คลังเก็บป้ายกำกับ: DEDUPLICATION

Dell EMC Unity ประกาศเตรียมรองรับ Deduplication แล้ว

Dell EMC มีแผนที่จะเปิดให้ผู้ใช้งาน Dell EMC Unity สามารถทำ Deduplication ได้แล้วภายในปลายปีนี้ เพื่อเพิ่มความคุ้มค่าให้กับการจัดเก็บข้อมูลภายในองค์กรให้สูงยิ่งขึ้น

Credit: Dell EMC

 

การทำ Deduplication นี้จะเป็นฟีเจอร์เสริมเพิ่มเติมจากการทำ Compression ที่มีอยู่เดิม โดยฟีเจอร์นี้จะสามารถเปิดใช้งานได้จากการอัปเกรด Firmware ที่ไม่ต้อง Down ระบบ ทำให้องค์กรที่มีการใช้งาน Compression บน Dell EMC Unity อยู่แล้วสามารถประหยัดพื้นที่จัดเก็บข้อมูลได้มากขึ้น

ความสามารถนี้เป็นฟีเจอร์ฟรีที่ไม่ได้มีค่าใช้จ่ายใดๆ เพิ่มเติมสำหรับเหล่าลูกค้าองค์กรที่ใช้งาน Compression ได้อยู่แล้วบน Dell EMC Unity โดยผู้ที่สนใจใช้งานต้องทำการติดตามว่าอัปเดตนี้จะออกมาเมื่อไหร่อีกทีหนึ่งครับ

 

ที่มา: http://partnerpostblog.emc.com/2017/10/18/deduplication-compression-dell-emc-unity/

from:https://www.techtalkthai.com/dell-emc-unity-will-support-deduplication-by-end-of-2017/

Red Hat เข้าซื้อเทคโนโลยี Permabit เสริมการทำ Data Reduction ใน Red Hat Enterprise Linux

Red Hat ประกาศเข้าซื้อทรัพย์สินและเทคโนโลยีของ Permabit Technology Corporation ผู้พัฒนาเทคโนโลยี Deduplication, Compression และ Thin Provisioning เพื่อเสริมความสามารถให้กับ Red Hat Enterprise Linux (RHEL) โดยเฉพาะ

Credit: Red Hat

 

การเสริมเทคโนโลยีของ Permabit เข้าไปใน RHEL นี้จะช่วยให้การใช้งานระบบ Storage ภายใน RHEL มีประสิทธิภาพสูงขึ้นเป็นอย่างมาก และสามารถตอบโจทย์ของการรองรับ Container, Cloud และ Hyper-converged Infrastructure (HCI) ได้เป็นอย่างดี โดยนอกจาก RHEL ที่จะได้ใช้เทคโนโลยีของ Permabit แล้ว Red Hat OpenStack Platform, Red Hat OpenShift Container Platform และ Red Hat Storage ก็จะได้เทคโนโลยีของ Permabit ไปใช้ด้วยเช่นกัน

นอกจากนี้ Red Hat ก็ยังมีแผนที่จะเปิด Open Source ให้กับเทคโนโลยีของ Permabit ด้วย เพื่อให้เข้ากับแนวทางของ Red Hat ในการเป็นธุรกิจ Open Source อย่างเต็มตัวด้วยนั่นเอง

สำหรับผู้ที่สนใจรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถศึกษาข้อมูลของ Permabit ได้ที่ http://permabit.com/ ทันที

 

ที่มา: https://www.redhat.com/en/about/press-releases/red-hat-acquires-permabit-assets-eases-barriers-cloud-portability-data-deduplication-technology

from:https://www.techtalkthai.com/red-hat-acquires-permabit-data-reduction-technology/

Sponsored Webinar: 5 เทคนิคลดพื้นที่จัดเก็บ Backup บน Storage ให้ได้ถึง 90%

Ingram Micro ร่วมกับ Arcserve ผู้ให้บริการโซลูชันการปกป้องข้อมูลชื่อดัง ขอเรียนเชิญผู้ที่สนใจทางด้าน IT Operation เข้าร่วมฟัง Sponsored Webinar ในหัวข้อเรื่อง “5 เทคนิคลดพื้นที่จัดเก็บ Backup บน Storage ให้ได้ถึง 90%” ในวันพฤหัสบดีที่ 20 กรกฎาคม 2017 ผ่านทาง Live Webinar ได้ฟรีทันที

รายละเอียดการบรรยาย

หัวข้อ: 5 เทคนิคลดพื้นที่จัดเก็บ Backup บน Storage ให้ได้ถึง 90%
ผู้บรรยาย: คุณพรสิทธิ์ ปาลิไลยก์ Technical Service Manager และคุณอิศรา โฉมอินทรีย์ Business Development Manager จาก Ingram Micro
วันเวลา: วันพฤหัสบดีที่ 20 กรกฎาคม 2017 เวลา 14.00 – 15.30 น.
ช่องทางการบรรยาย: Cisco WebEx Meeting
จำนวนผู้เข้าร่วมสูงสุด: 200 คน
ภาษา: ไทย
ลิงค์ลงทะเบียน: https://goo.gl/forms/P5A7fG4yqgxLvgUN2

ปัจจุบันนี้ ความต้องการจัดเก็บข้อมูลในรูปดิจิทัลเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้ความต้องการใช้พื้นที่บน Storage สำหรับสำรองไฟล์ข้อมูลเพิ่มขึ้นตาม การขยายระบบงาน ปริมาณข้อมูลที่ต้องการสำรอง การเก็บข้อมูลสำรองให้ยาวนานมากยิ่งขึ้น เหล่านี้ต่างส่งผลกระทบต่อพื้นที่การจัดเก็บข้อมูลทั้งสิ้น เมื่อรวมไปถึงการสำรองไฟล์ข้อมูลในรูปแบบต่างๆ เช่น File Backup หรือ Image Backup ทำให้การใช้สอยพื้นที่สำหรับจัดเก็บข้อมูลให้คุ้มค่าที่สุดเป็นเรื่องสำคัญอันดับต้นๆ ของการสำรองข้อมูล นอกจากนี้การทำ Deduplication ระดับ Global และการสำรองข้อมูลในรูปของ File Backup หรือ Image Backup อย่างถูกต้องก็เป็นประเด็นที่ต้องคำนึงถึงเป็นอย่างยิ่ง

