คลังเก็บป้ายกำกับ: สเปค_INFINIX

สเปค Infinix Note 30 VIP ตัวท็อปสุดแรง ใช้ชิป Dimensity 8050 ราคาราว 8,600 บาท ยืนยันเข้าไทย เร็ว ๆ นี้

Infinix Note 30 VIP 5G มือถือสุดแรงตัวท็อปสุดของซีรีส์เปิดตัวในประเทศฟิลิปปินส์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว มาพร้อมสเปคโคตรคุ้มได้ทั้งชิปใหม่ Dimensity 8050 รองรับชาร์จไว All-Round Fast Charge เร็วที่สุดในซีรีส์ 68W ผ่านสาย / 50W ไร้สาย ได้ลำโพงคู่เสียงดีปรับจูนเสียงโดย JBL โดยเปิดราคามาที่ 13,999 เปโซ หรือราว ๆ 8,600 บาทเท่านั้น

Infinix Note 30 VIP

Infinix Note 30 VIP มาพร้อมกับตัวเครื่องดีไซน์เดียวกับทั้ง 4 รุ่นที่เปิดตัวมาก่อนหน้านี้ แต่พิเศษที่รุ่นนี้ฝาหลังจะใช้วัสดุกระจก ที่รองรับมาตรฐานทนฝุ่น ทนละอองน้ำ IP53 นอกจากนี้ยังได้ปิด Pain Point ของหลาย ๆ รุ่นด้วยการเพิ่มไมโครโฟนตัดเสียงรบกวนมาแล้ว ด้านระบบเสียงก็จัดเต็ม เพราะยังคงมาพร้อมกับลำโพงคู่ JBL เหมือนเดิม อีกทั้งยังมีมอเตอร์กันสั่น Z-Axis เพื่อเพิ่มความสมจริงในการเล่นเกมด้วย

จอแสดงผล 10-bit AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว บนความละเอียด Full HD+ (2400 x 1080 พิกเซล) มาตรฐานสี DCI P3 ครอบคลุม 100% รองรับรีเฟรชเรทระดับสูง 120Hz และรองรับ Touch Sampling Rate ที่ 360Hz สามารถดันความสว่างสูงสุดได้ที่ 900 nits รองรับการสแกนนิ้วใต้หน้าจอ

สำหรับการถ่ายภาพนั้น ในรุ่นนี้ยังคงมาพร้อมกับสเปคกล้องที่คล้ายกับรุ่นอื่น ๆ ให้กล้องหลัก 3 ตัวความละเอียด 108MP + กล้อง Depth 2MP + กล้อง AI QVGA รองรับการถ่ายวิดีโอที่ 4K@30FPS ส่วนกล้องหน้ามาในดีไซน์เจาะรูความละเอียด 32MP รองรับการถ่ายวิดีโอที่ 1080P@30FPS

ด้านประสิทธิภาพในรุ่นนี้มาพร้อมกับชิป Dimensity 8050 (รีแบรนด์มาจาก Dimensity 1300) ประกบคู่มากับรุ่นความจุเยอะสะใจ 12GB + 256GB แถมยังรองรับฟีเจอร์เพิ่ม RAM จำลอง Extended RAM สูงสุด 9GB รวมเป็น 21GB นอกจากนี้ยังมีระบบระบายความร้อนด้วยของเหลว Vapor Chamber เพื่อช่วยลดอุณหภูมิในขณะเล่นเกมด้วย

จุดเด่นของรุ่นนี้อยู่ที่ระบบชาร์จไว All-Round Fast Charge ที่ถึงแม้ว่าจะไม่ได้จัดเต็ม 260W แบบที่เคยเอามาโชว์ไว้ แต่ก็ถือว่าให้มาจัดเต็มใช้ได้ โดยตัวเครื่องสามารถชาร์จผ่านสายได้ที่ 68W ชาร์จจาก 1 – 80% ใช้เวลาเพียง 30 นาที นอกจากนี้ยังรองรับชาร์จไวไร้สาย 50W ชาร์จจาก 1 – 50% ในเวลา 30 นาทีเท่านั้น ซึ่งถือว่าคุ้มมาก ๆ เพราะปกติแล้วมือถือราคาต่ำหมื่นมักจะไม่ค่อยได้เห็นระบบชาร์จไร้สายสักเท่าไหร่

