คลังเก็บป้ายกำกับ: BUTTON

งานเข้า Amazon ปุ่ม Dash ผิดกฏหมายในเยอรมนี

อาจเป็นก้างชิ้นใหญ่ที่ทำให้เจ้าพ่ออีคอมเมิร์ซอย่าง Amazon ต้องเปลี่ยนแปลงจึงจะสามารถขยายอาณาจักรได้อย่างที่หวัง เนื่องจากปุ่ม Dash ของ Amazon นั้นถูกตัดสินว่าผิดกฎหมายในประเทศเยอรมนีเสียแล้ว

ศาลระดับภูมิภาคเมืองมิวนิก ประกาศรายละเอียดคำตัดสินว่าปุ่มกด Dash ของ Amazon นั้นละเมิดกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภค เนื่องจากผู้ซื้อจะไม่เห็นข้อมูลราคาเมื่อกดซื้อ ทำให้ปุ่ม Dash เป็นสิ่งผิดกฎหมายภายใต้กฎหมายของเยอรมัน

Dash ส่งปัญหาใหญ่

หลักการทำงานของปุ่ม Dash ของ Amazon คือการเป็นฮาร์ดแวร์ไร้สายขนาดเล็กที่มีปุ่มเดียว ให้บริการเฉพาะสมาชิก Amazon Prime เมื่อกดปุ่มนี้ ระบบจะเริ่มการสั่งซื้อผลิตภัณฑ์โดยอัตโนมัติและเรียกเก็บเงินไปยังบัญชี Amazon ของผู้ใช้

จุดที่ทำให้ปุ่ม Dash มีปัญหาคือการแสดงเฉพาะโลโก้ หรือสัญลักษณ์ของสินค้าเพื่อสั่งซื้อ เช่น ยี่ห้อกระดาษชำระ หรือกาแฟ แน่นอนว่าปุ่ม Dash ไม่มีหน้าจอแสดงราคาปัจจุบันที่ Amazon เรียกเก็บเงินจากลูกค้า ทำให้ละเมิดกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภคของเยอรมนี เนื่องจากผู้ซื้อไม่ทราบจำนวนเงินที่ต้องจ่ายเป็นค่าสินค้าเมื่อสั่งซื้อ

ในฐานะหัวหน้าแผนกคุ้มครองผู้บริโภคของเยอรมนี Wolfgang Schuldzinski กล่าวเมื่อวันพฤหัสบดีว่าเยอรมนีเปิดรับนวัตกรรมเสมอ แต่ถ้านวัตกรรมนั้นทำให้ผู้บริโภคเสียเปรียบ หรือการเปรียบเทียบราคาทำได้ยาก กฏหมายนี้ก็จะต่อสู้กับปัญหาที่เกิดขึ้น

โฆษก Amazon ระบุว่าจุดยืนของบริษัทในขณะนี้คือการอุทธรณ์การพิจารณาคดีในศาล โดยมองว่าการพิจารณาคดีที่เกิดขึ้นไม่เพียงเป็นการขัดขวางการพัฒนานวัตกรรมเท่านั้น แต่ยังหยุดไม่ให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่ดีจากปุ่ม Dash ซึ่งทำให้การช็อปปิ้งสะดวกสบายมากสำหรับแม่บ้านหรือผู้ที่ต้องการสินค้านั้นในทันที

ปุ่ม Dash ขนาดนิ้วหัวแม่มือนั้นมีให้บริการตั้งแต่ปี 2558 ซึ่งขณะนี้มีหลายแบรนด์ร่วมให้บริการผ่านหลายประเทศ

ที่มา: : FastCompany

 
Source: thumbsup

from:https://thumbsup.in.th/2019/01/amazons-dash-button/

เหตุที่ทำให้ Pinterest ตัดสินใจทิ้งปุ่ม Like

Pinterest ประกาศชัดเจนว่าจะ “เกษียณ” ปุ่มชื่นชอบหรือปุ่ม Like ก่อนกำหนดในช่วงไม่กี่สัปดาห์นับจากนี้ โดยยกผลการสำรวจภายในมาเป็นเหตุผลหลักในการตัดสินใจครั้งนี้ นั่นคือผู้ใช้ส่วนใหญ่ที่รู้สึกว่าเข้าใจการทำงานของ Pinterest ได้ดีขึ้นเมื่อไม่มีปุ่ม Like นี้

