คลังเก็บป้ายกำกับ: VELOCLOUD

VMWARE SD-WAN INTEGRATION: CHECK POINT CLOUDGUARD CONNECT OVERVIEW

ในปี 2020 ประเทศไทยเริ่มมีการนำ SD-WAN มาใช้อย่างแพร่หลาย และเริ่มมีความรู้ความเข้าใจ ความแตกต่างระหว่างมี Additional Feature = SD-WAN และ Pure SD-WAN แล้ว ซึ่งสิ่งที่ Pure SD-WAN จะมุ่งเน้นไปที่การทำ WAN Automation ที่ช่วยแบ่งเบาภาระให้แก่ IT Administrator ในการบริหารจัดการ เช่น การทำ Path Selection, Loss/Jitter Mitigation, End to End QoS เป็นต้น

ทั้งนี้โดยพื้นที่เป็นต้นกำเนิดของ SD-WAN คือการทำ Local Internet Breakout เพื่อให้ Branch สามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้โดยตรง เพื่อส่งผลให้เกิด Productivity ที่สูงขึ้น ทำงานเสร็จได้รวดเร็วมากขึ้น พร้อมรองรับการนำ Cloud Technology มาใช้

อย่างไรก็ตาม Cybersecurity ก็เป็นอีกหนึ่งข้อสำคัญในยุค Digital Transformation ที่จำเป็นต้องปกป้อง ป้องกันภัยอันตรายที่มาจากอินเทอร์เน็ตและจากผู้ไม่หวังดี รวมไปถึงการจัดเก็บ Log ตาม พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ฯ การปฏิบัติเพื่อให้บริษัทสามารถดำเนินตาม พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ด้วยก็ตาม ซึ่งรูปแบบการวางระบบรักษาความมั่นคงปลอดภัยโดยพื้นฐานแล้วต้องมี Security Gateway อย่างเช่น Firewall เพื่อคัดกรอง ตรวจสอบ ป้องกัน Threat ที่จะเกิดขึ้น แต่ในวันนี้เราจะนำเสนอในรูปแบบที่แตกต่างออกไป

How it Works

วันนี้ทางทีมงานได้มีโอกาสร่วมทดสอบการทำงานของ VMware SD-WAN ควบคู่กับ Check Point บริษัทชั้นนำด้านระบบรักษาความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ด้วยคอนเซ็ปต์ Securely Connect your Branch to the Cloud ด้วยบริการที่ชื่อว่า Check Point CloudGuard Connect เป็นโซลูชันที่ออกแบบมาเพื่อป้องกัน Branch ให้สามารถเข้าใช้งาน Cloud และ Internet ได้อย่างมั่นคงปลอดภัย และง่ายในการบริหารจัดการเพียงแค่โยน Traffic ผ่าน IPSec Tunnel ไปยัง Check Point CloudGuard Connect โดยบนคลาวด์ก็ยังคงความสามารถ เช่น Sandboxing, Application Control, URL Filtering, Anti-Virus, Anti-Botnet เป็นต้น และยังรองรับการทำ Redundant Tunnel ระหว่าง CloudGuard Connect และ VMware CloudGateway เพื่อให้มั่นใจว่าสามารถป้องกัน Branch Network ได้ตลอดเวลา

สำหรับ VMWare SD-WAN การรทำงานร่วมกับ CloudGuard Connect จำเป็นต้องเชื่อม IPSec จาก Cloud Gateway ซึ่ง ณ จุดนี้ Benefit ของ SD-WAN สองด้านที่จะเพิ่มประสิทธิภาพในการ Forwarding คือ 1) ความสามารถในการทำ Load Balance จาก Multiple Internet Link เพื่อเพิ่ม Bandwidth 2) ในกรณีเกิด Packet Loss ตัวระบบสามารถทำ Forward Error Collection เพื่อ Duplication Packet หรือทำ Negative Acknowledgement เพื่อให้ User Experience ยังสามารถใช้งานได้อย่างปกติ

เมื่อเชื่อมต่อกันเรียบร้อยแล้ว บน VMware Orchestrator และ Portal CloudGuard Connect จะแสดงผลการเชื่อมต่อกัน ทั้งนี้ระยะเวลาที่ใช้ในการ Integrated เพียงแค่ 30 นาทีเท่านั้น ซึ่งค่อนข้างไวกันเลยทีเดียว

เมื่อเข้า Policy จะพบการ Configuration ที่ค่อนข้างง่าย User Friendly และทำมาในระดับสำเร็จรูปเรียบร้อย อย่างในรูปด้านล่างเป็นการทำ Application Control และ Threat Prevention ที่ช่วยปกป้อง Client จาก Known, Unknown Threat ด้วย Anti-Virus, Anti-Bot และ SandBlast (Sandboxing) ก็มีการเปิดโดย Default เรียบร้อย

HTTPS Inspection รองรับสองรูปแบบ คือ Basic และ Full Inspection ที่จำเป็นต้อง Deploy SSL Certifications ที่เครื่อง Client เพื่อยกระดับความสามารถในการสแกน และป้องกันได้สูงสุด

สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือปรึกษาเกี่ยวกับ VMware SD-WAN และ CheckPoint โซลูชัน พร้อมวงจร MPLS, Internet และ LTE 4G ติดต่อเราได้ที่

อีเมล sales@proen.co.th หรือโทร 02-690-3888
Website: www.proen.co.th

บทความเรื่อง “VMWARE SD-WAN INTEGRATION: CHECK POINT CLOUDGUARD CONNECT OVERVIEW” ต้นฉบับถูกเผยแพร่ที่เว็บไซต์ BranchConnect

from:https://www.techtalkthai.com/vmware-sd-wan-integration-check-point-cloudguard-connect-overview/

7 อันดับฟีเจอร์ยอดนิยม VMware SD-WAN

SD-WAN ไม่ได้มีประโยชน์เพียงแค่ไปทดแทน MPLS ด้วยการทำ Multiple Internet หรือ Hybrid WAN เพียงเท่านั้น โดย SD-WAN ยังฟีเจอร์ที่น่าสนใจอีกมากมาย เช่น Zero Touch provisioning, Application Aware Routing หรือ VPN segmentation และในวันนี้ทีมงานได้รวบรวมมาให้รับชมกันฟีเจอร์ยอดนิยมมากถึง 7 ฟีเจอร์กันเลยทีเดียว

