คลังเก็บป้ายกำกับ: JBL

MAHAJAK MID YEAR SALE 2023 จังหวะจะ SALE สินค้าหูฟังและลำโพงแบรนด์ JBL, Harman Kardon ลดสูงสุด 55%

บริษัท มหาจักรดีเวลอปเมนท์ จำกัด จัดแคมเปญพิเศษกลางปี ยกขบวนสินค้าหูฟัง ลำโพง แบรนด์ JBL, Harman Kardon ลดสูงสุด 55%

สินค้าที่ร่วมรายการมีดังนี้

สินค้าหูฟัง JBL

      JBL TUNE 110                        ราคาโปรโมชั่น 392 บาท  (จากปกติ 490 บาท)
      JBL TUNE 115 BT                  ราคาโปรโมชั่น 890 บาท  (จากปกติ 1,990 บาท)
      JBL ENDURANCE RUN2       ราคาโปรโมชั่น 952 บาท  (จากราคาปกติ 1,190 บาท)
      JBL ENDURANCE RUN2  BT ราคาโปรโมชั่น 1,592 บาท  (จากราคาปกติ 1,990 บาท)
      JBL TUNE 710 BT                  ราคาโปรโมชั่น 2,792 บาท  (จากราคาปกติ 3,490 บาท)
      JBL TUNE FLEX TWS             ราคาโปรโมชั่น 3,192 บาท  (จากราคาปกติ 3,990 บาท)
      JBL ENDURANCE RACE TWS    ราคาโปรโมชั่น 3,592 บาท  (จากราคาปกติ 4,490 บาท)
      JBL TUNE 230 NC TWS         ราคาโปรโมชั่น 3,672 บาท  (จากราคาปกติ 4,590 บาท)
      JBL REFLECT FLOW PRO     ราคาโปรโมชั่น 5,592 บาท  (จากราคาปกติ 6,990 บาท)
      JBL LIVE PRO 2 TWS             ราคาโปรโมชั่น 6,392 บาท  (จากราคาปกติ 7,990 บาท)

   สินค้าลำโพง JBL

      JBL GO 3                 ราคาโปรโมชั่น 1,522 บาท  (จากราคาปกติ 1,790 บาท)
      JBL CLIP 4              ราคาโปรโมชั่น 2,372 บาท  (จากราคาปกติ 2,790 บาท)
      JBL HORIZON 2      ราคาโปรโมชั่น 4,157 บาท  (จากราคาปกติ 4,890 บาท)
      JBL FLIP 6               ราคาโปรโมชั่น 4,412 บาท  (จากราคาปกติ 5,190 บาท)
      JBL CHARGE 5       ราคาโปรโมชั่น 5,942 บาท  (จากราคาปกติ 6,990 บาท)
      JBL PULSE 5           ราคาโปรโมชั่น 10,115 บาท  (จากราคาปกติ 1,790 บาท)
      JBL XTREME 3        ราคาโปรโมชั่น 10,965 บาท  (จากราคาปกติ 12,900 บาท)
      JBL BOOMBOX 3    ราคาโปรโมชั่น 18,615 บาท  (จากราคาปกติ 21,900 บาท)

   สินค้าลำโพง Harman Kardon

      Harman Kardon AURA STUDIO 3   ราคาโปรโมชั่น 10,965 บาท
      Harman Kardon SOUNDSTICK 4    ราคาโปรโมชั่น 11,815 บาท

ระยะเวลาโปรโมชั่นตั้งแต่วันที่ 15 มิถุนายน 2566 – 31 กรกฎาคม 2566
สามารถหาซื้อได้ที่ร้านค้าตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการ และโชว์รูมมหาจักรฯ ทุกสาขา

เงื่อนไข

– ระยะเวลาโปรโมชั่น 15 มิถุนายน 2566 – 31 กรกฎาคม 2566 เท่านั้น
– ไม่สามารถแลกเปลี่ยนส่วนลดเป็นเงินสดได้
– ราคาโปรโมชั่นนี้รวม VAT 7% แล้ว
– บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลง/ยกเลิกเงื่อนไขโดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ บริษัท มหาจักรดีเวลอปเมนท์ จำกัด

Line : @mahajakstore

Facebook : Mahajak Life

Tel : 02-256-0020 Ext : 382 หรือ http://www.mahajak.com

.fb-background-color {
background: #ffffff !important;
}
.fb_iframe_widget_fluid_desktop iframe {
width: 100% !important;
}

from:https://www.mobileocta.com/mahajak-mid-year-sale-2023/?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=mahajak-mid-year-sale-2023

สเปค Infinix Note 30, Note 30 Pro และ Note 30 5G มือถือซีรีส์คุ้ม ชูจุดเด่นระบบชาร์จไว พร้อมลำโพงคู่ JBL สุดแจ่ม

หลังจากที่เมื่อสัปดาห์ก่อน Infinix เพิ่งส่งรุ่นน้องอย่าง Note 30i มาชิงพื้นที่เปิดตัวก่อน วันนี้ Infinix Note 30 Series รุ่นพี่อีก 3 รุ่นก็ได้เรียงขบวนกันมาเปิดตัวเป็นที่เรียบร้อยแล้วพร้อมกันถึง 3 รุ่น ได้แก่ Note 30, Note 30 Pro และ Note 30 5G โดยได้ชูจุดเด่นอย่างระบบ All Round Fast Charge ที่ถึงแม้ว่าจะไม่ได้มาพร้อมกับความเร็วทุบสถิติ แต่ก็ได้ใส่กันมาครบ ๆ ให้ทุกรุ่น นอกจากนี้ยังได้ระบบเสียงจาก JBL ด้วย

เปิดตัว Infinix Note 30

Infinix Note 30

Infinix Note 30 (4G) รุ่นมาตรฐานมาพร้อมกับหน้าจอแสดงผล IPS LCD ขนาดใหญ่เต็มตา 6.78 นิ้ว ความละเอียด FHD+ รองรับรีเฟรชเรทที่ 120Hz และรองรับ Touch Sampling Rate ที่ 240Hz สว่างสูงสุด 580 nits ส่วนดีไซน์กล้องหน้าใช้เป็นแบบเจาะรู Punch-Hole

ในรุ่นนี้มาพร้อมกล้องหลัง 3 ตัว โดยกล้องหลักจะใช้เซนเซอร์ Omnivision OV64B ความละเอียด 64 ล้านพิกเซล + กล้อง Depth 2MP + กล้อง AI Lens ความละเอียด QVGA รองรับการถ่ายวิดีโอที่ความละเอียดสูงสุด 1440p@30FPS ส่วนกล้องหน้าให้มาที่ 16MP รองรับการถ่ายวิดีโอที่ 1080p@30FPS

ด้านประสิทธิภาพ รุ่นนี้ใช้ชิปประมวลผล Helio G99 รองรับ 4G มาพร้อม RAM 8GB พ่วงด้วยตัวเลือกความจุ 2 ขนาด 128GB / 256GB ให้แบตเตอรี่มาที่ 5,000 mAh รองรับระบบชาร์จไว All Round Fast Charge ชาร์จผ่านสาย USB-C 2.0 ที่ความเร็ว 45W โดยได้ผ่านการทดสอบการชาร์จสูงสุดถึง 1,000 รอบ (Cycles) รองรับ PD 3.0 และการชาร์จให้อุปกรณ์อื่น

ในรุ่นนี้มาพร้อมกับลำโพงคู่สเตอริโอที่ได้จับมือร่วมกับ JBL เพื่อมาช่วยในการปรับจูนเสียง มีช่องเชื่อมต่อหูฟังขนาด 3.5 มม. รองรับการเพิ่มความจุผ่าน microSD Card  และมี NFC ติดตั้งมาพร้อมกับ Android 13 ตัวเครื่องมีให้เลือกทั้งหมด 3 สี ได้แก่ สีดำ Magic Black, สีฟ้า Interstellar Blue และสีส้ม Sunset Gold ที่ใช้ฝาหลังวัสดุหนังเทียม

สเปค Infinix Note 30

Infinix Note 30

  • หน้าจอ IPS LCD ขนาด 6.78 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2460 x 1080)
  • CPU : Helio G99
  • RAM : 8GB
  • ความจุ : 128GB / 256GB รองรับ microSD Card
  • กล้องหลัง 3 ตัว
    – กล้องหลัก Omnivision OV64B 64MP (f/1.7)
    – กล้อง Depth 2MP (f/2.4)
    – กล้อง AI QVGA
  • กล้องหน้า : 16MP (f/2.0)
  • การเชื่อมต่อ : 4G, WiFi 5, NFC, USB-C 2.0
  • เซนเซอร์ : Fingerprint (ด้านข้าง), accelerometer, gyro, proximity, compass
  • ระบบเสียง : ลำโพงสเตอรีโอ จูนเสียงโดย JBL, รูหูฟัง 3.5 มม.
  • แบตเตอรี่ : 5000 mAh รองรับชาร์จไว 45W
  • ขนาด / น้ำหนัก : 168.6 x 76.6 x 8.6 มม. / 219 กรัม

เปิดตัว Infinix Note 30 Pro

Infinix Note 30 Pro

รุ่น Pro จะได้อัปเกรดพาเนลจอแสดงผลเป็น AMOLED มาตรฐานสี 10 bits ในขนาดใหญ่เท่ากันที่ 6.78 นิ้ว บนความละเอียด Full HD+ รองรับรีเฟรชเรทระดับสูง 120Hz และ Tounch Sampling Rate อยู่ที่ 360Hz สว่างสูงสุด 900 nits ส่วนกล้องหน้าก็มาในดีไซน์แบบเจาะรูเช่นกัน

ด้านประสิทธิภาพโดยรวมแล้วยังคงคล้ายกับรุ่นมาตรฐาน ให้ชิป Helio G99 (4G) และ RAM 8GB พ่วงด้วยตัวเลือกความจุ 2 ขนาด 128GB / 256GB มีระบบระบายความร้อน Vapoส่วนแบตเตอรี่ให้มาที่ 5,000 mAh รองรับ All Round Fast Charge ผ่านสาย USB-C 2.0 ที่เร็วกว่านิดหน่อย 68W ชาร์จจาก 1 – 80% ใช้เวลาเพียง 30 นาที นอกจากนี้ยังรองรับชาร์จไร้สายที่ 15W และรองรับ Reverse Charging ทั้งผ่านสาย และไร้สายด้วย

