GM ให้เหตุผลว่ายุทธศาสตร์ใหม่ของบริษัทคือการใช้คอมพิวเตอร์ในรถ และระบบปฏิบัติการ Android Automotive ที่บริษัทปรับแต่งเอง ใช้ชื่อแพลตฟอร์มโดยรวมว่า Ultifi โดยจะรองรับแอพยอดนิยมอย่าง Google Maps, Google Assistant, Audible, Spotify จึงตัดสินใจเลิกรองรับระบบ phone projection ที่มีความสามารถซ้ำซ้อนกัน ผู้ใช้งานมือถือยังสามารถเชื่อมต่อกับรถยนต์ได้ผ่าน Bluetooth (แต่จะเป็นการส่งข้อมูลอย่างเดียว, projection ไม่ได้แล้ว)
หน้าจอระบบ Ultifi ที่อิงจาก Android Automotive
นโยบายนี้จะมีผลต่อรถ EV ที่วางขายใหม่เท่านั้น (รถน้ำมันที่วางขายใหม่ยังใช้ระบบเดิม) และรถยนต์ที่ขายไปแล้วทุกรุ่นจะยังใช้งาน CarPlay และ Android Auto ได้เหมือนเดิม โดยรถยนต์ใหม่รุ่นที่จะมีเฉพาะ Android Automotive เท่านั้นคือ 2024 Chevrolet Blazer EV, 2024 Chevrolet Equinox EV, 2024 Cadillac CELESTIQ, 2025 GMC Sierra EV
ส่วนรถยนต์ EV ของปี 2024 บางรุ่นจะยังใช้งาน CarPlay และ Android Auto ได้ เช่น Chevrolet Silverado EV, Bolt EV, Cadillac Lyriq, GMC Hummer EV
Chevrolet Blazer EV รุ่นปี 2024 (วางขายปี 2023) จะเป็นรถยนต์รุ่นแรกที่ใช้ Android Automotive อย่างเดียว
การประมูลรอบนี้ยังมีกิมมิคเล็กๆ คือรถในภาพเป็นสีเขียว Minted Green ที่ Chevrolet สัญญาว่าจะใช้เฉพาะในภาพนี้เท่านั้น ผู้ชนะประมูลจะได้เป็นเจ้าของรถสีนี้ (Own the Color) และไม่ถูกนำไปใช้ผลิตรถจริงอย่างแน่นอน
ตัวแทนของ Chevrolet บอกหลังจบประมูลว่าโปรเจคนี้ถือเป็นการเรียนรู้ของแบรนด์ในการเริ่มต้นเข้าสู่โลก Web3 และบอกว่าจะพยายามหาวิธีการใช้เทคโนโลยีเพื่อเป็นประโยชน์กับลูกค้าต่อไป
General Motors บริษัทแม่ของ Chevrolet เดินหน้าเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่อีก 2 รุ่น คือ Bolt EV และ Bolt EUV โดยทั้งสองรุ่นนี้มีความคล้ายกันหลายจุด แต่ก็มีจุดขายที่แตกต่างกันชัดเจน
ค่ายผู้ผลิตรถยนต์ตื่นตัวกับรถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น ล่าสุด Jaguar ที่ขาย SUV เครื่องยนต์ดีเซลเป็นหลักประกาศแผนปรับรถยนต์ทุกรุ่นให้เป็นรถยนต์ไฟฟ้าแบบต่างๆ ส่วน Chevrolet ลดราคารถยนต์ไฟฟ้าล้วนรุ่นเริ่มต้นลงต่ำล้าน
ส่วนในปี 2555 ก็เริ่มทำตลาด Sonic ที่เข้ามาทดแทน Aveo รวมถึงเปิดตัว Mini MPV รุ่น Spin โดยหวังว่าทั้งสองรุ่นจะสามารถได้รับความนิยมเหมือนกับที่ทำได้ในอดีต แต่สุดท้ายแล้วเส้นทางมันกลับไม่โรยด้วยกลีบกุหลาบ เพราะมันคือจุดเริ่มต้นของการหายไปของ Chevrolet ประเทศไทย
Chevrolet Cruze
เลิกทำตลาดรถเก๋ง คงไว้แต่รถกระบะ