นอกจากนี้ตัวเครื่องยังรองรับระบบ Reverse Charging จ่ายไฟให้เมนบอร์ดโดยตรงเหมาะสำหรับการเล่นเกม และเมื่อทำงานร่วมกับระบบระบายความร้อน จะช่วยลดอุณหภูมิตัวเครื่องได้ถึง 7 องศาเซลเซียสขณะเล่นเกม พร้อมจ่ายไฟตรงไปด้วย แถมแบตเตอรี่ยังทนมาก ๆ เมื่อชาร์จครบ 1000 รอบ Cycles แบตเตอรี่จะยังคบเก็บไฟได้ถึง 80% การันตีใช้ได้ต่ำ ๆ ถึง 3 ปีเลยทีเดียว

สเปค INFINIX NOTE 30 VIP

Infinix Note 30 VIP

  • หน้าจอ 10-bit AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2400 x 1080) รีเฟรชเรท 120Hz
  • CPU : Dimensity 8050
  • RAM : 12GB รองรับ Extended RAM รวมสูงสุด 21GB
  • ความจุ : 256GB รองรับ microSD Card
  • กล้องหลัง 3 ตัว
    – กล้องหลัก 108MP
    – กล้อง Depth 2MP
    – กล้อง AI QVGA
  • กล้องหน้า : 32MP
  • การเชื่อมต่อ : 5G, WiFi 5, BT 5.1, NFC, USB-C 2.0
  • เซนเซอร์ : Fingerprint (ใต้หน้าจอ), G-sensor / E-compass/ L-sensor /Proximity sensor / soft-gyroscope
  • ระบบเสียง : ลำโพงสเตอริโอ จูนเสียงโดย JBL, รูหูฟัง 3.5 มม.
  • แบตเตอรี่ : 5,000 mAh รองรับชาร์จไวผ่านสาย 68W / ไร้สาย 50W
  • ระบบ: Android 13 ครอบทับด้วย XOS 13
  • ขนาด / น้ำหนัก : 162.7 x 75.9 x 8.2 มม. / 190 กรัม

ราคา และวันวางจำหน่าย


 

Infinix Note 30 VIP (12GB + 256GB) วางจำหน่ายแล้วที่ประเทศฟิลิปปินส์ในราคา 13,999 เปโซ หรือราว ๆ 8,600 บาท ส่วนในไทยตอนนี้ตัวเครื่องได้ผ่านการรับรองจาก กสทช. เป็นที่เรียบร้อย ส่วนราคาไทยคาดว่าน่าจะใกล้เคียงกับประเทศเพื่อนบ้าน เพราะรุ่น 5G ที่เปิดราคามาเมื่อวานสูงสุดอยู่ที่ 7,999 บาท ซึ่งหากตั้งราคาเป็นขั้นบันได ยังไงราคารุ่นนี้ก็น่าจะอยู่ที่ประมาณ 8,xxx – 9,xxx บาทแน่นอน

ที่มา GSMArena, Shopee (ฟิลิปปินส์), MoCheck (กสทช.)

from:https://droidsans.com/infinix-note-30-vip-officially-unveiled/

สเปค Infinix Note 30, Note 30 Pro และ Note 30 5G มือถือซีรีส์คุ้ม ชูจุดเด่นระบบชาร์จไว พร้อมลำโพงคู่ JBL สุดแจ่ม

หลังจากที่เมื่อสัปดาห์ก่อน Infinix เพิ่งส่งรุ่นน้องอย่าง Note 30i มาชิงพื้นที่เปิดตัวก่อน วันนี้ Infinix Note 30 Series รุ่นพี่อีก 3 รุ่นก็ได้เรียงขบวนกันมาเปิดตัวเป็นที่เรียบร้อยแล้วพร้อมกันถึง 3 รุ่น ได้แก่ Note 30, Note 30 Pro และ Note 30 5G โดยได้ชูจุดเด่นอย่างระบบ All Round Fast Charge ที่ถึงแม้ว่าจะไม่ได้มาพร้อมกับความเร็วทุบสถิติ แต่ก็ได้ใส่กันมาครบ ๆ ให้ทุกรุ่น นอกจากนี้ยังได้ระบบเสียงจาก JBL ด้วย

