม้แต่นิดเดียว เขาทิ้งท้ายว่าระบบช่วยขับเหล่านี้จะช่วยเพิ่มความสะดวกและความปลอดภัยให้ถ้าใช้งานอย่างถูกต้อง แต่หากใช้งานผิดก็จะทำให้เกิดอันตราย

สำหรับรายงานฉบับเต็ม และคะแนนของระบบต่างๆ ดูได้จากที่มา

ที่มา – Consumer Reports via The Register

from:https://www.blognone.com/node/132406

ส่องยอดขาย และกระแส Ford หลังเสียงพากย์ Ford Ranger Raptor ดังไปทั่วโลกออนไลน์

ไม่รู้ว่าบังเอิญ หรือตั้งใจ แต่ Ford ได้ประโยชน์เต็ม ๆ จากการพูดถึงงานลงเสียงโฆษณา Ford Ranger Raptor ของ กฤต สุขวัฒน์ หรือ Krit Tone ในทุกช่องทางของโลกออนไลน์

Ford

เพราะจะไถ Facebook, Instagram หรือ TikTok ต่างเจอคลิปคนเลียนแบบเสียงโฆษณาประโยคว่า “ดุดัน ไม่เกรงใจใคร Ford Ranger Raptor” อยู่เป็นประจำ

แล้วกระแสดังกล่าวช่วยเพิ่มยอดขาย และสร้างการรับรู้ให้กับแบรนด์ Ford มากขนาดไหน Brand Inside อยากชวนมาเจาะตัวเลขทั้งสองไปด้วยกัน

Ford กับยอดขายที่เพิ่มขึ้นชัดเจน

ปี 2022 ภาพรวมตลาดรถยนต์ยังไม่ฟื้นตัว เพราะเศรษฐกิจซบเซา และปัญหาชิปขาดแคลนที่ยังไม่หาย ซึ่ง Ford ประเทศไทย คือหนึ่งในแบรนด์ที่ได้รับผลกระทบนี้ เพราะเมื่ออ้างอิงข้อมูลจาก Toyota ยอดขายช่วงครึ่งปีแรกเฉพาะรถเพื่อการพาณิชย์เฉลี่ยอยู่ราว 2,500 คัน/เดือน พ่ายแพ้ Mitsubishi และเทียบกับ Toyota และ Isuzu ไม่ติด

อย่างไรก็ตาม ครึ่งหลังปี 2022 ใกล้กับช่วงเวลาที่ กฤต สุขวัฒน์ หรือ Krit Tone นักลงเสียงโฆษณา เริ่มถูกพูดถึงบนโลกออนไลน์ผ่านคลิปพากย์เสียงโฆษณาต่าง ๆ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือโฆษณา Ford Ranger Raptor ยอดขายของ Ford ประเทศไทย เติบโตก้าวกระโดดอย่างเห็นได้ชัด เช่น ในเดือน ต.ค. 2022 มียอดขายถึง 5,043 คัน

แต่คงพูดได้ไม่เต็มปากว่ากระแสคลิปโฆษณา Ford Ranger Raptor ช่วงเพิ่มยอดขาย เพราะ Ford พึ่งสามารถส่งมอบรถยนต์รุ่นใหม่ที่เปิดตัวตั้งแต่ต้นปี 2022 เช่น Ford Ranger รุ่นปกติ, รุ่นยกสูง Wildtrak, รุ่นสมรรถนะสูง Raptor รวมถึง SUV รุ่น Everest ช่วงครึ่งหลังของปี 2022 จึงอาจบันทึกยอดขายจริงได้ในเวลาดังกล่าว