รายละเอียดการเกษียนของปุ่ม Like บน Pinterest ถูกประกาศไว้บน blog post ของบริษัท เนื่องจาก Pinterest มีทั้งปุ่ม Save และปุ่ม Like ทำให้ผู้ใช้สับสนเมื่อเปิดย้อนกลับมาดูหมุดที่ปักไว้ อย่างไรก็ตาม โพสต์ที่ถูกไลค์ไปแล้วจะไม่มีการยกเลิกเปลี่ยนแปลง แต่ Pinterest จะยกลิงก์ที่ถูกกดไลต์ไปที่กระดานส่วนตัวบนโปรไฟล์ของผู้ใช้แต่ละคน ซึ่งจะสามารถชมได้ผ่านส่วนที่เรียกว่า “Your Pinterest Likes” พื้นที่ส่วนนี้จะแสดงหมุดที่ผู้ใช้เคยคลิกชื่นชอบมาก่อน

ประเด็นนี้ทำให้ Pinterest ผลักดันให้ผู้ใช้หันไปโฟกัสที่ปุ่ม Save แทน เมื่อกดปุ่มนี้ ผู้ใช้จะสามารถกลับมาชมเพจที่สนใจได้โดยไม่ต้องงงว่าควรจะคลิกที่ Save หรือ Like ดังนั้นการตัดปุ่มออกไป 1 ปุ่มจึงมอบความชัดเจนให้กับผู้ใช้ได้ดีกว่า

เบื้องต้น สำนักข่าว Recode วิเคราะห์ว่าความเคลื่อนไหวนี้เป็นส่วนหนึ่งของการผลักดันให้ Pinterest มีความแตกต่างจากเครือข่ายสังคมอื่นเช่น Facebook หรือ Instagram อย่างไรก็ตาม Pinterest ไม่ได้ยอมรับคำวิเคราะห์นี้ทั้งหมด โดยแบ่งรับแบ่งสู้ว่าแม้วันนี้เครือข่ายสังคมหลายแห่งจะพยายามพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อให้ผู้ใช้มีชีวิตอยู่บนโลกเสมือน แต่ Pinterest ต้องการให้ผู้ใช้มีชีวิตบนโลกแห่งความจริง

“ดังนั้นในขณะที่หลายบริการเน้นให้ผู้ใช้สามารถเชื่อมต่อและส่งข้อมูลถึงเพื่อน เราจึงพยายามเป็นแอปพลิเคชันที่ช่วยเรื่องการค้นพบธุรกิจบนโลกเสมือน” จุดยืนนี้ถือว่าชัดเจน และสร้างความประทับใจให้กับนักการตลาดไม่น้อย

ที่มา: MarketingDive

 
Source: thumbsup

from:http://thumbsup.in.th/2017/04/pinterest-like-button/

Gold Button 32 ช่องบน YouTube มีใครบ้าง ไปดูกัน

 นอกจากการประกาศรางวัล AdLeader ที่สร้างความฮือฮาไปแล้ว YouTube Thailand ยังมอบรางวัล Gold Button สำหรับช่องบน YouTube ที่มีผู้ติดตามมากกว่า 1 ล้านคน จำนวน 32 ช่อง ในงาน YouTube Summit ที่จัดขึ้นเป็นครั้งแรกของประเทศไทยอีกด้วย 

สำหรับรางวัล Play Buttons เป็นรางวัลที่แสดงถึงความสำเร็จของเหล่าครีเอเตอร์บน YouTube ในฐานะที่เป็นช่องที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่ Silver Play Button สำหรับช่องที่มีผู้ติดตาม 100,000 คนขึ้นไป Gold Button เป็นรางวัลที่มอบให้กับช่องที่มีผู้ติดตามตั้งแต่ 1,000,000 คน และ Diamond Play Button รางวัลสูงสุดที่จะได้รับเมื่อมีผู้ติดตามถึง 10 ล้านคนนั่นเอง โดยรายชื่อช่องที่ได้รับรางวัล Gold Button มีดังต่อไปนี้