นับตั้งแต่นั้นมา Chevrolet ประเทศไทยก็ไม่ได้เปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ๆ อีกเลย (มีเพียงเปิดโฉมใหม่ของรุ่นเดิม หรือ Minorchange) แถมยอดขายก็ค่อยๆ ลดลง จนปี 2558 ก็มีการถอนตัวออกจากโครงการ Eco Car เฟส 2 รวมถึงมีการให้พนักงานสมัครใจลาออกด้วย
ที่สุดแล้วในปี 2561 Chevrolet ประเทศไทยก็เลิกทำตลาดรถยนต์นั่งอย่างเป็นทางการ ถ้าเรียกแบบเข้าใจง่ายๆ ก็คือเลิกขายรถเก๋งทั้งหมด เหลือแต่กลุ่มรถกระบะ และ PPV เท่านั้น ซึ่งการทำแบบนี้ Chevrolet ก็สามารถเน้นทำตลาดแต่สินค้าที่ตนเองถนัดได้ แม้ตลาดรถกระบะจะแข่งขันสูงก็ตาม
Chevrolet Trailblazer
เมื่อทุกอย่างดีขึ้น Chevrolet ก็เริ่มเปิดตัวรุ่นใหม่ โดยในปี 2562 ได้นำรุ่นในตำนานอย่าง Captiva กลับมาทำตลาดอีกครั้งหนึ่ง ผ่านการตั้งราคาต่ำกว่า 1 ล้านบาท ก็สามารถดึงยอดซื้อไปได้ประมาณหนึ่ง ถือเป็นการเกาะกระแส SUV เติบโตในไทยได้เป็นอย่างดี
แบกไม่ไหว จะให้อยู่ต่อคงลำบาก
ถึงจะเริ่มกลับมาได้ แต่ด้วยกลยุทธ์การทำธุรกิจในระดับโลกของกลุ่ม GM ไม่ได้เน้นที่ตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อีกแล้ว ประกอบกับอุตสาหกรรมรถยนต์ในประเทศไทยแข่งกันสูง รวมถึง Chevrolet ก็ไม่สามารถแย่งส่วนแบ่งมาได้มากนัก กลุ่ม GM จึงประกาศเลิกจำหน่าย Chevrolet ในประเทศไทยภายในสิ้นปี 2563
ศูนย์การผลิตรถยนต์ของ Chevrolet ที่ระยอง
นอกจากนี้ยังขายโรงงานผลิตที่ระยองให้กับ Great Wall Motors จากประเทศจีนด้วย เรียกว่าเป็นเรื่องไม่คาดฝันของอุตสาหกรรมรถยนต์ไทย โดยผู้ใช้งาน Chevrolet ยังได้รับงานสนับสนุนการซ่อมบำรุงอยู่ ส่วนตัวแทนจำหน่าย และพนักงานของ Chevrolet ในประเทศไทยก็จะได้รับการสนับสนุนเช่นกัน
ถือเป็นการปิดฉากอีกครั้งของแบรนด์รถยนต์จากสหรัฐอเมริกา เพราะก่อนหน้านี้ Chrysler ก็เคยตั้งบริษัทในไทย และที่สุดแล้วก็ต้องถอยทัพไป ส่วน Ford นั้นปัจจุบันก็เหลือทำตลาดแค่รถกระบะเหมือนกับที่ Chevrolet เคยทำไปก่อนหน้านี้ และก็คงต้องจับตาดูว่าอนาคตของแบรนด์รถสหรัฐฯ ในไทยจะเป็นอย่างไร
สรุป
Captiva กลายเป็นรุ่นรถยนต์ที่ทำให้ Chevrolet ประสบปัญหาใหญ่ถึง 2 ครั้ง แต่นั่นก็เป็นแค่เรื่องบังเอิญ เพราะจริงๆ แล้วช่วงแรกของ Chevrolet ประเทศไทยนั้นเหมือนทุกอย่างจะไปด้วยดี แต่ด้วยปัญหาล้มละลาย และการปรับกลยุทธ์ รวมถึงตลาดรถยนต์ไทยที่ต่างกับที่อื่น ก็ทำให้ Chevrolet ต้องถอยทัพออกไปในที่สุด
ดังนั้น ถือว่า Bolt จะเป็น EV รุ่นแรกที่เข้ามาจับตลาดทั่วไปในระดับราคาที่ผู้บริโภคสามารถจับต้องได้ เช่นเดียวกับ Tesla Model 3 ที่จะเปิดตัวในอนาคต ต่างจากก่อนหน้านี้ที่ เชฟโลเรต มี Volt ซึ่งเป็นเทคโนโลยี Plugged in hybrid ขณะที่ Tesla มี Model S และ Model X