คลังเก็บป้ายกำกับ: TIP

วิธีเปิดใช้งานธีมลับ ที่ซ่อนอยู่ใน Windows 11

วิธีเปิดใช้งานธีมลับ ที่ซ่อนอยู่ใน Windows 11
Noppinij

Windows 11 เวอร์ชั่นอัปเดทใหม่ในปี 2022 มาพร้อมกับคุณสมบัติใหม่ๆ มากมาย แต่จะมีสิ่งหนึ่งที่ถูกเพิ่มเติมเข้ามาให้แล้วแต่ยังคงถูกซ่อนไว้นั้นคือชุดธีมเดสก์ท็อปชุดใหม่ ชุดธีมที่มาพร้อมวอลเปเปอร์ดาวเคราะห์และพื้นผิวดวงดาว ซึ่งแต่เดิมธีมเหล่านี้ถูกออกแบบมาให้สำหรับ Windows 11 SE

ข่าวดีก็คือธีมเหล่านี้สามารถเปิดใช้งานได้บนอุปกรณ์เครื่องใดก็ได้ที่ใช้ Windows 11 ไม่ว่าจะเป็น Windows 11 Home, Windows 11 Pro หรือแม้แต่ Windows 11 Enterprise ส่วนวิธีการเปิดใช้งานธีมใหม่เพื่อทดลองใช้ทำได้ง่ายๆ ด้วยตัวเองดังนี้

  • กดปุ่ม Win+R บนแป้นพิมพ์ เพื่อเปิดหน้าต่างเรียกใช้งาน Run
  • พิมพ์คำว่า “regedit” ลงในช่องค้นหาแล้วกดตกลง
  • เลื่อนหาแท็บ “HKEY_LOCAL_MACHINE\SOFTWARE\Microsoft\PolicyManager\current\device”
  • เมื่อเจอแล้ว คลิ๊กเมาส์ขวาที่แท็บ “device” แล้วเลือกคำสั่ง New > Key
  • ตั้งชื่อ new key ที่สร้างขึ้นมาด้วยชื่อ “Education”
  • ในหน้าต่างด้านขวาของ new Education key คลิ๊กเมาส์ขวาแล้วเลือกสร้างด้วยคำสั่ง New > DWORD (32-bit) Value
  • ตั้งชื่อ DWORD ที่เพิ่งสร้างด้วยขื่อว่า “EnableEduThemes”
  • หลังจากเปลี่ยนชื่อแล้ว ให้ดับเบิ้ลคลิ๊กที่ DWORD ที่เพิ่งสร้าง เพื่อเปลี่ยนค่าช่อง value ให้เป็น 1.
  • รีสตาร์ทคอมพิวเตอร์

3 | theme | วิธีเปิดใช้งานธีมลับ ที่ซ่อนอยู่ใน Windows 11

หลังจากทำตามขั้นตอนด้านบนจนเสร็จสิ้นแล้ว หลังคอมพิวเตอร์บูสเครื่องขึ้นมาใหม่ มันจะเริ่มดาวน์โหลดธีมเพิ่มเติมเข้ามาให้โดยอัตโนมัติ เราอาจต้องรอสักครู่เพื่อให้กระบวนการดาวน์โหลดเสร็จสิ้น หลังจากนั้นเราก็จะสามารถใช้ธีมใหม่ได้โดยไปที่การตั้งค่า เลือกการตั้งค่าส่วนบุคคล > ธีม ก็จะเห็นชุดธีมที่ถูกเพิ่มเติมเข้ามาให้เลือกใช้งาน

7 | theme | วิธีเปิดใช้งานธีมลับ ที่ซ่อนอยู่ใน Windows 11

ข่าว: วิธีเปิดใช้งานธีมลับ ที่ซ่อนอยู่ใน Windows 11 มีที่มาจาก: แอพดิสคัส.

from:https://www.appdisqus.com/windows-11-2022-update-enable-theme-hidden/

วิธีใช้สมาร์ทโฟน Android และ iPhone แทนกล้องเว็บแคมคอมพิวเตอร์

วิธีใช้สมาร์ทโฟนเป็นกล้อง Webcam สำหรับการไลฟ์สด ทำสตรีมมิ่ง และประชุมวีดีโอ สามารถใช้ได้ทั้งเครื่องในระบบ Android และ iPhone เอามาแทนกล้องเว็บแคมสำหรับเครื่อง PC, คอมพิวเตอร์ ในระบบ Windows

วิธีใช้งานสามารถทำได้ผ่านโปรแกรมเวอร์ชั่นใช้ฟรีที่ชื่อว่า VCam โดยติดตั้งโปรแกรมดังกล่าวลงในอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ของเราก่อนนะครับ สามารถดาวน์โหลดมาใช้ได้จากหน้าลิงก์ด้านล่างนี้

VCam Download

หลังจากนั้นกดติดตั้งลงเครื่องคอมพ์หรือโน๊ตบุ๊คของเราให้เรียบร้อย และเปิดขึ้นมาใช้งาน เราจะพบกับหน้าแรกของโปรแกรมแบบภาพด้านล่างนี้ครับ ให้เลือกเปิดการเชื่อมต่อกับกล้องผ่านสมาร์ทโฟน “Connect your mobile phone camera”

หล้งจากนั้นให้เราติดตั้งแอพพลิเคชั่น Xsplit Connect : Webcam จากในสโตร์ของระบบ Android หรือ iOS ติดตั้งลงบนสมาร์ทโฟนของเราที่ต้องการนำมาใช้แทนกล้องเว็บแคมครับ


ดาวน์โหลด Xsplit Connect : Webcam ของ Android<< และ  iOS<<

การเชื่อมต่อวิธีนี้ไม่จำเป็นต้องใช้สายเสียบใดๆ นะครับ ข้อแม้คืออาศัยใช้การเชื่อมต่อสัญญาณ Wi-Fi สัญญาณเดียวกัน ทั้งตัวคอมพ์พิวเตอร์และสมาร์ทโฟนที่จะนำมาใช้ให้เชื่อมต่ออยู่กับวง Wi-Fi เดียวกันเท่านั้น

และเมื่อทำการเปิดแอพพลิเคชั่น Xsplit Connect : Webcam บนมือถือแล้ว และเปิดโปรแกรม VCam บนอุปกรณ์คอมพิวเตอร์แล้ว ระบบก็จะจับคู่เจอกันได้เองทันที โดยจะมีชื่อของอุปกรณ์ขึ้นให้เลือกใช้ในด้านล่างของหน้าโปรแกรม ถ้าเป็นการเชื่อมต่อครั้งแรก จะมีการขออนุญาตเชื่อมต่อจากบนสมาร์ทโฟนให้เรายืนยันอีกครั้งหนึ่ง

ข้อดีของโปรแกรมตัวนี้คือสามารถใช้มือถือหลายเครื่อง สลับใช้กันได้แทนกล้องหลายๆ ตัวได้ด้วยครับ เหมือนเรามีกล้องหลายจุดให้เราใช้งาน ส่วนระยะการเชื่อมต่อก็กว้างเทียบเท่าระยะสัญญาณของ WiFi เราเลยครับ

เราสามารถใช้ประโยชน์ได้หลายอย่าง โดยการนำ VCam เข้าไปใช้เป็นกล้องหลักในโปรแกรมประชุมวีดีโอ หรือการทำไลฟ์สตรีมมิ่งต่างๆ ไลฟ์สดขายของ หรืออะไรก็ตามที่ปกติต้องใช้กล้องหรือเว็บแคมมาเชื่อมต่อ เราจะใช้โปรแกรม VCam แทนได้หมดเลยครับ

