คลังเก็บป้ายกำกับ: MICROSOFT_AZURE_PACK

CS LOXINFO Cloud Service ตอบโจทย์ทั้งธุรกิจองค์กรและ Startup ด้วยเทคโนโลยีจาก VMware และ Microsoft พร้อมบริการครบวงจร

บริการ Cloud จาก CS LOXINFO อีกทางเลือกที่น่าพิจารณาสำหรับองค์กรในการเช่าใช้งานเป็น Data Center หลักของธุรกิจ หรือใช้เป็นสาขาสำรองก็ได้เช่นกัน

Credit: ShutterStock.com

 

ต่อยอดจาก Data Center สู่ Cloud ที่มีความหลากหลายมากขึ้น

ปัจจุบันธุรกิจผู้ให้บริการ Data Center ในไทยนั้นต่างก็เริ่มผันตัวไปเป็น Cloud Service Provider กันมากขึ้นเรื่อยๆ ด้วยการนำทรัพยากร องค์ความรู้ และประสบการณ์ที่มีในการให้บริการ Data Center แต่เดิมมายกระดับด้วยเทคโนโลยี Cloud เพื่อให้สามารถให้บริการ Cloud Data Center ที่มีความคล่องตัวสูงขึ้นได้ และ CS LOXINFO ก็เป็นหนึ่งในธุรกิจชั้นนำทางด้าน Data Center ในไทยที่ให้บริการ Cloud แก่องค์กรหลากขนาดหลายอุตสาหกรรมทั่วประเทศไทย

CS LOXINFO นั้นเริ่มต้นจากการนำเทคโนโลยี Cloud มาพัฒนาต่อยอด พร้อมปรับปรุงกระบวนการการทำงานต่างๆ เพื่อใช้งานภายใน CS LOXINFO เองก่อนเพื่อให้บริการต่างๆ มีประสิทธิภาพและคุณภาพที่สูงขึ้น จากนั้นเมื่อเทคโนโลยีและกระบวนการเหล่านี้เริ่มเข้าที่แล้ว ทาง CS LOXINFO ก็ได้นำองค์ความรู้และประสบการณ์ในส่วนนี้มาเปิดให้บริการ Cloud แบบ Infrastructure-as-a-Service (IaaS) สำหรับองค์กรและ Startup ต่างๆ ด้วยการใช้ทรัพยากร Data Center ที่ CS LOXINFO มีอยู่

ในบริการ Cloud Service ของ CS LOXINFO นี้จะใช้ Hardware ในระดับที่เป็น Enterprise Grade ทั้งในส่วนของ Server, Storage และ Network ซึ่งทั้งหมดนี้จะทำงานอยู่บนโครงสร้างที่ถูกออกแบบให้สามารถทำงานได้แบบ Redundant ในทุกๆ ส่วน มีระบบสำรองพร้อมทำงานแทนระบบหลักที่หยุดทำงานได้ทันทีเพื่อความทนทานของระบบ

CS LOXINFO นั้นแบ่งบริการ Cloud นี้ออกเป็นหลากหลายรูปแบบ เพื่อให้องค์กรและธุรกิจต่างๆ สามารถเลือกใช้บริการที่เหมาะสมกับลักษณะของธุรกิจและแนวทางการลงทุนในระบบ IT ได้ตามต้องการ เช่น การแบ่งขาย VM ออกเป็นเครื่องๆ ที่มีสเป็คแตกต่างกัน, การแบ่งขายเป็น Resource Pool ให้ผู้ใช้งานทำการสร้าง VM ได้เองตามจำนวนที่ต้องการ, การเลือกชนิดของ Storage ได้ว่าจะใช้ SAS หรือ SSD, การแบ่งประเภทของเทคโนโลยี Cloud และ Hypervisor ออกจากกัน

Credit: CS Loxinfo

 

CS LOXINFO Virtual Server Service: บริการ Cloud ด้วยเทคโนโลยีจาก VMware

สำหรับบริการ Virtual Server ของ CS LOXINFO นั้น จะใช้เทคโนโลยี Cloud และ Virtualization จากทาง VMware เป็นหลัก ซึ่งสามารถบริหารจัดการได้ผ่าน VMWare vCloud Director ทำให้องค์กรสามารถแบ่งสรรทรัพยากรบน Cloud ให้กับแผนกต่างๆ ภายในองค์กรได้ตามต้องการ พร้อมความสามารถในการจำกัดสิทธิ์และกำหนดโควต้าการใช้งาน Cloud ให้ผู้ใช้งานสามารถสร้าง VM ได้เองผ่าน Self-Service Portal ขององค์กรตาม Catalog ที่กำหนดไว้

Credit: CS Loxinfo

 

CS LOXINFO AZCloud Service: บริการ Cloud ด้วยเทคโนโลยีจาก Microsoft

สำหรับองค์กรที่ใช้งานเทคโนโลยีจากฝั่ง Microsoft เป็นหลักก็อาจประหยัดค่าใช้จ่ายทางด้านลิขสิทธิ์ของฝั่ง Microsoft ลงได้ด้วยการใช้บริการ AZCloud Service ที่ใช้เทคโนโลยี Microsoft Hyper-V ในการให้บริการ Cloud ซึ่งสามารถลดค่าใช้จ่ายในลิขสิทธิ์การใช้งาน Microsoft Windows Server ในแต่ละเดือนลงไปได้มากกว่าโซลูชันอื่นๆ และเหมาะสมอย่างยิ่งกับองค์กรที่มีการพัฒนา Software บน Platform ของ Microsoft เป็นหลัก ซึ่งอาจต้องการ VM จำนวนมากสำหรับใช้ใน Software Development Cycle ขององค์กร

Credit: CS Loxinfo

 

ไม่ได้มีแค่ Virtual Machine แต่ยังปรับแต่งระบบเครือข่าย, ระบบรักษาความปลอดภัย และลิขสิทธิ์ Software ที่ต้องการใช้ได้ด้วย

