คลังเก็บป้ายกำกับ: SOFTWARE-DEFINED_NETWORKING

Brocade เปิดตัว Router ประสิทธิภาพ 230Tbps, รองรับ 10/40/100GbE, ใช้ OpenKVM

Brocade เตรียมแข่งตลาด Router สำหรับ Data Center เต็มตัวแล้ว

brocade_slx_9850

Brocade ได้ประกาศเปิดตัว Router รุ่นล่าสุดสำหรับ Data Center ขนาดใหญ่โดยเฉพาะ โดย Brocade SLX 9850 รุ่นที่ถูกประกาศนี้จะมีประสิทธิภาพ Fabric Capacity ถึง 230Tbps แบบ Non-blocking และรองรับการใช้งาน Interface ความเร็วระดับ 10/40/100GbE ภายในตัว โดยสนับสนุนการใช้งานทั้ง IPv4, IPv6, MPLS และ Multi-VRF ได้ เพื่อตอบโจทย์ Traffic ปริมาณมหาศาลที่จะเกิดขึ้นในอนาคตจากการมาของ Cloud, 4kHD Video Streaming, Internet-of-Things และ Mobile นั่นเอง

Brocade SLX 9850 นี้ถือว่าใหญ่กว่า Router รุ่นก่อนอย่าง Brocade MLXe รุ่นก่อนถึง 15 เท่า ซึ่งก็ค่อนข้างชัดเจนว่า Brocade ตั้งใจที่จะรุกตลาดของ Router สำหรับ Data Center ขนาดใหญ่ให้ได้

ความน่าสนใจยังไม่จบแค่ขนาด เพราะ Brocade SLX 9850 นี้ยังมาพร้อบกับสถาปัตยกรรม Insight Architecture ที่ใช้ OpenKVM เพื่อทำหน้าที่เป็น Hypervisor สำหรับการทำ Virtualization ภายในตัว โดย System VM ของทาง Brocade เองนี้จะทำหน้าที่ในการควบคุม Packet Processor ทั้งหมดผ่านทาง Control Path ในขณะที่เปิดให้ผู้ใช้งานสามารถติดตั้ง Guest VM จาก 3rd Party เพื่อทำการวิเคราะห์ข้อมูล Traffic หรือให้บริการต่างๆ ได้ในตัวผ่านการดึงข้อมูลจาก Analytics Path ไปยัง Packet Processor โดยตรงด้วย ทำให้องค์กรมีทางเลือกมากขึ้นในการใช้งานระบบ Network Monitoring และ Network Analyzer หรือระบบอื่นๆ ก็ตาม

brocade_slx_insight_architecture

ก็ถือเป็นสถาปัตยกรรมที่น่าสนใจดีครับ ระยะหลังมานีัอุปกรณ์เครือข่ายจากผู้ผลิตหลายรายเริ่มหันมาติดตั้ง Hypervisor ภายในตัวเพื่อตอบรับแนวทางของ Software Defined Networking กันมากขึ้นเรื่อยๆ แล้ว

ผู้ที่สนใจสามารถอ่านรายละเอียดได้ที่ http://www.brocade.com/content/dam/common/documents/content-types/datasheet/brocade-slx-9850-router-ds.pdf เลยนะครับ

ที่มา: http://www.arnnet.com.au/article/606887/brocade-big-new-router-all-about-network-size-automation/?utm_medium=rss&utm_source=taxonomyfeed

from:https://www.techtalkthai.com/brocade-announces-data-center-router-with-230tbps-fabric-capacity-and-integrated-openkvm/

HPE Aruba เปิดตัวบริการ Network-as-a-Service เช่าใช้อุปกรณ์พร้อมมีผู้ช่วยดูแลระบบทั้งหมด

