คลังเก็บป้ายกำกับ: VMWARE_VREALIZE_LOG_INSIGHT

VMware ออกแพตช์ vRealize อุดช่องโหว่ที่ทำให้รันคำสั่งด้วยสิทธิ root

VMware ออกแพตช์ vRealize อุดช่องโหว่ที่ทำให้ผู้โจมตีสามารถรันคำสั่งด้วยสิทธิ root ได้

VMware ได้ออกอัปเดตแพตช์สำหรับ vRealize Log Insight หรือชื่อใหม่คือ VMware Aria Operations for Logs ซึ่งเป็นระบบที่ใช้ในการวิเคราะห์ Application และ Infrastucture Log มีการอุดช่องโหว่ด้วยกันทั้งหมด 2 ตัว ได้แก่ CVE-2023-20864 ทำให้ผู้โจมตีสามารถรันคำสั่งด้วยสิทธิ root ได้ มีความรุนแรงระดับ CVSSv3 score 9.8 คะแนน เกิดขึ้นเฉพาะเวอร์ชัน 8.10.2 เท่านั้น ทาง VMware แนะนำให้อัปเดตโดยด่วน สำหรับอีกช่องโหว่คือ CVE-2023-20865 ทำให้ผู้โจมตีที่มีสิทธิระดับผู้ดูแลระบบสามารถรันคำสั่งด้วยสิทธิ root ได้ มีความรุนแรง CVSSv3 score 7.2 คะแนน เกิดขึ้นในเวอร์ชันอื่นๆของ VMware Aria Operations for Logs

อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีรายงานการโจมตีด้วยสองช่องโหว่นี้ ผู้ดูแลระบบสามารถอัปเดตไปใช้งานเวอร์ชัน 8.12 เพื่ออุดช่องโหว่ทั้งสองตัวได้แล้ว

ที่มา: https://www.bleepingcomputer.com/news/security/vmware-fixes-vrealize-bug-that-let-attackers-run-code-as-root/

from:https://www.techtalkthai.com/vmware-releases-patch-for-vrealize-fix-command-runner-as-root-flaws/

VMware ออกแพตช์อุดช่องโหว่ใน vRealize Log Insight

VMware ออกแพตช์อุดช่องโหว่ความรุนแรงสูงใน vRealize Log Insight ผู้ใช้งานควรทำการอัปเดตทันที

Credit: VMware

VMware ได้ประกาศออกแพตช์เพื่ออุดช่องโหว่ที่พบใหม่ใน VMware vRealize Log Insight หรือในชื่อใหม่ VMware Aria Operations for Logs ระบบแอพพลิเคชัน Log Analysis ภายใต้ VMware Environment โดยประกอบด้วยช่องโหว่สองตัว ได้แก่ CVE-2022-31703 เป็นช่องโหว่ชนิด Directory Traversal ทำให้ผู้ไม่หวังดีสามารถนำไฟล์เข้าสู่ระบบเพื่อทำ Remote Code Execution ได้ และช่องโหว่ CVE-2022-31704 เกิดขึ้นในระบบ Access Control ทำให้แฮ็กเกอร์สามารถเจาะเข้าสู่ระบบได้เช่นเดียวกัน ทั้งสองช่องโหว่มีระดับความรุนแรง CVSS Score 9.8/10 สามารถโจมตีได้โดยไม่ต้องยืนยันตัวตน และการโจมตีไม่ได้มีความซับซ้อนมาก อย่างไรก็ตามยังไม่มีการตรวจพบการโจมตีในปัจจุบัน โดย VMware แนะนำให้ผู้ดูแลระบบทำการอัปเกรดไปเป็นเวอร์ชัน 8.10.2 เพื่ออุดช่องโหว่

ที่มา: https://www.bleepingcomputer.com/news/security/vmware-fixes-critical-security-bugs-in-vrealize-log-analysis-tool/

from:https://www.techtalkthai.com/vmware-releases-new-patch-for-flaws-in-vrealize-log-insight/

พบกับโปรโมชัน Dell EMC VxRail เริ่มต้นใช้งาน VMware ได้ใน 1.39 ล้านบาทบน HCI 3 Node

Dell EMC ได้จัดโปรโมชันสำหรับตอบโจทย์เหล่าธุรกิจที่ต้องการเริ่มต้นใช้งาน VMware vSphere บน Hyper-Converged Infrastructure (HCI) ได้ในราคาประหยัดเพียงแค่ 1.39 ล้าน ครอบคลุมทั้ง Server, Software License และประกัน 3 ปีแบบ 7×24 Onsite Service แล้ว โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