และโปรแกรมตัวนี้ยังมีความสามารถในการลบฉากหลังของตัวบุคคลออกได้ เหมือนการทำกรีนสกรีนเลยครับ แต่ไม่ต้องฉากกรีนสกรีนแต่อย่างใด ความคมของการตัดภาพบุคคลอาจจะเป็นรองฉากเขียวของจริง แต่ก็พอทดแทนได้ เราสามารถนำฉากหลังจำลองมาใส่แทนได้เลยในโปรแกรม VCam ครับ

เลือก “Remove” ฉากหลัง แล้วเลือกภาพแบร็คกราวด์ที่ต้องการใส่แทน


ตัวโปรแกรม VCam เป็นโปรแกรมใช้งานฟรี โดยในเวอร์ชั่นใช้ฟรีจะมีลายน้ำชื่อโปรแกรม XSplit VCam อยู่บนหน้าจอ สามารถเอาออกได้ต้องสมัครสมาชิกรายเดือนหรือรายปีของเขาก่อนครับ ราคาก็ตามภาพด้านล่าง ถ้าใครไม่ติดขัดกับลายน้ำที่เห็น ก็ไม่จำเป็นต้องเสียค่าใช้งานใดๆ นะครับ

เราสามารถปรับเปลี่ยนใช้กล้องหน้า กล้องหลัง กล้องหลังเลนส์กว้าง สามารถปรับระดับความสว่างและโทนสีภาพได้ ผ่านแอพพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟนด้วยนะครับ

 

 

ข่าว: วิธีใช้สมาร์ทโฟน Android และ iPhone แทนกล้องเว็บแคมคอมพิวเตอร์ มีที่มาจาก: แอพดิสคัส.
from:https://www.appdisqus.com/tip-how-smartphone-web-camera-pc-computer/

ทิพยประกันภัย จับมือ ซิสโก้ เปิดตัว “แผนประกันภัยไซเบอร์การ์ดพลัส” เจาะกลุ่มธุรกิจขนาดกลาง

บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) จับมือซิสโก้ ผู้นำทางด้านเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตระดับโลก ผนึกกำลังนำเสนอแผนประกันภัยไซเบอร์การ์ดพลัส “TIP Cyber Guard Plus Powered by Cisco” เจาะกลุ่มธุรกิจขนาดกลางเพื่อปกป้องและคุ้มครองความเสี่ยงหรือความเสียหายที่เกิดจากการโจมตี หรือตกเป็นเป้าหมายของอาชญากรรมทางไซเบอร์

โดยสถิติล่าสุดจากศูนย์ประสานการรักษาความมั่นคงปลอดภัยระบบคอมพิวเตอร์ประเทศไทย (ไทยเซิร์ต) ระบุว่าภัยคุกคามไซเบอร์ ปี 2563 ในช่วง 6 เดือนแรกพบภัยคุกคามทางไซเบอร์รูปแบบต่างๆ รวม 1,474 ครั้ง อันดับ 1 คือการโจมตีด้วยโปรแกรมที่ออกแบบมาเพื่อสร้างความเสียหายให้กับระบบคอมพิวเตอร์ หรือมัลแวร์ (Malicious code) คิดเป็น 36% ส่วนการโจมตีในรูปแบบความพยายามเจาะเข้าระบบ (Intrusion Attempts) อยู่ที่ 72 ครั้ง คิดเป็น 4.9%. จากแนวโน้มภัยคุกคามไซเบอร์ที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในปัจจุบันองค์กรต่าง ๆ จึงให้ความสำคัญในด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์มากขึ้น

แผนประกันภัยไซเบอร์การ์ดพลัส “TIP Cyber Guard Plus Powered by Cisco” เป็นโมเดลธุรกิจใหม่ที่ทิพยประกันภัยร่วมกับซิสโก้ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์องค์กรธุรกิจขนาดกลางที่กำลังมองหาความคุ้มครองจากภัยคุกคามทางไซเบอร์ โดยมีทีมผู้เชี่ยวชาญด้านระบบรักษาความปลอดภัยจากซิสโก้ช่วยตรวจเช็ค ประเมินความเสี่ยง และแนะนำให้ความรู้ก่อนการเลือกแผนประกันภัยไซเบอร์ที่เหมาะสมกับองค์กรของท่าน โดยยึดหลักการประเมินความเสียหายสูงสุดที่อาจจะเกิดขึ้นจากภัยคุกคามทางไซเบอร์ เพื่อสะท้อนค่าเบี้ยประกันที่เหมาะสมและคุ้มครองความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นกับธุรกิจของท่าน อาทิการสูญเสียรายได้จากภัยคุกคามทางไซเบอร์  ค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนชุดคำสั่ง อุปกรณ์ที่ถูกทำลายจากภัยไซเบอร์ที่ปกติไม่ครอบคลุมในกรมธรรม์ประเภทอื่น โดยความคุ้มครองของประกันภัยไซเบอร์จะคุ้มครองภัยดังต่อไปนี้:

  • ความเสียหายจากการหยุดชะงักของธุรกิจ อันเนื่องมาจากระบบรักษาความปลอดภัยของเครือข่ายล่มหรือถูกโจมตี
  • ค่าใช้จ่ายในการกู้คืนข้อมูลที่ได้รับความเสียหายจากการถูกโจมตีทางไซเบอร์
  • ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับการรับแจ้งเหตุความเสียหายและการสืบสวน พร้อมด้วยสายด่วนรับแจ้งเหตุตลอด 24 ชม. ทุกวันไม่มีวันหยุด
  • ค่าใช้จ่ายเพื่อบรรเทาการเสียชื่อเสียงและการสื่อสารในภาวะวิกฤต
  • ค่าจ้างที่ปรึกษาทางเทคนิคในการจัดการข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์
  • ความรับผิดอันเกิดจากความล้มเหลวในการรักษาข้อมูลที่เป็นความลับและจากการใช้งานเครือข่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต
  • ค่าใช้จ่ายในการต่อสู้คดี
  • การถูกขู่กรรโชกที่เกี่ยวกับระบบหรือข้อมูล/การถูกข่มขู่ว่าจะถูกเปิดเผยความลับ การแบล็คเมล
  • ความรับผิดต่อเนื้อหาทางสื่อออนไลน์
Cisco

ดร.สมพร สืบถวิลกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ทิพยประกันภัยเป็นบริษัทประกันวินาศภัยของไทยที่มีความเชี่ยวชาญในด้านการรับประกันภัย และเป็นผู้นำทางด้านดิจิทัลอินชัวรันส์ เรามุ่งมั่นในการเพิ่มศักยภาพในการพัฒนาการให้บริการอย่างต่อเนื่องเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดประกันภัยในยุคดิจิทัล (Digital Insurance) พัฒนาผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมที่ตรงกับความต้องการของลูกค้าและอุตสาหกรรม โดยจับมือกับพันธมิตรผนึกกำลังเพื่อเสริมความแข็งแกร่งในการรองรับการรับประกันภัย รวมถึงรองรับความต้องการของธุรกิจในยุคดิจิทัล แผนประกันภัยไซเบอร์การ์ดพลัส นี้ถือเป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่ทางทิพยประกันภัยมองเห็นโอกาส และเล็งเห็นความสำคัญเพื่อดูแลองค์กรธุรกิจขนาดกลาง”