CS LOXINFO นั้นเข้าใจธรรมชาติของตลาดองค์กรที่ต้องการปรับแต่งระบบ Cloud ให้เข้ากับนโยบายการรักษาความปลอดภัยที่ต้องการ และเชื่อมต่อกับระบบเครือข่ายที่มีอยู่เดิมภายในองค์กรได้เป็นอย่างดี รวมถึงความต้องการอื่นๆ เฉพาะสำหรับแต่ละองค์กรที่แตกต่างกันไป ทำให้ CS LOXINFO ได้ทำบริการเสริมในส่วนนี้ขึ้นมา

บริการเหล่านี้ได้แก่การเสริมและปรับแต่ง Firewall ภายใน Cloud ได้, การปรับแต่ง IP Address, VLAN และ Network ทั้งหมดให้เข้ากับระบบเครือข่ายขององค์กรได้, การเสริม Private Link เพื่อเชื่อมต่อ Cloud เข้ากับระบบเครือข่ายขององค์กรโดยตรง, การเปิดให้เช่าใช้ลิขสิทธิ์ Software ต่างๆ เช่น Microsoft Windows Server, Microsoft SQL Server, Parallel Plesk และอื่นๆ อีกมากมาย

 

ต่อยอดบริการให้หลากหลาย ด้วยทีมงานมากประสบการณ์จาก CS LOXINFO

ไม่เพียงแต่ในแง่ของการขายและการเช่าใช้เท่านั้น แต่ CS LOXINFO ยังได้เสริมบริการในการให้คำปรึกษา, การออกแบบ, การติดตั้ง, การย้ายระบบ ไปจนถึงการดูแลรักษาอย่างครบวงจรเพื่อช่วยให้องค์กรสามารถแก้ไขปัญหาต่างๆ หรือต่อยอดระบบ Cloud ให้ทำหน้าที่อื่นๆ เช่น การเป็น Disaster Recovery (DR) Site หรือการเป็น Backup Site ได้แบบ One Stop Service ไม่ต้องวุ่นวายกับการจ้างทีมงานอื่นๆ ภายนอกมาทำ มีให้เลือกใช้ได้ทั้งการบริการเป็นครั้งๆ หรือการให้บริการระยะยาวแบบ Managed Service ได้ตามต้องการ

 

วางใจด้วย Service Availability ระดับ 99.98% และบริการมืออาชีพตลอด 24 ชั่วโมง

CS LOXINFO นั้นได้รับ Certificate หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น ISO9001, ISO20000, ISO27001 และ ISO22301 รวมไปถึงภายในปีนี้ก็มีแผนที่จะผ่านการตรวจสอบตามมาตรฐาน CSA ทางด้านความปลอดภัยสำหรับระบบ Cloud ด้วย

นอกจากนี้หากนับจากสถิติตั้งแต่การเริ่มให้บริการที่ผ่านมา บริการของ CS LOXINFO นั้นก็มีความเสถียรอยู่ที่มากกว่า 99.98% พร้อมทั้งมีทีมงานคอยตรวจสอบการทำงานของระบบ Cloud และทำการแก้ไขปัญหาตลอด 24 ชั่วโมง ทำให้องค์กรต่างๆ สามารถมั่นใจในบริการ Cloud ของ CS LOXINFO ได้

 

ติดต่อทีมงาน CS LOXINFO ได้ทันที

ผู้ที่สนใจบริการ Cloud จาก CS LOXINFO และต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือทดสอบใช้งาน หรือขอใบเสนอราคา สามารถติดต่อทีมงาน CS LOXINFO ได้ทันทีที่ 02-263-8185 (presales@csloxinfo.net)

from:https://www.techtalkthai.com/cs-loxinfo-cloud-service-for-enterprise-and-startup-with-vmware-and-microsoft/

[Review] ทดสอบการใช้งานจริงกับ IRIS CLOUD บริการ Cloud IaaS จาก CAT

ทางทีมงาน TechTalkThai มีโอกาสได้ทดลองใช้งาน IRIS CLOUD เป็นบริการ Cloud Infrastructure as a Service (IaaS) จาก CAT มาครับ ซึ่งก็ถือว่าเลือกเทคโนโลยีมาให้บริการ Cloud สำหรับตอบโจทย์ความต้องการขององค์กรในการเช่าใช้ Server ได้ค่อนข้างดี ทางทีมงานจึงขอสรุปมาให้พิจารณาเป็นทางเลือกกันดังนี้ครับ

 

IRIS CLOUD ใช้ Microsoft Azure Pack ในการบริหารจัดการทั้งหมด ง่ายต่อการใช้งาน

หลังจากที่ทางทีม IRIS CLOUD ได้ให้ Account ในการเข้าทดสอบใช้งานระบบ IRIS CLOUD มาเรียบร้อยแล้ว (วิธีการติดต่อขอทดสอบอยู่ท้ายบทความ) ก็สามารถเข้าไปยืนยันตัวตนเพื่อเริ่มใช้งานได้ที่หน้า https://neoportal.iris.cloud ทันที โดยมีหน้าตาดูดีประมาณนี้ครับ

ใครที่เคยเล่น Cloud จากฝั่ง Vendor รายใหญ่มาก่อนก็อาจเริ่มคุ้นๆ จากนั้นเมื่อ Login เข้าไปจนเสร็จเรียบร้อย ก็จะพบกับหน้า Dashboard ที่ทำให้มั่นใจได้เลยว่าเป็น Microsoft Azure Pack ดังนี้ครับ

ซึ่งจากในภาพนี้จะมี Virtual Machine (VM) และ Virtual Network (VN) ที่ทางทีมงาน TechTalkThai ได้ทดสอบสร้างขึ้นมาเรียบร้อยแล้ว ซึ่งจริงๆ แล้วทางทีมงาน IRIS CLOUD ก็ให้คู่มือมาด้วยแต่ทางทีมงานไม่ได้อ่านครับ เพราะอยากลองเล่นดูเองก่อนว่าถ้าไม่เคยใช้มาก่อนเลย จะเจอกับปัญหาหรืออะไรยังไงบ้างไหม ซึ่งส่วนใหญ่ก็ไม่ค่อยเจอปัญหาอะไร ถือว่าง่ายดีอยู่เหมือนกันครับ

