คลังเก็บป้ายกำกับ: VMWARE_VREALIZE_OPERATIONS

VMware ออกแพตช์แก้ไขช่องโหว่ให้ vRealize Operation

VMware ได้ออกแพตช์เพื่ออุดช่องโหว่ Server Side Request Forgery (SSRF) ให้แก่ผลิตภัณฑ์ vRealize Operation

Credit: Pavel Ignatov/ShutterStock

CVE-2021-21975 เป็นช่องโหว่ SSRF ที่เกิดขึ้นกับ vRealize Operation Manager API ซึ่งทำให้คนร้ายทางไกลที่ยังไม่ผ่านการพิสูจน์ตัวตนสามารถใช้งานช่องโหว่ได้โดยไม่ต้องมีการปฏิสัมพันธ์จากผู้ใช้งานนำไปสู่การขโมย Credentials ของผู้ดูแลระบบได้  ทั้งนี้ VMware ได้แพตช์ช่องโหว่ไว้ใน 

หากใครยังไม่สะดวกทาง VMware ได้แนะนำวิธีการบรรเทาปัญหาด้วยการลบคอนฟิคในไฟล์ casa-security-context.xml และรีสตาร์ทบริการ (ศึกษาเพิ่มเติมในลิงก์ด้านบน) ในวาระเดียวกันนี้ทาง VMware ยังได้แพตช์ช่องโหว่ CVE-2021-21974 ที่ช่วยให้คนร้ายสามารถลอบเขียนไฟล์ไปยัง OS 

ที่มา : https://www.bleepingcomputer.com/news/security/vmware-fixes-bug-allowing-attackers-to-steal-admin-credentials/

from:https://www.techtalkthai.com/vmware-fixes-vrealize-operation-cve-2021-21975/

VMware ออกอัปเดตให้ CloudHealth และ vRealize ตอบโจทย์ multi-cloud

VMware ได้ประกาศอัปเดตความสามารถใหม่ให้แก่ CloudHealth และ vRealize

Credit: Vmware

CloudHealth เป็นผู้นำเสนอแพลตฟอร์มบริหารจัดการการใช้งาน Multi-cloud ซึ่งถูก VMware เข้าซื้อกิจการมาตั้งแต่ปี 2018 แล้ว (อ่านข่าวย้อนหลังได้ที่ https://www.techtalkthai.com/vmware-acquires-cloudhealth-technologies-enable-multi-cloud-platform/) โดยวันนี้มีการอัปเดตความสามารถเพื่อเติมคือการที่โซลูชัน CloudHealth FlexReports ที่ใช้ประเมินค่าใช้จ่ายให้สามารถเข้าถึง Microsoft Azure Enterprise Agreements (EA) ทำให้ลูกค้าสามารถเลือกออกรายงานได้ทั้ง Azure EA และ AWS

ในส่วนของ vRealize Automation 8.4 ผู้ใช้งานจะสามารถ Provision ได้ทั้ง Azure และ Google Cloud รวมถึง vRealize Automation Cloud จะมีการ Integrate กับ VMware Cloud on AWS เพื่อตั้งค่าทรัพยากรที่จำเป็นได้ นอกจากนี้ยังขยายความสามารถด้าน Network Automation กับ NSX-T ในฝั่งของ vRealize Operations สามารถรองรับการทำงานกับบริการของ AWS ได้มากขึ้นรวมทั้งหมดในปัจจุบันถึง 57 บริการ ส่วนสุดท้าย vRealize Network Insight Cloud สามารถให้ข้อมูลของทั้ง Google Cloud VMware Engine และ Azure VMware Solution นอกจากนี้ยังขยายความสามารถในส่วน Network Visibility บน Cloud on AWS ให้ผู้ใช้งานเห็นถึง infra-SDDC Groups และ AWS Transit Connect traffic flow ได้

ที่มา : https://www.zdnet.com/article/vmware-updates-cloudhealth-vrealize-with-more-support-across-major-clouds/

from:https://www.techtalkthai.com/vmware-updates-cloudhealth-and-vrealize-features/

VMware เผยแผนเข้าซื้อทีม True Visibility Suite จาก Blue Medora เสริมทัพระบบ Self-Driving ใน VMware vRealize Operations