7. Zero Touch Provisioning

ในอดีตการติดตั้ง Branch Network จะมีการเตรียมการโดยเริ่มจากนำฮาร์ดแวร์ออกจากกล่อง + เตรียมระบบไฟ + คอนฟิค ตั้งค่าระบบ + ทดสอบ + แพ็กของกลับเข้ากล่องเพื่อเตรียมส่งให้ปลายทางติดตั้ง ซึ่งก็เป็นขั้นตอนตามปกติทั่วๆ ไป แต่หากสำนักงานมีจำนวนมาก หลายสาขา การดำเนินการตามขั้นตอนดังกล่าวก็จะใช้เวลามากขึ้น และอาจจะจำเป็นต้องใช้สถานที่ขนาดใหญ่เพื่อเตรียมการ มันก็ยุ่งดีแท้

ฟีเจอร์ Zero Touch Provisioning โดยเพียงแค่นำอุปกรณ์ SD-WAN เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตแล้ว Activate เท่านั้น ระบบก็จะทำงานดึงการตั้งค่า เช่น IP Address, DHCP Scope, DNS Server, IP Gateway จากคลาวด์โดยอัตโนมัติ ลดความยุ่งยาก ช่วยประหยัดเวลา ประหยัดค่าใช้จ่าย ที่เกิดขึ้นจากงานติดตั้งทั้งหมด

6. Encryption Key Rotation

การเข้ารหัสข้อมูลหรือ Data Encryption เป็นหนึ่งในวิธีเพิ่มความมั่นคงปลอดภัยให้กับข้อมูลที่มีการรับส่งระหว่างกัน หลายองค์กรนำมาใช้เป็นมาตรฐานการเชื่อมต่อ ปัจจัยสำคัญที่จะนำมาซึ่งความมั่นคงปลอดภัยที่มากขึ้น คือ การเปลี่ยน Encryption Key เป็นประจำ ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วทีม IT จะเปลี่ยนกันทุกๆ 90 – 180 วัน ตามแต่ที่มีการกำหนดไว้ในมาตรฐานขององค์กรเช่น PCI DSS หรือ ISO 27001

Encryption Key Rotation จะทำการเปลี่ยน Encryption Key ตลอดเวลา สามารถใช้งานส่งรับข้อมูลได้อย่างต่อเนื่องแม้จะอยู่ในระหว่างการปรับเปลี่ยน Encryption Key ช่วยให้ข้อมูลมั่นคงปลอดภัยมากขึ้นกว่าเดิม ระบบใช้งานได้ต่อเนื่อง และลดกำลังคนที่ใช้ในการปรับเปลี่ยน Encryption Key โดยตารางด้านล่างแสดงระยะเวลาการ Rotation Key ทั้ง IKE และ IPSec ของ VMware SD-WAN

5. VPN Segmentation

มีหลายกรณีที่หลายองค์กรต้องการแยกทราฟฟิคออกจากกัน ยกตัวอย่างเช่น เกิดการควบรวมกิจการ ซึ่งด้านธุรกิจการควบรวมจบที่เอกสาร แต่ในงานด้านระบบรักษาความมั่นคงปลอดภัย หรือมาตรฐานที่แต่ละธุรกิจมีกำหนดไว้ยังจำเป็นต้องแยกออกจากกันโดยอิสระ ทำให้อุปกรณ์เครือข่ายจำเป็นต้องมีอย่างน้อยสองชิ้น

สำหรับ VMware SD-WAN EDGE เพียงชิ้นเดียว สามารถแยกทราฟฟิคออกจากกันได้มากถึง 16 VPN Segmentations และสามารถบริหารจัดการแต่ละ Segment ได้อย่างอิสระ ทั้งเรื่อง QoS และ Routing ประหยัดเงินที่ต้องใช้การซื้อฮาร์ดแวร์ ค่าบำรุงรักษา ไปได้มากกันเลยทีเดียวกับฟีเจอร์นี้ VPN Segmentation

4. Application Aware Traffic Direction

ทราฟฟิคอินเทอร์เน็ตในปัจจุบัน มากกว่าการค้นหาข้อมูล การเปิดเว็บไซต์ แต่ยังรวมไปถึงการใช้งาน Cloud Application ดังเช่น Office 365, Saleforce ซึ่งทำให้เกิดความต้องการที่จะแบ่งทราฟฟิคของ Cloud Application ให้วิ่งออกที่ Branch Network โดยไม่จำเป็นต้องวิ่งผ่านสำนักงานใหญ่

SD-WAN จึงได้นำเอาความสามารถของ Inspect Application Layer 7 มารวมกับการทำ Routing Policies เพื่อให้สามารถกำหนด Traffic Direction แต่ละแอปพลิเคชันให้วิ่งได้ตามที่ผู้ดูแลระบบต้องการ โดย VMWare SD-WAN นอกจากจะสามารถทำให้เกิด Internet Local Breakout (Direct) ได้แล้ว ยังคงมีฟีเจอร์ที่สามารถเลือกให้ Cloud Application ใช้งานได้รวดเร็วมากขึ้นผ่านคลาวด์เกตเวย์ได้ด้วย

3. Data Analytics

เมื่อปัญหาการใช้งาน ผู้ดูแลระบบที่สามารถตรวจสอบว่าเกิดจาก User หรือ Application ใดใช้งานสูงผิดปกติ ก็จะยิ่งช่วยแบ่งเบาภาระและช่วยให้สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น ด้วย VMware SD-WAN Orchestrator สามารถแสดงผลการใช้งานได้ทั้งแบบ Real Time และ History ทั้งในมุมของ Technical เช่น Bandwidth, Data Transfer, Loss, Jitter, Latency หรือในมุมการใช้งานของ User เช่น Top Source IP, Destination IP, Application เป็นต้น

2. Service Chaining

ในอดีตเมื่อ Branch Traffic ใช้งานอินเทอร์เน็ตก็จะวิ่งผ่าน MPLS เข้ามายัง Data Center แล้วก็จะมีการทำ Centralized Security เช่น อุปกรณ์ Firewall, Proxy, IPS ซึ่งทำให้ Branch Network ไม่มีความจำเป็นจะต้องเพิ่มเติมอุปกรณ์ Security มากมาย

แต่เมื่อต้องการให้ Branch สามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตได้โดยตรง เพื่อแบ่งเบาภาระวงจร MPLS จึงมีความจำเป็นต้องมี Firewall เป็นอย่างน้อย เพื่อป้องกันภัยคุกคามที่เกิดขึ้นได้ ซึ่งในระบบ VMware SD-WAN สามารถทำงานร่วมกับ 3rd Party Cloud Web Security รวมไปถึงความสามารถในการรองรับ VNF Firewall Service ได้บน EDGE Hardware ได้เลย