อีกจุดเด่นที่น่าสนใจของบริการ IRIS CLOUD ก็คือการที่ CAT ให้เช่าทรัพยากรบน Cloud ในลักษณะของ Resource Pooling ที่ทาง IRIS CLOUD จะระบุมาว่าเราใช้งาน Resource อะไรได้มากน้อยแค่ไหน ส่วนเราจะไปแบ่งใช้งานอย่างไรนั้นก็สามารถทำได้อย่างอิสระตามความต้องการของเราเลย ก็ถือว่ายืดหยุ่นดีครับ โดยค่าใช้จ่ายก็คิดรวมตาม Maximum Capacity ที่เราใช้ได้เช่นกัน และสามารถร้องขอให้เพิ่มทรัพยากรในแต่ละส่วนได้ตามต้องการ

ส่วนการติดตามว่าเราใช้ Resource ไปเท่าไหร่แล้ว ก็ดูได้ที่หน้า Subscription เลย จะมีกราฟให้ดูว่าใน Resource Pool ของเรา เราใช้อะไรไปมากน้อยแค่ไหนแล้วครับ

 

Virtual Machine: รองรับได้ทั้ง Windows Server และ Linux ให้เลือกใช้ได้

ในส่วนของการสร้าง VM นั้น ทาง IRIS CLOUD ได้มีการเตรียม Template สำหรับการสร้าง Guest Server หรือ VM ให้เรากดเลือกและสร้างได้เลย โดยมี CPU/RAM/Disk ในสเป็คที่แตกต่างกันออกไป และเลือกได้ว่าจะติดตั้งระบบปฏิบัติการอะไร ซึ่งในพื้นที่ทดสอบนี้ก็มี CentOS 7.2 และ Windows Server 2012 R2 ให้เลือกใช้ครับ

ตอนกดสร้าง เราจะสามารถเลือกตั้งชื่อ VM ให้ง่ายต่อการจดจำได้ สามารถตั้ง Password เข้าไปใช้งานเองได้ (มี Password Policy ด้วยว่าต้องตั้งให้ปลอดภัย) และเลือกได้ว่าจะเชื่อมต่อกับระบบ Virtual Network ไหน (ต้องสร้าง Virtual Network ขึ้นมาเองก่อน) ซึ่งหลังจากที่เราได้สร้างเครื่องนี้ขึ้นมาแล้ว เราจะยังไม่สามารถเชื่อมต่อ Internet ได้นะครับ ต้องไปตั้งค่าที่ฝั่ง Virtual Network ให้จัดการเรื่องการทำ NAT ให้เรียบร้อยเสียก่อน โดยในกรณีที่เราต้องการออกเครือข่ายนอก หรือหากเราต้องการทำ Site-to-Site VPN เพื่อให้ระบบเครือข่ายภายใน IRIS Cloud เชื่อมกับเครือข่ายภายในองค์กรก็สามารถทำได้เช่นกัน แล้วค่อยให้ Traffic วิ่งมาออกที่ฝั่งองค์กรก็ได้

สำหรับการเข้าไปบริหารจัดการแต่ละ VM บน Cloud นี้ ใน IRIS CLOUD จะมีปุ่ม Connect ให้กดเพื่อสร้างไฟล์ .rdp สำหรับการ Remote เข้าไปยังหน้าจอของแต่ละ VM ได้โดยตรงผ่านทาง Secure Gateway ของบริการ IRIS CLOUD ซึ่งถึงแม้เราจะยังไม่ได้ตั้งค่าระบบเครือข่ายใดๆ ให้กับ VM เครื่องนี้เลย เราก็ยังเข้าไปบริหารจัดการกับเครื่องนี้ได้ผ่านช่องทางนี้นั่นเอง ซึ่งวิธีการนี้ก็สามารถใช้ได้ทั้งกับ VM ที่เป็น Windows Server และ Linux เลยครับ (ถ้าใครยังไม่เคย RDP เข้า Linux ก็จะได้ลองกันตอนนี้แหละครับ)

หลังจากนั้นก็ต้องจัดการกับการตั้งค่าการทำงานต่างๆ ของ Server, การจัดการระบบเครือข่ายภายในแต่ละ Server, การติดตั้ง Software ที่ต้องการใช้งานเองครับ บริการ IRIS CLOUD นี้ให้บริการเราในระดับของ IaaS เป็น VM ว่างๆ มาให้เราปรับแต่งแก้ไขได้ตามต้องการ ซึ่งก็แน่นอนว่ายังต้องอาศัย System Engineer มาคอยจัดการให้เครื่องเหล่านี้ทำงานได้ถูกต้อง มั่นคงปลอดภัย และมีประสิทธิภาพนั่นเอง

 

Virtual Network: สร้างระบบเครือข่ายภายในเองได้ เลือกได้ว่าจะเปิดบริการแบบ Public หรือใช้ในองค์กรแบบ Private

บริการ IRIS CLOUD นี้ผู้ใช้งานจะต้องทำการสร้างระบบ Virtual Network สำหรับเชื่อมต่อแต่ละ VM กันเองครับ และต้องกำหนด Network Policy ในการทำงานของแต่ละระบบเครือข่ายที่สร้างขึ้นมานี้ด้วย ว่าวงไหนจะสามารถเชื่อมต่อออกไปยัง Internet ได้ด้วยวิธีการอะไรและช่องทางไหนบ้าง หรือจะทำการเชื่อมต่อทำ Site-to-Site VPN กลับมายังองค์กรด้วยการยืนยันตัวตนและเข้ารหัสแบบใด ไปจนถึงเชื่อมต่อไปยังระบบเครือข่ายวงไหน ทำให้เราออกแบบได้อิสระพอสมควรว่าจะประยุกต์ใช้ IRIS CLOUD อย่างไรได้บ้างครับ