VMware ได้ออกมาเผยถึงแผนการเข้าซื้อ True Visibility Suite Business Unit จาก Blue Medora เพื่อนำทีมงานและเทคโนโลยีมาสเริมให้กับ VMware vRealize Operations สำหรับเติมเต็มภาพของการทำ Self-Driving Operations ในการดูแลรักษาระบบ Data Center และ Cloud

Credit: Blue Medora

หลังจากที่ก่อนหน้านี้ VMware เผยถึงแผนการเข้าซื้อกิจการของ Datrium เพื่อเสริมบริการ DRaaS แล้ว ในครั้งนี้ VMware ก็ได้เตรียมเสริมทัพให้กับ VMware vRealize Operations ด้วยการเข้าซื้อ Business Unit หนึ่งของ Blue Medora เพื่อนำทีมพัฒนาและเทคโนโลยี True Visibility Suite มาเสริมในผลิตภัณฑ์ของตนเอง โดยความสามารถที่โดดเด่นของเทคโนโลยี True Visibility Suite มีดังนี้

  • สามารถตรวจสอบและวิเคราะห์เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นภายในระบบ Data Center และ Hybrid Cloud ได้ โดยมีหน้า Dashboard สำหรับสรุปข้อมูลทั้งหมดที่เกิดขึ้น
  • สามารถค้นหา Application และ Infrastructure ที่ใช้งานอยู่ได้โดยอัตโนมัติอย่างยืดหยุ่น
  • มีข้อมูล Metrics Data สำหรับช่วยในการวิเคราะห์และต่อยอดไปสู่การทำ Automation ได้ในตัว

ก่อนหน้านี้ VMware ได้เป็นพันธมิตรกับ Blue Medora มาเป็นเวลาหลายปี และ VMware เองก็ยังได้เป็น Reseller ให้กับผลิตภัณฑ์ของ Blue Medora ด้วย โดยการผสานรวมเทคโนโลยีระหว่าง VMware และ Blue Medora นี้ก็ได้ช่วยให้โซลูชันโดยรวมนั้นมีความสามารถด้านการทำ Automation ที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น ตอบรับกลยุทธ์ด้าน Self-Driving Operations ได้ดียิ่งขึ้น จนมีลูกค้าองค์กรมากกว่า 400 แห่ง และในที่สุดความสัมพันธ์นี้ก็ได้นำมาสู่การเข้าซื้อกิจการในครั้งนี้

มูลค่าการเข้าซื้อกิจการครั้งนี้ยังไม่เป็นที่เเปิดเผย ผู้ที่สนใจรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ True Visibility Suite สามารถศึกษาข้อมูลได้ที่ https://bluemedora.com/products/vmware-vrealize-true-visibility/

ที่มา: https://www.storagereview.com/news/vmware-to-acquire-true-visibility-suite-team

from:https://www.techtalkthai.com/vmware-to-acquire-true-visibility-suite-business-unit-from-blue-medora/

VMUG Webinar: แม่นยำขึ้น ฉลาดขึ้น ในการตรวจสอบปัญหาและการใช้ทรัพยากรในระบบ VMware HCI, Private Cloud, Hybrid Cloud, Multi-Cloud โดย VMware

VMware User Group Thailand ขอเรียนเชิญผู้บริหารฝ่าย IT, ผู้จัดการ IT, Cloud Engineer, System Engineer และผู้ดูแลระบบ IT เข้าร่วมฟัง Webinar ในหัวข้อเรื่อง “แม่นยำขึ้น ฉลาดขึ้น ในการตรวจสอบปัญหาและการใช้ทรัพยากรในระบบ VMware HCI, Private Cloud, Hybrid Cloud, Multi-Cloud โดย VMware” เพื่อรู้จักกับแนวคิด Self-Driving Operation ที่ต่อยอดจากความสามารถของ VMware vRealize Operation 8.0 โดยทีมงาน VMware โดยตรง ในวันจันทร์ที่ 25 พฤศจิกายน 2019 เวลา 14.00 – 15.30 น. โดยมีกำหนดการและวิธีการลงทะเบียนดังนี้