ส่วนกล้องในรุ่นนี้ได้อัปเกรดมาใช้กล้องหลักความละเอียด 108MP ที่ไม่ระบุเซนเซอร์ แต่คาดว่าน่าจะเป็น ISOCELL HM6 + กล้อง Depth 2MP + กล้อง AI QVGA ส่วนกล้องหน้าก็อัปเกรดความละเอียดจาก 16MP เป็น 32MP

ในรุ่นนี้ยังคงมาพร้อมกับลำโพงคู่สเตอริโอที่ได้จับมือร่วมกับ JBL มีช่องเชื่อมต่อหูฟังขนาด 3.5 มม. รองรับการเพิ่มความจุผ่าน microSD Card  และมี NFC ติดตั้งมาพร้อมกับ Android 13 ตัวเครื่องมีให้เลือกทั้งหมด 2 สี ได้แก่ สีดำ Black และสีทอง Variable Gold

สเปค Infinix Note 30 Pro

Infinix Note 30 Pro

  • หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.78 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2460 x 1080)
  • CPU : Helio G99
  • RAM : 8GB
  • ความจุ : 128GB / 256GB รองรับ microSD Card
  • กล้องหลัง 3 ตัว
    – กล้องหลัก 108MP
    – กล้อง Depth 2MP
    – กล้อง AI QVGA
  • กล้องหน้า : 32MP
  • การเชื่อมต่อ : 4G, WiFi 5, NFC, USB-C 2.0
  • เซนเซอร์ : Fingerprint (ด้านข้าง), accelerometer, gyro, proximity, compass
  • ระบบเสียง : ลำโพงสเตอรีโอ จูนเสียงโดย JBL, รูหูฟัง 3.5 มม.
  • แบตเตอรี่ : 5000 mAh รองรับชาร์จไวผ่านสาย 68W / ไร้สาย 15W
  • มาตรฐานทนน้ำ: IP53
  • ระบบ: Android 13 ครอบทับด้วย XOS 13
  • ขนาด / น้ำหนัก : 168.5 x 76.5 x 8.5 มม. / 205 กรัม

เปิดตัว Infinix Note 30 5G

Infinix Note 30 5G

สำหรับรุ่น 5G ต้องบอกว่าสเปคโดยรวมนั้นคล้ายกับรุ่นมาตรฐานเกือบ 100% เปลี่ยนเพียงแค่ชิปที่ใช้จาก Helio G99 เป็นชิป 5G อย่าง Dimensity 6080 (รีแบรนด์มาจาก Dimensity 810) และมีการอัปเกรดกล้องหลักไปใช้เซนเซอร์ความละเอียดสูง 108MP ISOCELL HM6

ด้านดีไซน์มีการสลับตำแหน่งแฟลช LED นิดหน่อย และนำกล้องรองทั้งสองตัวไปรวมกันอยู่ในโมดูลเดียว ตัวเครื่องมีให้เลือกทั้งหมด 3 สี ได้แก่ สีดำ Magic Black, สีฟ้า Interstellar Blue และสีส้ม Sunset Gold ที่ใช้ฝาหลังวัสดุหนังเทียมซึ่งคล้ายกับรุ่น 4G แบบเป๊ะ ๆ

สเปค Infinix Note 30 5G

Infinix Note 30 5G

  • หน้าจอ IPS LCD ขนาด 6.78 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2460 x 1080)
  • CPU : Dimensity 6080
  • RAM : 8GB
  • ความจุ : 128GB / 256GB รองรับ microSD Card
  • กล้องหลัง 3 ตัว
    – กล้องหลัก ISOCELL HM6 108MP (f/1.75)
    – กล้อง Depth 2MP (f/2.4)
    – กล้อง AI QVGA
  • กล้องหน้า : 16MP (f/2.0)
  • การเชื่อมต่อ : 5G, WiFi 5, NFC, USB-C 2.0
  • เซนเซอร์ : Fingerprint (ด้านข้าง), accelerometer, gyro, proximity, compass
  • ระบบเสียง : ลำโพงสเตอรีโอ จูนเสียงโดย JBL, รูหูฟัง 3.5 มม.
  • แบตเตอรี่ : 5000 mAh รองรับชาร์จไว 45W
  • ระบบ: Android 13 ครอบทับด้วย XOS 13
  • ขนาด / น้ำหนัก : 168.5 x 76.5 x 8.5 มม. / 205 กรัม

ราคา และวันวางจำหน่าย

ทางแบรนด์ได้ออกมายืนยันว่า Infinix Note 30 Series รุ่นเริ่มต้นจะมีราคาอยู่ที่ 230 เหรียญสหรัฐฯ (ราว ๆ 8,000 บาท ยังไม่รวมภาษี) ส่วนอีก 2 รุ่นจะตั้งราคาไม่เกิน 300 เหรียญฯ (ไม่เกิน 10,000 บาท ยังไม่รวมภาษี) ส่วนราคาแบบเต็ม ๆ และวันวางจำหน่ายต้องรอติดตามกันต่อไป และตอนนี้ยังมีอีก 1 รุ่นท็อปสุดอย่าง Note 30 VIP ที่ยังไม่ได้เปิดตัว ใครสนใจต้องจับตาดูให้ดี

 

ที่มา: GSMArena

from:https://droidsans.com/infinix-note-30-series-officially-unveiled/

Infinix ผนึก JBL มอบประสบการณ์ระบบเสียงคุณภาพสูง พร้อมยกระดับการใช้งานที่เหนือกว่าในสมาร์ตโฟน NOTE Series รุ่นใหม่

อินฟินิกซ์ (Infinix) แบรนด์สมาร์ตโฟนราคาคุ้มค่า ครบครันทุกการใช้งาน และตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ ประกาศความร่วมมือกับ JBL แบรนด์เครื่องเสียงระดับโลกและมีเทคโนโลยีเสียงระดับตำนานของ HARMAN เพื่อนำเสียงที่มีคุณภาพเหนือระดับจาก JBL มาพัฒนาให้กับสมาร์ตโฟนรุ่นใหม่อย่าง Infinix NOTE Series ซึ่งเป็นรุ่นที่ได้รับความนิยมและได้รับการยอมรับจากตลาดสมาร์ตโฟน

โดย Infinix ได้ให้ความสำคัญกับประสบการณ์ของผู้ใช้งานมากที่สุด เพราะคุณภาพเสียงถือเป็นส่วนสำคัญในการสร้างประสบการณ์นั้น โดย JBL เป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียงมากกว่า 75 ปีในด้านคุณภาพเสียงและความเชี่ยวชาญ

ซึ่งมือถือซีรีส์ NOTE ที่กำลังจะเปิดในตัวเร็วๆ นี้ ได้รับการอัปเกรดคุณภาพด้วยการปรับแต่งเสียงโดย JBL ร่วมกับนวัตกรรมล่าสุดจาก Infinix เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานให้ดียิ่งขึ้น และทำให้ผู้ใช้งานได้สัมผัสกับประสบการณ์การฟังเพลงที่เป็นอิสระได้อย่างเต็มที่

สำหรับการพัฒนามือถือรุ่นใหม่ NOTE Series ทาง Infinix ได้ร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญของ JBL ปรับระบบซอฟต์แวร์เพื่อให้ได้เสียงที่เป็นเอกลักษณ์ของ JBL โดยระดับเสียงที่ได้จะมีคุณภาพและเสียงไม่เพี้ยน อีกทั้งยังยกระดับคุณภาพเสียงในมือถือด้วยการปรับจูนเสียงให้มีความสมดุลไปพร้อมกับเสียงเบสที่หนัก

โดยเฉพาะเสียงระดับกลางที่ต้องมีความคงที่และสมบูรณ์แบบมากที่สุด พร้อมสร้างเสียงที่มีคุณภาพสูงและสมจริง เพื่อให้ผู้ใช้งานทุกคนสามารถเพลิดเพลินไปกับการฟังเพลงและรับชมทุกความบันเทิงได้อย่างเต็มอรรถรส

Infinix

การร่วมมือกันระหว่าง Infinix และ JBL ในครั้งนี้ ถือเป็นก้าวใหม่ในการนำเสนอสิ่งที่ดีที่สุดให้กับผู้ใช้งานทุกคน โดยให้ความสำคัญกับการมอบประสบการณ์ด้านเสียงอย่างเต็มที่

และสามารถสร้างความมั่นใจได้ว่าสมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ Infinix NOTE Series จะเป็นอุปกรณ์ที่มีคุณภาพและมีระบบเสียงระดับสากล รวมถึงเป็นการนำร่องเพื่อพัฒนาศักยภาพในรุ่นอื่นต่อไปในอนาคตต

ผู้สนใจสามารถติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหวของแบรนด์อินฟินิกซ์ พร้อมโปรโมชันดี ๆ ได้ทาง Infinix Mobile Thailand หรือทางเว็บไซต์ www.infinixmobility.com

.fb-background-color {
background: #ffffff !important;
}
.fb_iframe_widget_fluid_desktop iframe {
width: 100% !important;
}

from:https://www.mobileocta.com/infinix-joins-forces-with-jbl-to-upgrade-the-new-note-series-smartphones/?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=infinix-joins-forces-with-jbl-to-upgrade-the-new-note-series-smartphones

JBL รับรางวัล แบรนด์ที่น่าเชื่อถือที่สุดใน 2023 MOST TRUSTED BRANDS IN AMERICA FOR CONSUMER PRODUCTS AND SERVICES

ร่วมฉลองกับแบรนด์ JBL กับการจัดอันดับผลิตภัณฑ์และบริการที่ครองใจผู้บริโภค

ผู้บริโภคในปัจจุบัน ตัดสินใจซื้อสินค้าด้วยความไว้วางใจ จากการส่งมอบคุณค่าของสินค้าและบริการจากผู้ขาย ที่สร้างความมั่นใจต่อผู้บริโภคว่า คุ้มค่ากับเงินที่จ่ายเพื่อสินค้าและบริการนั้น ๆ อย่างไรก็ตาม “ความเชื่อมั่น” นี้ก็ยากเหลือเกินที่แบรนด์จะได้มา และง่ายที่จะถูกแบรนด์อื่นแย่งไป

JBL

จากการทำสำรวจข้อมูลของนิตยสาร Newsweek ที่ได้ร่วมมือกับบริษัทวิจัยการตลาดชั้นนำ BrandSpark International เพื่อคัดเลือกผู้ชนะรางวัลบริการและแบรนด์ที่ผู้บริโภคเชื่อถือที่สุดในอเมริกาในปี 2023 ทำให้ผู้อ่านและผู้บริโภคตัดสินใจซื้อของด้วยความมั่นใจมากขึ้น

