คลังเก็บป้ายกำกับ: GM

GM มาอีกหนึ่ง จับมือ Tesla รองรับ Supercharger ตามรอย Ford

เดือนที่แล้ว Ford เป็นรายแรกที่จับมือกับ Tesla ในการรองรับระบบ Supercharger และนำพอร์ต NACS ที่ Tesla เปิดมาตรฐาน มาใช้งาน ล่าสุด GM เดินตามรอยอีกเจ้าแล้ว

Mary Barra เปิดเผยว่า การส่งเสริมให้ผู้ใช้รถยนต์ EV มีมากขึ้น ก็ต้องทำให้ระบบสถานีชาร์จมีความแพร่หลายมากขึ้น ขณะที่ GM จะเริ่มส่งมอบอแดปเตอร์หัวชาร์จสำหรับ Supercharger ให้ลูกค้าอย่างเร็วที่สุดคือช่วงต้นปีหน้า ส่วนรถยนต์ที่รองรับ Supercharger ในตัวเลยจะมาภายในปี 2025

ความโดดเด่นของ Supercharger ของ Tesla ในสหรัฐ นอกจากในแง่ของพื้นที่ที่ให้บริการและจำนวนสถานนีชาร์จแล้ว ในแง่ของประสบการณ์ใช้งาน เช่น ปัญหาซอฟต์แวร์หรือหัวชาร์จมีปัญหา ก็ค่อนข้างน้อยกว่าผู้ให้บริการเจ้าอื่นด้วย

ที่มา – GM via The Verge

No Descriptionภาพจาก @GM

Topics: 

from:https://www.blognone.com/node/134255

Ford ขอใช้ Apple CarPlay ระยะยาว รับพ่ายแพ้ในศึกระบบความบันเทิงในรถยนต์มานานนับ 10 ปี

Ford ทำสัญญาระยะยาวกับ Apple CarPlay เพื่ออำนวยความสะดวกด้านความบันเทิงในรถยนต์ ทั้ง Jim Farley ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Ford ยังออกมายอมรับว่า บริษัทพ่ายแพ้ในเรื่องนี้มานานนับ 10 ปี และต้องยอมรับความจริง แทนที่จะฝืนใจผู้บริโภคด้วยการมีแต่ระบบความบันเทิงของตัวเอง

Ford
ภาพจาก Ford

Ford มองต่าง ทำสัญญาระยะยาวกับ Apple CarPlay

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แม้บริการ Apple CarPlay และ Android Auto จะเป็นระบบความบันเทิงในรถยนต์ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน แต่ GM แบรนด์รถยนต์ชั้นนำจากสหรัฐอเมริกากลับเลือกที่จะไม่ต่อสัญญากับ Apple CarPlay โดยจะยุติการใช้งานตั้งแต่ปี 2024 ในรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นต่าง ๆ ของบริษัท

การทำแบบนี้ GM จะบังคับให้ผู้ใช้รถยนต์ใช้งานระบบความบันเทิงภายในรถที่บริษัทคิดค้นขึ้น เพราะต้องการรับรู้ถึงพฤติกรรม และรูปแบบการใช้งานของผู้บริโภคที่ปัจจุบันข้อมูลเหล่านั้นเกือบทั้งหมดอยู่กับฝั่งเจ้าของระบบปฏิบัติการ ทำให้ค่ายผู้ผลิตรถยนต์อาจเสียประโยชน์ในการนำไปวิเคราะห์ข้อมูลต่าง ๆ

อย่างไรก็ตาม Jim Farley ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Ford กลับมองในมุมต่าง เพราะได้เดินหน้าทำสัญญาระยะยาวกับ Apple CarPlay ผ่านความต้องการเรื่องการตอบโจทย์ผู้ใช้รถยนต์ และให้ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับเรื่องนี้เป็นผู้รับผิดชอบในการทำระบบความบันเทิงในรถยนต์