เปิดตัว Infinix Note 30

Infinix Note 30

Infinix Note 30 (4G) รุ่นมาตรฐานมาพร้อมกับหน้าจอแสดงผล IPS LCD ขนาดใหญ่เต็มตา 6.78 นิ้ว ความละเอียด FHD+ รองรับรีเฟรชเรทที่ 120Hz และรองรับ Touch Sampling Rate ที่ 240Hz สว่างสูงสุด 580 nits ส่วนดีไซน์กล้องหน้าใช้เป็นแบบเจาะรู Punch-Hole

ในรุ่นนี้มาพร้อมกล้องหลัง 3 ตัว โดยกล้องหลักจะใช้เซนเซอร์ Omnivision OV64B ความละเอียด 64 ล้านพิกเซล + กล้อง Depth 2MP + กล้อง AI Lens ความละเอียด QVGA รองรับการถ่ายวิดีโอที่ความละเอียดสูงสุด 1440p@30FPS ส่วนกล้องหน้าให้มาที่ 16MP รองรับการถ่ายวิดีโอที่ 1080p@30FPS

ด้านประสิทธิภาพ รุ่นนี้ใช้ชิปประมวลผล Helio G99 รองรับ 4G มาพร้อม RAM 8GB พ่วงด้วยตัวเลือกความจุ 2 ขนาด 128GB / 256GB ให้แบตเตอรี่มาที่ 5,000 mAh รองรับระบบชาร์จไว All Round Fast Charge ชาร์จผ่านสาย USB-C 2.0 ที่ความเร็ว 45W โดยได้ผ่านการทดสอบการชาร์จสูงสุดถึง 1,000 รอบ (Cycles) รองรับ PD 3.0 และการชาร์จให้อุปกรณ์อื่น

ในรุ่นนี้มาพร้อมกับลำโพงคู่สเตอริโอที่ได้จับมือร่วมกับ JBL เพื่อมาช่วยในการปรับจูนเสียง มีช่องเชื่อมต่อหูฟังขนาด 3.5 มม. รองรับการเพิ่มความจุผ่าน microSD Card  และมี NFC ติดตั้งมาพร้อมกับ Android 13 ตัวเครื่องมีให้เลือกทั้งหมด 3 สี ได้แก่ สีดำ Magic Black, สีฟ้า Interstellar Blue และสีส้ม Sunset Gold ที่ใช้ฝาหลังวัสดุหนังเทียม

สเปค Infinix Note 30

Infinix Note 30

  • หน้าจอ IPS LCD ขนาด 6.78 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2460 x 1080)
  • CPU : Helio G99
  • RAM : 8GB
  • ความจุ : 128GB / 256GB รองรับ microSD Card
  • กล้องหลัง 3 ตัว
    – กล้องหลัก Omnivision OV64B 64MP (f/1.7)
    – กล้อง Depth 2MP (f/2.4)
    – กล้อง AI QVGA
  • กล้องหน้า : 16MP (f/2.0)
  • การเชื่อมต่อ : 4G, WiFi 5, NFC, USB-C 2.0
  • เซนเซอร์ : Fingerprint (ด้านข้าง), accelerometer, gyro, proximity, compass
  • ระบบเสียง : ลำโพงสเตอรีโอ จูนเสียงโดย JBL, รูหูฟัง 3.5 มม.
  • แบตเตอรี่ : 5000 mAh รองรับชาร์จไว 45W
  • ขนาด / น้ำหนัก : 168.6 x 76.6 x 8.6 มม. / 219 กรัม

เปิดตัว Infinix Note 30 Pro

Infinix Note 30 Pro

รุ่น Pro จะได้อัปเกรดพาเนลจอแสดงผลเป็น AMOLED มาตรฐานสี 10 bits ในขนาดใหญ่เท่ากันที่ 6.78 นิ้ว บนความละเอียด Full HD+ รองรับรีเฟรชเรทระดับสูง 120Hz และ Tounch Sampling Rate อยู่ที่ 360Hz สว่างสูงสุด 900 nits ส่วนกล้องหน้าก็มาในดีไซน์แบบเจาะรูเช่นกัน

ด้านประสิทธิภาพโดยรวมแล้วยังคงคล้ายกับรุ่นมาตรฐาน ให้ชิป Helio G99 (4G) และ RAM 8GB พ่วงด้วยตัวเลือกความจุ 2 ขนาด 128GB / 256GB มีระบบระบายความร้อน Vapoส่วนแบตเตอรี่ให้มาที่ 5,000 mAh รองรับ All Round Fast Charge ผ่านสาย USB-C 2.0 ที่เร็วกว่านิดหน่อย 68W ชาร์จจาก 1 – 80% ใช้เวลาเพียง 30 นาที นอกจากนี้ยังรองรับชาร์จไร้สายที่ 15W และรองรับ Reverse Charging ทั้งผ่านสาย และไร้สายด้วย