โดยการทำการสำรวจความคิดเห็นของนักช็อปในประเทศอเมริกาครั้งนี้ เกี่ยวกับความคิด ที่มีต่อแบรนด์ที่พวกเขาไว้วางใจมากที่สุด โดยการสำรวจแบบกว้าง ๆ ในกลุ่มตลาดสินค้า ยานยนต์; ทารกและเด็ก ของใช้ในบ้านและเสื้อผ้า อาหารและเครื่องดื่ม; สุขภาพ ความงาม และการดูแลส่วนบุคคล; ครัวเรือนและสัตว์เลี้ยงและบริการ เพื่อคัดเลือก 50 Most Trusted Brand ให้ได้รับเลือกให้เป็น BrandSpark Most Trusted Awards

รางวัล BrandSpark Most Trusted Awards นี้ได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มผู้บริโภค 1,000 คน ที่มาร่วมช่วยกันโหวด แบรนด์ในดวงใจหรือแบรนด์ที่พวกเค้าไว้วางใจมากที่สุด จากหัวข้อหลัก ๆ ในเรื่องของข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ ความโปร่งใสในการจัดหาและวิธีการผลิต ราคาที่เหมาะสมและสามารถตอบสนองที่จะแก้ไขปัญหาต่อผู้บริโภคด้วยความจริงใจ  

โดยในครั้งนี้แบรนด์ JBL ได้รับรางวัลการจัดอันดับแบรนด์ในกลุ่มของสินค้า Home Goods & Clothing หมวดหมู่ Portable Speaker ให้เป็นแบรนด์ที่น่าเชื่อถือที่สุดในอเมริกาสำหรับผลิตภัณฑ์และบริการสำหรับผู้บริโภคปี 2023 นี้

การสำรวจจากผู้ซื้อและลูกค้า ที่ใช้บริการ ผ่านแบบสำรวจออนไลน์ โดยจะคัดเลือกกลุ่มตัวอย่างตามหมวดหมู่ก่อนที่จะเลือกแบรนด์ที่พวกเขาไว้วางใจมากที่สุด (Open Choice)

ผู้ตอบแบบสอบถามจะได้รับการคัดเลือกเป้นรายบุคคล เพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาเป็นตัวแทนของกลุ่มตัวอย่างชาวอเมริกันที่แท้จริง

ผู้ตอบแบบสอบถามให้คำตอบได้เพียง 1 คำตอบต่อ 1 หมวดหมู่ และไม่มีการชี้นำคำตอบจากแบรนด์ใด ๆ

ผู้ชนะของแต่ละหมวดหมู่จะตัดสินจากผลโหวตที่ได้คะแนนมากที่สุด แบรนด์รองชนะเลิศต้องมีคะแนนเกิน 3% ทั้งนี้แบรนด์จะต้องมีเกณฑ์เกินขั้นต่ำจึงจะเป็นผู้ชนะ

.fb-background-color {
background: #ffffff !important;
}
.fb_iframe_widget_fluid_desktop iframe {
width: 100% !important;
}

from:https://www.mobileocta.com/jbl-wins-2023-most-trusted-brand-award/?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=jbl-wins-2023-most-trusted-brand-award

7 ลำโพงพกพาเสียงดี ราคาเป็นมิตร ฟังเพลงชิลๆ ก็ดี ปาร์ตี้ก็มันส์ เริ่ม 1,550 บาท อัพเดทปี 2023

รวมลำโพงพกพาน่ามีไว้ใช้ พกไปงานปาร์ตี้หรือเปิดฟังเพลงชิลๆ ก็ดี!

ลำโพงพกพา 1

ไม่ว่าโอกาสไหนๆ จะไปปาร์ตี้กับเพื่อน, ไปเที่ยวต่างจังหวัดหรือนั่งอ่านหนังสือเงียบๆ ในห้อง หลายคนก็อยากให้มีเสียงเพลงที่ชอบประกอบเสมอ หลายคนจึงมองหาลำโพงพกพาดีๆ สักตัวมาเปิดเพลงฟังให้ได้อารมณ์ สร้างบรรยากาศดีๆ ให้ทำสิ่งต่างๆ ได้มีความสุขได้อรรถรสยิ่งขึ้น ซึ่งลำโพงพกพาเหล่านี้มีตั้งแต่ตัวเล็กเท่า Powerbank ไปจนเป็นลำโพงตัวใหญ่ที่เราคุ้นเคยก็มี ด้านราคาก็มีตั้งแต่หลักพันบาทต้นไปจนรุ่นเรือธงราคาหลักหมื่นบาทเลยทีเดียว

Advertisementavw

และเมื่อเป็นลำโพงพกพา ทางผู้ผลิตก็สร้างแอพฯ มาให้ผู้ใช้โหลดไปติดตั้งในสมาร์ทโฟน Android, iOS ไว้อัพเดทเฟิร์มแวร์, ปรับจูนเสียงหรือสั่งเชื่อมต่อลำโพงรุ่นเดียวกันอีกตัวให้เล่นเพลงเดียวกันให้ได้เสียงแบบสเตอริโอ ฟังเพลงได้อรรถรสยิ่งขึ้นและซีลกันน้ำเอาไว้ด้วย เผื่อเกิดอุบัติเหตุทำลำโพงตกสระน้ำไปโดยไม่ตั้งใจ ก็ยังหยิบกลับขึ้นมาเช็ดให้แห้งได้ทันท่วงทีไม่เสียหายไปเสียก่อน และบางรุ่นที่มีแบตเตอรี่ในตัวเยอะก็เสียบชาร์จแบตเตอรี่ให้สมาร์ทโฟนเครื่องที่ต้องการได้อีกด้วย จัดว่าสะดวกน่าใช้มากและยังจัดเข้ามุมให้เป็นเฟอร์นิเจอร์แต่งห้องได้โดยไม่ขัดสายตาอย่างแน่นอน

ลำโพงพกพา

สรุปสเปค 7 ลำโพงพกพาตัวเด็ด ฟังเพลงสนุก!!

สเปคลำโพงพกพา Connectivity Frequency Response Battery Life Application Price
(Baht)
Sony SRS-XB13 Bluetooth 4.2

USB-C

Google Fast Pair

ต่อแบบสเตอริโอ

20Hz~20kHz 16 ชั่วโมง 1,550
Sony SRS-XB23 Bluetooth 5.0

ปุ่ม Party

20Hz~20kHz 12 ชั่วโมง Sony Music Center 3,990
Anker SoundCore Flare 2 Bluetooth 5.0

USB-C

Party Mode ได้ 100 ตัว

กำลังขับ
20 วัตต์
12 ชั่วโมง SoundCore App 2,790
Marshall Emberton II Bluetooth 5.1

USB-C

60Hz~20kHz

กำลังขับ
20 วัตต์

เสียง 360 องศา

30 ชั่วโมง Marshall Bluetooth 5,990
Bose SoundLink Flex Bluetooth 4.2

USB-C

Party Mode

กำลังขับ
12 วัตต์

PositionIQ

12 ชั่วโมง Bose Connect 6,490
JBL Flip 6 Bluetooth 5.1

USB-C

PartyBoost

63Hz~20kHz

กำลังขับ
30 วัตต์

12 ชั่วโมง JBL Portable 5,190
JBL Boombox 3 Bluetooth 5.3

เชื่อมต่อพร้อมกัน
2 อุปกรณ์

PartyBoost

40Hz~20kHz

กำลังขับรวม
180 วัตต์ RMS

24 ชั่วโมง

เป็น Powerbank ให้สมาร์ทโฟนได้

JBL Portable 21,900

7 ลำโพงพกพาเสียงดีฟังเพลงสนุก

หากใครเป็นสายปาร์ตี้หรือชอบเปิดเพลงฟังในห้อง อยากได้ลำโพงดีๆ เอาไว้ฟังเพลงหรือ Podcast ที่ชอบให้เสียงดังฟังชัดหรือเผื่อหยิบติดตัวไปเที่ยวกับเพื่อนล่ะก็ ผู้เขียนได้เลือกลำโพงน่าใช้มาแนะนำทั้งหมด 7 รุ่น ได้แก่

  1. Sony SRS-XB13 (1,550 บาท)
  2. Sony SRS-XB23 (3,990 บาท)
  3. Anker Soundcore Flare 2 (2,790 บาท)
  4. Marshall Emberton II (5,990 บาท)
  5. Bose SoundLink Flex (6,490 บาท)
  6. JBL Flip 6 (5,190 บาท)
  7. JBL Boombox 3 (21,900 บาท)
1. Sony SRS-XB13 (1,550 บาท)

son1

Sony SRS-XB13 เป็นลำโพงรุ่นแรกราคาถูกแต่เสียงดีโดนใจสายฟังเพลงแน่นอน ด้วยฟีเจอร์ EXTRA BASS ให้เสียงเบสโทนต่ำฟังดีหนักแน่นยิ่งขึ้นและขนาดก็เล็กพกง่ายและมีสายคล้องแขนและแขวนกับอุปกรณ์ต่างๆ ได้ และถ้ามีลำโพง Sony รุ่นเดียวกันก็สามารถเชื่อมต่อแบบสเตอริโอได้ การเชื่อมต่อรองรับเฉพาะ Bluetooth 4.2 เท่านั้น รองรับ Google Fast Pair ตอบสนองความถี่คลื่น 20Hz~20kHz ใช้ฟังเพลงได้นานสุด 16 ชั่วโมงและชาร์จผ่านพอร์ต USB-C ได้ สามารถกันน้ำกันฝุ่นได้ระดับ IP67 ไม่ต้องกังวลเรื่องฝุ่นหรือตกน้ำเลยก็ได้ หากใครอยากได้ลำโพงดีๆ เอาไว้พกไปเที่ยวหรือฟังเพลงในห้องก็ซื้อตัวนี้ได้เลย

สเปคของ Sony SRS-XB13
Connectivity Bluetooth 4.2, USB-C, Google Fast Pair, ต่อแบบสเตอริโอได้
Frequency Response 20Hz~20kHz
Battery Life 16 ชั่วโมง
Application
Price 1,550 บาท (thatsound.great Shopee)
2. Sony SRS-XB23 (3,990 บาท)