1. Automatically Identify and Mitigate in WAN Performance Issues

หากพูดถึง Service Level Agreement หรือ SLA สิ่งที่สำคัญที่สุดจะเป็นเรื่องของ Uptime ที่มีกำหนดไว้อยู่ เช่น หากเกิดเหตุการณ์ผิดปกติ จำเป็นต้องแก้ไขให้สามารถใช้งานได้เป็นเวลาไม่น้อยกว่า 4 ชั่วโมง แต่เมื่อมีการนำ Real Time Application เช่น Voice หรือ Video Conference มาใช้งานก็มักจะมีประเด็นเรื่องของ Packet Loss, High Jitter (Link Brownout) ส่งผลให้เกิดผลกระทบต่อการใช้งาน Real Time Application เช่น ภาพไม่ชัด สื่อสารกันไม่ได้ ส่งผลกระทบต่อธุรกิจโดยตรง ดังนั้น SLA Uptime จึงไม่เพียงพอต่อการใช้งานในปัจจุบันแล้ว

VMware SD-WAN ได้พัฒนาฟีเจอร์ Dynamic Multipath Optimization (DMPO) ที่หมั่นตรวจสอบคุณภาพ WAN Link และบริหารจัดการให้เป็นไปตามที่เราต้องการ เช่น หลีกเลี่ยงเส้นทางที่มี Packet Loss/High Jitter/Low Bandwidth หรือแม้พบกรณีเลวร้ายที่สุด คือ ทุกเส้นทางไม่เหมาะแก่การใช้งาน Real Time Application ระบบก็จะเลือกมาสองเส้นทางแล้วใช้เทคนิค Duplicate Packet เพื่อให้มั่นใจได้ว่าเกิดการรับส่งอย่างสมบูรณ์

โปรเอ็นคอร์ป เป็นผู้ให้บริการรายแรกของประเทศไทย ที่ได้นำเทคโนโลยีดังกล่าวมาให้บริการแก่คนไทย

โปรเอ็นยินดีให้คำปรึกษาสำหรับผู้สนใจ SD-WAN Solution

สามารถติดต่อเราได้ที่อีเมล sales@proen.co.th หรือโทร 02-690-3888
Website: www.proen.co.th

บทความเรื่อง “7 ฟีเจอร์ยอดนิยม VMware SD-WAN” ต้นฉบับถูกเผยแพร่ที่เว็บไซต์ BranchConnect

from:https://www.techtalkthai.com/top-7-vmware-sd-wan-features-by-branchconnect/

[Video Webinar] พลิกโฉมสถาปัตยกรรม SD-WAN สู่ยุค Cloud ด้วย Dell EMC

สำหรับผู้ที่ไม่ได้เข้าฟังการบรรยาย Geton Webinar เรื่อง “พลิกโฉมสถาปัตยกรรม SD-WAN สู่ยุค Cloud ด้วย Dell EMC” พร้อมเรียนรู้ข้อจำกัดของเทคโนโลยี WAN ในปัจจุบัน ทำไม SD-WAN ถึงเป็นโซลูชันที่องค์กรทั่วโลกต่างให้ความสนใจ รวมไปถึงกรณีศึกษาการนำ SD-WAN มาประยุกต์ใช้ในธุรกิจ ที่เพิ่งจัดไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา หรือต้องการรับชมการบรรยายซ้ำอีกครั้ง สามารถเข้าชมวิดีโอบันทึกย้อนหลังได้ที่บทความนี้ครับ

ผู้บรรยาย: คุณ Subsin Sakunkhachorndet, Sr.Network Engineer จาก Geton Technology และคุณ Chawanat Nipattamanon, VMware SD-WAN Specialist SE จาก VMware Thailand

SD-WAN รองรับเทคโนโลยีการเชื่อมต่อหลากหลายในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็น Private Link/MPLS, DSL, FTTx, 3G/4G LTE หรือการใช้งานแบบผสมผสานกันระหว่าง MPLS และ Internet Broadband (Hybrid WAN) โดยมีจุดเด่นที่การเพิ่มประสิทธิภาพในการเชื่อมต่อแอปพลิเคชันได้เทียบเท่ากับการเชื่อมต่อแบบ MPLS ในราคาที่ถูกกว่าหลายเท่าตัว และด้วยความเสถียร (Stability) ความมั่นคงปลอดภัย (Security) และความง่ายในการบริหารจัดการ (Simplicity) จากศูนย์กลาง ทำให้ SD-WAN สามารถลดเวลาการติดตั้งรูปแบบเดิมๆ ที่ใช้เวลานานนับเดือนเหลือเพียงแค่ไม่ถึงสัปดาห์ เพิ่มความคล่องตัวให้การดำเนินธุรกิจในยุค Digital Transformation

เข้าร่วม Geton Webinar เพื่อรับชมประเด็นดังต่อไปนี้

  • ข้อจำกัดเทคโนโลยีการเชื่อมต่อ WAN ปัจจุบัน? ทำไมต้องเป็น SD-WAN
  • เรียนรู้การทำงานและองค์ประกอบสำคัญบน VMware SD-WAN
  • แนะนำโซลูชันบน Dell EMC SD-WAN Edge ที่นำไปต่อยอดใช้งานโดยผสานเทคโนโลยี VMware SD-WAN
  • ตัวอย่างและกรณีศึกษาการนำเทคโนโลยี SD-WAN ไปใช้ในเชิงธุรกิจ
  • Live Demo

from:https://www.techtalkthai.com/video-webinar-modernizing-sd-wan-technology-to-deliver-cloud-era-by-geton/

ชวนเรียน SD-WAN จาก VeloCloud ฟรีกับ VMware เป็นภาษาไทย พร้อมลุ้นรับ iPad ใน VMware Evolve Online 2020

อีกหนึ่งโซลูชันที่ถือว่าเติบโตอย่างรวดเร็วและได้รับการผลักดันจากทาง VMware เป็นอย่างมากก็คือโซลูชัน SD-WAN จาก VeloCloud ของ VMware และในงาน VMware Evolve Online 2020 ก็มีคลิปสอนเรื่องของ SD-WAN และ VeloCloud เป็นภาษาไทยโดยเฉพาะเพื่อให้เราได้เข้าไปเรียนรู้กันฟรีๆ ด้วยกัน 3 คอร์ส ตั้งแต่ระดับพื้นฐานจนถึงระดับสูง และยังมีแล็บแห้งให้ได้ทดลองทำ พร้อมลุ้นรับรางวัลใหญ่อย่าง Apple iPad Pro 12.9″ โดยมีวิธีการเข้าร่วมรับชมดังต่อไปนี้

สมัครเข้าสู่งานสัมมนาออนไลน์ VMware Evolve Online 2020

สำหรับผู้ที่ยังไม่เคยลงทะเบียนสมัคร VMware Evolve Online 2020 ต้องสมัครให้เรียบร้อยก่อน โดยมีขั้นตอนดังนี้

