คลังเก็บป้ายกำกับ: FORTIMAIL

[Guest Post] ฟอร์ติเน็ตคว้ารางวัล 2021 Gartner Peer Insights Customers’ Choice ด้าน WAN Edge infrastructure และ Email Security เป็นปีที่สอง

จากความพึงพอใจและคะแนนจากผู้ใช้สูงที่สุดจากการสำรวจ ‘Voice of the Customer’

 

Fortinet® (NASDAQ: FTNT) ฟอร์ติเน็ต ผู้นำระดับโลกด้านโซลูชันการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์แบบอัตโนมัติและครบวงจรมีความภูมิใจที่ประกาศวันนี้ ว่าได้รับรางวัล Customers’ Choice ในรายงาน 2021 Gartner Peer Insights ‘Voice of the Customer’ ด้วยผลิตภัณฑ์ Secure SD-WAN สำหรับด้านโครงสร้างพื้นฐาน WAN Edge และฟอร์ติเมลสำหรับด้าน Email Security  

ในทุกๆ ปี รายงาน Gartner Peer Insights จะเลือกผู้ค้าผลิตภัณฑ์ที่ได้รับคะแนนพึงพอใจจากผู้ใช้มากที่สุดผ่าน Voice of Customers โดยดูจากจำนวนของบทวิจารณ์และการให้คะแนนโดยตรงจากผู้ใช้งานหลากหลายองค์กรในหลายภูมิภาค  เพื่อให้การประเมินผลเป็นไปอย่างยุติธรรม การ์ทเนอร์รักษาเกณฑ์การตัดสินที่เข้มงวดโดยตระหนักถึงความพึงพอใจของลูกค้าเป็นที่สุด  

หนึ่งปีที่ผ่านมานี้ ธุรกิจพบกับสถานการณ์ความไม่แน่นอนอย่างหนัก และเราได้เห็นองค์กรเปลี่ยนแปลงวิธีการดำเนินธุรกิจตลอดเวลาในขณะที่ความปลอดภัยทางไซเบอร์เป็นเรื่องสำคัญมากขึ้น ฟอร์ติเน็ตเชื่อว่าการยอมรับจาก Gartner Peer Insights Customers ‘Choice เป็นการตอกย้ำถึงความทุ่มเทของฟอร์ติเน็ตที่จะสร้างศักยภาพความปลอดภัยแข็งแกร่งให้สม่ำเสมอ สามารถครอบคลุมในทุกเครือข่าย อุปกรณ์ปลายทาง และในคลาวด์ ผ่านซีเคียวริตี้แฟบริค (Fortinet Security Fabric)  แพลตฟอร์มการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ ซึ่งช่วยองค์กรรับมือกับภัยคุกคามในช่วงเวลาที่ท้าทายเหล่านี้

 

 

รางวัล 2021 Gartner Peer Insights ‘Customers’ Choice ด้าน WAN Edge Infrastructure

นับเป็นปีที่สองติดต่อกันที่ฟอร์ติเน็ตได้รับเลือกให้เป็น Gartner Peer Insights Customers ‘Choice สำหรับโครงสร้างพื้นฐาน WAN Edge โดย Fortinet Secure SD-WAN ได้รับการรีวิวสูงสุดในผลิตภัณฑ์ทั้งหมด จากลูกค้าผู้ใช้งานจริงจากกลุ่มอุตสาหกรรม ประเภทและขนาดของธุรกิจอันหลากหลาย  ทั้งนี้ การ์ทเนอร์ยังได้จัดโซลูชันซีเคียวเอสดีแวนของฟอร์ติเน็ตให้อยู่ในกลุ่มผู้นำ (Leader) ในรายงานเมจิกควอแดรนท์สำหรับโครงสร้างพื้นฐาน WAN Edge Infrastructure ปี 2020  นอกจากนี้แล้ว ฟอร์ติเน็ตยังได้รับคะแนนสูงสุดสำหรับกรณีการใช้งานด้านถึง 2 กรณี (Small Footprint Retail WAN และ Security-Sensitive WAN) ในรายงานการวิจัยด้านความศักยภาพที่สำคัญ (Critical Capabilities for WAN Edge Infrastructure) ของการ์ทเนอร์ใน ปี 2020 อีกด้วย

ฟอร์ติเน็ตเชื่อว่า การที่ได้รับรางวัล Gartner Peer Insights สำหรับโครงสร้างพื้นฐาน WAN Edge และการยอมรับเพิ่มเติมจากผู้เชี่ยวชาญของการ์ทเนอร์สามารถยืนยันถึงแนวทางของฟอร์ติเน็ตที่ใช้เครือข่ายที่ขับเคลื่อนด้วยคุณสมบัติด้านความปลอดภัย (Security-Driven Networking) ในการพัฒนาเอสดีแวนและสร้างประสิทธิภาพจากการลงทุนที่เหนือใคร

เพื่อตอบสนองความต้องการของเครือข่ายแบบกระจายในปัจจุบัน ซีเคียวเอสดีแวนของฟอร์ติเน็ตได้ผสานรวมคุณสมบัติด้านความปลอดภัยในระดับเอ็นเตอร์ไพรส์ผนวกรวมเข้ากับศักยภาพของ WAN Edge ชั้นนำของอุตสาหกรรม จึงทำให้สามารถใช้แอปพลิเคชันได้อย่างปลอดภัย รู้จักแอปพลิเคชันได้เองอย่างอัจฉริยะ และสามารถแก้ไขการทำงานของ WAN ในขั้นสูงได้ นอกจากนี้ ซีเคียวเอสดีแวนของฟอร์ติเน็ตยังให้การมองเห็นตั้งแต่ต้นทางจนปลายทาง และให้ NOC และ SOC มีการควบคุมแบบรวมศูนย์ได้ จึงช่วยลดความซับซ้อนในการปฏิบัติงาน ส่งให้มีองค์กรจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ นิยมนำซีเคียวเอสดีแวนมาใช้แทนอุปกรณ์เราเตอร์เดิม

 

ความคิดเห็นต่อไปนี้เป็นเพียงตัวอย่างการรีวิวจากลูกค้าซีเคียวเอสดีแวนของฟอร์ติเน็ตที่โพสต์ใน Gartner Peer Insights:

  • “หลังจากค้นหาโซลูชันมามากมาย เราตัดสินใจใช้ FortiGate Secure SD-WAN ด้วยความมั่นใจ” ผู้จัดการฝ่ายไอที ในองค์กรขนาด 1 – 3 พันล้านเหรียญสหรัฐแห่งหนึ่ง

“องค์กรเราใช้เวลาค้นหาผู้ขายผลิตภัณฑ์และการสนับสนุนของเอสดีแวนที่เหมาะสมอย่างรอบคอบเกือบ 6 เดือน หลังจากการตรวจสอบหลายวัน เราได้ตัดสินใจใช้อุปกรณ์ฟอร์ติเกต พบว่าอุปกรณ์ใช้งานได้ดีมาก สามารถรวมเข้ากับโครงสร้างพื้นฐานจำนวนมากที่เรามีอยู่แล้วได้ดีโดยเฉพาะการใช้งานด้านความปลอดภัย อีกทั้งยังมีคุณสมบัติขั้นสูงที่เราต้องการ เช่น FEC (Forward error correction) อีกด้วย

  • “เป็นโซลูชันเอสดีแวนที่คุ้มค่ามากที่สุด มีประสิทธิภาพและการสนับสนุนที่ยอดเยี่ยมที่สุด” นักออกแบบระดับโลก ในองค์กรขนาด 3 – 10 พันล้านเหรียญสหรัฐแห่งหนึ่ง

“เรามีความประทับใจที่อุปกรณ์มีการใช้งานและการตั้งค่าที่ง่ายมาก มีการสนับสนุนอันดีเยี่ยม ทำให้เราชอบฟอร์ติเน็ตมาก คุ้มค่าสุดๆ นอกจากนี้ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ฟอร์ติเน็ตยังพัฒนาวิธีให้ลูกค้าสามารถจัดการกับอุปกรณ์ได้ง่ายมากยิ่งขึ้น โดยเราไม่ต้องเรียนรู้คำสั่งที่ซับซ้อนใดๆ “

  • FortiGate SD-WAN คือ ทางแก้ไขปัญหา และช่วยลดค่าใช้จ่าย!” ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายไอที ในองค์กรขนาด 3 – 10 พันล้านเหรียญสหรัฐแห่งหนึ่ง

“ขั้นตอนการปรับใช้งานง่าย ราบรื่น สามารถใช้ทดแทนอุปกรณ์ ของผู้ขายหรือผู้จัดหาต่างๆ ได้ด้วยโซลูชันเดียว มีคุณสมบัติครบถ้วนแบบ All-in-one แทบจะไม่ขาดอะไรเลย”

 

 

รางวัล 2021 Gartner Peer Insights Customers’ Choice ด้าน Email Security

ฟอร์ติเมล (FortiMail) ได้รับเลือกให้ติดอันดับในด้าน Email Security ในปีค.ศ. 2021  และนับเป็นปีที่ 2 แล้วที่ฟอร์ติเมลได้รับความไว้วางใจจากผู้ใช้งานอีกครั้ง  ฟอร์ติเมลได้พัฒนาขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อหยุดยั้งภัยคุกคามทางอีเมลขั้นสูงและป้องกันสแปม  และยังสามารถเสริมการทำงานร่วมกับระบบความปลอดภัยพื้นฐานภายในองค์กรและนอกองค์กรด้วย Fortinet Security Fabric เพื่อปกป้องระบบให้ปลอดภัยมากยิ่งขึ้นอีกด้วย