“การร่วมมือกับซิสโก้ครั้งนี้ถือเป็นการร่วมมือที่สำคัญขององค์กรที่มีความแข็งแกร่งในแต่ละด้าน เพื่อให้ลูกค้ามีความมั่นใจว่าเรามีความพร้อมโดยมีผู้เชี่ยวชาญทางด้านไซเบอร์ซีเคียวริตี้ระดับโลกอย่างซิสโก้ มาเป็นพาร์ทเนอร์ช่วยดูแลและตรวจสอบความพร้อมขององค์กร รวมถึงการให้บริการที่ปรึกษาทางด้านระบบรักษาความปลอดภัยไซเบอร์ในมาตรฐานระดับสากล ขณะที่แนวโน้มของภัยทางด้านไซเบอร์มีมากขึ้น ทำให้เกิดความต้องการประกันเพื่อรองรับความเสี่ยงจากภัยไซเบอร์เพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย โดยเราหวังว่าประกันภัยไซเบอร์การ์ดพลัส ของทิพยประกันภัยจะให้บริการที่คลอบคลุม และตอบโจทย์สิ่งที่องค์กรธุรกิจขนาดกลางต้องการ” ดร.สมพร กล่าวเสริม

นายทวีวัฒน์ จันทรเสโน รักษาการกรรมการผู้จัดการประจำประเทศไทยและภูมิภาคอินโดจีน บริษัท ซิสโก้ ซีสเต็มส์ (ประเทศไทย) จํากัด กล่าวว่า “เนื่องด้วยสถานการณ์แนวโน้มภัยคุกคามไซเบอร์ที่สูงขึ้น และมีเคสตัวอย่างให้เห็นมากขึ้น องค์กรต่างๆ จำเป็นต้องเตรียมบุคลากร ระบบงาน และเทคโนโลยีไว้ให้พร้อม เพื่อให้สามารถระบุ สกัดกั้นและจัดการกับภัยคุกคามทางไซเบอร์ได้อย่างทันท่วงที ซึ่งระบบรักษาความปลอดภัยคือ “รากฐาน” ความสำเร็จของธุรกิจดิจิทัล ปัจจุบันมีทั้งการพัฒนาแอปพลิเคชั่น การปรับใช้เทคโนโลยีดิจิทัลอย่างกว้างขวาง ซึ่งทุกอย่างเชื่อมต่อออนไลน์ มองในมุมที่ดีคือการขยายโอกาสทางธุรกิจให้กับองค์กรต่างๆ แต่ขณะเดียวกันก็ส่งผลให้มีช่องทางการโจมตีเพิ่มมากขึ้นด้วยเช่นกัน”

“การร่วมมือของซิสโก้กับทิพยประกันภัยครั้งนี้ถือเป็นโมเดลธุรกิจใหม่ และเป็นอีกก้าวสำคัญเพื่อสร้างความมั่นใจให้องค์กรและธุรกิจไทยในกรณีที่เกิดความเสียหายจากภัยไซเบอร์ ยิ่งเทคโนโลยีมีความซับซ้อนมากขึ้น ยิ่งทำให้เสี่ยงต่อภัยคุกคาม ซิสโก้สนับสนุนให้องค์กรต่างๆ ควรเตรียมพร้อมรับมือด้วยแผนประกันภัยทางไซเบอร์ และหวังว่าความรู้และความเชี่ยวชาญของทีมงานไซเบอร์ซีเคียวริตี้ของเราจะช่วยปกป้ององค์กรธุรกิจตั้งแต่เริ่มต้นแผนประกันภัยไซเบอร์ด้วยความเสี่ยงที่น้อยที่สุด”

from:https://www.mobileocta.com/dhipaya-insurance-joins-hands-with-cisco-to-launch-cybercard-plus-insurance-plan/

ดาวน์โหลดแอปไม่จำกัดขนาดด้วยเน็ตมือถือได้ง่าย ๆ ใน iOS 13 เพียงไม่กี่ขั้นตอน

 

ใน iOS 13 ที่ ณ ตอนนี้อัปเดตเป็นเวอร์ชั่น 13.3.1 นั้น มีฟีเจอร์ที่ทำให้เราสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันบน App Store ด้วยเน็ตมือถือ (Cellular) ได้แบบไม่จำกัดขนาด ต่างจากในเวอร์ชั่นเดิมที่เราไม่สามารถดาวน์โหลดแอปด้วยขนาดไฟล์ที่เกิน 200MB ได้ ซึ่งวิธีการเข้าไปตั้งค่านั้นก็ง่ายแสนง่าย เพียงทำตามขั้นตอนดังนี้

 

1. เข้าไปที่เมนูการตั้งค่าหรือ Settings

2. เลือก iTunes & App Store

3. ดูในส่วนของ Cellular Data แล้วเลือก App Downloads

4. ในหน้านี้จะปรากฏตัวเลือกมาให้เราเลือก 3 แบบด้วยกัน คือ  Always Allow (ดาวน์โหลดได้แบบไม่จำกัดขนาดไฟล์บน App Store และ iTunes) , Ask If Over 200 MB (ระบบจะขึ้นข้อความแจ้งเตือน หากไฟล์ที่กำลังจะดาวน์โหลดมีนาดเกิน 200 MB ให้เราอนุญาตก่อนจึงจะทำการดาวน์โหลดไฟล์) และ Always Ask (ระบบจะขึ้นข้อความแจ้งเตือนให้เราอนุญาตก่อนดาวน์โหลดแอปทุกขนาด)

เพียงขั้นตอนการตั้งแค่ง่าย ๆ เราก็สามารถที่จะใช้เน็ตมือถือในการดาวน์โหลดหรืออัปเดตแอปขนาดใหญ่กว่า 200 MB ได้เรียบร้อยแล้ว วิธีการนี้จะทำให้เราสามารถอัปเดตหรือดาวน์โหลดแอปได้สะดวกมากขึ้นเพราะไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็สามารถทำได้ แม้จะไม่ได้เชื่อมต่อกับ WiFi ก็ตาม

 

 

from:https://notebookspec.com/download-apps-over-200mb-with-cellular/513080/

ประกันภัยรถยนต์รูปแบบใหม่ ปฏิรูปความปลอดภัยบนท้องถนน ให้คนขับดี ได้รางวัลตอบแทน

อุบัติเหตุทางถนนเป็นปัญหาใหญ่ที่มักถูกมองด้วยทัศนคติแบบไทยๆ ว่าเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้ตามยถากรรม ปัญหาส่วนใหญ่มาจากการบังคับใช้กฎหมายที่ไม่เข้มข้นและไม่ต่อเนื่อง โดยที่ผ่านมาแคมเปญรณรงค์เรื่องความปลอดภัยบนท้องถนนมักจะเพิ่มความเข้มงวดขึ้นเฉพาะในช่วงก่อนหน้าเทศกาล ทำให้คนไทยเองยังไม่ตระหนักถึงกฎหมายเท่าที่ควร การปฏิรูปความปลอดภัยบนท้องถนนจึงเป็นปัญหาใหญ่ที่ควรได้รับการแก้ไขอย่างจริงจัง

Credit: ShutterStock.com

แนวคิดที่จะทำให้ภาคประชาชนตระหนักในการช่วยกันลดอุบัติเหตุบนท้องถนนจึงเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่ง และแนวคิดนี้เองจึงเป็นต้นกำเนิดของ “iON GO (ไอออนโก)” แอปพลิเคชันที่ตอบแทนผู้ขับรถดีมีน้ำใจ และรักษาวินัยทางจราจร