ระบบ Virtual Network ภายใน IRIS CLOUD นี้รองรับได้ทั้ง IPv4 และ IPv6 ซึ่งถือว่าตอบโจทย์ต่อหน่วยงานภาครัฐในประเทศไทยที่กำลังมีการผลักดันให้หันไปใช้ IPv6 กันอยู่ โดยเราสามารถกำหนดได้ว่าจะมี Subnet อะไรบ้าง ใช้ DNS Server จากที่ไหน ทำ NAT หรือไม่กำหนดค่าการทำ NAT อย่างไร เปิด BGP หรือเปล่า ก็เรียกได้ว่าครอบคลุมความต้องการพื้นฐาน เหมือนเป็นระบบเครือข่ายภายในองค์กรให้เราปรับแต่งได้ระดับหนึ่งครับ

อีกประเด็นที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือการทำ Site-to-Site VPN ที่เราสามารถสร้างขึ้นมาเพื่อเชื่อมต่อระบบเครือข่ายภายใน IRIS CLOUD เข้ากับ Data Center ขององค์กรได้เอง ทั้งการทำ VPN มายัง VPN Server ขององค์กร หรือการทำ VPN ร่วมกับ Router/Firewall ขององค์กร ทำให้เราสามารถเชื่อมต่อ VM เหล่านั้นเข้ากับทรัพยากรต่างๆ ที่เรามีอยู่ภายในองค์กรได้ เสมือนกับเป็น Server ที่ตั้งอยู่ภายใน Data Center ขององค์กรนั่นเอง

ทั้งนี้โดยเบื้องต้นบริการ IRIS CLOUD นี้จะให้ Public IP Address มา 1 เบอร์ สำหรับในกรณีที่ต้องการเปิดบริการสาธารณะให้บุคคลภายนอกเข้าถึงได้ ซึ่งถ้าหากต้องการเพิ่มมากกว่านี้ก็สามารถติดต่อทีมงาน IRIS CLOUD ได้เช่นกันครับ

 

IRIS CLOUD เหมาะสำหรับองค์กรที่ต้องการ Infrastructure ที่ยืดหยุ่น และมี System Engineer ที่มีประสบการณ์

โดยสรุปแล้ว จากประสบการณ์การทดสอบ IRIS CLOUD นี้ก็เหมือนกับเป็นการที่เราใช้เช่าใช้ Server ซึ่งตั้งอยู่ภายนอกองค์กรนั่นเอง แต่มีอิสระในการเลือกวิธีการเชื่อมต่อเครือข่าย การติดตั้ง Software ต่างๆ บนระบบปฏิบัติการ และการจัดการ VM ต่างๆ ได้อย่างเต็มที่ ซึ่งแน่นอนว่าอิสระที่ได้มานี้ก็ต้องอาศัย System Engineer ผู้มีประสบการณ์ในการเข้ามาจัดการให้ระบบต่างๆ ใช้งานได้อย่างถูกต้องตามที่เราต้องการนั่นเองครับ

ด้วยจุดเด่นนี้ ทำให้ IRIS CLOUD ค่อนข้างเหมาะกับองค์กรที่กำลังมองหา Server เช่าใช้งานสำหรับติดตั้ง Application เฉพาะทางต่างๆ อย่างอิสระ ไม่ได้ถูกจำกัดด้วย Template ของการติดตั้งได้เฉพาะชุด Software ที่รองรับเท่านั้น ทำให้ทั้งองค์กรที่มีการพัฒนา Application ของตนเอง เหมาะกับองค์กรที่กำลังมองหา Server สำหรับติดตั้งระบบงานต่างๆ ทั้งยังเหมาะกับSystems Integrator ที่กำลังมองหาบริการ Cloud สำหรับไปต่อยอดสร้าง Managed Service ของตน ตลอดไปจนถึงเหล่านักพัฒนาที่ต้องการ Virtual Machine ที่มีความมั่นคงปลอดภัยและปรับแต่งได้ค่อนข้างมาก ก็สามารถเลือกพิจารณาใช้ IRIS CLOUD ได้เลยครับ

 

ติดต่อทีมงาน IRIS CLOUD เพื่อขอทดสอบได้ฟรีๆ ทันที

จุดหนึ่งที่ถือว่าค่อนข้างแฟร์กับเหล่าองค์กรที่ต้องการประเมินการใช้งานของ IRIS CLOUD คือการเปิดให้เราทดลองใช้งานได้ฟรีๆ ด้วยฟีเจอร์แบบเต็มๆ ก่อนนั่นเองครับ เพราะองค์กรที่มองหาโซลูชั่นระบบ Cloud เพื่อใช้งานนั้นก็มักจะมีความต้องการเฉพาะทางค่อนข้างเยอะ ไม่ว่าจะเป็นการนำไปทำ Disaster Recovery (DR), การทำ DevOps และอื่นๆ ทั้งในแง่ของประสิทธิภาพ ความเร็วเครือข่าย การใช้งาน และปัญหาที่อาจพบได้จริงหน้างาน ซึ่งทางทีมงาน IRIS CLOUD ของ CAT เองก็พร้อมจะคุยและให้การทดสอบเป็นรายๆ หรือนำเสนอบริการเสริมเพิ่มเติมให้ตอบโจทย์กับแต่ละองค์กรเป็นครั้งๆ ไป ทำให้องค์กรสามารถทดลองใช้งานจนมั่นใจได้ว่าสามารถใช้งานและตอบโจทย์ได้จริง จึงค่อยตัดสินใจซื้อเป็นขั้นตอนถัดไป