ส่วนกล้องในรุ่นนี้ได้อัปเกรดมาใช้กล้องหลักความละเอียด 108MP ที่ไม่ระบุเซนเซอร์ แต่คาดว่าน่าจะเป็น ISOCELL HM6 + กล้อง Depth 2MP + กล้อง AI QVGA ส่วนกล้องหน้าก็อัปเกรดความละเอียดจาก 16MP เป็น 32MP

ในรุ่นนี้ยังคงมาพร้อมกับลำโพงคู่สเตอริโอที่ได้จับมือร่วมกับ JBL มีช่องเชื่อมต่อหูฟังขนาด 3.5 มม. รองรับการเพิ่มความจุผ่าน microSD Card  และมี NFC ติดตั้งมาพร้อมกับ Android 13 ตัวเครื่องมีให้เลือกทั้งหมด 2 สี ได้แก่ สีดำ Black และสีทอง Variable Gold

สเปค Infinix Note 30 Pro

Infinix Note 30 Pro

  • หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.78 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2460 x 1080)
  • CPU : Helio G99
  • RAM : 8GB
  • ความจุ : 128GB / 256GB รองรับ microSD Card
  • กล้องหลัง 3 ตัว
    – กล้องหลัก 108MP
    – กล้อง Depth 2MP
    – กล้อง AI QVGA
  • กล้องหน้า : 32MP
  • การเชื่อมต่อ : 4G, WiFi 5, NFC, USB-C 2.0
  • เซนเซอร์ : Fingerprint (ด้านข้าง), accelerometer, gyro, proximity, compass
  • ระบบเสียง : ลำโพงสเตอรีโอ จูนเสียงโดย JBL, รูหูฟัง 3.5 มม.
  • แบตเตอรี่ : 5000 mAh รองรับชาร์จไวผ่านสาย 68W / ไร้สาย 15W
  • มาตรฐานทนน้ำ: IP53
  • ระบบ: Android 13 ครอบทับด้วย XOS 13
  • ขนาด / น้ำหนัก : 168.5 x 76.5 x 8.5 มม. / 205 กรัม

เปิดตัว Infinix Note 30 5G

Infinix Note 30 5G

สำหรับรุ่น 5G ต้องบอกว่าสเปคโดยรวมนั้นคล้ายกับรุ่นมาตรฐานเกือบ 100% เปลี่ยนเพียงแค่ชิปที่ใช้จาก Helio G99 เป็นชิป 5G อย่าง Dimensity 6080 (รีแบรนด์มาจาก Dimensity 810) และมีการอัปเกรดกล้องหลักไปใช้เซนเซอร์ความละเอียดสูง 108MP ISOCELL HM6

ด้านดีไซน์มีการสลับตำแหน่งแฟลช LED นิดหน่อย และนำกล้องรองทั้งสองตัวไปรวมกันอยู่ในโมดูลเดียว ตัวเครื่องมีให้เลือกทั้งหมด 3 สี ได้แก่ สีดำ Magic Black, สีฟ้า Interstellar Blue และสีส้ม Sunset Gold ที่ใช้ฝาหลังวัสดุหนังเทียมซึ่งคล้ายกับรุ่น 4G แบบเป๊ะ ๆ

สเปค Infinix Note 30 5G

Infinix Note 30 5G

  • หน้าจอ IPS LCD ขนาด 6.78 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2460 x 1080)
  • CPU : Dimensity 6080
  • RAM : 8GB
  • ความจุ : 128GB / 256GB รองรับ microSD Card
  • กล้องหลัง 3 ตัว
    – กล้องหลัก ISOCELL HM6 108MP (f/1.75)
    – กล้อง Depth 2MP (f/2.4)
    – กล้อง AI QVGA
  • กล้องหน้า : 16MP (f/2.0)
  • การเชื่อมต่อ : 5G, WiFi 5, NFC, USB-C 2.0
  • เซนเซอร์ : Fingerprint (ด้านข้าง), accelerometer, gyro, proximity, compass
  • ระบบเสียง : ลำโพงสเตอรีโอ จูนเสียงโดย JBL, รูหูฟัง 3.5 มม.
  • แบตเตอรี่ : 5000 mAh รองรับชาร์จไว 45W
  • ระบบ: Android 13 ครอบทับด้วย XOS 13
  • ขนาด / น้ำหนัก : 168.5 x 76.5 x 8.5 มม. / 205 กรัม