รายละเอียดการบรรยาย

หัวข้อ: แม่นยำขึ้น ฉลาดขึ้น ในการตรวจสอบปัญหาและการใช้ทรัพยากรในระบบ VMware HCI, Private Cloud, Hybrid Cloud, Multi-Cloud โดย VMware
ผู้บรรยาย: คุณภูเบศวร์ ประเหมือน HCI SE Specialist, VMware
วันเวลา: วันจันทร์ที่ 25 พฤศจิกายน 2019 เวลา 14.00 – 15.30 น.
ช่องทางการบรรยาย: Online Web Conference
จำนวนผู้เข้าร่วมสูงสุด: 100 คน
ภาษา: ไทย

เชิญพบกับ แนวคิดแบบการบริหารจัดการทรัพยากรในศูนย์ข้อมูลแบบเสมือน ไฮบริดคลาวด์ หรือ มัลติคลาวด์ ของวีเอ็มแวร์ที่เรียนกว่า “Self-Driving Operation” ในงานสัมมนาแบบออนไลน์นี้ท่านจะได้เรียนรู้คุณสมบัติใหม่ ๆ ของ vRealize Operations เวอร์ชั่น 8.0 ซึ่งสามารถตรวจสอบประสิทธิภาพตั้งแต่ระดับ Guest OS ไปจนถึงพื้นที่จัดเก็บข้อมูลหรือพื้นที่จัดเก็บข้อมูลขนิด vSAN

แนวคิดนี้เป็นการใช้เทคโนโยลี artificial intelligence/machine learning (AI/ML) และวิทยาศาสตร์ข้อมูลในการประมวลผลซึ่งทำให้การตรวจสอบและคาดการณ์ปัญหาที่เกิดขึ้นได้อย่างตรงจุด ซึ่งจะนำไปซึ่งการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

ทีมงาน VMware Thailand จะมาเป็นผู้บรรยายในครั้งนี้ พร้อมตอบทุกคำถามของ VMware vSAN ได้ใน Webinar ครั้งนี้

ลงทะเบียนเข้าร่วม Webinar ได้ฟรี

ผู้ที่สนใจสามารถกรอกแบบฟอร์มเพื่อเข้าร่วม Webinar ในหัวข้อนี้ได้ฟรีๆ ทันทีที่ https://zoom.us/webinar/register/WN_sigm2c2JT4CwO7D_8D_pmQ โดยทีมงานขอความกรุณากรอกข้อมูลชื่อบริษัทด้วยชื่อเต็มของหน่วยงานหรือองค์กร เพื่อไม่ให้เกิดความสับสนในการจัดการกับข้อมูลการลงทะเบียน

from:https://www.techtalkthai.com/vmug-webinar-vrealize-operation-webinar-by-vmware/

VMware ปิดดีลเข้าซื้อกิจการ Wavefront ผู้ให้บริการระบบ Cloud Monitoring Service อย่างเป็นทางการ

VMware ปิดดีลการเข้าซื้อกิจการ Wavefront ผู้ให้บริการระบบ Cloud Monitoring Service อย่างเป็นทางการแล้ว



หลังจากที่มีการเจรจามาตั้งแต่ช่วงเดือนเมษายน VMware ได้บรรลุข้อตกลงในการเข้าซื้อกิจการ Wavefront เป็นที่เรียบร้อย โดย Wavefront จะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งใน Cloud Management Business Unit (CMBU) ของ VMware ซึ่ง Wavefront ได้พัฒนาระบบ Monitoring Service สำหรับระบบ Cloud โดยเฉพาะ ซึ่งก็ตรงตามกลยุทธ์ Cross-Cloud ของ VMware ที่จะเน้นตลาดในทิศทางนี้มากขึ้น

Wavefront เป็นผู้ให้บริการ Cloud Monitoring Service โดยเฉพาะ ซึ่งระบบจะทำงานอยู่บน Cloud ทำให้รองรับการทำงานร่วมกับระบบ Private และ Public Cloud ขนาดใหญ่ได้ทันที นอกจากนี้ยังรองรับแอพพลิเคชันสมัยใหม่ เช่น Container และ Web-scale Application ต่างๆ และ Wavefront เองมีความสามารถในการทำ Data Analytic ช่วยแจ้งปัญหาที่เกิดขึ้นในระบบได้อย่างรวดเร็ว