  • ลงทะเบียนที่ https://evolve.vmware.com/register.html?src=em_5e5cdfe8e02fc โดยในช่องบนสุดจะมีการถามถึงการเลือกลง Session Live สดที่จะเกิดขึ้นใกล้ที่สุด ซึ่งสามารถเลือก Session ใดก็ได้ไม่ส่งผลใดๆ จากนั้นก็ทำการกรอกข้อมูลตามปกติ
  • เมื่อลงทะเบียนเสร็จแล้ว ระบบจะทำการสร้าง Account ให้และส่งอีเมล์มายืนยันตามข้อมูลที่ได้ทำการลงทะเบียน
  • สามารถเข้าสู่ระบบได้ที่ https://onlinexperiences.com/Launch/Event.htm?ShowKey=80190 โดยระบุอีเมล์ที่ได้ทำการลงทะเบียนเข้าไป ก็จะสามารถเข้าระบบได้ทันที

ผู้ที่ลงทะเบียนเข้าร่วม VMware Evolve Online 2020 แล้วจะมีสิทธิ์ร่วมกิจกรรมลุ้นรับรางวัลสุดพิเศษ Apple iPad Pro, Apple Watch, Apple AirPods Pro และ Bang & Olufsen BeoPlay E8 2.0 จากการเข้าชมเนื้อหาและทำแล็บรวมถึงร่วมกิจกรรมต่างๆ ภายในงานสัมมนาออนไลน์ครั้งนี้

วิธีการรับชมเนื้อหาเกี่ยวกับ Kubernetes เป็นภาษาไทยจาก VMware

เมื่อสามารถเข้าสู่ระบบของ VMware Evolve Online 2020 ได้แล้ว จะมีขั้นตอนในการเข้าไปสู่เนื้อหาดังนี้

  1. คลิกที่ปุ่ม “ภาคภาษาไทย” ด้านล่าง
  2. เลือกหัวข้อ “Virtual Cloud Network”
  3. เลือกคลิปที่ต้องการฟัง แล้วกดปุ่ม On Demand

สำหรับเนื้อหาทางด้าน SD-WAN นี้จะมีด้วยกัน 3 หัวข้อ แต่ละคลิปจะมีความยาวประมาณ 25-35 นาทีก็เรียกได้ว่าเนื้อหาค่อนข้างเข้มข้นเลยทีเดียวครับ

เรียนรู้เทคโนโลยี SD-WAN ของ VeloCloud และการปรับนำไปใช้ตอบโจทย์การทำ Hybrid Cloud และ Multi-Cloud

สำหรับหัวข้อทางด้าน SD-WAN จะมีประเด็นที่แนะนำให้ชมดังนี้ครับ

  • SD-WAN Overview and Use Cases – Thai เล่าถึงที่มาของปัญหาในระบบ WAN ของธุรกิจองค์กร และแนวคิดเบื้องต้นของ SD-WAN ที่เข้ามาตอบโจทย์ พร้อมหลักการทำงานเบื้องต้นของ SD-WAN
  • Network Monitoring and Analytics with SD-WAN – Thai เจาะลึกถึงประเด็นด้านความสามารถในการตรวจสอบและวิเคราะห์การทำงานของระบบเครือข่ายด้วย SD-WAN
  • SD-WAN for Azure, AWS, Google Cloud Platform – Thai สรุปภาพของการนำ SD-WAN ไปใช้ในธุรกิจที่มีการใช้บริการ Cloud ที่หลากหลาย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเชื่อมต่อเครือข่ายไปยังบริการ Cloud และตอบโจทย์การทำ Hybrid Cloud และ Multi-Cloud ให้ดียิ่งขึ้น

สำหรับสามหัวข้อนี้ Diagram ประกอบการอธิบายมีความชัดเจนดี การเล่าเรื่องก็เห็นภาพเข้าใจง่าย และยังเห็นการทำงานเบื้องต้นของ VeloCloud ด้วย ใครอยากเริ่มต้นกับ SD-WAN ลองมานั่งฟังก็น่าจะได้ประโยชน์ไม่น้อยเลยครับ

ทดลองทำแล็บ HOL-2040-91-NET – Getting Started with VeloCloud Lightning lab

เมื่อสามารถเข้าสู่ระบบของ VMware Evolve Online 2020 ได้แล้ว จะมีขั้นตอนในการเข้าไปสู่ Lightning Lab ซึ่งเป็นภาษาอังกฤษ ดังนี้

  1. เลือกหัวข้อ Hands-on Lab ที่ Menu ด้านบน
  2. Scroll เนื้อหาลงมายัง HOL-2040-91-NET – Getting Started with VeloCloud Lightning lab
  3. คลิก Run Lab Now

แล็บ Getting Started with VeloCloud Lightning lab นี้จะมีด้วยกันเพียงแค่ 9 ขั้นตอนเท่านั้น โดยตัวแล็บจะจำลอง UI ของ VeloCloud มาให้เราได้ลองใช้งานเพื่อสร้างความคุ้นเคยและทำให้เห็นภาพของการใช้ SD-WAN จริงๆ มากขึ้น โดยจะเน้นไปที่การตรวจสอบสถานะและคุณภาพของ WAN ที่เราใช้งานเป็นหลัก เหมาะกับคนที่ยังไม่เคยทดสอบ VeloCloud มาก่อนครับ ซึ่งถ้าเคยใช้งานกันมาบ้างแล้ว แนะนำว่าติดต่อทาง VMware เพื่อขอทดสอบระบบโดยตรงกับระบบจริงของเราเลยก็จะเห็นภาพมากยิ่งขึ้นไปอีก

ลุ้นรับรางวัลจากกิจกรรม Leaderboard

สำหรับผู้เข้าร่วมงาน VMware EVOLVE Online 2020 นี้ จะได้รับการสะสมคะแนนทุกๆ ครั้งที่มีการเข้าถึงเนื้อหาใดๆ ภายในงานหรือร่วมกิจกรรมภายในงาน และจะสามารถลุ้นรับ 4 รางวัลจาก VMware ได้แก่

  • Apple iPad Pro 12.9″ มูลค่า 1,000 เหรียญหรือราวๆ 30,000 บาท
  • Apple Watch Series 5 มูลค่า 440 เหรียญหรือราวๆ 13,200 บาท
  • Bang & Olufsen BeoPlay E8 2.0 True Wireless Earbuds มูลค่า 350 เหรียญหรือราวๆ 10,500 บาท
  • Apple AirPods Pro มูลค่า 250 เหรียญ หรือราวๆ 7,500 บาท

from:https://www.techtalkthai.com/free-thai-sd-wan-courses-from-velocloud-in-vmware-evolve-online-2020/