เนื้อหาภายใน Webinar นี้ประกอบด้วย

  • สิ่งสำคัญ 5 อย่างเกี่ยวกับ Data Protection
  • ความท้าทายและข้อจำกัดของเครื่องมือที่ใช้
  • ความต้องการใหม่ๆ ที่เกิดขึ้น และแนวทางในการเพิ่มประสิทธิภาพให้กับระบบ
  • ถามตอบปัญหาเกี่ยวกับ Data Protection โดยวิศวกรจาก Ingram Micro

ลงทะเบียนเข้าร่วม Webinar ได้ฟรี

ผู้ที่สนใจสามารถกรอกแบบฟอร์มลงทะเบียนเพื่อเข้าร่วม Sponsored Webinar: 5 เทคนิคลดพื้นที่จัดเก็บ Backup บน Storage ให้ได้ถึง 90% โดย Ingram Micro และ Arcserve ได้ฟรี โดยทีมงาน TechTalkThai ขอสงวนสิทธิ์ให้ผู้เข้าร่วม TechTalk Webinar 200 ท่านแรก วันพฤหัสบดีที่ 20 กรกฎาคม 2017 เข้าฟังบรรยายโดยไม่คำนึงถึงอันดับการลงทะเบียนก่อนหลัง

กด Interested หรือ Going เพื่อติดตามอัปเดต Sponsored Webinar: 5 เทคนิคลดพื้นที่จัดเก็บ Backup บน Storage ให้ได้ถึง 90% บน Facebook Event: https://www.facebook.com/events/235166687004043/

ลงทะเบียนคลิก: https://goo.gl/forms/P5A7fG4yqgxLvgUN2

from:https://www.techtalkthai.com/sponsored-webinar-backup-by-arcserve/

HPE เปิดตัว XP7 Storage รุ่นใหม่ เร็วสูงสุด 4.8 ล้าน IOPS

Hewlett Packard Enterprise (HPE) ประกาศเปิดตัว HPE XP7 ระบบ Storage รุ่นใหม่ล่าสุดที่เพิ่มประสิทธิภาพมากกว่าเดิมถึง 60% พร้อมด้วยความสามารถใหม่ๆ ดังนี้

hpe_xp7_storage

  • ใช้ Controller รุ่นใหม่ที่มีประสิทธิภาพสูงกว่าเดิม 60% และมีประสิทธิภาพสูงสุด 4.8 ล้าน IOPS แบบ Random Read โดยมี Latency เพียง 1ms
  • ผู้ที่ใช้ HPE XP7 อยู่แล้วสามารถอัปเกรดได้ทันทีโดยไม่ต้อง Migrate ข้อมูล
  • มี Flash Module Device (FMD) ชุดใหม่ที่ความจุ 7TB และ 14TB สำหรับทำ Inline Compression ได้ด้วยความเร็วสูง
  • มีระบบ Software-based Compression และ Deduplication ที่ทำงานได้ทั้งบน Hard Disk Drive (HDD), Solid State Drive (SSD) และ FMD รวมถึงใช้งานกับอุปกรณ์ External Storage ภายนอกที่เชื่อมต่อกับ XP7 ได้ด้วย
  • การทำ Active/Active HA จะมี RPO และ RTO ที่ 0 วินาทีแล้ว
  • สามารถทำ Snap on Snap ไดส้สูงถึง 1,024 Snap
  • มีระบบ Performance Advisor 7.0 ที่แนะนำการปรับปรุงประสิทธิภาพของระบบได้ด้วย GUI ที่ออกแบบใหม่

สำหรับผู้ที่สนใจสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.hpe.com/us/en/storage/enterprise-xp.html

ติดต่อ 2BeShop.com ได้ทันที

2beshop_logo

2BeSHOP.com เป็นผู้ให้บริการ IT Solution แบบครบวงจรในประเทศไทยที่เปิดให้บริการมานานกว่า 10 ปี พร้อมมีบริการครอบคลุมทุกจังหวัดในประเทศไทยและครอบคลุมอีกกว่า 700 อำเภอทั่วประเทศทั้งสำหรับ Microsoft Solution, IBM Solution, VMware Solution รวมไปถึง Open Source Solution ที่ล่าสุดทีมงานของ 2BeShop.com ก็ได้รับ Certified ทางด้าน OpenStack เพื่อตอบรับความต้องการระบบ Cloud สำหรับองค์กรและ Internet Service Provider (ISP) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว https://www.2beshop.com/

ผู้ที่ต้องการขอใบเสนอราคาหรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถติดต่อทีมงาน 2BeShop.com ได้ที่ 02-118-6767 หรือ 089-021-8787 หรือ Line ID: 2beshop.com หรืออีเมล์ sales@2beshop.com ได้ทันที

ที่มา: https://community.hpe.com/t5/Around-the-Storage-Block/HPE-Announces-XP7-Storage-Midlife-Kicker/ba-p/6912453#.WBMyNvl96Uk

from:https://www.techtalkthai.com/hpe-announces-xp7-storage-with-upto-4-8-million-iops/

Dell เปิดตัว Storage Center OS เวอร์ชัน 7.0 รองรับการทำ Deduplication, Compression และปรับปรุงการใช้ Flash ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

dell_storage_sc4020

Dell เปิดตัว Storage Center Operating System เวอร์ชัน 7.0 (SCOS 7) เน้นการใช้งาน All-flash arrays อย่างเต็มประสิทธิภาพมากขึ้น โดยรองรับการทำ Deduplication และ Compression นอกจากนี้ยังรองรับการทำ Cross-platform Replication ระหว่าง Dell SC Series และ PS Series อีกด้วย และสุดท้าย SCOS 7 ยังมีการปรับปรุงในด้านการทำงานร่วมกับ VMware อีกด้วย

การทำ Deduplication และ Compression ทำให้ Dell สามารถสร้าง All-flash storage ที่มีราคาถูก เพียงแค่ $0.45/GB ซึ่ง Dell อ้างว่าถูกที่สุดในตลาด ส่วน Hard drive ที่เป็น Capacity Tier มีราคาเพียงแค่ $0.10/GB ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นผลมาจากการใช้เทคโนโลยีเฉพาะของ Dell ในการทำ Intelligent Deduplication และ Intelligent Block-Level Compression ทำให้สามารถประหยัดพื้นที่ได้ถึง 10:1 ในขณะที่อัตราส่วนการทำ Deduplication หรือ Compression ทั่วไปจะอยู่ที่ 3:1 และ 4:1