ผู้ที่สนใจบริการ IRIS CLOUD และต้องการติดต่อเพื่อรับคำปรึกษาในการใช้ Cloud, การย้ายระบบหรือบริการต่างๆ ขึ้น Cloud หรือต้องการขอใบเสนอราคา รวมถึงผู้พัฒนา Software หรือผู้ดำเนินธุรกิจ Systems Integrator ที่ต้องการเป็น Partner กับ IRIS CLOUD สามารถติดต่อทีมงาน IRIS CLOUD ได้ทันทีที่ e-mail : iris_marketing@cattelecom.com หรือเยี่ยมชมเว็บไซต์ของบริการ IRIS CLOUD ได้ทันทีที่ iris.cloud

from:https://www.techtalkthai.com/review-iris-cloud-by-cat/

แนะนำ IRIS CLOUD บริการ Cloud IaaS จาก CAT

สำหรับองค์กรหรือธุรกิจ Startup ที่กำลังมองหาบริการ Cloud สำหรับใช้งานนั้น ทาง TechTalkThai ขอเสนอบริการ IRIS CLOUD จาก CAT ผู้ให้บริการ Cloud อันดับต้น ๆ ของเมืองไทย ซึ่งเป็น Cloud ที่มีเสถียรภาพสูง การันตีมาตรฐานการให้บริการด้วยรางวัลผู้ให้บริการด้าน Cloud Computing แห่งปี ของประเทศไทย ถึง 2 ปีซ้อน โดย IRIS CLOUD ได้รับรางวัล 2017 Thailand Data Communications Infrastructure as a Service Provider of the Year และ 2015 Thailand Data Communications Infrastructure as a Service Provider of the Year จากงานประกาศรางวัลระดับโลกที่จัดขึ้นโดย Frost & Sullivan องค์กรให้คำปรึกษาและวิจัยระดับโลกการันตี

 

โดยทาง CAT ซึ่ง เป็นผู้ให้บริการโทรคมนาคมชั้นนำของชาติ มีบริการ Cloud สำหรับให้บริการองค์กรต่างๆ ทั้งภาครัฐ และเอกชน รวมถึงธุรกิจ Startup โดยมี Cloud ที่ใช้เทคโนโลยี Virtual Machine ภายใต้แบรนด์ “IRIS CLOUD” ซึ่งตอบโจทย์ได้ในทุกระดับความต้องการใช้งาน และราคา อีกทั้งมีข่าวดีสำหรับ Startup ของไทย โดย TechTalkThai ขอสรุปรายละเอียดบริการ IRIS CLOUD มาให้ผู้ที่กำลังสนใจใช้บริการนี้ ดังนี้

 

IRIS CLOUD บริการ IaaS Cloud จาก CAT ช่วยให้การทำงานของธุรกิจองค์กรและ Startup ง่ายขึ้น

IRIS CLOUD เป็นบริการ Cloud ที่ CAT ออกแบบขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการในการใช้งานที่ครอบคลุมทั้งการใช้งานในระดับองค์กรไปจนถึงความต้องการของ Startup ที่กำลังเริ่มต้น ทำให้บริการ IRIS CLOUD นี้สามารถถูกนำไปใช้ได้อย่างยืดหยุ่นและหลากหลาย ตอบโจทย์ได้ทั้ง Traditional IT Infrastructure ที่เน้นเรื่องของการใช้ Virtual Machine (VM) เป็นหลัก ควบคู่ไปกับโจทย์ Cloud-Native IT Infrastructure ที่เน้นการผสมผสานระหว่าง VM ตามความเหมาะสมของงานและแนวทางในการทำ DevOps ในปัจจุบัน

และเพื่อให้ทุกองค์กรธุรกิจและ Startup สามารถใช้งานบริการ IRIS CLOUD ได้อย่างมั่นใจ CAT จึงได้ทำการเพิ่มระบบรักษาความมั่นคงปลอดภัยหลากหลายให้พร้อมใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นระบบ Data Center Firewall ที่สามารถตรวจจับภัยคุกคามที่มีความซับซ้อนในปัจจุบันได้, มีระบบป้องกัน Distributed Denial of Service (DDoS) เบื้องต้นให้ใช้งาน และยังมี Anti-virus ช่วยตรวจจับพฤติกรรมผิดปกติและซอฟต์แวร์อันตรายที่แอบแฝงอยู่ภายในแต่ละ VM ได้ โดย CAT นั้นมีทีมงานคอยบริการกำหนดค่าทางด้านความมั่นคงปลอดภัยต่างๆ เหล่านี้ให้กับลูกค้าทุกราย เพื่อให้มั่นใจได้ว่าระบบจะมีความมั่นคงปลอดภัยในระดับสูง ในขณะที่ลูกค้าผู้ใช้งานนั้นไม่ต้องกังวลกับการเรียนรู้การตั้งค่าด้านความมั่นคงปลอดภัยเหล่านี้

ในขณะเดียวกัน IRIS CLOUD เองก็ยังมีบริการในส่วนของ IRIS Startup ที่เป็นบริการ VM แบบราคาประหยัดเป็นพิเศษ และมีขนาดหลากหลายให้เลือกใช้งานได้ตามต้องการ เพื่อให้ลูกค้าผู้ใช้งานสามารถเริ่มต้นสร้างเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ สำหรับธุรกิจ Startup ของตนได้อย่างรวดเร็วที่สุดนั่นเอง

 

IRIS Cloud รองรับ Virtual Machine ด้วย Microsoft Azure Pack

บริการของ IRIS CLOUD ในส่วนของ VM นี้จะใช้เทคโนโลยีของ Microsoft Azure Pack เป็นหลัก ทำให้สามารถรองรับ VM ได้ทั้ง Microsoft Windows Server และ Linux ตามความต้องการขององค์กร ตอบโจทย์ได้ทั้งองค์กรที่ต้องการพัฒนาระบบด้วยเทคโนโลยีของฝั่ง Microsoft และ Open Source ได้อย่างครบถ้วน

IRIS CLOUD ได้รับความไว้วางใจจากบริษัทชั้นนำของไทยมากมาย ที่ได้เปลี่ยนการทำงานด้าน IT มาบนระบบ Cloud ทั้งในส่วนของ Private Cloud, Public Cloud และ Hybrid Cloud อีกทั้งทาง CAT ยังมีทีมวิศวกรคอยออกแบบและแนะนำ Solution ที่ดีและคุ้มค่าให้กับลูกค้าอีกด้วย