1. B-Star Music     (ผู้ติดตาม: 1,260,972)

2. Ch3 Soundtrack Official เพลงละครช่อง 3      (ผู้ติดตาม: 1,472,297)

3. CH7 (ผู้ติดตาม: 1,335,444)

4. Dek Jew Chill Out (ผู้ติดตาม: 1,079,793)

5. FoodTravelTVChannel (ผู้ติดตาม: 1,257,006)

6. GMM25Thailand (ผู้ติดตาม: 1,707,270)

7. GMMTV (ผู้ติดตาม: 1,398,020)

8. HeHaa TV (ผู้ติดตาม: 1,047,614)

9. Illslick thelegandary (ผู้ติดตาม: 1,036,954)

10. JSL Global Media (ผู้ติดตาม: 1,032,798)

11. KNCraZy (ผู้ติดตาม: 1,098,766)

12. KNN | kanninich (ผู้ติดตาม: 1,454,162)

13. Maser Gamer (ผู้ติดตาม: 1,318,603)

14. My Mate Nate (ผู้ติดตาม: 2,214,577)

15. OfficialWhiteMusic (ผู้ติดตาม: 1,273,891)

16. SmallroomOfficial (ผู้ติดตาม: 1,058,343)

17. Softpomz (ผู้ติดตาม: 1,469,408)

18. SoftpomzChannel (ผู้ติดตาม: 1,174,795)

19. tackle4826] – Tackle Minecraft (ผู้ติดตาม: 1,064,737)

20. TeamGarryMovieThai (ผู้ติดตาม: 1,381,673)

21. Thaich2 (ผู้ติดตาม: 1,165,481)

22. ThaiCh8 : ช่อง 8 (ผู้ติดตาม: 1,427,724)

23. thairath (ผู้ติดตาม: 1,137,765)

24. TMG Record Channel (ผู้ติดตาม: 1,137,758)

25. TOPLINE Music Official (ผู้ติดตาม: 1,397,488)

26. Werkgang (ผู้ติดตาม: 1,072,054)

27. Xcrosz (ผู้ติดตาม: 1,155,785)

28. zbing z. (ผู้ติดตาม: 2,842,046)

29. เรื่องเล่าเช้านี้ บีอีซี-เทโร (ผู้ติดตาม: 1,152,419)

30. SkizzTV (ผู้ติดตาม: 2,262,585)

31. Grammy Gold Official (ผู้ติดตาม: 2,368,951)

32. TAE EXZENFIRE (ผู้ติดตาม: 1,244,865)

ด้าน มร. เบน คิง หัวหน้าฝ่ายธุรกิจ Google Thailand กล่าวว่า “ผมขอแสดงความยินดีกับทั้ง 32 ช่องที่ได้รับรางวัล Gold Button รางวัลนี้เป็นเครื่องพิสูจน์ความสามารถของเหล่าครีเอเตอร์คนไทยที่มุ่งมั่นและทุ่มเทสร้างสรรค์ผลงาน เราหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะได้เห็นความสำเร็จอีกขั้นของพวกคุณในอนาคต”

ทั้งนี้จากสถิติพบว่า ประเทศไทยติด 1 ใน 10 ของประเทศที่มียอดเวลาชมบน YouTube สูงที่สุดในโลก ทั้งยังมีชุมชนครีเอเตอร์ที่แข็งแกร่งและมีประสิทธิภาพ ซึ่งทำให้ขณะนี้ประเทศไทยมีจำนวนช่องที่ได้รับรางวัล Gold Button (ช่องที่มีผู้ติดตามมากกว่า 1 ล้าน) มากถึง 51 ช่อง และมีช่องที่ได้รับรางวัล Silver Button (ช่องที่มีผู้ติดตามมากกว่า 100,000) มากกว่า 600 ช่อง

 
Source: thumbsup

from:http://thumbsup.in.th/2017/03/gold-button-youtube-summit-thailand/

Amazon ส่งปุ่ม Dash บุกตลาดอังกฤษแล้ว

dashbutton2-20160831070754466

ปุ่มอัจฉริยะ Amazon Dash ได้ฤกษ์ลงตลาดอังกฤษแล้ว โดยเป็นการจับมือกับแบรนด์ยักษ์ใหญ่ทั้ง Nestle – P&G ให้ผู้บริโภคสามารถสั่งซื้อสินค้าได้ง่ายเพียงปลายนิ้วกด

สำหรับใครที่ยังจำได้ดี Amazon เปิดตัวปุ่ม Dash ในวันที่ 1 เมษายน จนทำให้หลายคนเข้าใจว่าเป็นการล้อเล่นในวัน April’s Fool Day แต่ที่ไหนได้ ตอนนี้ปุ่มดังกล่าวกลายเป็นเครื่องมือในการแทรกซึมธุรกิจของ Amazon ไปยังตลาดต่าง ๆ ทั่วโลกได้อย่างแข็งแกร่ง และล่าสุดก็เป็นตลาดของอังกฤษ กับการจับมือกับบริษัทยักษ์ใหญ่ 48 ราย เพื่อให้ผู้บริโภคในอังกฤษสามารถกดสั่งซื้อสินค้าได้โดยตรง