Geton Webinar: พลิกโฉมสถาปัตยกรรม SD-WAN สู่ยุค Cloud ด้วย Dell EMC

Geton และ VMware ขอเรียนเชิญผู้บริหารและผู้ปฏิบัติงาน IT Network เข้าร่วมฟังบรรยาย Geton Webinar เรื่อง “พลิกโฉมสถาปัตยกรรม SD-WAN สู่ยุค Cloud ด้วย Dell EMC” พร้อมเรียนรู้ข้อจำกัดของเทคโนโลยี WAN ในปัจจุบัน ทำไม SD-WAN ถึงเป็นโซลูชันที่องค์กรทั่วโลกต่างให้ความสนใจ รวมไปถึงกรณีศึกษาการนำ SD-WAN มาประยุกต์ใช้ในธุรกิจ ในวันพุธที่ 27 พฤษภาคม 2020 เวลา 10:30 น. ผ่าน Live Webinar ฟรี

รายละเอียดการบรรยาย

หัวข้อ: พลิกโฉมสถาปัตยกรรม SD-WAN สู่ยุค Cloud ด้วย Dell EMC
ผู้บรรยาย: คุณ Subsin Sakunkhachorndet, Sr.Network Engineer จาก Geton Technology และคุณ Chawanat Nipattamanon, VMware SD-WAN Specialist SE จาก VMware Thailand
วันเวลา: วันพุธที่ 27 พฤษภาคม 2020 เวลา 10:30 – 12:00 น.
ช่องทางการบรรยาย: Online Web Conference
จำนวนผู้เข้าร่วมสูงสุด: 500 คน
ภาษา: ไทย
ลิงค์ลงทะเบียน: https://zoom.us/webinar/register/WN_fCj1arDgR061RtPP-xBNLg

ในยุคของ Digital Transformation ความรวดเร็วและความคล่องตัวในการดำเนินงานธุรกิจเป็นสิ่งสำคัญ เทคโนโลยีการเชื่อมต่อ WAN ต้องตอบโจทย์ทั้งระหว่างสำนักงานใหญ่ สำนักงานสาขาที่ตั้งอยู่ภายในและภายนอกประเทศ รวมไปถึงระบบ Cloud เพื่อรองรับการขยายตัวของธุรกิจในอนาคต

SD-WAN รองรับเทคโนโลยีการเชื่อมต่อหลากหลายในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็น Private Link/MPLS, DSL, FTTx, 3G/4G LTE หรือการใช้งานแบบผสมผสานกันระหว่าง MPLS และ Internet Broadband (Hybrid WAN) โดยมีจุดเด่นที่การเพิ่มประสิทธิภาพในการเชื่อมต่อแอปพลิเคชันได้เทียบเท่ากับการเชื่อมต่อแบบ MPLS ในราคาที่ถูกกว่าหลายเท่าตัว และด้วยความเสถียร (Stability) ความมั่นคงปลอดภัย (Security) และความง่ายในการบริหารจัดการ (Simplicity) จากศูนย์กลาง ทำให้ SD-WAN สามารถลดเวลาการติดตั้งรูปแบบเดิมๆ ที่ใช้เวลานานนับเดือนเหลือเพียงแค่ไม่ถึงสัปดาห์ เพิ่มความคล่องตัวให้การดำเนินธุรกิจในยุค Digital Transformation

เข้าร่วม Geton Webinar เพื่อรับชมประเด็นดังต่อไปนี้

  • ข้อจำกัดเทคโนโลยีการเชื่อมต่อ WAN ปัจจุบัน? ทำไมต้องเป็น SD-WAN
  • เรียนรู้การทำงานและองค์ประกอบสำคัญบน VMware SD-WAN
  • แนะนำโซลูชันบน Dell EMC SD-WAN Edge ที่นำไปต่อยอดใช้งานโดยผสานเทคโนโลยี VMware SD-WAN
  • ตัวอย่างและกรณีศึกษาการนำเทคโนโลยี SD-WAN ไปใช้ในเชิงธุรกิจ
  • Live Demo

กด Interested หรือ Going เพื่อติดตามอัปเดตและรับการแจ้งเตือนบน Facebook Event: https://www.facebook.com/events/276877660135783/

from:https://www.techtalkthai.com/geton-webinar-modernizing-sd-wan-technology-to-deliver-cloud-era/

ฟรี eBook: SD-WAN: The Cloud is the Network ฉบับภาษาไทยโดย Proen Internet

 

เทคโนโลยีการเชื่อมต่อระหว่างสำนักงานใหญ่และสำนักงานสาขาบนระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตอย่าง SD-WAN กำลังเป็นที่น่าจับตามองในปัจจุบัน ด้วยคุณสมบัติด้านความง่ายในการบริหารจัดการผ่านระบบ Cloud และความมั่นคงปลอดภัยที่สูง ในขณะที่ต้นทุนต่ำ ทำให้หลายองค์กรต่างเริ่มศึกษาและนำ SD-WAN เข้ามาใช้งานมากขึ้น

Proen Internet และ Branch Connect ผู้ให้บริการโซลูชัน SD-WAN สมรรถนะสูงในไทย จึงได้จัดทำ eBook เรื่อง SD-WAN: The Cloud in The Network (ภาษาไทย) เพื่อปูพื้นฐานและแนะนำเทคโนโลยี SD-WAN พร้อมตัวอย่างการใช้งานในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการเชื่อมต่อกับสำนักงานสาขาหรือการเชื่อมต่อกับระบบ Cloud เพื่อให้ผู้ที่สนใจสามารถนำไปปรึกษาและปรับใช้กับการวางแผนนำ SD-WAN เข้ามาใช้งานในองค์กรได้ดียิ่งขึ้น โดยเนื้อหาใน eBook ประกอบด้วย

  • Lesson I: SDN vs SD-WAN vs NFV vs VNF เหมือนหรือต่างกันอย่างไร
  • Lesson II: SD-WAN กับ Retail Store ยุคใหม่
  • Lesson III: ขยายตลาดไปทั่วโลกให้ราบรื่นด้วยการเชื่อมต่อผ่าน SD-WAN
  • Lesson IV: ขยายการเชื่อมต่อสู่ระบบ Cloud ด้วย SD-WAN
  • Lesson V: การนำเทคโนโลยี SD-WAN ไปปรับใช้ในธุรกิจ
  • Appendix A: VeloCloud Unified Communication Brief
  • Appendix B: 4 เทคนิคพิชิตเน็ตช้า
  • Appendix C: แนะนำเทคนิค Dynamic Multipath Optimization