2 New size 1 1

ลำโพงพกพาของ Sony รุ่น Sony SRS-XB23 รุ่นนี้อัพเกรดจาก SRS-XB13 ในรุ่นก่อนให้เป็นลำโพงฟูลเรนจ์คู่แบบ X-Balanced Speaker โดยไดอะแฟรมลำโพงถูกออกแบบเป็นทรงไข่ให้มีพื้นที่มากยิ่งขึ้นเบสหนักแน่น ลดอาการเสียงแตกได้สเตจเสียงกว้างขึ้นและดีไซน์ให้มี Passive Radiator ด้านข้างเพื่อเสียงเบสที่ดีขึ้น มีฟีเจอร์ EXTRA BASS ในตัว ถ้ามี SRS-XB23 อีกก็กดปุ่ม Party เชื่อมต่อลำโพงร่วมกันด้วยปุ่ม Party Mode เล่นเพลงร่วมกันได้มากสุด 100 ลำโพง ควบคุมและตั้งค่าได้ด้วยแอพฯ Sony Music Center ได้ ตัวลำโพงเชื่อมต่อได้ด้วย Bluetooth 5.0 ตอบสนองความถี่ 20Hz~20kHz ใช้งานได้นาน 12 ชั่วโมง ชาร์จแบตเตอรี่ด้วยพอร์ต USB-C ได้ กันน้ำและฝุ่นระดับ IP67 หากใครหาลำโพงดีๆ เอาไว้จัดงานปาร์ตี้ก็ซื้อลำโพงพกพา Sony ตัวนี้ไปใช้ได้เลย

สเปคของ Sony SRS-XB23
Connectivity Bluetooth 5.0 มีปุ่ม Party เชื่อมต่อลำโพงร่วมกันได้ 100 ตัว
Frequency Response 20Hz~20kHz
Battery Life 12 ชั่วโมง
Application Sony Music Center
Price 3,990 บาท (Sony Shopee Mall)
3. Anker Soundcore Flare 2 (2,790 บาท)

soundcore flare 2 img 4 2048x

Anker Soundcore Flare 2 รุ่นนี้ก็เป็นลำโพงน่าใช้อีกรุ่นที่ให้เสียงได้ 360 องศารอบทิศทาง มีไฟ RGB คุมเอฟเฟคแสงได้ด้วยแอพฯ SoundCore ได้ กันน้ำกันฝุ่นระดับ IPX7 และเชื่อมต่อลำโพงรุ่นเดียวกันใช้แบบ Party Mode ได้ถึง 100 ตัว รองรับ Bluetooth 5.0 และใช้เป็นลำโพงคุยโทรศัพท์ได้ด้วย มี Bass radiator คู่พร้อมชิป DSP ติดตั้งมาในตัวให้ได้เสียงเบสที่หนักแน่นขึ้น กำลังขับรวม 20 วัตต์ โดยแยกเป็นลำโพง 10 วัตต์ 2 ตัว ให้ได้เสียงรอบทิศทาง มีแบตฯ ในตัว 5,200mAh ใช้งานได้ 12 ชั่วโมง แถมมีฟีเจอร์ชาร์จไวเพียง 3.5 ชั่วโมง แบตเตอรี่ก็กลับมาเต็มแล้วด้วยพอร์ต USB-C หากใครหาลำโพงพกพาแบบมีเอฟเฟคไฟไว้เสริมสีสันในปาร์ตี้ล่ะก็ Anker SoundCore Flare 2 ตัวนี้จัดว่าน่าสนใจมาก

สเปคของ Anker Soundcore Flare 2
Connectivity Bluetooth 5.0, USB-C, เชื่อมต่อ Party Mode ได้ 100 ตัว
Frequency Response – / กำลังขับ 20 วัตต์
Battery Life 12 ชั่วโมง
Application SoundCore App
Price 2,790 บาท (Mac Modern Shopee Mall)
4. Marshall Emberton II (5,990 บาท)

03 usp desktop

Marshall Emberton II เป็นลำโพงพกพาคุณภาพสูงที่ผู้ใช้หลายคนเลือกซื้อมาใช้ นอกจากดีไซน์สวยดูดี ใช้เป็นเฟอร์นิเจอร์ในบ้านได้ ใช้ไดรเวอร์แบบ Dynamic ให้เสียงสเตอริโอรอบทิศทาง 360 องศา มี Stack Mode เชื่อมลำโพง Emberton II เข้าหากันให้เสียงดีและดังยิ่งขึ้น ตั้งค่าและอัพเดทเฟิร์มแวร์ได้ด้วยแอพฯ Marshall Bluetooth ชาร์จแบตเตอรี่ด้วย USB-C ใช้งานได้นานเกิน 30 ชั่วโมง มีปุ่มควบคุมลำโพงติดตั้งมาให้และกันน้ำระดับ IP67 ด้วย จึงใช้ในงานปาร์ตี้ได้สบายๆ ไดรเวอร์ลำโพงเป็นดอกลำโพง 2 นิ้ว 2 ดอก กำลังขับดอกละ 10 วัตต์ รวม 20 วัตต์ ตอบสนองความถี่ 60Hz~20kHz เชื่อมต่ออุปกรณ์ต่างๆ ด้วย Bluetooth 5.1 ได้ทันที หากใครชอบเสียงโทนเบสแน่นและสเตจเสียงกว้างสักนิด ฟังเพลงแนวร็อคและแจ๊สได้ดีมีอรรถรสล่ะก็ Marshall Emberton II เป็นจัดว่าน่าสนใจมาก

สเปคของ Marshall Emberton II
Connectivity Bluetooth 5.1, USB-C
Frequency Response 60Hz~20kHz กำลังขับรวม 20 วัตต์ ได้เสียง 360 องศา
Battery Life 30 ชั่วโมง
Application Marshall Bluetooth
Price 5,990 บาท (thatsound.great Shopee)
5. Bose SoundLink Flex (6,490 บาท)

cq5dam.web .1000.1000

ถ้าคิดถึงลำโพงเสียงดีๆ ต้องมีคนคิดถึงลำโพง Bose อย่างแน่นอน ซึ่งผู้เขียนแนะนำลำโพงพกพา Bose SoundLink Flex ตัวนี้เป็นพิเศษเพื่อคนที่ชอบออกไปมีกิจกรรมนอกบ้านเพราะกันน้ำและฝุ่นระดับ IP67 และติดสายหิ้วหูฟังมาให้เป็นเนื้อเดียวกับบอดี้ซิลิโคนของตัวลำโพง ดังนั้นต่อให้เผลอปัดโดนแล้วตกก็ไม่เสียหาย มีเทคโนโลยี PositionIQ สำหรับจับทิศทางการวางลำโพงแล้ว Optimize เสียงให้ดียิ่งขึ้น มี Party Mode เชื่อม Bose SoundLink Flex อีกตัวเข้าหากันแล้วเล่นเพลงพร้อมกันได้ มีแบตเตอรี่ในตัวให้ฟังเพลงได้นานสุด 12 ชั่วโมง ชาร์จได้ด้วยสาย USB-C มีแอพฯ Bose Connect สำหรับตั้งค่าและอัพเดทเฟิร์มแวร์ให้ลำโพงได้แถมยังใช้รับสายโทรศัพท์ได้ด้วย ด้านการเชื่อมต่อรองรับ Bluetooth 4.2 กำลังขับรวม 12 วัตต์ ถือเป็นลำโพงพกพาคุณภาพดีและงานประกอบแข็งแรงใช้ได้ เหมาะกับสายกิจกรรมกลางแจ้งอย่างแน่นอน

สเปคของ BOSE SOUNDLINK FLEX
Connectivity Bluetooth 4.2, USB-C มี Party Mode
Frequency Response กำลังขับ 12 วัตต์, PositionIQ
Battery Life 12 ชั่วโมง
Application Bose Connect
Price 6,490 บาท (lcdtvthailand Shopee Mall)
6. JBL Flip 6 (5,190 บาท)

JBL Flip 6 Lifestyle 01 904x560px

JBL Flip 6 เป็นลำโพงพกพาอีกรุ่นที่ผู้ใช้หลายคนเลือกซื้อมาฟังเพลง เพราะตัวลำโพงแข็งแรงทนทาน กันน้ำและฝุ่นระดับ IP67 ใช้งานได้ 12 ชั่วโมง และชาร์จผ่านสาย USB-C มีโหมด PartyBoost เชื่อมต่อลำโพง JBL ที่มีฟีเจอร์นี้เข้าหากันแล้วเล่นเพลงเดียวกันพร้อมกันได้ เชื่อมต่อสมาร์ทโฟนด้วย Bluetooth 5.1 ตั้งค่ารวมทั้งอัพเดทเฟิร์มแวร์ได้ด้วยแอพฯ JBL Portable มีกำลังขับรวม 30 วัตต์ ตอบสนองความถี่ 63Hz~20kHz ซึ่งตัว Flip 6 นี้ ใช้งานดีทั้งวางในแนวตั้งหรือนอนก็ได้แถมยังแข็งแรงทนทานไม่เสียง่ายและมีปุ่มควบคุมติดมาให้บนตัวลำโพงอีกด้วย หากใครหาลำโพง Bluetooth เสียงเบสหนัก ฟังเพลงสนุกหรือชอบฟังเพลงแนว EDM เป็นทุนเดิมล่ะก็ JBL ตอบโจทย์อย่างแน่นอน

สเปคของ JBL Flip 6
Connectivity Bluetooth 5.1, USB-C, PartyBoost
Frequency Response 63Hz~20kHz กำลังขับ 30 วัตต์
Battery Life 12 ชั่วโมง
Application JBL Portable
Price 5,190 บาท (Munkonggadget Shopee Mall)
7. JBL Boombox 3 (21,900 บาท)

sg 11134201 22100 cau0163po6ive5

สุดท้ายถ้างบประมาณไม่ใช่ปัญหา จะเอาลำโพงพกพาตัวเด็ดเสียงดีและวางเป็นเฟอร์นิเจอร์ในบ้านได้อีกล่ะก็ JBL Boombox 3 ตัวนี้ถูกใจสายฟังเพลงอย่างแน่นอน เพราะเนื้อเสียงดี สเตจกว้างและเบสหนักแรงปะทะจุใจ ได้มิติเสียง 3 ทิศทาง ตอบสนองความถี่ 40Hz~20kHz กำลังขับรวมสูงสุด 180 วัตต์ RMS ตัวลำโพงติดด้ามจับโลหะมีซิลิโคนสีส้มกันลื่นติดมาให้จับถือติดตัวไปได้ง่าย กันน้ำกันฝุ่นระดับ IP67 และมีโหมด PartyBoost เชื่อมต่อลำโพง JBL ที่มีฟีเจอร์นี้เหมือนกันแล้วเล่นเพลงพร้อมกันได้ ระยะเวลาใช้งานแบตเตอรี่ของ Boombox 3 ตัวนี้ใช้ได้นานสุด 24 ชั่วโมง และใช้ลำโพงเป็น Powerbank ชาร์จแบตเตอรี่ให้สมาร์ทโฟนได้ รองรับ Bluetooth 5.3 เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุดและเชื่อมต่ออุปกรณ์ 2 ชิ้นเข้ากับลำโพงได้ ใช้แอพฯ JBL Portable ควบคุมการทำงานของลำโพงได้ หากใครหาลำโพงตัวโหด กำลังขับสูงเอาไว้จัดปาร์ตี้กับเพื่อนสักตัวล่ะก็ Boombox 3 ตัวนี้จัดเป็นตัวเด็ดน่าสนใจรุ่นหนึ่งเลย