โดยการทำงานของปุ่มดังกล่าวในตลาดสหรัฐอเมริกา จะมียี่ห้อของสินค้าปรากฏอยู่ และปุ่มจะทำงานได้ต้องเชื่อมต่อกับเครือข่าย Wi-Fi ซึ่งเมื่อกดปุ่ม คำสั่งซื้อสินค้าชนิดนั้น ๆ จะส่งตรงไปยังผู้จัดจำหน่าย และในอีกวันต่อมา สินค้านั้นก็จะถูกส่งมาให้ถึงบ้าน ซึ่งเรียกว่าอำนวยความสะดวกกันสุด ๆ

สำหรับในอังกฤษนั้น Amazon จะขายปุ่ม Dash ชิ้นละ 4.99 ปอนด์ แต่เมื่อมีการซื้อปุ่ม 1 ชิ้น Amazon ก็จะให้ส่วนลด 4.99 ปอนด์สำหรับการซื้อครั้งต่อไปมาให้ทันที ซึ่งอาจจะมองว่าแจกฟรีก็คงได้

ในมุมมองของนักการตลาด ข้อจำกัดของปุ่ม Dash อาจมีเพียงอย่างเดียว ก็คือ ปุ่มหนึ่งปุ่มรองรับการสั่งซื้อสินค้าได้เพียง 1 ชนิดเท่านั้น ไม่สามารถใช้ปุ่ม ๆ เดียว สั่งซื้อสินค้าหลาย ๆ อย่างได้ในคราวเดียวกัน

ส่วนพาร์ทเนอร์ของ Amazon ในครั้งนี้ก็มีมากมายถึง 48 แบรนด์ รวมถึงยักษ์ใหญ่อย่าง  Nestlé, P&G, Reckitt Benckiser, Kimberly-Clark และ Mars ด้วย ทำให้สินค้าที่รองรับการสั่งซื้อผ่านปุ่ม Dash นั้นมีแทบทุกตลาด ทั้งของเล่นเด็ก ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดบ้าน เครื่องดื่ม อาหารสัตว์ เครื่องสำอาง และด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยี Internet of Things ทาง Amazon ได้พัฒนาปุ่ม Dash ให้เป็นได้มากกว่าปุ่มกดเพื่อสั่งซื้อสินค้าแล้ว โดยทางแบรนด์ต่าง ๆ สามารถใส่คำสั่งที่ต้องการลงในปุ่มได้ด้วยตัวเอง ซึ่งมีแบรนด์ที่ใช้ความสามารถดังกล่าวนี้แล้วมากมาย เช่น  Bosch, Siemens, Samsung และ Whirlpool

อย่างไรก็ดี ตัวเลขจากวอลล์สตรีทเจอร์นัล เผยว่า มีผู้บริโภคในสหรัฐอเมริกาไม่ถึงครึ่งที่ซื้อปุ่ม Dash ไปและได้ใช้งานมันจริง ๆ

ที่มา Campaignlive

 
Source: thumbsup

from:http://thumbsup.in.th/2016/09/amazon-dash-arrives-uk/

Facebook เปลี่ยน Design ปุ่ม Like ใหม่ ไร้โลโก้ F

facebook-like-button-redesign

ปุ่มที่เราคุ้นเคยอย่างปุ่ม Like ที่เราเอาไว้ใช้กดเพื่อถูกใจบทความและสามารถแชร์ลง Facebook ของตัวเองได้ และคงคุ้นชินกับหน้าตาของมันไปแล้วว่าเป็นอย่างไรเมื่อเวลาแสดงผล แต่ตอนนี้รูปแบบปุ่มกำลังจะเปลี่ยนไปอีกครั้ง เมื่อโลโก F จะถูกถอดออกแล้วแทนด้วยสัญลักษณ์ Like