ผู้ที่สนใจสามารถดาวน์โหลด eBook ฟรีได้ที่ http://www.branchconnect.in.th/resources/the-cloud-is-the-network/

from:https://www.techtalkthai.com/sd-wan-the-cloud-is-the-network-ebook/

SD-WAN LISM: NEXT GENERATION VPN FOR FUTURE BRANCH NETWORK

กว่า 10ปี ที่ผ่านมา VPN มีการใช้งานกันอย่างแพร่หลาย ในหลายกรณี ไม่ว่าจะเป็น Site to Site, Remote Access, IPSec, SSL, PPTP และ L2TP ด้วยคุณสมบัติ ที่ใช้แค่อินเทอร์เน็ตก็สามารถเชื่อมต่อถึงกันได้แล้ว

ส่งผลให้ VPN ความจำเป็นที่จะต้องใช้ MPLS/Leased Line ของบางองค์กรลดลง อย่างไรก็ตามก็มีบางองค์กร ที่จำเป็นต้องใช้ VPN เพื่อเป็นเส้นทางสำรองของ MPLS และในยุคเฟื่องฟูของโลกไอพี ส่งผลให้จำนวนแอพพลิเคชั่นที่ใช้งานภายในองค์กรมีมากขึ้นกว่าเดิม เช่น การโทรศัพท์ผ่านไอพี การประชุมผ่านทางไกล รวมไปถึงการใช้งาน ERP ทำให้องค์กรหลายแห่งที่เคยใช้ VPN แล้วต้องเปลี่ยนไปใช้ MPLS เพื่อต้องการความเสถียร แต่ก็ต้องแลกมาด้วยความเร็วที่ลดลง และราคาที่สูงขึ้นกว่าเดิมมากเมื่อเทียบกับการทำ VPN

อีกหนึ่งปัญหาของการทำ VPN ในยุคที่ ISP มีการใช้ CGNAT (Carrier Grade Network Translation) ส่งผลให้อุปกรณ์ได้ Private IP Address มีผลต่อการสร้าง VPN Tunnel บ้างก็ Forwarded Port ไม่ได้ บางกรณีก็จะพบเจอ Dynamic DNS ไม่เสถียร ไม่อัพเดทให้ตรงกับไอพีที่ได้รับ เกิดอาการ VPN หลุด และเกิดปัญหาต่อการทำงาน

จุดนี้จึงเกิดคำถามขึ้นมา… เทคโนโลยีไหนที่จะช่วยแก้ไขปัญหานี้?

VeloCloud ผู้นำด้าน SD-WAN ของโลก ได้คิดค้นเทคโนโลยี DMPO ที่สามารถช่วยคุณได้…

DMPO คืออะไร ทำงานอย่าง?

DMPO หรือ Dynamic Multi Path Optimization เป็นเทคโนโลยีที่ใช้งานเพื่อให้การเชื่อมต่อและส่งข้อมูลให้มีประสิทธิภาพมากที่สุดระหว่าง อุปกรณ์ที่ตั้งอยู่ ณ สำนักงาน (VeloCloud EDGE: VCE) และ VeloCloud Gateway: VCG ทำหน้าที่เป็นคอนโทรลเลอร์ควบคุมและเป็นอินเทอร์เน็ตเกตย์เวย์ให้กับ VCE แถมหน่อยคือ VeloCloud Orchestrator: VCO เป็น 100%GUI Centralize Management

DMPO ถูกสร้างขึ้นจากลักษณะเฉพาะตัวของอินเทอร์เน็ตคือ Best Effort จึงได้มีการออกแบบเทคโนโลยีให้มีความทนทานต่อสภาพที่มีความแปรผันของ Latency, Jitter, Packet Loss และ Bandwidth ด้วยวิธี

  • Continuous Monitoring ตรวจสอบคุณภาพเส้นทาง โดยตรวจสอบจาก Latency, Jitter, Bandwidth, Packet Loss
  • Dynamic App Steering ระบบจะทำการย้ายแพคเกตอัตโนมัติ ในกรณีระบบพบว่าเส้นทางที่ใช้งานอยู่ ไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอต่อการใช้งาน หรือวงจรไม่สามารถใช้งานได้
  • On Demand Remediation เมื่อพบว่าทุกวงจรมีคุณภาพไม่เพียงพอต่อการใช้งานระบบจะทำการ ดับเบิ้ลจำนวนแพคเกต และส่งออกไปทุกวงจร เพื่อให้ Critical Application สามารถใช้งานได้อย่างปกติ เช่น VoIP, Video Conference เป็นต้น

SD-WAN ยังทำอะไรได้อีกหลายอย่าง เช่น Rate-Limiting on Application or Category, Per Packet Load Balancing, Business Monitoring, Application Firewall, Centralize Management และ Top Talker เป็นต้น

สรุป SD-WAN ช่วยอะไรคุณได้บ้าง

Assured Application Performance

  • ได้ปริมาณแบนวิดมากขึ้น จากการทำ Per Packet Load balancing ของวงจร MPLS, Internet MPLS, Internet Broadband และ Mobile Network เข้าด้วยกัน
  • Sub-Second Link Failover และช่วยลดปัญหาการใช้งาน VoIP และ Video Conference ได้

Simplify WAN Management

  • บริหารจัดการทุกอย่างได้ผ่านคลาวด์ ทำงานเสร็จไวขึ้นกว่าเดิมหลายเท่าตัว (Single Pane of Management)
  • VPN ได้แม้ได้ Private IP Address

Manage Cloud on-ramp

  • ควบคุมทราฟฟิคได้อย่างอิสระ เลือกได้ว่าใช้งานคลาวด์เซอร์วิสผ่านดาต้าเซ็นเตอร์ หรือผ่านอินเทอร์เน็ตโดยตรงเพื่อลดการคอขวดของอินเทอร์เน็ตที่ดาต้าเซ็นเตอร์
  • เชื่อมต่อ Cloud Data Center เช่น AWS, AZURE ได้ทันที ไม่จำเป็นต้องคอนฟิคเพิ่มเติมที่สำนักงานสาขา โดยสามารถเชื่อมต่อผ่านทาง Cloud Gateway หรือติดตั้ง Virtual EDGE ณ Cloud Data Center ก็ได้เช่นกัน

PROEN INTERNET ร่วมมือกับ VeloCloud network ร่วมให้บริการ SD-WAN as a Service รายแรกในประเทศไทย ติดต่อเราสำหรับการเปลี่ยนเพื่อให้ชีวิตคุณดีขึ้น Dr.Wan@proen.co.th 02-690-3888 www.branchconnect.in.th

บทความเรื่อง “SD-WAN LISM: NEXT GENERATION VPN FOR FUTURE BRANCH NETWORK” นี้ ต้นฉบับถูกเผยแพร่ที่ Branch Connect

ยินดีให้คำปรึกษา การนำ SD-WAN ไปใช้ในองค์กรของคุณให้เกิดประโยชน์สูงสุด
Email: dr.wan@proen.co.th
Tel: 02-690-3888
http://www.proen.co.th/
http://www.branchconnect.in.th/