 

รู้จัก Dell EMC VxRail กันก่อน

Credit: Dell EMC

 

Dell EMC VxRail คือโซลูชันระบบ Hyper-Converged Infrastructure (HCI) ที่ผสานเทคโนโลยีร่วมกันระหว่าง Dell EMC และ VMware โดยตรง ดังนี้

  • Server ใช้ Dell EMC PowerEdge
  • Hypervisor ใช้ VMware vSphere
  • Software-Defined Storage (SDS) ใช้ VMware vSAN
  • Management ใช้ VMware vCenter, VMware vRealize Log Insight และ Dell EMC OpenManage
  • Backup ใช้ VMware vSphere Data Protection, VMware vSphere Replication และ Dell EMC Recoverpoint for VMs

เรียกได้ว่าเป็นระบบ HCI ที่ครบทั้งส่วนของ Compute, Storage, Management และยังเพิ่ม Backup เข้ามาให้พร้อมใช้งาน โดยเทคโนโลยีของทั้ง VMware และ Dell EMC ที่นำมาใช้ในโซลูชันนี้ก็ถือเป็นเทคโนโลยีมาตรฐานและเทคโนโลยีเสริมต่อยอดจากระบบ Virtualization ปกติเพื่อให้ง่ายต่อการบริหารจัดการและการดูแลรักษามากยิ่งขึ้นด้วย

Dell EMC VxRail นี้ถือเป็นระบบ HCI เริ่มต้นที่สามารถอัปเกรดไปสู่การทำ Software-Defined Data Center (SDDC) ได้ในตัว โดย Dell EMC ยังมีโซลูชัน VxRack ที่ต่อยอดขึ้นไปด้วยการนำ VxRail จำนวนมากมาทำงานร่วมกันและบริหารจัดการด้วยระบบ SDDC ทั้งหมดก็ได้เช่นกัน

นอกจากนี้ Dell EMC ยังจะทำหน้าที่เป็น Single Point of Contact ให้ คือหากผู้ใช้งานติดปัญหาใดๆ ก็ตามทั้งในส่วนที่เกี่ยวกับ Dell EMC หรือ VMware ก็สามารถติดต่อทีมงาน Dell EMC เพื่อสนับสนุนการใช้งานได้ทั่วประเทศไทยทันที ทำให้เหล่าธุรกิจองค์กรต่างๆ สามารถมั่นใจได้ในการใช้งานและการดูแลรักษาระยะยาว เหมาะกับทั้งธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลางที่ต้องการเริ่มต้นใช้งาน VMware หรือธุรกิจขนาดใหญ่ที่กำลังมองหาหนทางในการทำ Data Center Modernization และ Edge Computing กระจายทั่วสาขาต่างๆ ในประเทศไทย

ผู้ที่สนใจสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.dellemc.com/en-ug/converged-infrastructure/vxrail/index.htm

 

โปรโมชัน Dell EMC VxRail E560 x3 ราคา 1.39 ล้านบาท (ไม่รวมภาษี) พร้อมใช้งานได้ทันที

สำหรับโปรโมชันของ Dell EMC VxRail500 E560 Hybrid x3 นี้ จะมีราคาอยู่ที่ 1.39 ล้านบาท (ยังไม่รวมภาษี) โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

  • Dell EMC VxRail E560 Hybrid จำนวน 3 ชุด แต่ละชุดมีส่วนประกอบดังนี้
    • 1x Intel CPU 3104 6C 1.7GHz
    • 4x Memory 16GB RDIMM
    • 1x SSD 400GB 10WPD 2.5INCH
    • 3x HDD SAS 1.2TB 10K RPM 2.5INCH
    • Intel X550 QP 10GB RJ45
    • 2x HOTPLG 1100W PS H, Redundant
    • A7 READYRAILS II W/O CMA 1U1N
    • PROSUPPORT W/MISSION CRITICAL-HW 3 YEAR
    • VSPH STD 6.5 1CPU W/3YR MAINT
    • 3Yr ProSupport Plus and Mission Critical: (7×24) 4-hour Onsite Service

 