ราคา และวันวางจำหน่าย

ทางแบรนด์ได้ออกมายืนยันว่า Infinix Note 30 Series รุ่นเริ่มต้นจะมีราคาอยู่ที่ 230 เหรียญสหรัฐฯ (ราว ๆ 8,000 บาท ยังไม่รวมภาษี) ส่วนอีก 2 รุ่นจะตั้งราคาไม่เกิน 300 เหรียญฯ (ไม่เกิน 10,000 บาท ยังไม่รวมภาษี) ส่วนราคาแบบเต็ม ๆ และวันวางจำหน่ายต้องรอติดตามกันต่อไป และตอนนี้ยังมีอีก 1 รุ่นท็อปสุดอย่าง Note 30 VIP ที่ยังไม่ได้เปิดตัว ใครสนใจต้องจับตาดูให้ดี

 

ที่มา: GSMArena

from:https://droidsans.com/infinix-note-30-series-officially-unveiled/

สเปค Infinix Note 30i มือถือน้องเล็กสเปคดูดี เปิดตัวพร้อมจอ AMOLED ใช้ชิป Helio G85

หลังจากที่มีข่าวหลุดออกมาเมื่อช่วงสัปดาห์ก่อน ในที่สุด Infinix Note 30i ก็เปิดตัวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยรุ่นนี้จะเป็นรุ่นเล็กที่สุดของซีรีส์ มาพร้อมสเปคดูดีเมื่อเทียบกับสมาร์ทโฟนในกลุ่มระดับเริ่มต้น ส่วนราคายังไม่มีการเปิดเผยออกมา แต่คาดว่าน่าจะได้ทราบกับในเร็ว ๆ นี้

Infinix Note 30i

Infinix Note 30i มาพร้อมตัวเครื่องดีไซน์พิมพ์นิยม ฝาหลังมีให้เลือก 2 วัสดุได้แก่ พลาสติก และ หนังวีแกน ขอบเฟรมตัวเครื่องใช้วัสดุพลาสติกสีทองเงางาม รองรับมาตรฐานทนละอองน้ำ IP53 ส่วนจอแสดงผลให้มาที่ขนาด 6.66 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ สีสันจัดเต็มเพราะใช้พาเนลจอแสดงผลแบบ AMOLED มีรีเฟรชเรทอยู่ที่ 60Hz และ Touch Sampling Rate ที่ 180Hz ส่วนดีไซน์มาในแบบจอติ่ง และขอบจอล่างบอกได้เลยว่าบางมาก ๆ

ในส่วนของประสิทธิภาพ รุ่นนี้ใช้ชิปกลาง-ล่างอย่าง Helio G85 ประกบคู่มากับ RAM ขนาด 8GB มีฟีเจอร์ Extended RAM เพิ่มได้สูงสุด 8GB รวมเป็น 16GB ส่วนความจุ ROM ให้มาเยอะจุใจที่ 256GB ส่วนแบตเตอรี่ก็ให้มา 5,000 mAh รองรับชาร์จไวผ่านสาย USB-C 2.0 33W รองรับ Reverse Charging ชาร์จไฟให้อุปกรณ์อื่นได้ ติดตั้งมาพร้อมกับ Android 13 ครอบทับด้วย XOS 13

ด้านเอนเตอร์เทนเมนต์ก็จัดเต็มเพราะรุ่นนี้ให้ลำโพงคู่ที่ปรับจูนเสียงโดยแบรนด์เครื่องเสียงชั้นนำอย่าง JBL แต่น่าเสียดายที่ให้ไมโครโฟนมาแค่ตัวเดียว ไม่มีไมค์ตัดเสียงรบกวน ส่วนกล้องหลังให้มา 2 ตัว ได้แก่กล้องหลัก 64MP + กล้อง QVGA และกล้องเซลฟี่ให้มาที่ 16MP