ในด้านการปกป้องภัยคุกคาม การยืนยันด้วยผลการทดสอบจาก SE Labs ส่งให้ฟอร์ติเมลได้รับการจัดอันดับเป็น AAA ที่มีอัตราความแม่นยำในการตรวจจับและป้องกันภัยคุกคามบนระบบ Email Security สูงถึง 94%  นอกจากนี้ ผลการทดสอบจาก ICSA แสดงอัตราการตรวจสอบมัลแวร์ได้ถึง 99.9%  และจากผลการทดสอบของ Virus Bulletin ในการตรวจจับเนื้อหาและข้อความที่เป็นสแปม พบว่าสามารถตรวจสอบและปกป้องได้ถึง 99.84%

ฟอร์ติเมลสามารถนำไปใช้งานในสิ่งแวดล้อมได้หลากหลาย รวมถึงในผู้ให้บริการ Hosted cloud-service สามารถใช้ในรูปแบบอุปกรณ์จริงและอุปกรณ์เสมือน  ฟอร์ติเมลเป็นโซลูชันการรักษาความปลอดภัยอีเมลที่ได้รับการพิสูจน์แล้ว ที่ดีที่สุดในกลุ่มผลิตภัณฑ์ในคลาสเดียวกัน ออกแบบให้มีคุณสมบัติ Multi-layered ช่วยองค์กรป้องกัน ตรวจจับและตอบสนองต่อภัยคุกคามขั้นสูงทางอีเมลไว้อย่างครบถ้วน ซึ่งรวมถึง Advanced Threats สแปม ฟิชชิง มัลแวร์ รวมถึงภัยคุกคามแบบ Zero-day การแอบอ้างบุคคลอื่น การโจมตีผ่านทางอีเมลทางธุรกิจ 

 

และต่อไปนี้คือตัวอย่างความคิดเห็นและข้อเสนอแนะสำหรับฟอร์ติเมล ที่โพสต์โดยลูกค้าของฟอร์ติเน็ตบนเว็บไซต์ Gartner Peer Insights:

  • “เราได้รับเกราะป้องกันภัยเพิ่มเติมอีกหนึ่งชั้น เพื่อต่อต้านภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่มีเป้าหมายและมีปริมาณการคุกคามสูง” ผู้จัดการโครงการ ในองค์กรขนาด 3 – 10 พันล้านเหรียญสหรัฐแห่งหนึ่ง

“เราใช้ฟอร์ติเมลเป็นอุปกรณ์หลักในการกรองอีเมลแต่ละฉบับที่เข้ามาหรือออกไปจากองค์กรของเรา นอกจากฟอร์ติเมลจะช่วยให้เราปลอดภัยและปกป้องข้อมูลสำคัญขององค์กรแล้ว ยังช่วยให้เรามีเกราะป้องกันภัยการโจมตีทางไซเบอร์ที่มีเป้าหมายและมีปริมาณการคุกคามสูง (Volume-based and targeted cyber threats) อีกชั้นหนึ่ง ทั้งนี้ เพื่อหยุดการโจมตีแบบกำหนดเป้าหมาย ลดอีเมลที่ไม่เกี่ยวข้องจำนวนมากมาย การโจมตีแบบฟิชชิ่ง ฯลฯ เราใช้คุณสมบัติต่างๆ เช่น การป้องกันการแพร่ระบาด (Outbreak protection) การวิเคราะห์แซนด์บ็อกซ์ การตรวจจับการแอบอ้างบุคคลอื่น และคุณสมบัติขั้นสูงอื่นๆ อีกมากมายที่เสริมความสามารถในการป้องกันสแปมและการป้องกันมัลแวร์ของฟอร์ติเมล  นอกจากนี้ อุปกรณ์ยังสามารถป้องกันข้อมูลสำคัญขององค์กรสูญหายด้วยการเข้ารหัสและการจัดเก็บอีเมลตามข้อมูลประจำตัว (Identity-based email encryption and archiving)   สิ่งที่ดีไปกว่านั้นคือเราสามารถผสานรวมฟอร์ติเมลเข้ากับส่วนประกอบของบุคคลที่สามอื่นๆ ได้อย่างง่ายดาย ซึ่งช่วยให้เราปรับปรุงแนวทางในการรักษาความปลอดภัยโดยการแบ่งปัน IoC บนซีเคียวริตี้แฟบริคได้อย่างราบรื่น ระบบรักษาความปลอดภัยฟอร์ติเมลนั้นไม่ซับซ้อน ง่ายต่อการปรับใช้ จึงเกิดความเชี่ยวชาญได้อย่างง่ายๆ เพราะระบบไม่ต้องการความรู้เชิงเทคนิคมากมายในการปรับแต่งและแก้ไขปัญหา”

  • “ฟอร์ติเมลคือแพลตฟอร์มการตรวจจับภัยคุกคามทางอีเมลอันยอดเยี่ยม DAA ในองค์กรขนาด 500 ล้าน – 1 พันล้านเหรียญสหรัฐแห่งหนึ่ง

“ฟอร์ติเมลปกป้ององค์กรของเราให้พ้นจากภัยคุกคามทางอีเมล มัลแวร์ และการโจมตีแบบฟิชชิงที่อาจนำไปสู่การสูญเสียข้อมูลที่ละเอียดอ่อนของไคลเอ็นต์และทำหน้าที่ตรวจสอบหาการละเมิดข้อกำหนดขององค์กร ฟอร์ติเมลมีฟีเจอร์ที่เรียกว่า ClickProtect ซึ่งจะช่วยป้องกัน URL หรือลิงก์ที่มากับอีเมล โดยจะทำการตรวจสอบความถูกต้องลิงก์อีกครั้งในเวลาที่ผู้ใช้คลิกที่ URL หรือลิงก์นั้น ฟอร์ติเมลสามารถทำงานร่วมกับบริการอีเมลอื่นๆ ได้ เช่น Microsoft Office365 และ Google Suite ช่วยตรวจจับภัยคุกคามขั้นสูง จึงช่วยทำให้ระบบอีเมลปลอดภัยยิ่งขึ้น”

  • “คุ้มค่า คุ้มราคา ผลิตภัณฑ์ที่ซื่อตรง ทำตามคำมั่นสัญญา” ซีไอโอ ในองค์กรขนาด 50 ล้าน – 250 ล้านเหรียญสหรัฐแห่งหนึ่ง

“เราใช้เมลเซิร์ฟเวอร์ของ HCL Domino ex IBM Domino และใช้ฟอร์ติเมลในโหมด Gateway ซึ่งพบว่าสามารถปรับใช้กับเมลเซิร์ฟเวอร์ใดๆ ได้อย่างง่ายดายมาก เราติดตั้งฟอร์ติเมลในศูนย์ดาต้าเซ็นเตอร์ของเราในองค์กร แต่สามารถถ่ายโอนไปบนคลาวด์ได้ด้วยไลเซนส์เดียวกันอย่างง่ายดายมาก ตรงไปตรงมาและไม่ต้องการความรู้พิเศษเพิ่มเติมในการปรับแต่งและแก้ไขปัญหา ทีมงานของฟอร์ติเน็ตมีความเชี่ยวชาญและให้การสนับสนุนที่เป็นประโยชน์ทั้งจากทีมสนับสนุนการขายและหลังการขาย เมื่อเราติดตั้ง FortiSandbox เพิ่ม เรายิ่งได้รับความคุ้มค่ากับเงินที่ลงทุนไปอย่างน่าพอใจ”

  • “ฟอร์ติเมล คือผลิตภัณฑ์ทรงประสิทธิภาพในการตรวจจับภัยคุกคาม” ผู้จัดการ ส่วนการปรับปรุงกระบวนการ ในองค์กรขนาด 500 ล้าน – 1 พันล้านเหรียญสหรัฐแห่งหนึ่ง

“ที่บริษัทของเรา เราใช้ซอฟต์แวร์ฟอร์ติเมล เราเห็นว่าฟอร์ติเมลคือการรักษาความปลอดภัยทางอีเมลที่ดีที่สุด ที่ใช้ในการปกป้องข้อมูลของเราให้พ้นจากภัยคุกคามหรือการโจมตีทางไซเบอร์ เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีความยืดหยุ่นและเป็นมิตรกับผู้ใช้ สามารถใช้ยกระดับความปลอดภัยขององค์กรโดยไม่ส่งผลกระทบใดๆ ต่อเครือข่าย”

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: Gartner Peer Insights Customers’ Choice มาจากความคิดเห็นส่วนบุคคลซึ่งรวบรวมจากรีวิวและการให้คะแนนโดยผู้ใช้งานแต่ละคน ตลอดจนข้อมูล ที่ได้มาตามระเบียบวิธีที่มีการบันทึกไว้ โดยข้อมูลทั้งหมดไม่ได้เป็นความคิดเห็นหรือการรับรองโดยการ์ทเนอร์หรือบริษัทในเครือแต่อย่างใด

การ์ทเนอร์ไม่รับรองผู้ขาย ผลิตภัณฑ์ หรือบริการใดๆ ที่ปรากฎในสิ่งพิมพ์วิจัยและไม่แนะนำให้ผู้ใช้เทคโนโลยีเลือกเฉพาะผู้ขายที่มีคะแนนสูงสุดหรือการกำหนดอื่นๆ สิ่งพิมพ์งานวิจัยของการ์ทเนอร์ประกอบด้วยความคิดเห็นขององค์กรวิจัยของการ์ทเนอร์ และไม่ควรตีความว่าเป็นความจริงขั้นสูงสุด การ์ทเนอร์ขอปฏิเสธการรับประกันทั้งหมดไม่ว่าโดยชัดแจ้งหรือโดยนัยเกี่ยวกับการวิจัยนี้ รวมถึงการรับประกันความสามารถในการขายหรือความเหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เฉพาะ