Ford

ถูกค้นหาบน Google มากขึ้น

การเลียนแบบเสียงพากย์โฆษณา Ford Ranger Raptor ยังช่วยให้ผู้คนในประเทศไทยค้นหาคำว่า ฟอร์ด, Ford และ Ford Ranger มากขึ้น หากอ้างอิงข้อมูล Google Trends จะพบว่า ต้นเดือน ส.ค. 2022 ที่ใกล้กับช่วงเสียงพากย์โฆษณาเป็นกระแส ความสนใจการค้นหาคำว่า ฟอร์ด ยังมากกว่าช่วง Ford เปิดตัวรุ่นใหม่ช่วงต้นปีเสียอีก

หลังจากนั้นยังเพิ่มขึ้นในบางช่วงเวลาตามกระแสของการเลียนแบบเสียงพากย์โฆษณาของผู้ใช้ TikTok ในไทย โดยแฮชแท็ก #FordRangerRaptor มีการเข้าชมกว่า 132.1 ล้านครั้ง และผู้ใช้บางรายยังมองว่า Ford พยายามสื่อสารแบรนด์หลายวิธี แต่ความ Viral ของงานเสียงพากย์โฆษณาครั้งนี้กลับกระตุ้นการรับรู้ให้แบรนด์ได้ดีกว่า

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า Ford คือหนึ่งในแบรนด์รถยนต์รายแรก ๆ ที่เน้นทำตลาดผ่านช่องทางออนไลน์ในประเทศไทยอย่างเข้มข้น ไม่ว่าจะเป็นการเสิร์ชเจอเป็นอันดับแรก ๆ , การทำโฆษณาขึ้นบน YouTube รวมถึงการสื่อสารแบรนด์ผ่าน Facebook และโซเชียลมีเดียอื่น ๆ จนกลายเป็นหนึ่งในตัวอย่างที่แบรนด์คู่แข่งเริ่มทำตาม

เจาะลึกการทำตลาด Ford ในประเทศไทย

Ford เข้ามาทำตลาดในประเทศไทยมากกว่า 25 ปี มีการลงทุนไปกว่า 3,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ มี 2 โรงงานหลักเพื่อผลิตรถยนต์รุ่นต่าง ๆ ที่จำหน่ายในประเทศไทย รวมถึงการส่งออกไปทำตลาดในต่างประเทศ ทำให้ไทยเป็นหนึ่งในฐานการผลิตที่สำคัญในระดับโลกของ Ford

ปัจจุบัน Ford ทำตลาดรถกระบะ และรถยนต์ SUV ในประเทศไทย ประกอบด้วยตระกูล Ford Ranger และ Ford Everest รวมถึงรถยนต์สมรรถนะสูง Ford Mustang แต่ในอดีต Ford เคยทำตลาดรถยนต์นั่ง เช่น รุ่น Focus, Fiesta และ EcoSport แต่ทั้งหมดนี้ยุติการทำตลาดไปเมื่อปี 2019

หากเจาะไปที่ Ford Ranger Raptor จะพบว่า รถกระบะรุ่นดังกล่าวเป็นรถกระบะรุ่นเดียวในประเทศไทยที่ติดตั้งเครื่องยนต์เบนซิน และมากับเครื่องยนต์ 3.0 ลิตร V6 EcoBoost เทอร์โบคู่ แรง และดุดัน ไม่เกรงใจใคร มีรุ่นย่อยเดียว ราคา 1.869 ล้านบาท

สรุป

Ford น่าจะได้ประโยชน์จากกระแสเสียงพากย์โฆษณา Ford Ranger Raptor ไปไม่น้อย ที่แน่ ๆ คือการรับรู้แบรนด์ และภาพลักษณ์ที่ถูกจดจำว่า ดุดัน ไม่เกรงใจใคร อย่างแน่นอน ดังนั้นก็คงอยู่ที่ Ford เองแล้วว่าจะอาศัยกระแสนี้ปั้นยอดขาย และสร้างการเติบโตของธุรกิจได้อย่างไร

