คลังเก็บป้ายกำกับ: IAMCONSULTING

[Guest Post] NIDA จับมือไอแอม คอนซัลติ้ง นำ HR Technology ต่อยอดสร้างความรู้บุคลากร ขับเคลื่อนสถาบัน

สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (NIDA) ร่วมกับบริษัท ไอแอม คอนซัลติ้ง จำกัด ลงนามความร่วมมือทางวิชาการ นำเอาองค์ความรู้และระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ มุ่งเน้นการนำเอา HR Technology ช่วยขับเคลื่อนสู่การเป็นองค์กรดิจิทัล

 

ศ.ดร.กำพล  ปัญญาโกเมศ อธิการบดีสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ กล่าวถึง ความร่วมมือกับภาคเอกชนในครั้งนี้ว่า “ด้วยวิสัยทัศน์ของ NIDA ที่ว่าด้วย “เป็นสถาบันชั้นนำแห่งชาติที่สร้างผู้นำและองค์ความรู้ในระดับสากล เพื่อการเปลี่ยนแปลง” จึงนำมาสู่การสร้างเครือข่ายกับหน่วยงานต่างๆ ที่จะมาช่วยเสริมสร้างความเป็นเลิศในด้านต่างๆ ความร่วมมือกับบริษัท ไอแอม คอนซัลติ้งในครั้งนี้ เป็นการนำระบบเทคโนโลยีทรัพยากรมนุษย์ มาช่วยพัฒนาบุคลากร โดยเริ่มต้นที่การพัฒนาและประเมินผล เนื่องจากสถาบันมองว่าไม่ว่าจะนำเทคโนโลยีใดๆ มาใช้ในองค์กร แต่ถ้าไม่ผลักดันให้คนได้ใช้งานอย่างเหมาะสม ก็จะไม่สามารถเดินหน้าต่อไปได้ ดังนั้น จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ที่จะผลักดันทั้งคนและเทคโนโลยี เพื่อก้าวสู่ Digital Transformation ต่อไป

ด้านกริช วิโรจน์สายลี Country Vice President บริษัท ไอแอม คอนซัลติ้ง จำกัด ผู้ให้คำปรึกษาและพัฒนาระบบเทคโนโลยีให้แก่องค์กรเอนเทอร์ไพรส์ระดับประเทศ กล่าวว่า “ที่ผ่านมาไอแอม คอนซัลติ้งเอง มีประสบการณ์ในการพัฒนาระบบ SAP ให้กับทั้งหน่วยงานเอกชน และมหาวิทยาลัยชั้นนำหลายแห่ง ครั้งนี้เป็นอีกหนึ่งโอกาสที่ได้ร่วมมือกับภาคการศึกษา ที่จะช่วยนำเอาเทคโนโลยีมาขับเคลื่อนให้ NIDA ได้การเป็นองค์กรดิจิทัล ด้วยการใช้ HR Technology ในโซลูชัน Performance management มาร่วมพัฒนาบุคลากรของสถาบัน และผลักดันให้เกิดองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีให้เกิดขึ้นในสถาบัน”

โดยทั้งสองหน่วยงานยังคาดหวังว่า การเริ่มต้นพัฒนาระบบ HR Technology ครั้งนี้ จะสามารถนำไปเป็นแม่แบบ และต่อยอดไปใช้กับสถาบันการศึกษาอื่นๆ ต่อไปได้

from:https://www.techtalkthai.com/guest-post-i-am-consulting-nida-hr-technology/

[Guest Post] พระจอมเกล้าลาดกระบัง เดินหน้าสู่ Digital Transformation ร่วมกับไอแอม คอนซัลติ้ง นำร่องด้วยนำเทคโนโลยีบล็อกเชนช่วยขับเคลื่อนสร้างระบบนิเวศทางไอที พร้อมโชว์เคสการใช้งานจริงด้วย Digital Signature on Blockchain

สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ร่วมกับบริษัท ไอแอม คอนซัลติ้ง จำกัด ลงบันทึกข้อตกลงเพื่อพัฒนามาตรฐานการศึกษาทางวิชาการด้วยการนำเทคโนโลยีเข้าขับเคลื่อน ในรูปแบบ Digital Transformation สู่การเป็นสถาบันการศึกษาดิจิทัล และสร้างระบบนิเวศ (Ecosystem) ทางไอที นำร่องด้วยการใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนทำระบบ Virtual ID Card, University Token และ Digital Certificate ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานและเพิ่มความสะดวกสบายให้กับบุคลากรและนักศึกษาภายในสถาบัน

 

รศ.ดร.อิทธิพล แจ้งชัด คณบดี คณะวิทยาศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง กล่าวถึงความร่วมมือในครั้งนี้ว่า “ขณะนี้เราอยู่ในยุคเทคโนโลยี ดิสรัปชัน การศึกษาไทย ตั้งแต่ประถม มัธยม ถึงมหาวิทยาลัย ในอดีตเราอยู่ในรั้วที่สูงของมหาวิทยาลัย ทำให้ในแง่ของประสิทธิภาพการเรียนการสอน การจัดการและความร่วมมือกับภาคเอกชนน้อยไป ขณะที่ยุคนี้ความร่วมมือจากภาคเอกชนเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการช่วยพัฒนาการศึกษาไทย เพราะจะทำให้นักศึกษาได้เข้าใจการทำงานจริง สามารถนำสิ่งที่เรียนไปใช้งานได้จริง ในการบริหารงานของสถาบันการศึกษาเราจำเป็นต้องสร้างระบบนิเวศร่วมกับหลายภาคส่วน โดยมีมหาวิทยาลัยเป็นสนาม playground ให้นักศึกษาได้เรียนรู้และทดลอง”

“คณะวิทยาศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบังนั้น เป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยที่สอนวิทยาศาสตร์ประยุกต์ที่ใหญ่ที่สุดประเทศ มีนักศึกษาจำนวน 4,000 กว่าคน โดยเฉพาะในสาขาคณิตศาสตร์ สถิติ วิทยาการคอมพิวเตอร์ โดยความร่วมมือกับบริษัท ไอแอม คอนซัลติ้ง เพื่อทำ Digital Transformation ในครั้งนี้จะต้องมีการทำงานอย่างบูรณาการ ซึ่งทางคณะวิทยาศาสตร์ได้มอบหมายให้ หน่วยงานที่เรียกว่า K-DAI หรือศูนย์วิเคราะห์ข้อมูลดิจิทัลอัจฉริยะพระจอมเกล้าลาดกระบัง มาร่วมมือในการขับเคลื่อน เพื่อสามารถพัฒนา ประยุกต์ และต่อยอดเทคโนโลยีต่อไปได้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของบุคลากร รวมถึงการเสริมสร้างทักษะของนักศึกษาในมหาวิทยาลัยว่าสามารถทำงานได้ มีสนามทดทองให้ลองทำงานจริง ดังนั้น Digital Transformation จะไม่ใช่แค่การเปลี่ยนแปลงในมหาวิทยาลัย แต่ในอนาคต เราจะสร้างบุคลากรไอทีรุ่นใหม่สู่ตลาดแรงงานในประเทศได้” รศ.ดร.อิทธิพลกล่าวเสริม

ทางด้าน ธนวัฒน์ เลิศวัฒนารักษ์ กรรมการ บริษัท ไอแอม คอนซัลติ้ง จำกัด กล่าวว่า “จากประสบการณ์การพัฒนาระบบไอทีให้กับองค์กรระดับเอนเทอร์ไพรส์มากว่า 16 ปี และการต่อยอดธุรกิจในเทคโนโลยีใหม่ๆ อย่างต่อเนื่องของไอแอม คอนซัลติ้ง ในความร่วมมือครั้งนี้ เราได้นำเอาเทคโนโลยีมาช่วยต่อยอดสู่ Digital Transformation ไม่ว่าจะเป็นการร่วมมือพัฒนาและส่งเสริมความรู้ความสามารถทางวิชาการกับนักศึกษา อาจารย์ และบุคลากร การแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ระหว่างกัน การเปิดให้นักศึกษาที่เกี่ยวข้องได้ทดลองสร้างสรรค์ผลงานทางเทคโนโลยีจริง การต่อยอดเพื่อพัฒนาความสามารถกับอาจารย์และบุคลากรให้สามารถประยุกต์เทคโนโลยีไปต่อยอดเพื่อสร้างรายได้ให้กับสถาบัน รวมทั้งสามารถนำเอาระบบเทคโนโลยีมาช่วยสร้างและขยายระบบนิเวศทางไอทีได้”