  

เกี่ยวกับฟอร์ติเน็ต

ฟอร์ติเน็ต (NASDAQ: FTNT) ปกป้ององค์กร ผู้ให้บริการ และหน่วยงานรัฐบาล ขนาดใหญ่ทั่วโลกให้พ้นจากภัยไซเบอร์ ฟอร์ติเน็ตช่วยให้ลูกค้าสามารถมีข้อมูลเชิงลึกในภัยคุกคาม และสร้างการป้องกันที่ชาญฉลาดให้ธุรกิจลูกค้าดำเนินไปอย่างราบรื่น เพื่อตอบสนองความต้องการด้านประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นตลอดเวลาต่อเครือข่ายไร้พรมแดนในวันนี้และในอนาคต  ทั้งนี้ เครือข่ายด้านความปลอดภัยซีเคียวริตี้แฟบลิคอันเป็นสถาปัตยกรรมใหม่จากฟอร์ติเน็ตเท่านั้นที่สามารถมอบคุณสมบัติด้านความปลอดภัยโดยจะไม่ยอมแพ้แก่ภัยที่เข้ามา ไม่ว่าจะเป็นในเครือข่าย แอปพลิเคชัน มัลติ-คลาวด์ หรือ อุปกรณ์ปลายทาง เช่น โมบาย หรือไอโอที ฟอร์ติเน็ตดำรงตำแหน่งเป็น#1 ในการจัดส่งอุปกรณ์ด้านความปลอดภัยสู่ตลาดโลกมากที่สุด  และมีลูกค้ามากกว่า 480,000 รายทั่วโลกไว้วางใจฟอร์ติเน็ตให้ปกป้องธุรกิจของตน ทั้งนี้ ศูนย์อบรม Fortinet Network Security Expert (NSE) Training Institute เป็นผู้จัดหลักสูตรการอบรมด้านความปลอดภัยไซเบอร์ที่ใหญ่ที่สุดและครอบคลุมมากที่สุดแห่งหนึงในอุตสาหกรรม   รู้จักฟอร์ติเน็ตเพิ่มเติมได้ที่ www.fortinet.com   และ The Fortinet Blog  หรือ FortiGuard Labs  

from:https://www.techtalkthai.com/guest-post-fortinet-named-gartner-peer-insights-2021-customer-choice-for-wan-edge-infrastucture-and-email-security-second-year-in-row/

โปรโมชันพิเศษจาก Fortinet: PDPA Starter Kit & Secure SD-Branch เริ่มต้นที่ 14,500 บาท

Fortinet ออก 2 โปรโมชันพิเศษสำหรับธุรกิจ SMB ที่ต้องการเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับ พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคล และองค์กรที่เพิ่งเปิดสำนักงานสาขาใหม่หรือต้องการยกระดับการเชื่อมต่ออย่างมั่นคงปลอดภัยผ่าน Secure SD-WAN ในราคาเริ่มต้นเพียงเดือนละ 14,500 บาท

โปรโมชันที่ 1: Fortinet PDPA Starter Kit

สำหรับองค์กรและบริษัทที่ต้องการปรับปรุง/อัปเกรดระบบรักษาความมั่นคงปลอดภัยเพื่อให้สอดคล้องกับข้อกำหนดของ พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลปี 2562 ที่จะบังคับใช้ในปีหน้า สามารถเลือกใช้บริการ Fortinet PDPA Start Kit ได้ในราคาเริ่มต้นเดือนละ 14,500 บาท โดยมีรายละเอียดดังนี้

ชุดที่ 1: Mini Set ประกอบด้วย

  • FortiGate 200 E Series
  • FortiGate Cloud
  • FortiMail Cloud จำนวน 100 Accounts
  • FortiToken Mobile จำนวน 10 Users

ราคาเริ่มต้นที่ 14,500 บาทต่อเดือน

ชุดที่ 2: Medium Set ประกอบด้วย

  •  FortiGate 400 E Series
  • FortiGate Cloud
  • FortiMail Cloud จำนวน 200 Accounts
  • FortiToken Mobile จำนวน 20 Users

ราคาเริ่มต้นที่ 26,500 บาทต่อเดือน

ประโยชน์ที่ท่านจะได้รับ

  • ลดการลงทุน CapEx สามารถบริหารค่าใช้จ่ายรายเดือนได้
  • ควบคุมการเข้าใช้งานในเครือข่าย (Access Control) ได้อย่างครอบคลุม
  • ป้องกันข้อมูลสำคัญขององค์กร ข้อมูลพนักงาน และข้อมูลลูกค้ารั่วไหลสู่สาธารณะ
  • ควบคุมให้ข้อมูลถูกต้องอยู่เสมอ (Data Integrity)
  • ป้องกัน Email Phishing และมัลแวร์ที่แฝงมากับไฟล์แนบอีเมลด้วย FortiMail Cloud
  • 2-Factor Authentication เพื่อเพิ่มความมั่นคงปลอดภัยในการใช้งาน VPN จากผู้ใช้งานภายนอกด้วย FortiToken Mobile
  • เชื่อมต่อสำนักงานแต่ละสาขาอย่างมั่นคงปลอดภัยด้วย Fortinet Secure SD-WAN
  • ใช้งานง่าย สามารถบริหารจัดการ เก็บ Log และจัดทำรายงานสรุปการใช้งานผ่าน FortiCloud ย้อนหลังได้ 365 วัน

** แถมฟรี Advanced Replacement ตลอดการใช้งาน **

โปรโมชันที่ 2: Fortinet Secure SD-Branch

ตอบโจทย์ครบทั้งโซลูชัน WAN Edge (SD-WAN), Wired & Wireless และ Network Firewall ไปกับ Fortinet ที่จะช่วยปกป้องสำนักงานสาขาให้มีความมั่นคงปลอดภัย ลดค่าใช้จ่ายและความซับซ้อนในการบริหารจัดการ รวมไปถึงเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานแอปพลิเคชันผ่าน WAN Links ประเภทต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Internet, MPLS หรือ LTE ในราคาเพียง 58,000 บาท

  • FortiGate-60F UTP Bundle
  • FortiGate Cloud
  • FortiClient Security Fabric Agent with EMS จำนวน 50 Accounts
  • FortiAP-221e Wireless AP
  • FortiSwitch-124E Secure L2 Switch 24 GE Ports + 4 SFP Slots

ประโยชน์ที่ท่านจะได้รับ

  • เหมาะสำหรับสาขาที่ต้องการประสิทธิภาพสูง รองรับความเร็วสูงสุดถึง 700 Mbps เมื่อเปิดใช้งานฟีเจอร์ทั้ง SD-WAN, Firewall, IPS, Application Control และ Malware Protection
  • ปกป้องอุปกรณ์ของผู้ใช้ให้มีความมั่นคงปลอดภัยด้วย FortiClient Security Fabric Agent จำนวน 50 เครื่อง
  • เครือข่าย Wi-Fi ความเร็วสูง รองรับมาตรฐาน 802.11AC wave2 ด้วย FortiAP
  • เชื่อมต่อเครือข่าย LAN ด้วย FortiSwitch ที่รองรับพอร์ตการใช้งานระดับ Gigabit มากถึง 24 Ports
  • ใช้งานง่าย สามารถบริหารจัดการ เก็บ Log และจัดทำรายงานสรุปการใช้งานผ่าน FortiCloud ย้อนหลังได้ 365 วัน

** ทั้งสองโปรโมชันนี้หมดเขตวันที่ 31 ธันวาคม 2020 นี้ **

ผู้ที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและสั่งซื้อผลิตภัณฑ์ได้ที่ https://secure.fortinet.com/LP=8803

from:https://www.techtalkthai.com/fortinet-promotion-pdpa-starter-kit-and-secure-sd-branch/

เตรียมระบบความมั่นคงปลอดภัยให้พร้อมรองรับ PDPA ด้วย One Stop ICT จาก CSL และโซลูชันจาก Fortinet

จากที่รัฐบาลมีมติให้เลื่อนการเริ่มบังคับใช้ พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือ PDPA (Personal Data Protection Act) ในประเทศไทยออกไปอีก 1 ปีจากเดิมที่จะเริ่มใช้ในวันที่ 27 พฤษภาคม 2020 เป็น วันที่ 27 พฤษภาคม 2021 เพื่อให้องค์กรธุรกิจได้มีเวลามากขึ้นในการจัดเตรียมระบบรักษาความมั่นคงปลอดภัยของระบบ ICT ให้มีความพร้อม เพื่อการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของทั้งลูกค้าและพนักงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

จึงนับเป็นโอกาสที่แต่ละองค์กรจะได้ทบทวนความพร้อมของระบบรักษาความมั่นคงปลอดภัยในระบบ ICT ของตนอีกครั้ง รวมทั้งระบบการจัดเก็บข้อมูล และใช้ข้อมูลในรูปแบบต่างๆ หากเกิดการละเมิดข้อมูล จะถูกดำเนินการรับผิดทางแพ่งซึ่งองค์กรธุรกิจจะต้องชดใช้ค่าเสียหายทดแทนเพิ่มขึ้นอีกสูงสุดไม่เกิน 2 เท่า ของค่าเสียหายที่แท้จริง