“โหลด-ขับ-รับ-แลก” คือสโลแกนจูงใจของ iON GO ที่ทำให้เห็นว่าการได้รับสิทธิประโยชน์จากการขับรถที่ดีนั้นสามารถเกิดขึ้นได้จริง จากเดิมที่ผู้ขับรถดีและปฏิบัติตามกฎจราจรไม่เคยได้สิ่งใดตอบแทนมาก่อน สู่การได้รับผลตอบแทนความดีที่จะช่วยให้ผู้ขับมีกำลังใจมากขึ้น เป็นจุดเล็กๆ ที่ยิ่งใหญ่ในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการขับขี่ของคนในประเทศ เป็นแรงจูงใจให้ผู้คนหันมาปฏิบัติตามกฎจราจรกันมากขึ้น เพื่อคุณภาพชีวิตบนท้องถนนที่ดีกว่าเดิม

สอดคล้องกับนโยบายของทาง บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ซึ่งมีปณิธานที่ตรงกันคือต้องการส่งเสริมพฤติกรรมการขับรถที่ปลอดภัย  เพื่อลดอุบัติเหตุบนท้องถนน จึงได้มีการออกแคมเปญร่วมกันในชื่อ “iON GO Safe Drive by TIP” สร้างปรากฏการณ์ใหม่ของการซื้อประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจผ่านแอปพลิเคชัน iON GO เพียงคุณมีพฤติกรรมการขับรถที่ดี ไม่มีเคลม จะได้รับคืนเป็น iON Coins เทียบเท่ากับมูลค่าเงินสูงสุด 65% ของเบี้ยประกันภัย ตลอดทั้งปีความคุ้มครอง

หลักเกณฑ์การได้รับคะแนนของ iON GO คือจะได้รับเมื่อผู้ใช้งานขับรถตามความเร็วที่กฎหมายกำหนด และมีระยะเวลาขับขี่เกิน 15 นาทีต่อวัน ระบบจึงจะนำคะแนนเฉลี่ยของวันนั้นๆ มาคำนวณ โดยตัวแอปฯ จะตรวจจับ GPS และคิดคะแนนผ่านหลากตัวแปรด้วยกัน ได้แก่ ความเร็ว อัตราเร่ง การเบรก พื้นที่ และพฤติกรรมการใช้มือถือระหว่างขับรถ

นอกจากนี้ช่วงเวลาในการขับรถก็ถูกนับเป็นเกณฑ์ในการให้คะแนนเช่นกัน เนื่องจากช่วงเวลากลางคืนจะส่งผลให้ผู้ขับรถมีทัศนวิสัยในการมองเห็นที่ลดลง ถนนเส้นเดียวกันจึงถูกคิดคำนวณค่าความเร็วที่เหมาะสมไว้แตกต่างกันตามแต่ละช่วงเวลาในการใช้ พฤติกรรมการขับขี่ที่กล่าวมาจะได้รับการประมวลผลเป็นคะแนน จากนั้นจึงเปลี่ยนคะแนนเป็น iON Coins  (ไอออนคอยน์) ให้สามารถนำไปใช้แลกสิทธิประโยชน์และของรางวัลจากร้านค้าและบริการชั้นนำที่ร่วมรายการได้

Credit: ShutterStock.com

แคมเปญ “iON GO Safe Drive by TIP” สามารถเข้าร่วมได้ง่ายๆเพียงแค่ติดตั้งแอปฯ iON GO และซื้อประกันรถยนต์จากทิพยประกันภัยผ่านแอปฯ โดยที่ไม่ต้องติดตั้งอุปกรณ์ใดๆเพิ่มเติ่มกับรถยนต์ให้ยุ่งยาก รองรับทุกระดับ ไม่ว่าจะเป็นประกันภัยชั้น 1 ชั้น 2+ หรือชั้น 3+ หากขับรถดีและไม่มีเคลม หรือเคลมแต่เป็นฝ่ายถูกใน 1 ปี จะได้รับเงินคืนในรูปแบบของ iON Coins สูงสุดกว่า 65% ของเบี้ยประกันภัย เรียกได้ว่าเป็นประกันภัยเจ้าแรกและเจ้าเดียวในตอนนี้ที่ตอบแทนผู้ซื้อประกันที่มีพฤติกรรมการขับรถดีให้มีกำลังใจในการปฏิบัติตามกฎจราจรต่อไป

ทีมงาน iON GO ได้อธิบายเพิ่มเติมถึงการศึกษาที่น่าสนใจว่า นักวิจัยในสหรัฐฯ ค้นพบว่าการใช้สติ๊กเกอร์เขียนบอกให้ผู้โดยสารเตือนผู้ขับขี่ที่ขับรถแบบประมาทและเลินเล่อสามารถเปลี่ยนพฤติกรรมผู้ขับได้ การศึกษาพบว่ารถบัสโดยสารที่มีสติ๊กเกอร์ติดไว้ ช่วยลดอุบัติเหตุลงได้ 25% และรักษาชีวิตคนได้หลายร้อยคน นักวิจัยชี้ชัดว่าการสะกิดเตือนส่งผลต่อพฤติกรรมของคนขับได้ แคมเปญ “iON GO Safe Drive by TIP” นี้จึงนับเป็นนวัตกรรมที่น่าสนใจ เป็นการปฏิรูปความปลอดภัยบนท้องถนนที่เริ่มต้นง่ายๆจากการสะกิดเตือนคนขับให้รับรู้ถึงพฤติกรรมการขับรถของตนเอง

การนำนวัตกรรมมาส่งเสริมผลิตภัณฑ์ประกันภัยรถยนต์นับเป็นก้าวใหม่ที่น่าจับตามอง เมื่อความปลอดภัยบนท้องถนนเป็นเป็นสิทธิที่คนไทยทุกคนควรจะได้รับ ผลิตภัณฑ์ประกันภัยรถยนต์รูปแบบใหม่นี้จึงนับเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ใช้รถใช้ถนน นอกเหนือจากมาตรการลดความสูญเสียจากหลายภาคส่วนแล้ว เราทุกคนในฐานะของหน่วยที่เล็กที่สุดของสังคมก็สามารถร่วมมือกันได้อย่างจริงจัง ทั้งยังจะได้รับผลตอบแทนจากพฤติกรรมการขับรถดีให้มีกำลังใจในการปฏิบัติตามกฎจราจรต่อไป คำว่า ‘มีแต่ได้กับได้’ ดูจะไม่ใช่คำกล่าวที่เกินจริงไปอย่างแน่นอน

from:https://www.techtalkthai.com/ion-go-safe-drive-by-tip/

ทิปวิธีซ่อนชื่อเพื่อนที่มีร่วมกัน (Mutual Friend) ใน Facebook ไม่ให้คนอื่นเห็น ทำได้มั้ย ประจำปี 2019

อีกหนึ่งคำถามที่ผู้ใช้ Facebook มักจะสงสัย และค้นหาคำตอบอยู่เสมอ ๆ ก็คือ “สามารถซ่อนเพื่อนที่มีร่วมกัน (mutual friend) ไม่ให้แสดงในหน้าโปรไฟล์ได้หรือไม่” เพราะในบางครั้ง ผู้ใช้ก็ไม่ต้องการให้ผู้อื่นเห็นว่าเรามีใครเป็นเพื่อนร่วมกันกับผู้ที่เข้ามาดูโปรไฟล์บ้าง

จากการค้นคว้า และค้นหาเมนูการตั้งค่าต่าง ๆ ของ Facebook ในปัจจุบัน (เดือนสิงหาคม 2019) เราก็พบว่า Facebook ไม่มีตัวเลือกสำหรับการซ่อนรายชื่อเพื่อนที่มีร่วมกันมาให้ครับ ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้เลยที่เราจะซ่อนชื่อเพื่อนที่มีร่วมกันไม่ให้ผู้อื่นเห็น ทำได้อย่างมากสุดก็เพียงซ่อนรายชื่อเพื่อนทั้งหมดไม่ให้ผู้อื่นเห็นเท่านั้น