สะดวกในการใช้งานด้วยการให้บริการแบบ self service portal ที่ลูกค้าสามารถจัดการ VM และ Virtual Network ได้ด้วยตนเองเช่น สร้าง ,ลบ , ปรับขนาด VM ได้เอง สามารถ start / stop VM ได้เอง

ภายในบริการส่วนของ VM นี้องค์กรจะสามารถเลือกขนาดของเครื่อง Virtual Machine ไม่ว่าจะเป็นจำนวนของ vCPU, RAM, Storage โดยระบบ Storage นั้นจะมีขนาดเริ่มต้นที่ 50GB และใช้เทคโนโลยีการทำ Storage Tiering ร่วมกันระหว่าง Solid State Drive (SSD) และ Nearline SAS (NL SAS) เพื่อให้ได้รับข้อดีทั้งในแง่ของประสิทธิภาพและความทนทาน รวมถึงยังสามารถเลือกระบบปฏิบัติการที่ต้องการได้ เรียกได้ว่าเหมือนองค์กรได้ทำการเช่า Server บน Cloud มาใช้งาน และติดตั้ง Software ต่างๆ ได้อย่างอิสระนั่นเอง

นอกจากนี้ IRIS CLOUD ยังมีการให้บริการ Firewall สำหรับ VM เหล่านี้เพื่อรักษาความปลอดภัยเบื้องต้น พร้อมมีทีมงานคอยให้บริการตลอด 24×7 ในกรณีที่เกิดปัญหาใดๆ ขึ้นกับระบบ พร้อม Public IP Address

ด้วยเหตุนี้ องค์กรที่ต้องการนำระบบ Application ขององค์กรย้ายขึ้นมาบนระบบ Cloud เพื่อให้ง่ายต่อการเพิ่มขยายในอนาคต และยังต้องการการติดตั้ง Software ต่างๆ ได้อย่างอิสระอยู่ ก็สามารถพิจารณาเลือกใช้บริการ IRIS CLOUD ในส่วนของ VM ได้ทันที เพื่อลดค่าใช้จ่ายในแง่ต้นทุนทั้งการจัดซื้อและการดูแลรักษาลง ทำให้องค์กรมีผลกำไรมากขึ้น ในขณะที่ฝ่าย IT ขององค์กรเองก็สามารถลดภาระในการดูแลรักษาระบบ Server ลงไปได้ด้วยการให้เจ้าหน้าที่มืออาชีพจาก CAT คอยช่วยดูแลระบบแทน และทำให้สามารถนำทรัพยากรบุคคลทางฝ่าย IT เหล่านี้ไปร่วมพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ ในเชิงรุกเพื่อให้ธุรกิจขององค์กรเติบโตต่อไปได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น

 

IRIS CLOUD สนับสนุนธุรกิจ Startup เต็มกำลัง ทั้งในส่วนของเทคโนโลยีและราคา

IRIS CLOUD จับมือเป็นพาร์ทเนอร์กับ POP NIX ผู้ให้บริการ Cloud เพื่อให้ตอบรับต่อความต้องการของเหล่า Developer ที่เริ่มพัฒนา Application กันมากขึ้นในทุกวันนี้ ที่มีความต้องการให้ต้นทุนในการให้บริการถูกลง เหมาะสำหรับองค์กรที่เพิ่งเริ่มต้น หรือธุรกิจ Startup ที่ต้องการบริการ Cloud เริ่มต้นสำหรับทดลองใช้งานนั่นเอง

บริการในส่วนที่เป็นพาร์ทเนอร์กับ POP NIX นี้จะใช้เทคโนโลยี Open Source ที่ทำงานบน Server ประสิทธิภาพสูงซึ่งใช้ Solid State Drive (SSD) ในการจัดเก็บข้อมูลทั้งหมด ทำให้ราคาของบริการนั้นถูกมาก อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี Self Service Portal เพื่อให้ลูกค้าแต่ละรายสามารถเข้าไปบริหารจัดการ VM ของตนเองทั้งหมดได้ตามต้องการอย่างง่ายดาย และปรับแต่งทุกความต้องการได้เองทันที

 

ใช้บริการ IRIS CLOUD อย่างมั่นใจ ด้วยมาตรฐาน ISO/IEC 27001:2013

ในส่วนขององค์กรที่ให้ความสำคัญกับประเด็นทางด้านความปลอดภัยและการบริหารจัดการต่างๆ ภายใน Data Center ที่ต้องมีกระบวนการในการทำงานต่างๆ ที่โปร่งใส ชัดเจน และปลอดภัย บริการ IRIS CLOUD นี้พร้อมจะเป็นทางเลือกสำหรับองค์กรของคุณด้วยการผ่านการรับรองมาตรฐาน ISO/IEC 27001:2013 สำหรับ Data Center ที่ให้บริการ IRIS CLOUD เป็นที่เรียบร้อยแล้ว รวมไปถึง CAT มี Internet Gateway ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ มั่นใจได้ในเรื่องของความเร็วการรับส่งข้อมูลได้

 

ติดต่อทีมงาน IRIS CLOUD ได้ทันที

ผู้ที่สนใจบริการ IRIS CLOUD และต้องการติดต่อเพื่อรับคำปรึกษาในการใช้ Cloud, การย้ายระบบหรือบริการต่างๆ ขึ้น Cloud หรือต้องการขอใบเสนอราคา รวมถึงผู้พัฒนา Software หรือผู้ดำเนินธุรกิจ Systems Integrator ที่ต้องการเป็น Partner กับ IRIS CLOUD สามารถติดต่อทีมงาน IRIS CLOUD ได้ทันทีที่ e-mail : iris_marketing@hotmail.com หรือเยี่ยมชมเว็บไซต์ของบริการ IRIS CLOUD ได้ทันทีที่ iris.cloud

from:https://www.techtalkthai.com/introduction-to-iris-cloud-the-cloud-iaas-service-powered-by-cat/