CSL พร้อมช่วยองค์กรรองรับ PDPA ด้วยโซลูชันที่ครบถ้วนจาก Fortinet

CSL เป็นพาร์ตเนอร์กับ Fortinet มาอย่างยาวนาน ให้บริการโซลูชันด้านความมั่นคงปลอดภัยที่หลากหลาย และได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าระดับองค์กรเป็นอย่างมาก สามารถสร้างยอดขายสูงสุดจนได้รับรางวัล Fortinet Platinum of the Year 2018 พิสูจน์ถึงความมั่นใจจากลูกค้าระดับองค์กรธุรกิจในประเทศไทยที่มีต่อ CSL ในการนำโซลูชันด้านความมั่นคงปลอดภัยจาก Fortinet ไปใช้งานในระบบ ICT ของตนได้เป็นอย่างดี

สำหรับโซลูชันด้านความมั่นคงปลอดภัยที่รองรับ พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือ PDPA นั้น CSL และ Fortinet ก็มีความพร้อมที่ให้บริการโซลูชันต่างๆ เพื่อปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าและพนักงานได้อย่างครบถ้วนและมีประสิทธิภาพ สามารถแบ่งออกเป็น 5 ส่วนสำคัญ ดังนี้

1. โซลูชันป้องกันการสูญหายของข้อมูล (Data Loss Prevention)

ในการปกป้องข้อมูลไม่ให้เกิดความเสียหายหรือสูญหาย Fortinet มีโซลูชันในรูปแบบ Built-in DLP (Data Loss Prevention) ประกอบด้วยคุณสมบัติการทำงานต่างๆ ดังนี้

  • FortiGate โซลูชันไฟร์วอลล์ ทำหน้าที่เป็นกำแพงปกป้องภัยคุกคามที่พยายามเจาะเข้ามาในระบบเพื่อขโมยข้อมูลอันมีค่าขององค์กร รวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า โดย CSL มีทีมวิศวกรที่เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์เรื่อง FortiGate Firewall จึงสามารถให้คำแนะนำและปรึกษาสำหรับองค์กรทุกขนาดได้เป็นอย่างดี พร้อมบริการ ICT Managed Services สำหรับไฟร์วอลล์ จึงสามารถเป็นผู้ช่วยที่ดีมากขึ้นอีกขั้นในการดูแลและให้บริการแก่ลูกค้าหลังการเริ่มใช้งานระบบ
  • FortiProxy มีการทำงานในรูปแบบของ URL & DNS Filtering เพื่อป้องกันและควบคุมไม่ให้พนักงานเข้าไปยังเว็บไซต์ที่มีความเสี่ยงในการนำมัลแวร์จากภายนอกเข้ามาสู่ระบบเครือข่ายภายในองค์กร พร้อมระบบ Advance Threat Protection ที่ช่วยป้องกันภัยคุกคามอีกรูปแบบหนึ่ง และเพิ่มการพิสูจน์ตัวตนได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงช่วยปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าได้เป็นอย่างดี
  • FortiWeb ทำหน้าที่เป็น Web Security Gateway วางตำแหน่งอยู่ด้านหน้าเซิร์ฟเวอร์ โดยสามารถที่จะตรวจสอบว่าข้อมูลที่นำออกไปเป็นข้อมูลส่วนบุคคลหรือไม่ และผู้ที่ใช้งานข้อมูลเป็นผู้ที่มีสิทธิ์ในการเข้าถึงข้อมูลหรือไม่ เพื่อป้องกันภัยคุกคามในส่วนของเว็บเซิร์ฟเวอร์ให้กับองค์กร ทั้งการใช้งานภายในองค์กร และการให้บริการในรูปแบบสาธารณะ ช่วยป้องกันการโจมตีทั้งในรูปแบบ SQL Injection, Cross-Site scripting และป้องกันการขโมยข้อมูลผ่าน Web Applications
  • FortiMail อีเมลเป็นอีกส่วนสำคัญที่ทำให้ข้อมูลรั่วไหลออกไปสู่ภายนอกได้ FortiMail ทำหน้าที่กรองและป้องกันอีเมลที่มีความอันตราย ไม่ว่าจะเป็นอีเมลในรูปแบบ ฟิชชิ่ง สแปมเมล ไวรัสเมล พร้อมการทำงานในแบบ SMTP Relay เพื่อให้ระบบอีเมลภายในองค์กรมีความมั่นคงปลอดภัยจากภัยคุกคาม อีกทั้งยังสามารถช่วยปกป้ององค์กรจากการโจมตีในรูปแบบ Ransomware ที่แฝงมาพร้อมกับอีเมลได้อย่างดีเยี่ยม

สำหรับองค์กรที่มีการใช้เซิร์ฟเวอร์ในรูปแบบระบบคลาวด์ มีความจำเป็นอย่างมากเช่นกันสำหรับการปกป้องข้อมูล Fortinet ได้พัฒนาคุณสมบัติ Built-in DLP for Cloud อันประกอบด้วย FortiGate Cloud, FortiMail Cloud, FortiWeb Cloud และ FortiCASB ขึ้นมาเพื่อการรักษาความมั่นคงปลอดภัยให้กับการใช้งานเซิร์ฟเวอร์บนระบบคลาวด์โดยเฉพาะ

นอกจากนี้ หากใช้งานผ่านผู้ให้บริการคลาวด์สาธารณะ อย่างเช่น Amazon AWS, Microsoft Azure, Oracle Cloud Infrastructure หรือ Alibaba Cloud ทาง Fortinet ก็ได้พัฒนา Built-in DLP for Public Cloud ที่จะช่วยปกป้องข้อมูลในการใช้งานผ่านระบบคลาวด์ให้แก่องค์กรได้เป็นอย่างดีด้วยเช่นเดียวกัน

2. การควบคุมการเข้าถึง (Access Control)

เป็นอีกส่วนของระบบความมั่นคงปลอดภัยที่มีความสำคัญ เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ที่ไม่ได้รับสิทธิ์สามารถเข้าถึงและใช้งานข้อมูลได้โดยไม่ได้รับอนุญาต จึงจำเป็นจะต้องมีระบบควบคุมการเข้าถึงข้อมูลที่มีประสิทธิภาพ

  • FortiToken เป็นโซลูชันป้องกันการขโมยรหัสผ่าน รองรับการยืนยันแบบ 2-Factor Authentication (2FA) ทั้งในรูปแบบ OTP (One Time Password) และ Soft Token โดยการยืนยันตัวตนขั้นที่สอง ก่อนเข้าถึงการใช้งานข้อมูลจะมีการยืนยันผ่านโทรศัพท์มือถือของผู้ที่ได้รับสิทธิ์คนนั้นๆ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้ยืนยันเข้าระบบด้วยการป้อนชื่อผู้ใช้และรหัสผ่านเพื่อยืนยันตัวตนในขั้นแรกเรียบร้อยแล้ว จึงช่วยรักษาความมั่นคงปลอดภัยจากการขโมยรหัสผ่านเพื่อเข้าสู่ระบบ ICT หรือใช้ข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาตได้เป็นอย่างดี

3. โซลูชันความมั่นคงของข้อมูล (Data Integrity)

  • FortiClient ทำหน้าที่ป้องกันในส่วนของอุปกรณ์ Endpoint จากมัลแวร์ที่พยายามหาช่องโหว่ของระบบรักษาความมั่นคงปลอดภัย และปิดช่องโหว่ไม่ให้มัลแวร์สามารถขโมยข้อมูลออกไปได้ สามารถป้องกัน Ransomware ที่บุกโจมตีผ่านทางอุปกรณ์ต่างๆ ในระบบ โดยจะมีการตรวจสอบ Packet ข้อมูลหรือซอฟต์แวร์ที่ดาวน์โหลดมาสำหรับการติดตั้งใช้งานผ่านระบบคลาวด์ของ Fortinet ก่อนที่จะมีการติดตั้งลงในอุปกรณ์นั้นๆ ของผู้ใช้งานต่อไป รวมถึงมีระบบตรวจสอบฝังตัวอยู่ในเครื่องเซิร์ฟเวอร์ที่สามารถกำหนดนโยบายในการตรวจสอบว่ามีการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้กำหนดไว้ในช่วงเวลาไหน มีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลหรือไม่ ถ้ามีการเปลี่ยนแปลงข้อมูล เป็นการกระทำโดยผู้ที่มีสิทธิ์ถูกต้องตามนโยบายที่ได้กำหนดไว้หรือไม่

4. โซลูชันตรวจสอบและป้องกันการละเมิดข้อมูล (Breach Detection and Prevention)

เป็นพื้นฐานด้านระบบความมั่นคงปลอดภัยด้าน ICT ส่วนสำคัญส่วนแรกที่ควรเริ่มต้นสำหรับการวางระบบ โดยเบื้องต้นจะต้องมีการตรวจสอบหาช่องโหว่ของเซิร์ฟเวอร์ที่ใช้งานอยู่เสียก่อน

สำหรับการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล หรือ Breach Prevention จะประกอบด้วย Next Generation Firewall, Web Application Firewall, Endpoint Security, Email Security ที่มีอยู่ใน Built-in DLP ของ Fortinet อยู่แล้ว

ส่วนการตรวจสอบและเฝ้าระวัง หรือ Breach Detection ทาง Fortinet ได้พัฒนาคุณสมบัติ FortiSIEM (SIEM: Security Information and Event Management) ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่มีอยู่ใน SOC (Security Operations Center) ของ Fortinet อยู่แล้ว เพื่อตรวจสอบและแจ้งเตือน หากมีการใช้งาน แก้ไข เปลี่ยนแปลงข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า นอกเหนือจากนโยบายที่ได้กำหนดไว้ ก็จะมีการแจ้งไปยังผู้ควบคุมการใช้งานข้อมูลได้ทราบอย่างทันท่วงที