ดังนั้น ในบทความนี้จึงขอนำเสนอวิธีซ่อนรายชื่อเพื่อนทั้งหมดแทนแล้วกันนะครับ มาดูกันไปทีละขั้นตอนเลย

 

สำหรับ Facebook ในคอมพิวเตอร์ / เว็บเบราเซอร์

1. คลิกที่ลูกศรชี้ลง ตรงแถบสีน้ำเงินด้านบนสุด แล้วเลือก Settings (การตั้งค่า)

 

2. ดูที่แถบทางซ้าย คลิกที่ Privacy (ความเป็นส่วนตัว)

เมื่อเข้ามาแล้ว ให้ดูที่หัวข้อ How People Find and Contact You แล้วคลิกคำว่า Edit ตรงท้ายหัวข้อ Who can see your friend list? ซึ่งก็เป็นหัวข้อสำหรับตั้งค่าว่าจะให้ใครมองเห็นรายชื่อเพื่อนของเราบ้าง

 

3. คลิกที่ปุ่ม แล้วเลือกที่ Only me (เฉพาะฉัน)

ซึ่งที่หัวข้อนี้ จะมีหมายเหตุแจ้งไว้ชัดเจนเลยครับว่า แม้จะเลือกเป็น Only me ก็ตาม แต่บุคคลอื่นก็ยังสามารถมองเห็นชื่อเพื่อนที่มีร่วมกันได้อยู่ดีครับ ต่างกันเพียงแค่เขาจะมองไม่เห็นเพื่อนทั้งหมดของเรา (ที่ไม่ได้เป็นเพื่อนร่วมกันกับเขา) เท่านั้นเอง

 

 

สำหรับ Facebook ในแอปมือถือ ทั้ง Android และ iOS

1. แตะที่ปุ่มเมนู ที่เป็นขีดเส้นตรง 3 ขีด แล้วจิ้มที่หัวข้อ Settings & Privacy

 

2. แตะที่หัวข้อย่อย Settings

 

3. แตะที่หัวข้อย่อย Privacy Settings

 

4. ดูที่หัวข้อย่อย How People Find and Contact You

จากนั้นก็แตะที่หัวข้อย่อย Who can see your friends list? แล้วเลือกเป็น Only me เช่นเดียวกับแบบในคอมพิวเตอร์ / เว็บเบราเซอร์เลยครับ

 

ขอย้ำอีกครั้งว่า ขั้นตอนตามด้านบนนี้ เป็นเพียงการซ่อนรายชื่อเพื่อนทั้งหมดเท่านั้นนะครับ แต่ไม่สามารถซ่อนชื่อเพื่อนที่มีร่วมกันได้ คงต้องรอให้ทาง Facebook เพิ่มตัวเลือกการตั้งค่านี้ขึ้นมาให้ในอนาคตแหละนะ

from:https://notebookspec.com/%e0%b8%97%e0%b8%b4%e0%b8%9b%e0%b8%a7%e0%b8%b4%e0%b8%98%e0%b8%b5%e0%b8%8b%e0%b9%88%e0%b8%ad%e0%b8%99%e0%b8%8a%e0%b8%b7%e0%b9%88%e0%b8%ad%e0%b9%80%e0%b8%9e%e0%b8%b7%e0%b9%88%e0%b8%ad%e0%b8%99%e0%b8%97/490384/

Facebook ช้าในปี 2019 มีสาเหตุจากอะไร และจะแก้ไขอย่างไรดี

หนึ่งในปัญหาที่ผู้ใช้ Facebook หลาย ๆ ท่านมักพบเจอระหว่างการใช้งานก็คือความเร็วของ Facebook ช้าลง ไม่ว่าจะเป็นการแสดงเนื้อหา การเลื่อนหน้าจอ การเปิดรูป เปิดคลิปวิดีโอใน Facebook ช้ากว่าปกติ ซึ่งในบทความนี้จะมาดูกันครับว่าปัญหา Facebook ช้าที่มักเจอในปี 2019 นี้มีสาเหตุมาจากอะไรบ้าง และจะแก้ไขได้อย่างไร

1. Facebook ช้า เพราะอินเตอร์เน็ตช้า

จากประสบการณ์ของทั้งผู้เขียนและหลาย ๆ ท่านเองถึงสาเหตุหลักที่ทำให้ Facebook ช้า ก็คือเรื่องของอินเตอร์เน็ตที่ใช้งานครับ ไม่ว่าจะเป็นอินเตอร์เน็ตบ้าน เน็ต WiFi หรือจะเป็น 4G/3G ก็ตาม ล้วนจะต้องมีช่วงที่เกิดปัญหากันแทบทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นปัญหาจากทางผู้ให้บริการ ปัญหาของสายสื่อสาร ปัญหาของ router หรืออาจเป็นปัญหาการรับสัญญาณอินเตอร์เน็ตของอุปกรณ์ปลายทางก็ได้เช่นกัน ซึ่งอาการ Facebook ช้าที่เกิดจากอินเตอร์เน็ต โดยมากแล้วก็มักจะเป็นการโหลดเนื้อหาช้า โหลดรูปช้า คอมเมนท์ขึ้นช้า เป็นต้น

วิธีแก้ไขปัญหา Facebook ช้าจากในกรณีนี้

เบื้องต้น แนะนำว่าควรลองสลับไปใช้งานโปรแกรมหรือแอปพลิเคชันอื่นที่มีการใช้งานอินเตอร์เน็ต เช่น ทดลองเปิดหน้าเว็บไซต์ หรืออาจจะลองทดสอบความเร็วอินเตอร์เน็ตดูก่อนครับ ว่าอินเตอร์เน็ตช้าเกินไปหรือไม่ สถานะการเชื่อมต่อเป็นปกติหรือเปล่า รวมถึงอาจจะตรวจสอบอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับอินเตอร์เน็ต เช่น router มือถือ สายเชื่อมต่อต่าง ๆ ว่าทำงานปกติหรือไม่ อาจจะลอง restart ดูซักหนึ่งรอบ แล้วตรวจสอบอีกทีว่ายังมีปัญหา Facebook ช้าอยู่หรือไม่

ถ้าหากอินเตอร์เน็ตเร็วพอสมควรอยู่แล้ว (แนะนำว่าความเร็วดาวน์โหลดควรไม่ต่ำกว่า 2Mbps ถึงจะใช้งานได้ค่อนข้างทันใจ) แต่ยังพบปัญหา Facebook ช้าอยู่ ก็เป็นไปได้ว่าสาเหตุอาจจะมาจากปัจจัยอื่นมากกว่า

 

2. Facebook ช้า เพราะมือถือ/คอมช้า

นับเป็นหนึ่งในสาเหตุที่หลาย ๆ คนมองข้ามไปไม่น้อยอยู่เหมือนกัน เพราะคิดว่า Facebook มันก็แค่หน้าที่แสดงข้อมูล รูปภาพ วิดีโอที่เลื่อนดูได้เรื่อย ๆ แต่ที่จริงแล้วการทำงานเบื้องหลังของระบบนั้นก็ใช่ย่อยทีเดียวครับ เพราะเว็บเบราเซอร์/แอปพลิเคชันจะต้องพยายามโหลดข้อมูลมาล่วงหน้า เพื่อให้การใช้งานเป็นไปได้อย่างไหลลื่นที่สุด ซึ่งข้อมูลที่ต้องโหลดมาเก็บไว้เพื่อการแสดงผลก็มีทั้งข้อความ รูปภาพความละเอียดสูง วิดีโอ ลิงค์ไปยังเว็บไซต์อื่น ๆ ทำให้มือถือหรือเครื่องคอมที่ใช้งาน ก็ต้องแบ่งทรัพยากรทั้ง CPU และอินเตอร์เน็ตมาใช้งานในส่วนนี้