“ในมุมเนื้อหา เราแพ้ในสมรภูมินี้มานานนับ 10 ปี และต้องยอมรับความจริง เพราะคุณไม่ได้จะทำเงินจำนวนมากจากการสร้างเนื้อหาภายในรถยนต์” Jim Farley กล่าวกับสำนักข่าว Wall Street Journal ซึ่งระบบความบันเทิงในรถยนต์ในอดีตจะถูกบังคับจากค่ายผู้ผลิตรถยนต์ และบางครั้งทางค่ายก็สร้างรายได้จากการขายฟีเจอร์ต่าง ๆ

ขณะเดียวกัน Jim Farley ยังเสริมว่า ปัจจุบันทุกคนพกสมาร์ตโฟนเข้าไปใช้งานในรถยนต์ และพวกเขาต้องการให้ระบบความบันเทิงในรถยนต์เป็นส่วนขยายจากสมาร์ตโฟนของพวกเขา ทำให้การไปขวางเรื่องนี้อาจไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้อง และ Ford ต้องการมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า

อ้างอิง // The Drive

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

The post Ford ขอใช้ Apple CarPlay ระยะยาว รับพ่ายแพ้ในศึกระบบความบันเทิงในรถยนต์มานานนับ 10 ปี first appeared on Brand Inside.
from:https://brandinside.asia/ford-apple-carplay/

GM ประกาศเลิกสนับสนุน CarPlay/Android Auto, เปลี่ยนไปใช้ Android Automotive

บริษัทรถยนต์เครือ GM ประกาศว่าจะเลิกสนับสนุนระบบยิงมือถือขึ้นจอภาพรถยนต์ (phone projection systems) ทั้ง Apple CarPlay และ Android Auto ในรถยนต์รุ่นปี 2024 เพื่อไปใช้ระบบปฏิบัติการ Android Automotive ที่รันจากคอมพิวเตอร์ภายในรถยนต์แทน

รถยนต์ในเครือ GM เริ่มใช้ Android Automotive มาได้สักพักแล้ว เช่น GMC และ Cadillac ที่เริ่มในปี 2021 แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ GM ยืนยันว่าจะเลิกรองรับ CarPlay และ Android Auto ด้วย

GM ให้เหตุผลว่ายุทธศาสตร์ใหม่ของบริษัทคือการใช้คอมพิวเตอร์ในรถ และระบบปฏิบัติการ Android Automotive ที่บริษัทปรับแต่งเอง ใช้ชื่อแพลตฟอร์มโดยรวมว่า Ultifi โดยจะรองรับแอพยอดนิยมอย่าง Google Maps, Google Assistant, Audible, Spotify จึงตัดสินใจเลิกรองรับระบบ phone projection ที่มีความสามารถซ้ำซ้อนกัน ผู้ใช้งานมือถือยังสามารถเชื่อมต่อกับรถยนต์ได้ผ่าน Bluetooth (แต่จะเป็นการส่งข้อมูลอย่างเดียว, projection ไม่ได้แล้ว)

No Description

No Description

หน้าจอระบบ Ultifi ที่อิงจาก Android Automotive

นโยบายนี้จะมีผลต่อรถ EV ที่วางขายใหม่เท่านั้น (รถน้ำมันที่วางขายใหม่ยังใช้ระบบเดิม) และรถยนต์ที่ขายไปแล้วทุกรุ่นจะยังใช้งาน CarPlay และ Android Auto ได้เหมือนเดิม โดยรถยนต์ใหม่รุ่นที่จะมีเฉพาะ Android Automotive เท่านั้นคือ 2024 Chevrolet Blazer EV, 2024 Chevrolet Equinox EV, 2024 Cadillac CELESTIQ, 2025 GMC Sierra EV

ส่วนรถยนต์ EV ของปี 2024 บางรุ่นจะยังใช้งาน CarPlay และ Android Auto ได้ เช่น Chevrolet Silverado EV, Bolt EV, Cadillac Lyriq, GMC Hummer EV

Chevrolet Blazer EV รุ่นปี 2024 (วางขายปี 2023) จะเป็นรถยนต์รุ่นแรกที่ใช้ Android Automotive อย่างเดียว