“โดยเราได้เริ่มต้นนำเทคโนโลยีบล็อกเชนมาเสริม และทำ Proof of Concept (POC) หรือ การสาธิตและทดสอบการทำงานว่าสามารถใช้งานในมหาวิทยาลัยได้จริง ได้แก่ Virtual ID Card หรือ Digital ID เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับนักศึกษา การทำ University Token สร้างสังคมไร้เงินสดด้วยการนำ Token หรือ Coin มาใช้แลกเปลี่ยนภายในมหาวิทยาลัย และ การพัฒนา Digital Certificate เพื่อเปลี่ยนการทำงานแบบ Document Original ให้เป็น Digital Original ในที่สุด ซึ่งในการลงนามครั้งนี้ ทางไอแอม คอนซัลติ้ง ก็ได้นำเสนอการใช้งานจริงของ Digital Signature on Blockchain ซึ่งพัฒนาระบบตามมาตรฐานของสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ) หรือ ETDA นับเป็นครั้งแรกที่มีการความร่วมมือระหว่างสถาบันการศึกษากับภาคเอกชนเพื่อนำ Digital Signature on Blockchain มาใช้งานในมหาวิทยาลัย”

นอกจากความร่วมมือดังกล่าวมานี้ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง และบริษัท ไอแอม คอนซัลติ้ง จำกัด ยังได้วางแผนที่จะพัฒนาและส่งเสริมให้เกิดความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เกี่ยวกับธุรกิจการแนะแนวการศึกษาต่อทั้งในและต่างประเทศ การสร้างสรรค์สิ่งใหม่ทางด้านวิทยาการข้อมูลและการวิเคราะห์ที่เกี่ยวข้อง เช่น Machine Learning การวิเคราะห์และนำเสนอข้อมูลให้ตรงกับความต้องการของผู้ใช้งาน ฐานข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) และ การสร้างสรรค์แพลตฟอร์ม (Platform) ใหม่ๆ เป็นต้น รวมถึงการส่งเสริมและผลักดันคณาจารย์ และนักศึกษาให้มีความรู้และความเชี่ยวชาญในการทำ Digital Transformation เพื่อสร้างนวัตกรรม ผลงานวิจัย ตลอดจนสามารถต่อยอดใช้งานจริง หรือใช้งานในเชิงพาณิชย์ได้

from:https://www.techtalkthai.com/guest-post-iam-consulting-digital-transformation-kmitl-digital-signature-on-blockchain/

พลิกโฉมธุรกิจฝ่าวิกฤติ Covid-19 ด้วยระบบทำงานอัตโนมัติแบบ RPA

วิกฤติโคโรน่าไวรัส (Covid- 19) ที่กำลังระบาดอยู่นี้ ได้ส่งผลกระทบต่อองค์กรต่างๆ ทั่วโลก  ธุรกิจหลายแห่งได้รับผลกระทบจนต้องหยุดการดำเนินงานชั่วคราว หรือแม้แต่ต้องประกาศเลิกกิจการไป พนักงานขององค์กรต้องปรับตัวทำงานจากที่บ้านหรือเปลี่ยนรูปแบบการทำงานเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม ในวิกฤติย่อมมีโอกาส การแพร่ระบาดของเชื้อ Covid-19 นี้ ในอีกด้านหนึ่ง ได้แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการปรับกลยุทธ์ในการดำเนินงานของหลายๆ ธุรกิจ จนเกิดกระบวนการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล (Digital Transformation) อย่างรวดเร็ว มีการบูรณาการเทคโนโลยีดิจิทัลในหลากหลายหน่วยงาน ทำให้เกิดรูปแบบใหม่ๆ ในการดำเนินธุรกิจและส่งมอบคุณค่าให้แก่ลูกค้า