Storage Center OS V.7 ยังมีความสามารถเด่น ดังนี้

  • รองรับการทำ Live Migrate – Storage หลายๆตัวสามารถทำงานร่วมกันได้ เช่น SC9000, SC8000 และ SC4020 โดยผู้ดูแลระบบสามารถทำการย้าย Volume ข้าม Array ได้โดยที่ไม่จำเป็นต้องปิดระบบ
  • รองรับการทำ Quality of Service (QoS) ระดับ Storage
  • รองรับ VMware VVOL

นอกจากนี้ Dell ยังออกอัพเดท Dell Storage Manager (DSM) ตัวใหม่ให้รองรับการทำงานผ่าน HTML-5 โดยสามารถบริหารจัดการได้ทั้ง SC, PS และ FS Series นอกจากนี้ SCOS 7 ยังรองรับการทำ Bi-directional Cross-platform Replication ระหว่าง SC Series (Compellent) และ PS Series (EqualLogic) อีกด้วย

ผู้ที่ใช้งาน SC Series สามารถทำการอัพเดท Firmware ให้เป็น SCOS 7 ได้ฟรี โดย Firmware รุ่น GA เตรียมจะปล่อยออกมาใน Q3 ปีนี้ ส่วน Firmware เวอร์ชัน 9.0 ของ PS Series จะปล่อยออกมาให้อัพเดทได้ฟรีภายในเดือนนี้

ที่มา : http://www.theregister.co.uk/2016/05/19/we_get_it_dell_storage_centre_gets_compression_and_dedupe/

from:https://www.techtalkthai.com/dell-announces-storage-center-os-version-7-support-deduplication-and-compression/

IBM เปิดตัว All Flash Array สำหรับการทำ Cognitive Computing โดยเฉพาะ ความจุสูงสุดระดับ Petabyte

IBM ได้ประกาศเปิดตัว All Flash Array รุ่นล่าสุด IBM FlashSystem A9000 เป็น Rack Mount All Flash Array และ IBM FlashSystem A9000R เป็นตู้ Rack ที่ภายในบรรจุระบบของ All Flash Array เอาไว้ เพื่อตอบรับความต้องการในการเข้าถึงข้อมูลได้อย่างรวดเร็วสำหรับการประมวลผลเพื่อการทำ Cognitive Computing โดยเฉพาะ

ibm-a9000-flash-storage-appliance

Cognitive Computing คือเทคโนโลยีการวิเคราะห์ข้อมูลแบบ Real-time เพื่อทำการตัดสินใจสำหรับโจทย์ปัญหาใดๆ จากข้อมูลเดิมที่เคยมีอยู่ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีหลักของ IBM ภายในช่วงปีนี้และปีถัดๆ ไปภายใต้ชื่อของ IBM Watson นั่นเอง

เพื่อให้ IBM FlashSystem A9000 นี้สามารถตอบสนองความต้องการในการเข้าถึงข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว IBM ได้นำเทคโนโลยี IBM FlashCore ซึ่งเป็นเทคโนโลยี Enterprise Flash Storage ของ IBM มาผสานเข้ากับ IBM Spectrum Accelerate ระบบ Software Defined Storage เพื่อสร้างเป็นระบบ All Flash Array ที่สามารถ Scale-Out ได้

นอกจากนี้ IBM ยังได้เสริมความสามารถในการทำ Data Deduplication และ Compression ลงไป โดยชี้แจงว่าไม่ส่งผลกระทบทางด้านประสิทธิภาพในการทำงานแต่อย่างใด รวมถึงยังมีฟีเจอร์ใหม่ที่ชื่อว่า Hyper-Scale Mobility ที่สามารถย้ายข้อมูลข้ามอุปกรณ์ All Flash Array ได้โดยไม่เกิด Downtime ในระหว่างการเรียกใช้งานข้อมูล

สำหรับรุ่น IBM FlashSystem A9000 นี้จะเป็น Appliance ที่รองรับการเพิ่มขยายได้เกินกว่า 100 เครื่องภายในระบบเดียว และบริหารจัดการได้จากศูนย์กลาง เพื่อรองรับ Data Center ขนาดใหญ่และ Cloud ที่ต้องการทำ Cognitive Computing ส่วน IBM FlashSystem A9000R นี้จะเป็นตู้ Rack ที่มี All Flash Array ความจุหลัก Petabyte ให้พร้อมใช้งานได้ทันที

สุดท้าย IBM ยังได้ประกาศเปิดตัว IBM DS8888 ซึ่งเป็น All Flash Array สำหรับใช้งานกับ IBM z Systems และ IBM Power Systems โดยเฉพาะด้วย

ที่มา: http://www.networkworld.com/article/3061880/ibm-lines-up-all-flash-storage-to-help-power-cognitive-computing.html

from:https://www.techtalkthai.com/ibm-launched-all-flash-array-for-cognitive-computing/

Nutanix เปิดตัว Acropolis File Services รองรับการทำ Scale-out NAS ภายในตัว

nutanix-nx-8150-bezel-650

หลังจากที่ Nutanix เปิดตัว Nutanix AOS เวอร์ชัน 4.6 ออกมา ก็ได้ทำการประกาศเปิดตัว Acropolis File Services (AFS) เพิ่มเติม ซึ่ง AFS มีความสามารถในการสร้าง Network-Attached Storage (NAS) ภายในตัว ช่วยให้ผู้ใช้งานมีความสะดวกสบายในการสร้างระบบจัดเก็บไฟล์ภายในองค์กรมากขึ้น

AFS ทำงานโดยใช้ความสามารถของ Nutanix Distributed Storage Fabric (DSF) เช่นเดียวกับสถาปัตยกรรม Hyperconverged ของ Nutanix โดย AFS จะทำการสร้าง File Service VM ไว้บนทุกๆ Node ของ Nutanix เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน, กำจัดคอขวด และรองรับการขยายแบบ Scale-out ได้ทันที นอกจากนี้ AFS ยังได้รับความสามารถของ DSF ด้านอื่นๆอีกด้วย เช่น Auto Tiering, Deduplication, Compression, Erasure Coding และ Data Protection ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถสร้าง File Services ในลักษณะของ Cloud ได้ทันที นอกจากนี้ยังสามารถใช้งาน Virtual Machine และ File Service ได้พร้อมๆกันบน Nutanix Cluster เดียว