สเปค INFINIX Note 30i

  • จอ AMOLED ขนาด 6.66 นิ้ว ความละเอียด FHD+ รีเฟรชเรท 60Hz
  • CPU : Helio G85
  • RAM : 8 โหมด Extended RAM เพิ่มแรมได้สูงสุดเป็น 16GB
  • ความจุ : 256GB
  • กล้องหลัง 2 ตัว
    – กล้องหลัก 64MP
    – กล้อง QVGA
  • กล้องหน้า : 16MP
  • พอร์ต :  USB Type-C 2.0
  • ระบบเสียง : ลำโพงคู่ระบบเสียง JBL, มีรูหูฟัง 3.5 มม.
  • เซนเซอร์ : สแกนลายนิ้วมือข้างตัวเครื่อง
  • แบตเตอรี่ 5,000 mAh รองรับชาร์จไว 33W
  • ระบบปฏิบัติการ Android 13 ครอบทับด้วย XOS 13
  • มาตรฐานทนน้ำ: IP53

Infinix Note 30i

Infinix Note 30i มีให้เลือกทั้งหมด 3 สี ได้แก่ สีทอง Variable Gold, สีดำ Obsidian Black และสีเขียว Impression Green ตอนนี้ยังไม่มีการเปิดเผยราคา และวันวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ แต่ ณ ปัจจุบันได้เริ่มเปิดจองแบบ Blind Booking ในประเทศแถบแอฟริกาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หากอิงจาก Infinix Note 20i รุ่นก่อน อาจจะเปิดตัวมาที่ราคาราว ๆ 5,xxx บาท ใครที่ต้องการสมาร์ทโฟนราคาคุ้มค่า ต้องรอติดตามกันให้ดี

 

ที่มา: GSMArena

 

from:https://droidsans.com/infinix-note-30i-officially-unveilled/

สเปค Infinix S5 และ Infinix S5 Lite พร้อมฟีเจอร์และรายละเอียด เปิดราคาเริ่มต้นที่ 3,590 บาท

Infinix หนึ่งในแบรนด์สมาร์ทโฟนที่เน้นเจาะตลาดราคาประหยัดคุ้มค่า ได้เปิดตัวสมาร์ทโฟนใหม่พร้อมเปิดให้จองในประเทศไทยอย่าง Infinix S5 และ Infinix S5 Lite โดยเน้นที่หน้าจอแบบ Punch Hole ขนาดใหญ่เต็มตา 6.6 นิ้ว พร้อมกล้องหน้าความละเอียดสูงและกล้องหลัง 4 ตัว มาพร้อมหน่วยความจำขนาดใหญ่ 64GB และ 128GB ในราคาเริ่มต้น 3,590 บาท

หน้าจอแบบ Punch Hole ขนาดใหญ่ที่สุด

หนึ่งในไฮไลต์ของ Infinix S5 คือหน้าจอแบบ Punch Hole ขนาด 6.6 นิ้วความละเอียด HD+ นับเป็นสมาร์ทโฟนที่มีหน้าจอแบบ Punch Hole ขนาดใหญ่ที่สุดที่จำหน่ายในประเทศไทย ด้วยหน้าจอไร้ขอบ บางเฉียบ  จึงทำให้มีอัตราส่วนหน้าจอต่อเครื่องถึง 90.5% ด้วยอัตราส่วนภาพ 20:9 ให้ความเพลิดเพลินเต็มพิกัดกับการชมภาพยนตร์ในวัดส่วนหน้าจอเดียวกับในโรงหนัง เต็มอิ่มกว่ากับการรับชมวีดิโอสตรีมมิ่ง เล่นเกม และถ่ายภาพ

กล้องเซลฟี่ AI ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล

กล้องเซลฟี AI ของ Infinix S5 มาพร้อมความละเอียด 32 ล้านพิกเซล ที่มีขนาดพิกเซล 1.6 μm รูรับแสงขนาด F2.0 และเทคโนโลยีซูเปอร์พิกเซล 4-in-1 ทุกครั้งที่ถ่ายภาพ ตัวกล้องจะใช้เอฟเฟค 4-in-1 ในการบันทึกภาพโดยอัตโนมัติโดยขึ้นอยู่กับค่า ISO ซึ่งทำให้ขนาดของแต่ละพิกเซลอยู่ที่ 1.6 μm ภาพที่ได้จึงคมชัด สีสันสดใส แม้ในสภาวะแสงน้อย หรือมีแสงสว่างที่ฉากหลัง