การเปลี่ยนครั้งนี้มีเหตุผลเบื้องหล้งอยู่หลายอย่างคือ การเอาสัญลักษณ์ F ออกไปจากปุ่มเหมือนเป็นการประกาศตัวอย่างชัดเจนว่า ปุ่ม Like คือของ Facebook แบบไม่ต้องสงสัยอีกต่อไป และการเอาโลโก้ออกช่วยให้คนเข้าใจว่าเป็น unbranded ซึ่งจากการทดสอบของ Facebook เองก็พบว่าด้วย Design ใหม่ของปุ่มช่วยเพิ่ม Engagement สำหรับการกด Like ถึง 6%

และถ้าดู Line Up ของปุ่มแล้ว เราจะเห็นว่าการเปลี่ยนมีเฉพาะแค่ปุ่ม Like ปุ่มเดียว และปุ่มทั้งหมดถูกออกแบบให้ Clean ขึ้น

new-button-design-facebook

และสำหรับ Instant Article ที่ใครหลายคนเริ่มถอดใจกับ Traffic ที่หายไปบ้างหลังจากการเอามาใช้ ก็จะมีการเปลี่ยนแปลงคือ จะมีการเพิ่มปุ่ม Like, Comment, Share ไว้ภายในนั้นได้ด้วย

การเปลี่ยนแปลงทั้งหมดเริ่มแล้ว ปุ่มบนหน้าเว็บของเราก็เปลี่ยนแล้วเช่นกันครับ แต่อาจจะต้องดูเรื่องขนาดของปุ่มเพื่อความเหมาะสมในการแสดงผลกันใหม่ด้วยนะครับ

ที่มา: Facebook for Developers

 
Source: thumbsup

from:http://thumbsup.in.th/2016/06/facebook-new-like-button-design/

Twitter เตรียมเพิ่มปุ่ม GIF ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้

จากรายงานล่าสุดนั้นพบว่าทาง Twitter น่าจะเตรียมปล่อยฟีเจอร์ใหม่เพิ่มเข้ามาอีกในไม่ช้านี้ครับ โดยฟีเจอร์ที่ว่านี้จะเป็นการเพิ่มปุ่ม GIF เข้ามาให้ผู้ใช้อย่างเราๆได้ใช้กัน โดยล่าสุดนั้นพบว่ามีผู้ใช้หลายๆรายได้รับเลือกให้ทดลองใช้เจ้าปุ่มดังกล่าวนี้ ก่อนที่ภายหลังทางทีมงานได้ทำการถอนมันออกไปครับ

 

 

สำหรับปุ่ม GIF ที่ว่านี้ การใช้งานมันก็จะคล้ายๆกับฟีเจอร์ GIF บน Facebook นั่นเองครับ ไม่ได้แตกต่างกันเลย โดยเมื่อผู้ใช้กดไปที่ปุ่ม GIF มันก็จะมีเหล่าบรรดาภาพ GIF ต่างๆมาให้เราเลือกใช้งาน พูดง่ายๆว่ามันเป็นฟีเจอร์ที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้ ตอบสนองความต้องการของตลาดปัจจุบันนั่นเอง

อย่างไรก็ตามตอนนี้ทาง Twitter ยังไม่ได้ออกมาเปิดเผยรายละเอียดในส่วนนี้มากนัก ซึ่งงานนี้คงต้องรอดูต่อไปอีกตามเคย หากมีความคืบหน้าออกมาแล้วทางเราจะรีบนำมาแจ้งให้ทราบอีกทีครับ

 

 

from:https://www.appdisqus.com/2016/02/05/twitter-might-be-adding-a-dedicated-gif-button-very-soon.html

Best Buy, Adidas ลุยลงโฆษณาพร้อมปุ่ม ‘Buy’ บน Twitter

twitter-buy-cash-hed-2015
เรียกว่าเป็นสัญญาณการต่อยอดของ Twitter ที่สามารถขยายฐานบริการปุ่ม ‘Buy’ ได้ทันเวลาก่อนเทศกาลจับจ่ายปลายปี โดยแบรนด์ค้าปลีกอย่าง Best Buy และแบรนด์อุปกรณ์กีฬาอย่าง Adidas เดินหน้าลุยธุรกิจขายสินค้าบน Twitter อย่างจริงจังแล้ว

ข่าวดีนี้ของ Twitter เกิดขึ้นหลังจากที่นักวิเคราะห์ใน Wall Street แสดงความกังวลว่าเจ้าพ่อโซเชียลข้อความสั้นอาจจะไม่สามารถเพิ่มจำนวนผู้ใช้และรายได้เลี้ยงธุรกิจได้เหมือนเครือข่ายอื่น โดยสิ่งที่เกิดขึ้นสะท้อนว่า Twitter กำลังมีโอกาสทองในช่วงเทศกาลจับจ่ายปลายปีนี้ จากการขยายบริการ social-commerce ด้วยปุ่ม “Buy”