 

nutanix-afs

 

ความสามารถเด่นของ Acropolis File Services มีดังนี้

Management

  • สามารถติดตั้งใช้งานได้เพียงไม่กี่คลิก
  • บริหารจัดการผ่าน Nutanix Prism
  • รองรับการอัพเกรดแบบ 1-Click โดยใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที
  • รองรับการเชื่อมต่อกับ Active Directory

Scalability

  • รองรับการเพิ่มขยาย Node อย่างไม่จำกัด (Scale-out)
  • รองรับจำนวนไฟล์สูงสุด หลักพันล้านไฟล์ (Release แรก รองรับ 10 ล้านไฟล์)
  • รองรับผู้ใช้งานสูงสุด 1 หมื่นผู้ใช้งาน (Release แรก รองรับ 1000 ผู้ใช้งาน)

Availability & Data Protection

  • รองรับการทำ High Availability แบบ Fast Failover โดยมี Downtime น้อยกว่า 10 วินาที
  • รองรับการทำ Snapshots
  • รองรับ Windows previous versions ทำให้ผู้ใช้งานสามารถทำการกู้ไฟล์ผ่าน Self-service ได้เอง

Deployment Flexibility

  • รองรับการให้บริการ Virtual Machine พร้อมกับ File Services
  • รองรับการทำ Centralized Management
  • รองรับการติดตั้ง AFS Cluster ได้มากกว่าหนึ่ง Cluster บน Nutanix Infrastucture เดียว

Protocols

  • Release แรก รองรับเฉพาะ SMB 2.1
  • SMB 3.0 และ NFS อยู่ใน Roadmap

 

โดย Solution หนึ่งที่เหมาะกับการนำ AFS ไปใช้งานคือ การนำไปทำเป็น File Services สำหรับระบบ Virtual Desktop Infrastructure (VDI) เนื่องจาก Nutanix เป็น Infrastructure ที่เหมาะสมกับการทำ VDI อยู่แล้ว และ VDI จำเป็นต้องมี File Services มารองรับการเก็บข้อมูลของผู้ใช้งานที่นับวันก็จะมีปริมาณมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้การใช้ AFS กับส่วนนี้ช่วยตัดค่าใช้จ่ายสำหรับอุปกรณ์ NAS Appliance ออกไปได้

อย่างไรก็ตาม Nutanix Acropolis File Services ยังอยู่ในช่วง Tech Preview เท่านั้น คาดว่า Nutanix เตรียมจะปล่อยเวอร์ชัน GA ในเร็วๆนี้

 

สำหรับผู้ที่สนใจ Nutanix หรือ VMware และต้องการให้เข้าไปนำเสนอระบบ หรือทดสอบระบบ หรือสอบถามราคา หรือรับบริการอัพเกรดและดูแลรักษา Nutanix และ VMware  สามารถติดต่อบริษัท ทรูเวฟ ประเทศไทย จำกัด ที่เบอร์โทรศัพท์ 02-210-0969 หรืออีเมลล์ info@throughwave.co.th ได้ทันที หรือตรวจสอบข้อมูลต่างๆ เพิ่มเติมได้ที่ http://www.throughwave.co.th

ที่มา : http://www.nutanix.com/2016/03/14/nutanix-advances-enterprise-cloud-strategy-by-eliminating-requirement-for-separate-network-attached-storage-nas/

from:https://www.techtalkthai.com/nutanix-releases-acropolis-file-services-support-scale-out-nas/

8 ปัจจัยที่ควรพิจารณาเมื่อเลือก Backup Solution สำหรับองค์กร

Backup Solution ถือเป็นหนึ่งในเทคโนโลยีที่เมื่อองค์กรต่างๆ เลือกใช้แล้ว สามารถเปลี่ยนแปลงได้ยากที่สุดเทคโนโลยีหนึ่ง เพราะการเปลี่ยนเทคโนโลยีการสำรองข้อมูลนั้น หมายถึงข้อมูลเก่าที่เคยสำรองเอาไว้ก่อนหน้าจะไม่สามารถกู้คืนขึ้นมาได้ด้วยเทคโนโลยีใหม่ ทำให้ต้องดูแลระบบ Backup หลายๆ ระบบควบคู่กันไปจนกว่าจะย้ายได้สำเร็จ

Credit: ShutterStock.com
Credit: ShutterStock.com

การเลือกเทคโนโลยี Backup จึงมีความสำคัญมาก ดังนั้นแนวทางคร่าวๆ ในการคัดเลือกเทคโนโลยีการ Backup จึงควรจะมีความสามารถดังต่อไปนี้

 

1. สามารถทำ Deduplication ข้อมูลที่มีการสำรอง เพื่อลดพื้นที่จัดเก็บลงได้

เพื่อให้การสำรองข้อมูลนั้นมีการใช้พื้นที่ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และการกู้คืนสามารถทำได้อย่างรวดเร็วที่สุด เทคโนโลยีการทำ Deduplication จึงกลายเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับระบบสำรองข้อมูลในทุกวันนี้ และยิ่งถ้าสามารถเลือกได้ว่าจะทำการ Deduplication ตั้งแต่ฝั่ง Server หรือจะ Deduplication ที่ Backup Server ได้ก็จะยิ่งดี เพราะจะทำให้องค์กรสามารถเลือกวิธีการที่เหมาะสมที่สุดกับการใช้งานได้

 

2. ต้องรองรับ Incremental Backup ได้อย่างไม่จำกัด เพื่อให้ง่ายต่อการสำรองข้อมูล

บางเทคโนโลยีนั้นรองรับการทำ Incremental Backup ได้จำกัดจำนวนครั้ง ทำให้ต้องคอยทำ Full Backup ใหม่อยู่เป็นระยะๆ ซึ่งเป็นการเสียเวลาและมีความเสี่ยงสูง ดังนั้นการที่ระบบ Backup จะทำ Incremental Backup ได้อย่างไม่จำกัดนั้นก็ช่วยให้การสำรองข้อมูลเป็นไปได้อย่างง่ายดายยิ่งขึ้น