5. โซลูชันเข้ารหัสข้อมูล (Data Encryption)

การเข้ารหัสข้อมูลจะช่วยให้แม้ว่ามีการละเมิดจนสามารถนำข้อมูลออกไปจากระบบได้ แต่จะไม่สามารถเปิดดูข้อมูลได้ เนื่องจากว่าข้อมูลได้มีการเข้ารหัสไว้นั่นเอง โดยการเข้ารหัสข้อมูลในส่วนที่จำเป็นต่อการใช้งานเพื่อปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลสำหรับองค์กรจะเป็นการเข้ารหัสในแบบ Address Encryption ซึ่งเป็นการเข้ารหัสข้อมูลที่ถูกเก็บไว้ในเครื่องเซิร์ฟเวอร์หรือในอุปกรณ์ของผู้ใช้งานเป็นสำคัญ โดยมีการเข้ารหัสข้อมูล 3 แบบ คือ

  • Drive Encryption เป็นการเข้ารหัสในระดับไดรฟ์ แม้ว่าจะมีการนำไดรฟ์ที่มีการเข้ารหัสไปเปิดในเครื่อง PC อื่นๆ ก็จะไม่สามารถเปิดใช้งานข้อมูลได้ โดยส่วนนี้ หากว่าองค์กรมีระบบรักษาความมั่นคงปลอดภัยให้กับศูนย์ข้อมูลที่ดี ก็ไม่จำเป็นต้องเข้ารหัสในรูปแบบนี้ก็ได้
  • File Encryption เป็นการเข้ารหัสให้กับไฟล์ที่มีการเก็บไว้ในโฟลเดอร์ที่ใช้งานร่วมกันในเครื่องเซิร์ฟเวอร์ ถ้าไม่ใช่ผู้ที่ได้รับอนุญาตให้เปิดใช้งาน ก็จะไม่สามารถเปิดไฟล์ได้ เป็นส่วนที่องค์กรธุรกิจในส่วนของผู้ควบคุมการใข้งานข้อมูลส่วนบุคคลควรให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก
  • Database Encryption เป็นการเข้ารหัสให้กับฐานข้อมูล เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ที่ไม่ได้รับอนุญาตเปิดใช้งานฐานข้อมูลได้ หากองค์กรมีระบบรักษาความมั่นคงปลอดภัยของศูนย์ข้อมูลที่ดี ก็ไม่จำเป็นเข้ารหัสในส่วนนี้ก็ได้เช่นกัน

โซลูชันด้านความมั่นคงปลอดภัยทั้ง 5 รูปแบบ ของ Fortinet สามารถตอบสนองความต้องการด้าน ICT ที่ช่วยให้องค์กรสามารถนำไปใช้งานเพื่อปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าและพนักงานได้อย่างครบถ้วนและมีประสิทธิภาพ และได้รับการยอมรับจากองค์กรธุรกิจชั้นนำทั้งในระดับประเทศและระดับโลกเป็นอย่างดีตลอดมา โดย CSLและ Fortinet พร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือในการให้คำปรึกษาแก่องค์กรธุรกิจทุกขนาด สำหรับการพัฒนาระบบรักษาความมั่นคงปลอดภัยด้าน ICT ขององค์กรให้สามารถปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าให้มีความมั่นคงปลอดภัยจากภัยคุกคามทุกรูปแบบได้เป็นอย่างดี

CSL พร้อมให้คำปรึกษาโซลูชันด้าน ICT เพื่อรองรับ PDPA ที่เหมาะสมกับทุกองค์กรธุรกิจ

แม้การบังคับใช้ พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือ PDPA ในประเทศไทย จะถูกเลื่อนไปอีกถึง 1 ปี คือจะเริ่มบังคับใช้ในวัน 27 พฤษภาคม 2021 ทำให้องค์กรธุรกิจมีเวลาในการเตรียมความพร้อมเพื่อให้ระบบขององค์กรสามารถรองรับ และสอดคล้องกับระเบียบข้อบังคับของ พ.ร.บ.ฯ แต่ทุกการเริ่มต้นเตรียมความพร้อมควรต้องเริ่มต้นกับพาร์ตเนอร์ด้านเทคโนโลยีที่มีประสบการณ์ และสามารถให้บริการได้ครบถ้วน

SL มีโซลูชันที่ครบถ้วน พร้อมด้วยทีมวิศวกรที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการสร้างสรรค์โซลูชันด้าน ICT ให้กับองค์กรธุรกิจมาอย่างยาวนาน CSL จึงมีความพร้อมในการให้คำปรึกษา ออกแบบ จัดหาโซลูชันด้านความมั่นคงปลอดภัยที่เหมาะสมกับความต้องการและงบประมาณสำหรับองค์กรธุรกิจทุกขนาด พร้อมบริการหลังการขาย รวมถึงการบริการในรูปแบบ Managed Services ที่ช่วยแบ่งเบาภาระด้านบุคคลากรและค่าใช้จ่ายด้าน ICT โดยรวมให้กับองค์กรธุรกิจได้เป็นอย่างดีอีกรูปแบบหนึ่งด้วยเช่นกัน

นอกจากนี้ CSL พร้อมให้บริการแก่ลูกค้าผ่านหมายเลขโทรศัพท์ 1370 ในการให้คำปรึกษาและช่วยแก้ปัญหาแก่ลูกค้าได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ

“Enhance Agility of New Normal with CSL Digital Transformation Solutions”

ปรึกษาและวางแผนพัฒนาเทคโนโลยี เพื่อรองรับการทำงานและต่อยอดธุรกิจกับ CSL โทร 0-2263-8185 หรืออีเมล presales@csl.co.th

from:https://www.techtalkthai.com/prepare-for-pdpa-with-fortinet-solutions-and-one-stop-ict-by-csl/

Fortinet Webinar Series EP #8: เตรียมความพร้อมในการป้องกันภัยไซเบอร์ขั้นสูงที่พุ่งเป้ามาที่อีเมลองค์กรได้อย่างไร

ความมั่นคงปลอดภัยของอีเมลยังคงเป็นเครื่องมือที่ช่วยสร้างประสิทธิภาพการทำงานสำหรับทุกองค์กรในปัจจุบัน แต่อีกนัยหนึ่งก็เป็นช่องทางยอดนิยมที่แฮ็กเกอร์ชอบใช้โจมตีระบบขององค์กรเสมอ

จากข้อมูลรายงานของ Verizon 2019 Data Breach Investigations Report พบว่า ร้อยละ 94 ของมัลแวร์นั้นจะแทรกตัวผ่านมาตามช่องทางอีเมล ซึ่งนั่นไม่น่าแปลกใจอีกเช่นกันว่า เหตุใดองค์กรนักวิเคราะห์ชั้นนำอย่าง Gartner ยังเน้นย้ำเสมอว่า ภัยคุกคามขั้นสูง (เช่น Ransomware และ Business Email Compromise) มักหลอกล่อการป้องกันแบบ Signature-based และ Reputation-based ได้ ซึ่งเป็นการป้องกันแบบดั้งเดิมที่ระบบ Secure Email Gateway (SEG) ใช้

Fortinet Thailand ขอเรียนเชิญผู้บริหารและผู้ปฎิบัติการด้าน IT Security ร่วมสัมมนาออนไลน์ในหัวข้อเรื่อง “เตรียมความพร้อมในการป้องกันภัยไซเบอร์ขั้นสูงที่พุ่งเป้ามาที่อีเมลองค์กรได้อย่างไร” ในวันพุธที่ 10 มิถุนายน 2020 เวลา 10.00 น ผ่าน Live Webinar ฟรี!

โดยเนื้อหาที่น่าสนใจใน EP #8 ท่านจะได้พบกับโซลูชันความปลอดภัยสำหรับอีเมลขั้นสูงเพื่อรับมือกับการโจมตีแบบขั้นสูงและรายละเอียดดังต่อนี้

  • Click Protect ที่ระบุหาเว็บไซต์ที่ถูกหลอกใช้เป็นอาวุธในการโจมตีหลังจากที่ส่งอีเมลไปแล้ว
  • Content Disarm & Reconstruction ที่ช่วยกำจัดโค้ดที่ฝังไว้เพื่อให้ส่งไฟล์ได้อย่างมั่นคงปลอดภัย
  • การระบุหาการโจมตีรูปแบบใหม่ทั้งในแบบมัลแวร์ เอกสารแนบ และเว็บไซต์
  • การวิเคราะห์การเลียนแบบเพื่อตรวจจับการปลอมแปลงและตัวบ่งชี้อื่นๆ ของการฉ้อโกงทางอีเมล

ผู้บรรยาย: วีร์ หิรัญพานิช Channel Systems Engineer จาก Fortinet Thailand

ลุ้นของรางวัลสำหรับ EP #8: Garmin Vivomove HR Sport

สิทธิพิเศษสำหรับท่านที่ร่วมสัมมนากับเรา:

  • 100 ท่านแรกที่ลงทะเบียนและเข้าสัมมนาออนไลน์จนจบการบรรยาย รับทันที Starbucks e-Coupon มูลค่า 100 บาท
  • ลุ้นรับรางวัล Cool Gadget! ในทุกๆ Episode
  • รับสิทธิ์ลุ้นรับรางวัลสุดพิเศษ iPhone 11 Pro หากคุณร่วมสัมมนาออนไลน์กับเรา ครบทุกๆ Episode