ที่มา – The Verge, Ars Technica

from:https://www.blognone.com/node/133256

เพราะ CEO ไปโฟกัสอย่างอื่น? รายงานระบุ Tesla Autopilot แพ้ Toyota Safety Sense 3.0 แล้ว

หลายคนอาจมีภาพจำว่าระบบช่วยขับของ Tesla หรือที่รู้จักกันในชื่อ Autopilot นั้นเป็นผู้นำตลาดเพราะบุกเบิกมาก่อนและสร้างชื่อเสียงมานาน แต่รายงานล่าสุดของ Consumer Reports กลับพบว่าไม่ใช่แบบนั้นแล้ว

Consumer Reports (CR) ได้ทดสอบระบบช่วยขับขี่ 12 ระบบทั้งในสนามปิดและบนถนนจริง และแบ่งเกณฑ์ออกเป็น 5 ประเภทคือความสามารถและประสิทธิภาพ, การกระตุ้นผู้ขับขี่, ความง่ายในการใช้งาน, การใช้งานเมื่อปลอดภัย และปฏิกิริยาเมื่อคนขับไม่ตอบสนอง

ผลการทดสอบสรุปออกมาว่าระบบ BlueCruise ของ Ford ได้คะแนนรวมสูงที่สุด 84 คะแนน ตามมาด้วย Super Cruise ของ GM (75 คะแนน) และ Driver Assistance ของ Mercedes-Benz (72 คะแนน) ส่วน Tesla Autopilot นั้นรูดไปอยู่อันดับ 7 ได้เพียง 61 คะแนน แพ้แม้กระทั่งระบบ Safety Sense 3.0 ของ Toyota ที่ได้ 65 คะแนน โดยเมื่อปี 2020 Tesla เคยอยู่อันดับ 2

Consumer Reports ระบุว่า Autopilot ไม่ค่อยมีการพัฒนาเพิ่ม เพราะ Tesla มัวแต่เพิ่มฟีเจอร์ใหม่แทนที่จะปรับปรุงของเดิมด้วย โดย CR บอกว่า Autopilot ยังไม่มีการตรวจจับว่าผู้ขับขี่ตื่นตัวหรือไม่ คือเช็คจากการแตะพวงมาลัยอย่างเดียว ไม่มีการตรวจจับใบหน้าและดวงตาของคนขับ แถมยังรอถึง 30 วินาทีกว่าจะเริ่มเตือน ทำให้รถอาจแล่นไปไกลกว่าครึ่งไมล์ นับว่าอันตราย ในขณะที่ระบบ BlueCruise ของ Ford ใช้กล้องอินฟราเรดตรวจจับดวงตาของผู้ขับและเตือนภายใน 5 วินาทีหากไม่มองถนน

นอกจากนี้ Autopilot ยังอนุญาตให้ผู้ขับเปิดใช้งานระบบได้แม้เส้นบนถนนจะมีเพียงเส้นเดียว ในบางสถานการณ์อาจทำให้รถแล่นใกล้ขอบถนนมากเกินไป

อย่างไรก็ดี จุดเด่นของ Autopilot ที่ CR ชมคือมันหมุนพวงมาลัยได้นุ่มนวลและรักษารถให้อยู่กลางเลนได้ดีทั้งบนทางตรงและโค้ง

Jake Fisher ผู้เชี่ยวชาญจาก CR ระบุว่าระบบช่วยขับขี่แต่ละยี่ห้อนั้นถูกสร้างมาไม่เท่ากัน และ “บางยี่ห้อ” อาจทำให้ผู้ขับเข้าใจผิดว่ารถกำลังควบคุมทุกอย่างเองเบ็ดเสร็จ และ Autopilot ไม่ได้แปลว่ารถจะ “ขับเอง” ได้แม้แต่นิดเดียว เขาทิ้งท้ายว่าระบบช่วยขับเหล่านี้จะช่วยเพิ่มความสะดวกและความปลอดภัยให้ถ้าใช้งานอย่างถูกต้อง แต่หากใช้งานผิดก็จะทำให้เกิดอันตราย