อ้างอิง // Ford, Toyota

อ่านเพิ่มเติม

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

The post ส่องยอดขาย และกระแส Ford หลังเสียงพากย์ Ford Ranger Raptor ดังไปทั่วโลกออนไลน์ first appeared on Brand Inside.
from:https://brandinside.asia/ford-sale-awareness-after-ads/

บริษัทรถยนต์ไร้คนขับ Argo AI ปิดตัว หาเงินทุนเพิ่มไม่ได้ แม้ Ford และ VW สนับสนุน

TechCrunch รายงานว่าสตาร์ตอัพรถยนต์ไร้คนขับ Argo AI ที่ได้รับการสนับสนุนจากยักษ์ใหญ่ทั้ง Ford และ Volkswagen ปิดตัวลงแล้ว

Argo AI ยืนยันข่าวการปิดตัว แต่ไม่ได้อธิบายเหตุผลที่ต้องเลิกกิจการ แต่ TechCrunch รายงานว่าเป็นเพราะ Argo ไม่สามารถหาเงินลงทุนเพิ่มได้ เพราะ Ford กับ Volkswagen ไม่ลงทุนก้อนใหม่เพิ่มแล้ว (Argo ได้รับเงินลงทุนรวมทั้งหมด 2.6 พันล้านดอลลาร์ โดย Ford ลงเงิน 1 พันล้านดอลลาร์ตั้งแต่แรก)

ข้อมูลจากพนักงานของ Argo AI ที่ฟังคำแถลงภายใน ระบุว่าพนักงานทุกคนจะได้รับแพ็กเกจชดเชย และเงินโบนัสพิเศษ ส่วนพนักงานบางคนจะได้รับข้อเสนอให้เข้าทำงานกับ Ford และ Volkswagen ต่อไปด้วย แต่ยังไม่มีข้อมูลว่าบริษัทรถยนต์ทั้งสองรายจะรับพนักงานเข้าทำงานเป็นจำนวนเท่าไร และเทคโนโลยีของ Argo AI จะไปอยู่กับบริษัทใด

ในช่วงหลังๆ มานี้ บริษัทด้านรถยนต์ไร้คนขับถูกวิจารณ์ว่าไม่สามารถนำเสนอเทคโนโลยีที่ใช้งานได้จริงๆ ตามที่โฆษณากันไว้เมื่อหลายปีก่อน และหลายบริษัทต้องปรับโมเดลธุรกิจไปทางอื่น เช่น ทำรถยนต์ไร้คนขับเฉพาะทาง (รถบรรทุกวิ่งทางไกล หรือรถวิ่งในเขตท่าเรือ) หรือหันไปโฟกัสที่ระบบช่วยขับขี่ระดับ L3/L4 ที่ยังจำเป็นต้องมีมนุษย์อยู่

No Description

ที่มา – TechCrunch

from:https://www.blognone.com/node/131166

Ford พัฒนาแอปสมาร์ทโฟนและระบบแจ้งเตือนคนขับรถให้ระวังคนเดินถนนและคนขี่จักรยาน

Ford ประกาศข่าวการพัฒนาแอปและระบบแจ้งเตือนในรถยนต์เพื่อช่วยแจ้งเตือนคนขับรถให้ระวังคนเดินถนนและคนขี่จักรยานที่อยู่ใกล้ตัวรถ โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในตำแหน่งอับสายตาของคนขับ

แอปสมาร์ทโฟนที่ว่านี้ยังไม่ได้รับการตั้งชื่อ แต่ Ford ระบุว่ามันไม่ใช่แอปที่เน้นพัฒนามาสำหรับตัวผู้ขับขี่รถยนต์เอง หากแต่เป็นแอปสำหรับผู้ใช้ถนนทั่วไป โดยตัวแอปจะสามารถเชื่อมต่อกับระบบ Ford SYNC อันเป็นระบบซอฟต์แวร์ภายในรถยนต์ของ Ford ซึ่งการเชื่อมต่อดังกล่าวจะอาศัยระบบบลูทูธพลังงานต่ำ