สรุปง่ายๆ ได้ว่าในโปรโมชันนี้จะรวม Server 3 เครื่อง แต่ละเครื่องติดตั้ง 1 CPU, 64GB RAM, 1x 400GB SSD, 3x 1.2TB 10K SAS HDD และมี 10GbE มาให้ใช้งาน 4 ช่อง พร้อมติดตั้ง VMware vSphere Standard 6.5 มาให้แต่ละเครื่องเรียบร้อยแล้ว ส่วน vSAN นั้นถือเป็นส่วนที่รวมอยู่ใน Dell EMC VxRail ให้ใช้งานได้ทันที ทั้งหมดนี้มาพร้อมประกัน 3 ปีแบบ 7×24 Onsite ภายใน 4 ชั่วโมงทุกส่วน

ทั้งนี้ใน Dell EMC VxRail เองนั้นก็มีการรวม VMware vSphere Data Protection, VMware vSphere Replication และ Dell EMC Recoverpoint สำหรับการทำ Backup มาให้ด้วยแล้ว และ Dell EMC เองก็จะทำหน้าที่เป็น Single Point of Contact ให้ติดต่อได้ไม่ว่าการใช้งานจะมีปัญหาในส่วนของ Hardware ของ Dell EMC หรือ Software ของ VMware ก็ตาม และหากเดิมทีมีการใช้งาน Dell OpenManage อยู่แล้ว ก็สามารถบริหารจัดการ Dell EMC VxRail ร่วมกันได้จากศูนย์กลางเลย

ก็ถือว่าเป็นทางเลือกที่คุ้มค่าไม่น้อยทีเดียวสำหรับธุรกิจที่ต้องการเริ่มต้นใช้งาน VMware vSphere เพื่อทำ Data Center Consolidation ย้ายระบบเก่าขึ้นมาบน Virtualization, เพิ่มความง่ายในการบริหารจัดการ, เพิ่มการทำ High Availability (HA) ให้กับระบบสำคัญๆ และเพิ่มความทนทานในระบบ Storage ให้สูงขึ้นสำหรับระบบทั้งหมดที่ใช้งาน และก็เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับธุรกิจที่ต้องอัปเกรดระบบ Server หรือ Storage ภายในองค์กร ให้กลายมาเป็น HCI แทนทั้งหมด

 

พบกับโปรโมชันอื่นๆ ของ Dell EMC

ในปลายปี 2018 นี้เอง Dell EMC เองก็ยังมีโปรโมชันอื่นๆ ที่น่าสนใจอีกมากมาย ทั้ง Server, HCI, Storage และ Networking ดังนี้

คลิกเพื่อโหลดภาพขนาดใหญ่

 

คลิกเพื่อโหลดภาพขนาดใหญ่

 

สนใจติดต่อสอบถามทีมงาน Dell EMC ได้ทันที

ผู้ที่สนใจโปรโมชันใดๆ ของ Dell EMC สามารถสอบถามได้ที่คุณวศิน โทร 090-979-4215 หรือติดต่อ admin@register-dellemc-th.com หรือติดต่อทีมงาน Dell EMC Thailand ได้โดยตรงเพื่อสอบถามราคาสินค้ารายการอื่นๆ ได้ที่ https://facebook.com/DellEMC.thailand

from:https://www.techtalkthai.com/dell-emc-vxrail-promotion-for-2018-q4/

VMware ออกอัปเดต VMware Validated Design for SDDC 4.1

VMware ออกอัปเดต VMware Validated Design for Software-defined Data Center 4.1 แบบ GA แล้ว

Credit: VMware

VMware Validated Design for Software-definded Data Center เป็นชุดคู่มือเอกสารเกี่ยวกับการ Design, Build, Deployment และ Operate ระบบ Software-Defined Data Center จากทาง VMware ซึ่งตัวอย่างการออกแบบในเอกสารได้ผ่านการทดสอบใช้งานจริงมาแล้ว เพื่อยืนยันความเข้ากันได้ของแต่ละผลิตภัณฑ์ ทั้งในด้าน Compute, Storage, Networking และ Management โดยประกอบไปด้วยโซลูชันดังนี้ vSphere 6.5 Update 1, vSAN 6.6.1, NSX for vSphere 6.3.3, vRealize Operations 6.6.1, vRealize Log Insight 4.5, vRealize Automation 7.3, vRealize Business for Cloud 7.3 และ Site Recovery Manager 6.5.1