Cisco ออกอัพเดต ACI รองรับ Docker, เพิ่มความปลอดภัย, รองรับหลายไซต์ ใช้งานได้ยืดหยุ่นขึ้น

cisco_aci_banner

Cisco Application Centric Infrastructure (ACI) ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญสำหรับระบบ Software Defined Networking (SDN) ของ Cisco นั้น ได้ออกอัพเดตรุ่นใหม่ล่าสุดมาเพื่อให้ลูกค้าที่ใช้ระบบเครือข่ายแบบ SDN จาก Cisco บน Switch รุ่น Nexus 9000 ACI-ready ที่มีกว่า 9,000 องค์กรทั่วโลก สามารถอัพเกรดและเพิ่มความสามารถใหม่ๆ พร้อมรองรับเทคโนโลยีใหม่ๆ ได้มากขึ้น ดังต่อไปนี้

  • รองรับ Docker Container ได้ผ่านทางการ Integrate ร่วมกับ Cisco Application Policy Infrastructure Controller (APIC) และ Project Contiv ซึ่งเป็น Open Source Project สำหรับการควบคุม Infrastructure สำหรับ Container ให้เชื่อมต่อ Storage และระบบเครือข่ายอย่างปลอดภัยได้ตามที่กำหนด และการกำหนด Endpoint Group (EPG) ก็สามารถครอบคลุมไปถึงระดับของ Container ได้แล้ว
  • เพิ่ม Security โดยรองรับการทำ Micro-segmentation สำหรับ VMware VDS, Microsoft Hyper-V Virtual Switch และ Bare-metal Application ทำให้สามารถควบคุม Security Policy เชิงลึกเป็นราย Endpoint ได้โดยอ้างอิงจาก Virtual Machine Attributes เช่น ชื่อ, Guest OS, VM Identifier หรือจะใช้ Network Attributes อย่าง IP Address ก็ได้เช่นกัน รวมถึงยังสามารถทำ Isolation สำหรับเครื่องภายใน Policy Group เดียวกันได้อีกด้วย
  • รองรับการควบคุมหลาย Data Center พร้อมๆ กัน ดังนั้นการย้าย Application ข้าม Data Center และการทำ Disaster Recovery จึงทำได้แล้วผ่าน ACI Toolkit
  • รองรับการทำ Service Insertion และ Service Chaining สำหรับ Service Device ทั้งหมดแล้วโดยไม่ต้องมี Device Package มาก่อน ทำให้สามารถนำอุปกรณ์ที่เคยใช้งานอยู่จากระบบเครือข่ายเดิมมาเชื่อมต่อใช้งานกับเครือข่าย SDN และทำการกำหนดค่าแบบ Manual ใช้งานไปก่อนได้เลย
  • สามารถใช้ CLI แบบ NX-OS บน APIC ได้, มี GUI ให้ใช้ทั้งแบบ Basic และ Advanced, รองรับ SNMP สำหรับ APIC, เสริมระบบ Heat Map เข้ามาให้ช่วยแก้ปัญหาได้ง่ายขึ้น
  • รองรับ Cloud Automation Tool หลากหลายขึ้น โดยปัจจุบันนี้รองรับ Microsoft Azure Pack for Private Cloud, VMware vRealize Automation, OpenStack และยังรองรับการส่ง ACI Policy ไปยัง Hypervisor ด้วย Opflex on Open vSwitch อีกด้วย

 

ที่มา: http://newsroom.cisco.com/press-release-content?type=webcontent&articleId=1732204

from:https://www.techtalkthai.com/cisco-new-aci-supported-docker-with-enhanced-security/

[PR] ไอเอสเอสพี ชวนองค์กรธุรกิจใช้คลาวด์ “a.csp” จัดเต็ม ในราคาเริ่มต้นเพียง 2,690 บาทต่อเดือน

a.csp-service


รายงานข่าวจากบริษัท อินเตอร์เนต โซลูชั่น แอนด์ เซอร์วิส โพรวายเดอร์ จำกัดหรือไอเอสเอสพี
(ISSP) เปิดเผยว่า จากกรณีที่ไมโครซอฟท์ประกาศยุติการให้บริการสนับสนุนผลิตภัณฑ์ วินโดวส์ เซิร์ฟเวอร์ 2003 ในเดือนกรกฎาคม 2558 นี้ เนื่องจากเป็นวินโดวส์ เซิร์ฟเวอร์ เวอร์ชั่นที่ไมโครซอฟท์ให้บริการมาเป็นระยะเวลานานแล้ว ซึ่งการยุติการให้บริการสนับสนุนนี้ มีผลทำให้วินโดวส์ เซิร์ฟเวอร์ 2003 จะไม่ได้รับการอัพเดท หรือพัฒนาใด ๆ เพิ่มเติม ตามนโยบายการสนับสนุนผลิตภัณฑ์ของไมโครซอฟท์ และแม้ว่าองค์กรต่าง ๆ จะสามารถใช้งานระบบปฏิบัติการรุ่นนี้ต่อไปได้ตามปกติ แต่เซิร์ฟเวอร์และแอพพลิเคชั่นที่ต้องพึ่งพาวินโดวส์รุ่นนี้ จะต้องเผชิญกับความเสี่ยงที่สูงขึ้น ทั้งในด้านความปลอดภัยของข้อมูล และเสถียรภาพของระบบ รวมถึงค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาฮาร์ดแวร์รุ่นเก่าที่ใช้กับวินโดวส์เซิร์ฟเวอร์ 2003 ก็จะเพิ่มขึ้น และยังอาจต้องมีการลงทุนในระบบรักษาความปลอดภัยเพิ่มเติม ไม่ว่าจะเป็นการตรวจจับผู้บุกรุก หรือระบบไฟร์วอลล์อีกด้วย