แนวคิดการทำงานของระบบก็คือ เมื่อรถยนต์ Ford ตรวจพบผู้ใช้งานแอปดังกล่าวในระยะใกล้เคียงกับตัวรถ ระบบ Ford SYNC จะส่งสัญญาณเตือนทั้งบนหน้าจอและส่งเสียงเตือนภายในตัวรถให้คนขับรถยนต์ได้รับทราบว่ามีการตรวจพบคนเดินถนนหรือคนขี่จักรยานอยู่ใกล้ๆ นอกจากนี้อาจมีการสั่งงานระบบ Ford Co-Pilot360 ซึ่งเป็นระบบช่วยขับขี่รถยนต์ให้ลดความเร็วของรถลงด้วย

นอกจากนี้ Ford ยังร่วมกับ T-Mobile เพื่อพัฒนาแอปให้สามารถเชื่อมต่อผ่านเครือข่าย 5G นอกเหนือจากการใช้บลูทูธพลังงานต่ำด้วย

ที่มา – Vice

No Description

Topics: 

from:https://www.blognone.com/node/130521

ไทยยังไม่ตกขบวนรถยนต์ไฟฟ้า! CFO ของ Ford Motor ลั่น ไทย จะเป็น “ศูนย์กลางการผลิต EV”

หลังจากมีข่าวว่า BYD ค่าย รถยนต์ไฟฟ้า จีน จะเข้ามาตั้งฐานผลิตในไทย ล่าสุด Ford ไม่น้อยหน้า เตรียมเปลี่ยนไทยเป็นศูนย์กลางการผลิต EV เช่นกัน

รถยนต์ไฟฟ้า Ford Ranger

ภายในงาน Detroit Motor Show หนึ่งในงานจัดแสดงรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุด CFO ของ Ford Motor อย่าง John Lawler ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า รถกระบะ Ford Ranger และรถเอสยูวี Ford Everest มีความสำคัญและเป็นโอกาสที่สำคัญในการทำตลาดระดับโลก

จุดที่น่าจับตาคือ Lawler ระบุด้วยตัวเองว่า ประเทศไทย ซึ่งเป็นฐานผลิตกระบะ Ford Ranger กำลังกลายเป็นศูนย์กลางการผลิต รถยนต์ไฟฟ้า ระดับโลก ซึ่งแม้เขาจะไม่ได้บอกอย่างชัดเจนว่า Ranger ในรูปแบบ EV จะถูกผลิตออกมาตอนไหน แต่ก็ไม่ลืมที่จะเน้นย้ำว่า “การเป็นผู้เล่นรายแรกๆ เป็นประโยชน์สำหรับเรา”

“ประเทศไทย จะกลายเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ที่ไม่ปล่อยมลพิษ เรากำลังเห็นความเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นทั่วโลก เราตั้งใจจะเป็นส่วนหนึ่งของความเปลี่ยนแปลง และแน่นอนว่าคุณจะได้เห็นสิ่งเหล่านี้จาก Ford” Lawler ระบุ

ทั้งนี้ Ford เปิดตัวรถกระบะไฟฟ้าล้วนรุ่นแรกอย่าง F-150 Lightning ในสหรัฐฯ ซึ่ง F-150 เองคือรถยนต์ที่ขายดีที่สุดในตลาดบ้านเกิดของ Ford นอกจากนี้ Ford ยังมีรถยนต์ไฟฟ้าล้วนโมเดลอื่นอีก 2 รุ่น คือ Mustang Mach-E และ E-Transit

ที่มา – news.com.au

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

The post ไทยยังไม่ตกขบวนรถยนต์ไฟฟ้า! CFO ของ Ford Motor ลั่น ไทย จะเป็น “ศูนย์กลางการผลิต EV” first appeared on Brand Inside.
from:https://brandinside.asia/ford-cfo-said-thai-is-ev-manufactoring-hub/