สำหรับรายงานฉบับเต็ม และคะแนนของระบบต่างๆ ดูได้จากที่มา

ที่มา – Consumer Reports via The Register

from:https://www.blognone.com/node/132406

GM หยุดโฆษณาใน Twitter หลัง Elon Musk เป็นเจ้าของใหม่

GM หยุดโฆษณาใน Twitter หลัง Elon Musk เป็นเจ้าของใหม่
Wat.C

General Motors Co หรือ GM ได้กล่าวเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่าบริษัทได้หยุดซื้อโฆษณาใน Twitter ชั่วคราวหลังจาก Elon Musk ได้เป็นเจ้าของ Twitter

GM บอกว่า “เป็นเรื่องปกติของธุรกิจที่มีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในแพลตฟอร์มเกี่ยวกับสื่อ เราได้หยุดการโฆษณาที่เสียค่าใช้จ่ายไว้ชั่วคราว” ซึ่งบริษัทต้องการศึกษา Twitter ใหม่เพิ่มเติมเพื่อเช้าใจทิศทางของ Twitter หลังจากบริษัทได้ผู้นำคนใหม่ขึ้นมาบริหารแทน

ด้าน Twitter ไม่ได้แสดงความคิดเห็นใด ๆ ของ GM ซึ่ง Elon Musk ถือว่าเป็นคู่แข่งโดยตรงของ GM ในฐานะ CEO ของ Tesla

รายได้กว่า 90% ของ Twitter มาจากการโฆษณาล้วน ๆ นอกจาก GM เอเจนซี่โฆษณาและหลาย ๆ แบรนด์ก็เริ่มแสดงความกังวลเกี่ยวกับ Twitter หลังจาก Elon Musk กลายเป็นเจ้าของคนใหม่

ข่าว: GM หยุดโฆษณาใน Twitter หลัง Elon Musk เป็นเจ้าของใหม่ มีที่มาจาก: แอพดิสคัส.

from:https://www.appdisqus.com/gm-temporarily-halts-paid-advertising-on-twitter/

บริษัทรถ GM หยุดซื้อโฆษณา Twitter ชั่วคราว รอดูท่าทีเจ้าของใหม่ Elon Musk คู่แข่งวงการรถ

General Motors บริษัทรถยนต์รายใหญ่ของโลก ประกาศหยุดลงโฆษณาบน Twitter ชั่วคราว เพื่อรอดูท่าทีของเจ้าของคนใหม่ Elon Musk ที่เป็นซีอีโอของค่ายรถคู่แข่ง Tesla ด้วย

GM บอกว่ายังโพสต์เนื้อหาลงโซเชียลตามปกติ แต่จะหยุดจ่ายเงินเพื่อซื้อโฆษณาบนแพลตฟอร์มไปก่อน บริษัทแถลงว่าเป็นแนวปฏิบัติตามปกติที่จะต้องชะลอแผนการ เมื่อแพลตฟอร์มที่ใช้งานมีการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ

ส่วน Ford ในฐานะคู่แข่งอีกรายในอุตสาหกรรมรถยนต์ของสหรัฐ ระบุว่าก่อนหน้านี้ก็ไม่ได้ลงโฆษณากับ Twitter อยู่แล้ว จึงไม่มีการปรับเปลี่ยนแผนใดๆ หลัง Elon Musk ซื้อกิจการสำเร็จ

ที่มา – CNBC

No Description

from:https://www.blognone.com/node/131215

กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ เลือก GM มาช่วยพัฒนายานยนต์ไฟฟ้าของกองทัพ

กระทรวงกลาโหมของสหรัฐอเมริกาได้ดำเนินการคัดเลือกหาคู่สัญญาเพื่อนำเอาเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้ามาใช้กับยานยนต์ของกองทัพ โดยตัดสินใจเลือก GM Defense ซึ่งเป็นฝ่ายธุรกิจรถยนต์เพื่อการทหารของ GM ให้เป็นผู้รับผิดชอบงานดังกล่าว