และเมื่อโหลดข้อมูลมาแล้ว ระบบก็จะเก็บข้อมูลไว้ในเครื่อง ด้วยจุดประสงค์เพื่อให้สามารถแสดงข้อมูลได้เร็วขึ้นในครั้งต่อ ๆ ไป แต่อย่างไรก็ตาม ข้อมูลเหล่านั้นก็ต้องถูกเก็บไว้ในเครื่อง ก่อให้เกิดปัญหาแอปบวม ข้อมูลขยะจำนวนมาก ซึ่งส่งผลทางอ้อมให้มือถือ คอมทำงานช้าลง และสุดท้ายก็ส่งผลให้หน้า Facebook โหลดช้าลงด้วยเช่นกัน

ส่วนอีกประเด็นหนึ่งก็คือสเปคของมือถือหรือคอมพิวเตอร์ที่อาจจะช้าเกินไปซักนิดนึง เช่น แรมอาจจะน้อยไปหน่อย หรือพื้นที่เก็บข้อมูลมีน้อยเกิน ทำให้ระบบจัดการแคชทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ ส่งผลให้การโหลดข้อมูล การแสดงผลของ Facebook ช้ากว่าที่ควรจะเป็น ซึ่งตรงนี้ แนะนำว่ามือถือในปัจจุบัน ควรจะเลือกใช้รุ่นที่มีแรมอย่างต่ำ 2GB ขึ้นไป ฝั่งของคอมพิวเตอร์ ก็แนะนำว่าควรจะมีแรมขั้นต่ำซัก 4GB เพื่อการใช้งานทั่วไปที่ไหลลื่น ด้านของพื้นที่เก็บข้อมูล ก็ควรจะให้เหลือที่ว่างอย่างต่ำซัก 10% ของพื้นที่ทั้งหมด เช่น HDD ในเครื่อง 1 TB ก็ควรจะเหลือพื้นที่ว่างเอาไว้ซัก 100 GB เผื่อเหลือเผื่อขาด

วิธีแก้ไขปัญหา Facebook ช้าจากในกรณีนี้

หากปัญหา Facebook ช้าของท่านเกิดจากสาเหตุนี้ วิธีแก้ไขก็คงหนีไม่พ้นการตรวจสอบสเปคอุปกรณ์ของตนก่อน ว่าจุดไหนที่อาจจะก่อให้เกิดปัญหา ซึ่งหลัก ๆ แล้วจะมีด้วยกัน 3 จุด ได้แก่

  • แรม
  • พื้นที่เก็บข้อมูล (HDD/SSD)
  • ชิปประมวลผล

ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว ก็แนะนำว่าเครื่องที่จะใช้งาน Facebook ได้ไหลลื่น ควรจะมีแรมขั้นต่ำซัก 4 GB อุปกรณ์เก็บข้อมูล ยิ่งมีพื้นที่เหลือเยอะ ยิ่งมีความเร็วสูงได้ก็ยิ่งดี อย่างในปัจจุบันก็ควรจะใช้งาน SSD เป็นอุปกรณ์เก็บข้อมูลหลักของเครื่องก็จะยิ่งเป็นการดี ส่วนชิปประมวลผล อันที่จริงก็ขอแค่ไม่เก่ามากจนเกินไปครับ CPU ระดับกลางรุ่นซักไม่เกิน 10 ปีที่แล้ว ส่วนใหญ่ก็ยังใช้งานได้สบาย ๆ ส่วนในฝั่งของมือถือ ก็แนะนำว่าควรจะมีแรมอย่างต่ำซัก 2GB พื้นที่เก็บข้อมูลก็ขั้นต่ำ 32GB จะดีที่สุด

อีกวิธีแก้ไขที่อาจจะช่วยได้ก็คือการเคลียร์ไฟล์ขยะครับ สำหรับใน Windows ก็ลองกด clear ไฟล์ขยะในเว็บเบราเซอร์ดู รวมถึงการเคลียร์ไฟล์ขยะของ Windows ในโฟลเดอร์ temporary (ตามขั้นตอนนี้) ส่วนในฝั่งมือถือ ง่ายที่สุดก็คือลองลบแอป Facebook ออก แล้วติดตั้งใหม่อีกครั้ง

 

3. Facebook ช้า เพราะฝั่ง Facebook เอง

ถ้าหากตรวจสอบทั้งอินเตอร์เน็ต เครื่องที่ใช้ และก็แอปพลิเคชันแล้ว แต่ยังพบปัญหา Facebook ช้าอยู่ ก็มีความเป็นไปได้แล้วว่าปัญหาอาจจะเกิดจากทาง Facebook เอง ซึ่งในกรณีนี้ คงต้องรอการแก้ไขจากทาง Facebook เป็นหลักครับ ซึ่งอาจจะเกิดทั้งจากปัญหาของเซิร์ฟเวอร์ Facebook ปัญหาจากการเชื่อมต่อ ปัญหาจากฐานข้อมูล ปัญหาเรื่องกระแสไฟฟ้า ฯลฯ ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นปัญหาที่ผู้ใช้ไม่สามารถแก้ปัญหาเองได้

อย่างไรก็ตาม ก่อนจะฟันธงว่าปัญหา Facebook ช้านั้นเกิดจากอะไร ก็ลองสอบถามจากบุคคลใกล้ตัวดูก่อนครับ ว่ามีปัญหาเดียวกันหรือเปล่า

วิธีแก้ไขปัญหา Facebook ช้าจากในกรณีนี้

สำหรับปัญหาจากสาเหตุนี้ แน่นอนว่าผู้ใช้ทั่วไปไม่สามารถแก้ไขปัญหาด้วยตนเองได้ครับ ต้องรอให้ทาง Facebook เป็นผู้แก้ไข ส่วนผู้ใช้อย่างเราก็ทำได้แค่ตรวจสอบสถานะไปพลาง ๆ จากในตัวอย่างเว็บไซต์และช่องทางดังต่อไปนี้

 

from:https://notebookspec.com/facebook-is-slow-in-2019-what-caused-it-and-how-to-fix/489696/

ทิพยประกันภัย เปิดตัวโครงการ TIP Gateway ระบบเชื่อมต่อการทำงานกับ Startup พร้อมสถานที่ที่จะสร้างแรงบันดาลใจให้กลุ่มสตาร์ทอัพ Inspiration Chamber

บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) เดินหน้าสู่ความเป็นผู้นำด้าน Digital Insurance อย่างเต็มรูปแบบ ด้วยการมอบหมายให้ Acrosure ออกแบบและพัฒนาระบบ “Tip Gateway, powered by Acrosure” ซึ่งเป็นระบบ Self-serve Insurance API Gateway ขึ้นเป็นครั้งแรก ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Insure with Partner 

ชูจุดเด่นอยู่ที่การเปิดให้ Tech Startup เข้ามาเชื่อมต่อด้วยตัวเองได้อย่างรวดเร็ว ช่วยลดขั้นตอนของการทำงานได้เป็นอย่างดี ทำให้ธุรกิจสตาร์ทอัพสามารถออกแบบความคุ้มครองในรูปแบบใหม่ๆที่สอดรับกับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคในยุคดิจิทัลได้ตามที่ต้องการ พร้อมเผยโฉมห้อง TIP Inspiration Chamber (TIP IC) ที่ถูกออกแบบมาให้เป็น Innovative Co-Working Space เพียบพร้อมด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยเพื่อการสร้างสรรค์นวัตกรรมของสตาร์ทอัพ