แล้วพบกันอย่างต่อเนื่องในทุกๆ Episodes กับหลากหลายหัวข้อที่น่าสนใจ แล้วพบกันนะคะ

ท่านสามารถเเชร์ประสบการณ์รูปแบบใหม่ครั้งนี้ให้เพื่อนๆ ได้รับรู้ผ่านทางโซเชียลมีเดีย โดยใช้แฮชแท็ก #FortinetSecurityWebinar

ร่วมเป็นครอบครัวกับเรา กดติดตาม
Fortinet Thailand User Group / Fortinet Thailand YouTube

from:https://www.techtalkthai.com/fortinet-webinar-series-ep-8-prevent-top-threats-by-advanced-email-security/

Fortinet ช่วยปกป้องการทำ Cloud Transformation ได้อย่างไร

Cloud Computing เป็นเทคโนโลยีสำคัญที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จขององค์กรชั้นนำและบริษัท Startup ที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก ด้วยบริการอันหลากหลายของ Public Cloud ในปัจจุบัน ที่มีทั้งความคล่องตัวและความยืดหยุ่น ประกอบกับการคิดค่าบริการตามการใช้งานจริง ส่งผลให้การปรับไปใช้ระบบ Cloud กลายเป็นหนึ่งในกลยุทธ์หลักของการทำ Digital Transformation อย่างไรก็ตาม ความมั่นคงปลอดภัยและความเป็นส่วนบุคคลก็ยังคงเป็นประเด็นที่องค์กรส่วนใหญ่ให้ความกังวล บทความนี้จึงจะมากล่าวถึงว่า Fortinet สามารถช่วยสนับสนุนการทำ Cloud Transformation ให้มั่นคงปลอดภัยได้อย่างไร

การปรับไปใช้ระบบ Cloud โดยไม่วางมาตรการควบคุมให้ดีพอ ก่อให้เกิดช่องทางใหม่ในการโจมตี

องค์กรทั่วโลกต่างเริ่มย้ายข้อมูลและแอปพลิเคชันจาก Data Center ขึ้นไปยังแพลตฟอร์ม Public Cloud มากขึ้นเรื่อยๆ ถึงแม้ว่าส่วนใหญ่การย้ายขึ้น Cloud จะมีทีม IT ช่วยดูแลและแนะนำให้กระทำอย่างมั่นคงปลอดภัย แต่ก็มีการย้ายหลายครั้งที่ไม่ผ่านขั้นตอนดังกล่าว เมื่อขาดการวางมาตรการควบคุมที่ดีเพียงพอ ย่อมก่อให้เกิดช่องโหว่ที่ผู้ไม่ประสงค์ดีสามารถโจมตีเพื่อขโมยข้อมูลหรือรุกล้ำความเป็นส่วนบุคคลได้

นอกจากนี้ องค์กรในปัจจุบันไม่ได้ใช้ Public Cloud จากผู้ให้บริการเพียงรายเดียว ด้วยความหลากหลายของโซลูชันและการให้บริการของแต่ละ Cloud Provider ทำให้ลูกค้าเลือกได้ว่าจะใช้บริการจาก Cloud Provider รายใดเพื่อตอบโจทย์ความต้องการเชิงธุรกิจและงบประมาณที่มีอยู่มากที่สุด ก่อให้เกิดเป็นสถาปัตยกรรมแบบ Multicloud ขึ้น ผลลัพธ์ที่ตามมาคือปัญหาด้าน Visibility หรือการติดตามการใช้ระบบ Cloud ทำได้ยาก ที่สำคัญคือ แอปพลิเคชันบน Cloud มักมีการเชื่อมต่อกันผ่านทาง API ถ้าแอปพลิเคชันมีช่องโหว่และถูกเจาะ ผู้ไม่ประสงค์ดีจะสามารถโจมตีต่อเนื่องไปยังระบบ Cloud อื่นๆ หรือระบบเครือข่ายขององค์กรได้ เหล่านี้สร้างความท้าทายด้านการออกแบบสถาปัตยกรรมความมั่นคงปลอดภัยบน Cloud ให้ยากขึ้นกว่าเดิม

Fortinet ผสานโซลูชันหลักเข้ากับ Public Cloud ชั้นนำอย่างไร้รอยต่อ

เพื่อให้สามารถมี Visibility และ Control ได้ในทุกๆ แพลตฟอร์ม Public Cloud และบริหารจัดการด้านความมั่นคงปลอดภัยได้แบบรวมศูนย์ Fortinet จึงได้ผสานโซลูชันหลักซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของ Security Fabric เข้าด้วยกันกับ Public Cloud ของหลากหลายผู้ให้บริการอย่างไร้รอยต่อ ภายใต้แนวคิดสำคัญ 3 ประการ คือ

  • Broad – มีโซลูชันด้านความมั่นคงปลอดภัยให้เลือกใช้งานอย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น NGFW, Mail Security, Web Application Firewall, IPsec และ SSL VPN, Application Control, Zero-day Threat Protection และ SD-WAN ครอบคลุมการป้องกันภัยคุกคามไซเบอร์ทั้งบนเครือข่าย ระบบอีเมล และระบบเว็บแอปพลิเคชันบน Cloud
  • Integration – ผสานการทำงานร่วมกับแพลตฟอร์ม Public Cloud เช่น AWS, Microsoft Azure, Google Cloud, Oracle และอื่นๆ ได้แบบ Native เสมือนเป็นส่วนหนึ่งของแพลตฟอร์มดังกล่าว ทำให้สามารถมี Visibility ที่สำคัญคือสามารถใช้ประโยชน์จากคุณสมบัติของ Cloud เช่น High Availability, Auto-scaling, Automation Scripts และ Configuration Templates ได้อย่างเต็มที่
  • Automation – บริหารจัดการโซลูชันบน Public Cloud และ On-premises ได้แบบรวมศูนย์และดำเนินการด้านความมั่นคงปลอดภัยได้โดยอัตโนมัติ ลดภาระของผู้ดูแลระบบและช่วยให้องค์กรสามารถโฟกัสกับการใช้ระบบ Cloud เพื่อสนับสนุนธุรกิจได้อย่างเต็มที่ ตอบโจทย์ความท้าทายด้านความมั่นคงปลอดภัยบน Cloud ทั้งเรื่อง Visibility และ Control

5 จุดเด่นการใช้ Fortinet ปกป้องระบบ Cloud ขององค์กร

Fortinet ไม่ได้เพียงนำเสนอโซลูชันบน Cloud ในรูปของ VM เท่านั้น แต่ยังจับมือเป็นพันธมิตรกับ Cloud Providers หลายรายเพื่อให้สามารถผสานการทำงานร่วมกับแพลตฟอร์ม Public Cloud ได้อย่างไร้รอยต่อ ทำให้มั่นใจว่าลูกค้าจะสามารถติดตามและควบคุมการใช้ระบบ Cloud รวมไปถึงปกป้องภาระงานและข้อมูลจากภัยคุกคามไซเบอร์ที่พุ่งเป้ามายังระบบ Cloud ได้

โซลูชันระบบ Cloud ของ Fortinet มีจุดเด่นสำคัญ 5 ประการที่เหนือกว่าคู่แข่งรายอื่นๆ ในท้องตลาด ดังนี้

1. Fortinet Security Fabric

Fortinet มีโซลูชันด้านความมั่นคงปลอดภัยบน Cloud ให้เลือกใช้งานได้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น FortiGate, FortiMail, FortiWeb, FortiSandbox, FortiCASB, FortiManager, FortiAnalyzer และ FortiSIEM ซึ่งสามารถทำงานสอดประสานกันเป็น Security Fabric เพื่อให้สามารถรับมือกับภัยคุกคามระดับสูงได้อย่างรวดเร็วและอัตโนมัติ ลูกค้าสามารถเลือกใช้โซลูชันเหล่านี้ได้โดยตรงผ่านทาง Market Place ของ Cloud Providers และสามารถเลือกได้ว่าจะใช้บริการแบบ Bring-Your-Own-License (BYOL) หรือ Pay-As-You-Go (PAYG)

2. ทำงานภายใต้ระบบปฏิบัติการ FortiOS ทั้งบน On-premises และ Cloud

โซลูชันทั้งหมดของ Fortinet ไม่ว่าจะบน On-premises หรือ Cloud ต่างใช้ระบบปฏิบัติการ FortiOS เดียวกันทั้งสิ้น ส่งผลให้ลูกค้าสามารถย้ายการทำงานจาก Data Center ขึ้นสู่ Cloud ได้ง่าย นอกจากนี้ยังสามารถใช้ FortiManager และ FortiAnalyzer ในการบริหารจัดการและเก็บ Log โซลูชันทั้งหมดของ Fortinet ได้เสมือนเป็นระบบเดียวกันทั้งหมด

3. ทำ High Availability ได้ง่ายกว่าและทรงประสิทธิภาพกว่า

High Availability (HA) ของ Fortinet ใช้วิธีย้ายหมายเลข IP และอัปเดต Routing Table ซึ่งทำให้การสลับทราฟฟิกเมื่อเกิด Failover ทำได้เร็วกว่าและเสถียรกว่าคู่แข่งที่ใช้ Interface (ENI) ทั้งยังสามารถตั้งค่า HA ข้าม Availability Zone (AZ) ได้อีกด้วย นอกจากนี้ ฟังก์ชัน Auto-scaling ยังช่วยซิงค์การตั้งค่าระหว่าง Master และ Slave เพื่อให้พร้อมใช้งานทันทีเมื่อเกิดเหตุภัยพิบัติโดยที่ไม่ต้องอาศัยความช่วยเหลือจากภายนอก