นักวิเคราะห์เชื่อว่า Twitter เร่งมือขยายบริการ social-commerce นี้มาก โดยช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมา Twitter เพิ่งประกาศเซ็นสัญญากับบริษัทรับชำระเงินดิจิทัลอย่าง Stripe เพื่อให้บริการ mobile commerce สำหรับแบรนด์อเมริกันอย่าง Warby Parker และ Saks Fifth Avenue เท่ากับขณะนี้ บริการรับชำระเงินที่ Twitter รองรับนั้นมีทั้ง Shopify, Bigcommerce และ Demandware ซึ่งพร้อมจะหนุนปุ่ม shopping บน Twitter อย่างเต็มตัว

สิ่งที่สามารถสรุปได้ในขณะนี้ คือชาว Twitter ในสหรัฐฯอาจจะได้เห็นข้อความทวีตประเภท shopping-enabled tweet มากขึ้นในช่วงหลายสัปดาห์ต่อจากนี้ เนื่องจากเหล่าผู้ค้าปลีกแดนลุงแซมต้องการผลักดันยอดจำหน่ายช่วงเทศกาลปลายปีให้เต็มที่

กรณีของ Best Buy รายงานระบุว่าเจ้าพ่อค้าปลีกอเมริกันจะลุยจำหน่ายสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ผ่านข้อความ tweet โดยตรงอย่างจริงจังในอนาคต ทั้งหมดนี้สะท้อนภาพว่า Twitter อาจกลายเป็น shopping platform ดาวรุ่งอีกหนึ่งช่องทาง

ก่อนหน้านี้ Nike, Target และ HBO นั้นประกาศให้บริการพร้อมปุ่ม Buy นี้ในช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา โดยมีการตั้งเพจสำหรับแสดงและขายสินค้า (e-commerce landing pages) เบื้องต้นยังไม่มีรายงานผลตอบรับว่าชาว Twitter สนใจซื้อสินค้าผ่านข้อความทวีตมากน้อยเพียงใด

twitter-ad-the-martian

ที่มา : Adweek

from:http://thumbsup.in.th/2015/10/best-buy-adidas-twitter-buy-button/

Google เปิดตัวปุ่มซื้อสินค้าบนโฆษณาใน Search Engine

Screen Shot 2015-07-16 at 6.48.22 AM
หลังจากมีข่าวลือมานาน ล่าสุดเสิร์ชเอนจิ้นอันดับ 1 ของโลกอย่าง Google ประกาศเปิดตัวปุ่มซื้อสินค้าบนโฆษณาเพื่อให้ผู้ใช้บนอุปกรณ์พกพาสามารถใช้จ่ายสะดวกสบายได้เมื่อค้นหาข้อมูลบนบริการ Google search โดยกำหนดให้ผู้ใช้สามารถจ่ายเงินผ่านข้อมูลที่ผูกกับบัญชี Google account ของแต่ละคนได้

Google ระบุว่าจะพร้อมให้บริการนี้แก่ผู้ใช้ช่วง 2-3 สัปดาห์นับจากนี้ผ่านพันธมิตรผู้ค้าในสหรัฐฯ จำนวนหลักสิบราย โดยในบริการ Google search จะเริ่มแสดงโฆษณารูปแบบใหม่ที่มีปุ่ม “buy button” ของพันธมิตรเหล่านี้ภายในปลายเดือนกรกฎาคม ซึ่งจะชิมลางบริการในสหรัฐฯก่อนเท่านั้น

ปุ่มซื้อสินค้าบนโฆษณานี้ถูกตั้งชื่อเป็นคุณสมบัติใหม่ว่า “Purchases on Google” นอกจากคุณสมบัตินี้ Google ยังเปิดตัวคุณสมบัติใหม่อื่นๆควบคู่ไปด้วย เช่น การเพิ่มข้อมูลเวลาลดราคาสินค้าในผลลัพท์การค้นหาสินค้ากับ Google รวมถึงบริการชำระเงินดิจิทัลใหม่ที่ Google กำลังมีแผนจะเปิดตัวในเร็ววันนี้