ดาวน์โหลด eBook เรื่อง Software-defined WAN for DUMMIES [PDF]

from:https://www.techtalkthai.com/next-generation-vpn-for-futer-branch-network/

VMware เผยแผนเข้าซื้อ VeloCloud เสริมทัพ Network Virtualization Platform

VMware ผู้นำทางด้าน Software-Defined ประกาศเข้าซื้อกิจการของบริษัทสตาร์ทอัพ VeloCloud ผู้เชี่ยวชาญทางด้าน Software-Defined Wide-Area Network (SD-WAN) เพื่อเพิ่มความสามารถในการนำเสนอโซลูชันและบริการทางด้าน Network Virtualization ในอนาคต

VeloCloud จะเข้ามาช่วยเพิ่มขีดความสามารถของ VMware NSX ให้มากขึ้น ช่วยในการทำ End-to-end automation, Application continuity, Branch transformation และการสร้าง Security ระหว่าง Data center ไปยัง Cloud และไปยัง Edge

กระบวนการในการเข้าซื้อกิจการในครั้งนี้คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในสิ้นปี 2018 โดย VMware คาดว่าการเข้าซื้อ VeloCloud ในครั้งนี้ จะขยายฐานลูกค้าของ VMware ในตลาด SD-WAN ได้มากขึ้น ซึ่งปัจจุบัน VeloCloud มีฐานลูกค้ามากกว่า 1,000 รายทั่วโลก ทั้งลูกค้าองค์กร, Telcos และ Managed Service Providers เช่น AT&T, Deutsche Telekom, Macquarie Telecom, MetTel, Mitel, Sprint, TelePacific และ Telstra เป็นต้น

ที่มา: https://www.vmware.com/company/news/releases/vmw-newsfeed.VMware-Charts-Networkings-Software-Defined-Future-For-Enterprises-and-Service-Providers-with-Intent-to-Acquire-VeloCloud-Networks.2194239.html

from:https://www.techtalkthai.com/vmware-announces-intent-to-acquire-velocloud-for-expand-network-virtualization-platform/

4 เทคนิคพิชิตเน็ตช้า

อินเทอร์เน็ตช้าเป็นปัญหาโลกแตกที่ทุกคนต้องเคยประสบเจอ ทีมงานของ PROEN Internet และ Branch Connect จึงได้รวบรวมเทคนิคสำหรับช่วยตรวจสอบปัญหาและเพิ่มความเร็วในการใช้งานอินเทอร์เน็ต ซึ่งแบ่งออกได้เป็น 4 วิธีหลักๆ ดังนี้

1. Check your internet performance

สามารถทำการตรวจสอบคุณภาพอินเทอร์เน็ตด้วยวิธีการ Ping ไปยัง [Domain, IP] ปลายทางและสังเกตผลที่เกิดขึ้นสองประการคือ

  • Latency ระยะเวลาในการรับส่ง Packet [Packet เป็นหน่วยที่ใช้ในการส่งข้อมูลบนอินเทอร์เน็ต]
  • Packet Loss

สำหรับวิธีการ Ping จำเป็นต้องเปิด cmd.exe สามารถดูวิธีได้จาก https://www.digitalcitizen.life/7-ways-launch-command-prompt-windows-7-windows-8

 

ในรูปมีการ ping ไปยัง 8.8.8.8 จำนวน 4 packets, พบว่ามี latency เฉลี่ย 44ms และ 0% packet loss

ค่าเฉลี่ยสำหรับ Latency จะขึ้นอยู่กับแต่ละประเทศ และสามารถตรวจสอบได้จากภาพด้านล่างนี้

(หมายเหตุ: ค่าที่ได้จะขึ้นอยู่กับเส้นทางและเทคโนโลยีที่ผู้ให้บริการใช้งาน)

Country Latency (time)
Thailand 1 – 50 ms
Singapore 30 – 80 ms
Hong Kong 30 – 120 ms
USA 200 – 270 ms

โดยสาเหตุของอินเทอร์เน็ตช้า ส่วนหนึ่งเกิดจาก Packet Loss โดยสามารถเกิดขึ้นได้หลากหลายสาเหตุเช่น วงจรมีปัญหา, ใช้งานความเร็วเต็มสปีดที่ได้ใช้บริการ หรืออาจจะเกิดจากโปรแกรมบางตัวที่มีการส่งข้อมูลตลอดเวลาด้วยอัตราข้อมูลที่สูง (สามารถดูได้จากหัวข้อถัดไป) หรืออุปกรณ์เน็ตเวิคมีปัญหา เป็นต้น

สำหรับใครที่ต้องการตรวจสอบคุณภาพตลอดเวลาก็มี open source หลายตัวที่ช่วยตรวจสอบได้เช่น Cacti, Zabbix และผู้ให้บริการเช่น Thousand eyes ที่เปิดให้มอนิเตอร์โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายจำนวน 3 targets เป็นต้น

รายงานการตรวจสอบ Latency และ Packet Loss จาก PROEN iBalance

2. Turn off high bandwidth app

มีแอพพลิเคชันหลายตัวที่ต้องการแบนด์วิดจำนวนมากและต่อเนื่อง ส่งผลให้ความเร็วที่มีไม่เพียงพอต่อการทำงานดังนั้นจึงต้องทำการปิด โดยสิ่งที่น่าสนใจคือเราจะรู้ได้อย่างไรว่าแต่ละแอพใช้งานเยอะมากน้อยขนาดไหน สำหรับผู้ที่ใช้งาน Windows สามารถตรวจสอบได้โดยตรวจสอบจาก Task Manager ด้วยปุ่ม [Ctrl+Shift+Esc] > App History

มีอีกหลากหลายวิธีที่สามารถส่องได้ที่ https://www.howtogeek.com/224170/how-to-monitor-your-network-usage-in-windows-10/

สำหรับใครที่ต้องการยกระดับความสามารถในการทำงานให้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ก็สามารถใช้อุปกรณ์เกตเวย์ที่มีอยู่ตามท้องตลาดมาช่วยงานตรงนี้ได้เช่นกัน

รายงานการใช้งานแอพพลิเคชั่นจาก PROEN iBalance

รายงานการผู้ใช้งานจาก PROEN iBalance

PROEN iBalance มาพร้อมกับแอพพลิเคชันไฟวอล ต้องการบล๊อคตัวไหน เลือกได้เลย

3. Change DNS Server

DNS หรือ Domain name server ทำหน้าที่สำคัญในโลกอินเทอร์เน็ต คือแปลงจากชื่อเป็นไอพี (หากใช้งานโดยใช้ไอพี ให้ข้ามข้อนี้ไป) ดังนั้นหาก DNS มีการตอบสนองที่ช้า ก็จะทำให้การใช้งานอินเทอร์เน็ตช้าไปด้วย

วิธีการตรวจสอบ DNS ทำได้หลายวิธี แต่ก่อนอื่นต้องรู้ก่อนว่าเราจะทราบได้อย่างไรว่า DNS ไอพีอะไร?