สเปคของ JBL Boombox 3
Connectivity Bluetooth 5.3 เชื่อมต่อพร้อมกันได้ 2 อุปกรณ์ มี PartyBoost
Frequency Response 40Hz~20kHz กำลังขับรวมสูงสุด 180 วัตต์ RMS
Battery Life 24 ชั่วโมง ใช้เป็น Powerbank ให้สมาร์ทโฟนได้
Application JBL Portable
Price 21,900 บาท (Munkonggadget Shopee Mall)

habib dadkhah 6HDoRL0Y w unsplash 1

ข้อดีเมื่อมีลำโพงพกพากำลังขับดีเสียงแน่นติดเอาไว้สักตัวนั้น นอกจากเรื่องพกไปฟังเพลงในงานปาร์ตี้หรือตอนไปเที่ยวกับเพื่อนแล้ว บางครั้งตอนกำลังอ่านหนังสือหรือทำกิจกรรมอื่นๆ ในบ้าน เช่น ล้างรถ, ทำความสะอาดบ้าน, อ่านหนังสือ ก็หยิบมาเปิดเพลงหรือ Podcast ที่ชอบฟังไปเรื่อยๆ ก็ได้ ด้วยขนาดที่เล็กและเบาจึงหยิบติดตัวไปวางตามขอบเฟอร์นิเจอร์ได้สบายๆ เผลอปัดโดนแล้วตกกระแทกพื้นก็ไม่ต้องห่วงว่าลำโพงจะแตกเสียหายเลย เป็นแกดเจ็ตที่มีประโยชน์มากชิ้นหนึ่ง


บทความที่เกี่ยวข้อง

7จอพกพาน่าใช้ 1

7 mechanical keyboard full size 1

7เมาท์ไร้สายเทพๆ

from:https://notebookspec.com/web/687865-7-recommend-portable-speaker

ต่อเวลาแห่งความสุข MAHAJAK MEGA DEAL ดีลสุดพิเศษรับปี 2023 ลำโพง และหูฟัง JBL ทั้งลดทั้งแถม ถึง 15 ก.พ. นี้เท่านั้น!!

Mahajak Mega Deal ต่อเวลาแห่งความสุข ถึงวันที่ 15 ก.พ. นี้เท่านั้น โอกาสสุดท้ายกับดีลสุดพิเศษรับปี 2023 สินค้า ลำโพงและหูฟัง แบรนด์ JBL ลดราคากับแบบจัดเต็ม สูงสุด 30% พร้อมรับฟรี
ของแถมสุด Premium มูลค่ารวมกว่า 4,900 บาท โปรโมชั่นนี้ยังเข้าร่วมนโยบาย ช้อปดีมีคืน 2566 อีกด้วย

โปรโมชั่นสุดพิเศษ ต่อที่ 1 

สินค้าลำโพง และหูฟัง จากแบรนด์ JBL ลดสูงสุดกว่า 30%

โปรโมชั่นสุดพิเศษ ต่อที่ 2 

ช้อปวันนี้ ได้สิทธ์รับฟรี ของ Premium สุด Exclusive จาก JBL x SUNTOS

ซื้อครบ 3,000 บาท/ใบเสร็จ รับฟรี หมอนรองคอสุด Cute จำนวน 1 ใบ (มูลค่า 850 บาท)

ซื้อครบ 6,000 บาท/ใบเสร็จ รับฟรี หมอนนุ่ม ๆ สุดคูล จำนวน 1 ใบ (มูลค่า 1,550 บาท)

ซื้อครบ 10,000 บาท/ใบเสร็จ รับฟรี เก้าอี้สนาม สุดเท่ จำนวน 1 ตัว (มูลค่า 2,500 บาท)

รายละเอียดสินค้า Click >> https://bit.ly/3j9KIuE

รายละเอียดโปรโมชั่น Click >>  https://bit.ly/3FQXHum

Line Shopping Click >> https://shop.line.me/@mahajakstore/

ลงทะเบียนรับประกันสินค้าของแถม Click >> https://lin.ee/aSKutmM

หาซื้อสินค้าได้ที่ร้านค้าตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ Power Buy, Powermall, Betrend,Mercular,

BaNANA, Bb BEYOND D-BOX, Lazada, AV Value, Equip, Soundproofbro, TG, Munkonggadget,

Studio7, B-PLAY, King Power, IT City, Siam Discovery,

Sound City By Mahajak โชว์รูมมหาจักรฯ ทุกสาขาและตัวแทนจำหน่าย JBL ทั่วประเทศ

*ระยะเวลาโปรโมชั่น 15 ธันวาคม 2565 – 15 กุมภาพันธ์ นี้เท่านั้น

*เงื่อนไขโปรโมชั่นเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด

*สินค้าของแถมไม่สามารถเปลี่ยนเป็นเงินสดได้

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ บริษัท มหาจักรดีเวลอปเมนท์ จำกัด
Line : @mahajakstore
Facebook : MahajakLife
IG : Mahajak Life
Tel: 02-256-0020 Ext: 382 หรือ www.mahajak.com

.fb-background-color {
background: #ffffff !important;
}
.fb_iframe_widget_fluid_desktop iframe {
width: 100% !important;
}

from:https://www.mobileocta.com/mahajak-mega-deal-2/?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=mahajak-mega-deal-2

7 หูฟังเกมมิ่งรุ่นเด็ดรับปี 2023 โดนเอาไว้เล่นเกมก็เพลินฟังเพลงก็อิ่ม!!

ปี 2023 นี้มีหูฟังเกมมิ่งเด็ดๆ ให้เลือก เล่นเกมดีฟังเพลงมันส์ทั้งคู่

7 หูฟังเกมมิ่ง 2023 1

หูฟังแบบเฮดโฟนเป็นหูฟังเกมมิ่งยอดนิยมในใจเกมเมอร์เพราะดีไซน์นำเสนอความเป็นเกมเมอร์แถมยังมีฟีเจอร์เด็ดๆ จากทางผู้ผลิตช่วยเสริมคุณภาพเสียงให้ยอดเยี่ยมยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะไดรเวอร์ที่จำลองเสียง 7.1 แชนแนลได้ ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในสถานการณ์นั้นจริงๆ บางรุ่นมีไฟ RGB หรือเชื่อมต่อได้หลากหลายแบบ ทั้ง USB 2.4GHZ Dongle, Bluetooth หรือสายหูฟัง 3.5 มม. ก็ได้ และผู้ผลิตก็มีโปรแกรมปรับแต่งเสียงให้ได้ตามสไตล์และรสนิยมของผู้ใช้ได้ตามชอบ ซึ่งยังไม่รวมเรื่องดีไซน์, ฟีเจอร์เฉพาะของหูฟังแต่ละรุ่น ฯลฯ ในส่วนนี้ก็จะมีรายละเอียดอีกหลายอย่างให้ผู้ใช้ต้องดูเพิ่มเติมอีกมากมายเลย

Advertisementavw

นอกจากตัวหูฟังแล้ว ไมค์ติดหูฟังเกมมิ่งหลายๆ รุ่นก็ถูกพัฒนาให้ดีขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งฟีเจอร์ยืนพื้นก็หนีไม่พ้นการตัดเสียงรบกวนและบางแบรนด์อาจยกฟีเจอร์จากไมค์แยกมาใส่ให้คุณภาพเสียงดีขึ้นและยังตั้งสไตล์เสียงที่ชอบได้, ได้รับการการันตี Discord Certified, Teamspeak Certified ว่าไมค์นี้คุณภาพดีเสียงชัด ใช้กับโปรแกรมพูดคุยยอดนิยมของเกมเมอร์ได้เป็นอย่างดี และบางรุ่นยังติดตั้งชิป DAC พิเศษไว้ใช้ฟังเพลงโดยเฉพาะให้คุณภาพเสียงดีระดับ Hi-Res ฟังเพลงได้เต็มอิ่มถูกใจใครหลายๆ คนอย่างแน่นอน

หูฟังเกมมิ่ง

อย่างไรก็ตาม วิธีการเลือกเกมมิ่งเฮดโฟนให้โดนใจนั้นจะต้องคิดถึงเรื่องแพลตฟอร์มว่าจะใช้กับพีซีหรือเครื่องคอนโซลรุ่นไหน? จะต่อแบบมีหรือไม่มีสายเพราะถ้ามีสายก็จะใช้กับพีซี โน๊ตบุ๊คหรือแท็บเล็ตก็ได้แต่ถ้าเป็นสมาร์ทโฟนที่ปัจจุบันนี้หลายๆ รุ่นไม่มีช่องหูฟัง 3.5 มม. แล้ว ก็ต้องมีตัวแปลงหรือที่คนเล่นหูฟังเรียกว่า “DAC หางหนู” เตรียมเอาไว้ แต่ถ้าเป็นแบบไร้สายและมี Bluetooth ก็ไม่ต้องกังวลเพราะใช้งานได้ทุกอุปกรณ์แน่นอนแต่ก็ต้องหมั่นชาร์จแบตเตอรี่เป็นระยะๆ และถ้าเล่นเกมเสียงก็อาจจะดีเลย์ได้เช่นกัน ซึ่งถ้าใครต้องการทราบวิธีเลือกหูฟังเกมมิ่งแบบละเอียดสามารถอ่านในบทความนี้ได้

สรุปสเปค 7 หูฟังเกมมิ่งน่าโดน จัดของดีเอาไว้ยังไงก็คุ้ม! เล่นเกมก็สนุก ดูหนังก็เพลิน ฟังเพลงก็อิ่มหู!

homescreenify wHmI7P5EC5A unsplash

สเปค 7 หูฟังเกมมิ่ง Driver Microphone  Connectivity Platform

Software

ราคา
(บาท)
HyperX Cloud Alpha S ไดนามิคขนาด 50 มม. จำลองเสียง 7.1 แชนแนล

ตอบสนองความถี่ 10Hz~23kHz

Bi-Directional พร้อมฟีเจอร์ตัดเสียงรบกวน USB PC, PlayStation 4

HyperX NGENUITY

3,990
Razer Barracuda X (2022) Razer TriForce ขนาด 40 มม.