ซึ่งใน VMware Validated Design for SDDC 4.1 ได้มีการปรับเปลี่ยนในหลายจุด โดยส่วนที่สำคัญมีดังนี้

  • Management Pod vSAN กลายเป็นทางเลือก: ก่อนหน้านี้ใน VMware แนะนำให้ใช้ vSAN เป็น Primary Storage ใน Management Pod เท่านั้น ล่าสุดได้มีการปรับคำแนะนำนี้เป็นทางเลือกแล้ว โดยแนะนำให้ใช้งาน vSAN หรือ Storage Solution ที่รองรับเท่านั้นในการออกแบบ อย่างไรก็ตาม ในเอกสารนี้ VMware ได้ใช้ vSAN เป็น Primary Storage ทั้งหมด
  • Network Transport รองรับทั้ง L2 และ L3: เพิ่มการรองรับการใช้งาน L2 และ L3 สำหรับ Network Transport โดยก่อนหน้านี้แนะนำให้ใช้เฉพาะ L3 เท่านั้น อย่างไรก็ตาม ผู้ออกแบบควรคำนึงถึงงบประมาณในการลงทุนและความยากง่ายในการดูแลระบบ Network ในอนาคตด้วย
  • รองรับการใช้งาน Embedded vRealize Orchestrator: เป็นการลดจำนวน Appliance ลง จากก่อนหน้านี้ ที่จำเป็นต้องใช้งาน vRealize Orchestrator Appliance จำนวน 2 ตัว และยังทำให้ได้ประสิทธิภาพในระบบโดยรวมเพิ่มขึ้นด้วย
  • Consolidated Management and Workload: รองรับการ Consolidated เพื่อรวมทุก Pod ต่างๆ เช่น Management, Edge และ Workload เข้าเป็น Pod เดียว โดยเริ่มต้นที่ 4 ESXi hosts และขยายสูงสุดได้ถึง 32 Hosts ในขณะที่ยังสามารถใช้งานโซลูชันต่างๆในระบบ SDDC ได้อย่างครบถ้วน

สำหรับผู้ที่สนใจสามารถดาวน์โหลด VMware Validated Design for SDDC 4.1 ได้ที่ : https://www.vmware.com/support/pubs/vmware-validated-design-pubs.html
หรือดาวน์โหลดแบบ Poster ได้ที่ : https://communities.vmware.com/docs/DOC-36103

ที่มา : https://blogs.vmware.com/cloud-foundation/2017/08/22/vmware-validated-design-sddc-4-1-generally-available/

from:https://www.techtalkthai.com/vmware-releases-vmware-validated-design-for-software-definded-data-center-4-1-ga/

5 ตัวอย่างของการใช้ Internet of Things จริงในธุรกิจระดับโลก

จากที่ Gartner เคยทำนายเอาไว้ว่าปี 2016 นี้จะเป็นปีของ Internet of Things (IoT) สำหรับการนำมาใช้งานในเชิงธุรกิจ ทาง VMware เองก็ต้องการร่วมผลักดันประเด็นนี้จึงได้รวบรวม 5 ตัวอย่างของการใช้ IoT จริงๆ ในธุรกิจมาให้เราได้ดูกัน ซึ่งทีมงาน TechTalkThai ก็ขอนำมาสรุปเอาไว้ดังนี้ครับ

Credit: ShutterStock.com
Credit: ShutterStock.com

 

1. British Telecommunications (BT) กับการใช้ Sensor ตรวจวัดตำแหน่งของสาย Cable ที่มีปัญหา

BT ได้ใช้เทคโนโลยี Location Intelligence จาก Pitney Bowes เพื่อติดตามตำแหน่งต่างๆ ที่เกิดปัญหาภายในระบบเครือข่ายและสาย Cable ในพื้นที่ให้บริการตามอาคารต่างๆ ของลูกค้า ทำให้การให้บริการด้านการสื่อสารเป็นไปได้อย่างราบรื่นขึ้นทั้งในแง่ของการติดตั้งและการแก้ไขปัญหา

 

2. Siemens เปลี่ยนฟาร์มผลิตไฟฟ้าพลังงานลมให้กลายเป็นระบบอัจฉริยะ

Siemens เป็นหนึ่งในผู้นำทางทางด้านเทคโนโลยีพลังงานลมของโลก และได้นำเทคโนโลยี RTI Messaging Software ร่วมกับ Sensor ต่างๆ เพื่อติดตามการทำงานของกังหันผลิตไฟฟ้านับหลายร้อยตัว และทำ Predictive Maintenance ล่วงหน้า พร้อมทั้งการปรับแต่งค่าการทำงานของกังหันให้เหมาะกับสภาพลมในแต่ละช่วงเวลา