  • วิธีที่ 1 สำหรับคอไอที window + R และพิมพ์ cmd และใช้คำสั่ง ipconfig /all

  • วิธีที่ 2 แบบบ้านๆ หน่อย control panel > Network and Sharing Center > Connection > Details

และมาถึงบททดสอบ DNS ว่ายังทำงานดีอยู่ไหม? สามารถใช้วิธีนี้ได้เลย cmd > nslookup > server [IP DNS] > ใส่ domain name

ซึ่งถ้า DNS Server มีปัญหาก็จะสังเกตุเห็นชัดเจนว่าการตอบสนองช้ากว่าปกติ หรือบางครั้งขึ้น time out

ถ้าพบว่า DNS ที่ใช้งานอยู่มีปัญหา ก็เปลี่ยน DNS ได้เลยโดยมีหลายแห่งที่เปิดให้สามารถใช้งานได้ดีและฟรีด้วย สามารถดูเพิ่มเติมได้ที่ https://www.lifewire.com/free-and-public-dns-servers-2626062 หรือ https://public-dns.info/

Provider Primary DNS Secondary DNS Note
Google DNS 8.8.8.8 8.8.4.4
Dyn NDS 216.146.35.35 216.146.36.36
Open DNS

(Cisco Umbrella)

208.67.222.123 208.67.220.123
  • Free with Block adult contents
  • Upgradeable for security features such as ransomware, malware, phishing, etc.

Cisco Umbrella package: https://umbrella.cisco.com/products/packages

4. Upgrade your plan

เมื่อตรวจสอบแล้วว่า ใช้งานจริง ไม่มีสิ่งแปลกปลอม ก็เตรียมตัวอัพเกรดบริการกันดีกว่า โดยการอัพเกรดสามารถทำได้หลายวิธีเช่น

  • วิธีอัพเกรดนี้เป็นวิธีที่นิยมมากที่สุด โดยการเพิ่มความเร็ว
  • อัพเกรดเป็น Business Package ที่มีอัตราการแชร์ที่น้อยกว่า Home Package (ผู้ให้บริการบางรายให้ public IP มาด้วย)
  • อัพเกรดโดยใช้บริการจาก PROEN iBalance โดยผู้ให้บริการรายนี้จะติดตั้งอินเทอร์เน็ตเพิ่มจากเดิมให้อีก 1 เส้น (สามารถเพิ่มได้สูงสุดถึง 8 เส้น) พร้อมติดตั้งอุปกรณ์เพิ่มความเร็วอินเทอร์เน็ตให้เร็วมากกว่าเดิมไม่น้อยกว่า 2 เท่า

โปรเอ็น (PROEN) ยินดีให้คำปรึกษาการออกแบบระบบอินเทอร์เน็ตให้ใช้งานได้ดี รวดเร็ว ตอบโจทย์ผู้บริหารโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย สามรถติดต่อโปรเอ็นได้ที่

บทความเรื่อง “4 เทคนิคพิชิตเน็ตช้า” นี้ ต้นฉบับถูกเผยแพร่ที่ Branch Connect

ยินดีให้คำปรึกษา การนำ SD-WAN ไปใช้ในองค์กรของคุณให้เกิดประโยชน์สูงสุด
Email: dr.wan@proen.co.th
Tel: 02-690-3888
http://www.proen.co.th/
http://www.branchconnect.in.th/

ดาวน์โหลด eBook เรื่อง Software-defined WAN for DUMMIES [PDF]

from:https://www.techtalkthai.com/4-techniques-to-solve-the-slow-internet-connection-problem/

TechTalk Webinar: วิดีโอย้อนหลังเรื่อง “รวมกรณีศึกษาและตัวอย่างการใช้งาน SD-WAN ในชีวิตจริง”

สำหรับผู้ที่ไม่ได้เข้าชมการบรรยาย TechTalk Webinar เรื่อง “รวมกรณีศึกษาและตัวอย่างการใช้งาน SD-WAN ในชีวิตจริง” โดย Velocloud และ PROEN Internet ที่เพิ่งจัดไปเมื่อช่วงปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา หรือต้องการรับชมการบรรยายซ้ำอีกครั้ง สามารถดูวิดีโอบันทึกย้อนหลังได้ที่บทความนี้ครับ

ผู้บรรยาย: คุณกังวาฬ ชินธรรมมิตร์, Director of Solution จาก Velocloud

SD-WAN เริ่มกลายเป็นมาตรฐานของการเชื่อมต่อผ่านเครือข่าย WAN ที่เข้ามาแทนที่การเชื่อมต่อยุคเก่า ด้วยคุณสมบัติด้านความง่ายในการบริหารจัดการ ประสิทธิภาพและความมั่นคงปลอดภัยสูง ในขณะที่มีต้นทุนต่ำ ทำให้ SD-WAN กลายเป็นโซลูชันที่หลายองค์กรในปัจจุบันให้ความสนใจและหันมาใช้บริการมากยิ่งขึ้น

เพื่อให้เห็นภาพการใช้งาน SD-WAN ของหลายๆ องค์กรในปัจจุบันมากยิ่งขึ้น VeloCloud ได้รวบรวมกรณีศึกษาและตัวอย่างการใช้งานจากทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นความท้าทายในการเชื่อมต่อ WAN ในยุคดิจิทัล การนำ SD-WAN เข้ามาใช้เพื่อเพิ่มศักยภาพในการเชื่อมต่อสำนักงานแต่ละสาขาเข้าด้วยกัน และการออกแบบ SD-WAN ในอุตสาหกรรมประเภทต่างๆ

เนื้อหาภายใน Webinar นี้ประกอบด้วย

  • แนวโน้มและความท้าทายของการเชื่อมต่อผ่าน WAN
  • คุณลักษณะและฟีเจอร์ที่สำคัญของ SD-WAN
  • Case Study: การลดภาระค่าใช้จ่าย MPLS ของสถาบันการเงิน
  • Case Study: การจัดการกับการรับส่งข้อมูลแบบ Voice สำหรับธุรกิจค้าปลีก
  • Case Study: การเพิ่มประสิทธิภาพของการใช้ Office 365 ในธุรกิจโรงแรม
  • Case Study: การเพิ่มความมั่นคงปลอดภัยในอุตสาหกรรมการผลิตโดยใช้ Cloud-based Web Security

from:https://www.techtalkthai.com/techtalk-webina-video-playback-sd-wan-case-studies/