ทุกองค์กรต้องเริ่มทำความรู้จักกับแนวทางใหม่ในการลงทุนทางด้านระบบเครือข่ายสำหรับองค์กรแล้ว

hpe_aruba_330_techtalkthai_banner

HPE Aruba ได้ประกาศเปิดตัวบริการใหม่ล่าสุด Network-as-a-Service (NaaS) โดยนำเทคโนโลยี Software Defined Networking (SDN) และ Cloud-managed WLAN เข้ามาช่วยทำให้สามารถเปลี่ยนแปลงจากการที่องค์กรต้องลงทุนซื้ออุปกรณ์และระบบเครือข่าย กลายเป็นการเช่าใช้ระบบทั้งหมดแบบ Subscription-based พร้อมมีบริการโดยตรงจาก HPE และ Partner รายต่างๆ ได้แล้ว

แนวคิดการเช่าใช้ระบบเครือข่ายทั้งหมดแบบ Subscription-based นี้ จะส่งผลดีต่อองค์กรในแง่ที่องค์กรจะได้ใช้เทคโนโลยีใหม่ล่าสุดสำหรับระบบเครือข่ายอยู่เสมอโดยไม่ต้องจ้างผู้เชี่ยวชาญทางด้านเทคโนโลยีนั้นๆ เอาไว้เอง ซึ่งก็จะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการจ้างพนักงานสำหรับดูแลรักษาระบบเครือข่าย และทำให้สามารถนำบุคลากรทางด้าน IT ไปใช้ในการวางกลยุทธ์เชิงรุกด้วยเทคโนโลยีได้มากขึ้น อีกทั้งเมื่อระบบเครือข่ายกลายเป็นเทคโนโลยีล่าสุดที่มีทั้ง SDN และ Cloud-managed นี้แล้ว การบริหารจัดการและการรองรับอุปกรณ์ใหม่ๆ จำนวนมากในอนาคตที่จะตามมาจากการทำ BYOD, IoT รวมถึงการรักษาความปลอดภัยและประเด็นอื่นๆ เองก็จะสามารถทำได้อย่างคล่องตัวและง่ายดายขึ้นด้วย

ปัจจุบันการ Subscribe ระบบ NaaS ใช้งานภายในองค์กรจากทาง HPE Aruba นี้มีให้ใช้งานได้ในทวีปอเมริกาเหนือแล้ว โดยครอบคลุมทั้งระบบ Switch, Wireless LAN และ VPN ส่วนสำหรับในประเทศไทยก็ต้องรอทาง HPE Thailand ประกาศกันอีกทีนะครับ

สำหรับตลาด NaaS นี้ก็ถือเป็นตลาดใหญ่ โดยทาง IDC ได้ทำนายเอาไว้ว่าภายในปี 2018 ตลาดของ SDN สำหรับองค์กรจะขยายตัวไปถึง 8,700 ล้านเหรียญ และตลาด Cloud-managed WLAN นั้นก็จะขยายตัวไปถึง 2,500 ล้านเหรียญเลยทีเดียว การที่ HPE Aruba จะเข้ามาแย่งชิงส่วนแบ่งตลาดนี้จึงดูสมเหตุสมผลไม่น้อยเลย

ที่มา: http://news.arubanetworks.com/press-release/arubanetworks/hpe-aruba-unveils-flexible-network-procurement-models-enabling-enterpris

from:https://www.techtalkthai.com/hpe-aruba-announces-network-as-a-service-for-enterprise/

Rackspace ใช้ VMware NSX เพื่อผ่าน PCI DSS 3.1 Compliance ใน Data Center 8 แห่งทั่วโลก

Software Defined Networking เริ่มมีบทบาทสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ ภายใน Data Center ขนาดใหญ่

Credit: ShutterStock.com
Credit: ShutterStock.com

VMware ได้ออกมาเปิดเผยถึงความสำเร็จในการเข้าไปช่วยติดตั้ง VMware NSX ให้กับ Rackspace ผู้ให้บริการ Cloud ภายใน Data Center 8 แห่งทั่วโลก โดยครอบคลุม vCenter มากกกว่า 100 Instance และ Server เกินกว่า 1,000 เครื่อง เพื่อช่วยให้ Rackspace สามารถผ่าน PCI DSS 3.1 Compliance ได้