VMware เองนั้นมี VMware vRealize Operations ที่รองรับการ Monitoring ระบบ Virtual Environment อยู่แล้ว โดย Wavefront จะเข้ามาช่วยเติมเต็มความสามารถในการทำ Cross-cloud และ Modern Application Monitoring ให้กับ VMware ซึ่งจะทำให้ภาพรวมของโซลูชัน Monitoring จาก VMware ครบถ้วนมากขึ้น อย่างไรก็ตามการเข้าซื้อกิจการในครั้งนี้ไม่มีการเปิดเผยมูลค่าแต่อย่างใด

ที่มา : https://blogs.vmware.com/management/2017/05/vmware-completes-wavefront-acquisition.html

from:https://www.techtalkthai.com/vmware-completes-wavefront-cloud-monitoring-service-acquisition/

5 ตัวอย่างของการใช้ Internet of Things จริงในธุรกิจระดับโลก

จากที่ Gartner เคยทำนายเอาไว้ว่าปี 2016 นี้จะเป็นปีของ Internet of Things (IoT) สำหรับการนำมาใช้งานในเชิงธุรกิจ ทาง VMware เองก็ต้องการร่วมผลักดันประเด็นนี้จึงได้รวบรวม 5 ตัวอย่างของการใช้ IoT จริงๆ ในธุรกิจมาให้เราได้ดูกัน ซึ่งทีมงาน TechTalkThai ก็ขอนำมาสรุปเอาไว้ดังนี้ครับ

Credit: ShutterStock.com
Credit: ShutterStock.com

 

1. British Telecommunications (BT) กับการใช้ Sensor ตรวจวัดตำแหน่งของสาย Cable ที่มีปัญหา

BT ได้ใช้เทคโนโลยี Location Intelligence จาก Pitney Bowes เพื่อติดตามตำแหน่งต่างๆ ที่เกิดปัญหาภายในระบบเครือข่ายและสาย Cable ในพื้นที่ให้บริการตามอาคารต่างๆ ของลูกค้า ทำให้การให้บริการด้านการสื่อสารเป็นไปได้อย่างราบรื่นขึ้นทั้งในแง่ของการติดตั้งและการแก้ไขปัญหา

 

2. Siemens เปลี่ยนฟาร์มผลิตไฟฟ้าพลังงานลมให้กลายเป็นระบบอัจฉริยะ

Siemens เป็นหนึ่งในผู้นำทางทางด้านเทคโนโลยีพลังงานลมของโลก และได้นำเทคโนโลยี RTI Messaging Software ร่วมกับ Sensor ต่างๆ เพื่อติดตามการทำงานของกังหันผลิตไฟฟ้านับหลายร้อยตัว และทำ Predictive Maintenance ล่วงหน้า พร้อมทั้งการปรับแต่งค่าการทำงานของกังหันให้เหมาะกับสภาพลมในแต่ละช่วงเวลา

 

3. UPS ประหยัดค่าใช้จ่ายในการติดตามเส้นทางการเดินรถ

UPS ทำการติดตั้ง GPS Tracking และระบบ Sensor ตรวจวัดการทำงานของรถยนต์ตั้งแต่ปี 2008 เพื่อค้นหารูปแบบของเส้นทางการเดินรถที่สั้นที่สุดและประหยัดค่าใช้จ่ายที่สุด โดยระบบ On-Road Integrated Optimization and Navigation (ORION) ของ UPS ก็ได้นำข้อมูลทั้งหมดนี้มาวิเคราะห์และช่วยให้ UPS ประหยัดน้ำมันไปได้แล้ว 1.5 ล้านแกลลอนจากการเดินรถด้วยกัน 10,000 เส้นทาง และเตรียมจะขยายการวิเคราะห์ข้อมูลนี้เพิ่มไปถึง 55,000 เส้นทางภายในปี 2017

 

4. Ochsner ใช้อุปกรณ์ IoT ทางการแพทย์ผสานเข้ากับระบบข้อมูลผู้ป่วย

Ochsner Health System ได้ทำการผสานระบบ Electronic Health Record (EHR) ที่มีชื่อว่า Epic เข้ากับอุปกรณ์ Wearable และ IoT เพื่อช่วยให้ได้รับข้อมูลและสื่อสารกับผู้ป่วยได้มากขึ้น และปรับปรุงผลการรักษาให้ดีขึ้นได้จากการนำข้อมูลสุขภาพแบบ Real-time จากอุปกรณ์ IoT ที่ติดตามตัวผู้ป่วยเพื่อวัดค่าต่างๆ มาส่งต่อให้ระบบ Epic เพื่อให้แพทย์สามารถติดตามข้อมูลทางสุขภาพได้โดยตลอด และสามารถวินิจัยอาการได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น