อย่างไรก็ดี การตรวจสอบเวลาที่ใช้ในการกู้คืนข้อมูลจากเทคโนโลยี Incremental Backup เองนั้นก็สำคัญเช่นกัน เพราะบางเทคโนโลยีอาจใช้เวลาตามจำนวน Incremental Backup ที่เกิดขึ้นไปย้อนหลัง ในขณะที่บางเทคโนโลยีอาจทำได้เร็วกว่านั้น

 

3. เลือกติดตั้งได้หลากหลายรูปแบบ ให้เหมาะสมกับความต้องการของแต่ละระบบ

เนื่องจาก Application แต่ละประเภทนั้นก็ต้องการพฤติกรรมในการสำรองข้อมูลที่แตกต่างกันไป ดังนั้นการเลือกใช้ Backup Solution ที่มีทางเลือกในการสำรองข้อมูลได้หลากหลายรูปแบบก็จะทำให้การออกแบบนโยบายการสำรองข้อมูลสำหรับแต่ละระบบนั้นแตกต่างกันไปได้ตามความเหมาะสม

นอกจากการ Backup แล้ว การทำ Replicate และการทำ Archive เองก็อาจถูกผสานรวมอยู่ในบาง Backup Solution เลย ดังนั้นการเลือกระบบที่มีความยืดหยุ่นสูงๆ นี้ก็จะทำให้องค์กรลดความเสี่ยงลงไปได้มากทีเดียว

 

4. ต้องบริหารจัดการได้ง่าย มีช่องทางให้ผู้ใช้งานกู้ข้อมูลเองได้

การบริหารจัดการระบบ Backup ไปจนถึงการทำ Automation และการเปิดให้ผู้ใช้งานเข้ามากู้คืนข้อมูลด้วยตัวเองได้นั้น จะเป็นสิ่งที่ช่วยลดภาระหน้าที่ของผู้ดูแลระบบลงได้อย่างแท้จริง อีกทั้งยังลดปัญหาความผิดพลาดต่างๆ ที่อาจเกิดในการสำรองข้อมูล และการกู้คืนข้อมูลได้อีกด้วย

 

5. รองรับการสำรองข้อมูลของระบบ Hybrid Cloud ได้

เทคโนโลยี Cloud นั้นเข้ามามีบทบาทในองค์กรมากขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นระบบ Backup ที่รองรับ Hybrid Cloud ได้ในตัวเลยนั้นก็จะทำให้องค์กรมีอิสระในการเลือกใช้เทคโนโลยี Cloud ได้ตามที่ต้องการ

 

6. สามารถเพิ่มขยายระบบสำรองข้อมูลให้มีขนาดใหญ่มากได้

ด้วยการมาของ Big Data Analytics นั้น ทำให้ปริมาณข้อมูลและระบบงานต่างๆ ภายในองค์กรนั้นเติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดด ดังนั้นระบบสำรอง Backup ที่ดีก็ควรมีความยืดหยุ่นให้สามารถเริ่มต้นจากระบบเล็กๆ ได้ และค่อยๆ เพิ่มขยายตามการใช้งานขององค์กร ไปจนถึงการรองรับข้อมูลปริมาณมหาศาลระดับ Big Data ได้ในอนาคต

 

7. สามารถทำงานร่วมกับระบบต่างๆ ได้หลากหลาย

ระบบ Backup ที่ดีนั้นจะต้องทำงานร่วมกับ Infrastructure และ Application ได้หลากหลาย และมีเทคนิคพิเศษในการสำรองข้อมูลบางรูปแบบให้มีประสิทธิภาพสูงสุด เช่น Hypervisor ต่างๆ หรือ Database ต่างๆ รวมถึงระบบ Email เป็นต้น

นอกจากนี้การมี Interface เพื่อผสานรวมกับระบบอื่นๆ ผ่นทาง API ได้เองนั้นก็จะมีส่วนช่วยในการบริหารจัดการ Data Center ที่มีขนาดใหญ่ได้เป็นอย่างดี

 

8. จบทุกอย่างได้ในโซลูชั่นจากผู้ผลิตเดียวได้ก็จะดี

การที่ระบบ Backup ขององค์กรนั้นเป็นผลิตภัณฑ์จากผู้ผลิตเดียว นอกจากจะช่วยให้ผู้ดูแลระบบทำงานได้ง่ายแล้ว ยังช่วยลดความเสี่ยงในการที่ระบบหรือข้อมูลที่ทำการสำรองเอาไว้จะกู้ขึ้นไม่สำเร็จเพราะความผิดพลาดในการทำงานของผู้ดูแลระบบอีกด้วย อีกทั้งการมีผู้ผลิตของระบบ Backup หลากหลายภายในระบบเครือข่ายเดียวก็จะทำให้งานมีความซับซ้อนสูง ส่งผลเป็นค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นขององค์กรเอง

 

IBM Spectrum Protect สุดยอดเทคโนโลยี Backup ครบวงจรจาก IBM

ibm_spectrum_protect_dashboard

IBM Spectrum Protect คือระบบสำรองข้อมูลเพียงหนึ่งเดียวที่ครบวงจรตั้งแต่การสำรองข้อมูลของ Desktop ไปจนถึง Server และมีทั้งความสามารถในการทำ Backup, Replicate, Archive ครบถ้วนในระบบเดียว พร้อมให้ผู้ดูแลระบบกำหนด Policy การสำรองข้อมูล, การทดสอบการกู้คืนข้อมูล, ระยะเวลาในการเก็บข้อมูลย้อนหลัง, การย้ายพื้นที่จัดเก็บข้อมูล และอื่นๆ อีกมากมายให้การสำรองกลายเป็นกระบวนการแบบ Automation ที่ผู้ดูแลระบบใช้งานได้อย่างไว้วางใจ

นอกจากนี้ IBM ยังมีทีมสนับสนุนสำหรับการสำรองและกู้คืนข้อมูลโดยเฉพาะ, มีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีเทป รวมถึงยังมีรูปแบบการจ่ายเงินที่ยืดหยุ่นได้ตามความต้องการขององค์กร ทำให้ IBM Spectrum Protect ยังคงความเป็นผู้นำของเทคโนโลยีสำรองข้อมูลระดับโลกมาได้โดยตลอด

สำหรับผู้ที่สนใจสามารถติดต่อพาร์ทเนอร์ของ IBM ทั่วประเทศได้ทันที และสามารถลองเข้าไปทดสอบระบบ Demo ของ IBM Spectrum Protect กันได้ทันทีที่ https://demo.tsm.ibmserviceengage.com:11090/TSMLiveDemo/