ทิพยประกันภัย

ดร.สมพร สืบถวิลกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ทิพยประกันภัย กล่าวว่า “ปัจจุบันนี้การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทกับธุรกิจประกันภัยเป็นอย่างมาก การใช้กลยุทธ์ทำการตลาดจะต้องสอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค โดยเฉพาะในช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิตอลที่ต้องยอมรับว่าพฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วมาก รวมถึงทางบริษัทฯมีแนวทางที่ชัดเจนในการขับเคลื่อนทิพยประกันภัยให้ก้าวสู่การเป็น Digital Insurance Company อย่างเต็มรูปแบบในปีนี้ ประกอบกับปัจจุบันนี้ สตาร์ทอัพ” ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในธุรกิจประกันภัยเป็นจำนวนมาก ทั้งในส่วนที่เป็นการขายกรมธรรม์และการให้บริการต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการประกันภัย โดยทิพยประกันภัยได้เล็งเห็นความสำคัญในเรื่องนี้ จึงมีแผนที่จะสนับสนุนสตาร์ทอัพให้เป็นช่องทางใหม่ในการที่ลูกค้าจะสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์และบริการของทิพยประกันภัยในรูปแบบดิจิตอลได้จากทุกช่องทาง

ล่าสุด ทิพยประกันภัย ได้มอบหมายให้ Acrosure ทำการพัฒนาระบบ Insurance API Gateway ภายใต้ชื่อ TIP Gateway, powered by Acrosure เพื่อเปิดโอกาสให้กลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีและสตาร์ทอัพต่างๆ สามารถเชื่อมต่อกับระบบประกันภัยเพื่อนำเสนอประกันให้กับลูกค้าได้จากระบบได้ทันที ทำให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงประกันภัยได้ง่าย มีประสิทธิภาพ สะดวก รวดเร็ว โดยทิพยประกันภัยถือเป็นบริษัทประกันรายแรกในโลก ที่เปิดให้บริการ Insurance API Gateway แบบ Self-Serve และพร้อมที่จะส่งเสริมและสนับสนุนงานด้านต่างๆให้กับสตาร์ทอัพทุกรายที่ต้องการเข้ามาทำธุรกิจร่วมกับทิพยประกันภัย

นอกจากนี้ทิพยประกันภัยยังเปิดตัวห้อง TIP Inspiration Chamber (TIP IC) ที่ถูกออกแบบมาด้วยคอนเซ็ปต์ Innovative Co-Working Space ภายในห้องเพียบพร้อมไปด้วยอุปกรณ์ที่ทันสมัย รองรับการใช้งานด้วยเทคโนโลยีต่างๆ โดยห้อง Inspiration Chamber ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเปิดโอกาสให้ Tech Startup ได้เข้ามาใช้พื้นที่ในการบ่มเพาะความคิด รวมถึงพัฒนานวัตกรรม และพร้อมที่จะให้การสนับสนุนสตาร์ทอัพในมิติต่างๆ อาทิ Business Know-how และ Regulatory Requirement Support เป็นต้น เพื่อให้เป็นเครื่องมือในการสร้างธุรกิจได้

ทางด้าน นายกิตติชัย จิรสุขานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท Acrosure  (อะโครชัวร์จำกัด กล่าวว่า TIP Gateway, powered by Acrosure นี้เป็น Insurance API Gateway ที่มีเป้าหมายให้ธุรกิจสตาร์ทอัพ และนักพัฒนาซอฟต์แวร์สามารถเชื่อมต่อเพื่อสร้างแอปพลิเคชันให้บริการประกันในรูปแบบดิจิตอลได้ด้วยตัวเอง  นอกจากนี้ชุดคำสั่งยังถูกออกแบบให้ใช้งานง่าย มีความปลอดภัยสูง และยังมีเครื่องมือที่จำเป็น อาทิ ระบบตรวจสอบข้อผิดพลาด ระบบรายงาน และส่งข้อมูลให้กับลูกค้าที่ครบครัน ซึ่งจะช่วยให้การเริ่มทำธุรกิจประกันเป็นไปได้อย่างรวดเร็ว

ระบบ TIP Gateway, powered by Acrosure พร้อมเป็น infrastructure ให้กับทุกสตาร์ทอัพที่ต้องการให้บริการประกันภัยหรือสร้างธุรกิจ InsurTech พร้อมช่วยออกแบบเงื่อนไขการประกันแบบใหม่ ๆ ให้ตรงตามความต้องการของแต่ละสตาร์ทอัพ โดยงานนี้ TIP Gateway ได้ทำการเปิดตัวความร่วมมือกับสตาร์ทอัพชั้นนำในไทย ได้แก่

–      BUILK บริษัทด้านระบบบริหารธุรกิจก่อสร้าง ที่ทำให้ผู้รับเหมาสามารถซื้อประกันก่อสร้างได้จากภายในแอปพลิเคชั่น

–      SHIPPOP บริษัทให้บริการส่งพัสดุ ที่ร่วมกับทิพยประกันภัยและ Acrosure ให้บริการประกันขนส่งสินค้าแบบรายเที่ยว ที่ราคาเริ่มต้นเพียงไม่กี่บาท

–      Tourkrub ศูนย์รวมแพ็คเกจทัวร์ต่างประเทศ ให้บริการประกันท่องเที่ยวกับลูกค้าผ่านระบบของ Acrosure

–      Drivemate ผู้ให้บริการรถเช่า ร่วมมือกับทิพยประกันภัยและ Acrosure ในการประกันรถให้กับผู้เช่า

–      Cleverse เปิดตัวระบบซื้อผลิตภัณฑ์ของทิพยประกันภัย ผ่าน LINE ที่มีประสบการณ์การใช้งานที่ง่าย ไม่ซ้ำซ้อน และอาศัย API ของ Acrosure ช่วยให้สามารถออกกรมธรรม์ได้ในทันที นายกิตติชัยกล่าว

TIP Gateway, powered by Acrosure นี้ถือเป็นการปฏิรูปธุรกิจประกันภัยครั้งสำคัญ และเป็นการเปิดโลกของการเชื่อมต่อระหว่างธุรกิจประกันภัยเข้ากับ Tech Startup ได้อย่างลงตัว เพื่อให้ทิพยประกันภัยก้าวสู่การเป็นผู้นำด้าน Digital Insurance เต็มรูปแบบอย่างแท้จริง โดยผู้สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://acrosure.com

from:http://mobileocta.com/dhipaya-launches-the-project-tip-gateway-highlighting-the-system-connecting-to-tech-startup/

Infographic: จับจุดหลักดีไซน์ต้องปรับเพื่อเว็บที่ดีขึ้น

หลายเว็บไซต์ทำงานดีขึ้นได้ด้วยเคล็ดลับการดีไซน์ที่ดี ถามว่าอะไรคือจุดหลักงานดีไซน์ที่ทุกเว็บไซต์ควรคำนึงถึงให้มาก และลงมือปรับตัวหากยังไม่ได้เดินตาม คำตอบคือเคล็ดลับเหล่านี้ที่คาดว่าจะมีผลโดยตรงในปี 2018

วันนี้ทุกองค์กรในยุคดิจิทัล รู้อยู่ว่าการออกแบบเว็บและฟังก์ชันการทำงานที่ดีสามารถดึงดูดผู้ชมให้เพิ่มขึ้นได้ก็จริง แต่จำนวนผู้ชมก็สามารถหดหายได้รวดเร็วเช่นกัน หากเว็บไซต์นั้นดูน่าเบื่อ เมนูหายาก หรือโหลดช้า