ในห้วงเวลาเช่นนี้เองที่จะเป็นช่วงที่พิสูจน์ว่า องค์กรใดจะสามารถประคับประคองตัวจนผ่านวิกฤตินี้ได้ ตลอดจนสามารถกลับมาเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งอีกครั้ง  ในสภาวะที่ยังมีความไม่แน่นอนอยู่นี้ อาจจะเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่แต่ละองค์กรจะทบทวนกลยุทธ์ และพิจารณาประยุกต์เทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการดำเนินธุรกิจ

โซลูชั่น RPA สร้าง Bot ให้ทำงานอัตโนมัติ

Robotic Process Automation หรือ RPA นั้น เป็นกระบวนการทำงานอัตโนมัติด้วยหุ่นยนต์ซอฟต์แวร์หรือ Bot ซึ่งแนวคิดของ RPA นั้นก็คือการสร้าง Bot เพื่อมาทำงานซ้ำๆ ที่เกี่ยวกับข้อมูลแทนมนุษย์ เนื่องจากต้นทุนทางธุรกรรมในการทำกิจกรรมที่ต้องทำซ้ำๆ นั้น เป็นต้นทุนที่ค่อนข้างสูงแต่ให้ผลตอบแทนที่ต่ำ อีกทั้งยังต้องใช้ทั้งพนักงานและเวลาจำนวนมาก ลักษณะงานเหล่านี้มีอยู่ในทุกๆ อุตสาหกรรมและในทุกส่วนงาน เช่น การป้อนข้อมูลลงระบบสินค้า การเก็บและป้อนข้อมูลทางบัญชี การจัดการกับใบเสร็จต่างๆ ฯลฯ ซึ่งองค์กรสามารถพิจารณานำเทคโนโลยีเข้ามาปรับใช้ได้ เพื่อให้การจัดการข้อมูลนั้นสามารถเป็นไปได้โดยอัตโนมัติ หรือทํางานร่วมกับมนุษย์อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งนอกจากจะได้ปริมาณงานที่เพิ่มมากขึ้นในเวลาที่สั้นลง ยังทำให้พนักงานสามารถใช้เวลาและศักยภาพที่มีไปกับงานที่มีคุณค่ามากกว่า

Automation Anywhere ผู้นําเทคโนโลยี RPA ระดับโลก

Automation Anywhere เป็นผู้นําในกระบวนการทํางานอัตโนมัติโดยหุ่นยนต์ (RPA) โดย Bot ของ Automation Anywhere สามารถอ่านข้อมูลจากไฟล์ภาพ เอกสารและนําข้อมูลเหล่านั้นไปกรอกลงระบบต่างๆ ได้อย่างถูกต้องแม่นยํา ซึ่งบริษัท ไอแอม คอนซัลติ้ง จำกัด บริษัทที่ปรึกษาและพัฒนาระบบไอทีแนวหน้าของไทย ได้เล็งเห็นแล้วว่าเทคโนโลยีนี้เป็นเทคโนโลยีแห่งอนาคตที่จะช่วยพลิกโฉมการดำเนินงานให้กับองค์กรและธุรกิจต่างๆ ในไทย โดยความโดดเด่นของระบบ RPA ของ Automation Anywhere สามารถสรุปได้ ดังนี้

Easy ความง่ายดายในการใช้งาน

Automation Anywhere ทํางานร่วมกับ Application ในระดับองค์กรได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังใช้งานได้ง่าย โดยสามารถใช้งานจากที่ไหนก็ได้ รวมถึงสามารถเชื่อมต่อกับผู้ให้บริการ AI อื่นๆ ได้ เช่น Google, Amazon, Microsoft เป็นต้น จึงกล่าวได้ว่าเป็นระบบที่รองรับ Digital Workforce ได้อย่างครบวงจร และช่วยลดต้นทุนการดําเนินงาน

Bot Store ลดเวลาการพัฒนา

ธุรกิจสามารถเลือกและดาวน์โหลด Bot บน Automation Anywhere Bot Store  ได้ทันที จึงไม่ต้องพัฒนา Botเอง ทำให้ประหยัดเวลา นอกจากนี้ทุก Bot Template ได้ผ่านการตรวจสอบจากทาง Automation Anywhere แล้ว ธุรกิจจึงมั่นใจได้ในเรื่องการใช้งาน