 

3. UPS ประหยัดค่าใช้จ่ายในการติดตามเส้นทางการเดินรถ

UPS ทำการติดตั้ง GPS Tracking และระบบ Sensor ตรวจวัดการทำงานของรถยนต์ตั้งแต่ปี 2008 เพื่อค้นหารูปแบบของเส้นทางการเดินรถที่สั้นที่สุดและประหยัดค่าใช้จ่ายที่สุด โดยระบบ On-Road Integrated Optimization and Navigation (ORION) ของ UPS ก็ได้นำข้อมูลทั้งหมดนี้มาวิเคราะห์และช่วยให้ UPS ประหยัดน้ำมันไปได้แล้ว 1.5 ล้านแกลลอนจากการเดินรถด้วยกัน 10,000 เส้นทาง และเตรียมจะขยายการวิเคราะห์ข้อมูลนี้เพิ่มไปถึง 55,000 เส้นทางภายในปี 2017

 

4. Ochsner ใช้อุปกรณ์ IoT ทางการแพทย์ผสานเข้ากับระบบข้อมูลผู้ป่วย

Ochsner Health System ได้ทำการผสานระบบ Electronic Health Record (EHR) ที่มีชื่อว่า Epic เข้ากับอุปกรณ์ Wearable และ IoT เพื่อช่วยให้ได้รับข้อมูลและสื่อสารกับผู้ป่วยได้มากขึ้น และปรับปรุงผลการรักษาให้ดีขึ้นได้จากการนำข้อมูลสุขภาพแบบ Real-time จากอุปกรณ์ IoT ที่ติดตามตัวผู้ป่วยเพื่อวัดค่าต่างๆ มาส่งต่อให้ระบบ Epic เพื่อให้แพทย์สามารถติดตามข้อมูลทางสุขภาพได้โดยตลอด และสามารถวินิจัยอาการได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น

 

5. AT&T กับเทคโนโลยีการติดตามตู้ Container ด้วย IoT

สำหรับธุรกิจต่างๆ ที่มีบริการขนตู้ Container นั้น ทาง AT&T ได้มีโซลูชั่น IoT และระบบเครือข่ายสำหรับติดตามตู้ Container และรถขนตู้ Container ได้แบบ Real-time เพื่อลดการฉ้อโกงลง, ติดตาม Inventory ได้แม่นยำ และบริหารจัดการการขนส่งได้ดีขึ้นไปพร้อมๆ กัน

 

VMware กับการรุกเข้าตลาด IoT

ทางด้าน VMware เองก็ได้โฆษณาโซลูชั่นของตัวเองใน Blog ด้วย ซึ่งก็ถือว่าน่าสนใจมากเพราะผลิตภัณฑ์ฝั่ง EUC และ Data Analytics ของ VMware เองจะได้เข้ามามีบทบาทในตลาด IoT เป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็น AirWatch, vRealize Opearations หรือ vRealize Log Insight ที่สามารถใช้ควบคุม IoT Device, ติดตามการทำงาน และจัดเก็บพร้อมประมวลผลข้อมูลที่ได้รับจาก IoT Device พร้อมๆ กัน ในขณะที่ VMware vCloud, vCloud Air, Federation Enterprise Hybrid Cloud เองนั้นก็จะมามีบทบาทในฐานะ Data Center สำหรับ IoT นั่นเอง

ก็ถือเป็นแนวทางที่ดีสำหรับการนำ IoT มาใช้ในธุรกิจครับ ใครคิดจะทำอะไรสาย IoT ก็ลองรับไปพิจารณาเป็นแนวทางดูได้

ที่มา: http://blogs.vmware.com/euc/2016/03/5-examples-of-iot-in-business.html

from:https://www.techtalkthai.com/5-internet-of-things-in-businesses-examples/

VMware เปิดตัว vRealize Log Insight 3.0 เร็วขึ้น 2 เท่า และ Archive ข้อมูลลง Hadoop ได้

vmware_logo

ระบบวิเคราะห์ Log สำหรับการบริหารจัดการ IT Infrastructure จาก VMware อย่าง vRealize Log Insight นั้น ได้ออกรุ่น 3.0 มาให้ใช้งานกันได้แล้ว โดยมีความสามารถใหม่ๆ ที่น่าสนใจดังนี้