GM Defense จะทำงานร่วมกับ Defense Innovation Unit (DIU) หน่วยงานพัฒนางานนวัตกรรมของกระทรวงกลาโหม ทำการวิเคราะห์และทดสอบเทคโนโลยี Ultium ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการออกแบบระบบแบตเตอรี่ของ GM เพื่อใช้งานกับยานยนต์ไฟฟ้าในกองทัพ

ทั้งนี้ GM Defense เป็นผู้ผลิตรถยนต์ให้กองทัพของสหรัฐอเมริกามาอย่างยาวนาน และปัจจุบันกองทัพของสหรัฐก็มีการใช้งานรถยนต์ Infantry Squad Vehicle (ISV) ซึ่งเป็นรถเคลื่อนย้ายกำลังพลทหารราบที่ใช้พลังงานไฟฟ้าอยู่ก่อนแล้ว การทำข้อตกลงร่วมกันในครั้งนี้เป็นการขยายการใช้งานเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้ากับยานพาหนะชนิดอื่นของกองทัพด้วย

No Descriptionรถ ISV ของ GM Defense

โครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งของกระทรวงกลาโหมที่ต้องการปรับปรุงการทำงานของหน่วยงานและเทคโนโลยีอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อช่วยลดการเปลี่ยนแปลงของสภาวะอากาศ โดยมีการวางแผนการทำงานของระดับกระทรวงเอง รวมทั้งแผนงานของกองทัพบก, กองทัพเรือ และกองทัพอากาศ เพื่อดำเนินการในเรื่องนี้หลายโครงการ เช่น การใช้พลังงานหมุนเวียน, การออกแบบอาคารที่ลดการใช้พลังงาน, การปรับปรุงเครื่องยนต์ของพาหนะให้ใช้เชื้อเพลิงอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น, การทำแนวป้องกันน้ำทะเลหนุนท่วมพื้นที่ชายฝั่ง เป็นต้น

สำหรับ Ultium นั้นเป็นแพลตฟอร์มพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าที่เน้นความยืดหยุ่นสำหรับการออกแบบชุดแบตเตอรี่ให้กับรถยนต์ได้หลายหลายประเภท การใช้แพลตฟอร์มนี้สามารถออกแบบชุดแบตเตอรี่เรียงกันในแนวราบเพื่อใช้งานได้กับรถนั่งทั่วไป หรือจะออกแบบชุดแบตเตอรี่ให้วางซ้อนกันเพื่อเพิ่มความจุไฟฟ้าสำหรบรถยนต์ที่ใช้งานหนักก็ได้

ที่มา – Electrek

Topics: 

from:https://www.blognone.com/node/130861

Cruise อัปเดทซอฟต์แวร์ไร้คนขับใหม่ หลังแท็กซี่ไร้คนขับเกิดอุบัติเหตุรถชน

ในรายงานของหน่วยงานด้านความปลอดภัยทางจราจรบนถนนหลวงแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา (NHTSA) ระบุว่า Cruise บริษัทรถยนต์ไร้คนขับในเครือ General Motors ได้อัปเดทซอร์ฟแวร์ระบบขับขี่อัติโนมัติหรือ ADS ใหม่ หลังรถแท็กซี่ไร้คนขับเกิดอุบัติเหตุรถชนในซานฟรานซิสโกเมื่อเดือนมิถุนายน

อุบัติเหตุเกิดขึ้นเมื่อรถแท็กซี่ไร้คนขับของ Cruise เลี้ยวซ้ายตรงที่สัญญาณไฟจราจรไม่มีลูกศรสีเขียวชี้ทิศทาง ทำให้ระบบ ADS คาดเดาผิดว่ารถยนต์คันอื่นจะมุ่งตรงไปทางทิศทางใด จึงชนเข้ากับรถยนต์ที่วิ่งมาด้วยความเร็ว 40 ไมล์ต่อชั่วโมงในพื้นที่ที่จำกัดความเร็ว 25 ไมล์ต่อชั่วโมง

Cruise ยังคงต้องแก้ไขระบบขับขี่อัติโนมัติด้วยหลังจากรถยนต์ไร้คนขับเป็นสิบคันจอดที่ทางแยกเดียวกันจนบริษัทต้องส่งพนักงานไปนำรถกลับ