4. เท็มเพลตการตั้งค่าหลากหลาย พร้อมให้ดาวน์โหลดไปใช้

Fortinet ได้นำเสนอเท็มเพลตหลากหลายรูปแบบสำหรับช่วยตั้งค่าโซลูชันบนระบบ Cloud ไม่ว่าจะเป็นเท็มเพลตในการวางระบบสำหรับ HA, Auto-scaling หรือ Standalone รวมไปถึงเท็มเพลตสำหรับสำหรับ Cloud Providers โดยเฉพาะ ซึ่งสามารถดาวน์โหลดไปใช้ได้จาก https://github.com/fortinetsolutions และ https://github.com/fortinet

5. ผสานการทำงานร่วมกับเครือข่าย SDN

FortiOS เวอร์ชันล่าสุดสามารถเชื่อมต่อกับเครือข่าย SDN ของแพลตฟอร์ม Public Cloud ทั้ง AWS, Microsoft Azure, Google Cloud, Oracle Cloud และ AliCloud เพื่อดึงการตั้งค่าต่างๆ มาใช้กำหนด Policies ได้โดยอัตโนมัติ ลดความยุ่งยากซับซ้อนให้การตั้งค่าผลิตภัณฑ์

ย้ายขึ้น Cloud ด้วย BYOL หรือเริ่มต้นใหม่ด้วย PAYG

สำหรับองค์กรที่ใช้ผลิตภัณฑ์ของ Fortinet อยู่แล้ว ไม่ว่าจะในรูปของอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์หรือ VM สามารถย้ายการทำงานทั้งหมดพร้อม License ขึ้นสู่ระบบ Cloud ได้ทันที โดยแพลตฟอร์ม Public Cloud ที่รองรับ Bring-Your-Own-License (BYOL) ได้แก่ AWS, Microsoft Azure, Google Cloud และ Oracle Cloud

สำหรับลูกค้าใหม่หรือองค์กรที่ต้องการขยายระบบไปสู่ Cloud สามารถเลือกใช้โซลูชันของ Fortinet ได้โดยตรงผ่านทาง Market Place ของ Cloud Provider รายนั้นๆ ซึ่งจะคิดค่าบริการตามการใช้งานจริง แพลตฟอร์ม Public Cloud ที่รองรับ Pay-As-You-GO (PAYG) ได้แก่ AWS, Microsoft Azure และ Google Cloud

สำหรับผู้ที่สนใจใช้ Fortinet ในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยบน Public Cloud ไม่ว่าจะเป็น AWS, Microsoft Azure, Google Cloud หรือ Oracle Cloud สามารถติดต่อขอทราบข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ทีม Fortinet Thailand หรือผู้จัดจำหน่ายทั้ง 3 ราย ได้แก่ Exclusive Networks, SIS และ VST ECS

ติดตามอัปเดตข่าวสารของ Fortinet ล่าสุดได้ที่ Fortinet Thailannd User Group

from:https://www.techtalkthai.com/how-fortinet-secure-cloud-transformation/

ปกป้อง Office 365 ด้วย FortiMail Cloud Security สั่งซื้อวันนี้พร้อมโปรโมชันสุดพิเศษ

Fortinet ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มด้านความมั่นคงปลอดภัยสมรรถนะสูง เปิดตัว FortiMail Cloud Security สำหรับปกป้องระบบอีเมลบน Cloud เช่น Office 365 จากภัยคุกคามไซเบอร์ พร้อมผสานการทำงานร่วมกับ FortiSandbox เพื่อให้มั่นใจว่าองค์กรในยุคดิจิทัลจะพร้อมรับมือกับมัลแวร์ สแปม และฟิชชิ่งระดับสูงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในราคาเริ่มต้นเพียง 18,900 บาทต่อปีเท่านั้น

** ดูรายละเอียดโปรโมชัน FortiMail Cloud Security สุดพิเศษได้ด้านล่างบทความ

อีเมล – ช่องทางที่แฮ็คเกอร์เลือกโจมตีมากที่สุด

อีเมลเป็นหนึ่งในช่องทางสำหรับติดต่อสื่อสารที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในปัจจุบัน ทุกองค์กรทั่วโลกไม่ว่าจะเป็น Startup, SME หรือองค์กรขนาดใหญ่ต่างใช้อีเมลในการรับส่งข้อมูลระหว่างพนักงานในบริษัทด้วยกันเอง หรือระหว่างพนักงานกับลูกค้าและผู้ที่เกี่ยวข้องเป็นต้น เมื่อผู้ใช้มีจำนวนมาก และผู้ใช้แต่ละคนไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญทางด้าน IT ส่งผลให้แฮ็คเกอร์มักลอบส่งมัลแวร์แฝงมากับไฟล์แนบ หรือเป็นลิงค์ที่นำไปสู่เว็บไซต์ของแฮ็คเกอร์ เมื่อผู้ใช้เผลอเปิดไฟล์หรือกดลิงค์ดังกล่าว มัลแวร์ก็จะถูกโหลดเข้ามาติดตั้งลงบนเครื่องหรือแพร่กระจายเข้าสู่ระบบเครือข่ายทันที

จากรายงาน 2016 Data Breach Investigation Report ของ Verizon ระบุว่า 2 ใน 5 อันดับแรกของการติดมัลแวร์ในองค์กรขนาดใหญ่นั้นผ่านช่องทางอีเมลเป็นหลัก โดยร้อยละ 48 มาจากไฟล์แนบของอีเมล (อันดับ 1) และร้อยละ 29 มาจากลิงค์ที่แนบมากับอีเมล (อันดับ 3) นอกจากนี้ การเปลี่ยนไปใช้ระบบอีเมลบน Cloud เช่น Office 365 ยังทำให้การวางมาตรการควบคุมทำได้ยากยิ่งขึ้น

การรักษาความมั่นคงปลอดภัยของ Office 365 มีข้อจำกัด

เมื่อเข้าสู่ยุค Cloud Computing หลายองค์กรเริ่มหันไปใช้บริการบน Public Cloud มากยิ่งขึ้น เนื่องจากไม่ต้องลงทุนจัดซื้อ ติดตั้ง และบำรุงรักษาอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ ซึ่งช่วยลดค่าใช้จ่ายทั้ง CapEx และ OpEx ซึ่งหนึ่งในระบบ Cloud ยอดนิยมที่องค์กรส่วนใหญ่เลือกใช้งาน คือ ระบบอีเมลบน Office 365 ของ Microsoft เนื่องจากสามารถเปลี่ยนการใช้งานจากระบบเดิมที่ใช้ใน Data Center ไปสู่ระบบ Cloud ได้ง่าย มีฟีเจอร์ที่หลากหลาย และมีระบบรักษาความมั่นคงปลอดภัยพร้อมให้บริการ

Microsoft พร้อมให้บริการระบบรักษาความมั่นคงปลอดภัยบน Exchange Online และ Office 365 ผ่านทาง Exchage Online Protection ซึ่งพร้อมป้องกันมัลแวร์และสแปมที่แฝงมากับอีเมล อย่างไรก็ตาม ฟีเจอร์ด้านความมั่นคงปลอดภัยของ Microsoft ยังคงมีข้อจำกัด เช่น ไม่สามารถตรวจสอบไฟล์ที่ถูกบีบอัด (ZIP, RAR) ได้ และในกรณีที่ต้องการการปกป้องแบบ Advanced Threat Protection (Sandboxing) และ Data Loss Prevention ก็จำเป็นต้องซื้อ Subscription เพิ่ม

คำถามคือ “แล้วจะมีวิธีปกป้องระบบอีเมลทั้งบน Data Center และบน Cloud เช่น Office 365 ให้ครอบคลุมภัยคุกคามระดับสูงทั้งหมดได้อย่างไร?”

ปกป้องระบบอีเมลด้วย FortiMail จาก Fortinet

เพื่อตอบโจทย์การใช้ระบบอีเมลทั้งบน Data Center และบน Cloud ในปัจจุบัน Fortinet ได้นำเสนอ FortiMail และ FortiMail Cloud Security ที่รองรับการติดตั้งทั้งในรูปแบบ Email Gateway และ Transparent รวมไปถึงสามารถป้องกันภัยคุกคามที่แฝงมากับอีเมลขาเข้าและขาออก ไม่ว่าจะเป็น มัลแวร์ สแปม และฟิชชิ่ง ได้ โดย FortiMail มีคุณสมบัติเด่น ดังนี้

  • Multi-level Anti-spam Filtering: ระบบกรองอีเมลหลากหลายชั้น การันตีด้วยผลทดสอบจาก Virus Bulletin โดยสามารถตรวจจับสแปมได้แม่นยำถึง 99.997% ในขณะที่ไม่มี False Positive เลย
  • Powerful Anti-malware: ระบบป้องกันมัลแวร์ทั้งแบบ Known และ Unknown โดยอาศัยเทคโนโลยีสำคัญ 4 ประการ คือ Signature Match, Decryption/Unpacker System, Behavior Analysis และ Code Emulator โดยผ่านการรับรอง VB100 Virus จาก Virus Bulletin
  • Data Loss Prevention: ป้องกันข้อมูลสำคัญในอีเมลรั่วไหลสู่สาธารณะ
  • Email Encryption: รองรับการเข้ารหัสแบบ Identity-based และ TLS & S/MIME
  • Email Archiving: รองรับการจัดเก็บและสำรองข้อมูลอีเมล
  • Email Server: ทำหน้าที่เป็น Email Server โดยรองรับพื้นที่การจัดเก็บข้อมูลได้สูงสุดถึง 20 GB ต่อบัญชี