 

5. AT&T กับเทคโนโลยีการติดตามตู้ Container ด้วย IoT

สำหรับธุรกิจต่างๆ ที่มีบริการขนตู้ Container นั้น ทาง AT&T ได้มีโซลูชั่น IoT และระบบเครือข่ายสำหรับติดตามตู้ Container และรถขนตู้ Container ได้แบบ Real-time เพื่อลดการฉ้อโกงลง, ติดตาม Inventory ได้แม่นยำ และบริหารจัดการการขนส่งได้ดีขึ้นไปพร้อมๆ กัน

 

VMware กับการรุกเข้าตลาด IoT

ทางด้าน VMware เองก็ได้โฆษณาโซลูชั่นของตัวเองใน Blog ด้วย ซึ่งก็ถือว่าน่าสนใจมากเพราะผลิตภัณฑ์ฝั่ง EUC และ Data Analytics ของ VMware เองจะได้เข้ามามีบทบาทในตลาด IoT เป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็น AirWatch, vRealize Opearations หรือ vRealize Log Insight ที่สามารถใช้ควบคุม IoT Device, ติดตามการทำงาน และจัดเก็บพร้อมประมวลผลข้อมูลที่ได้รับจาก IoT Device พร้อมๆ กัน ในขณะที่ VMware vCloud, vCloud Air, Federation Enterprise Hybrid Cloud เองนั้นก็จะมามีบทบาทในฐานะ Data Center สำหรับ IoT นั่นเอง

ก็ถือเป็นแนวทางที่ดีสำหรับการนำ IoT มาใช้ในธุรกิจครับ ใครคิดจะทำอะไรสาย IoT ก็ลองรับไปพิจารณาเป็นแนวทางดูได้

ที่มา: http://blogs.vmware.com/euc/2016/03/5-examples-of-iot-in-business.html

from:https://www.techtalkthai.com/5-internet-of-things-in-businesses-examples/

VMware เปิดตัว EVO SDDC ให้ทุกองค์กรทำ Software Defined Data Center ได้แบบ Turnkey

vmware_logo

ในงาน VMworld 2015 VMware ได้ประกาศเปิดตัว VMware EVO SDDC ซึ่งเป็นการต่อยอดจาก VMware EVO RAIL ในอดีต โดยเพิ่มขยายขอบเขตของระบบให้เป็นการสร้าง Software Defined Data Center ได้เลย ไม่ใช่เพียงแค่ระบบ Hyper-Converged Infrastructure เท่านั้น และภายใน VMware EVO SDDC แต่ละระบบจะมีองค์ประกอบดังนี้

vmware_vmw-scrnsht-evo-sddc-diagram-lg

  • Hypervisor: VMware vSphere Enterprise Plus
  • Software Defined Storage: VMware Virtual SAN รองรับสูงสุด 64 Server และ 7 ล้าน IOPS ในปัจจุบัน
  • Software Defined Networking: VMware NSX บริหารจัดการทั้งระบบเครือข่ายและความปลอดภัย
  • Cloud Management: VMware vRealize Operations + VMware vRealize LogInsight ติดตามการทำงานและความปลอดภัยต่างๆ
  • Hardware Management: VMware Hardware Management Services สำหรับจัดการทั้ง Switch, Server และ PDU (มีแผนจะเปิดเป็น Opensource)
  • Optional: VMware Horizon, VMware vRealize Automation และ VMware Integrated OpenStack

vmware_evo_sddc_components

จากเดิมที่ VMware EVO: RAIL นั้นเป็นแค่ระดับ Hyper-Converged Infrastructure Appliance แต่ใน VMware EVO SDDC นี้ VMware ได้ข้ามไปมองถึงที่ระดับ Rack Scale แล้ว

ข้อมูลเพิ่มเติม

ที่มา: http://ir.vmware.com/releasedetail.cfm?ReleaseID=929464 

from:https://www.techtalkthai.com/vmware-launched-evo-sddc-for-enterprise-software-defined-data-center/