บริการชำระเงินดิจิทัลของ Google ถูกตั้งชื่อว่า Android Pay จุดนี้ Google ให้ข้อมูลว่าผู้ใช้สามารถใช้บริการ Android Pay เพื่อชำระค่าซื้อสินค้าและบริการทั้งในแอพพลิเคชันและร้านค้า (in-app purchases และ in-store shopping)

Screen Shot 2015-07-16 at 6.49.14 AM

การเปิดตัวครั้งนี้ได้รับเสียงตอบรับในแง่บวก โดยเฉพาะการทำงานร่วมกับบริการ Android Pay เชื่อว่าจะผลักดันให้การจับจ่ายสินค้าบนอุปกรณ์พกพาแพร่หลายยิ่งขึ้นด้วยการลดขั้นตอนและบริการที่เกี่ยวข้องให้น้อยลง ความง่ายและสะดวกนี้เองที่จะช่วยให้ผู้บริโภคหันมาซื้อสินค้าบนอุปกรณ์พกพา

ที่มา : Google

from:http://thumbsup.in.th/2015/07/google-retail-buy-button/

Foursquare ลุยโมบายคอมเมิร์ซ ประเดิม Uber ให้ผู้ใช้เรียกรถผ่านแอป

screenshot-2015-06-01-08-25-46

Foursquare จับมือ Uber ผ่านแพลตฟอร์มของบริษัทดาวรุ่ง Button พร้อมให้ผู้ใช้ Foursquare สามารถเรียกรถแท็กซี่ไฮโซ Uber ได้ด้วยการกดปุ่มบนแอป Foursquare ถือเป็นการจุดพลุพร้อมลุยตลาดโมบายคอมเมิร์ซอย่างจริงจังของ Foursquare ที่น่าจับตา

Foursquare ชี้แจงแนวคิดการเป็นพันธมิตรกับ Uber ในครั้งนี้ว่าเพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้สามารถเดินทางไปยังจุดหมายที่พบใน Foursquare ได้ง่ายขึ้น ตัวอย่างเช่นเมื่อชาว Foursquare เห็นร้านอาหารหรือสถานที่น่าสนใจในแอพ ก็จะสามารถวางแผนการเดินทางได้ทันใจเพียงคลิกเรียกแท็กซี่ของ Uber

จุดเด่นของความร่วมมือนี้ คือการเข้าถึงผู้ใช้ที่ไม่มีแอพพลิเคชัน Uber ในเครื่อง โดยจะสามารถดึงผู้ใช้ Foursquare ให้หันมาโหลดแอพ Uber ด้วยการให้ส่วนลดจากการใช้บริการครั้งแรกหากใช้รหัส promo code “FOURSQUARE” สำหรับผู้ที่เป็นลูกค้า Uber และติดตั้งแอพพลิเคชันไว้แล้ว ก็จะสามารถเลือกรูปแบบรถแท็กซี่ที่ต้องการได้เลย

Foursquare-1200x757

ความน่าสนใจอีกจุดของดีลนี้คือแพลตฟอร์ม DeepLink Commerce ของบริษัท Button สตาร์ทอัปซึ่งสร้างสรรค์ระบบ DeepLink Commerce เพื่อเชื่อมการทำงานของหลายแอพพลิเคชันบนสมาร์ทโฟนให้เป็นเนื้อเดียวกัน จุดนี้รายงานระบุว่าการเชื่อมแอพบน DeepLink สามารถทำได้บนแอพพลิเคชันจำนวนหลักร้อยทีเดียว

แพลตฟอร์มของ Button ไม่ได้ทำประโยชน์ให้เจ้าของแอพพลิเคชันเท่านั้น แต่ยังทำให้ผู้ใช้ทั่วไปได้รับความสะดวกด้วย โดยเฉพาะในแง่การไม่พลาดข้อมูลแจ้งเตือนในแอพพลิเคชันหลัก หลังจากที่ผู้ใช้กำลังเปิดแอพพลิเคชันใหม่อยู่

กรณีของ Uber แม้เจ้าพ่อบริการแท็กซี่ไฮโซจะเปิดเสรีให้ผู้สร้างแอพพลิเคชันอื่นนำ API ของ Uber ไปติดตั้งเพื่อพ่วงบริการเข้าด้วยกัน แต่ข้อมูลระบุว่าแพลตฟอร์มของ Button สามารถทำงานได้ง่ายและรวดเร็วกว่า นี่ถือเป็นสัญญาณบอกใบ้เทรนด์ใหม่ว่าตลาดโมบายคอมเมิร์ซจะขยายตัวเพราะ DeepLink แน่นอน