ตอบสนองความถี่ 20Hz~20kHz

Razer HyperClear รับเสียงแบบ Cardioid, Unidirectional

ตอบสนองความถี่ 100Hz~10kHz

USB-C Wireless 2.4GHz

Bluetooth 5.2

สายหูฟัง 3.5 มม.

PC, PlayStation, Android, iOS

Razer Audio

Razer Synapse 3

3,990
Logitech G Pro X PRO-G ขนาด 50 มม. จำลองเสียงได้ 7.1 แชนแนล

ตอบสนองความถี่ 20Hz~20kHz

DTS Headphone:X 2.0

Blue VO!CE รับเสียงแบบ Cardioid

ตอบสนองความถี่ 100Hz~10kHz

USB, สายหูฟัง 3.5 มม. Windows

Logitech G HUB

4,890
ASUS ROG Delta S 50 มม. ตอบสนองความถี่ 20Hz~40kHz
จำลองเสียงได้ 7.1 แชนแนล

ติดตั้งชิป Hi-Fi DAC และ Amp
ESS9281 Pro มา 4 ตัว

ไมค์ Unidirectional

ตอบสนองความถี่ 100Hz~10kHz

AI-Noise Cancelling

Discord Certified

Teamspeak Certified

USB-A

USB-C

PC, macOS, Nintendo Switch, PlayStation 5

Armoury Crate

6,990
SteelSeries Arctis Nova 7 แม่เหล็กนีโอไดเมียมขนาด 40 มม.

ตอบสนองความถี่ 20Hz~20kHz

Nova Acoustic System
จำลองเสียงแบบ 360° Spatial Audio

ClearCast Gen 2 รับเสียงแบบ Bidirectional

ตอบสนองความถี่ 100~6,500Hz

AI Noise-Cancelling

Bluetooth

USB 2.4GHz

USB-C

Windows, macOS, Nintendo Switch, Android, iOS, Meta Quest 2

SteelSeries Engine
Sonar Audio Software Suite

8,990
Sony INZONE H9 แม่เหล็กนีโอไดเมียม 40 มม.

ตอบสนองความถี่ 5Hz~20kHz

360° Spatial Audio

ไมค์บูม Bidirectional
ตอบสนองความถี่ 100~8,000Hz

Discord Certified

Bluetooth 5.0

USB 2.4GHz

USB-C

Windows, PlayStation, Android, iOS

INZONE Hub

8,990
JBL Quantum One ไดรเวอร์ 50 มม. ตอบสนองความถี่ 20Hz~40kHz

JBL QuantumSPHERE 360

 Spatial Sound

Hi-Res Audio

ไมค์บูมพร้อมฟีเจอร์ Active Noise Cancelling

Discord Certified

สายหูฟัง 3.5 มม., USB Windows, macOS, Xbox Series X|S, PlayStation 5, Nintendo Switch, VR

JBL Quantum Engine

9,990

7 หูฟังเกมมิ่งตัวเด็ดประจำปี 2023 เล่นเกมก็ดีฟังเพลงก็เลิศ!

หากเกมเมอร์คนไหนใช้หูฟังเกมมิ่งมาสักพักแล้วอันเก่าเริ่มเสียงเริ่มไม่ดีหรือจะซื้อเพิ่มเอาตัวเก่ามาทิ้งไว้ที่ออฟฟิศแล้วเอาตัวใหม่มาใช้ที่โต๊ะคอมเกมมิ่งที่บ้านล่ะก็ ผู้เขียนได้เลือก 7 รุ่นเด็ดน่าใช้น่าลงทุนมาให้เลือกกัน โดยมีรายชื่อรุ่นดังนี้

  1. HyperX Cloud Alpha S (3,990 บาท)
  2. Razer Barracuda X (2022) (3,990 บาท)
  3. Logitech G Pro X (4,890 บาท)
  4. ASUS ROG Delta S (6,990 บาท)
  5. SteelSeries Arctis Nova 7 (8,990 บาท)
  6. Sony INZONE H9 (8,990 บาท)
  7. JBL Quantum One (9,990 บาท)
1. HyperX Cloud Alpha S (3,990 บาท)

เกมมิ่งเฮดโฟนตัวแรกที่ราคาไม่แพงและได้ฟีเจอร์ค่อนข้างครบเครื่องเป็น HyperX Cloud Alpha S โดยฟีเจอร์เด่นของหูฟังนี้เป็นเรื่องไดรเวอร์เสียงแบบ HyperX Dual Chamber ที่ทางบริษัทออกแบบพื้นที่ช่องเสียงแยกเป็น 2 ชุดสำหรับเสียงกลางและสูงและลดอาการ Distort ได้เสียงเบสที่ดีและมีปุ่มรีโมตคอนโทรลปรับรูปแบบเสียงได้ตามต้องการติดมาให้ ตัวไดรเวอร์แบบไดนามิคขนาด 50 มม. ตอบสนองความถี่ 10Hz~23kHz ได้เสียงแบบ 16-bit จำลองเสียงได้ 7.1 แชนแนล มีสวิตช์ปรับเลื่อนระดับเสียงเบสได้ 3 ระดับตามใจผู้ใช้ ปรับแต่งเสียงได้ด้วยโปรแกรม HyperX NGENUITY ไมค์เป็นแบบ Bi-Directional พร้อมฟีเจอร์ตัดเสียงรบกวนและถอดออกได้เมื่อไม่ใช้งาน เชื่อมต่อเข้ากับ PC และ PlayStaion 4 ได้ด้วยสาย USB เส้นเดียวเท่านั้น หากใครหาหูฟังดีๆ เอาไว้เล่นเกมแล้วไม่แพงมากก็มาเริ่มกับ HyperX ตัวนี้ก่อนได้เลย

สเปคของ HyperX Cloud Alpha S
Driver ไดนามิคขนาด 50 มม. จำลองเสียง 7.1 แชนแนล

ตอบสนองความถี่ 10Hz~23kHz
ได้เสียงแบบ 16-bit

Microphone Bi-Directional พร้อมฟีเจอร์ตัดเสียงรบกวน
Connectivity USB
Platform

Software

PC, PlayStation 4

HyperX NGENUITY

Price 3,990 บาท (HyperX Shopee Mall)
2. Razer Barracuda X (2022) (3,990 บาท)

barracuda

หูฟังเกมมิ่งรุ่นถัดมาเป็นของแบรนด์งูเขียวที่ทำตลาดเกมมิ่งเกียร์มายาวนานอย่าง Razer Barracuda X (2022) โดยหูฟังตัวนี้จะใช้งานแบบมีหรือไร้สายก็ได้ด้วย USB-C Wireless 2.4GHz, Bluetooth 5.2 หรือสายหูฟัง 3.5 มม. ก็ได้จึงเชื่อมต่อได้หลากหลายไม่ว่าจะ PC, PlayStation, Android, iOS ก็สะดวก ไดรเวอร์หูฟังเป็น Razer TriForce ขนาด 40 มม. ตอบสนองความถี่ 20Hz~20kHz พร้อมไมค์ตัดเสียงรบกวน Razer HyperClear รับเสียงแบบ Cardioid, Unidirectional ตอบสนองความถี่ 100Hz~10kHz ฝังแบตเตอรี่เอาไว้ในตัว ใช้งานต่อเนื่องได้นาน 50 ชั่วโมง มีแอพฯ Razer Audio ให้โหลดมาใช้งานทั้งใน App Store และ Google Play เพื่อปรับ EQ เสียงและปรับโหมดการใช้งานได้ตามต้องการ มีฟังก์ชั่น Touch Conntrol และสวิตช์ให้กดตั้งค่าเสียงที่ตัวหูฟังได้ด้วย หากใครหาเกมมิ่งเฮดโฟนตัวเดียวใช้งานได้หมดทุกแพลตฟอร์ม ไม่ต้องเสียเงินซ้ำซ้อนล่ะก็ Razer Barracuda X (2022) ตัวนี้เป็นรุ่นน่าใช้ จ่ายทีเดียวแล้วจบเลย

สเปคของ Razer Barracuda X (2022)
Driver Razer TriForce ขนาด 40 มม. ตอบสนองความถี่ 20Hz~20kHz
Microphone Razer HyperClear รับเสียงแบบ Cardioid, Unidirectional
ตอบสนองความถี่ 100Hz~10kHz
Connectivity USB-C Wireless 2.4GHz, Bluetooth 5.2, สายหูฟัง 3.5 มม.
Platform

Software

PC, PlayStation, Android, iOS

Razer Audio, Razer Synapse 3

Price 3,990 บาท (Razer Shopee Mall)
3. Logitech G Pro X (4,890 บาท)

logitech 1

Logitech G Pro X เป็นเกมมิ่งเฮดโฟนจากแบรนด์ผู้ผลิตอุปกรณ์เชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ชั้นนำของโลกที่ไม่ควรมองข้าม โดยหูฟังนี้เชื่อมต่อด้วยสาย USB, สายหูฟัง 3.5 มม. ได้ไดรเวอร์ PRO-G ขนาด 50 มม. ตอบสนองความถี่ 20Hz~20kHz จำลองเสียงได้ 7.1 แชนแนล รองรับ DTS Headphone:X 2.0 ติดไมค์คอนเดนเซอร์ Blue VO!CE รับเสียงแบบ Cardioid ตอบสนองความถี่ 100Hz~10kHz มาให้และถ้าไม่ใช้งานก็สามารถถอดออกได้ ปรับแต่งเสียงหูฟังและไมค์ได้ด้วยโปรแกรม Logitech G HUB ได้ ปรับแต่ง EQ และเสียงของไมค์ได้ตามต้องการและทางบริษัทก็แถม USB DAC มาให้ จัดว่าครบเครื่องทีเดียวและถ้าใครเน้นเล่นเกม FPS สามารถสมัครและติดตั้งโปรแกรม Immerse by Embody มาใช้จำลองทิศทางเสียงได้ตามต้องการ และส่วนตัวผู้เขียนได้เขียนรีวิวรุ่นที่เชื่อมต่อด้วย LIGHTSPEED USB 2.4GHz ไปแล้ว หากใครสนใจสามารถอ่านรีวิวฉบับเต็มได้ที่นี่ และ Logitech G Pro X ตัวนี้เป็นหูฟังรุ่นที่ผู้เขียนแนะนำเป็นส่วนตัวอีกด้วย