4 แนวทางในการบริหารจัดการ Operation ของฝ่าย IT ให้ดีขึ้น

ถึงแม้ปัจจุบันนี้จะมีเทคโนโลยีต่างๆ ที่ช่วยให้ระบบ Data Center สามารถบริหารจัดการได้ง่ายขึ้นและคุ้มค่ามากขึ้นอย่าง Virtualization และ Cloud ก็ตาม สิ่งที่เป็นผลต่อเนื่องมาก็คือการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของ Data Center หลายๆ แห่งจนมีขนาดใหญ่มากขึ้น, มีระบบงานใหญ่มากขึ้น, มีความเปลี่ยนแปลงรวดเร็วมากขึ้น และมีภาระหน้าที่ให้ผู้ดูแลระบบต้องทำมากขึ้น จนเกิดเป็นความซับซ้อนในระดับที่แก้ไขปัญหาได้ยากยิ่งกว่าก่อนในที่สุด VMware จึงมีข้อแนะนำในการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อให้ Operation ต่างๆ ใน Data Center ที่มีขนาดใหญ่ขึ้นนี้สามารถถูกบริหารจัดการ และวางแผนการลงทุนในอนาคตได้ดีขึ้นดังนี้

techtalkthai_virtualization

1. มีระบบที่สามารถตรวจสอบและบริหารจัดการทั้ง Data Center ได้จากศูนย์กลาง

ระบบบริหารจัดการแบบเดิมๆ มักจะแยกการตรวจสอบและบริหารจัดการออกเป็นส่วนๆ ทำให้ผู้ดูแลระบบไม่สามารถมองเห็นภาพรวม และติดตามปัญหาต่างๆ อย่างรวดเร็วได้ การบริหารจัดการ Data Center ที่ดีไปจนถึงการบริหารจัดการระบบ Hybrid Cloud จึงควรจะมีระบบที่รวบรวมข้อมูลทั้งหมดทาง IT ไม่ว่าจะเป็น KPI, Metric, Event และ Log และนำมา Correlate กันเพื่อให้ผู้ดูแลระบบเข้าใจการทำงานร่วมกันของแต่ละส่วนในระบบได้ง่ายดายยิ่งขึ้น

 

2. มีระบบบังคับใช้นโยบายให้เป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนด พร้อมระบบแนะนำวิธีทางในการแก้ไข

ยิ่งระบบ Data Center มีขนาดใหญ่ขึ้น การจัดการให้ทุกองค์ประกอบของ Data Center และการทำงานของผู้ดูแลระบบทุกคนถูกต้องตามนโยบายและมาตรฐานที่ต้องการจึงกลายเป็นเรื่องยาก การมีระบบเพื่อคอยบังคับใช้นโยบายเหล่านี้โดยอัตโนมัติ พร้อมมีการแนะนำการปรับปรุงระบบให้ตรงตามมาตรฐานต่างๆ ได้จึงเป็นตัวช่วยที่จะทำให้ผู้ดูแลระบบไม่ต้องเสียเวลาตรวจสอบหรือวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆ มากนัก ในขณะที่ผู้ดูแลระบบก็ยังมีความยืดหยุ่นในการทำงาน และสิทธิ์ในการจัดการระบบต่างๆ อยู่

 

3. มีระบบวิเคราะห์ข้อมูลแบบ Real-time

ระบบ Real-time Data Analysis จะช่วยให้ผู้ดูแลระบบสามารถตรวจสอบปัญหาต่างๆ และหาหนทางการแก้ไขปัญหาที่ดีที่สุดได้ดี รวมถึงยังทำให้ผู้ดูแลระบบมีข้อมูลประกอบการตัดสินใจในแต่ละครั้งได้อย่างเพียงพอ และใช้เวลาน้อยลงอีกด้วย ทำให้ผู้ดูแลระบบสามารถทุ่มเทเวลาที่เหลือในงานอื่นๆ ที่สำคัญกว่าและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับธุรกิจได้ เช่น การปรับปรุงระบบ Website ที่เป็นหัวใจหลักและช่องทางในการสร้างรายได้ขององค์กรให้ดีขึ้น เป็นต้น

 