พร้อมเทคโนโลยี HDR+ ใหม่ ซึ่งผสมผสานระบบจดจำใบหน้า ระบบแยกประเภทซีนในการถ่ายภาพ และเทคโนโลยี AI HDR เข้าด้วยกัน ผู้ใช้จึงสามารถถ่ายภาพพอร์เทรตได้สวยน่าประทับใจ แม้ในสภาวะที่มีแสงสว่างที่ฉากหลัง นอกจากนั้น กล้องเซลฟีของ S5 ยังรองรับฟังก์ชั่น 3D Face Beauty และให้ผู้ใช้ปรับแต่งสไตล์ของภาพในโหมด Beauty ได้ถึง 4 รูปแบบ

กล้องหลังเอไอ 4 ตัว เพื่อภาพพอร์ตเทรตสวยสุดประทับใจ

S5 ใช้กล้องหลังเอไอแบบ 4 ตัว พร้อมแฟลชอัจฉริยะ 4 ตัว ประกับด้วยกล้องโฟกัสอัตโนมัติความละเอียด 16 ล้านพิกเซล กล้องเลนส์มุมกว้าง ultra-wide และเลนส์มาโคร กล้องควบคุมความชัดลึก และกล้องเลนส์เอไอ ด้วยเลนส์มาโคร ผู้ใช้สามารถถ่ายภาพวัตถุในระยะใกล้ได้โดยเห็นทุกรายละเอียดอย่างชัดเจน

นอกจากนั้น เลนส์มุมกว้าง ultra-wide และเลนส์มาโคร ยังช่วยให้ผู้ใช้สามารถถ่ายภาพวีดิโอแบบมุมกว้างและมาโครได้เหนือชั้นกว่ารุ่นก่อนหน้า

ดีไซน์ลวดลายขนนกคริสตัล

ด้วยแรงบันดาลใจจากความสวยงามของธรรมชาติและนกเคทซาล (Quetzal) จึงเกิดเป็นดีไซน์ลวดลายขนนกคริสตัล โดยทีมอินฟินิกซ์ได้อาศัยความพยายามมหาศาลในการเอาชนะความท้าทายต่าง ๆ เพื่อสร้างสรรค์สีสันและลวดลายแบบไล่เฉดสีที่สวยงามอย่างสมบูรณ์แบบบนตัวเครื่องสมาร์ทโฟน Infinix S5 จึงเป็นต้นแบบของการผสมผสานดีไซน์ที่เปี่ยมสไตล์เข้ากับเทคโนโลยีสุดล้ำ โดยมีให้เลือกในสามเฉดสี คือ Quetzal Cyan, Nebula Black และ Violet

Infinix S5 มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ถึง 4000mAh ระบบประมวลผล MediaTek Helio P22 ระบบปฏิบัติการ AndroidTM Pie และมี XOS ครอบทับ

สเปค Infinix S5

  • หน้าจอ 6.6 นิ้ว ความละเอียด HD+ 1600 x 720
  • ชิป Heilo P22 MTK6762 2.0GHz octa-core
  • RAM 6GB
  • ROM 128GB
  • กล้องหน้าความละเอียด 32 MP
  • กล้องหลัง 4 ตัว ความละเอียด 16MP + 5MP + 2MP + QVGA
  • ระบบ Android 9.0
  • แบตเตอรี่ 4000 มิลลิแอมป์ รองรับการชาร์จ 10 วัตตฺ์ (5V2A)
  • ราคาเปิดตัว 4,390 บาท

 

สเปค Infinix S5 Lite

  • หน้าจอ 6.6 นิ้ว ความละเอียด HD+ 1600 x 720
  • ชิป Heilo P22 MTK6762 2.0GHz octa-core
  • RAM 4GB
  • ROM 64GB
  • กล้องหน้าความละเอียด 16 MP
  • กล้องหลัง 4 ตัว ความละเอียด 16MP + 2MP + QVGA
  • ระบบ Android 9.0
  • แบตเตอรี่ 4000 มิลลิแอมป์
  • ราคาเปิดตัว 3,590 บาท

Infinix S5 และ S5 Lite ประกาศวางจำหน่ายเฉพาะทางลาซาด้า ในราคาเริ่มต้นเพียง 3,590 บาท โดยเปิดให้ลงทะเบียนความสนใจได้ตั้งแต่วันที่ 2 – 11 ธันวาคม (โดยลูกค้า 100 คนแรกจะได้ Bluetooth Sound Bar มูลค่า 690 บาทด้วย) และจะเริ่มวางจำหน่ายจริงในวันที่ 12 ธันวาคม 2562 เป็นต้นไป

from:https://droidsans.com/spec-infinix-s5-series/