ที่มา: Bloomberg

Topics: 

from:https://www.blognone.com/node/130184

GM และ Honda ร่วมมือพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าราคาคุ้มค่า

General Motors หรือ GM ประกาศความร่วมมือกับ Honda เพื่อพัฒนารถยนต์ไฟฟ้า 100% เป็นรถยนต์แบบ SUV ใช้แบตเตอรี่เทคโนโลยีใหม่ Ultium คาดว่าจะเริ่มจำหน่ายในตลาดอเมริกาเหนือภายในปี 2027

อย่างไรก็ตามรถยนต์ไฟฟ้า 100% รุ่นดังกล่าวยังไม่เปิดเผยราคา แต่ GM ระบุว่า จะถูกกว่า Chevrolet Equinox EV ที่กำลังจะเปิดตัว (ราคาประมาณการ 30,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 1 ล้านบาท)

ไม่ใช่ครั้งแรกที่ GM และ Honda ทำธุรกิจร่วมกัน เพราะเมื่อปี 2013 ทั้งคู่เคยพัฒนาเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้าแบบ Fuel Cell และปี 2018 ร่วมกันพัฒนาแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า 100% เทคโนโลยีใหม่

ปัจจุบัน Honda มีแผนพัฒนา และผลิตรถยนต์ไฟฟ้าด้วยตัวเองก่อนสิ้นปี 2030 ส่วน GM อยู่ระหว่างเดินหน้าแผนเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้า 100% อีก 30 รุ่น ภายในปี 2025

อ้างอิง // Japan Today, GM

alt="GMHonda"

Topics: 

from:https://www.blognone.com/node/127963

รถไฟฟ้า Cadillac Lyriq มาพร้อม Android Automotive บนหน้าจอแนวนอน จองเต็มใน 19 นาที

General Motors เปิดจองรถยนต์ไฟฟ้า Cadillac Lyriq รุ่น Debut Edition เมื่อวานนี้ และมีผู้จองจนเต็มภายใน 19 นาที ก่อนเตรียมจัดส่งภายในไตรมาสที่สองของปี 2022

Cadillac Lyriq รุ่น Debut Edition มาพร้อม Android Automotive มี Google Assistant และ Play Store บนหน้าจอสัมผัสแนวนอนขนาด 33 นิ้ว ใช้แบตเตอรี่ 100.4 kWh ระยะทำการโดยประมาณราว 480 กิโลเมตร (ยังไม่มีระยะเป็นทางการจากหน่วยงานสิ่งแวดล้อม EPA ของสหรัฐ)

No Descriptionภาพจาก Cadillac

อย่างไรก็ตาม ค่าธรรมเนียมการจอง Cadillac Lyriq อยู่ที่ 100 ดอลลาร์สหรัฐฯ และผู้จองสามารถขอเงินคืนได้หากยกเลิกการจอง รวมถึง Cadillac ไม่เปิดเผยว่าจำนวนรถ Lyriq รุ่น Debut Edition ที่เปิดให้จอง มีจำนวนเท่าไร แต่เว็บไซต์ Electrek อ้างอิงข้อมูลจากดีลเลอร์ไม่เปิดเผยที่มารายหนึ่งว่ารถที่เปิดจองมีจำนวนราว 1,500 คัน

เทียบกับรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นอื่น เช่น Ford F-150 และ Tesla Cybertruck ที่มีนโยบายจองด้วยเงิน 100 ดอลลาร์เช่นกัน ทั้งสองรุ่นมียอดจองเกิน 40,000 คันภายในสองวัน ซึ่งหาก Cadillac Lyriq รุ่น Debut Edition มีจำนวนเปิดจองแค่ 1,500 คันจริง ยอดที่ถูกจองเต็มใน 19 นาที ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกเท่าไร จากความต้องการรถยนต์ไฟฟ้าที่ค่อนข้างสูงในปัจจุบัน

No Descriptionภาพจาก Cadillac

ที่มา – 9to5Google

from:https://www.blognone.com/node/124861