4. มีระบบวิเคราะห์แนวโน้มในอนาคต

ในระบบ Data Center ที่มีความซับซ้อนสูงอย่างเช่น Cloud Data Center นั้น ระบบวิเคราะห์ข้อมูลที่สามารถทำนายแนวโน้มได้เช่นระบบ Predictive Analytics นั้นจะช่วยทำนายปัญหาที่มีแนวโน้มจะเกิดขึ้นได้ก่อนที่ปัญหาเหล่านั้นจะส่งผลร้ายต่อธุรกิจ โดยกระบวนการทางสถิติชั้นสูงที่เป็นที่นิยมในระบบทำนายแนวโน้มเหล่านี้ก็สามารถทำนายแนวโน้มเหล่านี้ได้อย่างน่าเชื่อถือ ด้วยการวิเคราะห์และค้นหาข้อมูลหรือแนวโน้มที่มีประโยชน์จากทั้ง Structured Data และ Unstructured Data ก็จะทำให้ผู้ดูแลระบบมองเห็นแนวโน้มต่างๆ ทางด้านประสิทธิภาพและ Resource ทั้งหมดที่มีการใช้งาน รวมถึงทำนายการเติบโตในอนาคตด้วย โดยนอกจากจะช่วยดูแลประเด็นทางด้านประสิทธิภาพ และ Service Level ของระบบงานต่างๆ ได้แล้ว Predictive Analytics ยังสามารถช่วยแนะนำให้ผู้ดูแลระบบทำการปรับแต่งให้ระบบทำงานได้คุ้มค่า ด้วย Resource ในระดับที่เหมาะสมได้อีกด้วย

 

สำหรับทาง VMware เองนั้นก็มีระบบ vRealize Suite ที่ครอบคลุมทุกความสามารถเหล่านี้ สำหรับผู้ที่สนใจก็สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้เลยที่ https://www.vmware.com/products/vrealize-suite/

 

ที่มา: http://blogs.vmware.com/management/2015/08/achieve-intelligent-operations-real-time-data-analysis.html

from:https://www.techtalkthai.com/4-technology-for-it-operation-management/

Cisco เปิดตัว UCS Manager Management Pack for vRealize Operations ช่วยให้บริหารจัดการ VMware ได้ง่ายขึ้น

cisco_logo_2

Cisco ได้ประกาศเปิดตัว management pack สำหรับ UCS Manager for vRealize Operations ทำให้ซอฟต์แวร์ UCS Manager ของ Cisco สามารถทำงานร่วมกับ VMware vRealize Operations ได้ดีขึ้น โดยรองรับทั้งการทำ Automation สำหรับระบบ IT Operations Management, การบริหารจัดการ Performance ของระบบ และการ Monitor ทั้งระบบ Physical Server และ Virtualization Infrastructure ได้พร้อมๆ กันจากหน้าจอของ VMware vRealize Operations

cisco_ucs_management_pack_for_vmware_vrealize_operations_dashboard

โดยสรุปแล้ว management pack นี้มีความสามารถดังต่อไปนี้

  • บริหารจัดการ UCS Domain และ Resource ได้จากหน้าจอของ vRealize Operations Manager
  • สร้าง Dashboard สำหรับตรวจสอบ UCS Domain และ Resource ได้หลากหลาย เช่น Fabric Interconnection, Fabric Extender, IO module, UCS Chassis, UCS Blade Servers, UCS Rack Servers และ Profile ต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง
  • มีการตรวจสอบและแสดง Badge สำหรับ Health และ Fault ของ UCS ทั้งหมด
  • สามารถทำ Correlation ระหว่าง UCS Server, ESXi Host และ VM ทำให้การตรวจสอบปัญหาระหว่าง 3 Layer ทำได้รวดเร็วยิ่งขึ้น
  • สามารถแจ้งเตือนปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นบน UCS ได้จากหน้าจอของ vRealize Operations Manager

โดย management pack นี้สามารถทำงานร่วมกับ UCS Manager รุ่น 2.0 – 2.2 และ vRealize Operations Manager รุ่น 5.8 ได้

สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถ Download Software และข้อมูลเพิ่มเติมต่างๆ ได้ดังนี้

ที่มา: https://www.vmguru.com/2015/02/cisco-releases-ucs-manager-management-pack-vrealize-operations/

from:https://www.techtalkthai.com/cisco-announced-ucs-manager-management-pack-for-vmware-vrealize-operations/