 

ข้อมูลเพิ่มเติม

from:https://www.techtalkthai.com/8-things-to-consider-when-choosing-backup-solution/

Hitachi Data Systems เปิดตัว All Flash Array รุ่นล่าสุด HFS A Series เร็ว 1,000,000 IOPS ความจุ 384TB ในขนาด 2U

hds_ingram_micro_logo

Hitachi Data Systems (HDS) ได้ทำการเปิดตัว All Flash Array ซีรีส์ที่สอง ภายใต้ชื่อของ Hitachi Flash Storage (HFS) A Series สำหรับตอบโจทย์การใช้งานภายในองค์กรเพื่อรองรับ Database และ Virtualization โดยเฉพาะ ซึ่งจุดที่น่าสนใจของ HFS A Series นี้ก็คือแนวคิดในการออกแบบ All Flash Array ที่ต่างจากรูปแบบเดิมๆ และแก้ไขปัญหาจากการออกแบบเดิมๆ ไปนั่นเอง

hds_hfs_a_series_front

จุดเด่นของ HFS A Series

 

กระทัดรัดประหยัดพื้นที่ ด้วยขนาดเพียง 2U แต่จัดเก็บข้อมูลได้มากถึง 384TB

ในขณะที่ All Flash Array ของผู้ผลิตรายอื่นอาจมีขนาดเริ่มต้นตั้งแต่ 6U ไปจนถึง 11U แต่ HFS A Series จาก HDS นี้มีขนาดเพียงแค่ 2U เท่านั้นทั้งก่อนและหลังเพิ่มขยาย

hds_hfs_a_series_mask

ที่น่าตกใจมากคือ ในขนาดเพียง 2U นี้ HFS A Series สามารถจุ 2.5″ SSD แบบ Hot Swappable ได้มากถึง 60 ลูกเลยทีเดียว เพราะ Tray สำหรับติดตั้ง SSD นั้นถูกออกแบบให้อยู่ที่ด้านข้างของเครื่อง จึงมีพื้นที่เยอะกว่าการออกแบบทั่วๆ ไปที่ใส่ SSD ได้เฉพาะด้านหน้าเท่านั้น

hds_hfs_a_series_bare

นอกจากนี้ SSD แต่ละลูกก็มีความจุ Raw Capacity ที่ 1.6TB ทำให้ Raw Capacity รวมสูงสุดนั้นมีขนาดถึง 96TB และเมื่อรวมกับความสามารถในการลดพื้นที่จัดเก็บข้อมูลอย่าง Deduplication, Compression และ Thin Provisioning แล้ว ก็ทำให้อัตราส่วนในการประหยัดพื้นที่มีถึง 5:1 และทำให้พื้นที่ที่จัดเก็บข้อมูลมีได้สูงสุด 384TB เลยทีเดียว อีกทั้ง Deduplication นี้ยังสามารถปรับแต่งขนาด Block Size ให้เหมาะสมกับ Application ที่ทำการใช้งานได้

hds_hfs_a200_front_from_the_register

ด้วยการออกแบบแบบนี้ ก็ทำให้ HFS A Series ประหยัดพลังงานลงไปกว่าเทคโนโลยีแบบอื่นๆ ถึง 10 เท่า ในขณะที่ใช้พื้นที่บนตู้ Rack น้อยลง 5-10 เท่าเลยทีเดียว

 

เร็วสูงสุดกว่า 1,000,000 IOPS พร้อม Bandwidth สูงสุด 8GB/s

ด้วย Cache ขนาด 256GB พร้อม Interface ที่รองรับได้ทั้ง 16x 8Gbps Fibre Channel, 8x 10Gbps iSCSI และ 8x 40Gbps iSCSI ก็ทำให้ HFS A Series สามารถทำสถิติความเร็วสูงสุดได้ถึง 1,000,000 IOPS และรองรับ Bandwidth มากถึง 8GB/s

Storage QoS ก็เป็นอีกความสามารถหนึ่งที่ช่วยให้แต่ละ Logical Volume สามารถให้บริการได้ตามความเหมาะสมในการใช้งานเพื่อรองรับแต่ละ Application โดยไม่แย่งประสิทธิภาพการทำงานกันเองได้เป็นอย่างดี และยังมี Average Response Time ต่ำกว่า 1 millisecond อีกด้วย

hds_hfs_a_series_performance

รองรับความสามารถในการปกป้องข้อมูลอย่างครบครัน

HFS A Series นี้รองรับทั้งการทำ Snapshot, Clone และ Remote Replication อย่างครบถ้วน พร้อมปกป้องข้อมูลด้วยการทำ RAID ก็ทำให้มั่นใจได้ว่าข้อมูลที่ถูกจัดเก็บอยู่บน HFS A Series นี้จะปลอดภัยและไม่สูญหายไปไหนอย่างแน่นอน

 

อัพเกรดง่าย ไม่มี Downtime

HFS A Series นี้เปิดตัวมาด้วยกัน 3 รุ่น ดังนี้

hds_hfs_a_series_models

จะเห็นได้ว่าจุดแตกต่างคือความจุและขนาดของ Cache เท่านั้น ทำให้การอัพเกรดสามารถทำได้แบบ Non-disruptive ด้วยการเพิ่มจำนวน SSD ที่ติดตั้งเข้าไปเป็นหลัก และไม่มี Downtime เลยนั่นเอง

 

ติดตั้งใช้งานง่าย บริหารจัดการได้ผ่าน GUI พร้อมระบบ Analytics ในตัว

HFS A Series นี้สามารถถูกติดตั้งใช้งานให้เสร็จได้สมบูรณ์ภายในเวลาเพียงไม่กี่นาที และพร้อมจะทำการกำหนดค่าการใช้งานต่างๆ ได้ทันทีผ่านระบบ GUI โดยเมื่อใช้งานไปแล้ว ผู้ดูแลระบบก็สามารถสร้างรายงานสำหรับการวิเคราะห์ประสิทธิภาพการทำงานและการประหยัดพื้นทีจัดเก็บข้อมูลได้ทันทีจากในตัวอุปกรณ์

สำหรับการลงทุนระยะยาว HFS A Series ก็รองรับการทำงานภายใน Hitachi Storage Virtualization Operating System (SVOS) ได้ ทำให้เสริมความสามารถในการทำ Automation และการทำ Workflow ร่วมกับ Storage อื่นๆ ภายใน Data Center ได้อีกด้วย

 

HFS A Series แตกต่างจาก VSP F Series อย่างไรบ้าง?