สเปคของ Logitech G Pro X
Driver PRO-G ขนาด 50 มม. จำลองเสียงได้ 7.1 แชนแนล

ตอบสนองความถี่ 20Hz~20kHz

DTS Headphone:X 2.0

Microphone Blue VO!CE รับเสียงแบบ Cardioid
ตอบสนองความถี่ 100Hz~10kHz
Connectivity USB, สายหูฟัง 3.5 มม.
Platform

Software

Windows

Logitech G HUB

Price 4,890 บาท (Logitech Shopee Mall)
4. ASUS ROG Delta S (6,990 บาท)

hero

เมื่อพูดถึงเกมมิ่งเกียร์และเกมมิ่งเฮดโฟนแล้ว ASUS ROG Delta S จากแบรนด์ขวัญใจเกมเมอร์ก็น่าซื้อน่าสนใจมาก โดยหูฟังเกมมิ่งตัวนี้ถูกออกแบบมาให้ใช้งานได้หลายแพลตฟอร์มไม่ว่าจะ PC, macOS, Nintendo Switch, PlayStation 5 ก็ใช้งานได้ โดยเชื่อมต่อผ่าน USB-A, USB-C ก็ได้ ติดตั้งชิป Hi-Fi DAC และ Amp รุ่น ESS9281 Pro มาถึง 4 ตัว ทำให้เสียงตอนฟังเพลงได้คุณภาพระดับ Hi-Res ใช้ฟังเพลงและเล่นเกมได้ดีทั้งคู่ ไดรเวอร์มีขนาด 50 มม. ตอบสนองความถี่ 20Hz~40kHz จำลองเสียงได้ 7.1 แชนแนล มีไมค์ Unidirectional ตอบสนองความถี่ 100Hz~10kHz กับระบบ AI-Noise Cancelling ตัดเสียงรบกวนภายนอก ได้รับการรับรอง Discord Certified, Teamspeak Certified การันตีคุณภาพของมันภายในตัว มีปุ่มปรับความดังของเสียงที่ตัวหูฟังและกด Mute ไมค์และปรับไฟ RGB ได้ ใช้โปรแกรม Armoury Crate ปรับแต่งตัวหูฟังได้ด้วย ดังนั้นถ้าใครหาหูฟังเอาไว้ฟังเพลงและเล่นเกมดีๆ สักตัวหนึ่งล่ะก็ ROG Delta S นี้จัดว่าน่าใช้มาก และยังมีรุ่นพิเศษ EVA Edition ให้แฟนคลับอนิเมชั่นเรื่อง Neon Genesis Evangelion ได้ซื้อไปใช้หรือเก็บสะสมด้วย

สเปคของ ASUS ROG Delta S
Driver 50 มม. ตอบสนองความถี่ 20Hz~40kHz
จำลองเสียงได้ 7.1 แชนแนล

ติดตั้งชิป Hi-Fi DAC และ Amp
ESS9281 Pro มา 4 ตัว

Microphone ไมค์ Unidirectional ตอบสนองความถี่ 100Hz~10kHz

AI-Noise Cancelling

Discord Certified, Teamspeak Certified

Connectivity USB-A, USB-C
Platform

Software

PC, macOS, Nintendo Switch, PlayStation 5

Armoury Crate

Price 6,990 บาท (ASUS Shopee Mall)
5. SteelSeries Arctis Nova 7 (8,990 บาท)

arctis nova 7 black pdp tiles smp d.png 1920x700 crop scale optimize subsampling 2 1

หูฟังเกมมิ่งไร้สาย SteelSeries Arctis Nova 7 ถือเป็นอีกรุ่นที่น่าใช้มาก โดยมันมีระบบ Nova Acoustic System ใช้จำลองเสียงแบบ 360° Spatial Audio เสียงถือว่ามีคุณภาพสูง ใชัฟังเพลงและเล่นเกมได้ดี เชื่อมต่อได้ด้วย Bluetooth, USB 2.4GHz หรือ USB-C ก็ได้ เชื่อมต่อกับระบบปฏิบัติการ Windows, macOS, Nintendo Switch, Android, iOS และ Meta Quest 2 ได้ ใช้งานได้นาน 38 ชั่วโมง ชาร์จไว 15 นาที ใช้งานได้ 6 ชั่วโมงเต็ม ติดตั้งไมค์ ClearCast Gen 2 รับเสียงแบบ Bidirectional พร้อมระบบ AI Noise-Cancelling ตอบสนองความถี่ 100~6,500Hz ปรับแต่งตัวด้วยโปรแกรม SteelSeries Engine กับ Sonar Audio Software Suite ได้ ตัวไดรเวอร์เป็นแม่เหล็กนีโอไดเมียมขนาด 40 มม. ตอบสนองความถี่ 20Hz~20kHz หากเกมเมอร์คนไหนหาหูฟังเกมมิ่งไร้สาย ฟังเพลงดีเล่นเกมเพลินเอาไว้ใช้สักตัว Arctis Nova 7 ตัวนี้จัดว่าน่าสนใจมากเพราะใช้งานได้สะดวกแถมยังใช้ดูหนังฟังเพลงได้ดีแน่นอน

สเปคของ SteelSeries Arctis Nova 7
Driver แม่เหล็กนีโอไดเมียมขนาด 40 มม.
ตอบสนองความถี่ 20Hz~20kHz

Nova Acoustic System
จำลองเสียงแบบ 360° Spatial Audio ได้

Microphone ClearCast Gen 2 รับเสียงแบบ Bidirectional
มีระบบ AI Noise-Cancelling
ตอบสนองความถี่ 100~6,500Hz
Connectivity Bluetooth, USB 2.4GHz, USB-C
Platform

Software

Windows, macOS, Nintendo Switch, Android, iOS, Meta Quest 2

SteelSeries Engine
Sonar Audio Software Suite

Price 8,990 บาท (SteelSeries Shopee Mall)
6. Sony INZONE H9 (8,990 บาท)

3079b76b7065e47d3713234d917992f6 1

แบรนด์อารยธรรมในใจใครหลายๆ คนอย่าง Sony มีหูฟังเกมมิ่ง Sony INZONE H9 ซึ่งออกแบบมาเน้นใช้งานแบบไร้สายด้วย Bluetooth 5.0, USB 2.4GHz กับเครื่อง Windows, PlayStation, Android, iOS เป็นหลักและชาร์จแบตเตอรี่ด้วยสาย USB-C ใช้งานต่อเนื่องได้นาน 32 ชั่วโมง ชาร์จไว 10 นาที ใช้งานได้ 60 นาที ดีไซน์หูฟังเป็นแบบปิดมีฟีเจอร์ตัดเสียงรบกวนจากภายนอก ให้ไดรเวอร์แม่เหล็กนีโอไดเมียมขนาด 40 มม. ทำงานได้เต็มที่ ตอบสนองความถี่ 5Hz~20kHz รองรับเสียงแบบ 360° Spatial Audio มีไมค์บูมแบบ Bidirectional ตอบสนองความถี่ 100~8,000Hz ได้รับการรับรอง Discord Certified แล้ว ตัวหูฟังติดชุดควบคุมเอาไว้ได้แก่ปุ่มเปิดปิดการตัดเสียงรบกวน, เพิ่มลดเสียง, ปรับสมดุลย์ระหว่างเสียงในเกมและเสียงโปรแกรมแชต, โหมด Bluetooth และเปิดปิดไมค์ เรียกว่ามาครบเครื่องพร้อมใช้งาน ตั้งค่าหูฟังโดยละเอียดได้ในโปรแกรม INZONE Hub และถ้าสังเกตจะเห็นว่าหูฟังนี้ตอบสนองความถี่ย่านกว้างจึงเหมาะจะใช้ฟังเพลงและเล่นเกมอย่างแน่นอน ถ้าเกมเมอร์คนไหนหาหูฟังเกมมิ่งเอาไว้ใช้เพื่อความบันเทิงรอบด้านล่ะก็ INZONE H9 ถือว่าน่าลงทุนมาก

สเปคของ Sony INZONE H9
Driver แม่เหล็กนีโอไดเมียม 40 มม.
ตอบสนองความถี่ 5Hz~20kHz 

360° Spatial Audio

Microphone ไมค์บูม Bidirectional
ตอบสนองความถี่ 100~8,000Hz

Discord Certified

Connectivity Bluetooth 5.0, USB 2.4GHz, USB-C สำหรับชาร์จแบตเตอรี่ 10 นาทีใช้ได้ 60 นาที ใช้งานได้นานสุด 32 ชั่วโมง
Platform

Software

Windows, PlayStation, Android, iOS

INZONE Hub

Price 8,990 บาท (Progadgetonline Shopee Mall)
7. JBL Quantum One (9,990 บาท)

JBL Quantum ONE Lifestyle2

หูฟังเกมมิ่งรุ่นสุดท้ายจากแบรนด์ชั้นนำด้านหูฟังและลำโพงอย่าง JBL Quantum One แม้ราคาจะสูงสักนิด แต่ด้านคุณภาพเสียงและความบันเทิงจัดว่าหายห่วงโดยเฉพาะเกมเมอร์หรือคนชอบฟังเพลงน่าจะตกหลุมรักมันได้ง่ายๆ โดยตัว Quantum One ติดตั้งไดรเวอร์ 50 มม. ตอบสนองความถี่ 20Hz~40kHz มาให้ มีฟีเจอร์ JBL QuantumSPHERE 360 รองรับเสียง Spatial Sound, Hi-Res Audio ไมค์บูมที่ได้รับการรับรอง Discord Certified พร้อมฟีเจอร์ Active Noise Cancelling ตัดเสียงรบกวนและถอดเก็บได้เมื่อไม่ต้องการใช้งานและมีปุ่มควบคุมหูฟังติดตั้งมาให้ เชื่อมต่อกับ Windows, macOS, Xbox Series X|S, PlayStation 5, Nintendo Switch และ VR ได้ด้วยสายหูฟัง 3.5 มม., USB ตั้งค่าตัวหูฟังได้ด้วยโปรแกรม JBL Quantum Engine ทั้งเสียงและไฟ RGB แถมยังตั้งค่าเสียงแยกตามโปรไฟล์ของผู้ใช้ได้อีกด้วย ถ้าใครหาหูฟังเกมมิ่งที่ใช้ฟังเพลงได้ดีด้วยก็ขยับมาซื้อ JBL Quantum One ตัวนี้ไปจะดีสุด