Credit: ShutterStock.com
Credit: ShutterStock.com
  • มีความเร็วเพิ่มขึ้น 2 เท่า รองรับการประมวลผลได้มากถึง 15,000 Message ต่อวินาที
  • ทำ Fault Tolerance และ Cluster ได้ดีขึ้น รองรับสูงสุด 12 Node และวิเคราะห์ข้อมูลได้ 2.5TB ต่อวัน
  • มี Multi-Function Chart แสดงหลายข้อมูลในกราฟเดียวเพื่อเปรียบเทียบรายละเอียดได้สะดวกขึ้น
  • มีระบบ Snapshot สำหรับการเรียกดูข้อมูลแต่ละครั้ง เพื่อค้นหาการเรียกข้อมูลเก่าๆ หรือนำมาเปรียบเทียบกันได้
  • มีระบบ URL Shortener ทำให้สามารถส่งกราฟต่างๆ ให้เพื่อนร่วมงานดูได้ด้วย URL สั้นๆ
  • สามารถทำ Highlight ไปยัง Event ประเภทที่ต้องการ และเรียกดูเฉพาะข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับ Event นั้นๆ ได้
  • ดูแนวโน้มของ Event ผ่านระบบ Event Trends ได้ตามช่วงระยะเวลาที่กำหนด
  • รองรับการทำ High Availability
  • ทำ Rolling Upgrade ได้
  • Forward Event ผ่าน UDP ได้ จากเดิมที่ทำผ่าน TCP ได้เท่านั้น
  • Archive ข้อมูลลงไปยัง Hadoop File System (HDFS) ได้โดยตรง
  • กำหนดค่าบน Agent เป็น Group ได้จากหน้าจอของ vRealize Log Insight แบบศูนย์กลาง
  • ทำ Parser ได้ที่ฝั่ง Client ที่ติดตั้ง Agent เลย
  • ส่งข้อมูลจาก Agent มายัง vRealize Log Insigth แบบเข้ารหัสด้วย CFAPI SSL

ผู้ทื่สนใจสามารถ Download ไปทดสอบได้ทันทีที่ https://my.vmware.com/group/vmware/evalcenter?p=vrli&cid=70180000000NQJ0&src=management-blog

 

ข้อมูลเพิ่มเติม

from:https://www.techtalkthai.com/vmware-announced-vrealize-log-insight-3-0/

4 แนวทางในการบริหารจัดการ Operation ของฝ่าย IT ให้ดีขึ้น

ถึงแม้ปัจจุบันนี้จะมีเทคโนโลยีต่างๆ ที่ช่วยให้ระบบ Data Center สามารถบริหารจัดการได้ง่ายขึ้นและคุ้มค่ามากขึ้นอย่าง Virtualization และ Cloud ก็ตาม สิ่งที่เป็นผลต่อเนื่องมาก็คือการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของ Data Center หลายๆ แห่งจนมีขนาดใหญ่มากขึ้น, มีระบบงานใหญ่มากขึ้น, มีความเปลี่ยนแปลงรวดเร็วมากขึ้น และมีภาระหน้าที่ให้ผู้ดูแลระบบต้องทำมากขึ้น จนเกิดเป็นความซับซ้อนในระดับที่แก้ไขปัญหาได้ยากยิ่งกว่าก่อนในที่สุด VMware จึงมีข้อแนะนำในการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อให้ Operation ต่างๆ ใน Data Center ที่มีขนาดใหญ่ขึ้นนี้สามารถถูกบริหารจัดการ และวางแผนการลงทุนในอนาคตได้ดีขึ้นดังนี้

techtalkthai_virtualization

1. มีระบบที่สามารถตรวจสอบและบริหารจัดการทั้ง Data Center ได้จากศูนย์กลาง

ระบบบริหารจัดการแบบเดิมๆ มักจะแยกการตรวจสอบและบริหารจัดการออกเป็นส่วนๆ ทำให้ผู้ดูแลระบบไม่สามารถมองเห็นภาพรวม และติดตามปัญหาต่างๆ อย่างรวดเร็วได้ การบริหารจัดการ Data Center ที่ดีไปจนถึงการบริหารจัดการระบบ Hybrid Cloud จึงควรจะมีระบบที่รวบรวมข้อมูลทั้งหมดทาง IT ไม่ว่าจะเป็น KPI, Metric, Event และ Log และนำมา Correlate กันเพื่อให้ผู้ดูแลระบบเข้าใจการทำงานร่วมกันของแต่ละส่วนในระบบได้ง่ายดายยิ่งขึ้น