Automation Anywhere University ต่อยอดองค์ความรู้

ผู้ใช้งานสามารถศึกษาเนื้อหาเกี่ยวกับ RPA ต้ังแต่ขั้นพื้นฐานไปจนถึงข้ันสูงได้เองโดยไม่มีค่าใช้จ่าย ในหลักสูตร Online Training ของ Automation Anywhere หากเรียนจบหลักสูตร ยังสามารถขอใบรับรอง (certification) ได้  ถือเป็นการต่อยอดองค์ความรู้และเสริมสร้างศักยภาพแก่พนักงานในองค์กร

Hi-Security ความปลอดภัยของข้อมูลระดับ Bank Grade

Automation Anywhere มีมาตรฐานความปลอดภัยสากลระดับ Bank Grade ซึ่งมีเทคโนโลยีความปลอดภัยมาตรฐานต่างๆ รองรับ

การประยุกต์ใช้โซลูชั่น RPA ในภาคธุรกิจกรณีศึกษาในอุตสาหกรรมการผลิต

ในธุรกิจอุตสาหกรรมการผลิต (Manufacturing Industry)นั้น จัดว่าเป็นธุรกิจที่มีความซับซ้อน ประกอบด้วยระบบและขั้นตอนที่หลากหลาย ซึ่งข้อมูลที่พนักงานต้องจัดการมักจะมีจำนวนมาก ข้อมูลเหล่านี้มีทั้งแบบที่มีโครงสร้างตายตัวชัดเจนและมีแบบที่ต้องใช้ดุลยพินิจของพนักงานในการตัดสินใจ  โซลูชั่น RPA จะมีส่วนเข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้กับขั้นตอนที่สามารถทำได้เองโดยอัตโนมัติ เช่น ระบบการสั่งของ (order management) หรือการรับประกันสินค้า (warranty management)  ทำให้พนักงานสามารถไปโฟกัสในส่วนงานอื่นที่สร้างมูลค่าได้มากกว่า เช่น การพัฒนาผลิตภัณฑ์หรือการสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ

บริษัท Stant เป็นหนึ่งในผู้ผลิตและจำหน่ายชิ้นส่วนระบบควบคุมอุณหภูมิและไอน้ำขนาดใหญ่ มีสาขาธุรกิจใน 5 ประเทศ และจัดส่งชิ้นส่วนให้ลูกค้ากว่า 160 แห่งทั่วโลก ในแต่ละวันแผนกการเงินและบัญชีของ Stant ใช้เวลาในการจัดการเอกสารเบิกจ่ายและการเรียกเก็บเงินค่อนข้างมาก นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังต้องใช้เวลาในการตรวจสอบเอกสาร และลงบันทึกรายการต่างๆ ภาระงานเหล่านี้ ทำให้การส่งรายงานบัญชีเป็นไปได้ค่อนข้างช้า และอาจส่งผลต่อการชำระเงินให้แก่ซัพพลายเออร์

ด้วยเหตุนี้ ทีมผู้บริหารของบริษัท Stant จึงตัดสินใจนำระบบ RPA ของ Automation Anywhere เข้ามาใช้ เพราะเห็นว่าระบบดังกล่าว จะสามารถช่วยลดระยะเวลาการทำงานของแผนกได้ หลังจากการใช้งานบริษัท Stant พบว่า ระยะเวลาในการทำงานของระบบการเบิกจ่ายและเรียกเก็บเงินจากเดิมที่ใช้เวลาประมาณ 3 สัปดาห์ ลดลงเหลือเพียงแค่ 4 วัน และมีแนวโน้มที่จะลดลงไปอีก นอกจากนี้ยังไม่มีข้อผิดพลาดใดๆ เกิดขึ้นเลยการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นนี้เป็นไปได้ด้วยระบบการทำงานอัตโนมัติ ที่ Bot ได้เข้ามาช่วยในกระบวนการที่ซ้ำๆ ไม่ว่าจะเป็นการป้อนข้อมูลและจับคู่ใบเรียกเก็บเงิน และในกรณีที่ตรวจพบข้อผิดพลาด Bot จะช่วยทำการแก้ไขให้ หรือในกรณีที่มีข้อยกเว้น Bot จะส่งต่อเอกสารนั้นไปยังเจ้าหน้าที่เพื่อทำการอนุมัติต่อไป