สำหรับ Button สตาร์ทอัปไอเดียแจ่มจะได้รับรายได้จากทุกธุรกรรมที่เกิดบนแพลตฟอร์ม DeepLink Commerce โดย Button เป็นบริษัทที่ได้รับการเพิ่มทุนมูลค่ารวมกว่า 14.3 ล้านเหรียญสหรัฐหลังจากก่อตั้ง

ที่มา : Button

from:http://thumbsup.in.th/2015/06/foursquare-uber-commerce/

ต้นสังกัด Oreo ลุยตลาดอีคอมเมิร์ซด้วยโฆษณาที่คลิกซื้อได้

oreo-ecommerce-hed-2015

โฆษณาขนมที่เราเห็นจนชินตามักจะเน้นสร้างการจดจำแบรนด์เป็นหลัก แต่วันนี้ Mondelez ต้นสังกัดผู้ผลิตและจำหน่ายขนมคุ้กกี้ Oreo ลงมือสร้างโฆษณาที่ผู้ชมจะสามารถคลิกซื้อไปรับประทานได้ทันใจเมื่อเห็นโฆษณา ถือเป็นการเดินเกมในตลาด E-Commerce ของแบรนด์ขนมที่น่าสนใจ

ดูเหมือนว่านาทีนี้จะเป็นยุคทองของปุ่ม ‘Buy Now’ บนโฆษณา เพราะบริษัทน้อยใหญ่ต่างเพิ่มช่องทางซื้อสินค้าให้ชาวออนไลน์คลิกซื้อสินค้าได้จากโฆษณา บริษัท Mondelez International เจ้าของแบรนด์ Oreo และช็อกโกแล็ต Cadbury รวมถึงหมากฝรั่ง Trident คือบริษัทล่าสุดที่เริ่มเดินเกมในตลาดอีคอมเมิร์ซบ้าง

ก่อนหน้านี้ ต้นสังกัด Oreo ทดสอบโฆษณาที่ผู้ชมสามารถคลิกซื้อได้อย่างเงียบๆที่ยุโรป ล่าสุด Mondelez ต่อยอดธุรกิจด้วยการนำปุ่ม Buy Now ไปแนบกับโฆษณาดิจิทัลที่บริษัททำแคมเปญใน 25 ประเทศ โดยเป็นการร่วมมือกับบริษัทค้าปลีกอย่าง Walmart และ Amazon

ปุ่ม Buy Now ไม่ได้เป็นเพียงกิมมิกที่เอาไว้ประดับเท่านั้น แต่เป้าหมายของความเคลื่อนไหวนี้คือการเพิ่มรายได้ธุรกิจออนไลน์ของ Mondelez อย่างยั่งยืนใน 2 ปีข้างหน้า จุดนี้ Mondelez มั่นใจว่าพฤติกรรมของชาวออนไลน์ที่จะผูกติดกับเครือข่ายสังคมยิ่งขึ้นในเวลานั้นจะช่วยให้การซื้อขายสินค้าออนไลน์เป็นเรื่องแพร่หลาย

ปัจจุบัน ยอดจำหน่ายสินค้าของ Mondelez มากกว่า 90% มาจากร้านค้าปลีก การลงทุนครั้งนี้ของบริษัทจึงถูกจับตาว่าจะเป็นการลงทุนเพื่อทดลอง ให้บริษัทได้ค้นหาโอกาสประสบความสำเร็จในธุรกิจออนไลน์

โอกาสที่ว่านี้มาจากเทคโนโลยีโฆษณาออนไลน์ นักวิเคราะห์เชื่อว่าโฆษณาออนไลน์ปัจจุบันที่รู้ข้อมูลสถานที่พิกัดของผู้บริโภคจะเป็นช่องทางให้เจ้าของสินค้าสามารถทำการตลาดแบบเฉพาะเจาะจงได้ดีขึ้น รวมถึงการดึงผู้บริโภคเข้าสู่เว็บไซต์ของร้านค้าปลีกบริเวณใกล้เคียงที่จะทำให้การซื้อมีโอกาสเกิดขึ้นสูงมาก

ที่มา : Adweek

from:http://thumbsup.in.th/2015/05/mondelez-bets-big-e-commerce-shoppable-ads-and-buy-now-buttons/