เพื่อไม่ให้สับสนระหว่าง HFS A Series ที่เพิ่งออกมา และ VSP F Series ที่ออกมาในปีที่แล้ว ทาง TechTalkThai จึงขอสรุปความแตกต่างเอาไว้ดังนี้

  • HFS A Series มีระบบปฏิบัติการเฉพาะของตัวเองที่แตกต่างจาก VSP F Series
  • HFS A Series ใช้ 2.5″ SSD ต่างจาก VSP F Series ที่ใช้ Flash Module แบบ FMD DC2 ซึ่งรองรับการทำ Inline Compression ได้ที่ระดับ Module เลย
  • HFS A Series มีประสิทธิภาพสูงสุดที่ 1,000,000 IOPS ในขณะที่ VSP F Series มีประสิทธิภาพสูงสุดถึง 1,400,000 IOPS
  • HFS A Series มีขนาดเพียง 2U ในขณะที่ VSP F Series มีขนาดเริ่มต้นที่ 5U

 

แผนการในอนาคตของ HFS

หลังจากนี้ HFS เองก็จะมีการปรับปรุงให้ทำงานร่วมกับระบบที่องค์กรใช้งานได้มากขึ้น เช่น การรองรับ Windows Certification, การรองรับ VMware Certification, การรองรับการทำงานร่วมกับ OpenStack, การรองรับ VASA, การทำงานร่วมกับ Oracle เป็นต้น ในขณะที่การรองรับ Interface นั้นก็จะหลากหลายขึ้น เช่น 16Gbps FC และ Interface อื่นๆ

hds_hfs_a_series_back

นอกจากนี้การทำ Scale-out และการรองรับ SSD ขนาดใหญ่ขึ้นก็อยู่ใน Road Map ด้วยเช่นกัน รวมถึงการ Integrate ระบบเข้ากับโซลูชั่นอื่นๆ ของ Hitachi Data Systems เองก็จะถูกเสริมเข้ามาด้วยภายในปี 2016 นี้

 

ติดต่อ HDS Thailand และ Ingram

hds_ingram_micro_logo

ผู้ที่สนใจเทคโนโลยีต่างๆ ของ Hitachi Data Systems (HDS) และต้องการให้ทีมงานเข้าไปนำเสนอโซลูชั่นหรือทดสอบผลิตภัณฑ์ หรือ System Integrator ที่ต้องการเป็น Partner กับ HDS สามารถติดต่อทีมงาน Hitachi Data Systems ประเทศไทยได้ทันที โทร 02-126-8039, 02-126-8174 หรืออีเมลล์ Thailand.marketing@hds.com หรือสนใจติดต่อ Hitachi Distributor : Ingram Micro (Thailand) Co.,Ltd. T. 02-793-1888 ติดต่อฝ่ายขาย หรือคุณยุทธนา แพทย์พิลบุลย์ Product Sales Specialist 081-861-5056

 

ข้อมูลเพิ่มเติม

ที่มา: http://www.theregister.co.uk/2016/01/19/hds_brings_out_purposedesigned_allflash_array/

from:https://www.techtalkthai.com/hitachi-data-systems-announced-latest-all-flash-array-hfs-a-series/

มาทำความรู้จัก UNITRENDS ALL-IN-ONE SOLUTION ที่จะพลิกโฉมวงการ BACKUP SOLUTION

 

unitrends_banner

Unitrends เป็นอีกหนึ่งในผู้ผลิตโซลูชั่นทางด้านการสำรองข้อมูล (Backup) และการสำเนาข้อมูล (Disaster Recovery/DR) ที่มีชื่ออยู่ใน Gartner’s Magic Quadrant for Enterprise Backup Software and Integrated Appliances ของปี 2015 ที่ผ่านมา และเริ่มเข้ามาทำตลาดในประเทศไทย เพื่อให้องค์กรต่างๆ ในไทยได้มีทางเลือกเพิ่มเติมสำหรับเทคโนโลยี Data Center Backup ที่นับวันจะยิ่งมีความสำคัญมากขึ้นสำหรับองค์กรต่างๆ

unitrends_01

Unitrends ALL-IN-ONE DATA PROTECTION

ถ้าพูดถึงเทคโนโลยีทางด้านการทำ Backup และ Disaster Recovery หลายๆ คนก็คงทราบพื้นฐานเรื่องเหล่านั้นกันดีอยู่แล้ว เพราะ Backup และ DR นั้นก็ถือเป็นเทคโนโลยีที่อยู่คู่กับวงการ Enterprise IT มาช้านาน ดังนั้นเราจึงขอข้ามมาทำความรู้จักกับ Unitrends กันก่อน ว่า Unitrends มีความสามารถที่แตกต่างจากซอฟท์แวร์แบ็คอัพตัวอื่นๆ อย่างไรกันบ้าง