ในส่วนของพนักงานนั้นได้ทำงานในลักษณะบูรณาการและได้พัฒนาศักยภาพมากขึ้น โดยเปลี่ยนจากการทำงานซ้ำๆ เป็นงานเชิงคิดวิเคราะห์และแก้ไขปัญหามากขึ้น ทำให้บริษัท Stant ตั้งเป้าที่จะนำระบบอัตโนมัตินี้มาใช้กับระบบการเรียกเก็บเงินจากซัพพลายเออร์ถึงร้อยละ 80 จากทั้งหมด และยังพิจารณาที่จะปรับใช้ระบบอัตโนมัตินี้เพิ่มขึ้นในส่วนงานอื่นๆ อีกในอนาคต

จากกรณีศึกษาดังกล่าว จะเห็นได้ว่า การวางรากฐานทางเทคโนโลยีและการลงทุนในระบบดิจิตัลนั้นเป็นสิ่งสำคัญ และเป็นสิ่งที่ธุรกิจที่อยากจะการเติบโตและแข่งขันได้ในอนาคตจำเป็นต้องคำนึงถึง อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลขององค์กรธุรกิจ ไม่ใช่เพียงการนำเทคโนโลยีมาใช้ในองค์กรเท่านั้น แต่ ผู้นำองค์กรต้องนำการเปลี่ยนแปลงอย่างครบวงจร ทั้งคน ระบบ และบริบท จึงจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้อย่างยั่งยืน 

ที่มา: https://www.automationanywhere.com/images/casestudy/CaseStudy-Stant-Thirdware-AutomationAnywhere.pdf

บริษัทผู้ให้คำปรึกษาการบริหารงาน และพัฒนาระบบไอทีสำหรับองค์กรเอนเทอร์ไพรส์ในประเทศไทยมากว่า 15 ปี

หากท่านต้องการคำปรึกษาทางด้าน RPA สามารถติดต่อได้ที่ corporatesales@iamconsulting.co.th หรือ โทร 02-690-3663

นอกจากนี้ ท่านยังสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทาง https://www.iamconsulting.co.th/en/rpa.html หรือกด Like เพื่อติดตามข้อมูลข่าวสารและร่วมแบ่งปันความรู้ได้ที่ www.facebook.com/IAMConsultingTH

from:https://www.techtalkthai.com/digital-transformation-using-rpa-by-iamconsulting-and-automation-anywhere/

รวมคลิปย้อนหลังงาน SAP Solution Summit 2018

สำหรับผู้ที่พลาดงาน SAP Solution Summit 2018 ที่จัดขึ้นเมื่อวานนี้ เราได้รวบรวมเอาคลิปย้อนหลังมาให้ได้ชมกันอีกครั้งหนึ่ง โดยเนื้อหางานเกี่ยวกับการอัปเดต Solution ต่างๆ จาก SAP Thailand และบูธ Partner บริษัทผู้เชี่ยวชาญในผลิตภัณฑ์ของ SAP จะมีอะไรบ้างนั้นตามไปชมกันได้เลยครับ

เปิดงาน SAP Solutions Summit 2018 – Delivering Intelligence Enterprise

SAP Intelligent Enterprise – งาน SAP Solutions Summit 2018

Customer Experience กับ SAP C/4HANA – งาน SAP Solutions Summit 2018

SAP Innovation

Move to Digital with SAP Solutions และ​ Atos Services 

HPE S/4 HANA

Netizen เป็น​ SAP​ Implementor ด้วย​โซลูชั่น​ “NetizenS4HANAPeony” “NetizenByDesignArabica” มามากกว่า​18ปี​ เ​พื่อตอบสนอง​ Lifestyle Technology โดยเฉพาะ

Transform your Business to Digital World กับ​ IAMCONSULTING 

ISS Consulting ready to Business Cloud Solution for Digital Economy 

Gold Partner SAP-Humanica, ERP & HR solutions

Lawson SAP Business by Design สำหรับธุรกิจไร้พรหมแดน​ 

 

 

from:https://www.techtalkthai.com/rerun-clips-sap-solution-summit-2018/