โครงการนี้มีเป้าหมายหลักๆ คือการผ่านมาตรฐาน PCI DSS 3.1 Compliance, การป้องกันไม่ให้ลูกค้าของ Rackspace ทำการติดตั้ง VMware vCenter ขึ้นมาใช้งานเอง และการลดภาระหน้าที่ในการจัดการระบบเครือข่ายลง แต่ยังคงสามารถติดตั้งระบบงานใหม่ๆ เพิ่มเติมได้อย่างรวดเร็ว ทั้งหมดนี้ทำให้เทคโนโลยี Software Defined Networking อย่าง VMware NSX เข้ามามีบทบาทสำคัญเป็นอย่างมาก

การทำ Micro-segmentation ให้ได้ภายในระบบ Virtualization นั้นถือเป็นข้อหนึ่งที่สำคัญสำหรับการทำ PCI DSS 3.1 โดยทีแรกนั้นทาง Rackspace ได้พยายามที่จะใช้ Physical Firewall เข้ามาจัดการปัญหาตรงนี้ แต่ก็พบว่าไม่ประสบความสำเร็จ และหน้าที่นี้ควรตกเป็นงานของเทคโนโลยี Software Defined Networking มากกว่า

การนำ VMware NSX เข้ามาใช้ภายใน Rackspace ทำให้การควบคุม Traffic Flow ที่เกิดขึ้นทั้งหมดสามารถทำได้ในเชิงลึก ซึ่งนอกจากจะทำให้ระบบเครือข่ายของ Rackspace มีความปลอดภัยสูงขึ้นแล้ว ความง่ายในการดูแลรักษาระบบทั้งหมดก็ยังเพิ่มขึ้นอีกด้วย โดยความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ที่สุดก็คือการแยก Environment ของระบบที่ทำ PCI DSS 3.1 ออกมาจากระบบเครือข่ายส่วนอื่นๆ ได้อย่างสมบูรณ์โดยไม่ต้องทำการแก้ไข IP Address ของอุปกรณ์หรือระบบเครือข่ายใดๆ เลยนั่นเอง

ส่วนประเด็นทางด้านประสิทธิภาพนั้น สำหรับ Traffic ระดับ 10Gbps นั้นก็ยังคงมี Latency อยู่ที่ระดับ Microsecond ในเลขหลักเดียวเท่านั้น ซึ่งทาง Rackspace ก็ไม่ได้ถือว่าระบบนี้ทำงานช้าแต่อย่างใด

ผู้ที่อยากอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถอ่านเอกสารฉบับเต็มได้ที่ http://blogs.vmware.com/tam/files/2016/09/VMware-Rackspace-Case-Study-vF.pdf เลยนะครับ

ผู้ที่สนใจโซลูชั่น Open Source Software ต่างๆ รวมถึง Linux/Unix/OpenStack, Data Center Infrastructure, VMware vSphere/VSAN/NSX/vCloud, Microsoft Windows Server และระบบ CMS สำเร็จรูปที่มีประสิทธิภาพสูงและปลอดภัยระดับองค์กรพร้อมบริการครบวงจร ทั้ง WordPress และ Magento สามารถติดต่อทีมงาน UnixDev ได้ทันทีที่โทร 081-651-9393 หรืออีเมลล์ info@unixdev.co.th

 

เกี่ยวกับ UnixDev

unixdev-logo-web

UnixDev คือทีมงานผู้เชี่ยวชาญทางด้าน System Engineering ที่ครอบคลุมทั้ง Linux, Unix, Microsoft Windows และ VMware แบบ Full Stack ซึ่งสามารถให้บริการในการตรวจสอบแก้ไขปัญหาและปรับปรุงประสิทธิภาพและความปลอดภัยสำหรับระบบ Hypervisor, Operating System, Application, Web Application ไปจนถึง Database แบบครบวงจร https://www.unixdev.co.th

ที่มา: http://blogs.vmware.com/tam/2016/09/rackspace-leverages-vmware-nsx-case-study.html

from:https://www.techtalkthai.com/rackspace-uses-vmware-nsx-for-worldwide-pci-dss-3-1-compliance/