นอกจากนี้ FortiMail ยังได้รับการสนับสนุนจาก FortiGuard Lab ทีมนักวิจัยด้าน Threat Intelligence ของ Fortinet ที่เก็บและวิเคราะห์ข้อมูลจากเซ็นเซอร์กว่า 2,500,000 จุดทั่วโลก รวมไปถึงมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลภัยคุกคามกับ US-CERT และกลุ่ม Vendor พันธมิตรใน Cyber Threat Alliance เพื่อให้มั่นใจว่าฐานข้อมูลมัลแวร์และสแปมจะถูกอัปเดตให้พร้อมรับมือกับภัยคุกคามล่าสุดที่กำลังแพร่ระบาดอยู่ในขณะนั้น

ผสาน Advanced Sandboxing สำหรับป้องกันภัยคุกคามระดับสูง

FortiMail สามารถผสานการทำงานร่วมกับ FortiSandboxing ระบบ Advanced Threat Protection ของ Fortinet เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการตรวจจับ Unknown Malware และ Advanced Malware ได้อย่างไร้รอยต่อ ซึ่งมีจุดเด่นที่สามารถวิเคราะห์ไฟล์ได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำภายในระยะเวลาไม่กี่นาที ส่งผลให้ผู้ดูแลระบบสามารถเลือกที่จะกักกันอีเมลที่ต้องสงสัยไว้ก่อนจนกว่าจะวิเคราะห์ข้อมูลเสร็จ ถ้าพบว่าปลอดภัยจึงส่งต่อไปยัง Email Server ได้โดยที่ไม่กระทบต่อการดำเนินธุรกิจขององค์กร

FortiSandboxing ของ Fortinet ได้รับการจัดอันดับเป็น “Recommended” จาก NSS Labs ในหมวด Breach Detection ประจำปี 2017 โดยสามารถตรวจจับและป้องกันภัยคุกคามระดับสูงได้แม่นยำถึง 99.4%

ตอบโจทย์ความต้องการทั้งการใช้งานใน Data Center และระบบ Cloud

FortiMail ถูกออกแบบมาให้พร้อมใช้งานทั้งใน Data Center และระบบ Cloud โดยรองรับการติดตั้งทั้งแบบ Hardware Appliance, Virtual Appliance, FortiMail Cloud-as-a-Service รวมไปถึงสามารถเลือกใช้งานผ่าน Amazon Market Place ได้ทันที ที่สำคัญคือมีโมเดลให้เลือกหลายรุ่น เหมาะสำหรับการใช้งานในบริษัทระดับ SME ไปจนถึงองค์กรขนาดใหญ่ โดยรุ่นเล็กสุด คือ FortiMail 60D รองรับการป้องกันสแปมและมัลแวร์ได้สูงถึง 2,700 ข้อความต่อชั่วโมง ในขณะที่รุ่นเรือธงอย่าง FortiMail 3200E สามารถรองรับการป้องกันได้สูงถึง 1,500,000 ข้อความต่อชั่วโมง

ดาวน์โหลด Data Sheet ของ FortiMail ได้ที่นี่ [PDF]

สั่งซื้อ FortiMail Cloud Security วันนี้ พร้อมโปรโมชันสุดพิเศษ

โซลูชัน FortiMail ทั้งแบบติดตั้งบน Data Center และบนระบบ Cloud พร้อมให้ใช้บริการในประเทศไทยแล้ว โดย FortiMail Cloud Gateway ราคาเริ่มต้นเพียง 18,900 บาทต่อปี ที่สำคัญคือสามารถอัปเกรดเป็น FortiMail Cloud Premium โดยเพิ่มเงินเพียง 100 บาทต่อ 1 Mail Box เท่านั้น ซึ่งจะได้รับฟีเจอร์ Data Leak Prevention, Cloud Sandboxing และ Identity-based Encryption ไปใช้งานโดยทันที

ผู้ที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับโปรโมชันเพิ่มเติมหรือติดต่อขอ PoC ได้ที่คุณ Sasiphaphan Naeoprasoet, Channel Account Manager ของ Fortinet ประเทศไทย อีเมล sasiphaphan@fortinet.com หรือโทร 02-658-6581-2

from:https://www.techtalkthai.com/protect-office-365-with-fortimail-cloud-security/

FortiSandbox 2.0 เพื่อการป้องกัน Advanced Threat และ Zero-day Attack

fortinet_logo

Fortinet ผู้ให้บริการระบบรักษาความปลอดภัยประสิทธิภาพสูง ได้ประกาศเปิดตัว FortiSandbox 2.0 ที่เสริมสมรรถนะในการป้องกันภัยคุกคามแบบ Zero-day Attack และ Advanced Threat ทั้งบน FortiSandbox Advanced Threat Detection Appliance และ FortiSandbox Cloud Solution

fortinet_fsa_3000D

รองรับการทำงานร่วมกับ Forti- อื่นๆอย่างไร้รอยต่อ

FortiSandbox 2.0 สามารถทำงานร่วมกับ FortiGate ในการกักกันผู้ใช้งานที่ติดมัลแวร์หรือเป็นพาหะได้โดยอาศัยการกดเพียงคลิ๊กเดียว รวมทั้งสามารถรวมพลังกันรับมือ Zero-day และ Advanced Threat ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ถ้าทำงานร่วมกับ FortiMail สามารถช่วยตรวจสอบอีเมลล์ที่แอบแฝงมัลแวร์แบบที่ไม่เคยพบมาก่อนได้อย่างถูกต้องและรวดเร็ว ช่วยป้องกันผู้ใช้งานจากการเปิดอีเมลล์อันตรายที่ส่งมาโดยแฮ็คเกอร์ได้อย่างทันท่วงที นอกจากนี้ ยังสามารถทำงานร่วมกับระบบ Advanced Threat Protection ของ Fortinet เพื่อช่วยวิเคราะห์และตรวจจับภัยอันตรายบนโลกไซเบอร์ได้อย่างแม่นยำ

ป้องกันการเจาะระบบได้ถึง 99%

ด้วยฟังก์ชันการป้องกันภัยคุกคามที่พัฒนาโดยทีมนักวิจัยของ Fortinet ทำให้ FortiSandbox มีอัตราการตรวจจับการเจาะระบบ (Breach Detection) สูงถึง 99% โดย NSS Labs โดยสามารถตรวจจับภัยคุกคามที่แอบแฝงบน Microsoft Office, PDF, IE, Web URLs, Fire Sharing รวมทั้งสามารถแกะและตรวจสอบไฟล์ ZIP ได้อีกด้วย ช่วยให้ผู้ดูแลระบบสามารถมั่นใจได้ว่า สามารถป้องกันมัลแวร์หรือภัยอันตรายบนโลกไซเบอร์ได้ครบทุกรูปแบบ

fortinet_fsa_2

ติดตั้งได้หลากหลายรูปแบบ

FortiSandbox 2.0 รองรับทั้งการติดตั้งแบบ Physical, Virtual และ Add-on บนระบบคลาวด์ ขึ้นอยู่กับความต้องการและสภาวะแวดล้อมของระบบเครือข่ายของลูกค้า รวมทั้งสามารถทำงานร่วมกับระบบ FortiGate, FortiMail และโซลูชัน Advanced Threat Protection ของ Fortinet ได้อย่างไร้รอยต่อ

เสริมพลัง Advanced Threat Protection

เมื่อมีอีเมลล์แปลกปลอมถูกส่งเข้ามายังระบบ Advanced Threat Protection ของ Fortinet ซึ่งประกอบด้วยโซลูชัน FortiGate, FortiMail และ FortiSandbox สิ่งแรกที่เกิดขึ้น คือ FortiGate จะทำการเปลี่ยนเส้นทางอีเมลล์รวมทั้งไฟล์เนื้อหาข้างในไปยัง FortiSandbox เพื่อทำการตรวจสอบภัยคุกคามและมัลแวร์ที่แฝงตัวอย่าง ระหว่างนั้น FortiMail จะทำการกักอีเมลล์ดังกล่าวไว้ชั่วคราว จนกว่าจะได้รับการยืนยันว่าอีเมลล์นั้นปลอดภัย 100% ในกรณีที่ FortiSandbox ค้นพบความผิดปกติ อีเมลล์นั้นจะถูกบล็อกและถูกส่งไปวิเคราะห์กับทีมวิจัย FortiGuard เพื่อกระจายข้อมูลไปยังระบบ Fortinet ทั่วโลก ส่งผลให้ผู้ใช้บริการ Fortinet สามารถป้องกันภัยคุกคามรูปแบบใหม่ๆได้ก่อนที่จะเกิดขึ้นกับตนเอง

fortinet_fsa_1

FortiSandbox 2.0 พร้อมให้บริการแล้วตั้งแต่วันนี้ ผู้ที่สนใจ POC สามารถติดต่อได้ที่ตัวแทนจำหน่ายหรือ Fortinet Thailand โดยตรง

รายละเอียดเพิ่มเติม: http://www.fortinet.com/products/fortisandbox/advanced-threat-protection-appliances.html

ที่มา: http://www.fortinet.com/press_releases/2015/fortisandbox-catches-zero-day-advanced-threats-hidden-in-ie-msoffice.html

from:https://www.techtalkthai.com/fortisandbox-2-0-to-enhance-advanced-threat-protection/