 

2. มีระบบบังคับใช้นโยบายให้เป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนด พร้อมระบบแนะนำวิธีทางในการแก้ไข

ยิ่งระบบ Data Center มีขนาดใหญ่ขึ้น การจัดการให้ทุกองค์ประกอบของ Data Center และการทำงานของผู้ดูแลระบบทุกคนถูกต้องตามนโยบายและมาตรฐานที่ต้องการจึงกลายเป็นเรื่องยาก การมีระบบเพื่อคอยบังคับใช้นโยบายเหล่านี้โดยอัตโนมัติ พร้อมมีการแนะนำการปรับปรุงระบบให้ตรงตามมาตรฐานต่างๆ ได้จึงเป็นตัวช่วยที่จะทำให้ผู้ดูแลระบบไม่ต้องเสียเวลาตรวจสอบหรือวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆ มากนัก ในขณะที่ผู้ดูแลระบบก็ยังมีความยืดหยุ่นในการทำงาน และสิทธิ์ในการจัดการระบบต่างๆ อยู่

 

3. มีระบบวิเคราะห์ข้อมูลแบบ Real-time

ระบบ Real-time Data Analysis จะช่วยให้ผู้ดูแลระบบสามารถตรวจสอบปัญหาต่างๆ และหาหนทางการแก้ไขปัญหาที่ดีที่สุดได้ดี รวมถึงยังทำให้ผู้ดูแลระบบมีข้อมูลประกอบการตัดสินใจในแต่ละครั้งได้อย่างเพียงพอ และใช้เวลาน้อยลงอีกด้วย ทำให้ผู้ดูแลระบบสามารถทุ่มเทเวลาที่เหลือในงานอื่นๆ ที่สำคัญกว่าและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับธุรกิจได้ เช่น การปรับปรุงระบบ Website ที่เป็นหัวใจหลักและช่องทางในการสร้างรายได้ขององค์กรให้ดีขึ้น เป็นต้น

 

4. มีระบบวิเคราะห์แนวโน้มในอนาคต

ในระบบ Data Center ที่มีความซับซ้อนสูงอย่างเช่น Cloud Data Center นั้น ระบบวิเคราะห์ข้อมูลที่สามารถทำนายแนวโน้มได้เช่นระบบ Predictive Analytics นั้นจะช่วยทำนายปัญหาที่มีแนวโน้มจะเกิดขึ้นได้ก่อนที่ปัญหาเหล่านั้นจะส่งผลร้ายต่อธุรกิจ โดยกระบวนการทางสถิติชั้นสูงที่เป็นที่นิยมในระบบทำนายแนวโน้มเหล่านี้ก็สามารถทำนายแนวโน้มเหล่านี้ได้อย่างน่าเชื่อถือ ด้วยการวิเคราะห์และค้นหาข้อมูลหรือแนวโน้มที่มีประโยชน์จากทั้ง Structured Data และ Unstructured Data ก็จะทำให้ผู้ดูแลระบบมองเห็นแนวโน้มต่างๆ ทางด้านประสิทธิภาพและ Resource ทั้งหมดที่มีการใช้งาน รวมถึงทำนายการเติบโตในอนาคตด้วย โดยนอกจากจะช่วยดูแลประเด็นทางด้านประสิทธิภาพ และ Service Level ของระบบงานต่างๆ ได้แล้ว Predictive Analytics ยังสามารถช่วยแนะนำให้ผู้ดูแลระบบทำการปรับแต่งให้ระบบทำงานได้คุ้มค่า ด้วย Resource ในระดับที่เหมาะสมได้อีกด้วย

 

สำหรับทาง VMware เองนั้นก็มีระบบ vRealize Suite ที่ครอบคลุมทุกความสามารถเหล่านี้ สำหรับผู้ที่สนใจก็สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้เลยที่ https://www.vmware.com/products/vrealize-suite/

 

ที่มา: http://blogs.vmware.com/management/2015/08/achieve-intelligent-operations-real-time-data-analysis.html

from:https://www.techtalkthai.com/4-technology-for-it-operation-management/