รายงานข่าวจากไอเอสเอสพี (ISSP) กล่าวต่อว่า จากการที่ได้เป็นพันธมิตรร่วมกับบริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด และได้เปิดให้บริการใหม่ “a.csp” ซึ่งเป็นบริการคลาวด์ที่รองรับแพลตฟอร์มของไมโครซอฟท์ ประกอบด้วย Microsoft Hyper-V, System Center, Windows Server และ Windows Azure Pack สำหรับ a.csp นี้เป็นอีกหนึ่งบริการที่สามารถรองรับแผนการย้าย ข้อมูลแบบฉุกเฉินจากเซิร์ฟเวอร์เดิม โดยที่ลูกค้าไม่ต้องลงทุนซื้ออุปกรณ์ใหม่ ด้วยบริการ “a.csp” ที่เริ่มต้น ในราคาเพียง 2,690 บาทต่อเดือนเท่านั้น ผู้สนใจต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่ mktproduct@isp-thailand.com หรือโทรศัพท์ 02-225-5844

from:https://www.techtalkthai.com/pr-%e0%b9%84%e0%b8%ad%e0%b9%80%e0%b8%ad%e0%b8%aa%e0%b9%80%e0%b8%ad%e0%b8%aa%e0%b8%9e%e0%b8%b5-%e0%b8%8a%e0%b8%a7%e0%b8%99%e0%b8%ad%e0%b8%87%e0%b8%84%e0%b9%8c%e0%b8%81%e0%b8%a3%e0%b8%98%e0%b8%b8/

แนะนำฟรีคอร์สออนไลน์ เรื่อง Hybrid Cloud จาก Microsoft ตอบโจทย์ทั้ง SQL, Disaster Recovery, Remote Backup และ Web Scalability ได้ครอบคลุม

microsoft_logo

สำหรับองค์กรต่างๆ ที่กำลังศึกษาแนวทางในการนำ Hybrid Cloud มาประยุกต์ใช้ ทั้งเพื่อเพิ่มความทนทานให้ระบบ Application ด้วยการทำ Disaster Recovery หรือ Remote Backup หรือการเพิ่มประสิทธิภาพของระบบด้วยการ Scale ระบบ Web ก็ตาม วันนี้ทาง Microsoft ที่เป็นผู้ครองตลาดของ Enterprise Data Center อยู่ก็ได้มีความพร้อมที่จะให้บริการระบบ Hybrid Cloud ด้วยแล้ว ดังนั้นการศึกษาเทคโนโลยีเอาไว้เป็นทางเลือก ก็ถือเป็นสิ่งที่มีประโยชน์ต่อทั้งองค์กรและตัวผู้ดูแลระบบเองครับ โดยในครั้งนี้ทางทีมงาน TechTalkThai ได้คัด Free Online Couse ที่สามารถเปิด Subtitle ภาษาอังกฤษคู่ไปด้วยได้มาให้ได้ศึกษากันดังนี้ครับ

techtalkthai_cloud_data_center_2

1. Hybrid Cloud Workloads: Disaster Recovery and High

Availability http://www.microsoftvirtualacademy.com/training-courses/hybrid-cloud-workloads-disaster-recovery-and-high-availability

สอนเรื่องการทำ Disaster Recovery และ High Availability สำหรับ Hyper-V ไปยัง Cloud ด้วย Hyper-V Recovery Manager, Hyper-V Backup and Replica, Hyper-V LM และ Hyper-V Clustering จะได้เข้าใจความต่างของแต่ละเทคโนโลยีและรูปแบบในการนำไปใช้งานในการทำ DR/HA ให้เหมาะสมกับสถานการณ์

2. Hybrid Cloud Workloads: Storage and Backup http://www.microsoftvirtualacademy.com/training-courses/hybrid-cloud-workloads-storage-and-backup

สอนเรื่องเทคโนโลยี On-Premises Storage และ Cloud Storage เพื่อปูพื้นฐานไปสู่ Hybrid Cloud Storage และ Cloud Backup

3. Hybrid Cloud Workloads SQL http://www.microsoftvirtualacademy.com/training-courses/hybrid-cloud-workloads-sql

สอนเรื่องของการสร้าง, การบริหารจัดการ และการดูแลรักษา Microsoft SQL ที่ติดตั้งใช้งานในแบบ Hybrid Cloud ซึ่งจะครอบคลุมถึงการใช้งาน Microsoft Azure SQL, Azure Pack for Windows Server และ System Center เพื่อควบคุม MS SQL ที่เป็น Hybrid Cloud

4. Hybrid Cloud Workloads-Websites http://www.microsoftvirtualacademy.com/training-courses/hybrid-cloud-workloads-websites

สอนเทคโนโลยี Website บน Cloud ด้วย Microsoft Azure และ Azure Pack for Windows Server เพื่อบริหารจัดการ Website ใน Data Center ขององค์กรผ่าน Azure พร้อมทั้งการดูแลรักษา Website ผ่าน System Center และการบริหารจัดการ Website ผ่าน Hybrid Cloud

เคล็ดลับเล็กๆ น้อยๆ

คลิกตรงตัว Cc เพื่อเปิด Subtitle ภาษาอังกฤษมาอ่านได้นะครับสำหรับท่านที่ภาษาอังกฤษไม่แข็งแรง ฝึกเอาไว้แต่เนิ่นๆ ให้คุ้นเคยไว้ วันหลังจะได้ต่อยอดเทคโนโลยีต่างๆ ได้ง่ายขึ้นครับ

นอกจากนี้ถ้าหากทำการลงทะเบียน Microsoft Virtual Academy เอาไว้ การล็อกอินก่อนเข้าเรียนบทเรียนต่างๆ ก็จะช่วยให้สะสมแต้ม และทำให้สามารถเข้าร่วมงานสัมมนาต่างๆ ของ Microsoft ได้มากขึ้นด้วยนะครับ ใครสนใจก็ลองลงทะเบียนฟรีๆ ได้เลยที่ https://signup.live.com/signup ครับ แล้วเอา User ตรงนี้ไป Login ต่อในหน้ของ Microsoft Virtual Academy ตรงมุมขวาบนได้เลยครับ

from:https://www.techtalkthai.com/free-online-training-for-hybrid-cloud-from-microsoft/