ดังนั้น สิ่งที่เว็บไซต์ควรทำคือการให้ข้อมูลน่าสนใจที่ดึงดูดผู้ชมได้ ขณะเดียวกันข้อมูลจะต้องง่ายต่อการค้นหา เหนือสิ่งอื่นใดคือต้องโหลดได้รวดเร็วทันใจ เรียกว่าจะต้องพัฒนาเว็บไซต์ที่ไม่เพียงแต่ดูสวยงาม แต่ต้องสร้างประสบการณ์ผู้ใช้ในเชิงบวกด้วย

หากเจาะลงไปให้ชัดว่าเว็บไซต์จะต้องยึดหลักอะไรบ้าง ข้อมูลใน Infographic จาก DesignHill แชร์แนวโน้มการออกแบบเว็บของปีนี้ที่จะนำไปสู่การมีส่วนร่วมที่เพิ่มขึ้นในปีต่อ ๆ ไป ว่าควรเน้นให้การพิมพ์ตัวอักษรข้อความบนเว็บมีความน่าสนใจ และที่ขาดไม่ได้คือวิดีโอ เนื่องจากขณะนี้วิดีโอคือสื่อหลักที่คนยุคดิจิทัลนิยมชมทุกวัน

อีกจุดคือวันนี้เว็บไซต์ควรออกแบบให้เน้นการแสดงผลบนสมาร์ทโฟนมากกว่าบนคอมพิวเตอร์ (Mobile-first) ขณะเดียวกันก็ควรยืดหยุ่นแสดงผลได้ลงตัวบนความละเอียดสูง

ที่มา: : PRDaily

 
Source: thumbsup

from:http://thumbsup.in.th/2018/05/infographic-design-tip/

วิธีการใส่กรอบริบบิ้นโบว์ดำให้กับรูปภาพโปรไฟล์บน Facebook

เดือนตุลาคมนี้เป็นเดือนที่ชาวไทยทุกคนจะได้ร่วมน้อมรำลึกถึงพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช หรือในหลวงรัชกาลที่ 9 ของปวงชนชาวไทย เพื่อนๆ หลายๆ คนอาจจะเห็นรูปภาพโปรไฟล์ของเพื่อนๆ บนฟีดในหน้า Facebook ของเรามีรูปริบบิ้นสีดำแสดงความไว้อาลัยแปะอยู่ในรูปภาพของตัวเองกัน หลายๆ คนอาจจะยังไม่ทราบวิธีในการติดริบบิ้นสีดำในรูปโปรไฟล์หน้า Facebook นี้ วันนี้ APPDISQUS จึงมีเทคนิคดีๆ ง่ายๆ นี้มาให้เพื่อนๆ ได้ทำตามกัน

 

วิธีการใส่กรอบริบบิ้นโบว์ดำให้กับรูปภาพโปรไฟล์บน Facebook ผ่านคอมพิวเตอร์

facebook-profile-1

  • เข้าไปในหน้าเฟซบุ๊คโปรไฟล์ของคุณ (คลิกที่รูปโปรไฟล์เล็กๆ ในหน้า Facebook ใดๆ ก็ได้แล้ว Facebook จะพามาที่หน้าโปรไฟล์หลักของคุณ) จากนั้นเลือก ‘Update Profile Picture (อัพเดตรูปโปรไฟล์)’ ตามรูป

facebook-frame-2

  • จะมีหน้าต่างใหม่เด้งขึ้นมาเพื่อให้คุณเลือกรูปเป็นรูปโปรไฟล์ แต่ในครั้งนี้เราจะใช้รูปโปรไฟล์เดิมของเรา เพียงแต่เราจะใส่กรอบริบบิ้นสีดำให้กับรูปโปรไฟล์เดิมนั้น ดังนั้นให้เราเลือก “Add Frame (เพิ่มกรอบ)” ตามข้อ 2

facebook-frame-3

  • หน้าต่างใหม่จะเด้งขึ้นมา ในหน้านี้โดยปกติเพื่อนๆ จะเห็นกรอบริบบิ้นสีดำแสดงขึ้นมาในดันดับต้นๆ อยู่แล้วเนื่องจากในช่วงเวลานี้ผู้ใช้งาน Facebook ในประเทศไทยใช้กรอบนี้กันเยอะ แต่หากเพื่อนๆ หาไม่เจอ ให้พิมพ์คำว่า “Black Ribbon” เข้าไปในผลการค้นหา เพื่อนๆ จะเจอกรอบริบบิ้นสีดำให้เลือกมากมาย (ซึ่งทำขึ้นต่างกรณีกัน แต่ล้วนแต่มีความหมายเหมือนกันแทบทั้งหมด) ให้เลือกกรอบริบบิ้นดำที่เพื่อนๆ ต้องการใช้ในโปรไฟล์ จากนั้นก็กด “Change Picture (เปลี่ยนรูปภาพ)” 
  • เพียงเท่านี้ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย
  • สำหรับเพื่อนๆ ที่ต้องการเปลี่ยนรูปโปรไฟล์ใหม่ด้วย ในขั้นตอนที่ 2 ให้เลือก ‘Upload Photo (อัพโหลดรูปภาพ)’ แล้วเลือกรูปที่ต้องการเปลี่ยนลงไป จากนั้นค่อยใส่กรอบด้วยการเลือก ‘Add Frame (เพิ่มกรอบ)’ แล้วทำตามขั้นตอนที่ 3 ต่อไป

 

วิธีการใส่กรอบริบบิ้นโบว์ดำให้กับรูปภาพโปรไฟล์บน Facebook ผ่าน iOS และ Android


  • เปิดแอพพลิเคชั่น Facebook บนมือถือ จากนั้นไปที่หน้าโปรไฟล์ของเรา แล้วเลือก “Edit (แก้ไข)” ที่รูปของรูป
  • จะมีป๊อปโอเวอร์เด้งขึ้นมา ให้เลือก “Add Frame (เพิ่มกรอบ)”


  • เลือกกรอบริบบิ้นดำที่ต้องการ หากไม่พบริบบิ้นสีดำให้พิมพ์ “Black Ribbon” ในการค้นหา
  • ปรับแต่งรูปตามต้องการ หากไม่ต้องการใช้รูปโปรไฟล์นี้ ให้เลือก “Change (เปลี่ยน)” จากนั้นเมื่อปรับแต่งเรียบร้อยแล้วให้เลือก “Use (ใช้)”
  • เสร็จขั้นตอนการใส่กรอบริบบิ้นสีดำให้กับรูปภาพโปรไฟล์บน Facebook ของเราผ่านอุปกรณ์ iOS และ Android

อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนรูปโปรไฟล์บน Facebook นั้นเป็นหนึ่งในสิ่งที่เราสามารถทำได้ในฐานะของประชาชนชาวไทยเพื่อเป็นการร่วมน้อมรำลึกถึงพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ยังมีอีกหลายอย่างที่เราสามารถทำได้เพื่อแสดงความอาลัยและความเคารพรักต่อพระองค์เช่นการทำความดี ประพฤติดี นั่นเอง ซึ่ง APPDISQUS จึงขอเป็นส่วนหนึ่งในการเชิญชวนให้เพื่อนๆ ทำความดีเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ ผู้เป็นที่รักยิ่งของปวงชนชาวไทยเรานี้ต่อไป

from:https://www.appdisqus.com/2017/10/02/how-to-add-black-ribbon-frame-to-facebook-profile-picture.html