สเปคของ JBL Quantum One
Driver ไดรเวอร์ 50 มม. ตอบสนองความถี่ 20Hz~40kHz

JBL QuantumSPHERE 360
รองรับเสียง Spatial Sound, Hi-Res Audio

Microphone ไมค์บูมพร้อมฟีเจอร์ Active Noise Cancelling

Discord Certified

Connectivity สายหูฟัง 3.5 มม., USB
Platform

Software

Windows, macOS, Xbox Series X|S, PlayStation 5, Nintendo Switch, VR

JBL Quantum Engine

Price 9,990 บาท (JBL Shopee Mall)

brandon green aiWjNA46Urc unsplash

หูฟังเกมมิ่งถือเป็นเกมมิ่งเกียร์ที่สำคัญมากไม่แพ้เมาส์คีย์บอร์ด ยิ่งใครเล่นเกม Co-op กับเพื่อนบ่อยๆ ยิ่งน่าลงทุนกับหูฟังดีๆ เอาไว้ ยิ่งถ้าไดรเวอร์ดีฟังชัดจับทิศทางได้ว่าศัตรูมาจากทางไหนและมีไมค์เสียงคมไว้สื่อสารกับเพื่อน ก็ช่วยพลิกนาทีสำคัญให้เอาชนะในเกมนั้นๆ ได้อย่างแน่นอน ยังไงก็ตามหูฟังเกมมิ่งก็เป็นอุปกรณ์ที่มีรสนิยมเข้ามาเกี่ยวข้อง นอกจากเล่นเกมแล้วก็ต้องใช้ดูหนังฟังเพลงอย่างแน่นอน ดังนั้นถ้าใครสนใจหูฟังตัวไหนอยู่ นอกจากอ่านรีวิวแล้วแนะนำให้ไปทดลองฟังเสียงสักนิดว่าโทนเสียงของหูฟังรุ่นนั้นๆ ถูกใจเราหรือไม่ แล้วค่อยตัดสินใจซื้อก็ไม่สาย


บทความที่เกี่ยวข้อง

Share image Edit Name 2gamineheadphone 1

HyperX Cloud Alpha

HyperX Cloud Stinger

from:https://notebookspec.com/web/684207-7-recommend-gaming-headphone-2023

Infinix จับมือ JBL เป็นพาร์ทเนอร์ร่วมจูนระบบเสียงในสมาร์ตโฟน Note Series รุ่นใหม่ เร็ว ๆ นี้

ปี 2022 ที่ผ่านมา Infinix ได้เปิดตัวเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 180W พร้อมพัฒนาระบบระบายความร้อน Vapor Chamber ใหม่ และเปิดตัวสมาร์ตโฟนเครื่องแรกที่มีกล้องความละเอียด 200 ล้านพิกเซล เริ่มต้นปี 2023 ปีใหม่นี้ทาง Infinix จับมือกับ JBL มาช่วยปรับจูนระบบเสียงของสมาร์ตโฟน Infinix

Infinix

ในงาน CES 2023 ที่จัดขึ้นที่เมืองลาสเวกัส ประเทศสหรัฐอเมริกา JBL ได้ประกาศจับมือกับ Infinix โดยการจับมือในครั้งนี้ JBL จะเข้ามาช่วยปรับจูนระบบเสียงของสมาร์ตโฟน Infinix Note Series รุ่นใหม่ในอนาคตให้ดียิ่งกว่าเดิม

ซึ่งตอนนี้สมาร์ตโฟนที่ว่านี้กำลังอยู่ในระหว่างการทดสอบโดยได้นำออกมาโชว์ในบูทของ JBL แล้ว และ Infinix Note Series รุ่นใหม่ที่จะมาพร้อมกับระบบเสียงจาก JBL คาดว่าจะเปิดตัวในช่วงเดือนพฤษภาคม ปี 2023

อย่างไรก็ดี ยังไม่มีข้อมูลว่าทาง JBL จะเข้ามาช่วยปรับจูนเสียงในสมาร์ตโฟน Infinix ซีรีส์อื่น ๆ ด้วยหรือไม่ ซึ่งต้องติดตามกันต่อไปครับ

ที่มา : Gsmarena

.fb-background-color {
background: #ffffff !important;
}
.fb_iframe_widget_fluid_desktop iframe {
width: 100% !important;
}

from:https://www.mobileocta.com/infinix-partners-with-jbl-to-tune-the-sound-of-the-next-note-series/?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=infinix-partners-with-jbl-to-tune-the-sound-of-the-next-note-series

Infinix แท็กทีม JBL ร่วมจูนระบบเสียง Infinix Note Series รุ่นใหม่ เร็ว ๆ นี้

ช่วงนี้ Infinix ถือว่าเป็นแบรนด์มือถือที่เรียกได้ว่าท็อปฟอร์มจริง ๆ หลังจากทำตลาดไทย และตลาดโลกแตกหลายครั้งหลายคราด้วยมือถือสเปคโคตรโหด ในราคาเหลือเชื่อ นอกจากจะมาพร้อมกับมือถือที่พร้อมฆ่าเจ้าตลาดแล้ว Infinix ยังมีเทคโนโลยีที่น่าสนใจในมือถือเช่นระบบชาร์จไวติดสปีด 180W และตอนนี้ดูเหมือนว่า Infinix จะเริ่มเบนความสนใจมาในด้านเสียงแล้ว

ในงาน CES 2023 ที่กำลังจัดขึ้นในช่วงสัปดาห์นี้ JBL ได้ประกาศจับมือกับ Infinix โดยการจับมือในครั้งนี้ JBL จะเข้ามาช่วยปรับจูนระบบเสียงของมือถือ Infinix Note Series รุ่นใหม่ในอนาคตให้ดียิ่งกว่าเดิม และตอนนี้มือถือที่ว่านี้กำลังอยู่ในช่วงทดสอบโดยได้นำออกมาโชว์ในบูทของ JBL แล้ว ซึ่ง Infinix Note Series รุ่นใหม่ที่จะมาพร้อมกับระบบเสียงจาก JBL คาดว่าจะเปิดตัวในช่วงเดือนพฤษภาคม ปี 2023

ทั้งนี้ยังไม่มีข้อมูลว่าทาง JBL จะเข้ามาช่วยปรับจูนเสียงในมือถือ Infinix ซีรีส์อื่น ๆ ด้วยหรือไม่ แต่การจับมือครั้งนี้ก็ถือว่าเซอร์ไพรส์อยู่เหมือนกัน เพราะ JBL รวมถึงบริษัทแม่อย่าง Harman ถูก Samsung ซื้อไปตั้งแต่ปี 2017 ซึ่งก็ไม่แน่ใจว่าทาง Infinix ได้เข้าไปคุยกันยังไง Samsung จึงยอมปล่อยให้เกิดดีลครั้งนี้ได้

ที่มา: GSMArena

from:https://droidsans.com/infinix-jbl-partnership/

NEW!! JBL BOOMBOX 3 ระเบิดพลังเสียง ทุกอารมณ์

ที่สุดของพลังเสียงอันทรงพลัง ปรับโฉมใหม่ทั้งภาพลักษณ์และคุณสมบัติ ที่จับเป็นโลหะ พร้อมแถบซิลิโคนกันลื่นสีส้มสะดุดตา พกพาไปได้ทุกที่ วัสดุผ้าชนิดพิเศษกันน้ำกันฝุ่นด้วยมาตรฐาน IP67ภายในออกแบบใหม่ ซับวูฟเฟอร์ให้เสียงเบสที่ลึกกว่า คมชัด เสียงทรงพลังหนักแน่นเบสลงได้ลึก มิติเสียงแบบ 3 ทิศทาง ให้ความคมชัด พร้อมเสียงเบสสุดกระหึ่ม

ด้วย JBL Original Pro Sound สนุกสุดเหวี่ยงทุกช่วงเวลากับเสียงที่คุณชื่นชอบ ได้นานถึง 24 ชั่วโมง ปรับตั้งค่ารูปแบบเสียงได้ตามต้องการด้วย Application JBL Portable ใช้งานไร้สายด้วย Bluetooth 5.3 Built-in Power Bank ในตัว ชาร์จสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต ผ่าน USB แม้ในขณะที่กำลังเล่นเพลงอยู่ 

พกพาไปได้ทุกที่ ทนแดดทนฝน เชื่อมต่ออุปกรณ์ต่าง ๆ กับลำโพงได้ถึงสองเครื่องเพื่อความหลากหลายในการฟังเพลง เล่นเสียง Stereo หรือเชื่อมต่อตัวอื่นที่รองรับด้วย JBL PartyBoost
ราคาเปิดตัวอยู่ที่  21,900 บาท

FEATURES

พลังเสียง JBL Original Pro Sound หนักแน่นและเบสที่ลึกที่สุด
– อายุการใช้งานแบตเตอรี่ 24 ชั่วโมง
– กันน้ำและกันฝุ่นด้วยมาตรฐาน IP97
– ดีไซน์โดดเด่น แข็งแกร่ง ที่จับโลหะที่ทนทานพร้อมที่จับซิลิโคนสีส้มสะดุดตา สามารถพกพา
  ไปได้ทุกที่
– Built-In Power Bank ในตัว
– เชื่อมต่อสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตกับลโพงแบบไร้สายได้ถึงสองเครื่อง
– จับคู่ลำโพงสองตัวเข้าด้วยกัน เพื่อเสียงแบบ Stereo หรือเชื่อมลำโพงตัวอื่น ๆ ที่เข้ากันได้ ด้วย JBL PartyBoost และควบคุมผ่านแอพ JBL Portable

หาซื้อได้แล้วที่ Showroom มหาจักรทุกสาขา, ร้าน SoundCity ทุกสาขา,
และร้านค้าตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการ

หรือ Shop Online ได้ที่  >>  https://bit.ly/3No4o9f

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ บริษัท มหาจักรดีเวลอปเมนท์ จำกัด
Line : @mahajakstore
Facebook : MahajakLife
IG : Mahajak Life
Tel: 02-256-0020 Ext: 382 หรือ www.mahajak.com

.fb-background-color {
background: #ffffff !important;
}
.fb_iframe_widget_fluid_desktop iframe {
width: 100% !important;
}

from:https://www.mobileocta.com/jbl-boombox-3/?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=jbl-boombox-3