unitrends_02

  • All-in-one Solution เป็นโซลูชั่นที่มีทั้ง Integrated Backup, Replication, Deduplication, Archive และ Instant Recovery ในโซลูชั่นเดียว ทำให้สามารถทำการสำรองข้อมูลได้อย่างครบวงจรจบภายในระบบเดียว
  • Heterogeneous Protection รองรับการแบ็คอัพทั้งสำหรับระบบที่เป็น Virtual และ Physical ซึ่งรวมถึงระบบปฏิบัติการ และซอฟท์แวร์รวมทั้งสิ้นกว่า 220 เวอร์ชั่น อีกทั้งยังรวมถึงการสำรองข้อมูลร่วมกับระบบ Storage ที่ใช้งานภายในองค์กร และยังรองรับการสำรองข้อมูล Docker Container ได้อีกด้วย
  • Flexible Virtual Protection รองรับการแบ็คอัพได้ทั้งในระดับ Host และ Guest ของระบบ Virtualization ไม่ว่าจะเป็น VMware vSphere, Microsoft Hyper-V, และ Citrix XenServer
  • Protects Large Scale Deployments รองรับการเชื่อมต่อเข้ากับ NAS, SAN เพื่อแบ็คอัพผ่าน NDMP
  • Cloud-Empowered and Third-party Cloud Integration รองรับทั้ง Unitrends Cloud และ Unitrends Disaster Recovery Services (DRaaS) หรือบริการ Cloud จากผู้ให้บริการรายอื่น เช่น AWS S3, Google Cloud Storage, Google Nearline และ Rackspace CloudFiles เป็นต้น
  • Adaptive Deduplication มีการนำ Deduplication ในระดับ Byte และการทำ Inline Deduplication มาทำงานร่วมกัน เพื่อเพิ่มความเร็วในการแบ็คอัพ เพิ่มประสิทธิภาพในการจัดเก็บข้อมูล และเพิ่มความเร็วในการโอนถ่ายข้อมูลไปพร้อมๆ กัน
  • Radically Simple User Experience อินเตอร์เฟสแบบใหม่ ช่วยลดเวลาในการจัดการ และมี Dashboard แสดงผลแจ้งถึงปัญหา ความเสี่ยง และการจัดการต่างๆ ภายในหน้าเดียว
  • Recovery Assurance สามารถใช้งานร่วมกับ Unitrends ReliableDR เพื่อทำการทดสอบการกู้คืนแบบอัตโนมัติ โดยรองรับการทดสอบระบบ Microsoft Windows ที่ติดตั้งบน Physical, VMware และ Hyper-V เพื่อช่วยลดค่าใช้จ่ายในการทำการทดสอบการกู้คืนในยามฉุกเฉิน
  • Unitrends Bridge รองรับการทำ Instant Recovery ได้ทั้งแบบ P2V และ V2V เพื่อให้สามารถกู้คืนข้อมูลของระบบที่ทำการสำรองเอาไว้บน Virtualization Platform ที่องค์กรมีการใช้งานอยู่ได้
  • Unified Bare Metal รองรับการกู้คืนแบบ Baremetal รองรับการกู้คืนระบบไปยัง Physical Server ที่มีอยู่ไม่ว่าจะเป็นเครื่องเดิม หรือต่างเครื่องก็ตาม
  • WAN-optimized Replication รองรับการส่งข้อมูลไปยังอีกไซต์ผ่าน WAN โดยรวมเอาเทคโนโลยีทั้ง Deduplication, Deduplication Acceleration, การบีบอัด และการเข้ารหัสเพื่อเพิ่มความรวดเร็วและความปลอดภัยในการส่งข้อมูลในระดับ Byte
  • Includes Local Archiving รองรับการทำ Long Term Retention แบบ D2D2X ไม่ว่าจะเป็น NAS, SAN, Tape, Cloud
  • Free Hardware for Life มี Pledge Program ซึ่งจะมีอุปกรณ์เปลี่ยนให้ฟรีทุก 3ปี เมื่อมีการต่ออายุการรับประกันอย่างสม่ำเสมอ

unitrends_04

unitrends_05

รองรับการติดตั้งใช้งานหลากหลายรูปแบบ

Unitrends มีทางเลือกให้ผู้ใช้งานสามารถเลือกติดตั้งได้หลายทางตาม Environment ที่ใช้งาน และตามความต้องการขององค์กรต่างๆ ได้อย่างยืดหยุ่น ดังนี้

  • Unitrends Recovery-Series เป็น Appliance ที่มีครบทุกความสามารถภายในอุปกรณ์เดียว ตอบโจทย์ได้ทุกความต้องการภายใน Appliance เพียงชุดเดียว
  • Unitrends Enterprise Backup™ เป็น Virtual Appliance ที่รองรับการทำงานได้ครบทุกความสามารถ และรองรับการติดตั้งได้บนหลาย Platform ไม่ว่าจะเป็นการติดตั้งบน Linux (RHEL, CentOS), VMware, Hyper-V หรือแม้แต่ Citrix ก็ตาม อีกทั้งยังมีให้เลือกใช้ได้หลาย Edition ตามความต้องการของผู้ใช้งาน

unitrends_03

หากสนใจสามารถติดต่อสอบถามหรือขอสมัครเป็นตัวแทนจำหน่ายได้ทันทีที่ SSS IT Business Solutions Limited โทรศัพท์ 02-118-0416 หรืออีเมล์ sales@sssibs.com หรือติดต่อ คุณธนาภรณ์ โทร. 089-927-1099

  • สามารถดาวน์โหลดเอกสารรายชื่อ Software ที่รองรับ ได้ที่นี่
  • สามารถดาวน์โหลดเอกสารรีวิว Software ได้ที่นี่
  • สามารถลงทะเบียนเพื่อใช้งาน Unitrends Free Edition ได้ที่นี่

 

เกี่ยวกับ Unitrends

unitrends_logo

Unitrends เป็นผู้พัฒนาโซลูชั่น Business Recovery ที่สามารถทำงานได้บนทุกระบบ IT ขององค์กรและได้รับรางวัลมาแล้วมากมาย โซลูชั่นของ Unitrends รองรับการใช้งานได้ทั้งบน Virtual, Physical และ Cloud ทำให้องค์กรทั่วโลกสามารถทำการปกป้องข้อมูลได้อย่างยืดหยุ่นตามความต้องการ ทั้งนี้เพื่อให้ตอบโจทย์ต้องความต้องการของ Data Center ระดับองค์กรในปัจจุบัน Unitrends จึงได้นำเสนอเทคโนโลยีในการปกป้องข้อมูลแบบ End-to-end และการกู้คืนข้อมูลอย่างรวดเร็วแบบ Instant Recovery สำหรับทั้งระบบที่เป็น Virtual และ Physical รวมถึงการทดสอบการทำ Disaster Recovery ด้วยเทคโนโลยี Virtualization โดยอัตโนมัติ

ด้วยการทำให้องค์กรสามารถลงทุนได้อย่างคุ้มค่าสูงสุดจากการนำเสนอโซลูชั่นที่มีค่า Total Cost of Ownership (TCO) ที่ต่ำที่สุดเมื่อเทียบกับคู่แข่งรายอื่นๆ อีกทั้งยังมีทีมให้บริการสนับสนุนการใช้งานสำหรับลูกค้ากลุ่มองค์กรทั่วโลก ทำให้ Unitrends ได้รับการให้คะแนนความพึงพอใจจากลูกค้าสูงถึง 98% รวมถึง Unitrends ยังมีพันธมิตรทางด้าน Technology Partner, Service Provider และ Reseller อยู่ทั่วโลกอีกด้วย

from:https://www.techtalkthai.com/sssibs-introduces-unitrends-all-in-one-data-center-backup-solution/